ตอนที่ 4
ติณณ์กำลังรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ต้องหา ส่วนอาธารเป็นตำรวจ
เพราะตั้งแต่เขาทั้งคู่เดินออกมาจากห้องทำงานของไตรภพ ธาราโอบไหล่เด็กนักเรียนตลอดเวลา เหมือนกลัวว่าติณณ์จะดิ้นและวิ่งหนีหายไปไหน หรือไม่ก็กลัวว่าใครจะมาเอาเด็กคนนี้ไป
และตอนนี้ ในห้องโดยสารส่วนตัวเงียบๆแคบๆนี้ ติณณ์กำลังถูกสอบสวนเรื่องไตรภพ
อยู่ๆไปโผล่ในห้องทำงานอาภพได้ยังไง? เขาเข้ามาชวนคุยหรอ? คุยอะไรบ้าง? แล้วเข้าไปทำอะไรในห้องทำงาน? เขาทำอะไรติณณ์หรือเปล่า? ทำไมอยู่ๆไปหลับคาบ่าเขาแบบนั้น อาบอกแล้วใช่ไหมว่าให้นั่งรออา วันหลังใครชวนไปไหนอย่าไปนะ ห้ามไปหลับกับใครมั่วซั่วด้วย บลา บลา บลา ฉอด ฉอด ฉอด
ติณณ์โดนสวดยับตั้งแต่ออกมาจากบริษัทจนตอนนี้ใกล้จะถึงบ้าน ธาราก็ยังไม่หยุดบ่นเรื่องนี้ แถมยังใช้เสียงเหมือนจะดุ แม้จะไม่ได้ตะคอกหรือพูดเสียงดัง แต่สีหน้าของอาธารเวลาพูดนั้นเครียดมาก เลยรู้สึกว่ากำลังถูกดุอยู่
เหมือนเขาเป็นภาระให้อาธารอีกแล้ว
"ขอโทษครับ"
เสียงน่าฟังที่ตอนนี้กลับเบาหวิวและเศร้าสร้อยไม่น้อย เมื่อธาราหันไปก็พบว่าใบหน้าอ่อนเยาว์กำลังหม่นหมอง และนัยต์ตากลมก็หม่นแสง ถ้าติณณ์มีหูแมวหรือหูกระต่าย ตอนนี้คงทำหูตกอย่างน่าสงสาร
"ขอโทษเรื่องอะไรครับ?"
"ผมดื้อ...ไม่ยอมนั่งรออาธารตอนนั้น"
เด็กดี ก็เป็นเด็กดีเสียอย่างนี้ ธาราจะไปโกรธลงได้ยังไง
"ไม่ต้องขอโทษหรอก ติณณ์ไม่ได้ผิดเลย" ธาราใช้เสียงที่อ่อนลง พลางเอื้อมมือไปลูบผมนิ่ม"อาแค่เป็นห่วง และอยากตักเตือนเท่านั้นเอง เข้าใจไหม หืม?"
เพราะว่าเด็กดีของเขาทำหน้าจ๋อยเนื่องจากโดนสวดยับ ธาราจึงหยุดพูดเรื่องนี้ แล้วเปลี่ยนไปคุยสัพเพเหระแทน ทั้งๆที่ติณณ์เป็นคนพูดคำว่าขอโทษ แต่กลับเป็นเขาเสียเองที่รู้สึกผิด ไม่รู้สิ อยากจะทำยังไงก็ได้ให้เด็กคนนั้นทำหน้าตาสดใสมากกว่านี้
ก็ยอมรับแหละ ว่าสงครามนี้เขาแพ้ติณณ์
เจ้าของรถคันหรูตบไฟเลี้ยวเพื่อเป็นสัญญาณว่าจะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านของใครบางคน ไม่นานนักเครื่องยนต์ก็มาจอดเทียบท่าบ้านหลังเดี่ยว ผู้โดยสารยกมือไหว้ขอบคุณอย่างที่ทำปกติก่อนจะเปิดประตูแล้วเอี้ยวตัวลงจากรถ
“เดี๋ยว” ธาราเรียกรั้งไว้ก่อนที่ร่างบางนั่นจะลงรถ
“ครับ?” คนถูกรั้งหันมามองด้วยสีหน้างุนงง
ตอนที่ขาเรียวขยับเพื่อจะออกจากห้องโดยสาร กางเกงนักเรียนสีเข้มมันเลิกขึ้นจนเผยให้เห็นรอยข่วนสีแดงจางๆตรงหน้าตัก “ไปโดนอะไรมา” ธาราถาม
“เอ่อ…อุบัติเหตุเล็กน้อยครับ” ติณณ์ตอบอ้อมแอ้ม
“เจ็บไหม”
ธารานึกห่วงร่างกายบอบบางนี้ แต่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่เจ็บครับ เขาคงจะปล่อยเด็กคนนี้ไปแล้วถ้าสายตาคมไม่ไปเห็นรอยอะไรแดงๆบางอย่างใต้กางเกงนักเรียนนั่น
“แล้วตรงนั้นไปโดนอะไรมาอีก? อาขอดูหน่อยนะ”
มือใหญ่จับกางเกงสีเข้มให้เลิกสูงขึ้นอีก เขาพบว่าเนื้ออ่อนตรงนั้นมันมีรอยคล้ายนิ้วมือเป็นจ้ำๆทั่วบริเวณ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ถามข้อเท็จจริงกับเจ้าตัวว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ธาราสงสัยไตรภพไปแล้วเรียบร้อย
ติณณ์น่ะ ทั้งเด็ก ตัวขาว ผอมบาง และใสซื่อ
ทั้งหมดนั่นมันคือสเป็คของไตรภพเลยไม่ใช่หรือไง?
อย่าไว้ใจอาภพมากนะ นั่นคือคำพูดสุดท้ายของอาธารที่บอกกับติณณ์ก่อนที่จะเข้าบ้าน
ติณณ์ไม่เข้าใจว่าทำไมอาธารถึงพูดแบบนั้น แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เข้าบ้านมาอาบน้ำชำระร่างกาย ทำโจทย์ และร้องไห้ก่อนนอนตามปกติ
พอความมืดและความอ้างว้างเข้ามาทักทาย ความทรงจำที่ไม่ดีมันก็ฉายซ้ำๆไปมาในหัวของเด็กหนุ่ม ยิ่งนับวัน ภาพเหล่านั้นก็ยิ่งชัดเจนขึ้น เหมือนความทรงจำนั้นคอยตะโกนใส่หน้าเขาทุกคืนว่า ‘ไม่มีใครรักแกแล้ว’
และสำหรับภาพฉายวันนี้ เป็นเรื่องของความรัก
รักครั้งแรกของติณณ์ คงจะเป็นตอนที่เขาอยู่ม.4 แล้วมีพี่ม.6คนหนึ่งเข้ามาจีบ
พี่คนนั้นบอกว่าติณณ์ลึกลับ น่าค้นหา อยากรู้จัก อยากจีบ ติณณ์แอบดีใจเล็กๆที่มีคนเข้าหา มันรู้สึกว่าเขามีตัวตน เป็นคนพิเศษสำหรับใครสักคน แต่ก็มีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง พอเขารู้ตัวว่ากำลังถูกจีบ กลับทำตัวไม่ถูก เก้ๆกังๆ ไม่รู้จะพูดอะไรดี ทั้งๆที่ในใจมันรู้สึกดีที่มีคนมาชอบ
และอยู่ๆวันนึง พี่คนนั้นก็พูดตรงๆว่าติณณ์น่ะ เข้าถึงยากมากเกินไป จากนั้นก็หายไปเลย
ติณณ์แปลคำว่า ‘เข้าถึงยาก’ ได้ว่า ‘น่าเบื่อ’
เขารู้ตัวแหละ รู้ตัวเสมอๆด้วยว่าน่าเบื่อ เขาไม่ใช่คนตลก ชวนคุยไม่เก่ง อยู่กับใครก็พาเขาน่าเบื่อไปหมด
และมันก็เป็นแบบนี้ซ้ำๆ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าตอนจบมันเป็นแบบไหน แต่มันก็อดรู้สึกดีไม่ได้จริงๆเวลามีคนเข้าหา
พอถึงเวลาที่คนพวกนั้นจากไป ติณณ์ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกแย่มากๆ เขาไม่โทษหรอกว่าคนพวกนั้นให้ความหวัง มันเป็นเพราะเขาน่าเบื่อเองต่างหาก
แต่ยังดี ตอนนั้นเขายังมีแม่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นคนเดียวที่เขาเชื่อจริงๆว่ารักเขาแบบไร้เงื่อนไข
แต่ตอนนี้ไม่มีแม่แล้ว ก็คงไม่เหลือใครที่รักเขาแล้ว จริงไหม?
เด็กหนุ่มกอดหมอนข้างแน่นขึ้น ปลอกหมอนเนื้อดีชุ่มไปด้วยน้ำตา เจ้าตัวปล่อยให้ตัวเองสะอื้นเต็มที่แบบไม่อายใคร ให้น้ำตามันไหลออกไปให้หมด เดี๋ยวตัวเขาก็ผล็อยหลับไปเอง
RRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrr อยู่ๆแสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์ก็สาดขึ้นมาท่ามกลางความมืด เสียงริงโทนที่ไม่ได้เปลี่ยนมานานก็ดังกลบเสียงสะอื้น เจ้าของเครื่องหยิบอุปกรณ์เจ้าปัญหามาเช็คว่าใครโทรมาในยามนี้ ดวงตาที่พร่าเลือนไปด้วยหยาดน้ำถูกปาดออกเพื่อจะได้มองเลขเบอร์ได้ชัดๆ
เบอร์แปลก
นิ้วเรียวกดปุ่มรับสายด้วยความสงสัย พยายามคุมเสียงตัวเองให้ปกติมากที่สุด
“สะ…สวัสดีครับ” เพราะติดก้อนสะอื้น เลยทำให้สื่อสารไม่ค่อยชัดเจน
[ติณณ์? ทำไมเสียงเป็นอย่างนั้นล่ะ] เสียงนิรนามจากปลายสายเอ่ยขึ้น มันเป็นเสียงผู้ชายที่ค่อนข้างมีอายุ และฟังแล้วคุ้นหูไม่น้อย
“เอ่อ…ไม่ทราบว่าใครโทรมาครับ?”
[อาเอง…อาไตรภพเอง]
“อาภพ?” ติณณ์ทวนชื่อไป สูดน้ำมูกไป
[ติณณ์เป็นอะไรหรือเปล่า? ร้องไห้หรอ?]
“เปล่าครับ” เด็กหนุ่มโกหกทั้งน้ำตา
[จริงหรือเปล่า]
“จ…จริงครับ”
[เด็กไม่ดี โกหกอา เสียงสั่นแบบนี้ยังจะบอกว่าไม่ร้องไห้อีก]
พอสิ้นคำนั้น ติณณ์ก็บ่อน้ำตาแตกอย่างไม่อายคนปลายสาย
ยามที่หัวใจพังยับเยินขนาดนี้ ขอแค่ใครสักคนรับฟังเสียงสะอื้น…แค่นั้นก็พอแล้ว
ตลอดคืนนั้นไตรภพปลอบประโลมเด็กหนุ่มด้วยเสียงนุ่มๆ ส่วนคนเจ้าน้ำตาก็เอาแต่ร้องไห้ ไม่ได้เล่าหรือระบายความในใจอะไร จนกระทั่งผล็อยหลับไปตามปกติ
แต่สิ่งที่ไม่ปกติคือ หลังจากวันนั้น ไตรภพโทรมาหาเด็กหนุ่มทุกคืน ส่วนใหญ่จะโทรมาชวนคุยเรื่องราวทั่วไป ไม่ได้ถามไถ่ถึงสาเหตุการร้องไห้นั้นอีก ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้อยากเล่าอะไรอยู่แล้ว ติณณ์ไม่รู้หรอกว่าอาภพทำแบบนี้ทำไม รู้แต่ว่าการโทรมาทุกๆคืนนั้น มันช่วยเบี่ยงเบนไม่ให้เขาฟุ้งซ่านตอนดึกๆ และไม่ร้องไห้ก่อนนอนอีกแล้ว
พักหลังๆมา ผู้ใหญ่คนนั้นเริ่มหยอดคำหวาน พูดในสิ่งที่เด็กหนุ่มอยากฟัง พูดให้เด็กคนนั้นรู้สึกว่าตัวเองมีค่า ตัวเองพิเศษสำหรับไตรภพมากแค่ไหน ดั่งซาตานที่คอยป้อนยาพิษรสหอมหวานให้เด็กน้อยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวจนติณณ์รู้สึกสับสน
อีกใจหนึ่งมันบอกว่า คำพูดเหล่านี้ เขาเคยได้รับมันมาแล้วและมันไม่เคยจะลงเอยด้วยดี
อีกใจหนึ่งมันบอกว่า ที่ผ่านมามันเป็นเพราะเขาไม่เปิดใจเอง แต่หากคราวนี้เขายอมเปิดใจสักครั้ง แล้วจะได้ความรักที่เขาโหยหาทุกๆคืนไหม?
ติณณ์รู้ ว่าตอนนี้เขาต้องการแค่ใครสักคนมารัก
ตอนจบจะเป็นอย่างไรก็ช่าง แต่ตอนนี้เขารู้สึกดีกับคำพูดเหล่านั้นเหลือเกิน
เด็กน้อยผู้ขาดความรักกำลังถูกชักจูงโดยซาตาน…ผู้ที่ต้องการแค่ต้องการกลืนกินร่างกายน่าลิ้มรสนั่นเท่านั้นเอง
ช่วงนี้ติณณ์หน้าตาสดใสขึ้น ธาราคิดอย่างนั้น
ประมาณหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา จากที่เด็กคนนั้นชอบทำหน้าตาหม่นหมอง ตอนนี้กลับดูมีชีวิตชีวา พูดเยอะขึ้นนิดหน่อย(นิดเดียวจริงๆ) บางทีอยู่ๆก็อมยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว เขาเคยถามนะว่ายิ้มอะไรอยู่คนเดียว แต่ก็ได้คำตอบมาแค่ว่า เปล่าครับ
ใช่สิ ธารามันก็แค่คนนอก
ถึงจะอยากรู้เหตุผลของความสุขนั้น แต่มันก็ไม่สำคัญนักหรอก
แค่ยิ้มบ่อยๆให้เขาเห็น เท่านี้ก็ชื่นใจมากแล้ว
“ยืนยิ้มอะไรอยู่คนเดียวคะคุณธารา”
เหมือนเสียงนั้นมาจิ้มฟองสบู่ที่มีรูปเด็กติณณ์ให้แตกเหลือแต่ละออง พอหันหน้าไปก็พบว่ามีพนักงานในแผนกคนหนึ่งกำลังยิ้มล้อเลียนเขาอยู่ พอเอามือมาแตะที่มุมปากของตัวเอง ก็พบว่าเขากำลังยิ้มอยู่จริงๆ
แค่นึกถึงรอยยิ้มของเด็กคนนั้น เขาก็ยิ้มออกมาแล้วหรอเนี่ย
ท่าจะทำงานหนักเกิน “ไม่มีอะไรหรอกครับ” ธาราว่าอย่ายิ้มๆ
“ค่ะ ไม่มีก็ไม่มีค่ะ ว่าแต่คุณธารากำลังจะไปไหนคะ?” เพราะธารากำลังยืนรอลิฟต์ พนักงานสาวจึงเอ่ยถามแบบนั้น
“ไปที่ห้องคุณไตรภพน่ะครับ พอดีโดนเรียก”
“เรียกไปชมแน่ๆเลยค่ะ โปรเจคต์ใหญ่ของคุณธาราเพิ่งเสร็จไปด้วยดีนี่คะ”
“ขอให้เป็นอย่างนั้นนะครับ”
ธาราเองก็สงสัย ร้อยวันพันปีไม่เคยจะถูกเรียกไปที่ห้องไตรภพ
มันต้องมีอะไรแน่ๆ “เชิญนั่งครับ”
ธารานั่งลงบนเก้าอี้หรูตามคำเชิญ แล้วมองหน้าพี่ชายต่างครอบครัวเพื่อรอให้ฝ่ายนั้นเป็นคนชี้แจงเอาเองว่ามีเหตุอะไรถึงต้องเรียกธารามาถึงที่นี่
“โปรเจคต์ใหญ่ที่คุณเพิ่งทำเสร็จไป น่าชื่นชมมากเลยนะ ลูกค้าชมใหญ่เลยว่างานเรียบร้อยมาก เห็นทีบริษัทคงมีภาพลักษณ์ที่ดีมากขึ้นจากโปรเจคต์ของคุณ” ไตรภพเริ่มพูดขึ้นอย่างสบายๆ และสาธยายคุณงามความดีของโปรเจคต์อย่างนั้นอย่างนี้ แต่ธารารู้สึกว่านี่ยังไม่ใช่จุดประสงค์ที่เขาถูกเรียกมา
“ผมเลยมีอะไรตอบแทนเล็กๆน้อย ผมจะจัดปาร์ตี้ฉลองให้กับพวกคุณทั้งแผนก…ที่บ้านของผม”
นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ไตรภพมักจะหาเรื่องปาร์ตี้ได้เสมอนั่นแหละ
และธาราก็รู้ว่าไตรภพยังไม่เข้าเรื่อง
“ขอบคุณมากครับ แต่คุณภพช่วยเข้าเรื่องให้ผมหน่อยได้ไหมครับ?”
ผู้บริหารระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อถูกมองเกมขาดแบบนั้น “รีบไปไหนล่ะน้องชาย”
“ผมแค่อยากรู้ว่าพี่เรียกผมมาทำไม” สรรพนามเริ่มเปลี่ยนเมื่อบรรยากาศเป็นกันเองมากขึ้น
“งั้นผมไม่อ้อมค้อมแล้วนะ” ไตรภพหยิบถุงที่บรรจุกล่องขนมอะไรสักอย่างที่หน้าตาดูดีมีราคา “ฝากไปให้ติณณ์ที”
ว่าแล้วเชียว “เนื่องในโอกาสอะไรครับ?”
“ให้เพราะความเอ็นดูไม่ได้หรอ?” ผู้บริหารหนุ่มว่าอย่างกวนๆ แต่ธาราไม่ขำ
“ผมรู้นะว่าพี่คิดอะไรกับติณณ์”
ธารารู้ตั้งแต่วันนั้นแล้ว เขาเห็นสายตาที่ไตรภพมองที่เด็กคนนั้นก็รู้เลยว่า ไตรภพอยากได้ติณณ์จนตัวสั่น
“แล้วยังไงต่อล่ะ…พี่คิดอะไรกับเด็กคนนั้นแล้วธารจะทำไม?”
“ติณณ์ไม่เหมาะกับพี่”
“ยังไงหรอคุณธารา ช่วยอธิบายให้ฟังได้ไหม?”
“เขาไม่ใช่ของเล่นของใคร เขามีค่ามากกว่านั้น” ธาราเริ่มไม่พอใจนิดๆ “พี่จะไปเล่นกับใครก็ได้ แต่ไม่ใช่กับติณณ์”
“ทำไม ธารจะเก็บไว้เล่นเองหรือไง?”
“คุณไตรภพ”
ท่าทีจริงจังและเยือกเย็นของธารา ทำให้ไตรภพรับรู้ว่าธาราไม่เล่น แถมยังดูหวงเด็กคนนั้นมากจริงๆ และดูท่าทางไม่ได้หวงแบบคู่นอน ไม่บ่อยนักที่จะเห็นธาราอารมณ์เสียใส่เขาแบบนี้ นี่เป็นโอกาสดีทีเดียวที่จะได้เห็นน้องชายในด้านนี้
ไอ้ที่อยากได้ติณณ์น่ะ ก็อีกเรื่อง
แต่การที่ได้ปั่นหัวธาราเล่นเนี่ย ก็น่าสนุกไม่แพ้กัน
ณ เวลาเลิกเรียนของเด็กมัธยมปลาย ติณณ์นั่งรถของอาธารกลับบ้านตามปกติ ผู้ใหญ่ก็ชวนคุยนิดหน่อยตามปกติ แต่ดูเหมือนอาธารอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่พูดออกมาสักที
จนกระทั่งรถจอดตรงหน้าบ้านนั่นแหละ ถึงยอมพูดออกมา
"อาภพเขาฝากขนมมาให้เราน่ะ"
ธาราหยิบถุงขนมหน้าตาหรูที่วางอยู่ตรงเบาะหลังมาให้เด็กตรงหน้า คนได้รับมีท่าทางดีใจเหมือนได้ของล้ำค่าที่สุดในชีวิต อย่างที่ธาราไม่เคยเห็นท่าทีแบบนั้นมาก่อน
ธาราชอบให้ติณณ์ยิ้ม แต่ไม่ชอบให้ยิ้มเพราะไตรภพเลย
"ขอบคุณครับ"
เด็กติณณ์กล่าวขอบคุณขนมนั้น และขอบคุณที่ธารามาส่ง ก่อนที่จะวิ่งแจ้นหายเข้าไปในบ้านเพื่อเปิดดูถุงขนมนั้นด้วยความตื่นเต้น มันคือคุกกี้เนยสดที่ตัวเขาเคยบอกไตรภพว่าชอบกิน ตอนที่คุยโทรศัพท์กันนั่นแหละ
ติณณ์ยังคงเป็นคนที่พูดไม่เก่ง แต่พอคู่สนทนาไม่ได้มาเป็นตัวเป็นๆอยู่ตรงหน้า เหลือเพียงเสียงปลายสายให้สื่อสาร เขาก็กล้าสนทนาด้วยนิดหน่อย
อารมณ์เหมือนนักเลงคีย์บอร์ด ต่อหน้าไม่กล้าบอกอย่างไรอย่างนั้น
พอได้หยิบคุกกี้กล่องสวยนั้นออกจากถุง มือเรียวจัดการเปิดกล่องแล้วชิมรสขนมหวาน หอมกลิ่นเนยและวานิลลาที่คละคลุ้งอยู่ในปาก ดั่งแอปเปิ้ลสีสวยแต่อาบไปด้วยยาพิษฝีมือแม่มด เพียงแต่ยาพิษไม่ได้อยู่ในคุกกี้ แต่เป็นการ์ดเล็กๆที่ซ่อนอยู่ในถุง
เด็กหนุ่มหยิบการ์ดต้องสงสัยออกมาจากถุง มันเป็นการ์ดเชิญงานปาร์ตี้อะไรสักอย่างที่ติณณ์ไม่เข้าใจนักว่ามันคืออะไร เขาจึงต่อสายไปหาคนที่ส่งการ์ดนี้มาให้
พอดีศุกร์นี้อาจะจัดปาร์ตี้ฉลองน่ะติณณ์ อาธารเขาเพิ่งทำโปรเจคต์ใหญ่เสร็จไป อาเลยจัดงานเลี้ยงตอบแทนเล็กๆน้อยๆ อยากให้ติณณ์มาด้วย อาอยากเจอ อาคิดถึง ไตรภพพูดแบบนี้
ติณณ์หนักใจไม่น้อย เพราะนั่นมันงานสำหรับผู้ใหญ่ และเขาไม่เกี่ยวข้องเลยสักนิด
แต่ไตรภพยังคงยืนยันว่าอยากให้เขาไปมากๆ ถ้าไม่ไปไตรภพคงเสียใจแย่
คนฟังได้แต่ใจอ่อน พลางคิดว่าถ้าปฏิเสธไป อาภพคงจะคิดว่าเขาน่ะเข้าถึงยาก และเรื่องมันก็จะจบลงแบบซ้ำๆกับในอดีต
ติณณ์บอกกับตัวเองแล้ว ว่าจะลองแหกกฎของตัวเอง แล้วลองเปิดใจดูสักครั้ง
เช้าวันใหม่ ธารามารับเด็กตัวจ้อยอย่างเคย ใบหน้าน่ามองนั้นสดใสขึ้นทุกวันๆ อย่างวันนี้ตอนนั่งรถ ติณณ์หันมามองหน้าธาราเป็นระยะๆ เหมือนมีเรื่องอะไรจะพูด แต่ยังลังเลอยู่ว่าจะพูดออกไปดีไหม
ธาราจับได้นะ ถึงสายตาจะมองตรงไปที่ถนนข้างหน้า แต่หางตามันเห็นว่ามีเด็กแอบมองอยู่
“มีอะไรจะพูดกับอาหรือเปล่าติณณ์?” ธาราหันไปว่ากับเด็กข้างๆอย่างขำๆ “มองอยู่นั่น อยากพูดอะไรก็พูดสิ อาไม่กัดหรอกนะ”
“อ่า…” ไหนๆอาธารก็พูดขนาดนี้แล้ว “คือ…วันศุกร์นี้อาธารมีงานเลี้ยงหรอครับ?”
“ติณณ์รู้ได้ยังไง?”
“อาภพเขาชวนผม—”
“ไปชวนตอนไหน?” พอชื่อนั้นออกมาจากปากติณณ์ ธาราก็โพล่งขึ้นมา และพยายามคุมตัวเองไม่ให้รู้สึกหงุดหงิด
“เขาโทรมาชวนผมเมื่อวานครับ”
“โทร? แล้วอาภพไปได้เบอร์ติณณ์มาจากไหนล่ะ”
“เขาบอกว่าเป็นความลับ…”
หึ ไม่พ้นให้ลูกน้องไปสืบมาล่ะสิ “อาฮะ แล้วยังไงต่อ เขาโทรมาตั้งแต่วันไหน แล้วโทรมาทุกวันเลยหรือเปล่า”
“ตั้งแต่วันที่อาธารพาผมไปที่บริษัท แล้วก็คุยกันทุกวันเลยครับ” ถึงติณณ์จะไม่เข้าใจว่าทำไมอาธารต้องถามขนาดนั้น แต่ก็ยอมเล่าตามความจริง
“โทรมาคุยอะไรกัน หืม”
“ก็…สัพเพเหระน่ะครับ”
ธารานิ่งไปสักพักเพื่อใช้ความคิดอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะถามเด็กคนนี้ต่อ “ติณณ์คิดว่าอาภพเขาเป็นคนยังไง?”
เด็กหนุ่มนึกถึงลักษณะนิสัยของไตรภพ แล้วตอบไปว่า อาภพคุยเก่ง ใจดี ใส่ใจคนอื่น พูดน่าฟัง บลา บลา บลา ติณณ์พูดถึงไตรภพในทางที่ดีทั้งนั้น พอได้ฟังแล้วธาราก็รู้ว่านิสัยเหล่านั้นมันเอาไว้หลอกหล่อคนอื่นต่างหากล่ะ
และดูเหมือนติณณ์จะเป็นหนึ่งในผู้ถูกหลอกรายต่อไป ดูจากเวลาที่เจ้าตัวพูดถึงไตรภพแล้ว เด็กหนุ่มมีอาการเขินเล็กน้อย แล้วก็เผลออมยิ้มออกมาด้วย
อย่าบอกนะ ว่าที่ช่วงนี้ยิ้มบ่อยๆเป็นเพราะไตรภพ
เขาอยากจะบ้าตายจริงๆ
ธาราดีใจนะที่ติณณ์มีความสุข แต่มันต้องไม่ใช่ความสุขปลอมๆและไม่ยั่งยืนแบบนี้สิ
ต่อให้เขาพูดไปตอนนี้ว่า อาภพของติณณ์น่ะ ไม่ใช่คนดีอย่างที่ติณณ์คิดหรอก เขาแค่จะมาหลอกฟันติณณ์เท่านั้นเอง เด็กคนนี้คงไม่เชื่อเขาแน่
“แล้วติณณ์อยากไปหรอ?” ธาราเข้าเรื่องแบบไม่อ้อมค้อม
“อยากไปครับ”
“ทำไมถึงอยากไปล่ะ”
“ก็…อาภพชวน”
มองจากดวงอังคารก็รู้ว่าติณณ์ชอบไตรภพ
คนๆนั้นน่ะ มีความสามารถพูดให้คนอื่นหลงได้ง่ายจะตาย แล้วกับเด็กตัวแค่นี้ ไม่แปลกเลยที่ติณณ์จะเดินตามเกมของไตรภพอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่
ธารากำลังจะหันไปบอกติณณ์ว่า ‘ไม่ให้ไป’ แต่พอเจอสีหน้าที่คาดหวังของเด็กหนุ่ม ดวงตาใสเป็นประกายและมีความหวังมากมายอยู่ในนั้น แถมยังช้อนตามองธาราอย่างติดอ้อนนิดๆ มันทำให้เขากระอักกระอ่วนไม่น้อย
อย่ามาทำหน้าตาน่ารักใส่นะติณณ์! ไม่ได้ เขาต้องใจแข็งเข้าไว้
“อย่าไปเลย ในงานมีแต่ผู้ใหญ่ที่ติณณ์ไม่รู้จักทั้งนั้น เราไม่อึดอัดแย่หรอหืม…มันไม่สนุกสำหรับติณณ์หรอก เชื่ออานะ” เขาพยายามชักนำความคิดเด็กหนุ่มให้ไปอีกทาง
“…แต่” ติณณ์อ้ำอึ้ง
“ที่นั่นไม่เหมาะกับติณณ์หรอก เอาไว้วันหลังอาพาไปเที่ยวที่อื่นดีกว่าเนอะ”
“…”
ดวงตาที่เคยมีประกายความหวัง ตอนนี้มันกลับมาหม่นแสงอีกครั้ง ใบหน้าที่เคยสดใสน่ามองก็แปรเปลี่ยนมาเป็นหม่นหมองอย่างเคย เอ่อ หม่นหมองมากกว่าเคยหรือเปล่านะ
ติณณ์ไม่ได้มองหน้าธาราแล้ว เด็กหนุ่มหันหน้าหนีไปทางกระจกรถแทน ไหล่ทั้งสองข้างห่อเข้าหากันอย่างเสียบุคลิก แล้วห้องโดยสารก็ตกอยู่ในความเงียบ เหลือไว้แต่เสียงแอร์รถ และธาราก็รู้สึกว่าโลกใบนี้นั้นหดหู่ลง
อา เขาเป็นคนทำให้รอยยิ้มนั้นหายไปแล้ว
ตั้งแต่วันนั้น เด็กติณณ์ไม่สดใสเลย แบบที่ว่ามองทีไรก็รู้สึกห่อเหี่ยวไปด้วย จากปกติที่เด็กคนนั้นไม่ค่อยจะพูดกับธารา ตอนนี้มันกลายเป็นว่าติดลบอย่างกู่ไม่กลับ สองสามวันที่ผ่านมาติณณ์พูดกับเขาแค่ ‘สวัสดีครับ’ ตอนขึ้นรถ และ ‘ขอบคุณครับ’ ตอนลงจากรถ ไหนจะคอยหันหน้าหนีไปทางกระจกรถทุกวันๆ
ธาร มึงทำเด็กงอน ทั้งๆที่เขาคิดว่าตัวเองตัดสินใจดีแล้ว แต่กลับรู้สึกเหมือนตัวเองทำผิดมหันต์ยังไงไม่รู้
ชวนคุยก็แล้ว ง้อก็แล้ว ติณณ์ยืนยันว่าไม่ได้งอนครับ แต่เด็กคนนั้นก็ดูหม่นหมองลงทุกวันๆ
ธาราไม่อยากให้ติณณ์เป็นแบบนี้เลย
หัวหน้าแผนกถอนหายใจอย่างเคร่งเครียด ทำไมเขาต้องมากระวนกระวายกับเด็กตัวแค่นี้ด้วย!?
สุดท้าย มือใหญ่ก็หยิบโทรศัพท์ราคาแพงของตัวเองขึ้นมา เลื่อนหารายชื่อลูกน้องคนสนิท แล้วกดโทรออกอย่างไม่ลังเล
“คุณเอก ช่วยแนะนำร้านเสื้อผ้าสำหรับวัยรุ่นผู้ชายหน่อยสิ ราคาเท่าไหร่ก็ได้ ไม่เกี่ยง” ธาราพูดเสียงเครียด “ชุดสำหรับโอกาสอะไรน่ะหรอ…เอาแบบไปงานปาร์ตี้อะไรพวกนั้นน่ะ”
ก็ยอมรับอีกแหละ ว่าธาราแพ้เด็ก
talk.
อาธารทำเด็กงอนนนนนนนนนนนนนนน /ปิดตาชี้
พูดคุยและติดตามตอนใหม่ๆได้ที่ทวิตเตอร์ @TiXA_20X นะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม รักเสมอ
#เด็กมันน่ารัก