ตอนที่ 11
หายไป
รอ รอ รอ และรอ ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะ 4 ทุ่ม เข้าไปแล้วผมรอพี่ธารอยู่ในห้องนอนของเรา โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ ไม่โทรกลับ เขากำลังจะทำให้ผมคลั่งตายใช่ไหม ไม่ใช่ว่าผมไม่ไว้ใจเขาหรืออะไรแต่ผมเป็นห่วงเขา จะได้รับอุบัติเหตุอะไรหรือเปล่าเท่านั้นเอง
แกร็ก
ผมได้ยินเสียงลูกบิดประตู ผมจึงหันไปตามเสียง
"อ้าว ต้นยังไม่นอนหรอ" ถ้านอนจะเห็นนั่งอยู่นี้ไหมล่ะ
"ยังครับ แล้วพี่อ่ะไปไหนมา" ผมทำเสียงนิ่งๆห้วนๆใส่
"พี่ก็อยู่ดูสโนว์นั้นแหละ" หืมเอาหมอนเขวี้ยงใส่ซะดีไหมพูดออกมาได้หน้าตาเฉย
"แล้วถ้าพี่จะดูแลเขาจนถึงป่านนี้ พี่บอกให้ผมรอกินข้าวด้วยทำไม" ผมพูดแล้วจ้องเขาอารมณ์เริ่มกรุ่นแล้วครับคนอุตส่าห์เป็นห่วง
"พี่ขอโทษนะ พอดีโทรศัพท์แบตหมดเลยไม่ได้โทรบอก" เขาพูดจบก็เดินเข้ามาหาผม ผมเลยหันหลังให้ พี่ธารจึงกอดผมจากด้านหลัง
"สโนว์เขาอาการโรคซึมเศร้ากำเริบนะ จะจับโน้นจับนี้ทำร้ายตัวเองตลอดเลยพี่เลยอยู่ดูเขาจนเขาหลับนะ" มารยาซะไม่มีชิ้นดี ส่วนผัวก็ซื่อจนโง่
"เขาป่วยจริงหรือแกล้งป่วยกันแน่ ผมเห็นกลางวันเขาก็ปกติดี" ผมถามเขาออกไป
"ป่วยจริงสิใครจะมาล้อเล่นโรคแบบนี้แล้วใครจะบ้าเอามาหลอกคนอื่น" ผมหันหน้ามาเผชิญหน้ากับคนที่กอดผมอยู่
"พี่เชื่อเขาจริงๆ หรือพี่แกล้งโง่กันแน่" ผมจ้องเขาเพื่อหาคำตอบ
"เฮ้ย บ้าน่า พี่เชื่อเขาจริงๆ"
"ไม่ใช่ว่ากำลังคิดจะทำอะไรแล้วไม่บอกผมหรอกนะ"
"คิดมาก ใครจะไปทำอะไร พี่เห็นแก่ความสัมพันธ์ที่ดีเลยช่วยเขาเท่านั้นเอง"
"ผมรู้นะว่าพี่ไม่ใช่คนโง่ ผมไม่เชื่อหรอกว่าพี่จะเป็นคนดีขนาดไปเฝ้าแฟนเก่า"
"โถ่ เมียจ๋าไม่มีอะไรจริงๆ" พูดแล้วก็กอดผมแน่นกว่าเดิม
"ทีหลังจะกลับดึกก็โทรบอกด้วย รวยก็รวยพกบ้างนะพาวเวอร์แบงค์อ่ะ" ผมทำหน้างอ
"หึงพี่หรอที่อยู่กับเขา"
"เปล่า ผมเป็นห่วงว่าพี่จะเป็นอะไร จะเกิดอุบัติเหตุหรือมีเรื่องร้ายต่างหาก"
"ต้นของพี่ น่ารักที่สุด" แล้วพี่ธารก็กอดผมแน่นขึ้นอีก
"ไปอาบน้ำเลยไป เหม็นกลิ่นชะนี"
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า" พี่ต้นหัวเราะก่อนเปล่าผมแล้วเจ้าของห้องก็เดินไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำสักพักก็เดินมาล้มตัวลงนอนที่เตียง พร้อมทั้งดึงผมไปกอด
"เมียใครเนี่ยตัวห้อม หอม นิ่มอีกต่างหาก"
"เมียคนพูดนี้แหละ หมั่นไส้หนัก" แล้วผมก็บีบจมูกพี่ธารเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
"เออ ต้นเสาร์นี้วันเกิดต้นใช่ไหม" ผมมองหน้าเขาแล้วคิดสักพัก
"เออ ใช่วันเกิดผม พี่รู้ได้ไงครับ" พี่ธารยกยิ้ม
"มีอะไรที่พี่ไม่รู้เกี่ยวกับต้นล่ะ" ขี้โม้ชะมัด
"งั้นตอนเช้าเราตื่นมาใส่บาตรกันไหมครับ แล้วตอนบ่ายๆก็ไปทำบุญที่บ้านเด็กอ่อนกัน" พี่ธารยิ้ม
"เอาสิ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ให้ไอ้กรณ์ติดต่อมูลนิธิแล้วก็เตรียมของให้"
"ครับ แล้วพรุ่งนี้คุณสโนว์จะมาทำงานไหมครับ"
"คงไม่หรอกพี่ให้เขาพักก่อนแต่ถ้ารู้สึกไม่ดี ก็ให้โทรหาพี่" ผมพยักหน้า
"นอนเถอะ ดึกแล้ว" พี่ธารหอมหัวผมแล้วกระชับอ้อมกอดให้ผมได้ใกล้ชิดเขามากขึ้น
"ฝันดีครับ" แล้วผมก็จุ๊บแก้มคนตัวโตก่อนหลับไป
........................
เช้าวันต่อมาก็ยังคงดำเนินชีวิตตามปกติ เพราะพี่ธารให้ผมกลับเข้ามาทำงานที่ห้องเดียวกันอีกครั้ง เนื่องจากคุณสโนว์ถูกสั่งให้พักงานชั่วคราวสาเหตุจากอาการป่วย แต่ที่มันไม่ปกติคือ
ครืด ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์พี่ธารสั่นก่อนถึงเวลาเที่ยงทุกวัน ส่วนคนที่โทรมาจะใครล่ะครับ
"ครับ สโนว์ ได้ครับผมจะไปเดี๋ยวนี้คุณอย่าพึ่งหยิบจับอะไรนะ ใจเย็นๆผมกำลังจะไป"
นั่นแหละครับ พี่ธารถูกโทรตามโดยคุณแฟนเก่าของเขาทุกวัน เนื่องจากคุณสโนว์ฝันร้าย รู้สึกกลัวช่วยด้วย มาอยู่เป็นเพื่อนหน่อย รู้สึกอยากหยิบมีดมาเชือดข้อมือว่าไปหลายๆอย่าง และสุดท้าย
"ต้น พี่ไปดูสโนว์ก่อนนะทานข้าวได้เลยนะ" แล้วเจ้าของห้องก็เดินมาหอมแก้มผมแล้วก็รีบออกไป
"เฮ้อ เอาจริงๆก็ไม่ได้อยากให้ไปนะรู้หรือเปล่า" ผมบ่นกับตัวเอง
แล้วก็เป็นแบบนี้ตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผมเจอหน้าคุณกรณ์มากกว่าหน้าพี่ธารซะอีก เพราะเขาจะออกไปตั้งแต่ยังไม่เที่ยงกลับมาอีกทีก็ 3-4 ทุ่ม เป็นแบบนี้ทุกวันผมได้แต่ภาวนาว่าพรุ่งนี้วันเกิดผมจะไม่มีมารมาผจญหรอกนะ และแล้วก็วันเสาร์เป็นเช้าที่แสนสดใสผมตื่นแต่เช้าเพราะวันนี้ผมจะใส่บาตรตอนเช้า ผมจัดการธุระตัวเองเสร็จก็ปลุกคนที่นอนด้วยกันทุกคืนให้ตื่น และลงไปจัดสำรับสำหรับใส่บาตร แล้วก็ขึ้นมาตามพี่ธารอีกครั้งเมื่อพระใกล้มาแล้ว
"อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง "
"สาธุ" ผมรับพรพระเรียบร้อยสบายใจได้ใส่บาตรในวันเกิด
"ต้นเมื่อกี้อธิษฐานอะไรหรอ" พี่ธารถามผมเมื่อเราใส่บาตรเสร็จแล้วกำลังจะเดินเข้าบ้าน
"ขอให้วันนี้ราบรื่นครับ" พี่ธารขมวดคิ้ว
"ทำไมขออะไรแบบนั้น"
"ก็ช่วงนี้อุปสรรคมันเยอะนะครับ ทำอะไรก็ไม่ค่อยราบรื่น"
"เครียดหรอ หรือใครทำอะไรให้ไม่สบายใจบอกพี่ได้นะพี่จะจัดการคนที่รังแกต้นเอง" งั้นจัดการตัวเองคนแรกเลยไป บื้อหนัก
"ไม่มีอะไรครับ ไปทานข้าวเถอะจะได้ขึ้นไปพัก ตอนบ่ายต้องไปทำบุญต่ออีก" พี่ธารพยักหน้า
ผมและพี่ธารทานข้าวเสร็จพี่ธารก็ขึ้นไปจัดการงานที่ห้องทำงานนิดหน่อยส่วนผมก็เดินมาคุยกับคุณกรณ์เรื่องข้าวของที่จะขนไปให้น้องๆที่มูลนิธิตอนบ่ายนี้
"คุณกรณ์ของต่างๆเรียบร้อยนะครับ"
"เรียบร้อยดีครับเดี๋ยวช่วงเกือบๆเที่ยงรถจะไปส่งให้ที่มูลนิธิก่อนเลยครับ"
"ดีครับ ผมอยากไปแจกของให้เด็กๆด้วยตัวเองจะแย่แล้ว" คุณกรณ์ยิ้ม
"คุณต้นจะดูรายการของไหมครับว่ามีอะไรบ้าง หรือถ้าจะให้ซื้อเพิ่มจะได้ทันครับยังพอมีเวลา" ผมพยักหน้า
"ดีครับ"
ผมก็เดินตามคุณกรณ์ไปที่ห้องนั่งเล่น ก่อนที่คุณกรณ์จะขอตัวไปเอาโน๊ตบุ๊คมาเปิดให้ผมตรวจสอบรายการของที่ซื้อไปบริจาค ผมนั่งคุยกับคุณกรณ์ไปเรื่อยๆจนถึง 11 โมงกว่าก็ได้ยินเสียงเดินลงมาจากข้างบน ผมและคุณกรณ์หันไปตามเสียงเดินก่อนเห็นร่างสูงของพี่ธารเดินลงมาและตรงมาทางผม
"ต้นพี่ขอไปดูสโนว์แปปนึงนะ เพื่อนเขาโทรมาบอกว่าเขาจะฆ่าตัวตายเดี๋ยวพี่จะรีบมา"
"อ่า เอ่อ แล้วตอนบ่าย"
"พี่จะมาให้ทันรับรอง พี่ไปนะ" สัญญาแบบนี้อีกแล้ว
"เอ่อ มะ ไม่" แล้วพี่ธารก็รีบเดินไปขึ้นรถตัวเองทันที ทั้งที่ผมยังพูดไม่ทันจบ ผมได้แต่มองตามร่างสูงของพี่ธารไปจนลับสายตา
"คุณต้นครับ"
"อ่า คะ ครับ"
"คุณโอเคนะครับ" บอกไม่โอเคจะได้ไหมล่ะ
"โอเคครับ" คุณกรณ์พยักหน้า
หลังจากที่พี่ธารออกไปผมก็ทำอะไรฆ่าเวลาไปเรื่อยๆจนเกือบบ่าย 2 ใกล้เวลาที่ผมต้องไปที่มูลนิธิแล้วแต่พี่ธารก็ยังไม่กลับ ผมจึงโทรตาม
(ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกค่ะ)
อีกแล้วเป็นแบบนี้อีกแล้ว ผมจึงขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมานั่งอ่านหนังสือรอที่ห้องนั่งเล่นเหมือนเดิม อ่านไปก็ชะเง้อรอไปว่าเมื่อไหร่สามีจะกลับ
บ่าย3
บ่าย4
ผมอ่านหนังสือจนจบเล่มแล้วจึงโทรหาพี่ธารอีกครั้ง
(ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขนะนี้ค่ะ)
"เฮ้อ พี่ธารกลับมาทานข้าวเย็นก็ยังดีนะ"
พูดไปก็เหมือนน้ำตาจะไหล ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ธารก็กลับมาวันนี้วันเกิดผมเขายังไม่ลืมเลย แล้วผมก็นั่งรอต่อไปจนผล็อยหลับ
...............
กรณ์ Part
ตรู๊ด ตรู๊ด
(ว่าไงเจ้ากรณ์)
"นายครับนายน้อยยังไม่กลับมาเลยครับ"
(แล้วลูกต้นล่ะ)
"รอจนหลับไปแล้วครับ"
(ดี แกฟังฉันนะ ถ้า 6 โมง นายน้อยแกยังไม่มา แกให้ป้านิ่มขึ้นไปเก็บข้าวของของลูกต้นซะ ส่วนแกไปบอกลูกต้นว่าพ่อจะให้ต้นไปทำงานที่อื่นชั่วคราว)
"แล้วจะให้ผมบอกนายน้อยยังไงครับ ถ้ากลับมาแล้วนายน้อยไม่เจอคุณต้นบ้านแตกแน่ครับ"
(แกก็บอกไปว่าฉันย้ายต้นไปอยู่กับคนอื่นแล้วมีอะไรข้องใจให้มาหาฉัน)
"เฮ้อ ก็ได้ครับนาย"
(แค่นี้นะแล้ว 6 โมงฉันจะโทรมาใหม่)
...................
ขณะนี้เวลา 5โมง 59 นาที
ครืด ครืด
(ลูกฉันมาหรือยัง)
"เฮ้อ ยังครับนาย"
(หึ งั้นแกไปบอกป้านิ่มได้เลย อีก ครึ่งชั่วโมงฉันจะให้คนไปรับ)
"นายครับแต่"
(ไม่มีแต่ ไปจัดการซะ)
"รับทราบครับ"
ผมจะทำไงดีละทีนี้เมียเขาหายผมโดนแน่ เกิดเป็นไอ้กรณ์นี้มันซวยจริงๆ
...................
"คุณต้นครับตื่นเถอะ" ผมได้ยินเหมือนใครมาเรียก ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาก็เห็นคุณกรณ์อยู่ตรงหน้า ผมค่อยๆลุกขึ้นนั่งแล้วตั้งสติสักแปปก็นึกขึ้นได้
"พี่ธารกลับมาแล้วหรือครับ" คุณกรณ์ยิ้มแห้งๆแล้วส่ายหน้า ผมถอนหายใจแล้วก้มหน้า
"คุณต้นไปล้างหน้าเถอะครับ เดี๋ยวจะมีรถมารับไปที่อื่น" ผมเงยหน้ามองคนพูด
"ไปไหนหรอครับ"
"นายใหญ่มีคำสั่งให้คุณต้นไปทำงานที่อื่นชั่วคราวนะครับ อีกครึ่งชั่วโมงจะมีรถมารับส่วนข้าวของป้านิ่มจัดการให้อยู่เดี๋ยวเอาลงมาให้ครับ"
ตอนนี้ผมกำลังคิดตามคำพูดของคุณกรณ์ ไปที่อื่นคือไปจากที่นี่
"แล้วพี่ธารล่ะครับ ผมยังไม่ได้บอกเขาเลยแล้วไปนานแค่ไหน"
"เดี๋ยวนายใหญ่บอกนายน้อยเองครับ ส่วนนานแค่ไหนไม่ทราบคงจนกว่างานจะเสร็จนะครับ"
"ผม ผม" ผมไม่อยากไปเลยถึงจะชั่วคราวก็เถอะ พี่ธารผมก็ยังไม่ได้ลา
"ไม่ต้องกังวลครับไปแปปเดียว อ่อ มือถือของคุณผมขอให้คุณไม่ต้องเอาไปด้วยนะครับ เพราะนายใหญ่ไม่อยากให้ใครโทรไปกวนคุณ เอามาให้ผมเดี๋ยวเก็บไว้ให้ครับ"
"ครับ งั้นผมไปล้างหน้าก่อนนะครับ"
"เชิญครับ"
ผมเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปที่ห้องน้ำแบบงงๆ นี้เขากำลังเล่นอะไรกันอยู่ว่ะเนี่ย ผมกวักน้ำใส่หน้าตัวเองแล้วคิดทบทวนอีกครั้ง
"ก็ดีเหมือนกันห่างๆกันซะบ้างเผื่อจะคิดอะไรได้มากขึ้น"
ผมล้างหน้าเสร็จก็เดินออกจากห้องน้ำมานั่งรอคนมารับตามที่คุณกรณ์บอกเดินมาถึงกระเป๋าเสื้อผ้าผมก็มาตั้งรอพร้อมอยู่แล้วนั่งรออยู่สักพักก็ได้ยินเสียงรถผมภาวนาในใจว่าขอให้เป็นพี่ธาร แต่คำภาวนาของผมก็ไม่เป็นผลเพราะคนที่เดินเข้ามาคือพี่เทียนที่ส่งยิ้มกว้างให้ผมมาแต่ไกล
"ต้นพี่มาแล้วรับแล้วพร้อมหรือยัง" พี่เทียนเดินมาตรงหน้าผม
"ครับ เราไปกันเถอะ" ผมยิ้มให้พี่เทียนแล้วหันไปหยิบกระเป๋าแต่พี่เทียนชิงหยิบมันไปก่อน
"พี่ถือให้ เราตามพี่มาก็พอ" ว่าแล้วพี่เทียนก็เดินออกไปทันทีส่วนผมก็ได้แต่เดินตามเขาไปขึ้นรถ
บรรยากาศบนรถเงียบสงบผมมองทางไปเรื่อยๆเพราะหัวสมองตอนนี้ไม่รู้จะคิดอะไรแล้ว
"ต้นนั่งเงียบเชียวเป็นอะไรหรือเปล่า" ผมหันไปมองพี่เทียน
"เปล่าครับผมก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ว่าแต่ผมต้องไปทำงานที่ไหนหรอครับ" พี่เทียนยิ้มอีกแล้ว
"นึกว่าจะไม่ถามซะแล้ว"
"ขอโทษครับพอดีมันงงๆนิดหน่อย"
"เราจะไปพักที่รีสอร์ทพี่สักระยะนะ ถือว่าพักผ่อนด้วยดีไหม"
"จริงหรอครับ คุณพ่อให้ผมไปทำงานที่รีสอร์ทพี่เทียน"
"ยิ่งกว่าจริงอีกแล้วก็อยู่ไปเรื่อยๆไม่มีกำหนดด้วย"
"ฮ่ะ ผมต้องอยู่ยาวเลยหรอครับ"
"อยู่ให้พี่ทำคะแนนจนกว่าเราจะชอบพี่คุณลุงเขาว่าอย่างนั้นนะ"
"พี่เทียนอย่าล้อเล่นสิครับ"
พี่เทียนเอามือมายีหัวผมเล่นแล้วหัวเราะ
"พี่ไม่อยากให้เราเครียดนะ ถ้าทางคุณลุงเคลียอะไรเรียบร้อยแล้วต้นก็กลับได้แล้วอย่าคิดมาก"
ผมยิ้มให้พี่เทียนก่อนจะหันหน้าไปทางหน้าต่างเพื่อชมทิวทัศน์ตอนพลบค่ำต่อ แล้วก็ได้แต่คิดว่าพี่ธารจะรู้สึกยังไงนะที่กลับมาแล้วไม่เจอผมแล้วจะคิดถึงกันบ้างไหม ขนาดอยู่ด้วยกันยังแรดไปหาคนอื่นโดยไม่คิดถึงผมเลย น่าน้อยใจชะมัดวันนี้วันเกิดผมแท้ๆ แต่ยังไงผมก็คิดถึงพี่นะผมจะรอวันที่ได้กลับไปหาพี่อีกนะครับผมยังคงยืนยันความคิดว่าผมเชื่อใจเขา ผมจะคิดถึงพี่ทุกวันนะครับ
...............
ธาร Part
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 2 ทุ่มแล้วผมยังอยู่ที่คอนโดของสโนว์ แล้วตอนนี้คงถึงเวลาที่ต้องกลับแล้วเพราะผมจองโต๊ะ Dinner ที่โรงแรมหรูไว้ตอน 3ทุ่มเพื่อเซอร์ไพรส์ต้นในวันเกิด โดยที่ไม่มีใครรู้ผมจัดการเองหมดเพราะผมอยากทำให้ต้นประทับใจ
"สโนว์ผมต้องกลับแล้วนะผมมีนัด" สโนว์หันมามองผม
"ธารคะแต่สโนว์ยังป่วยอยู่เลย"
"ผมว่าคุณก็ดูสบายดีแล้วนะ ซึ่งผมต้องไปจริงๆเรื่องนี้สำคัญมาก"
"ก็ได้ค่ะ ถ้ามีอะไรสโนว์จะโทรไปนะคะ"
"วันนี้ผมอาจไม่รับนะครับวันนี้มันวันสำคัญของคนสำคัญจริงๆ ผมไปนะ"
ผมเดินออกจากห้องของสโนว์ทันทีที่พูดจบ รำคาญจริงๆไม่เคยคิดเลยว่าผมจะเคยรักคนแบบนี้ไปได้อีกสักพักเถอะจะได้รู้ว่าผมไม่ใช่คนที่แสนดีคนเดิมของเขาอีกแล้วแต่ตอนนี้ผมต้องรีบกลับไปหาต้นก่อน ไม่รู้จะโกรธผมหรือเปล่าที่ไม่ได้ไปตามสัญญาตอนบ่ายทั้งที่วันนี้วันเกิดน้องแท้ๆ ผมรีบขับรถกลับมาบ้านอย่างเร็วอยากกอดต้นเพื่อขอโทษจะแย่แล้ว ผมจอดรถที่โรงจอดแล้วรีบเข้าบ้านทันที
"ต้น พี่กลับมาแล้ว" ผมเดินเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นก็ไม่เจอต้นหรือจะอยู่ที่ห้องครัวผมเดินไปที่ห้องครัวทันทีที่คิดได้
"ต้นครับ อยู่ในครัวหรือเปล่า" ก็ไม่มีอีก ผมจึงเดินขึ้นไปชั้น 2 เพื่อดูว่าต้นอยู่ในห้องนอนหรือเปล่า
"ต้นครับ พี่กลับมาแล้ว อยู่ไหนครับ" ห้องนอนก็ปิดไฟมืด ผมเปิดไฟแล้วเดินทั่วห้องก็ไม่มี ผมเริ่มใจคอไม่ดีแล้ว
"ต้นอยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า ต้น ตอบพี่หน่อยครับ"
ผมเคาะประตูห้องน้ำ แล้วเปิดเข้าไปก็ไม่เจอต้น ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่าขาผมชาไปหมด มือผมก็รู้สึกสั่นมันมีลางสังหรณ์ไม่ดียังไงไม่รู้ ผมรีบวิ่งไปเปิดตู้เสื้อผ้า ผมรู้สึกชาไปทั้งตัวเมื่อเห็นว่าภายในตู้เสื้อผ้าเหลือแค่เสื้อผ้าของผม ของของต้นหายไปหมดเลย ต้นคงไม่ได้โกรธผมจนหนีไปใช่ไหม ผมรีบวิ่งออกจากห้องแล้วตะโกนเรียกคนสนิททันที
"ไอ้กรณ์ มึงอยู่ไหน ไอ้กรณ์"
ตึง ตึง ตึง
เสียงวิ่งขึ้นบันไดของไอ้กรณ์ที่รีบวิ่งมาหาผม
"มีอะไรครับนาย แฮ่ก แฮ่ก"
"ของของเมียกู อยู่ไหนหมด"
"เอ่อ คือว่า"
"มึงอ้ำอึ้งทำไม ตอบกู"
"คุณต้นไปอยู่ที่อื่นแล้วครับ"
"หมายความว่ายังไงไอ้กรณ์ เมียกูอยู่ไหน" ผมรีบเข้าไปกระชากคือเสื้อไอ้กรณ์แล้วเขย่า
"ไอ้เชี่ยกรณ์ บอกมาเมียกูอยู่ไหน กูจะไปง้อเขาถ้ามึงไม่บอกกูจะฆ่ามึง"
"นายครับผมไม่รู้จริงๆครับว่าคุณต้นไปไหน นายต้องไปถามนายใหญ่ครับ"
"มึงหมายความว่ายังไง" ผมเขย่าคือเสื้อไอ้กรณ์
"นายใหญ่มีคำสั่งให้คุณต้นไปทำงานที่อื่นแล้วครับส่วนที่ไหนผมไม่รู้ ส่วนคุณต้นโกรธนายไหมคุณต้นไม่ได้โกรธครับนายอย่าห่วงเลย"
"พ่อเอาเมียกูไปจากกูงั้นหรอว่ะ กูต้องโทรหาต้น ต้นไปไหนไม่ได้เขาเป็นเมียกู" ผมปล่อยคอเสื้อไอ้กรณ์แล้วรีบโทรหาต้นทันที
(หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ค่ะ)
ปึก
ผมเขวี้ยงโทรศัพท์
"แม่งเอ้ย ทำไมกูโทรหาต้นไม่ได้มึงบอกสิ" ผมหายใจแรงด้วยความโมโห
"นายใหญ่ไม่ให้คุณต้นติดต่อใครครับ ถ้าอยากทราบอะไรนายน้อยคงต้องถามนายใหญ่เองครับ"
"โธ่เว้ย" ผมสบถเสียงดัง
"นายใจเย็นๆนะครับ" ไอ้กรณ์บอกผม
"ใจเย็นหรอ ถ้าเมียมึงหายมึงจะมานั่งใจเย็นอยู่ไหมไอ้กรณ์"
"แล้วทำไมนายถึงปล่อยให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียรอนายทั้งวันล่ะครับ" ผมหันไปมองหน้าไอ้กรณ์
"กูมีเหตุผลของกู มึงไม่ต้องมาเสือก"
"นายโชคดีนะครับที่ได้คุณต้น ถ้าเป็นคนอื่นเขาอาจจะไปจากนายตั้งแต่วันแรกที่นายหายไปกับแฟนเก่าทั้งวันแล้วครับ"
"เพราะกูรู้ไงว่าต้นเชื่อใจกู และรู้ว่ากูไม่ได้โง่"
"แต่การที่นายไม่บอกคุณต้นว่ากำลังทำอะไรก็เหมือนไม่ให้ความสำคัญกับคุณต้นนะครับ" ผมจ้องหน้ามัน
"คุณต้นอาจสงสัยว่านายคิดจะสั่งสอนคุณสโนว์อะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้นจะอยู่คนเดียวได้โดยไม่คิดมากในขณะที่นายอยู่กับคนอื่นนะครับ"
"ไอ้กรณ์" ผมตะโกนใส่มันเสียงดัง
"นายคิดแต่ว่าคุณต้นเชื่อใจนาย คุณต้นมองโลกในแง่ดีคิดว่าอยู่คนเดียวได้แล้วนายเคยถามคุณต้นไหมครับว่าอยู่คนเดียวได้จริงๆหรือเปล่าในตอนที่นายไปกับคนอื่น"
พลั่ก
ผมต่อยไอ้กรณ์จนมันล้มลงไปกอง
"นายจะกระทืบผมให้ตายก็ได้นะครับ ถ้านายจะคิดได้และให้ความสำคัญกับคนที่รักนายมากกว่าคนอื่น"
"แกหยุดพูดไปเลยไอ้กรณ์"
"ผมคิดว่านายใหญ่คิดถูกแล้วที่เอาคุณต้นไปอยู่กับคนอื่น เพราะบางทีอาจมีคนให้ความสำคัญกับคุณต้นมากกว่าที่นายทำอยู่"
พลั่ก
ผมเตะเข้าที่ท้องของไอ้กรณ์
"ไอ้เหี้ยกรณ์ นั่นเมียกู" ผมกระชากคอเสื้อให้มันลุกขึ้นอีกครั้ง
"แต่นายดูให้ความสำคัญเมียน้อยกว่าการคิดแก้แค้นแฟนเก่านะครับ"
"มึงสั่งสอนกูพอแล้วใช่ไหม กูรู้ว่ากูทำไม่ถูกแต่กูไม่อยากให้ต้นรู้ว่ากูทำอะไรเพราะมันเป็นสิ่งไม่ดีแต่ถ้ากูทำให้ต้นไม่สบายใจกูอยากจะขอโทษเขาและบอกเขาทุกอย่าง"
"แต่คงสายไปแล้วครับนาย คุณต้นไม่อยู่ให้นายบอกแล้ว"
ผมเขย่าคอเสื้อไอ้กรณ์
"แกต้องช่วยฉันหาว่าพ่อเอาต้นไปไว้ที่ไหน"
"ผมขอโทษครับ เรื่องนี้นายต้องไปถามนายใหญ่เอง"
ไอ้กรณ์ดึงมือผมออกจากคอเสื้อ
"นายจะไปหานายใหญ่เลยไหมล่ะครับ"
"เออไปเตรียมรถ แล้วบอกยกเลิก โรงแรม Pให้กูด้วย"
"ไม่นัดนายใหญ่ไปที่โรงแรมนี้เลยละครับ"
"กูจองไว้แดกกับเมียกูจะไปกินกับตาแก่จอมจุ้นนั้นทำไม"
"ครับ ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้"
ผมจะทำอะไรก็ไม่เคยพ้นหูพ้นตาคนสนิทกับพ่อเลย ผมฉลาดไม่ทันพ่อจริงๆ
................
ปัง
"พ่อ เอาเมียผมไปไว้ไหน" ผมผลักประตูห้องทำงานพ่ออย่างแรง
"เฮ้ย ไอ้ลูกหมาประตูกูพังหมด แล้วโวยวายอะไรฮะ"
"พ่ออย่ามาเนียน บอกมาเอาต้นไปไว้ไหนพ่อจะมาพรากผัวพรากเมียไม่ได้" พ่อผมแสยะยิ้ม
"ใครเมียแกฉันไม่เห็นรู้เลยว่าแกมีเมีย เห็นแต่แม่สโนว์นมโตที่แกไปเฝ้าเช้าเฝ้าเย็น คนนั้นหรือเปล่าเมียแกอ่ะ"
"ไม่ใช่ พ่อส่งใครไปอยู่กับผมก็คนนั้นแหละเมียผม ต้นเป็นเมียผมพ่อได้ยินชัดไหม" ผมพูดเสียงดัง
"ตายจริงฉันก็นึกว่าแกจะกลับไปรักกับยัยสโนว์ ฉันเลยถอดใจเอาต้นไปอยู่กับคนที่ชอบเขาน่าจะดีกว่าจะได้สมหวังกันไป"
ปัง
ผมตบโต๊ะ
"ผมต้องการเมียผมคืน น้องเป็นของผมคนเดียว" ผมหายใจแรงด้วยความโกรธและจ้องหน้าพ่อเขม็ง
"ถ้าอยากได้เมียแกคืน ก็รีบทำในสิ่งที่แกคิดไว้ให้มันเสร็จเร็วๆ แล้วฉันจะส่งเมียแกคืนให้"
"พ่อรู้ว่าผมกำลังทำอะไร แล้วทำไมพ่อต้องเอาต้นไปจากผมด้วย"
"ฉันรู้แต่สิ่งที่แกทำมันกระทบลูกสะใภ้ฉัน ฉันไม่ว่าถ้าสิ่งที่แกจะทำมันไม่ทำให้ลูกต้นของฉันเหมือนคนโง่ที่นั่งรอผัวกลับบ้านทุกวัน ไอ้ลูกเวร"
"ผมคิดแค่ว่ามันช่วงระยะนึงเท่านั้น ผมขอโทษผมผิดเองที่คิดว่าต้นจะรอได้จนลืมคิดถึงความรู้สึกเขา"
"ต้นนะรอได้แต่ฉันรอไม่ได้โว้ย ฉันเดือดร้อนแทนเมียแกมีอะไรไหม"
ผมก้มหน้าสำนึกผิด
"แล้วพ่อรู้ได้ยังไงว่าผมกำลังจะสั่งสอนสโนว์"
"หึ ฉันใคร ฉันพ่อแกนะฉันคิดอยู่แล้วคนอย่างแกอ่ะนะจะโลกสวยกลับมาเป็นเพื่อนได้ ตอแหลทั้งนั้นทำตัวเป็นคนดีทั้งที่ผ่านมาไม่ใช่"
"ผมรู้พ่อว่าผู้หญิงคนนั้นกลับมาทำไม ผมแค่อยากสั่งสอนให้จำว่าผมไม่ได้แสนดีเหมือนเดิมอีกแล้ว แต่ไม่คิดว่าพ่อจะรู้ ไอ้กรณ์ก็ด้วย"
"ฉันเลี้ยงแกมาทำไมจะไม่รู้ แกฉลาดที่ทำให้ยัยสโนว์คิดว่าแกยังรักยังห่วงอยู่ เพียงแต่แกโง่กว่าฉันเท่านั้นเอง"
"ถ้าพ่อรู้แล้วพ่อส่งต้นคืนให้ผมได้หรือยัง" ผมทำหน้าหงอ
"ไม่เพราะถ้าต้นต้องมาเจอแกออกไปกับยัยนั้นอีก ฉันคงทำใจไม่ได้"
"พ่อผมขอร้องนะคืนต้นให้ผมเถอะ ผมจะขาดใจก่อนแน่ๆ"
"ก็สมควรกับที่แกให้ลูกสะใภ้ฉันรอแก ขณะที่แกไปกับคนอื่นโดยไม่บอกเขาสักคำ มือถือก็ติดต่อไม่ได้ ไม่โทรมาบอกด้วย"
"ผมขอโทษครับพ่อผมคิดถึงต้นน้อยไปลืมคิดถึงความรู้สึกของน้องผมยอมรับผิดทุกอย่างเลย"
"งั้นแกก็จงรับบทลงโทษต่อไปจนกว่าแกจะจัดการสโนว์ให้ออกไปจากชีวิตแกได้"
"พ่อ" ผมทำเสียงไม่พอใจ
"กลับไปได้แล้ว อยากเจอเมียไวๆก็รีบจัดการซะ แล้วพาเจ้ากรณ์ไปทำแผลด้วย ไอ้ลูกเวรทำตัวเองยังไปกระทืบคนอื่นฉันจะแช่งให้ยัยนั่นจับแกปล้ำให้สำเร็จซะดีไหมฮะ"
"เออๆๆ ผมรู้แล้ว"
"กลับไปได้แล้ว รีบๆเข้าล่ะ ก่อนที่เมียแกจะใจอ่อนกับเจ้าเทียน"
ผมที่กำลังจะเดินออกจากห้องหันขวับทันที
"พ่อว่าไงนะ พ่อส่งเมียผมไปอยู่กับไอ้เทียนงั้นหรอ"
"ถูกต้องนะคร้าบบบบบ"
"พ่อ ทำไมทำแบบนี้ถ้าไอ้เทียนมันปล้ำเมียผมทำไง"
"นี่ ไอ้เทียนมันดีกว่าแกเยอะ อย่างน้อยมันก็ให้ความสำคัญกับต้นมากกว่าใคร"
"พ่อพูดแบบนี้ด่าผมเชี่ยเลยดีกว่า"
"เออไอ้เชี่ย ไอ้เทียนมันรู้น่าว่าอะไรเป็นอะไรแต่ถ้าเมียแกซาบซึ้งในความดีของมันเองก็ช่วยไม่ได้โว้ย จะทำอะไรก็รีบไปทำไป ก่อนเมียจะโดนคาบไปแดก"
"โอ๊ย ทำไมผมต้องมีพ่อเป็นพ่อด้วยเนี่ย"
"ถามแม่แกที่ตายไปสิ"
ผมรีบเดินออกมาทันทีแต่ก็ยังได้ยินเสียงตามหลังมา
"โอ๊ยเขาเห็นความดีกันยังหนอ เขาจีบกันยังไงหนอ"
"กูจะบ้าตาย ไอ้กรณ์กลับ"
ผมหันไปสั่งไอ้กรณ์ที่รออยู่ด้านนอกทันที
......................
ตอนนี้ผมอยู่ที่รีสอร์ทของพี่เทียนแล้วที่นี่กลางคืนดาวเยอะมากเลย อากาศก็เย็นตอนนี้ก็เริ่มดึกแล้ว แต่ผมนอนไม่หลับเลยเพราะปกติจะต้องมีคนนอนข้างๆ
"ป่านนี้จะกลับบ้านหรือยังนะ และรู้หรือยังว่าเราไม่อยู่แล้ว"
ผมคิดถึงคนที่อยู่ที่บ้านแล้วได้แต่ถอนหายใจ
"ชั่งเหอะ วันเกิดเราแท้ๆยังไปหาคนอื่นปล่อยให้เรารอเลย ถ้าเจอหน้าอีกครั้งจะงอนให้เข็ดเลย"
แล้วผมก็พยายามข่มตาให้หลับเพื่อที่พรุ่งนี้จะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อตามที่เทียนไปเรียนรู้งานต่อ
ในขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งในห้องนอนกว้างก็มีใครบางคนนอนไม่หลับอยู่เหมือนกัน
"ต้นจะคิดถึงพี่ไหมนะ ไม่รู้จะงอนพี่หรือเปล่าที่ปล่อยให้รอ"
ฟอด
ผมเอาหมอนที่ต้นหนุนทุกคืนมากอดและสูดกลิ่นหอมของต้นที่ยังติดอยู่ที่หมอน
"เมียจ๋าพี่นอนไม่หลับเลย พี่คิดถึงเมีย พี่อยากกอดเมีย พี่อยากรักเมียด้วย"
ทำไมพ่อผมต้องลงโทษอะไรที่ทรมานแบบนี้ด้วยแค่ให้ไอ้กรณ์ด่าผม ผมก็สำนึกไม่ทันแล้วขืนเป็นแบบนี้นานๆผมขาดใจตายแน่ๆ ผมขยับตัวนอนตะแคงหันหน้าไปทางฝั่งที่ต้นนอนประจำ เอามือลูบที่ว่างข้างกายไปมา
"ต้นจะนอนไม่หลับเหมือนกันหรือเปล่านะ"
ผมรู้แล้วว่าเวลาที่ต้นรอผมมันมีความรู้สึกยังไง รู้ว่าไปไหนแต่ติดต่อไม่ได้จะทำอะไรกับใครที่ไม่ใช่เราหรือเปล่า ถึงจะเชื่อใจยังไงก็อดคิดเล็กๆไม่ได้อยู่ดี
การรอคอยมันทรมานจริงๆ ต้นเข็มแข็งมาเลยที่ผ่านมันไปได้ทุกวันอย่างปกติ อยู่คนเดียวต้นคิดฟุ้งซ่านไปได้ไกลขนาดไหนกันนะ ขนาดผมยังคิดไปไกล
ว่าต้นจะใจอ่อนกับไอ้เทียนหรือยัง ไอ้เทียนจะใช้วิธีอะไรเอาใจเมียผม แค่คิดก็น้ำตาจะไหลถ้าต้นเลือกมันผมตายแน่ๆ
"ฮือ พี่เข้าใจแล้วพี่ขอโทษ พี่อยู่คนเดียวไม่ได้ เมียจ๋ากลับมาหาพี่เถอะ ฮือ"
แล้วผมก็นอนกอดหมอนเมียไปจนหลับ
..............
ขณะที่กรณ์กำลังเดินตรวจตราภายในบ้านอยู่
"คุณกรณ์คะคุณกรณ์"
ร่างสูงหันไปตามเสียงเรียก
"ครับป้านิ่ม"
"บ้านเราต้องมีผีแน่นอนเลยค่ะ"
"ทำไมครับ"
"ก็เมื่อวันก่อนเห็นเด็กมันเล่าให้ฟังว่าบ้านที่ถัดเราไป 3 หลัง มีผู้ชายฆ่าตัวตายค่ะ"
"แล้วยังไงครับ"
"เอ้า ก็เมื่อกี้ ป้าเดินเอาตะกร้าผ้าไปเก็บที่ชั้น 2 ได้ยินเสียงผู้ชายร้องไห้ค่ะ น่ากลัวมากเลยค่ะ"
"หึ งั้น ป้ารีบไปนอนเถอะครับเดี๋ยวผมไปดูให้เอง"
"ขอบคุณค่ะ หูย ขนลุกค่ะ"
ร่างสูงของกรณ์เดินขึ้นไปชั้น 2 ตามคำบอกของป้านิ่ม ก่อนจะได้ยินเสียง
ฮือ ฮือ
กรณ์ค่อยๆเดินไปตามเสียงร้องไห้จนมาหยุดอยู่ที่ห้องนอนเจ้านาย เขากำลังจะเคาะห้องเจ้านายแต่ได้ยินเสียงแว่วออกมาจากหลังประตูซะก่อน
"ฮือ ฮือ เมียจ๋า พี่คิดถึงเมีย เมียไปอยู่ไหน รู้ไหมผัวคนนี้จะขาดใจแล้ว"
ร่างสูงไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยินจึงเอาหูแนบประตู
"ฮือ ฮือ เมียอย่าไปกับไอ้เทียนนะ พี่ขอโทษ จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว"
"ฮ่า ฮ่า อุ๊บ" กรณ์รีบปิดปากตัวเองแทบไม่ทันก่อนจะหลุดขำเสียงดังกว่านี้
"โธ่ เมื่อหัวค่ำยังกระทืบกูอยู่เลย ตอนนี้ละเมอร้องเรียกเมียเป็นเด็กเลย คู่แข่งรู้อายเขาตาย"
กรณ์ส่ายหน้าแล้วยิ้ม พร้อมกับคิดว่า
"เรื่องนี้ต้องขยาย โทรบอกนายใหญ่ดีกว่า"
แล้วร่างสูงใหญ่ก็เดินผิวปากสบายใจแล้วก็ตลกกับความคิดตัวเองที่ว่าเจ้านายเขากลายเป็นคนติดเมียไปแล้ว สะใจไอ้กรณ์นัก
..........................