☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]  (อ่าน 194755 ครั้ง)

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
คุณพระคุณเจ้า

เจ้าป่าเจ้าเขา

ช่วยคุ้มครอง

ผู้ช่วยเพลิงด้วยเถอะ

อย่าให้เจ็บหนักเลย

และขอให้จับไอ้พวกสารเลวนั้นได้หมดทุกคนเลย

นู๋เนตรคนใกลบาดเจ็บแล้วเตรียมตัวไปดูแลเขาด้วย

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
พี่เพลิงอย่าเป็นอะไรนะ

ออฟไลน์ bnmshhhhhhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอติดตามเลยย o13

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
แงงงง ขอให้พี่เพลิงและเจ้าหน้าที่ทุกคนปลอดภัยนะ

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
เป็นห่วงทั้งผู้ช่วย ทั้งเจ้าเปลว พระคุ้มครองรีบกลับมาหาน้องแก้มนะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
กรรม ยิงโดนไหม หรือแค่เฉียดยังไงคะ
ขอให้เพลิงปลอดภัยนะ คนที่บ้านรออยู่

คนทำงานก็รักในอาชีพและศรัทธา
เพลิงและทุกคนก็ไม่ต่างกัน
กลับบ้านปลอดภัยกันนะคะ

เพลิงได้ใช้กระเป๋าใหม่แล้วจ้า
เปลวบอกเนตรมองไกล ผิดไปนิดนะ
จริงๆ อยากให้ใช้เลยมากกว่า 5555

เอ็นดูทีมป้าแซ็วหมูทอดเนตร
ว้าววว แก้มใสเรียกพ่อแล้วใช่ไหม
น่าจับฟัด น่าเอ็นดูมากลูก พ่อเนตรหลงมาก
และก็คิดถึงคนเข้าป่ามากด้วยนะคะ

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
รอจ้า

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เป็นกำลังใจให้ผู้ช่วย

ออฟไลน์ [Karnsaii]

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +523/-17
[ 10 ]


เพล้ง!

เสียงกรอบรูปที่ร่วงหล่นลงมาจนกระจกแตกกระจายนั่นทำให้หญิงสูงอายุที่เผลอปัดมันตกถึงกับหน้าเสีย

“ตายแล้ว”

เธออุทานเสียงสั่นแล้วรีบผวาไปหยิบเอาภาพถ่ายของใครคนหนึ่งออกมาเศษกระจกเหล่านั้น

“แม่ระวัง”

ประมุขของบ้านที่เห็นภรรยานั่งจ้องเศษกระจกนั่นอยู่รีบคว้าตัวเธอให้ถอยออกมา

“พ่อ”

คุณวดีครางเสียงแผ่ว

“แม่ทำรูปเจ้าเพลิงตกแตก”

อดีตนายทหารสูงวัยชะงักไปก่อนจะพ่นลมหายใจแรงๆ เมื่อเห็นแววตาไม่สบายใจของภรรยา เขาจึงลูบบ่าลูบไหล่เธอเป็นการปลอบประโลม

“มันไม่มีอะไรหรอกน่าแม่”

“แต่ว่า...”

เธอยังมีสีหน้ากังวล

“เรื่องบังเอิญเท่านั้น”

“แต่แม่เป็นห่วงหลาน นี่ก็เป็นอาทิตย์แล้วที่เจ้าเพลิงไม่โทรหาแม่เลย”

“ก็มันบอกอยู่ว่าต้องไปลาดตระเวน”

“นั่นแหละที่แม่ห่วง”

เธอทำหน้าเครียด

“เข้าป่าไปแบบนั้นไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง” คุณวดีพึมพำก่อนจะผุดลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กมากดโทรออก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีสัญญาณตอนกลับเสียทีนั่นยิ่งทำให้เธอร้อนใจ ภาพสีหน้าร้อนรนของ ขณะที่บิดายืนปลอบใจอยู่ข้างๆ กันนั่นทำให้ธามที่เพิ่งเดินเข้ามามุ่นหัวคิ้วทันที

“มีอะไรกันเหรอครับ”

“ธาม”

คุณวดีผวาไปเขย่าแขนลูกชาย

“แม่ติดต่อเพลิงไม่ได้เลย”

“มันเข้าป่านี่ครับ”

ธามนิ่วหน้าเพราะจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่คุยกันเจ้านั่นมันบอกว่าต้องลาดตระเวนในป่า

“อาจจะยังไม่กลับออกมา”

“แม่ร้อนใจ”

“มีอะไรหรือครับ เอ๊ะ” ธามหันไปเห็นเศษกระจกเกลื่อนพื้น

“รูปเพลิงตกลงมาแตก แม่ใจไม่ดีเลยธาม แม่เป็นห่วงน้อง”

ธามถอนหายใจก่อนจะหันไปเรียกแม่บ้านมาทำความสะอาดเศษกระจก เพราะเกรงว่ามารดาที่เดินวนไปวนมาเป็นหนูติดจั่นจะเผลอเหยียบเข้าจนได้

“รูปตกลงมาโบราณเขาว่าเป็นลางไม่ดี คนในรูปจะได้รับเหตุรับอันตราย”

คนพูดน้ำตาคลอขึ้นมาทันทีเดือดร้อนให้ผู้เป็นสามีต้องปลอบใจยกใหญ่

“ใจเย็นๆ ก่อนแม่”

“แม่สัพเพร่าเองที่ทำรูปเพลิงหล่นลงมา แม่ผิดเอง”

คนสูงวัยโทษตัวเอง ในใจยิ่งร้อนรนเมื่อนึกถึงหลานชายที่ทำงานอยู่ในที่ห่างไกล ก่อนหน้านี้ทั้งขอร้องทั้งบังคับให้เจ้าเพลิงมันกลับใจยอมย้ายมาทำงานในเมือง แต่ทำอย่างไรคนหนุ่มกินอุดมการณ์นั่นก็ไม่เปลี่ยนใจเสียที สุดท้ายกลายเป็นคนสูงวัยเองที่ต้องยอมจำใจปล่อยให้หลานไปทำงานที่ตัวเองรัก เพลิงมีความสุขทุกครั้งที่พูดถึงงานของตัวเอง แม้จะลำบาก หลานก็ไม่เคยปริปากบ่นให้ได้ยิน นั่นจึงทำให้เธอห่วงใยเป็นที่สุด

เพลิงน่าเวทนาเพราะสูญเสียทั้งพ่อและแม่ไปแล้ว เธอถึงได้ทั้งรักทั้งเวทนาหลาน คิดดูสิเด็กคนหนึ่งที่เกิดมาท่ามกลางความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิง ดีเท่าไหร่แล้วที่เพลิงมันเติบโตมาได้อย่างดีงาม ไม่ใช้ปมด้อยของตัวเองเป็นข้ออ้างเข้าสู่วังวนของสิ่งไม่ดีและอบายมุขทั้งหลาย มันน่าภูมิใจไม่น้อยเมื่อเด็กคนหนึ่งถูกคนกลุ่มหนึ่งชิงชังรังเกียจรังงอนไม่ยอมให้ใช้นามสกุลร่วม กลับโตขึ้นมาได้อย่างน่าภูมิใจ

คุณวดียอมรับว่าแม้จะไม่เห็นด้วยกับงานของหลาน แต่ลึกๆ ก็อดภูมิใจไม่ได้ที่หลานซึ่งท่านรักปานลูกตัวเสียสละตัวเองขนาดนี้ คนหนุ่มที่มีความคิดเพื่อส่วนร่วม เด็กน้อยวันนั้นคือที่พักให้ใครอีกหลายๆ คนในวันนี้ เพลิงมีความสุขที่ทำเพื่อคนอื่น เขาไม่เคยเรียกร้องความสุขสบายให้ตัวเองตัวซ้ำ

คิดแล้วก็เจ็บใจไม่น้อยทั้งๆ ที่เกิดมาเป็นหนึ่งในทายาทของศศิกุลนารถ ตระกูลผู้ดีมีอันจะกัน แต่ทำไมถึงได้มีชีวิตแตกต่างกับพี่ชายต่างมารดาเช่นนี้ ขณะที่เพลิงขวนขวายทุกอย่างมาด้วยตัวเอง ทำงานที่เสี่ยงอันตรายยากลำบาก แต่พี่ชายเพลิงกลับเกิดมาท่ามกลางกองเงินกองทองและผู้คนเอาใจประคบประหงม

หลายครั้งที่คุณวดีนึกอยากให้เพลิงเรียกร้องสิทธิ์ที่ตัวเองควรได้บ้าง แค่บ้านและที่ดินไม่กี่ไร่นั่นมันเทียบไม่ได้กับความร่ำรวยของครอบครัวทางบิดาหรอก ผู้ชายใจร้ายที่หลอกลวงน้องสาวเธอให้ตกหลุมรักกว่าจะรู้ตัวว่าเป็นน้อยเขาก็ตอนที่ท้องเจ้าเพลิง นั่นจึงทำให้น้องสาวเธอต้องหลวมตัวเป็นรอง แม้กล้ำกลืนฝืนทนก็ยอมเพราะอยากให้เพลิงเป็นลูกมีพ่อ

‘พอเถอะนะ หลานคนเดียวพี่เลี้ยงได้’

คุณวดีเคยพูดกับน้องสาวเธอแบบนั้น แต่ฝ่ายนั้นนิ่งเฉยยอมอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ เพราะคำว่ารักคำเดียว แม้สุดท้ายความรักนั้นจะพล่าผลาญเธอให้มอดไหม้และจากไปก่อนวันอันควร คุณวดียังรักษาสัญญาที่ให้น้องสาวตั้งแต่วันนั้นเสมอ เพราะเพลิงสูญเสียมารดา ครอบครัวบิดาไม่ยอมรับ นั่นจึงทำให้คุณวดีกางปีกปกป้องหลานรักอย่างเต็มที่

‘ใครไม่รักเพลิงก็ช่าง ป้ารักของป้าคนเดียวก็พอ’

ยังจำได้ว่าตอนที่เพลิงได้ยินแบบนั้น เจ้านั่นถึงกับหัวเราะร่วนก่อนจะทรุดตัวลงนอนหนุนตักหล่อน แม้จะถูกธามแกล้งเบียดก็ตาม คิดแบบนั้นแล้วอดนึกถึงเจ้าพวกนี้ตอนที่ยังเด็กไม่ได้ เธอถอนหายใจเหลือบตามองรูปเจ้าเพลิงที่ถ่ายตอบรับปริญญาในมือ แม้กรอบจะแตกแล้วแต่ภาพยังชัดเจน เธอจำได้ดีว่าวันนั้นเธอเคี่ยวเข็นให้เจ้าธามขนดอกไม้ไปให้กำลังหลานด้วยกลัวว่าฝ่ายนั้นจะน้อยใจที่ไม่มีครอบครัวทางฝ่ายบิดาไม่ไปร่วมยินดีด้วยสักคน ถึงได้ปลุกทั้งพ่อทั้งลูกแต่เช้าตามไปเฝ้าหลานตั้งแต่ยังไม่เข้าหอประชุมจนค่ำมืด หลายปีแล้วตั้งแต่วันนั้น ภาพนั้นทำให้ถึงเจ้าตัวในปัจจุบันที่ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง จะได้กินอิ่มนอนหลับสบายหรือไม่ จะได้รับบาดเจ็บตรงไหนอยู่ในป่าก็ไม่อาจรู้ได้

คุณวดีแอบน้ำตาคลอก่อนจะเบือนหน้าไปยังลูกชาย

“ธามช่วยโทรหาน้องให้แม่ที โทรไปเรื่อยๆ จนกว่าจะติดนะ”

ธามพยักหน้าอย่างแข็งขันเพราะแอบห่วงไอ้น้องหัวดื้อไม่น้อย ยิ่งติดต่อมันไม่ได้แบบนี้เขาเองก็ร้อนใจพอกัน

“แม่จะไปสวดมนต์ไหว้พระ ขืนอยู่แบบนี้แม่คงได้อกแตกตาย”

คุณวดีพึมพำ


☘☘☘☘


เพลิงได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ด้านขวา กระสุนหน้าไม้พุ่งทะลุปักทะลุเสื้อลายพรางเข้าไปถึงเนื้ออ่อนๆ อย่างจัง ดีว่ามันปักไม่ลึกนักจึงดึงเอาได้ง่ายดายก่อนจะใช้ผ้าพันลวกไว้ๆ เนื่องจากมีเลือดไหลออกมาจากเนื้อที่ปริออก

“พวกมึงเป็นใคร”

เกิ้งถามเสียงเครียดหลังจากซัดพวกมันจนหมอบ สองคนนั้นถูกมัดมือไขว้หลังโดยที่เปลวและเจ้าหน้าที่อีกสองคนยืนคุมเชิงอยู่  สภาพใบหน้ายับเยินของผู้ร้ายทั้งสองไม่น่าดูสักเท่าไหร่ คิ้วแตก ริมฝีปากม่วงช้ำ ขอบตาบวมเป่ง และอาจจะถึงหากชีวิตได้หากเพลิงไม่ห้ามปรามเอาไว้ก่อน

“พวกผมไม่ใช่ผู้ร้าย”

“แล้วพวกนายเข้ามาทำอะไรในป่า”

เพลิงถามเสียงเรียบ เพราะหากปล่อยให้เกิ้งสอบปากคำต่อมีหวังว่าอารมณ์ที่ยังกรุ่นๆ ในอกจะประทุขึ้นอีกครั้ง

“ไม่ต้องไปพูดดีกับพวกมันหรอกพี่เพลิง”

เปลวพูดอย่างมีอารมณ์เพราะนึกโกรธแค้นพวกมันที่ทำให้พี่เพลิงต้องบาดเจ็บ ดูสิขนาดพันผ้าเอาไว้ยังเห็นรอยเลือดซึมออกมา แต่หัวหน้าชุดลาดตระเวนยังทำหน้านิ่งเฉยทั้งที่เหงื่อผุดขึ้นตามไรผมแบบนั้น

เพลิงขยับมาหยุดตรงหน้าชายฉกรรจ์ทั้งสอง

“พวกนายเป็นใคร”

“พวกผมเป็นคนจากหมูบ้านท้ายเขาครับ”

หนึ่งในสองที่ก่อนหน้านี้ยกมือไหว้เขาปลกๆ พวกมันอ้างว่าตกใจคนแปลกหน้าเลยออกอาวุธป้องกันตัว ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ ขณะที่อีกคนซึ่งเป็นเจ้าของหน้าไม้ปล่อยกระสุนใส่กลับทำสีหน้าเรียบเฉย ถึงแม้แววตานั่นจะดูกริ่งเกรงเขาไม่น้อย

“แล้วเข้ามาทำอะไรในป่า”

เกิ้งถามเสียงห้วน

“มาดักไก่ป่าครับ”

“งั้นเหรอ” เกิ้งทำหน้ายียวนใส่ “แล้วได้ยินเสียงปืนก่อนหน้านี้มั้ย”

“มะ ไม่”

“แปลกนะ”

เพลิงพูดเสียงเรียบ “เสียงดังขนาดนั้น ซ้ำมันยังดังแถวๆ นี้พวกนายกลับไม่ได้ยินเลย”

สองคนนั้นลอบสบตากัน

“สารภาพมาดีกว่าว่า พวกมึงเข้ามาทำอะไร นี่กูยังไม่ได้เอาความเรื่องที่มึงทำร้ายผู้ช่วยนะ”

ไม่เอาอะไรล่ะ หน้าเยินกันขนาดนี้ พวกมันทำปากขมุบขมิบ

“พวกผมมาดักสัตว์จริงๆ นาย”

ไอ้คนที่ยกมือไหว้เพลิงก่อนหน้านี้รีบละล้ำละลักตอบท่าทางมันขี้กลัวมากกว่าอีกคนที่นั่งเงียบมาตั้งแต่ต้น

“งั้นดี กูจะจับพวกมึงกลับหมู่บ้าน แล้วให้หัวหน้าหมู่บ้านได้รับรู้ว่าพวกมึงทำร้ายเจ้าหน้าที่และมาทำลับๆ ล่อๆ ในป่านี่ หลังจากนั้นจะส่งตัวให้ทางการ”

พวกมันหน้าเผือดลงถนัดตา

“นายๆ พวกผมไม่ตั้งใจทำร้ายนายนะ”

“ไปคุยกันที่หมู่บ้านเถอะ”

เพลิงเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเกิ้งและเปลวดูมีอารมณ์ขึ้นมาอีก ขืนยังสอบสวนกันเองแบบนั้น พวกนั้นได้เอาไอ้สองคนนี่ตายแน่ๆ รอให้ไปถึงหมู่บ้านและเจอกับอีกทีมที่แยกไปก่อนดีกว่าค่อยสอบสวนกันใหม่

หลังนั้นพวกเราจึงออกเดินทาง โดยให้เจ้าหน้าที่สองนายประกบสองคนนั้นพาเดินมาจนถึงทางเข้าหมู่บ้านท้ายเขา ชายหนุ่มเหลือบตามองบ้านเรือนที่ใช้ไม้ปลูกยกพื้นสูงจากพื้นดินเล็กน้อย หลังคาใช้หญ้าแฝกมุง การสร้างที่อยู่อาศัยตามกำลังทรัพย์นั้นบ่งบอกชีวิตของคนที่นี่ซึ่งประชากรสาวใหญ่เป็นชาวเขาและชนกลุ่มน้อยที่ยังไร้สัญชาติอยู่ เด็กน้อยชาวเขาทั้งชายหญิงซึ่งอยู่ในชุดชาวเขาต่างพากันวิ่งมาเมียงมอง มีบางคนที่พอคุ้นตาก็ร้องทักเพลิงไปตามประสา

“พี่เพลิง”

เต็งวิ่งหนีตื่นมาแต่ไกล ด้านหลังนั้นคือเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนซึ่งแยกกันก่อนหน้านี้ พวกนั้นคงมาถึงหมู่บ้านก่อนหน้านี้ไม่นานนัก พลซึ่งอยู่ทีมนั้นเดินมาสมทบก่อนจะมุ่นหัวคิ้วเมื่อเห็นหัวไหล่ที่พันผ้าอยู่มีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย

“ผู้ช่วยเลือดออก” พลร้องถาม “เกิดอะไรขึ้นครับ”

ถามแล้วก็วนสายตาไปยังชายแปลกหน้าซึ่งถูกมัดมือไขว่หลังโดยมีเจ้าหน้าลาดตระเวนอีกสองนายยืนประกบ

“พี่ซา”

เต็งร้องทักหนึ่งในสองที่ถูกมัดมือไขว่หลังอย่างตกใจ

“ไอ้เต็ง”

คนที่นิ่งเงียบไปมาตลอดเปิดปากพูดกับเต็งทันที

“ทำไมหน้าพี่ถึงได้ยับเยิบขนาดนี้”

“มันโดนหมัดกูเอง”

เกิ้งพูดเสียงห้วนนั่นทำให้เต็งตื่นยิ่งกว่าเดิม

“เกิดอะไรขึ้นพี่”

“มันทำร้ายผู้ช่วย”

“หา”

เต็งมองยังหัวไหล่ของเพลิงก่อนจะสลับไปมองพี่เขยและเพื่อนพี่เขยที่ถูกจับมัดมือไขว้หลัง

“ให้ตายเถอะทำไมวันนี้มีแต่เรื่อง” เด็กหนุ่มครางเสียงแผ่วก่อนจะทำหน้าตื่นอีกครั้งเมื่ออะไรขึ้นมาได้ “พี่เนียงรอ”

“เนียงรอทำไม”

‘ซา’ ร้องถาม

“แม่เฒ่าบอกพี่เนียงรอน้ำคร่ำแตกตั้งแต่เมื่อคืน แต่ตอนนี้ยังคลอดไม่ได้เลย”

ซาไม่รอให้เต็งพูดซ้ำมันวิ่งฉิวไปยังบ้านตัวเองทันที ท่าทางตื่นตระหนกนั่นทำให้เพลิงและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ พากันวิ่งตามผู้ร้ายที่วิ่งไปทางหนึ่งทั้งที่มือยังถูกมัดอยู่ ระหว่างนั้นเพลิงนิ่งพิจารณาความสัมพันธ์ของเต็งกับคนที่ประทุษร้ายตัวเอง จำได้ว่าเด็กนั่นมีน้องสาวและพี่สาวอย่างละคน ซึ่งหากเพลิงจำไม่ผิดเจ้าเต็งเคยเล่าว่าพี่สาวแต่งงานกับคนหมู่บ้านเดียวซึ่งนั่นคงเป็น ‘ซา’ ข่าวว่าตั้งท้องใกล้คลอดแล้ว

เพลิงและเจ้าหน้าที่มาหยุดที่หน้าบ้านไม้แห่งหนึ่ง บนชานบ้านนั้นมีผู้เฒ่าผู้แก่นั่งล้อมวงคุยกันเสียงเครียด

“เขาว่าไอ้ซาผัวมันไปดักสัตว์ในป่าแล้วไม่ขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขาเค้า ท่านเลยจะมาเอาชีวิตนังเนียงรอมัน”

“พ่อเฒ่าว่าอย่างนั้นหรือ”

เพลิงเงี่ยหูฟังชาวบ้านสูงวัยสองคนที่นั่งกระซิบกระซาบกันอยู่ ก่อนจะมองเลยไปยัง ‘ผู้เฒ่า’ ที่ว่าซึ่งนั่งบริกรรมคาถาอยู่หน้าหม้อดินอันหนึ่ง เพลิงจำได้ดีว่าชายชรานั่นคือผู้นำทางจิตวิญญาณของคนที่นี่ อารมณ์เหมือนพ่อหมอประจำหมู่บ้านที่เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์และสิ่งลี้ลับที่คนศรัทธา แต่บอกตรงๆ ว่าเขาสะดุดใจกับสายตาฝ้าฟางคู่นั้นยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก จะว่าเจ้าเล่ห์แสนกลก็ดูจะเกินเหตุไป แต่แววตาที่เหลือบแลชาวบ้านของพ่อเฒ่านั่นมันยังไงชอบกล

“เจ็บท้องจะคลอดทำไมไม่ส่งโรง’บาล”

พลเอ่ยท้วง

“มึงดูด้วยว่าระยะทางจากหมู่บ้านนี้ไปโรง’บาลในตัวอำเภอมันไกลกันแค่ไหน”

เกิ้งตอบ

“อีกอย่างหมู่บ้านแบบนี้น่าจะมีหมอตำแย”

“มีๆ ผมได้ยินไอ้เต็งมันบอกว่ามีหมอตำแย แต่พี่สาวมันน้ำคร่ำแตกนานแล้วแต่เด็กในท้องไม่ยอมกลับหัว เลยคลอดไม่ได้”

เปลวเล่าเสริมคำพูดนั้นจึงทำให้เพลิงมุ่นหัวคิ้วคิดตาม

‘แม่เฒ่าบอกพี่เนียงรอน้ำคร่ำแตกตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนี้ยังคลอดไม่ได้เลย’

ตั้งแต่เมื่อคืนถึงจนป่านนี้แล้ว

อาการน่าเป็นห่วง

“พ่อหมอช่วยลูก ช่วยเมียผมที”

ซาซึ่งก่อนหน้านี้รีบรุดไปดูเมียในบ้านก่อนจะผลุนผลันออกมาคุกเข่ายกมือไหว้พ่อเฒ่านั้นปลกๆ

“เอ็งต้องไปขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขาก่อน”

“เวลาแบบนี้มาขมาอะไรวะ แทนทีจะพาส่งโรง’บาลในเมือง”

เปลวบ่นกระปอดกระแปด

“แต่ผมเข้าไปดักสัตว์ทุกครั้ง ผมขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขาตลอด อีกอย่างผมทำตามที่พ่อเฒ่าบอกทุกวิธีแล้วทำไมเมียผมถึงยังคลอดไม่ได้”

พ่อเฒ่าหน้าเปลี่ยนสีท่าทางโกรธไม่น้อยที่ถูกปรามาส

“ยังไงเอ็งก็ตั้งทำตามวิธีของข้า ถ้าเอ็งอยากให้นังเนียงรอมันรอด”

ซาทำหน้าลังเลใจก่อนจะยินยอมทำตามพิธีกรรมพ่อเฒ่า เกือบครึ่งชั่วโมงที่ผ่านพิธีกรรมไปไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากเสียงร้องของคนจะคลอดที่ร้องโอดโอยเจ็บปวดเจียนขาดใจ

“พอเถอะ”

เพลิงผุดลุกขึ้นยืนท่ามกลางสายตาของคนในหมู่บ้านที่หันมามองเขา

“ผมไม่ได้จะลบหลู่พ่อเฒ่านะครับ แต่เมื่อทำพิธีเสร็จสิ้นแล้วผมว่าพาคนเขาไปคลอดที่รพ.เถอะ เด็กไม่กลับหัวมันอันตรายมาก”

“นั่นสิ”

ผู้นำหมู่บ้านที่นั่งมองเหตุการณ์อยู่พยักพเยิดมาทางเพลิง

“ห้ามพานังเนียงรอไปจากที่นี่ ไม่งั้นมันจะตายทั้งแม่ทั้งลูก ถ้าพวกเอ็งไม่เชื่อข้าก็แล้วแต่”

พ่อเฒ่าหรี่ตามองเพลิงท่าทางไม่สบอารมณ์

“จากนี่ไปโรง’บาลจะทันเหรอผู้ช่วย”

เกิ้งกระซิบถาม

เพลิงได้แต่ถอนหายใจ เขาเองก็ให้คำตอบไม่ได้เช่นกัน แต่มันก็ยังดีกว่ารออยู่ที่นี่แบบไม่ทำอะไรเลย เพราะไม่ช้าไม่นานทั้งแม่ทั้งลูกมีโอกาสเสียชีวิตสูง ชายหนุ่มขยับออกมาก่อนจะล้วงเข้าไปในเป้แล้วคว้าว.สื่อสารออกมา

“ต้องแจ้งไปที่หน่วยขอความช่วยเหลือ”

พูดจบเพลิงก่อนผละไปหาสัญญาณ

ระหว่างนั้นซาซึ่งถูกพ่อเฒ่าและครอบครัวทางฝั่งเมียรุมกดดันให้ตัดสินใจ

“อย่าพาเมียเอ็งไปเด็ดขาดไอ้ซา”

ผู้เฒ่าถลึงตาใส่

“ตัดสินใจเร็วพี่ซา”

เต็งร้องโวยวาย “อย่าช้าไม่งั้นพี่เนียงรอกับหลานผมตายแน่”

“ข้า...”

ซาส่ายหัวก่อนจะมองเลยไปยังเจ้าหน้าที่ที่ยืนรออยู่เบื้องหน้า

“เร็วสิวะ”

เต็งร้องใส่

“ข้าอยากพามันไปหาหมอ แต่ข้าไม่ไว้ใจพวกเจ้าหน้าที่”

“พี่คิดเอาเองแล้วกัน ระหว่างชีวิตลูกเมียกับคำพูดของพ่อเฒ่า” เต็งโกรธหน้าดำหน้าแดง  “อีกอย่างนะ ผมจะบอกให้รู้ไว้ว่าคนที่พี่ยิงหน้าไม้ใส่เขาจนบาดเจ็บนี่แหละ คือคนที่กำลังหารถมารับเมียพี่ไปโรง’บาล”

ซายืนอึ้ง

.

.

“ติดต่อใครไม่ได้เลย”

เพลิงทำหน้าเครียดตอนที่กวาดตามองเจ้าหน้าที่คนอื่น ระหว่างนั้นผู้นำหมู่บ้านที่คุ้นเคยกันดีก็เดินหน้าเครียดเข้ามา

“ผู้ช่วยครับ”

เพลิงพยักหน้ารับ

“วันก่อนมีชาวบ้านมันขี่รถอีแต๋นมาช่วยญาติที่หมู่บ้านขนข้าว ตอนนี้รถมันจองอยู่หน้าบนผม” ลุงแกทำหน้าเครียด “แต่เจ้าของมันท้องเสีย ตอนนี้นอนซมอยู่ ไม่มีใครขับไอ้รถนั่นเป็นสักคน”

เพลิงคลึงขมับนึกภาพเครื่องยนต์ทางการเกษตรนั่นทันที ชายหนุ่มยืนนิ่งก่อนจะหันไปมองหน้าลูกน้องแต่ละคนที่ส่ายหน้าหวือเพราะไม่มีใครขับเป็น ระหว่างนั้นเสียงร้องโอดโอยของพี่สาวเจ้าเต็งก็ดังขึ้น

“ผู้ช่วยฯ”

“เดี๋ยวผมขับเอง”

เป็นไงก็เป็นกัน

“แต่ว่า...”

พรานธีปอเอ่ยท้วง

“ดีกว่าเดินเท้าครับลุงพราน ถ้าเดินเท้าต้องใช้เวลาเป็นวัน หลานลุงเขาทนไม่ไหวขนาดนั้นหรอก”

“เอาไงก็เอา”

พรานธีปอรับคำก่อนจะวิ่งนำเจ้าเต็งไปเคลื่อนย้ายคนเจ็บ ระหว่างนั้นบังเอิญว่าซาหันมาสบตาเพลิงพอดี เขาเห็นแววตาสับสบคู่นั้นทั้งระแวงทั้งจนใจ เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่รู้สึกเจ็บที่หัวไหล่ไม่น้อย พอเหลือบมองจึงเห็นว่าผ้าที่พันแผลอยู่ชุ่มไปด้วยเลือด

“พี่เพลิง”

เปลวทำหน้ากังวลเมื่อเห็นเลือดที่ซึมออกมา

“เปลี่ยนผ้าพันแผลก่อนเถอะพี่”

“ไม่เป็นไรพี่ยังไหว”

“แต่...”

เพลิงส่ายหน้าก่อนจะเดินไปบ้านผู้นำหมู่บ้าน โดยมีบรรดาเจ้าหน้าที่คนอื่นตามมาติดๆ สีหน้าทุกคนในทีมดูจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่เห็นเพลิงโดยทำร้ายจนบาดเจ็บ ซ้ำมันยังแสดงท่าทางหยิ่งยโสใส่เพลิงที่ให้ความช่วยเหลืออีก

“ผู้ช่วยไม่น่าไปช่วยมันเลย”

เกิ้งบ่นเบาๆ

เมื่อได้ข้อสรุปว่าจะพาหญิงสาวไปคลอดในเมืองท่ามกลางสีหน้าเกรี้ยวกราดของพ่อเฒ่า หลังจากนั้นเพลิงก็บังคับเครื่องยนต์ทางการเกษตรซึ่งด้านหลังบรรทุกคนเจ็บและเจ้าหน้าที่มาจนถึงครึ่งทาง ต้องขอบคุณพาหนะนี้ที่ทำให้ประหยัดเวลาไปโข ขณะที่กำลังจะเลี้ยวผ่านถนนลูกรังนั่นก็มีเหตุให้ต้องหยุดชะงักเมื่อรถติดหล่ม ชายหนุ่มนิ่วหน้าทันทีก่อนจะเรียกเจ้าหน้าที่มาช่วยกันดันรถ ขณะที่คนจะคลอดหน้าตาอิดโรยลงมากแล้ว

“ตรงนี้มีสัญญาณโทรศัพท์แล้วพี่”

เจ้าเปลวร้องดีใจ

“รีบโทรไปที่หน่วยเลย”

เด็กหนุ่มพยักหน้าก่อนจะเดินไปยังบริเวณที่มีสัญญาณเสถียร ก่อนจะหน้ามุ่ยกลับมา

“ไม่มีใครรับเลยพี่”

เพลิงทำหน้าเครียด ขณะที่เปลวจ้องโทรศัพท์ในมือก่อนจะนึกอะไรออก

“ผมนึกออกแล้วจะโทรขอความช่วยเหลือจากใคร”

.

.

บ่ายแก่ๆ วันนั้นเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของรเณศดังขึ้น ทำเอาคนเมืองซึ่งกำลังอุ้มหนูน้อยเล่นอยู่ต้องวางเจ้าหนูก่อนจะเดินไปรับสาย และชื่อที่ปรากฏขึ้นที่หน้าจอนั่นทำเอาเขาหน้าตื่น

เจ้าเปลวโทรมาอย่างนี้แสดงว่าคงออกจากป่าแล้ว

‘ว่าไงเปลว’   

[คุณ]

เสียงทุ้มที่เล็ดลอดมาตามสายทำให้หัวใจเขาเต้นแรง เพราะมันเสียงที่ไม่ได้ยินมาเกือบสัปดาห์ เสียงของในป่าที่ทำให้รเณศเผลอทอดหมูมาหลายวัน

แค่ได้ยินเสียงในอกก็สั่นระรัวดีใจอย่างบอกไม่ถูก

[คุณรเณศ...ได้ยินผมมั้ย]

‘ครับ’

คนเมืองรับคำเสียงแผ่ว จนนึกขัดเขินที่เผลอตอบฝ่ายนั้นด้วยเสียงประหลาดแบบนั้น

[ผมมีเรื่องให้คุณช่วย]

.

.

ป้าอนงค์หน้าตื่นตอนที่หลานชายวิ่งกระหืดกระหอบมาแต่ไกลบอกให้แกช่วยโทรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานเพื่อขอรถ ก่อนที่คนเมืองจะคว้ากล่องปฐมพยาบาลแล้วสตาร์ทรถกระบะขับไปโน่น หญิงวัยกลางคนถึงได้ละมือจากงานทันที

ขณะเดียวกันคนเมืองที่จับบังคับพวงมาลัยอยู่ตอนนี้นึกวิตักกังวลสารพัด เนื้อความที่เพลิงเล่ามาคือบังเอิญมีชาวบ้านจะคลอดกะทันหันในป่า มีความจำเป็นต้องใช้รถไปส่งที่โรงพยาบาล ตอนแรกรเณศก็ อยากจะรอให้ทางหน่วยไปช่วยนั้นแหละ แต่เขาก็ทนร้อนใจไม่ไหวเพราะได้ยินเสียงเจ้าเปลวลอดมาในสายว่าเพลิงไหลเลือดออกมาอีกแล้ว

เพลิงบาดเจ็บ!

แค่ได้ยินหัวใจเขาก็วูบโหวงจึงจับสัญญาณจีพีเอสจากโทรศัพท์เจ้าเปลวซึ่งก็คือโทรศัพท์เครื่องเก่าที่เขาให้น้องเอาไว้นั่นแหละ รเณศเหยียบคันเร่งจนกลัวว่าความเร็วนั้นจะพาเขาลงข้างทาง แต่เพราะนึกห่วงคนเจ็บที่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็ทำให้เขาลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังขับรถเร็วเฉียดตายขนาดนี้

รเณศตัวสั่นไปหมดตอนที่รถชะลอความเร็วแล้วจอดอยู่ใกล้กับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งซึ่งกำลังดันรถอยู่เบื้องหน้า ภาพที่เห็นตรงหน้าคือเพลิงในชุดลายพรางดันรถอีแต๋นที่ติดหล่มอย่างแรง รเณศเม้มปากแน่นเมื่อเหลือบไปเห็นหัวไหล่ด้านขวาที่มีเลือดซึมออกมา

“คุณ”

เพลิงทำหน้าประหลาดใจที่เห็นเขา ขณะที่เขายังจ้องบาดแผลคนเจ็บนิ่ง

“คุณบาดเจ็บเหรอ”

“อือ”

เพลิงครางอืออา ใบหน้าที่เริ่มซีดเผือดและมีเหงื่อที่ผุดตามไรผมนั่นเป็นคำตอบ เพลิงกำลังเจ็บปวดเพราะแผลที่เริ่มอักเสบแล้ว แต่เขาไม่สนใจตัวเองด้วยซ้ำ เมื่อเจ้าตัววิ่งไปช่วยหญิงสาวที่นอนแผ่อยู่บนรถ สีหน้าอิดโรยใบหน้าขาวซีดนั่นทำให้รเณศใจเสีย พวกเขาไม่มีเวลาคุยกันอีกเลยหลังจากเพลิงและเจ้าหน้าที่คนอื่นช่วยกันอุ้มเธอขึ้นรถกระบะของเขา จังหวะนั้นรถอุทยานก็สวนมาพอดีแล้วรับเอาเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ตามกันไปติดๆ

(มีต่อค่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2019 21:24:03 โดย [Karnsaii] »

ออฟไลน์ [Karnsaii]

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +523/-17
รเณศเหลือบมองสีหน้าของเพลิงที่ได้ยินหมอบอกว่าสาวชาวบ้านคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แม้จะต้องเฝ้าดูอาการสักระยะก็ตาม สีหน้าเหนื่อยล้าแต่แววตาที่เป็นประกายนั่นทำให้คนเมืองเผลอยิ้มตาม เพลิงเดินไปบอกให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ให้กลับไปพักผ่อน ขณะที่กำลังจะผละออกมา เขาเห็นผู้ชายแปลกหน้าหนึ่ง ถ้าให้เดาต้องมีความสัมพันธ์สาวชาวบ้านที่คลอดอย่างน่านอน น่ากลัวว่าจะเป็นสามีของเธอกำลังยกมือไหว้ขอบคุณผู้ช่วยเพลิง

“ไปให้หมอทำแผลหน่อยเถอะ”

เพลิงชะงักปลายเท้าตอนที่รเณศเดินมาหยุดเบื้องหน้าแล้วบุ้ยปากทางยังหัวไหล่ที่เลือดไหลจนแห้งกรังคาชุดไปแล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมไปให้พยาบาลทำแผลเสียที

“ผมไม่เป็นอะไรแล้ว”

“ไปทำแผล”

รเณศบอกเสียงขุ่น

“ขอบคุณที่เป็นห่วงผม”

“ผมไม่ได้ห่วงคุณ”

รเณศแก้ตัวก่อนจะถลึงตาใส่อีกฝ่าย “ก็แค่ไม่อยากให้เลือดออกจนหมดตัว”

สุดท้ายเพลิงจ้องหน้ารเณศนิ่งก่อนจะยิ้มน้อยๆ แล้วจึงเบี่ยงหน้าไปยังห้องฉุกเฉิน ไม่นานหลังจากนั้นชายหนุ่มก็เดินออกมาพร้อมกับผ้าพันแผลอันใหม่ที่ดูสะอาดสะอ้านกว่าเดิมหลายเท่า

“ขอบคุณที่ยืนรอ”

เพลิงกดยิ้มมุมปากมองคนเมืองที่นิ่วหน้าใส่

“ป้าอนงค์โทรมาบอกว่าเย็นนี้ให้คุณไปพักที่บ้าน”

“ไม่เป็นไร”

เพลิงส่ายหัว

“ผมอยู่ได้”

รเณศถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ทำอะไรนึกถึงคนที่อยู่ข้างหลังบ้างเถอะ คุณทำงานเสี่ยงอันตรายและซ้ำได้รับบาดเจ็บอย่างนี้ หากพ่อแม่คุณรู้เขาจะคงห่วงไม่น้อย ทำตัวเป็นคนเหล็กอยู่ได้”

“แม่ผมเสียแล้ว”

รเณศยืนอึ้ง ความทรงจำบางอย่างสว่างวาบขึ้นมาในหัว

‘ผมเป็นลูกเมียน้อย’

‘คุณยังโชคดีที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นตัวจริง...ขณะแม่ผมไม่เคยเป็นตัวจริงเลยสักครั้งในชีวิต’


“ส่วนพ่อ ผมกับเขาไม่สนิทกันเท่าไหร่ อีกอย่างเขาก็เสียไปแล้วเช่นกัน”

มิน่า!

ผู้ชายตัวคนเดียว ไม่มีพันธะใดๆ ไม่มีชีวิตเพื่อใคร ลมหายใจเดียวของเขาคือ ‘ผืนป่า’ เท่านั้น

รเณศยืนนิ่งมองตามแผ่นหลังกว้างที่ค่อยๆ ขยับห่างออกไป แผ่นหลังที่เข้มแข็งองอาจแม้จะเหน็ดเหนื่อยกับภาระหนักหนาบนบ่า ซ้ำชีวิตยังต้องเผชิญกับความยากลำบากทางครอบครัวแต่กลับยืนหยัดและเข้มแข็ง

เป็นความเข้มแข็งที่กำลังทำให้ ‘หัวใจ’ ของรเณศสั่นไหว

.

.

แม้จะปฏิเสธในตอนแรกว่าไม่ไปพักที่บ้านป้าอนงค์ แต่สุดท้ายป้าแกก็โทรมากำชับอีกที แกให้เหตุผลว่าเพลิงบาดเจ็บคงไม่เหมาะที่อยู่คนเดียวซึ่งมันเป็นข้อข้อเท็จจริง เพราะตอนนี้เขาเองก็รู้สึกเวียนหัวเพราะพิษไข้เสียแล้ว อีกอย่างถึงกลับไปที่ทำการตอนนี้ เจ้าหน้าที่ทุกคนคงกลับไปพักผ่อนที่บ้านกับครอบครัวแล้ว

ท้ายสุดเพลิงเลยต้องแบกเป้มาขอรบกวนป้าอนงค์ซึ่งเต็มใจต้อนรับจนได้ แกไล่ให้เขาไปอาบน้ำก่อนจะให้รเณศเอาชุดของคุณตามาให้เปลี่ยน หลังจากนั้นหลานเจ้าของป้าก็ถือกล่องปฐมพยาบาลเดินมาทรุดตัวนั่งลงข้างๆ กัน

เพลิงเหลือบตามองใบหน้าเนียน ดวงตากลมโตที่กำลังจดจ้องก่อนจะทำความสะอาดแผลให้เขาหลังอาบน้ำ มือเรียวขาวทำแผลให้เขาอย่างเบามือ กิริยาตั้งอกตั้งใจนั่นทำให้เพลิงเผลอมองอีกฝ่ายนิ่ง

“เจ็บรึเปล่า”

รเณศเงยหน้าขึ้นมาจากแผลก่อนจะทำอึกอักมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องหน้าเขาอยู่

“มองอะไร”

“ไม่เจ็บครับ”

“อื้อ”

รเณศแกล้งหลุบตาเสหน้าไปทำแผลต่อ ทั้งที่หัวใจอดกระหวัดถึงสายตาคู่นั้นของเพลิงไม่ได้

สายตาอ่อนโอนที่ชวนสั่นไหว

สายตาที่มองกันอย่างลึกซึ้งแบบนั้น

“โอ๊ย”

รเณศตกใจเมื่ออีกฝ่ายร้องขึ้น

“เจ็บเหรอ ผมไม่ได้ตั้งใจ”

เพลิงส่ายหน้าหวือ

“ไม่เจ็บ” เขายิ้มมุมปาก “แต่ผมร้องเพราะมดกัน”

เพลิงหยิบมดที่กัดต้นขาขึ้นมาให้รเณศซึ่งทำหน้าตูมใส่ดู

“ตกใจหมด”

“ขวัญเอ๊ยขวัญมา”

“คุณเพลิง”

เพลิงกดยิ้มมุมปาก

“หมูทอดอร่อยนะ”

รเณศชะงักมือที่กำลังปิดผ้าพันแผล ใบหน้าร้อนผ่าวซ้ำหูทั้งสองข้างยังอื้ออึงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“เปลวบอกว่าคุณเป็นคนทำ”

“...”

“อร่อยดี”

รเณศก้มหน้างุดๆ เก็บอุปกรณ์ทำแผลเข้ากล่องปฐมพยาบาลก่อนจะผละออกไป

“พรุ่งนี้ผมจะได้กินอีกมั้ย”

เสียงทุ้มดังตามมา

เฮ้อ สงสัยพรุ่งนี้ต้องถูกป้าอนงค์บ่นว่าเขาทอดหมูอีกแน่ๆ รเณศเม้มปากแน่นก่อนจะมองค้อนให้คนด้านหลังก่อนจะเดินเข้าไปครัวไปหมักหมูทันที

.

.

เป็นเวลาค่อนคืนแล้วที่รเณศลุกมาดูอีกฝ่าย หลังจากคนเจ็บอาบน้ำกินยานอนไปแล้วพักใหญ่ เขาขยับมือไปแตะหน้าผากอีกฝ่าย ไอร้อนผ่าวที่ออกมาจากร่างกายคนเจ็บนั่นสันนิษฐานได้ไม่ยากว่ากำลังเป็นไข้เพราะแผลที่อักเสบ รเณศเหลือบตามองเหงื่อที่ผุดเต็มใบหน้าคมคายซึ่งหลับตานิ่งอยู่ ก่อนจะรีบไปรองน้ำใส่กะละมังแล้วเอาผ้าชุบหมาดๆ มาเช็ดตัวให้อีกฝ่าย

ระหว่างนั้นเขาแอบเห็นกระเป๋าเป้ใบใหม่ที่ซุกอยู่ข้างๆ คนหลับ รเณศแอบยิ้มแล้วมองเลยไปยังเป้ใบเก่าที่มีรอยปะไปทั่ว กองเสื้อผ้าชุดลายพรางที่มีเต็มคราบโคลนสกปรก รองเท้าที่เปื้อนดินโคลนไม่น่าดู เห็นแล้วได้แต่นึกสะท้อนถึงการทำงานในป่าของคนเจ็บ

จะลำบากขนาดไหนกันหนอ

คนธรรมดาที่มีแค่สองมือ สองเท้าที่แบกภาระรับผิดชอบไว้เต็มบ่า ไม่ได้ร่ำรวยหรือมีชื่อเสียงในสังคม ไม่ได้เป็นที่จดจำของใครต่อใคร หากวันหนึ่งจากไปคงไม่มีใครรู้จัก แต่พวกเขาเหล่านั้นกลับยืนหยัดเพื่อป่าไม้ แม้สิ่งที่ทำไม่มีใครจำ แม้ชื่อที่เรียกขานไม่มีใครเอ่ยถึงก็ตาม

รเณศขยับไปใกล้คนเจ็บที่หลับตานิ่งแต่นิ่วหน้าคล้ายกับไม่สบายตัว คนเมืองไล่มือเช็ดไปตามแผ่น อกหลังจากถือวิสาสะถอนเสื้ออีกฝ่าย แม้จะพยายามไม่มองกล้ามเนื้อทั้งหกลูกที่กระแทกตา แต่สัมผัสที่ลูบไล้ผ้าไปตามกล้ามเนื้อนั้นทำให้คนมีสติใจหวิว

“คุณ”

หลานเจ้าบ้านแอบสะดุ้งเมื่อเปลือกตาคนเจ็บเปิดขึ้น

“ทำอะไร”

เพลิงถามเสียงแหบพร่า

“เช็ดตัว”

รเณศตอบเสียงแผ่วก่อนจะรีบละมือออกจากอกอีกฝ่าย แต่ฝ่ายนั้นรั้งข้อมือเอาไว้

“ขอบคุณ”

“อื้อ ปล่อยได้แล้ว”

เพลิงคลายมือที่กำรอบข้อมือเขาอย่างเบามือ รเณศจึงเอี้ยวมาเก็บผ้าก่อนจะสะดุ้งโหยงอีกคราเมื่อรู้สึกว่าแผ่นหลังเขาสัมผัสกับแผ่นอกเปล่าเปลือยของอีกฝ่าย เพราะเพลิงลุกนั่งซ้อนหลังเขา

“คุณยังตัวร้อนอยู่เลย”

หลานเจ้าบ้านพึมพำ

“ห่วงผมเหรอ”

“...”

“คุณรเณศ”

ชายหนุ่มเบือนหน้าหนีลมหายใจร้อนผ่าวที่รดอยู่ข้างใบหู

“คุณเป็นห่วงผมใช่มั้ย”

หลานเจ้าปากนั่งเม้มปากแน่น กว่าจะรู้ตัวปลายนิ้วแข็งแรงก็ขยับมาคลึงขอบปากเขาอย่างแผ่วเบา

“อย่ากัด เดี๋ยวเจ็บ”

รเณศหัวใจเต้นแรงตอนที่ดวงตาคู่นั้นจ้องริมฝีปากเขานิ่ง

“ผมจูบคุณได้มั้ย”

“...”

“รเณศ”

สายตาที่ประสานกันนั่นพาเอาสติรับรู้ถดถอย ตอนนั้นรเณศยอมรับว่าตั้งแต่ที่ได้ยินว่าเพลิงบาดเจ็บในอกเขาวูบโหวงและหวั่นไหว คิดกังวลไปสารพัด

เขาร้อนใจที่เห็นฝ่ายนั้นได้รับบาดเจ็บ

เขาห่วงใยเพลิง

“ถ้าคุณไม่ตอบ ผมถือว่าอนุญาตให้ผมจูบนะ”

รเณศไม่ตอบ

เพลิงจึงขยับโน้มใบหน้าลงมาแล้ว ‘จูบ’ เขาทันที สัมผัสร้อนผ่าวที่ริมฝีปากราวกับโดนของร้อนลวกปากเอา คนเมืองตัวสั่นงันงงกว่าจะรู้ตัวก็เงยหน้าตอบรับจูบนั้นไปแล้ว ซ้ำยังหลับตาพริ้มยินยอมให้เพลิงบดจูบอยู่อย่างนั้น


☘☘☘☘


จะ จูบกันแย้วววววว  :z1:
หวีดในทวิตรบกวนติดแท็ค #ป่าห่มรัก ด้วยเด้อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2019 21:24:42 โดย [Karnsaii] »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ fun_la_ong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
………


อร้ายยยยเขาจูบกันแล้ววววว

พี่เพลิงไม่เหงาแล้วต่อจากนี้……

 :hao6:  :hao7:  :mew1:  :hao6:  :hao7:  :mew1:



ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

หวัย ๆ....มีเหตุการณ์...ต่อจากจูบอ๊ะเป่า  อิอิ

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เขาจูบกัน  เขาจูบกันแล้ววววววววว    :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
อู๊ยยยยย

มดกัด

มดกัด

มดกัด

น้ำตาล

ในเลือด

ฉันพุ่งปรี๊ด

ออฟไลน์ Aimlovelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
งือออ ใจบางตอนที่ขอจูบนี้แหละ  :mew3:

ออฟไลน์ bnmshhhhhhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
วี๊ดดดดดดดดดดดจะจะจะจูบกันเเล้ววววว :o8:

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
คืบหน้าแล้วจ้าาาา เค้าจูบกันแล้ววว  :oo1:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
อร๊ายยยย เขาจูบกันแล้ว เขากอดกันแล้ว
 :hao6: :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อรุ่ม ผู้ช่วย  :hao7:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ผู้ช่วยก้าวหน้าไปเยอะเชียวนะ อยู่ๆ ก็ขอจูบ  :-[

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: กรี๊ดดดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
//เกียมไม้เรียว

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ผู้ช่วยใจร้อนเหมือนกันนะ​ 

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
หวาาาาาาา พี่เพลิงรุกเร็วจังนะ ยังไม่ทันได้จีบก็จูบกันแล้ว
 :-[ :-[

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
อือออออ เค้าจะไปถึงไหนกันอ่าาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เหตุการณ์ไปไวมาก เราเกือบตามเพลิงไม่ทัน 5555
เค้าแค่ห่วง ก็มาดูแลไง ไปขอจูบได้ไงล่ะ
นี่ถ้าไม่คุยรู้เรื่อง จะว่าเพ้อ ละเมอ ตื่นมาทำเบลอหรอก

ทุ่มเทมากจริง หนึ่งชีวิตกับความลำบากแต่เพราะรักหน้าที่




 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด