Chapter 19
งานถ่ายแบบครั้งนี้เป็นการโปรโมทสวนน้ำ ซึ่งเป็นโซนเปิดใหม่ของโรงแรม สำหรับวันแรกกว่าจะถ่ายเสร็จก็เกือบสี่ทุ่ม เพราะอยากให้เห็นบรรยากาศของไฟกลางคืนด้วย
ทีมงานร่วมรับประทานอาหารกันในห้องอาหารของโรงแรมตามปกติเพชรทานกับพวกกลุ่มช่างภาพ และเพื่อนฝึกงานที่ออกกองด้วยกัน
ส่วนแพมเม่ นั่งโต๊ะเดียวกับ บก. และตัวแทนจากทางโรงแรมตามมารยาท จึงถือว่าห่างกันพอสมควร
ชายหนุ่มรีบขอตัวกลับห้องเมื่อรวบช้อน แต่เพื่อนรุ่นเดียวกันจากต่างมหาวิทยาลัยชื่อ 'เฟิร์ส' กลับถองศอกเข้าที่เอวเบาๆ
"มีอะไร"
"แพมเม่มองหามึงชัวร์" เพื่อนพยักเพยิดไปยังอีกโต๊ะ
"มึง เดี๋ยวเขาเสียหาย"
"โห ผู้หญิงเขา Want ขนาดนั้น ไม่รู้ไปทำงานกับกองอื่นจะกินกับตากล้องไปกี่คนแล้ว มิน่า...พึ่งเข้าวงการไม่นานงานก็มาตรึม"
เพชรถอนหายใจ เขาเองก็มีเพื่อนผู้หญิงเยอะ พวกกิ๊บ ไอติม หากมีใครมาพูดลับหลังแบบนี้คงไม่ดี
"เราไม่รู้จริง ก็ไม่ควรพูดปะวะ เขาเป็นผู้หญิงนะ" เพชรเตือนเพื่อนที่เป็นผู้ชายด้วยกัน
อีกฝ่ายพยักหน้า แล้วต่อยไหล่เพชรเบาๆ แทน
"มึง...มีน้องสาวหรือเพชร"
"กูลูกคนเดียว แต่กูมีเพื่อนผู้หญิงเยอะ"
อีกฝ่ายพยักหน้าเข้าใจ เพชรเลยทำท่าจะลุกไป สุดท้ายอีกฝ่ายก็รั้งไว้อีกเพราะนอนห้องเดียวกัน
"แล้วที่พี่เต๊าะบอกว่าแฟนมึงคบกะเทย จริงปะวะ"
"จริง"
"มันต่างจากคบผู้หญิงมั้ย"
เพชรมองหน้าเพื่อนเพื่อประเมินว่าต้องการอะไร แต่เห็นอีกฝ่ายคงอยากรู้จริงๆ ก็ยอมนั่งลงอธิบาย
"ตอนแรกที่รู้กูก็รับไม่ได้แบบไปบอกเลิกเขาเลยเว่ย แต่ใจมันรักไปแล้ว หวงเขา ห่วงเขา อยากมีเขาในชีวิต กูเลยผ่านจุดที่ระบุว่าเขาเป็นผู้หญิงหรือกะเทยได้อะ"
เพื่อนพยักหน้า "ลึกซึ้งสัส"
"จริง"
"มันเลย...ทำให้กูคิดได้ว่าไม่ใช่เพราะเป็นผู้หญิง หรือกะเทย แต่มันเป็นเพราะความเข้ากันของเขากับเรามากกว่า"
"คุยอะไรกันอะ นั่งด้วยได้ป่าว" เสียงหวานใสของผู้หญิงดังขึ้นขัดบทสนทนา เพชรกับเฟิร์สเงยหน้าขึ้นดู เพชรทำหน้าเซ็งมากอย่างปิดไม่มิด เฟิร์สเองก็รู้สึกผิดที่ชวนมันคุยต่อจนคู่กรณีโผล่มาจนได้
"ตรงนู่นมีแต่ผู้ใหญ่ เราอยากคุยกับรุ่นเดียวกันมากกว่า"
"เพชรขอตัวนะ ต้องไปโทรหาแฟน"
เฟิร์สคือเลิ่กลั่ก เพราะนางแบบสาวหน้าดำหน้าแดงแล้ว
"มาทำงานทั้งที่ แฟนไม่ปล่อยบ้างหรือไง หวงอะไรนักหนา" แพมเม่ถาม
"เราแค่คิดถึงเขา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับปล่อยไม่ปล่อย หรือหวงไม่หวง" เพชรไม่รอให้แพมเม่ถามอะไรต่อ ก็โบกมือแบบขอตัวแล้วเดินออกไปเลย
นางแบบสาวที่ได้รับการพะเน้าพะนอมาตลอดเจอแบบนี้ก็คือตัวสั่นไปหมด เธอกำมือแน่นมองตามหลังเพชรและเฟิร์สที่วิ่งตามกันออกไป ส่วนเต๊าะที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ เลยเดินเข้ามาหาแพมเม่ เพื่อชวนคุย
เพชรกลับมาถึงห้องทิ้งตัวลงนอนบนเตียงทันที เฟิร์สดูนาฬิกาแล้วเห็นควรว่าต้องรีบเข้านอน เพราะพรุ่งนี้มีนัดไปเซตงานกันตั้งเช้า
เมื่อเพื่อนร่วมห้องหายเข้าไปทำธุระ เพชรก็เปิดกล้องคุยกับศศิทันที คนสวยสวมชุดนอนเรียบร้อยแล้ว กำลังทาครีมอยู่มั้ง เพราะนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
แค่เห็นหน้าศศิ กับอิริยาบถน่ารักๆ ใจที่ขุ่นหมองก็แจ่มใสขึ้นทันที
'ยังไม่อาบน้ำอีกหรือคะ' คนสวยเอาหน้ายื่นมาดูจนเกือบจะชิดจอ
'เพชรให้เฟิร์สอาบก่อน'
'เหนื่อยมั้ยวันนี้'
นายพชรส่ายหน้า ก่อนจะทำเสียงงี้ดๆ
'พี่ศิรีบมารับนะ อยากเจอแล้ว อยากกลับบ้าน'
คนสวยอมยิ้มให้ 'เป็นเด็กอนุบาลหรือคะ ร้องหาแม่กลับบ้าน'
'เพชรร้องหาเมียต่างหาก'
'เจ้าเด็กนี่! ' ศศิขึ้นเสียงสูง คำพูดเรียบง่ายแบบนั้นทำให้เขาเขินไม่น้อย
"เพชรคิดถึงคุณบี๋แล้ว" น้องพูดคำหวานอีกครั้ง ศศิก็พยักหน้ารับ
'พี่ก็คิดถึง ตั้งใจทำงานนะคะ เดี๋ยวคืนพรุ่งนี้พี่ศิไปหา'
'มาคืนพรุ่งนี้เลยหรอ!! ' เพชรดีใจเพราะตอนแรกพี่จะมาถึงเช้าอีกวัน แล้วขับกลับเลยเพราะจริงๆ คืนพรุ่งนี้มีปาร์ตี้ฉลองที่โรงแรมจัดให้ก่อน แล้วค่อยกลับกันวันรุ่งขึ้น
'นอนคนเดียว คืนเดียวก็จะไม่ไหวแล้วค่ะ' คนสวยว่า ยิ้มหวานให้กล้องอีก เพชรเห็นแล้วอยากหอมแก้มให้ถลอก
'งั้นรีบนอนเลย จะได้เจอบี๋ไวไว' เพชรว่า แล้วยกผ้านวมขึ้นมาคลุมโปงหลับตาปี๋ ศศิหัวเราะร่วนกับอาการเหมือนเด็กน้อยนั้น แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกหลังจากที่พวกเขาคบกัน แล้วไม่ได้นอนด้วยกัน จะว่าไปก็...กระวนกระวายไม่น้อยเหมือนกันนะ
'เพชร เจอกันนะพรุ่งนี้ พี่ศิก็...จะรีบนอน จะได้ไปเจอเพชรไวไว'
นายพชรลืมตาขึ้น สบตาคนในกล้อง แล้วจูบนิ้วชี้ตัวเองก่อนจะเอามันไปแปะแก้มพี่ศผ่านหน้าจอ
'ฝันดีครับพี่ศิของเพชร'
'เพชรก็ไปอาบน้ำไวไว แล้วนอนห่มผ้าด้วยนะคะ'
'ครับ...เฟิร์สออกมาจากห้องน้ำแล้ว เพชรไปอาบเลย พี่ศินอนก่อนได้เลย เดี๋ยวเพชรส่งสติ๊กเกอร์ไปทิ้งไว้ก่อนนอนอีกที'
คนสวยพยักหน้ารับคำ จากนั้นก็โบกมือบ๊ายบาย ก่อนจะวางโทรศัพท์จริงๆ
วันรุ่งขึ้นเพชรท่องไว้ว่าคืนนี้จะได้เจอพี่ศิ ก็เลยทำงานด้วยความอารมณ์ดี เจอแพมเม่กับพี่เต๊าะก็คือทำเป็นหูทวนลมไปบ้าง โชคดีที่งานถ่ายวันนี้ค่อนข้างเดือด เลยไม่มีเวลาได้ยุ่งเกี่ยวกันมานัก สุดท้ายก็คือมาพักหายใจกันตอนปาร์ตี้ปิดกอง
ศศิมาถึงตอนช่วงประมาณสองทุ่ม เช็คอินน์เข้าห้องพักเรียบร้อย แต่เพชรยังไม่ได้เจอ เพราะต้องรีบไปร่วมงานเลี้ยง เขาเกรงใจพี่พอลล่า และพี่เกี๊ยวช่างภาพหลัก หากจะหายหัวไปเลย ถึงอย่างไรเขาก็เป็นนักศึกษาฝึกงาน คอนเนคชั่นในการทำงานยังเป็นเรื่องสำคัญอยู่
คืนนี้นอกจากอาหารแล้ว ยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบ Free Flow ด้วย หลายๆ คนในกองจึงเริ่มกรึ่มๆ กันแล้ว เพชรก็ไม่รอด เนื่องจากเป็นน้องฝึกงานก็มีพี่ๆ วนเวียนมาชนด้วยบ่อย เพชรจิบไปครั้งล่ะไม่เยอะจึงยังครองสติอยู่ แต่ก็มีบางครั้งที่ได้รีบเสียงยุให้กินเพียวหนึ่งฝาบ้าง ทั้งเพชรทั้งเฟิร์สโดนกันไปหลายฝาจนเริ่มเซ
"พอแล้วพี่" เมื่อฝาที่ห้ามาจ่อปาก เพชรก็ทำท่าปฏิเสธ เขาดื่มเพื่อ Social เท่านั้น ไม่ได้ชอบดื่่มจริงจังอะไรขนาดนั้น แล้วเหล้าเพียวมันก็ไม่ได้ถูกปากเท่าไหร่
"น่า...ให้เกียรติรุ่นพี่หน่อย" เต๊าะตะโกนแทรกเข้ามา คนอื่นๆ ก็เห็นดีเห็นงามด้วย เพชรเลยจำใจ
"สุดท้ายแล้วนะครับ เพชรไม่อยากเมาแล้วทำให้คนอื่นหมดสนุก"
"พวกเธอก็อย่าไปแกล้งน้องมันเยอะ เมามาอ้วกเอย ไม่สบายเอย ฉันจะมีปัญญาหาลูกไปชดใช้แม่เค้ามั้ย" พี่พอลล่าแว้ดเข้ามากลางวงก็ฮากัน แต่ก็รู้ตัวว่าควรพอ
เพชรยกดื่มที่เดียวหมด แล้วรับน้ำเปล่าจากเฟิร์สมาดื่มตามเพื่อล้างความขมและร้อนแรงของวิสกี้
เขาเห็นว่ามีพี่บางคนเริ่มเดินออกจากงาน จึงเดินเข้าไปลาพี่พอลล่า กับพี่เกี๊ยวที่ยังเฮฮากับเกมเบียร์ปองอยู่ เฟิร์สเองก็ยังอยากคุยต่อ เขาเลยเดินออกจากงานคนเดียว ขาไม่ทันก้าวพ้นประตู พอลล่าก็โถมตัวออกมาจนเพชรนึกว่าผีหลอก
"เพชร...เราเดินไม่ไหว ฝากพาไปที่ห้องหน่อยได้มั้ย"
ชายหนุ่มถอนหายใจแรง แต่กลิ่นเหล้าที่โชยออกมาจากตัวก็พอจะเดาได้ว่านางแบบสาวดื่มไปไม่น้อย
"แล้วผู้จัดการล่ะ"
"พี่เค้าป่วย นอนอยู่ในห้องหนะ เราโทรไปก็ไม่รับ"
เพชรพยักหน้า หันไปชะเง้อดูคนในห้องจัดงานก็ดูจะสุดเหวี่ยงกันอยู่
"ห้องไหนล่ะ"
แพมเม่บอกทาง แล้วเพชรก็ช่วยประคองเธอ ที่เดินโซเซไปมาเข้าลิฟต์ไป
เต๊าะเดินตามมาด้านหลัง ถ่ายคลิปลงมือถือด้วยสายตามุ่งร้าย
เมื่อมาถึงหน้าห้อง แพมเม่ก็ทำทีหากุญแจไม่เจอ จับมือเพชรไปควานเปะปะบนตัวเธอ เพชรเองแอลกอฮอล์ที่กินเข้าไปก็เร่ิมออกฤทธิ์ โงนเงนพอกันมือก็พลาดไปโดนเนื้อตัวแพมเม่บ้าง ไม่นานก็เจอคีย์การ์ดในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขาสั้นกุดของนางแบบสาว เพชรเปิดประตูเข้าไปประคองเธอจนถึงข้างใน แล้วก็หันหลังกลับ
"เพชรอยู่เป็นเพื่อนก่อนสิ เราปวดหัว"
ร่างสูงกรอกตา เขาเป็นคนดีแบบมีขอบเขตเลยเลิกสนใจ พอเพชรเดินต่อคนแกล้งเมาก็โถมตัวเข้ากอดรัดด้านหลัง เอาเนื้อตัวเบียดแน่น เพชรแกะมือแพมเม่ออก แต่เธอเองก็ยังไม่ลดละที่จะเกาะแกะ เพชรสุดจะทน เลยเดินไปที่เตียงทั้วที่มีหญิงสาวเกาะไปด้วย แพมเม่ได้ใจ ก็เบามือลงยอมถอยตัวไปนอนบนเตียงแต่โดยดี
"หลับตา แล้วนับหนึ่งถึงร้อยค่อยลืมตา เพชรไปอาบน้ำก่อนเหม็นเหล้า"
แพมเม่แทบกรี๊ดที่แผนแกล้งเมาแล้วถึงเนื้อถึงตัวสำเร็จ เธอหลับตาลงแต่โดยดี
"เอาผ้านวมคลุมตัวไว้ด้วย เราชอบแบบค่อยๆ เปิดไปเจอ"
นางแบบสาวพยักหน้าว่าง่าย เพชรมองแล้วเป็นงง แต่พอแพมเม่ไม่เห็นอะไรแล้วแบบนั้นเขาก็โกยสิครับรออะไร โชคดีที่ประตูห้องตอนเข้ามายังไม่ปิดเพชรเลยย่องตัวออกไปโดยง่ายแล้วงับประตูเสียงแผ่วเบา โดยที่มันยังไม่ได้ปิดสนิท แล้วก็วิ่งกลับไปที่ห้องตัวเองเพื่อขนของไปยังห้องที่ศศิเปิดไว้ในโรงแรมเดียวกัน
แพมเม่นับไปถึงร้อยห้าสิบจนเคลิ้มเกือบหลับไปในกองผ้านวม เพชรก็ไม่มาขึ้นเตียงสักที หญิงสาวสะดุ้งอีกทีตอนนับไปถึงหนึ่งร้อยเก้าสิบเก้า
เสียงประตูเปิดแผ่วเบา และผลักมันปิดจนได้ยินเสียงล็อกอัตโนมัติ แพมเม่เอียงคอ แต่ก็คิดว่าอาจจะเป็นเพชรออกไปเตรียมอุปกรณ์แล้วเข้ามาอีกรอบ เธอนอนยิ้มรอรับการกกกอด
เตียงนอนยวบ แพมเม่หัวใจเต้นตึกตัก สุดท้ายเพชรที่ประกาศปาวๆ ว่ารักแฟนมากเว่อร์ก็มานอกกายกับเธอ แล้วลองดูสิว่าขึ้นเตียงกันครั้งหนึ่งแล้วครั้งต่อๆ ไปจะไม่เกิดขึ้นได้อย่างไร สุดท้ายอาจจะถึงขั้นเลิกกับไอ้กะเทยนั่นไปเลยก็ได้
แพมเม่ทำท่าจะลดผ้านวมลงเพื่อให้เห็นหน้าคนที่แพ้เสน่ห์เธอ แต่โดนห้ามไว้
"แบบนี้เร้าใจกว่าหรอ" เธอถามสร่างเมาขึ้นมาทันที แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ นอกจากการกอดรัดที่รุนแรงผ่านผ้านวม ก่อนที่จะรู้สึกได้ว่าด้านล่างโดนตระหวัดขึ้น ขาเธอสัมผัสแอร์เย็นๆ จนขนลุกซู่
ร่างกายหนักๆ ที่ทับเธอไว้ เหมือนจะเคลื่อนตัวไปด้านล่าง แพมเม่เลยดื้อ แอบลดผ้านวมที่ปิดหน้าลง แล้วก็ต้องกรี๊ดลั่นเพราะคน ที่คุกเข่าอยู่บนเตียงคือผู้ช่วยตากล้องที่ช่วยเธอวางแผนไม่ใช่เพชร
"แก!! ช่วยด้วย!! " หญิงสาวร้องลั่น
เสียงทุบประตูหน้าห้องดังขึ้นทันที
"ช่วยด้วยค่า จะโดนข่มขืน!!! "
แพมเม่แหกปากแล้วกระโดดลงจากเตียง เต๊าะรั้งแขนเธอไว้ บอกให้หุบปาก
"ผมเข้าผิดห้องไม่ได้จะข่มขืนอะไรทั้งนั้น นึกว่าคือเด็กที่ซื้อไว้"
แพมเม่หยุดแหกปาก แต่เสียงตบประตูข้างนอกยังดังอยู่
"แพมเม่!! เกิดอะไรขึ้น" เป็นเพชร คราวนี้เธอเลยยิ่งงง แต่ก็ดีกว่าอยู่กับผู้สงสัยสองต่อสองเลย
เดินด้วยความหวาดระแวงไปเปิดประตู
เพชรยืนอยู่ข้างนอก ทั้งสามยืนประจันหน้ากัน แล้วเพื่อนร่วมงานที่ได้ยินเสียงโวยวายก็วิ่งมาสมทบ
"เกิดอะไรขึ้น!! " พี่พอลล่าถามขึ้นคนแรก ส่วนแพมเม่ก็โดนผู้จัดการลากให้ไปหลบอยู่ด้านหลัง
ต่างคนต่างเงียบไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง พอลล่ามองไล่ไปทีล่ะคน 'เต๊าะ' ดูไม่น่ามาอยู่ในห้องแพมเม่ที่สุด
"คุณเต๊าะ คุณเข้าไปในห้องน้องพอลล่าทำไม! "
เพชรหันไปจ้องหน้าอีกฝ่าย ตอนที่เขาออกไปแล้วเขาไม่ได้ปิดประตูให้สนิทเพราะกลัวแพมเม่ได้ยิน พอคิดอีกทีก็กลัวอีกฝ่ายจะเจอคนไม่ดีเปิดเข้าไปในห้อง เลยกลับมาเพื่อล็อกห้องให้นางแบบสาว
เต๊าะตาวาววับ "ผมเห็นเจ้าเพชรมันประคองน้องแพมเม่ที่ท่าทางเมาๆ มาทางนี้ผมก็ตามมา"
แพมเม่เองก็หันขวับ ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะให้ปากคำแบบนี้ เต๊าะส่งสายตาให้แพมเม่เงียบไว้แล้วก็เล่าต่อ "ผมรู้สึกไม่ชอบมาพากล เลยเดินตามมาเรื่อยๆ ทั้งคู่เข้าไปในห้อง ผมรออยู่นานเพชรก็ไม่ออกมา แล้วก็ได้ยิน เสียงน้องร้องให้ช่วย ผมเลยเข้าไปดู แล้วพวกพี่ก็วิ่งมา"
เพชรอึ้งไม่คิดว่าเหตุการณ์มันจะกลับตาลปัตรไปถึงเพียงนี้
"จริงหรือเพชร" พอลล่าหันขวับไปที่รุ่นน้อง
"ผมมาส่งแพมเม่จริงครับ เพราะเขาเมาเดินไม่ไหว แล้วผมก็ออกมา แต่มานึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ล็อกห้องเลยกลับมาจะล็อกให้ แล้วก็ได้ยินเสียงร้องให้ช่วยจากข้างใน พอเปิดประตูออกมาพี่เต๊าะก็อยู่ข้างใน"
พอลล่าพยายามควบคุมความโกรธ ทำงามหน้ากันทุกคนจริงๆ
"น้องแพมเม่คะ เหตุการณ์มันเป็นยังไงคะ"
"พะแพมเม่ไม่รู้ แพมเม่ตกใจมากเลยค่ะพี่พอลล่า"
เพชรกำมือแน่น หันไปมองนางแบบสาวที่ทำตัวบอบบางเกาะหลังผู้จัดการแน่นแล้วแสนจะหงุดหงิด
"ตะ..แต่เพชรมาส่งแพมเม่จริง แล้วก็บอกให้แพมเม่หลับตา ห่มผ้าให้แพมเม่...จากนั้นก็...ก็...ฮึก.."
น้ำตาร่วงผล็อยๆ อย่างกับแสดงหนังดราม่า
"แพมเม่!! " เพชรขึ้นเสียงดัง พร้อมทั้งระเบิดอารมณ์อย่างไม่อดทนอีกต่อไป "แฟนเราก็อยู่อะ เราจำเป็นต้องทำอะไรเธอมั้ย เราก็มีคนของเราอยู่แล้ว ไม่ได้โรคจิตจนต้องข่มขืนคนที่ไม่เต็มใจ"
"เพชร! " พอลล่าปราม เมื่อเสียงโวยวายมันเริ่มทำให้พนักงานโรงแรมเดินมาแล้ว
"พี่พอลล่าครับ เพชรพูดความจริง เพชรไม่มีความจำเป็นต้องล่วงเกินแพมเม่เลยแม้แต่น้อย เพชรมีคนของเพชรอยู่แล้ว และเพชรก็รักพี่ศิมาก เพชรไม่มีทางทำให้เขาเสียใจ"
"แต่มึงเมาไงเพชร มึงจะแน่ใจได้ไงว่ามึงควบคุมสติอยู่" เต๊าะถาม
"พี่เงียบไปเลย ผมว่าพี่นั่นแหละ เข้าไปอยู่ในห้องแพมเม่ได้ยังไง หวังว่าพี่จะไม่ได้สวมรอยผม แล้วทำอะไรต่ำๆ ลงไปหรอกนะ"
"ไอ้เหี้ยเพชร!! มึงทำเหี้ยแล้วอย่ามากล่าวหาคนอื่น!! " เต๊าะทำท่าเข้ามากระชากคอเสื้อเพชร เพชรเองก็หมดความเกรงใจแล้วเหมือนกัน ผลักอีกฝ่ายเต็มแรงจนแทบลงไปกองกับพื้นถ้าคนอื่นไม่รับไว้
"เบาหน่อยได้มั้ยคะ น้องเสียหายหมดแล้ว" ผู้จัดการปรามทุกคน แล้วหันมาคุยกับพอลล่า
"พี่จะจัดการเรื่องนี้ยังไง คนของพี่ทำน้องหนูเสียหาย ถ้าข่าวหลุดออกไปใครจะรับผิดชอบ"
เพชรหันไปหาแพมเม่ ด้วยสายตาแทบลุกเป็นไฟ "แพมเม่ อย่างี่เง่ากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง พูดความจริงออกมาดีกว่า ไม่งั้นเราไม่ยอมแน่ และเราจะไปแจ้งความฐานหมิ่นประมาท ให้ตำรวจมาดูกล้องวงจรปิด เอาให้ข่าวดังไปเลยก็ดี เราไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ส่วนเธอก็แล้วแต่จะคิด ว่าจะเสียหายขนาดไหนถ้าความจริงปรากฎ" เพชรพูดชัดถ้อยชัดคำด้วยความมั่นใจว่าเขาไม่ผิด ผู้จัดการนึกถึงเหตุการณ์ที่เพชรเคยมาเตือนเธอก็เริ่มลังเล ต้องเข้าไปกระซิบเตือนแพมเม่ว่าอย่าเอาชื่อเสียงมาเสี่ยงกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
หญิงสาวยังคงมองเพชรผ่านม่านน้ำตา เธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมลงให้ขนาดนี้ แถมตวาดเสียงดังเสียจนน่ากลัว
"ถ้าไม่พูด เพชรจะไปแจ้งความ เจอกันตอนให้ปากคำกับตำรวจแล้วกัน" เพชรหันหลัง เตรียมเดินแหวกวงออกไป
"เดี๋ยวก่อน!! " หญิงสาวร้องห้าม
"แพมเม่...อาจจะเข้าใจผิดไปเองก็ได้ค่ะ ไม่...ต้องไปแจ้งความหรอก"
เพชรส่งเสียงหึในลำคอ ก่อนจะหันไปหาเต๊าะ "พี่ก็ด้วย! ก่อนที่จะกล่าวหาผม พี่เข้าไปในห้องแพมเม่ทำไม!! "
คำถามของเพชรเรียกความสนใจของทุกคนได้เป็นอย่างดี สายตาทุกคู่ซัดไปที่เต๊าะ
"ผม..เมาแล้วเข้าผิดห้อง"
"แน่ใจนะเต๊าะ" พอลล่าคั้นถาม
"ครับ..."
"สรุปคือหลังผมออกไป พี่เต๊าะก็เข้าไปในห้องแพมเม่ใช่มั้ยครับ คำให้การณ์สองรอบไม่เหมือนกันเลยนะครับพวกคุณทั้งสองคน" เพชรว่า "ไปเคลียร์กันเอาเองนะว่าใครผิดหรือถูก แต่ถ้ายังมีใครพาดพิงถึงผม ผมแจ้งความแน่! ส่วนพี่เต๊าะ ถ้ายังพูดถึงแฟนผมในทางที่ไม่สมควรอีก เหตุการณ์ในคืนนี้ผมก็จะไม่ยอมความ เพราะฉะนั้นขอเตือนพี่ว่าอย่าพูดอะไรให้ผมหัวร้อนอีก ผมขอตัว"
เพชรยกมือไหว้พอลล่าแล้วเดินออกไปด้วยโทสะที่ยังคุกรุ่น
คนในออฟฟิศที่ยังยืนอยู่วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นาๆ พอลล่าเองถึงกับยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว
วันรุ่งขึ้นทีมงานคนอื่นกลับรถตู้กันเหมือนเดิม ส่วนเพชรขับรถตัวเองที่ศศิขับมากลับ เรื่องที่เกิดขึ้นคนน้องเล่าคนพี่หมดแล้ว และได้การปลอบหวานๆ จนความหัวร้อนทุเลาลงไปหมด
ศศิไม่โกรธเพชรเลยเพราะน้องกลับห้องมาแล้วก็นอนแหมะเอาคางพาดตักจับมือเขาไปแนบแก้ม อาการอ้อนเหมือนเด็กแบบนั้นใครจะไปดุลงอีก นอกจากนั่งฟังคุณชายเขาเล่า แล้วก็ศีรษะปลอบเบาๆ เหมือนเล่นกับลูกแมว
หลังกลับมาจากต่างจังหวัด เพชรก็ไม่ได้ทำงานที่มีเต๊าะเกี่ยวข้องอีกเลย พอลล่าที่มีหน้าที่ดูแลเพชรกับทีมงาน ป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องกระทบกระทั่งกันอีก
เพชรได้รับการมอบหมายให้ทำงานมากขึ้น รวมไปถึงการออกกองไปถ่ายนอกสถานที่อย่างพวกเก็บภาพในงานอีเว้นท์หรือปาร์ตี้เพื่อเอามาลงนิตยาสารก็ถูกเสนอให้เช่นกัน คืนนี้มีงานปาร์ตี้ดีเจ EDM แบบปิดผับขายบัตรที่เป็นที่นิยมของเหล่าวัยรุ่น เพชรได้ไปทำงานกับพี่ตากล้องประจำอีกสองคน
แล้วที่แสบกว่าคือยัยบี๋กับพี่วิชชี่ไปงานนี้ด้วย พร้อมกับเพื่อน ๆ สมัยมัธยมของอีกฝ่ายกลายเป็นโต๊ะใหญ่ เพชรต้องเดินไปทั่วงานเพื่อบรรยากาศ เก็บภาพคนกำลังเอนจอยปาร์ตี้ แล้วก็ภาพผลิตภัณฑ์ของสปอนเซอร์ที่วางอยู่ตามโต๊ะ
ได้รับการเสนอให้กินเหล้าก็ไม่น้อย แถมสาว ๆ ยังใจกล้าขอเบอร์แลกไลน์กันโต้ง ๆ พี่ตากล้องที่ไปด้วยก็ถองศอกสนับสนุนเพราะยังไม่รู้ว่าเพชรมีแฟนแล้ว
"ขอโทษด้วยครับ ผมมีแฟนแล้ว" เพชรปฏิเสธอย่างสุภาพ พี่ตากล้องที่ได้ยินก็พยักหน้าเห็นดีเห็นงาม ไม่นึกว่าเด็กวัยรุ่นที่มีโอกาสนอกใจเยอะขนาดนี้ ยังสามารถทำตัวเองให้อยู่ในกรอบได้
โต๊ะศศิโดดเด่นกว่าใครเพื่อน ทั้งตัวเธอเองและเพื่อน ๆ ที่เต้นกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง การแต่งตัวที่เซ็กซี่เผยหัวไหล่ขาว ช่วงเอวคอด เรียวขายาว ใบหน้าหวานสวยนั้นก็โดนเครื่องสำอางเปลี่ยนไปจนเปรี้ยวเข็ดฟัน
"ไปถ่ายโต๊ะนั้นหน่อย มึงจะตบะแตกมั้ย" พี่ในทีมถาม ขณะที่กำลังเล็งหาภาพเด็ด ๆ
เพชรส่ายหน้า "ห้ามถ่ายนะครับ"
"โห ไอ้เพชร คือชุดแดงหนัง คนนั้นเปรี้ยวมาก อยากจะขอไลน์ไว้ส่งรูปให้เลย"
"ผมตีด้วยบ้องเลนส์เลยนะพี่" เพชรว่าหยอก ๆ เล่นเอาสองรุ่นพี่ทำหน้าฉงน
"มึงหวงอะไรเค้าอะ โดยดูเอวดิอย่างพร้ิว" ชี้ชวนกันดู แล้วเพชรก็เตรียมถอดเสื้อยีนส์ที่ใส่คลุมอยู่แล้ว ไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินฝ่าดงคนเมาไปกลางวงทันที เพชรมาพร้อมกล้องเหล่าสาวแท้สาวเทียมในกลุ่มกรี๊ดกร๊าดเสียงดัง โพสท่ารอแล้ว แถมดันศศิคนงามมาตรงกลางด้านหน้าด้วย
สบตากันแล้วก็เจอเด็กหน้ายักษ์ใส่เลย
"คลุมไว้ก่อนครับ" เพชรยื่นเสื้อยิีนส์ให้
"อู้ยยย ผัวดุ" วิชชี่ยกมือป้องปากกรี๊ด แล้วก็กรี๊ดต่อ ๆ กันเป็นแอคโค่
ศศิทำหน้างอแงนิดหน่อยเพราะเมาแล้ว แต่ชอบนะ ชอบให้เพชรแสดงความเป็นเจ้าของ เธอรับเสื้อมาใส่แต่โดยดี ติดกระดุมไม่ค่อยถูก เพชรก็เข้าไปติดให้ คลุมตั้งแต่ไหลไปถึงสะโพกโน่น เรียบร้อยไม่วับแวมแล้วเพชรก็สบายใจ ยกกล้องถ่ายทั้งกลุ่มได้
ถ่ายเสร็จเดินมารวมกลุ่มกับรุ่นพี่
"น่ารักแบบนั้นมึงกล้าปล่อยมาเที่ยวได้ยังไง เพชร!! "
"ก็เค้าชอบ ผมก็อยากให้เค้าได้มาสนุกกับเพื่อนบ้าง"
"ใจกว้างเป็นมหาสมุทร"
เพชรยิ้ม ๆ ให้ยัยบี๋เมาได้อย่างเต็มที่ แล้วค่อยรับกลับไปตบก้นนอน
ชายหนุ่มจบงานแล้วเอากล้องไปเก็บในรถ แล้วก็เดินไปรับยัยบี๋ ที่ยังสนุกอยู่กับ House DJ ของร้าน ที่ขึ้นมาเปิดเพลงส่งแขกกลับ พอเห็นเพชรเดินมา ก็เอาสองมือคล้องคอดึงหน้ามาจูบอย่างดูดดื่ม
อ๋อ...เมาแล้วร้อนแรงกว่าเดิมหรือคะบี๋
จูบพอให้น้องได้รับรสวอดก้าเข้าไปเสียงงงวย พี่เขาก็หันหลังดึงมือเพชรมากอดเอวตัวเอง เต้นน้วยอีก คราวนี้เอาสะโพกบดเข้าหากลางตัวเพชร ท่านี้ล่อแหลมจนต้องกอดบี๋แน่น สงสัยต้องพากลับแล้ว เพชรบอกลาพี่วิชชี่ที่เมาพอกัน แต่รายนั้นเหมือนมีแฟนฝรั่งมาด้วยก็ปลอดภัย พี่ ๆ คนอื่น ๆ ก็แยกย้ายกลับ เพชรประคองคนสวยไปขึ้นรถ
"จุ๊บ ๆ หน่อย" เสียงอ้อแอ้อ้อน ตาหวานเยิ้มฉ่ำ เพชรตามใจ พออยู่ในรถกันสองคนก็ปลอดภัยแน่แล้วเลยอยากทำอะไรก็ไม่ว่าสักคำ
ศศิจูบเพชรเนิ่นนาน แล้วก็กอดน้องแน่น ซบหน้าลงกับไหล่กว้าง เพชรรู้สึกถึงความชื้นเบา ๆ ก็ตั้งใจเงี่ยหูฟัง คนสวยสะอื้น
"บี๋ร้องไห้ทำไมคะ"
"ฮึก.." ศศิเงียหน้าขึ้นมาเม้มปากแน่น แล้วทำท่าจะเป่าปี่เสียงดังกว่าเดิม
"บอกเพชรเร็ว"
"หวง หวงเพชร"
คนที่เคยเก่งในวันโน่น พอเจอฤทธิ์แอลกอฮอลล์เข้าไปก็งอแงเสียแล้ว
"หวงอะไรเอ่ย"
"เราเห็น เพชรมีแต่คนชนแก้วเต็มเลย ฮึก...เรากลัววันนึงเพชรจะเห็นคนอื่นดีกว่าเรา"
"โอ๋ ๆ บี๋ของเพชรดีที่สุด ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าบี๋ไม่สบายใจ เพชรไม่รับงานกลางคืนแล้วก็ได้"
"เพชรชอบ บี๋ห้ามไม่ได้"
น่ารักแบบนี้ ขี้หวงแบบนี้ เพชรยิ่งหลงเข้าไปใหญ่ ไม่ต้องมาบ่นแว้ด ๆ ข้างหู ทำตัวเจ้าข้าว
เจ้าของ แค่แสดงความอ่อนแอออกมาบ้าง เพชรก็พร้อมกางปีกปกป้องแล้ว
"เพชรทำได้ทุกอย่าง ที่จะทำให้บี๋สบายใจนะ ไม่ชอบอะไรก็บอก ไม่อยากให้ทำอะไรก็บอก เพชรแคร์พี่ศิที่สุดนะครับ"
คนฟังคิดตามแล้วก็พยักหน้าช้า ๆ ก่อนสองตาจะปิด แล้วทิ้งตัวพิงไปกับพนัก หลับคร่อกไปแล้ว
"ยัยบี๋เอ้ย" เพชรดุเจอรอยยิ้ม แล้วก็เกลี่ยวผมยาวที่คลอเคลียใบหน้าหวานไปทัดหูไว้ ปรับเอนเบาะ หาผ้านุ่ม ๆ มาห่มให้ จากนั้นค่อยออกรถกลับไปยังห้องที่แสนอบอุ่นของเรา
เพชรเข้าออฟฟิศมาในช่วงบ่าย เพราะตอนเช้าไปช่วยพี่ Art Di หา Prop มาเข้าฉาก พอถึงโต๊ะเท่านั้นแหละก็ได้ยินเสียงฮือฮามาแต่ไกล
"เพชร มึงฮอตมากเว่อร์" เพื่อนผู้หญิงจากมหาวิทยาลัยอื่นทัก
"อะไรวะ"
"ก็พี่พอลล่าเอาภาพลงเพจให้ลูกค้า ภาพมึงนี้โดนกดไลค์รัว ๆ ขนาดลูกค้ายังโทรมาชมใหญ่เลย"
"ภาพที่กูถ่ายหรอ" เพชรกระตือรือล้นขึ้นมาทันที
"มึงถ่ายรูปแบบนั้นได้ก็แปลกล่ะ"
เพชรหัวอุ่น ๆ ขึ้นมาเลยเหมือนโดนดูถูก แต่พอเพื่อนสาวยื่นโทรศัพท์มาให้ดูก็ถึงบางอ้อ ยัยบี๋จิกกล้องแตกแนบแก้มแก้มอยู่บนไหล่เขา เพชรจำลายเสื้อที่เป็นแผ่นหลังตัวเองได้ แล้วยังจะมีรูปจูบกัน รูปนัว ๆ ที่ให้บรรยากาศอาร์ตและอีโรติกเหมือนหนังฮ่องกงยุค 90 อีก แล้วลูกค้าที่เป็นสปอนเซอร์เมื่อคืน คือเบียร์จากแดนมังกร จัดไฟทั้งร้านก็เป็นโทนสีแดง ยิ่งส่งให้ภาพดูร้อนแรงเข้าไปอีก
"ใส่ฟ้อนท์จีนเข้าไปหน่อย เป็นปกหนังรางวัลได้เลยนะ"
"แฟนมึงแซ่บเบอร์นี้เนาะ แพมเม่กูใส ๆ ไปเลย" เฟิร์สเดินเข้ามาร่วมสมทบ
เพชรไม่ตอบในประเด็นนี้ แต่กลับมองตายัยบี๋ในรูปอย่างครุ่นคิด จิกแรง อินเนอร์ดี กล้องน่าจะอยู่ไกล แล้วใช้เลนส์ซูมมา ตั้งใจประกาศความเป็นเจ้าของเต็มที่ แล้วยังที่อ้อนเขาในรถอีก คือเมาดิบใช่หรือไม่
ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็หลงจะแย่แล้ว
แน่นอนว่าพอภาพนี้สะพัดออกไป แพมเม่เองก็เงียบไปเช่นกัน อาจจะเป็นเพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นอุทาหรณ์ให้เธอ หรือถึงจะอยากเอาชนะแค่ไหน ก็ไม่อยากเสี่ยงหาเรื่องอีกใจเพชรแข็งเกินไป และแฟนของเพชรก็ดูไม่น่าจะหาเรื่องได้ง่ายๆ ถึงขั้นหาโอกาสประกาศศักดาผ่านโลกออนไลน์ขนาดนี้
เรื่องนี้เลยจบไปอย่างง่ายดาย ด้วยเสน่ห์ความร้ายของยัยบี๋เอง
TBC
มีเรื่องแจ้ง
1. ใครอ่านเรื่อง ทฤษฎีอ่อยเธอ อยู่ รีบไปอ่านเด้อ เสาร์นี้เราจะปิดตอนที่ 7- จบนะคะ
2. ตอนนี้ไม่มี ตบ ก็จบไป -- > เราพยายามลดความรุนแรง ในนิยายลง มันอาจจะสะใจน้อยหน่อย แต่ก็ไม่อยากให้เป็นภาพจำว่าการตบคือการจบปัญหา เลยเขียนให้ตัวร้ายก็แพ้ภัยตัวเองกันไปนะคะ หวังว่าจะเป็นที่ชอบกัน แต่ถ้ามีอะไรที่อยากชี้แนะ ก็ยินดีรับฟังเสมอค่ะ
3. ให้กำลังใจกันคนล่ะ หนึ่งเม้นต์นะคะ เรามาลงก็เพราะยังมีคนเม้นให้ตลอด แต่พอเม้นมันหดลงเราก็หวั่นไหวเด้อ
#อยากเรียกเธอว่าบี๋