<< เจ้าป่า >> [Omegaverse]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: << เจ้าป่า >> [Omegaverse]  (อ่าน 52081 ครั้ง)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อื้อหือ แซบลื้มเลยจ้า เลอองมิเกล
แล้วเวลาได้ด้วยนะ พอดีอะไรขนาดนี้
เลอองดูแลมิเกลดีเลย ดูอาการคือติดหนักมากด้วย

คู่พ่อแม่ก็แซบไม่ต่างกันเลยนะคะ
แหมม เจอหน้าแปบเดียวเอง แต่ก็นะ
ความคิดถึงนำพาความสุขสม

ว้าวว ดีใจกับมิเกลค่ะ เจอดีแลนสักที

แต่คงเป็นสองต่อที่คนของโซรอสจะได้รู้
แล้วพ่อมิเกลจะได้ตามหาด้วย ไม่รู้ใครจะงานเข้าก่อนกัน


ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<< เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่13 NC [27/07/62]
«ตอบ #123 เมื่อ27-07-2019 20:32:43 »




                                                   เจ้าป่า

                                                   บทที่ 13



               เมื่อหายตกตะลึงกันทั้งคู่แล้วมิเกลจึงค่อยเงยหน้าจากอ้อมกอด ทันใดนั้นเขาถึงกับผงะแทบสิ้นสติเมื่อเห็นสิงโตตัวใหญ่นั่งหมอบอยู่ในบ้าน และสิงโตตัวนั้นผงกหัวขึ้นมองเขาด้วยความสนใจ


             “สิงโต!”


             หากเป็นเวลาอื่นมิเกลคงจะวิ่งหนีสุดชีวิตแต่ไม่ใช่ตอนนี้ที่มีรอยยิ้มของดีแลนปลอบประโลมอยู่แถมยังมีเลอองประกบอยู่ด้านหลัง ทั้งคู่ไม่มีความตกใจเลยสักนิดราวกับคุ้นเคยกับสิงโตตัวนี้เป็นอย่างดี


            “ไม่ต้องกลัวจะมิเกล เขาไม่ทำร้ายเราหรอก”


              ดีแลนเช็ดน้ำตาให้ลูกเลี้ยงที่โตขึ้นจนเป็นชายหนุ่มแล้ว เขามองสำรวจมิเกลอย่างเต็มตา


              “มิเกล หนูโตขึ้นมาเป็นโอเมก้าหรือนี่”


               กว่าจะรู้ว่าร่างกายเปลี่ยนแปลงเป็นสายพันธุ์อัลฟ่า โอเมก้าหรือเบต้าธรรมดาก็ต้องล่วงเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ดีแลนจากมิเกลมาตั้งแต่เขายังเด็กเกินไป ในขณะนี้มิเกลกลายเป็นโอเมก้าหน้าตางดงามรูปร่างโปร่งบางไปเสียแล้ว มิเกลยิ้มรับคำถามนั้น


              “ใช่ครับคุณดีแลน ผมเป็นโอเมก้า”


              ดีแลนจูงมือมิเกลให้มานั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กริมหน้าต่างขณะที่เลอองเดินไปหาสิงโตตัวนั้นและกอดทักทายอย่างสนิมสนมจนมิเกลนึกหวาดกลัวแทน เขาหันมาหาดีแลนพร้อมกับความค้างคาใจมาเนิ่นนาน


              “คุณหายไปในอุบัติเหตุ รถยนต์ตกลงมาจากถนนลงสู่ป่าด้านล่าง รถยนต์ไฟไหม้หมดทั้งคันแต่พบศพแค่ศพเดียวไม่มีใครยืนยันว่าศพนั้นเป็นศพของคนขับรถหรือว่าศพของคุณ พ่อบอกว่าคุณตายไปแล้วแต่ผมมั่นใจว่าคุณยังมีชีวิตอยู่”


                ดีแลนยิ้มเศร้าก่อนจะเล่าเหตุการณ์ให้มิเกลฟัง


              “ฉันบาดเจ็บสาหัส แต่ก็คลานออกจากรถได้ทันก่อนมันระเบิด แล้วมีสิงโตลากฉันเข้าไปในป่า ไปรักษาตัวจนหาย ก็สิงโตตัวนี้นี่แหละ”


              “คุณอยู่กับสิงโต” มิเกลเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ มนุษย์ที่ไหนกันเล่าที่ใช้ชีวิตอยู่กับสิงโต


               “ใช่ อยู่กับสิงโตทั้งฝูง”


              “แล้วเลอองล่ะครับ เขาเป็นใคร เขาใช้นามสกุลเดียวกับคุณ”


              เอ่ยถามเรื่องที่ข้องใจอีกเรื่อง ดีแลนนิ่งไปพักใหญ่ก่อนจะถอนหายใจออกมา


               “ฉันอยู่ในป่า ไม่มีเครื่องนุ่งห่ม ไม่มียารักษาโรคกินแต่ผลไม้กับน้ำเปล่า อยู่มาจนกระทั่งเกิดฮีทกลางป่าและก็ เอ่อ..ลีโอ สิงโตที่เธอเห็นนี่แหละได้กลิ่นของฉัน เขาเป็นอัลฟ่า”


                มิเกลนิ่งงัน ค่อยๆคิดตามที่ดีแลนพูดให้ฟัง และเป็นอีกครั้งที่ดวงตาที่โตอยู่แล้วยิ่งโตมากกว่าเดิม


              “เดี๋ยวนะ คุณจะบอกผมว่าคุณกับสิงโตตัวนี้มีเซ็กส์กัน”


              ดีแลนหน้าแดง เขายิ้มบางๆเมื่อหันไปมองลีโอกับเลอองที่กำลังหยอกเล่นกันด้วยการกอดรัดฟัดเหวี่ยง


                “ใช่ มันออกจะแปลกประหลาดไปสักหน่อย แต่เธอจะให้ฉันทำยังไง ตอนนี้เธอเป็นโอเมก้าเธอคงเข้าใจว่าเวลาฮีทมันทรมานขนาดไหน ฉันไม่มีทางเลือกมากนัก และมัน เอ่อ ไม่เลวนักหรอก”


               มิเกลเข้าใจดี เพราะเขาก็เพิ่งผ่านอาการฮีทมาเมื่อราตรีที่ผ่านมานี้เอง เมื่อรู้เรื่องมาถึงตรงนี้แล้วสมองของมิเกลจึงค่อยๆประมวลผลความสัมพันธ์ระหว่างดีแลนกับเลออง


              “เอ๊ะ ถ้าคุณเล่าแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นเลออง...”


              ดีแลนพยักหน้ารับ ตั้งแต่พบหน้ากันเพียงไม่กี่นาทีลูกเลี้ยงของเขาทำหน้าราวกับเจอผีเป็นครั้งที่สามแล้ว


               “ฉันไม่มียาต้านอาการฮีท ไม่มียาคุมกำเนิด ออกจากป่าก็ไม่ได้ ใครจะนึกว่าคนกับสิงโตจะมีลูกกันได้ เมื่อใกล้คลอดลีโอพาฉันไปหาคุณโทนี่ เขาเป็นสัตวแพทย์ประจำเขตนี้ ลีโอเคยเห็นเขาเข้าไปรักษาสัตว์ป่าในเขตอุทยาน โทนี่ผ่าคลอดให้ฉัน เลอองคือลูกของฉันกับลีโอ”


                เล่ามาถึงตอนนี้เลอองจึงหยุดเล่นกับพ่อ เขาก้าวเข้ามายืนต่อหน้าและสบตากับมิเกล นัยน์ตาคมของเขาดูจริงจังและเป็นกังวล


              “แม่เลี้ยงผมมาในป่าและกระท่อมแห่งนี้ จนก่อนหน้าคุณจะมาไม่นานผมเพิ่งจะออกจากป่าไปอยู่บ้านป๋า คุณไม่ตกใจและไม่กลัวผมใช่ไหมมิเกล”


               มิเกลยังตกตะลึงไม่เลิก เขาสะบัดหน้าเรียกสติ ดีแลนกุมมือของเขาเพื่อให้กำลังใจ เป็นใครก็ต้องตกใจเมื่อรู้เรื่องพวกนี้ มิเกลมองเลอองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า


             “คุณเป็นลูกครึ่งสิงโตกับมนุษย์ แล้วรูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของคุณล่ะเลออง”


             เลอองชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ดีแลนพยักหน้าให้เขาเปิดเผยความลับได้เขาจึงดึงผ้าโพกหัวและถอดเสื้อออก มิเกลตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นร่างที่แท้จริงของเลออง ไพรส์ลีย์ เขาเป็นเด็กหนุ่มวัยสิบห้าปีที่สูงราวร้อยแปดสิบเซ็นติเมตรและอาจจะสูงกว่านี้ในอนาคต ใบหน้าของเลอองล้อมกรอบไปด้วยผมยาวสีน้ำตาลคล้ายแผงคอของสิงโต แขนและขามีขนกายยาวกว่าผู้คนทั่วไป ใบหูของเขาแหลมตั้ง เมื่อมองต่ำลงมาเบื้องล่างที่อยู่เหนือขอบกางเกงมองเห็นหางยาวที่มีปลายหางเป็นพู่สีเดียวกับเส้นผม


               “คุณกลัวผมหรือเปล่า”


               มิเกลตั้งสติ เขาค่อยๆไตร่ตรองและคิดเรื่องทั้งหมด ในเมื่อเลอองเป็นลูกแท้ๆของดีแลน มีอะไรที่เขาจะต้องหวาดกลัว เมื่อคิดได้ดังนั้นมิเกลจึงสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อขับไล่ความตระหนกทั้งหมดออกไปก่อนจะส่งยิ้มให้เลออง


              “ผมตกใจกับเรื่องประหลาดนี้ แต่ผมไม่ได้กลัวคุณนะเลออง”


               ได้ยินดังนั้นเลอองจึงยิ้มหน้าบาน เขาฉุดแขนมิเกลให้ลุกขึ้นยืน


              “ถ้าอย่างนั้นไปรู้จักกับพ่อของผมก่อนนะ พ่ออยากคุยกับคุณ”


               มิเกลหน้าตาตื่น แม้จะรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว แต่จะให้เข้าใกล้สิงโตตัวใหญ่ในระยะประชิดเขาก็ยังอดหวาดกลัวไม่ได้ จนเลอองต้องรีบปลอบใจ


              “ไม่ต้องกลัวน่า ถ้าพ่อทำอะไรคุณผมจะจัดการพ่อเอง”


            ร่างสูงจูงมือมิเกลไปหาสิงโตที่ชูคอรออยู่ ถ้าไม่คิดไปเองคล้ายมองเห็นรอยยิ้มจากใบหน้าดุนั้น มิเกลจึงพอใจชื้นขึ้นมาบ้างเมื่อเขาหยุดยืนในระยะไม่ถึงหนึ่งเมตร


             “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณลีโอ เอ่อ ผมชื่อมิเกล”


            เสียงยังสั่นๆขณะกล่าว มิเกลยิ้มแหยพลางหันมามองเลอองเป็นระยะ เลอองหันไปส่งเสียงบางอย่างที่มิเกลฟังไม่ออกกับผู้เป็นบิดา


              “ผมบอกพ่อว่ามนุษย์ทักทายกันด้วยการจับมือ มิเกลจับมือกับพ่อหน่อยนะ”


             “อะไรนะ จะดีเหรอเลออง”


             เลอองคว้ามือนุ่มของมิเกลให้ยื่นออกไป ทันใดนั้นพ่อของเขาก็ยื่นอุ้งเท้าหน้าออกมาให้มิเกลได้จับ เมื่อเห็นถึงมิตรไมตรีที่สิงโตวัยชรามอบให้มิเกลจึงยิ้มกว้างด้วยความสบายใจ


             “ดีใจจังที่มิเกลได้รู้จักกับพ่อ”


             เลอองพามิเกลกลับมานั่งที่เดิมให้สนทนากับมารดาต่อ มิเกลเล่าให้ดีแลนฟังว่าเขาได้พบกับภาพวาดของดีแลนและจำได้ จึงได้ขอมาเก็บข้อมูลงานวิจัยที่นี่จนได้พบกับดีแลน


              “ใช่แล้ว ถึงแม้จะอยู่ในป่าแต่ก็ไม่อยากรบกวนครอบครัวของหมอโทนี่กับฟลอเรียเฉยๆ ก็เลยใช้ฝีมือวาดรูปนี่แหละที่พอหาเงินมาได้ ฝากไว้ให้เลอองจะได้มีทรัพย์สินติดตัวบ้าง


            “พูดถึงทรัพย์สิน” สีหน้าของมิเกลขรึมลง “พ่อแจ้งต่อศาลว่าคุณเป็นผู้สูญหายและขอเป็นผู้จัดการมรดกพ่อได้จดทะเบียนกับคุณ เขาอยู่กับแอมเบอร์เป็นสามีภรรยากันด้วยเงินของคุณ ดีแลน ผมเสียใจที่ทำอะไรไม่ได้ ผมขอโทษที่พ่อผมทำไม่ดีต่อคุณ”


              ขอบตาร้อนผ่าวด้วยความรู้สึกผิด มิเกลยังไม่กล้าบอกเรื่องที่เขาสงสัยว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นฝีมือของสองคนนี้เพราะยังไม่มั่นใจและไม่มีหลักฐาน แค่เรื่องที่พ่อกับเมียใหม่เสวยสุขเพราะสมบัติของดีแลนเขาก็อับอายมากพอแล้ว


               “คุณจะกลับไปไหมครับ คุณควรจะได้ทุกอย่างคืน”


             ดีแลนนิ่งงัน หันไปมองเลอองกับลีโอที่หยอกล้อกันอยู่ก็ต้องคิดหนัก ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจออกมา


              “อุบัติเหตุครั้งนี้เหมือนฉันตายไปแล้ว และผู้ที่มอบชีวิตใหม่ให้ก็คือลีโอ หมอโทนี่บอกว่าชีวิตของลีโอเหลืออีกไม่กี่ปีตามอายุขัยของสิงโต ฉันอยากจะทำทุกอย่างให้ลีโอมีความสุข เพราะฉะนั้นฉันคงไม่คิดเปลี่ยนแปลงอะไรตอนนี้ถ้าลีโอยังมีชีวิตอยู่ มิเกลอย่าเพิ่งบอกกับใครเรื่องของฉันรวมถึงลีโอกับเลออง ขอให้ทุกอย่างเป็นความลับจนกว่าจะพร้อมจริงๆนะมิเกล”


                มิเกลพยักหน้ารับ ในเมื่อเป็นทางที่ดีแลนเลือกแล้วก็ไม่ควรขัดขวาง เข้าใจดีที่ดีแลนอยากเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ หากเรื่องที่มนุษย์กับสิงโตมีลูกกันเปิดเผยออกไป ต้องกลายเป็นเรื่องโด่งดังแน่


              “ถ้าคุณดีแลนต้องการอย่างนั้น ผมสัญญาว่าจะไม่บอกใคร มั่นใจได้เลยว่าผมอยู่ข้างคุณดีแลนเสมอ”


             ต่างยิ้มให้กันด้วยความเข้าใจ ทั้งคู่คุยกันจนหายคิดถึงเลอองจึงพามิเกลกลับในช่วงบ่าย ระหว่างทางที่เขาขับรถกระบะกลับไปทางหมู่บ้านมิเกลกลับทำหน้าเศร้าจนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม


             “มิเกลเป็นอะไร ทำไมหน้าเศร้าแบบนั้น”


             มิเกลเพิ่งรู้สึกตัว เขาหันมาฝืนยิ้มให้เลอองที่มองด้วยความเป็นห่วง


            “ผมอิจฉาเลอองน่ะ”


            “อิจฉาผม” เลอองเลิกคิ้วด้วยความสงสัย “อิจฉาเรื่องอะไร”


             “ผมขาดแม่ตั้งแต่เด็ก เมื่อได้พบคุณดีแลนที่แสนใจดีผมจึงรักเขามาก อยากเป็นลูกของคุณดีแลนจริงๆ ก็เลยอิจฉาเลอองที่เกิดมาเป็นลูกของคุณดีแลนยังไงล่ะ”


             รถกระบะคันเก่าถูกบังคับให้จอดข้างทางทันที มือใหญ่ของเลอองคว้าไหล่บางให้หันมาหาเขา ดวงตาสีเหล็กตอนแรกมองมิเกลราวกับกำลังดุเขาก่อนจะอ่อนแสงลง


              “อย่าคิดแบบนั้น อิจฉาทำไมกัน แม่รักมิเกลจะตาย มิเกลอยู่กับแม่ก่อนผมอีก ถึงมีผมเกิดมาอีกคนก็ไม่ได้ทำให้แม่รักมิเกลน้อยลงหรอก อีกอย่างนะ มิเกลไม่ดีใจเหรอที่เรามีแม่คนเดียวกัน แล้วเราก็ยังเป็นผัวเมียกันด้วย”


              “เลออง!” มิเกลยกมือปิดปากชายหนุ่มพลางหัวเราะเบาๆ “พูดอะไรตรงๆแบบนั้นล่ะ เรายังไม่ใช่...”


               “ไม่ใช่อะไร เมื่อคืนนี้เราทำกันทั้งคืน ทำเหมือนที่พ่อทำกับแม่ ยังไม่เรียกว่าผัวเมียแล้วจะเรียกว่าอะไร”


             “ก็เมื่อคืนผมฮีท”


             มิเกลไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้เลอองเข้าใจ เพราะเขาปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันจริง


             “แล้วยังไง ทำกันตอนฮีทไม่เรียกว่าผัวเมีย ต้องให้ทำตอนไม่ฮีทใช่ไหมถึงจะยอมให้เรียกแบบนั้น ได้สิมิเกล ได้”


               พูดจบเลอองก็เปิดประตูออกไปแล้วก้าวพรวดๆมาทางฝั่งของมิเกล เขาเปิดประตูแล้วอุ้มร่างเพรียวออกมานอกรถ


             “เดี๋ยว เลออง จะทำอะไร”




มีต่ออีกนิด....

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-07-2019 20:43:24 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<< เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่13 NC [27/07/62]
«ตอบ #124 เมื่อ27-07-2019 20:44:51 »



อ่านต่อตรงนี้....



              เลอองไม่สนสีหน้าตกใจ เขาเดินดุ่มไปทางกระบะด้านท้ายรถก่อนจะวางร่างของมิเกลลงไป ความลับเปิดเผยแล้วจึงไม่จำเป็นต้องปิดบังอีก เมื่อคืนนี้ที่เขาเลือกคอกม้าเพราะต้องการอาศัยความมืดปิดบังร่างกายตนเองไม่ให้มิเกลมองเห็นความลับ ตอนนี้เขาไม่ต้องอึดอัดปิดบังอีกแล้ว


             แดดยามบ่ายลอดผ่านกิ่งไม้ลงมาเป็นแสงระยิบระยับ เงาจากใบไม้ทอดผ่านร่างกายที่นอนอยู่ตรงหน้าให้ยิ่งน่าค้นหา เลอองสะกดมิเกลไว้ด้วยดวงตาสีเหล็กจนคล้ายต้องมนต์ไปแล้ว และไม่อาจปฏิเสธได้เลยเมื่อร่างสูงโน้มกายลงมาจุมพิตบนกลีบปากนุ่ม คราแรกลิ้นร้อนยังตวัดอย่างไร้ชั้นเชิงจนมิเกลลืมตัวต้องกลายเป็นฝ่ายสอนการจูบให้เด็กหนุ่มวัยสิบห้า


              “อือ จูบแบบนี้ก็อร่อยดีนะ”


               เลอองพึมพำอย่างติดใจ เขาดึงเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ของมิเกลออกจากร่างกาย ยอมผละจูบเพื่อจะมองร่างนั้นเด่นชัดด้วยแสงสว่างจากธรรมชาติ ความงดงามเต็มตาจนเผลอตะลึง


             “เด็กบ้า มองอยู่ได้”


              มิเกลขัดเขิน ดวงตาสีเหล็กคล้ายเปลี่ยนสีได้ ดูแพรวพราวเสียยิ่งกว่าแสงระยิบระยับผ่านกิ่งไม้ลงมาเสียอีก เลอองส่งเสียงในลำคอพอให้ได้ยิน เขาจัดการถอดเสื้อผ้าของเขาออกอวดร่างกายของอัลฟ่าวัยหนุ่มจนมิเกลแทบลืมหายใจ ช่วงบนหนาด้วยมัดกล้าม ไม่ต่างอะไรกับท่อนขาแข็งแกร่ง ท่อนอกมีขนกายสีน้ำตาลยาวปกคลุมเว้นระยะแค่ซิกแพ็คช่วงท้อง หางยาวด้านหลังกวัดแกว่งไปมาจนปลายพู่ปลิวไสว และยิ่งสะดุดตากับความเป็นชายที่อวดกายแข็งขัน มิเกลถึงกับกลืนน้ำลาย


             มองเห็นความใหญ่โตกว่ามนุษย์ทั่วไปแล้วมิเกลยังงงว่าเมื่อคืนที่ผ่านมามันผ่านช่องทางของเขาเข้าไปได้อย่างไร แต่อาจได้คำตอบในเร็วๆนี้เมื่อร่างสูงใหญ่นั้นเอนกายลงมาทาบทับร่างของเขา มือร้อนขยี้ลงมาเบาๆที่ยอดอกสีอ่อนก่อนที่เลอองจะก้มหน้าลงมาขบเม้ม


             “อื้อ ฮึก”


             รุนแรงแต่ไม่ได้เจ็บเกินทน ซ้ำยังรู้สึกดีเมื่อลิ้นสากตวัดยอดอ่อน มือหนาลูบไล้ร่างนุ่มไปมาจนสะท้านตามฝ่ามือโดยเฉพาะเมื่อมันเลื่อนไปกุมจุดอ่อนไหวของเขา เอวของมิเกลยกลอยจากพื้นกระบะรถตามความร้อนของฝ่ามือในทันที


            “ทำแบบนี้แล้วมิเกลอยากเหรอ”


             คำพูดทื่อๆตรงๆแม้จะฟังแสลงหูอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นความจริง เลอองไม่รู้จักการโลมเล้าก่อนเข้าสู่ความสัมพันธ์ แต่ที่ทำไปก็โดยสัญชาตญาณ เขาเห็นยอดอกเม็ดงามน่ากินเขาก็กิน เขาเห็นแก่นกายของมิเกลน่าจับเขาก็จับ ไม่รู้ว่ามันจะช่วยปลุกเร้าความต้องการของร่างกายเช่นนี้


              “เลออง ใช่ ผม เอ่อ...”


               ได้แต่กัดฟันเบนสายตาหลบด้วยความอับอาย แต่ยิ่งน่าเอ็นดูในสายตาของเลออง เขาเริ่มเรียนรู้ชั้นเชิงจากการปฏิบัติหากไม่ใช่ระยะเวลาฮีท เมื่อรู้แล้วมีหรือที่เขาจะรอช้า เลอองโจมตีมิเกลไปทั้งตัวด้วยลิ้น ปากและมือจนมิเกลแทบจะดิ้นพล่าน


             “ไม่ไหวแล้ว เลออง ใส่มานะ นะครับ”


            ถึงกับยกขาเปิดทางให้ เลอองเงยหน้าส่งเสียงคำรามระบายความต้องการของเขาออกมาสะท้อนต้นไม้ใหญ่ เขาดึงสะโพกของมิเกลให้ยกสูงวางพาดบนท่อนขาของเขา ก่อนจะใช้ท่อนเนื้อยักษ์ที่จดจ่อรออยู่ดันเข้าไปทันที


            “ฮึก เสียว”


              มิเกลผวายกแขนคล้องไปรอบลำคอแกร่งเมื่อท่อนเนื้อแทงทะลุลึกเข้าไปจนเต็มลำ เลอองโน้มใบหน้าลงมาจูบเขามิเกลเผยอปากรับแถมยังกดท้ายทอยให้จูบนั้นยิ่งเร่าร้อน เลอองแค่เริ่มออกแรงรถก็เริ่มสั่น และเมื่อไฟร้อนโหมกระหน่ำได้ที่เสียงเอี๊ยดอ๊าดก็ยิ่งดังแข่งกับเสียงของมิเกลที่ครางไม่ขาดระยะ


              “อา เลออง ดีมาก แรงได้อีก”


              กลายเป็นว่าความไม่มีชั้นเชิงและดิบเถื่อนเยี่ยงสัตว์ป่ายิ่งเร้าอารมณ์ได้เป็นที่สุด ร่างกายสีขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดและเปียกปอนคราบน้ำลายที่เลอองทิ้งไว้ มิเกลส่งเสียงร้องลั่นเมื่อร่างกายบีบคั้นเขาผวากอดรัดร่างแกร่งด้วยกล้ามเนื้อเมื่อปลดปล่อยออกมา เลอองเงยหน้าคำรามลั่น


             “บีบ มิเกลบีบผมเหลือเกิน”


               ต้องหยุดพักยามช่องทางนั้นบีบเค้นตามจังหวะชีพจรแต่ยิ่งบีบก็ต้องการปลดปล่อยตามออกมา เลอองกัดฟันออกแรงจนรถกระบะสะเทือนจนในที่สุดความต้องการก็บรรลุ เขานิ่งงันพักใหญ่ก่อนจะทิ้งกายลงไปนอนทาบทับมิเกลที่ยังไม่เลิกหอบ


             “พักหน่อยนะ ผมดึงออกไม่ได้ตอนนี้”


             เสียงทุ้มกระซิบข้างหูจนมิเกลเขิน รู้อยู่แล้วว่าดึงออกไม่ได้ง่ายๆ แม้จะปลดปล่อยออกมา ทั้งคู่นอนนิ่งซึมซับความสุขท่ามกลางสายลมเอื่อยที่พัดผ่าน


              “เลออง อย่าเพิ่งบอกเรื่องของเรากับใครนะ”


              เสียงนุ่มเอ่ยขึ้น เลอองผงกหัวขึ้นมอง


             “บอกพ่อกับแม่ บอกป๋าก็ไม่ได้เหรอ ทำไมล่ะมิเกล”


             “น่านะ อย่าเพิ่งบอกใคร ขอให้ผมมั่นใจกว่านี้สักนิดนะครับเลออง”


              เมื่อเป็นความต้องการของมิเกลเลอองจึงไม่อยากขัดใจ เขาพยักหน้ารับก่อนค่อยๆดึงกายออกจากช่องทางแสนหวาน


             “รีบกลับกันเถอะ เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน”


              เลอองกล่าวขณะช่วยมิเกลแต่งตัวคืน หน้าหวานมองอย่างหมั่นไส้


             “ใครใช้ให้ทำแบบนี้กลางป่าล่ะ สิงโตบ้า”


               หน้าคมหัวเราะเบาๆเมื่อแต่งตัวเสร็จเขาจึงอุ้มมิเกลไปนั่งที่เดิมก่อนจะเดินอ้อมไปที่นั่งคนขับ เลอองสตาร์ทรถแล้วจึงหันไปหอมแก้มมิเกลดังฟอด


              “อยากทำเมียกลางป่า ตอนนี้ตัวไหนได้ยินเสียงผมจะได้รู้ว่าผมมีเมียแล้ว ฮ่าๆๆ”


              พูดจบเลอองจึงเหยียบคันเร่งขับรถกลับหมู่บ้านด้วยความเบิกบาน วันนี้เป็นวันดีทั้งวันของเลอองจริงๆ




                                                      TBC


                                               หมั่นไส้ ไอ้เด็กขี้อวด 555


                                    :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-07-2019 20:50:10 โดย Belove »

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่13 NC [27/07/62]
«ตอบ #125 เมื่อ27-07-2019 22:48:55 »

พอมีเมีย ความหื่นก็ชดเจนมากเลยนะเลออง :hao3:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่13 NC [27/07/62]
«ตอบ #126 เมื่อ28-07-2019 00:15:04 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่13 NC [27/07/62]
«ตอบ #127 เมื่อ28-07-2019 08:56:12 »

รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่13 NC [27/07/62]
«ตอบ #128 เมื่อ28-07-2019 12:54:26 »

หมั่นไส้เจ้าเด็กสิงโตขี้อวด

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่13 NC [27/07/62]
«ตอบ #129 เมื่อ28-07-2019 14:55:12 »

 :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่13 NC [27/07/62]
« ตอบ #129 เมื่อ: 28-07-2019 14:55:12 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BM_CBC

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่13 NC [27/07/62]
«ตอบ #130 เมื่อ29-07-2019 21:35:30 »

ส่งกำลังใจ และรอค่ะ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<< เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่14NC [05/08/62]
«ตอบ #131 เมื่อ05-08-2019 13:23:35 »


                                                             เจ้าป่า

                                                            บทที่ 14



            มิเกลคร่ำเคร่งอยู่กับการเก็บเพาะเนื้อเยื่อพันธุ์ไม้อยู่หลายวัน ระหว่างนั้นเขาบอกกับเลอองว่าขอให้เขาได้ทำงานก่อน เพราะหากอีกฝ่ายมาคลอเคลียมากๆ งานอาจไม่เสร็จและมิเกลอาจจะเรียนจบช้าไปอีก โชคดีที่เลอองเข้าใจ เขาจึงไม่ได้รบกวนเวลาของมิเกลมากนักนอกจากหลังอาหารมื้อเย็นที่จะพามิเกลไปเดินเล่นครู่หนึ่ง อย่างเช่นวันนี้ที่ทั้งคู่เดินจูงมือกันอยู่ไม่ไกลจากบ้านของโทนี่นัก เสียงคุยกันกระหนุงกระหนิงหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ดังตรงมา


           “ไง มิเกล เลออง”


            เคนนั่นเองที่เป็นผู้ขี่จักรยานยนต์ตรงมาหาด้วยหน้าตายิ้มแย้ม ก่อนจะหยุดลงเมื่อมาถึงจุดที่เพื่อนยืนอยู่


             “ไม่ต้องถามแล้วมั้งว่าสบายดีหรือเปล่า จูงมือกันดินชมวิวกันขนาดนี้”


              มิเกลหัวเราะสีหน้าแดงระเรื่อ ช่วงนี้เขามีความสุขเป็นพิเศษ


             “มันมองออกชัดขนาดนั้นเลยเหรอวะ”


              “ส่องมาจากภูเขาอีกฟากยังรู้เลยเพื่อน ไง เลออง คำแนะนำของผมใช้ได้ไหม”


         พูดจบก็หันไปหลิ่วตากับเด็กหนุ่มวัยน้อยกว่าหากแต่กายสูงใหญ่ เลอองได้แต่ยิ้มโดยไม่ได้กล่าวอะไร แต่มิเกลมองความมีเลศนัยของทั้งสองแล้วเอะใจ


            “นี่ มีความลับอะไรกัน บอกมานะ”


            มีแต่คนหลบตาจนมิเกลเริ่มขัดใจ เขาจ้องหน้าเพื่อนสนิทกับเลอองสลับไปมาเพื่อคาดคั้น


            “บอกความจริงมาเดี๋ยวนี้เลย เคน เลออง”


            เลอองยิ้มอย่างใจเย็น เขาดึงมือมิเกลมากุมไว้


             “ต้องขอบคุณเคนที่บอกผมว่ามิเกลต้องการใช้ยาต้านอาการฮีท และผมเก็บยาที่มิเกลทำตกจากกระเป๋าได้ แต่ผมคืนให้มิเกลไม่ทัน”


            ดวงตาคู่หวานหรี่มองอย่างรู้ทัน สิงโตหนุ่มเจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว


            “ไม่ใช่ว่าเลอองแอบลักไปจากกระเป๋าของผมเหรอ เดี๋ยวเหอะนะ  พอกันทั้งคู่เลย เล่นอะไรกันเนี่ย”


              เลอองหัวเราะออกมา เขารีบคว้ากำปั้นเล็กที่ส่งมาทำร้ายเขาเพราะความเคอะเขินไว้ได้ ชายหนุ่มรีบส่งเสียงออดอ้อน


              “อย่าโกรธผมกับเคนเลย เคนเขารู้ว่าผมชอบมิเกลถึงได้ชี้ทางให้ เพราะอยากให้ผมทำให้มิเกลมีความสุขไงล่ะ”


                ไหนดีแลนบอกว่าเลอองพูดภาษามนุษย์ไม่แตกฉาน แต่นี่มันคือคารมแพรวพราวสำหรับชายหนุ่มคนหนึ่งเลยทีเดียว ได้ยินแล้วใจมันก็อ่อนยวบแถมยังหวามไหวไปอีก


            “อย่าโกรธเพื่อนสิโว้ย คนเขาอยากให้เพื่อนมีความสุข ฮ่าๆๆๆ”


              มิเกลได้แต่มองเคนอย่างคาดโทษ ความจริงเขาก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอก เพราะรู้นิสัยดีว่าเคนเป็นคนอย่างไร


              “เออ อาจารย์โทรมาถามความเป็นอยู่พวกเราด้วยนะ ถามว่าเป็นไงบ้างงานไปถึงไหน จะกลับเมื่อไหร่ ก็เลยบอกไปว่าของมิเกลไม่มีปัญหาครับ แต่ของผมน่าจะมีอาจเรียนไม่จบก็ได้”


             เคนหัวเราะตัวเอง มิเกลเลิกคิ้วด้วยความสงสัย


              “ทำไมล่ะ มันมีปัญหาอะไรถึงจะไม่จบ”


             “หมั่นไส้เจ้าของบ้านเลยไม่มีใจทำงาน” เคนยักไหล่อย่างไม่แคร์นัก “คนอะไรขี้เก๊กโคตรๆ”


             “คุณไทเลอร์เขาคงมีโลกส่วนตัวสูงล่ะมั้ง อย่าไปว่าเขาน่า อยู่ห่างๆเขาไว้สิ”


              พยายามกล่าวแก้ให้ไทเลอร์ ฮิวจ์ อย่างน้อยบุคคลนี้ก็มีส่วนทำให้พวกเขาตัดสินใจเดินทางมาที่นี่ เคนไม่ได้พูดถึงไทเลอร์อีก สีหน้าของเขาจริงจังขึ้นเมื่อกล่าวประโยคถัดไป


            “เออ อาจารย์บอกว่าพ่อของมึงมาตามหาที่มหาวิทยาลัยว่ะ เขาไปโวยวายตามหาลูก ไม่รู้ว่าลูกอยู่ไหน”
มิเกลหน้าขรึมลง เขาถอนหายใจเมื่อเดาได้ว่าเพราะเหตุใดบิดาถึงต้องไปตามหาเขา ดีแล้วที่มาอยู่ไกลถึงในป่า อย่างไรเสียพ่อกับเมียใหม่ก็คงจะมาตามไม่ได้


            “ช่างเขาเถอะ ขอบใจนะเคน”


             เคนอยู่คุยกับทั้งคู่อีกพักใหญ่จึงขอตัวกลับรีสอร์ท ความมืดโรยราลงแล้วเลอองจึงชวนมิเกลกลับบ้าน


            “พาผมมาคอกม้าทำไม”


             มิเกลยิ้มอย่างรู้ทันเมื่อร่างสูงจูงมือพาเขามาที่คอกม้าแทนที่จะกลับเข้าไปในตัวบ้านอย่างเช่นทุกวัน เลอองมองหน้าหวานตาละห้อย


             “โธ่  มิเกลไม่สงสารผมเหรอ เราไม่ได้ทำกันหลายวันแล้วนะ”


             ต่อจากนี้ไป มิเกลคงต้องสอนให้เลอองใช้คำศัพท์ที่ฟังระรื่นหู แต่ไม่ใช่ตอนนี้แน่เพราะเขาถูกเลอองรวบร่างไว้ในอ้อมกอดแล้วกระโจนขึ้นไปบนชั้นลอยที่มีกองฟางอัดแข็ง อ้อมกอดนั้นวางเขาลงอย่างนุ่มนวล และยังเอนกายลงมาทาบทับอีกด้วย


             “เจ้าดองกี้ก็คิดถึงมิเกล มันถามว่าคนที่ร้องเสียงเพราะๆ ไม่มาอีกเหรอ”


               “ใครคือดองกี้”


              มิเกลเหลียวหน้าแลหลังเลิ่กลั่ก จำไม่ได้ว่ารู้จักใครที่ชื่อดองกี้ เลอองคลี่ยิ้มพลางชี้นิ้วไปที่ม้าผอมแกร็นตัวหนึ่ง


              “เจ้าม้าโง่ตัวนั้นแหละ มันอยู่ในวันที่เราทำกันที่นี่ด้วย มันบอกว่าชอบเสียงของมิเกล”


               ได้ยินเสียงร้องจากม้าตัวที่ว่า มิเกลถึงกับหน้าแดงก่ำ


              “พอกันทั้งคู่เลย ไม่อายกันบ้างเหรอ ฮื้อ”


              หมดคำพูดทันทีเมื่อเลอองก้มหน้ามาดูดความหวานที่ซอกคอระหง แรงขบเม้มนั้นทำให้เรี่ยวแรงหายไปหมดสิ้น        มิเกลยอมรับแล้วว่าเขาแพ้ทางเลออง เพียงแค่สัมผัสแผ่วเบาเขาก็พร้อมที่จะยอมให้อีกฝ่ายทำทุกอย่าง


             “ตัวมิเกลหอมจัง”


             ผิวกายของมิเกลหอมกรุ่นเสมอยามที่เลอองได้ซุกไซ้เช่นนี้ มันไม่ใช่กลิ่นแป้งหรือน้ำหอมอย่างที่เขาเคยได้กลิ่นฟลอเรียใส่เวลาออกไปข้างนอก แต่มันเป็นกลิ่นกายเฉพาะของมิเกลที่ครึ่งมนุษย์ครึ่งสิงโตเช่นเขาจดจำได้แม่นยำนัก และมันชวนให้หลงใหลทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิด


              มือสากถึงเสื้อยืดของมิเกลจนฟ้นศีรษะเพื่อที่เขาจะได้ดมกลิ่นหอมได้ทั่วทั้งตัว กิริยาคล้ายสัตว์ป่ายามรอลิ้มรสเหยื่อที่ถูกใจนั้นทำให้มิเกลแทบคลั่ง จมูกชื้นและลิ้นร้อนซอนไซ้จนขนอ่อนลุกตั้งชัน มิเกลได้แต่โอบกอดและกดศีรษะที่เต็มไปด้วยผมยาวคล้ายแผงคอได้ดอมดมจนชุ่มฉ่ำ


             “อา เลออง”


             กลายเป็นว่าตอนนี้มิเกลเองก็ต้องการอีกฝ่ายเช่นกัน เขาจัดการถอดกางเกงตนเองลงแล้วถีบจนหลุดจากปลายเท้าพลางแยกขากว้างเพื่อรอรับให้ร่างสูงใหญ่กว่าวัยได้เข้ามาแนบชิด มือเรียวเลื่อนไปกอบคุมความเป็นบุรุษเพศของอัลฟ่ากลางพงไพรที่อัดแน่นเต็มกำมือ


            ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้มิเกลอยากให้เขาทำอะไร เพราะคนใต้ล่างบิดกายพล่านไปมากับสัมผัสของเขา ได้ยินเสียงลมหายใจกระเส่าพร้อมเป่าปากเนื้อตัวร้อนรุม เลอองไม่รอช้าที่จะเบียดกึ่งกลางกายเข้าหา ช่องทางเปียกชื้นจากร่างกายของโอเมก้าที่รอให้เขาได้ชำแรกร่างเข้าไป มิเกลกัดฟันเบาๆ ตอนที่เขาแทงลึกเข้าไปเรื่อยๆ


               “แน่นมากมิเกล”


             บุตรแห่งเจ้าป่าอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงคำรามออกมา แม้จะไม่ดังนักก็ยังได้ยินเสียงม้าในคอกขานรับ ร่างสูงโก่งตัวขึ้นยันแขนไว้กับกองฟางอัดแข็งเพื่อที่เขาจะได้เคลื่อนที่อย่างถนัดถนี่ มิเกลแทบจะขาดใจไปกับความรัญจวนที่เลอองมอบให้


             “ละ เลออง จูบกัน จูบกันนะครับ”


           นัยน์ตาหวานพราวระยับ มิเกลออดอ้อนเสียงสั่นไหว มีหรือที่เลอองจะไม่กระทำตาม เขาโน้มใบหน้าลงไปจุมพิตที่กลีบปากสีแดงฉ่ำ ท่อนแขนเรียวคล้องรอบคอของเขาแล้วโอบกอดให้จูบนี้ยิ่งเร่าร้อนราวกับเพลิงป่า ใบหูแหลมของเลอองตั้งชั้น หางยาวสะบัดโบกสะบัดไปมาโดยไม่ต้องปิดบังอีกแล้ว


              “ผมขอแรงอีกหน่อยนะ มิเกลไหวใช่ไหมครับ”


             “ไหวครับเลออง แรงได้เลยผมรออยู่”


              เอวบางถูกวงแขนกำยำโอบอุ้มเพื่อที่เลอองจะได้ออกแรงเต็มที่ ช่องทางร้อนของมิเกลหยาดเยิ้มไปด้วยน้ำหล่อเลี้ยง มันเป็นการสอดประสานกันอย่างเยี่ยมยอด ความเสียวซ่านวิ่งวูบไปทั้งกายจนต้องผวาเข้าโอบกอดร่างสูงไว้ มิเกลกัดลงที่บ่าของเลอองเพื่อระบายความรู้สึกที่ไม่อาจส่งเสียงได้ดังกว่านี้เพราะไม่อยากให้เจ้าของบ้านได้ยิน


            “อื้อ ไม่ไหวแล้วเลออง”


             ฉ่า!


            เกร็งกายกอดรัดเมื่อมิเกลระเบิดออกมาจนเปียกชื้น ช่องทางยิ่งเต้นตุบๆไม่ต่างจากหัวใจที่สูบฉีดเลือดร้อนไปเลี้ยงร่างกาย เลอองซุกหน้าของเขาลงกับซอกคอเมื่อแก่นกายถูกบีบคั้น เขารอให้มิเกลได้เสพสุขในวินาทีนี้ให้เต็มที่เสียก่อน


             “สักวันหนึ่ง ผมจะกัดที่คอของมิเกลตรงนี้”


           เขาแลบลิ้นเลียจุดเส้นเลือดใหญ่ที่คอของมิเกล เจ้าตัวถึงกับเบิกตากว้าง


            “เลอองรู้เรื่องนี้!”


             นั่นก็คือการ “ผูกพันธะ” ที่อัลฟ่าจะกระทำเพื่อผูกมัดโอเมก้าให้เป็นสมบัติของอัลฟ่าตลอดไป มิเกลไม่นึกว่าเลอองจะรู้เรื่องนี้ด้วย


            “พ่อบอกผม ผมเล่าให้พ่อฟังเรื่องที่เราเป็นผัวเมียกันแล้ว อย่าเพิ่งชวนคุยสิ ขอผมตามมิเกลไปก่อนนะ”


            เมื่อเห็นว่าร่างกายของมิเกลคลายจากอาการรัดเกร็ง เลอองจึงได้ออกแรงเข้าใส่อีกครั้ง รอบนี้ไม่นานนักเขาจึงสุขสมติดตามไปติดๆ เลอองส่งเสียงคำรามเบาๆ พอได้ยิน แต่กระนั้นมิเกลก็ยังได้ยินเสียงม้าในคอกส่งเสียงขานรับ เขาถึงกับหน้าแดงซ่าน


            “บ้า ม้ากับสิงโต บ้าพอๆกัน”





มีต่ออีกนิด...




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-08-2019 13:37:02 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<< เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่14NC [05/08/62]
«ตอบ #132 เมื่อ05-08-2019 13:38:15 »



ต่อกันตรงนี้...


             เลอองหัวเราะชอบใจ เขาเอนกายไปนอนซบบนร่างนุ่มเพราะยังถอนกายไม่ได้ตอนนี้ ต้องรอพักใหญ่กว่าความแข็งแรงตรงกึ่งกลางจะคลายตัวลงจึงค่อยดึงออกมาได้ เลอองอยากจะนอนกอดมิเกลต่อหากไม่ได้ยินเสียงโทนี่ตะโกนเรียกชื่อเขา


             “ป๋าเรียก แต่งตัวกันเถอะ”


              ช่วยกันแต่งตัวคืนจนเรียบร้อยเลอองจึงพยุงร่างโปร่งของมิเกลให้ลุกจากเตียงนอนฟางที่แสนสบายของเขา มือใหญ่ลูบแก้มนุ่มอย่างอ่อนโยน


              “มิเกลเดินไหวไหม”


             แน่ล่ะ เพิ่งผ่านบทรักมาหมาดๆ มีหรือจะไม่หมดแรง มิเกลลองก้าวเท้าเดินจึงหันมายิ้มให้เลออง


               “ได้ ขาไม่สั่นเท่าไหร่”


              เลอองพยักหน้า เขารวบกายบางลงจากชั้นลอยลงไปสู่พื้นและพาอ้อมไปยังตัวบ้าน เขาค่อยปล่อยให้มิเกลลงยืนเองพร้อมกับเดินเข้าไปในบ้านด้วยกัน


            “มาแล้วๆ ป๋า มีอะไรครับ”


            “อ้าว ไปเดินเล่นกันไกลล่ะสิวันนี้ กว่าจะกลับบ้านกันได้”


              เมื่อรู้กันแล้วว่ามิเกลคือลูกเลี้ยงของดีแลน โทนี่กับฟลอเรียก็ยิ่งเอ็นดูเขาเป็นพิเศษเหมือนเป็นญาติอีกคน มิเกลซาบซึ้งเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ราวกับเขาได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวที่แสวงหามาเนิ่นนาน เขารีบยิ้มรับกับคำถามของสัตวแพทย์ใจดี


                “ครับคุณโทนี่ เลอองพาเดินไปไกลหน่อย”


             ความจริงแค่คอกม้าข้างๆ บ้านนี่แหละ แต่มิเกลยังไม่อยากให้ผู้ใหญ่รู้เรื่องของเขากับเลออง รอให้สบโอกาสเหมาะๆ เขาจะบอกกับดีแลนก่อนเป็นคนแรก


             “มาก็ดีแล้ว หมู่บ้านติดกันมีวัวล้มพร้อมกันหลายตัว เขาติดต่อมาให้ไปช่วยหาสาเหตุด่วน เลอองตามไปช่วยงานป๋า ให้มิเกลอยู่กับฟลอเรียที่บ้าน”


             เลอองรับคำก่อนจะไปเตรียมอุปกรณ์ทำงานของโทนี่ ทั้งคู่เดินไปที่รถยนต์เพื่อไปทำงาน ตั้งแต่เลอองมาอยู่ด้วยโทนี่ก็เบาแรงไปได้มาก เขาสอนเด็กหนุ่มเรื่องการรักษาอาการเจ็บป่วยของสัตว์โดยที่เลอองก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วทั้งที่ยังไม่เคยเข้าเรียนในโรงเรียนมาก่อน


              มิเกลอยู่สนทนากับฟลอเรียอีกพักใหญ่จึงขอตัวกลับเข้าห้องส่วนตัว ง่วนอยู่กับการเขียนรายงานเพาะเนื้อเยื่อพันธุ์ไม้ ส่วนฟลอเรียดูโทรทัศน์อยู่ด้านนอก จนเวลาผ่านไปเกือบเที่ยงคืนมิเกลจึงได้บิดตัวด้วยความเมื่อยขบ เปลือกตาปรือเพราะความง่วงนอน


              “นอนดีกว่า เมื่อหัวค่ำเลอองจัดการซะเกือบแย่”


               กำลังล้มตัวลงนอนพลันเสียงกริ่งหน้าประตูรั้วก็ดังขึ้นจนสะดุ้ง มิเกลเปิดประตูห้องออกไปเห็นฟลอเรียกำลังจะเปิดประตูบ้าน


               “เดี๋ยวฉันไปดูเองจ้ะ มิเกลนอนเถอะ ใครนะมาซะดึกดื่นค่อนคืนขนาดนี้”


                เจ้าของบ้านเดินไปที่ประตูรั้วนอกบ้าน ฟลอเรียดึงกลอนออกเพื่อเปิดประตู


                 “มาแล้ว มาแล้ว ใครกันจ๊ะ มีธุระอะไร ว้าย พวกแกเป็นใคร!”


                 ร่างท้วมที่เริ่มเข้าสู่วัยชราถูกผลักจนล้มลงกับพื้น ก่อนที่ชายฉกรรจ์หลายคนจะบุกเข้ามาในบ้าน เสียงกรีดร้องของฟลอเรียทำให้มิเกลตกใจมาก เขาผุดลุกจากเตียงวิ่งไปที่ประตู


              “ฟลอเรีย เกิดอะไรขึ้นครับ อ๊ะ พวกแกเป็นใคร”


               มิเกลผงะเมื่อมีผู้ชายใส่เสื้อผ้าสีดำแถมยังใส่หมวกโม่งคลุมหน้าเหลือเพียงดวงตาให้เห็นหลายคนบุกรุกเข้ามาในบ้าน ทุกคนก้าวเข้ามารุมล้อมเขาไว้ ชายหนุ่มตกใจแทบสิ้นสติ


              “พวกแกต้องการอะไร ออกไปนะ”


              “มิเกล ระวังนะ”


                ฟลอเรียก้าวเข้ามาสีหน้าหวาดกลัว ที่นี่เป็นหมู่บ้านเงียบสงบ ไม่เคยมีเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ แต่ตอนนี้พวกวายร้ายเหล่านี้บุกเข้ามาในบ้านและยังยืนล้อมกรอบมิเกลไว้อีกด้วย


               “ใช่แน่ตามข้อมูลที่ให้มา จับตัวไว้”


                หนึ่งในกลุ่มคล้ายเป็นหัวหน้ากล่าวขึ้น ทั้งหมดจึงย่างสามขุมเข้าหา มิเกลตัวสั่นด้วยความตระหนก เขาได้แต่มองพวกมันด้วยดวงตาเบิกกว้าง


               “อย่ามาแตะต้องตัวกูนะโว้ย”


                พยายามขู่แต่เหมือนไม่ได้ผล พวกมันตรงเข้าจับกุมตัวเขาไว้โดยหมดทางต่อสู้ เศษผ้ากลิ่นฉุนผืนหนึ่งถูกโปะเข้ามาที่ครึ่งปากครึ่งจมูก ฟลอเรียที่พยายามเข้ามาช่วยกลับถูกผลักกระเด็นไปกระแทกกับผนังบ้านจนหัวแตก มิเกลกลั้นหายใจได้ไม่นานเขาก็สำลักกลิ่นฉุนเข้าไป ในที่สุดสติของเขาก็ดับวูบลง


               “ไม่ พวกแกจะเอาตัวมิเกลไปไหน อย่านะ”


                พวกมันไม่สนใจฟลอเรียอีกเมื่อได้ตัวมิเกลแล้วก็พากันวิ่งกลับไปด้านนอกที่มีรถยนต์สีดำกลมกลืนกับความมืดจอดรออยู่ ฟลอเรียร้องไห้ด้วยความตกใจ ร่างท้วมลนลานไปที่โทรศัพท์บ้านพลางกดโทรออกด้วยมืออันสั่นเทา


              “ขอสายโทนี่ เรื่องด่วนมาก เร็วสิ คุณคะ โทนี่ ไอ้พวกบ้าที่ไหนไม่รู้มันบุกมาในบ้าน ฮือ มันเอาตัวมิเกลไปแล้วค่ะ”



                                                                 TBC

                                                     ฮืออ น้องงงงง ช่วยน้องด้วยยย



                                               :sad5: :sad5: :sad5: :sad5: :sad5: :sad5: :sad5: :sad5:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-08-2019 13:44:59 โดย Belove »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่14NC [05/08/62]
«ตอบ #133 เมื่อ05-08-2019 22:29:41 »

แง้สงสารหนูจัง ทีนี้วุ่นวายกันไปทั้งป่าแล้ว

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่14NC [05/08/62]
«ตอบ #134 เมื่อ05-08-2019 23:25:59 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

พวกนั้นแม่งทำงานไวหว่ะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่14NC [05/08/62]
«ตอบ #135 เมื่อ05-08-2019 23:58:02 »

รอๆ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่14NC [05/08/62]
«ตอบ #136 เมื่อ06-08-2019 08:08:29 »

เจอพวกมากอิทธิพลเข้าแล้ว เลอองจะตามไปช่วยมิเกลทันมั้ย 

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่14NC [05/08/62]
«ตอบ #137 เมื่อ06-08-2019 08:38:11 »

 :sad4:
เร็วๆๆ ช่วยมิเกลด้วย
 :katai1:

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่14NC [05/08/62]
«ตอบ #138 เมื่อ07-08-2019 08:26:20 »

 :katai1:เลออง  ตามให้ทันแล้วจัดการมันซะ

ออฟไลน์ Cheese[C]ake

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่14NC [05/08/62]
«ตอบ #139 เมื่อ07-08-2019 17:36:22 »

เค้ากำลังมีความสุขกันจะมาแย่งไปทำมาย​  :katai1: :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่14NC [05/08/62]
« ตอบ #139 เมื่อ: 07-08-2019 17:36:22 »





ออฟไลน์ Cheese[C]ake

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่14NC [05/08/62]
«ตอบ #140 เมื่อ07-08-2019 17:38:51 »

เพิ่งมาอ่านจ้า​ แต่ชอบมากๆเลย​ คนเขียนแต่งดีมากสนุกมาก​  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่14NC [05/08/62]
«ตอบ #141 เมื่อ09-08-2019 03:11:37 »

เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกมากๆ

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่14NC [05/08/62]
«ตอบ #142 เมื่อ09-08-2019 13:09:02 »

ไรท์รีบมานะคะ.. มาช่วยมิเกลลล..  :katai4:

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่14NC [05/08/62]
«ตอบ #143 เมื่อ09-08-2019 17:24:11 »

รอจ้า  :z13:

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<< เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่15 [14/08/62]
«ตอบ #144 เมื่อ14-08-2019 00:33:53 »




                                                             เจ้าป่า

                                                            บทที่ 15

           รถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ของโทนี่ห้อตะบึงกลับถึงบ้านแทบไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยอารมณ์ร้อนของเลออง ทันทีที่จอดหน้าประตูรั้วทั้งสองคนก็รีบลงมาจากรถ บัดนี้บ้านของนายสัตวแพทย์เปิดไฟสว่างไสวมีรถตำรวจหลายคันมาจอดอยู่ เมื่อฟลอเรียเห็นหน้าของสามีหล่อนก็รีบก้าวมาหาด้วยความตระหนก


           “คุณคะ”


           “เป็นอะไรมากหรือเปล่าฟลอเรีย”


           สามีรีบถามด้วยความเป็นห่วง บนหน้าผากของภรรยามีผ้าก็อซปิดไว้ยิ่งทำให้เขาโมโห ไม่ต้องพูดถึงเลอองที่ยืนกัดกรามจนสันคางเป็นแนว


            “พวกมันเป็นใครกัน”


             นายตำรวจอายุรุ่นราวคราวเดียวกับโทนี่เอ่ยขึ้น ตอนนั้นเองที่เคนแทรกกายเข้ามาหา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ เบื้องหลังของเคนมีไทเลอร์ยืนอยู่ห่างๆ


              “ผมคิดว่าต้องเป็นคนของไอ้ท่านรัฐมนตรีโซรอสกับพ่อของมิเกล ใครสักคนในสองคนนี้”


              ผู้ใหญ่ในบ้านหันมามองเคนเป็นตาเดียว ไทเลอร์ส่งเสียงเตือนมาจากด้านหลัง


               “อย่าพูดส่งเดชดีกว่า ในเมื่อยังไม่มีหลักฐานอะไรสักอย่าง”


              “พูดได้สิเพราะผมรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับเพื่อนของผมบ้าง” เคนหันกลับไปพูดเสียงเครียด “ก่อนจะมาที่นี่ไม่นานพ่อของมิเกลพามันไปพบรัฐมนตรีนั่นเพราะหวังจะใช้ลูกเป็นเครื่องมือเบิกทางทำธุรกิจ มันถึงต้องลากผมมาเป็นเพื่อนหนีเข้าป่ามานี่ไง แล้วไม่กี่วันก่อนพ่อของมิเกลก็เพิ่งไปโวยวายกับอาจารย์เรื่องที่หาตัวมิเกลไม่เจอ คุณคิดว่าพ่อที่ไม่เคยสนใจว่าลูกจะเป็นยังไงบ้าง ทำไมถึงต้องเดือดร้อนตามหาลูกจนวุ่นวายขนาดนี้ล่ะ”


              ได้ยินเสียงคล้ายขู่คำรามมาจากคอของเลออง สีหน้าของเด็กหนุ่มเปลี่ยนไปราวกับคนละคน โทนี่ได้แต่หันไปตบบ่าบุตรบุญธรรมเบาๆเพื่อเตือนสติ


              “ผมสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังติดตามแล้ว ล่าสุดมีคนได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถดังอยู่แถวชายป่า คิดว่ามันคงจะใช้ความมืดกับต้นไม้อำพรางไม่ให้ใครเห็น ขอให้ทุกคนใจเย็นและรอฟังข่าวจากลูกน้องของผมก็แล้วกัน”


           ดวงตาสีเหล็กสว่างวาบคุโชนคล้ายกองไฟ เลอองหันไปสบตากับโทนี่ก่อนจะค่อยๆ ก้าวถอยหลังออกไปจากบ้านโดยไม่ให้ผิดสังเกต โชคดีที่ยังไม่มีใครคุ้นเคยกับเขามากนักจึงไม่เป็นจุดสนใจ จนกระทั่งเดินพ้นประตูรั้วไปยังรถกระบะคันเดิมที่จอดอยู่เขาก็รีบกระโจนไปยังที่นั่งคนขับแล้วเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าไปยังแนวป่าที่ใกล้ที่สุด เครื่องยนต์ดับยังไม่ทันสนิทเลอองก็พุ่งกายออกจากรถทันที


            ร่างมนุษย์คล้ายกลับกลายเป็นสัตว์ป่า กรงเล็บแหลมพุ่งออกมาพร้อมตะปบได้ทุกเมื่อ เขาวิ่งเข้าสู่พงไพรก่อนกระโจนขึ้นต้นไม้สูงใช้เถาวัลย์ช่วยให้การเดินทางเร็วขึ้น ใบหน้าเชิดสูงส่งเสียงคำรามยาวนานสะท้อนไปทั่ว พลันเสียงคำรามตอบรับดังแทรกขึ้นเป็นทอดๆ ป่าหญ้าด้านล่างเต็มไปด้วยเสียงสวบสาบและเสียงฝีเท้าของสัตว์ใหญ่


           เลือดในกายเลอองร้อนฉ่า หัวใจแทบระเบิดด้วยความเป็นห่วงมิเกล เขาใช้ญาณสัมผัสที่ดีกว่ามนุษย์เกือบทุกส่วนเพื่อเป็นประโยชน์ ทั้งดวงตาคมที่มองเห็นชัดในที่มืด หูที่รับคลื่นเสียงได้ในระยะไกล จมูกเปิดรับกลิ่นแปลกปลอม ทั้งหมดเพื่อตามหามิเกลคนที่เลอองหลงรักตั้งแต่แรกเห็น


             ภาวนาให้เขาตามหามิเกลได้ทันเวลาอย่าให้คนที่เขารักได้รับอันตรายใดๆทั้งสิ้น เลอองส่งเสียงกู่ร้องก้องป่าอีกครั้งเพื่อให้รู้ว่านี่คือคำสั่งของทายาทแห่งเจ้าป่า เขาจะปกป้องมิเกลด้วยศักดิ์ศรีและชีวิตของตนเอง






           มิเกลเริ่มได้สติตอนที่รถยนต์ค่อยๆ ช้าลงจนกระทั่งมันหยุดลงกลางป่า ชายแปลกหน้าที่นั่งข้างเขาบนเบาะหลังกระชากแขนของมิเกลลงจากรถอย่างแรง ตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งรู้ว่าข้อมือทั้งสองถูกมัดติดกันอยู่ด้านหลังเพื่อป้องกันมิให้หลบหนี แต่กระนั้นมิเกลก็รีบตวัดสายหามองรอบกายเพื่อประเมินสถานการณ์ทันที


           ท่ามกลางความมืดมีกองไฟบนพื้นดินให้แสงสว่างอยู่กองหนึ่ง จึงพอมองเห็นว่านอกจากรถยนต์สีดำสมบุกสมบันที่พาเขามายังจุดนี้ ยังมีรถตู้คันใหญ่สีดำเช่นเดียวกันจอดกลมกลืนกับความมืด และ ณ จุดนั้นเองที่มีชายรูปร่างเจ้าเนื้อหน้าตาเจ้าเล่ห์กับลูกน้องอีกจำนวนหนึ่งยืนรออยู่ และเมื่อมองเห็นคนของตนลากแขนมิเกลลงมาจากรถชายคนนั้นก็รีบปรี่เข้ามามองใบหน้าของมิเกลสลับกับรูปถ่ายที่อยู่ในมือ


             “ใช่ ไม่ผิดแน่ ฮ่าๆๆ”


              เสียงหัวเราะชอบใจดังขึ้นอย่างน่ารังเกียจ มิเกลกัดฟันพยายามตั้งสติกับสิ่งที่เกิดขึ้น


               “ปล่อยนะ เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน พวกแกจะมาทำเลวแบบนี้ไม่ได้”


             “ดุเสียด้วยโอเมก้าน้อย” น้ำเสียงหยามเหยียดล้อเลียนพลางใช้มือยึดปลายคางเขาไว้ มิเกลสะบัดหน้าหนีแต่ก็ไม่สำเร็จ “หน้าตาดีชะมัด สมกับค่าจ้างแพงๆ ที่ลงทุนมาให้จับแกกลับไป”


            “ใคร ใครจ้างพวกแกมา”


          ดวงตาโตเบิกกว้างทั้งกลัวทั้งโกรธ พยายามจะดิ้นแต่เชือกที่รัดข้อมือก็ดูเหมือนยิ่งแน่นมากขึ้นไปอีก แถมยังมือข้อมือหนาๆ เหนียวยิ่งกว่าตุ๊กแกยึดต้นแขนของมิเกลไว้จนสิ้นอิสรภาพ  แวบหนึ่งที่มิเกลมองเห็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งบนเสื้อของชายตรงหน้า


           “พวกแกคือแบล็กฮันเตอร์!”


             มิเกลเคยได้ยินชื่อกลุ่มลับกลุ่มนี้มาได้สักพักแล้ว ในกลุ่มโอเมก้าที่มิเกลรู้จักเล่าให้ฟังว่าแบล็กฮันเตอร์ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อรับจ้างในทางทุจริตและเชี่ยวชาญในการตามหาโอเมก้าไปให้อัลฟ่าที่ยังหลงมัวเมาอยู่ในอำนาจความแข็งแกร่งของตน ทั้งที่ปัจจุบันนี้เรื่องการแบ่งชนชั้นจะไม่มีแล้วก็ตามแต่ก็ใช่ว่าจะร้อยเปอร์เซ็นต์


           “ใครจ้างพวกแกมา”


            กัดฟันถามทั้งที่พอเดาได้ มิเกลไม่ได้โง่จนคิดไม่ได้ว่าใครที่ต้องการตัวเขาถ้าไม่ใช่บิดาที่ตั้งใจจะขายลูกปูทางไปสู่ความก้าวหน้าทางธุรกิจ แต่พอล อาร์มันโดไม่ได้กว้างขวางพอจะรู้จักองค์กรลับอย่างแบล็กฮันเตอร์เป็นแน่


             “อย่าทำตัวสู่รู้ไปหน่อยเลย เดี๋ยวไปเจอท่านก็รู้เองนั่นแหละ พอไปถึงก็ทำตัวให้ดีๆ เหมือนปากก็แล้วกันเผื่อท่านจะเมตตากับโอเมก้าชั้นต่ำอย่างแก”


          น้ำตารื้นด้วยความเจ็บใจ ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้ว่าคิดไม่ผิด นอกจากคนที่มีอำนาจมากมายจนอาจจะได้เป็นบุคคลอันดับหนึ่งของประเทศอย่างโซรอส แมกเคน ที่มีทีท่าพึงพอใจมิเกลตั้งแต่แรกเห็นแล้วจะเป็นใคร


             “เอาตัวมันขึ้นรถ”


             ชายผู้ที่โซรอส แมกเคนเรียกชื่อว่าทอม ผู้ดูแลกิจการของแบล็กฮันเตอร์ออกคำสั่ง พลันมิเกลถูกผลักให้เดินไปข้างหน้าจนหัวแทบคะมำ เมื่อใกล้ถึงรถตู้คันใหญ่แขนของเขาก็ถูกกระชากบังคับให้ก้าวขึ้นไป มิเกลรู้ว่าหากเข้าไปในรถคันนี้แล้วอิสรภาพของเขาต้องหมดไปอย่างแน่นอน


             “ไม่ ไม่ไป”


              ดิ้นรนเฮือกสุดท้ายแต่กลับถูกทอมชกเข้าที่ลิ้นปี่จนตัวงอหมดเรี่ยวแรงทรุดลงไปไร้แม้เสียงร้องขอความช่วยเหลือ ร่างที่บอบบางตามสายพันธุ์ถูกหิ้วปีกเข้าไปในรถ น้ำตาของความน้อยใจในโชคชะตาไหลเปียกอาบแก้ม หัวใจได้แต่ร่ำร้องหาคนที่เพิ่งพบพานทว่าผูกพันลึกซึ้ง


            “เลออง เลออง ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย”


            คล้ายคำอ้อนวอนของมิเกลจะส่งผลทันตาเมื่อทันใดนั้นเสียงขู่คำรามของสัตว์ป่าพลันดังก้องไปรอบทิศล้อมกรอบพวกแบล็กฮันเตอร์ไว้ พวกมันแต่ละคนเอะอะด้วยความตกใจเมื่อมองเห็นนัยน์ตาเรืองแสงหลายสิบคู่กระจายตัวอยู่ในความมืดมิด


            “เกิดบ้าอะไรขึ้นมาวะ”


             ทอมสบถหน้าซีดเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เข้าป่าอาจต้องพบเจอสัตว์ป่า แต่ใครจะคิดว่าตอนนี้จะมีทั้งเสือและสิงโตเยอะยิ่งกว่าสวนสัตว์เสียอีก


            “นาย เอาไง มันทำไมล้อมเราไว้แบบนี้”


             ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติแล้ว ทอมตะโกนสั่งการให้ทุกคนใช้ปืนยิงต่อสู้ ทันใดนั้นเขาก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อมีมนุษย์คนหนึ่งโหนเถาวัลย์ลงมาจากกิ่งไม้แล้วใช้เท้าถีบเขาจนกระเด็นกระแทกรถร่วงไปกองกับพื้น


            ร่างสูงใหญ่กระโจนมายืนจังก้ากลางดงปืนอย่างไม่กริ่งเกรง เขาส่งเสียงคำรามคล้ายไม่ใช่เสียงมนุษย์ หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววินาทีพื้นดินจึงสะเทือนลั่นจากแรงของสัตว์ใหญ่สลับกับเสียงปืนที่ดังขึ้นด้วยน้ำมือของมนุษย์ เลอองใช้กรงเล็บทั้งมือและเท้าตะปบที่ร่างมนุษย์สารเลวเหล่านั้นก่อนจะใช้คมเขี้ยวกัดลึกจนโลหิตคละคลุ้ง หลายคนถูกสิงโตขย้ำจนร่างกายแหลกเละ มิเกลที่นั่งพิงรถได้แต่หลับตาหนีภาพความโหดร้ายของการล่าในครั้งนี้


             ทอมตาเหลือกด้วยความหวาดกลัวเมื่อลูกน้องของเขาบ้างก็เสียชีวิตบ้างก็ถูกกัดจนบาดเจ็บสาหัสใต้อุ้งเท้าสัตว์ป่า ใต้ความหวาดกลัวยิ่งแปลกประหลาดใจเมื่อเห็นจ่าฝูงสัตว์ป่ากลับเป็นมนุษย์ เขาเพ่งมองร่างสูงที่ปรี่เข้าไปหาเป้าหมายของเขาแล้วดึงเข้าสู่อ้อมกอด


             วินาทีนั้นทอมคิดอะไรไม่ออกนอกจากเอาตัวรอด เขาตะเกียกตะกายขึ้นไปบนรถตู้แล้วสตาร์ทเร่งเครื่องออกไปทันทีโดยไม่สนใจลูกน้องที่ยังมีลมหายใจรวยริน ใครจะบ้าไปสู้กับสัตว์ดุร้ายเช่นนั้นเล่าเอาชีวิตรอดไว้ก่อนเป็นพอ เลอองเห็นดังนั้นเขาจึงคิดจะติดตามแต่มิเกลกลับรั้งเขาไว้


              “ไม่ต้องเลออง พอเถอะ”


             ร่างสูงพยักหน้ารับคำ เขาหันไปส่งเสียงคำรามอีกครั้งการล่าจึงปิดฉากลง เลอองส่งเสียงขอบคุณความช่วยเหลือเหล่านั้นก่อนจะรั้งมิเกลไว้ในอ้อมกอด เขากดศีรษะจนหน้าหวานแทบจมไปกับแผงอกของเขา


                “อย่าเพิ่งลืมตาตอนนี้มิเกล”


                เลอองไม่อยากให้มิเกลเห็นภาพซากร่างมนุษย์ถูกสัตว์ป่าลากไปเป็นอาหาร คนที่ยังมีลมหายใจก็ถูกขย้ำซ้ำมั่นใจว่านิ่งสนิทจึงถูกคมเขี้ยวลากไปตามพื้นดิน เมื่อสัตว์ใหญ่ได้อาหารอันโอชะไปเพียงพอความต้องการแล้วจึงเป็นลาภปากของหมาจิ้งจอกกับไฮยีน่าที่เข้ามารุมทึ้งซากที่เหลือ มิเกลได้แต่ตัวสั่นอยู่ในอ้อมกอดของเลออง


               “หายเจ็บหรือยัง”


             น้ำเสียงของเลอองกลับมาทุ้มนุ่มชวนฟังอีกครั้ง มิเกลพยักหน้ากับแผงอกหนา เลอองถอนหายใจโล่งอกเขาแก้มัดเชือกที่ข้อมือของมิเกลออกจนเป็นอิสระ


                 “มิเกลฟังนะ อย่าเพิ่งลืมตาเด็ดขาด สภาพตอนนี้ไม่น่ามองนักหรอก มิเกลขี่หลังผมแล้วกอดผมให้แน่น ผมจะพามิเกลออกไปให้พ้นเขตป่าก่อน เข้าใจไหม”


              “เข้าใจแล้วเลออง”


              มิเกลเองก็ไม่ได้อยากมองนักหรอก กลิ่นคาวเลือดยังติดจมูกไม่หาย เลอองหันหลังให้เขาขึ้นไปขี่เมื่อมั่นใจว่าอยู่ในท่าที่ทั้งคู่คล่องตัวแล้วเลอองจึงกระโดดขึ้นกิ่งไม้อีกครั้ง มิเกลได้แต่กอดร่างสูงใหญ่ที่พาเคลื่อนที่ไปบนอากาศด้วยความมั่นใจว่าเลอองจะปกป้องเขาได้ หัวใจของมิเกลเต้นระรัวพองฟู ตอนนี้ปฏิเสธความรู้สึกไม่ได้แล้วว่าเขารักเลอองแค่ไหน เพราะในวินาทีเฉียดตายที่สุดคนแรกที่มิเกลคิดถึงคือเจ้าของแผ่นหลังที่กำลังพามิเกลออกมาจนถึงรถยนต์ที่เจ้าตัวจอดทิ้งไว้


             “ไม่เป็นไรแล้วนะมิเกล ลืมตาได้แล้ว”


              คำพูดแรกเมื่อเลอองวางร่างของมิเกลไว้บนเบาะนั่ง ไหล่บางยังสั่นสะท้านด้วยความตกใจหวาดกลัวในสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อลืมตาขึ้นมามิเกลมองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าคมเข้มที่ยังมีเศษเลือดกระเซ็นติดอยู่ นัยน์ตาสีเหล็กมองใบหน้าของเขาก่อนจะมองสำรวจร่างกายหาอาการบาดเจ็บ


            “ผมไม่เป็นอะไรแล้วเลออง นอกจากยังจุกๆ นิดหน่อย”


             หมัดของทอมที่ชกใส่ลิ้นปี่หนักไม่ใช่เล่น เลอองมองมุมปากเขียวช้ำที่เกิดจากการต่อสู้ป้องกันตัวของมิเกล เขาโมโหจนอดสบถออกมาไม่ได้ ปลายนิ้วสากสัมผัสแผ่วเบาราวกับกลัวมิเกลจะเจ็บมากไปกว่านี้ มิเกลยิ้มรับพลางกุมมือใหญ่ไว้


                 “ขอบคุณนะเลอองที่มาช่วย หากไม่มีเลอองผมต้องแย่แน่เลย”


                 “ผมทนไม่ได้ที่เห็นมิเกลเจ็บแบบนี้”


                 มือใหญ่วางแนบกรอบหน้าหวาน เลอองกดจูบบางๆ ลงไปที่มุมปากช้ำอย่างทะนุถนอม


               “ครั้งนี้จะเป็นครั้งเดียว ต่อจากนี้ผมจะไม่ยอมให้ใครมารังแกมิเกลอีกแล้ว”


                 ขอบตาของมิเกลร้อนผ่าวด้วยความตื้นตัน ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาจะรู้สึกอบอุ่นเช่นนี้อีกแล้ว ท่อนแขนเรียวโอบกอดเลอองไว้แน่น


              “เลออง ผมรักเลอองนะ”


                 เลอองกอดตอบ เขาลูบแผ่นหลังของมิเกลด้วยความสงสาร ชีวิตของมิเกลขาดความรักเอาใจใส่มาโดยตลอด เลอองสัญญากับตัวเองว่าเขาจะทดแทนให้มิเกลด้วยความรักของเขา


              “เรารีบกลับกันเถอะ ทุกคนเป็นห่วงมิเกลมาก”


                มิเกลพยักหน้าคลายอ้อมกอดปล่อยให้เลอองขับรถตรงไปยังหมู่บ้าน เมื่อใกล้ถึงเขาจึงหยุดรถและใช้น้ำจากขวดที่มีอยู่ในรถมาล้างคราบเลือดออกจากใบหน้าและลำคอ




มีต่ออีกนิด...




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-08-2019 00:43:49 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<< เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่15 [14/08/62]
«ตอบ #145 เมื่อ14-08-2019 00:45:08 »

ต่อกันตรงนี้....




              “เดี๋ยวพวกเขาจะตกใจกันที่เห็นเลือดเยอะขนาดนี้”


             เลอองให้เหตุผล ไม่ดีแน่ถ้าคนในหมู่บ้านรู้ว่าเขาควบคุมสัตว์ป่าโจมตีคนพวกนั้น ไม่นานเลอองก็ขับรถมาถึงหน้าประตูรั้วที่รถยนต์เริ่มบางตา ตอนนี้ใกล้ย่ำรุ่งเต็มทีเมื่อทั้งคู่มาถึง เลอองประคองมิเกลเดินเข้าไปในบ้าน


            “มิเกล!”


            เสียงแรกที่ทักขึ้นคือเคน เขาผุดลุกแล้วตรงเข้าหาเพื่อนสนิทพลางดึงเข้าไปกอด


            “กูนึกว่ามึงจะโดนจับไปสนองตัณหาคนแก่แล้ว”


            มิเกลฝืนยิ้มให้เพื่อน ก่อนจะหันไปหาฟลอเรียที่เพิ่งเดินออกมาจากครัวเมื่อได้ยินเสียง


             “มิเกล ปลอดภัยใช่ไหม ดีเหลือเกิน”


          เดินตรงเข้าไปกอดฟลอเรียไว้พร้อมกล่าวขอบคุณ ไทเลอร์ที่เดินตามหลังฟลอเรียมาพร้อมกาใส่กาแฟส่งยิ้มให้กำลังใจ


              “ต้องขอบคุณเลออง ที่ไปช่วยทันครับ”


             “พวกมันเป็นใครหรือมิเกล”


             ไทเลอร์ถามด้วยความสงสัย สีหน้าของมิเกลจึงกลับมาเคร่งเครียดอีกครั้ง


              “พวกแบล็กฮันเตอร์ครับ”


              เสียงอุทานดังขึ้นทันทีโดยเฉพาะเคน คนที่รู้เรื่องของมิเกลมากที่สุด


              “เหี้ยเอ๊ย ไอ้แก่นั่นมันหวังในตัวมึงขนาดจ้างแบล็กฮันเตอร์เลยเหรอ”


               มิเกลพยักหน้ารับก่อนเหลียวมองหน้าเจ้าของบ้าน


              “คุณโทนี่ล่ะครับ”


              ฟลอเรียเป็นผู้ตอบคำถามนี้


             “โทนี่ไปบอกเรื่องนี้กับดีแลน เดี๋ยวสักพักคงมา อ้าว กลับมาพอดี”


               เสียงรถยนต์อีกคันที่โทนี่ขับไปหาดีแลนที่บ้านไม้ชายป่าจอดหน้าประตูรั้ว รอไม่นานเจ้าของบ้านก็ก้าวเข้ามา เมื่อเห็นมิเกลเขาก็ยิ้มด้วยความยินดี


               “มิเกล ปลอดภัยดีนะ โล่งอกได้แล้วนะดีแลน”


              ดีแลนก้าวเข้ามาในบ้าน มิเกลโผเข้าไปกอดและร้องไห้ราวกับเด็กน้อย ระหว่างนั้นแขกผู้มาเยือนที่ไม่เคยรู้จักดีแลนมาก่อนจ้องมองด้วยความสนใจโดยเฉพาะไทเลอร์ที่มองอย่างไม่วางตา เคนลอบเบ้ปากเมื่อเห็นเจ้าของรีสอร์ทที่เขาไปอาศัยอยู่ด้วยสนใจดีแลนเป็นพิเศษ เห็นความสัมพันธ์ของมิเกลกับผู้มาใหม่ก็พอเดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่ที่น่าหมั่นไส้ก็น่าจะเป็นเจ้าของสายตาตะลึงลานที่จ้องอยู่มากกว่า


                  แต่ไม่น่าแปลกใจหรอก แม่เลี้ยงของมิเกลในวัยสี่สิบปียังคงดูดีแม้จะอยู่ในชุดเสื้อผ้าเก่าๆ แต่มันไม่สามารถปิดบังความงดงามได้แม้จะเป็นบุรุษไม่ต่างจากพวกเขา ผมสีบรอนด์ยาวถึงเอวรวบไว้ง่ายๆ ล้อมกรอบหน้าสวยที่มองปราดเดียวก็ดูออกว่าเป็นโอเมก้า


               เคนเบนสายตาหนี บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงหงุดหงิดสายตาที่ไทเลอร์จ้องมองดีแลนก็ไม่รู้เหมือนกัน


                                                               TBC


                                                  รอดตัวไปน้า มิเกลลูกกกก ฮือ หอมหัวน้องทีนึง





                                               :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-08-2019 00:49:14 โดย Belove »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่15 [14/08/62]
«ตอบ #146 เมื่อ14-08-2019 01:03:05 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

แหม่...นุ้งเคนตกหลุมพี่ไทเลอร์แล้วหรา  หุหุ

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่15 [14/08/62]
«ตอบ #147 เมื่อ14-08-2019 07:34:40 »

น้องเคนอาการแบบนี้เขาเรียกว่าหึงลูก

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่15 [14/08/62]
«ตอบ #148 เมื่อ14-08-2019 10:04:20 »

ดีใจที่เลอองไปช่วยมิเชลทันแต่ตาแก่จอมหื่นไม่เลิกลาง่ายๆแน่ โอ๊ยเครียดแทน :hao5:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่15 [14/08/62]
«ตอบ #149 เมื่อ14-08-2019 10:11:24 »

เคนหงุดหงิดอะไร?

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด