<< เจ้าป่า >> [Omegaverse]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: << เจ้าป่า >> [Omegaverse]  (อ่าน 52313 ครั้ง)

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 21 [25/11/62]
«ตอบ #210 เมื่อ27-11-2019 08:43:19 »

  :angry2: เป็นพ่อที่เลวอ่ะ ขายลูกกิน เห็นแก่ตัวทั้งคู่อ่ะ เหมาะสมกันจริงๆ หญิงชั่ว ชายโฉด วางแผนฆ่าคน โกงกันหน้าด้านๆ
โอ๊ยยย ขอให้น้องมิเกลกับลูกปลอดภัย เลอองไปช่วยทันนะค่ะ  :mew4:
   :L1:   :pig4:   :กอด1:

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<< เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 22 [29/11/62]
«ตอบ #211 เมื่อ29-11-2019 19:53:00 »




                                                            เจ้าป่า

                                                           บทที่ 22




              เคนมาถึงบ้านของเลอองพร้อมกับไทเลอร์ด้วยสีหน้าเป็นกังวลไม่ต่างจากเจ้าของบ้านนัก เขาเพิ่งนัดพบกับไทเลอร์เป็นครั้งแรกตั้งแต่กลับมาจากป่า อารมณ์สุนทรีเหือดหายตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์จากเลอองว่ามิเกลหายตัวไป  ทันทีที่มาถึงเขาก็รีบเอ่ยถามชายหนุ่มที่ยืนหน้าเครียดต้อนรับ


               "ว่าไงเลออง ได้เรื่องไหม"


                เลอองบดกรามจนได้ยินเสียงลั่นออกมา เขากำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ


               "มิเกลขึ้นรถไปกับแอมเบอร์ เท่าที่เห็นท่าทางระหว่างรอหน้าบ้านมิเกลกระวนกระวายมาก แต่ผมว่ามันมีพิรุธเพราะเราก็รู้กันอยู่ว่าทั้งคู่ไม่ถูกกัน"


                เคนพยักหน้าเห็นด้วย เพื่อนสนิทของเขากับแม่เลี้ยงคนนี้ไม่เคยญาติดีกัน เพียงแต่มิเกลไม่ใช่คนช่างหาเรื่อง ส่วนมากจะพยายามหลีกหนีไม่ให้มีเรื่องเสียมากกว่า


               วงสนทนามีผู้เข้าร่วมเพิ่มมากขึ้นซึ่งก็คือไอรีนที่มาพร้อมกับตำรวจนอกเครื่องแบบ เลอองรู้จักอยู่แล้วจากการไปให้ปากคำเรื่องแม่ของเขา ไอรีนเองก็เป็นห่วงมิเกลไม่น้อยกว่ากันหลังจากเลอองโทรศัพท์ไปหา จึงรีบมาที่นี่พร้อมกับนายตำรวจที่ทำคดีของดีแลน


               "เลออง มีเบาะแสของมิเกลไหม"


               เลอองเปิดภาพในจอมอนิเตอร์ของกล้องวงจรปิดหน้าบ้านให้ทุกคนได้ดู เมื่อเห็นแล้วนายตำรวจคนหนึ่งจึงกล่าวออกมา


               "เมื่อวานนี้เราสองคนไปพบกับนายพอล อาร์มันโดเพื่อลองดูท่าทีของเขาเกี่ยวกับเรื่องอุบัติเหตุในอดีต ท่าทางของเขาไม่น่าไว้ใจ พวกคุณคิดว่ามันจะเกี่ยวข้องกับการที่ภรรยาของเขาพาตัวลูกชายหายไปจากบ้านไหม"


               "มีส่วนทีเดียวนะครับ" ไทเลอร์กล่าวขึ้นด้วยความสุขุมท่ามกลางความใจร้อนของทุกคน "การที่มีตำรวจไปขุดเรื่องอดีตที่เขาอาจจะเป็นคนบงการ คงทำให้เขากลัวว่าความผิดจะถูกเปิดเผยจึงจำเป็นต้องหาทางเอาตัวรอด และคนที่จะช่วยเขาได้ต้องมีอิทธิพลพอตัว"


                "ใช่แล้ว!" เคนอุทานเสียงดัง "ก่อนหน้านี้ไม่นาน พ่อของมิเกลพยายามยัดเยียดลูกตัวเองให้ไอ้รัฐมนตรีโซรอส แมคเคนเพื่อแลกกับความก้าวหน้าของธุรกิจ ไอ้แก่บ้ากามถึงกับส่งคนของแบล็คฮันเตอร์มาจับตัวมิเกลที่หมู่บ้านชายป่าแต่ไม่สำเร็จ คราวนี้พ่อของมิเกลคงจะฉวยโอกาสเอาตัวมันไปประเคนให้เพื่อจะได้รับการช่วยเหลือแน่ๆ"


                "นี่น้องชาย ที่พูดออกมาน่ะมั่นใจหรือเปล่า เขาเป็นถึงรัฐมนตรีกระทรวงหลักเชียวนา"


                 นายตำรวจคนหนึ่งเอ่ยถามสีหน้าคลางแคลง ไทเลอร์รีบช่วยยืนยันข้อมูล


                 "เรื่องแบล็คฮันเตอร์เป็นเรื่องจริงครับ พวกมันตามมิเกลไปถึงหมู่บ้านที่ผมมีธุรกิจรีสอร์ทอยู่"


                "ใช่ครับ ไม่กี่วันมานี้พวกมันยังมาตามจับมิเกลที่เมโทรโปลิสนี่แหละ ผมยังถูกมันใช้ปืนยิงเข้าที่ไหล่"


                เลอองยืนยันอีกเสียงนายตำรวจทั้งคู่จึงหันไปมองหน้ากันด้วยความยุ่งยากใจเพราะรู้ว่านี่คืองานใหญ่กว่าที่คิด


               "เอางี้นะ พวกพี่ๆ ตำรวจแค่ตามรอยรถยนต์คันนี้ไปก็พอครับ ว่ายัยแอมเบอร์ขับรถไปทางไหนบ้าง ยังไม่ต้องกังวลเรื่องตาแก่โซรอสหรอก"


                เคนรีบพูดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของนายตำรวจทั้งสอง เขาเข้าใจว่าอิทธิพลของโซรอสอาจทำให้เรื่องทั้งหมดกลายเป็นงานยาก


                "ตกลง พวกผมขอเทปบันทึกภาพนี้ไป แล้วเดี๋ยวจะไปตามดูกล้องบนถนนที่จับภาพรถคันนี้ได้"


               "ถ้าอย่างนั้นฉันจะตามไปประสานงานเรื่องนี้เอง เธอจะไปกับฉันไหมเลออง"


               ไอรีนอาสาติดตาม เลอองส่ายหน้า

 
               "ผมฝากด้วยก็แล้วกันครับคุณไอรีน เดี๋ยวผมจะตามหามิเกลทางอื่น"


               "ถ้าอย่างนั้นก็ระวังตัวให้มาก มีอะไรรีบโทรหาฉันนะมิเกล"


                ชายหนุ่มพยักหน้ารับ ไอรีนจึงรีบตามนายตำรวจทั้งสองไป เคนจึงหันมาหาเลอองพร้อมกับกล่าวเสียงเครียด


                "มิเกลถูกจับตัวไปให้ไอ้โซรอสแน่ๆ พ่อของมันน่ะคงหวังจะเอาลูกไปแลกกับความช่วยเหลือเพราะรู้ว่าตำรวจใกล้จะได้กลิ่นเรื่องในอดีตแล้ว เรื่องนี้ใหญ่เกินกว่าพวกเราจะรับมือได้แต่ไม่เป็นไร ผมไปขอความช่วยเหลือจากลุงของผมไว้ก่อนหน้านี้แล้วที่จะจัดการกับโซรอส ตอนนี้ห่วงแต่ตามไปช่วยมิเกลให้ทันเวลาเถอะ คนกำลังท้องอยู่ด้วย อุ๊บส์"


               เคนสะดุ้งสุดตัวเมื่อเผลอพูดในสิ่งที่เพื่อนต้องการปิดบังอยู่ แต่ไม่ทันแล้ว ดวงตาของเลอองลุกวาบขึ้นมาทันที มือใหญ่กระชากไหล่ของเคนไว้


                "เคน พูดอะไรออกมา ใครท้อง มิเกลหรือ มิเกลกำลังจะมีลูกกับผมงั้นหรือ"


               ถึงว่าช่วงนี้ร่างกายของมิเกลจึงอ่อนแอ แถมยังมีฟีโรโมนประหลาดที่เลอองได้กลิ่นแต่ไม่รู้ว่าคืออะไร เมื่อเคนหลุดปากพูดออกมาเขาจึงมั่นใจ


               "เอ่อ ใช่ มิเกลท้องกับนายนั่นแหละ แต่มิเกลยังไม่อยากให้นายรู้เพราะเห็นว่าช่วงนี้นายมีเรื่องต้องจัดการหลายเรื่อง"


               หัวใจของเลอองเต้นรัวแรงเพราะความตื่นเต้นเมื่อรู้ว่ากำลังจะมาเลือดเนื้อเชื้อไขเกิดขึ้นในร่างกายของมิเกล และยิ่งรู้ดังนั้นความเป็นห่วงก็ยิ่งทบทวีจนว้าวุ่นใจไปหมด


               "มิเกล โธ่ ทำไมถึงไม่บอกผม"


              "ใจเย็นก่อนเถอะเลออง แต่ว่าตอนนี้ผมต้องไปหาคุณลุงก่อนเรื่องที่จะให้เขาช่วยเรื่องไอ้บ้ากามโซรอส"


              "คุณรีบไปเถอะเคน ผมเองก็จะรีบตามหามิเกลด้วยวิธีของผม"


               เคนพยักหน้า เขายกมือตบบ่าชายหนุ่มรุ่นน้องก่อนจะหันไปหาไทเลอร์


               "ไปเถอะคุณ อย่าให้ช้าไปกว่านี้เลย"


               ไทเลอร์หันไปสบตากับเลอองแทนคำอำลา เขารีบก้าวเดินไปพร้อมกับเคนทั้งที่ยังไม่รู้ว่าต้องไปไหน เมื่อเคนกับไทเลอร์ขับรถออกจากบ้านไปแล้วเลอองจึงวิ่งออกไปนอกตัวบ้าน เมื่อไม่เห็นว่ามีใครมองเห็นเพราะความมืดเริ่มปกคลุมในเวลาย่ำค่ำเขาก็กางมือออก เล็บคมผุดขึ้นขณะที่ชายหนุ่มกระโดดปีนไปตามตัวบ้านขึ้นไปยืนอยู่บนหลังคาสูงในเวลาไม่กี่วินาทีและทอดสายตามองออกไปยังแสงไฟระยิบระยับแข่งกับดวงดาวบนท้องฟ้าที่ปรากฏกายออกมา


               สายลมพร้อมกับกลิ่นควันรถที่ไม่คุ้นเคยลอยปะทะ ชายหนุ่มดึงผ้าโพกผมออกปล่อยให้ใบหูทรงแหลมโผล่พ้น เสียงยานยนต์จอแจดังแว่วทั่วสารทิศ หางยาวลอดผ่านขอบกางเกงออกมากวัดแกว่งก่อนชูสูงราวกับกำลังสำแดงอำนาจ ใบหน้าคมเข้มเงยสูงขณะที่เขาคำรามออกมากึกก้อง


               "ข้าคือเลออง บุตรแห่งเจ้าป่าผู้ซึ่งปกปักรักษาถิ่นเกิดของพวกเจ้าให้ดำรงอยู่ ถิ่นที่เก่าก่อนพวกเจ้าเคยเป็นผู้ล่า เคยแข็งแกร่งสง่างาม ก่อนที่มันจะถูกทำลายลงเพียงเพราะฝีมือมนุษย์ ข้าซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างความเจริญและความงดงามของธรรมชาติขอสัญญาว่าจะดูแลทั้งสองให้หล่อหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว แต่บัดนี้ ข้ามีเรื่องให้พวกเจ้าช่วยเหลือ จงช่วยเพื่อให้ข้าได้ปกป้องมนุษย์ที่ข้ารักและทายาทของข้าจะได้หรือไม่"


            คล้ายสายลมจะหยุดพัดโบก ก่อนที่มันจะพัดผ่านอีกครั้งเพื่อนำเสียงคำรามตอบรับที่มนุษย์ไม่มีวันเข้าใจได้ ยกเว้นร่างสูงสง่าที่ยืนเด่นเหนือสายตาผู้ใด เสียงเหล่านั้นดังก้องทั่วสารทิศและทำให้เลอองยิ้มออกมาได้ เขาแหงนหน้าส่งเสียงคำรามอันน่าเกรงขามอีกครั้ง จากนั้นร่างสูงจึงกระโจนหายไปในความมืดบนความสูงที่ไม่มีมนุษย์คนไหนคาดคิด





มีต่ออีกนิด....





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-11-2019 19:57:21 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<< เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 22 [29/11/62]
«ตอบ #212 เมื่อ29-11-2019 19:58:38 »



อ่านต่อตรงนี้....



             ไทเลอร์นั่งเงียบมาตลอดทางที่เคนกำลังขับรถอย่างรวดเร็วจนกระทั่งเริ่มเข้าสู่เขตชานเมืองเขาจึงค่อยเอ่ยถาม


            "เรากำลังจะไปไหน"


             "ไปหาลุงของผม เขาเป็นคนเดียวเท่านั้นแหละที่จะหยุดโซรอสได้"


              "ลุงของคุณคือใคร"


               ยังไม่ทันที่เคนจะตอบคำถามเขาก็หักพวงมาลัยรถจอดหน้าประตูรั้วใหญ่โตที่มีกำแพงสูงหนากว้างประกบข้าง ข้างประตูรั้วยังมีป้อมเล็กสำหรับพนักงานรักษาความปลอดภัยเฝ้าอยู่


               "หยุดนะ นั่นใคร เปิดกระจกลงมา อ้าว คุณหนูเคนนั่นเองครับ ไม่ได้มาบ้านนี้ตั้งนาน"


              เคนยิ้มแห้งเมื่อเห็นสายตาของไทเลอร์


              "ผมไม่ได้อยากเป็นคุณหนูสักหน่อย เขาก็เรียกไปงั้นแหละ นี่ เปิดประตูเร็ว ผมนัดกับคุณลุงไว้"


              ประตูรั้วอลังการค่อยๆ เปิดด้วยระบบอัตโนมัติ เคนรีบเหยียบคันเร่งรถเข้าไปจอดเทียบบันไดหน้าบ้านหลังใหญ่ราวกับราชวังทันที ไทเลอร์มองไปด้านบนที่มีตัวอักษรอยู่ เขาเดาว่าคงเป็นนามสกุลเจ้าของบ้าน และเมื่อเห็นดังนั้นเขาถึงกับขมวดคิ้ว


                "คลาเดน อย่าบอกนะว่าบ้านหลังนี้คือบ้านของบิลลี่ คลาเดน นักธุรกิจที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ"


              "อือ ใช่" เคนยักไหล่อย่างไม่นึกว่าเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไรนัก "บิลลี่ คลาเดน เป็นลุงของผม เขาเป็นพี่ชายของแม่ผมเอง ผมเป็นหลานรักเพราะอายุน้อยที่สุดในญาติรุ่นเดียวกับผม"


              ไทเลอร์นิ่งเงียบอย่างคาดไม่ถึง ก็พอจะเดาได้ว่าครอบครัวของเคนมีฐานะร่ำรวยเพราะบิดาของเคนมาซื้อภาพราคาแพงที่แกลลอรี่ของเขาบ่อยๆ แต่ไม่นึกว่าจะรวยถึงระดับผู้มีอิทธิพลในฐานเศรษฐกิจระดับโลกเลยก็ว่าได้


              "นี่ ไม่ต้องมองผมแบบนี้เลยนะ ลุงผมรวย พ่อกับแม่ผมก็รวย แต่ผมน่ะคนธรรมดานั่นแหละ"


              เคนใช้ชีวิตเฉกเช่นนักศึกษาคนอื่น เช่าอพาร์ตเมนต์ระดับกลาง รถยนต์ก็ไม่ใช่ยี่ห้อซุปเปอร์คาร์ แถมยังทำตัวกินง่ายอยู่ง่ายจนไทเลอร์ยังดูไม่ออกว่าเขาเป็นถึงทายาทของตระกูลดังขนาดนี้


              "แล้วลุงของคุณเขาจะจัดการกับโซรอสได้ยังไง"


              "พรรคการเมืองน่ะคุณ มันต้องอาศัยเงินอุดหนุนจากนักธุรกิจเป็นท่อน้ำเลี้ยงทั้งนั้นแหละ วงการพวกนี้มันเทาเข้มจนเกือบดำแล้วผมถึงไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยไงถึงหนีไปเรียนผสมพันธุ์ดอกไม้ต้นไม้ แต่ตอนนี้เราจำเป็นต้องอาศัยความมืดมัวของมันเพื่่อช่วยเพื่อนผม และช่วยคนอื่นที่อาจจะถูกความเลวร้ายของโซรอสเล่นงานในอนาคต ไปเถอะ ลุงของผมรออยู่"


              เคนดึงแขนไทเลอร์ให้เดินขึ้นบันไดไปยังคฤหาสถ์หรูหรา ด้านในยังมีสาวใช้มากมายโค้งคำนับต้อนรับเคนกว่าจะถึงหน้าประตูห้องทำงานที่เคนยกมือเคาะรัวเร็ว


             "ลุง ลุ้งงง หลานรักมาแล้ว ผมเข้าไปนะ"


             เคนเปิดประตูเข้าไปภายในห้องกว้างด้านในที่เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นราคามหาศาล ไทเลอร์มองเห็นชายสูงวัยที่เขาคุ้นหน้าจากข่าวทางสังคมและเศรษฐกิจ แต่วันนี้บิลลี่ คลาเดนไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียดเหมือนในภาพข่าวหากแต่ยิ้มแย้มแจ่มใสยามกอดตอบเคน


               "ฮ่าๆ ไอ้หลานตัวแสบ ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงว่ะ เรียนจบแล้วใช่ไหมลุงจะได้เตรียมรางวัลไว้รอ"


               "ลุง อย่าเพิ่งพูดถึงรางวัล" เคนยกมือขึ้นโบก "วันนี้ซีเรียส เพื่อนผมถูกหิ้วไปแล้ว ลุงจำมิเกลเพื่อนสนิทของผมได้ใช่ไหมล่ะ"


               เคนดึงแขนให้ไทเลอร์นั่งลงบนโซฟาหนังแสนนุ่ม วันนี้ไทเลอร์ถึงได้รู้ว่าเขากับเคนต่างกันแค่ไหน เขานิ่งฟังลุงกับหลานคุยกันอย่างสงบ


               "เรื่องก็อย่างที่เล่าให้ฟังนี่แหละลุง มันเกินไปแล้วนะ ผมไม่ยอมด้วยลุงต้องช่วยเพื่อนผม ไอ้รัฐมนตรีคนนี้มันไม่ใช่แค่เลวธรรมดานะลุง แต่มันเลวมากๆ คนอย่างนี้เหรอที่พรรควางตัวให้เป็นหัวหน้าคนต่อไป"


               บิลลี่ คลาเดนเริ่มมีสีหน้าจริงจังขึ้น หลานชายสุดรักเคยเล่าเรื่องที่โซรอสอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรลับแบล็คฮันเตอร์ให้ฟังแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อนเขาจึงส่งคนไปสืบเรื่องนี้ และผลที่ได้ก็จริงอย่างที่เคนสงสัย โซรอสเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งแบล็คฮันเตอร์แถมยังเป็นหุ้นส่วนใหญ่อีกด้วย


              "ก็จริงอย่างที่หลานบอกมา นักการเมืองแต่ละคนก็ไม่ใช่ว่าสะอาดนักหรอก แต่ไอ้เรื่องแบล็คฮันเตอร์นี่มันก็เกินไป ถ้าโซรอสได้เป็นหัวหน้าพรรค การเลือกตั้งคราวหน้าเขาอาจได้เป็นถึงประธานาธิบดี หากใครรู้ว่าคนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเป็นเจ้าขององค์กรลับเข้าล่ะก็ คนที่เกี่ยวข้องด้วยมีหวังซวยกันหมด"


               "ลุงสุดที่รักเป็นคนดีที่สุด ลุงอย่าให้คนเลวแบบนี้ได้ครองประเทศนะลุง เห็นใจประชาชนตาดำๆ อย่างหลานเถอะ"


               บิลลี่ คลาเดนหัวเราะเบาๆ เมื่อหลานคนเล็กกอดเอวเอาใจ เขาคว้าโทรศัพท์มาต่อสายไปถึงคนที่มีอำนาจสูงกว่าโซรอส แมคเคน


                "ไฮ วัตสัน ผมเองบิลลี่"


                ไทเลอร์ที่นั่งฟังอยู่ถึงกับหูผึ่งเมื่อรู้ว่าบิลลี่กำลังพูดสายอยู่กับประธานาธิบดีคนปัจจุบัน


               "บังเอิญว่าผมไปรู้เรื่องไม่ดีของลูกน้องคุณ โซรอส แมคเคนไงล่ะ คนที่คุณวางตัวให้เขาสืบทอดอำนาจต่อจากคุณ มันเลวร้ายเกินกว่าจะรับได้ รายละเอียดผมจะให้ลูกน้องส่งให้คุณอย่างด่วนจี๋เลย แต่ผมบอกเลยว่าคุณต้องรีบกำจัดคนคนนี้ซะก่อนที่ความเลวร้ายนั่นจะส่งผลถึงคะแนนเสียงของคุณและพรรคของคุณ และถ้าเขายังอยู่ผมก็จะงดเว้นการช่วยเหลือทางด้านการเงินให้กับพรรคของคุณแน่นอน"


               น้ำเสียงของบิลลี่ คลาเดนฟังดูนิ่งเรียบแต่ก็แฝงไปด้วยความมีอำนาจเหนือกว่า ไทเลอร์ไม่รู้ว่าปลายทางจะมีปฏิกิริยาอย่างไรแต่ไม่นานนักบิลลี่จึงกดวางสาย


               "เรียบร้อยแล้วไอ้ตัวแสบ"


              "ลุงสุดที่รัก ยังไม่หมด เพื่อนผมยังไม่ปลอดภัย"


               เคนท้วงขึ้น ชายสูงวัยส่ายหน้าอย่างอิดหนาระอาใจ


              "โอ๊ย ไอ้หลานคนนี้ นานๆมาหาทียังหาเรื่องมาใช้งานลุงอีก อ้าว แล้วไอ้หนุ่มนี่เป็นใคร ไว้ใจได้หรือเปล่า"


              วินาทีนั้นเองที่ไทเลอร์เพิ่งจะอยู่ในสายตาของบิลลี่ คราเดน เคนยิ้มกว้างขณะหันมาแนะนำเขากับผู้เป็นลุง


              "ไว้ใจได้สิลุง เขาชื่อไทเลอร์ ฮิวจ์ ผมไปอาศัยเขาอยู่ที่หมู่บ้านชายป่า เขาเป็นคนดีมากๆ เลยล่ะ"


               บิลลี่พยักหน้าเออออก่อนจะกดกริ่งเรียกลูกน้อง ไม่ถึงนาทีประตูห้องก็ถูกเปิดออก บิลลี่ออกคำสั่งทันที


               "ส่งคนไปตามดูหน่อย ว่าตอนนี้โซรอสมันจับเพื่อนเจ้าเคนไปไว้ไหน ถ้าเจอก็ช่วยกลับมาด้วย"


               "โย่วลุงคร้าบ ขอบคุณคร้าบ รักลุงที่สุดเลย"


               ไทเลอร์ ฮิวจ์ได้แต่นิ่งมองลุงกับหลานหยอกล้อกัน แต่ในหัวใจเขารู้สึกได้ว่าตนเองกับเคนนั้นช่างห่างไกลกันเหลือเกิน








                     แพเปลือกตาหนากะพริบถี่ก่อนจะค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างมึนงง หน้าหวานสะบัดไล่เรียกสติเพื่อจะมองเห็นว่าตอนนี้ตนเองนั้นนอนตัวงออยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง มือทั้งสองถูกมัดไพล่หลังติดกันอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นตา มองเห็นบิดายืนสูบบุหรี่เข้าปอดอยู่ที่หน้าต่างไม่ได้มีท่าทีเจ็บป่วยอย่างที่กล่าวอ้าง ส่วนแม่เลี้ยงของเขานั้นเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายใจ


               ที่นี่ที่ไหน?


              มิเกลเกือบจะส่งเสียงร้องออกไปแล้วเมื่อประตูเปิดออกโดยโซรอส แมคเคน!




                                                        TBC



                                                มิเกลจะรอดม้ายยย





                                            :o :o :o :o :o :o :o :o









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-11-2019 20:05:46 โดย Belove »

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 22 [29/11/62]
«ตอบ #213 เมื่อ29-11-2019 20:50:38 »

โอ้....คุณเคนไม่ธรรมดาจริงๆ

เลอองน่าจะรู้แล้วว่ามิเกลอยู่ไหนใช่ป่ะ.  :hao4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 22 [29/11/62]
«ตอบ #214 เมื่อ29-11-2019 21:10:20 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

รอดแน่นอน  ไหนจะสมุนเจ้าป่าที่แห่มาช่วย  ไหนจะคนของลุงนู๋เคน  อิอิ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 22 [29/11/62]
«ตอบ #215 เมื่อ29-11-2019 21:18:03 »

แอ๊ ลุ้นๆๆ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 22 [29/11/62]
«ตอบ #216 เมื่อ29-11-2019 21:39:07 »

 :hao7:
 


  :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 22 [29/11/62]
«ตอบ #217 เมื่อ30-11-2019 09:08:05 »

เคนไม่ธรรมดา

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<< เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 23 [05/12/62]
«ตอบ #218 เมื่อ05-12-2019 00:19:01 »




                                                                 เจ้าป่า

                                                                บทที่ 23




                 ร่างสูงของชายที่วัยล่วงเข้าห้าสิบปีเศษยืนค้ำหัวก้มหน้าจ้องมองลงมา แววตานั้นเต็มไปด้วยการหยามเหยียดและกระหายอย่างไม่ปิดบัง มิเกลรังเกียจจนขนลุกเกรียวไปทั่วทั้งตัวเมื่อชัดเจนในจุดประสงค์ที่เขาถูกแม่เลี้ยงหลอกมาในวันนี้ ดวงตาหวานเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาเมื่อเห็นบิดาก้าวมายืนนอบน้อมอยู่เบื้องหลังผู้มีอำนาจ


                 “ผมพามิเกลมาให้ท่านแล้วนะครับ ท่านจะได้ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยลงมือเอง”


                 “หวังว่าท่านคงพอใจนะคะ และก็ เอ่อ.. การช่วยเหลือที่พวกเราขอไว้...”


                 สุ้มเสียงประจบประแจงหยุดลงเมื่อโซรอส แมคเคนยกมือขึ้นห้าม เขาปรายตามองสองสามีภรรยาด้วยความรำคาญ


                 “ฉันรู้แล้ว อย่าพูดให้มากนัก ตำรวจก็ยังไม่ได้มาจับตอนนี้ไม่ใช่เหรออย่าเพิ่งเดือดร้อนอะไรให้มากเลยกับแค่คดีพยายามฆ่าเมียเก่า มันก็ไม่ได้ตายจริงๆ เสียหน่อยถึงได้มีลูกมาเป็นเสี้ยนหนาม ถ้าตำรวจมาจับจริงก็ค่อยโทรมาหาเลขาของฉันก็แล้วกัน ส่วนตอนนี้พวกเธอจะไปไหนก็ไป”


                  คนมีอำนาจเหนือกว่าสะบัดหน้าเดินหนีออกไปจากห้อง ทิ้งให้พอล อาร์มันโดและแอมเบอร์เผชิญกับสายตาตัดพ้อของมิเกลที่ยังถูกพันธนาการในท่าเดิม


                  “พ่อ พ่อจะทำอย่างนี้ไม่ได้ ผมเป็นลูกพ่อนะ พ่อไม่รักผมสักนิดเลยเหรอ”


                 “พ่อรักแกนะมิเกล” พอลวางมือบนศีรษะของมิเกล เป็นครั้งแรกที่มิเกลมองเห็นแววตาละอายแก่ใจจากสายตาของพ่อ “แต่แกก็ต้องเข้าใจพ่อนะ เมื่อก่อนเราไม่มีจะกินฐานะยากจน พ่อต้องพยายามแค่ไหนกว่าจะมีวันนี้ได้ พ่อจะเสียมันไปไม่ได้”


                  “พ่อยอมทำทุกอย่างเพื่อเงิน แม้กระทั่งวางแผนฆ่าคุณดีแลนที่รักพ่อมากอย่างนั้นเหรอ ทั้งที่จริงคุณดีแลนก็มีเงินให้พ่อใช้เหลือเฟือ”


                 “แกจะไปรู้อะไร” พอลตวาดเสียงดังลั่น “ฉันสิที่โดนพ่อกับแม่ของมันดูถูกเหยียดหยามหาว่าทำงานไม่ได้เรื่อง แถมยังจะไล่ออกไปหางานใหม่ แกกับฉันจะได้ไปนอนข้างถนนกันแน่ สมน้ำหน้าที่มันสองคนตกเครื่องบินตายซะได้ และลูกชายโอเมก้าหน้าโง่นั่นเสือกหลงรักฉัน ฉันจะทำให้ไอ้เศรษฐีแก่ที่ตายไปได้ร้องไห้ยังไงล่ะ ว่าคนหน้าโง่ในสายตามันก็เก่งพอจะสูบเอาเงินลูกชายของมันมาได้จนหมดตัว แกควรจะดีใจที่ฉันยังเลี้ยงแกมาจนโตได้ขนาดนี้ไม่ได้ทิ้งแกไปอย่างแม่ของแกเสียก่อน”


                 “พอล พอได้แล้ว จะพูดอะไรนักหนา รีบไปกันดีกว่าน่า”


                แอมเบอร์ฉุดแขนของพอลไว้ หล่อนหันมาแสยะยิ้มราวกับแม่มดให้ลูกเลี้ยงที่ไม่ได้นึกพิศวาสสักนิด


                “อ้อ ยังไงก็ขอบใจนะยะมิเกล ถ้าไม่ได้ตัวแกมาให้ท่าน พ่อของแกคงลำบากน่าดู ถือซะว่าทดแทนบุญคุณที่พ่อเขาเลี้ยงแกมาก็แล้วกัน”


                  พูดจบแอมเบอร์ก็รีบดึงแขนของพอลให้ออกไปจากห้อง มิเกลน้ำตาไหลเมื่อบิดากับแม่เลี้ยงพ้นจากประตู เขาก่นด่าตนเองอยู่ในใจที่เชื่อว่าพ่อจะรักเขาบ้างและเป็นห่วงว่าพอลจะเจ็บป่วยจริงๆ จึงได้ยอมติดตามแอมเบอร์มา แต่มันกลับเป็นอุบายนำพาเขามาสู่ความเดือดร้อน และที่สำคัญเขารู้ว่าเลอองจะต้องตามหาด้วยความร้อนใจเป็นแน่


                 “โธ่ เลออง โธ่ ลูก”


                 ไหนจะยังทารกในครรภ์ที่ยังอ่อนแอนัก มิเกลกลั้นน้ำตาและตั้งใจว่าจะปกป้องลูกของเขากับเลอองไว้ให้ได้ ร่างโปร่งสะดุ้งเฮือกเมื่อประตูถูกผลักเข้ามาอีกครั้งโดยผู้ชายร่างป้อมที่มิเกลคุ้นตา


                “เฮอะ อีโอเมก้าสวะ” ทอมนั่นเองที่ก้าวเข้ามา เขากระชากเส้นผมของมิเกลจนหน้าหงาย “ในที่สุดแกก็โดนจับมาจนได้ ดี กูจะได้ไม่เหนื่อย ผัวสัตว์ประหลาดของมึงเล่นงานกูซะเจ็บไปหลายวัน แถมยังเสียลูกน้องฝีมือดีไปหลายคน รับรองคราวนี้ต่อให้ผัวมึงเก่งแค่ไหนก็มาที่นี่ไม่ได้หรอก”


                “ไอ้เลว พวกมึงมันเลวที่สุด ทำคนไม่มีทางสู้ ไอ้หน้าตัวเมีย”


                 มิเกลไม่เคยพูดจาครั้งไหนรุนแรงอย่างนี้ เขาถุยน้ำลายใส่ทอมจนอีกฝ่ายเงื้อมือขึ้นหมายจะตบสั่งสอน แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าโซรอสอาจจะไม่พอใจที่เหยื่อรายใหม่ได้รับบาดเจ็บเขาจึงต้องคุมอารมณ์ไว้ก่อน


                 “ถ้าไม่ติดว่าเจ้านายกูเขาอยากจัดการกับมึงมากมึงโดนกูตบไปแล้ว มานี่ ลุกขึ้นมา”


                 ทอมกระชากคอเสื้อของมิเกลจากเก้าอี้จนแทบจะปลิวติดมือให้เดินตามไปด้านนอก มิเกลเหลียวซ้ายแลขวาด้วยความหวาดหวั่น เขาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยนักเลงหน้าตาน่ากลัวควบคุมทางเข้าออก โถงตรงกลางไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์มากนัก ที่เด่นชัดคือจอมอนิเตอร์หลายจอที่ฉายให้เห็นภาพห้องเล็กๆ ซึ่งแต่ละห้องมีมนุษย์โอเมก้าถูกกักขังอยู่


                 ร่างโปร่งถูกผลักเข้าไปในห้องว่างห้องหนึ่งที่มีเพียงเตียงนอนเท่านั้น ทอมเหวี่ยงมิเกลไปบนเตียงพลางคว้าข้อเท้าของมิเกลไว้แล้วจัดแจงใส่กำไลติดตามตัว เสื้อผ้าของมิเกลถูกผู้ชายสูงวัยคนหนึ่งที่เดินตามทอมเข้ามากระชากทิ้งจนเหลือแต่กายเปล่าเปลือยต้องใช้มือเรียวปิดบังจุดสงวนไว้


               “แม่เจ้าโว้ย มันสวยอย่างนี้ไงเล่าท่านถึงอยากได้มันนัก”


               พ่อบ้านสูงวัยกับทอมหันมาแสยะยิ้มใส่กัน วันไหนที่เจ้านายเบื่อแล้วพวกเขาจะได้ขอลิ้มลองเรือนร่างนี้บ้างเหมือนโอเมก้าคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ พ่อบ้านสายตาหื่นบังคับให้มิเกลสวมใส่เสื้อคลุมเนื้อบางสีขาวที่แทบจะมองเห็นทะลุไปทุกสัดส่วนเหมือนกับที่โอเมก้าที่ถูกขังไว้ใส่แบบนี้เช่นกัน


                “เดี๋ยวไปบอกท่านก่อนว่าอีนี่มันพร้อมให้ท่านจัดการแล้ว”


                 พ่อบ้านเดินออกไปแล้ว ทอมแค่นยิ้มใช้มือบีบคางมิเกลไว้


                 “เอาใจท่านให้ดีก็แล้วกัน เผื่อท่านจะหลงมึงแล้วไม่เจ็บตัวจนตายห่าไปซะก่อน”


                  มิเกลนอนตัวสั่น มือทั้งสองยังถูกพันธนาการจนหมดสิ้งหนทางหลีกหนี แค่อึดใจประตูก็ถูกผลักเข้ามาอีกครั้งโดยปีศาจในคราบมนุษย์ผู้เต็มไปด้วยอำนาจ


                 โซรอสก้าวเข้ามา เขามองร่างกายที่มีเพียงผ้าขาวบางเบาบดบังอยู่ กระนั้นก็ยังมองเห็นผิวพรรณขาวเนียนไปทั่วตัว ใบหน้าแม้จะเกรอะกรังไปด้วยคราบน้ำตาก็ยังงดงามกว่าโอเมก้าคนอื่นที่เขามีในครอบครอง โซรอสทรุดตัวลงนั่งบนเตียงแล้วกระชากมิเกลมาอยู่บนตัก มือหยาบลูบไล้ด้วยความหื่นกระหาย


                  “เอ่อ ท่านครับ”


                   มาถึงตอนนี้แล้วมิเกลจำเป็นต้องหาทนทางยืดเวลาออกไปให้นานที่สุด เขารู้ว่าเลอองต้องหาทางช่วยเขาอยู่แน่ๆ ระหว่างนี้มิเกลต้องช่วยเหลือตนเองให้ปลอดภัยและการใช้ไม้แข็งต่อสู้ไม่เหมาะในสถานการณ์เช่นนี้ ดังนั้นเขาจำต้องกลืนความเกลียดชังแล้วฝืนยิ้มออกมา


                 “ท่านแก้มัดให้ผมก่อนเถิดครับ ผมหนีไปไหนไม่พ้นแล้ว”


                 “นั่นสินะ เธอจะหนีฉันไปไหนได้อีกมิเกล”


                  โซรอสหัวเราะ เขาแก้มัดเชือกที่ข้อมือทั้งสองของมิเกลให้เป็นอิสระ หน้าหวานยิ้มแค่เล็กน้อยก็ราวกับกำลังยั่วยวนจนโซรอสหัวปั่น


                 “ผมไม่หนีหรอกครับ หนีไปท่านก็คงตามผมได้อยู่ดี ผมขอตอบแทนท่านที่ช่วยเหลือพ่อไว้ดีกว่า”


                 “ฮ่า ๆๆ ดี ดีมาก ฉลาดกว่าที่คิด อยู่กับฉันถ้าฉันถูกใจรับรองเธอจะได้รางวัลอย่างงาม”


                 มือหยาบบีบขยำบั้นท้ายของมิเกลจนต้องนิ่วหน้า มิเกลวางมือลงบนหน้าอกของโซรอสพลางเจรจาเสียงหวาน


                “ขอบพระคุณครับท่าน แต่ว่าตอนนี้ผมยังไม่ฮีทเลย หากท่านจะหาความสุขจากร่างกายของผมก็เกรงว่าจะได้ไม่เต็มที่ ท่านครับ อย่าเพิ่งมองผมแบบนี้ ผมนับวันดูแล้วอีกวันสองวันผมก็จะฮีท ท่านจะได้มีความสุขอย่างถึงที่สุดเชียวครับ ระหว่างนี้ให้ผมช่วยท่านได้ปลดปล่อยจนสบายตัวนะครับ”


                 มือเรียวผลักให้ชายสูงวัยหงายหลังนอนแผ่อยู่บนเตียง มิเกลดึงเสื้อคลุมของโซรอสออก ชายหนุ่มจำต้องโยนความรังเกียจทิ้งแล้วขยับตัวไปนั่งระหว่างขา มิเกลก้มหน้าลงใช้ปากจัดการกับความเป็นชายของโซรอส เปลืองตัวแค่นี้ยังดีกว่าสูญเสียความภาคภูมิใจไปทั้งหมด


                  น้ำตาหยดลงแก้มด้วยความอดสู มิเกลเช็ดมันออกและฝืนยิ้มเพื่อให้โซรอสตายใจ อย่างน้อยก็พอซื้อเวลารอให้นานที่สุดเพื่อให้เลอองมาช่วยเขาให้ได้











               ท่ามกลางความมืดที่ช่วยบดบังได้เป็นอย่างดี ร่างสูงของเลออง ไพรส์ลีย์ซุ่มอยู่หลังพุ่มไม้ไม่ไกลจากรั้วสูงโอบล้อมบ้านหลังใหญ๋ที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว และหากมีแสงสว่างเพียงสักนิดมันก็จะสะท้อนดวงตาอีกเป็นสิบกว่าคู่ที่ยืนสงบนิ่งรอคำสั่ง พวกมันเหล่านั้นหายใจรัวเร็วเตรียมพร้อมประจัญบานและแน่นอนว่าพวกมันไม่ใช่มนุษย์!


                ที่นี่คือเมโทรโปลิส เมืองหลวงที่มีแต่ความเจริญของวัตถุ ย่อมไม่มีสัตว์ป่ามาช่วยเหลือเลอองแน่ แต่อย่าลืมว่าสัตว์เลี้ยงของมนุษย์ในอดีตกาลก็เคยดำรงชีวิตอยู่ในป่า ทำงานเป็นนักล่าแทนมนุษย์ผู้เป็นเจ้านาย และวันนี้พวกมันก็พร้อมที่จะรับใช้เจ้าป่าเพียงรอคำสั่งเท่านั้น


                แม้จะอยู่เมืองหลวงไม่นาน แต่เลอองก็เข้าใจขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ยิ่งอีกฝ่ายเป็นถึงคนใหญ่โตระดับรัฐมนตรี ดังนั้นเลอองจึงไม่รอ เขาขอความช่วยเหลือจากสุนัขนักล่าที่อาศัยอยู่ตามบ้านเรือนต่างๆ เพื่อให้ดมกลิ่นคลำทางจนกระทั่งมาถึงบ้านหลังนี้ เลอองกดส่งข้อความทางโทรศัพท์ส่งหาไอรีน


               “พบที่อยู่ของพวกมันแล้ว”


                “เร็วจริงเลออง อยู่ที่ไหนฉันจะได้ให้ตำรวจตามไป”


                 “ผมจะส่งโลเคชั่นไปให้”


                  เลอองกดส่งสถานที่ไป เทคโนโลยีทันสมัยมีประโยชน์เช่นนี้หากใช้ในทางที่ถูกที่ควร และระหว่างนั้นเขาก็ไม่คิดว่าต้องรออะไรอีกต่อไป ชายหนุ่มมองไปเหนือรั้วสูงที่มีลวดไฟฟ้าป้องกันอยู่ ดวงตาสีเหล็กเบิกกว้าง นิ้วมือกางเล็บคม หูรับฟังเสียงโดยรอบ ทันใดนั้นเขาก็คำรามเพียงครั้งเดียว


                 “เฮ้ย อะไรวะ หมามาจากไหนเยอะขนาดนี้”


                 เสียงเออะดังขึ้นจากกลุ่มคนที่เฝ้ายามทางเข้าออก สุนัขพันธุ์นักล่าเป็นสิบตัว ทั้งเยอรมัน เชพเพิร์ด  ร็อตไวเลอร์ พิทบูล และยังอีกหลายสายพันธุ์ที่ไม่รู้จักชื่อ ต่างก็กรูกันเข้ามาทำร้ายพวกเขา ซ้ำยังมีอีกหลายตัวที่กระโจนขึ้นไปเหนือรั้วที่มีกระแสไฟฟ้าอย่างไม่นึกหวาดกลัว


                “นั่น คนนี่หว่า!”


                 ร่างมนุษย์แต่การเคลื่อนไหวคล่องแคล่วดุดันราวกับสัตว์ป่ากระโดดผ่านพวกมันที่ยังพัวพันกับการโจมตีของสุนัขดุร้ายเข้ามาในเขตรั้วได้สำเร็จแล้ว และไม่ได้สนใจกลุ่มคนที่ร้องลั่นเพราะคมเขี้ยว เขาวิ่งเข้าไปด้านในพร้อมกับสุนัขอีกสิบกว่าตัวที่ตามมาพร้อมกัน เสียงเอะอะด้านนอกทำให้ลูกน้องของโซรอสที่อยู่ด้านในตื่นตัวต่างก็ควักปืนออกมาเตรียมลั่นไก


                 “เกิดอะไรขึ้น”


                 ทอมวิ่งมาดูเหตุการณ์ เขาเบิกตากว้างด้วยความตระหนกเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ที่ติดตาเขามาตลอด


                 “เหวอ ไอ้ปีศาจ ฆ่ามัน!”


                 ยังไม่ทันลั่นไก โดเบอร์แมนที่คล่องแคล่วกว่าเพื่อนกลายเป็นทัพหน้ากระโดดเข้าใส่พวกมันจนล้มระเนระนาด เลอองรู้ฤทธิ์เดชของอาวุธปืนดีอยู่แล้วเขารีบตะปบแย่งมาถือในมือได้ ชายหนุ่มพุ่งเข้าหาทอมที่ยังยืนขาแข็งพร้อมกับล็อคคอใช้ปืนจ่อขมับ


                 “มิเกลอยู่ไหน!”


                ดวงตาสีเหล็กวาวโรจน์ราวกับไฟนรกก็ไม่ปาน ทอมตาเหลือกตัวสั่นงันงกเหงื่อแตกเต็มตัว


                “ยะ อย่ายิงกูนะ อี เอ๊ย มะ มิเกลอยู่ชั้นสอง”


                 เสียงไซเรนรถตำรวจแว่วมาจากด้านนอก ยิ่งสร้างความโกลาหลยกใหญ่ หลายคนยังต้องหนีเอาตัวรอดจากการถูกสุนัขหลายตัวรุมขย้ำอย่างไม่ปรานี โดยเฉพาะทอมที่ปลายกระบอกปืนกดแรงมากขึ้น


                “เดินไปสิวะ”


                หัวหน้าหน่วยสืบสวนนำกำลังตำรวจหลายนายวิ่งตามมาสมทบ แปลกที่บรรดาสุนัขทั้งหลายไม่ได้ทำร้ายนายตำรวจเลยแม้แต่คนเดียว เลอองสบตากับพวกเขาก่อนจะบังคับให้ทอมเดินนำขึ้นไปบนชั้นสองก่อนไปหยุดหน้าประตูห้องหนึ่งในหลายห้อง


               “หะ ห้องนี้ ปล่อยกูเถอะ กูยอมแล้ว”


               นายตำรวจที่ตามมาด้านหลังอีกหลายนาย ค่อยๆ จรดปลายเท้าเดินไปเปิดประตูห้องอื่นๆ พวกเขาต้องอนาถใจเมื่อพบว่ามีโอเมก้าหลายคนถูกขังอยู่ในห้อง ทุกคนดูหวาดกลัวแต่เมื่อเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างก็ร้องไห้ด้วยความยินดี


                เลอองหันไปสบตากับตำรวจที่ยืนข้างๆ เขาปล่อยทอมไปให้ตำรวจคืนอื่นใส่กุญแจมือไว้ เมื่อส่งสัญญาณเป็นที่เข้าใจแล้วเขาก็ยกเท้าถีบประตูให้เปิดเข้าไป และภาพที่เห็นทำให้เขาต้องขบกรามกรอดเมื่อโซรอสยืนอยู่เบื้องหลังมิเกลโดยใช้แขนข้างหนึ่งล็อกคอไว้อีกมือหนึ่งถือปืนจ่อหัว


               “มิเกล”


               “เลออง”


               เสียงอึกทึกที่ลอดเข้ามาในห้องเก็บเสียงทำให้โซรอสไหวตัวทัน เขาเดาได้ทันทีว่าต้องมีใครมาช่วยมิเกลแน่ เขาตบหน้ามิเกลจนเขียวช้ำก่อนจะใช้เป็นตัวประกัน อย่างไรเสียเขาก็ไม่ยอมจำนนแน่นอน หัวหน้าหน่วยสืบสวนพยายามเกลี้ยกล่อม


              “ท่านครับ ปล่อยตัวประกันเสียเถอะ”


               “อย่าเสือกเรื่องของกู พวกมึงถอยออกไป”


               เลอองกวาดสายตามองรอบห้องอย่างรวดเร็ว ห้องนี้เล็กเกินกว่าที่เขาจะช่วยเหลือมิเกลได้ เขาจึงหันไปสบตาให้นายตำรวจยอมร่นถอยออกมาด้านนอกเพื่อให้โซรอสพามิเกลออกมาด้านนอก ตอนนี้เหล่าโอเมก้าที่ได้รับการช่วยเหลือต่างรายล้อมจ้องมองด้วยความเกลียดชัง


                “พวกมึงไปให้พ้นบ้านกูเดี๋ยวนี้ กูจะเอาพวกมึงออกจากงาน เล่นงานให้หมด กูเป็นรัฐมนตรีนะ บังอาจมากที่มาหยามกูถึงบ้าน”


                 “ท่านครับ คำสั่งด่วนปลดท่านออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีเพราะเกี่ยวพันกับองค์กรลับแบล็คฮันเตอร์เพิ่งออกมาเมื่อครู่นี้เอง ถ้าท่านอยากเห็นผมสามารถเปิดจากอีเมล์ให้ดูได้ อีกสักครู่คงมีแถลงข่าวจากท่านนายก ท่านปล่อยตัวประกันและมอบตัวเถอะครับ”


                โซรอสสีหน้าตึงเครียด เขาโกรธจนหน้าแดงก่ำ


                “ไม่จริง กูไม่เชื่อ พวกมึงหลอกกู”


                 นายตำรวจคนหนึ่งใจเย็นกว่า เขาเปิดคลิปข่าวจากโทรศัพท์มือถือให้ได้ยินกันถ้วนหน้า คราวนี้โซรอสกลายเป็นหน้าซีดเมื่อทุกอย่างกลายเป็นเลวร้ายสำหรับเขา ท่อนแขนที่ล็อกคอมิเกลยิ่งรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก


               “มิเกล!”


               เลอองสบตากับมิเกล อีกฝ่ายจ้องกลับด้วยความเข้าใจ มิเกลกัดฟันยกเท้ากระทืบไปที่เท้าของโซรอสอย่างแรงโดยที่ไม่ทันตั้งตัว เสี้ยววินาทีนั้นเลอองพลันกระโดดเข้าใส่จนชายสูงวัยล้มลงปืนกระเด็นหลุดจากมือ และทันใดเหล่าโอเมก้าที่เคยตกเป็นเบี้ยล่างต่างกรูกันเข้าใส่และรุมทำร้ายโซรอสด้วยความโกรธแค้น


                เลอองพุ่งเข้ารับร่างของมิเกลไว้ก่อนจะอุ้มหนีให้ห่างความโกลาหล นายตำรวจช่วยกันห้ามโอเมก้าด้วยความยากลำบากกว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ เมื่อเหตุการณ์สงบลงจึงมองเห็นโซรอส แมกเคนผู้ซึ่งเคยอหังการ์กลับนอนหายใจรวยรินอยู่กับพื้น ร่างกายสะบักสะบอมเพราะถูกทำร้ายร่างกาย หัวหน้าหน่วยสืบสวนรีบใส่กุญแจมือเพื่อควบคุมตัวทันที


               “มิเกล เป็นอะไรมากไหม”


                เลอองเชยคางมองใบหน้าที่มีร่องรอยฟกช้ำด้วยความสงสาร มิเกลรีบส่ายหน้า


                “ผมไม่เป็นอะไรแล้วเลออง ขอบคุณนะที่มาช่วย”


                มิเกลรับเสื้อคลุมมาจากตำรวจคนหนึ่งนำมาใส่ปิดบังร่างกาย เขาหันไปมองโซรอสที่นอนอยู่บนเปลรถพยาบาล สายตาของมิเกลเต็มไปด้วยความสมเพช


              “ในที่สุดคนเลวก็ต้องได้รับกรรมนะครับท่านรัฐมนตรี”


               เลอองปล่อยให้ตำรวจจัดการกับโซรอส เขาประคองมิเกลลงมาชั้นล่างที่ยังมีสุนัขทั้งหลายนั่งหมอบรอคำสั่ง ตอนนั้นเองที่เลอองเพิ่งจะมีรอยยิ้ม เขาส่งเสียงคำรามไปครั้งหนึ่งแสดงความขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือในครั้งนี้ ได้ยินเสียงเห่ารับดังลั่นก่อนที่การชุมนุมกันครั้งใหญ่ของสุนัขพันธุ์ดุจะสลายตัวลง ทุกตัวแยกย้ายวิ่งกลับบ้าน


                “เรากลับบ้านกันเถอะเลออง”


                เลอองพยักหน้ารับ เมื่อผู้มีอิทธิพลถูกปราบลงแล้ว






มีต่ออีกนิด...




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-12-2019 00:27:00 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<< เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 23 [05/12/62]
«ตอบ #219 เมื่อ05-12-2019 00:28:35 »

อ่านต่อตรงนี้...




                 พอล อาร์มันโดขับรถไปพร้อมกับแอมเบอร์ พวกเขาวางแผนเดินทางไปต่างเมืองเพื่อหลบเลี่ยงการเผชิญหน้ากับตำรวจ หลังจากนำตัวมิเกลไปให้โซรอสแล้วเขาก็พอสบายใจมาได้เปราะหนึ่ง แต่ขับรถยังไม่ถึงจุดหมายพวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อมีโทรศัพท์จากเบอร์ที่ไม่เคยบันทึกไว้ พอลไม่กล้ารับสายนั้นจนกระทั่งมันเงียบลงและมีเสียงฝากข้อความไว้


             “มิสเตอร์พอล และมิสแอมเบอร์ พวกคุณมีหมายจับคดีจ้างวานฆ่าและสมรู้ร่วามคิด ขอให้มอบตัวเพื่อดำเนินคดีด้วย”


              คู่สามีภรรยาตกใจแทบสิ้นสติ แอมเบอร์เอ่ยถามเสียงสั่น


               “เอาไงดีพอล เรามีหมายจับแล้วนะ”


               “อย่ามัวแต่กลัวสิโว้ย โทรหาท่านเข้า ท่านต้องช่วยเราได้”


                แอมเบอร์กดโทรศัพท์มือไม้สั่น โทรนานจนสายตัดไปหลายรอบโซรอสก็ยังไม่รับสาย


                “โธ่โว้ย ไอ้แก่รัฐมนตรีนั่นมัวทำอะไรอยู่นะ ไม่ไช่มัวแต่จัดการกับลูกชายคุณจนไม่สนใจพวกเราหรอกนะ”


                การถกเถียงชะงักลงเมื่อมีข่าวด่วนรายงานในวิทยุที่พอลเปิดไว้ในรถ ข่าวนั้นทำให้ทั้งคู่ต้องตั้งใจฟัง


                “มีรายงานข่าวด่วน หลังจากที่ประธานาธิบดีวัตสันได้มีคำสั่งปลดโซรอส แมกเคนออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี และยังปลดออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเนื่องจากข่าวพัวพันองค์กรแบล็คฮันเตอร์เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาแล้วนั้น ผู้สื่อข่าวได้รายงานเพิ่มเติมว่านายโซรอสได้ต่อสู้การจับกุม และได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะตนเองเสียชีวิตแล้ว”


                 พอลหักพวงมาลัยเข้าข้างทางทันที เขากับแอมเบอร์นั่งตัวสั่นอยู่ในรถเพราะรู้ดีว่าไม่มีคนคุ้มครองแล้ว ครั้นจะกลับไปที่บ้านก็ไม่ได้เพราะเลอองคงเล่นงานพวกเขาแน่ พอลสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงไซเรนและไฟสีแดงของรถตำรวจดังแว่วมาจากด้านหลัง


                  “พอล รถตำรวจ เอาไงดี”


                 “หนีสิวะ จะอยู่ในพ่อมึงมาจับเหรอ”


                 พอลเหยียบคันเร่งพุ่งตรงไปบนถนนท่ามกลางความมืด เสียงไซเรนและแสงไฟของรถตำรวจใกล้เข้ามาเรื่อยๆ


                 “เร็วๆ สิพอล มันขับมาจะจ่อตูดอยู่แล้ว”


                “เออ รู้แล้วโว้ย”


                 พอลกลัวจนสติแตก เขาเหยียบจนคันเร่งจมมิดรถยนต์แกว่งไปมาบังคับไม่ได้ และเมื่อด้านหน้าเป็นโค้งถนนพอลก็ไม่อาจทำอะไรได้อีกแล้ว รถยนต์คันนั้นพุ่งหลุดโค้งไปชนกับต้นไม้ใหญ่ดังปัง เสียงเครื่องยนต์ระเบิดดังตูม


               สองชีวิตกระเสือกกระสนแต่ไม่อาจเปิดประตูรถลงมาได้ แม้ว่ารถตำรวจจะตามมาถึงทีหลังแต่ไฟร้อนที่ไหม้ลามท่วมตัวรถทำให้ทุกอย่างสายเกินไป


                 ได้แต่รอให้รถดับเพลิงมาดับไฟ จึงได้แต่นำร่างไหม้เกรียมไร้วิญญาณทั้งสองร่างลงมาจากรถคันเกิดเหตุ




                                                                     TBC

                                                      กรรมใครกรรมมันนะ เฮ้อ อนาถใจ

                                                              อีก 2 บทจะจบแล้วจ้า




                                                           :amen: :amen: :amen: :amen: :amen: :amen: :amen:







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-12-2019 00:32:48 โดย Belove »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

<< เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 23 [05/12/62]
« ตอบ #219 เมื่อ: 05-12-2019 00:28:35 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 23 [05/12/62]
«ตอบ #220 เมื่อ05-12-2019 00:39:49 »

 :katai2-1: o13 :katai2-1:




 :กอด1: :pig4: :กอด1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 23 [05/12/62]
«ตอบ #221 เมื่อ05-12-2019 08:02:58 »

ฮือ ฟิน  :mew1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 23 [05/12/62]
«ตอบ #222 เมื่อ05-12-2019 10:19:12 »

รับกรรมไปพวกชั่ว

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 23 [05/12/62]
«ตอบ #223 เมื่อ05-12-2019 10:22:47 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ดีมาก  ที่บรรดาคนชั่วได้รับกรรมสนองอย่างสาสม

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<< เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 24 [08/12/62]
«ตอบ #224 เมื่อ08-12-2019 23:38:07 »





                                                                 เจ้าป่า

                                                                บทที่ 24




              กว่าจะจัดการเรื่องการเสียชีวิตของพอลและแอมเบอร์ก็ใช้เวลาหลายวันอยู่ทั้งเรื่องเอกสารแจ้งตายและประกอบพิธีศพ รวมถึงคดีความที่ทั้งคู่ถูกหมายจับด้วย ระหว่างนี้เลอองต้องประคบประหงมมิเกลมากกว่าปกติเพราะมิเกลยังเสียใจที่สูญเสียบิดาไป


              “จะดีจะเลวยังไงเขาก็เป็นพ่อของผม ขอเวลาให้ผมทำใจสักพักเถอะนะ”


              “เสียใจแค่ไหนก็ต้องกินอาหารบำรุงเยอะๆ นะมิเกล ในท้องยังมีลูกของเราอยู่ ดูสิผอมจนจะเหลือแต่หนังแล้ว”


               ยิ่งรู้ความจริงว่ามิเกลตั้งครรภ์เลอองก็ยิ่งเป็นห่วง จนเวลาผ่านไปสามสี่วันมิเกลถึงเริ่มจะสดใสขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะวันที่มีเคนมาอยู่เป็นเพื่อน


               “ทำไมทำหน้าเหี่ยวแบบนั้น”


               มิเกลเอียงคอมองเพื่อนสนิทด้วยความสงสัย เคนยู่หน้าเบะปาก


              “หมั่นไส้คนบางคน ไม่รู้จะเจียมตัวอะไรนักหนา เซ็ง”


               พอรู้มาบ้างว่าไทเลอร์เพิ่งรู้เรื่องฐานะที่แท้จริงของเคน เขาคงช็อกไปบ้างจนวางตัวไม่ถูก ปกติไทเลอร์ก็เป็นคนไม่ค่อยพูดจาและโลกส่วนตัวสูงอยู่แล้วยิ่งรู้เรื่องนี้เขาก็คงไม่รู้จะวางตัวอย่างไร


             “ใจเย็นน่า ให้เวลากันหน่อย เดี๋ยวคุณไทเลอร์ก็คงดีขึ้นมาแหละ”


               มิเกลสังเกตว่าเพื่อนสนิทใส่ใจไทเลอร์เป็นพิเศษ และเขาคงต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเคนบ้าง บ่ายวันนี้หลังจากเคนกลับไปแล้วสวนกับไทเลอร์ที่แวะมาเยี่ยมและนำเงินที่ได้จากการขายภาพวาดของดีแลนมาให้ มิเกลจึงเอ่ยปากเรื่องนี้


              “เมื่อช่วงเช้าเคนเพิ่งมา กลับไปก่อนคุณไทเลอร์มาไม่นานนี้เอง เสียดายไม่ได้อยู่พบกัน เคนมันบ่นถึงคุณด้วย”


              แอบสังเกตท่าทีของไทเลอร์ ก็เห็นสีหน้าเปลี่ยนไปบ้าง ไทเลอร์ยิ้มบางๆ เป็นการตอบรับ


              “คนอย่างผมคงมีเรื่องให้บ่นเยอะเต็มไปหมด ทำยังไงได้ ผมมันคนน่าเบื่อ”


               “ไม่จริงหรอกครับ เคนมันไม่ได้เบื่อคุณสักหน่อย มันชอบคุณมากต่างหากล่ะ”


               มองเห็นอาการขัดเขินแต่พยายามห้ามตัวเองไว้ของไทเลอร์ มิเกลลอบยิ้มกับความปากหนักของคู่นี้


              “ตอนแรกที่ผมรู้จักเคนก็เข้าใจว่ามันเป็นคุณหนูอย่างที่คุณคิดนี่แหละ แต่พออยู่กันไปจนสนิทถึงเข้าใจว่ามันน่ะติดดินมากๆ ไม่เคยแบ่งชั้นหรือเอาฐานะมาข่มใคร แถมยังชอบช่วยเหลือคนอื่นอีกด้วย เคนมันแคร์คุณมากนะถ้าไม่จำเป็นมันคงไม่บอกเรื่องที่บ้านกับคุณหรอกเพราะกลัวผลลัพธ์แบบนี้ไง เพราะฉะนั้นอย่าคิดมากเลยครับ รู้สึกยังไงกับเพื่อนผมก็เปิดเผยไปเลยผมเอาใจช่วยอยู่นะ”


           ส่งยิ้มให้กำลังใจไปแล้ว ไทเลอร์เองก็ดูเหมือนจะผ่อนคลายมากขึ้น อย่างน้อยก็น่าจะเป็นผลดีต่อทั้งคู่ ไม่นานไทเลอร์จึงขอตัวกลับ เลอองที่เพิ่งจะเสร็จธุระกลับมาถึงบ้านพอดี


              “หิวจังเลยมิเกล มีอะไรให้ผมกินบ้าง”


              เลอองตรงเข้ามากอดและหอมมิเกลก่อนจะจูงมือกันไปที่ห้องอาหาร


             “เคนกับคุณไทเลอร์ที่ต่างคนต่างวางฟอร์มนะ”


              มิเกลเล่าเรื่องของคู่นี้ให้เลอองฟัง เขาหัวเราะชอบใจ


             “ใครจะเหมือนคู่เราล่ะ เจอกันก็รักกันเลย”


              “เด็กบ้า”


              มิเกลหัวเราะหน้าตาสดใสขึ้นมาบ้าง จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ของมิเกลดังขึ้น เป็นเบอร์โทรศัพท์บ้านของโทนี่นั่นเอง


             “มิเกลพูดครับคุณโทนี่ อ้าว คุณดีแลน ผมกำลังจะโทรหาพอดีเลย”


              ดีแลนโทรหาเขา มิเกลจึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง น้ำเสียงเครือไปบ้างเมื่อพูดถึงบิดาที่เสียชีวิตไป ดีแลนได้ฟังแล้วก็ถอนหายใจตาม


              “เสียใจด้วยนะมิเกล แต่อย่างน้อยทุกอย่างก็คลี่คลายลงแล้ว ฉันยกโทษให้พ่อของเธอจะได้ไม่ต้องติดค้างกันอีกต่อไป อ้อ ขอสายเลอองหน่อยสิ”


             มิเกลส่งโทรศัพท์ให้เลออง ชายหนุ่มรีบส่งเสียงพูดคุยกับมารดา


             “แม่จ๋า หนูคิดถึงแม่จังเลย แม่สบายดีหรือเปล่า”


           “แม่สบายดี คิดถึงเลอองมากเลย เก่งมากเลยนะลูกที่จัดการเรื่องต่างๆได้เรียบร้อย ลูกแม่โตขึ้นแล้วจริงๆ แต่ว่าเลออง แม่มีเรื่องสำคัญต้องบอก”


             น้ำเสียงของมารดาที่เปลี่ยนไปทำให้เลอองสังหรณ์ใจลึกๆ สีหน้าของเขาขรึมลงจนมิเกลที่นั่งฝั่งตรงข้ามสบตากับเขาด้วยความสงสัย


            “พ่อของลูกน่ะ ลีโอได้รับบาดเจ็บ มีสิงโตหนุ่มที่เป็นลูกของลินดา จำสิงโตตัวเมียที่เคยทำร้ายแม่ตอนที่ตั้งท้องลูกแล้วพ่อขับออกจากฝูงได้ไหม นั่นแหละ เขามาท้าต่อสู้กับพ่อ แม่คิดว่าพ่อเขาคง...”


              เสียงดีแลนเงียบไปคล้ายมีเสียงกลั้นสะอื้นลอดมา เลอองกัดฟันกรอดดวงตาแดงก่ำ แต่เขาก็เข้าใจว่านั่นเป็นวัฎจักรของสัตว์ป่า


              “...ตอนนี้คุณหมอโทนี่ดูแลพ่ออยู่ แม่อยากให้เลอองมาที่นี่ก่อนที่พ่อเขาจะ...”


              “ครับแม่ แม่อย่าเพิ่งร้องไห้ หนูจะรีบไปเดี๋ยวนี้”


               เลอองวางสายแล้ว มือกำหมัดแน่นจนมิเกลต้องยื่นมือมากุมไว้


               “เกิดอะไรขึ้นเลออง”


              “พ่อได้รับบาดเจ็บ ผมคิดว่าอาการคงหนัก เราต้องรีบกลับไปหมู่บ้านชายป่าก่อนที่จะสายเกินไป”


               “ได้สิ”


               มิเกลไม่ขัดขวางหรือมีข้อแม้ใดๆ แม้ว่าตอนนี้จะค่ำมืดแล้ว ทั้งคู่รีบไปเก็บเสื้อผ้าของใช้ที่จำเป็นใส่กระเป๋า เลอองโทรศัพท์ไปฝากธุระที่เหลืออยู่กับไอรีนและบอกว่าเขาจะกลับไปหาพ่อกับแม่สักพักไม่รู้ว่านานแค่ไหน จากนั้นเขากับมิเกลก็ขับรถไปเขตเวสต์ทาวน์ทันที








               ดีแลนกลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่เมื่อเห็นสภาพของลีโอ โทนี่ไปรับเขามาจากในป่าเพื่อมารักษาที่โรงอภิบาลสัตว์หลังบ้าน เนื้อตัวของลีโอมีแต่บาดแผลจากคมเขี้ยว โทนี่ต้องให้น้ำเกลือและยาแก้ปวดเป็นระยะ มือเรียวลูบไล้แผ่วเบาไปตามร่างกายนั้นราวกับจะช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดมาบ้าง เขาย้อนคิดไปถึงเมื่อวานนี้ก่อนเกิดเหตุที่ทั้งคู่อยู่เพียงลำพังในถ้ำบนชะง่อนผา ท่ามกลางฝูงสิงโตที่อยู่ด้านล่าง


                “ลีโอ”


             ดีแลนนอนบิดกายครางฮืออยู่บนพื้นถ้ำเย็นชื้นเมื่อเขากำลังฮีท แม้ว่าร่างกายของเขาจะอายุล่วงเข้าสี่สิบปีแล้วกลิ่นฟีโรโมนของโอเมก้าก็ยังหอมหวานไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ ลีโอเองแม้จะล่วงเข้าสู่วัยชราสำหรับสิงโตแต่ก็ใช่ว่าจะหมดเรี่ยวแรงเสียเมื่อไหร่ จมูกอัลฟ่าของเขาก็ยังได้กลิ่นหอมจนร่างกายตื่นตัว


              ร่างสูงใหญ่สี่ขาเดินย่างก้าวกวัดแกว่งหางประกาศศักดาแห่งเพศผู้ เสียงคำรามดังก้องไปทั่วโถงถ้ำพร้อมกับยกสองขาหน้าขึ้นเผยให้เห็นเครื่องเพศใหญ่โตที่ขยายชัดไปถึงวงแหวนที่เริ่มโป่งพอง เมื่อสองขาหน้าลงมาย่ำพื้นเขาก็ผลักให้ดีแลนนอนหงายอ้าขากว้าง ลิ้นหยาบร้อนตวัดไปที่ร่องขาจนเปียกชื้น


              “อา ลีโอ ผมรอคุณอยู่นะ”


              ทรมานจนต้องสาวรูดตนเองไว้รอท่า ดีแลนยกเอวลอยรับอย่างรู้หน้าที่ ไม่นานเกินอึดใจช่องแคบก็ได้เปิดทางต้อนรับแท่งร้อนให้เสียบแทงเข้าไป ดีแลนแหงนหน้าครางลั่น เขากดเอวรับจนกระทั่งวงแหวนสอดลึกแนบแน่น


              “ดี สะใจจริงๆ ลีโอ แรงไม่ตกเลย ได้โปรดจัดการผมให้หายทรมานเถอะ”


               เล็บจิกลงไปกับพื้นดินเมื่อร่างกายสะเทือนไปทั้งตัว ลีโอกระแทกเข้าใส่จนวงแหวนถูไถไปรอบปากทางเข้า เขาส่งเสียงคำรามแข่งกับดีแลนที่ครวญครางไม่ขาดระยะ จนกระทั่งอาการฮีทบรรเทาลงทั้งคู่จึงได้นอนพักกอดก่ายกันอยู่บนพื้นถ้ำให้หายเหนื่อย พอตกบ่ายลีโอเตรียมจะไปส่งดีแลนที่บ้านไม้อยู่แล้วหากไม่เกิดเสียงคำรามประสานกันจากเหล่าสิงโตเบื้องล่างชะง่อนผาเสียก่อน


               ลีโอกระโจนลงไปเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว ดีแลนได้แต่ชะโงกหน้ามองจากด้านบนด้วยความตกใจ เขามองเห็นสิงโตนอกฝูงสองตัวยืนประจันหน้ากับฝูงของลีโอ ตัวหนึ่งเป็นสิงโตหนุ่มวัยฉกรรจ์กับอีกตัวเป็นสิงโตตัวเมียวัยชรา ดีแลนเบิกตากว้างจำได้ทันทีว่านั่นคือลินดา สิงโตตัวเมียที่เคยทำร้ายเขาก่อนที่ดีแลนจะให้กำเนิดเลออง


               “ลีโอ ระวังตัวนะ”


               สิงโตเจ้าป่าส่งเสียงคำรามลั่นเมื่อสิงโตหนุ่มนอกฝูงส่งสัญญาณท้าทายโดยมีลินดาผู้เป็นแม่แยกเขี้ยวคำรามให้ท้าย ตั้งแต่ถูกขับไล่ออกจากฝูงลินดาได้แต่เก็บความแค้นไว้และตระเวนไปตามฝูงสิงโตอื่นๆ เพื่อหาพ่อพันธุ์ หล่อนมีลูกมาหลายครอกแล้วเพื่อหาตัวที่แข็งแรงที่สุดจนกระทั่งเก้าปีก่อนจึงได้ให้กำเนิดสิงโตตัวที่แข็งแรงที่สุด ลินดาเลี้ยงดูและฝึกให้ลูกต่อสู้จนถึงวันนี้ วันที่ลูกของหล่อนจะได้มาชิงอำนาจจากเจ้าป่าแก้แค้นเรื่องในอดีต


                 สิงโตตัวอื่นๆ กระจายตัวเปิดทางให้ผู้ท้าชิงจ่าฝูงได้เผชิญหน้ากับเจ้าถิ่น แม้ลีโอจะสูงอายุแต่เขาก็เต็มไปด้วยเขี้ยวเล็บและประสบการณ์ ทั้งสองเดินวนดูเชิงอยู่อึดใจก่อนจะกระโจนเข้าหากันและใช้ทั้งขาหน้ากับคมเขี้ยวต่อสู้ท่ามกลางเสียงคำรามจากสิงโตตัวอื่น


                “ลีโอ!”


                ดีแลนถึงกับยกมือปิดปากเมื่อเห็นลูกของลินดาใช้ความคล่องแคล่วปราดเปรียวให้เป็นประโยชน์ มันตรงเข้างับที่ต้นขาของลีโอจนขยับแทบไม่ได้ เลือดสีแดงฉานพุ่งตามออกมาเมื่อมันอ้าปากปล่อยต้นขาของลีโอจนลีโอถึงกับทรุดลง แต่กระนั้นลีโอก็ใช้กรงเล็บตวัดเข้าใส่สีข้างของมันจะได้เลือดเช่นกัน


               สิงโตหนุ่มส่งเสียงคำรามอวดศักดาก่อนจะพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง เลอองตั้งรับอย่างไม่หวาดหวั่นสมศักดิ์ศรีเจ้าป่า แต่ทว่าเพราะอายุขัยที่มากแล้วเขาจึงเสียท่าล้มลง สิงโตหนุ่มที่บาดเจ็บพอสมควรยืดกายคำรามโดยมีลินดาแม่ของมันเข้ามาคลอเคลียเลียแผลก่อนจะเดินจากไปอย่างผู้ชนะ ดีแลนน้ำตาไหลวิ่งลงไปบนพื้นดินด้านล่าง เขาแหวกฝูงสิงโตที่รุมล้อมจ่าฝูงที่นอนหายใจรวยรินเข้าไปแล้วกอดประคองไว้


               “ลีโอ เป็นยังไงบ้าง”


              บาดแผลมีทั่วกายเกินกว่าจะรักษาด้วยตนเองอย่างที่ผ่านมา ดีแลนละล้าละลังคิดหนักก่อนที่เขาจะกระเสือกกระสนวิ่งออกจากป่าไปที่บ้านไม้ของเขาแล้วขับรถยนต์ที่โทนี่ทิ้งไว้ให้ใช้ยามจำเป็นไปยังบ้านของโทนี่เพื่อขอความช่วยเหลือ ทุลักทุเลกว่าจะผ่านฝูงสิงโตเข้าไปยกร่างของลีโอขึ้นรถของโทนี่ออกมาที่บ้านของเขา โทนี่ให้น้ำเกลือ ฉีดยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ปวด แต่ดูเหมือนอาการของลีโอจะไม่ดีขึ้นเลย ดีแลนจึงตัดสินใจโทรศัพท์ตามเลอองกลับมา


               “ลีโอ ผมสงสารคุณเหลือเกิน”


              ลีโอลืมตาขึ้นมอง นัยน์ตาสีเข้มไม่ต่างจากบุตรชายยังบ่งบอกถึงความรักที่เขามีต่อดีแลน เขาแลบลิ้นเลียที่หลังมือของดีแลนเพื่อปลอบโยนทั้งที่เขาเองต่างหากที่บาดเจ็บทั้งตัว


               กระทั่งฟ้าแจ้งถึงได้ยินเสียงรถยนต์แปลกหู เลอองกับมิเกลที่ขับรถทั้งคืนโดยไม่หยุดพักมาถึงแล้ว ฟลอเรียเดินนำทั้งคู่เข้ามาที่โรงอภิบาล เมื่อมองเห็นสภาพของบิดาเลอองก็วิ่งเข้าไปกอดลีโอทันที


               “พ่อ หนูมาแล้ว”


                 มิเกลยืนมองภาพเบื้องหน้าอย่างสะท้อนใจ เมื่อมนุษย์สองคนกำลังกอดสิงโตที่นอนหายใจรวยรินทั้งน้ำตา เขาเองก็เพิ่งสูญเสียบิดาไปยังทำใจไม่ได้ด้วยซ้ำ และยังต้องมาพบกับภาพรันทดเช่นนี้อีก


                ได้ยินเสียงจากลำคอของลีโอแผ่วเบา เขาใช้ลิ้นเลียใบหน้าของบุตรชายอย่างแสนรัก เลอองเป็นบุตรเพียงคนเดียวที่เกิดจากเมียมนุษย์ เขาเองก็รู้ตัวดีว่าตนเองนั้นชราลงมากแล้วไม่วันใดก็วันหนึ่งที่ต้องจากไป แต่ไม่นึกว่าจะจากไปเพราะความพ่ายแพ้แก่สิงโตรุ่นลูกเช่นนี้





มีต่ออีกนิด...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2019 23:44:27 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<< เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 24 [08/12/62]
«ตอบ #225 เมื่อ08-12-2019 23:45:33 »



อ่านต่อตรงนี้...




                 “พ่อไม่ต้องห่วง หนูจะดูแลแม่เองนะ หนูโตแล้วและหนูก็กำลังจะมีลูกกับมิเกล หนูจะสอนให้ลูกเก่งเหมือนปู่”


                  ดีแลนสะอื้นออกมา เขาลูบผมเลอองด้วยความสงสาร โทนี่กับฟลอเรียที่ยืนมองอยู่ห่างๆก็อดที่จะยกมือเช็ดน้ำตาไม่ได้ พวกเขาทั้งสองอยู่กับครอบครัวนี่มาตั้งแต่เกิด เสมือนเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว


                ลีโอช้อนตามองดีแลนสลับกับเลออง ก่อนที่เขาจะปิดเปลือกตาลงช้าๆ อย่างน้อยก่อนตายก็ยังได้อยู่พร้อมหน้า น้ำตาลูกผู้ชายของเลอองไหลลงมาเมื่อเห็นทรวงอกของบิดาแผ่วเบาลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมันหยุดเคลื่อนไหว โทนี่เดินมาตบบ่าปลอบใจ


                “ลีโอเขาไปสบายแล้ว ทำใจเถอะนะ”


                เลอองดึงดีแลนมากอด เขาปล่อยให้มารดาได้ร้องไห้ระบายความเสียใจออกมา เขาเองก็เศร้าแต่ก็เข้าใจว่านี่คือกฏของธรรมชาติ ผู้แข็งแรงกว่าย่อมเป็นฝ่ายชนะ ตอนสายวันนั้นเลอองพาร่างของลีโอกลับไปยังถิ่น เสียงคำรามแสดงความเสียใจดังไปโดยรอบจากสิงโตในฝูง เลอองลงมือขุดหลุมฝังร่างของลีโอไว้ที่นั่น


              “ลีโอ ผมรักคุณ”


               ดีแลนวางมือไปบนหลุมศพพร้อมกับวางดอกไม้ป่าลงไป นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พูดกับสามีเจ้าป่า ระหว่างนั้นเลอองจึงได้พูดคุยกับพวกพ้องสิงโตของเขา ชายหนุ่มกัดฟันกรอดเมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมด


              “มิเกล กลับบ้านพร้อมกับแม่ก่อนนะ”


               มิเกลมองคนรักด้วยความสงสัย


               “แล้วเลอองจะไปไหนล่ะ”


               “ผมมีเรื่องที่ต้องจัดการ”


                “เลออง! แม่รู้นะว่าจะทำอะไร มันอันตรายนะ”


               ดีแลนทักเสียงดัง เลอองยิ้มขรึมให้มารดา


               “มันจำเป็นนะแม่ ถ้าหนูไม่ทำ สิงโตตัวนั้นมันก็จะมาเป็นจ่าฝูงที่นี่ แล้วพวกเราล่ะจะทำยังไง”


               คนเป็นแม่พูดไม่ออกเมื่อเลอองยกเหตุผลสำคัญนี้มาเป็นข้ออ้าง มิเกลได้แต่มองทั้งสองคนไปมา


               “คืออะไรหรือครับ เลอองต้องไปไหน”


               ดีแลนถอนหายใจ ก่อนจะพูดกับเลอองด้วยความเป็นห่วง


               “เอาเถอะ ระวังตัวด้วย แม่เป็นห่วง มิเกล เรากลับบ้านคุณโทนี่กันก่อนเถอะ”


               หันไปอำลาหลุมศพของลีโอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะฉุดแขนมิเกลให้เดินออกไป จนกระทั่งถึงรถยนต์ที่จอดไว้ทั้งคู่จึงได้ขับออกไป เมื่อลับสายตาไปแล้วเลอองจึงได้ส่งเสียงคำรามดังก้องโดยมีสิงโตตัวอื่นคำรามรับ


                เพื่อนสิงโตตัวหนึ่งของเลอองกระโจนนำหน้าทันที เพื่อนำทางไปหาสิงโตหนุ่มลูกของลินดาที่วนเวียนอยู่ไม่ไกลละแวกนี้ สิทธิของผู้ชนะคือการขึ้นเป็นจ่าฝูง เมื่อมันชนะแล้วย่อมอยู่ไม่ไกลก่อนแสดงตัวขึ้นสู่การเป็นเจ้าป่า แต่เลอองจะไม่ยอมให้มันได้ทำเช่นนั้นแน่


                สิงโตสองแม่ลูกนอนอยู่ใต้ต้นไม้ริมลำธาร เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจึงผงกหัวขึ้นมาจ้องเขม็ง เลอองหยุดยืนต่อหน้ามันพลางจ้องมองตอบไม่มีละเว้น ดวงตาสีเหล็กเบิกกว้างวาวโรจน์ราวกับเปลวเพลิง ลินดาโก่งตัวคำรามใส่เขาด้วยความรังเกียจ สภาพครึ่งมนุษย์ครึ่งสิงโตยิ่งจุดไฟแค้นแต่อดีตให้กระพือหนักขึ้น สิงโตตัวอื่นที่ติดตามเลอองมาต่างกระจายตัวอยู่เบื้องหลังคุมเชิงอยู่ในที


                 เลอองปล่อยให้เส้นผมประดุจแผงคอโบกสะบัด หูแหลมตั้งชันหางยกสูงกวัดไกวระแวดระวัง สัญชาตญาณต่อสู้ถูกปลุกตื่นจนกล้ามเนื้อเต้นระริก มือกางนิ้วที่มีเล็กคมขณะจ้องมองคู่ต่อสู้ที่ตื่นตัวเช่นเดียวกัน ทั้งคู่เดินวนดูเชิงกันชั่วอืดใจก่อนที่เลอองจะส่งเสียงคำรามดังไปทั่วป่า ร่างสูงกระโจนเข้าหาพร้อมกับสิงโตหนุ่มที่กระโดดมาพร้อมกัน






                                                                    TBC


                            โฮ ฮือ ทุกคนอย่าร้องไห้น้า ลีโอไปสบายแล้ว มันเป็นธรรมชาติของสัตว์ป่า


                                                            บทหน้าก็จบแล้วจ้า






                                                   :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2019 23:48:35 โดย Belove »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 24 [08/12/62]
«ตอบ #226 เมื่อ09-12-2019 01:02:15 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

อินังลินดา   แกนี่มันใฝ่สูงไม่เลิกเลยนะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 24 [08/12/62]
«ตอบ #227 เมื่อ09-12-2019 06:56:34 »

แง สงสารอะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 24 [08/12/62]
«ตอบ #228 เมื่อ09-12-2019 08:31:41 »

 :a5:


 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 24 [08/12/62]
«ตอบ #229 เมื่อ09-12-2019 10:21:03 »

จะจบแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 24 [08/12/62]
« ตอบ #229 เมื่อ: 09-12-2019 10:21:03 »





ออฟไลน์ Persephone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: << เจ้าป่า >> [Omegaverse] บทที่ 24 [08/12/62]
«ตอบ #230 เมื่อ09-12-2019 12:56:57 »

โอ๊ย มันสนุกมากๆๆๆๆเลย

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                                                                  เจ้าป่า

                                                                 บทที่ 25




               การต่อสู้ของวัยหนุ่มเริ่มต้นขึ้นอย่างไม่มีหวั่นเกรง เสียงกรงเล็บแหวกอากาศแล้วขูดลงไปบนเนื้อดังแควกก่อนที่จะฉากออกจากกัน เลอองมีข้อด้อยที่เขามีร่างเป็นมนุษย์แรงปะทะอาจจะน้อยกว่า แต่เพราะเป็นมนุษย์ย่อมฉลาดกว่าและเพราะเขาที่มีพันธุกรรมอัลฟ่าของจ่าฝูงกลายเป็นข้อได้เปรียบ


                เลอองใช้วิธีโจมตีแล้วหลบจนสิงโตหนุ่มลูกของลินดาทำร้ายเขาแทบไม่ได้ ชายหนุ่มพยายามฉากหลบไม่ให้ถูกคมเขี้ยวของอีกฝ่ายมิเช่นนั้นจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที เขาใช้ความคล่องตัวให้เป็นประโยชน์ด้วยการกระโดดถีบต้นไม้ทะยานเข้าใส่ใช้กรงเล็บตวัดเข้าใส่จุดสำคัญ และครั้งหนึ่งกรงเล็บของเขากรีดเข้าใส่ดวงตาของมัน


                สิงโตหนุ่มส่งเสียงร้องโหยหวน เลอองไม่รอช้าเขาฉวยจังหวะนี้กระโดดขึ้นขี่หลังมันแล้วฝังเล็บลงใต้ลำคอก่อนจะกระชากมือขึ้นจนเนื้อหนังของคู่ต่อสู้เป็นแผลฉกรรจ์โลหิตไหลทะลัก ชายหนุ่มฝังเล็บไปที่กะโหลกหนาแล้วตวัดมือขึ้นมา เขาใช้ท่อนแขนทุบไปที่หัวของมันซ้ำๆย้ำๆ จนในที่สุดร่างของสิงโตก็ค่อยๆ นอนพังพาบลงกับพื้นเลือดสาดกระจาย


              ลินดาคำรามลั่นด้วยความเจ็บใจที่เห็นลูกพ่ายแพ้แน่นิ่ง ความอาฆาตทำให้ตัดสินใจกระโจนเข้าหาเลอองที่ยังเหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้ ไม่นึกว่าสิงโตตัวอื่นที่คุมเชิงอยู่จะพุ่งเข้าหาแล้วรุมกัดนางจนเลือดสาดกระเซ็น นางสิงโตที่แสนร้ายกาจฟุบลงจมกองเลือดอยู่ข้างกับลูกที่ในที่สุดก็หมดลมหายใจ


                เลอองยืนขึ้นแบกศพสิงโตหนุ่มยกชูพร้อมกับส่งเสียงคำรามกึกก้องประกาศชัยชนะ สิงโตในฝูงส่งเสียงขานรับพร้อมกับค้อมหัวให้เขาผู้ซึ่งจะกลายเป็นจ่าฝูงอย่างสมบูรณ์


                 เลอองวางสิงโตผู้พ่ายแพ้ลง เขาเหลียวมองโดยรอบ ป่าไม้แสนสมบูรณ์กับสัตว์ป่าพึ่งพาอาศัยธรรมชาติล้วนสำคัญต่อเลออง เขาตั้งปณิธานว่าจะปกป้องรักษาความอุดมสมบูรณ์นี้ไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้








               เมื่อมาถึงบ้านของโทนี่แล้ว มิเกลจึงสังเกตถึงความกระวนกระวายของดีแลนได้ เขาเอ่ยถามด้วยความอยากรู้


               “เลอองไปไหนหรือครับ มีอะไรที่คุณดีแลนต้องเป็นห่วงหรือเปล่า”


               ดีแลนฝืนยิ้ม เขาดึงมือมิเกลมากุมไว้


               “เลออง เอ่อ เลอองไปสู้กับสิงโตตัวนั้น”


               “ว่ายังไงนะครับ!”


                มิเกลตกใจจนหน้าซีดเผือด ดีแลนต้องมองโทนี่เพื่อขอความช่วยเหลือ ชายสูงวัยเดินเข้ามาวางมือบนบ่าของมิเกลแล้วบีบกระชับปลอบใจ


               “มันเป็นวิถีชีวิตของสัตว์ป่า ผู้ชนะย่อมได้เป็นจ่าฝูง เลอองคงเป็นห่วงเพื่อนพ้องสิงโตหากต้องมีสิงโตตัวนั้นปกครอง เธอต้องทำใจนะมิเกล แต่ฉันเชื่อว่าเลอองจะปลอดภัย”


               เมื่อรู้ความจริงแล้ว กลายเป็นมิเกลที่อยู่ไม่เป็นสุข เขาเดินไปเดินมาจนผู้ใหญ่เวียนหัว สีหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวลและคอยจ้องมองแต่ประตูรั้วหน้าบ้าน จนเวลาผ่านไปเนิ่นนานในความรู้สึกประตูรั้วจึงได้เปิดออก


               “เลออง!”


              ผวาไปรับและกอดร่างที่เต็มไปด้วยเลือดอย่างไม่รังเกียจ ยิ่งเห็นเลือดสีหน้าก็ยิ่งกังวลมากขึ้นอีก เลอองกอดตอบพลางจูบที่กระหม่อมของมิเกล


              “ผมไม่เป็นอะไรน่า มิเกลอย่าร้องไห้สิ”


              เพิ่งจะได้สติตอนนั้น มิเกลจึงคลายอ้อมกอดแล้วจ้องมองสำรวจร่างกายของเลออง มีเพียงบาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนเลือดก็ไม่ใช่เลือดของเขา


               “ปราบมันได้ใช่ไหม ลูกป๋าเก่งโว้ย”


              โทนี่กับฟลอเรียเข้ามาแสดงความยินดี ก่อนจะไล่บุตรบุญธรรมไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยมากินอาหารเย็น ส่วนมิเกลเข้าไปช่วยฟลอเรียในครัวอย่างอารมณ์ดี


               “มัวแต่วุ่นวายกันอยู่ ยังไม่ได้คุยกันเลย ป๋าได้ยืนแว่วๆ ตอนที่บอกกับลีโอ ใครจะมีลูกวะ”


               เสียงโทนี่เอ่ยแซวกลางมื้ออาหารเย็นทำให้มิเกลยิ้มเขิน ส่วนเลอองหัวเราะภาคภูมิใจ


               “ลูกชายป๋าเก่งไง จะมีหลานให้ป๋าช่วยเลี้ยงแล้วนะ แม่จ๋า แม่ต้องช่วยหนูเลี้ยงลูกนะ หนูต้องไปโรงเรียน”


               “ไวไฟจนได้เรื่อง มิเกลก็ไม่น่าไปยอมไอ้เด็กคนนี้เลยนะ”


                ดีแลนส่ายหัวระอาแต่ก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อรู้ว่ากำลังจะมีหลานมาให้เลี้ยง มิเกลได้แต่ยิ้มแห้งเมื่อดีแลนเอ่ยหยอกเย้า ถ้าจะนับวันกันแบบแน่นอนก็คงตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาฮีทนั่นแหละ เขาเองก็ไม่ทันได้คิดเรื่องยาคุมกำเนิดจึงตั้งครรภ์โดยไม่ทันตั้งตัว แถมคนเป็นพ่อเพิ่งจะอายุสิบห้าปีเท่านั้น


               “ไม่เป็นไรหรอกครับ เลอองฉลาดและเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุแล้ว เขาต้องเป็นพ่อที่ดีแน่ๆ”


                “ว่าแต่ให้แม่ช่วยเลี้ยงลูก เราเองก็ต้องช่วยแม่นะเลออง”


                 ดีแลนยิ้มบางๆ หน้าตาสดใสเป็นครั้งแรกหลังจากลีโอตาย เลอองทำหน้าเหรอหราเมื่อได้ยิน


                 “แม่จะให้หนูช่วยอะไรแม่ล่ะ”


                 “ก็ช่วยเลี้ยงน้องไง” ดีแลนดึงมือเลอองมาวางบนหน้าท้องของเขา “คุณโทนี่เตือนแม่เรื่องอายุของพ่อ ระยะหลังมานี่แม่ก็เลยไม่ได้กินยาคุมกำเนิดเพราะอยากมีลูกกับลีโออีกสักคน แล้วตอนนี้แม่ก็กำลังจะมีน้องให้ลูกแล้วนะเลออง แม่ท้องได้ราวๆ สองถึงสามเดือนแล้ว”


                 เสียงฮือฮาดังขึ้นทันที โทนี่ ฟลอเรีย มิเกล ต่างก็แสดงความยินดีกับดีแลนและเลอองด้วยความตื่นเต้น


                “เลออง ดีใจไหม จะได้มีทั้งลูกและน้องพร้อมๆ กันเลยนะ”


                มิเกลเอ่ยถามคนรัก เลอองพยักหน้ายิ้มแป้น


              “ดีใจที่สุด ผมจะเป็นพ่อที่ดี เป็นพี่ชายที่ดี มิเกลเองก็จะได้ภูมิใจที่ผมเป็นคนดี”


                “เฮ้อ งั้นฉันก็ต้องวางแผนหาหมอมาทำคลอดให้หลานๆ สินะเนี่ย”


              โทนี่ถอนหายใจก่อนที่เสียงหัวเราะจะดังประสานกันด้วยความสุขกับข่าวดีที่เกิดขึ้น










                มิเกลนั่งมองสายน้ำสีขาวที่สาดซัดจากหน้าผาสูงลงมาสู่แองน้ำใหญ่เบื้องหลังด้วยความสดชื่น ส่วนเลอองนั้นกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กับเพื่อนๆ สิงโตของเขาที่โขดหินถัดไป นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าชีวิตนี้จะได้มาใกล้ชิดอยู่กับสิงโตฝูงใหญ่ ทั้งที่ตลอดมาเคยเห็นสิงโตแต่ในสวนสัตว์เท่านั้น ที่สำคัญคือเขามีสามีที่เป็นจ่าฝูงของสิงโตฝูงใหญ่อีกด้วย


               “มิเกลมาเล่นน้ำกันนะ ผมพาลงเอง”


               ความจริงแล้วสิงโตไม่ค่อยชอบเล่นน้ำนัก แต่เพราะเลอองเป็นครึ่งมนุษย์จึงไม่ค่อยรังเกียจน้ำสักเท่าไหร่ มองเห็นมิเกลที่ได้แต่นั่งอมยิ้มบนโขดหินแล้วก็นึกเอ็นดู เพราะเจ้าตัวเป็นคนร่ำร้องอยากจะมาเที่ยวน้ำตกกลางป่าที่เขาเอาไปคุยโวไว้ว่าสวยมาก แต่แอ่งน้ำท่าทางลึกจนมิเกลไม่กล้าลงเล่น เลอองประคองคนรักเดินลงจากโขดหินไปสู่แอ่งน้ำกว้างใสที่มีสายน้ำสาดกระจายอยู่ฝั่งหนึ่ง


                “สวยอย่างที่ผมบอกหรือเปล่า”


              เดินลงมาจนลึกเกือบถึงหน้าอกของมิเกลจนเจ้าตัวชักขยาด แต่เพราะวงแขนที่โอบเอวไว้อย่างมั่นคงมิเกลจึงกล้าที่จะหยั่งเท้ายืนอยู่ในวังน้ำเย็น หน้าหวานยิ้มสวยจนเลอองมองอย่างหลงใหลเช่นทุกครั้ง


               “สวยมากเลยเลออง ไม่เคยเห็นน้ำตกที่ไหนสวยอย่างนี้ และยังบริสุทธิ์มากเพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเลย”


               “นักท่องเที่ยวคนแรกคือมิเกลไงล่ะ เพราะมิเกลเป็นเมียเจ้าป่าถึงได้สิทธิ์นี้”


                ปลายนิ้วเย็นชื้นเชยคางให้มิเกลแหงนมองสบตากับเขา ก่อนจะเกลี่ยไล้ไปตามพวงแก้มแดงเรื่อเพราะไอแดด


                “ผมรักมิเกลจังเลย”


                บอกรักแบบไม่มีชั้นเชิงใดๆ ทั้งสิ้น เลอองจูบลงไปบนกลีบปากเย็นเพราะน้ำที่อยู่รอบตัว มิเกลยกแขนคล้องไปรอบคอพลางกอดรัดไว้เมื่อเขาเผยอริมฝีปากออกให้เลอองได้สอดลิ้นเข้าไปตักตวงความหวานจนพอใจถึงได้ยอมผละออกอย่างอ้อยอิ่ง


              “เกือบหายใจไม่ทันแน่ะ เดี๋ยวนี้จูบเก่งใหญ่แล้วนะเด็กบ้า”


               มิเกลได้แต่ก้มหน้ามองแผงอกที่มีไรขนหนาแน่น เลอองบอกว่าขณะอยู่ในป่าเขาไม่ค่อยชอบสวมเสื้อผ้านักเพราะมันเกะกะไม่คล่องตัว มิเกลจึงได้แต่ขัดเขินเมื่อต้องมองร่างกายที่แสนจะสมบูรณ์แบบด้วยความเป็นบุรุษเพศเต็มตา


              “เก่งกับมิเกลคนเดียวเท่านั้นแหละ ไม่กล้าไปเก่งกับคนอื่นหรอก”


               พูดจาเสียงนุ่มพลางซุกไซ้ซอกคอ กลิ่นกายของมิเกลวันนี้หอมหวานน่าดอมดมไปหมด เนื้อตัวอบอุ่นทั้งที่ยืนแช่อยู่ในสายน้ำเย็นจนต้องกอดไว้แนบอก


               “ทำเป็นพูดดีไปเถอะ กลับเมโทรโปลิสไปคราวนี้ต้องไปเข้าโรงเรียนแล้ว เจอเด็กสาวๆ ที่โรงเรียนจะไปปากหวานแบบนี้หรือเปล่า”


               “มิเกลหึงเหรอ” เลอองอมยิ้มเจ้าเล่ห์ มือซนดึงเสื้อยืดของมิเกลออกแล้วโยนไปตกอยู่บนโขดหิน “ผมรักเดียวใจเดียว มีมิเกลแล้วไม่มีเมียคนอื่นหรอก”


                 “ให้มันจริงเถอะ” มิเกลกล่าวตอบพลางมองอีกฝ่ายอย่างรู้ทัน “แล้วมาถอดเสื้อผ้าของผมทำไมเนี่ย”


                เพราะว่าพอพูดจบกางเกงขาสั้นที่มิเกลใส่มาก็ถูกโยนไปกองไว้ที่เดียวกับเสื้อ จนตอนนี้ร่างของเขาเปลือยเปล่าเช่นเดียวกับเลออง


                “ให้เสื้อผ้าของมิเกลตากแดดไว้ไง ตอนกลับบ้านจะได้สบายตัว มิเกลหนาวหรือเปล่ายืนแช่น้ำแบบนี้”


                “ไม่หนาว ร้อนด้วยซ้ำ”


                 มิเกลช้อนตาหวานมอง เขาเขย่งขาให้ริมฝีปากชิดหูของเลอองก่อนกระซิบเสียงแหบพร่า


                “ลืมบอกไปว่าวันนี้ผมฮีท”


                  ดวงตาสีเหล็กเบิกโพลง ถึงว่าทำไมวันนี้กลิ่นกายของมิเกลถึงได้หอมติดจมูกนัก เพราะฟีโรโมนที่กระจายออกมานี่เอง แถมตอนนี้แม้จะยืนอยู่ใต้สายน้ำเนื้อตัวกลับอุ่นจนเกือบร้อน เขาก้มหน้ามองคนรักนัยน์ตาเป็นประกาย


                “ถึงว่าให้ผมพามาเที่ยวน้ำตกกลางป่า เพราะมิเกลเกรงใจพวกผู้ใหญ่ใช่ไหมล่ะ”


               “เบื่อคนรู้ทัน”


                 มิเกลหัวเราะเสียงใสพลางเบียดกายเขาหาร่างแกร่ง มือเรียวมุดลงใต้น้ำคว้าท่อนเนื้อใหญ่ไว้ในมือ


               “รู้แล้วจะยังเฉยอยู่อีกหรือเปล่าล่ะเลออง”


                 เลอองส่งเสียงทุ้มลึกออกมาทันที เขาซุกหน้าลงที่ไหล่เนียนนุ่มขบเม้มจนมิเกลครางฮือ มือใหญ่ดึงขาของมิเกลข้างหนึ่งให้ยกสูงก่อนจะดันเอวเข้าไปทันที


              “ฮึก แน่นจัง”


              มิเกลรำพันออกมาเมื่อท่อนเนื้อเติมเต็ม วงแหวนแห่งอัลฟ่าติดตึงอยู่ปากทางเข้า ร่างกายของเขาบัดนี้ร้อนระอุยิ่งกว่าดวงตะวันที่ฉายแสงอยู่บนฟ้าเสียอีก ดีที่มีสายน้ำฉ่ำเย็นช่วยลดอุณหภูมิลงบ้าง แต่กระนั้นมันก็ไม่ได้ช่วยให้ความต้องการของเขาลดลงเลย


               “ผมจะทำให้มิเกลหายทรมานเอง”


               เลอองกระซิบข้างหูก่อนจะบดจูบหนักหน่วง มิเกลจูบตอบอย่างไม่กลัวปากจะช้ำพร้อมกับตั้งรับแรงกระแทกกระทั้น แม้จะอยู่ใต้สายน้ำแต่ความรุนแรงนั้นไม่น้อยลง มิเกลถึงกับส่งเสียงออกมาแข่งกับเสียงกระเซ็นซ่านของน้ำตกเบื้องหลัง


                “อา เลออง อีกนิดเดียว”


               ยกขาทั้งสองขึ้นไปกอดเกี่ยวเอวของเลอองไว้ เลอองกอดรัดร่างเพรียวไว้แนบแน่นพลางโยกขึ้นลงรับความเป็นชายของเขา กลิ่นกายของมิเกลยามนี้หอมหวานรุนแรงไปทั้งตัว โดยเฉพาะตรงจุดชีพจรใหญ่ที่ซอกคอ


                “มิเกลที่รัก ผมจะขอผูกพันธะกับมิเกล เราจะรักกันตลอดไปนะครับ”


                 เลอองใช้ริมฝีปากขบเม้ม เมื่อร่างที่กอดอยู่นั้นเกร็งกายใกล้ถึงขีดสุด มิเกลกัดฟันแน่นเอียงคอรอรับแทนคำตอบ เขากอดเลอองไว้เมื่อมองเห็นทางสวรรค์เปิดรอแล้ว


                “มะ ไม่ไหวแล้ว ละ เลออง อ๊า”


                 มิเกลสะดุ้งสุดตัวเมื่อคมเขี้ยวของเลอองฝังลงที่ซอกคอของเขา น้ำลายใสไหลลงเซาะบาดแผลลงสู่เส้นเลือด มันร้อนวูบวาบตั้งแต่ผิวหนังไหลวนไปตามร่างกายโดยเฉพาะหน้าท้องที่มีทารกถือกำเนิดอยู่ เขาต้องกอดเลอองไว้ในท่านั้นนานพักใหญ่กว่าจะได้สติ


                “มิเกล เป็นยังไงบ้าง”


                เลอองที่ถอนคมเขี้ยวออกแล้วลูบหลังด้วยความเป็นห่วง มิเกลสำลักลมหายใจตนเองครู่หนึ่งกว่าจะเป็นปกติ


                 “โอ หน้ามืดเลย”


                 หน้านวลแดงก่ำไปหมด มิเกลกัดริมฝีปากด้วยความขัดเขิน ต่อจากนี้ไปเขาจะกลายเป็นคู่ชีวิตของเลอองเพียงผู้เดียวตลอดไปเมื่อการผูกพันธะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เลอองมองคนรักด้วยความเอ็นดู เขาก้าวเดินขึ้นไปที่ริมฝั่งน้ำทั้งที่มิเกลยังอยู่ที่เอวของเขาในท่านั้นและวางมิเกลบนพื้นดินอย่างทะนุถนอม


                 “ถ้าดีขึ้นแล้ว เรามาต่อกันอีกนะ”


                ไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้วเมื่อตอนนี้ร่างกายที่อยู่ในช่วงฮีทกำลังต้องการไม่หยุดหย่อน แต่สายตาของผองเพื่อนสิงโตที่นั่งหมอบมองอยู่ทำให้มิเกลอดกระดากอายไม่ได้


                 “เลออง เพื่อนมองเต็มเลย”


                 “ช่างพวกมันเถอะ มันอิจฉาผมกันทั้งนั้นแหละ”


                เลอองหัวเราะลั่นพลางหันไปคำรามใส่ เพื่อนสิงโตทั้งหลายส่งเสียงคำรามตอบพลางเบือนหน้าหนีอย่างระอา เจ้าป่าคนใหม่ไม่ได้สนใจอีกเพราะมีสิ่งที่น่าสนใจกว่า เขาหันกลับมาซุกหน้าลงกับเนื้อตัวนวลเนียนแล้วจัดการให้มิเกลสุขสมอีกครั้ง





มีต่ออีกนิด...




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-12-2019 21:17:31 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


อ่านต่อตรงนี้...




8 ปีต่อมา



              “อาเลฟ มาผลัดกันอุ้มน้องหน่อย เร็วๆเลย เมื่อยแย่แล้วเนี่ย”


              “อ้าว มาใช้กันแบบนี้เลยเหรอเอเรียล ไอ้หลานบ้า ลีโอน่าน่ะน้องสาวของนายนะ”


              “ลีโอน่าก็เป็นหลานนายเหมือนกันแหละ ไอ้อาบ้า”


              “จะมัวเถียงกันอีกนานไหม เฮ้อ เบื่อพวกเด็กผู้ชายจริงๆ มานี่ ลีโอน่า มาหาพี่อาเรียลลานะคะ ไม่ต้องสนพวกนั้นหรอก”


               เสียงถกเถียงกันของเด็กๆ ทำให้ผู้ใหญ่ที่กำลังช่วยกันจัดบ้านอยู่นั้นพากันหัวเราะครืน ความสดใสในวัยเยาว์สร้างความครึกครื้นได้ไม่น้อย มิเกลที่ช่วยฟลอเรียก่อไฟเตาบาร์บีคิวยืนยิ้มมองความอบอุ่นของครอบครัว


                นึกไปถึงแปดปีก่อนนั้นเมื่อเรื่องวุ่นวายสิ้นสุดลง เลอองมอบตำแหน่งจ่าฝูงให้สิงโตเพื่อนสนิทปกครองฝูงก่อนจะพาดีแลนและเขาที่ตั้งครรภ์อ่อนๆ กลับไปเมโทรโปลิส เลอองได้รับการศึกษาแบบก้าวกระโดดเพราะความฉลาดของสายพันธุ์อัลฟา อายุเพียงยี่สิบสามปีเขาก็เรียนจบปริญญาตรีถึงสองสาขาคือสัตวแพทย์และวนศาสตร์


                ส่วนดีแลนกับมิเกลนั้นเมื่อถึงเวลาให้กำเนิดทารกในครรภ์ โทนี่ให้หมอคาร์ลเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ของเขาช่วยผ่าตัดทำคลอดให้เพื่อไม่ให้ความลับเรื่องการสืบพันธุ์ระหว่างมนุษย์กับสิงโตเล็ดลอดไปสู่ผู้อื่น ดีแลนได้ลูกคนที่สองเป็นผู้ชาย มีหูแหลมและหางเช่นเดียวกับเลออง เขาตั้งชื่อลูกชายคนนี้ว่าเลฟ (Lev) มีความหมายว่าสิงโต หมอคาร์ลตรวจร่างกายแล้วบอกกับดีแลนว่าส่วนหางนั้นสามารถผ่าตัดออกได้เมื่อโตขึ้น ดีแลนจึงตั้งใจให้ลูกเป็นคนตัดสินใจเองเมื่อเขาโตขึ้น





                 มิเกลได้ลูกแฝดชายหญิง เพราะเป็นลูกเสี้ยวสิงโต ทารกทั้งคู่จึงมีเพียงหูเท่านั้นที่แหลมเหมือนสิงโตแต่ไม่มีหาง มิเกลตั้งชื่อบุตรชายว่าเอเรียล (Aerial) ตั้งชื่อบุตรสาวว่าอาเรียลลา (Ariella) ทั้งสองชื่อนี้ก็หมายถึงสิงโตเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นอีกสี่ปีมิเกลก็ท้องมีลูกคนที่สามเป็นผู้หญิง เด็กน้อยหน้าตาน่ารักราวกับนางฟ้า เลอองให้ชื่อลูกคนที่สามว่าลีโอน่า ซึ่งเป็นชื่อที่ดีแลนใช้ในการวาดภาพ ผ่านไปแปดปีมิเกลกลายเป็นโอเมก้าวัยสามสิบปีที่ยังดูอ่อนเยาว์และงดงามเช่นเดิม


               เมื่อเรียนจบแล้วเลอองปรึกษากับมิเกลว่าเขาจะกลับมาอยู่ที่ป่าในเขตเวสต์ทาวน์บ้านเกิดโดยมารับตำแหน่ง เจ้าหน้าที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าในเขตวนอุทยาน และสืบทอดคลินิกรักษาสัตว์ของโทนี่ที่ชราลงมากจนรักษาสัตว์ไม่ไหว มิเกลไม่ขัดข้องเพราะเขาเองก็อยากสร้างโรงเรือนเพาะพันธุ์ต้นไม้ที่นี่เช่นกัน ส่วนเด็กๆ ต้องฝากให้ดีแลนซึ่งกลับไปประกอบธุรกิจของตระกูลไพรส์ลีย์ช่วยดูแลเพราะต้องเรียนหนังสือ ส่วนลีโอน่าที่ยังเล็กมิเกลจะเลี้ยงเองที่เวสต์ทาวน์รอจนถึงเวลาต้องเรียนหนังสือถึงจะกลับไปที่เมโทรโปรลิส ซึ่งก็ไม่มีปัญหาในการดูแลเพราะตอนนี้การเดินทางสะดวกสบายกว่าแต่ก่อนมาก


               “มัวแต่เหม่อ เนื้อจะไหม้หมดแล้ว”


                มิเกลตื่นจากภวังค์เมื่อเคนทักขึ้น เขาหันไปมองเพื่อนสนิทที่กลายเป็นหนุ่มใหญ่เนื้อหอมใกล้จะเรียนจบดอกเตอร์ด้านพฤกษศาสตร์แล้ว ไทเลอร์เดินตามหลังมาอย่างอารมณ์ดี เขาโอบเอวเคนไว้หลวมๆ


             “มีคนหิวมาก หิวเพราะบ่นมาก”


             “บ่นมากอะไร แค่นี้ไม่มากหรอก หรือว่าคุณทนไม่ได้”


              “ทนได้ครับ” ไทเลอร์ส่ายหน้าระอา “อยากบ่นอะไรก็บ่นเถอะ เพลินดีเหมือนกัน”


              ไทเลอร์สานความสัมพันธ์กับเคนอย่างช้าๆ เพิ่งจะตกลงคบกันแบบคนรักไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง ระหว่างนั้นเขาต้องพิสูจน์ตัวเองให้ครอบครัวของเคนมั่นใจว่าเขาดีพอที่จะดูแลเคนได้ถึงได้ไฟเขียวตอบรับ เคนรอให้เขาเรียนจบปริญญาเอกเสียก่อนค่อยแต่งงานกับไทเลอร์


                 “คุณไทเลอร์ก็ทนกับปากมันไหวนะ เห็นใจจริงๆ”


                  มิเกลหยอกเย้าเพื่อนฝูง ไทเลอร์หัวเราะเบาๆ


                 “ก็ต้องทนครับ รักเขาไปแล้วทำไงได้”


                “แหม ทำเป็นพูด กว่าจะบอกว่ารักนะ ปากหนักอย่างกับก้อนหินในป่า จนไม่ทันเลอองกับมิเกล ไอ้คู่นี้ลูกสามเข้าไปแล้ว”


                “ไม่ใช่หรอก” เลอองที่เดินมาร่วมวงสนทนาหน้าเตาปิ้งบาร์บีคิวส่ายหน้าปฏิเสธ เขาดึงเอวของดีแลนมากอดและหอมแก้มดังฟอด“ในท้องมีคนที่สี่แล้ว”


               เสียงฮืออาดังขึ้นจากโทนี่ ฟลอเรียและดีแลนเมื่อได้ฟังข่าวดี เคนถึงกับอ้าปากค้าง


               “แม่เจ้าโว้ย มันจะตั้งทีมฟุตบอลกันรึไง เดี๋ยวก็ท้อง เดี๋ยวก็ท้อง”


              “ไม่เอาแล้ว มีคนนี้แล้วพอจะทำหมันแล้ว เลอองน่ะสิอยากมีลูกเยอะๆ ไม่เห็นใจคนท้องบ้างเลย”


               มิเกลหัวเราะเขินเมื่อถูกแซว เขาหันไปมองบ้านไม้ของเจ้าหน้าที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่า บ้านหลังใหม่ที่เขาจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ค่ำคืนแล้ว เมื่อแขกกลับไปหมดเหลือแค่เพียงครอบครัวเจ้าป่า เลอองจึงพาพวกเขาไปพบกับผองเพื่อน เสียงคำรามดังลั่นพงไพรเมื่อเจ้าป่ากลับคืนสู่ถิ่นอีกครั้ง



                                                              The End




Belove’s Talk




          เย้ๆ จบแล้วจ้า ในที่สุดก็แต่งนิยายจบอีกหนึ่งเรื่อง ยาวนานจริงๆ เรื่องนี้สนุกมากๆ ไม่ต้องคิดอะไร จินตนาการล้วนๆ
เพื่อนๆ นักอ่านชอบกันหรือเปล่าเอ่ย    

            ขอบคุณนะคะที่อ่านจนจบในวันนี้ อ่านจบแล้วอยากให้ช่วย Comment Review และชักชวนเพื่อนๆ คนอื่นมาอ่านบ้างก็จะดีมากเลยค่า


              รักคนอ่านทุกคนเลย


Belove


เผยแพร่วันแรก: 5 มีนาคม 2562 (เว็บอื่น)
แต่งจบ : 29 พฤศจิกายน 2562(เว็บอื่น)




                                              o15 o15 o15 o15 o15 o15 o15







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-12-2019 21:29:43 โดย Belove »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4: :pig4: :pig4:
 :L2: :3123: :L1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เย้ๆ. จบแบบทุกคนมีวามสุขกันถ้วนหน้า กลายเป็นครอบครัวใหญ่ และได้อยู่ในที่เหมาะสมซักที.  :katai2-1:

ขอบคุณมากค่ะ.  :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
จบดีมากค่า  :mew1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
จบแล้ว สนุกมากๆจ้า~

ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จบแล้ว น่ารักมากๆเลย
เนื้อเรื่องสนุกมาก
เราเห็นแนวนี้รีบพุ่งเข้ามาเลย
ชอบอ่านแนวมากๆ
ขอบคุณนิยายสนุกๆค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด