ลำนำรักสีรุ้ง ตอนพิเศษ ของขวัญวันปีใหม่ p.47 (29/12/56)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลำนำรักสีรุ้ง ตอนพิเศษ ของขวัญวันปีใหม่ p.47 (29/12/56)  (อ่าน 415469 ครั้ง)

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
จะติดตามต่อไปนะครับ

ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
อ๊ายยยยยย  ตอนนี้น่ารักกุ๊กกิ๊กมากมาย

อ่านไป ยิ้มไป เขิลลลลลลลล ไป 5555

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
เคยบอกใช่ม้าว่าจะเอารูปจากลาวมาฝาก ระหว่างตอนใหม่ยังไม่มาก็ดูวิวงามๆจากทริปลาวของป้าไปก่อนเน้อ ถ้ารูปสวยก็ขอยกเครดิตให้เพื่อนป้า เพราะงานนี้เป็นนางแบบอย่างเดียวคับ 5555

รูปประตูชัย สัญลักษณ์ของเวียงจันทร์และลาว เอามาลงรูปแรก แต่จริงๆเป็นที่สุดท้ายที่ได้แวะถ่ายรูปเพราะตอนไปถึงพอผ่านด่านที่หนองคายแล้วก็หารถตู้ตรงไปวังเวียงเลย รูปนี้มาแวะถ่ายวันกลับก็คือวันเกิดป้าพอดี


ส่วนนี่ สะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองที่วังเวียง เห็นแล้วนึกถึงสะพานไม้ที่ปาย อันนั้นเคยไปเมื่อสองปีที่แล้ว ไม่รู้ป่านนี้น้ำพัดไปยัง -*-


pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
จิ้มป้า

สะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองที่วังเวียง เห็นแล้วนึกถึงสะพานไม้ที่ปาย อันนั้นเคยไปเมื่อสองปีที่แล้ว ไม่รู้ป่านนี้น้ำพัดไปยัง -*-

ยังอยู่ดีป้า confirm
ตอนนี้อย่าไปเที่ยวเชียวนะ เพราะใครๆก็ไป"ปาย" คนเยอะอย่างกับเดินสยาม ไว้คนน้อย ๆ จะน่าไปมาก

palpouverny

  • บุคคลทั่วไป
ยังป้า ไปปายเมื่อปีที่แล้วยังไม่โดนพัด
เด๋วตอนปีใหม่ไปอีกรอบจะดูให้

sun

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาดู รูป ทริป จากลาวค่ะ

พยามส่องๆ ไหนคะ นางแบบ  อิอิ

รูปนางแบบอยู่หนายยย  คึคึ   :z1:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
^
^
^

โอ้ว ขอบคุณทั้งสองคนค่าที่มารายงาน ป้าเคยไปเคาน์ดาวน์ที่ปายตอนเข้าปี 06 กับอีกทีเมื่อต้นปี 07 ขนาดไปห่างกันปีเดียวยังเห็นความเปลี่ยนแปลงเลย ตอนนี้คงยิ่งเปลี่ยนไปเยอะ แต่ก็อยากไปอีกนะ


มีรูปอีกหน่อยนิ ไปลาวแล้วจะไม่หิ้วเบียร์ลาวมาฝากได้อย่างไร ล่อเบียร์ดำซะเลย(แอบติดแขนนายแบบมาติ๊ดนึง จะว่าไปทำไมไม่มีเบียร์ไทยยี่ห้อไหนทำเบียร์ดำมั่งเนี่ย)


รูปต่อไป วิวภูเขาระหว่างทางจากวังเวียงไปหลวงพระบาง ประทับใจมากๆ ปกติชอบภูเขาอยู่แล้ว งานนี้ได้ดูเต็มอิ่มเลย

ส่วนอันนี้ บ้านทรงอนุรักษ์ที่หลวงพระบาง ทั้งเมืองมีแต่อาคารเก่าเพราะเค้ามีนโยบายห้ามสร้างอาคารพาณิชย์สมัยใหม่ ตอนกลางคืนเปิดไฟแล้วสวยดี

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
Re: [เรื่องสั้น] เรื&#
«ตอบ #217 เมื่อ15-12-2008 21:58:47 »

อันนี้ สถานที่ขึ้นชื่อของหลวงพระบาง ไม่มาถือว่ามาไม่ถึง วัดเชียงทองที่อดีตเจ้ามหาชีวิตเป็นผู้สร้างเมื่อสี่ร้อยกว่าปีมาแล้ว (เค้าเรียกกษัตริย์เค้ากันว่าอย่างนั้นนะ)


รูปแม่น้ำโขงจากหน้าที่พักในหลวงพระบาง ดูในรูปไม่ค่อยใหญ่ แต่ของจริงกว้างมากๆๆ


รูปป้าและผองเพื่อนตอนตักบาตรข้าวเหนียวตอนเช้า คนตักบาตรต้องนั่งกับพื้น และทั้งชายหญิงต้องห่มสไบ ส่วนป้าคือคนไหนเดาเอาละกันนะก๊าบ(ปล.คนผมขาวๆนั่นแม่เพื่อนนะจ๊ะ ไม่ใช่ป้า)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2008 09:34:00 โดย bellbomb »

patiharn

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
Re: [เรื่องสั้น] เรื&#
«ตอบ #219 เมื่อ15-12-2008 22:07:32 »

เอามาให้ดูยั่วเผื่อมีใครคิดอยากไปเที่ยวลาวบ้าง แนะนำว่าถ้ามีตังค์หน่อยก็บินตรงไปหลวงพระบางได้เลย หรือถ้าไม่ชอบนั่งรถยาวๆ ไปล่องเรือที่เชียงของมาจะสบายกว่าสำหรับคนที่อยากชมวิวแม่น้ำโขง หรือเป็นคนเมารถง่าย ทริปนี้เพื่อนป้าพานั่งรถตูดแฉะ แบบว่าประหยัดซำเหมาสุดๆ แต่ก็ชอบนะ อยากไปอีก คนลาวสุภาพน่ารักมาก ภาษาก็เข้าใจง่าย แต่ข้าวของก็ไม่ได้ถูกหรอกเน่อ ยังไงเรื่องอาหารการกินพี่ไทยก็ชนะขาดลอย  :really2:


ตอนใหม่ ตอนใหม่ มาเมื่อไหร่ดี แหะๆ มีแววว่าอาทิตย์นี้จะงานเข้าเยอะอีกแย้วววว  :z3:

ปล. ตอบคุณ patiharn เช้าๆกับค่ำๆจะอากาศเย็นสบายค่ะ แต่กลางวันแดดออกก็ต้องถอดแจ๊กเกตเหลือเสื้อยืดตัวเดียวอยู่ดี มันหนาวตอนนั่งรถสามล้อโต้ลมกันนี่ละ :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2008 22:09:49 โดย bellbomb »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] เรื&#
« ตอบ #219 เมื่อ: 15-12-2008 22:07:32 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
รูปเมืองลาวนี่สวยดีจัง ยังเป็นแบบเก่าๆ อยู่เลยนะ

น้องนะนี่มันน่าฟัดซะจริงๆ นะ น่ารักอะไรอย่างเงี้ย

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

ติดใจลาวเหมือนกัน
รู้สึกว่าบ้านเมืองเขายังสวย
เคยไปแต่เวียงจันทน์
อยากไปหลวงพระบางมั่ง
ไว้ต้องหาโอกาสไปให้ได้เลย

ลป.ป้าบอกว่าไม่ใช่คนผมขาวๆ งั้นของเดาว่าป้าคือคนที่ทำผมมวย เสื้อแดงๆ นั่งตรงหัวแถวเห็นลิบๆ  :jul3:



ออฟไลน์ moonlight

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-0
เคยไปแต่เวียงจันทร์

ยังไม่เคยไปหลวงพระบาง

เพราะเค้าบอกว่านั่งรถไกลมาก

เห็นด้วยว่าของแพง โดยเฉพาะของกิน


BeePed

  • บุคคลทั่วไป
เห็นรูปแล้วอยากไปเที่ยวจัง
.
.
.
ว่าแต่ตอนนี้อ่านแล้ว....สดชื่นจัง
มีเพื่อนที่หวังดีและเข้าใจคนหัวอกเดียวกันเนี่ย..... ดีมากเลยล่ะ  :impress2:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
อิจฉาป้างะ แหมมีเวลาไปเที่ยวบ่อยๆ

ไว้ว่างๆจะลองไปดูเห็นรูปแล้วย๊ากอยากอิๆ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog

ลป.ป้าบอกว่าไม่ใช่คนผมขาวๆ งั้นของเดาว่าป้าคือคนที่ทำผมมวย เสื้อแดงๆ นั่งตรงหัวแถวเห็นลิบๆ  :jul3:



ป๋อมแป๋มเอางั้นเลยเหรอ ถ้าเดาว่าเป็นคนนั้นจริงป้าคงต้องเปลี่ยนสรรพนามเป็นย่าแทน ก๊ากกกก   :m20:


เคยไปแต่เวียงจันทร์

ยังไม่เคยไปหลวงพระบาง

เพราะเค้าบอกว่านั่งรถไกลมาก

เห็นด้วยว่าของแพง โดยเฉพาะของกิน



นั่งรถไกลจริง(ป้านั่งวีไอพีบัสจากหลวงพระบางมาเวียงจันทน์ก็สิบชั่วโมง) ของกินแพงจริง ดีว่าแม่ของเพื่อนหิ้วตะกร้าเสบียงไปเลยกันตายไปได้หลายมื้อ การมีผู้ใหญ่ไปด้วยช่วยได้มากเหมือนกัน อิๆ


อิจฉาป้างะ แหมมีเวลาไปเที่ยวบ่อยๆ

ไว้ว่างๆจะลองไปดูเห็นรูปแล้วย๊ากอยากอิๆ

ถ้ามีโอกาสและมีงบไปเลยจ้า หนับหนุนๆ ถ้าพาเพื่อนที่เข้าใจภาษาอีสานเหนือไปด้วยก็ดี จะได้คุยกับคนที่นั่นง่ายขึ้น


เห็นรูปแล้วอยากไปเที่ยวจัง
.
.
.
ว่าแต่ตอนนี้อ่านแล้ว....สดชื่นจัง
มีเพื่อนที่หวังดีและเข้าใจคนหัวอกเดียวกันเนี่ย..... ดีมากเลยล่ะ  :impress2:

^
^
เห็นด้วยสุดๆคับ BP
  :really2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
น้องนะ น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

The Living River Ping

  • บุคคลทั่วไป
ไปมั่ง ไปมั่ง จดๆๆๆ หลวงพระบาง เดี๋ยวแลกตั๋วเครื่องบินฟรีไปเที่ยวบ้าง

ภาพสวยมากนะจ๊ะ bb แต่อย่ากระนั้นเลย ตอนใหม่ของ ต้นไผ่ กิมจิ ดองได้ที่แล้วนะ  :jul3:

sun

  • บุคคลทั่วไป
เคยแต่ข้ามฟากไปหน่อยเดียวเอง
ไม่ค่อยได้เห็นอะไรเท่าไหร่ แหะๆ  อยากไปหลวงพระบางมั่งจัง  :impress2:
น่าไปเที่ยวโนะ  ขอบคุณ สำหรับภาพจ๋วยๆค่า
แต่ ทายม่าถูก คนไหนป้าเคอะ อิอิ
   :mc4:

Jeremy_F

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงป้านะครับ กอดหมับ  :กอด1:

ต้องหาเวลาไปเที่ยวบ้างแล้ว หลวงพระบาง

ขอบคุณที่เอารูปมาฝากสวยจัง มรดกโลก

 :bye2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ moonlight

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-0
มาตอบเม้นแต่ไม่มีตอนใหม่มา :z3:

นั่งรถไกลจริง(ป้านั่งวีไอพีบัสจากหลวงพระบางมาเวียงจันทน์ก็สิบชั่วโมง) ของกินแพงจริง ดีว่าแม่ของเพื่อนหิ้วตะกร้าเสบียงไปเลยกันตายไปได้หลายมื้อ การมีผู้ใหญ่ไปด้วยช่วยได้มากเหมือนกัน อิๆ

ตอนนั่งรถไปหลวงพระบางต้องใช้passportป่าวอะค่ะ

ตอนเราไปเราจะเช่ารถตู้ข้ามไปเค้าบอกต้องใช้passport

พอดีมีคนไม่ได้เอาไป เลยไม่ได้ข้ามไป


:กอด1:



ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
^
^
^

ไม่รู้ว่าแสงจันทร์จะข้ามไปหลวงพระบางจากทางไหน พอดีเราไปข้ามด่านที่หนองคายก็ต้องใช้ค่ะ คิดว่าพกไปด้วยน่าจะเซฟที่สุดนะ ทริปนี้ป้าไปกับเพื่อนแบบก่งก๊ง ไม่ค่อยได้หาข้อมูลไปก่อนเท่าไหร่ โชคดีว่ามีเวลาหลายวันเลยได้ดูอะไรเยอะ

ส่วนตอนใหม่ กำลังเบ่งอยู่เน้อ แหะๆ
  :man1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เบียร์ดำรสชาติเป็นไงมั้งค่ะ แรงมั้ย :sad4:

ชอบภาพ บ้านทรงอนุรักษ์  แสงสวยมากๆๆ  เขาทำเป็นร้านอะไรหรือเปล่าค่ะ น่าเอามาทำเป็นพวกแกลอรี่นะเนี่ย

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
วี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

น่าไปเที่ยวมากมายค่ะ

ขอบคุณที่โพสรูปมาให้ดูนะคะ

อยากกินเบียร์เลยอันดับแรก  หุหุ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
เบียร์ดำรสชาติเป็นไงมั้งค่ะ แรงมั้ย :sad4:

ชอบภาพ บ้านทรงอนุรักษ์  แสงสวยมากๆๆ  เขาทำเป็นร้านอะไรหรือเปล่าค่ะ น่าเอามาทำเป็นพวกแกลอรี่นะเนี่ย

เบียร์ดำมันจะมีกลิ่นไหม้ๆหน่อยๆ เพราะรู้สึกเค้าเอาไปหมักในถังไม้ที่เผาไว้ หรืออะไรประมาณนี้ เพื่อนป้าชอบ บอกหอมดี แต่พอดีป้าชอบแบบธรรมดามากกว่าอะจ้า ส่วนบ้านนั้น คาดว่าชั้นล่างจะเป็นเอเจนซี่ทัวร์หรืออะไรสักอย่างนะ


วี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

น่าไปเที่ยวมากมายค่ะ

ขอบคุณที่โพสรูปมาให้ดูนะคะ

อยากกินเบียร์เลยอันดับแรก  หุหุ


ถ้าไปนั่นได้กินแน่ๆคับ เพราะราคาไม่แพงกว่าน้ำเปล่าเท่าไหร่ วันๆไม่รู้ซัดกันไปกี่กระป๋อง ใครแฟนเบียร์สิงห์หรือเบียร์ช้าง ที่นั่นหาไม่ได้เจ้าค่ะ เค้าปกป้องเบียร์ตัวเองได้ดีมาก ปลื้มใจแทนคนลาวนะ  :really2:

ว่าแต่ กระทู้นิยายกำลังจะกลายพันธุ์เป็นกระทู้นำเที่ยวไปแย้ว ก๊าก
:pigha2:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22

juuuno99

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2:
อยากไปเที่ยวบ้างจัง




ตอนต่อไปอย่าลืมนะคับทั้งเรื่องนี้และเรื่องนู้น

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
^
^
^
จิ้มเอ คิดถึงเน้อ และคิดถึงนักอ่านที่น่ารักทุกคนด้วยจ้า แม้ไม่เอ่ยนามแต่เอาเป็นว่าเรารู้กันเนอะ  :L1:

สัปดาห์นี้งานยุ่งตลอดไม่มีเวลาพิมพ์ตอนต่อแบบเต็มๆเลย มาเปิดคอมดูปรากฏว่ามีตอนพิเศษที่พิมพ์ไว้กะลงเมื่อตอนวันพ่อ แต่เนื่องจากต้องรีบแว้บไปเที่ยวเลยเขียนทิ้งไว้แบบรีบๆ แต่ว่าตอนนี้รีไรท์ใหม่ให้เรียบร้อยแล้ว แม้จะเลยวันพ่อมาหลายวันแล้ว แต่หวังว่าคนอ่านจะเอ็นจอยตอนนี้เหมือนตอนอื่นๆนะจ๊ะ


++------++



ตอนพิเศษ: คำแนะนำของพ่อ

เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นจากแท่นชาร์จข้างเตียงปลุกผมให้หรี่ตาขึ้นดูนาฬิกาอย่างงัวเงีย ปรกติเวลานี้เป็นเวลาที่ผมต้องอยู่ที่มหา'ลัยแล้ว แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดสำคัญของปีซึ่งต่อกับวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี แถมคนตัวเล็กที่เป็นแฟนผมก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัดไปตั้งแต่เมื่อคืนก่อน ผมเลยตั้งใจว่าจะนอนให้เต็มอิ่มหลังอ่านหนังสือจนดึกดื่นติดต่อกันมาหลายคืนเสียที

ผมหลับตาลงใหม่แล้วหยิบหมอนใบเล็กขึ้นปิดหู หวังว่าใครก็ตามที่โทรมาจะวางสายไปเอง ทว่าปลายสายดูจะไม่ยอมให้ผมกลับไปนอนต่อง่ายๆเพราะเสียงโทรศัพท์ยังร้องดังไม่หยุดจนผมต้องยอมแพ้กับความพยายามของคนโทร

“ใครวะ...ยิ่งง่วงๆอยู่”

ผมเอื้อมตัวไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดรับโดยไม่ทันดูชื่อว่าเป็นหมายเลขของใครด้วยซ้ำแล้วหลับตาลง จะใครก็ตามรีบๆคุยให้เสร็จแล้วปิดโทรศัพท์หนีจะได้นอนต่อดีกว่า

“...อ๊อฟ? อ๊อฟรึเปล่า?”

ผมขมวดคิ้วกับเสียงคุ้นหูแล้วก็ยกมือถือขึ้นดูชื่อคนโทรเข้าก่อนจะตอบรับเมื่อรู้ว่าปลายสายเป็นใคร

“หวัดดีพี่อิม ไม่ได้คุยกันตั้งนาน”

“หยุดยาวสามวันนี้ไม่กลับมาบ้านเหรอ นี่พี่อุตส่าห์แลกเวรกับเพื่อนจะได้กลับมาเยี่ยมแม่เลยนะ”

ผมเสยผมแล้วก็ลุกขึ้นนั่ง พี่สาวโทรหาทั้งทีจะไม่คุยด้วยก็เสียมารยาทไปหน่อย ตั้งแต่พี่อิมย้ายไปทำงานเป็นหมอที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคเหนือและผมเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯเราก็ไม่ค่อยได้กลับบ้านตรงกันเท่าไหร่

“ขี้เกียจอะพี่อิม แล้วเมื่อตอนปิดเทอมคราวที่แล้วก็กลับไปอยู่บ้านยาวมาทีนึงแล้ว แม่เค้าคงไม่คิดถึงอ๊อฟมากเท่าพี่อิมหรอก”

คนปลายสายหัวเราะกับประโยคแสร้งทำเป็นงอนของผม “ยังไงอ๊อฟก็ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนะ ถึงแม่เค้าจะไม่พูดแต่เค้าก็ต้องอยากเห็นหน้าอยู่แล้วล่ะ”

“ที่จริงก็ตั้งใจจะกลับบ้านหลังสอบมิดเทอมเสร็จนะพี่อิม ว่าแต่เมื่อไหร่พี่จะแต่งงานซะทีเนี่ย ยังคบกับสารวัตรคนนั้นอยู่รึเปล่า”

“อุ้ย พี่ธัญเค้ายังไม่ได้ขอเลย สงสัยต้องรอให้แกได้เลื่อนขั้นเป็นผู้กำกับก่อนมั้ง”

ผมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะอย่างสดชื่นของพี่สาว เพราะตั้งแต่พี่ผมเลิกกับแฟนเก่าที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนเนื่องจากฝ่ายชายถูกที่บ้านคลุมถุงชนเมื่อสี่ปีก่อนพี่ก็ไม่ร่าเริงอีกเลย จนกระทั่งได้พบแฟนใหม่คนนี้ที่มาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลของพี่หลังการปะทะกับผู้ร้ายจนบาดเจ็บสาหัสเมื่อสองปีก่อน ใครๆที่ได้ฟังเรื่องราวการพบกันครั้งแรกของพี่อิมกับพี่ธัญก็บอกว่าเหมือนเรื่องในนิยายกันทั้งนั้น โชคดีที่ถึงแม้คนรอบตัวจะตักเตือนว่าชายในเครื่องแบบไม่น่าไว้ใจ แต่พี่ธัญก็ไม่เคยทำตัวเจ้าออกนอกลู่นอกทางให้เห็น แถมยังแสดงความจริงใจด้วยการตามจีบพี่อิมอยู่หนึ่งปีเต็มๆกว่าพี่สาวผมจะยอมตกลงคบด้วย

“ยังไงปีใหม่พี่จะหาโอกาสชวนพี่ธัญมาเยี่ยมด้วยแล้วกัน ว่าแต่อ๊อฟมีแฟนใหม่รึยัง ตั้งแต่เลิกกับคนก่อนก็เป็นโสดมานานแล้วนะ”

ผมหันไปมองรูปถ่ายคู่กันของผมกับแฟนตัวเองที่ใส่กรอบตั้งอยู่บนโต๊ะหนังสือแล้วก็ยิ้ม “ว่าไงดี ก็มีแล้วแหละพี่ ทั้งขี้งอนทั้งขี้อ้อนจนผมปวดหัวบ่อยๆเลยแหละ”

“อื้อหือ ฟังดูแล้วน่าจะน่ารักนะ ยังไงส่งรูปมาให้ดูหรือพามาแนะนำกับแม่เค้ามั่งสิ”

ผมหัวเราะแห้งๆ ชักเริ่มกังวลขึ้นมาว่าถ้าพาคนตัวเล็กหน้าหวานไปแนะนำกับสมาชิกครอบครัวจะเป็นยังไง

“ถ้าเค้าพร้อมผมจะพาไปแล้วกันพี่อิม ว่าแต่นี่แม่ไม่อยู่บ้านเหรอ”

“ขานั้นออกไปบ้านเพื่อนตั้งแต่เช้าแล้ว เย็นๆโน่นมั้งคงกลับ ว่าแต่อ๊อฟได้โทรหาพ่อหรือยัง”

พอโดนพี่สาวทักผมก็เหลือบมองนาฬิกาแล้วคำนวณเวลาในใจ “ตอนนี้พ่อคงหลับอยู่มั้งพี่อิม เดี๋ยวเย็นๆค่อยโทรดีกว่า นี่พี่อิมโทรไปแล้วเหรอ”

“ยังเลย พี่ก็ว่าจะโทรหาตอนดึกๆเหมือนกัน จะว่าไปก็คิดถึงพ่อนะ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีแล้ว”

“นั่นสิ ยังไงพี่อิมแต่งงานแล้วไปฮันนีมูนที่โน่นสิจะได้ไปเยี่ยมพ่อ รับรองได้ซองช่วยเป็นดอลลาร์เต็มซองแน่”

พี่ผมหัวเราะแล้วเราก็คุยอะไรกันต่ออีกนิดหน่อยก่อนจะวางสาย พอมองนาฬิกาอีกทีก็อดจะชื่นชมตัวเองไม่ได้ที่หลับได้มาราธอนขนาดนี้เพราะเลยเวลาอาหารกลางวันไปนานแล้ว

ผมล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็หอบเสื้อผ้าส่วนของผมกับคนร่วมห้องใส่ตะกร้าลงไปซักที่ตู้หยอดเหรียญด้านล่าง พอกลับขึ้นมาบนห้องอีกทีก็เสียบสายกระติกน้ำร้อนสำหรับต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นมื้อกลางวัน ระหว่างกินบะหมี่ก็เริ่มจะคิดถึงคนตัวเล็กขึ้นมาทั้งที่เพิ่งห่างกันได้ไม่ถึงวันเลยด้วยซ้ำ

ผมหยิบโทรศัพท์มากดหาเบอร์ของคนที่กำลังคิดถึงแล้วก็ชั่งใจ ใจหนึ่งก็อยากได้ยินเสียง แต่พอคิดได้ว่าวันนี้น่าจะเป็นวันที่แฟนของตัวเองได้ใช้เวลากับครอบครัวที่บ้านอย่างเต็มที่ก็ตัดสินใจวางโทรศัพท์ลงบนเตียงเหมือนเดิม ยังไงค่ำๆค่อยโทรหาคงไม่เป็นไร

ผมกลับลงไปเอาเสื้อผ้าที่อบแห้งแล้วขึ้นมาบนห้องแล้วก็นั่งพับผ้าไปดูหนังจากช่องเคเบิ้ลรอเวลาไป พอกะว่าน่าจะได้เวลาที่คนที่ตั้งใจจะโทรหาตื่นแล้วก็หยิบนามบัตรที่มีเบอร์โทรพร้อมรหัสประเทศยาวเหยียดมาดูก่อนจะกดต่อสาย

“Hello?  Dan speaking.”

“ฮัลโหล นี่อ๊อฟเองนะ หวัดดีครับพ่อ”

ปลายสายทำเสียงอุทานตกใจแบบที่พวกฝรั่งชอบทำกัน แต่ผมชินแล้วเพราะพ่อผมไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่หลังหย่าขาดจากแม่ไม่นานทำให้ติดนิสัยแบบชาวตะวันตกมาหลายอย่าง แถมเมื่อปีที่แล้วพ่อยังเพิ่งแต่งงานกับสาวผมทองที่โน่นอีกต่างหาก

“ไงอ๊อฟ! ไม่ได้คุยกันตั้งนานแน่ะ สบายดีมั้ยไอ้ลูกชาย”

“ก็ดีครับ ตอนนี้อ๊อฟเรียนปีสามแล้วนะพ่อ อีกปีกว่าก็จบแล้ว”

“เออดีๆ ปีสามแล้วเหรอเนี่ย เวลาผ่านไปเร็วจริงแฮะ แล้วที่บ้านเป็นไงมั่ง”

“พี่อิมกับแม่ก็สบายดี เมื่อเช้าเพิ่งถามพี่อิมไปว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ แต่เค้าบอกว่าท่านสารวัตรยังไม่ขอเลยยังไม่รู้”

“อุวะ! อย่างงี้มันต้องให้พ่อคุยเองซะแล้ว อ๊อฟไปสืบหาเบอร์ของไอ้หมอนั่นมาเดี๋ยวพ่อโทรไปจัดการเอง”

“อย่าเลยพ่อ แทนที่จะดีกลับกลายเป็นว่าเค้าจะแหยงเอาซะมากกว่า”

เราหัวเราะให้กัน ผมถามถึงสภาพอากาศกับครอบครัวใหม่ของพ่อว่าเป็นยังไงบ้าง แล้วพ่อก็วกถามเรื่องผมอีกครั้ง

“ว่าแต่ตอนนี้อ๊อฟมีแฟนหรือยัง”

รู้อยู่แล้วละว่าต้องโดนถาม เพราะคุยกันทีไรนี่ก็เป็นคำถามยอดฮิตทุกครั้ง แต่ปีนี้ผมมีคำตอบแล้ว แล้วไหนๆก็เกริ่นกับพี่อิมไปแล้ว ก็บอกพ่ออีกคนเสียเลยจะได้เลิกถามเสียที

“มีแล้วครับ เพิ่งเริ่มคบกันเมื่อเร็วๆนี้เอง”

เสียงหัวเราะในคอของพ่อดังมาตามสาย “ว่าแล้วเชียว พ่อรู้ว่าลูกพ่อเสน่ห์แรง ว่าแต่แฟนเป็นไงน่ารักมั้ย ไว้พ่อกลับไปเมืองไทยคราวหน้าพามาแนะนำให้พ่อรู้จักหน่อยเป็นไง”

ผมหัวเราะอย่างไม่เต็มเสียงนัก คำถามแรกน่ะยังพอตอบได้ แต่คำถามที่สองนี่ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าถ้าพานะไปแนะนำจริงๆพ่อผมจะแสดงปฏิกิริยาแบบไหน ถึงผมจะมั่นใจว่าไม่ว่าใครที่ได้เจอพ่อหนูน้อยของผมก็ต้องเอ็นดูกันทั้งนั้นก็ตามเถอะ

“เอาไว้พ่อกลับมาเมื่อไหร่ผมจะถามเจ้าตัวให้แล้วกัน พอดีนะเค้าขี้อายน่ะครับพ่อ”

“ชื่อน้องนะเหรอ ชื่อน่ารักดีนี่ ชื่อจริงชื่ออะไรล่ะ”

ทั้งที่แอร์ในห้องก็ออกจะเย็น แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนเหงื่อกำลังซึมออกมาที่ฝ่ามือยังไงพิกล

“เอ่อ...นะจาก...มานะครับ”

“หือ...มานะเหรอ ชื่อเหมือนผู้ชายเลยแฮะ”

พ่อทักขึ้นแล้วก็เงียบไป ส่วนผมก็ไม่ได้แย้ง เราต่างคนต่างเงียบกันครู่ใหญ่ก่อนพ่อจะทำลายความเงียบขึ้นก่อน

“อ๊อฟ มีอะไรอยากบอกพ่อหรือเปล่า เราลูกผู้ชาย มีอะไรก็พูดกันตรงๆได้นะ”

ผมถอนหายใจ บ่ายเบี่ยงไปก็คงเปล่าประโยชน์ แล้วผมก็ไม่ได้อยากปิดบังพ่อเรื่องนี้ด้วย

“ก็ตามที่พ่อเข้าใจแหละครับ แฟนผมชื่อมานะ เป็นรุ่นน้องที่มหา’ลัย ตอนนี้อยู่ปี 1…”

“ปี 1 เหรอ!? Shit! แล้วน้องเค้าอายุเกิน 18 หรือยัง?”

ผมฟังคำถามแล้วก็ขมวดคิ้ว นี่พ่อผมกังวลเรื่องอะไรอยู่เนี่ย?!

“เกินแล้วพ่อ! แล้วถึงยังไงนะเค้าก็เรียนมหา’ลัยแล้ว ไม่ใช่เด็กๆแล้วครับ”

ถึงบางครั้งจะชอบทำตัวเหมือนเด็กเจ้าอารมณ์ไปบ้างก็เถอะ ผมละประโยคนั้นไว้ในใจแล้วก็ยิ้มเมื่อนึกถึงหน้าของคนที่กำลังโดนพูดถึงขึ้นมา

ปลายสายเงียบไปนานก่อนพ่อจะเอ่ยขึ้นช้าๆอีกครั้ง

“อ๊อฟ พ่อไม่ค่อยได้ใช้เวลากับลูกเท่าไหร่ พ่อก็ไม่รู้ว่าพ่อมีสิทธิ์ออกความเห็นหรือเปล่า แต่อ๊อฟรู้ใช่มั้ยว่าการคบกับผู้ชายด้วยกันอาจโดนมองจากคนอื่นยังไง แล้วยังครอบครัวของ...เอ่อ...ของนะเค้าอีก ทางนั้นยังไม่รู้เรื่องใช่ไหม แล้วนี่เราเริ่มคบกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ มีเพื่อนรู้บ้างหรือเปล่า”

คราวนี้พ่อยิงคำถามรัวเป็นชุดจนผมไม่รู้จะตอบคำถามไหนดี ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจหรอกว่าพ่อเป็นห่วง แต่ตอนนี้ปัญหามันยังไม่เกิด ก็ไม่รู้จะรีบกังวลไปทำไม

“ใจเย็นก่อนพ่อ พวกเราเพิ่งเริ่มคบกันได้ไม่นาน ทางบ้านนะน่าจะยังไม่รู้ ส่วนแม่กับพี่อิมผมก็ยังไม่ได้บอกรายละเอียด ส่วนเพื่อนผม ถ้าใครถามผมก็บอกแหละครับ”

ผมได้ยินเสียงพ่อถอนหายใจดังมาตามสายเลยรีบพูดต่อ “พ่อครับ การที่เราสองคนคบกันไม่ได้ทำให้ใครเสียหาย พ่อเข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม”

ถึงจะไม่พูดตรงๆแต่พ่อก็คงรู้ว่าความหมายของผมคือการที่ผมจะเลือกคบใครเป็นสิทธิ์ส่วนตัวที่ผมตัดสินใจได้เอง พ่อคงสับสนพอดูที่จู่ๆก็มาได้ยินเรื่องเกี่ยวกับแฟนของลูกที่เป็นผู้ชายเหมือนกันในวันพ่อแบบนี้ แต่ผมอยากให้พ่อรับรู้ว่ายังไงผมก็ยังเป็นผมเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

“อ๊อฟ พ่อเชื่อว่าลูกไม่ใช่คนที่คบใครแค่เพราะอยากรู้อยากลอง ถ้าเราจริงใจกับเด็กคนนี้ ยังไงก็ขอให้คบกันด้วยความเข้าใจนะ”

ผมเงียบไปหลังได้ยินคำแนะนำนั้น พ่อคงยังไม่ลืมประสบการณ์ความผิดพลาดในอดีตจากชีวิตสมรสของตัวเองกับแม่ ผมยังจำได้ดีถึงวันคืนที่พวกเราสมาชิกครอบครัวทั้งสี่คนมีความสุขกันพร้อมหน้า แต่โดยที่ไม่รู้ตัว รอยปริร้าวเล็กๆก็คืบคลานเข้ามารังควานความสัมพันธ์ของผู้นำครอบครัวทั้งสอง จากรอยเล็กๆก็ค่อยๆขยายใหญ่จนสุดท้ายก็จบลงด้วยการแตกหัก การหย่าร้างที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันทำเอาผมสับสนกับชีวิตตัวเองไปพักใหญ่ แต่เมื่อถึงตอนนี้ ผมเข้าใจแล้วว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง และเรื่องที่ผ่านมาก็ถือเป็นเพียงประสบการณ์ให้จดจำและเรียนรู้ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเก็บมาหวาดกลัวว่าตัวเองจะดำเนินรอยตามความผิดพลาดนั้น

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับพ่อ ยังไงพ่อรักษาสุขภาพด้วยนะครับ แล้วก็ฝากสวัสดีครอบครัวที่โน่นด้วย”

“เราก็ดูแลแม่กับพี่เค้าดีๆล่ะ แล้วถ้าอยากมาเที่ยวเมื่อไหร่ก็โทรหาพ่อได้ตลอดเลยนะ ตั้งใจเรียนล่ะอ๊อฟ”

ปลายสายยังคงเอ่ยเสียงทุ้มอย่างอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง ผมหลับตาลงซึมซับความอบอุ่นนั้น จะดีแค่ไหนถ้าชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ครอบครัวที่หายไปได้กลับมาวางต่อกันเป็นภาพใหญ่ที่สมบูรณ์ดังเดิม แต่เปล่าประโยชน์ที่จะเรียกร้องสิ่งที่สูญเสียไปแล้วให้คืนกลับมา

“ครับ สุขสันต์วันพ่อนะครับ”

ผมวางสายแล้วก็นอนแผ่ลงบนเตียง จู่ๆก็รู้สึกโหวงเหวงในอกจนพาลคิดถึงคนที่นอนกอดทุกคืนขึ้นมาตงิดๆ ไม่รู้ตอนนี้พ่อหนูน้อยของผมทำอะไรอยู่ จะกินข้าวแล้วหรือยัง หรือว่าออกไปดูหนังกับที่บ้าน ใจผมอยากจะโทรหาแต่ก็ไม่อยากทำลายเวลาครอบครัวของคนที่รัก

เสียงร้องประท้วงของน้ำย่อยในกระเพาะฉุดผมให้กลับจากภวังค์ผมเลยลุกขึ้นแล้วบิดขี้เกียจไปมา ขณะกำลังคิดว่าจะลงไปเดินหาอะไรกินที่ตลาดโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นพอดี พอผมเห็นรูปของคนโทรเข้าที่แสดงอยู่บนหน้าจอก็อดยิ้มไม่ได้

“ว่าไงครับ นะ”

“พี่อ๊อฟ ทำอะไรอยู่”

“เมื่อกี้พี่เพิ่งโทรทางไกลไปหาพ่อ นี่ก็ว่าจะโทรหานะต่ออยู่พอดีเลยเนี่ย”

“ก็แล้วทำไมไม่โทรมาตั้งแต่ตอนกลางวันล่ะ”

ผมขมวดคิ้ว ลองฝ่ายนั้นทำเสียงกระเง้ากระงอดมาอย่างนี้ก็เดาได้เลยว่าท่าทางผมจะโดนงอนอีกแล้ว

“ก็นะจะได้ใช้เวลากับครอบครัวได้เต็มที่ไงครับ อุตส่าห์กลับไปหาพ่อกับแม่เค้าทั้งทีจะให้พี่โทรไปกวนได้ไง”

“...ถึงงั้นก็เมสเซจมาบ้างก็ได้นี่นา”

ปลายสายเสียงอ่อนลงนิดหน่อย ผมนึกภาพคนหน้าหวานที่คงกำลังทำแก้มอูมอยู่แล้วก็เสียดายที่คนตัวเล็กไม่ได้อยู่ใกล้ๆไม่งั้นจะจับหยิกแก้มให้รู้แล้วรู้รอด เด็กเอ๋ยเด็ก....ไม่ได้รู้ตัวบ้างเลยว่าคนทางนี้คิดถึงแทบบ้า แต่เพราะผมเข้าใจดีถึงความอ้างว้างของการมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ผมเลยอยากให้นะให้ความสำคัญกับครอบครัวของตัวเองมากกว่า

“เข้าใจแล้วครับคนเก่ง ต่อไปจะไม่หายเงียบแบบนี้แล้ว ว่าแต่ตอนนี้นะทำอะไรอยู่ กินข้าวเย็นหรือยัง?”

“ยัง แล้วพี่อ๊อฟกินยังล่ะ”

ผมหนีบหูโทรศัพท์กับไหล่แล้วก็เปิดตู้เสื้อผ้าหากางเกงสำหรับใส่เปลี่ยนไปด้วย “ยังเลย แต่เดี๋ยวกำลังจะไปหาอะไรกินที่ตลาด ว่าแต่ทำไมบ้านนะกินข้าวเย็นกันช้าจัง นี่จะสองทุ่มแล้วนะ”

“ก็ไม่ได้อยู่กับที่บ้านนี่ งั้นถ้าพี่อ๊อฟยังไม่ได้กินข้าวก็รีบลงมาหน้าหอเลย เดี๋ยวไปหาอะไรกินกันดีกว่า”

ประโยคชักชวนของคนตัวเล็กทำให้ผมชะงักมือ “เดี๋ยวก่อนนะ ถ้าตอนนี้ไม่ได้อยู่กับที่บ้านแล้วนะอยู่ที่ไหนเนี่ย?”

ปลายสายหัวเราะเสียงใสหลังได้ยินคำถามของผม “อยู่บนแท็กซี่ นี่เลี้ยวเข้ามาจากปากซอยแล้ว อย่าลืมลงมาเจอกันหน้าหอนะพี่อ๊อฟ แค่นี้แหละ”

ผมมองโทรศัพท์ในมืออย่างงงๆก่อนจะรีบหันไปคว้ากุญแจห้องกับประเป๋าสตางค์แล้ววิ่งลงลิฟต์ไปที่ชั้นล่าง พอออกไปที่หน้าทางเข้าหอก็พบว่าพ่อหนูน้อยของผมยืนสะพายกระเป๋ารออยู่แล้ว

“ทำไมรีบกลับมาล่ะ ไหนเมื่อวานบอกว่าจะกลับมาวันอาทิตย์ไง”

นะทำหน้ามุ่ยทันทีที่โดนผมทัก “ก็กลับไปแล้วก็ไม่เห็นพ่อกับแม่จะตื่นเต้นดีใจกันเลยนี่นา แค่พาไปดูหนังกินข้าวเมื่อกลางวัน พอกลับถึงบ้านก็เอาแต่สนใจไอ้กุ๊งกิ๊ง จะให้อยู่บ้านต่อก็เซ็งเลยกลับมาดีกว่า หรือพี่อ๊อฟยังไม่อยากเจอนะ จะได้เรียกแท็กซี่ไปขึ้นรถตู้กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย”

ผมรีบคว้าข้อมือเรียวของคนที่ทำท่าจะเดินหนีไปจริงๆแล้วดึงกลับมากอดไว้ แต่พ่อหนูน้อยตัวดีดิ้นจะออกจากอ้อมแขนผมให้ได้ลูกเดียวผมเลยแกล้งทำเสียงเข้มใส่

“อะไรเนี่ย พี่ถามคำเดียวใส่มาเป็นชุดเลยเหรอ จะขี้งอนไปไหนฮึเรา”

“ไม่ได้งอน! ปล่อยนะพี่อ๊อฟเดี๋ยวใครมาเห็น!”

คนตัวเล็กเถียงไปก็ดิ้นขลุกขลักไม่หยุด แก้มสองข้างเริ่มเรื่อเป็นสีชมพู ขี้งอนแล้วยังจะขี้อายอีกนะคนเรา ผมเหลียวซ้ายแลขวาก่อนจูงมือนะให้เดินตามไปที่ซอกข้างตึก

“โอเค งั้นตามมานี่”

พอผมพาคนตัวเล็กเดินตามเข้าไปในมุมอับสายตาข้างตึกแล้วก็ดึงร่างเล็กๆเข้าประชิดตัวก่อนจะก้มลงปิดปากคนที่เงยหน้าขึ้นเตรียมจะอ้าปากถามด้วยความสงสัย นะยืนตัวแข็งทื่อในตอนแรกด้วยความตกใจ แต่แล้วเมื่อผมเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นประคองตรงท้ายทอยของศีรษะเล็กพร้อมกับแทรกลิ้นเข้าในริมฝีปากอุ่น นัยน์ตากลมโตก็ค่อยๆพริ้มหลับ ริมฝีปากนิ่มเผยอขึ้นและตอบรับจูบของผมอย่างเต็มใจ เราแลกเปลี่ยนความคิดถึงกันผ่านปลายลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดไปมาอย่างเปี่ยมด้วยความรู้สึกโหยหา ผมขบกลีบปากล่างของนะเบาๆก่อนจะถอนริมฝีปากออกแล้วจ้องนัยน์ตาหวานที่ค่อยๆปรือขึ้นมองผม แผ่นอกบางกระเพื่อมขณะพยายามปรับลมหายใจของตัวเอง ริมฝีปากที่อิ่มแดงและฉ่ำเยิ้มนั้นเผยอนิดหน่อยดูเชิญชวนจนผมต้องก้มลงไปจูบเร็วๆซ้ำอีกรอบ

“นะรู้ตัวมั้ยว่าทำให้คนเค้าคิดถึงมาทั้งวันเลย ทีนี้จะหายงอนพี่ได้หรือยังครับ”

แม้มุมที่เรายืนอยู่จะมืดสลัวเพราะมีเพียงแสงไฟที่ส่องลอดหน้าต่างมาจากห้องข้างบน แต่ผมก็เห็นได้ว่าหน้าของคนในอ้อมแขนมีสีเข้มขึ้น นะซุกหน้าลงกับอกผมก่อนจะพูดเสียงอู้อี้

“นะก็คิดถึง วันนี้ก็นั่งรอโทรศัพท์ทั้งวันพี่อ๊อฟก็ไม่โทรมาเลยรีบกลับมาซะเลย แต่ว่าตอนอยู่ที่บ้านพ่อกับแม่ก็เอาแต่สนใจไอ้กุ๊งกิ๊งมากกว่าจริงๆนะ”

น้ำเสียงท้ายประโยคที่รัวเร็วเหมือนอยากระบายความน้อยใจที่คนในครอบครัวสนใจลูกหมามากกว่าตัวเองทำให้ผมอดหัวเราะไม่ได้

“งั้นไม่เป็นไร ถ้าพ่อกับแม่ไม่สนใจนะเดี๋ยวพี่สนเอง ว่าแต่เราไปตลาดกันดีกว่า ตั้งแต่บ่ายมาพี่ยังไม่ได้กินอะไรเลย”

ผมจูงมือพาคนตัวเล็กเดินออกมาจากซอกข้างตึก คราวนี้ใบหน้าหวานยิ้มออกแล้ว มือเล็กบีบกระชับมือผมที่กุมมือตัวเองอยู่แน่น
 
“นะอยากกินอะไร”

คนถูกถามส่ายหน้าแล้วก็ส่งยิ้มเอาใจแบบที่เจ้าตัวชอบทำเวลาอ้อนมาให้ “แล้วแต่พี่อ๊อฟแหละ นะกินอะไรก็ได้”

ผมยิ้มแล้วก็บีบมือบางตอบขณะเดินไปที่ตลาดด้วยกัน รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ถูกถ่ายทอดให้กันผ่านทางมือที่กุมกันอยู่จนซ่านเข้าไปถึงข้างในหัวใจ ผมหันไปแกล้งทำตาเชื่อมใส่คนตัวเล็กที่เดินอยู่ข้างๆ

“เล่นตามใจกันแบบนี้ งั้นขอพี่กินนะก่อนดีมั้ย”

“อย่าแหย่กันสิพี่อ๊อฟ ไปกินข้าวก่อน นะหิวแล้ว”

คนตัวเล็กเร่งฝีเท้าเดินนำไปก่อนด้วยความเขิน ผมหัวเราะก่อนจะก้าวยาวๆจนตามทันแล้วคว้ามือบางมากุมไว้อีกครั้ง คราวนี้นะไม่ได้สะบัดมือหนีอีก แต่ถึงเจ้าตัวจะยังไม่ยอมหันมาหาผมก็เห็นว่าหน้าของนะแดงไปถึงใบหูแล้ว

โชคดีของผมที่แต่ละวันได้มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเพราะมีคนน่ารักคนนี้อยู่ใกล้ๆ ถึงจะคอยทำให้เวียนหัวกับการต้องง้องอนบ้าง แต่ก็เพราะคนตัวเล็กคนนี้ที่ทำให้หัวใจผมได้สัมผัสกับความสุขของการมีความรักอีกครั้ง และต่อให้อนาคตเราอาจต้องเจอเรื่องยุ่งยากจากการที่เราคบกัน แต่ผมเชื่อว่าความรู้สึกที่เรามีให้กันจะทำให้เราฝ่าฟันอุปสรรคพวกนั้นไปได้แน่นอน ก็เหมือนที่พ่อผมให้คำแนะนำไว้กระมัง

‘ถ้าเราจริงใจกับเด็กคนนี้ ยังไงก็ขอให้คบกันด้วยความเข้าใจนะ’

“ไม่ต้องห่วงนะครับพ่อ ผมตั้งใจแบบนั้นอยู่แล้ว”


++------++


สุขสันต์วันพ่อย้อนหลังเน้ (ย้อนนานไปไหมนี่)  :mc4:




ออฟไลน์ moonlight

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-0

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด