★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%  (อ่าน 165885 ครั้ง)

ออฟไลน์ wanida023

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ melody

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
แอบลุ้นอยู่เงียบๆ ว่าจะมีอะไรแปลกออกมาอีกมัย
ดูสดใสเกินไป อิอิ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
5555 สิงหาจะเพ้อหาแต่ปิงไม่ได้นะคะ
แล้วอะไรคือหลุดปาก ไหนว่าแค่คิดไง
สงสัยจะได้เปลี่ยนงานเร็ว ๆ นี้ ไม่รู้ ปิง

ปิงน่าเอ็นดู หลอนถึงขั้นต้องไปขอน้ำมนต์
แล้วให้พ่อนั่งรออาบน้ำ แต่บ้านนี้น่ารักค่ะ
เอาใจใส่ ดูแลกันดีจังเลย แถมเผื่อคนอื่นด้วย

อยากรู้แล้วว่าที่สิงเห็นใครวิ่งออกจากห้อง
แล้วเสียงโทรศัพท์ดังได้ไง งงใจอยู่เลยค่ะ





ออฟไลน์ Nungning

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :laugh:
2.คืนรัง

แม้ว่าช่วงแรกของการปรับเวลาทำงานจะมีปัญหาบ้าง เพราะพนักงานสี่คนต้องเวียนกะกันให้ครบ 24 ชั่วโมง จากแนวคิดเดิมของผู้จัดการที่อยากให้มีคนเข้างานกะละสองคนก็เป็นไปไม่ได้เพราะชั่วโมงทำงานของแต่ละคนจะเกินกำหนดกฏหมายแรงงาน พี่โจเลยปรับเป็นวันพุธถึงจันทร์แบ่งเป็นสามกะ คือกะแรกหกโมงครึ่งถึงบ่ายสามครึ่ง กะที่สองบ่ายสามโมงถึงเที่ยงคืน กะสามห้าทุ่มครึ่งถึงเก้าโมงครึ่ง แต่ละสัปดาห์จะกำหนดไว้ว่าใครได้กะไหนของสัปดาห์นี้ ส่วนคนที่ปล่อยฟรีถ้าไม่มีงานสำคัญก็สามารถเลือกได้ว่าจะเข้ากะหนึ่งหรือสอง วันอังคารเป็นวันหยุด แต่ต้องสลับกันหยุดสัปดาห์ละสองคน คนที่มาทำงานแบ่งกะเข้างานหกโมงครึ่งถึงเที่ยงครึ่ง และเที่ยงถึงหกโมงเย็น ได้โอทีคนละสามชั่วโมง ทุกกะมีเวลาพักชั่วโมงครึ่ง งานหนักนิดหน่อย เวลาทำงานไม่ค่อยเหมือนคนอื่น แต่เงินดีมากแถมหัวหน้าคุยด้วยง่าย พนักงานทุกคนเลยมีความสุขทั่วหน้าจนคนในห้องนิติบุคคลพากันอิจฉา

“ทีหลังถ้าจะใช้ห้องมีตติ้งช่วยทำเอกสารส่งให้นิติฯ ด้วยนะคะน้องปิง ไม่ใช่บอกแต่ปากเปล่า คนอื่นเขาต้องจัดตารางลงแอพแจ้งลูกบ้านอีกนะ”

“ปิงทำเอกสารส่งให้ตั้งแต่วางสายจากลูกบ้านแล้วนะครับ อยู่ในตะกร้าที่เขียนว่าด่วนที่สุด”

“ไม่เห็นมีใครเห็นเลย ทีหลังเอาอะไรไปวางในห้องก็แจ้งคนในห้องด้วย ไม่ใช่พอได้ย้ายตำแหน่งก็ลืมงานเก่าๆ ไปหมดว่าเขาทำงานกันยังไง”

“ออมว่าพี่ไปคุยกับพี่สาดีกว่ามั้ยคะ เมื่อวานออมเข้าไปวางใบจองครัวยังเห็นใบของปิงวางอยู่ในตะกร้าเลย ออมบอกพี่สาแล้วว่าใบจองพี่ปิงค้างในตะกร้าอย่าลืมนะ แล้วก็วางของออม สรุปคือครัวของออมจองได้แต่ของปิงทุกคนตาบอดมองไม่เห็นเหรอ”

“เพราะเธอเอาไปซ้อนๆ กันทำให้คนอื่นเขายุ่งยากมากกว่า ทีหลังก็วางให้เรียบร้อย เดี๋ยวจองห้องนั้นห้องนี้ หัดโทรไปแจ้งด้วย”

“อ้าว ไหนบอกให้ทำเอกสารไม่ให้บอกปากเปล่า ตกลงยังไงคะ ถ้ายังนึกคำไม่ออกแนะนำกลับห้องนิติฯ ไปค่ะ นี่ล็อบบี้นะคะ มาทำเสียงดังแบบนี้ออมแจ้งผู้จัดการได้นะ เสียภาพลักษณ์คอนโดฯ ค่ะ” ออมพูดจบพี่หงส์ก็สะบัดหน้าเดินกลับห้องทำงานตัวเอง เขาแอบยกนิ้วโป้งให้ออมในการสู้ศึกครั้งนี้

“พวกห้องนิติฯ ทำไมชอบหาเรื่องปิงจัง แต่เอาจริงๆ ก็เหมือนไม่ชอบพวกเราทุกคนเลยนะ”

“ตอนแรกปิงทำงานห้องนั้นใช่มั้ยล่ะ แต่ตอนนั้นพี่ฝ้ายคอนเซียซเก่าน่ะเคยเล่าว่าพี่สาเขาจะฝากน้องเขามาทำ แต่พอผู้จัดการสัมภาษณ์งานแล้วเขาเลือกพี่เลย น้องพี่สาเขายังไม่ได้สัมฯ เลย”

“แพ้แล้วพาลว่างั้น แต่กับพี่โจก็ไม่เห็นเขาจะสนิทเลย พี่โจออกจะนิสัยดี ฮาด้วย”

“พี่โจเคยบอกพี่ว่าเขาไม่ชอบคอนเซียซทั้งหมดนั่นแหละ เหมือนเขาต้องรับคำสั่งเราอีกทีแต่จริงๆ ก็ไม่ใช่ งานมันคนละส่วนกันมันแค่ต้องประสานงานกันแค่งั้นเอง”

“อย่างนี้แหละปิง ออมเคยอยู่คอนโดฯ แฟนสมัยเรียนนะ ตีกับนิติฯ แทบทุกวัน ทำตัวใหญ่ เรื่องเยอะ มีของมาส่งก็ไม่รับให้เรา บางทีให้คนอื่นมาเซ็นรับของเราไปเฉย เวลาออมไปค้างกับแฟนนะชอบมองเหมือนเราเป็นเด็กใจแตกหอบผ้ามาอยู่กับผู้ชาย ซึ่งมันก็จริงแหละ แต่ไม่ใช่ใจแตก อย่างอื่นก็แตก ฮ่าๆๆ” น่านนทีส่ายหน้าให้กับความทะลึ่งของเพื่อนร่วมงาน


แสงไฟตามท้องถนนแดงฉานเป็นแนวยาวสมกับความขึ้นชื่อในเรื่องรถติด ท้องฟ้ายามค่ำคืนของเมืองที่ไม่ได้เห็นมานานทำให้ชายหนุ่มเหม่อมองอย่างนิ่งงัน สายตาคมกริบทอดมองไปตามตึกสูงและถนนบางเส้นที่ไม่คุ้นตา หลายปีแล้วที่เขาไม่ได้กลับมาอยู่ที่นี่ และเป็นคืนแรกเช่นกันที่เขาได้นอนบ้านที่ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ห้องหรูบนคอนโดฯ ลงทุนซื้อที่นี่ตั้งแต่ยังไม่เริ่มสร้าง ผ่านมาหลายปีเขาซึ่งเป็นเจ้าของเพิ่งได้เข้ามาอยู่อาศัย เหลียวมองรอบกาย ทั้งวัสดุและการตกแต่งที่เคยเลือกเองกับมือกลับดูแปลกตาเพราะรสนิยมบางอย่างก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา


เสียงโทรศัพท์ดังจากโซฟาทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจจากภาพเบื้องหน้าก่อนจะเดินมารับสายที่เข้ารู้ดีว่าเป็นใคร

“ว่าไงครับแม่”

“เป็นไงบ้างลูก ห้องเรียบร้อยดีไหมไม่เห็นโทรหาแม่เลย” เสียงนุ่มที่เพียงแค่ได้ฟังก็รู้ว่าหญิงสูงวัยปลายสายต้องเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเรียบร้อยมากแน่ๆ

“เรียบร้อยดีครับแม่ แต่อาจจะเปลี่ยนพวกผ้าม่านกับพรมบางชิ้น เดี๋ยวผมค่อยตัดสินใจอีกที”

“อย่าลืมส่งรูปให้แม่ดูด้วยนะ ลีโอเขาก็อยากเห็นนะ”

“ได้ครับ แต่อีกสักพักนะแม่ ผมว่าผมเจ็ทแล็กนิดๆ หลับทั้งวันตอนนี้ตาสว่างมากเลย”

“ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก ว่างก็โทรหาแม่โทรหาลีโอด้วย เขาคิดถึงนะ”

“ครับ วันนี้ผมก็ไลน์หาแล้ว พ่อบอกว่าแม่ร้องไห้คิดถึงผมเหรอ”

“ไปเชื่ออะไรตาอ้วนนั่น แม่เปิดละครดูแล้วมันอิน แค่นี้นะสิง ถ้านอนไม่หลับก็ลองแช่น้ำอุ่นดู พวกเทียบหอม อโรม่าที่แม่เคยให้ใช้ก็ซื้อมาเก็บไว้บ้าง หรือให้แม่ซื้อส่งให้มั้ย กลิ่นเดิมที่ลูกชอบ ที่ไทยมีขายรึเปล่าไม่รู้”

“เดี๋ยวผมลองหาซื้อก่อนแล้วกัน ถ้าไม่มีก็หากลิ่นคล้ายๆ กันก็ได้”

“จะไปเดินซื้อเองหรือลูก มันจะไหวเหรอ เกิดมีคนจำสิงได้ขึ้นมาล่ะ”

“น่าจะไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วล่ะครับ ไม่ได้กลับไทยตั้งหลายปี คนน่าจะลืมๆ ผมไปแล้ว แม่ไม่ต้องห่วงนะ”

“โอเคๆ งั้นแค่นี้นะลูก โทรหาแม่บ่อยๆ นะครับ”

“ครับผม รักแม่นะ รักพ่อด้วย”


หลังจากวางสายสิงหาเดินไปห้องนอนเล็กที่ตอนนี้ใช้เป็นห้องเก็บของ ของส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านแม่ มีบางส่วนที่เขาฝากไว้กับเพื่อนและเพิ่งไปเอามา ส่วนใหญ่ก็เป็นกรอบรูป อัลบั้มรูป ถ้วยรางวัลต่างๆ ตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงทำงาน รางวัลสีทองอันทรงเกียรติที่ครั้งหนึ่งเขาเคยได้รับถูกแกะออกจากห่อช้าๆ ป้ายสีเงินสลักชื่อรางวัลที่ใครหลายคนชื่นชมและอยากได้ ‘รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม’ รางวัลที่การันตีความสามารถและทำเป็นใบเบิกทางสู่วงการภาพยนตร์ของเขา ในลังยังมีรางวัลอีกหลายอันเขาไม่ได้หยิบออกมา เขาเพียงมองแล้วย้อนนึกถึงความหลังนิดหน่อยก่อนค่อยๆ ห่อกันกระแทกแล้วเก็บใส่ลังรวมกับรางวัลอื่นๆ

แกร๊ก…คลิก


เสียงดังจากนอกห้องทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งและหันขวับไปมอง เสียงแม้จะเบาแต่เขาได้ยินชัดเจน เหมือนเสียงเปิดและปิดประตู ไม่สำคัญว่าประตูไหน ที่สำคัญคือเขาอยู่คนเดียว เขาค่อยๆ ลุกขึ้นเดินออกนอกห้องนอน เหลียวมองรอบๆ แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก จนกระทั่ง

ตึก ตึก ตึก

เสียงเหมือนฝีเท้าคนกำลังวิ่งและทิศทางนั้นคือประตูหน้าห้อง เขารีบวิ่งตามเสียงไปก่อนจะเห็นประตูห้องกำลังปิด อีกฝ่ายวิ่งออกไปข้างนอกแล้ว เขารีบวิ่งตามเปิดประตูห้องทันทีแต่...ไม่มีใคร เดินมามองลิฟต์ก็ไม่มีการเคลื่อนไหว ยังคงขึ้นเลข 1 ตามปกติ สิงหาเสยผมอย่างหัวเสียที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ห้องชุดนี้ราคาแปดหลัก ทุกทางเข้าออกต้องมีการ์ดแสกนเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ผู้อาศัย แม้กระทั่งโถงลิฟต์ก็มีประตูปิดกั้นไม่ให้คนนอกเข้ามากดลิฟต์ได้ แต่ละห้องก็เป็นลิฟต์ส่วนตัว ต้องใช้การ์ดในการเปิดลิฟต์และกดเลขชั้นซึ่งกดได้เฉพาะเลขห้องที่ตรงกับการ์ด คนที่เขาไม่อนุญาตจะบุกรุกขึ้นมาไม่ได้เด็ดขาด แต่นี่ถึงขนาดเข้ามาในห้องเขาได้ด้วยซ้ำไป ความโมโหทำให้เขาเดินไปกดโทรศัพท์หาพนักงานตรงล็อบบี้ทันที

“สวัสดีครับ คอนเซียซยินดีให้บริการครับ”

“ครับ เมื่อกี้มีคนบุกเข้ามาในห้องผม ตอนนี้วิ่งหนีไปแล้ว ช่วยให้รปภ.จับตัวไว้ด้วยนะครับ ผมจะรีบลงไป”

“ต้องขออภัยจริงๆ นะครับ ห้อง A201 ใช่มั้ยครับ เดี๋ยวผมจะรีบแจ้งรปภ.ทันที ขออนุญาตวางสายนะครับ” น่านนทีที่เข้ากะดึกถึงกับสะดุ้งลุกขึ้นยืนเมื่อพบเหตุฉุกเฉินที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มีคนบุกรุกกกกก!!!

“น้าสิทธิ์ๆ มีคนบุกขึ้นห้องครับ พาคนไปดักที่บันไดหนีไฟกับโถงลิฟต์ทีครับ ดูจากกล้องวงจรปิดทีนะครับว่าหนีไปทางไหน” เขารีบหยิบวอขึ้นมาตะโกนขอความช่วยเหลือจากทีมรักษาความปลอดภัย ไม่กี่วินาทีทุกคนเหมือนไฟลนก้น วิ่งกระจายกำลังไปตามทางเข้าออกเพื่อมองหาผู้ต้องสงสัย น่านนทีรีบวิ่งไปโต๊ะซีเคียวริตี้ที่ล็อบบี้ส่วนหน้าเพื่อดูกล้องวงจรปิด

“เป็นไงน้า เห็นไหมว่าไปทางไหน ลงมาจากชั้น 20 นะ” ตากลมโตพยายามเพ่งไปตามจุดเข้าออกที่มีคนไปดักรอเกือบครบแล้ว

“ไม่เห็นมีเลย ใครจะขึ้นไปได้วะปิง”

“ไม่รู้สิพี่ เขาโทรลงมาเสียงเหวี่ยงมาเลย น้าลองย้อนเทปดูได้มั้ยว่าขึ้นไปจากทางไหนจะได้ไปดักทางนั้น”

“ย้อนดูตรงไหนละ ลิฟต์หรือบันได หรือลิฟต์ส่งของ”

“น้าลองดูตรงบันไดกับลิฟต์พนักงานก่อน เดี๋ยวปิงวิ่งไปเช็คประตูหน้าลิฟต์หลักก่อนว่ามันเสียรึเปล่า เดี๋ยววอหา” น่านนทีรีบวิ่งกลับเข้าตึกวิ่งผ่านล็อบบี้ก่อนจะเบรคเอี๊ยดจนเกือบล้มเมื่อเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนกอดอกหน้าเคาน์เตอร์คอนเซียซของเขา

“สวัสดีครับ ใช่คนที่โทรมาเมื่อครู่หรือเปล่าครับ” เขารีบก้าวเข้าไปหาอีกฝ่ายที่หันมามองพอดี ใบหน้ายุ่งๆ ที่บ่งบอกถึงความหงุดหงิดแต่ก็ไม่สามารถกลบรัศมีความหล่อที่ออมมักพูดได้ หล่อจนเข่าทรุดคือแบบนี้นี่เอง

“ใช่ผมเอง ได้ตัวมั้ย”

“ยังไม่เจอเลยครับ แต่รปภ. ไปดักทางเข้าออกไว้หมดแล้ว อีกส่วนกำลังไล่เช็คจากกล้องวงจรปิด ไม่ต้องห่วงนะครับ เราต้องจับคนร้ายได้แน่ๆ คุณนั่งรอตรงนี้สักครู่นะครับ ผมขอไปเช็คประตูหน้าลิฟต์ก่อน” น่านนทีพูดจบก็รีบวิ่งเลี้ยวผ่านห้องพัสดุตรงไปประตูกั้นโถงลิฟต์ที่มีลูกน้องน้าสิทธิ์มายืนดักอยู่ เขาลองเปิดๆ ดันๆ ก็ไม่สามารถเปิดได้ ลองเอาบัตรพนักงานตัวเองแสกนก็เปิดไม่ได้ แสดงว่าประตูไม่เสีย คนนอกเข้าออกทางนี้ไม่ได้แน่ๆ

“ประตูทำงานปกติ คนนอกไม่น่าจะเข้าจากทางนี้ได้นะครับ คุณลูกบ้านพอจะเห็นหน้าตาคนร้ายไหมครับ”

“ไม่เห็นเลยครับ พอดีได้ยินเสียงเลยวิ่งออกจากห้องนอนมาดู แต่เขาวิ่งหนีออกนอกห้องพอดี ไม่ได้ลงทางลิฟต์ มันมีทางเข้าออกของพนักงานอีกทางใช่มั้ย”

“ใช่ครับ แต่ปกติทางนั้นต้องเป็นคนที่ได้รับสิทธิจากลูกบ้านถึงเปิดได้เป็นครั้งคราว ต้องใช้บัตรแสกนเปิดเหมือนกันครับ แต่เดี๋ยวเราลองเช็คจากกล้องได้ รบกวนรอสักครู่นะครับ” น่านนทีรีบวิ่งกลับไปหาน้าสิทธิ์อีกครั้ง

“เป็นไงน้า เจอมั้ย ลูกบ้านลงมานั่งรอที่ล็อบบี้แล้วเนี่ย”

“ไม่มีเลยว่ะ รีดูครึ่งชั่วโมงก่อนนะ ในลิฟต์ทุกตัวก็ปกติ ไม่มีใครใช้”

“เขาบอกว่าวิ่งออกจากห้องเขาแต่ไม่ได้ลงทางลิฟต์หลัก น้าลองดูตรงโถงรับส่งของชั้น 20 ให้หน่อย” น้าสิทธิ์กับเขาจ้องภาพจากกล้องวงจรปิดที่ค่อยๆ เล่นถอยหลังไปเกือบชั่วโมง แต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ ไม่มีใครเดินที่ชั้นนี้ ไม่มีใครแอบเข้ามา หรือออกไป

“อะไรอะน้า ไม่เห็นเจอใครเลย”

“ไอ้พวกนั้นที่ดักซุ่มอยู่ก็ไม่เจอนะ น้าวอถามแล้ว”

“มันจะแอบอยู่ชั้นไหนหรือเปล่า”

“แต่เอ็งก็เห็น...ไม่มีใครเข้า-ออกชั้น 20 เลยนะเว้ย”

“น้า....หรือว่า...”

“ไม่รู้เว้ย ดึกแล้วอย่าพูด ลูกบ้านคนไหนวะ คุ้นหน้ารึเปล่า อาจจะแกล้งเล่นก็ได้”

“เขาจะแกล้งทำไมล่ะ ยังนั่งหน้าบึ้งอยู่ตรงล็อบบี้เลย เอาไงดี”

“ก็ต้องบอกเขาตรงๆ ว่าไม่เจอ ถ้าเขาไม่พอใจให้เขามาเช็คตรงนี้ก็ได้”

“เอางั้นนะ งั้นเดี๋ยวปิงไปบอกเขาก่อน” น่านนทีเดินกลับไปที่ล็อบบี้หลักด้านใน มองผู้ชายร่างสูงที่ยังยืนพิงเคาน์เตอร์ทำงานของเขาอยู่ รวบรวมกำลังใจอันน้อยนิดก่อนจะเริ่มพูดอย่างตะกุกตะกัก

“ก่อนอื่นต้องขอโทษคุณลูกบ้านสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับ ทางเราได้ตรวจเช็คจุดเข้าออกทุกจุดแล้ว พบว่าไม่มีคนแปลกหน้า ประตูเข้าออกยังใช้งานได้ดี คนนอกไม่สามารถบุกรุกเข้าไปในลิฟต์หรือไปที่ห้องลูกบ้านได้ ทางฝ่ายซีเคียวริตี้ได้เช็คกล้องวงจรปิดย้อนหลังไปประมาณครึ่งชั่วโมงแต่ก็ไม่พบใครใช้ลิฟต์ขึ้นไปชั้นของลูกบ้านเลยใคร ในลิฟต์พนักงานหรือบันไดหนีไปก็ไม่พบใครเข้าออกเช่นกัน” เขาอธิบายรวดเดียวจบแล้วเหลือบมองคนตรงหน้าอย่างลุ้นๆ

“หมายความว่าไง คิดว่าผมโกหกงั้นเหรอ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ แต่ทางเราไม่พบใครจริงๆ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ เราจะจับตาดูทางเข้าออกให้ตลอดเผื่อว่ามีใครแอบอยู่ที่ชั้นอื่น”

“ผมอยากบอกว่าผมไม่ได้โรคจิตจนหาเรื่องแกล้งพนักงานที่นี่ แต่มีคนบุกรุกห้องผมจริงๆ และหวังว่าพวกคุณจะจับตัวได้”

“ครับ เราจะพยายามเต็มที่ คุณลูกบ้านได้ตรวจเช็คของในบ้านหรือยังครับว่ามีอะไรหายหรือเปล่า จริงๆ ที่หน้าประตูคุณลูกบ้านจะมีกล้องวงจรปิดอีกตัว แต่ทางพนักงานไม่สามารถเข้าดูได้ หากคุณต้องการต้องทำแสดงความจำนง มีเอกสารต้องกรอกนิดหน่อยแต่สามารถทำได้ตอนเช้านะครับเพราะตอนนี้ห้องนิติฯ ปิดไปแล้ว”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเช็คของในห้องก่อนแล้วกัน ถ้ามีปัญหาค่อยแจ้งคุณอีกที ขอบคุณนะครับ” สิงหาค่อยๆ ลดความหงุดหงิดตัวเองลงเมื่อเห็นความใส่ใจและพร้อมรับผิดชอบของพนักงานตรงหน้า


เขากลับเข้าห้องแล้วค่อยๆ มองสำรวจว่ามีอะไรเสียหายหรือหายไปหรือไม่ แต่ก็ไม่พบอะไร ทุกอย่างปกติ เปิดคู่มือการเปลี่ยนรหัสที่ประตูห้องแล้วจัดการซะ ถึงแม้ปกติจะใช้การ์ดแตะเพื่อเปิดแต่ก็สามารถกดรหัสผ่านได้ เขาต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน คืนนี้ช่างยาวนาน จากที่ไม่ง่วง เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยตาก็เริ่มปรือ ได้เข้านอนช่วงดึกคืนแรกหลังจากนอนกลางวันมาหลายวัน


“จริงๆ นะพี่โจ เขาวิ่งลงมาหน้าเครียดเลย ปิงว่าเขาไม่ได้เมานะ ไม่ได้กลิ่นเหล้าเลย สภาพหล่อเนี๊ยบสุดๆ “พี่โจมาเข้ากะเช้าเขาเลยได้รายงานเหตุด่วนเมื่อคืนให้ฟัง

“แล้วน้าสิทธิ์ว่าไง เช็คกล้องก็ไม่เจอเหรอ”

“ไม่เจอเลย หลอนกันทั้งคืนอะ”

“พูดไปเรื่อย บางทีเขาอาจลืมเปิดประตูค้างไว้ก็ได้ พอมันค่อยๆ งับปิดเขาเลยตกใจ ห้อง A201 ใช่มั้ย เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่นี่”

“เพิ่งซื้อเหรอ หรือเช่า ปิงไม่คุ้นหน้าเลย”

“ซื้อตั้งแต่ยังไม่เริ่มสร้างแต่เขาเพิ่งเข้ามาอยู่ ปกติมีแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดเดือนละครั้ง เป็นเพื่อนคุณชวิน”

“แล้วพี่จะเอาไงอะ จะแจ้งผู้จัดการมั้ย”

“ต้องแจ้ง อย่างน้อยต้องมีของส่งไปขอโทษเขา ปิงสั่งกระเช้าผลไม้ให้พี่ก่อนกลับแล้วกัน เดี๋ยวพี่โทรหาผู้จัดการก่อน” พี่โจช่างรอบคอบ เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องส่งของเลย มัวแต่หลอนจนต้องชวนน้าสิทธิ์มานั่งเป็นเพื่อน


สิงหาตื่นมาตอนสาย หลังจัดการธุระส่วนตัว รื้อของในห้องมาจัดต่อสักพักก็ได้รับสายจากผู้จัดการนิติบุคคลคอนโดฯ คำขอโทษมาในรูปแบบคำพูดและสิ่งของทำให้เขารู้สึกดีขึ้น กระเช้าผลไม้แม้จะไม่แพงมากแต่ก็เห็นถึงความใส่ใจ สำหรับผู้ชายแบบเขาได้กระเช้าผลไม้ดีกว่าได้ดอกไม้เยอะ

ช่วงบ่ายเขาออกไปเดินซื้อของใช้ส่วนตัวรวมทั้งพรมและผ้าเช็ดเท้าที่อยากเปลี่ยน ตอนเดินผ่านล็อบบี้พนักงานที่นั่งประจำเคาน์เตอร์ไม่ใช่คนเมื่อคืนแล้ว


การเดินซื้อของไม่ได้สะดวกอย่างที่คุยกับแม่ไว้ตอนแรก แม้จะห่างหายจากหน้าจอไปหลายปี แต่ก็ยังมีคนจำได้และเข้ามาทักทายด้วยความคิดถึง แต่ส่วนใหญ่เลือกจะมองเขาห่างๆ พร้อมยกโทรศัพท์ในมือแอบเป็นระยะ เขารีบซื้อของใช้จำเป็นให้ครบแล้วขึ้นบีทีเอสกลับคอนโดฯ

“ขอโทษนะคะ ขอถ่ายรูปได้มั้ยคะ” พนักงานออฟฟิศที่โหนราวอยู่ข้างๆ ถามเบาๆ ด้วยความหวังว่าดาราในดวงใจของเธอตั้งแต่สมัยเรียนจะตอบตกลง เธอชอบสิง สิงหา ตั้งแต่เขายังไม่ดัง ชอบในการพูดจาที่แสดงให้เห็นถึงทัศนคติดีๆ แม้จะหายหน้าไปหลายปีแต่เธอก็จำได้ไม่ลืม

“ได้ครับ” เสียงทุ้มตอบรับทำให้เธอกรีดร้องในลำคอ ค่อยๆ ยกโทรศัพท์ยืนไปด้านหน้าที่มีที่ว่างอันน้อยนิด สิงหาย่อตัวลงเพื่อให้ใกล้กันมากขึ้น ไม่รู้ว่ารูปที่กดนิ้วรัวๆ ไปจะชัดหรือไม่ แต่ตอนนี้เธอมองอะไรไม่ชัดแล้ว น้ำตามันเอ่อคลอขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ เธอยังจำสัมภาษณ์สดครั้งสุดท้ายได้ว่าเขาโดนสื่อรุมยังไง เห็นถึงสีหน้าที่ไม่เต็มใจ ความอัดอั้นที่ไม่สามารถพูดได้แต่แฟนคลับหลายคนรู้ เขาไม่ผิด เขาคือผู้ถูกกระทำ เขาไม่ควรต้องขอโทษ แฟนคลับรู้ดีว่าเขายินดีพูดมันออกมาเพื่อจบปัญหา หลายคอมเมนต์เขียนด่าว่าเขาไม่มีศักดิ์ศรี แต่ใครจะรู้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่ยิ่งใหญ่และมีเกียรติมากแค่ไหน

“หนูเป็นแฟนคลับพี่ตั้งแต่พี่เล่นเอ็มวีให้เพื่อนเลยนะคะ ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ เพื่อนหนูหลายคนก็เหมือนกัน เรารักพี่เสมอนะคะ ถ้าว่างๆ พี่เข้าไปในแฟนเพจตัวเองนะ ทุกคนยังเหมือนเดิม พี่ยังเป็นคนเดิมของพวกเราค่ะ” เธอพูดด้วยเสียงสะอื้นนิดๆ จนคนรอบข้างหันมามอง

“ขอบคุณนะครับ พี่เข้าไปอ่านบ่อยๆ ฝากขอบคุณทุกคนด้วย” สิงหาก้มศีรษะขอบคุณและยิ้มให้ก่อนเดินออกไปเมื่อถึงสถานีที่ต้องลง โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าภาพเหตุการณ์เล็กๆ ที่เกิดขึ้นจะมีคนแอบถ่ายและโพสต์บนโลกออนไลน์จนขึ้นอันดับการแชร์ที่ค่อนข้างสูง
สิงหากลับมาแล้ว


กลับถึงห้องด้วยความรู้สึกดีๆ แม้ตลอดเวลาสิงหาจะไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ บางครั้งที่เขาคิดถึงแฟนคลับที่พอจะสนิทกัน แฟนเพจที่กลุ่มแฟนคลับกลุ่มดั้งเดิมทำให้ยังคงมีการพูดคุยกันเองเสมอ มิตรภาพของคนกลุ่มนั้นทำให้เพจยังดำรงอยู่ นานๆ ครั้งก็มีการโพสท์คลิปหรือภาพเก่าๆ ของเขา เขาเห็นและรู้สึกขอบคุณ แต่ช่วงก่อนหน้านั้นเขายังไม่พร้อมจึงไม่มีการติดต่อกลับอย่างเป็นทางการ ตอนนั้นเขาไม่ได้คิดว่าจะกลับมาเลยไม่อยากรั้งคนกลุ่มนี้ไว้ แต่เมื่อตัดสินใจกลับมา คนแรกที่เขาควรทักทายไม่ใช่เจ้านายเก่า เพื่อนร่วมงานหรือผู้ใหญ่ที่เคยเรียกใช้งาน แต่คือกลุ่มคนเล็กๆ กลุ่มนั้น คนที่ไม่ว่าเขาจะก้าวไปไกลแค่ไหนก็จะเดินตามเขา คอยระวังหลัง ส่งเสบียง ปลอบใจ คนที่แม้เขาจะหยุดเดินก็ทำเพียงแค่หยุดรอ ไม่เดินหนีไปไหน

         ไม่ได้เจอกันนาน กลับมาแล้วนะครับ ขอบคุณที่คิดถึงกัน
              สิงหา


ข้อความสั้นๆ ถูกโพสท์ขึ้นบนแฟนเพจหลักของเขา ตั้งแต่มีแฟนเพจนี้น้องๆ กลุ่มที่สร้างขึ้นมาก็ตั้งเขาเป็นหนึ่งในแอดมิน จนวันนี้ก็ยังคงเป็นอยู่เหมือนเดิม

กระแสการต้อนรับจากคนคุ้นเคยดีเกินคาด เขาตอบกลับเกือบทุกคอมเมนท์ที่ด้านล่างโพสต์ของตัวเอง ส่งข้อความคุยส่วนตัวกับกลุ่มน้องแอดมิน เพื่อนสนิทในวงการบางคนที่เริ่มรู้ข่าวก็โทรมาหา ซึ่งเขาก็เลือกรับสายเฉพาะคนที่สนิทจริงๆ ไม่รับการสัมภาษณ์หรือติดต่อไปออกรายการใดๆ เขาแค่กลับมาไทย ไม่ได้หมายความว่าจะกลับเข้าวงการ

เพราะกระแสในโลกออนไลน์ทำให้ครั้งต่อมาที่สิงหาต้องออกมาข้างนอกลำบากมากขึ้น การใส่แว่นช่วยได้นิดหน่อยแต่ก็ยังมีคนจำเขาได้เยอะอยู่ดี ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นแฟนคลับจริงๆ แต่ส่วนใหญ่น่าจะเพิ่งรู้จักเพราะกระแสช่วงนี้เลยอยากถ่ายรูปด้วยขึ้นมา เขาตัดสินใจซื้อรถใหม่เพื่อความคล่องตัว ไปเดินจตุจักรซื้อต้นไม้ต้นเล็กๆ ไว้ตกแต่งห้องเพิ่มความสดชื่น ผ้าม่านได้ติดต่อคอนเซียซเรียบร้อย พนักงานสาวชื่อออมแนะนำร้านม่านประจำของโครงการซึ่งมีขนาดของหน้าต่างแต่ละห้องอยู่แล้วไม่ต้องมาวัดกันใหม่ แค่เลือกแบบเลือกสีรอสองสัปดาห์ก็เสร็จ ห้องนอนจากสีม่วงมะฮอกกานีก็เปลี่ยนเป็นน้ำตาล ห้องอื่นๆ ก็เปลี่ยนเป็นโทนสีน้ำตาลครีมทั้งหมด หลังจากม่านใหม่มาติดตั้งเรียบร้อยค่อยดูเป็นสไตล์เขาขึ้นมาหน่อย สิงหาถ่ายภาพมุมต่างๆ ของห้องแล้วส่งให้แม่ที่โทรมาทวงทุกวัน

“ทำไมไม่เอาสีฟ้าน้ำเงินบ้างล่ะลูก น้ำตาลซะทุกห้องเลย มันอึมครึมไปมั้ย” พอแม่เห็นรูปก็บ่นทันที ตรงข้ามกับพ่อที่ชอบโทนสีคล้ายๆ เขา แต่ผ้าม่านบ้านที่อังกฤษก็สีน้ำเงินฟ้า ห้องครัวชมพูอ่อนลายลูกไม้ด้วยซ้ำไป

“มันจะได้คลุมโทนไงครับ จริงๆ สีมันไม่มืดเท่าที่ส่งไปนะ”

“อืมๆ สิงชอบก็พอ แล้วเป็นไง ได้เจอเพื่อนๆ บ้างรึยัง ของฝากแม่อย่ากินเองหมดนะ เอาไปให้น้าหลวยด้วย” น้าฉลวยเป็นเพื่อนสนิทแม่ตั้งแต่สาวๆ ก่อนไปอยู่อังกฤษแม่กับน้าฉลวยเปิดร้านอาหารเหนือด้วยกัน แม่แค่ออกทุนเกือบทั้งหมดในช่วงแรก ส่วนน้าฉลวยจัดการในส่วนของครัวเพราะทำอาหารเก่ง รายได้ค่อนข้างดี ก่อนไปแม่เคยบอกจะขายหุ้นให้น้าทั้งหมดเพราะไม่อยากเอาเปรียบที่ไม่ได้ช่วยดูแล แต่น้าฉลวยยืนยันที่จะหุ้นกันเหมือนเดิมเพราะไม่อยากรู้สึกเหมือนตัดขาดกัน กลัวแม่ไม่กลับมาอีก สรุปแม่เลยเหลือหุ้นสามสิบเปอร์เซ็น ที่เหลือน้าฉลวยจ่ายคืนมาหมด ทุกเดือนก็มีการส่งบัญชีให้ดู มีเงินโอนเข้าบัญชีแม่เรื่อยๆ ตามกำไรในแต่ละเดือน ยิ่งน้าเปิดสาขาตามห้างรายได้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น แม่กับพ่อก็ส่งเงินมาหุ้นด้วยทุกสาขา พอรู้ข่าวว่าจะกลับมาน้าฉลวยกับแม่ก็ทำดราม่าบ่อน้ำตาแตกกันไปรอบหนึ่ง

“เอาไปให้น้าหลวยแล้วแต่ไม่เจอน้องๆ นะ น้าหลวยเขาไม่ค่อยสบาย แม่ได้โทรหาบ้างเปล่า”

“อ้าวเหรอ ไม่ได้โทรหาเลยตั้งแต่อาทิตย์ก่อน เป็นอะไรมากมั้ย”

“เห็นหมอเตือนว่าน้ำตาลหรือไขมันในเลือดสูงนี่แหละ แล้วก็ความดันสูง แกก็บ่นๆ ให้ฟังว่าลูกบังคับห้ามกินนั่นกินนี่ ผมว่าความดันขึ้นเพราะเถียงกับลูกนี่แหละ”

“นั่นสิ ทั้งแม่ทั้งลูกปากพอกันเลย งั้นแค่นี้ก่อนนะ แม่โทรหาน้าหลวยก่อน อ้อ แล้วเราน่ะหัดนอนห่มผ้าบ้าง นอนถอดเสื้อแล้วยังไม่ห่มผ้าอีก เดี๋ยวจะเป็นหวัด แล้วทีหลังไม่ต้องส่งรูปหุ่นตัวเองมาแล้วนะ ลีโอเห็นแล้วอิจฉาหุ่นลูกทุกที แค่นี้นะลูก” แม่พูดไปหัวเราะไปแล้วก็วางสาย ปล่อยเขายืนยิ้มงงๆ ว่าตัวเองส่งรูปถอดเสื้อไปให้แม่ดูตั้งแต่เมื่อไร เขาค่อยๆ เปิดโทรศัพท์เข้าแอพริเคชั่นไลน์เปิดดูบทสนทนาย้อนหลังระหว่างเขากับแม่ ล่าสุดคือส่งรูปในห้องไปให้ เขาค่อยๆ เลื่อนดูรูปภาพสิบกว่ารูปก่อนจะแตะนิ้วแล้วเลื่อนภาพที่เพิ่งผ่านไปกลับมาดูช้าๆ หนึ่งในสิบกว่าภาพที่ส่งไปเป็นภาพสิงหานอนหลับถอดเสื้ออยู่บนเตียงในห้องนอน ในภาพไม่มีอะไรแปลก ที่แปลกคือ...ใครถ่าย



—¤÷(`[ ♌ ♡ ▽ ]´)÷¤—



ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ติชมได้ตามอัธยาศัยทั้งในทู้หรือในเพจน้า ตามอ่านทุกข้อความแต่อาจตอบไม่หมดนะคะ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
 น่ารัก

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ความรู้สึก เริ่มก่อตัว อยากอยู่ใกล้ อยากเห็นหน้า  :z1:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :L2:

ออฟไลน์ colorsplash

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สนุกแล้วก็ตื่นเต้นมากๆเลยค่ะ

แต่หลอนนนนมากกกก
สิงอยุ่ได้ไงไม่รู้

บรึ๋ยยยย

 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
น้องน่ารักกกกก

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ปิงเป็นคนตลก น่าเอ็นดู
กลัวผีจะแย่แล้วมั้ง

ท่าทางจะเป็นรัก หลอนๆ กลิ่นอายผีๆ

ชอบจังเลย อ่านเพลินมาก บรรยายดี
เข้าถึงบรรยากาศแบบนั้นเลย
แต่ไม่เจอคนแบบคุณสิงหาบ้างเลย

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ปิงน่าเอ็นดูมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
หลอนมาก

ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/


6. คนดัง

ในยุคดิจิตอลที่คนเริ่มไม่ซื้อหนังสือ นิตยสารหลายๆ เล่มเลือกจะยุติการตีพิมพ์แล้วนำเสนอในรูปแบบออนไลน์ สิงหาไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับงานรูปแบบนี้มากนักว่าผลตอบรับจะเป็นยังไง แม้จะเลือกรับเป็นงานแรกตั้งแต่กลับมาก็ตาม วันแรกที่นิตยสารเริ่มวางแผงฉบับตัวอย่างตามร้านกาแฟชื่อดังให้หยิบฟรี เขาก็รู้สึกใจเต้นกับการรอคอย มีการโปรโมทบทความพร้อมคลิปเบื้องหลังบนแฟนเพจนิตยสาร สิ่งที่เขาได้รับภายนอกคือตัวเงินที่แน่นอนตั้งแต่วันถ่ายงาน ส่วนวันนี้คือภายในจิตใจที่ได้รับการเติมเต็ม มีการถามถึงร้านที่ยังมีนิตยสารแจกฟรีอยู่ มีการบอกพิกัดกันให้ตามไป โพสต์ถึงหนุ่มหล่อที่ตัวเองชื่นชอบ #สิงหา บนทวิตเตอร์เริ่มไต่ลำดับขึ้นเรื่อยๆ ผลการตอบรับแบบนี้เขาสามารถเช็คได้เองทันทีซึ่งเป็นเรื่องแปลกใหม่ เมื่อก่อนถ้าเป็นงานแสดงก็ต้องวัดที่เรตติ้งหรือรายได้ งานถ่ายแบบก็ยอดซื้อ แต่คราวนี้วัดกันที่ยอดแชร์และคอมเมนท์


สิงหาหล่อมากกกกกก น้ำลายจะไหล #สิงหา
บอกทีนั่นคือหนังหน้าคนอายุสามสิบ #สิงหา
กีสสสสสสส พี่สิงกลับมาแล้วววว หล่อโฮกกกกก
สามีขา ทิ้งเมียไปไหนตั้งนานนนน กลับมาให้ลงโทษเลยนะ
คนนี้ใคร หล่อมาก ดาราเก่าใช่มั้ย
เคยตบผู้หญิงนี่ คนแบบนี้ก็เป็นหนุ่มหล่อในฝันได้เหรอ #สิงหาออกไป
บอกเค้าว่าชั้นรักเค้า #สิงหา
ทำร้ายผู้หญิงแล้วหนีไปเมืองนอก โคตรเลว #สิงหา #มีนา
ใครจะว่ายังไงก็ช่าง สิงหาคือพระเอกเบอร์หนึ่งเสมอ พระเอกในจอนอกจอ
หล่อขนาดนี้ถึงเลวก็ยอมค่ะ #สิงหา



สิงหาถอนหายในเบาๆ แต่เสียงคนข้างๆ กลับดังมากกว่า

“เฮ้อ คุณสิงไม่ต้องคิดมากนะครับ พวกโซเชียลก็อย่างนี้แหละ ด่าเอาสนุกก็เยอะ ดูเฉพาะอันดีๆ ดีกว่า” น่านนทีเลื่อนข้อความบนทวิตให้อ่านแต่ข้อความดีๆ ตลกๆ ที่เขามานั่งข้างๆ คุณสิงในห้องสมุดของคอนโดฯ เพราะอยู่ดีๆ อีกฝ่ายก็เดินมาขอให้ช่วยสอนเล่นทวิตเตอร์ เขาเลิกงานพอดีเลยชวนมานั่งบนห้องสมุดชั้นสอง ไม่อยากนั่งที่ล็อบบี้ที่มีออมคอยจ้องตลอดเวลา

“ผมแค่อยากรู้ฟีดแบ็คน่ะครับ ถ้ามันดีก็จะได้เริ่มรับงานอื่นมากขึ้น แต่ถ้าไม่ดีก็อาจจะเลิกจริงๆ”

“ดีสิครับ นี่ไงคนชมตั้งเยอะ แถมพวกที่ด่ามาก็มีคนไปไฝว้แทนคุณสิงด้วย แฟนคลับเพียบ ไม่ต้องกลัวเลย” น่านนทีรีบเปิดข้อความตอบโต้ระหว่างคนสองกลุ่มให้ดูว่าคนที่ชอบมีมากกว่าคนที่มาด่า

“พวกที่ด่าๆ นี่ก็น่าจะเป็นแอคหลุม”

“แอคหลุมคือ...”

“ก็พวกสร้างไอดีเปล่ามาไว้ด่าคนอื่น แบบไม่ลงประวัติจริงๆ ให้คนตามได้ไง ส่วนใหญ่พวกที่ชอบด่าคนอื่นจะทำแบบนี้ แต่ปิงเห็นดาราบางคนก็สร้างไว้ตามคนอื่น กันแฟนคลับรู้เรื่องส่วนตัวน่ะครับ”

“อ้อ แล้วผมสร้างบ้างดีมั้ย”

“คุณสิงอยากเล่นมั้ยล่ะ อย่างปิงก็สมัครไว้ตามอ่านเวลามีดราม่าเพราะในทวิตมันอัพเดทเร็วกว่า แบบเรียลไทม์เลย”

“ปกติผมก็เล่นเฟซบุ๊กกับไลน์”

“ปิงก็เล่นแต่ไม่ค่อยอัพอะไร เอาไว้ตามข่าวมากกว่า” น่านนทีพูดเสียงเบาลง จริงๆ เขาก็อยากเล่นจริงจังเหมือนคนอื่น อยากอัพสเตตัสแล้วมีเพื่อนมาคอมเมนท์เยอะๆ แต่พอเรียนจบเขาก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกับเพื่อน ยิ่งทำงานเวลาไม่ตรงกับคนอื่นก็ยิ่งไม่ค่อยได้คุย เอาจริงๆ คือไม่ได้ไปเจอเพื่อนๆ นานแล้ว

“ผมแอดเฟสปิงได้มั้ย”

“ได้สิครับ แต่ปิงไม่ค่อยได้เล่นนะ ที่อัพเดทบ่อยสุดคือไอจี”

“ขอแอดหมดเลยครับ” สิงหายื่นโทรศัพท์ให้ ถึงจะรู้สึกเกรงใจนิดๆ แต่ดีใจมากกว่า เขาไม่ได้แอดเฟรนด์ใครนานแล้ว ส่วนใหญ่ที่คุยตอบโต้กันบ่อยๆ ก็คือพนักงานในคอนโดฯ นี้ทั้งนั้น ส่วนเพื่อนนานๆ จะแวะมากดไลค์ มันเป็นความห่างเหินแปลกๆ จนทำให้เขาเองก็ไม่กล้าจะทักไปหา บางทีอาจจะไม่ใช่แค่เพื่อนกันเฉยๆ เหมือนเมื่อก่อน คงเป็น...เพื่อนสมัยเรียนไปแล้ว

“เป็นอะไรครับ หน้าเศร้าจัง” สิงหาอดทักไม่ได้ วูบหนึ่งเขาเห็นความหม่นหมองในแววตา ปากเล็กยู่ลงนิดๆ

“แค่คิดอะไรนิดหน่อย นี่ครับแอดหมดแล้ว” น่านนทีคืนโทรศัพท์ให้สิงหาแล้วหยิบเครื่องตัวเองมากดรับเรียบแล้ว ภูมิใจนิดๆ ที่มีเพื่อนใหม่เป็นดารา

“มีอะไรไม่สบายใจบอกได้นะครับ คิดว่าผมเป็นเพื่อนอีกคนของปิง”

“โห ปิงจะมีเพื่อนเป็นดาราแล้วเหรอเนี่ย” น่านนทีพยายามทำเสียงร่าเริงแต่แววตากลับตรงกันข้าม ถึงจะเพิ่งรู้จักกันไม่นานแต่สิงหาไม่เคยเห็นอารมณ์นี้ของอีกฝ่ายมาก่อน ดูเศร้าเหงาหงอยจนอยากลูกหัวเกาคางสักสองสามที

“ยังไม่รู้เลยว่าจะได้ไปต่อในวงการหรือเปล่า เห็นกระแสแล้วแอบหวั่นเหมือนกัน แต่ไม่ได้เครียดคำพวกนั้นนะ ผมเข้าใจ ออกจะเฉยๆ มากกว่า”

“แล้วหวั่นเรื่องอะไรล่ะครับ ปิงว่ามันไม่มีอะไรหรอก อยู่ในกระแสดีกว่าไม่มีกระแสไม่ใช่เหรอ”

“สำหรับบางคนมันก็ใช่ แต่ผมเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว ขออยู่นิ่งๆ ทำงานไปเรื่อยๆ ไม่หวือหวาดีกว่า ผมอยากกลับไปแสดงหนังอีก แต่ถ้ามีกระแสแง่ลบเยอะ จะไปแสดงเรื่องไหนกับใครก็เกรงใจทีมงานคนอื่นที่เขาต้องโดนไปด้วย มันแย่นะ”

“งั้นลองรับแต่งานถ่ายแบบไปก่อนดีมั้ยครับ เอาไว้ให้คนชินๆ ตาแล้วค่อยกลับไปแสดง มีคนรอคุณสิงเยอะนะ แม่ปิงก็หนึ่งในนั้น”

“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นล่ะครับ ขอบคุณปิงมากนะที่สอนเล่นทวิต แล้วนี่กลับบ้านเลยหรือเปล่าครับ”

“ครับ ช่วงสองอาทิตย์นี้เข้ากะเช้า มีอะไรเรียกปิงได้นะ ปิงชอบเวลามีคนโทรตาม ไม่งั้นนั่งเหงาๆ มันจะหลับ”

“ปกติตอนพักไปกินข้าวที่ไหนครับ”

“แล้วแต่ครับ ช่วงนี้ขี้เกียจก็ห่อมาบ่อยหน่อย ประหยัดด้วย”

“ผมฝากซื้อกับข้าวบ้านปิงได้มั้ย วันละสองถุงก็ได้ ข้าวเปล่าด้วย”

“ได้สิครับ ปิงเอามาให้ฟรีเลย”

“ไม่เอาฟรีสิครับ ของซื้อของขาย แค่คราวก่อนให้มาก็เยอะแล้ว ขอจ่ายเงินนะ”

“ก็...ไม่รู้แม่จะบ่นหรือเปล่า”

“ถ้าให้ฟรีผมคงไม่กล้ากินบ่อยๆ หรอก ให้ผมจ่ายเถอะ นะ”

“ก็ได้ครับ เดี๋ยวปิงจะทำเสียงอ้อนๆ เลียนแบบคุณสิง แม่คงไม่กล้าดุ”

“ก็กลัวไม่ได้กินของอร่อยนี่ครับ”

“โอเคๆ ไม่ต้องทำตาวิ้งใส่ปิงเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ปิงเอามาให้ กับสองข้าวสองนะ”

“ครับ ผมชอบรสเผ็ดๆ นะ เลือกอะไรก็ได้ที่เผ็ดๆ มาได้เลย”

“เดี๋ยวตอนเช้าปิงถ่ายรูปให้คุณสิงเลือกเองดีมั้ย แต่มันจะเช้าไปน่ะสิ ตีสี่ครึ่งคุณตื่นรึยัง...น่าจะยังเนอะ”

“น่าจะกำลังฝันหวานเลยตอนนั้น ปิงเลือกมาเลยก็ได้ ไม่เป็นไร”

“ไม่เอา ปิงอยากให้คุณเลือกเอง งั้นพอปิงกลับบ้านเดี๋ยวถามแม่ให้ว่าพรุ่งนี้จะทำอะไร แล้วค่อยโทรมาบอกดีมั้ยครับ ไม่
เห็นรูปแต่รับประกันรสชาติ”

“ดีครับ โทรมาก็ดี” จะได้คุยบ่อยๆ


กระแสตอบรับเป็นไปอย่างที่น่านนทีพูดไว้ คนชื่นชอบมีมากกว่า ต่อให้มีการโจมตีแง่ลบแต่กลับช่วยให้กระแสแรงขึ้นมากกว่าเดิม คลิปเบื้องหลังเป็นที่พูดถึงไม่แพ้กัน เสียงหัวเราะ ความเป็นกันเองระหว่างให้สัมภาษณ์และตลอดการถ่ายแบบ มีรายการเชิญไปสัมภาษณ์ แต่สิงหาไม่คิดกลับเข้าวงการด้วยวิธีนี้ การไปออกสื่อตอนที่ยังไม่มีผลงานใหม่ก็คือการนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องเก่า สร้างกระแสแล้วก็ดึงตัวเองขึ้นมา เขาไม่มีความคิดจะทำแบบนั้น

“อันนี้บทให้น้องสิงอ่านก่อนนะ แต่สิงต้องรีบอ่านหน่อยเพราะเขาเปิดกล้องแล้ว” พี่อ้วนผู้จัดการส่วนตัวนักรบหยิบบทส่งให้สิงหา พี่อ้วนเป็นเกย์สาวร่างใหญ่ที่ดูแลนักรบมาตั้งแต่เข้าวงการ ตอนแรกนักรบจะให้ผู้ช่วยพี่อ้วนมาดูแลชายหนุ่มชั่วคราว แต่พอพี่อ้วนรู้ก็รีบขันอาสาอย่างออกนอกหน้า แถมยังต่อว่านักรบที่กีดกันไม่ให้หนุ่มสาวได้สนิทสนมกัน ที่นักรบไม่ให้พี่อ้วนมาตอนแรกเพราะเป็นห่วงสิงหาว่าจะกลัวนี่ล่ะ

“บทแทรกเหรอครับ”

“ไม่เชิงนะ จริงๆ ในเรื่องมีตัวนี้อยู่แล้วแต่ตอนแรกผู้กำกับจะไม่ถ่าย เป็นแค่เอ่ยลอยๆ หรือหาแสตนด์อินมาเล่นไม่เห็นหน้า แต่พอรู้ว่าสิงหากลับมาเขาก็เพิ่มฉากให้เลย พี่ธงชัยเขาเคยร่วมงานกับสิงใช่มั้ย เห็นเขาหาเบอร์สิงอยู่นะ”

“ครับ เคยเล่นหนังพี่ธงสองสามเรื่อง พี่อ้วนมีเบอร์พี่ธงมั้ย เดี๋ยวผมโทรหาแกสักหน่อย”

“มีจ้ะ แป๊บนะพี่หาก่อน สิงนั่งดูอันนี้ไปก่อนว่าสนใจงานไหน” พี่อ้วนยื่นแท็ปเล็ทให้ชายหนุ่มดูงานที่ติดต่อเข้ามา ส่วนใหญ่จะเป็นการถ่ายแบบ มีสัมภาษณ์ออนไลน์สามรายการ แต่ยังไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร บทหนังที่ได้มาเป็นหนังแนวโรแมนติก-ดราม่า นางเอกเคยมีแฟนหนุ่มแสนดีที่เกือบได้แต่งงาน แต่แล้วเขาก็ตายเพราะอุบัติเหตุ พระเอกคือคู่กรณีในอุบัติเหตุนั้น ความสูญเสียของเธอทำให้เขาติดค้างและพยามยามช่วยเหลือ เขาไม่เข้าใจว่าอะไรทำให้เธอผูกพันกับคนที่ตายไปแล้วขนาดนั้น การเดินทางเพื่อระลึกถึงแฟนเก่าจึงเริ่มขึ้น เพื่อพิสูจน์ว่ารักนั้นไม่เกี่ยวกับเวลา...บทที่เขาได้รับคือแฟนเก่าที่ตายไปแล้ว แค่อ่านคร่าวๆ สิงหาก็สนใจ มันมีความลึกซึ้งในแง่มุมของคำว่ารักสอดแทรกอยู่ เขาอ่านแล้วยังรู้สึกอยากดู ถึงมันจะเศร้าแต่ต้องสวยงามมากแน่ๆ เขารีบตกลงรับเล่นทันที ส่วนงานอื่นก็เลือกถ่ายแฟชั่นเสื้อผ้ามาสองแบรนด์ เร็วๆ นี้น่าจะมีงานติดต่อเข้ามาอีก พี่อ้วนจะช่วยหามาเพิ่มอีกทาง


“ดีจังเลยนะครับ อย่างนี้ก็เรียกว่ากลับเข้าวงการเต็มตัวแล้ว” น่านนทีฟังเรื่องงานใหม่ของสิงหาแล้วรู้สึกยินดีกับอีกฝ่ายจริงๆ ปกติถ้าพูดเรื่องงานสิงหามักจะลังเลไม่แน่ใจ แล้วน้ำเสียงก็ไม่ได้มีความสุขแบบนี้ คงดีใจมากถึงขนาดโทรมาเล่าให้ฟัง ถ้าเขาอยู่ที่คอนโดฯ คงลงมานั่งคุยเหมือนทุกครั้งแน่ๆ

“ดีใจตรงจะได้กลับไปถ่ายหนังนี่แหละครับ ถึงจะไม่กี่ฉากแต่มันดีมาก แค่อ่านบทย่อยังอยากดู ถ้าหนังเข้าเมื่อไรปิงไปดูกับผมนะ” สิงหาหลุดปากชวนด้วยความดีใจ พอชวนแล้วก็รู้สึกเขินขึ้นมา

“ได้สิครับ ถึงเวลาอย่าลืมชวนแล้วกัน”

“ไม่ลืมแน่นอน ผมสัญญา”

“แล้วพรุ่งนี้เอาอะไรดีครับ เอาอย่างเดียวพอนะเพราะแม่ปิงอยากให้คุณสิงชิมห่อหมกฝีมือแม่ ไม่ได้ทำขายแต่ทำเผื่อคุณสิงโดยเฉพาะ”

“โหย ขอบคุณคุณแม่มากเลย ผมขอกับสองเหมือนเดิมนะ มะรืนผมไม่อยู่กว่าจะกลับห้องปิงคงเลิกงานแล้ว”

“ได้ครับ พรุ่งนี้มีผัดกระเพราหมูสับ แกงส้ม น้ำพริกกะปิ คั่วกลิ้งกระดูกหมู...”

“เอาคั่วกลิ้งกับน้ำพริกครับ” สิงหาชิงบอกโดยไม่ต้องรอให้น่านนทีพูดเมนูอาหารจนครบ

“เผ็ดๆ ทั้งนั้น คุณสิงกินเผ็ดกว่าปิงอีก”

“แม่ผมดุประจำ บอกว่าเผ็ดเกินเดี๋ยวท้องไส้ทะลุ ผมก็พยายามลดแล้วนะ”

“ต้องหายาลดกรด หรือนมไว้ในห้องบ้างนะครับ เวลาปวดท้องมันช่วยได้”

“ขอบคุณครับ แล้วตอนนี้ปิงทำอะไรอยู่ ผมโทรมากวนหรือเปล่า”

“ปิงนอนเล่นเฉยๆ พ่อแม่ไปงานศพเพื่อนบ้านตั้งแต่บ่ายยังไม่กลับ ปิงเลยอยู่คนเดียว”

“ผมก็อยู่คนเดียวเหมือนกัน พักงานมานานพอจะทำงานจริงๆ ก็เริ่มขี้เกียจยังไงไม่รู้”

“แล้วเมื่อก่อนคุณสิงต้องทำอะไรบ้างเหรอครับ แบบไปฟิตหุ่นอะไรงี้เหรอ”

“ประมาณนั้น ถ้าถ่ายแบบก็ต้องฟิตหน่อย ใส่เสื้อผ้าก็จะดูดีขึ้น แต่ถ้าเล่นหนังก็แล้วแต่บทเลยครับ เคยได้บทคนอ้วนก่อนถ่ายต้องเร่งทำน้ำหนักแทบแย่ ไม่ใช่กินเยอะๆ ให้อ้วนเฉยๆ ต้องมีนักโภชนาการคุม ไม่งั้นตอนลดจะลำบากมาก”

“คุณสิงเคยรับบทอะไรแปลกๆ หรือยากๆ มั้ย”

“ผมว่าปิงต้องไม่ใช่แฟนคลับผมแน่ๆ เลยใช่มั้ย”

“แฮ่ๆ  เอาจริงๆ คือปิงไม่ค่อยดูหนังดูละคร สมัยเรียนส่วนมากติดเกม หนังก็ดูหนังฝรั่งมากกว่า กับพวกหนังผี”

“กลัวผีขนาดนี้ยังชอบดูหนังผีอีกเหรอ”

“ก็นั่นมันหนังไง ยิ่งพวกแวมไพร์ ผีดิบ ซอมบี้นะ ปิงชอบมาก ตื่นเต้นดี”

“อยากตื่นเต้นแวะมาห้องผมบ่อยๆ ก็ได้นะ มาลองเสียบโทรศัพท์ดูอีกสักที”

“โหยยยย คุณสิงอะ ปิงอยู่บ้านคนเดียวนะ อยากแกล้งกันสิ”

“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว ปกติผมไม่ค่อยมีบทแปลกๆ นะ แต่เคยเล่นเป็นคนโรคจิต เป็นหนังร่วมทุนสร้างกับจีน ผมเล่นเป็นฆาตกรโรคจิต ชอบหลอกสาวๆ มาฆ่าหั่นศพแต่เก็บผมไว้ทำวิก แล้วก็เอาวิกไปใช้ในละครเวที”

“คุณสิ๊งงงง ไหนบอกจะไม่แกล้งไง”

“อ้าว ก็ปิงถามเรื่องหนังไง กลัวเหรอ”

“ผีวิก!!”

“ไม่ใช่ผีสิ วิกเฉยๆ ไม่ใช่หนังผีเลย แนวสืบสวน”

“ไม่อะ ผีวิกแน่นอน น่ากลัวออก คุณสิงแสดงได้ไง ไม่กลัวเหรอ ปิงไม่เคยกล้าเล่นวิกเลย สมัยเรียนเดินผ่านชมรมละครแล้วเห็นหุ่นมีวิกใส่อยู่ ปิงวิ่งแทบตกบันได หลอนมาก เดี๋ยวนี้วิกเขาทำจากผมจริงๆ แล้วนะคุณสิงรู้เปล่า ผมจริง! ผมใครก็ไม่รู้ เจ้าของอาจจะตายแล้ววิญญาณติดอยู่กับผมก็ได้ พอดึกๆ มันก็จะลอยไปหาร่างตัวเอง”

“ปิงครับ ตกลงผีวิกหรือกระสือ”

“มันก็คล้ายๆ กันนั่นแหละ น่ากลัว”

“โอเค งั้นเราคุยเรื่องอื่นดีกว่า เดี๋ยวจะหลอนไปมากกว่านี้ ปิงเล่าเรื่องตัวเองบ้างสิครับ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องปิงเลย”

“ก็ได้ครับ แต่ปิงเล่าไม่เก่ง คุณสิงอยากรู้อะไรถามมาดีกว่า”

“เอาง่ายๆ ก่อน ตอนนี้ปิงอายุเท่าไร”

“ปีนี้เบญจเพสพอดีเลย คุณสิงเชื่อเรื่องเบญจเพสมั้ย เขาว่ากันว่าถ้าดวงตกจะเจอเรื่องแปลกๆ อย่างบางคนก็...” แล้วคนที่บอกว่ากลัวผีก็เริ่มเล่าเรื่องชวนหลอนต่างๆ ที่อ่านมาจากอินเตอร์เน็ท ครั้งนี้สิงหาไม่ห้ามอีกแล้ว เขานอนฟังเสียงคนขี้กลัวที่พยายามเล่าโดยใส่ลูกเล่นน้ำเสียงหนักเบาเพิ่มบรรยากาศ สิงหาฟังเรื่องคนหัวขาดที่ไม่รู้ตัวว่าตายแล้วขี่รถกลับบ้านได้ จนไปถึงคนที่โดนฆ่ายัดเพดานฝ้าโรงแรมแล้วกลายเป็นผีแค้นคอยออกมาหลอกแขกที่มาพักห้องนั้น เขาเกือบได้ฟังเรื่องที่สี่ถ้าไม่ได้ยินเสียงพ่อของน่านนทีตะโกนเรียกแทรกเข้ามา วันนี้เลยต้องบอกลากันแค่นี้ ยังไม่ดึกพอจะบอกฝันดีแต่เขาก็พูดออกไป...อีกครั้ง




ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/



ก่อนเริ่มถ่ายทำสิงหาต้องไปแคสบทให้ผู้กำกับดูก่อนเพื่อความมั่นใจของทุกฝ่ายว่าความสามารถเขายังคงเหมือนเดิม บทที่ได้รับไม่ได้ซับซ้อนแต่ต้องแสดงออกถึงความรู้สึกให้ชัดเจนมากที่สุด ทั้งสีหน้า ท่าทาง แววตา ผู้กำกับและทีมงานให้สิงหาแสดงบทช่วงสำคัญของเรื่อง และเขาแสดงให้เห็นว่าเวลาไม่ได้พรากความสามารถไป ที่มากกว่าเดิมคือความเฉียบคมและการเข้าถึงบทที่ใช้เวลาได้เร็วกว่าเมื่อก่อน หลังเซ็นสัญญาค่าตอบแทน ฟิตติ้งชุด รับบทหนังฉบับเต็มมาอ่านได้ห้าวันก็เริ่มเข้ากองถ่ายทันที


รักนี้เหนือการเวลา เป็นเรื่องราวของรุ้งทอ หญิงสาวที่จมกับความทุกข์ของการสูญเสียว่าคนรักที่กำลังจะแต่งงานกัน เธอไม่สามารถผ่านความโศกเศร้าไปได้ ภาพจำของคนรักคอยหลอกหลอนเธอไปทุกที่จนเธออยากยอมแพ้ คนเดียวที่เฝ้ามองเธอคือปกป้อง ชายหนุ่มที่มีส่วนร่วมในอุบัติเหตุที่ทำให้คนรักเธอต้องจากไป แม้เขาจะไม่ใช่คนผิด แต่การมีคนตายจากเหตุการณ์รถชนครั้งนั้นทำให้ชีวิตเขาไม่เหมือนเดิมอีก เขาคอยเฝ้ามองผู้หญิงคนหนึ่งที่หัวใจสลาย จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี เธอยังคงเศร้าเสียใจ คนที่ทนไม่ไหวก็คือเขา การใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างคนไม่มีหัวใจและมีแนวโน้มว่าจะละทิ้งทุกสิ่งแม้ชีวิตตัวเอง เขาก้าวเข้ามาในชีวิตเธอ ไม่ใช่เพื่อปลอบใจ แต่เพื่อเรียนรู้ อะไรทำให้เธอรักคนๆ หนึ่งได้มากขนาดนี้

“ชีวิตนี้มันมีอะไรอีกเยอะแยะ ยังมีอีกหลายคนที่เป็นห่วง ครอบครัว เพื่อน มองพวกเขาบ้าง อย่าคิดทำอะไรโง่ๆ ได้มั้ย”

“นายไม่เข้าใจหรอก แฟนนายไม่ได้ตายนี่”

“ต่อให้แฟนฉันตายฉันก็ไม่เป็นแบบเธอ ฉันรู้นะว่าจริงๆ เธอกับแฟนก็คบกันแค่ไม่กี่เดือนเอง” เขาไม่ได้อยากสบประมาท แต่จากที่สืบมาผู้ชายที่ตายไปฐานะค่อนข้างดีกว่าผู้หญิงคนนี้ ทั้งคู่คบกันไม่นานก็จะแต่งงาน คนรอบข้างหลายคนไม่ค่อยเห็นด้วย แถมบางคนยังคิดว่าเธอน่าจะปล่อยตัวเองให้ท้องเพื่อแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่รวยกว่า แต่ผ่านมานานขนาดนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าเธอไม่ได้ท้องก่อนแต่ง แต่ความรักความผูกพันของเธอกับคนตายในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้เขาไม่เข้าใจ หลายๆ คนไม่เข้าใจและบางคนก็เอือมระอาในการแสดงออกที่เหมือนจะมากเกินไป

“นั่นเพราะแฟนนายไม่ใช่คนแบบเขา ต่อให้ฉันคบเขาแค่วันเดียวฉันก็จะรักเขามากขนาดที่นายไม่มีวันนึกถึง”

“ถ้าเขาดีขนาดนั้นจริงก็พิสูจน์สิ พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคู่ควร” ส่วนหนึ่งของปกป้องร้องออกมาด้วยความอิจฉา อิจฉาผู้ชายที่ได้รับความรักจากผู้หญิงคนหนึ่งมากขนาดนี้

“คัท!! เยี่ยมมากทุกคน กัปตันสายตาแบบเมื่อกี้ดีมาก จำความรู้สึกเมื่อกี้ไว้นะ อิจฉานะแต่ไม่แสดงออก ไม่ใช่หึง ทำได้ดีมาก” พี่ธงชัยผู้กำกับเอ่ยชมกัปตันพระเอกของเรื่อง จีด้าที่แสดงเป็นรุ้งทอเดินมาแซวอีกฝ่ายที่ได้รับคำชมคนเดียวก่อนแยกกันไปพัก สิงหานั่งท่องบทและทำอารมณ์อยู่ในห้องพัก ฉากต่อไปเป็นฉากในความทรงจำของรุ้งทอ ครั้งแรกที่เจอคีตะ


บันไดหนีไฟบนตึกสูงมักว่างเปล่าเสมอ ยกเว้นวันนี้ที่มีเสียงร้องไห้ของรุ้งทอดังก้อง คีตะพนักงานหนุ่มที่หลบออกมาโทรศัพท์ยืนมองเธอจากช่องบันไดชั้นบน เขาวิ่งกลับไปโต๊ะทำงานตัวเองแล้วหยิบกล่องกระดาษทิชชู่พร้อมกดน้ำอัดลมกระป๋องที่ตู้ตรงทางเดิน แล้วรีบวิ่งกลับมาหาเธอ ไม่มีคำพูดจา แค่นั่งอยู่ข้างๆ เปิดฝาเครื่องดื่มส่งให้อีกฝ่ายรับไปถือไว้ น้ำตายังคงไม่หยุดไหล ความกดดันทุกๆ อย่างมันระเบิดออกมาเพราะคิดว่าจะไม่มีใครเห็น ตอนนี้เลยหยุดยาก คีตะคอยยื่นกล่องกระดาษทิชชู่ให้จนเธอเริ่มอายจึงหยุดร้องแล้วเอ่ยขอบคุณเบาๆ ก่อนรีบเดินหนีไป


รุ้งทอมักคิดว่าเธอเป็นคนดวงซวยเสมอ เข้าทำงานได้ไม่นานก็โดนหัวหน้าบ่นเรื่องการมาสาย ทั้งที่ความจริงเธอมาตรงเวลาแต่เครื่องแสกนนิ้วเข้างานมีปัญหาทำให้เธอต้องยืนรอ กว่าจะใช้ได้ก็เลยเวลาเข้างานแล้ว ฝ่ายบุคคลแจ้งว่าจะทำบันทึกแนบไว้ตอนสิ้นเดือนให้ว่าเธอมาตรงเวลา แต่พอสิ้นเดือนกลับไม่มีการแจ้งอะไรทั้งนั้น เธอมาสายถึงเจ็ดวัน ทุกวันมักมีเหตุให้ต้องล่าช้าเพราะคนอื่น ไม่ว่าจะการใช้ให้เดินเอกสารก่อนมาแสกนนิ้ว หรือแม้แต่การให้ลงไปซื้อกาแฟ เด็กใหม่ที่ยังไม่ได้บรรจุอย่างเธอจึงจำยอมอย่างพูดไม่ได้ ทางแก้ปัญหาคือมาก่อนเวลางานหนึ่งชั่วโมง ปัญหาอีกอย่างคืองานมักจะถูกโยนมาใส่ก่อนเวลาเลิกงานทำให้ต้องทำโอทีทั้งที่ยังไม่มีค่าโอทีให้ ตื่นเช้ากว่าคนอื่นกลับดึกกว่าคนอื่น อย่างเดียวที่พอจะทำให้มีความสุขจนผ่านแต่ละวันไปได้คือชายหนุ่มที่เริ่มเข้ามาในชีวิตเธอ


คีตะมักจะทำให้เธอหัวเราะอยู่เสมอ เขาเหมือนพ่อมดหรือผู้วิเศษ มีพลังในการอ่านใจคน คาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้า รู้ว่าต้องซื้อน้ำอัดลมเย็นๆ ให้เธอดื่มเวลาเธอเครียด การได้เรอออกมาทำให้เธอรู้สึกตัวเบาแฝงความสะใจนิดๆ คนแรกที่เคยฟังเธอเรอคือคีตะ คนที่สองคือปกป้อง เขายกมือบีบจมูกแต่ก็ยังยืนมองผู้หญิงบ้าดื่มน้ำอัดลมไปครึ่งลิตรแล้วตั้งหน้าตั้งตาเรอไม่หยุด เธอพาเขาไปทุกๆ ที่ที่มีเรื่องราวซ่อนอยู่ ครั้งแรกที่เดท ครั้งแรกที่จับมือ ขอคบกัน ฉลองวันเกิด ฉลองวันพระ คีตะเป็นผู้ชายที่โรแมนติกกึ่งๆ บ้า มีแม้แต่วันฉลองซื้อที่เหลาดินสอ การเดินทางไปที่ต่างๆ กับรุ้งทอทำให้ปกป้องรู้สึกสนุกและเริ่ม...รักเธอ การเดินทางย้อนรอยความรักของคนทั้งคู่มาจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตคีตะ เขาย้อนกลับมาที่จุดเกิดเหตุ ถนนใต้ทางด่วนยามค่ำคืน เงยหน้ามองขึ้นไปด้านบนที่มีทางด่วนพาดผ่าน แม้จะดึกมากแล้วแต่การจราจรก็ยังมีสม่ำเสมอ
“รถผมเสียบนทางด่วน รุ้งรอก่อนนะ ผมโทรตามช่างแล้วเดี๋ยวก็คงมา ใจเย็นๆ นะ” คีตะพูดอย่างร้อนรน นอกรถฝนตกหนักจนแทบมองไม่เห็นทาง เขาแทบจะบินไปถ้าทำได้ รุ้งทอเป็นคนคิดมากเขารู้ พอเริ่มเตรียมงานแต่งแล้วได้ยินคนรอบข้างพูดว่าเร็วเกินไป เพิ่งคบกันไม่นาน ฐานะไม่เท่าเทียมระหว่างพนักงานใหม่กับผู้จัดการฝ่ายการตลาด แม้กระทั่งข่าวลือว่าท้องก่อนแต่ง เธอเริ่มกังวล อยากจะเลื่อนงานแต่งงานออกไป แต่เขาไม่อยากรออีกแล้ว เขารอมานานแล้ว ในที่สุดรถช่างก็มา เขาให้ช่างลากรถไปอู่แล้วเดี๋ยวเขาจะเรียกแท็กซี่ไปต่อเอง ไม่อยากเสียเวลารอซ่อมรถ ทั้งช่างและคีตะช่วยกันเกี่ยวตะขอใต้กันชนหน้า เสียงโครมเบาๆ ทำให้ทั้งคู่สะดุ้งแล้วขยับถอยห่างจากหน้ารถ ก่อนจะเห็นรถคันหนึ่งขับปาดออกมาจากท้ายรถแล้วรีบขับหนีไป ทั้งคู่มองกันอย่างตกใจและโล่งใจ ถึงชนแล้วหนีก็ช่างเถอะ ท้ายรถมีรถจอดอีกคัน ท่าทางจะเบรกสุดตัวหลังจากคันเมื่อกี้ชนท้ายรถเขาแล้วรีบขับหนีไป รถคันนั้นเริ่มตบไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลนหลบรถเขาที่จอดเสียอยู่ คีตะมองผ่านม่านน้ำฝนเห็นคนขับรถชัดเจนเพราะแสงไฟเจิดจ้าสาดส่องเข้ามา รถบรรทุกคันใหญ่วิ่งมาด้วยความเร็วและเบรกไม่ทัน ภาพนั้นเหมือนโดมิโน่ ตัวหนึ่งล้ม ตัวที่เหลือก็เริ่มล้มตาม เมื่อคันหนึ่งโดนชนด้วยความแรง มันจึงกระแทกรถคันที่จอดอยู่ แล้วก็กระแทกกับผู้ชายสองคนที่อยู่หน้ารถ คนหนึ่งกระเด็นไปกลางถนน อีกคน...ตกลงจากทางด่วน

“คัท!!” เสียงผู้กำกับตะโกนเรียกสติทีมงานและนักแสดงที่อินกับฝีมือการแสดงของทุกคนในฉากนี้ พวกเขาแทบจะวิ่งเข้าไปดึงสิงหาออกจากหน้ารถเมื่อเห็นแววตาตกใจระคนตื่นกลัวนั้น เพียงแค่มองสบตา คำพูดนับหมื่นเหมือนไหลออก คนที่ได้รับผลมากที่คนคือตัวประกอบที่แสดงเป็นคนขับรถ เขานึกว่าตัวเองผิดคิวแล้วชนเข้าไปจริงๆ ได้แต่ลูบอกตัวเองเมื่อเห็นทีมงานปลดสลิงจากด้านล่างแล้วส่งสัญญาณมือว่าปลอดภัย

“พี่สิงเป็นไงบ้าง โอเคมั้ย” กัปตันยืนตะโกนลงไปถามคนที่นอนแผ่บนเบาะรอง รุ่นพี่นักแสดงมากฝีมือคนนี้ช่วยให้พวกเขาเข้าบทได้เร็วมากๆ ทุกฉากที่เล่นกับสิงหาแทบจะไม่มีเทค ยกเว้นมุมกล้องหรือแสงไม่ได้อย่างใจผู้กำกับเท่านั้น แม้บทสิงหาจะน้อยแต่ดันมีฉากเสี่ยงตายเข้ามาทำให้ทุกคนเป็นห่วง เมื่อจบฉากนี้ก็ไม่มีคิวที่ต้องเข้าฉากร่วมกันแล้ว กัปตันค่อนข้างเสียดาย

“จุก!! ผมจะเป็นหมันมั้ยเนี่ย!” สิงหาแกล้งตะโกนถามทีมงานให้ได้หัวเราะกัน บทที่ยากที่สุดผ่านไปแล้ว ที่เหลือก็แค่ถ่ายเก็บซีนเดี่ยวนิดหน่อย


“เล่นเฉียบขึ้นนี่หว่าสิง จบเรื่องนี้พี่มีเรื่องใหม่รอแก้บทอยู่ มาเล่นเต็มๆ ให้พี่สักเรื่องสิวะ”

“ได้ดิพี่ ผมว่าง” วันนี้เขาถ่ายเสร็จเป็นคนสุดท้าย ก่อนกลับพี่ธงชัยเลยชวนเขาแวะกินข้าวด้วยกัน หรือพูดอีกอย่างคือเรียกมาบ่นย้อนหลัง พี่ธงชัยเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่เขาร่วมงานบ่อย คุ้นเคยจนนับถือเป็นพี่กึ่งพ่อเพราะคอยสอนคอยให้ความรู้เขาเสมอ แต่หลังๆ นานๆ จะกำกับหนังสักเรื่อง เน้นละครมากกว่าเลยไม่ค่อยได้ร่วมงานกันไปช่วงหนึ่ง ตอนนี้ได้ข่าวว่ากลับมาทุ่มให้งานหนังเหมือนเดิมแล้ว

“ไม่รออ่านบทก่อนวะ เผื่อไม่ชอบ ไม่ได้บังคับนะเว้ยแต่อยากให้ลอง”

“ผมเชื่อพี่ ไม่ต้องพระเอกก็ได้ บอกตรงๆ นะพี่ ตอนที่กลับมาก็คิดว่าเออ ถ้าไม่กลับมาแสดงก็จะไปเปิดร้านขายของกับที่บ้านแล้ว จริงๆ ไม่กลับเข้าวงการมันก็อยู่ได้สบายดี แต่พอกลับเข้ากองถ่าย ได้ยินเสียงกล้อง เสียงพี่ เสียงทีมงาน ได้ต่อบทกับคนอื่น แม่งโคตรคิดถึงเลย”

“เออกูเข้าใจ มึงเป็นนักแสดง ไม่ต้องสนพวกข่าวบ้าบออะไร นักแสดงเกิดและตายก็ด้วยฝีมือเว้ยไม่ใช่ข่าวห่าเหวอะไรพวกนั้น กูเห็นบางคนเมายามากองถ่ายยังไม่มีใครทำอะไร มึงแม่งไม่ได้ทำเหี้ยอะไรจะไปขอโทษทำไม กูรอด่ามึงตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่เสือกโทรไม่ติด”

“โทษทีพี่ ช่วงนั้นมันอ่อนไหว”

“เออ มึงมันอ่อน รู้ตัวซะ กลับมาก็ทำตัวดีๆ ใครด่าไม่เข้าหูมึงด่าตอบไปบ้างก็ได้ ถ้ามึงเลวจริงก็ไม่มีใครจ้างมึง ไม่มีงานก็พิสูจน์ได้แล้วว่าไม่มีคนเอามึง แต่ตอนนั้นมึงทำอะไร ถอนตัวไป ต้องจ่ายค่าฉีกสัญญากี่ล้าน มึงติดหนังกูสองเรื่องนะบอกไว้ก่อน” พี่ธงชัยเคยเป็นพระเอกเก่า ฝีมือดี นิสัยดี เสียอย่างเดียวเวลาเมาชอบเรียกคนที่แกชอบมาด่า สิงหาจำได้ว่าตอนนั้นเขาเป็นแบรนแอมบาสเดอร์ให้สินค้าหลายตัว พอเกิดเรื่องแทบทุกบริษัทติดต่อมาขอยกเลิกสัญญา รายการบางช่องแจ้งเลื่อนออกอากาศที่เขาได้ไปถ่ายไม่มีกำหนด มีหนังแค่เรื่องเดียวที่ขอฉีกสัญญา นอกนั้นเขาเป็นคนยกเลิกเอง ซึ่งต้องจ่ายค่าเสียหายไปหลายล้าน

“เรียกว่าซื้อความสบายใจดีกว่าพี่ ตอนนั้นให้ทำงานต่อคงไม่ไหว ผมหงุดหงิด พ่อป่วยพอดีเลยได้โอกาส”

“โอกาสหรือข้ออ้าง พอๆ ไม่ต้องมาตีสำนวนกับกู ว่างๆ เข้าไปหาอาตู่ด้วย เขาบ่นถึงมึงตลอด แล้วเดือนหน้าวันเกิดซ้อมึง อย่าลืมมาด้วยล่ะ” พี่ธงชัยบ่นๆ สั่งๆ เสร็จก็เรียกคนขับรถที่นั่งโต๊ะข้างๆ ให้เดินตามออกไป ทิ้งเขาให้จ่ายเงินค่าอาหารเป็นการเอาคืนที่หนีไปไม่ร่ำลา บางความสัมพันธ์มันก็เริ่มต้นและสานต่อกันง่ายๆ แบบนี้ แต่บางอย่างหรือกับบางคน....กลับยากเหลือเกิน


“เดี๋ยวมีไปถ่ายอีกคิวก็หมดแล้วครับ จริงๆ บทนี้เขากะถ่ายแบบไม่เห็นหน้าตอนแรก แต่หน้าตาผมดีเกินกว่าจะตัดออกก็เลยต้องโชว์หน้าด้วย”

“โหคุณสิง มีใครหลงตัวเองได้เท่าคุณอีกมั้ยเนี่ย ถ้าไม่เสียดายไอติมนี่จะแหวะออกมาแล้วนะ” น่านนทีแกล้งวางช้อนที่แย่งตักไอศกรีมในกล่อง คนซื้อมาบอกว่าของฝาก แต่ไหงคอยแย่งช้อนตักแข่งกับเขาคำต่อคำแบบนี้ก็ไม่รู้

“จะแหวะแสดงว่าอิ่มแล้วใช่มั้ย งั้นที่เหลือของผม”

“อ้าว อย่าทำงี้สิครับ ไหนบอกของฝากไง ทำไมแย่งปิงกินจนจะหมดแล้วล่ะ”

“ปิงกินน่าอร่อยเกินไปผมก็อยากชิมมั่งสิ” สิงหาอมยิ้มให้กับความซื่อของคน ถ้าเป็นคนอื่นคงมีอายกับการจูบทางอ้อมแบบนี้ แต่คนนี้กลับหวงของกินอย่างเดียว หน้านิ่วคิ้วขมวด แก้มป่องเพราะพยายามตักไอศกรีมคำใหญ่ไปยัดไว้แล้วก็หลับตาปี๋เพราะความเย็นจัดภายในปาก เฮ้อ...ทำไมเป็นคนความรู้สึกช้าแบบนี้เนี่ย

“ปิงพอจะรู้จักร้านขนมไทยที่รับจัดกระเช้ามั้ย ผมอยากสั่งไปไหว้ผู้ใหญ่หน่อย”

“ร้านที่ปิงกินประจำไม่รู้รับจัดหรือเปล่า แต่น่าจะทำนะครับเพราะร้านใหญ่ เดี๋ยวปิงเช็คให้” คนบอกจะเช็คเดินถือกล่องไอศกรีมกลับไปหลังเคาน์เตอร์กดคอมพิวเตอร์หาร้านขนมที่ตัวเองชอบกิน อ่านรีวิวคร่าวๆ ว่ามีรับจัดกระเช้าก็พยักหน้าเรียกอีกฝ่ายให้มาดู ปากอมไอศกรีมจนแก้มป่อง นิ้วจิ้มหน้าจอสองครั้งให้อีกฝ่ายดูรูปตัวอย่างกระเช้าขนมไทย

“ดีครับ ผมชอบ ปิงสั่งให้หน่อยได้มั้ย เอาสามกระเช้า ไม่ๆ สี่ดีกว่า เอ้อ เปลี่ยนเป็นห้าเลย ห้ากระเช้าขอวันอังคารหน้า” วันนี้วันพฤหัส ร้านน่าจะทำทัน

“ตกลงห้านะครับ เอาแบบไหนดี ดูในเพจร้านมีหลายราคานะ”

“เอาแบบที่มีพวงมาลัยสาม แล้วก็แบบนี้อีกสอง ขนมเอาตามในรูปเลยนะครับ อ้อเพิ่มลูกชุบล้วนอีกหนึ่ง”

“เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าปิงสั่งให้นะ” ตอนนี้ดึกแล้วไม่งั้นเขาคงไม่กล้าแอบกินขนมตรงนี้แน่ ช่วงนี้น่านนทีคิดว่าน้ำหนักเริ่มขึ้นเพราะสิงหาชอบซื้อของมาฝากบ่อยๆ ตอนนี้กลายเป็นสุดหล่อสายเปย์เบอร์หนึ่งขวัญใจชาวคอนเซียซไปแล้ว นอกจากหล่อยังใจดี ชอบซื้อของฝากมาให้พวกเขาบ่อยๆ แรกๆ ออมอยากจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกไม่ยอมกิน แต่พอหลายครั้งเข้าออมก็เริ่มชินกับดาราหนุ่มคนนี้ไปแล้ว ถามว่าชินแล้วเลิกเพ้อหรือเปล่า คำตอบคือเปล่า นับวันยิ่งหนักกว่าเดิม ตอนนี้คุณสิงของออมทำอะไรก็ดีไปหมด น่ารักไปหมด เท่ไปหมด แถมยังชอบมีคำพูดประหลาดๆ มาแซวเขาให้หัวเราะบ่อยๆ บางครั้งแซวต่อหน้าสิงหาก็ทำให้เขาทำตัวไม่ถูก เหมือนจะร้อนหน้าร้อนหูนิดหน่อย

“ครับ พรุ่งนี้ปิงก็ทำงานเวลานี้ใช่มั้ย”

“ใช่ครับ มีอะไรหรือเปล่า”

“เสียดายจัง พรุ่งนี้ผมนัดกินข้าวกับเพื่อนที่ห้องชวิน ทำอาหารกินกันเองน่ะครับ เลยว่าจะชวนปิงไปด้วย แว้บไปได้มั้ย”

“ไม่ได้เลยครับ แต่ถ้าคุณสิงใจดีห่อมาให้ปิงชิมสักนิดจะดีมากเลย คุณชอบชวนปิงกินมื้อดึกตลอด คืนไหนไม่ได้กินนอนไม่หลับทุกที ต้องรับผิดชอบกระเพาะปิงนะ”

“รับผิดชอบทั้งตัวก็ได้”

“....แล้ว...จะทำอะไรกินกันเหรอ” น่านนทีชะงักไปนิดหน่อย ไม่ใช่แค่คำพูดแต่แววตาคุณสิงด้วยด้วย ออมเคยแซวว่าอีกฝ่ายชอบทำตาเจ้าชู้หว่านเสน่ห์ใส่เวลาคุยกับเขา กับคนอื่นก็คุยเฉยๆ ไม่มีอมยิ้มหรือทำตาวิ้งใส่แบบนี้

“ชาบูครับ ชวินมันจะเตรียมเนื้อเอง อ้อ ผมจะโชว์ฝีมือทำสเต็กด้วย เดี๋ยวผมทำมาให้ชิม รับรองติดใจ”

“ได้ครับ ปิงจะกินข้าวเย็นน้อยๆ เผื่อท้องรอสเต็กคุณสิงนะ”

“รับรองว่าอร่อยไม่ท้องเสียแน่ๆ ถ้าท้องเสียเดี๋ยวผมดูแลเอง”

“....พูดอย่างนี้แล้วปิงจะกล้ากินมั้ย”

“กินเถอะ ปกติผมไม่ทำให้คนอื่นกินหรอกนะถ้าไม่พิเศษจริงๆ”

“ก็...ก็....อืม”

“ดึกแล้วผมไม่กวนปิงละ เริ่มง่วงเหมือนกัน ตั้งใจทำงานนะครับ”

“ครับ คุณสิงก็...ฝันดีนะครับ”

“ขอบคุณครับ ฝันดีล่วงหน้าเหมือนกัน” สิงหาเดินยิ้มจากไป เขาหยอดทั้งอ้อมทั้งตรงขนาดนี้ ปิงจะทำซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราวอีกก็ให้รู้ไปสิ คนอะไร...ซื่อบื้อได้น่ารักที่สุด


วันต่อวันเจ้าของห้องที่บอกจะเตรียมอาหารเองโทรตามสิงหาตั้งแต่หกโมงเย็นทั้งที่นัดกันสองทุ่ม เนื้อทุกอย่างซื้อสำเร็จมาแล้ว สำหรับใส่ชาบูก็สไลด์มา สำหรับทำสเต็กก็เป็นชิ้นขนาดสขนาดกำลังพอดี มีหมูคุโรบูตะ ปลาหิมะ และเนื้อสันนอก แค่หมักทิ้งไว้ก็เสร็จ ที่มีปัญหาคือคนอยากกินชาบูทำน้ำชาบูไม่เป็นและไม่ได้ซื้อสำเร็จมา รวมถึงน้ำจิ้มด้วย ก่อนที่ชวินจะแก้ปัญหาโดยการโทรลงไปให้คนไปซื้อเหมือนอย่างทุกที สิงหาลากเพื่อนสนิทขับรถออกมาที่ฟูดแลนด์ใกล้ๆ เปิดดูรีวิวในเน็ตแล้วซื้อเครื่องปรุงน้ำจิ้ม ผักต่างๆ ตามกระทู้นั้น กลับมาถึงห้องก่อนเวลานัดนิดหน่อย ทุกอย่างพร้อมรอเพื่อนอีกสองคนมา

“หอมว่ะสิง มีมันบดมั้ย กูเริ่มไม่อยากกินชาบูแล้ว” ชวินเดินป้วนเปี้ยนข้างหลังพ่อครัวที่ยืนย่างสเต็กบนกระทะ กลิ่นหอมของเนื้อและเครื่องเทศอบอวลไปทั้งครัว

“มีแต่สเต็ก มีไม่กี่ชิ้นเอง มึงไม่อิ่มหรอก”

“มีอย่างละตั้งสองชิ้น ให้ไอ้สองคนนั้นแดกชาบูไป กูขออย่างละชิ้นก็อิ่มแล้ว”

“ไม่ได้ อันนี้กูทำให้ปิง”

“อะไรวะ เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน ปิงตัวแค่นั้นชิ้นเดียวก็พอ อย่างมากก็สองชิ้น ที่เหลือกูจอง”

“เสียใจ อันนี้กูจะทำฝากไปให้พ่อแม่ปิงชิม ของมึงมีแค่เนื้อสองชิ้น”

“เฮ้ย ไม่เอาดิ คุณพี่สิงที่รัก ขอหมูอีกชิ้น ปลาก็ได้ นะๆ กูจองตั้งแต่มึงหมักแล้วนะ ขอเหอะ”

“เออๆ ก็ได้ เอาหน้ามึงไปไกลๆ ดิ๊ โน่นไอ้พวกนั้นมาถึงแล้วมั้ง ลงไปรับมันดิ” สิงหาได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเพื่อนเลยรีบไล่อีกฝ่ายไปไกลๆ ระหว่างทำเขาก็ถ่ายรูปส่งไปให้น่านนทีเรื่อยๆ อีกฝ่ายส่งสติ๊กเกอร์ตลกๆ กลับมา เป็นรูปตัวการ์ตูนน้ำลายไหลบ้าง โกรธบ้าง อันล่าสุดเป็นรูปหมูร้องไห้

“เดี๋ยวนี้เขาพัฒนาแล้วนะครับ มีคุยไลน์กันด้วย” เต้เดินเข้ามายืนด้านหลังแอบอ่านข้อความเงียบๆ สิงหารีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงขาสั้นของตัวเอง

“อะไร แค่นี้ต้องแอบ” โบ้ที่ยืนแอบอ่านอีกข้างบ่นเบาๆ แต่สิงหาสะดุ้งโหยงเพราะนึกว่ามีแค่เต้ที่อยู่ด้านหลัง เต้หัวเราะกับท่าทางของเพื่อนที่โดนพวกเขารุมหัวแกล้ง

“ตกลงยังไง จีบจริงจังแล้วใช่มั้ย” โบ้ถามด้วยความอยากรู้เพราะเขาเห็นรูปโปรไฟล์เล็กๆ ที่เป็นใบหน้าน่านนที หนุ่มร่างบางที่ชวินกับเต้แอบเชียร์มาสักพัก

“ก็คุยเรื่อยๆ ไม่รีบ”

“แต่ดีใช่มั้ยคนนี้ ไม่ได้จีบเพราะแรงยุพวกกูนะ” เต้รีบถามก่อน แต่จากประสบการณ์คราวก่อนสิงหาไม่น่าจะทำอะไรตามแรงยุเพื่อนง่ายๆ อีกหรอก

“เออ จีบเอง คุยแล้วสบายใจดี น่ารัก”

“ห่า ยิ้มนะมียิ้ม ชอบเขาก็บอกมา”

“เรื่องของกูน่ะ” สิงหาแกล้งยันเท้าเข้าที่สะโพกเต้ที่ยืนทำหน้าล้อเลียน วิธีทำให้พวกนั้นหยุดล้อคือย่างสเต็กมาปิดปาก แล้วรีบเริ่มมื้ออาหารอย่างจริงจัง เครื่องดื่มเต้กับโบ้เป็นคนเตรียมมา คราวนี้เน้นเหล้าสัญชาติญี่ปุ่นให้เข้ากับชาบู มีทั้งเหล้าบ๊วย สาเกและวิสกี้ ค่อยๆ ดื่มเพิ่มระดับกันไป แต่สิงหาพยายามประคองสติให้มากที่สุด เพราะเขายังต้องเอาอาหารว่างไปส่งพนักงานคนเก่งที่ล่าสุดเพิ่งส่งสติ๊กเกอร์หมูโกรธมาให้


“เอาอาหารว่างมาส่งแล้วครับ” สิงหาเดินหิ้วปิ่นโตลงมาด้านล่างเมื่อเพื่อนเริ่มตั้งวงดื่มกันจริงจังระหว่างดูบอล เขาเองก็ดื่มระหว่างมื้อไปไม่น้อย เดินยังตรงแต่หน้าอาจจะแดงนิดหน่อย

“คุณสิงหน้าแดงด้วย เมาหรือเปล่าครับ”

“นิดหน่อยครับ ยังไม่เมา ไปนั่งตรงโซฟาแป๊บนึงดีกว่า ผมเอาชาบูมาให้ชิมด้วย ยังร้อนๆ อยู่” เขาชูปิ่นโตสามชั้นให้ดู ชั้นบนสุดเป็นชาบูพร้อมเส้นอูด้งนิดหน่อยพอให้อิ่มท้อง ส่วนสเต็กสามชิ้นที่เหลือไว้ให้น่านนทีเอากลับไปกินที่บ้าน

“น้ำซุปหอมมากเลย น่ากินมาก ปิงกินเลยนะ” น่านนทียกชั้นปิ่นโตที่แยกออกมาขึ้นดมก่อนค่อยๆ ซดน้ำ ใช้ตะเกียบที่อีกฝ่ายเตรียมมาให้ค่อยๆ คีบเนื้อมาลิ้มรส ไม่ต้องจิ้มอะไรก็กลมกล่อมกำลังพอดี สิงหาพิงเบาะมองคนเคี้ยวแก้มตุ่ย ตาหยีเป็นสระอิเพราะมีความสุขกับอาหาร เห็นแล้วอดยิ้มตามไม่ได้ น่านนทีถามเรื่องวิธีหมักสเต็กวิธีย่างให้ออกมาน่ากินแบบนี้ เขาค่อยๆ ตอบอย่างไม่รู้เบื่อ กว่าจะรู้ตัวชาบูก็หมดไม่เหลือแม้แต่น้ำ แถมยังใช้ตะเกียบคีบสเต็กปลาหิมะมากินอีกเกือบครึ่งชิ้น คนกินเก่งลูบท้องที่ป่องขึ้นนิดหน่อยอย่างมีความสุข

“เห็นในรูปมีแต่พวกเหล้าญี่ปุ่น กินหลังซดซุปร้อนๆ คงฟินน่าดู ปิงไม่เคยกินเหล้านอกแปลกๆ แบบที่คุณสิงส่งรูปให้ดูเลย”

“ก็ไม่ได้แปลกอะไรนะ เหล้าบ๊วยมันก็จะหวานๆ หอมๆ หน่อย”

“แต่มันเหมือนกล่องนมเลย”

“แอลกอฮอลล์น้อยมาก อยากลองมั้ยครับ โบ้เอามาเยอะเดี๋ยวผมเอามาให้ลอง”

“ไม่เอาหรอกครับ ปิงทำงานอยู่นะอย่าลืม แค่มานั่งกินตรงนี้ก็เสี่ยงโดนร้องเรียนแล้ว” มุมนี้ก็คือมุมที่สิงหาเคยมานอน ค่อนข้างหลบสายตาคนอื่นและหลบมุมกล้องวงจรปิดที่ส่องมา มองเห็นแค่ด้านหลังไกลๆ แต่มองไม่เห็นอาหารบนโต๊ะแน่นอน

“งั้นไว้วันหยุดค่อยลองนะ ช่วงนี้พวกผมนัดกันบ่อย ยังเหลือที่ห้องชวินอีกเพียบ”

“ได้ครับ ขอชิมๆ นิดเดียวพอ ปิงดื่มไม่เก่ง”

“งั้นต้องลองอันนี้ เดี๋ยวผมเปิดรูปให้ดู กล่องชมพูแอลฯ น้อยสุด กล่องเขียวๆ นี่ก็ด้วย แต่กล่องเขียวอร่อยกว่า อันชมพูเหลือเยอะสุดเพราะไม่มีใครชอบเลย” สิงหาย้ายมานั่งข้างน่านนที หยิบโทรศัพท์เปิดอัลบั้มรูปที่ถ่ายไว้ให้ดู ปกติเขาไม่ชอบถ่ายรูปอาหาร แต่เพราะต้องการแกล้งให้คนหิวเลยถ่ายแทบทุกอย่างที่กินวันนี้

“กล่องมันน่ารักเกินกว่าจะเป็นเหล้าเนอะ ญี่ปุ่นนี่ทำแพ็คเกจเก่งจริงๆ” เขามองบรรดาเหล้าชนิดต่างๆ ที่สิงหาถ่ายรูปเก็บไว้ก็เดาได้ว่าคืนนี้คงอีกยาวไกลสำหรับชายหนุ่มกลุ่มนี้ นั่งคุยไม่นานเพื่อนๆ บนห้องเริ่มส่งข้อความมาแซว แถมน่านนทีที่กำลังดูรูปบนหน้าจอเห็นข้อความแจ้งเตือนพอดีเลยยิ่งทำหน้าไม่ถูก สิงหาอมยิ้มกับความช่างแกล้งของเพื่อนที่ช่วยให้สถานการณ์ระหว่างพวกเขาชัดเจนขึ้น

“พวกนั้นเริ่มป่วนแล้ว ผมกลับขึ้นไปก่อนดีกว่า”

“ครับ” น่านนทีแทบไม่กล้ามองหน้าคนข้างๆ อะไรคือ ‘อย่ามัวแต่จีบปิง กลับขึ้นมาได้แล้ว’

“ผมไปนะ” สิงหาลุกขึ้นยืน น่านนทีค่อยๆ ลุกขึ้นตาม หยิบปิ่นโตมาถือไว้ พรุ่งนี้ค่อยเอามาคืน

“จะไปจริงๆ แล้วนะ”

“ก็...ไปสิครับ”

“แล้ว...วันนี้ไม่บอกฝันดีเหรอครับ”

“....คุณสิงยังไม่นอนสักหน่อย”

“ปกติก็เคยบอกล่วงหน้านี่นา”

“.....ฝันดีครับ”

“ขอบคุณครับ ปิงก็ฝันดีล่วงหน้านะ” เขายื่นมือลูบผมนุ่มของอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนเดินจากมา ได้แต่หวังว่าคราวนี้จะเลิกแกล้งซื่อสักที อีกอย่างคือเขาได้แต่หวังว่าเมื่อครู่ปิงคงไม่เห็นรูปอื่นในโทรศัพท์เขา หรือว่าเห็นแต่ไม่ได้รู้สึกว่ามันผิดปกติ

“แม่ง...อะไรวะ” สิงหายืนอยู่ในลิฟต์เพียงลำพัง เลื่อนนิ้วดูรูปถ่ายในโทรศัพท์ ครั้งที่สองแล้วที่เขาเห็นรูปแปลกๆ พวกนี้แต่มีจำนวนมากกว่าเดิม บางรูปมีเขากำลังนอนหลับบนเตียงในห้องนอน บางรูปก็นอนงีบหลับบนโซฟา คำถามที่เคยถามตัวเองกลับมาอีกครั้ง เขากำลังนอน...แต่ใครถ่าย


—¤÷(`[ ♌ ♡ ▽ ]´)÷¤—



 :katai5: :katai5: :katai5:
สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ ขอให้เป็นวันหยุดที่มีความสุข ใครเดินทางก็ขอให้ปลอดภัยน้า

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
กำลังเขินและหิวมากๆตอนตีสามที่อ่านเรื่องนี้​

ออฟไลน์ imhiddenreader

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :a5: :a5: :a5: :a5:

ใครถ่ายยยยยยยยย

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
อ่านแล้วอมยิ้มกับความน่ารักของปิง ปิดท้ายด้วยกุ๊ก..กุ๊ก..กู๋ >.<

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ลึกลับ ใครถ่าย  คิดว่าไม่น่าจะเป็นผี คิดว่าเป็นชวิลแอบชอบเพื่อนรึเปล่า

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เฮ๊ย ใครถ่ายรูปพี่สิงห์ในห้อง


อิผีอินโฟโต้

อิผีถ้ำมอง


อิผีโรคจิต แกมาดีหรือมาร้าย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อมยิ้มตลอดตอนโดนอิผีแอบถ่ายตัดมู้ด :mew5:

ออฟไลน์ paladin.kn

  • ไฟมอดลงยังคงทิ้งรอย...เถ้าถ่าน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
เหมือนทิ้งระเบิดอะไรซักอย่างไว้ตอนท้าย แงงง

ออฟไลน์ JaikOrn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :hao7: พี่สิงจะจีบจริงจังแล้วใช่มั้ยคะ ดีจุง กลิ่นความรักอบอวล แต่..​ยังไม่ทันได้ฟินเท่าไหร่ ก็หลอนทิ้งท้ายเลยค่า ใครกันที่แอบถ่ายพี่สิง ขนาดที่รูปสามรถเข้ามาอยู่ในอัลบั้มมือถือได้ มันต้องลิงค์กับมือถือสิ // คิดหนักเลยไม่ใช่ผีแต่ต้องเป็นคนในแน่ๆ

ปล. สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะคุณจี มีความสุข สุขภาพแข็งแรง อัพงานเขียนให้แฟนนักอ่านติดตามพี่สิงน้องปิงเรื่อยๆนะคะ  :impress2:

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
บิ้วชมพูบริ้งๆ มาทั้งตอน ตอนจบตอนหักมาสืบสวนซะงั้น โอดครรวญเบาๆ ขอตอนต่อเลยได้ไหม

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ตอนแรกก็เขินๆ หิวๆ นะคะ แต่พอถึงตอนรูปที่ถ่ายตอนงีบแล้วคือแบบ

ฮืออออออ ใช่ ใช่ไหมคะ?

ออฟไลน์ prueksa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หวานละมุน แต่ทำไมตอนท้ายหักมุม :ling3:

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ตอนนี้อ่านแล้วละมุ่นเพราะคนกำลังจีบกัน

แต่พอมาบรรทัดสุดท้ายของเรื่องความหลอนก็เริ่มกลับมาหลอกหลอนอีกแล้ว บรื๋อ!!!!!

 o21 o21 o21 o21 o21

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
อ่านแล้วลุ้น จะสโตกเกอร์หรือไสยศาสตร์ กันแน่

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
สิงไม่ได้อยู่คนเดียวในห้อง หลอนนนนน

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
ใครหรืออะไรที่ถ่ายรูปให้หลอนมาเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด