[Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49  (อ่าน 267999 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
เมียอ้อนขนาดนี้จะไปไหนรอดล่ะคุณพิษ ^^

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
บอกตรงๆกังวลน้องมากก ส่วนตาพิษชาณไปเก็บก่อนน
ตอนนี้คนอ่านอยากดูแลน้องอัยย์แทนแล้ว :z6: :z6:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
อัยย์น่าเอ็นดู ว่าไหม

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
นี่ถ้าตามกิ๊กเก่าไปนะนายพิษฮึ่ย!!!! บู้บี้นี่ตั้งแต่ท้องคือขี้อ้อนมากๆๆๆๆๆ น่าเอ็นดู

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เห้อม  ต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันผิด เอ้อ ปากแข็งไปหมด เห้อม

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
ดูท่าเรื่องยุ่งยังมีอีกเพียบ

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Ai Adore You.

#ขอรักแค่คุณ

ตอนที่ 22

 

 

 

 

 

 

            พิชช์ฌานสะดุ้งตื่นตั้งแต่เช้ามืด  ภายในห้องพักมืดสลัวเห็นแค่เงารางๆ  แขนข้างซ้ายของเขาหนักอึ้งเหมือนมีก้อนหินถ่วงเอาไว้  ปลายนิ้วชาแทบไม่รู้สึก

            ‘ก้อนหิน’ ยังคงนอนหลับทับแขนของเขาในท่าเดิมตั้งแต่เมื่อคืน  แล้วเขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะดันตัวอีกฝ่ายออก  ปล่อยเลยตามจนกระทั่งเหน็บกินไปหมดทั้งซีก  ศีรษะกลมทุยซบอยู่ที่ไหล่  รู้สึกได้ว่าหัวไหล่เปียกไปหมดแล้วเพราะใครบางคนนอนน้ำลายยืดแน่ๆ

            เหอะ...นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนขึ้นมาได้  เจ้าโอเมก้าทำตัวเหมือนไอ้โม่งมากอดแขนเขาเอาไว้พร้อมกับทำตาปริบๆ เห็นแล้วน่าเขกหัวให้สักที  ปากก็บ่นอะไรไม่รู้ฟังไม่ได้ศัพท์  กว่าจะตะล่อมให้ยอมไปนอนก่อนได้ก็เล่นเอาเหนื่อยใจ   คนยังไม่ได้อาบน้ำเลยจะให้เข้านอนได้ยังไง  เกาะติดเป็นตังเม  แหม...อีกนิดก็คงจะมานั่งเฝ้าเขาอาบน้ำแล้วมั้ง

            น่ารำคาญจริงๆ  ทำตัวเหมือนเด็กไม่ยอมโต  นี่ถ้าไม่ติดว่าดึกแล้วนะ  จะแกล้งให้นั่งหงิกอยู่ในตู้เสื้อผ้าทั้งคืนเลย  เด็กบ้า...เอาเสื้อผ้าเขาไปใส่เองหมดจนเขาไม่มีชุดนอนใส่  จะขอคืนก็ไม่ยอมถอดออก  ชุดนอนของตัวเองมีก็ไม่ใส่  พอเขาจะเอาของตัวไปใส่บ้างก็โวยวายกลัวชุดขาดอีก

            “อาคิราห์”  พิชช์ฌานขยับตัว  ใช้มือขวาจิ้มที่หน้าผากเนียนแล้วดันออกจากไหล่ของเขา  อีกฝ่ายครางอืออาไม่ยอมลืมตา  “ตื่นเร็ว  ใครบอกอยากดูพระอาทิตย์ขึ้นไม่ใช่หรอ”  แอบเขี่ยปลายจมูกรั้นๆนั้นเล่น  เจ้าของย่นจมูกหันหน้าหนีแต่ไม่ยอมปล่อยแขนของเขาอยู่ดี  “อัยย์ นับถึงสาม”

            “อือ”  เปลือกตาขยับหยุกหยิก พอนับถึงสาม เจ้าตัวก็ลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย  พิชช์ฌานถอนหายใจเฮือก  ดันตัวเจ้าโอเมก้าออก  “เช้าแล้วเหรอ”

            “เช้าจนจะเที่ยงแล้ว  ตื่นช้าก็ไม่ต้องกินแล้วนะบุฟเฟ่ต์ตอนเช้าน่ะ  ไม่ต้องไปตกปลาด้วย”

            คราวนี้คนง่วงลืมตาโพลง  ดึงตัวลุกขึ้นมานั่งทันที  กระวีกระวาดลงจากเตียงไปเข้าห้องน้ำอย่างขมีขมัน  กลับออกมาในสภาพที่ใบหน้าเปียกชุ่ม  ท่าทางสดใสขึ้นกว่าเดิมมาก  อาคิราห์เดินกลับมาขมวดคิ้วเท้าสะเอวจ้องดูนาฬิกาพรายน้ำที่บอกเวลาตีห้าครึ่ง

            “ไหนคุณว่ามันเช้าจนเกือบเที่ยงแล้วไง  ยังไม่หกโมงเลย”  อัยย์ร้อง

            “เอ้า...ใครจะไปนึกว่าจะเชื่อล่ะ  ก็เห็นอยู่ว่ายังมืดอยู่เลย”  คนบนเตียงตอบกลับมากลั้วหัวเราะ  ขยับลงจากเตียงบ้าง

            “ผมนึกว่าคุณปิดผ้าม่าน”  อาคิราห์เม้มปาก  “แล้วก็ช่วยเอาผ้าห่มหรืออะไรห่อตัวด้วย  คนอะไรชอบโชว์เรือนร่าง”  เขายกมือขึ้นปิดตาเบือนหน้าหนีจากร่างสูงใหญ่ที่สวมเพียงอันเดอร์แวร์เอาไว้ตัวเดียว

            “เอาชุดฉันไปใส่เองอย่ามาบ่น  ทำเป็นไม่เคยเห็นไปได้  ทีเมื่อคืนยังนอนกอดได้ทั้งคืน”  พิชช์ฌานลดเสียงลงแล้วหัวเราะในลำคอ

            คนฟังตวัดสายตามองตาเขียวแล้วก็รีบเดินออกไปยังระเบียงข้างนอกแทน  ท้องฟ้าเริ่มมีแสงของดวงอาทิตย์ปรากฏที่ขอบฟ้า  อาคิราห์ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้สาน  ทอดสายตามองพระอาทิตย์ขึ้นอย่างรอคอย

            พิชช์ฌานกลับออกมาสมทบในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำเรียบร้อย  ชายหนุ่มส่งแก้วนมสดไปให้เจ้าโอเมก้ารับเอาไว้  ส่วนตัวเองเป็นกาแฟดำรสเข้มแก้อาการเวียนหัวตั้งแต่เช้า  แสงสีส้มอ่อนเริ่มแผดแรงกล้าขึ้นทีละน้อยตามเวลาที่ผ่านไป  พระอาทิตย์ดวงโตลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ

            “คุ้มค่าที่ตื่นเช้าไหม”

            “อืม...ดีมาก”  อาคิราห์พึมพำ  จิบนมสดเย็นๆจนหมดแก้ว  รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามากกว่าทุกวัน  อาจเป็นเพราะว่าวันนี้เขามีแผนการมากมายรออยู่  “เราจะไปตกปลากันกี่โมง”  เขาหันไปถามนักการเมืองหนุ่มที่นั่งจิบกาแฟนิ่งอยู่            “เคลียร์ธุระเสร็จก็ไป”

            “แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จล่ะ”

            “เธอเก็บของเสร็จหรือยัง”

            “เก็บไม่นานก็เสร็จ”  อาคิราห์ลุกขึ้นกลับเข้าไปเก็บข้าวของที่เมื่อวานรื้อค้นออกมากองกระจุยกระจายกลับเข้ากระเป๋าตามเดิม  พิชช์ฌานเดินตามเข้ามาบ้าง  ชายหนุ่มหายเข้าไปในห้องน้ำแล้วกลับมาแต่งตัวอย่างใจเย็น

            จัดการธุระส่วนตัวจนเรียบร้อย  เจ้าโอเมก้าก็มานั่งลูบคลำเบ็ดตกปลาอันใหม่ของตัวเองระหว่างรอให้พิชช์ฌานคุยโทรศัพท์เสร็จ

            “ลงไปทานข้าวกัน  ฉันให้คนหาเรือไว้ให้แล้ว  มื้อเที่ยงเราจะกินข้าวบนเรือ..ดีไหม”

            “สุดยอด”  อัยย์ยิ้มกว้าง  ยกนิ้วโป้งขึ้นชูสองข้าง  แววตาสดใสของเจ้าตัวทำให้คนมองยิ้มตามบ้าง   ถึงจะรู้ว่าตัวเองสุดยอดก็จริง  แต่การได้ยินอีกคนชมดื้อๆแบบนี้ก็รู้สึกดีไม่ใช่เล่น  พิชช์ฌานเดินผิวปากนำหน้าลงมายังห้องอาหาร

            ธีรดลรออยู่ก่อนแล้วพร้อมกับคนในทีม   พูดคุยทักทายกันแล้วก็เริ่มรับประทานอาหารเช้า  ตลอดเวลาอาคิราห์แทบไม่ได้ร่วมการสนทนาเลย  เจ้าตัวก้มหน้าก้มตากินลูกเดียว

            “อาหารอร่อยไหมครับคุณอัยย์”   ช่วงหนึ่งที่ธีรดลหันมาถามยิ้มๆ  อาคิราห์พยักหน้ารับ  หันไปสบตากับสามีที่นั่งอยู่ข้างๆแวบหนึ่ง

            ดูท่าคงจะคืนดีกันได้แล้วกระมัง  ธีรดลคิดในใจ  แต่ก็แปลกตรงที่เขาทราบข่าวมาว่าคุณรินลดาลูกสาวของคุณชาติชาย  มาพักอยู่ด้วยที่รีสอร์ตเมื่อคืน  จำได้ว่ารินลดากับพิชช์ฌานเคยควงกันออกหน้าออกตาอยู่พักใหญ่ก่อนจะเลิกรากันไป  คราวนี้จะเป็นความบังเอิญหรือว่าอย่างไรกันแน่

            ชาติชายก็เป็นนายทุนใหญ่ของพรรคอยู่แล้วเดิม  หรือว่าจะมีข่าวใหม่อะไรที่เขายังไม่ทราบ...

            “ผมเตรียมเรือเอาไว้ให้แล้วครับ”  ชายหนุ่มพูด  “คุณอัยย์คงชอบตกปลา”

            “ครับ”  อาคิราห์รับคำสั้นๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเลย

            พิชช์ฌานเหลือบมองอย่างพอใจ  วันนี้อาคิราห์ไม่ได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนเมื่อวาน  ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย  เขานั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคนจะไปยิ้มให้คนอื่นได้ยังไง

            เรือลำที่ธรดลเตรียมเอาไว้ให้เป็นเรือยอร์ชสีขาวขนาดกำลังกะทัดรัดน่าเอ็นดู  อาคิราห์ตาโตรีบเดินขึ้นไปบนเรือพร้อมกับถือคันเบ็ดไปด้วยโดยมีเจนภพเดินตามประกบไปข้างหลังไม่ห่างเพราะกลัวเจ้านายกลิ้งตกเรือเสียก่อน

            “ค่อยๆเดิน  นี่ถ้าตกน้ำฉันไม่งมนะบอกก่อน”  พิชช์ฌานตะโกนบอกตามหลัง  ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆดังขึ้นข้างๆจากเจ้าของเรือตัวจริง

            “คุณอัยย์คงตื่นเต้นมากนะครับ”  ธีรดลปรารภยิ้มๆ

            “เขาก็แบบนี้ล่ะ  ทำตัวเป็นเด็กๆไม่ยอมโต”

            “คุณพิชช์ฌานคงจะเหนื่อย”

            “ไม่หรอกครับ  เห็นเขายิ้มผมก็หายเหนื่อยแล้ว”  นักการเมืองหนุ่มตอบเนิบๆ  เหลือบตามองนายทุนของพรรคคนใหม่  “คุณธีรดลก็รีบหาบ้างสิครับ”

            “ผมก็กำลังมองๆอยู่  ถ้าได้เรื่องเมื่อไหร่ผมจะรีบส่งข่าวไปบอกคุณพิชช์ฌานคนแรก”  ธีรดลพูดขรึมๆ  แล้วยิ้มออกมานิดหนึ่ง   “คุณคงรู้จัก..คุณรินลดา”

            สีหน้าของคนฟังแทบไม่เปลี่ยน

            “รู้จักสิครับ  ลูกสาวของคุณชาติชาย...ได้ข่าวว่าเธอมาพักที่นี่ด้วย”  พิชช์ฌานพูดเรียบๆ  วางหน้าเฉยซ่อนความรู้สึกหงุดหงิดเอาไว้ได้มิดเม้น  ทำเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด  “ผมก็เจอเธอเมื่อคืน”

            “อ้อ  เหรอครับ”  ธีรดลผิดคาดไปเล็กน้อย  เขาไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะพูดออกมาตรงๆ  “มาได้จังหวะพอดีเลยนะครับ”

            “ช่วงไฮซีซั่นนี่นะ”  พิชช์ฌานพูด  “เห็นว่าเธอมาพักผ่อนเหมือนกัน  โรงแรมของคุณชื่อเสียงโด่งดัง ใครๆก็ย่อมอยากมาพัก”  ชายหนุ่มปรายตามองอีกฝ่ายด้วยหางตาคมกริบ

            ธีรดลขยับตัว               

            “ผมแค่อยากถามถึงคุณพ่อของเธอ  คุณชาติชาย...ผมไม่ได้พบท่านนานแล้ว”

            “ถ้าอย่างนั้นคุณลองถามเธอดูดีกว่าครับ  เธอเป็นแขกของโรงแรมคุณ...ผมขอตัวไปลงเรือก่อน  ไว้เจอกันนะครับ”  พิชช์ฌานยิ้มมุมปาก  เดินตามหลังอาคิราห์และลูกน้องไปที่เรือบ้าง  มือขวาคนสนิทเดินเข้ามาหาอย่างรู้ใจ

            “จับตามองธีรดลกับรินลดาให้ที  ถ้าฉันเดาไม่ผิด  นายธีรดลนี่คงอยากได้ข้อเสนออะไรเพิ่มอีกแน่ๆ”  พิชช์ฌานพูดเสียงต่ำ                       

            “แต่ที่คุณฌานเสนอให้ก็คุ้มค่ามากแล้วนะครับ”  เจนภพแย้ง

            “ความโลภของคนไม่รู้จักพอ”  ชายหนุ่มพูดเนิบๆ  ทอดสายตามองร่างโปร่งบางที่กำลังยืนเก้ๆกังๆหิ้วถังน้ำอยู่หัวเรือ  “นั่นอาคิราห์กำลังทำอะไรน่ะ  เดี๋ยวก็ตกน้ำตกท่าไปหรอก”  พูดจบก็ก้าวยาวๆตามออกไป  ทิ้งให้มือดียืนถอนหายใจคนเดียวด้วยความกังวล

            เรือแล่นปราดออกไปกลางทะเล  คลื่นลมแรงและแสงแดดจัดจ้าทำให้อาคิราห์อารมณ์ดีมากกว่าปกติ  ชายหนุ่มหิ้วถังน้ำพร้อมอุปกรณ์ตกปลาครบครันเดินไปรอบๆเพื่อมองหาทำเลเหมาะๆ  ตัวโคลงเคลงไปมาเพราะคลื่นที่ปะทะใต้ท้องเรือไม่หยุดหย่อน

            “อาคิราห์  ระวังลื่นตกน้ำหรอก  ตกลงไปฉลามกินไม่รู้ด้วยนะ”

            “แถวนี้ไม่มีฉลามหรอกน่า  อย่ามาหลอกผมให้ยาก”  เจ้าโอเมก้าตอบกลับมาด้วยเสียงยานคาง  ยกมือขึ้นป้องแดดมองย้อนกลับไปทางด้านหลังชายฝั่งที่จากมา  “เรายังออกมาไม่เท่าไหร่เลย”

            “รู้ได้ยังไงว่าไม่มี  ที่ไหนมีปลามีอาหารก็มีฉลามได้ทั้งนั้นนั่นแหละ  กลับไปทาครีมกันแดดซะ  ตัวแดงเป็นกุ้งแล้ว”  พิชช์ฌานเดินมาถึงตัวก็คว้าต้นแขนอีกฝ่ายเอาไว้  พาลากกลับเข้ามาในร่ม  “เอาไว้เขาจอดเรือก่อนค่อยออกไป  เธอไปตกตอนนี้จ้างให้ก็ตกไม่ได้  ถามจริง..ตกปลาเป็นหรือเปล่า”

            “ผมเคยตกปลาหรอกน่ะ  ที่บ้านผมมีทะเลสาบ”  อัยย์พูด  ดึงแขนออกจากการเกาะกุม

            “ฉันว่าฉันเคยไปบ้านเธอนะ  บ้านเธอไม่มีทะเลสาบ”

            “บอกว่ามีก็มีสิ  อยู่หลังบ้าน...คุณไม่เห็นเองมากกว่า”   อาคิราห์พูดอุบอิบ  “แต่มันไม่ใหญ่มาก”

            “เหรอ  แล้วมันเป็นยังไง  เล่าให้ฉันฟังซิ”  พิชช์ฌานว่า  มือก็เทครีมกันแดดลงบนฝ่ามือแล้วจัดการชโลมใส่หลังไหล่ของเจ้าโอเมก้าให้อย่างคล่องแคล่ว

            “มันมีปลาเยอะเลย  ผมกับคินชอบแอบไปตกเล่นกัน  คินเป็นคนสอนผมตกปลาล่ะ”  อาคิราห์ยื่นแขนให้อีกคนทาครีมกันแดดให้แต่โดยดี  “แต่วันดีคืนดีก็โดนจับได้  พ่อโกรธใหญ่เลยเพราะมันเป็นปลาที่เขาเลี้ยงเอาไว้”

            “อ้าว...เธอไปตกปลาในบ่อปลาน่ะรึ  ก็สมควรโดนดุแล้ว”  พิชช์ฌานหัวเราะ

            “ใครจะไปรู้ว่ามันเป็นบ่อปลาล่ะ  คินบอกผมว่ามันเป็นที่สาธารณะ  ใครจะมาตกเล่นก็ได้  เหมือนทะเลสาบพ่อชอบพาคินไปตกปลาตอนว่างๆ”  อาคิราห์เล่าด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย  ยกขาตัวเองออกจากตักของนายพิษฌาน  “คุณตกปลาเป็นหรือเปล่า”

            “เรื่องเล็ก  ฉัน...”

            “ฉันเป็นแชมป์ตกปลาสมัยเรียนมหาวิทยาลัย..”  พิชช์ฌานอ้าปากค้าง  เขายังไม่ทันพูดจบก็ถูกอีกคนพูดดักคอขึ้นมาเสียก่อน  อัยย์หัวเราะกิ๊ก  “ผมพูดถูกไหม”

            ตาคมตวัดมองเขาเร็วๆคล้ายค้อน

            “เกือบถูก  จริงๆคือฉันเป็นแชมป์สมัยเรียนประถมต่างหาก”

            อาคิราห์ยิ้มกว้างออกมาอีก

            เรือลดความเร็วลงแล้วปล่อยให้ไหลเอื่อยๆไปตามกระแสน้ำ  อาคิราห์ลากถังเดินออกไปปักหลักที่มุมเหมาะๆ  กวัดแกว่งคันเบ็ดไปมาให้ดูเหมือนผู้เชี่ยวชาญเสียหน่อย  พอได้จังหวะก็เหวี่ยงเบ็ดไปข้างหน้าเต็มแรง

            “โอ๊ย!”  เสียงลูกน้องของพิชช์ฌานที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างหลังอุทาน  ยกมือขึ้นกุมหูเอาไว้แน่น  คนตกปลาสะดุ้งหน้าเสียรีบเดินเข้าไปหาอย่างตกใจ

            “เป็นอะไรไปครับ  ผมเหวี่ยงโดนเหรอ”  อัยย์ชะเง้อมองอย่างกังวล  เห็นลูกน้องของพิษฌานค่อยๆแง้มมือออกมาให้เห็นติ่งหูที่มีเลือดออกซึมๆ  “ตายล่ะ...ผมขอโทษนะ  คุณคงโดนตะขอเบ็ดเกี่ยวเอา”  เห็นเลือดออกก็ชักร้อนใจ  เสียงฝีเท้าหนักๆของเจ้านายอีกฝ่ายเดินเข้ามาร่วมวงพอดี

            “เกิดอะไรขึ้นอาคิราห์  โวยวายอะไร”

            “คือ...เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยครับ”  คนพูดหน้าจ๋อยด้วยความรู้สึกผิด  “ผมเหวี่ยงเบ็ดไม่ระวังเลยเกี่ยวหูเค้าเอา”

            “ไม่ใช่ความผิดของคุณอาคิราห์หรอกครับ  ผมไม่ทันระวังตัวเอง”  ลูกน้องตอบอย่างสำรวม  พิชช์ฌานถอนหายใจเฮือก  ไล่ให้ลูกน้องเข้าไปทำแผลข้างใน  จากนั้นก็หันมาเท้าเอวใส่เจ้าโอเมก้าที่ยืนหงอยอยู่

            “ไหนว่าตกปลาเป็นไงล่ะ”

            “ก็เป็น...”  อาคิราห์ก้มหน้าลง  ไม่อยากสารภาพออกไปว่าความจริงแล้วเคยแต่คอยดึงเบ็ดขึ้นตอนมีปลามาตอดๆเท่านั้น  ส่วนใหญ่อคินทร์แฝดคนพี่จะเป็นคนจัดการให้มากกว่า

            พิชช์ฌานเอียงคอมองอยู่ครู่หนึ่งก็หมุนตัวเดินกลับไปหยิบคันเบ็ดที่วางทิ้งเอาไว้ขึ้นมาใหม่  ลงมือทำให้ดูเงียบๆโดยมีเจ้าโอเมก้ายืนดูอย่างสนใจ  มือใหญ่ส่งคันเบ็ดกลับมาให้เขารับเอาไว้

            “ตวัดข้อมือนิดนึง  อย่าใจร้อน”  คนพูดยืนซ้อนอยู่ข้างหลังอาคิราห์แนบชิด  มือก็กุมทับหลังมือเล็กบางอยู่อีกที  คนอยากตกปลาแทบไม่ได้ฟังเสียงห้าวๆที่พูดสอนอยู่ข้างหูเลยสักคำ  รู้สึกสติแตกกระเจิงไปตั้งแต่ถูกโอบเอวตอนแรกแล้ว

            พิชช์ฌานซ่อนยิ้มขันเอาไว้ในใจ  เจ้าโอเมก้ายืนนิ่งขึงอยู่ในวงแขนของเขาพลางทำตามที่เขาบอกเหมือนหุ่นยนต์  ผิวแก้มนวลสีน้ำผึ้งแต้มสีแดงเรื่อน่าพิศ   เห็นทีจะมีคน ‘เขิน’ เขาขึ้นมาบ้างเสียแล้ว

            แบบนี้ต้องรุกอีก...เอาคืนที่เมื่อคืนทำเขาไปไม่เป็นจนเกือบเสียอาการ

            นักการเมืองหนุ่มกระชับอ้อมแขนแน่นเข้าอีก  มือที่ซ้อนทับกับมือที่จับคันเบ็ดของอาคิราห์อุ่นจัด  กลิ่นเค็มๆของทะเลปนมากับกลิ่นหอมหวานเหมือนคุกกี้ที่แสนเคยชิน  ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดลึก

            “เมื่อไหร่ปลาจะติดเบ็ด”  คนโดนกอดอย่างจำยอมชักสงสัย  เริ่มขยับตัวยุกยิก

            “รักจะตกปลาต้องอย่าใจร้อน  ไม่รู้หรือไง”  พิชช์ฌานตอบกลับไป  “หรือว่าแค่นี้ก็ไม่มีความอดทนพอ”

            “ผมอดทนรอได้แต่ว่า...คุณถอยไปหน่อยได้มั้ย”

            “ไม่ได้  เดี๋ยวเบ็ดกระตุกแล้วปลาจะตกใจ”

            “จริงหรอ”  อาคิราห์เงียบไปครู่  “คุณโม้แล้ว  อย่ามาหลอกผมเสียให้ยาก”

            พิชช์ฌานหัวเราะ  ยอมปล่อยมือจากเอวของอีกฝ่ายแล้วยืนเป็นเพื่อนครู่นึง  เจนภพเข้ามาหาเขาบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย

            ชายหนุ่มปล่อยให้อาคิราห์นั่งเฝ้าคันเบ็ดต่อไป  ส่วนตัวเองถอยกลับมาคุยเรื่องพรรคกับมือขวาต่ออย่างเคร่งเครียด   ฝ่ายรัฐบาลเริ่มมีการเคลื่อนไหวอีกแล้ว

            “ฝ่ายนั้นมีนัดพบกันลับๆที่บ้านของท่านไตรคุณอาทิตย์หน้าครับ  สายของเราบอกมาว่ามีชื่อของนายชาติชายอยู่ด้วย  เห็นทีคงจะแปรพักตร์ล่ะมั้งครับ”

            “เขาคิดจะเอาเรื่องสัมปทานมาบีบฉัน”  พิชช์ฌานยกมือขึ้นลูบปลายคาง  “ทำไมชอบคิดตื้นกันจังนะ  ไม่เข็ดกันบ้างหรือไง”

            “คุณฌานจะให้ผมทำอะไรครับ”

            “ฉันเคยได้ยินมาว่าสมัยรุ่นพ่อของฉัน  นายชาติชายเคยขอให้พ่อช่วยปกปิดความผิดเรื่องเลี่ยงภาษีให้  เรื่องใหญ่โตพอดู  ถ้าขุดขึ้นมาตอนนี้คงจะเสียมากกว่าเดิมหลายเท่า”

            “แต่ว่าพรรคของเราจะดูไม่ดีนะครับ”

            “พ่อของฉันไม่ได้อยู่ในพรรคแล้วนี่”  ชายหนุ่มยักไหล่  “ดีเสียอีก  จะได้โชว์ให้ประชาชนเห็นว่าพรรคเราโปร่งใสกันแค่ไหน  ใครทำอะไรผิดก็ต้องได้รับโทษ”

            “แต่คุณพ่อของคุณจะโดนหางเลขไปด้วย”

            “พ่อเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว  ฉันรู้...เผลอๆพ่อก็รู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่”  หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านพึมพำ

            “แล้วเรื่องนัดพบที่บ้านท่านนายกฯ”

            “ฉันคิดว่าอาคิราห์น่าจะอยากกลับไปค้างที่บ้านอาทิตย์หน้านะ”  ชายหนุ่มยิ้ม

            ตอนนั้นเองที่พิชช์ฌานเริ่มรู้สึกถึงความโคลงเคลงโยนไปโยนมาของเรือ  เขาสะบัดศีรษะ  หันไปมองที่ไกลๆ  ความคลื่นไส้วิงเวียนเมื่อเช้าที่อุตส่าห์ดับลงไปด้วยกาแฟขมจัดเริ่มกลับคืนมาอีกครั้ง  แถมหนักกว่าเดิมเสียอีก

            คนของธีรดลมาทำหน้าที่เป็นไกด์เข้ามาบอกว่าตรงนี้สามารถลงดำน้ำได้  อาคิราห์ที่เริ่มหมดความอดทนกับการตกปลารีบลุกขึ้นยืนทันที  ตรงดิ่งไปรับเสื้อชูชีพมาสวม  ปากก็ถามเรื่องนู้นเรื่องนี้จากคนดูแลไม่หยุด

            “คุณฌาน  เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”  เจนภพถามขึ้นเพราะเห็นเจ้านายยืนโงนเงน  ใบหน้าคมเข้มซีดเผือดหันมามองหน้ามือขวา  ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น  เจนภพพุ่งตัวไปคว้าถุงพลาสติกมาส่งให้เจ้านายทันเวลาพอดี

            “ไปดูอัยย์ก่อน เดี๋ยวโดนฉลามกิน”  พิชช์ฌานเงยหน้าขึ้นจากถุง  ร้องสั่งลูกน้องให้ลงไปดูเจ้าโอเมก้า  เจนภพพะว้าพะวัง  “ให้ใครเอายาดมมาที”

            “ผมจะไปตามคุณอัยย์กลับมา”

            “ไม่ต้อง  ให้เขาเล่นไป  แล้วห้ามบอกว่าฉันอ้วกล่ะ”  อาเจียนจนหน้าเหลืองแต่ชายหนุ่มก็ยังไม่วายเงยหน้าขึ้นมาสั่งเสียงแหบแห้ง  “นอนพักสักหน่อยเดี๋ยวก็ดี ...รีบไปดูอาคิราห์  อย่าให้เขาโลดโผนมากนัก  กำลังท้องกำลังไส้  อย่าให้ไปไกลคนเดียวอันตราย  คอยตามติดเอาไว้”

            “ครับคุณฌาน  คุณนอนลงก่อนดีกว่าครับ”  เจนภพกุลีกุจอพาเจ้านายลงนอนพักบนเปล  จากนั้นก็กลับออกมาชะเง้อมองหาคุณอาคิราห์ที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำทะเลใสแจ๋ว  “คุณอัยย์ครับ  เป็นยังไงบ้างครับ”

            “ดีมากเลย  คุณก็ลงมาด้วยกันสิครับ  แล้วคุณพิษฌานล่ะ”

            “คุณฌานยังไม่อยากลงน้ำครับ”

            “อ้าว  ทำไมล่ะครับ” 

            “ผมก็ไม่ทราบ”  เจนภพอึกอัก  คนฟังจับความผิดปกติได้ทันที  อาคิราห์ว่ายกลับมาที่เรือ   “คุณอัยย์ไม่ว่ายน้ำแล้วเหรอครับ”

            อาคิราห์ส่ายหน้า  เดินเข้าไปในห้องโดยสารที่มีร่างสูงนอนเหยียดยาวอยู่  หยุดยืนคิดอยู่ข้างๆครู่หนึ่งแล้วก็เอื้อมมือไปแตะที่ต้นแขนล่ำสันเบาๆ

            “เป็นอะไรไปครับ  ไม่เล่นน้ำเหรอ”

            “เธอเล่นก่อนเลย  ฉันอยากพักสายตาสักครู่”  คนฟังกัดริมฝีปาก

            “ผม...คุณกลัวฉลามล่ะสิ  ถึงไม่ยอมลงน้ำ”   

            คราวนี้นัยน์ตาคมลืมตาขึ้นมองหน้าเขา

            “ใช่  ฉันกลัวฉลาม”  พิชช์ฌานหลับตาลงอีก  โบกมือไล่  “เธอจะไปเล่นน้ำตกปลาอะไรก็ไปเถอะ  ตามสบาย”

            “คุณโกหก”  อาคิราห์พูด  “คุณไม่ได้กลัวฉลามหรอก  แต่คุณไม่อยากเล่นกับผม”  คนฟังลืมตาขึ้นมาใหม่  เห็นดวงตากลมโตคู่นั้นกำลังมองมาทางเขาด้วยแววตัดพ้อ  “เพราะเป็นโอเมก้าใช่ไหมล่ะ”

            “เกี่ยวอะไรกับโอเมก้าด้วย  ไม่ใช่เสียหน่อย”  พิชช์ฌานงง

            “ถ้าไม่เกี่ยว  ก็ลุกขึ้นมาสิครับ”  อาคิราห์เปลี่ยนท่าที  แววตัดพ้อหายไปราวกับปลิดทิ้งจนคนมองนึกว่าตาฝาด “เอ...แต่หน้าคุณซีดๆนะผมว่า”

            “เป็นห่วงฉันเหรอเจ้าบู้บี้”   

            “เปล่า”  อาคิราห์ลากเสียง  เอื้อมมือมาแตะที่ซอกคอของพิชช์ฌาน  “ตัวเย็นจัง  เสื้อเปียกด้วย”       

            “ฉันไม่ได้เป็นอะไร  มันร้อนก็เลยเหงื่อแตก  เธอจะไปเล่นก็ไปเถอะ  เดี๋ยวถึงเวลากลับแล้วมาโวยวายไม่ได้นะ  อยู่ใกล้ๆเจนภพเอาไว้ ห้ามลอยตัวไปไกลๆล่ะ”  ชายหนุ่มสั่งเป็นชุด

            “คุณไม่ไปด้วยกันจริงๆเหรอ”

            “ฉันบอกว่าไม่ไปก็ไม่ไปไง  อย่าเซ้าซี้”  พิชช์ฌานจุ๊ปาก   ได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆดังมาจากใกล้ๆตัว ตามด้วยเสียงฝีเท้าเดินผละไปทางประตู  ชายหนุ่มดึงตัวลุกขึ้นนั่ง   

            “อาคิราห์”

            “คุณนอนพักเถอะ  ผมเล่นน้ำคนเดียวได้   แล้วผมก็จะโดนฉลามกินคนเดียวเอง”  อาคิราห์พูด “แล้วฉลามก็จะไม่อิ่มแล้วก็มาถล่มเรือพังเลย”

            “เธอดูหนังมากไปหรือเปล่าอาคิราห์”  พิชช์ฌานปวดหัวจี้ดขึ้นมากับเหตุผลของเจ้าโอเมก้า  ดูมาทำหน้าจ๋อยๆใส่อีก  “ยังไงก็จะลากฉันลงไปโดนกินด้วยงั้นสิใช่ไหม  เอ้า ...ไปก็ไป  ฉันขอเปลี่ยนชุดก่อน”  ชายหนุ่มกลั้นใจลุกขึ้นยืน  เข้าไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำออกมาบ้าง

            “คุณฌานครับ”  เจนภพรีบท้วง   “คุณไม่สบายอยู่นะครับ  ผมเกรงว่าจะอันตราย”

            “ไม่สบายอะไร  ฉันแข็งแรงดี”  พิชช์ฌานพูด  แค่อ้วกบนเครื่องบินก็ขายหน้าเจ้าโอเมก้าเกินพอแล้ว  ยอมให้เจ้าตัวรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าเขาเมาเรือต่ออีก  หมดกันภาพลักษณ์ที่สร้างมา  “เจอน้ำเย็นๆน่าจะดีกว่านั่งหัวโยกบนเรือนี้”

            “แต่ว่านั่นมันทะเลนะครับ”



ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk







           เจ้านายไม่ฟัง  ร่างสูงใหญ่ในชุดว่ายน้ำรัดรูปสวมชูชีพเสร็จก็กระโดดจากเรือลงไปลอยคอในน้ำทะเลอุ่นจัดเพราะแสงแดดร้อนแรง  ได้ยินเสียงหัวเราะคิกดังมาจากคนข้างๆที่ว่ายเข้ามาใกล้ๆ  อาคิราห์เข้ามาเกาะเขาเอาไว้ราวกับเขาเป็นทุ่นหรืออะไรสักอย่างกลางทะเล

            “เธอจะดำน้ำก็ไปดำสิ  ฉันจะลอยตัวอยู่แถวๆนี้”  นักการเมืองหนุ่มพูด  ขยับตัวอย่างระมัดระวังใต้น้ำพร้อมกับกวาดตามองอย่างหวาดระแวง  อาการคลื่นไส้เปลี่ยนเป็นปวดมวนในท้องแทนที่  “อย่าลงไปลึกนะ  ท้องอยู่ท่องไว้”  สายตาคมไวมองสำรวจรอบๆอาคิราห์ด้วย  เขาเครียดกว่าอยู่ข้างบนเรืออีกให้ตาย  ไหนจะต้องคอยระวังตัวเองแล้วยังต้องคอยระวังให้เจ้าเด็กนี่อีกคน   

            “คุณเกร็งจัง”  อาคิราห์พึมพำ  จับกล้ามเนื้อแถวหลังคอของพิษฌานบีบนวดเล่นจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นโอบรอบลำคอเอาไว้หลวมๆ

            พิชช์ฌานรู้สึกเกร็งยิ่งกว่าเดิมเสียอีก  สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดอยู่ข้างๆกับท่อนแขนเรียวบางที่โอบรัดคอเอาไว้   รู้สึกเหมือนโดนเอาคืนจากเมื่อกี้นี้เลย 

            “ทำแบบนี้  เดี๋ยวจมน้ำเอานะ”   นักการเมืองหนุ่มพูด  พยายามบังคับเสียงให้เป็นปกติ 

            “คุณเป็นแชมป์ว่ายน้ำไม่ใช่เหรอ”  คนพูดพึมพำข้างหู  ใกล้เสียจนพิชช์ฌานรู้สึกถึงแก้มนิ่มๆที่แนบอยู่ชิดกับซีกแก้มของเขา  หัวใจเต้นแรงจนลืมความคลื่นเหียนทั้งหมดไปราวกับปลิดทิ้ง

            “กอดแล้วอย่าปล่อยนะถ้างั้น”  พิชช์ฌานพูดขึ้นบ้าง  อาคิราห์หัวเราะ  พวกเขาลอยตัวเล่นในน้ำพักหนึ่ง  พิชช์ฌานก็พูดขึ้นมาเรียบๆ  “ฉันไม่ได้ลงทะเลนานแล้ว  ตั้งแต่เจ็ดขวบได้มั้ง”

            “จริงเหรอครับ  ทำไมล่ะ” 

            “เพราะฉันเคยเกือบจมน้ำตายในทะเล  วันนั้นคลื่นมันแรงมากเหมือนพายุจะเข้า  แม่เตือนแล้วแต่ว่าฉันก็ดื้อแอบออกไปเล่นน้ำคนเดียว  ตอนนั้นฉันว่ายน้ำไม่แข็งเท่าไหร่แล้วคลื่นก็แรงมากจริงๆ มันน่ากลัวมาก  ทำยังไงก็ขึ้นจากน้ำไม่ได้เลย   แม่บอกว่าโชคดีที่มีคนผ่านมาช่วยฉันเอาไว้  ไม่งั้นฉันคงจะตายไปแล้ว”

            “หลังจากนั้นคุณก็ไม่มาทะเลเลยเนี่ยนะ”

            “ไม่หรอก  ฉันก็ต้องมา...อย่างน้อยเขตพื้นที่ริมทะเลก็เป็นฐานเสียงพรรคฉัน  เพียงแต่ว่าฉันไม่ได้ลงเล่นน้ำเท่านั้นเอง  นี่ฉันไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังหรอกนะ”  พิชช์ฌานพูดเนิบๆ  เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีฟ้าจัด  “ฉันเล่าเรื่องของฉันแล้ว  เธอล่ะ...ไม่มีอะไรอยากเล่าบ้างเหรอ”

            “หมายถึงเรื่องอะไรครับ”  อาคิราห์ขยับตัวทันที  ใจหายวูบนึกว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องบริษัทจัดหางานโอเมก้าแล้ว

            “เรื่องเกี่ยวกับทะเล..อะไรก็ได้”  พิชช์ฌานตอบกลับมา  คนที่เผลอเกร็งตัวอย่างมีพิรุธลอบถอนหายใจยาว  ยักไหล่

            “ผมไม่มีเรื่องทะเลมาเล่าหรอก  ผมไม่เคยไปไหนเลยนี่นะ”  อาคิราห์พูด  “แต่อคินทร์เคยเอาน้ำทะเลกับเปลือกหอยมาฝากผม  ตอนที่ทุกคนไปทะเลกัน”

            “แล้วเธออยู่กับใครล่ะตอนนั้น”

            “ผมก็อยู่กับพี่เลี้ยงที่บ้าน  กับหมาแมวอะไรไป  ...ผมมีเพื่อนเยอะแยะ  อยู่บ้านก็สนุกเหมือนได้ไปเที่ยวทุกวันนั่นแหละ  แค่ไปเที่ยวที่เดิมวิวเดิม”  เสียงคนพูดหงอยลงจนคนฟังจับได้  พิชช์ฌานหมุนตัวกลับมาประจันหน้ากัน  อาคิราห์ปล่อยมือที่โอบรอบคอของอีกฝ่ายออกอย่างตกใจ  มือใหญ่เลยเป็นฝ่ายรั้งเอวบางเข้ามากอดไว้แทน

            “เอาไว้เลือกตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วฉันจะพาเธอไปเที่ยวเอง”  พิชช์ฌานพูดเสียงหนักแน่นกว่าทุกครั้งที่เคยได้ยิน  รวมถึงแววตาคู่นั้นด้วย  คนฟังคิดในใจ  “ฉันจะไปกับเธอด้วย...เราจะไปด้วยกัน”

            “คุณเคยบอกผมแล้ว”

            “แต่เธอไม่เชื่อฉันไม่ใช่หรือ”

            อาคิราห์หลบตาลง  ริมฝีปากอิ่มเต็มเม้มนิดๆ พิชช์ฌานเอื้อมมือไปเชยคางอีกฝ่ายขึ้น  กึ่งบังคับให้สบตากันในที  ดวงตาสีน้ำตาลใสแจ๋วเหมือนกระจกปรากฏรอยสั่นไหวจนคนมองยิ้มนิดๆ

            “ฉันสัญญาจะพาเธอไปเอง  ...ดังนั้น  อย่าหนีไปไหนเลยนะอาคิราห์”

            คนฟังสะดุ้งในส่วนลึกแต่พยายามเก็บอาการเอาไว้เต็มที่  ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องแผนการของเข้าหรือว่าเป็นเพียงแค่ความบังเอิญถึงได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมา  ขอให้มันเป็นอย่างหลัง..

            “เธอไม่เคยออกไปเจอโลกข้างนอกมาก่อน  คงเดาไม่ออกหรอกว่ามันอันตรายแค่ไหน  โดยเฉพาะโอเมก้าอย่างเธอ  โลกโหดร้ายกว่าที่เธอคิดเอาไว้....ฉันคงปล่อยให้เธอไปคนเดียวไม่ได้”  พิชช์ฌานหยุดนิดหนึ่ง  “ฉันสัญญา...สาบานตรงนี้ว่าจะพาเธอไปแน่ๆ  ถ้าผิดคำพูดขอให้ฉันไม่ตายดี”

            ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจ

            พิชช์ฌานยิ้มใส่ตาคู่นั้น  ใช้ปลายนิ้วโป้งแตะที่ริมฝีปากของตัวเองก่อนจะเอามาไล้ที่ริมฝีปากนิ่มๆอวบอิ่มเบาๆแทนการประทับตรา

            อาคิราห์นิ่งค้างไป  ถ้าไม่มีเสื้อชูชีพเขาก็คงจมดิ่งลงก้นสมุทรไปแล้ว  หัวใจเต้นเร็วแรงพร้อมกับใบหน้าที่เห่อร้อนขึ้นมาฉับพลัน  เขาแทบไม่กล้าสบตาคมเข้มอีก  ได้แต่ก้มหน้างุดคางแทบจรดอก

            “ขึ้นกันดีกว่า  เธอคงเริ่มหิวแล้ว”

            พิชช์ฌานซ่อนยิ้ม  ลอยตัวพาอีกคนที่นิ่งเหมือนติดสตั๊นท์ไปแล้วนั้นกลับขึ้นไปบนเรือ  อาคิราห์คว้าผ้าเช็ดตัวหายแวบเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

            เจ้าโอเมก้ากำลังตกใจและสับสนอย่างหนัก  คำพูดและท่าทางของพิษฌานเมื่อครู่นี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนมดกัดที่หัวใจ  มันเจ็บๆปวดๆแสบๆคันๆอย่างไรบอกไม่ถูก  อยากเอามือล้วงลงไปเกาก็ไม่ได้

            ไม่น่าเลยอาคิราห์...แผนการทำตัวเป็นเด็กดีนี่มันอันตรายกว่าที่คิด  แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องทำให้อีกคนตายใจให้ได้ว่าเขาเชื่อทุกสิ่งที่พิษฌานบอก  พร้อมจะยอมทำตามเหมือนโอเมก้าโง่ๆเชื่องๆสักคน

            เสียงเล็กๆในใจค้านขึ้นมาเบาๆ  นายพิษฌานอาจจะไม่ได้ ‘หลอกใช้’ เขาก็ได้  แววตาหนักแน่นตอนที่พูดคำสาบานออกมาก็ดูน่าเชื่อถือกว่าทุกที  แถมเรื่องนัดหมายกับหญิงสาวชุดดำคนนั้นก็ดูจะเป็นเรื่องลวงจากผู้ไม่หวังดีสักคนส่งมาให้เขาด้วย  ไม่แน่ว่าพิษฌานอาจจะ...รู้สึก...กับเขาจริงๆ .. อัยย์รีบหยุดคิด  ความดีใจเมื่อครู่นี้มันคืออะไรกัน  เขาไม่ควรคิดแบบนั้น

            ถ้าไม่อยากเสียใจอีก  ก็อย่าคาดหวังความรักจากใครอีกเลย ...นั่นเป็นบทเรียนที่เขาจดจำมาตั้งแต่สมัยเริ่มจำความได้  เพราะมันถูกสอนซ้ำๆผ่านการกระทำจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นบุพการีของเขาเอง

            ทางเดียวที่จะเป็นอิสระ  คือต้องพึ่งตัวเอง...คำพูดของแฝดพี่ดังขึ้นในหู  อาคิราห์ถอนหายใจยาวเก็บความหวาดวิตกเอาไว้ภายในและเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ

            พิชช์ฌานชวนเขารับประทานมื้อเที่ยงบนเรือก่อนจะกลับเข้าฝั่ง  อาคิราห์แทบจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะความตื่นเต้นกับแผนการของตัวเอง  พอเรือเทียบท่าพิชช์ฌานก็บอกยิ้มๆว่าเราจะค้างที่นี่อีกคืน  ทำเอาอาคิราห์ตกใจ

            “อ้าว...ทำไมล่ะครับ”  แผนเดิมคือเดินทางขึ้นเครื่องตอนสองทุ่มไม่ใช่หรือไง  แล้วเขาจะได้หาโอกาสเหมาะหลบหนีท่ามกลางเหล่านักท่องเที่ยวมากมายไม่รู้ว่าใครเป็นใคร  กว่านายพิษฌานจะรู้ตัว..เขาก็คงหาที่ซ่อนตัวได้แล้ว  พอวันรุ่งขึ้นเขาก็จะได้เดินทางไปเปิดโลกใหม่เสียทีโดยใช้บริษัทรับจัดหางานโอเมก้าอะไรนั่นเป็นตัวช่วย

            มันช่างง่ายดายนัก  ไปหางานทำต่อที่ต่างประเทศ   ใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรีอย่างที่โอเมก้าคนอื่นเขาทำกัน

            “ฉันว่าจะพาไปเที่ยวเกาะ  ไม่อยากไปหรือ”  นักการเมืองหนุ่มถามขึ้น  อาคิราห์พยักหน้า  ตื่นเต้นขึ้นมานิดหนึ่งแล้วก็นึกขึ้นได้  รีบเปลี่ยนเป็นส่ายหน้าแทน  “ทำไมล่ะ”  คนถามแปลกใจ

            “ผมเหนื่อยๆเพลียๆยังไงไม่รู้”  เจ้าโอเมก้าพูดเสียงอ่อน  อยากยกมือขึ้นกุมขมับแต่ก็เกรงว่าจะดูเกินจริงไป  “อยากจะกลับไปพักแล้ว”

            “เธอนอนพักคืนนี้ก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็สดชื่นเอง  ฉันอยากให้เธอไปเที่ยวที่เกาะนี้  รับรองว่าเธอต้องชอบ  น้ำใสแจ๋วเหมือนมรกตเลยล่ะ”  พิชช์ฌานบรรยายความสวยงามมาอีกราวกับเป็นไกด์นำเที่ยว  ถ้าเป็นปกติอาคิราห์ก็คงจะตาโตอยากไปมากแน่ๆ  ทว่าตอนนี้เขามัวแต่เครียดเรื่องวางแผนหลบหนีก็เลยไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าที่ควร

            พิชช์ฌานจับความผิดปกตินั้นได้ทันที  จะว่าไปเขาก็สังเกตได้ตั้งแต่แรกว่าอีกฝ่ายมีความกังวลบางอย่างซ่อนอยู่ตลอดเวลา  มันมากขึ้นเรื่อยๆตามลำดับเวลาที่ผ่านไป  ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นอยู่อึดใจ

            “คุณไม่มีงานพรุ่งนี้หรอครับ  แบบประชุมอะไรน่ะ”

            “ฉันเลื่อนไปก่อนก็ได้  ไม่เห็นเป็นอะไร...มาเที่ยวกับภรรยานี่นะ”  พิชช์ฌานพูดหน้าตาเฉย  “มีอะไรขัดข้องใจงั้นหรือบู้บี้”

            “เปล่าครับ  ไม่มีอะไร”  อัยย์รีบตอบ  “งั้นก็เอาตามที่คุณว่า”

            “โอเคตามนั้น”  พิชช์ฌานดูพอใจ  “เธอขึ้นไปอาบน้ำพักผ่อนข้างบนก่อนก็ได้  เพลียไม่ใช่เหรอ  นอนพักเสียหน่อยน่าจะดี  เอาไว้ฉันจะตามขึ้นไปทีหลัง”

            “ครับ”  อาคิราห์รับคำแล้วกลับยืนนิ่ง  จ้องหน้าคนตัวสูงกว่าไม่ขยับ  คิ้วเข้มเลิกสูงขึ้นอย่างฉงนแกมสงสัย  พิชช์ฌานหันกลับไปจ้องตอบ  แววลังเลปรากฏอยู่ในแก้วตากลมใส

            “มีอะไรหรือเปล่า...อาคิราห์”

            “คือ...”  อัยย์อึกอัก  พอเห็นหน้าอีกฝ่ายแล้วก็เกิดความรู้สึกอาลัยอาวรณ์อย่างประหลาด  กลายเป็นความลังเลที่สั่นคลอนความตั้งใจเดิมไปเสียหมด  ...ถ้าเขาหนีจากอีกคนไปจริงๆ  แล้วจะไปหากลิ่นหอมๆแบบนี้มาจากไหนอีกล่ะ

            ถ้านอนไม่หลับขึ้นมาอีกจะทำยังไง... แค่เสื้อผ้าของอีกฝ่ายที่หอบมาจะเพียงพอหรือเปล่า  ขนาดเมื่อคืนเอามาห่อทั้งตัวก็ยังไม่พอเลย

            “หรือว่าหิวอีกแล้ว?”

            “ไม่”  อาคิราห์ส่ายหน้าแรงๆ  ไล่ความคิดวกวนออกไปจากสมอง  งานนี้เขาตัดสินใจมาจากบ้านแล้วจะมาเปลี่ยนใจได้ยังไง  แต่ว่า...หรือเขาควรจะไปคิดดูก่อนอีกที  อันที่จริงแล้วไอ้บริษัทจัดหางานอะไรนั่นก็ไม่รู้ว่าจะหางานให้เขาได้จริงๆหรือเปล่า  เกิดไปอดตายที่เมืองนอกขึ้นมาจะทำยังไง  ....อัยย์ลอบถอนหายใจ  “ผมลืมไปแล้วว่าจะพูดอะไรกับคุณ...งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะ”

            ร่างโปร่งบางหมุนตัวเดินผละจากไป  พิชช์ฌานมองตามอย่างเคร่งคิด  เขาดีดนิ้วเรียกมือขวาคนสนิทเข้ามาหาแล้วกระซิบบางอย่าง

            อาคิราห์เดินมาหยุดรอลิฟต์พร้อมกับลูกน้องของพิชช์ฌานอีกสองคนที่เริ่มจะคุ้นชินกันดี  ประตูลิฟต์เปิดออกตามด้วยแขกจำนวนหนึ่งก้าวออกมาจากข้างใน  เจ้าโอเมก้าเบี่ยงตัวหลบไปอีกทางหนึ่งให้คนข้างในออกมาจนหมดก่อน  กลิ่นน้ำหอมที่ยั่วยวนเตะจมูกกลิ่นหนึ่งทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมอง

            ร่างอวบอัดในชุดสีม่วงเข้มก้าวผ่านหน้าเขาไปในระยะประชิด  ดูเหมือนเธอจะไม่ทันเห็นเขา  อาคิราห์เกือบอ้าปากค้าง  ทั้งตกใจและแปลกใจที่เจอเธอคนนั้นเขาจริงๆ

            ความรู้สึกอีกอย่างหนึ่งพุ่งขึ้นมาแทนที่ความตกใจอย่างรวดเร็ว  มันมาพร้อมกับความคิดที่ว่าคนสองคนนั้นคงนัดมาพบปะกันที่นี่จริงๆ ตามที่ข้อความบอกเอาไว้  สมองเชื่อมปราดไปยังเหตุการณ์เมื่อคืนที่พิชช์ฌานกลับมาที่ห้องช้า  แถมพอเขากอดแขนก็ยังได้กลิ่นแปลกๆติดมาจางๆอีกต่างหาก  ...กลิ่นที่คล้ายกับกลิ่นน้ำหอมของเธอคนนั้นไม่มีผิด

            อาคิราห์กัดริมฝีปากด้านในเอาไว้แน่น  เงยหน้าขึ้นทำทีเป็นมองตัวเลขบอกชั้นในลิฟต์แทนเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมาจากขอบตาที่ร้อนผ่าวขึ้นมาฉับพลัน  ความน้อยใจและเสียใจผสมปะดังปะเดขึ้นมาเหมือนถูกคลื่นสึนามิถล่มเข้าฝั่งโดยไม่ทันตั้งตัว

            ฝืนเก็บอาการเอาไว้ไม่ให้ระเบิดออกมาต่อหน้าลูกน้องของพิชช์ฌาน  อาคิราห์ก้าวยาวๆไปหยุดยืนหน้าห้องพักแล้วเปิดเข้าไปภายในโดยเร็ว  พอประตูห้องปิดลงได้ก้อนสะอื้นที่กลั้นเอาไว้ก็พุ่งขึ้นมาทันที  น้ำตาร้อนๆเอ่อล้นทะลักออกมาเหมือนเขื่อนแตก

            นึกสมเพชตัวเองเมื่อไม่กี่นาทีก่อนขึ้นมาเต็มทน  เกือบหลงกลเขาเข้าเสียได้  เขาแกล้งทำเป็นดีด้วยหน่อยก็คิดเข้าข้างตัวเองไปไกลว่าอีกฝ่ายคงมีความจริงใจให้จริงๆ  ที่ไหนได้....โอเมก้าก็ยังเป็นเพียงของเล่นของอัลฟ่าอยู่วันยันค่ำ  แม้แต่ลูกชายนายกฯอย่างเขา  ก็เป็นได้เพียงของเล่นชั้นดีรอวันที่เจ้าของเขวี้ยงทิ้งเพราะหมดประโยชน์

            ก้มหน้าก้มตาเก็บกระเป๋าอย่างรวดเร็ว  มองผ่านม่านน้ำตาพร่ามัวแล้วก็หยิบของทุกอย่างที่คว้าได้ใส่ลงในกระเป๋าเป้  ไม่ต้องเสียเวลาหยุดคิดซ้ำสองอีกแล้ว  เขาไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว  ไม่อยากเป็นหมากในเกมของใครอีก  พอกันที

            อาคิราห์หิ้วกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายบ่า  มีเสียงเคาะประตูห้องข้างหน้า  อาคิราห์เดินไปส่องตาแมวเห็นเป็นพนักงานของโรงแรมกับรถเข็นที่มีฝาครอบเอาไว้ข้างบนเหมือนจานอาหาร  ลูกน้องของพิชช์ฌานกำลังสอบถามอยู่แล้วก็เปิดฝาออกดู

            เจ้าโอเมก้ารีบวางกระเป๋าเป้ลงข้างๆแล้วเช็ดน้ำตาจนแห้งสนิท  เปิดประตูออกไปถามเสียงเรียบ

            “มีอะไรหรือเปล่า”

            “คุณพิชช์ฌานสั่งอาหารขึ้นมาให้คุณอาคิราห์ครับ”  พนักงานโรงแรมพูดยิ้มๆ  ลูกน้องของพิชช์ฌานทั้งสองคนตรวจสอบดูความปลอดภัยแล้วก็พยักหน้าให้เข้าไปได้

            “อ้อ...เชิญเข้ามา”  อาคิราห์เบี่ยงตัวหลบให้รถเข็นเข้ามาในห้อง  พนักงานถอยกลับออกไปหมดแล้ว  เจ้าโอเมก้าเปิดฝาครอบออกดู  มันเป็นขนมเค้กหลายชิ้นประดับด้วยผลไม้หน้าตาน่ากิน   

            อัยย์หยิบส้อมขึ้นมา...เขาต้องใช้พลังงานในการหนีนี่นะ

            ..................................................................................

            พิชช์ฌานเลิกคิ้วเมื่อเห็นร่างอรชรในชุดม่วงเข้มสีโปรดของเธอเดินเข้ามาหา  เธอส่งยิ้มให้เขาบางๆ  เจนภพขยับเข้ามายืนจนใกล้แทนที่จะถอยออกไปเหมือนทุกครั้ง

            “แหม  ลูกน้องของคุณนี่ก็ช่างทำหน้าที่ได้ดีเหลือเกินนะคะ”  รินลดาพูดเนิบๆ  ตวัดสายตามองมือขวาคนสนิทแวบหนึ่ง  “กลัวว่าจะโดนถ่ายภาพเอาไปลงข่าวหน้าหนึ่งหรอ”

            เจนภพมองตอบเธอด้วยสีหน้านิ่งสนิทไม่บอกความรู้สึก  พิชช์ฌานหัวเราะเบาๆ

            “เขาก็ต้องทำหน้าที่ของเขา  แล้วคุณล่ะ...ทำไมยังไม่กลับอีก”

            “เจอหน้าก็ไล่กันเลยเหรอคะฌาน  แหม...ไปล่องเรือมามีความสุขดีไหมคะ”  หญิงสาวพูดแกมเยาะ  ใบหน้าสวยเข้มแดงก่ำลงมาถึงลำคอ

            “คุณเมาหรือเปล่ารินลดา  ถ้าเมาก็ควรไปพักก่อน”  ชายหนุ่มพูดเสียงแข็ง  เดินเลี่ยงมาอีกทางหนึ่ง  หญิงสาวเดินตามมาด้วย  เจนภพเลยหันไปจับที่ต้นแขนของเธอ

            “หยุด  อย่าสะเออะมาจับตัวฉัน  ถอยออกไปไอ้ลูกเสี้ยวเบต้า”  เจนภพชะงัก  ปล่อยแขนของเธอเป็นอิสระทันที  พิชช์ฌานหยุดเดินบ้าง

            “ไปเอามาจากไหน  ...เจนภพเป็นอัลฟ่าบริสุทธิ์  หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว”

            “ความลับไม่มีในโลกหรอก  ฉันรู้มากกว่านั้นอีกนะ...รู้แม้กระทั่งว่าใครฆ่าพ่อของเธอ”  รินลดาหันไปพูดกับมือขวาคนสนิทของพิชช์ฌานแล้วหัวเราะเบาๆ  กลับมายืนตรงอีกครั้งด้วยท่าทางปกติราวกับเมื่อครู่นี้เป็นภาพลวงตา  “โอเค  มาคุยกันดีๆก็ได้  คุณพ่อของฉันท่านอยากได้คำตอบเต็มทีแล้วนะ”

            “คุณจะมาเร่งรัดผมได้ยังไง  ผมต้องกลับไปคุยกับคนในพรรคก่อนคุณก็รู้”

            “ฉันรู้...รู้ด้วยว่าอำนาจสิทธิขาดในการตัดสินใจของพรรคอยู่ที่คุณนั่นแหละฌาน  ไม่ต้องมาเลี่ยงไปเลี่ยงมาหรอก  คุณคิดจะเก็บผลประโยชน์นี้เอาไว้ให้ใครเหรอ  คิดว่าฉันไม่รู้หรือไง”

            “ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร”

            “อย่าคิดว่าตัวเองมีสายสืบคนเดียวนะ  ไอ้วิธีแบล็คเมล์แบบเก่าๆน่ะ  ระวังมันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองสักวันฌาน  ฉันขอเตือน...ด้วยความหวังดี”  รินลดาพูดเสียงห้วน  “อ้อ  แล้วเผื่อคุณลืมไปแล้ว  ...ฉันไม่เคยชอบดอกกุหลาบ  โดยเฉพาะกุหลาบสีแดง”

            “..................”  ชายหนุ่มนิ่ง  สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไป  เธอยิ้มมุมปาก

            “ฉันก็กะเอาไว้แล้วเชียว  ช่อดอกไม้นั่น...คุณไม่ได้เลือกเองสินะ  การ์ดก็ด้วยล่ะสิ  เหมือนสมัยที่เราคบกัน  คุณไม่เคยซื้อดอกไม้ให้ฉันด้วยตัวเองเลยสักครั้ง”

            “รินลดา  คุณต้องการจะพูดเรื่องอะไรกันแน่  ถ้าคุณพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ผมคงต้องขอตัวก่อน”

            “จะรีบขึ้นไปหาโอเมก้าของคุณน่ะเหรอ”  รอยยิ้มของเธอทำให้คนมองรู้สึกสังหรณ์ขึ้นมาทันที  พิชช์ฌานเกือบจะเอื้อมมือไปคว้าต้นแขนทั้งสองข้างมาเขย่าแล้วแต่ว่าห้ามตัวเองได้ทัน  ชายหนุ่มกดเสียงลงต่ำเพื่อไม่ให้หลุดตวาดเธอออกมาแรงๆ

            “คุณทำอะไร”

            “เปล่านี่...ฉันไม่ได้ทำอะไร”  หญิงสาวยักไหล่  เดินผ่านหน้าเขาออกไป  “เอาไว้เจอกันนะคะ  หวังว่าจะรีบตัดสินใจได้เร็วๆก่อนที่จะมีใครหมดความอดทน”

            “เธอหมายความว่าอะไร”  พิชช์ฌานรีบพูดตามหลัง   รินลดาโบกมือให้แล้วก้าวฉับๆหายไปอีกทาง   “ไปพาเธอกลับมาคุยกันก่อน  เจนภพ”

            “ครับคุณฌาน”

            มือขวาขยับตัว  ตอนนั้นเองที่เกิดเสียงบึ้มดังสนั่นหวั่นไหวจนอาคารสั่นสะเทือน  ร่างสูงใหญ่ย่อตัวลงอย่างตกใจ  เศษฝุ่นหล่นร่วงลงมาจากเพดานด้านบนพร้อมกับเสียงกริ่งสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังขึ้นกังวานก้องไปทั่วบริเวณ  ความวุ่นวายเกิดขึ้นทันที  แขกเหรื่อวิ่งกันชุลมุนเพื่อหนีออกจากอาคารที่พัก

            พิชช์ฌานรู้สึกเหมือนหัวใจโดนบีบลงเหลือเล็กนิดเดียว  ลางสังหรณ์ของเขาไม่เคยผิดพลาด  และมันกำลังร้องเตือนเขาให้รีบตามหาเจ้าโอเมก้าให้เร็วที่สุด

            อย่านะอัยย์...ได้โปรด  อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปก่อนเลยนะ

            ............................................................

            มาอัพแล้วจร้า

            เอาแล้วไง

            ใครรอเรื่องนี้อยู่บ้างคะ  เขียนไปเขียนมาคนอ่านน้อยลง55555 ร้องห้ายแน้วว  สงสัยเขียนสนุกมากไปหน่อย  ฮ่าๆ  เจอกันตอนหน้านะคะ  ขอบคุณสำหรับกดโหวตและคอมเม้นท์นะคะ  น่ารักมากๆ

            #ขอรักแค่คุณ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
แก๊!!!!!!!!!!  :fire: ทำอะไรลูกชั้น แกต้องเจอดีแน่ๆ นีงรินลดา ชะนีเป็นหูด  :angry2: ฉันจะตามไปเผาบ้านแก  :z6: :z6:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :katai1: อย่าปล่อยให้ค้างคานานนะคะ
 เราเป็นห่วงบู้บี้

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
บ้าบอมากเลยค่ะ ระเบิดเลยหรอ อัยย์จะเป็นไรไหม
หรือโดนวางยาจากขนมเค้กนั่นก็ไม่รู้

กำลังพากันสวีทมา ให้บรรยากาศหวานมาบ้าง
ดันมีนางมารมาสร้างเหตุให้อีกแล้ว
เหมือนผู้หญิงคนนั้นว่าไหม บางทีฌาณก็ไม่รู้ทุกเรื่อง

เจนภพคงไม่ตลบหลัง และคงไม่หลงเชื่อคำใครง่ายๆ นะ


ผู้หญิงคนนี้ร้ายมาก และรู้เยอะดีจังเลย
มีหนอนแล้วหรือเปล่าฌาณ

อย่าน้อยใจเลยค่ะ สำหรับเรา นิยายสนุกจริงค่ะ
รออ่านตอนต่อไปนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2019 13:14:55 โดย labelle »

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
สนุกดีจ้า รออ่านตลอดเลย ถึงแม้จะแอบขัดใจว่า เมื่อไหร่เขาจะเข้าใจกันสักที 555
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ รีบๆ มาจ้า

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ลูกชั้น!!!!!!!!!!!!!!!!!!  :z3: :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เราเข้ามารอไรท์ทุกวัน..บอกเบยยย..

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
แบบว่า  :serius2:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
กะลังหวานกันอยู่เชียว ยัยผู้หญิงนี่มาก่อเรื่องอะไรอี๊ก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2019 19:38:24 โดย malula »

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
กรี๊ดดด เดี๋ยวๆๆๆๆๆ นี่เล่นระเบิดกันเลยเหรอ บู้บี้อยู่ไหนลูก? หนูแบกเป้หนีออกมาก่อนแล้วใช่ไหม? ความมุ้งมิ้ง ความหมั่นใส้ดช.พิษฌาณ คนขิง(อวดเมีย) หายแว้บไปเลย กลับมาได้ตื่นเต้นอีกละ อ่านเรื่องนี้เหมือนนั่งรถไฟตีลังกาเลยอ่ะ แต่ละตอนมีมันครบทุกโมเม้นท์เลย 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
อ้าววววว เฮ้ย!!! เกิดอะไรขึ้น

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ทำกันขนาดนี้เลยเหรอ บู้บี้ออกมาทันใช่มั้ยลูกกกกกก :serius2:

ออฟไลน์ ♥ believeinme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ฮืออออออออ อย่าเป็นไรนะบู้บี้

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ผู้หญิงร้ายได้ทุกคน โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างรินลดา หวังว่า อัยย์จะปลอดภัยนะ

ออฟไลน์ lalilali

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
โอ้ยยย เคียด ค้างมาก
อย่าเป็นอะไรนะน้องอัยย์
ถ้าน้องอัยเป็นอะไรชั้นจะฉาบคนทำทุกคน แก!!
 :m31: :m31: :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เค้ากำลังจะดีดีกันแล้วแท้ๆ ทำอะไรของเทออีกกกก

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มีเรื่องน่าสงสัยหนึ่งอย่าง เจนภพ ใคนฆ่าใครอะไรยังไง :z3:
น้องงงง อย่าหนีไปเลยนะ หวังว่าน้องคงไม่เป็นอะไร :hao5:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
บู้บี้อยู่ไหนลูก เป็นห่วงมากเลย :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด