[Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49  (อ่าน 267935 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ซับซ้อนจริงๆ

ออฟไลน์ Monnee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1:น่าสงสารน้องอัยย์แต่ตอนนี้เอาใจช่วยเจนภพก่อนดีกว่าเนอะ... เดี๋ยวคุณพิษเครียดมากจะไม่มีเวลาไปแก้ตัวใหม่กะน้อง=^^=

ออฟไลน์ Kimmoominn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
นะ หน่านิ?! เจนภพ นาย...
คนพี่นี่ก็หลงเจ้าบู้บี้จริงจริ๊งงง ขออนุญาตเหม็นความรัก 5555555

ออฟไลน์ KYLM_s

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Ch.23
สงสารน้องนะตอนนี้แต่น้องคิดน้อยไปจริงๆอะ ก็เข้าใจว่าครอบครัวน้องปิดกั้นจากโลกภายนอกแต่หนูไม่น่าทำอย่างนี้อะลูก เห้อออยากเข้าข้างแต่มันไม่ได้จริงๆ พักหลังเราว่าน้องค่อนข้างงี่เง่านิดนึงแต่ก็ท้องอะเนอะ ขอให้คุณพิษนางมาช่วยทันแล้วกันจะได้ปลอดภัย น้องคงได้บทเรียนแล้วนะลูกอย่าทำอะไรแบบนี้อีกรอคุณพิษพาไปเที่ยวเถอะ

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :a5:    /// ถูกใจจัดให้ +1 ค่ะ


……

อากาศร้อน.  ยังไม่เท่าร้อนใจว่าเจนภพทำงานให้ใคร…………

พ่อพิชไหม อย่าให้เป็นคนอื่นเลย 

ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าพิชเป็นคนดี


………


  :ling3: :ling1: :ling3: :ling1: :ling3: :ling1: :ling3: :ling1: :ling3: :ling1:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2019 10:40:37 โดย Noname_memi »

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อ้าว อิหยังหนิเจนภพ :katai1:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อัยย์เอ้ย ต่อไปจะพูดจาอะไร ก็ระวังบ้างนะ
คำเสี่ยงก่อให้เกิดอารมณ์แปรปรวนจ้า 5555

คือฌาณก็บ้าบอ แค่บอก อยากเป็นบู้บี้ที่หนึ่งของคุณ
ถึงกับไปต่อยาวๆ กู่ไม่กลับเลยนะ

วุ่นวายมาแล้วสินะ ใครเป็นใครกันแน่
ท่านคือใคร แล้วเจ้านายเจนภพมีใครอีก
ตอนนี้มีเงื่อนงำให้สงสัยอีกแล้วจ้า 

เชื่อว่าอัยย์จะช่วยฌาณได้ และฌาณจะรอดได้

ออฟไลน์ PRiiNZE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ใครเอาเจนภพไปปปปปป
เลขาก็หาย เมียก็จะล็อคห้อง

เฮ้อน่าวงวารเขานะครับ

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
เอาแล้วๆๆ เจนภพนี่อะไรยังไงเนี้ยะ อยากอ่านต่อแล้วววว  :ling1:

ออฟไลน์ KYLM_s

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Ch.25
จากตอนก่อนน้องก็ได้บทเรียนแล้วเนอะ ราคาแพงมากๆเลย เห้ออ กลับมาโอ๋น้องแล้วคุณพิษโกรธน้องก็รู้แต่เมินขนาดนี้โหดร้ายมากอะคือน้องพึ่งผ่านเรื่องร้ายมาไงโอ๋น้องมันนิดนึงไม่ได้หรอ แล้วเนี่ยทำเหมือนน้องเป็นหมากในเกมแบบนี้น้องจะไว้ใจได้ยังไง รู้นะว่ารักน้องแต่มันไม่เต็มร้อยรึเปล่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kanika_Pun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :z3: อารายกันเนี๊ยยยย ใครกล้ามาตลบหลัง
อ่านอีกก้อค้างไปอีก 555 ตัวละครมากมายเหลือเกิน ท่านก้อหลายท่านจนเกือบงง

แต่อย่างไรก้อตาม เราโฟกัสที่ความน่ารักและแสนงอนของเจ้าโอเมก้า 555
โอย...ยอมใจกับความมุ้งมิ้งของนุ้งอัยย์ ยอมๆอิพี่มันไปเถอะ ทำงานแบบนี้มันเครียดต้องมีที่ระบาย 555

รอตอนต่อไปนะคะ ยังคงความสนุกน่าติดตามได้อยู่เสมอ
ปล. แอบจิ้น เจนภพxนิลลา เบาๆ
 :hao7:

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เจนภพทำงานให้ใครอีกคนน่ะ จะหักหลังพิชญ์ฌานเหรอ
บู้บี้ร้ายกาจมากลูก555 เอ็นดูที่สุดอ่ะ

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :a5: ยังไงงงเนี้ยเจนภพ โอ้ยยยยย ปมเยอะมาก แล้วพ่อแม่ของอัยย์ เนี้ย ทำไมเย็นชาอะไรขนาดนั้น

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อ้าว อย่าบอกนะคุณเจนภพ  :ruready

ออฟไลน์ jaibang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
บู้บี้มาหรือยังงงงง พี่คิดถึง

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
เจนภพพพ ยังไงนี่
เรื่องเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้วค่ะ

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
อ่าว เอาแล้วไงละ



ออฟไลน์ patpattle

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เจนภพยังไงเนี่ย ลุ้นนนนน

น้องอัยย์นัลร้ากกกกกกกกกก

ออฟไลน์ bkachai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตลบหลังก็เกิดขึ้นอีกรอบ​ ถ้าเจนภพเป็นสายบู้บี้จะต้องเป็นผู้กอบกู้แน่ๆ​ หรือที่นิลไม่บอกเพร่ะนิลรู้ว่าเจนภพทำงานให้ใคร

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Ai Adore You.

#ขอรักแค่คุณ

ตอนที่ 30

 

 

 

 

 

 

 

            “ตามหาเจนภพให้เจอ”  เขาสั่งเป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะวางสายไป  ชายหนุ่มกดรีโมทเปิดโทรทัศน์ขึ้น  หน้าจอเป็นข่าวด่วนเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านของนายจักรกฤตจริงๆตามที่ลูกน้องเพิ่งรายงานมา  ตำรวจและนักดับเพลิงแห่กันไปล้อมรอบเต็มบ้านไปหมด  โชคดีที่คนของเขาหนีรอดออกมาจากกองเพลิงและตำรวจได้อย่างหวุดหวิดทว่าเจนภพกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมกับตู้เซฟใบนั้น...หลักฐานที่เขาอยากได้มากที่สุด

            พิชช์ฌานติดต่อไปหาเพื่อนที่เป็นนายตำรวจเพื่อถามข่าวสาเหตุเพลิงไหม้  เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นไฟฟ้าลัดวงจร ....เหมือนกับอีกหลายๆเคสที่เคยเกิดขึ้นยามที่มีใครบางคนต้องการทำลายหลักฐานทิ้งให้หมด

            ประเด็นก็คือ  เขาไม่รู้เลยว่ามันจงใจลงมือทำลายหลักฐานในวันนี้เพราะต้องการตลบหลังพวกเขา หรือว่าเป็นเพียงแค่เหตุบังเอิญกันแน่...พิชช์ฌานรู้ดีว่าโลกนี้ไม่มีเหตุบังเอิญ

            ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าตู้ปลาอย่างใช้ความคิด  เขาไว้ใจมือขวาคนสนิทมาก  แต่ว่า...

            พิชช์ฌานขึ้นมาเคาะประตูหน้าห้องนอนของตัวเองเบาๆ นาฬิกาบอกเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว  ข้างในเงียบกริบไม่มีเสียงตอบกลับมา  เขาลองหมุนลูกบิดประตูดูปรากฏว่าเปิดออกได้  ไม่ได้ถูกล็อคเอาไว้อย่างที่ใครบางคนขู่

            คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อยอย่างแปลกใจ  เปิดเข้าไปข้างในห้องก็เจอร่างโปร่งบางนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงหันหลังให้กับประตูห้อง  ศีรษะทุยสวยโงนเงนตามแรงโน้มถ่วงไปมาแต่เจ้าของก็พยายามฝืนเอาไว้เต็มที่ไม่ให้เอนพิงหัวเตียงที่มีหมอนใบใหญ่วางรองอยู่อย่างพอเหมาะพอเจาะ

            พิชช์ฌานเอื้อมมือไปแตะที่ไหล่ของคนที่นั่งสัปหงกอยู่นั้น  เจ้าโอเมก้าสะดุ้งหันกลับมามองอย่างตกใจ

            “อ้าว  มาแล้วเหรอ” อาคิราห์พูด  ตาหรี่ปรือเหมือนเปลือกตาถูกตุ้มถ่วงเอาไว้  “...แต่ผมไม่ได้รอคุณอยู่หรอกนะ”  ประโยคหลังทำให้คนฟังเกือบยิ้มออกมาทั้งที่เคร่งเครียดอยู่  พิชช์ฌานจับไหล่ทั้งสองข้างอีกฝ่ายเอาไว้แล้วจับพาให้เอนลงนอนกับที่นอนที่เต็มไปด้วยข้าวของของเขา

            “นอนได้แล้ว  ง่วงแล้วยังจะฝืนอีก  หรือว่ารอให้ฉันมาบอกฝันดี”  ชายหนุ่มกระซิบกับริมฝีปากอิ่มเต็มนั้นและแตะริมฝีปากลงไปตามหลังเหมือนเป็นตราประทับ  “หลับตาเร็วเจ้าบู้บี้”

            “คุณจะไปไหน”  มือเล็กเอื้อมมายืดชายเสื้อคลุมของเขาเอาไว้  ถามเสียงงัวเงีย

            “ผมติดธุระสำคัญนิดหน่อย  เดี๋ยวจะรีบกลับมา”  พิชช์ฌานตอบ  แตะปลายนิ้วเข้ากับปลายจมูกมู่ทู่น่าเอ็นดูนั้น  “จะเล่าให้ฟังพรุ่งนี้  ตอนนี้นอนก่อน  โอเคมั้ย”

            “ก็ได้”  อาคิราห์ไม่ได้ถามอะไรอีก

            ได้ยินเสียงตู้เสื้อผ้าเปิดปิดและเสียงกุกกักอยู่พักหนึ่งก่อนที่พิชช์ฌานจะกลับออกไปจากห้องนอน  อันที่จริงอาคิราห์ก็อยากรู้ว่าธุระสำคัญของอีกฝ่ายคืออะไร  ทำไมต้องไปกลางค่ำกลางคืน  แต่ว่าพิชช์ฌานก็บอกแล้วว่าจะเล่าให้เขาฟัง  ก็เลยตัดสินใจว่าจะนอนรอฟังเรื่องเล่าพรุ่งนี้ก็แล้วกัน  ไม่ได้เกี่ยวกับความง่วงงุนเลยด้วย

            เช้าวันรุ่งขึ้นอาคิราห์พบว่าอีกฝ่ายไม่ได้กลับมานอนที่บ้านทั้งคืน  มีเพียงข้อความฝากมาบอกสั้นๆว่าธุระยังไม่เสร็จเรียบร้อย  ต้องไปจัดการต่ออีกหน่อย  ไม่ต้องเป็นห่วง

            พยายามใช้เวลาอยู่กับการอ่านหนังสือทบทวนเตรียมสอบเทียบวุฒิต่อ  แต่ลึกๆในใจก็อดเป็นห่วงคนที่ไม่อยู่บ้านไม่ได้  ดูท่า ‘ธุระ’ ของอีกฝ่ายคงจะหนักเอาการเพราะเห็นมีลูกน้องของพิชช์ฌานกลับมาเอารถออกไปอีกสองคันด้วยท่าทางเร่งรีบ

            นั่งๆนอนๆอ่านหนังสือจนเบื่อ  สุดท้ายร่างสูงใหญ่ที่เขาเฝ้ารออยู่ก็กลับเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางอ่อนเพลียและเสื้อผ้ายับย่น  กระแสเครียดเคร่งแผ่ซ่านออกมาจนสัมผัสได้

            “คุณทานข้าวหรือยัง”  อัยย์ถามออกมาเป็นประโยคแรก  อีกฝ่ายพยักหน้ารับ

            “กินกาแฟไปแล้ว”

            “กาแฟจะเหมือนข้าวได้ยังไง  อยากกินอะไรหรือเปล่า”

            “เธอจะทำให้เหรอ”  คิ้วเข้มเลิกสูง  คนถามเกือบส่ายหน้าแล้วก็เปลี่ยนเป็นพยักหน้าเร็วๆ

            “ผมจะทำให้กิน”

            “ฉันไม่มีเวลามาท้องเสียนะอาคิราห์” 

          คนฟังหน้าหงิก  เกือบจะโวยวายออกมาแล้วแต่พอเห็นอีกฝ่ายดูเหน็ดเหนื่อยจริงจังก็เลยเก็บอารมณ์ตัวเองเอาไว้

            “ก็ได้  ผมจะไปบอกป้านิ่มให้  อยากกินอะไรล่ะ”

            “อะไรอร่อยก็เอามาให้ฉันนั่นแหละ  ฉันมีเวลาสามสิบนาทีกลับมาอาบน้ำแล้วเดี๋ยวจะไปต่อ”  ชายหนุ่มตอบ  ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาแล้วเงยหน้าขึ้นพาดลำคอกับพนักพิงอย่างเหนื่อยอ่อน  “ข้างนอกร้อนชะมัด”

            “คุณ...อยากเล่าอะไรให้ผมฟังมั้ย”  อาคิราห์ถามเสียงเบาหลังจากรีบไปบอกแม่ครัวให้ยกอาหารมาให้เจ้าของบ้านแล้ว  เขาวางผ้าเย็นที่หยิบมาด้วยเอาไว้บนท่อนแขนล่ำสัน  “เช็ดหน้าหน่อยจะได้สดชื่น”

            “เช็ดให้หน่อยสิ  ฉันยังไม่ได้นอนทั้งคืนเลยนะ”  เสียงห้าวๆกระซิบ  ไม่ได้ลืมตาขึ้น

            อาคิราห์เม้มปากนิดหนึ่ง  แต่ก็ยอมหยิบผ้าเย็นขึ้นมาเช็ดให้ที่ใบหน้าคมเข้มและลำคอนั้น  ตอนแรกก็แตะๆก่อน สักพักก็ชักลงน้ำหนักมือหนักขึ้นจนมือใหญ่ต้องคว้าข้อมือของเขาเอาไว้

            “เบาๆหน่อย  เดี๋ยวหน้าฉันหลุดติดออกมาด้วยหรอก”

            “หน้ากากของคุณน่ะเหรอ  ไม่เป็นไรมั้งมีหลายชั้น”  เสียงตอบกวนประสาทกลับมาทำให้พิชช์ฌานลืมตาขึ้น  เห็นใบหน้าเนียนสีน้ำผึ้งจางลอยอยู่ใกล้ๆ  พอสบตากัน  สองข้างแก้มก็ขึ้นสีชมพูอ่อนเป็นริ้ว

            “เอ้อ...ผมจะไปหาขนมมาให้คุณ”   อาคิราห์พูดตะกุกตะกัก  ได้ยินเสียงหัวเราะห้าวๆดังขึ้นเบาๆ

            “ฉันไม่ชอบกินขนม ..ยกเว้นคุกกี้รสนม”

            “ผมเห็นมีอยู่ในครัวกระป๋องใหญ่เลย”  มีคนตอบกลับไปอย่างพาซื่อ  “ผมก็เล็งอยู่  คุณอยากกินใช่มั้ย  ผมจะได้เอามาแกะ”

            “อยากกินเองก็บอก”  พิชช์ฌานอดหัวเราะออกมาไม่ได้  เอื้อมมือมาบีบจมูกรั้นๆนั้นไปมาอย่างมันเขี้ยว  “เอามาสิ  ฉันจะกินให้หมดไม่เหลือเอาไว้สักชิ้นเลย”

            “คุณตะกละมาก”  เจ้าโอเมก้าพูดเสียงอู้อี้  ปัดมืออีกฝ่ายออกจากจมูกของตัวเอง  “แล้วนี่คุณเจนภพไปไหน  ไม่เห็นมาเลย”

            รอยยิ้มของพิชช์ฌานจางลง

            “เขาติดธุระอยู่  ยังไม่กลับมา”

            “ธุระเดียวกันกับที่คุณหายไปทั้งคืนหรือเปล่า”  อาคิราห์ถาม  “ผมเดาเอาว่าน่าจะเกี่ยวกับที่บ้านของจักรกฤตไหม้ด้วยใช่มั้ย”

            “แสดงว่านั่งดูทีวีทั้งวัน  ไม่ได้อ่านหนังสือเลยใช่มั้ย”  พิชช์ฌานดักคอ  อาคิราห์ส่ายหน้า

            “เปิดทีวีมาก็เจอแล้ว ข่าวแรกเลย...เขาบอกอีกด้วยนะว่าเจอหลักฐานบางอย่างที่บ่งบอกว่านายจักรกฤตทำงานให้กับนักการเมืองชื่อดังบางคนที่ไม่เปิดเผย”  อาคิราห์พูดเนิบๆ เหลือบมองคนนั่งข้างที่หน้านิ่งเหมือนเดิม  “ให้ผมเดาต่อมั้ยว่าใคร”

            “เดายังไงก็ได้ที่ไม่ใช่ชื่อฉัน”  พิชช์ฌานพูด “เพราะฉันไม่ได้รู้เห็นอะไรกับเรื่องซ่องโอเมก้านั่น”

            “ผมยังไม่ทันพูดเรื่องซ่องเลยนะ”

            “ไม่ต้องมาดักคอหรือหลอกถามฉันเจ้าบู้บี้  แค่เธออ้าปากฉันก็เห็นลิ้นไก่เธอแล้ว  ...รู้ด้วยว่าลิ้นไก่เธอรสชาติยังไง”  นักการเมืองหนุ่มพูดแกมหัวเราะ  อีกฝ่ายหน้าแดงลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

            “ก็ได้  งั้นผมไม่ถามแล้ว  ไม่ต้องเล่าด้วย  ไม่อยากรู้”

            พิชช์ฌานหัวเราะในลำคอ  ดึงมือฝ่ายนั้นเอาไว้ให้นั่งลงเป็นข้างๆกันต่อเหมือนเดิม

            “ฉันบอกจะเล่าให้ฟังวันนี้ไม่ใช่เหรอ  ก็ต้องเล่าสิ”  ชายหนุ่มว่า  ลงมือตักอาหารเข้าปากเคี้ยวไปด้วย  “ฉันส่งคนเข้าไปในบ้านของจักรกฤตเองล่ะเมื่อคืน  แต่โชคร้ายไม่รู้ยังไงเกิดไฟไหม้ขึ้นแถมยังมีตำรวจกับนักข่าวไปดักรออยู่เต็มไปหมด  คงมีคนรู้แผนการนี้ล่ะมั้ง”

            “อ้าว  แล้วคุณจะเข้าไปในบ้านจักรกฤตทำไมล่ะ”

            “ฉันอยากได้หลักฐานบางอย่างที่จะสืบสาวไปยังตัวการใหญ่ของขบวนการค้ามนุษย์  เธอคงเดาได้อยู่แล้วว่าจักรกฤตไม่ใช่ตัวใหญ่สุดแต่เป็นเพียงแค่หุ่นเชิดบังหน้าเท่านั้น”  พิชช์ฌานเล่าตรงๆไม่อ้อมค้อม  ยกเว้นแค่ตอนที่เขาขอร้องให้โอเมก้าสองคนเพื่อนของอาคิราห์มาช่วยภารกิจนี้ด้วย  “เจนภพช่วยจัดการงานนี้ให้ฉัน  แต่ตอนนี้เขาหายสาบสูญไปแล้ว”

            “อ้าว”  อาคิราห์อุทานซ้ำ  “คุณเจนภพจะเป็นอะไรมั้ยครับ  หรือว่าถูกจับไป  หรือว่าบาดเจ็บ”

            “ฉันก็ไม่รู้”  พิชช์ฌานพูด  ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มราวกับรู้สึกคอแห้งกะทันหัน  “ฉันรอข่าวอยู่เหมือนกัน”

            “คุณไม่ส่งคนออกตามหาล่ะครับ  ยิ่งช้าเดี๋ยวคุณเจนภพจะยิ่งเป็นอันตรายหรือเปล่า”  อัยย์เริ่มร้อนใจ  เขาเป็นห่วงผู้ชายร่างสูงโปร่งนิสัยดีคนนั้น

            “ไม่ต้องหรอก  เดี๋ยวเจนภพก็กลับมาเอง”  พิชช์ฌานพูดด้วยท่าทางไม่ยินดียินร้ายเท่าที่ควรจนอัยย์ขมวดคิ้ว

            “ทำไมคุณทำเหมือนไม่เป็นห่วงเค้าเลย  เค้าเป็นมือขวาคนสนิทของคุณไม่ใช่หรือครับ”

            “ฉันเป็นห่วงหลักฐานที่ติดไปกับเขามากกว่า”  ชายหนุ่มตอบเรียบๆ “ถ้าตกอยู่ในมือของคนพวกนั้นป่านนี้ก็คงจะโดนทำลายไปแล้ว  แล้วแผนการของฉันก็จะล้มเหลว”

            “นี่คุณเห็นแผนการของคุณสำคัญกว่าชีวิตของลูกน้องคุณหรอครับ”  คนฟังชักโกรธ

            “เจนภพไม่เป็นไรหรอก  เขาเอาตัวรอดได้”

            “ถ้าเขาเอาตัวรอดได้ก็ควรจะติดต่อคุณกลับมาแล้วสิครับ  แต่นี่คุณก็บอกเองว่าเขาเงียบไป  มีความเป็นไปได้เดียวก็คือเขาอาจจะบาดเจ็บจนติดต่อคุณไม่ได้”

            “หรือไม่ก็รอจังหวะเหมาะๆอยู่  ไม่เอาน่าอาคิราห์  ฉันเชื่อมือเจนภพ  เชื่อใจเขาที่สุด... เดี๋ยวเขาก็จะกลับมาเอง”  พิชช์ฌานพูดยังไม่ทันขาดคำก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของเขาดังขึ้น พิชช์ฌานหยิบขึ้นมากดดู             

            มีอีเมล์ฉบับหนึ่งส่งมาจากชื่ออีเมลล์ที่เป็นตัวเลข  ข้อความข้างในนั้นสั้นเพียงบรรทัดเดียว  บอกสถานที่และเวลามาเท่านั้น

            “มีคนอยากพบฉัน”  พิชช์ฌานพึมพำ  ไม่ได้ท้วงตอนที่อาคิราห์ชะโงกเข้ามาอ่านข้อความด้วย

            “ที่จอดรถห้างปาร์ควัน  ห้าทุ่ม”  อาคิราห์พูด  “ใครเป็นคนส่งมาเหรอครับ”

            “ไม่รู้สิ  อาจจะไปรษณีย์นัดไปรับของมั้ง”  พิชช์ฌานพยายามพูดติดตลก  “ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นหรอกน่า  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันถูกนัดหมายแบบแปลกๆ  อันที่จริงอันนี้ออกจะโจ่งแจ้งไปหน่อย  ไม่ค่อยเร้าใจเท่าตอนที่ได้เป็นรหัสมอร์สมานั่งแกะตัวอักษร”

            “มันจะอันตรายมั้ย  คุณจะไปจริงๆเหรอ”

            “อีเมล์ของฉันไม่ใช่ทุกคนจะรู้หรอกนะ”  พิชช์ฌานหัวเราะหึๆในลำคอ

            “หมายความว่า?  จากคุณเจนภพหรอครับ”  อาคิราห์เบิกตากว้าง  “คุณคิดว่าเป็นคุณเจนภพส่งมาหรอ  ถ้างั้นทำไมเขาไม่กลับมาหาคุณเลยล่ะ  หรือว่ามีคนตามล่าเขาอยู่”

            “ดูหนังมากเกินไปล่ะ  ไม่มีอะไรหรอก” ชายหนุ่มพยายามหัวเราะ

            “ไม่จริง  คุณโกหกผมอยู่  คุณคิดว่าไม่ใช่คุณเจนภพ  หรือถ้าใช่ก็ไม่ใช่การรับของธรรมดา”  อาคิราห์ว่า

            “เธอเป็นนักเดาหรือไง”

            “ผมเดาอย่างมีหลักการนะ  หน้าคุณเครียดกว่าเดิมอีกตอนที่อ่านอีเมล์”

            “โอเค  ฉันยอม  ฉันคิดว่าไม่ใช่เจนภพส่งมา  แต่คนที่ส่งมาจะต้องรู้อีเมล์ของฉันมาจากที่ไหนสักแห่ง”  พิชช์ฌานยิ้มมุมปาก “น่าสนใจใช่มั้ย  ...อยากไปดูด้วยกันไหมล่ะ”

            “คุณให้ผมไปด้วยหรอ”  คนฟังตาโต  “พูดจริงหรอครับ”

            “จริง..  เธออยากไปเยี่ยมพี่สาวของเธอบ้างหรือเปล่า”

            “พี่อริศน่ะเหรอ”  อาคิราห์เพิ่งนึกได้  “ห้างปาร์ควันเป็นของแฟนพี่เค้านี่นา  ...คุณอยากเจอพี่เขยของผมด้วยไหมล่ะครับ”

            พิชช์ฌานพยักหน้าอย่างพอใจ  อาคิราห์คิดตามได้อย่างรวดเร็วดีมาก  เขาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายยืดยาว

            “เธอเต็มใจไปหรือเปล่า  ...รู้สึกว่ากลายถูกหลอกใช้หรืออะไรมั้ย”  ถึงกระนั้นพิชช์ฌานก็ยังไม่วายถามเจ้าตัวด้วยความกังวลอีกครั้ง  ถึงเขาจะอยากได้ประโยชน์แต่ก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกเหมือนถูกใช้ประโยชน์ฝ่ายเดียว  “เธออยากซื้ออะไรวันนี้ในห้างนั่น  ซื้อได้เลยเต็มที่”  เขาพูดอย่างใจป้ำ

            คนฟังเลิกคิ้ว

            “ยื่นหมูยื่นแมวหรอ”

            “ประมาณนั้น  ถ้าจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น”

            “แค่คุณเล่าให้ผมฟังตรงๆ ผมก็รู้สึกโอเคขึ้นแล้ว” อาคิราห์พูดเนิบๆ  “แต่ถ้ามีของมาแลกเปลี่ยนมันก็ยิ่งดี  ผมขอซื้ออะไรก็ได้ใช่มั้ย”

            “แล้วแต่เธอเลย”

            “ผมขอซื้อ...”

            “ยกเว้นซื้อห้าง”  พิชช์ฌานรีบดักคออย่างรู้ทัน  อีกฝ่ายอ้าปากค้างยังพูดไม่ทันจบ  อาคิราห์อุทานออกมาเสียงดัง

            “อ้าว  ไหนว่าซื้ออะไรก็ได้”

            “เธออยากให้ฉันขายบ้านขายรถใช้หนี้หรือไง  ลูกเราก็ต้องไปคลอดหมอตำแยแทนแล้วล่ะนะเพราะคงคลอดโรงพยาบาลชั้นหนึ่งไม่ไหว”  พิชช์ฌานตวัดเสียง  “ฉันไม่ได้รวยขนาดพี่เขยของเธอหรอกนะ”

            “โธ่  แค่นี้ขนหน้าแข้งคุณพิชช์ฌานไม่ร่วงหรอก  มีตั้งหลายเส้น”  อัยย์หัวเราะคิก

            เขานั่งรถออกมากับพิชช์ฌานที่ขึ้นไปอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยจนสดชื่นขึ้นแล้ว  รถสีดำปลอดกันกระสุนทั้งคันขับตรงไปยังห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง  ที่ๆพิชช์ฌานเคยใช้ขอแต่งงานเขามาก่อนแล้ว  อัยย์คิดมาถึงตรงนี้ก็นึกขึ้นได้

            “คุณจำได้ไหมว่าคุณเคยขอผมแต่งงานที่นี่  ตรงลานจอดรถเลย”

            “จำได้สิ”

            “นี่คุณไม่คิดว่ามันแปลกหรือไง  ทำไมจะต้องนัดมาเจอที่นี่ด้วยล่ะ”

            “เพราะมันเปิดโล่งทุกด้าน เหมาะที่สุดสำหรับคนที่กลัวจะโดนลอบยิง”  พิชช์ฌานว่า

            “คุณเคยโดนลอบยิงกี่ครั้งแล้ว”  อัยย์คิดว่าคำถามนี้ดูเหมาะกว่าจะถามว่า  คุณเคยโดนลอบยิงมั้ย  เพราะดูจากพฤติกรรมและรถกันกระสุนคันนี้ก็ดูจะเป็นคำตอบอย่างดี

            “ฉันไม่เคยนับ”  พิชช์ฌานพูดแกมหัวเราะ  “ไม่ต้องกลัวหรอกน่า  เธอแค่ใช้เวลาเดินเล่นในห้าง  พอถึงเวลานัดเดี๋ยวฉันก็จะออกไปจัดการเอง  ไม่เกินสิบนาทีเสร็จ”

            อาคิราห์ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก  เขานั่งนิ่งๆไปจนถึงหน้าห้างสรรพสินค้าที่เต็มไปด้วยผู้คนเพราะเป็นช่วงลดซัมเมอร์เซลล์  เขากับสามีเข้าไปนั่งรับประทานอาหารด้วยกันในร้านอาหารญี่ปุ่น  จากนั้นก็เดินเล่นตั้งแต่ชั้นล่างสุดไล่ขึ้นมาจนถึงชั้นบน  ระหว่างนั้นมีคนที่จำได้เข้ามาทักทายและถ่ายรูปกันเต็มไปหมด

            “หนูชอบพี่มากเลยค่ะ  พี่เป็นโอเมก้าที่เท่มากๆ  ตอนที่หนูดูข่าวยังคิดอยู่เลยว่าทำไมพี่เท่จัง”  เด็กสาวคนหนึ่งพูด  ส่งกระดาษมาให้อาคิราห์เซ็นชื่อ  เจ้าโอเมก้าทำตัวไม่ถูก  คอยแอบชำเลืองดูคนข้างๆที่ดูชำนาญในการแจกลายเซ็นกว่ามาก

            “ขอบคุณมากครับ”  อัยย์ตอบ  ส่งยิ้มให้กล้อง  หลังจากนั้นเขาก็เริ่มหายเกร็ง  สามารถพูดคุยกับคนอื่นๆที่เข้ามาคุยด้วยได้มากขึ้น  โดยเฉพาะกับเด็กและคนแก่ที่เขารู้สึกสบายใจมากกว่าวัยอื่น

            “เก่งมากๆ เพิ่งเคยเจอตัวจริง  ฉันเป็นแฟนคลับของคุณนะคุณพิชช์ฌาน  โอเมก้าตัวน้อยของคุณด้วย”  คุณยายพูดเนิบๆ  เอื้อมมือเหี่ยวย่นมาจับแขนของอาคิราห์เอาไว้  “เก่งจริงๆนะ  ฉันอยากเห็นโลกของเราเปลี่ยนไปจริงๆ ทำให้ฉันเห็นก่อนตายนะ”

            พิชช์ฌานตอบกลับไปอย่างคล่องแคล่วและนอบน้อมแบบคนที่เขาผู้ใหญ่เป็น  อาคิราห์ได้แต่มองอย่างทึ่งๆพลางฉีกยิ้มให้กล้องที่ถ่ายรัวไม่หยุดยั้ง  เป็นปืนกลก็คงโดนรัวตายไปแล้ว..เขาคิดในใจ



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk







            “ใกล้จะถึงเวลาแล้วนะ”  อาคิราห์พึมพำ  เริ่มเครียดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้  “คุณจะไปหรือยัง”

            “อยากเดินต่อหรอ”  พิชช์ฌานยิ้มขันๆ

            “เปล่า  ผมตื่นเต้น ปวดฉี่เลยเนี่ย”   อาคิราห์ว่า  “คุณจะให้ผมอยู่กับพี่สาวตอนที่คุณติดต่อธุระใช่มั้ย”

            “ถูกต้อง”  พิชช์ฌานพยักหน้า  อย่างน้อยการที่เจ้าโอเมก้าอยู่กับพี่สาวตัวเองก็พอจะเป็นหลักประกันได้ว่าคงจะปลอดภัยในระดับหนึ่ง

            “แล้วคุณไม่กลัวคนจะรู้หรือไงว่ามาที่นี่  ถึงได้มาเดินห้างเอิกเกริกขนาดนี้”

            “ถ้าเป็นเธอจะทำยังไง”         

            “ผมก็จะแอบมาเงียบๆตอนห้าทุ่มน่ะสิ”

            “แล้วถ้าเกิดโดนดักทำร้ายล่ะ”  พิชช์ฌานยิ้ม  “การที่ฉันมาปรากฏตัวก่อนก็เพื่อแสดงตัวว่าฉันรับข้อเสนอ  และยังเป็นการบอกอ้อมๆว่าอย่างน้อยใครที่คิดจะเล่นไม่ซื่อก็ต้องคิดหนักหน่อยว่าข้อตกลงอาจไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว”  พิชช์ฌานพูดแกมหัวเราะ

            คนฟังขมวดคิ้ว  มองหน้าคนพูดอย่างไม่เข้าใจ

พิชช์ฌานให้คนขึ้นไปติดต่อครู่เดียวพี่สาวของอาคิราห์ก็ลงลิฟต์ออกมารับน้องชายถึงข้างหน้า 

            “อัยย์  มาเที่ยวเหรอ”  อัลฟ่าสาวสวยถามขึ้นด้วยหางเสียงที่ไม่บอกความยินดีแต่ก็ไม่ได้ตวาดหรืออารมณ์เสีย  อาคิราห์ส่งยิ้มให้พี่สาว

            “ครับ  พี่อริศเป็นไงบ้าง  ไม่ได้เจอกันนาน”

            “ก็เรื่อยๆแหละ  สวัสดีค่ะคุณพิชช์ฌาน”  เธอหันไปก้มศีรษะให้น้องเขยเพียงเล็กน้อยอย่างไว้ตัว  “คงไม่ได้มาหาคุณวโรดมหรอกใช่มั้ย  เขาไม่อยู่ค่ะ  ไปต่างประเทศสองอาทิตย์”

            “เปล่าครับ  ผมพาอัยย์มาเดินเที่ยวห้างเล่น  เห็นอยู่บ้านเบื่อๆ”

            “ผมปวดท้อง  ขอเข้าห้องน้ำหน่อยได้มั้ยพี่”  อัยย์พูด  พี่สาวจุ๊ปากด้วยท่าทางรำคาญเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร  ยอมให้น้องชายขึ้นลิฟต์ไปด้วยกันที่ห้องส่วนตัวที่อยู่ชั้นบนสุดของห้าง  อาคิราห์ก้มลงมองร่างสูงใหญ่แวบหนึ่งผ่านกระจกลิฟต์แก้ว  เห็นพิชช์ฌานเงยหน้าขึ้นมองตามเขาจนลับสายตา

            .......................................................................

            “ใกล้ถึงเวลานัดแล้วครับ”  สารสินลูกน้องอีกคนของเขาพูดขึ้น พิชช์ฌานรับกล้องส่องทางไกลมาจากลูกน้องแล้วยกขึ้นส่องดูลานจอดรถที่เริ่มว่างเปล่าเพราะคนทยอยกลับกันออกไปหมด  เขากำลังนั่งอยู่ในรถส่วนตัวของตัวเองที่จอดซุ่มอยู่เงียบๆ

            “มีคนมา”

            ใครคนหนึ่งสวมเสื้อฮู้ดสีเข้มปิดบังใบหน้าหิ้วถุงดำขนาดใหญ่เดินมาหยุดที่ลานจอดรถก่อนจะเปิดฝาถังขยะออกแล้วเหวี่ยงถุงใบนั้นลงไปในถัง  พิชช์ฌานอัดวีดีโอเอาไว้ทุกขณะ   เขารู้สึกได้ว่าคนๆนั้นเหลือบมามองทางที่รถจอดอยู่แวบหนึ่งก่อนจะเดินดุ่มๆไปอีกทาง

            “ตามไป  จับตัวมาให้ได้”

            “ครับผม”  สารสินสั่งให้ลูกน้องออกสะกดรอยตามคนๆนั้น   “เราจะลงไปเอาถุงเลยมั้ยครับ”

            “ลงไปเอาเลย”  พิชช์ฌานพูด

            ถุงใบนั้นคงจะหนักพอประมาณเพราะท่าทางของลูกน้องของเขาต้องหิ้วมาจนตัวเอียง  พอถึงรถพิชช์ฌานก็บอกให้เอาใส่รถกระบะอีกคันเอาไว้

            “ให้เปิดเลยมั้ยครับนาย”

            “ไปที่โล่งๆก่อน”

            “แล้วคุณอัยย์ล่ะครับ”

            “ไม่เป็นไรให้เขาอยู่กับพี่ไป”  พิชช์ฌานว่า  สั่งให้ลูกน้องขับรถไปยังโกดังรกร้างว่างเปล่าชานเมือง  ระหว่างนั้นก็ให้ตรวจสอบถุงดำที่ได้มาอย่างละเอียด

            “ลักษณะเป็นกล่องโลหะครับ  ห่อกันกระแทกมาอย่างดีเลย  น่าจะเป็นตู้เซฟที่เราตามหา”  ลูกน้องบอก  พิชช์ฌานพยักหน้าอย่างพอใจ

            กะแล้วเชียวว่าสุดท้ายเจนภพก็จะต้องหาทางส่งหลักฐานชิ้นสำคัญมาให้เขาแน่  แต่แปลกตรงที่ทำไมเจ้าตัวถึงไม่มาหาเขาด้วยตัวเอง...

            พิชช์ฌานเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ  ชายหนุ่มนั่งอยู่บนรถรอให้ลูกน้องไปจัดการเปิดถุงดำใบนั้นเสีย  ข้างในเป็นตู้เซฟขนาดเล็กจริงๆตามที่คาด  มันถูกล็อคเข้ารหัสเอาไว้

            “ไปพานิลลามาหาฉัน”  นักการเมืองหนุ่มสั่ง

            ไม่นานโอเมก้าร่างผอมบางก็ลงจากรถที่ส่งไปรับมา  ท่าทางของนิลลาไม่ประหลาดใจนักที่เห็นเซฟสีเงินอันนี้

            “เธอรู้รหัสของมันใช่มั้ย”  พิชช์ฌานถามเนิบๆ  “ได้โปรด ช่วยฉันเปิดหน่อย  หลักฐานที่จะเอาผิดไอ้จักรกฤตและพรรคพวกจะต้องอยู่ในนี้อย่างแน่นอน”

            “ถ้ารหัสยังไม่เปลี่ยนไปล่ะก็...”  นิลลาเอื้อมมือมาหมุนรหัสช้าๆ

            พิชช์ฌานพยายามรักษาอาการตื่นเต้นเอาไว้ในสีหน้า  จับจ้องไปยังกล่องเหล็กใบนั้นนิ่ง  ในที่สุดมันก็ถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงดังกริ๊ก  ของที่อยู่ข้างในทำให้ชายหนุ่มชะงักไปอึดใจก่อนจะตะโกนสุดเสียง

            “ทุกคน หนีออกจากที่นี่!!”  มือคว้าโอเมก้าที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดลากออกมาด้วย

            ตัวเลขสีแดงนับถอยหลังจากสิบเหลือเก้า  แปด  เจ็ด  หก  ห้า ...

            .......................................................................

            เสียงแก้วแตกดังเพล้งทำเอาอาคิราห์สะดุ้ง หันขวับไปมองต้นเสียงอย่างตกใจ  เห็นพี่สาวกำลังก้มๆเงยๆอยู่ข้างหน้าตู้เย็นก็ลุกเดินเข้าไปหา

            “พี่ทำอะไรอยู่  แก้วแตกเหรอ”

            “อย่าเดินเข้ามา  เดี๋ยวก็เหยียบเอาหรอก”  หญิงสาวพูดเสียงห้วน  “ถอยไปยืนห่างๆ  ฉันขี้เกียจนั่งทำแผลให้เธออีก”  เจ้าของห้องชุดสุดหรูบนห้างสรรพสินค้าโบกมือไล่น้องชายแล้วหันไปกดออดเรียกแม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาด  “แล้วไม่กลับบ้านกลับช่องหรือไงฮึ  อัยย์”

            “ผมยังดูหนังเรื่องนี้ไม่จบเลย”  อาคิราห์ชี้ไปยังหน้าจอทีวีที่กำลังฉายหนังสายลับสุดระทึกอยู่  “ขอดูให้จบก่อน”

            “เรานี่มันขี้เอาแต่ใจ  แล้วสามีไม่ว่าหรือไง  หายเงียบขึ้นมาแบบนี้”

            “เขาไม่ว่าหรอก”  อาคิราห์ตอบเนิบๆ  เดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาต่อ

            “ถามจริง  ทะเลาะกันหรือเปล่าถึงไม่ยอมกลับบ้าน”

            “เปล่า”

            “อัยย์  บอกความจริงฉันมานะ  อย่ามาโกหก”

            “ไม่ได้ทะเลาะจริงๆ”  อาคิราห์ย่นจมูกใส่พี่สาวแล้วพลิกตัวนอนคว่ำทำท่าเหมือนจะนอนหลับ

            “นี่จะดูหนังก็ดู  ถ้าง่วงก็เข้าไปนอนในห้องให้มันเป็นที่เป็นทางไป  มานอนเลื้อยแบบนี้พี่ไม่ชอบ”  อริศราพูด  มองน้องชายอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้น   อาคิราห์ผล็อยหลับไปพักใหญ่มาตื่นอีกทีเกือบสองชั่วโมงถัดมา  ผ้าห่มผืนใหญ่คลุมอยู่ถึงคอคงเป็นฝีมือของพี่สาว  โทรทัศน์ถูกปิดไปแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ

            ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นนั่ง   หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาพิชช์ฌาน  รอสายอยู่ครู่ใหญ่ก็ไม่มีคนรับสาย  ...หรือจะกำลังยุ่งอยู่กันอยู่   

            ท้องร้องโครกคราก  อาคิราห์เดินไปเปิดตู้เย็นออกสำรวจดูของกินในนั้น  เสียงกุกกักคงทำให้พี่สาวได้ยินเลยเปิดประตูห้องนอนออกมาดู

            “ทำอะไรน่ะอัยย์  หิวเหรอ”

            “พี่มีอะไรกินมั้ย”

            “เดี๋ยวขอดูก่อน”  อริศราว่า  เสียงโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของเธอดังขึ้น  หญิงสาวหยิบขึ้นมากดรับนิ่งฟังอยู่ครู่หนึ่งก็หันไปมองน้องชาย  “อัยย์...ติดต่อสามีเธอได้มั้ย”

            “โทรไปแล้วเค้าไม่รับน่ะ”  ท่าทางที่เปลี่ยนไปของพี่สาวทำให้อาคิราห์เอะใจ  “มีอะไรหรือเปล่าครับ”

            “มีคนโทรมาว่าเกิดเหตุระเบิดที่โกดังนอกเมือง  แล้ว...เขาเจอว่ารถของสามีเธอน่ะโดนแรงระเบิดด้วย”

            หัวใจของคนฟังหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม  อาคิราห์มองหน้าพี่สาวอ้าปากค้าง

            “ว่าไงนะ ระเบิดรถเหรอ”  อัยย์พูดตะกุกตะกัก  “แล้วพิชช์..พิชช์ฌานเป็นยังไงบ้าง”

            “ไม่ทราบเหมือนกัน  เขากำลังส่งตัวผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาล”  อริศราพูดแล้วก้าวเข้ามาจับแขนของน้องชายเอาไว้  “ใจเย็นๆก่อน  ไปนั่งตรงโซฟาดีกว่า  เกิดล้มไปจะลำบาก  กำลังท้องไส้”  เธอพาอีกฝ่ายไปนั่งที่โซฟา  ใบหน้าเรียวหวานซีดเผือด  ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจ

            “พิชช์ฌานจะเป็นอะไรมั้ยครับ  ผมอยากไปที่โรงพยาบาลนั่น”

            “รอข่าวก่อน  พี่ให้คนของพี่ช่วยตามข่าวให้แล้ว”  เธอพูดเรียบๆ เก็บข่าวที่แท้จริงเอาไว้ว่ารถคันนั้นถูกแรงระเบิดพังยับชนิดที่ใครอยู่ในนั้นก็คงแหลกเป็นส่วนเหมือนในข่าวที่บอกมา  แถมผู้บาดเจ็บอีกหลายรายก็ถูกไฟครอกจนระบุตัวบุคคลไม่ได้

            “ผมอยากไปดูที่เกิดเหตุ  ผมไปได้มั้ยครับ”  อาคิราห์ถามเสียงสั่น  มือเย็นเฉียบเอื้อมไปเกาะแขนพี่สาวเอาไว้  “พี่พาผมไปได้มั้ย”

            “ไม่ได้ รอให้เหตุการณ์สงบก่อน  ไปตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้หรอก”

            อาคิราห์เม้มปากแน่น  ลุกขึ้นไปเปิดโทรทัศน์ดู  ภาพข่าวที่เห็นทำเอาเขาใจหวิวๆด้วยความกลัว  รถยนต์กันกระสุนทั้งคันที่พิชช์ฌานภูมิใจนักหนาพลิกหงายท้องพังยับด้วยแรงระเบิด  กองเพลิงลุกท่วมลามจากโกดังออกมายังพื้นที่รอบข้าง  ในข่าวบอกว่าคนแถวนั้นได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นตามด้วยเปลวเพลิงลุกโชน  เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตสองรายและบาดเจ็บหลายราย ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด  ส่วนรถที่เสียหายสืบทราบมาได้ว่าเป็นรถของนักการเมืองใหญ่รายหนึ่งซึ่งยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆหลังจากเกิดเหตุ

            “ผมจะกลับบ้านก่อน”  อาคิราห์พูดเสียงเครือ  พยายามบังคับเนื้อตัวสั่นเทาให้เป็นปกติที่สุด  “ผมจะไปรอเขาที่บ้าน”  ถึงอย่างไรพิชช์ฌานก็จะต้องกลับบ้านแน่ๆ  อัยย์คิดว่าอย่างนั้น

            “เธอควรรอเขาอยู่ที่นี่”  พี่สาวพูดขึ้นบ้าง  “ขนาดรถยังระเบิดได้  อย่าว่าแต่บ้านเลย  ฉันว่าเธออยู่ที่นี่ดีกว่า  เขาให้เธอมาอยู่กับฉัน  เดี๋ยวเค้าก็จะต้องมารับเธอที่นี่”

            “แต่ว่าผม..กลัวมากเลย”  อัยย์พูดพร้อมกับน้ำตาร่วงเพราะสุดจะฝืนกลั้นเอาไว้ได้อีก  “เขาจะไม่เป็นไรใช่มั้ย”

            “ทำตัวเป็นเด็กไปได้น่า”  หางเสียงของหญิงสาวเริ่มหงุดหงิดแต่ก็เอื้อมมือมาลูบหัวน้องชายแทนการปลอบ  “สามีเธอเคยโดนยิงด้วยบาซูก้าด้วยนะตอนสมัยหาเสียงคราวที่แล้ว  ยังรอดตายมาได้เลย  ข่าวยังออกโครมๆว่าดวงแข็งอย่างกับอะไรดี”

            “.......”  อาคิราห์ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆจนมันแห้งเหือดไปเอง  เขาโทรกลับไปที่บ้านของพิชช์ฌาน   นิ่มนวลเป็นคนรับโทรศัพท์  เธอบอกว่าเจ้าของบ้านยังไม่กลับมา

            “มีอะไรหรือเปล่าคะคุณอัยย์  ทำไมเสียงอู้อี้จัง”

            “เปล่าครับ  ไม่มีอะไร  ถ้าคุณพิชช์ฌานกลับมาแล้วป้านิ่มช่วยโทรบอกผมหน่อยนะครับ”

            “อ้าว  แล้วคุณฌานไม่ได้อยู่กับคุณอัยย์หรอคะ”  นิ่มนวลถามกลับมา  อาคิราห์อึกอัก เลือกที่จะตอบเลี่ยงไปแทน

            “คุณฌานไปทำธุระน่ะครับ  เดี๋ยวไว้เจอกันที่บ้านแล้วผมจะเล่าให้ฟังนะครับป้านิ่ม”  ชายหนุ่มวางสายพลางถอนหายใจ 

            เขาเชื่อมั่นว่าพิชช์ฌานต้องไม่เป็นอะไร  คนอย่างนั้นวางแผนสำรองเอาไว้เสมอ  แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นตอนนี้กันแน่  ทำไมสถานการณ์ถึงได้รุนแรงขนาดนี้หรือว่าที่อีกฝ่ายเคยบอกว่า ไปเหยียบจมูกผู้มีอิทธิพลเข้าจะเป็นเรื่องจริง  ถ้าอย่างนั้นเพราะเขาเป็นต้นเหตุหรือเปล่า  พิชช์ฌานจะช่วยเขาก็เลยจำเป็นต้องออกหน้าในการทลายขบวนการค้าโอเมก้านั่น...

ภาพใบหน้าคมเข้มที่เงยมองตามเขาในลิฟต์แก้วยังติดตา  หรือว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นกัน  เคยมีคนบอกว่าครั้งสุดท้ายมักไม่มีสัญญาณเตือน ... อาคิราห์ซุกตัวลงกับโซฟาเพราะเกิดหนาวขึ้นมากะทันหัน

            เสียงโทรศัพท์ของพี่สาวดังขึ้น  เธอกดรับและนิ่งฟังครู่หนึ่งก็หันมาทางน้องคนเล็ก

            “คนของสามีเธอมารีบแล้วแน่ะ  รออยู่ข้างล่าง”  อริศราพูด

            อาคิราห์ดีใจรีบลุกขึ้นยืน

            “จริงหรอครับ  ใครมา”

            “บอกว่าชื่อเจนภพ  คงเป็นเจนภพมือขวาคุณพิชช์ฌานนั่นแหละ  วงการนี้มีอยู่เจนภพเดียว”  เธอพูดเรียบๆ  “ฉันจะไปส่งเธอข้างล่าง”  เป็นความใจดีอย่างถึงที่สุดแล้วสำหรับพี่สาวคนนี้ของเขา  ถ้าเป็นเวลาปกติเขาก็คงแปลกใจมากทีเดียว  แต่ในตอนนี้อาคิราห์ทำเพียงพยักหน้าแล้วเดินตามหลังพี่สาวไปที่ลิฟต์เท่านั้น

            ร่างสูงโปร่งของเจนภพยืนรออยู่ก่อนแล้วข้างล่าง  ท่าทางของชายหนุ่มดูกระวนกระวาย  ใบหน้าคมคายมีรอยแผลที่แก้มและหน้าผาก  ส่วนตามลำตัวเขามองไม่เห็นเพราะมีเสื้อผ้าบดบังอยู่   เจนภพพอเห็นเขากับพี่สาวและคนติดตามก็รีบเดินเข้ามาหา

            “คุณอัยย์   คุณพิชช์ฌานให้ผมมารับคุณครับ”

            “คุณพิชช์ฌานเป็นอย่างไรบ้าง”  อาคิราห์รีบถามเป็นประโยคแรก  ดีใจที่ได้เจอหน้าอีกฝ่ายก็จริงแต่ความเป็นห่วงใครอีกคนมีมากกว่า  อีกฝ่ายอึกอักเหลือบมองไปทางหญิงสาวแวบหนึ่ง

            “คุณฌานสบายดี  ไม่ได้รับอันตรายอะไรครับ”  ชายหนุ่มตอบ  “เชิญคุณอัยย์ทางนี้”  เขาผายมือไปยังรถยนต์อีกคันที่จอดรออยู่ข้างหน้าห้าง 

            “เดี๋ยวก่อน  ถ้าพิชช์ฌานสบายดีทำไมถึงไม่มารับน้องฉันด้วยตัวเองล่ะ”  อริศราถามขึ้น  กวาดตามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างสงสัย  “คุณพิชช์ฌานอยู่ที่ไหน”

            “คุณฌานรอคุณอัยย์อยู่ที่เซฟเฮ้าส์ครับ”  เจนภพตอบอย่างสงบ  “ถ้าคุณจะถามต่อว่าเซฟเฮ้าส์อยู่ที่ไหน  ผมขอไม่ตอบนะครับ   ไปกันเถอะครับคุณอาคิราห์”

            “ผมขอโทรหาคุณพิชช์ฌานก่อนได้มั้ย”  อาคิราห์ไม่ขยับ  ล้วงเอาโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดโทรออก  เสียงที่ตอบกลับมาคือ  ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก

            “โทรศัพท์ของคุณฌานได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ครับ”  เจนภพว่า  “เชิญคุณอาคิราห์ครับ”

            อาคิราห์คิ้วกระตุก  รู้สึกได้ว่าเจนภพกำลังพยายามปิดบังอะไรบางอย่างอยู่  เขาสังเกตเห็นแววขอร้องที่ส่งมาจากสายตาคู่นั้น  ความระแวงผุดขึ้นในส่วนลึกทว่าคำพูดของพิชช์ฌานที่เคยบอกว่าไว้ใจผู้ชายคนนี้มากที่สุดทำให้อาคิราห์ลังเล

            “ไปเถอะอัยย์  ถ้าถึงที่นู่นแล้วก็โทรหาพี่ด้วย”  อริศราพูดเนิบๆ  วางมือลงบนหลังของน้องชาย

            เจ้าโอเมก้าเดินตามเจนภพออกมาจนถึงรถที่จอดรออยู่  เขาก้าวขึ้นไปนั่งข้างหลัง  ส่วนเจนภพก้าวขึ้นไปนั่งข้างหน้าที่ประจำ  รถแล่นปราดออกจากที่ทันที

            “คุณพิชช์ฌานอยู่ที่ไหน”  อาคิราห์ถามอย่างระมัดระวัง

            “คุณฌานบาดเจ็บสาหัสจากแรงระเบิดครับ  ตอนนี้อยู่ไอซียู”  เจนภพว่า  “ผมขอโทษคุณอัยย์ด้วยที่ไม่ได้พูดความจริงตั้งแต่แรก  เพราะไม่อยากให้ข่าวนี้รู้ถึงฝั่งรัฐบาลครับ”  เสียงของคนพูดสั่นนิดๆ  “ผมมารับคุณเพื่อไปโรงพยาบาล”

            อาคิราห์แทบไม่ได้ยินคำพูดหลังจากนั้นที่เจนภพพูดต่อมา  เขารู้สึกหัวสมองว่างเปล่า

            ............................................................................

            มาอัพต่อแล้วจร้า

            หายไปหลายวัน ติดธุระค่ะ

            กลับมาคราวนี้เราจะอัพกันรัวๆ 5555

            เจอกันตอนหน้า  ขอบคุณกำลังใจและทุกคอมเม้นท์นะคะ

            #ขอรักแค่คุณ

           


ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
 :katai1: ค้างยิ่งกว่าเดิม

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
จะเชื่อได้ไหมเนี่ย แล้วใครตลบหลังกันแน่

ออฟไลน์ sweetie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :serius2: เจนภพอยู่ฝั่งไหนกันแน่

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โอ๊ยระแวงไปหมดแล้ว  :katai1: :katai1:
เจนภพก็ไม่ไว้ใจแล้วตอนนี้

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
หวังว่าเจนภพ จะไม่ทำร้ายทั้งอัยย์และพิชฌาณ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เอาตรงๆนะ  เรื่องนี้จะจบสวยใช่ไหม  กลัวใจคนแต่ง

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
  :ling3: นิลลาหรือเปล่าที่ตาย

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ตอนนี้จะเชื่อใจเจนภพได้ไหมเนี่ย สถานการณ์แบบนี้มันไม่น่าไว้ใจใครได้เลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด