พิมพ์หน้านี้ - </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => ข้อความที่เริ่มโดย: Garuda8 ที่ 15-04-2019 02:48:43

หัวข้อ: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Garuda8 ที่ 15-04-2019 02:48:43
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************




ตอนที่1

ตกงาน


บรรยากาศภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาด 4 เมตร ตัวผมนั่งอยู่ที่เก้าอี้มีพนักพิง ต่อหน้าหัวหน้าฝ่ายบุคคล ที่หน้าไม่ค่อยจะเหมือนคน ด้วยใจจดจ่ออย่างตื่นเต้น เนื่องจากวันนี้เป็นวันประกาศการเลื่อนตำแหน่งและโบนัสของบริษัท มึอหงิกงอ จนนึกว่าชายน้อยมาอาศัยร่างอยู่


"ผลงานที่ผ่านมาของคุณทำได้ดีมากนะ" ฝ่ายบุคคลพูดขึ้นพร้อมหน้าตายิ้มแย้ม

"ครับ"

"แต่เนื่องจากว่าบริษัทจะมีการปรับโครงสร้างนิดหน่อยและบางแผนกบริษัทก็จะไม่มีแล้ว เพราะฉะนั้น คุณคงเข้าใจนะ" พูดพร้อมยื่นซองขาวมาตรงหน้าผม

ผมรับมาไว้พร้อมกับเปิดซองดูด้านใน ขุ่นพระ เงินเดือนชดเชย 3 เดือน พร้อมใบรับรองการทำงานนี้ก็หมายความว่า


"ผมโดนเชิญออกอย่างนั้นหรอครับ" กูจะถามซ้ำเติมตัวเองทำไมว่ะเนี่ย

"อย่าพูดขนาดนั้นเลย แต่บริษัทไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้แผนกคุณแล้วจริงๆ ยังไงหวังว่าเงินเดือนชดเชย 3 เดือน จะพอให้คุณใช้จ่ายสำหรับ การหางานใหม่นะ แล้วเจอกันใหม่ กับเนวิเกเตอร์ " โหไอ้อ้วน มึงคิดว่ามึงเป็นพี่ติ๊กหรอ ห่วยไอ้ตุ่ม พูดง่ายนิ พูดแล้วก็เดินสะบัดตูดเลย


แล้วกูล่ะ โถชีวิตไอ้ต้น ไม่ได้เตรียมตัวว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้เลยโอ๊ยยยยย



ผมเก็บของกลับบ้าน หลังเลิกงานปกติ มาถึงบ้านก็ได้แต่ยืนอยู่หน้าบ้านหลังน้อยหอยสังข์ยืนมองอยู่อย่างนั้นพลางคิดกับตัวเองว่า ยังโชคดีนะที่บ้านไม่ต้องเช่าห่วยแต่ก็ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟไหมล่ะ เฮ้อ ได้แต่ถอนใจ แล้วเดินเข้าบ้าน ด้วยใบหน้าที่แช่มชื่นผิดมนุษย์มนา

"อ้าวต้นรถเสียหรอทำไมไม่ใช้ไดเกียวล่ะ" เสียงแจ้นๆถามผมแบบนี้ทุกวัน นี่แม่ไม่รู้หรอว่าลูกไม่มีรถ ถามเป็นโฆษณาตลอด

"แม่ ต้นไม่มีรถแม่ควรถามว่ากลับมาแล้วหรอมากกว่านะ"

"โถลูก แม่ก็อยากจะอินเทรนพูดตามโฆษณาบ้างอ่ะ"  จ้าโฆษณาเมื่อ 30 ปี ก่อนอ่ะนะ

"แล้วหิวหรือยังกินอะไรไหม" แม่ถามขึ้นมาทำให้ผมแทบร้องไห้ก็ยังดีว่ะ อย่างน้อยก็มีแม่ที่เป็นกำลังใจ

"หิวครับแม่จะทำให้ต้นกินใช่ไหม รักแม่จัง" พูดจบก็วางของเดินไปกอดแม่

"เปล่า ถ้าหิวก็ไปทำ  จะได้กินด้วยหิวเหมือนกัน"

ผมเดินไปยืนรอรถขยะหน้าบ้านให้เขาเก็บผมไปดีไหม ชีวิตกู

"แม่ต้นมีไรจะบอก" ช็อคสักพักผมก็ทำใจบอกแม่ถึงเรื่องวันนี้

"อะไรล่ะถ้าบอกว่าแกทำผู้หญิงท้องฉันไม่เชื่อนะ แต่ถ้าจะบอกมีผัวขอดูรูปก่อนผ่านไหม"  แม่ผมเคยจริงจังกับชีวิตไหมถามจริง

"แม่เอาดีๆ ต้นซีเรียส คือต้นตกงาน เค้าให้เงินชดเชยมา 3 เดือน ถ้าหลัง 3 เดือน ต้นยังหางาน ไม่ได้ เราคงลำบากหน่อยนะ"  แม่หันมามองผมด้วยสายตาล่องลอยเหมือนคนเมายาคุม

"เห้อออ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ตกงานก็หาใหม่ ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไปนะลูก เกิดเป็นคน ก็ต้องมีอุปสรรคบ้าง แม่เอาใจช่วย"  พระเจ้าเหมือนมีแสงออร่าออกมาจากคุณนายแม่ ซึ้งมากครับ ผมเดินไปกอดแม่ด้วยความตื้นตันใจสุดๆ


"ไปกินข้าวเถอะเดี๋ยวแม่ทำให้กินเอง "  TT แหมมันช่างตื้นตันใจ


.........................................................
กี่วัน กี่วันมาแล้วที่ไม่เจอ
กี่คืน ที่รอแต่เธอ แต่เธออยู่ไหน

เออกูก็ไม่รู้ไงกี่วันกี่คืน กูก็หางานไม่เจอเหมือนกัน เดินไปเตะคนเปิดเพลงดีไหมบิ้วกูจัง


นับจากวันที่ตกงาน นี้ก็ครบ 2 เดือนแล้ว ผมยังไม่ได้งานเลย เรียกสัมภาษณ์เป็นร้อย 

แต่จะรับจริงๆน้อยเพียงครึ่ง วันนี้ ผมมาสัมภาษณ์งานแถวพระราม 2 พอเสร็จก็มานั่งกินข้าวที่ตลาดใกล้อาคารที่ผมมาสัมภาษณ์ ไม่รู้วันนี้เป็นอะไรผมมีลางสังหรณ์แปลกๆ ผมต้องได้งานแน่ๆเลย เพราะเมื่อเช้า จิ้งจกวิ่งตัดหน้าตอนออกจากบ้าน ผมเบรกไม่ทัน ก็เลยเหยียบซะแบน แหมโชคดีจริงๆ พอเดินมาปากซอย ป้าแม้วขายส้มตำก็ทักว่าวันนี้ผมดูผ่องๆ หึๆๆ ถึงเวลาของไอ้ต้นแล้วโว้ยย มีโชคแน่นอน

กินข้าวเสร็จผมก็กลับบ้าน พอมาถึงซอยบ้านก็คิดอะไรเพลินๆ ในตอนนั้นก็มีผู้ชายคนนึงอายุน่าจะประมาณ 50 แต่ก็ยังดูดีอยู่นะ มาขวางหน้าผมไว้

"หนุ่มๆช่วยลุงด้วยสิ บังเอิญลุงมาทำธุระแถวนี้แล้วโดนล้วงกระเป๋า พอมีเงินสัก 200 ไหม ลุงจะได้ไปหาคนที่นัดไว้ สัญญาเดี๋ยวเอามาคืนให้"
 
ฮั่นแน่มาแบบนี้อีกแล้วต้นไม่โง่นะเว้ย

"ไม่มีอ่ะลุง ผมตกงานอยู่ ข้าวจะกินยังไม่ค่อยมีเลย ทุกวันนี้ไปขอข้าวเด็กวัดกินตลอดเลย"  ตอแหลนรกกินกบาลเลยไอ้ต้น

"น่าสงสารจริงๆเลย งั้นเอ็งเอานามบัตรนี้ไป แต่เอ็งเอามาให้ข้า 200 แล้วข้าจะตอบแทนเอ็งคุ้มค่าแน่ๆ" ผมรับนามบัตรแล้วเอามาดู  ป้าดดดติโถ่ นี้มันบริษัทอสังหาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแหล่วๆๆๆ

"ลุงนี่มันอะไรอ่ะ" ผมถามกลับแบบตื่นเต้น

"เออนะถ้าเอ็งอยากได้งานก็เอานามบัตรนี้ไปขอพบ คุณนราทร วรเดชชัยกุล เขาจะช่วยเอ็งเอง แต่ตอนนี้ข้าต้องรีบแล้ว มีนัดต่อเอามาเร็ว 200 "  นี่ใครยืมใครว่ะเนี่ย โหดแท้

ผมรีบควักให้แกไป300 เลย แถม ให้ ถ้าสิ่งที่แกบอกมันเป็นเรื่องจริง มันก็คุ้มที่จะเสี่ยง

"ขอบใจมากหนุ่ม แล้วเจอกันใหม่ ข้าชอบเองนะมีน้ำใจ ไม่โง่ดี ไปล่ะ" นั้นสาบานว่าชม ผมโบกมือลาลุง แล้วเดินเข้าบ้านต่อพร้อมทั้งกำนามบัตรแน่น กลัวหายตั้ง 300 บาท เอาว่ะลองดูคงไม่โดนหลอกหรอก หน้าแกก็ดูเป็นมิตรดี คงไม่ใช่มิจฉาชีพหลอก แต่เดี๋ยวๆทำไมมันมิตรเหมือนกันเลย ช่างแม่งเหอะ ชีวิตที่ดีรออยู่ ฮัดช่า



"""""""""""""""""""""""
ตื่นเต้นบอกเลยผมไม่เคยเข้ามาบริษัทใหญ่ขนาดนี้เลย วันนี้ผมมาที่บริษัทที่ลุงคนเมื่อวานทิ้งนามบัตรไว้ให้ ผมเดินเข้ามาในอาคารที่มีความสูง 50 ชั้น เดินเข้าไปหาประชาสัมพันธ์แล้วยื่นนามบัตรให้แจ้งว่าขอพบ คุณ นราทร ประชาสัมพันธ์คนสวยก็ให้ผมมารอข้างบนห้องทำงานของใครสักคนที่ชั้น 33 ห้องนี้หะรูหะรา มากเลย ผมมองซ้ายมองขวา อย่างสอดรู้สอดเห็น เกิดมาได้มานั่งโซฟาแบบนี้บุญตูดไอ้ต้นจริงๆ

"สวัสดีไอ้หนุ่ม วันนี้ทำไมดูเงียบๆ ตื่นเต้นหรือไง"

เสียงนุ่มเรียกผมจากด้านหน้าประตู ผมหันไปมองก็เห็นลุงคนเมื่อวานยืนอยู่

"เฮ้ยลุงมาอยู่เป็นเพื่อนผมหรอ ดีจังผมตื่นเต้นมากฉี่จะราดอยู่แล้วเนี่ย แล้วคุณนราทรอ่ะมายัง เค้าโหดไหมอ่ะ" เจอหน้าก็ใส่ไม่ยั้งครับคนมันลนอ่ะ

"ใจร่มๆไว้ ค่อยพูดค่อยจา นราทรไม่โหดหรอก ใจดี สปอต 77 จังหวัด" พูดไปแล้วลุงก็เดินไปนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นของคุณนราทร ที่ผมอ่านจากนามบัตร ว่าเขาดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ

"ลุงออกมานั้นเก้าอี้ประธาน เดี๋ยวได้โดนด่าพอดี ออกมา" ว่าแล้วก็รีบเดินไปหาลุงแต่ลุงก็แย้งขึ้นมาก่อน

"เฮ้ย ใครมันจะมาด่าว่ะก็ข้าเนี่ยแหละ นราทร เป็นประธาน มามา เอ็งเดินมานั่งได้แล้วข้าจะได้บอกรายละเอียดงานให้เอ็งฟังซักที " 

Shock

หากบนนี้มีแมลงวันในปากผมคงเป็นที่ซ่อนไข่แมลงวัน นี่หมายความว่าเมื่อวาน ประธานบริษัทนราธาริน ขอยืมเงินผม พูดไปใครจะเชื่อ

"จะอึ้งอีกนานไหม รีบมานั่ง ปฏิบัติ" ผมสะดุ้งแล้วรีบไปนั่งตามคำสั่ง


"ขอถามหน่อยได้ไหมครับ รวยก็รวยทำไมไม่มีตังติดตัวเลยล่ะ จนต้องมายืมเงินผมเนี่ย" 

คุณนราธรมองผมแล้วยิ้มมุมปาก

"พูดแล้วอย่าบอกใครล่ะ พอดีข้าไปเที่ยวอาบอบนวดอ่ะแล้วพอดีโชคร้ายโดนอีหนูรูดที่โรงแรมม่านรูดแถวซอยที่เจอเอ็งนั้นแหละ เอาไปแม้กระทั่งกุญแจรถ แถมตอนเช้ามีนัดกับหุ้นส่วนอีก โชคดีเจอเอ็งนั้นแหละ"  ผมร้องโอ้ในใจ

"เข้าใจแล้วครับ แล้วตกลงงานที่จะให้ผมทำ..."  พอเข้าใจทุกอย่าผมก็เข้าเรื่องเลย ก็เงินจะไม่มีกินอยู่แล้วอ่ะ

"โอเค คือข้าอยากให้เอ็งมาทำงานกับข้า โดยงานที่จะให้ทำก็คือ....เป็นลูกสะใภ้ข้า"

"......." นี้คงเป็นวัน April fools days สินะ

"ว่าไงเอ็ง ข้าว่าเอ็งหน่วยก้านดี มีน้ำใจ ใส่ใจประชาชน สามารถสู้กับผู้หญิงของลูกข้าได้โอ๊ยยย พ่อปลื้มลูก...ชื่อไรนะเอ็งลืมถาม"

"ชื่อต้นครับ นี่ลุงล้อผมเล่นใช่ไหม ผมผู้ชายนะลุงเป็นเมียใครไม่ได้หรอก"

"ลูกต้นของพ่อนรา พ่อไม่เกี่ยงว่าลูกเป็นผู้ชาย พ่อถูกชะตากับลูกต้นตั้งแต่แรกเห็นคนนี้และใช่เลย"  สรรพนามเปลี่ยนทันที จนผมขนลุก นี่เขาต้องเป็นญาติลับๆกับแม่ผมแน่ๆ

"ผมไม่เคยรู้จักลูกลุงนะครับ ไม่เคยรักกันจะเป็นไปได้ไง"


"พ่อจะให้ลูกได้ศึกษาดูใจโดยการย้ายไปอยู่ด้วยกันที่บ้านลูกชายพ่อ 1ปี  พร้อมศึกษางานในบริษัทไปพร้อมๆกัน หากลูกพ่อมันไม่ชอบต้นในระยะเวลา 1ปีที่กำหนด อย่างน้อยต้นก็ยังสามารถมาทำงานที่บริษัทพ่อได้ เพราะพ่อจะสอนทุกอย่างเลย"

"ไม่เอาอ่ะลุงไม่มีงานอื่นให้ผมหรอ ลูกลุงก็ผู้ชายฟ้าผ่าตาย อีกอย่างผมพึ่ง 24 เอง ผมไม่รีบหรอก" ผมพยายามปฏิเสธอย่างเต็มที่ผู้ชายที่ไหนจะยอมไปเป็นสะใภ้ เป็นเขยว่าไปอย่าง

"ต้นฟังพ่อนะ ก็นึกซะว่าย้ายเข้ามาดูแลลูกชายที่มันเหลวไหลของพ่อให้มันดูเป็นคนที่อยู่ในกรอบ มีศีลธรรมแบบคนทั่วไป คิดซะว่าดูแลเด็กคนนึงได้ไหมลูก เห็นแก่คนแก่นะ ไปอยู่บ้านนั้น นอนคนละห้อง ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ มีเงินเดือนให้ใช้เดือนตั้ง 50000 บาท  นะลูกต้น"

หึ คิดว่าเงินจะซื้อผมได้หรอ 50000 มันแน่นอนอยู่แล้ว มันซื้อผมได้ ใครจะไม่เอา อย่าคิดว่าผมเห็นแก่เงินนะ ผมเห็นแก่คนแก่ด้วย ไม่น่าจะเสียหายนะนึกซะว่าไปดูแลเด็กแล้วกัน

"ลูกลุงอายุเท่าไหร่ครับ" ผมถามเพราะจะได้วางแผนการวางตัวถูก

"27 นะ แต่พ่อไม่ชอบพวกสาวๆมัน ดูก็รู้ว่าจะมาจับ ยังไงก็ช่วยพ่อดูมันด้วยนะลูกสะใภ้"

"เฮ้อออ  ก็ได้ครับคุณลุง ผมจะเป็นสะใภ้หลอกๆรอตัวจริงของเขามาแล้วกันนะครับ" ผมรับคำอย่างอ่อนใจเห็นแก่ลุงที่เอ็นดูและดีกับผมหรอกนะ

"เรียกพ่อสิต้น ถ้ามันไม่รักต้น ก็คงเป็นสะใภ้หลอก แต่พ่อมั่นใจว่ามันต้องรักต้นแน่ๆพ่อมั่นใจ"

ไปซื้อความมั่นใจที่ Lazada มาหรือไงคุณลุง ถ้าลูกลุงผู้หญิงเยอะอย่างนั้น จะมาชอบผมก็บ้าแล้ว

"แล้วลูกคุณลุง เอ้ย คุณพ่อ ชื่ออะไรหรอครับ" อย่างน้อยต้องรู้จักชื่อสามีในนามก่อนเว้ย

"มันชื่อ ธาริน วรเดชชัยกุล หรือ ธาร " พูดไปคุณลุงก็ทำหน้าเหมือนกำลังจะชนะเกมส์ยังไงไม่รู้

"ครับ แล้วผมต้องย้ายไปที่นั้นเมื่อไหร่ครับ ผมต้องบอกแม่อีก ต้องแต่งเรื่องโกหกแม่ ไม่งั้นโดนบ่นยับแน่"

"วันจันทร์นี้ หรืออีก 3 วัน เตรียมตัวให้พร้อมนะลูกสะใภ้พ่อ" ถ้าคุณพ่อจะมีแววตานักล่าขนาดนั้น ยอมแล้วครับ

"ได้ครับผมจะทำให้ดีที่สุดครับ เฮ้อ" 


Tbc


 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:



สวัสดีค่ะ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ลองเขียนนะคะ :mc4: :mc4: :mc4: เขียนเพราะอยากโดยเฉพาะ :hao6: :hao6:

ยังไงก็ถ้ามีข้อผิดพลาดก็ขออภัยหรือเม้นให้กำลังใจได้นะคะ :mew1: :mew1: :mew1:

หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 15-04-2019 11:37:03
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 15-04-2019 13:56:41
อยากให้พ่อนราคู่กับแม่ต้นเพี้ยนๆเหมือนกัน  พระเอกคงแสบน่าดูกลัวต้นจะตามไม่ทันจัง. อย่าลืมแปะกฎเล้าด้วยค่ะ :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: lovenine ที่ 15-04-2019 14:07:35
อ่าว ตกงาน แล่วได้ผัว เลิศจร่ะเลิศ^^
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: nut2557 ที่ 15-04-2019 17:54:02
ก็น่าติดตามน่า  แต่อย่าลืมกลับมาลงกฏของเล้าด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 15-04-2019 19:00:53
ปูเสื่อรอเลย  จั่วหัวซะขนาดนี้
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 2 งานใหม่ <15/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Garuda8 ที่ 15-04-2019 21:24:58
ตอนที่ 2

งานใหม่




    หลังจากวันที่ผมได้คุยกับคุณพ่อทร หรือว่าที่นายจ้างผมนั้นแหละ กลับมาบ้านผมก็ไม่รู้จะหาข้ออ้างบอกคุณนายแม่ผมยังไง คิดไม่ตก นอนไม่หลับ ผมไม่รู้จะปรึกษาใคร จนนึกขึ้นได้ว่า

ผมก็มีเพื่อนสนิทกับเขาหนึ่งคนนี่หว่า ผมเลยตัดสินใจโทรไปนัด เพื่อจะปรึกษาเรื่องนี้กับมันในวันพรุ่งนี้ เอาว่ะผมไว้ใจเพื่อนคนนี้มากครับถือว่ามันเป็นแม่คนที่ 2 เลย มันต้องช่วยผมได้แน่

สู้โว้ย

  วันรุ่งขึ้นผมมาถึงร้านขนมหวานสีพาสเทลร้านโปรดผมกับเพื่อนแถวสาธร ประมาณบ่ายโมงกว่า เปิดประตูเข้าไปก็เจอไอ้ตัวแสบนั่งรออยู่ดูท่าทางตื้่นเต้นเหมือนรอเผือกเรื่องผมอยู่แบบเต็มที่เลย


"มาแล้วๆ ฉันรอแกอยู่ตั้ง10 นาที แกมีอะไรเล่ามาเดี๋ยวนี้ฉันพร้อมให้คำปรึกษา ฮิฮิ"

จากคำพูดมันผมว่ามันรอเผือกมากกว่าครับ ผมลืมบอกครับเพื่อนคนนี้เป็นผู้หญิงนะครับมันชื่อไผ่ สนิทกันตั้งแต่สมัยมัธยม จนถึงตอนนี้ บ้านมันทำนิตยสารและพวกหนังสือครับมีชื่อเสียงพอควร ตอนนี้มันเป็นนักเขียนให้บ้านมันเองธุรกิจครอบครัวจริงๆ

"เออ คือว่าพอดีเมื่อ 2 เดือนก่อนฉันตกงานอ่ะ แล้วทีนี้ฉันหางานใหม่พึ่งได้งานเมื่อวานนี้เอง แต่ฉันต้องไปพักที่ที่บริษัทจัดให้อ่ะ ฉันเลยไม่รู้จะบอกคุณนายติมยังไง แกช่วยฉันคิดหน่อยสิ" แม่ผมชื่อติมครับเรา 2 คนมักเรียกแม่ว่าคุณนายติม


"เฮ้ย แกตกงานทำไมไม่บอกฉันว่ะ แล้วนี้งานอะไรของแก ทำไมบริษัทใหม่แกมีที่ให้ซุกหัวนอนด้วยว่ะ"  นั้นไงคำถามมาแล้วสมกับที่บ้านทำนิตยสารจริงๆ

"ก็งานบริษัทเนี่ยแหละแต่ว่ามันอาจจะมีบ้างที่งานมีปัญหา เขาเลยอยากให้ฉันไปอยู่ที่ที่จัดไว้ให้จะได้เรียกตัวได้สะดวกไง"

" ไอ้คุณต้น เอาความจริง แกดูอาหารบนโต๊ะสิมีหญ้าไหม" โอ๊ย หลอกมันไม่ได้จริงๆ มันเพื่อนหรือมันแม่ว่ะ บอกก็บอก ผมเลยตัดสินใจเล่าให้ ไอ้หนูไผ่มันฟังทั้งหมดเพื่อที่จะได้ขอความเห็นมันได้


" ห๊ะ แกกำลังจะไปมีผัวหรอต้น " ไอ้ไผ่ตาวาวเป็นประกายมองหน้าผมเหมือนดีใจที่ลูกสาวออกเรือน แต่ผมเป็นผู้ชายนะ

" ไม่ใช่เว้ยก็แค่ไปดูแล ถือซะว่าไปดูแลเด็กคนนึงไง ฉันว่าคงเหมือนพวกเลขา เขาไม่เอาฉันทำเมียเหมือนที่พ่อเขาคอยเป่าหูฉันหรอก"

"ดูแลเด็กกับผีอะสิ เด็กโข่งหรือไงอายุ 27 แกนี้มันโลกสวยไปแล้วนะ เอาจริงอย่างแกนะ ไม่ต้องถึง 1 ปี หรอก ฉันให้เต็มที่  3 เดือน มีผัวอย่างเต็มภาคภูมิแน่แก กรี๊ดดด"  โอ๊ย ผมล่ะปวดหัวกับเพื่อนคนนี้จริงๆ


"ไอ้ไผ่ เป็นผู้หญิงพูดจาให้มันดีๆหน่อย ผัวเผออะไรล่ะ ฉันมั่นใจว่าคงไม่มีอะไรหรอกฉันก็ทำงานของฉันเขาที่เป็นผู้ชายย่อมไม่มาเผลอเปิดห้องฉันแน่นอน"  ผมพูดกับมันด้วยความมั่นใจมาก เพราะผมเคยเห็นข่าวที่คุณธาริน อะไรนั้นควงสาว แต่ละคนสวยๆทั้งนั้น เขาจะมาสนใจอะไรผมล่ะ เพื่อนผมมันขี้มโนไปเอง


"เออให้มันจริงเถอะ หน้าอย่างแก รูปร่างอย่างแก ใกล้ชิดกันมันต้องหวั่นไหวบ้างแหละ เฮ้อ ช่างมันก่อนแล้วกัน แล้วแกต้องย้ายไปบ้านเขาวันไหนอ่ะ"

"วันจันทร์นี้ แต่ฉันไม่รู้จะบอกแม่ยังไงแกช่วยฉันหน่อยสิ" ผมส่งสายตาเว้าวอนให้ไอ้ไผ่เพื่อขอความช่วยเหลือ แบบที่คิดว่าน่าสงสารที่สุดไปให้มัน กระซิก กระซิก

"เออเรื่องนี้ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจะบอกแม่แกให้เองว่าแกทำงานให้บริษัทในเครือญาติฉัน แต่มันอยู่ต่างจังหวัดเลยต้องไปอยู่หอพักคนงาน แล้วฉันก็ไปด้วยเพื่อไปหาพล็อตเรื่องเขียนนิยายเรื่องใหม่ บอกแบบนี้แม่แกคงหายห่วง"


"แกสมกับเป็นนักเขียนจริงๆเลยขอบใจแกมากนะ" ผมรีบเข้าไปนวดไหล่เอาใจมัน คิดไม่ผิดจริงๆที่เรียกมันมา

"ไม่เป็นไรหรอกยังไง ฉันก็เพื่อนแก แต่มีข้อแม้"

"อะไรว่ะ" ผมถามแล้วมองหน้ามันด้วยความอยากรู้มันจะหาเรื่องเผือกอะไรอีก

"วันที่แกย้ายไปบ้านเขาอ่ะ ฉันขอไปช่วยขนของด้วยได้ป่ะ ฉันอยากเห็นหน้าลูกเขยอ่ะ" อยากจะบ้าผมฆ่าเพื่อนจะผิดไหม

" เออ กูจะห้ามมึงได้ไหมล่ะ"

"อย่าพูดจาไม่สุภาพกับผู้หญิงนะคะ ลูกต้น อีกอย่างกำลังจะมีสามีรักษาภาพด้วยค่ะ "  พูดแล้วยังจะมาลอยหน้า ลอยตา ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงนะ หัวทิ่มแน่


โอ๊ยยยย

แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม เลือกให้เธอไม่ไปได้หรือเปล่า TT

..........................................................................

ผมกลับบ้านมาในช่วงเย็นพร้อมกับแม่คนที่ 2 ของผม เข้ามาบ้านก็เจอคุณนายติมกำลังวาดรูปอยู่ สงสัยแม่คงจะกลับไปรับงานครับ แม่ผมเป็นศิลปินวาดรูป แต่ก่อนตอนผมเรียนแม่มักจะรับงานออกแบบ พวกออกแบบภายใน หรือพวกปกหนังสือนิยาย ผมเรียนจบเริ่มทำงานผมก็ให้แม่หยุดรับงาน พอผมตกงานแม่ก็คงเริ่มกลับมารับงานอีก


"คุณนายติม สวัสดีค่ะ คิดถึงจังเลย ไม่เจอกันนานก็ยังเหมือนเดิมเลยนะ"  ไอ้ไผ่มันเข้าบ้านมามันก็ประจบแม่ผมทันที รีบวิ่งเข้าไปกอดเชียวลูกบ้านไหนว่ะไอ้ลูกหมานี้

"ว้าย หนูไผ่ไม่เจอกันตั้งนานแม่ก็คิดถึง แล้วไปไงมาไงจ๊ะเนี่ย" แม่ก็ดูดีใจนะที่เจอมันคงอยากได้ลูกสาวผมดันเกิดเป็นผู้ชายซะนี่

"ก็ตั้งใจจะแวะมาหาคุณนายติมแหละค่ะ คือจะมาบอกเรื่องที่ต้นมันได้งาน แล้วต้องย้ายไปอยู่หอพักของออฟฟิศนะคะ" รวดเร็วแท้ๆ เพื่อนผมมาถึงก็ใส่เลย อย่ารอให้เหยื่อได้ถาม

"เอ๊ะ ต้นได้งานแล้วหรอลูก " แม่หันมาถามผม

"ใช่ค่ะแม่ ได้ทำบริษัทในเครือญาติของไผ่เอง แต่บริษัทอยู่ไกลหน่อยเลยต้องไปอยู่หอพัก แต่ไผ่ไปด้วยนะคะ พอดีมีนิยายต้องเขียนใหม่พอดี ไม่ต้องห่วงค่ะ"  คุณรู้ใช่ไหมว่าผมไม่ได้ตอบ

"หรอแล้วจะไปวันไหนล่ะ" แม่ถามกลับมาแต่ก็ไม่ได้ทำหน้าผิดสังเกตอะไร

"วันจันทร์นี้ครับแม่ ต้นก็ให้ไผ่มันมาช่วยเก็บของด้วยเนี่ยแหละ" แม่พยักหน้าแล้วหันไปพูดกับไอ้ไผ่

"ฝากดูต้นด้วยนะหนูไผ่ อย่าให้ใครมาจีบได้ แต่ถ้าคนมาจีบหล่อรวย ตรงเสป็คแม่ล่ะก็ ให้กุญแจสำรองห้องต้นกับเขาไปเลยลูก"  อ้าวแม่ทำไมเป็นงั้นไม่ห่วงลูกเลย

"เดี๋ยวไผ่จัดให้เลยแม่ ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม จะถนอมไว้ให้ผัวที่แท้ทรูของต้นเลย "  เอาเข้าไปทำไมไม่เกิดเป็นแม่ลูกกันไปเลยว่ะเนี่ย

"ต้นยังไงก็ดูแลตัวเองนะลูกถึงเราจะเป็นผู้ชายแต่เราก็สเป็คผู้ชายนะลูก เลือกดีๆล่ะ ฮ่าๆๆ"

ผมขอลาออกจาการเป็นลูกแม่วันนี้แหละ


......................

วันนี้วันจันทร์แล้ว ไอ้ไผ่ขับรถมารับผมแต่เช้าเผื่อช่วยขนของไปส่งที่บ้านวรเดชชัยกุล ตามแผนที่  ที่คุณนราทร ส่งให้เมื่อวาน ขับรถเข้ามาในซอยลึกพอควร เกือบสุดซอยเห็นจะได้ ก็จะเจอกับคฤหาสภ์หลังใหญ่  คุณลุงยามเหมือนได้รับคำสั่งไว้แล้ว แกเลยรีบกุลีกุจอมาเปิดประตูให้ผม  จากประตูบ้านกว่าจะถึงตัวบ้านนี้ก็ใช่เวลาพอสมควร  ไอ้ไผ่จอดรถ พร้อมกับผมที่เปิดประตูลงจากรถ ผมยืนสำรวจอยู่ประมาณ 1 นาทีก็มีป้าแม่บ้านมาเรียกผมให้ไปพบเจ้าของบ้านที่รออยู่ที่ด้านในคฤหาสภ์แล้ว


 ผมเดินตามป้าแม่บ้านเข้ามา ด้านหลังมีไอ้ไผ่ตามมา เดินผ่านประตูไม่สลักสีขาว ตรงเข้ามาเป็นห้องโถ่งกว้างมีบันไดเพื่อขึ้นชั้น 2 เดินผ่านบันไดจะพบประตูไม้อีกบานเพื่อเข้าไปยังห้องรับรอง


"ลุกต้นมาแล้วพ่อรออยู่พอดี" เสียงคุณนราทรทักขึ้นเมื่อเห็นผมเดินเข้ามา

"สวัสดีครับคุณลุ....เอ่อ คุณพ่อ  นี้เพื่อนผมครับเขามาช่วยขนของชื่อไผ่"  ผมทักทายแล้วรีบแนะนำหนูไผ่ให้คุณพ่อรู้จัก

"สวัสดีค่ะ คุณนราทร ไผ่เป็นเพื่อนกับต้นค่ะ ฝากดูแลต้นด้วยนะคะ"

"หนูนี่น่าเอ็นดูเชียว ได้สิฉันจะดูแลต้นอยู่แล้วลูกสะใภ้ทั้งคน มามา นั่งก่อนพึ่งมาเหนื่อยๆ  " คุณพ่อเชิญผมกับไผ่นั่งลงพร้อมทั้งให้แม่บ้านเอาน้ำมาเสิร์ฟ

"นิ่มเจ้าธารไปไหนล่ะ ไปตามลงมาสิ" คุณพ่อเรียกป้าแม่บ้านอีกครั้ง ซึ่งผมพึ่งรู้ชื่อตอนนี้เองว่าชื่อป้านิ่ม ให้ไปตามว่าที่เจ้านายที่ผมต้องดูแลจริงๆลงมาพบ

"มาแล้วครับพ่อ"  ไม่ทันที่ป้านิ่มจะพูดอะไรเสียงทุ้มที่ดังขึ้นทำให้ทุกคนต้องหันไปมอง เป็นร่างสูงใหญ่ของผู้ชายหน้าหล่อคม คิ้วโก่งได้รูป ปากบางแหลมนิดๆ หุ้ยทำไมหล่องี้ว่ะ เฮ้ยๆไม่ได้ๆ เขาเป็นผู้ชายนะเว้ยไอ้ต้น มองเลยไปอีกนิดเขาไม่ได้เดินมาคนเดียวแต่เดินมากับผู้ชายอีกคนที่ตัวเท่าๆกันหล่อพอๆกัน ใส่ชุดสูทดำ น่าจะเป็นคนดูแลหรือไม่ก็บอร์ดี้การ์ด

"มาแล้วก็มานั่งสิ ฉันจะให้แกมารู้จักกับคนดูแลแกคนใหม่หรือเรียกง่ายๆคือว่าที่เมียแกที่ฉันเลือกให้แล้ว"  ผมได้แต่ช็อคกับคำพูดของคนอายุมากกว่าพูดแบบนั้นเจ้าตัวไม่เกรี้ยวกราดเข้ามาชกผมหรือไงเนี่ย

"ผมแค่มาดูหน้าตาเฉยๆครับว่าคนที่คุณพ่อหามาจะเป็นยังไง ผมบอกไว้ก่อนนะครับ ต่อให้สัญญาที่คุณพ่อทำจะ 1 ปี หรือ 10 ปี ให้ดูกันไปยังไงผมก็ไม่ชอบคนของคุณพ่อหรอก "  ไอ้นี่ มันพูดกับพ่อมันแต่มันหันมาทางผมแล้วทำหน้าแสยะยิ้ม โอ๊ยไอ้หล่อ


"ฉันก็ยังไม่ได้ว่าอะไร ฉันก็ให้เขามาช่วยดูแลแก  เรื่องรักไม่รักชอบไม่ชอบมันขึ้นอยู่กับอนาคต อ่อ ห้องต้นเขาจะอยู่ห้องข้างแกนะมีอะไรจะใช้เขาก็เคาะเรียกได้เลย"  ฉิบหายอยู่ห้องข้างกันอีก


"ไอ้ต้นผัวแกแม่งโคตรเก๊กเลยอย่ายอมแพ้เอาชนะใจแม่งให้ได้เลย กูหมั่นไส้"  เสียงกระซิบข้างหูผมจากไอ้ตัวแสบช่างให้กำลังใจดีจริงๆ ก่อนที่ผมจะได้ตอบอะไรเสียงทุ้มก็ดังขึ้นมาก่อน

"ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมครับ ถ้างั้น"  เขาพูดพร้อมกับเดินมาหาผมแล้วยื่นมือมา ผมก็ลุกขึ้นต่อหน้าเขาและยื่นมือไปจับมือเขาเช่นกันก็ตามมารยาทอ่ะนะ

"ผมธาริน หรือเรียกธารก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณว่าที่ภรรยา แต่ผมคิดว่า ว่าที่ก็ยังคงเป็นว่าที่สถานะไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน"  มันกวนตีนผมอ่ะ มันกวนตีน โมโหแต่ต้องอดทนไว้ใครอยากเป็นเมียมึงไอ้สูงผมพยายามทำหน้าให้ปกติ แล้วยิ้มตอบกลับไป

"ผม ตติวงษ์ พฤกษ์เดชา หรือ ต้น ผมมาทำงาน ผมมาดูแลคุณ ผมเห็นด้วยนะกับคำว่า ว่าที่ภรรยา เพราะผมก็ไม่ได้อยากจะเปลี่ยนแปลงสถานะนั้นเช่นกัน ยินดีที่ได้พบนะครับ"  พูดง่ายๆคือกูก็ไม่ได้อยากได้มึงเหมือนกัน ไอ้ล่ำเอ้ย  หลังจากที่ผมพูดจบเหมือนคุณธารินเข้าจะตาขวางๆใส่ผมก่อนจะขอตัวแล้วไปทำงานที่ห้องทำงานของเขา

"หนูไผ่ หนูว่างานนี้น่าสนุกไหมลูก" เสียงของคนอาวุโสที่สุดถามเพื่อนผมหลังจากเมื่อกี้บรรยากาศเหมือนจะมีพายุได้ผ่านไปแล้ว

"มันส์แน่ๆคุณพ่อ อุ้ยหนูเรียกคุณพ่อได้ไหมคะ"

"ได้สิพ่อไม่เคยมีลูกสาว มีแบบหนูซักคนคงดี"

"ขอบคุณค่ะ งานนี้สนุกแน่ๆเลยค่ะ คุณพ่อว่าจะเลื่อนไม่เลื่อนค่ะ"  2 คนเขาคุยกันเป็นตุเป็นตะ

"พ่อว่าเลื่อนแน่"

"คิดเหมือนกันเลยคุณพ่อ"  แล้ว 2 คนก็พากันหัวเราะ ผมว่าไอ้ไผ่นี้แม่งควรเกิดเป็นลูกของทุกบ้านอ่ะ

ผมจะทำยังไงต่อไปเนี่ยต้องทำยังไงเขาถึงจะชอบหน้าผมไม่ต้องชอบแบบคนรักอ่ะแค่เจ้านายลูกน้องก็พอ คิดไม่ตกจริงๆ เอาว่ะอย่างน้อยก็มีพวกอยู่ตั้ง 2 คน แล้วเมื่อไหร่ 2 คนเขาจะเลิก

คุยเรื่องเลื่อนไม่เลื่อนเนี่ย  ไอ้ที่จะเลื่อนเนี่ยไส้กูเนี่ยแหละ  ไอ้ต้นเอ็งทำกรรมอะไรเนี่ย



"""""""""""""""""""
   เวลาเย็นของที่บ้านหลังใหญ่ที่ผมพึ่งเข้ามาอยู่ได้ไม่ถึง 4 ชั่วโมง ไอ้ไผ่กลับไปแล้วหลังจากที่ช่วยผมขนของและจัดของเข้าตู้ที่ห้องผม ที่คุณนราทรจัดไว้ให้ ห้องนี้ใหญ่กว่าห้องนอนที่บ้านผม 3 เท่า พื้นที่เหลือพอให้ไอ้ไผ่กับแม่ผมเล่นไพ่ได้เลยนะเนี่ย คิดอะไรเพลินๆซักพักผมคิดว่าคงต้องเริ่มการดูแลเจ้านายแล้วล่ะ ผมเลยเดินลงไปข้างล่างตามหาห้องครัวเพราะผมคิด

ว่ามันใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว พอเข้ามาในห้องครัวก็พบกับป้านิ่มกำลังทำอาหารอยู่

"ป้านิ่มครับ มีอะไรให้ต้นช่วยไหมครับ เห็นกำลังจะตั้งมื้อเย็น" ผมถามเพราะคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของผมด้วยที่จะต้องดูแลเจ้านาย

"ทำเป็นด้วยหรอคะ คุณต้น " ป้านิ่มถามผมด้วยความตื่นเต้น

"เป็นครับที่บ้านผมอยู่กับแม่ 2 คนเลยทำเป็นครับ แล้วนี่ป้าจะตั้งโต๊ะกี่โมงแล้วจะทำอะไรทานครับ"  ถามไปผมก็เปิดหม้อโน้น หม้อนี้ ไปพลาง

"ไม่ทำอะไรมากหรอกค่ะ เจ้านายบ้านนี้ไม่ค่อยทานข้าวกัน ป้าทำเผื่อไว้เวลาคุณเขาหิวนะค่ะ"

"คุณนราทรกับคุณธารินเขาไม่ทานกันหรอครับ" บ้านนี้แปลกข้าวปลาไม่กินจ้างแม่บ้านมาเปลืองเงินซะจริง

"คุณท่านไม่ได้อยู่บ้านนี้หรอกค่ะ นานๆจะมาค้าง คนที่อยู่ที่นี่จริงๆคือคุณธารค่ะ รายนี้ทำงานแล้วไม่ค่อยทานค่ะ" พุทโธ ธัมโม สังโฆ นี่หมายความว่าผมอยู่บ้านนี้กับไอ้หล่อแค่ 2 คนหรอเนี่ย มิน่าต้องมีคนมาคอยดูแล ผมพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดกับความจริงที่พึ่งได้รู้มา

"แล้ววันนี้ป้าจะทำอะไรทานครับ" ผมเปลี่ยนประเด็นไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่าน เอาว่ะ อยู่ 2 คนก็ 2 คน ยังมีคนรับใช้อีกไม่เห็นน่ากังวล

"ป้าว่าจะทำแกงจืดเต้าหู้ กับ ไข่ทอดชะอมค่ะ คุณธารเธอทานอะไรง่ายๆ"

"แล้วปกติเขาทานข้าวคนเดียวหรอครับ" ถามด้วยความสงสัยมันเหงาไหมเนี่ยกินคนเดียวทำไมมันไม่เอาป้ามานั่งเป็นเพื่อนด้วยว่ะ

"ใช่ค่ะ แต่ก็จะมีคุณกรณ์ยืนเป็นเพื่อนข้างๆนะค่ะ" ผมขมวดคิ้วมองหน้าป้านิ่มใครว่ะกรณ์ จนป้านิ่มสังเกตเห็นเลยเฉลยให้ผมฟัง

"คุณกรณ์คือบอร์ดี้การ์ดแล้วก็ควบหน้าที่เลขาคุณธารนะค่ะ คุณต้นเจอแล้วนี่คะ"  อ่อไอ้หน้าหล่อๆอีกคนชื่อกรณ์นี่เอง

"คุณกรณ์เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องฝ่ายแม่คุณธารนะค่ะ พ่อแม่เธอเสียคุณท่านเลยรับเป็นลูกอีกคน ก็เหมือนเจ้านายคนนึงแหละค่ะ แต่เธอชอบทำตัวเป็นลูกน้อง"  คงจะสนิทกันมากแน่ๆตามติดกันอย่างกับเหาฉลาม

"ป้าจะทำเลยไหมครับเดี๋ยวผมช่วย วันนี้ผมจะลากเจ้านายป้ามาทานข้าวเอง" เอาว่ะหน้าที่ดูแลก็คือดูแล พ่อเขาให้เงินขนาดนี้ จะปล่อยลูกเขาอดก็ยังไงอยู่  ผมกับป้านิ่มเลยช่วยกันทำอาหารก่อนจะถึงเวลาตั้งโต๊ะ และเวลาที่ผมต้องไปเอาตัวเด็กดื้อมาทานข้าว


เวลา 1 ทุ่มตรง เป็นเวลาทานข้าวที่ผมว่ามันกำลังดีนะ ตอนนี้ผมกำลังจะเดินไปตามตัวนายน้อยของบ้านมาทานข้าว ผมทำใจอยู่นานที่หน้าประตูห้องทำงานของเขา จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจเคาะ

ก็อก ก็อก

"ขอนุญาตนะครับ"  เงียบไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่คุณเรียกครับ

"ผมเปิดแล้วนะ" ผมเอามือจับลูกบิดแล้วหมุนเปิดประตูเข้าไป เห็นไอ้หล่อก้มหน้าอ่านเอกสารอะไรซักอย่าง ข้างกันก็มีคุณกรณ์ที่ว่าเป็นเลขายืนอยู่พร้อมเอกสารในมือเช่นกันแต่หน้าเขาหันมาหาผมพร้อมกับยิ้มให้

"มีอะไรหรือเปล่าครับคุณต้น" ป้าดดด คุณต้น ยืดจนคอหักเลยผม

"คือจะมาตามคุณธารไปทานข้าวนะครับถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว คุณกรณ์ด้วยนะครับ" บอกจุดประสงค์แล้วก็หันหน้าไปมองนายน้อยของบ้าน มันยังคงก้มหน้าไม่สนใจดินฟ้าอากาศใดๆทั้งสิ้น คุณกรณ์ได้แต่มองหน้าผม ไหวไหล่ให้แล้วหันไปมองเจ้านายตัวเองที่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง

"คุณธารครับไปทานข้าวเถอะ ผมรู้ว่าคุณงานยุ่งแต่ผมถูกจ้างมาให้ดูแลคุณเหมือนกัน คุณก็อยากทำงานให้ดี ผมก็อยากทำงานของผมให้ดีเหมือนกัน อีกอย่างถ้าคุณป่วยใครจะทำงานแทนคุณล่ะ ขืนคุณป่วยจริงผมต้องโดนหาว่าดูแลคุณไม่ดีแน่ๆ" ผมพูดออกไปตามความรู้สึกจริงๆที่ผมคิด ไม่ได้คิดจะกวน  ผมแค่อยากทำหน้าที่ให้ดีให้คุ้มเงินเท่านั้นเอง  คุณกรณ์หันมายิ้มให้ผมแล้วเรา 2 คนก็รอดูอาการของเจ้านายว่าจะยังไงต่อ

"ก็ไปสิฉันก็ไม่อยากเห็นใครโดนไล่ออกตั้งแต่วันแรกเพราะปล่อยให้ฉันอดข้าวหรอก"  ไอ้หล่อเงยหน้าขึ้นพูดแล้วลุกจากเก้าอี้เดินผ่านผมออกจากห้องไป   เอาว่ะอย่างน้อยมันก็มีเหตุผลคนนึงคุยกันได้เว้ย 

ผมรีบเดินตามไปที่โต๊ะอาหารเพื่อไปดูแลเจ้านายต่อ

"คุณเอาข้าวเยอะไหม" ผมถามเพราะไม่รู้ว่าเขาจะกินเยอะขนาดไหนเห็นว่าไม่ค่อยกินข้าวเลยไม่แน่ใจ

"ตามสมควรแล้วกันฉันต้องใช้พลังงานในการทำงานมาก ลองประมาณดูเอาสิ"  พูดแบบนี้เห็นผมเป็นนักโภชนาการหรือไง ผมเบะปากให้แล้วตักข้าวใส่จานให้เขาพอประมาณ แล้วหันไปขอจานอีกใบกับป้านิ่มเพื่อมาตักข้าวให้ตัวเอง และนั่งทางซ้ายมือของเขาเพื่อทานข้าวกับเขาด้วย

"นี่นายจะนั่งกินกับฉันด้วยหรอ"  เอ้า! เห็นแล้วยังจะถาม

"ใช่ ผมกลัวคุณเหงาไง  เลยนั่งกินเป็นเพื่อน กินหลายๆคนดีจะตายไป อย่าไล่ผมนะ ถึงไล่ก็ไม่ไปหรอกผมหน้าด้าน กินเถอะอาหารเย็นหมด"

"หึ " ผมได้ยินเสียงเหมือนเสียงหัวเราะเบาในลำคอของคนหน้าหล่อก่อนที่เราจะทานข้าวกันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรอีก หลังจากที่แม่บ้านเก็บโต๊ะแล้วผมก็เตรียมตัวจะขึ้นห้อง แต่ก็มีเสียงทุ้มเรียกผมขึ้นมาซะก่อน

"ต้นฉันขอคุยกับนายเป็นการส่วนตัวหน่อยสิ ที่ห้องฉัน"  ชิบหายแล้วทำไมต้องห้องแกด้วยว่ะไอ้หล่อ  สเปรย์พริกไทยก็ไม่มี ทำไงเนี่ย

"ฉันแค่จะคุยด้วยเฉยๆ อย่าทำหน้าเหมือนฉันจะตีนายสิ อีก  20 นาทีตามขึ้นไปล่ะ ฉันขออาบน้ำก่อน"

ให้มันแน่เถอะมึงใจหายหมด หลังจากนั้นผมก็ไปอาบน้ำทำธุระของผมบ้าง พอถึงเวลาผมก็ไปตามที่ ที่นายน้อยเขานัด

ก็อก ก็อก

"ผมเขาไปนะคุณ"  ผมรออยู่เกือบ  1 นาทีก็ไม่มีเสียงตอบรับจึงเปิดประตูเข้าไปเลย ห้องไอ้หมอนี้ใหญ่กว่าห้องผมอีก นอนคนเดียวจะเอาพื้นที่มาทำไมเยอะว่ะ ผมสำรวจอยู่ซักพักก็ได้ยินเสียงเปิดประตูภายในห้องคาดว่าเจ้าของห้องน่าจะพึ่งอาบน้ำเสร็จ

"มาแล้วหรอ" ไม่มาจะเห็นไม่ล่ะ ผมหันไปจะตอบมันแต่ เชี่ยยย ทำไมมึงไม่ใส่เสื้อผ้า พันผ้าขนหนูผืนเดียว บนหัวมีผ้าขนหนูผืนเล็ก โอ๊ยย เซ็กซี่อะไรเบอร์นั้น

"นี่  นายจะมองอีกนานไหม พ่อฉันจ้างมาดูแลฉันไม่ใช่หรอ เอ้า" เสียงเขาทำให้ผมสะดุ้ง พร้อมกับยื่นสิ่งของมาตรงหน้าผม นั้นคือผ้าขนหนูผืนเล็กที่อยู่บนหัวเขาเมื่อกี้ ผมรับมางงๆ มองผ้าแล้วมองหน้าเขาสลับกัน

"เช็ดหัวให้ฉันสิ ทำหน้าที่ ว่าที่ภรรยาของนายซะ"  ไอ้หน้าหล่อพูดพร้อมกับเดินไปนั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งแต่หันหน้ามาทางผม  ผมเดินตามไปยืนตรงหน้าพร้อมกับเริ่มเช็ดหัวให้เขา

"นี่ทำไมนายถึงมารับงานนี้ล่ะ" เจ้าของห้องถามขึ้น ขณะที่ผมก็กำลังเช็ดผมให้เขาอยู่

"มันไม่ได้มีอะไรเสียหายนี่ครับ ผมก็มาดูแลคุณ เพราะตอนนี้ผมคิดว่าคุณคงต้องการคนดูแลจริงๆแหละ ส่วนคุณก็สอนงานผม หากครบสัญญาผมก็ไป ไม่เสียหายนิ" ผมตอบตามความรู้สึกไม่ได้ปรุงแต่งอะไร

"นายเห็นฉันเป็นเด็กหรอ ต้องมาคอยดูแล"

"แล้วคุณคิดว่าไงล่ะ ข้าวก็ไม่ค่อยกิน ขนาดอาบน้ำคุณยังปล่อยให้น้ำหยดออกมาเลย เห็นไหมต้องดูแลยิ่งกว่าเด็กอีก "  ว่าเสร็จผมก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเขาอย่างถือวิสาสะ แล้วเปิดตู้เลือกชุดนอนแล้วส่งให้เขา แล้วเดินกลับไปที่ห้องตัวเองหยิบแป้งที่ห้องมา  เพื่อที่จะได้กลับมาปะแป้งให้เขา
ทุกการกระทำมีร่างสูงมองอยู่

"คุณปะแป้งก่อนสิถ้าใส่เสื้อผ้าเลยมันจะไม่สบายตัว" ผมยื่นแป้งให้เขาแต่เขาไม่ยอมรับไปถือซักที

"ทาให้ฉันสิ เห็นฉันเป็นเด็กไม่ใช่หรอ ฉันไม่เคยทาด้วยไอ้แป้งเนี่ย"  เวรกรรมของกู ทาแป้งให้เด็กก็ว่าน่ารักอยู่หรอกแต่ไอ้เด็กโข่งนี้ไม่ไหว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

ผมทาแป้งให้เขาที่หน้าอกลงไปถึงหน้าท้องเป็นลอน รวมถึงที่หลังที่ผมต้องเอื้อมมือไปถึงจะทาได้ ทำให้แก้มผมเฉียดกับแก้มเขา ถ้าตอนนี้ไอ้หล่อหันมาจมูกมันคงโดนแก้มผมแน่ๆ ทำไมห้องนี้มันร้อนจังว่ะ

"ตัวนายหอมดีนะ" ผมหันไปมองหน้าคนพูดจนจมูกเฉียดกับแก้ม แล้วผมก็รีบเดินถอยออกมา 1 ก้าว

"เสร็จแล้วครับคุณใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยเถอะ"  ผมก้มหน้าคุยกับเขา ไม่ได้มองหน้าเขาเลย ใครจะไปมองได้ล่ะโดนผู้ชายชมคือมันเขิลอ่ะ

"หึ ไม่ต้องห่วงนะ นายทำหน้าที่ของนายไปก็แล้วกัน ฉันจะถือว่านายเป็นลูกน้องคนนึง แค่นี้แหละที่ฉันจะพูด"

"ขอบคุณครับ" ผมกำลังจะเดินออกจากห้องก็ต้องชะงักเพราะเสียงไอ้หล่อ

"แต่ตัวนายหอมจริงๆนะ ติดปลายจมูกเลย"   (-/////////-)  อร้ายยยย ไอ้บร้าาาา

ไปแล้วเว้ยไม่อยู่แล้ว

"ฮ่าๆๆๆนายนี่ตลกดีนะ"  ผมได้ยินคำนี้ตามหลัง นี่ไอ้หล่อมันแกล้งผมใช่ไหมเนี่ย ให้ผมทนไม่ได้แล้วหนีไปใช่ไหม เห็นผมเป็นแก๊งค์สามช่าไปได้ คอยดูเดี๋ยวจะเอาคืนให้ได้เลย



Tbc


ขอคุยหน่อย
:hao7: :hao7: :hao7:

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ แล้วก็ขอบคุณเม้นที่แจ้งให้ลงกฏด้วยลืมจริงๆ

วันนี้ขออนุญาตลงตอน 2 ให้นะคะ ส่วนตอนอื่นจะลงให้ทุกอาทิตย์ค่ะ เห็นมีคนอ่านมีคนเม้นก็มีกำลังใจขึ้นเยอะ

ขอบคุณมากๆค้ราบบบบบบ

 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่1 ตกงาน <15/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 15-04-2019 21:36:22
ต้นลูก หนูห้ามหวั่นไหวง่ายๆนะลูก
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 2 งานใหม่ <15/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 15-04-2019 23:49:26
 :z1:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 2 งานใหม่ <15/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 16-04-2019 12:52:51
ขออาทิตย์ละ2 วันได้ไหมอ่ะ
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 2 งานใหม่ <15/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 16-04-2019 20:25:46
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 3 เห็นใจ <19/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Garuda8 ที่ 19-04-2019 03:48:06
ตอนที่ 3

เห็นใจ


  เฮ้อออออ
  เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ผมอยู่ที่นี่มาครบอาทิตย์แล้ว วันๆก็คอยแต่ตามไอ้หล่อกินข้าว เข้าไปเตรียมเสื้อผ้า จัดอะไรต่างๆให้คุณชายเขา ถ้าป้อนข้าวได้คงป้อนไปแล้ว ผมว่าเขาคงต้องติดนิสัยแล้วแน่ๆเลย  มีผมคอยทำทุกอย่างให้แบบนี้ ช่วงนี้เห็นดูอารมณ์ดีเหลือเกินจิกหัวใช้กันชัดๆ

ครืด ครืด

ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ที่สวนหลังบ้านโทรศัพท์ผมก็สั่น ล้วงออกจากกระเป๋ากางเกงมาดูว่าใครโทรมา ก็เป็นคุณพ่อสุดที่รักของไอ้นายน้อยหน้าหล่อ

"สวัสดีครับคุณพ่อ"

"ไฮลูกต้น เป็นไงบ้าง อยู่กับเจ้าธารโอเคไหม"

"ก็ โอเคครับ แต่ผมว่าผมน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้นะครับ" ผมพูดขึ้นเพราะว่าที่ผ่านมาผมรู้สึกไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยนอกจากดูแลนายน้อยของบ้าน

"อ่า ใจเย็นนะ ที่พ่อโทรมาก็เรื่องนี้แหละ"

"จะเปลี่ยนงานให้ผมหรือครับ" ผมรีบถามเพราะว่าอยากทำอะไรให้มันดูยุ่งๆกว่านี้

"คืองี้นะพรุ่งนี้ พ่อจะให้เทียนซึ่งเป็นหลานของพ่อเข้าไปสอนงานเรานะ เผื่อไอ้ธารมันไล่เราออกจากบ้าน ต้นจะได้มาช่วยงานพ่อหรือ ไปช่วยงาน เจ้าเทียนได้"

"อ่อ ดีเลยครับผมจะได้ไม่เบื่อด้วย แล้วเขาจะมากี่โมงครับ" ผมถามอย่างตื่นเต้น

"ประมาณซัก 11 โมงนะ ยังไงก็ฝากเลี้ยงดูปูเสื่อด้วยนะ"

"ได้ครับคุณพ่อ ขอบคุณมากนะครับ" 

ผมวางหูไปพร้อมกับความตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆในวันพรุ่งนี้ แค่คิดใจก็พองโตดีกว่าอยู่เปล่าๆเว้ย


ตอนเย็นผมก็เข้าครัวไปช่วยป้านิ่มทำอาหารเหมือนทุกวันเพื่อรอนายน้อยกลับจากทำงาน  แต่ว่าตอนนี้ก็ 6 โมงกว่าแล้วทำไมไอ้คุณธารมันยังไม่มาว่ะ

"ป้านิ่มครับทำไมวันนี้นายน้อยยังไม่มาล่ะครับ นี้มันผิดเวลาไปจะชั่วโมงแล้วนะครับ" ผมถามป้านิ่มที่กำลังเดินออกมาจากในครัว

"ไม่รู้สิคะคุณต้น ทำไมคุณต้นไม่ลองโทรหาดูล่ะคะ"

"ผมเป็นลูกน้องนะครับ ใครจะไปกล้าโทรหาเจ้านายล่ะ"

"ลูกน้องสำหรับนายน้อยแต่เป็นนายน้อยอีกคนสำหรับบ้านนี้นะคะ"

ผมยังไม่ทันจะได้เถียงอะไรต่อ รถเบนซ์สีดำก็เข้ามาจอดเทียบที่หน้าบ้านพอดี

"นั้นไงมาพอดีเลยค่ะ ตายยากจริงๆ" ป้านิ่มพูดขึ้น ผมจึงหันไปมองคนที่เดินลงมาจากรถ เดินมาทางผม กำลังจะอ้าปากถามว่าจะกินข้าวเลยไหมก็ต้องหยุดชะงักถามเรื่องอื่นออกไปเสียก่อน

"คุณ หน้าคุณไปฟัดกับหมาที่ไหนมาครับ" ผมพูดออกไปด้วยความตกใจ ไอ้หล่อไม่ตอบผมแค่มองหน้าเฉยๆแล้วทำท่าจะเดินผ่านผมไป ผมคว้าแขนเขาไว้

"คุณธาร คุณจะไม่ตอบผมก็ได้ แต่ให้ผมทำแผลให้ก่อนได้ไหม"

".."  เงียบนี้กูพูดกับแม่ซื้อหรือเปล่าว่ะเนี่ย

"นะคุณธาร คุณขึ้นไปรอที่ห้องแล้วกัน เดี๋ยวผมเอายาขึ้นไปทำแผลให้ "  ไอ้นายน้อยยังคงเงียบแต่พยักหน้าเป็นการรับรู้แล้วเดินผ่านผมไป  ผมหันไปทางเลขาหรือคุณกรณ์เพื่อจะถามถึงสาเหตุ

"มันเกิดอะไรขึ้นหรอครับคุณกรณ์" ผมอยากรู้จริงๆใครทำหน้าหล่อๆช้ำ จะหยอดตู้โทรศัพท์ไปด่ามัน

"มีการเข้าใจผิดนิดหน่อยนะครับ แต่เคลียกันเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องห่วงฝ่ายโน้นเละกว่าเยอะ"  กรณ์พูดแล้วเอานิ้วชี้ปาดคอตัวเองแล้วยิ้มให้ผม

"คุณต้นรีบไปทำแผลให้นายน้อยเถอะค่ะ" ป้านิ่มพูดขึ้น ผมจึงหันไปพยักหน้ารับแล้วเดินไปหยิบกล่องพยาบาล เพื่อจะตามขึ้นไปทำหน้าที่ที่ผมต้องทำ

.......................................

ก็อก ก็อก

"ผมเข้าไปนะคุณ" ไม่รอให้เอ่ยปากผมเปิดประตูห้องนอนของธารซึ่งผมเข้ามาประจำหลังจากที่ต้องมาทำหน้าที่ดูแลเขา ผมเห็นคนตัวโตหลับตานั่งอยู่บนโซฟาตรงปลายเตียง ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆอย่างถือวิสาสะ คนหล่อก็ลืมตาขึ้นมามองผมพอดี

"เจ็บไหมคุณ ทนหน่อยนะทำแผลแปปเดียว" พูดไปผมก็เอาสำลีที่ชุบแอลกอฮอลล์ เช็ดที่มุมปากเขา เบาๆเพราะผมมัวแต่ตั้งใจทำแผลที่ปากและที่มือของเขา เลยไม่รู้ว่าเขามองผมอยู่หรือเปล่า หรือว่าทำหน้ายังไง

"คิดอะไรอยู่ ทำแบบนี้เพื่อเอาใจฉันหรือไง"  คนตัวโตพูดขึ้น ทำไมคิดยังงั้นว่ะ

"นี่คุณ ถ้าไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้หรอกนะ "  หมั่นไส้ขอด่าหน่อย

"คุณชอบต่อยตีกับคนอื่นหรือไง ชอบให้ตัวเองเจ็บตัวหรือครับ"  ผมบ่นไปตามเรื่อง ในตอนนั้นคุณกรณ์ก็เปิดประตูเข้ามาดูเจ้านายของเข้าพอดี

"ทำไม เป็นห่วงในฐานะเมียหรือไง หรือว่านายจะทำดีหวังผล" คนตัวสูงพูดจบผมก็ได้แต่ถอนหายใจมโนไปใหญ่แล้ว

"ผมก็แค่เป็นห่วง ในฐานะที่เราอยู่บ้านเดียวกัน คุณไม่ห่วงตัวเองก็นึกถึงคนที่ห่วงคุณบ้างนะครับ" ผมพูดแล้วมองหน้าเขา ถ้ามองไม่ผิดผมคิดว่าเขากำลังจ้องผมเหมือนคิดอะไรอยู่

"นายนี่มันพูดมากจริงๆนะ แล้วเสร็จหรือยังเนี่ย"

"เสร็จแล้วครับ คุณจะทานข้าวเลยไหม" ไล่ผมจังเลย

"ใช่ เสร็จแล้วก็ออกไปได้แล้ว ฉันหิว"


"ครับ..เออคุณพรุ่งนี้คุณออกไปบริษัทหรือเปล่า" ผมถามหลังจากนึกขึ้นได้ว่าจะมีคนมาหาผมพรุ่งนี้

"ไปสิพรุ่งนี้มีประชุม" ผมพยักหน้ารับรู้แล้วเตรียมจะกลับไปที่ห้องของตัวเองผมนึกบางอย่างขึ้นได้จึงหันไปทางเขาอีกครั้ง

"คุณอย่าลืมกินยาแก้ปวดกันไว้นะ ผมไปแล้วนะ"

เดินกลับมาที่ห้องแล้วทิ้งตัวลงนอนอย่าสบายใจ

"ตื่นเต้นจังอยากเรียนรู้งานแล้ว พรุ่งนี้จะไม่น่าเบื่อแล้วสินะ ว่าแต่หน้าไปโดนอะไรมาว่ะ ช่างเหอะไม่อยากบอกก็ไม่อยากรู้" 

บ่นกับตัวเองก่อนหลับตาลงพักสายตาซักหน่อย

............................



เวลา11โมงผมมานั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกเพื่อรอคุณเทียน คนที่คุณพ่อบอกว่าจะมาสอนงานผมวันนี้ รอไม่นานป้านิ่มก็เดินมาพร้อมกับผู้ชายผิวขาวสูง ผมคิดว่าคนนี้ต้องเป็นคุณเทียนแน่ๆเลย

"คุณต้นค่ะ คุณเทียนมาค่ะ เดี๋ยวป้าไปเอาน้ำมาให้นะคะ "  ป้านิ่มบอกผมพร้อมกับขอตัวออกไปเอาน้ำมารับรองแขก

"สวัสดี น้องต้นใช่ไหมครับ พี่เทียนนะ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับธารนะ" คุณเทียนเอ่ยแนะนำตัวแล้วยิ้มกว้างให้ผม โอ้ยหัวใจทำไมหล่องี้ว่ะ

"ครับ ผมต้นครับฝากตัวด้วยนะครับ รบกวนมากๆเลยที่ต้องให้คุณเทียนมาสอนงาน"

ผมเขิลจังเขาดูอบอุ่นมากเลยอย่างกับพี่ก้อง สหรัถ

"รบกวนอะไร พี่เต็มใจนะ แล้วก็อย่าเรียกคุณนะ เรียกพี่สิมันดูสนิทกันมากกว่า" นั้นไงทำไมอบอุ่น จนใจละลายแบบนี้

"จะดีหรอครับ ผมแค่ลูกจ้าง"  ผมตอบกลับไป

"ลูกจ้างอะไร คุณลุงเห็นต้นเป็นลูกจ้างหรอ อย่าดื้อนะ เรียกพี่เร็วๆ" คุณเทียนพูดพร้อมกับหยิกแก้มผม ผมสะดุ้งนิดหน่อยแล้วมองหน้าเขาที่ส่งสายตาเหมือนจะแกล้งมาให้

"ครับ พี่เทียน" ยอมครับพี่ชายอบอุ่นแบบนี้

"งั้นเดี๋ยวพี่ จะเริ่มสอนจากโครงสร้างบริษัทแล้วก็การออกแบบก่อนแล้วกัน"

พี่เทียนเขาดูอยากสอนมากเขาทั้งตั้งใจและเอ็นดูผมมากเลยในตอนสอน อยู่ใกล้แล้วกร้าวใจจริงๆ  เวลาล่วงเลยมาเกือบบ่าย

ผมเริ่มหิวแล้ว เลยหันไปหาคนข้างๆที่มองผมศึกษาข้อมูลอยู่

"พี่เทียน ต้นหิวแล้ว พี่เทียนจะทานอะไรดีครับ เดี๋ยวต้นทำให้ทาน"  พูดเพราะอะไรเบอร์นี้ พึ่งรู้ตัวว่าตัวเองก็แอบแรด

"เราทำกับข้าวได้ด้วยหรอ ดีจัง "

"ทำเป็นครับ ไม่ได้โม้อร่อยด้วยนะ อยากกินอะไร เดี๋ยวต้นจัดให้"  ผมกอดอกอย่างภาคภูมิใจทำเอาพี่เทียนส่ายหัว

"พี่ของ่ายๆแล้วกันบ่ายแล้ว รอไม่ไหว งั้นเอาข้าวใช่เจียวหมูสับนะ" ผมทำตาโต

"โห ทำไมขอให้ทำง่ายจัง"  ถามเพราะสงสัย

"พี่กลัวเรา จะเป็นลมนะเลยเอาอะไรง่ายๆ"  อุ้ย เห็นใจคนอื่นนี่มันพระเอกชัดๆ

"ครับงั้นผมไปทำให้แปปนึงนะครับ"

ผมลุกขึ้นเพื่อไปทำมื้อเที่ยงสำหรับเรา ข้าวใข่เจียวใส่หมูสับร้อนๆถูกยกมาที่ห้องรับรองแขกพร้อมข้าว 2 จาน

สำหรับผมและพี่เทียน เราทานข้าวกันไปเล่าเรื่องประสบการณ์แสบๆให้กันฟัง เป็นมื้ออาหารที่ไม่น่าเบื่อเลย

"ต้น กินยังไงข้าวติดแก้มเลยเนี่ย"  พี่เทียนพูดแล้วเอามือมาหยิบข้าวที่แก้มผมออก แล้วก็เอามือเกลี่ยแก้มให้ 2-3 ที
มองหน้าผมด้วยสายตาที่ละมุนยิ่งกว่าเนสกาแฟ แล้วเอามือลูบหัวผมเบาๆ

"นายว่างมากหรอถึงมากินข้าวที่บ้านฉันนะ"  ผมสะดุ้งเพราะเสียงใครบางคนที่คุ้นหูแต่วันนี้มันติดจะห้วนกว่าทุกวัน
ผมหันไปก็เจอคุณธารยืนกอดอกอยู่

"ฉันก็มาทำงานตามที่พ่อนายมอบหมายมานี่ไง"

"หมายความว่าไง" คุณธารถาม

"อ้าวก็ฉันมาสอนงานต้นนะสิ เพราะหากต้นต้องออกจากที่นี่ต้นจะได้ไปทำงานกับฉัน"  ถ้าผมดูไม่ผิดเหมือน  2 คนนี้เขาไม่ได้คุยกันแบบปกติใช่ไหมหรือผมคิดมากไป

"มันอาจจะไม่มีวันนั้นก็ได้นะเทียน" อ้าวไอ้เวรกูต้องเป็นขี้ข้ามึงจนตายใช่ไหม

"อะไรก็ไม่แน่นอนนะ ต้นเป็นเด็กฉลาดเรียนรู้ไวบางทีคุณลุงอาจให้ต้นไปอยู่กับฉันในเร็วๆนี้ก็ได้"  เดี๋ยวนะนี้มันสงครามแย่งอาหารกันหรือเปล่าแลดูตัวเองมีคุณค่าชอบกล นายน้อยธารไม่พูดอะไรต่อทำคิ้วผูกโบว์แล้วก็ขึ้นห้องไป ผมได้แต่หันมามองพี่เทียนแล้วก็ยิ้มให้  ช่วงบ่ายผมก็เรียนกับพี่เทียนต่อ จน4โมงเย็นพี่เทียนก็กลับไป


"วันนี้พี่สนุกมากเลย"

"สนุกตรงไหนกันต้องมาสอนผมเนี่ย" ผมยิ้มเขิลๆ

"พี่ว่าเราคุยสนุกดีนะ มองโลกในแง่ดี พี่ชอบ" เย้ยยยย ชอบแบบไหนว่ะใจน้องบ่อดี

"ขอบคุณที่เอ็นดูผมนะครับพี่เทียน"  พี่เทียนหัวเราะแล้วเอามือมาลูบหัวผม

"พี่พูดจริงๆนะ ถ้าไม่ได้อยู่ที่นี่หรือเลือกที่จะไปจากที่นี่ ไปอยู่กับพี่นะ" น้ำเสียงพี่เทียนจริงจังกว่าที่ผ่านมา สายตาก็มองผมเหมือนอยากให้ผมตอบ

"ถ้าเขาไล่ผมหรือไม่ต้องการผมจริงๆผมจะไปอยู่กับพี่ครับ พี่อย่าทิ้งผมอีกคนแล้วกัน"

ผมพูดด้วยน้ำเสียงปกติ พี่เทียนยิ้มแล้วเราก็แลกเบอร์เพราะพี่เทียนไม่ได้มาสอนทุกวัน หากเขาจะมาวันไหนพี่เขาจะได้โทรมาบอกก่อน ผมยืนรอส่งพี่เทียนซักพัก ก็ขึ้นไปข้างบนเพื่อไปถามคนหน้าหล่อซักหน่อยว่าจะกินข้าวหรือยัง ตอนเข้ามาอาจจะหิว ถึงทำท่าจะกัดชาวบ้านเขา


"คุณธารผมเข้าไปนะ"  ไม่เคาะแล้วตะโกนเรียกเลยแล้วกัน ผมเปิดประตูห้องเข้าไปก็เจอคุณธารกำลังอ่านเอกสารอยู่ที่โซฟา

"คุณธาร คุณหิวหรือยัง ผมจะทำอาหารให้" นายน้อยของบ้านหันมาทางผมเล็กน้อยแล้วหันไปอ่านเอกสารต่อ

"พึ่งนึกขึ้นได้หรอ ฉันนึกว่านายจะมีคนให้ดูแลใหม่แล้วซะอีก "  อ้าวกูผิดอีหยังว่ะ ผมเกาหัวงงๆ

"โมโหหิวใช่ไหมเนี่ยคุณ งั้นจะทานอะไรล่ะเดี๋ยวทำให้" ร้อนมาต้องเย็นกลับเดี๋ยวบ้านพัง ไม่ใช่อะไรเดี๋ยวกูตกงาน

"ไม่เป็นไร ฉันไม่หิวหรอก ว่าแต่เห็นคุยกับไอ้เทียนสนุกเลย กำลังวางแผนหาเจ้านายคนใหม่หรอ" ทำไมพูดได้น่าต่อยแบบนี้เนี่ย

"คุณธาร คุณดูละครมากไปหรือเปล่า " คนอะไรมองคนอื่นแง่ร้ายตลอด

"ฉันก็ถามเผื่อเอาไว้ เพราะคิดว่านายจะรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่พ่อฉันหวังยังไงก็ไม่มีทางเป็นจริง ใครจะรู้นายอาจจะหาลู่ทางใหม่อยู่ก็ได้"

"ก็แล้วแต่คุณจะคิดเถอะครับ พูดไปคุณก็ไม่เชื่ออยู่ดีในเมื่อคุณไม่เคยเปิดใจมองคนอื่นในแง่ดีเลย" โมโหแล้วนะเนี่ย

"อยากให้ฉันคิดว่านายมาดี ก็ทำให้ฉันเห็นสิ คุณภรรยา หึ"

"ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าคนที่ทำอะไรไม่หวังผลนะมันมีอยู่จริงๆ"  เออคอยดูเลยไอ้นายน้อยเอาแต่ใจ

"แล้วเรียนวันนี้เป็นไงบ้างล่ะ" คนเอาแต่ใจถามขึ้น

"ก็ดีครับได้รู้โครงสร้างการทำงานแล้วก็ออกแบบนิดหน่อย พี่เทียนสอนเก่งมากเลย"

"หืม..ถึงขนาดเรียกพี่ด้วย " ผมหันไปมองหน้าเขา ตอนที่เขาพูดขึ้น

"ครับ พี่เทียน สอนผมเข้าใจมากเลย"  ผมพูดไปยิ้มไป

"ก็ดีเรียนรู้ไว้เยอะๆ เวลาไปทำงานที่อื่นแล้วจะได้ไม่อายเขาว่าเคยทำงานที่นี่" พายุมาอีกแล้วโว้ยยย

"ครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ "  อยากมุดพื้นหนีจากตรงนี้จริงๆ

"เชิญ "

หลังจากเดินออกมาจากห้องของนายน้อยแล้ว ผมก็เดินกลับมาที่ห้องตัวเอง ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงทันทีที่มาถึง

"เฮ้อออ ทำงานอะไรก็ไม่เหนื่อย เท่ากับการทำงานกับคนมองโลกในแง่ร้าย" เอ๊ะ หรือมันจะมีสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้

"ต้องใช่แน่ ต้องสืบให้รู้ให้ได้เลย"
 
...........................

ธาร Part

ตั้งแต่ต้นมาอยู่ที่บ้าน ผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ บ้านที่ปกติจะเงียบ มันก็มีเสียงของความสนุก เสียงหัวเราะ ต้นไม่เคยเก๊ก เขาดูเป็นธรรมชาติ วันแรกๆที่เขามาดูแลเรียกกินข้าวก็ไม่ชินหรอก พอผ่านไปสักพัก ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นง่อย กลับบ้านต้องมีคนมาคอยยืนรอ จะอาบน้ำมีคนเตรียมเสื้อผ้าให้ วันไหนไม่มีคนเตรียมให้ก็มองหา  สงสัยจะเคยตัวซะแล้ว

วันนี้ผมมีเรื่องนิดหน่อย เนื่องด้วยช่วงนี้ผมกำลังควงสาวสวยหน้าตาดีคนนึงที่เป็นลูกสาวของเสี่ยรับเหมาที่ผมทำงานด้วย ผมรู้ว่าเธอเข้าหาผมเพราะด้วยความที่ผมหล่อหน้าตาดี รวย และโสด อยากนักผมก็จัดให้ ผมรู้ว่าเธอมีแฟนอยู่แล้ว ผมแค่สนองความต้องการของเธอ ไม่ได้จะจริงจังอะไร เดี๋ยวก็ปล่อยชะนีสู่ป่า แต่เรื่องมันดันเกิดตอนที่ผมกำลังจะเก็บเอกสารเพื่อกลับบ้านในวันนี้

"ท่านค่ะมีคนขอพบ แจ้งว่ามาจากเสี่ยวิชิตค่ะ"  ผมเงยหน้ามองเลขาที่เข้ามารายงาน ผมพยักหน้าให้เข้ามาพบได้ ซักพักก็มีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาหาผมหยุดยืนตรงหน้าโต๊ะทำงาน


"หน้าตาคุณก็ดี ทำไมไม่มีปัญญาหาเมียเองหรือไงถึงต้องมาแย่งของคนอื่น"  ผมเลิกคิ้วมองเขา แล้วก็กระตุกยิ้ม ผมพอนึกออกแล้วล่ะว่ามันเป็นยังไง

"แต่ผู้หญิงเขาบอกว่าเขาโสดนิ อ๊าา ถ้ารู้งี้ฉันไม่เอา...มาควงดีกว่า"  ผมเห็นหมอนั้นกำหมัดแน่นหลังจากที่ฟังผมพูดจบ

"โอเคเรื่องนี้ฉันยอมรับผิดนะ ฉันคืนให้นายก็แล้วกัน ผู้หญิงแบบนั้นเป็นฉัน ฉันไม่จริงจังหรอกนะ"  ผมพูดพร้อมกับเดินไปหาเขา

พลั๊กก 

จบคำเขาผลักผมล้มไปโดนแจกันแตก และเขามาต่อย ซึ่งคนอย่างผมถ้าไม่อนุญาตไม่มีใครสามารถทำร้ายผมได้ง่ายๆหรอก แต่ครั้งนี้ผมผิดจริงจึงยอมให้เขาต่อย แต่แค่หมัดเดียวนะ พอจะซัดอีก กรณ์ก็เข้ามาจับตัวไอ้หมอนั้นออกไป

"หมัดที่แกต่อยเมื่อกี้ ฉันถือว่าชดใช้ให้แกแล้วนะ กรณ์เอาตัวออกไป "  กรณ์พยักหน้าแล้วลากผู้ชายคนนั้นออกไป ผมไม่ใส่ใจหรอก ผมทำอะไร ผมรู้ ถ้าผิดผมชดใช้ ถ้าไม่ผิดผมก็เอาคืนสาสมเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ผมเลยกลับบ้านช้าไปหน่อย มาถึงบ้านก็ตามคาดเห็นคนตัวขาวๆยืนรอผมอยู่ที่ประตูทางเข้าบ้าน
ผมเดินลงไป หาเขาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ สังเกตเห็นเหมือนต้นกำลังจะพูดอะไรแต่เขาเห็นแผลผมเข้าซะก่อน
เขาตาเบิกกว้างสายตาเขาดูเป็นห่วงแบบจริงๆ ไม่เสแสร้ง เขาถามอะไรผมก็ไม่ตอบ
เพราะผมไม่รู้จะตอบอะไร เพราะปกติไม่ค่อยมีใครถามผมเพราะห่วงแบบนี้ แล้วก็ไม่รู้ว่าเวลาอยู่ต่อหน้าเขาผมจะเก๊กทำไม

ต้นบอกให้ผมไปรอที่ห้องเพราะจะทำแผลให้ ผมพักสายตารอเขาที่ห้อง เขาเข้ามาทำแผลให้ผม ดูเป็นห่วงถามไถ่อาการ
แล้วค่อยๆทำแผลให้  ต้นตั้งใจทำ จนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมมองเขาอยู่ ผมพิจารณาหน้าของต้น  คิ้วของต้น  ตาของต้น จมูกของต้น   ปากของต้น ผมอยากรู้ว่าที่เขาแสดงออกมามันจริงใจแค่ไหน 

เฝ้าแต่หวังเล็กๆว่าต้นจะไม่เหมือนคนอื่นที่เข้ามาหาผมเพราะเงิน ผมเลยอยากดูว่าเขาจะทำอะไรต่อไป

ผมต้องพยายามหาวิธีมาพิสูจน์เขาให้ได้  หลังจากที่ต้นออกไปในห้องก็เหลือแค่ผมกับไอ้กรณ์ ความเงียบปกคลุมอยู่สักพักกรณ์ก็ทักขึ้นมา

"นายน้อยครับ ผมว่าคุณต้นเขาก็ดูเป็นห่วงนายนะครับ" ฉันก็คิดแบบนั้นแต่

"อาจจะเล่นละครอยู่ก็ได้ หรือไม่ก็พยายามทำดีหวังผลอยู่" ผมพูดไปตามประสบการณ์ที่เคยเจอมาตลอด

"นายคิดมากไปหรือเปล่าครับ ผมว่าคุณต้นเขาไม่เหมือนใครนะครับ แกรู้สึกยังไงก็แสดงออกทางแววตาหมด"

"ยังไม่แน่หรอก นี้แค่อาทิตย์เดียวเอง ขนาดคนคบกันมาเป็นปียังหลอกกันได้เลย" ใช่ผมเจอแบบนี้เสมอ

"ก็ต้องลองดูครับ แต่ผมพนันข้างคุณต้นนะ เพราะคุณต้นคือคุณต้นไม่ใช่คนอื่น"

"ฉันจะคอยดูคุณต้นของนายก็แล้วกัน" ผมก็หวังว่าเด็กคนนี้จะไม่เหมือนคนอื่นนะ
..............

วันนี้ผมประชุมเสร็จเร็วเลยว่าจะกลับบ้านไปพักผ่อน เดินออกมาก็เจอเลขาคนเก่ง

"นายครับวันนี้ประชุมเสร็จเร็วกลับบ้านเลยไหมครับนาย"  กรณ์เดินเข้ามาหาผมหลังจากการประชุมโปรเจคใหม่ของบริษัทพึ่งเสร็จ

"กลับเลยก็ได้ฉันจะไปกินข้าวที่บ้านด้วย"

"ช่วงนี้นายกินข้าวครบทุกมื้อเลยนะครับ" ผมชะงักแล้วหันไปหาคนถาม

"มีคนทำให้กินก็ต้องกินสิ"

"ไม่ใช่เพราะคนที่กินเป็นเพื่อนหรือครับ" กวนตีนใช่ไหม

"อย่ามารู้ดีหน่อยเลย พ่อจ้างมาตั้งแพงก็ต้องเอาให้คุ้มถูกไหม" ผมหันหลังเดินต่อแต่ได้ยินเสียงหัวเราะตามมาจากด้านหลัง

ไอ้นี้มันเป็นเลขาหรือเป็นนายผมกันเนี่ย


กลับมาบ้านก็ได้ยินเสียงพูดคุยหัวเราะดังมาจากห้องรับรอง ผมเดินตามเสียงไปจนเห็นคน 2 คนที่กำลังนั่งคุย นั่งยิ้ม นั่งหัวเราะกัน

ภาพที่ผมเห็นคือ เทียนลูกพี่ลูกน้องผมลูบแก้มของต้น ภาพนั้นมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนจุกๆ ในอก

จนเผลอพูดอะไรที่มันกวนตีนไอ้เทียนออกไปทั้งที่เราก็ไม่เคยมีปัญหากันอาจจะมีไม่ลงรอยกันบ้าง แต่ไม่รู้ทำไมเรื่องนี้มันสุดทนจริงๆ ผมกลับขึ้นมาที่ห้องด้วยอาการหงุดหงิด

"นายจะทานข้าวไหมครับเดี๋ยวผมบอกป้านิ่มให้" กรณ์เดินตามผมขึ้นมาข้างบน

"ไม่กินรอเย็นเลย" ผมโมโหอะไรเนี่ยไม่เข้าใจตัวเอง

"ผมนั่งทานเป็นเพื่อนก็ได้นะครับ เพราะคนที่ทานข้าวกับนายน่าจะมีคนอื่นทานด้วยแล้ว"  ผมหันขวับไปมองกรณ์

"เงียบไปเลยฉันแค่รอกินเย็นทีเดียวเว้ย แต่ก่อนก็กินแบบนี้เหอะ" หิวจะตายแล้ว  ใครกันว่ะบังคับให้กินครบ 3 มื้อจนมันชิน

ยิ่งคิดยิ่งโมโห

"ผมคิดว่ารอคนมาง้อไปกินข้าวซะอีก" คนพูดยิ้มให้ผม มันกวนนักไอ้นี่

"ใครรอ ออกไปเลยไปฉันจะนอนพัก เดี๋ยวจะทำงานต่อแล้ว"

"งอนก็บอกว่างอนนะครับ อย่าเก๊ก" ไอ้กรณ์ไอ้เลว

"ไอ้กรณ์ แกอยากโดนเตะใช่ไหม แล้วใครงอนไม่มีเว้ยแค่เหนื่อย " ผมมองหน้ากรณ์อย่างเอาเรื่อง

"ครับ ผมไปแล้วก็ได้ ตามสบายครับนาย หึหึ"  ผมสาบานเลยจะใช้งานให้หนักกว่าเดิมไอ้นกรู้


 หลังจากที่ต้นขึ้นมาตามผม เพราะคิดว่าผมจะหิว แต่ผมเป็นอะไรก็ไม่รู้อาจจะเพราะด้วยความหมั่นไส้รอยยิ้มนั้น ผมเลยเผลอที่จะพูดประชดและว่าต้นออกไป

เห็นยิ้มให้เทียนแบบนั้นใครจะรู้อาจจะ เบื่อคนเอาแต่ใจแบบผมแล้วก็ได้เลยอยากที่จะไปทำงานกับคนที่เขาสบายใจกว่า แต่พอได้พูดออกไป ได้ฟังจากต้นบางทีผมอาจต้องมอง

เด็กคนนี้ใหม่มากๆ ผมไม่ควรเอาอดีตมาตัดสินปัจจุบันถูกไหมครับ

ธาร Part end

.......................

  เช้าวันถัดมาผมลงมาช่วยป้านิ่มทำกับข้าวแต่เช้า และเจอคุณกรณ์ที่ลงมาเตรียมรถและตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนที่คุณธารจะออกไปทำงาน ผมเลยรีบวิ่งไปหาเขาเพื่อที่จะคุยด้วย

"คุณกรณ์ครับ ว่างไหมครับผมขอคุยด้วยหน่อย" คุณกรณ์หันมายิ้มให้

"ว่างครับ มีอะไรหรือเปล่าครับคุณต้น"

"คือผมอยากรู้เรื่องคุณธารนะครับ เรื่องที่เขามองโลกในแง่ร้ายแบบนี้ มันเป็นนิสัยของเขาหรือว่า" ผมไม่กล้าถามสิ่งที่ผมสงสัย

"หรือว่าเจออะไรที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนี้ใช่ไหมครับ" ถูกเผง ผมรีบพยักหน้ารับคำเขา

"ที่จริงแล้วแต่ก่อนเขาก็เป็นคนมองโลกในแง่ดีนะครับ จนกระทั่งเจอคนที่รักหักหลังนะครับ"

"หักหลัง หมายความว่ายังไงครับ" ผมสงสัย

"นายน้อยนะ เขาเคยมีคนรักที่รักกันมากอยู่คนนึง ผ่านอะไรมาด้วยกัน จนถึงขั้นคิดจะแต่งงานสร้างครอบครัว แต่สุดท้ายเธอคนนั้นก็หนีไปกับชู้รักที่ร่ำรวยกว่านายน้อยในตอนนั้น"    พูดไปคุณกรณ์ก็ทำหน้าเศร้า

"หลังจากนั้นก็มีคนพยายามเข้ามาหาคุณธาร แต่สุดท้ายก็เข้ามาเพื่อผลประโยชน์ทั้งนั้น นายน้อยเลยกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายแล้วก็เปลี่ยนคู่ควงไปเรื่อยไม่จริงจังกับใครแบบนี้แหละครับ"

"น่าเห็นใจจังเลยนะครับ เขาคงฝังใจมากๆเลย" ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิดไม่น่าไปแอบโมโหเขาเลย

"ครับ ก็หวังว่าคุณต้นจะนำความจริงใจของคุณต้น ชนะใจนายได้นะครับ" เดี๋ยวนะคุณเลขาคำพูดมันแปลกๆนะ

"เอ่อ ขอบคุณนะครับที่เล่าให้ผมฟัง ผมจะได้รู้ว่าจะรับมือกับเขายังไง"คุณกรณ์ยิ้มให้ผมหลังจากพูดจบ เอาล่ะผมจะไม่ทิ้งคุณนะ นายน้อยผมคิดในใจ

"ผมจะอยู่ข้างเขา จนกว่าเขาจะไม่ต้องการผมครับ" ผมยิ้มตอบคุณกรณ์ ผมไม่ได้คิดว่านี่คือหน้าที่ ผมแค่อยากให้คนคนนึง ใช้ชีวิตให้มีความสุขมากกว่าเดิมเท่านั้นเอง

ผมเดินเข้าบ้านมาเพื่อที่เตรียมจัดโต๊ะ เพื่อที่เตรียมอาหารเช้า ซักพักคุณธารก็ลงมานั่งประจำที่

"คุณธารครับ ผมที่เรื่องอยากรบกวนหน่อยจะได้ไหมครับ" ผมเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังทานอาหารเช้ากับเขา

"มีอะไรก็ว่ามาสิ" นายน้อยมองผมด้วยสายตาจับผิด

"คือ คุณจะว่าอะไรไหมถ้าผมจะขอดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง" พูดจบผมก็รู้สึกตัวว่าผมพูดอะไรออกไปเนี่ย

"หมายความว่ายังไง ขอคำอธิบายด้วย" เขาเลิกคิ้วถาม

"คือผมอยากจะออกไปทำงานกับคุณด้วย นะครับ ในฐานะอะไรของคุณก็ได้ แล้วก็ กลับมาบ้านก็จะดูแลต่อเหมือนที่ทำทุกวัน"

"แล้วมัน 24 ชั่วโมงยังไง" เขาถามพร้อมกระตุกยิ้ม

"เอ่อ ถ้าคุณไม่รังเกียจผมขอย้ายไป อยู่ห้องเดียวกับคุณได้ไหมครับ"
 :pighaun: :pighaun: :haun4: :haun4:
Tbc

 :z3: :hao5: :katai2-1: :katai4: :haun4:
งื้อออออ หนูจะไปขออยู่ห้องเดียวกับเขาไม่ได้นะลูก ถึงพ่อเขาจะอยากได้หนูทำสะใภ้ก็เถอะ

น้องเห็นใจพี่จนลืมไปเลยว่าเข้ามาที่นี่เพราะ พ่อเขาจะเอาทำสะใภ้ ช่วยกันส่งใจเชียร์น้องให้แก้สันดานพี่ธารได้ด้วยนะทุกคน
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 3 เห็นใจ <19/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 19-04-2019 14:11:01
ตายแล้ว 555
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 3 เห็นใจ <19/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 19-04-2019 15:21:50
 :laugh:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 3 เห็นใจ <19/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 19-04-2019 19:21:17
เดี้ยววววว น้องต้นจะไปขอนอนห่องเดียวกับเค้าง่ายๆได้ไงคะ
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 3 เห็นใจ <19/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 19-04-2019 19:44:38
24 ชั่วโมงเลยหรือน้องต้น
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 3 เห็นใจ <19/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 19-04-2019 20:28:55
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 3 เห็นใจ <19/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 20-04-2019 02:09:50
น้องงง น้องเป็นผู้ชายเด้ออย่าลืม  แด๊ะแด๋มาก55
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 4 เป็นห่วง <20/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Garuda8 ที่ 20-04-2019 17:39:19
ตอนที่  4

เป็นห่วง

 "เอ่อ ถ้าคุณไม่รังเกียจผมขอย้ายไป อยู่ห้องเดียวกับคุณได้ไหมครับ" หึ้ยยย พูดออกไปแล้ว เขาจะหาว่าอ่อยไหมว่ะเนี่ย

"เมื่อกี้นายว่ายังไง แล้วเรื่องอะไรฉันต้องให้นายมานอนกับฉัน" โดนทุบแน่กู

"คือไม่ใช่อย่างนั้นนะคุณ คุณเคยบอกเองว่าให้ผมพิสูจน์ ว่าผมนะจริงใจ แล้ววันๆผมเจอคุณน้อยมากเลยแล้วผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นได้ยังไงล่ะถูกไหม"

"หึ อยากได้ฉันมากหรือไง จำเป็นต้องนอนห้องเดียวกันอ่อยแรงจังนะ" คนตัวสูงกระตุกยิ้ม

"จะคิดยังไงก็เรื่องของคุณเถอะ แล้วให้ผมไปอยู่ด้วยได้ไหม"

คุณธารทำท่าคิดอยู่สักครู่ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาใครบางคน แล้วลุกออกจากโต๊ะอาหารเพื่อไปคุยธุระ ประมาน5นาที ก็เดินกลับเข้ามาหาผมพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้ ผมมองหน้าเขา

แล้วยื่นมือไปรับโทรศัพท์มาคุย

"ต้นครับ" กรอกเสียงใส่ปลายสายเพื่อให้ทางนั้นรู้ว่าผมพูดอยู่

(ต้นพ่อเองนะ ได้ข่าวว่าเราอยากจะทำงานกับเจ้าธารแถมยังขอย้ายไปอยู่ห้องเดียวกับมันอีกหรอ มันจริงไหมเนี่ยแถลงข่าวหน่อยสิ)

"คือเออ" ผมหันไปมองหน้าต้นเหตุ แล้วผงกหัวขออนุญาตเพื่อออกมาคุยด้านนอก ฝ่ายนั้นพยักหน้ารับผมจึงเดินออกมาด้านนอก เพื่อคุยธุระต่อ

"ใช่ครับคุณพ่อ ต้นเป็นคนขอเขาเอง"

(ทำไมล่ะ บอกพ่อได้หรือเปล่า)

"คือผม แค่รู้สึกเห็นใจคุณธารนะครับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขา มันคงเจ็บปวดมากผมเลยอยากให้เขามีความสุขบ้าง"

(แต่ทุกวันนี้มันก็ดูมีความสุขอยู่แล้วนะ) คุณพ่อพูดขึ้นมา

"ก็ใช่ครับ แต่เขาก็ตั้งแง่กับทุกคนและไม่เคยมองใครดีเลยนะครับ คนแบบนี้เครียดตายเลย ถ้าคุณพ่อให้ผมมาดูแลเขา ก็คงไม่ผิดที่ผมก็อยากจะให้เขาเชื่อใจแล้วก็มีความสุขอย่างน้อยเขาจะได้รู้ว่ายังพอมีคนจริงใจกับเขานะครับ" ผมได้ยินเหมือนปลายสายหัวเราะเบาๆ

(ได้ต้น พ่อยอมเราจริงๆแล้วก็คิดไม่ผิดที่เลือกเรามาเป็นสะใภ้ พ่ออนุญาตจะทำอะไรก็เต็มที่เลย เจ้าธารนะมันโทรมาถามพ่อเฉยๆว่าจะยอมให้เรานอนห้องเดียวกับมันหรือเปล่าเพราะเห็นว่าพ่อเป็นคนพาเราเข้ามานะ)

"ครับ ตกลงอนุญาตใช่ไหมครับ" ผมลองหยั่งเชิงถาม

(พ่ออนุญาต ดีเหมือนกันจะได้ลองใกล้ชิดกันให้มากขึ้นจะได้ศึกษากันและกัน)

"ขอบคุณมากครับ คุณพ่อ ผมจะทำให้ดีที่สุด"
ผมยิ้มอย่างดีใจ แล้วกล่าวขอบคุณอีกครั้งก่อนวางสาย แล้วจึงเดินกลับเข้ามาที่โต๊ะอาหารอีกครั้ง ซึ่งในตอนนี้นายน้อยของบ้านกำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เขาเงยหน้ามามองผมเมื่อเห็นว่าผมเดินกลับเข้ามานั่งที่เดิมแล้ว

"พ่อว่ายังไงบ้าง" เขาถามขึ้น

"ท่านอนุญาตครับ" ผมตอบกลับไป

"ถามจริงๆต้องการอะไร" เขามองหน้าผมและเลิกคิ้วถาม

"ไม่ได้ต้องการอะไรหรอกครับ คุณคิดมากเกินไปแล้วอีกอย่าคุณอย่าลืมนะผมถูกจ้างมาทำอะไร"

"อยากทำหน้าที่เมียว่างั้น" โอ๊ยยคำพูด

"คุณพูดจาให้มันดีๆหน่อย อยู่ด้วยกันจะได้เรียนรู้แล้วก็ใกล้ชิดกัน จะได้รู้ไงว่าผมนะไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ไม่ได้คิดไปถึงเรื่องอื่นหรอก"

"อ่อ ก็ได้ฉันจะลองเชื่อใจนายสักครั้ง วันนี้ก็ให้เด็กช่วยขนของไปไว้ห้องฉันก็แล้วกัน"

"ครับ ถ้างั้นผมขออะไรอย่างได้ไหมครับ" ผมลอบมองหน้าเขาแล้วยิ้มแหยๆให้

"นายนี้มันเรื่องเยอะจริงๆ อะไรอีกล่ะ" พ่อดุแล้วแง๊ง

"ผมอยากให้คุณลองเปิดใจ เลิกตั้งแหง่กับผมระหว่างที่เราอยู่ด้วยกันได้ไหมครับ คิดว่าผมเป็นเพื่อนหรือน้องคุณก็ได้ ผมไม่อยากให้คุณคิดอะไรในแง่ลบจะพาลระแวงเปล่าๆเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน"

คุณธารเงียบไปสักพัก หน้าหล่อๆขมวดคิ้ว ก่อนจะหันมาสบตาผม

"ได้ ฉันจะลองเชื่อใจนายดู ฉันก็ขี้เกียจจะมานั่งระแวงเหมือนกัน แต่คงต้องค่อยๆลดลง จะให้เลิกคิดเลยก็คงไม่ได้หรอกนะ"

"ได้ครับ แค่นี้ก็ดีแล้ว สัญญานะครับ" ผมยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าเขา เขาชะงักไปแปปแล้วค่อยๆยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับนิ้วของผม ผมยิ้มกว้างให้เขาแล้วขยับนิ้วของเราขึ้นลง จนได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของคนตรงหน้า

"นายนี้มันเด็กจริงๆ"

ตอนนี้จะว่าอะไรก็ไม่สนขอแค่ให้เขาเปิดใจบ้างก็พอ

...................

  หลังอาหารเช้า ผมก็กลับขึ้นห้องเพื่อทยอยเก็บของ และจัดการให้คนในบ้านช่วยขนของไปไว้ที่ห้องของคุณธาร ในระหว่างที่กำลังจัดของนั้น

ผมก็คิดได้ว่า ต้องโทรรายงานแม่คนที่ 2 ก่อน ผมจึงหยิบโทรศัพท์มากดหาทันที

(ไง ลูกต้น) เสียงใสของไผ่ตอบรับมา หลังจากที่เสียงสัญญาณพึ่งดังได้ครั้งเดียว

"คือ ฉันโทรมากวนป่าวว่ะ พอดีมีเรื่องจะคุยด้วยอ่ะ"

(ตอนนี้ฉันกำลังจะประชุมว่ะ แต่บ่ายว่าง มากินไรกันหน่อยไหมล่ะ)

"ได้ฉันไม่ติดอะไร งั้นเจอกันที่ร้านเดิมนะ บ่ายโมง"

(จัดเลยเพื่อน เจอกันนะ)

ผมวางสายจากเพื่อนแล้วหันมาจัดของต่อเพื่อรอเวลาออกไปตามนัด

.............

  ร้านคาเฟ่สีพาสเทลร้านเดิมที่ผมชอบมากับไผ่ประจำ ตอนนี้เรานั่งกันอยู่ที่โต๊ะริมกระจกของร้าน ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวนิดหน่อยเนื่องจากเป็นโต๊ะที่อยู่ด้านในมาถึงร้านผมก็สั่งเครื่องดื่มกับเค้ก เสร็จแล้วก็หันมาบอกสิ่งที่ผมพึ่งตัดสินใจทำลงไป ให้เพื่อนรักได้รับรู้

"ห๊ะ แกเลยย้ายไปอยู่กับเขาที่ห้องเดียวกันเนี่ยนะ" เสียงเพื่อนสาวตกใจ จนคนในร้านหันมามอง ผมรีบผงกหัวขอโทษแล้วหันกลับมามองเพื่อนต่อ

"แกจะเสียงดังทำไมว่ะ ตกใจอะไรนักหนา" ผมทำตาขวางใส่

"โอ๊ยลูกฉัน ลืมไปหรือเปล่าที่แกอยู่ด้วยนะเสือนะโว๊ยเสือ ไม่ใช่หมา ถึงฉันจะอยากให้แกมีผัวก็เถอะ"

"มันไม่มีอะไรหรอก ผู้ชายเหมือนกันเว้ย ฉันแค่อยากให้เขาเลิกมองคนอื่นในแง่ร้ายไง แกเคยบอกไม่ใช่หรอว่าฉันเนี่ยมีพลังบวกฉันก็อยากถ่ายทอดให้เขาไง" คนดีไหมละกู

"นี่อย่าโลกสวยออกมาจากทุ่งลาเวนเดอร์ก่อน แกลืมไปหรือเปล่าว่าพ่อเขาอยากให้แกเป็นสะใภ้นะเว้ย ย้ายไปอยู่ห้องเดียวกันแบบนี้ แกเสร็จเขาก่อนแน่ๆ"

"เขาคงไม่มาสนใจผู้ชายอย่างฉันหรอก" ผมพูดให้เพื่อนเข้าใจ

"จร้า ไม่สนใจเลย ยอมให้ไปอยู่ด้วยนี่ก็น่าสงสัยแล้วค่ะ"  ก็จริงแต่ว่าเขาก็คงอยากเลิกเป็นแบบนี้แหละมั้งเลยอยากให้ผมช่วยก็ได้

"เอาน่า ไม่มีอะไรหรอก ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำให้เขาไว้ใจแล้วเปิดใจรับฉันเป็นเพื่อนคนนึงได้หรือเปล่า" งานหนักเลยนะเนี่ย

"ฉันเอาใจช่วยแกก็แล้วกัน แต่ใกล้ชิดขึ้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ ฉันไม่รู้นะเว้ยว่าคุณธารแต่ก่อนที่จะเจอเรื่องบ้าบอนั้นเขาเป็นยังไง แต่ปัจจุบันที่ฉันเห็นนะคือ.."

"แกจะบอกอะไรฉัน" ผมขมวดคิ้วงงกับคำพูดของเพื่อน

"ปัจจุบันที่ฉันเห็นตามข่าวนะมันไม่ดีสักเท่าไหร่ แกต้องสัญญากับฉันว่าห้ามหลงรักเขาก่อนได้ไหมว่ะ ฉันกลัวแกเจ็บว่ะ"

"มันจะเป็นไปได้ยังไง" หึ เพื่อนคิดเยอะจริงๆ

"ต้น รักก็คือรักมันเกิดขึ้นได้ตลอด แค่ตอนนี่แกเริ่มสงสาร เริ่มเห็นใจเขา แกก็อันตรายแล้วต้น ความรักไม่ผิด ผิดที่เราหวัง แล้วถ้าไม่เป็นอย่างหวัง ฉันคงจะเสียใจมากถ้าวันนึงแก
รักเขาแล้วเขายังคงเห็นแกเป็นคนที่เข้ามาเพื่อหวังผล บางครั้งวิธีที่แกกำลังพยายามทำอยู่อาจจะไม่ได้ผลกับคนบางคนก็ได้"

ผมฟังที่เพื่อนพูดแล้วก็คิดตามมันก็อาจจะจริง ผมเริ่มจากการเห็นใจเขา อยากทำให้เขามีความสุข ถ้าได้ใกล้ชิดกันความรู้สึกของผมอาจจะเกินเลยก็ได้

"ฉันจะมีสติมากๆก็แล้วกัน เรื่องของอนาคตหากจะเกิดขึ้นจริงๆฉันก็พร้อมจะรับผลของมัน ขอแค่แกอยู่ข้างฉันไม่ทิ้งฉันเมื่อวันนั้นมาถึงก็พอ"  นานๆครั้งผมถึงจะพูดอะไรที่มันจริงจังกับไผ่แบบนี้ ไผ่มองผมแล้วยิ้มให้ มือเพื่อนขยับมากุมมือผมแล้วบีบเบาๆเหมือนให้กำลังใจ

"ฉันไม่ทิ้งแกหรอก เรื่องของแกอ่ะน่าเผือกจะตาย ทิ้งไปก็ไม่สนุกสิ" ไผ่หัวเราะแล้วเอามือมายีหัวผม เราทั้งคู่มองหน้ากันแล้วยิ้ม


.............
ไผ่ Part

 ต้นกลับไปแล้ว มีแต่ฉันที่ยังอยู่นั่งคิดอะไรไปเรื่อยจนถึงเวลาที่คิดว่าควรจะกลับได้แล้ว ก่อนกลับซื้อขนมไปฝากพ่อที่บ้านเสียหน่อย ฉันเดินไปที่หน้าเค้าเตอร์เพื่อสั่งขนม

"เอาเครป เค้ก สตรอเบอรี่ กับ เรนโบว์เค้กค่ะ" กำลังหยิบกระเป๋าสตางค์เพื่อจะควักเงินออกมาจ่าย ก็รู้สึกถึงแรงสกิดด้านหลัง หันไปก็เจอกับผู้ชายตัวสูงหน้าหล่อคนนึง

"จำผมไม่ได้หรอครับ ผมเป็นเลขาคุณธารครับ" อ่อ

"แล้วทำไมหรอคะ" ฉันถามกลับไป คืองงสกิดทำไม

"โธ่ ผมอยากทักทายนิครับภาษาคนรู้จักกัน" หืม ใครรู้จักมันชื่อยังไม่รู้เลย

"เดี๋ยวนะคะ คือฉันเป็นเพื่อนต้น คุณเป็นเลขาคุณธาร เรารูจักกันตรงไหนหรอคะ" เงิบไปดิ

"555 คุณตลกจัง ผมอาจจะข้ามไปหน่อย ผมชื่อกรณ์ ส่วนคุณคือคุณไผ่ โอเคแค่นี้ก็รู้จักกันแล้ว"  จร้า พูดเองเก่ง แนะนำเก่ง

"อ่อ ค่ะ แล้วฉันต้องถามด้วยไหมว่าคุณมาทำอะไรแถวนี้" ตามน้ำไปเลยจร้า

"คุณอยากรู้ผมก็จะบอกครับ ผมมาทำธุระให้เจ้านายแถวนี้ ครับพึ่งเสร็จ เลยแวะมาหาซื้อน้ำทาน พอดีเจอคุณเข้าเลยมาทัก" มโนเก่งด้วยใครอยากรู้ว่ะนั้น

"ค่ะ พอดีฉันนัดต้นไว้ แต่คุยเสร็จแล้วเขาพึ่งกลับไปเอง เสียดายถ้าคุณมาเร็วกว่านี้จะฝากกลับไปด้วย" คุยๆไปก่อนจะได้ฝากดูแลเพื่อนได้

"คุณดูห่วงคุณต้นจังเลยนะครับ แบบนี้แฟนไม่หึงแย่หรอครับ"

"ไม่นะคะ เพราะฉันไม่มีแฟนค่ะ เลยไม่ต้องกังวล" ทำไมอยู่ๆทำหน้าเจ้าเล่ห์ หรือดูผิด

"อ่าาา ดีจังเลยนะครับ ว่าแต่คุณรู้เรื่องที่คุณต้นจะย้ายไปอยู่ห้องคุณธารหรือยังครับ"

"รู้แล้วค่ะ"

"เนี่ย เพราะผมเลยนะครับ ผมไปเล่าเรื่องคุณธารให้คุณต้นฟัง คุณต้นเลยเห็นใจพยายามเข้าหาจะช่วยให้เจ้านายผม คุณต้นเป็นคนดีเนอะคุณว่าไหมครับ"

หืม ไอ้นี่เองตกลงมันเรื่องจริงหรือมันหลอกให้ต้นไปติดกับดักว่ะ

"คุณมีแผนอะไรเนี่ย บอกไว้ก่อนนะถ้าเพื่อนฉันเสียใจหรือเป็นอะไรนะ คุณตายแน่" ขึ้นเลย

"เฮ้ยคุณคิดมาก ผมทำตามหน้าที่ไง ส่วนคุณต้นเดี๋ยวผมดูแลให้ถ้าคุณต้องการไม่ต้องห่วงครับ"

"หน้าที่อะไรของคุณ" สงสัยเลยถามนะเนี่ยไม่ได้อยากเผือกจริงๆ

"หน้าที่กามเทพไงครับ" โอ๊ยสารร่างอย่างกับยักษ์ไตตั้น จะเป็นกามเทพ บ่นในใจพอดีกับที่ได้เค้กพอดีเลยหันไปจ่ายตังแล้วรับเค้กมาจากพนักงาน จึงหันมาหาคนตัวสูงอีกครั้ง

"แล้วแต่คุณเถอะ ฉันไปแล้วนะ ยังไงก็ฝากดูแลต้นด้วยนะค่ะ" ฝากฝังเพื่อนสักหน่อย มีกับเขาอยู่คนเดียวก็ดีเกิ้น

"ครับไม่ต้องห่วง ผมดีใจนะ"

"ดีใจอะไร"

"ก็ดีใจที่คุณคิดถึงผมเป็นคนแรกไง"

เดี๋ยวๆฉันพูดตอนไหนเนี่ย เบะปากใส่คนพูด แล้วกำลังจะเดินออกจากร้านก็ได้ยินเสียงทุ้มพูดขึ้นตามหลัง

"แต่ดีใจมากกว่าที่คุณยังไม่มีแฟน ฮิ้วว"

ฮิ้วป้าแกสิ นี่ฉันเจอกับคนแบบไหนเนี่ย แม่ปวดหัวค่ะ

ไผ่ Part end

..................
  ผมกลับมาถึงบ้านก็เย็นมากแล้วจึงรีบเข้าไปเตรียมอาหารรอคุณธารกลับบ้าน แล้วก็กินข้าวด้วยกันตามปกติ กินเสร็จผมก็ขึ้นห้องนอนพร้อมเขาและให้เจ้าของห้องไปอาบน้ำก่อน ในระหว่างที่คนตัวโตอาบน้ำผมก็เดินไปเอาหมอนและผ้าห่มที่ห้องเดิมมา เพื่อที่จะเอามาใช้หนุนนอนและห่มร่างกาย ไม่ต้องถามว่าห้องใหม่ไม่มีหรอมีครับแต่นั้นมันบนเตียงที่ที่ผมจะนอนนะคือโซฟาปลายเตียงต่างหาก ระหว่างที่กำลังจัดอยู่คุณธารก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี

"นายทำอะไร"

"ปูที่นอนไงครับ"

"ที่โซฟาเนี่ยนะ" คนถามขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

"ใช่ครับ ก็ผมเข้ามาห้องนี้เพื่อมาดูแลคุณ จะไปนอนเตียงเดียวกับคุณได้ยังไง นอนนี่ก็ถูกแล้ว"

" ฉันคิดว่านายจะมาดูแลฉันในฐานะว่าที่เมีย นายนี่มัน" คนพูดสบถในลำคอ อะไรว่ะแค่นี้ก็ต้องโมโหด้วย

"ไม่เอาดีกว่าครับ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ผมนอนนี่ก็ถูกแล้ว"

"ตามใจก็แล้วกัน" คุณธารเดินไปนั่งตรงโต๊ะเครื่องแป้งผมจึงเดินตามไป

"ผมเช็ดให้ครับ แล้วก็ผมเตรียมชุดนอนไว้ให้แล้วนะครับแขวนอยู่หน้าตู้" ผมบอกเขาพลางเช็ดผมให้เขาไปด้วย

"ขอบใจ" ผมยิ้มให้เขา แล้วเช็ดผมให้เขาจนแห้งแล้วขอตัวไปอาบน้ำ ผมอาบน้ำเสร็จเดินออกมาก็เห็นเจ้าของห้องหลับไปแล้วพร้อมกับเอกสารในมือ

ผมจึงเดินไปหาเขาที่เตียงแล้วค่อยๆดึงเอกสารออกจากมือของเขาวางไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง แล้วกลับมาจัดท่าการนอนให้เขาได้นอนสบายขึ้น แล้วเอาผ้าห่มคลุมขึ้นมาให้ถึงอก

ผมยืนมองหน้าเขาเพื่อพิจารณา

"ตอนนอนก็น่าเอ็นดูจะตาย ทำไมต้องทำหน้าดุด้วย" ผมยิ้มแล้วก็ส่ายหัว

"ฝันดีนะครับ คุณธาร"

พูดเสร็จผมก็เดินเอาผ้าขนหนูไปผึ่งแล้วเดินไปเชคหน้าต่าง ประตู แล้วปิดไฟ แล้วกลับมานอนที่โซฟาที่เตรียมไว้ หัวถึงหมอนผมก็หลับทันที จึงไม่รู้ว่ามีใครบางคนลุกขึ้นมามองผม

"นายก็เหมือนกัน ฝันดี"


..............


  อาทิตย์นึงเข้าไปแล้วที่ผมนอนห้องเดียวกับนายน้อย แล้วก็เป็นหนึ่งอาทิตย์ที่ผมมาเป็นเลขาเขาเช่นกัน ถ้าถามว่าคุณกรณ์ไปไหน ก็ยังอยู่ครับเพียงแต่โดนลดไปเป็นผู้ช่วยเลขาแทน

"ต้นเอาเอกสารชุดนี้ไปตรวจสอบสิว่ามันมีปัญหาหรือมีจุดที่ต้องแก้ไขไหม" ผมหันไปมองเจ้าของเสียงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา ซึ่งตอนนี้ผมทำงานที่โซฟาอีกฝั่งที่ใช้รับแขก

"ครับคุณธาร" ผมเดินไปรับเอกสารที่โต๊ะของเขาเพื่อจะเอามาตรวจสอบตามคำสั่ง เราต่างคนต่างทำงานจนล่วงมาเวลาเย็น

"คุณธารวันนี้ผมขอกลับเองได้ไหมครับ"

"ทำไมล่ะ จะไปไหนหืม"

"คือผมจะไปห้างนะครับ พอดีของใช้ของคุณหมด แล้วก็กะว่าจะไปซื้อของสดมาทำอาหารด้วย" เขาพยักหน้ารับแล้วทำท่าคิดอะไรแปปนึง

"งั้น ฉันไปด้วย ไปหาอะไรกินที่ห้างเลยจะได้ไม่เสียเวลา เดี๋ยวให้กรณ์โทรบอกป้านิ่มไม่ต้องเตรียมอาหารเย็น" เอางี้เลยหรอผมแอบเกรงใจนะเนี่ย

"จะดีหรอครับ"

"เอาตามนั้นแหละ เตรียมตัวเก็บของแล้วก็ไปได้แล้ว" ดุจังพ่อคุณ

เราออกจากบริษัทในช่วงเย็น เรื่องการจราจรไม่ต้องพูดถึง ติดทุกวันครับ กว่าจะถึงห้างที่ใกล้ที่สุดก็ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง รถหรูสีดำจอดในช่องจอดVIP ผมและนายน้อยเดินเข้าห้างมาก่อนคุณกรณ์ ที่กำลังจัดการธุระตัวเองนิดหน่อย

"เย็นมากแล้วทานข้าวก่อนไหมครับค่อยไปซื้อของ" ผมถามขึ้นเพราะกลัวอีกคนจะหิว

"เอาสิ"

"แล้วคุณอยากทานอะไรครับ"

"เอาเป็นร้านนั้นแล้วกัน" เขาชี้ไปที่ร้านอาหารไทยที่ใกล้ที่สุด ท่าทางจะหิวมากจริงๆ

ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เดินนำเขาไปที่ร้านเลย เราเลือกโต๊ะในสุด เพราะนายน้อยเขาอยากได้ส่วนตัวนิดนึง เด็กเสริฟเดินเข้ามาพร้อมเมนูอาหาร ส่วนใหญ่ผมจะให้เขาเป็นคนสั่ง  สั่งอาหารเรียบร้อยคุณกรณ์ก็เดินตามเข้ามา ลูกน้องกับเจ้านายก็คุยเรื่องงานกันระหว่างที่รออาหาร สักพักอาหารที่สั่งก็มาเสริฟเต็มโต๊ะ คนหิวจัดไม่พูดไม่จาตั้งหน้าตั้งตากิน ทั้งเจ้านายและลูกน้อง

"คุณไม่ทานกุ้งหรือครับ สั่งมาไม่เห็นคุณทานเลย ซดแต่น้ำ" เนื่องจากอาหารบนโต๊ะมีต้มยำกุ้งด้วยแต่คนที่สั่งอย่างคุณธารกลับซดแต่น้ำตักแต่เห็ด

"ไม่ล่ะ ฉันขี้เกียจแกะ" ผมได้ยินเสียง หึ จากคนเป็นลูกน้อง

"ขี้เกียจแกะหรือแกไม่เป็นครับนาย"  พูดจริงป่ะเนี่ย

"ไอ้กรณ์ จะกินข้าวหรือจะกินอย่างอื่น" คนเป็นนายพูดแล้วมองตาขวาง ผมมอง 2 คนเถียงกันเล็กน้อยก่อนที่จะต่างฝ่ายต่างหันไปจัดการอาหารตรงหน้าต่อ ในตอนนั้นผมเลยตักกุ้งที่ยังอยู่ในหม้อขึ้นมาใส่จานตัวเองแล้วแกะเปลือกออกให้เหลือเแต่เนื้อ แล้วตักไปใส่ในจานของคนขี้เกียจแกะกุ้ง

"ทานสิครับ เดี๋ยวผมแกะให้" เจ้าของจานชะงักแล้วเงยหน้ามามองผม

"ขอบใจ" ผมยิ้มให้เขาแล้วแกะกุ้งใส่จานให้เขาอีก คนตัวโตก็กินไปยิ้มไปคงจะดีใจที่ได้กินกุ้งล่ะสิ

"แหม ท่าทางกุ้งร้านนี้จะสดและหวานมากนะครับ ทานไม่หยุดเลย"

"ไอ้กรณ์..."

"ทราบแล้วคร้าบบบบบบบบบ"

ทานอาหารเรียบร้อยพวกเราก็เดินลงมาซื้อของใช้ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ซื้อเรียบร้อยเราก็ให้คุณผู้ช่วยเลขาหิ้วไปเก็บก่อน เพราะผมและคุณธารจะแวะเข้าห้องน้ำก่อน ทำธุระเรียบร้อยเราก็กำลังเดินไปที่ลานจอดรถโซน VIP ก็มีคนทักขึ้นมาก่อน

"น้องครับ โทษทีนะ ห้องน้ำไปทางไหนหรือครับ" ผมหันไปตามเสียงเรียก ก็พบผู้ชายคนนึงใส่เสื้อสีดำกางเกงยีนส์ยิ้มให้แล้วถามทางไปห้องน้ำ

"อ่อ ครับ เดินไปทางนั้นแล้วเลี้ยวขวา จะเจอ ATM แล้วเลี้ยวซ้ายได้เลยครับ" ผมบอกทางให้กับเขา

"ขอบคุณครับ" ผมยิ้มให้เขาและกำลังจะหันหลังกลับ แต่หางตาเห็นมีดพกปลายแหลมที่ผู้ชายที่ถามทางถืออยู่และทำท่าจะเข้ามาแทงนายน้อย

"คุณธารระวังครับ" ผมตะโกนบอกคนที่หันหลังไปแล้วพร้อมกับผลักเขาให้พ้นทางมีด เขาล้มลงกับพื้น แต่ชายคนนั้นยังจะตามไปแทงเขาอีกผมจึงรีบวิ่งไปผลักชายคนนั้น จนล้มแล้ววิ่งไปแย่งมีด แต่เขากลับถีบที่ท้องผมทำให้ผมหงายหลังล้มลงไปกุมท้องด้วยความจุก คนร้ายลุกขึ้นแล้วเดินมาทางผม

"มึงเสือกนักใช่ไหมงั้นก็ตายก่อนเลยแล้วกัน" สิ้นคำพูด เขาก็ส่งมีดพุ่งมาทางผม ผมหันหน้าหลับตาลง ผ่านไปซักแปปก็ไม่รู้สึกเจ็บจึงลืมตาขึ้นภาพที่ผมเห็นทำให้ผมตกใจ จนอยากจะร้องไห้ คุณธารเอามือเปล่ากำมีดคนร้ายไว้ แล้วส่งสายตาขวางไปหาคนร้าย แล้วเอามือที่ไม่ได้กำมีด ชกเขาที่หน้าผู้ชายคนนั้นจนล้มลง แล้วตามไปเตะเข้าที่ท้อง อย่าให้นับเลยว่ากี่ที มันนับไม่ถ้วนจริงๆ

"นายครับพอแล้วครับ เดี๋ยวผมเคลียเองรีบไปทำแผลก่อนเถอะครับ" ดีที่คุณกรณ์วิ่งเข้ามาทันก่อนที่ผมจะเห็นคนตาย

"แกไปสืบมาว่าไอ้นี่ใครส่งมา แล้วจัดการเคลียให้ฉันด้วย" คุณธารพูดจบก็รีบเดินมาหาผม

"ต้น เป็นอะไรหรือเปล่า ต้น ต้น ตอบฉันสิ" ผมมองหน้าคนที่ถามผม พร้อมกับเขย่าตัว แต่ผมไม่ได้ตอบอะไร แล้วอยู่ๆน้ำตาผมก็

"ต้นเจ็บหรอ ร้องไห้ทำไม บอกฉันสิ ได้แผลหรือเปล่า"

ผมส่ายหน้าไปมาแล้วโผตัวเข้าไปกอดเขา จนเขาเกือบหงายหลัง

"ไม่. ไม่ เอา ฮื่อ แบบนี้แล้วนะ ฮึก อย่าทำ ฮึก ฮึก แบบนี้อีก" ผมสะอื้น

"อะไรต้น "

"อย่า ฮึก เอามือฮื่อ ไปรับ ฮึก มีดแบบนั้น ฮึก"ผมยังคงสะอื้นไม่หยุด แต่เหมือนคนได้ฟังจะนิ่งค้างไป ก่อนที่ผมจะสัมผัสได้ว่ามือของคนที่ผมกอดอยู่ค่อยๆลูบหลังผมเบาๆช้าๆเหมือนปลอบเด็ก

"ชู่วว ไม่ร้องนะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกลับบ้านทำแผลก็หายแล้ว" ผมส่ายหน้ากับอกของเขา

"ถ้าคุณ ฮึก เป็นอะไรไป ฮื่อ ผมจะทำยังไง"

"พี่ไม่เป็นอะไรแล้ว เป็นห่วงพี่ใช่ไหมหืม" ผมพยักหน้าผมห่วงเขาจริงๆจนไม่เอะใจเรื่องสรรพนาม

"ผม ฮึก ใจหายหมดเลย ไม่เอาแล้วนะ ฮึก ผมเป็นห่วง"

"ได้ พี่สัญญา หยุดร้องนะ พี่จะได้กลับบ้านไปทำแผลซะที" ผมผละออกจากเขาแล้วรีบพยักหน้า

"กรณ์โทรตามหมอไปที่บ้านด้วย"

"ครับนาย"

.................

กลับมาถึงบ้านเจ้าของบ้านก็จูงผมขึ้นห้องทันที แล้วให้ผมไปล้างหน้า ส่วนตัวเองก็นอนรอหมอบนเตียง ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงเคาะประตู คนที่เข้ามาหลังจากได้รับอนุญาตคือคุณหมอประจำตระกูล หมอเขามาทำแผลและให้ยาแก้ปวดไว้ พร้อมกับเตือนว่าบางทีอาจมีไข้เนื่องจจากแผล

"ยังไงก็อย่าพึ่งขยับมากนะครับ แล้วก็ล้างแผลทุกวันด้วย" คุณหมอสั่งคุณกรณ์ก่อนจะลากลับ

"นายครับ เรื่องที่สั่งได้แล้วนะครับ"

"ใคร"

"เสี่ยวิชิต เจ้าเดิมครับ จัดการเลยไหมครับ"

"เอาให้หนัก "

"ครับนาย แล้วเรื่องล้างแผล"

"ต้น เมื่อกี้ได้ฟังที่หมออธิบายไหม" คนตัวโตถามผม

"ครับ เดี่ยวผมดูแลเองครับไม่ต้องห่วง" เจ้าของห้องยิ้ม

"ได้ยินแล้วใช่ไหมกรณ์ แล้วแกก็ออกไปได้แล้วฉันจะพักผ่อน" คุณกรณ์เบะปากมองบน หืมได้หรอ

แล้วเขาก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับคำพูดบางอย่าง

"เฮ้อ คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด"

หลังจากที่คุณกรณ์ออกไปผมก็เดินไปที่ข้างเตียงของเจ้าของห้อง

"คุณเจ็บมากไหม ผมขอโทษนะเพราะผมแท้ๆ"

"ใช่เพราะนาย" ผมหน้าเจื่อนลงไปอีกเพราะคำพูดเขา

"ทีหลังก็อย่าวิ่งไปหาคนร้ายแบบนั้นอีกเข้าใจไหมดีที่ฉันไปทันไม่งั้นตายแน่" ผมทำหน้าสำนึกผิด

"คุณก็อย่าลืมสัญญาด้วยล่ะ ห้ามเอามือไปรับมีดอีกนะ" คุณธารไม่ได้ตอบอะไรแต่ยื่นนิ้วก้อยมาให้ ผมทำหน้างงใส่

"ก็เกี่ยวก้อยสัญญาไง" ผมยิ้มให้เขาแล้วยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับเขา

ตกดึกพอถึงเวลานอนผมก็ทำกิจวัตรปกติ คือการเชคหน้าต่างประตูแล้วก็ปิดไฟ ในขณะที่ผมกำลังจะล้มตัวนอนเสียงคุันเคยก็ดังขึ้น

"ต้น" หืม

"ครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ" ผมถามแล้วรีบลุกขึ้นนั่งมองไปทางเงาของคนบนเตียง

"ฉันเจ็บแผลอยู่นะ ถ้าฉันไข้ขึ้นจะทำยังไง"

"ผมก็อยู่ตรงนี้นะครับไม่ต้องห่วง"

"แล้วนายนอนตรงนั้นจะรู้ได้ยังไงว่าฉันมีไข้ นายทำงานมาทั้งวันคงหลับไม่รู้เรื่องหรอก"

"แล้วจะให้ผมทำไงล่ะครับ"

"นายก็...ขึ้นมานอนด้วยกันบนเตียงสิ"

 :z3: :z3: :z3: :z3:
.........................
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
กรี๊ดดดดดดดดดดด  อีพี่บ้าไปแล้ว อีพี่จะล่อลวงน้องแบบนี้ไม่ได้นะคะ

แต่ตอนนี้ไรท์คิดว่าคนแสบสุดน่าจะกรณ์นะคะ นักชง นักตบในตำนาน

ยังไงตอนหน้าเรามาลุ้นกันว่าคุณพ่อจะมีแผนอะไร ให้เขาได้กันอีก ถ้าชอบก็อย่าลืมเม้น

ให้ด้วยนะคะ  Love รีดเดอร์ทุกคนจร้า

หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 4 เป็นห่วง <20/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 20-04-2019 19:30:31
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 4 เป็นห่วง <20/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 20-04-2019 21:38:05
 o13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 4 เป็นห่วง <20/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 20-04-2019 22:48:50
อ้าวๆ ชวนต้นขึ่นเตียงซะแล้ว5555
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 4 เป็นห่วง <20/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 20-04-2019 22:50:50
หูยยยยย คุณพี่ธารเริ่มรู้สึกดี ๆ กับน้องต้นแล้วใช่ไหมครับ? เปิดใจให้น้องด้วยน๊าาาาา
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 4 เป็นห่วง <20/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 20-04-2019 23:10:14
 :pig4: :pig4:แรกๆเงียบๆดูขรึมหลังมานี้แสบนะกรณ์
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 4 เป็นห่วง <20/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 20-04-2019 23:35:59
เนียนเพื่อให้น้องไปนอนด้วย
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 4 เป็นห่วง <20/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 21-04-2019 00:13:00
 :z1:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 4 เป็นห่วง <20/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 21-04-2019 02:59:30
อ่อยเรี่ยราดมากจ้าาาา
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 4 เป็นห่วง <20/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 21-04-2019 09:24:52
 :hao6:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 5 ดูแล <28/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Garuda8 ที่ 28-04-2019 21:49:37
ตอนที่ 5

ดูแล


"นายก็...ขึ้นมานอนด้วยกันบนเตียงสิ" เมื่อกี้หูแว่วป่าวว่ะ

"คุณว่าอะไรนะครับ"

"ฉันบอกว่าให้นายขึ้นมานอนด้วยกัน จะไปนอนโซฟาให้ลำบากทำไม เผื่อฉันมีไข้จะได้รู้ด้วยไง"

"เอ่อ่ ไม่เป็นไรครับ ผมนอนตรงนี้ก็ดีอยู่แล้วไม่ได้ลำบากอะไร"

"ทำไมกลัวฉันจะทำอะไรหรือไง"

"เปล่าครับผมเกรงว่าจะไม่เหมาะ ส่วนเรื่องที่คุณกลัวว่าจะเป็นไข้ เดี๋ยวผมลุกขึ้นมาดูคุณทุก 2 ชั่วโมงก็ได้ครับ"

"นายนี้มัน เฮ้อ ตามใจก็แล้วกัน นอนสบายๆไม่ชอบ" งอแงอีก ถ้าสบายดีจะตีให้

หลังจากนั้นผมและเขาก็เข้านอน โดยที่ผมตั้งปลุกทุก 2 ชั่วโมงเพื่อมาดูอาการคนตัวโตที่เวลาผมลุกมาดูทุกครั้งก็เห็นนอนสบาย

ไม่เห็นจะมีท่าทางหรืออาการจะป่วยตรงไหนเลย

รุ่งขึ้นผมก็ลงมาช่วยป้านิ่มทำอาหารตามปกติ พอใกล้เวลาอาหารผมก็ขึ้นไปปลุกคนป่วยให้ลุกแล้วอาบน้ำเพื่อลงไปทานอาหาร คนตัวโตอิดออดนิดหน่อย แต่ก็ยอมเดินเข้าห้องน้ำไป ผมจึงลงไปเตรียมจัดโต๊ะอาหารต่อ ประมาณ 20 นาที นายน้อยของบ้านก็ลงมานั่งประจำโต๊ะอาหาร ผมจึงจัดการเสิร์ฟอาหารให้เขาและนั่งลงตรงข้ามกัน ผมเริ่มทานอาหารเช้าของตัวเอง แต่คนตรงข้ามผมก็ไม่ยอมขยับเอาแต่มองหน้าผม ผมพยายามไม่สนใจแต่เขาก็เอาแต่จ้องแล้วก็ไม่ยอมทานอาหารตัวเองสักที

"มีอะไรหรือเปล่าครับ ไม่หิวหรอ" ไหนอาการเป็นไงบอกหมอสิ

"เฮ้อ ฉันนะหิวมากเลยนะ แต่ฉันทานไม่ได้นะ" ก็เอาเข้าปากแล้วเคี้ยวไง

"ทำไมล่ะครับ"

"คือเมื่อคืนฉันนอนทับมือนะสิ ตอนนี้ปวดมากแทบขยับไม่ได้ " หืม ใช่หราา

"แล้ว คุณจะให้ผมทำยังไงครับ" จงบอกความต้องการของท่านมาครับ

"ยังต้องให้บอกอีก นายก็ป้อนฉันหน่อยสิ" ห๊ะ

"ให้คุณกรณ์ป้อนดีกว่าไหมครับ" คุณธารส่ายหัวแทบหลุด

"ฉันคิดว่ามันจะฆ่าฉันแน่นอน น่านะ เห็นใจหน่อย ฉันหิวมากเลย" ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อนเลย

"ก็ได้ครับ" ที่ผมยอมเพราะเขาช่วยผมไว้นะ

ผมขยับไปนั่งข้างๆเขาแล้วก็ป้อนอาหารเช่้าให้เหมือนแม่นกป้อนลูกนกไม่มีผิด คนโดนป้อนก็อมยิ้มไป เคี้ยวไปน่าเอ็นดู ผมได้แต่

มองหน้าเขาแล้วอมยิ้ม ทานเสร็จก็ไปเอายามาให้เขาทาน

"วันนี้ฉันไม่เข้าออฟฟิสนะยังไงเดี๋ยวนายตามมาอ่านเอกสารให้ฉันฟังที่ห้องทำงานด้วยล่ะ"

เขาสั่งผมหลังจากทานยาเสร็จ แล้วก็ลุกออกไปหาคุณกรณ์เหมือนสั่งงานผมได้แต่ไหวไหล่แล้วเก็บซากอาหารเช้าก่อนจะไป

ทำงานต่อตามที่นายน้อยสั่ง

ก็อก ก็อก

"ขออนุญาตครับ" ผมตามมาที่ห้องทำงานหลังเคลียโต๊ะอาหารเสร็จ แต่ก็ไม่ลืมเคาะประตูเพื่อขออนุญาตก่อนจะเปิดประตูเข้าไป

"มานั่งนี่สิ แล้วอ่านเอกสารพวกนี้ให้ฟังหน่อย ฉันไม่มีแรงเปิด"

หืม จร้าเต็มที่เลย ผมเดินไปนั่งตามที่เข้าบอก ก่อนจะลงมืออ่านเอกสารให้เขาฟังและให้เขาตรวจสอบอีกครั้งเรานั่งทำงานกันจน

เพลิน กระทั่งมีเสียงเคาะประตูขัดจังหวะเสียก่อน

"นายครับ คุณเทียนมาขอพบคุณต้นครับ" เป็นคุณกรณ์ที่เข้ามา

"ไม่ว่าง ทำงานอยู่ไม่เห็นหรอ ไล่มันกลับไป" นั้นโมโหอะไรของเขา

"นายครับเขามาขอพบคุณต้นครับ ไม่ได้ขอพบนาย" เออจริงกูยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ

"ไอ้กรณ์ แกอยากตายใช่ไหม"

"อ่ะ เดี๋ยวครับทั้ง2 คน อย่าพึ่งทะเลาะกัน คุณธารครับงานตรงนี้ไม่มีอะไรมากแล้ว ผมขออนุญาตไปพบพี่เทียนนะครับ"

นิ่งเลย ทำหน้าเหมือนกลั้นตดไปอีก

"ฉันมีสิทธิ์อะไรห้ามนายล่ะ มันมาหานายนี่ นายก็คงจะคิดถึงมันละสิไม่ได้เจอกันหลายวัน ไปเถอะ ปล่อยฉันไว้กับเอกสารตรงนี้แล้วนายก็ไปคุยกับมันเถอะ" เอ่อ ผมว่าคำพูดมันแปลกๆนะ

"งั้นผมขอตัวนะครับ" ว่าเสร็จผมก็เดินออกมาเลย โดยไม่ได้สนใจอะไรต่อ
..................

หลังจากที่ต้นเดินออกมาแล้ว คนในห้องก็มีอาการกระฟัดกระเฟียดอยู่กับเอกสารเปิดหน้านั้นหน้านี้แต่ไม่มีสมาธิจะอ่านเลย

"นายครับ ผมว่านะคุณเทียนต้องสนใจคุณต้นแน่นอน" เสียงของกรณ์ดังขึ้นขัดอาการของคนเป็นนาย

"รู้ได้ยังไง อย่ามั่วนะ" คนเป็นนายว่าก่อนจะเปิดเอกสารแรงกว่าเดิมจนแทบขาด

"โธ่ นายคุณเทียนนะเป็นไบเซ็กชวลนะครับ ไม่มีแบ่งแยกได้หมดถ้าสดซิง" คนเป็นนายได้ฟังก็ขมวดคิ้ว

"ผมว่านะคุณเทียนลองมาแบบนี้จีบชัวร์ครับ แล้วอบอุ่นแบบนั้นร้อยทั้งร้อยไม่รอดครับ"

"ไอ้กรณ์" เจ้าของชื่อสะดุ้ง เพราะคนเรียก เรียกเสียงดังมาก

"แกพูดอะไรห๊ะ ต้นมันเป็นว่าที่เมียฉันพ่อก็บอกอยู่มันจะไปสนใจคนอื่นได้ยังไง" คนพูดก็พูดไปคนฟังก็ยิ้มกริ่ม

"แหม นายก็พูดเล่นใช่ไหมครับ ก็นายไม่สนใจคุณต้น คุณต้นเขาก็มีสิทธิ์สนใจคนที่รักที่ชอบเขานะครับ"

กรณ์พูดไปก็ได้แต่หัวเราะในใจ

"..." คนฟังได้แต่นั่งคิด

"ถ้านายไม่สนใ.."

"ใครบอกฉันไม่สน แกอย่ามารู้ดีกว่าฉันหน่อยเลย" กรณ์พูดไม่ทันจบคนเป็นนายก็พูุดแทรกขึ้นมาทันที

"นายสนใจคุณต้นแล้วเหรอเนี่ย ข่าวใหม่เลยนะครับ"

"ฉันก็แค่เห็นว่าเด็กคนนี้มีอะไรไม่เหมือนคนอื่น ก็ไม่ผิดที่ฉันจะลองดูๆไปก่อน ไม่ใช่หรอว่ะ" คนฟังเบะปากพยักหน้า

"อืม แหมไอ้ผมก็คิดว่าตกหลุมคุณต้นแล้วซะอีก ยังไงก็สู้ๆนะครับนาย อย่ามัวแต่ดูนะครับ เพราะตอนนี้คุณเทียนคงไม่ดูอย่าง

เดียวแล้วล่ะ ท่าทางจะอุ้มไปไว้บ้านแล้ว"

พูดจบเอกสารในมือก็ถูกเขวี้ยงมาทางกรณ์

"เงียบไปเลยไป แล้วมาช่วยฉันทำงาน ท่าทางเลขาฉันคงจะติดธุระนาน" คนฟังยิ้มแล้วเดินไปทางเจ้านาย

"ครับผม " คนเป็นลูกน้องได้แต่ส่ายหน้าแล้วทำงานต่อไป
.......................

ทางด้านของต้นเมื่อออกจากห้องก็เดินไปที่ห้องรับแขกเพื่อไปหาคนที่มาขอพบ

"พี่เทียนครับ มายังไงเนี่ย"

เจ้าของชื่อหันมายิ้มให้ผมแล้วกวักมือเรียกให้มานั่งด้วยกัน

"พี่ก็คิดถึงนะสิ ไม่ได้เจอตั้งนาน ตั้งแต่พี่ไม่ได้มาสอนเรา  พวกเราก็ไม่ได้เจอกันเลย" พี่เทียนยิ้ม

"อ่อ แล้ววันนี้มาหาผมมีอะไรหรือเปล่าครับ"

"คือพอดีวันเสาร์นี้ เป็นวันเกิดพี่นะ พี่เลยอยากชวนต้นไปทำบุญเป็นเพื่อนพี่หน่อย ได้ไหม"

ผมคิดสักพักว่าวันนั้นมีธุระอะไรหรือเปล่าก่อนตอบไป

"ได้ครับ วันนั้นผมไม่ได้ไปไหน ได้ทำบุญดีก็เหมือนกัน" ผมยิ้มให้พี่เทียน

"งั้นเดี๋ยววันนั้นพี่มารับนะสัก9โมง"

"ครับ" ผมพยักหน้ารับ

"งั้นพี่กลับก่อนแล้วกัน พี่แค่แวะมานะ"

"อ้าว แล้วทำไมพี่ไม่โทรมาล่ะครับ" ผมถามอย่าสงสัย

"ก็ พี่อยากเห็นหน้าต้นนะ พี่คิดถึง"

"เหอะๆ พี่อย่าพูดทีเล่นทีจริงแบบนี้กับคนอื่นเขานะครับเดี๋ยวเขาคิดเลยเถิด"

"หึ พี่พูดกับต้นแค่คนเดียว ไม่ต้องห่วงนะพี่ไม่เคยพูดเล่นหรือล้อเล่นกับความรู้สึก ไปนะ"

พี่เทียนพูดจบก็เอามือมายีหัวผม แต่ตอนนี้ผมอึ้งกับคำพูดพี่เขาไปแล้วหมายความว่าพี่เขาจีบผมหรอเนี่ย

หลังจากที่พี่เทียนกลับไปแล้ว ผมก็กลับไปทำงานตามปกติ จนตอนนี้ถึงเวลาเข้านอนแล้ว

"คุณธารครับ เสาร์นี้ผมขออนุญาตไปข้างนอกได้ไหมครับ"

"อืม ไปสิ มันวันหยุดนายนิ"

"ขอบคุณครับ"

"ว่าแต่จะไปไหนล่ะ" นั้นอยากรู้ไปอีก

"ผมจะไปทำบุญวันเกิดพี่เทียนนะครับ"

"วันเกิดไอ้เทียน แล้วเกี่ยวอะไรกับนาย"เอ้า ตาคนนี้

"ก็เขาชวนผมไปเป็นเพื่อนนิ"

"แล้วคนอื่นไม่มีหรือไง ร้อยวันพันปีไม่เคยจำวันเกิดตัวเองได้ ปีนี้จำได้ขึ้นมาเชียว" ไอ้คุณธารมันกินข้าวไม่อิ่มหรือไงว่ะ

"โอ๊ยคุณ จะอะไรก็ช่างผมรับปากเขาไปแล้ว แล้วคุณก็อนุญาตแล้วด้วยยังไงจะเอาบุญมาฝากนะครับ"

ผมยิ้มแล้วเตรียมหนีนอนเลยเดี๋ยวโดนกินหัว

"ทำไมฉันต้องมาสนใจเด็กอย่างนายด้วยเนี่ย" เสียงอะไรแว่วๆ

"คุณว่าอะไรนะครับ" ผมหันกลับไปถาม

"ไม่มีอะไรนอนเถอะ" แล้วคนพูดก็เอาผ้าห่มคลุมหน้าตัวเองไปเลย จะหายใจออกไหมล่ะนั้นนะ

ในเช้าวันเสาร์ พี่เทียนมารับผมที่บ้านตามสัญญา ผมขึ้นไปนั่งข้างคนขับแล้วพี่เทียนก็ชวนคุยไปตลอดทาง

"พี่เทียนจะไปทำบุญที่วัดไหนหรอครับ" ผมถามขึ้นเพราะเห็นบรรยากาศข้างทางเหมือนจะออกนอกเมืองแล้ว

"พี่จะไปทำบุญที่วัดแถวๆไร่พี่นะ เสร็จแล้วจะพาเราเที่ยวที่ไร่พี่ด้วย"

"พี่เทียนทำไร่ด้วยหรือครับ" ผมถามอย่าตื่นเต้น

"ทำไร่ดอกไม้ ฟาร์มม้า แล้วก็วัวนมนะ"

"ผมอยากรีดนมวัว"

"รอมีโอกาสพี่จะพามาเที่ยวแบบค้างคืนนะได้ทำทุกกิจกรรมแน่"

"ขอบคุณครับ" แค่คิดก็สนุกแล้ว

พี่เทียนขับรถมาจากกรุงเทพกว่าจะถึงที่หมายก็ประมาน 3 ชั่วโมงได้ มาถึงก็จอดรถที่ลานวัด วัดนี้ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนวัดใน

กรุงเทพแต่ก็มีความสวยงามของศิลปะ ซึ่งดูแล้วก็รู้สึกผ่อนคลาย ผมกับพี่เทียนพากันไปหาหลวงพ่อที่โบสถ์เพื่อทำสังฆทาน

เรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาเพื่อที่จะไปให้อาหารปลา แล้วพวกเราก็พากันมา นั่งพักที่ใต้ต้นไม่ใหญ่ใกล้ริมน้ำซึ่งมีม้าหินอยู่ นั่งชม

วิวรับลมแล้วรู้สึกผ่อนคลายดีจัง

"พี่ขอบคุณต้นมากนะที่มากับพี่" ผมหันไปยิ้มให้กับคำพูดนั้น

"ไม่เป็นไรครับก็วันเกิดพี่เทียนนิ อีกอย่างผมไม่มีของขวัญให้พี่ด้วย" ผมเกาหัวแก้เก้อ

"แค่ต้นอยู่กับพี่ก็ถือเป็นของขวัญแล้วนะรู้ไหม"

"ยังไงครับ"

"อันที่จริง พี่ไม่เคยให้ความสำคัญกับวันเกิดเลยนะ จนพี่ได้มาเจอกับต้น พี่เลยอยากให้วันนี้กลายเป็นวันสำคัญโดยเป็นวันที่พี่มี

คนสำคัญอยู่ด้วย"

"พี่เทียน" ผมเริ่มทำหน้าไม่ถูก

"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ พี่แค่อยากบอกไม่ได้จะเอาคำตอบ ทำตัวเหมือนเดิมนะ ถ้าวันไหนคิดว่าพี่ใช่ก็ค่อยมาบอกกัน"

พี่เทียนยิ้มอบอุ่น ผู้ชายคนนี้ต่อให้ผู้ชายแท้ก็เสร็จเหอะ

"ครับ ขอบคุณนะครับ ที่ให้ความสำคัญกับผม"

"อืม แต่ถ้าหากต้นมีใครในใจแล้วก็อย่าลืมบอกพี่ด้วยนะ พี่จะได้ช่วยดูว่าเขาดูแลต้นได้ดีกว่าที่พี่ทำไหม"

"พี่เทียน พูดอะไรเนี่ย ไปไร่พี่ดีกว่าครับผมอยากถ่ายรูปไปอวดเพื่อน"

"ไปสิ" พูดจบพี่เทียนก็เดินนำไปที่รถเพื่อขับไปเที่ยวไร่พี่เขา

ไร่ของพี่เทียนมีชื่อว่าไร่ เธียรวิชญ์ เป็นไร่ที่พี่เทียนพึ่งทำได้ประมาน 5 ปีไม่มีคนรู้นอกจาก พ่อนราทร พี่เทียนเล่าว่าหากเบื่อช่วย

งานคุณพ่อทรแล้วก็จะกลับมาทำงานที่นี่ ซึ่งตอนนี้พี่เทียนให้คนที่ไว้ใจได้ดูแลแทนอยู่ ส่วนเจ้าตัวจะกลับมาทุกอาทิตย์เพื่อมา

ตรวจสอบความเรียบร้อย ถ้าวันไหนยุ่งๆก็อาจจะกลายเป็น 2 อาทิตย์ครั้งแทน พี่เทียนพาผมดูไร่ดอกไม้ คอกม้า และวัวนม

ก่อนที่จะพามาทานข้าวที่บ้านก่อนกลับ พี่เทียนจอดรถหน้าบ้านผมก็ล่ำลาแล้วลงจากรถ ระหว่างที่กำลังเดินเข้าบ้าน

ก็มีคนเรียกผมซะก่อน

"คุณต้นกลับมาแล้วหรอครับ" ผมหันไปตามเสียงเรียก

"ครับคุณกรณ์ แล้วมาทำอะไรตรงนี้ครับ"

"ก็มารอคุณต้นแหละครับ" ผมขมวดคิ้ว

"รอผม รอทำไมครับ" ผมเอียงคอ

"ก็นายน้อยนะสิครับ ไม่ยอมทานข้าวเย็นผมจะทานเป็นเพื่อนก็ไม่เอา สงสัยคงติดคุณต้นนะครับ ป้านิ่มก็เอาไม่อยู่"

เดี๋ยวนี้มันเด็ก3ขวบหรือเปล่าเนี่ย

"แล้วผมจะทำอะไรได้ล่ะครับ"

"นายคงน้อยใจนะครับ มือก็เจ็บแถมต้องกินข้าวคนเดียวไม่มีใครดูแล คุณต้นก็ยกข้าวไปป้อนนายให้หน่อยนะครับ" เออว่ะ

เอะหรือคุณกรณ์มันปั่นว่ะหน้าตาไว้ใจไม่ได้อยู่

"ก็ได้ครับ แล้วสำรับอยู่ไหนครับเดี๋ยวผมยกไปให้" นั้นไงกูเห็นนะยิ้มกริ่มแบบนี้

"อยู่ในครัวครับเดี๋ยวเดินเข้าไปเอาได้เลย"

หลังจากนั้นผมก็เดินเข้าไปในครัวเพื่อหยิบสำรับแล้วนำขึ้นไปที่ห้องนอนของคนดื้อ ผมเปิดประตูเข้าไปโดยไม่เคาะประตูเห็น

เจ้าของห้องนั่งดูเอกสารอยู่ที่โซฟา ผมจึงนั่งอีกฝั่งของโซฟาเดียวกัน แล้ววางสำหรับไว้ที่โต๊ะเตี้ยหน้าโซฟา

"ทานข้าวเถอะครับคุณธาร ถึงเวลาแล้ว" เขาหันมามองผมแล้วดูเอกสารต่อ

"กลับมาแล้วหรอฉันนึกว่าจะสนุกจนลืมคนป่วยอย่าฉันซะอีก" จะเอ็นดูหรือหมั่นไส้ดีเนี่ย

"จะลืมได้ไงผมอุตส่าห์ไม่ทานข้าวเย็นรอมากินกับคุณเลยนะ"

ผมโกหกครับเพราะที่จริงกินแล้วแต่กว่าจะถึงกรุงเทพก็ย่อยแล้ว กินอีกได้ครับ

"จริงหรอ" คนตัวโตหันขวับมาถามผม

"จริงสิคุณ ผมจะโกหกทำไม มากินเถอะนะ ผมหิวแล้ว" คุณธารยิ้มแล้วค่อยๆขยับมานั่งใกล้ผมโดยที่ในมือยังไม่วางเอกสาร

"ป้อนฉันสิ ฉันจะได้ทำงานไปด้วย จะได้ไม่เสียเวลาไง" จร้า พ่อคุณ ผมได้แต่ส่ายหัว

......................................
นราธร Part

ผมกำลังยืนมองหลังคาบ้านหลังหนึ่งอยู่ ไม่ใช่ว่าสีมันสดเพราะใช้ TOA หรอก แต่เป็นเพราะว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของคนที่ผมรัก

ผมมายืนมองบ้านเขาทุกวัน จนจะเป็นแม่นากอยู่แล้ว ไม่ค่อยได้เห็นเจ้าของบ้านเห็นหน้าบ้านเห็นหลังคาก็ยังดี

"นายครับใกล้ถึงเวลาประชุมแล้วครับ" เสียงลูกน้องผมทักขึ้น ต้องขอบคุณมันถ้าปล่อยผมยืนอีกแปปบอกได้เลยผมไม่ยอมขยับ

แน่ๆ ทำไมนะหรอ ตะคริวกินไงถามได้

"อืม ขอบใจที่เตือน แล้วเรื่องที่สั่งเรียบร้อยไหม" ผมถามลูกน้องถึงงานที่สั่งไปก่อนหน้า

"เรียบร้อยครับนาย" ผมได้ยินก็พยักหน้ารับ แล้วหันกลับมามองบ้านหลังเดิมอีกครั้ง

"ไม่ต้องห่วงไอ้ตาม กูจะทำหน้าที่ต่อจากมึงเอง" ผมพูดกับตัวเองแล้วหันหลังเดินกลับไปที่รถเพื่อไปประชุมต่อ


RRRR

เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นขณะที่กำลังเหม่อมองบรรยากาศนอกรถ หยิบขึ้นมาดูพบว่าเป็นกรณ์

"ว่าไงกรณ์"

"ผมทำตามคำสั่งเรียบร้อยครับ" แหมสั่งได้ดั่งใจ

"ดีมาก"

"เตรียมแผนต่อไปหรือยังครับ"

"นี่ฉันใคร มันต้องแน่นอนอยู่แล้ว"

"ท่านจะให้ผมทำอะไรต่อก็บอกได้เลยนะครับ"

" เดี๋ยวฉันจะบอกแกอีกที ขอบใจมาก"

"ครับท่าน แล้วอย่าลืม เบอร์โทร กับไลน์คุณไผ่ให้ผมด้วยนะครับ"ไอ้นี่กลัวจะไม่ได้แฟน

"เออเดี๋ยวฉันส่งไปให้"

"ขอบคุณครับ แค่นี้ก่อนนะครับนาย"

"ขอบใจมาก"

มีแต่พวกฉันขนาดนี้ ให้มันปั่น ชง แซว ขนาดนั้นไม่ได้ลูกสะใภ้ชื่อต้นก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว
.............

วันนี้เป็นวันจันทร์ ผมและคุณธารมาทำงานปกติแล้วเพราะมือคุณธารหายแล้ว ผมไม่ต้องคอยป้อนข้าวป้อนน้ำแล้ว ตอนนี้ต่างคน

ต่างก็ทำงานของตัวเองอยู่คนละมุม

"นายครับ นายใหญ่มาครับ" เสียงคุณกรณ์ดังมาจากหน้าประตู

"เข้ามาเลย" นายน้อยตอบรับแต่มือกับตาก็ยังคงอยู่ที่เอกสาร

"Hi ไอ้ลูกหมา พ่อแกมานะเงยหน้ามาคุยกัยหน่อย ว่าไงต้นสบายดีนะ" คุณพ่อทักลูกเขา แล้วหันมาทักผม

"สวัสดีครับคุณพ่อสบายดีครับ แล้วคุณพ่อล่ะครับ" ผมตอบแล้วถามกลับ

"สบายมาก มีงานอะไรเยอะแยะที่ต้องทำแต่ก็สบายดี" คุณพ่อยิ้ม

"พ่อมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ" คนตัวโตพูดขึ้น

"เออ พ่อเกือบลืม พอดีศุกร์นี้พ่ออยากให้แกไปดูที่ที่จะทำรีสอร์ทใหม่หน่อยนะ"

"แล้วทำไมพ่อไม่ไปเองอ่ะ"

"ไอ้ลูกหมา พ่อไม่ว่างโว้ยต้องไปอังกฤษไม่งั้นฉันไม่ง้อแกหรอก ไปดูให้หน่อยนะว่างานถึงไหนแล้ว"

"เฮ้อ ก็ได้ครับ แล้วผมต้องไปกับใครเลขาพ่อหรอ"

"แกจะบ้าหรอ แกก็ไปกับเลขาแกสิ เอาไอ้กรณ์ไปด้วยนะ เผื่อจะได้ใช้งานอะไรมันได้"

"แล้วผมจะต้องดูอะไรยังไงผมไม่มีข้อมูลอะไรเลยนะ ถ้าพ่อไม่เอาคนของพ่อไปกับผมนะ"

"ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวฉันให้เลขาฉันส่งข้อมูลให้แกเอง ส่วนไอ้กรณ์ฉันคุยกับมันคร่าวๆแล้วพอจะรู้เรื่องอยู่หรอก"

"งั้นก็ได้ครับ"

"เออ ต้นเตรียมตัวนะลูก เผื่อจะได้เรียนรู้อะไรได้ เที่ยวเผื่อพ่อด้วยนะ" ผมยักหน้างึกๆ

"เออ พ่อแล้วรีสอร์ทใหม่พ่อนี้ที่ไหนนะ ผมลืม"

"แกไม่ใส่ใจซะมากกว่า เชียงรายโว้ยอยู่เชียงราย"

"อ่อ โอเค"

"เชียงรายเลยหรอครับ คุณพ่อผมไม่เคยไปเลยตื่นเต้นจัง" ผมหันไปบอกกับคุณพ่อ

"สวยมากเลยนะ แล้วก็น่าสนุกมากด้วย"

"จริงหรอครับ ชักอยากไปแล้ว" ผมพูดกับคุณพ่อแล้วยิ้มกว้าง โดยไม่ได้สังเกตคุณพ่อเลยว่าเขายิ้มเหี้ยมขนาดไหน

"สนุกสิ สนุกแล้วก็หน้าตื่นเต้นมากๆเลยล่ะ เตรียมตัวแล้วก็ใจให้พร้อมกันล่ะ"

"ได้ครับ/ครับ" ผมตอบรับพร้อมกับคุณธารโดยไม่ได้สนใจเสียงแผ่วๆที่ดังมาจากคุณพ่อ

"ได้ดูทั้งงาน ดูทั้งใจ และหวังว่าจะได้ดูกันทั้งตัวนะลูก หึ หึ"

...................
กลับมาถึงบ้านทั้งผมแล้วก็คุณธารก็ต่างคนต่างทำธุระส่วนตัวของตัวเองตามปกติจนเกือยจะเข้านอนอยู่แล้วเจ้าของห้องก็เรียก

ผมขึ้นมา

"นี่ต้น นายว่าฉันกับนายเริ่มสนิทกันหรือยัง" ผมยืนอยู่ปลายเตียงของเขาแล้วเอียงคอมองเขา

"ก็ดีกว่าตอนเข้ามาแรกๆนะครับ"

"หรอ ถ้างั้นนายก็เรียกฉันว่าพี่ได้แล้วสิ"

"ห๊ะ จะเอางั้นหรอครับ" ผมแค่คาดไม่ถึงกับคำเรียกใหม่

"เอางี้แหละ ทีไอ้เทียนนายยังเรียกมันพี่เลย ทำไมจะเรียกฉันบ้างไม่ได้ ไหนบอกให้เปิดใจรับไง" พ่อเริ่มบ่นแล้วครับ

"ใจเย็นๆ อย่าพึ่งบ่นผมก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย แค่ช็อคเฉยๆที่คุณยอมให้ผมเรียกแบบนั้น"

"ก็ฉันยอมเปิดใจตามนายบอกไง ไหนลองเรียกสิ พี่ธารอ่ะ เรียกเร็วๆเข้า"

"เอ่อ พ..พี่ โอ๊ยไม่ชินเลยคุณ" ผมยืนส่ายหน้าอยู่ปลายเตียงจนเจ้าของเตียงเดินเข้ามาหาผมแล้วยื่นมือมาจับแขนผมไว้

"จะพูดไหม" มีขู่

"มันไม่ชิน ขอเวลาทำใจแปปสิ" นี่ก็รีบจัง

"นับ 1 "

"เฮ้ยจะนับทำไม"

"นับ 2"

"อย่าใจร้อนสิ"

"นับ 3" จบคำก็เอาแขนผมที่จับไว้ขึ้นมากัดทันที

"โอ๊ย คุณเป็นหมาหรือไงเจ็บนะ"

"ก็นายทำให้ฉันหมั่นเขี้ยวทำไมล่ะ มายืนเอียงคอมองคิดว่าเป็นลูกแมวหรือไง แล้วจะพูดไหม" คนตัวโตทำท่าจะกัดอีกรอบ

"พูดแล้วๆ พี่ธาร พี่ธาร พอแล้วผมเจ็บ"

"พูดให้มันหวานๆเพราะๆ อย่างพี่ธารครับพอนะน้องเจ็บแบบเนี่ยพูดได้ไหม"โอ๊ย น้องบ้านแกสิ

"แค่นี้ก็พอแล้วหวานกว่านี้ก็น้ำตาลแล้วคุณ"

"นับ 1"

"อ่าาา ได้ๆๆ พี่ธารครับ พอนะครับน้องเจ็บ" ผมพูดเสียงอ้อนพร้อมส่งสายตาอ้อนๆ

"..." เงียบ

"คุณ เป็นอะไร"

"อะหึ้ม เปล่าแล้วคุณอะไร พี่สิ"

"ครับ พี่ธารปล่อยผมเนอะ ผมจะไปนอนแล้ว" คุณธารปล่อยมือแล้วเดินกลับไปที่เตียงทิ้งตัวลงนอน ผมจึงแยกตัวไปปิดไฟแล้วก็

เดินกลับมาที่โซฟาเพื่อจะเข้านอนเหมือนกัน กำลังเคลิ้มๆ ผมก็ได้ยินเสียงเจ้าของห้องพูดขึ้น

"ฝันดีนะ น้องต้น" หึ ละเมอเปล่าว่ะ

"เมื่อกี้พูดกับผมหรอ" ไม่แน่ใจถามหน่อยแล้วกัน

"อืม พี่บอกว่า ฝันดีนะน้องต้น"

ผมอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ไม่รู้ทำไมจากอ้าปากกลายเป็นค่อยๆยิ้มจนหุบไม่ได้เลย แถมใจยังเต้นอย่างกับไปวิ่งมาอย่างนั้น

แหละ

"ครับ ฝันดีเหมือนกันนะครับ พี่ธาร"

ผมเอ่ยปากตอบไปแล้วเอาผ้าห่มมาคลุมโปง ไม่รู้จะทำยังไงดี หึ้ยยยเขิลอ่าครับบบบบ


Tbc
:hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:





หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 5 ดูแล <28/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 28-04-2019 22:36:14
สรุปต่างฝ่ายต่างเขิน คงไม่หลับกันง่าย ๆ แน่
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 5 ดูแล <28/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 29-04-2019 00:11:17
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 5 ดูแล <28/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 29-04-2019 00:48:59
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 5 ดูแล <28/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-04-2019 01:13:17
อยากจะ แหม~ ไปถึงปัตตานี 55555
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 5 ดูแล <28/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 29-04-2019 20:01:12
เขิลด้วยคนนะ พี่ธาร น้องต้น
 :katai2-1:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 5 ดูแล <28/04/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 30-04-2019 00:01:10
 ไปเชียงรายคราวนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้นนะ
หัวข้อ: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 6 เชียงราย <04/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Garuda8 ที่ 04-05-2019 11:19:21
ตอนที่ 6

เชียงราย


  คืนวันพฤหัสผมกำลังนั่งจัดของเตรียมตัวไปเชียงรายในวันพรุ่งนี้ ต้องเอาอะไรไปมั้งก็ไม่รู้แต่ที่รู้ๆ ทำไมผมต้องมานั่งจัดของให้ไอ้พี่ธารด้วยเนี่ย ได้แต่บ่นในใจนั้นแหละ จัดของเสร็จ ก็เข้านอน เนื่องจากวันนี้พี่ธารเขาไปงานเลี้ยง ผมขออนุญาตนอนก่อนแล้วกันพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าด้วย ในวันรุ่งขึ้นผมตื่นเพราะนาฬิกาปลุก แล้วเดินเข้าห้องน้ำ
ทำธุระตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็เดินมาปลุกคนตัวโตที่นอนม้วนเป็นก้อนอยู่บนเตียง

"พี่ธาร ตื่นได้แล้วครับเดี๋ยวสายนะ" ผมเอามือสะกิดก้อนผ้าห่ม

"อ่า อืม" เสียงอีโรติกมากครับคุณผู้อ่าน

"พี่ธาร ลุกได้แล้วครับ" ผมดึงผ้าห่มออก แล้วดึงแขนคนตัวโตให้ลุกขึ้นนั่ง

"รับทราบแล้วครับ" เขายิ้มให้ผมหนึ่งทีแล้วลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ จัดการธุระเสร็จพวกเราก็เดินลงมาทานอาหารเช้า แล้วเตรียมตัวไปสนามบิน พวกเราถึงสนามบินเชียงรายประมาน 10 โมงกว่า ซึ่งงานนี้มีแค่ผม พี่ธารแล้วก็คุณกรณ์ เท่านั้น ออกมาจากสนามบินก็มีรถของรีสอร์ทมารอรับเราอยู่แล้วมีคนขับมายกกระเป๋าขึ้นรถให้ ขึ้นรถได้ สักพักผมก็ชวนคนข้างๆคุย

"พี่ธารเคยมาที่นี่ไหมครับ" เขาหันมามองหน้าผม

"เคยมา แต่ไม่เคยไปที่รีสอร์ทใหม่ ทำไมหรอ"

"คือผมไม่เคยมานะครับ เลยอยากเที่ยว" ผมยิ้มให้เขาเผื่อเขาจะเมตตาพาผมไปเที่ยว

"ใกล้ๆ รีสอร์ทมีดอยที่ชาวบ้านทำไร่ ทำสวนอยู่นะครับ ตรงนั้นมีผาดูดาวด้วยคุณต้นไปดูได้นะครับ" คุณกรณ์พูดขึ้น

"จริงหรอครับ ผมไปได้ใช่ไหม"

"ได้สิ แต่ต้องทำงานให้เรียบร้อยก่อน" พี่ธารบอกผม

"โอเคครับ คุณกรณ์พาผมไปนะครับ" ผมหันไปพูดกับคนที่เสนอความคิด

"เห็นทีจะไม่ได้นะครับ พอดีนายใหญ่เขาสั่งให้ผมไปทำธุระต่อนะครับ"

"อ้าว แล้วผมจะไปยังไงล่ะครับ" ผมก้มหน้าเล่นมือตัวเองพร้อมทำหน้าสลด

"ให้นายน้อยขับรถพาไปสิครับ จะได้ไปสำรวจรอบๆกันด้วย" คนเป็นนายหันขวับมาทางคนพูด

"ฉันไม่ได้อยากดูวิว แล้วฉันก็ไม่ใช่นักสำรวจด้วย"

"แต่เจ้าของ ก็ควรจะรู้จักพื้นที่บริเวณใกล้ๆพื้นที่ของตัวเองด้วยนะครับ เผื่อจะมีอะไรต่อยอดธุรกิจได้ นายใหญ่สั่งมาครับ อย่ามองผมแบบนั้น" คุณกรณ์บอก ผมจึงรีบพูดเสริม

"นั้นสิครับ ได้ทั้งงานได้ทั้งพาผมไปเที่ยวด้วยนะ นะครับ" ผมพูดไปแล้วก็เอามือไปดึงแขนเสื้อคนตัวโตยิกๆ พี่ธารมองมือผมสลับกับมองหน้า

"เห้อ  ก็ได้ๆ ที่พาไปเพราะพ่อสั่งนะไม่ใช่เพราะอยากพาเที่ยวหรอก อย่าเข้าใจผิดล่ะ" ฮั่นแน่ ชอบแก้ตัวหรอยังไม่ได้พูดอะไรเลย

"คร้าบบบบบ ขอบคุณนะครับ" ผมยิ้มให้เขาแล้วหันไปยิ้มให้คุณกรณ์

"นายน้อยนี่ ใจดีนะครับ ช่วงนี้ดูมีออร่าให้ต้องเลี้ยงเด็กแปลกๆ"

"เด็กบ้านแกสิ เงียบๆเลย ถึงแล้วปลุกด้วยฉัน จะนอน"

"รับทราบครับ หึ หึ ๆ

  รถที่พวกเราโดยสารมาขับมาเรื่อยๆอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงรีสอร์ทที่หมายของเรา ผมลงจากรถเดินตามนายน้อยไปข้างใน ในส่วนของlobby ซึ่งรีสอร์ทนี้ ในส่วนของที่พักสร้างเสร็จเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือในส่วนของสวนและภูมิทัศน์ด้านนอกอีกไม่เกิน 30% ก็จะสามารถเปิดให้บริการได้แล้ว ที่นี่สวยมากๆ เนื่องจากเป็นรีสอร์ทที่ค่อนข้างไกลตัวเมือง อยู่ตีนดอยเลยทีเดียว ผมเดินตามไปถึงเค้าเตอร์ เห็นคุณกรณ์กับพี่ธารถือกุญแจห้องพักในมือกันแล้ว ผมจึงหันไปถามคุณกรณ์

"แล้วกุญแจห้องผมล่ะครับ" คุณกรณ์ยิ้ม

"คุณนอนกับนายน้อยครับ กุญแจอยู่ที่นายน้อยแล้ว"

"ห๊ะ ผมนึกว่าเราจะนอนคนละห้องซะอีก"

"นายใหญ่บอกว่าปกติพวกคุณก็นอนห้องเดียวกันน่ะครับ ถ้าเปิดอีกห้องนึงจะเปลืองซะเปล่าๆ" ผมพยักหน้าเข้าใจ

"เอางั้นก็ได้ครับ" กำลังทำความเข้าใจกับตัวเองอยู่คนตัวโตก็จับไหล่ผมให้หันหน้าไปหา

"ทำไม ปกติก็นอนด้วยกัน วันนี้งอแงอะไร" ผมส่ายหน้า

"เปล่าครับ ผมแค่คิดว่าจะได้มาพักแบบส่วนตัวเฉยๆ"

"อยู่กับฉันก็คือส่วนตัวแล้ว ไปเก็บของขึ้นห้องพักผ่อนก่อนจะได้ลงมาทำงานต่อ" ว่าเสร็จก็จับข้อมือผมลากให้เดินตามไป

ถึงห้องผมก็เอาของออกจากกระเป๋า มาจัดเตรียมไว้ก่อนออกไปประชุมถึงความคืบหน้าของรีสอร์ทกับฝ่ายต่างๆ ตอนบ่าย ผมสั่งอาหารเที่ยงมาทานที่ห้อง เพราะตอนนี้เจ้านายอยู่ในภาวะทิ้งตัวนอนหลับไปเรียบร้อย ผมทำโน้นทำนี้จนอาหารมาส่ง ผมจึงปลุกคนตัวโตมาทานอาหาร ก่อนจะเตรียมตัวออกไปประชุม ผมนั่งฟังการประชุมและอธิบายเรื่องต่างๆเกี่ยวกับรีสอร์ทอยู่เกือบ 3 ชั่วโมง ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายไปพักผ่อน ซึ่งตอนนี้ก็ถึงเวลาเที่ยวของผมแล้ว

"พี่ธาร เราไปกันเลยไปไหมครับ" ผมรีบหันไปถามคนตัวโต

"อยากเที่ยวเหลือเกินนะ ใจร้อนจริงเชียว" พูดกับผมจบแล้วก็หันไปหาคุณกรณ์

"ไอ้กรณ์กุญแจรถล่ะ" พูดพร้อมกับยื่นมือไปรอรับของ

"นี่ครับ รถผมจอดไว้ด้านหลังรีสอร์ทนะครับ"

"ขอบใจ ไปไอ้ตัวยุ่ง" หืม

"ผมไม่ยุ่งสักหน่อย" ว่าแบบนั้นแต่ก็เดินตามเขาต้อยๆ คนขับพร้อม คนนั่งข้างๆก็พร้อม

"เราจะไปไหนกันก่อน"พลขับถามขึ้นมา

"ไปไร่ชาแถวๆรีสอร์ทก่อนไหมครับแล้วค่อยขึ้นดอยไปดูตะวันตกดินกัน" คนฟังพยักหน้าแล้วขับรถออกไปยังจุดหมาย

"ต้น เอากล้องมาหรือเปล่า" พี่ธารหันมาถามผม

"ต้องเอามาด้วยหรอครับ" ผมถามกลับ

"เอ้า ก็นายมาเที่ยวจะไม่เก็บภาพไปอวดเพื่อนหรือไง"

"อ้อออ ผมใช้มือถือก็ได้ครับ" พูดแล้วก็ยิ้มให้คนถาม

"แล้วแต่ก็แล้วกัน" จากนั้นทั้งรถก็เงียบแต่ก็ไม่ได้อึดอัดอะไร ผมมองวิวข้างทางอย่างตื่นเต้นจนมาถึงที่หมาย ผมก็ลงจากรถพร้อมกับคนขับแล้วก็เดินไปพร้อมกัน ไร่ชานี้เป็นไร่ชาที่ค่อนข้างกว้างทีเดียว มองไปทางไหนก็เขียวไปหมด สวยครับสวยมากเลย ผมเดินไปถ่ายรูปมุมโน้นทีมุมนี้ที แล้วก็ยังขอชาวเขาที่กำลังเดินดูไร่ถ่ายรูปคู่ด้วยกัน โดยมีคนตัวโตเดินตามแล้วก็มองโน้นมองนี้ไปเรื่อย จนในที่สุดก็เดินมาถึงจุด view point ที่จะมีเก้าอี้ให้นั่งถ่ายรูปแล้วด้านหลังจะเห็นบรรยากาศของไร่ ถ่ายภาพเซลฟี่ตัวเองสองสามรูปแล้วก็นั่งพักโดยไม่ได้สนใจคนตัวโตเลย

"นี่ต้น นายลืมฉันหรือเปล่าเนี่ย" ผมเงยหน้ามองคนที่กำลังนั่งลงข้างๆผม

"เปล่านะครับ ผมก็เห็นคุณเดินตามมาตลอดแหละ"

"แล้วทำไม นายถ่ายรูปอยู่คนเดียว ไม่เห็นถ่ายกับฉันบ้างเลย" ผมขมวดคิ้ว

"ก็ ผมคิดว่าพี่ไม่ชอบ"

"หึ นายชื่อธารหรือไง ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าไม่ชอบ"คนพูดเลิกคิ้วถาม

"งั้นจะถ่ายไหมครับเดี๋ยวผมถ่ายให้"

"คนเดียวฉันไม่ถ่ายหรอก แต่ถ้า...ถ่ายกับนายจะได้ไหม"

"เอ๊ะ ถ..ถ่ายกับผม"

"ใช่ไงก็เรามากัน2 คนก็ถ่ายคู่กันสิคนอื่นจะได้รู้ว่ามาด้วยกัน ตามนั้นนะมือถือฉันแล้วกัน เขยิบมา มองกล้อง ยิ้ม"

จัดแจงเก่ง ส่วนผมก็เออออเก่งตามเขาไป

"เอาหน้ามาใกล้ๆ หน่อยสิรังเกียจฉันหรอ"

"เปล่า แต่นี้มันก็ใกล้มากแล้วนะคุณ แก้มผมจะชนแก้มคุณอยู่แล้ว"

"ก็ให้มันชนไปสิ เขยิบมา เอาอีกรูป หนึ่ง สอง ซั่ม" มีความสุขอยู่คนเดียว ถ่ายเสร็จก็นั่งดูรูปแล้วก็ยิ้ม โดนตัวไรมาว่ะนั้น

" เราไปด้านบนดอยต่อเลยไหมครับ" ผมหันไปถาม

"ไปสิ" ว่าเสร็จก็ลุกเดินนำผมไปเลย เราออกจากไร่แล้วขับขึ้นไปบนดอย เป็นดอยที่ไม่สูงไม่ชันมากครับ พี่กรณ์เล่าว่าบนดอยนี้จะมีหมู่บ้านชาวเขาเล็กๆอาศัยอยู่ และในหมู่บ้านจะมีลานดูดาว ซึ่งเป็นลานกว้างๆเป็นหน้าผาสามารถชมวิวได้ในตอนกลางวัน ส่วนกลางคืนก็สามารถถือตะเกียงมาดูดาวได้ในตอนกลางคืน พี่ธารจอดรถไว้ที่หน้าหมู่บ้าน แล้วเราก็เดินเข้าหมู่บ้านไปตามทางเพื่อไปที่ลานดูดาวแต่เราจะไม่ไปดูดาวนะ เราจะไปดูวิวกัน เดินผ่านเด็กชาวเขาที่กำลังวิ่งเล่น ส่วนชาวเขาในหมู่บ้านไม่ได้สนใจเรามากนัก อาจจะรู้ว่าเราเป็นแค่นักท่องเที่ยวที่นานๆจะมาสักที เมื่อเดินมาถึงที่ลาน ท้องฟ้าก็เริ่มทอสีอ่อนลงพอดี ผมเดินไปที่หน้าผาเพื่อรอชมพระอาทิตย์ตก ภาพตรงหน้าสวยมากจริงๆ ท้องฟ้าทอประกายสีส้ม ผมยิ้มรับกับภาพตรงหน้า

แชะ

ผมหันไปทางเสียงก็เห็น พี่ธารกำลังลดโทรศัพท์มือถือลง

"หืม พี่ธารถ่ายรูปผมหรอ"

"ใช่สิ เห็นทำหน้าเคลิ้มตลกดี"

"ถ่ายพระอาทิตย์สิพี่ กำลังจะตกแล้วสวยด้วย"

"ไม่อ่ะ นายน่ารักกว่าเยอะ"

"ห๊ะเมื่อกี้ว่าไงนะ"

"ฉันบอกว่าเมื่อกี้เดินมา เห็นชาวบ้านถือฟักน่ากินดี" ใช่หรอว่ะ

"ครับๆ พี่ดูสิสวยเนอะ" ผมชี้ให้ดู

"อืม" ตอบมาเหมือนไม่ได้มีความรู้สึกดีใดๆทั้งสิ้น เฮ้อ

พวกเรานั่งรับลมสักพักจนพระอาทิตย์พ้นขอบฟ้า จากลมเย็นๆก็เริ่มหนาวแล้วครับ

"กลับเถอะ เริ่มเย็นแล้ว" พี่ธารเอ่ยชวน

"ครับ" เราทั้งคู่เดินกลับไปทางเดิมเพื่อจะไปที่รถ เพราะตอนนี้เย็นครับอยากขึ้นรถมากต้องการความอบอุ่น

บรื้นน บรื้นน ฟืดด ฟืดดด

"หืม รถเป็นอะไรครับพี่ธาร" ชักเห็นแววความพินาศแล้ว

"ไม่รู้อ่ะ อยู่ๆก็ไม่ติด"

บรื้นน บรื้นน ฟืดด ฟืดดด

"พี่ เราจะทำไงกันดี"

"ใจเย็นๆ เดี๋ยวพี่โทรบอกไอ้กรณ์ก่อน" แล้วคนพูดก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาโทร

(ครับนาย)

"รถฉันเสียตรงทางเข้าหมู่บ้านชมดาว แกส่งคนมารับทีสิ"

(หรอครับ งั้นเดี๋ยวผมไปถามคนขับแปปนึงนะครับ) 

คนคุยโทรศัพท์หันมามองหน้าผมแล้วยิ้มให้ก่อนกลับไปคุยต่อ

(นายครับ)

"ว่าไง จะมารับหรือยัง"

(ต้องขอโทษด้วยครับนาย พอดีคนขับเขาบอกว่าช่วงนี้สัตว์ป่าออกหากินกลางคืนเยอะไม่ค่อยมีใครขึ้นดอยกลางคืนกันหรอกครับ)

"หมายความว่าฉันต้องอยู่ที่นี่แกจะไม่มารับฉันใช่ไหม"

(ก็มันเลี่ยงไม่ได้ครับนาย ยังไงเดี๋ยวผมจะให้คนไปรับแต่เช้านะครับ)

"เฮ้อ ฉันจะทำอะไรได้ว่ะ แค่นี้นะ"

(ครับ ขอให้มีความสุขครับนาย)

"แกลองมาติดในรถแบบฉันไหมล่ะ"

(เออจริงสินาย ตรงลานดูดาวจะมีกระท่อมอยู่นายเข้าไปพักในนั้นก็ได้นะครับ น่าจะพอมีหมอนผ้าห่มอยู่ชาวบ้านเขาเคยเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวพักนะครับ)

"เออๆเดี๋ยวจะลองเดินกลับไปดู"

(รักษาสุขภาพนะครับ อย่ามัวดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์เพลิน)

"แล้วแกอยากกินตรีนไหมล่ะ"

(ฮ่า ฮ่าฮ่า ผมลาล่ะครับนาย)

"คุณกรณ์ว่าไงครับ"ผมถามเพราะอยากกลับแล้ว

"เราคงต้องอยู่นี่คืนนึง ไม่มีใครมารับเราตอนกลางคืนหรอกสัตว์มันออกหากิน"

"ต้องนอนนี้จริงๆหรอครับ" ผมทำหน้าคิดจะนอนไงว่ะปวดขาตายเลย

"ไอ้กรณ์บอกมีกระท่อมแถว ลานดูดาวน่าจะมีหมอนผ้าห่ม เราจะไปพักที่นั้นกัน"

"เฮ้อ ค่อยยังชั่วขืนนอนในนี้ปวดขาแน่ๆ" ผมยิ้มให้พี่ธาร เขามองหน้าผมแล้วส่ายหน้า

"ไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันเอาไฟในโทรศัพท์ส่องทางให้"

"ครับ" ว่าเสร็จก็เดินลงรถ แล้วค่อยๆเดินตามคนตัวโตไป

"ต้น มาเดินข้างๆฉัน"

"ทำไมล่ะครับ คุณส่องทางผมเดินตามสะดวกดี"

"แล้วถ้าฉันหันมาอีกที นายโดนอะไรคาบไปทำไง มาเดินข้างกันฉันจะได้ไม่ต้องมองทั้งทางมองทั้งนาย" ผมพยักหน้าแล้วเดินขึ้นมาอยู่ข้างๆเขา เดินได้ไม่กี่ก้าวก็รู้สึกอุ่นที่มือ ผมก้มไปมองก็เห็นเขากุมมือผมอยู่ แล้วผมก็เงยหน้ามามองเขา เห็นพี่ธารมองทางเดินแล้วก็เดินไปเรื่อย ก่อนจะพูดขึ้นทั้งที่ตายังคงมองทางอยู่

"อากาศมันเย็น จับมือกันไว้แบบนี้จะอุ่นขึ้น อีกอย่างเราจะได้ไม่หลงกันด้วย เพราะทางมันมืด" ผมมองหน้าเขาแล้วก็ก้มหน้ามองทางเดินต่อ ไม่รู้ทำไมนอกจากมือจะอุ่นแล้วใจผมก็พลอยอุ่นไปด้วย งื้อผมต้องป่วยเพราะอากาศหนาวแน่ๆ เราจูงมือกันไปเรื่อยก่อนจะเห็นกระท่อมน้อยๆ อยู่ทางขวามือก่อนจะถึงลานดูดาว ผมเข้าไปในกระท่อมลองสำรวจภายในดู พบว่ามันค่อนข้างสะอาดเหมือนพึ่งมีคนมาทำความสะอาดมันเมื่อไม่นานมานี้ แถมมีฟูกรองนอนที่ม้วนเอาไว้ ผ้าห่ม และหมอนที่ค่อนข้างใหม่ แถมที่มุมของกระท่อมยังมีผลไม้และอาหารกระป๋องอีกต่างหากเหมือนกับว่ามีคนจะมาพักที่นี่อย่างนั้นแหละ ผมเดินไปดูที่อาหารหยิบขึ้นมาสำรวจเล็กน้อย

"พี่ธารหิวไหมครับ ที่นี่มีผลไม้กับอาหารกระป๋องเรามากินกันไหม" พี่ธารหันมามองแล้ว เดินมาหาผม

"เอาสิ ไม่งั้นหิวตายแน่ๆ" ผมจึงจัดการแกะอาหารกระป๋องแล้วส่งให้เขา แล้วค่อยแกะให้ตัวเองบ้าง เราต่างก้มหน้าก้มตากินไม่สนใจอะไร จนอาหารเกลี้ยง

"แปลกจังนะครับ อย่างกับมีคนรู้ว่าเราจะมาพักเตรียมให้เสร็จเลยทั้งของกินทั้งที่นอน"  ผมหันไปพูดกับเขา

"เห็นไอ้กรณ์บอกเขาให้นักท่องเที่ยวที่ค้างคืนที่นี่พัก ไม่รู้เรามาแย่งที่ใครหรือเปล่า"

"ไม่น่าจะแย่งนะครับเพราะเหมือนจะมีแต่เรา ไม่เห็นใครที่นี่เลย"

"อืม งั้นฉันขอไปดูข้างนอกหน่อยนะ สำรวจก่อนเพื่อความปลอดภัย"

"ครับ เดี๋ยวผมปูที่นอนไว้ให้" คนตัวโตเดินออกไปข้างนอกแล้ว ผมจึงเคลียซากของกินแล้วเตรียมจัดที่นอน พอปูที่นอนออกมา ตายล่ะหว่า ฟูกที่คลี่ออกมา มันขนาดไม่กว้างมากเป็นฟูกเดี่ยวที่นอน 2 คนได้ แต่ตัวต้องไม่ใหญ่อย่างคุณธารกับผม แล้วเราจะนอนกันยังไงเนี่ย เอาว่ะนอนพื้นก็ได้หมอนก็มี คิดได้ก็ปูที่นอนต่อจนเสร็จ กะว่าจะเดินไปรับลมก่อนนอนสักหน่อย แต่คนตัวโตดันเขามาเรียกซะก่อน

"ต้น ฉันมีอะไรจะให้นายดูมานี่สิ" คนพูด พูดอย่างตื่นเต้นแล้วก็ลากผมไปทางลานดูดาว จุดเดิมที่เรามาเมื่อตอนดูพระอาทิตย์ตกดิน

"เงยหน้าดูสิ ดาวเต็มไปหมดเลยสวยมาก" ผมเงยหน้ามองตามคำพูดคนตัวโต

"ว้าว สวยจังเลยพี่ธาร ดาวเต็มไปหมดเลย"

"อืมสวยเนอะ ภาพแบบนี้หายากในกรุงเทพ นานๆทีเจอแบบนี้ก็ดีนะเหมือนชาร์ตพลังเลย" ผมหันไปมองคนพูดแล้วเอามือที่ไม่ได้ถูกจับไว้ ไปสัมผัสที่หน้าเขา

เบาๆ จนเขาสะดุ้ง

"เหนื่อยหรือครับ" เขามองหน้าผมแล้วเบนสายตาไปทางมือ ผมมองตามเขาแล้วรีบชักมือออก

"ผมขอโทษครับ"

"ไม่เป็นไร มือนายแค่เย็นนะ" ผมยิ้มแหยๆ ก่อนที่เขาจะปล่อยมือจากมือผมอีกข้างที่ลากผมมา แล้วเดินอ้อมไปด้านหลังแล้วกอดผมจากทางด้านหลัง ยื่นหน้ามาข้างหน้า

จนแก้มแนบแก้มกัน คุณพระผมทำอะไรไม่ถูกแล้ว แม่จ๋าช่วยต้นด้วย

"แก้มนายเย็นจัง ตัวก็สั่นหนาวมากหรอ หืม "  จะมาหืมอะไรล่ะ

"ก..ก็นิดหน่อยครับ แต่พี่ธาร ก...กอดต้นทำไมครับ" ผมขยับใบหน้าออกจากหน้าของเขาแล้วหันไปมองสบตากับเขา

"มือต้นเย็น แล้วอากาศก็หนาวผ้าห่มก็ไม่ได้เอามา กอดกันไว้จะได้อุ่นๆไง"

"แต่ต้นไม่ใช่ผู้หญิง พี่ปล่อยเถอะครับ" ผมค่อยๆขยับตัวออกแต่พี่ธารกลับกอดแน่นกว่าเดิม

"นิ่งๆสิ ไม่เห็นเกี่ยวเลยจะหญิงหรือชาย พี่แค่หนาวเลยอยากจะทำให้ตัวเองอุ่น เท่านั้นเอง"

"เดี๋ยวต้นไปเอาผ้ามาให้ก็ได้ครับ"

"พี่พึ่งหายเจ็บนะยืนรอนานพี่ไม่สบายอีก เราจะรับผิดชอบไหมล่ะ"

"แต่ว่าา"

"ไม่ต้องพูดแล้วยืนให้พี่กอดก็พอ" คนไม่ใช่ตุ๊กตาจะมากอดอะไรเล่า

"เที่ยวทั้งวันตัวยังหอมอยู่เลยนะเราเนี่ย" โอ๊ยยแม่ต้นอยากโดดหน้าผา

"พี่จะดูดาวก็ดูไปสิ พูดเยอะจังนะวันนี้เนี่ย"

"หึ หึ "

ยืนชื่นชมธรรมชาติอยู่อีกพักใหญ่ๆพี่ธารก็ลากผมกลับมาที่กระท่อมเพราะอากาศเริ่มเย็นมากขึ้น มาถึงพี่ธารก็เดินไปเอาตะเกียงจ้าวพายุที่มีในกระท่อมมาจุดก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนฟูกที่ผมปูไว้ ส่วนผมก็ไล่ปิดหน้าต่างเพื่อกันลมเข้า ภาคเหนือแถมบนดอยอีกไม่หนาวก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว จากนั้นผมก็เดินมาตรงฟูกนั่งคุกเข่าลง แล้วหยิบหมอนอีกใบมาไว้ในมือ แล้วเดินไปอีกมุมของห้องก่อนจะทิ้งตัวลงนอน

"ต้น ทำอะไร" เสียงพี่ธารทักขึ้น ก่อนหัวผมถึงหมอนพอดี

"ก็จะนอนไงครับ"

"แล้วทำไมไปนอนตรงนั้น ไม่มานอนกับพี่"

"ก็ผมกลัวพี่นอนไม่สบาย ฟูกมันเล็ก แถมผ้าห่มผืนเดียวก็ไม่หนามากด้วย"

"อย่ามาอ้างมานอนกับพี่เดี๋ยวนี้ ขืนเรานอนตรงนั้นเราจะป่วยเอา ผ้าปูก็ไม่มี ผ้าห่มก็ไม่มี"

"แต่ว่าผม..ผม" นึกข้ออ้างไม่ออก จะบอกว่ากลัวเขาด้วยก็ไม่กล้า

"ผมอะไร มานอนกับพี่เดี๋ยวนี้ จะดื้อก็ดูอากาศด้วย" ก็จริงว่ะแค่นั่งพื้นยังเย็นตูดเลย

"ก็ได้ครับ" ผมตอบตกลงแล้วเดินกลับไปที่ฟูก วางหมอนลงอีกฝั่งของคนตัวโตแล้วค่อยๆทิ้งตัวลงนอนหันหลังให้พี่ธาร

ผมนอนตัวเกร็งแทบไม่กล้าขยับ จนคนตัวโตคงนึกรำคาญจึงขยับผ้าห่มมาห่มให้ผม แล้วตัวเองก็นอนลงไปที่เดิม

"ต้น ไม่หนาวหรอขยับมาใกล้ๆกันหน่อยก็ได้"

"ม..ไม่ค่อยหนาวครับ ผ้าห่มพอช่วยได้" โกหก มันก็ยังเย็นๆอยู่นั้นแหละ

"แต่พี่หนาว สั่นเลยเนี่ยขอขยับเข้าไปใกล้ๆต้นได้ไหม ที่มันว่างอ่ะลมมันเลยแทรกเข้ามาได้" เอาลมที่ไหนมาแทรกว่ะ

"นะ ต้นพี่หนาวจริงๆนะ"เสียงสองมาอีกแล้ว

"ก็ขยับเข้ามาสิครับ" พูดจบผมได้ยินเสียงขยับทันที ผมขนลุกเลยครับสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่รดต้นคอ ใกล้ไปแล้วโว้ย ผมใจเต้นระส่ำไปหมดเหมือนคนหัวใจจะวาย พยายามสูดหายใจลึกๆเพื่อสงบอารมณ์ตัวเอง ถ้าไม่มีใครขัดขึ้นมาก่อน

"ต้น พี่ติดหมอนข้างอ่ะ นอนไม่ค่อยหลับเลย ขอกอดหน่อยได้ไหมเผื่อพี่จะหลับ" มึงจะเกินไปแล้วไอ้เด็กโข่ง

"ผมไม่เคยเห็นบนเตียงพี่มีหมอนข้างเลย เอาที่ไหนมาติดครับ"

"เออนั้นแหละ ตอนนี้พี่ก็ยังไม่หายหนาวด้วยขอกอดหน่อยนะเหมือนเมื่อกี้อ่ะ"

หมับ

พูดจบมือใหญ่ก็พาดมาบนเอวผมแล้วดึงเข้าไปหาตัวเขาจนแผ่นหลังผมปะทะกับอกของพี่ธาร ผมจะขยับออกแต่พี่ธารก็กอดแน่นกว่าเดิม

"โห หายหนาวเลยอ่ะ คืนนี้พี่คงไม่แข็งตายแล้วล่ะ" ผมถอนหายใจแล้วหยุดดิ้นหลังจบประโยค ก่อนร่างกายผมจะค่อยๆคลายความเกร็งหลังผ่านไปซักพัก

"เราใกล้กันขึ้นอีกแล้วนะต้น" ผมหันหน้าไปตามเสียงจนจมูกชนกับจมูกของพี่ธาร เลยต้องถอยหน้าออกเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าจะใกล้กันขนาดนี้

"พี่ธารกอดต้นขนาดนี้ไม่ใกล้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ" ผมสะบัดเสียงใส่นิดๆ

"หมั่นเขี้ยว ว่ะ" พี่ธารว่าเสร็จก็กัดจมูกผมเบาๆ

"ฮึ้ยยย พี่ธาร อย่าแกล้งต้น" ผมลูบจมูกตัวเองป่อยๆ

"ก็อย่าทำตัวให้น่าแกล้งสิ" ยังไม่ได้ทำอะไรเลยเถอะ

"นอนไปเลย ต้นจะนอนแล้ว" ว่าแล้วก็หันหน้าหนีแล้วหลับตาลง แล้วค่อยๆเข้าสู่ห้วงนิทรา จนไม่ได้ยินเสียงคนข้างหลังที่พูดอะไรบางอย่าง

"พี่กำลังตกหลุมที่พ่อพี่วางไว้แล้วรู้ไหมต้น  ถ้าต้นยังทำแบบนี้ พี่จะไม่สามารถปล่อยต้นได้นะรู้ไหม" คนพูดมองคนที่กำลังหลับด้วยสายตาที่อ่อนโยน

อย่างไม่รู้ตัว แล้วค่อยๆกดจูบที่เส้นผมอ่อนนุ่มอย่างหวงแหน สูดกลิ่นหอมอ่อนๆที่ชอบนักหนาจนพอใจแล้วผละออกมาอย่างเสียดาย

"เด็กดีของพี่ธาร" คนตัวโตพึมพำกับตัวเองก่อนจะค่อยกระชับอ้อมกอดให้คนในอ้อมแขนชิดกันมากขึ้น แล้วกอดเอาไว้อย่างกับกลัวใครจะมาแย่งไป ก่อนจะจมลงสู่ห้วงนิทรา

..................
อีกด้านหนึ่งตรงบริเวณหลังกระท่อม

ตรู๊ดดด ตรู๊ดดดดดดด

(ไงไอ้กรณ์ ฉันได้สะใภ้แบบเต็มตัวยังว่ะ)

"ยังครับนายใหญ่ คิดว่าคงอีกไม่นานครับ"

(แล้วมันติดตรงไหนว่ะ หรือไอ้ลูกมามันทำไม่เป็น)

"คาดว่าจะทำเป็นนะครับ แต่คงห้ามใจไม่ให้ทำมากกว่า"

(เออค่อยยังชั่ว ท่าทีมีหวังไม่ว่ะไอ้กรณ์)

"โอ๊ย มียิ่งกว่าหวังอีกครับ แต่คงฟอร์มจัดอยู่แหละครับ ใครจะอยากเสียหน้า ไม่ทันถึง3เดือนตกหลุมซะแล้ว"

(เออดี แกทำดีมากแล้วก็ออกมาจากตรงนั้นได้แล้วค่อยโผล่ไปใหม่ตอนเช้า)

"กรณ์จัดให้เลยครับ"

(มีความคืบหน้าอะไรรายงานด้วยล่ะ)

"รับทราบครับ"


Tbc
.................................

 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
อีพี่เริ่มหลงน้องแล้วนะคะ แต่พยายามจะไม่หลง แกงงตัวเองอยู่หรือเปล่าเนี่ย

อย่าท่าเยอะเดี๋ยวแช่งให้น้องไปชอบพี่เทียนเลย คุณพ่อตีหัวอีพี่ธารเลยค่ะ

หรือเราจะให้ใครเอาน้องไปซ่อนดีคะ ยังไงก็ให้กำลังใจน้องกันด้วยนะคะ

ว่าเมื่อไหร่อีพี่จะเลิกฟอร์มซะที ช่วงนี้ก็จะฟินๆหน่อยนะคะ

ตอนนี้เรากำลังคิดว่าควรให้น้องท้องได้ดีไหม รีดเดอร์ว่ายังไงคะ

ถ้าอยากให้น้องท้องก็เม้นมาบอกกันได้นะคะ รักทุกคน

และขอบคุณทุกเม้นนะคะ


 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:


หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 6 เชียงราย <04/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 04-05-2019 20:53:41
 :z1:



 :กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 6 เชียงราย <04/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 04-05-2019 21:47:03
คุณพ่อจอมวางแผน
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 6 เชียงราย <04/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 04-05-2019 23:11:05
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 6 เชียงราย <04/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-05-2019 14:41:15
ทริปนี้น้องต้นได้สามีแน่จ้า555
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 6 เชียงราย <04/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-05-2019 01:50:45
สนุกดีครับ ท้องหรือไม่ท้องก็ได้ครับ
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 6 เชียงราย <04/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 08-05-2019 16:56:48
 :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 6 เชียงราย <04/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 08-05-2019 20:36:41
รักนี้พ่อจัดให้ของจริงวางแผนทุกอย่าง จนลูกชายอย่างพี่ธารตกหลุม
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 7 ห่างเหิน <11/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Garuda8 ที่ 11-05-2019 13:24:52
ตอนที่ 7

ห่างเหิน


   แสงแดดยามเช้าที่ลอดเข้ามาในกระท่อมทำให้ผมลืมตาตื่นขึ้นมา กระพริบตาถี่ๆไล่ความง่วง ก่อนจะหันไปที่ว่างข้างๆ
ก็ต้องแปลกใจเพราะคนที่ควรจะนอนอยู่ข้างๆ กลับหายไป ผมลุกขึ้นแล้วเปิดประตูออกไปเพื่อหาพี่ธาร เดินไปถึงลานดูดาวก็เห็น
คนตัวโตยืนอยู่ที่ลาน มองวิวทิวทัศน์เบื้องหน้า แต่เหมือนไม่ได้ชื่นชมธรรมชาติน่าจะจมอยู่กับความคิดตัวเองมากกว่า

"พี่ธาร ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจังครับ" ผมเรียกเขาเมื่อเดินมาถึงตัว เขาหันมามองหน้าผมนิ่งๆก่อนค่อยๆยิ้มให้แต่เป็นยิ้มที่มันทำให้ผม
รู้สึกถึงระยะห่างที่มันไม่เหมือนเดิม

"นอนไม่ค่อยหลับนะ เลยออกมาเดินเล่น เมื่อกี้ฉันโทรหาไอ้กรณ์แล้วมันกำลังมา"

ผมพยักหน้ารับแล้วก็ไม่มีบทสนทนา
อะไรเกิดขึ้นอีก ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันน่าอึดอัด ผมไปทำอะไรให้โกรธหรือเปล่านะ อาจจะนอนกินที่เขาก็ได้ ผมกำลังจะ
ถามออกไป แต่คุณกรณ์ก็เข้ามาทักขึ้นพอดี

"นายครับ ผมมาแล้วกลับเลยไหมครับ"

"อืม" แล้วพี่ธารก็เดินนำไปโดยไม่ได้หันมามองผมแม้แต่น้อย เกิดอะไรขึ้น

หลังจากที่กลับมาจากบนดอยต่างคนก็ต่างทำงานของตัวเอง ผมกับพี่ธารจึงไม่ได้คุยกันมากนัก กลับมาก็ต่างคนต่างเก็บของ
เพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพ ในตอนเช้า ผมคิดว่าเขาคงเหนื่อยเลยไม่อยากจะพูดอะไรมากคงต้องการพักผ่อน แต่ผมคิดผิด
 
  พอกลับมากรุงเทพระยะห่างก็ยิ่งห่างจนดูออกอย่างชัดเจน ในตอนเช้าเขาจะออกไปทำงานก่อนทุกวันโดยให้คุณกรณ์มาบอก

ผมส่วนตัวผมออกไปเวลาปกติ ออกไปพร้อมคุณกรณ์ บนโต๊ะอาหารตอนเช้าจึงเหลือแค่ผมกับคุณกรณ์ พอไปที่ทำงานก็ต่างคน

ต่างทำงาน ผมพยายามมองเขาแต่ก็เห็นเขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ปกติเวลาจะเอาเอกสาร หรือของว่างจะเรียกผมแต่นี้กลับโทร

ไปสั่งคุณกรณ์ที่นั่งทำงานอยู่ข้างนอกให้เอาเข้ามาให้ ตอนเย็นเขาก็บอกมีนัดเกือบทุกวัน เช่นเดิมโต๊ะอาหารตอนเย็นคงมีแค่ผม

กับคุณกรณ์ผมไม่รู้ว่าคิดในแง่ร้ายเกินไปหรือเปล่า พี่ธารเหมือนกำลังหลบหน้าผม ทั้งที่ผมคิดว่าความสัมพันธ์เราดีขึ้นมากเหนือ

ความคาดหมายแล้ว

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขามีนัดแล้วคงกลับดึกอีกตามเคย ผมไม่รู้หรอกว่ากลับกี่โมงเพราะผมหลับก่อนตลอดเลย วันนี้มันครบอาทิตย์พอดี พรุ่งนี้ก็วันเสาร์ ยังไงผมก็จะคุยกับเขาให้รู้เรื่องว่าผมทำอะไรผิด

ห้าทุ่ม

เที่ยงคืน

ตีหนึ่ง

"ทำไมกูต้องมารอเคลียทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยว่ะเนี่ย"

ตีสอง

ตีสาม

ผมนั่งตาจะปิดอยู่ที่โซฟาหัวเริ่มเอียงต่ำลงเรื่อยๆ ทันใดนั้น

แกร๊ก

รีบยกตัวขึ้นให้ตรงแล้วมองไปที่ประตู คนที่พึ่งเข้ามาในห้องปิดประตูแล้วหันมา พอเจอผมก็ชะงักเล็กน้อยก่อนทำสีหน้าปกติ

"ยังไม่นอนหรอ"

"ยังครับผมรอพี่ มีเรื่องอยากคุยด้วย" เขาขมวดคิ้ว

"มีอะไรทำไมไม่คุยพรุ่งนี้นี่มันดึกแล้ว"

"ถ้าคุยพรุ่งนี้ผมคิดว่า ผมคงไม่ได้คุยเพราะพี่คงหาเรื่องหลบหน้าผมอีก"

"พูดอะไรของนายง่วงมากก็ไปนอนไป" เขาเดินเลี่ยงไปที่ตู้เสื้อผ้า ผมจึงเดินตามหลังเขาไป

"ช่วงนี้พี่เป็นอะไร หลบหน้าผมตลอดเลย" เขาหันมากระตุกยิ้มใส่ผม

"นี่ ใครหลบ ฉันงานยุ่งนายก็เห็น"เขาส่ายหัว

"ผมทำอะไรให้พี่โกรธหรอ มีอะไรก็บอกผมสิถ้าไม่คุยกันจะรู้ได้ยังไงว่าพลาดตรงไหน" ผมมองหน้าเขา

"อย่ามโนได้ไหม นายก็เห็นฉันยืนตรงนี้ หลบนายที่ไหนกัน" เขาเถียงกลับมา

"ก็ปกติเวลาพี่มีอะไรจะใช้ผมตลอดเลย แต่เดี๋ยวนี้พี่ใช้แต่คุณกรณ์ ไปก่อนกลับทีหลังมันแปลกนะพี่ พูดกับผมเถอะนะว่าผมทำอะไรผิด ผมจะได้แก้ไข"  เขาจ้องหน้าผมอยู่สักพัก

"หึ นี่นายสำคัญตัวผิดเปล่า ปกติตอนไม่มีนายฉันก็ใช้ไอ้กรณ์ อีกอย่างนายไม่ได้เป็นอะไรกับฉันนะอย่าลืม"

"พี่ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ตกลงผมทำให้พี่โกรธมากใช่ไหม" ผมจับแขนเขาแล้วเขย่า

"นี่ หยุดได้แล้วฉันบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรก็คือไม่เป็น เห็นฉันให้เรียกพี่ก็คิดว่าจะมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้หรือไง นายนะแค่คนที่พ่อฉันจ้างมานะ"

ผมสะอึกกับคำที่เขาพูด นั้นสินะ ผมแค่คนที่พ่อเขาจ้างมา เขาแค่ให้เรียกพี่ ทำดีด้วยหน่อยก็คิดว่าเขาเปิดใจหรือไง โง่ชะมัด

"นั้นสินะครับ ผมคงคิดมากไปเองขอโทษที่เข้าใจผิดนะครับ พี่ไม่ได้เป็นอะไรก็ดีแล้ว ตามสบายเถอะครับผมไปนอนก่อน"

จากนั้นผมก็เดินไปที่โซฟาแล้วทิ้งตัวลงนอนโดยหันหน้าเขาพนักพิง ตอนนี้ผมเหมือนกำลังหายใจไม่ออก ผมค่อยๆคุมลมหายใจ

จนตอนนี้เจ้าของห้องทำธุระตัวเองเสร็จแล้ว และทิ้งตัวลงนอนไฟในห้องก็ดับลง ถึงตอนนี้ผมก็ยังเจ็บจนจุกไปหมด ผมอาจจะ

เคยตัวกับการดูแลเขาจนลืมว่าตัวเองเป็นใคร ผมเอามือจับที่หน้าอกทุบมันเบาๆ เมื่อนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา ผมคงรู้สึกกับพิเศษกับ

เขาเข้าแล้วแต่เมื่อนึกถึงคำพูดเขาแล้วน้ำตาก็พลันไหลออกมาไม่รู้ตัว ไหลออกมาเงียบๆไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้น จนเผลอหลับไป

ตอนไหนไม่รู้


     ในตอนเช้าผมลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเองปกติ แต่ผมคงไม่อยู่ทานข้าวเช้าด้วยหรอกถึงจะเป็นวันเสาร์ก็ตามเมื่อไม่ได้อยากเห็นหน้าผม ผมก็จะไม่อยู่กวนใจ ผมตัดสินใจกลับมาเยี่ยมแม่ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ได้แต่คุยโทรศัพท์เท่านั้น

"แม่ครับต้นกลับมาแล้ว" ผมไขกุญแจเข้าบ้านได้ก็ตะโกนเรียกแม่

"อ้าวต้น มายังไงไม่โทรมาบอกแม่ก่อนล่ะ แล้วกินข้าวมาหรือยัง" คุณนายเขายิ้มร่ามาจากหลังบ้าน ผมจึงเดินไปกอด

"ยังเลยครับ ก็จะมากินกับแม่นี้แหละ" ผมยิ้ม

"งั้นไปทำอะไรกินกันดีกว่า ต้องฉลองนะต้นกลับมาเนี่ย" แล้วคุณนายก็ลากผมไปทำโน้นทำนี้ จนผมลืมเรื่องเครียดไปเลย

"ต้นวันนี้ค้างกับแม่ไหมลูก" แม่ถามขึ้นคงเห็นว่าเริ่มดึกแล้ว ผมคิดอยู่แปปนึง

"ครับแม่ พรุ่งนี้เย็นๆค่อยกลับ อยากนอนกอดแม่จะแย่" ผมพูดแล้วเข้าไปกอดเอวแม่

"แหม ปากนี้หนอช่างหวานมีใครเคยชิมไหมจ๊ะ" ฮั่นแน่

"ใครเขาจะมาชิมล่ะแม่ก็" แม่ผมยิ้มเจ้าเล่ห์

"ก็แล้วแต่นะ ไปๆ อาบน้ำนอนกันดีกว่า"

"ครับ" ผมและแม่ต่างทำธุระแล้วมานอนกองกันบนเตียง เล่าโน้นนี้ให้กันฟังว่าเจออะไรกันมาบ้าง

"แม่ครับ ต้นถามอะไรหน่อยสิ" แม่หันมามองผม

"ว่ามาสิ" แม่ทำหน้าตั้งใจฟังเกินเหตุมาก

"คือ แม่ว่าคนที่ความสัมพันธ์กำลังดีแต่จู่ๆก็กลับแย่ลงเกิดจากอะไรหรือครับ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นยังคุยกันดีๆอยู่เลย"

"แย่ลงยังไงลูก"

"อยู่ๆก็หลบหน้า ไม่ค่อยคุยเหมือนเก่าแถมยังไม่อธิบายให้เราฟังแต่กลับมาว่าเราแทน" แม่ทำหน้าคิดสักพัก

"แม่ไม่รู้หรอกนะเพราะแม่ไม่ใช่เขา"

"อ้าว"

"หึๆ แต่แม่ว่าเขาอาจกำลังกลัวอยู่ก็ได้นะต้น กลัวความสัมพันธ์ หรือกลัวอะไรสักอย่าง แล้วคนนั้นเคยมีปมเรื่องพวกนี้บ้างไหมล่ะ"

"ก็พอมีนะครับ แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะหนักอะไร"

"หรือต้นไปทำอะไรให้เขาโกรธ"

"ต้นถามแล้วเขาก็ไม่บอก ดะ เดี๋ยว แม่หลอกถามต้นหรอ" ผมหัวเสียทำหน้างอใส่แม่

"โถ่ แกลูกฉันนะทำไมฉันจะไม่รู้ ว่าแต่หล่อไหม"

"แม่ มั่วแล้ว เขาอาจจะผู้หญิงก็ได้" แม่เบะปากส่ายหัว

"ถ้าผู้หญิงแกไม่เรียกเขาหรอก" ผมอ้าปากมองแม่

"เฮ้อ ครับผู้ชาย" ผมก้มหน้ามองมือ แล้วแม่ก็เอามือมาลูบหัวผม

"เขานะแม่ไม่รู้ แล้วต้นล่ะกลัวไหมกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น" แม่มองหน้าผมจริงจัง

"ทุกคนมีความกลัวทั้งนั้นแหละแม่ แต่ถ้ามันเป็นทางที่เราเลือกทางที่เรารักก็ต้องผ่านมันไปให้ได้แบบที่แม่เคยสอนต้นไง"

แม่ยิ้มให้ผม

"ยังไงแม่ก็อยู่ข้างต้นนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม่อยู่บ้านนี้ตลอดนะ มาได้ทุกเมื่อ หนูไผ่ด้วยก็จะอยู่ข้างต้นเหมือนกัน" ผมยิ้มแล้วโผกอดแม่

"ครับ รักแม่ที่สุดเลย" แต่สิ่งที่ผมไม่ได้บอกแม่คือความสัมพันธ์ที่ผมพูดถึงอาจไม่มีวันได้เริ่มขึ้นเลยก็ได้ แล้วจะให้ผมทำยังไง

นอกจากก้มหน้าทำหน้าที่ให้จบๆไป

  ผมกลับมาถึงบ้านหลังใหญ่ช่วงเย็นๆ ขึ้นไปวางของที่ห้องแล้วลงมาช่วยป้านิ่มทำอาหารเย็น

"คุณต้นกลับมานานหรือยังครับ" คุณกรณ์พึ่งเดินออกมาจากครัวทักขึ้น

"พึ่งมาได้แปปเดียวครับ กำลังจะไปช่วยป้านิ่มพอดี"


"ไม่ต้องหรอกครับ วันนี้นายน้อยไปทานข้างนอกนะครับ คุณต้นทานอะไรหรือยังครับเดี๋ยวผมโทรสั่งให้" ผมพยักหน้า

"ทานกับแม่แล้วครับ ถ้างั้นผมขึ้นไปพักก่อนนะครับ"ผมกำลังจะหันหลังเดินไปก็มีเสียงขัดขึ้น

"เหนื่อยหน่อยนะครับ อยู่กับคนที่ปากแข็ง" ผมหันไปมองหน้าคุณกรณ์

"ครับ?"

"ไปพักเถอะครับ" พูดจบคุณกรณ์ก็เดินจากไปปล่อยผมงงอยู่คนเดียว

คืนนี้พี่ธารก็ยังคงกลับดึก ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกกี่โมงเพราะผมไปเฝ้าพระอินทร์แล้ว ส่วนในเช้าวันจันทร์แสนน่าเบื่อ ผมยังคงโดยสาร

รถไปกับคุณกรณ์เหมือนเดิม แต่วันนี้ก็ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด เพราะพอเริ่มทำงาน จนถึงตอนเกือบเที่ยง โทรศัพท์ที่โต๊ะพี่ธารก็
ดังขึ้น

"ว่าไง"

"อืม ปล่อยเข้ามา" ผมไม่ได้สนใจบทสนทนาต่อตั้งหน้าตั้งตาทำงานก่อนจะได้ยินเสียงเปิดประตู ผมจึงหันไปมองตรงทางเข้า

ผมก็เห็นหญิงสาวสวย ตัวพอดีมือ ใส่กระโปรงสั้นเสมอหู กับเสื้อแขนกุดสีดำ ปากแดงดูก็รู้นี่มันนางเอกชัดๆ(ประชด)

"ธารขา มารุมาแล้วค่ะไปทานข้าวกันนะคะ" เจ้าของชื่อเงยหน้ามองแล้วยิ้มเล็กๆ

"ไปสิผมหิวพอดี ผมขอเก็บของก่อน" หล่อนยิ้มหวานแล้วกวาดตามองรอบห้องก่อนมาสะดุดที่ผม

"นี่ใครคะธาร ทำไมมาทำงานในห้องคุณล่ะ" พี่ธารเงยหน้าขึ้น เหลือบตามาทางผมเล็กน้อยก่อนหันไปยิ้มให้สาวสวยอีกรอบ

"คนที่คุณพ่อหาให้นะ ชื่อต้น" เขาบอกผู้หญิงของเขาก่อนหันมาหาผม

"ต้น นี่คุณมารุ " ผมหันไปมองเจ๊ปากแดงแล้วก้มหัวให้

"สวัสดีครับ"

"อ่อ คนนี้คงเป็นคนที่เขาลือๆกันใช่ไหมคะว่า พ่อคุณจะดันให้คุณ" ผมขมวดคิ้ว

"แหมหน้าตาก็ดี แต่ท่าจะยากนะจ๊ะ ธารนะเขาผู้ชาย" ผมถอนหายใจ ไม่อยากต่อปากต่อคำ

"ผมขอตัวไปทานข้าวก่อนนะครับ" ผมจงใจหันไปพูดกับพี่ธารก่อนเดินผ่านคุณมารุซึ่งหล่อนก็ไม่ยอมให้ผ่านไปง่ายๆ

เธอใช้มือจับแขนผม แล้วจิกเล็บลงมา เล็บยาวๆจิกแบบนี้ผมเลือดซิบแน่ๆ

"ฉันพูดกับนายอยู่กล้าเสียมารยาทหรอ"

"ผมขอโทษครับ แต่ผมไม่รู้จะตอบอะไร ขอตัวนะครับ" แต่หล่อนไม่ยอมยังคงจิกเล็บลงมาหนักกว่าเดิม

"มารุไปทานข้าวเถอะ อย่าไปแกล้งเลขาผมแบบนั้น" ผมหันไปมอง เลยสบตาเข้ากับแววตาเรียบเฉยของคนพูด ความน้อยใจ

ตีตื้นขึ้นมา  ที่ผ่านมาเขาคงเห็นผมเป็นตัวตลก ที่เคยพูดดีกัน คงแค่แกล้งสินะ คิดแล้วขอบตาก็ร้อนผ่าว จุกในอก ผมคิดว่าเขาจะ

เปิดใจกับผม แล้วซะอีก วันนี้ผมเข้าใจแล้ว

"ไม่มีอะไรแล้วขอตัวนะครับ" ผมรีบดึงข้อมือจากคุณมารุที่ยังกำแน่นออก จะมีแผลข่วนแถมก็ช่างมันเถอะผมอยากออกจากที่นี่

ผมรีบเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วล็อกประตู ยืนพิงประตูก่อนค่อยๆนั่งลงกับพื้น น้ำตาไหลแต่ไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้น คงเพราะผมพยายามกลืน

มันลงไปก่อนเข้ามาแล้ว ผมน้ำตาไหลอยู่อย่างนั้นสักพักจนสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าสั่น

ครืด ครืด

ผมจึงหยิบมากดรับสาย

"ครับคุณกรณ์" ผมพยายามทำน้ำเสียงให้นิ่งที่สุด

(คุณต้นอยู่ไหนครับ นายน้อยแจ้งผมว่าคงไม่กลับเข้ามาแล้ว เรากลับไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านเถอะครับ)

"ผมอยู่ห้องน้ำครับ เดี๋ยวผมออกไป"

(ครับ ผมรอลานจอดรถนะครับ)

"ครับ"  ผมวางสายไปแล้วค่อยๆเช็ดน้ำตา ผมบอกกับตัวเองว่าผมต้องไม่ร้องไห้อีก ต้องไม่ร้อง

.....................
  นั่งรถกลับมาถึงบ้าน ผมก็นั่งรอทานข้าวเที่ยงอยู่ที่โต๊ะอาหาร จนคุณกรณ์ที่หายไปตอนจอดรถเดินกลับมา แล้ว
วางบางอย่างตรงหน้าผม มันคือชุดปฐมพยาบาล ผมเงยหน้ามองคุณกรณ์ที่ตอนนี้นั่งข้างๆ ผมแล้ว

"ยื่นแขนมาครับเดี๋ยวผมทำแผลให้"

"ไม่เป็นไรครับ ผมทำเองก็ได้" ผมรีบบอก

"คุณทำไม่ถนัดหรอกครับ มาเถอะ"

"ขอบคุณครับ" คุณกรณ์ค่อยๆเอาสำลีที่ชุบแอลกอฮอลล์เช็ดที่แผลของผม

"ซี๊ดดดด" ผมสะดุ้งเล็กๆ

"เล็บนี้ร้ายกาจเหมือนกันนะครับ แผลคุณลึก แล้วไหนจะรอยข่วนนี้อีก"คุณกรณ์ส่ายหัว

"ไม่เป็นไรหรอกครับ"  หลังจากทำแผลเสร็จก็ทานข้าวกันตามปกติ เสร็จแล้วผมก็ขึ้นไปพักผ่อนคงเพราะผมเหนื่อยมาก

แถมยังร้องไห้อีกผมจึงเผลอหลับกลางวันไปได้ ตื่นมาก็ทำอาหารเย็น เดินเล่นนิดหน่อยแล้วก็เข้านอนเร็วหลังจากที่นอนดึก

มาหลายคืนเพราะใครบางคน ต่อไปนี้ผมจะไม่นั่งรอเขาเพราะเป็นห่วงอีกแล้ว ผมรู้แล้วว่าเขาไม่ได้ไปไหนเขาอยู่กับผู้หญิง

ของเขา เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่ผมต้องห่วงเขาอีกแล้ว


..............
อีกด้านหนึ่งหลังจากที่ต้นขึ้นไปนอนแล้ว ก็มีใครบางคนมายืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ห้องทำงานของเจ้านาย

(ต้นเป็นบ้างว่ะกรณ์) ปลายสายคือนายน้อยเจ้าของห้อง

"ดูเหนื่อยๆนะครับ ป่านนี้คงหลับไปแล้วล่ะครับ"

(แล้วแผลแกทำให้เขาแล้วใช่ไหม แผลรุนแรงหรือเปล่า)

"ลึกแล้วก็เยอะพอควรครับ ผมทำแผลให้แล้ว นายไม่ต้องห่วง"

(ดีแล้วล่ะ เดี๋ยวฉันจะกลับแล้วแค่นี้ก่อนแล้วกัน)

"เดี๋ยวครับนาย ถ้านายห่วงคุณต้นขนาดนี้ทำไมต้องทำหมางเมินกับคุณต้นด้วยครับ"

(แบบนี้ก็ดีแล้ว ให้เราห่างกันเยอะๆ เวลาจากกันจะได้ไม่ผูกพันธ์กัน)

"นายกลัวอะไรครับ ทำแบบนี้ผมสงสารคุณต้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำอะไรผิด ที่ต้องมาเจอแบบนี้"

(ที่ผ่านมาก็ได้รู้จักต้นมากพอแล้ว ยิ่งถลำลึกสักวันฉันจะขาดเขาไม่ได้ปล่อยไปแบบนี้ดีแล้ว)

"ผมว่าตอนนี้นายก็กำลังขาดคุณต้นไม่ได้ครับ แสดงความรู้สึกจริงๆจากใจออกมาก่อนจะสายนะครับ"

(ฉันรู้ว่าฉันต้องทำอะไร แค่นี้นะ)

"ครับ" กรณ์วางสายแล้วได้แต่ถอนหายใจ
..............
  วันนี้ผมตื่นมาทำงานด้วยความสดใส บรรยากาศก็กดดันเหมือนเดิม ผมพยายามทำตัวปกติของผมอยู่ในที่ของผม

สงบสุขเรื่อยมา จนพอใกล้เที่ยง เหตุการณ์ก็เหมือนเมื่อวานเป๊ะ คุณมารุเธอมาอีกแล้ว แล้ววันสงบก็ไม่สงบอีกต่อไป

เธอมาที่นี้ทุกวัน และก่อนออกไปทานข้าวกับพี่ธาร เธอก็ต้องแกล้งแขวะ แกล้งแซะ หรือแม้กระทั่ง แกล้งทำน้ำหกใส่ผม

ผมสงบจนถึงที่สุด ผมพยายามมองเจ้าของห้อง ผมไม่ได้หวังว่าเขาจะช่วยผม แค่เขาห้ามปรามเธอบ้างก็ยังดี ไม่รักกันก็

เห็นใจผมไม่ใจร้ายกับผมนักก็พอ แต่ก็ไม่ได้รับเสียงสะท้อนอะไรกลับมา คุณมารุยิ่งไม่มีคนห้ามก็ยิ่งเอาใหญ่
 
  ในที่สุดก็ถึงวันที่ผมรอคอยวันเสาร์ที่ผมจะได้ไม่ต้องเจอคุณมารุ ตอนเช้าผมตื่นขึ้นมาทำกิจวัตรปกติ พอเกือบๆเที่ยงผมก็

เดินลงไปเตรียมตัวจะทำมื้อเที่ยง กำลังเดินลงมาก็ได้ยินเสียงเหมือนใครคุยกันจึงเดินไปดู แล้วนั้นแหละครับ คุณมารุปากแดง


"ธารคะ พอมารุไปเดินดูรอบบ้านหน่อยนะคะ" อ้อนเข้าไป

"ไปสิ ป้านิ่มครับเดี๋ยวขอของว่างไปตั้งตรงสระว่ายน้ำด้วยนะครับ"

"ได้ค่ะ"

บทสนทนาอยู่ในหูผม ผมเดินเลี่ยงไปเข้าครัว เพื่อเตรียมของให้ป้านิ่ม ส่วนป้านิ่มเมื่อเดินเข้ามาก็จัดของว่างให้แขกทันที จัดเสร็จก็หันมาหาผม

"คุณต้นคะ ป้าวานเอาขนมไปให้นายที่สระว่ายน้ำหน่อยนะคะ เดี๋ยวป้าทำอาหารเที่ยงไม่ทัน" ผมทำหน้าเบ้

"แต่ว่า"

"นะคะคุณต้น" เฮ้อ

"ก็ได้ครับ" ผมรับคำแล้วเดินไปยกของว่างไปรอที่สระน้ำ เดินไปก็เห็นคู่รักโดยมีฝ่ายหญิงเกาะแขนฝ่ายชายชี้โน้นนี้

ผมเดินเอาของไปวางที่โต๊ะริมสระน้ำ แล้วเอ่ยขึ้น

"ของว่างได้แล้วนะครับ" แล้วก็จะเดินหลบไปแต่คุณมารุเอ่ยทักขึ้น

"ตายแล้วนี่อยู่นี้ด้วยหรอ เกาะติด 24 ชั่วโมงเลยนะย่ะ" ผมได้แต่ยิ้มให้ ว่าตัวเองทำไมยายคนนี้

ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์ของพี่ธารดังขึ้นขัดจังหวะก่อนที่คุณมารุจะแซะผมต่อ

"ต้นนายอยู่เป็นเพื่อนมารุแปปนะ ฉันไปคุยธุระก่อน" แล้วพี่ธารก็เดินไปโดยไม่ถามสุขภาพผมสักคำ

เมื่อเจ้าของบ้านเดินไปผมจึงยืนนิ่งๆเป็นหุ่นเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเจ๊ปากแดง

"นายนี้มันหน้าด้านจริงๆเลยนะ ฉันทำขนาดนี้น่าจะรู้ว่าไม่ต้อนรับยังทนอยู่ได้"

"เจ้านายผมยังไม่ได้ไล่ผมออกนี้ครับ"

"ต๊ายยย นี่นายไม่รู้จริงๆหรือไง คนอย่างธารนะเขาไม่ออกปากไล่ตรงๆหรอก" ผมคิ้วกระตุก

"โถๆๆ ที่ฉันด่าแก แกล้งแกกดดันให้แกทนไม่ได้ แล้วเขาก็ไม่ว่าไม่ห้ามฉัน แกก็น่าจะรู้นะว่า เขาอนุญาตให้ฉันทำ" ผมช็อคกับคำพูดเธอ


"หมายความว่า เขาเป็นคนให้คุณทำแบบนี้งั้นหรอ" ไม่จริงใช่ไหม ผมคิดว่าที่พี่ธารไม่ห้ามเพราะเห็นเป็นผู้หญิงและเป็นคนที่ควงด้วยเลยไม่อยากว่าเพราะยังไงผมก็เป็นผู้ชาย โดนผู้หญิงแซะคงไม่ใช่เรื่องใหญ่


"อยากรู้แกก็มานี้สิ ฉันจะบอกให้ ถือว่าเอาบุญ" เธอเรียกผมให้ไปที่ริมสระน้ำ ผมเดินไปตามที่เธอบอกก่อนเธอจะโน้มตัวผมเพื่อไปกระซิบข้างหู

"เขาให้ฉันทำอีกอย่างด้วยนะ รู้ไหมอะไร" ผมส่ายหน้าและตั้งใจฟัง

"ก็ แบบนี้ไง"

ตู้มมม

ว่าเสร็จเธอก็ผลักผมลงน้ำ

" ฮ่าฮ่าฮ่า โง่สิ้นดี สมควรแล้วที่ธารไม่เอา หลอกง่ายชะมัด" ผมโผล่ขึ้นจากน้ำได้ยินคำพูดนั้นพอดีแต่ผมไม่ได้สนใจ

เพราะสิ่งที่สนใจตอนนี้คือผมว่ายน้ำไม่เป็น เธอกำลังจะหันหลังไปผมต้องเรียกเธอ

"ช่วยด้วย คุณมารุ ผม ว่าย  น้ำ ไม่เป็น "

"โอ๊ย แกนี้มันโง่จริงๆ ฉันไม่เชื่อแกหรอกจะดึงฉันตกน้ำด้วยล่ะสิ ฉันไม่โง่หรอก ไปหาธารดีกว่าที่นี่ร้อน ชิ" เธอสะบัดหน้า

แล้วเดินไปทันที ก่อนหันมายิ้มแสยะ แล้วพูดบางคำที่ผมพอจะอ่านปากได้

"สมน้ำหน้า"

"เดี๋ยว ช่วยผม ชะ ช่วย ผม ดะ ด้วย ผะ ผม ว่ายน้ำไม่เป็นจริงๆ"

ไม่มีใครอยู่แล้วเรียกใครไปก็ไม่มีใครได้ยิน พี่ธารก็จะไล่ผมไป อยากให้ไปทำไมไม่บอกผมตรงๆ ไม่เห็นต้องใช้คนอื่นให้วุ่นวาย

ผมค่อยๆหยุดดิ้นแล้วปล่อยให้ตัวเองค่อยๆจมลงในน้ำ ผมทำอะไรผิดถึงต้องทำแบบนี้

ฮึก ฮึก เสียงสะอื้นที่แม้แต่ตัวผมเองยังไม่ได้ยิน ถ้าผมไปให้พ้นๆ คุณคงดีใจ เข้าใจแล้วที่ไม่เคยพูดไม่เคยปกป้อง มันเป็นแบบนี้

เอง ผมรู้สึกดีกับพี่นะ พี่ได้ยินหรือเปล่า แต่ผมคงไม่ได้มีโอกาสบอกแล้วล่ะ ถึงพี่จะเกลียดผมก็เถอะ ผมขอโทษนะที่เข้ามาทำให้

ชีวิตพี่วุ่นวายไปหมด ผมมันผิดเอง ต่อไปผมจะไม่มากวนพี่อีกแล้ว ลาก่อน ก่อนที่สติผมจะดับวูบไป

...........................
ลานจอดรถหน้าบ้านมีรถหรูคันหนึ่งมาจอด ก่อนที่เจ้าของรถจะลงจากรถแล้วเดินมาทักเลขาหน้าหล่อที่กำลังคุยกับลูุกน้องอยู่

"กรณ์หวัดดี เป็นไงว่ะ"

"สบายดี แล้วแกมาทำไม"

"ฉันมาหาต้น ไม่ได้เจอนานพอดีไปธุระให้คุณลุงมาเลยซื้อของมาฝากด้วย"

"อ่อ มีแผนนี่เอง คุณต้นอยู่ในบ้านนะไปสิ เดินไปด้วยกัน" 2ร่างสูงหล่อเดินเข้ามาในบ้านก่อนจะเดินมาหาป้านิ่มที่จัดโต๊ะอยู่

"ป้านิ่มครับคุณต้นล่ะครับ" กรณ์ถามร่างท้วมที่จัดโต๊ะอยู่

"ป้าให้เอาขนมไปให้คุณธารที่สระค่ะ" ก่อนที่ทั้งหมดจะได้ยินเสียงใครคุยกันมาแว่วๆ

"อ้าว คุณธารแล้วคุณต้นล่ะคะ" เจ้าของชื่อขมวดคิ้ว

"เมื่อกี้มารุเขาบอกเข้ามาในบ้านแล้วนะครับ"

"ใช่ค่ะ ไปอู้ที่ไหนหรือเปล่าก็ไม่รู้" มารุพูด

"แต่ตั้งแต่เดินเข้ามาผมยังไม่เห็นเลยนะครับ" เทียนพูดขึ้น

"เดี๋ยวผมไปดูที่สระให้ดีกว่าครับ" กรณ์เอ่ยอาสา

"ผมไปด้วยครับ" เทียนกล่าว

"ฉันเดินไปด้วยแล้วกันหาหลายๆคนจะได้เจอไวๆ" เจ้าของบ้านกล่าวขึ้นก่อนจะเดินตามไปแต่ถูกหญิงสาวดึงแขนไว้เสียก่อน

"โอ๊ยไม่ต้องไปหรอกค่ะ ป่านนี้คงแช่น้ำสบายใจแล้ว"

"คุณหมายความว่าไงครับ" กรณ์ที่กำลังเดินหันมาถามหญิงสาว

"ก็เห็นอากาศร้อน มารุเลยให้เขาเล่นน้ำคลายร้อนนิดหน่อยค่ะ" กรณ์ตาโต

"คุณจะบ้าไปแล้วหรอ คุณต้นเขาว่ายน้ำไม่เป็น" จบคำของกรณ์ เทียนก็ตกใจรีบวิ่งไปยังสระน้ำทันที รวมถึงธารที่แทบจะผลัก

มารุแล้ววิ่งตามไปด้วยอีกคน แต่โดนดึงแขนไว้ไม่ปล่อย

"ถ้าคุณต้นเป็นอะไรไป คุณไม่ได้มายืนแบบนี้แน่ๆคุณมารุ" กรณ์พูดกับมารุก่อนวิ่งตามไปอีกคน

ถึงสระน้ำเทียนแทบคลั่งกับภาพที่เห็น ต้นนอนจมอยู่ที่สระว่ายน้ำ เทียนจึงรีบกระโดดลงไปทันที

เทียนดำลงไปประคองร่างของต้นขึ้นมาให้เหนือผิวน้ำแล้วว่ายเข้าฝั่ง เอาร่างของต้นขึ้นจากสระแล้วตนเองก็ขึ้นตามมา

"ต้นได้ยินพี่ไหม ฟื้นสิต้น" เทียนใช้มือตบเบาๆที่แก้ม ธารกับกรณ์ที่วิ่งตามมาทีหลัง รีบเข้าไปดูต้น ธารกำลังจะขาดใจกับภาพตรงหน้าร่างซีดเผือดของต้นแน่นิ่ง ธารค่อยๆเดินมาจับที่ขาของต้นแล้วเขย่าเบาๆ

"ต้น ฟื้นมาคุยกับพี่สิ พี่ยังไม่ได้บอกต้นเลยนะว่าพี่โกรธอะไร" ธารพึมเพาเบา เขารู้สึกเหมือนร่างกายอ่อนแรงไปหมด มันเกิดอะไรกับเขา

"ตื่นขึ้นมาสิ ที่ไม่ตื่นเพราะโกรธพี่ใช่ไหม พี่รู้แล้วตื่นขึ้นมาคุยกันก่อนนะ พี่สัญญาจะไม่ทำตัวใจร้ายอีก"

ธารรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบจนเจ็บ  ขอบตาร้อนเหมือนน้ำตาจะไหล แต่เขาก็พยายามกลั้นเอาไว้ แล้วจ้องร่างของต้นส่งสายตา

อ้อนวอนเพื่อให้คนตรงหน้าฟื้นขึ้นมา
 
"ต้นครับ นี่พี่เทียนนะ ได้ยินไหมฟื้นสิ" ขณะที่ธารกำลังจะขาดใจ เทียนก็พยายามที่จะเรียกต้นกลับมา ด้วยการทำ cpr

"ต้น ฟื้นสิ "เทียนทำอยู่เป็นสิบครั้งก็ไม่มีทีท่าว่าร่างแน่นิ่งจะฟื้นเลย เทียนนั่งหอบ จนคิดวิธีสุดท้ายได้คือการผายปอด

ธารได้แต่นิ่งมองดูเทียนช่วยชีวิตต้น แต่ตัวเองแม้แต่ยอมรับใจตัวเองยังไม่กล้าพอเลย เทียนค่อยๆก้มลงไปจะผายปอดให้ต้น

หน้าขยับเข้าใกล้เรื่อยๆ ใกล้จนปากเกือบชนปาก

"แค่ก แค่ก " ร่างที่นอนแน่นิ่งสำลักน้ำขึ้นมา ทำให้ทุกคนได้สติ ธารที่กำลังจะเข้าไปกอด กลับโดนเทียนชิงตัดหน้าดึงต้นขึ้นมา

กอดไว้แนบอกแล้วลูบหลังไปมา

"ฟื้นแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว ดีใจที่สุด" เทียนกอดต้นไว้แนบอก ก่อนคนในอ้อมกอดจะค่อยๆประคองสติขยับมาดูหน้าเจ้าของอ้อมกอด

"พะ พี่เทียน" ก่อนจะค่อยๆหันไปดูรอบๆแล้วมาหยุดตรงคนที่อยู่ปลายขา จนเผลอส่งสายตาตัดพ้อไปให้ ทำเอาธาร ช็อคกับ

สายตานั้น เพราะเขาไม่เคยได้รับสายตาแบบนั้นจากน้องเลย ต้นจ้องอยู่สักพักก่อนสติจะค่อยๆหายไปแล้วสลบลงในอ้อมแขน

ของเทียนอีกครั้ง

"ต้น ต้น กรณ์ตามหมอเร็ว" ธารสั่งกรณ์

"รีบพาคุณต้นเข้าบ้านเถอะครับ"กรณ์บอก เทียนจึงอุ้มต้นขึ้นมาแล้วเดินตามกรณ์ไปยังห้องนอน และจัดการให้ป้านิ่มเช็ดตัว

แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนปล่อยให้หมอดูอาการ

..........................

ต่อด้านล่างค่ะ
[/color]
หัวข้อ: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 7 ห่างเหิน <11/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Garuda8 ที่ 11-05-2019 13:26:17
ต่อจากด้านบน


 ผมพลาดเองผมไม่น่าให้มารุอยู่กับต้น ทั้งที่ก็รู้ว่ามารุต้องหาเรื่องแกล้งต้น ตอนที่ผมไปเจอต้นที่สระใจผมจะขาดให้ได้มันจุกไป

หมด ถ้าผมต้องเสียต้นไปผมจะทำยังไง ตอนนี้ไอ้เทียนกลับไปแล้วและบอกว่าวันหลังจะมาเยี่ยมใหม่ เทียนเป็นคนช่วยต้น

 แต่ผมกลับเป็นคนผลักต้น ผมมันแย่ที่สุด คุณหมอบอกกับผมว่าอาการต้นไม่มีอะไรแล้ว ให้นอนพักผ่อน ให้เต็มที่อาจมีอาการ

ไข้ขึ้นตอนกลางคืน ผมอาสาจะเป็นคนดูแลเขาเอง เหมือนที่เขาเคยทำให้ผม แต่ตอนนี้เรื่องสำคัญที่ต้องจัดการคือ มารุ

หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าผม ผมควงเธอเพื่อต้องการออกห่างจากต้นแล้วจะได้เลิกคิดเรื่องเขา เพราะผมคิดว่าที่เชียงรายเราใกล้กัน

มากไป ผมกลัวจะหลงรักเขาขึ้นมาจริงๆ ผมจะแพ้คนรักก่อนต้องแพ้ผมคิดแบบนั้น เพราะผมเคยเป็นแบบนั้น ผมไม่อยากเจ็บ

เพราะความรักอีกแล้ว แต่ผมคิดผิดผมหลงรักเขาไปแล้วต่างหาก


"คุณทำอะไรมารุ" ผมกัดฟันถาม

"ก็มารุคิดว่าคุณคงรำคาญเลยหาทางแกล้งให้มันทนไม่ได้ไงคะ"

"ที่คุณทำมันพยายามฆ่าได้เลยนะ ถ้าต้นเป็นอะไรจริงๆผมเอาคุณตายแน่" ผมพูดด้วยความโมโห

"แต่ที่ผ่านมาคุณไม่เห็นจะว่าเลยเวลาแกล้งมัน"

"อย่าเรียกคนของผมว่ามัน ที่ไม่พูดเพราะเห็นว่าคุณคงคิดได้ซึ่งผมพยายามบอกคุณตลอดว่าอย่าทำแบบนั้นแต่คุณก็ไม่ฟัง" ผมตะโกนใส่เธอ

"คุณธาร คุณชอบมันหรอ ถึงขึ้นเสียงใส่ฉันนะ"

"ใช่ ผมชอบเขาไม่ใช่แค่ชอบด้วยผมรักเขามาก จนอยากจะฆ่าคุณให้ตายคามือตอนนี้เลย" ผมกำมือแน่น

"คุณมันบ้า ฉันอุตส่าห์หวังดี" ผมโมโหจนเอามือบีบคอเธอ จนเธอนิ่วหน้า

"อย่ามาสาระแนอีก คุณก็รู้เราแค่สนุกกันเท่านั้น คุณจะแกล้งใครบนโลกผมไม่สน แต่ต้นมีแค่ผมเท่านั้นที่ทำได้ คนอื่นไม่ต้องยุ่ง

 แล้วไอ้มือนี้ใช่ไหมที่ทั้งจิกทั้งผลักคนของผม"

"อื้อ เจ็บนะ คุณจะทำอะไร" เธอทำเสียงหวาดกลัว

"ไอ้กรณ์ เอายัยบ้านี้ไปทำอะไรก็ได้ที่มือมันจะใช้ไม่ได้ชั่วคราว" ผมสั่งลูกน้อง แล้วเหวี่ยงเธอไปทางกรณ์

"ครับนาย" กรณ์รับคำแล้วลากตัวมารุออกไป

"อย่านะ ปล่อยฉัน ไอ้บ้า แกมันวิปริต"

เสียงค่อยๆเงียบไป  จนผมจมอยู่กับตัวเอง เรื่องราวเมื่อกลางวันก็ฉายเข้ามาอีก ต้นกำลังจะไปจากผม เพราะผม

"ฮึก ฮึก พี่ขอโทษ ฮึก " น้ำตาผมที่กลั้นไว้ค่อยๆทลายลงมา ขาผมอ่อนลงเรื่อยจนคุกเข่า ยกมือขึ้นจับอยู่ที่หัวใจ มันเจ็บไปหมด

"ฮึก อย่าทิ้งพี่แบบนี้อีกนะ พี่จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว ฮือ "  น้ำตาลูกผู้ชายทลายออกมาจนแทบไม่เหลือ ผมเกือบเสียเขาไปแล้ว


"ฮึก ต่อไปนี้ต้นไม่มีสิทธิ์ไปจากพี่ ถ้าพี่ไม่ให้ไป" ผมหายใจไม่ออกจนต้องหายใจทางปาก

แกร๊ก

"นายน้อย ไหวไหมครับ"  เสียงของกรณ์ถามด้วยความเป็นห่วง

"ฮึก กู เกือบ ฮึก จะไม่ไหวแล้ว ถ้ากู เสีย ฮึก ต้นไปกูจะทำยังไง"

"ไม่เป็นไรครับนายตอนนี้ยังไม่สายคุณต้นยังอยู่ เริ่มใหม่นะครับ"

"ฮึก ต้นต้องเกลียดกูแน่ๆ กูเจ็บกับสายตา ฮึกน้อง"

"คุณต้นยังทนสายตาหมางเมินของนายได้เลยนะครับ แค่นี้ทำไมจะทนไม่ได้ล่ะครับ แสดงความจริงใจออกไปให้คุณต้นรู้คุณต้นต้องเข้าใจ"

"ฮึก ขอบใจมึง กูรู้แล้วว่าเวลากำลังจะเสียของรักมากๆไปมันเป็นยังไง ฮึก"

"นายน้อยรักคุณต้นแล้วใช่ไหมครับ" ผมเม้มปากพยักหน้า

"ใช่ กูรักเขามาก กูไม่เคยรู้เลยว่ารักเขามากขนาดนี้ จนกูเกือบเสียเขาไปแล้ว ต่อไปนี้กูจะไม่ให้เขาไปจากกูได้อีก"


Tbc
[/color][/size]

 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 7 ห่างเหิน <11/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 11-05-2019 19:43:23
กว่าจะรู้ตัวก็เกือบสายนะคุณธาร
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 7 ห่างเหิน <11/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-05-2019 22:41:20
 :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 7 ห่างเหิน <11/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 11-05-2019 22:59:58
 :z6:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 7 ห่างเหิน <11/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 11-05-2019 23:45:23
 :z4:



 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 7 ห่างเหิน <11/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-05-2019 00:13:10
เราว่าสายไปแล้วแหละ
หัวข้อ: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 8 ขอโทษ <18/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Garuda8 ที่ 18-05-2019 15:21:46
ตอนที่ 8

ขอโทษ

"อะไรนะต้นจมน้ำ" ผมตกใจมากเมื่อได้ทราบข่าวจากกรณ์ ที่ขับรถมารายงานความคืบหน้าด้วยตัวเองกลางดึก

"ครับ แต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้วครับ นายน้อยอาสาดูแลไม่ห่าง"

"ใครมันทำลูกสะใภ้ฉัน" ผมถามคนในปกครอง

"คุณมารุครับ"

"อ่อ เด็กใหม่ไอ้ลูกหมา ที่ปากเหมือนกินเลือดตลอดนะหรอ"

"ใจเย็นครับนาย ผมจัดการเธอเรียบร้อยแล้ว"

"จะให้เย็นยังไงไหว ถ้าต้นเป็นอะไรไปฉันจะเอาปัญญาที่ไหนทำลูกคืนแม่เขา"

"แต่ตอนนี้โอเคแล้วครับ อย่ากังวลไป"

"ไอ้ธาร ไอ้ลูกไม่รักดียื่นของดีๆให้เสือกจะกินของเน่า" ผมบ่น

"แต่ตอนนี้นายน้อยหน้าสงสารนะครับ สำนึกผิดไม่ทันเลย"

"สมควรหรอก มันควรจะสำนึกได้ตั้งแต่ไม่คุยกับต้นครบ 24 ชั่วโมงแล้ว ใครสั่งใครสอนให้ทำแบบนี้"

"ตอนนี้คงไม่ทำแล้วละครับ คงกลัวคุณต้นไม่ชอบ"

"ไม่ชอบสิดี โดนซะบ้าง"

"ว่าแต่เราจะเอายังไงต่อครับนาย ตอนนี้นายน้อยก็สารภาพกับผมหมดแล้ว" กรณ์ถามขึ้น

"รอดูท่าทีต้นก่อน ค่อยว่ากันอีกที ส่วนแกก็กลับไปได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะไปเยี่ยมต้นที่บ้าน" ผมเอ่ยไล่กรณ์

"ครับนาย แล้วเจอกันครับ" กรณ์ก้มหัวให้ผมแล้วเดินออกไป ผมเดินวนไปวนมาเป็นหนูติดจั่น เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้
เรื่องที่ได้รับรู้ ทำให้ผมเดาไม่ถูกเลยว่า ลูกสะใภ้ผมจะจัดการยัง ถึงต้นจะดูใจดีมองโลกในแง่บวก แต่ถ้าได้โกรธคงจะหนักไม่น้อยแกคงต้องเหนื่อยแน่ๆไอ้ลูกหมา

...........................
 
        ปวดหัวจังเลย ตาก็หนัก หายใจทีก็แสบจมูกไปหมดสงสัยผมคงเป็นไข้แน่ๆ ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาเจอกับฝ้าสีขาวคุ้นตาของ
ห้องนอนที่นอนประจำ กระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับสายตา มองไปรอบๆก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงของพี่ธาร ผมค่อยๆพยุงตัวเอง
ลุกขึ้นนั่ง แล้วก็ทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น จนจำได้ว่าตัวเองจมน้ำ แล้วลืมตาขึ้นมาอีกทีก็เจอพี่เทียนที่เป็นคนช่วยผมไว้ แล้วก็เห็น
พี่ธารก่อนจะสลบไป คิดได้แบบนั้นก็มองหาเจ้าของห้อง แต่ก็ไม่พบ ความน้อยใจตีขึ้นมาอีกแล้ว แสบจมูกเลย ผมจึงเลิกคิด
แล้วบอกกับตัวเองว่า เรามันลูกจ้างโอเค ต่อไปนี้อยากให้เป็นอะไรก็จะเป็น เมื่อเป็นแบบนี้ลูกจ้างมานอนบนเตียงเจ้านายคงไม่ดี
ผมจึงขยับเพื่อหย่อนเท้าลงพื้น และลุกไปเก็บของแล้วย้ายไปห้องเก่าตัวเอง

แอ๊ด

"จะทำอะไรต้น" ผมหันไปตามเสียงประตูห้องที่เปิดอยู่เจอพี่ธารถือถาดข้าวต้มเข้ามา พอเห็นผมกำลังจะลงจากเตียงจึงรีบ
เดินเข้ามาวางถาดที่โต๊ะหัวเตียงแล้วเดินมานั่งข้างผมทันที

"ผมจะกลับไปนอนที่ของผมครับ นี่เตียงคุณมันจะดูไม่ดี" คนฟังขมวดคิ้ว

"นายไม่สบายอยู่ จะไปนอนที่โซฟาได้ยังไง" พี่ธารทำหน้าดุ

"เปล่าครับผมจะกลับไปนอนที่ห้องเดิม"

"ทำไม" พี่ธารเสียงดังจนผมสะดุ้ง

"ผมเห็นว่าอยู่ในห้องนี้ก็ไม่มีประโยชน์ คุณนราธร จ้างผมมา ผมจะมาอยู่ห้องเดียวกับเจ้านายคงไม่เหมาะ" ผมมองหน้าเขา
เห็นแววตาเศร้าอยู่ครู่หนึ่ง

"ไม่พี่ไม่ให้ไป อยู่นี่แหละพี่จะดูแลต้นเองให้เราหายก่อน พี่มีเรื่องจะคุยด้วย" ผมได้แต่ถอนหายใจ

"แล้วคุณจะนอนไหนครับ อย่าบอกว่าโซฟา" ผมถามเพราะสงสัย

"ก็นอนบนเตียงกับต้นนั้นแหละ" ผมตาโต

"ไม่ได้" ผมเสียงดังจนเขาหัวเราะ

"หึ หึ อะไรที่เชียงรายก็นอนด้วยกันมาแล้ว ที่นอนก็เล็กกว่าอีก"

"แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน"

"ไม่เหมือนยังไง ก็มีพี่แล้วก็มีต้น" ผมมองหน้าเขา นี่เขาจะปั่นหัวอะไรผมอีก

"คุณธารถ้าคุณอยากให้ผมไปจากที่นี่คุณบอกผมตรงๆก็ได้นะ เลิกปั่นหัวผมสักที ผมตามคุณไม่ทันหรอก" ผมมองเขานิ่งๆ

"พี่ไม่ได้คิดอย่างนั้นนะ อย่าเข้าใจผิดสิ ไว้เราดีขึ้นอีกนิดพี่จะอธิบายให้ฟัง"

"ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจดี ไม่ต้องอธิบายอะไรหรอกครับ"

จบคำพี่ธารก็จับไหล่ผมทั้ง 2 ข้างให้หันมาทางเขา เหมือนกันผมจะหนีหน้า

"พี่ไม่เคยอยากให้เราไปเลยนะ"

"แล้วสิ่งที่คุณทำตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาล่ะครับ มันชัดเจนจะตายไป" ผมจ้องหน้าเขา

"ไม่ใช่อย่างนั้น ฟังพี่นะคือว่า.." เขาพูดไม่ทันจบผมก็แทรกขึ้นทันที

"ไม่ต้องบอกผมหรอกครับ มันไม่มีความหมายอะไรแล้วเพราะตอนที่ผมต้องการฟังพี่ไม่เคยคิดที่จะพูดฉะนั้นตอนนี้ผมไม่อยากฟังแล้วเลิกพูดเถอะครับ"

   ผมเอามือพี่ธารออกจากไหล่ทั้ง2ข้าง แล้วค่อยๆลุกขึ้นเดินไปห้องน้ำ ผมสาบานได้ว่าผมเห็นแววตาเสียใจจากดวงตาเขา
ไม่ใช่ว่าผมจะไม่ฟังเขานะ แต่ขอทำใจแปปนึงของอนก่อนจะได้ไหมล่ะ ผมไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล ผมรับฟังเขาแน่แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ผมทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จก็เดินออกจากห้องน้ำ เจอคนตัวโตยังคงนั่งอยู่ที่เตียง

"เสร็จแล้วก็มาทานข้าวเถอะ จะได้ทานยา" เขาตบที่เตียงเพื่อให้ผมไปนั่งข้างๆ ผมเดินไปนั่งตามที่เรียก

"อ้าปากสิเดี๋ยวพี่ป้อน" เดี๋ยวนะ

"ผมทานเองได้ ส่งถ้วยมาสิครับ" ผมยื่นมือไปที่ถ้วยข้าวต้มแต่พี่ธารเอาหลบ

"ไม่ เดี๋ยวพี่ป้อนเอง เรายังไม่ค่อยมีแรงหรอกเดี๋ยวหก" ผีเข้าแน่ๆมันใช่คนเดียวกับอาทิตย์ที่แล้วหรือเปล่าเนี่ย

"ตกลงคุณหรือผมที่ไม่สบายเนี่ย คุณควรไปหาหมอบ้างนะ เผื่อเป็นไบโพลาร์"

"หึ หึ อ้าปากเถอะเดี๋ยวเลยเวลา จะไม่ได้กินยาพอดี" ผมคว่ำปากแล้วพยักหน้าอ้าปากรอข้าวจากเขา เป็นลูกนกเลย

"อ้าม พี่เป่าแล้วรับรองไม่ร้อน" อีหยังว่ะ

"ผมไม่ใช่เด็กนะคุณ" อ้าม แบบนี้จนหมดถ้วย แล้วพี่ธารก็ส่งยาให้ผมทาน

ก็อก ก็อก ก็อก

"นายครับ นายใหญ่มาขอพบครับ" เสียงจากคุณกรณ์ดังมาจาหน้าประตู พี่ธารจึงเดินไปเปิด

"บอกไปฉันไม่ว่าง กลับไปก่อน" แล้วพี่ธารก็กำลังจะปิดประตูลง

หมับ

"ไอ้ลูกเวร ฉันพ่อแกนะโว้ย อีกอย่างฉันมาเยี่ยมลูกต้นของฉัน ลูกหมาอย่าแกไม่เกี่ยว" แล้วคุณพ่อก็ดันประตู แล้วผลักอก
เจ้าของห้องให้พ้นทาง แล้วเดินมาทางผม

"ต้นเป็นไงบ้างลูก" ผมยิ้ม

"สวัสดีครับ ผมไม่เป็นอะไรแล้วล่ะครับแค่มีไข้นิดหน่อยเดี๋ยวก็หายแล้วครับ" คุณพ่อยิ้มแล้วพยักหน้า

"ดีแล้วแหละ ถ้าหายดีแล้วพ่อคิดว่า ต้นย้ายไปทำงานกับคนอื่นดีกว่าไหมทำกับไอ้ธารเห็นทีจะไม่ดี แค่ว่าที่เมียคนเดียวยังดูแลไม่ได้"

"พ่อ ห้ามเอาต้นไปไหนอยู่นี้แหละดีแล้ว" คนตัวโตเสียงดังขึ้น

"ตัวแกเองไม่ดูแลน้องเองฉันก็จะให้น้องไปอยู่กับคนที่ดูแลเขาได้สิฉันจะได้หายห่วง ต้นว่าไงสนใจไหม" ผมยิ้ม

"แล้วแต่คุณพ่อเถอะครับ"

"ไม่ได้ พ่อไปคุยกับผมเดี๋ยวนี้" พี่ธารเสียงดังจนผมสะดุ้ง แล้วก็ลากคุณพ่อออกไป ไม่วายคุณพ่อยังหันหลังมาโบกมือให้ผม

"พักผ่อนนะลูกต้น พ่อไม่กวนแล้ว เดี๋ยวเจอกันใหม่ ขอเคลียเรื่องเล่าเช้านี้กับลูกหมาก่อน" แล้วคุณพ่อก็โดนลากจนพ้นประตูไป

ผมส่ายหัวแล้ว เอนตัวลงนอนคงเพราะฤทธิ์ยาทำให้ผมหลับทันทีที่หัวถึงหมอน


.................
 
ไอ้ลูกตัวดีมันลากผมมาที่ห้องทำงานของมัน

"พ่อ ที่พูดหมายความว่าไงพ่อจะเอาต้นไปไหนไม่ได้นะ" อยากจะแหมให้ถึงเชียงใหม่

"ก็แกให้เด็กแกผลักเขาตกน้ำ แสดงว่าแกคงสุดทนจริงๆฉันก็จะเอาเขาไปให้พ้นหูพ้นตาแกไง"

"ไม่จริงนะ ผมไม่ได้อยากให้ต้นไปไหนพ่อห้ามเอาต้นไปไหนเด็ดขาด"

"ทำไม ทีอาทิตย์ก่อนยังควงสาวสวยทิ้งลูกต้นของฉันกอดหมอนนอนหนาวทุกวันอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ" ลูกชายผมหน้าสลด

"ผมขอโทษพ่อ ผมคิดน้อยไปหน่อย ผมแค่กลัวผลมันจะเหมือนเดิม" ได้ฟังแล้วก็หมั่นไส้ตบหัวมันไปที

"อย่าเพ้อเจ้อสิ ที่นอนในห้องแกชื่อต้น ไม่ใช่คนที่เคยหักหลังแกอย่ามโน ตื่นครับลูก"

"ก็ผมตื่นแล้วไง จะไม่ทำอีกแล้วแต่พ่ออย่าเอาต้นไปไหนนะให้ผมง้อน้องก่อน น้องโกรธผมอยู่เนี่ย"

"โกรธอะไรฉันก็เห็นยังนอนห้องเดียวกัน คุยกันอยู่เลย" ผมถาม

"โกรธสิก่อนเกิดเรื่องเรียกผมพี่ พอตื่นขึ้นมาก็กลายเป็นคุณห่างเหินเชียว ใจจะขาดแล้วพ่อน้องไม่ยิ้มให้ผมเลย"

ดูทำหน้า ดูไม่จืดหมดมาดเลย

"ฉันไม่เอาลูกสะใภ้ฉันไปไหนหรอก แต่เรื่องง้อไปง้อเอง"

"โห พ่อ พ่อรู้จักต้นดีบอกผมหน่อยควรทำไง" เฮ้อ ตอนดีกันไม่เห็นเรียกกูไปดูเลย ชิ

"แกก็บอกต้นไปสิว่าเพราะอะไรแกถึงทำแบบนั้น ต้นนะใจดีเดี๋ยวพอเข้าใจก็หายโกรธ"

"ผมจะอธิบายแล้วแต่ต้นไม่ฟัง"

"โอ๊ย แกลูกฉันหรือเปล่าเนี่ย แกทำกับเขาแบบนั้น พอเขาตื่นมายังคุยกับแกไม่กระทืบแกก็แสดงว่าเขาน้อยใจ ก็คงงอน
เท่านั้นแหละพยายามหน่อย อะไรว่ะนอนห้องเดียวกันไม่เคยรู้หรือไงต้นเป็นยังไง เคยเห็นเขาโกรธใครไหมล่ะ" ธารส่ายหน้า

"ไอ้ธาร แกนี้มันควายในร่างคนชัดๆ" มึงเป็นใครคายลูกกูมา

"ก็พอเรื่องนี้ผมคิดไม่ออกทุกทีว่าจะทำไง" ความรักทำให้คนโง่ว่างั้น

"รักเขาแล้วสิ" มันพยักหน้า

"พยายามแล้วกันพ่อช่วยแกมาเยอะแล้วนะ"

"ครับพ่อ" ผมได้แต่ส่ายหน้ากับลูกชายทีเป็นเรื่องความรักจากหนุ่มหล่อก็กลายเป็นเด็กชายทันที

....................

  ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนบ่ายกว่าๆ อาการปวดหัวในตอนเช้าเบาลงกว่าเดิม ร่างกายเบาขึ้นแต่ตัวยังอุ่นๆอยู่นิดหน่อย
ผมหันไปมองรอบตัวก็เห็นพี่ธารนั่งอ่านเอกสารอยู่ที่โซฟาและกำลังหันมาทางผมพอดี

"ตื่นแล้วหรอ หิวไหมเดี๋ยวพี่ให้เด็กเอาข้าวมาให้" ผมค่อยๆลุกขึ้นโดยมีพี่ธารที่รีบเดินมาช่วยประคอง

"นิดหน่อยครับ แต่ทานเลยก็ได้จะได้ทานยา" เขาพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้องเพื่อไปเอาอาหารกลางวัน ใช้เวลาไม่นาน
เขาก็กลับมาพร้อมอาหาร ซึ่งรอบนี้ผมทานเองเพราะเขาก็ทานของเขาเหมือนกัน ทานเสร็จผมก็ทานยาและเอนหลังเล่นโทรศัพท์

ก็อก ก็อก ก็อก

"คุณต้นหลับหรือเปล่าครับ" เสียงคุณกรณ์อีกแล้วเหมือนฉายหนังซ้ำเลย

"เปล่าครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ"

"คุณเทียนมาเยี่ยมครับให้เข้าไปได้ไหมครับ" อ่า ฮีโร่ผม

"ได้ครับ/ไม่ได้" เสียงพี่ธารดังขึ้นพร้อมผม ผมหันไปมองหน้าเข้าที่นั่งตรงโซฟาปลายเตียง

"ตกลงยังไงครับ"พี่กรณ์ถามขึ้นอีก

"เอ่อ ได้ครับเข้ามาเลย" สักพักประตูก็เปิดออกพร้อมด้วยร่างของพี่เทียนที่เดินยิ้มมาแต่ไกล

"ต้น เป็นไงบ้างดีขึ้นไหม" พี่เทียนพูดพร้อมกับเดินมาหาผมที่เตียงและนั่งลงข้างกันโดยไม่สนใจเจ้าของห้อง

"ดีขึ้นเยอะแล้วครับ ผมต้องขอบคุณพี่เทียนมากเลยที่ช่วยผมไว้ไม่งั้นผมแย่แน่ๆ" ผมพูดแล้วยกมือไหว้พี่เขา

"ไม่เป็นไร รู้ไหมใจพี่จะขาดตอนพี่เห็นเรานิ่งไปแบบนั้น พี่เป็นห่วงเรามากนะ" พี่เทียนเอามือมาลูบหัวผม

เคร้ง

ผมกับพี่เทียนหันไปตามเสียงที่อยู่ตรงมุมห้อง

"ใครแม่งเอาถังขยะมาตั้งตรงนี้ว่ะ ขวางตีนฉิบหาย" ผมมองพี่ธารที่หัวเสียบ่นเรื่องถังขยะแล้วส่ายหน้า แล้วหันมาคุยกับพี่เทียนต่อ

"ขอบคุณครับที่เป็นห่วง ถ้าผมหายแล้วพี่จะให้ผมทำอะไรตอบแทนบอกได้เลยนะครับ"ผมยิ้มให้

"งั้นไปเที่ยวกับพี่แล้วก็ดินเนอร์สักมื้อเป็นไง"

เคร้ง ตุบ เคร้ง

ผมกับพี่เทียนหันไปตามเสียงอีกครั้ง

"ทำไมวันนี้ห้องมันรกแบบนี้ว่ะ ทำความสะอาดภาษาอะไรกันว่ะ  จะสะดุดตอตายอยู่แล้ว"

"นี่คุณธาร ถ้ามันรกมากคุณก็ไปเรียกเด็กมาทำความสะอาดก่อนไป"

"เออ ส่วนแกก็ออกไปรอข้างนอกหรือไปทำงานที่ห้องทำงานแก จะได้ไม่ต้องอารมณ์เสีย"

พี่ธารทำท่าฟึดฟัด

"เออ ไปก็ได้ ส่วนแกคุยธุระเสร็จก็รีบกลับน้องพึ่งกินยาจะได้พักผ่อน" แล้วคนตัวโตก็เดินออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตู

ปัง  อย่างแรง

"พี่เทียนอย่าถือคนบ้าเลยนะครับ ท่าทางเมื่อคืนจะนอนน้อย"

"พี่รู้ " แล้วพี่เทียนก็ชวนผมคุยต่ออีกสักพักก็ขอตัวกลับเพราะจะให้ผมพักผ่อน ผมกำลังจะเอนตัวลงนอนโทรศัพท์ก็สั่น

ครืด ครืด

ผมหยิบมาดูพบว่าเป็นเพื่อนรักของผมเอง

"ไง หายไปเลยนะเพื่อน" ผมเอ่ยแซว

(ลูกต้น ได้ข่าวว่าจมน้ำ เป็นยังไงบ้างใครทำ จัดการมันหรือยัง) ใส่่เป็นชุด

"ใจเย็นๆ ไผ่ฉันไม่เป็นไร ใกล้หายแล้ว" ผมบอกให้เพื่อนหายกังวล

(ค่อยยังชั่วพอฉันรู้ฉันก็รีบโทรมาหาแกเลย คุณธารไม่ปกป้องแกเลย แกควรหาคนใหม่ด่วนคนนี้แม่ไม่ปลื้มแล้ว)

"ตอนนั้นเขาไม่อยู่โทษเขาไม่ได้นะ" แล้วผมจะไปแก้ตัวแทนทำไม

(แหนะ แกแก้ตัวแทนเขา เสร็จเขาแล้วใช่ไหมบอกมาเดี่ยวนี้)

"บ้าหรอฉันก็พูดไปตามความจริง ว่าแต่แกรู้ได้ยังไงว่าฉันจมน้ำ" รีบเปลี่ยนเรื่องเลย

(ก็คุณพ่อบ้านปีศาจบอกฉัน) หืม

"ใครว่ะ พ่อบ้านปีศาจ"

(ก็คุณเลขาไงเขามาเจอฉันที่ร้านอาหารแถวออฟฟิศ)

"แล้วทำไมเจอ" เรื่องนี้มันมีเงื่อนงำ

(ก ก็ ฉันจะรู้ไหมล่ะเขาอาจจะมีธุระแถวนี้ก็ได้แล้วมันก็เที่ยงแล้วเลยบังเอิญเจอไง)

"จริงอ่ะ แกมีอะไรอัพเดตฉันหรือเปล่าเล่าด่วน" ได้กลิ่นคนมีความรักตุ ตุ

(ไม่มี๊ ไม่มี ฉันไม่กวนแล้วแกนอนเถอะ) หาเรื่องวางเลยนะ

"เออๆ คุณกรณ์เขาก็ใช้ได้ ขอให้สมหวังนะ" ฮ่า ฮ่า ฮ่า

(เพ้อเจ้อแล้ว แค่นี้นะ)

ผมวางสายแล้วนั่งมองมือถือ แล้วยิ้มอยู่คนเดียว สงสัยเพื่อนจะขายออกแล้ว แต่คนมาติดเพื่อนผมนี้เจ้าเล่ห์ไปหน่อยนะ ได้แต่
ยิ้มกับตัวเองกอนจะผล็อยหลับไปอีกครั้ง
....................

  หนักจัง ขยับไม่ได้เลย หรือว่าผีจะอำผม ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาพบว่าภายในห้องมืดสลัว คาดว่าน่าจะเป็นเวลาหัวค่ำแล้ว ผมรู้สึก
หนักที่เอว ผมจึงยกหัวมองว่ามีอะไรทับอยู่หรือเปล่าก็ปรากฏท่อนแขนของใครสักคน ผมค่อยๆมองตามท่อนแขนนั้นไปจนไปพบกับเจ้าของท่อนแขนที่นอนเอาหัวซุกไหล่ผมอยู่ ผมจึงค่อยดึงท่อนแขนออกจากเอว

"อืม" พี่ธารขยับนิดหน่อยเหมือนไม่พอใจ ก่อนจะกลับไปนิ่งเหมือนเดิม ผมจึงค่อยๆยกแขนเขาออกอีกครั้ง

หมับ

"จะไปไหน" ตื่นแล้วนิ

"ผมอึดอัดคุณช่วยเอาแขนคุณออกไปทีได้ไหม" ผมหันไปมองเขา

"ไม่เอาออก จนกว่าจะกลับมาเรียกพี่เหมือนเดิม" ว่าแล้วก็กอดผมแน่กว่าเดิม แล้วลากผมเข้าหาตัวให้ชิดขึ้นไปอีก

"คุณผมเป็นหวัดอยู่เดี๋ยวก็ติดหรอก" ผมหันไปมองเขา

"เป็นห่วงพี่หรอ งั้นเรามาคุยกันดีๆก่อนนะ" ผมถอนหายใจแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง

"ต้นพี่ขอโทษนะ ตอนนี้ต้นพร้อมจะฟังพี่หรือยังครับ หืม" เขาพูดอยู่ที่ไหล่ผม

"คุณกอดผมไว้แบบนี้ผมจะไปไหนได้ล่ะ" ผมว่าแต่หน้าก็ยังคงมองอีกทาง

"ที่พี่พูดวันนั้นพี่ขอโทษนะแล้วก็เรื่องที่หลบหน้าต้นด้วย เพราะพี่มันขี้ขลาดเองพี่มัวแต่คิดถึงอดีตแล้วแถมยังเอามาตัดสินอนาคต พี่เลยกลัวว่าถ้าพี่รักต้น มันจะจบแบบที่เคยผ่านมาพี่มันขี้ขลาดกลัวการเริ่มต้นกลัวความสัมพันธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น จนทำอะไรบ้าๆไป"

ผมเงียบแล้วฟังเขาจนจบก่อนก่อนจะดิ้นจนหลุดจากอ้อมกอดเขาแล้วลุกขึ้นนั่ง

"พี่เลยทำกับผมแบบนั้น พี่ไม่คิดถึงใจผมบ้างหรอว่าผมจะเสียใจขนาดไหน"  ผมพูดไปก็น้ำตาไหลออกมาดื้อๆ

"พี่ขอโทษ ต้นอย่าร้องไห้สิพี่ใจไม่ดีเลยนะ"

"กลัวความสัมพันธ์บ้าบออะไร พี่ทำให้มันแย่ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำรู้ตัวไหม ทำไมต้องมาคิดแทนผมว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้"

"ตอนนั้นพี่กลัวไปหมด จนพี่คิดอะไรไม่ออก"

"แล้วผมไม่กลัวหรือไง" พูดไปน้ำตาก็ไหลออกมา

"พี่ไม่คิดบ้างหรอว่าผมก็กลัว เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่ผมรักผู้ชายด้วยกัน ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันแต่ผมก็ไม่เคยหนีแบบพี่"

หมับ

พี่ธารดึงผมเข้าไปกอด

"อย่าร้องนะ พี่สัญญาต่อไปนี้พี่จะไม่หนีอีกแล้ว เราจะเริ่มและผ่านมันไปด้วยกัน ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว" พี่ธารลูบหัวลูบหลังผมเพื่อปลอบ

"ผมโกรธพี่มากๆเลย ทำไมต้องคิดว่าผมจะเป็นเหมือนใครด้วย" ผมสูดน้ำมูกกับอกของพี่ธาร

"พี่ไม่ดีเอง พี่คิดอะไรแบบเด็กๆ ต้นทำให้พี่อยากเริ่มต้นใหม่นะรู้ใหม่ พี่เลยกลัวแต่ตอนนี้พี่ไม่กลัวแล้ว" ผมผละออกจากอกพี่ธาร

"ทำไมล่ะครับ" เขายิ้มให้ผมแล้วใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มทั้งสองข้าง

"เพราะการไม่มีต้นมันน่ากลัวกว่านะสิ พี่จะไม่คิดถึงอดีตอีกแล้วหากมันจะทำให้พี่เสียต้นไป" พูดจบพี่ธารก็ถือโอกาสที่ผมกำลังอึ้งบรรจงจรดริมฝีปากที่มุมปากผมเบาๆ

"เรามาเริ่มกันใหม่นะ" พูดจบก็จูบมุมปากอีกข้าง ผมมองหน้าเขาอย่างชั่งใจ

"ก็ได้ครับ แต่ผมจะคอยจับตาดูความประพฤติพี่ถ้าพี่ยังทำไม่ดีอีกผมจะไม่พูดกับพี่เลยด้วย" ผมยิ้มให้เขา

"ก็ได้ครับ งั้นตอนนี้เริ่มจากการที่เรานอนเตียงเดียวกันนะ"

"ห๊ะ"

"จะให้ว่าที่ภรรยานอนโซฟาก็ยังไงอยู่นอนด้วยกันนะ ความสัมพันธ์จะได้คืบ" ผมทำหน้าไม่ถูกแล้วพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้ถูกจุ๊บ
มุมปากนี้หว่า คิดได้แบบนั้นหน้าก็ร้อนขึ้นมาทันทีเลย

"เป็นอะไรหน้าแดงเชียว ไข้ขึ้นหรอ" เขาถามผม

"เปล่า...ก็พี่นั้นแหละ ความสัมพันธ์อะไรจะก้าวกระโดดเกิ้น ตามไม่ทัน"ผมเกาแก้มแก้เขิล

"ให้มันได้อย่างนี้สิ ถ้าต้นยังทำตัวแบบนี้พี่จะก้าวไปขั้นสุดแล้วนะ" หืมแววมาเลย

"พูดอะไรบ้าๆไปอาบกินข้าวเย็นได้แล้ว ผมหิว" ผมรีบลุกขึ้น

"เปลี่ยนเรื่องเลยนะ" ผมหันไปมอง

"เปล่าซะหน่อย ผมหิวจริ๊งๆ" เสียงปกติสิสูงทำไม แล้วผมก็รีบเข้าห้องน้ำทันที ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะตามหลังมา คนบ้า
ชอบทำใจเต้นไม่ปกติตลอดขืนอยู่กันไปนานๆได้เป็นโรคหัวใจเข้าสักวัน

.....................

"นายครับ ผมโทรมารายงานความคืบหน้า"

(ไหนเล่าสิเรื่องราวเป็นยังไง)

"เริ่มมีอะไรกันแล้วครับ"

(เดี๋ยวๆเล่าให้มันชัดเจนลูกสะใภ้ฉันยังไม่หายป่วยเลยนะเว้ย)

"อ๋อ ขอโทษครับ ผมหมายถึงเขาเริ่มต้นที่จะสานสัมพันธ์กันแล้วครับ"

(เออ ให้มันได้อย่างนี้ลูกพ่อ)

"ตอนนี้จะเอายังไงต่อครับ"

(ปล่อยเขาไปแต่ถ้ามีปัญหารีบรายงานฉันด้วย ตอนนี้ฉันคงต้องเริ่มคิดบอกเรื่องนี้กับแม่ของต้นแล้ว)

"แต่นายครับ แว่วๆ มาว่าคุณสโนว์เธอกำลังจะกลับเมืองไทยแล้วนะครับ"

(จริงหรอว่ะ ดีคราวนี้ลูกชายฉันจะไปพิสูจน์ว่าลืมยายปีศาจจากความคิดหรือยัง)

"ผมกลัวคุณต้นจะไม่หนักแน่นพอ"

(เชื่อฉัน ฉันเลือกคนไม่ผิดหรอก แล้วยายนั้นจะกลับมาวันไหนผัวแกตายคงได้สมบัติเยอะล่ะสิ)

"เดือนหน้าครับ เธอจะกลับมาเดือนหน้า"

(ดี งั้นเราก็คอยอ่านเกมส์ยายปีศาจคนนี้ไว้ ที่กลับมาคราวนี้เป้าหมายคือการเป็นสะใภ้วรเดชชัยกุลแน่นอน)

"เขาคงไม่กลับมาหรอกครับถ้าท่านไม่แกล้งให้คนไปบอก)

(มันคิดว่าธารเป็นของตาย มันกลับมาคราวนี้จะได้รู้ตัวเองว่าอันไหนเพชร อันไหนกรวด)

"ครับนาย ผมจะคอยดูแลให้เต็มที่ครับ"

(ศึกชิงตำแหน่งสะใภ้สนุกแน่ๆคราวนี้)


............................

Tbc

 :L3: :L3: :L3: :L3: :L3: :L3: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 8 ขอโทษ <18/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 18-05-2019 16:04:04
 :pig4:
 :3123:
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 8 ขอโทษ <18/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 18-05-2019 17:05:18
ปกติหน้าที่หาลูกสะใภ้ควรจะเป็นหน้าที่ของแม่นะแต่นี่พ่อวางแผนทุกอย่างเลย
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 8 ขอโทษ <18/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-05-2019 23:24:25
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 8 ขอโทษ <18/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 19-05-2019 00:54:45
 :laugh:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 8 ขอโทษ <18/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 19-05-2019 12:25:23
คุณพ่อร้ายยย
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 8 ขอโทษ <18/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 19-05-2019 14:26:38
เจ้าแผนการจริงๆเลยค่ะคุณพ่อ
หัวข้อ: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 9 อดีต <25/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Garuda8 ที่ 25-05-2019 21:09:55
ตอนที่ 9

อดีต

หลังจากที่ผมได้ปรับความเข้าใจกับพี่ธารว่าเราต่างคนต่างก็จะเริ่มใหม่ ปรับตัวเข้าหากันเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ถึงตอนนี้ก็ไม่ได้มี
อะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก จะมีก็แต่พี่ธารชอบเข้ามาวอแวกับผมมากขึ้นเหมือนแมวขี้อ้อน แต่ก็น่ารักไปอีกแบบนะครับ
เรื่องนี้ผมยังไม่ได้บอกแม่เลย คงต้องรอให้อะไรเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้ผมจะบอกแม่เป็นคนแรกเลย
ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติไม่มีอะไรเป็นพิเศษ จนกระทั่งวันนี้วันที่ผมกำลังทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ

"ต้น"

"ครับ" ผมเงยหน้าตอบรับเสียงที่เรียก

"วันนี้เราไปดูหนังกันไหม" ผมขมวดคิ้ว

"นึกอะไรขึ้นมาครับ"

"ก็พี่พึ่งนึกขึ้นได้ว่าเราไม่เคยเดทกันเลย วันนี้เราไปเดทกันนะ" พี่ธารส่งยิ้มให้ผม

"อืม ก็ได้ครับ" ผมยิ้มตอบ

"งั้นเดี๋ยวเที่ยงไปกินข้าวแล้วดูหนัง ไม่ต้องกลับมาออฟฟิศแล้วเนอะ ดีไหม"

"ตามใจพี่เถอะครับ" แล้วผมก็ก้มลงทำงานต่อ แต่หูก็ยังได้ยินเสียงอีกคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนโทรหาใคร

"ไอ้กรณ์ จองตั๋วหนังให้ฉัน 2 ใบ เออแล้วแต่แกที่เห็นว่าสมควร โอเค" ผมไม่รู้ว่าฝั่งนั้นพูดอะไรมาบ้างเพราะผมได้ยินพี่ธารพูดอยู่คนเดียว

............

  เที่ยงตรงพวกเราออกจากบริษัทเพื่อไปห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ เวลาเที่ยงๆแบบนี้รถไม่ค่อยติดทำให้เรามาถึงที่โดยใช้เวลาไม่นานมากนักพี่ธารเดินนำผมไปที่ร้าน มีผมและคุณกรณ์เดินตาม แต่ด้วยความที่คนเยอะเนื่องจากเป็นตอนเที่ยง แล้วผมก็ขาสั้นกว่าพี่ธารจึงทำให้ผมเดินตามพี่เขาไม่ทันแถมยังโดนคนที่มาเดินห้างชนเข้าไปอีก ผมจึงหยุดยืนนิ่งๆ เพื่อมองซ้ายมองขวาหาคนตัวโต แต่ก็ไม่พบ จึงตัดสินใจจะก้าวไปทางข้างหน้าที่คิดว่าน่าจะใช่ทางที่พี่ธารจะเดินไป

หมับ

ผมหันไปทางสัมผัสอบอุ่นที่ข้อมือก็พบพี่ธารจับข้อมือของผมและกำลังมองหน้าผมอยู่

"ละสายตาไม่ได้เลย" เขายิ้มให้ผม แล้วค่อยๆเลื่อนมือจากที่จับข้อมืออยู่ แล้วมาประสานมือกับผมแทน

"อยู่ใกล้ๆพี่แบบนี้นะจะได้ไม่หลง" พี่ธารยิ้มให้ผมก่อนจูงมือเดินไปที่ร้าน

"ครับ" ผมตอบรับเขาเบาๆ แล้วก้มหน้าเดินตามไป เขิลมากเลยไม่กล้าเงยหน้า

พอทานข้าวเสร็จพวกเราก็มากันต่อที่โรงหนังที่คุณกรณ์เป็นคนจองไว้ให้ ผมเดินเข้ามากับพี่ธาร 2 คนเพราะคุณกรณ์ไม่ได้ดูด้วย
เพียงแต่มาดูแลเท่านั้น เข้ามาข้างในผมก็พบว่าไม่มีคนในนี้เลยสักคนนอกจากผมกับพี่ธารและพนักงานอีกคน พี่ธารพาผม
เดินไปนั่งที่บนสุดที่เป็นที่ฮันนีมูน

"พี่ธารทำไมไม่มีคนมาดูกับเราเลยล่ะ"ผมถาม

"ก็ไอ้กรณ์มันเหมาโรงให้เราเพื่อความเป็นส่วนตัวไง"

"ห๊ะ"

"เป็นไงชอบไหมโรแมนติกสุดๆ"

"พี่ แต่มันเปลืองนะแค่ดูหนังเอง" ผมบอกเขา

"ไม่เป็นไรเดทแรกของเราพี่ก็อยากให้ประทับใจ"

"มีอีกตั้งหลายวิธีไม่เห็นต้องลงทุนขนาดนี้เลย"

"ต้นไม่ชอบหรอ" พี่ธารมองหน้าผมแล้วพูดเสียงอ่อยแล้วทำหน้าเศร้า

"มะ ไม่ใช่ครับ แต่มันเปลือง ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ" ใจอ่อนทุกทีเลยผม

"อืม ทีหลังจะไม่ทำแล้ว แต่พี่ก็ยังน้อยใจอยู่ดี" พูดแล้วเหลือบมามองผม

"แล้วจะให้ผมทำยังไงพี่ถึงจะหายล่ะครับ" เขาหันมายิ้ม

"หอมแก้มพี่หน่อยนะ พี่จะได้หาย" หืม

"นี้มันโรงหนังนะพี่"

"มีพี่กับเรา 2 คนเอง นะ นะ" เฮ้อ

"ก็ได้ครับ" ผมค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ๆเขา

ฟอด

เต็มปอดไปเลยแล้วผมก็ค่อยๆถอยออกมา

"หายยังครับ" เขายิ้มให้

"ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ น่ารักที่สุดเลย" พูดจบก็เอามือมาจับหน้าผมทั้งสองมือแล้วจุ๊บปากผมรัวๆ ก่อนปล่อยแล้วกลับไปดูหนังต่อ

"พี่นี่มันจริงๆเลยนะ" บ่นไปแต่ผมก็ยิ้มไม่หุบ มองคนข้างๆ ก่อนหันกลับไปดูหนังต่อ

ดูหนังจบพี่ธารก็จูงมือผมออกมาจากโรงภาพยนตร์

"เดี๋ยวพี่ขอไปดูปากกาตรงโน้นแปปนึงนะเดี๋ยวเราค่อยกลับกัน" ผมหันไปพยักหน้า

ระหว่างที่เดินไปเค้าเตอร์ปากกาแบรนด์หรู ผมมีความรู้สึกว่าคนข้างตัวชะงักแล้วหยุดเดิน ผมจึงหันไปมอง ก็พบว่าเขากำลังมองบางอย่างอยู่ซึ่งตอนนั้นมือของพี่ธารก็บีบมือผมแน่นขึ้น จนเจ็บผมพยายามมองไปทางที่เขามองแต่ผมก็ไม่เห็นอะไร

"พี่ธารเป็นอะไรหรือเปล่าครับ" ผมถามขึ้น พี่ธารสะดุ้งแล้วหันมาหาผม

"เปล่านิ พี่เหมือนเจอคนรู้จักนะ"

"สนิทมาหรือครับ บีบมือผมซะแน่นเลย" เขาทำตาโต

"ต้นพี่ขอโทษนะ เจ็บหรือเปล่า"

"ไม่ครับ แต่ผมแค่ตกใจเห็นพี่นิ่งไป" เขายิ้มให้ผม

"พี่ไม่ซื้อแล้วกลับบ้านกันเถอะ"

"ครับ"

บรรยากาศในรถระหว่างกลับบ้านเต็มไปด้วยความเงียบ พี่ธารมองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ คุณกรณ์๋
ที่นั่งด้านหน้ายังรับรู้ได้ จนลอบสบตากับผมหลายครั้ง ผมก็ได้แต่ส่ายหัวเพราะผมไม่รู้จริงๆ กลับมาถึงบ้านพี่ธารก็จัดการธุระ
ส่วนตัวก่อนผม พอเสร็จก็ไปนั่งอ่านหนังสือบนเตียง ผมจึงไปอาบน้ำบ้าง เรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำก็พบพี่ธารมองผมอยู่แล้วทำหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่าง

"พี่ธาร มีอะไรจะบอกผมหรือเปล่าครับ" ผมถามออกไป

"ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ" เขาถามกลับ

"ก็เหมือนพี่มีอะไรในใจแล้วยังมองผมด้วยสายตาครุ่นคิด"

"เฮ้อ มานั่งข้างพี่สิ" ผมเดินไปนั่งตามที่เขาบอก

"วันนี้พี่ขอโทษนะที่บีบมือเราซะแรงเลย พอดีพี่ตกใจนะ" ผมเลิกคิ้ว

"ตกใจอะไรหรอครับ"

"ระหว่างที่เรากำลังเดินอยู่ พี่ว่าพี่เห็นสโนว์แหละ"

"สโนว์" ผมยิ่งงงไปใหญ่เลย

"แฟนเก่าพี่นะ" อ่อ แผลเก่าโดนสะกิด

"แล้ว ยังไงครับ"

"ต้นไม่อารมณ์เสียใส่พี่หน่อยหรอที่มีอาการกับแฟนเก่า"

"งั้นต้นถามหน่อยได้ไหมครับ"

"อืม ถามมาสิ"

"ที่พี่บอกว่ามีอาการนะ มันเป็นแบบไหนหรอครับ" พี่ต้นทำท่าคิด

"ตอนที่เห็นพี่ก็แค่ตกใจ แล้วก็สงสัยว่าเขากลับมาไทยตอนไหน"

"แล้วพี่ดีใจ ใจเต้น อยากเข้าไปกอด หรือโหยหา คิดถึงเขาหรือเปล่าครับ"

"ก็ ไม่นะ " ผมยิ้ม

"แล้วจะให้ผมโกรธพี่ได้ยังไง พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้วนี่ แค่อาจฝังใจเรื่องที่เขาทำเจ็บเท่านั้นเอง"

พี่ธารจ้องหน้าผม

"แล้วต้นไม่อยากรู้เรื่องพี่กับสโนว์หรอว่าเป็นยังไง" ผมส่ายหน้า

"ไม่ครับ อดีตก็คืออดีตรู้ไปก็เปล่าประโยชน์ ทำปัจจุบันให้ดีดีกว่า" ผมยิ้ม

"แต่ถ้าพี่อยากเล่าผมก็พร้อมรับฟังนะ" พี่ธารยิ้มแล้วเอามือมายีหัวผม ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบบางอย่างที่ลิ้นชักแล้วเดินกลับมา

"นี่รูปของสโนว์" เขายื่นให้ผม ผมจึงหยิบมาดู

"ให้ผมดูทำไมครับ"

"ให้ดูไว้เผื่อเจอกันจะได้รู้ว่าเป็นใคร" ผมพยักหน้า

"ว่าแต่พี่เก็บรูปเขาไว้ทำไมครับ"

"หึงหรือไงเรา" ผมบู้หน้า

"เปล่าสักหน่อย"

"พี่เก็บไว้เพื่อเตือนตัวเองว่าต่อให้รักแค่ไหนสุดท้ายก็จบไม่สวยอยู่ดี" ผมหันไปมองหน้าเขา

"เราเคยรักกันมาก เราเจอกันตอนที่พี่ไปเรียนเมืองนอก พี่ทำงานส่งตัวเองเรียนตามคำสั่งของพ่อ เพื่อให้ได้ประสบการณ์
ก่อนจะกลับมาบริหารงานที่บ้านพ่อพี่เลียงแบบบุฟเฟ่ต์นะ พี่สนุกกับการใช้ชีวิตบ้านๆ ที่ไม่ต้องมีลูกน้องมาเฝ้า จนเจอสโนว์ เขาเข้ามาทำดีกับพี่ดูแลพี่เวลาเหนื่อยจากทำงานหรือเรื่องอื่นๆ เราเข้าใจกันและกันดูแลกัน เราอยู่ด้วยกันมีความสุขจนวันนึงแค่ความสุขที่มีกันและกันมันไม่พอ เขาไปเจอกับเศรษฐีหนุ่มที่สามารถให้เขาได้ทุกอย่าง เขาเริ่มโกหก กลับบ้านดึก มีของหรูหราใช้ และสุดท้าย เขาก็หนีไป พอพี่ไปตามเขาก็บอกกับแฟนใหม่เขาว่าพี่เป็นโรคจิตตามตื้อและพยายามจะล่วงเกินเขา จนพี่โดนกระทืบปางตาย และถูกทิ้งไว้ซอกตึก" พี่ธารทำหน้าเศร้า

"พี่ธาร แล้วทำไมพี่ไม่บอกเขาล่ะครับว่าพี่ก็รวย" พี่ธารหันมามองหน้าผม

"ถ้าบอก พี่จะรู้หรอว่าเขาเป็นยังไง สุดท้ายเขาก็แต่งงานกับไอ้หนุ่มนั้น แต่พอความรักที่ต้องการไม่เวิร์คและคุณพ่อเป็นคนสั่ง
ให้ลูกน้องไปบอกว่าพี่เป็นใครทำให้สโนว์อยากกลับมาหาพี่อีก แต่คุณพ่อก็ดักทางด้วยการบอกสามีเธอทำให้เธอทำอะไรไม่ได้มาก"


"แสดงว่าตอนนี้ที่เธอกลับมาเพราะเลิกกับสามีแล้วหรอครับ"

"ได้ข่าวว่าสามีโดนยิงตายนะ จากคู่แข่งทางการค้า" อย่างนี้นี่เอง

"เห็นว่าทิ้งสมบัติไว้ให้แค่บางส่วน ตอนนี้คงกำลังหาทางเอาตัวรอดอยูู่คนเคยใช้เงินอู้ฟู่นะ" พี่ธารบอก

"พี่โอเคใช่ไหมครับ" ผมถาม

"โอเคสิ พี่ได้เล่าให้เราฟัง ก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก พี่ไม่อยากมีความลับกับต้นหรอกนะรู้ไหม"

ผมยิ้มแล้วค่อยเขยิบเข้าหาพี่ธารแล้วกอดเขา หัวพิงอยู่ที่อกคนตัวโต

"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ต้นจะอยู่ข้างๆพี่นะครับ ขอแค่บอกมาต้นจะทำให้หมดเลย แต่พี่ธารอย่าทำหน้าเครียดนะต้นไม่ชอบ" แล้วกอดเขาแน่นกว่าเดิม

"ทำไมล่ะ"

"ก็ทำหน้าเครียดพี่ธารขี้เหร่จะตายดูไม่ได้เลยนะ" แล้วผมก็หัวเราะ

"เรานี่มันจริงๆเลยนะ" แล้วพี่ธารก็กอดผมแน่นขึ้น

"พี่ผมหายใจไม่ออกแล้วเนี่ย" เขาหัวเราะ

"พี่หัวเราะได้ก็ดีแล้วครับ จำไว้นะไม่ว่ายังไงผมก็จะอยู่กับพี่เสมอ"แล้วผมก็ยิ้มให้เขา

"ต้น"

"ครับ"

จบคำพี่ธารก็ประกบริมฝีปากเข้ากับปากของผม ผมตกใจมือกำเสื้อนอนเข้าแน่น และกำลังจะอ้าปากท้วงแต่กลับกลายเป็น
เปิดโอกาสให้เขานำลิ้นร้อนเข้ามาในปากของผมได้ เขาไล่ต้อนไปทั่วโพรงปาก ลิ้นเสียดสีกันจนตัวผมร้อนวูบ เขาเล่นในโพรงปากอยู่นานจนผมแทบหมดลม พี่ธารจึงค่อยๆถอยออก หน้าผมคงแดงมา ผมหอบหายใจกำเสื้อเขาแน่น

"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ไม่งั้นพี่จะทำมากกว่าจูบนะ" เขาก้มลงจูบที่คอและดูดดุลจนผมเจ็บจี๊ด

"พะ..พี่ธาร ต้นเจ็บ อื้อ อือ " ผมกำเสื้อนอนแน่นเพื่อระบายความเจ็บเสียว พอพี่ธารพอใจเขาก็ใช้ลิ้นเลียที่เขาทำไว้เหมือนปลอบ

"ต้นเป็นของพี่นะ ของพี่คนเดียว" เขากระซิบข้างหู

"ครับ" ผมมองหน้าเขา จนเขายื่นหน้าเข้ามาประกบจูบผมอีกครั้ง

"อื้อ อือ พี่ธาร พอแล้วต้นจะตายอยู่แล้ว"

"ตายคาอกพี่ดีจะตาย" ว่าจบก็เอานิ้วชี้เขี่ยปากผมไปมา

"งือ พี่ธารปากต้นบวมหมดแล้ว" พี่ธารหัวเราะ

"โอเค คราวหน้าไม่หยุดแค่จูบแน่ๆ นอนเถอะเดี๋ยวพี่เข้าห้องน้ำแปป" แล้วเจ้าตัวก็ลุกไปเข้าห้องน้ำก่อนหันมาทางผมอีกครั้ง

"รอบนี้ห้องน้ำ แต่ถ้ายังไม่นอนรอบหน้าจะเป็นต้นแทนห้องน้ำนะ" ผมตาโต แล้วรีบเอาผ้ามาคลุมโปงทันที ก่อนได้ยินเสียงหัวเราะตามมา อีกไม่นานต้องเสร็จพี่ธารแน่ๆ ต้นต้องทำยังไงดี ต้องโทรไปปรึกษาเพื่อนซะแล้ว

.......................

วันนี้เป็นวันหยุดแต่ผมออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อไปที่บ้านของพ่อ เพื่อไปทำธุระบางอย่าง ผมรู้สึกว่าช่วงนี้ผมควบคุมตัวเอง
ไม่ค่อยได้เมื่ออยู่ใกล้ต้น อยากกินน้องให้รู้แล้วรู้รอด แต่ผมทำไม่ได้ต้องทำอะไรให้ต้นมั่นใจกว่านี้ก่อน วันนี้ผมเลยมาหาพ่อ

"สวัสดีครับคุณธาร มาหานายหรือครับ" คนสนิทของพ่อโค้งหัวให้ผมเมื่อเห็นผม

"ใช่ พ่ออยู่ไหน" ผมถามเพื่อไม่ให้เสียเวลา

"ในห้องหนังสือครับเชิญเลย" ผมพยักหน้ารับแล้วรีบเดินไปที่ห้องหนังสือตามที่คนสนิทพ่อบอก

ปัง

"พ่อ ผมจะมาเอาของ" ผมเปิดประตูทันทีโดยไม่เคาะ

"ไอ้ลูกเวร บ้านแกไม่เคร่งมารยาทเลยหรือไง เข้ามาไม่เคาะประตูถ้าฉันแก้ผ้าอยู่จะทำยังไง" พ่อบ่นไปเรื่อย

"ใครจะมาแก้ผ้าในห้องหนังสือล่ะพ่อ"

"ไอ้นี่ เผื่อฉันเบื่อเตียงเปลี่ยนเป็นชั้นหนังสือล่ะว่ะ" พูดไปเรื่อย

"เอาน่าพ่อไหนๆก็เข้ามาแล้ว ผมมีเรื่องจะคุย" ผมเข้าเรื่องไม่อยากรอช้า

"อะไรอีก"

"คือผมจะมาขอแหวนของแม่นะ" พ่อมองหน้าผม

"เอาไปทำอะไร"

"ผมจะเอาไปให้ต้นนะ ผมอยากให้น้องเป็นของผมอย่างถูกต้อง"

"ป๊าดดด ติโถ่ นราทรถูกใจสิ่งนี้ รอแปป พ่อไปหยิบเดี๋ยวนี้เลย" กระตือรือร้นยิ่งกว่าเรื่องตัวเองอีก หายไปสักพักก็กลับมาพร้อม
กล่องแหวนกำมะหยี่สีแดงในมือ

"เอาไปเลย ไอ้ลูกรัก แล้วแกจะให้เขายังไงมีแผนไหม" ผมส่ายหัว

"ให้แบบโต้งๆเนี่ยแหละ แสดงความจริงใจไปเลย"

"ไอ้ธารคือไอ้ธารจริงๆ ถ้าเป็นไอ้เทียนคงโรแมนติกจนเป็นเบาหวาน"

"แล้วพ่อจะไปพูดถึงไอ้เทียนทำไม"

"เปล๊า เออนี่แกได้ข่าวเมียเก่าแกหรือยัง"

"ได้ยินบ้าง อาทิตย์ก่อนผมเห็นเขาที่ห้างใกล้บริษัท" ผมบอกพ่อ

"มันจงใจมาให้แกเห็นล่ะสิ บ้านอยู่คนละทางมาทำซากอะไรแถวออฟฟิศ"

"พ่อก็พูดเกิน เขาคงไม่อะไรแล้วมั้ง"

"แกคอยดูเถอะ อีกไม่นานมันใส่แกแน่ แกระวังไว้เถอะ"

"ผมไม่กลับไปหรอกพ่อ ผมไม่ได้รักเขาแล้ว แต่ถ้าอยากเป็นเพื่อนกันผมก็ยังมีให้เพราะยังไงเราก็เคยรักกัน"

"จร้า พ่อพระเอก ระวังความใจดีของแกไว้เถอะจะทำแกบ้านแตก"

"เพ้อเจ้อนะพ่อ"

"พ่อเตือนไว้ก่อนนะ ถ้ามัวแต่ใจดีกับคนรอบข้างจนลืมคนอยู่ข้างๆแกจะเสียใจ ถ้ามันมาหาแกเมื่อไหร่ส่งมันมาเดี๋ยวพ่อจัดเอง"

"ผู้หญิงอย่างสโนว์ไม่คิดอะไรซับซ้อนแบบนั้นหรอกพ่อ"

"น้อยไปสิไอ้ลูกหมา กลับไปเลยไป รีบเอาแหวนไปให้เมียแกเลยไป คุยกับแกไม่สนุกเลยสู้คุยกับไอ้เทียนไอ้กรณ์ไม่ได้"

"ไปก็ได้ สวัสดีครับนายใหญ่" แล้วก็เดินออกมาจากห้องหนังสือทันทีเพื่อกลับบ้านผมต้องไปวางแผนให้แหวนต้นก่อนไม่มี
สมองคิดเรื่องคนอื่นหรอกแต่ถ้าเป็นไอ้เทียนจะให้แหวนยังไงนะ โอ๊ยพ่อนะพ่อจะพูดถึงไอ้เทียนทำไมเนี่ย

................
 ตอนนี้ผมอยู่ที่ร้านกาแฟแถวบ้านไอ้ไผ่ เพราะวันนี้ผมนัดกับมันมาสอบถามสารทุกข์สุขดิบ สักหน่อยไม่รู้ช่วงนี้มีอะไรอัพเดต

ชีวิตเพื่อนสาวของผมบ้าง ผมนั่งรออยู่ก่อนเพราะผมมาค่อนข้างเร็ว

ป้าบ

"เพื่อนต้นคิดถึงจังเลย" เต็มหลังเลยครับ

"เจ็บนะเว้ยตีมาได้" มันยิ้มแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม

"โทษทีดีใจไปหน่อย เป็นไงบ้างช่วงนี้ความรัก" ไผ่ยิ้มแบบเจ้าเล่ห์

"ก็ไม่อะไร ว่าแต่แกเถิด แพ้หนุ่มเจ้าเล่ห์หรอ" ผมยิ้ม

"บ้าบอ" ไผ่ก้มหน้าแก้มแดงน่าเอ็นดูเชียว

"ถ้าเปิดเผยเมื่อไหร่ก็อย่าลืมบอกฉันด้วยล่ะ"

"รู้แล้ว"

"แกยอมรับแล้ว" ผมแซว

"จะให้ปฎิเสธหรือไง"

"ดีใจด้วยนะ"

"ดีใจอะไร ยังไม่ได้ตกลงคบสักหน่อย ว่าแต่แกเถอะเสร็จเขาหรือยัง"

"เสร็จอะไรล่ะทะลึ่งใหญ่แล้วนะ"

"แหม นอนห้องเดียวกันเตียงเดียวกัน ไม่มีอะไรจริงอ่ะ"

"ก็ยังไม่เป็นอะไรกัน"

"อ่อ รอสถานะที่ชัดเจนนี้เอง" ไผ่ยิ้ม

"แต่ถ้าถึงเวลาจริงๆฉันควรทำไงดีว่ะแก"

"ตายแล้ว น้องต้นหนูถามอะไรคะเนี่ย"

"ก็ฉันไม่เคยอ่ะ" ไผ่สูดหายใจ

"ปล่อยตามธรรมชาติเลยค่ะ คุณธารเขาคงทำเป็นแหละแกนอนเฉยๆก็พอ"

"แกพูดอะไรเนี่ย" เขิลโว้ยย

ผมนั่งคุยกับไผ่ไปเรื่อยๆจนถึงเวลาที่ต้องแยกย้าย อยากจะบอกว่าคุณกรณ์มารับไผ่กลับด้วย ผมยิ้มให้ทั้งสองคนแล้วแยกกลับบ้านพอถึงบ้านผมก็พบว่าบ้านมืดสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่ ผมเข้ามาในบ้านแล้วตะโกนเรียก

"ป้านิ่มครับ ไม่มีใครอยู่หรอครับ" ไปไหนกันหมด ผมเดินเข้ามาถึงห้องรับแขกก็เห็นเทียนจุดอยู่ที่พื้นทางเดิน

"มีเซอร์ไพรซ์อะไรหรือเปล่าเนี่ย" ผมพูดกับตัวเองแล้วเดินตามเทียนที่ถูกวางไว้ตามทาง เดินตามไปจนถึงสวนหลังบ้าน ก็พบโต๊ะอาหาร

มีอาหารวางอยู่พร้อมกับพี่ธาร ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งหนึ่งของโต๊ะอาหาร พี่ธารอยู่ในชุดสูทสีขาว ในมือถือไวน์แดงอยู่

ผมเดินเข้าไปใกล้ๆเขา

"พี่ธารนี่มันอะไรหรือครับ" เขาหันมาทางผมแล้วยิ้มให้

"นั่งลงก่อนสิพี่เตรียมไว้ให้เราดินเนอร์กัน" ผมนั่งลงตามที่เขาบอก

"นึกยังไงครับเนี่ย"

"พี่ก็อยากจะสร้างความประทับใจบ้างไม่ได้หรอ"

"ได้ครับ แต่ผมไม่คิดว่าพี่จะมีมุมนี้ด้วย"

"ก็อยากให้ต้นเห็นพี่หลายๆมุมไง ทานข้าวเถอะพี่สั่งแต่ของที่ต้นชอบทั้งนั้นเลย" เขาว่าแล้วตักอาหารมาใส่จานผม

"ขอบคุณครับ"

เราทานกันไปเรื่อยๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศ พอทานอิ่มเด็กในบ้านก็มาเสิร์ฟของหวานเป็นเครปเย็นที่ผมชอบ

"อร่อยจังครับ" พี่ธารยิ้ม

"ต้น พี่มีเรื่องจะคุยกับต้นนะ" ผมเงยหน้าจากเครปมองหน้าพี่ธาร

"มีอะไรหรือเปล่าครับ"

"คือพี่ว่าเราก็อยู่ด้วยกันมาสักพักแล้ว เรียนรู้กันมาพอสมควรพี่ว่ามันถึงเวลาแล้วล่ะ"

"ครับ?"

"คบกับพี่นะต้น"

".."

ผมงงทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก พี่ต้นลุกจากที่นั่งตัวเองเดินมาหาผมแล้วหยุดยืนที่ด้านหลังแล้วโน้มตัวลงมาจับมือซ้ายผม
ก่อนจะเอามืออีกข้างที่ไม่ได้จับอะไรล้วงบางอย่างออกมา แล้วสวมลงที่นิ้วนางของผม แหวนมันคือแหวนครับ

"ต่อไปนี้ขอให้ต้นเป็นทุกอย่างในชีวิตพี่ได้ไหมครับ" เขาพูดอยู่ข้างหูแล้วกอดผมจากด้านหลังทั้งที่ยืนอยู่ ผมหันไปมองพี่เขาที่แก้มแนบกับผมอยู่

"ทุกอย่างเลยหรอครับ"

"ทุกอย่างเลย พี่รักต้นนะครับแล้วต้นรักพี่หรือเปล่า"

ผมก้มหน้าแล้วค่อยๆดึงแขนพี่ธารออก แล้วลุกขึ้นหันไปเผชิญหน้ากับเขา ก่อนที่จะโน้มคอคนตัวโตลงมาแล้วกดจูบที่คอหนา
ดูดเบาๆจนเกิดรอย พี่ธารตกใจแปปนึงก็ผ่อนคลายขึ้นผมผละออกจากคอเขาแล้วเอามือทั้งสองข้างจับใบหน้าของเขา

"พี่เป็นของผมแล้วนะ ต่อไปนี้ผมจะเป็นทุกอย่างสำหรับพี่แล้วพี่ก็คือทุกอย่างสำหรับผมเหมือนกัน"

"ร้ายนักนะเรา จะให้พี่หลงไปถึงไหน" พี่ธารเอามือบีบจมูกผมเบาๆ ผมกอดพี่ธาร

"ผมรักพี่นะครับ" คนตัวโตก้มลงกดจูบที่หัวของผม

"พี่รักต้นมากกว่าอีก" ขิงจริงๆ

เรากอดกันอีกสักพักก็ชวนกันขึ้นห้องไปอาบน้ำพักผ่อน ต่างคนต่างอาบน้ำเสร็จแล้วก็มานอนกอดกันบนเตียง

"ตัวหอมจังเลยนะต้น"

"พี่ก็หอมเหมือนกันนั้นแหละก็เราใช้ครีมขวดเดียวกัน" เขาเงียบไปสักพัก

"ต้นพี่ขอจูบหน่อยได้ไหม" ผมขมวดคิ้ว ปกติไม่เห็นขอเลย

"แล้วรออะไรล่ะครับ" คนตัวโตไล่จูบตั้งแต่ขมับ เปลือกตา แก้ม แล้วมาหยุดที่ริมฝีปากและบดจูบอย่างนุ่มนวลกว่าทุกครั้ง
ทำผมเคลิ้ม พี่ธารผละออกเล็กน้อย ผมเห็นเขาหน้าแดงซ่าน ตาปรือ

"อ้าปากหน่อยเด็กดี" เขาพูดด้วยเสียงที้่เซกซี่ สติที่ไม่ค่อยเต็มร้อยของผม ทำตามที่เข้าบอกผมเผยอปากเล็กน้อย เขาจึงประกบจูบเข้ามาใหม่พร้อมลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามากวาดต้อนลิ้นของผมจนผมจนมุม ตักตวงความหวานอย่างเอาแต่ใจแต่ก็ละมุนอยู่ในที

"อื้อ อือ"

ผมประท้วงเพราะเริ่มหายใจไม่ทัน มือกำเสื้อนอนของเขาแน่น เขาผละออกเพื่อให้ผมได้หายใจ ตอนนี้หลังผมติดที่นอน
แล้วเรียบร้อยโดยมีคนตัวโตคร่อมทัพผมอยู่ ผมมองหน้าพี่ธารก็รู้ว่าเขากำลังอยู่ในอารมณ์ไหนเพราะมีอะไรบางอย่างกำลังทิ่มหน้าท้องของผมอยู่

"พะ พี่ธาร" เขาหอบหายใจหนัก แล้วก้มลงมากอดผมพร้อมกระซิบข้างหูผมด้วยเสียงที่แหบพร่า

"ต้นครับ น้องเป็นของพี่ได้ไหมครับ"

............................
กรี๊ดดดดด

อีพี่จะล่อลวงน้องแบบนี้ไม่ได้นะคะ ตอนนี้ก็จะหวานๆหน่อยนะฮะท่านผู้อ่าน

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 9 อดีต <25/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-05-2019 21:26:45
 :oo1: :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 9 อดีต <25/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 25-05-2019 21:44:55
ขอเป็นแฟน แล้วขอนอนต่อด้วยเลย อะไรจะเร็วปานนั้น :z1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 9 อดีต <25/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 25-05-2019 22:33:05
ถามกันอย่างนี้ต้นว่าไง แต่เล่นตัวหน่อยก็ดีนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 9 อดีต <25/05/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 26-05-2019 01:05:37
แหมๆๆ เป็นเพื่อนกันได้เพราะเราเคยรักกัน ถุย!!!
หัวข้อ: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 10 เชื่อใจ <09/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Garuda8 ที่ 09-06-2019 17:43:34
ตอนที่ 10

เชื่อใจ



"ต้นครับ น้องเป็นของพี่ได้ไหมครับ"

ผมมองหน้าพี่ธารที่ตอนนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนาและขอร้องอยู่ในตัว ผมสบตาพี่ธารไม่นานก็หันหน้าหนี

"อ่อนโยนหน่อยนะครับ นี่ครั้งแรกของผม" ผมพูดไปก็เขิลไปคิดว่าหน้าคงแดงแน่ๆ

ฟอด

พี่ธารหอมลงมาที่ขมับของผม

"เด็กดีของพี่"

พี่ธารเชยคางผมให้หันไปมองหน้าและสบตากับเขา ก่อนจะค่อยก้มหน้าลงมาจนริมฝีปากแตะกัน เขาไล่ลิ้นเลียไปตาริมฝีปากของผมช้าๆทั้งบนและล่าง ก่อนจะสอดปลายลิ้นเข้าไปควานหาความหวานในโพรงปากอีกครั้ง ดูดดุนจนผมหายใจไม่ทัน ก่อนจะละริมฝีปากออก

"อย่าทำหน้าแบบนี้สิเดี๋ยวพี่ก็อ่อนโยนไม่ไหวหรอก"

ผมได้แต่หันหน้าหนี

"อ๊ะ" ขณะที่ผมหันหนีพี่ธารก็ใช้ริมฝีปากขบเข้าที่ซอกคอของผม พร้อมทั้งมือใหญ่ที่ล้วงเข้ามาในเสื้อ ลูบหน้าท้องไล่ขึ้นมาจนมาถึงเม็ดเล็กสีชมพูที่หน้าอกผม เขาใช้ปลายนิ้วสะกิดและเขี่ยไปมาเบาๆ

"ยะ อย่า ตรงนั้นมัน อะ อื้อ"

"มันรู้สึกดีใช่ไหม"

พี่ธารกระซิบข้างหูผมก่อนจะปลดกระดุมชุดนอนผมออกอย่างรวดเร็ว และกระชากกางเกงนอนหลุดออกจากตัวผมอย่างง่ายดายตอนนี้ผมเหลือแค่ชั้นในตัวเดียวเท่านั้น

"ยะ อย่ามองนะ มันน่าอาย" ผมใช้มือข้างหนึ่งปิดชั้นในไว้และอีกมือปิดที่หน้าอก

"น่ามองจะตาย จนพี่จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว" พูดจบเขาก็ดึงมือผมออกและกดข้อมือผมไว้ข้างศรีษะ จากนั้นเขาก็ก้มลงมาชิมเม็ดเล็กที่อกของผม ทั้งดูดและเม้มเหมือนเด็กไม่มีผิด

"พะ พี่ธาร แบบนี้มัน อื้อ เสียว" พี่ธารไม่หยุดการกระทำแต่ยังสลับมาทำอีกข้าง พร้อมทั้งมือก็รูดปราการด่านสุดท้ายของผมออกไป

"แล้วรู้สึกดีหรือเปล่า" ผมมองหน้าพี่ธารแล้วพยักหน้า พี่ธารยิ้มแล้วถอดเสื้อของตัวเองออก เผยให้เห็นรูปร่างสมส่วน หน้าท้องเป็นลอนน่ามองจนผมต้องหันหนีด้วยความเขิล ก่อนที่พี่ธารจะจับมือผมให้ไปสัมผัสกับลูกชายของเขาภายใต้ชั้นใน

"มันต้องการต้นนะ ต้นพร้อมใช่ไหม" ผมมองลูกชายพี่ธารก่อนจะพยักหน้า พี่ธารจึงก้มลงมาจูบที่หน้าอกผมแล้วไล่ไปถึงหน้าท้อง สะดือและตรงส่วนนั้น

"พะ พี่ อย่ามันสกปรก" ผมพยายามดิ้นหน้าแต่ถูกพี่ธารจับไว้

"ทุกอย่างที่เป็นต้นไม่สกปรก และมันเป็นของพี่ทุกอย่าง"

ก่อนที่เขาจะเอาปลายลิ้นแตะส่วนปลายยอดไล่ปลายลิ้นวนรอบรอยแยกจนผมสะดุ้งด้วยความเสียวซ่าน เขาเชี่ยวชาญมาก และพี่ธารก็ค่อยๆเอาส่วนนั้นเข้าไปในโพรงปากร้อนชื้นของเขา

"อื้อ อ่ะ ตะ ต้น สะ เสียว อ่ะ " ผมเผลอยกสะโพกตามจังหวะอารมณ์

"พี่ธาร มะ ไม่ไหวแล้ว จะ จะ ออก แล้ว" พี่ธารยังคงทำมันต่อไปไม่สนใจฟังผมเลย จนผมปลดปล่อยออกมา

"อื้อ อ่า " ผมกระตุกสองสามครั้ง ก่อนนอนหอบไม่มีแรงอยู่บนเตียงแล้วหันไปที่คนช่างแกล้ง

"อย่ากลืนนะคายออกมา ทำไมไม่ฟังกันเลย" พี่ธารยิ้มก่อนกลืนลงไปบางส่วนแล้วเหลือบางส่วนไว้

"ถึงคราวพี่บ้างนะ" ว่าจบพี่ธารก็เอาน้ำรักที่เหลือไว้ป้ายไปที่ช่องทางสีสวยของผม

"อ๊ะ" แล้วพี่ธารก็ค่อยๆเอานิ้วเบิกทางก่อนอย่างอ่อนโยน

"เจ็บไหมคนดี" ผมส่ายหน้า

"มันรู้สึกแปลกๆครับ"

"พี่จะเพิ่มนิ้วแล้วนะ" ไม่รอช้านิ้วที่สองก็เข้าไปสำรวจด้านในตัวผมทันทีและนิ้วที่สามก็ตามมาในเวลาไม่นาน

"อ่ะ ตรงนั้นมัน" ผมสะดุ้งเมื่อนิ้วทั้งสามไปโดนบางอย่างในตัวผม

"ตรงนี้หรอ" พี่ธารเหมือนแกล้งผม เขาส่งนิ้วทั้งสามไปโดนจุดนั้นเรื่อยๆจนผมสั่นไปหมด

"พี่ อย่า แกล้ง ต้น ไม่ไหว"

"หึๆ" พี่ธารหัวเราะแล้วค่อยๆดึงนิ้วออก จนผมรู้สึกโล่งว่างที่ช่องทาง

สวบ

"อ๊ะ พี่ธารต้นเจ็บ" พี่ธารก้มลงมาปลอบผม

"ชู่ว์ เด็กดี อย่างเกร็งนะ ผ่อนคลายแล้วจะดีขึ้น" ผมทำตามที่คนตัวโตบอก พร้อมทั้งที่คนตัวโตก็ขบที่คอ และหน้าอกเพื่อไม่ให้คิดถึงเรื่องอื่น

สวบ

"อึก อ่า เข้าไปหมดแล้วนะเด็กดี" ผมกอดพี่เขาแน่น

"พี่จะขยับแล้วนะ ถ้าเจ็บก็ข่วนหรือกัดไหล่พี่ได้เลยนะ" จบคำพี่เขาก็ค่อยๆขยับ จากตอนแรกที่เจ็บเสียดผ่านไปสักพักกลับมีความรู้สึกอื่นมาแทน

"อ่ะ อ่า อืม พี่ธารตรงนั้น"

"อึก ตรงนี้หรอครับเด็กดี"

พับ พั๊บ พับ

พี่ธารค่อยๆประคองผมขึ้นเพื่อเปลี่ยนท่ามานั่งบนตักของเขาแทน

"อื้อ ทะ ท่านี้มันลึกเกินไป ต้นไม่ไหว"

"แล้วไม่ชอบหรอครับ" พูดจบพี่ธารก็สวนสะโพกเข้าออกถี่และแรงกว่าเดิม มือก็ประคองร่างของผม ปากก็ยังคลอเคลียอยู่ที่เม็ดสีชมพูที่ดูพี่เขาจะชอบมาก

พับ พั๊บ พั๊บ

"อ๊ะ อื้อ ตรงนั้น แรงอีก แรงกว่านี้" นี้ผมพูดอะไรออกไปอารมณ์มันพาไปล้วนๆ

"อืม อ่า ตรงนี้หรอ เดี๋ยวพี่จัดให้" ผมกอดพี่ธารไว้แน่นในตอนที่เขาขยับ พอเขาขยับลูกชายผมก็เสียดสีหน้าท้องแกร่งจนเสียว ผมกำลังจะเสร็จรอบที่สอง

"อ่า จะ ไม่ไหวแล้ว อืมสะ เสียว กะ เกินไป"

"พร้อมกันนะเมียพี่"

พับ พั๊บ พับ พี่ธารเร่งจังหวะจนผมสั่นไปหมด

"อ่ะ อืม อ่า" ผมปลดปล่อยอีกครั้งพร้อมกระตุกจนช่องด้านหลังไปตอดรัดสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ภายใน

"อ่า ตอดพี่แบบนี้แกล้งกันหรอ" พี่ธารสวนสะโพกอีกครั้งสองครั้งก็ปลดปล่อยเข้ามาข้างในตัวผม ผมรู้สึกได้ถึงความอุ่นร้อนภายในตัวก่อนพี่ธารจะค่อยประคองร่างผมนอนราบกับเตียง ทั้งที่ยังมีส่วนนั้นเชื่อมกันอยู่

"พี่ธารเอาออกไปได้แล้วต้นอึดอัด" พี่ธารยิ้มแล้วหอมแก้มผม

"ลูกชายพี่มันดื้ออ่ะมันไม่ยอมลงเลยทำไงดี"

"หื้อ ไม่เอาแล้วนะต้นเหนื่อยเจ็บด้วย"

"เจ็บอะไร ทีเมื่อกี้ยังบอกแรงอีก แรงอีก"

เพี๊ยะ

ผมตีแขนพี่ธาร

"เอาออกไปเลยนะ อ๊ะ" พี่ธารขยับตอนที่ผมกำลังพูด

"สงสัยต้องให้ลูกพี่หายงอแงก่อนเดี๋ยวค่อยเอาออกเนอะ ราตรีนี้อีกยาวไกลนะเมียจ๋า"

"ไอ้พี่ธาร ไอ้หื่น" แล้วราตรีนี้ก็อีกยาวจริงๆ เราเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้งและอีกครั้ง

"""""""""""""""
  ตอนเช้าผมตื่นสายกว่าปกติเพราะเมื่อคืนผมโดนดูดพลังเกือบเช้า ไม่รู้ไปตายอดตายอยากมาจากไหนเล่นเอาผมปวดเอวไปหมดผมจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อยก็เดินลงมาด้านล่างถึงจะเดินขัดๆอยู่บ้างแต่ก็พยายามทำตัวเป็นปกติ

"ตื่นแล้วหรอ พี่ให้คนเตรียมข้าวไว้ให้แล้วรีบมาทานตอนร้อนๆเร็ว" พี่ธารเห็นผมก็รีบมาประคองผมอย่างกับผมป่วย

"ทำไมพี่ไม่ปลุกผมล่ะครับมันสายมากแล้วนะ" ผมถาม

"ก็เมื่อคืนพี่เห็นเราเหนื่อยมากเลยไม่อยากกวนกลัวไม่สบายด้วย" ผมมองหน้าเขาส่งสายตาคาดโทษ

"ทำอะไรกันเหนื่อยหรอครับ" เสียงคุณกรณ์แทรกขึ้น

"เรื่องส่วนตัวแกยุ่งอะไร"

"เรื่องส่วนตัวจะเป็นเรื่องส่วนรวมไม่ได้หรอครับ" ผมส่ายหัวแล้วรีบเดินหนีก่อนสองคนนี้จะตีกัน

"วันนี้ฉันอารมณ์ดีไม่อยากทะเลาะกับแก" แล้วพี่ธารก็เดินตามผมมาปล่อยให้คุณกรณ์หัวเราะชอบใจอยู่ตรงนั้นคนเดียว

"กินเยอะๆเหมือนเราจะเหนื่อยๆเดี๋ยวป่วยเอา" แล้วพี่ธารก็ตักอาหารให้ผม

"พี่อย่าเว่อได้ไหม" ผมดุเขา

"อะไรคนเป็นห่วงเมียไม่ได้หรือไง" ผมทำตาโต

"พี่ธาร จะเสียงดังทำไมเนี่ย"

"ก็พี่อยากให้คนอื่นรู้ว่าต้นเป็นเมียพี่" เล่นใหญ่ไม่มีใครเกิน

ครืด ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์ของคุณกรณ์ดังขึ้นขัดจังหวะการพูดคุยของผมและพี่ธาร

"สวัสดีครับ จากไหนครับ ผมจะลองเรียนให้ครับ" พี่กรณ์ก็หันมามองหน้าผม แล้วก็ไปเรียกพี่ธารแทน

"นายครับมีคนจะพูดด้วยครับ"

"จากไหน สำคัญมากไหมไม่เห็นหรอฉันกินข้าวอยู่กับเมีย" พี่ธารหันไปมองคุณกรณ์

"จากคุณสโนว์ครับ แจ้งว่ามีเรื่องสำคัญมากอยากให้ช่วยเหลือนะครับ" คนเป็นเจ้านายหันไปมองหน้าทันทีแล้วหันมาหาผม

"พี่ขอรับสายนี้ได้ไหม" พี่ธารถามผม

"ได้ครับ" ผมคิดว่าเขาจะไปคุยข้างนอกแต่เขากลับ รับโทรศัพท์จากคุณกรณ์แล้วเปิดลำโพงให้ผมได้ยินด้วย จะประทับใจดีไหมเนี่ย

"ผมธาริน พูดครับ"

(ธารคะ ทำไมต้องพูดชื่อจริงแล้วทำเสียงห่างเหินขนาดนั้นด้วยล่ะคะ)

"สโนว์มีธุระอะไรหรือเปล่าครับพอดีผมทานข้าวอยู่นะ"

(อุ้ย ขอโทษนะคะ ฉันเดือดร้อยจริงๆเลยโทรมาขอความช่วยเหลือนะค่ะหวังว่าธารจะไม่โกรธสโนว์สำหรับเรื่องที่ผ่านมานะคะ)

"ผมลืมมันไปหมดแล้วครับ มีอะไรก็รีบพูดมาเถอะครับ"

(คือตอนนี้สโนว์ไม่มีงานเงินติดตัวก็มีไม่มากเลยอยากจะให้คุณช่วยรับสโนว์เข้าทำงานหน่อยได้ไหมคะ)

ผมมองหน้าคุณกรณ์ เห็นคุณกรณ์ส่ายหน้า

"แล้วเงินมรดกจากสามีคุณล่ะ ไปไหนหมด" พี่ธารถามเรื่องนี้ผมก็สงสัยเห็นว่าสามีรวยนิ

(ญาติๆเขาไม่ค่อยชอบสโนว์ค่ะ เลยวางแผนหุบเงินในส่วนของสโนว์ไปหมด ธารช่วยสโนว์ด้วยนะคะ ถือซะว่าเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่ดี)

"ผมจะลองให้กรณ์หาตำแหน่งให้ดูนะครับ"

(ขอตำแหน่งที่ได้ทำงานกับธารได้ไหมคะ พอดีสโนว์พึ่งไปหาหมอมาหมอบอกว่าสโนว์เป็นโรคซึมเศร้าต้องมีคนคอยดูแล สโนว์ไม่มีญาติที่ไหนแล้ว มีแต่ธาร)

"อืม ผมจะลองคิดดูนะครับ"

(ธาร ยังไม่หายโกรธสโนว์หรอคะ ตอนนั้นสโนว์ผิดสโนว์ขอโทษนะคะ)

"ลืมมันไปเถอะครับ ตอนนี้ที่ผมยังคุยกับคุณได้เพราะผมไม่ได้คิดอะไรแล้ว ส่วนเรื่องที่ขอจะให้กรณ์หาให้นะครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอทานข้าวต่อ"

พูดจบพี่ธารก็กดวางแล้วส่งโทรศัพท์คืนให้คุณกรณ์ทันที

"นายครับเรื่องนี้"

"แกไปหาตำแหน่งให้เขาสักตำแหน่งไป"

"ส่งไปทำบริษัทนายใหญ่ดีกว่าไหมครับ"

"เรื่องนี้ฉันแก้ไขเองได้ ทำตามที่ฉันบอกก็พอ"

"ครับนาย"

หลังจากนั้นบรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็เงียบลงจนน่าอึดอัด

"พี่ธารครับ กินข้าวเสร็จแล้วไปเดินเล่นกันไหม" ผมชวนเพราะคิดว่าพี่ธารคงคิดมากเรื่องที่เกิดขึ้น

"ไปสิ" ว่าแล้วพี่ธารก็ลุกขึ้นเดินมาจูงมือผมไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะในหมู่บ้าน

เราเดินจูงมือกันเดินมาเรื่อยจนผมรู้สึกว่าพี่ธารสบายใจขึ้นจึงหยุดเดินแล้วชวนเขาไปนั่งที่ริมสระในสวนสาธารณะ

"พี่ธารคิดมากเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่าครับ" ผมถามด้วยความเป็นห่วง

พี่ธารมองหน้าผมแล้วยิ้มให้พร้อมกับเอามือข้างหนึ่งมาลูบแก้มผม

"เราโกรธพี่หรือเปล่าที่รับปากช่วยสโนว์แบบนั้น" ผมยิ้ม

"ไม่ครับ พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้วนิ ถูกไหมครับ" พี่ธารพยักหน้า

"แต่พี่กลัวว่าความไม่เด็ดขาดของพี่จะทำให้เกิดเรื่องวุ่นตามมา" เออก็รู้นิ

"ไม่เป็นไรครับ ผมรู้ว่าพี่พูดหมายถึงเรื่องอะไร ผมเชื่อใจพี่ครับ" คนตัวโตยิ้มให้ผม

"แต่ก็แปลกนะทำไมพี่ถึงเด็ดขาดแล้วก็ร้ายกาจกับทุกคนขนาดผมยังโดนเลยแต่กับคุณสโนว์พี่ไม่เห็นเด็ดขาดเลย"

"คงเพราะเราเคยรักกันมั้งเขาก็เป็นครั้งแรกของทุกอย่างพี่เลยอยากลองให้โอกาสเขาดู"

"พี่นี่ก็ตรรกะแปลกๆนะหวังว่าเรื่องนี้จะพอสอนอะไรพี่ได้บ้างนะ"

"หมายความว่ายังไง"

"โอกาสบางทีก็มีไว้สำหรับคนที่ควรได้รับมันจริงๆนะพี่แต่เรื่องนี้ผมไม่ยุ่งแล้วกันพี่จะได้เรียนรู้ว่าครั้งแรกก็ไม่ได้น่าจดจำเสมอไปหรอก"

"ถ้าพี่เกิดทำพลาดขึ้นมาเราจะโกรธไหม"

"ก็ผมบอกพี่แล้วไงว่าผมจะอยู่ข้างพี่ ผมมั่นใจในตัวพี่นะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะเชื่อพี่"

"ต้น"

"ครับ"

"พี่ธารรักน้องต้นนะ" ผมตาโต

"พี่เป็นอะไรเนี่ย" พี่ธารก็ดึงตัวผมไปกอด

"ถ้าครั้งนี้พี่ตัดสินใจผิดต้นก็จะรักพี่แล้วก็ยังอยู่ข้างพี่ให้กำลังใจพี่ใช่ไหม"

"ครับ" แล้วผมก็กอดเขากลับลูบหลังเขาเบาๆ

"ต้นรู้ไหมว่าตอนนี้พี่ขาดต้นไม่ได้แล้วนะ ถ้าต้นหายไปพี่ต้องตายแน่ๆ"

"นั้นแหละดีแล้ว จะได้ไปไหนไม่รอดเพราะฉะนั้นรักผมหลงผมเยอะๆนะ"

"ต้นเรามันร้าย กลับบ้านเถอะพี่ไม่ไหวแล้ว"

"หืม เป็นอะไรครับ"

"อยากหลงอยากรักต้นอีกแล้ว"

"โอ๊ยไอ้บ้าพี่ธาร"

.....................

กรณ์ Part

ตรู๊ด ตรู๊ด

(ว่าไงเจ้ากรณ์)

"นายครับยัย เอ่อ คุณสโนว์โทรมาหานายน้อยครับ"

(ยัยนั้นมันว่ายังไง)

"เธอจะให้นายหางานให้เธอครับเธอบอกว่าญาติสามีหุบสมบัติไปหมดไม่มีงานมีเงินติดตัวไม่มาก"

(แล้วเจ้าธารมันว่าไง)

"นายน้อยจะยอมช่วยครับ"

(กูว่าแล้ว และแกจะให้ยัยนั่นทำอะไร)

"ผมยังไม่ทราบเลยครับเลยจะโทรมาปรึกษานายก่อน อ่อ เธอบอกว่าต้องการทำงานกับนายน้อยเพราะเธอพึ่งพบว่าเป็นโรคซึมเศร้าต้องมีคนดูแลครับ"

(ตอแหลจริงๆ แกไปสืบมาหรือยังว่าเรื่องจริงไหม)

"เรื่องโกหกครับ เธอให้เพื่อนสามีที่เป็นหมอออกใบรับรองแพทย์ให้ในกรณีเราของดูหลักฐานครับ"

(ดี ถ้ามันอยากใกล้ชิดไอ้ธารนักให้มันใกล้ไป แกให้มันเป็นผู้ช่วยเจ้าธารซะแล้วให้ลูกต้นมาเรียนรู้งานกับแกชั่วคราวฉันจะดูใจไอ้ลูกชายฉันถ้ามันยังไม่เด็ดขาดคงฉันต้องเด็ดขาดเอง)

"ยังไงครับนาย"

(ในเมื่อผู้หญิงก็อยากได้ผู้ชาย ผู้ชายก็โลกสวยคิดว่ารักแรกจะกลับตัวได้ ฉันก็จะเอาเมียมันไปจากมันเอง)

"นายครับ"

(ฉันให้มันเจอต้นได้ฉันก็พรากต้นไปจากมันได้เหมือนกัน แล้วมันจะได้รู้ว่าควรสนใจและให้ความสำคัญกับใครมากกว่ากันในตอนนี้)

"ครับนาย"

(แกไปทำตามที่ฉันบอกได้แล้ว อีกไม่นานยัยสโนว์ได้เจอไอ้ธารเวอร์ชั่นดาร์กแน่ๆ สะใจกูจริงๆ มีความสุขไปก่อนเถอะ)

"นายนี้โหดใช้ได้นะครับ"

(กูเด็ดขาดโว้ย ไปๆแค่นี้แหละ)

"ครับนาย" กรณ์วางสายพร้อมกับมองโทรศัพท์ในมือ

"กูต้องวุ่นวายอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย เฮ้อ"

""""""""""""
 เช้าวันจันทร์ที่ผมขี้เกียจตื่นที่สุด ก็จะอะไรล่ะเมื่อคืนไอ้พี่ธารมันสูบพลังชีวิตผมอีกแล้ว มันทำเหมือนอดอยากปากแห้งมาก วันนี้ผมก็ตื่นขึ้นมาทำกิจวัตรตามปกติเตรียมเสื้อผ้าให้เจ้าของห้องแล้วลงไปดูอาหารเช้าแล้วขึ้นมาดูแลความเรียบร้อยของพี่ธารอีกครั้งและลงไปทานอาหารพร้อมกัน เดินทางไปทำงานพร้อมกันเหมือนปกติทุกอย่างที่เคยเป็นมาตลอดที่ผมมาอยู่กับเขา จนตอนนี้ตอนที่ผมมาถึงห้องทำงานของพี่ธาร

"เอ๊ะ คุณกรณ์ครับทำไมวันนี้ที่ห้องพี่ธารมีโต๊ะทำงานมาตั้งอีกตัวล่ะครับ ปกติผมก็ทำงานที่โซฟานะ"

"ไม่ใช่ของคุณต้นหรอกครับ"

"อ้าวแล้วของใครว่ะไอ้กรณ์" เจ้าของห้องหันไปถาม

"ของเลขาคนใหม่นายน้อยครับ"

"เฮ้ยฉันมีต้นอยู่แล้วนะจะเอาคนใหม่มาทำไม แล้วเมียฉันจะไปอยู่ไหน"

พี่กรณ์ก้มหัว

"เป็นคำสั่งของนายใหญ่ครับให้คุณต้นเป็นผู้ช่วยผมชั่วคราวเพื่อเรียนรู้งานในส่วนอื่น แล้วให้คุณสโนว์มาเป็นเลขานายแทนครับ"

"ห่ะ กะ แกว่าอะไรนะ" ผมตกใจกับพูดของคุณกรณ์ ให้คุณสโนว์มาเป็นเลขาเนี่ยนะ ฝากปลาย่างไว้กับแมวแท้ๆ

"ครับ นายสั่งมาแบบนี้"

"นี่พ่อเขาเล่นอะไรของเขาเนี่ย" ผมลูบแขนพี่ธารให้ใจเย็นลงแล้วยิ้มให้

"นายใหญ่เห็นว่าคุณสโนว์เธอเป็นโรคซึมเศร้านะครับเลยเห็นควรว่าต้องมีคนคอยสอดส่องตลอดและเห็นว่านายน้อยสนิทกับเธอมาก่อนน่าจะรู้ใจกันดีว่าจะรับมือยังไง"

"ไอ้กรณ์ ตกลงฉันหรือพ่อที่เป็นเจ้านายแก"

"พี่ธารช่างมันเถอะครับที่คุณกรณ์พูดก็มีเหตุผล ถ้าพี่อยากช่วยเธอก็ช่วยให้สุดนะครับ" ผมไม่ได้ประชดนะแต่แบบนี้ก็ดีจะได้ดูใจพี่ธารไปด้วยในตัว

"แล้วต้นจะไม่เป็นไรใช่ไหม"

"ผมจะเป็นอะไรล่ะครับ ผมก็ยังทำงานอยู่ที่เดียวกับพี่ จะเรียกใช้ก็เดินออกมาตามนะครับนั่งอยู่ข้างคุณกรณ์เนี่ยแหละ" ผมยิ้ม

"แบบนั้นก็ได้พี่เห็นแก่ต้นนะ"

"ครับ ส่วนพี่ก็อย่าทำลายความเชื่อใจของผมนะครับ" คนตัวโตยิ้มก่อนดึงผมเข้าไปกอดโดยไม่สนใจสายตาคุณกรณ์ที่มองอยู่

ก็อก ก็อก ก็อก

เสียงประตูดังขึ้นขัดจังหวะ

"เลขาคนใหม่มารายงานตัวแล้วค่ะคุณกรณ์" เสียงพนักงานต้อนรับดังจากหน้าประตู

"เชิญเข้ามาได้ครับ" คุณกรณ์เอ่ยอนุญาต

จากนั้นประตูก็เปิดเข้ามาพร้อมร่างระหงของสาวสวยในชุดสูตสีครีมกระโปรงสั้นพร้อมรองเท้าส้นสูงที่ทำให้คนใส่ดูสง่ามาก เธอสวยมากสวยจนผมยังมองค้าง แต่เหมือนเธอจะไม่สนใจใครในห้องเลยสายตาเธอโฟกัสอยู่ที่ผู้ชายที่ยืนข้างผมเท่านั้น

"สวัสดีค่ะธาร ไม่ได้พบตั้งนานคุณดูดีกว่าเดิมอีกนะคะ" เธอทักทายและยิ้มเขิลอายส่งให้เจ้าของห้อง

"นี่ที่ทำงานคุณเป็นเลขาเรียกผมว่าคุณธารินจะดูเหมาะกว่านะ" เธอหน้าเจื่อนเล็กน้อย

"ก็ได้ค่ะ"

"อ่อ นี่คนรักผม ต้น ตติวงษ์ ให้ถือว่าเขาเป็นเจ้านายคนนึงด้วยนะ ส่วนคนที่ยืนข้างคุณชื่อกรณ์สงสัยเรื่องงานก็ถามเขาได้เขาคือมือขวาของผม"

"ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณกรณ์ แล้วก็คุณตติวงษ์" เธอยิ้มให้ผมแต่ตาเธอไม่ยิ้มด้วยเลยสักนิด

"ครับ เรียกผมว่าต้นเฉยๆก็ได้ครับ"

"อ่อ ค่ะ"  แล้วเธอก็หันหน้าไปทางพี่ธารทันที

"มีอะไรให้สโนว์ทำไหมคะ ตอนนี้เวลางานแล้วควรแยกย้ายกันทำงานสักที" โห แซะกันเฉยเลย

"คุณไปนั่งที่โต๊ะก่อนเดี๋ยวผมให้กรณ์เอาเอกสารไปให้ ผมขอคุยกับคนรักผมก่อน" พูดออกมาได้คนรักขนลุกชะมัดแต่ก็รู้สึกดีแปลกๆ

"ค่ะ" เธอกระแทกเสียงแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงานทันที

"พี่ธารตั้งใจทำงานนะครับ ถึงผมจะนั่งข้างนอกแล้วแต่ผมก็รู้นะว่าพี่ตั้งใจหรือเปล่า"

"พี่จะตั้งใจทำงานให้เที่ยงเร็วๆ จะได้ไปกินข้าวกับต้น แล้วต้นอย่าลืมเดินเข้ามาห้องพี่บ่อยๆนะ"

"นี่พี่กำลังอ้อนผมอยู่ถูกไหม"

"หึ หึ ก็นิดนึง"

"ครับผมจะเดินเข้าไปบ่อยๆ งั้นผมไปทำงานก่อนนะครับ" แล้วผมก็หอมแก้มพี่ธารไปหนึ่งทีก่อนออกมานั่งข้างนอกที่เป็นที่ทำงานใหม่ของผม

..........................

 11โมงกว่าแล้ว ผมอ่านรายงานที่คุณกรณ์ไปเอามาให้เพลิน จนลืมไปเลยว่าต้องเอาเอกสารของแผนกบัญชีไปให้พี่ธารเซ็นตอน
11 โมง ผมนึกขึ้นได้ดังนั้นก็เตรียมเอกสารแล้วเดินไปที่หน้าห้องเจ้านาย

"ธารประชดที่สโนว์ทิ้งธารด้วยการไปคบผู้ชายหรือคะ"  ผมได้ยินเสียงจากด้านในห้องจึงขอเสียมารยาทแอบฟังหน่อย

"คุณจะคิดยังไงก็เรื่องของคุณแต่ระหว่างผมกับต้นมันคือเรื่องจริงไม่มีคุณเข้ามาเกี่ยวสักนิด"

"ธารคะ เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เลยหรอคะ"

"ถ้าเหมือนเดิมของคุณคือกลับไปเป็นคนรักคงไม่ได้เพราะผมรักคนอื่นแล้ว"

"คุณใจร้ายมากเลยนะคะ ที่สโนว์ต้องเป็นโรคซึมเศร้าเพราะรู้สึกผิดกับคุณนะคะคุณไม่สงสารสโนว์หรอคะ"

"แล้วตอนผมโดนผัวคุณกระทืบแล้วโดนโยนไว้ข้างถนนที่เมืองนอกคุณไม่เห็นสงสารผมเลย"

"ธาร สโนว์บอกแล้วว่าสำนึกผิดแล้วคุณจะฟื้นฝอยหาตะเข็บทำไม"

"เฮ้อ พอเถอะผมจะทำงานถ้าคุณยังพูดเรื่องไร้สาระอีกผมจะให้กรณ์ย้ายโต๊ะคุณไปไว้ข้างนอก"  แล้วบทสนทนาก็เงียบลงผมยืนอยู่หน้าประตูสักพักก่อนจะเคาะประตู

โครม

ยังไม่ทันได้เคาะก็ได้ยินเสียงจากในห้องซะก่อน ผมจึงเปิดประตูเข้าไปทันทีโดยที่ไม่ได้เคาะ

"เกิดอะไรขึ้นครับ" ผมส่งเสียงถามทันที แล้วก็พบกับภาพที่ถึงแม้จะพยายามไม่คิดอะไรแต่ก็ปวดใจเหมือนกัน

"ต้น พอดีสโนว์เขาเป็นลมนะช่วยหายาดมให้ที" ผมพยักหน้าแล้วเดินไปถามหายาดมกับคุณกรณ์แล้วรีบวิ่งเอามาให้ที่ธารทันที

"แล้วทำไมถึงเป็นลมได้ล่ะครับ" ทั้งที่ยังเถียงกันอยู่เลย

"ไม่รู้สิสโนว์กำลังเดินเอาเอกสารมาให้พี่แล้วก็ล้มฟุบใส่พี่เลย" แหมล้มถูกที่จริงๆนะพื้นออกกว้างไม่ล้ม

"ธาร ธารคะ" เสียงของเธอดังขึ้นหยุดความคิดผม พี่ธารค่อยๆประคองเธอขึ้น

"เป็นไงบ้าง" เจ้าของห้องถาม

"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ คงเพราะเป็นโรคนี้เลยนอนไม่ค่อยหลับ ช่วงนี้กินอะไรไม่ค่อยลงด้วย" เธอยิ้มเศร้าให้พี่ธาร

"งั้นคุณกลับบ้านไปพักเถอะ"

"ธารคะ สโนว์ขับรถมาถ้าให้กลับตอนนี้คงขับรถไม่ไหวยังไงช่วยไปส่งทีได้ไหมคะ"

"งั้นเดี๋ยวผมให้กรณ์.."

"สโนว์ไม่ไว้ใจใครนอกจากคุณนะคะ สโนว์กลัวไม่อยากระแวงไม่อยากคิดมากด้วย นะคะ ได้โปรด" พี่ธารพูดไม่ทันจบเธอก็แทรกขึ้นมาก่อน

"ก็ได้ครับ เอากุญแจรถมาเดี๋ยวผมขับไปส่ง" พี่ธารยื่นมือออกไปขอกุญแจ

"นี่ค่ะ"

"ต้นเดี๋ยวพี่มานะ รอทานข้าวกับพี่ก่อนนะ" แล้วพี่ธารก็เดินนำสุภาพสตรีออกไป และปล่อยให้สุภาพสตรีหันมายิ้มเยาะใส่ผม

"นี่มันอสรพิษชัดๆ" ผมพูดกับตัวเองหลังคุณสโนว์เดินพ้นประตูไป จะไว้ใจได้ไหมเนี่ย

.....................

บ่ายกว่าแล้วพี่ธารก็ยังไม่กลับมาผมหิ้วท้องรอเขาจนแสบท้องไปหมด โทรไปก็ไม่รับสายเป็นอะไรหรือเปล่าหรือว่าหลงกลเสร็จยัยสโนว์ไปแล้วก็ไม่รู้

ปึก

ผมหันไปมองก็เจอแซนวิชวางอยู่ตรงหน้าผมเลยเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของแซนวิช

"พี่เทียน มาได้ไงครับ" พี่เขายิ้ม

"พี่ได้ยินเสียงคนหิวแล้วแวะมานะ" ผมขมวดคิ้ว

"ทานเถอะเสียงท้องเราดังไปถึงชั้น 1 แล้วนะ ทานซะจะได้มีแรงทำงานต่อ"

"แต่ว่าพี่ธาร" พี่เทียนส่ายหน้า

"พี่ว่ามันไม่ได้กลับมาง่ายๆหรอกอย่ารอเลย"

"พี่เทียนรู้ด้วยหรอ"

"พี่หลานคุณลุงนะ สโนว์ร้ายกว่าที่คิดนะ ต้นอย่ารอเลยทานเถอะ"

"เฮ้อ ก็ได้ครับ แล้วตกลงวันนี้พี่มาทำอะไรครับ" ถามไปผมก็เคี้ยวไป

"มาอยู่เป็นเพื่อนเรานั้นแหละเห็นว่ากรณ์ไปทำธุระให้คุณลุง พี่เลยมาอยู่เป็นเพื่อน"

"ขอบคุณครับ"

"ทานเสร็จก็ทำงานต่อเถอะเดี๋ยวพี่สอนเอง" ผมยิ้มให้พี่เทียนแต่ในใจคิดถึงแต่พี่ธารหวังว่าผมจะเชื่อเขาได้นะเขาต้องมีเหตุผลที่ยังไม่กลับมาสินะผมทำงานมาจนล่วงเลยเวลาเกือบ 6 โมงแล้ว พี่ธารก็ยังไม่กลับเข้ามา ผมถอนหายใจวันนี้คงต้องกลับบ้านคนเดียว ผมจึงเก็บของเพื่อที่จะกลับบ้าน

"ต้นจะกลับแล้วใช่ไหม" พี่เทียนถามขึ้นระหว่างผมเก็บของ

"ครับ คุณกรณ์น่าจะยังไม่เสร็จธุระผมยังไม่เห็นเลย วันนี้คงต้องกลับบ้านเอง" พี่เทียนส่ายหน้า

"แล้วเราเอาพี่ไปไว้ไหน หืม" ผมเอียงหัว

"ไม่ต้องมางงเลย เดี๋ยวพี่ไปส่งแล้วจะอยู่เป็นเพื่อนกินข้าวด้วย"

"อ๋อ พี่เทียนใจดีจังเลยนะครับ" ผมยิ้ม

"ใครๆเขาก็ใจดีกับคนที่ตัวเองชอบทั้งนั้นแหละ" ผมมองหน้าที่เทียน

"พี่เทียน" ผมส่งเสียงเบาๆ

"ไปเถอะกลับบ้านกัน" ผมพยักหน้าแล้วเดินตามพี่เทียนไปที่รถ

..................
นราทร Part

"ยัยสโนว์นั้นให้ไอ้ลูกหมาไปส่งที่คอนโด"

"ครับนาย"

"หึ คงไม่ได้ออกมาง่ายๆแน่ แกไปเฝ้าไว้ว่ายัยนั้นจะมารยาอะไรแต่ถ้าสถานการณ์ไม่ดีบุกไปลากตัวไอ้ลูกไม่รักดีออกมาได้เลย"

"ครับ แล้วคุณต้น"

"หืมแค้นโว้ย ปล่อยลูกสะใภ้กูอยู่คนเดียว แกไปทำตามที่ฉันบอกเดี๋ยวต้นฉันส่งพระรองไปดูแลเอง"

"คุณเทียนหรอครับ"

"เออสิ ผัวมันไม่ใส่ใจเมียมัวแต่เห็นใจคนอื่น ก็ส่งคนอื่นไปดูแลเมียมันซะเลยจะได้รู้สึก ส่วนแกก็ไปได้แล้วลูกกูยิ่งฉลาดทุกเรื่องยกเว้นเรื่องอีนี่"

"เอ่อครับนาย"

"พ่อยังให้โอกาสแกธารเหมือนกับที่แกให้โอกาสยัยนั่น แต่ถ้ายังมีครั้งที่ 2 ที่ปล่อยให้ต้นรอแบบนี้อีก รับรองแกจะไม่ได้เจอคนที่รอแกอีกแน่ๆ"

อย่าหาว่าผมโหดเลยมันต้องได้เรียนรู้ว่าของสำคัญก็ควรให้ความสำคัญไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้เพราะรู้ว่ายังไงก็อยู่ข้างตัว

................

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะ ที่หายไปอาทิตย์นึงพอดีไปเที่ยวมาแหะๆๆ

มีใครเกลียกอีพี่ธารบ้างคะ ยกมือหน่อยไรท์ก็เกลียดมัน มันจะต้องได้บทเรียนค่ะ คุณพ่อช่วยไรท์ด้วยนะคะ จัดการไอ้พี่ธารให้มัน

สำนึกเลยค่ะ น้องเทียนของพี่จะดีไปไหนลูกมาเป็นพระเอกเหอะ


 :mew4: :mew4: :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:

หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 10 เชื่อใจ <09/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-06-2019 19:09:07
ในหัวธารไม่มีอะไรเลยแม่แต่สมอง น่าสงสารจริงๆ
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 10 เชื่อใจ <09/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 10-06-2019 00:13:30
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 10 เชื่อใจ <09/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 10-06-2019 00:58:49
นี่ธาร ต่อให้แก่จะโดนมารนายัยนั้น
แต่ถ้ามีใจห่วงต้นซักนิด ก็คงต้องโทรบอกบ้าง
ไม่ใช่ให้รอไปเรื่อยแบบนี้
คุณพ่อเอาต้นคืนเลยค่ะ อยากเห็นคนดิ้นตายไปเลย  :m16:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 10 เชื่อใจ <09/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-06-2019 04:01:14
เฮ้ออ พระเอกโง่อีกละ
หัวข้อ: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 11 หายไป <16/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Garuda8 ที่ 16-06-2019 12:06:40
ตอนที่ 11

หายไป


 รอ รอ รอ และรอ ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะ 4 ทุ่ม เข้าไปแล้วผมรอพี่ธารอยู่ในห้องนอนของเรา โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ ไม่โทรกลับ เขากำลังจะทำให้ผมคลั่งตายใช่ไหม ไม่ใช่ว่าผมไม่ไว้ใจเขาหรืออะไรแต่ผมเป็นห่วงเขา จะได้รับอุบัติเหตุอะไรหรือเปล่าเท่านั้นเอง

แกร็ก

ผมได้ยินเสียงลูกบิดประตู ผมจึงหันไปตามเสียง

"อ้าว ต้นยังไม่นอนหรอ" ถ้านอนจะเห็นนั่งอยู่นี้ไหมล่ะ

"ยังครับ แล้วพี่อ่ะไปไหนมา" ผมทำเสียงนิ่งๆห้วนๆใส่

"พี่ก็อยู่ดูสโนว์นั้นแหละ" หืมเอาหมอนเขวี้ยงใส่ซะดีไหมพูดออกมาได้หน้าตาเฉย

"แล้วถ้าพี่จะดูแลเขาจนถึงป่านนี้ พี่บอกให้ผมรอกินข้าวด้วยทำไม" ผมพูดแล้วจ้องเขาอารมณ์เริ่มกรุ่นแล้วครับคนอุตส่าห์เป็นห่วง

"พี่ขอโทษนะ พอดีโทรศัพท์แบตหมดเลยไม่ได้โทรบอก" เขาพูดจบก็เดินเข้ามาหาผม ผมเลยหันหลังให้ พี่ธารจึงกอดผมจากด้านหลัง

"สโนว์เขาอาการโรคซึมเศร้ากำเริบนะ จะจับโน้นจับนี้ทำร้ายตัวเองตลอดเลยพี่เลยอยู่ดูเขาจนเขาหลับนะ" มารยาซะไม่มีชิ้นดี ส่วนผัวก็ซื่อจนโง่

"เขาป่วยจริงหรือแกล้งป่วยกันแน่ ผมเห็นกลางวันเขาก็ปกติดี" ผมถามเขาออกไป

"ป่วยจริงสิใครจะมาล้อเล่นโรคแบบนี้แล้วใครจะบ้าเอามาหลอกคนอื่น" ผมหันหน้ามาเผชิญหน้ากับคนที่กอดผมอยู่

"พี่เชื่อเขาจริงๆ หรือพี่แกล้งโง่กันแน่" ผมจ้องเขาเพื่อหาคำตอบ

"เฮ้ย บ้าน่า พี่เชื่อเขาจริงๆ"

"ไม่ใช่ว่ากำลังคิดจะทำอะไรแล้วไม่บอกผมหรอกนะ"

"คิดมาก ใครจะไปทำอะไร พี่เห็นแก่ความสัมพันธ์ที่ดีเลยช่วยเขาเท่านั้นเอง"

"ผมรู้นะว่าพี่ไม่ใช่คนโง่ ผมไม่เชื่อหรอกว่าพี่จะเป็นคนดีขนาดไปเฝ้าแฟนเก่า"

"โถ่ เมียจ๋าไม่มีอะไรจริงๆ" พูดแล้วก็กอดผมแน่นกว่าเดิม

"ทีหลังจะกลับดึกก็โทรบอกด้วย รวยก็รวยพกบ้างนะพาวเวอร์แบงค์อ่ะ" ผมทำหน้างอ

"หึงพี่หรอที่อยู่กับเขา"

"เปล่า ผมเป็นห่วงว่าพี่จะเป็นอะไร จะเกิดอุบัติเหตุหรือมีเรื่องร้ายต่างหาก"

"ต้นของพี่ น่ารักที่สุด" แล้วพี่ธารก็กอดผมแน่นขึ้นอีก

"ไปอาบน้ำเลยไป เหม็นกลิ่นชะนี"

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า"  พี่ต้นหัวเราะก่อนเปล่าผมแล้วเจ้าของห้องก็เดินไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำสักพักก็เดินมาล้มตัวลงนอนที่เตียง พร้อมทั้งดึงผมไปกอด

"เมียใครเนี่ยตัวห้อม หอม นิ่มอีกต่างหาก"

"เมียคนพูดนี้แหละ หมั่นไส้หนัก" แล้วผมก็บีบจมูกพี่ธารเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว

"เออ ต้นเสาร์นี้วันเกิดต้นใช่ไหม" ผมมองหน้าเขาแล้วคิดสักพัก

"เออ ใช่วันเกิดผม พี่รู้ได้ไงครับ" พี่ธารยกยิ้ม

"มีอะไรที่พี่ไม่รู้เกี่ยวกับต้นล่ะ" ขี้โม้ชะมัด

"งั้นตอนเช้าเราตื่นมาใส่บาตรกันไหมครับ แล้วตอนบ่ายๆก็ไปทำบุญที่บ้านเด็กอ่อนกัน" พี่ธารยิ้ม

"เอาสิ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ให้ไอ้กรณ์ติดต่อมูลนิธิแล้วก็เตรียมของให้"

"ครับ แล้วพรุ่งนี้คุณสโนว์จะมาทำงานไหมครับ"

"คงไม่หรอกพี่ให้เขาพักก่อนแต่ถ้ารู้สึกไม่ดี ก็ให้โทรหาพี่" ผมพยักหน้า

"นอนเถอะ ดึกแล้ว" พี่ธารหอมหัวผมแล้วกระชับอ้อมกอดให้ผมได้ใกล้ชิดเขามากขึ้น

"ฝันดีครับ" แล้วผมก็จุ๊บแก้มคนตัวโตก่อนหลับไป

 ........................

เช้าวันต่อมาก็ยังคงดำเนินชีวิตตามปกติ เพราะพี่ธารให้ผมกลับเข้ามาทำงานที่ห้องเดียวกันอีกครั้ง เนื่องจากคุณสโนว์ถูกสั่งให้พักงานชั่วคราวสาเหตุจากอาการป่วย แต่ที่มันไม่ปกติคือ

ครืด ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์พี่ธารสั่นก่อนถึงเวลาเที่ยงทุกวัน ส่วนคนที่โทรมาจะใครล่ะครับ

"ครับ สโนว์ ได้ครับผมจะไปเดี๋ยวนี้คุณอย่าพึ่งหยิบจับอะไรนะ ใจเย็นๆผมกำลังจะไป"

นั่นแหละครับ พี่ธารถูกโทรตามโดยคุณแฟนเก่าของเขาทุกวัน เนื่องจากคุณสโนว์ฝันร้าย รู้สึกกลัวช่วยด้วย มาอยู่เป็นเพื่อนหน่อย รู้สึกอยากหยิบมีดมาเชือดข้อมือว่าไปหลายๆอย่าง และสุดท้าย

"ต้น พี่ไปดูสโนว์ก่อนนะทานข้าวได้เลยนะ" แล้วเจ้าของห้องก็เดินมาหอมแก้มผมแล้วก็รีบออกไป

"เฮ้อ เอาจริงๆก็ไม่ได้อยากให้ไปนะรู้หรือเปล่า" ผมบ่นกับตัวเอง

แล้วก็เป็นแบบนี้ตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผมเจอหน้าคุณกรณ์มากกว่าหน้าพี่ธารซะอีก เพราะเขาจะออกไปตั้งแต่ยังไม่เที่ยงกลับมาอีกทีก็ 3-4 ทุ่ม เป็นแบบนี้ทุกวันผมได้แต่ภาวนาว่าพรุ่งนี้วันเกิดผมจะไม่มีมารมาผจญหรอกนะ และแล้วก็วันเสาร์เป็นเช้าที่แสนสดใสผมตื่นแต่เช้าเพราะวันนี้ผมจะใส่บาตรตอนเช้า ผมจัดการธุระตัวเองเสร็จก็ปลุกคนที่นอนด้วยกันทุกคืนให้ตื่น และลงไปจัดสำรับสำหรับใส่บาตร แล้วก็ขึ้นมาตามพี่ธารอีกครั้งเมื่อพระใกล้มาแล้ว

"อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง "

"สาธุ" ผมรับพรพระเรียบร้อยสบายใจได้ใส่บาตรในวันเกิด

"ต้นเมื่อกี้อธิษฐานอะไรหรอ" พี่ธารถามผมเมื่อเราใส่บาตรเสร็จแล้วกำลังจะเดินเข้าบ้าน

"ขอให้วันนี้ราบรื่นครับ" พี่ธารขมวดคิ้ว

"ทำไมขออะไรแบบนั้น"

"ก็ช่วงนี้อุปสรรคมันเยอะนะครับ ทำอะไรก็ไม่ค่อยราบรื่น"

"เครียดหรอ หรือใครทำอะไรให้ไม่สบายใจบอกพี่ได้นะพี่จะจัดการคนที่รังแกต้นเอง" งั้นจัดการตัวเองคนแรกเลยไป บื้อหนัก

"ไม่มีอะไรครับ ไปทานข้าวเถอะจะได้ขึ้นไปพัก ตอนบ่ายต้องไปทำบุญต่ออีก" พี่ธารพยักหน้า

ผมและพี่ธารทานข้าวเสร็จพี่ธารก็ขึ้นไปจัดการงานที่ห้องทำงานนิดหน่อยส่วนผมก็เดินมาคุยกับคุณกรณ์เรื่องข้าวของที่จะขนไปให้น้องๆที่มูลนิธิตอนบ่ายนี้

"คุณกรณ์ของต่างๆเรียบร้อยนะครับ"

"เรียบร้อยดีครับเดี๋ยวช่วงเกือบๆเที่ยงรถจะไปส่งให้ที่มูลนิธิก่อนเลยครับ"

"ดีครับ ผมอยากไปแจกของให้เด็กๆด้วยตัวเองจะแย่แล้ว" คุณกรณ์ยิ้ม

"คุณต้นจะดูรายการของไหมครับว่ามีอะไรบ้าง หรือถ้าจะให้ซื้อเพิ่มจะได้ทันครับยังพอมีเวลา" ผมพยักหน้า

"ดีครับ"

ผมก็เดินตามคุณกรณ์ไปที่ห้องนั่งเล่น ก่อนที่คุณกรณ์จะขอตัวไปเอาโน๊ตบุ๊คมาเปิดให้ผมตรวจสอบรายการของที่ซื้อไปบริจาค ผมนั่งคุยกับคุณกรณ์ไปเรื่อยๆจนถึง 11 โมงกว่าก็ได้ยินเสียงเดินลงมาจากข้างบน ผมและคุณกรณ์หันไปตามเสียงเดินก่อนเห็นร่างสูงของพี่ธารเดินลงมาและตรงมาทางผม

"ต้นพี่ขอไปดูสโนว์แปปนึงนะ เพื่อนเขาโทรมาบอกว่าเขาจะฆ่าตัวตายเดี๋ยวพี่จะรีบมา"

"อ่า เอ่อ แล้วตอนบ่าย"

"พี่จะมาให้ทันรับรอง พี่ไปนะ" สัญญาแบบนี้อีกแล้ว

"เอ่อ มะ ไม่" แล้วพี่ธารก็รีบเดินไปขึ้นรถตัวเองทันที ทั้งที่ผมยังพูดไม่ทันจบ ผมได้แต่มองตามร่างสูงของพี่ธารไปจนลับสายตา

"คุณต้นครับ"

"อ่า คะ ครับ"

"คุณโอเคนะครับ" บอกไม่โอเคจะได้ไหมล่ะ

"โอเคครับ" คุณกรณ์พยักหน้า

หลังจากที่พี่ธารออกไปผมก็ทำอะไรฆ่าเวลาไปเรื่อยๆจนเกือบบ่าย 2 ใกล้เวลาที่ผมต้องไปที่มูลนิธิแล้วแต่พี่ธารก็ยังไม่กลับ ผมจึงโทรตาม

(ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกค่ะ)

อีกแล้วเป็นแบบนี้อีกแล้ว ผมจึงขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมานั่งอ่านหนังสือรอที่ห้องนั่งเล่นเหมือนเดิม อ่านไปก็ชะเง้อรอไปว่าเมื่อไหร่สามีจะกลับ

บ่าย3

บ่าย4

ผมอ่านหนังสือจนจบเล่มแล้วจึงโทรหาพี่ธารอีกครั้ง

(ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขนะนี้ค่ะ)

"เฮ้อ พี่ธารกลับมาทานข้าวเย็นก็ยังดีนะ"

พูดไปก็เหมือนน้ำตาจะไหล ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ธารก็กลับมาวันนี้วันเกิดผมเขายังไม่ลืมเลย แล้วผมก็นั่งรอต่อไปจนผล็อยหลับ

...............
กรณ์ Part

ตรู๊ด  ตรู๊ด

(ว่าไงเจ้ากรณ์)

"นายครับนายน้อยยังไม่กลับมาเลยครับ"

(แล้วลูกต้นล่ะ)

"รอจนหลับไปแล้วครับ"

(ดี แกฟังฉันนะ ถ้า 6 โมง นายน้อยแกยังไม่มา แกให้ป้านิ่มขึ้นไปเก็บข้าวของของลูกต้นซะ ส่วนแกไปบอกลูกต้นว่าพ่อจะให้ต้นไปทำงานที่อื่นชั่วคราว)

"แล้วจะให้ผมบอกนายน้อยยังไงครับ ถ้ากลับมาแล้วนายน้อยไม่เจอคุณต้นบ้านแตกแน่ครับ"

(แกก็บอกไปว่าฉันย้ายต้นไปอยู่กับคนอื่นแล้วมีอะไรข้องใจให้มาหาฉัน)

"เฮ้อ ก็ได้ครับนาย"

(แค่นี้นะแล้ว 6 โมงฉันจะโทรมาใหม่)

...................

ขณะนี้เวลา 5โมง 59 นาที

ครืด ครืด

(ลูกฉันมาหรือยัง)

"เฮ้อ ยังครับนาย"

(หึ งั้นแกไปบอกป้านิ่มได้เลย อีก ครึ่งชั่วโมงฉันจะให้คนไปรับ)

"นายครับแต่"

(ไม่มีแต่ ไปจัดการซะ)

"รับทราบครับ"

ผมจะทำไงดีละทีนี้เมียเขาหายผมโดนแน่ เกิดเป็นไอ้กรณ์นี้มันซวยจริงๆ

...................

"คุณต้นครับตื่นเถอะ" ผมได้ยินเหมือนใครมาเรียก ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาก็เห็นคุณกรณ์อยู่ตรงหน้า ผมค่อยๆลุกขึ้นนั่งแล้วตั้งสติสักแปปก็นึกขึ้นได้

"พี่ธารกลับมาแล้วหรือครับ" คุณกรณ์ยิ้มแห้งๆแล้วส่ายหน้า ผมถอนหายใจแล้วก้มหน้า

"คุณต้นไปล้างหน้าเถอะครับ เดี๋ยวจะมีรถมารับไปที่อื่น" ผมเงยหน้ามองคนพูด

"ไปไหนหรอครับ"

"นายใหญ่มีคำสั่งให้คุณต้นไปทำงานที่อื่นชั่วคราวนะครับ อีกครึ่งชั่วโมงจะมีรถมารับส่วนข้าวของป้านิ่มจัดการให้อยู่เดี๋ยวเอาลงมาให้ครับ"

ตอนนี้ผมกำลังคิดตามคำพูดของคุณกรณ์ ไปที่อื่นคือไปจากที่นี่

"แล้วพี่ธารล่ะครับ ผมยังไม่ได้บอกเขาเลยแล้วไปนานแค่ไหน"

"เดี๋ยวนายใหญ่บอกนายน้อยเองครับ ส่วนนานแค่ไหนไม่ทราบคงจนกว่างานจะเสร็จนะครับ"

"ผม ผม" ผมไม่อยากไปเลยถึงจะชั่วคราวก็เถอะ พี่ธารผมก็ยังไม่ได้ลา

"ไม่ต้องกังวลครับไปแปปเดียว อ่อ มือถือของคุณผมขอให้คุณไม่ต้องเอาไปด้วยนะครับ เพราะนายใหญ่ไม่อยากให้ใครโทรไปกวนคุณ เอามาให้ผมเดี๋ยวเก็บไว้ให้ครับ"

"ครับ งั้นผมไปล้างหน้าก่อนนะครับ"

"เชิญครับ"

ผมเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปที่ห้องน้ำแบบงงๆ นี้เขากำลังเล่นอะไรกันอยู่ว่ะเนี่ย ผมกวักน้ำใส่หน้าตัวเองแล้วคิดทบทวนอีกครั้ง

"ก็ดีเหมือนกันห่างๆกันซะบ้างเผื่อจะคิดอะไรได้มากขึ้น"

ผมล้างหน้าเสร็จก็เดินออกจากห้องน้ำมานั่งรอคนมารับตามที่คุณกรณ์บอกเดินมาถึงกระเป๋าเสื้อผ้าผมก็มาตั้งรอพร้อมอยู่แล้วนั่งรออยู่สักพักก็ได้ยินเสียงรถผมภาวนาในใจว่าขอให้เป็นพี่ธาร แต่คำภาวนาของผมก็ไม่เป็นผลเพราะคนที่เดินเข้ามาคือพี่เทียนที่ส่งยิ้มกว้างให้ผมมาแต่ไกล

"ต้นพี่มาแล้วรับแล้วพร้อมหรือยัง" พี่เทียนเดินมาตรงหน้าผม

"ครับ เราไปกันเถอะ" ผมยิ้มให้พี่เทียนแล้วหันไปหยิบกระเป๋าแต่พี่เทียนชิงหยิบมันไปก่อน

"พี่ถือให้ เราตามพี่มาก็พอ" ว่าแล้วพี่เทียนก็เดินออกไปทันทีส่วนผมก็ได้แต่เดินตามเขาไปขึ้นรถ

บรรยากาศบนรถเงียบสงบผมมองทางไปเรื่อยๆเพราะหัวสมองตอนนี้ไม่รู้จะคิดอะไรแล้ว

"ต้นนั่งเงียบเชียวเป็นอะไรหรือเปล่า" ผมหันไปมองพี่เทียน

"เปล่าครับผมก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ว่าแต่ผมต้องไปทำงานที่ไหนหรอครับ" พี่เทียนยิ้มอีกแล้ว

"นึกว่าจะไม่ถามซะแล้ว"

"ขอโทษครับพอดีมันงงๆนิดหน่อย"

"เราจะไปพักที่รีสอร์ทพี่สักระยะนะ ถือว่าพักผ่อนด้วยดีไหม"

"จริงหรอครับ คุณพ่อให้ผมไปทำงานที่รีสอร์ทพี่เทียน"

"ยิ่งกว่าจริงอีกแล้วก็อยู่ไปเรื่อยๆไม่มีกำหนดด้วย"

"ฮ่ะ ผมต้องอยู่ยาวเลยหรอครับ"

"อยู่ให้พี่ทำคะแนนจนกว่าเราจะชอบพี่คุณลุงเขาว่าอย่างนั้นนะ"

"พี่เทียนอย่าล้อเล่นสิครับ"

พี่เทียนเอามือมายีหัวผมเล่นแล้วหัวเราะ

"พี่ไม่อยากให้เราเครียดนะ ถ้าทางคุณลุงเคลียอะไรเรียบร้อยแล้วต้นก็กลับได้แล้วอย่าคิดมาก"

ผมยิ้มให้พี่เทียนก่อนจะหันหน้าไปทางหน้าต่างเพื่อชมทิวทัศน์ตอนพลบค่ำต่อ แล้วก็ได้แต่คิดว่าพี่ธารจะรู้สึกยังไงนะที่กลับมาแล้วไม่เจอผมแล้วจะคิดถึงกันบ้างไหม ขนาดอยู่ด้วยกันยังแรดไปหาคนอื่นโดยไม่คิดถึงผมเลย น่าน้อยใจชะมัดวันนี้วันเกิดผมแท้ๆ แต่ยังไงผมก็คิดถึงพี่นะผมจะรอวันที่ได้กลับไปหาพี่อีกนะครับผมยังคงยืนยันความคิดว่าผมเชื่อใจเขา ผมจะคิดถึงพี่ทุกวันนะครับ

...............
ธาร Part

ตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 2 ทุ่มแล้วผมยังอยู่ที่คอนโดของสโนว์ แล้วตอนนี้คงถึงเวลาที่ต้องกลับแล้วเพราะผมจองโต๊ะ Dinner ที่โรงแรมหรูไว้ตอน 3ทุ่มเพื่อเซอร์ไพรส์ต้นในวันเกิด โดยที่ไม่มีใครรู้ผมจัดการเองหมดเพราะผมอยากทำให้ต้นประทับใจ

"สโนว์ผมต้องกลับแล้วนะผมมีนัด" สโนว์หันมามองผม

"ธารคะแต่สโนว์ยังป่วยอยู่เลย"

"ผมว่าคุณก็ดูสบายดีแล้วนะ ซึ่งผมต้องไปจริงๆเรื่องนี้สำคัญมาก"

"ก็ได้ค่ะ ถ้ามีอะไรสโนว์จะโทรไปนะคะ"

"วันนี้ผมอาจไม่รับนะครับวันนี้มันวันสำคัญของคนสำคัญจริงๆ ผมไปนะ"

ผมเดินออกจากห้องของสโนว์ทันทีที่พูดจบ รำคาญจริงๆไม่เคยคิดเลยว่าผมจะเคยรักคนแบบนี้ไปได้อีกสักพักเถอะจะได้รู้ว่าผมไม่ใช่คนที่แสนดีคนเดิมของเขาอีกแล้วแต่ตอนนี้ผมต้องรีบกลับไปหาต้นก่อน ไม่รู้จะโกรธผมหรือเปล่าที่ไม่ได้ไปตามสัญญาตอนบ่ายทั้งที่วันนี้วันเกิดน้องแท้ๆ ผมรีบขับรถกลับมาบ้านอย่างเร็วอยากกอดต้นเพื่อขอโทษจะแย่แล้ว ผมจอดรถที่โรงจอดแล้วรีบเข้าบ้านทันที

"ต้น พี่กลับมาแล้ว" ผมเดินเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นก็ไม่เจอต้นหรือจะอยู่ที่ห้องครัวผมเดินไปที่ห้องครัวทันทีที่คิดได้

"ต้นครับ อยู่ในครัวหรือเปล่า" ก็ไม่มีอีก ผมจึงเดินขึ้นไปชั้น 2 เพื่อดูว่าต้นอยู่ในห้องนอนหรือเปล่า

"ต้นครับ พี่กลับมาแล้ว อยู่ไหนครับ" ห้องนอนก็ปิดไฟมืด ผมเปิดไฟแล้วเดินทั่วห้องก็ไม่มี ผมเริ่มใจคอไม่ดีแล้ว

"ต้นอยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า ต้น ตอบพี่หน่อยครับ"

ผมเคาะประตูห้องน้ำ แล้วเปิดเข้าไปก็ไม่เจอต้น ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่าขาผมชาไปหมด มือผมก็รู้สึกสั่นมันมีลางสังหรณ์ไม่ดียังไงไม่รู้ ผมรีบวิ่งไปเปิดตู้เสื้อผ้า ผมรู้สึกชาไปทั้งตัวเมื่อเห็นว่าภายในตู้เสื้อผ้าเหลือแค่เสื้อผ้าของผม ของของต้นหายไปหมดเลย ต้นคงไม่ได้โกรธผมจนหนีไปใช่ไหม ผมรีบวิ่งออกจากห้องแล้วตะโกนเรียกคนสนิททันที

"ไอ้กรณ์ มึงอยู่ไหน ไอ้กรณ์"

ตึง ตึง ตึง

เสียงวิ่งขึ้นบันไดของไอ้กรณ์ที่รีบวิ่งมาหาผม

"มีอะไรครับนาย แฮ่ก แฮ่ก"

"ของของเมียกู อยู่ไหนหมด"

"เอ่อ คือว่า"

"มึงอ้ำอึ้งทำไม ตอบกู"

"คุณต้นไปอยู่ที่อื่นแล้วครับ"

"หมายความว่ายังไงไอ้กรณ์ เมียกูอยู่ไหน" ผมรีบเข้าไปกระชากคือเสื้อไอ้กรณ์แล้วเขย่า

"ไอ้เชี่ยกรณ์ บอกมาเมียกูอยู่ไหน กูจะไปง้อเขาถ้ามึงไม่บอกกูจะฆ่ามึง"

"นายครับผมไม่รู้จริงๆครับว่าคุณต้นไปไหน นายต้องไปถามนายใหญ่ครับ"

"มึงหมายความว่ายังไง" ผมเขย่าคือเสื้อไอ้กรณ์

"นายใหญ่มีคำสั่งให้คุณต้นไปทำงานที่อื่นแล้วครับส่วนที่ไหนผมไม่รู้ ส่วนคุณต้นโกรธนายไหมคุณต้นไม่ได้โกรธครับนายอย่าห่วงเลย"

"พ่อเอาเมียกูไปจากกูงั้นหรอว่ะ กูต้องโทรหาต้น ต้นไปไหนไม่ได้เขาเป็นเมียกู" ผมปล่อยคอเสื้อไอ้กรณ์แล้วรีบโทรหาต้นทันที

(หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ค่ะ)

ปึก

ผมเขวี้ยงโทรศัพท์

"แม่งเอ้ย ทำไมกูโทรหาต้นไม่ได้มึงบอกสิ" ผมหายใจแรงด้วยความโมโห

"นายใหญ่ไม่ให้คุณต้นติดต่อใครครับ ถ้าอยากทราบอะไรนายน้อยคงต้องถามนายใหญ่เองครับ"

"โธ่เว้ย" ผมสบถเสียงดัง

"นายใจเย็นๆนะครับ" ไอ้กรณ์บอกผม

"ใจเย็นหรอ ถ้าเมียมึงหายมึงจะมานั่งใจเย็นอยู่ไหมไอ้กรณ์"

"แล้วทำไมนายถึงปล่อยให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียรอนายทั้งวันล่ะครับ" ผมหันไปมองหน้าไอ้กรณ์

"กูมีเหตุผลของกู มึงไม่ต้องมาเสือก"

"นายโชคดีนะครับที่ได้คุณต้น ถ้าเป็นคนอื่นเขาอาจจะไปจากนายตั้งแต่วันแรกที่นายหายไปกับแฟนเก่าทั้งวันแล้วครับ"

"เพราะกูรู้ไงว่าต้นเชื่อใจกู และรู้ว่ากูไม่ได้โง่"

"แต่การที่นายไม่บอกคุณต้นว่ากำลังทำอะไรก็เหมือนไม่ให้ความสำคัญกับคุณต้นนะครับ" ผมจ้องหน้ามัน

"คุณต้นอาจสงสัยว่านายคิดจะสั่งสอนคุณสโนว์อะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้นจะอยู่คนเดียวได้โดยไม่คิดมากในขณะที่นายอยู่กับคนอื่นนะครับ"

"ไอ้กรณ์" ผมตะโกนใส่มันเสียงดัง

"นายคิดแต่ว่าคุณต้นเชื่อใจนาย คุณต้นมองโลกในแง่ดีคิดว่าอยู่คนเดียวได้แล้วนายเคยถามคุณต้นไหมครับว่าอยู่คนเดียวได้จริงๆหรือเปล่าในตอนที่นายไปกับคนอื่น"

พลั่ก

ผมต่อยไอ้กรณ์จนมันล้มลงไปกอง

"นายจะกระทืบผมให้ตายก็ได้นะครับ ถ้านายจะคิดได้และให้ความสำคัญกับคนที่รักนายมากกว่าคนอื่น"

"แกหยุดพูดไปเลยไอ้กรณ์"

"ผมคิดว่านายใหญ่คิดถูกแล้วที่เอาคุณต้นไปอยู่กับคนอื่น เพราะบางทีอาจมีคนให้ความสำคัญกับคุณต้นมากกว่าที่นายทำอยู่"

พลั่ก

ผมเตะเข้าที่ท้องของไอ้กรณ์

"ไอ้เหี้ยกรณ์ นั่นเมียกู" ผมกระชากคอเสื้อให้มันลุกขึ้นอีกครั้ง

"แต่นายดูให้ความสำคัญเมียน้อยกว่าการคิดแก้แค้นแฟนเก่านะครับ"

"มึงสั่งสอนกูพอแล้วใช่ไหม กูรู้ว่ากูทำไม่ถูกแต่กูไม่อยากให้ต้นรู้ว่ากูทำอะไรเพราะมันเป็นสิ่งไม่ดีแต่ถ้ากูทำให้ต้นไม่สบายใจกูอยากจะขอโทษเขาและบอกเขาทุกอย่าง"

"แต่คงสายไปแล้วครับนาย คุณต้นไม่อยู่ให้นายบอกแล้ว"

ผมเขย่าคอเสื้อไอ้กรณ์

"แกต้องช่วยฉันหาว่าพ่อเอาต้นไปไว้ที่ไหน"

"ผมขอโทษครับ เรื่องนี้นายต้องไปถามนายใหญ่เอง"

ไอ้กรณ์ดึงมือผมออกจากคอเสื้อ

"นายจะไปหานายใหญ่เลยไหมล่ะครับ"

"เออไปเตรียมรถ แล้วบอกยกเลิก โรงแรม Pให้กูด้วย"

"ไม่นัดนายใหญ่ไปที่โรงแรมนี้เลยละครับ"

"กูจองไว้แดกกับเมียกูจะไปกินกับตาแก่จอมจุ้นนั้นทำไม"

"ครับ ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้"

ผมจะทำอะไรก็ไม่เคยพ้นหูพ้นตาคนสนิทกับพ่อเลย ผมฉลาดไม่ทันพ่อจริงๆ

................

ปัง

"พ่อ เอาเมียผมไปไว้ไหน" ผมผลักประตูห้องทำงานพ่ออย่างแรง

"เฮ้ย ไอ้ลูกหมาประตูกูพังหมด แล้วโวยวายอะไรฮะ"

"พ่ออย่ามาเนียน บอกมาเอาต้นไปไว้ไหนพ่อจะมาพรากผัวพรากเมียไม่ได้" พ่อผมแสยะยิ้ม

"ใครเมียแกฉันไม่เห็นรู้เลยว่าแกมีเมีย เห็นแต่แม่สโนว์นมโตที่แกไปเฝ้าเช้าเฝ้าเย็น คนนั้นหรือเปล่าเมียแกอ่ะ"

"ไม่ใช่ พ่อส่งใครไปอยู่กับผมก็คนนั้นแหละเมียผม ต้นเป็นเมียผมพ่อได้ยินชัดไหม" ผมพูดเสียงดัง

"ตายจริงฉันก็นึกว่าแกจะกลับไปรักกับยัยสโนว์ ฉันเลยถอดใจเอาต้นไปอยู่กับคนที่ชอบเขาน่าจะดีกว่าจะได้สมหวังกันไป"

ปัง

ผมตบโต๊ะ

"ผมต้องการเมียผมคืน น้องเป็นของผมคนเดียว" ผมหายใจแรงด้วยความโกรธและจ้องหน้าพ่อเขม็ง

"ถ้าอยากได้เมียแกคืน ก็รีบทำในสิ่งที่แกคิดไว้ให้มันเสร็จเร็วๆ แล้วฉันจะส่งเมียแกคืนให้"

"พ่อรู้ว่าผมกำลังทำอะไร แล้วทำไมพ่อต้องเอาต้นไปจากผมด้วย"

"ฉันรู้แต่สิ่งที่แกทำมันกระทบลูกสะใภ้ฉัน ฉันไม่ว่าถ้าสิ่งที่แกจะทำมันไม่ทำให้ลูกต้นของฉันเหมือนคนโง่ที่นั่งรอผัวกลับบ้านทุกวัน ไอ้ลูกเวร"

"ผมคิดแค่ว่ามันช่วงระยะนึงเท่านั้น ผมขอโทษผมผิดเองที่คิดว่าต้นจะรอได้จนลืมคิดถึงความรู้สึกเขา"

"ต้นนะรอได้แต่ฉันรอไม่ได้โว้ย ฉันเดือดร้อนแทนเมียแกมีอะไรไหม"

ผมก้มหน้าสำนึกผิด

"แล้วพ่อรู้ได้ยังไงว่าผมกำลังจะสั่งสอนสโนว์"

"หึ ฉันใคร ฉันพ่อแกนะฉันคิดอยู่แล้วคนอย่างแกอ่ะนะจะโลกสวยกลับมาเป็นเพื่อนได้ ตอแหลทั้งนั้นทำตัวเป็นคนดีทั้งที่ผ่านมาไม่ใช่"

"ผมรู้พ่อว่าผู้หญิงคนนั้นกลับมาทำไม ผมแค่อยากสั่งสอนให้จำว่าผมไม่ได้แสนดีเหมือนเดิมอีกแล้ว แต่ไม่คิดว่าพ่อจะรู้ ไอ้กรณ์ก็ด้วย"

"ฉันเลี้ยงแกมาทำไมจะไม่รู้ แกฉลาดที่ทำให้ยัยสโนว์คิดว่าแกยังรักยังห่วงอยู่ เพียงแต่แกโง่กว่าฉันเท่านั้นเอง"

"ถ้าพ่อรู้แล้วพ่อส่งต้นคืนให้ผมได้หรือยัง" ผมทำหน้าหงอ

"ไม่เพราะถ้าต้นต้องมาเจอแกออกไปกับยัยนั้นอีก ฉันคงทำใจไม่ได้"

"พ่อผมขอร้องนะคืนต้นให้ผมเถอะ ผมจะขาดใจก่อนแน่ๆ"

"ก็สมควรกับที่แกให้ลูกสะใภ้ฉันรอแก ขณะที่แกไปกับคนอื่นโดยไม่บอกเขาสักคำ มือถือก็ติดต่อไม่ได้ ไม่โทรมาบอกด้วย"

"ผมขอโทษครับพ่อผมคิดถึงต้นน้อยไปลืมคิดถึงความรู้สึกของน้องผมยอมรับผิดทุกอย่างเลย"

"งั้นแกก็จงรับบทลงโทษต่อไปจนกว่าแกจะจัดการสโนว์ให้ออกไปจากชีวิตแกได้"

"พ่อ" ผมทำเสียงไม่พอใจ

"กลับไปได้แล้ว อยากเจอเมียไวๆก็รีบจัดการซะ แล้วพาเจ้ากรณ์ไปทำแผลด้วย ไอ้ลูกเวรทำตัวเองยังไปกระทืบคนอื่นฉันจะแช่งให้ยัยนั่นจับแกปล้ำให้สำเร็จซะดีไหมฮะ"

"เออๆๆ ผมรู้แล้ว"

"กลับไปได้แล้ว รีบๆเข้าล่ะ ก่อนที่เมียแกจะใจอ่อนกับเจ้าเทียน"

ผมที่กำลังจะเดินออกจากห้องหันขวับทันที

"พ่อว่าไงนะ พ่อส่งเมียผมไปอยู่กับไอ้เทียนงั้นหรอ"

"ถูกต้องนะคร้าบบบบบ"

"พ่อ ทำไมทำแบบนี้ถ้าไอ้เทียนมันปล้ำเมียผมทำไง"

"นี่ ไอ้เทียนมันดีกว่าแกเยอะ อย่างน้อยมันก็ให้ความสำคัญกับต้นมากกว่าใคร"

"พ่อพูดแบบนี้ด่าผมเชี่ยเลยดีกว่า"

"เออไอ้เชี่ย ไอ้เทียนมันรู้น่าว่าอะไรเป็นอะไรแต่ถ้าเมียแกซาบซึ้งในความดีของมันเองก็ช่วยไม่ได้โว้ย จะทำอะไรก็รีบไปทำไป ก่อนเมียจะโดนคาบไปแดก"

"โอ๊ย ทำไมผมต้องมีพ่อเป็นพ่อด้วยเนี่ย"

"ถามแม่แกที่ตายไปสิ"

ผมรีบเดินออกมาทันทีแต่ก็ยังได้ยินเสียงตามหลังมา

"โอ๊ยเขาเห็นความดีกันยังหนอ เขาจีบกันยังไงหนอ"

"กูจะบ้าตาย ไอ้กรณ์กลับ"

ผมหันไปสั่งไอ้กรณ์ที่รออยู่ด้านนอกทันที

......................
 ตอนนี้ผมอยู่ที่รีสอร์ทของพี่เทียนแล้วที่นี่กลางคืนดาวเยอะมากเลย อากาศก็เย็นตอนนี้ก็เริ่มดึกแล้ว แต่ผมนอนไม่หลับเลยเพราะปกติจะต้องมีคนนอนข้างๆ

"ป่านนี้จะกลับบ้านหรือยังนะ และรู้หรือยังว่าเราไม่อยู่แล้ว"

ผมคิดถึงคนที่อยู่ที่บ้านแล้วได้แต่ถอนหายใจ

"ชั่งเหอะ วันเกิดเราแท้ๆยังไปหาคนอื่นปล่อยให้เรารอเลย ถ้าเจอหน้าอีกครั้งจะงอนให้เข็ดเลย"

แล้วผมก็พยายามข่มตาให้หลับเพื่อที่พรุ่งนี้จะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อตามที่เทียนไปเรียนรู้งานต่อ

ในขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งในห้องนอนกว้างก็มีใครบางคนนอนไม่หลับอยู่เหมือนกัน

"ต้นจะคิดถึงพี่ไหมนะ ไม่รู้จะงอนพี่หรือเปล่าที่ปล่อยให้รอ"

ฟอด

ผมเอาหมอนที่ต้นหนุนทุกคืนมากอดและสูดกลิ่นหอมของต้นที่ยังติดอยู่ที่หมอน

"เมียจ๋าพี่นอนไม่หลับเลย พี่คิดถึงเมีย พี่อยากกอดเมีย พี่อยากรักเมียด้วย"

ทำไมพ่อผมต้องลงโทษอะไรที่ทรมานแบบนี้ด้วยแค่ให้ไอ้กรณ์ด่าผม ผมก็สำนึกไม่ทันแล้วขืนเป็นแบบนี้นานๆผมขาดใจตายแน่ๆ ผมขยับตัวนอนตะแคงหันหน้าไปทางฝั่งที่ต้นนอนประจำ เอามือลูบที่ว่างข้างกายไปมา

"ต้นจะนอนไม่หลับเหมือนกันหรือเปล่านะ"

ผมรู้แล้วว่าเวลาที่ต้นรอผมมันมีความรู้สึกยังไง รู้ว่าไปไหนแต่ติดต่อไม่ได้จะทำอะไรกับใครที่ไม่ใช่เราหรือเปล่า ถึงจะเชื่อใจยังไงก็อดคิดเล็กๆไม่ได้อยู่ดี
การรอคอยมันทรมานจริงๆ ต้นเข็มแข็งมาเลยที่ผ่านมันไปได้ทุกวันอย่างปกติ อยู่คนเดียวต้นคิดฟุ้งซ่านไปได้ไกลขนาดไหนกันนะ ขนาดผมยังคิดไปไกล
ว่าต้นจะใจอ่อนกับไอ้เทียนหรือยัง ไอ้เทียนจะใช้วิธีอะไรเอาใจเมียผม แค่คิดก็น้ำตาจะไหลถ้าต้นเลือกมันผมตายแน่ๆ

"ฮือ พี่เข้าใจแล้วพี่ขอโทษ พี่อยู่คนเดียวไม่ได้ เมียจ๋ากลับมาหาพี่เถอะ ฮือ"

แล้วผมก็นอนกอดหมอนเมียไปจนหลับ

..............

ขณะที่กรณ์กำลังเดินตรวจตราภายในบ้านอยู่

"คุณกรณ์คะคุณกรณ์"

ร่างสูงหันไปตามเสียงเรียก

"ครับป้านิ่ม"

"บ้านเราต้องมีผีแน่นอนเลยค่ะ"

"ทำไมครับ"

"ก็เมื่อวันก่อนเห็นเด็กมันเล่าให้ฟังว่าบ้านที่ถัดเราไป 3 หลัง มีผู้ชายฆ่าตัวตายค่ะ"

"แล้วยังไงครับ"

"เอ้า ก็เมื่อกี้ ป้าเดินเอาตะกร้าผ้าไปเก็บที่ชั้น 2 ได้ยินเสียงผู้ชายร้องไห้ค่ะ น่ากลัวมากเลยค่ะ"

"หึ งั้น ป้ารีบไปนอนเถอะครับเดี๋ยวผมไปดูให้เอง"

"ขอบคุณค่ะ หูย ขนลุกค่ะ"

ร่างสูงของกรณ์เดินขึ้นไปชั้น  2 ตามคำบอกของป้านิ่ม ก่อนจะได้ยินเสียง

ฮือ ฮือ

กรณ์ค่อยๆเดินไปตามเสียงร้องไห้จนมาหยุดอยู่ที่ห้องนอนเจ้านาย เขากำลังจะเคาะห้องเจ้านายแต่ได้ยินเสียงแว่วออกมาจากหลังประตูซะก่อน

"ฮือ ฮือ เมียจ๋า พี่คิดถึงเมีย เมียไปอยู่ไหน รู้ไหมผัวคนนี้จะขาดใจแล้ว"

ร่างสูงไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยินจึงเอาหูแนบประตู

"ฮือ ฮือ เมียอย่าไปกับไอ้เทียนนะ พี่ขอโทษ จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว"

"ฮ่า ฮ่า อุ๊บ" กรณ์รีบปิดปากตัวเองแทบไม่ทันก่อนจะหลุดขำเสียงดังกว่านี้

"โธ่ เมื่อหัวค่ำยังกระทืบกูอยู่เลย ตอนนี้ละเมอร้องเรียกเมียเป็นเด็กเลย คู่แข่งรู้อายเขาตาย"

กรณ์ส่ายหน้าแล้วยิ้ม พร้อมกับคิดว่า

"เรื่องนี้ต้องขยาย โทรบอกนายใหญ่ดีกว่า"

แล้วร่างสูงใหญ่ก็เดินผิวปากสบายใจแล้วก็ตลกกับความคิดตัวเองที่ว่าเจ้านายเขากลายเป็นคนติดเมียไปแล้ว สะใจไอ้กรณ์นัก

..........................

 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :man1: :man1: :man1: :man1: :man1: :man1: :man1:
 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 11 หายไป <16/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 16-06-2019 12:50:22
เหมือนไบโพล่าร์555
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 11 หายไป <16/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 17-06-2019 22:45:23
555555
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 11 หายไป <16/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 17-06-2019 23:39:34
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 11 หายไป <16/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 18-06-2019 15:53:11
 :laugh:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 12 งานเลี้ยง <23/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Garuda8 ที่ 23-06-2019 12:12:22
ตอนที่ 12

งานเลี้ยง

ธาร Part

 ผมกำลังนั่งทำงานด้วยความตั้งใจเพราะผมไม่อยากจะคิดอะไรมาก เนื่องจากห้องนี้ปกติจะมีต้นมานั่งทำงานอยู่ด้วยกันประจำแต่วันนี้โซฟากลับไร้คนมานั่งทำงาน ส่วนผมก็ได้แต่คิดถึงทำอะไรได้ไม่มากเพราะเบอร์ก็โทรไม่ได้ ผมจึงทำตัวเองให้ยุ่งๆไว้เพราะผมจะได้ไม่คิดถึงเขา

ก็อก ก็อก ก็อก

"มีอะไร"

"คุณสโนว์ขอพบครับ"

เฮ้อ ผมถอนหายใจด้วยความรำคาญ

"ให้เข้ามาได้"

หลังจบคำสั่งอนุญาตประตูห้องผมก็ถูกเปิดออกโดยสาวสวยคนเดิมที่ทำให้ผมโดนแยกจากต้นเธอเดินเข้ามาหาผมเท้าแขนลงบนโต๊ะและยิ้มโปรยเสน่ห์มาให้ผม

"มีอะไรครับ บอกแล้วไงถ้ามีเรื่องด่วนให้โทรหาผม" ผมถามเธอ

"ไม่มีอะไรค่ะ ตอนนี้สโนว์พักฟื้นเต็มที่แล้วและคิดว่าต้องกลับมาช่วยงานสักที" ผมขมวดคิ้วสงสัย

"แหม ธารคะสโนว์จะปล่อยให้ธารทำงานคนเดียวได้ยังไงคะ ได้ข่าวว่าคุณต้นไม่อยู่แล้ว แล้วอีกอย่างสโนว์ก็ดีขึ้นเลยจะกลับมาช่วยงานนะคะ"

เห็นต้นไม่อยู่เลยจะมาทำคะแนนล่ะสิ

"งั้นคุณก็ไปทำงานของคุณสิ จะมายืนตรงนี้ทำไม" ผมพูดจบก็ก้มหน้าดูเอกสารต่อ

"หืม ใจแข็งจังเลยนะคะ สโนว์รู้นะว่าคุณยังห่วงสโนว์อยู่ แต่ไม่เป็นไรค่ะสโนว์จะทำให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมเอง"

มั่นใจจังเลยแม่คู้นนนน ผมปลายตามองแล้วแล้วส่ายหัวเบาๆ เธอจึงเดินไปนั่งที่โต๊ะของเธอเพื่อเริ่มทำงานแต่ตลอดเวลาสายตาก็ยังคงเหลือบมองผมเป็นระยะ ทุกครั้งที่เธอจะเอาเอกสารหรือแฟ้มงานมาให้ผมเธอจะพยายามก้มต่ำแล้วเอาหน้าอกของเธอมาเสียดสีกับแขนของผมเป็นการอ่อย ในใจผมอยากจะผลักเธอออกไปแล้วให้ไอ้กรณ์ลากเธอไปให้ไอ้พวกลูกน้องกลัดมัน แต่ผมก็ต้องสงบไว้เพราะต้องสอนบทเรียบกับเธอก่อน

"สโนว์คุณอย่ามาใกล้ผมมากนักเลยครับมันไม่ดี" ผมแสร้งพูด

"ทำไมคะ ก็สโนว์รักคุณก็อยากจะใกล้ชิดคุณเป็นธรรมดา" ผมหันไปแกล้งส่งสายตาลำบากใจ

"คือ ผมกลัวว่าผมจะอดใจไม่ไหวนะสิ"

"หึ ธารคนบ้าพูดอะไรก็ไม่รู้สโนว์เขิลนะคะ" ผมยื่นมือไปจับมือเธอเอาไว้

"เรารักษาระยะกันหน่อยนะครับ ผมไม่อยากให้คุณเสียหาย"

"ก็ได้ค่ะ สโนว์จะค่อยๆเริ่มใหม่กับคุณนะคะ สโนว์ดีใจที่สุดที่ไอ้ต้นมันไปซะได้ทุกอย่างมันเลยง่ายขึ้น"

ผมกำหมัดข่มอารมณ์โกรธ เธอมีสิทธ์อะไรมาเรียกเมียผมว่าไอ้ เสร็จเรื่องก่อนเถอะจะสั่งลูกน้องตบปากให้เลือดออกจะได้ไม่ต้องทาลิปเลยคอยดู

"จะพูดถึงคนอื่นทำไมครับ พูดแค่เรื่องของเราก็พอ"

ผมยิ้มให้แล้วเธอเสร็จก็ลงมือเซ็นเอกสารที่เธอเอามาให้เซ็นก่อนยื่นกลับไปให้เธอ

"ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ จะเที่ยงแล้วเดี๋ยวเราไปหาอะไรทานกัน" เธอยิ้ม

"ได้สิคะ"

ผมเดินออกมาจากห้องก่อนตรงไปที่ห้องน้ำ เปิดก็อกน้ำล้างมืออย่างเร็วถูแล้วถูกอีกจนมือแดงไปหมด

"โสโครก" ผมสะบัดมือแล้วดึงทิชชู่มาซับน้ำที่มือ

"ทนไว้ไอ้ธารอีกนิด แล้วเอาให้หน้าแหกไปเลย"

ผมเดินกลับมาที่ห้องพร้อมกับมาเรียกสโนว์ไปทานข้าวด้วย การทำงานจะเป็นแบบนี้ทุกวัน ผมเบื่อมากผมคิดถึงเมียผมเมื่อไหร่เรื่องนี้จะจบสักที นี้ก็เกือบจะอาทิตย์แล้วที่ผมไม่ได้เจอ ไม่ได้ยินเสียงต้นเลย ทุกวันได้แต่กลับมานั่งเซ็งที่ห้องทำงานที่บ้าน วันนี้ก็เช่นกัน

แอ๊ด

"นายครับนายใหญ่มาครับ"

ผมหันไปมองตามเสียง แล้วพยักหน้ารับรู้และเป็นการบอกไปในตัวว่าปล่อยเข้ามาเลย

"ลูกรัก พ่อมาดูว่าอาการแกเป็นยังไงบ้าง"

"พ่อจะมาสมน้ำหน้าผมก็ว่ามาตรงๆ"

"ฮ่า ฮ่า เอาน่าแกก็ดูสบายดีนี่หว่า เห็นว่าควงยัยสโนว์ทุกวันเลยนี่ ดูหวานแหววออก"

"หวานอะไรล่ะ ผมรำคาญจะตายแต่ต้องปั้นหน้าให้หน้าดูมีความสุข ว่าแต่พ่อเถอะมีอะไรมาหาผมถึงนี่"

"อ่อ ศุกร์นี้มันจะมีงานเลี้ยงเปิดบริษัทใหม่ตระกูลอัครินทรน์ฉันจะมาบอกแกให้ไปร่วมงานด้วย"

"หืม ทำไมเขาเปิดเร็วจังไหนบอกรอลูกคนเล็กเรียนจบ"

"น้องมันก็ใกล้จบแล้วอีกเทอมนึงก็จะฝึกงานพ่อเขาเลยเตรียมการไว้ก่อน"

"อืม แต่เรื่องงานเลี้ยงแค่นี้พ่อโทรมาก็ได้นะ มาถึงที่บ้านแบบนี้มีแผนอะไรอีกล่ะ"

"เปล๊า แค่มาบอกให้แต่งตัวหล่อๆ เอายัยสโนว์ไปด้วยนะงานนี้นักข่าวเยอะดี"

"เสียงสูงเชียวนะพ่อ"

"เออน่า ฉันว่างานนี้เหมาะเปิดตัวว่าใครตัวจริงใครตัวปลอม"

"พ่อจะทำอะไรก็อย่าให้มันทะโมนมากนักนะแก่แล้ว"

"ไม่ต้องมาห่วงฉันห่วงตัวแกเองเหอะ ถ้างานนี้เคลียไม่จบแกอดเจอเมียตลอดชีวิตแน่ๆ"

"แค่นี้ก็จะตายแล้วพ่อ อย่าใจร้ายกับผมนักเลย ผมสำนึกผิดแล้ว"

"ดี เตรียมตัวไว้แล้ววันศุกร์เจอกันลูกรัก"

พ่อพูดจบก็ออกจากห้องทันทีด้วยท่าทางอารมณ์ดี เอาว่ะจบมันงานนี้ก็ดีเหมือนกันผมอยากเจอต้นแล้ว

.................
ต้นPart

ตอนนี้ผมกำลังเพลินกับการทำงานที่รีสอร์ท ได้พบเจอผู้คนได้พูดคุยกับแขกต่างชาติเป็นอะไรที่ผมไม่เคยทำและสนุกมากๆเลย พี่เทียนดีกับผมมากดูแลผมดีทุกอย่างเลย ผมก็เลยอยากจะตั้งใจทำงานเพื่อตอบแทนพี่ชายที่แสนดีคนนี้

"ต้น" เสียงคุ้นหูที่ได้ยินตลอดที่อยู่ที่นี่เรียกผมขณะที่ผมกำลังตรวจสอบรายชื่อลูกค้ากรุ๊ปทัวร์ที่จะมาลงช่วงเย็น จนทำให้ผมต้องเงยหน้าแล้วหันไปมองตามเสียง

"พี่เทียนมีอะไรครับ" พี่เทียนยิ้มแล้วลูบหัว

"เหนื่อยหรือเปล่าพักบ้างก็ได้นะ เห็นวิ่งวุ่นแต่เช้า" ผมยิ้มให้

"ไม่เลยครับสนุกดี ว่าแต่พี่เทียนกำลังจะไปไหนครับ ถือกุญแจรถมาขนาดนี้"

"พี่จะพาเราไปในเมืองนะ" ผมเลิกคิ้ว

"วันศุกร์นี้มีงานเลี้ยงเปิดตัวบริษัทใหม่ของเพื่อนคุณลุง พี่กับเราต้องไปด้วยนะ"

"ผมด้วยหรอครับ"

"ใช่ คุณลุงสั่งมาน่ะ พี่เลยต้องมาพาเราไปดูชุดเพราะงานมันอีก 2 วันเอง"

"จะดีหรอครับผมไม่รู้จักใครเลยผมจะไปในฐานะอะไร"

พี่เทียนยิ้มแล้วเอามือมาจับไหล่ผมทั้งสองข้างพร้อมทั้งก้มหน้ามามองหน้าผม

"ก็เลขาพี่ไง จะไปคิดอะไรเยอะเขาให้ไปก็ไป พี่ไปรอที่รถนะให้เวลาเคลียงาน 20 นาที"

พี่เทียนยิ้มแล้วเอามือยีหัวผมอีกครั้ง ผมนั่งรถมากับพี่เทียนเพื่อเข้าเมืองไปที่ร้านชุดสูทแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงและใหญ่ที่สุดของจังหวัด พี่เทียนจอดรถแล้วเดินนำผมเข้าไปในร้าน

"สวัสดีค่ะ ว้ายย คุณเทียนแฟนเจ๊ " เจ้าของร้านชายหนุ่มตุ้งติ้งเดินเข้ามาทักทายเมื่อเห็นว่าเป็นพี่เทียนก็เดินข้ามาเกาะแขนทันที

"อะไรครับเจ๊ ผมเสียหายนะพูดแบบนี้" พี่เทียนยิ้มๆ

"ก็คุณเทียนเป็นของเจ๊นี่คะ ว่าแต่วันนี้จะมาเอาชุดแบบไหนงานอะไรคะ เจ๊จะจัดสรรเอาให้ดีที่สุดเพื่อสามีเลยค่ะ" พี่เทียนหัวเราะ

"ขอเป็นสูทสากลนะครับ สำหรับผม แล้วก็หาสูทที่ไม่เป็นทางการมากสำหรับ" พี่เทียนหันมาทางผมแล้วผายมือให้เจ๊เจ้าของร้านเห็นผม

"คนน่ารักคนนี้นะครับ"

"ตายแล้วคุณเทียนจะพาคนรักมาเย้ยเจ๊แบบนี้ไม่ได้นะคะ เจ๊เสียใจ" เจ๊ทำหน้างอนแต่ก็พอให้ดูรู้ได้ว่าเจ๊แกงอนเล่นๆ

"ผมก็อยากเป็นคนรักของเขานะครับแต่ไม่รู้เขาอยากเป็นคนรักของผมหรือเปล่า" ผมมองหน้าพี่เทียน

"โธ่ พ่อคุณของเจ๊ไม่เป็นไรนะเดี๋ยวเจ๊ปลอบใจค่ะ ส่วนคุณน้อง" เจ๊หันมาทางผม

"ถ้าไม่เอาคุณเทียนเจ๊ขอดูแลนะคะ" ผมยิ้มให้เจ๊แก

"ตามสบายเลยครับเจ๊คนสวย"

"แหม พูดจาน่ารัก ไปค่ะเดี๋ยวเจ๊พาไปดูชุด ส่วนคุณเทียนเดี๋ยวตามเด็กที่ร้านไปทางโน้นนะคะสูทคุณน้องจะเลือกง่ายหน่อย"

พี่เทียนพยักหน้าแล้วเดินตามเด็กของเจ๊ไป ส่วนผมเดินตามเจ๊ไปที่ชั้น 2 ของร้าน เจ๊แกจัดแจงเลือกแล้วเลือกอีกกว่าจะได้ชุดที่ดีที่สุดให้ผมแถมก่อนกลับยังย้ำอีกว่าวันงานให้พาผมมาให้เจ๊แกแต่งหน้าให้ด้วยเพราะสูทของผมต้องแต่งหน้านิดๆถึงจะดูดี

.................
ธาร Part

วันนี้เป็นวันงานเปิดตัวบริษัทใหม่ของเครือ อัครินทรน์ ซึ่งเป็นเพื่อนกับพ่อของผมใจจริงก็ไม่ค่อยอยากไปเพราะคนเยอะแถมต้องควงตัวหน้ารำคาญไปอีกทำให้ผมรู้สึกว่างานนี้มันช่างห่อเหี่ยวจริงๆ

"นายครับรถพร้อมแล้วครับ" ไอ้กรณ์เดินมาบอกผม

"ไปรับสโนว์ก่อนนะค่อยไปที่งาน"

"ได้ครับนาย" กรณ์รับคำแล้วเดินออกจากห้องไปผมจึงหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อโทรหาสโนว์ว่าผมกำลังจะออกไปรับ

ตร๊ด ตรู๊ด

(ว่าไงคะธาร)

"ผมกำลังจะออกไปรับนะครับไม่เกิน 30 นาที คุณเตรียมตัวไว้นะ"

(ได้ค่ะ วันนี้คุณต้องไม่อายใครแน่นอนเพราะสโนว์จัดเต็มให้คุณเลยค่ะ)

"ครับ ผมจะคอยดู ไว้เจอกันนะครับ"

(บายค่ะ)

ผมวางสายแล้วเดินลงไปที่หน้าบ้านทันทีเพื่อออกไปรับสโนว์ รถแล่นไปตามท้องถนนวันนี้เป้นวันศุกร์การจราจรจึงติดขัดนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้มากมายจนทำให้ไปถึงเวลานัดช้านัก ผมจอดรถรออยู่ที่หน้าคอนโดของสโนว์ก่อนจะโทรขึ้นไปบอกเธอสักพักผมก็เห็นหญิงสาวในชุดเดรสยาวผ่าข้างสีแดงเกาะอก นี่มันชุดล่อตะเข้ชัดๆ ใบหน้าสวยที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ทำให้เธอน่ามองมากแต่ก็นั้นแหละ ไม่ได้ทำให้ผมสนใจแม้แต่น้อย เธอเปิดประตูขึ้นบนรถมานั่งข้างผมที่เบาะหลัง

"เป็นไงคะธาร สโนว์พอจะควงกับคุณได้ใช่ไหมคะ"

"ครับวันนี้คุณสวยมากเลยทุกคนต้องมองคุณแน่ๆ" ผมยิ้ม

"ธารอย่าหึงนะคะ ในสายตาสโนว์ไม่มีใครหรอกค่ะนอกจากคุณ" เลี่ยนซะ

"ขอบคุณครับ กรณ์ออกรถได้แล้วเดี๋ยวสาย"

"ครับนาย"

บรรยากาศบนรถมีแต่เสียงพูดของสโนว์อยู่คนเดียวเพราะผมเงียบและมองวิวทิวทัศน์ข้างนอกแทน จนมาถึงที่โรงแรมที่เป็นสถานที่จัดงานผมลงจากรถก่อนแล้วเดินอ้อมมาอีกฝั่งเพื่อเปิดประตูรถให้สโนว์และยื่นมือไปให้เธอจับเพื่อประคองตัวลงจากรถ เธอเดินควงแขนผมเข้าในงานตลอดทางก็มีแสงแฟลชจากพวกตากล้องของนักข่าว ผมเดินมาจนเกือบถึงประตูทางเข้าห้องจัดงานก็มีนักข่าวเดินเข้ามารุมเพื่อสัมภาษณ์

"คุณธารินคะ สาวที่ควงมาวันนี้ใช่คนที่เขาลือกันว่าคุณธารินไปเฝ้าเช้าเฝ้าเย็นที่คอนโดหรือเปล่าคะ" นักข่าวคนนึงถามขึ้น

"แล้วคนนี้หรือเปล่าคะที่เห็นว่าจะมาเป็นสะใภ้วรเดชชัยกุลตัวจริง" คำถามแรกยังไม่ทันตอบคำถามที่ 2 ก็ตามมา หญิงสาวข้างกายผมยิ้มเขิลอายและกำลังจะตอบคำถามนักข่าวแต่ผมพูดแทรกขึ้นก่อน

"คำถามพวกนี้ผมขออนญาตตอบตอนงานเลิกนะครับ ตอนนี้ขอตัวเข้างานก่อนเจ้าของงานรอผมแย่แล้ว" ผมเดินฝ่าวงล้อมนักข่าวออกไปเพื่อเข้างาน

"เขิลจังเลยค่ะธารนักข่าวเยอะจัง" ผมหันไปยิ้มให้เธอก่อนจะเดินเข้าไปสวัสดีคุณลุงเหมเจ้าของงานก่อนจะไปนั่งที่โต๊ะรับรองผมนั่งอยู่สักพักก็รู้สึกอยากไปสูดอากาศข้างนอก

"สโนว์ผมไปข้างนอกแปปนะครับเดี๋ยวมา" สโนว์พยักหน้า ผมเดินออกมานอกงานเพื่อมาสูดอากาศจนเกือบจะได้เวลาเริ่มงานจึงไปเข้าห้องน้ำและเดินกลับเข้าไปในงานอีกครั้งผมกลับไปนั่งที่เดิม เพิ่มเติมคือโต๊ะของผมมีพ่อมานั่งด้วยผมไม่ได้สนใจคนรอบข้างนักเพราะก้มหน้าก้มตาเช็คงานในมือถืออยู่จนได้ยินเสียงพ่อพูดขึ้น

"อ้าวมาแล้วหรอเทียน" ผมเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงของพ่อก็เห็นไอ้เทียนมายืนอยู่ตรงเก้าอี้พ่อผมเพื่อมาทักทายผมมองหน้ามันก่อนจะเลื่อนสายตาไปเห็นใครอีกคนที่มันเอามาด้วย

"ต้น" น้องหันมามองผมก่อนจะก้มหัวให้เหมือนทักทาย แล้วหันกลับไปมองพ่อผมที่คุยกับเทียนอยู่

"ลูกต้นสบายดีนะ"

"ครับสบายดี"

"ดีแล้วไป ไป ไปนั่งที่โต๊ะเร็วงานจะเริ่มแล้ว" แล้วไอ้เทียนก็พาเมียผมไปนั่งที่โต๊ะที่อยู่ถัดไปจากโต๊ะผม ผมกำลังจะลุกไปหาต้น

"แกจะไปไหน" พ่อผมดึงแขนให้นั่งลง

"ผมจะไปหาเมียผม" ผมบอกพ่อ

"ที่นี่ไม่มีเมียของแกมีแต่คนที่แกควงมาเท่านั้น ซึ่งกำลังจะแดกหัวแกอยู่แล้ว" ผมหันไปมองทางสโนว์ก็พบว่าเธอมองมาทางผมหน้าหงิก

"พ่อแต่ผมคิดถึงเมียขอไปคุยหน่อยไม่ได้หรอ"

"ไม่ได้ แกเคลียธุระแกให้เสร็จแล้วค่อยไปยุ่งกับต้น" ผมทำหน้าเซ็งแล้วมองไปทางต้น ต้นก็หันมาทางผมพอดีแต่น้องมองผมด้วยสายตาเหมือนคนไม่รู้สึกอะไร น้องต้องโกรธผมแน่ๆ

....................

ต้น Part

ผมมาถึงงานแล้วก็เข้ามาในงานพร้อมพี่เทียน พี่เทียนตรงเข้าไปทักทายเจ้าของงานก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะ แต่ก่อนจะไปถึงโต๊ะก็มีเสียงทักขึ้นก่อน

"อ้าวมาแล้วหรอเทียน" เป็นเสียงของคุณพ่อผมจึงหันไปตามเสียงแล้วยิ้มให้คุณพ่อก่อนจะยกมือสวัสดีและปล่อยให้พี่เทียนกับคุณพ่อคุยกัน
ส่วนผมก็มองรอบโต๊ะที่คุณพ่อนั่งก็เห็นคนคุ้นเคยที่นั่งอยู่โต๊ะนี้เช่นเดียวกัน ผมอยากจะเอ่ยทักทายถ้าไม่เหลือบไปเห็นคุณสโนว์เสียก่อน วันนี้คงควงกันมาออกงาน ผมหันกลับมามองพี่ธารแล้วก้มหัวเป็นการทักทายแทน ที่ผมทำแค่นี้เพราะผมอยากให้พี่ธารเคลียตัวเองก่อนผมยังเชื่อใจพี่ธารแต่ก็อยากให้พี่ธารแสดงอะไรให้ผมเห็นด้วยว่าผมเชื่อใจคนไม่ผิด ตอนเดินเข้ามาผมได้ยินเสียงซุบซิบจากนักข่าวด้านนอกว่าพี่ธารควงว่าที่สะใภ้มาเปิดตัว ซึ่งแน่นอนไม่ใช่ผม ผมเลยอยากได้ขอสรุปเรื่องนี้ก่อนฉะนั้นผมขออนุญาตห่างพี่ก่อนนะครับ

"ต้น เป็นอะไรหรือเปล่า" ผมหลุดอออจากภวังค์หันไปมองพี่เทียน

"เอ่อ เปล่าครับ" พี่เทียนยิ้มแล้วดูการแถลงเปิดตัวบริษัทตรงลานด้านหน้าต่อ

"ครับต้องขอบคุณแขกทุกท่านที่เป็นสักขีพยานในวันนี้ยังไงผมขอเปิดบริษัท จรัสรวี อย่างเป็นทางการครับ" เสียงปรบมือดังขึ้นด้วยความยินดีก่อนเสียงปรบมือจะเงียบลง

"เรื่องทางการก็จบลงแล้วตอนนี้เรามาสนุกกับงานเลี้ยงกันดีกว่าครับ" เสียงพิธีกรพูดต่อ

"เห็นลานกว้างตรงนี้ไหมครับ มันคือฟลอร์เต้นรำครับผมอยากขออาสาสมัครมาเปิดฟลอร์ให้งานนี้หน่อยครับ" 

"มีไหมครับ" พิธีกรก็พยายามมองหาอาสาสมัครเพื่อดำเนินกิจกรรมต่อ

"มีไหมเอ่ย โอ๊ะ มีอาสาสมัครเปิดฟลอร์เป็นเกียรติให้แล้วปรบมือหน่อยครับ" ผมหันไปมองคนที่อาสาเปิดฟลอร์เต้นรำก็ตาโตเมื่อคนที่อาสาคือคุณสโนว์ที่ยกมืออย่างเต็มใจพร้อมกับลากหรือออกจะบังคับพี่ธารให้ไปเต้นกับเธอด้วย ผมมองทั้งคู่เต้นรำกันด้วยจังหวะช้าๆหวานๆ คุณสโนว์เอาหัวของเธอซบไหล่พี่ธารเหมือนออดอ้อน

"คู่นี้เหมาะสมกันดีนะเห็นว่าจะมีแถลงข่าวเรื่องความสัมพันธ์หลังงานสงสัยมีข่าวดีแน่ๆ" ผมได้ยินคุณนายท่านหนึ่งที่นั่งโต๊ะเดียวกันกับผมพูดขึ้น

ผมรู้สึกอุ่นที่มือจึงก้มลงไปดูพบว่าพี่เทียนจับมือผมอยู่

"ต้นโอเคหรือเปล่า" ผมมองหน้าพี่เทียนแล้วยิ้ม

"โอเคครับ" ผมยังคงมองทั้งคู่เต้นรำไปเรื่อยจนเกือบจบเพลง ในตอนที่ดนตรีท่อนสุดท้ายกำลังจะจบลง คุณสโนว์เงยหน้าขึ้นสบตากับพี่ธารก่อนที่เธอจะทำในสิ่งที่คิดไม่ถึง เธอเขย่งปลายเท้าแล้วเอามือทั้งสองดึงหน้าพี่ธารลงมาเพื่อที่จะจูบ ทั้งสองจูบค้างสักพักเธอจึงผละหน้าออกท่ามกลางเสียงอื้ออึงของคนรอบข้าง  ผมรู้สึกอึ้งและชาไปทั้งตัว

"ไม่ต้องสัมภาษณ์แล้วมั้งเปิดตัวมาแบบนี้แล้ว" คุณนายท่านเดิมกล่าวขึ้น ความเจ็บจุกมันตีขึ้นมาในอกจนหายใจไม่ออก ในตอนนั้นผมรู้สึกถึงแรงบีบที่มืออีกครั้ง

"ต้นไปเดินเล่นข้างนอกกันไหม" ผมมองหน้าพี่เทียน

"ครับ" ผมพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น พี่เทียนลุกขึ้นแล้วเดินจูงมือผมออกจากที่นั้น ผมเดินก้มหน้าตามพี่เทียนไปโดยที่ไม่หันกลับมองข้างหลังอีกว่าเกิดอะไรขึ้น พี่เทียนปล่อยข้อมือผมเมื่อมาถึงด้านนอกของโรงแรมที่เป็นเหมือนสวนหย่อมที่ให้ลูกค้ามาเดินเล่นได้ พี่เทียนเดินนำผมไปเรื่อยๆเหมือนเขากำลังซึมซับบรรยากาศ แต่ผมเดินไปแบบไร้จุดหมายก้มหน้าก้มตาเดินตามเขาเท่านั้น สักพักพี่เทียนก็หยุดเดินแล้วหันหน้ามาทางผม

"ต้น" ผมเงยหน้ามองหน้าพี่เทียน

"ครับ"

"อยากจะยืมหลังพี่ไหม"

"ทำไมครับ"

"ถ้าอยากร้องไห้พี่ให้ยืมหลังได้นะ ถ้าไม่อยากให้พี่เห็นน้ำตาของเราพี่จะหันหลังให้" ผมก้มหน้าคิดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบพี่เทียน

"ไม่หรอกครับไม่มีอะไรให้ต้องร้อง" พี่เทียนมองหน้าผมเหมือนพิจารณา

"แล้วตอนนี้อยากไปไหนไหมเดี๋ยวพาไป" ผมส่ายหน้า

"งั้น" พี่เทียนยื่นมือออกมาด้านหน้าผม

"กลับบ้านเรากันเถอะ" ผมได้ฟังประโยคนี้พร้อมกับมองมือที่ยื่นออกมา ความรู้สึกที่มันอัดอยู่ก็เหมือนจะทลายออกมา ผมยื่นมือไปจับมือพี่เทียนแล้วบีบแน่น

"ครับกลับบ้านเรากันเถอะ" พี่เทียนยิ้มน้อยๆแล้วจูงมือผมไปที่ลานจอดรถเพื่อกลับรีสอร์ททันที

.................
นราทร Part

"ชิบหาย" นี่คือเสียงในหัวของผม เมื่อผมเห็นยัยสโนว์นมโตมันโดดจูบลูกชายผมต่อหน้าผู้คนมากมายคงคิดว่าวิธีนี้จะมัดมือชกลูกชายผมได้ ผมไม่คิดว่ามันจะหน้าด้านขนาดนี้ ผมไม่แคร์หรอกถ้ามันจะจูบแต่ที่ผมแคร์คือต้นอยู่ในงานด้วยแล้วไม่รู้จะคิดมากคิดน้อยขนาดไหน เออจะเล่นแบบนี้ใช่ไหมได้เดี๋ยวเจอพ่อเอง

"ไอ้กรณ์"

"ครับนาย"

"ไปบอกนักข่าวรออยู่ที่หน้างานเลยเดี๋ยวไอ้ธารจะออกไปแถลงข่าวไม่เกิน 10 นาที"

"ครับนาย" ไอ้กรณ์เดินออกไปจัดการให้ผมตามคำบอกพอดีกับที่ลูกชายผมและยัยปลิงเดินมาถึงโต๊ะพอดี

"คุณทำบ้าอะไรของคุณสโนว์" พูดไปก็ถูปากไป

"ก็บอกให้ทุกคนรู้ไงคะว่าเราเป็นอะไรกัน" ลูกชายผมมองหน้าเหมือนจะแดกตับยัยสโนว์ก่อนจะมองไปที่โต๊ะถัดไป

"พ่อต้นไปไหน" ผมเบะปากแล้วส่ายหน้า

"วิ่งร้องไห้ซบอกไอ้เทียนออกไปตั้งแต่แกโดนจูบแล้ว" ฟังจบเจ้าธารก็จะวิ่งออกไปตามอธิบายให้เมียฟังแต่ผมดึงมันไว้แล้วกระซิบข้างหู

"ฉันให้นักข่าวรอแกที่หน้างานเพื่อสัมภาษณ์จะทำอะไรก็ทำ" ไอ้ลูกหมามองหน้าผม

"ครับ"

"นายครับทุกอย่างพร้อมแล้วครับ" กรณ์ที่ออกไปแจ้งนักข่าวกลับมารายงานว่าข้างนอกพร้อมแล้ว

"โอเค ไปเจ้าธาร" ธารพยักหน้าแล้วหันไปพูดกับสโนว์

"ไปครับสโนว์"

"ไปไหนคะ"

"ไปแถลงข่าวไงครับคุณอยากให้ทุกคนรู้ไม่ใช่หรอ" สโนว์ยิ้มดีใจแล้วรีบเดินตามลูกชายผมไป เดี๋ยวรู้มึงเดี๋ยวรู้

บริเวณทางเข้าห้องจัดงานจะมี backdrop ไว้สำหรับถ่ายรูปก่อนเข้างาน ซึ่งตอนนี้มีนักข่าวยืนรอสัมภาษณ์ลูกชายผมอยู่เต็มไปหมด

"มาแล้ว มาแล้ว " เสียงของนักข่าวคนนึงดังขึ้นเมื่อเห็นลูกชายผมเดินออกมาพร้อมชะนีชุดแดง(ขอกัดหน่อยครับมันเหลือเกินจริงๆ)

ธารเดินเข้าไปยืนหน้า backdropท่ามกลางเหล่านักข่าวพร้อมสโนว์ที่ยืนอยู่ข้างๆกัน

"เริ่มได้เลยครับ" เจ้าธารเอ่ยขึ้น

"ค่ะ คือตกลงแล้วความสัมพันธ์ระหว่างคุณ 2 คนเป็นยังไงคะ"

"ผมกับสโนว์เป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกันครับ"

"ธารคะ" สโนว์หันมามองลูกชายผม

"แล้วที่มีคนเห็นว่าคุณธารินเข้าออกคอนโดของคุณสโนว์มันเป็นยังไงครับ"

"ช่วงนั้นเธอป่วยนะครับไม่มีคนดูแล ผมซึ่งเป็นเพื่อนคนเดียวที่นี่เลยต้องไปดูแลถ้าไม่เชื่อถามแม่บ้านที่เฝ้าคอนโดได้นะครับเขาก็เข้าไปกับผมเหมือนกัน"

"แล้วที่ควงกันมาออกงานไม่ใช่ว่าจะมาเปิดตัวหรอครับ" นักข่าวอีกคนถาม

"เปล่าครับเธอมาในฐานะผู้ช่วยไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ"

"ธารพูดแบบนี้ได้ยังไงคะสโนว์เสียหายนะคะแล้วที่ผ่านมาที่สโนว์โทรไปหาคุณ คุณก็ไม่เคยปฏิเสธไม่ใช่ว่าคุณรักสโนว์หรอคะถึงขนาดยอมทิ้งอีเด็กบ้านั้นมา"

"อะไรครับคุณธารช่วยชี้แจงด้วยครับ" นักข่าวคนเดิมถาม

"ผมไปเพราะคุณป่วยและเห็นว่าเราเคยดีต่อกันเท่านั้นผมไม่ได้พูดสักคำว่าผมรักคุณมันก็แค่ความเวทนาต่อสัตว์โลกนะครับ" สโนว์หน้าเจื่อนแต่สักพักก็ยิ้มร้ายขึ้นมา

"แล้วที่คุณบอกว่าถ้าสโนว์ใกล้คุณมากกว่านี้คุณอาจทนไม่ไหวล่ะคะ" สโนว์หันไปมองนักข่าว

"เรื่องนั้นเพราะผมอึดอัดคุณอ่อยผมมากทั้งที่ผมมีคนรักอยู่แล้วที่ว่าทนไม่ไหวคืออาจจะเผลอไล่คุณออกไปทำงานข้างนอกนะครับ"

"กรี๊ดดธาร"

"แล้วเรื่องจูบเมื่อกี้ล่ะคะ"

"สโนว์เขาพึ่งกลับจากเมืองนอกนะครับคงติดวัฒนธรรมที่นั้นมาเลยจูบขอบคุณที่เต้นรำด้วยนะครับ"

"สรุปคุณธารินยืนยันว่าไม่มีอะไรในกอไผ่กับคุณสโนว์" ธารยิ้ม

"แน่นอนครับ อ่อแล้วผมขอบอกอีกอย่างนะครับตอนนี้ตระกูลวรเดชชัยกุลมีสะใภ้แล้วนะครับ"

"ใครครับ"

"คนนี้ผมรักเขามากผมอาจจะทำให้เขาเสียใจบ้างโดยที่ผมไม่รู้ตัวแต่เขาก็ยังเชื่อใจผมเสมอ เพราะฉะนั้นบ้านผมจะต้องมีสะใภ้ชื่อว่า ตติวงษ์ พฤกษ์เดชา คนเดียวเท่านั้นครับ"

"ให้มันได้อย่างนี้สิว่ะ" ผมตะโกนแล้วเผลอตบไหล่กรณ์ที่ยืนข้างๆ

"ต้นพี่ขอโทษนะถ้าบางเรื่องพี่มันโง่ พี่คิดน้อยไปหน่อยแต่ก็อยากให้รู้ว่าพี่รักเราที่สุด จะไม่มีใครแทนได้"

จบแล้วการสัมภาษณ์ผมละดีใจจริงๆได้หักหน้าชะนี สะใจนราทรนัก

...................
ต้น Part

ผมมาถึงรีสอร์ทแล้วตลอดทางที่พี่เทียนขับรถมาผมได้แต่นั่งคิดอะไรไปเรื่อยๆ ผมคิดว่าผมจะเอายังไงต่อดี ยิ่งคิดถึงภาพที่พี่ธารจูบกับคุณสโนว์น้ำตาก็จะไหลอีกแล้ว ลงจากรถผมก็เดินเข้าห้องทันที กำลังจะปิดประตูแต่พี่เทียนดันประตูไว้เสียก่อน

"ต้นอย่าคิดมากนะ"

"ผมไม่รู้จะคิดอะไรแล้วครับ ผมเหนื่อย"

"งั้นพักผ่อนเถอะ"

ผมปิดประตูลงแล้วเดินไปนั่งที่หน้าเตียงทบทวนเรื่องที่ผ่านมามันเป็นความทรงจำที่ดีแล้วต้น แค่นี้ก็ดีแล้วถ้าเขาไม่เลือกจริงๆก็ต้องอยู่ให้ได้ จู่ๆน้ำตาที่กลั้นไว้ตั้งแต่ที่งานก็พลันไหลลงมาเหมือนเขื่อนแตก ผมนั่งชันเข่าทั้งสองขึ้นแล้วก้มหน้าซบเข่าตัวเองร้องไห้เงียบๆ ผิดกับตอนที่บอกพี่เทียนเลยว่าไม่มีอะไรต้องร้อง

"ฮึก ฮือ ผมหายใจไม่ออก ฮือ พี่รู้บ้างไหม" ผมร้องไห้เงียบๆอยู่สักพักก่อนเงยหน้าขึ้นมาเช็คน้ำตาแล้วนั่งคิดว่าจะเอายังไงต่อไป ผมคิดอะไรไม่ออกแล้วร้องไห้จนปวดหัวไปหมด

ก็อก ก็อก ก็อก

"คุณต้นคะ คุณเทียนให้มาตามค่ะ" สาวใช้คนงานในบ้านเรียกผม

"มีอะไรหรือเปล่าครับ"

"คุณเทียนบอกว่าคุณต้นต้องมาดูเองค่ะ"

ผมเลิกคิ้วสงสัยแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู

"แล้วพี่เทียนอยู่ไหนครับ"

"ตามมาเลยค่ะ"

ผมเดินตามสาวใช้คนนั้นจนมาถึงที่ห้องนั่งเล่น ก็เห็นพี่เทียนกำลังนั่งไขว้ห้างอยู่ที่โซฟาดูโทรทัศน์อยู่ ผมเดินเข้าไปใกล้

"พี่เทียนครับ"

"ชู่วว์" พี่เทียนหันมาหาผมเอานิ้วชี้ขึ้นมาแตะที่ปากตัวเองแล้วทำท่าให้เงียบแล้วชี้ไปที่ทีวี ผมหันไปทางทีวีตามที่พี่เทียนบอก

"แล้วเรื่องจูบเมื่อกี้ล่ะคะ" นั้นมันพี่ธารนี่

"สโนว์เขาพึ่งกลับจากเมืองนอกนะครับคงติดวัฒนธรรมที่นั้นมาเลยจูบขอบคุณที่เต้นรำด้วยนะครับ"

"สรุปคุณธารินยืนยันว่าไม่มีอะไรในกอไผ่กับคุณสโนว์"
 
พี่ธารแถลงข่าวความสัมพันธ์กับคุณสโนว์ว่าไม่มีอะไรกัน


"แน่นอนครับ อ่อแล้วผมขอบอกอีกอย่างนะครับตอนนี้ตระกูลวรเดชชัยกุลมีสะใภ้แล้วนะครับ" คำถามนี้ทำใจผมสั่นแปลกๆ

"ใครครับ"

"คนนี้ผมรักเขามากผมอาจจะทำให้เขาเสียใจบ้างโดยที่ผมไม่รู้ตัวแต่เขาก็ยังเชื่อใจผมเสมอ เพราะฉะนั้นบ้านผมจะต้องมีสะใภ้ชื่อว่า ตติวงษ์ พฤกษ์เดชา คนเดียวเท่านั้นครับ"

ผมแทบหยุดหายใจกับคำสัมภาษณ์ พี่ธารทำในสิ่งที่ผมไม่คิดมาก่อนเลยริมฝีปากของผมค่อยๆยกยิ้มอย่างห้ามไม่ได้

"ต้นพี่ขอโทษนะถ้าบางเรื่องพี่มันโง่ พี่คิดน้อยไปหน่อยแต่ก็อยากให้รู้ว่าพี่รักเราที่สุด จะไม่มีใครแทนได้"

ผมรู้สึกเหมือนโดนบอกรักต่อหน้าคนทั้งประเทศเลย ผมรู้สึกเหมือนโดนสต๊าฟไว้เลยช็อคจนขยับไม่ได้เลย พี่เทียนปิดทีวีแล้วก็ลุกเดินมาหาผม

"สบายใจแล้วก็ไปนอนได้แล้ว" พี่เทียนยีหัวผม

"พี่เทียนก็อย่าแซวผมสิครับ" ผมลูบคอแก้เก้อ

"สงสัยที่นี่จะไม่ใช่บ้านของเราแล้วล่ะ เพราะเหมือนต้นกำลังจะได้กลับบ้านของต้นแล้ว"

"ผมขอบคุณมากนะครับพี่เทียนที่คอยดูแลผม"

"ไม่เป็นไร เรานะเตรียมตัวเถอะพี่ว่าอีกไม่กี่วันผู้ปกครองคงมารับแล้วล่ะ" ผมพยักหน้า

"งั้นผมไปนอนก่อนนะครับ"

"อืม ฝันดี"

ผมเดินขึ้นห้องพร้อมกับรอยยิ้มที่พยายามจะหุบยังไงก็หุบไม่ลงสักที คืนนี้จะเป็นคืนแรกเลยนะเนี่ยที่ผมจะนอนแบบสบายใจไร้กังวล

.................
นราทร Part

 ผมกลับจากงานเลี้ยงก็รีบทำธุระส่วนตัวก่อนจะโทรหาสายลับที่ไม่ค่อยจะลับเท่าไหร่ของผม

"กรณ์"

(ครับนาย)

"เดี๋ยวอีก 2 วันฉันจะให้แกไปรับลูกต้นนะอย่าให้ไอ้ธารมันรู้นะ"

(ได้ครับนาย แล้วเรื่องคุณสโนว์)

"พรุ่งนี้แกมาเอาหนังสือเชิญออกจากฉันพร้อมเงินชดเชยให้นางไป"

(ครับนาย)

"เอออีกอย่างนึงเดี๋ยวแกเตรียมสินสอดไว้นะฉันว่าถึงเวลาต้องไปสู่ขอลูกสะใภ้ให้เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว"

(ต้องบอกนายน้อยไหมครับ)

"อย่าพึ่งบอกตอนนี้ให้มันไปเคลียกับเมียก่อน"

(ได้ครับผมจะเตรียมทุกอย่างไว้ให้)

"ดี วันนี้พอแค่นี้แยกย้ายนอนพักผ่อน"

(ราตรีสวัสดิ์ครับนาย)

"ฝันดี"

ตื่นเต้นจริงๆถ้าผมไปขอลูกเขา เขาจะไล่ผมออกจาบ้านหรือจะเอาไม้ตีพริกไล่ผมไหมเนี่ย เรื่องลูกชายยังเคลียได้เรื่องตัวเองมันต้องรอดสิว่ะ นราทรสู้ๆ โว้ย


 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 12 งานเลี้ยง <23/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 23-06-2019 23:26:46
 :mc4:


 :กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 12 งานเลี้ยง <23/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-06-2019 23:49:56
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 12 งานเลี้ยง <23/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 24-06-2019 10:31:25
ยัยสโนว์ไม่จบง่ายๆแน่งานนี้
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 12 งานเลี้ยง <23/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 24-06-2019 19:32:28
สะใจยัยสโนว์หน้าแตก 5555
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 12 งานเลี้ยง <23/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 25-06-2019 21:43:58
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 12 งานเลี้ยง <23/06/19>
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 27-06-2019 08:54:11
 :pig4: :pig4: :pig4:

พ่อผัวกับแม่ต้น  ต้องเคยมีซัมติงกันมาก่อนแน่ ๆ
หัวข้อ: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Garuda8 ที่ 07-07-2019 17:28:47
ตอนที่ 13

กลับมา

 วันนี้ผมตื่นขึ้นมาด้วยความสดใสกว่าทุกวันอาจจะเป็นเพราะเรื่องเมื่อคืน ผมยังคงทำงานตามปกติเหมือนที่ผมเคยทำตอนอยู่ที่นี่ หลังจากที่ผมทำหน้าที่ของตัวเองมาเกือบทั้งวันตอนนี้ผมก็กำลังพักผ่อนอยู่ที่สวนหลังรีสอร์ทสูดอากาศสดชื่นหลังจากที่ทำงานมาทั้งวัน

"ต้น" ผมหันไปมองตามเสียงเรียก

"พี่เทียน มีอะไรหรือเปล่าครับ" ผมยิ้มให้เจ้าของชื่อ

"ไม่มีหรอกเพียงแต่พี่จะมาบอกว่าให้เราขึ้นไปเก็บของนะ" ผมขมวดคิ้ว

"ไปเก็บของเถอะอีกไม่เกิน 2 ชั่วโมงรถจะมารับกลับบ้านแล้ว"

"กะ กลับบ้าน" พี่เทียนพยักหน้า

"คุณลุงกำลังจะส่งรถมารับแล้วรีบไปเถอะ"

"ครับ"

ผมยิ้มให้พี่เทียนแล้วเดินไปเก็บของเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านที่ผมคิดถึง ไม่รู้คนทางโน้นจะเป็นยังไงบ้าง ผมใช้เวลาไม่นานเก็บของใส่กระเป๋าใบเดิมตอนที่มา แล้วลงไปรอรถที่คุณพ่อจะส่งมารับอยู่ที่หน้ารีสอร์ท โดยไม่ลืมร่ำลาพนักงานทุกคนที่ทำงานร่วมกันมาตลอด 2 อาทิตย์ ลาทุกคนเรียบร้อยก็มานั่งรอที่ล็อบบี้ของรีสอร์ท จนพี่เทียนเดินมานั่งรอเป็นเพื่อน

"ไงต้นดีใจล่ะสิได้กลับบ้าน"

"ครับ ดีใจมากเลย"

"ไม่ชอบที่นี่หรอไง พี่น้อยใจนะเนี่ย"

"ไม่ครับ ต้นก็ชอบที่นี่นะอย่าน้อยใจสิพี่" ผมทำหน้างอ

"พี่ล้อเล่น ถ้าอยากมาพักผ่อนเมื่อไหร่ก็ชวนไอ้ธารมาด้วยกันนะ"

"ครับพี่เทียน ผมต้องขอบคุณพี่มากนะครับที่ดูแลผมตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่"

พี่เทียนยิ้ม แล้วยื่นมือมาลูบหัวผม

"ต้องดูแลสิก็พี่รักต้นอยากดูแลต้นไม่ว่าจะในฐานะไหน ตอนนี้ต้นมีคนที่ดูแลแล้วพี่ก็ขอเป็นพี่ชายที่ดูแลต้นแล้วกัน"

"พี่เทียนดีกับผมซะผมรู้สึกผิดเลย"

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า คิดมากนะนึกว่าพี่เป็นพี่ชายคนนึงแล้วกัน"

"ครับ หากวันข้างหน้ามีอะไรที่ผมพอช่วยได้พี่เทียนรีบบอกผมเลยนะครับ"

"ได้ถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยจะคิดถึงต้นคนแรกเลย"

เรา 2 คนยิ้มให้กันก่อนที่รถที่คุณพ่อส่งมารับจะมาถึง ผมโบกมือลาทุกคนรวมถึงพี่เทียน

"ไว้เจอกันที่กรุงเทพนะต้น"

"ครับ ไว้เจอกัน"

"ใกล้มืดแล้วขับรถระวังหน่อยนะ" พี่เทียนหันไปพูดกับคนขับก่อนที่รถจะค่อยๆเคลื่อนออกจากรีสอร์ท รถยังคงขับเคลื่อนเรื่อยๆเพื่อมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าก็ค่อยๆมืดลงเรื่อยๆจนเหลือแต่แสงไฟบนถนน คิดถึงเป็นบ้าเลยอีกเดี๋ยวก็จะได้เจอกันแล้วนะ

................................
 ผมกลับมาถึงบ้านหลังใหญ่ที่ผมคุ้นเคยในเวลา 2 ทุ่มกว่ามีคนออกมาต้อนรับมากมายทั้ง ป้านิ่ม คุณกรณ์ หรือแม้กระทั่งคุณพ่อผมเดินมาสวัสดีคุณพ่อและป้านิ่มก่อนจะหันไปทักทายคุณกรณ์ ก่อนที่จะพยายามมองหาใครอีกคนที่คิดถึง

"ไม่ต้องหาหรอกมันไปกินเลี้ยงคงกลับดึกๆนะ" คุณพ่อพูดขึ้น ผมพยักหน้ารับรู้

"แล้วพี่ธารเขาไม่รู้หรอครับว่าผมจะกลับมาวันนี้" ผมถาม

"ไม่รู้หรอก พ่อบอกมันว่าต้นไม่อยากเห็นหน้ามันเลยขอยังไม่กลับตอนนี้นะ" ผมฟังคุณพ่อส่ายหัวให้กับความขี้แกล้ง

"ต้นต้องเห็นหน้ามันนะ อย่างกับหมาถูกเจ้าของทิ้งสะใจพ่อจริงเชียว"

"คุณพ่ออย่าแกล้งพี่ธารสิครับ"

"ไม่แกล้งได้เหรอทีมันทำอะไรยังไม่นึกถึงต้นเลย"

"ช่างมันเถอะครับ แล้วนี่พี่ธารจะกลับกี่โมงครับ"

"ไม่ต้องรอมันหรอกมาเหนื่อยๆอาบน้ำ พักผ่อนเถอะ"

"ครับ"

แล้วคุณพ่อก็จัดแจงสั่งเด็กให้เอาของผมไปเก็บที่ห้องพร้อมทั้งให้นำอาหารมาให้ผมที่ห้องด้วย ผมเดินเข้าห้องของตัวเองก่อนขอตัวลาทุกคนเพื่อทำธุระ ผมเดินไปที่กระเป๋าแล้วรื้อของออกมาจัดให้เข้าที่เหมือนเดิมเหมือนตอนที่ผมยังอยู่ เรียบร้อยแล้วก็เตรียมผ้าขนหนูเพื่ออาบน้ำ วันนี้ผมเหนื่อยจากการทำงานและยังเหนื่อยจากการนั่งรถอีกวันนี้ผมขอนอนก่อนนะพี่ธาร

................
 ธาร Part

  เกือบเที่ยงคืนแล้วผมพึ่งถึงบ้านงานเลี้ยงอะไรของพ่อก็ไม่รู้มีแต่ผู้ใหญ่และคนแก่พ่อหลอกให้ผมไปงานนี้เพื่อแกล้งกันชัดๆ ผมจอดรถที่โรงรถแล้วเดินตรงเข้าบ้านทันทีเพราะเหนื่อยมากและอยากทิ้งตัวลงกับเตียงเพื่อพักผ่อน ผมรีบเดินจนมาถึงที่หน้าห้องของผมเอง จับลูกบิดเพื่อเปิดประตูทันทีสัมผัสแรกหลังจากที่เปิดประตูคือลมเย็นที่ปะทะเข้าที่ใบหน้าของผม ทั้งที่ห้องก็มืดสนิท

"ฉันลืมปิดแอร์หรือว่ะ" ผมถามตัวเองก่อนจะปิดประตูแล้วล็อคพร้อมเดินตรงดิ่งไปที่เตียงทันทีโดยไม่เปิดไฟเพราะความที่เป็นห้องของผม ผมจึงเคยชินกับทุกสิ่งที่อยู่ในห้องนี้

ตุบ

ผมทิ้งตัวลงที่เตียงทันทีแต่เหมือนกับว่ามันมีอะไรบางอย่างอยู่บนเตียงจนทำให้ผมไม่สามารถทิ้งตัวได้เต็มที่จนต้องลุกขึ้นนั่ง

"อืม"

คน มันคือเสียงคนนอนหลับ ผมรีบเปิดไฟหัวเตียงทันทีเพื่อดูว่าใครมาเล่นอะไร เมื่อไฟสว่างขึ้นผมก็ได้เห็นชัดๆว่าใครที่มานอนอยู่บนเตียงของผมภาพตรงหน้าผมคือคนที่ผมคิดถึงที่สุด

"ต้น"

ผมเรื่องชื่อน้องเสียงเบาๆด้วยความไม่แน่ใจ ภาพตรงหน้าคือต้นกำลังหลับตาพริ้มกอดผ้าห่มแน่นคงเพราะหนาวจากเครื่องปรับอากาศที่ผมปรับไว้ซะเย็น ผมค่อยยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มคนที่กำลังหลับอยู่

"อื้อ" คนโดนกวนส่งเสียงเหมือนรำคาญทำให้ผมยิ้มกับภาพตรงหน้าเป็นต้นจริงๆด้วย อยากกอดจะตายอยู่แล้ว ผมไม่รอช้ารีบสอดตัวเองใต้ผ้านวมแล้วเอาแขนสอดใต้คอต้นเพื่อให้น้องหนุนแขนผมแทนหมอนค่อยๆเอนตัวลงนอนข้างๆน้องแล้วดึงน้องเข้ามากอด ผมกอดน้องแน่นจนผมรู้สึกได้

"อือ อืม" เหมือนต้นก็เริ่มที่จะอึดอัดที่ผมกอดแน่นแต่ผมไม่ปล่อยหรอกผมคิดถึงน้องจนอยากจะกลืนเข้าไปอยู่แล้ว ขณะที่ผมกำลังมองหน้าคนนอนหลับด้วยความคิดถึง คนในอ้อมกอดผมก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา กระพริบตาถี่ๆสองสามครั้งเพื่อปรับโฟกัสก่อนจะมองหน้าผมแล้วค่อยๆยิ้มออกมา

"กลับมาก็มากวนคนนอนหลับแบบนี้นิสัยไม่ดีนะครับ"

ผมไม่ตอบน้องแต่ยื่นหน้าเข้าไปจูบปากช่างจ้อนั้นเน้นๆโดยไม่ได้ล่วงล้ำกดแช่ไว้สักพักก็ผละออกมา

"คิดถึงจัง" ต้นพูดแล้วเอามือมากอดผมไว้

"พี่คิดถึงต้นมากกว่าอีก" แล้วผมก็กดจูบลงบนเส้นผมของต้นอีกครั้ง

"พี่นึกว่าจะไม่ได้เจอต้นซะแล้ว"

"ต้นก็อยู่นี้แล้วไง"

"พี่ขอโทษนะที่ทำอะไรไม่บอกต้นเพราะพี่คิดว่าต้นจะเข้าใจเองได้"

"ต้นรู้ครับแต่ก็มีแอบน้อยใจอยู่ดี"

"พี่จะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้วต่อไปนี้พี่จะบอกต้นทุกอย่างเลย"

"ให้มันจริงเถอะ" น้องบีบจมูกผมเบาๆ

"พี่ธารไปอาบน้ำเถอะดึกแล้วจะได้มาพักผ่อนนะครับ"

ผมพยักหน้าแล้วกดจูบที่หน้าผากต้นอีกครั้งก่อนจะไปจัดการธุระของตัวเอง ก่อนจะออกมาอีกครั้งก็พบว่าคนที่อยู่บนเตียงหลับไปอีกแล้วผมจึงเดินไปทิ้งตัวลงข้างๆแล้วดึงน้องเข้ามากอดแนบออก

"ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ" ผมพูดกับน้องแล้วจูบหน้าผากน้องอีกครั้งก่อนจะหลับลงตามคนข้างตัวไปอีกคน

..........................
 นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้ลงมาเตรียมอาหารให้พี่ธาร ได้กลับมาทำหน้าที่ตัวเองแบบนี้ดีใจสุดๆไปเลย ตอนนี้ผมกำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ในครัวกับป้านิ่ม เมื่ออาหารพร้อมแล้วผมจึงขึ้นไปปลุกนายน้อยของบ้านให้ลงมาทานอาหารพร้อมกัน ระหว่างที่กำลังทานอยู่นั้น

"สวัสดีเด็กๆทานข้าวกันอยู่หรอขอพ่อสักจานได้ไหมลูก" ผมเงยหน้ามองไปตามเสียงพบว่าเป็นคุณพ่อจึงยิ้มทักทายแล้วรีบตักข้าวให้

"มาทำไมแต่เช้าเนี่ยพ่อ"

"ไอ้ลูกเวรได้เมียคืนแล้วลืมพ่อเลยนะ เดี๋ยวจะเอาไปซ่อนแล้วไม่เอามาคืนอีกเลย"

"ถ้าพ่ออยากให้ผมตายก็ทำ"

"ป๊าด จุ๊ จุ๊ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากแก"

ผมได้แต่ก้มหน้าฟังบทสนทนาที่เกี่ยวกับผมแบบอายๆ

"ว่าแต่ดีกันแล้วใช่ไหมเนี่ย" คุณพ่อถามขึ้น

"ก็ไม่ได้ทะเลอะกันสักหน่อย"

"หราาาา"

ผมหลุดขำหน้าคุณพ่อที่ทำหน้ากวนๆใส่พี่ธาร

"ดีกันก็ดีแล้วพ่อมีเรื่องที่เป็นการเป็นงานจะพูดด้วย"

"จริงจังใช่ไหม" พี่ธารถาม

"ยิ่งกว่าจริงจัง"

"งั้นว่ามาเลยพ่อ"

"คืองี้นะเจ้าธารแกก็เอาลูกเขามาอยู่ที่บ้านหลายเดือนแล้วควรไปบอกแม่เขาไปแนะนำตัวหรือไปสู่ขอได้แล้วไหมว่ะ"

พรวด

ผมที่กินน้ำอยู่ถึงกับสำลัก

"นั้นไงต้นยังเห็นด้วยเลย"

เดี๋ยวครับคุณพ่อผมตกใจ

"ผมก็คิดเรื่องนี้ไว้เหมือนกันเพียงแต่รอจัดการอะไรให้เรียบร้อยก่อนพ่อว่าไง"

"พ่อว่าไปคุยไปแนะนำตัวให้รู้ก่อนดีกว่าเขาจะได้ไม่ว่าเอาได้"

"ครับ และพ่อจะไปด้วยกันไหม"

"เฮ้ย เรื่องแบบนี้ขอให้บอกไปอยู่แล้วแกพร้อมวันไหนนัดวันมาเลย"

"เดี๋ยว นะครับเรื่องนี้ต้นขอบอกแม่ให้เตรียมตัวก่อนนะครับเดี๋ยวแม่งอนเอาที่ไม่บอก"

"ได้สิถ้าพี่เคลียงานเรียบร้อยแล้วพี่จะบอกนะว่าจะไปวันไหนต้นจะได้บอกแม่ไว้ก่อน"

"ครับ"

"แหม เห็นแบบนี้คนเป็นพ่ออย่างฉันมันช่างตื้นตันใจ"

"หมดธุระแล้วก็รีบกินแล้วก็รีบกลับได้แล้วพ่ออ่ะ"

"ไอ้นี่ก็ไล่เก่งจัง"

"ผมจะพาเมียออกไปข้างนอก"

"ไปไหนครับ" ผมหันไปถาม

"ไปไหว้แม่พี่ที่วัดนะ พี่อยากให้แม่รู้จักคนที่พี่รัก"

"โอ๊ย ทำไมข้าวต้มวันนี้มันหนักหวานจัง ไอ้กรณ์ขอน้ำปลา 2 ขวด"

"อย่าเว่อนะพ่อ"

"แกนั่นแหละหลงเมียเว่อ"

แล้วบรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็มีเสียงโต้เถียงของ 2 พ่อลูกตลอดมื้อ
..........................
หลังจบมื้อเช้าพี่ธารก็พาผมขับรถออกมาจากบ้านเพื่อมุ่งหน้าไปทางวัดที่อยู่แถวชาญเมืองซึ่งเป็นที่เก็บอัฐิของแม่พี่ธาร เมื่อมาถึงวัดพี่ธารก็จอดรถแล้วลงมาจูงมือผมเพื่อเดินไปด้วยกันยังจุดหมาย เมื่อมาถึงพี่ธารก็ปล่อยมือผมแล้วยิ้มให้กับรูปข้างหน้า

"แม่ครับวันนี้ธารพาคนที่ธารรักมาแนะนำให้แม่รู้จัก"

พี่ธารหันมามองหน้าผม

"น้องชื่อต้นนะครับแม่"

"สวัสดีครับผมต้นครับ" ผมเอ่ยออกไป

"น้องน่ารักมากครับแม่ผมยอมแพ้คนนี้จริงๆไม่อยากจะยกเครดิตให้พ่อหรอกนะ แต่คนนี้พ่อเข้าเลือกมาให้ผมเอง ผมมีคนที่ผมจะดูแลไปตลอดแล้วนะแม่ไม่ต้องเป็นห่วง"

ผมยิ้มให้กับพี่ธารแล้วหันไปหารูปด้านหน้า

"ผมจะดูแลพี่ธารเองครับแม่"

เรายิ้มให้กันก่อนไหว้แม่แล้วเดินจูงมือกันกลับมาที่รถ

"ต้นอยากไปไหนหรือเปล่าไหนๆก็มาข้างนอกแล้ว"

ผมทำท่านึก

"ไม่ครับ"

"งั้นไปซื้อของกับพี่แปปนึงนะ"

ผมพยักหน้าแล้วมองวิวข้างทางไปเรื่อยๆตลอดการเดินทางไม่ได้มีบทสนทนาแต่ก็ไม่ได้อึดอัดจนรถของเราเลี้ยวเข้ามาที่ห้างหรู เราเดินเข้ามาในห้างโดยที่พี่ธารเดินนำและผมเดินตาม ก่อนที่พี่ธารจะไปหยุดที่ร้านเพชรร้านหนึ่ง

"พี่ธารจะซื้อเพชรหรอครับ"

"ใช่ ซื้อเป็นของขวัญนะ ช่วยพี่เลือกหน่อยนะ"

พูดจบพี่ธารก็เดินจูงผมเข้าไปทันที พนักงานก็เข้ามาต้อนรับอย่างดี

"สวัสดีค่ะคุณธาริน วันนี้สนใจชิ้นไหนคะ"

"ผมขอดูสร้อยคอที่เรียบๆหน่อยที่เหมาะกับจี้ที่ผมสั่งทำไว้นะ"

"อ่อได้ค่ะ"

สักพักพนักงานก็เดินมาพร้อมกับสร้อยเพชรให้พี่ธารเลือก

"ต้นชอบเส้นไหน"

ผมมองดูสร้อยที่พนักงานเอามาให้แล้วพยายามมองหาเส้นที่ดูเรียบที่สุดซึ่งมีเพชรน้อยที่สุดและเน้นทองคำขาวเยอะกว่า

"เส้นนี้ครับสวยแล้วก็เรียบๆด้วยใส่ได้หลายโอกาส"

พี่ธารพยักหน้าแล้วบอกพนักงาน

"เอาเส้นนี้ครับใส่จี้ที่สั่งทำมาให้ด้วยนะครับ"

"ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ"

ผมกับพี่ธารนั่งรอไม่นานพนักงานก็เอาของใส่กล่องกำมะหยี่และใส่ถุงมาให้เรียบร้อยพร้อมค่าใช้จ่าย พี่ธารเคลียค่าใช้จ่ายเสร็จเราก็กลับบ้านกันทันที

"พี่ธารหิวหรือยังครับ" ผมถามเมื่อรถจอดที่โรงรถของบ้านเรียบร้อยแล้ว

"นิดๆแล้วล่ะ"

"งั้นพี่ขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะครับเดี๋ยวต้นไปเตรียมอาหารแล้วเดี๋ยวขึ้นไปตาม"

ผมเดินลงจากรถแล้วไปทำหน้าที่ของตัวเองแล้วก็ไปเรียกพี่ธารมาทานมื้อค่ำ เรายังคงใช้ชีวิตตามปกติจนถึงเวลาเข้านอน ผมกับพี่ธารที่กำลังนอนเล่นกันอยู่จู่ๆพี่ธารก็พูดขึ้น

"ต้นอะไรกัดคอต้นอ่ะแดงเลย"

ผมเด้งตัวจับคอตัวเอง

"จริงหรอพี่ตรงไหนอ่ะ"

"นี้ไงหลังคอเนี่ย น่าเกลียดมากเลย"

"พี่ธารอย่าแกล้งต้นนะ"

"ไม่ได้แกล้ง"

ผมจับคอตัวเองไปมาสักพักจนรู้สึกเย็นที่คอผมหันไปมองหน้าอีกคนที่ยิ้มให้

"อยู่เฉยๆนะเดี๋ยวพี่ใส่ให้"

ผมอยู่นิ่งมองการกระทำของคนตัวโตตรงหน้าที่บรรจงใส่สร้อยให้ผม เมื่อใส่สร้อยเสร็จพี่ธารก็บรรจงจูบจี้ที่คอผม

"สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะ"

ผมมองที่จี้มันเป็นจี้เพชรรูปหยอดน้ำที่มาพร้อมกับสร้อยที่ผมเป็นคนเลือกเอง

"หยอดน้ำ"

"ใช่ ธารแปลว่าน้ำ ต้นจะได้มีน้ำไว้หล่อเลี้ยงเสมอไง"

"เลี่ยนชะมัดเลย"

"แล้วรักไหมล่ะ"

ผมกอดพี่ธารแน่น

"ที่สุดเลย"

"พี่ก็รักต้นครับ"

"พี่ธารสั่งทำจี้หรือครับ"

ผมถามเมื่อคิดขึ้นได้เห็นพนักงานบอก

"ใช่ พี่ไปที่ร้านช่วงก่อนวันเกิดต้น ไปทุกวันเลยเพื่อดูการออกแบบ"

"ที่กลับดึกๆเพราะแบบนี้เองหรอ โธ่ไม่เห็นต้องทำขนาดนั้นเลย"

ผมกอดพี่ธารแน่นขึ้นอีก

"ก็พี่อยากให้ต้นมีความสุขนิ"

"ต้นก็อยากให้พี่ธารมีความสุขเหมือนกันครับ"

"จริงหรอ"

ผมพยักหน้ากับอกพี่ธาร

"งั้นน้องนอนเฉยๆเลยเดี๋ยวพี่ทำเอง"

พูดจบพี่ธารก็ผลักผมลงไปนอนแผ่อยู่บนที่นอน

"พี่ธารจะทำอะไรครับ"

"ต้นไม่รู้หรอกว่าตอนต้นไม่อยู่พี่คิดถึงต้นขนาดไหน ทั้งเหงา ทั้งเศร้า อยากกอด อยากฟัด ก็ทำไม่ได้"

"พี่ธาร"

"พี่อยากรักต้นให้หายคิดถึงได้ไหมครับ คนดี"

"นี่อ้อนอยู่ถูกไหมครับ"

"เปล่าอ้อนแค่บอกให้รู้เฉยๆ"

จบคำ พี่ธารก็ใช้นิ้วสะกิดตุ่มไตบนอกผมผ่านเสื้อนอนสีขาว และค่อยๆก้มหน้ามาละเลงลิ้นที่ตุ่มไตนั้นผ่านเสื้อซึ่งมันทำให้ผมเสียวยิ่งกว่าเดิมจนต้องกำผ้าปูระบายความเสียวซ่าน

"อ๊ะ พี่ธารแบบนี้มันเสียว"

"ขึ้นง่ายจังตอนไม่ได้อยู่ด้วยกันไม่ได้ปลดปล่อยเลยหรอ" พี่ธารถาม ผมหน้าแดงซ่านหันหน้าหนีอีกฝ่าย

"ใครเขาจะหื่นเหมือนพี่เล่า"

พี่ธารหัวเราะแล้วใช้มืออีกข้างล้วงเข้าไปในกางเกงนอนของผม ผมสะดุ้งเหมือนมีกระแสไฟฟ้าช็อต

"อื้อ อือ"

ผมบิดเร้าด้วยความทรมานเมื่อพี่ธารดึงกางเกงพร้อมชั้นในผมออกพร้อมกันจากนั้นใช้นิ้วโป้งวนที่ส่วนปลายเบาๆ

"แบบนี้ไหวไหม" คนตัวโตถาม

"พะ พี่ อย่าแกล้งน้อง"

"หืม ยิ่งพูดก็ยิ่งอยากแกล้ง"

พี่ธารวนนิ้วโป้งเร็วขึ้นจนผมวูบวาบไปทั้งตัว

"อ๊ะ มัน สะ เสียวเกินไปแล้ว อือ"

ผมบิดไปมามือก็กำผ้าปูแน่น

"อึก อย่าเลีย"

ผมสะดุ้งอีกครั้งเมื่อพี่ธารก้มลงไปเลียตรงช่องทางสีหวานของผม

"ต้นของพี่หวานไปหมดเลย"

ผมจะไปไหวแล้วมันเสียวซ่านจนไม่มีแรงขัดขืน ตอนนี้พี่ธารกำลังถอดเสื้อผ้าตัวเองอย่างรวดเร็วก่อนมองดูผมที่หายใจหอบอยู่ตรงหน้า

"อย่าส่งสายตายั่วพี่แบบนั้นนะ"

พี่ธารกระโจนใส่ผมทันทีเมื่อพูดจบริมฝีปากดูดเข้าที่แอ่งชีพจรจนผมรู้สึกเจ็บจี๊ด ก่อนจะเลื่อนลงมาที่หัวไหล่ ไหปลาร้า กลางอก หน้าท้อง ทุกๆที่ที่ริมฝีปากพี่ธารผ่านต้องทิ้งรอยไว้ทุกครั้ง ก่อนที่พี่ธารจะวกกลับมาจูบผมที่ปากแล้วส่งลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปากเหมือนต้องการสำรวจให้ทั่ว

"อ๊ะ"

ผมสำผัสได้ถึงความเย็นที่ถูกป้ายบริเวณปากทางเข้า ก่อนที่คนตัวโตจะผละจากจูบ

"พี่จะรักต้นให้มากกว่าเดิมแล้วนะ"

"อื้อ อ๊ะ"

จบคำพี่ธารก็เบียดตัวตนของเขาเข้ามาที่ช่องทางของผมจนสุด ความคับแน่นทำให้ผมอึดอัดในช่วงแรกแต่พอพี่ธารเริ่มขยับก็กลายเป็นความรู้สึกอื่นเข้ามาแทน สะโพกพี่ธารขยับเข้าออกสม่ำเสมอและเน้นหนักตรงจุดกระสันของผม ผมเสียวซ่านจนเผลอเด้งสะโพกสวนและกอดคอพี่ธารไว้แน่น ส่วนคนด้านบนก็มอบจูบปลอบปะโลมให้กับผม

พั่บ พั่บ พั่บ

"พี่รักต้น รักมากอยากจะรักให้มากกว่านี้อีก"

"อ่า อ๊ะ พี่ธารเบาหน่อย"

สะโพกของพี่ธารยังคงขยับอย่างต่อเนื่องและจงใจเน้นที่จุดกระสันของผมเหมือนแกล้ง

"ไม่ ตรงนั้น มันเสียวเกินไปใจจะขาดแล้ว"

"ปล่อยไปเลยต้นไม่ต้องฝืนนะครับเด็กดี"

ผมส่ายหน้า กัดริมฝีปาก

"อื้อ มะ ไม่ไหวแล้ว จะเสร็จแล้ว"

ไม่นานผมก็ปลดปล่อยออกมาโดยที่ยังไม่ได้แตะต้องส่วนนั้นของผมเลย

"อ่า อย่ารัดพี่สิครับ"

พี่ธารก้มลงมาดูดดุนหน้าอกของผมอีกครั้งก่อนจะขยับอีกสองสามครั้งเพื่อปลดปล่อยลูกๆเข้ามาในตัวผม ผมรู้สึกได้ถึงความอุ่นในช่องท้องพี่ธารกระตุกสักพักก็ทิ้งตัวลงนอนทับผม เราสองคนฟังเสียงหอบหายใจของกันและกันสักพักในขณะที่ส่วนล่างยังเชื่อมติดกันอยู่

"พี่ธารต้นหนัก"

"ต้น"

"ครับ"

"ไปที่หน้ากระจกกันไหม"

"ดะ เดี๋ยวนะพี่จะทำอะไร"

พี่ธารยกตัวผมขึ้นเอวเหมือนลูกลิงแล้วเดินไปที่หน้ากระจก ทุกครั้งที่เดินส่วนที่ยังเชื่อมกันก็จะกระแทกเข้ามาลึกกว่าเดิม พี่ธารวางผมที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วจูบผมที่หน้าผาก ไล่มาจนถึงแก้มแล้วก็ปาก

"พี่ธารจะทำอีกหรอครับ"

"แล้วได้ไหมล่ะ"

ผมทำหน้ายู่ ดูจากสภาพน่าจะอดอยากมานาน

"ถ้าพี่อยากทำก็ได้ครับ"

"หึ หึ คืนนี้ พี่ดุนะหนูไหวหรอ"

"ไอ้พี่ธาร"

แล้วกิจกรรมก็ดำเนินต่อไปจนเกือบเช้า
............
 ครืด ครืด

"โทรมาแต่เช้ามีอะไรไอ้ลูกหมา"

(พ่อผมจะไปสู่ขอน้องอาทิตย์หน้านะ)

"โอ๊ย ใจร้อนเบอร์แรง"

(น้องน่ารักพ่อผมไม่ไหว ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งไม่ไหว)

"เฮ้ยๆๆ อย่าทำอะไรเกินกำลังลูกสะใภ้กูนะเว้ย"

(ผมโทรมาบอกแค่นี้แหละพ่อเตรียมตัวเตรียมเงินไว้ด้วยนะ)

"เออ แล้วบอกน้องหรือยัง"

(ยัง เดี๋ยวตื่นแล้วจะบอก)

"แกทำอะไรหนักอีกแล้วใช่ไหมป่านนี้ไม่ตื่นเนี่ย"

(ทำอย่างที่ควรทำแหละพ่อแค่นี้นะ)

"เออ สวัสดีลูกบังเกิดเกล้า"

...................

ง่วง นี้คือคำเดียวในหัวผมเมื่อยไปทั้งตัวเลย ผมค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงมองไปรอบห้องเพื่อหาอีกคน

แอ๊ด

"ตื่นแล้วหรอ มาทานข้าวก่อนนะจะได้ทานยาตัวน้องรุมนะรู้ไหม"

"ก็พี่ธารนั้นแหละบอกให้พอให้พอก็ไม่เชื่อ"

เขาเดินเข้ามาวางถาดอาหารไว้ที่โต๊ะหัวเตียงแล้วเดินเข้ามาดึงผมไปไว้ในอ้อมกอด

"ก็พี่คิดถึงต้นมากๆๆๆๆ เลยอยากรักให้เยอะๆไง"

ผมส่ายหัวอยู่กับอกเขา

"ต้นครับอาทิตย์หน้าไปเยี่ยมแม่ต้นกัน"

ผละตัวออกจากพี่ธาร

"หมายความว่า"

"เอาลูกเขามาแล้วพี่ยังไม่รู้จักแม่เขาเลย"

"พี่ธาร"

"พี่อยากอยู่กับต้น อยากบอกใครๆว่าเราเป็นอะไรกันได้อยากเต็มปาก"

ผมกระโดดกอดพี่ธารแน่นด้วยความดีใจ

"ระวังหน่อยต้นเดี๋ยวลูกชายพี่ตื่น"

เพียะ

ผมตีพี่ธารที่แขนแล้วทำหน้างอ พี่ธารจับมือผมรวบไว้แล้วเอานิ้วโป้งเกลี่ยหลังมือผม

"ถ้าแม่ต้นรับรู้แล้ว"

ผมมองหน้าพี่ธาร

"เราแต่งงานกันนะ"

"พี่ธาร"

น้ำตาผมค่อยๆร่วงลงมาอย่างไม่รู้ตัว

"ชู่ว ขี้แงจังเด็กดีของพี่ธาร"

พี่ธารปลอบผมและจูบซับน้ำตา มือก็ลูบหลังให้เงียบไปด้วย

"ตกลงแต่งกับพี่ไหมครับ"

ผมผละจากอกพี่ธารแล้วมามองหน้าเขา

"ถ้าผมไปแต่งกับคนอื่นแทนล่ะ"

"พี่จะไปฆ่าไอ้คนนั้นแล้วฉุดต้นมาปล้ำเช้าปล้ำเย็นจนกว่าจะยอม"

"ป่าเถื่อน"

"ก็พี่รักของพี่นิ" พี่ธารหยิกแก้มผม

"ถ้าไม่ได้แต่งกับพี่ผมก็คงไม่แต่งกับใครแล้วครับ"

พี่ธารชอคกับคำพูดผมก่อนจะดึงผมไปหอมแก้มซ้ายขวา

"พูดแบบนี้อยากได้รางวัลใช่ไหม"

"อืม ไม่เอาแล้วน้องเจ็บอยู่นะ"

"น้องหรอแบบนี้มันเรียกยั่ว"

แล้วเราก็หยอกล้อกันก่อนที่ผมจะได้ไปล้างหน้า กินข้าว กินยาเพราะพี่ธารรู้สึกว่าผมกำลังจะป่วยนั้นเอง

..........................................................
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 07-07-2019 19:34:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-07-2019 01:39:24
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-07-2019 01:50:45
คุณแม่จะยกให้ไหมนะ
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 08-07-2019 23:57:16
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 10-07-2019 20:48:36
 o13
 :pig4:
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 11-07-2019 17:36:44
น่ารักดี น้องก็ทนเชื่อใจ
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 26-08-2019 22:09:35
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 08-09-2019 23:59:24
ตามทันแล้ว สนุกมาก
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 11-09-2019 11:53:05
น่ารักกกกกก
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 06-11-2019 11:18:10
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 06-11-2019 23:48:35
 :mew1:
หัวข้อ: Re: </////>รักนี้พ่อจัดให้ ❤❤❤ ตอนที่ 13 กลับมา <07/07/19>
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 08-11-2019 12:52:57
หวังว่าคุณแม่น้องต้นจะไม่ใจร้ายนะครับ ^^"