[Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49  (อ่าน 268308 ครั้ง)

ออฟไลน์ Rateesiri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
พอก่อนนะมาม่า

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ไม่อยากให้มีใครเจ็บตัวอีกแล้ว  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :ling1: ขออย่าวให้ถึงขนาดนายพิษตายเลยนะ เกินจะรับไหว สงสารบู้บี้ แต่ไม่อยากเชื่อเลยว่าพ่อจะทำร้ายลูกขนาดนี้ แต่เพราะคงไม่อยากมีโอเมกเาให้ด่างพร้อยอะนะ

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
อย่าว่าแต่บู้บี้ไม่ไหวเลย เราก็ไม่ไหวจ้าาา  ร้องไห้น้ำตาซึมเลย..  สูญเสียลูกไปนี่เศร้าโศกสุดๆ ขออย่าให้นายพิษอย่าเป็นอะไรไปนําาา

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
โอ้ยยยยจะร้อง อย่าให้ใครเป็นอะไรไปอีกเลยนะ ขอเถอะ

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
จะมีใครจะเป็นอะไรอีกมั้ยเนี่ยลุ้นมากๆ

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เมื่อไหร่จะมีความสุขเสียทีนะเหนื่อยใจแทน

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
อ๋อย

ชีวิตฉันอยู่กับความเศร้าไปมากกว่านี้ไม่ใหว

แล้วอัยย์น่ะเข้มแข็ง

แต่คนอ่านแย่แล้ว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
กระหน่ำเข้าไป

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อยากอ่านต่อ แย้ววว..  :katai4: :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เป็นห่วงนางอ่ะ กลัวโดนพ่อตาตลบหลังอีกกกก :ling2:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
สรุป คนที่อยู่เบื้องหลังสุดคือพ่อของอัยย์ใช่ไหม แล้วแฝดคินมีส่วนรู้เห็นด้วยไหมเนี่ย

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
เสี่ยงอีกแล้วว ฮืออ

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
………


ลุ้นตามไปทุกตอน.   คิดว่าพ่อของพิชฌานต้องมาออกโรงอีกสักรอบนะ

เสือเฒ่าสองตัว ถึงจะทันเหลี่ยมกันไหม


 :katai4:  :katai4:  :katai4:  :katai4:  :katai4: :katai4:


………

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
โอ้ยยยยย...เจ็บปวดด

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ลุ้นอีกล่ะ

ออฟไลน์ gibari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านไป น้ำตาจะไหลไปเลยค่ะ กลัวไปหมด
ลึกๆ ในใจก็อยากให้ถอยเหมือนกันนะคะ แต่ก็ก้าวมาถึงขนาดนี้แล้ว จะให้ทิ้งสิ่งที่วาดฝันไว้ก็คงทำได้ยาก... แงงงงงง ปวดใจจังเลยค่ะ  :hao5:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ขอให้อย่าดราม่าเลยยยยย

ใจเลยจะพัง

 :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ตีปากๆ นายพิชช์ฌาน อย่ามาพูดเป็นลางนะ ห้ามทิ้งบู้บี้เด็ดขา!
ฮืออออ แค่นี้ก็ใจพังหมดแล้ววว :o12:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
โอ๊ยยยย อะไรมันจะซ่อนเงื่อนกันขนาดนี้ กลัวแทนบู้บี้

ออฟไลน์ rawi62442

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไรท์ทำเราร้องให้อีกแล้ว ต่อจากนี้จะมีใครเจ็บตัวอีกไหม
คำพูดแต่ละคนคือเป็นลางมากๆเลย กลัวใจ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
สงสารอัยย์มาก ต้องอดทนแต่เล็ก ยังต้องมาเจอแบบนี้อีก
พ่อก็เหมือนพร้อมหักหลังลูกตลอดเวลาน่ะ
คินเหมือนมีอะไรในใจ แต่ทำไมไม่หาเวลาโทรหาอัยย์ล่ะ

จริงที่เริ่มต้นแล้ว ต้องทำให้จบ เพราะชีวิตอีกหลายคนในมือ
แต่บางครั้ง เราก็เชื่อใจใครไม่ได้ แต่อำนาจมาเหนือความถูกต้อง
มีเยอะแยะไป จนแยกไม่ออกว่าใครดีหรือไม่ดีจริง

เตรียมการดี มันก็ดีนะพิชญ์ฌาณ แต่อย่าประมาท
แล้วพูดทำไมเป็นลางแบบนั้น ไม่ดีเลย

ขอให้ปลอดภัยทุกคนนะคะ ไม่อยากเจอเรื่องร้ายอีกแล้ว




ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ลุ้นมากกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :hao7:
คือระทึกทุกตอน อ่านๆไปใจหวิวๆไป  :katai1:

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Ai Adore You.

#ขอรักแค่คุณ

ตอนที่ 47

 



 

 

 

 

 

         “เชิญครับ”  พิชช์ฌานผายมือให้อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศเดินเข้าไปในภายในห้องทำงานของเขา  เจนภพกับผู้ติดตามของท่านไตรคุณหยุดยืนรออยู่ด้านนอกห้อง  ต่างฝ่ายต่างคุมเชิงซึ่งกันและกันอย่างระมัดระวัง

          “รับเครื่องดื่มอะไรไหมครับ”  ชายหนุ่มถามอย่างเจ้าบ้านที่ดี  อีกฝ่ายนิ่งไปนิดหนึ่งแล้วส่ายหน้า  เป็นครั้งแรกที่พิชช์ฌานรู้สึกว่าท่านไตรคุณเก็บอาการได้ไม่แนบเนียนเหมือนเคย  ราวกับมีอะไรคอยรบกวนใจอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา  เห็นทีงานนี้คงจะกระทบกับฝ่ายนั้นมากกว่าที่คิด

          “เข้าเรื่องกันดีกว่าไหมคุณพิชช์ฌาน”  นักการเมืองอาวุโสพูดช้า ๆ มองตรงไปยังเจ้าของบ้านที่กำลังรินไวน์ลงในแก้ว  “คุณก็รู้ว่าฉันมาเพื่อจะคุยเรื่องอะไร”

          “ผมพอจะทราบอยู่บ้าง”   พิชช์ฌานยิ้มมุมปาก

          “ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่อ้อมค้อมแล้วล่ะนะ”  สายตาของคนพูดมีแววแข็งกร้าวขึ้น  “ปิดคดีโอเมก้าของไตรภพซะ  ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางเอาผิดเขาได้หรอก”

          “แต่ผมคิดตรงข้ามนะ”  ชายหนุ่มบอกง่าย ๆ เอนตัวลงพิงพนักพลางยกขาขึ้นไขว่ห้าง  “ไม่อย่างนั้นท่านก็คงไม่มา ‘ขอร้อง’ ผมถึงที่นี่”

          “นี่ไม่ใช่คำขอร้อง  คุณพิชช์ฌาน  แต่ว่าเป็นคำสั่ง”

          “มีสิทธิ์อะไรมาสั่งผมเหรอครับท่าน”  พิชช์ฌานยิ้มพราย  “ผมเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้  โปรดอย่าลืม”

          “คุณไม่ได้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศนี้หรอกคุณพิชช์ฌาน  แต่ก่อนฉันก็เคยหลงคิดว่าตัวเองกุมอำนาจมากที่สุดในฐานะนายกฯ แต่แล้วฉันก็รู้ว่ามันไม่ใช่  มีคนที่ใหญ่กว่าคุณ  มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลังตำแหน่งนายกฯ”  ท่านไตรคุณพูดเรียบ ๆ “ฉันคิดว่าตัวเองเคยเตือนคุณมาหลายครั้งแล้ว  แต่ว่าคุณไม่ฟังฉันเลย  ...เด็กสมัยใหม่ก็แบบนี้”

          “ท่านเคยเตือนผมแล้วครับ  แล้วผมก็ทราบดีว่าที่ท่านหมายถึงอำนาจเบื้องหลังตำแหน่งนั้นคืออะไร  ผมเข้าใจทั้งหมด  แต่ว่า...ผมก็เลือกแล้วที่จะสู้ต่อในแบบของผม  ผมมีสิทธิ์ที่จะเลือกไม่ให้หนทางของผมซ้ำรอยของท่าน  ไม่ว่ามันจะสำเร็จหรือไม่  ก็คือว่าผมได้เลือกแล้ว”

          “ต้องให้สูญเสียอีกเท่าไหร่เธอถึงจะพอใจ  พิชช์ฌาน”  สรรพนามที่เปลี่ยนไปของไตรคุณบ่งบอกอารมณ์ที่คุกรุ่นของเจ้าตัว  “เสียลูกไปคนหนึ่งแล้วยังไม่พอใจอีกเหรอ”

          แววตาของคนฟังปรากฏรอยเจ็บปวดแวบหนึ่งก่อนจะสงบลงตามเดิม

          “เป็นคำถามที่ผมควรจะต้องถามท่านมากกว่าครับ  หรือว่าท่านไม่รู้สึกอะไร  ก็คงเหมือน ๆ กับตอนที่ท่านสั่งให้กำจัดลูกโอเมก้าคนนั้นทิ้งซะ”

          “ฉันไม่เคยรู้เรื่องนั้น”

          “ถ้าผมบอกว่าผมมีหลักฐานล่ะ”  พิชช์ฌานสวนทันควัน  “ผมมีพยานบุคคลตัวเป็น ๆ เลยด้วยที่ยืนยันได้ว่าท่านทะเลาะกับคุณหญิงอารยาคืนนั้นแล้วบังคับให้เธอเอาลูกไปทิ้ง”

          เส้นเลือดข้างขมับของท่านไตรคุณเริ่มปูดโปน

          “หลักฐานเท็จ  คิดว่าฉันจะหลงกลคุณง่าย ๆ งั้นเหรอ”

          พิชช์ฌานยิ้ม  หันไปที่มุมหนึ่งของห้องที่มีตู้ปลาขนาดใหญ่ตั้งอยู่  เงาของคนสองคนขยับก้าวออกมาตรงหน้า  ไตรคุณอ้าปากค้าง

          “อรุณา  เจนรวี!!!”    ผู้หญิงสองคนยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าของอดีตนายกรัฐมนตรี  คนหนึ่งคืออดีตพี่เลี้ยงที่ไว้ใจที่สุด  ส่วนอีกคนคือภรรยาลับ ๆ ของเพื่อนสนิทที่เข้าใจว่าเสียชีวิตไปนานแล้ว  “เธอยังไม่ตาย”

          “ค่ะท่าน  ดิฉันยังไม่ตาย”  เจนรวีก้มศีรษะรับ  เวลาที่ผ่านมาหลายสิบปีทำให้เธอดูมีอายุขึ้นกว่าสมัยที่เขาเคยเจอตอนที่นิมมานพามาแนะนำตัว  “ยินดีที่ได้พบกับท่านอีก”

          “หึ ๆ คนของนิมมานทำพลาดงั้นหรือ”  ไตรคุณเลิกคิ้ว “ฉันไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าจะได้เจอเธออีก”

          “คนของคุณพ่อไม่ได้ทำพลาดหรอกครับ”  พิชช์ฌานขัดขึ้น  “แต่ว่าท่านตั้งใจให้เป็นแบบนี้ต่างหาก”

          “ตัดใจไม่ขาด”  ไตรคุณจุ๊ปาก  ส่ายหน้าไปมา  “นิมมานก็แบบนี้แหละ  ...ใจอ่อนไม่เข้าท่า”

          “คุณพ่อไม่ได้ใจคอเหี้ยมโหดเกินมนุษย์อย่างท่านมากกว่าครับ”  ชายหนุ่มสวนอย่างเผ็ดร้อน

          “แล้วเอาเบต้าสองคนนี้มาคิดว่าจะทำอะไรฉันได้งั้นเหรอ  คุณพิชช์ฌาน”  ไตรคุณกวาดตามองอย่างประเมิน  “คิดจะเอามาเป็นหลักฐานจัดการฉันเหรอ  ขอโทษทีเถอะนะ...คนนึงก็เป็นเมียน้อยนอกกฎหมาย  ส่วนอีกคนก็เป็นแม่บ้านธรรมดา  คุณคิดว่าประชาชนจะฟังพวกเขาหรือว่าฉันล่ะ”  คนพูดยิ้มหยัน

          “ประชาชนจะเชื่อสิ่งที่ถูกต้องครับ”  พิชช์ฌานตอบอย่างสงบ  หันไปหาทั้งสองคน  “รบกวนพวกคุณช่วยเล่าเรื่องที่เห็นให้ผมฟังอีกทีได้ไหมครับ”

          อรุณาพยักหน้าและเริ่มก่อน

          “ฉันเป็นพี่เลี้ยงให้กับคุณอัยย์และก็คุณคินตั้งแต่คุณ ๆ เขาเกิดค่ะ  มีอยู่คืนหนึ่งหลังจากที่พาคุณหนูเข้านอน  ฉันจะมาหาคุณหญิงเพื่อขออนุญาตลาหยุดกลับบ้านสุดสัปดาห์นั้น  ปรากฏว่าฉันได้ยินเสียงโต้เถียงดังออกมาจากห้องนอนของท่านค่ะ  ด้วยความอยากรู้ก็เลยแอบฟัง  คุณหญิงท่านร้องไห้แล้วก็พูดกับท่านเรื่องที่เก็บคุณอัยย์เอาไว้”

          เกิดความเงียบขึ้นภายในห้อง  อรุณากลืนน้ำลายลงคอแล้วพูดต่อ

          “คุณหญิงถามว่าทำไมถึงไม่กำจัดคุณอัยย์เหมือนที่เคยทำกับลูกคนก่อน  ทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนใจ ...ทำนองนี้ค่ะ  ส่วนท่านไตรคุณก็ยืนนิ่ง  ไม่พูดอะไรเลย  ฉันตกใจมาก...ไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณหญิงท่านมีลูกอีกคนก็เลยแอบไปเปิดดูบันทึกการตั้งครรภ์ของท่านค่ะ  ...คุณหญิงเคยมีลูกอีกถัดจากคุณอริศราจริง ๆ”

          “............”

          “ฉันกลัวคุณอัยย์จะเป็นอันตรายก็เลยเฝ้าคุณอัยย์เอาไว้ตลอดเวลาไม่ยอมให้ใครพาไปไหน  ระหว่างนั้นฉันได้เจอแม่บ้านคนก่อนที่ลาออกไป  เธอเล่าให้ฉันฟังว่าคุณหญิงบังคับให้เธอเอาลูกไปทิ้งเอาไว้ในสวนสาธารณะจริง ๆ อาทิตย์ต่อมาแม่บ้านคนนั้นก็ตาย  แล้วฉันก็ถูกจับได้  คุณหญิงให้ฉันเลือกระหว่างความตายกับหนีออกนอกประเทศ ...ฉันเลยเลือกจะหนี ...เรื่องของฉันมีเพียงเท่านี้ค่ะ”

          “แล้วยังไง”  ไตรคุณเลิกคิ้ว  “เธอทำให้ฉันผิดหวังนิดหน่อยนะอรุณา  คิดว่าจะมีอะไรที่น่าประทับใจมากกว่านี้เสียอีก”

          “ผมคิดว่าท่านรอฟังจากคุณเจนรวีดีกว่าครับ”  พิชช์ฌานอมยิ้ม

          “ของดิฉันเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นค่ะ  ท่านนิมมาน...เป็นเพื่อนสนิทของท่านไตรคุณ  ฉันก็เลยเคยเจอท่านอยู่บ้าง”  เจนรวีเริ่ม  มองหน้านักการเมืองอาวุโสนิ่ง  “พวกท่านเคยมีอุดมการณ์เดียวกันก่อนที่จะตอนหลังท่านนิมมานจะเปลี่ยนใจ  เหตุการณ์ของดิฉันเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยที่ท่านนิมมานยังหลงในอำนาจค่ะ”

          “ฉันจำเธอได้เจนรวี”  ไตรคุณว่า  “ไม่ต้องเท้าความมาก”

          “อย่างที่รู้...ดิฉันเป็นภรรยาของท่านนิมมานแม้จะไม่ได้ออกหน้าแต่ก็มีลูกชายให้ท่านหนึ่งคน  น่าเสียดายที่ตอนนั้นมีคนรู้ความลับเรื่องนี้เข้าเลยคิดจะเอามาแบล็คเมล์ท่าน  ดิฉันทราบเรื่องนี้เลยทนไม่ได้ เสนอแผนการให้ท่านใหม่ด้วยการที่ดิฉันแต่งงานกับคนอื่นเสียแล้วพาลูกไปที่อื่น  ท่านเห็นด้วย  ฉันเลยแต่งงานกับคุณสมคิด  แต่ว่า...”  ดวงตาของเธอหม่นลง  “มีคนไม่หวังดีใส่ร้ายว่าดิฉันกับสมคิดจะหักหลังท่าน  ท่านหลงเชื่อคนพวกนั้นก็เลยส่งคนมาเก็บดิฉันกับสมคิด  สมคิดเสียชีวิตคาที่แต่ว่าดิฉันรอดมาได้  มีคนช่วยพาไปรักษาตัวจนหาย”

          “พูดต่อได้เลยครับ”  พิชช์ฌานบอกเสียงนุ่ม

          “ดิฉันคิดจะกลับไปหาลูกแต่ก็กลัวว่าเขาจะเป็นอันตราย  เขาถูกส่งไปอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า  ดิฉันไปแอบดูอยู่สามวันจนแน่ใจว่าลูกปลอดภัยถึงได้ลงเรือจะหนีไปเริ่มต้นใหม่ที่ประเทศอื่น”  เจนรวีถอนหายใจยาว  “ดิฉันต้องเปลี่ยนชื่อนามสกุลเสียใหม่เพื่อปิดบังตัวตน  เพราะไม่มีบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตวีซ่าเลยต้องลักลอบเข้าไปกับพวกค้าของเถื่อน   เราขึ้นไปซ่อนอยู่ใต้ท้องเรือร่วมกับคนอื่น ๆ ที่ลักลอบข้ามประเทศ  คืนที่ออกจากฝั่งดิฉันมองลอดช่องไม้ของเรือไปแล้วเห็นท่านไตรคุณยืนอยู่บนท่าเรือ  กำลังพูดคุยกับหัวหน้าที่ต้อนพวกดิฉันขึ้นเรือมา”

          “ต่อให้เธอยกเมฆขึ้นมาทั้งหมดก็คงไม่มีใครทำอะไรได้”  ไตรคุณหัวเราะห้าว ๆ “เธอจะพูดอะไรก็พูดได้ทั้งนั้น  ปั้นน้ำเป็นตัว  ...มิน่าล่ะนิมมานถึงได้กำจัดเธอซะ”

          “ท่านเข้าใจผิดแล้วครับ”  พิชช์ฌานพูดขึ้นเรียบ ๆ “คุณพ่อเชื่ออยู่แล้วว่าคุณเจนรวีไม่ได้หักหลังท่าน  แต่ว่าท่านก็เล่นตามน้ำไปก่อนเพราะไม่อยากผิดใจกับเพื่อนสนิทที่ท่านรักที่สุด”

          “ฉันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย”  ไตรคุณร้อง

          “ทำไมจะไม่เกี่ยวครับ  ข่าวที่บอกว่าคุณเจนรวีหักหลังก็มาจากคนของท่านไม่ใช่เหรอ”  พิชช์ฌานโต้  “จะให้ผมบอกด้วยไหมว่าตอนแรกท่านนั่นแหละที่คิดจะหักหลังเพื่อน  ใช้เรื่องลูกลับแบล็คเมล์เพื่อนสนิทของตัวเอง  แต่พอพลาดก็เลยเปลี่ยนแผนเป็นกำจัดซะ  ท่านไม่แปลกใจเหรอครับว่าทำไมไม่กี่เดือนหลังจากนั้นคุณพ่อถึงได้ถอนตัวออกจากพรรคแล้วไปตั้งพรรคใหม่”

          “เพราะมันไม่พอใจโควตารัฐมนตรีต่างหาก”  ไตรคุณแย้ง  “พวกของมันไม่ได้ตำแหน่งครบตามที่ขอ”

          “ไม่ใช่ครับ  แต่เป็นเพราะคุณพ่อเสียใจมากเรื่องคุณเจนรวี  ยิ่งความจริงที่เพื่อนสนิทของท่านทำกับท่านเพราะเห็นแก่อำนาจ  ท่านก็ยิ่งเสียใจ...เพื่อนสนิทของท่านเปลี่ยนไปมากจริง ๆ  ท่านรู้เรื่องผลประโยชน์เบื้องหลังอำนาจของนายกฯครับ  ท่านรับไม่ได้ที่เพื่อนรักที่ร่วมอุดมการณ์กันมากลับไปเห็นดีเห็นงามกับเรื่องชั่วช้าอย่างเช่นการค้ามนุษย์หรือแม้แต่บ่อนใต้ดินหรือยาเสพติด”

          “............”  คราวนี้ท่านไตรคุณเงียบกริบ

          “คุณพ่อเคยขอให้ท่านถอยออกมา  เคยบอกให้ท่านหยุด....ท่านจำได้ไหมครับ”  พิชช์ฌานกระชากเสียง  “แต่ท่านก็ยังทำต่อไปแม้กระทั่งตอนนี้ที่ท่านให้ลูกชายออกมารับโทษความผิดแทนท่าน  ท่านถือตนเป็นอัลฟ่าเลือดบริสุทธิ์ที่สูงส่งแต่กลับทำเรื่องเลวร้ายไม่มีความละอายใจ  ท่านยังมีความเป็นมนุษย์อยู่บ้างมั้ยครับ”

          “เธอ...กล้าดียังไง....พูดกับฉันแบบนี้”  ไตรคุณโกรธจัด  “คิดว่าฉันอยากทำนักหรือไง  คิดว่าฉันมีทางเลือกงั้นเหรอ”  นักการเมืองอาวุโสล้วงมือเข้าไปในเสื้อสูทของตัวเอง

          “ท่านเอามือออกมาดีกว่าครับ”  พิชช์ฌานพูดเรียบ ๆ “อย่าให้ทุกอย่างแย่ลงไปกว่านี้เลย  ถึงขนาดนี้แล้ว  ท่านหยุดเถอะครับ  ผมขอร้องล่ะ”

          “ฉันเคยบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าการเป็นนายกฯมีสิ่งที่ต้องแลก”

          “ผมทราบครับ  แล้วผมก็เลือกแล้วด้วย  ถึงอย่างไรผมก็จะไม่มีทางก้าวลงไปในวังวนอย่างท่านเด็ดขาด  ก่อนหน้านี้ผมก็เคยเดินทางผิดมาก่อนเหมือนกัน  จนกระทั่งได้มาเจอกับลูกชายท่าน...อาคิราห์  เขาทำให้ผมรู้ว่าผมมีสิทธิเลือก  จะดีหรือไม่ดีขึ้นกับการกระทำที่ผมเลือกเอง  ไม่เกี่ยวกับอะไรเลยแม้แต่สายเลือด  ความภูมิใจในสายเลือดโอเมก้าของเขาทำให้ผมคิดได้และกลับตัวทัน”

          “เธอไม่เข้าใจหรอก”  ไตรคุณพูดเสียงห้วน  “ถ้าเธอไม่มีทางถอยหลังกลับ  นอกจากก้าวถลำลึกลงไปในโคลน  โคลนพวกนั้นก็จะดูดเธอจมลงไปเรื่อย ๆ ยิ่งเธอดิ้นรนมันก็จะยิ่งดูดรุนแรงขึ้น  เธอมีครอบครัวของเธอ  มีคนที่รักเป็นตัวประกัน  เพื่อแลกกับคนพวกนั้น  ก็ต้องยอมจมลงไปกับมัน”

          พิชช์ฌานยืนนิ่ง

          เสียงโหวกเหวกดังขึ้นข้างหน้าประตูก่อนที่มันจะถูกเปิดออก   ร่างโปร่งบางของใครบางคนก้าวพรวดเข้ามาในห้องทำงานของพิชช์ฌานด้วยท่าทางเคร่งเครียดแกมตื่นตระหนก

          “คุณพิชช์ฌาน!  คุณพ่ออย่าทำอะไรเขานะ”  อาคิราห์สะดุดพรมเช็ดเท้าตรงหน้าแล้วเซแซ่ด ๆ เข้ามากลางวงสนทนา  พิชช์ฌานตกใจก้าวออกไปรับตัวเอาไว้ได้ทันก่อนที่จะหน้าคะมำลงพื้น  “โอ๊ย!!”

          “อะไรกันอาคิราห์  ระวังหน่อยสิ  แล้วมาที่นี่ได้ยังไง”  สามีอุทาน  ประคองอีกฝ่ายเอาไว้ในอ้อมแขน  “แล้วคุณแม่ล่ะ”

          “แม่คุณอยู่ในรถ”  เจ้าโอเมก้าว่า  หันขวับไปหาบิดาที่ยืนมองนิ่งอยู่  “คุณพ่อจะทำอะไรพิชช์ฌาน  อัยย์ไม่ยอมนะ”

          “หึ”  นักการเมืองอาวุโสพ่นลมออกจมูกแรง ๆ มองหน้าลูกชายคนเล็ก  “ฉันจะทำอะไรต้องขออนุญาตเราก่อนหรือไง  เจ้าอัยย์”

          “อัยย์ขอล่ะ”  อาคิราห์ออกมายืนขวางหน้าระหว่างสามีกับบิดาเอาไว้  ยกมือขึ้นกางออกเหมือนแม่นกกางปีกปกป้องลูกนก  อารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นกลั่นออกมาเป็นน้ำตาที่คลอหน่วย  “อัยย์รู้ว่าคุณพ่อไม่ชอบคุณพิชช์ฌาน  แต่ที่อัยย์เสียลูกไปมันก็ไม่ใช่ความผิดของเขาหรอกนะ  เขาพยายามเต็มที่แล้ว  เป็นความผิดของอัยย์เอง”

          คนฟังชะงัก  พิชช์ฌานเหลือบมองหน้าไตรคุณแวบหนึ่ง

          “อาคิราห์”  ไตรคุณเรียกลูกชายเสียงต่ำ  “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับลูก  กลับออกไปรอข้างนอก”

          “อัยย์ไม่ไปไหน”  อาคิราห์สวนกลับทันที  “อัยย์จะอยู่ด้วย  อยากฟังด้วย”

          “อาคิราห์  กลับออกไปรอข้างนอกเถอะนะ  ฉันขอร้อง”  พิชช์ฌานพูดขึ้นบ้าง  “ฉันกับคุณพ่อของเธอแค่พูดคุยกันเฉย ๆ เท่านั้นเอง”

          “แค่คุยแล้วทำไมต้องให้คนเฝ้าหน้าห้องเยอะแยะด้วย  แถมเจนภพยังบอกอีกว่ากลัวคุณจะเป็นอันตราย”  อาคิราห์ว่า

          “เจนภพบอกเหรอ”  พิชช์ฌานคำรามในคอ  เหลือบมองประตูแวบหนึ่ง  “เอาล่ะ  ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว  ออกไปรอข้างนอกก่อนนะครับ”

          อาคิราห์อ้าปากจะค้านอีกรอบแต่พอสบตาคมเข้มคู่นั้นแล้วก็เปลี่ยนใจ  เจ้าโอเมก้าหมุนตัวเดินออกมาจากห้องทำงานของสามีอย่างไม่เต็มใจนัก

          “ผมจะรออยู่หน้าห้องนะ”  เขาพูดทิ้งท้าย  ปิดประตูห้องทำงานตามหลัง

          พิชช์ฌานถอนหายใจเฮือก  นักการเมืองอาวุโสเหลือบตาขึ้นมองหน้าแล้วยิ้มมุมปาก

          “ไม่มีอะไรต้องคุยแล้วมั้ง”  ไตรคุณว่า  ปรายตามองผู้หญิงอีกสองคนในห้องอีกครั้ง  “หลักฐานอ่อนขนาดนี้  ฉันผิดหวังอยู่นิด ๆ นะคุณพิชช์ฌาน  นึกว่าคุณจะมีอะไรให้เซอร์ไพรซ์มากกว่านี้เสียอีก”

          พิชช์ฌานยิ้มบาง ๆ  ก้มศีรษะให้อดีตนายกฯควบตำแหน่งพ่อตาเล็กน้อย

          “ไม่มีแล้วครับ  ยอมรับว่าท่านเป็นคนละเอียดรอบคอบดีมาก  ผมไม่เจอหลักฐานอะไรเป็นลายลักษณ์อักษรอีกนอกจากรายชื่ออักษรย่อที่เจอในตู้เซฟคืนนั้น  และถ้าลูกชายคนโตของท่านไม่ซัดทอดถึงท่าน  ทุกอย่างก็คงจบ”  ชายหนุ่มก้มลงมองมือของตัวเองแวบหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้น  “ผมไม่มีทางที่จัดการอย่างอื่นอีก  อย่าว่าแต่อำนาจที่หนุนหลังท่านอยู่เลย  แม้แต่ท่านเอง...เชื่อไหมว่าจนถึงตอนนี้ผมก็ไม่อยากทำอะไรรุนแรงเพราะรู้ว่าอาคิราห์รักท่านมาก  และผมรู้ว่าถ้าผมยังดึงดัน  ครอบครัวของผมก็จะเป็นอันตราย  แต่ว่าผม...ก็ทนไม่ได้อีกที่จะยอมจมลงไปกับโคลนดูดแบบท่าน  ดังนั้น...ผมจึงตัดสินใจแล้วที่จะเลือก...เส้นทางที่ถูกต้อง  สิ่งที่ท่านไม่กล้าทำ...ผมจะลงมือทำเองครับ”

          “แล้วอาคิราห์...เธอจะปล่อยให้อัยย์เป็นอันตรายงั้นหรือ”   ไตรคุณอุทาน  อีกฝ่ายส่ายหน้า

          “ผมจะส่งเขาไปอยู่ในที่ ๆ ปลอดภัยที่สุด  ที่ ๆ มั่นใจว่าเขาจะไม่เป็นอันตราย  ผมจะหย่าและเราจะไม่เกี่ยวข้องกันอีก  ท่านวางใจได้ว่าลูกชายของท่านจะไม่โดนลูกหลงไปด้วยแน่นอน  ...เพียงแค่เสียลูกไปคนเดียว  อาคิราห์ก็เสียใจมากเกินพอแล้ว”

          “รู้ว่าอัยย์เสียใจแล้วยังจะทำแบบนี้อีกเหรอพิชช์ฌาน  อัยย์เสียลูกไปแล้วยังต้องมาเสียสามีอีกหรือ  พวกมันคงไม่ปล่อยเธอเอาไว้แน่  ยิ่งเธอขวางลำผลปะโยชน์เอาไว้  มันยิ่งต้องกำจัด  แล้วอัยย์จะอยู่ยังไง”

          “ผมไม่มีทางเลือก  ท่านไม่เหลือทางเลือกให้ผม”  พิชช์ฌานตอบเสียงเรียบ  “ผมไม่มีทางอื่นนอกจากดับเครื่องชนตรง ๆ แล้ว  ถ้าท่านไม่กล้า  ทุกคนไม่กล้า  ผมก็ยอมเสียสละตัวเองเป็นคนจัดการกวาดล้างขบวนการนี้ให้มันจบเอง  ให้มันสิ้นสุดที่รุ่นผม”

          “ไม่มีทางสำเร็จ”  ไตรคุณคราง  มองหน้าชายหนุ่มรุ่นลูกอย่างโกรธเกรี้ยวแกมเจ็บปวด  “คิดว่าฉันไม่เคยคิดหรือไง  แต่ทุกครั้งที่ฉันคิดจะกลับตัว  พวกมันก็จะขู่ฉันด้วยการระเบิดบ้าง  ลอบยิงคนในบ้านบ้าง”

          “ผมถึงบอกไงครับว่าผมจะจัดการเอง”  พิชช์ฌานพูดซ้ำ  “ผมไม่มีอะไรจะเสียแล้ว”

          “ไม่มีอะไรจะเสีย?”  ไตรคุณพูดเสียงสูง  นัยน์ตาคมกริบแดงก่ำขึ้นเส้นเลือด  “แล้วลูกชายฉันล่ะ  เธอพูดเหมือนอัยย์ไม่สำคัญสักนิดเลย”

          “บางที...เราก็มีสิ่งสำคัญกว่าที่ต้องปกป้อง”  พิชช์ฌานกระซิบ  “ใครบางคนเคยบอกผมเรื่องนี้”

          “คนโง่น่ะสิ”  ไตรคุณตอบ  ผลักอกอีกฝ่ายออกแล้วเดินออกมาจากห้องทำงาน

          อาคิราห์ลุกขึ้นยืนก้าวเข้าไปหาบิดาทันควัน  สีหน้าติดจะบึ้งตึงของผู้สูงวัยกว่าทำให้คนเป็นลูกชะงัก  ไตรคุณนิ่งอยู่อึดใจแล้วก็หันมาหาบุตรชาย

          “อัยย์  แข็งแรงดีแล้วเหรอ”  น้ำเสียงของเขาเกือบจะเป็นปกติ  อาคิราห์ยิ้มออกมาได้

          “แข็งแรงดีแล้วครับ”  เขาเอื้อมมือไปแตะที่ท่อนแขนของบิดา  “คุณพ่อจะกลับแล้วเหรอครับ”

          “........”  ไตรคุณไม่ตอบแต่ยกมือขึ้นวางบนศีรษะของลูกชายคนเล็กเหมือนที่เคยทำ  ชั่วขณะหนึ่งที่อัยย์รู้สึกเหมือนพ่อจะกอดเขา  ทว่าคนเป็นพ่อกลับปล่อยมือจากศีรษะแล้วเดินกลับออกไปแทน

          ร่างสูงสง่าที่เริ่มร่วงโรยตามวัยนั้นเดินผ่านพ้นประตูหน้าบ้านตามด้วยเหล่าผู้ติดตามที่เดินตามหลังออกไปเป็นพรวน  แผ่นหลังที่เคยยืดตรงผึ่งผายงองุ้มลงเล็กน้อยคล้ายกับว่าเจ้าตัวเริ่มเหน็ดเหนื่อยเต็มที  อาคิราห์ถอนหายใจยาว  ชะเง้อมองตามหลังท้ายรถที่แล่นออกไปจากบริเวณหน้าบ้าน

          พิชช์ฌานก้าวออกมาจากห้องทำงาน  ทอดสายตามองร่างโปร่งบางของภรรยาอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เดินมากอดเอาไว้แน่น  ไม่สนใจสายตาของลูกน้องผู้ติดตามทั้งหลายที่ยืนอยู่ไม่ห่างไปนัก

          อาคิราห์ซบหน้าลงกับแผ่นอกกว้างนิ่งนาน  สูดกลิ่นหอมจัดเฉพาะตัวของอัลฟ่าของเขาเข้าปอด  ทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นเมื่อครู่สงบลงอย่างรวดเร็ว  มือใหญ่ลูบหลังไปมาเหมือนปลอบเด็ก  พิชช์ฌานวางคางลงกับกระหม่อมของเขา

          “คุณพ่อกลับไปแล้ว”  อัยย์พึมพำ  “พ่อโกรธมากใช่มั้ย  คงอยากให้คุณช่วยพี่ภพ”  คำพูดของอาคิราห์ทำให้คนฟังนิ่งไปนิดหนึ่ง

          “แล้วเธอคิดว่ายังไง”

          “คุณไม่ต้องสนใจผม  ผิดก็ว่าไปตามผิด”  อาคิราห์ตอบ  “ไม่เกี่ยวว่าเขาเป็นพี่...หรือว่า...เป็นใคร”  ประโยคหลังเขาพูดสะดุด  “...ผมไม่เป็นไร”

          “เธอเป็นคนเข้มแข็งจริง ๆ อาคิราห์”  พิชช์ฌานพูดอยู่ริมหู  “ฉันนับถือหัวใจของเธอ”

          คนฟังอมยิ้ม

          “ไม่เท่าคุณหรอก  คุณพิชช์ฌาน”  อาคิราห์ตอบกลับไป

          เจนภพเดินผ่านพวกเขาเข้าไปภายในห้องทำงานที่ยังมีผู้หญิงสองคนอยู่ในนั้น  ชายหนุ่มจ้องเขม็งไปยังคน ๆ หนึ่งที่ตัวสูงกว่า  ใบหน้าคมคายคุ้นตาดูคล้ายกับคนในรูปภาพที่เขาเคยพกเมื่อนานมาแล้ว  ริ้วรอยตามวัยกับสีผิวที่คล้ำขึ้นไม่ทำให้คนตรงหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมในความทรงจำของเขา

          “เจนภพ”  ผู้หญิงคนนั้นเรียก

          “สรุปว่า...คุณคือแม่ของผมจริง ๆ ใช่มั้ย”

          “ใช่”

          “ทำไมตอนที่ผมตามคุณออมไปเจอคุณ  คุณไม่บอกผม  คุณปล่อยให้ผมเข้าใจผิดว่าเป็นคนทรยศพ่อ”  เจนภพร้อง  “ผมเคยเข้าใจว่าแม่ตายไปแล้วจนเมื่อเร็ว ๆ นี้เพิ่งรู้ว่าแม่ยังอยู่  รู้หรือเปล่าว่าผมไปตามหาคุณทุกที่  ที่แท้...คุณกลับอยู่นี่เอง”  ชายหนุ่มพูดอย่างเสียใจ

          “แม่ขอโทษ”  เจนรวีพูดเสียงแหบเครือ  “แต่ว่าแม่ไม่อยากให้ลูกต้องเจ็บปวดหรือมีอันตราย  ลูกอยู่กับท่านนิมมานก็ดีอยู่แล้ว”

          เจนภพไม่พูดอะไรออกมาอีก  ชายหนุ่มหมุนตัวเดินกลับออกไปจากห้องทำงาน  อาคิราห์เงยขึ้นมองหน้าสามีอย่างสงสัย  พิชช์ฌานบอกว่าจะอธิบายให้ฟังทีหลัง

          “เจนภพคงอยากอยู่คนเดียว  ...เรา ...ไปหาลูกกันดีไหม”  พิชช์ฌานพูดเนิบ ๆ เลื่อนมือไปกุมมือของคู่ชีวิตเอาไว้แน่น

          ......................................................................................


ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk






         สุสานที่พิชช์ฌานกับอาคิราห์เดินเข้ามาถูกตกแต่งและทำความสะอาดเอาไว้แล้วเรียบร้อย  สีขาวของแผ่นป้ายหินอ่อนตัดกับสีแดงสดของดอกกุหลาบที่อาคิราห์ถือติดมือเข้ามา  บรรยากาศเงียบสงัดแม้แต่ลมก็หยุดพัดชั่วขณะ

          “ตรงนี้สินะ”  พิชช์ฌานพึมพำ  หยุดยืนตรงหน้าหลุมศพที่นำร่างของลูกสาวมาฝังเอาไว้  ตัวอักษรสีทองเขียนเอาไว้ว่า เฌอริชช์  อัศวลักษณ์  งดงามแต่ก็เยือกเย็นจับใจ

          อาคิราห์ทอดสายตามองเงียบ ๆ ความรู้สึกของเขาสงบลงมากแล้วเมื่อเทียบกับเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้า  เหมือนพลุที่พุ่งขึ้นสูงแล้วก็แตกสลายตกกลับมาบนพื้นดินราบเรียบ   หันไปมองข้าง ๆ กันนั้นคือที่พักของเพื่อนโอเมก้าคนแรกและคนเดียวของเขา  ...นิลลา

          “เวลาผ่านไปไวจังนะ  เหมือนไม่กี่วันก่อนเรายังอยู่ด้วยกันอยู่เลย”  อาคิราห์กระซิบ  หลุบตาลงมองดอกกุหลาบสีแดงสดในมือของตัวเอง  “ฉันเอาดอกกุหลาบมาฝาก  รู้ว่านิลลาก็ชอบเหมือนกัน”  เขาย่อตัวลงวางดอกกุหลาบดอกนั้นลง  “เฌอริชช์ด้วยนะลูก  ไม่รู้ว่าหนูชอบดอกกุหลาบหรือเปล่าแต่เดาว่าคงชอบมากแน่ ๆ”

          “ถ้าลูกได้ออกมาดูโลกก็คงจะเหมือนเธอที่สุด  อาคิราห์”  พิชช์ฌานพูดเสียงเครือพร้อมกับสูดน้ำมูก  เขาไม่เคยห้ามตัวเองไม่ให้น้ำตาไหลได้เลยทุกครั้งที่นึกถึงลูกสาว  “คงจะน่ารักมาก”

          อาคิราห์ยิ้ม

          “สุดท้ายคุณก็ยอมรับแล้วใช่ไหมล่ะว่าบู้บี้แปลว่าน่ารัก”

          “ฉันก็ไม่เคยว่าเธอน่าเกลียดนี่”

          “ผมน่าจะอัดเสียงคุณสมัยนั้นเอาไว้  ว่าผมอย่างกับอะไรดี”  อาคิราห์ย่นจมูกใส่แล้วกอดแขนล่ำสันแน่น  “เรากลับกันเถอะครับ”  เขาพูดเนิบ ๆ เหลือบมองที่ ๆ นิลลากับเฌอริชช์นอนพักผ่อนอยู่นั้นแวบเดียว  จากนั้นก็เดินกอดแขนสามีกลับออกมาจากสุสานโดยไม่หันกลับไปมองอีก

          พิชช์ฌานกลับไปส่งอาคิราห์ที่บ้านของคุณนายนวลพรรณแล้วอยู่กินมื้อเย็นด้วยกัน  นักการเมืองหนุ่มมีท่าทางเคร่งเครียดยามเผลอตัวจนเจ้าโอเมก้าสังเกตได้  สายตาเหลือบมองนาฬิกาเป็นระยะ

          “คุณมีประชุมต่อเหรอครับ”  เขาเอียงหน้าเข้าไปกระซิบถาม  สามีส่ายหน้า

          “เปล่า  ฉันไม่มีตารางแล้ววันนี้”

          คนฟังเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดออกมาขรึม ๆ

          “ทานข้าวเสร็จแล้ว  ผมมีอะไรจะให้คุณช่วยหน่อย”  อาคิราห์ช่วยเก็บล้างจานเสร็จก็เดินนำหน้าสามีขึ้นไปบนห้องนอนที่เขาครอบครองอยู่คนเดียวมาหนึ่งเดือนเต็ม  พิชช์ฌานกวาดตามองรอบ ๆ ห้องที่เต็มไปด้วยข้าวของส่วนตัวของเจ้าโอเมก้า

          “ห้องเริ่มรกแล้วนะ...นั่นเธอจะทำอะไรน่ะ”  นายกรัฐมนตรีหนุ่มชะงัก  มองภรรยาของตนเองถอดเสื้อออกอย่างตกใจ  อาคิราห์ส่งครีมหลอดหนึ่งมาให้เขารับไว้

          “ครีมลดรอยแผลเป็น  ช่วยทาให้หน่อย”  อาคิราห์พูด  เอนตัวลงนอนหงายบนเตียงพร้อมกับตบมือลงที่หน้าท้องของตนเบา ๆ

          พิชช์ฌานขมวดคิ้วแต่ก็ยอมเดินมานั่งข้าง ๆ ก้มลงสำรวจรอยแผลผ่าตัดกลางท้องอย่างระมัดระวัง

          “สีจางลงบ้างมั้ย  ยังดีที่ไม่นูนขึ้นมามาก”  ปลายนิ้วเรียวยาวลูบไปบนแผลเป็นเบา ๆ แล้วบีบเนื้อครีมออกมาทาให้บาง ๆ “แผลเป็นก็อยู่ที่ท้อง  เธอทาเองก็ถึง  ไม่เห็นจะต้องให้ฉันช่วยทาให้เลย...”  พูดจบแล้วก็นึกขึ้นได้  เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายที่หน้าแดงจัดลามลงมาถึงลำคอ  คิ้วเข้มเลิกสูง...พิชช์ฌานตามความคิดของภรรยาได้ทัน  เขายิ้มออกมาขัน ๆ ก้มลงจูบที่ข้าง ๆ สะดือบุ๋มเล็กนั้นแรง ๆ แล้วแกล้งงับเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว

          อาคิราห์หัวเราะ  ผลักอีกฝ่ายออกเพราะจั๊กจี้  คราวนี้พิชช์ฌานไม่ขยับตัวออกแต่กลับถอดเสื้อของตัวเองตามด้วยกางเกงออกอย่างรวดเร็ว  ทำเอาคนที่คิดหาวิธีเชิญชวนแทบตายเขินจนไม่กล้าสบตาคมเข้มอีก

          “แล้วไงต่อ...ถ้าไม่มีอะไรฉันจะไปอาบน้ำแล้วนะ”  พิชช์ฌานเห็นอีกฝ่ายก้มหน้างุดก็แกล้งถามทั้ง ๆ ที่มีเพียงชั้นในตัวเดียวปกปิดร่างกาย  อาคิราห์อึกอักแล้วก็กัดฟันรูปซิปกางเกงขายาวของตัวเองออกบ้าง  ขยับตัวลุกขึ้นคุกเข่าคร่อมทับสามีเอาไว้อย่างเงอะงะ  ใจเต้นแรงจนแทบจะโลดออกมานอกอก

          พิชช์ฌานมองใบหน้าเจ้าตัวบู้บี้ของเขาอย่างเอ็นดู  คิดอยากจะเชิญชวนเขาทั้งทีแต่กลับไม่กล้า  ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกุมมือแบบบางนั้นเอาไว้แล้วเลื่อนมากุมทับกลางตัวของเขา  อาคิราห์สะเทิ้นราวกับเจ้าสาวแรกเข้าหอเสียอย่างนั้น  เห็นทีเวลาเดือนกว่าที่ร้างราไปคงจะมีผลไม่มากก็น้อย

          เขาช่วยเหลือภรรยาอีกนิดหน่อยจนกระทั่งมือเล็กนั้นกอบกุมตัวตนของเขาได้อย่างทะมัดทะแมงขึ้น   อาคิราห์ก้มลงใช้ริมฝีปากช่วยแบบที่รู้ว่าพิชช์ฌานชอบ  ปลายลิ้นขยับอย่างรู้ใจจนกระทั่งพิชช์ฌานสมองพร่าเบลอไปชั่วขณะและเจ้าโอเมก้าถอยไปกระอักกระไอหน้าดำหน้าแดง

          “...หายเครียด...บ้างมั้ย”  อาคิราห์หันมาถาม  พิชช์ฌานอมยิ้ม  เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงเป็นห่วงเขามากถึงได้พยายามหาทางผ่อนคลายให้แบบนี้  ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะรู้หรือเปล่าว่าเขาเองก็รอเวลานี้มานานแล้ว  ...รอให้แผลของอาคิราห์หายสนิทดีพอ

          “ยังเครียดอยู่เลย ...หนักกว่าเดิมอีก”  พิชช์ฌานตอบ  เขาไม่ได้หมายถึงอารมณ์แต่หมายถึงอวัยวะอื่นที่กลับมาตึงเครียดอีกครั้งในชั่วพริบตา  ผิวเนื้อสีน้ำผึ้งอ่อนเนียนลื่นมือนั้นถูกเขาสัมผัสซ้ำแล้วซ้ำอีกทุกตารางนิ้วไม่เว้นแม้แต่ส่วนที่ลับที่สุด  อาคิราห์บิดตัวเร้าเมื่อปลายลิ้นร้อนผ่าวสัมผัสเข้าที่ส่วนนั้นให้อย่างชำนาญ

          พิชช์ฌานรู้จักร่างกายของเขาดียิ่งกว่าตัวเขาเองเสียอีก  อารมณ์ที่ถูกกระตุ้นของเขาทะยานขึ้นสูงตามอุณหภูมิของร่างกายที่เปลี่ยนไป  กลิ่นคุกกี้รสนมหอมตลบอบอวลไปหมดทั้งห้อง  พิชช์ฌานเบิกตากว้าง

          “เธอไม่ได้กินยากันฮีท”

          “...........”  เจ้าโอเมก้าไม่ตอบแต่รั้งลำคอของอัลฟ่าเข้ามาจูบหนักหน่วง

          พิชช์ฌานรู้สึกเหมือนสมองสว่างวาบกลายเป็นลำแสงจ้า  เขาลืมเรื่องหนักอกทุกสิ่งไปเสียสิ้นนอกจากการสัมผัสบีบเคล้นมือไปตามผิวเนื้อนุ่มนิ่มขึ้นสีเรื่อทุกการสัมผัส  โดยเฉพาะตัวตนของเจ้าโอเมก้าของเขาที่น่ารักจนไม่สามารถหยุดยั้งได้

          อาคิราห์หวีดร้องออกมาหลายต่อหลายครั้ง   อีกฝ่ายฝังตัวตนเข้ามาในตัวของเขาลึกสุดตัวและขยับตัวอย่างไม่ปรานีปราศรัย  แรงกระแทกหนักหน่วงที่ช่วงสะโพกทำเอาหัวสั่นหัวคลอน   ยอดอกเปียกชื้นบวมเป่งจากการสัมผัสซ้ำ ๆ  ผ้าปูที่นอนยับย่นหมอนผ้าห่มกระจายเต็มเตียง  เขาถูกจับพลิกหงายพลิกคว่ำอยู่หลายตลบจนจำไม่ได้

          รู้แค่ว่าอีกฝ่ายคงคิดถึงเขามาก  เหมือนกับที่เขาคิดถึงพิชช์ฌานเช่นกัน

          .............................................................................

          “ปล่อยได้หรือยัง”  อาคิราห์ถามเสียงแหบ  เจ็บคอไปหมด  หันไปมองนอกหน้าต่างก็เริ่มเห็นแสงจาง ๆ ของพระอาทิตย์แล้ว  ...พิชช์ฌานไม่ยอมหยุดจนกระทั่งเช้า  และยังไม่ยอมปล่อยเขาเป็นอิสระอีกด้วย

          “ยังไม่หมด”  อัลฟ่าของเขาคำรามตอบกลับมาในลำคอ  มือใหญ่ยืดเอวของเขาเอาไว้แน่น  อาคิราห์คุกเข่าจนเริ่มเมื่อยไปหมดร้อนถึงอีกฝ่ายต้องหาหมอนมารองให้  “ยังไม่หลุดเลย”

          ร่างกายของเขายังเชื่อมต่อกันอยู่ราวกับมีกาวทาติดเอาไว้แต่อาคิราห์รู้ดีว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร  เขารู้สึกถึงความอุ่นจัดที่อยู่ในท้องน้อย  ทุกครั้งที่ขยับตัวก็จะรู้สึกได้ถึงชีพจรที่เต้นตุบ ๆ อยู่ภายใน

          “เปลี่ยนท่าได้มั้ย”  เขาร้องขออีกครั้ง  คราวนี้พิชช์ฌานอุ้มเขาลอยขึ้นมาทั้งที่ตัวยังติดกันแล้วเปลี่ยนเป็นทิ้งตัวลงนั่งแทน  ความกระเทือนทำให้ร่างโปร่งบางสะดุ้งเฮือก  หันไปค้อนคนที่กำลังกอดเขาเอาไว้จากด้านหลัง  “เมื่อไหร่จะหลุด”  เขาร้องโอดครวญอีกครั้งหนึ่ง

          พิชช์ฌานที่กำลังไล่เม้มปากลงบนผิวเนื้อหลังลำคอระหงเหลือบตาขึ้นมองนิดหนึ่ง  แล้วก็ก้มลงงับที่รอยฟันเดิมแรง ๆ เหมือนแกล้งกัน

          “โอ๊ย...เจ็บนะ”  อาคิราห์อุทาน  หน้างอ  จะลุกหนีก็ลุกไม่ได้เพราะตัวติดกันอยู่  จะขยับตัวมากก็ไม่ได้เพราะจะรู้สึกมากกว่าเดิม  ช่างเป็นความทรมานที่เอาเปรียบกันชะมัด  “วันหลังไม่เอาแล้ว”

          “ใครเริ่มก่อน”  พิชช์ฌานเลิกคิ้ว  “ทำมาเป็นชวนทาครีม” เขางับที่ปลายจมูกกลมทู่เล่น  “แผนสูงเหรอ”

          “ก็..ก็เห็นเครียด ๆ”  อาคิราห์ยกมือขึ้นปิดหน้า  สะดุ้งอีกครั้งเพราะคนข้างล่างขยับเอวสวนขึ้นมา  “โอ๊ย!  หยุดนะ”

          “แต่เธอมีอารมณ์อีกแล้วนะ  อาคิราห์”  พิชช์ฌานพยักพเยิดไปที่ยังหลักฐานกลางตัวเขา  “ใครกันแน่ที่ไม่ยอมหยุด”

          “ฮือ  ไม่เอาแล้ว  เจ็บก้น  ช้ำไปหมดทั้งตัวแล้วเนี่ย”  เจ้าบู้บี้ของเขาคร่ำครวญพลางยกแขนให้ดูราวกับขอความเห็นใจ  “มีแต่รอย”  พิชช์ฌานอมยิ้มกวาดตามองร่องรอยบนผิวสีน้ำผึ้งกระจ่างนั้นอย่างพอใจ   ชะโงกเข้าไปจูบเม้มที่ยอดอกสีเข้มทีหนึ่ง

          “เหนื่อยก็งีบก่อนก็ได้”  เขาพูดเสียงนุ่ม  ซ่อนยิ้มไว้ในใจเมื่อเห็นเจ้าโอเมก้าเอนตัวพิงอกเขาเปลือกตาปิดลงในทันที   อัลฟ่าหนุ่มแกล้งขยับตัวอีกครั้งทำให้คนหลับสะดุ้งขึ้นมานั่งตัวตรงแล้วฟาดมือใส่เต็มแรง

          “แกล้งกันเหรอ  แกล้งกันอยู่นั่นแหละ”  อาคิราห์พูดเข่นเขี้ยว  ก้มลงไปมองข้างล่างอย่างสังเกตพลางลองขยับตัวดู  “หลุดแล้ว”  ร่างโปร่งบางขยับลุกขึ้นแล้วก็เซวูบเพราะความปวดแปลบที่ช่วงเอว  ของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากด้านหลังยามขยับตัว

          “กลั้นไว้  ลูกจะได้มาเกิดเร็ว ๆ”  พิชช์ฌานกระซิบ  ใช้ปลายนิ้วลูบตรงรอยจีบข้างหลังแผ่วเบาทำเอาเจ้าของขนลุกไปทั้งตัว

          พอพูดถึงคำว่าลูก  ดวงตากลมโตก็กลับหม่นลง  พิชช์ฌานเองก็นิ่งไปนาน

          “คราวก่อน...ตอนเฌอริชช์  ไม่ได้ตั้งใจ”  อาคิราห์พึมพำ  ลูบท้องน้อยที่นูนออกมาเล็กน้อยเบา ๆ “คราวนี้คงจะไม่...”

          พิชช์ฌานเชยคางอีกฝ่ายขึ้นแล้วแนบริมฝีปากของตนเองลงไป  เขาจูบอาคิราห์อย่างดูดดื่มลึกซึ้งที่สุด  ถ่ายทอดความรู้สึกเข้าอกเข้าใจ  ทั้งรักและสงสารไปให้  อาคิราห์จูบตอบกลับมา  ยกมือขึ้นลูบไล้เส้นผมหยักศกอย่างเลื่อนลอย

          “เธอจะกลับมาเกิดอีกไหม ...น้องเฌอริชช์น่ะ”   ริมฝีปากสีแดงจัดกระซิบ  พิชช์ฌานอมยิ้มใช้ปลายนิ้วไล้ที่ริมฝีปากนุ่มที่ให้รสหวานเหมือนน้ำผึ้งไปมา

          “ถ้าเธอคิดถึง  น้องก็จะกลับมาแน่ ๆ”  เขาว่า  “อดทนหน่อยนะ”

          อาคิราห์ยิ้มออกมาได้  กอดร่างสูงใหญ่เอาไว้แน่น  ซบหน้าลงด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ

          “ผมจะรอ”  จะรอวันนั้น..

          ............................................................................................

          พิชช์ฌานกลับออกมาจากห้องนอนในตอนสายมากแล้ว  ชายหนุ่มกระแอมไปมา  รู้สึกขัดเขินต่อหน้าสายตามารดาที่ยกอาหารมาให้อาคิราห์ถึงห้องนอน  แม้ว่าคุณนายนวลพรรณจะไม่ได้พูดอะไรเลยก็ตาม

          “ผม...ไปทำงานก่อน  เอ่อ...ฝากอาคิราห์ด้วยนะครับ  คือ...เขาไม่ค่อยสบาย”  นักการเมืองหนุ่มถอนหายใจเฮือก  หันกลับไปมองทางห้องนอนอย่างอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย  “ถ้ามีอะไรโทรหาผมนะครับแม่”

          “จะไปทำงานก็ไป  มัวแต่ละล้าละลังเสียงานเสียการหมด”

          “ครับแม่”  พิชช์ฌานทำตัวไม่ถูก  เขาไม่ถูกมารดาดุเหมือนเด็ก ๆ มานานมากแล้ว

          คุณนายนวลพรรณมองตามหลังร่างสูงใหญ่พลางส่ายหน้า  หันกลับไปที่ห้องนอน...สายโร่ขนาดนี้เห็นทีลูกสะใภ้ของเธอคงจะยังลุกไม่ขึ้นเป็นแน่   

...เจ้าฌานนะเจ้าฌาน

          คนที่มารดากำลังบ่นถึงนั้นกำลังเดินกลับไปกลับมาภายในห้องทำงานของตนเองอย่างเคร่งเครียด  ข่าวการประกันตัวของไตรภพทำให้เขารู้สึกหมดกำลังใจไม่น้อย

          “เห็นทีเราคงจะจัดการกับการแทรกแซงตำรวจไม่ได้จริง ๆ ครับ  ท่านวิญญูเองก็บอกว่าฝั่งนั้นมีแบ็คที่ใหญ่กว่า”  เจนภพพูดขรึม ๆ

          “ฉันจะบีบให้ย้ายให้หมด”  พิชช์ฌานพูด

          “คุณจะบีบยังไงคุณพิชช์ฌาน  เราไม่มีเส้นใหญ่พอ”   นายจรัญพูดเรียบ ๆ หันไปมองนักข่าวที่กำลังรายงานข่าวอยู่ในโทรทัศน์

          “แต่เราตัดงบพวกเขาได้  ลองดูซิว่าจะอยู่ไหวมั้ยถ้าไม่มีเงิน”  พิชช์ฌานพูดเนิบ ๆ “ในเมื่อไม่มีความละอายกันแล้วล่ะก็  ฉันก็จะไม่ไว้หน้า”

          “แต่ว่าคุณพิชช์ฌานครับ  นั่นเท่ากับว่าหันปลายกระบอกปืนมาหาคุณโดยตรง”  เจนภพค้าน  “ผมไม่เห็นด้วย”

          พิชช์ฌานเงียบไปนาน  เขาคิดถึงบทสนทนาที่เขาพูดกับท่านไตรคุณ  อดรู้สึกผิดหวังในตัวนักการเมืองอาวุโสคนนั้นไม่ได้  หรือว่าแท้จริงแล้วเขามองโลกในแง่ดีมากเกินไป  คิดว่าคนเราจะกลับตัวกลับใจได้

          “โบราณว่าไม้แก่ดัดยากนะครับ  คงไม่ได้ผลแล้วล่ะครับ”  เจนภพพูดต่อราวกับรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่  พิชช์ฌานพยักหน้าช้า ๆ

          “บอกไปว่าฉันจะไปเป็นพยานในคดีของไตรภพ  แล้วก็มีพยานอีกสองคนที่คิดว่าประชาชนคงอยากได้ยินคำพูดจากปากพวกเขา”  ชายหนุ่มหยุดไปนิดหนึ่ง  เคาะปลายนิ้วลงกับโต๊ะทำงาน  “เจนภพ  ตั๋วเครื่องบินกับวีซ่าของอาคิราห์เสร็จเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย”

          “เรียบร้อยแล้วครับ  เหลือแต่ของคุณ”

          “นายคงไม่คิดว่าฉันจะไปด้วยหรอกนะ”  นายกรัฐมนตรีที่หนุ่มที่สุดในประวัติศาสตร์หัวเราะด้วยเสียงต่ำกว่าปกติ  “ฉันกำลังคิดอยู่ว่า...ถ้าชวนอาคิราห์ไปหย่าตอนนี้  กับหย่าทีหลังหลังจากบินไป  แบบไหนจะดีกว่ากัน”

          “ไม่ว่าแบบไหนก็ย่อมเจ็บปวดไม่ต่างกันครับ”  เจนภพพูด  “ผมคิดว่าคุณอัยย์ก็คงจะไม่ยอมไปด้วย”

          “เขาจะไปแน่ ๆ ฉันอาจจะบอกให้เขาไปเที่ยวเล่นรอฉันก่อน  แล้วฉันก็จะบินตามไป  เราจะฮันนีมูนที่นั่นตามที่เขาอยาก”

          “คุณอัยย์จะยิ่งโกรธคุณถ้ามารู้ทีหลังว่าคุณโกหก”

          พิชช์ฌานยักไหล่

          “โกรธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้  ..ฉันแพ้ท่านไตรคุณตรงไหนรู้ไหม  จริงอย่างที่เขาบอก  ฉันเหมือนพ่อ  ใจอ่อนเกินไป...รัก...มากเกินไป   ไม่เหมือนเขาที่สามารถอยู่ต่อไปได้ทั้งแบบนี้”

          “............”  เจนภพนิ่งเงียบ  รู้ดีว่าถ้าพิชช์ฌานตัดสินใจไปแล้วก็คงไม่เปลี่ยนใจง่าย ๆ แน่

          “ในเมื่อเขาไม่ยอมหยุด  ฉันก็จะลองหยุดเขาด้วยตัวเองดู”  ชายหนุ่มพูดเหมือนปรารภ  “ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอกเจนภพ  ฉันยังรักตัวกลัวตายอยู่  ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็จะเผ่นไปสมทบที่นู่นแน่นอน”

          “ผมกลัวอะไรก็ตามที่คาดไม่ถึง  ถ้าพวกมันเล่นตามเกมมันก็ไม่น่ากลัว  แต่นี่มันเล่นนอกกติกา  คราวก่อนคุณก็เกือบตาย  ไม่รู้มันจะลอบฆ่าอีกเมื่อไหร่”  เจนภพพูด

          “เจนภพพูดถูกนะคุณพิชช์ฌาน”  จรัญพูดขึ้นบ้าง  “คุณเป็นคนหนุ่มเลือดร้อน  ผมเข้าใจ  ผมก็เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่เรามีอีกหลายวิธีที่จะจัดการปัญหาโดยไม่ต้องเอาตัวเข้าแลกกระสุน  สงสารคุณอาคิราห์ที่ต้องเป็นหม้ายเถอะ”

          พิชช์ฌานหัวเราะอีก  ไม่พูดอะไร  เขาลุกขึ้นเดินออกมาจากห้องทำงานตามด้วยคนสนิท  พวกเขากลับไปประชุมต่อที่พรรคจนกระทั่งตอนเย็นก็มีโทรศัพท์สายตรงมาหาเจนภพ

          มือขวาของเขาลุกขึ้นเดินออกไปคุยข้างนอกห้องประชุมครู่ใหญ่แล้วก็กลับเข้ามาด้วยสีหน้าตื่น ๆ

          “คุณฌานครับ”

          พิชช์ฌานเลิกคิ้ว  เอียงหูเข้ามาฟังคนสนิทที่ก้มลงกระซิบเร็วปรื๋อ

          “มีข่าวว่าท่านไตรคุณยิงตัวตายที่บ้านครับ”

          ...........................................................................................

       



          มาอัพแล้วค่า

          ใกล้ถึงบทสรุปของเรื่องนี้เต็มทีแล้ว

          ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาอย่างยาวนาน  เข้าเดือนที่แปดแล้วนะเออ  เขียนนิยายปีละเรื่องฮ่า ๆ

          ดีใจที่มาถึงตอนที่ 47 แล้ว  เรียกว่าประสบความสำเร็จ  ตัวละครมีความพัฒนาตามที่คาดหวังเอาไว้

          ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริง ๆ มีกำลังใจเขียนต่อเด้อ

          #ขอรักแค่คุณ

          ปล. นี่เปิดเรื่องใหม่เอาไว้ เป็นแนว Mpreg เรื่อง Nevertheless, I still love you. #เวฬาหยุดรัก  แนวแฟนเก่าน้ำเน่า มีเด็กด้วย  ลงไปสองตอน สนใจลองอ่านได้ค่ะ



ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ท่านไตรคุณ​คะยิ่งตัวตายนี่ตายจริงรึแกล้งตายคะ​ อยากให้น้องอัยย์มีลูกอีกจังค่ะ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เสี่ยงไปหมดเลยตอนนี้ TT
แผนแต่ละอย่างของนายคนนี้คือแบบ ฮือออออออออ แล้วเจ้าบู้บี้เลือกอะไรได้มั้ย
 :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด