☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]  (อ่าน 194851 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ผู้ช่วยเท่อีกแล้ว TT

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ขอให้ทุกคนในทีมผู้ช่วยปลอดภัย

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
หายป่วยไวๆ นะคะ

แหมมม เนตรถึงขั้นต้องท้วงให้เปลวเอากระเป๋าไปอีกใบนะ
แล้วอะไรคือทำหมูแดดเดียวเตรียมให้ แถมยังคอยคิดถึงแบบนี้อีก

ทีมเข้าป่า เค้าเข้าขากันมาก รับส่งมุกกันดีเหลือเกิน
เปลวชงพี่เนตรแบบนั้น ผู้ช่วยเค้าไม่อิจฉาเนาะ

เตวิชคือตัวมารมาก คิดได้ไง แค่งอน ตลก
ธามน่าจะฉะแทนสักทีนะ ไม่เกี่ยวพันกัน ความมาเต็มน่าจะมาก
เอ็นดูชินกร อย่าเผลอหลุดบ่อยล่ะ ระวังโดนจับติด

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
เพลิงสู้ๆ เพลิงสู้ๆ มีคนเป็นห่วงโดยไม่รู้ตัวด้วยนะ อิอิอิ

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
น้ำตาไหลตอนเหรียญพ่อหลวง

ขอบคุณนะคะ ที่ถ่ายถอดเรื่องราวและความรู้สึกรักผืนแผ่นดินของเหล่าคนตัวเล็กๆทีี่ทำงานอย่างยากลำบาก แต่ทำด้วยหัวใจอย่างแท้จริง  :pig4:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
กินหมูแดดเดียวไปยิ้มไป อย่าลืมเปลี่ยนเป้เด้อ  :katai3:    :pig4:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
รอวันผู้ช่วยเป็นแฟนกับหลานป้าอนงค์
วันนั้นเตวิชผู้เห็นแก่ตัวอกแตกตายไปเลย
น้องสุดชังรักกับคนที่ตัวเองรักแต่เห็นเป็นของตาย

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
จะไม่มีเรื่องร้ายใช่ม๊ายยย

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
ขอบคุณคนแต่งค้า รักษาสุขภาพด้วยเน้อ
ว่าแต่ อ่านเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกพออ่ะ  :hao7:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อ่านแล้วเศร้า จนท.แต่ละคนทำงานหนัก ตั้งใจทำงาน รักในอาชีพ แต่พอเกิดอะไรขึ้นแทบไม่รู้ข่าวเลย เป็นกำลังใจให้ทีมจนท.ค่ะ  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-03-2019 20:45:54 โดย Snowermyhae »

ออฟไลน์ [Karnsaii]

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +523/-17
[ 09 ]



เช้านี้ทีมลาดตระเวนเริ่มออกเดินตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นขอบฟ้า การเดินทางช่วงเช้าจะทำให้ได้ระยะทางที่มากกว่าเดิมเนื่องจากเพลิงมีเป้าหมายว่าหลังจากลาดตระเวนในเขตที่รับผิดชอบแล้ว เขาและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ จะเข้าไปในหมู่บ้านท้ายเขาเพื่อสอบถามสำรวจดูความเป็นอยู่ของชาวบ้านกลุ่มนั้น สายมากโขแล้วตอนที่พวกเขามาถึงกลางป่าลึก ราวๆ หนึ่งถึงสองกิโลเมตรจากตรงนี้จะเป็นเขตป่าไม้พะยูงที่ต้องเข้าไปสำรวจ

เพลิงกวาดตามองไปรอบๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่หยุดเก็บข้อมูล โดยการบันทึกสภาพป่าทั่วไป ร่องรอยสัตว์ป่าและพืชพรรณที่ขึ้นอยู่ในบริเวณโดยรอบ พลและเกิ้งกำลังยืนเช็ดพิกัดจีพีเอสและบันทึก เพราะข้อมูลเหล่านี้จะนำไปวิเคราะห์อีกชั้นหนึ่ง

“ไอ้พวกนี้มัน”

เปลวบ่นขึ้นขณะที่กำลังเก็บเศษขยะ

“มาลักลอบตัดไม้ไม่พอ ยังทำเลวทิ้งขยะไว้ให้ดูต่างหน้าอีก”

เศษขยะและอาหารกระดาษถูกทิ้งเกลื่อนบริเวณนั้นบ่งบอกว่าก่อนหน้านี้คงมีกลุ่มผู้กระทำผิดมาหยุดพักแถวนี้ พวกมันถึงทิ้งขยะไว้เป็นหลักฐาน

“อย่าให้เจอนะมึง”

เต็งบ่นเป็นหมีกินผึ้งไม่ต่างกัน ตอนที่ชวนเพื่อนเก็บเศษขยะใส่ถุง ความเป็นจริงแล้วขยะพวกนี้เป็นภาระเจ้าหน้าที่มากพอสมควร แต่ด้วยหน้าที่เขาปล่อยให้ขยะไร้ประโยชน์พวกนี้ทิ้งอยู่กลางป่าไม่ได้หรอก เพราะไม่รู้ว่าจะมีสัตว์ตัวไหนโชคร้ายมากัดกิน งานป่าไม้ที่ว่าหนักกายยังมีเรื่องหนักใจเมื่อเจอเรื่องกระทำผิดไม่เว้นแต่ละวัน บางครั้งมันก็น่าท้อใจอยู่หรอก แต่ก็เท่านั้นในเมื่อมันเป็นหน้าที่ เมื่อได้รับมอบหมายมาก็ต้องทำ

เปลวเหลือบตามองเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ซึ่งขะมักเขม้นก้มหน้าก้มตาทำงาน ทุกคนทำตามหน้าที่ของตนเอง ไม่เว้นแม้แต่หัวหน้าชุดลาดตระเวนซึ่งลงทุนนั่งเป็นฐานให้เต็งมันเหยียบแล้วปีนขึ้นต้นไม้เพื่อไปสำรวจมุมสูง เด็กหนุ่มมองภาพตรงหน้าแล้วยิ่งนับถือคนๆ นั้น

พี่เพลิงไม่เคยเอาเปรียบใคร ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นลูกน้องหรือมีตำแหน่งที่ด้อยกว่า ตรงกันข้ามผู้ชายที่ดั้นด้นมาจากเมืองหลวงที่มีความเจริญทุกรูปแบบนั่น กลับมีน้ำใจและคอยยื่นมือมาช่วยผู้อื่นอยู่เสมอ เปลวรู้จักผู้ช่วยฯ ครั้งแรกตอนที่แกย้ายมาประจำใหม่ เปลวคือเด็กหนุ่มที่ก้าวพลาดในช่วงชีวิตวัยรุ่นทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาไม่น้อย เพราะพลาดทำแฟนสาวท้อง ซ้ำร้ายช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนั่นจึงนำพาให้เด็กหนุ่มเข้าสู่วังวนของสารเสพติด

เปลวริลองเสพไอซ์ไม่พอยังทำหน้าที่ส่งมันให้กับกลุ่มเพื่อน ตอนนั้นเขาคิดแค่เพียงว่าอยากหาเงินเผื่อลูกน้อยซึ่งกำลังจะเกิดมาโดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ พอทำงานผิดกฎหมายครั้งแรกก็ย่อมมีครั้งต่อมาจนกระทั่งถูกจับ และเจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุมเขาในตอนนั้นคือเพลิง ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานที่บังเอิญเข้าตรวจค้นการลักลอบขนไม้ใกล้ๆ จุดส่งยาของเขา เปลวจึงโดนร่างแหไปด้วยเพราะบังเอิญโผล่ไปใกล้ๆ จุดเกิดเหตุ

เพลิงค้นเจอยาไอซ์จำนวนหนึ่งในตัวเขา นั่นทำให้เปลวยอมรับสารภาพและยอมจำนนแล้วว่าคงต้องติดคุก แต่ผู้ชายหน้านิ่งคนนั้นยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมถามสาเหตุที่ทำให้เขาหลงเดินทางผิด เพลิงพาเขาไปส่งตำรวจแล้วประสานงานขอกันเขาไว้เป็นพยาน หากเปลวรับปากว่าจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าจับกุมตัวการจนสิ้นซาก

เปลวเหมือนได้เกิดใหม่เพราะความช่วยเหลือของเพลิง คนๆ นั้นไม่กล่าวโทษเขา ซ้ำยังฉุดดึงเขามาสู่เส้นทางที่ถูกต้อง เพลิงเคยบอกว่าจะส่งเสียเขาให้เรียนจนจบแต่เปลวเกรงใจจึงขอทำงานกับเพลิงแทน ไม่ใช่เพียงเพื่อตอบแทนความดีของเพลิงเท่านั้น แต่ระยะเวลาได้รู้จักกับเพลิงไม่นานทำให้เขารู้ว่าผู้ชายจากเมืองหลวงคนนี้มีดีมากกว่านั้น

คนที่ดั้นด้นมาเพื่อปกป้องป่าให้คนที่นี่ไม่เคยเรียกร้องความสุขสบาย นั่นจึงทำให้เปลวมองย้อนกลับมาที่ตัวเอง เขาเป็นคนที่นี่แท้ๆ กลับไม่เคยคิดจะลงมือทำอะไรสักอย่าง ซ้ำครั้งหนึ่งยังได้ทำผิดพลาดจบเกือบทำให้ลูกน้อยต้องกำพร้าพ่อ หลังจากลาออกจากโรงเรียนแล้วเขาจึงตัดสินใจเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมของเพลิง โดยที่ป้าสมัยและป้าอนงค์รู้เพียงว่าพี่เพลิงชักชวนเขาไปทำงาน เพราะเพลิงไม่เคยปริปากบอกใครถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเขาได้พบและรู้จักกับเพลิงด้วยสาเหตุอะไร

พี่เพลิงไม่เคยสอนเขาด้วยคำพูดสวยหรู ผู้ช่วยเพลิงคนนี้พูดไม่เก่งนักหรอก แต่การกระทำของเขามักสอนคนอื่นได้เสมอ

“ระวังด้วย”

เพลิงตะโกนบอกเต็งซึ่งกำลังปีนป่ายลงมาจากต้นไม้สูง

“วันนี้ร้อนกว่าทุกวันนะผู้ช่วย”

พรานธีปอพูดเสร็จแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าซึ่งมืดครึ้มผิดปกติ

“น่ากลัวว่าฝนจะตก”

“นั่นสิครับพราน”

เพลิงพยักหน้าเห็นด้วย

“อีกไม่ไกล จะถึงป่าพะยูงแล้ว เดี๋ยวเราพักกินข้าวเที่ยงกันที่นั่นแล้วกัน ว่าแต่ทุกคนยังไหวใช่มั้ย”

ท้ายประโยคหันไปมองเจ้าหน้าที่แต่ละคนซึ่งยังมีสีหน้าแช่มชื่น

“ผมอ่ะไหวอยู่แล้วน่าผู้ช่วย”

เกิ้งตอบยิ้มๆ “ไปดูไอ้พลมันเหอะ เดินนิดเดียวก็หอบแดดแล้ว”

“ใส่ความว่ะ”

เสียงพลตะโกนแหวกอากาศมาจากอีกทาง

“คนหนุ่มอย่างผม ถ้าเดินแค่นี้เหนื่อยก็แย่แล้ว ไม่เหมือนพี่หรอกเก็บแรงไว้เยอะๆ เหอะ กลับไปคราวนี้หมดเนี่ยวหมดแรงระวังกิ๊กพยาบาลทิ้งแล้วจะหาว่าผมไม่เตือน”

“ไอ้ห่าพล”

เพลิงส่ายหัวเมื่อเห็นคู่กัดเจ้าประจำเริ่มล้งเล้งใส่กันอีกครั้ง ระหว่างนั้นเจ้าเปลวเดินมาใกล้เขาก่อนที่เด็กหนุ่มจะมองไปที่เป้ด้านหลังแล้วยิ้มเผล่

“กระเป๋าสวยนะพี่เพลิง”

“อืม”

เพลิงกดยิ้มมุมปากเหลือบตามองไปยังเป้ใบใหม่ซึ่งเปลวเอาติดตัวมาอีกใบ ความจริงแล้วเป้สมบุกสมบันของเพลิงนั่นยังจะใช้งานได้ดีอยู่หรอก ถ้าหากว่าเมื่อเช้าก่อนออกเดินทางมันจะไม่ขาดเป็นทางยาว ซ้ำในป่าแบบนี้จะหาอุปกรณ์มาซ่อมแซมคงยากลำบาก ดังนั้นเป้จากความอนุเคราะห์ของรเณศจึงถูกเปลวนำมายัดเยียดให้โดยปริยาย

“พี่เนตรนี่คาดเดาได้แม่นจริงๆ นะว่าเป้ใบนี้ต้องมีคนได้ใช้มัน”

เปลวพูดยิ้มๆ

“ขนาดนั้นเชียว”

“แน่สิครับพี่เพลิง”

“เพิ่งรู้นะว่าเราปลื้มหลานป้าอนงค์แกขนาดนี้”

เปลวหัวเราะ

“พี่เนตรแกดีกับผมและแก้มใสมากพี่เพลิง”

“งั้นเหรอ?”

“ครับ นี่แก้มใสก็ติดพี่เนตรแจแล้ว ทั้งที่พี่เนตรเอาไปนอนด้วยแค่ไม่กี่วันเอง พี่เนตรแกดูท่าจะรักเด็ก ซ้ำยังมีน้ำใจกับผมอีกพี่”

ตั้งแต่รเณศเอ่ยปากขอแก้มใสเป็นลูก ซ้ำการกระทำที่แสดงออกชัดเจนว่ารักและเอ็นดูลูกของเขานั่นทำให้เปลวยิ่งเคารพรักฝ่ายไม่ต่างเพลิงเลย เปลวบอกตัวเองว่าเขาโชคดี แม้จะเคยทำผิดพลาดแต่เขายังมีคนรอบกายที่คอยช่วยเหลือดูแล ซ้ำคนเหล่านั้นยังจริงใจกับเขาโดยแท้ ในชีวิตคนเราไม่ต้องอะไรมากมายนักหรอก แค่มีกินอย่างพอเพียง มีบ้านและคนที่รักให้กลับไปหา ที่สำคัญมีคนดีๆ อยู่รอบกาย แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

ชีวิตที่ห่างไกลความเจริญทางวัตถุนั้น จึงทำให้เขาได้พบเจอกับคนที่มีความเจริญทางจิตใจ เป็นมิตรแท้ยามที่พบเจอกับความยากลำบาก เด็กหนุ่มยิ้มน้อยๆ เมื่อเพลิงทำหน้าฉงน ท่าทางเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเมื่อเห็นเขายกหางรเณศขนาดนั้น

“พี่ว่าหมูทอดเมื่อวานอร่อยป่ะ”

เพลิงทำหน้างงเมื่ออยู่ๆ เด็กหนุ่มเปลี่ยนเรื่องคุย

“ก็ดี”

เด็กหนุ่มยิ้มเผล่

“นั่นน่ะฝีมือพี่เนตรนะพี่เพลิง”

“หือ?”

เพลิงมุ่นหัวคิ้ว

“อร่อยใช่มั้ยล่ะ”

“พี่แกมีน้ำใจทำมาให้ แกคงได้ยินผมเล่าให้ฟังว่าเข้าป่าแต่ละทีได้กินแต่อาหารกระป๋อง”

เพลิงขยับรอยยิ้มจนเปลวนึกสงสัย

แปลกๆ ว่ะ ทำไมพี่เพลิงยิ้มแบบนั้นวะ ปกติพี่เพลิงยิ้มยากจะตายห่า รอยยิ้มที่นานๆ จะได้เห็นดันได้เห็นโดยไม่คาดคิดนั่นทำเอาเด็กหนุ่มยืนงงว่าอีกฝ่ายยิ้มทำไม

เดี๋ยวนะ!

เปลวลูบคางตัวเองนึกถึงรเณศที่คะยั้นคะยอให้เขาหอบเป้เปล่าอีกใบติดมา ซ้ำยังฝากหมูทอดมาให้ โดยบอกกล่าวว่าป้าอนงค์ฝากมาให้พี่เพลิง

นี่กูพลาดเรื่องอะไรไปรึเปล่าวะ

เด็กหนุ่มเกาหัวแกรกๆ มองตามหลังเพลิงที่ออกเดินทางไปแล้ว จนกระทั่งไอ้เต็งสะกิดหัวเขาแรงๆ นั่นแหละเปลวถึงได้สติ

“เหม่ออะไรไอ้ห่า”

“กูได้กลิ่นแปลกๆ ว่ะ”

เปลวพึมพำนั่นทำให้เต็งหน้าเสียมันก้มหน้าลงมาดมรักแร้ตัวเองทั้งซ้ายและขวาก่อนจะมุ่นหัวคิ้ว

“กลิ่นมันไม่ถึงกับดี แต่มันก็ไม่เหม็นขนาดนั้นนะโว้ย”

เปลวถอนหายใจเฮือกใหญ่

“กูไม่ได้หมายถึงกลิ่นตัวมึง”

“อ้าวแล้วกลิ่นอะไรวะ”

“กลิ่นคนรักกัน”

เต็งทำหน้างง

“มันมีกลิ่นแบบนี้อยู่บนโลกใบนี้ด้วยเหรอวะ”

“ไอ้ควาย”

เปลวด่าเพื่อนเสร็จก็เดินหนีมันทันที


.


.


“เวรเอ๊ย”

เสียงพลโวยขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะยกเท้าเตะอากาศเมื่อไม้พะยูงต้นหนึ่งซึ่งยังโตไม่เต็มที่เหลือแต่ตอ ซ้ำคนตัดยังอุตส่าห์ทิ้งใบเลื่อยซึ่งหักเป็นสองท่อนไว้ให้ดูต่างหน้า ท่าทางหัวเสียของลูกน้องนั่นอยู่สายตาของเพลิงตลอด อย่าว่าแต่พลเลยที่มีอารมณ์ในเมื่อคนอื่นๆ ที่เห็นสภาพตอไม้นั่นต่างเม้มปากแน่นก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

อีกไม่เกินห้าร้อยเมตรจากนี้จะเป็นพื้นที่ป่าพะยูงซึ่งมีอายุห้าสิบกว่าปีขึ้นทุกต้น พื้นที่ตรงนั้นราวๆ หนึ่งถึงสองงานนั่นเป็นป่าพะยูงผืนสุดท้ายของที่นี่ มันมีชีวิตที่ยืนยาวมานาน จนกระทั่งมนุษย์ที่เรียกตัวเองว่าสัตว์ประเสริฐ ซ้ำยังอัจฉริยะผลิตเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัย แต่นำเอาสิ่งประดิษฐ์จากมันสมองนั้นมาทำลายป่าไม้ซึ่งเกิดก่อนเราอีก

มนุษย์ที่ไม่รู้จักเพียงพอหาประโยชน์จากธรรมชาติ ขณะที่ธรรมชาติก่อให้เกิดผลผลิตให้คนเราเก็บกินซ้ำยังยืนต้นให้ความอุดมสมบรูณ์ ความมั่งคั่งทางทรัพยากรนั่นทำให้คนเราเก็บเกี่ยวผลประโยชน์นั่นเข้ากระเป๋าตัวเอง ซ้ำร้ายยังทำลายความอุดมสมบูรณ์เพราะอำนาจเงิน

ธรรมชาติไม่เคยอุทธรณ์ร้องขอต่อคนเราหรอก แต่เมื่อถึงวันหนึ่งที่เราเอาเปรียบมันจนเกินพอแล้ว วันนั้นธรรมชาติจะเอาคืนเราเองแม้เราจะขออุทธรณ์ก็ตาม เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อนึกถึงทั้งสภาพอากาศและความแปรปรวนทางธรรมชาติในปัจจุบันที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนและคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย นั่นเพราะเราทำลายธรรมชาติเอง

เพลิงเดินนำเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เข้าไปในผืนป่าพะยูงผืนสุดท้ายก่อนจะกวาดตามองต้นพะยูงสิบต้นสุดท้ายที่ยืนต้นสูงใหญ่ เปลือกไม้ที่บ่งบอกกาลเวลากว่าชั่วอายุคน ใบของมันซ้อนกันจนมองไม่เห็นท้องฟ้าเบื้องบน ทุกอย่างรอบกายจึงดูเย็นสบายขึ้น ในป่าลึกเช่นนี้เป็นปกติหากต้นไม้สูงใหญ่จะแตกกิ่งใบจนมองไม่เห็นอะไรg]p

ชายหนุ่มแหงนมองสูง แวบหนึ่งเขาอดเปรียบเทียบไม่ได้ว่ายังมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์ตัวกระจ้อยร่อยเมื่อเทียบกับต้นไม้แล้ว

“นึกว่าจะไม่เหลือซะแล้ว”

เกิ้งพูดยิ้มๆ ตอนที่เดินไปสำรวจป่าพะยูงผืนสุดท้าย การลาดตระเวนที่ผ่านมาของพวกเราทุกครั้งจะต้องเข้ามาสำรวจป่าแห่งนี้ เพื่อดูว่ามันยังคงหลงเหลืออยู่

“นั่งกินข้าวกันก่อน”

เพลิงกวักมือเรียกทุกคนมารวมตัวกัน แต่โชคไม่ดีระหว่างนั้นเม็ดฝนก็โปรยปรายลงมาพอดี ทุกคนต่างวิ่งไปหลบใต้ต้นไม้ ระหว่างนั้นเพลิงเห็นใบบัวใกล้ธารน้ำแถวนั้นเขาจึงไปเอาบางส่วนมาใช้แทนร่มกันฝนให้กับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ

ใบบัวอันไม่ใหญ่นักนั่นเป็นเหมือนที่คุ้มภัยให้กับพวกเรา

“น่ากลัวว่าใบบัวนี่จะไม่ไหวนะผู้ช่วย ลูกเห็บลงแล้ว”

เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะบอกให้คนอื่นขึงเต็นท์ระหว่างต้นไม้เพราะเม็ดฝนเริ่มใหญ่ขึ้น หลังจากนั้นทุกคนก็สวมใส่เสื้อกันฝนแล้วพากันมายืนเป็นกลุ่มอยู่ใต้เต็นท์

“โอ้โหทั้งฝนทั้งลูกเห็บ”

พลพูดไปหัวเราะไป

“ท่าทางเจ้าป่าเจ้าเขาจะดีใจใหญ่ที่พวกเราแวะมาหา”

เกิ้งพูดติดตลก

“ไม่ต้องดีใจขนาดนี้ก็ได้ครับ พวกผมชุ่มแล้ว”

เต็งยกมือไหว้ปลกๆ พาให้คนอื่นหัวเราะขบขัน

“ผู้ช่วยขยับเข้ามาอีกสิ ไหล่เปียกแล้วนั่น”

“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เปียกเท่าไหร่”

เพราะพื้นที่เต็นท์มันเล็ก การจะทำให้ทุกคนยืนกันพอดี เพลิงจึงต้องเสียสละไหล่ข้างหนึ่งให้โดนฝน

“ขยับมาเถอะน่าพี่เพลิง พี่จะเป็นพระเอกคนด้วยได้ไง”

เพลิงยิ้มน้อยๆ

“ถ้าจะเปียกก็ต้องเปียกด้วย ถ้าจะลำบาก เราก็ต้องลำบากด้วยกันนะพี่ เพราะเราทีมเดียวกัน”

เพลิงชะงักมองสีหน้าเจ้าหน้าที่แต่ละคนซึ่งต่างขยับเบียดกันเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้เขา เปลวนึกตื้นตันเพราะพี่เพลิงไม่เคยเอาเปรียบลูกน้อง ดังนั้นทุกคนจึงรักและเคารพแกจริงๆ

“เฮ้อ”

เกิ้งร้องขึ้นหลังจากที่ฝนหยุดแล้วแต่ละคนมานั่งล้อมลงกินข้าวกับพื้นเปียกๆ เขาจ้องมองข้าวซึ่งแห้งและแข็งเนื่องจากเป็นข้าวเก่าตั้งแต่เมื่อวาน มื้อเช้าที่ผ่านมานี้รีบออกเดินทางจึงไม่ได้หุงหากันใหม่ ซ้ำบ่ายนี้ฝนยังตกหนักเชื้อเพลิงที่ใช้ในการก่อไฟก็เปียกหมดดังนั้นเมนูปรุงสุกใหม่จึงเป็นไปได้ยาก

“ใครเข้าฝันให้เรามาทำอาชีพนี้กันนะผู้ช่วย”

“พาตัวเองมาลำบากชัดๆ เลยเนอะ”

พลสัพยอกเข้าให้

“ลำบากแล้วทำไมไม่ลาออกไปทำอย่างอื่นวะ”

“ผมกลัวพี่เกิ้งเหงาปากไง”

“เถียงกันมากๆ ระวังผีผลักนะพี่”

เต็งแกล้งแซวก่อนจะถูกทั้งคู่เคาะกระบาลไปคนละที

“ถ้าจริงนะผู้ช่วย”

ลุงธีปอหันมาทางเพลิง

“ถ้าวันหนึ่งผู้ช่วยมีครอบครัวแล้วยังจะทำงานนี้อยู่มั้ย”

“คงไม่มีวันนั้นหรอกครับ”

เพลิงยักไหล่ “ใครเขาอยากมาลำบากกับผมกันเล่า”

“ผู้ช่วยยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลย”

“พี่ชายผมเคยบอกว่าสักวันหนึ่งผมคงต้องแต่งงานกับสิงสาราสัตว์”

เพลิงกดยิ้มมุมปากเมื่อนึกถึงคำพูดของธาม

“ผมไม่อยากให้ใครมาลำบาก ไม่อยากให้คนที่รออยู่ข้างหลังต้องกระวนกระวายเวลาเข้าป่าแต่ละที และสุดท้ายผมไม่อยากให้เขาต้องทุกข์ทรมานใจไปชั่วชีวิต ถ้าหากว่าวันหนึ่งผมไม่มีโอกาสได้กลับไปหาเขา”

ทุกคนพากันพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนที่แต่ละคนจะจมจ่อมอยู่กับความคิดของตัวเอง ที่เพลิงพูดไปนั้นเป็นความจริงทั้งหมด งานยากลำบากและเสี่ยงอันตรายแบบนี้การคิดเผื่อไว้เป็นเรื่องจำเป็น เพราะชีวิตในแต่ละวันในป่าไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะพบเจอกันสิ่งใด



☘☘☘☘

“ทอดหมูอีกแล้วหรือเจ้าเนตร”

รเณศยิ้มแหยตอนที่ป้าอนงค์ท้วงขึ้นเมื่อเห็นหมูทอดวางอยู่ในจานสำรับกับข้าวมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

“ผมเห็นหมูมันเหลืออยู่น่ะครับเลยไม่รู้จะทำอะไรดี”

ป้าแกพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะหันไปตะโกนเรียกป้าสมัยขึ้นมากินข้าว ระหว่างนั้นรเณศจึงเดินไปหาแก้มใสที่ร้องอ้อแอ้อยู่ในเปลขึ้นอุ้ม

“ตื่นแล้วหรือครับคนสวย”

คนกรุงเกลี่ยแก้มขาวเบาๆ หนูน้อยหัวเราะเอิ้กอ้ากชอบใจจนน้ำลายไหลย้อย เขาจึงคว้าผ้าอ้อมที่พาดบ่าอยู่ขึ้นมาเช็ดให้ทันที

“เหมือนพ่อลูกอ่อนเข้าไปทุกวันนะเรา”

ป้าอนงค์พูดยิ้มๆ ตอนที่มองหลานชายอุ้มเด็กน้อยอย่างทะมัดทะแมง ซ้ำยังดูแลหนูน้อยได้ดีราวกับพ่อแท้ๆ

“เห็นแบบนี้แล้วนึกถึงเจ้าเปลว”

“นั่นสินะป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง”

รเณศเม้มปากแน่นอดคิดตามบทสนทนาของผู้ใหญ่ทั้งสองไม่ได้

“นี่ดูสิ เห็นหมูทอดนี่ก็นึกถึงผู้ช่วยเขาอีกคน แกคงจะได้กินอิ่มอยู่หรอกนะ หรือว่าไงเจ้าเนตร เราทอดไปให้เยอะอยู่มิใช่รึ”

รเณศเกาแก้มแก้เก้อ

“คนทำตั้งใจทำแบบนี้ คนกินคงจะอิ่มท้องอยู่หรอก แต่สงสัยว่าคนทำคงตั้งใจมาก ถึงได้ทอดหมูมาเป็นอาทิตย์แล้ว”

ป้าอนงค์พูดขำๆ ไม่ทันได้สังเกตใบหน้าคนเมืองที่แดงวาบขึ้น รเณศแกล้งเบือนหน้าหนี ตอนที่ป้าทั้งสองเปลี่ยนบทสนทนาไปคุยเรื่องอื่น ชายหนุ่มกระชับเด็กน้อยในอ้อมกอดให้แน่นขึ้นก่อนจะเหม่อมองไปทางท้ายไร่

ป่านนี้ไม่รู้คนในป่าไปจะเป็นอย่างไร

รเณศถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ปา ปา ป้อ”

“หือ?”

รเณศทำหน้าตื่นตอนที่มือน้อยๆ ตะปบเข้าที่ใบหน้าเขา ดวงใสแจ๋วจ้องมองกันนิ่ง เสียงเล็กๆ ไม่เป็นคำนั่นทำเอารเณศใจเต้นแรง

“หนูพูดเหรอลูก”

“ปา ปา”

“หนูพูดได้แล้ว”

รเณศกดจูบที่แก้มขาวก่อนจะร้องบอกผู้ใหญ่ทั้งสองเสียงดังลั่นว่าเด็กน้อยเริ่มหัดพูด เป็นข่าวดีสำหรับคนที่กำลังจะกลับบ้านว่าลูกสาวตัวเองพูดได้แล้ว

เจ้าเปลวคงจะดีใจไม่น้อย

และเจ้าของตุ๊กตาหมีที่มีเสียงช่วยในการหัดพูด ซึ่งใครบางคนซื้อมาให้เจ้าหนูนี่คงเจ้าดีใจเช่นกัน

กลับมาไวๆ นะคนไกล


.


.


“รอยเท้าสัตว์”

พรานธีปอเอ่ยขึ้นหลังจากนั่งพิจารณารอยเท้าที่ปรากฏตรงดินโคลน รอยบุ๋มลึกลงไปใหญ่พอสมควรนั่นเรียกความสนใจจากบรรดาเจ้าหน้าที่ซึ่งต่างชะโงกหน้าเข้าไปดู

“เป็นไปได้มั้ยว่าจะเป็นรอยเท้าเสือ”

“แต่ในป่าเขตอุทยานเราไม่เจอร่องรอยเสือมาสิบกว่าปีแล้วนะครับ”

เพลิงยืนพิจารณาเพราะป่าแห่งนี้ไม่เจอเสือมานานแล้วจริงๆ เป็นไปได้ว่ามันอาจจะสูญพันธ์เนื่องจากระบบนิเวศไม่เอื้ออำนวยต่อการมีชีวิต

“ถ้าเป็นเสือจริงๆ ก็ดีน่ะสิ”

พลพูดยิ้มๆ ไม่ต่างจากเจ้าหน้าที่คนอื่นที่ตาเป็นประกาย จริงอยู่ว่าเสือเป็นสัตว์ดุร้ายและน่ากลัว แต่นัยยะสำคัญของการที่เสือปรากฏขึ้นแถบนี้เป็นเหมือนดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า เนื่องจากมันเป็นสัตว์ที่อยู่บนห่วงโซ่อาหารที่สูงสุด การที่เสือจะดำรงอยู่ได้แสดงว่าห่วงโซ่ชั้นรองลงมาในชั้นต่างๆ มีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอ

“ขอให้เป็นเสือจริงๆ ทีเถอะ”

“ภาวนาว่าถ้าเป็นมันจริง ก็อย่าให้มีใครเจอแล้วล่ามันได้เลย”

ปัง!

เต็งพูดจบพอดีที่เสียงปืนดังขึ้นในป่าใหญ่ เจ้าหน้าที่ทุกคนสบตากันเครียดก่อนจะกระชับอาวุธในมือ

“เสียงมันดังมาจากท้ายป่าทางเข้าหมู่บ้านหลังเขา”

“อาจจะเป็นเสียงยิงนกก็ได้นะพี่เพลิง หมู่บ้านผมชอบมายิงนกกันที่ตีนเขา”

เพลิงพยักหน้าหงึกหงัก

“งั้นเราแบ่งกำลังเป็นสองทีม ทีมหนึ่งลาดตระเวนทางตรงไปยังจุดที่ได้ยินเสียงนั่น อีกทีมอ้อมไปด้านหลัง ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ เราค่อยไปเจอกับที่หมู่บ้านท้ายเขา”

การลาดตระเวนครั้งนี้เพลิงตั้งใจว่าจะเข้าไปในหมู่บ้านท้ายเขาซึ่งเป็นบ้านเกิดของพรานธีปอและเจ้าเต็งด้วย

“ระวังตัวด้วยทุกคน”

เพลิงร้องบอกพรานธีปอ เจ้าเต็ง และเจ้าหน้าที่อีกสองนายซึ่งแบ่งกำลังไปอีกทาง ก่อนจะเดินนำทีมตัวเองเดินลาดตระเวนไปยังจุดเกิดเหตุ ใช้เวลาไม่นานเขาก็มาถึงท้ายป่าอีกนิดจะถึงท้ายหมู่บ้านแล้ว

“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ รอยเท้าสัตว์นั่นวิ่งเข้าไปในป่าลึก ไม่มีรอยเท้าคนตามไปแสดงว่าคงเป็นเสียงปืนจากที่นี่ ไม่น่าเกี่ยวกับมายิงสัตว์ในป่า”

“ผมได้ยินเสียงคนเดินมาทางนี้”

ทุกคนนิ่งเงียบก่อนจะพากันไปซ่อนตัวหลังต้นไม้ใหญ่ จังหวะนั้นร่างผู้ชายสูงใหญ่สองคนซึ่ง       สันนิฐานได้ว่าเป็นคนจากหมู่บ้านหลังเขาเดินถือหน้าไม้เข้ากับสำรวจอะไรสักอย่าง

แกร๊บ!

เปลวเหยียบกิ่งไม้แห้งจนเกิดเสียง นั่นทำให้ชายทั้งสองหน้าตื่นันหน้าไม้มาทางพวกเขาทันที

“หยุด อย่ายิงนี่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวน”

“เฮ้ย”

“พี่เพลิง”

“ไอ้ฉิบหายเอ๊ย”

เกิ้งกระโดดเข้าชาร์ตสองคนนั้นหลังจากที่กระสุนหน้าไม้พุ่งเข้าไหล่เพลิงเต็มๆ




ฮือ พี่เพลิงของน้องงงง
ปล. สัปดาห์หน้าอัพวันจันทร์เช่นเดิมนะคะ อาทิตย์นี้มาวันพุธแบบเฉพาะกิจ อิอิ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อ้าว ๆ ล่าสัตว์ก็ว่าเลวแล้ว นี่มาทำร้ายเจ้าหน้าที่อีก
พี่เพลิงต้องไม่เป็นอะไรนะ

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
แง~~~ เป็นอาชีพเสี่ยงชีวิตจริงๆ นั่นแหละ
เจออันตรายจากทั้งคนทั้งสัตว์...สัตว์นั้นเป็นสัญชาตญาณของเขา ส่วนคนนั้น.....เฮ้อ~~~

พาพี่เพลิงกลับมาให้พี่เนตรทำแผลเนอะ อิอิ

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เอ้า พี่เพลิงโดนยิง  :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
รีบๆจับมันแล้วรีบกลับค่าา คนทางนั้นเป็นห่วงงง อิอิ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
โอ้ยพี่เพลิง โดนจังๆ เลยใช่ไหม

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :a5:
อย่าเป็นอะไรมากนะพี่เพลิง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
นอกจากจะถ่วงความเจริญของประเทศแล้ว ยังรกโลกอีกด้วย ไม่รู้หรอกว่าความจำเป้นอะไรทำให้ต้องทำ แต่คนเรามีกันทั้งนั้น ยิงหรือไม่ยิง ฆ่าหรือไม่ฆ่า แต่สัตว์มันเลือกไม่ได้นะ มันยืนตรงนั้นแค่ปากกระบอกปืนของคน ตายหรือเป็นอยู่แค่นิ้วที่ลั่นไก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อ้าว ผู้ช่วยโดนยิง

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
มนุษย์ผู้ประเสริฐ เป็นต้นเหตุของการสูญสลายของหลายๆ สิ่งจริงๆ

คงไม่เป็นอะไรมากนะผู้ช่วย คนรออยู่คงกินไม่ได้ นอนไม่หลับแน่ถ้าได้ยินข่าว.  :hao4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

พวกไหนหว่า? ที่ยิงหน้าไม้เนี่ย

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เสี่ยงจริงๆอาชีพนี้  :hao5:
เสียงปืนนั่นอีก  :ling2:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
พี่เพลิงโดนยิง!!!!

สะท้อนใจมาก เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่ทำงานหนัก เสี่ยงอันตรายร้อยแปด เหมือนผู้ปิดทองหลังพระ
ที่แทบไม่มีใครได้รู้เลย เป็นข่าวดังที ก็เป็นกระแสเหมือนไฟไหม้ฟาง

ออฟไลน์ Aimlovelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านแล้วรู้สึก ขอบคุณเจ้าหน้าป่าไม้ที่ทำงานกันอย่างเต็มที่จริงๆ
ผู้ช่วยยย  :mew4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด