</////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>  (อ่าน 10444 ครั้ง)

ออฟไลน์ Garuda8

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************




ตอนที่1

ตกงาน


บรรยากาศภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาด 4 เมตร ตัวผมนั่งอยู่ที่เก้าอี้มีพนักพิง ต่อหน้าหัวหน้าฝ่ายบุคคล ที่หน้าไม่ค่อยจะเหมือนคน ด้วยใจจดจ่ออย่างตื่นเต้น เนื่องจากวันนี้เป็นวันประกาศการเลื่อนตำแหน่งและโบนัสของบริษัท มึอหงิกงอ จนนึกว่าชายน้อยมาอาศัยร่างอยู่


"ผลงานที่ผ่านมาของคุณทำได้ดีมากนะ" ฝ่ายบุคคลพูดขึ้นพร้อมหน้าตายิ้มแย้ม

"ครับ"

"แต่เนื่องจากว่าบริษัทจะมีการปรับโครงสร้างนิดหน่อยและบางแผนกบริษัทก็จะไม่มีแล้ว เพราะฉะนั้น คุณคงเข้าใจนะ" พูดพร้อมยื่นซองขาวมาตรงหน้าผม

ผมรับมาไว้พร้อมกับเปิดซองดูด้านใน ขุ่นพระ เงินเดือนชดเชย 3 เดือน พร้อมใบรับรองการทำงานนี้ก็หมายความว่า


"ผมโดนเชิญออกอย่างนั้นหรอครับ" กูจะถามซ้ำเติมตัวเองทำไมว่ะเนี่ย

"อย่าพูดขนาดนั้นเลย แต่บริษัทไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้แผนกคุณแล้วจริงๆ ยังไงหวังว่าเงินเดือนชดเชย 3 เดือน จะพอให้คุณใช้จ่ายสำหรับ การหางานใหม่นะ แล้วเจอกันใหม่ กับเนวิเกเตอร์ " โหไอ้อ้วน มึงคิดว่ามึงเป็นพี่ติ๊กหรอ ห่วยไอ้ตุ่ม พูดง่ายนิ พูดแล้วก็เดินสะบัดตูดเลย


แล้วกูล่ะ โถชีวิตไอ้ต้น ไม่ได้เตรียมตัวว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้เลยโอ๊ยยยยย



ผมเก็บของกลับบ้าน หลังเลิกงานปกติ มาถึงบ้านก็ได้แต่ยืนอยู่หน้าบ้านหลังน้อยหอยสังข์ยืนมองอยู่อย่างนั้นพลางคิดกับตัวเองว่า ยังโชคดีนะที่บ้านไม่ต้องเช่าห่วยแต่ก็ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟไหมล่ะ เฮ้อ ได้แต่ถอนใจ แล้วเดินเข้าบ้าน ด้วยใบหน้าที่แช่มชื่นผิดมนุษย์มนา

"อ้าวต้นรถเสียหรอทำไมไม่ใช้ไดเกียวล่ะ" เสียงแจ้นๆถามผมแบบนี้ทุกวัน นี่แม่ไม่รู้หรอว่าลูกไม่มีรถ ถามเป็นโฆษณาตลอด

"แม่ ต้นไม่มีรถแม่ควรถามว่ากลับมาแล้วหรอมากกว่านะ"

"โถลูก แม่ก็อยากจะอินเทรนพูดตามโฆษณาบ้างอ่ะ"  จ้าโฆษณาเมื่อ 30 ปี ก่อนอ่ะนะ

"แล้วหิวหรือยังกินอะไรไหม" แม่ถามขึ้นมาทำให้ผมแทบร้องไห้ก็ยังดีว่ะ อย่างน้อยก็มีแม่ที่เป็นกำลังใจ

"หิวครับแม่จะทำให้ต้นกินใช่ไหม รักแม่จัง" พูดจบก็วางของเดินไปกอดแม่

"เปล่า ถ้าหิวก็ไปทำ  จะได้กินด้วยหิวเหมือนกัน"

ผมเดินไปยืนรอรถขยะหน้าบ้านให้เขาเก็บผมไปดีไหม ชีวิตกู

"แม่ต้นมีไรจะบอก" ช็อคสักพักผมก็ทำใจบอกแม่ถึงเรื่องวันนี้

"อะไรล่ะถ้าบอกว่าแกทำผู้หญิงท้องฉันไม่เชื่อนะ แต่ถ้าจะบอกมีผัวขอดูรูปก่อนผ่านไหม"  แม่ผมเคยจริงจังกับชีวิตไหมถามจริง

"แม่เอาดีๆ ต้นซีเรียส คือต้นตกงาน เค้าให้เงินชดเชยมา 3 เดือน ถ้าหลัง 3 เดือน ต้นยังหางาน ไม่ได้ เราคงลำบากหน่อยนะ"  แม่หันมามองผมด้วยสายตาล่องลอยเหมือนคนเมายาคุม

"เห้อออ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ตกงานก็หาใหม่ ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไปนะลูก เกิดเป็นคน ก็ต้องมีอุปสรรคบ้าง แม่เอาใจช่วย"  พระเจ้าเหมือนมีแสงออร่าออกมาจากคุณนายแม่ ซึ้งมากครับ ผมเดินไปกอดแม่ด้วยความตื้นตันใจสุดๆ


"ไปกินข้าวเถอะเดี๋ยวแม่ทำให้กินเอง "  TT แหมมันช่างตื้นตันใจ


.........................................................
กี่วัน กี่วันมาแล้วที่ไม่เจอ
กี่คืน ที่รอแต่เธอ แต่เธออยู่ไหน

เออกูก็ไม่รู้ไงกี่วันกี่คืน กูก็หางานไม่เจอเหมือนกัน เดินไปเตะคนเปิดเพลงดีไหมบิ้วกูจัง


นับจากวันที่ตกงาน นี้ก็ครบ 2 เดือนแล้ว ผมยังไม่ได้งานเลย เรียกสัมภาษณ์เป็นร้อย 

แต่จะรับจริงๆน้อยเพียงครึ่ง วันนี้ ผมมาสัมภาษณ์งานแถวพระราม 2 พอเสร็จก็มานั่งกินข้าวที่ตลาดใกล้อาคารที่ผมมาสัมภาษณ์ ไม่รู้วันนี้เป็นอะไรผมมีลางสังหรณ์แปลกๆ ผมต้องได้งานแน่ๆเลย เพราะเมื่อเช้า จิ้งจกวิ่งตัดหน้าตอนออกจากบ้าน ผมเบรกไม่ทัน ก็เลยเหยียบซะแบน แหมโชคดีจริงๆ พอเดินมาปากซอย ป้าแม้วขายส้มตำก็ทักว่าวันนี้ผมดูผ่องๆ หึๆๆ ถึงเวลาของไอ้ต้นแล้วโว้ยย มีโชคแน่นอน

กินข้าวเสร็จผมก็กลับบ้าน พอมาถึงซอยบ้านก็คิดอะไรเพลินๆ ในตอนนั้นก็มีผู้ชายคนนึงอายุน่าจะประมาณ 50 แต่ก็ยังดูดีอยู่นะ มาขวางหน้าผมไว้

"หนุ่มๆช่วยลุงด้วยสิ บังเอิญลุงมาทำธุระแถวนี้แล้วโดนล้วงกระเป๋า พอมีเงินสัก 200 ไหม ลุงจะได้ไปหาคนที่นัดไว้ สัญญาเดี๋ยวเอามาคืนให้"
 
ฮั่นแน่มาแบบนี้อีกแล้วต้นไม่โง่นะเว้ย

"ไม่มีอ่ะลุง ผมตกงานอยู่ ข้าวจะกินยังไม่ค่อยมีเลย ทุกวันนี้ไปขอข้าวเด็กวัดกินตลอดเลย"  ตอแหลนรกกินกบาลเลยไอ้ต้น

"น่าสงสารจริงๆเลย งั้นเอ็งเอานามบัตรนี้ไป แต่เอ็งเอามาให้ข้า 200 แล้วข้าจะตอบแทนเอ็งคุ้มค่าแน่ๆ" ผมรับนามบัตรแล้วเอามาดู  ป้าดดดติโถ่ นี้มันบริษัทอสังหาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแหล่วๆๆๆ

"ลุงนี่มันอะไรอ่ะ" ผมถามกลับแบบตื่นเต้น

"เออนะถ้าเอ็งอยากได้งานก็เอานามบัตรนี้ไปขอพบ คุณนราทร วรเดชชัยกุล เขาจะช่วยเอ็งเอง แต่ตอนนี้ข้าต้องรีบแล้ว มีนัดต่อเอามาเร็ว 200 "  นี่ใครยืมใครว่ะเนี่ย โหดแท้

ผมรีบควักให้แกไป300 เลย แถม ให้ ถ้าสิ่งที่แกบอกมันเป็นเรื่องจริง มันก็คุ้มที่จะเสี่ยง

"ขอบใจมากหนุ่ม แล้วเจอกันใหม่ ข้าชอบเองนะมีน้ำใจ ไม่โง่ดี ไปล่ะ" นั้นสาบานว่าชม ผมโบกมือลาลุง แล้วเดินเข้าบ้านต่อพร้อมทั้งกำนามบัตรแน่น กลัวหายตั้ง 300 บาท เอาว่ะลองดูคงไม่โดนหลอกหรอก หน้าแกก็ดูเป็นมิตรดี คงไม่ใช่มิจฉาชีพหลอก แต่เดี๋ยวๆทำไมมันมิตรเหมือนกันเลย ช่างแม่งเหอะ ชีวิตที่ดีรออยู่ ฮัดช่า



"""""""""""""""""""""""
ตื่นเต้นบอกเลยผมไม่เคยเข้ามาบริษัทใหญ่ขนาดนี้เลย วันนี้ผมมาที่บริษัทที่ลุงคนเมื่อวานทิ้งนามบัตรไว้ให้ ผมเดินเข้ามาในอาคารที่มีความสูง 50 ชั้น เดินเข้าไปหาประชาสัมพันธ์แล้วยื่นนามบัตรให้แจ้งว่าขอพบ คุณ นราทร ประชาสัมพันธ์คนสวยก็ให้ผมมารอข้างบนห้องทำงานของใครสักคนที่ชั้น 33 ห้องนี้หะรูหะรา มากเลย ผมมองซ้ายมองขวา อย่างสอดรู้สอดเห็น เกิดมาได้มานั่งโซฟาแบบนี้บุญตูดไอ้ต้นจริงๆ

"สวัสดีไอ้หนุ่ม วันนี้ทำไมดูเงียบๆ ตื่นเต้นหรือไง"

เสียงนุ่มเรียกผมจากด้านหน้าประตู ผมหันไปมองก็เห็นลุงคนเมื่อวานยืนอยู่

"เฮ้ยลุงมาอยู่เป็นเพื่อนผมหรอ ดีจังผมตื่นเต้นมากฉี่จะราดอยู่แล้วเนี่ย แล้วคุณนราทรอ่ะมายัง เค้าโหดไหมอ่ะ" เจอหน้าก็ใส่ไม่ยั้งครับคนมันลนอ่ะ

"ใจร่มๆไว้ ค่อยพูดค่อยจา นราทรไม่โหดหรอก ใจดี สปอต 77 จังหวัด" พูดไปแล้วลุงก็เดินไปนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นของคุณนราทร ที่ผมอ่านจากนามบัตร ว่าเขาดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ

"ลุงออกมานั้นเก้าอี้ประธาน เดี๋ยวได้โดนด่าพอดี ออกมา" ว่าแล้วก็รีบเดินไปหาลุงแต่ลุงก็แย้งขึ้นมาก่อน

"เฮ้ย ใครมันจะมาด่าว่ะก็ข้าเนี่ยแหละ นราทร เป็นประธาน มามา เอ็งเดินมานั่งได้แล้วข้าจะได้บอกรายละเอียดงานให้เอ็งฟังซักที " 

Shock

หากบนนี้มีแมลงวันในปากผมคงเป็นที่ซ่อนไข่แมลงวัน นี่หมายความว่าเมื่อวาน ประธานบริษัทนราธาริน ขอยืมเงินผม พูดไปใครจะเชื่อ

"จะอึ้งอีกนานไหม รีบมานั่ง ปฏิบัติ" ผมสะดุ้งแล้วรีบไปนั่งตามคำสั่ง


"ขอถามหน่อยได้ไหมครับ รวยก็รวยทำไมไม่มีตังติดตัวเลยล่ะ จนต้องมายืมเงินผมเนี่ย" 

คุณนราธรมองผมแล้วยิ้มมุมปาก

"พูดแล้วอย่าบอกใครล่ะ พอดีข้าไปเที่ยวอาบอบนวดอ่ะแล้วพอดีโชคร้ายโดนอีหนูรูดที่โรงแรมม่านรูดแถวซอยที่เจอเอ็งนั้นแหละ เอาไปแม้กระทั่งกุญแจรถ แถมตอนเช้ามีนัดกับหุ้นส่วนอีก โชคดีเจอเอ็งนั้นแหละ"  ผมร้องโอ้ในใจ

"เข้าใจแล้วครับ แล้วตกลงงานที่จะให้ผมทำ..."  พอเข้าใจทุกอย่าผมก็เข้าเรื่องเลย ก็เงินจะไม่มีกินอยู่แล้วอ่ะ

"โอเค คือข้าอยากให้เอ็งมาทำงานกับข้า โดยงานที่จะให้ทำก็คือ....เป็นลูกสะใภ้ข้า"

"......." นี้คงเป็นวัน April fools days สินะ

"ว่าไงเอ็ง ข้าว่าเอ็งหน่วยก้านดี มีน้ำใจ ใส่ใจประชาชน สามารถสู้กับผู้หญิงของลูกข้าได้โอ๊ยยย พ่อปลื้มลูก...ชื่อไรนะเอ็งลืมถาม"

"ชื่อต้นครับ นี่ลุงล้อผมเล่นใช่ไหม ผมผู้ชายนะลุงเป็นเมียใครไม่ได้หรอก"

"ลูกต้นของพ่อนรา พ่อไม่เกี่ยงว่าลูกเป็นผู้ชาย พ่อถูกชะตากับลูกต้นตั้งแต่แรกเห็นคนนี้และใช่เลย"  สรรพนามเปลี่ยนทันที จนผมขนลุก นี่เขาต้องเป็นญาติลับๆกับแม่ผมแน่ๆ

"ผมไม่เคยรู้จักลูกลุงนะครับ ไม่เคยรักกันจะเป็นไปได้ไง"


"พ่อจะให้ลูกได้ศึกษาดูใจโดยการย้ายไปอยู่ด้วยกันที่บ้านลูกชายพ่อ 1ปี  พร้อมศึกษางานในบริษัทไปพร้อมๆกัน หากลูกพ่อมันไม่ชอบต้นในระยะเวลา 1ปีที่กำหนด อย่างน้อยต้นก็ยังสามารถมาทำงานที่บริษัทพ่อได้ เพราะพ่อจะสอนทุกอย่างเลย"

"ไม่เอาอ่ะลุงไม่มีงานอื่นให้ผมหรอ ลูกลุงก็ผู้ชายฟ้าผ่าตาย อีกอย่างผมพึ่ง 24 เอง ผมไม่รีบหรอก" ผมพยายามปฏิเสธอย่างเต็มที่ผู้ชายที่ไหนจะยอมไปเป็นสะใภ้ เป็นเขยว่าไปอย่าง

"ต้นฟังพ่อนะ ก็นึกซะว่าย้ายเข้ามาดูแลลูกชายที่มันเหลวไหลของพ่อให้มันดูเป็นคนที่อยู่ในกรอบ มีศีลธรรมแบบคนทั่วไป คิดซะว่าดูแลเด็กคนนึงได้ไหมลูก เห็นแก่คนแก่นะ ไปอยู่บ้านนั้น นอนคนละห้อง ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ มีเงินเดือนให้ใช้เดือนตั้ง 50000 บาท  นะลูกต้น"

หึ คิดว่าเงินจะซื้อผมได้หรอ 50000 มันแน่นอนอยู่แล้ว มันซื้อผมได้ ใครจะไม่เอา อย่าคิดว่าผมเห็นแก่เงินนะ ผมเห็นแก่คนแก่ด้วย ไม่น่าจะเสียหายนะนึกซะว่าไปดูแลเด็กแล้วกัน

"ลูกลุงอายุเท่าไหร่ครับ" ผมถามเพราะจะได้วางแผนการวางตัวถูก

"27 นะ แต่พ่อไม่ชอบพวกสาวๆมัน ดูก็รู้ว่าจะมาจับ ยังไงก็ช่วยพ่อดูมันด้วยนะลูกสะใภ้"

"เฮ้อออ  ก็ได้ครับคุณลุง ผมจะเป็นสะใภ้หลอกๆรอตัวจริงของเขามาแล้วกันนะครับ" ผมรับคำอย่างอ่อนใจเห็นแก่ลุงที่เอ็นดูและดีกับผมหรอกนะ

"เรียกพ่อสิต้น ถ้ามันไม่รักต้น ก็คงเป็นสะใภ้หลอก แต่พ่อมั่นใจว่ามันต้องรักต้นแน่ๆพ่อมั่นใจ"

ไปซื้อความมั่นใจที่ Lazada มาหรือไงคุณลุง ถ้าลูกลุงผู้หญิงเยอะอย่างนั้น จะมาชอบผมก็บ้าแล้ว

"แล้วลูกคุณลุง เอ้ย คุณพ่อ ชื่ออะไรหรอครับ" อย่างน้อยต้องรู้จักชื่อสามีในนามก่อนเว้ย

"มันชื่อ ธาริน วรเดชชัยกุล หรือ ธาร " พูดไปคุณลุงก็ทำหน้าเหมือนกำลังจะชนะเกมส์ยังไงไม่รู้

"ครับ แล้วผมต้องย้ายไปที่นั้นเมื่อไหร่ครับ ผมต้องบอกแม่อีก ต้องแต่งเรื่องโกหกแม่ ไม่งั้นโดนบ่นยับแน่"

"วันจันทร์นี้ หรืออีก 3 วัน เตรียมตัวให้พร้อมนะลูกสะใภ้พ่อ" ถ้าคุณพ่อจะมีแววตานักล่าขนาดนั้น ยอมแล้วครับ

"ได้ครับผมจะทำให้ดีที่สุดครับ เฮ้อ" 


Tbc


 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:



สวัสดีค่ะ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ลองเขียนนะคะ :mc4: :mc4: :mc4: เขียนเพราะอยากโดยเฉพาะ :hao6: :hao6:

ยังไงก็ถ้ามีข้อผิดพลาดก็ขออภัยหรือเม้นให้กำลังใจได้นะคะ :mew1: :mew1: :mew1:

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2019 17:29:05 โดย Garuda8 »

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
อยากให้พ่อนราคู่กับแม่ต้นเพี้ยนๆเหมือนกัน  พระเอกคงแสบน่าดูกลัวต้นจะตามไม่ทันจัง. อย่าลืมแปะกฎเล้าด้วยค่ะ :pig4: :L2:

ออฟไลน์ lovenine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อ่าว ตกงาน แล่วได้ผัว เลิศจร่ะเลิศ^^

ออฟไลน์ nut2557

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ก็น่าติดตามน่า  แต่อย่าลืมกลับมาลงกฏของเล้าด้วยนะครับ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ปูเสื่อรอเลย  จั่วหัวซะขนาดนี้

ออฟไลน์ Garuda8

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
ตอนที่ 2

งานใหม่




    หลังจากวันที่ผมได้คุยกับคุณพ่อทร หรือว่าที่นายจ้างผมนั้นแหละ กลับมาบ้านผมก็ไม่รู้จะหาข้ออ้างบอกคุณนายแม่ผมยังไง คิดไม่ตก นอนไม่หลับ ผมไม่รู้จะปรึกษาใคร จนนึกขึ้นได้ว่า

ผมก็มีเพื่อนสนิทกับเขาหนึ่งคนนี่หว่า ผมเลยตัดสินใจโทรไปนัด เพื่อจะปรึกษาเรื่องนี้กับมันในวันพรุ่งนี้ เอาว่ะผมไว้ใจเพื่อนคนนี้มากครับถือว่ามันเป็นแม่คนที่ 2 เลย มันต้องช่วยผมได้แน่

สู้โว้ย

  วันรุ่งขึ้นผมมาถึงร้านขนมหวานสีพาสเทลร้านโปรดผมกับเพื่อนแถวสาธร ประมาณบ่ายโมงกว่า เปิดประตูเข้าไปก็เจอไอ้ตัวแสบนั่งรออยู่ดูท่าทางตื้่นเต้นเหมือนรอเผือกเรื่องผมอยู่แบบเต็มที่เลย


"มาแล้วๆ ฉันรอแกอยู่ตั้ง10 นาที แกมีอะไรเล่ามาเดี๋ยวนี้ฉันพร้อมให้คำปรึกษา ฮิฮิ"

จากคำพูดมันผมว่ามันรอเผือกมากกว่าครับ ผมลืมบอกครับเพื่อนคนนี้เป็นผู้หญิงนะครับมันชื่อไผ่ สนิทกันตั้งแต่สมัยมัธยม จนถึงตอนนี้ บ้านมันทำนิตยสารและพวกหนังสือครับมีชื่อเสียงพอควร ตอนนี้มันเป็นนักเขียนให้บ้านมันเองธุรกิจครอบครัวจริงๆ

"เออ คือว่าพอดีเมื่อ 2 เดือนก่อนฉันตกงานอ่ะ แล้วทีนี้ฉันหางานใหม่พึ่งได้งานเมื่อวานนี้เอง แต่ฉันต้องไปพักที่ที่บริษัทจัดให้อ่ะ ฉันเลยไม่รู้จะบอกคุณนายติมยังไง แกช่วยฉันคิดหน่อยสิ" แม่ผมชื่อติมครับเรา 2 คนมักเรียกแม่ว่าคุณนายติม


"เฮ้ย แกตกงานทำไมไม่บอกฉันว่ะ แล้วนี้งานอะไรของแก ทำไมบริษัทใหม่แกมีที่ให้ซุกหัวนอนด้วยว่ะ"  นั้นไงคำถามมาแล้วสมกับที่บ้านทำนิตยสารจริงๆ

"ก็งานบริษัทเนี่ยแหละแต่ว่ามันอาจจะมีบ้างที่งานมีปัญหา เขาเลยอยากให้ฉันไปอยู่ที่ที่จัดไว้ให้จะได้เรียกตัวได้สะดวกไง"

" ไอ้คุณต้น เอาความจริง แกดูอาหารบนโต๊ะสิมีหญ้าไหม" โอ๊ย หลอกมันไม่ได้จริงๆ มันเพื่อนหรือมันแม่ว่ะ บอกก็บอก ผมเลยตัดสินใจเล่าให้ ไอ้หนูไผ่มันฟังทั้งหมดเพื่อที่จะได้ขอความเห็นมันได้


" ห๊ะ แกกำลังจะไปมีผัวหรอต้น " ไอ้ไผ่ตาวาวเป็นประกายมองหน้าผมเหมือนดีใจที่ลูกสาวออกเรือน แต่ผมเป็นผู้ชายนะ

" ไม่ใช่เว้ยก็แค่ไปดูแล ถือซะว่าไปดูแลเด็กคนนึงไง ฉันว่าคงเหมือนพวกเลขา เขาไม่เอาฉันทำเมียเหมือนที่พ่อเขาคอยเป่าหูฉันหรอก"

"ดูแลเด็กกับผีอะสิ เด็กโข่งหรือไงอายุ 27 แกนี้มันโลกสวยไปแล้วนะ เอาจริงอย่างแกนะ ไม่ต้องถึง 1 ปี หรอก ฉันให้เต็มที่  3 เดือน มีผัวอย่างเต็มภาคภูมิแน่แก กรี๊ดดด"  โอ๊ย ผมล่ะปวดหัวกับเพื่อนคนนี้จริงๆ


"ไอ้ไผ่ เป็นผู้หญิงพูดจาให้มันดีๆหน่อย ผัวเผออะไรล่ะ ฉันมั่นใจว่าคงไม่มีอะไรหรอกฉันก็ทำงานของฉันเขาที่เป็นผู้ชายย่อมไม่มาเผลอเปิดห้องฉันแน่นอน"  ผมพูดกับมันด้วยความมั่นใจมาก เพราะผมเคยเห็นข่าวที่คุณธาริน อะไรนั้นควงสาว แต่ละคนสวยๆทั้งนั้น เขาจะมาสนใจอะไรผมล่ะ เพื่อนผมมันขี้มโนไปเอง


"เออให้มันจริงเถอะ หน้าอย่างแก รูปร่างอย่างแก ใกล้ชิดกันมันต้องหวั่นไหวบ้างแหละ เฮ้อ ช่างมันก่อนแล้วกัน แล้วแกต้องย้ายไปบ้านเขาวันไหนอ่ะ"

"วันจันทร์นี้ แต่ฉันไม่รู้จะบอกแม่ยังไงแกช่วยฉันหน่อยสิ" ผมส่งสายตาเว้าวอนให้ไอ้ไผ่เพื่อขอความช่วยเหลือ แบบที่คิดว่าน่าสงสารที่สุดไปให้มัน กระซิก กระซิก

"เออเรื่องนี้ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจะบอกแม่แกให้เองว่าแกทำงานให้บริษัทในเครือญาติฉัน แต่มันอยู่ต่างจังหวัดเลยต้องไปอยู่หอพักคนงาน แล้วฉันก็ไปด้วยเพื่อไปหาพล็อตเรื่องเขียนนิยายเรื่องใหม่ บอกแบบนี้แม่แกคงหายห่วง"


"แกสมกับเป็นนักเขียนจริงๆเลยขอบใจแกมากนะ" ผมรีบเข้าไปนวดไหล่เอาใจมัน คิดไม่ผิดจริงๆที่เรียกมันมา

"ไม่เป็นไรหรอกยังไง ฉันก็เพื่อนแก แต่มีข้อแม้"

"อะไรว่ะ" ผมถามแล้วมองหน้ามันด้วยความอยากรู้มันจะหาเรื่องเผือกอะไรอีก

"วันที่แกย้ายไปบ้านเขาอ่ะ ฉันขอไปช่วยขนของด้วยได้ป่ะ ฉันอยากเห็นหน้าลูกเขยอ่ะ" อยากจะบ้าผมฆ่าเพื่อนจะผิดไหม

" เออ กูจะห้ามมึงได้ไหมล่ะ"

"อย่าพูดจาไม่สุภาพกับผู้หญิงนะคะ ลูกต้น อีกอย่างกำลังจะมีสามีรักษาภาพด้วยค่ะ "  พูดแล้วยังจะมาลอยหน้า ลอยตา ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงนะ หัวทิ่มแน่


โอ๊ยยยย

แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม เลือกให้เธอไม่ไปได้หรือเปล่า TT

..........................................................................

ผมกลับบ้านมาในช่วงเย็นพร้อมกับแม่คนที่ 2 ของผม เข้ามาบ้านก็เจอคุณนายติมกำลังวาดรูปอยู่ สงสัยแม่คงจะกลับไปรับงานครับ แม่ผมเป็นศิลปินวาดรูป แต่ก่อนตอนผมเรียนแม่มักจะรับงานออกแบบ พวกออกแบบภายใน หรือพวกปกหนังสือนิยาย ผมเรียนจบเริ่มทำงานผมก็ให้แม่หยุดรับงาน พอผมตกงานแม่ก็คงเริ่มกลับมารับงานอีก


"คุณนายติม สวัสดีค่ะ คิดถึงจังเลย ไม่เจอกันนานก็ยังเหมือนเดิมเลยนะ"  ไอ้ไผ่มันเข้าบ้านมามันก็ประจบแม่ผมทันที รีบวิ่งเข้าไปกอดเชียวลูกบ้านไหนว่ะไอ้ลูกหมานี้

"ว้าย หนูไผ่ไม่เจอกันตั้งนานแม่ก็คิดถึง แล้วไปไงมาไงจ๊ะเนี่ย" แม่ก็ดูดีใจนะที่เจอมันคงอยากได้ลูกสาวผมดันเกิดเป็นผู้ชายซะนี่

"ก็ตั้งใจจะแวะมาหาคุณนายติมแหละค่ะ คือจะมาบอกเรื่องที่ต้นมันได้งาน แล้วต้องย้ายไปอยู่หอพักของออฟฟิศนะคะ" รวดเร็วแท้ๆ เพื่อนผมมาถึงก็ใส่เลย อย่ารอให้เหยื่อได้ถาม

"เอ๊ะ ต้นได้งานแล้วหรอลูก " แม่หันมาถามผม

"ใช่ค่ะแม่ ได้ทำบริษัทในเครือญาติของไผ่เอง แต่บริษัทอยู่ไกลหน่อยเลยต้องไปอยู่หอพัก แต่ไผ่ไปด้วยนะคะ พอดีมีนิยายต้องเขียนใหม่พอดี ไม่ต้องห่วงค่ะ"  คุณรู้ใช่ไหมว่าผมไม่ได้ตอบ

"หรอแล้วจะไปวันไหนล่ะ" แม่ถามกลับมาแต่ก็ไม่ได้ทำหน้าผิดสังเกตอะไร

"วันจันทร์นี้ครับแม่ ต้นก็ให้ไผ่มันมาช่วยเก็บของด้วยเนี่ยแหละ" แม่พยักหน้าแล้วหันไปพูดกับไอ้ไผ่

"ฝากดูต้นด้วยนะหนูไผ่ อย่าให้ใครมาจีบได้ แต่ถ้าคนมาจีบหล่อรวย ตรงเสป็คแม่ล่ะก็ ให้กุญแจสำรองห้องต้นกับเขาไปเลยลูก"  อ้าวแม่ทำไมเป็นงั้นไม่ห่วงลูกเลย

"เดี๋ยวไผ่จัดให้เลยแม่ ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม จะถนอมไว้ให้ผัวที่แท้ทรูของต้นเลย "  เอาเข้าไปทำไมไม่เกิดเป็นแม่ลูกกันไปเลยว่ะเนี่ย

"ต้นยังไงก็ดูแลตัวเองนะลูกถึงเราจะเป็นผู้ชายแต่เราก็สเป็คผู้ชายนะลูก เลือกดีๆล่ะ ฮ่าๆๆ"

ผมขอลาออกจาการเป็นลูกแม่วันนี้แหละ


......................

วันนี้วันจันทร์แล้ว ไอ้ไผ่ขับรถมารับผมแต่เช้าเผื่อช่วยขนของไปส่งที่บ้านวรเดชชัยกุล ตามแผนที่  ที่คุณนราทร ส่งให้เมื่อวาน ขับรถเข้ามาในซอยลึกพอควร เกือบสุดซอยเห็นจะได้ ก็จะเจอกับคฤหาสภ์หลังใหญ่  คุณลุงยามเหมือนได้รับคำสั่งไว้แล้ว แกเลยรีบกุลีกุจอมาเปิดประตูให้ผม  จากประตูบ้านกว่าจะถึงตัวบ้านนี้ก็ใช่เวลาพอสมควร  ไอ้ไผ่จอดรถ พร้อมกับผมที่เปิดประตูลงจากรถ ผมยืนสำรวจอยู่ประมาณ 1 นาทีก็มีป้าแม่บ้านมาเรียกผมให้ไปพบเจ้าของบ้านที่รออยู่ที่ด้านในคฤหาสภ์แล้ว


 ผมเดินตามป้าแม่บ้านเข้ามา ด้านหลังมีไอ้ไผ่ตามมา เดินผ่านประตูไม่สลักสีขาว ตรงเข้ามาเป็นห้องโถ่งกว้างมีบันไดเพื่อขึ้นชั้น 2 เดินผ่านบันไดจะพบประตูไม้อีกบานเพื่อเข้าไปยังห้องรับรอง


"ลุกต้นมาแล้วพ่อรออยู่พอดี" เสียงคุณนราทรทักขึ้นเมื่อเห็นผมเดินเข้ามา

"สวัสดีครับคุณลุ....เอ่อ คุณพ่อ  นี้เพื่อนผมครับเขามาช่วยขนของชื่อไผ่"  ผมทักทายแล้วรีบแนะนำหนูไผ่ให้คุณพ่อรู้จัก

"สวัสดีค่ะ คุณนราทร ไผ่เป็นเพื่อนกับต้นค่ะ ฝากดูแลต้นด้วยนะคะ"

"หนูนี่น่าเอ็นดูเชียว ได้สิฉันจะดูแลต้นอยู่แล้วลูกสะใภ้ทั้งคน มามา นั่งก่อนพึ่งมาเหนื่อยๆ  " คุณพ่อเชิญผมกับไผ่นั่งลงพร้อมทั้งให้แม่บ้านเอาน้ำมาเสิร์ฟ

"นิ่มเจ้าธารไปไหนล่ะ ไปตามลงมาสิ" คุณพ่อเรียกป้าแม่บ้านอีกครั้ง ซึ่งผมพึ่งรู้ชื่อตอนนี้เองว่าชื่อป้านิ่ม ให้ไปตามว่าที่เจ้านายที่ผมต้องดูแลจริงๆลงมาพบ

"มาแล้วครับพ่อ"  ไม่ทันที่ป้านิ่มจะพูดอะไรเสียงทุ้มที่ดังขึ้นทำให้ทุกคนต้องหันไปมอง เป็นร่างสูงใหญ่ของผู้ชายหน้าหล่อคม คิ้วโก่งได้รูป ปากบางแหลมนิดๆ หุ้ยทำไมหล่องี้ว่ะ เฮ้ยๆไม่ได้ๆ เขาเป็นผู้ชายนะเว้ยไอ้ต้น มองเลยไปอีกนิดเขาไม่ได้เดินมาคนเดียวแต่เดินมากับผู้ชายอีกคนที่ตัวเท่าๆกันหล่อพอๆกัน ใส่ชุดสูทดำ น่าจะเป็นคนดูแลหรือไม่ก็บอร์ดี้การ์ด

"มาแล้วก็มานั่งสิ ฉันจะให้แกมารู้จักกับคนดูแลแกคนใหม่หรือเรียกง่ายๆคือว่าที่เมียแกที่ฉันเลือกให้แล้ว"  ผมได้แต่ช็อคกับคำพูดของคนอายุมากกว่าพูดแบบนั้นเจ้าตัวไม่เกรี้ยวกราดเข้ามาชกผมหรือไงเนี่ย

"ผมแค่มาดูหน้าตาเฉยๆครับว่าคนที่คุณพ่อหามาจะเป็นยังไง ผมบอกไว้ก่อนนะครับ ต่อให้สัญญาที่คุณพ่อทำจะ 1 ปี หรือ 10 ปี ให้ดูกันไปยังไงผมก็ไม่ชอบคนของคุณพ่อหรอก "  ไอ้นี่ มันพูดกับพ่อมันแต่มันหันมาทางผมแล้วทำหน้าแสยะยิ้ม โอ๊ยไอ้หล่อ


"ฉันก็ยังไม่ได้ว่าอะไร ฉันก็ให้เขามาช่วยดูแลแก  เรื่องรักไม่รักชอบไม่ชอบมันขึ้นอยู่กับอนาคต อ่อ ห้องต้นเขาจะอยู่ห้องข้างแกนะมีอะไรจะใช้เขาก็เคาะเรียกได้เลย"  ฉิบหายอยู่ห้องข้างกันอีก


"ไอ้ต้นผัวแกแม่งโคตรเก๊กเลยอย่ายอมแพ้เอาชนะใจแม่งให้ได้เลย กูหมั่นไส้"  เสียงกระซิบข้างหูผมจากไอ้ตัวแสบช่างให้กำลังใจดีจริงๆ ก่อนที่ผมจะได้ตอบอะไรเสียงทุ้มก็ดังขึ้นมาก่อน

"ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมครับ ถ้างั้น"  เขาพูดพร้อมกับเดินมาหาผมแล้วยื่นมือมา ผมก็ลุกขึ้นต่อหน้าเขาและยื่นมือไปจับมือเขาเช่นกันก็ตามมารยาทอ่ะนะ

"ผมธาริน หรือเรียกธารก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณว่าที่ภรรยา แต่ผมคิดว่า ว่าที่ก็ยังคงเป็นว่าที่สถานะไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน"  มันกวนตีนผมอ่ะ มันกวนตีน โมโหแต่ต้องอดทนไว้ใครอยากเป็นเมียมึงไอ้สูงผมพยายามทำหน้าให้ปกติ แล้วยิ้มตอบกลับไป

"ผม ตติวงษ์ พฤกษ์เดชา หรือ ต้น ผมมาทำงาน ผมมาดูแลคุณ ผมเห็นด้วยนะกับคำว่า ว่าที่ภรรยา เพราะผมก็ไม่ได้อยากจะเปลี่ยนแปลงสถานะนั้นเช่นกัน ยินดีที่ได้พบนะครับ"  พูดง่ายๆคือกูก็ไม่ได้อยากได้มึงเหมือนกัน ไอ้ล่ำเอ้ย  หลังจากที่ผมพูดจบเหมือนคุณธารินเข้าจะตาขวางๆใส่ผมก่อนจะขอตัวแล้วไปทำงานที่ห้องทำงานของเขา

"หนูไผ่ หนูว่างานนี้น่าสนุกไหมลูก" เสียงของคนอาวุโสที่สุดถามเพื่อนผมหลังจากเมื่อกี้บรรยากาศเหมือนจะมีพายุได้ผ่านไปแล้ว

"มันส์แน่ๆคุณพ่อ อุ้ยหนูเรียกคุณพ่อได้ไหมคะ"

"ได้สิพ่อไม่เคยมีลูกสาว มีแบบหนูซักคนคงดี"

"ขอบคุณค่ะ งานนี้สนุกแน่ๆเลยค่ะ คุณพ่อว่าจะเลื่อนไม่เลื่อนค่ะ"  2 คนเขาคุยกันเป็นตุเป็นตะ

"พ่อว่าเลื่อนแน่"

"คิดเหมือนกันเลยคุณพ่อ"  แล้ว 2 คนก็พากันหัวเราะ ผมว่าไอ้ไผ่นี้แม่งควรเกิดเป็นลูกของทุกบ้านอ่ะ

ผมจะทำยังไงต่อไปเนี่ยต้องทำยังไงเขาถึงจะชอบหน้าผมไม่ต้องชอบแบบคนรักอ่ะแค่เจ้านายลูกน้องก็พอ คิดไม่ตกจริงๆ เอาว่ะอย่างน้อยก็มีพวกอยู่ตั้ง 2 คน แล้วเมื่อไหร่ 2 คนเขาจะเลิก

คุยเรื่องเลื่อนไม่เลื่อนเนี่ย  ไอ้ที่จะเลื่อนเนี่ยไส้กูเนี่ยแหละ  ไอ้ต้นเอ็งทำกรรมอะไรเนี่ย



"""""""""""""""""""
   เวลาเย็นของที่บ้านหลังใหญ่ที่ผมพึ่งเข้ามาอยู่ได้ไม่ถึง 4 ชั่วโมง ไอ้ไผ่กลับไปแล้วหลังจากที่ช่วยผมขนของและจัดของเข้าตู้ที่ห้องผม ที่คุณนราทรจัดไว้ให้ ห้องนี้ใหญ่กว่าห้องนอนที่บ้านผม 3 เท่า พื้นที่เหลือพอให้ไอ้ไผ่กับแม่ผมเล่นไพ่ได้เลยนะเนี่ย คิดอะไรเพลินๆซักพักผมคิดว่าคงต้องเริ่มการดูแลเจ้านายแล้วล่ะ ผมเลยเดินลงไปข้างล่างตามหาห้องครัวเพราะผมคิด

ว่ามันใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว พอเข้ามาในห้องครัวก็พบกับป้านิ่มกำลังทำอาหารอยู่

"ป้านิ่มครับ มีอะไรให้ต้นช่วยไหมครับ เห็นกำลังจะตั้งมื้อเย็น" ผมถามเพราะคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของผมด้วยที่จะต้องดูแลเจ้านาย

"ทำเป็นด้วยหรอคะ คุณต้น " ป้านิ่มถามผมด้วยความตื่นเต้น

"เป็นครับที่บ้านผมอยู่กับแม่ 2 คนเลยทำเป็นครับ แล้วนี่ป้าจะตั้งโต๊ะกี่โมงแล้วจะทำอะไรทานครับ"  ถามไปผมก็เปิดหม้อโน้น หม้อนี้ ไปพลาง

"ไม่ทำอะไรมากหรอกค่ะ เจ้านายบ้านนี้ไม่ค่อยทานข้าวกัน ป้าทำเผื่อไว้เวลาคุณเขาหิวนะค่ะ"

"คุณนราทรกับคุณธารินเขาไม่ทานกันหรอครับ" บ้านนี้แปลกข้าวปลาไม่กินจ้างแม่บ้านมาเปลืองเงินซะจริง

"คุณท่านไม่ได้อยู่บ้านนี้หรอกค่ะ นานๆจะมาค้าง คนที่อยู่ที่นี่จริงๆคือคุณธารค่ะ รายนี้ทำงานแล้วไม่ค่อยทานค่ะ" พุทโธ ธัมโม สังโฆ นี่หมายความว่าผมอยู่บ้านนี้กับไอ้หล่อแค่ 2 คนหรอเนี่ย มิน่าต้องมีคนมาคอยดูแล ผมพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดกับความจริงที่พึ่งได้รู้มา

"แล้ววันนี้ป้าจะทำอะไรทานครับ" ผมเปลี่ยนประเด็นไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่าน เอาว่ะ อยู่ 2 คนก็ 2 คน ยังมีคนรับใช้อีกไม่เห็นน่ากังวล

"ป้าว่าจะทำแกงจืดเต้าหู้ กับ ไข่ทอดชะอมค่ะ คุณธารเธอทานอะไรง่ายๆ"

"แล้วปกติเขาทานข้าวคนเดียวหรอครับ" ถามด้วยความสงสัยมันเหงาไหมเนี่ยกินคนเดียวทำไมมันไม่เอาป้ามานั่งเป็นเพื่อนด้วยว่ะ

"ใช่ค่ะ แต่ก็จะมีคุณกรณ์ยืนเป็นเพื่อนข้างๆนะค่ะ" ผมขมวดคิ้วมองหน้าป้านิ่มใครว่ะกรณ์ จนป้านิ่มสังเกตเห็นเลยเฉลยให้ผมฟัง

"คุณกรณ์คือบอร์ดี้การ์ดแล้วก็ควบหน้าที่เลขาคุณธารนะค่ะ คุณต้นเจอแล้วนี่คะ"  อ่อไอ้หน้าหล่อๆอีกคนชื่อกรณ์นี่เอง

"คุณกรณ์เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องฝ่ายแม่คุณธารนะค่ะ พ่อแม่เธอเสียคุณท่านเลยรับเป็นลูกอีกคน ก็เหมือนเจ้านายคนนึงแหละค่ะ แต่เธอชอบทำตัวเป็นลูกน้อง"  คงจะสนิทกันมากแน่ๆตามติดกันอย่างกับเหาฉลาม

"ป้าจะทำเลยไหมครับเดี๋ยวผมช่วย วันนี้ผมจะลากเจ้านายป้ามาทานข้าวเอง" เอาว่ะหน้าที่ดูแลก็คือดูแล พ่อเขาให้เงินขนาดนี้ จะปล่อยลูกเขาอดก็ยังไงอยู่  ผมกับป้านิ่มเลยช่วยกันทำอาหารก่อนจะถึงเวลาตั้งโต๊ะ และเวลาที่ผมต้องไปเอาตัวเด็กดื้อมาทานข้าว


เวลา 1 ทุ่มตรง เป็นเวลาทานข้าวที่ผมว่ามันกำลังดีนะ ตอนนี้ผมกำลังจะเดินไปตามตัวนายน้อยของบ้านมาทานข้าว ผมทำใจอยู่นานที่หน้าประตูห้องทำงานของเขา จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจเคาะ

ก็อก ก็อก

"ขอนุญาตนะครับ"  เงียบไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่คุณเรียกครับ

"ผมเปิดแล้วนะ" ผมเอามือจับลูกบิดแล้วหมุนเปิดประตูเข้าไป เห็นไอ้หล่อก้มหน้าอ่านเอกสารอะไรซักอย่าง ข้างกันก็มีคุณกรณ์ที่ว่าเป็นเลขายืนอยู่พร้อมเอกสารในมือเช่นกันแต่หน้าเขาหันมาหาผมพร้อมกับยิ้มให้

"มีอะไรหรือเปล่าครับคุณต้น" ป้าดดด คุณต้น ยืดจนคอหักเลยผม

"คือจะมาตามคุณธารไปทานข้าวนะครับถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว คุณกรณ์ด้วยนะครับ" บอกจุดประสงค์แล้วก็หันหน้าไปมองนายน้อยของบ้าน มันยังคงก้มหน้าไม่สนใจดินฟ้าอากาศใดๆทั้งสิ้น คุณกรณ์ได้แต่มองหน้าผม ไหวไหล่ให้แล้วหันไปมองเจ้านายตัวเองที่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง

"คุณธารครับไปทานข้าวเถอะ ผมรู้ว่าคุณงานยุ่งแต่ผมถูกจ้างมาให้ดูแลคุณเหมือนกัน คุณก็อยากทำงานให้ดี ผมก็อยากทำงานของผมให้ดีเหมือนกัน อีกอย่างถ้าคุณป่วยใครจะทำงานแทนคุณล่ะ ขืนคุณป่วยจริงผมต้องโดนหาว่าดูแลคุณไม่ดีแน่ๆ" ผมพูดออกไปตามความรู้สึกจริงๆที่ผมคิด ไม่ได้คิดจะกวน  ผมแค่อยากทำหน้าที่ให้ดีให้คุ้มเงินเท่านั้นเอง  คุณกรณ์หันมายิ้มให้ผมแล้วเรา 2 คนก็รอดูอาการของเจ้านายว่าจะยังไงต่อ

"ก็ไปสิฉันก็ไม่อยากเห็นใครโดนไล่ออกตั้งแต่วันแรกเพราะปล่อยให้ฉันอดข้าวหรอก"  ไอ้หล่อเงยหน้าขึ้นพูดแล้วลุกจากเก้าอี้เดินผ่านผมออกจากห้องไป   เอาว่ะอย่างน้อยมันก็มีเหตุผลคนนึงคุยกันได้เว้ย 

ผมรีบเดินตามไปที่โต๊ะอาหารเพื่อไปดูแลเจ้านายต่อ

"คุณเอาข้าวเยอะไหม" ผมถามเพราะไม่รู้ว่าเขาจะกินเยอะขนาดไหนเห็นว่าไม่ค่อยกินข้าวเลยไม่แน่ใจ

"ตามสมควรแล้วกันฉันต้องใช้พลังงานในการทำงานมาก ลองประมาณดูเอาสิ"  พูดแบบนี้เห็นผมเป็นนักโภชนาการหรือไง ผมเบะปากให้แล้วตักข้าวใส่จานให้เขาพอประมาณ แล้วหันไปขอจานอีกใบกับป้านิ่มเพื่อมาตักข้าวให้ตัวเอง และนั่งทางซ้ายมือของเขาเพื่อทานข้าวกับเขาด้วย

"นี่นายจะนั่งกินกับฉันด้วยหรอ"  เอ้า! เห็นแล้วยังจะถาม

"ใช่ ผมกลัวคุณเหงาไง  เลยนั่งกินเป็นเพื่อน กินหลายๆคนดีจะตายไป อย่าไล่ผมนะ ถึงไล่ก็ไม่ไปหรอกผมหน้าด้าน กินเถอะอาหารเย็นหมด"

"หึ " ผมได้ยินเสียงเหมือนเสียงหัวเราะเบาในลำคอของคนหน้าหล่อก่อนที่เราจะทานข้าวกันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรอีก หลังจากที่แม่บ้านเก็บโต๊ะแล้วผมก็เตรียมตัวจะขึ้นห้อง แต่ก็มีเสียงทุ้มเรียกผมขึ้นมาซะก่อน

"ต้นฉันขอคุยกับนายเป็นการส่วนตัวหน่อยสิ ที่ห้องฉัน"  ชิบหายแล้วทำไมต้องห้องแกด้วยว่ะไอ้หล่อ  สเปรย์พริกไทยก็ไม่มี ทำไงเนี่ย

"ฉันแค่จะคุยด้วยเฉยๆ อย่าทำหน้าเหมือนฉันจะตีนายสิ อีก  20 นาทีตามขึ้นไปล่ะ ฉันขออาบน้ำก่อน"

ให้มันแน่เถอะมึงใจหายหมด หลังจากนั้นผมก็ไปอาบน้ำทำธุระของผมบ้าง พอถึงเวลาผมก็ไปตามที่ ที่นายน้อยเขานัด

ก็อก ก็อก

"ผมเขาไปนะคุณ"  ผมรออยู่เกือบ  1 นาทีก็ไม่มีเสียงตอบรับจึงเปิดประตูเข้าไปเลย ห้องไอ้หมอนี้ใหญ่กว่าห้องผมอีก นอนคนเดียวจะเอาพื้นที่มาทำไมเยอะว่ะ ผมสำรวจอยู่ซักพักก็ได้ยินเสียงเปิดประตูภายในห้องคาดว่าเจ้าของห้องน่าจะพึ่งอาบน้ำเสร็จ

"มาแล้วหรอ" ไม่มาจะเห็นไม่ล่ะ ผมหันไปจะตอบมันแต่ เชี่ยยย ทำไมมึงไม่ใส่เสื้อผ้า พันผ้าขนหนูผืนเดียว บนหัวมีผ้าขนหนูผืนเล็ก โอ๊ยย เซ็กซี่อะไรเบอร์นั้น

"นี่  นายจะมองอีกนานไหม พ่อฉันจ้างมาดูแลฉันไม่ใช่หรอ เอ้า" เสียงเขาทำให้ผมสะดุ้ง พร้อมกับยื่นสิ่งของมาตรงหน้าผม นั้นคือผ้าขนหนูผืนเล็กที่อยู่บนหัวเขาเมื่อกี้ ผมรับมางงๆ มองผ้าแล้วมองหน้าเขาสลับกัน

"เช็ดหัวให้ฉันสิ ทำหน้าที่ ว่าที่ภรรยาของนายซะ"  ไอ้หน้าหล่อพูดพร้อมกับเดินไปนั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งแต่หันหน้ามาทางผม  ผมเดินตามไปยืนตรงหน้าพร้อมกับเริ่มเช็ดหัวให้เขา

"นี่ทำไมนายถึงมารับงานนี้ล่ะ" เจ้าของห้องถามขึ้น ขณะที่ผมก็กำลังเช็ดผมให้เขาอยู่

"มันไม่ได้มีอะไรเสียหายนี่ครับ ผมก็มาดูแลคุณ เพราะตอนนี้ผมคิดว่าคุณคงต้องการคนดูแลจริงๆแหละ ส่วนคุณก็สอนงานผม หากครบสัญญาผมก็ไป ไม่เสียหายนิ" ผมตอบตามความรู้สึกไม่ได้ปรุงแต่งอะไร

"นายเห็นฉันเป็นเด็กหรอ ต้องมาคอยดูแล"

"แล้วคุณคิดว่าไงล่ะ ข้าวก็ไม่ค่อยกิน ขนาดอาบน้ำคุณยังปล่อยให้น้ำหยดออกมาเลย เห็นไหมต้องดูแลยิ่งกว่าเด็กอีก "  ว่าเสร็จผมก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเขาอย่างถือวิสาสะ แล้วเปิดตู้เลือกชุดนอนแล้วส่งให้เขา แล้วเดินกลับไปที่ห้องตัวเองหยิบแป้งที่ห้องมา  เพื่อที่จะได้กลับมาปะแป้งให้เขา
ทุกการกระทำมีร่างสูงมองอยู่

"คุณปะแป้งก่อนสิถ้าใส่เสื้อผ้าเลยมันจะไม่สบายตัว" ผมยื่นแป้งให้เขาแต่เขาไม่ยอมรับไปถือซักที

"ทาให้ฉันสิ เห็นฉันเป็นเด็กไม่ใช่หรอ ฉันไม่เคยทาด้วยไอ้แป้งเนี่ย"  เวรกรรมของกู ทาแป้งให้เด็กก็ว่าน่ารักอยู่หรอกแต่ไอ้เด็กโข่งนี้ไม่ไหว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

ผมทาแป้งให้เขาที่หน้าอกลงไปถึงหน้าท้องเป็นลอน รวมถึงที่หลังที่ผมต้องเอื้อมมือไปถึงจะทาได้ ทำให้แก้มผมเฉียดกับแก้มเขา ถ้าตอนนี้ไอ้หล่อหันมาจมูกมันคงโดนแก้มผมแน่ๆ ทำไมห้องนี้มันร้อนจังว่ะ

"ตัวนายหอมดีนะ" ผมหันไปมองหน้าคนพูดจนจมูกเฉียดกับแก้ม แล้วผมก็รีบเดินถอยออกมา 1 ก้าว

"เสร็จแล้วครับคุณใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยเถอะ"  ผมก้มหน้าคุยกับเขา ไม่ได้มองหน้าเขาเลย ใครจะไปมองได้ล่ะโดนผู้ชายชมคือมันเขิลอ่ะ

"หึ ไม่ต้องห่วงนะ นายทำหน้าที่ของนายไปก็แล้วกัน ฉันจะถือว่านายเป็นลูกน้องคนนึง แค่นี้แหละที่ฉันจะพูด"

"ขอบคุณครับ" ผมกำลังจะเดินออกจากห้องก็ต้องชะงักเพราะเสียงไอ้หล่อ

"แต่ตัวนายหอมจริงๆนะ ติดปลายจมูกเลย"   (-/////////-)  อร้ายยยย ไอ้บร้าาาา

ไปแล้วเว้ยไม่อยู่แล้ว

"ฮ่าๆๆๆนายนี่ตลกดีนะ"  ผมได้ยินคำนี้ตามหลัง นี่ไอ้หล่อมันแกล้งผมใช่ไหมเนี่ย ให้ผมทนไม่ได้แล้วหนีไปใช่ไหม เห็นผมเป็นแก๊งค์สามช่าไปได้ คอยดูเดี๋ยวจะเอาคืนให้ได้เลย



Tbc


ขอคุยหน่อย
:hao7: :hao7: :hao7:

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ แล้วก็ขอบคุณเม้นที่แจ้งให้ลงกฏด้วยลืมจริงๆ

วันนี้ขออนุญาตลงตอน 2 ให้นะคะ ส่วนตอนอื่นจะลงให้ทุกอาทิตย์ค่ะ เห็นมีคนอ่านมีคนเม้นก็มีกำลังใจขึ้นเยอะ

ขอบคุณมากๆค้ราบบบบบบ


 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 20:50:55 โดย Garuda8 »

ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ต้นลูก หนูห้ามหวั่นไหวง่ายๆนะลูก

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ขออาทิตย์ละ2 วันได้ไหมอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Garuda8

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
ตอนที่ 3

เห็นใจ


  เฮ้อออออ
  เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ผมอยู่ที่นี่มาครบอาทิตย์แล้ว วันๆก็คอยแต่ตามไอ้หล่อกินข้าว เข้าไปเตรียมเสื้อผ้า จัดอะไรต่างๆให้คุณชายเขา ถ้าป้อนข้าวได้คงป้อนไปแล้ว ผมว่าเขาคงต้องติดนิสัยแล้วแน่ๆเลย  มีผมคอยทำทุกอย่างให้แบบนี้ ช่วงนี้เห็นดูอารมณ์ดีเหลือเกินจิกหัวใช้กันชัดๆ

ครืด ครืด

ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ที่สวนหลังบ้านโทรศัพท์ผมก็สั่น ล้วงออกจากกระเป๋ากางเกงมาดูว่าใครโทรมา ก็เป็นคุณพ่อสุดที่รักของไอ้นายน้อยหน้าหล่อ

"สวัสดีครับคุณพ่อ"

"ไฮลูกต้น เป็นไงบ้าง อยู่กับเจ้าธารโอเคไหม"

"ก็ โอเคครับ แต่ผมว่าผมน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้นะครับ" ผมพูดขึ้นเพราะว่าที่ผ่านมาผมรู้สึกไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยนอกจากดูแลนายน้อยของบ้าน

"อ่า ใจเย็นนะ ที่พ่อโทรมาก็เรื่องนี้แหละ"

"จะเปลี่ยนงานให้ผมหรือครับ" ผมรีบถามเพราะว่าอยากทำอะไรให้มันดูยุ่งๆกว่านี้

"คืองี้นะพรุ่งนี้ พ่อจะให้เทียนซึ่งเป็นหลานของพ่อเข้าไปสอนงานเรานะ เผื่อไอ้ธารมันไล่เราออกจากบ้าน ต้นจะได้มาช่วยงานพ่อหรือ ไปช่วยงาน เจ้าเทียนได้"

"อ่อ ดีเลยครับผมจะได้ไม่เบื่อด้วย แล้วเขาจะมากี่โมงครับ" ผมถามอย่างตื่นเต้น

"ประมาณซัก 11 โมงนะ ยังไงก็ฝากเลี้ยงดูปูเสื่อด้วยนะ"

"ได้ครับคุณพ่อ ขอบคุณมากนะครับ" 

ผมวางหูไปพร้อมกับความตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆในวันพรุ่งนี้ แค่คิดใจก็พองโตดีกว่าอยู่เปล่าๆเว้ย


ตอนเย็นผมก็เข้าครัวไปช่วยป้านิ่มทำอาหารเหมือนทุกวันเพื่อรอนายน้อยกลับจากทำงาน  แต่ว่าตอนนี้ก็ 6 โมงกว่าแล้วทำไมไอ้คุณธารมันยังไม่มาว่ะ

"ป้านิ่มครับทำไมวันนี้นายน้อยยังไม่มาล่ะครับ นี้มันผิดเวลาไปจะชั่วโมงแล้วนะครับ" ผมถามป้านิ่มที่กำลังเดินออกมาจากในครัว

"ไม่รู้สิคะคุณต้น ทำไมคุณต้นไม่ลองโทรหาดูล่ะคะ"

"ผมเป็นลูกน้องนะครับ ใครจะไปกล้าโทรหาเจ้านายล่ะ"

"ลูกน้องสำหรับนายน้อยแต่เป็นนายน้อยอีกคนสำหรับบ้านนี้นะคะ"

ผมยังไม่ทันจะได้เถียงอะไรต่อ รถเบนซ์สีดำก็เข้ามาจอดเทียบที่หน้าบ้านพอดี

"นั้นไงมาพอดีเลยค่ะ ตายยากจริงๆ" ป้านิ่มพูดขึ้น ผมจึงหันไปมองคนที่เดินลงมาจากรถ เดินมาทางผม กำลังจะอ้าปากถามว่าจะกินข้าวเลยไหมก็ต้องหยุดชะงักถามเรื่องอื่นออกไปเสียก่อน

"คุณ หน้าคุณไปฟัดกับหมาที่ไหนมาครับ" ผมพูดออกไปด้วยความตกใจ ไอ้หล่อไม่ตอบผมแค่มองหน้าเฉยๆแล้วทำท่าจะเดินผ่านผมไป ผมคว้าแขนเขาไว้

"คุณธาร คุณจะไม่ตอบผมก็ได้ แต่ให้ผมทำแผลให้ก่อนได้ไหม"

".."  เงียบนี้กูพูดกับแม่ซื้อหรือเปล่าว่ะเนี่ย

"นะคุณธาร คุณขึ้นไปรอที่ห้องแล้วกัน เดี๋ยวผมเอายาขึ้นไปทำแผลให้ "  ไอ้นายน้อยยังคงเงียบแต่พยักหน้าเป็นการรับรู้แล้วเดินผ่านผมไป  ผมหันไปทางเลขาหรือคุณกรณ์เพื่อจะถามถึงสาเหตุ

"มันเกิดอะไรขึ้นหรอครับคุณกรณ์" ผมอยากรู้จริงๆใครทำหน้าหล่อๆช้ำ จะหยอดตู้โทรศัพท์ไปด่ามัน

"มีการเข้าใจผิดนิดหน่อยนะครับ แต่เคลียกันเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องห่วงฝ่ายโน้นเละกว่าเยอะ"  กรณ์พูดแล้วเอานิ้วชี้ปาดคอตัวเองแล้วยิ้มให้ผม

"คุณต้นรีบไปทำแผลให้นายน้อยเถอะค่ะ" ป้านิ่มพูดขึ้น ผมจึงหันไปพยักหน้ารับแล้วเดินไปหยิบกล่องพยาบาล เพื่อจะตามขึ้นไปทำหน้าที่ที่ผมต้องทำ

.......................................

ก็อก ก็อก

"ผมเข้าไปนะคุณ" ไม่รอให้เอ่ยปากผมเปิดประตูห้องนอนของธารซึ่งผมเข้ามาประจำหลังจากที่ต้องมาทำหน้าที่ดูแลเขา ผมเห็นคนตัวโตหลับตานั่งอยู่บนโซฟาตรงปลายเตียง ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆอย่างถือวิสาสะ คนหล่อก็ลืมตาขึ้นมามองผมพอดี

"เจ็บไหมคุณ ทนหน่อยนะทำแผลแปปเดียว" พูดไปผมก็เอาสำลีที่ชุบแอลกอฮอลล์ เช็ดที่มุมปากเขา เบาๆเพราะผมมัวแต่ตั้งใจทำแผลที่ปากและที่มือของเขา เลยไม่รู้ว่าเขามองผมอยู่หรือเปล่า หรือว่าทำหน้ายังไง

"คิดอะไรอยู่ ทำแบบนี้เพื่อเอาใจฉันหรือไง"  คนตัวโตพูดขึ้น ทำไมคิดยังงั้นว่ะ

"นี่คุณ ถ้าไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้หรอกนะ "  หมั่นไส้ขอด่าหน่อย

"คุณชอบต่อยตีกับคนอื่นหรือไง ชอบให้ตัวเองเจ็บตัวหรือครับ"  ผมบ่นไปตามเรื่อง ในตอนนั้นคุณกรณ์ก็เปิดประตูเข้ามาดูเจ้านายของเข้าพอดี

"ทำไม เป็นห่วงในฐานะเมียหรือไง หรือว่านายจะทำดีหวังผล" คนตัวสูงพูดจบผมก็ได้แต่ถอนหายใจมโนไปใหญ่แล้ว

"ผมก็แค่เป็นห่วง ในฐานะที่เราอยู่บ้านเดียวกัน คุณไม่ห่วงตัวเองก็นึกถึงคนที่ห่วงคุณบ้างนะครับ" ผมพูดแล้วมองหน้าเขา ถ้ามองไม่ผิดผมคิดว่าเขากำลังจ้องผมเหมือนคิดอะไรอยู่

"นายนี่มันพูดมากจริงๆนะ แล้วเสร็จหรือยังเนี่ย"

"เสร็จแล้วครับ คุณจะทานข้าวเลยไหม" ไล่ผมจังเลย

"ใช่ เสร็จแล้วก็ออกไปได้แล้ว ฉันหิว"


"ครับ..เออคุณพรุ่งนี้คุณออกไปบริษัทหรือเปล่า" ผมถามหลังจากนึกขึ้นได้ว่าจะมีคนมาหาผมพรุ่งนี้

"ไปสิพรุ่งนี้มีประชุม" ผมพยักหน้ารับรู้แล้วเตรียมจะกลับไปที่ห้องของตัวเองผมนึกบางอย่างขึ้นได้จึงหันไปทางเขาอีกครั้ง

"คุณอย่าลืมกินยาแก้ปวดกันไว้นะ ผมไปแล้วนะ"

เดินกลับมาที่ห้องแล้วทิ้งตัวลงนอนอย่าสบายใจ

"ตื่นเต้นจังอยากเรียนรู้งานแล้ว พรุ่งนี้จะไม่น่าเบื่อแล้วสินะ ว่าแต่หน้าไปโดนอะไรมาว่ะ ช่างเหอะไม่อยากบอกก็ไม่อยากรู้" 

บ่นกับตัวเองก่อนหลับตาลงพักสายตาซักหน่อย

............................



เวลา11โมงผมมานั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกเพื่อรอคุณเทียน คนที่คุณพ่อบอกว่าจะมาสอนงานผมวันนี้ รอไม่นานป้านิ่มก็เดินมาพร้อมกับผู้ชายผิวขาวสูง ผมคิดว่าคนนี้ต้องเป็นคุณเทียนแน่ๆเลย

"คุณต้นค่ะ คุณเทียนมาค่ะ เดี๋ยวป้าไปเอาน้ำมาให้นะคะ "  ป้านิ่มบอกผมพร้อมกับขอตัวออกไปเอาน้ำมารับรองแขก

"สวัสดี น้องต้นใช่ไหมครับ พี่เทียนนะ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับธารนะ" คุณเทียนเอ่ยแนะนำตัวแล้วยิ้มกว้างให้ผม โอ้ยหัวใจทำไมหล่องี้ว่ะ

"ครับ ผมต้นครับฝากตัวด้วยนะครับ รบกวนมากๆเลยที่ต้องให้คุณเทียนมาสอนงาน"

ผมเขิลจังเขาดูอบอุ่นมากเลยอย่างกับพี่ก้อง สหรัถ

"รบกวนอะไร พี่เต็มใจนะ แล้วก็อย่าเรียกคุณนะ เรียกพี่สิมันดูสนิทกันมากกว่า" นั้นไงทำไมอบอุ่น จนใจละลายแบบนี้

"จะดีหรอครับ ผมแค่ลูกจ้าง"  ผมตอบกลับไป

"ลูกจ้างอะไร คุณลุงเห็นต้นเป็นลูกจ้างหรอ อย่าดื้อนะ เรียกพี่เร็วๆ" คุณเทียนพูดพร้อมกับหยิกแก้มผม ผมสะดุ้งนิดหน่อยแล้วมองหน้าเขาที่ส่งสายตาเหมือนจะแกล้งมาให้

"ครับ พี่เทียน" ยอมครับพี่ชายอบอุ่นแบบนี้

"งั้นเดี๋ยวพี่ จะเริ่มสอนจากโครงสร้างบริษัทแล้วก็การออกแบบก่อนแล้วกัน"

พี่เทียนเขาดูอยากสอนมากเขาทั้งตั้งใจและเอ็นดูผมมากเลยในตอนสอน อยู่ใกล้แล้วกร้าวใจจริงๆ  เวลาล่วงเลยมาเกือบบ่าย

ผมเริ่มหิวแล้ว เลยหันไปหาคนข้างๆที่มองผมศึกษาข้อมูลอยู่

"พี่เทียน ต้นหิวแล้ว พี่เทียนจะทานอะไรดีครับ เดี๋ยวต้นทำให้ทาน"  พูดเพราะอะไรเบอร์นี้ พึ่งรู้ตัวว่าตัวเองก็แอบแรด

"เราทำกับข้าวได้ด้วยหรอ ดีจัง "

"ทำเป็นครับ ไม่ได้โม้อร่อยด้วยนะ อยากกินอะไร เดี๋ยวต้นจัดให้"  ผมกอดอกอย่างภาคภูมิใจทำเอาพี่เทียนส่ายหัว

"พี่ของ่ายๆแล้วกันบ่ายแล้ว รอไม่ไหว งั้นเอาข้าวใช่เจียวหมูสับนะ" ผมทำตาโต

"โห ทำไมขอให้ทำง่ายจัง"  ถามเพราะสงสัย

"พี่กลัวเรา จะเป็นลมนะเลยเอาอะไรง่ายๆ"  อุ้ย เห็นใจคนอื่นนี่มันพระเอกชัดๆ

"ครับงั้นผมไปทำให้แปปนึงนะครับ"

ผมลุกขึ้นเพื่อไปทำมื้อเที่ยงสำหรับเรา ข้าวใข่เจียวใส่หมูสับร้อนๆถูกยกมาที่ห้องรับรองแขกพร้อมข้าว 2 จาน

สำหรับผมและพี่เทียน เราทานข้าวกันไปเล่าเรื่องประสบการณ์แสบๆให้กันฟัง เป็นมื้ออาหารที่ไม่น่าเบื่อเลย

"ต้น กินยังไงข้าวติดแก้มเลยเนี่ย"  พี่เทียนพูดแล้วเอามือมาหยิบข้าวที่แก้มผมออก แล้วก็เอามือเกลี่ยแก้มให้ 2-3 ที
มองหน้าผมด้วยสายตาที่ละมุนยิ่งกว่าเนสกาแฟ แล้วเอามือลูบหัวผมเบาๆ

"นายว่างมากหรอถึงมากินข้าวที่บ้านฉันนะ"  ผมสะดุ้งเพราะเสียงใครบางคนที่คุ้นหูแต่วันนี้มันติดจะห้วนกว่าทุกวัน
ผมหันไปก็เจอคุณธารยืนกอดอกอยู่

"ฉันก็มาทำงานตามที่พ่อนายมอบหมายมานี่ไง"

"หมายความว่าไง" คุณธารถาม

"อ้าวก็ฉันมาสอนงานต้นนะสิ เพราะหากต้นต้องออกจากที่นี่ต้นจะได้ไปทำงานกับฉัน"  ถ้าผมดูไม่ผิดเหมือน  2 คนนี้เขาไม่ได้คุยกันแบบปกติใช่ไหมหรือผมคิดมากไป

"มันอาจจะไม่มีวันนั้นก็ได้นะเทียน" อ้าวไอ้เวรกูต้องเป็นขี้ข้ามึงจนตายใช่ไหม

"อะไรก็ไม่แน่นอนนะ ต้นเป็นเด็กฉลาดเรียนรู้ไวบางทีคุณลุงอาจให้ต้นไปอยู่กับฉันในเร็วๆนี้ก็ได้"  เดี๋ยวนะนี้มันสงครามแย่งอาหารกันหรือเปล่าแลดูตัวเองมีคุณค่าชอบกล นายน้อยธารไม่พูดอะไรต่อทำคิ้วผูกโบว์แล้วก็ขึ้นห้องไป ผมได้แต่หันมามองพี่เทียนแล้วก็ยิ้มให้  ช่วงบ่ายผมก็เรียนกับพี่เทียนต่อ จน4โมงเย็นพี่เทียนก็กลับไป


"วันนี้พี่สนุกมากเลย"

"สนุกตรงไหนกันต้องมาสอนผมเนี่ย" ผมยิ้มเขิลๆ

"พี่ว่าเราคุยสนุกดีนะ มองโลกในแง่ดี พี่ชอบ" เย้ยยยย ชอบแบบไหนว่ะใจน้องบ่อดี

"ขอบคุณที่เอ็นดูผมนะครับพี่เทียน"  พี่เทียนหัวเราะแล้วเอามือมาลูบหัวผม

"พี่พูดจริงๆนะ ถ้าไม่ได้อยู่ที่นี่หรือเลือกที่จะไปจากที่นี่ ไปอยู่กับพี่นะ" น้ำเสียงพี่เทียนจริงจังกว่าที่ผ่านมา สายตาก็มองผมเหมือนอยากให้ผมตอบ

"ถ้าเขาไล่ผมหรือไม่ต้องการผมจริงๆผมจะไปอยู่กับพี่ครับ พี่อย่าทิ้งผมอีกคนแล้วกัน"

ผมพูดด้วยน้ำเสียงปกติ พี่เทียนยิ้มแล้วเราก็แลกเบอร์เพราะพี่เทียนไม่ได้มาสอนทุกวัน หากเขาจะมาวันไหนพี่เขาจะได้โทรมาบอกก่อน ผมยืนรอส่งพี่เทียนซักพัก ก็ขึ้นไปข้างบนเพื่อไปถามคนหน้าหล่อซักหน่อยว่าจะกินข้าวหรือยัง ตอนเข้ามาอาจจะหิว ถึงทำท่าจะกัดชาวบ้านเขา


"คุณธารผมเข้าไปนะ"  ไม่เคาะแล้วตะโกนเรียกเลยแล้วกัน ผมเปิดประตูห้องเข้าไปก็เจอคุณธารกำลังอ่านเอกสารอยู่ที่โซฟา

"คุณธาร คุณหิวหรือยัง ผมจะทำอาหารให้" นายน้อยของบ้านหันมาทางผมเล็กน้อยแล้วหันไปอ่านเอกสารต่อ

"พึ่งนึกขึ้นได้หรอ ฉันนึกว่านายจะมีคนให้ดูแลใหม่แล้วซะอีก "  อ้าวกูผิดอีหยังว่ะ ผมเกาหัวงงๆ

"โมโหหิวใช่ไหมเนี่ยคุณ งั้นจะทานอะไรล่ะเดี๋ยวทำให้" ร้อนมาต้องเย็นกลับเดี๋ยวบ้านพัง ไม่ใช่อะไรเดี๋ยวกูตกงาน

"ไม่เป็นไร ฉันไม่หิวหรอก ว่าแต่เห็นคุยกับไอ้เทียนสนุกเลย กำลังวางแผนหาเจ้านายคนใหม่หรอ" ทำไมพูดได้น่าต่อยแบบนี้เนี่ย

"คุณธาร คุณดูละครมากไปหรือเปล่า " คนอะไรมองคนอื่นแง่ร้ายตลอด

"ฉันก็ถามเผื่อเอาไว้ เพราะคิดว่านายจะรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่พ่อฉันหวังยังไงก็ไม่มีทางเป็นจริง ใครจะรู้นายอาจจะหาลู่ทางใหม่อยู่ก็ได้"

"ก็แล้วแต่คุณจะคิดเถอะครับ พูดไปคุณก็ไม่เชื่ออยู่ดีในเมื่อคุณไม่เคยเปิดใจมองคนอื่นในแง่ดีเลย" โมโหแล้วนะเนี่ย

"อยากให้ฉันคิดว่านายมาดี ก็ทำให้ฉันเห็นสิ คุณภรรยา หึ"

"ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าคนที่ทำอะไรไม่หวังผลนะมันมีอยู่จริงๆ"  เออคอยดูเลยไอ้นายน้อยเอาแต่ใจ

"แล้วเรียนวันนี้เป็นไงบ้างล่ะ" คนเอาแต่ใจถามขึ้น

"ก็ดีครับได้รู้โครงสร้างการทำงานแล้วก็ออกแบบนิดหน่อย พี่เทียนสอนเก่งมากเลย"

"หืม..ถึงขนาดเรียกพี่ด้วย " ผมหันไปมองหน้าเขา ตอนที่เขาพูดขึ้น

"ครับ พี่เทียน สอนผมเข้าใจมากเลย"  ผมพูดไปยิ้มไป

"ก็ดีเรียนรู้ไว้เยอะๆ เวลาไปทำงานที่อื่นแล้วจะได้ไม่อายเขาว่าเคยทำงานที่นี่" พายุมาอีกแล้วโว้ยยย

"ครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ "  อยากมุดพื้นหนีจากตรงนี้จริงๆ

"เชิญ "

หลังจากเดินออกมาจากห้องของนายน้อยแล้ว ผมก็เดินกลับมาที่ห้องตัวเอง ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงทันทีที่มาถึง

"เฮ้อออ ทำงานอะไรก็ไม่เหนื่อย เท่ากับการทำงานกับคนมองโลกในแง่ร้าย" เอ๊ะ หรือมันจะมีสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้

"ต้องใช่แน่ ต้องสืบให้รู้ให้ได้เลย"
 
...........................

ธาร Part

ตั้งแต่ต้นมาอยู่ที่บ้าน ผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ บ้านที่ปกติจะเงียบ มันก็มีเสียงของความสนุก เสียงหัวเราะ ต้นไม่เคยเก๊ก เขาดูเป็นธรรมชาติ วันแรกๆที่เขามาดูแลเรียกกินข้าวก็ไม่ชินหรอก พอผ่านไปสักพัก ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นง่อย กลับบ้านต้องมีคนมาคอยยืนรอ จะอาบน้ำมีคนเตรียมเสื้อผ้าให้ วันไหนไม่มีคนเตรียมให้ก็มองหา  สงสัยจะเคยตัวซะแล้ว

วันนี้ผมมีเรื่องนิดหน่อย เนื่องด้วยช่วงนี้ผมกำลังควงสาวสวยหน้าตาดีคนนึงที่เป็นลูกสาวของเสี่ยรับเหมาที่ผมทำงานด้วย ผมรู้ว่าเธอเข้าหาผมเพราะด้วยความที่ผมหล่อหน้าตาดี รวย และโสด อยากนักผมก็จัดให้ ผมรู้ว่าเธอมีแฟนอยู่แล้ว ผมแค่สนองความต้องการของเธอ ไม่ได้จะจริงจังอะไร เดี๋ยวก็ปล่อยชะนีสู่ป่า แต่เรื่องมันดันเกิดตอนที่ผมกำลังจะเก็บเอกสารเพื่อกลับบ้านในวันนี้

"ท่านค่ะมีคนขอพบ แจ้งว่ามาจากเสี่ยวิชิตค่ะ"  ผมเงยหน้ามองเลขาที่เข้ามารายงาน ผมพยักหน้าให้เข้ามาพบได้ ซักพักก็มีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาหาผมหยุดยืนตรงหน้าโต๊ะทำงาน


"หน้าตาคุณก็ดี ทำไมไม่มีปัญญาหาเมียเองหรือไงถึงต้องมาแย่งของคนอื่น"  ผมเลิกคิ้วมองเขา แล้วก็กระตุกยิ้ม ผมพอนึกออกแล้วล่ะว่ามันเป็นยังไง

"แต่ผู้หญิงเขาบอกว่าเขาโสดนิ อ๊าา ถ้ารู้งี้ฉันไม่เอา...มาควงดีกว่า"  ผมเห็นหมอนั้นกำหมัดแน่นหลังจากที่ฟังผมพูดจบ

"โอเคเรื่องนี้ฉันยอมรับผิดนะ ฉันคืนให้นายก็แล้วกัน ผู้หญิงแบบนั้นเป็นฉัน ฉันไม่จริงจังหรอกนะ"  ผมพูดพร้อมกับเดินไปหาเขา

พลั๊กก 

จบคำเขาผลักผมล้มไปโดนแจกันแตก และเขามาต่อย ซึ่งคนอย่างผมถ้าไม่อนุญาตไม่มีใครสามารถทำร้ายผมได้ง่ายๆหรอก แต่ครั้งนี้ผมผิดจริงจึงยอมให้เขาต่อย แต่แค่หมัดเดียวนะ พอจะซัดอีก กรณ์ก็เข้ามาจับตัวไอ้หมอนั้นออกไป

"หมัดที่แกต่อยเมื่อกี้ ฉันถือว่าชดใช้ให้แกแล้วนะ กรณ์เอาตัวออกไป "  กรณ์พยักหน้าแล้วลากผู้ชายคนนั้นออกไป ผมไม่ใส่ใจหรอก ผมทำอะไร ผมรู้ ถ้าผิดผมชดใช้ ถ้าไม่ผิดผมก็เอาคืนสาสมเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ผมเลยกลับบ้านช้าไปหน่อย มาถึงบ้านก็ตามคาดเห็นคนตัวขาวๆยืนรอผมอยู่ที่ประตูทางเข้าบ้าน
ผมเดินลงไป หาเขาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ สังเกตเห็นเหมือนต้นกำลังจะพูดอะไรแต่เขาเห็นแผลผมเข้าซะก่อน
เขาตาเบิกกว้างสายตาเขาดูเป็นห่วงแบบจริงๆ ไม่เสแสร้ง เขาถามอะไรผมก็ไม่ตอบ
เพราะผมไม่รู้จะตอบอะไร เพราะปกติไม่ค่อยมีใครถามผมเพราะห่วงแบบนี้ แล้วก็ไม่รู้ว่าเวลาอยู่ต่อหน้าเขาผมจะเก๊กทำไม

ต้นบอกให้ผมไปรอที่ห้องเพราะจะทำแผลให้ ผมพักสายตารอเขาที่ห้อง เขาเข้ามาทำแผลให้ผม ดูเป็นห่วงถามไถ่อาการ
แล้วค่อยๆทำแผลให้  ต้นตั้งใจทำ จนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมมองเขาอยู่ ผมพิจารณาหน้าของต้น  คิ้วของต้น  ตาของต้น จมูกของต้น   ปากของต้น ผมอยากรู้ว่าที่เขาแสดงออกมามันจริงใจแค่ไหน 

เฝ้าแต่หวังเล็กๆว่าต้นจะไม่เหมือนคนอื่นที่เข้ามาหาผมเพราะเงิน ผมเลยอยากดูว่าเขาจะทำอะไรต่อไป

ผมต้องพยายามหาวิธีมาพิสูจน์เขาให้ได้  หลังจากที่ต้นออกไปในห้องก็เหลือแค่ผมกับไอ้กรณ์ ความเงียบปกคลุมอยู่สักพักกรณ์ก็ทักขึ้นมา

"นายน้อยครับ ผมว่าคุณต้นเขาก็ดูเป็นห่วงนายนะครับ" ฉันก็คิดแบบนั้นแต่

"อาจจะเล่นละครอยู่ก็ได้ หรือไม่ก็พยายามทำดีหวังผลอยู่" ผมพูดไปตามประสบการณ์ที่เคยเจอมาตลอด

"นายคิดมากไปหรือเปล่าครับ ผมว่าคุณต้นเขาไม่เหมือนใครนะครับ แกรู้สึกยังไงก็แสดงออกทางแววตาหมด"

"ยังไม่แน่หรอก นี้แค่อาทิตย์เดียวเอง ขนาดคนคบกันมาเป็นปียังหลอกกันได้เลย" ใช่ผมเจอแบบนี้เสมอ

"ก็ต้องลองดูครับ แต่ผมพนันข้างคุณต้นนะ เพราะคุณต้นคือคุณต้นไม่ใช่คนอื่น"

"ฉันจะคอยดูคุณต้นของนายก็แล้วกัน" ผมก็หวังว่าเด็กคนนี้จะไม่เหมือนคนอื่นนะ
..............

วันนี้ผมประชุมเสร็จเร็วเลยว่าจะกลับบ้านไปพักผ่อน เดินออกมาก็เจอเลขาคนเก่ง

"นายครับวันนี้ประชุมเสร็จเร็วกลับบ้านเลยไหมครับนาย"  กรณ์เดินเข้ามาหาผมหลังจากการประชุมโปรเจคใหม่ของบริษัทพึ่งเสร็จ

"กลับเลยก็ได้ฉันจะไปกินข้าวที่บ้านด้วย"

"ช่วงนี้นายกินข้าวครบทุกมื้อเลยนะครับ" ผมชะงักแล้วหันไปหาคนถาม

"มีคนทำให้กินก็ต้องกินสิ"

"ไม่ใช่เพราะคนที่กินเป็นเพื่อนหรือครับ" กวนตีนใช่ไหม

"อย่ามารู้ดีหน่อยเลย พ่อจ้างมาตั้งแพงก็ต้องเอาให้คุ้มถูกไหม" ผมหันหลังเดินต่อแต่ได้ยินเสียงหัวเราะตามมาจากด้านหลัง

ไอ้นี้มันเป็นเลขาหรือเป็นนายผมกันเนี่ย


กลับมาบ้านก็ได้ยินเสียงพูดคุยหัวเราะดังมาจากห้องรับรอง ผมเดินตามเสียงไปจนเห็นคน 2 คนที่กำลังนั่งคุย นั่งยิ้ม นั่งหัวเราะกัน

ภาพที่ผมเห็นคือ เทียนลูกพี่ลูกน้องผมลูบแก้มของต้น ภาพนั้นมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนจุกๆ ในอก

จนเผลอพูดอะไรที่มันกวนตีนไอ้เทียนออกไปทั้งที่เราก็ไม่เคยมีปัญหากันอาจจะมีไม่ลงรอยกันบ้าง แต่ไม่รู้ทำไมเรื่องนี้มันสุดทนจริงๆ ผมกลับขึ้นมาที่ห้องด้วยอาการหงุดหงิด

"นายจะทานข้าวไหมครับเดี๋ยวผมบอกป้านิ่มให้" กรณ์เดินตามผมขึ้นมาข้างบน

"ไม่กินรอเย็นเลย" ผมโมโหอะไรเนี่ยไม่เข้าใจตัวเอง

"ผมนั่งทานเป็นเพื่อนก็ได้นะครับ เพราะคนที่ทานข้าวกับนายน่าจะมีคนอื่นทานด้วยแล้ว"  ผมหันขวับไปมองกรณ์

"เงียบไปเลยฉันแค่รอกินเย็นทีเดียวเว้ย แต่ก่อนก็กินแบบนี้เหอะ" หิวจะตายแล้ว  ใครกันว่ะบังคับให้กินครบ 3 มื้อจนมันชิน

ยิ่งคิดยิ่งโมโห

"ผมคิดว่ารอคนมาง้อไปกินข้าวซะอีก" คนพูดยิ้มให้ผม มันกวนนักไอ้นี่

"ใครรอ ออกไปเลยไปฉันจะนอนพัก เดี๋ยวจะทำงานต่อแล้ว"

"งอนก็บอกว่างอนนะครับ อย่าเก๊ก" ไอ้กรณ์ไอ้เลว

"ไอ้กรณ์ แกอยากโดนเตะใช่ไหม แล้วใครงอนไม่มีเว้ยแค่เหนื่อย " ผมมองหน้ากรณ์อย่างเอาเรื่อง

"ครับ ผมไปแล้วก็ได้ ตามสบายครับนาย หึหึ"  ผมสาบานเลยจะใช้งานให้หนักกว่าเดิมไอ้นกรู้


 หลังจากที่ต้นขึ้นมาตามผม เพราะคิดว่าผมจะหิว แต่ผมเป็นอะไรก็ไม่รู้อาจจะเพราะด้วยความหมั่นไส้รอยยิ้มนั้น ผมเลยเผลอที่จะพูดประชดและว่าต้นออกไป

เห็นยิ้มให้เทียนแบบนั้นใครจะรู้อาจจะ เบื่อคนเอาแต่ใจแบบผมแล้วก็ได้เลยอยากที่จะไปทำงานกับคนที่เขาสบายใจกว่า แต่พอได้พูดออกไป ได้ฟังจากต้นบางทีผมอาจต้องมอง

เด็กคนนี้ใหม่มากๆ ผมไม่ควรเอาอดีตมาตัดสินปัจจุบันถูกไหมครับ

ธาร Part end

.......................

  เช้าวันถัดมาผมลงมาช่วยป้านิ่มทำกับข้าวแต่เช้า และเจอคุณกรณ์ที่ลงมาเตรียมรถและตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนที่คุณธารจะออกไปทำงาน ผมเลยรีบวิ่งไปหาเขาเพื่อที่จะคุยด้วย

"คุณกรณ์ครับ ว่างไหมครับผมขอคุยด้วยหน่อย" คุณกรณ์หันมายิ้มให้

"ว่างครับ มีอะไรหรือเปล่าครับคุณต้น"

"คือผมอยากรู้เรื่องคุณธารนะครับ เรื่องที่เขามองโลกในแง่ร้ายแบบนี้ มันเป็นนิสัยของเขาหรือว่า" ผมไม่กล้าถามสิ่งที่ผมสงสัย

"หรือว่าเจออะไรที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนี้ใช่ไหมครับ" ถูกเผง ผมรีบพยักหน้ารับคำเขา

"ที่จริงแล้วแต่ก่อนเขาก็เป็นคนมองโลกในแง่ดีนะครับ จนกระทั่งเจอคนที่รักหักหลังนะครับ"

"หักหลัง หมายความว่ายังไงครับ" ผมสงสัย

"นายน้อยนะ เขาเคยมีคนรักที่รักกันมากอยู่คนนึง ผ่านอะไรมาด้วยกัน จนถึงขั้นคิดจะแต่งงานสร้างครอบครัว แต่สุดท้ายเธอคนนั้นก็หนีไปกับชู้รักที่ร่ำรวยกว่านายน้อยในตอนนั้น"    พูดไปคุณกรณ์ก็ทำหน้าเศร้า

"หลังจากนั้นก็มีคนพยายามเข้ามาหาคุณธาร แต่สุดท้ายก็เข้ามาเพื่อผลประโยชน์ทั้งนั้น นายน้อยเลยกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายแล้วก็เปลี่ยนคู่ควงไปเรื่อยไม่จริงจังกับใครแบบนี้แหละครับ"

"น่าเห็นใจจังเลยนะครับ เขาคงฝังใจมากๆเลย" ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิดไม่น่าไปแอบโมโหเขาเลย

"ครับ ก็หวังว่าคุณต้นจะนำความจริงใจของคุณต้น ชนะใจนายได้นะครับ" เดี๋ยวนะคุณเลขาคำพูดมันแปลกๆนะ

"เอ่อ ขอบคุณนะครับที่เล่าให้ผมฟัง ผมจะได้รู้ว่าจะรับมือกับเขายังไง"คุณกรณ์ยิ้มให้ผมหลังจากพูดจบ เอาล่ะผมจะไม่ทิ้งคุณนะ นายน้อยผมคิดในใจ

"ผมจะอยู่ข้างเขา จนกว่าเขาจะไม่ต้องการผมครับ" ผมยิ้มตอบคุณกรณ์ ผมไม่ได้คิดว่านี่คือหน้าที่ ผมแค่อยากให้คนคนนึง ใช้ชีวิตให้มีความสุขมากกว่าเดิมเท่านั้นเอง

ผมเดินเข้าบ้านมาเพื่อที่เตรียมจัดโต๊ะ เพื่อที่เตรียมอาหารเช้า ซักพักคุณธารก็ลงมานั่งประจำที่

"คุณธารครับ ผมที่เรื่องอยากรบกวนหน่อยจะได้ไหมครับ" ผมเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังทานอาหารเช้ากับเขา

"มีอะไรก็ว่ามาสิ" นายน้อยมองผมด้วยสายตาจับผิด

"คือ คุณจะว่าอะไรไหมถ้าผมจะขอดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง" พูดจบผมก็รู้สึกตัวว่าผมพูดอะไรออกไปเนี่ย

"หมายความว่ายังไง ขอคำอธิบายด้วย" เขาเลิกคิ้วถาม

"คือผมอยากจะออกไปทำงานกับคุณด้วย นะครับ ในฐานะอะไรของคุณก็ได้ แล้วก็ กลับมาบ้านก็จะดูแลต่อเหมือนที่ทำทุกวัน"

"แล้วมัน 24 ชั่วโมงยังไง" เขาถามพร้อมกระตุกยิ้ม

"เอ่อ ถ้าคุณไม่รังเกียจผมขอย้ายไป อยู่ห้องเดียวกับคุณได้ไหมครับ"
 :pighaun: :pighaun: :haun4: :haun4:
Tbc

 :z3: :hao5: :katai2-1: :katai4: :haun4:
งื้อออออ หนูจะไปขออยู่ห้องเดียวกับเขาไม่ได้นะลูก ถึงพ่อเขาจะอยากได้หนูทำสะใภ้ก็เถอะ

น้องเห็นใจพี่จนลืมไปเลยว่าเข้ามาที่นี่เพราะ พ่อเขาจะเอาทำสะใภ้ ช่วยกันส่งใจเชียร์น้องให้แก้สันดานพี่ธารได้ด้วยนะทุกคน
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-04-2019 03:59:01 โดย Garuda8 »

ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ตายแล้ว 555

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
เดี้ยววววว น้องต้นจะไปขอนอนห่องเดียวกับเค้าง่ายๆได้ไงคะ

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
24 ชั่วโมงเลยหรือน้องต้น

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องงง น้องเป็นผู้ชายเด้ออย่าลืม  แด๊ะแด๋มาก55

ออฟไลน์ Garuda8

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
ตอนที่  4

เป็นห่วง

 "เอ่อ ถ้าคุณไม่รังเกียจผมขอย้ายไป อยู่ห้องเดียวกับคุณได้ไหมครับ" หึ้ยยย พูดออกไปแล้ว เขาจะหาว่าอ่อยไหมว่ะเนี่ย

"เมื่อกี้นายว่ายังไง แล้วเรื่องอะไรฉันต้องให้นายมานอนกับฉัน" โดนทุบแน่กู

"คือไม่ใช่อย่างนั้นนะคุณ คุณเคยบอกเองว่าให้ผมพิสูจน์ ว่าผมนะจริงใจ แล้ววันๆผมเจอคุณน้อยมากเลยแล้วผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นได้ยังไงล่ะถูกไหม"

"หึ อยากได้ฉันมากหรือไง จำเป็นต้องนอนห้องเดียวกันอ่อยแรงจังนะ" คนตัวสูงกระตุกยิ้ม

"จะคิดยังไงก็เรื่องของคุณเถอะ แล้วให้ผมไปอยู่ด้วยได้ไหม"

คุณธารทำท่าคิดอยู่สักครู่ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาใครบางคน แล้วลุกออกจากโต๊ะอาหารเพื่อไปคุยธุระ ประมาน5นาที ก็เดินกลับเข้ามาหาผมพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้ ผมมองหน้าเขา

แล้วยื่นมือไปรับโทรศัพท์มาคุย

"ต้นครับ" กรอกเสียงใส่ปลายสายเพื่อให้ทางนั้นรู้ว่าผมพูดอยู่

(ต้นพ่อเองนะ ได้ข่าวว่าเราอยากจะทำงานกับเจ้าธารแถมยังขอย้ายไปอยู่ห้องเดียวกับมันอีกหรอ มันจริงไหมเนี่ยแถลงข่าวหน่อยสิ)

"คือเออ" ผมหันไปมองหน้าต้นเหตุ แล้วผงกหัวขออนุญาตเพื่อออกมาคุยด้านนอก ฝ่ายนั้นพยักหน้ารับผมจึงเดินออกมาด้านนอก เพื่อคุยธุระต่อ

"ใช่ครับคุณพ่อ ต้นเป็นคนขอเขาเอง"

(ทำไมล่ะ บอกพ่อได้หรือเปล่า)

"คือผม แค่รู้สึกเห็นใจคุณธารนะครับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขา มันคงเจ็บปวดมากผมเลยอยากให้เขามีความสุขบ้าง"

(แต่ทุกวันนี้มันก็ดูมีความสุขอยู่แล้วนะ) คุณพ่อพูดขึ้นมา

"ก็ใช่ครับ แต่เขาก็ตั้งแง่กับทุกคนและไม่เคยมองใครดีเลยนะครับ คนแบบนี้เครียดตายเลย ถ้าคุณพ่อให้ผมมาดูแลเขา ก็คงไม่ผิดที่ผมก็อยากจะให้เขาเชื่อใจแล้วก็มีความสุขอย่างน้อยเขาจะได้รู้ว่ายังพอมีคนจริงใจกับเขานะครับ" ผมได้ยินเหมือนปลายสายหัวเราะเบาๆ

(ได้ต้น พ่อยอมเราจริงๆแล้วก็คิดไม่ผิดที่เลือกเรามาเป็นสะใภ้ พ่ออนุญาตจะทำอะไรก็เต็มที่เลย เจ้าธารนะมันโทรมาถามพ่อเฉยๆว่าจะยอมให้เรานอนห้องเดียวกับมันหรือเปล่าเพราะเห็นว่าพ่อเป็นคนพาเราเข้ามานะ)

"ครับ ตกลงอนุญาตใช่ไหมครับ" ผมลองหยั่งเชิงถาม

(พ่ออนุญาต ดีเหมือนกันจะได้ลองใกล้ชิดกันให้มากขึ้นจะได้ศึกษากันและกัน)

"ขอบคุณมากครับ คุณพ่อ ผมจะทำให้ดีที่สุด"
ผมยิ้มอย่างดีใจ แล้วกล่าวขอบคุณอีกครั้งก่อนวางสาย แล้วจึงเดินกลับเข้ามาที่โต๊ะอาหารอีกครั้ง ซึ่งในตอนนี้นายน้อยของบ้านกำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เขาเงยหน้ามามองผมเมื่อเห็นว่าผมเดินกลับเข้ามานั่งที่เดิมแล้ว

"พ่อว่ายังไงบ้าง" เขาถามขึ้น

"ท่านอนุญาตครับ" ผมตอบกลับไป

"ถามจริงๆต้องการอะไร" เขามองหน้าผมและเลิกคิ้วถาม

"ไม่ได้ต้องการอะไรหรอกครับ คุณคิดมากเกินไปแล้วอีกอย่าคุณอย่าลืมนะผมถูกจ้างมาทำอะไร"

"อยากทำหน้าที่เมียว่างั้น" โอ๊ยยคำพูด

"คุณพูดจาให้มันดีๆหน่อย อยู่ด้วยกันจะได้เรียนรู้แล้วก็ใกล้ชิดกัน จะได้รู้ไงว่าผมนะไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ไม่ได้คิดไปถึงเรื่องอื่นหรอก"

"อ่อ ก็ได้ฉันจะลองเชื่อใจนายสักครั้ง วันนี้ก็ให้เด็กช่วยขนของไปไว้ห้องฉันก็แล้วกัน"

"ครับ ถ้างั้นผมขออะไรอย่างได้ไหมครับ" ผมลอบมองหน้าเขาแล้วยิ้มแหยๆให้

"นายนี้มันเรื่องเยอะจริงๆ อะไรอีกล่ะ" พ่อดุแล้วแง๊ง

"ผมอยากให้คุณลองเปิดใจ เลิกตั้งแหง่กับผมระหว่างที่เราอยู่ด้วยกันได้ไหมครับ คิดว่าผมเป็นเพื่อนหรือน้องคุณก็ได้ ผมไม่อยากให้คุณคิดอะไรในแง่ลบจะพาลระแวงเปล่าๆเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน"

คุณธารเงียบไปสักพัก หน้าหล่อๆขมวดคิ้ว ก่อนจะหันมาสบตาผม

"ได้ ฉันจะลองเชื่อใจนายดู ฉันก็ขี้เกียจจะมานั่งระแวงเหมือนกัน แต่คงต้องค่อยๆลดลง จะให้เลิกคิดเลยก็คงไม่ได้หรอกนะ"

"ได้ครับ แค่นี้ก็ดีแล้ว สัญญานะครับ" ผมยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าเขา เขาชะงักไปแปปแล้วค่อยๆยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับนิ้วของผม ผมยิ้มกว้างให้เขาแล้วขยับนิ้วของเราขึ้นลง จนได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของคนตรงหน้า

"นายนี้มันเด็กจริงๆ"

ตอนนี้จะว่าอะไรก็ไม่สนขอแค่ให้เขาเปิดใจบ้างก็พอ

...................

  หลังอาหารเช้า ผมก็กลับขึ้นห้องเพื่อทยอยเก็บของ และจัดการให้คนในบ้านช่วยขนของไปไว้ที่ห้องของคุณธาร ในระหว่างที่กำลังจัดของนั้น

ผมก็คิดได้ว่า ต้องโทรรายงานแม่คนที่ 2 ก่อน ผมจึงหยิบโทรศัพท์มากดหาทันที

(ไง ลูกต้น) เสียงใสของไผ่ตอบรับมา หลังจากที่เสียงสัญญาณพึ่งดังได้ครั้งเดียว

"คือ ฉันโทรมากวนป่าวว่ะ พอดีมีเรื่องจะคุยด้วยอ่ะ"

(ตอนนี้ฉันกำลังจะประชุมว่ะ แต่บ่ายว่าง มากินไรกันหน่อยไหมล่ะ)

"ได้ฉันไม่ติดอะไร งั้นเจอกันที่ร้านเดิมนะ บ่ายโมง"

(จัดเลยเพื่อน เจอกันนะ)

ผมวางสายจากเพื่อนแล้วหันมาจัดของต่อเพื่อรอเวลาออกไปตามนัด

.............

  ร้านคาเฟ่สีพาสเทลร้านเดิมที่ผมชอบมากับไผ่ประจำ ตอนนี้เรานั่งกันอยู่ที่โต๊ะริมกระจกของร้าน ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวนิดหน่อยเนื่องจากเป็นโต๊ะที่อยู่ด้านในมาถึงร้านผมก็สั่งเครื่องดื่มกับเค้ก เสร็จแล้วก็หันมาบอกสิ่งที่ผมพึ่งตัดสินใจทำลงไป ให้เพื่อนรักได้รับรู้

"ห๊ะ แกเลยย้ายไปอยู่กับเขาที่ห้องเดียวกันเนี่ยนะ" เสียงเพื่อนสาวตกใจ จนคนในร้านหันมามอง ผมรีบผงกหัวขอโทษแล้วหันกลับมามองเพื่อนต่อ

"แกจะเสียงดังทำไมว่ะ ตกใจอะไรนักหนา" ผมทำตาขวางใส่

"โอ๊ยลูกฉัน ลืมไปหรือเปล่าที่แกอยู่ด้วยนะเสือนะโว๊ยเสือ ไม่ใช่หมา ถึงฉันจะอยากให้แกมีผัวก็เถอะ"

"มันไม่มีอะไรหรอก ผู้ชายเหมือนกันเว้ย ฉันแค่อยากให้เขาเลิกมองคนอื่นในแง่ร้ายไง แกเคยบอกไม่ใช่หรอว่าฉันเนี่ยมีพลังบวกฉันก็อยากถ่ายทอดให้เขาไง" คนดีไหมละกู

"นี่อย่าโลกสวยออกมาจากทุ่งลาเวนเดอร์ก่อน แกลืมไปหรือเปล่าว่าพ่อเขาอยากให้แกเป็นสะใภ้นะเว้ย ย้ายไปอยู่ห้องเดียวกันแบบนี้ แกเสร็จเขาก่อนแน่ๆ"

"เขาคงไม่มาสนใจผู้ชายอย่างฉันหรอก" ผมพูดให้เพื่อนเข้าใจ

"จร้า ไม่สนใจเลย ยอมให้ไปอยู่ด้วยนี่ก็น่าสงสัยแล้วค่ะ"  ก็จริงแต่ว่าเขาก็คงอยากเลิกเป็นแบบนี้แหละมั้งเลยอยากให้ผมช่วยก็ได้

"เอาน่า ไม่มีอะไรหรอก ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำให้เขาไว้ใจแล้วเปิดใจรับฉันเป็นเพื่อนคนนึงได้หรือเปล่า" งานหนักเลยนะเนี่ย

"ฉันเอาใจช่วยแกก็แล้วกัน แต่ใกล้ชิดขึ้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ ฉันไม่รู้นะเว้ยว่าคุณธารแต่ก่อนที่จะเจอเรื่องบ้าบอนั้นเขาเป็นยังไง แต่ปัจจุบันที่ฉันเห็นนะคือ.."

"แกจะบอกอะไรฉัน" ผมขมวดคิ้วงงกับคำพูดของเพื่อน

"ปัจจุบันที่ฉันเห็นตามข่าวนะมันไม่ดีสักเท่าไหร่ แกต้องสัญญากับฉันว่าห้ามหลงรักเขาก่อนได้ไหมว่ะ ฉันกลัวแกเจ็บว่ะ"

"มันจะเป็นไปได้ยังไง" หึ เพื่อนคิดเยอะจริงๆ

"ต้น รักก็คือรักมันเกิดขึ้นได้ตลอด แค่ตอนนี่แกเริ่มสงสาร เริ่มเห็นใจเขา แกก็อันตรายแล้วต้น ความรักไม่ผิด ผิดที่เราหวัง แล้วถ้าไม่เป็นอย่างหวัง ฉันคงจะเสียใจมากถ้าวันนึงแก
รักเขาแล้วเขายังคงเห็นแกเป็นคนที่เข้ามาเพื่อหวังผล บางครั้งวิธีที่แกกำลังพยายามทำอยู่อาจจะไม่ได้ผลกับคนบางคนก็ได้"

ผมฟังที่เพื่อนพูดแล้วก็คิดตามมันก็อาจจะจริง ผมเริ่มจากการเห็นใจเขา อยากทำให้เขามีความสุข ถ้าได้ใกล้ชิดกันความรู้สึกของผมอาจจะเกินเลยก็ได้

"ฉันจะมีสติมากๆก็แล้วกัน เรื่องของอนาคตหากจะเกิดขึ้นจริงๆฉันก็พร้อมจะรับผลของมัน ขอแค่แกอยู่ข้างฉันไม่ทิ้งฉันเมื่อวันนั้นมาถึงก็พอ"  นานๆครั้งผมถึงจะพูดอะไรที่มันจริงจังกับไผ่แบบนี้ ไผ่มองผมแล้วยิ้มให้ มือเพื่อนขยับมากุมมือผมแล้วบีบเบาๆเหมือนให้กำลังใจ

"ฉันไม่ทิ้งแกหรอก เรื่องของแกอ่ะน่าเผือกจะตาย ทิ้งไปก็ไม่สนุกสิ" ไผ่หัวเราะแล้วเอามือมายีหัวผม เราทั้งคู่มองหน้ากันแล้วยิ้ม


.............
ไผ่ Part

 ต้นกลับไปแล้ว มีแต่ฉันที่ยังอยู่นั่งคิดอะไรไปเรื่อยจนถึงเวลาที่คิดว่าควรจะกลับได้แล้ว ก่อนกลับซื้อขนมไปฝากพ่อที่บ้านเสียหน่อย ฉันเดินไปที่หน้าเค้าเตอร์เพื่อสั่งขนม

"เอาเครป เค้ก สตรอเบอรี่ กับ เรนโบว์เค้กค่ะ" กำลังหยิบกระเป๋าสตางค์เพื่อจะควักเงินออกมาจ่าย ก็รู้สึกถึงแรงสกิดด้านหลัง หันไปก็เจอกับผู้ชายตัวสูงหน้าหล่อคนนึง

"จำผมไม่ได้หรอครับ ผมเป็นเลขาคุณธารครับ" อ่อ

"แล้วทำไมหรอคะ" ฉันถามกลับไป คืองงสกิดทำไม

"โธ่ ผมอยากทักทายนิครับภาษาคนรู้จักกัน" หืม ใครรู้จักมันชื่อยังไม่รู้เลย

"เดี๋ยวนะคะ คือฉันเป็นเพื่อนต้น คุณเป็นเลขาคุณธาร เรารูจักกันตรงไหนหรอคะ" เงิบไปดิ

"555 คุณตลกจัง ผมอาจจะข้ามไปหน่อย ผมชื่อกรณ์ ส่วนคุณคือคุณไผ่ โอเคแค่นี้ก็รู้จักกันแล้ว"  จร้า พูดเองเก่ง แนะนำเก่ง

"อ่อ ค่ะ แล้วฉันต้องถามด้วยไหมว่าคุณมาทำอะไรแถวนี้" ตามน้ำไปเลยจร้า

"คุณอยากรู้ผมก็จะบอกครับ ผมมาทำธุระให้เจ้านายแถวนี้ ครับพึ่งเสร็จ เลยแวะมาหาซื้อน้ำทาน พอดีเจอคุณเข้าเลยมาทัก" มโนเก่งด้วยใครอยากรู้ว่ะนั้น

"ค่ะ พอดีฉันนัดต้นไว้ แต่คุยเสร็จแล้วเขาพึ่งกลับไปเอง เสียดายถ้าคุณมาเร็วกว่านี้จะฝากกลับไปด้วย" คุยๆไปก่อนจะได้ฝากดูแลเพื่อนได้

"คุณดูห่วงคุณต้นจังเลยนะครับ แบบนี้แฟนไม่หึงแย่หรอครับ"

"ไม่นะคะ เพราะฉันไม่มีแฟนค่ะ เลยไม่ต้องกังวล" ทำไมอยู่ๆทำหน้าเจ้าเล่ห์ หรือดูผิด

"อ่าาา ดีจังเลยนะครับ ว่าแต่คุณรู้เรื่องที่คุณต้นจะย้ายไปอยู่ห้องคุณธารหรือยังครับ"

"รู้แล้วค่ะ"

"เนี่ย เพราะผมเลยนะครับ ผมไปเล่าเรื่องคุณธารให้คุณต้นฟัง คุณต้นเลยเห็นใจพยายามเข้าหาจะช่วยให้เจ้านายผม คุณต้นเป็นคนดีเนอะคุณว่าไหมครับ"

หืม ไอ้นี่เองตกลงมันเรื่องจริงหรือมันหลอกให้ต้นไปติดกับดักว่ะ

"คุณมีแผนอะไรเนี่ย บอกไว้ก่อนนะถ้าเพื่อนฉันเสียใจหรือเป็นอะไรนะ คุณตายแน่" ขึ้นเลย

"เฮ้ยคุณคิดมาก ผมทำตามหน้าที่ไง ส่วนคุณต้นเดี๋ยวผมดูแลให้ถ้าคุณต้องการไม่ต้องห่วงครับ"

"หน้าที่อะไรของคุณ" สงสัยเลยถามนะเนี่ยไม่ได้อยากเผือกจริงๆ

"หน้าที่กามเทพไงครับ" โอ๊ยสารร่างอย่างกับยักษ์ไตตั้น จะเป็นกามเทพ บ่นในใจพอดีกับที่ได้เค้กพอดีเลยหันไปจ่ายตังแล้วรับเค้กมาจากพนักงาน จึงหันมาหาคนตัวสูงอีกครั้ง

"แล้วแต่คุณเถอะ ฉันไปแล้วนะ ยังไงก็ฝากดูแลต้นด้วยนะค่ะ" ฝากฝังเพื่อนสักหน่อย มีกับเขาอยู่คนเดียวก็ดีเกิ้น

"ครับไม่ต้องห่วง ผมดีใจนะ"

"ดีใจอะไร"

"ก็ดีใจที่คุณคิดถึงผมเป็นคนแรกไง"

เดี๋ยวๆฉันพูดตอนไหนเนี่ย เบะปากใส่คนพูด แล้วกำลังจะเดินออกจากร้านก็ได้ยินเสียงทุ้มพูดขึ้นตามหลัง

"แต่ดีใจมากกว่าที่คุณยังไม่มีแฟน ฮิ้วว"

ฮิ้วป้าแกสิ นี่ฉันเจอกับคนแบบไหนเนี่ย แม่ปวดหัวค่ะ

ไผ่ Part end

..................
  ผมกลับมาถึงบ้านก็เย็นมากแล้วจึงรีบเข้าไปเตรียมอาหารรอคุณธารกลับบ้าน แล้วก็กินข้าวด้วยกันตามปกติ กินเสร็จผมก็ขึ้นห้องนอนพร้อมเขาและให้เจ้าของห้องไปอาบน้ำก่อน ในระหว่างที่คนตัวโตอาบน้ำผมก็เดินไปเอาหมอนและผ้าห่มที่ห้องเดิมมา เพื่อที่จะเอามาใช้หนุนนอนและห่มร่างกาย ไม่ต้องถามว่าห้องใหม่ไม่มีหรอมีครับแต่นั้นมันบนเตียงที่ที่ผมจะนอนนะคือโซฟาปลายเตียงต่างหาก ระหว่างที่กำลังจัดอยู่คุณธารก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี

"นายทำอะไร"

"ปูที่นอนไงครับ"

"ที่โซฟาเนี่ยนะ" คนถามขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

"ใช่ครับ ก็ผมเข้ามาห้องนี้เพื่อมาดูแลคุณ จะไปนอนเตียงเดียวกับคุณได้ยังไง นอนนี่ก็ถูกแล้ว"

" ฉันคิดว่านายจะมาดูแลฉันในฐานะว่าที่เมีย นายนี่มัน" คนพูดสบถในลำคอ อะไรว่ะแค่นี้ก็ต้องโมโหด้วย

"ไม่เอาดีกว่าครับ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ผมนอนนี่ก็ถูกแล้ว"

"ตามใจก็แล้วกัน" คุณธารเดินไปนั่งตรงโต๊ะเครื่องแป้งผมจึงเดินตามไป

"ผมเช็ดให้ครับ แล้วก็ผมเตรียมชุดนอนไว้ให้แล้วนะครับแขวนอยู่หน้าตู้" ผมบอกเขาพลางเช็ดผมให้เขาไปด้วย

"ขอบใจ" ผมยิ้มให้เขา แล้วเช็ดผมให้เขาจนแห้งแล้วขอตัวไปอาบน้ำ ผมอาบน้ำเสร็จเดินออกมาก็เห็นเจ้าของห้องหลับไปแล้วพร้อมกับเอกสารในมือ

ผมจึงเดินไปหาเขาที่เตียงแล้วค่อยๆดึงเอกสารออกจากมือของเขาวางไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง แล้วกลับมาจัดท่าการนอนให้เขาได้นอนสบายขึ้น แล้วเอาผ้าห่มคลุมขึ้นมาให้ถึงอก

ผมยืนมองหน้าเขาเพื่อพิจารณา

"ตอนนอนก็น่าเอ็นดูจะตาย ทำไมต้องทำหน้าดุด้วย" ผมยิ้มแล้วก็ส่ายหัว

"ฝันดีนะครับ คุณธาร"

พูดเสร็จผมก็เดินเอาผ้าขนหนูไปผึ่งแล้วเดินไปเชคหน้าต่าง ประตู แล้วปิดไฟ แล้วกลับมานอนที่โซฟาที่เตรียมไว้ หัวถึงหมอนผมก็หลับทันที จึงไม่รู้ว่ามีใครบางคนลุกขึ้นมามองผม

"นายก็เหมือนกัน ฝันดี"


..............


  อาทิตย์นึงเข้าไปแล้วที่ผมนอนห้องเดียวกับนายน้อย แล้วก็เป็นหนึ่งอาทิตย์ที่ผมมาเป็นเลขาเขาเช่นกัน ถ้าถามว่าคุณกรณ์ไปไหน ก็ยังอยู่ครับเพียงแต่โดนลดไปเป็นผู้ช่วยเลขาแทน

"ต้นเอาเอกสารชุดนี้ไปตรวจสอบสิว่ามันมีปัญหาหรือมีจุดที่ต้องแก้ไขไหม" ผมหันไปมองเจ้าของเสียงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา ซึ่งตอนนี้ผมทำงานที่โซฟาอีกฝั่งที่ใช้รับแขก

"ครับคุณธาร" ผมเดินไปรับเอกสารที่โต๊ะของเขาเพื่อจะเอามาตรวจสอบตามคำสั่ง เราต่างคนต่างทำงานจนล่วงมาเวลาเย็น

"คุณธารวันนี้ผมขอกลับเองได้ไหมครับ"

"ทำไมล่ะ จะไปไหนหืม"

"คือผมจะไปห้างนะครับ พอดีของใช้ของคุณหมด แล้วก็กะว่าจะไปซื้อของสดมาทำอาหารด้วย" เขาพยักหน้ารับแล้วทำท่าคิดอะไรแปปนึง

"งั้น ฉันไปด้วย ไปหาอะไรกินที่ห้างเลยจะได้ไม่เสียเวลา เดี๋ยวให้กรณ์โทรบอกป้านิ่มไม่ต้องเตรียมอาหารเย็น" เอางี้เลยหรอผมแอบเกรงใจนะเนี่ย

"จะดีหรอครับ"

"เอาตามนั้นแหละ เตรียมตัวเก็บของแล้วก็ไปได้แล้ว" ดุจังพ่อคุณ

เราออกจากบริษัทในช่วงเย็น เรื่องการจราจรไม่ต้องพูดถึง ติดทุกวันครับ กว่าจะถึงห้างที่ใกล้ที่สุดก็ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง รถหรูสีดำจอดในช่องจอดVIP ผมและนายน้อยเดินเข้าห้างมาก่อนคุณกรณ์ ที่กำลังจัดการธุระตัวเองนิดหน่อย

"เย็นมากแล้วทานข้าวก่อนไหมครับค่อยไปซื้อของ" ผมถามขึ้นเพราะกลัวอีกคนจะหิว

"เอาสิ"

"แล้วคุณอยากทานอะไรครับ"

"เอาเป็นร้านนั้นแล้วกัน" เขาชี้ไปที่ร้านอาหารไทยที่ใกล้ที่สุด ท่าทางจะหิวมากจริงๆ

ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เดินนำเขาไปที่ร้านเลย เราเลือกโต๊ะในสุด เพราะนายน้อยเขาอยากได้ส่วนตัวนิดนึง เด็กเสริฟเดินเข้ามาพร้อมเมนูอาหาร ส่วนใหญ่ผมจะให้เขาเป็นคนสั่ง  สั่งอาหารเรียบร้อยคุณกรณ์ก็เดินตามเข้ามา ลูกน้องกับเจ้านายก็คุยเรื่องงานกันระหว่างที่รออาหาร สักพักอาหารที่สั่งก็มาเสริฟเต็มโต๊ะ คนหิวจัดไม่พูดไม่จาตั้งหน้าตั้งตากิน ทั้งเจ้านายและลูกน้อง

"คุณไม่ทานกุ้งหรือครับ สั่งมาไม่เห็นคุณทานเลย ซดแต่น้ำ" เนื่องจากอาหารบนโต๊ะมีต้มยำกุ้งด้วยแต่คนที่สั่งอย่างคุณธารกลับซดแต่น้ำตักแต่เห็ด

"ไม่ล่ะ ฉันขี้เกียจแกะ" ผมได้ยินเสียง หึ จากคนเป็นลูกน้อง

"ขี้เกียจแกะหรือแกไม่เป็นครับนาย"  พูดจริงป่ะเนี่ย

"ไอ้กรณ์ จะกินข้าวหรือจะกินอย่างอื่น" คนเป็นนายพูดแล้วมองตาขวาง ผมมอง 2 คนเถียงกันเล็กน้อยก่อนที่จะต่างฝ่ายต่างหันไปจัดการอาหารตรงหน้าต่อ ในตอนนั้นผมเลยตักกุ้งที่ยังอยู่ในหม้อขึ้นมาใส่จานตัวเองแล้วแกะเปลือกออกให้เหลือเแต่เนื้อ แล้วตักไปใส่ในจานของคนขี้เกียจแกะกุ้ง

"ทานสิครับ เดี๋ยวผมแกะให้" เจ้าของจานชะงักแล้วเงยหน้ามามองผม

"ขอบใจ" ผมยิ้มให้เขาแล้วแกะกุ้งใส่จานให้เขาอีก คนตัวโตก็กินไปยิ้มไปคงจะดีใจที่ได้กินกุ้งล่ะสิ

"แหม ท่าทางกุ้งร้านนี้จะสดและหวานมากนะครับ ทานไม่หยุดเลย"

"ไอ้กรณ์..."

"ทราบแล้วคร้าบบบบบบบบบ"

ทานอาหารเรียบร้อยพวกเราก็เดินลงมาซื้อของใช้ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ซื้อเรียบร้อยเราก็ให้คุณผู้ช่วยเลขาหิ้วไปเก็บก่อน เพราะผมและคุณธารจะแวะเข้าห้องน้ำก่อน ทำธุระเรียบร้อยเราก็กำลังเดินไปที่ลานจอดรถโซน VIP ก็มีคนทักขึ้นมาก่อน

"น้องครับ โทษทีนะ ห้องน้ำไปทางไหนหรือครับ" ผมหันไปตามเสียงเรียก ก็พบผู้ชายคนนึงใส่เสื้อสีดำกางเกงยีนส์ยิ้มให้แล้วถามทางไปห้องน้ำ

"อ่อ ครับ เดินไปทางนั้นแล้วเลี้ยวขวา จะเจอ ATM แล้วเลี้ยวซ้ายได้เลยครับ" ผมบอกทางให้กับเขา

"ขอบคุณครับ" ผมยิ้มให้เขาและกำลังจะหันหลังกลับ แต่หางตาเห็นมีดพกปลายแหลมที่ผู้ชายที่ถามทางถืออยู่และทำท่าจะเข้ามาแทงนายน้อย

"คุณธารระวังครับ" ผมตะโกนบอกคนที่หันหลังไปแล้วพร้อมกับผลักเขาให้พ้นทางมีด เขาล้มลงกับพื้น แต่ชายคนนั้นยังจะตามไปแทงเขาอีกผมจึงรีบวิ่งไปผลักชายคนนั้น จนล้มแล้ววิ่งไปแย่งมีด แต่เขากลับถีบที่ท้องผมทำให้ผมหงายหลังล้มลงไปกุมท้องด้วยความจุก คนร้ายลุกขึ้นแล้วเดินมาทางผม

"มึงเสือกนักใช่ไหมงั้นก็ตายก่อนเลยแล้วกัน" สิ้นคำพูด เขาก็ส่งมีดพุ่งมาทางผม ผมหันหน้าหลับตาลง ผ่านไปซักแปปก็ไม่รู้สึกเจ็บจึงลืมตาขึ้นภาพที่ผมเห็นทำให้ผมตกใจ จนอยากจะร้องไห้ คุณธารเอามือเปล่ากำมีดคนร้ายไว้ แล้วส่งสายตาขวางไปหาคนร้าย แล้วเอามือที่ไม่ได้กำมีด ชกเขาที่หน้าผู้ชายคนนั้นจนล้มลง แล้วตามไปเตะเข้าที่ท้อง อย่าให้นับเลยว่ากี่ที มันนับไม่ถ้วนจริงๆ

"นายครับพอแล้วครับ เดี๋ยวผมเคลียเองรีบไปทำแผลก่อนเถอะครับ" ดีที่คุณกรณ์วิ่งเข้ามาทันก่อนที่ผมจะเห็นคนตาย

"แกไปสืบมาว่าไอ้นี่ใครส่งมา แล้วจัดการเคลียให้ฉันด้วย" คุณธารพูดจบก็รีบเดินมาหาผม

"ต้น เป็นอะไรหรือเปล่า ต้น ต้น ตอบฉันสิ" ผมมองหน้าคนที่ถามผม พร้อมกับเขย่าตัว แต่ผมไม่ได้ตอบอะไร แล้วอยู่ๆน้ำตาผมก็

"ต้นเจ็บหรอ ร้องไห้ทำไม บอกฉันสิ ได้แผลหรือเปล่า"

ผมส่ายหน้าไปมาแล้วโผตัวเข้าไปกอดเขา จนเขาเกือบหงายหลัง

"ไม่. ไม่ เอา ฮื่อ แบบนี้แล้วนะ ฮึก อย่าทำ ฮึก ฮึก แบบนี้อีก" ผมสะอื้น

"อะไรต้น "

"อย่า ฮึก เอามือฮื่อ ไปรับ ฮึก มีดแบบนั้น ฮึก"ผมยังคงสะอื้นไม่หยุด แต่เหมือนคนได้ฟังจะนิ่งค้างไป ก่อนที่ผมจะสัมผัสได้ว่ามือของคนที่ผมกอดอยู่ค่อยๆลูบหลังผมเบาๆช้าๆเหมือนปลอบเด็ก

"ชู่วว ไม่ร้องนะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกลับบ้านทำแผลก็หายแล้ว" ผมส่ายหน้ากับอกของเขา

"ถ้าคุณ ฮึก เป็นอะไรไป ฮื่อ ผมจะทำยังไง"

"พี่ไม่เป็นอะไรแล้ว เป็นห่วงพี่ใช่ไหมหืม" ผมพยักหน้าผมห่วงเขาจริงๆจนไม่เอะใจเรื่องสรรพนาม

"ผม ฮึก ใจหายหมดเลย ไม่เอาแล้วนะ ฮึก ผมเป็นห่วง"

"ได้ พี่สัญญา หยุดร้องนะ พี่จะได้กลับบ้านไปทำแผลซะที" ผมผละออกจากเขาแล้วรีบพยักหน้า

"กรณ์โทรตามหมอไปที่บ้านด้วย"

"ครับนาย"

.................

กลับมาถึงบ้านเจ้าของบ้านก็จูงผมขึ้นห้องทันที แล้วให้ผมไปล้างหน้า ส่วนตัวเองก็นอนรอหมอบนเตียง ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงเคาะประตู คนที่เข้ามาหลังจากได้รับอนุญาตคือคุณหมอประจำตระกูล หมอเขามาทำแผลและให้ยาแก้ปวดไว้ พร้อมกับเตือนว่าบางทีอาจมีไข้เนื่องจจากแผล

"ยังไงก็อย่าพึ่งขยับมากนะครับ แล้วก็ล้างแผลทุกวันด้วย" คุณหมอสั่งคุณกรณ์ก่อนจะลากลับ

"นายครับ เรื่องที่สั่งได้แล้วนะครับ"

"ใคร"

"เสี่ยวิชิต เจ้าเดิมครับ จัดการเลยไหมครับ"

"เอาให้หนัก "

"ครับนาย แล้วเรื่องล้างแผล"

"ต้น เมื่อกี้ได้ฟังที่หมออธิบายไหม" คนตัวโตถามผม

"ครับ เดี่ยวผมดูแลเองครับไม่ต้องห่วง" เจ้าของห้องยิ้ม

"ได้ยินแล้วใช่ไหมกรณ์ แล้วแกก็ออกไปได้แล้วฉันจะพักผ่อน" คุณกรณ์เบะปากมองบน หืมได้หรอ

แล้วเขาก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับคำพูดบางอย่าง

"เฮ้อ คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด"

หลังจากที่คุณกรณ์ออกไปผมก็เดินไปที่ข้างเตียงของเจ้าของห้อง

"คุณเจ็บมากไหม ผมขอโทษนะเพราะผมแท้ๆ"

"ใช่เพราะนาย" ผมหน้าเจื่อนลงไปอีกเพราะคำพูดเขา

"ทีหลังก็อย่าวิ่งไปหาคนร้ายแบบนั้นอีกเข้าใจไหมดีที่ฉันไปทันไม่งั้นตายแน่" ผมทำหน้าสำนึกผิด

"คุณก็อย่าลืมสัญญาด้วยล่ะ ห้ามเอามือไปรับมีดอีกนะ" คุณธารไม่ได้ตอบอะไรแต่ยื่นนิ้วก้อยมาให้ ผมทำหน้างงใส่

"ก็เกี่ยวก้อยสัญญาไง" ผมยิ้มให้เขาแล้วยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับเขา

ตกดึกพอถึงเวลานอนผมก็ทำกิจวัตรปกติ คือการเชคหน้าต่างประตูแล้วก็ปิดไฟ ในขณะที่ผมกำลังจะล้มตัวนอนเสียงคุันเคยก็ดังขึ้น

"ต้น" หืม

"ครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ" ผมถามแล้วรีบลุกขึ้นนั่งมองไปทางเงาของคนบนเตียง

"ฉันเจ็บแผลอยู่นะ ถ้าฉันไข้ขึ้นจะทำยังไง"

"ผมก็อยู่ตรงนี้นะครับไม่ต้องห่วง"

"แล้วนายนอนตรงนั้นจะรู้ได้ยังไงว่าฉันมีไข้ นายทำงานมาทั้งวันคงหลับไม่รู้เรื่องหรอก"

"แล้วจะให้ผมทำไงล่ะครับ"

"นายก็...ขึ้นมานอนด้วยกันบนเตียงสิ"

 :z3: :z3: :z3: :z3:
.........................
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
กรี๊ดดดดดดดดดดด  อีพี่บ้าไปแล้ว อีพี่จะล่อลวงน้องแบบนี้ไม่ได้นะคะ

แต่ตอนนี้ไรท์คิดว่าคนแสบสุดน่าจะกรณ์นะคะ นักชง นักตบในตำนาน

ยังไงตอนหน้าเรามาลุ้นกันว่าคุณพ่อจะมีแผนอะไร ให้เขาได้กันอีก ถ้าชอบก็อย่าลืมเม้น

ให้ด้วยนะคะ  Love รีดเดอร์ทุกคนจร้า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-04-2019 20:54:06 โดย Garuda8 »

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
อ้าวๆ ชวนต้นขึ่นเตียงซะแล้ว5555

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
หูยยยยย คุณพี่ธารเริ่มรู้สึกดี ๆ กับน้องต้นแล้วใช่ไหมครับ? เปิดใจให้น้องด้วยน๊าาาาา

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
 :pig4: :pig4:แรกๆเงียบๆดูขรึมหลังมานี้แสบนะกรณ์

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
เนียนเพื่อให้น้องไปนอนด้วย

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อ่อยเรี่ยราดมากจ้าาาา

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Garuda8

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
ตอนที่ 5

ดูแล


"นายก็...ขึ้นมานอนด้วยกันบนเตียงสิ" เมื่อกี้หูแว่วป่าวว่ะ

"คุณว่าอะไรนะครับ"

"ฉันบอกว่าให้นายขึ้นมานอนด้วยกัน จะไปนอนโซฟาให้ลำบากทำไม เผื่อฉันมีไข้จะได้รู้ด้วยไง"

"เอ่อ่ ไม่เป็นไรครับ ผมนอนตรงนี้ก็ดีอยู่แล้วไม่ได้ลำบากอะไร"

"ทำไมกลัวฉันจะทำอะไรหรือไง"

"เปล่าครับผมเกรงว่าจะไม่เหมาะ ส่วนเรื่องที่คุณกลัวว่าจะเป็นไข้ เดี๋ยวผมลุกขึ้นมาดูคุณทุก 2 ชั่วโมงก็ได้ครับ"

"นายนี้มัน เฮ้อ ตามใจก็แล้วกัน นอนสบายๆไม่ชอบ" งอแงอีก ถ้าสบายดีจะตีให้

หลังจากนั้นผมและเขาก็เข้านอน โดยที่ผมตั้งปลุกทุก 2 ชั่วโมงเพื่อมาดูอาการคนตัวโตที่เวลาผมลุกมาดูทุกครั้งก็เห็นนอนสบาย

ไม่เห็นจะมีท่าทางหรืออาการจะป่วยตรงไหนเลย

รุ่งขึ้นผมก็ลงมาช่วยป้านิ่มทำอาหารตามปกติ พอใกล้เวลาอาหารผมก็ขึ้นไปปลุกคนป่วยให้ลุกแล้วอาบน้ำเพื่อลงไปทานอาหาร คนตัวโตอิดออดนิดหน่อย แต่ก็ยอมเดินเข้าห้องน้ำไป ผมจึงลงไปเตรียมจัดโต๊ะอาหารต่อ ประมาณ 20 นาที นายน้อยของบ้านก็ลงมานั่งประจำโต๊ะอาหาร ผมจึงจัดการเสิร์ฟอาหารให้เขาและนั่งลงตรงข้ามกัน ผมเริ่มทานอาหารเช้าของตัวเอง แต่คนตรงข้ามผมก็ไม่ยอมขยับเอาแต่มองหน้าผม ผมพยายามไม่สนใจแต่เขาก็เอาแต่จ้องแล้วก็ไม่ยอมทานอาหารตัวเองสักที

"มีอะไรหรือเปล่าครับ ไม่หิวหรอ" ไหนอาการเป็นไงบอกหมอสิ

"เฮ้อ ฉันนะหิวมากเลยนะ แต่ฉันทานไม่ได้นะ" ก็เอาเข้าปากแล้วเคี้ยวไง

"ทำไมล่ะครับ"

"คือเมื่อคืนฉันนอนทับมือนะสิ ตอนนี้ปวดมากแทบขยับไม่ได้ " หืม ใช่หราา

"แล้ว คุณจะให้ผมทำยังไงครับ" จงบอกความต้องการของท่านมาครับ

"ยังต้องให้บอกอีก นายก็ป้อนฉันหน่อยสิ" ห๊ะ

"ให้คุณกรณ์ป้อนดีกว่าไหมครับ" คุณธารส่ายหัวแทบหลุด

"ฉันคิดว่ามันจะฆ่าฉันแน่นอน น่านะ เห็นใจหน่อย ฉันหิวมากเลย" ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อนเลย

"ก็ได้ครับ" ที่ผมยอมเพราะเขาช่วยผมไว้นะ

ผมขยับไปนั่งข้างๆเขาแล้วก็ป้อนอาหารเช่้าให้เหมือนแม่นกป้อนลูกนกไม่มีผิด คนโดนป้อนก็อมยิ้มไป เคี้ยวไปน่าเอ็นดู ผมได้แต่

มองหน้าเขาแล้วอมยิ้ม ทานเสร็จก็ไปเอายามาให้เขาทาน

"วันนี้ฉันไม่เข้าออฟฟิสนะยังไงเดี๋ยวนายตามมาอ่านเอกสารให้ฉันฟังที่ห้องทำงานด้วยล่ะ"

เขาสั่งผมหลังจากทานยาเสร็จ แล้วก็ลุกออกไปหาคุณกรณ์เหมือนสั่งงานผมได้แต่ไหวไหล่แล้วเก็บซากอาหารเช้าก่อนจะไป

ทำงานต่อตามที่นายน้อยสั่ง

ก็อก ก็อก

"ขออนุญาตครับ" ผมตามมาที่ห้องทำงานหลังเคลียโต๊ะอาหารเสร็จ แต่ก็ไม่ลืมเคาะประตูเพื่อขออนุญาตก่อนจะเปิดประตูเข้าไป

"มานั่งนี่สิ แล้วอ่านเอกสารพวกนี้ให้ฟังหน่อย ฉันไม่มีแรงเปิด"

หืม จร้าเต็มที่เลย ผมเดินไปนั่งตามที่เข้าบอก ก่อนจะลงมืออ่านเอกสารให้เขาฟังและให้เขาตรวจสอบอีกครั้งเรานั่งทำงานกันจน

เพลิน กระทั่งมีเสียงเคาะประตูขัดจังหวะเสียก่อน

"นายครับ คุณเทียนมาขอพบคุณต้นครับ" เป็นคุณกรณ์ที่เข้ามา

"ไม่ว่าง ทำงานอยู่ไม่เห็นหรอ ไล่มันกลับไป" นั้นโมโหอะไรของเขา

"นายครับเขามาขอพบคุณต้นครับ ไม่ได้ขอพบนาย" เออจริงกูยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ

"ไอ้กรณ์ แกอยากตายใช่ไหม"

"อ่ะ เดี๋ยวครับทั้ง2 คน อย่าพึ่งทะเลาะกัน คุณธารครับงานตรงนี้ไม่มีอะไรมากแล้ว ผมขออนุญาตไปพบพี่เทียนนะครับ"

นิ่งเลย ทำหน้าเหมือนกลั้นตดไปอีก

"ฉันมีสิทธิ์อะไรห้ามนายล่ะ มันมาหานายนี่ นายก็คงจะคิดถึงมันละสิไม่ได้เจอกันหลายวัน ไปเถอะ ปล่อยฉันไว้กับเอกสารตรงนี้แล้วนายก็ไปคุยกับมันเถอะ" เอ่อ ผมว่าคำพูดมันแปลกๆนะ

"งั้นผมขอตัวนะครับ" ว่าเสร็จผมก็เดินออกมาเลย โดยไม่ได้สนใจอะไรต่อ
..................

หลังจากที่ต้นเดินออกมาแล้ว คนในห้องก็มีอาการกระฟัดกระเฟียดอยู่กับเอกสารเปิดหน้านั้นหน้านี้แต่ไม่มีสมาธิจะอ่านเลย

"นายครับ ผมว่านะคุณเทียนต้องสนใจคุณต้นแน่นอน" เสียงของกรณ์ดังขึ้นขัดอาการของคนเป็นนาย

"รู้ได้ยังไง อย่ามั่วนะ" คนเป็นนายว่าก่อนจะเปิดเอกสารแรงกว่าเดิมจนแทบขาด

"โธ่ นายคุณเทียนนะเป็นไบเซ็กชวลนะครับ ไม่มีแบ่งแยกได้หมดถ้าสดซิง" คนเป็นนายได้ฟังก็ขมวดคิ้ว

"ผมว่านะคุณเทียนลองมาแบบนี้จีบชัวร์ครับ แล้วอบอุ่นแบบนั้นร้อยทั้งร้อยไม่รอดครับ"

"ไอ้กรณ์" เจ้าของชื่อสะดุ้ง เพราะคนเรียก เรียกเสียงดังมาก

"แกพูดอะไรห๊ะ ต้นมันเป็นว่าที่เมียฉันพ่อก็บอกอยู่มันจะไปสนใจคนอื่นได้ยังไง" คนพูดก็พูดไปคนฟังก็ยิ้มกริ่ม

"แหม นายก็พูดเล่นใช่ไหมครับ ก็นายไม่สนใจคุณต้น คุณต้นเขาก็มีสิทธิ์สนใจคนที่รักที่ชอบเขานะครับ"

กรณ์พูดไปก็ได้แต่หัวเราะในใจ

"..." คนฟังได้แต่นั่งคิด

"ถ้านายไม่สนใ.."

"ใครบอกฉันไม่สน แกอย่ามารู้ดีกว่าฉันหน่อยเลย" กรณ์พูดไม่ทันจบคนเป็นนายก็พูุดแทรกขึ้นมาทันที

"นายสนใจคุณต้นแล้วเหรอเนี่ย ข่าวใหม่เลยนะครับ"

"ฉันก็แค่เห็นว่าเด็กคนนี้มีอะไรไม่เหมือนคนอื่น ก็ไม่ผิดที่ฉันจะลองดูๆไปก่อน ไม่ใช่หรอว่ะ" คนฟังเบะปากพยักหน้า

"อืม แหมไอ้ผมก็คิดว่าตกหลุมคุณต้นแล้วซะอีก ยังไงก็สู้ๆนะครับนาย อย่ามัวแต่ดูนะครับ เพราะตอนนี้คุณเทียนคงไม่ดูอย่าง

เดียวแล้วล่ะ ท่าทางจะอุ้มไปไว้บ้านแล้ว"

พูดจบเอกสารในมือก็ถูกเขวี้ยงมาทางกรณ์

"เงียบไปเลยไป แล้วมาช่วยฉันทำงาน ท่าทางเลขาฉันคงจะติดธุระนาน" คนฟังยิ้มแล้วเดินไปทางเจ้านาย

"ครับผม " คนเป็นลูกน้องได้แต่ส่ายหน้าแล้วทำงานต่อไป
.......................

ทางด้านของต้นเมื่อออกจากห้องก็เดินไปที่ห้องรับแขกเพื่อไปหาคนที่มาขอพบ

"พี่เทียนครับ มายังไงเนี่ย"

เจ้าของชื่อหันมายิ้มให้ผมแล้วกวักมือเรียกให้มานั่งด้วยกัน

"พี่ก็คิดถึงนะสิ ไม่ได้เจอตั้งนาน ตั้งแต่พี่ไม่ได้มาสอนเรา  พวกเราก็ไม่ได้เจอกันเลย" พี่เทียนยิ้ม

"อ่อ แล้ววันนี้มาหาผมมีอะไรหรือเปล่าครับ"

"คือพอดีวันเสาร์นี้ เป็นวันเกิดพี่นะ พี่เลยอยากชวนต้นไปทำบุญเป็นเพื่อนพี่หน่อย ได้ไหม"

ผมคิดสักพักว่าวันนั้นมีธุระอะไรหรือเปล่าก่อนตอบไป

"ได้ครับ วันนั้นผมไม่ได้ไปไหน ได้ทำบุญดีก็เหมือนกัน" ผมยิ้มให้พี่เทียน

"งั้นเดี๋ยววันนั้นพี่มารับนะสัก9โมง"

"ครับ" ผมพยักหน้ารับ

"งั้นพี่กลับก่อนแล้วกัน พี่แค่แวะมานะ"

"อ้าว แล้วทำไมพี่ไม่โทรมาล่ะครับ" ผมถามอย่าสงสัย

"ก็ พี่อยากเห็นหน้าต้นนะ พี่คิดถึง"

"เหอะๆ พี่อย่าพูดทีเล่นทีจริงแบบนี้กับคนอื่นเขานะครับเดี๋ยวเขาคิดเลยเถิด"

"หึ พี่พูดกับต้นแค่คนเดียว ไม่ต้องห่วงนะพี่ไม่เคยพูดเล่นหรือล้อเล่นกับความรู้สึก ไปนะ"

พี่เทียนพูดจบก็เอามือมายีหัวผม แต่ตอนนี้ผมอึ้งกับคำพูดพี่เขาไปแล้วหมายความว่าพี่เขาจีบผมหรอเนี่ย

หลังจากที่พี่เทียนกลับไปแล้ว ผมก็กลับไปทำงานตามปกติ จนตอนนี้ถึงเวลาเข้านอนแล้ว

"คุณธารครับ เสาร์นี้ผมขออนุญาตไปข้างนอกได้ไหมครับ"

"อืม ไปสิ มันวันหยุดนายนิ"

"ขอบคุณครับ"

"ว่าแต่จะไปไหนล่ะ" นั้นอยากรู้ไปอีก

"ผมจะไปทำบุญวันเกิดพี่เทียนนะครับ"

"วันเกิดไอ้เทียน แล้วเกี่ยวอะไรกับนาย"เอ้า ตาคนนี้

"ก็เขาชวนผมไปเป็นเพื่อนนิ"

"แล้วคนอื่นไม่มีหรือไง ร้อยวันพันปีไม่เคยจำวันเกิดตัวเองได้ ปีนี้จำได้ขึ้นมาเชียว" ไอ้คุณธารมันกินข้าวไม่อิ่มหรือไงว่ะ

"โอ๊ยคุณ จะอะไรก็ช่างผมรับปากเขาไปแล้ว แล้วคุณก็อนุญาตแล้วด้วยยังไงจะเอาบุญมาฝากนะครับ"

ผมยิ้มแล้วเตรียมหนีนอนเลยเดี๋ยวโดนกินหัว

"ทำไมฉันต้องมาสนใจเด็กอย่างนายด้วยเนี่ย" เสียงอะไรแว่วๆ

"คุณว่าอะไรนะครับ" ผมหันกลับไปถาม

"ไม่มีอะไรนอนเถอะ" แล้วคนพูดก็เอาผ้าห่มคลุมหน้าตัวเองไปเลย จะหายใจออกไหมล่ะนั้นนะ

ในเช้าวันเสาร์ พี่เทียนมารับผมที่บ้านตามสัญญา ผมขึ้นไปนั่งข้างคนขับแล้วพี่เทียนก็ชวนคุยไปตลอดทาง

"พี่เทียนจะไปทำบุญที่วัดไหนหรอครับ" ผมถามขึ้นเพราะเห็นบรรยากาศข้างทางเหมือนจะออกนอกเมืองแล้ว

"พี่จะไปทำบุญที่วัดแถวๆไร่พี่นะ เสร็จแล้วจะพาเราเที่ยวที่ไร่พี่ด้วย"

"พี่เทียนทำไร่ด้วยหรือครับ" ผมถามอย่าตื่นเต้น

"ทำไร่ดอกไม้ ฟาร์มม้า แล้วก็วัวนมนะ"

"ผมอยากรีดนมวัว"

"รอมีโอกาสพี่จะพามาเที่ยวแบบค้างคืนนะได้ทำทุกกิจกรรมแน่"

"ขอบคุณครับ" แค่คิดก็สนุกแล้ว

พี่เทียนขับรถมาจากกรุงเทพกว่าจะถึงที่หมายก็ประมาน 3 ชั่วโมงได้ มาถึงก็จอดรถที่ลานวัด วัดนี้ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนวัดใน

กรุงเทพแต่ก็มีความสวยงามของศิลปะ ซึ่งดูแล้วก็รู้สึกผ่อนคลาย ผมกับพี่เทียนพากันไปหาหลวงพ่อที่โบสถ์เพื่อทำสังฆทาน

เรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาเพื่อที่จะไปให้อาหารปลา แล้วพวกเราก็พากันมา นั่งพักที่ใต้ต้นไม่ใหญ่ใกล้ริมน้ำซึ่งมีม้าหินอยู่ นั่งชม

วิวรับลมแล้วรู้สึกผ่อนคลายดีจัง

"พี่ขอบคุณต้นมากนะที่มากับพี่" ผมหันไปยิ้มให้กับคำพูดนั้น

"ไม่เป็นไรครับก็วันเกิดพี่เทียนนิ อีกอย่างผมไม่มีของขวัญให้พี่ด้วย" ผมเกาหัวแก้เก้อ

"แค่ต้นอยู่กับพี่ก็ถือเป็นของขวัญแล้วนะรู้ไหม"

"ยังไงครับ"

"อันที่จริง พี่ไม่เคยให้ความสำคัญกับวันเกิดเลยนะ จนพี่ได้มาเจอกับต้น พี่เลยอยากให้วันนี้กลายเป็นวันสำคัญโดยเป็นวันที่พี่มี

คนสำคัญอยู่ด้วย"

"พี่เทียน" ผมเริ่มทำหน้าไม่ถูก

"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ พี่แค่อยากบอกไม่ได้จะเอาคำตอบ ทำตัวเหมือนเดิมนะ ถ้าวันไหนคิดว่าพี่ใช่ก็ค่อยมาบอกกัน"

พี่เทียนยิ้มอบอุ่น ผู้ชายคนนี้ต่อให้ผู้ชายแท้ก็เสร็จเหอะ

"ครับ ขอบคุณนะครับ ที่ให้ความสำคัญกับผม"

"อืม แต่ถ้าหากต้นมีใครในใจแล้วก็อย่าลืมบอกพี่ด้วยนะ พี่จะได้ช่วยดูว่าเขาดูแลต้นได้ดีกว่าที่พี่ทำไหม"

"พี่เทียน พูดอะไรเนี่ย ไปไร่พี่ดีกว่าครับผมอยากถ่ายรูปไปอวดเพื่อน"

"ไปสิ" พูดจบพี่เทียนก็เดินนำไปที่รถเพื่อขับไปเที่ยวไร่พี่เขา

ไร่ของพี่เทียนมีชื่อว่าไร่ เธียรวิชญ์ เป็นไร่ที่พี่เทียนพึ่งทำได้ประมาน 5 ปีไม่มีคนรู้นอกจาก พ่อนราทร พี่เทียนเล่าว่าหากเบื่อช่วย

งานคุณพ่อทรแล้วก็จะกลับมาทำงานที่นี่ ซึ่งตอนนี้พี่เทียนให้คนที่ไว้ใจได้ดูแลแทนอยู่ ส่วนเจ้าตัวจะกลับมาทุกอาทิตย์เพื่อมา

ตรวจสอบความเรียบร้อย ถ้าวันไหนยุ่งๆก็อาจจะกลายเป็น 2 อาทิตย์ครั้งแทน พี่เทียนพาผมดูไร่ดอกไม้ คอกม้า และวัวนม

ก่อนที่จะพามาทานข้าวที่บ้านก่อนกลับ พี่เทียนจอดรถหน้าบ้านผมก็ล่ำลาแล้วลงจากรถ ระหว่างที่กำลังเดินเข้าบ้าน

ก็มีคนเรียกผมซะก่อน

"คุณต้นกลับมาแล้วหรอครับ" ผมหันไปตามเสียงเรียก

"ครับคุณกรณ์ แล้วมาทำอะไรตรงนี้ครับ"

"ก็มารอคุณต้นแหละครับ" ผมขมวดคิ้ว

"รอผม รอทำไมครับ" ผมเอียงคอ

"ก็นายน้อยนะสิครับ ไม่ยอมทานข้าวเย็นผมจะทานเป็นเพื่อนก็ไม่เอา สงสัยคงติดคุณต้นนะครับ ป้านิ่มก็เอาไม่อยู่"

เดี๋ยวนี้มันเด็ก3ขวบหรือเปล่าเนี่ย

"แล้วผมจะทำอะไรได้ล่ะครับ"

"นายคงน้อยใจนะครับ มือก็เจ็บแถมต้องกินข้าวคนเดียวไม่มีใครดูแล คุณต้นก็ยกข้าวไปป้อนนายให้หน่อยนะครับ" เออว่ะ

เอะหรือคุณกรณ์มันปั่นว่ะหน้าตาไว้ใจไม่ได้อยู่

"ก็ได้ครับ แล้วสำรับอยู่ไหนครับเดี๋ยวผมยกไปให้" นั้นไงกูเห็นนะยิ้มกริ่มแบบนี้

"อยู่ในครัวครับเดี๋ยวเดินเข้าไปเอาได้เลย"

หลังจากนั้นผมก็เดินเข้าไปในครัวเพื่อหยิบสำรับแล้วนำขึ้นไปที่ห้องนอนของคนดื้อ ผมเปิดประตูเข้าไปโดยไม่เคาะประตูเห็น

เจ้าของห้องนั่งดูเอกสารอยู่ที่โซฟา ผมจึงนั่งอีกฝั่งของโซฟาเดียวกัน แล้ววางสำหรับไว้ที่โต๊ะเตี้ยหน้าโซฟา

"ทานข้าวเถอะครับคุณธาร ถึงเวลาแล้ว" เขาหันมามองผมแล้วดูเอกสารต่อ

"กลับมาแล้วหรอฉันนึกว่าจะสนุกจนลืมคนป่วยอย่าฉันซะอีก" จะเอ็นดูหรือหมั่นไส้ดีเนี่ย

"จะลืมได้ไงผมอุตส่าห์ไม่ทานข้าวเย็นรอมากินกับคุณเลยนะ"

ผมโกหกครับเพราะที่จริงกินแล้วแต่กว่าจะถึงกรุงเทพก็ย่อยแล้ว กินอีกได้ครับ

"จริงหรอ" คนตัวโตหันขวับมาถามผม

"จริงสิคุณ ผมจะโกหกทำไม มากินเถอะนะ ผมหิวแล้ว" คุณธารยิ้มแล้วค่อยๆขยับมานั่งใกล้ผมโดยที่ในมือยังไม่วางเอกสาร

"ป้อนฉันสิ ฉันจะได้ทำงานไปด้วย จะได้ไม่เสียเวลาไง" จร้า พ่อคุณ ผมได้แต่ส่ายหัว

......................................
นราธร Part

ผมกำลังยืนมองหลังคาบ้านหลังหนึ่งอยู่ ไม่ใช่ว่าสีมันสดเพราะใช้ TOA หรอก แต่เป็นเพราะว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของคนที่ผมรัก

ผมมายืนมองบ้านเขาทุกวัน จนจะเป็นแม่นากอยู่แล้ว ไม่ค่อยได้เห็นเจ้าของบ้านเห็นหน้าบ้านเห็นหลังคาก็ยังดี

"นายครับใกล้ถึงเวลาประชุมแล้วครับ" เสียงลูกน้องผมทักขึ้น ต้องขอบคุณมันถ้าปล่อยผมยืนอีกแปปบอกได้เลยผมไม่ยอมขยับ

แน่ๆ ทำไมนะหรอ ตะคริวกินไงถามได้

"อืม ขอบใจที่เตือน แล้วเรื่องที่สั่งเรียบร้อยไหม" ผมถามลูกน้องถึงงานที่สั่งไปก่อนหน้า

"เรียบร้อยครับนาย" ผมได้ยินก็พยักหน้ารับ แล้วหันกลับมามองบ้านหลังเดิมอีกครั้ง

"ไม่ต้องห่วงไอ้ตาม กูจะทำหน้าที่ต่อจากมึงเอง" ผมพูดกับตัวเองแล้วหันหลังเดินกลับไปที่รถเพื่อไปประชุมต่อ


RRRR

เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นขณะที่กำลังเหม่อมองบรรยากาศนอกรถ หยิบขึ้นมาดูพบว่าเป็นกรณ์

"ว่าไงกรณ์"

"ผมทำตามคำสั่งเรียบร้อยครับ" แหมสั่งได้ดั่งใจ

"ดีมาก"

"เตรียมแผนต่อไปหรือยังครับ"

"นี่ฉันใคร มันต้องแน่นอนอยู่แล้ว"

"ท่านจะให้ผมทำอะไรต่อก็บอกได้เลยนะครับ"

" เดี๋ยวฉันจะบอกแกอีกที ขอบใจมาก"

"ครับท่าน แล้วอย่าลืม เบอร์โทร กับไลน์คุณไผ่ให้ผมด้วยนะครับ"ไอ้นี่กลัวจะไม่ได้แฟน

"เออเดี๋ยวฉันส่งไปให้"

"ขอบคุณครับ แค่นี้ก่อนนะครับนาย"

"ขอบใจมาก"

มีแต่พวกฉันขนาดนี้ ให้มันปั่น ชง แซว ขนาดนั้นไม่ได้ลูกสะใภ้ชื่อต้นก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว
.............

วันนี้เป็นวันจันทร์ ผมและคุณธารมาทำงานปกติแล้วเพราะมือคุณธารหายแล้ว ผมไม่ต้องคอยป้อนข้าวป้อนน้ำแล้ว ตอนนี้ต่างคน

ต่างก็ทำงานของตัวเองอยู่คนละมุม

"นายครับ นายใหญ่มาครับ" เสียงคุณกรณ์ดังมาจากหน้าประตู

"เข้ามาเลย" นายน้อยตอบรับแต่มือกับตาก็ยังคงอยู่ที่เอกสาร

"Hi ไอ้ลูกหมา พ่อแกมานะเงยหน้ามาคุยกัยหน่อย ว่าไงต้นสบายดีนะ" คุณพ่อทักลูกเขา แล้วหันมาทักผม

"สวัสดีครับคุณพ่อสบายดีครับ แล้วคุณพ่อล่ะครับ" ผมตอบแล้วถามกลับ

"สบายมาก มีงานอะไรเยอะแยะที่ต้องทำแต่ก็สบายดี" คุณพ่อยิ้ม

"พ่อมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ" คนตัวโตพูดขึ้น

"เออ พ่อเกือบลืม พอดีศุกร์นี้พ่ออยากให้แกไปดูที่ที่จะทำรีสอร์ทใหม่หน่อยนะ"

"แล้วทำไมพ่อไม่ไปเองอ่ะ"

"ไอ้ลูกหมา พ่อไม่ว่างโว้ยต้องไปอังกฤษไม่งั้นฉันไม่ง้อแกหรอก ไปดูให้หน่อยนะว่างานถึงไหนแล้ว"

"เฮ้อ ก็ได้ครับ แล้วผมต้องไปกับใครเลขาพ่อหรอ"

"แกจะบ้าหรอ แกก็ไปกับเลขาแกสิ เอาไอ้กรณ์ไปด้วยนะ เผื่อจะได้ใช้งานอะไรมันได้"

"แล้วผมจะต้องดูอะไรยังไงผมไม่มีข้อมูลอะไรเลยนะ ถ้าพ่อไม่เอาคนของพ่อไปกับผมนะ"

"ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวฉันให้เลขาฉันส่งข้อมูลให้แกเอง ส่วนไอ้กรณ์ฉันคุยกับมันคร่าวๆแล้วพอจะรู้เรื่องอยู่หรอก"

"งั้นก็ได้ครับ"

"เออ ต้นเตรียมตัวนะลูก เผื่อจะได้เรียนรู้อะไรได้ เที่ยวเผื่อพ่อด้วยนะ" ผมยักหน้างึกๆ

"เออ พ่อแล้วรีสอร์ทใหม่พ่อนี้ที่ไหนนะ ผมลืม"

"แกไม่ใส่ใจซะมากกว่า เชียงรายโว้ยอยู่เชียงราย"

"อ่อ โอเค"

"เชียงรายเลยหรอครับ คุณพ่อผมไม่เคยไปเลยตื่นเต้นจัง" ผมหันไปบอกกับคุณพ่อ

"สวยมากเลยนะ แล้วก็น่าสนุกมากด้วย"

"จริงหรอครับ ชักอยากไปแล้ว" ผมพูดกับคุณพ่อแล้วยิ้มกว้าง โดยไม่ได้สังเกตคุณพ่อเลยว่าเขายิ้มเหี้ยมขนาดไหน

"สนุกสิ สนุกแล้วก็หน้าตื่นเต้นมากๆเลยล่ะ เตรียมตัวแล้วก็ใจให้พร้อมกันล่ะ"

"ได้ครับ/ครับ" ผมตอบรับพร้อมกับคุณธารโดยไม่ได้สนใจเสียงแผ่วๆที่ดังมาจากคุณพ่อ

"ได้ดูทั้งงาน ดูทั้งใจ และหวังว่าจะได้ดูกันทั้งตัวนะลูก หึ หึ"

...................
กลับมาถึงบ้านทั้งผมแล้วก็คุณธารก็ต่างคนต่างทำธุระส่วนตัวของตัวเองตามปกติจนเกือยจะเข้านอนอยู่แล้วเจ้าของห้องก็เรียก

ผมขึ้นมา

"นี่ต้น นายว่าฉันกับนายเริ่มสนิทกันหรือยัง" ผมยืนอยู่ปลายเตียงของเขาแล้วเอียงคอมองเขา

"ก็ดีกว่าตอนเข้ามาแรกๆนะครับ"

"หรอ ถ้างั้นนายก็เรียกฉันว่าพี่ได้แล้วสิ"

"ห๊ะ จะเอางั้นหรอครับ" ผมแค่คาดไม่ถึงกับคำเรียกใหม่

"เอางี้แหละ ทีไอ้เทียนนายยังเรียกมันพี่เลย ทำไมจะเรียกฉันบ้างไม่ได้ ไหนบอกให้เปิดใจรับไง" พ่อเริ่มบ่นแล้วครับ

"ใจเย็นๆ อย่าพึ่งบ่นผมก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย แค่ช็อคเฉยๆที่คุณยอมให้ผมเรียกแบบนั้น"

"ก็ฉันยอมเปิดใจตามนายบอกไง ไหนลองเรียกสิ พี่ธารอ่ะ เรียกเร็วๆเข้า"

"เอ่อ พ..พี่ โอ๊ยไม่ชินเลยคุณ" ผมยืนส่ายหน้าอยู่ปลายเตียงจนเจ้าของเตียงเดินเข้ามาหาผมแล้วยื่นมือมาจับแขนผมไว้

"จะพูดไหม" มีขู่

"มันไม่ชิน ขอเวลาทำใจแปปสิ" นี่ก็รีบจัง

"นับ 1 "

"เฮ้ยจะนับทำไม"

"นับ 2"

"อย่าใจร้อนสิ"

"นับ 3" จบคำก็เอาแขนผมที่จับไว้ขึ้นมากัดทันที

"โอ๊ย คุณเป็นหมาหรือไงเจ็บนะ"

"ก็นายทำให้ฉันหมั่นเขี้ยวทำไมล่ะ มายืนเอียงคอมองคิดว่าเป็นลูกแมวหรือไง แล้วจะพูดไหม" คนตัวโตทำท่าจะกัดอีกรอบ

"พูดแล้วๆ พี่ธาร พี่ธาร พอแล้วผมเจ็บ"

"พูดให้มันหวานๆเพราะๆ อย่างพี่ธารครับพอนะน้องเจ็บแบบเนี่ยพูดได้ไหม"โอ๊ย น้องบ้านแกสิ

"แค่นี้ก็พอแล้วหวานกว่านี้ก็น้ำตาลแล้วคุณ"

"นับ 1"

"อ่าาา ได้ๆๆ พี่ธารครับ พอนะครับน้องเจ็บ" ผมพูดเสียงอ้อนพร้อมส่งสายตาอ้อนๆ

"..." เงียบ

"คุณ เป็นอะไร"

"อะหึ้ม เปล่าแล้วคุณอะไร พี่สิ"

"ครับ พี่ธารปล่อยผมเนอะ ผมจะไปนอนแล้ว" คุณธารปล่อยมือแล้วเดินกลับไปที่เตียงทิ้งตัวลงนอน ผมจึงแยกตัวไปปิดไฟแล้วก็

เดินกลับมาที่โซฟาเพื่อจะเข้านอนเหมือนกัน กำลังเคลิ้มๆ ผมก็ได้ยินเสียงเจ้าของห้องพูดขึ้น

"ฝันดีนะ น้องต้น" หึ ละเมอเปล่าว่ะ

"เมื่อกี้พูดกับผมหรอ" ไม่แน่ใจถามหน่อยแล้วกัน

"อืม พี่บอกว่า ฝันดีนะน้องต้น"

ผมอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ไม่รู้ทำไมจากอ้าปากกลายเป็นค่อยๆยิ้มจนหุบไม่ได้เลย แถมใจยังเต้นอย่างกับไปวิ่งมาอย่างนั้น

แหละ

"ครับ ฝันดีเหมือนกันนะครับ พี่ธาร"

ผมเอ่ยปากตอบไปแล้วเอาผ้าห่มมาคลุมโปง ไม่รู้จะทำยังไงดี หึ้ยยยเขิลอ่าครับบบบบ


Tbc
:hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:






ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
สรุปต่างฝ่ายต่างเขิน คงไม่หลับกันง่าย ๆ แน่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด