e<3 อยากเรียกเธอว่าบี๋ [femboy] -- Chap 23 END /6 sep
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: e<3 อยากเรียกเธอว่าบี๋ [femboy] -- Chap 23 END /6 sep  (อ่าน 44284 ครั้ง)

ออฟไลน์ AnnloveY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :hao5:อีนางงเพชรรรร​ สงสารรพี่ศิ  งื้ออออๆๆๆๆ :hao5:

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
Chapter 12



ศศิลากร่างกายที่หัวใจสลายไปแล้วกลับมาถึงห้องอย่างช้าๆ เธอเปิดประตูเข้าไป ไฟยังมืดสนิท วิชชี่คงไม่ได้กลับมา ก็ดีแล้วเธอจะได้ใช้เวลาอยู่คนเดียว ต่อหน้าเพชรเธอทำเป็นเข้มแข็งได้ แต่พอกลับมาเจอบรรยากาศเก่าๆ เสียงเรียกชื่อเธอจากปากคนเคยรักยังคงดังแว่วหวานในหู ศศิไม่เปิดไฟ เธอเดินคลำทางด้วยอาศัยความเคยชินไปนั่งลงบนโซฟากลางห้องนั่งเล่น



แม้แสงจะสลัวจนแทบมองไม่เห็น แต่ภาพที่เพชรนอนเล่นกับเธอตรงนี้กลับยังชัด



จะอาลัยอาวรณ์ให้ได้อะไรกลับมาเล่าศศิ ในเมื่อทุกคำที่เข้าย้ำมันก็สลักลึกลงไปในใจเธอแล้ว

หนิ



เขาไม่ได้รักเธอ...เขาเพียงมองหาแม่ของลูก มองหาอะไรสักอย่างที่ไปเติมเต็มชีวิตเขาให้สมบูรณ์



และเธอก็ไม่ใช่จิ๊กซอว์ตัวนั้นอีกต่อไป



ศศิปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบๆ นานเท่าไหร่ไม่รู้...รู้ตัวอีกทีก็คือท้องฟ้าเบื้องนอกเริ่มเปลี่ยนสี ณ ขอบเมฆ กลายเป็นสีชมพู คนสวยยิ้มบางออกมา แม้กลางคืนจะแสนมืดหมอง แต่พอครบ 12 ชั่วโมง พระอาทิตย์ก็จะกลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง ใจเธอก็เช่นกัน



ถ้าเขาไม่รัก...ก็คงต้องปล่อยมือ

ก้อบกูความภาคภูมิใจของตัวเองคืนมา

อย่าให้ Self-Esteem ของเราต้องตกต่ำลงไปมากกว่านี้



คุณค่าของหัวใจเธอก็เท่ามนุษย์ทุกคนบนโลก...จะให้คนที่ไม่เข้าใจมากำหนดได้อย่างไร



ศศิหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แบทเตอรี่มันเริ่มขึ้นขีดแดงแล้ว เพราะปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ชาร์ททั้งคืน เรียวนิ้วสวยที่วิชชี่พึ่งทาสีให้ใหม่ กดไปยังแอพพลิเคชั่นไลน์ เธอ Block เพชร แล้วลบออกบทสนทนาทั้งหมด ให้มันเป็นเพียงความฝัน ที่ทำให้เธอเข้าใจความรักมากขึ้นก็แล้วกัน



ยังมีอีกข้อความหนึ่งที่เธอไม่ได้ตอบ ชายหนุ่มที่ให้เธอยืมร่มในวันนั้น หลังจากติดต่อคืนของไปแล้ว เขายังชวนเธอคุยอยู่เนืองๆ รวมถึงส่งงานแปลให้เธอด้วย



ดูออกว่าอยากสานสัมพันธ์...แต่ตอนนั้นเธอยังมีหวังกับเพชร

แต่ตอนนี้...เธอกดเข้าไปรับนัด ออกไปนั่งพูดคุยกับคนใหม่ๆ บ้างก็แล้วกัน







นับจากคืนนั้น...เป็นอาทิตย์แล้วที่เพชรกวาดสายตามองข้อความใหม่ในไลน์จากศศิ ไม่มี...พี่เขาไม่ไลน์อะไรมาทิ้งไว้อีกแล้ว



จะกดเข้าไปดูความเคลื่อนไหวในโซเชี่ยล ศศิ Block เขาทุกช่องทาง



มันควรจะดีใจแต่กลับรู้สึกแปลก แปลกจนไทม์และดนัยทัก



"เพชร มึงจะถ่ายอะไรอะ กูเห็นยกกล้องค้างมาจะสิบนาทีแล้ว"



"เอ่อ...กูรอให้นกบินเข้ามาในเฟรม"



"คงผ่านแหละ เลนส์มึงจะทิ่มป้ายรถเมล์อยู่แล้ว ท้องฟ้าอยู่ทางนี้ครับพ่อ" ไทม์จับเพชรหมุนตัว แล้วเอามือตบเลนส์กล้อง DSLR ให้สูงขึ้นด้วย



"ก็กูวัดแสงตรงนั้นไว้"



"เออ เรื่องของมึงเลย"



พวกเขาสามคนมาถ่ายภาพเพื่อส่งเข้าประกวดงานที่อาจารย์หามาให้ จากหัวข้อ Chance for better life พวกเขาตีความถึงแสงสว่างที่จะมาเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต



ไทม์เข้าทางพระ อยากถ่ายวัด ซึ่งโคตรไม่เข้ากับหน้ามัน ดนัยคิดว่าคงเป็นพวกสัตว์เลี้ยงที่คนในเมืองหลวงนิยมมีไว้เป็นเพื่อนคลายเหงา ในขณะที่เพชร...ไร้จุดหมาย แต่เดิน ๆ ไปกับสองคนนี้คงได้



เมื่อสักครู่เห็นนกพิราบที่สนามหลวง ก็ว่าจะแถกแถไปในมุมของ freedom



"หิวแล้ว หาอะไรกินดีกว่า"



"พวกมึงได้ภาพแล้วหรอ" เพชรถาม



"โห เพชรมึง ดนัยมันแทบปีนขึ้นอุโบสถอยู่แล้ว เก็บไปเป็นพันรูปแล้วมั้ง ส่วนกูก็ได้คุณยายคุณตาเล่นกับแมวตามที่คิดแล้ว เหลือแค่มึงกับนกของมึงอะ"



"นกภาพก็ไม่ได้ แถมยังนกความรักอีก สงสารเขานะครับ" ดนัยเปรย เพชรไม่หือไม่อือ หยิบ

โทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกรอบ หน้าไลน์ก็ยังสงบเหมือนเดิม ภาพโปรไฟล์ที่เขาเคยถ่ายให้พี่ศิใช้ บัดนี้ก็เปลี่ยนไปแล้วด้วย



ดี...มันดีแล้วแหละ

ก็เขาเลือกจะตัดขาดเองนี่นา







ตัดได้จริงหรอเพชร...

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
ได้แหละ แต่มันอาจจะต้องแน่ใจก่อนว่าพี่ศิเขาได้ไปเจอคนที่ดี



นายพชรลงทุนลากตัวเองไปนั่งอ่านหนังสือที่ร้านกาแฟข้างมหาวิทยาลัย ที่ที่พี่เขาชอบมานั่งทำงานบ่อย ๆ แม้ปากปฏิเสธกับเพื่อนทุกคนอย่างขันแข็งว่าไม่มีอะไรแล้ว แต่ลึก ๆ ในใจแล้วหวังจะได้เห็นพี่เขา อยากรู้ว่า...จะตัดใจจากกันไปได้แล้วจริงหรือ



ไม่พลาด ศศิมา...และแน่นอนว่านายพชรนั่งหลังเสาแอบพี่เขาได้แนบเนียนที่สุด



ในสายตาเพชร ศศิผอมลงไปมาก หน้าตาก็ไม่สดใสเหมือนแต่ก่อน ดวงตาคู่นั่นดูทั้งเหงาและอมทุกข์ เขาอดรู้สึกเสียวเสียดในหัวใจไม่ได้ อยากจะบอกให้พี่เขากินเยอะข้ึนได้มั้ย ยิ้มมาก ๆ เหมือนแต่ก่อนได้หรือเปล่า



"แล้วมึงเป็นอะไรกับเค้าวะเพชร" เสียงจากสมองออกมาต่อกรกับหัวใจ จนต้องเอามือโบกไล่มันไปในอากาศ นั่งแอบดูเขาทำงานเงียบ ๆ ไปอีกพักใหญ่ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามานั่งลงตรงหน้าศศิ เพชรจำได้ว่าคือคนที่ยื่นร่มให้พี่คนสวยในวันที่ฝนตก



ทั้งคู่คุยกันเบา ๆ มีเสียงหัวเราะดังเป็นระยะ เพชรถึงขึ้นต้องขยับเข้าไปใกล้อีกโต๊ะเพื่อให้ได้ยินชัดขึ้น ได้ความว่าหลังจากวันนี้ที่คุณอัศวิน ให้ศศิยืมร่มกลับบ้าน ก็แลกนามบัตรกันเพื่อส่งของคืน พออีกฝ่ายรู้ว่าศศิรับงานแปล ก็จ้างทำงานให้กับบริษัทนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตนเป็นผู้จัดการอยู่ จากนั้นก็คุยกันมาเรื่อย ๆ



เอาเอวิชาสาระแนกับจับใจความสำคัญไปเลยนายพชร! ด่าตัวเองแต่หูก็กระดิกไปด้วย เนื้อหาเริ่มเข้มข้นแล้ว



"คุณศิยังไงผมอยากให้พิจารณาอีกทีนะครับ เรื่องที่จะลองคุยกันมากกว่าเรื่องงาน"



"คุณอัศ ศิไม่ใช่ผู้หญิงนะคะ ยังไม่ได้แปลงเพศด้วย" เสียงพี่เอ่ยแฝงไปด้วยความเศร้าที่ใครได้ยินก็ต้องนึกสงสาร



"ผมรับได้ครับ" อีกฝ่ายตอบกลับมาทันที มันทำให้เพชรยิ่งรู้สึกหงุดหงิด



เรื่องแบบนี้มันรับกันได้ง่ายนักหรือไง!?



"เอ่อ...คุณอัศ ศิยังไม่ได้แปลงเพศด้วยนะคะ"



"ครับ...ผมชอบคุณศิเพราะนิสัยน่ารักนะครับ คุยด้วยแล้วทั้งสนุกทั้งสบายใจ เรื่องอย่างอื่นผมว่าเราค่อย ๆ ปรับตัวกันไปน่าจะไม่ยาก"

นั่นสินะ...นิสัยของพี่เขาน่ารักที่สุด อยู่ด้วยแล้วคือมีความสุขตลอดเวลา



"ขอบคุณนะคะ ขอบคุณรับศิได้" น้ำเสียงศศิดูสดใสขึ้นอย่างชัดเจน แต่เป็นเพชรที่กลับรู้สึกยุบยิบหัวใจแปลก ๆ มันรับกันง่าย ๆ แบบนี้เลยหรอ



"งั้นเราไปหาอะไรทานกันดีมั้ย ผมรู้จักร้านไวน์ดี ๆ ด้วย สเต็กเขาก็อร่อย ไม่รู้คุณศิทานเนื้อมั้ย"



"ทานได้ค่ะ ตามใจคุณอัศเลย"



"ครับ งั้นเชิญครับ"



เพชรหลบหลังเสา เมื่อทั้งคู่ลุกขึ้น มองตามหลังชายหนุ่มใส่สูทดูภูมิฐาน และเป็นผู้ใหญ่ สังเกตจากร่องรอยบนใบหน้าก็คงเหยียบสี่สิบแล้ว



"แก่ขนาดนั้นจะยังไม่มีเมียหรอวะ" ความคิดขี้อิจฉาสว่างวาบขึ้นมาในสมองเพชรทันที แต่จะทำอะไรได้ นอกจากย่องตามเขาไปต่ออีกหน่อย อีกฝ่ายเปิดประตูรถให้ศศิ มันเป็น Benz แบบที่ผู้บริหารชอบใช้กัน



มองไปจนสุดสายตา มองจนรถคันนั้นหายไป ทิ้งไว้เพียงคำถามในใจ



"ถ้าเขาดีกับพี่ศิจริง ก็ควรยินดีปะวะเพชร" บอกกับตัวเองแล้วค่อยเดินกลับไปที่รถ ขับกลับคอนโด





ก่อนขึ้นห้องเพชรแวะซื้อเบียร์กับอาหารมื้อเย็นแบบเวฟง่าย ๆ ติดมือมาด้วย เขานั่งลงกินที่โต๊ะอาหาร บัดนั้นเป็นยามโพล้เพล้ที่แสงอาทิตย์ย้อมท้องฟ้าให้กลายเป็นสีส้มหม่นมอง ดึงอารมณ์คนมองให้ด่ำดิ่งสู่ห้วงทุกข์ได้ง่ายนัก



เพชรตกเป็นเหยื่อของท้องฟ้าในยามนั้น เขาเหม่อมองดวงอาทิตย์ที่คล้อยต่ำลงเรื่อย ๆ มองกลุ่มเมฆหนาที่เคลื่อนเข้าบดบังสร้างความขมุกขมัว



มันไม่ต่างเลย...ไม่ต่างจากความรักของเขากับพี่ศิเลย



ช่วงแรกสดใสงดงาม และเมื่อมันร้อนแรงขึ้นก็มอดดับไป ยามดวงจันทร์เฉิดฉายขึ้นมาใหม่ พชรก็ไม่ได้ยืนอยู่เคียงข้างแล้ว



"รันทดจังวะ" เพชรเขี่ยไก่เทอริยากิเวฟร้อนเข้าปาก รสชาติที่หวานเกินไปมันเทียบไม่ได้เลยกับอาหารที่พี่ศิเคยปรุงสดใหม่ให้ทาน ไม่มีผลไม้หลังมื้อเย็น ไม่มีคนให้นอนกอดยามกดดูซีรีย์ มีเพียงเขา ห้องว่างเปล่า และกระป๋องเบียร์ที่เย็นเฉียบ



เพชรหยิบหนังรางวัลที่ยังเป็นแผ่น DVD หย่อนลงเครื่อง



มันเป็นบรรยากาศของเดนมาร์กในช่วงเกือบร้อยปีก่อน หนาวเย็น และเงียบงัน แต่ในดินแดนที่เหมือนแช่อยู่ในตู้น้ำแข็งนั้นกลับมาความรักที่งดงามผลิบาน



ตัวเอกสองคนเดิมทีเป็นคู่รักหญิงชาย พวกเขาเป็นศิลปินทั้งคู่ วาดภาพและเสนอขายไปตามวัฏจักรของยุคนั้น



ภาพของฝ่ายหญิงดูเหมือนจะขายไม่ได้สักทีจนเธอเกิดความคิด...อยากวาดภาพเหมือนของ 'ลิลี่' หญิงสาวแสนสวยที่เกิดจากสามีของเธอ แต่งกายเป็นสตรีนั่นเอง



ลิลี่จากที่เคยมีชีวิตอยู่ในรูปภาพ กลับกลายเป็นสัมผัสโลกแห่งความจริงมากขึ้น พวกเธอไปงานสังคมด้วยกัน จนกระทั่งลิลี่มีชายหนุ่มเข้ามาเกี้ยวพาราสี



ลิลี่ไม่ต่างจากพี่ศิ...ยิ่งในยุคนั้นที่สังคมยังกังขากับสภาพร่างกายที่ไม่ตรงกับเพศกำเนิด



ลิลี่หลงรักความเป็นผู้หญิง และมั่นใจแล้วว่าใจเธอ...ไม่เป็นผู้ชายอีกต่อไป



เกอด้า...คือผู้เป็นภรรยา เธอมีความรักที่ยิ่งใหญ่จนเพชรน้ำตาซึม เกอด้าคือคนที่พาลิลี่ไปแปลงเพศ ที่ในยุคก่อนต้องผ่าตัดถึงสี่ครั้งด้วยกันทุกวินาทีคือความเจ็บปวด ไม่แน่นอน แต่เกอด้าก็ไม่เคยลดความรักภายในตัวสามีของเธอลงเลย และอยู่เคียงข้างจนตราบวินาทีสุดท้ายของเธอหลังจากผ่าตัดแปลงเพศสำเร็จได้ไม่นาน ลิลี่นอนหลับไปอย่างงดงาม ภายใต้ตัวตนที่แท้จริงของเธอ และได้รับการยอมรับเป็นผู้หญิงข้ามเพศที่ผ่าตัดสำเร็จเป็นคนแรกของโลก



I love you, because you are the only person who made sense of me. And made me, possible.

ลิลี่บอกเกอด้า



'ฉันรักเธอ เพราะว่า...เธอเป็นเพียงคนเดียวที่เข้าถึงจิตใจของฉัน และทำให้ฉันเป็นจริงขึ้นมาได้'



...



เพชรร้องไห้เหมือนหมาหลังดูหนังเรื่องนี้จบ เขากดปิดทีวี แล้วซดเบียร์ที่รสชาติแย่เพราะหายเย็นแล้วเข้าไป ถ้าลิลี่คือพี่ศิ...เขาควรจะเป็นเกอด้า ที่อยู่เคียงข้างและยอมรับในตัวตนทุกอย่างของคนรัก



หนังเรื่อง The Danish Girl เพชรหยิบแผ่นเก็บลงกล่อง เหมือนจะได้ยินเสียงลิลี่พูดกับเกอด้าอีกครั้ง



...



หรือตอนนี้ที่เขายังไม่กล้า...เพราะเขารักพี่ศิไม่มากพอ

ลองจินตนาการว่า ในอนาคต...ถ้าพี่ศิต้องหายไปจากชีวิตจริง ๆ

ชีวิตมันจะความสุขได้จริงหรอวะ









เบียร์แสนห่วยยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น เพชรมองนาฬิกา มันใกล้ถึงเวลาที่ต้องส่งงานแล้ว เขาเปิดคอมพิวเตอร์...ตลกดี ครั้งหนึ่งเคยดีใจที่ลูกรักพัง จนได้วิ่งแจ้นไปหาคนที่พร้อมอ้าแขนรับเขาอยู่เสมอ



พอเปิดไดรฟ์เก็บไฟล์รูปถ่ายก็มีแต่ Folder Baby เรียงไปสิ 1-10 กดเข้าไปดูก็เพลินไปหมด ศศิเวอร์ชั่นต่างๆ ยังคงมีเรื่องราว มีชีวิตอยู่ใน Memory คอมพิวเตอร์



พี่ศิ เหมือนยังยิ้ม แล้วเรียกชื่อเขาเบาๆ



แสนซน และน่ารัก



อบอุ่น และเข้าใจ



เคียงข้าง และผูกพัน



เพชรเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว



กระแสความอบอุ่นไหลวนเข้ามาในหัวใจ จนเขาคิดได้ว่าเพื่อพี่ศิ เขาอยากเก่งขึ้นให้มากกว่านี้ให้พี่ศิภูมิใจ



อยากเป็นคนที่มีคุณค่า...ในสายตาเธอ



โทรศัพท์สั่นขึ้นกลางห้องที่เงียบงัน เพชรหลุดออกจากภวังค์พึ่งรู้ว่าหางตาเขาเปียกชื้น มองชื่อที่ขึ้นอยู่บนจอก็เป็นนายธามไทเพื่อนรัก



'ว่า'



'จะเที่ยงคืนแล้วพ่อ ส่งรูปยัง'



'กำลังแต่งอยู่'



'อีกครึ่งชั่วโมงพ่อ มันมีกรอกประวัติต่างๆ อีก มึงใช้เวลาประมาณนึง รีบทำเข้า'



'วางยังอะ จะได้เอาเวลาไปทำงาน'



'หน้าหมา! '



แล้วไทม์ก็วางไปเลย เพชรเลื่อนเม้าส์ไปดู Folder ภาพที่เขาถ่ายมาเมื่อวันก่อนเพื่อจะส่งประกวด เห็นความหายนะอยู่รำไร ไม่โฟกัส ไม่มีเรื่องราว อารมณ์ของภาพดูเลื่อนลอยเหมือนใจเขาไม่มีผิด



หรือความเชื่อที่ผ่านมามันผิด



หรือ...เขาควรให้โอกาสชีวิตตัวเองด้วย...ความรัก









วันรุ่งขึ้นเพชรไปมหาวิทยาลัยตามปกติ เรียนเสร็จเพื่อนๆ จะไปเดินดูนิทรรศการภาพถ่ายที่หอศิลป์กันต่อ แต่เพชรขอบาย



"ไปไหนมึง" ไทม์ถาม



"เสือกจัง" เพชรตอบ



"เป็นห่วงมั้ย"



"ขนลุก" เพชรทำท่าแขยง แล้วหันหลังแยกออกไป



"พิลึกเข้าทุกวัน" ไทม์หันไปพูดกับดนัย อีกฝ่ายหัวเราะเล็กน้อย พอจะเข้าใจอารมณ์เพชรอยู่ คงอยู่ในช่วงสับสน เพราะมันไม่เบิกบานเลย หลังจากพี่ศิหายออกไปจากชีิวิต



"เป็นกะเทยแล้วไงว่า น่ารักจะตาย" ไทม์ว่า พลางหันไปมอง 'แก๊งแองเจิ้ล' ของคณะ ที่นั่งตบแป้งกันอยู่ใต้ตึก



"ไฮหนุ่มๆ พี่เพชรผัวเจนนี่หายไปไหนเนี่ย" เสียงแจ๋นแหล๋นดังมาจากหนึ่งในนั้น



"มีแต่ผัวพี่ไทม์ค่ะ ตอนนี้" ไทม์คันปากตะโกนสวนกลับไป แม่สาวน้อยหน้าจิ้มลิ้ม แลบลิ้นใส่ทันที แล้วก็สะบัดหน้าจนหางม้าปลิวไปแต่งหน้าต่อ



"เนี่ย หยอกกันสนุกจะตาย" ไทม์ว่า ดนัยก็พยักหน้าเห็นด้วย เจนนี่คือเพื่อนร่วมรุ่นที่เรียนอยู่ภาค PR ถึงแม้วาจาจะแทะโลม แต่นิสัยจริงๆ คือน่ารัก สนุกสนาน ไม่ได้น่าเกลียดอะไร



พอพ้นจากตรงนั้นมาได้ กลุ่มนักศึกษาก็เดินต่อไปยังหอศิลป์ที่ตั้งอยู่ไม่ไกล



ส่วนนายพชร...เดินดุ่มๆ ไปยังร้านกาแฟร้านประจำข้างมหาวิทยาลัยที่ศศิชอบมานั่งทำงาน เขาเคยเดินไปด้วยหัวใจเต้นรัว ด้วยความตื่นเต้นที่จะได้เจอพี่คนสวย แต่มาวันนี้เขากลับมีความกังวล



ถ้าพี่ศิ...มีความสุขดีแล้วเขาคงต้องปล่อยมือ



พี่คนสวยยังนั่งโต๊ะเดิม แต่งตัวสวยเหมือนเดิม ท่วงท่าที่มองคอมพิวเตอร์ พิมพ์อะไรต๊อกแต๊ก หยิบกาแฟขึ้นมาจิบคือน่ามองไม่เปลี่ยน แล้วก็มีคนเดินเข้ามาหา ผู้ชายคนนั้น 'คุณอัศวิน' ดูดีและเหมาะสม ขนาดโต๊ะข้างๆ ยังพูดให้ได้ยินเลยว่า



ผู้หญิงสวยแบบนี้ ควรมีผู้ชายฟีลแดดดี้ขามาดูแลถูกต้องแล้ว



'โต๊ะไหนวะ นึกอยากบวกขึ้นมากระทันหัน'



รูปตาของเพชรเปลี่ยนไปทันที จากมองด้วยความอ่อนโยน ก็เปลี่ยนเป็นหงุดหงิดใจ แต่ยังจำเป็นต้องมอง เพื่อวิเคราะห์ว่าพี่เขามีความสุขดีแล้วหรือไม่



คุณคนนั้นเขาช่วยพี่ศิเก็บของ หยิบจับถือกระเป๋าให้เหมือน 'เพชร' ในวันวานไม่มีผิด



พี่ศิยิ้มหวาน แล้วก็เดินเคียงกันออกไป เพชรลุกตามทันที แต่หางตาเหลือบไปเห็นว่าลิปสติกแท่งหนึ่งตกอยู่ที่โซฟา เขาเก็บ นึกดีใจที่พี่ยังพกมันไว้



วิ่งสับตีนแตกเพื่อเอาไปคืน



"พี่ศิครับ! "



คนสวยหันมา แล้วก็ขมวดคิ้ว สายตาเย็นชาจนเพชรสะท้านในฝจ



"เอ่อ...ลิปสติก พี่ทำตกไว้ที่ร้านกาแฟครับ"



"ไม่ได้ใช้แล้ว ทิ้งไปเถอะค่ะ"



"แต่พี่ชอบสีนี้ผมจำได้"



"ของบางอย่างเคยชอบ เคยรัก...แต่ไม่ได้หมายความว่าเลิกชอบไม่ได้ค่ะ"



คนสวยตรงหน้าฉีกยิ้มกว้างราวนางพญา แล้วก็หันไปยิ้มหวานน่ารักให้คนข้างกาย



"ศิอยากได้ลิปใหม่จัง สีเก่ามันไม่สวยแล้ว"



"ครับ กี่แท่งว่ามาเลย"



"คุณอัศใจดีที่สุด



พูดจบก็สอดมือเข้าไปควงแขนคุณอัศวินก้าวฉับๆ ออกไปเลย



เพชรมองเครื่องสำอางค์ชิ้นจ้อยในมือ ไม่ใช้ชิ้นโปรดอีกแล้วสินะ



สายน้ำไม่ไหลกลับฉันใด ความรักที่หลุดลอย...คงไม่หวลกลับมาอีกฉันนั้น



เพชรยืนอึ้งเป็นคนใบ้อยู่กับที่ จนรถยนต์คันหนึ่งขับวนลงมาจากลานจอด ต้องบีบแตรไล่









'ไทม์...แดกเหล้ากันเถอะคืนนี้'

'อารมณ์ไหนของมึงวะพ่อ'

'อยากแสดงความยินดี'

'เรื่อง'

'รักที่สดใส'

'มึงมีแฟนใหม่แล้วอ่อ'

'ไม่'

'ไม่มี'

'ไม่เสือก'

'ด่าได้ แปลว่ายังเก่งอยู่ กินที่ไหนอะ'

'มีบาร์เงียบ ๆ มั้ย ขี้เกียจเต้น ขี้เกียจชนแก้ว'

'รู้สึกหมั่นไส้ประมาณนึง แต่มีร้านแบบ Hidden เอาไว้ให้พวกประธานบริษัทพาอิหนูหลบเมียไปนั่งดริ้งค์'

'แล้วมึงก็อุตส่าห์ไปรู้จักเนาะ'

'เพื่อนกูเป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ที่นั่นโว้ย แล้วร้านมันก็เปิดให้คนปกติไปกินนี่แหละ แค่หายากแล้วมิดชิด'

'เออ ไปแท็กซี่นะงั้น น่าจะเมา เดี๋ยวเดินไปหามึงที่หอ แล้วไปพร้อมกัน'

'จะออกจากคอนโดแล้วบอก กูจะได้อาบน้ำ'

'ดีล'







สี่ทุ่ม สองหนุ่มก็มาหยุดยืนหน้าประตูไม้บานใหญ่ที่คิดว่าอาจจะต้องใช้แรงผู้ชายสองคนถึงจะผลักได้ หน้าร้านมีเพียงป้ายตั้งพื้นเล็ก ๆ กับรูตาแมวเป็นสัญลักษณ์ว่าถึงรังกระต่ายแล้ว



"ชัวร์นะมึง" เพชรหันไปถามไทม์



"เออ เพื่อนส่งรูปมาให้ดูแล้ว พิกัดถูกต้องตามสำเนา"



ไทม์ไม่รอให้เพชรถามต่อ ผลักเข้าไปก็ได้ยินเสียงดนตรี Waltz เบา ๆ ลอดออกมา มันช่างให้ความรู้สึกถึงความรักอันแสนสดใของคนหนุ่มสาว ขัดกับอารมณ์อกกลัดหนองของเพชรในตอนนี้นัก



เคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่กินพื้นที่เกือบทั้งร้าน ด้านหลังเต็มไปด้วยขวดเหล้าจากทั่วทุกมุมโลก มีนักดื่มต่างชาตินั่งอยู่ก่อนหนึ่งคน เพชรกับไทม์นั่งถัดมาจากเขา บาร์เทนเดอร์เพื่อนไทม์เดินมาทักทันที



"ชอบดื่มแบบไหนดีครับ"



ที่นี่ไม่มีเมนูแค่บอกรสชาติที่ชอบ หรือคาแรคเตอร์ของค็อกเทลเช่น รสเปรี้ยว ผลไม้ สดชื่น แล้วบาร์เทนเดอร์ก็จะออกแบบมาให้คุณเอง



"สั่งไม่เป็น สั่งให้หน่อย" เพชรหันไปบอกไทม์



"ค็อกเทลคนอกหักที่นึงครับ" และนี่คือความกวนตีน



"งั้นเอาเบา ๆ อ่อน ๆ กินได้นาน ๆ แล้วกันนะครับ เพราะตอนนี้ใจน่าจะขมจนรับความเข้มของเหล้าไม่ไหวแล้ว" พอกัน...กับบาร์เทนเดอร์ที่หัวเราะคิกคัก แล้วเดินไปเลือกส่วนผสมลงกระบอกเชค



เพชรหันมาแยกเขี้ยวใส่ไทม์ ใครบอกมันว่าเขาอกหักวะ แค่เผลอเปิดไลน์มาดูบ่อย ๆ เท่านั้นเอง



ไม่นานเครื่องดื่มก็ยกมาเสิร์ฟ มันสีชมพูสวยจนไม่อยากเชื่อว่าจะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์



"ตัวนี้เป็นเหล้ารัม ผสมกับน้ำแตงโมแล้วก็ผิวเลม่อนครับ สดชื่น เบิกบาน ไม่จมปรักกับความทุกข์แน่นอน"



ไทม์ยักคิ้วให้เพื่อนทันที เพชรพยักหน้าขอบคุณ ยกขึ้นดมแล้วจิบ ก็ได้รสชาติหวานเย็น ๆ กับกลิ่นสดชื่นขึ้นจมูก เลยเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว นึกอยากพาศศิมาลองชิม

เดี๋ยวเพชร...แกบอกเลิกพี่เขาไปแล้ว ไม่สิพี่เขามีคนใหม่ไปแล้วต่างหาก



บอกเลิกเขา แล้วทำไมเราเหมือนคนอกหักวะ



"กูเจ็บหวะไทม์"



"โดนกูเหยียบตีนหรอ"



"เออ!! " เพชรกระแทกเสียง แล้วหันไปอีกทาง



บาร์เทนเดอร์คนดีคนเดิม หยิบเจงก้าร์ไม้มาวางตรงหน้าคนทั้งสองเพื่อให้เล่นแก้เบื่อ คืนนี้ลูกค้าน้อยเลยมาร่วมผสมโรงด้วย



เพชรไม่ค่อยมีสมาธิ เล่นทีไรก็พาลทำไม้ที่เรียงต่อกันสูงถล่มลงมาทุกที



แต่พอห้าทุ่มก็มีกลุ่มลูกค้าที่ดูโตหน่อยเดินเข้ามาอีกสามคน บาร์เทนเดอร์เพื่อนไทม์เลยขอตัวไปดูแล



เพชรขมวดคิ้วทันที...'คุณอัศ' เสียงหวานของพี่ศิแว่วมาในหูไวเชียว นึกอยากชวนไทม์กลับเพราะไม่อยากเห็นอะไรขวางหูขวางตาแต่ทว่า เพื่อนพึ่งได้เครื่องดื่มแก้วใหม่ เลยจำใจต้องนั่งต่อ



"ตามอารมณ์มึงไม่ค่อยทันแล้วไอ้น้องเพชร"



"กิ๊กใหม่พี่ศิเขา" เพชรพยักเพยิดไปทางนั้น



"คนไหนวะ"



"ดูดีสุด แต่ไม่เท่ากูอะ"



ไทม์มองตาม "ดูภูมิฐาน น่าเชื่อถือ พึ่งพาได้ เทียบเพื่อนกูไม่ได้สักนิด ต้องยินดีกับพี่ศิด้วยที่จะได้คนดี ๆ ไปดูแล"



"เชี่ยไทม์ ต่อยมั้ย"



ทั้งคู่ตั้งท่าจะวางมวย แต่ผู้ใหญ่ใส่เชิ้ตทำงานกลุ่มนั้นกลับเริ่มต้นบทสนทนาเสียก่อน



"มึงไม่ชวนเด็กใหม่มึงมานั่งด้วยวะอัศ ได้ข่าวว่าสวยมากไม่ใช่หรอ"



"เออ แต่เป็นกะเทย"



"ชอบเลยดิ"



"ใช่ ไม่ต้องกลัวท้อง หึหึ"



"อย่าลืมแบ่งคลิปมาดู"



แม้พวกเขาจะคุยกันเสียงเบามาก แต่เพราะอยากเสือกเป็นทุนเดิม เพชรเลยหูดีมากเช่นกัน



"อยากเอาแม่งใจจะขาดแล้ว แต่แบบยังเล่นตัว วันนี้ก็อ้อนให้กูซื้อลิปสติกให้ ใจกูนี่อยากจะเอาลิปแท่งใหญ่ สีขาวๆ ทาให้ใจจะขาด"



เสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นมาระลอกหนึ่ง



"ถ้าเมียมึงรู้ต้องอกแตกตายไปเอากะเทย"



"ก็ต้องไม่ให้เมียรู้ไหม กูหนะสามีดีเด่น"



"สงสารน้องเค้า"



เสียงของคนกลุ่มนั้นเบาลงเมื่อเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ เพชรรู้สึกร้อนไปทั้งหัว อยากลุกขึ้นไปกระทืบให้มันจบ ๆ ทำให้ถึงมีความคิดน่าขยะแขยงได้ขนาดนั้น แล้วทำไมต้องเป็นพี่ศิที่แสนดีด้วยที่ต้องมาตกเป็นเหยื่อยของคนน่ารังเกียจ



เพชรกวักมือเรียกเพื่อนของไทม์มาใกล้ ๆ เพื่อถามว่ารู้จักคนกลุ่มนี้มั้ย ตอนแรกอีกฝ่ายจะไม่บอกเพราะเป็นความลับของลูกค้า แต่เพชรบอกว่าคนที่พวกนั้นจะถ่ายคลิปลามกคนที่เขารู้จัก ไทม์เองก็สนิทกับศิจึงหัวร้อนไม่ต่าง



บาร์เทนเดอร์ยอมบอกข้อมูลเท่าที่ตัวเองรู้ เพราะมาบ่อยแล้วได้ยินพูดคุยกันอยู่บ้าง เป็นถึงผู้บริหารใหญ่โต แต่พฤติกรรมเสื่อมทรามเกินจะรับไหว เพชรคิดว่าเขาต้องรีบไปเตือนให้พี่ศิรู้ตัว



ถึงจะไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว แต่...เป็นห่วง น่าจะยังได้อยู่นะ









รุ่งเช้าลงทุนโดดวิชาอาจารย์ป้าเพื่อไปดักรอพี่เขาที่คอนโด ศศิลงมาเตรียมเดินไปรถไฟฟ้าเห็นเข้าก็ตกใจ ทำท่าจะหลบแต่เพชรเคลื่อนตัวมาขวางไว้



"พี่ศิ เลิกยุ่งกับไอ้เหี้ยอัศวินนั่นเหอะ"



คนพี่ได้ยินชื่อแล้วก็คิ้วขมวด ทำไมจู่ ๆ ถึงก้าวร้าวได้ขนาดนี้



"มันมายุ่งกับพี่เพราะ...เอ่อ เพราะจะถ่ายคลิปโป๊นะ"



ศศิตกใจแต่ก็เชิดหน้าขึ้น หันขวับมามองคนที่ตัวเองเคยมอบหัวใจให้



"ทำไมฉันต้องเชื่อคุณด้วย"



คราวนี้เพชรช็อค ทั้งสายตา ทั้งสรรพนามที่เปลี่ยนไป และเหตุผลที่พี่พูดทำให้เพชรอ้าปากค้าง



"เอ่อ...เราเคยเป็นแฟนกันไงพี่ศิ เพชรยังเป็นห่วง เลยมาเตือน"



ศศิเดินผ่านเพชรไปโดยไม่ฟัง



"พี่ศิ ฟังเพชรก่อน"



เพชรพึ่งเห็นว่าพี่เดินไปทางรถ Benz คันเดิม เขาจำทะเบียนได้ ก็รีบวิ่งเข้าไปรั้งข้อมือไว้



"คุณอัศของพี่เขาแต่งงานแล้ว อยากไปเป็นเมียน้อยเขาหรือไง!! "



ศศิปรี๊ดแตก "จะเป็นอะไรก็ช่าง ไม่ต้องมายุ่ง! " พูดจบก็สลัดเพชรออกแล้วขึ้นรถปิดประตูใส่ บอกให้เจ้าของยานพาหนะรีบขับออกไป



"โธ่เว้ย!! " เพชรสบถอย่างหัวเสีย ทำไมไม่ฟังอะไรเลยวะ โทรไปก็ได้ยินแต่เสียง 'หมายเลขที่ท่านเรียกยังไม่เปิดให้บริการในขณะนี้'



ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw

กว่าจะตั้งสติได้ก็มาถึงมหาวิทยาลัยตอนเที่ยงแล้ว เพชรไปรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ ในภาพที่โรงอาหาร ส่วนบ่ายก็มีนัดติววิชาที่มีสอบย่อยเก็บคะแนนกันที่ห้องสมุด



ไอติมทำหน้าที่หัวหน้าทีมติว แจกชีทให้เสร็จสรรพ เธอพูดไปเรื่อย ๆ แต่เหมือนจะมีหนึ่งชีวิตที่ยังฟุ้งซ่านไม่เลิก



"มึงกูรู้สึกไม่โอเค!! "



ฟวั่บ!! ไอติมปาชีทในมือไปอย่างไวเพชรโยกหลบทัน



"เขาเป็นของกูนะโว้ย!! "



คราวนี้ทั้งไฮไลท์ ปากกา ยางลบ ดินสอ ลิขวิด สามัคคีกันพุ่งเข้าหัวเพชรจนแทบจะเอามือตั้งการ์ดรับไม่ทัน



"มึงจะมาหวงก้างไม่ได้" ไทม์ว่่า



"ถ้ามึงยังรับเรื่องที่พี่เขาไม่ใช่ผู้หญิงไม่ได้ มึงก็ไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งกับพี่เค้าอีก" ดนัยซ้ำ



"กูเป็นห่วง กูไม่อยากให้พี่ศิเสียใจ เค้าเป็นคนดีไม่ควรมาเจออะไรแย่ ๆ ป่าววะ" เพชรแย้งเสียงอ่อน



ไอติมตบโต๊ะดังปัง "แต่คนที่ทำให้พี่เค้าเสียใจมากที่สุดคือมึง อิเพชร!! "



กริบ...



"นี่พวกมึงเพื่อนกูจริงปะวะ"



"กูไม่เข้าข้างคนใจร้าย" กิ๊บช่วยสมทบ "ถ้ารู้ว่าเค้าดี มึงทิ้งพี่เค้าเพื่อ! "



เพชรเม้มปาก ไหล่ห่ออย่างหมดมาด แล้วจู่ ๆ ก็ลุกขึ้นจนเพื่อน ๆ ตกใจ กิ๊บโดดหลบหลังดนัยทันทีเพราะกลัวโดนเพชรต่อย



"กูไปวิศวะแป๊บ"



อ้าปากพร้อมกันทั้งเอกเลย แล้วก็ไม่ทันได้ห้ามอะไร เพชรก็วิ่งใส่ตีนหมาโกยหนีบรรณารักษ์ไปแล้ว









โรงอาหารวิศวะ เด็กหนุ่มใส่เสื้อช็อปหน้าตาโดดเด่นจากกลุ่มคนรอบข้าง นั่งอ่านหนังสือรอเพื่อนจากนิเทศศาสต์ พอได้ยินเสียงฝีเท้ามาใกล้ ก็เงยหน้าขึ้นทักทาย



"ว่าไงเพชร"



"มีเรื่องปรึกษาหวะ"



"ว่ามาดิ"



"มึง เป็นเกย์ เป็นยากมั้ยวะ"



คนฟังถึงกับขมวดคิ้ว เขาเป็นเกย์ ชอบเพื่อนคณะเพชรด้วย แต่ไม่คิดว่าวันนึงต้องมาให้คำปรึกษาเพื่อน



"คือ..กู.."



อีกฝ่ายเห็นหน้าวุ่นวายของเพื่อนแล้วก็ยิ้มบาง



"มันไม่ต้องนิยามหรอกว่าเพชรเป็นหรือเปล่า มันแค่ความรู้สึกรักที่เกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกคน"



"คือกูไม่ได้รังเกียจมึง หรือเพื่อนคนอื่น ๆ ที่เป็นนะเว้ย แต่กูรับไม่ได้ถ้าตัวเองเป็น"

คนฟังพยักหน้า



"แรก ๆ มันก็ยากหน่อยถ้าต้องยอมรับว่าเราไม่ได้เดินตามสิ่งที่สังคมส่วนใหญ่อยากให้เป็น แต่...มันคือชีวิตของเพชร และคนที่เพชรรักนะ ควรจะแคร์ใครมากกว่ากัน สังคมหรือคนของเรา"



"อือ" คนมาปรึกษาพยักหน้าตาม "นานมั้ยวะ กว่าจะปรับตัวได้"



"ก็...ขึ้นอยู่กับเพชรว่าอยากให้อีกคนเขาสบายใจแค่ไหน ถ้าเพื่อคนที่เรารัก อะไร ๆ มันก็ไวได้หมดแหละ"



"มึง เขาเป็นสาวประเภทสองด้วยอะ ไม่ใช่เกย์"



อีกฝ่ายพยักหน้า แล้วยิ้มให้ "อย่านิยามเลยเพชร ความรักก็คือความรัก ถ้ามั่นใจว่ารักกันนะ ให้มองข้ามกรอบทั้งหมดที่คนอื่นตั้งขึ้นมาให้เราอึดอัดเถอะ"



"มันโอเคใช่มั้ยมึง"



คราวนี้อีกฝ่ายยกยิ้มมุมปาก แล้วพยักหน้า



"อยู่ที่เพชรแคร์อะไร แค่นั้นเอง"



"เฉียบ! " เพชรยกมือตัดอากาศ เพื่อนที่ให้คำปรึกษาก็ยังคงยิ้มให้เหมือนเดิม

เมื่อได้คำตอบที่ตัวเองต้องการแล้ว เพชรก็ตั้งมั่นว่าจะปกป้องคนที่ตัวเองรัก จากคนชั่วให้ได้ แต่ปัญหาหนักตอนนี้กลับเป็นพี่เขานั่นแหละ ที่ปิดใจตัวเองกับเพชรเสียแล้ว



ขอให้เจ้าแม่ลิลี่ จาก The Danish Girl ช่วยน้องเพชรด้วยนะครับ









TBC

ลุ้นไปกับลูกชายเราหน่อยนะคะ แกเป็นเด็กไม่ประสาค่ะ ยังเด็ก

ตอนที่แล้วคือเมามันส์มากแม่ ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นกันนะคะ หวังว่าจะเป็นอีกตอนที่สร้างความบันเทิงให้ทุกท่านได้น๊า

#อยากเรียกเธอว่าบี๋

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ขอให้พี่ศิเย็นชาขึ้นไปอีกกกก  :hao7:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
กลัวพี่ศิจะคิดมากอีกอ่ะ โอยยยยยยย TT

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เนี่ยยยยๆๆๆๆ นังเพชรได้บทพระเอกกลับมา เพราะนายอัศวินคนโฉด  :katai4:
แต่ยังไงก็แล้วแต่ ‘ไม่อยากมีแฟนเป็นกระเทย’ ยังติดอยู่ในใจ ขอให้พี่ศิโกธรนานๆๆๆๆๆ
ทำความดีลบล้างก็ไม่หายง่ายๆ นังเพชรจะได้รู้สำนึกของการพูดจาทำร้ายจิตใจ :fire: #ทีมพี่ศิ ค่าาาา

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ชีวิตพี่ศิโคตรรันทดอ่ะ มาเจออีผู้ชายสันดานเลวไปอีก :a5: เพชรช่วยพี่ศิให้ได้นะแต่ขอให้พี่ศิยังไม่ใจอ่อนกับเพชรง่ายๆ เพราะคำว่าของเพชรมันไม่ใช่จะลืมกันง่ายๆ ให้เพชรพยายามมากๆหน่อยถ้าเป็นแฟนกันจริงๆมันต้องมีปัญหาอีกเยอะต้องมีความหนักแน่นอีกเยอะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ว้อย..ยยยยยย ตาอัศวินก้อเลวไปอี๊ก พี่ศิสวยเริ่ดๆคนเดียวไปเลยดีกว่า   :z6:

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อิอัศวินเลว มีเมียแล้ว ยังจะถ่ายคลิปอีก ชั้ว!! 
น้องเพชรได้ซีนพระเอกไปเลยจ๊ะตอนนี่ :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <3 อยากเรียกเธอว่าบี๋ [femboy] -- Chap 12/14aug
« ตอบ #99 เมื่อ: 15-08-2019 02:51:10 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
Chapter 13



เพชรโดนบล็อกทุกช่องทางการติดต่อของพี่ศิ ไทม์และดนัยยังดูอินสตาแกรมพี่เขาได้แต่เพชรดูไม่ได้



"ใจร้ายชะมัด" เด็กหนุ่มบ่นกระปอดกระแปด นั่งน้อยใจอยู่กลางโรงอาหาร



"ควรจะปลอบมึงอย่างไรดี ก็มึงบอกเลิกเค้าเองมั้ยเพชร"



"ก็กูสับสน"



"ตอนแม่รับไม่ได้ที่มึงจะเรียนถ่ายรูปมึงรู้สึกยังไง"



"แย่มาก"



"แล้วที่มึงรับไม่ได้ที่พี่เขามีงู มึงว่าพี่เค้ารู้สึกดีมากมั้ง"



"กูก็จะง้อเขาอยู่นี่ไง"



ไทม์ส่ายหัว ดนัยถอนหายใจแรง แต่ก็ยังเมตตาเปิดหน้าไอจีของศศิไว้ให้เพื่อนดู



"อัพสตอรี่ว่ากำลัง Packing for vacation หวะ" ดนัยบอก



"ไปกับไอ้แก่เจ้าชู้นั่นอะนะ เชื่อเขาเลย"



"มึงนี่ปากจัดเหมือนกันเนอะ" ไทม์ว่าพลางคว้ามือถือดนัยมากดดู "หือ...ชุดว่ายน้ำโคตรน่ารัก"



"ลามปามนะมึงอะ" เพชรดันหน้าเพื่อนให้หันออกจากโทรศัพท์ "กูต้องไปปกป้องพี่เขา"



"ไปยังไงไหนบอกกูสิน้องเพชร ขับตามแบบนี้หรอ"



"เออ"



"เชี่ยคือกูพูดเล่นมั้ย"



"แต่กูเอาจริง เดี๋ยวเช่ารถไปดักซุ่มหน้าคอนโดพี่ศิ เค้าจะได้ไม่รู้ว่าเป็นใคร"



"โจรมากมึงอะ ถ้าตำรวจจับ มึงนั่นแหละเข้าคุก ส่วนคุณอัศวินก็คือรอด"



"ปากพวกมึงมงคลนัก" เพชรหันไปด่า แล้วก็โบกมือเรียกไอติมกับกิ๊บเข้ามาร่วมแผนการณ์ด้วย เพราะถ้าไปกันแค่ชายล้วนคงดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่กับพี่ศิ



"เอารถกูไปอีกคันก็ได้ ให้ดนัยหรือไทม์ขับให้แล้วกัน ถือว่านั่งรถเล่นไปทะเล" ไอติมก็ใจง่ายเนอะ กิ๊บก็เออออตามไปด้วย



"มึงรู้หรือว่าพี่เค้าไปวันไหน อย่างไร เมื่อไหร่" กิ๊บถามขึ้นมา



"กิ๊บกูยกหน้าที่เสือก เอ้ยสืบให้มึงเลยค่ะ" เพชรบอก



"กราบกู แล้วเรียกกูว่าท่านกิ๊บ" เพื่อนสาวทำหน้าหงิกทันที



"กราบสามทีเลยค่ะ ท่านกิ๊บ" เพชรยกมือประนมไว้เหนือหัวแล้วโค้งต่ำ กิ๊บหัวเราะหึหึ แล้วล้วงมือถือตัวเองขึ้นมา เม้น Story ของศศิทันที



'ชุดสวยจัง พี่ศิซื้อที่ไหนคะ'



"เนียนมากแก" ไทม์ยื่นหัวมาดูข้อความ



'ZOZ สยามค่ะ เดี๋ยวพี่ศิส่ง ig ให้ดูน๊า'



"พี่ศิคนดีคนเดิมของกู น่ารักเป็นถาวร" กิ๊บชื่นชมแล้วก้มหน้าลงพิมพ์ต่อ



'พี่ศิจะไปเที่ยวไหนคะ อิจฉาจัง ช่วงนี้สอบย่อยเยอะมากเลย'



'พี่ศิจะไปหัวหินค่ะ เด็ก ๆ สู้ ๆ น๊า ขอให้ได้เต็มทุกวิชาเลย'



'เย่ ๆ กำลังใจมาเต็ม พี่ศิก็เที่ยวให้สนุกนะคะ ไปเสาร์อาทิตย์นี้หรอ'



'ไปวันเสาร์กลับวันจันทร์ค่ะ'



'เที่ยวเผื่อกิ๊บด้วยน๊า เดี๋ยวตามไลค์รูปรัว ๆ '



'ได้เบยยย'



จบการสนทนา กิ๊บยื่นโทรศัพท์ให้เพชรดู



"ถามดิ๊...พี่ศิไปกี่โมงไปกับใครอะ"



"อันนั้นก็พิรุธเกินค่ะเพื่อน" กิ๊บแยกเขี้ยว "แต่เดี๋ยวก็ลองเนียน ๆ ถามไปอีก มึงก็ไปเช่ารถรอไว้เถอะ อย่าลืมจองโรงแรมด้วย ไปพักรีสอร์ทพี่เอสปีสี่มั้ย เค้าให้ส่วนลดน้องคณะนะ เออพักที่นั่นแหละ เราไปคุยให้เอง"



พูดจบสองสาวก็เดินตัวปลิวไปเลย เพราะคิดว่าจะได้เที่ยวก็อดจะร่าเริงไม่ได้ เพชรมองตามแล้วค่อยหันกลับมาสนใจข้าวในจานที่เขี่ยจนแหยะไปหมดอีกรอบ



"อาการหนัก"



เพชรพยักหน้าไม่เถียงดนัยสักแอะ



"กูรู้สึกโคตรแย่ที่เคยทำพี่ศิร้องไห้"



"เออ สำนึกช้าก็ยังดีกว่าสำนึกไม่ได้ พวกกูช่วยเต็มที่เว้ย ขอให้ได้พี่เขากลับคืนมา"



"ขอบใจพวกมึงมาก"







เพชรเลือกเช่ารถ Toyota Civic ที่คนใช้กันทั่วไปมาดักซุ่มหน้าคอนโดแต่เช้า เขาจำทะเบียนรถของคุณอัศวินได้ และได้แต่ภาวนาให้เป็นเบ๊นซ์คันเดิม ไม่งั้นคงตามไม่ถูก แล้วสิ่งศักสิทธิ์ก็เข้าข้างเพชร ประมาณ 9 โมง รถคันดังกล่าวก็ปรากฏขึ้น มันเลี้ยวเข้าตึกไป ไม่นานก็วนออกมา เพชรตบไฟเลี้ยวขวา ออกรถตามทันที ดนัยที่ขับรถของไอติมก็ตามมาติด ๆ รถสองคันมี Walkie Talkie ไว้ใช้สื่อสารกันอย่างกับเล่นเกมแรลลี่ออกหาอาร์ซี



ช่วงในกรุงเทพก็คือตามง่ายเพราะรถติด แต่พอหลุดช่วงพระรามสองมาได้ Benz ก็คือเครื่องแรงมาก Civic เหยียบเหนื่อย



"ก่อนเช่ามึงดูแรงม้าหน่อยมั้ย! " ไทม์นึกอยากโบกหัวเพื่อนนัก เหยียบมิดตีนก็แล้ว แต่แรงส่งมันไม่แรงเท่ารถยุโรปจริง ๆ



"หุบปาก แล้วรอช่วยกูจ่ายค่าใบสั่งเถอะ" เพชรว่า ก่อนจะใช้สายตาจดจ้องป้ายทะเบียนที่นำอยู่หลายช่วงคันรถ



"แล้วมึงรีบทำไมเพชร พี่เขาพักโรงแรมเดียวกับเราไง ที่ไอ้กิ๊บสืบมา"

"เออจริง ไอ้ชั่วนั่นคงกะรวบพี่ศิคืนนี้มากกว่า เจอดักตีหัวแน่"



"ถ้าผิดแผนนะมึง ได้ไปนอนคุกพร้อมกันแน่"



"กูได้กลิ่นความชั่ว กูว่ากูเดาไม่ผิดหรอก"



"แต่ตอนนี้กูได้กลิ่นหมาหัวเน่า คริคริ" ไทม์หัวเราะแรงจนไหล่สั่น เพชรถอนหายใจแรงใส่ แต่เอาเถอะยอมให้มันถากถางหน่อยก็ได้ แต่หลังกลับจากหัวหิน นายพชรจะกลับมาตัวหอมเหมือนเดิมแน่นอนเพราะให้พี่ศิอาบน้ำปะแป้งให้ทุกวัน แค่คิดก็มีความสุขแล้ว







แก๊งเด็กมหาลัย แวะทานอาหารเที่ยงจากร้านที่ไอติมเสิร์ซหาไว้ จากนั้นก็ไปกินกาแฟที่ร้านน่ารัก ๆ ติดทะเล โปรแกรมเที่ยวของสองสาวแน่นมากจนเพชรชักนึกสงสัยว่าสรุปโดนสองนางหลอกให้พาเที่ยวรึเปล่า



ไอติมกับกิ๊บยังไม่ทรยศเพชรมากนัก เพราะคอยเปิดอินสตาแกรมเช็คข่าวพี่ศิเป็นระยะ พี่คนสวยก็ไปนั่งร้านกาแฟเหมือนกัน พี่เขาอัพแก้วกาแฟอเมริกาโน่เดี่ยว ๆ แม้จะดูน่าดื่มแต่เพชรกลับสัมผัสได้ถึงแรงตัดพ้อ เขาไม่ควรปล่อยให้มันเป็นแก้วเดียวแบบนั้น หากเป็นก่อนหน้านี้พี่ศิมักจะต้องมีแก้วของเพชรเป็น Background เสมอ ไหนจะยังแผนที่วางไว้ว่าจะไปญี่ปุ่นด้วยกัน หรือแม้กระทั่งตระเวณกินกาแฟไปด้วยกันรอบโลก



"มึง เค้าไม่อัพแก้วของอีกคน ก็บุญหัวมึงมากแล้วนะ" ปล่อยให้ซึ้งได้ไม่นานหรอก มารก็ผจญทันที เสียงนี้มาจากดนัย เพชรหันไปแยกเขี้ยวใส่ แล้วปิดแอพส่งโทรศัพท์คืนเพื่อนสาวไป

'มื้อเย็นพี่ศิมีแพลนยังคะ แนะนำร้านบ้านปูม้าอาหารทะเลสดมาก' กิ๊บพิมพ์ไป ไทม์ชะโงกหัวดู



"อาจารย์วิชาเขียนบทต้องให้ A มึงอะกิ๊บ สร้างสถานการณ์เก่ง" พอเห็นสิ่งที่กิ๊บกำลังทำ ไทม์ก็ยกนิ้วให้



"เพชร มึงนะ ทำให้กูเป็นเด็กชอบโกหกเลย" เจ้าของคำชมหันมาแหวตัวต้นเรื่อง เพชรก็ยกมือประกบกันไหว้ปะหลก ๆ ไม่โต้เถียงสักคำ



'ตอนเย็นพี่ศิจะไปกินที่ Le petit Cruises ค่ะ เป็นห้องอาหารฝรั่งเศส เดี๋ยวพี่ศิมารีวิวน๊า'



'ไฮโซอ่า'



'เพื่อนพี่เค้าอยากกินอะ จริง ๆ พี่อยากกินปูนึ่งน้ำจิ้มแซ่บ ๆ มากกว่าอีก'



"พี่เขาต้องทำหน้าหงึอยู่แน่เลย ฮ้อย~ น่ารัก" กิ๊บทำหน้าฟิน แล้วค่อยยื่นโทรศัพท์ไปให้เพชรดู



"กูอยากไปตลาดสดซื้อพริกกับมะนาวมาปั่นน้ำจิ้มให้เค้าเลย" เพชรบึนปาก



"เป็นหนักแท้เพื่อนกู"



"หรือมึงจะออกเรือไปจับปูกับกูดีไทม์"



"ไม่ไปไหนกับมึงทั้งนั้นละอิเพชร จองโต๊ะที่อิเลออะไรนั่นมั้ยละ จะสะกดรอยตามมั้ย"



"ไทม์นาน ๆ ทีจะฉลาด ไม่เสียที่ที่คบกูเป็นเพื่อน" เพชรดีดนิ้ว



"บางทีก็เป็นวิบากกรรมของกูเนาะที่เป็นเพื่อนมึง" เจ้าของชื่อถอนหายใจแรง ไอติมไม่รอให้ทั้งคู่เถียงกันเสร็จ ก็กดหาเบอร์โทรของร้านแล้วจัดการจองโต๊ะทันที หลังจองเสร็จค่อยเสิร์วดูสภาพร้านแล้วก็ต้องกุมขมับ



"เพชร!!! เราจะตายกันหมด เราอาจต้องเอารถไปจำนำไว้ก่อนเพื่อมาจ่ายค่าข้าวเย็น" ไอติมโหยหวนแล้วยื่นหน้ารีวิวให้เพชรดู



เหงื่อตกข้างขมับเลยแม่! เพชรเปิดกระเป๋าเงินดูบัตรเสริมทันที "กูเลี้ยงเอง แต่มึงสั่งกันเบา ๆ นะ ถือว่าอยู่ในช่วงปฏิบัติงานห้ามกินจริงจัง"



ดนัยขำก๊าก "เออ ๆ ก่อนไปร้านนั้นแวะกินข้าวต้มกันไปให้อิ่มก่อน ไปถึงร้านก็นั่งจิบค็อกเทลหล่อ ๆ พอ"



"ส่วนกูกับกิ๊บนั่งจิบสวย ๆ " ไอติมว่า



"แล้วแต่พวกมึงเลย แล้วมีชุดหรูหราสมราคาอาหารมากันป่ะ"



"แน่นอน! พวกกูเตรียมพร้อม"



สองสาวมีเดรส ที่ดูกึ่งชิลล์กึ่งปาร์ตี้มาด้วย ในรถก็มีสารพัดรองเท้าให้เลือกใส่ถือว่ารอดไป ส่วนหนุ่ม ๆ ก็ค่อนข้างแฟชั่นจัด เลยมีชุดที่เลือกใส่ไปร้านหรูได้ติดมาด้วย



"ไม่เสียแรงที่เรียนการแสดงมาด้วยกัน" ไทม์ตบไหล่ทุกคนปับ ๆ



เพชรเองก็ยิ้มได้ เพราะแม้เพื่อน ๆ จะด่ากันโวยวายใส่กัน แต่พอถึงเวลาต้องการความช่วยเหลือพวกมันก็พร้อมเสมอ

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw

ปฏิบัติการช่วยนางฟ้าเริ่มขึ้นในตอนเย็น ไปก่อนไปหลังไม่ว่า แต่อย่าไปพร้อมพี่ศิก็พอ เด็กมหา'ลัยห้าคนที่แต่งหน้า เซ็ตผมเป็นอย่างดีทำให้ดูโตกว่าวัย รวมตัวกันที่ลานจอดรถของร้านกรุกระจกสีชา ด้านหนึ่งของร้านหันหน้าเข้าสู่ทะเล และค่อนข้างสงบ กิ๊บกับไอติมเข้าไปก่อนเป็นทัพหน้าเพื่อดูลาดเลาว่าโต๊ะที่ได้อยู่ประจันหน้ากับเป้าหมายหรือเปล่า แล้วรอจนศศิกับคุณอัศมาถึง ค่อยให้พวกหนุ่ม ๆ ตามเข้าไป



โชคดีที่ได้โต๊ะที่ไม่ใกล้กันมาก ใช้เงาสะท้อนบนกระจกร้านสังเกตการณ์ได้ และเมื่อพี่ศิกับคุณอัศดูไม่สนใจโลกรอบตัวแล้ว ไอติมก็ส่งสัญญาณให้เพื่อน ๆ ที่เหลือตามเข้ามา



จังหวะที่เดินเข้ามาเพชรนี่นึกอยากจะกระโจนเข้าไปกระชากตัวร้ายออกแล้วไปนั่งแทนที่เพื่อจ้องตากับพี่เขาแทน มีอย่างที่ไหนใส่เกาะอกสีขาวเอวคร็อป ผูกโบว์น่ารักกลางอก กางเกงขายาว แล้วทั้งหมดเป็นผ้าลินิน ผมยาวม้วนหลวมๆ คลอเคลียไหล่



น่ารักที่สุดเลย...



ใช่เวลาชื่นชมมั้ยเพชร ดนัยถึงกับต้องรีบผลักให้เพื่อนเดินต่อเพราะกลัวมีพิรุธ



พวกเขานั่งดื่มนั่งคุยกันอย่างไม่เป็นธรรมชาติที่สุด เพราะต้องลอบแอบมองความเป็นไปของโต๊ะศศิไปด้วย



สวนเพชรก็กำมือจนเส้นเลือดขึ้นแล้วขึ้นอีก ผู้ชายคนนั้นขยันจับ จับมือ จับแก้ม จับมากกว่านี้ ดนัยก็จะยกถังน้ำแข็งมาราดหัวดับร้อนให้เพชรแล้ว



คุณอัศเปิดไวน์ขวดที่สองแล้ว ผู้ชายดูดื่มเก่งแล้วก็คะยั้นคะยอให้ศศิดื่มเรื่อย ๆ แม้พี่คนสวยของเด็ก ๆ จะยกมือปฏิเสธหลายรอบแล้วก็ตาม สุดท้ายผู้ชายคนนั้นก็ต้องย้ายมานั่งข้างเดียวกัน แล้วประคองศศิที่คอพับคออ่อนไว้ หันไปเช็คบิล แล้วก็โอบเอวคนที่ดูไม่ได้สติออกไป



เพชรทิ้งบัตรไว้ให้สองสาวรูด ส่วนหนุ่ม ๆ กรูกันออกไปจากร้าน



"กูเป็นท้อกับรถแรงม้าต่ำของมึงจัง" ไทม์กุมขมับ คือแค่ออกตัวก็แพ้เขาไปสองช่วงรถแล้ว แต่โชคดีที่พวกเขารู้ว่าศศิพักโรงแรมเดียวกัน แถมยังรู้เลขห้องด้วย เพราะรุ่นพี่ที่คณะเป็นเจ้าของโรงแรม ไอติมกับกิ๊บไปเล่าพี่เขาไว้ก่อนแล้วว่าจะมีการถ่ายคลิปอนาจาร พี่เขาจึงยอมบอกเลขห้องของแขกมาให้ทั้งที่ความจริงคือมันผิดจรรยาบรรณในการรักษาความเป็นส่วนตัว



เพชร ไทม์ ดนัยสวมผ้าปิดปากอำพรางใบหน้า พร้อมด้วยพี่ยาม บุกเข้าไปทันที โดยหลังจากอัศวินพาศศิเข้าห้องแล้วพี่ยามก็เข้าไปเคาะห้องเพื่อดูลาดเลา อีกฝ่ายที่เปลือยท่อนบนเรียบร้อยดูหัวเสีย เพชรไม่ทนอีก กระโดดออกมาจากมุมอับสายตา ผลักห้องเข้าไปทันที



อัศวินตกใจที่โดนกระแทกไม่รู้ตัว นักธุรกิจหนุ่มทำหน้าขึงขังจะเอาเรื่อง



"สวัสดีครับ คุณอัศวิน สิทธิพร กรรมการผู้จัดการแผนกอิเล็กทรอนิกส์ บริษัท XXX" เพชรเปิดด้วยชื่อเต็ม ตำแหน่งเต็มของอีกฝ่าย เพื่อให้รู้ว่าพวกเขานั้นอยู่ในที่ลับ ส่วนอีกฝ่ายอยู่ในที่แจ้ง สืบทราบมาหมดแล้ว เจ้าของชื่อได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้าง เขาเป็นคนมีหน้ามีตา จะมาเสียชื่อง่ายๆ ไม่ได้



"ถ้าคุณไม่อยากให้ภรรยารู้เรื่องนี้ ขอให้เลิกยุ่งกับคุณศศิเดี๋ยวนี้!! " เพชรว่า แล้วพยักเพยิดให้ดูโทรศัพท์ของไทม์ ที่แค่กดก็จะต่อ Facetime ไปถึงคู่แต่งงานของอัศวินทันที



"พวกแกเป็นใคร!! "



"ไม่ต้องอยากรู้หรอก ถ้าไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โตก็เก็บของกลับกรุงเทพไปซะ แล้วอย่ามายุ่งกับศศิอีก!! " เพชรตะโกนกร้าว แถมยังย่างเท้าเข้าไปอย่างไม่กลัวเกรงใบหน้าโกรธจัดของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย



"ฉันจะฟ้อง ทั้งพวกแก ทั้งโรงแรม!!! "



"จะฟ้อง ก็ลองดูครับ กล้องวงจรปิดที่โรงแรมนี้จับไว้หมดแล้วว่าแกมอมเค้า แถมในห้องยังมีหลักฐานการตั้งกล้องไว้ถ่ายคลิปอนาจารด้วย" เพชรพูดไปก่อน กล้องถ่ายหนังนั่นยังไม่ทันได้ตรวจหรอกว่ามีจริงมั้ย



"แต่คงไม่ต้องถึงมือตำรวจหรอกมั้ง แค่กดโทรออกหาภรรยาคุณ เรื่องก็น่าจะใหญ่โตพอแล้ว" พวกเขาไปสืบมาแล้วเช่นกันว่าบ้านฝั่งภรรยาของอัศวินนั้นเป็นผู้มีอิทธิพลในต่างจังหวัด และเธอก็เป็นลูกสาวคนเล็กที่ถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก ขืนจับได้ว่าสามีมีชู้ ไม่น่าจะชีวิตอยู่รอด



"แล้วยังจะหน้าที่การงานของคุณอีก อยู่ในระดับผู้บริหารแล้วก็อย่าเอาช่ือเสียงมาเสี่ยงเลยดีกว่าครับ" เพชรกลับมาหว่านล้อมอย่างสุภาพอีกรอบ



อัศวินกำมือแน่น กัดกรามจนขึ้นสันนูน อ้อยจะเข้าปากช้างอยู่แล้วดันมีแมงหวี่แมงวันมาขัดได้



ชายหนุ่มฟึดฟัดเหมือนไม่ยอมความแต่ก็คือรีบยัดของทุกอย่างลงกระเป๋า แล้วเดินกระแทกไหล่ทุกคนออกไป



"โห ไม่ทันได้บู๊เลย" ไทม์กดหน้ารูปถ่ายตรงหน้าจอออก ทั้งหมดคือ Photoshop มาทั้งนั้น



"ขอบคุณบทพูดโหด ๆ จากคุณดนัยด้วยครับ" เพชรหันไปยักคิ้วให้เพื่อน

ดนัยเองก็ปรบมือให้เพชร "มึงก็ตีบทแตกฉิบหาย"



"ขอบคุณพี่ด้วยครับ" เพชรหันไปขอบคุณพี่ยามที่อำนวยความสะดวกให้ แกตะเบ๊ะ แล้วก็ขอตัวไปเช็คดูความเรียบร้อยต่อตามหน้าที่ ทิ้งให้ทั้งสามจัดการกันต่อ เพชรเดินเข้าไปหาศศิด้านใน ไทม์กับดนัยเฝ้าอยู่ด้านนอก เพราะไม่รู้ว่าสภาพจะเละเทะขนาดไหน



สิ่งที่ปรากฏสู่ครรลองสายตาของชายหนุ่มคือ ร่างไม่ได้สติ ผมเผ้ารุ่นร่ายแผ่เต็มที่นอน ศศิขดตัวคงเพราะหนาว เนื่องจากชุดที่ใส่นั้นปกปิดไม่ทั่วทั้งตัว เพชรหาผ้าขนหนูมาห่มให้ แล้วช้อนอุ้มออกมาในท่าอุ้มเจ้าสาว อีกคนตัวเบาหวิว จนเพชรต้องตั้งปณิธานว่าจะขุนพี่เขาให้อ้วนขึ้นในเร็ววัน



เมื่อพาพี่ศิไปยังห้องว่างที่เพชรจองไว้ ก็เรียกไอติมกับกิ๊บมาช่วยเฝ้าไว้ก่อน เพชรกลับไปเก็บของของคนพี่ที่ยังค้างอยู่ห้องนู่น จัดการลากกระเป๋าของพี่กลับมาที่ห้อง หาชุดนอนสบาย ๆ มาให้ไอติมกับกิ๊บช่วยเปลี่ยนท่อนบนให้ จากนั้นก็ไล่ทุกคนออกไป เพชรจัดการเปลี่ยนท่อนล่างให้พี่เอง แล้วก็เอากระเป๋าเครื่องสำอางค์มาวางลงบนโต๊ะหัวเตียง เทคลีนเซอร์ลงสำลี จัดการเช็ดคราบเครื่องสำอางค์บนใบหน้าสวยให้อย่างเบามือ



พี่ไม่รู้สึกตัวเลย เพชรมองอย่างสงสาร หวังว่าตื่นมาพรุ่งนี้จะไม่ทรมานจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เข้าสู่ร่างกายมากไปนะ



เมื่อใบหน้าหวานปราศจากเครื่องสำอางค์แล้ว เพชรก็จัดการผสมโฟมล้างหน้ากับน้ำอุ่นในชามแก้ว เช็ดล้างให้พี่อย่างทนุถนอม แล้วตามด้วยการเช็ดกับน้ำสะอาด จนแก้มนิ่มใสสะอาด แล้วก็เปิดกระเป๋าเครื่องสำอางค์อีกรอบ หาครีมกระปุกที่เขาเห็นพี่ทาก่อนนอนบ่อย ๆ มาทาบาง ๆ ให้ด้วย



จัดการจัดท่านอนตะแคงหันหน้าออกจากผนังให้ เอาหมอนใบหนึ่งมาร้องไว้ระหว่างหัวเข่า เพราะรู้ว่าพี่เขาชอบนอนท่านี้แล้วท่าเป็นที่ห้องคือมีหมอนข้าง



ทำทุกอย่างเสร็จก็นั่งขัดสมาธิลงกับพื้นหน้าเตียง มองใบหน้าไร้เดียงสานั้นด้วยความภาคภูมิใจ



"ปลอดภัยแล้วนะพี่ศิ ต่อไปนี้เพชรจะไม่ปล่อยให้พี่ต้องไปเจออะไรน่ากลัวอีกแล้วนะ"



เพชรนั่งเฝ้าศศิอยู่แบบนั้น แล้วพอดึกหน่อยก็แนบแก้มลงกับฝ่ามือพี่ นั่งฟุบหลับอยู่ข้างเตียง





ศศิเริ่มรู้สึกตัว ในหัวเขามึนและอึนไปหมด พอกระพริบตาได้แล้วค่อย ๆ ลืมขึ้นก็เห็นว่าเป็นห้องนอนในรีสอร์ทที่เข้าพักกับคุณอัศวิน แต่ดูเหมือนมุมวางเตียงกับสิ่งของต่าง ๆ มันจะไม่เหมือนเมื่อวาน เธอพยายามจะลุกขึ้นแต่ทว่าอาการเมาค้างยังคงเล่นงานอยู่ เลยได้แค่นอนนิ่ง ๆ แล้วกรอกตามองรอบห้องแทน หยิบหมอนที่นอนก่ายมาทั้งคืนออกด้วย ไม่นึกว่าเมามาก ๆ แล้วยังจะอุส่าต์นอนท่าประจำได้



คุณอัศวินพาเธอเข้านอนหรอ รบกวนแย่



"ตื่นแล้วหรือครับ" เสียงสดใสที่ดังทักทายทำให้ศศิขมวดคิ้ว แล้วก็ตัวแข็งด้วยความตกใจ เพชรเดินออกมาจากมุมห้องน้ำ



ศศิงงว่านี่คือความฝันหรือเรื่องจริง



"พี่ศิไม่ต้องตกใจ ไอ้อัศวินมันมอมพี่ จะปล้ำแล้วก็ถ่ายคลิปโป๊ลงกลุ่มลับ เพชรได้ยินมันคุยกับเพื่อน เลยไปดักช่วยพี่ศิมา"



คนฟังสีหน้าแปรเปลี่ยนหลากหลายอารมณ์ ทั้งหรี่ตาส่ายหน้าสับสนและเบิกตากว้างตกใจ ที่เพชรพูดก็ใช่ว่าจะไม่มีมูล เพราะเธอจำได้ลาง ๆ ว่าถูกคะยั้นคะยอให้ดื่มหนักจนช่วงหลัง ๆ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกพาไปไหนบ้าง



"มันหลอกพี่ศินะครับ" เพชรย้ำ



ศศิพยักหน้าเป็นเชิงว่ารับรู้ แล้วพลิกตัวหลบเข้าหาผนังเนื่องจากก้อนความผิดหวังมันกลั่นเป็นน้ำตาเสียแล้ว เธอเจ็บปวดจากเพชร แล้วยังต้องมาโดนคนไม่ดีหลอกซ้ำอีก



ร่างกายนี้เหมือนโดนสาปให้ไม่สามารถพบความสุขได้เลยหรืออย่างไรกัน



แค่เกิดมาเป็นกะเทย...แล้วต้องตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของทุกคนหรืออย่างไร



เธอก็มี 'หัวใจ' เหมือนคนอื่น ทำไมต้องปฏิบัติกับเธอราวกับไม่ใช่...คน



ศศิคิดย้อนไปในวัยเยาว์ที่ต้องโตมากับความเจ็บปวดทั้งใจและกาย พ่อแม่ไม่ยอมรับ ไม้เรียว ไม้แขวนเสื้อที่ฟาดลงมาไม่ยั้ง หวังจะให้เธอเปลี่ยนใจกลับไปเป็นผู้ชายแบบที่ครอบครัวจะต้องไม่ขายหน้า



ทำไมล่ะ...ทำไมทุกคนไม่เคยมองที่ตัวตนของเธอ



ไม่เคยมีใครถามเลยด้วยซ้ำ...ว่าศศิอยากใช้ชีวิตแบบไหน



อะไรคือความสุข...ของศศิ...ไม่สิ 'ศักดิ์สิทธิ์' ต่างหาก



เพชรมองพี่ที่นอนไหล่สั่นเงียบ ๆ แล้วก็ใจวูบโหวง ไม่คิดว่าจะเจอกับปฏิกริยาแบบนี้ เลยรีบลงไปนั่งบนเตียง แล้ววางมือบนหัวไหล่



ศศิสะบัดออกด้วยปฏิกริยาอัตโนมััติ โลกนี้มีแต่คนใจร้ายกับเธอ



ไม่อยากไว้ใจใคร...อีกแล้ว



เพชรวางมือซ้ำลงไปให้หนักแน่นขึ้น



"อย่ามาจับตัวนะ!! " ศศิตวาด



"พี่ศิครับ นี่เพชรเอง เพชรมาช่วยพี่ศิไง"



"ถอยไปนะ!! จะใครก็เหมือนกัน ไม่ว่าใครก็ทำให้เสียใจทั้งนั้น!! " ศศิหันมาผลักเพชรสุดแรง จนน้องเกือบตกเตียง



"พี่ศิ...เพชรไม่เคยคิดร้ายกับพี่นะ"



"หึ...แล้วที่เคยบอกว่า ไม่-ได้-รัก-กระ-เทย ล่ะ คิดว่าคำพูดนั้นไม่ทำร้ายกันหรือยังไง ใช่สิเป็นกะเทยมันน่ารังเกียจนิ จะพูด จะด่า หรือจะทำยังไงก็ได้อยู่แล้วใช่มั้ย" ศศิระเบิดออกมาเหมือนฟิวส์ขาด



"พี่ศิ ผมว่ามันคนล่ะประเด็น"



"ช่างเถอะ คนเจ็บมันเป็นพี่หนิ ไม่ใช่เพชร! " คนสวยตะคอกลั่น "ถอยไปพี่จะกลับกรุงเทพ" คนพึ่งฟื้นดันเพชรที่ยังนั่งขวางอยู่ เพื่อลงจากเตียง แต่เพชรขวางไว้ สภาพไม่ไหวแบบนี้จะกลับได้ยังไงเถอะ



"ผมไม่ถอย"



"ถอย!! "



"แล้วพี่จะกลับยังไง ไหนบอกเพชร"



"พี่กลับกับคุณอัศวินก็ได้!! "



"พี่ศิ!! " เพชรเขย่าตัวคนพี่ให้ตั้งสติ "มันจะข่มขืนพี่ จะถ่ายคลิปพี่นะ!! "



"ถ้าพี่สมยอมก็ไม่ได้เรียกว่าข่มขืน"



เพชรอึ้ง ขบกรามแน่น รู้สึกเหมือนสิ่งที่ตัวเองเชื่อมาตลอดพังทลายลงตรงหน้า



"พี่ศิ...พี่คิดแบบนั้นได้ยังไง"



"แล้วทำไมพี่จะคิดแบบนั้นไม่ได้ ในเมื่อเขายอมรับที่พี่เป็นกะเทยได้กล้ามีอะไรกับพี่ ไม่เหมือนที่เพชรรังเกียจพี่ รังเกียจสิ่งที่พี่เป็นอยู่!! "



"แค่นั้นใช่มั้ยที่พี่ต้องการ ผมจะได้รู้ว่าผมโง่เองที่แคร์พี่ ทุ่มใจให้พี่ไปทั้งหมด แล้วก็เหมือนคนโง่มาตลอดที่เข้าใจว่าผู้หญิงที่ผมรัก อยากจะเป็นแม่ของลูก อยากสร้างครอบครัวไปด้วยกัน อยู่ด้วยกันจนเฒ่า วันนึงเขากลายเป็นอีกคน ที่เราไม่รูจะกันมาก่อนเลย"

พูดไปน้ำตาของเพชรก็ไหลไป



"ตอนผมอยู่กับพี่ ผมให้พี่หมดใจ แต่สิ่งที่พี่ให้ผมคืออะไรอะ...พี่หลอกผม พี่เหมือนทำให้ผมรักแล้วก็หักอกผมโดยบอกว่าพี่เป็นอีกคนที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน"



เพชรที่อัดอั้นกับประเด็นนี้มานานก็เหมือนทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เมื่อศศิดูไม่ฟังอะไรเลย



"สิ่งที่พี่ต้องการ...คือแค่คนยอมรับว่าพี่เป็นแบบนั้น มีไอ้นั่น แล้วก็กล้าเอาพี่ใช่มั้ย! "



เพี๊ยะ!!



ศศิตบหน้าเพชรจนสะบัดไปอีกทาง แถมปลายเล็บยาวของเธอยังข่วนโดนแก้มเป็นรอยอีก



เพชรตกใจยกมือกุมหน้าตัวเอง เขาไม่คิดว่าจะกล้าทำเขา ศศิเองก็ตกใจที่ตัวเองเผลอลงมือกับน้อง แต่ก็ยังเชิดหน้าขึ้น กล้ำกลืนน้ำตาที่ไหลออกมาเหมือนเขื่อนแตก



"มันก็เหมือนกันหมดทุกคนนั้นแหละ ทุกคนเข้ามาก็หวังอยากได้บางสิ่งบางอย่างจากพี่ทั้งนั้น คุณอัศเข้ามาหาพี่อาจจะเพราะอยากได้ร่างกาย ส่วนเพชร...ก็อยากได้ครอบครัวที่สบบูรณ์แบบจากพี่ ซึ่งพี่ให้ไม่ได้ ... ไม่ได้จริงๆ "



ศศิน้ำตาไหลเป็นทาง หลับตาเม้มปากแน่น เป็นภาพที่แสนเจ็บปวด



เพชรใจเย็นลงแล้วส่ายหน้า พังหมดแล้ว...เขานี่แหละทำให้ทุกอย่างพัง



ชายหนุ่มจ้องมองคนพี่ที่นั่งร้องไห้อย่างโดดเดี่ยว ยกมือปิดหน้าปิดตา กลั้นสะอื้นแต่กลับยังได้ยินเสียงที่แสนทรมาน เสียงร้องไห้เหมือนคนแตกสลายไปแล้วมันบาดใจเขาเหลือเกิน



เพชรเจ็บกว่าตอนที่พี่ศิตบเขาเสียอีก



ปากหมาดีนัก ห้ามความใจร้อนไม่เคยได้เลย ตั้งใจมาปลอบพี่เขาดันใส่กลับไปจัดหนักจัดเต็มกว่าเดิมอีก



เขาคลานเข่าเข้าไปใกล้ แล้วโอบรอบตัวคนที่สั่นไปทั้งตัว



"พี่ศิ เพชรขอโทษ เรากลับมาคุยกันดีๆ เถอะนะ"



ศศิดิ้น ให้หลุดจากการเกาะกุม แต่คราวนี้เพชรไม่ปล่อยแล้ว



"เพชรอยู่ตรงนี้แล้วไง เงยหน้าออกมาตีเพชรก็ได้ หรือจะร้องไห้ก็ได้"



"..."



"ถ้าสู้คนเดียวแล้วเหนื่อยเกินไป เรามาผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปด้วยกันนะครับพี่ศิ"



"..."



"เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม เหมือนที่พี่ศิเคยถามเพชร ตอนนี้เพชรกลับมาแล้ว รอแค่พี่ศิ...ว่าจะกลับมามั้ย"



"อยากกลับกรุงเทพฯ " ศศิพูดเสียงเครือ



"พี่มาพักผ่อนไม่ใช่หรอ อยู่เที่ยวก่อนสิครับ ไทม์ ดนัย ไอติม กิ๊บก็มา...ถ้าพี่ไม่อยากอยู่กับเพชรอะนะ" เสียงตอนท้ายคนพูดก็หงอยลงอย่างเห็นได้ชัด



ศศิไม่หืออือ ยังคงปล่อยให้น้ำตาไหลไปเงียบ ๆ เธอเหนื่อยล้าเกินกว่าจะคิดต่อกรกับใครแล้ว



"พี่ศิ..." เพชรเรียกเสียงอ่อน เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายร้องไห้เลย



"คือเพชร..." เมื่อไม่รู้จะพูดอะไร หรือจะทำอย่างไรให้พี่รู้สึกดีขึ้นจึงขยับรวบตัวคนที่หัวใจแตกสลายนั่นกอดให้แน่นขึ้นไปอีก



ศศิเงยหน้าขึ้นมาจะผลักออกแค่ยังขืนแรงไม่ไหว น้องเลยสอดขาเข้าไปใต้เข่า แล้วอุ้มเอาทั้งตัวมาชิดเหมือนนั่งตัก ความมึนแล่นเข้าจู่โจมพอดีจนต้องหลับตา ศีรษะเลยถูกรั้งให้มาซบลงบนอกกว้างอย่างเลี่ยงไม่พ้น



"ถ้าอยากร้อง ร้องกับเพชร"



แรงขืน แรงดันของข้อมืออีกฝ่ายที่ส่งมาตรงอกทำให้เพชรรู้ว่าพี่เขายังไม่เชื่อ ยังต่อต้าน



"เพชรพร้อมจะอยู่กับพี่ศิแล้วนะ เพชรจะไม่ไปไหนแล้ว" แต่เขาก็ต้องหน้าด้านพร่ำกระซิบต่อไป



"เพชรขอโทษกับความปากหมาของเพชรที่เคยว่าพี่ ไม่ว่าตอนไหนก็ตาม เพชรขอรับผิดแต่

เพียงผู้เดียว เพชรไม่เก่งแล้ว ไม่เถียงไม่อะไรทั้งนั้น"



"..."



"ตอนนี้เพชรรู้แล้วว่า สิ่งที่เพชรแคร์มากที่สุดคืออะไร"



"..."



"เพชร...อยากเป็นคนรักของพี่ศินะ"



คนพี่เริ่มอ่อนแรงผลัก แต่กลับสะอื้นหนักขึ้น มันช้าไปแล้วมั้ย หัวใจเธอป่นปี้ไม่มีชิ้นดีแล้ว



"ถึงเพชรจะว่าพี่ไว้เยอะ รังเกียจกะเทยอะไรก็แล้วแต่ ให้มันเป็นเรื่องของเพชรคนเก่า เพราะว่า

เพชรคนใหม่รักกะเทยได้แล้ว"



"..." แม้ไม่ตอบกลับ แต่จังหวะการหายใจก็เปลี่ยน



"แล้วก็ตอนพี่เมาเพชรเปลี่ยนชุดนอนให้ เพชรได้ทักทายน้องเค้าแล้วนะ ทำความรู้จักกันแล้ว น่ารักดี"



พอศศิคิดทันว่า 'น้อง' ที่เพชรหมายถึงคืออะไร แผ่นหลังกว้างก็โดนทุบรัว ๆ เพชรไม่โกรธสักนิด แต่กลับกอดไว้แน่น ใจชื้นขึ้นมาหน่อย



"แต่ข้างบนเพชรไม่ได้แอบมองนะ เพชรให้ไอติมกับกิ๊บมาช่วยเปลี่ยนให้ รอพี่อนุญาตก่อนค่อยมอง"



เจอประโยคหลังเข้าไปก็โดนทุบหนักเข้าไปอีก



"พี่ศิ...เรากลับมาเริ่มต้นกันใหม่นะครับ เพชรขอโอกาส"



"..."



"นะครับ"



"..."



"ไม่เป็นไร ไม่ต้องตอบเพชรตอนนี้ก็ได้ พี่ใช้เวลาได้เต็มที่เลย สำหรับคุณหนะ ผมรอได้เสมอครับ"



ศศิยังนิ่งไม่แสดงออก แต่แปลกที่น้ำตาเขาหยุดไหล และไม่มีแรงจะผลักตัวเองออกจากอ้อมกอดอุ่นนี้ได้เลย







ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw

ความสบายตัวและเคยชินกับการกอดแบบนี้ทำให้คนที่เคยร้องไห้จนเหนื่อยผล็อยหลับไปอีกรอบ เพชรเห็นพี่เขานิ่งไปนานเลยลองฟังเสียงลมหายใจดี ๆ ก็ค่อยรู้ว่าคนสวยเขาเข้าห้วงนิทราไปแล้ว เพชรพยายามถอยตัวเองไปพิงหัวเตียงแบบไม่ให้พี่เขารู้สึกตัว แล้วก็ปล่อยให้ศศิพักผ่อนให้พอ



กว่าจะรู้สึกตัวอีกรอบก็สายมากแล้ว ศศิยกหน้าขึ้นมาปรากฎว่ามีน้ำลายไหลด้วย เธอรีบเช็ดไม่อยากให้เพชรเห็นสภาพน่าเกลียด แต่ที่เลี่ยงไม่ได้คือมันหยดแหมะลงไปบนไหล่เพชรแล้วสิ



ศศิขยับตัว เพชรที่เผลอหลับไปเหมือนกันก็รู้สึกตัวขึ้นมาด้วย เห็นพี่เขาเช็ดน้ำลายวุ่นวายก็นั่งยิ้มรับชมอิริยาบถน่ารักเป็นธรรมชาตินั่นอย่างไม่รังเกียจ ศศิเอื้อมไปหยิบทิชชู่มาเช็ดรอยชื้นตรงไหล่ให้เพชรด้วย



"หิวหรือยังครับ"



จะตอบว่าไม่ แต่ปากก็ไม่สัมพันธ์กับกระเพาะที่ร้องประท้วงออกมาเลย ศศิเบือนหน้าหนีด้วความอาย



"อาบน้ำไหวมั้ยครับ ไปล้างหน้าล้างตาสักหน่อย แล้วออกไปหาอะไรกินกัน"



ศศิไม่ตอบรับแต่ก้าวขาที่ครอบคร่อมเพชรอยู่ลงจากเตียงโดยมีเพชรคอยประคองเพราะกลัวจะยังเมาค้าง สัมผัสหยิบจับเนื้อตัวที่เป็นธรรมชาติเหลือเกินระหว่างเธอกับเพชรทำให้ศศิอดนึกถึงช่วงเวลาเก่า ๆ ไม่ได้ น้องเดินตามมาดูถึงหน้าห้องน้ำว่าเธอเดินได้ดีหรือไม่



"ถ้าไม่ไหวเรียกผมนะ ผมอยู่ตรงนี้"



ศศิพยักหน้า พอปิดประตูได้ ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังเก็บกักมานานกับกระจก

แม้จะผ่านเรื่องร้าย แม้จะเสียใจแค่ไหนที่กับเรื่องที่ผ่านมา แต่ทั้งหมดมันก็พิสูจน์ได้ว่าระหว่างเรายังมี 'เยื่อใย'



เธอไม่ปฏิเสธเลยว่าใจยังโหยหาเพชรอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แม้จะเปิดใจรับคุณอัศวินเพราะวิชชี่บอกให้ลองคุยกับคนที่รับความเป็นตัวตนของเธอได้ แต่ในความฝันเธอยังเห็นเงาของเพชรท่ีซุกซ่อนอยู่ในซอกของหัวใจ



ศศิรีบเปิดก็อกน้ำล้างเอาความฟุ้งซ่านออกไปก่อน แม้จะยังรัก แต่ด้วยสถานการณ์ที่ผ่านมาก็ไม่สามารถคืนดีได้ง่ายดายเกินไปนัก จะพูดด้วยก็ยังไม่อยาก หรือเรียกง่าย ๆ ว่ายัง 'งอน' อยู่นั่นเอง



คนสวยอาบน้ำไม่นานเพราะท้องร้องประท้วงดังขึ้นเรื่อย ๆ เธอรีบเข้ามาจนลืมเอาเสื้อผ้าเข้ามาด้วย โชคดีที่มีผ้าเช็ดตัวอยู่ข้างใน เลยเอาผืนเล็กโพกหัวไว้เพราะสระผม ส่วนผืนใหญ่ก็นุ่งกระโจมอก



เปิดประตูออกมาเพชรยังยืนอยู่จริง ๆ น้องตาค้างไปเลยเมื่อเห็นว่าเธอออกมาสภาพไหน เด็กผู้ชายตัวโตเบือนหน้าหนีด้วยท่ามางลนลาน ศศิยังรักษาสีหน้าเฉยเมยได้เหมือนเดิม เธอเดินเลี่ยงไปยังตู้เสื้อผ้า



"เพชรเก็บของพี่ไว้ในตู้นะครับ"



ศศิพยักหน้ารับรู้ เปิดกระเป๋าหาเครื่องแต่งกายง่าย ๆ มาใส่



"หลับตา...จะแต่งตัว"



เพชรหันหน้าเข้าผนังเหมือนเด็ก ๆ ที่เล่นซ่อนแอบ



"เพชรปิดตาแล้วครับ" เสียงอู้อี้ที่ได้ยินทำให้รู้ว่าเพชรปิดตาจริง ๆ ศศิจึงกล้าที่จะสวมกางเกงในทั้งที่ยังนุ่งผ้าเช็ดตัว คือเขาลำบากนิดหน่อน เพราะต้องล้วงมือเข้าไปจัดทรงให้น้องด้วย จากนั้นก็สวมบราเซียลูกไม้สีขาวนวล ก่อนจะดึงผ้าเช็ดตัวออก กระจกหน้าตู้สะท้อนร่างสะโอดสะองค์ เอวคอดระหงส์ทันที ศศิมีความหลงตัวเองอยู่ประมาณนึง แม้จะรีบแต่งตัวมากแค่ไหน ก็อดไม่ได้จะหมุนตัวสำรวจหุ่นอย่างน้อยสองรอบก่อน แล้วค่อยหยิบเสื้อเชิ้ตตัวหลวมมาใส่ คู่กับกางเกงยีนส์ขาสั้น



เธอพรมน้ำหอมกลิ่นหวานสดชื่น เพชรฟุดฟิดจมูก ลอบยิ้มเพราะเป็นกลิ่นที่คุ้นเคย ปกติพอมันปนกับกลิ่นกายของคนพี่แล้วจะละมุนกว่านี้อีก จากนั้นศศิก็เดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ลงมือทาครีมบำรุง



"ลืมตาได้แล้ว" บอกลอย ๆ เพชรก็ค่อย ๆ หันมา เป็นจังหวะที่พี่ลงครีมกันแดดอยู่ แล้วตามด้วยแป้งฝุ่น แป้งพัพ บลัชออนสีสดใส กรีดอายไลนเนอร์เบา ๆ แต่งคิ้วอีกนิด มองเพลินเชียว



เมื่อหน้าเสร็จ ศศิก็ปลดผ้าผืนเล็กที่ม้วนพันเส้นผมไว้ปล่อยให้มันตกมาประบ่า กลิ่นแชมพูหอมฟุ้งอีกระลอก ชวนให้นึกถึงวันวานที่เพชรเคยได้ม้วนเกี่ยวเส้นไหมเหล่านั้นเล่นอย่างเพลินมือ



"เพชรเป่าผมให้นะ"



"รีบไปอาบน้ำเถอะ หิวแล้ว"



เบรกเอี๊ยดจนควันขึ้นส้นเท้า เพชรจ๋อง แต่ไม่แสดงออก เดินเปิดประตูห้องกลับไปยังห้องตัวเองทันที คราวนี้ศศิถือไดร์ค้างมองตาม...เพชรงอนเธอหรือเปล่า แต่ก็ช่างปะไร ไม่ใช่เรื่องที่ต้องแคร์สักหน่อย



แต่ก็...เห้อ



ไม่นานเจ้าเด็กนั้นก็ส่งไลน์มาว่า



'พี่อยู่คนเดียวแป๊บนึงนะ เพชรมาอาบน้ำที่ห้องเดิม หรือถ้ากลัว เพชรจะบอกไอติมกับกิ๊บไปอยู่เป็นเพื่อน'



'อยู่ได้'



ตอบกลับแบบนั้นแล้วก็ต้องพยายามกลั้นยิ้มอย่างสุดความสามารถ ทำไมใจเราถึงอ่อนได้ขนาดนี้กัน



ศศิส่ายหน้ารัว ๆ เธอกำลังงอนเขาอยู่นะ ดุตัวเองเสร็จก็ค่อยเป่าผมต่อ ม้วนด้วยนิ้วเบา ๆ ก็เข้าทรง เนื่องจากไปดัดลอนเกาหลีเอาไว้ก่อนแล้ว ศศิสำรวจใบหน้าตัวเองอีกทีว่าขาดอะไรอีกหรือเปล่า แล้วก็ต้องเม้มปาก เลือกหยิบลิปสติกขึ้นมา



แท่งโปรดที่เพชรซื้อให้ไม่อยู่เสียแล้ว แท่งนี้เป็นของคุณอัศวิน ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายดูภูมิฐานคนนั้น จะซ่อนเรื่องน่ากลัวไว้มากมาย



ศศิถอนหายใจหนักๆ อีกครั้ง ที่จริงก็ต้องขอบคุณเพชรเหมือนกันที่มาช่วยเอาไว้



"แต่เรายังงอนอยู่นะศศิ" เธอเตือนตัวเอง "ว่าเราตั้งหลายคำ เสียใจแค่ไหนจำไม่ได้หรือไง" เธอถามตัวเองในกระจก



แต่ศศิคนนั้นกลับยิ้มกว้างออกมา แค่คิดว่า 'เพชรกลับมาแล้ว' เธอก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ

ไม่ได้ยิ้มสดใสขนาดนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ...ศศิ



ผัวะ!



ประตูเปิดออกเข้ามาโดยไม่บอกไม่กล่าวเล่นเอาทำหน้าบึ้งตึงกลบเกลื่อนแทบไม่ทัน

เพชรในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สบาย ๆ มัดผมเป็นจุกกลางศีรษะ น้องยิ้มร่าเริงเข้ามา ศศิเลยบิดปากให้คว่ำไปกว่าเดิม ทำเป็นไปหยิบนู่นหยิบนี่ลงกระเป๋า ไม่ได้ดีใจ ไม่ได้รอจริง ๆ นะ



"ไปกินอะไรอร่อย ๆ กัน ทุกคนเสร็จแล้วครับ"



ศศิพยักหน้าอย่างเย็นชา แล้วก็เดินเบี่ยงตัวหลบเพชรที่หยุดอยู่หน้าประตูออกไป แต่ทันได้เห็นแก้มน้องบวมเป่ง และรอยปากแตกเล็กๆ



เป็นห่วง...แต่ก็ต้องห้ามมือ



เพชรเดินตามคนพี่ต้อย ๆ เป็นลูกหมาเลย ส่วนเพื่อนคนอื่น ๆ ลงไปรอที่รถก่อนแล้ว และจังหวะกระอักกระอ่วนว่าจะขึ้นรถคันไหนแบ่งกันนั่งยังไง ศศิก็เดินเข้าไปเกาะแขนกิ๊บหมับ เด็กสาวสะดุ้งโหยงหันไปดูหน้าเพื่อนหัวหน้าแก๊งทันที เพชรพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาก็เลยเรียกดนัยกับไทม์มาขึ้นรถตัวเอง ปล่อยให้สามสาว? ขับตามไปด้วยกัน



'กดดันมาก ไอ้กิ๊บโดนสืบสวนรัว ๆ ' ไอติมรายงานสถานการณ์สด ให้หนุ่ม ๆ อีกคันรับรู้



'อวยกูมาก ๆ ด้วย' เพชรพิมพ์ตอบ เพราะเขาให้ไทม์ขับรถให้



'ไม่ด่าซ้ำก็บุญแล้วเหอะ จะให้อวยอะไรอีก มึงแม่งนิสัยไม่ดี'



'เออด่ามาเลย ด่าให้เต็มที่ ลงจากรถเขาจะได้หายโกรธกู'



เพชรไม่ได้หงุดหงิด หรือใจเสีย เพราะเขาเข้าใจว่าศศิเองคงต้องการระยะเวลาทำใจ แค่พี่เขาไม่ไล่ให้ไปไกล ๆ ก็ขอบคุณมากแล้ว



รถสองคนจอดเทียบกันในลานจอดในเวลาไล่เลี่ยกัน คันของสาว ๆ ดูสดใสมาก เหมือนดอกไม้บาน แล้วมีสามหนุ่มเป็นผึ้งน้อยที่อยากเข้าไปสัมผัสความอ่อนหวานนั่นบ้าง



เพชรกับศศิสบตากันบ้าง แต่พี่ก็ทำเมินไปมองอย่างอื่น คนน้องกลั้นยิ้ม คือบอกแล้วว่าไม่โกรธมีแต่ความเอ็นดูพี่เขาล้วน ๆ เพชรเลยเดินนำเข้าไปหาโต๊ะ แล้วก็ได้นั่งโซนที่มองเห็นวิวทะเลได้ชัดเจน



ศศิอยากกินปู แต่เธอไม่อยากเลอะเทอะก็ไม่สั่ง ซึ่งแน่นอนว่าเพชรรู้ ก็สั่งมาให้สองกิโลกรัม จะได้แบ่งกันกิน อาหารอย่างอื่นมาเสิร์ฟก็แบ่งกันกินสนุกสนาน แต่พอปูมาถึงศศิไม่แม้แต่จะเบือนตามามอง ทั้งที่กลิ่นน้ำจิ้มซีฟู้ดมันกระตุ้นน้ำลายมากก็ตาม เธอเลยหันไปร่วมบทสนทนากับสาว ๆ แทนที่ตอนนี้กำลังเม้าท์ถึงซีรีย์เกาหลีอย่างเมามันส์ เขาคุยกันห้าคนอย่างออกรส เพชรก็ก้มหน้าก้มตาแกะปูเป็นชิ้นเนื้อขาว ๆ ให้พี่คนสวยเขากินง่าย แล้วก็แกะใส่จานกลางไว้ให้เพื่อน ๆ สมกับเป็นยอดนักแกะปูในตำนานด้วย



คนสวยคุยจนเหนื่อย พอหันกลับมาในจานก็มีของชอบวางยั่วอยู่ น้องปูเนื้อขาวอวบกวักก้ามเรียกยิก ๆ ศศิต่อสู้กับอาการงอนของตัวเองหนักมากว่าจะหยิบขึ้นมากินดีหรือไม่



"กินก่อน...เดี๋ยวค่อยงอนต่อก็ได้" เพชรพูดเบา ๆ ให้ได้ยินกันสองคน เลยได้เห็นว่าพี่เขาขมวด

คิ้วฉับ เพชรเลยหันไปทำเป็นสนใจบทสนทนาของเพื่อน ๆ บ้าง ศศิถือโอกาสนั้นหยิบเนื้อกรรเชียงขาวอวบจิ้มน้ำจิ้ม พอเขาเข้าปากเท่านั้นแหละ เหมือนมีดอกไม้ไฟลูกใหญ่ยิงขึ้นเต็มหาด อาหารที่ดี ย่อมทำให้คนกินอารมณ์ดีไปด้วยคือเรื่องจริง เหลือบตามองคนแกะปูยังหันไปสนใจเพื่อนอยู่ ศศิก็หยิบมากินต่ออีกคำ อีกคำ อีกคำ...จนหมดจาน



เพชรมองด้วยหางตามาตลอด คือถ้าพี่เขากินนานกว่านี้อาจจะมีแฟนตาเหล่ได้ ก็พูดขึ้นมาลอย ๆ ว่า "อิ่มหรือยัง เอาเพิ่มมั้ย"



"แล้วตัวเองได้กินบ้างหรือยัง" ศศิก็หันไปพูดกับอากาศข้างตัวเฉย



"ยัง มือเลอะ" หน้าหันคนละทาง แต่คุยกันรู้เรื่องหวะ



"ก็กินสิ"



"ป้อนหน่อย"



อีกสี่คนที่เหลือคือกลั้นหายใจแล้ว ลุ้นมากแม่! แต่ก็ต้องคุยกันจุ๊บจิ๊บ เสมือนว่าไม่ได้เงี่ยหูฟัง



"โอ้ย เจ็บปาก โอ๊ย ปวดท้อง สงสัยหิวเกิน หรือว่ากระเพาะกำเริบก็ไม่รู้" น้องโวยวาย ศศิยังนิ่ง



"โอ้ยยยย ไม่ไหวแล้วป๊วด ปวด"



ยังโหยหวนไม่เลิก จนศศิอดหมั่นไส้ไม่ไหว หยิบเนื้อปูจากจานกลางราดน้ำจิ้มแน่นพริกยื่นไปตรงหน้าน้อง เธอรู้ว่าเพชรไม่กินเผ็ดดูสิจะทำยังไง พออีกฝ่ายอ้าปากงับเข้าไป ศศิก็ตาโตตกใจ รีบหยิบทิชชูไปรองใต้คาง



"เพชร มันเผ็ดคายออกมา"



คนน้องน้ำตาไหล หน้าแดงแล้ว แต่ส่ายหน้า "พี่ศิอุตส่าห์ป้อน"



"เพชร โตแล้วไม่ดื้อ คายออกมาครับ เดี๋ยวปวดท้องจริง ๆ หรอก" เสียงร้อนรนของพี่ทำให้เพชรยอมคายออกมาใส่ทิชชูบนมือพี่ เขาจะรวบไปทิ้งเอง ศศิก็ห่อมันวางลงกับโต๊ะ รีบหยิบน้ำมาให้ดื่ม



"หายเผ็ดมั้ย เดี๋ยวพี่ศิไปเอานมให้"



เพชรรีบส่ายหน้า "พี่ศิกินเถอะ เพชร แฮ่ ไม่เผ็ดแล้ว" แต่ยังต้องแลบลิ้นออกมาอยู่ดีนะ



คนโตกว่าถอนหายใจยาว มองหน้าคนน้องด้วยความรู้สึกหลากหลาย เพชรก็มองตอบกลับมาเช่นกัน ศศิยอมตักข้าวผัดปูป้อนน้องแต่โดยดี เพชรก็อ้าปากรับแล้วค่อย ๆ เคี้ยว น้องยังมองศศิไม่หยุดจนคนพี่ต้องหลบตาไปวางไว้ที่ข้าวในจานแทน



"เพชรกินเองได้แล้ว ไม่เป็นไร"



เสียงถอนหายใจอีกสี่เสียงประสานกันเบา ๆ รู้สึกดีที่ไม่มีการเปิดวอร์



"พี่กินปูอีกสิ" เพชรบอกแล้วก็พยักเพยิดไปที่เนื้อขาวอวบล่อตาในจานกลาง



"เพชรกินบ้างเถอะ"



"อยากให้พี่ได้กินเยอะ ๆ "

"..."



"พวกกูกินเอง จบนะ" ดนัยยกมือยาวมาหยิบจานแล้วตักแบ่งให้เพื่อนทุกคน



เพชรหันขวับยกนิ้วกลางใส่ ศศิรีบตวัดตาดุ "ไม่ว่าเพื่อนค่ะ"



แล้วไง เพชรก็ต้องกลับมาเจี๋ยมเจี้ยมสุภาพ แล้วก้มหน้าก้มตาแกะปูตัวใหม่ใส่จานให้พี่ ตอนนี้ไม่มีดอกไม้มาเซอร์ไพรส์มาทำหวาน ก็คงต้องใช้น้องปูม้าเป็นสะพานรักไปก่อนแล้วกัน



จบจากมือเที่ยงที่กินเวลานานไปถึงบ่าย ทั้งหกคนก็ไปนั่งคาเฟ่ริมทะเลกันต่อ สั่งเครื่องดื่มกันคนละแก้ว เพชรกับศศิดื่มเหมือนกันคืออเมริกาโน่เย็น คนอื่น ๆ ก็คละกันไป มีขนมเค้กเป็นจานกลางหลายชิ้น แล้วศศิก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพอัพลงอินสตาแกรม เพชรถองศอกใส่กิ๊บทันที เลยได้รับการเหยียบเท้าใต้โต๊ะมาเป็นรางวัล



ชายหนุ่มเบี่ยงหน้าไปดูโทรศัพเพื่อน ศศิลงรูปแก้วกาแฟ ที่ด้านหลังเบลอ ๆ เป็นขนม แต่แคปช่ั่นคือรูปแก้วกาแฟสองแก้ว เท่านั้นเพชรก็กลั้นยิ้มเหนื่อย ฮึบอยู่นานค่อยจัดหน้าตาให้เป็นปกติได้ แล้วลงมือเลื่อนขนมให้พี่ศิอย่างเอาใจ



สาว ๆ ก็เริ่มยกกล้องมาถ่ายบรรยากาศร้านบ้างตามสไตล์คนชอบบันทึกความทรงจำ แล้วก็กวักมือชวนศศิลงไปบริเวณชายหาด ที่มีการวาง Prop กระโจมต่าง ๆ เอาไว้ให้แขกมาถ่ายรูปอัพโซเชียล



เพชรปล่อยให้พี่ศิไปสนุกกับกิ๊บและไอติม โดยไม่เข้าไปวอแว แต่สายตาก็คือจับตัวพี่เขาไม่ห่าง



"โอกาสคือดีกี่เปอร์เซ็นต์ครับคุณพชร"



"100%"



"มั่นหน้ามากมึง"



"รู้สึกได้ถึงความรักที่โอบรอบตัวเราสองคน"



"อยากอ้วก"



"จริง มึงคือกูยิ่งรักพี่ศิมากกว่าเดิมอีกอะ แบบขนาดกูนิสัยไม่ดีใส่ เค้ายังเป็นห่วง ยังจำได้ว่ากู

ไม่กินเผ็ด"



"อยากให้พี่เขางอนมึงไปนาน ๆ ก่อนอะ ให้สาสมกับความนิสัยไม่ดีของมึง"



"งอนได้ ก็รอเก่ง แค่แบบไม่หมางเมินกันก็พอ"



"แล้ว...อะไรทำให้มึงกลับมาวะ" ดนัยหันมาถามอย่างจริงจัง



"อนาคตในหัวกูเห็นแค่พี่ศิ ไม่ได้เห็นลูก หรืออะไรมากกว่านั้น กูเลยคิดว่าบางทีแค่สองคนก็พอแล้วปะวะ เป็นครอบครัวที่มีความสุขได้แล้ว"

ดนัยพยักหน้าตาม ก่อนจะถามต่อ "แล้วเรื่องที่พี่เขาไม่ใช่ผู้หญิง อยู่ ๆ ก็รับได้เฉย"



"คือ...กูหึง กูเห็นเขายิิ้มกับคนอื่นที่ไม่ใช่ก็แล้วมือจะลั่น เลย...คิดว่าคงรักพี่ศิ ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นมีน้องสาวหรือน้องชายสุดท้ายก็คือพี่ศิของกู"



และที่ต้องขอบคุณอีกอย่างคือ อาจารย์เกอด้า สำนัก The Danish girl ที่แสดงให้เห็นว่าการยอมรับตัวตนที่แท้จริงของคนที่เรารัก...นั้นแหละคือความรักที่ท้จริง



"ภูมิใจในตัวมึงอะน้องเพชร" ไทม์ถึงขั้นเข้ามากอดคอ



เพชรเองก็ยิ้ม และยิ่งพอมองฝ่าแสงแดดออกไปแล้วได้เห็นรอยยิ้มของศศิ ใจเขาก็ยิ่งฟูพองขึ้นคับอก



ความสุข...มันหน้าตาแบบนี้แหละ



มันหน้าตาแบบที่อยากยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปพี่เขาไปได้...ไม่มีทางเบื่อ



"ขอออกไปถ่ายรูปหน่อย" เพชรบอกกับเพื่อนแล้วหยิบโทรศัพท์ตัวเองเดินย่ำทรายออกไป เขาเรียกพี่ศิเพื่อขอเก็บภาพ ตอนแรกศศิไม่ยอมโพสให้เดินหลบ แต่ก็ทนแรงอ้อนของหมาน้อยไม่ไหว สุดท้ายได้ไปเกือบร้อยรูปแหนะ เพชรชอบบันทึกภาพเหล่านั้น ภาพที่พี่ศิยิ้มให้กล้อง และคนที่อยู่หลังเลนส์ก็คือเพชรเอง



TBC

ยาวมากกก และหวังว่าจะชอบกันค่ะ ตอนนี้ก็น่าจะครบรสนะคะ ซีนตื่นเต้น ซีนน้ำตา แล้วก็ซีนอมยิ้ม ชอบซีนไหนก็อย่าลืม ทิ้งคอมเม้น ไว้ให้ด้วยน๊าแม่!!

#อยากเรียกเธอว่าบี๋

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
แงงงงงงงงงงงง ในที่สุด TT
เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียนนะเพชรนะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
 ต้องไปหา Dennish girl มาดูแล้ว  :katai1:

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โอ้ยยยย สองสามตอนก่อนอิชั้นยังด่านังเพชร สาปไม่ให้นางได้เป็นพระเอก ให้พี่ศิโกรธนานๆ มาตอนนี้คือ พี่ศิใจเหลวไปแล้วววว ส่วนอิชั้นก็น้องเพชรพี่เข้าใจหนูแล้ว คนเรามันสับสนได้พี่ให้อภัยหนู :laugh:

ปล. เพชรทักทาย ‘น้อง’ พี่ศิไปแล้วแต่ว่ายังไม่กล้ามองหน่มน๊ม!?  นังเพชร!!! บ้าบอ ไปให้แม่มาขอพี่ศิเลยนะ ผิดผีแล้วววว  :laugh:

ออฟไลน์ MeiHT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
อ่านรวดเดียวเลย คนโปรพี่ศิเยอะแต่นี่สงสารพระเอก ศศิแสวงหาความจริงใจแต่ไม่มอบความจริงใจให้เพชรแต่แรก แถมคนไปช่วยเธออ่ะ ทำไมเธอต้องพูดยั่วโมโหเพชรขนาดนั้นนนน ความรักมันมาพร้อมกับความคาดหวังนะ เพชรอ่ะคิดถึงอนาคตกับศิจนถึงขนาดคิดว่าจะแต่งงานจะมีลูก มันก็ไม่ใช่น้อยๆแหละ พอไม่เป็นไปตามที่หวังจะผิดหวังจะโกรธมันไม่แปลกแต่อิเพชรเวลาโมโหปากหมามาก อิเด็กกกก เอาหมาออกจากปากหน่อยลูก
สรุป มีฟีลลิ่งว่าเพชรเนี่ยปากหมามากแต่นางก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดใช้ความผิดตัวเองนะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ดีงามมากตอนนี้ พี่ศิต้องอึบๆไว้นะงอนต่อไปอีกหน่อยนะให้เป็นบทเรียน o13

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
พี่ศิยังน่ารักเหมือนเดิมเลยย

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
Chapter 14



หลังทั้งกลุ่มไปเดินเล่นถนนคนเดินมาจนทั้งอิ่มและเหนื่อยก็กลับมาพักผ่อนที่ห้อง เพชรเดินมาส่งศศิที่ห้อง ส่งเสร็จก็ยังลังเลไม่กล้าเดินต่อไปห้องตัวเอง



"เอ่อ...พี่กลัวมั้ยถ้านอนคนเดียว"



ศศิเปลี่ยนสีหน้านิดเดียวเพชรก็รีบแทรก



"คือ...ถ้ากลัวก็ให้กิ๊บกับไอติมมานอนเป็นเพื่อนมั้ยครับ"



"พี่เป็นผู้ชายนะถ้าเพชรจะลืม จะไปนอนกับสาว ๆ ได้ยังไง"



"พี่คือพี่ศิ" เพชรบอก



"มีคนเคยบอกพี่ว่า พี่ศิที่เขารู้จักเป็นผู้หญิง เพราะฉะนั้นพี่ศิคนนี้ไม่ใช่"



เพชรเจ็บยวบที่อก เหมือนมีใครมาบีบขย้ำหัวใจ คำพูดที่เขาทำร้ายพี่ศิ กำลังย้อนกลับมาทิ่มแทงเขาเอง และที่เจ็บไม่ใช้เพราะพี่ศิทำร้ายเขา แต่มันเจ็บเพราะว่า...ทำไมเขาในวันนั้นจึงกล้าทำร้ายพี่ศิได้ลงคอ



"ขอโทษครับ" เพชรพูดออกไปทันที



ศศิเบือนสายตาหนีไปอีกทาง



"คนที่เคยพูดกับพี่แบบนั้น ตอนนี้เขาสำนึกแล้ว ตอนนั้นเขายังคิดไม่ทัน แต่ตอนนี้เขาคิดได้แล้ว ไม่ว่าพี่ศิที่เขารู้จักจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็เป็นพี่ศิที่เขารักทั้งนั้น"



โดนอดีตแฟนบอกรักตรง ๆ หน้าซื่อ ๆ ศศิก็หน้าร้อนขึ้นมาวูบนึงเหมือนกัน



"ไปได้แล้ว" ศศิสู้ไม่ไหว เลยปิดประตูใส่เสียเลย เพชรทิ้งสายตาไว้ตรงหน้าประตูห้อง ยืนรออีกสักพักให้เสียงของพี่เดินลึกเข้าไปในห้องก่อนจึงค่อยเดินกลับไปห้องตัวเอง



จัดการอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยเพชรก็ได้แต่หยิบโทรศัพท์เปิดไลน์คนพี่แล้วจ้อง ข้อความที่เขาเคยส่งไปพี่ศิยังไม่เปิดอ่านเลย แล้วถ้าโทรไปเขาจะรับมั้ย นึกถึงสมัยคุยกันใหม่ ๆ ที่ต้องเปิดกล้องส่งพี่เขาเข้านอนทุกคืน...ก็เคยจีบจนเขายกใจให้มาแล้วครั้งหนึ่ง จะจีบซ้ำรอบสองก็อย่าไปกลัวดิวะเพชร ก็โทรแม่งเลย



รออยู่ครั้งแรกจนสายตัดพี่ไม่รับ



ครั้งที่สองพี่ก็ไม่รับ



'โทรมาทำไม'



อ่า...ได้เป็นข้อความมาแทน



'ส่งเข้านอน'



'นอนเองได้โตแล้ว'



'ครับ'



พอน้องตอบกลับมาแค่นั้นแล้วเงียบไป เป็นศศิอีกที่งุ่นง่าน จ้องโทรศัพท์ส่งกระแสจิตไปแล้วอีกฝ่ายก็ยังเงียบ

"เด็กบ้า" คนสวยหลุดเสียงออกมา บึนปาก แล้วก็ปิดไฟยกผ้านวมคลุมโปง ข่มใจหลับตา

ครืด...

เสียงเรียกเข้าดังขึ้นอีกรอบ เป็นเพชรโทรเข้ามา ศศิกลัวน้องจะวางไปอีกเลยรีบกดรับ แต่อีกฝ่ายคงมองไม่เห็นอะไรเพราะเธอปิดไฟไปแล้วนี่นา

'นอนแล้วหรอครับ'

'อือ'

'งั้นเพชรขอเฝ้านะ เดี๋ยววางเอง พี่ศิหลับเลย ฝันดีนะครับ'

ศศิไม่ตอบอะไรแต่ก็วางโทรศัพท์ไว้ในระยะที่ตัวเองก็มองเห็นจอ เพชรนอนคว่ำหน้ามองจออยู่

'โดนจ้องแบบนี้ใครจะนอนหลับ'

ศศิพูดลอย ๆ เพชรเลยปิดไฟห้องตัวเองบ้าง ศศิเลยไม่เห็นอะไร นอกจากเกรนเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้ว่ากล้องเชื่อมต่อกันอยู่ คนสวยแอบยิ้มในความมืด แล้วหลับตาลง

แม้จะดุน้องที่มาทำให้ความเป็นส่วนตัวหายไป แต่ศศิกลับหลับลึกไวกว่าทุกคืนที่ผ่านมา อาจจะเป็นเพราะความสบายใจบางอย่างที่กำลังกลับมาก็เป็นได้



คนสวยรู้สึกตัวตอนเช้าก่อนนาฬิกาจะปลุกเล็กน้อย หยิบโทรศัพท์มาดู เมื่อคืนเพชรเปิดกล้องอยู่กับเธอตั้ง 4 ชม. แหนะ



"เด็กบ้า ไร้สาระ" ปากสวยว่ามุบมิบ แต่เอาจริง ๆ ก็คือยิ้ม แล้วจุ๊บหน้าจอมือถือเฉย ก็ไม่มีใครเห็นสักหน่อย ทำไมล่ะ แถมได้หลับเต็มอิ่มคืนแรกหลังจากที่ผ่านเรื่องช่วงเวลาไม่ดีมา ศศิก็ยิ่งสดชื่น เธอเดินไปเปิดม่านหน้าต่าง มองออกไปชมวิวทะเลสุดลูกหูลูกตา คงได้ฤกษ์เริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ แล้ว



เมื่อชื่นชมทิวทัศน์ยามเช้าจนเต็มอิ่ม ศศิก็เตรียมตัวเข้าไปอาบน้ำ วันนี้พวกเด็ก ๆ นัดการไปทานอาหารเช้าร้านอร่อยในตัวเมืองหัวหิน จากนั้นก็คงแวะซื้อกาแฟและขับรถกลับกรุงเทพกัน จะได้เตรียมตัวเรียนหนังสือในวันรุ่งขึ้น



ศศิอาบน้ำไม่นาน ออกมาแต่งตัวเรียบร้อยก็อดไม่ได้จะใช่ลิปแท่งโปรด ที่คนโปรดซื้อให้ ยิ้มหวานกับตัวเองในกระจก ประกายตาเธอสดใสจนยังนึกหมั่นไส้ตัวเอง



ก๊อก ๆ



เสียงเคาะประตูดังขึ้น "พี่ศิครับ เสร็จรึยังเอ่ยเพชรมาช่วยขนของ"



ศศิหันไปมองกระเป๋าเสื้อผ้าที่เก็บเรียบร้อยแล้ว จะมีแค่กระเป๋าเครื่องสำอางค์ใบเล็กที่พกติดตัวเท่านั้น ร่างสะโอดสะองค์เดินช้า ๆ ไปยังประตูพยายามหุบยิ้มตัวเองไม่ให้ดูดีใจเกินไปก่อนแล้วค่อยเปิด



"อรุณสวัสดิ์ครับ" เพชรส่งยิ้มอบอุ่นให้ น้องยังดูดีเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือใต้ตาดูคล้ำหน่อย ๆ ศศิย้อนคิดไปถึงชั่วโมงที่ปรากฎในไลน์ มันฟ้องว่าเด็กมหาลัยนอนดึกเพราะอะไร



ศศิเบี่ยงตัวหลบให้เพชรเดินเข้ามา เธอชี้ไปที่กระเป๋าลากใบเล็กที่เก็บเรียบร้อย เพชรวางมันลงกับพื้นแล้วลากมันออกไปอย่างเรียบร้อย ศศิเองก็เดินตามไปเงียบ ๆ เมื่อถึงชั้นล่างคนสวยก็แยกไปคืนกุญแจ เพชรยืนรอให้พี่ทำธุระเสร็จ แล้วก็ค่อยลากกระเป๋าต่อไปที่ลานจอดรถ ยกกระเป๋าใส่ท้าย Civic เสร็จสรรพก็พึ่งนึกขึ้นได้ ว่าเราสองคนยังไม่ดีกัน เลยหันไปส่งสายตาแทนคำถาม ศศิก็พยักหน้า แล้วก็เดินปั้นปึ่งนิด ๆ ไปเปิดประตูรถด้านข้างคนขับที่ชื่อ...เพชร



คนขับมาดเซอร์กลั้นยิ้มแทบตาย ต้องขยับปากไปมาเพราะว่ามันยิ้มเหมือนคนบ้า รอจนหน้าอยู่ในระดับไม่กระดี้กระด้าเกินไปค่อยเปิดประตูรถไปนั่งคู่กับพี่เขา โชว์ควงพวงมาลัยด้วยฝ่ามือข้างเดียว แล้วเอี้ยวตัวมองกระจกหลังถอยออกจากซองจอด มุ่งหน้าไปยังตลาด



ในรถยังเงียบกริบ และเพชรก็ไม่คิดชวนไทม์หรือดนัยมาเป็น กขค. พวกมันควรรู้ตัวได้เองนะ



ไม่นานก็มาถึงร้านอาหารที่เป็นบ้านไม้เก่า ๆ ให้อารมณ์ต้นฉบับความอร่อยก็คนแน่นจนหาโต๊ะแทบไม่ได้ โชคดีมีคนลุก เพชรเลยรีบจูงมือพี่ศิเข้าไปจับจอง



คือเผลอ...และเคยชินท่ีจะคว้ามือคนพี่ไว้แบบนั้น และมันก็ชุลมุนเกินที่ศศิจะสะบัดหนีได้ทัน กลายเป็นว่าได้สัมผัสไปแล้วหนึ่งแต้ม ทั้งที่หัวใจเพชรยังเต้นรัวไม่ทันด้วยซ้ำ เพราะกลายเป็นว่าร่างกายมันเคยจำไปแล้วว่านี่แหละคือวิธีการอยู่ด้วยกันระหว่างเขาสองคน



วิธียื่นเมนูให้ วิธียื่นหน้ามาอ่านแผ่นเมนูด้วยกัน วิธีเดาว่าอีกฝ่ายจะสั่งอะไร แล้วเราจะสั่งจานไหนมาแชร์กัน แม้กระทั่งน้ำที่พี่ศิจะกินเพชรก็ทายถูก



"อือ...ก็ตามนั้นแหละ" ศศิอ้อมแอ้มตอบเมื่อเพชรเสนอว่าจะสั่งอะไรบ้าง



"พี่ไม่อยากกินก็บอกได้นะ"



ศศิตวัดสายตามองเพชรอย่างกรุ่น ๆ โกรธที่รู้ใจไปหมดทุกอย่าง แล้วจะให้เธอสั่งอะไรที่มันแปลกไปมากกว่า ข้าวหมูแดงหมูกรอบ แล้วมีต้มเลือดหมูเป็นจานกลางหรอ แถมยังมีโอวัลตินเย็น ขนมจีบกุ้ง ปาท่องโก๋จิ้มนมข้น ซาลาเปาไส้ครีม ก็ของที่ชอบทั้งนั้น ยังจะให้ลุกไปสั่งซาลาเปาไส้เค็มมากินแทนหรือไงล่ะ



"อย่าดุนักสิ ตัวสั่นไปหมดแล้วเนี่ย" เพชรเย้าเบา ๆ นึกอยากเอื้อมมือไปจิ้มปลายจมูกพี่เล่นด้วย แต่ช่วงนี้อาจจะโดนงับจมเขี้ยวได้ ศศิทำเสียงฉุนขึ้นจมูก แล้วหันไปมองนู่นมองนี้ภายในร้านแทน สักพักพวกไทม์ก็ตามมานั่งล้อมโต๊ะกลมด้วย แล้วก็สั่งกันอย่างรวดเร็วเพราะความหิว



เซตที่ศศิกับเพชรสั่งยกมาเสิร์ฟก่อน ไทม์ยื่นมือมาจะฉกปาท่องโก๋อย่างไว เพชรต้องรีบหวดมือ "ให้พี่ศิถ่ายรูปก่อน"



ศศิหันไปมองเพชร แล้วก็ถัดไปมองไทม์ "น้องไทม์กินได้เลยค่ะ"



เพชรโดนยักคิ้วล้อทันที ศศิเองก็ต้องกลั้นยิ้มเมื่อเห็นว่าคุณเขาหน้าม่อย



"ถ่ายรูปให้หน่อย" เลยหันไปพูดเบา ๆ ด้วยแล้วยื่นโทรศัพท์ให้ ก่อนจะหยิบปาท่องโก๋ขึ้นมาชูตรงหน้า ทำท่าอ้าปากกิน น่ารักหน้าฟัดแก้มเป็นที่สุด บอกเลยว่ามือส่ันพั่บ ๆ ไม่ได้บรรยายเกินจริง



"น่ารักมากครับ" เพชรชมออกเสียง ศศิเลยทำหน้าบู้บี้ใส่กล้อง เรียกเสียงหัวเราะจากเด็ก ๆ ในโต๊ะได้ทุกคน



"พอแล้วค่ะ" เธอบอกเพชร แล้วหยิบเอาโทรศัพท์คืนไปก่อนจะบิแป้งเป็นชิ้นเล็ก ๆ จุ่มนมข้นส่งเข้าปากตัวเอง แล้วก็มีลูกนกลูกกาอ้าปากรอ ศศิก็เผลอป้อนให้ตามความเคยชิน มานึกได้เอาตอนที่ป้อนไปคำที่สามแล้วจะชักมือกลับก็เสียฟอร์ม คำที่สี่เลยยัดชิ้นใหญ่ให้ด้วยความหมั่นไส้แทน



เลิกป้อนน้องได้ ก็กลับมากินข้าวหมูแดงหมูกรอบตรงหน้าต่อ เพชรเลื่อนโถน้ำซอสสีดำให้อย่างรู้ใจ ศศิก็ต้องตักมาราดลงไปบนหมูแดง ติดพริกมาสามสีชิ้นพอให้มีรถเผ็ด กินข้าวเสร็จก็ต่อด้วยขนมจีบกับซาลาเปาอีกหน่อย อิ่มแปล้ จนท้องน้อย ๆ ป่องขึ้นมา



"ดูซิพี่อ้วนเลย" ศศิหันไปคุยกับเพชรอย่างลืมตัว



"ตัวกลม ๆ น่ารักดี กอดนู๊มมม" เพชรตอบไปตามความจริง เขาว่าช่วงนี้พี่ศิผอมเกินไป

ศศิพึ่งนึกขึ้นได้ ก็ทำหน้าง้ำขึ้นมาอีก งื้อ...อยู่กับเพชรแล้วเขาชอบลืมตัวทุกที



คนน้องพอจะเดาออกว่าคนพี่คิดอะไรก็ไม่ได้เย้าแหย่อะไรต่อ หันไปเรียกพนักงานมาคิดเงิน จะได้แยกย้ายกันกลับกรุงเทพฯ แล้วเขาก็ตีเนียนจูงพี่ศิไปขึ้นรถเลย ไม่ปล่อยให้พี่มีเวลาคิดว่าจะไปด้วยกันมั้ย สุดท้ายก็ได้นั่งรถมาด้วยกันถึงคอนโด





เพชรวนมาส่งพี่ก่อน ยกกระเป๋าลงให้แล้วก็บอกลา



"เพชรจะเอารถไปคืน คันนี้เช่ามาครับ" น้องบอกให้รู้ว่ากำลังจะทำอะไร



"รู้แล้ว น้องกิ๊บบอกแล้ว"



"อ่า...ครับ"



"งั้นผมไปแล้วนะพี่ศิ"



น้องรอให้พี่ที่ดูเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างพูดต่อ แต่พี่ก็ยังเงียบเพชรเลยตัดสินใจหันกลับไปขึ้นรถ แต่พอจังหวะที่เปิดประตู ศศิก็จับกรอบหน้าต่างเอาไว้ทำให้เพชรต้องหยุดมอง



"มา เอ่อ...นอนนี่มั้ย คืนนี้ แก้มบวม เผื่อดึกๆ จะเป็นไข้"



คราวนี้คนน้องปิดบังหน้าดีใจไม่มิดเลย พยักหน้ารัว ๆ



"พี่ศิทำมื้อเย็นรอนะ"



"ครับ เพชรจะรีบมา"



"ขับรถให้ปลอดภัย ไม่ต้องรีบ"



"ครับ" น้องพยักหน้าอีกรอบ มองตากันแล้วก็ไม่รู้สึกจะอยู่ห่างสักวินาทีเดียวเลย ศศิโตกว่าเลยหักใจ เดินกลับไปลากกระเป๋าขึ้นตึก ส่วนเพชรก็ดีใจจนต้องชกลม ต่อยพวงมาลัย แล้วก็รีบถลาออกไปทันที คืนคันนี้เสร็จ ก็วนไปเอารถสีฟ้าที่คอนโด แล้วก็ขับมากินฝีมือพี่ศิที่คอนโด ช่างเป็นแพลนชีวิตที่มีความสุขเสียจริง







หลังจากกลับมาที่คอนโดของศศิอีกรอบ เพชรเห็นว่ารูปคู่ที่เขาเคยอัดใส่กรอบมาให้พี่ศิหายไป เจ้าของห้องเห็นน้องยืนมองพื้นที่ว่างเปล่าอยู่นานก็ไปเปิดลิ้นชัก แล้วหยิบเจ้าสิ่งนั้นมายื่นให้



"ไปวางสิ" เธอบอกเรียบ ๆ แล้วเพชรก็เอามันวางไว้ที่เดิม



"ผมจะไม่ยอมให้มันหายไปไหนอีกเลย"



ชื่นชมความเหมาะสมของตัวเองกับพี่ศิแล้วก็อดจะยิ้มไม่ได้ หันกลับมาอีกทีพี่เขาก็ขนกับข้าวออกมาวางเต็มโต๊ะ แกงจืดผักกาดขาวง่าย ๆ หมูสับปั้นก้อนทอด แล้วก็ยำปลากระป๋อง มีข้าวสวยร้อน ๆ สองจานส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ชวนน้ำลายสอ ศศิถอดผ้ากันเปื้อนออกจากตัว เพชรก็รับมาเอาไปแขวนให้ในครัว ก่อนจะหยิบน้ำเย็นจากตู้เย็นและแก้วสองใบติดมาด้วย นั่งลงตรงข้ามพี่แล้วก็ทำหน้าตื่นเต้นกับข้าวจนศศินึกเอ็นดู ภาพแห่งความสุขที่หายไปจากเธอระยะหนึ่งมันกลับมาแล้ว ความทรงจำในวันนั้น กับข้าวที่ต้องเททิ้งเพราะไม่มีคนกินมันยังเจ็บอยู่ แต่ทว่าแผลเหล่านั้นคงจะหายไปได้ เพราะคนรักษากลับมาแล้ว ถ้าวิชชี่รู้ศศิต้องโดนดุแน่ ๆ เลย



"ทานแล้วนะคร้าบ" เพชรขออนุญาต ศศิพยักหน้า แล้วทั้งคู่ก็ลงมือจัดการอาหารเงียบ ๆ กินเสร็จเพชรก็เก็บล้างเพื่อไม่ให้มือพี่ต้องไปสู้กับน้ำนาล้างจาน ศศินั่งเล่นรอที่โซฟา เพชรเดินตามออกมาแล้วก็นั่งลงข้าง ๆ ดูในจอมือถือว่าพี่เล่นอะไรอยู่ ศศิแค่เปิดไอจีดูไปเรื่อย ๆ เพชรจึงได้ทีอ้อน โดยรวบกอดเอวคอดกิ่วไว้



พี่ไม่ขัดขืน ก็ยิ้มหวาน



"ขอบคุณสำหรับมื้อเย็นที่อร่อยที่สุดในโลกครับ"



"..."



"ขอบคุณที่ให้โอกาสเพชรนะครับ"



"..."



เพชรยังกอดอยู่ ในความเงียบได้ยินเพียงเสียงหัวใจของพวกเขาสองคนที่เต้นดังสอดประสานกันไป และมันคงจะดีถ้าได้เป็นแบบนี้ไปเรื่อย



"พี่ให้ครั้งเดียวนะ ถ้าครั้งนี้ไม่รักษาให้ดี พี่คงไม่กลับมาแล้ว"



"จะรักษาไว้ให้ดีที่สุดเลยครับ" เพชรเอ่ยคำมั่น "ผมจะทำให้พี่เห็น พี่รอดูนะ"



"ขอบคุณเพชรเหมือนกัน ที่ไม่ปล่อยมือพี่ไปจริง ๆ "



"จับไว้เลย น่ารักแบบนี้ต้องจับไว้ให้แน่นที่สุดเลย" น้องอ้อนแล้วก็จับมือเรียวสวยนั่นมาจุ๊บ ๆ เสียให้หายคิดถึง ศศิจั๊กจี้ไปหมด จนต้องดิ้นหลบแล้วก็เสียหลักพากันเอนล้มลงไปบนโซฟานุ่มตัวยาว



เพชรคร่อมแขนอยู่บนคนพี่ ศศิเองก็ใกล้เคียงกับคำว่าโอบรอบคอ เมื่อตาสบตาคนที่เคยได้มากกว่าจุ๊บ ๆ ก็ก้มลงมาจูบพี่อย่างย่ามใจ



ศศิหลับตาพริ้ม รอรับสัมผัสที่คิดถึง เธอไม่ห้ามเพชร เพราะกำลังมีความสุขมากเหลือเกินเช่นกัน ริมฝีปากสองคนเชื่อมต่อกันเป็นหนึ่ง แลกเปลี่ยนหลากหลายเรื่องราวผ่านเนื้อนุ่มที่สอดประสานกันเป็นท่วงทำนองแห่งความรัก เพชรจูบอย่างออดอ้อน พอแยกออกจากกันได้ก็ยังมองคนพี่ด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความรัก ศศิยิ้ม ยกยิ้มแบบทั้งยั่วทั้งร้ายในสายตาเพชร



"เพชรพร้อมหรือยัง"



ลมหายใจหนัก ๆ ดังขึ้นทันที เพชรไม่คิดว่าจะโดนคนขี้งอนจู่โจมแบบนี้ พาลนึกไปเสียว่าพี่เขาลองใจรึเปล่า



"แฟนครับ..." นายพชรจุ๊บจมูกโด่ง ๆ นั่นไปหนึ่งทีแล้วลุกขึ้นนั่ง พร้อมทั้งดึงคนพี่ให้ลุกขึ้นมาด้วยกัน หน้าแสนงอนก็เคลื่อนตัวมาทาบทับพี่เขาแล้ว



"เพชรรับได้ก็คือเพชรรับได้ เพชรกลับมาหาพี่เพราะความรัก ไม่ได้จะหวังฟันพี่นะ"

ศศิยิ้มแล้วยกมือขึ้นลูบใบหน้าคนกำลังจริงจังนั้นแผ่วเบา เห็นสีหน้าน้องแล้วก็โกรธไม่ลง



"ขอบคุณนะคะ ที่รักพี่ขนาดนี้"



เพชรพยักหน้า



"งั้นพี่ไม่กวนเราแล้ว ไปอาบน้ำดีกว่าจะได้รีบเข้านอนกัน"



"งอนเพชรรึเปล่า"



"เสียเซลฟ์นิดหน่อยค่ะ แต่ก็...ไว้บรรยากาศดีกว่านี้แล้วเราค่อยลองกันใหม่ก็ได้"



"ครับ"



พี่เข้าห้องนอนไปแล้ว เพชรก็รู้สึกปวดตุ๊บ ๆ เหมือนเขาแทงขึ้นมา หรือพี่เขาจะโกรธเราวะ แต่เอาเถอะอยู่ใกล้กันขนาดนี้เดี๋ยวฟีลมันก็มาอีกจนได้นั่นแหละ ขนาดตอนนี้เพชรน้อยยังตึง ๆ เลย รอพี่ศิอาบน้ำเสร็จก่อนแล้วกัน เขาค่อยเข้าไปจัดการ





TBC



เย่...อย่าว่าเพชรกากเลย ก่อนหน้านี้น้องหาวิธีง้อ แต่น้องยังไม่ได้หาวิธีบุกเข้าด้านหลัง ร่วมด้วยช่วยกันลุ้น รับรองว่าจะมีคนโผล่มาช่วยอีกแน่นอน (นี่พระเอกหรือตัวประกอบอ่ะถามจีงงงง)



 กด 6969 ให้กำลังใจนางด้วยค่ะ

#อยากเรียกเธอว่าบี๋

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <3 อยากเรียกเธอว่าบี๋ [femboy] -- Chap 13/16aug
« ตอบ #109 เมื่อ: 17-08-2019 17:08:40 »





ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
พี่ศิน่ารักม๊ากกกก
พี่ศิยังไม่ต้องให้ตอนนี้หรอก  :z2:

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หวานสุดดดดดดด เราจะรอดูตอนเข้าหอนะ คิคุคิคุ :laugh:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
พี่ศิ ทำไมไม่ตึงกว่านี้อีกกก ชั้นยังไม่ให้อภัยนังเด็กนี่ !

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
มากด 6969 ให้กำลังใจน้องเพชร นะคะ 555

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
 :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ ป้าหมีโคตรขี้เกียจ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
ส่งลิงค์ How to ปราบงู ให้เพชร

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
นิสัยพี่ศิคือแม่พระต่อสัตว์โลกมาก นางฟ้าแท้

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
Chapter 15





นายพชรเป็นผู้ชายที่เกิดมาแล้วยี่สิบปี แน่นอนว่าเป็นแฟนคลับตัวยงขอดาราเอวีไม่น้อยกว่าร้อยคน แต่ที่เขาเคยดูมันชายหญิงล้วนหนะสิ เจอพี่เขาบุกจู่โจมเมื่อคืน เลยต้องมานั่งกุมขมับอยู่ในห้องสมุดเลย หามุมที่เงียบที่หลืบ แล้วก็ยกหูฟังขึ้นมาใส่ เข้าเว็บที่รู้กันแล้วเสิร์ซอย่างไว ไม่คิดไม่ฝันว่าวันนึงต้องมานั่งดูผู้ชายสองคนนัวเนียกัน



"แล้วมันเหมือนพี่ศิมั้ยเนี่ย" เพชรบ่นพึมพำ คือพึ่งเดบิวต์เข้าวงการเลยยังไม่รู้ว่าต้องเสิร์ซว่าอะไรกันแน่ เอาตามความคุ้นเคยคือหมวดญ่ีปุ่น เลยเจอแต่น้องตัวเล็ก ๆ ทีส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสารเวลาเจอชายฉกรรจ์จัดการง้างขาอยู่บนเตียง ดูทรงแล้วไม่ใช่ทาง งั้นขยับเป็นหมวดฝรั่ง อันนี้ก็แมน ๆ หน่อยไม่ครวญครางมาก แต่ส่งเสียงพอให้วูบวาบในช่องท้อง



ศึกษาเพลินยิ่งกว่ากำลังทำธีสิธจบ



ป้าบ!



ความเจ็บและความตกใจเล่นเอาคว่ำโทรศัพท์แทบไม่ทัน ใครสักคนตบไหล่เขาเต็มแรง



"เชี่ยไทม์!! " เพชรด่าทันทีที่เห็นใบหน้าแสนบันเทิงของเพื่อนนั่งลงข้าง ๆ



"คนเลวควรเป็นมึงมั้ยอิน้องเพชร ในสถานศึกษาก็ไม่เว้น แล้วห้องสมุดเขามาหาความรู้กัน มึงมานั่งดูหนังโป๊"



"กูก็กำลังหาความรู้อยู่นี่ไง" เพชรว่า



"ต้องเรียกบรรณารักษ์มั้ยไอ้คนปากแข็ง"



เพชรเก็บหูฟัง กดปิดจอ แต่ไทม์ตาไวกว่า



"มึง!! ไอ้เพชร ไอ้เลว มึงศึกษาไปใช้กับพี่ศิหรอ พี่เขาพึ่งหนีคนหื่นกามมาได้ ต้องมาเจอมึงที่หื่นกว่าหรือไง!! "



"ไทม์ มึงอินน์อะไรขนาดนั้นอะ นั่นแฟนกู"



"พี่เค้าคบมึงแล้วหรอ"



"เมื่อคืนเรียกแฟนแล้วเขาไม่ตาเขียวใส่ ก็ถือว่าเป็นแฟนแล้วปะวะ"



"ห้อยหลวงพ่อเนียนหรือมึงอะ มั่วเก่งชิบหาย"



เพชรยักคิ้ว แล้วก็กลับมาทำหน้าจริงจังอีกรอบ



"มึง...เมื่อคืนพี่ศิเปิดเกมรุก"



"เช่ีย ไม่ธรรมดา"



"แต่กูเนี่ยเข้าขั้นกระจอก"



"ไม่ต้องสรุปเลย เรื่องนี้กูเดาออก มึงเลยต้องมานั่งดูหนังเมื่อกี้สินะ"



"เออ ดูมาหลายชั่วโมงแล้วเนี่ยะ ยังไม่ค่อยเก็ทเลยว่ามันต้องยังไง"



ไทม์ตบบ่าเพื่อน เรื่องนี้พอจะเข้าใจได้ก็เพชรมันชอบผู้หญิงมาตลอด ศึกษา Sex แบบ Straight

มาอย่างช่ำชอง แต่ดันไปตกหลุมรักพี่สาวที่ยังมีเบบี้แครอทอยู่ก็คงไม่มั่นใจในวิชาพอสมควร



"กูว่า ของแบบนี้ต้องสัมภาษณ์หวะ อาศัยคนเคยมีประสบการณ์จริง"



เพชรเกาะแขนเกาะไหล่ไทม์อย่างน่าสงสาร เหมือนคนลอยทะเล แล้วเจอขอนไม้ลอยมาหา



"กูโทรเรียกแก๊งนางฟ้าก่อน"



"เชี่ย โหด" เพชรนึกถึงเพื่อนแต่งหญิงในคณะรุ่นเดียวกัน ช่วงปีหนึ่งก็สนิทแหละ แต่พอแยกภาคตอนปีสองแล้วมันเลยห่าง ๆ กันไป "เอามาทีละคนนะมึง มาครบแก๊งคือหูจะแตก"



ไทม์หัวเราะ นึกถึงเสียงที่เวลาสามสาว? แห่งภาค PR แย่งกันพูดแล้วก็พยักหน้า



ลองโทรไปเกริ่น ๆ ผู้ให้ข้อมูลรายแรกที่จะชักชวนมาทำ Reserch แบบ indepth interview ด้วยกัน ก็ได้ยินเสียงร่าเริงทะลุลำโพงมาทันที ไทม์บอกไปตรง ๆ ว่าเพชรคบกับแฟนที่เป็นพี่



สาวมีเบบี้แครอท 'มาดามเจนนี่' ก็ตอบตกลงวิ่งข้ามตึกมาหาที่หอสมุดทันที



ไม่นานเกินรอ คนสวยผมยาว หน้าตาเหมือนดาราเกาหลีสักคนเพราะมันสั่งทำมาก็ปรากฎตัวมาอย่างเฉิดฉาย



"อันยอง หนุ่ม ๆ "



"สวัสดีครับเจษ"



"อิไทม์ อิผี" มาดามเจนนี่ ที่ชื่อตามบัตรประชาชนคือเจษฎาตรงเข้าบีบคอเพื่อนทันที



"เบาหน่อย ให้เกียรติกระโปรงสอบผ่าหน้าของแกด้วย" ไทม์จับมือเพื่อนออก คนสวยผมยาวที่กัดเสียจนเป็นสีบลอนซ์ทองเสยผมหน้า ยกมือขึ้นพัด ๆ ให้คลายความหัวร้อน



"นี่ฉันต้องเดินฝ่าแดดร้อน มาให้แกแกล้งหรออิไทม์"



"มาดามเจนนี่คนสวยจ๋า อย่าไปสนใจคนเลวอย่างมันเลยมาคุยกับเพชรดีกว่า"



"เนี่ย แบบนี่ถึงจะเรียกว่าผัวที่ดี"



ไทม์โคลงศีรษะ สองมาตรฐานชิปเป๋ง แต่เอาเถอะตามไปนั่งฟังด้วยอย่างสงบก็ได้ บางทีเขาก็อยากเรียนรู้เรื่องอนาโตมีใหม่ ๆ เหมือนกัน



"ยังไงว่ามาค่ะสามี" เจนนี่เริ่มเรื่อง



"เข้าท่อนพีคเลยนะ" เพชรว่า บีบมือตัวเองเพื่อตั้งสติ และทำตัวให้เป็นการเป็นงานมากที่สุด อย่างกับสัมภาษณ์เอาผลไปใส่รายงานรีเสิร์ซ



"เออ ถามมาเลยแกร๊ เพื่อนกันไม่ต้องเขิน"



"เวลามีอะไรกันทางข้างหลังอะ มันเหมือนตอนทำข้างหน้ามั้ย"



"เพชร...ข้างหน้าฉันเป็นงู เกิดมาก็ไม่เคยมีจิ๊มิ๊ ฉันตอบไม่ได้"



"เออหวะ" เพชรเสยผมตัวเอง



เจนนี่หัวเราะคิกคัก แล้วขยับตัวเข้าไปใกล้กว่าเดิมเพื่อกระซิบไม่ให้เสียงดังนัก ก็มันในห้องสมุดนี่นา



"แต่...ผู้ที่เคยนอนด้วยบอกว่า มันก็ทำคล้าย ๆ กันแต่กับตรงข้างหลังแกต้องใจเย็น ๆ แบบมันไม่ลื่นปรื๊ดเหมือนของชะนีอะ"



เพชรพยักหน้าข้อนี้เขารู้อยู่บ้าง พอจะถามต่อเพชรก็ขยับเข้าไปใกล้อีกแล้วถามเบาลง



"แล้วเวลาโดนทำข้างหลังแกฟินมั้ยอะ อ่าน ๆ มาเขาบอกว่าเจ็บกัน"



"ถ้าผู้ทำดี และทำเก่งก็ฟินนะ"



"ฟินแบบได้เองเลยหรอ หรือต้องรูดข้างหน้าให้ด้วย"



"ก็มีทั้งสองแบบ บางคนก็ฟินเลยไม่ต้องจับ บางคนถ้าเค้าแตกไปแล้ว เรายังไม่ฟิน เค้าก็มาอมงูให้อะ ผู้แบบนี้คือน่ารัก"



ไทม์ฟังแล้วแก้มร้อนพิลึก แต่เจนนี่เล่าได้หน้าตาเฉยมากเหมือนพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ



"อันนี้แชร์ส่วนตัวคือ...ช่วงเล้าโลมก็คือดีย์สุด แบบฉันชอบให้กอดให้จูบ เล่นนมก่อนนาน ๆ "

เพชรกับไทม์พยักหน้า ร้อนไปหมดแล้วแม่ ส่วนเจนนี่ก็หัวเราะคิกคักให้กับความหูแดงของหนุ่ม ๆ



"แกไม่เห็นมีนมเลยเจนนี่" ไทม์ชี้ สาวน้อย? ต้องรีบยกสองมือขึ้นมากอดหน้าอกตัวเองไว้



"หยาบคาย"



"เอ้า ก็พูดเรื่องจริง ยังไม่ไปเติมมาใช่มั้ย"



"เออสิ เค้าว่าเจ็บมาก ยังทำใจไม่ได้ แค่ตอนทำดั้งก็จะสิ้นใจแล้ว" เจนนี่ทำหน้าสยองแต่ก็ยังดูน่ารักอยู่ดี เพราะเครื่องหน้าทุนเดิมนั่นกระจุ๋มกระจิ๋มเหมือนตุ๊กตาอยู่แล้ว



"เอาแล้วเค้าเล่นนมแกยังไงอะ" ไทม์ก็กล้าถามเนาะ เจนนี่ยักไหล่ดุ๊กดิ๊ก



"ฉันมีเนินเล็ก ๆ โว้ย นุ่มนิ่มน่ารัก บางคนเค้าก็ชอบแบน ๆ อะ ไม่ต้องตู้มก็เร้าใจได้เข้าใจป่ะ"



สองหนุ่มพยักหน้า เผลอคิดภาพตามก็ต้องส่ายหน้าพรืด เจนนี่ชอบท่าทางไร้เดียงสาของเพื่อนเสียจริง มันไม่ได้คุกคามหรือทำท่าทางลามกใส่เธอเลย ตาใสกันทั้งคู่



"เอาท่าเด็ดมั้ยเพชร" สาวน้อยยิ้มเจ้าเล่ห์



"แนะนำมาก็ได้"



"หมา...คือลึกสุดอะไรสุด ไม่จุกด้วย เพราะถ้าเป็นชะนีบางคนท่านี้มันจะไม่ค่อยสู้อะ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเค้าชอบมาเอากะเทยกัน"



เพชรอ้าปากค้าง ส่วนไทม์ต้องยกมือขึ้นปิดหู เขินอายเป็นสาวน้อยไปเลย



"ส่วนท่าอื่นก็รสนิยมส่วนตัวแล้วนะ"



"โอเค"



"แต่ที่ขาดไม่ได้คือเจลหล่อลื่นที่ถูกสุขลักษณะ และถุงยางอนามัย เพราะว่าข้างหลังหนะมันเป็นแผลง่าย อีกอย่างอย่ามาปล่อยทิ้งเรี่ยราดข้างในนะ มันหยึย ๆ "



เพชรพยักหน้า แล้วก็ขมวดคิ้ว "แล้วเจล มันต้องแบบไหน"



เจนนี่ถอนหายใจแรงใส่เหมือนเหนื่อยหน่ายเต็มประดา แต่ก็เปิดกระเป๋าสะพายใบจิ๋วแล้วเอามายื่นให้ดู



"นี่...อะ ฉันเอ็นดู ฉันให้ขวดนี้พึ่งใช้ไปครั้งเดียว เอาไปลองดูก่อน"



"จะดีหรอ"



"ดูหน้าก็รู้ว่ามึงไม่มีทางกล้าไปซื้อเองหรอก เดี๋ยวแกจะดูแย่ในสายตาแฟน ฉันเป็นห่วง เอาไปใช้เลย ถ้าไม่กล้าซื้อก็ฝากฉันซื้อได้"



"ขอบคุณมากนะเจนนี่"



"ส่วนถุงยางแกต้องไปซื้อเองนะ ไม่รู้ไซส์อะ"



"อันนั้นกล้าซื้อ" เพชรบอกอุบอิบ



"ดีย์ มีคำถามเพิ่มเติมมั้ย"



"ไม่มีแล้ว เดี๋ยวจะลองเอาไปปรับใช้ดู"



เจนนี่มองหน้าเพชรแล้วก็อมยิ้ม "ภูมิใจหวะ ที่เห็นเพื่อนใส่ใจแฟนแบบนี้"



"ก็เราไม่เคย" เพชรบอกแบบจ๋อง ๆ มันยิ่งดูน่ารักในสายตาที่ปรึกษา



"ปล่อยไปตามฟีล เป็นแฟนกันยิ่งฟินง่ายอะ"



"อือ เราจะพยายาม"



เจนนี่ตบไหล่ให้กำลังใจ แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้



"แกไปไหนต่อ" ไทม์ถาม



"ทำหน้าที่สยาม"



"เออ เดี๋ยวไปส่ง เอารถมา จะได้ไม่ต้องตากแดด"



เจนนี่ตาโต



"ชมกูสิว่าเป็นผัวที่ดี เหมือนที่ชมไอ้เพชร"



"ไม่!! ฟีลมันไม่ได้" เจนนี่ว่าแล้วหัวเราะคิกคัก จนไทม์ต้องยื่นมือไปยีหัว แล้วหนีบเข้ามาใต้จั๊กแร้แล้วลากเจ้าตัวเล็กจ้อยเหมือนขาดสารอาหารออกไป เพชรมองตามหลังทั้งคู่แล้วหรี่ตา เอ๊ะ ๆ ...หรือจะเข้าสมาคมเบบี้แครอทไปด้วยกันน๊า









ตั้งแต่กลับมาคบกันรอบสอง เพชรย้ายมาอยู่กับศศิแบบ 90% เรียกได้ว่านอนที่คอนโดคนสวยทุกวัน ยกเว้นวันที่มีสอบเช้า ศศิจะย้ายไปนอนกับเพชรที่คอนโดแถวสามย่านแทน



วันนี้ก็เช่นกันเพชรออกไปสอบแล้ว ศศิอยู่ว่าง ๆ เลยจัดการทำความสะอาดห้องให้แฟนหนุ่ม ปกติห้องเพชรจะมีแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดให้อาทิตย์ละครั้งอยู่แล้ว จึงไม่ได้เลอะเทอะอะไรมากมาย ศศิแค่เก็บพวกขยะไปทิ้งเท่านั้น และพอเดินไปถึงโต๊ะทำงานเพชรก็ดันสะดุดขาเก้าอี้ล้อเลื่อน จนมือไปปัดเอากระเป๋าคาดอกใบเล็กของน้องร่วงลงมาจากโต๊ะ



ของบางอย่างกลิ้งขลุก ๆ ออกมา



'เจลหล่อลื่นรสสตอร์เบอร์รี่'



ศศิยกมันส่องกับหลอดไฟ แล้วก็ได้เห็นว่าถูกเปิดใช้ จนพร่องไปแล้วเกือบครึ่ง ใบหน้าหวานรู้สึกชา ๆ แล้วรีบเก็บของเข้าที่ เลยได้ไปเห็นอีกว่ามีกล่องถุงยางแกะไว้แล้วเช่นกัน



"เพชร..." เสียงสั่นหลุดออกจากปากคนสวย วางกระเป๋าลงที่เดิม แล้วถอยไปนั่งตั้งหลักบนเตียง เธอเคยเสนอให้น้องทำไปเมื่อวันที่กลับมาจากหัวหินด้วยกัน แต่โดนน้องปฏิเสธ หลังจากนั้นศศิก็ไม่กล้าเริ่มก่อนอีก มีเพียงจูบ ๆ กอด ๆ แล้วก็เข้านอนเท่านั้น



หัวใจด้วงน้อยสั่นไหว แล้วก็ต้องตบแก้มตัวเองเพื่อตั้งสติ เพชรบอกว่ารักเธอทุกวัน แถมการกระทำก็แสดงออกอย่างชัดเจน ไม่น่าจะนอกใจกันได้ ศศิบอกตัวเองให้เชื่อใจเพชร แต่อย่างน้อยเธอต้องหาคนช่วยคิด





วิชชี่ถอนหายใจแรงใส่ทันทีเมื่อศศิเดินหน้าซึมเข้ามาหาในร้านขนมแถวสยามสแควร์ เธอมาหาหมอเพื่อทำทรีทเม้นต์หน้า จึงนัดศศิมาเจอกันที่นี่



"คบกันตั้งนาน ยังไม่เยกันอีกหรอ"



"วิชชี่! พูดจาเพราะ ๆ หน่อย"



"เยค่ะ"



"ไม่ใช่สิ" ศศิตีแขนเพื่อนที่ตัวใหญ่กว่า อีกฝ่ายหัวเราะเอิ้กอ้ากไม่สนใจสาวหน้าบาง แต่ก็ตั้งใจฟังเพื่อนเล่าสถานการณ์เป็นอย่างดี



"โอ้ย คิดมากค่ะอีกะเทย น้องมันคงเตรียมมาใช้กับมึงนั่นแหละ"



"เราก็คิดแบบนั้น" ศศิปากยื่น



"แล้วเครียดทำไมล่ะ"



"ก็น้องไม่ทำสักทีอ้ะ" ศศิเผลอขึ้นเสียง



"มึงก็เริ่มก่อนไปเลย น้องมันคงกลัว ๆ เปล่า"



"เราน่ากลัวหรอ"



"อย่าลืมนะเว้ย ว่าน้องมันไม่เคยข้างหลังหนะ"



"ดีจะตาย ฟิตเฟิร์มเบิร์นมันสุด"



"หือ...กุลสตรีเมื่อกี้หายไปไหนแล้วย่ะ" คราวนี้วิชชี่ตีแขนศศิบ้างที่ก๋ากั่นเหลือเกิน



"ไปทำหน้ากับกูมะ จะได้สวย ๆ ผ่อง ๆ แล้วก็ไปเลือกกางเกงในเซ็กซี่ ๆ กัน ยั่ว ๆ ให้ไอ้น้องมันทนไม่ไหวกัน"



ศศิพยักหน้า อื้อ...ถ้าเพชรไม่เริ่มสักที พี่ศิเปิดเกมก่อนก็ได้



ทั้งคู่เข้าไปในคลินิคเสริมความงาม เลือกผลักวิตามินเข้าหน้าที่ใช้เวลาไม่นานแล้วก็ออกไปเลือกซื้อชุดชั้นในกันตามแผน



TBC

วันอาทิตย์เหงาๆ อะเนาะ ลงนิยายดีกว่าจะได้มีเพื่อนคุย

ตอนนี้ขอเสียงต้อนรับน้องใหม่ 'ยัยเจนนี่' ลูกแม่ก๋ากั่นเป็นที่สุด ตอนหน้าๆ ได้ลุ้นแน่ๆ ว่าสิ่งที่เจนนี่บอก เพชรจะเอาไปมช้ยังไง (ก็ยังอุตส่ายืดได้อีกตอนอิอิ )

#อยากเรียกเธอว่าบี๋

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
พี่ศิก๋ากั่นที่สุดจะเริ่มก่อนเลยหรา แต่ถ้าอิเพชรเริ่มอาจจะนานไปจัดไปค่ะ แอบลุ้นไทม์เจนนี่เนอะ เข้าแก๊งเบบี้แครอทกับเพชร55555

ออฟไลน์ ป้าหมีโคตรขี้เกียจ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
ชอบการนั่งฟังตาแป๋วของไทม์กับเพชร แต่เพชรลุีกกก หนูดูคลิปปราบงูในห้องสมุดไม่ได้นะะะะ :angry2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด