Brief เนื้อเรื่องสั้นๆ ประกอบการตัดสินใจอ่านต่อค่ะ
นายเอก : ชื่อพ่อตั้งให้คือศักดิ์สิทธิ์ ชื่อไปเปลี่ยนเองคือ ศศิ พี่เขาเป็น Femboy มีหน้าอกขนาด 350 CC และยังมี Baby Carrot อายุ 27 ทำอาชีพนักแปล Freelance มีเวลาว่างมาให้อีน้องคอยวอแว
พระเอก : เพชร พชร เด็กปี 3 ภาคฟิล์ม เน้นถ่ายรูป มาดเซอร์ ผมประบ่านิยมมัดจุก หาเรื่องวอแวคนพี่โดยการชวนเขามาถ่ายรูปส่งงานอาจารย์ทั้งปี ขยันหา Ref วับๆ แวมๆ มาล่อซื้อพี่เขา ตอนถือกล้องภาพมันก็จะสั่นๆ หน่อย
Ref ที่นังเด็กน้อยหามาหลอกพี่เค้า หลอกๆ จับๆ จีบๆ กันไปสักพักก็ได้เรื่อง เพราะพอน้องรู้ว่าพี่ยังมีเบบี้แครอทติดตัวอยู่ก็เกิดความสับสนในชีวิตว่าจะไปต่อ หรือเลี้ยวหัวกลับ
อันนี้ไม่เฉลยต้องลุ้นไปด้วยกันฮะ ถ้าพร้อมแล้ว เชิญ!!!
---------------------
อยากเรียกเธอว่าบี๋ Chapter. 1
ถ้าเจอกันครั้งแรกคือพรหมลิขิต
เจอกันครั้งที่สองคือทดสอบความมั่นใจ
ผมจะทำให้มีครั้งที่ 3 เพราะผมจะ... ‘จีบ’ คุณ
กระจกเงาที่ติดเต็มผนังด้านหนึ่งของห้องน้ำ สะท้อนภาพครึ่งตัวค่อนไปเกือบถึงหัวเข่าของเรือนร่างสีน้ำผึ้งอ่อน เรือนผมหนาดกดำหายไปอยู่ในม้วนผ้าขนหนูที่ยกขึ้นสูง เผยให้เห็นทรวงอกอวบอิ่มสองข้าง ฝ่ามือเรียวสวยยกก้อนเนื้อกลมกลึงขึ้นเล็กน้อย รอยแผลเป็นยังทิ้งรอยจางๆ ไว้ เป็นสัญลักษณ์ของซิลิโคนขนาด 350 CC ที่เคยผ่านช่องทางตรงนี้เข้าไป ดวงตากลมสีน้ำตาลเกือบดำวาววับราวลูกตากวางไล่ต่ำลงมาอีก ช่วงเอวที่คอดลงกับหน้าท้องแบนเรียบมีร่องเลข 11 แบบหุ่นในฝันของนางแบบบนรันเวย์ Victoria Secret แต่ทว่ายังมีอีกหนึ่งเครื่องเพศไร้ไรขนปกคลุม มันเป็นแท่งเนื้อยาวประมาณ 1 คืบ ไม่ใช่ร่องหลืบที่หายไปในกลีบเนื้อ
สิ่งซึ่งย้ำเตือนให้ ‘ศศิ’ รู้ว่าอดีตเขาเคยชื่อ ‘ศักดิ์สิทธิ์’ และตอนนี้คำนำหน้าบนบัตรประชาชนยังขึ้นต้นว่า ‘นาย’
จบการสำรวจเรือนร่างตัวเองหลังอาบน้ำรอบแรกของวันเสร็จ บราเซียลูกไม้สีดำก็ถูกสวมใส่โอบรัดเต้ามาให้ชิด กางเกงในเข้าชุดกันถูกดึงผ่านข้อเท้าแล้วไหลล่องขึ้นมาประคองสะโพก เจ้าชิ้นเน้ือที่ลู่ลงตามแรงโน้มถ่วงถูกเก็บรั้งไปด้านหลัง วันนี้เขาจะใส่ชุดเดรสทรงหลวม ๆ ไม่รัดรูปฉะนั้นไม่ต้องติดสก็อตเทปกักกันเจ้าตัวร้ายให้ระคายผิวเนื้อเสียเปล่า ๆ
แต่งตัวเรียบร้อย ก็เดินออกมาแต่งหน้าเป่าผมในห้องนอน ก่อนจะสะพายกระเป๋า Labtop ไซส์จิ๋ว และหิ้วกระเป๋าถือทรงสวย เดินออกจากห้องพักไป
พชร หรือ เพชร สาวเท้าเร็วๆ เข้าไปในร้านกาแฟ 24 ชม. ติดรั้วมหาวิทยาลัยที่นักศึกษา รวมทั้งพนักงานออฟฟิศตึกข้างๆ ชอบมานั่งเป็น The Third Place รองจากบ้าน และที่ทำงานหรือสถานที่เรียนหนังสือ เขารีบจะตายอยู่แล้ว แต่เพื่อนสนิทอีกสองคนก็วอแวให้เดินมารับ แล้วค่อยไปคณะที่อยู่อีกฝั่งถนนด้วยกัน วันนี้เขาใส่เสื้อเชิ้ตลายฮาวายกับกางเกงยีนส์ทรงโคร่งๆ แต่สั้นเต่อเหนือตาตุ่ม บวกกับรองเท้าแวน ผมยาวระดับต้นคอมัดรวบไว้เป็นจุกที่ด้านหลังดูเซอร์ ใครเห็นอาจจะไม่รู้ว่ากำลังไปเข้าเรียน แต่เชื่อเถอะวิชา Advertising Photo ของภาควิชาภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ชั้นปี3 คณะนิเทศศาสตร์รอเขาอยู่ และอาจารย์ที่เป็นตากล้องชื่อดังของเมืองไทยก็โหดมากด้วย
“ไอ้ไทม์ ดนัย ไปกันมึง” เขาตะปบหลังคอเพื่อนที่คนนึงใส่เชิ้ตนักศึกษาเรียบร้อย กับอีกคนเป็นเสื้อยืดสีดำสนิท เร่งรัดให้พวกมันเก็บของลงกระเป๋า ชะโงกหน้าไปดูถึงพึ่งเห็นว่ากำลังแปลงานวิชา Advanced Translation กันอยู่
“มึงทำยัง” ไทม์หันมาถามเพชร
“หึ...ยังขอใกล้ๆ เลย”
“เนี่ยดินพอกหางหมู”
“มึงก็รู้ว่ากูไม่ถูกกับภาษา นี่ตั้งใจมาเรียนถ่ายรูป ตัดวิดีโอล้วนๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอภาษาอังกฤษโหดขนาดนี้”
“เช่นกันสหาย” ดนัยพยักหน้า แล้วไอ้วิชาบ้านี้เอากูเกิ้ลทราสเลตแปลก็ไม่ได้ เพราะมันผิดผิดผิด
จังหวะที่ทุกดนัยจะรวบเอางานลงกระเป๋าเป้ หนังสือเรียนเขาก็หายไป เด็กหนุ่มหัวเกรียนสกินเฮดเงยหน้ามองไปฝั่งตรงข้าม มันเป็นโต๊ะแบบแชร์กัน แล้วเขาก็ได้เห็นว่าพี่สาวคนสวยที่แอบมองมานาน กำลังยื่นหนังสือกลับมาให้ พร้อมกับรอยแดงเต็มไปหมดเหมือนเวลาครูตรวจ
ไทม์กับเพชรหันไปมองตาม
“เห็นแล้วมันอดแก้ให้ไม่ได้ ขอโทษนะคะ” เสียงพูดนั่นไม่หวานใสเท่าผู้หญิงทั่วไป แต่ก็ไม่ห้าวแหบแบบผู้ชาย มันเหมือนเสียงแหลมๆ ที่เป็นหวัด
ดนัยยกมือไหว้ปลกๆ ให้ผู้หญิงผมยาวฝั่งตรงข้าม ก็ถ้าพี่เขาไม่แก้มาให้ คะแนน 0 ก็เห็นอยู่รำไร
“เห้ย มึงไปได้ยัง” ไทม์ศอกเข้าที่หน้าท้องของเพชร เมื่อเห็นว่าเพื่อนยืนเหม่อนานไปแล้ว พอผลักประตูกระจกพ้นตัวร้านออกมาได้เลยรีบแซว “กลับไปขอเบอร์มั้ย กูว่ามีลุ้น ดูออกว่าพี่เขาชอบมึง”
เพชรขมวดคิ้ว “ยังไงวะ”
“กูจำในข้อสอบได้ ที่ถามว่าเมื่อผู้หญิงเจอผู้ชายที่ชอบให้ทำยังไง ตอบว่า เอาผมทัดหู”
“ประสาท” เพชรว่าเพื่อน แล้วรีบสาวเท้าวิ่งไปให้ทันคาบเรียน
ห้องเรียนวิชาแฟชั่นโฟโต้เป็นสตูดิโอผนังขาวโล่งๆ มีเก้าอี้เลคเชอร์สีดำด้านเรียงกันเป็นตัวยูยี่สิบชุด นักศึกษานั่งเกือบเต็ม ส่วนอาจารย์น้ันนั่งอยู่ที่ตัวแรก แล้วต่อภาพจากแมคบุ๊คบางเฉียบขึ้นโปรเจคเตอร์ วันนี้ว่าด้วยเรื่องภาพระดับ Medium Shot สอนโดยการให้ดูงาน ชี้ให้เห็นจุดดีจุดด้อย แล้วให้โจทย์ไปทำ
“ภาพโฆษณาสินค้าที่ถ่ายแบบ Medium Shot”
จบคลาสสองหน่วยกิต หรืออาทิตย์ล่ะสองชั่วโมง ภายในระยะเวลาสั้นๆ
“มึงไปไหนต่อ” ไทม์ถาม เพราะไม่มีอะไรเรียนต่อแล้ว ปกติพวกเขาจะไปนั่งใต้ตึกคณะดีดกีต้าร์ หรือหาอะไรสนุกๆ ทำแก้เบื่อก่อนกลับบ้าน แต่วันนี้เพชรยกมือปฏิเสธ
“กูจะเอาชีทไปให้น้องรหัส”
“ที่ไหน”
“ร้านเดิม”
ไทม์กับดนัยมองตากันเพื่อตัดสินใจว่าจะตามไปดีหรือไม่
“ไม่ต้องตามมาหรอก กูหาน้องเสร็จ คงกลับไปตัดงานวิชาครูป็อปต่อ”
“เจอกันพรุ่งนี้มึง” ไทม์ว่า แล้วกอดคอดนัยไปใต้ตึกคณะแทน
พชรแยกจากเพื่อนมาได้ ก็เดินด้วยจังหวะปกติกลับไปทางเดิม แต่ใจเขากลับเต้นแรงกว่าปกติ มันทั้งกังวลและตื่นเต้นว่าจะได้เจอ ‘พี่สาว’ คนเดิมอีกหรือไม่ เพชรไม่เคยเชื่อเรื่อง Love at First Sight แต่ใบหน้าของอีกฝ่ายก็ไม่หลุดออกจากหัวเขาเลยตลอดสองชั่วโมงที่ผ่านมา เธอคนนั้นไม่ได้สวยจัดชนิดนางเอกในละคร แต่กลับรู้สึกได้ว่าถ้ามองไปทั้งชีวิตจะไม่เบื่อ...ขอใช่คำว่าหน้าอาร์ตมากก็แล้วกัน แถมผิวก็เป็นสีน้ำผึ้งสวย ไม่ใช่ขาวซีดพิมพ์นิยม
นักศึกษาชั้นปีที่ 3 เปิดประตูกระจกเข้าไปใหม่ หัวใจเขาเต้นเร็วกว่าเดิม อาการประหม่ากระมัง
ถ้าเจอ...จะทำอย่างไร
แล้วถ้าไม่เจอ...จะไปตามหาได้ที่ไหน
“ตรงนี้มีคนนั่งไหมครับ” แต่ก่อนที่จะฟุ้งซ่านไปมากกว่าเดิม ตรงที่ไทม์กับดนัยเคยนั่ง ยังไม่มีใครจับจอง
และเพชรก็ไม่ลังเลเลยที่จะเอาตัวไปไว้ตรงนั้น ทั้งที่ฝ่ามือชื้นเหงื่อไปหมด คนหน้าอาร์ตของเขาเงยขึ้น เธอใส่หูฟังสีขาว ย่นคิ้วเล็กน้อย กระนั้นยังน่ามอง แล้วก็พยักหน้า เพชรผงกศีรษะเป็นเชิงขอบคุณ และนั่งนิ่งๆ รอน้องรหัส
“นี่ จะไปสั่งกาแฟก็ไปสิ พี่เฝ้าของให้ก็ได้”
ในภวังค์ที่ตีกันไปหมดว่าจะทำให้เกิดการเจอกันครั้งที่ 3 ได้อย่างไร ถูกทำลายล้างด้วยประโยคแสดงน้ำใจของพี่คนตรงข้าม
“อ่อ..ครับ” เพชรวางเป้ไว้ แล้วเดินไปเหมือนหุ่นยนต์ พอดีกับน้องรหัสไลน์มาบอกว่ารถไฟฟ้าถึงสถานีสามย่านแล้ว
เร็วสิเพชร...จะหมดข้ออ้างอยู่ใกล้เขาแล้ว
และไอ้น้องสุดที่รักก็มาไวทันใจ
“พี่เพชร!!” เรนเดียร์ สาวสวยหน้าตาจิ้มลิ้มดีกรีหลีดคณะ และมหาวิทยาลัยโบกมือไหวๆ วิ่งพรวดมาที่หน้าเคาน์เตอร์ตรงที่เพชรยืนอยู่ เธอสวมชุดนักศึกษา เพราะมีเรียนวิชาต่างคณะตอนสี่โมง
“รอแปป หนังสืออยู่ในเป้”
“โต๊ะไหน”
“ติดประตู”
เรนเดียร์วิ่งปรู๊ดไปทันที ซนผิดกับหน้าตาที่ชดช้อยแบบหญิงไทย
ซวยแล้ว...เพชรหันขวับ น้องรักนั่งลงตรงเก้าอี้ที่เขาวางเป้ Fritag แถมยกมันมากอดไว้ด้วย มันเป็นเป้ที่สายรหัสรวมเงินกันซื้อให้ตอนวันเกิด และเดียร์รับหน้าที่ไปเลือกมาให้ น้องคงผูกพัน แต่...พี่คนนั้นจะเข้าใจว่าไง
“อย่ารื้อมั่วซั่ว” เพชรรีบดุ เมื่อวางแก้วอเมริกาโน่เย็นลงบนโต๊ะ
“ไม่ทันได้เปิดซิปเลยค่ะ” เรนเดียร์ตอบเสียงฉอเลาะตามสไตล์ เพชรดึงกระเป๋ามาถือ แล้วล้วงเอาชีทวิชาเลือกที่น้องลงเรียนตัวเดียวกับเขาออกมายื่นให้
“รักที่สุดเลย!! หนูไปเรียนก่อนนะ”
“อือ...ตั้งใจเรียน ได้เกรดดีแล้วเลี้ยงหนม”
น้องพยักหน้าหงึกๆ แล้ววิ่งปรู๊ดปร๊าดออกไปเหมือนตอนมา ห่วงว่ากระโปรงสอบของมันจะขาดจริงๆ เพชรลากเก้าอี้แล้วนั่งลง...นั่งลงทำไมวะ อ๋อ เขามีเวลาอีก 1 แก้วกาแฟไซส์ใหญ่ของร้าน ที่จะสร้างโอกาสครั้งที่ 3 ในการเจอกับพี่เขา
ถามว่าทำไมต้องมีครั้งที่ 3
คำว่า ‘จีบ’ มันสะกิดที่หัวใจเขาเบาๆ ตั้งแต่ตอนเรียนหนังสืออยู่แล้วล่ะ
พี่เขาพับหน้าจอคอมแล้วบิดขี้เกียจ เพชรหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอีกรอบ
เร็วสิ...ไม่งั้นจะไม่ได้เจอแล้วนะ
“เอ่อพี่ครับ”
“เราหรอ?” คนตรงหน้าเลิกคิ้ว ตาโต น่ารัก...ชิปหายในความรู้สึก
“ใช่ครับ”
เพชรเห็นว่าเขาหยุดฟังแล้ว เลยบังคับปากตัวเองให้พูดแผนร้ายออกไป
“เอ่อ...ผมอยากได้พี่มาเป็นแบบถ่ายรูปวิชาที่เรียนให้หน่อยครับ”
คราวนี้พี่สาวตาโต “คือยังไงนะ”
“คือผมเรียนวิชา Ad Photo เอ่อ ถ่ายภาพสำหรับงานโฆษณา แล้วต้องถ่ายภาพส่งอาจารย์ทุกวีค วีคนี้ผมอยากให้พี่เป็นนางแบบให้หน่อย พี่พอจะว่างมั้ย”
เธอเอียงคอเหมือนครุ่นคิด “ถ่ายรูปอะไรอะ โป๊หรือเปล่า”
เพชรยกมือขึ้นโบกปฏิเสธ “ไม่ครับพี่ ถ่ายครึ่งตัวกับโปรดักต์อะไรก็ได้ คงถ่ายพวกยาสระผมหรือครีมทาหน้าอะไรพวกนั้น”
“อ๋อ แบบที่ต้องถือมาใกล้ๆ หน้าใช่มั้ย”
“ใช่ๆ”
“เอาดิ”
เพชรดีใจ แต่จะออกอาการมากไปคงไม่ดี
“เอ่อ...ผมขอไปจองสตูฯ ก่อน ได้วันกับ Reference ภาพแล้วจะอัพเดทพี่อีกทีนะครับ”
“งั้นแลกไลน์กันไว้มั้ยจะได้ติดต่อสะดวก”
เพชรยื่นมือถือไปแสกนคิวอาร์อย่างไว
“น้องเพชร หรอ” อีกฝ่ายถาม เพราะมันโชว์ รูปไอค่อนอัญมณีสีขาวอันเดียว
“ครับ แล้วพี่ชื่อ”
“ศศิ เรียกศิก็ได้”
“พี่ศิ...” เพชรทวนคำ เจ้าของชื่อยิ้มรับจนหัวใจเต้นแรงอีกรอบ
“ไปก่อนนะ”
“อ่า...ครับ กลับดีๆ นะครับ” เพชรโบกมือลาค้างไว้ คนที่ตัวเพรียวบาง แต่หน้าอกสะบึมเดิน
จากไปแล้ว เธอวิ่งหายลงไปในทางลงรถไฟฟ้าใต้ดิน เพชรอยากขอไปส่งบ้าน แต่เขาคงกลาย
เป็นคนปะหลาดน่าดูถ้าทำแบบนั้น เอาไว้รอบหน้าที่เจอกันดีกว่า
พอหันกลับไปบนโต๊ะก็เจอกับเจ้านำ้ดำแก้วใหญ่พิเศษ ตาค้างแน่ไอ้เพชรคืนนี้
ศศิกลับมาถึงห้อง ... วางกระเป๋าคอมลงที่โต๊ะทำงานแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระความเหนื่อยล้าให้หายไป สายน้ำอุ่นไหลรินผ่านทรวงอกแน่นตึง ลงสู่หน้าท้องเรียบกับร่องสะดือสวยจนลงไปถึงเบื้องล่าง ศศิกอบกุมสบู่ที่ขึ้นฟองถูไถไปตามร่างกายและก็หยิบจับเจอเจ้าศัตรูตัวร้ายอีกเช่นเคย มันชอบดึงเขากลับมาสู่โลกความเป็นจริงว่าไม่ใช่ผู้หญิงเต็มตัว ใช่...เขายังไม่ได้แปลงเพศ
ร่างสีน้ำผึ้งตวัดผ้าเช็ดตัวจากราว ซับหยาดหยดน้ำที่เกาะทั่วร่างกายออก โรยแป้งฝุ่นเด็กไปตามซอกต่างๆ ไม่ให้อับชื้น แล้วค่อยหยิบชุดนอนแบบสายเดี่ยวผ้าซาตินมาสวม ศศิไม่คิดจะออกจากห้องไปไหนแล้ว อาหารก็มีอยู่ในตู้เย็น แค่เอามาเวฟ
เดินออกมาจากห้องนอนแวะดูโทรศัพท์ ก็เห็นไลน์หลายข้อความจากเด็กผู้ชายที่พึ่งเจอกันวันนี้
ศศิกัดริมฝีปากขบคิด เขาไม่แน่ใจว่า...เรื่องงานล้วนๆ หรือเด็กน้อยมันอยากจีบเขาด้วย
ใช่...เขาค่อนข้องมีเซ้นส์ในเรื่องนี้
แต่...น้องรู้มั้ยนะว่าเขาไม่ใช่ผู้หญิง
มันเริ่มต้นด้วยประโยคที่ว่่า ‘ถึงบ้านรึยังครับ’ แล้วต่อด้วยรูป Reference หลากหลายแนวที่เพชรส่งมาให้เลือก ศศิอมยิ้มตั้งแต่ข้อความแรก แต่ยังไม่ตอบ กดไถดูไปเรื่อยๆ
‘พี่ถึงบ้านแล้ว’
‘พี่อยากถ่ายแนวไหน’
‘คิดว่ารูปไหนจะได้คะแนนดี’
‘รูปนี้...’
แล้วก็เป็นภาพนางแบบผิวสี สวมชุดคลุมผ้าเลื่อมๆ ผมเปียกแนบลู่หน้าอย่างเซ็กซี่ ในมือถือขวดแชมพู
‘ก็ถ่ายรูปนี้สิ’
‘มันโป๊ไปรึเปล่า พี่สะดวกหรอ’
‘ใส่เสื้อคลุมใช่มั้ยล่ะ ถ้าตามเรฟ ก็รับได้อยู่’
‘ขอบคุณครับ’
‘แล้วทำไมไม่ถ่ายแฟนตัวเองล่ะ’ ใช่ศศิโยนหินถามทาง
‘ผมไม่มี’ เพชรตอบไว
‘แล้วน้องผู้หญิงคนนั้นล่ะ’
‘ที่ร้านกาแฟอะนะ’
‘อ่าหะ’
‘น้องรหัส’
‘น่ารักดี’ อันนี้ศศิพิมพ์ตามความจริง
‘แล้วพี่ล่ะ มีแฟนหรือยัง’
ริมฝีปากสวยยกยิ้ม นั่นไงเซ้นส์เขาไม่เคยพลาด
‘ยัง’
‘เหลือเชื่อ’
‘ที่พี่สวยแล้วไม่มีคนจีบอะนะ’ ศศิหยอด
‘แก่ปูนนี้แล้วต่างหาก’
เอาใหม่...อยากจะสกรีมว่าเด็กเวรแล้วเอาสองมือยีหัว
‘คิดว่าฉันอายุเท่าไหร่ ห๊ะ’
‘อืม…23 24 มั้ย’ เพชรตอบแบบนั้นเพราะดูออกว่าพี่เขาไม่ใช่นักศึกษาแล้ว
’ 27 จ้า ไหว้แม่สิลูก’ เล่นมุกไปเสียหน่อยนึง
‘ตกใจเลย’
‘แก่มากหรอ’
‘ไม่เป็นไรผมชอบคนแก่กว่า’
เดี๋ยวนะ อะไรคือความเป็นเหตุเป็นผล ศศิไม่พิมพ์ต่อ เขาไม่อยากให้น้องรู้สึกว่าช่ำชองเกินไปจนกลัว อีกส่วนคือเขาก็ตื่นเต้นทุกครั้งนั้นแหละที่มีคนมาจีบ แต่ก็เผื่อใจไว้แล้วส่วนหน่ึงว่า...ถ้ารู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้หญิง ส่วนใหญ่ก็...หายไปเลย
ส่วนคนนี้จะลุ้นดูดีไหมนะ
‘พี่กินข้าวก่อนนะ’
‘ครับ กินให้อร่อย ผมก็ทำงานต่อล่ะ’
ก็...วอแวในระดับที่กระชุ่มกระชวยหัวใจดี
TBC
#อยากเรียกเธอว่าบี๋ ฝากด้วยค่ะ
และถ้าใครที่รอมีหลายตอนค่อยอ่าน รอจบก่อนค่อยอ่าน ก็รายงานตัวหน่อยน๊า ^^