</////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>  (อ่าน 10491 ครั้ง)

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อยากจะ แหม~ ไปถึงปัตตานี 55555

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
เขิลด้วยคนนะ พี่ธาร น้องต้น
 :katai2-1:
 :กอด1:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
 ไปเชียงรายคราวนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้นนะ

ออฟไลน์ Garuda8

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
ตอนที่ 6

เชียงราย


  คืนวันพฤหัสผมกำลังนั่งจัดของเตรียมตัวไปเชียงรายในวันพรุ่งนี้ ต้องเอาอะไรไปมั้งก็ไม่รู้แต่ที่รู้ๆ ทำไมผมต้องมานั่งจัดของให้ไอ้พี่ธารด้วยเนี่ย ได้แต่บ่นในใจนั้นแหละ จัดของเสร็จ ก็เข้านอน เนื่องจากวันนี้พี่ธารเขาไปงานเลี้ยง ผมขออนุญาตนอนก่อนแล้วกันพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าด้วย ในวันรุ่งขึ้นผมตื่นเพราะนาฬิกาปลุก แล้วเดินเข้าห้องน้ำ
ทำธุระตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็เดินมาปลุกคนตัวโตที่นอนม้วนเป็นก้อนอยู่บนเตียง

"พี่ธาร ตื่นได้แล้วครับเดี๋ยวสายนะ" ผมเอามือสะกิดก้อนผ้าห่ม

"อ่า อืม" เสียงอีโรติกมากครับคุณผู้อ่าน

"พี่ธาร ลุกได้แล้วครับ" ผมดึงผ้าห่มออก แล้วดึงแขนคนตัวโตให้ลุกขึ้นนั่ง

"รับทราบแล้วครับ" เขายิ้มให้ผมหนึ่งทีแล้วลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ จัดการธุระเสร็จพวกเราก็เดินลงมาทานอาหารเช้า แล้วเตรียมตัวไปสนามบิน พวกเราถึงสนามบินเชียงรายประมาน 10 โมงกว่า ซึ่งงานนี้มีแค่ผม พี่ธารแล้วก็คุณกรณ์ เท่านั้น ออกมาจากสนามบินก็มีรถของรีสอร์ทมารอรับเราอยู่แล้วมีคนขับมายกกระเป๋าขึ้นรถให้ ขึ้นรถได้ สักพักผมก็ชวนคนข้างๆคุย

"พี่ธารเคยมาที่นี่ไหมครับ" เขาหันมามองหน้าผม

"เคยมา แต่ไม่เคยไปที่รีสอร์ทใหม่ ทำไมหรอ"

"คือผมไม่เคยมานะครับ เลยอยากเที่ยว" ผมยิ้มให้เขาเผื่อเขาจะเมตตาพาผมไปเที่ยว

"ใกล้ๆ รีสอร์ทมีดอยที่ชาวบ้านทำไร่ ทำสวนอยู่นะครับ ตรงนั้นมีผาดูดาวด้วยคุณต้นไปดูได้นะครับ" คุณกรณ์พูดขึ้น

"จริงหรอครับ ผมไปได้ใช่ไหม"

"ได้สิ แต่ต้องทำงานให้เรียบร้อยก่อน" พี่ธารบอกผม

"โอเคครับ คุณกรณ์พาผมไปนะครับ" ผมหันไปพูดกับคนที่เสนอความคิด

"เห็นทีจะไม่ได้นะครับ พอดีนายใหญ่เขาสั่งให้ผมไปทำธุระต่อนะครับ"

"อ้าว แล้วผมจะไปยังไงล่ะครับ" ผมก้มหน้าเล่นมือตัวเองพร้อมทำหน้าสลด

"ให้นายน้อยขับรถพาไปสิครับ จะได้ไปสำรวจรอบๆกันด้วย" คนเป็นนายหันขวับมาทางคนพูด

"ฉันไม่ได้อยากดูวิว แล้วฉันก็ไม่ใช่นักสำรวจด้วย"

"แต่เจ้าของ ก็ควรจะรู้จักพื้นที่บริเวณใกล้ๆพื้นที่ของตัวเองด้วยนะครับ เผื่อจะมีอะไรต่อยอดธุรกิจได้ นายใหญ่สั่งมาครับ อย่ามองผมแบบนั้น" คุณกรณ์บอก ผมจึงรีบพูดเสริม

"นั้นสิครับ ได้ทั้งงานได้ทั้งพาผมไปเที่ยวด้วยนะ นะครับ" ผมพูดไปแล้วก็เอามือไปดึงแขนเสื้อคนตัวโตยิกๆ พี่ธารมองมือผมสลับกับมองหน้า

"เห้อ  ก็ได้ๆ ที่พาไปเพราะพ่อสั่งนะไม่ใช่เพราะอยากพาเที่ยวหรอก อย่าเข้าใจผิดล่ะ" ฮั่นแน่ ชอบแก้ตัวหรอยังไม่ได้พูดอะไรเลย

"คร้าบบบบบ ขอบคุณนะครับ" ผมยิ้มให้เขาแล้วหันไปยิ้มให้คุณกรณ์

"นายน้อยนี่ ใจดีนะครับ ช่วงนี้ดูมีออร่าให้ต้องเลี้ยงเด็กแปลกๆ"

"เด็กบ้านแกสิ เงียบๆเลย ถึงแล้วปลุกด้วยฉัน จะนอน"

"รับทราบครับ หึ หึ ๆ

  รถที่พวกเราโดยสารมาขับมาเรื่อยๆอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงรีสอร์ทที่หมายของเรา ผมลงจากรถเดินตามนายน้อยไปข้างใน ในส่วนของlobby ซึ่งรีสอร์ทนี้ ในส่วนของที่พักสร้างเสร็จเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือในส่วนของสวนและภูมิทัศน์ด้านนอกอีกไม่เกิน 30% ก็จะสามารถเปิดให้บริการได้แล้ว ที่นี่สวยมากๆ เนื่องจากเป็นรีสอร์ทที่ค่อนข้างไกลตัวเมือง อยู่ตีนดอยเลยทีเดียว ผมเดินตามไปถึงเค้าเตอร์ เห็นคุณกรณ์กับพี่ธารถือกุญแจห้องพักในมือกันแล้ว ผมจึงหันไปถามคุณกรณ์

"แล้วกุญแจห้องผมล่ะครับ" คุณกรณ์ยิ้ม

"คุณนอนกับนายน้อยครับ กุญแจอยู่ที่นายน้อยแล้ว"

"ห๊ะ ผมนึกว่าเราจะนอนคนละห้องซะอีก"

"นายใหญ่บอกว่าปกติพวกคุณก็นอนห้องเดียวกันน่ะครับ ถ้าเปิดอีกห้องนึงจะเปลืองซะเปล่าๆ" ผมพยักหน้าเข้าใจ

"เอางั้นก็ได้ครับ" กำลังทำความเข้าใจกับตัวเองอยู่คนตัวโตก็จับไหล่ผมให้หันหน้าไปหา

"ทำไม ปกติก็นอนด้วยกัน วันนี้งอแงอะไร" ผมส่ายหน้า

"เปล่าครับ ผมแค่คิดว่าจะได้มาพักแบบส่วนตัวเฉยๆ"

"อยู่กับฉันก็คือส่วนตัวแล้ว ไปเก็บของขึ้นห้องพักผ่อนก่อนจะได้ลงมาทำงานต่อ" ว่าเสร็จก็จับข้อมือผมลากให้เดินตามไป

ถึงห้องผมก็เอาของออกจากกระเป๋า มาจัดเตรียมไว้ก่อนออกไปประชุมถึงความคืบหน้าของรีสอร์ทกับฝ่ายต่างๆ ตอนบ่าย ผมสั่งอาหารเที่ยงมาทานที่ห้อง เพราะตอนนี้เจ้านายอยู่ในภาวะทิ้งตัวนอนหลับไปเรียบร้อย ผมทำโน้นทำนี้จนอาหารมาส่ง ผมจึงปลุกคนตัวโตมาทานอาหาร ก่อนจะเตรียมตัวออกไปประชุม ผมนั่งฟังการประชุมและอธิบายเรื่องต่างๆเกี่ยวกับรีสอร์ทอยู่เกือบ 3 ชั่วโมง ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายไปพักผ่อน ซึ่งตอนนี้ก็ถึงเวลาเที่ยวของผมแล้ว

"พี่ธาร เราไปกันเลยไปไหมครับ" ผมรีบหันไปถามคนตัวโต

"อยากเที่ยวเหลือเกินนะ ใจร้อนจริงเชียว" พูดกับผมจบแล้วก็หันไปหาคุณกรณ์

"ไอ้กรณ์กุญแจรถล่ะ" พูดพร้อมกับยื่นมือไปรอรับของ

"นี่ครับ รถผมจอดไว้ด้านหลังรีสอร์ทนะครับ"

"ขอบใจ ไปไอ้ตัวยุ่ง" หืม

"ผมไม่ยุ่งสักหน่อย" ว่าแบบนั้นแต่ก็เดินตามเขาต้อยๆ คนขับพร้อม คนนั่งข้างๆก็พร้อม

"เราจะไปไหนกันก่อน"พลขับถามขึ้นมา

"ไปไร่ชาแถวๆรีสอร์ทก่อนไหมครับแล้วค่อยขึ้นดอยไปดูตะวันตกดินกัน" คนฟังพยักหน้าแล้วขับรถออกไปยังจุดหมาย

"ต้น เอากล้องมาหรือเปล่า" พี่ธารหันมาถามผม

"ต้องเอามาด้วยหรอครับ" ผมถามกลับ

"เอ้า ก็นายมาเที่ยวจะไม่เก็บภาพไปอวดเพื่อนหรือไง"

"อ้อออ ผมใช้มือถือก็ได้ครับ" พูดแล้วก็ยิ้มให้คนถาม

"แล้วแต่ก็แล้วกัน" จากนั้นทั้งรถก็เงียบแต่ก็ไม่ได้อึดอัดอะไร ผมมองวิวข้างทางอย่างตื่นเต้นจนมาถึงที่หมาย ผมก็ลงจากรถพร้อมกับคนขับแล้วก็เดินไปพร้อมกัน ไร่ชานี้เป็นไร่ชาที่ค่อนข้างกว้างทีเดียว มองไปทางไหนก็เขียวไปหมด สวยครับสวยมากเลย ผมเดินไปถ่ายรูปมุมโน้นทีมุมนี้ที แล้วก็ยังขอชาวเขาที่กำลังเดินดูไร่ถ่ายรูปคู่ด้วยกัน โดยมีคนตัวโตเดินตามแล้วก็มองโน้นมองนี้ไปเรื่อย จนในที่สุดก็เดินมาถึงจุด view point ที่จะมีเก้าอี้ให้นั่งถ่ายรูปแล้วด้านหลังจะเห็นบรรยากาศของไร่ ถ่ายภาพเซลฟี่ตัวเองสองสามรูปแล้วก็นั่งพักโดยไม่ได้สนใจคนตัวโตเลย

"นี่ต้น นายลืมฉันหรือเปล่าเนี่ย" ผมเงยหน้ามองคนที่กำลังนั่งลงข้างๆผม

"เปล่านะครับ ผมก็เห็นคุณเดินตามมาตลอดแหละ"

"แล้วทำไม นายถ่ายรูปอยู่คนเดียว ไม่เห็นถ่ายกับฉันบ้างเลย" ผมขมวดคิ้ว

"ก็ ผมคิดว่าพี่ไม่ชอบ"

"หึ นายชื่อธารหรือไง ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าไม่ชอบ"คนพูดเลิกคิ้วถาม

"งั้นจะถ่ายไหมครับเดี๋ยวผมถ่ายให้"

"คนเดียวฉันไม่ถ่ายหรอก แต่ถ้า...ถ่ายกับนายจะได้ไหม"

"เอ๊ะ ถ..ถ่ายกับผม"

"ใช่ไงก็เรามากัน2 คนก็ถ่ายคู่กันสิคนอื่นจะได้รู้ว่ามาด้วยกัน ตามนั้นนะมือถือฉันแล้วกัน เขยิบมา มองกล้อง ยิ้ม"

จัดแจงเก่ง ส่วนผมก็เออออเก่งตามเขาไป

"เอาหน้ามาใกล้ๆ หน่อยสิรังเกียจฉันหรอ"

"เปล่า แต่นี้มันก็ใกล้มากแล้วนะคุณ แก้มผมจะชนแก้มคุณอยู่แล้ว"

"ก็ให้มันชนไปสิ เขยิบมา เอาอีกรูป หนึ่ง สอง ซั่ม" มีความสุขอยู่คนเดียว ถ่ายเสร็จก็นั่งดูรูปแล้วก็ยิ้ม โดนตัวไรมาว่ะนั้น

" เราไปด้านบนดอยต่อเลยไหมครับ" ผมหันไปถาม

"ไปสิ" ว่าเสร็จก็ลุกเดินนำผมไปเลย เราออกจากไร่แล้วขับขึ้นไปบนดอย เป็นดอยที่ไม่สูงไม่ชันมากครับ พี่กรณ์เล่าว่าบนดอยนี้จะมีหมู่บ้านชาวเขาเล็กๆอาศัยอยู่ และในหมู่บ้านจะมีลานดูดาว ซึ่งเป็นลานกว้างๆเป็นหน้าผาสามารถชมวิวได้ในตอนกลางวัน ส่วนกลางคืนก็สามารถถือตะเกียงมาดูดาวได้ในตอนกลางคืน พี่ธารจอดรถไว้ที่หน้าหมู่บ้าน แล้วเราก็เดินเข้าหมู่บ้านไปตามทางเพื่อไปที่ลานดูดาวแต่เราจะไม่ไปดูดาวนะ เราจะไปดูวิวกัน เดินผ่านเด็กชาวเขาที่กำลังวิ่งเล่น ส่วนชาวเขาในหมู่บ้านไม่ได้สนใจเรามากนัก อาจจะรู้ว่าเราเป็นแค่นักท่องเที่ยวที่นานๆจะมาสักที เมื่อเดินมาถึงที่ลาน ท้องฟ้าก็เริ่มทอสีอ่อนลงพอดี ผมเดินไปที่หน้าผาเพื่อรอชมพระอาทิตย์ตก ภาพตรงหน้าสวยมากจริงๆ ท้องฟ้าทอประกายสีส้ม ผมยิ้มรับกับภาพตรงหน้า

แชะ

ผมหันไปทางเสียงก็เห็น พี่ธารกำลังลดโทรศัพท์มือถือลง

"หืม พี่ธารถ่ายรูปผมหรอ"

"ใช่สิ เห็นทำหน้าเคลิ้มตลกดี"

"ถ่ายพระอาทิตย์สิพี่ กำลังจะตกแล้วสวยด้วย"

"ไม่อ่ะ นายน่ารักกว่าเยอะ"

"ห๊ะเมื่อกี้ว่าไงนะ"

"ฉันบอกว่าเมื่อกี้เดินมา เห็นชาวบ้านถือฟักน่ากินดี" ใช่หรอว่ะ

"ครับๆ พี่ดูสิสวยเนอะ" ผมชี้ให้ดู

"อืม" ตอบมาเหมือนไม่ได้มีความรู้สึกดีใดๆทั้งสิ้น เฮ้อ

พวกเรานั่งรับลมสักพักจนพระอาทิตย์พ้นขอบฟ้า จากลมเย็นๆก็เริ่มหนาวแล้วครับ

"กลับเถอะ เริ่มเย็นแล้ว" พี่ธารเอ่ยชวน

"ครับ" เราทั้งคู่เดินกลับไปทางเดิมเพื่อจะไปที่รถ เพราะตอนนี้เย็นครับอยากขึ้นรถมากต้องการความอบอุ่น

บรื้นน บรื้นน ฟืดด ฟืดดด

"หืม รถเป็นอะไรครับพี่ธาร" ชักเห็นแววความพินาศแล้ว

"ไม่รู้อ่ะ อยู่ๆก็ไม่ติด"

บรื้นน บรื้นน ฟืดด ฟืดดด

"พี่ เราจะทำไงกันดี"

"ใจเย็นๆ เดี๋ยวพี่โทรบอกไอ้กรณ์ก่อน" แล้วคนพูดก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาโทร

(ครับนาย)

"รถฉันเสียตรงทางเข้าหมู่บ้านชมดาว แกส่งคนมารับทีสิ"

(หรอครับ งั้นเดี๋ยวผมไปถามคนขับแปปนึงนะครับ) 

คนคุยโทรศัพท์หันมามองหน้าผมแล้วยิ้มให้ก่อนกลับไปคุยต่อ

(นายครับ)

"ว่าไง จะมารับหรือยัง"

(ต้องขอโทษด้วยครับนาย พอดีคนขับเขาบอกว่าช่วงนี้สัตว์ป่าออกหากินกลางคืนเยอะไม่ค่อยมีใครขึ้นดอยกลางคืนกันหรอกครับ)

"หมายความว่าฉันต้องอยู่ที่นี่แกจะไม่มารับฉันใช่ไหม"

(ก็มันเลี่ยงไม่ได้ครับนาย ยังไงเดี๋ยวผมจะให้คนไปรับแต่เช้านะครับ)

"เฮ้อ ฉันจะทำอะไรได้ว่ะ แค่นี้นะ"

(ครับ ขอให้มีความสุขครับนาย)

"แกลองมาติดในรถแบบฉันไหมล่ะ"

(เออจริงสินาย ตรงลานดูดาวจะมีกระท่อมอยู่นายเข้าไปพักในนั้นก็ได้นะครับ น่าจะพอมีหมอนผ้าห่มอยู่ชาวบ้านเขาเคยเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวพักนะครับ)

"เออๆเดี๋ยวจะลองเดินกลับไปดู"

(รักษาสุขภาพนะครับ อย่ามัวดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์เพลิน)

"แล้วแกอยากกินตรีนไหมล่ะ"

(ฮ่า ฮ่าฮ่า ผมลาล่ะครับนาย)

"คุณกรณ์ว่าไงครับ"ผมถามเพราะอยากกลับแล้ว

"เราคงต้องอยู่นี่คืนนึง ไม่มีใครมารับเราตอนกลางคืนหรอกสัตว์มันออกหากิน"

"ต้องนอนนี้จริงๆหรอครับ" ผมทำหน้าคิดจะนอนไงว่ะปวดขาตายเลย

"ไอ้กรณ์บอกมีกระท่อมแถว ลานดูดาวน่าจะมีหมอนผ้าห่ม เราจะไปพักที่นั้นกัน"

"เฮ้อ ค่อยยังชั่วขืนนอนในนี้ปวดขาแน่ๆ" ผมยิ้มให้พี่ธาร เขามองหน้าผมแล้วส่ายหน้า

"ไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันเอาไฟในโทรศัพท์ส่องทางให้"

"ครับ" ว่าเสร็จก็เดินลงรถ แล้วค่อยๆเดินตามคนตัวโตไป

"ต้น มาเดินข้างๆฉัน"

"ทำไมล่ะครับ คุณส่องทางผมเดินตามสะดวกดี"

"แล้วถ้าฉันหันมาอีกที นายโดนอะไรคาบไปทำไง มาเดินข้างกันฉันจะได้ไม่ต้องมองทั้งทางมองทั้งนาย" ผมพยักหน้าแล้วเดินขึ้นมาอยู่ข้างๆเขา เดินได้ไม่กี่ก้าวก็รู้สึกอุ่นที่มือ ผมก้มไปมองก็เห็นเขากุมมือผมอยู่ แล้วผมก็เงยหน้ามามองเขา เห็นพี่ธารมองทางเดินแล้วก็เดินไปเรื่อย ก่อนจะพูดขึ้นทั้งที่ตายังคงมองทางอยู่

"อากาศมันเย็น จับมือกันไว้แบบนี้จะอุ่นขึ้น อีกอย่างเราจะได้ไม่หลงกันด้วย เพราะทางมันมืด" ผมมองหน้าเขาแล้วก็ก้มหน้ามองทางเดินต่อ ไม่รู้ทำไมนอกจากมือจะอุ่นแล้วใจผมก็พลอยอุ่นไปด้วย งื้อผมต้องป่วยเพราะอากาศหนาวแน่ๆ เราจูงมือกันไปเรื่อยก่อนจะเห็นกระท่อมน้อยๆ อยู่ทางขวามือก่อนจะถึงลานดูดาว ผมเข้าไปในกระท่อมลองสำรวจภายในดู พบว่ามันค่อนข้างสะอาดเหมือนพึ่งมีคนมาทำความสะอาดมันเมื่อไม่นานมานี้ แถมมีฟูกรองนอนที่ม้วนเอาไว้ ผ้าห่ม และหมอนที่ค่อนข้างใหม่ แถมที่มุมของกระท่อมยังมีผลไม้และอาหารกระป๋องอีกต่างหากเหมือนกับว่ามีคนจะมาพักที่นี่อย่างนั้นแหละ ผมเดินไปดูที่อาหารหยิบขึ้นมาสำรวจเล็กน้อย

"พี่ธารหิวไหมครับ ที่นี่มีผลไม้กับอาหารกระป๋องเรามากินกันไหม" พี่ธารหันมามองแล้ว เดินมาหาผม

"เอาสิ ไม่งั้นหิวตายแน่ๆ" ผมจึงจัดการแกะอาหารกระป๋องแล้วส่งให้เขา แล้วค่อยแกะให้ตัวเองบ้าง เราต่างก้มหน้าก้มตากินไม่สนใจอะไร จนอาหารเกลี้ยง

"แปลกจังนะครับ อย่างกับมีคนรู้ว่าเราจะมาพักเตรียมให้เสร็จเลยทั้งของกินทั้งที่นอน"  ผมหันไปพูดกับเขา

"เห็นไอ้กรณ์บอกเขาให้นักท่องเที่ยวที่ค้างคืนที่นี่พัก ไม่รู้เรามาแย่งที่ใครหรือเปล่า"

"ไม่น่าจะแย่งนะครับเพราะเหมือนจะมีแต่เรา ไม่เห็นใครที่นี่เลย"

"อืม งั้นฉันขอไปดูข้างนอกหน่อยนะ สำรวจก่อนเพื่อความปลอดภัย"

"ครับ เดี๋ยวผมปูที่นอนไว้ให้" คนตัวโตเดินออกไปข้างนอกแล้ว ผมจึงเคลียซากของกินแล้วเตรียมจัดที่นอน พอปูที่นอนออกมา ตายล่ะหว่า ฟูกที่คลี่ออกมา มันขนาดไม่กว้างมากเป็นฟูกเดี่ยวที่นอน 2 คนได้ แต่ตัวต้องไม่ใหญ่อย่างคุณธารกับผม แล้วเราจะนอนกันยังไงเนี่ย เอาว่ะนอนพื้นก็ได้หมอนก็มี คิดได้ก็ปูที่นอนต่อจนเสร็จ กะว่าจะเดินไปรับลมก่อนนอนสักหน่อย แต่คนตัวโตดันเขามาเรียกซะก่อน

"ต้น ฉันมีอะไรจะให้นายดูมานี่สิ" คนพูด พูดอย่างตื่นเต้นแล้วก็ลากผมไปทางลานดูดาว จุดเดิมที่เรามาเมื่อตอนดูพระอาทิตย์ตกดิน

"เงยหน้าดูสิ ดาวเต็มไปหมดเลยสวยมาก" ผมเงยหน้ามองตามคำพูดคนตัวโต

"ว้าว สวยจังเลยพี่ธาร ดาวเต็มไปหมดเลย"

"อืมสวยเนอะ ภาพแบบนี้หายากในกรุงเทพ นานๆทีเจอแบบนี้ก็ดีนะเหมือนชาร์ตพลังเลย" ผมหันไปมองคนพูดแล้วเอามือที่ไม่ได้ถูกจับไว้ ไปสัมผัสที่หน้าเขา

เบาๆ จนเขาสะดุ้ง

"เหนื่อยหรือครับ" เขามองหน้าผมแล้วเบนสายตาไปทางมือ ผมมองตามเขาแล้วรีบชักมือออก

"ผมขอโทษครับ"

"ไม่เป็นไร มือนายแค่เย็นนะ" ผมยิ้มแหยๆ ก่อนที่เขาจะปล่อยมือจากมือผมอีกข้างที่ลากผมมา แล้วเดินอ้อมไปด้านหลังแล้วกอดผมจากทางด้านหลัง ยื่นหน้ามาข้างหน้า

จนแก้มแนบแก้มกัน คุณพระผมทำอะไรไม่ถูกแล้ว แม่จ๋าช่วยต้นด้วย

"แก้มนายเย็นจัง ตัวก็สั่นหนาวมากหรอ หืม "  จะมาหืมอะไรล่ะ

"ก..ก็นิดหน่อยครับ แต่พี่ธาร ก...กอดต้นทำไมครับ" ผมขยับใบหน้าออกจากหน้าของเขาแล้วหันไปมองสบตากับเขา

"มือต้นเย็น แล้วอากาศก็หนาวผ้าห่มก็ไม่ได้เอามา กอดกันไว้จะได้อุ่นๆไง"

"แต่ต้นไม่ใช่ผู้หญิง พี่ปล่อยเถอะครับ" ผมค่อยๆขยับตัวออกแต่พี่ธารกลับกอดแน่นกว่าเดิม

"นิ่งๆสิ ไม่เห็นเกี่ยวเลยจะหญิงหรือชาย พี่แค่หนาวเลยอยากจะทำให้ตัวเองอุ่น เท่านั้นเอง"

"เดี๋ยวต้นไปเอาผ้ามาให้ก็ได้ครับ"

"พี่พึ่งหายเจ็บนะยืนรอนานพี่ไม่สบายอีก เราจะรับผิดชอบไหมล่ะ"

"แต่ว่าา"

"ไม่ต้องพูดแล้วยืนให้พี่กอดก็พอ" คนไม่ใช่ตุ๊กตาจะมากอดอะไรเล่า

"เที่ยวทั้งวันตัวยังหอมอยู่เลยนะเราเนี่ย" โอ๊ยยแม่ต้นอยากโดดหน้าผา

"พี่จะดูดาวก็ดูไปสิ พูดเยอะจังนะวันนี้เนี่ย"

"หึ หึ "

ยืนชื่นชมธรรมชาติอยู่อีกพักใหญ่ๆพี่ธารก็ลากผมกลับมาที่กระท่อมเพราะอากาศเริ่มเย็นมากขึ้น มาถึงพี่ธารก็เดินไปเอาตะเกียงจ้าวพายุที่มีในกระท่อมมาจุดก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนฟูกที่ผมปูไว้ ส่วนผมก็ไล่ปิดหน้าต่างเพื่อกันลมเข้า ภาคเหนือแถมบนดอยอีกไม่หนาวก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว จากนั้นผมก็เดินมาตรงฟูกนั่งคุกเข่าลง แล้วหยิบหมอนอีกใบมาไว้ในมือ แล้วเดินไปอีกมุมของห้องก่อนจะทิ้งตัวลงนอน

"ต้น ทำอะไร" เสียงพี่ธารทักขึ้น ก่อนหัวผมถึงหมอนพอดี

"ก็จะนอนไงครับ"

"แล้วทำไมไปนอนตรงนั้น ไม่มานอนกับพี่"

"ก็ผมกลัวพี่นอนไม่สบาย ฟูกมันเล็ก แถมผ้าห่มผืนเดียวก็ไม่หนามากด้วย"

"อย่ามาอ้างมานอนกับพี่เดี๋ยวนี้ ขืนเรานอนตรงนั้นเราจะป่วยเอา ผ้าปูก็ไม่มี ผ้าห่มก็ไม่มี"

"แต่ว่าผม..ผม" นึกข้ออ้างไม่ออก จะบอกว่ากลัวเขาด้วยก็ไม่กล้า

"ผมอะไร มานอนกับพี่เดี๋ยวนี้ จะดื้อก็ดูอากาศด้วย" ก็จริงว่ะแค่นั่งพื้นยังเย็นตูดเลย

"ก็ได้ครับ" ผมตอบตกลงแล้วเดินกลับไปที่ฟูก วางหมอนลงอีกฝั่งของคนตัวโตแล้วค่อยๆทิ้งตัวลงนอนหันหลังให้พี่ธาร

ผมนอนตัวเกร็งแทบไม่กล้าขยับ จนคนตัวโตคงนึกรำคาญจึงขยับผ้าห่มมาห่มให้ผม แล้วตัวเองก็นอนลงไปที่เดิม

"ต้น ไม่หนาวหรอขยับมาใกล้ๆกันหน่อยก็ได้"

"ม..ไม่ค่อยหนาวครับ ผ้าห่มพอช่วยได้" โกหก มันก็ยังเย็นๆอยู่นั้นแหละ

"แต่พี่หนาว สั่นเลยเนี่ยขอขยับเข้าไปใกล้ๆต้นได้ไหม ที่มันว่างอ่ะลมมันเลยแทรกเข้ามาได้" เอาลมที่ไหนมาแทรกว่ะ

"นะ ต้นพี่หนาวจริงๆนะ"เสียงสองมาอีกแล้ว

"ก็ขยับเข้ามาสิครับ" พูดจบผมได้ยินเสียงขยับทันที ผมขนลุกเลยครับสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่รดต้นคอ ใกล้ไปแล้วโว้ย ผมใจเต้นระส่ำไปหมดเหมือนคนหัวใจจะวาย พยายามสูดหายใจลึกๆเพื่อสงบอารมณ์ตัวเอง ถ้าไม่มีใครขัดขึ้นมาก่อน

"ต้น พี่ติดหมอนข้างอ่ะ นอนไม่ค่อยหลับเลย ขอกอดหน่อยได้ไหมเผื่อพี่จะหลับ" มึงจะเกินไปแล้วไอ้เด็กโข่ง

"ผมไม่เคยเห็นบนเตียงพี่มีหมอนข้างเลย เอาที่ไหนมาติดครับ"

"เออนั้นแหละ ตอนนี้พี่ก็ยังไม่หายหนาวด้วยขอกอดหน่อยนะเหมือนเมื่อกี้อ่ะ"

หมับ

พูดจบมือใหญ่ก็พาดมาบนเอวผมแล้วดึงเข้าไปหาตัวเขาจนแผ่นหลังผมปะทะกับอกของพี่ธาร ผมจะขยับออกแต่พี่ธารก็กอดแน่นกว่าเดิม

"โห หายหนาวเลยอ่ะ คืนนี้พี่คงไม่แข็งตายแล้วล่ะ" ผมถอนหายใจแล้วหยุดดิ้นหลังจบประโยค ก่อนร่างกายผมจะค่อยๆคลายความเกร็งหลังผ่านไปซักพัก

"เราใกล้กันขึ้นอีกแล้วนะต้น" ผมหันหน้าไปตามเสียงจนจมูกชนกับจมูกของพี่ธาร เลยต้องถอยหน้าออกเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าจะใกล้กันขนาดนี้

"พี่ธารกอดต้นขนาดนี้ไม่ใกล้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ" ผมสะบัดเสียงใส่นิดๆ

"หมั่นเขี้ยว ว่ะ" พี่ธารว่าเสร็จก็กัดจมูกผมเบาๆ

"ฮึ้ยยย พี่ธาร อย่าแกล้งต้น" ผมลูบจมูกตัวเองป่อยๆ

"ก็อย่าทำตัวให้น่าแกล้งสิ" ยังไม่ได้ทำอะไรเลยเถอะ

"นอนไปเลย ต้นจะนอนแล้ว" ว่าแล้วก็หันหน้าหนีแล้วหลับตาลง แล้วค่อยๆเข้าสู่ห้วงนิทรา จนไม่ได้ยินเสียงคนข้างหลังที่พูดอะไรบางอย่าง

"พี่กำลังตกหลุมที่พ่อพี่วางไว้แล้วรู้ไหมต้น  ถ้าต้นยังทำแบบนี้ พี่จะไม่สามารถปล่อยต้นได้นะรู้ไหม" คนพูดมองคนที่กำลังหลับด้วยสายตาที่อ่อนโยน

อย่างไม่รู้ตัว แล้วค่อยๆกดจูบที่เส้นผมอ่อนนุ่มอย่างหวงแหน สูดกลิ่นหอมอ่อนๆที่ชอบนักหนาจนพอใจแล้วผละออกมาอย่างเสียดาย

"เด็กดีของพี่ธาร" คนตัวโตพึมพำกับตัวเองก่อนจะค่อยกระชับอ้อมกอดให้คนในอ้อมแขนชิดกันมากขึ้น แล้วกอดเอาไว้อย่างกับกลัวใครจะมาแย่งไป ก่อนจะจมลงสู่ห้วงนิทรา

..................
อีกด้านหนึ่งตรงบริเวณหลังกระท่อม

ตรู๊ดดด ตรู๊ดดดดดดด

(ไงไอ้กรณ์ ฉันได้สะใภ้แบบเต็มตัวยังว่ะ)

"ยังครับนายใหญ่ คิดว่าคงอีกไม่นานครับ"

(แล้วมันติดตรงไหนว่ะ หรือไอ้ลูกมามันทำไม่เป็น)

"คาดว่าจะทำเป็นนะครับ แต่คงห้ามใจไม่ให้ทำมากกว่า"

(เออค่อยยังชั่ว ท่าทีมีหวังไม่ว่ะไอ้กรณ์)

"โอ๊ย มียิ่งกว่าหวังอีกครับ แต่คงฟอร์มจัดอยู่แหละครับ ใครจะอยากเสียหน้า ไม่ทันถึง3เดือนตกหลุมซะแล้ว"

(เออดี แกทำดีมากแล้วก็ออกมาจากตรงนั้นได้แล้วค่อยโผล่ไปใหม่ตอนเช้า)

"กรณ์จัดให้เลยครับ"

(มีความคืบหน้าอะไรรายงานด้วยล่ะ)

"รับทราบครับ"


Tbc
.................................

 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
อีพี่เริ่มหลงน้องแล้วนะคะ แต่พยายามจะไม่หลง แกงงตัวเองอยู่หรือเปล่าเนี่ย

อย่าท่าเยอะเดี๋ยวแช่งให้น้องไปชอบพี่เทียนเลย คุณพ่อตีหัวอีพี่ธารเลยค่ะ

หรือเราจะให้ใครเอาน้องไปซ่อนดีคะ ยังไงก็ให้กำลังใจน้องกันด้วยนะคะ

ว่าเมื่อไหร่อีพี่จะเลิกฟอร์มซะที ช่วงนี้ก็จะฟินๆหน่อยนะคะ

ตอนนี้เรากำลังคิดว่าควรให้น้องท้องได้ดีไหม รีดเดอร์ว่ายังไงคะ

ถ้าอยากให้น้องท้องก็เม้นมาบอกกันได้นะคะ รักทุกคน

และขอบคุณทุกเม้นนะคะ


 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2019 11:23:16 โดย Garuda8 »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
คุณพ่อจอมวางแผน

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ทริปนี้น้องต้นได้สามีแน่จ้า555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สนุกดีครับ ท้องหรือไม่ท้องก็ได้ครับ

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
รักนี้พ่อจัดให้ของจริงวางแผนทุกอย่าง จนลูกชายอย่างพี่ธารตกหลุม

ออฟไลน์ Garuda8

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
ตอนที่ 7

ห่างเหิน


   แสงแดดยามเช้าที่ลอดเข้ามาในกระท่อมทำให้ผมลืมตาตื่นขึ้นมา กระพริบตาถี่ๆไล่ความง่วง ก่อนจะหันไปที่ว่างข้างๆ
ก็ต้องแปลกใจเพราะคนที่ควรจะนอนอยู่ข้างๆ กลับหายไป ผมลุกขึ้นแล้วเปิดประตูออกไปเพื่อหาพี่ธาร เดินไปถึงลานดูดาวก็เห็น
คนตัวโตยืนอยู่ที่ลาน มองวิวทิวทัศน์เบื้องหน้า แต่เหมือนไม่ได้ชื่นชมธรรมชาติน่าจะจมอยู่กับความคิดตัวเองมากกว่า

"พี่ธาร ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจังครับ" ผมเรียกเขาเมื่อเดินมาถึงตัว เขาหันมามองหน้าผมนิ่งๆก่อนค่อยๆยิ้มให้แต่เป็นยิ้มที่มันทำให้ผม
รู้สึกถึงระยะห่างที่มันไม่เหมือนเดิม

"นอนไม่ค่อยหลับนะ เลยออกมาเดินเล่น เมื่อกี้ฉันโทรหาไอ้กรณ์แล้วมันกำลังมา"

ผมพยักหน้ารับแล้วก็ไม่มีบทสนทนา
อะไรเกิดขึ้นอีก ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันน่าอึดอัด ผมไปทำอะไรให้โกรธหรือเปล่านะ อาจจะนอนกินที่เขาก็ได้ ผมกำลังจะ
ถามออกไป แต่คุณกรณ์ก็เข้ามาทักขึ้นพอดี

"นายครับ ผมมาแล้วกลับเลยไหมครับ"

"อืม" แล้วพี่ธารก็เดินนำไปโดยไม่ได้หันมามองผมแม้แต่น้อย เกิดอะไรขึ้น

หลังจากที่กลับมาจากบนดอยต่างคนก็ต่างทำงานของตัวเอง ผมกับพี่ธารจึงไม่ได้คุยกันมากนัก กลับมาก็ต่างคนต่างเก็บของ
เพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพ ในตอนเช้า ผมคิดว่าเขาคงเหนื่อยเลยไม่อยากจะพูดอะไรมากคงต้องการพักผ่อน แต่ผมคิดผิด
 
  พอกลับมากรุงเทพระยะห่างก็ยิ่งห่างจนดูออกอย่างชัดเจน ในตอนเช้าเขาจะออกไปทำงานก่อนทุกวันโดยให้คุณกรณ์มาบอก

ผมส่วนตัวผมออกไปเวลาปกติ ออกไปพร้อมคุณกรณ์ บนโต๊ะอาหารตอนเช้าจึงเหลือแค่ผมกับคุณกรณ์ พอไปที่ทำงานก็ต่างคน

ต่างทำงาน ผมพยายามมองเขาแต่ก็เห็นเขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ปกติเวลาจะเอาเอกสาร หรือของว่างจะเรียกผมแต่นี้กลับโทร

ไปสั่งคุณกรณ์ที่นั่งทำงานอยู่ข้างนอกให้เอาเข้ามาให้ ตอนเย็นเขาก็บอกมีนัดเกือบทุกวัน เช่นเดิมโต๊ะอาหารตอนเย็นคงมีแค่ผม

กับคุณกรณ์ผมไม่รู้ว่าคิดในแง่ร้ายเกินไปหรือเปล่า พี่ธารเหมือนกำลังหลบหน้าผม ทั้งที่ผมคิดว่าความสัมพันธ์เราดีขึ้นมากเหนือ

ความคาดหมายแล้ว

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขามีนัดแล้วคงกลับดึกอีกตามเคย ผมไม่รู้หรอกว่ากลับกี่โมงเพราะผมหลับก่อนตลอดเลย วันนี้มันครบอาทิตย์พอดี พรุ่งนี้ก็วันเสาร์ ยังไงผมก็จะคุยกับเขาให้รู้เรื่องว่าผมทำอะไรผิด

ห้าทุ่ม

เที่ยงคืน

ตีหนึ่ง

"ทำไมกูต้องมารอเคลียทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยว่ะเนี่ย"

ตีสอง

ตีสาม

ผมนั่งตาจะปิดอยู่ที่โซฟาหัวเริ่มเอียงต่ำลงเรื่อยๆ ทันใดนั้น

แกร๊ก

รีบยกตัวขึ้นให้ตรงแล้วมองไปที่ประตู คนที่พึ่งเข้ามาในห้องปิดประตูแล้วหันมา พอเจอผมก็ชะงักเล็กน้อยก่อนทำสีหน้าปกติ

"ยังไม่นอนหรอ"

"ยังครับผมรอพี่ มีเรื่องอยากคุยด้วย" เขาขมวดคิ้ว

"มีอะไรทำไมไม่คุยพรุ่งนี้นี่มันดึกแล้ว"

"ถ้าคุยพรุ่งนี้ผมคิดว่า ผมคงไม่ได้คุยเพราะพี่คงหาเรื่องหลบหน้าผมอีก"

"พูดอะไรของนายง่วงมากก็ไปนอนไป" เขาเดินเลี่ยงไปที่ตู้เสื้อผ้า ผมจึงเดินตามหลังเขาไป

"ช่วงนี้พี่เป็นอะไร หลบหน้าผมตลอดเลย" เขาหันมากระตุกยิ้มใส่ผม

"นี่ ใครหลบ ฉันงานยุ่งนายก็เห็น"เขาส่ายหัว

"ผมทำอะไรให้พี่โกรธหรอ มีอะไรก็บอกผมสิถ้าไม่คุยกันจะรู้ได้ยังไงว่าพลาดตรงไหน" ผมมองหน้าเขา

"อย่ามโนได้ไหม นายก็เห็นฉันยืนตรงนี้ หลบนายที่ไหนกัน" เขาเถียงกลับมา

"ก็ปกติเวลาพี่มีอะไรจะใช้ผมตลอดเลย แต่เดี๋ยวนี้พี่ใช้แต่คุณกรณ์ ไปก่อนกลับทีหลังมันแปลกนะพี่ พูดกับผมเถอะนะว่าผมทำอะไรผิด ผมจะได้แก้ไข"  เขาจ้องหน้าผมอยู่สักพัก

"หึ นี่นายสำคัญตัวผิดเปล่า ปกติตอนไม่มีนายฉันก็ใช้ไอ้กรณ์ อีกอย่างนายไม่ได้เป็นอะไรกับฉันนะอย่าลืม"

"พี่ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ตกลงผมทำให้พี่โกรธมากใช่ไหม" ผมจับแขนเขาแล้วเขย่า

"นี่ หยุดได้แล้วฉันบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรก็คือไม่เป็น เห็นฉันให้เรียกพี่ก็คิดว่าจะมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้หรือไง นายนะแค่คนที่พ่อฉันจ้างมานะ"

ผมสะอึกกับคำที่เขาพูด นั้นสินะ ผมแค่คนที่พ่อเขาจ้างมา เขาแค่ให้เรียกพี่ ทำดีด้วยหน่อยก็คิดว่าเขาเปิดใจหรือไง โง่ชะมัด

"นั้นสินะครับ ผมคงคิดมากไปเองขอโทษที่เข้าใจผิดนะครับ พี่ไม่ได้เป็นอะไรก็ดีแล้ว ตามสบายเถอะครับผมไปนอนก่อน"

จากนั้นผมก็เดินไปที่โซฟาแล้วทิ้งตัวลงนอนโดยหันหน้าเขาพนักพิง ตอนนี้ผมเหมือนกำลังหายใจไม่ออก ผมค่อยๆคุมลมหายใจ

จนตอนนี้เจ้าของห้องทำธุระตัวเองเสร็จแล้ว และทิ้งตัวลงนอนไฟในห้องก็ดับลง ถึงตอนนี้ผมก็ยังเจ็บจนจุกไปหมด ผมอาจจะ

เคยตัวกับการดูแลเขาจนลืมว่าตัวเองเป็นใคร ผมเอามือจับที่หน้าอกทุบมันเบาๆ เมื่อนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา ผมคงรู้สึกกับพิเศษกับ

เขาเข้าแล้วแต่เมื่อนึกถึงคำพูดเขาแล้วน้ำตาก็พลันไหลออกมาไม่รู้ตัว ไหลออกมาเงียบๆไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้น จนเผลอหลับไป

ตอนไหนไม่รู้


     ในตอนเช้าผมลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเองปกติ แต่ผมคงไม่อยู่ทานข้าวเช้าด้วยหรอกถึงจะเป็นวันเสาร์ก็ตามเมื่อไม่ได้อยากเห็นหน้าผม ผมก็จะไม่อยู่กวนใจ ผมตัดสินใจกลับมาเยี่ยมแม่ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ได้แต่คุยโทรศัพท์เท่านั้น

"แม่ครับต้นกลับมาแล้ว" ผมไขกุญแจเข้าบ้านได้ก็ตะโกนเรียกแม่

"อ้าวต้น มายังไงไม่โทรมาบอกแม่ก่อนล่ะ แล้วกินข้าวมาหรือยัง" คุณนายเขายิ้มร่ามาจากหลังบ้าน ผมจึงเดินไปกอด

"ยังเลยครับ ก็จะมากินกับแม่นี้แหละ" ผมยิ้ม

"งั้นไปทำอะไรกินกันดีกว่า ต้องฉลองนะต้นกลับมาเนี่ย" แล้วคุณนายก็ลากผมไปทำโน้นทำนี้ จนผมลืมเรื่องเครียดไปเลย

"ต้นวันนี้ค้างกับแม่ไหมลูก" แม่ถามขึ้นคงเห็นว่าเริ่มดึกแล้ว ผมคิดอยู่แปปนึง

"ครับแม่ พรุ่งนี้เย็นๆค่อยกลับ อยากนอนกอดแม่จะแย่" ผมพูดแล้วเข้าไปกอดเอวแม่

"แหม ปากนี้หนอช่างหวานมีใครเคยชิมไหมจ๊ะ" ฮั่นแน่

"ใครเขาจะมาชิมล่ะแม่ก็" แม่ผมยิ้มเจ้าเล่ห์

"ก็แล้วแต่นะ ไปๆ อาบน้ำนอนกันดีกว่า"

"ครับ" ผมและแม่ต่างทำธุระแล้วมานอนกองกันบนเตียง เล่าโน้นนี้ให้กันฟังว่าเจออะไรกันมาบ้าง

"แม่ครับ ต้นถามอะไรหน่อยสิ" แม่หันมามองผม

"ว่ามาสิ" แม่ทำหน้าตั้งใจฟังเกินเหตุมาก

"คือ แม่ว่าคนที่ความสัมพันธ์กำลังดีแต่จู่ๆก็กลับแย่ลงเกิดจากอะไรหรือครับ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นยังคุยกันดีๆอยู่เลย"

"แย่ลงยังไงลูก"

"อยู่ๆก็หลบหน้า ไม่ค่อยคุยเหมือนเก่าแถมยังไม่อธิบายให้เราฟังแต่กลับมาว่าเราแทน" แม่ทำหน้าคิดสักพัก

"แม่ไม่รู้หรอกนะเพราะแม่ไม่ใช่เขา"

"อ้าว"

"หึๆ แต่แม่ว่าเขาอาจกำลังกลัวอยู่ก็ได้นะต้น กลัวความสัมพันธ์ หรือกลัวอะไรสักอย่าง แล้วคนนั้นเคยมีปมเรื่องพวกนี้บ้างไหมล่ะ"

"ก็พอมีนะครับ แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะหนักอะไร"

"หรือต้นไปทำอะไรให้เขาโกรธ"

"ต้นถามแล้วเขาก็ไม่บอก ดะ เดี๋ยว แม่หลอกถามต้นหรอ" ผมหัวเสียทำหน้างอใส่แม่

"โถ่ แกลูกฉันนะทำไมฉันจะไม่รู้ ว่าแต่หล่อไหม"

"แม่ มั่วแล้ว เขาอาจจะผู้หญิงก็ได้" แม่เบะปากส่ายหัว

"ถ้าผู้หญิงแกไม่เรียกเขาหรอก" ผมอ้าปากมองแม่

"เฮ้อ ครับผู้ชาย" ผมก้มหน้ามองมือ แล้วแม่ก็เอามือมาลูบหัวผม

"เขานะแม่ไม่รู้ แล้วต้นล่ะกลัวไหมกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น" แม่มองหน้าผมจริงจัง

"ทุกคนมีความกลัวทั้งนั้นแหละแม่ แต่ถ้ามันเป็นทางที่เราเลือกทางที่เรารักก็ต้องผ่านมันไปให้ได้แบบที่แม่เคยสอนต้นไง"

แม่ยิ้มให้ผม

"ยังไงแม่ก็อยู่ข้างต้นนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม่อยู่บ้านนี้ตลอดนะ มาได้ทุกเมื่อ หนูไผ่ด้วยก็จะอยู่ข้างต้นเหมือนกัน" ผมยิ้มแล้วโผกอดแม่

"ครับ รักแม่ที่สุดเลย" แต่สิ่งที่ผมไม่ได้บอกแม่คือความสัมพันธ์ที่ผมพูดถึงอาจไม่มีวันได้เริ่มขึ้นเลยก็ได้ แล้วจะให้ผมทำยังไง

นอกจากก้มหน้าทำหน้าที่ให้จบๆไป

  ผมกลับมาถึงบ้านหลังใหญ่ช่วงเย็นๆ ขึ้นไปวางของที่ห้องแล้วลงมาช่วยป้านิ่มทำอาหารเย็น

"คุณต้นกลับมานานหรือยังครับ" คุณกรณ์พึ่งเดินออกมาจากครัวทักขึ้น

"พึ่งมาได้แปปเดียวครับ กำลังจะไปช่วยป้านิ่มพอดี"


"ไม่ต้องหรอกครับ วันนี้นายน้อยไปทานข้างนอกนะครับ คุณต้นทานอะไรหรือยังครับเดี๋ยวผมโทรสั่งให้" ผมพยักหน้า

"ทานกับแม่แล้วครับ ถ้างั้นผมขึ้นไปพักก่อนนะครับ"ผมกำลังจะหันหลังเดินไปก็มีเสียงขัดขึ้น

"เหนื่อยหน่อยนะครับ อยู่กับคนที่ปากแข็ง" ผมหันไปมองหน้าคุณกรณ์

"ครับ?"

"ไปพักเถอะครับ" พูดจบคุณกรณ์ก็เดินจากไปปล่อยผมงงอยู่คนเดียว

คืนนี้พี่ธารก็ยังคงกลับดึก ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกกี่โมงเพราะผมไปเฝ้าพระอินทร์แล้ว ส่วนในเช้าวันจันทร์แสนน่าเบื่อ ผมยังคงโดยสาร

รถไปกับคุณกรณ์เหมือนเดิม แต่วันนี้ก็ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด เพราะพอเริ่มทำงาน จนถึงตอนเกือบเที่ยง โทรศัพท์ที่โต๊ะพี่ธารก็
ดังขึ้น

"ว่าไง"

"อืม ปล่อยเข้ามา" ผมไม่ได้สนใจบทสนทนาต่อตั้งหน้าตั้งตาทำงานก่อนจะได้ยินเสียงเปิดประตู ผมจึงหันไปมองตรงทางเข้า

ผมก็เห็นหญิงสาวสวย ตัวพอดีมือ ใส่กระโปรงสั้นเสมอหู กับเสื้อแขนกุดสีดำ ปากแดงดูก็รู้นี่มันนางเอกชัดๆ(ประชด)

"ธารขา มารุมาแล้วค่ะไปทานข้าวกันนะคะ" เจ้าของชื่อเงยหน้ามองแล้วยิ้มเล็กๆ

"ไปสิผมหิวพอดี ผมขอเก็บของก่อน" หล่อนยิ้มหวานแล้วกวาดตามองรอบห้องก่อนมาสะดุดที่ผม

"นี่ใครคะธาร ทำไมมาทำงานในห้องคุณล่ะ" พี่ธารเงยหน้าขึ้น เหลือบตามาทางผมเล็กน้อยก่อนหันไปยิ้มให้สาวสวยอีกรอบ

"คนที่คุณพ่อหาให้นะ ชื่อต้น" เขาบอกผู้หญิงของเขาก่อนหันมาหาผม

"ต้น นี่คุณมารุ " ผมหันไปมองเจ๊ปากแดงแล้วก้มหัวให้

"สวัสดีครับ"

"อ่อ คนนี้คงเป็นคนที่เขาลือๆกันใช่ไหมคะว่า พ่อคุณจะดันให้คุณ" ผมขมวดคิ้ว

"แหมหน้าตาก็ดี แต่ท่าจะยากนะจ๊ะ ธารนะเขาผู้ชาย" ผมถอนหายใจ ไม่อยากต่อปากต่อคำ

"ผมขอตัวไปทานข้าวก่อนนะครับ" ผมจงใจหันไปพูดกับพี่ธารก่อนเดินผ่านคุณมารุซึ่งหล่อนก็ไม่ยอมให้ผ่านไปง่ายๆ

เธอใช้มือจับแขนผม แล้วจิกเล็บลงมา เล็บยาวๆจิกแบบนี้ผมเลือดซิบแน่ๆ

"ฉันพูดกับนายอยู่กล้าเสียมารยาทหรอ"

"ผมขอโทษครับ แต่ผมไม่รู้จะตอบอะไร ขอตัวนะครับ" แต่หล่อนไม่ยอมยังคงจิกเล็บลงมาหนักกว่าเดิม

"มารุไปทานข้าวเถอะ อย่าไปแกล้งเลขาผมแบบนั้น" ผมหันไปมอง เลยสบตาเข้ากับแววตาเรียบเฉยของคนพูด ความน้อยใจ

ตีตื้นขึ้นมา  ที่ผ่านมาเขาคงเห็นผมเป็นตัวตลก ที่เคยพูดดีกัน คงแค่แกล้งสินะ คิดแล้วขอบตาก็ร้อนผ่าว จุกในอก ผมคิดว่าเขาจะ

เปิดใจกับผม แล้วซะอีก วันนี้ผมเข้าใจแล้ว

"ไม่มีอะไรแล้วขอตัวนะครับ" ผมรีบดึงข้อมือจากคุณมารุที่ยังกำแน่นออก จะมีแผลข่วนแถมก็ช่างมันเถอะผมอยากออกจากที่นี่

ผมรีบเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วล็อกประตู ยืนพิงประตูก่อนค่อยๆนั่งลงกับพื้น น้ำตาไหลแต่ไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้น คงเพราะผมพยายามกลืน

มันลงไปก่อนเข้ามาแล้ว ผมน้ำตาไหลอยู่อย่างนั้นสักพักจนสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าสั่น

ครืด ครืด

ผมจึงหยิบมากดรับสาย

"ครับคุณกรณ์" ผมพยายามทำน้ำเสียงให้นิ่งที่สุด

(คุณต้นอยู่ไหนครับ นายน้อยแจ้งผมว่าคงไม่กลับเข้ามาแล้ว เรากลับไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านเถอะครับ)

"ผมอยู่ห้องน้ำครับ เดี๋ยวผมออกไป"

(ครับ ผมรอลานจอดรถนะครับ)

"ครับ"  ผมวางสายไปแล้วค่อยๆเช็ดน้ำตา ผมบอกกับตัวเองว่าผมต้องไม่ร้องไห้อีก ต้องไม่ร้อง

.....................
  นั่งรถกลับมาถึงบ้าน ผมก็นั่งรอทานข้าวเที่ยงอยู่ที่โต๊ะอาหาร จนคุณกรณ์ที่หายไปตอนจอดรถเดินกลับมา แล้ว
วางบางอย่างตรงหน้าผม มันคือชุดปฐมพยาบาล ผมเงยหน้ามองคุณกรณ์ที่ตอนนี้นั่งข้างๆ ผมแล้ว

"ยื่นแขนมาครับเดี๋ยวผมทำแผลให้"

"ไม่เป็นไรครับ ผมทำเองก็ได้" ผมรีบบอก

"คุณทำไม่ถนัดหรอกครับ มาเถอะ"

"ขอบคุณครับ" คุณกรณ์ค่อยๆเอาสำลีที่ชุบแอลกอฮอลล์เช็ดที่แผลของผม

"ซี๊ดดดด" ผมสะดุ้งเล็กๆ

"เล็บนี้ร้ายกาจเหมือนกันนะครับ แผลคุณลึก แล้วไหนจะรอยข่วนนี้อีก"คุณกรณ์ส่ายหัว

"ไม่เป็นไรหรอกครับ"  หลังจากทำแผลเสร็จก็ทานข้าวกันตามปกติ เสร็จแล้วผมก็ขึ้นไปพักผ่อนคงเพราะผมเหนื่อยมาก

แถมยังร้องไห้อีกผมจึงเผลอหลับกลางวันไปได้ ตื่นมาก็ทำอาหารเย็น เดินเล่นนิดหน่อยแล้วก็เข้านอนเร็วหลังจากที่นอนดึก

มาหลายคืนเพราะใครบางคน ต่อไปนี้ผมจะไม่นั่งรอเขาเพราะเป็นห่วงอีกแล้ว ผมรู้แล้วว่าเขาไม่ได้ไปไหนเขาอยู่กับผู้หญิง

ของเขา เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่ผมต้องห่วงเขาอีกแล้ว


..............
อีกด้านหนึ่งหลังจากที่ต้นขึ้นไปนอนแล้ว ก็มีใครบางคนมายืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ห้องทำงานของเจ้านาย

(ต้นเป็นบ้างว่ะกรณ์) ปลายสายคือนายน้อยเจ้าของห้อง

"ดูเหนื่อยๆนะครับ ป่านนี้คงหลับไปแล้วล่ะครับ"

(แล้วแผลแกทำให้เขาแล้วใช่ไหม แผลรุนแรงหรือเปล่า)

"ลึกแล้วก็เยอะพอควรครับ ผมทำแผลให้แล้ว นายไม่ต้องห่วง"

(ดีแล้วล่ะ เดี๋ยวฉันจะกลับแล้วแค่นี้ก่อนแล้วกัน)

"เดี๋ยวครับนาย ถ้านายห่วงคุณต้นขนาดนี้ทำไมต้องทำหมางเมินกับคุณต้นด้วยครับ"

(แบบนี้ก็ดีแล้ว ให้เราห่างกันเยอะๆ เวลาจากกันจะได้ไม่ผูกพันธ์กัน)

"นายกลัวอะไรครับ ทำแบบนี้ผมสงสารคุณต้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำอะไรผิด ที่ต้องมาเจอแบบนี้"

(ที่ผ่านมาก็ได้รู้จักต้นมากพอแล้ว ยิ่งถลำลึกสักวันฉันจะขาดเขาไม่ได้ปล่อยไปแบบนี้ดีแล้ว)

"ผมว่าตอนนี้นายก็กำลังขาดคุณต้นไม่ได้ครับ แสดงความรู้สึกจริงๆจากใจออกมาก่อนจะสายนะครับ"

(ฉันรู้ว่าฉันต้องทำอะไร แค่นี้นะ)

"ครับ" กรณ์วางสายแล้วได้แต่ถอนหายใจ
..............
  วันนี้ผมตื่นมาทำงานด้วยความสดใส บรรยากาศก็กดดันเหมือนเดิม ผมพยายามทำตัวปกติของผมอยู่ในที่ของผม

สงบสุขเรื่อยมา จนพอใกล้เที่ยง เหตุการณ์ก็เหมือนเมื่อวานเป๊ะ คุณมารุเธอมาอีกแล้ว แล้ววันสงบก็ไม่สงบอีกต่อไป

เธอมาที่นี้ทุกวัน และก่อนออกไปทานข้าวกับพี่ธาร เธอก็ต้องแกล้งแขวะ แกล้งแซะ หรือแม้กระทั่ง แกล้งทำน้ำหกใส่ผม

ผมสงบจนถึงที่สุด ผมพยายามมองเจ้าของห้อง ผมไม่ได้หวังว่าเขาจะช่วยผม แค่เขาห้ามปรามเธอบ้างก็ยังดี ไม่รักกันก็

เห็นใจผมไม่ใจร้ายกับผมนักก็พอ แต่ก็ไม่ได้รับเสียงสะท้อนอะไรกลับมา คุณมารุยิ่งไม่มีคนห้ามก็ยิ่งเอาใหญ่
 
  ในที่สุดก็ถึงวันที่ผมรอคอยวันเสาร์ที่ผมจะได้ไม่ต้องเจอคุณมารุ ตอนเช้าผมตื่นขึ้นมาทำกิจวัตรปกติ พอเกือบๆเที่ยงผมก็

เดินลงไปเตรียมตัวจะทำมื้อเที่ยง กำลังเดินลงมาก็ได้ยินเสียงเหมือนใครคุยกันจึงเดินไปดู แล้วนั้นแหละครับ คุณมารุปากแดง


"ธารคะ พอมารุไปเดินดูรอบบ้านหน่อยนะคะ" อ้อนเข้าไป

"ไปสิ ป้านิ่มครับเดี๋ยวขอของว่างไปตั้งตรงสระว่ายน้ำด้วยนะครับ"

"ได้ค่ะ"

บทสนทนาอยู่ในหูผม ผมเดินเลี่ยงไปเข้าครัว เพื่อเตรียมของให้ป้านิ่ม ส่วนป้านิ่มเมื่อเดินเข้ามาก็จัดของว่างให้แขกทันที จัดเสร็จก็หันมาหาผม

"คุณต้นคะ ป้าวานเอาขนมไปให้นายที่สระว่ายน้ำหน่อยนะคะ เดี๋ยวป้าทำอาหารเที่ยงไม่ทัน" ผมทำหน้าเบ้

"แต่ว่า"

"นะคะคุณต้น" เฮ้อ

"ก็ได้ครับ" ผมรับคำแล้วเดินไปยกของว่างไปรอที่สระน้ำ เดินไปก็เห็นคู่รักโดยมีฝ่ายหญิงเกาะแขนฝ่ายชายชี้โน้นนี้

ผมเดินเอาของไปวางที่โต๊ะริมสระน้ำ แล้วเอ่ยขึ้น

"ของว่างได้แล้วนะครับ" แล้วก็จะเดินหลบไปแต่คุณมารุเอ่ยทักขึ้น

"ตายแล้วนี่อยู่นี้ด้วยหรอ เกาะติด 24 ชั่วโมงเลยนะย่ะ" ผมได้แต่ยิ้มให้ ว่าตัวเองทำไมยายคนนี้

ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์ของพี่ธารดังขึ้นขัดจังหวะก่อนที่คุณมารุจะแซะผมต่อ

"ต้นนายอยู่เป็นเพื่อนมารุแปปนะ ฉันไปคุยธุระก่อน" แล้วพี่ธารก็เดินไปโดยไม่ถามสุขภาพผมสักคำ

เมื่อเจ้าของบ้านเดินไปผมจึงยืนนิ่งๆเป็นหุ่นเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเจ๊ปากแดง

"นายนี้มันหน้าด้านจริงๆเลยนะ ฉันทำขนาดนี้น่าจะรู้ว่าไม่ต้อนรับยังทนอยู่ได้"

"เจ้านายผมยังไม่ได้ไล่ผมออกนี้ครับ"

"ต๊ายยย นี่นายไม่รู้จริงๆหรือไง คนอย่างธารนะเขาไม่ออกปากไล่ตรงๆหรอก" ผมคิ้วกระตุก

"โถๆๆ ที่ฉันด่าแก แกล้งแกกดดันให้แกทนไม่ได้ แล้วเขาก็ไม่ว่าไม่ห้ามฉัน แกก็น่าจะรู้นะว่า เขาอนุญาตให้ฉันทำ" ผมช็อคกับคำพูดเธอ


"หมายความว่า เขาเป็นคนให้คุณทำแบบนี้งั้นหรอ" ไม่จริงใช่ไหม ผมคิดว่าที่พี่ธารไม่ห้ามเพราะเห็นเป็นผู้หญิงและเป็นคนที่ควงด้วยเลยไม่อยากว่าเพราะยังไงผมก็เป็นผู้ชาย โดนผู้หญิงแซะคงไม่ใช่เรื่องใหญ่


"อยากรู้แกก็มานี้สิ ฉันจะบอกให้ ถือว่าเอาบุญ" เธอเรียกผมให้ไปที่ริมสระน้ำ ผมเดินไปตามที่เธอบอกก่อนเธอจะโน้มตัวผมเพื่อไปกระซิบข้างหู

"เขาให้ฉันทำอีกอย่างด้วยนะ รู้ไหมอะไร" ผมส่ายหน้าและตั้งใจฟัง

"ก็ แบบนี้ไง"

ตู้มมม

ว่าเสร็จเธอก็ผลักผมลงน้ำ

" ฮ่าฮ่าฮ่า โง่สิ้นดี สมควรแล้วที่ธารไม่เอา หลอกง่ายชะมัด" ผมโผล่ขึ้นจากน้ำได้ยินคำพูดนั้นพอดีแต่ผมไม่ได้สนใจ

เพราะสิ่งที่สนใจตอนนี้คือผมว่ายน้ำไม่เป็น เธอกำลังจะหันหลังไปผมต้องเรียกเธอ

"ช่วยด้วย คุณมารุ ผม ว่าย  น้ำ ไม่เป็น "

"โอ๊ย แกนี้มันโง่จริงๆ ฉันไม่เชื่อแกหรอกจะดึงฉันตกน้ำด้วยล่ะสิ ฉันไม่โง่หรอก ไปหาธารดีกว่าที่นี่ร้อน ชิ" เธอสะบัดหน้า

แล้วเดินไปทันที ก่อนหันมายิ้มแสยะ แล้วพูดบางคำที่ผมพอจะอ่านปากได้

"สมน้ำหน้า"

"เดี๋ยว ช่วยผม ชะ ช่วย ผม ดะ ด้วย ผะ ผม ว่ายน้ำไม่เป็นจริงๆ"

ไม่มีใครอยู่แล้วเรียกใครไปก็ไม่มีใครได้ยิน พี่ธารก็จะไล่ผมไป อยากให้ไปทำไมไม่บอกผมตรงๆ ไม่เห็นต้องใช้คนอื่นให้วุ่นวาย

ผมค่อยๆหยุดดิ้นแล้วปล่อยให้ตัวเองค่อยๆจมลงในน้ำ ผมทำอะไรผิดถึงต้องทำแบบนี้

ฮึก ฮึก เสียงสะอื้นที่แม้แต่ตัวผมเองยังไม่ได้ยิน ถ้าผมไปให้พ้นๆ คุณคงดีใจ เข้าใจแล้วที่ไม่เคยพูดไม่เคยปกป้อง มันเป็นแบบนี้

เอง ผมรู้สึกดีกับพี่นะ พี่ได้ยินหรือเปล่า แต่ผมคงไม่ได้มีโอกาสบอกแล้วล่ะ ถึงพี่จะเกลียดผมก็เถอะ ผมขอโทษนะที่เข้ามาทำให้

ชีวิตพี่วุ่นวายไปหมด ผมมันผิดเอง ต่อไปผมจะไม่มากวนพี่อีกแล้ว ลาก่อน ก่อนที่สติผมจะดับวูบไป

...........................
ลานจอดรถหน้าบ้านมีรถหรูคันหนึ่งมาจอด ก่อนที่เจ้าของรถจะลงจากรถแล้วเดินมาทักเลขาหน้าหล่อที่กำลังคุยกับลูุกน้องอยู่

"กรณ์หวัดดี เป็นไงว่ะ"

"สบายดี แล้วแกมาทำไม"

"ฉันมาหาต้น ไม่ได้เจอนานพอดีไปธุระให้คุณลุงมาเลยซื้อของมาฝากด้วย"

"อ่อ มีแผนนี่เอง คุณต้นอยู่ในบ้านนะไปสิ เดินไปด้วยกัน" 2ร่างสูงหล่อเดินเข้ามาในบ้านก่อนจะเดินมาหาป้านิ่มที่จัดโต๊ะอยู่

"ป้านิ่มครับคุณต้นล่ะครับ" กรณ์ถามร่างท้วมที่จัดโต๊ะอยู่

"ป้าให้เอาขนมไปให้คุณธารที่สระค่ะ" ก่อนที่ทั้งหมดจะได้ยินเสียงใครคุยกันมาแว่วๆ

"อ้าว คุณธารแล้วคุณต้นล่ะคะ" เจ้าของชื่อขมวดคิ้ว

"เมื่อกี้มารุเขาบอกเข้ามาในบ้านแล้วนะครับ"

"ใช่ค่ะ ไปอู้ที่ไหนหรือเปล่าก็ไม่รู้" มารุพูด

"แต่ตั้งแต่เดินเข้ามาผมยังไม่เห็นเลยนะครับ" เทียนพูดขึ้น

"เดี๋ยวผมไปดูที่สระให้ดีกว่าครับ" กรณ์เอ่ยอาสา

"ผมไปด้วยครับ" เทียนกล่าว

"ฉันเดินไปด้วยแล้วกันหาหลายๆคนจะได้เจอไวๆ" เจ้าของบ้านกล่าวขึ้นก่อนจะเดินตามไปแต่ถูกหญิงสาวดึงแขนไว้เสียก่อน

"โอ๊ยไม่ต้องไปหรอกค่ะ ป่านนี้คงแช่น้ำสบายใจแล้ว"

"คุณหมายความว่าไงครับ" กรณ์ที่กำลังเดินหันมาถามหญิงสาว

"ก็เห็นอากาศร้อน มารุเลยให้เขาเล่นน้ำคลายร้อนนิดหน่อยค่ะ" กรณ์ตาโต

"คุณจะบ้าไปแล้วหรอ คุณต้นเขาว่ายน้ำไม่เป็น" จบคำของกรณ์ เทียนก็ตกใจรีบวิ่งไปยังสระน้ำทันที รวมถึงธารที่แทบจะผลัก

มารุแล้ววิ่งตามไปด้วยอีกคน แต่โดนดึงแขนไว้ไม่ปล่อย

"ถ้าคุณต้นเป็นอะไรไป คุณไม่ได้มายืนแบบนี้แน่ๆคุณมารุ" กรณ์พูดกับมารุก่อนวิ่งตามไปอีกคน

ถึงสระน้ำเทียนแทบคลั่งกับภาพที่เห็น ต้นนอนจมอยู่ที่สระว่ายน้ำ เทียนจึงรีบกระโดดลงไปทันที

เทียนดำลงไปประคองร่างของต้นขึ้นมาให้เหนือผิวน้ำแล้วว่ายเข้าฝั่ง เอาร่างของต้นขึ้นจากสระแล้วตนเองก็ขึ้นตามมา

"ต้นได้ยินพี่ไหม ฟื้นสิต้น" เทียนใช้มือตบเบาๆที่แก้ม ธารกับกรณ์ที่วิ่งตามมาทีหลัง รีบเข้าไปดูต้น ธารกำลังจะขาดใจกับภาพตรงหน้าร่างซีดเผือดของต้นแน่นิ่ง ธารค่อยๆเดินมาจับที่ขาของต้นแล้วเขย่าเบาๆ

"ต้น ฟื้นมาคุยกับพี่สิ พี่ยังไม่ได้บอกต้นเลยนะว่าพี่โกรธอะไร" ธารพึมเพาเบา เขารู้สึกเหมือนร่างกายอ่อนแรงไปหมด มันเกิดอะไรกับเขา

"ตื่นขึ้นมาสิ ที่ไม่ตื่นเพราะโกรธพี่ใช่ไหม พี่รู้แล้วตื่นขึ้นมาคุยกันก่อนนะ พี่สัญญาจะไม่ทำตัวใจร้ายอีก"

ธารรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบจนเจ็บ  ขอบตาร้อนเหมือนน้ำตาจะไหล แต่เขาก็พยายามกลั้นเอาไว้ แล้วจ้องร่างของต้นส่งสายตา

อ้อนวอนเพื่อให้คนตรงหน้าฟื้นขึ้นมา
 
"ต้นครับ นี่พี่เทียนนะ ได้ยินไหมฟื้นสิ" ขณะที่ธารกำลังจะขาดใจ เทียนก็พยายามที่จะเรียกต้นกลับมา ด้วยการทำ cpr

"ต้น ฟื้นสิ "เทียนทำอยู่เป็นสิบครั้งก็ไม่มีทีท่าว่าร่างแน่นิ่งจะฟื้นเลย เทียนนั่งหอบ จนคิดวิธีสุดท้ายได้คือการผายปอด

ธารได้แต่นิ่งมองดูเทียนช่วยชีวิตต้น แต่ตัวเองแม้แต่ยอมรับใจตัวเองยังไม่กล้าพอเลย เทียนค่อยๆก้มลงไปจะผายปอดให้ต้น

หน้าขยับเข้าใกล้เรื่อยๆ ใกล้จนปากเกือบชนปาก

"แค่ก แค่ก " ร่างที่นอนแน่นิ่งสำลักน้ำขึ้นมา ทำให้ทุกคนได้สติ ธารที่กำลังจะเข้าไปกอด กลับโดนเทียนชิงตัดหน้าดึงต้นขึ้นมา

กอดไว้แนบอกแล้วลูบหลังไปมา

"ฟื้นแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว ดีใจที่สุด" เทียนกอดต้นไว้แนบอก ก่อนคนในอ้อมกอดจะค่อยๆประคองสติขยับมาดูหน้าเจ้าของอ้อมกอด

"พะ พี่เทียน" ก่อนจะค่อยๆหันไปดูรอบๆแล้วมาหยุดตรงคนที่อยู่ปลายขา จนเผลอส่งสายตาตัดพ้อไปให้ ทำเอาธาร ช็อคกับ

สายตานั้น เพราะเขาไม่เคยได้รับสายตาแบบนั้นจากน้องเลย ต้นจ้องอยู่สักพักก่อนสติจะค่อยๆหายไปแล้วสลบลงในอ้อมแขน

ของเทียนอีกครั้ง

"ต้น ต้น กรณ์ตามหมอเร็ว" ธารสั่งกรณ์

"รีบพาคุณต้นเข้าบ้านเถอะครับ"กรณ์บอก เทียนจึงอุ้มต้นขึ้นมาแล้วเดินตามกรณ์ไปยังห้องนอน และจัดการให้ป้านิ่มเช็ดตัว

แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนปล่อยให้หมอดูอาการ

..........................

ต่อด้านล่างค่ะ
[/color]

ออฟไลน์ Garuda8

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
ต่อจากด้านบน


 ผมพลาดเองผมไม่น่าให้มารุอยู่กับต้น ทั้งที่ก็รู้ว่ามารุต้องหาเรื่องแกล้งต้น ตอนที่ผมไปเจอต้นที่สระใจผมจะขาดให้ได้มันจุกไป

หมด ถ้าผมต้องเสียต้นไปผมจะทำยังไง ตอนนี้ไอ้เทียนกลับไปแล้วและบอกว่าวันหลังจะมาเยี่ยมใหม่ เทียนเป็นคนช่วยต้น

 แต่ผมกลับเป็นคนผลักต้น ผมมันแย่ที่สุด คุณหมอบอกกับผมว่าอาการต้นไม่มีอะไรแล้ว ให้นอนพักผ่อน ให้เต็มที่อาจมีอาการ

ไข้ขึ้นตอนกลางคืน ผมอาสาจะเป็นคนดูแลเขาเอง เหมือนที่เขาเคยทำให้ผม แต่ตอนนี้เรื่องสำคัญที่ต้องจัดการคือ มารุ

หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าผม ผมควงเธอเพื่อต้องการออกห่างจากต้นแล้วจะได้เลิกคิดเรื่องเขา เพราะผมคิดว่าที่เชียงรายเราใกล้กัน

มากไป ผมกลัวจะหลงรักเขาขึ้นมาจริงๆ ผมจะแพ้คนรักก่อนต้องแพ้ผมคิดแบบนั้น เพราะผมเคยเป็นแบบนั้น ผมไม่อยากเจ็บ

เพราะความรักอีกแล้ว แต่ผมคิดผิดผมหลงรักเขาไปแล้วต่างหาก


"คุณทำอะไรมารุ" ผมกัดฟันถาม

"ก็มารุคิดว่าคุณคงรำคาญเลยหาทางแกล้งให้มันทนไม่ได้ไงคะ"

"ที่คุณทำมันพยายามฆ่าได้เลยนะ ถ้าต้นเป็นอะไรจริงๆผมเอาคุณตายแน่" ผมพูดด้วยความโมโห

"แต่ที่ผ่านมาคุณไม่เห็นจะว่าเลยเวลาแกล้งมัน"

"อย่าเรียกคนของผมว่ามัน ที่ไม่พูดเพราะเห็นว่าคุณคงคิดได้ซึ่งผมพยายามบอกคุณตลอดว่าอย่าทำแบบนั้นแต่คุณก็ไม่ฟัง" ผมตะโกนใส่เธอ

"คุณธาร คุณชอบมันหรอ ถึงขึ้นเสียงใส่ฉันนะ"

"ใช่ ผมชอบเขาไม่ใช่แค่ชอบด้วยผมรักเขามาก จนอยากจะฆ่าคุณให้ตายคามือตอนนี้เลย" ผมกำมือแน่น

"คุณมันบ้า ฉันอุตส่าห์หวังดี" ผมโมโหจนเอามือบีบคอเธอ จนเธอนิ่วหน้า

"อย่ามาสาระแนอีก คุณก็รู้เราแค่สนุกกันเท่านั้น คุณจะแกล้งใครบนโลกผมไม่สน แต่ต้นมีแค่ผมเท่านั้นที่ทำได้ คนอื่นไม่ต้องยุ่ง

 แล้วไอ้มือนี้ใช่ไหมที่ทั้งจิกทั้งผลักคนของผม"

"อื้อ เจ็บนะ คุณจะทำอะไร" เธอทำเสียงหวาดกลัว

"ไอ้กรณ์ เอายัยบ้านี้ไปทำอะไรก็ได้ที่มือมันจะใช้ไม่ได้ชั่วคราว" ผมสั่งลูกน้อง แล้วเหวี่ยงเธอไปทางกรณ์

"ครับนาย" กรณ์รับคำแล้วลากตัวมารุออกไป

"อย่านะ ปล่อยฉัน ไอ้บ้า แกมันวิปริต"

เสียงค่อยๆเงียบไป  จนผมจมอยู่กับตัวเอง เรื่องราวเมื่อกลางวันก็ฉายเข้ามาอีก ต้นกำลังจะไปจากผม เพราะผม

"ฮึก ฮึก พี่ขอโทษ ฮึก " น้ำตาผมที่กลั้นไว้ค่อยๆทลายลงมา ขาผมอ่อนลงเรื่อยจนคุกเข่า ยกมือขึ้นจับอยู่ที่หัวใจ มันเจ็บไปหมด

"ฮึก อย่าทิ้งพี่แบบนี้อีกนะ พี่จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว ฮือ "  น้ำตาลูกผู้ชายทลายออกมาจนแทบไม่เหลือ ผมเกือบเสียเขาไปแล้ว


"ฮึก ต่อไปนี้ต้นไม่มีสิทธิ์ไปจากพี่ ถ้าพี่ไม่ให้ไป" ผมหายใจไม่ออกจนต้องหายใจทางปาก

แกร๊ก

"นายน้อย ไหวไหมครับ"  เสียงของกรณ์ถามด้วยความเป็นห่วง

"ฮึก กู เกือบ ฮึก จะไม่ไหวแล้ว ถ้ากู เสีย ฮึก ต้นไปกูจะทำยังไง"

"ไม่เป็นไรครับนายตอนนี้ยังไม่สายคุณต้นยังอยู่ เริ่มใหม่นะครับ"

"ฮึก ต้นต้องเกลียดกูแน่ๆ กูเจ็บกับสายตา ฮึกน้อง"

"คุณต้นยังทนสายตาหมางเมินของนายได้เลยนะครับ แค่นี้ทำไมจะทนไม่ได้ล่ะครับ แสดงความจริงใจออกไปให้คุณต้นรู้คุณต้นต้องเข้าใจ"

"ฮึก ขอบใจมึง กูรู้แล้วว่าเวลากำลังจะเสียของรักมากๆไปมันเป็นยังไง ฮึก"

"นายน้อยรักคุณต้นแล้วใช่ไหมครับ" ผมเม้มปากพยักหน้า

"ใช่ กูรักเขามาก กูไม่เคยรู้เลยว่ารักเขามากขนาดนี้ จนกูเกือบเสียเขาไปแล้ว ต่อไปนี้กูจะไม่ให้เขาไปจากกูได้อีก"


Tbc
[/color][/size]

 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
 :m15: :m15: :m15:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2019 13:29:53 โดย Garuda8 »

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
กว่าจะรู้ตัวก็เกือบสายนะคุณธาร

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เราว่าสายไปแล้วแหละ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Garuda8

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
ตอนที่ 8

ขอโทษ

"อะไรนะต้นจมน้ำ" ผมตกใจมากเมื่อได้ทราบข่าวจากกรณ์ ที่ขับรถมารายงานความคืบหน้าด้วยตัวเองกลางดึก

"ครับ แต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้วครับ นายน้อยอาสาดูแลไม่ห่าง"

"ใครมันทำลูกสะใภ้ฉัน" ผมถามคนในปกครอง

"คุณมารุครับ"

"อ่อ เด็กใหม่ไอ้ลูกหมา ที่ปากเหมือนกินเลือดตลอดนะหรอ"

"ใจเย็นครับนาย ผมจัดการเธอเรียบร้อยแล้ว"

"จะให้เย็นยังไงไหว ถ้าต้นเป็นอะไรไปฉันจะเอาปัญญาที่ไหนทำลูกคืนแม่เขา"

"แต่ตอนนี้โอเคแล้วครับ อย่ากังวลไป"

"ไอ้ธาร ไอ้ลูกไม่รักดียื่นของดีๆให้เสือกจะกินของเน่า" ผมบ่น

"แต่ตอนนี้นายน้อยหน้าสงสารนะครับ สำนึกผิดไม่ทันเลย"

"สมควรหรอก มันควรจะสำนึกได้ตั้งแต่ไม่คุยกับต้นครบ 24 ชั่วโมงแล้ว ใครสั่งใครสอนให้ทำแบบนี้"

"ตอนนี้คงไม่ทำแล้วละครับ คงกลัวคุณต้นไม่ชอบ"

"ไม่ชอบสิดี โดนซะบ้าง"

"ว่าแต่เราจะเอายังไงต่อครับนาย ตอนนี้นายน้อยก็สารภาพกับผมหมดแล้ว" กรณ์ถามขึ้น

"รอดูท่าทีต้นก่อน ค่อยว่ากันอีกที ส่วนแกก็กลับไปได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะไปเยี่ยมต้นที่บ้าน" ผมเอ่ยไล่กรณ์

"ครับนาย แล้วเจอกันครับ" กรณ์ก้มหัวให้ผมแล้วเดินออกไป ผมเดินวนไปวนมาเป็นหนูติดจั่น เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้
เรื่องที่ได้รับรู้ ทำให้ผมเดาไม่ถูกเลยว่า ลูกสะใภ้ผมจะจัดการยัง ถึงต้นจะดูใจดีมองโลกในแง่บวก แต่ถ้าได้โกรธคงจะหนักไม่น้อยแกคงต้องเหนื่อยแน่ๆไอ้ลูกหมา

...........................
 
        ปวดหัวจังเลย ตาก็หนัก หายใจทีก็แสบจมูกไปหมดสงสัยผมคงเป็นไข้แน่ๆ ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาเจอกับฝ้าสีขาวคุ้นตาของ
ห้องนอนที่นอนประจำ กระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับสายตา มองไปรอบๆก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงของพี่ธาร ผมค่อยๆพยุงตัวเอง
ลุกขึ้นนั่ง แล้วก็ทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น จนจำได้ว่าตัวเองจมน้ำ แล้วลืมตาขึ้นมาอีกทีก็เจอพี่เทียนที่เป็นคนช่วยผมไว้ แล้วก็เห็น
พี่ธารก่อนจะสลบไป คิดได้แบบนั้นก็มองหาเจ้าของห้อง แต่ก็ไม่พบ ความน้อยใจตีขึ้นมาอีกแล้ว แสบจมูกเลย ผมจึงเลิกคิด
แล้วบอกกับตัวเองว่า เรามันลูกจ้างโอเค ต่อไปนี้อยากให้เป็นอะไรก็จะเป็น เมื่อเป็นแบบนี้ลูกจ้างมานอนบนเตียงเจ้านายคงไม่ดี
ผมจึงขยับเพื่อหย่อนเท้าลงพื้น และลุกไปเก็บของแล้วย้ายไปห้องเก่าตัวเอง

แอ๊ด

"จะทำอะไรต้น" ผมหันไปตามเสียงประตูห้องที่เปิดอยู่เจอพี่ธารถือถาดข้าวต้มเข้ามา พอเห็นผมกำลังจะลงจากเตียงจึงรีบ
เดินเข้ามาวางถาดที่โต๊ะหัวเตียงแล้วเดินมานั่งข้างผมทันที

"ผมจะกลับไปนอนที่ของผมครับ นี่เตียงคุณมันจะดูไม่ดี" คนฟังขมวดคิ้ว

"นายไม่สบายอยู่ จะไปนอนที่โซฟาได้ยังไง" พี่ธารทำหน้าดุ

"เปล่าครับผมจะกลับไปนอนที่ห้องเดิม"

"ทำไม" พี่ธารเสียงดังจนผมสะดุ้ง

"ผมเห็นว่าอยู่ในห้องนี้ก็ไม่มีประโยชน์ คุณนราธร จ้างผมมา ผมจะมาอยู่ห้องเดียวกับเจ้านายคงไม่เหมาะ" ผมมองหน้าเขา
เห็นแววตาเศร้าอยู่ครู่หนึ่ง

"ไม่พี่ไม่ให้ไป อยู่นี่แหละพี่จะดูแลต้นเองให้เราหายก่อน พี่มีเรื่องจะคุยด้วย" ผมได้แต่ถอนหายใจ

"แล้วคุณจะนอนไหนครับ อย่าบอกว่าโซฟา" ผมถามเพราะสงสัย

"ก็นอนบนเตียงกับต้นนั้นแหละ" ผมตาโต

"ไม่ได้" ผมเสียงดังจนเขาหัวเราะ

"หึ หึ อะไรที่เชียงรายก็นอนด้วยกันมาแล้ว ที่นอนก็เล็กกว่าอีก"

"แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน"

"ไม่เหมือนยังไง ก็มีพี่แล้วก็มีต้น" ผมมองหน้าเขา นี่เขาจะปั่นหัวอะไรผมอีก

"คุณธารถ้าคุณอยากให้ผมไปจากที่นี่คุณบอกผมตรงๆก็ได้นะ เลิกปั่นหัวผมสักที ผมตามคุณไม่ทันหรอก" ผมมองเขานิ่งๆ

"พี่ไม่ได้คิดอย่างนั้นนะ อย่าเข้าใจผิดสิ ไว้เราดีขึ้นอีกนิดพี่จะอธิบายให้ฟัง"

"ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจดี ไม่ต้องอธิบายอะไรหรอกครับ"

จบคำพี่ธารก็จับไหล่ผมทั้ง 2 ข้างให้หันมาทางเขา เหมือนกันผมจะหนีหน้า

"พี่ไม่เคยอยากให้เราไปเลยนะ"

"แล้วสิ่งที่คุณทำตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาล่ะครับ มันชัดเจนจะตายไป" ผมจ้องหน้าเขา

"ไม่ใช่อย่างนั้น ฟังพี่นะคือว่า.." เขาพูดไม่ทันจบผมก็แทรกขึ้นทันที

"ไม่ต้องบอกผมหรอกครับ มันไม่มีความหมายอะไรแล้วเพราะตอนที่ผมต้องการฟังพี่ไม่เคยคิดที่จะพูดฉะนั้นตอนนี้ผมไม่อยากฟังแล้วเลิกพูดเถอะครับ"

   ผมเอามือพี่ธารออกจากไหล่ทั้ง2ข้าง แล้วค่อยๆลุกขึ้นเดินไปห้องน้ำ ผมสาบานได้ว่าผมเห็นแววตาเสียใจจากดวงตาเขา
ไม่ใช่ว่าผมจะไม่ฟังเขานะ แต่ขอทำใจแปปนึงของอนก่อนจะได้ไหมล่ะ ผมไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล ผมรับฟังเขาแน่แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ผมทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จก็เดินออกจากห้องน้ำ เจอคนตัวโตยังคงนั่งอยู่ที่เตียง

"เสร็จแล้วก็มาทานข้าวเถอะ จะได้ทานยา" เขาตบที่เตียงเพื่อให้ผมไปนั่งข้างๆ ผมเดินไปนั่งตามที่เรียก

"อ้าปากสิเดี๋ยวพี่ป้อน" เดี๋ยวนะ

"ผมทานเองได้ ส่งถ้วยมาสิครับ" ผมยื่นมือไปที่ถ้วยข้าวต้มแต่พี่ธารเอาหลบ

"ไม่ เดี๋ยวพี่ป้อนเอง เรายังไม่ค่อยมีแรงหรอกเดี๋ยวหก" ผีเข้าแน่ๆมันใช่คนเดียวกับอาทิตย์ที่แล้วหรือเปล่าเนี่ย

"ตกลงคุณหรือผมที่ไม่สบายเนี่ย คุณควรไปหาหมอบ้างนะ เผื่อเป็นไบโพลาร์"

"หึ หึ อ้าปากเถอะเดี๋ยวเลยเวลา จะไม่ได้กินยาพอดี" ผมคว่ำปากแล้วพยักหน้าอ้าปากรอข้าวจากเขา เป็นลูกนกเลย

"อ้าม พี่เป่าแล้วรับรองไม่ร้อน" อีหยังว่ะ

"ผมไม่ใช่เด็กนะคุณ" อ้าม แบบนี้จนหมดถ้วย แล้วพี่ธารก็ส่งยาให้ผมทาน

ก็อก ก็อก ก็อก

"นายครับ นายใหญ่มาขอพบครับ" เสียงจากคุณกรณ์ดังมาจาหน้าประตู พี่ธารจึงเดินไปเปิด

"บอกไปฉันไม่ว่าง กลับไปก่อน" แล้วพี่ธารก็กำลังจะปิดประตูลง

หมับ

"ไอ้ลูกเวร ฉันพ่อแกนะโว้ย อีกอย่างฉันมาเยี่ยมลูกต้นของฉัน ลูกหมาอย่าแกไม่เกี่ยว" แล้วคุณพ่อก็ดันประตู แล้วผลักอก
เจ้าของห้องให้พ้นทาง แล้วเดินมาทางผม

"ต้นเป็นไงบ้างลูก" ผมยิ้ม

"สวัสดีครับ ผมไม่เป็นอะไรแล้วล่ะครับแค่มีไข้นิดหน่อยเดี๋ยวก็หายแล้วครับ" คุณพ่อยิ้มแล้วพยักหน้า

"ดีแล้วแหละ ถ้าหายดีแล้วพ่อคิดว่า ต้นย้ายไปทำงานกับคนอื่นดีกว่าไหมทำกับไอ้ธารเห็นทีจะไม่ดี แค่ว่าที่เมียคนเดียวยังดูแลไม่ได้"

"พ่อ ห้ามเอาต้นไปไหนอยู่นี้แหละดีแล้ว" คนตัวโตเสียงดังขึ้น

"ตัวแกเองไม่ดูแลน้องเองฉันก็จะให้น้องไปอยู่กับคนที่ดูแลเขาได้สิฉันจะได้หายห่วง ต้นว่าไงสนใจไหม" ผมยิ้ม

"แล้วแต่คุณพ่อเถอะครับ"

"ไม่ได้ พ่อไปคุยกับผมเดี๋ยวนี้" พี่ธารเสียงดังจนผมสะดุ้ง แล้วก็ลากคุณพ่อออกไป ไม่วายคุณพ่อยังหันหลังมาโบกมือให้ผม

"พักผ่อนนะลูกต้น พ่อไม่กวนแล้ว เดี๋ยวเจอกันใหม่ ขอเคลียเรื่องเล่าเช้านี้กับลูกหมาก่อน" แล้วคุณพ่อก็โดนลากจนพ้นประตูไป

ผมส่ายหัวแล้ว เอนตัวลงนอนคงเพราะฤทธิ์ยาทำให้ผมหลับทันทีที่หัวถึงหมอน


.................
 
ไอ้ลูกตัวดีมันลากผมมาที่ห้องทำงานของมัน

"พ่อ ที่พูดหมายความว่าไงพ่อจะเอาต้นไปไหนไม่ได้นะ" อยากจะแหมให้ถึงเชียงใหม่

"ก็แกให้เด็กแกผลักเขาตกน้ำ แสดงว่าแกคงสุดทนจริงๆฉันก็จะเอาเขาไปให้พ้นหูพ้นตาแกไง"

"ไม่จริงนะ ผมไม่ได้อยากให้ต้นไปไหนพ่อห้ามเอาต้นไปไหนเด็ดขาด"

"ทำไม ทีอาทิตย์ก่อนยังควงสาวสวยทิ้งลูกต้นของฉันกอดหมอนนอนหนาวทุกวันอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ" ลูกชายผมหน้าสลด

"ผมขอโทษพ่อ ผมคิดน้อยไปหน่อย ผมแค่กลัวผลมันจะเหมือนเดิม" ได้ฟังแล้วก็หมั่นไส้ตบหัวมันไปที

"อย่าเพ้อเจ้อสิ ที่นอนในห้องแกชื่อต้น ไม่ใช่คนที่เคยหักหลังแกอย่ามโน ตื่นครับลูก"

"ก็ผมตื่นแล้วไง จะไม่ทำอีกแล้วแต่พ่ออย่าเอาต้นไปไหนนะให้ผมง้อน้องก่อน น้องโกรธผมอยู่เนี่ย"

"โกรธอะไรฉันก็เห็นยังนอนห้องเดียวกัน คุยกันอยู่เลย" ผมถาม

"โกรธสิก่อนเกิดเรื่องเรียกผมพี่ พอตื่นขึ้นมาก็กลายเป็นคุณห่างเหินเชียว ใจจะขาดแล้วพ่อน้องไม่ยิ้มให้ผมเลย"

ดูทำหน้า ดูไม่จืดหมดมาดเลย

"ฉันไม่เอาลูกสะใภ้ฉันไปไหนหรอก แต่เรื่องง้อไปง้อเอง"

"โห พ่อ พ่อรู้จักต้นดีบอกผมหน่อยควรทำไง" เฮ้อ ตอนดีกันไม่เห็นเรียกกูไปดูเลย ชิ

"แกก็บอกต้นไปสิว่าเพราะอะไรแกถึงทำแบบนั้น ต้นนะใจดีเดี๋ยวพอเข้าใจก็หายโกรธ"

"ผมจะอธิบายแล้วแต่ต้นไม่ฟัง"

"โอ๊ย แกลูกฉันหรือเปล่าเนี่ย แกทำกับเขาแบบนั้น พอเขาตื่นมายังคุยกับแกไม่กระทืบแกก็แสดงว่าเขาน้อยใจ ก็คงงอน
เท่านั้นแหละพยายามหน่อย อะไรว่ะนอนห้องเดียวกันไม่เคยรู้หรือไงต้นเป็นยังไง เคยเห็นเขาโกรธใครไหมล่ะ" ธารส่ายหน้า

"ไอ้ธาร แกนี้มันควายในร่างคนชัดๆ" มึงเป็นใครคายลูกกูมา

"ก็พอเรื่องนี้ผมคิดไม่ออกทุกทีว่าจะทำไง" ความรักทำให้คนโง่ว่างั้น

"รักเขาแล้วสิ" มันพยักหน้า

"พยายามแล้วกันพ่อช่วยแกมาเยอะแล้วนะ"

"ครับพ่อ" ผมได้แต่ส่ายหน้ากับลูกชายทีเป็นเรื่องความรักจากหนุ่มหล่อก็กลายเป็นเด็กชายทันที

....................

  ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนบ่ายกว่าๆ อาการปวดหัวในตอนเช้าเบาลงกว่าเดิม ร่างกายเบาขึ้นแต่ตัวยังอุ่นๆอยู่นิดหน่อย
ผมหันไปมองรอบตัวก็เห็นพี่ธารนั่งอ่านเอกสารอยู่ที่โซฟาและกำลังหันมาทางผมพอดี

"ตื่นแล้วหรอ หิวไหมเดี๋ยวพี่ให้เด็กเอาข้าวมาให้" ผมค่อยๆลุกขึ้นโดยมีพี่ธารที่รีบเดินมาช่วยประคอง

"นิดหน่อยครับ แต่ทานเลยก็ได้จะได้ทานยา" เขาพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้องเพื่อไปเอาอาหารกลางวัน ใช้เวลาไม่นาน
เขาก็กลับมาพร้อมอาหาร ซึ่งรอบนี้ผมทานเองเพราะเขาก็ทานของเขาเหมือนกัน ทานเสร็จผมก็ทานยาและเอนหลังเล่นโทรศัพท์

ก็อก ก็อก ก็อก

"คุณต้นหลับหรือเปล่าครับ" เสียงคุณกรณ์อีกแล้วเหมือนฉายหนังซ้ำเลย

"เปล่าครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ"

"คุณเทียนมาเยี่ยมครับให้เข้าไปได้ไหมครับ" อ่า ฮีโร่ผม

"ได้ครับ/ไม่ได้" เสียงพี่ธารดังขึ้นพร้อมผม ผมหันไปมองหน้าเข้าที่นั่งตรงโซฟาปลายเตียง

"ตกลงยังไงครับ"พี่กรณ์ถามขึ้นอีก

"เอ่อ ได้ครับเข้ามาเลย" สักพักประตูก็เปิดออกพร้อมด้วยร่างของพี่เทียนที่เดินยิ้มมาแต่ไกล

"ต้น เป็นไงบ้างดีขึ้นไหม" พี่เทียนพูดพร้อมกับเดินมาหาผมที่เตียงและนั่งลงข้างกันโดยไม่สนใจเจ้าของห้อง

"ดีขึ้นเยอะแล้วครับ ผมต้องขอบคุณพี่เทียนมากเลยที่ช่วยผมไว้ไม่งั้นผมแย่แน่ๆ" ผมพูดแล้วยกมือไหว้พี่เขา

"ไม่เป็นไร รู้ไหมใจพี่จะขาดตอนพี่เห็นเรานิ่งไปแบบนั้น พี่เป็นห่วงเรามากนะ" พี่เทียนเอามือมาลูบหัวผม

เคร้ง

ผมกับพี่เทียนหันไปตามเสียงที่อยู่ตรงมุมห้อง

"ใครแม่งเอาถังขยะมาตั้งตรงนี้ว่ะ ขวางตีนฉิบหาย" ผมมองพี่ธารที่หัวเสียบ่นเรื่องถังขยะแล้วส่ายหน้า แล้วหันมาคุยกับพี่เทียนต่อ

"ขอบคุณครับที่เป็นห่วง ถ้าผมหายแล้วพี่จะให้ผมทำอะไรตอบแทนบอกได้เลยนะครับ"ผมยิ้มให้

"งั้นไปเที่ยวกับพี่แล้วก็ดินเนอร์สักมื้อเป็นไง"

เคร้ง ตุบ เคร้ง

ผมกับพี่เทียนหันไปตามเสียงอีกครั้ง

"ทำไมวันนี้ห้องมันรกแบบนี้ว่ะ ทำความสะอาดภาษาอะไรกันว่ะ  จะสะดุดตอตายอยู่แล้ว"

"นี่คุณธาร ถ้ามันรกมากคุณก็ไปเรียกเด็กมาทำความสะอาดก่อนไป"

"เออ ส่วนแกก็ออกไปรอข้างนอกหรือไปทำงานที่ห้องทำงานแก จะได้ไม่ต้องอารมณ์เสีย"

พี่ธารทำท่าฟึดฟัด

"เออ ไปก็ได้ ส่วนแกคุยธุระเสร็จก็รีบกลับน้องพึ่งกินยาจะได้พักผ่อน" แล้วคนตัวโตก็เดินออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตู

ปัง  อย่างแรง

"พี่เทียนอย่าถือคนบ้าเลยนะครับ ท่าทางเมื่อคืนจะนอนน้อย"

"พี่รู้ " แล้วพี่เทียนก็ชวนผมคุยต่ออีกสักพักก็ขอตัวกลับเพราะจะให้ผมพักผ่อน ผมกำลังจะเอนตัวลงนอนโทรศัพท์ก็สั่น

ครืด ครืด

ผมหยิบมาดูพบว่าเป็นเพื่อนรักของผมเอง

"ไง หายไปเลยนะเพื่อน" ผมเอ่ยแซว

(ลูกต้น ได้ข่าวว่าจมน้ำ เป็นยังไงบ้างใครทำ จัดการมันหรือยัง) ใส่่เป็นชุด

"ใจเย็นๆ ไผ่ฉันไม่เป็นไร ใกล้หายแล้ว" ผมบอกให้เพื่อนหายกังวล

(ค่อยยังชั่วพอฉันรู้ฉันก็รีบโทรมาหาแกเลย คุณธารไม่ปกป้องแกเลย แกควรหาคนใหม่ด่วนคนนี้แม่ไม่ปลื้มแล้ว)

"ตอนนั้นเขาไม่อยู่โทษเขาไม่ได้นะ" แล้วผมจะไปแก้ตัวแทนทำไม

(แหนะ แกแก้ตัวแทนเขา เสร็จเขาแล้วใช่ไหมบอกมาเดี่ยวนี้)

"บ้าหรอฉันก็พูดไปตามความจริง ว่าแต่แกรู้ได้ยังไงว่าฉันจมน้ำ" รีบเปลี่ยนเรื่องเลย

(ก็คุณพ่อบ้านปีศาจบอกฉัน) หืม

"ใครว่ะ พ่อบ้านปีศาจ"

(ก็คุณเลขาไงเขามาเจอฉันที่ร้านอาหารแถวออฟฟิศ)

"แล้วทำไมเจอ" เรื่องนี้มันมีเงื่อนงำ

(ก ก็ ฉันจะรู้ไหมล่ะเขาอาจจะมีธุระแถวนี้ก็ได้แล้วมันก็เที่ยงแล้วเลยบังเอิญเจอไง)

"จริงอ่ะ แกมีอะไรอัพเดตฉันหรือเปล่าเล่าด่วน" ได้กลิ่นคนมีความรักตุ ตุ

(ไม่มี๊ ไม่มี ฉันไม่กวนแล้วแกนอนเถอะ) หาเรื่องวางเลยนะ

"เออๆ คุณกรณ์เขาก็ใช้ได้ ขอให้สมหวังนะ" ฮ่า ฮ่า ฮ่า

(เพ้อเจ้อแล้ว แค่นี้นะ)

ผมวางสายแล้วนั่งมองมือถือ แล้วยิ้มอยู่คนเดียว สงสัยเพื่อนจะขายออกแล้ว แต่คนมาติดเพื่อนผมนี้เจ้าเล่ห์ไปหน่อยนะ ได้แต่
ยิ้มกับตัวเองกอนจะผล็อยหลับไปอีกครั้ง
....................

  หนักจัง ขยับไม่ได้เลย หรือว่าผีจะอำผม ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาพบว่าภายในห้องมืดสลัว คาดว่าน่าจะเป็นเวลาหัวค่ำแล้ว ผมรู้สึก
หนักที่เอว ผมจึงยกหัวมองว่ามีอะไรทับอยู่หรือเปล่าก็ปรากฏท่อนแขนของใครสักคน ผมค่อยๆมองตามท่อนแขนนั้นไปจนไปพบกับเจ้าของท่อนแขนที่นอนเอาหัวซุกไหล่ผมอยู่ ผมจึงค่อยดึงท่อนแขนออกจากเอว

"อืม" พี่ธารขยับนิดหน่อยเหมือนไม่พอใจ ก่อนจะกลับไปนิ่งเหมือนเดิม ผมจึงค่อยๆยกแขนเขาออกอีกครั้ง

หมับ

"จะไปไหน" ตื่นแล้วนิ

"ผมอึดอัดคุณช่วยเอาแขนคุณออกไปทีได้ไหม" ผมหันไปมองเขา

"ไม่เอาออก จนกว่าจะกลับมาเรียกพี่เหมือนเดิม" ว่าแล้วก็กอดผมแน่กว่าเดิม แล้วลากผมเข้าหาตัวให้ชิดขึ้นไปอีก

"คุณผมเป็นหวัดอยู่เดี๋ยวก็ติดหรอก" ผมหันไปมองเขา

"เป็นห่วงพี่หรอ งั้นเรามาคุยกันดีๆก่อนนะ" ผมถอนหายใจแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง

"ต้นพี่ขอโทษนะ ตอนนี้ต้นพร้อมจะฟังพี่หรือยังครับ หืม" เขาพูดอยู่ที่ไหล่ผม

"คุณกอดผมไว้แบบนี้ผมจะไปไหนได้ล่ะ" ผมว่าแต่หน้าก็ยังคงมองอีกทาง

"ที่พี่พูดวันนั้นพี่ขอโทษนะแล้วก็เรื่องที่หลบหน้าต้นด้วย เพราะพี่มันขี้ขลาดเองพี่มัวแต่คิดถึงอดีตแล้วแถมยังเอามาตัดสินอนาคต พี่เลยกลัวว่าถ้าพี่รักต้น มันจะจบแบบที่เคยผ่านมาพี่มันขี้ขลาดกลัวการเริ่มต้นกลัวความสัมพันธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น จนทำอะไรบ้าๆไป"

ผมเงียบแล้วฟังเขาจนจบก่อนก่อนจะดิ้นจนหลุดจากอ้อมกอดเขาแล้วลุกขึ้นนั่ง

"พี่เลยทำกับผมแบบนั้น พี่ไม่คิดถึงใจผมบ้างหรอว่าผมจะเสียใจขนาดไหน"  ผมพูดไปก็น้ำตาไหลออกมาดื้อๆ

"พี่ขอโทษ ต้นอย่าร้องไห้สิพี่ใจไม่ดีเลยนะ"

"กลัวความสัมพันธ์บ้าบออะไร พี่ทำให้มันแย่ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำรู้ตัวไหม ทำไมต้องมาคิดแทนผมว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้"

"ตอนนั้นพี่กลัวไปหมด จนพี่คิดอะไรไม่ออก"

"แล้วผมไม่กลัวหรือไง" พูดไปน้ำตาก็ไหลออกมา

"พี่ไม่คิดบ้างหรอว่าผมก็กลัว เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่ผมรักผู้ชายด้วยกัน ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันแต่ผมก็ไม่เคยหนีแบบพี่"

หมับ

พี่ธารดึงผมเข้าไปกอด

"อย่าร้องนะ พี่สัญญาต่อไปนี้พี่จะไม่หนีอีกแล้ว เราจะเริ่มและผ่านมันไปด้วยกัน ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว" พี่ธารลูบหัวลูบหลังผมเพื่อปลอบ

"ผมโกรธพี่มากๆเลย ทำไมต้องคิดว่าผมจะเป็นเหมือนใครด้วย" ผมสูดน้ำมูกกับอกของพี่ธาร

"พี่ไม่ดีเอง พี่คิดอะไรแบบเด็กๆ ต้นทำให้พี่อยากเริ่มต้นใหม่นะรู้ใหม่ พี่เลยกลัวแต่ตอนนี้พี่ไม่กลัวแล้ว" ผมผละออกจากอกพี่ธาร

"ทำไมล่ะครับ" เขายิ้มให้ผมแล้วใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มทั้งสองข้าง

"เพราะการไม่มีต้นมันน่ากลัวกว่านะสิ พี่จะไม่คิดถึงอดีตอีกแล้วหากมันจะทำให้พี่เสียต้นไป" พูดจบพี่ธารก็ถือโอกาสที่ผมกำลังอึ้งบรรจงจรดริมฝีปากที่มุมปากผมเบาๆ

"เรามาเริ่มกันใหม่นะ" พูดจบก็จูบมุมปากอีกข้าง ผมมองหน้าเขาอย่างชั่งใจ

"ก็ได้ครับ แต่ผมจะคอยจับตาดูความประพฤติพี่ถ้าพี่ยังทำไม่ดีอีกผมจะไม่พูดกับพี่เลยด้วย" ผมยิ้มให้เขา

"ก็ได้ครับ งั้นตอนนี้เริ่มจากการที่เรานอนเตียงเดียวกันนะ"

"ห๊ะ"

"จะให้ว่าที่ภรรยานอนโซฟาก็ยังไงอยู่นอนด้วยกันนะ ความสัมพันธ์จะได้คืบ" ผมทำหน้าไม่ถูกแล้วพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้ถูกจุ๊บ
มุมปากนี้หว่า คิดได้แบบนั้นหน้าก็ร้อนขึ้นมาทันทีเลย

"เป็นอะไรหน้าแดงเชียว ไข้ขึ้นหรอ" เขาถามผม

"เปล่า...ก็พี่นั้นแหละ ความสัมพันธ์อะไรจะก้าวกระโดดเกิ้น ตามไม่ทัน"ผมเกาแก้มแก้เขิล

"ให้มันได้อย่างนี้สิ ถ้าต้นยังทำตัวแบบนี้พี่จะก้าวไปขั้นสุดแล้วนะ" หืมแววมาเลย

"พูดอะไรบ้าๆไปอาบกินข้าวเย็นได้แล้ว ผมหิว" ผมรีบลุกขึ้น

"เปลี่ยนเรื่องเลยนะ" ผมหันไปมอง

"เปล่าซะหน่อย ผมหิวจริ๊งๆ" เสียงปกติสิสูงทำไม แล้วผมก็รีบเข้าห้องน้ำทันที ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะตามหลังมา คนบ้า
ชอบทำใจเต้นไม่ปกติตลอดขืนอยู่กันไปนานๆได้เป็นโรคหัวใจเข้าสักวัน

.....................

"นายครับ ผมโทรมารายงานความคืบหน้า"

(ไหนเล่าสิเรื่องราวเป็นยังไง)

"เริ่มมีอะไรกันแล้วครับ"

(เดี๋ยวๆเล่าให้มันชัดเจนลูกสะใภ้ฉันยังไม่หายป่วยเลยนะเว้ย)

"อ๋อ ขอโทษครับ ผมหมายถึงเขาเริ่มต้นที่จะสานสัมพันธ์กันแล้วครับ"

(เออ ให้มันได้อย่างนี้ลูกพ่อ)

"ตอนนี้จะเอายังไงต่อครับ"

(ปล่อยเขาไปแต่ถ้ามีปัญหารีบรายงานฉันด้วย ตอนนี้ฉันคงต้องเริ่มคิดบอกเรื่องนี้กับแม่ของต้นแล้ว)

"แต่นายครับ แว่วๆ มาว่าคุณสโนว์เธอกำลังจะกลับเมืองไทยแล้วนะครับ"

(จริงหรอว่ะ ดีคราวนี้ลูกชายฉันจะไปพิสูจน์ว่าลืมยายปีศาจจากความคิดหรือยัง)

"ผมกลัวคุณต้นจะไม่หนักแน่นพอ"

(เชื่อฉัน ฉันเลือกคนไม่ผิดหรอก แล้วยายนั้นจะกลับมาวันไหนผัวแกตายคงได้สมบัติเยอะล่ะสิ)

"เดือนหน้าครับ เธอจะกลับมาเดือนหน้า"

(ดี งั้นเราก็คอยอ่านเกมส์ยายปีศาจคนนี้ไว้ ที่กลับมาคราวนี้เป้าหมายคือการเป็นสะใภ้วรเดชชัยกุลแน่นอน)

"เขาคงไม่กลับมาหรอกครับถ้าท่านไม่แกล้งให้คนไปบอก)

(มันคิดว่าธารเป็นของตาย มันกลับมาคราวนี้จะได้รู้ตัวเองว่าอันไหนเพชร อันไหนกรวด)

"ครับนาย ผมจะคอยดูแลให้เต็มที่ครับ"

(ศึกชิงตำแหน่งสะใภ้สนุกแน่ๆคราวนี้)


............................

Tbc

 :L3: :L3: :L3: :L3: :L3: :L3: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ปกติหน้าที่หาลูกสะใภ้ควรจะเป็นหน้าที่ของแม่นะแต่นี่พ่อวางแผนทุกอย่างเลย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
คุณพ่อร้ายยย

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เจ้าแผนการจริงๆเลยค่ะคุณพ่อ

ออฟไลน์ Garuda8

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
ตอนที่ 9

อดีต

หลังจากที่ผมได้ปรับความเข้าใจกับพี่ธารว่าเราต่างคนต่างก็จะเริ่มใหม่ ปรับตัวเข้าหากันเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ถึงตอนนี้ก็ไม่ได้มี
อะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก จะมีก็แต่พี่ธารชอบเข้ามาวอแวกับผมมากขึ้นเหมือนแมวขี้อ้อน แต่ก็น่ารักไปอีกแบบนะครับ
เรื่องนี้ผมยังไม่ได้บอกแม่เลย คงต้องรอให้อะไรเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้ผมจะบอกแม่เป็นคนแรกเลย
ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติไม่มีอะไรเป็นพิเศษ จนกระทั่งวันนี้วันที่ผมกำลังทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ

"ต้น"

"ครับ" ผมเงยหน้าตอบรับเสียงที่เรียก

"วันนี้เราไปดูหนังกันไหม" ผมขมวดคิ้ว

"นึกอะไรขึ้นมาครับ"

"ก็พี่พึ่งนึกขึ้นได้ว่าเราไม่เคยเดทกันเลย วันนี้เราไปเดทกันนะ" พี่ธารส่งยิ้มให้ผม

"อืม ก็ได้ครับ" ผมยิ้มตอบ

"งั้นเดี๋ยวเที่ยงไปกินข้าวแล้วดูหนัง ไม่ต้องกลับมาออฟฟิศแล้วเนอะ ดีไหม"

"ตามใจพี่เถอะครับ" แล้วผมก็ก้มลงทำงานต่อ แต่หูก็ยังได้ยินเสียงอีกคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนโทรหาใคร

"ไอ้กรณ์ จองตั๋วหนังให้ฉัน 2 ใบ เออแล้วแต่แกที่เห็นว่าสมควร โอเค" ผมไม่รู้ว่าฝั่งนั้นพูดอะไรมาบ้างเพราะผมได้ยินพี่ธารพูดอยู่คนเดียว

............

  เที่ยงตรงพวกเราออกจากบริษัทเพื่อไปห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ เวลาเที่ยงๆแบบนี้รถไม่ค่อยติดทำให้เรามาถึงที่โดยใช้เวลาไม่นานมากนักพี่ธารเดินนำผมไปที่ร้าน มีผมและคุณกรณ์เดินตาม แต่ด้วยความที่คนเยอะเนื่องจากเป็นตอนเที่ยง แล้วผมก็ขาสั้นกว่าพี่ธารจึงทำให้ผมเดินตามพี่เขาไม่ทันแถมยังโดนคนที่มาเดินห้างชนเข้าไปอีก ผมจึงหยุดยืนนิ่งๆ เพื่อมองซ้ายมองขวาหาคนตัวโต แต่ก็ไม่พบ จึงตัดสินใจจะก้าวไปทางข้างหน้าที่คิดว่าน่าจะใช่ทางที่พี่ธารจะเดินไป

หมับ

ผมหันไปทางสัมผัสอบอุ่นที่ข้อมือก็พบพี่ธารจับข้อมือของผมและกำลังมองหน้าผมอยู่

"ละสายตาไม่ได้เลย" เขายิ้มให้ผม แล้วค่อยๆเลื่อนมือจากที่จับข้อมืออยู่ แล้วมาประสานมือกับผมแทน

"อยู่ใกล้ๆพี่แบบนี้นะจะได้ไม่หลง" พี่ธารยิ้มให้ผมก่อนจูงมือเดินไปที่ร้าน

"ครับ" ผมตอบรับเขาเบาๆ แล้วก้มหน้าเดินตามไป เขิลมากเลยไม่กล้าเงยหน้า

พอทานข้าวเสร็จพวกเราก็มากันต่อที่โรงหนังที่คุณกรณ์เป็นคนจองไว้ให้ ผมเดินเข้ามากับพี่ธาร 2 คนเพราะคุณกรณ์ไม่ได้ดูด้วย
เพียงแต่มาดูแลเท่านั้น เข้ามาข้างในผมก็พบว่าไม่มีคนในนี้เลยสักคนนอกจากผมกับพี่ธารและพนักงานอีกคน พี่ธารพาผม
เดินไปนั่งที่บนสุดที่เป็นที่ฮันนีมูน

"พี่ธารทำไมไม่มีคนมาดูกับเราเลยล่ะ"ผมถาม

"ก็ไอ้กรณ์มันเหมาโรงให้เราเพื่อความเป็นส่วนตัวไง"

"ห๊ะ"

"เป็นไงชอบไหมโรแมนติกสุดๆ"

"พี่ แต่มันเปลืองนะแค่ดูหนังเอง" ผมบอกเขา

"ไม่เป็นไรเดทแรกของเราพี่ก็อยากให้ประทับใจ"

"มีอีกตั้งหลายวิธีไม่เห็นต้องลงทุนขนาดนี้เลย"

"ต้นไม่ชอบหรอ" พี่ธารมองหน้าผมแล้วพูดเสียงอ่อยแล้วทำหน้าเศร้า

"มะ ไม่ใช่ครับ แต่มันเปลือง ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ" ใจอ่อนทุกทีเลยผม

"อืม ทีหลังจะไม่ทำแล้ว แต่พี่ก็ยังน้อยใจอยู่ดี" พูดแล้วเหลือบมามองผม

"แล้วจะให้ผมทำยังไงพี่ถึงจะหายล่ะครับ" เขาหันมายิ้ม

"หอมแก้มพี่หน่อยนะ พี่จะได้หาย" หืม

"นี้มันโรงหนังนะพี่"

"มีพี่กับเรา 2 คนเอง นะ นะ" เฮ้อ

"ก็ได้ครับ" ผมค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ๆเขา

ฟอด

เต็มปอดไปเลยแล้วผมก็ค่อยๆถอยออกมา

"หายยังครับ" เขายิ้มให้

"ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ น่ารักที่สุดเลย" พูดจบก็เอามือมาจับหน้าผมทั้งสองมือแล้วจุ๊บปากผมรัวๆ ก่อนปล่อยแล้วกลับไปดูหนังต่อ

"พี่นี่มันจริงๆเลยนะ" บ่นไปแต่ผมก็ยิ้มไม่หุบ มองคนข้างๆ ก่อนหันกลับไปดูหนังต่อ

ดูหนังจบพี่ธารก็จูงมือผมออกมาจากโรงภาพยนตร์

"เดี๋ยวพี่ขอไปดูปากกาตรงโน้นแปปนึงนะเดี๋ยวเราค่อยกลับกัน" ผมหันไปพยักหน้า

ระหว่างที่เดินไปเค้าเตอร์ปากกาแบรนด์หรู ผมมีความรู้สึกว่าคนข้างตัวชะงักแล้วหยุดเดิน ผมจึงหันไปมอง ก็พบว่าเขากำลังมองบางอย่างอยู่ซึ่งตอนนั้นมือของพี่ธารก็บีบมือผมแน่นขึ้น จนเจ็บผมพยายามมองไปทางที่เขามองแต่ผมก็ไม่เห็นอะไร

"พี่ธารเป็นอะไรหรือเปล่าครับ" ผมถามขึ้น พี่ธารสะดุ้งแล้วหันมาหาผม

"เปล่านิ พี่เหมือนเจอคนรู้จักนะ"

"สนิทมาหรือครับ บีบมือผมซะแน่นเลย" เขาทำตาโต

"ต้นพี่ขอโทษนะ เจ็บหรือเปล่า"

"ไม่ครับ แต่ผมแค่ตกใจเห็นพี่นิ่งไป" เขายิ้มให้ผม

"พี่ไม่ซื้อแล้วกลับบ้านกันเถอะ"

"ครับ"

บรรยากาศในรถระหว่างกลับบ้านเต็มไปด้วยความเงียบ พี่ธารมองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ คุณกรณ์๋
ที่นั่งด้านหน้ายังรับรู้ได้ จนลอบสบตากับผมหลายครั้ง ผมก็ได้แต่ส่ายหัวเพราะผมไม่รู้จริงๆ กลับมาถึงบ้านพี่ธารก็จัดการธุระ
ส่วนตัวก่อนผม พอเสร็จก็ไปนั่งอ่านหนังสือบนเตียง ผมจึงไปอาบน้ำบ้าง เรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำก็พบพี่ธารมองผมอยู่แล้วทำหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่าง

"พี่ธาร มีอะไรจะบอกผมหรือเปล่าครับ" ผมถามออกไป

"ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ" เขาถามกลับ

"ก็เหมือนพี่มีอะไรในใจแล้วยังมองผมด้วยสายตาครุ่นคิด"

"เฮ้อ มานั่งข้างพี่สิ" ผมเดินไปนั่งตามที่เขาบอก

"วันนี้พี่ขอโทษนะที่บีบมือเราซะแรงเลย พอดีพี่ตกใจนะ" ผมเลิกคิ้ว

"ตกใจอะไรหรอครับ"

"ระหว่างที่เรากำลังเดินอยู่ พี่ว่าพี่เห็นสโนว์แหละ"

"สโนว์" ผมยิ่งงงไปใหญ่เลย

"แฟนเก่าพี่นะ" อ่อ แผลเก่าโดนสะกิด

"แล้ว ยังไงครับ"

"ต้นไม่อารมณ์เสียใส่พี่หน่อยหรอที่มีอาการกับแฟนเก่า"

"งั้นต้นถามหน่อยได้ไหมครับ"

"อืม ถามมาสิ"

"ที่พี่บอกว่ามีอาการนะ มันเป็นแบบไหนหรอครับ" พี่ต้นทำท่าคิด

"ตอนที่เห็นพี่ก็แค่ตกใจ แล้วก็สงสัยว่าเขากลับมาไทยตอนไหน"

"แล้วพี่ดีใจ ใจเต้น อยากเข้าไปกอด หรือโหยหา คิดถึงเขาหรือเปล่าครับ"

"ก็ ไม่นะ " ผมยิ้ม

"แล้วจะให้ผมโกรธพี่ได้ยังไง พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้วนี่ แค่อาจฝังใจเรื่องที่เขาทำเจ็บเท่านั้นเอง"

พี่ธารจ้องหน้าผม

"แล้วต้นไม่อยากรู้เรื่องพี่กับสโนว์หรอว่าเป็นยังไง" ผมส่ายหน้า

"ไม่ครับ อดีตก็คืออดีตรู้ไปก็เปล่าประโยชน์ ทำปัจจุบันให้ดีดีกว่า" ผมยิ้ม

"แต่ถ้าพี่อยากเล่าผมก็พร้อมรับฟังนะ" พี่ธารยิ้มแล้วเอามือมายีหัวผม ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบบางอย่างที่ลิ้นชักแล้วเดินกลับมา

"นี่รูปของสโนว์" เขายื่นให้ผม ผมจึงหยิบมาดู

"ให้ผมดูทำไมครับ"

"ให้ดูไว้เผื่อเจอกันจะได้รู้ว่าเป็นใคร" ผมพยักหน้า

"ว่าแต่พี่เก็บรูปเขาไว้ทำไมครับ"

"หึงหรือไงเรา" ผมบู้หน้า

"เปล่าสักหน่อย"

"พี่เก็บไว้เพื่อเตือนตัวเองว่าต่อให้รักแค่ไหนสุดท้ายก็จบไม่สวยอยู่ดี" ผมหันไปมองหน้าเขา

"เราเคยรักกันมาก เราเจอกันตอนที่พี่ไปเรียนเมืองนอก พี่ทำงานส่งตัวเองเรียนตามคำสั่งของพ่อ เพื่อให้ได้ประสบการณ์
ก่อนจะกลับมาบริหารงานที่บ้านพ่อพี่เลียงแบบบุฟเฟ่ต์นะ พี่สนุกกับการใช้ชีวิตบ้านๆ ที่ไม่ต้องมีลูกน้องมาเฝ้า จนเจอสโนว์ เขาเข้ามาทำดีกับพี่ดูแลพี่เวลาเหนื่อยจากทำงานหรือเรื่องอื่นๆ เราเข้าใจกันและกันดูแลกัน เราอยู่ด้วยกันมีความสุขจนวันนึงแค่ความสุขที่มีกันและกันมันไม่พอ เขาไปเจอกับเศรษฐีหนุ่มที่สามารถให้เขาได้ทุกอย่าง เขาเริ่มโกหก กลับบ้านดึก มีของหรูหราใช้ และสุดท้าย เขาก็หนีไป พอพี่ไปตามเขาก็บอกกับแฟนใหม่เขาว่าพี่เป็นโรคจิตตามตื้อและพยายามจะล่วงเกินเขา จนพี่โดนกระทืบปางตาย และถูกทิ้งไว้ซอกตึก" พี่ธารทำหน้าเศร้า

"พี่ธาร แล้วทำไมพี่ไม่บอกเขาล่ะครับว่าพี่ก็รวย" พี่ธารหันมามองหน้าผม

"ถ้าบอก พี่จะรู้หรอว่าเขาเป็นยังไง สุดท้ายเขาก็แต่งงานกับไอ้หนุ่มนั้น แต่พอความรักที่ต้องการไม่เวิร์คและคุณพ่อเป็นคนสั่ง
ให้ลูกน้องไปบอกว่าพี่เป็นใครทำให้สโนว์อยากกลับมาหาพี่อีก แต่คุณพ่อก็ดักทางด้วยการบอกสามีเธอทำให้เธอทำอะไรไม่ได้มาก"


"แสดงว่าตอนนี้ที่เธอกลับมาเพราะเลิกกับสามีแล้วหรอครับ"

"ได้ข่าวว่าสามีโดนยิงตายนะ จากคู่แข่งทางการค้า" อย่างนี้นี่เอง

"เห็นว่าทิ้งสมบัติไว้ให้แค่บางส่วน ตอนนี้คงกำลังหาทางเอาตัวรอดอยูู่คนเคยใช้เงินอู้ฟู่นะ" พี่ธารบอก

"พี่โอเคใช่ไหมครับ" ผมถาม

"โอเคสิ พี่ได้เล่าให้เราฟัง ก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก พี่ไม่อยากมีความลับกับต้นหรอกนะรู้ไหม"

ผมยิ้มแล้วค่อยเขยิบเข้าหาพี่ธารแล้วกอดเขา หัวพิงอยู่ที่อกคนตัวโต

"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ต้นจะอยู่ข้างๆพี่นะครับ ขอแค่บอกมาต้นจะทำให้หมดเลย แต่พี่ธารอย่าทำหน้าเครียดนะต้นไม่ชอบ" แล้วกอดเขาแน่นกว่าเดิม

"ทำไมล่ะ"

"ก็ทำหน้าเครียดพี่ธารขี้เหร่จะตายดูไม่ได้เลยนะ" แล้วผมก็หัวเราะ

"เรานี่มันจริงๆเลยนะ" แล้วพี่ธารก็กอดผมแน่นขึ้น

"พี่ผมหายใจไม่ออกแล้วเนี่ย" เขาหัวเราะ

"พี่หัวเราะได้ก็ดีแล้วครับ จำไว้นะไม่ว่ายังไงผมก็จะอยู่กับพี่เสมอ"แล้วผมก็ยิ้มให้เขา

"ต้น"

"ครับ"

จบคำพี่ธารก็ประกบริมฝีปากเข้ากับปากของผม ผมตกใจมือกำเสื้อนอนเข้าแน่น และกำลังจะอ้าปากท้วงแต่กลับกลายเป็น
เปิดโอกาสให้เขานำลิ้นร้อนเข้ามาในปากของผมได้ เขาไล่ต้อนไปทั่วโพรงปาก ลิ้นเสียดสีกันจนตัวผมร้อนวูบ เขาเล่นในโพรงปากอยู่นานจนผมแทบหมดลม พี่ธารจึงค่อยๆถอยออก หน้าผมคงแดงมา ผมหอบหายใจกำเสื้อเขาแน่น

"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ไม่งั้นพี่จะทำมากกว่าจูบนะ" เขาก้มลงจูบที่คอและดูดดุลจนผมเจ็บจี๊ด

"พะ..พี่ธาร ต้นเจ็บ อื้อ อือ " ผมกำเสื้อนอนแน่นเพื่อระบายความเจ็บเสียว พอพี่ธารพอใจเขาก็ใช้ลิ้นเลียที่เขาทำไว้เหมือนปลอบ

"ต้นเป็นของพี่นะ ของพี่คนเดียว" เขากระซิบข้างหู

"ครับ" ผมมองหน้าเขา จนเขายื่นหน้าเข้ามาประกบจูบผมอีกครั้ง

"อื้อ อือ พี่ธาร พอแล้วต้นจะตายอยู่แล้ว"

"ตายคาอกพี่ดีจะตาย" ว่าจบก็เอานิ้วชี้เขี่ยปากผมไปมา

"งือ พี่ธารปากต้นบวมหมดแล้ว" พี่ธารหัวเราะ

"โอเค คราวหน้าไม่หยุดแค่จูบแน่ๆ นอนเถอะเดี๋ยวพี่เข้าห้องน้ำแปป" แล้วเจ้าตัวก็ลุกไปเข้าห้องน้ำก่อนหันมาทางผมอีกครั้ง

"รอบนี้ห้องน้ำ แต่ถ้ายังไม่นอนรอบหน้าจะเป็นต้นแทนห้องน้ำนะ" ผมตาโต แล้วรีบเอาผ้ามาคลุมโปงทันที ก่อนได้ยินเสียงหัวเราะตามมา อีกไม่นานต้องเสร็จพี่ธารแน่ๆ ต้นต้องทำยังไงดี ต้องโทรไปปรึกษาเพื่อนซะแล้ว

.......................

วันนี้เป็นวันหยุดแต่ผมออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อไปที่บ้านของพ่อ เพื่อไปทำธุระบางอย่าง ผมรู้สึกว่าช่วงนี้ผมควบคุมตัวเอง
ไม่ค่อยได้เมื่ออยู่ใกล้ต้น อยากกินน้องให้รู้แล้วรู้รอด แต่ผมทำไม่ได้ต้องทำอะไรให้ต้นมั่นใจกว่านี้ก่อน วันนี้ผมเลยมาหาพ่อ

"สวัสดีครับคุณธาร มาหานายหรือครับ" คนสนิทของพ่อโค้งหัวให้ผมเมื่อเห็นผม

"ใช่ พ่ออยู่ไหน" ผมถามเพื่อไม่ให้เสียเวลา

"ในห้องหนังสือครับเชิญเลย" ผมพยักหน้ารับแล้วรีบเดินไปที่ห้องหนังสือตามที่คนสนิทพ่อบอก

ปัง

"พ่อ ผมจะมาเอาของ" ผมเปิดประตูทันทีโดยไม่เคาะ

"ไอ้ลูกเวร บ้านแกไม่เคร่งมารยาทเลยหรือไง เข้ามาไม่เคาะประตูถ้าฉันแก้ผ้าอยู่จะทำยังไง" พ่อบ่นไปเรื่อย

"ใครจะมาแก้ผ้าในห้องหนังสือล่ะพ่อ"

"ไอ้นี่ เผื่อฉันเบื่อเตียงเปลี่ยนเป็นชั้นหนังสือล่ะว่ะ" พูดไปเรื่อย

"เอาน่าพ่อไหนๆก็เข้ามาแล้ว ผมมีเรื่องจะคุย" ผมเข้าเรื่องไม่อยากรอช้า

"อะไรอีก"

"คือผมจะมาขอแหวนของแม่นะ" พ่อมองหน้าผม

"เอาไปทำอะไร"

"ผมจะเอาไปให้ต้นนะ ผมอยากให้น้องเป็นของผมอย่างถูกต้อง"

"ป๊าดดด ติโถ่ นราทรถูกใจสิ่งนี้ รอแปป พ่อไปหยิบเดี๋ยวนี้เลย" กระตือรือร้นยิ่งกว่าเรื่องตัวเองอีก หายไปสักพักก็กลับมาพร้อม
กล่องแหวนกำมะหยี่สีแดงในมือ

"เอาไปเลย ไอ้ลูกรัก แล้วแกจะให้เขายังไงมีแผนไหม" ผมส่ายหัว

"ให้แบบโต้งๆเนี่ยแหละ แสดงความจริงใจไปเลย"

"ไอ้ธารคือไอ้ธารจริงๆ ถ้าเป็นไอ้เทียนคงโรแมนติกจนเป็นเบาหวาน"

"แล้วพ่อจะไปพูดถึงไอ้เทียนทำไม"

"เปล๊า เออนี่แกได้ข่าวเมียเก่าแกหรือยัง"

"ได้ยินบ้าง อาทิตย์ก่อนผมเห็นเขาที่ห้างใกล้บริษัท" ผมบอกพ่อ

"มันจงใจมาให้แกเห็นล่ะสิ บ้านอยู่คนละทางมาทำซากอะไรแถวออฟฟิศ"

"พ่อก็พูดเกิน เขาคงไม่อะไรแล้วมั้ง"

"แกคอยดูเถอะ อีกไม่นานมันใส่แกแน่ แกระวังไว้เถอะ"

"ผมไม่กลับไปหรอกพ่อ ผมไม่ได้รักเขาแล้ว แต่ถ้าอยากเป็นเพื่อนกันผมก็ยังมีให้เพราะยังไงเราก็เคยรักกัน"

"จร้า พ่อพระเอก ระวังความใจดีของแกไว้เถอะจะทำแกบ้านแตก"

"เพ้อเจ้อนะพ่อ"

"พ่อเตือนไว้ก่อนนะ ถ้ามัวแต่ใจดีกับคนรอบข้างจนลืมคนอยู่ข้างๆแกจะเสียใจ ถ้ามันมาหาแกเมื่อไหร่ส่งมันมาเดี๋ยวพ่อจัดเอง"

"ผู้หญิงอย่างสโนว์ไม่คิดอะไรซับซ้อนแบบนั้นหรอกพ่อ"

"น้อยไปสิไอ้ลูกหมา กลับไปเลยไป รีบเอาแหวนไปให้เมียแกเลยไป คุยกับแกไม่สนุกเลยสู้คุยกับไอ้เทียนไอ้กรณ์ไม่ได้"

"ไปก็ได้ สวัสดีครับนายใหญ่" แล้วก็เดินออกมาจากห้องหนังสือทันทีเพื่อกลับบ้านผมต้องไปวางแผนให้แหวนต้นก่อนไม่มี
สมองคิดเรื่องคนอื่นหรอกแต่ถ้าเป็นไอ้เทียนจะให้แหวนยังไงนะ โอ๊ยพ่อนะพ่อจะพูดถึงไอ้เทียนทำไมเนี่ย

................
 ตอนนี้ผมอยู่ที่ร้านกาแฟแถวบ้านไอ้ไผ่ เพราะวันนี้ผมนัดกับมันมาสอบถามสารทุกข์สุขดิบ สักหน่อยไม่รู้ช่วงนี้มีอะไรอัพเดต

ชีวิตเพื่อนสาวของผมบ้าง ผมนั่งรออยู่ก่อนเพราะผมมาค่อนข้างเร็ว

ป้าบ

"เพื่อนต้นคิดถึงจังเลย" เต็มหลังเลยครับ

"เจ็บนะเว้ยตีมาได้" มันยิ้มแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม

"โทษทีดีใจไปหน่อย เป็นไงบ้างช่วงนี้ความรัก" ไผ่ยิ้มแบบเจ้าเล่ห์

"ก็ไม่อะไร ว่าแต่แกเถิด แพ้หนุ่มเจ้าเล่ห์หรอ" ผมยิ้ม

"บ้าบอ" ไผ่ก้มหน้าแก้มแดงน่าเอ็นดูเชียว

"ถ้าเปิดเผยเมื่อไหร่ก็อย่าลืมบอกฉันด้วยล่ะ"

"รู้แล้ว"

"แกยอมรับแล้ว" ผมแซว

"จะให้ปฎิเสธหรือไง"

"ดีใจด้วยนะ"

"ดีใจอะไร ยังไม่ได้ตกลงคบสักหน่อย ว่าแต่แกเถอะเสร็จเขาหรือยัง"

"เสร็จอะไรล่ะทะลึ่งใหญ่แล้วนะ"

"แหม นอนห้องเดียวกันเตียงเดียวกัน ไม่มีอะไรจริงอ่ะ"

"ก็ยังไม่เป็นอะไรกัน"

"อ่อ รอสถานะที่ชัดเจนนี้เอง" ไผ่ยิ้ม

"แต่ถ้าถึงเวลาจริงๆฉันควรทำไงดีว่ะแก"

"ตายแล้ว น้องต้นหนูถามอะไรคะเนี่ย"

"ก็ฉันไม่เคยอ่ะ" ไผ่สูดหายใจ

"ปล่อยตามธรรมชาติเลยค่ะ คุณธารเขาคงทำเป็นแหละแกนอนเฉยๆก็พอ"

"แกพูดอะไรเนี่ย" เขิลโว้ยย

ผมนั่งคุยกับไผ่ไปเรื่อยๆจนถึงเวลาที่ต้องแยกย้าย อยากจะบอกว่าคุณกรณ์มารับไผ่กลับด้วย ผมยิ้มให้ทั้งสองคนแล้วแยกกลับบ้านพอถึงบ้านผมก็พบว่าบ้านมืดสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่ ผมเข้ามาในบ้านแล้วตะโกนเรียก

"ป้านิ่มครับ ไม่มีใครอยู่หรอครับ" ไปไหนกันหมด ผมเดินเข้ามาถึงห้องรับแขกก็เห็นเทียนจุดอยู่ที่พื้นทางเดิน

"มีเซอร์ไพรซ์อะไรหรือเปล่าเนี่ย" ผมพูดกับตัวเองแล้วเดินตามเทียนที่ถูกวางไว้ตามทาง เดินตามไปจนถึงสวนหลังบ้าน ก็พบโต๊ะอาหาร

มีอาหารวางอยู่พร้อมกับพี่ธาร ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งหนึ่งของโต๊ะอาหาร พี่ธารอยู่ในชุดสูทสีขาว ในมือถือไวน์แดงอยู่

ผมเดินเข้าไปใกล้ๆเขา

"พี่ธารนี่มันอะไรหรือครับ" เขาหันมาทางผมแล้วยิ้มให้

"นั่งลงก่อนสิพี่เตรียมไว้ให้เราดินเนอร์กัน" ผมนั่งลงตามที่เขาบอก

"นึกยังไงครับเนี่ย"

"พี่ก็อยากจะสร้างความประทับใจบ้างไม่ได้หรอ"

"ได้ครับ แต่ผมไม่คิดว่าพี่จะมีมุมนี้ด้วย"

"ก็อยากให้ต้นเห็นพี่หลายๆมุมไง ทานข้าวเถอะพี่สั่งแต่ของที่ต้นชอบทั้งนั้นเลย" เขาว่าแล้วตักอาหารมาใส่จานผม

"ขอบคุณครับ"

เราทานกันไปเรื่อยๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศ พอทานอิ่มเด็กในบ้านก็มาเสิร์ฟของหวานเป็นเครปเย็นที่ผมชอบ

"อร่อยจังครับ" พี่ธารยิ้ม

"ต้น พี่มีเรื่องจะคุยกับต้นนะ" ผมเงยหน้าจากเครปมองหน้าพี่ธาร

"มีอะไรหรือเปล่าครับ"

"คือพี่ว่าเราก็อยู่ด้วยกันมาสักพักแล้ว เรียนรู้กันมาพอสมควรพี่ว่ามันถึงเวลาแล้วล่ะ"

"ครับ?"

"คบกับพี่นะต้น"

".."

ผมงงทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก พี่ต้นลุกจากที่นั่งตัวเองเดินมาหาผมแล้วหยุดยืนที่ด้านหลังแล้วโน้มตัวลงมาจับมือซ้ายผม
ก่อนจะเอามืออีกข้างที่ไม่ได้จับอะไรล้วงบางอย่างออกมา แล้วสวมลงที่นิ้วนางของผม แหวนมันคือแหวนครับ

"ต่อไปนี้ขอให้ต้นเป็นทุกอย่างในชีวิตพี่ได้ไหมครับ" เขาพูดอยู่ข้างหูแล้วกอดผมจากด้านหลังทั้งที่ยืนอยู่ ผมหันไปมองพี่เขาที่แก้มแนบกับผมอยู่

"ทุกอย่างเลยหรอครับ"

"ทุกอย่างเลย พี่รักต้นนะครับแล้วต้นรักพี่หรือเปล่า"

ผมก้มหน้าแล้วค่อยๆดึงแขนพี่ธารออก แล้วลุกขึ้นหันไปเผชิญหน้ากับเขา ก่อนที่จะโน้มคอคนตัวโตลงมาแล้วกดจูบที่คอหนา
ดูดเบาๆจนเกิดรอย พี่ธารตกใจแปปนึงก็ผ่อนคลายขึ้นผมผละออกจากคอเขาแล้วเอามือทั้งสองข้างจับใบหน้าของเขา

"พี่เป็นของผมแล้วนะ ต่อไปนี้ผมจะเป็นทุกอย่างสำหรับพี่แล้วพี่ก็คือทุกอย่างสำหรับผมเหมือนกัน"

"ร้ายนักนะเรา จะให้พี่หลงไปถึงไหน" พี่ธารเอามือบีบจมูกผมเบาๆ ผมกอดพี่ธาร

"ผมรักพี่นะครับ" คนตัวโตก้มลงกดจูบที่หัวของผม

"พี่รักต้นมากกว่าอีก" ขิงจริงๆ

เรากอดกันอีกสักพักก็ชวนกันขึ้นห้องไปอาบน้ำพักผ่อน ต่างคนต่างอาบน้ำเสร็จแล้วก็มานอนกอดกันบนเตียง

"ตัวหอมจังเลยนะต้น"

"พี่ก็หอมเหมือนกันนั้นแหละก็เราใช้ครีมขวดเดียวกัน" เขาเงียบไปสักพัก

"ต้นพี่ขอจูบหน่อยได้ไหม" ผมขมวดคิ้ว ปกติไม่เห็นขอเลย

"แล้วรออะไรล่ะครับ" คนตัวโตไล่จูบตั้งแต่ขมับ เปลือกตา แก้ม แล้วมาหยุดที่ริมฝีปากและบดจูบอย่างนุ่มนวลกว่าทุกครั้ง
ทำผมเคลิ้ม พี่ธารผละออกเล็กน้อย ผมเห็นเขาหน้าแดงซ่าน ตาปรือ

"อ้าปากหน่อยเด็กดี" เขาพูดด้วยเสียงที้่เซกซี่ สติที่ไม่ค่อยเต็มร้อยของผม ทำตามที่เข้าบอกผมเผยอปากเล็กน้อย เขาจึงประกบจูบเข้ามาใหม่พร้อมลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามากวาดต้อนลิ้นของผมจนผมจนมุม ตักตวงความหวานอย่างเอาแต่ใจแต่ก็ละมุนอยู่ในที

"อื้อ อือ"

ผมประท้วงเพราะเริ่มหายใจไม่ทัน มือกำเสื้อนอนของเขาแน่น เขาผละออกเพื่อให้ผมได้หายใจ ตอนนี้หลังผมติดที่นอน
แล้วเรียบร้อยโดยมีคนตัวโตคร่อมทัพผมอยู่ ผมมองหน้าพี่ธารก็รู้ว่าเขากำลังอยู่ในอารมณ์ไหนเพราะมีอะไรบางอย่างกำลังทิ่มหน้าท้องของผมอยู่

"พะ พี่ธาร" เขาหอบหายใจหนัก แล้วก้มลงมากอดผมพร้อมกระซิบข้างหูผมด้วยเสียงที่แหบพร่า

"ต้นครับ น้องเป็นของพี่ได้ไหมครับ"

............................
กรี๊ดดดดด

อีพี่จะล่อลวงน้องแบบนี้ไม่ได้นะคะ ตอนนี้ก็จะหวานๆหน่อยนะฮะท่านผู้อ่าน

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ขอเป็นแฟน แล้วขอนอนต่อด้วยเลย อะไรจะเร็วปานนั้น :z1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด