รังนุ่มนิ่มของคุณตัวเล็ก [Omegaverse] - ตอนที่ 16 - [ตอนจบ] - 6/03/2020
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รังนุ่มนิ่มของคุณตัวเล็ก [Omegaverse] - ตอนที่ 16 - [ตอนจบ] - 6/03/2020  (อ่าน 58460 ครั้ง)

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เหนื่อยเลยน้องงงงงงง

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
จะท้องแล้ว ตอนท้องจะสร้างรังแน่เลย

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ละมุนมากคู่นี้  :-[

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ช่างดีต่อใจเสียเหลือเกิน
กับความอ่อนโยนี้

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ CLShunny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อ่านโอเมก้ามาหลายเรื่องแล้ว แต่ชอบการสร้างสรรค์โอเมก้าของไรท์คนนี้มากๆ ดูเปิดโลกและอธิบายกลไกต่างๆได้ชัดเจนมาก ชอบการลำดับเหตุการณ์ การเรียบเรียงด้วย รอนะคะรอออออ :mew2:

ออฟไลน์ TheSpaceOfM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฮานร้ายมาก ร้ายที่สุด แทบจะทุกอย่างคือความตั้งใจของฮานล้วนๆ  :ling1: ฮีท รัท knot วนไป วนไป แล้วฮานตอนรัทก็คือกลายเป็นอีกคนไปเลย แต่ตัวเล็กก็น่ารักมาก เข้าใจ ยอมรับทุกอย่าง แบบนี้จะไม่ให้ฮานหลงได้ยังไง คิดว่าตัวเล็กได้สร้างรังเร็วๆนี้แน่นอนเลยค่ะ ฮือออ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณสำหรับผลงานที่ดีค่ะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กรี๊ดดดดด เป็นการบรรยายKnotting ที่อ่านแล้วเขินอายมากกกก  :-[
ฮานร้อนแรงมากกกก คุณตัวเล็กก็นุ่มนิ่มสุด ป้าๆเตรียมผ้าอ้อมรับเบบี๋แล้ววว o13

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่แล้วคิดว่าฮานอาจจะยังไม่ใช่
มาตอนนี้ แท้แน่นอนมาก

รอตอนสร้างังเลยจ้าาาาาา


ออฟไลน์ Nocto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คือมันดีมาก ชอบความไม่ใช่เหตุสุวิสัยหรอกนะของทั้งสองคน มันคือการสารภาพรักกันไปมา~   :-[ :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Marymo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-2
    • Fanpage: ปิงปองโต้คลื่น



Above the Clouds






ปวดหัว


ผมพยายามฝืนตัวเองให้ลืมตาขึ้นแต่จนแล้วจนรอด ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน อาการปวดหับตุบๆ ที่ลามมาจนถึงกระบอกตานี่ก็ไม่ยอมหายไปสักที


ปวด ปวดมากๆ จนรู้สึกเหมือนสมองข้างในจะระเบิดออกมาเลย


ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกพ่นออกมาทางปากเพื่อระบายอาการอึดอัดตัวที่แสนน่ารำคาญ ไออุ่นร้อนที่เจือออกมาจนสัมผัสได้ทำให้ผมเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับอะไร


นี่สินะที่เขาเรียกกันว่าผลข้างเคียงจากอาการฮีท


สมัยก่อนก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาจากหนังสือเรียนอยู่บ้างหรอกนะ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ยักจะเคยเห็นใครเขาเป็นกัน ทั้งที่คนในหมู่บ้านของผมก็ฮีทกันทุกเดือน หนำซ้ำบางบ้านยังมีลูกเป็นโขยงก็ไม่เห็นจะมีโอเมก้าในหมู่บ้านคนไหนเผชิญกับปัญหานี้เลยสักคน แล้วทำไมผมถึงแจ็กพอตโดนอาการนี้อยู่คนเดียวล่ะเนี่ย พระเจ้าไม่ยุติธรรมอา


เฮ้อ แย่จริง จะไปถามพ่อกับแม่ที่เป็นเบต้าก็ไม่ได้ พี่ชายผมก็ดันเป็นพวกประหลาดเกินไปจนไม่อยากคุยด้วย ถ้าจะให้ถามใครสักคนก็คงจะเป็น...กูเกิ้ลไง ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงคิดไม่ออกกันนะ


ในขณะที่ผมกำลังลิงโลดกับความฉลาดของตัวเองอยู่นั้น จู่ๆ ก็พลันมีสัมผัสเย็นนุ่มของอะไรบางอย่างแตะลงบนหน้าผากจนเผลอย่นคอหนีโดยอัตโนมัติ ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยปากถามอะไรออกไป เจ้าตัวการของความเย็นนั่นก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน


“อย่าหนีสิครับ เดี๋ยวไข้ก็ไม่ลดหรอก”


ฮานเหรอ แปลกจัง ผมนึกว่าวันนี้เขาต้องเข้าเวรที่โรงพยาบาลเสียอีก


“ไม่ต้องทำหน้าแปลกใจเลยครับ เรื่องงานผมน่ะ ไม่มีปัญหาหรอก”


เอ๊ะ สีหน้าของผมออกชัดไปเหรอเนี่ย ไม่รู้ตัวเลย


“เลิกทำหน้าประหลาดแล้วขยับขึ้นมาหนุนหมอนนอนดีๆ ได้แล้วครับ”


“ดุ” ผมเอ็ดเขาด้วยเสียงที่แหบแห้งอย่างน่าสังเวช แต่ถึงอย่างนั้นใจมันก็ยังสู้ไม่ถอย “ดุเป็นตาแก่เลย”


แทนที่อีกฝ่ายจะหงุดหงิดแล้วบ่นผมกลับมาตามปกติ เขากลับเปล่งเสียงหัวเราะในคออย่างมีความสุขออกมาแทน


เป็นอะไรน่ะ ไข้ขึ้นเหมือนกันเหรอ


คิดอยู่ในใจ แต่พูดออกไปไม่ได้หรอกนะ ขืนพูดตามใจคิด คราวนี้ผมคงโดนทิ้งให้แห้งตายอยู่คนเดียวในคอนโดเข้าจริงๆ ฮานยิ่งเป็นพวกพูดจริงทำจริงอยู่ด้วย ถ้าเผลอล้อเล่นไม่ดูตาม้าตาเรือเดี๋ยวก็ได้ตกที่นั่งลำบากกันพอดี เพราะฉะนั้น เงียบแล้วทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมไปดีกว่า


ผมยกหัวตัวเองกลับไปวางบนหมอนนุ่นทั้งที่ยังไม่ลืมตา อาการปวดหัวของผมตอนนี้ก็...เอ๊ะ


แล้วเปลือกตาสองข้างของผมก็เปิดขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับมือสองข้างที่ยกขึ้นมาแตะหน้าผากที แตะตามซอกคอ ซอกแขนที


เอ๊ะ


ผมผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงพลางไล้มือไปตามตัวของตัวเองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ


เอ๋! ทำไมตัวไม่ร้อนแล้วล่ะ!


ในขณะที่ผมกำลังตกอกตกใจกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของร่างกายตัวเอง คนที่ยืนดูอยู่ข้างเตียงมาสักพักใหญ่ๆ ก็พลันหลุดขำออกมาเสียงดัง


“นี่! ไม่ตลกนะฮาน จู่ๆ ไข้มันก็...”


“ถึงได้บอกไงครับว่าอย่าแอบหลับในคาบสุขศึกษา”


ฮะ?


คงเพราะทนกับสีหน้าอยากรู้อยากเห็นของผมไม่ไหว ในที่สุดฮานก็ยอมสละเวลาหัวเราะของตัวเองมาอธิบายผมด้วยสีหน้าที่มีความสุขเสียจนน่าหมั่นไส้


ไม่ล่ะ ไม่เอาแค่น่าหมั่นไส้ หมั่นไส้เลยดีกว่า


ผมเอื้อมมือไปหยิกท้องของอีกฝ่ายเบาๆ พร้อมกับทำเสียงดุใส่


“หยุดหัวเราะได้แล้ว”


โชคดีที่เขาฟังผม ไม่สิ จะเรียกว่าโชคดีก็ไม่ได้เพราะยังไงซะฮานก็ฟังผมมาตลอดอยู่แล้ว เอาเป็นว่า ในที่สุดเขาก็หยุดขบขันกับความเด๋อด๋าของผมสักที นั่นแหละดีที่สุดแล้ว


แต่ถึงจะหยุดหัวเราะ แต่สีหน้ายิ้มแป้นแล้นผิดปกตินั่นก็ดูน่าหมั่นไส้อยู่ดีล่ะ


“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้” เขาทำท่าจะขำออกมาอีกครั้งแต่ก็ยั้งตัวเองเอาไว้ได้ทัน “ก็แค่แปลกใจที่เอลเป็นโอเมก้าแท้ๆ แต่กลับไม่เคยได้ยินเรื่องอาการข้างเคียงหลังผูกพันธะน่ะสิ”


ผมไหวไหล่เล็กน้อย “ก็เคยได้ยินอยู่นะ แต่ไม่...เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ฮานพูดว่าอะไรนะครับ”


เขาเลิกคิ้ว “อาการข้างเคียงหลังผูกพันธะไงครับ”


มือขวาของผมยกขึ้นไปแตะบริเวณต้นคอโดยอัตโนมัติ สิ่งที่ปลายนิ้วสัมผัสได้ไม่ใช่ผิวกายหรือโลหะของปลอกคออย่างที่คุ้นเคย พื้นผิวนุ่มหยุ่นนี้ ถ้าเดาไม่ผิดก็คงเป็น...


“เมื่อวานผมกัดคุณแรงไปหน่อยเพราะอาการรัท แต่ไม่ต้องห่วงนะ ผมทำแผลให้แล้วล่ะ อีกวันสองวันก็คงหายดี”


ฮีท รัท กัด งั้นเหรอ...


พอคิดถึงตรงนี้ ภาพพร่าเบลอในความทรงจำของเหตุการณ์ที่ไม่ปะติดปะต่อกันก็พลันแว็บกลับเข้ามาในหัว


‘ฮาน แรงอีก ได้โปรด’


เหมือนว่าตอนนั้นพูดอะไรแบบนั้นออกไปด้วย


‘ตัวเล็กของผม เอมานูเอลของฮาน’



จริงสิ ฮานเองก็พูดอะไรน่าอายแบบนั้นออกมาด้วยนี่นา


อ๊าก! ไม่ไหวแล้ว ผมอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปเสียเดี๋ยวนี้เลย ตอนนั้นทำอะไรลงไปบ้างก็ไม่รู้ แถมยังต้องมาผูกพันธะกับเพื่อนที่รู้จักกันมาตลอดสิบเจ็ดปีอีก โอย ผมอายจนไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายแล้วสิ


“นี่ๆ มาหน้าแดงตอนนี้ไม่ช้าไปหน่อยเหรอครับ” คนที่กำลังอยู่ในความคิดของผมเอ่ยทักขึ้นมาด้วยเสียงกึ่งเย้ากึ่งขำขัน “ตลอดสามวันที่ผ่านมานี่ไม่เห็นจะเขินเลย”


สามวันเลยเหรอเนี่ย นี่หมายความว่าผมกับฮานก็...


“น่าจะเพราะเป็นฮีทครั้งแรกในรอบหลายปี อาการก็เลยหนักสุดๆ กว่าผมจะได้สติกลับมาสมบูรณ์ก็ล่วงเข้ากลางคืนของวันที่สามแล้วเหมือนกัน”


เขาไหวไหล่ด้วยท่าทีสบายๆ เหมือนกับกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ


“เล่นเอาเหนื่อยสุดๆ เลยล่ะครับ”


“ไอ้เจ้าบ้าฮาน!”


ผมพุ่งตัวขึ้นจากเตียงแล้วกระชากอีกคนให้ล้มกลิ้งลงมาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีทำให้คนที่ยืนเก๊กอยู่ข้างเตียงเมื่อครู่ล้มแปะลงบนเตียงด้วยท่าทางอเนจอนาถ


ให้มันรู้ว่าอย่ามาแหย่สิงโต!


ผมกระชากคอเสียอีกคนขึ้นมาด้วยแขนทั้งสองข้างพลางทำหน้าตาที่คิดว่าน่ากลัวที่สุดใส่คนที่นอนหมดท่าอยู่เบื้องล่าง


“บอกมาให้หมดเลยนะฮาน วันนี้เป็นวันอะไร แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้ว...”


ใบหน้าของผมเริ่มร้อนขึ้นเล็กน้อย


“แล้ว...”


แล้ว...แล้วไอ้นั่นไง พูดออกไปสิเอล พูดออกไปว่าแล้ว...


“เรื่องน็อทน่ะเหรอ”


อ๊าก! อย่าพูดนะ ไม่เอาไม่ฟัง ไม่ฟังไม่อยากฟัง แต่...แต่จริงๆ ก็อยากรู้ แต่...อ๊าก!


“อือ เรื่องนั้นล่ะ”


พูดออกไปแล้ว พูดออกไปด้วยตัวเองด้วย เอมานูเอลนี่มันโคตรเก่งเลยเว้ย!


“อืม...จะให้เริ่มจากตรงไหนดีล่ะ” คนผิวเข้มกว่าทำสีหน้าครุ่นคิด


 จะเริ่มจากตรงไหนก็เริ่มๆ มาเถอะน่า


“งั้นเอาเรื่องที่ว่าเราน็อทกันไปกี่ครั้ง...”


“เรื่องนั้นน่ะข้ามไปก็ได้ครับ!”


เขาหัวเราะร่วน “หว้า นึกว่าอยากรู้ซะอีก”


น่าหมั่นไส้ น่าหมั่นไส้มากๆ เลย


“อืม...”


เขาทำท่าคิดต่อ โชคดีที่คราวนี้ดูเหมือนว่าเขาจะยอมจริงจังกับมันสักที


“ตอนนี้สิ่งที่คุณควรรู้ก็คงเป็นเรื่องที่ว่าพวกเราสองคนผูกพันธะกันแล้ว ในระยะแรกนี้ ร่างกายของคุณจะพยายามปรับตัวเพื่อให้รับกับร่างกายของผม อาการไม่สบายตัว ปวดหัว เป็นไข้นั้นเป็นเรื่องปกติ ทางแก้เดียวก็คือพยายามอยู่ใกล้ๆ ผมไว้ กลิ่นของผมจะช่วยให้ร่างกายของคุณสงบลง เพราะฉะนั้นช่วงนี้ผมเลยขอลางานเพื่อมาอยู่กับคุณจนกว่าจะพ้นช่วงแรกนี้ไปก่อน”


แล้วจู่ๆ เขาทำท่าทางเหมือนคิดอะไรบางอย่างออกมาได้


“อ๋อ อีกอย่าง พวกเราก็ควรจะไปลงทะเบียนกับทางรัฐให้เรียบร้อยจะได้มีเอกสารรับรองที่ถูกต้อง หลังจากนั้นเราก็ค่อยเดินทางไปพบกับพ่อแม่ของพวกเราเพื่อแจ้งข่าว พอทุกอย่างเรียบร้อย ผมจะได้กลับมาช่วยคุณสร้างรัง...”


“เดี๋ยวสิครับ มันจะไปไกลถึงสร้างรังได้ยังไงกัน คุณวางแผนไกลเกินไปละ...”


เอ๊ะ


ผมสบเข้ากับนัยน์ตาสีรัตติกาลที่จ้องตอบกลับมา


อย่าบอกนะว่า...


“น็อทกันไปตั้งขนาดนั้น เอาอะไรมาคิดว่าจะไม่ท้องล่ะครับ”


เห!


“ตะ แต่ผมเพิ่งเรียนจบแล้วก็ยังไม่ทันจะได้งาน...”


รอยยิ้มบางประดับลงบนใบหน้าของอีกฝ่ายตั้งแต่ผมยังไม่ทันจะพูดจบ


“ก็ดีแล้วนี่ครับ คุณจะได้อยู่บ้านทำงานเขียนต้นฉบับตามความฝันการเป็นนักเขียนอย่างเลโอนาร์ด เอียนเดที่คุณเคารพนับถือไงครับ เรื่องค่าใช้จ่ายก็ไม่ต้องกังวลไปนะครับ คุณกับลูกแค่สองคน ผมดูแลได้สบายมาก”


มันก็ถูกที่ว่าผมเองก็อยากมีเวลาเขียนต้นฉบับอยู่บ้าน แต่ว่า...แต่ว่า...


“แล้วถ้าไม่ท้องล่ะ” ผมก้มหน้าลงเล็กน้อย “แผนทุกอย่างที่วางไว้มันก็จะ...”


“ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ครับ”


เอ๊ะ


ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา ดวงตาคมคู่นั้นเป็นประกายสวยยิ่งกว่าครั้งไหนที่เคยเห็น


“ยังไงอาการฮีทก็มาทุกเดือนอยู่แล้ว ไว้จัดการเดือนหน้าอีกรอบก็ไม่สายหรอกครับ”


ให้ตายสิ ผมลืมไปได้ยังไงกันว่าคู่ของผมคือฮาร์วี่ เจเล็ต


ฮานนี่มันฮานจริงๆ เลยเชียว


เหมือนจะรู้ว่ากำลังโดนผมนินทาอยู่ในใจ จู่ๆ ฮานที่ยอมนอนนิ่งๆ ให้ผมนั่งทับมาตลอดก็พลันดันตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนผมหวิดจะหงายหลังตกเตียง โชคยังดีที่เขาคว้าตัวผมเอาไว้ทัน ไม่งั้นป่านนี้ผมคงได้ไปคุยกับคุณปู่ทวดบนสวรรค์แล้วแน่ๆ


“ขอโทษนะครับ ขอโทษจริงๆ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”


ในตอนแรกเขาก็คงจะตั้งใจแกล้งให้ผมตกใจนั่นล่ะ แต่พอเห็นว่าผมเกือบจะตกลงไปหัวฟาดพื้นจริงๆ เจ้าตัวก็รีบขอโทษขอโพยจนลิ้นพันกันไปหมด


น่ารักจังเลยนะ


“ไม่เจ็บครับ” ผมตอบยิ้มๆ ก่อนจะกางแขนโอบกอดเขาไว้แน่น “เห็นไหม แค่นี้ก็ไม่ตกแล้ว”


เขานิ่งไปอึดใจ แล้วพวกเราก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน









อาการฮีทเป็นสิ่งที่ผมห่างหายไปนานมากจนถึงมากที่สุด เรียกว่าตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมาก็ไม่เคยฮีทอีกเลย ส่วนนึงน่าจะเป็นเพราะผมกินยาตรงเวลาสม่ำเสมอ อีกส่วนก็น่าจะเป็นเพราะ...


“เอล เตรียมตัวเสร็จรึยังครับ”


“ขออีกห้านาทีครับผม”


ผมตอบกลับไปก่อนจะเร่งมือติดกระดุมเสื้อเม็ดที่เหลือให้เรียบร้อยพลางจ้องมองตัวเองในกระจกเงียบๆ


ผ้าก็อชสีขาวแผ่นใหญ่ที่แปะอยู่บริเวณต้นคอ กับร่องรอยรักที่กระจายไปทั่วแผ่นอกชวนให้ความรู้สึกแปลกๆ พวยพุ่งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก


จะว่ายังไงดีล่ะ ตั้งแต่เกิดมา ผมไม่ค่อยจะได้ฮีทเท่าไหร่ แถมทุกครั้งที่ฮีทก็ไม่เคยจะไปทำอะไรกับใครและก็ไม่มีใครมาทำอะไรกับผมด้วย คงเพราะเกิดและเติบโตมาในหมู่บ้านที่มีแค่เบต้ากับโอเมก้าล่ะมั้ง อา นั่นล่ะ คงเพราะแบบนั้น ผมก็เลยไม่ค่อยคุ้นชินกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นไปสักเท่าไหร่เลย


เท่าที่จำได้ ผมเคยฮีทแค่สามครั้งในชีวิต ครั้งแรกก็คือสมัยเพิ่งเริ่มแตกหนุ่ม ถ้าจำไม่ผิด เหมือนว่าแม่กับพ่อของผมจะตื่นเต้นกันใหญ่ ในขณะที่พี่ชายร่วมสายเลือดเพียงคนเดียวของผมนั้นกลับมามองด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนพร้อมกับพูดว่า ‘อย่าแอบกินเค้กของฉันในตู้เย็นล่ะ’


นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเริ่มรู้สึกว่าพี่ชายของผมนั้นโคตรประหลาด ช่างเถอะ ยังไงซะผมก็คุยกับเขาแบบนับคำได้อยู่แล้ว


ฮีทครั้งแรกของผมนั้นทรมาน แต่พอพ้นสามวันไปได้ก็หายเป็นปกติดี ครั้งที่สองก็เหมือนจะเป็นช่วงมัธยมปลายที่บังเอิญยุ่งกับการเตรียมตัวสอบมากจนลืมกินยาตามกำหนด รู้ตัวอีกทีก็ฮีทจนต้องหยุดโรงเรียนและพลาดสอบเก็บคะแนนย่อยวิชาเคมีไปอย่างน่าเจ็บใจ หลังจากนั้นผมก็เลยสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ยอมพลาดกำหนดการกินยาระงับอาการฮีทอีกเลย แต่นั่นก็เป็นเรื่องราวในสมัยที่ผมยังต้องดูแลตัวเองนี่นา พอเข้ามาอยู่มหาวิทยาลัยแล้วอะไรต่อมิอะไรก็เปลี่ยนไปจากเดิมเยอะเลย


เปล่าหรอก ผมไม่ได้พูดถึงในแง่ของชนิดยาหรืออะไรพวกนั้น แต่ผมกำลังพูดถึงฮานต่างหาก


เมื่อก่อนผมต้องจัดการเรื่องยาเองตลอด โดยเริ่มตั้งแต่ไปกรอกแบบฟอร์มรับยาฟรีที่โรงพยาบาลรัฐ จัดยาเป็นชุดๆ สำหรับแต่ละเดือน ตลอดไปจนถึงการวางแผนกินยา ผมก็ต้องจัดการเองทั้งหมด แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยแล้วได้ย้ายมาอยู่กับฮาน กิจวัตรเหล่านั้นก็ถูกอีกฝ่ายแย่งไปทำทั้งหมดด้วยข้ออ้างแค่ว่า ‘ก็ผมเป็นหมอไงครับ’ แค่นั้นเลย


ไม่ใช่แค่เรื่องยา ทั้งเรื่องอาหารการกิน ตารางเวลาชีวิต การเข้านอน การตื่นนอน ทุกอย่างในชีวิตของผมอยู่ภายใต้การดูแลของฮานแทบทั้งหมด ในขณะที่คนอื่นต้องกุลีกุจอตื่นแต่เช้าเพื่อไปต่อแถวกินข้าวที่โรงอาหาร ผมกลับมีอาหารเช้ารออยู่บนโต๊ะหลังตื่นนอนทุกวัน ในตอนที่ทุกคนต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากของการตื่นสายแล้วไปเข้าเรียนไม่ทัน ผมกลับมีรูมเมทที่แสนดีคอยปลุกทุกเช้าทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำให้ก็ได้


ชีวิตของผมในช่วงหลายปีมานี้เหมือนจะพึ่งพาแต่ฮานแทบทั้งหมดเลย


นั่นสิ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ฮานเริ่มจะเข้ามามีบทบาทในการจัดการชีวิตของผมมากมายขนาดนี้


ถ้าจำไม่ผิด ก็คงจะเป็นช่วงปีสองในมหาวิทยาลัยล่ะมั้ง...


ในฤดูหนาวเมื่อหลายปีก่อน ในสมัยที่ผมยังเรียนปริญญาตรีอยู่ในมหาวิทยาลัย จู่ๆ ผู้คนในมหาวิทยาลัยก็พากันป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ไปกันหมด จำได้ว่าตอนนั้นสภามหาวิทยาลัยวุ่นวายมาก ทั้งอาจารย์และนักศึกษาต่างพากันป่วยเสียจนสุดท้ายทางคณะบริหารก็ต้องยอมแพ้แล้วสั่งหยุดการเรียนการสอนหนึ่งสัปดาห์เพื่อควบคุมโรคระบาด ทั้งที่ทุกคนพากันหวาดกลัว แต่ตัวผมในตอนนั้นกลับแสนจะมั่นใจว่าอย่างไรเสียตัวเองก็คงจะไม่ติดหวัดนี่แน่ๆ ไม่ใช่เพราะพี่ชายชอบปรามาสว่าผมเป็นคนบ้า แล้วบอกว่าคนบ้าจะไม่เป็นหวัดหรอกนะ แต่เพราะผมน่ะ...


“ฉันติดหวัดมาจากเพื่อนร่วมเซคน่ะ แย่จริงๆ เลยเชียว”


เพราะผมน่ะ...


“จริงด้วย ฉันเองก็ติดหวัดมาจากเพื่อนในสาขามาเหมือนกัน ต้องระวังอย่าอยู่กับเพื่อนๆ มากเกินไปแล้วล่ะ ไม่งั้นจะพาลจะติดหวัดกันไปหมด”


เพราะผมน่ะ...


“หรือเราควรจะแยกกันนั่งคนเดียวเหมือนผู้ชายคนนั้นดีนะ จะได้ไม่ติดหวัดกันไง”


ได้ยินนะโว้ย! ม๊าม้าไม่เคยบอกเหรอว่าเข้าห้องสมุดน่ะอย่าซุบซิบนินทากันเสียงดัง โดยเฉพาะถ้าคนที่กำลังเปิดประเด็นสนทนานั่งห่างไปไม่ถึงเมตรน่ะ!


ให้ตายเถอะคนพวกนี้


ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะพยายามตั้งสมาธิอ่านหนังสือต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


จริงอยู่ว่าตอนนี้ทั้งมหาวิทยาลัยกำลังพักการเรียนการสอนเนื่องมาจากเหตุการณ์ไข้หวัดระบาด แต่อาคารสถานที่อื่นที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักศึกษานั้นยังคงเปิดทำการตามปกติ ผมเลยถือโอกาสย้ายตัวเองออกจากห้องพักที่เช่าเพื่อนสมัยเด็กอยู่แล้วมานั่งปลีกวิเวกอยู่เพียงลำพัง


จนถึงตอนนี้ผมก็เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยได้สองปีแล้ว แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยคือฐานะทางการเงินของผมยังอยู่ในขั้นวิกฤติเหมือนเดิม ไม่ต่างจากสถานะทางสังคมของผมที่ไม่ได้ขยับขึ้นจากช่อง ‘ไร้ตัวตน’ เลยสักนิด ถ้าให้นิยามชีวิตของผมอย่างงง่ายในตอนนี้ก็คงจะเป็น ‘จนและไม่มีคนคบ’ นั่นล่ะถึงจะเหมาะที่สุด


พอคิดถึงตรงนี้ผมก็อดจะถอนหายใจออกมาอีกครั้งไม่ได้


สำหรับเรื่องการเงินนั้นแม้จะไม่ได้อยู่ในขั้นที่เรียกว่าสบาย แต่ก็นับว่าดีขึ้นมากแล้ว เพราะผมเองก็ทำงานพิเศษควบคู่ไปกับการได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนสมัยเด็กที่บังเอิญเจอกันที่รูปปั้นหน้าหอสมุดตอนปีหนึ่ง ตอนนี้ผมก็เลยสามารถย้ายเข้าไปอยู่ในคอนโดของเขาได้ด้วยค่าเช่าที่ถูกแสนถูก เพราะฉะนั้นเรื่องเงินน่ะ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก สิ่งที่เป็นปัญหาจริงๆ น่ะ....


“นี่ อเล็กซ์ตอบกลับมาว่าป่วยหนักเลยล่ะ เราไปเยี่ยมกันดีไหม”


“อือ ไปสิ ชวนเพื่อนคนอื่นไปด้วยนะ”


“ก็ดีนะ ชวนเพื่อนๆ ไปให้กำลังใจ เขาจะได้หายไวๆ”


นั่นล่ะปัญหา


‘เพื่อน’ นั่นล่ะคือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมเลย


ทั้งที่ทำตัวค่อนข้างดีมาตลอดแท้ๆ แต่ก็ดูเหมือนว่าผมจะไม่มีเพื่อนที่สามารถเรียกว่า ‘เพื่อน’ ได้จริงๆ เลยสักคน ส่วนใหญ่ก็จะมีแค่คนรู้จักที่บังเอิญเคยทำงานกลุ่มเดียวกัน ไม่ก็คนที่บังเอิญนั่งข้างกันแล้วต้องทำงานคู่กันในคลาสเรียนก็เท่านั้น


มันมีปัญหาตรงไหนกันนะ ทำไมตอนนี้ผมถึงไม่มีเพื่อนเลยสักคนล่ะ ทั้งที่ตอนอยู่ที่หมู่บ้านผมมีเพื่อนสนิทมากมายเลยแท้ๆ


ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลย


“ขมวดคิ้วขนาดนั้นเดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก”


เอ๊ะ


ผมเงยหน้าขวับขึ้นมองคนเอ่ยทักที่เพิ่งเดินเข้ามาก่อนจะฉีกยิ้มบางอย่างอ่อนใจ


กะแล้วเชียว นอกจากเขาแล้วใครจะอยากเดินเข้ามาทักทายผมกันล่ะ


“ไงฮาน ลมอะไรหอบมาถึงนี่ล่ะ”


เขายักไหล่ “ลมขี้เกียจล่ะมั้ง”


พอพูดจบ เขาก็ถือวิสาสะนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามบนด้วยท่าทีสบายๆ อย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งที่เขาก็ไม่ได้สนิทอะไรกับผมมากมายแท้ๆ อันที่จริงต้องบอกว่าเขาแทบไม่มีเวลาอยู่กับผมเลยถึงจะถูก ทำไมถึงยังเป็นตัวของตัวเองต่อหน้าผมได้ขนาดนี้กันน้า


“แล้ว...” เพื่อนเพียงคนเดียวในมหาวิทยาลัยของผมชี้นิ้วมาหา “นี่มามหาลัยทำไมล่ะ เดี๋ยวก็ติดหวัดหรอก”


“อ้อ ผมดีผมมีหนังสือที่ต้องอ่านให้จบเพื่อเอาไปอ้างอิงสำหรับทำรายงานน่ะครับ” ผมตอบก่อนจะชูหน้าปกของหนังสือในมือให้ดู “อีกอย่าง ผมไม่ติดหวัดหรอก สบายใจได้เลย”


คนฟังหัวเราะเบาๆ พร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง


“ทฤษฎีที่ว่าคนบ้าจะไม่เป็นหวัดน่ะไม่ใช่เรื่องจริงนะครับ รู้ใช่ไหม”


“ฮานนี่!” ผมเอ็ดเขาเบาๆ ทั้งที่เผลอหัวเราะไปด้วย “ไม่ใช่เพราะเรื่องนั้นสักหน่อยครับ”


แล้วผมก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อซ่อนแววตาไม่ให้อีกคนได้เห็น


“โรคระบาดน่ะ ถ้าไม่ติดต่อกับคนอื่นก็จะไม่ติดใช่ไหมล่ะครับ”


ดวงตาแสร้งทำเป็นจดจ่อกับหนังสือในมือราวกับไม่ยินดียินร้ายอะไรกับเรื่องที่กำลังพูด


“ยังไงซะผมก็ไม่มีเพื่อนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสบายใจหายห่วงเลยครับ”


แล้วผมก็หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าร่าเริงที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้


ในคราวแรกผมคิดว่าฮานคงจะตอบอะไรไร้สาระกลับมาเหมือนอย่างปกติ จากนั้นพวกเราก็จะได้เปลี่ยนหัวข้อแล้วก็คุยตลกโปกฮากันไปเหมือนอย่างเคย แต่สิ่งที่ผมคิดเอาไว้กลับไม่เป็นจริงเลยสักอย่าง


คนที่นั่งตรงข้ามไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ ไม่แม้แต่จะหัวเราะออกมาให้ได้ยินสักแอะ เขาเอาแต่เงียบ เงียบ และเงียบ จนสุดท้ายก็เป็นผมเองที่ต้องยอมแพ้


แล้วเสียงหัวเราะของผมเงียบลง


ผมรวบรวมความกล้าแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับคู่สนทนา ทั้งที่คิดเอาไว้แล้วว่าถ้าเขาไม่ทำหน้านิ่งๆ ก็คงกำลังสนใจอย่างอื่นที่ไม่ใช่ผม แต่สิ่งที่เห็นกลับผิดคาดไปหลายขุม นัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้นจ้องมองตรงมาที่ผมอย่างแน่วแน่ แววตาของเขาอ่อนโยนและโศกเศร้าจนน่าใจหาย


ทำไม...ถึงทำหน้าเศร้าขนาดนั้นล่ะ...


“ฮาน...”


“ผมไงครับ”


เอ๊ะ


ผมเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยความงุนงงกับคำพูดของเขา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้พูดขัดอะไรออกไป


“ผมไงครับ” เขาพูดประโยคเดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้ฝ่ามือใหญ่ทั้งสองข้างนั้นเอื้อมมาดึงมือทั้งสองของผมไปกุมเอาไว้ด้วย “ผมไงครับที่เป็นเพื่อนของเอล ผมจะอยู่เคียงข้างเอลไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าอยากติดหวัดขนาดนั้น ผมก็จะไปเอาหวัดมา...”


“ไอ้เจ้าบ้า...”


ผมเอ็ดอีกคนออกไปเบาๆ แล้วก้มหน้านิ่ง


อา...บ้าจริงเชียว...ทั้งที่ทำใจได้แล้วแท้ๆ ทั้งที่บอกตัวเองให้ยอมรับสภาพทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้แล้วแท้ๆ แล้วทำไมเขาถึงได้...ทำไมถึงได้...


“ใจดีกับผมเกินไปแล้วนะครับ”


แล้วน้ำตาหยดหนึ่งก็ไหลกระทบลงบนหลังมือของตัวเอง


ทั้งที่ยอมรับได้แล้วแท้ๆ ว่าไม่มีเพื่อนก็ไม่เป็นไร ทั้งที่ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาก็อยู่มาได้ตลอดด้วยตัวคนเดียวแท้ๆ ทั้งที่พยายามทำใจจนเริ่มยอมรับได้ว่าการอยู่คนเดียวแบบนี้ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่แล้วแท้ๆ...


มือสองข้างของผมขยับออกจากการถูกเกาะกุมของอีกฝ่ายแล้วเปลี่ยนไปเป็นคนจับแขนเขาเอาไว้แทน


“ช่วยใจดีกับผมแบบนี้ไปนานๆ เลยนะครับ”


ผมไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนั้นฮานทำหน้ายังไง แต่สิ่งเดียวที่ยังประทับแน่นอยู่ในความทรงจำก็คงจะเป็น...


“ด้วยความยินดีครับ คุณตัวเล็ก”


ไม่น่าเชื่อเลยว่า ทั้งที่เรื่องผ่านมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว ผมก็อุตส่าห์จำเหตุการณ์ได้แม่นยำราวกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง
แต่ก็นะ มันเป็นเรื่องที่ควรค่าจะถูกจดจำนี่นา


“ตัวเล็ก เสร็จรึยังครับ”


เสียงตะโกนที่ดังแทรกห้วงความคิดเข้ามาทำให้ผมหลุดจากห้วงภวังค์แล้วรีบกุลีกุจอจัดการตัวเองอย่างรวดเร็ว


แย่แล้ว เผลอเหม่อไปเสียได้


“จะออกไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ ขอติดกระดุมอีกเม็ดเดียว”


“นี่ ถ้าไม่เสร็จก็ไม่ต้องรีบนะ ไม่ต้องวิ่งด้วยนะครับ เดี๋ยวหกล้ม”


ฮานนะฮาน เห็นผมเป็นเด็กกี่ขวบกัน


ผมหยุดมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง นัยน์ตาจับต้องไปยังต้นคอของตัวเองที่มีรอยรักกระจายเต็มไปหมดจนแทบมองไม่เห็นผิวเนื้อจริง


มีเพียงแค่รอยรักสีม่วงช้ำที่ครอบครองผิวหนังทั้งหมดของผมเอาไว้


แล้วผมก็ฉีกยิ้มกว้างออกมา


ฮานน่ะ ใจดีมากจริงๆ นะ





***********************************************************************************





ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คุณตัวเล็กน่ารักมากๆๆๆๆ ดูนุ่มนิ่มฟัพฟี่สุดๆ  :กอด1:
ฮานคือดูสุภาพ อ่อนโยนกับคุณตัวเล็กก็จริง แต่ทำไมร่างคุณตัวเล็กถึงได้ม่วงช้ำไปหมดล่ะคะ :hao3:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
อยากได้ผู้ชายแบบฮาน

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
พี่ฮานนี่พระเอกสุดๆ ^^
นี่วางแผนแทรกซึมชีวิตน้องมานานแล้วใช่มั้ยคะ พูด!! 555

ยังไงก็ได้มาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ แล้วน้า...ช่วยกันสร้างรังเนอะ อิอิ

ออฟไลน์ ดาวลูกไก่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อยากมีฮานเป็นของตัวเองเลยค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ใจดีแบบไหนกันคะ ถึงได้ไม่มีที่เหลือให้เห็นสีเนื้อเดิมเลยล่ะคะ

ออฟไลน์ Pangpang24pp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คุณเค้าน่าสงสารอ่ะไม่มีเพื่อน ฮานน่าจะเป็นทุกอย่างสำหรับคุณเค้าเลยนะเนี้ย

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
โอโห คือแทรกไปอยู่ในทุกช่วงเวลาของตัวเล็กเลยเนี่ย

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เป็นทุกอย่างให้คุณตัวเล็กแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ TheSpaceOfM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฮานเตรียมการหลายๆอย่างไว้แล้วจริงๆด้วย ตั้งแต่เข้ามาแทรกซึมใช้ชีวิตกับเอลแบบเหมือนจะเนียนโดยที่เอลไม่ได้รู้ตัวไปด้วยเลยจนกระทั่งเรื่องการฮีท การจะมีลูกนั่นนี่ เหมือนว่ารอเวลาที่จะเป็น Family man มาตลอด ก็คือทำแล้วพร้อมรับผิดชอบเลยเหมือนรอวันนี้มาตลอด ฮื่ออ น่ารักมากค่ะ เจ้าตัวเล็กก็ยังมึนๆเหมือนเดิม เอ็นดู ยังไงรอติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณสำหรับผลงานที่ดีค่ะ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เจ้าวางแผนมากเลยฮาน  :hao3:

ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
เป็นOmegaverseที่หวานนนนนนเวอร์เลย ชอบๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ละมุนกับรังรักนี้มากไป   :katai2-1:

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Nocto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ก่อนมาถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน ก็มีเรื่องราว มีความสัมพันธ์ มีความผูกพันกันมาก่อนสินะ

ออฟไลน์ CLShunny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
 :mew6:น่ารักมากเลยยยย ความสัมพันธ์ที่คอยๆก่อตีววจนตอนนี้จะท้องสินะ5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด