พิมพ์หน้านี้ - ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: [Karnsaii] ที่ 07-01-2019 15:51:50

หัวข้อ: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 07-01-2019 15:51:50
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

---------------------------------------------------

                                                   ผลงานในเล้าเป็ดเรื่องอื่นๆ
                                                    นิยาย  
                                                   1. ● รักข้างเดียว ● [ One-side love] [Complete]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42065.msg2702144#msg2702144)
                                                   2. ll เล่นเพื่อน ll [Complete]  (https://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44015.0)
                                                   3. หลงกาว(น์) [Complete]   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52332.0)
                                                   4. ❤ค่ายสร้างรัก❤ [Complete]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58387.0)
                                                   5. พราน ‘ล่อ’ เนื้อ [Complete]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56929.msg3534807#msg3534807)
                                                   6. ▲▼Return To Love ▲▼ [Complete]  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63551.0)
                                                   7. ✪ You're my sky : #จุดหมายคือท้องฟ้า ✪ [Complete]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67604.msg3851216#msg3851216)
                                                   8. ☘ ป่าห่มรัก ☘ [Complete]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.0)
 
                                                   เรื่องสั้น                                                                                                     
                                                   1.  เรื่องสั้น .... - [ แสนชัง ] - [Complete]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42518.0)
                                                   2. [เพราะอกหัก...รักจึงบังเกิด] [Complete]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51014.0)
                                                   3.   ҉    วันวานยังหวานอยู่    ҉   [Pause]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51622.0)

---------------------------------------------------
                                                 

ป่าห่มรัก


(https://uppic.cc/d/KPnL) (https://uppic.cc/v/KPnL)


"ป่า" สำหรับผม อาจจะเป็นแค่ผืนป่าที่งดงามตามธรรมชาติ
แต่สำหรับเขา "ป่า"คือชีวิตและลมหายใจของคนๆ หนึ่ง


#ป่าห่มรัก

---------------------------------------------------
สารบัญ
[01]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3934003#msg3934003)  [02]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3936663#msg3936663)  [03]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3939177#msg3939177)
[04] (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3941561#msg3941561) [05] (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3946373#msg3946373)  [06]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3948885#msg3948885)
[07]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3951306#msg3951306)  [08]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3956481&fbclid=IwAR0MmQcP2asHetOcN5iq4ogU3LaVq1MPiOhvHvfJmI_lA0AyYKtY85E-HSA#msg3956481)  [09] (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3959309#msg3959309) 
[10]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3960869#msg3960869) [11]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3963283#msg3963283)  [12]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3967581#msg3967581)
 [13]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3971872#msg3971872)  [14]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3973600#msg3973600)  [15] (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3975688#msg3975688)
[16]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3977478#msg3977478) [17]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3979516#msg3979516) [18]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3981546#msg3981546)
[19]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3983395#msg3983395) [20]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3985174#msg3985174)  [21]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3986710#msg3986710)
[22]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3988418#msg3988418) [23]  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3990103#msg3990103) [24] (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3993169#msg3993169)
[25] [END] (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69353.msg3994647#msg3994647)
---------------------------------------------------

**เราลงนิยายทุกวันจันทร์นะคะ**
ติดตามพูดคุยกันได้ที่นี่นะคะ
Fanpage :Karnsaii (https://www.facebook.com/karnsaii/)
Twitter:  Karnsaii_Novel (https://twitter.com/Karnsaii)

หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ Intro [7/1/62]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 07-01-2019 16:41:58
 :z13:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ Intro [7/1/62]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 07-01-2019 17:28:10
ไรท์เปิดเรื่องใหม่แล้ว จะรออ่านนะคะ สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ Intro [7/1/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 07-01-2019 22:26:16
 :pig2: :pig2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ Intro [7/1/62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 07-01-2019 22:37:03
 o13 รอค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ Intro [7/1/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 08-01-2019 07:23:56
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ Intro [7/1/62]
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 11-01-2019 11:17:16
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [01] #ป่าห่มรัก : 14.1.62 [UP]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 14-01-2019 20:37:51
ป่าห่มรัก
[ 01 ]





“พี่รักเนตร”


คำๆ เดียวที่ทำให้หัวใจคนฟังสั่นไหว และคำเดียวกันนี้ก็ทำให้ใครบางคนหูตามืดบอดยอมจำนนต่อทุกสิ่งทุกอย่างเพียง นั่นเพราะ”รัก” มันคือคำที่ฟังแล้วอบอุ่นซาบซ่านไปทั่วหัวใจ ขณะเดียวกันก็ชวนให้แสลงหูสะอิดสะเอียด


ร่างสูงโปร่งหลับตาพริ้ม มือทั้งสองข้างโอบกอดรอบคอร่างสูงใหญ่ด้านบนที่กำลังขยับความรุนแรงเข้าหา ดวงตากลมโตที่เคยมองคนรักอย่างเทิดทูลกับหลับตาพริ้มแล้วนิ่งฟังเสียงร่างกายที่ขยับเข้าหากันราวกับกระหายอยาก


“เนตร น้องเนตร”


เขากระซิบเสียงแหบพร่าข้างหู มือใหญ่นวดเฟ้นไปทั่วร่างกายทำเอาร่างสูงโปร่งที่นอนทรมานอยู่สะบัดกายเร่าๆ


“พี่รักน้องเนตร”


โกหก!


ร่างสูงโปร่งเงยหน้าขึ้นตอบรับจูบอันดุดันของคนตัวโต นัยน์ตากลมโตจ้องมองใบหน้าคมคายซึ่งอยู่ในอารมณ์ที่สุขสุดขีด ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อนั่นเป็นขุมพลังของคนหนุ่มซึ่งขับเคี่ยวให้เขาต้องครางเสียงแหบเสียงแห้ง ดวงตาคู่คมจ้องมองกันอย่างหลงใหล เรือนกายที่แนบสนิทขยับเข้าหากันจนไม่มีช่องว่างใดๆ เหลืออยู่


ก่อนที่จะแตะขอบฟ้าไปด้วยกัน คำรักนั้นก็ดังขึ้นอีกครา


เมื่อทุกอย่างสงบลงแล้ว คนตัวโตนั่นก็ขยับออกห่างแล้วผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน ทิ้งให้คนที่รองรับอารมณ์นอนตาค้างด้วยอารมณ์ที่ยากจะจัดการได้ในตอนนี้ ร่างสูงโปร่งขยับลุกขึ้นก่อนจะเดินเปลือยกายไปหยิบชุดคลุมมาสวมใส่แล้วเดินเรื่อยไปจนถึงระเบียงคอนโด ยามค่ำคืนที่มืดสนิท มีเพียงแสงสลัวส่องเข้ามาทำให้เห็นเงาร่างตัวเองรางๆ ที่สะท้อนในกระจก


“รเณศ” เห็นตัวเองในกระจกตรงประตูระเบียง มือเรียวยาวเอื้อมไปลูบไล้เงานั้นอย่างแผ่วเบา ยิ่งมองยิ่งเห็นแต่ความมืดเหมือนหัวใจของเขาในตอนนี้ มืดมน สิ้นหวัง และเจ็บปวดจนเผลอปล่อยให้น้ำตาไหลออกจากห่างตาทั้งสองข้าง


‘รเณศ’ หมายถึง จอมทัพซึ่งเป็นเจ้าแห่งการรบ แต่บัดนี้เขากลับอ่อนแอพร้อมจะแตกสลาย เขากำลังจะพ่ายแพ้ให้แก่ความรัก ร่างสูงโปร่งเหลือบตามองคนรัก หรืออีกไม่นานต้องกลายเป็นอดีตคนรักกำลังหลับใหลด้วยหัวใจเจ็บชา


“เตวิช” คือคนรักรุ่นพี่ที่คบหากันมาเกือบสามปี และเป็นสามปีที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ รเณศรู้ดีตั้งแต่ตกลงคบหากับคนรักรุ่นพี่แล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันนั้นไม่อาจเป็นที่ยอมรับจากครอบครัวฝ่ายนั้นได้เลย แต่เขาก็อดทนรอ อดทนอย่างมีความหวัง เขาเริ่มต้นเป็นคนรักกับเตวิชก่อนจะถูกลดทนสถานะลงเรื่อยๆ เมื่อคนรักจำต้องคบหากับผู้หญิงที่ทางครอบครัวเลือกให้ จากคนรักกลายเป็นชู้ จากที่มาก่อนก็ถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อย


“พี่ต้องแต่งงานกันเขา”


คำๆ นั้นของเตวิชเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ การรอคอยและอยู่ในมุมเงียบๆ ของตัวเองมาตลอดสามปีไม่เป็นผล สุดท้ายเตวิชก็เลือกครอบครัว


“รอพี่นะ พี่สัญญาว่าจะหย่ากับเขาให้ได้”


รเณศแค่นยิ้มในความมืด


รอแล้วได้อะไร...รอแล้วมีอะไรเป็นหลักประกัน


เขารอเตวิชมาสามปี รอที่จะได้ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ถูกยอมรับ รอด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ...แต่ก็รอ


รอด้วยหัวใจที่เจ็บปวด รอว่าสักวันหนึ่งเรื่องของเราคงเป็นจริงได้


รเณศรอจนลืมนึกถึงหัวใจของตัวเองที่เริ่มเจ็บชาจนแทบไร้ความรู้สึกแล้ว


“ผมไม่อยากรอแล้ว”


“...”


“ผมรอไม่ไหว มันเจ็บเหมือนไม่อยากหายใจแล้ว”


รเณศกระซิบเสียงแผ่ว ขณะที่จ้องมองคนรักทั้งน้ำตา





☘☘☘☘





“ไอ้เนตรรรร”


เสียงโหวกเหวกโวยวายนั่นปลุกให้คนที่นั่งเหม่อลอยปล่อยความคิดอย่างไร้จุดหมายสะดุ้งโหยง จนกระทั่งเจ้าของเสียงนั่นเดินมาพิงสะโพกโบกไม้โบกมือผ่านหน้าเขาไปมา


“ไฮค่ะเพื่อน”


เขาพยักหน้าหงึกหงักให้ร่างตุ้งติ้งที่เดินสะบัดตูดจนน่าหมั่นไส้  ไม่พอหลังจากอัญเชิญตัวเองให้นั่งแล้วมันทำคอเอียง ทำตาเล็กตาน้อยใส่นักท่องเที่ยวโต๊ะข้างๆ


“ระวังสันนิบาตขึ้นตานะสมบัติ”


มันค้อนขวับก่อนจะตีมือใส่หลังมือผมเบาๆ


“สมบัตินั่นพ่อกูค่ะ”


“เออสุชาติ”


“อ๊ายยย อย่าเรียกกูด้วยชื่อนี้ ฟังแล้วแสลงหู ดูปากกูนะ กูชื่อชิน มาจากชื่อจริงที่ไปเปลี่ยนใหม่มาแล้วว่าชินกรค่ะ”


รเณศยิ้มอ่อนๆ เพราะรู้ดีว่าเพื่อนสนิทผู้ชายหัวใจสาวนางนี้ค่อนข้างจะซีเรียสกับชื่อเรียกหลังที่จากมันโมดิฟายตัวเองจนผุดผ่องแบบนี้หลังเรียนจบ ชินกรเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ถึงแม้ตอนเรียนระดับมหาวิทยาลัยจะเรียนกันคนละคณะ แต่ก็อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน จึงได้เจอกันบ้าง และมันเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องราวความรักหลบๆ ซ่อนๆ ของเขา


“แล้วนี่จะเมาแต่หัววันเลยรึไงเนี่ย”


มันทำหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเหล้าที่เปิดขวดแล้วพร่องไปเกินครึ่ง เขาส่ายหน้าน้อยๆ ทั้งๆ ที่รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วใบหน้า นั่นเพราะปกติรเณศไม่ใช่นักดื่ม


“เออแล้วพี่เตล่ะ ไม่มาด้วยกันเหรอวะ”


รเณศแค่นยิ้มก่อนจะส่ายหน้าหวือ


“ไม่ว่าง” เขาเผลอกัดริมฝีปากจนเจ็บ “เตรียมงานแต่งอยู่มั้ง”


“หา”


ชินกรร้องลั่น


“มึงว่าไงนะเนตร พี่เตจะแต่งงานเหรอ”


คนเริ่มเมาพยักหน้าหงึกหงัก


“แต่งกับมึง?”


ผมยักไหล่ ท่าทางเฉยชาแต่ในใจเจ็บแปลบขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าคนรักจะมีตัวจริงข้างกาย ซึ่งตำแหน่งนั้นไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป


“เปล่า”


มันทำหน้าเหวอ


“มึงโอเคมั้ยเนตร”


ชินกรขยับมานั่งโซฟาตัวเดียวกับเขาด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจนัก มือเรียวขยับมากุมมือข้างหนึ่งของ รเณศที่กำแก้วเหล้าเสียแน่น มันพอจะรู้ว่าเตวิชกำลังคบหากับผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อเอาใจครอบครัว พร้อมๆ กับเก็บเขาเอาไว้ข้างๆ กาย


“เนตร”


“...”


“โอเค กูโอเค”


ไม่รู้ว่าตัวเองพูดด้วยสีหน้าแบบไหน มันถึงได้ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้น คนเริ่มเมาหัวเราะน้อยๆ ทั้งๆ ที่น้ำตากำลังเริ่มไหลอีกครั้ง


“กูเหนื่อยแล้วชิน กูพอแล้ว”


“อื้อ เหนื่อยก็พอ ไม่เป็นไร กูจะอยู่ข้างๆ มึงเอง”


มันกอดเอวเขาเอาไว้นั่นทำให้รเณศน้ำตาซึม เนิ่นนานหลังจากที่ปล่อยให้อารมณ์อ่อนไหวเข้ามายึดครองพื้นที่ในใจ เขาก็ผละออกจากมันแล้วฝืนยิ้มให้อีกฝ่าย


“วันนี้อยากเมา กูอยากลืม”


“เดี๋ยวกูชงเหล้าให้”


ชินกรทำท่าขึงขังก่อนจะลงมือชงเหล้าให้ผม มันยิ้มให้ผมโดยที่ไม่มีคำปลอบอะไร นอกจากนั่งอยู่ข้างๆ แล้วฟังผมพล่ามระบายไปเรื่อย



.



.



“โคตรเซอร์ไพร์สเลย ไอ้เพลิงแม่งออกจากป่าได้”


“งั้นวันนี้ต้องฉลองที่ไอ้เพลิงกลับคืนสู่สังคม ฮ่าๆๆ”


“เกินไปไอ้พวกห่า”


“ก็จริงนี่หว่า นานแค่ไหนแล้วเนี่ยที่มึงไม่ได้เข้าเมือง พวกกูก็นึกว่ามึงจะแต่งงานกับสิงห์สาราสัตว์ในป่าไปซะแล้ว”


รเณศมุ่นหัวคิ้วพยายามปรือตาและยกศีรษะอันหนักอึ้งเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ขึ้น เสียงบทสนทนาดังหึ่งๆ ดังขึ้นใกล้ตัวจนอดรู้สึกหงุดหงิดใจไม่ได้ เขาปรือตามองไปรอบๆ เห็นชินกรกำลังนั่งทำหน้าเคลิ้มกับอะไรสักอย่าง พอมองตามสายตาของมันไปจึงเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ราวๆ ห้าถึงหกคนกำลังคุยกันออกรสออกชาติ


เขากระพริบตาปริบๆ เพ่งพิจารณาภาพตรงหน้าอีกครั้งเพราะความเมา เสี้ยววินาทีนั้นเจ้าของใบหน้าคมคายท่ามกลางแสงไฟสลัวในบาร์ก็เบือนสายตาคู่คมมาทางนี้พอดี ดวงตาคู่นั้นจ้องเขม็งมองมาทางเขาก่อนจะมุ่นหัวคิ้วคล้ายกับสงสัยอะไรบางอย่าง แวบหนึ่งเขาเห็นภาพซ้อนทับของผู้ชายคนนั้นกับเตวิช


คนเมากัดริมฝีปากแน่น ก่อนจะสะบัดศีรษะตัวเองแรงๆ


“พี่เต”


แต่ภาพที่เห็นตรงหน้านั่นยังคงเป็นใบหน้าของคนรักรุ่นพี่


“พี่เต”


“...”


รเณศผวาลุกขึ้นก่อนจะเดินเซๆ ไปยังทิศทางที่เห็นเตวิช ท่ามกลางสีหน้าตื่นกระหนกของชินกรที่ถลามาคว้าแขนผมเอาไว้


“เนตรมึงจะไปไหน”


“ไปหาพี่เต”


“พี่เตไหนวะ”


ชินกรทำหน้าตื่นมองไปรอบๆ กวาดสายตามองยังไงก็ไม่เห็นคนที่กล่าวถึง เดาได้ว่าสายตาคนเมาคงเริ่มฝ้าฟางจึงรีบกระตุกแขนให้นั่งลง


“เนตรมึงเมาแล้ว ไปๆ เดี๋ยวกูพากลับ”


“ไม่”


รเณศส่ายหน้าหวือ “จะไปหาพี่เต”


“เฮ้ย”


ชินกรร้องอุทานเมื่อคนเมาเล่นเดินปรี่ไปยังกลุ่มชายฉกรรจ์ห้าหกคนนั้น


“โอ๊ะ”


ไม่รู้มันเดินอิท่าไหนถึงได้สะดุดลงไปนั่งตักหนึ่งในหกคนนั่น ดีว่าเจ้าของตักนั่นมีน้ำใจกระชับเอว รเณศไม่ให้หงายหลังไม่อย่างนั้นเพื่อนสนิทเขาคงหน้าทิ่มพื้นอย่างไม่ต้องสงสัย


“พี่เต”


ชินกรอ้าปากค้างเมื่อเห็นเพื่อนรักผวากอดเจ้าของตัก เท่านั้นไม่พอมันยังซุกซบใบหน้าไปที่อกกว้าง แน่นอนว่าการที่คนเมาเดินดุ่มๆ เข้าไปในวงย่อมทำให้ผู้ชายที่เหลือได้แต่จ้องตากันปริบๆ ไม่ต่างจากเจ้าของตักซึ่งประคองเอวรเณศไว้ด้วยใบหน้าถมึงทึง


“เนตร ไอ้เนตรลุก”


ชินกรผวาไปกระตุกเพื่อนให้ลุกขึ้น แต่คนเมาที่แรงเยอะกว่ากลับกอดคอชายคนนั้นเสียแน่นจนเขาได้แต่ทำหน้าขอโทษขอโพยเจ้าของตัก


“ขอโทษด้วยนะครับ เพื่อนผมเมามาก”


“ฮือ พี่เต พี่เตทำไมใจร้ายกับผมนัก”


รเณศเบะปากหลับตาปี๋จึงไม่เห็นใบหน้าคมคายที่จ้องคนเมาเขม่ง


“ลุก”


เสียงทุ้มที่เปล่งออกมาดูดุดัน


“เนตรไม่ลุก”


“ผมบอกให้คุณลุก”


“โอ๊ย”


รเณศร้องลั่นเมื่อถูกเขย่าตัวเรียกเพื่อเรียกสติ


“ลืมตาแล้วมองหน้าผม”


“ฮึก”


“ลืมตา”


“เบาๆ สิวะไอ้เพลิง น้องเขาคงเมามาก”


“เพลิง” ปรายตามองหน้าเพื่อนสนิททั้งโต๊ะที่ทำหน้าเห็นใจคนในอ้อมแขนเสียเต็มประดาแล้วรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจ


“ไอ้เนตรลุกเถอะ มึงเมามากแล้วนะ”


ชินกรฉุดแขนเพื่อน


“ไม่...ไม่ไป”


คนเมาโงนเงน


“แหวะ”


“ฉิบหาย”


ผู้ชายทั้งโต๊ะร้องลั่นก่อนจะตามมาด้วยเสียงสบถของเจ้าของตักที่รเณศเผลออ้วกใส่เต็มแรง เพลิงมุ่นหัวคิ้วหน้าตาเครียดขมึงก่อนจะจ้องคนแปลกหน้าที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นแล้วดันทำท่าจะหลับเฉย


“เอ่อ”


ชินกรหน้าเสียคล้ายจะร้องไห้ ก่อนจะผวาลุกตามเจ้าทุกข์ที่ตวัดร่างของรเณศขึ้นพาดบ่าแล้วเดินดุ่มๆ ออกไป ผู้ชายหัวใจสาวละล้าละลังจดๆ จ้องๆ อยู่หน้าห้องน้ำที่ชายแปลกหน้าอุ้มรเณศซึ่งเมามายไม่ได้สติเข้าไป เสียงร้องโวยวายเคล้าเสียงสะอื้นของเพื่อนสนิทยิ่งทำให้เขาหวั่นวิตก สุดท้ายชินกรรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปในห้องน้ำ


ภาพที่เห็นคือรเณศกำลังโก่งคออาเจียนด้วยท่าทางโงนเงน สภาพที่เห็นนั่นดูไม่ได้เลย ดีว่าเจ้าทุกข์ที่โดนอ้วกใส่ประคองเพื่อนเขาไว้ไม่ให้หน้าทิ่มลงอ่างล้างมือ สีหน้ายุ่งยากใจที่ชินกรสัมผัสได้จากคนตัวโตนั่นบ่งบอกว่าระอาเพื่อนเขาเสียเต็มประดา


“คุณ...”


ชินกรยืนอึ้งเมื่อใบหน้าคมคายชัดเจน ผู้ชายตรงหน้าที่กำลังทำหน้านิ่วนั่นมีโครงหน้าชวนตะลึง คิ้วเข้ม ดวงตาสีดำสนิทดูดุดัน ไรหนวดตามสันกรามและเหนือริมฝีปากนั่นยิ่งส่งเสริมให้ร่างสูงใหญ่ซึ่งประมาณการณ์ได้ว่าเกินหนึ่งร้อยแปดสิบไปมากโขดูดิบเถื่อน คมเข้มแบบไทยแท้


ยอมรับเลยว่าเขาแอบเสียมารยาทกลืนน้ำลาย เมื่อเหลือบไปเห็นกล้ามเนื้อต้นแขนเป็นมัดๆ ทั้งสองข้าง นั่นเพราะคนตัวโตถอดเสื้อเชิ้ตที่เปื้อนอาเจียนออกเหลือไว้แต่เสื้อกล้ามด้านใน ผู้ชายหัวใจสาวคงจะตะลึงลานมากไปกว่านี้ถ้าหากแววตาดุดันนั่นจะไม่ตวัดมองมาทางนี้


“มีเสื้อให้เพื่อนคุณเปลี่ยนมั้ย”


“เอ่อ..”


ฝ่ายนั้นมุ่นหัวคิ้วก่อนจะทวนคำถามอีกครั้ง


“สภาพเพื่อนคุณเลอะเทอะมาก ไม่ทราบคุณมีเสื้อให้เขาเปลี่ยนมั้ย”


น้ำเสียงดุดันแต่ฟังแล้วชวนสั่นไหว


“คุณ?”


“คะ ครับ”


ชินกรรีบพยักหน้ารับทันทีเมื่อเห็นฝ่ายนั้นเริ่มชักสีหน้า ก่อนจะรีบผละออกไปเอาเสื้อที่ว่าเขาทันได้เห็นเจ้าของใบหน้าคมคายกำลังลูบแผ่นหลังของรเณศที่โก่งคออ้วกสุดแรง


“ล้างหน้าล้างตาซะ”


น้ำเสียงดุดันนั่นทำให้รเณศที่ยืนเกาะอ่างล้างหน้าหลับตานิ่งอยู่ค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมา แม้นัยน์ตาจะพร่ามัวเพราะฤทธิ์น้ำเมาแต่เขาก็ยังมั่นใจว่าคนตรงหน้าคือคนรักรุ่นพี่


“พี่เต...”


น้ำเสียงระโหยโรยแรงและมือที่ยื่นออกไปหมายจะไขว่คว้าคนตรงหน้า รเณศลูบไล้ใบหน้าคมคายนั่นอย่างแผ่วเบา ถึงแม้สิ่งที่ได้กลับมาคือความนิ่งเฉยบวกกับแววตาที่เต็มไปด้วยความระอา


“มองหน้าผมชัดๆ”


“พี่เต”


“มองหน้าผม” ฝ่ายนั้นพูดเสียงเรียบ “แล้วบอกว่าผมเป็นใคร”


“พี่เต”


รเณศหลับตาลงอีกครั้งแล้วสะบัดศีรษะตัวเองแรงก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกครั้ง


และครั้งนี้เขาเห็น...


ใบหน้าคมคาย นัยน์ตาสีดำสนิทเรืองรองดุดันราวกับไม่พอใจอะไรบางอย่าง ริมฝีปากหนาเหยียดขึ้นตอนที่เขาทำท่าชะงักไป


“ไม่ใช่”


รเณศครางเสียงแผ่ว


“คุณไม่ใช่พี่เต”


แม้จะคล้ายบางมุม แต่ไม่ใช่ คนตรงหน้าไม่ใช่เตวิช


รเณศแค่นยิ้มให้กับโง่งมของตัวเอง มันเป็นอาการเพ้อพกไปข้างเดียว ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเตวิชไม่มีทางอยู่ที่นี่ เตวิชที่กำลังยุ่งเรื่องงานแต่งงานไม่มีทางมาปรากฏตัว ณ สถานที่แห่งนี้


รเณศคือคนโง่


“พี่รักเนตร”


“...”


“พี่รักเนตรแค่คนเดียว ถึงแม้เรื่องของเราจะเปิดเผยไม่ได้ก็ตาม เนตรรอพี่นะคนดี”



หึ สุดท้ายเขาก็ยอมรอด้วยความโง่งมถึงสามปีเต็มๆ


ไหนๆ ก็โง่แล้ว ก็โง่ให้สุดๆ ไปเลยแล้วกัน


คนไร้สติขยับก้าวอย่างเชื่องช้าก่อนจะเอื้อมมือไปคล้องคอคนตรงหน้า เจ้าของร่างสูงใหญ่ทำหน้าประหลาด แต่คนตัวโตนั่นยังยืนยิ่งรอดูปฏิกิริยาของเขา รเณศขยับเข้าไปจนใบหน้าเกือบจะชิดกับอีกฝ่ายแล้วช้อนสายตาขึ้นมองแล้วพูดว่า


“นอนกับผมมั้ย”


อาจจะเพราะความเมา เพราะเสียใจหรืออะไรก็แล้วแต่ เขาถึงได้พูดแบบนั้นออกไป


มันน่าสมเพชแม้ใจจะเจ็บลึก แต่เขายังเชิดหน้ายิ้มท้าทายอีกฝ่าย เจ้าของใบหน้าคมคายกดยิ้มมุมปากแล้วเลื่อนมือหนามาตะปบที่หัวไหล่เขาก่อนจะรั้งให้รเณศขยับไปชิดกว่าเดิม เราใกล้กันจนสัมผัสได้ถึงความร้อนที่แผ่มาจากตัวของอีกฝ่าย


“เท่าไหร่”


“ว่าไงนะ”


รเณศยืนอึ้ง


“เท่าไหร่”


“ผมไม่ได้ขาย”


รเณศเม้มริมฝีปากแน่น


“ฟรีเหรอ?”


เหมือนค้อนหนักๆ ทุบที่ศีรษะแรงๆ รเณศยืนอึ้งตัวชา ยิ่งเห็นสายตาคู่คมที่มองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าราวกับประมาณสินค้า นั่นยิ่งทำให้เขาหน้าชา สติและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่กู่ไม่กลับไปชั่วขณะกลับคืนสู่เขาแทบจะทันที


“ปล่อยผม”


รเณศสะบัดตัวหนีจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย


“คุณดูถูกผม”


ฝ่ายนั้นแค่นยิ้มก่อนจะยอมปล่อยมือจากไหล่เขาแต่โดยดี


“ผมดูถูกคุณงั้นหรือ?”


ฝ่ายนั้นกอดอกมองผมยิ้มๆ แต่เป็นรอยยิ้มที่ดูแล้วขัดตา เพราะเหมือนว่าจงใจกดยิ้มมุมปากแค่นยิ้มมากกว่า


“ไม่มีใครดูถูกหรือตีค่าราคาของคุณได้หรอก หากคุณไม่ยอมให้เขาประเมินราคาตัวเอง”


‘นอนกับผมมั้ย’


รเณศยืนอึ้งเพราะสิ่งที่คนตรงหน้าพูดมามันจริงทุกอย่าง เขาดูถูกตัวเอง เขายอมให้คนอื่นตีค่าประเมินราคาราวกับสินค้า ช่างน่าสมเพชจริงๆ


“ถ้าสติคุณกลับมาแล้วก็กลับบ้านไปซะ” น้ำเสียงดุดันเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “แล้วอย่าไปพูดจาเชิญชวนคนอื่นไปนอนด้วยอีก มันจะเป็นอันตรายกับตัวเอง”


“...”


“ผมไม่รู้ว่าคุณทำแบบนี้ทำไม แต่ผมจะบอกให้นะ ต่อให้ใครต่อใครดูถูกหรือยัดเยียดให้คุณเป็นอะไรก็ตาม มันก็แค่คำๆ หนึ่งเท่านั้น อย่าเก็บมาคิดหรือใส่ใจเลย”


“ไม่ต้องมายุ่ง”


รเณศเบือนหน้าหนี นึกถึงสิ่งที่ตัวเองหลุดปากพูดออกไปยิ่งละอายใจ


“เชื่อผมเถอะ กลับบ้านไปซะ” ฝ่ายนั้นมองเขานิ่ง “อ้ออีกอย่าง ผมไม่รู้คุณตรวจเลือดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ยังไงก็หาเวลาไปตรวจบ้างนะ รักสนุกแบบคุณน่ะ มันเสี่ยงติดโรคทางเพศสัมพันธ์”


“ไอ้บ้า”


รเณศตะโกนสุดเสียงก่อนจะทรุดตัวลงนั่งแปะกับพื้นอย่างหมดแรง


น่าละอาย


ทำไมถึงอาจหาญถึงขนาดกล้าชวนคนแปลกหน้าขึ้นเตียง ทั้งโง่ทั้งบ้าไม่มีใครเกิน


 บ้าเอ๊ย รเณศนั่งน้ำตาคลอกุมขมับอย่างท้อแท้





☘☘☘☘





“ฝีมือไม่ตกเลยนี่หว่า”


เสียงทุ้มที่ดังขึ้นเหนือศีรษะนั่นส่งผลให้ชายสูงวัยซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกันส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ถึงอย่างนั้นใบหน้าเหี่ยวย่นตามกาลเวลายังปรากฏรอยยิ้มพึงพอใจ


“ไม่เหมือนแก ฝีมือไม่ได้เรื่อง”


“โธ่พ่อ”


คนถูกปรามาสยิ้มรับหน้าระรื่นไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไร


“แกน่ะมันลูกชายคนเดียวของฉันซะเปล่า ดันเป็นลูกไม้ไกลต้นซะอย่างนั้น ไม่เหมือนเจ้าเพลิงมัน”


ชายชราพยักพเยิดมาทางเขาซึ่งกำลังรวบหมากสีขาวและดำเก็บ


“อย่าเพิ่งเก็บ ให้ลุงแก้มืออีกสักตาเถอะ”


“เดี๋ยวก็โดนไอ้เพลิงมันกินเรียบอีกหรอกพ่อ”


ชายชราปาหมากสีขาวในมือหมายจะให้โดนกลางศีรษะไอ้ลูกปากเปราะ เสียแต่ว่ามันดันหลบทันไปซะได้ เพลิงกดยิ้มมุมปากด้วยความเคยชินที่เห็นพ่อลูกคู่นี้ตีฝีปากใส่กันแบบนี้เป็นประจำ


“หุบปากไปเลยไอ้ลูกเวร”


ถึงคำพูดจะดูกระด้าง แต่น้ำเสียงนั่นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง


“เฮ้อ มึงเนี่ยนะไอ้เพลิง โผล่หัวทีไร กูเป็นหมาหัวเน่าทุกที”


น้ำเสียงโอดครวญต่างจากสีหน้าที่ยิ้มระรื่น


“พี่มันอ่อนนี่หว่า”


“ไอ้น้องเวร”


เพลิงหัวเราะในลำคอ ตอนที่ปลายเท้าของลูกพี่ลูกน้องอย่าง ‘ธาม’ ถีบเข้าที่บั้นเอวเหมือนจะแกล้งมากกว่าทำให้เจ็บ


“เสียงดังโหวกเหวกโวยวายอะไรหนุ่มๆ”


ร่างระหงของหญิงสูงวัยนางหนึ่งเดินถือของว่างมาวางไว้ใกล้ๆ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างเขา กลิ่นหอมของสาคูไส้หมูนั่นส่งผลให้ธามผุดลุกขึ้นก่อนจะเบะปากราวกับเด็กน้อย


“ของโปรดไอ้เพลิงอีกแล้ว เฮ้อ วันสองวันนี่แม่ทำแต่ของโปรดให้แต่ไอ้เพลิงจนผมน้อยใจแล้วนะเนี่ย”


คนน้อยใจสะดุ้งโหยงเมื่อถูกฟาดที่ไหล่อย่างไม่จริงจังนะ


“ก่อนหน้านี้ฉันทำแต่ของโปรดให้ วันๆ หนึ่งแกก็ไม่อยู่ติดบ้านหรอกพ่อคนปากดี ฟ้าไม่มืดจนเห็นดาว ฉันก็ไม่เห็นแกจะโผล่หน้ามาให้พ่อแม่ได้เห็น”


“ก็งานผมเยอะ”


“งานหรือผู้หญิงยะที่เยอะน่ะ”


“โธ่แม่ วัยอย่างผมฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่าน ขืนอยู่แต่บ้านแม่จะได้ลูกสะใภ้เหรอครับ”


“ฉันเบื่อจะพูดกับแก”


หญิงสูงวัยทำหน้าเหม็นเบื่อลูกชายก่อนจะหันไปทางหลานชายคนเดียว ซึ่งกำลังมีสมาธิจดจ่ออยู่กับกระดานหมากล้อม


“คนนึงก็เสือผู้หญิง ส่วนอีกคนก็อยู่แต่ในป่า”


ธามหัวเราะร่วน


“สักวันเถอะแม่ ไอ้เพลิงมันจะแต่งงานกับสิงสาราสัตว์ โอ๊ย”


เพลิงปาหมากสีดำใส่ลูกพี่ลูกน้องเต็มแรง แน่นอนว่าโดนกลางอกอีกฝ่ายเต็มๆ ธามร้องโอดโอยท่ามกลางเสียงหัวเราะขบขันของผู้สูงวัยทั้งสอง ส่วนเพลิงได้แต่ส่ายหัวไปมาก่อนจะชักงักกึกเมื่อประสานสายตากับหญิงสูงวัยพี่สาวของมารดาและมีศักดิ์เป็นป้าแท้ๆ ของเขา ‘ป้าวดี’ ยิ้มอ่อนๆ ให้ แต่เขาทราบดีว่ารอยยิ้มนั้นไม่น่าวางใจนัก


“เพลิง”


“ครับ”


“เราไม่คิดอยากกลับมาทำงานในเมืองบ้างเหรอลูก”


เพลิงแค่ยิ้มเฉยแต่ไม่ได้ตอบอะไร


“ไปอยู่ไกลขนาดนั้น ป้าเป็นห่วง นี่ดูสิถ้าเพลิงไม่มีธุระที่กรุงเทพฯ เราคงไม่แวะมาหาป้ากับลุง”


“อย่าไปบีบบังคับหลานมันเลยน่าแม่”


‘ลุงทัศน์’ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของกระดานหมากล้อมเอ่ยขึ้น หญิงหนึ่งเดียวในที่นั้นจึงถอนหายใจแรงๆ เพลิงเลยขยับมารวบมือทั้งสองของ ‘ป้าวดี’ แล้วบีบเบาๆ เพราะรู้ดีว่านอกจากมารดาผู้ล่วงลับไปตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ก็มีเพียงป้าวดีและลุงทัศน์เท่านั้นที่คอยห่วงใยมาตลอด เพลิงในวัยสิบแปดปีที่สูญเสียมารดาต้องเข้ามาอยู่ในการอุปการะของลุงกับป้า แน่นอนว่าเพลิงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทั้งสองรักเขาเหมือนลูกแท้ๆ เรียกได้เต็มปากว่านี่คือครอบครัวที่เขาเหลืออยู่ ไม่ต่างธามซึ่งเขานับถือเหมือนพี่ชายแท้ๆ


เพลิงเข้าใจความหวังดีของป้าวดี เพราะอาชีพที่เขารักทำให้ต้องห่างไกลจากคนที่นี่ เกือบสี่ปีเต็มที่ต้องไปไกลขนาดนั้น ทุกครั้งที่กลับมาป้าวดีถึงได้คะยั้นคะยอให้เขาเปลี่ยนใจย้ายกลับมาทำงานในเมืองหลวง


“ก็แม่เป็นห่วงหลาน ไปอยู่ไกลขนาดนั้น จะเจ็บป่วยยังไงบ้างก็ไม่รู้ ย้ายกลับมาทำงานในเมืองเถอะลูก ที่นี่งานมีให้ทำเยอะแยะ หรือถ้าย้ายไม่ได้ก็ให้ลุงเข้าช่วยฝากให้ก็ได้นี่”


เพลิงรู้ดีว่าหากเอ่ยปากถามหาความสบายกับงานที่ทำอยู่ ลุงทัศน์ซึ่งก่อนเกษียณอายุราชการเคยดำรงตำแหน่งนายทหารยศสูงย่อมต้องหาทางช่วยทุกวิถีทาง แต่เขารักวิถีชีวิตในแบบที่เป็นอยู่ซะแล้ว เพลิงสอบเข้าคณะวนศาสตร์เพราะหลงใหลงานป่าไม้ แน่นอนพอจบมาเขาสอบเข้ารับราชการในสายงานป่าไม้ได้สำเร็จ ท่ามกลางความไม่เห็นชอบของป้าวดีที่รู้ว่าเขาต้องไปทำงานในพื้นที่ที่ลำบาก


แต่เพลิงกลับชอบวิถีชีวิตแบบนั้น หลายปีที่ใช้ชีวิตในพื้นที่ห่างไกลความเจริญและแสงสีของเมืองหลวง เขามีป่าเป็นบ้าน มีลำธารเป็นห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ มีความเงียบเหงาเป็นเพื่อนสนิท เป็นชีวิตที่ไม่ศิวิไลซ์ซึ่งเขาหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้น


“ผมมันคนป่าครับ ขืนกลับมาใช้ชีวิตในเมืองคงอึดอัดใจน่าดู”


ลุงทัศน์หัวเราะถูกใจ


“นั่นไง หลานมันชอบชีวิตแบบนั้น เพลิงมันรักงานของมัน ทำใจเถอะแม่” ท้ายประโยคหันไปพูดกับป้าวดี


“แล้วแม่จะทำอะไรได้ล่ะ พ่อเล่นถือหางหลานมันขนาดนี้” ป้าวดีค้อนให้ “เอาเถอะ ถ้าเพลิงยืนยันแบบนั้น ป้าก็จะยอมรับการตัดสินใจของเพลิง ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยก็ตาม”


เพลิงยิ้มอ่อนๆ


“วางใจไอ้เพลิงเถอะแม่ มันโตแล้ว”


ธามพูดยิ้มๆ


“ไม่ต้องกลัวว่ามันจะอยู่แต่ป่าจนกลับเข้าเมืองไม่ได้หรอก กลัวว่ามันจะหาหลานสะใภ้เป็นสาวชาวป่ามาฝากดีกว่ามั้ง”


“เพ้อเจ้อ”


เพลิงส่ายหัว เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่ลูกพี่ลูกน้องพูดออกมาไม่มีทางเป็นความจริงไปได้หรอก ไม่ใช่ว่าเขารังเกียจคนป่าคนดอยหรอก ตรงกันข้ามจะมีผู้หญิงดีๆ ที่ไหนอยากจะลงหลักปักฐานกับคนอย่างเขา แวบหนึ่งเพลิงนึกถึงอดีตคนรักที่ขอเลิกราไปเพราะทนลำบากไม่ไหว ใครล่ะจะอดทนกับผู้ชายที่มีภาระหน้าที่หนักหนาแบกอยู่บนบ่า ไม่มีหน้าตาทางสังคมและทรัพย์สินหนึ่งเดียวที่เขามีคือความอุตสาหะเท่านั้น


เหอะ เพลิงพิทักษ์และปกป้องได้แต่ป่าไม้เท่านั้นแหละ เขาพิทักษ์หัวใจใครไม่ได้หรอก


☘☘☘☘



เปิดเรื่องใหม่จ้า เรื่องนี้แนวผู้ใหญ่สักหน่อย ฝากติดตามด้วยน้า
เราใช้เวลาพอสมควรตอนที่ตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ ยอมรับว่ากลัวกระแส เพราะมันไม่ใช่แนวที่คนส่วนใหญ่ชอบ
แต่สุดท้ายทนเสียงเรียกร้องในใจไม่ไหว คิิกคิก เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ตัวละครจะจีบในป่า รักกันในลำธารเด้อ

ใครเม้นท์ให้กำลังใจฝากแท็ค #ป่าห่มรัก ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [01] #ป่าห่มรัก [14.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 15-01-2019 00:22:20
น่าติดตามครับ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [01] #ป่าห่มรัก [14.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 15-01-2019 01:44:44
ติดตามจ้า
สงสารเนตร​  ก้าวออ​กมาเถอะเนตร​หลอกตัวเองอยู่ทำไม
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [01] #ป่าห่มรัก [14.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 15-01-2019 02:48:37
ติดตามค่าาาาา
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [01] #ป่าห่มรัก [14.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 15-01-2019 08:01:46
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [01] #ป่าห่มรัก [14.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: Moonoii ที่ 15-01-2019 11:27:34
ติดตามๆ ชอบตัวละครผู้ใหญ่มากๆจ้า :mew1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [01] #ป่าห่มรัก [14.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 15-01-2019 12:54:30
น่าสนุกและติดตามมากค่ะ รักแบบผู้ใหญ่ ชอบมากกก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [01] #ป่าห่มรัก [14.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 15-01-2019 18:35:12
น่าติดตามมากเลย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [01] #ป่าห่มรัก [14.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 15-01-2019 22:49:35
แนวผู้ใหญ่แบบนี้เราก็ชอบนะ จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [01] #ป่าห่มรัก [14.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 16-01-2019 21:30:07
ได้ทุกแนวค่ะ ดราม่า แฮปปี้ วัยไหนได้หมดค่ะ
ยกเว้นเลือดสาด แอบจิตหนักหน่วง อันนี้รับไม่ไหว 5555

เพลิงคือคนดามใจเนตรใช่ไหมล่ะ
รอให้เนตรไปหาที่ป่านะ

เนตรน่าสงสาร คำว่ารัก ยื้อให้รอได้ตั้งสามปี
ทั้งที่ดูอาการแล้ว ไม่น่าจะมีความหวัง

จะไปเจอกันยังไงนะ แต่เชื่อว่าถ้าเพลิงได้รัก มีหลงนักแน่ค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [01] #ป่าห่มรัก [14.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 16-01-2019 23:01:53
อีกหนึ่งเสียงชอบแนวผู้ใหญ่วัยทำงานค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [01] #ป่าห่มรัก [14.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 18-01-2019 20:04:10
เอาใจช่วยน้องเนตร  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [01] #ป่าห่มรัก [14.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-01-2019 22:19:52
 :L2: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [01] #ป่าห่มรัก [14.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 18-01-2019 22:33:12
เนตร ไปเข้าป่ากันเถอะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [01] #ป่าห่มรัก [14.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 20-01-2019 00:26:07
ตามจร้า  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [02] #ป่าห่มรัก [21.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 21-01-2019 21:06:32

[ 02 ]




“ลาออก”

ชินกรร้องดังลั่นด้วยสีหน้าที่ดูตกอกตกใจไม่น้อย ขณะที่เจ้าของเรื่องอย่างรเณศเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ

“มึงแน่ใจเหรอเนตร”

“อือ”

รเณศพึมพำขณะที่กวาดตามองกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่หอบหิ้วมาจากรังรัก พอนึกถึงคอนโดใจกลางเมืองซึ่งเคยเป็นรังรักระหว่างเขากับคนรัก ในใจก็เจ็บแปลบพาให้น้ำตาที่เก็บกลั้นเอาไว้เอ่อคลอขึ้นมาอีกครั้ง นับตั้งแต่บิดามารดาเสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อน  ในชีวิตของรเณศมีเพียง  เตวิชคนเดียวเท่านั้นที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเขา ท่ามกลางการสูญเสียบุพการีที่รัก เตวิชซึ่งเป็นรุ่นพี่ในรั้วมหาวิทยาลัยได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต นั่นจึงทำให้เขายึดติดกับคนรักจนลืมข้อจำกัดในโลกของความเป็นจริงไป

เขาย้ายไปอยู่กับคนรักตั้งแต่เรียนจบ โดยหวังในใจลึกๆ ว่าอยากสร้างครอบครัวกับเตวิช รเณศเป็นเภสัชกรที่ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ขณะที่เตวิชเป็นทันตแพทย์ทำงานในโรงพยาบาลทันตกรรมของครอบครัว แน่นอนว่าอาชีพที่เป็นหน้าเป็นตานั่นทำให้เตวิชต้องซ่อนเขาไว้ในมุมๆ หนึ่ง ซึ่งรเณศยอมรับมันได้หมดทุกอย่าง

ยกเว้น...วันที่คนรักเดินมาบอกว่าจะแต่งงานคนอื่น นั่นแหละฟางเส้นสุดท้ายของรเณศจึงขาดลง

“มึงกับพี่เตเลิกกันจริงๆ เหรอ”

คนถูกถามส่ายหน้าช้าๆ เล่นเอาชินกรทำหน้าประหลาดใจ

“ไม่เลิกก็เหมือนเลิก”

เตวิชบอกให้เขาอดทนรอ...รอให้ฝ่ายนั้นหย่า

คำร้องขอนั่นเหมือนน้ำกรดที่เทรดหัวใจของรเณศให้เหวอะหวะเป็นแผลไม่มีชิ้นดี ระหว่างเราไม่มีคำบอกเลิก ในเมื่อเตวิชเข้าใจว่ารเณศยอมรับเรื่องนี้เหมือนที่แล้วมา

แต่เขาเจ็บมาจนเกินพอแล้ว

ระหว่างที่เตวิชกลับไปอยู่บ้านเพราะยุ่งเรื่องงานแต่ง นั่นจึงเป็นโอกาสให้เขาตัดสินใจ รเณศรู้ดีว่าหากยังรอและเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายตรงๆ เขาไม่มีทางหักใจจากคนรักได้แน่นอน เพราะทุกครั้งที่เตวิชกลับมา รเณศก็เหมือนคนตามืดบอดที่พร้อมจะปิดกั้นการรับรู้ใดๆ และยินยอมเดินกลับเข้าสู่วังวนเดิมๆ

กลับไปโง่...เพราะคำว่า “รัก” คำเดียว

“เนตร”

ไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตาไหลหยดแหมะตั้งแต่เมื่อไหร่ จนกระทั่งชินกรเอาทิชชูซับที่ขอบตาให้อย่างแผ่วเบา

“แล้วนี่เก็บของจะไปไหน”

“...”

รเณศเม้มปากแน่นก่อนหน้านี้ไปขออาศัยคอนโดชินกรอยู่หลายวัน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาตัดสินใจกลับบ้าน...บ้านสวนแถบปริมณฑลซึ่งเป็นสมบัติที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ให้ แต่รเณศไม่ค่อยได้ดูดำดูดีเท่าไหร่ นั่นเพราะช่วงเวลาที่ผ่านมามีความสุขอยู่กับเตวิชจนหลงลืมสิ่งรอบกายไปหลายสิ่งหลายอย่าง

บ้านหลังนั้นมีสองสามีภรรยาที่ทำงานมาตั้งแต่สมัยที่พ่อกับแม่ยังอยู่เป็นคนดูแล

‘จดหมายถึงแม่คุณเนตรครับ’

วันนั้นลุงที่ดูแลบ้านเดินถือจดหมายฉบับหนึ่งมาให้กัน

‘จริงๆ มันถูกส่งมาหลายเดือนแล้วครับ แต่คุณเนตรไม่ได้กลับมา ลุงเองก็ลืมโทรบอกคุณเลย’


จดหมายฉบับนั้นส่งมาจากต่างจังหวัดและจดหมายนั่นทำให้รเณศตัดสินใจลาออกจากงาน

“ชิน”

“ว่าไง”

“ฝากขายรถให้ที”

“เนตร”

ชินกรทำหน้าตกใจเพราะมินิคูเปอร์สีเหลืองนั่นคือน้ำพักน้ำแรงที่รเณศหวงนักหนา แต่วันนี้กลับบอกให้ช่วยขาย แน่นอนว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของรเณศคงยากที่จะค้านได้แล้ว

“ที่ๆ กูจะไปมันคงไม่จำเป็นต้องใช้รถ”

“มึงจะไปไหนกันแน่เนตร”

“กลับบ้าน”

รเณศพึมพำหน่วยตาที่บวมช้ำเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักมีประกายขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อพูดถึง “บ้าน”



.


.



“ดูแลตัวเองนะเนตร”

ชินกรเบะปากคล้ายกับจะร้องไห้ตอนที่เดินมาส่งรเณศถึงหน้าเกททางเข้าของสนามบินภายในประเทศ สีหน้าเพื่อนสนิทดูเคร่งเครียดไม่น้อยกับการตัดสินใจของเขา แต่รเณศเป็นคนหัวดื้อ ลองได้ดึงดันจะทำแล้วไม่ว่าใครก็ยากที่จะห้ามปราม

“ถ้ามึงโอเคแล้ว กลับมานะเนตร ไม่ว่าจะมีอะไรให้ช่วย บอกกูได้เสมอ”

“อื้อ”

เขากอดตอบเพื่อน

“ขอบใจมากชิน” เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ “มึงสัญญากับกูได้มั้ย ว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้พี่เตรู้”

ชินกรทำหน้าลำบากใจเพราะเจ้าตัวเองเองก็รู้จักมักคุ้นกับเตวิชไม่น้อย

“มึงหายไปแบบนี้ ยังไงพี่เตก็ต้องมาบีบคั้นเอากับกูอยู่ดี แต่เอาเถอะ กูรับปากว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้พี่เตรู้เลย”

รเณศยิ้มบางๆ

“เนตร...ถ้ามึงไปเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ก็ขอให้มึงสมหวัง แต่ถ้ามันไปเพื่อที่จะหนี มึงหนีความรู้สึกตัวเองไม่พ้นหรอก” ชินกรเขย่ามือเขา “เพราะฉะนั้นมึงต้องเข้มแข็งและรักตัวเองให้มากๆ นะ ทุกคนมีคุณค่าในตัวเองเสมอ”

เขายิ้มรับเพราะเข้าใจความหวังดีของเพื่อนที่กลัวว่าการตัดสินใจไปที่นั่นคนเดียวอาจหมายถึงการคิดสั้นหรือตัดช่องน้อยแต่พอตัว

“วางใจเถอะ กูรักตัวเองมากกว่าที่มึงคิด”

เพราะรักตัวเองถึงได้หักใจ เพราะยังคิดว่าตัวเองมีคุณค่าถึงจากไป แวบหนึ่งรเณศอดนึกถึงใครบางคนที่พูดจาดุดัน น้ำเสียงแข็งกระด้าง แต่ดึงสติให้คนที่กำลังอ่อนไหวได้ฉุกคิด

‘ไม่มีใครดูถูกหรือตีค่าราคาของคุณได้หรอก หากคุณไม่ยอมให้เขาประเมินราคาตัวเอง’

คนที่เขานึกชิงชังและขอบคุณในเวลาเดียวกัน


☘☘☘☘



ชั่วโมงกว่าๆ ที่รเณศนั่งเหม่อมองไปนอกหน้าต่างเครื่องบินจนกระทั่งเครื่องบินเล็กลงจอดที่สนามบินแห่งหนึ่งของจังหวัดทางภาคเหนือ ระหว่างที่ยืนรอกระเป๋าที่ไหลมาตามสายพาน รเณศหวนนึกถึงจดหมายที่มีรอยกระดำกระด่างเพราะโดนความชื้นฉบับนั้น เนื้อหาในจดหมายนั่นเป็นของญาติทางฝ่ายแม่ซึ่งเขียนมาบอกข่าวร้ายว่าตาของเขาเสียชีวิตลงแล้วและอยากให้แม่กลับมารับทรัพย์สินที่ถูกแบ่งไว้ให้ ตั้งแต่จำความได้ แม่เล่าให้เขาฟังเสมอว่าพ่อกับแม่รักกันท่ามกลางความไม่พอใจของตา

แม่ทำให้ตาเสียใจมากเพราะหนีตามพ่อออกจากบ้าน แม่พูดเสมอว่าอยากกลับไปขอขมาที่เคยทำให้ตาต้องเสียใจ แต่น่าเสียดายที่พ่อกับแม่ไม่มีโอกาสนั้นแล้ว ตั้งแต่พ่อกับแม่จากไป เขาก็ลืมเลือนเรื่องนี้ไปโดยปริยาย ลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองยังมีญาติทางฝ่ายแม่ที่หลงเหลืออยู่ ยิ่งเนื้อความในจดหมายนั่นบอกว่าตารอการกลับมาของแม่เสมอจนกระทั่งท่านเสียชีวิตไปเมื่อหลายเดือนก่อน แม้จะไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน แต่รเณศก็หวังว่า การที่เขาตัดสินใจดั้นด้นมาที่นี่จะทำให้ความหวังที่อยากกลับคืนสู่บ้านเก่าของแม่เป็นจริงอีกครั้ง

รเณศกวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อมองหาคนที่จะมารับ หลังจากได้อ่านจดหมายแล้วรเณศจึงเขียนจดหมายตอบพร้อมกับแนบเบอร์โทรไป นั่นจึงทำให้เขาได้พูดคุยกับพี่สาวของแม่ ญาติคนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ของเขาเพื่อนัดแนะกันเรื่องการส่งคนมารับเขาที่สนามบิน

‘คุณรเณศ’

ป้ายเล็กๆ ที่ใครบางคนยกขึ้นชูถูกเขียนด้วยเมจิกสีดำสนิทนั่นปรากฏชื่อของเขา รเณศจึงเดินสาวเท้าไปหยุดตรงหน้าป้าย เด็กหนุ่มตัวสูงโย่ง ผิวคล้ำและตัดผมสั้นเกรียนทำตาปริบๆ ก่อนจะฉีกยิ้มจนเห็นฟันสีขาว

“คุณรเณศใช่มั้ยครับ”

“ใช่”

“สวัสดีครับคุณรเณศผมชื่อเปลว ป้าอนงค์ให้ผมมารับคุณครับ”

‘ป้าอนงค์’ ที่ว่านั่นคือพี่สาวของแม่

รเณศพยักหน้าก่อนจะยิ้มให้เจ้าของชื่อเปลวที่กุลีกุจอมาช่วยเข็นกระเป๋า

“ขอบใจมากเปลว”

“รถอยู่ทางนั้นครับคุณ”

“ไม่ต้องเรียกพี่ว่าคุณหรอก เรียกว่าพี่เนตรเถอะ”

ดูๆ ไปเด็กนี่น่าจะสักสิบแปดสิบเก้า อายุน้อยกว่ารเณศหลายปีทีเดียว เปลวยิ้มจนคิ้วย่นสีหน้าดูเก้อเขินเมื่อเห็นว่าเขาให้ความเป็นกันเอง เจ้านั่นเกาหัวเกาหูวุ่นวายชวนขบขัน

“เป็นอะไรไปล่ะนั่น”

“ปะ เปล่าครับพี่เนตร”

รเณศส่ายหน้าก่อนจะเดินตามเด็กหนุ่มไปยังรถกระบะสองประตูกลางเก่าคนใหม่คันหนึ่ง เจ้าตัวปีนขึ้นไปนั่งเบาะข้างคนขับไม่รอให้เด็กหนุ่มบริการเปิดประตูหลังให้

“ไม่นั่งข้างหลังเหรอครับ”

รเณศส่ายหัว

“นั่งข้างหน้าด้วยกันนี่แหละ เราจะได้มีเพื่อนคุยแก้ง่วงไง”

เปลวมองหน้าเขาแล้วทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ

“ผมนึกว่าคนกรุงเทพฯ จะหยิ่งซะอีก”

เจ้านั่นเริ่มชวนคุยเมื่อเห็นเขาทำตัวสบายๆ

“ดูละครมากไปรึไงเรา”

เปลวเกาหัวแก้เก้อ

“ป้าอนงค์แกบอกว่าพี่เนตรมาจากรุงเทพฯ คงไม่ชินกับอะไรพื้นบ้านเท่าไหร่”

รเณศเดาะลิ้น

“แล้วเปลวว่าพี่เป็นไงล่ะ พอจะไหวกับอะไรพื้นบ้านมั้ยล่ะ”

“ตอนแรกผมก็เกร็งๆ อยู่ครับ แต่พี่เล่นมานั่งข้างหน้าแบบนี้ สงสัยผมต้องมองพี่ใหม่”

“มันแน่อยู่แล้ว”

รเณศยักคิ้วให้อีกฝ่าย ความช่างจ้อของไอ้เด็กหนุ่มนั่นทำให้เขานึกเอ็นดูมัน เพราะเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้อง เวลามีใครเรียกพี่แบบนี้ก็ทำให้รู้สึกดีไม่น้อย เขาขยับรอยยิ้มน้อยๆ ก่อนจะสูดเอาลมที่เข้ามาปะทะใบหน้าเข้าปอดเต็มๆ เนื่องจากขอให้เปลวขับรถเปิดกระจกเพราะเห็นว่าอากาศที่นี่กำลังเย็นสบาย

เกือบสองชั่วโมงกว่าจากสนามบินที่นั่นเข้าสู่ตัวเมืองแล้ว เปลวเล่าว่าจังหวัดบ้านเกิดไม่มีสนามบิน เขาจึงต้องนั่งเครื่องมาลงที่สนามบินของจังหวัดใกล้เคียงแล้วให้คนมารอรับ ซึ่งระยะทางจากสนามบินที่ว่าไปตัวจังหวัดอีกจังหวัดหนึ่งก็กินเวลาไปมากโข นี่ยังต้องขับผ่านไปยังตัวอำเภอที่ตั้งของบ้านซึ่งห่างไปอีกราวชั่วโมงกว่า สรุปคือระยะเวลาที่นั่งรถนั่นนานกว่านั่งเครื่องไปครึ่งต่อครึ่งเลย


แกรกๆ

“หือ?”

เปลวทำหน้านิ่วตอนที่เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถซึ่งนั่งบังคับอยู่จะค่อยๆ ชะลอความเร็วแล้วหยุดลงในที่สุด

“รถเป็นอะไรเหรอเปลว”

“ไม่แน่ใจครับพี่เนตร”

เปลวมุ่นหัวคิ้วก่อนจะดับเครื่องยนต์แล้วเดินไปเปิดประโปรงรถด้านหน้า สีหน้าเคร่งเครียดนั่นทำให้รเณศขยับตามลงไปด้วย

“น่ากลัวจะต้องเข้าร้านซ่อมรถครับพี่เนตร”

รเณศเม้มปากแน่นพลอยกังวลไปด้วย ดีว่าตอนนี้ทั้งคู่มาถึงตัวอำเภอที่ตั้งของบ้านเก่าแม่แล้ว อีกไม่กี่กิโลก็จะถึงที่หมายตามที่เปลวบอก แต่ให้ตายเถอะรถดันมาเสียกลางทางซะได้

“แถวนี้มีร้านซ่อมรถที่ผมรู้จัก ขับประคองไปร้านซ่อมได้ครับ” เด็กหนุ่มอธิบาย “แต่ไม่รู้ว่าจะใช้เวลาซ่อมนานแค่ไหน นี่ก็บ่ายกว่าแล้ว”

จังหวะที่รเณศหวั่นวิตกว่าอาจจะต้องโบกรถเข้าบ้านนั่นมอเตอร์ไซค์ยามาฮารุ่นคลาสสิกคันหนึ่งก็ขับมาจอดอยู่เบื้องหลังเด็กหนุ่ม เจ้าของรถที่นั่งคร่อมทับเบาหนังสีดำสนิทนั่งแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีมอซอ ไม่ต่างจากกางเกงยีนสีซีดในสภาพที่มีรอยปะตรงหัวเข่า ซ้ำพอเปิดกระจกหมวกกันน็อคแล้วผู้ชายคนนั้นยังสวมหมวกไอ้โม่งทับอีกชั้นมองเห็นแต่ลูกกะตา

สภาพนั่นไม่น่าไว้วางใจจนรเณศเผลอขยับถอยหลัง แวบหนึ่งที่เผลอประสานสายตาเขารู้สึกคุ้นเคยกับแววตาคู่นี้อย่างบอกไม่ถูก แววตาดุดันที่ทอดมองนั้นแวบหนึ่งเหมือนจะประหลาดใจและไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง

“รถเป็นอะไรวะเปลว”

“อ้าวพี่พะ...” เปลวชะงักก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะยิ้มแห้งๆ ตอนที่ผู้ชายคนนั้นขยับมาใกล้แล้วบีบบ่าก่อนจะเดินเลยผ่านหน้ารเณศไป คนแปลกหน้านั่นก้มลงไปดูเครื่องยนต์หน้ารถก่อนจะพูดคุยอะไรไม่รู้กับเปลว

สองคนนั้นรู้จักกันอย่างไม่ต้องสงสัย

จังหวะที่คนแปลกหน้าผละออกไปโทรศัพท์ เด็กหนุ่มสารถีก็เลยเดินหน้ายุ่งๆ เข้ามาหาเขา

“ผมต้องเอารถไปซ่อมที่อู่ครับพี่เนตร ขืนขับไปต่อได้ตายกลางทางแน่ นี่ก็บ่ายกว่าแล้ว ไม่รู้ว่าจะใช้เวลาซ่อมนานมั้ย พี่เข้าบ้านไปพร้อมกับเอ่อ...”

เปลวพยักพเยิดไปทางเจ้าของมอ’ไซค์ร่างสูงชะลูดนั่น

“ไม่เอาหรอก”

รเณศส่ายหน้าหวือ “พี่จะรออยู่กับเปลว”

“ป้าอนงค์แกด่าผมเปิงแน่ ถ้าผมพาพี่ไปส่งช้า นี่ก็ไม่ได้เอามือถือติดมาด้วย ขืนไม่โทรบอกว่ารถเสีย ผมหูชาแน่”

รเณศกุมขมับเพราะจนใจเนื่องจากเขาเองก็ดันหักซิมทิ้งไปตั้งแต่ที่สนามบินเพราะเพื่อตัดปัญหาการถูกอดีตคนรักติดตาม

“พี่เนตรเข้าบ้านไปพร้อมกับพี่เขาก่อนเถอะครับ เดี๋ยวจะค่ำมืดเอา”

คนเมืองกรุงกัดริมฝีปากแน่น

“แน่ใจนะ ว่าหมอนั่น เอ่อ ไว้ใจได้”

จบประโยคนั้นเด็กหนุ่มถึงกับหัวเราะร่วน

“วางใจเถอะครับ ถ้าพี่เนตรไปกับพี่เขา รับรองว่าปลอดภัยหายห่วง พี่เขารู้จักมักคุ้นกับป้าอนงค์แกดี คนกันเองทั้งนั้น”

“เฮ้อ”

“อย่าคิดนานน่าพี่เนตร สารถีคนนี้มีแต่สาวๆ อยากซ้อนท้ายนะพี่”

เปลวหัวร่องอหาย



.


.


สุดท้ายแล้วรเณศก็ตกกระไดพลอยโจรมันนั่งเก้ๆ กังๆ อยู่ท้ายรถของชายแปลกหน้า

“จับดีๆ”

น้ำเสียงดุดันคุ้นหูดังขึ้น ตอนที่ใบหน้าภายใต้หมวกไอ้โม่งเอี้ยวตัวกลับมา ดวงตาสีดำสนิทเลื่อนมองมือทั้งสองข้างของเขาที่จับชายเสื้อพอเป็นพิธี

“ถ้าคุณหล่นลงไป ผมไม่วนกลับมาเก็บหรอกนะ”

ปากนี่แม่ง

รเณศค้อนให้แผ่นหลังกว้างเมื่อฝ่ายนั้นหันกลับไปจดจ้องกับถนนเบื้องหน้า คนเมืองกรุงจึงขยับเข้ามาใกล้แล้วผวากอดเอวอีกฝ่ายเมื่อรถเริ่มออกตัวจนเขากระตุก

“เฮ้ย”

คนเมืองร้องอุทาน

“โทษที เกียร์มันกระตุก”

คนซ้อนท้ายเบาะคงไม่รู้ท่าทางรังเกียจรังงอนไม่อยากโดยสารไปด้วยนั่นทำให้สารภีภายใต้หมวกไอ้โม่งนึกอยากแกล้ง

“ขับรถดีๆ สิคุณ”

นอกจากไม่ตอบโต้อะไรแล้วยังเพิ่มความเร็วของรถจนคนขี้กลัวขยับไปกอดเอวอีกฝ่ายแน่นพร้อมกับพึมพำด่าคนขับไปตลอดทาง จากเส้นทางถนนคอนกรีตที่มีตึกรามบ้านช่องจนถึงทางลาดยางที่บ้านเรือนเริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ มอ’ไซค์คลาสสิกถูกบังคับเลี้ยวไปตามถนนลูกรัง ฝุ่นที่ลอยคุ้งไปมาทำเอาเขาแอบเบ้หน้านั่นยังไม่เลวร้ายเท่ากับพื้นดินที่เป็นหลุมเป็นบ่อซ้ำดินยังเปียกแฉะ เวลารถขับผ่านทีล้อหลังจึงดีดเอาโคลนกระเด็กใส่แผ่นหลังคนซ้อนเต็มๆ

รเณศร้องอุทานอย่างตกใจเพราะรู้สึกชื้นที่แผ่นหลัง เขากล้ำกลืนกับความทุรกันดารนั่นอย่างจนใจเกือบชั่วโมงที่คนแปลกหน้าพาลัดเลาะไปตามเส้นทางเล็กๆ จนเจอเข้ากับทางลาดยางอีกครั้งและไม่นานก็พาเขาขับผ่านป้ายไม้สักอันใหญ่ที่เขียนว่า ‘ไร่ปลายดอย’ ก่อนจะมาหยุดที่บ้านเรือนไทยยกพื้นสูงหลังใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้

เสียงสุนัขที่เห่ากันเกรียวเสมือนร้องต้อนรับนั่นทำเอารเณศหน้าตื่น แต่ถ้าจะให้ทนนั่งกอดเอวสารถีตีนผีนี่ต่อไปก็ไม่ไหว เขาจึงกระโดดลงจากรถทันที

“ใครมากันล่ะนั่น”

น้ำเสียงห้วนของเจ้าบ้านดังขึ้นมาทำเอาบรรดาสัตว์สี่ขาพากันนอนหมอบพื้นเงียบกริบทั้งๆ ที่เจ้าของบ้านยังไม่ปรากฏตัวขึ้นด้วยซ้ำ รเณศแทบจะสะดุดลมหายใจเมื่อร่างท้วมของหญิงวัยกลางคนโผล่พ้นชานบ้านออกมา

“สวัสดีครับป้าอนงค์”

“อ้าวไปไหนมาล่ะผู้ช่วย”

ร่างท้วมแต่เดินอย่างคล่องแคล่วเดินลงบันไดเรือนมา รเณศยืนนิ่งจนกระทั่งเจ้าของบ้านเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า

“ใครกันล่ะเนี่ย”

“...”

เพราะมัวแต่ยืนอึ้งจึงไม่เห็นว่าคนแปลกหน้าถอดหมวกกันน็อคและหมวกไอ้โม่งออกแล้ว รเณศมัวแต่จ้องใบหน้าอวบอ้วนของเจ้าบ้าน

“คนที่ป้าอนงค์ส่งให้เจ้าเปลวไปรับน่ะครับ พอดีรถที่เปลวมันขับไปเสียกลางทาง ผมเลยแวะมาส่งคนให้ก่อน”

สารถีตอบแทนให้

“ป้าอนงค์”

รเณศพึมพำ ในอกสั่นระรัวด้วยความปิติเมื่อเจอกับญาติที่เหลืออยู่

“รเณศงั้นหรือ”

ฝ่ายนั้นก็ดูประหลาดใจไม่น้อยตอนที่สบตากับเขา ฝ่ายนั้นมองสำรวจรเณศเงียบๆ ก่อนจะยิ้มน้อยๆ

“ครับ”

เขายกมือไหว้อีกฝ่าย

“ขอบใจมากนะผู้ช่วยเพลิงที่มีน้ำใจมาส่ง”

‘เพลิง’

หมอนั่นชื่อเพลิง รเณศหันกลับไปมองเจ้าของมอ’ไซค์ ใบหน้าคมคายตรงหน้าทำเอารเณศยืนอึ้งตัวชา

‘ผมไม่รู้คุณตรวจเลือดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ยังไงก็หาเวลาไปตรวจบ้างนะ รักสนุกแบบคุณน่ะมันเสี่ยงติดโรคทางเพศสัมพันธ์’

ผู้ชายที่ผับคืนนั้น

“คุณ”

รเณศครางออกมาด้วยท่าทางตื่นตะลึง

“รู้จักกันงั้นหรือ”

ป้าอนงค์ถาม

“ไม่ครับ”

รเณศส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่ใช่ปฏิเสธว่าไม่รู้จักคนตรงหน้า แต่เขากำลังปฏิเสธว่าครั้งหนึ่งเคยทำตัวน่ารังเกียจแค่ไหนให้ผู้ชายตรงหน้าได้เห็นด้านที่เลวร้ายของตัวเอง

“อ้าวแล้วนั่นเสื้อทำไมเปื้อนแบบนั้น”

“ทางไม่ค่อยดีน่ะครับ โคลนเลยกระเด็นใส่หลัง”

“หือ?” ป้าอนงค์ทำหน้าสงสัย “ทางลาดยางมีโคลนด้วยหรือ”

รเณศหันขวับไปหาสารถีหน้านิ่งทันที

“เมื่อคืนฝนตก เห็นชาวบ้านบอกว่าทางหลักถนนขาด ผมเลยพามาทางลูกรังที่เป็นทางลัดครับ”

“ทางขาดอะไรกัน ก็ปกติดีนี่”

“อ้าวเหรอครับ งั้นผมคงเข้าใจผิด”

ฝ่ายนั้นตอบเสียงเรียบแต่แววตาไหวระริกราวกับขบขันที่เห็นรเณศยืนโกรธจนหน้าดำหน้าแดง

รเณศถูกแกล้ง!

“ช่างเถอะ ยังไงก็ต้องขอบคุณผู้ช่วยมากที่มีน้ำใจมาส่งหลานให้ป้า คนกันเองทั้งนั้นรู้จักกันไว้สิ” ป้าอนงค์มองหน้าเขาสลับกับผู้ชายคนนั้น

“นี่ผู้ช่วย คนนี้รเณศหลานป้าเอง”

ฝ่ายนั้นพยักหน้างึกหงักก่อนจะกดยิ้มมุมปากเมื่อเห็นเขาพยายามถอดเสื้อคลุมที่เปื้อนโคลนด้านหลังอย่างเอาเป็นเอาตาย

“รเณศ”

“ครับ”

“รู้จักกันไว้สิ เจ้าของมอ’ไซค์ที่มีน้ำใจมาส่งเราถึงที่ นี่คือผู้ช่วยเพลิง ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานดอยห่มรัก”

ผู้ชายตรงหน้านี้จะเป็นใครก็ช่าง แต่นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเขาคือศัตรูของรเณศ


☘☘☘☘



พบคนขี้แกล้งแถวนี้ 1 อัตรา ฮ่าๆๆ
หวีดในทวิตรบกวนติดแท็ค #ป่าห่มรัก ให้ด้วยเด้อ

หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [02] #ป่าห่มรัก [21.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-01-2019 21:38:56
เจอรับน้องเสียแล้วเนตร
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [02] #ป่าห่มรัก [21.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 21-01-2019 22:10:40
งุ้ยรอตอนต่อไปค่ะจะรออ่านว่าคนขี้แกล้งจะแกล้งอะไรน้องเนตรอีก :mew1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [02] #ป่าห่มรัก [21.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 21-01-2019 23:12:35
ทั้งรักทั้งเกลียดหรือเปล่าน้องเนตร  :mew4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [02] #ป่าห่มรัก [21.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 22-01-2019 00:30:31
 :3123: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [02] #ป่าห่มรัก [21.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 22-01-2019 00:34:40
 โลกกลมจังเลย เนตรเพิ่งจะมาถึงก็โดนแกล้งซะแล้ว จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [02] #ป่าห่มรัก [21.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 22-01-2019 07:33:16
เจอรับน้องเลย จัดหนักคือเลยคะน้องเนตร  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [02] #ป่าห่มรัก [21.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 22-01-2019 15:18:38
อบอุ่นนน :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [02] #ป่าห่มรัก [21.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 22-01-2019 16:46:01
เราต้องแก้แค้นนะน้องเนตร อย่าไปยอม :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [02] #ป่าห่มรัก [21.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 22-01-2019 17:58:56
 :hao7:ปักหมุดรอคนขี้แกล้งแล้วคนโดนแกล้งที่น่ารัก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [02] #ป่าห่มรัก [21.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 22-01-2019 18:00:08
คนขี้แกล้ง เนตรอย่าไปยอมมมม  แก้แค้นกันไปมาเดี๋ยวก็รักกันนน  :laugh:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [02] #ป่าห่มรัก [21.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 22-01-2019 23:54:36
ไปแกล้งเขาอีกคุณผู้ช่วย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [02] #ป่าห่มรัก [21.1.62] Update
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-01-2019 09:42:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [03] #ป่าห่มรัก [28.1.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 28-01-2019 20:53:38
[ 03 ]

แสงสุดท้ายของวันซึ่งกำลังจะลับขอบฟ้าไปนั่นพาให้อุณหภูมิรอบกายค่อยลดต่ำลง ฝูงนกพากันบินกลับเข้ารังเป็นฝูงใหญ่ เสียงใบไม้ไหวตามแรงลมนั่นบ่งบอกว่าลมหนาวต้นฤดูกำลังจะมาเยือนในไม่ช้า นัยน์ตาคู่คมกวาดตามองไปยังลำธารใกล้ๆ แล้วเผลอยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงตอนที่มาที่นี่ใหม่ๆ แล้วถูกบรรดาลูกน้องและเพื่อนร่วมงานแกล้งให้มาอาบน้ำที่เย็นจัดในลำธาร ตอนนั้นปลาน้อยใหญ่พากันแหวกว่ายเต็มไปหมด ต่างจากวันนี้ที่ความสมบูรณ์ทางธรรมชาติเริ่มถดถอยเพราะฝีมือมนุษย์

ความอุสมสมบูรณ์ของดอยห่มรักแปรผันไปตามน้ำเงินของผู้มีอิทธิพล

เพลิงถอนหายใจแรงๆ ก่อนสะบัดศีรษะไล่ความคิดกังวลจากภาระงานอันหนักหน่วงให้หลุดพ้นออกไปจากความนึกคิด จังหวะนั้นเสียงอลูมิเนียมกระทบกันก็ดังขึ้นสลับกับเสียงหัวเราะชอบใจของชายวัยดึกสองคนดังมาจากข้างบ้านพัก

เพลิงมุ่นหัวก่อนจะสาวเท้าไปยังที่มาของเสียง เย็นๆ แบบนี้นอกจากเจ้าหน้าที่ซึ่งพักอยู่บริเวณที่พักในอุทยานก็ไม่มีใครหรอก ชายหนุ่มกวาดตามองไปตามอาคารลักษณะคล้ายห้องแถวกึ่งไม้กึ่งปูนชั้นเดียวในสภาพที่ค่อนข้างเก่าแล้ว ชายคาด้านข้างทำยื่นเกาะออกไปเป็นพื้นที่ครัวขนาดเล็ก

สภาพที่เห็นนั่นชินตาสำหรับคนมองแล้ว แต่หากคนนอกมาเห็นคงคาดไม่ถึงหรอกว่านี่คือที่อยู่ที่กินของเจ้าหน้าที่ป่าไม้นับสิบๆ นาย เคยมีคนพูดว่าบ้านของพวกเราใหญ่โตเพราะกินพื้นที่ป่าไม้หลายร้อยล้านไร่ แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าหน้าที่คนหนึ่งต้องรับผิดชอบพื้นที่เกินสองแสนไร่ต่อคน ภาระนั้นว่าหนักหนาแล้ว แต่ความเป็นอยู่และสวัสดิการที่ได้รับมาหนักหนายิ่งกว่า

ถึงจะหนักแต่ไม่มีใครปริปากบ่น ตรงกันข้ามยังคงรับสภาพและยิ้มรับทุกๆ วันเฉกเช่นชายวัยกลางคนสองคนตรงหน้านี้

“อ้าวผู้ช่วย” ‘ลุงแสวง’ พนักงานจ้างประจำที่อุทยานกวักมือเรียกเขาไหวๆ “ผมทำน้ำพริกปลาทูครับ มีผักลวกง่ายๆ กับไข่ต้ม”

“ตามสบายครับลุง”

“มาเถอะผู้ช่วยกินข้าวด้วยกัน”

คราวนี้ ‘ลุงปอธี’ พรานป่าที่รู้จักมักคุ้นกันดีรีบเอ่ยชวนอีกแรง

“วันนี้ไม่มีคนอยู่หรอกครับ กลับบ้านไปบ้านส่วน ที่เหลือก็ไปงานศพไอ้ศักดิ์มัน”

เพลิงถอนหายใจเพราะก่อนหน้านี้กะว่าจะผลัดผ้าไปงานศพของลูกน้องคนนี้เหมือนกัน ‘ศักดิ์’ เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่สายตรวจที่ออกลาดตระเวนพื้นที่ป่าในเขตอุทยานด้วยกันเมื่อเดือนก่อน แต่โชคร้ายที่ตอนออกจากป่าดันโดนไข้ป่าเล่นงาน ทำให้ป่วยซมอยู่หลายวันก่อนจะเสียชีวิต แน่นอนว่าครอบครัวศักดิ์ที่ขาดเสาหลักของบ้านน่าสงสารจนเพลิงนึกเวทนา

“ผมก็จะไปงานศักดิ์เหมือนกันครับ”

“งั้นมากินข้าวด้วยกันก่อนผู้ช่วย”

สุดท้ายเพลิงทนรบเร้าไม่ไหว ชายหนุ่มเลยเดินกลับไปที่พักเพื่อเอาของกินและของแห้งสารพัดสิ่งที่ป้าวดีบังคับให้นำกลับมาด้วยเพื่อแบ่งคนมีน้ำใจชวนกินข้าว บ้านพักของเพลิงตั้งอยู่ห่างจากบ้านพักเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ อันที่จริงบ้านพักของเขาเมื่อก่อนถูกเรียกว่า ‘กระท่อมท้ายป่า’ ด้วยเพราะมันเป็นบ้านไม้คร่ำครึที่จะพังแหล่ไม่พังแหล่ดีว่ามีพื้นที่พอใช้เป็นห้องครัวขนาดย่อมๆ ให้พอหุงหาอาหารได้ง่ายๆ และมีห้องน้ำให้ในตัว เรือนไม้ขนาดย่อมนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ตัวโตๆ อย่างเขานอนคนเดียว เพลิงซ่อมแซมประตูหน้าต่างและหาเตียงมือสองมาตั้งพร้อมกับมุ้งสี่สาย บ้านพักผู้ชายดิบๆ อย่างเขาจึงไม่มีของมีค่าอะไรนอกจากกรอบรูปของแม่ที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง จะเรียกซอมซ่อคงไม่ผิด แต่เขากลับชอบเพราะบ้านหลังดังกล่าวอยู่ใกล้ลำธาร ตอนกลางคืนได้ยินเสียงน้ำไหลคล้ายเสียงดนตรีกล่อมนอน

“หอบหิ้วอะไรมาเยอะแยะล่ะผู้ช่วย”

ลุงแสวงกุลีกุจอมาช่วยหิ้วของกินในมือ

“หมูฝอย ไข่เค็มกับไส้อั่วครับ”

“เยอะขนาดนี้จะกินยังไงไหวล่ะ”

“เอาไปแบ่งๆ กันครับลุง” เพลิงทรุดลงนั่งขัดสมาธิใกล้ๆ กับพรานปอธีทันเห็นแกกำลังซดกาแฟเสียงดังโฮกด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย

“กาแฟทรีอินวันนี่มันรสชาติถูกปากลุงจริงๆ ผู้ช่วย”

เพลิงยิ้มขันเพราะเห็นท่าทางคนพูดดูจะถูกปากดังว่า

“เดี๋ยวยังไงก่อนกลับเข้าหมู่บ้านลุงแวะไปเอาไอ้กาแฟนี่ที่บ้านพักผมนะครับ ไปกรุงเทพฯ ครั้งนี้ได้มาเยอะเลย”

ป้าวดีนั่นแหละแพ็คใส่กล่องมาให้อย่างดี แต่เพลิงดันกินแต่กาแฟดำ ไอ้พวกทรีอินวันอะไรนี่ดูเหมือนจะไม่ถูกโรคกัน

“แหมเสียดายวันนี้ไอ้เต็งมันกลับหมู่บ้าน ไม่อย่างนั้นคงมีกับแกล้มกินกับข้าวสักหน่อย”

พรานป่าถูมือไปมาตอนที่พูดถึงหลายชายซึ่งเป็นลูกจ้างในอุทยาน นั่นแหละเพลิงถึงได้สังเกตว่าวันนี้มันเงียบผิดปกติเพราะเจ้าเด็กนั่นกลับบ้านนี่เอง เจ้าเต็งหลานลุงปอธีเป็นเด็กหนุ่มที่แกเอามาฝากทำงานด้วย ท่าทางขยันแต่ซุกซนไปตามเรื่องประสานั่นแหละ เจ้านั่นชอบหาเมนูพิสดารมาให้ลิ้มลองเป็นประจำซึ่งทำให้เพลิงนึกขยาดอยู่บ่อยหลัง ก็แน่ล่ะสิทั้งต้มยำงูหรือกระปอมทอดนั่นมันน่ากินซะที่ไหนกันเล่า

“พรุ่งนี้คงมาแล้วมั้ง เห็นว่าไปรับนังเนียงรอไปสมัครเรียนในเมืองไม่ใช่เรอะ”

ลุงแสวงเอ่ยขึ้น ขณะเพลิงนั่งรับฟังเงียบๆ

“เห็นว่าอย่างนั้นนะ พรุ่งนี้มันจะพาน้องสาวไปในเมือง กว่าจะกลับก็คงค่ำ” ท้ายประโยคพรานปอธีหันมาทางเขา “อาจจะต้องให้เนียงรอมันนอนที่บ้านพักกับไอ้เต็งสักคืนนะผู้ช่วย มะรือมันคงกลับกันแต่เช้า”

แกเอ่ยปากขออนุญาตเพราะรู้ดีว่าบ้านพักเจ้าหน้าที่นั้นคนนอกไม่ควรเข้ามายุ่งย่าม

“ครับ ถ้าไม่สะดวกยังไงไปนอนบ้านพักผมก็ได้ เพราะบ้านพักเจ้าหน้าที่ติดๆ กัน มันมีแต่ผู้ชาย เผื่อหลานสาวลุงไม่สะดวกใจ”

แกยิ้มเผล่แววตาวิบวับตอนที่สบตากันนั่นทำเอาเพลิงเกือบสำลักข้าว

“เอ่อ ผมหมายถึงเดี๋ยวผมมานอนห้องเจ้าเต็ง ส่วนบ้านผมให้เต็งอยู่กับเนียงรอ”

“ผู้ช่วยจะอยู่บ้านเดียวกับหลานสาวผม ผมก็ไม่ว่าหรอกครับ”

แกสัพยอกเข้าให้เล่นเอาลุงแสวงหัวเราะครืนๆ ขณะที่เพลิงแค่ส่ายหัวยิ้มๆ หมัดนี่ของลุงปอธีเล่นฮุกเต็มแรงขืนเพลิงเล่นด้วยคงไม่แคล้วได้ถูกจับคู่ตามที่แกคาดหวังเอาไว้ เพลิงพอจะรู้ว่าหลานสาวแกคิดยังไงกับตนเอง ก็ตามประสาเด็กสาวที่เริ่มแตกเนื้อสาวนั่นแหละ ยิ่งผู้เป็นลุงเปิดทางให้เต็มที่ขนาดนี้หากเพลิงเล่นด้วยคงเข้าทางกัน แค่แย็บๆ ทุกครั้งที่เอ่ยถึงเด็กสาววัยสิบห้านั่นเพลิงก็ปวดหัวแล้ว เอาจริงเขาไม่ได้ปิดกั้นหัวใจตัวเองหรอก แต่จะให้เลี้ยงต้อยเด็กสาวมันคงกระอักกระอ่วนใจน่าดู

“ผมยังไม่อยากติดคุกข้อหาพรากผู้เยาว์น่ะสิครับ”

“ถ้าเด็กยินยอมล่ะผู้ช่วย”

ลุงแสวงเอ่ยแซว เพลิงถึงกับส่ายหน้าหวือ

“แค่ลาดตระเวนในป่าก็เหนื่อยแล้วลุง” เพลิงพูดยิ้มๆ “แล้วอีกอย่างนะ ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนอยากจะฝากชีวิตไว้ที่ผมกันเล่า ชีวิตแบบนี้มันไม่ได้สะดวกสบายอะไรนักหรอกจริงมั้ยลุง”

ลุงแสวงยิ้มจางๆ ต่างจากแววตาที่อ่อนแสงลง

“นั่นสินะ จะมีผู้หญิงดีๆ ที่ไหนยอมจมปลักกับคนที่ดูแลครอบครัวไม่ได้” แกพึมพำ “อยู่เป็นโสดตัวคนเดียวอย่างผู้ช่วย ผมว่าโชคดีแล้ว”

เพลิงถอนหายใจแรงๆ ตอนที่พิจารณาใบหน้าลุงแสวง ก่อนหน้านี้แกเคยเล่าให้ฟังว่าสมัยหนุ่มๆ แต่งงานกับเมียจนมีลูกกันสองคน แต่เมียแกทนกับภาระงานของแกไม่ไหว ก็อาชีพผู้พิทักษ์ป่าเวลาไปลาดตระเวนทีหายไปเกือบอาทิตย์ บางทีเป็นเดือนถึงจะได้กลับบ้านไปเจอหน้าลูกเมีย แน่นอนว่าคนเป็นเมียย่อมกังวลและว้าเหว่เมื่อเสาหลักหายไปนานขนาดนั้น และคงไม่ผิดอะไร หากเธอจะตัดสินใจขอเลิกราพร้อมกับหอบลูกสองคนไปเริ่มต้นชีวิตใหม่

นับแต่นั้นมาแกจึงอยู่ตัวคนเดียว หัวหน้าของเพลิงบอกว่าลุงแสวงแกทำงานที่อุทยานตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ จนใกล้วัยเกษียณในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ตั้งแต่เพลิงมาทำงานที่นี่ยังไม่เคยพบหน้าคาตาลูกกับเมียของแกสักที เห็นเจ้าหน้าที่คนอื่นบอกว่านานๆ ลูกสาวทั้งสองคนจะแวะมาเยี่ยมเยียนสักที นั่นคงทำให้คนสูงอายุเหงาไม่น้อย

แวบหนึ่งเขานึกถึงคนรักที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่สุดท้ายเธอก็ขอเลิกราเพราะทนไม่ไหวกับความยากลำบากที่เราต้องเผชิญ ก็สมควรที่เธอเลือกจากไป เพลิงไม่เคยนึกโกรธอดีตคนรัก ตรงกันข้าม เขาดีใจกับเธอด้วยซ้ำที่เธอเลือกสิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง ในเมื่อเขาเองก็ยอมรับว่าดูแลเธอได้ไม่ดีก็สมควรที่จะปล่อยให้เธอเจอกับคนดีๆ ที่สามารถดูแลและฝากชีวิตได้

“งั้นฉลองให้กับคนโสดอย่างเราๆ กันหน่อยครับ” ลุงปอธีพรานสันโดษยกแก้วพลาสติกใส่น้ำขึ้นชูหมายจะทำให้ลุงแสวงเพื่อนรักของแกลดความเศร้าหมองในใจ

“แหมชีวิตโสดนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง”

ลุงแสวงค่อยยิ้มออก

“เกิดมาคนเดียว ถ้าจะตายคนเดียว มันจะแปลกอะไรเล่า”

เพลิงคิดตามคำพูดของพรานป่า นั่นเป็นสัจธรรมของมนุษย์ ถึงเราจะเกิดมาจากครอบครัวที่เพียบพร้อมมากแค่ไหน วาระสุดท้ายของชีวิตย่อมจากไปตัวคนเดียว แม้แต่เสื้อผ้า อาหารหรือทรัพย์สินเงินทองกองเท่าภูเขาก็เอาไปไม่ได้ ชีวิตเขาเองคงเป็นอย่างนั้น การอยู่ตัวคนเดียวไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหา ป้าวดีกับลุงทัศน์ก็มีธามดูแล ซ้ำมารดาผู้ให้กำเนิดเขาก็ล่วงลับไปนานแล้ว ส่วนบิดา...

คิดมาตรงนี้ใบหน้าผ่อนคลายของเพลิงก็เครียดขมึงขึ้นมาทันที พาลให้นึกถึงธุระที่ไปจัดการเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ธุระซึ่งเกี่ยวข้องกับบิดาผู้ให้กำเนิดที่เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยว

‘บ้านพร้อมที่ดินนั่นเป็นของแก’

บทสนทนาในวันนั้นสว่างขึ้นในหัว

มารดาของเพลิงเป็นภรรยารองของผู้ดีมีอันจะกิน ครอบครัวทางบิดาเพลิงเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมชั้นสูง แน่นอนว่าการที่มีแม่และเพลิงเข้ามาเป็นส่วนเกินย่อมไม่เป็นที่ยอมรับ ตั้งแต่เด็กจนโตเพลิงอาศัยอยู่กับแม่ที่บ้านหลังหนึ่งแถบปริมณฑล โดยที่นานๆ ครั้งบิดาจะแวะมาเยี่ยมสักที เพลิงแอบเห็นแม่ร้องไห้แทบทุกวัน แม่ทนทุกข์ทรมานกับความรู้สึกนั้นจนกระทั่งเพลิงสอบเข้ามหาวิทยาลัย เธอก็จากไปเพราะโรคร้าย 

ตั้งแต่นั้นเพลิงจึงเข้าไปอยู่ในความอุปการะของลุงกับป้า ถึงแม้บิดาจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ค้านอำนาจของบ้านใหญ่ไม่ได้ จนกระทั่งวันหนึ่งท่านจากไปอย่างกะทันหันเพราะโรคส่วนตัว เพลิงไม่คิดหวังจะได้อะไรจากบิดาหรอก เพราะระหว่างเขากับพ่อมันห่างเหินกันมาก เพลิงเป็นคนหัวดื้อและชอบต่อต้านบิดา ไม่เหมือนพี่ชายต่างมารดาที่เกิดจากภรรยาหลวงซึ่งทำทุกอย่างได้อย่างใจ เมื่อสิ้นบุญบิดาแล้วสายสัมพันธ์ของเพลิงกับครอบครัวทางบิดาก็ขาดลง ซึ่งมันไม่ได้ต่างจากที่แล้วมาหรอก ในเมื่อเพลิงรู้ตัวดีว่าเขาไร้ตัวต้นสำหรับคนที่นั่นมานานแล้ว

จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ทนายความประจำตระกูลติดต่อมาว่าพี่ชายต่างมารดาอยากให้เพลิงไปพบ เพราะก่อนตายบิดาระบุในพินัยกรรมว่าบ้านซึ่งเพลิงอาศัยอยู่ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งแม่เสียตกเป็นของเขา การเข้ากรุงเทพฯ เมื่อสัปดาห์ก่อนจึงเป็นการพบเจอกับพี่ชายต่างมารดาในรอบหลายสิบปี

‘บ้านและที่ดินนั่นเป็นของแก’

‘ผมไม่รับ’


ฝ่ายนั้นมองเขาหัวจรดเท้าแล้วแค่นยิ้ม เพลิงรู้ดีว่าฝ่ายนั้นชังน้ำหน้าเขาไม่น้อย ในเมื่อเขาคือผลผลิตที่เป็นหนามยอกอกทิ่มแทงใจภรรยาหลวงของพ่อ แน่นอนว่าเพลิงเองก็ไม่อยากต่อปากต่อคำด้วยหลังจากคุยกันไปสักพัก จะเรียกว่าคุยคงไม่ถูกนัก เรียกว่านั่งฟังฝ่ายนั้นเย้ยหยันน่าจะถูกกว่า

‘ฉันกำลังจะแต่งงาน’

‘...’

‘แค่บอกให้แกรับรู้ไว้เฉยๆ แต่ฉันไม่เชิญแกหรอกนะ เจ้าสาวฉันเป็นเขาลูกผู้ดีเก่า เขาคงไม่ยินดีถ้าหากลูกนอกสมรสของพ่อจะมาร่วมงาน’


ตอนนั้นเพลิงรับฟังเฉยๆ ทั้งที่ในใจอดนึกถึงผู้ชายหน้าร่างสูงโปร่งคนหนึ่งไม่ได้ ผู้ชายที่อยู่เคียงข้างพี่ชายต่างมารดา เมื่อหลายปีก่อนตอนงานศพบิดา เพลิงบังเอิญไปแอบเห็นพี่ชายต่างมารดากับหนุ่มน้อยหน้ามนคนหนึ่ง คราแรกเขาเข้าใจว่าทั้งคู่คงเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน ถ้าหากว่าเพลิงไม่บังเอิญไปเห็นความสนิทสนมของทั้งคู่ที่ดูเกินเลยระหว่างพี่น้อง

แน่นอนว่าครอบครัวบิดาไม่มีใครรู้ว่าพี่ชายต่างมารดามีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน และก็ไม่ใช่เรื่องของเพลิงที่จะป่าวประกาศไปทั่ว เขาจึงผ่านเลยเหตุการณ์นั้นไป ถ้าหากว่าเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนจะไม่พบเจอคนของพี่ชายต่างมารดาในสภาพเมามาย

‘นอนกับผมมั้ย’

ถ้าให้เดาสาเหตุนั้นคงมาจากการที่พี่ชายต่างมารดาจะแต่งงาน แวบหนึ่งเพลิงนึกเวทนาคนถูกกระทำ การกระทำไร้สติของคนเมานั่นทำให้เขานึกสงสารนัยน์ตากลมโตที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา สีหน้าท้อแท้สิ้นหวังนั่นเขายังจำได้ไม่ลืม

แต่อย่างไรก็ช่าง นั่นก็ไม่ใช่เรื่องของเพลิงอยู่ดี เขาไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นพอๆ กับที่รักความสันโดษดังนั้นคำตอบที่เพลิงกล่าวแก่พี่ชายต่างมารดาในวันนั้นก่อนจากกันคือ

‘วางใจเถอะ ผมไม่เคยคิดจะยุ่งเกี่ยวกับคุณและครอบครัวอันสูงส่งของคุณเลยสักครั้ง คุณเตวิช’


☘☘☘☘

“เป็นเรื่องจริงงั้นหรือ”

รเณศพยักหน้าน้อยๆ ป้าอนงค์ทรุดตัวนั่งยกมือตบอกตกใจหลังที่เขาเล่าให้ฟังว่าพ่อกับแม่ประสบอุบัติเหตุจากเขาไปหลายปี ร่างท้วมของหญิงวัยกลางคนนิ่งไปพักใหญ่ๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ

“เสียดาย”

แกพึมพำ

“ตาแกน่ะ เขารอนงนุชกลับมาตลอด ก่อนที่ตาจะเสีย เขาบอกว่ารู้สึกผิดที่กีดกันพ่อกับแม่เราจนทั้งคู่หนีไปแบบนั้น”

รเณศน้ำตาซึม

“ไม่นึกเลยว่านงนุชกับประวิทย์จะจากไปหลายปีแล้ว” ป้าอนงค์เสียงสั่น “ตอนที่นุชมันหนีไปสี่ห้าปีแรกมันก็เขียนจดหมายมาหาฉันอยู่หรอก แต่ตอนนั้นตาแกยังโกรธมันอยู่ ฉันเลยไม่ได้บอกใคร เพราะกลัวตาแกตามไปเอาเรื่องประวิทย์มัน ฉันเลยซ่อนจดหมายนั่นไว้ สงสัยว่าซ่อนดีเกินไปถึงหาไม่เจอสักที ฉันเลยขาดการติดต่อแม่แกไป จนกระทั่งตาเสียเมื่อหลายเดือนก่อนนั่นแหละ ถึงได้เจอกับจดหมายนั่น ฉันเลยรีบเขียนไปหามันเพราะก่อนเสียตาแกเขาแบ่งทรัพย์สินส่วนที่เป็นของนังนุชเอาไว้ให้ แกคงสำนึกผิดที่ทำให้นุชมันจากไปแบบนั้น”

“ผมขอโทษแทนพ่อกับแม่ด้วยครับ”

“ไฮ้!”

ป้าแกโบกมือไหวๆ

“มันเป็นเรื่องของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ แกจะเกี่ยวอะไรล่ะ เรื่องมันก็แล้วไปแล้ว ยิ่งตอนนี้ทั้งพ่อทั้งแม่และตาแกก็จากไปหมดแล้ว จะเหลือแต่คนที่อยู่นี่แหละว่าจะเอายังไง”

รเณศส่ายหัวไปมาเพราะไม่รู้เหมือนกันว่าจะจัดการกับชีวิตของตัวเองต่อจากนี้ยังไง

“เอาเถอะ แกมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วมากินข้าว พักให้สบายก่อนถ้าสะดวกวันไหน ฉันจะพาไปเซ็นรับมรดกในส่วนของแม่แก ว่าแต่แกลางานมากี่วันล่ะ แล้วจะกลับวันไหน”

“ป้าครับ”

ป้าอนงค์ทำหน้างงๆ เมื่อเห็นสีหน้าประหลาดของรเณศ

“ถ้าผมจะขออยู่...” ริมฝีปากบางเม้มแน่น “ถ้าผมจะขออยู่ด้วย”

“หือ?”

“ขอผมอยู่ด้วยได้มั้ยครับ”

ป้าอนงค์มุ่นหัวคิ้ว

“แล้วงานการแกล่ะ”

รเณศหลุบตามองพื้นท่าทางอึดอัดใจนั่นทำให้คนที่ผ่านโลกมาก่อนพอจะเข้าใจอะไรได้รางๆ

“เอาเถอะ เรื่องนั้นค่อยว่ากัน ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไป”

“ครับ”

.

.

ไร่ปลายดอยของตากินพื้นที่ราวๆ ห้าสิบกว่าไร่ เป็นพื้นที่เกษตรแบบผสมผสานส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นไร่ผลไม้ขนาดใหญ่ ป้าอนงค์เล่าว่าที่ดินนี่เป็นของบรรพบุรุษมาแต่เก่าก่อน ลูกหลานจึงทำเกษตรกันมาตลอด หลังจากกินข้าวเย็นเรียบร้อยแล้วรเณศก็ถูกเจ้าของบ้านไล่ให้ไปนอนพักผ่อน อีกอย่างเย็นนั้นป้าอนงค์แกบอกว่าจะไปงานศพของคนรู้จักในหมู่บ้าน

รเณศงีบหลับไปด้วยความเพลียจากการเดินทางตอนหัวค่ำก่อนจะสะดุ้งตื่นเพราะเสียงร้องไห้โยเยของเด็กน้อยฟังแล้วคล้ายกับว่าต้นกำเนิดเสียงจะอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เกือบสามทุ่มตอนที่เขางัวเงียผุดลุกขึ้นมาออกจากห้องมาหยุดยืนอยู่กลางบ้านซึ่งเป็นชานไม้เปิดโล่ง แสงไฟสลัวบวกกับเสียงจิ้งหรีดร้องกันระงมนั่นบ่งบอกว่าที่นี่อยู่ห่างไกลจากตึกระฟ้าสูงใหญ่ที่เขาเคยอาศัย

ร่างสูงโปร่งเงยหน้ามองท้องฟ้า แสงดาวระยิบระยับนั่นชวนมอง หากอยู่ในเมืองใหญ่คงยากที่จะมองเห็นดวงดาว แต่บัดนี้ในถิ่นที่ห่างไกลความเจริญเขากลับมองเห็นดวงดาวนั่นได้เต็มตา

‘นั่นดาวตก พี่เตดูสิ ดาวตก ตื่นเต้นจัง’

‘อะไรกันเล่าก็แค่ดาวตก’

‘หยุดพูดไปเลย เนตรจะหลับตาอธิษฐานขอพร’

‘...’

‘เนตรขออะไรเหรอ’

‘ไม่บอกหรอก’

‘โธ่เนตร บอกพี่เถอะน่า

‘ฮื่อ ผมขอให้พี่เตพาเนตรมาดูฝนดาวตกอีก’

‘มักน้อยจริงเรา’

เปล่าหรอก

รเณศไม่ได้มักน้อยแต่รู้ว่าสิ่งที่คาดหวังในตอนนั้นมันเป็นไปไม่ได้ต่างหาก เพราะหากเขาขอได้ เขาก็ขอให้

“ขอยืนเคียงข้างพี่เตในฐานะคนรักได้มั้ย”

ไม่ได้!

และไม่มีทางเป็นจริงได้

รเณศหลับตานิ่งปล่อยน้ำตาให้ไหลริน

“แงๆๆ”

เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยดังขึ้นอีกครั้ง เขาจึงรีบปาดน้ำตาลวกๆ มองซ้ายมองขวาแล้วนึกระแวดระวังเพราะบนเรือนนี้นอกจากป้าอนงค์ที่ไปงานศพก็มีแค่รเณศคนเดียวเท่านั้น ชายหนุ่มยืนเงี่ยหูฟังเสียงร้องไห้ได้พักหนึ่งก่อนจะได้คำตอบว่าเสียงนั้นมันดังมาจากบริเวณใต้ถุนบ้าน

ใจหนึ่งก็กลัว อีกใจก็นึกสงสัยแต่ดูเหมือนว่าความรู้สึกฝ่ายหลังจะมีอิทธิพลมากกว่า เขาจึงตัดสินใจถือไฟฉายติดตัวลงมาหนึ่งกระบอก บริเวณใต้ถุนบ้านเยื้องไปด้านหลังนั่นป้าอนงค์บอกว่าเป็นห้องพักของ ‘ป้าสมัย’ คนสนิทของป้าอนงค์ที่ทำงานกับตามาตั้งแต่สมัยแกสาวๆ และป้าสมัยคนนี้ยังเป็นป้าแท้ๆ ของเจ้าเปลวเด็กหนุ่มสารถีของรเณศวันนี้อีกด้วย

เขาเดินมาเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่หน้าห้องป้าสมัย ก่อนจะแน่ใจว่าเสียงร้องไห้ของเด็กน้อยดังมาจากที่นี่แน่นอน หลังจากเคาะประตูอยู่นานไม่มีคนเปิด รเณศเลยถือวิสาสะผลักประตูบานไม้เข้าไปเบาๆ ก่อนจะยืนตะลึงเมื่อเห็นทารกวัยแบเบาะในชุดนอนเนื้อนิ่มกำลังนอนดิ้นแผดเสียงร้องไห้อยู่กลางเตียง

“ชูว์!”

รเณศตรงเข้าไปช้อนตัวเด็กน้อยก่อนจะค่อยประคองศีรษะอย่างแผ่วเบาขึ้นแล้วจับโยกตัวไปมา ไม่นานเด็กน้อยก็เงียบเสียงลง คนต่างถิ่นอมยิ้มอย่างพอใจ

รเณศชอบเด็ก

เขาเคยมีความฝันว่าอยากมีลูก แต่เพราะรสนิยมทางเพศเป็นแบบนี้ เรื่องจะสร้างครอบครัวจนมีลูกเป็นของตัวเองจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ยิ่งตอนที่คบหากับเตวิชเขาเคยเกริ่นว่าอยากจะรับเลี้ยงเด็กสักคน แต่อดีตคนรักรุ่นพี่ไม่ชอบเด็ก ซ้ำความสัมพันธ์ที่หลบๆ ซ่อนๆ แบบนั้นเขาคงไม่มีปัญหารับผิดชอบชีวิตน้อยๆ สักเท่าไหร่

“อ้าวคุณ”

ป้าสมัยเจ้าของห้องทำหน้างงที่เห็นรเณศอุ้มทารกน้อยอยู่กลางห้อง

“เอ่อ ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ” เขาก้มศีรษะลงเป็นเชิงขอโทษ “พอดีผมได้ยินเสียงเด็กร้องไห้เลยเดินมาดู”

“ไม่เป็นไรจ๊ะคุณ”

ป้าแกยิ้มกว้างจนเห็นฟันหลอ “ท่าทางคุณเลี้ยงเด็กคล่องนะจ๊ะ ดูสิแก้มใสเงียบเสียงเชียว เมื่อกี้แหกปากร้องเสียงดังลั่น แต่พอดีป้าเก็บของอยู่ในครัว”

“ชื่อแก้มใสเหรอครับ”

รเณศเขี่ยแก้มสีแดงก่ำเป็นลูกมะเขือเทศแล้วนึกเอ็นดู ยิ่งดวงตาใสแจ๋วจ้องมองกันแบบนั้น เขายิ่งนึกเอ็นดูเข้าไปใหญ่

“ใช่จ๊ะ ลูกสาวเจ้าเปลวมัน”

“หือ?”

รเณศทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเพราะให้เดาอายุของเปลวแล้วไม่น่าจะถึงยี่สิบปีด้วยซ้ำ เด็กขนาดนั้นมีลูกแล้วหรือนี่ ป้าสมัยหัวเราะร่วนเมื่อรเณศทำหน้านิ่ว

“มันทำสาวท้องตั้งแต่ม.ปลายแล้วคุณ” แกพูดยิ้มๆ แต่สีหน้าดูไม่สดใสนัก “เด็กผู้หญิงนั่นก็สิบเจ็ดเห็นจะได้ เกิดชอบพอกัน ก็ลักลอบคบหา สุดท้องก็ท้องโต ไอ้เปลวเลยต้องออกจากโรงเรียนมาหางานทำเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย แต่เคราะห์ซ้ำ พอคลอดแล้วนังผู้หญิงมันก็ทิ้งไปตั้งแต่แก้มใสมันยังไม่ถึงสามเดือนเลยด้วยซ้ำ”

รเณศถอนหายใจแรงๆ นึกเวทนาหนูน้อยในอ้อมแขน ดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์ ริมฝีปากจิ้มลิ้มกำลังดูดนิ้วตัวเองท่าทางชอบอกชอบใจ ระหว่างนั้นป้าสมัยแกก็เดินชงนมให้หลาน

“เออ นี่ซองนมผงใช่มั้ยคุณ”

เขาขยับเข้าใกล้ช่วยดูให้

“ใช่ครับ”

“เออแหนะ สายตาป้าที่มันชักเลือนราง”

“ปกติป้าเลี้ยงคนเดียวเหรอครับ”

“ก็ถ้าวันไหนพ่อมันไม่ออกลาดตระเวนหรือติดงานที่อุทยาน มันก็เลี้ยงของมันเองนั่นแหละ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยว่างหรอก ป้าเองก็สงสารมันพ่อลูกเลยช่วยดูให้”

รเณศพยักหน้าหงึกหงักเพราะเพิ่งจะทราบว่าเปลวเองก็ทำงานเป็นลูกจ้างที่อุทยานใกล้บ้านด้วย

“นี่ดีว่าผู้ช่วยเขาใจดีชวนไอ้เปลวมันไปทำงานด้วย ไม่งั้นล่ะก็คงอดอยากกันทั้งพ่อทั้งลูก”

“วันหลังป้าเอาแก้มใสไปเลี้ยงบนเรือนได้นะครับ เผื่อผมช่วยดูให้”

แกยิ้มกว้างก่อนจะรับเอาหนูน้อยไปนอนดูดนม ตอนนั้นแหละรเณศถึงเพิ่งจะรู้สึกว่าขนลุกเนื่องจากสภาพอากาศตอนกลางคืนที่ค่อนข้างหนาว “กลางคืนมันหนาวแบบนี้แหละคุณ ไร่นี้ตรงท้ายไร่มันติดกับเขตอุทยาน กลางคืนถ้าได้ยินเสียงสัตว์ร้องไม่ต้องตกใจหรอกนะ”

เขากระชับอ้อมกอดตัวเองให้แน่นขึ้น

“เสียงมันดังอยู่ในป่าโน่น ไกลอยู่หรอก แต่กลางคืนมันเงียบ เลยได้ยินชัด คุณไม่ต้องกลัวหรอกนะ”

รเณศเหม่อมองไปในความมืดมิดนั่น ที่นี่ทั้งมืดทั้งเงียบเหงา แต่เขากลับรู้สึกสบายใจต่างจากตึกสูงใหญ่หนาแน่นไปด้วยผู้คน เป็นเมืองหลวงที่ผู้คนไม่เคยหลับใหล และมุมๆ หนึ่งในอดีตนั่นรเณศต้องอยู่อย่างเดียวดายเฝ้ารอคนรักเหมือนคนโง่งม

เขากระพริบตาถี่ก่อนจะสูดอากาศบริสุทธิ์ของที่นี่เข้าจนเต็มปอด

☘☘☘☘

(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [03] #ป่าห่มรัก [28.1.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 28-01-2019 20:54:10

หลังจากเล่นกับเด็กน้อยอยู่พักใหญ่เขาจึงตัดสินใจจะเดินกลับขึ้นบ้าน แต่จังหวะนั้นแสงไฟดวงใหญ่สองดวงก็สาดส่องมากระทบใบหน้าทำให้รเณศต้องยืนหลบมุมเสา และไม่นานเสียงเครื่องยนต์สองล้อก็มาจอดหยุดอยู่หน้าบ้าน

“ขอบใจมากพี่เพลิง”

รเณศชะงักปลายเท้าที่หมายจะเดินออกไป ตอนที่ชะโงกหน้าไปเห็นเปลวซึ่งกำลังก้าวลงจากท้ายเบาะที่ซ้อนผู้ชายคนนั้น

“พี่จะเข้าไปหาแก้มใสด้วยกันมั้ย”

ฝ่ายนั้นส่ายหัว

“ไม่ล่ะ กูไปงานศพมา น้ำท่ายังไม่ได้อาบ ไม่อยากไปหาเด็กอ่อน เดี๋ยวลูกมึงป่วยไข้ไปซะเปล่าๆ”

รเณศแอบยืนฟังอย่างถือวิสาสะ

“เออพี่ ที่พูดว่าจะส่งเสียลูกพี่ศักดิ์จนจบอ่ะ พี่พูดจริงเหรอ”

ใบหน้าคมคายพยักหน้าหงึกๆ

“ขาดเสาหลักไปอย่างนั้นคงลำบาก ถ้าเด็กสองคนนั่นได้เรียบจนจบจะได้ดูแลตัวเองกับแม่เขาได้”

“พี่ศักดิ์นี่แกโชคดีเนอะ ถึงตัวจะตายแต่เจ้านายยังไม่ทอดทิ้งลูกเมีย”

“มีอะไรก็ช่วยๆ กันไป”

ฝ่ายนั้นทำเหมือนเรื่องธรรมดา แต่ทำให้คนฟังคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้

หมอนั่นจะส่งเสียลูกของลูกน้องงั้นหรือ?

รเณศหูฝาดไปแน่ๆ ท่าทางไม่เป็นมิตรแบบนั้นน่ะเหรอจะอุปการะคนอื่น เขาส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อ หลังจากรอให้บทสนทนาของสองคนนั้นเงียบลงพร้อมเสียงฝีเท้าของคนที่ขยับห่างไปเรื่อยๆ รเณศจึงออกมาจากที่ซ่อน

มอ’ไซค์คลาสสิกยังจอดอยู่ที่เดิมแต่เจ้าของรถไม่อยู่แล้ว

“หายไปไหน”

“อยู่ข้างหลังคุณไง”

รเณศสะดุ้งโหยง ก่อนจะถอยหลังหนีไปหลายก้าวเมื่อเห็นกลับไปเห็นร่างสูงใหญ่ยืนกอดอกอยู่เบื้องหลัง

“กลางค่ำกลางคืนทำไมไม่หลับไม่นอน มาแอบฟังคนอื่นเขาคุยกันทำไม”

“ผมเปล่า”

รเณศสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น เมื่อไม่อาจสบสายตากับแววตาดุดันคู่นั้นได้ ชุดผ้าสีดำสนิททั้งตัวอยู่ในตัวคนตรงหน้ายิ่งส่งเสริมให้บุคลิกดูดุดันมากยิ่งขึ้นจนเขามองนึกกริ่งเกรง

ตัวโตอย่างกะตึกไม่พอ หน้ายังดุอย่างกับเสือ

“งู”

“อะไรนะ”

รเณศยืนตะลึง

“งูอยู่ข้างหลังคุณ”

เขาไม่รอให้หมอนั่นพูดซ้ำอีกรอบ รเณศกระโจนเข้าหาเพลิงแทบจะทันที แน่นอนว่าอารามตกใจนั่นทำให้เขาสะดุดพื้นดินระดับก่อนจะถลาไปหาอีกฝ่าย ดีว่าฝ่ายนั้นเอื้อมมือไปคว้าเอวเขาเอาไว้ไม่อย่างนั้นหน้าคงจูบดินไปแล้ว

“คุณ”

“...”

“มันไปรึยัง”

รเณศกลัวจนตัวสั่น

“ผมมีเรื่องจะบอก”

“ระ เรื่องอะไร”

 รเณศเงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่าย ระยะห่างระหว่างเราจึงใกล้แค่คืบ ไม่แปลกหากเขาจะเห็นดวงตาสีดำสนิทของฝ่ายนั้นแค่คืบ และเป็นคืบที่เขานึกเก้อกระดากขึ้นมา

“ผมเข้าใจผิด”

“ว่าไงนะ”

ฝ่ายนั้นบุ้ยปากไปด้านหลัง

“ผมเข้าใจผิด”

“...”

“ก็แค่กะปอมน่ะไม่ใช่งู”

รเณศโกรธหน้าดำหน้าแดงเพราะหลงกอดอีกฝ่ายเต็มแรง หน้าที่ร้อนวูบวาบเพราะความอายนั่นทำเอาเจ้าตัวนึกอยากทึ้งหัวตัวเองแรงๆ

“คุณหลอกผม”

เพลิงยักไหล่

สองครั้งแล้วที่รเณศถูกไอ้ผู้ช่วยคนดีของใครต่อใครแกล้งเอา

“ผมไม่ได้แกล้งคุณ”

“คุณแกล้ง”

รเณศตาลุกวาว

“ถ้ามันทำให้คุณคิดแบบนั้น ก็ขอโทษด้วยครับคุณรเณศ...หลานป้าอนงค์”

เพลิงโคลงศีรษะ

“โอ๊ย”

คนถูกแกล้งจึงกระแทกส้นใส่ปลายเท้าของอีกฝ่ายแล้ววิ่งหนีขึ้นเรือนไปทันที เขาจึงไม่ทันได้เห็นแววตาดุดันอ่อนแสงลง ซ้ำใบหน้าคมคายนั่นยังมีรอยยิ้มนิดๆ ตรงมุมปาก

ยิ้มงั้นเหรอ?

เพลิงเหมือนจะได้สติว่าตัวเองกำลังยิ้ม ใช่ เขากำลังยิ้ม

‘เพลิง พงพนา’ กำลังยิ้มหัวให้กับคนขี้โมโหนั่น

☘☘☘☘
พี่เพลิงยิ้มแล้ว ฮี่ๆๆๆๆ
ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่อ่านแล้วคอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันน้า เราอ่านทุกความเห็นเลย
ใครหวีดในทวิตฝากติดแท็ค #ป่าห่มรัก ด้วยน้า
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [03] #ป่าห่มรัก [28.1.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 28-01-2019 21:13:42
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [03] #ป่าห่มรัก [28.1.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-01-2019 21:19:41
คุณพี่เพลิงขี้แกล้ง​   
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [03] #ป่าห่มรัก [28.1.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 28-01-2019 21:46:11
ตอนแรกก็ว่าโลกกลมแล้ว แต่นี่กลมกว่าเดิมอีก เพลิงดันเป็นน้องต่างแม่แฟนเก่าของเนตรอีกต่างหาก แถมยังเป็นคนขี้แกล้งมากด้วย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [03] #ป่าห่มรัก [28.1.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 28-01-2019 21:50:50
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [03] #ป่าห่มรัก [28.1.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fun_la_ong ที่ 29-01-2019 01:22:04
พี่เพลิงอย่าแกล้งน้องงงงงงงง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [03] #ป่าห่มรัก [28.1.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 29-01-2019 07:30:03
ชอบพี่เพลิง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [03] #ป่าห่มรัก [28.1.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 29-01-2019 11:52:37
ชอบแกล้ง ก็เพราะสนใจเขาล่ะสิพี่เพลิง  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [03] #ป่าห่มรัก [28.1.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 29-01-2019 12:17:54
คุณผู้ช่วย  :hao3:
โลกกลมมากกลมจนน่ากลัว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [03] #ป่าห่มรัก [28.1.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 29-01-2019 19:56:50
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [03] #ป่าห่มรัก [28.1.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 03-02-2019 07:55:10
พี่เพลิงแกล้งน้องทุกตอนเลย :hao6:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [03] #ป่าห่มรัก [28.1.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 03-02-2019 15:33:29
พี่เพลิงคนขี้แกล้งงงง

 :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [03] #ป่าห่มรัก [28.1.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: แก้มกลม ที่ 03-02-2019 23:24:14
อยากให้มีโมเม้นท์ น้องแก้มใส คุณแม่(บุญธรรม)เนตร คุณพ่อ(บุญธรรม)เพลิงเยอะๆ
จังเลย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [03] #ป่าห่มรัก [28.1.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 04-02-2019 00:48:19
สนุก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 04-02-2019 20:39:52
[ 04 ]


เสียงโหวกเหวกของเจ้าบ้านคละเคล้าไปกับเสียงเคาะกระทะยามเช้าปลุกให้รเณศตื่นเต็มตา ร่างสูงโปร่งผุดลุกขึ้นแล้วชะโงกหน้าจากหน้าต่างออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ภายนอก บ้านเรือนไทยหลังนี้ปลูกอยู่ท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่จึงดูร่มรื่นน่าอยู่อาศัยมากๆ ป้าอนงค์เล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนที่นี่ครึกครื้นไม่น้อย ตอนที่ตายังอยู่มักมีคนรุ่นเดียวกับตาพากันมากินกาแฟและนั่งโขกหมากรุกคุยเรื่องสัพเพเหระ รวมถึงข่าวสารบ้านเมือง แต่พอสิ้นบุญตาแล้วผู้เฒ่าผู้แก่รุ่นราวคราวเดียวกันก็มาล้มป่วยและเสียตามกันไปติดๆ บ้านหลังนี้จึงเงียบเหงาลงถนัดตา

“แกงส้มดอกแคนะพี่อนงค์”

“เอาสิมีปลาช่อนอยู่ไม่ใช่รึ”

“มีๆ ฉันอุ่นไส้อั่วที่ซื้อจากในเมืองเพิ่มด้วยนะ”

“เออแหน่ะ ไม่รู้ว่าคนกรุงเขาจะกินได้มั้ยน่ะสิ ทอดไข่เจียวเพิ่มอีกสักจานเถอะ” รเณศโผล่หน้าเข้าไปในครัวทันได้ยินประโยคนั้นพอดี

“ผมกินได้ครับ ไม่ต้องเจียวไข่เพิ่มหรอก”

ป้าอนงค์ชะงักมือที่กำลังเด็ดผักก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น “มีแต่อาหารพื้นๆ ทั้งนั้น เจียวไข่เพิ่มอีกสักจานเป็นไร”

รเณศยิ้มกว้างพอจะรู้ว่าป้าอนงค์แกเป็นคนปากร้ายใจดี

“งั้นผมเจียวไข่ให้นะครับ”

“ทำเป็นหรือเรา”

แกทำหน้าประหลาดใจ

“พอทำได้ครับ”

“อย่าทำครัวฉันไหม้แล้วกัน”

ป้าสมัยหัวเราะ

รเณศยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินไปหยิบไข่สามสี่ฟองมาตอกใส่ชาม เขาเหยาะน้ำปลาและผงปรุงรสเล็กน้อย ก่อนจะตีให้เข้ากัน

“แหม คุณเขานี่ท่าทางคล่องแคล่วอยู่นะพี่อนงค์”

“เคยช่วยแม่ทำกับข้าวตอนเด็กๆ ครับ”

รเณศยิ้มจางๆ เมื่อนึกถึงตอนที่ลูกมือมารดา

“นังนุชมันทำกับข้าวอร่อย” ป้าอนงค์พูดเสียงแผ่ว “แกงส้มดอกแคนี่เมนูเด็ดเลยล่ะ”

“จริงครับ”

รเณศพยักหน้าเห็นด้วย “ทำทีไรพ่อแทบจะยกหม้อซดน้ำเลย”

“เหมือนตาแก”

“ยังไงครับ”

เขาทำหน้าสนใจ

“ยกหม้อซด/ยกหม้อซดเหมือนกัน”

รเณศชะงักตอนที่พูดประโยคเดียวกับเจ้าของบ้าน ป้าอนงค์ทำหน้าไม่ถูกก่อนจะเบือนไปทางอื่นแล้วยิ้มน้อยๆ ความรู้สึกขัดๆ เขินๆ เพราะความไม่คุ้นเคยจึงเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด

“กลิ่นอะไรไหม้”

ป้าสมัยร้องทัก เขาจึงสะดุ้งโหยงรีบหันขวับไปที่เตาแก๊ส

“ตายห่า”

รเณศตาเบิกโพลงตอนที่เห็นไข่เจียวกลายเป็นสีคล้ำ

“อะไรกันล่ะนั่น”

“ไข่ไหม้ครับ”

“นั่นปะไร”

ป้าอนงค์ส่ายหัว

.

.

“อร่อยครับ”

รเณศยิ้มตาหยีหลังจากที่ซดน้ำแกงส้ม รสชาติที่ได้กินนั้นไม่ผิดเพี้ยนไปจากฝีมือของแม่ที่เขาเคยกินมาก่อน

“วางเจ้าแก้มลงก่อน แล้วมากินข้าวกันสมัย”

ป้าอนงค์กวักมือเรียกป้าสมัยที่กำลังกล่อมหนูน้อยซึ่งนอนดูดนมขวดอยู่

“ป้าอนงค์ ป้าอนงค์”

จังหวะที่ป้าสมัยกำลังวางหนูน้อยใส่เปล เสียงเรียกเจ้าบ้านก็ดังมาจากหน้าเรือนไทย

“ใครกันล่ะนั่น”

“ป้าอนงค์ช่วยที”

รเณศขยับตามเจ้าบ้านซึ่งก้าวฉับๆ ลงบันไดบ้านอย่างกระฉับกระเฉงผิดกับรูปร่างสูงท้วม

“มีเรื่องอะไรกัน”

“ช้างจ๊ะช้าง”

แขกที่มาเยือนไม่ทันตั้งตัวละล้ำละลักบอก ท่าทางดูตระหนกตกใจ

“ทำไม”

เจ้าของบ้านมุ่นหัวคิ้ว

“ช้างป่าลงมากินสัปปะรดท้ายไร่ ตอนนี้เสียหายไปเยอะแล้ว ช่วยฉันทีป้าอนงค์”

ไม่รอให้ต้องพูดซ้ำสอง ร่างท้วมของเจ้าบ้านรีบหันไปสั่งป้าสมัยด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดตามแบบฉบับสาวโสด

“โทรตามผู้ช่วยเร็วเถอะแม่สมัย”

สั่งเสร็จแล้วแกก็เดินตามคนทุกข์ใจนั่นไปติดๆ รเณศทำอะไรไม่ถูกเพราะยังมึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก เมื่อเห็นญาติผู้ใหญ่เดินดุ่มๆ ไปท้ายไร่แบบนั้น เขาจึงอดห่วงไม่ได้เลยสาวเท้าตามไปติดๆ

“รอผมด้วยครับ”

☘☘☘☘



เสียงร้องแปร๋นๆ ดังกึกก้องของสัตว์ใหญ่ทำเอาคนเมืองกรุงนึกขยาดกลัว ขนาดว่าไม่เห็นตัว ฟังแต่เสียงของมันเท่านั้นก็สร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้แล้ว รเณศขยับเข้าไปชิดป้าอนงค์จนแกหันมามองอย่างแปลกใจ ชายหนุ่มเลยยิ้มแหยๆ เป็นคำตอบให้กับผู้สูงวัย

“ตามมาทำไมกันล่ะเนี่ย”

“ก็ผมเป็นห่วงป้า”

แกถอนหายใจเฮือกใหญ่

“งั้นอย่าเดินทะเล่อทะล่าไปไหนตามลำพังล่ะ”

รเณศพยักหน้าหงึกหงักรับคำ

ป่าสัปปะรดประมาณการณ์จากสายตานั่นไม่ต่ำกว่าห้าไร่ ซ้ำผลผลิตของมันกำลังออกผลให้เก็บกิน แต่ภาพที่เห็นคือช้างป่าโขลงใหญ่นับสิบตัวกำลังเดินลุยสวนสัปปะรดและกัดกินผลผลิตนั่นอย่างสบายใจเฉิบ ทั้งกินทั้งเหยียบจนต้นสัปปะรดล้มระเนระนาดราบเป็นหน้ากอง

รเณศสังเกตว่าท้ายสวนนั่นเป็นแนวรั้วมีหลอดไฟล้มลงกับพื้นเป็นแนวยาว บ่งบอกว่าแนวกั้นที่ชาวบ้านทำไว้ถูกทำลายลงแล้ว ระหว่างนั้นเจ้าของสวนและญาติพี่น้องจำนวนหนึ่งกำลังเหนี่ยวหนังสติ๊กที่ใส่อาวุธเป็นอะไรสักอย่างสีดำๆ ยิงใส่ก้นช้าง แต่ดูเหมือนมันจะแค่ทำหน้ารำคาญก่อนจะยกหางปัดกระสุนที่ว่านั่นลงพื้น

“มันไม่เจ็บเลยเหรอครับนั่น”

“กระสุนดินเหนียวน่ะ” ป้าอนงค์อธิบาย “แรกๆ มันก็ได้ผลอยู่หรอก หลังๆ มาเจ้าพวกนั้นมันดันฉลาดรู้ทันคนว่ากระสุนดินเหนียวนั่นทำอะไรมันไม่ได้”

“หวอออออออออออ”

เสียงไซเรนดังกึกก้องทำเอาสัตว์ใหญ่ตกใจ พวกมันกระพือหูแล้วเดินวนไปวนมาก่อนจะเริ่มขยับถอยหลัง แต่นั่นทำให้เด็กน้อยคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นลูกหลานเจ้าของสวนที่อยู่ไม่ไกลจากฝูงช้างป่าเผลอขยับเข้าไปใกล้พวกมัน สถานการณ์ตรงหน้าชวนหวาดเสียวจนรเณศเผลอลืมหายใจ ทันใดนั้นเหมือนมีอะไรแวบๆ คล้ายคนวิ่งผ่านหน้าเขาไปอย่างรวดเร็ว

ปังๆๆ

เสียงประทัดดังรัวในระยะประชิด

“ระวัง”

น้ำเสียงดุดันตะโกนบอกทำให้เด็กน้อยที่ว่าซึ่งกำลังยืนเบะปากร้องไห้ถูกใครบางคนในชุดลายพรางตวัดขึ้นอุ้มแล้วพาออกมาจากรัศมีที่เป็นจุดอันตราย รเณศเกือบลืมหายใจมองเหตุการณ์ชวนระทึกนั่นอย่างใจจดใจจ่อ เพลิงอุ้มเด็กน้อยแนบอกไปคืนญาติ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ในชุดลายพรางเกือบสิบนายก็เดินกระจายอยู่รอบๆ ในระยะที่ปลอดภัย ในมือพวกเขามีโทรโข่งอันใหญ่ที่เปิดเสียงไซเรน

โขลงช้างป่าเริ่มขยับถอยหลังไปเพราะเสียงประทัด พวกมันเดินวนไปวนมาพักหนึ่งก่อนจะพากันหันหลังกลับ รเณศเห็นร่างสูงของใครบางคนเดินตามหลังช้างไปเรื่อยๆ ก่อนที่คนในเครื่องแบบลายพรางนั่นจะตะโกนบอกเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ

“ระวังๆ อย่าไปใกล้มันมาก”

เกือบสิบนาทีหลังจากฝูงช้างหายเข้าป่าไป รเณศได้ยินเสียงสะอื้นจากเจ้าของสวนหลังจากที่เห็นสภาพสวนสัปปะรดราบเป็นหน้ากอง ป้าอนงค์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินเข้าไปปลอบใจเจ้าทุกข์ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ในชุดลายพรางก็เดินสำรวจพื้นที่เสียหาย

“ขอบคุณผู้ช่วยมากนะจ๊ะที่ช่วยหลานป้าไว้”

ป้าเจ้าสวนยกมือไหว้หมอนั่นปลกๆ ตอนที่กอดเด็กน้อยขวัญเสียที่ร้องไห้กระซิกๆ อยู่

“ผู้ช่วยเลือดออกนี่”

ป้าอนงค์ร้องเมื่อเห็นเลือดออกบริเวณศอก

“คงเกี่ยวกับกิ่งไม้มั้งครับ”

“งั้นไปทำแผลที่บ้านป้าก่อนเถอะ จะได้อยู่กินข้าวเช้าด้วยกัน”

เพลิงเหลือบตามาทางรเณศซึ่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตรงหน้า

“ผมไม่รบกวนดีกว่าครับ”

“เอาน่าผู้ช่วย ยังไงป้าก็ต้องฝากปิ่นโตกับเจ้าเปลวไปให้ผู้ช่วยอยู่แล้ว กินข้าวด้วยกันซะที่บ้านเลยเป็นไร”

เพลิงพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ เพราะปกติชีวิตชายโสดอย่างเขามีอะไรก็กินไปตามมีตามเกิด ป้าอนงค์คงนึกเห็นใจถึงได้มีน้ำใจแบ่งปันกับข้าวกับปลา จนสุดท้ายเพลิงตัดสินใจผูกปิ่นโตอาหารมาเรื่อย

“ยังไงเดี๋ยวผมขอเคลียร์พื้นที่กับเจ้าหน้าที่ก่อนแล้วจะตามไปนะครับ”

“รีบมาทำแผลนะผู้ช่วย”

รเณศเผลอเหลือบมองข้อศอกที่มีรอยขูดเป็นทางยาวจนมีเลือดไหลซิบ แผลขนาดนั้นคงเจ็บไม่น้อย คนมองแอบนิ่วหน้าก่อนจะชะงักกึกเมื่อใบหน้าคมคายนั่นหันมาทางเขาแล้วตรงๆ รเณศรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพราะไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเองเผลอแสดงสีหน้าแบบไหนตอนที่มองแผลอีกฝ่าย

ยอมรับว่านึกกังวลกับบาดแผลนั่นตามประสาคนขี้สงสาร

“รเณศ”

“...”

“รเณศ”

ป้าอนงค์ขยับมาหยุดตรงหน้าตอนที่เราทั้งคู่เดินมาถึงบ้านเรือนไทย

“คะ ครับ”

“เหม่ออะไรกัน”

รเณศเกาหัวแก้เก้อ

“ผมสงสัยน่ะครับว่าทำไมช้างป่าถึงลงมาบุกรุกสวนสัปปะรด”

ป้าแกร้องอ๋อ

“ก็เมื่อก่อนหน้าน่ะสิ ชาวบ้านบุกรุกที่อุทยานขึ้นไปปลูกพืชผลทำมาหากิน ตอนนั้นสัปปะรดมันราคาดี คนก็แห่ปลูกกัน แต่พอช่วงที่ราคาตก ขายไม่ออกผลผลิตก็เน่าคาไร่ ช้างมันได้กลิ่นก็ตามมากินเอาน่ะสิ กินไปกินมาชักติดใจมาบุกรุกแทบทุกปี ไอ้ชาวบ้านนี่ก็กระไรพอผลผลิตมันมีราคาขึ้นมาก็เข้าไปทำมาหากิน”

รเณศพยักหน้าหงึกๆ

“แล้วไร่เราไม่โดนช้างป่ารุกบ้างเหรอครับ”

ป้าอนงค์ส่ายหัว

“ท้ายไร่เราไม่ได้ทำประโยชน์อะไร ตั้งแต่สมัยตาแกยังอยู่ก็ปล่อยให้พืชมันขึ้นตามธรรมชาติ หากพ่อพลายแม่พังเขาจะมาเยี่ยมเยียนคงไม่เสียหายอะไร เมื่อก่อนตาแกเขาเคยเลี้ยงผึ้งไว้ขายที่ท้ายไร่ ช้างน่ะมันกลัวผึ้งเลยไม่เข้ามาใกล้ อีกอย่างท้ายไร่น่ะมีแต่ไผ่หนามที่ตาแกปลูกทิ้งไว้ โดนหนามมันทีเจ็บน่าดูเลยล่ะ ยิ่งถ้ากิ่งหรือแขนงมันแตกมานะ อย่าว่าแต่ช้างเลย คนก็ยังกลัวหนามมัน”

“คุณตาเก่งจังเลยครับ”

“ไล่ช้างแบบภูมิปัญญาชาวบ้านน่ะ”

รเณศคิดตามแล้วนึกสนุก แวบหนึ่งเขานึกถึงสมัยเรียนที่ต้องเรียนเกี่ยวกับสมุนไพรที่ใช้รักษาแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน วิชาที่ลงเรียนพร้อมกับเตวิชและชินกร

..เตวิช..

ชื่อที่ผุดขึ้นมาในหัวทำให้ความรู้สึกเบิกบานยามเช้าเป็นอันสะดุดลง คนมีอดีตรีบสะบัดศีรษะไล่ความคิดนั้น เพราะต่อให้เขาคิดถึงอีกฝ่ายมากเพียงใด มันก็แค่ความคิดถึงที่ครอบครองไม่ได้อยู่ดี

“เอ่อป้าอนงค์ครับ”

“มีอะไรอีกล่ะ”

“ถ้าผมจะเข้าไปในเมืองไปทำธุระ”

นอกจากเตวิชแล้วชินกรยังเป็นอีกคนที่เขานึกถึง ฝ่ายนั้นย้ำนักย้ำหนาว่าหาถึงที่หมายให้โทรบอกข่าวกัน แต่รเณศตัดสินใจหักซิมอันเก่าทิ้งไปตั้งแต่อยู่ที่สนามบินแล้ว ตั้งใจว่าถึงที่นี่จะซื้อซิมใหม่ใช้เพราะตัดใจทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง

“แกรีบมั้ยล่ะ”

“ไม่ครับ”

“สุดสัปดาห์ฉันจะไปดูตลาดผลไม้ในเมือง ถ้าธุระแกไม่รีบ ค่อยไปกับฉัน”

สุดสัปดาห์ก็อีกสี่วันเท่านั้น คงไม่ทำให้ชินกรผลุนผลันไปแจ้งความว่าเขาหายตัวไปหรอกนะ

“ฉันว่าจะพาแกไปดูตึกแถวในตลาดด้วย”

“ทำไมเหรอครับ”

ป้าอนงค์หันมามองหน้าผมตรงๆ

“แกจบเภสัชฯ มาไม่ใช่เหรอ แล้วตึกแถวที่ว่านั่นมันก็ยังว่าง ถ้าแกอยากเปิดร้านขายยาฉันจะช่วย”

รเณศทำตาโต

“แกมาอยู่ที่นี่เฉยๆ ไม่ได้หรอก มันต้องมีอะไรทำ จะทำสวนผลไม้กับฉัน แกจะไหวเหรอ”

“ผมไม่มีทุนเปิดร้านขายยาหรอกครับ”

รเณศส่ายหัว

“ก็ฉันบอกนี่ไงว่าจะออกทุนให้”

“ป้าอนงค์”

รเณศน้ำตารื้อตั้งแต่สิ้นบุญของพ่อกับแม่ก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ คราแรกหมายจะฝากชีวิตไว้ในมือคนรักก็ต้องพลาดหวัง ชายหนุ่มเหมือนคนเรือแตกไร้หลักยึด ตอนที่คล้ายจะจมลงกลับมีมือของป้าอนงค์ฉุดรั้งขึ้นมา

พี่สาวของแม่ไม่เคยเอ่ยปากบอกตรงๆ ว่าอนุญาตให้รเณศอยู่ด้วย แต่การกระทำวันนี้กลับบอกชัดแล้วว่าป้าอนงค์คือคนปากร้ายแต่ใจดีอย่างแท้จริง

☘☘☘☘


เครื่องยนต์สี่ล้อจอดสนิทหน้าเรือนไทยดับลงพร้อมกับเสียงเห่าเกรียวกราวของเจ้าสัตว์สี่เท้า เรียกให้ป้าอนงค์ขยับตัวลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง

“ผู้ช่วยมาแล้ว เจ้าเนตรไปเตรียมอุปกรณ์ทำแผลมาเร็ว”

รเณศเบะปาก แต่ก็ยอมจำนนเดินเลี่ยงไปหยิบกล่องปฐมพยาบาล พอดีกับที่ร่างสูงใหญ่ในชุดลายพรางเดินพ้นหัวบนไดบ้านมา เพราะส่วนสูงที่เกินมาตรฐานไปไกลทำให้ตอนที่ผ่านบันไดขั้นสุดท้ายมานั่นต้องค่อมตัวให้ลอดผ่านซุ้มประตู

“ตัวอย่างกับเปรต”

รเณศบ่นกระปอดกระแปด

“บ่นอะไรฮึเรา”

ป้าอนงค์ถามขึ้น

“เปล่านี่ครับ”

แกทำหน้าฉงน

“เอาเถอะยังไงฝากทำแผลให้ผู้ช่วยหน่อยนะ” คนฟังเดินหน้าบอกบุญไม่รับไปยังแขกตัวยักษ์ซึ่งนั่งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงชานบ้าน ให้ตายเถอะ ป้าอนงค์ก็ดันเดินไปช่วยป้าสมัยยกกับข้าวข้างล่างอีก

หลานเจ้าบ้านพยายามทำหน้านิ่งตอนที่เดินถือกล่องปฐมพยาบาลมาหยุดอยู่ตรงหน้าแขกที่เขาไม่อยากจะต้อนรับ

“จะทำอะไร”

น้ำเสียงดุดันถามขึ้นตอนที่เขาเอื้อมมือไปใกล้กับบาดแผลตรงศอก รเณศเหลือบตามองใบหน้าคมคายแวบหนึ่งก่อนจะทำหูทวนลม

“โอ๊ะ”

มือที่ถือสำลีชุบแอลกอฮอล์ชะงักกึกเพราะถูกมือใหญ่เกือบเท่าตัวกำรอบ

“ปล่อย”

“เพิ่งรู้ว่าหลานป้าอนงค์เป็นใบ้”

รเณศค้อนให้

“จะทำแผล”

เพลิงพยักหน้าหงึกๆ ทอดสายตามองคนตรงหน้าตั้งใจทำแผลให้อย่างเบามือ ภาพใบหน้าขาวที่กำลังจดจ่ออยู่กับแผลที่โดนกิ่งไม้ข่วนเป็นทางยาวนั่นทำเอาคนมองใจกระตุกก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อถูกจิ้มแรงๆ ที่แผล

นัยน์ตากลมโตไหวระริกราวกับขบขับแม้จะพยายามเก็บอาการมากเพียงใด แต่คนถูกแกล้งก็จับสังเกตได้ เพลิงจ้องใบหน้าขาวนิ่งทั้งๆ ที่รู้เต็มอกถูกแกล้งทำแผลแรงๆ ถึงจะรู้สึกเจ็บไม่น้อยแต่เพลิงก็ไม่ได้ปริปากอะไรนอกจากเม้มปากแน่น จนสุดท้ายรเณศยอมรามือไปเอง

“พอใจแล้วเหรอ”

เสียงทุ้มดังขึ้นตอนที่รเณศผ่อนแรงลง เล่นเอาคนถูกถามถึงกับหน้าม้าน

“พูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง”

มือหนาขยับมาจับข้อมือรเณศอีกครั้ง

“เจ็บ”

เพลิงพูดเบาๆ เรียกให้คนเมืองเผลอยิ้มเพราะรู้สึกดีไม่น้อยที่ทำให้คนตรงหน้าหลุดมาด

“เจ็บมั้ย?”

“ห่ะ!”

รเณศทำหน้ามึนงง

“ผมหมายถึงนิ้วมือของคุณที่กดแผลผมแรงๆ น่ะเจ็บมั้ย”

แม่งงงงงงง

รเณศนั่งหน้าตูมทำปากขมุบขมิบ แล้วลงมือทำแผลต่อท่ามกลางเสียงแผ่วๆ ในลำคอคล้ายเสียงหัวเราะของคนตรงหน้า

“บ่นอะไร”

“หูหาเรื่อง”

รเณศเงยหน้าขึ้นก่อนจะชะงักกึกเมื่อสบสายตากับแววตาสีดำสนิทที่ไหวระริกคล้ายกับจะหยอกกัน แวบหนึ่งคนเมืองรู้สึกเก้อกระดากจนต้องเบือนหน้าหนี จังหวะนั้นแหละเขาถึงเพิ่งจะสังเกตเครื่องแบบชุดลายพรางที่คนตรงหน้าสวมใส่ เครื่องแบบที่คล้ายกับชุดทหารแต่ลายพื้นหลังเขียวน้ำตาลนั่นมีรูปต้นไม้และนก แวบหนึ่งเขานึกถึงสารคดีเกี่ยวกับป่าไม้ซึ่งเคยดูผ่านๆ ที่เปิดเผยถึงชีวิตและความเป็นอยู่ของทั้งสัตว์ป่าและเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ได้สะดวกสบายมากนัก

หึ คนตรงหน้านี่คงไม่พ้น...

“พวกกินอุดมการณ์”

เพลิงเลิกคิ้วสูง

“อุดมการณ์มันก็แค่คำสมมุติ”

“แต่ก็มีคนยึดถือ”

รเณศท้วง เรียกรอยยิ้มมุมปากจากคนเจ็บ

“คุณมีเป้าหมายอะไรในชีวิตมั้ยล่ะ”

รเณศกัดปากจนเจ็บเมื่อถูกถามแบบนั้น เสี้ยววินาทีนั้นเขาอดนึกถึงอดีตคนรัก เป้าหมายหนึ่งเดียวที่พลาดหวังไปแล้ว ร่างสูงโปร่งเม้มปากแน่นก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น

“เป้าหมายและความฝันของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันหรอก บางคนแค่กินอิ่มนอนหลับก็พอใจแล้ว ขณะที่บางคนมีเงินเป็นร้อยล้านยังไม่หยุดที่ขวนขวาย โลกใบนี้มันไม่มีขาวไม่มีดำที่แท้จริงหรอก อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนต่างหาก”

“ความฝันของคุณอาจเพียงแค่มีใครสักคน” แวบสีดำสนิทจ้องรเณศนิ่งจนเขารู้สึกสะอึกในใจ “ขณะที่ความฝันของผมอยู่ที่ผืนป่าแห่งนี้”

“กับงานที่อันตรายแบบนี้น่ะเหรอ”

รเณศบุ้ยปากไปที่แผลตรงศอก

“ใช่”

เพลิงพูดเสียงเรียบ

“คงไม่ได้แก่ตายเหมือนคนอื่นเขาหรอก”

รเณศอดค่อนขอดใส่ไม่ได้

“ก็ถูกของคุณ” เพลิงพูดยิ้มๆ

“วันหนึ่งผมอาจเป็นไข้ป่าตาย ระหว่างลาดตระเวนอาจปะทะกับพรานป่า ผู้มีอิทธิพลหรือกลุ่มผู้กระทำผิดแล้วโดนยิงตาย ถ้าโชคร้ายหน่อยคงโดนช้างป่าเหยียบตายเข้าสักวันหนึ่ง”

รเณศกัดปากจนเจ็บเมื่อคนตรงหน้าพูดถึงความเป็นความตายได้อย่างหน้าตาเฉย ต่างจากคนฟังที่ใจวูบโหวงบอกไม่ถูก

“พวกกินอุดมการณ์”

“ผิดแล้ว”

เพลิงส่ายหัว

“คุณอาจเรียกสิ่งนั้นว่าอุดมการณ์ แต่ผมขอเรียกมันว่าความรัก”

‘ความรัก’

รเณศทำหน้าฉงน อุดมการณ์รักในอาชีพแบบไม่คิดถึงชีวิตแบบนั้นน่ะเหรอเรียกความรัก เหอะ เขาส่ายหน้าไปมารับไม่ได้กับความคิดนั้น

ผู้ชายตรงหน้าเป็นคนแบบไหนกันแน่!

ผู้ชายปากร้ายที่ผับ ผู้ชายที่ดูดุดันน่ากลัวแต่กลับมีคำพูดฉุกสติเขาในวันนั้น และเป็นผู้ชายขี้แกล้งหาตัวจับยาก เป็นผู้ช่วยฯ ที่ใครต่อใครต่างสรรเสริญเยินยอ ทั้งที่บุคลิกนั่นห่างไกลจากคำว่าน่าเข้าหาแต่กลับเป็นคนๆ เดียวที่ออกปากว่าจะอุปการะลูกของลูกน้อง

ทุกอย่างขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง

รเณศสะบัดหัวแรงๆ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเอาใจไปจดจ่อกับเรื่องคนอื่นมากเกินไปแล้ว

“เสร็จแล้ว”

รเณศเอ่ยขึ้นหลังจากปิดแผลด้วยผ้าก๊อช

“ขอบคุณ”

รเณศยักไหล่

“ถ้าป้าอนงค์ไม่สั่ง อย่าหวังว่าผมจะทำให้เลย”

“เปล่า”

“ผมขอบคุณผ้าก๊อช”

เพลิงพูดหน้าตาย

รเณศอ้าปากพะงาบๆ ก่อนจะทำหน้าบึ้งเก็บอุปกรณ์ทำแผลใส่กล่องอย่างมีอารมณ์

“ขอบคุณแอลกอฮอล์ล้างแผล”

“...”

“ขอบคุณเบตาดีน”

“...”

“ขอบคุณ...”

เพลิงขอบคุณไปเรื่อย จนรเณศโกรธจนควันออกหู

“กล่องปฐมพยาบาล”

คนเมืองกระแทกเสียงตอบอย่างหมั่นไส้

“เปล่า”

เพลิงกอดอก

“ขอบคุณคุณ”

รเณศชะงักกึกก่อนจะเหลือบตามองเจ้าของเสียงทุ้ม

“ขอบคุณครับ” เพลิงกดยิ้มมุมปาก “คุณรเณศ”

เจ้าของชื่อยืนอึ้ง ใบหน้าร้อนวูบวาบเมื่อเจอสายตาสีดำสนิทจ้องมองกันตรงๆ ทั่วร่างกายเหมือนจะสั่นไหวจนเก้อกระดาก

รเณศรู้สึกปั่นป่วน ขณะที่เพลิงอยากทำมากกว่ากดยิ้มมุมปาก


☘☘☘☘

ขอบคุณไปเรื่อย อ้อมโลกจังผู้ช่วย ฮ่าๆๆๆ
หวีดในทวิตติดแท็ค #ป่าห่มรัก ให้ด้วยเด้อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 04-02-2019 20:54:27
แหมคุณผู้ช่วยขี้แกล้ง​ จะยิ้้มก็ยิ้มเถอะจ้า
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 04-02-2019 21:04:15
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 04-02-2019 22:00:47
ติดตามจ้า :L2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: แก้มกลม ที่ 04-02-2019 22:22:53
คุณผู้ช่วยเริ่มจะขายอ้อยเป็นอาชีพเสริมแล้วหรือจ้ะ o18
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 04-02-2019 22:56:43
ผู้ช่วยอ่ะ เราเขินะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-02-2019 23:07:10
หยอดเก่งนะ อีเพลิง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 04-02-2019 23:10:12
ขี้แกล้งจังเลยนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 05-02-2019 00:06:56
 :pig4: :pig4: :pig4:

ไหงผู้ช่วยเพลิงผู้เคยคบแฟนหญิง  ถึงมารู้สึกสนุก อยากแกล้งนุ้งเนตรตลอดเวได้เนี่ย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 05-02-2019 00:13:55
แพรวพราวไปหมดเลยนะผู้ช่วยยยยยย  :hao3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 05-02-2019 00:32:26
แกล้งเก่งงงงง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 05-02-2019 06:52:43
ไม่ต้องเป็นแล้วผู้ช่วยฯเนี่ย ถ้าจะหยอดเก่งขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 05-02-2019 12:20:08
 :hao7: :katai5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 05-02-2019 13:14:31
 :hao5: อย่าแกล้งคุณเนตรเลย สงสารรร
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 05-02-2019 15:08:06
ไล่ช้างเสร็จก็ขายอ้อยต่อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 05-02-2019 18:19:16
หมั่นไส้ผู้ช่วยเหลือเกิน~~~
ชอบยั่วให้น้องโมโห
น้องก็น่าแกล้ง ยั่วขึ้น 555
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 05-02-2019 21:36:13
  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 05-02-2019 22:52:44
เพลิงถ้าจะเป็นแบบนี้ ก็ใจเย็นนะ แกล้งคนที่ชอบบ่อย
กลัวเค้าจะเกลียดก่อนชอบล่ะสิ แต่ไม่เป็นไรหรอก
เนตรมีแววใจสั่น ใจเต้น หนทางสะดวกละ

เอ็นดูเนตรนะ โตมาแบบคนเมืองอะเนาะ
และความหวัง ความฝันสลายไปหลายอย่าง
ดีนะที่เนตรตัดใจออกมา ไม่งั้นก็คงต้องทนช้ำไปอีกนาน
ถึงตอนนี้แทบไม่เหลือใคร แต่ก็ยังมีป้าที่เปิดรับเนตร

เพลิงแอบร้ายนะคนเรา แต่ความดีก็มีเยอะไม่แพ้กัน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 06-02-2019 14:23:24
จะขอบคุณแค่เนี่ย! อ้อมโลกกกกกกก เหลือเกืนนะผู้ช่วยเพลิง  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [04] #ป่าห่มรัก [4.2.62] P.2 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 06-02-2019 14:55:29
ถ้ารู้ว่าเป็นพี่น้องกับแฟนเก่า อะไรจะเกิดขึ้น
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 18-02-2019 20:46:05

[05]



รเณศขยับตัวยุกยิกและนั่งเชิดคอตั้งก่อนจะปรายตามองทะลุกระจกออกไปนอกตัวรถ ท่าทางแบบนั้นทำให้คนขับที่ประคองพวงมาลัยอยู่ข้างๆ นึกขัน แน่นอนว่าเสียงหัวเราะสากๆ ในลำคอนั่นทำเอาคนเมืองหน้างอเป็นจวักแล้วหวนนึกถึงบทสนทนาช่วงเช้าที่ผ่านมา

เรื่องมันมีอยู่ว่าผู้ช่วยคนดีของป้าอนงค์เอ่ยปากว่ามีธุระในเมือง เจ้าบ้านเลยเห็นดีเห็นงามให้เขาติดรถมาทำธุระส่วนตัวด้วย ใจจริงเขาก็อยากรอเข้าเมืองพร้อมกับป้าแก แต่อีกใจก็กลัวว่าการหายขาดจากการติดต่อกับชินกรไปหลายวันแบบนี้จะทำให้ฝ่ายนั้นร้อนใจไปกันใหญ่

สุดท้ายเขาเลยตกกระไดพลอยโจรมานั่งปั้นหน้ายากอยู่ข้างคนขี้แกล้ง

“นั่งแบบนั้นไม่เมื่อยคอหรือไง” เสียงทุ้มเอ่ยถาม

เมื่อยสิ โคตรเมื่อยเลย นั่นคือคำตอบในใจของคนเมืองที่ถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะขยับแผ่นหลังไปจนชิดพนักเก้าอี้แล้วพิงอย่างยอมจำนน เป็นโชคดีอยู่หน่อยที่วันนี้หมอนั่นเปลี่ยนพาหนะจากมอเตอร์ไซค์คลาสสิกมาเป็นกระบะกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่ง

พูดถึงมอ’ไซค์คลาสสิกเขาก็นึกเจ็บใจ เพราะเสื้อตัวที่ถูกโคลนดีดใส่ ซักเท่าไหร่ก็ยังมีคราบกระด่างกระดำน่าอนาถใจ เห็นสภาพเสื้อตัวเก่งนั่นแล้ว เขาจึงอดเคืองตัวต้นเหตุที่นั่งประจำอยู่ตำแหน่งคนขับนี้ไม่ได้

คนดีๆ ที่ไหนถึงชอบกลั่นแกล้งคนอื่นเขาแบบนั้น

“ด่าผมอยู่ในใจเหรอ”

รเณศสะดุ้งโหยง

“คุณอ่านใจคนออกรึไง”

เพลิงส่ายหัว

“เปล่า” ร่างสูงพึมพำ “แต่ผมเดาสีหน้าคุณออก”

“ถ้าผมบอกว่าคุณคิดผิดล่ะ”

เพลิงยักไหล่

“ไหนคุณบอกสิว่าตอนนี้ผมคิดอะไรอยู่”

เพลิงละสายตาจากถนนเบื้องหน้ามาจ้องมองคนข้างกาย

“คุณชมผมอยู่มั้ง”

“ใช่ที่ไหนกันเล่า ผมด่าคุณอยู่ในใจต่างหาก”

รเณศตอบทันควัน กว่าจะรู้ตัวว่าเสียรู้ให้อีกฝ่ายเสียแล้ว ก็ตอนที่สบตากับแววตาคู่คมที่เจือแววขบขันอยู่

แม่งงงงงงงงงงงง

โคตรเสียรู้เลย

คนเมืองนั่งหน้าตูมปิดปากเงียบกริบจนกระทั่งเครื่องยนต์สี่ล้อพาเข้าเขตตัวอำเภอ ไม่นานตึกรามบ้านช่องเริ่มปรากฏมีให้เห็นมากขึ้น

“ผมขอแวะซื้อของแห้งก่อนนะ”

คนขับตบไฟเลี้ยวซ้ายก่อนจะจอดที่หน้าร้านขายส่งคล้ายๆ ซุปเปอร์มาร์เก็ตขายปลีกขนาดใหญ่ คนเมืองพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะมองไปรอบๆ เห็นอาคารห้างสรรพสินค้าอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนพอดี

“นั่นใช่ห้างหรือเปล่า”

เพลิงมองตามสายตาคนถาม

“ผมขอแยกไปทำธุระก่อนได้มั้ย”

“เอาสิ”

คนขับพยักหน้าหงึกหงัก

“ถ้าคุณเสร็จธุระแล้วรออยู่หน้าห้างแล้วกัน เดี๋ยวผมซื้อของเสร็จจะแวะไปซื้อหนังสือในห้างต่อ”

รเณศขยับเปิดประตูรถ ตอนที่คนในชุดลายพรางเดินเข้าไปในร้านขายปลีก ก่อนหน้านี้เขาได้ยินมาว่าฝ่ายนั้นจะเข้าเมืองมาซื้ออาหารแห้งสำหรับใช้เป็นอาหารยังชีพสำหรับการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ คนเมืองยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าร้านจนเพลิงหันมาเลิกคิ้วมองเป็นเชิงถาม

“เอ่อ”

เภสัชกรหนุ่มเกาหัวแกรกๆ

“มีอะไรให้ช่วยรึเปล่า”

เพลิงกดยิ้มมุมปาก

“ไม่มี...ไปทำธุระคุณเถอะ”

“อ๋อ”

รเณศพึมพำเตรียมจะผละออกไป เมื่อรู้สึกว่าการสบตากับฝ่ายตรงหน้าเป็นเรื่องที่ชวนให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดยากที่จะอธิบายได้

“ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจ”

ติดรถคนอื่นมา มันก็สมควรแสดงน้ำใจรึเปล่าล่ะ จะให้เดินเปิดตูดหนีไปทำธุระตัวโดยไม่ไถ่ถามเจ้าของรถมันก็กระไรอยู่

เรื่องแค่นี้เอง...ขอบคุณทำไม

ขอบคุณไม่พอ...ยิ้มทำไมวะ



.



จุดหมายแรกที่รเณศมุ่งหน้าไปคือร้านโทรศัพท์หลังจากตัดสินใจซื้อซิมใส่ใหม่ก่อนจะเปิดเครื่องโทรหาชินกร หลังจากปลายสายกดรับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแล้วตามด้วยเสียงบ่นยืดยาวที่เขาขาดการติดต่อไปหลายวัน

[มึงทำกูใจหายเนตร กูคิดอยู่เลย ว่าหากมึงยังไม่ติดต่อกลับมาวันนี้ กูจะแจ้งความ]

รเณศยิ้มขำเพราะสิ่งที่ชินกรพูดไม่ผิดไปจากที่เขาคาดการณ์เอาไว้

“ใจเย็นน่า กูยังอยู่สบายดี”

[เฮ้อ]

ปลายสายถอนหายใจ

[เนตร]

“อืม”

[เมื่อวานพี่เตมาหากูที่ทำงานว่ะ]

รเณศกำโทรศัพท์ในมือจนเกร็ง

[เขามาถามหามึง]

“อืม”

รู้ตัวเลยว่าตอบเพื่อนไปเสียงสั่นเพียงใด

[เนตร...มึงแน่ใจแล้วใช่มั้ยที่ทำแบบนี้]

รเณศรู้สึกว่าหัวตาร้อนผ่าว จมูกก็แสบร้อนไม่ต่างจากลำคอที่จุกขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

“แน่ใจ”

กัดริมฝีปากจนเจ็บ

[พี่เตเข้าใจว่ามึงงอนหนีไปเที่ยว อีกไม่นานคงกลับ]

รเณศแค่นยิ้มอย่างนึกสมเพชตัวเองเมื่อครั้งอดีต ครั้งนั้นเตวิชบอกว่าต้องคบหากับคนที่ครอบครัวจัดหาให้ แน่นอนว่าเขางอนจนหนีไปพักใจคนเดียวและสุดท้ายคนอ่อนแออย่างเขาก็ซมซานกลับไปตายที่รังเดิม กลับไปเป็นโง่งมเช่นที่แล้วมา

ต่างจากครั้งนี้...

“ชิน กูขอร้อง”

[อืม]

“อย่าให้เขารู้ เพราะกูจะไม่กลับไป”

ไม่กลับไปอีกแล้ว

รเณศคนนั้นตายไปแล้วพร้อมกับความรักลวงๆ

‘พี่ต้องแต่งงานกับเขา’

ในเมื่อเตวิชเลือกแล้ว เขาก็จะเลือกเหมือนกัน

รเณศเลือกเดินไปข้างหน้า...โดยไม่มี ‘เตวิช’ อีกต่อไป


☘☘☘☘



เพลิงชะงักปลายเท้าก่อนจะหยุดยืนนิ่งตอนที่เห็นแผ่นหลังงองุ้มของใครบางคนเบื้องหน้า หัวไหล่ทั้งสองข้างที่กำลังสั่นเทาบ่งบอกอารมณ์ของคนๆ นั้นได้เป็นอย่างดี แม้ไม่เห็นสีหน้า แต่เพลิงก็คาดเดาได้ไม่ยากว่าคนที่ยืนจ้องมองนิตยสารมีชื่อซึ่งมุมด้านหนึ่งของปกนั่นมีรูปของพี่ชายต่างมารดาในชุดแต่งงานกับเจ้าสาวของเขา

เหอะ งานวิวาห์ของไฮโซหนุ่มตระกูลผู้ดีเก่า มันจะแปลกอะไรที่จะเป็นข่าว

ไม่แปลกหรอก หากเป็นคนอื่นไกล

ไม่แปลกเลย หากใครบางคนไม่มีใจให้เจ้าบ่าว

แวบหนึ่งเพลิงนึกเวทนาเจ้าของไหล่งองุ้มตรงหน้า เพราะเข้าใจถึงได้เห็นใจ สถานะตัวสำรองที่รอคอยอยู่เบื้องหลังมันเจ็บไม่น้อย เพราะคุณค่าของมันเป็นแค่คนคั่นเวลา เพลิงกับรเณศอยู่ในสถานะที่ใกล้เคียงกัน ตั้งแต่เล็กจนโตเขารับรู้มาตลอดว่าเขาและแม่คือบ้านที่สอง เป็นอับดับที่รองลงมาจากความสำคัญอื่นๆ ในชีวิตของบิดา

แม่ของเพลิงเฝ้ารอ ตั้งใจรอ อยู่ในมุมเงียบๆ เพื่อรอเศษความรักความห่วงใยจากบิดา ตั้งแต่จำความได้ การที่เพลิงเห็นแม่ร่ำไห้อย่างทุกข์มรมานเป็นภาพติดตาเขามาตลอด จนกลายเป็นความชินชาและสุดท้ายเพลิงชิงชังในสถานะที่เป็นอยู่ เพราะต่อให้ดิ้นรนหนีไปไกลเท่าไหร่ แต่ความจริงก็ซัดใส่หน้าอยู่ดีว่าเขาคือ ‘ลูกเมียน้อย’

เพลิงขยับไปใกล้จนเห็นสายตาของรเณศที่แสดงออกอย่างเจ็บปวดไม่ต่างจากสายตาของแม่ มันคือสายตาของผู้พ่ายแพ้ที่ยอมจำนนต่อความรักอย่างขมขื่น เพราะเขาอยู่กับความรู้สึกนี้มาตั้งแต่เกิด เพลิงจะเข้าใจและเห็นใจผู้พ่ายแพ้เบื้องหน้า คงไม่แปลกหากเขาจะนึกเวทนาและเห็นใจคนเป็นรองอย่างรเณศ

เขาไม่รู้ว่าเรื่องของเตวิชและรเณศจบลงแบบใด แต่การที่รเณศดั้นด้นมาที่นี่และเตวิชตัดสินใจแต่งงานนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับคำตอบทุกอย่าง เรื่องความรักของคนสองคน เขาไม่มีสิทธิ์ตัดสินว่าใครถูกหรือผิด เพลิงคือคนอื่นจึงได้แต่มองอยู่ในฐานะคนนอกและเป็นคนนอกที่ปรารถนาให้แววตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตานั้นดีขึ้นในเร็ววัน

เพลิงเป็นลูกคนเดียว ไม่มีพี่น้อง และถึงจะมีพี่ชายต่างมารดา แต่ความสัมพันธ์ก็ห่างเหินกัน ซ้ำความรู้สึกยังห่างไกลจากคำว่าครอบครัว เมื่อได้รู้ว่าอดีตคนของพี่ชายนั่นคือหลานแท้ๆ ของป้าอนงค์ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ให้ความเมตตาเขาตั้งแต่มาประจำอยู่ที่นี่ใหม่ๆ เขาจึงอดเอ็นดูในฐานะน้องนุ่งไม่ได้ เพราะฝ่ายนั้นตัวคนเดียวซ้ำยังช้ำรักมาหมาดๆ แบบนี้ ถึงแม้การเจอกันไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ก็ตาม

“เช็ดน้ำตาหน่อยเถอะ”

รเณศยืนตะลึงตอนที่ผ้าเช็ดหน้าสีเข้มยื่นมาตรงหน้า และยิ่งตกใจหนักกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าใครคือเจ้าของผ้าเช็ดหน้าผืนน้อย

“คุณ...”

“เช็ดน้ำตาซะ”

แววตาคู่คมที่จ้องมองกันนิ่งนั่นทำเอาคนช้ำรักนึกกระดากอาย

อีกแล้ว...รเณศทำให้คนตรงหน้าเห็นสภาพตัวดูไม่ได้ของตัวเองอีกแล้ว เขาส่ายหน้าแรงๆ ก่อนจะเดินผละหนีออกไป

“ผมจะไปล้างหน้า”

รเณศปฏิเสธผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น

“กว่าจะเดินไปถึงห้องน้ำ น้ำตาคุณคงไหลกลบดวงตาจนมองไม่เห็นทางแล้วมั้ง”

“ไม่ต้องมายุ่ง”

รเณศพูดเสียงสั่น ขณะที่เพลิงถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะสบตากับคนเมือง แววตาที่เจือไปด้วยความปวดนั่นชวนเวทนาไม่น้อย ความรักทำให้คนเราพังภินท์ได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ

ไม่ต้องมีใครตอบคำถามนี้ให้เขาหรอก ในเมื่อเพลิงรู้อยู่เต็มอก รเณศเหมือนแม่ที่เจ็บเพราะคำว่ารัก และช้ำใจเพราะการรอคอย รเณศยังโชคดีที่พาตัวเองรอดพ้นจากความทุกข์ทรมานนั้นได้ ขณะที่แม่ของเขาหลงอยู่ในวังวนนั้นจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

“เอาสิ อยากจะเยาะเย้ยอะไรผมก็เชิญเลย”

“...”

“ผมมันอ่อนแอ”

รเณศทุบอกตัวเองแรงๆ

“ผมนี่แหละที่หน้าด้านขอนอนกับคุณ เพราะความคิดโง่ๆ”

“...”

“ผมเองที่กินเหล้าจนขาดสติเพราะถูกทิ้ง”

“...”

“ผมมันโง่ ทั้งโง่ทั้งเซ่อที่หลงเชื่อคำว่ารักของคนๆ หนึ่ง หน้าโง่ไม่มีใครเกิน โง่ที่สุด”

“หยุด”

เพลิงตวัดตามองคนตรงหน้านิ่ง

“ผมแม่งโคตรน่าสมเพช”

“หยุดพูด”

รเณศเหยียดยิ้มทั้งที่ใบหน้าเปื้อนไปด้วยน้ำตา

“หัวเราะเยาะผมสิ”

สภาพคนช้ำรักคล้ายแก้วที่ถูกทำให้แตกสลายไม่มีชิ้นดี เหมือนในความต่าง ต่างด้วยช่วงเวลา และเหมือนที่ว่าคือเหมือนภาพมารดากล่าวโทษตัวเองก่อนสิ้นใจที่ทำให้เขาอยู่ในสภาพแบบนี้ แม่ขอโทษที่ทำให้เกิดมาและถูกตราหน้าจากคนอื่นว่าเป็นลูกเมียน้อย แม่โทษตัวเองที่โง่งมและทำให้เขาต้องทนทุกข์มาตั้งแต่เกิด

‘แม่ขอโทษที่เป็นเมียน้อยเขา แม่ขอโทษที่ทำให้เพลิงต้องแปดเปื้อนด้วยคำสกปรก’

‘แม่ขอโทษ ที่แม่ เป็นแม่ที่ไม่น่าภาคภูมิใจสำหรับลูกเลย’

เพลิงกำหมัดแน่น

“จากคนรักกลายเป็นชู้ คุณได้ยินมั้ยว่า สถานะผมมันน่าสมเพช เป็นชู้ เป็นคนในที่มืด เป็นความลับที่ไม่น่าเปิดเผยเลยในชีวิตเขา”

เพลิงกัดฟันกรอดก่อนจะกระชากแขนรเณศจนตัวปลิว

“ปล่อยผม”

“เงียบแล้วหุบปากคุณซะ”

รเณศพยายามยื้อแขนตัวเองไว้ แต่สุดท้ายก็สู้แรงของเพลิงไม่ไหวเซแถ่ดๆ ตามแรงลากของคนบ้าพลัง เพลิงฉุดแขนรเณศไปจนถึงห้องน้ำก่อนจะเปิดน้ำที่อ่างแล้วผลักให้เจ้าของใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาเข้าไป

“ล้างหน้าล้างตาซะ”

“ปล่อยผม”

“อย่าให้ผมต้องจับคุณกดน้ำ” เพลิงกระซิบเสียงลอดไรฟัน “คุณรเนศ”

คนเมืองทำหน้าขัดใจก่อนจะจำใจวักน้ำใส่หน้าเมื่อหน้าใบหน้าดุดันยืนจ้องเขม็ง

“ล้างน้ำตาออกไปให้หมด แล้วคุณจะมองอะไรได้ชัดขึ้น”

รเณศเม้มปากแน่นแล้วจ้องใบหน้าตัวเองในกระจก สภาพที่เห็นคือผู้ชายที่มีใบหน้าขาวดวงตาและจมูกแดงก่ำ เส้นผมที่เปียกน้ำ สภาพใบหน้าบิดเบี้ยวไม่น่าดูเลยสักนิด

“พูดให้ร้ายตัวเอง แต่สุดท้ายคนที่เจ็บที่สุดคือตัวคุณเอง ขณะที่คุณกำลังร้องไห้จะเป็นจะตาย คนที่ทำให้คุณเจ็บปางตายอาจจะกำลังยิ้มอย่างมีความสุข”

คำพูดนั้นเสียดแทงกลางใจเขาเต็มๆ แค่คิดตามก็นึกถึงภาพอดีตคนรักกับเจ้าสาวของเขาในนิตยสารนั่นไม่ได้

ถูกแล้ว ขณะที่รเณศเจ็บเหมือนจะตาย อดีตคนรักรุ่นพี่คงกำลังมีความสุขที่สุดในชีวิต

“คุณสิ้นคิดมากรู้มั้ยที่พูดจาดูถูกตัวเอง”

‘ไม่มีใครดูถูกหรือตีค่าราคาของคุณได้หรอก หากคุณไม่ยอมให้เขาประเมินราคาตัวเอง’

“เวลารักน่ะมันใช้หัวใจมากกว่าสมอง แต่เวลาเลิกคุณควรใช้สมองมากกว่าหัวใจ”

รเณศหน้าชา

“คุณไม่เป็นผม คุณไม่มีวันเข้าใจ”

“งั้นเหรอ”

เพลิงกอดอกมองหน้าเขานิ่ง

“คุณไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เดียวกับผม คุณไม่เข้าใจ”

เพลิงกดยิ้มมุมปากแต่แววตากลับแข็งกร้าว

“มีแต่คนไม่มีสมองเท่านั้นแหละ ที่ใช้ความรู้สึกและสถานการณ์ที่ตัวเองเผชิญเพียงอย่างเดียวไปตัดสินทุกอย่างบนโลก คนเราเกิดมาเป็นมนุษย์เหมือนกัน ยังมีอะไรหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน แล้วคุณรู้ได้ไงสิ่งที่คุณเผชิญอยู่มีแค่คุณคนเดียวที่รู้สึกได้”

รเณศเม้มปากแน่น

“เผื่อคุณยังไม่รู้...”

“...”

“ว่าผมเป็นลูกเมียน้อย”

รเณศยืนตะลึง

“ลูกเมียน้อย คำเรียกที่ได้ยินตั้งแต่เกิด”

เพลิงกำหมัดแน่นใบหน้าคมคายดูเย็นชามากขึ้นจนคนมองนึกใจหาย รเณศเหมือนคนหายใจไม่ออกเมื่อสบตากับดวงตาสีเข้มที่ดำมืดเหมือนจิตใจที่โดนคำบางคำทำร้ายจนชินชา

“คุณยังโชคดีที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นตัวจริง...” เพลิงพูดเสียงแผ่ว “ขณะที่แม่ผมไม่เคยเป็นตัวจริงเลยสักครั้งในชีวิต”

รเณศเผลอกลั้นหายใจเมื่อได้ยินแบบนั้น

ผู้ชายตรงหน้าดูเข้มแข็งที่พูดเรื่องเจ็บปวดได้อย่างหน้าตาเฉย แต่แววตาเขากลับดูอ้างว้างจนอยากแตะที่บ่าทั้งสองข้างนั่นเบาๆ

“คุณ...”


...Rrrrrr...

ตอนที่ขยับไปใกล้คนตัวโตนั่น เสียงเครื่องมือสื่อสารของเพลิงก็ดังขึ้น ชายหนุ่มมุ่นหัวคิ้วก่อนจะล้วงโทรศัพท์ออกมา มันคงเป็นสถานการณ์ที่แปลกประหลาดและไม่ควรอย่างยิ่งหากรเณศจะเผลอยิ้มออกมาเมื่อจ้องไปที่มือถือแอนดรอยตกรุ่นซึ่งฝาโทรศัพท์แนบไม่สนิทกับตัวเครื่องจนเจ้าของต้องใช้หนังยางรัดเพื่อให้ใช้งานได้ รเณศเผลอมองตามแผ่นหลังกว้างที่ผละออกไปโทรศัพท์ น่าแปลกที่ความรู้สึกหนักหนาซึ่งแบกมาจากเมืองหลวงมันค่อยบางเบาจางลงอย่างไม่เชื่อ

เพลิงเป็นผู้ชายที่ประหลาด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังทำหน้าเหมือนเด็กหนุ่มที่มีปมเรื่องครอบครัว แต่บัดนี้หลังจากรับโทรศัพท์เสร็จ ภาพหน้าเรียบเฉยตามปกติของผู้ช่วยคนดีของใครต่อใครก็กลับมาอีกครั้ง

“ธุระคุณเสร็จแล้วใช่มั้ย พอดีผมมีงานด่วน”

รเณศพยักหน้าหงึกหงัก อดที่จะวนสายตาไปยังโทรศัพท์แฮนด์เมดในมือของคนตรงหน้าไม่ได้

“อันนี้น่ะเหรอ”

เพลิงชูโทรศัพท์เจ้าปัญหาขึ้นมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสบายราวกับว่าเมื่อกี้เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องราวที่หนักหนาในชีวิต

“อย่าได้ดูถูกมันเชียว เห็นแบบนี้มันอึดมากนะ”

“...”

“คงอึดเหมือนเจ้าของมัน”

รเณศเบะปากก่อนจะเดินตามแผ่นหลังกว้างไป

สภาพโทรศัพท์นั่นคงตกพื้นบ่อยไม่ต้องสงสัย น่ากลัวว่ามันน่าจะทั้งอึดทั้งทนเหมือนเจ้าของตามที่ใครบางคนพูด แต่รเณศแอบเพิ่มข้อดีอย่างว่าโทรศัพท์นั่นคงแข็งแรงและเข้มแรงเหมือนเจ้าของมัน

ต้องเข้มแข็งมากแค่ไหนที่พูดเรื่องปมด้อยของตัวเองให้คนฟังด้วยท่าทางแบบนั้น

เข้มแข็งจนอดที่จะชื่นชมไม่ได้

แวบหนึ่งรเณศเผลอยิ้มและกว่าจะรู้ตัวเขาก็มองตามแผ่นหลังกว้างนั่นไปจนลับตา

☘☘☘☘



ธุระของคนในชุดลายพรางคงจะสำคัญน่าดู เพราะตั้งแต่ขึ้นรถมาเพลิงไม่พูดไม่จาอะไรนอกจากสายตาที่จับจองไปยังถนนเบื้องหน้า ไม่นานเครื่องยนต์สี่ล้อก็พาเลี้ยวเข้าเขตอุทยาน ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าไม้เขียวครึ้มดูอุดมสมบูรณ์

‘อุทยานแห่งชาติดอยห่มรัก’

รเณศอ่านป้ายบอกทางแล้วเริ่มขยับตัวเพราะไม่นานเพลิงก็บังคับรถไปจอดหน้าอุทยานก่อนจะกระโจนออกจากรถอย่างว่องไว ระหว่างนั้นคนเมืองจึงเพิ่งสังเกตว่านอกจากรถของเพลิงแล้วยังมีรถกระบะจอดอยู่บริเวณนั้นอีกสามสี่คัน ซ้ำหนึ่งในนั้นยังเป็นรถตำรวจ พอได้ตามเจ้าถิ่นไปสักระยะรเณศจึงเห็นว่ามีกลุ่มคนมากมายกระจายกันอยู่แถวๆ ที่ทำการอุทยานไม่ต่ำกว่าสิบคน

“ผู้ช่วย”

เพลิงถอนหายใจแรงๆ ตอนที่กวาดสายตามองบรรดาลูกน้องพร้อมกับสำรวจร่างกายแต่ละคน

“ไม่มีใครเป็นอะไรใช่มั้ย”

“พี่พลไหล่หลุด ส่วนพี่เกิ้งโดนกระสุนถากๆ ครับ”

เพลิงเม้มปากแน่นหวนนึกถึงสายโทรศัพท์ก่อนหน้าที่ลูกน้องโทรรายงานว่าวันนี้กลุ่มเจ้าหน้าที่ป่าไม้ส่วนหนึ่งบังเอิญไปตรวจและจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ลักลอบตัดและขนไม้พะยูง แน่นอนว่าการจับกุมที่มีสายข่าวจากชาวบ้านที่มาแจ้งนั่น มีการประทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้กระทำผิด โชคดีเท่าไหร่แล้วที่ลูกน้องเขาไม่มีใครบาดเจ็บสาหัส

เจ้าเต็งหลานพรานป่าธีปอพยักพเยิดไปทางคนเจ็บทั้งสองที่เดินมาทางนี้พอดี ‘พล’ เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้รุ่นน้องที่คณะ ส่วน ‘เกิ้ง’ คือรุ่นพี่ที่รุ่นจักมักคุ้นกันมานาน

“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นพี่เพลิง ผมแค่ไหล่หลุดเมื่อกี้ลุงแสวงแกเอาเข้าให้แล้ว”

เพลิงส่ายหัว

“ไปให้หมอเขาดูอาการหน่อยเถอะ เผื่อมันอักเสบไปพร้อมกับพี่เกิ้งนั่นแหละ”

“ไม่เอาหรอกผู้ช่วย ผมกลัวโรงพยาบาล”

เกิ้งส่ายหัวแรงๆ

“ได้ข่าวว่ามีพยาบาลสาวจบใหม่มาประจำนะพี่ ข่าวว่าสวยน่าดู”

เปลวชี้โพรงเพราะรู้ดีว่าเกิ้งมีข่าวกิ๊กกับพยาบาลสาวที่โรงพยาบาลนั่น ซ้ำยังเคยมีเหตุการณ์รถไฟชนกันจนทำให้เจ้าตัวเข็ดขยาดกับสาวพยาบาล

“ถ้าพี่เกิ้งแกขืนไปโรง’บาล คงโดนแหกอกตาย”

เต็งหันไปยักคิ้วให้เปลวสมกับเป็นคู่หูกันจริงๆ

“สู่รู้จริงๆ ไอ้พวกห่านี่ แค่โรง’บาล กูไม่กลัวหรอกเว้ย”

“งั้นตกลงพี่ไปโรง’บาลนะพี่เกิ้ง”

“ไปให้พยาบาลฉีดฟอร์มาลีนแทนยาแก้อักเสบเหรอ มึงนี่ก็พูดไม่คิด”

พลขำไหล่สั่นขณะที่เพลิงได้แต่ส่ายหัวก่อนจะชะงักกึกเมื่อมองเลยไหล่คนเจ็บไปเห็นกองไม้จำนวนมาก ที่เหลือเมื่อเห็นสายตาของเพลิงก็พากับหุบปากฉับ

“เท่าไหร่”

เพลิงถามเสียงเรียบ

“ประมาณ30-40ท่อนครับผู้ช่วย”

“แบกกันจนหลังแอ่นเลย พอเจอพวกเรานี่ทิ้งไม้วิ่งกันไม่คิดชีวิตเลย ดีว่าพวกมันมีอาวุธแค่คนเดียว ไม่พวกเราคงหนัก”

เพลิงพยักหน้าหงึกหงัก

“จับได้แต่ลูกหาบที่รับจ้างขนครับ ส่วนใหญ่ก็พวกต่างด้าว คนนำทางก็คนไทยเองนี่แหละ เหอะ มันนำทางให้คนชาติอื่นเข้ามาตัดโค่นต้นไม้ป่าตัวเอง โคตรเลวบัดซบ”

ไม้พะยูงเป็นไม้มีราคา แผ่นหนึ่งเทียบเท่ากับทองเส้นหนึ่งได้มั้ง ไม่แปลกหรอกที่เม็ดเงินนั่นจะทำให้ความรู้ผิดชอบชั่วดีถดถอย

“ที่สำคัญ” พลกับเกิ้งลอบสบตากัน “เราพบซากสัตว์บริเวณนั้นด้วย”

“ระยำ”

รเณศสะดุ้งโหยงตอนที่เดินเข้ามาใกล้จนได้ยินเสียงเพลิงสบถ แน่นอนว่าคนแปลกหน้าอย่างเขาโผล่เข้าไปย่อมทำให้เจ้าหน้าที่ในชุดลายพรางคนอื่นๆ หันมามองอย่างสนใจ

“ตามมาทำไม”

รเณศยิ้มแหย

“ก็เผื่อคุณมีอะไรให้ช่วย”

เพลิงส่ายหน้า “ขอผมคุยกับเจ้าหน้าที่สักครู่ เดี๋ยวจะไปส่งคุณที่บ้าน”

รเณศกำลังจะผละออกไป พอดีกับที่เพลิงถูกลูกน้องกระตุกแขนเสื้อเบาๆ

“ใครอ่ะพี่เพลิง”

พลถามยิ้มๆ เพลิงถอนหายใจเพราะรู้ว่ารุ่นน้องสมัยเรียนนี่มันชอบของสวยๆ งามๆ ถึงแม้ว่าของสวยงามที่ว่าจะเพศเดียวกับมันก็ตาม

“รเณศ”

เสียงเรียกชื่อตัวเองทำให้คนเมืองต้องหันมามอง “หลานป้าอนงค์”

“อ๋อ”

พวกนั้นพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะยิ้มกว้างตอนที่รเณศผงกศีรษะเป็นเชิงทักทาย เพลิงเหลือบตามองคนที่ตามติดมาด้วย ชายหนุ่มขยับไปนั่งยองๆ อยู่ใกล้กับกองไม้พะยูงซึ่งถูกตัดเป็นท่อนพร้อมส่งขายราวๆ สามถึงสี่สิบต้นตามที่ลูกน้องบอกกล่าว ชายหนุ่มมองภาพนั้นแล้วความรู้สึกบางอย่างก็ประทุขึ้นมา ถ้าเดาไม่ผิดไม้พะยูงเหล่านี้คงมาจากป่าทึบในเขตรอยต่ออุทยานซึ่งไม้เหล่านั้นอายุไม่ต่ำกว่าห้าสิบปี แต่บัดนี้ต้นไม้ที่ควรมีอายุยืนให้คนรุ่นหลังได้ศึกษากลับกลายเป็นแค่ท่อนไม้ที่ถูกเลื่อยเพื่อส่งขายให้กับนายทุน

เพลิงกำหมัดแน่น

‘เราพบซากสัตว์บริเวณนั้นด้วย’

ทั้งตัดไม้ทั้งฆ่าสัตว์

เลวบัดซบที่สุด

“คุณ”

เพลิงถอนหายใจแรงๆ เมื่อได้ยินเสียงเรียกตัวเอง ก่อนจะหันไปเห็นรเณศที่ยืนยิ้มแหยอยู่เบื้องหลัง

“ผมไม่ได้จะรบกวนคุณนะ แต่พอดีผมอยากเข้าห้องน้ำ”

รเณศยืนเก้ๆ กังๆ

“ขอโทษที่รบกวน”

“เดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย”

“อ๋อ”

รเณศพ่นลมหายใจทางปากดังฟู่ก่อนจะเหลียวหลังกลับไปดูคนในชุดลายพรางคุยกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจเข้าไปทักหรอก เห็นกำหมัดแน่นราวกับโกรธแค้นใครมาก็ไม่ปาน ขืนปล่อยให้กำอยู่อย่างนั้นกลัวมือจะเจ็บจนได้เลือดไปซะก่อน

‘คุณอาจเรียกสิ่งนั้นว่าอุดมการณ์ แต่ผมขอเรียกมันว่าความรัก’

คนที่ก้าวร้าวดุดันแต่การกระทำชัดเจนยิ่งกว่าอะไร


.

.


เกือบค่อนคืนแล้วรเณศก็ยังไม่หลับอาจจะเพราะเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นวันนี้ทำให้เขานอนไม่หลับ ทั้งที่ถูกป้าอนงค์ไล่ให้เข้านอนแต่หัววัน แต่พอจะหลับตาลงนอนภาพความทรงจำเมื่อหัวค่ำก็ผุดขึ้นมา หลังจากเสร็จธุระที่อุทยาน คนหน้าดุก็พาเขามาส่งที่บ้าน

รเณศเห็นเพลิงเข้าไปอุ้มแก้มใสซึ่งกำลังนอนกินนมอยู่ นอกจากนี้เขายังเห็นถุงอะไรสักอย่างที่เพลิงหอบหิ้วมาตั้งแต่ที่ห้าง นั่นแหละถึงรู้ว่ามันคือตุ๊กตาหมีซึ่งน่ารักไม่น้อย ไม่รู้ว่าเจ้าตัวไปแอบไปซื้อตอนไหน และเขาเห็นแววตาที่เพลิงมองหนูน้อยเต็มไปด้วยความรัก ผู้ชายตัวสูงใหญ่อย่างกะตึกกลับโอบกอดหนูน้อยอย่างทะนุถนอม

ภาพนั้นดูขัดแย้ง แก้มใสในอ้อมกอดของเพลิงเหมือนของจิ๋วในมือยักษ์ใหญ่ แต่มันกลับให้ความอบอุ่นจนบอกไม่ถูก

เป็นภาพที่มีความต่าง แต่ทุกอย่างมันลงตัว

ผู้ชายที่มีปมเรื่องครอบครัวแต่แสดงออกกลับเด็กน้อยได้อย่างอบอุ่น

ผู้ชายที่ดุดันแข็งกร้าว มือใหญ่กระชากแขนเขาแทบปลิว แต่มือคู่นั้นลูบท่อนไม้พะยูงที่ถูกเลื่อยอย่างแผ่วเบา

ผู้ชายที่พูดจาห้วนห้าวไม่ไพเราะ แต่เนื้อความเต็มไปด้วยความจริงใจ

“อย่าดูถูกตัวเองเพราะความรักปลอมๆ นั่น เพราะคุณมีค่ามากกว่าคำร้ายๆ ที่คุณพูดให้ร้ายตัวเองคุณรเนศ”

น่าแปลกที่รเณศเผลอใจเต้นแรงเมื่อนึกถึงประโยคนั้น

สงสัยจะกินอิ่มเกินไปซะละมั้ง

นอนๆ รเณศบอกตัวเองให้หลับตาก่อนที่เขาจะสะดุ้งโหยงเมื่อเผลอไปนึกถึงภาพผู้ช่วยปากเจ็บกำลังยิ้มมุมปากมองกัน

คิดอะไรบ้าๆ เขานอนกัดริมฝีปากตัวเองทั้งที่รู้สึกว่าแก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าว


☘☘☘☘


หายไปหนึ่งอาทิตย์จ้า สัปดาห์ที่แล้วเราเป็นหวัด ตอนนี้หายดีแล้วจ้า
หวีดในทวิตรบกวนติดแท็ค #ป่าห่มรัก ให้ด้วยเด้อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 18-02-2019 20:56:25
เนี่ยชมกันแล้ว ถึงจะชมกันในใจกะเถอะนะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 18-02-2019 21:09:16
ที่เขาดูเข้มแข็งมันอาจเป็นเพราะเขาเจ็บปวดมาก มากๆจนไม่อาจเจ็บได้มากกว่านั้นอีกแล้วก็ได้  คุณเพลิงเก่งมากเลยค่ะ ส่งต่อความเข้มแข็งให่น้องเนตรด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-02-2019 21:39:45
ดีจัง เห็นสถานการณ์และประวัติชีวิตของเพลิงแล้ว เนตรจะได้เห็นคุณค่าตัวเองมากขึ้น ไม่ฟูมฟายกับรักที่เสียไป
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 18-02-2019 21:47:45
หายไวไวนะ นี้มานั่งรอนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 18-02-2019 21:54:31
ชนกันไปชมกันมา เดี่ยวก็ได้กัน  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 18-02-2019 22:47:23
กลับมารักตัวเองและเข้มแข็งได้เร็วๆนะเนตร
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 18-02-2019 22:53:09
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 18-02-2019 23:35:45
ดุดัน ดิบเถื่อน แต่อ่อนโยน คุณผู้ช่วยค่อยแทรกซึมเข้ามาในใจกันที่ล่ะนิดๆ   :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 18-02-2019 23:41:59
 :pig4: :pig4: :pig4:

ประทับใจกันแล้ว  ต่อไปก็.....
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 19-02-2019 00:08:48
 :L2: :กอด1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 19-02-2019 02:56:59
เป็นกำลังใจให้งานของคุณผู้ช่วยนะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 19-02-2019 07:31:54
ตอนนี้ไม่มีแกล้งเริ่มไปได้สวย  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 19-02-2019 12:55:26
เนตรเข้มแข็งเร็วๆ​   
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 19-02-2019 18:14:57
อยากให้โลกนี้มีคนแบบ


ผู้ชวยเพลิงเยอะๆ


คนที่รักในอาชีพที่ทำ


คนที่รักในทุกๆอย่าง


ที่เกี่ยวข้องในอาชีพ


คนที่พร้อมจะแลก


คนที่พร้อมจะเหนื่อย



เพื่ออาชีพที่ตัวเองรัก



เรารักคุณนะผู้ช่วง เพลิง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 19-02-2019 20:29:39
เรื่องนี้สะท้อนอารมณ์ ความเป็นจริงในปัจจุบัน มันเรียลมากค่ะ.

แทรกความขี้แกล้งของพี่เพลิงมาอีกกรุบกริบๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 20-02-2019 05:49:09
โอยยยย ชีวิตอยู่ยนเส้นด้ายมากค่ะ
ไม่ใช่อุดมการณ์แต่มันคือความรัก
ก็นะ มันคือสิ่งที่เพลิงจะทุ่มเทให้ได้มากที่สุดแล้ว
เพลิงน่าสงสาร แต่ก็เข้มแข็งและเข้าใจคนอื่น

เนตรน่าสงสารนะ คนแพ้มักจะพูดแบบนี้ตอนเสียใจ
แต่อย่างน้อยตอนนี้ ก็มีโมเมนท์ที่ดีแล้วเนาะ
อย่าไปเผลอหลงคุณผู้ช่วยเค้าซะก่อนล่ะ

หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวแม่ ที่ 23-02-2019 19:56:14
ชอบเรื่องนี้มากกกกก สนุกกกกก รอเล่มนะคะ  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [05] #ป่าห่มรัก [18.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 24-02-2019 00:17:07
เพลิงเป็นพระเอกที่โคตรเท่ห์เลย โอ้ยยยยยยยยยยยยยยย รัก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 25-02-2019 20:54:15
[06]




“พลทางนี้”

“...”

“ยิงสิวะ”

“ซัดเลย”

“นั่นพยาบาลที่อำเภอป่ะ”

“โอ๊ย ผู้ช่วยแม่ง”

เกิ้งหัวเสียก่อนจะขยี้ศีรษะตัวเองแรงๆ เพราะเผลอมองเหลียวหลังไปตามเสียงที่เพลิงแกล้งเรียกเมื่อกี้ แม่งเอ้ย พยาบาลที่ไหนจะมาโผล่ที่อุทยานหลังเวลาทำการกันเล่า คนถูกแย่งบอลฮึดฮัดขณะที่เพลิงแค่ยิ้มมุมปากตอนการเลี้ยงบอลไปจนถึงหน้าประตูแล้วซัดบอลเต็มข้อเข้าประตูที่เจ้าเต็งยืนผู้รักษาประตูอยู่

เปลววิ่งมากอดคอกับพลแล้วโห่ร้องดีใจก่อนที่ทั้งคู่จะวิ่งมาคารวะเพลิงที่ทำประตูให้ทีมได้ ขณะที่เต็งและเกิ้งส่ายหัวไปมาอย่างเซ็งๆ ส่วนผู้รักษาประตูอย่างลุงแสวงถึงกับยิ้มขำสภาพลูกทีมตัวเอง

“พี่เพลิงแม่งโกง”

เต็งมันบ่น

“เล่นแซวพี่เกิ้งแบบนั้น แกก็หน้าตื่นสิ ยิ่งกลัวพยาบาลขี้ขึ้นสมองขนาดนั้น”

ผัวะ!

เต็งคลำหัวตัวเองป้อยๆ

“โอ๊ย ตบขนาดนี้หัวผมยุบหมดแล้ว”

“ปากมากไอ้ห่า”

เกิ้งล็อกคอเจ้าเต็งแล้วดีดหน้าผากมันอีกทีจนคนถูกแกล้งร้องโอดโอยเสียงดัง

“ที่มึงพูดมา มันก็ไม่ถูกทั้งหมดหรอกไอ้เต็ง”

พลพูดขำๆ แน่นอนว่าประโยคนั้นทำให้คู่หูเปลวและเต็งลอบสบตากันก่อนจะหรี่ตามองคนมีชนักที่ยืนฮึดฮัดอยู่เบื้องหน้าเพลิง

“อะไรยังไงวะพี่”

เปลวร้องถาม

“แน่ใจเหรอว่าไอ้พี่เกิ้งแม่งกลัวพยาบาล”

เกิ้งอ้าปากพะงาบๆ

“ไอ้ห่าพล”

“พยาบาลหรือบุรุษพยาบาลเอาดีๆ”

“ไอ้สัด!”

พลพูดจบก็โกยอ้าวโดยมีเกิ้งวิ่งไล่เตะ ปล่อยให้เต็งและเปลวอ้าปากค้างมองตากันปริบๆ

“พี่เพลิงได้ยินเหมือนพวกผมมั้ย”

“อือ”

“บุรุษพยาบาล?”

เพลิงพยักหน้าหงึกๆ

“ถึงว่าคราวนั้นปากแตกมา ไอ้ผมก็ยังสงสัยว่าพยาบาลอะไรวะมือโคตรหนัก ทำพี่เกิ้งหน้าเยินมาเชียว” เปลวงึมงำ

“ที่ไหนได้ พี่เรานี่มันเราไม่เบาจริงๆ วุ้ย”

ว่าแล้วไอ้สองคนตรงหน้าก็พากันหัวเราะจนไหล่สั่น ขณะที่เพลิงแค่ส่ายหัวก่อนจะเกี่ยวคอเสื้อกล้ามขยับไปมาให้คลายความร้อน ระหว่างนั้นลุงธีปอซึ่งถือกระติกน้ำมาแต่ไกลก็มาทรุดตัวนั่งยืดกล้ามเนื้ออยู่ใกล้ๆ พอเห็นน้ำดื่มในกระติกแล้วแต่ละคนก็เฮโลกันเอารุมตักดื่มแก้กระหาย ช่วงเวลาห้าโมงกว่าๆ เป็นช่วงที่ตะวันกำลังจะชิงพลบ แสงแดดจากพระอาทิตย์คล้อยต่ำกระทบสายตาพอดีทำให้บรรยากาศเย็นขึ้น

ช่วงเวลาเลิกงาน อุทยานจะปิดทำการ หากไม่มีงานด่วนอะไรจะเป็นช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้บางส่วนมารวมตัวกันเตะบอลหรือไม่ก็หากิจกรรมทำร่วมกัน มีบางคนที่ตรงดิ่งไปพักผ่อนที่บ้านพักเลย แต่ส่วนใหญ่ก็จะจับกลุ่มรวมกันจนกว่าฟ้าจะมืดตามประสาผู้ชายทั่วไปนั่นแหละ เนื่องจากบ้านพักเจ้าหน้าที่นั้นมีแต่เจ้าหน้าที่ผู้ชายที่อาศัยอยู่

เพลิงพ่นลมหายใจแรงๆ เพราะวิ่งจนหอบ เหงื่อที่ออกตามขมับบ่งบอกว่าเจ้าตัวเป็นคนขี้ร้อนเอาเรื่อง แม้จะใช้หลังมือปาดตามใบหน้าแล้วแต่ก็ยังเหนียวเหนอะหนะเหมือนเดิม เขาจึงตัดสินใจถอดเสื้อกล้ามออกมาแล้วเช็ดหน้าตัวเองซะเลย

“โหพี่เพลิง”

เต็งอุทานขณะที่ดวงตาจับจ้องกล้ามเนื้อของเขาตาไม่กระพริบ

“ผมต้องใช้เวลากี่ปีเนี่ย ถึงจะได้หกลอนแบบพี่บ้าง”

“ตายแล้วเกิดใหม่ยังจะง่ายกว่า”

“ไอ้ห่าเปลว”

เต็งทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ขณะที่เปลวทำทะเล้นเอียงหน้าหลบก้อนหินที่ถูกปามา

“ชมอะไรแต่ผู้ช่วยวะ ข้าก็มีนะโว้ย”

ลุงแสวงถอดเสื้อโชว์พุงกลมๆ จนบรรดาเด็กหนุ่มพากันหัวเราะครืน

“ไม่แก่ลงพุงแบบข้าบ้าง ให้มันรู้ไป”

“เอาน่าไอ้แสวง ลงพุงแบบนี้แหละที่สาวเดือนเสี้ยวชอบนักแล”

พรานธีปอปลอบใจเกลอรัก เพลิงส่ายหัวไปมาเพราะ ‘สาวเดือนเสี้ยว’ ที่ว่านั่น คือสถานบันเทิงขึ้นชื่อของจังหวัด

“เขาว่าวีไอพีนี่งามหยดย้อยยิ่งกว่านางงามสงกรานต์ จริงรึเปล่าลุง”

เจ้าเต็งทำท่าสนใจ

“สวย”

พรานป่าพึมพำ

“สิบนางงามสงกรานต์ยังไม่เท่า ไม่เชื่อถามผู้ช่วยสิ”

เพลิงหันขวับเพราะนั่งอยู่ดีๆ ก็เหมือนถูกใครโยนเอาของร้อนใส่มือ ท่าทางอิหลักอิเหลื่อนั่นเรียกเสียงหัวเราะจากพลและเกิ้งเสียงดังลั่น

“ไอ้สวยน่ะก็สวยอยู่หรอก แต่แม่นางฟ้านั่นดันหยิ่งสมเป็นวีไอพี จะให้มาพูดจากับคนทั่วไปนี่ฝันเอาเถอะ” พลยิ้มเผล่ “แต่เว้นไว้สักคนเถอะที่นางฟ้าจะโน้มลงมาหา ไม่ได้โน้มธรรมดานะ ทั้งโน้มทั้งก้มลงต่ำเชียวล่ะ”

“ไอ้ห่าพลมึงก็พูดเกินไป เขาไม่ได้ก้มต่ำเว้ยก็แค่สะดุดให้ผู้ช่วยรับเอาไว้”

“จริงหรือพี่เพลิง”

เพลิงส่ายหัวไปมาก่อนจะโบกมือไหวๆ

“พูดแบบนั้นผู้หญิงเขาเสียหาย”

ชายหนุ่มปรามบรรดาลูกน้องที่กำลังทำหน้าล้อเลียน ถึงจะพยายามเกร็งใบหน้าให้ดุขนาดไหน พวกมันก็ยังยิ้มแซวไม่เลิก สุดท้ายเขาเลยยกมือยอมแพ้ก่อนจะคลึงขมับเมื่อเจอกับลูกตาวิบวับหลายคู่ เพลิงเกือบจะลืมเลือนเรื่องนี้ไปแล้วถ้าหากพรานป่าไม่พูดถึง ก่อนหน้านี้ที่มาประจำที่นี่ใหม่ๆ เขาถูกบรรดาลูกน้องชวนไปเปิดหูเปิดตาที่ “เดือนเสี้ยว” แน่นอนว่าทุกคนต่างลงความเห็นกันว่าสาวเดือนเสี้ยวที่งามหยดย้อยกันทุกคน โดยเฉพาะวีไอพีอย่างลูกสาวบุญธรรมเจ้าของร้าน คงไม่แปลกถ้าคนสวยจะหยิ่ง และเพลิงเองก็ไม่ได้สนใจความเป็นไปที่นั่น หากไม่ถูกลูกน้องรวมหัวกันพาไปเที่ยวจนพบเจอกับวีไอพีที่สวยราคา ไม่รู้ว่าเพราะอะไรสาวเจ้าถึงแสดงออกชัดว่าสนใจเขา แต่ตอนนั้นเพลิงนิ่งเฉยในไมตรีที่อีกฝ่ายมีให้กัน

แน่นอนว่าเหตุการณ์นั่นทำให้บรรดาลูกน้องนำมาแซวจนถึงทุกวันนี้  ทั้งๆ ที่ช่วงหลังมาเพลิงไม่เคยเหยียบย่างไปยังที่อโคจรอีก แต่เจ้าพวกนี้ที่แอบไปเที่ยวบ้างก็ยังอุตส่าห์ฝากสาสน์จากคนงามมาบอกเขาว่าวีไอพียังรอเจอเขาอยู่เสมอ

“พี่เพลิงนี่ก็แปลก เขาให้ท่าขนาดนั้นดันไม่ยักกะชอบเขา สาวเดือนเสี้ยวนี่เจนสนามกันทั้งนั้นนะพี่”

“พูดอะไรระวังหน่อย”

เพลิงปราม

“ถึงจะเป็นแค่สาวเสิร์ฟ แต่เขาก็ทำมาหากินเลี้ยงปากท้องตัวเองโดยสุจริตไม่ได้ลักขโมยหรือปล้นฆ่าใคร แล้วหากเขาพึงพอใจจะทำ ‘อย่างอื่น’ ก็เรื่องของเขา คนเรามีความเป็นคนเหมือนๆ กัน ถ้าเลือกได้ ใครจะทำอาชีพที่ถูกดูถูกและเหยียดหยามกันเล่า”

“จริง” พรานธีปอสำทับ “ของสวยๆ งามๆ น่ะใครก็ชอบ”

“แหงสิ เอ็งชวนข้าไปแทบทุกเดือน”

ลุงแสวงพูดขึ้น

“วันหลังลุงชวนผมบ้างสิ”

เจ้าเต็งทำท่านึกสนุก เพราะช่วงนี้รู้สึกชอบพอกับสาวรุ่นราวคราวเดียวกันในหมู่บ้าน แต่เขามันขี้อายไร้ประสบการณ์เรื่องความรักเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ

“มึงยังเด็กไอ้เต็ง”

“ผมเกินสิบแปดแล้วเหอะลุง”

“เอาน่า เด็กวัยกำลังอยากรู้อยากลอง อย่าไปปิดกั้น อย่างน้อยถ้าไปกับพวกเรา มันทำอะไรพลาดไป จะได้เตือนได้สอนกันทัน”

“ลูกผู้ชายมันก็ต้องมีกันบ้าง” เกิ้งตบบ่าเด็กหนุ่ม “ เดี๋ยวพี่พาไปเปิดโลกเองไอ้น้อง”

“ไปเคลียร์กับบุรุษพยาบาลก่อนเถ๊อะ”

พลพูดขำๆ หลังจากปลายเท้านั้นเกิ้งก็ลอยไปที่กลางหลังของคนเอ่ยแซวทันที เพลิงมองความวุ่นวายตรงหน้าแล้วได้แต่ส่ายหัว จังหวะที่ละสายตาจากสองคนนั้นก็เผลอสบเข้าสายตาอยากรู้อยากเห็นของเจ้าเต็งเข้าจนได้

“พี่เพลิง ผมถามอะไรหน่อยสิ”

“อือ”

“พี่ไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอที่ผู้หญิงสวยๆ อยากเชื่อมสะพานด้วยน่ะ”

สำนวนอะไรของมันวะ

“ทอดสะพานไอ้ห่า”

เปลวแก้ให้

“เออน่าสะพานเหมือนกัน”

“พี่คนนะไม่ใช่เสาอิฐ” เพลิงพูดขำๆ “ไม่รู้สึกก็แปลกแล้ว”

“เอ้า”

ผู้ช่วยหนุ่มโบกมือไหวๆ

“ตอนนั้นมีแฟนอยู่เลยไม่ได้คิดอะไร”

เรื่องนั้นเกิดมาตั้งหลายปี ช่วงนั้นเพลิงมีคนรักเป็นตัวเป็นตน แน่นอนว่าสำหรับเพลิงลองได้รักปักใจใครแล้ว เขาจะให้เกียรติคนรักทั้งต่อหน้าและลับหลัง ไอ้เรื่องที่จะให้วอกแวก นอกลู่นอกทางนั่นไม่มีอยู่ในสมองหรอก อีกอย่างเขายอมรับตรงๆ เลยว่าเคยได้ทดลองใช้ชีวิตกับคนรักหลังจากที่ทั้งคู่หมั้นกัน เรื่องความต้องการทางเพศมันเลยถูกเติมเต็ม จนกระทั่งวางแพลนว่าจะแต่งงานแล้วถูกบอกเลิกในเวลาต่อมานั่นแหละจะไปว่าก็เกือบปีแล้วมั้งที่เขาไม่ได้มีเรื่องอย่างว่ากับใคร

นานเหมือนกันที่ไม่มีเรื่องนี้ในหัวสมอง ไม่ใช่ว่าเพราะยังช้ำรักหรอก แต่เขาไม่อยากสร้างพันธะขณะที่ตัวเองยังไม่มีความพร้อมอะไร เพลิงยังจำได้ดีว่าวันนั้นอดีตคนรักขอเลิกราด้วยสาเหตุอะไร

‘เพลิงเป็นคนดีนะ แต่คนดีที่มีแต่ตัวมันไม่พอสำหรับเราหรอก’

เพลิงแค่นยิ้ม เพราะที่เธอพูดวันนั้นมันจริงทุกอย่าง

ใครที่ไหนอยากทนลำบากกับเขากัน

“พี่ก็เลิกกับแฟนมานานแล้วนี่ มันแบบว่า...” เต็งเกาหัวแกรกๆ “ไม่เอ่อ ไม่อยากบ้างเหรอวะพี่”

“พี่เพลิงเขาไม่ได้ขี้หื่นเหมือนไอ้พลนะเว้ย”

เกิ้งที่ไล่เตะพลจนพอใจแล้วเดินมาทรุดตัวนั่งข้างๆ กัน

“เขาไม่เรียกหื่น แบบผมนี่เรียกว่าคนที่มีทัศนะวิสัยการมองของสวยๆ งามๆ”

พลแก้ตัว

“แบบคลำไม่มีทางก็เอาน่ะเหรอ”

เกิ้งแกล้งเหน็บ

“ก็เกินไป” พลยักไหล่ “ผมแค่ไม่ซีเรียสเท่านั้นเองว่าจะเพศอะไร”

จริงอย่างว่า เพลิงได้ยินตั้งแต่สมัยเรียนแล้วว่า เจ้านี่มันเป็นทั้งเสือผู้หญิงและเสือผู้ชาย ถึงนิสัยส่วนตัวจะกระล่อนทำตัวลอยไปลอยมา แต่พลเป็นคนที่จริงจังเรื่องงานคนหนึ่ง

“พี่พลเคยมีแฟนเป็นผู้ชายหรือวะ”

พลไม่ตอบแค่ยิ้มๆ

“แล้วมันต่างกับผู้หญิงมากมั้ยพี่ กอดไปแล้วไม่ขนลุกเหรอพี่ ขนตามตัวก็มีเหมือนกัน ตัวก็พอๆ กัน เสียงก็คงไม่ต่าง มากระซิบข้างหูที พี่ไม่หมดอารมณ์เหรอวะ”

“ผู้ชายมันก็ไม่ได้เหมือนกันหมดหรอกเว้ย ตัวเล็กๆ น่ารักน่ากอด ผิวเนียน หน้าใสกิ๊ก ยิ้มทีโคตรน่าฟัดแบบหลานป้าอนงค์ก็มีไม่น้อย”

เพลิงมุ่นหัวคิ้วเมื่อบทสนทนานั่นโยงไปถึง ‘ใครบางคน’ อะไรไม่รู้ดลใจให้เขาคิดภาพตามคำบอกเล่าของรุ่นน้อง จนเผลอจินตนาการถึงเจ้าของใบหน้าเนียนใส รูปร่างสูงโปร่งแต่ดูสันทัดจนไม่อาจปฏิเสธได้ว่าดูดี

‘ตัวเล็กๆ น่ารักน่ากอด’

ตัวไม่เล็ก ไม่ถึงกับน่ากอด แต่เคยกอดตอนที่ฝ่ายนั้นเมาไม่ได้สติ เนื้อตัวก็นุ่มนิ่มและหอมกรุ่นไม่น้อย

คิดอะไรบ้าๆ วะ!

‘ผิวเนียน หน้าใสกิ๊ก ยิ้มทีโคตรน่าฟัด’

ผิวเนียนใสตามแบบฉบับคนเมือง จับทีก็กลัวจะช้ำเป็นรอย ตอนที่เผลอกระชากวันนั้นยังเห็นรอยแดงช้ำขึ้นเป็นปื้น

ส่วนรอยยิ้ม...บังเอิญเห็นฝ่ายนั้นแอบยิ้มตอนเห็นโทรศัพท์มือถือเขา

‘โคตรน่าฟัด’

ใช่ น่าฟัด

เพลิงเม้มปากแน่นก่อนจะสะบัดศีรษะตัวแรงๆ แล้วสูดหายใจเข้าออกแรงๆ

‘สงสัยจะขาดเรื่องอย่างว่าไปนาน ถึงได้มีความคิดไร้สาระแบบนี้’

เพลิงถอนหายใจ

☘☘☘☘



รเณศประคองพวงมาลัยอย่างระมัดระวังตอนที่ถนนลาดยางถูกบีบให้เหลือสองเลนพอสวนกันได้ ตอนที่ขับเข้ามาในเขตอุทยาน ตอนนี้เป็นเวลาเกือบพลบค่ำที่รับอาสาจากป้าอนงค์ให้มาส่งปิ่นโตให้กับคนตัวโตที่ผูกขาดเรื่องปากท้อง เมื่อเช้านี้พี่สาวแม่พารเณศไปเดินดูตึกซึ่งเป็นสมบัติของตาเพื่อดูสถานที่สำหรับเปิดร้านขายยา ดูเหมือนว่าความฝันเล็กๆ ของเขาจะถูกเติมเต็มในไม่ช้า เพราะป้าอนงค์แกเห็นดีเห็นงามสนับสนุนเรื่องสถานที่และค่าใช้จ่ายในการทำร้าน พอตกบ่ายแกก็พาเขาไปดูตลาดผลไม้และแนะนำเรื่องกิจการอีกนิดหน่อย จากการที่ป้าแกพาไปตระเวนทั้งวัน เขาเลยนึกเห็นใจรับอาสาเจ้าบ้านที่เอ่ยปากว่าจะมาส่งข้าวผู้ช่วยคนดีของแก

จริงๆ หน้าที่รับส่งปิ่นโตเป็นของเจ้าเปลว แต่รอจนตะวันจะชิงพลบเด็กหนุ่มก็ยังไม่โผล่ ป้าอนงค์ที่เอ่ยปากว่าเอ็นดูคนตัวโตเหมือนลูกเหมือนหลานก็นึกห่วงว่าคนร่างยักษ์ที่โตจนสุนัขเลียตูดไม่ถึงจะไม่มีอะไรตกถึงท้อง

ห่วงอย่างกับเป็นเด็กสิบขวบไปได้

‘ผู้ช่วยเป็นคนดี’

รเณศยังจำได้ถึงน้ำเสียงของพี่สาวที่พูดถึงคนๆ นั้น

‘แกเป็นคนไม่ค่อยพูดหรอก แต่แกทำจริง ตั้งแต่มาประจำที่นี่ ไม่เห็นจะสุงสิงกับใคร วันหนึ่งเห็นมาชวนไอ้เปลวไปทำงานด้วย สภาพแกนะอย่าให้ป้าพูดเลย ชุดลายพรางนั่นเลอะเทอะมอมแมม หน้ามีแต่โคลนเลยถามไปว่ากินข้าวกินปลาไปรึยัง แกก็ตอบว่าเพิ่งกลับจากลาดตระเวน ของยังชีพหมดไปตั้งกะวันก่อน ก็พวกอาหารกระป๋องที่เตรียมไปกินตอนลาดตระเวนนั่นแหละ ข่าวว่ารับบริจาคจากประชาชนทั่วไป แต่ก็ไม่พอกันหรอก เจ้าหน้าที่น่ะเวลาไปลาดตระเวนทีก็ไปหลายวัน บางทีไม่มีกำหนดกลับด้วยซ้ำ พอออกจากป่าลูกน้องไปเล่าให้ฟังว่าไอ้เปลวมันไปลาออกจากโรงเรียน ผู้ช่วยเลยรีบมา ข้าวปลายังไม่ทันกิน แกคงเอ็นดูเพราะไอ้เปลวมันเคยไปช่วยงานอุทยานมาก่อน แกว่าจะส่งไอ้เปลวมันเรียนให้จบ แต่เปลวมันเกรงใจเลยขอทำงานกับผู้ช่วยอย่างเดียว’

รเณศอึ้งไปเหมือนกันที่ได้ยินแบบนั้น

‘ป้าได้ยินก็สงสารแก มาอยู่ห่างพี่ห่างน้อง ญาติก็ไม่มี ตัวคนเดียว แต่ขยันขันแข็งจนชาวบ้านต่างก็รักแก ไปถามดูเถอะว่ามีลูกน้องคนไหนไม่รักผู้ช่วยแกบ้าง คิดดูสิว่าหากเป็นลูกเป็นหลานป้าคงอดภูมิใจไม่ได้ มีลูกดีแบบนี้น่าอิจฉาพ่อแม่ผู้ช่วยนะ คนหนุ่มมันน้อยนะเจ้าเนตรที่จะเสียสละตัวเองแบบนี้ บ้านเราน่ะมันชนบทห่างไกลความเจริญ ไม่มีใครเขาอยากมาลำบากหรอก’

รเณศฟังป้าอนงค์เล่าภูมิหลังของหมอนั่นอยู่นานจึงตัดสินใจรับอาสามาส่งข้าวให้

เกือบครึ่งชั่วโมงที่บังคับเครื่องยนต์สี่ล้อจากบ้านมาถึงที่ทำการอุทยาน เขามาหยุดรถตอนที่ความมืดเริ่มโรยตัว แสงไฟหน้ารถของป้าอนงค์ทำให้เด็กหนุ่มสังเกตเห็นจึงเดินมาหยุดที่รถกระบะคุ้นตา

“อ้าวพี่เนตร”

เปลวร้องทักขณะที่คนขับเอี้ยวไปคว้าปิ่นโตมาหิ้ว

“มาส่งข้าวผู้ช่วยน่ะ”

“อ๋อ” เปลวทำหน้าแหย “ผมมัวแต่เตะบอล ลืมไปเลยว่าจะไปเอาปิ่นโต ขอโทษนะพี่ คราวนี้ลำบากพี่เลย”

เด็กหนุ่มยกมือไหว้ปลกๆ

“ไม่เป็นไร อยากมาขับรถเล่นพอดี”

ดูเป็นเหตุผลที่ไม่เข้าท่าหรอก ใครจะอยากขับรถเล่นตอนใกล้ค่ำแบบนี้ แต่เปลวไม่ทันคิดมันจึงรีบมาคว้าปิ่นโตไปช่วยถือ จังหวะนั้นเสียงน้ำไหลในระยะใกล้เรียกความสนใจจากคนเมือง

“เสียงน้ำตก?”

“มีน้ำตกตรงชายป่าใกล้กระท่อมท้ายป่าครับ”

“หือ?”

รเณศทำหน้าสนใจ

“ขอพี่ไปดูได้มั้ย”

“เอาสิครับ”

“งั้นขอแวะไปล้างไม้ล้างมือที่น้ำตกแป๊บนึง เดี๋ยวพี่กลับมา ฝากเปลวเอาข้าวไปให้ผู้ช่วยที เสร็จแล้วมารอที่รถนะ แก้มใสรอเปลวแย่แล้ว”

เปลวหยักหงึกหงักก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าน้ำตกที่ว่านั่นมันอยู่ใกล้ที่พักของเพลิง ตอนที่ขยับปากจะบอกร่างสูงโปร่งก็เดินไปโน่นแล้ว เด็กหนุ่มเกาหัวแกรกๆ คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง ปกติพี่เพลิงไม่ได้แก้ผ้าอาบน้ำที่น้ำตกสักหน่อย

อย่างน้อยก็ใส่กางเกงลิงล่ะวะ พี่เนตรคงไม่ตกใจหรอก...มั้งนะ


.

.

เสียงน้ำกระทบกับพื้นดังขึ้นในความเงียบเป็นจังหวะคล้ายดนตรีขับกล่อม บวกกับอาการเย็นๆ บริเวณโดยรอบนั่นทำให้คนเมืองอมยิ้มแล้วสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปจนเต็มปอด ปลายเท้าเล็กขยับซอยไปตามทิศทางของธารน้ำกระจ่างใส

ภาพน้ำตกเล็กๆ เบื้องหน้านั่นถูกใจเขาไม่น้อย รเณศนั่งยองๆ จุ่มมือลงไปในลำธารเล็กๆ เขาขยับมือเลื้อยไปมาเพื่อสัมผัสพื้นน้ำอย่างนึกสนุก จังหวะนั่นเสียงซ่าของอะไรบางอย่างดังขึ้น รเณศผุดลุกขึ้นยืนก่อนจะเอี้ยวมองไปเบื้องหลัง

รเณศอ้าปากค้างเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของใครบางคนโผล่ขึ้นมาจากน้ำ ใบหน้าคมสันเปียกไปด้วยน้ำ ปลายเส้นผมมีน้ำไหลย้อยลงมาเป็นทาง ร่างกายส่วนบนเปล่าเปลือย ลายกล้ามเนื้อชัดเจน ยิ่งมีน้ำเกาะอยู่ยิ่งทำให้ทุกอย่างดูชัดเจน แผ่นอกบึกบึน หัวไหล่กว้าง รเณศเผลอจ้องร่างกายเขาจนสายตาวนไปถึงหัวนมอ่อนนั่น

นี่คือร่างกายที่สมบูรณ์แบบชัดๆ

“คุณ...”

เสียงทุ้มนั่นเอ่ยขึ้นทำเอาคนมองตัวสั่น

“พวกถ้ำมอง”

“ผมเปล่า”

รเณศปฏิเสธเสียงสั่น หัวใจสั่นไหวกับสภาพคนตรงหน้า

เพลิงกดยิ้มมุมปากก่อนจะโคลงศีรษะ

“เพิ่งรู้ว่าคุณชอบแอบดูคนอื่นอาบน้ำ”

“จะบ้าเหรอ”

รเณศส่ายหัวรัวๆ “ผมก็แค่ แค่มาส่งข้าวคุณ”

“เหรอ”

“จริงๆ”

สายตาคู่คมที่จ้องมองกันมีแววขบขัน รเณศหน้างอก่อนจะสะบัดตัวหันหลังหนี เพราะไม่ทันระวังข้อเท้าจึงไปเกี่ยวเครือหญ้าจนสะดุดหินเบื้องหน้าพาให้หงายลงน้ำ

“เฮ้ย”

...ตู้มมม...

รเณศทะลึ่งตัวขึ้นจากน้ำก่อนจะไอหน้าดำหน้าแดง สภาพนั้นเรียกให้คนตัวโตว่ายมาใกล้แล้วช่วยประคองแผ่นหลังแล้วดันรเณศให้ขึ้นฝั่ง

“แค่กๆ”

รเณศไอจนแสบจมูกเพราะตกน้ำไม่ทันตั้งตัว จึงตกใจจนเผลอหายใจเอาน้ำเข้าจมูกเต็มที่

“เป็นยังไงบ้าง”

เพลิงลูบแผ่นหลังให้

“ไหวมั้ย”

รเณศพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะรีบเบือนหน้าหนีตอนที่เพลิงกำลังจะก้าวขึ้นฝั่ง แค่เห็นแผ่นอกกว้างเขายังทำตัวไม่ถูก หากได้เห็นอะไรต่อมิอะไรมากกว่านี้ รเณศคงหายใจไม่ทั่วท้องเป็นแน่ ดีว่าเพลิงมีบ๊อกเซอร์ติดกาย

ไม่อย่างนั้น...เขาไม่อยากจะคิด

ผู้ชายตัวใหญ่โตก็คงมี ‘อะไรๆ’ ที่ใหญ่ตามตัวแน่ๆ

บ้าจริง! ทำไมถึงมีความคิดน่าเกลียดขนาดนี้ได้

รเณศเผลอกัดริมฝีปากที่คิดอะไรไม่เข้าท่า

.

.

สภาพที่เปียกโชกไปทั้งตัวแบบนั้นของแขกไม่ได้รับเชิญนั่น เพลิงเลยต้องเดินนำหน้าพาร่างโปร่งเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้ายังบ้านพักของตัวเอง เพลิงยื่นเสื้อตัวโคร่งและกางเกงไซส์ใหญ่ของตัวเองให้รเณศไปเปลี่ยน พอจะเดาได้ว่ารเณศใส่แล้วคงเหมือนกันเด็กที่ซื้อเสื้อผ้าเผื่อโต แต่ก็จนใจเพราะเขาไม่มีเสื้อผ้าไซส์ของรเณศเลย

ตอนที่เพลิงเปลี่ยนชุดลำลองเสร็จเรียบร้อย หางตาบังเอิญไปเห็นเสื้อและกางบอลบอลของเจ้าเต็งที่ลืมเอาไว้ตั้งแต่พาน้องสาวมานอนที่นี่คราวนั้น  รูปร่างเต็งคงพอๆ กับรเณศ เขาจึงคว้าชุดนั้นหมายจะเอาไปให้หลานป้าอนงค์เปลี่ยน

จังหวะที่จะยื่นมือไปเคาะประตูห้องน้ำนั่น ทำเอาเขาชะงักกึกเพราะคนข้างในไม่ล็อกประตู เพลิงจึงมองลอดข้างว่างระหว่างประตูนั่นเข้าไปเห็นร่างสูงโปร่งที่ยืนหันหลังกำลังถอดเสื้อผ้า จนเหลือแต่ชั้นในที่ขาวเกาะอยู่ตรงเอวกึ่งกลางลำตัว

เพลิงยืนอึ้ง

เขาเผลอกลืนน้ำลายเมื่อสายตาคู่คมเผลอมองเลยไปตามแผ่นหลังเนียนใส สะโพกกลมมนขาวกระจ่างไม่แพ้แผ่นหลังนั่น เอวคอดพอเหมาะพอเจอะกับรูปร่าง แขนยาวและขาเรียวสมส่วน ทุกอย่างเนียนไร้ที่ติติดตาคนมองจนเผลอกำเสื้อผ้าในมือแน่น

เพลิงเบือนหน้าหนีก่อนจะผละถอยหลังออกมาเมื่อรู้สึกกว่ากึ่งกลางร่างกายของตัวเองร้อนผ่าว

‘ตัวเล็กๆ น่ารักน่ากอด’

ชายหนุ่มขบครามแน่น

“ระยำ”

เพลิงกระซิบเสียงแผ่วเมื่อรู้สึกว่าตัวเองอยากปลดปล่อย

เพราะดันเผลอไปคิดตามคำพูดบ้าๆ ของเจ้าพล ถึงได้อุตริอยากทำเรื่องสัปดนแบบนี้ในขณะที่แขกไม่ได้รับเชิญยังอยู่ในบ้านพักเขา

“อ้าวคุณ”

รเณศที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วทำหน้ามึนงงตอนที่เปิดประตูห้องน้ำมาเจอเจ้าของใบหน้าคมคายกำลังทำหน้าบูดบึ้งกัดฟันกรอด

“ขอบคุณสำหรับเสื้อผ้าคุณนะ ถึงจะตัวใหญ่ไปหน่อย แต่ใส่สบายมาก”

“...”

“คุณ..”

รเณศกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่าย นั่นทำให้เจ้าบ้านกัดฟันแน่น รเณศในชุดของเพลิงเหมือนที่เขาคาดการณ์ไว้จริงๆ เสื้อไหล่ตก กระดุมเม็ดแรกร่นเกือบถึงกลางอก เวลาที่เจ้าตัวขยับยุกยิกยิ่งเปิดรอยแยกระหว่างกระดุมแต่ละเม็ดของเสื้อให้กว้างจนมองเห็นผิวสว่าง

‘ผิวเนียน หน้าใสกิ๊ก โคตรน่าฟัด’

“แม่งเอ้ย”

สงสัยคงต้องอาบน้ำใหม่อีกรอบแล้ว เพลิงขยี้ศีรษะตัวเองแรงๆ ก่อนจะเดินปึงปังหายลับไปที่น้ำตกด้านท้ายที่พัก ทิ้งให้รเณศยืนงงสงสัยในพฤติกรรมแปลกประหลาดของเจ้าบ้าน

☘☘☘☘


มีคนถามว่ามีฉากเอ้าท์ดอร์มั้ย ขอตอบว่า "มี" (แต่ไม่รู้ตอนไหน) 55555555
ทิ้งระเบิดไว้แล้วรีบเผ่นก่อน คิกคิก
หวีดในทวิตติดแท็ค #ป่าห่มรัก ด้วยเด้อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 25-02-2019 21:16:44
อุ๊ย.....ได้เรื่องแล้วมั๊ยล่ะ  ต่อไปพี่เค้าคงจะมองน้องเนตรไม่เหมือนเดิมแล้วนิ.  :hao3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 25-02-2019 21:24:59
 :hao6:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 25-02-2019 21:29:47
 :3123: :3123: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 25-02-2019 22:20:46
มีคนเก็บกด1อัตรา
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 25-02-2019 22:41:45
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ่าว.....ภาพตัดไปที่ธารน้ำตกซะแล้ว

นึกว่าจะมีฉาก.....เสียอีก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 25-02-2019 22:52:51
มาสปอยแล้วจะหายไปไม่ได้นะ อยากรุจังเพลิงจะทำยังไงต่อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 26-02-2019 00:07:50
เอาแล้วววว  :hao6:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: anarshy ที่ 26-02-2019 01:38:02
พี่เพลิงงงงง คนถ้ำมองของจริงนะเนี่ยยย แล้วก็ไปว่าน้องง 55555555  :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 26-02-2019 01:39:08
 คราวนี้แหละที่พี่เพลิงจะละสายตาจากน้องเนตรไม่ได้ 555555555
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 26-02-2019 08:24:56
 :hao6:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 26-02-2019 12:31:11
:pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 26-02-2019 20:16:36
55555 ตลกเพลิง คือเค้าแค่คุยกันไง ไม่ต้องคิดตามขนาดนั้นก็ได้มั้ง
แต่ตอนนี้ไม่ให้คิดคงยากเกินไปแล้ว ดันเห็นภาพไปเต็มตา
กลัวเพลิงเพ้อถึงเนตรเลยน่ะ

เนตรน่าเอ็นดู จะอ้างทั้งทีนะคนเรา แล้วคืออะไรไปตกน้ำจนเปียก
อยากเล่นน้ำก็ไม่บอก แถมใส่ชุดกระตุ้นต่อมผู้ช่วยไปอีกจ้า
แต่เนตรก็ยังไม่รู้ตัว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 26-02-2019 23:06:51
อิตาเพลิงถึงกับจะไปแช่น้ำดับร้อนอีกรอบ 5555555555 แย่แล้ววว อย่าเผลออดใจไม่ไหวนะนะคุณผู้ช่วย

น้องเนตรรู๊กก หนูน่ารักน่าเอ็นดูไปแล้ววว

หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 26-02-2019 23:57:25
สงสารพี่เพลิง 5555  :haun4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [06] #ป่าห่มรัก [25.2.62] P.3 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 28-02-2019 07:24:21
ผู้ช่วย  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 04-03-2019 21:40:55
[07]





“แอ๊ะ แอ๊ะ”


เสียงร้องอ้อแอ้ของหนูน้อยเรียกความสนใจจากรเณศที่ก้าวพ้นธรณีประตูเข้ามา หนูน้อยในชุดนอนที่ถูกห่ออยู่ในเปลชูมือขึ้นทำท่าจะไขว่คว้าอะไรสักอย่างน่าเอ็นดูไม่น้อย ดวงตากลมโตใสแจ๋ว จมูกจิ้มลิ้ม ริมฝีปากกระจุ๋มกระจิ๋ม แก้มสีมะเขือเทศกลมบ๊อกน่าเอ็นดูที่สุดในสายตาของรเณศจนชายหนุ่มต้องเอื้อมมือไปช้อนเจ้าตัวนุ่มนิ่มขึ้นมากอดแนบอกก่อนจะจรดริมฝีปากที่แก้มสองข้าง กลิ่นนมผสมกับกลิ่นตัวเด็กหอมจน รเณศเผลอสูดดมอยู่นานสองนาน มือกลมป้อมอันน้อยพยายามจับใบหน้าเขาก่อนจะหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างชอบใจ


“ลูกสาวใครน้อ น่ารักที่สุดเลย”


“ลูกสาวผมครับ”


เจ้าเปลวที่พ้นบันไดบ้านขึ้นมาพร้อมกับขวดนมในมือตอบเสียงดังฟังชัด รเณศเลยอดขำไม่ได้


“กะว่าจะขโมยเป็นลูกพี่ซะหน่อย”


“ไม่ต้องขโมยหรอกครับ ผมยกให้เลย”


เปลวอดตื้นตันใจไม่ได้เมื่อมองตามสายตาของรเณศที่ทอดมองหนูน้อยในอ้อมแขนด้วยความรัก


“พูดแล้วนะ”


รเณศยิ้มจนตาหยีแล้วกระชับหนูน้อยที่รู้งานขยับเอียงแก้มมาซบที่แผ่นอกรเณศราวกับจะอ้อน


“มาเป็นลูกพี่เนตรนะคะน้องแก้มใส”


“แอ๊ะ แอ๊ะ”


เด็กน้อยร้องเสียงใส


“นั่นๆ ลูกสาวเปลวตกลงเป็นลูกพี่แล้วเห็นมั้ย”


เจ้าเปลวส่ายหัว


“เดี๋ยวก็ยกให้จริงๆ ซะเลยนิครับ”


“งั้นพี่ก็ไม่ขอปฏิเสธ”


พูดกับคนพ่อแล้วเขาก็หันไปฟัดแก้มคนลูกที่จนหัวเราะร่า


“ถ้าแก้มใสเป็นลูกพี่เนตรจริงๆ ก็ดีสิครับ”


“...”


“แกคงจะสบายกว่านี้”


รเณศมุ่นหัวคิ้วเมื่อได้ฟังน้ำเสียงที่แปร่งไปของคู่สนทนา ยิ่งพอเงยหน้าจากเจ้าตัวนิ่มในอ้อมแขนแล้วสังเกตว่าเปลวเหม่อมองไปไกลด้วยสายตาเศร้าสร้อย


“เปลว”


“ผมคงเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่อง”


“ไม่เอาน่า”


รเณศอุ้มเด็กน้อยไปใส่มือคนพ่อที่เขย่าขวดนมในมือรอท่าอยู่ เจ้าเปลวยื่นมือออกไปรับแล้วค่อยประคองขวดนมให้ลูกสาวดื่ม ท่าทางเด็กหนุ่มที่ทะมัดทะแมงไม่น้อยบ่งบอกว่าเจ้าตัวคงทำหน้าที่นี้เป็นประจำ


“ผมพูดจริงๆ นะพี่เนตร” เปลวถอนหายใจก้มมองหน้าหนูในอ้อมแขน “แก้มใสน่าสงสาร เกิดมาไม่กี่เดินแม่มันก็ทิ้งไป ถึงจะอยู่กับผม แต่มันก็ไม่สุขสบายนักหรอก”


“บทบาทความเป็นพ่อของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันหรอกนะเจ้าเปลว” รเณศเกลี่ยแก้มหนูน้อย “แต่สิ่งที่พ่อทุกคนมีเหมือนกันคือความอบอุ่นและปลอดภัยเพราะความรักของพ่อที่มีต่อลูก”


เปลวยิ้มน้อยๆ


เขายอมรับว่าผิดพลาดที่ดันไปมีความสัมพันธ์ฉาบฉวยจนเกิดปัญหาใหญ่ตามมา แต่พอได้เห็นหน้าแก้มใสแล้ว เปลวได้สัญญากับตัวเองว่าเขาจะเป็นพ่อที่ดีและจะดูแลชีวิตน้อยๆ นี้ให้ดีที่สุด


“เห็นมั้ยหนูแก้มยิ้มหวานเชียว อ้อนพ่อน่าดูเลยนะเรา”


เปลวหัวเราะก่อนจะยื่นเด็กน้อยกลับไปให้รเณศอุ้ม


“พี่ไม่เคยอุ้มเด็กพร้อมกับให้นมไปด้วยนะ”


“ก็ลองสิครับ”


เจ้าเปลวแนะนำ “อยากเป็นพ่อแก้มใสพี่ต้องผ่านด่านทดสอบนี่ซะก่อน”


“กลัวเจ้าแก้มจะหลุดมือจัง”


“เกาะแน่นๆ นะลูกนะ”


เปลวกระซิบข้างหูลูกน้อย รเณศเลยค้อนให้ทีหนึ่ง


“ยกลูกสาวให้พี่เลยนะเจ้าเปลว”


รเณศแกล้งขู่หลังจากที่หนูน้อยนอนดูดนมขวดตาใสแจ๋วอยู่ในอ้อมกอดของเขา


“เอาสิครับ แต่พี่ต้องรับปากนะว่าเอาไปแล้วจะไม่เอามาคืนผมน่ะ”


“แก้มใสไม่ใช่ของเล่นสักหน่อย เนอะลูกเนอะ”


รเณศทำเสียงเล็กเสียงน้อยกับแก้มใส หลังจากให้เด็กน้อยกินนมและเดินรอบบ้านได้สามรอบ สุดท้ายเด็กน้อยก็หลับตาพริ้มได้อย่างน่ารักน่าชังในอ้อมกอดเขา


“อยู่ง่าย กินง่ายจริงนะเรา”


เขากดจูบที่แก้มหอมเจือกลิ่นนมและกลิ่นแป้ง


“หลับแล้วเหรอครับ”


“อื้อ”


ระหว่างนั้นเปลวที่ถือเป้สัมภาระซึ่งซักมาใหม่ๆ แต่มีรอยปะสองสามรอยขึ้นมาพอดี


“กระเป๋านั่นสมควรปลดระวางได้แล้วมั้ง”


เปลวหัวเราะร่วน


“เป้ยังชีพน่ะพี่ เห็นสภาพแบบนี้ใช้ดีมากเลยนะครับ ผมเอาไว้ใส่สัมภาระในการลาดตระเวนครับ”


“หือ?”


“มะรือนี้ต้องออกลาดตระเวนกับเจ้าหน้าที่สายตรวจครับ”


รเณศพยักหน้าหงึกหงักสายตายังวนเวียนที่เป้สมบุกสมบันนั่น


“มันจะใส่ไปถึงในป่ามั้ยเนี่ย”


“โธ่พี่เนตร ของผมยังดีกว่าของพี่เพลิงนะ รายนั้นน่ะ ใช้งานคุ้มค่ากว่าผมอีก เป้นี่ปะรอบทิศจนจะไม่มีเย็บแล้ว ส่วนกระเป๋าตังนะพี่ เปื่อยจนยุ่ยพี่แกก็ไม่ยอมทิ้งซะที บอกแต่ว่ามันยังใช้ได้อยู่ พอๆ กับโทรศัพท์แกเลย ไอ้พวกคนงานที่ไร่ป้าอนงค์ยังใช้ของดีกว่าพี่เพลิงอีก นี่ลุงแสวงเห็นไอ้โทรศัพท์ที่ฝาไม่ประกบจนต้องใช้หนังยางรัดของพี่เพลิงทีไร แกของเอาไปทิ้งทุกทีสิน่า”


เจ้าเปลวเล่าไปเรื่อยอย่างสนุกปาก เลยไม่ทันเห็นว่าคนฟังนิ่งคิดตาม ไม่แปลกหรอกที่คนๆ นั้นจะทำตัวสมถะแบบนั้น ก็ฟังที่จากเล่ามาเจ้าตัวดูทำตัวตรงข้ามกับวัตถุนิยม แวบหนึ่งเขาอดนึกถึงภาพเหตุการณ์วันที่โผล่ไปยังน้ำตาใกล้ที่พักเจ้าหน้าที่ในอุทยาน


“แล้วเขาไปลาดตระเวนด้วยมั้ย”


“ใครครับ?”


เปลวทำหน้างง


“ก็เมื่อกี้เราพูดถึงใครล่ะ”


“อ๋อ”


เด็กหนุ่มหัวเราะน้อยๆ


“ไปครับไป พี่เพลิงแกเป็นหัวหน้าชุดลาดตระเวนครั้งนี้”


รเณศพยักหน้าหงึกหงัก


“ว่าแต่ไอ้ลาดตระเวนที่นี่มันทำอะไรบ้างล่ะ”


“ก็เหมือนการตรวจป่า ดูสภาพความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ดูมีการลับลอกกระทำความผิดอย่างการตัดไม้หรือลักลอบดักจับสัตว์หรือเปล่า แต่ที่นี่เรื่องหลักๆ คงเป็นการลักลอบตัดไม้พะยูงครับ ป่าบ้านเรามันอุดมสมบูรณ์ทั้งป่าและสัตว์ พูดถึงสัตว์นะพี่ เข้าป่าช่วงนี้ต้องระวังตัวเหลือบดูดเลือดเลย”


รเณศฟังแล้วขนลุกแทนเพราะไอ้แมลงที่ว่ามันเจาะผิวหนังดูดเลือดซ้ำยังกัดเจ็บ


“นอกจากตัวเหลือบก็ตัวทากกับปลิงนี่แหละ ผมกะว่าจะไปซื้อยากันทากก่อนเข้าป่าอยู่พอดี ตอนกลางคืนนะพี่ บางทีเผลอหลับไป ตื่นมามันก็มาเกาะที่ขาแล้ว”


“แล้วพวกเราไม่ได้นอนกลางเต็นท์กันเหรอ”


“ส่วนใหญ่ผูกเปลวกับต้นไม้แล้วกางผ้าเต็นท์มุงเป็นหลังคาครับ ตอนกลางคืนนี่หนาวจนสั่นเลย”


ได้ยินสภาพความยากลำบากของเจ้าหน้าที่แล้วรเณศก็นึกเห็นใจ ไม่รู้ว่าผู้ชายตัวโตๆ บางคนจะต้องเผชิญกับงานที่เสี่ยงอันตรายและยากลำบากขนาดนี้เลย


“งานคงหนักน่าดูสินะ”


เปลวพยักหน้าหงึกหงัก


“ส่วนใหญ่ที่ทำก็เพราะใจรักกันทั้งนั้นแหละครับ”


‘คุณอาจเรียกสิ่งนั้นว่าอุดมการณ์ แต่ผมขอเรียกมันว่าความรัก’



คนเมืองหวนนึกถึงบทสนทนาวันนั้น


‘วันหนึ่งผมอาจเป็นไข้ป่าตาย ระหว่างลาดตระเวนอาจปะทะกับพรานป่า ผู้มีอิทธิพลหรือกลุ่มผู้กระทำผิดแล้วโดนยิงตาย ถ้าโชคร้ายหน่อยคงโดนช้างป่าเหยียบตายเข้าสักวันหนึ่ง’


รเณศเผลอกัดริมฝีปากของตัวเอง


“ดูอย่างพี่เพลิงสิพี่ ข่าวว่าแกสอบเข้าทำงานในกระทรวงได้นะ แต่แกขอเลือกออกมาประจำอยู่ต่างจังหวัด แกบอกว่าป่าก็เหมือนบ้านแก เป็นบ้านหลังใหญ่ที่ต้องดูแล”





☘☘☘☘


“เป็นยังไงพอใจมั้ย”


คำถามของป้าอนงค์ดังขึ้นตอนที่เขากวาดสายตามองไปรอบๆ ตึกแถวในตลาดซึ่งบัดนี้ถูกปรับปรุงใหม่ทั้งต่อเติมและทาสีใหม่เพื่อเปิดร้านขายยา ตั้งแต่ที่ป้าอนงค์เคยเปรยเรื่องนี้หลังจากพาไปดูตึกแถวแกก็จัดการหาช่างมาทำงานทันที


รเณศมองเค้าความสำเร็จที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตแล้วขยับไปเกาะแขนพี่สาวของแม่ นั่นทำเอาป้าอนงค์ทำหน้ามึนงง


“ขอบคุณนะครับ”


คนกรุงบีบหัวไหล่เจ้าของเงินราวกับจะอ้อน


“ทำอะไรของแกเนี่ย”


ป้าอนงค์พูดเสียงห้วนแต่ก็ไม่ได้ปัดมือของรเณศออก ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ เมื่อสังเกตเห็นว่าสีหน้าป้าแกกำลังกลั้นยิ้มอยู่


“ผมขอบคุณป้าอีกครั้งนะครับ” รเณศประนมมือไหว้คนสูงวัย “ก่อนที่ผมจะมาที่นี่ผมคิดมาตลอดว่าผมตัวคนเดียว ไม่มีความหวังที่ไหนจนกระทั่งผมเจอกับป้า”


“เอาเถอะๆ”


ป้าแกโบกมือไหวๆ


“ฉันเองก็ไม่มีใคร ตัวคนเดียวเหมือนกัน มีแกมาอยู่เป็นเพื่อนก็ดี อีกอย่างนะ ไม่ว่าเมื่อก่อนแกจะเจออะไรมา ขอให้รู้ไว้ว่าที่นี่เป็นบ้านของแก ไร่ปลายดอยปลอดภัยสำหรับแกเสมอ...รเณศ”


ชายหนุ่มน้ำตาคลอกับแววตาเอื้ออาทรของคนตรงหน้า เขาทำใจกล้าเดินไปกอดคนสูงวัยถึงแม้อีกฝ่ายจะยืนอึ้งคล้ายจะทำอะไรไม่ถูก แต่สุดท้ายมือเหี่ยวย่นนั่นก็ลูบแผ่นหลังเขาอย่างแผ่วเบา


“เจ้าเนตรเอ๊ย ร้องไห้เป็นเด็กไปได้”


รเณศกอดคนตรงหน้าแน่นขึ้น


“กระดูกฉันหักพอดีไอ้เด็กนี่”


ป้าอนงค์บ่น รเณศเลยคลายกอดก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา


“หน้าตาดูไม่ได้ๆ ไปๆ ไปล้างหน้าล้างตาเถอะ”


“ครับ”


เขาพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะผละออกมา แต่ถึงอย่างนั้นรเณศยังอดที่จะเอี้ยวกลับไปมองคนสูงวัยที่เดินอย่างกระฉับกระเฉงไปดูคนงานฉาบปูน ความใส่ใจที่แสดงออกมานั่นเรียกรอยยิ้มและความตื้นตันจากคนช้ำรัก


รเณศกลับออกมาด้านนอกอีกครั้ง ทันได้เห็นป้าอนงค์กับหญิงสูงวัยรุ่นราวคราวเดียวกันคนหนึ่ง และหญิงสาวรุ่นๆ เขาอีกคนคุยกำลังคุยกันอยู่มุมหนึ่ง พอพี่สาวของแม่เหลือบตามาเห็นเขา ฝ่ายนั้นจึงกวักมือเรียกให้เข้าไปหา


“นี่หรือลูกนังนงนุช”


หญิงสูงวัยที่เกล้ามวยผมในชุดพื้นบ้านคนหนึ่งทำหน้าประหลาดเมื่อเห็นเขา ท่าทางราวกับรู้จักกับบุพการีนั่นทำให้รเณศรีบยกมือไหว้ทำความเคารพ


“ไหว้พระเถอะลูก”


“ชื่ออะไรงั้นหรือเรา”


“รเณศครับ”


“ตาเหมือนนังนุชมันนะ”


“ป้านุชที่หนีตามผู้ชายไปน่ะเหรอป้า”


หญิงสาวคนที่ยืนข้างๆ โพล่งขึ้นนั่นทำเอารเณศถึงกับทำหน้าไม่ถูก ไม่ต้องพูดถึงป้าอนงค์ที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเม้มปากแน่น


“ไฮ้ พูดอะไรแบบนี้กันเล่านั่งคนนี้”


“แล้วมันจริงหรือเปล่าล่ะ”


“จริง”


ป้าอนงค์ที่ยืนนิ่งฟังอยู่นานตอบเสียงเรียบ


“เห็นว่ากลับมาอยู่บ้าน หลานป้าอนงค์นี่จบอะไรมาเหรอถึงได้กลับมาอยู่บ้านน่ะ”


“เภสัชฯ”


“หา”


หญิงสาวฝีปากไม่น่าคบหาทำตาโตก่อนจะมองรเณศหัวจรดเท้า


“รเณศน่ะเขาจบเภสัชกรมา ไอ้ห้องแถวที่ปรับปรุงนี่ก็กะจะเปิดร้านขายยา” ป้าอนงค์พยักพเยิดมาทางเขา “จริงๆ ไอ้สวนผลไม้นั่นก็พอกินสบายอยู่หรอก แต่เจ้าเนตรมันไม่อยากนั่งกินนอนกินให้พ่อแม่เลี้ยงไปจนตาย”


ฝ่ายนั้นหน้าซีดเผือดลงถนัดตา


“ว่าแต่แกเถอะเห็นว่าไปเรียนมหาลัยในเมืองตั้งเจ็ดแปดปีแล้วนี่ จบรึยังล่ะ เห็นว่ากลับบ้านมาให้พ่อแม่เลี้ยง เอ้ย มาเลี้ยงดูพ่อแม่เหรอ”


รเณศกลั้นขำจนปวดแก้มเมื่อเห็นสองป้าหลานตรงหน้าอ้าปากค้าง ก่อนที่คนเป็นหลานจะทำหน้าแดงสลับซีด หญิงสาวคนนั้นมองค้อนให้ป้าอนงค์ก่อนจะทำตาเขียวปั๊ดใส่เขา


“พอดีฉันมีธุระ ไปก่อนนะป้า”


หลานสาวเดินกระแทกส้นเท้าฉุดแขนป้าออกไป พอดีกับที่ป้าอนงค์ทำเสียงขึ้นจมูก


“ดูเอาเถอะเด็กสมัยนี้ปากคอเราะร้ายเหลือเกิน”


รเณศยิ้มน้อยๆ ในใจคิดว่าป้าอนงค์นี่ไม่ธรรมดาเหมือนที่เจ้าเปลวพูดจริงๆ พูดทีเดียวกระเจิงหนีแทบไม่ทัน


☘☘☘☘


“ป้าว่าจะแวะไปที่อุทยานสักหน่อยนะเจ้าเนตร”


ป้าอนงค์แกพูดขึ้นหลังจากที่กระบะท้ายบรรทุกอาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและน้ำเปล่าจนเต็มจากร้านขายส่งในเมือง หลังจากที่แวะไปดูความคืบหน้าของร้านยาในตลาด ป้าอนงค์ก็พามาซื้อของใช้ในห้างก่อนจะพาแวะร้านขายส่งซึ่งรเณศจำได้ว่าครั้งหนึ่งเพลิงเคยพามาครั้งก่อน


“จะเอาอาหารแห้งพวกนี้ไปบริจาคที่อุทยาน ได้ยินเจ้าเปลวบอกว่าเจ้าหน้าที่จะออกลาดตระเวนมะรืนนี้”


รเณศมุ่นหัวคิ้ว


“ผู้ช่วยเพลิงซื้อไปสัปดาห์ที่แล้วนี่ครับ”


ป้าอนงค์โบกมือไหวๆ


“จะไปพออะไรกันเล่า ลาดตระเวนทีไปกันหลายวัน”


คนเมืองทำหน้าไม่เข้าใจ


“เสบียงอาหารของเจ้าหน้าที่น่ะ ส่วนใหญ่ได้รับบริจาคจากเงินของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวอุทยาน ซึ่งมันก็ไม่มากนักหรอก บางทีเจ้าหน้าที่ต้องเจียดเงินเดือนตัวเองในการซื้อหา แค่ไปลาดตระเวนก็ยากลำบากแล้ว  ถ้าต้องอดอยากกินไม่พอ เจ้าหน้าที่ไหนจะมีแรงทำงานกันเล่า ป้าสงสารคนทำงานทุกเดือนเลยต้องซื้อเสบียงพวกนี้ไปบริจาค”


แวบหนึ่งเขาอดนึกถึงยากันทากและบรรดายาพื้นฐานที่ไปขนซื้อมาจากห้างเมื่อกี้ รวมถึงกระเป๋าเป้สัมภาระอีกสองใบที่ซื้อติดมา


รเณศให้เหตุผลกับตัวเองว่าซื้อมาให้เจ้าเปลว...แต่มันก็เหลืออีกใบหนึ่งที่ยังไม่มีเจ้าของ


คนเมืองเม้มปากแน่น


.


.


อุทยานแห่งชาติดอยห่มรักเวลาบ่ายกว่าๆ แต่อากาศกลับเย็นสบายจนเขาเผลอสูดลมหายใจเข้าปอดอยู่นานสองนานก่อนจะเดินตามป้าอนงค์เข้าไปในที่ทำการ


“อ้าวป้าอนงค์”


“หัวหน้าพิเชษฐ์”


รเณศรีบยกมือไหว้ตามผู้สูงวัย ระหว่างนั้นเขาลอบสังเกตบุคลิกตรงหน้าเงียบๆ ผู้ชายร่างสันทัดอายุเข้าสู่วัยกลางคน ผมสีดอกเลาขึ้นแซมไปทั่วศีรษะ บุคลิกดูจริงจังแต่แววตาอ่อนโยนราวกับผู้ใหญ่ใจดี


“ขอบคุณป้าอนงค์มากครับ ลำบากป้าอีกแล้ว”


หัวหน้าอุทยานหันไปเรียกเจ้าหน้าที่มาขนเสบียง ท่าทางทุกคนที่นี่จะคุ้นชินกับการปรากฏตัวของญาติผู้ใหญ่ของรเณศ ระหว่างนั้นเขาเลยแวบออกมาข้างนอกก่อนจะเดินลัดเลาะไปยังน้ำตก จำได้ว่าความงดงามของมันติดตาตรึงใจเขาไม่น้อย ถึงแม้วันนั้นจะเปียกปอนจนไม่ได้สังเกตอะไรมากมาย แต่เสียงน้ำตาที่กระทบกับพื้นดินก็เหมือนมนต์สะกดที่ทำให้รเณศเดินเรื่อยเปื่อยจนมาหยุดที่ธารน้ำใสแจ๋ว


ชายหนุ่มตัดสินใจถอดรองเท้าก่อนจะจุ่มปลายเท้าลงไปในธารน้ำเย็น รเณศยิ้มกว้างเมื่อเห็นปลาตัวเล็กตัวน้อยแหวกว่ายเข้ามาใกล้ เขาจุ่มมือลงไปหมายจะสัมผัสสิ่งมีชีวิตนั่น แต่กลับทำให้สัตว์ตัวเล็กว่ายหนีไป พอเขายกมือออกมันก็ว่ายกลับมาที่เดิม ภาพความสวยงามเหมือนสะกดใจคนมองจนถอนสายตาออกไม่ได้


“เขตน้ำตกใกล้ที่พักเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามา”


รเณศสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงทุ้มดังขึ้นเหนือศีรษะ เขารีบผุดขึ้นเมื่อเห็นไปเห็นคนตัวโตกอดอกมองเขาด้วยสีหน้าบึ้งตึง คนเมืองรีบผุดลุกขึ้นแต่บริเวณริมฝั่งนั่นมันมีหินเลื่อน รเณศจึงถลาไปข้างหน้า อารามตกใจเขาจึงหมายจะคว้ามือเพลิงซึ่งขยับเข้ามาใกล้


หมับ


“อ๊ะ”


รเณศสะดุ้งโหยงก่อนจะผละถอยหลังด้วยใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อรู้ตัวว่าจับพลาด


“คุณ”


น้ำเสียงเพลิงเย็นเฉียบ


“ผะ ผมไม่ได้ตั้งใจ”


รเณศละล้ำละลักบอก แต่นอกจากเพลิงจะไม่ฟังแล้ว ร่างสูงใหญ่ในชุดลายพรางยังเดินลิ่วๆ หนีไปโน่น รเณศทันเห็นใบหูสีแดงก่ำนั่น คนเมืองชะงักกึกก่อนจะขำออกมาอย่างเมื่อเห็นปฏิกิริยาเขินอายของคนตัวโตที่เขินอายราวกับหนุ่มน้อยเมื่อถูกจับของสงวน


“คุณ”


“...”


“คุณเพลิง”


“...”


“เดี๋ยวสิคุณ”


รเณศวิ่งไปตัดหน้าอีกฝ่าย จนแผ่นอกของทั้งสองกระแทกกันเต็มๆ รเณศทำหน้านิ่วเมื่อรู้สึกเจ็บไม่น้อยที่ถูกกระแทกอย่างแรง ขณะที่เพลิงยืนมองตัวต้นเหตุนิ่ง


“คุณนี่มัน...” เพลิงกระซิบเสียงห้วน “ตัวปัญหา”


รเณศเม้มปากแน่นก่อนจะตวัดสายตามองอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง


“แค่จับของสงวนคุณแค่นี้ไม่เห็นต้องด่ากันเลย ผมไม่ได้ตั้งใจสักอย่าง”


“หุบปาก”


“ผมตั้งใจจะจับมือคุณ” รเณศเบะปาก “ใครจะไปคิดว่ามือจะ...”


“รเณศ”


เพลิงขึงตาใส่อีกฝ่าย


“ผมขอโทษไม่ได้ตั้งใจ”


“ผมบอกว่าให้คุณหุบปาก”


รเณศเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้


“ไม่รู้ล่ะ ถ้าคุณจะไม่พอใจผมก็ถือว่าขอโทษที่จับของลับคุณแล้วกัน”


รเณศพูดจบก็สะบัดหน้าเดินหนีไปอีกทาง แต่ติดที่ข้อมือถูกระตุกอย่างแรง


“อ๊ะ”


“ผมบอกให้คุณหุบปาก”


เสียงกระซิบข้างใบหูนั่นทำเอาขนอ่อนรเณศลุกตั้งแทบจะทันที


“คะ คุณ”


คนเมืองสะดุ้งโหยงเมื่อปลายจมูกคมเฉี่ยวแก้มเขาเบาๆ


“ถ้าคุณยังไม่หยุดพูด ผมจะให้คุณจับมันอีกครั้ง”


“บ้า”


รเณศละล้ำต่อว่าอีกฝ่ายเสียงสั่น ยิ่งเห็นใบหน้าของเพลิงในระยะประชิดแบบนี้ แววตาระยิบระยับนั่นแสบตาคนเมืองจนหายใจติดๆ ขัดๆ


“ปล่อย”


“แน่ใจว่าปล่อยแล้วจะไม่เผลอตกใจจับอะไรๆ ของผมอีก”


รเณศอ้าปากพะงาบๆ ด้วยความอับอาย


“ผมไม่ได้โรคจิตที่อยากจับของคนอื่นๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มี”


“แน่นอนมันห่างไกลจากของผมเยอะ”


“โว้ย”


รเณศโกรธหน้าดำหน้าแดง


“ผู้ช่วยโรคจิต”


“คุณคงไม่ได้ดีไปกว่าผมนักหรอก คนอะไรจับของลับคนอื่น”


แม่งงง


เพลิงกระตุกยิ้มมุมปากตอนที่ฝ่ายนั้นแยกเขี้ยวใส่เขาแล้ววิ่งหายลับไป


“คุณนี่มัน...”


“...”


“แก้มหอมจริงๆ”


“อะไรหอมๆ อ่ะผู้ช่วย”


เสียงเกิ้งดังมาจากข้างหลังก่อนที่เจ้าตัวเดินมาหยุดอยู่เบื้องหลังเขา


“ไม่มีอะไร”


“เมื่อกี้ผมได้ยินผู้ช่วยบอกว่าอะไรหอมๆ นะ”


เพลิงยักไหล่


“เกิ้ง”


“ถามหน่อยสิ”


“ครับ”


“ทำไมผู้ชายถึงแก้มหอมได้วะ”


 เกิ้งแทบจะสำลักน้ำลายก่อนจะมองหัวหน้าจนตาเหลือก


“ผู้ช่วย”


“ช่างเถอะ”


เพลิงโบกมือปฏิเสธ “คิดว่าไม่เคยถามแล้วกัน”


“นอกจากแก้มหอมแล้วแก้มนิ่มด้วยรึเปล่าผู้ช่วย”


เพลิงเงียบไป คำตอบนั่นจึงทำให้เกิ้งยิ้มกว้าง


“ไปดมอีกทีสิ เดี๋ยวก็รู้คำตอบเองแหละครับ”


ดมอีกที?


“จริงๆ ดมอีกหลายๆ ทีก็ได้”


เพลิงส่ายหัวเมื่อรู้ตัวว่าถูกแกล้งเข้าแล้ว เกิ้งหัวเราะหึๆ ก่อนจะผละออกไป


“ไม่ดมก็รู้ว่าหอม”


กลิ่นหอมละมุนนั่นยังอบอวลอยู่ใต้จมูก


ผู้ชายอะไรกลิ่นแก้มหอมขนาดนั้น


ไม่ใช่สิ ไม่ใช่มีดีที่แค่แก้มหรอก อย่างอื่นก็ดีด้วย เพลิงสะบัดศีรษะตัวแรงๆ เมื่อนึกถึงภาพสะโพกกลมมนของอีกฝ่าย


“ให้ตายเถอะ ทำไมมึงหมกมุ่นแบบนี้วะไอ้ห่าเพลิง”

☘☘☘☘


นุ้งเนตรจับอะไรก็ไม่จับน้อ 5555555555+++
หวีดในทวิตติดแท็ค #ป่าห่มรัก ด้วยเด้อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 04-03-2019 22:07:01
แหม~~~~~ ผู้ช่วย~~~
อยากจะแหมไปยันดาวอังคาร 555
น้องไม่ตั้งใจจับ แต่เราเนี่ยตั้งใจหอมเขา แล้วยังอยากหอมซ้ำด้วยใช่ม้า~~ แหมๆๆ

ชีวิตในป่า...ถ้าไม่รักก็อยู่ไม่ได้หรอกเนอะ ^^v
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 04-03-2019 22:13:54
เอิ่ม เต็มมือใหมนู๋เนตร

น้องผู้ช่วยใหญ่เต็มมือใหม
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-03-2019 22:14:24
โอ๊ยยย รอ NC รัวๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: anarshy ที่ 04-03-2019 22:21:40
พี่เพลิงงงงง หลงน้องแล้วอ่ะสิ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 04-03-2019 23:03:24
ก้าวหน้ากันเร็วจังนะเนี่ย ถูกเนื้อต้องตัวกันแล้ว.  :hao3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 04-03-2019 23:29:07
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 05-03-2019 00:01:58
กลางป่ากลางเขา จับกันอย่างนี้เลยหรอออออ  :hao7:
ผู้ช่วยคะ ค่ดว่าไม่ใช่แค่แก้มนะคะที่หอม น่าจะหอมทั้งตัว
แนะนำผู้ช่วยลอง แล้วมารีวิวด้วยน้าาา ขอบคุณมากค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 05-03-2019 00:23:00
บ้าบอ 5555
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 05-03-2019 00:24:41
จับพลาดไปเยอะเลย 555555555
ร้ายมากนะผู้ช่วย  :hao3:
งานแบบนี้ใจรักจริงๆน่ะแหละ อยากให้ได้สวัสดิการที่ดีกว่านี้กันจัง  :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 05-03-2019 00:58:54
อุ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บ้าจริงยัยหนู ไปจับอะไระพี่เขาคะ // แหมๆๆๆๆผู้ช่วย อยากจะแหมให้ถึงดอยห่มรัก อิ๊
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 05-03-2019 01:34:15
 :pig4: :pig4: :pig4:

แหม่...ตั้งใจหรือพลาดพลั้งกันแน่เนี่ย  ที่ไปจับ...ของเพลิงเนี่ย  อิอิ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 05-03-2019 01:43:29
แหม เพลิง หมกมุ่นไม่ใช่น้อยเลยนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 05-03-2019 19:14:28
55555555   :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: mysun ที่ 05-03-2019 22:02:18
ีอร๊ากกก ผู้ช่วยหมกมุ่นจังเลยน๊าา :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 05-03-2019 23:50:46
ความเกี่ยวพันแบบผ่านเตของเพลิงกับรเนศนี่มันจุดใต้ตำตอจริงๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 06-03-2019 00:11:33
น่ารักจังเลยย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 06-03-2019 19:48:35
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 06-03-2019 22:19:13
อ่านตอนแรกๆ พระเอกมีความละมุน ชอบพระเอกนิสัยแบบนี้ สุภาพบุรุษดี
พออ่านไปเรื่อยๆ นี่เธอแอบหื่นนิ 55555  :laugh:

เข้ามาอ่านเพราะคนแต่ง หลังจากไม่ได้เข้าเล้ามานาน
ขอบอกว่าชอบนิสัยตัวละครหลักทั้ง 2 ตัว ตามไปยาวๆ  :impress3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 06-03-2019 23:09:44
แหมมมมมมม แอบหอมไปทีเดียวถึงกับเพ้อออ หลุดหื่นเลยนะผู้ช่วยเพลิงงง   :hao3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 09-03-2019 18:56:27
5555 เพลิงจะออกอาการแบบนี้ไม่ได้นะ
แล้วทำเนียนเกินไปมากจริงๆ เลยคนเรา

เนตรน่ารัก แล้วดูสิ ไปทำแบบนั้นได้ยังไง เต็มมือไหม

ชอบป้าเนตร ชัดเจน ตอกหน้าหงายเลยจ้า
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 10-03-2019 02:02:33
โอยหนอออออ ดมมๆๆทั้งตัวเลยยจย้าาา
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: แก้มกลม ที่ 10-03-2019 20:56:56
คิดถึงแก้มใส คิดถึงน้องเนตร
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Pin_12442 ที่ 10-03-2019 23:22:53
อ่าว กำลังอ่านเพลินๆ ตอนต่อไปอยู่ไหนหว่า
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 10-03-2019 23:39:24
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 11-03-2019 01:12:51
 :o8: :o8:
แหม..เพลิงถามถูกคนแล้วละ อยากรู้ว่าหอมเกิ้งบอกให้ดมบ่อยๆ นะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 11-03-2019 12:00:23
จับอะไรไม่จับอะเนตร
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 11-03-2019 20:10:41
แอบรอ เธออยู่นะจ๊ะ

แก้มใส มายัง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Trystan ที่ 12-03-2019 04:33:52
เข้าไปส่องแท็กในทวิตมา ต้องแต่งฉากเอ้าท์ดอร์นะ!! ห้ามเบี้ยว
ขอโทษที่ไปสกรีมในแท็กไม่ได้ ขอคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้ในเล้าแทนนะครับ
อยากจะบอกว่าเป็นเรื่องที่ถึงยังมีแค่ไม่กี่ตอนแต่ก็ให้อะไรแก่คนอ่านจริงๆ ทำให้อยากติดตามต่อไปเรื่อยๆเลยครับ
ขอบคุณนะครับ มาต่อเร็วๆน้าแต่ก็รักษาสุขภาพก่อนก็ได้เนอะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 12-03-2019 09:37:23
เพิ่งเข้ามาอ่านรวดเดียว สนุกดีค่ะ น้องเนตรน่าสงสาร พี่เพลิงชอบแกล้ง หลังๆ นิรู้สึกว่าจะโดนเสน่ห์น้องไปเต็มๆ
รอชมว่าให้ทั้งสองคนรักษาแผลใจซึ่งกันและกันยังไง  :กอด1:
    :mew1:  :pig4:   :L1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 13-03-2019 13:17:38
เห็นชื่อคนแต่งเลยตามมาอ่าน
แล้วก็ไม่ผิดหวัง น่ารักมาก

รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 15-03-2019 22:53:34
คนแต่งไปไหนนน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 15-03-2019 23:13:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [07] #ป่าห่มรัก [4.3.62] P.4 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 17-03-2019 01:57:30
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 18-03-2019 21:26:36

[08]



“ระวังครับ”

รเณศทะยานเข้าไปประชิดหญิงสาวคนหนึ่งหลังจากที่สังเกตมาพักหนึ่งแล้วเห็นว่าเธอโงนเงน คล้ายกับอาการหน้ามืด ซ้ำร่างนั้นยังอวบอิ่มบริเวณหน้าท้องโป่งนูนเพราะตั้งครรภ์ยิ่งทำให้เขาห่วงใยไปอีกหลายเท่า ตอนสัมผัสเนื้อตัวที่ชื้นเหงื่อและตามใบหน้ามีเม็ดเหงื่อผุดขึ้น เขาจึงสันนิฐานได้ว่าเธอคงจะหน้ามืดเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าววันนี้

เขาจึงประคองคนท้องไปนั่งตรงบริเวณม้านั่ง แล้วควานหากระดาษมาพัดให้คลายร้อน

“เป็นยังไงบ้างครับ”

เธอปรือตามองเขาด้วยใบหน้าซีดเซียวแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพึมพำขอบคุณเบาๆ

“ช่วยหยิบยาดมในกระเป๋าให้ทีเถอะจ่ะคุณ”

รเณศล้วงเข้าไปในถุงย่ามนั่นก่อนจะมุ่นหัวคิ้วเมื่อสายตาบังเอิญเหลือบไปเห็นห่อยาขนาดใหญ่

“นี่ครับ”

คนท้องรับยาดมไป ขณะที่เขายังไม่หยุดมือพัดกระดาษให้คลายร้อน

“ขอโทษที่ถือวิสาสะนะครับ” รเณศพยักพเยิดไปทางย่ามใส่ของ “คุณเป็นเบาหวานเหรอครับ”

“จ๊ะคุณ เป็นตอนท้องนี่แหละ ว่าแต่คุณรู้ได้ยังไงจ๊ะ”

“ผมเป็นเภสัชกรครับ เลยพอรู้เรื่องยาอยู่บ้าง”

“ขอบคุณที่ช่วยพยุงฉันนะจ๊ะ ถ้าไม่ได้คุณ คงล้มเจ็บแน่”

รเณศยิ้มน้อยๆ

“ยังไงก็ระวังหน่อยนะครับ ยิ่งภาวะเบาหวานตอนตั้งครรภ์แล้วด้วย ยิ่งต้องระวัง”

เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่

“จ่ะคุณ นี่หมอก็นัดมาฉีดยาทุกเดือน แต่บ้านฉันอยู่ไกล ไปมาทีก็ลำบาก”

รเณศมุ่นหัวคิ้วเพราะอาการเบาหวานในคนท้องต้องฉีดอินซูลินในบางราย ยิ่งเจ้าตัวเดินทางมาตามลำพังแบบนี้ยิ่งน่าห่วง

“แล้วมาคนเดียวหรือครับนี่”

เธอส่ายหัว

“มากับน้องสาวจ่ะคุณ แต่ไม่รู้มันเดินหายไปไหน นี่ก็ต้องรีบกลับแล้วเดี๋ยวจะถึงบ้านมืดค่ำ”

“บ้านคุณอยู่ไหนครับ”

“หมู่บ้านหลังเขาโน่นแหละจ่ะ”

รเณศนิ่งคิดเพราะเคยได้ยินป้าอนงค์เล่าให้ฟังเหมือนกันว่าท้ายป่าตรงอุทยาน พอข้ามเขาไปลูกหนึ่งจะมีผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณท้ายเขา เห็นว่าเส้นทางคมนาคมลำบากพอสมควร ชายหนุ่มพิจารณาท้องโป่งนูนตรงหน้าแล้วนึกเห็นใจ

“พี่ซูเนียน”

สาวน้อยราวสิบห้าสิบหกคนหนึ่งวิ่งหน้าตื่นมาแต่ไกล รเณศแอบพิจารณาใบหน้าและผิวพรรณที่ขาวซีดรูปหน้าตามชาติพรรณนั่นก่อนจะยิ้มให้

“เนียงรอ แกหายไปไหนมา”

“ฉันเดินหลงไปแถวตลาดมาจ๊ะ”

“ช่างเถอะนี่ก็บ่ายแล้ว กลับเขาหมู่บ้านกันเถอะ” คนท้องกวักมือเรียกผู้มาใหม่ “นี่เนียงรอคุณคนนี้เขามีน้ำใจช่วยพี่ไม่ให้ล้มเมื่อกี้”

“อุ้ย พี่หน้ามืดเหรอ”

“ก็ใช่น่ะสิ”

“ตายแล้วๆ ถ้าพี่ซารู้ ฉันโดนดุตายเลยที่เผลอปล่อยให้พี่คลาดสายตาจนเป็นลม ยังไงก็ขอบคุณคุณมากนะจ๊ะ”

สาวน้อยหันมายกมือไหว้ขอบคุณเขาปลกๆ รเณศจึงยิ้มรับก่อนจะยืนงงเมื่ออยู่สาวเจ้าดันทำหน้าเก้อเขินจนสังเกตเห็นแก้มขาวที่ขึ้นเป็นสีชมพู ซ้ำกิริยายังดูขัดเขินจนเขานึกแปลกใจ

“คุณคนเมืองหล่อจังเลยจ้า”

รเณศเผลอขำออกมา ขณะที่เนียงรอร้องโอดโอยเพราะถูกพี่สาวหยิกที่เอวแรงๆ

“เป็นสาวเป็นแส้พูดจาอย่างนี้ได้ยังไง นังน้องคนนี้” คนท้องบ่นก่อนจะหันมายกมือไหว้ขอโทษ รเณศ “ขอโทษด้วยนะคะคุณ นังนี่มันเรียนมาน้อยไม่ค่อยรู้จักกาลเทศะอะไรกับเขาหรอก”

“น้อยอะไรกัน หนูอุตส่าห์มาสมัครเรียนในเมือง”

รเณศมองสองพี่สาวถกเถียงกันแล้วได้แต่นึกขัน

“อีกอย่างคุณคนเมืองนี่หล่อจริงๆ นี่จ๊ะ ที่สำคัญคุณเขาใจดีด้วย ไม่งั้นคงไม่ช่วยพี่ไว้หรอก” เด็กสาวพูดไปเรื่อย “ใจดีเหมือนผู้ช่วยเลยจ่ะ”

หือ?

“ผู้ช่วย?”

รเณศมุ่นหัวคิ้วทวนคำ

“คุณรู้จักผู้ช่วยด้วยหรือจ๊ะ”

“เราหมายถึงผู้ช่วยเพลิงรึเปล่าล่ะ”

“ใช่จ๊ะ”

สาวน้อยดูกระตือรือร้นในการตอบคำถามซ้ำด้วยตายังเปล่งประกายราวกับตกอยู่ในภวังค์นั่นทำให้รเณศนึกเอะใจ

“ลุงธีปอบอกว่าผู้ช่วยใจดี ใครได้เป็นผัวคงสบายทั้งชาติ”

เด็กสาวทำกระมิดกระเมี้ยน

“ลุงแกยังบอกอีกว่าถ้าเนียงรอโตอีกสักหน่อยหากผู้ช่วยยังไม่มีเมีย แกจะยกเนียงรอให้เป็นเมียผู้ช่วย”

มิน่า!

รเณศเม้มปากแวบหนึ่งเผลอนึกถึงผู้ชายหน้าดุคนนั้น น่าแปลกที่ดุดันแบบนั้นดันมีแต่คนอยากจะสานสัมพันธ์ด้วย ให้ตายเถอะ

“พูดไปเรื่อยนังเด็กนี่”

คนท้องปรามก่อนจะหันมาทำหน้าขอโทษขอโพยเขา จากนั้นทั้งคู่ก็เอ่ยลาก่อนจะผละออกไป

“ผู้ช่วยคนดี แฟนคลับเยอะเหลือเกินนะ มีตั้งแต่สาวยันแก่”

รเณศเบะปาก


.


.


เช้ามืดที่ฟ้ายังไม่ทันสว่างยินเสียงไก่ขันบอกเวลาเป็นเหมือนนาฬิกาปลุก รเณศลืมตาตื่นในเวลานี้เป็นประจำจนกลายเป็นกิจวัตรแล้ว เขานึกถึงตัวเองเมื่อก่อนที่หากดวงตะวันยังไม่โผล่ขึ้น ก็ไม่มีทางที่เขาจะลุกออกจากที่นอน ต่างจากวันนี้ที่นาฬิกาชีวิตของเขาเปลี่ยนไป ทุกเช้ารเณศตื่นแต่เช้าตรู่มาช่วยป้าอนงค์หุงหาอาหาร การตื่นมารับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าเหมือนเป็นยาชูกำลังแบบหนึ่ง

แต่เช้าวันนี้แปลกออกไปจากทุกครั้งหน่อย เพราะรเณศเห็นเจ้าเปลวในชุดลายพรางเดินสะพายเป้โอบแก้มใสมายื่นให้ป้าสมัยตรงหัวบันได เปลวที่เห็นรเณศสาวเท้าเข้าไปใกล้จึงยกมือไหว้เขาทันที

“จะไปแล้วหรือ”

วันนี้คือวันที่เจ้าเปลวบอกว่าเจ้าตัวจะต้องออกไปลาดตระเวนกับเจ้าหน้าที่คนอื่นซึ่งกำหนดเวลาเกือบสัปดาห์ที่ต้องไปเข้าป่านั่นทำให้เขานึกใจหายเหมือนกัน เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่รเณศต้องเห็นเด็กหนุ่มแวะเวียนมาเล่นกับลูกน้อยอยู่แทบทุกวัน ถึงบางวันจะไปอยู่เวรที่อุทยานแต่ทุกวันเจ้านั่นจะต้องเจียดเวลาแวะกลับมาหาลูกน้อย

“กระเป๋านี่ผมใช้แล้วนะพี่”

รเณศหัวเราะชอบใจตอนที่เจ้าเปลวชี้มายังเป้ที่สะพานหลังอยู่

“เอาไปใบเดียวหรือ”

คงจะจำได้ว่ารเณศซื้อเป้มาสองใบ ใบหนึ่งให้เจ้าเปลว ส่วนอีกใบเขาฝากเจ้านี่เผื่อไปให้ใครสักคนที่ใช้กระเป๋าจนขาด จะได้เปลี่ยน

“อีกเป้อยู่ในนี้ครับ แต่จริงๆ ผมเอาไปใบเดียวก็ได้นะพี่ ไม่ต้องแบกไปอีกใบ”

“ก็เผื่อใครอยากเปลี่ยนกระเป๋า”

รเณศพึมพำ

“โอ๊ย ไม่มีใครอยากเปลี่ยนเป้หรอกพี่เนตร พี่ๆ เขามีกระเป๋าสัมภาระกันหมด”

“เอาเถอะน่า” รเณศโบกมือไหวๆ “เผื่อของใครขาดจะได้เปลี่ยน”

“ของใครจะขาดวะ”

เปลวเกาหัวแกรกๆ นึกถึงบรรดาเจ้าหน้าที่ป่าไม้รุ่นพี่แต่ละคน ก่อนจะสะดุดใจที่กระเป๋าเป้รอยปะเป็นทางยาวของผู้ช่วยฯ

เอ๊ะ! หรือว่าคนที่พี่เนตรพูดถึงจะเป็นผู้ช่วยวะ แล้วพี่เนตรจะซื้อกระเป๋าให้พี่เพลิงทำไม ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัยแต่เขาไม่มีเวลาคิดละเอียดหรอกในเมื่อเวลากระชั้นชิดเข้ามาแล้ว

ช่างเถอะ ซื้อให้ใครก็ช่าง แต่กูได้ใบนึงละวะ

“เดินทางปลอดภัย”

ป้าสมัยให้ศีลให้พรหลานชายตอนที่มันยกมือไหว้

“อ่ะนี่ป้าให้”

ป้าอนงค์ยื่นสร้อยพระให้

“ยกมือใส่หัวนะเจ้าเปลวแล้วอธิษฐานให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง ขอให้เอ็งและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในป่าด้วยความสุจริตแคล้วคลาดจากภยันตรายทุกประการ”

“ขอบคุณครับ”

“เดินทางปลอดภัยนะเปลว”

รเณศตบบ่าเด็กหนุ่ม

“ผมไปก่อนนะครับป้าอนงค์ ป้าสมัย พี่เนตร”

“ไปเถอะ”

ป้าสมัยแอบน้ำตาซึม รเณศเข้าใจความรู้สึกแกดีว่าห่วงใยเจ้าเปลวไม่น้อยในเมื่องานมันเสี่ยงอันตรายขนาดนั้น และคนข้างหลังก็มีหน้าที่แค่ให้กำลังใจอยู่ทางนี้

“กลับไปนอนต่อกันเถอะครับนี่ยังเช้าอยู่เลย”

เจ้าเปลวพูดขึ้นเพราะวันนี้ทุกคนตื่นเช้ากว่าเวลาปกติเป็นชั่วโมง

“นอนไม่หลับแล้ว เดี๋ยวป้าจะไปหุงข้าว”

ป้าสมัยอุ้มแก้มใสที่หลับพริ้มเข้าบ้านไป ส่วนป้าอนงค์เองก็เดินขึ้นเรือนตามอีกราย ระหว่างนั้น รเณศได้ยินเสียงสัตว์ร้องดังมาจากท้ายไร่ เขาแอบสะดุ้งโหยงแต่จำคำป้าสมัยได้ว่าเสียงนั่นดังมาจากป่าลึกโน่น เป็นเสียงร้องของสัตว์ป่าที่ออกมาหาอาหารยามค่ำคืน

“กลับไปนอนเถอะน่าพี่เนตร เดี๋ยวป่าไม้พวกนั้นผมจะดูแลเอง”

เจ้าเปลวพูดเท่ๆ เขามองตามสายตาของรเณศที่มองไปยังความมืดมิดท้ายไร่ คนกรุงยิ้มขำให้ก่อนที่เจ้าเปลวจะเดินคว้าเครื่องยนต์สองล้อแล้วขับออกไป รเณศยืนนิ่งมองแสงไฟท้ายรถจักรยานยนต์จนลับตา

‘เดี๋ยวป่าไม้พวกนั้นผมจะดูแลเอง’

‘พี่เพลิง..แกบอกว่าป่าก็เหมือนบ้านแก เป็นบ้านหลังใหญ่ที่ต้องดูแล’


“ขอบคุณ”

รเณศพึมพำอยู่ในความมืดตอนที่นึกถึงภาพคนหน้าดุนั่งลูบท่อนไม้พะยูงในวันนั้น

“ขอบคุณที่ดูแลป่าไม้ให้พวกเรา”



☘☘☘☘


บรรยากาศอึมครึมเช่นนี้พาให้คนที่ต้องเผชิญหน้ารู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่น้อย ชินกรนั่งทำหน้ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออกเมื่อแขกร่วมโต๊ะที่นั่งอยู่อีกฝั่งจ้องหน้าเขาราวกับจะพิจารณาความนึกคิดของกัน สุดท้ายเป็นชินกรเองที่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพยายามฝืนยิ้มและสบตากับเพื่อนรุ่นพี่ที่กอดอกมองหน้าเขานิ่ง

“สรุปว่าชินยังยืนยันคำเดิมว่า เนตรไม่ได้ติดต่อเรามาเลย”

ชินกระพยักหน้าหงึกหงักหนักแน่นถึงอย่างนั้นก็รู้ดีว่าอดีตคนรักของรเณศไม่มีทางเชื่อคำพูดของเขา เตวิชคือบุคคลที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย เขาก้าวขึ้นมาบริหารโรงพยาบาลทันตกรรมของครอบครัวตั้งแต่จบใหม่ เป็นคนหนุ่มไฟแรงซ้ำยังฉลาดเป็นกรด แน่นอนว่าใบหน้ายิ้มน้อยๆ ตรงมุมปากนั่นมันก็แค่ยิ้มเป็นพิธีเท่านั้น ในเมื่อนัยน์ตาคมกริบนั่นยังดุดันและคุกคามคนถูกถามไม่น้อย

“แปลก”

“...”

“นอกจากชินแล้วเนตรไม่มีเพื่อนสนิทที่ไหน แต่ไหนแต่ไรมา ถ้ามีเรื่องอะไร ชินเป็นคนแรกที่เนตรจะปรึกษา แต่ครั้งนี้เนตรหายลับเข้ากลีบเมฆไป ไม่คิดจะติดต่อกับเพื่อนรักเลยงั้นเหรอ”

ชินกรขยับตัวอย่างอึดอัด

“ครับพี่เต ผมไม่รู้จริงๆ ว่ามันหายไป” ชินกรแสร้งถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ผมว่าครั้งนี้มันคงจะเอาจริง”

“อืม”

เตวิชพยักหน้าหงึกหงัก

“ทั้งๆ ที่ไม่ได้ติดต่อกันเลย ชินยังรู้ว่าครั้งนี้เนตรเอาจริง สมกับเป็นเพื่อนรักกันจริงๆ”

เตวิชยิ้มสบายๆ แต่รอยยิ้มนั่นทิ่มแทงให้ชินกรรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ชอบกล

“พี่เต”

“ครับ”

“ผมพูดอะไรสักหน่อยได้มั้ยครับ”

“เอาสิ”

เตวิชไหวไหล่

“ผมไม่รู้ว่าระหว่างพี่กับเนตรมันเป็นยังไง แต่ถ้าหากเนตรมันตัดสินใจอะไรลงไปแล้ว ไม่มีใครเปลี่ยนใจมันได้หรอก” ชินกรพูดเสียงเรียบ “พี่เองก็แต่งงานแล้ว ขณะที่มันเองคงไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไหนสักที่ ผมว่าที่มันเป็นแบบนี้ มันก็ดีกับทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เหรอพี่”

นัยน์ตาเตวิชไหววูบแต่รอยยิ้มน้อยๆ นั่นยังค้างอยู่ที่มุมปากอยู่เป็นนิจ

“เนตรเขาคงแค่งอน”

“ไม่ใช่แค่งอนมั้งครับ”

ชินกรถอนหายใจเฮือกใหญ่บางทีเขาก็อยากเขย่าศีรษะอดีตคนรักเพื่อนสนิทแรงๆ ว่าต่างคนต่างอยู่เหอะ ในเมื่อตัวเองก็เลือกครอบครัว ดังนั้นจึงควรปล่อยเพื่อนเขาให้เป็นอิสระได้แล้ว

“ยังไงก็แล้ว แต่ถ้าเนตรติดต่อมา ชินบอกพี่ด้วยนะ”

บอกให้โง่สิ!

ชินกรพยักหน้าแบบขอไปที

“หากเนตรจะไปจากพี่จริงๆ พี่อยากได้ยินจากปากเขา”

“แค่พี่ตัดสินใจแต่งงาน นั่นก็เป็นคำตอบของทุกอย่างแล้วนะพี่”

ชินกรเผลอตอบไป ก่อนจะทำหน้าลุแก่โทษเมื่อเตวิชมุ่นหัวคิ้ว

“พี่เข้าใจว่าเนตรคือเพื่อนรักของชิน ชินย่อมปกป้องเพื่อนตัวเอง แต่พี่อยากให้ชินเข้าใจพี่ด้วย ว่ามันมีเหตุจำเป็นที่พี่ต้องทำแบบนั้น”

เตวิชผละออกไปแล้ว ทิ้งให้ชินกรถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะทำตัวอ่อนเปลี้ยไหลไปกับเก้าอี้

“กะเทยปวดหัวโว้ย”

คนที่นั่งเกร็งตัวอยู่นานสะบัดผมแรงๆ ก่อนจะค้อนตาประหลับประเหลือกแล้วจะผุดลุกขึ้นตามไปอีกคน คนกุมความลับของเพื่อนมองซ้ายมองขวาก่อนจะกดโทรศัพท์ส่งข้อความบอกเพื่อนตัวเองยิกๆ ว่าอดีตคนรักเก่ายังไม่ละความพยายามในการตามหาเจ้าตัว

อีกมุมหนึ่งเตวิชยืนจ้องปฏิกิริยาของชินกรด้วยความสงสัย ขณะที่กำลังจะก้าวตามไปบังเอิญว่ามีผู้ชายคนหนึ่งเดินสวนมาพอดี ไหล่ของหมอนั่นเลยชนกระแทกไหล่เขาเต็มๆ

“โทษที”

เสียงทุ้มที่เปล่งออกมาโดยที่ไม่มองหน้ากันนั่นทำให้เตวิชนึกโมโหจนอยากจะกระชากมันมาคุยให้รู้เรื่องแต่ไอ้เลวนั่นดันเดินลิบโน้นแล้ว

“ไอ้เหี้ยเอ๊ย”

‘ไอ้เหี้ย’ ที่ว่าเพียงแค่นยิ้มไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำหยาบคายนั่น สำหรับธามแล้วคำๆ นั้นเหมือนคำเรียกทั่วไประหว่างเพื่อนกัน อีกอย่างคนอย่างเขาหน้าหนาเกินกว่านั้น ธามแค่ยักไหล่ตอนที่มันเดินหัวเสียออกไปนั่นแหละเขาถึงได้มีโอกาสพิจารณาไอ้หมอนั่น

‘เตวิช ศศิกุลนารถ’

พี่ชายต่างมารดาของไอ้เพลิง

“เฮ้อ พี่มึงนี่สันดานเหี้ยกว่าที่กูคิดอีกว่ะไอ้เพลิงน้องรัก”

ธามลูบคางเพื่อหาข้อเปรียบเทียบระหว่างเตวิชและเพลิง แน่นอนว่าเขาย่อมเข้าข้างน้องชายตัวเองอยู่แล้วว่าไอ้เพลิงมันดีกว่าพี่เลวๆ ของมันหลายเท่า ธามรู้จักเตวิชพอผิวเผินในเมื่อไอ้เพลิงมันไม่เคยปริปากเล่าอะไร แต่เขาก็พอจะทราบถึงความระยำของมันและครอบครัวที่ทำกับน้องชายเขาอยู่บ้าง

“มึงแม่งไม่น่าเกิดมาเป็นพี่น้องกับไอ้ห่านี่เลย ให้ตายเถอะไอ้เพลิงเอ้ย”

ธามพึมพำว่าแล้วก็นึกถึงไอ้น้องชายหน้าดุ ป่านนี้ไม่รู้มันไปม่อสิงสาราสัตว์ถึงไหนแล้ว


.

.


“ฮัดชิ้ว”

เพลิงจามติดๆ กันถึงสามครั้งเรียกความสนใจจากคนอื่นๆ ซึ่งเดินแบกเป้ตามหลังมาติดๆ

“ไม่สบายเหรอผู้ช่วย”

เกิ้งร้องถามขณะที่สอดสายตาไปทั่วพงไม้อันรกชัฏ เจ้าหน้าที่สายตรวจราวๆ แปดนายตอนนี้กำลังเดินกระจายไปทั่งบริเวณนั้นเนื่องจากพบหลักฐานการตั้งแคมป์นอนบริเวณนี้ ซึ่งการเข้าพื้นที่ป่าลึกในเขตอุทยานโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตก่อนถือเป็นความผิด

“มีคนบ่นคิดถึงผู้ช่วยหรือเปล่า”

“นั่นสิจะสาวเดือนเสี้ยวหรือหลานลุงพรานกันหนอ”

เพลิงส่ายหัวไปมา

“อ้าวไม่ใช่สองคนนี้แล้วใครกันอ่ะผู้ช่วย”

“โจรป่ามั้ง”

เพลิงตอบก่อนจะกวักมือเรียกเจ้าเต็งมุดลงไปในโพรงไม้ซึ่งมีใบไม้และกิ่งไม้ปกไว้เป็นการพรางตา พอเจ้านั่นลอดเข้าไปคุ้ยด้านในได้ จึงเห็นแผ่นไม้พะยูงราวๆ สองถึงสามแผ่นซุกตัวอยู่

“จนได้สินะ”

พลดูหัวเสียไม่น้อยที่เห็นของกลาง

“แสดงว่าพวกมันคงหนีไปได้ไม่ไกล เล่นทิ้งหลักฐานไว้แถวนี้คงจะไหวตัวทัน ร่อยรองพวกนี้ยังใหม่ๆ อยู่เลยไม่เกินวันนี้หรอก”

พรานปอธีชี้ให้เห็นกองขี้เถ้าและเศษไม้ที่ใช้ทำเป็นเชื้อเพลิง น่ากลัวว่าพวกมันจะตั้งแคมป์กันบริเวณนี้ก่อนจะออกเดินทางคลาดกับพวกเจ้าหน้าที่ที่เพิ่งเดินทางมาถึง

“ทำลายเสบียงอาหารพวกมันซะ”

เพลิงพูดเสียงเรียบก่อนจะลากถุงข้าวสารซึ่งถูกซุกซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้ออกมาเททิ้ง ปกติแล้วกลุ่มผู้กระทำผิดจะลับลอบเข้ามาพื้นที่อุทยานกันเป็นขบวนการโดยมากคือการลักลอบตัดไม้พะยูงเพื่อนำไปส่งขายให้กับนายทุน ยิ่งนานวันดูเหมือนว่าคนทำผิดยิ่งเพิ่มมากขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่มีจำนวนจำกัด บางครั้งการลาดตระเวนก็เหมือนแมวจับหนีที่นานๆ ครั้งจะพบเจอกับผู้กระทำผิดแบบจังๆ เพราะส่วนใหญ่คนเหล่านั้นมักมีคนดูต้นทางคอยแจ้งข่าวให้กลุ่มพวกมันไหวตัวทัน ซึ่งพอจวนตัวมันจะหลบหนีโดยซุกซ่อนสัมภาระและเสบียงอาหารไว้ตามที่ลับตา พอเจ้าหน้าที่ผ่านไปก็จะเข้ามากระทำผิดกันต่อ ดังนั้นวิธีการตัดท่อน้ำเลี้ยงคือการทำลายพวกเสบียงอาหารและของยังชีพไม่ให้พวกมันได้มีโอกาสใช้สอย

ชายหนุ่มเหลือบตามองพลและเกิ้งแกะถุงเสื้อผ้าที่ซ่อนอยู่แถวนั้นมากองกับพื้นก่อนจะจุดไฟเผา รอเจ้ากระทั่งมอดไหม้เขาก็ใช้น้ำเปล่าดับไฟเพื่อป้องกันไม่ให้มีไฟลุกไหม้ไปทั่ว เพลิงเหลือบมองใบหน้าของลูกน้องแต่ละคนที่มีสีหน้าเช่นเดียวกันคือเหนื่อยอ่อนแล้วจึงเรียกให้หยุดเดินทาง เวลาใกล้พลบค่ำนั้นพวกเขาตัดสินใจหยุดพักกันที่ริมลำธาร เพราะที่พักใกล้แหล่งน้ำเหมาะกับพักแรมมากที่สุด

หลังจากที่แต่ละคนจัดการผูกเปลกับต้นไม้แล้วขึงเต็นท์คลุมเป็นหลังคาอีกทีเพื่อกันหมอกและฝน พรานธีปอก็เริ่มก่อกองไฟและหุงข้าวด้วยหม้อสนาม เมนูเย็นนี้คือต้มยำปลากระป๋องซึ่งเก็บผักบุ้งจากริมแม่น้ำมาเด็ดใส่ เพลิงมีหมูแดดเดียวที่ป้าอนงค์ฝากมาถุงโตพอจะแบ่งให้คนหนุ่มแต่ละคนที่หิวโซกินกัน

มื้อค่ำนั้นพวกเรานั่งล้อมวงกินข้าวเงียบๆ ท่ามกลางเสียงจิ้งหรีดเรไร

“ฝีมือต้มยำปลากระป๋องลุงพรานนี่สุดยอดเลย”

เจ้าเปลวยกนิ้วโป้งให้

“หมูแดดเดียวผู้ช่วยนี่ก็อร่อยเหาะ”

“งั้นพวกนายต้องไปขอบคุณป้าอนงค์แกแล้ว”

เพลิงพูดยิ้มๆ ขณะที่เจ้าเปลวเกาหัวแรกๆ เพราะจำได้ว่าเมื่อสองสามวันก่อนมันเห็นรเณศต่างหากที่นั่งแล่หมูเอาไปตากแดดจนได้ที่แล้วนั่งหลังขดหลังขาทอดจนสะเด็ดน้ำมัน

“ทำหน้าอะไรของมึงวะเปลว”

เต็งที่เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ เอ่ยถาม

“ก็หมูนี่...”

เปลวยังไม่ทันพูดจบเพื่อนมันก็พูดแทรกขึ้น

“เออกูจะถามอยู่พอดีว่าวันนี้มึงแบกเป้ใบใหม่มา ใหม่เอี่ยมเลยนี่หว่า”

“อ๋อ พี่เนตรเขาซื้อให้”

มันพูดไปกินไป “พี่แกบอกว่าสงสารเป้ใบเก่ากลัวว่ามันจะขาดในป่าไปซะก่อน”

“มึงนี่ก็พูดไม่ดูเป้ผู้ช่วยเลย”

เกิ้งเอ่ยเย้าเพลิงพาให้ทุกคนในวงหัวเราะครืน

“พอดีเลยพี่เนตรแกบังคับให้เอาเป้ติดมาอีกใบ”

“หือ?”

เพลิงมุ่นหัวคิ้ว

“แกบอกเผื่อมีใครอยากเปลี่ยนใส่ใบใหม่”

“พี่เนตรมึงนี่ใจดีขนาดนั้นเลยเหรอวะ”

“เออสิ โคตรใจดี มีน้ำใจกับข้าไม่พอยังช่วยเลี้ยงแก้มใสให้ด้วย”

เปลวยิ้มอย่างภูมิใจ บทสนทนานั่นทำให้เพลิงซึ่งนิ่งฟังอยู่นานคิดตาม พอจะนึกภาพที่หลานป้าอนงค์เลี้ยงเด็กน้อยได้อยู่หรอก เห็นอุ้มกันอยู่ครั้งนึงท่าทางทะมัดทะแมงเชียว

“หมูทอดอร่อยเหรอผู้ช่วยยิ้มหวานเชียว”

เพลิงกดยิ้มมุมปาก

“อยากกินอีกมั้ยล่ะ ไม่อย่างนั้นจะได้เอาโยนทิ้งไป”

“โห่ผู้ช่วย”

แต่ละคนร้องโวยวายถึงมองไม่เห็นใบหน้ากันชัดๆ เพราะบรรยากาศรอบตัวเริ่มมืดสนิทต้องอาศัยแสงไฟจากเทียนที่จุดอยู่กลางวง

“ถามจริงนะผู้ช่วย ถ้าไม่ได้ทำอาชีพนี้ผู้ช่วยจะไปทำอะไรครับ”

“ไม่รู้สิ”

เพลิงยักไหล่ “ไม่ได้คิดเผื่อไว้เลย”

“แต่พี่เพลิงเคยเล่าให้ฟังว่าเคยสอบติดวิศวะฯ แต่ไม่ยอมไปรายงานตัวนี่พี่”

พลเอ่ยท้วง

“อืม”

“โห ใส่เสื้อช๊อปโคตรเท่เลยนะพี่ เสียดายแทน และอย่างนี้พ่อแม่พี่ไม่ว่าหรอวะ”

จะเหลือเหรอ เพลิงคิดในใจเพราะจำได้ดีว่าบิดาหัวเสียขนาดไหนที่เขาไม่ไปรายงานตัวหลังจากประกาศผลว่าสอบตรงติดคณะวิศวกรรมศาสตร์เพราะรอสอบใหม่เข้าคณะวนศาสตร์ แน่นอนว่าวันนั้นบ้านแทบแตก ซ้ำเพลิงเองยังโดนบิดตบจนหน้าหันที่หัวดื้อ

แต่ก็นั่นแหละเขามันดื้อด้านอย่างที่ใครๆ ว่าจริงๆ

“แล้วพี่พลอ่ะ ทำไมถึงอยากทำงานป่าไม้วะ”

“ชุดลายพรางมันเหมือนทหารดี”

“ถามจริง?”

“เออสิ ตอนแรกกูเข้าใจว่ามันคงเหมือนเรียนทหารมั้งเลยสอบเข้ามา ที่ไหนได้”

“ควายยยยยยยยยยย”

เกิ้งแดกดันเพื่อรุ่นน้องจนคนอื่นพากันหัวเราะเสียงดังลั่น พอทุกคนพากันหยุดหัวเราะ เสียงร้องของอะไรบางอย่างก็ดังขึ้น

“ฉิบหาย”

เต็งเกือบทำจานข้าวหลุดมือ

“เสียงนั่น...”

“เขาบอกเข้าป่าอย่าถามหาเสือสาง หุบปากไปเลยมึง”

“หูยยยย” เต็งขยับมาจนชิดเพื่อนรัก “พวกผู้ช่วยก็ใจแข็งกันจังเนอะ มีของดีอะไรกันครับ นั่งนิ่งเชียว”

เพลิงส่ายหัวยิ้มๆ

“ไม่มี”

เต็งเห็นแบบนั้นจึงเขยิบไปกระแซะลุงตัวเองที่นั่งซดต้มยำปลากระป๋องเฉย

“ลุงๆ มีของดีอะไรบอกผมบ้างสิ”

“ข้าไม่มีหรอกเจ้าเต็ง”

“จริงเหรอแล้วสร้อยที่ห้อยคอลุงอยู่นั่นล่ะ”

“อ๋อ เหรียญพ่อหลวง”

ทุกคนทำหน้าฉงนก่อนจะขยับตัวตั้งใจฟังพรานธีปอ เพราะจากที่สังเกตมันก็แค่เหรียญบาทธรรมดาที่ใส่กรอบแล้วห้อยคอด้วยเชือกป่าน แกถอดสร้อยที่คอออกมาประนมมือยกขึ้นจรดศีรษะ

“นี่แหละสร้อยพระของข้า ปู่ย่าข้าสอนมาว่าคนในรูปนี่แหละเทวดาเดินดิน ที่ทำให้บ้านเมืองข้ามีอยู่มีกินสุขสบาย คนอื่นจะคิดยังไงข้าไม่รู้หรอก แต่ข้าเคารพบูชาเพราะคุณความดี ถ้าเอ็งคิดว่าเอ็งทำดีแล้ว พวกเอ็งอย่ากลัวอะไรเลย”

เพลิงยิ้มน้อยๆ มองแกยกมือขึ้นประนมอีกครั้ง

“แล้วใครว่าเต็งไม่มีเครื่องรางคุ้มกายกันล่ะ”

เต็งมุ่นหัวคิ้วทันที

“มองไปที่แขนขวาสิ”

เพลิงชี้ไปที่ธงไตรรงค์สามสีซึ่งปักอยู่แถบแขนด้านขวาของชุดลายพราง

“ธงชาตินั่นแหละจะคุ้มกาย”

“...”

“ถ้าทำความดี ทำสุจริตตามหน้าที่ของตัวเอง อย่ากลัวเลยภัยอันตรายจะเข้ามา แม้จวนตัวแล้วเสื้อผ้าที่สวมใส่นั่นแหละจะติดกายไปอย่างภาคภูมิ”

.

.


ค่ำคืนนั้นแก้มใสโยเยร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง ขนาดป้าสมัยพาอุ้มเดินจนจะรอบบ้านเด็กน้อยก็ยังไม่หยุดร้อง เห็นแบนนั้นรเณศจึงตรงเข้าไปช่วยแกอุ้ม น่าประหลาดที่พอได้นอนกินนมขวดในอ้อมกอดของ รเณศเด็กน้อยกลับยิ้มเสียหวานจ๊อย ไม่นานหลังจากนั้นหนูน้อยก็หลับตาพริ้มให้อ้อมกอดเขา รเณศยิ้มน้อยๆ จ้องมองคนในอ้อมกอดอย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะมองผ่าความมืดไปไกล ในความมืดมิดนั่นรเณศอดนึกถึงช่วงชีวิตหนึ่งของตัวเองที่ผ่านมาไม่ได้

เวลาสองสามทุ่มสำหรับคนเมืองคือการเริ่มต้นชีวิตกลางคืนก็เท่านั้น เมืองหลวงที่มีแต่เสียงไฟไม่มีวันหลับใหล ยิ่งช่วงเย็นวันศุกร์ในมุมหนึ่งของเมืองแต่ละคนต้องออกมาพบปะสังสรรค์และดื่มด่ำกับความสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นการคลายเครียดหรือหาความสุขให้ตัวเอง แต่อีกมุมหนึ่งในพื้นที่ห่างไกลความเจริญยังมีหลายสิบชีวิตที่ต้องนอนกลางดินกินกลางทราย ใช้ชีวิตแบบไม่มีแสงสีหรือแสงไฟ อาจจะต้องอาศัยแค่แสงจันทร์ยามค่ำคืน

ใครบางคนที่มีกระเป๋าเป้เก่าๆ แบกไปทั่วป่า ไม่มีเสื้อผ้าให้คลายหนาวนอกจากชุดลายพราง ไม่มีเงินทองกองเท่าภูเขา แต่คนเหล่านั้นกำลังดูแลปกป้องผืนป่าให้พวกเราอยู่


☘☘☘☘


ฮืออ มาแล้วววว
อาทิตย์แล้วไม่สบายจ้าเป็นภูมิแพ้ (แพ้ฝุ่นจนผื่นขึ้น) ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว
ฝากหวีดในทวิตติดแท็ค #ป่าห่มรัก ด้วยเด้อ ร้ากกก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-03-2019 21:40:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 18-03-2019 21:57:58
มาต่อแล้วววววว    :pig4: :really2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: anarshy ที่ 18-03-2019 22:06:02
พี่เพลิงเท่มากกกกก รีบหลงน้องเร็วๆนะ ><
ว่าแต่เป็นห่วงทีมสำรวจจังเลยค่ะ ;__; ขอให้พระคุ้มครองนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-03-2019 22:10:19
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-03-2019 22:15:48
ขอให้เจ้าที่ทุกคนปลอดภัย
ธามนี่ใครนะ จำบ่ได้
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 18-03-2019 22:34:07
สงสัยอิเตวิชจะมีผัวซะแล้วงานนี้

หึหึ เส็รจพี่ธารแน่ๆ

หลอกฟันคนอื่นมาเยอะ

เจอโดนฟันเองบ้างเถอะ

รอสมน้ำหน้าอยู่จ้ะ

ผู้ช่วยเพิลงสู้ๆนะ

ขอให้คุณพระคุ้มครองทุกๆคน

น้องแก้มใสติดน้องเนตรแล้ว

น่ารักทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 18-03-2019 22:54:38
ขอให้ทุกคนที่ทำงานเพื่อชาติปลอดภัยเน้อ 

แก้มใสรับพ่อเนตรเป็นพ่ออีกคนล่ะเหรอ อยู่ในมือพ่อเนตรแล้วไม่โยเยเลย.  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-03-2019 23:02:33
เรื่องนี้ฟิลกู๊ดใช่ไหม อ่านไปอ่านมาใจคอไม่ค่อยจะดี แหะๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 18-03-2019 23:06:02
ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปลอดภัย ไม่บาดเจ็บกลับมานะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 18-03-2019 23:09:50
คนทางบ้านก็ทำได้แค่ส่งใจไป
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-03-2019 23:24:10
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 18-03-2019 23:59:43
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 19-03-2019 00:33:16
ผู้ช่วยเท่อีกแล้ว TT
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 19-03-2019 02:47:17
ขอให้ทุกคนในทีมผู้ช่วยปลอดภัย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 19-03-2019 05:12:27
หายป่วยไวๆ นะคะ

แหมมม เนตรถึงขั้นต้องท้วงให้เปลวเอากระเป๋าไปอีกใบนะ
แล้วอะไรคือทำหมูแดดเดียวเตรียมให้ แถมยังคอยคิดถึงแบบนี้อีก

ทีมเข้าป่า เค้าเข้าขากันมาก รับส่งมุกกันดีเหลือเกิน
เปลวชงพี่เนตรแบบนั้น ผู้ช่วยเค้าไม่อิจฉาเนาะ

เตวิชคือตัวมารมาก คิดได้ไง แค่งอน ตลก
ธามน่าจะฉะแทนสักทีนะ ไม่เกี่ยวพันกัน ความมาเต็มน่าจะมาก
เอ็นดูชินกร อย่าเผลอหลุดบ่อยล่ะ ระวังโดนจับติด
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 19-03-2019 08:09:13
เพลิงสู้ๆ เพลิงสู้ๆ มีคนเป็นห่วงโดยไม่รู้ตัวด้วยนะ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 19-03-2019 12:43:48
น้ำตาไหลตอนเหรียญพ่อหลวง

ขอบคุณนะคะ ที่ถ่ายถอดเรื่องราวและความรู้สึกรักผืนแผ่นดินของเหล่าคนตัวเล็กๆทีี่ทำงานอย่างยากลำบาก แต่ทำด้วยหัวใจอย่างแท้จริง  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 19-03-2019 13:19:45
กินหมูแดดเดียวไปยิ้มไป อย่าลืมเปลี่ยนเป้เด้อ  :katai3:    :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 19-03-2019 17:37:36
รอวันผู้ช่วยเป็นแฟนกับหลานป้าอนงค์
วันนั้นเตวิชผู้เห็นแก่ตัวอกแตกตายไปเลย
น้องสุดชังรักกับคนที่ตัวเองรักแต่เห็นเป็นของตาย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 20-03-2019 17:19:00
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 20-03-2019 20:06:56
จะไม่มีเรื่องร้ายใช่ม๊ายยย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 22-03-2019 22:41:17
ขอบคุณคนแต่งค้า รักษาสุขภาพด้วยเน้อ
ว่าแต่ อ่านเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกพออ่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [08] #ป่าห่มรัก [18.3.62] P.5 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 26-03-2019 01:11:47
อ่านแล้วเศร้า จนท.แต่ละคนทำงานหนัก ตั้งใจทำงาน รักในอาชีพ แต่พอเกิดอะไรขึ้นแทบไม่รู้ข่าวเลย เป็นกำลังใจให้ทีมจนท.ค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 27-03-2019 18:55:52
[ 09 ]



เช้านี้ทีมลาดตระเวนเริ่มออกเดินตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นขอบฟ้า การเดินทางช่วงเช้าจะทำให้ได้ระยะทางที่มากกว่าเดิมเนื่องจากเพลิงมีเป้าหมายว่าหลังจากลาดตระเวนในเขตที่รับผิดชอบแล้ว เขาและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ จะเข้าไปในหมู่บ้านท้ายเขาเพื่อสอบถามสำรวจดูความเป็นอยู่ของชาวบ้านกลุ่มนั้น สายมากโขแล้วตอนที่พวกเขามาถึงกลางป่าลึก ราวๆ หนึ่งถึงสองกิโลเมตรจากตรงนี้จะเป็นเขตป่าไม้พะยูงที่ต้องเข้าไปสำรวจ

เพลิงกวาดตามองไปรอบๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่หยุดเก็บข้อมูล โดยการบันทึกสภาพป่าทั่วไป ร่องรอยสัตว์ป่าและพืชพรรณที่ขึ้นอยู่ในบริเวณโดยรอบ พลและเกิ้งกำลังยืนเช็ดพิกัดจีพีเอสและบันทึก เพราะข้อมูลเหล่านี้จะนำไปวิเคราะห์อีกชั้นหนึ่ง

“ไอ้พวกนี้มัน”

เปลวบ่นขึ้นขณะที่กำลังเก็บเศษขยะ

“มาลักลอบตัดไม้ไม่พอ ยังทำเลวทิ้งขยะไว้ให้ดูต่างหน้าอีก”

เศษขยะและอาหารกระดาษถูกทิ้งเกลื่อนบริเวณนั้นบ่งบอกว่าก่อนหน้านี้คงมีกลุ่มผู้กระทำผิดมาหยุดพักแถวนี้ พวกมันถึงทิ้งขยะไว้เป็นหลักฐาน

“อย่าให้เจอนะมึง”

เต็งบ่นเป็นหมีกินผึ้งไม่ต่างกัน ตอนที่ชวนเพื่อนเก็บเศษขยะใส่ถุง ความเป็นจริงแล้วขยะพวกนี้เป็นภาระเจ้าหน้าที่มากพอสมควร แต่ด้วยหน้าที่เขาปล่อยให้ขยะไร้ประโยชน์พวกนี้ทิ้งอยู่กลางป่าไม่ได้หรอก เพราะไม่รู้ว่าจะมีสัตว์ตัวไหนโชคร้ายมากัดกิน งานป่าไม้ที่ว่าหนักกายยังมีเรื่องหนักใจเมื่อเจอเรื่องกระทำผิดไม่เว้นแต่ละวัน บางครั้งมันก็น่าท้อใจอยู่หรอก แต่ก็เท่านั้นในเมื่อมันเป็นหน้าที่ เมื่อได้รับมอบหมายมาก็ต้องทำ

เปลวเหลือบตามองเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ซึ่งขะมักเขม้นก้มหน้าก้มตาทำงาน ทุกคนทำตามหน้าที่ของตนเอง ไม่เว้นแม้แต่หัวหน้าชุดลาดตระเวนซึ่งลงทุนนั่งเป็นฐานให้เต็งมันเหยียบแล้วปีนขึ้นต้นไม้เพื่อไปสำรวจมุมสูง เด็กหนุ่มมองภาพตรงหน้าแล้วยิ่งนับถือคนๆ นั้น

พี่เพลิงไม่เคยเอาเปรียบใคร ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นลูกน้องหรือมีตำแหน่งที่ด้อยกว่า ตรงกันข้ามผู้ชายที่ดั้นด้นมาจากเมืองหลวงที่มีความเจริญทุกรูปแบบนั่น กลับมีน้ำใจและคอยยื่นมือมาช่วยผู้อื่นอยู่เสมอ เปลวรู้จักผู้ช่วยฯ ครั้งแรกตอนที่แกย้ายมาประจำใหม่ เปลวคือเด็กหนุ่มที่ก้าวพลาดในช่วงชีวิตวัยรุ่นทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาไม่น้อย เพราะพลาดทำแฟนสาวท้อง ซ้ำร้ายช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนั่นจึงนำพาให้เด็กหนุ่มเข้าสู่วังวนของสารเสพติด

เปลวริลองเสพไอซ์ไม่พอยังทำหน้าที่ส่งมันให้กับกลุ่มเพื่อน ตอนนั้นเขาคิดแค่เพียงว่าอยากหาเงินเผื่อลูกน้อยซึ่งกำลังจะเกิดมาโดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ พอทำงานผิดกฎหมายครั้งแรกก็ย่อมมีครั้งต่อมาจนกระทั่งถูกจับ และเจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุมเขาในตอนนั้นคือเพลิง ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานที่บังเอิญเข้าตรวจค้นการลักลอบขนไม้ใกล้ๆ จุดส่งยาของเขา เปลวจึงโดนร่างแหไปด้วยเพราะบังเอิญโผล่ไปใกล้ๆ จุดเกิดเหตุ

เพลิงค้นเจอยาไอซ์จำนวนหนึ่งในตัวเขา นั่นทำให้เปลวยอมรับสารภาพและยอมจำนนแล้วว่าคงต้องติดคุก แต่ผู้ชายหน้านิ่งคนนั้นยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมถามสาเหตุที่ทำให้เขาหลงเดินทางผิด เพลิงพาเขาไปส่งตำรวจแล้วประสานงานขอกันเขาไว้เป็นพยาน หากเปลวรับปากว่าจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าจับกุมตัวการจนสิ้นซาก

เปลวเหมือนได้เกิดใหม่เพราะความช่วยเหลือของเพลิง คนๆ นั้นไม่กล่าวโทษเขา ซ้ำยังฉุดดึงเขามาสู่เส้นทางที่ถูกต้อง เพลิงเคยบอกว่าจะส่งเสียเขาให้เรียนจนจบแต่เปลวเกรงใจจึงขอทำงานกับเพลิงแทน ไม่ใช่เพียงเพื่อตอบแทนความดีของเพลิงเท่านั้น แต่ระยะเวลาได้รู้จักกับเพลิงไม่นานทำให้เขารู้ว่าผู้ชายจากเมืองหลวงคนนี้มีดีมากกว่านั้น

คนที่ดั้นด้นมาเพื่อปกป้องป่าให้คนที่นี่ไม่เคยเรียกร้องความสุขสบาย นั่นจึงทำให้เปลวมองย้อนกลับมาที่ตัวเอง เขาเป็นคนที่นี่แท้ๆ กลับไม่เคยคิดจะลงมือทำอะไรสักอย่าง ซ้ำครั้งหนึ่งยังได้ทำผิดพลาดจบเกือบทำให้ลูกน้อยต้องกำพร้าพ่อ หลังจากลาออกจากโรงเรียนแล้วเขาจึงตัดสินใจเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมของเพลิง โดยที่ป้าสมัยและป้าอนงค์รู้เพียงว่าพี่เพลิงชักชวนเขาไปทำงาน เพราะเพลิงไม่เคยปริปากบอกใครถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเขาได้พบและรู้จักกับเพลิงด้วยสาเหตุอะไร

พี่เพลิงไม่เคยสอนเขาด้วยคำพูดสวยหรู ผู้ช่วยเพลิงคนนี้พูดไม่เก่งนักหรอก แต่การกระทำของเขามักสอนคนอื่นได้เสมอ

“ระวังด้วย”

เพลิงตะโกนบอกเต็งซึ่งกำลังปีนป่ายลงมาจากต้นไม้สูง

“วันนี้ร้อนกว่าทุกวันนะผู้ช่วย”

พรานธีปอพูดเสร็จแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าซึ่งมืดครึ้มผิดปกติ

“น่ากลัวว่าฝนจะตก”

“นั่นสิครับพราน”

เพลิงพยักหน้าเห็นด้วย

“อีกไม่ไกล จะถึงป่าพะยูงแล้ว เดี๋ยวเราพักกินข้าวเที่ยงกันที่นั่นแล้วกัน ว่าแต่ทุกคนยังไหวใช่มั้ย”

ท้ายประโยคหันไปมองเจ้าหน้าที่แต่ละคนซึ่งยังมีสีหน้าแช่มชื่น

“ผมอ่ะไหวอยู่แล้วน่าผู้ช่วย”

เกิ้งตอบยิ้มๆ “ไปดูไอ้พลมันเหอะ เดินนิดเดียวก็หอบแดดแล้ว”

“ใส่ความว่ะ”

เสียงพลตะโกนแหวกอากาศมาจากอีกทาง

“คนหนุ่มอย่างผม ถ้าเดินแค่นี้เหนื่อยก็แย่แล้ว ไม่เหมือนพี่หรอกเก็บแรงไว้เยอะๆ เหอะ กลับไปคราวนี้หมดเนี่ยวหมดแรงระวังกิ๊กพยาบาลทิ้งแล้วจะหาว่าผมไม่เตือน”

“ไอ้ห่าพล”

เพลิงส่ายหัวเมื่อเห็นคู่กัดเจ้าประจำเริ่มล้งเล้งใส่กันอีกครั้ง ระหว่างนั้นเจ้าเปลวเดินมาใกล้เขาก่อนที่เด็กหนุ่มจะมองไปที่เป้ด้านหลังแล้วยิ้มเผล่

“กระเป๋าสวยนะพี่เพลิง”

“อืม”

เพลิงกดยิ้มมุมปากเหลือบตามองไปยังเป้ใบใหม่ซึ่งเปลวเอาติดตัวมาอีกใบ ความจริงแล้วเป้สมบุกสมบันของเพลิงนั่นยังจะใช้งานได้ดีอยู่หรอก ถ้าหากว่าเมื่อเช้าก่อนออกเดินทางมันจะไม่ขาดเป็นทางยาว ซ้ำในป่าแบบนี้จะหาอุปกรณ์มาซ่อมแซมคงยากลำบาก ดังนั้นเป้จากความอนุเคราะห์ของรเณศจึงถูกเปลวนำมายัดเยียดให้โดยปริยาย

“พี่เนตรนี่คาดเดาได้แม่นจริงๆ นะว่าเป้ใบนี้ต้องมีคนได้ใช้มัน”

เปลวพูดยิ้มๆ

“ขนาดนั้นเชียว”

“แน่สิครับพี่เพลิง”

“เพิ่งรู้นะว่าเราปลื้มหลานป้าอนงค์แกขนาดนี้”

เปลวหัวเราะ

“พี่เนตรแกดีกับผมและแก้มใสมากพี่เพลิง”

“งั้นเหรอ?”

“ครับ นี่แก้มใสก็ติดพี่เนตรแจแล้ว ทั้งที่พี่เนตรเอาไปนอนด้วยแค่ไม่กี่วันเอง พี่เนตรแกดูท่าจะรักเด็ก ซ้ำยังมีน้ำใจกับผมอีกพี่”

ตั้งแต่รเณศเอ่ยปากขอแก้มใสเป็นลูก ซ้ำการกระทำที่แสดงออกชัดเจนว่ารักและเอ็นดูลูกของเขานั่นทำให้เปลวยิ่งเคารพรักฝ่ายไม่ต่างเพลิงเลย เปลวบอกตัวเองว่าเขาโชคดี แม้จะเคยทำผิดพลาดแต่เขายังมีคนรอบกายที่คอยช่วยเหลือดูแล ซ้ำคนเหล่านั้นยังจริงใจกับเขาโดยแท้ ในชีวิตคนเราไม่ต้องอะไรมากมายนักหรอก แค่มีกินอย่างพอเพียง มีบ้านและคนที่รักให้กลับไปหา ที่สำคัญมีคนดีๆ อยู่รอบกาย แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

ชีวิตที่ห่างไกลความเจริญทางวัตถุนั้น จึงทำให้เขาได้พบเจอกับคนที่มีความเจริญทางจิตใจ เป็นมิตรแท้ยามที่พบเจอกับความยากลำบาก เด็กหนุ่มยิ้มน้อยๆ เมื่อเพลิงทำหน้าฉงน ท่าทางเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเมื่อเห็นเขายกหางรเณศขนาดนั้น

“พี่ว่าหมูทอดเมื่อวานอร่อยป่ะ”

เพลิงทำหน้างงเมื่ออยู่ๆ เด็กหนุ่มเปลี่ยนเรื่องคุย

“ก็ดี”

เด็กหนุ่มยิ้มเผล่

“นั่นน่ะฝีมือพี่เนตรนะพี่เพลิง”

“หือ?”

เพลิงมุ่นหัวคิ้ว

“อร่อยใช่มั้ยล่ะ”

“พี่แกมีน้ำใจทำมาให้ แกคงได้ยินผมเล่าให้ฟังว่าเข้าป่าแต่ละทีได้กินแต่อาหารกระป๋อง”

เพลิงขยับรอยยิ้มจนเปลวนึกสงสัย

แปลกๆ ว่ะ ทำไมพี่เพลิงยิ้มแบบนั้นวะ ปกติพี่เพลิงยิ้มยากจะตายห่า รอยยิ้มที่นานๆ จะได้เห็นดันได้เห็นโดยไม่คาดคิดนั่นทำเอาเด็กหนุ่มยืนงงว่าอีกฝ่ายยิ้มทำไม

เดี๋ยวนะ!

เปลวลูบคางตัวเองนึกถึงรเณศที่คะยั้นคะยอให้เขาหอบเป้เปล่าอีกใบติดมา ซ้ำยังฝากหมูทอดมาให้ โดยบอกกล่าวว่าป้าอนงค์ฝากมาให้พี่เพลิง

นี่กูพลาดเรื่องอะไรไปรึเปล่าวะ

เด็กหนุ่มเกาหัวแกรกๆ มองตามหลังเพลิงที่ออกเดินทางไปแล้ว จนกระทั่งไอ้เต็งสะกิดหัวเขาแรงๆ นั่นแหละเปลวถึงได้สติ

“เหม่ออะไรไอ้ห่า”

“กูได้กลิ่นแปลกๆ ว่ะ”

เปลวพึมพำนั่นทำให้เต็งหน้าเสียมันก้มหน้าลงมาดมรักแร้ตัวเองทั้งซ้ายและขวาก่อนจะมุ่นหัวคิ้ว

“กลิ่นมันไม่ถึงกับดี แต่มันก็ไม่เหม็นขนาดนั้นนะโว้ย”

เปลวถอนหายใจเฮือกใหญ่

“กูไม่ได้หมายถึงกลิ่นตัวมึง”

“อ้าวแล้วกลิ่นอะไรวะ”

“กลิ่นคนรักกัน”

เต็งทำหน้างง

“มันมีกลิ่นแบบนี้อยู่บนโลกใบนี้ด้วยเหรอวะ”

“ไอ้ควาย”

เปลวด่าเพื่อนเสร็จก็เดินหนีมันทันที


.


.


“เวรเอ๊ย”

เสียงพลโวยขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะยกเท้าเตะอากาศเมื่อไม้พะยูงต้นหนึ่งซึ่งยังโตไม่เต็มที่เหลือแต่ตอ ซ้ำคนตัดยังอุตส่าห์ทิ้งใบเลื่อยซึ่งหักเป็นสองท่อนไว้ให้ดูต่างหน้า ท่าทางหัวเสียของลูกน้องนั่นอยู่สายตาของเพลิงตลอด อย่าว่าแต่พลเลยที่มีอารมณ์ในเมื่อคนอื่นๆ ที่เห็นสภาพตอไม้นั่นต่างเม้มปากแน่นก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

อีกไม่เกินห้าร้อยเมตรจากนี้จะเป็นพื้นที่ป่าพะยูงซึ่งมีอายุห้าสิบกว่าปีขึ้นทุกต้น พื้นที่ตรงนั้นราวๆ หนึ่งถึงสองงานนั่นเป็นป่าพะยูงผืนสุดท้ายของที่นี่ มันมีชีวิตที่ยืนยาวมานาน จนกระทั่งมนุษย์ที่เรียกตัวเองว่าสัตว์ประเสริฐ ซ้ำยังอัจฉริยะผลิตเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัย แต่นำเอาสิ่งประดิษฐ์จากมันสมองนั้นมาทำลายป่าไม้ซึ่งเกิดก่อนเราอีก

มนุษย์ที่ไม่รู้จักเพียงพอหาประโยชน์จากธรรมชาติ ขณะที่ธรรมชาติก่อให้เกิดผลผลิตให้คนเราเก็บกินซ้ำยังยืนต้นให้ความอุดมสมบรูณ์ ความมั่งคั่งทางทรัพยากรนั่นทำให้คนเราเก็บเกี่ยวผลประโยชน์นั่นเข้ากระเป๋าตัวเอง ซ้ำร้ายยังทำลายความอุดมสมบูรณ์เพราะอำนาจเงิน

ธรรมชาติไม่เคยอุทธรณ์ร้องขอต่อคนเราหรอก แต่เมื่อถึงวันหนึ่งที่เราเอาเปรียบมันจนเกินพอแล้ว วันนั้นธรรมชาติจะเอาคืนเราเองแม้เราจะขออุทธรณ์ก็ตาม เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อนึกถึงทั้งสภาพอากาศและความแปรปรวนทางธรรมชาติในปัจจุบันที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนและคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย นั่นเพราะเราทำลายธรรมชาติเอง

เพลิงเดินนำเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เข้าไปในผืนป่าพะยูงผืนสุดท้ายก่อนจะกวาดตามองต้นพะยูงสิบต้นสุดท้ายที่ยืนต้นสูงใหญ่ เปลือกไม้ที่บ่งบอกกาลเวลากว่าชั่วอายุคน ใบของมันซ้อนกันจนมองไม่เห็นท้องฟ้าเบื้องบน ทุกอย่างรอบกายจึงดูเย็นสบายขึ้น ในป่าลึกเช่นนี้เป็นปกติหากต้นไม้สูงใหญ่จะแตกกิ่งใบจนมองไม่เห็นอะไรg]p

ชายหนุ่มแหงนมองสูง แวบหนึ่งเขาอดเปรียบเทียบไม่ได้ว่ายังมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์ตัวกระจ้อยร่อยเมื่อเทียบกับต้นไม้แล้ว

“นึกว่าจะไม่เหลือซะแล้ว”

เกิ้งพูดยิ้มๆ ตอนที่เดินไปสำรวจป่าพะยูงผืนสุดท้าย การลาดตระเวนที่ผ่านมาของพวกเราทุกครั้งจะต้องเข้ามาสำรวจป่าแห่งนี้ เพื่อดูว่ามันยังคงหลงเหลืออยู่

“นั่งกินข้าวกันก่อน”

เพลิงกวักมือเรียกทุกคนมารวมตัวกัน แต่โชคไม่ดีระหว่างนั้นเม็ดฝนก็โปรยปรายลงมาพอดี ทุกคนต่างวิ่งไปหลบใต้ต้นไม้ ระหว่างนั้นเพลิงเห็นใบบัวใกล้ธารน้ำแถวนั้นเขาจึงไปเอาบางส่วนมาใช้แทนร่มกันฝนให้กับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ

ใบบัวอันไม่ใหญ่นักนั่นเป็นเหมือนที่คุ้มภัยให้กับพวกเรา

“น่ากลัวว่าใบบัวนี่จะไม่ไหวนะผู้ช่วย ลูกเห็บลงแล้ว”

เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะบอกให้คนอื่นขึงเต็นท์ระหว่างต้นไม้เพราะเม็ดฝนเริ่มใหญ่ขึ้น หลังจากนั้นทุกคนก็สวมใส่เสื้อกันฝนแล้วพากันมายืนเป็นกลุ่มอยู่ใต้เต็นท์

“โอ้โหทั้งฝนทั้งลูกเห็บ”

พลพูดไปหัวเราะไป

“ท่าทางเจ้าป่าเจ้าเขาจะดีใจใหญ่ที่พวกเราแวะมาหา”

เกิ้งพูดติดตลก

“ไม่ต้องดีใจขนาดนี้ก็ได้ครับ พวกผมชุ่มแล้ว”

เต็งยกมือไหว้ปลกๆ พาให้คนอื่นหัวเราะขบขัน

“ผู้ช่วยขยับเข้ามาอีกสิ ไหล่เปียกแล้วนั่น”

“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เปียกเท่าไหร่”

เพราะพื้นที่เต็นท์มันเล็ก การจะทำให้ทุกคนยืนกันพอดี เพลิงจึงต้องเสียสละไหล่ข้างหนึ่งให้โดนฝน

“ขยับมาเถอะน่าพี่เพลิง พี่จะเป็นพระเอกคนด้วยได้ไง”

เพลิงยิ้มน้อยๆ

“ถ้าจะเปียกก็ต้องเปียกด้วย ถ้าจะลำบาก เราก็ต้องลำบากด้วยกันนะพี่ เพราะเราทีมเดียวกัน”

เพลิงชะงักมองสีหน้าเจ้าหน้าที่แต่ละคนซึ่งต่างขยับเบียดกันเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้เขา เปลวนึกตื้นตันเพราะพี่เพลิงไม่เคยเอาเปรียบลูกน้อง ดังนั้นทุกคนจึงรักและเคารพแกจริงๆ

“เฮ้อ”

เกิ้งร้องขึ้นหลังจากที่ฝนหยุดแล้วแต่ละคนมานั่งล้อมลงกินข้าวกับพื้นเปียกๆ เขาจ้องมองข้าวซึ่งแห้งและแข็งเนื่องจากเป็นข้าวเก่าตั้งแต่เมื่อวาน มื้อเช้าที่ผ่านมานี้รีบออกเดินทางจึงไม่ได้หุงหากันใหม่ ซ้ำบ่ายนี้ฝนยังตกหนักเชื้อเพลิงที่ใช้ในการก่อไฟก็เปียกหมดดังนั้นเมนูปรุงสุกใหม่จึงเป็นไปได้ยาก

“ใครเข้าฝันให้เรามาทำอาชีพนี้กันนะผู้ช่วย”

“พาตัวเองมาลำบากชัดๆ เลยเนอะ”

พลสัพยอกเข้าให้

“ลำบากแล้วทำไมไม่ลาออกไปทำอย่างอื่นวะ”

“ผมกลัวพี่เกิ้งเหงาปากไง”

“เถียงกันมากๆ ระวังผีผลักนะพี่”

เต็งแกล้งแซวก่อนจะถูกทั้งคู่เคาะกระบาลไปคนละที

“ถ้าจริงนะผู้ช่วย”

ลุงธีปอหันมาทางเพลิง

“ถ้าวันหนึ่งผู้ช่วยมีครอบครัวแล้วยังจะทำงานนี้อยู่มั้ย”

“คงไม่มีวันนั้นหรอกครับ”

เพลิงยักไหล่ “ใครเขาอยากมาลำบากกับผมกันเล่า”

“ผู้ช่วยยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลย”

“พี่ชายผมเคยบอกว่าสักวันหนึ่งผมคงต้องแต่งงานกับสิงสาราสัตว์”

เพลิงกดยิ้มมุมปากเมื่อนึกถึงคำพูดของธาม

“ผมไม่อยากให้ใครมาลำบาก ไม่อยากให้คนที่รออยู่ข้างหลังต้องกระวนกระวายเวลาเข้าป่าแต่ละที และสุดท้ายผมไม่อยากให้เขาต้องทุกข์ทรมานใจไปชั่วชีวิต ถ้าหากว่าวันหนึ่งผมไม่มีโอกาสได้กลับไปหาเขา”

ทุกคนพากันพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนที่แต่ละคนจะจมจ่อมอยู่กับความคิดของตัวเอง ที่เพลิงพูดไปนั้นเป็นความจริงทั้งหมด งานยากลำบากและเสี่ยงอันตรายแบบนี้การคิดเผื่อไว้เป็นเรื่องจำเป็น เพราะชีวิตในแต่ละวันในป่าไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะพบเจอกันสิ่งใด



☘☘☘☘

“ทอดหมูอีกแล้วหรือเจ้าเนตร”

รเณศยิ้มแหยตอนที่ป้าอนงค์ท้วงขึ้นเมื่อเห็นหมูทอดวางอยู่ในจานสำรับกับข้าวมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

“ผมเห็นหมูมันเหลืออยู่น่ะครับเลยไม่รู้จะทำอะไรดี”

ป้าแกพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะหันไปตะโกนเรียกป้าสมัยขึ้นมากินข้าว ระหว่างนั้นรเณศจึงเดินไปหาแก้มใสที่ร้องอ้อแอ้อยู่ในเปลขึ้นอุ้ม

“ตื่นแล้วหรือครับคนสวย”

คนกรุงเกลี่ยแก้มขาวเบาๆ หนูน้อยหัวเราะเอิ้กอ้ากชอบใจจนน้ำลายไหลย้อย เขาจึงคว้าผ้าอ้อมที่พาดบ่าอยู่ขึ้นมาเช็ดให้ทันที

“เหมือนพ่อลูกอ่อนเข้าไปทุกวันนะเรา”

ป้าอนงค์พูดยิ้มๆ ตอนที่มองหลานชายอุ้มเด็กน้อยอย่างทะมัดทะแมง ซ้ำยังดูแลหนูน้อยได้ดีราวกับพ่อแท้ๆ

“เห็นแบบนี้แล้วนึกถึงเจ้าเปลว”

“นั่นสินะป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง”

รเณศเม้มปากแน่นอดคิดตามบทสนทนาของผู้ใหญ่ทั้งสองไม่ได้

“นี่ดูสิ เห็นหมูทอดนี่ก็นึกถึงผู้ช่วยเขาอีกคน แกคงจะได้กินอิ่มอยู่หรอกนะ หรือว่าไงเจ้าเนตร เราทอดไปให้เยอะอยู่มิใช่รึ”

รเณศเกาแก้มแก้เก้อ

“คนทำตั้งใจทำแบบนี้ คนกินคงจะอิ่มท้องอยู่หรอก แต่สงสัยว่าคนทำคงตั้งใจมาก ถึงได้ทอดหมูมาเป็นอาทิตย์แล้ว”

ป้าอนงค์พูดขำๆ ไม่ทันได้สังเกตใบหน้าคนเมืองที่แดงวาบขึ้น รเณศแกล้งเบือนหน้าหนี ตอนที่ป้าทั้งสองเปลี่ยนบทสนทนาไปคุยเรื่องอื่น ชายหนุ่มกระชับเด็กน้อยในอ้อมกอดให้แน่นขึ้นก่อนจะเหม่อมองไปทางท้ายไร่

ป่านนี้ไม่รู้คนในป่าไปจะเป็นอย่างไร

รเณศถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ปา ปา ป้อ”

“หือ?”

รเณศทำหน้าตื่นตอนที่มือน้อยๆ ตะปบเข้าที่ใบหน้าเขา ดวงใสแจ๋วจ้องมองกันนิ่ง เสียงเล็กๆ ไม่เป็นคำนั่นทำเอารเณศใจเต้นแรง

“หนูพูดเหรอลูก”

“ปา ปา”

“หนูพูดได้แล้ว”

รเณศกดจูบที่แก้มขาวก่อนจะร้องบอกผู้ใหญ่ทั้งสองเสียงดังลั่นว่าเด็กน้อยเริ่มหัดพูด เป็นข่าวดีสำหรับคนที่กำลังจะกลับบ้านว่าลูกสาวตัวเองพูดได้แล้ว

เจ้าเปลวคงจะดีใจไม่น้อย

และเจ้าของตุ๊กตาหมีที่มีเสียงช่วยในการหัดพูด ซึ่งใครบางคนซื้อมาให้เจ้าหนูนี่คงเจ้าดีใจเช่นกัน

กลับมาไวๆ นะคนไกล


.


.


“รอยเท้าสัตว์”

พรานธีปอเอ่ยขึ้นหลังจากนั่งพิจารณารอยเท้าที่ปรากฏตรงดินโคลน รอยบุ๋มลึกลงไปใหญ่พอสมควรนั่นเรียกความสนใจจากบรรดาเจ้าหน้าที่ซึ่งต่างชะโงกหน้าเข้าไปดู

“เป็นไปได้มั้ยว่าจะเป็นรอยเท้าเสือ”

“แต่ในป่าเขตอุทยานเราไม่เจอร่องรอยเสือมาสิบกว่าปีแล้วนะครับ”

เพลิงยืนพิจารณาเพราะป่าแห่งนี้ไม่เจอเสือมานานแล้วจริงๆ เป็นไปได้ว่ามันอาจจะสูญพันธ์เนื่องจากระบบนิเวศไม่เอื้ออำนวยต่อการมีชีวิต

“ถ้าเป็นเสือจริงๆ ก็ดีน่ะสิ”

พลพูดยิ้มๆ ไม่ต่างจากเจ้าหน้าที่คนอื่นที่ตาเป็นประกาย จริงอยู่ว่าเสือเป็นสัตว์ดุร้ายและน่ากลัว แต่นัยยะสำคัญของการที่เสือปรากฏขึ้นแถบนี้เป็นเหมือนดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า เนื่องจากมันเป็นสัตว์ที่อยู่บนห่วงโซ่อาหารที่สูงสุด การที่เสือจะดำรงอยู่ได้แสดงว่าห่วงโซ่ชั้นรองลงมาในชั้นต่างๆ มีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอ

“ขอให้เป็นเสือจริงๆ ทีเถอะ”

“ภาวนาว่าถ้าเป็นมันจริง ก็อย่าให้มีใครเจอแล้วล่ามันได้เลย”

ปัง!

เต็งพูดจบพอดีที่เสียงปืนดังขึ้นในป่าใหญ่ เจ้าหน้าที่ทุกคนสบตากันเครียดก่อนจะกระชับอาวุธในมือ

“เสียงมันดังมาจากท้ายป่าทางเข้าหมู่บ้านหลังเขา”

“อาจจะเป็นเสียงยิงนกก็ได้นะพี่เพลิง หมู่บ้านผมชอบมายิงนกกันที่ตีนเขา”

เพลิงพยักหน้าหงึกหงัก

“งั้นเราแบ่งกำลังเป็นสองทีม ทีมหนึ่งลาดตระเวนทางตรงไปยังจุดที่ได้ยินเสียงนั่น อีกทีมอ้อมไปด้านหลัง ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ เราค่อยไปเจอกับที่หมู่บ้านท้ายเขา”

การลาดตระเวนครั้งนี้เพลิงตั้งใจว่าจะเข้าไปในหมู่บ้านท้ายเขาซึ่งเป็นบ้านเกิดของพรานธีปอและเจ้าเต็งด้วย

“ระวังตัวด้วยทุกคน”

เพลิงร้องบอกพรานธีปอ เจ้าเต็ง และเจ้าหน้าที่อีกสองนายซึ่งแบ่งกำลังไปอีกทาง ก่อนจะเดินนำทีมตัวเองเดินลาดตระเวนไปยังจุดเกิดเหตุ ใช้เวลาไม่นานเขาก็มาถึงท้ายป่าอีกนิดจะถึงท้ายหมู่บ้านแล้ว

“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ รอยเท้าสัตว์นั่นวิ่งเข้าไปในป่าลึก ไม่มีรอยเท้าคนตามไปแสดงว่าคงเป็นเสียงปืนจากที่นี่ ไม่น่าเกี่ยวกับมายิงสัตว์ในป่า”

“ผมได้ยินเสียงคนเดินมาทางนี้”

ทุกคนนิ่งเงียบก่อนจะพากันไปซ่อนตัวหลังต้นไม้ใหญ่ จังหวะนั้นร่างผู้ชายสูงใหญ่สองคนซึ่ง       สันนิฐานได้ว่าเป็นคนจากหมู่บ้านหลังเขาเดินถือหน้าไม้เข้ากับสำรวจอะไรสักอย่าง

แกร๊บ!

เปลวเหยียบกิ่งไม้แห้งจนเกิดเสียง นั่นทำให้ชายทั้งสองหน้าตื่นันหน้าไม้มาทางพวกเขาทันที

“หยุด อย่ายิงนี่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวน”

“เฮ้ย”

“พี่เพลิง”

“ไอ้ฉิบหายเอ๊ย”

เกิ้งกระโดดเข้าชาร์ตสองคนนั้นหลังจากที่กระสุนหน้าไม้พุ่งเข้าไหล่เพลิงเต็มๆ




ฮือ พี่เพลิงของน้องงงง
ปล. สัปดาห์หน้าอัพวันจันทร์เช่นเดิมนะคะ อาทิตย์นี้มาวันพุธแบบเฉพาะกิจ อิอิ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 27-03-2019 19:47:58
อ้าว ๆ ล่าสัตว์ก็ว่าเลวแล้ว นี่มาทำร้ายเจ้าหน้าที่อีก
พี่เพลิงต้องไม่เป็นอะไรนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 27-03-2019 19:51:11
แง~~~ เป็นอาชีพเสี่ยงชีวิตจริงๆ นั่นแหละ
เจออันตรายจากทั้งคนทั้งสัตว์...สัตว์นั้นเป็นสัญชาตญาณของเขา ส่วนคนนั้น.....เฮ้อ~~~

พาพี่เพลิงกลับมาให้พี่เนตรทำแผลเนอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 27-03-2019 21:00:47
เอ้า พี่เพลิงโดนยิง  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 27-03-2019 21:01:26
รีบๆจับมันแล้วรีบกลับค่าา คนทางนั้นเป็นห่วงงง อิอิ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-03-2019 21:41:46
โอ้ยพี่เพลิง โดนจังๆ เลยใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 27-03-2019 21:58:57
 :a5:
อย่าเป็นอะไรมากนะพี่เพลิง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 27-03-2019 22:13:17
นอกจากจะถ่วงความเจริญของประเทศแล้ว ยังรกโลกอีกด้วย ไม่รู้หรอกว่าความจำเป้นอะไรทำให้ต้องทำ แต่คนเรามีกันทั้งนั้น ยิงหรือไม่ยิง ฆ่าหรือไม่ฆ่า แต่สัตว์มันเลือกไม่ได้นะ มันยืนตรงนั้นแค่ปากกระบอกปืนของคน ตายหรือเป็นอยู่แค่นิ้วที่ลั่นไก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-03-2019 22:14:23
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 27-03-2019 22:20:03
อ้าว ผู้ช่วยโดนยิง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 27-03-2019 22:43:43
มนุษย์ผู้ประเสริฐ เป็นต้นเหตุของการสูญสลายของหลายๆ สิ่งจริงๆ

คงไม่เป็นอะไรมากนะผู้ช่วย คนรออยู่คงกินไม่ได้ นอนไม่หลับแน่ถ้าได้ยินข่าว.  :hao4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 27-03-2019 22:45:08
 :pig4: :pig4: :pig4:

พวกไหนหว่า? ที่ยิงหน้าไม้เนี่ย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 27-03-2019 22:58:50
 :pig4: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 28-03-2019 02:52:33
เสี่ยงจริงๆอาชีพนี้  :hao5:
เสียงปืนนั่นอีก  :ling2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 28-03-2019 09:43:18
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 28-03-2019 13:16:19
พี่เพลิงโดนยิง!!!!

สะท้อนใจมาก เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่ทำงานหนัก เสี่ยงอันตรายร้อยแปด เหมือนผู้ปิดทองหลังพระ
ที่แทบไม่มีใครได้รู้เลย เป็นข่าวดังที ก็เป็นกระแสเหมือนไฟไหม้ฟาง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Aimlovelove ที่ 28-03-2019 17:38:21
อ่านแล้วรู้สึก ขอบคุณเจ้าหน้าป่าไม้ที่ทำงานกันอย่างเต็มที่จริงๆ
ผู้ช่วยยย  :mew4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 28-03-2019 17:40:20
คุณพระคุณเจ้า

เจ้าป่าเจ้าเขา

ช่วยคุ้มครอง

ผู้ช่วยเพลิงด้วยเถอะ

อย่าให้เจ็บหนักเลย

และขอให้จับไอ้พวกสารเลวนั้นได้หมดทุกคนเลย

นู๋เนตรคนใกลบาดเจ็บแล้วเตรียมตัวไปดูแลเขาด้วย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 28-03-2019 19:27:54
พี่เพลิงอย่าเป็นอะไรนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: bnmshhhhhhh ที่ 28-03-2019 20:01:33
รอติดตามเลยย o13
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 29-03-2019 00:24:58
แงงงง ขอให้พี่เพลิงและเจ้าหน้าที่ทุกคนปลอดภัยนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 29-03-2019 03:44:59
เป็นห่วงทั้งผู้ช่วย ทั้งเจ้าเปลว พระคุ้มครองรีบกลับมาหาน้องแก้มนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 30-03-2019 07:32:51
กรรม ยิงโดนไหม หรือแค่เฉียดยังไงคะ
ขอให้เพลิงปลอดภัยนะ คนที่บ้านรออยู่

คนทำงานก็รักในอาชีพและศรัทธา
เพลิงและทุกคนก็ไม่ต่างกัน
กลับบ้านปลอดภัยกันนะคะ

เพลิงได้ใช้กระเป๋าใหม่แล้วจ้า
เปลวบอกเนตรมองไกล ผิดไปนิดนะ
จริงๆ อยากให้ใช้เลยมากกว่า 5555

เอ็นดูทีมป้าแซ็วหมูทอดเนตร
ว้าววว แก้มใสเรียกพ่อแล้วใช่ไหม
น่าจับฟัด น่าเอ็นดูมากลูก พ่อเนตรหลงมาก
และก็คิดถึงคนเข้าป่ามากด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 30-03-2019 12:16:01
รอจ้า
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [09] #ป่าห่มรัก [27.3.62] P.6 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 31-03-2019 20:14:51
เป็นกำลังใจให้ผู้ช่วย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 01-04-2019 20:54:21
[ 10 ]


เพล้ง!

เสียงกรอบรูปที่ร่วงหล่นลงมาจนกระจกแตกกระจายนั่นทำให้หญิงสูงอายุที่เผลอปัดมันตกถึงกับหน้าเสีย

“ตายแล้ว”

เธออุทานเสียงสั่นแล้วรีบผวาไปหยิบเอาภาพถ่ายของใครคนหนึ่งออกมาเศษกระจกเหล่านั้น

“แม่ระวัง”

ประมุขของบ้านที่เห็นภรรยานั่งจ้องเศษกระจกนั่นอยู่รีบคว้าตัวเธอให้ถอยออกมา

“พ่อ”

คุณวดีครางเสียงแผ่ว

“แม่ทำรูปเจ้าเพลิงตกแตก”

อดีตนายทหารสูงวัยชะงักไปก่อนจะพ่นลมหายใจแรงๆ เมื่อเห็นแววตาไม่สบายใจของภรรยา เขาจึงลูบบ่าลูบไหล่เธอเป็นการปลอบประโลม

“มันไม่มีอะไรหรอกน่าแม่”

“แต่ว่า...”

เธอยังมีสีหน้ากังวล

“เรื่องบังเอิญเท่านั้น”

“แต่แม่เป็นห่วงหลาน นี่ก็เป็นอาทิตย์แล้วที่เจ้าเพลิงไม่โทรหาแม่เลย”

“ก็มันบอกอยู่ว่าต้องไปลาดตระเวน”

“นั่นแหละที่แม่ห่วง”

เธอทำหน้าเครียด

“เข้าป่าไปแบบนั้นไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง” คุณวดีพึมพำก่อนจะผุดลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กมากดโทรออก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีสัญญาณตอนกลับเสียทีนั่นยิ่งทำให้เธอร้อนใจ ภาพสีหน้าร้อนรนของ ขณะที่บิดายืนปลอบใจอยู่ข้างๆ กันนั่นทำให้ธามที่เพิ่งเดินเข้ามามุ่นหัวคิ้วทันที

“มีอะไรกันเหรอครับ”

“ธาม”

คุณวดีผวาไปเขย่าแขนลูกชาย

“แม่ติดต่อเพลิงไม่ได้เลย”

“มันเข้าป่านี่ครับ”

ธามนิ่วหน้าเพราะจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่คุยกันเจ้านั่นมันบอกว่าต้องลาดตระเวนในป่า

“อาจจะยังไม่กลับออกมา”

“แม่ร้อนใจ”

“มีอะไรหรือครับ เอ๊ะ” ธามหันไปเห็นเศษกระจกเกลื่อนพื้น

“รูปเพลิงตกลงมาแตก แม่ใจไม่ดีเลยธาม แม่เป็นห่วงน้อง”

ธามถอนหายใจก่อนจะหันไปเรียกแม่บ้านมาทำความสะอาดเศษกระจก เพราะเกรงว่ามารดาที่เดินวนไปวนมาเป็นหนูติดจั่นจะเผลอเหยียบเข้าจนได้

“รูปตกลงมาโบราณเขาว่าเป็นลางไม่ดี คนในรูปจะได้รับเหตุรับอันตราย”

คนพูดน้ำตาคลอขึ้นมาทันทีเดือดร้อนให้ผู้เป็นสามีต้องปลอบใจยกใหญ่

“ใจเย็นๆ ก่อนแม่”

“แม่สัพเพร่าเองที่ทำรูปเพลิงหล่นลงมา แม่ผิดเอง”

คนสูงวัยโทษตัวเอง ในใจยิ่งร้อนรนเมื่อนึกถึงหลานชายที่ทำงานอยู่ในที่ห่างไกล ก่อนหน้านี้ทั้งขอร้องทั้งบังคับให้เจ้าเพลิงมันกลับใจยอมย้ายมาทำงานในเมือง แต่ทำอย่างไรคนหนุ่มกินอุดมการณ์นั่นก็ไม่เปลี่ยนใจเสียที สุดท้ายกลายเป็นคนสูงวัยเองที่ต้องยอมจำใจปล่อยให้หลานไปทำงานที่ตัวเองรัก เพลิงมีความสุขทุกครั้งที่พูดถึงงานของตัวเอง แม้จะลำบาก หลานก็ไม่เคยปริปากบ่นให้ได้ยิน นั่นจึงทำให้เธอห่วงใยเป็นที่สุด

เพลิงน่าเวทนาเพราะสูญเสียทั้งพ่อและแม่ไปแล้ว เธอถึงได้ทั้งรักทั้งเวทนาหลาน คิดดูสิเด็กคนหนึ่งที่เกิดมาท่ามกลางความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิง ดีเท่าไหร่แล้วที่เพลิงมันเติบโตมาได้อย่างดีงาม ไม่ใช้ปมด้อยของตัวเองเป็นข้ออ้างเข้าสู่วังวนของสิ่งไม่ดีและอบายมุขทั้งหลาย มันน่าภูมิใจไม่น้อยเมื่อเด็กคนหนึ่งถูกคนกลุ่มหนึ่งชิงชังรังเกียจรังงอนไม่ยอมให้ใช้นามสกุลร่วม กลับโตขึ้นมาได้อย่างน่าภูมิใจ

คุณวดียอมรับว่าแม้จะไม่เห็นด้วยกับงานของหลาน แต่ลึกๆ ก็อดภูมิใจไม่ได้ที่หลานซึ่งท่านรักปานลูกตัวเสียสละตัวเองขนาดนี้ คนหนุ่มที่มีความคิดเพื่อส่วนร่วม เด็กน้อยวันนั้นคือที่พักให้ใครอีกหลายๆ คนในวันนี้ เพลิงมีความสุขที่ทำเพื่อคนอื่น เขาไม่เคยเรียกร้องความสุขสบายให้ตัวเองตัวซ้ำ

คิดแล้วก็เจ็บใจไม่น้อยทั้งๆ ที่เกิดมาเป็นหนึ่งในทายาทของศศิกุลนารถ ตระกูลผู้ดีมีอันจะกัน แต่ทำไมถึงได้มีชีวิตแตกต่างกับพี่ชายต่างมารดาเช่นนี้ ขณะที่เพลิงขวนขวายทุกอย่างมาด้วยตัวเอง ทำงานที่เสี่ยงอันตรายยากลำบาก แต่พี่ชายเพลิงกลับเกิดมาท่ามกลางกองเงินกองทองและผู้คนเอาใจประคบประหงม

หลายครั้งที่คุณวดีนึกอยากให้เพลิงเรียกร้องสิทธิ์ที่ตัวเองควรได้บ้าง แค่บ้านและที่ดินไม่กี่ไร่นั่นมันเทียบไม่ได้กับความร่ำรวยของครอบครัวทางบิดาหรอก ผู้ชายใจร้ายที่หลอกลวงน้องสาวเธอให้ตกหลุมรักกว่าจะรู้ตัวว่าเป็นน้อยเขาก็ตอนที่ท้องเจ้าเพลิง นั่นจึงทำให้น้องสาวเธอต้องหลวมตัวเป็นรอง แม้กล้ำกลืนฝืนทนก็ยอมเพราะอยากให้เพลิงเป็นลูกมีพ่อ

‘พอเถอะนะ หลานคนเดียวพี่เลี้ยงได้’

คุณวดีเคยพูดกับน้องสาวเธอแบบนั้น แต่ฝ่ายนั้นนิ่งเฉยยอมอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ เพราะคำว่ารักคำเดียว แม้สุดท้ายความรักนั้นจะพล่าผลาญเธอให้มอดไหม้และจากไปก่อนวันอันควร คุณวดียังรักษาสัญญาที่ให้น้องสาวตั้งแต่วันนั้นเสมอ เพราะเพลิงสูญเสียมารดา ครอบครัวบิดาไม่ยอมรับ นั่นจึงทำให้คุณวดีกางปีกปกป้องหลานรักอย่างเต็มที่

‘ใครไม่รักเพลิงก็ช่าง ป้ารักของป้าคนเดียวก็พอ’

ยังจำได้ว่าตอนที่เพลิงได้ยินแบบนั้น เจ้านั่นถึงกับหัวเราะร่วนก่อนจะทรุดตัวลงนอนหนุนตักหล่อน แม้จะถูกธามแกล้งเบียดก็ตาม คิดแบบนั้นแล้วอดนึกถึงเจ้าพวกนี้ตอนที่ยังเด็กไม่ได้ เธอถอนหายใจเหลือบตามองรูปเจ้าเพลิงที่ถ่ายตอบรับปริญญาในมือ แม้กรอบจะแตกแล้วแต่ภาพยังชัดเจน เธอจำได้ดีว่าวันนั้นเธอเคี่ยวเข็นให้เจ้าธามขนดอกไม้ไปให้กำลังหลานด้วยกลัวว่าฝ่ายนั้นจะน้อยใจที่ไม่มีครอบครัวทางฝ่ายบิดาไม่ไปร่วมยินดีด้วยสักคน ถึงได้ปลุกทั้งพ่อทั้งลูกแต่เช้าตามไปเฝ้าหลานตั้งแต่ยังไม่เข้าหอประชุมจนค่ำมืด หลายปีแล้วตั้งแต่วันนั้น ภาพนั้นทำให้ถึงเจ้าตัวในปัจจุบันที่ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง จะได้กินอิ่มนอนหลับสบายหรือไม่ จะได้รับบาดเจ็บตรงไหนอยู่ในป่าก็ไม่อาจรู้ได้

คุณวดีแอบน้ำตาคลอก่อนจะเบือนหน้าไปยังลูกชาย

“ธามช่วยโทรหาน้องให้แม่ที โทรไปเรื่อยๆ จนกว่าจะติดนะ”

ธามพยักหน้าอย่างแข็งขันเพราะแอบห่วงไอ้น้องหัวดื้อไม่น้อย ยิ่งติดต่อมันไม่ได้แบบนี้เขาเองก็ร้อนใจพอกัน

“แม่จะไปสวดมนต์ไหว้พระ ขืนอยู่แบบนี้แม่คงได้อกแตกตาย”

คุณวดีพึมพำ


☘☘☘☘


เพลิงได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ด้านขวา กระสุนหน้าไม้พุ่งทะลุปักทะลุเสื้อลายพรางเข้าไปถึงเนื้ออ่อนๆ อย่างจัง ดีว่ามันปักไม่ลึกนักจึงดึงเอาได้ง่ายดายก่อนจะใช้ผ้าพันลวกไว้ๆ เนื่องจากมีเลือดไหลออกมาจากเนื้อที่ปริออก

“พวกมึงเป็นใคร”

เกิ้งถามเสียงเครียดหลังจากซัดพวกมันจนหมอบ สองคนนั้นถูกมัดมือไขว้หลังโดยที่เปลวและเจ้าหน้าที่อีกสองคนยืนคุมเชิงอยู่  สภาพใบหน้ายับเยินของผู้ร้ายทั้งสองไม่น่าดูสักเท่าไหร่ คิ้วแตก ริมฝีปากม่วงช้ำ ขอบตาบวมเป่ง และอาจจะถึงหากชีวิตได้หากเพลิงไม่ห้ามปรามเอาไว้ก่อน

“พวกผมไม่ใช่ผู้ร้าย”

“แล้วพวกนายเข้ามาทำอะไรในป่า”

เพลิงถามเสียงเรียบ เพราะหากปล่อยให้เกิ้งสอบปากคำต่อมีหวังว่าอารมณ์ที่ยังกรุ่นๆ ในอกจะประทุขึ้นอีกครั้ง

“ไม่ต้องไปพูดดีกับพวกมันหรอกพี่เพลิง”

เปลวพูดอย่างมีอารมณ์เพราะนึกโกรธแค้นพวกมันที่ทำให้พี่เพลิงต้องบาดเจ็บ ดูสิขนาดพันผ้าเอาไว้ยังเห็นรอยเลือดซึมออกมา แต่หัวหน้าชุดลาดตระเวนยังทำหน้านิ่งเฉยทั้งที่เหงื่อผุดขึ้นตามไรผมแบบนั้น

เพลิงขยับมาหยุดตรงหน้าชายฉกรรจ์ทั้งสอง

“พวกนายเป็นใคร”

“พวกผมเป็นคนจากหมูบ้านท้ายเขาครับ”

หนึ่งในสองที่ก่อนหน้านี้ยกมือไหว้เขาปลกๆ พวกมันอ้างว่าตกใจคนแปลกหน้าเลยออกอาวุธป้องกันตัว ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ ขณะที่อีกคนซึ่งเป็นเจ้าของหน้าไม้ปล่อยกระสุนใส่กลับทำสีหน้าเรียบเฉย ถึงแม้แววตานั่นจะดูกริ่งเกรงเขาไม่น้อย

“แล้วเข้ามาทำอะไรในป่า”

เกิ้งถามเสียงห้วน

“มาดักไก่ป่าครับ”

“งั้นเหรอ” เกิ้งทำหน้ายียวนใส่ “แล้วได้ยินเสียงปืนก่อนหน้านี้มั้ย”

“มะ ไม่”

“แปลกนะ”

เพลิงพูดเสียงเรียบ “เสียงดังขนาดนั้น ซ้ำมันยังดังแถวๆ นี้พวกนายกลับไม่ได้ยินเลย”

สองคนนั้นลอบสบตากัน

“สารภาพมาดีกว่าว่า พวกมึงเข้ามาทำอะไร นี่กูยังไม่ได้เอาความเรื่องที่มึงทำร้ายผู้ช่วยนะ”

ไม่เอาอะไรล่ะ หน้าเยินกันขนาดนี้ พวกมันทำปากขมุบขมิบ

“พวกผมมาดักสัตว์จริงๆ นาย”

ไอ้คนที่ยกมือไหว้เพลิงก่อนหน้านี้รีบละล้ำละลักตอบท่าทางมันขี้กลัวมากกว่าอีกคนที่นั่งเงียบมาตั้งแต่ต้น

“งั้นดี กูจะจับพวกมึงกลับหมู่บ้าน แล้วให้หัวหน้าหมู่บ้านได้รับรู้ว่าพวกมึงทำร้ายเจ้าหน้าที่และมาทำลับๆ ล่อๆ ในป่านี่ หลังจากนั้นจะส่งตัวให้ทางการ”

พวกมันหน้าเผือดลงถนัดตา

“นายๆ พวกผมไม่ตั้งใจทำร้ายนายนะ”

“ไปคุยกันที่หมู่บ้านเถอะ”

เพลิงเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเกิ้งและเปลวดูมีอารมณ์ขึ้นมาอีก ขืนยังสอบสวนกันเองแบบนั้น พวกนั้นได้เอาไอ้สองคนนี่ตายแน่ๆ รอให้ไปถึงหมู่บ้านและเจอกับอีกทีมที่แยกไปก่อนดีกว่าค่อยสอบสวนกันใหม่

หลังนั้นพวกเราจึงออกเดินทาง โดยให้เจ้าหน้าที่สองนายประกบสองคนนั้นพาเดินมาจนถึงทางเข้าหมู่บ้านท้ายเขา ชายหนุ่มเหลือบตามองบ้านเรือนที่ใช้ไม้ปลูกยกพื้นสูงจากพื้นดินเล็กน้อย หลังคาใช้หญ้าแฝกมุง การสร้างที่อยู่อาศัยตามกำลังทรัพย์นั้นบ่งบอกชีวิตของคนที่นี่ซึ่งประชากรสาวใหญ่เป็นชาวเขาและชนกลุ่มน้อยที่ยังไร้สัญชาติอยู่ เด็กน้อยชาวเขาทั้งชายหญิงซึ่งอยู่ในชุดชาวเขาต่างพากันวิ่งมาเมียงมอง มีบางคนที่พอคุ้นตาก็ร้องทักเพลิงไปตามประสา

“พี่เพลิง”

เต็งวิ่งหนีตื่นมาแต่ไกล ด้านหลังนั้นคือเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนซึ่งแยกกันก่อนหน้านี้ พวกนั้นคงมาถึงหมู่บ้านก่อนหน้านี้ไม่นานนัก พลซึ่งอยู่ทีมนั้นเดินมาสมทบก่อนจะมุ่นหัวคิ้วเมื่อเห็นหัวไหล่ที่พันผ้าอยู่มีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย

“ผู้ช่วยเลือดออก” พลร้องถาม “เกิดอะไรขึ้นครับ”

ถามแล้วก็วนสายตาไปยังชายแปลกหน้าซึ่งถูกมัดมือไขว่หลังโดยมีเจ้าหน้าลาดตระเวนอีกสองนายยืนประกบ

“พี่ซา”

เต็งร้องทักหนึ่งในสองที่ถูกมัดมือไขว่หลังอย่างตกใจ

“ไอ้เต็ง”

คนที่นิ่งเงียบไปมาตลอดเปิดปากพูดกับเต็งทันที

“ทำไมหน้าพี่ถึงได้ยับเยิบขนาดนี้”

“มันโดนหมัดกูเอง”

เกิ้งพูดเสียงห้วนนั่นทำให้เต็งตื่นยิ่งกว่าเดิม

“เกิดอะไรขึ้นพี่”

“มันทำร้ายผู้ช่วย”

“หา”

เต็งมองยังหัวไหล่ของเพลิงก่อนจะสลับไปมองพี่เขยและเพื่อนพี่เขยที่ถูกจับมัดมือไขว้หลัง

“ให้ตายเถอะทำไมวันนี้มีแต่เรื่อง” เด็กหนุ่มครางเสียงแผ่วก่อนจะทำหน้าตื่นอีกครั้งเมื่ออะไรขึ้นมาได้ “พี่เนียงรอ”

“เนียงรอทำไม”

‘ซา’ ร้องถาม

“แม่เฒ่าบอกพี่เนียงรอน้ำคร่ำแตกตั้งแต่เมื่อคืน แต่ตอนนี้ยังคลอดไม่ได้เลย”

ซาไม่รอให้เต็งพูดซ้ำมันวิ่งฉิวไปยังบ้านตัวเองทันที ท่าทางตื่นตระหนกนั่นทำให้เพลิงและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ พากันวิ่งตามผู้ร้ายที่วิ่งไปทางหนึ่งทั้งที่มือยังถูกมัดอยู่ ระหว่างนั้นเพลิงนิ่งพิจารณาความสัมพันธ์ของเต็งกับคนที่ประทุษร้ายตัวเอง จำได้ว่าเด็กนั่นมีน้องสาวและพี่สาวอย่างละคน ซึ่งหากเพลิงจำไม่ผิดเจ้าเต็งเคยเล่าว่าพี่สาวแต่งงานกับคนหมู่บ้านเดียวซึ่งนั่นคงเป็น ‘ซา’ ข่าวว่าตั้งท้องใกล้คลอดแล้ว

เพลิงและเจ้าหน้าที่มาหยุดที่หน้าบ้านไม้แห่งหนึ่ง บนชานบ้านนั้นมีผู้เฒ่าผู้แก่นั่งล้อมวงคุยกันเสียงเครียด

“เขาว่าไอ้ซาผัวมันไปดักสัตว์ในป่าแล้วไม่ขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขาเค้า ท่านเลยจะมาเอาชีวิตนังเนียงรอมัน”

“พ่อเฒ่าว่าอย่างนั้นหรือ”

เพลิงเงี่ยหูฟังชาวบ้านสูงวัยสองคนที่นั่งกระซิบกระซาบกันอยู่ ก่อนจะมองเลยไปยัง ‘ผู้เฒ่า’ ที่ว่าซึ่งนั่งบริกรรมคาถาอยู่หน้าหม้อดินอันหนึ่ง เพลิงจำได้ดีว่าชายชรานั่นคือผู้นำทางจิตวิญญาณของคนที่นี่ อารมณ์เหมือนพ่อหมอประจำหมู่บ้านที่เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์และสิ่งลี้ลับที่คนศรัทธา แต่บอกตรงๆ ว่าเขาสะดุดใจกับสายตาฝ้าฟางคู่นั้นยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก จะว่าเจ้าเล่ห์แสนกลก็ดูจะเกินเหตุไป แต่แววตาที่เหลือบแลชาวบ้านของพ่อเฒ่านั่นมันยังไงชอบกล

“เจ็บท้องจะคลอดทำไมไม่ส่งโรง’บาล”

พลเอ่ยท้วง

“มึงดูด้วยว่าระยะทางจากหมู่บ้านนี้ไปโรง’บาลในตัวอำเภอมันไกลกันแค่ไหน”

เกิ้งตอบ

“อีกอย่างหมู่บ้านแบบนี้น่าจะมีหมอตำแย”

“มีๆ ผมได้ยินไอ้เต็งมันบอกว่ามีหมอตำแย แต่พี่สาวมันน้ำคร่ำแตกนานแล้วแต่เด็กในท้องไม่ยอมกลับหัว เลยคลอดไม่ได้”

เปลวเล่าเสริมคำพูดนั้นจึงทำให้เพลิงมุ่นหัวคิ้วคิดตาม

‘แม่เฒ่าบอกพี่เนียงรอน้ำคร่ำแตกตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนี้ยังคลอดไม่ได้เลย’

ตั้งแต่เมื่อคืนถึงจนป่านนี้แล้ว

อาการน่าเป็นห่วง

“พ่อหมอช่วยลูก ช่วยเมียผมที”

ซาซึ่งก่อนหน้านี้รีบรุดไปดูเมียในบ้านก่อนจะผลุนผลันออกมาคุกเข่ายกมือไหว้พ่อเฒ่านั้นปลกๆ

“เอ็งต้องไปขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขาก่อน”

“เวลาแบบนี้มาขมาอะไรวะ แทนทีจะพาส่งโรง’บาลในเมือง”

เปลวบ่นกระปอดกระแปด

“แต่ผมเข้าไปดักสัตว์ทุกครั้ง ผมขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขาตลอด อีกอย่างผมทำตามที่พ่อเฒ่าบอกทุกวิธีแล้วทำไมเมียผมถึงยังคลอดไม่ได้”

พ่อเฒ่าหน้าเปลี่ยนสีท่าทางโกรธไม่น้อยที่ถูกปรามาส

“ยังไงเอ็งก็ตั้งทำตามวิธีของข้า ถ้าเอ็งอยากให้นังเนียงรอมันรอด”

ซาทำหน้าลังเลใจก่อนจะยินยอมทำตามพิธีกรรมพ่อเฒ่า เกือบครึ่งชั่วโมงที่ผ่านพิธีกรรมไปไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากเสียงร้องของคนจะคลอดที่ร้องโอดโอยเจ็บปวดเจียนขาดใจ

“พอเถอะ”

เพลิงผุดลุกขึ้นยืนท่ามกลางสายตาของคนในหมู่บ้านที่หันมามองเขา

“ผมไม่ได้จะลบหลู่พ่อเฒ่านะครับ แต่เมื่อทำพิธีเสร็จสิ้นแล้วผมว่าพาคนเขาไปคลอดที่รพ.เถอะ เด็กไม่กลับหัวมันอันตรายมาก”

“นั่นสิ”

ผู้นำหมู่บ้านที่นั่งมองเหตุการณ์อยู่พยักพเยิดมาทางเพลิง

“ห้ามพานังเนียงรอไปจากที่นี่ ไม่งั้นมันจะตายทั้งแม่ทั้งลูก ถ้าพวกเอ็งไม่เชื่อข้าก็แล้วแต่”

พ่อเฒ่าหรี่ตามองเพลิงท่าทางไม่สบอารมณ์

“จากนี่ไปโรง’บาลจะทันเหรอผู้ช่วย”

เกิ้งกระซิบถาม

เพลิงได้แต่ถอนหายใจ เขาเองก็ให้คำตอบไม่ได้เช่นกัน แต่มันก็ยังดีกว่ารออยู่ที่นี่แบบไม่ทำอะไรเลย เพราะไม่ช้าไม่นานทั้งแม่ทั้งลูกมีโอกาสเสียชีวิตสูง ชายหนุ่มขยับออกมาก่อนจะล้วงเข้าไปในเป้แล้วคว้าว.สื่อสารออกมา

“ต้องแจ้งไปที่หน่วยขอความช่วยเหลือ”

พูดจบเพลิงก่อนผละไปหาสัญญาณ

ระหว่างนั้นซาซึ่งถูกพ่อเฒ่าและครอบครัวทางฝั่งเมียรุมกดดันให้ตัดสินใจ

“อย่าพาเมียเอ็งไปเด็ดขาดไอ้ซา”

ผู้เฒ่าถลึงตาใส่

“ตัดสินใจเร็วพี่ซา”

เต็งร้องโวยวาย “อย่าช้าไม่งั้นพี่เนียงรอกับหลานผมตายแน่”

“ข้า...”

ซาส่ายหัวก่อนจะมองเลยไปยังเจ้าหน้าที่ที่ยืนรออยู่เบื้องหน้า

“เร็วสิวะ”

เต็งร้องใส่

“ข้าอยากพามันไปหาหมอ แต่ข้าไม่ไว้ใจพวกเจ้าหน้าที่”

“พี่คิดเอาเองแล้วกัน ระหว่างชีวิตลูกเมียกับคำพูดของพ่อเฒ่า” เต็งโกรธหน้าดำหน้าแดง  “อีกอย่างนะ ผมจะบอกให้รู้ไว้ว่าคนที่พี่ยิงหน้าไม้ใส่เขาจนบาดเจ็บนี่แหละ คือคนที่กำลังหารถมารับเมียพี่ไปโรง’บาล”

ซายืนอึ้ง

.

.

“ติดต่อใครไม่ได้เลย”

เพลิงทำหน้าเครียดตอนที่กวาดตามองเจ้าหน้าที่คนอื่น ระหว่างนั้นผู้นำหมู่บ้านที่คุ้นเคยกันดีก็เดินหน้าเครียดเข้ามา

“ผู้ช่วยครับ”

เพลิงพยักหน้ารับ

“วันก่อนมีชาวบ้านมันขี่รถอีแต๋นมาช่วยญาติที่หมู่บ้านขนข้าว ตอนนี้รถมันจองอยู่หน้าบนผม” ลุงแกทำหน้าเครียด “แต่เจ้าของมันท้องเสีย ตอนนี้นอนซมอยู่ ไม่มีใครขับไอ้รถนั่นเป็นสักคน”

เพลิงคลึงขมับนึกภาพเครื่องยนต์ทางการเกษตรนั่นทันที ชายหนุ่มยืนนิ่งก่อนจะหันไปมองหน้าลูกน้องแต่ละคนที่ส่ายหน้าหวือเพราะไม่มีใครขับเป็น ระหว่างนั้นเสียงร้องโอดโอยของพี่สาวเจ้าเต็งก็ดังขึ้น

“ผู้ช่วยฯ”

“เดี๋ยวผมขับเอง”

เป็นไงก็เป็นกัน

“แต่ว่า...”

พรานธีปอเอ่ยท้วง

“ดีกว่าเดินเท้าครับลุงพราน ถ้าเดินเท้าต้องใช้เวลาเป็นวัน หลานลุงเขาทนไม่ไหวขนาดนั้นหรอก”

“เอาไงก็เอา”

พรานธีปอรับคำก่อนจะวิ่งนำเจ้าเต็งไปเคลื่อนย้ายคนเจ็บ ระหว่างนั้นบังเอิญว่าซาหันมาสบตาเพลิงพอดี เขาเห็นแววตาสับสบคู่นั้นทั้งระแวงทั้งจนใจ เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่รู้สึกเจ็บที่หัวไหล่ไม่น้อย พอเหลือบมองจึงเห็นว่าผ้าที่พันแผลอยู่ชุ่มไปด้วยเลือด

“พี่เพลิง”

เปลวทำหน้ากังวลเมื่อเห็นเลือดที่ซึมออกมา

“เปลี่ยนผ้าพันแผลก่อนเถอะพี่”

“ไม่เป็นไรพี่ยังไหว”

“แต่...”

เพลิงส่ายหน้าก่อนจะเดินไปบ้านผู้นำหมู่บ้าน โดยมีบรรดาเจ้าหน้าที่คนอื่นตามมาติดๆ สีหน้าทุกคนในทีมดูจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่เห็นเพลิงโดยทำร้ายจนบาดเจ็บ ซ้ำมันยังแสดงท่าทางหยิ่งยโสใส่เพลิงที่ให้ความช่วยเหลืออีก

“ผู้ช่วยไม่น่าไปช่วยมันเลย”

เกิ้งบ่นเบาๆ

เมื่อได้ข้อสรุปว่าจะพาหญิงสาวไปคลอดในเมืองท่ามกลางสีหน้าเกรี้ยวกราดของพ่อเฒ่า หลังจากนั้นเพลิงก็บังคับเครื่องยนต์ทางการเกษตรซึ่งด้านหลังบรรทุกคนเจ็บและเจ้าหน้าที่มาจนถึงครึ่งทาง ต้องขอบคุณพาหนะนี้ที่ทำให้ประหยัดเวลาไปโข ขณะที่กำลังจะเลี้ยวผ่านถนนลูกรังนั่นก็มีเหตุให้ต้องหยุดชะงักเมื่อรถติดหล่ม ชายหนุ่มนิ่วหน้าทันทีก่อนจะเรียกเจ้าหน้าที่มาช่วยกันดันรถ ขณะที่คนจะคลอดหน้าตาอิดโรยลงมากแล้ว

“ตรงนี้มีสัญญาณโทรศัพท์แล้วพี่”

เจ้าเปลวร้องดีใจ

“รีบโทรไปที่หน่วยเลย”

เด็กหนุ่มพยักหน้าก่อนจะเดินไปยังบริเวณที่มีสัญญาณเสถียร ก่อนจะหน้ามุ่ยกลับมา

“ไม่มีใครรับเลยพี่”

เพลิงทำหน้าเครียด ขณะที่เปลวจ้องโทรศัพท์ในมือก่อนจะนึกอะไรออก

“ผมนึกออกแล้วจะโทรขอความช่วยเหลือจากใคร”

.

.

บ่ายแก่ๆ วันนั้นเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของรเณศดังขึ้น ทำเอาคนเมืองซึ่งกำลังอุ้มหนูน้อยเล่นอยู่ต้องวางเจ้าหนูก่อนจะเดินไปรับสาย และชื่อที่ปรากฏขึ้นที่หน้าจอนั่นทำเอาเขาหน้าตื่น

เจ้าเปลวโทรมาอย่างนี้แสดงว่าคงออกจากป่าแล้ว

‘ว่าไงเปลว’   

[คุณ]

เสียงทุ้มที่เล็ดลอดมาตามสายทำให้หัวใจเขาเต้นแรง เพราะมันเสียงที่ไม่ได้ยินมาเกือบสัปดาห์ เสียงของในป่าที่ทำให้รเณศเผลอทอดหมูมาหลายวัน

แค่ได้ยินเสียงในอกก็สั่นระรัวดีใจอย่างบอกไม่ถูก

[คุณรเณศ...ได้ยินผมมั้ย]

‘ครับ’

คนเมืองรับคำเสียงแผ่ว จนนึกขัดเขินที่เผลอตอบฝ่ายนั้นด้วยเสียงประหลาดแบบนั้น

[ผมมีเรื่องให้คุณช่วย]

.

.

ป้าอนงค์หน้าตื่นตอนที่หลานชายวิ่งกระหืดกระหอบมาแต่ไกลบอกให้แกช่วยโทรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานเพื่อขอรถ ก่อนที่คนเมืองจะคว้ากล่องปฐมพยาบาลแล้วสตาร์ทรถกระบะขับไปโน่น หญิงวัยกลางคนถึงได้ละมือจากงานทันที

ขณะเดียวกันคนเมืองที่จับบังคับพวงมาลัยอยู่ตอนนี้นึกวิตักกังวลสารพัด เนื้อความที่เพลิงเล่ามาคือบังเอิญมีชาวบ้านจะคลอดกะทันหันในป่า มีความจำเป็นต้องใช้รถไปส่งที่โรงพยาบาล ตอนแรกรเณศก็ อยากจะรอให้ทางหน่วยไปช่วยนั้นแหละ แต่เขาก็ทนร้อนใจไม่ไหวเพราะได้ยินเสียงเจ้าเปลวลอดมาในสายว่าเพลิงไหลเลือดออกมาอีกแล้ว

เพลิงบาดเจ็บ!

แค่ได้ยินหัวใจเขาก็วูบโหวงจึงจับสัญญาณจีพีเอสจากโทรศัพท์เจ้าเปลวซึ่งก็คือโทรศัพท์เครื่องเก่าที่เขาให้น้องเอาไว้นั่นแหละ รเณศเหยียบคันเร่งจนกลัวว่าความเร็วนั้นจะพาเขาลงข้างทาง แต่เพราะนึกห่วงคนเจ็บที่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็ทำให้เขาลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังขับรถเร็วเฉียดตายขนาดนี้

รเณศตัวสั่นไปหมดตอนที่รถชะลอความเร็วแล้วจอดอยู่ใกล้กับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งซึ่งกำลังดันรถอยู่เบื้องหน้า ภาพที่เห็นตรงหน้าคือเพลิงในชุดลายพรางดันรถอีแต๋นที่ติดหล่มอย่างแรง รเณศเม้มปากแน่นเมื่อเหลือบไปเห็นหัวไหล่ด้านขวาที่มีเลือดซึมออกมา

“คุณ”

เพลิงทำหน้าประหลาดใจที่เห็นเขา ขณะที่เขายังจ้องบาดแผลคนเจ็บนิ่ง

“คุณบาดเจ็บเหรอ”

“อือ”

เพลิงครางอืออา ใบหน้าที่เริ่มซีดเผือดและมีเหงื่อที่ผุดตามไรผมนั่นเป็นคำตอบ เพลิงกำลังเจ็บปวดเพราะแผลที่เริ่มอักเสบแล้ว แต่เขาไม่สนใจตัวเองด้วยซ้ำ เมื่อเจ้าตัววิ่งไปช่วยหญิงสาวที่นอนแผ่อยู่บนรถ สีหน้าอิดโรยใบหน้าขาวซีดนั่นทำให้รเณศใจเสีย พวกเขาไม่มีเวลาคุยกันอีกเลยหลังจากเพลิงและเจ้าหน้าที่คนอื่นช่วยกันอุ้มเธอขึ้นรถกระบะของเขา จังหวะนั้นรถอุทยานก็สวนมาพอดีแล้วรับเอาเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ตามกันไปติดๆ

(มีต่อค่ะ)
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 01-04-2019 20:55:32
รเณศเหลือบมองสีหน้าของเพลิงที่ได้ยินหมอบอกว่าสาวชาวบ้านคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แม้จะต้องเฝ้าดูอาการสักระยะก็ตาม สีหน้าเหนื่อยล้าแต่แววตาที่เป็นประกายนั่นทำให้คนเมืองเผลอยิ้มตาม เพลิงเดินไปบอกให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ให้กลับไปพักผ่อน ขณะที่กำลังจะผละออกมา เขาเห็นผู้ชายแปลกหน้าหนึ่ง ถ้าให้เดาต้องมีความสัมพันธ์สาวชาวบ้านที่คลอดอย่างน่านอน น่ากลัวว่าจะเป็นสามีของเธอกำลังยกมือไหว้ขอบคุณผู้ช่วยเพลิง

“ไปให้หมอทำแผลหน่อยเถอะ”

เพลิงชะงักปลายเท้าตอนที่รเณศเดินมาหยุดเบื้องหน้าแล้วบุ้ยปากทางยังหัวไหล่ที่เลือดไหลจนแห้งกรังคาชุดไปแล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมไปให้พยาบาลทำแผลเสียที

“ผมไม่เป็นอะไรแล้ว”

“ไปทำแผล”

รเณศบอกเสียงขุ่น

“ขอบคุณที่เป็นห่วงผม”

“ผมไม่ได้ห่วงคุณ”

รเณศแก้ตัวก่อนจะถลึงตาใส่อีกฝ่าย “ก็แค่ไม่อยากให้เลือดออกจนหมดตัว”

สุดท้ายเพลิงจ้องหน้ารเณศนิ่งก่อนจะยิ้มน้อยๆ แล้วจึงเบี่ยงหน้าไปยังห้องฉุกเฉิน ไม่นานหลังจากนั้นชายหนุ่มก็เดินออกมาพร้อมกับผ้าพันแผลอันใหม่ที่ดูสะอาดสะอ้านกว่าเดิมหลายเท่า

“ขอบคุณที่ยืนรอ”

เพลิงกดยิ้มมุมปากมองคนเมืองที่นิ่วหน้าใส่

“ป้าอนงค์โทรมาบอกว่าเย็นนี้ให้คุณไปพักที่บ้าน”

“ไม่เป็นไร”

เพลิงส่ายหัว

“ผมอยู่ได้”

รเณศถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ทำอะไรนึกถึงคนที่อยู่ข้างหลังบ้างเถอะ คุณทำงานเสี่ยงอันตรายและซ้ำได้รับบาดเจ็บอย่างนี้ หากพ่อแม่คุณรู้เขาจะคงห่วงไม่น้อย ทำตัวเป็นคนเหล็กอยู่ได้”

“แม่ผมเสียแล้ว”

รเณศยืนอึ้ง ความทรงจำบางอย่างสว่างวาบขึ้นมาในหัว

‘ผมเป็นลูกเมียน้อย’

‘คุณยังโชคดีที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นตัวจริง...ขณะแม่ผมไม่เคยเป็นตัวจริงเลยสักครั้งในชีวิต’


“ส่วนพ่อ ผมกับเขาไม่สนิทกันเท่าไหร่ อีกอย่างเขาก็เสียไปแล้วเช่นกัน”

มิน่า!

ผู้ชายตัวคนเดียว ไม่มีพันธะใดๆ ไม่มีชีวิตเพื่อใคร ลมหายใจเดียวของเขาคือ ‘ผืนป่า’ เท่านั้น

รเณศยืนนิ่งมองตามแผ่นหลังกว้างที่ค่อยๆ ขยับห่างออกไป แผ่นหลังที่เข้มแข็งองอาจแม้จะเหน็ดเหนื่อยกับภาระหนักหนาบนบ่า ซ้ำชีวิตยังต้องเผชิญกับความยากลำบากทางครอบครัวแต่กลับยืนหยัดและเข้มแข็ง

เป็นความเข้มแข็งที่กำลังทำให้ ‘หัวใจ’ ของรเณศสั่นไหว

.

.

แม้จะปฏิเสธในตอนแรกว่าไม่ไปพักที่บ้านป้าอนงค์ แต่สุดท้ายป้าแกก็โทรมากำชับอีกที แกให้เหตุผลว่าเพลิงบาดเจ็บคงไม่เหมาะที่อยู่คนเดียวซึ่งมันเป็นข้อข้อเท็จจริง เพราะตอนนี้เขาเองก็รู้สึกเวียนหัวเพราะพิษไข้เสียแล้ว อีกอย่างถึงกลับไปที่ทำการตอนนี้ เจ้าหน้าที่ทุกคนคงกลับไปพักผ่อนที่บ้านกับครอบครัวแล้ว

ท้ายสุดเพลิงเลยต้องแบกเป้มาขอรบกวนป้าอนงค์ซึ่งเต็มใจต้อนรับจนได้ แกไล่ให้เขาไปอาบน้ำก่อนจะให้รเณศเอาชุดของคุณตามาให้เปลี่ยน หลังจากนั้นหลานเจ้าของป้าก็ถือกล่องปฐมพยาบาลเดินมาทรุดตัวนั่งลงข้างๆ กัน

เพลิงเหลือบตามองใบหน้าเนียน ดวงตากลมโตที่กำลังจดจ้องก่อนจะทำความสะอาดแผลให้เขาหลังอาบน้ำ มือเรียวขาวทำแผลให้เขาอย่างเบามือ กิริยาตั้งอกตั้งใจนั่นทำให้เพลิงเผลอมองอีกฝ่ายนิ่ง

“เจ็บรึเปล่า”

รเณศเงยหน้าขึ้นมาจากแผลก่อนจะทำอึกอักมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องหน้าเขาอยู่

“มองอะไร”

“ไม่เจ็บครับ”

“อื้อ”

รเณศแกล้งหลุบตาเสหน้าไปทำแผลต่อ ทั้งที่หัวใจอดกระหวัดถึงสายตาคู่นั้นของเพลิงไม่ได้

สายตาอ่อนโอนที่ชวนสั่นไหว

สายตาที่มองกันอย่างลึกซึ้งแบบนั้น

“โอ๊ย”

รเณศตกใจเมื่ออีกฝ่ายร้องขึ้น

“เจ็บเหรอ ผมไม่ได้ตั้งใจ”

เพลิงส่ายหน้าหวือ

“ไม่เจ็บ” เขายิ้มมุมปาก “แต่ผมร้องเพราะมดกัน”

เพลิงหยิบมดที่กัดต้นขาขึ้นมาให้รเณศซึ่งทำหน้าตูมใส่ดู

“ตกใจหมด”

“ขวัญเอ๊ยขวัญมา”

“คุณเพลิง”

เพลิงกดยิ้มมุมปาก

“หมูทอดอร่อยนะ”

รเณศชะงักมือที่กำลังปิดผ้าพันแผล ใบหน้าร้อนผ่าวซ้ำหูทั้งสองข้างยังอื้ออึงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“เปลวบอกว่าคุณเป็นคนทำ”

“...”

“อร่อยดี”

รเณศก้มหน้างุดๆ เก็บอุปกรณ์ทำแผลเข้ากล่องปฐมพยาบาลก่อนจะผละออกไป

“พรุ่งนี้ผมจะได้กินอีกมั้ย”

เสียงทุ้มดังตามมา

เฮ้อ สงสัยพรุ่งนี้ต้องถูกป้าอนงค์บ่นว่าเขาทอดหมูอีกแน่ๆ รเณศเม้มปากแน่นก่อนจะมองค้อนให้คนด้านหลังก่อนจะเดินเข้าไปครัวไปหมักหมูทันที

.

.

เป็นเวลาค่อนคืนแล้วที่รเณศลุกมาดูอีกฝ่าย หลังจากคนเจ็บอาบน้ำกินยานอนไปแล้วพักใหญ่ เขาขยับมือไปแตะหน้าผากอีกฝ่าย ไอร้อนผ่าวที่ออกมาจากร่างกายคนเจ็บนั่นสันนิษฐานได้ไม่ยากว่ากำลังเป็นไข้เพราะแผลที่อักเสบ รเณศเหลือบตามองเหงื่อที่ผุดเต็มใบหน้าคมคายซึ่งหลับตานิ่งอยู่ ก่อนจะรีบไปรองน้ำใส่กะละมังแล้วเอาผ้าชุบหมาดๆ มาเช็ดตัวให้อีกฝ่าย

ระหว่างนั้นเขาแอบเห็นกระเป๋าเป้ใบใหม่ที่ซุกอยู่ข้างๆ คนหลับ รเณศแอบยิ้มแล้วมองเลยไปยังเป้ใบเก่าที่มีรอยปะไปทั่ว กองเสื้อผ้าชุดลายพรางที่มีเต็มคราบโคลนสกปรก รองเท้าที่เปื้อนดินโคลนไม่น่าดู เห็นแล้วได้แต่นึกสะท้อนถึงการทำงานในป่าของคนเจ็บ

จะลำบากขนาดไหนกันหนอ

คนธรรมดาที่มีแค่สองมือ สองเท้าที่แบกภาระรับผิดชอบไว้เต็มบ่า ไม่ได้ร่ำรวยหรือมีชื่อเสียงในสังคม ไม่ได้เป็นที่จดจำของใครต่อใคร หากวันหนึ่งจากไปคงไม่มีใครรู้จัก แต่พวกเขาเหล่านั้นกลับยืนหยัดเพื่อป่าไม้ แม้สิ่งที่ทำไม่มีใครจำ แม้ชื่อที่เรียกขานไม่มีใครเอ่ยถึงก็ตาม

รเณศขยับไปใกล้คนเจ็บที่หลับตานิ่งแต่นิ่วหน้าคล้ายกับไม่สบายตัว คนเมืองไล่มือเช็ดไปตามแผ่น อกหลังจากถือวิสาสะถอนเสื้ออีกฝ่าย แม้จะพยายามไม่มองกล้ามเนื้อทั้งหกลูกที่กระแทกตา แต่สัมผัสที่ลูบไล้ผ้าไปตามกล้ามเนื้อนั้นทำให้คนมีสติใจหวิว

“คุณ”

หลานเจ้าบ้านแอบสะดุ้งเมื่อเปลือกตาคนเจ็บเปิดขึ้น

“ทำอะไร”

เพลิงถามเสียงแหบพร่า

“เช็ดตัว”

รเณศตอบเสียงแผ่วก่อนจะรีบละมือออกจากอกอีกฝ่าย แต่ฝ่ายนั้นรั้งข้อมือเอาไว้

“ขอบคุณ”

“อื้อ ปล่อยได้แล้ว”

เพลิงคลายมือที่กำรอบข้อมือเขาอย่างเบามือ รเณศจึงเอี้ยวมาเก็บผ้าก่อนจะสะดุ้งโหยงอีกคราเมื่อรู้สึกว่าแผ่นหลังเขาสัมผัสกับแผ่นอกเปล่าเปลือยของอีกฝ่าย เพราะเพลิงลุกนั่งซ้อนหลังเขา

“คุณยังตัวร้อนอยู่เลย”

หลานเจ้าบ้านพึมพำ

“ห่วงผมเหรอ”

“...”

“คุณรเณศ”

ชายหนุ่มเบือนหน้าหนีลมหายใจร้อนผ่าวที่รดอยู่ข้างใบหู

“คุณเป็นห่วงผมใช่มั้ย”

หลานเจ้าปากนั่งเม้มปากแน่น กว่าจะรู้ตัวปลายนิ้วแข็งแรงก็ขยับมาคลึงขอบปากเขาอย่างแผ่วเบา

“อย่ากัด เดี๋ยวเจ็บ”

รเณศหัวใจเต้นแรงตอนที่ดวงตาคู่นั้นจ้องริมฝีปากเขานิ่ง

“ผมจูบคุณได้มั้ย”

“...”

“รเณศ”

สายตาที่ประสานกันนั่นพาเอาสติรับรู้ถดถอย ตอนนั้นรเณศยอมรับว่าตั้งแต่ที่ได้ยินว่าเพลิงบาดเจ็บในอกเขาวูบโหวงและหวั่นไหว คิดกังวลไปสารพัด

เขาร้อนใจที่เห็นฝ่ายนั้นได้รับบาดเจ็บ

เขาห่วงใยเพลิง

“ถ้าคุณไม่ตอบ ผมถือว่าอนุญาตให้ผมจูบนะ”

รเณศไม่ตอบ

เพลิงจึงขยับโน้มใบหน้าลงมาแล้ว ‘จูบ’ เขาทันที สัมผัสร้อนผ่าวที่ริมฝีปากราวกับโดนของร้อนลวกปากเอา คนเมืองตัวสั่นงันงงกว่าจะรู้ตัวก็เงยหน้าตอบรับจูบนั้นไปแล้ว ซ้ำยังหลับตาพริ้มยินยอมให้เพลิงบดจูบอยู่อย่างนั้น


☘☘☘☘


จะ จูบกันแย้วววววว  :z1:
หวีดในทวิตรบกวนติดแท็ค #ป่าห่มรัก ด้วยเด้อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 01-04-2019 21:07:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fun_la_ong ที่ 01-04-2019 21:26:35
 :jul1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 01-04-2019 21:27:38
………


อร้ายยยยเขาจูบกันแล้ววววว

พี่เพลิงไม่เหงาแล้วต่อจากนี้……

 :hao6:  :hao7:  :mew1:  :hao6:  :hao7:  :mew1:


หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 01-04-2019 21:32:38
 :pig4: :pig4: :pig4:

หวัย ๆ....มีเหตุการณ์...ต่อจากจูบอ๊ะเป่า  อิอิ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 01-04-2019 21:36:33
เขาจูบกัน  เขาจูบกันแล้ววววววววว    :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 01-04-2019 22:09:23
อู๊ยยยยย

มดกัด

มดกัด

มดกัด

น้ำตาล

ในเลือด

ฉันพุ่งปรี๊ด
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Aimlovelove ที่ 01-04-2019 22:46:24
งือออ ใจบางตอนที่ขอจูบนี้แหละ  :mew3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: bnmshhhhhhh ที่ 01-04-2019 23:01:00
วี๊ดดดดดดดดดดดจะจะจะจูบกันเเล้ววววว :o8:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 01-04-2019 23:39:40
คืบหน้าแล้วจ้าาาา เค้าจูบกันแล้ววว  :oo1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 01-04-2019 23:52:53
อร๊ายยยย เขาจูบกันแล้ว เขากอดกันแล้ว
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 02-04-2019 00:25:20
อรุ่ม ผู้ช่วย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 02-04-2019 00:31:54
ผู้ช่วยก้าวหน้าไปเยอะเชียวนะ อยู่ๆ ก็ขอจูบ  :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: เพียงเพื่อน ที่ 02-04-2019 00:46:24
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: กรี๊ดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 02-04-2019 01:12:45
//เกียมไม้เรียว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 02-04-2019 01:34:19
ผู้ช่วยใจร้อนเหมือนกันนะ​ 
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 02-04-2019 01:47:09
หวาาาาาาา พี่เพลิงรุกเร็วจังนะ ยังไม่ทันได้จีบก็จูบกันแล้ว
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 02-04-2019 02:26:05
อือออออ เค้าจะไปถึงไหนกันอ่าาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-04-2019 02:43:36
 :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 02-04-2019 05:44:36
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 02-04-2019 06:12:55
เหตุการณ์ไปไวมาก เราเกือบตามเพลิงไม่ทัน 5555
เค้าแค่ห่วง ก็มาดูแลไง ไปขอจูบได้ไงล่ะ
นี่ถ้าไม่คุยรู้เรื่อง จะว่าเพ้อ ละเมอ ตื่นมาทำเบลอหรอก

ทุ่มเทมากจริง หนึ่งชีวิตกับความลำบากแต่เพราะรักหน้าที่



หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 02-04-2019 12:23:07
งื๊อออออ  :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: byunbbaek ที่ 02-04-2019 14:46:35
เขิลอ้าาาาาาาา :m25:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 02-04-2019 19:41:36
ถ้าบอกว่าละเมอจูบเพราะไข้ขึ้นจะตีให้ตาย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 02-04-2019 21:25:59
สนุกมากกกกกกกกกก

อ่านแล้วรู้สึกหวาน เศร้า ตื้นตัน โอ๊ย!!! มันครบทุกอารมณ์จริงๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 03-04-2019 00:00:05
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-04-2019 01:11:33
ผู้ช่วยคะ แขนเจ็บอยู่ไม่ใช่หรอ 5555
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: imac ที่ 03-04-2019 01:21:35
 :o8:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: mysun ที่ 03-04-2019 11:38:52
อร๊ายยยยยย เขาจูบกันล้วววววคืนหน้าเร็วจังนะผู้ช่วยยยยยยย :haun4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 03-04-2019 12:54:50
 บาดเจ็บครั้งนี้มันคุ้มจริงๆ เพลิงไม่ได้กล่าว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 04-04-2019 23:46:42
คนป่วยจะลุกมาจูบพยาบาลแบบนี้ไม่ได้ ใจมันหวิววววววว อร๊ายยยยย  :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 06-04-2019 19:10:56
น่าร้ากกกกกก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [10] #ป่าห่มรัก [1.4.62] P.7 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 06-04-2019 23:39:31
โอ้ยยยยยยยยย ไม่ไหวแล้ว เขิน >///<
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 09-04-2019 20:46:55
[ 11 ]


แปลก!

เปลวลูบคางตัวเองอย่างใช้ความคิดตอนที่มองไปทางคนนั้นทีคนนี้ที เพลิงกำลังอยู่หลังพวงมาลัยบังคับรถตั้งใจ ขณะที่คนซึ่งนั่งอยู่เบาะข้างคนขับอย่างรเณศกำลังมองทะลุกระจกออกไปนอกตัวรถอย่างสนอกสนใจ ทั้งๆ ที่สองข้างทางนั่นก็มีแต่ป่าไม่น่าพิสมัยอะไรเลย

เด็กหนุ่มซึ่งนั่งอยู่แค๊ปด้านหลังจึงลอบพิจารณาท่าทางกระดักประเดิดของคนเบาะหน้าทั้งคู่อย่างสนใจ ทุกอย่างมันแปลกๆ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วที่เขาบังเอิญไปเห็นรเณศเดินออกจากห้องของเพลิง คราวแรกเปลวตั้งใจจะขึ้นไปนอนเฝ้าเพลิงเพราะเกรงว่าผู้ช่วยจะมีไข้ตอนดึก

พอเช้าสถานการณ์ยิ่งชวนสงสัยมากขึ้น เมื่อป้าอนงค์พูดทำนองว่ารเณศทอดหมูมาทั้งอาทิตย์ ขณะที่คนเจ็บนั่งกินข้าวกับหมูทอดเฉย จริงๆ ไม่เฉยนักหรอก เปลวแอบเห็นว่าพี่เพลิงกดยิ้มมุมปากราวกับว่าพอใจอะไรสักอย่าง ท่าทางคนทั้งคู่มองกันแปลกๆ แต่ไม่ยักมีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากทั้งสอง นั่นแหละถึงทำให้เปลวลอบมองปฏิกิริยาเหล่านั้นอยู่เงียบๆ

“มองอะไรวะเปลว”

เพลิงเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบตอนที่บังคับรถเข้าสู่ถนนใหญ่ เพราะจะพาเจ้าเปลวและหลานป้าอนงค์ที่นั่งเงียบมาตั้งแต่เช้า ไปดูพี่สาวเจ้าเต็งซึ่งคลอดลูกอย่างปลอดภัยเมื่อวานนี้

“หมูทอดอร่อยเหรอพี่”

เปลวถามยิ้มๆ “เมื่อเช้านี้ผมเห็นพี่เพลิงกินเกลี้ยงเลย”

คำถามนั้นทำเอาคนที่นั่งเงียบมานานสะดุ้งโหยง รเณศทำตาลอกแลกขยับตัวไปมา ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงจางๆ แวบหนึ่งแต่นั่นก็ทำให้คนที่จับจ้องอยู่สังเกตเห็น

“ก็อร่อยดี”

เพลิงตอบเสียงเรียบก่อนจะเหลือบหางตาไปทางคนที่ขยับตัวยุกยิกอยู่

“ท่าทางพี่จะชอบกินเนอะ?”

“อืม”

เพลิงทำเสียงในลำคอ

“พี่ชอบ”

แล้วมองไปทางรเณศก่อนจะหันไปสนใจถนนเบื้องหน้า แต่คำตอบนั้นทำให้คนที่นั่งกำมือจนฝ่ามือชื้นไปด้วยเหงื่อรู้สึกขัดเขินแปลกๆ รเณศยอมรับว่าทำตัวแปลกไป

มันแปลกตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว

คิดถึงเรื่องเมื่อคืนเขาก็ถึงกับคอแห้งผาก ภาพเหตุการณ์นั้นสว่างวาบขึ้นมาในหัว คนเมืองทำใจกล้าแอบเหลือบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนขับ ไรหนวดที่เริ่มขึ้นตามสันกรามยิ่งส่งเสริมให้ใบหน้าคมเข้มนั้นดุดันมากกว่าปกติ บวกกับริมฝีปากหนาที่เม้มสนิทนั่น

ริมฝีปาก!

รเณศสะดุ้งโหยงเมื่อเผลอมองริมฝีปากของอีกฝ่าย ชายหนุ่มรีบเบือนหน้าหนีแทบไม่ทัน

‘ขอโทษ’

เขายังจำได้ดีว่าหลังจากจูบที่ดื่มด่ำนั่นคนป่วยกระซิบข้างหูเขาเสียงแหบพร่า หลังจากนั้นรเณศก็ได้สติแล้วรีบผละออกมาโดยไม่หันกลับไปดูคนป่วยเลยว่ามีปฏิกิริยาอย่างไร จวบจนกระทั่งเช้ารเณศจึงตั้งใจหลบเลี่ยงเพลิง ไม่พูดคุย ไม่สบตา ทำเหมือนทุกอย่าปกติทั้งที่ไม่มีอะไรปกติ

เมื่อเพลิงขยับเข้าหา รเณศก็ถอยห่างแต่สุดท้ายเขาก็ตกกระไดพลอยโจรมานั่งอยู่ในรถกับเพลิง เพราะมีเหตุจำเป็นต้องเข้าไปที่ร้านยาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลในตัวอำเภอ รเณศไม่อยากติดสอยผู้ช่วยนี่มาหรอกหากป้าอนงค์ไม่คะยั้นคะยอให้มา ดีว่าเปลวติดรถมาด้วยจึงทำให้บรรยากาศระหว่างกันผ่อนคลายลงบ้าง ไม่อยากนั้นเขาเองก็ไม่รู้จะทำตัวเช่นไรเหมือนกัน หลังจากนั่งเงียบสักพักใหญ่ๆ รถกระบะก็เลี้ยวเข้าสู่โรงพยาบาลประจำอำเภอ

เจ้าเปลวถลันลงจากรถทันทีที่เห็นเต็งเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้น ขณะที่รเณศยังงงๆ ทำอะไรไม่ถูกจนกระทั่งเพลิงขยับมาใกล้แล้วแตะข้อศอกพาให้ออกเดิน คนเมืองสะดุ้งโหยงรีบขยับตัวถอยห่างจากอีกฝ่าย แต่ขยับไปได้ไม่ไกลนักหรอก เมื่อฝ่ายนั้นถือวิสาสะคว้าข้อมือเขาเอาไว้

“คุณ...”

รเณศยืนอึ้ง

“ขอคุยด้วยหน่อยสิ”

“...”

รเณศเม้มปากแน่น

“ขอเวลาสักครู่เถอะครับ” เพลิงพูดเสียงเรียบ “คุณรเณศ”

สุดท้ายรเณศจำใจพยักหน้าหงึกหงักเดินตามคนตัวโตนั่นไปยังสวนหย่อมหน้าโรงพยาบาล เพลิงยืนกอดอกพิงสะโพกอยู่กับโต๊ะม้าหินอ่อนตัวหนึ่งแล้วมองใบหน้าของเขานิ่ง นั่นทำให้รเณศทำอะไรไม่ถูก

“อะไร”

“ขอโทษ”

เพลิงมองหน้าเขาแล้วพูด

“ขอโทษเรื่องอะไร”

รเณศทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ผู้ช่วยหนุ่มจึงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้คนที่แกล้งทำไขสือ

“ผมขอโทษ”

“...”

“ที่จูบคุณ”

รเณศเม้มปากแน่นหลุบตามองพื้น เพราะรู้สึกถึงความร้อนเห่อทั่วลำคอและใบหน้าเขา ยิ่งตอนที่ปลายนิ้วแข็งแรงนั่นยื่นมาเกลี่ยขอบปากเขาเบาๆ แบบนี้

“ไม่เป็นไร”

เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ผมขอโทษ ไม่ใช่เพราะรู้สึกผิดที่ทำแบบนั้น”

รเณศทำหน้าไม่เข้าใจ

“คุณเบลอเพราะพิษไข้ ผมเข้าใจไม่โกรธคุณหรอก”

“รเณศ”

เพลิงเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเข้ม นั่นทำเอาเจ้าของชื่อทำปากยื่นใส่อย่างเผลอตัว และพอรู้ตัวว่าตัวเองแสดงกิริยานั้นออกไป รเณศเลยทำหน้าไม่ถูกตอนที่ฝ่ายนั้นมองหน้าเขาแล้วยิ้ม

“ผมขอโทษเพราะไม่ห้ามใจตัวเองต่างหาก”

“อะ อะไร”

รเณศปากคอสั่น

ห้ามใจอะไร?

หมายความว่าอย่างไรกัน

“ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงทำแบบนั้นกับคุณ แต่ผมไม่เสียใจที่ทำแบบนั้นเลย วันนี้ผมอาจยังตอบคุณไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่สักวันหนึ่ง ผมสัญญาจะบอกคุณ”

“...”

“ฟังดูแล้วอาจเห็นแก่ตัว แต่หากคุณไม่พอใจ ผมก็ยินดีรับผิดชอบ”

“ไม่ต้อง”

รเณศโบกมือปฏิเสธ

“จะให้รับผิดชอบอะไรล่ะ แค่เผลอ เอ่อ ก็เท่านั้นเอง”

รเณศเกาหัวเกาหูวุ่นวาย

“เผื่อคุณยังไม่รู้”

“...”

“ว่าผมไม่ได้เผลอ”

เพลิงมองหน้าอีกฝ่ายแล้วกดยิ้มมุมปาก

“แต่ผมตั้งใจ”

แม่งงงงงง

กว่ารเณศจะรู้ตัว เพลิงก็เดินไปโน่นแล้วทิ้งให้เภสัชกรหนุ่มยืนหน้าแดงอยู่อย่างนั้น


☘☘☘☘


ตอนที่รเณศเข้าไปถึงห้องรวมคนไข้หญิง เขาทันเห็นสาวชาวป่ากำลังร้องห่มร้องไห้ โดยมีสามีของเธอรั้งตัวเธอมากอดเอาไว้ ด้วยกลัวว่าสายน้ำเกลือที่เสียบคาอยู่ที่หลังมือจะหลุดจนได้เลือด รเณศมองเหตุวุ่นวายนั่นอย่างไม่เข้าใจก่อนจะสาวเท้าเดินตามเพลิงไปติดๆ

“มีอะไรกัน”

เพลิงหันไปถามเต็งที่ยืนหน้าเสียเกาะอยู่ข้างเตียง

“เมื่อกี้พยาบาลเข้ามาบอกว่าจะฉีดวัคซีนให้ลูกพี่ซูเนียน”

“แล้ว...”

เต็งถอนหายใจเฮือกใหญ่

“พี่ซูเนียนกลัวลูกจะตาย”

“จะตายเพราะฉีดวัคซีนเนี่ยนะ”

รเณศร้องขึ้นมาทันทีเรียกสายตาจากทุกคนให้หันมามอง คนเมืองถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินไปใกล้แม่มือใหม่ที่ยังร้องไห้อยู่ ไม่รู้เป็นความบังเอิญหรือโชคชะตาเพราะหญิงสาวคนดังกล่าวคือคนเดียวกับที่เขาเคยให้ความช่วยเหลือไม่ให้หกล้มไปตอนนั้น แต่เมื่อวานมันชุลมุนไปหมด รเณศจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับเธอเป็นกิจจะลักษณะ

“คุณจำผมได้มั้ย”

ซูเนียนที่นั่งร้องไห้อยู่เงยหน้าขึ้นก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าของรเณศชัดๆ

“คุณคนเมือง”

เธอร้องดีใจจับมือของเขาเขย่าแรงๆ

“จำได้จ๊ะ คุณช่วยฉันไว้ตอนนั้น”

“ครับ”

รเณศลูบหลังมืออีกฝ่าย ท่าทางราวรู้จักกันของทั้งคู่นั่นทำให้เพลิงมุ่นหัวคิ้วอย่างประหลาดใจ

“คุณใจดีช่วยฉันไม่ให้ล้ม”

รเณศยิ้มน้อย

“ถ้าคิดว่าผมใจดีแล้วคุณเชื่อใจผมมั้ย”

“เชื่ออะไรหรือจ๊ะ”

“การฉีดวัคซีนสำหรับเด็กเกิดใหม่มันสำคัญมากนะครับ ซูเนียนไม่อยากให้ลูกแข็งแรงหรือ”

“แต่ว่า”

สีหน้าเธอมีความกังวล

“พ่อเฒ่าบอกก่อนมาว่า อย่าให้ลูกโดนอะไรเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นลูกจะตาย”

“พ่อเฒ่าอีกแล้ว”

เต็งถอนหายใจเฮือกใหญ่

“มันก็แค่ความเชื่อน่ะพี่”

“แต่พ่อเฒ่าบอกว่า ถ้าลูกพี่ได้รับอะไรจากคนเมือง ผีพ่อปู่แม่ย่า ผีบรรพบุรุษจะไม่ปกปักษ์รักษา”

เพลิงหวนนึกถึงแววตาเจ้าเล่ห์ของพ่อเฒ่านั่นแล้วนึกไม่ชอบมาพากลแปลกๆ

“แต่หากไม่ฉีดวัคซีน ลูกซูเนียนจะไม่แข็งแรง ถ้าโชคร้ายเขาอาจเจ็บป่วยจนถึงชีวิต เมื่อถึงเวลานั้นแม้ผีปู่ย่าหรือผีบรรพบุรุษก็ไม่สามารถช่วยชีวิตลูกซูเนียนได้นะ”

รเณศอธิบายอย่างใจเย็น

“จริงหรือจ๊ะคุณ”

รเณศพยักหน้าหงึกหงัก

“ที่หมอหรือพยาบาลต้องฉีดวัคซีนให้ เพราะมันจะทำให้เจ้าตัวเล็กของซูเนียนแข็งแรง โตขึ้นมาเขาจะได้ไม่เจ็บไม่ป่วยและอยู่กับซูเนียนนานๆ นะ” คนเมืองยิ้มอ่อนๆ

“ลูกซูเนียนจะไม่ตายใช่มั้ยจ๊ะคุณ”

เธอทำหน้าลังเล

“เชื่อผมเถอะนะครับ”

สุดท้ายเธอพยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่ดีขึ้น รเณศเลยหันไปยิ้มให้กับเพลิงซึ่งยืนอยู่ข้างๆ กัน ก่อนจะรู้ตัวว่าดีใจเกินเหตุก็ตอนที่ฝ่ายนั้นยิ้มตอบนั่นแหละ


.


.


“พ่อเฒ่าบ้านมึงนี่ชักไปกันใหญ่แล้วนะไอ้เต็ง”

เสียงเปลวบ่นขึ้นมาตอนที่เคียงบ่าคู่หูอยู่เบื้องหน้า

“เฮ้อ พูดยากว่ะ มันเป็นความเชื่อของคนเก่าคนแก่”

“แต่ความเชื่อที่อันตรายถึงชีวิต กูว่ามันแปลกๆ นะเว้ย”

“เอาน่าไม่มีอะไรหรอก พ่อเฒ่าแกก็คงห่วงไปตามประสาคนบ้านเดียวกันนั่นแหละ”

รเณศเงี่ยหูฟังเด็กสองทั้งสองคุยกันแล้วนึกสงสัยถึงพฤติกรรมของคนในหัวข้อสนทนา พอได้ยินมาเหมือนกันว่าชาวบ้านที่หมู่บ้านท้ายเขานั่นมีความเชื่อและการนับถืออะไรที่เหนือธรรมชาติ มันจึงเป็นเรื่องที่ยากหน่อย หากจะทำให้คนเหล่านั้นเปลี่ยนความคิด เพราะการจะเปลี่ยนความคิดความเชื่อคนอื่นไม่ใช่สิ่งที่ทำกันได้ในวันสองวัน ยิ่งมาได้ยินแบบนี้ด้วยแล้วเขายิ่งอดห่วงไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าวิถีชีวิตของชาวบ้านเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร บ้านเมืองอยู่ในป่าเขา น้ำประปาหรือไฟฟ้าก็ยังเข้าไม่ถึง ไม่ต้องพูดถึงโอกาสทางการศึกษาที่ต้องดิ้นรนหากันเองเลย แค่ความรู้พื้นฐานในการใช้ชีวิตสมัยใหม่นี่ก็ยากที่จะเข้าใจกันแล้ว

เภสัชกรหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่อดนึกถึงเด็กน้อยที่เพิ่งลืมตามาดูโลกได้ไม่นาน แล้วต้องกลับไปใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานที่สมบูรณ์ จะมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไรกันหรอ รเณศเหม่อมองไปไกลเขาคงไม่รู้ว่าชายหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆ กันตั้งแต่เมื่อสักครู่นั่นก็คิดไม่ต่างไปจากกันเลย เพลิงมุ่นหัวคิ้วนึกเอะใจกับบทสนทนาระหว่างเปลวและเต็งเช่นกัน สงสัยว่าเร็วๆ เขาคงต้องเข้าไปที่หมู่บ้านนั่นอีกสักครั้ง

ชายแดนที่ติดกับเขตลักลอบตัดไม้พะยูงกับวิถีชีวิตที่ห่างไกลสายตาผู้คนแบบนั้น

Rrrrrr

ระหว่างที่เขากำลังคิดประติดประต่อไปเรื่อยนั่นพอดีเสียงโทรศัพท์มือถือสภาพไม่น่าพิสมัยก็ดังขึ้นทันที แค่เห็นสายเรียกเข้านั้นเพลิงก็รีบขยับไปอีกทางก่อนจะกดรับ รเณศแอบเห็นสีหน้าเป็นกังวลของเพลิงตอนที่กดรับโทรศัพท์แล้วนึกแปลกใจตามแผ่นหลังนั้นไป

“ครับพี่”

[ไอ้เพลิง กว่าจะติดต่อแกได้]

ฝ่ายนั้นร้องมาตามสาย เพลิงเลยเผลอขยับรอยยิ้ม

[แกสบายดีใช่มั้ย นี่ออกจากป่ารึยัง แกรู้มั้ยว่าแม่ฉันกินไม่ได้นอนไม่หลับมาทั้งคืน เพราะเป็นห่วงแก]

“ผมสบายดีครับพี่”

[เออได้ยินอย่างนี้ค่อยโล่งใจ ว่าแต่แกอยู่ไหนวะ ออกจากป่าแล้วใช่มั้ย วันนี้ถึงรับสายฉันได้]

ธามถามเสียยืดยาว

“ผมอยู่โรง’บาลครับ”

[ว่าไงนะ]

ฝ่ายนั้นร้องลั่น

[แกเป็นอะไร ทำไมถึงไปอยู่ที่นั่นได้]

เพลิงถอนหายใจ ครันจะโกหกไปเพื่อฝ่ายนั้นสบายใจก็ไม่ใช่วิสัยเขา

“ผมมาเยี่ยมชาวบ้านที่คลอดลูก” เพลิงพูดเสียงเบา “แล้วผมก็ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย”

ฝ่ายนั้นเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

“อย่าบอกป้าวดีนะพี่”

[ของมันแน่อยู่แล้ว ถ้าแม่รู้ แกได้ย้ายออกจากพื้นที่ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงแน่ๆ ไอ้เพลิง]

เพลิงยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงสีหน้าวิตกกังวลของป้าวดี

“ขอบคุณครับ”

[เออแกก็ดูแลตัวเองแล้วนะเพลิง...แกรู้ใช่มั้ยว่าคนที่นี่เป็นห่วงแกมาก]

“ผมทราบครับ”

[อย่าหาเรื่องเจ็บตัวบ่อยนัก ฉันช่วยแกปิดแม่ได้ไม่นานหรอก ถ้าเขารู้เมื่อไหร่ เขาไม่ปล่อยให้แกอยู่ที่นั่นต่อแน่ๆ]

“ครับ”

เพลิงคลึงขมับหลังจากวางสาย ท่าทางแบบนั้นทำให้รเณศเผลอตัวขยับปลายเท้าเข้ามาใกล้

“เอ่อ”

คนเมืองทำยึกๆ ยักๆ

“มีอะไรรึเปล่า”

เพลิงถาม

“เปล่า...แล้วคุณล่ะ”

“ไม่มีอะไรนี่”

ไม่มีอะไรแล้วทำไมทำหน้าเครียดขนาดนั้น รเณศทำปากขมุบขมิบ

“ที่บ้านผมโทรมาน่ะ”

เพลิงมองหน้ารเณศแล้วเปิดปากเล่า

“คนที่บ้าน”

รเณศทวนคำพูดของฝ่ายนั้น



“ผมมีลุงกับป้าและพี่ชาย” เพลิงยิ้มน้อยเมื่อนึกถึงคนพวกนั้น “ป้าวดีเป็นพี่สาวแม่ ครอบครัวนั้นดูแลผมมาตั้งแต่แม่ผมเสีย”

รเณศพยักหน้าหงึกหงักตั้งใจฟัง

“ครอบครัวนั้นดูแลดีมาก นั่นคือครอบครัวที่ผมเรียกได้เต็มปาก”

แววตาเพลิงเป็นประกายจนรเณศเผลอยิ้มตาม เขาไม่ถามถึงพ่ออีกฝ่าย ในเมื่อเพลิงไม่พูดถึงนั่นแสดงว่าเขาเองก็คงไม่สะดวกใจ รเณศยิ้มให้กำลังใจอีกฝ่าย

“ผมไม่สนิทกับพ่อ”

เพลิงเอ่ยถึงบิดา

“และไม่สนิทกับครอบครัวพ่อสักคน ถ้าจะพูดให้ถูก พวกเขาไม่ยอมรับผมเป็นคนในครอบครัวจะง่ายกว่า” เพลิงยักไหล่ขำๆ นั่นทำให้คนฟังใจหล่น

‘ผมเป็นลูกเมียน้อย’

ไม่แปลก! หากลูกเมียรองจะเป็นที่ชิงชังรังเกียจ รเณศกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ คิดดูสิว่ากว่าคนตรงหน้าจะเติบโตมาได้เข้มแข็งอย่างทุกวันนี้ เขาต้องผ่านวันคืนที่ยากลำบากมาอย่างเหนื่อยากแค่ไหน

“งั้นเราก็เหมือนกัน”

รเณศพูดขึ้น นั่นจึงทำให้เพลิงมุ่นหัวคิ้วทันที

“ผมก็เสียพ่อกับแม่ไปหลายปีแล้ว”

“...”

“เราเป็นลูกกำพร้าเหมือนกัน” รเณศทำหน้าจริงจัง “แต่คุณยังมีครอบครัวของป้าที่เหลืออยู่นะ ขณะที่ผมเองก็มีป้าอนงค์ เห็นมั้ยว่าเราเหมือนกัน”

เพลิงหัวเราะน้อยๆ เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของรเณศ แม้จะรู้ว่าภายใต้เนื้อความนั้นคือคำปลอบโยนชวนให้คนฟังรู้สึกอุ่นใจ แต่ท่าทางขึงขังนั่นมันชวนมองและทำให้เกิดความเอ็นดูจนเผลอยิ้ม

“อย่างนั้นหรือ”

รเณศพยักหน้าหงึกหงัก จังหวะนั้นนายแพทย์ในชุดกาวน์คนหนึ่งเดินผ่านหน้าเขาไปพอดี คนเมืองมองภาพนั้นไปจนลับตาก่อนจะยกยิ้มมุมปาก ท่าทางแบนั้นเรียกความสงสัยจากเพลิงที่มองอยู่พอดี

“ตอนม.ปลาย ผมอยากเป็นหมอมาก”

รเณศไขข้อสงสัยให้

“แต่ผมหัวไม่ดีเท่าไหร่ เพราะผมเกลียดชีวะมากๆ ซ้ำยังกลัวเลือดอีก สุดท้ายผมเลยตัดสินใจไปสอบเข้าเภสัชฯ แทน”

“ความฝันวัยเด็กสินะ”

“อื้อ ชุดกาวน์มันเท่มากเลยนะคุณ คิดดูสิว่ากว่าคนๆ จะฝ่าฟันจนได้เป็นหมอและสวมใส่เสื้อกาวน์ออกตรวจรักษาคนได้มันต้องพยายามแค่ไหน”

รเณศอดยิ้มนึกถึงความฝันของตัวเองในวัยเด็ก

“ที่สำคัญนะ ตอนนั้นผมคิดว่าหมอหนุ่มๆ สาวๆ คณะนี้สวยหล่อกันทั้งนั้นเลย”

เหตุผลไม่เข้าเรื่องที่อยากเรียนนั่นทำเอานึกขำตัวเองในตอนนั้น

“อ๋อ” เพลิงโคลงศีรษะ “ชอบผู้ชายในเครื่องแบบอย่างนั้นเหรอ”

หือ?

“ชุดลายพรางก็เป็นเครื่องแบบนะ”

เพลิงยิ้มน้อยๆ

“คุณชอบมั้ยล่ะ”

รเณศแก้มร้อนซู่ ยิ่งเห็นแววตาพราวระยับของฝ่ายตรงข้ามด้วยแล้ว

“คุณพูดถูกนะ”

“...”

“ที่บอกว่าผมกับคุณเหมือนกัน”

รเณศทำหน้าไม่เข้าใจ

“คุณชอบหมอรักษาคน”

รเณศขยับตัวยุกยิก

“ผมเองก็รู้สึกว่าจะชอบหมอเหมือนกัน”

คนเมืองทำหน้าตื่นเมื่อฝ่ายนั้นโน้มใบหน้าลงมาใกล้

“แต่เป็นหมอยา”

เหมือนหูจะดับ

รเณศยืนเบลอ รู้สึกเลยว่าตัวเองตาลอยแล้ว ในอกสั่นระรัวไม่ต้องพูดถึงใบหน้าร้อนผ่าวเพราะความร้อนพร้อมใจกันไปกระจุกอยู่ที่แก้มทั้งสองข้าง

“คุณ...”

เพลิงกดยิ้มมุมปาก

“เผื่อยังไม่รู้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็เป็นหมอได้นะ”

“...”

“หมอรักษาป่าน่ะ เคยได้ยินมั้ย”

ผู้ช่วยแม่ง!

รเณศอ้าปากพะงาบๆ มองตามแผ่นหลังกว้างที่ผละไปโน่นแล้ว ซ้ำก่อนไปเขายังแอบเห็นมุมปากด้านข้างขยับรอยยิ้มอีกด้วย

‘ชุดลายพรางก็เป็นเครื่องแบบนะ’

รเณศหน้าแดงก่ำนึกถึงภาพคนตัวโตสวมใส่ชุดลายพรางที่บางจุดเปื้อนโคลนตมแต่ภาพนั่นกลับประทับนิ่งอยู่ในใจเขาไม่ลืม

‘คุณชอบมั้ยล่ะ’

แล้วทำไมไม่ถามย้ำอีกทีนะ...จะได้ตอบ

รเณศกลั้นยิ้มจนปวดแก้ม

☘☘☘☘

แพ็คกระเป๋าดีๆ อาทิตย์หน้าจะพาไปเข้าป่าพร้อมนุ้งเนตร อิอิ
อย่าบ่นว่ามาน้อยนะ เดี๋ยวจูบเลย #พี่เพลิงพูดลอยๆ
หวีดในทวิตฝากติดแท็ค #ป่าห่มรัก ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 09-04-2019 20:56:39
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 09-04-2019 21:05:31
อย่าปล่อยให้เขาจีบอยู่ฝ่ายเดียวสิ เนตรโต้ตอบบ้าง อย่ามัวแต่เขิน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 09-04-2019 21:10:50
มาอัพแล้ววว วันนี้refreshรอรัวๆเลยค่ะ
 เพลิงนี่เป็นคนที่ไม่ค่อยพูดอะไรเยอะ แต่ว่ากับความสัมพันธ์นี่เค้าพูดและทำทุกอย่างที่ตัวเองคิดและรู้สึกเลย ไม่มีปากหนัก เป็นอะไรที่ดีมากๆเลยค่ะ ประทับใจ หยอดจนรเณศเสียอาการไปหลายครั้งเลย อยากอ่านตอนเค้าหวานๆกันแล้ว แต่ก็กังวลว่ารเณศจะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่าเพลิงเป็นพี่น้องกับแฟนเก่าตัวเอง ฮือ ยังไงก็ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณสำหรับผลงานที่ดีค่ะ
ป.ล.เพลิงชอบหมูทอดหรือว่าคนทำหมูทอดคะ  :ling1: :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 09-04-2019 21:14:50
ขยับความสัมพันธ์  :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 09-04-2019 21:20:04
พี่เพลิงทำไมร้ายยยยย  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-04-2019 22:00:35
ผู้ช่วยปากหวานเกินไปละ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 09-04-2019 22:38:18
แม่คะ เค้าจีบกันค่ะแม่  :mew3: รักหมอ รักคนในเครื่องแบบ จ้าาา ขอบคุณมากค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 09-04-2019 22:59:08
หวีดกันสุดๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 09-04-2019 23:12:14
ดูสิดูสิ่งที่เค้าทำสิ โอ้ยยยยยยยย
เขินนนนน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 09-04-2019 23:26:36
หวายๆๆๆ ผู้ช่วยนี่นึกว่าจะดูน่าเกรงขามอย่างเดียว พอได้พูดหวานละก็ น้ำตาลร่วงเป็นทาง
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 09-04-2019 23:36:05
พี่เพลิงขยันหยอดมากค่ะ ดีนะเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ถ้าเป็นเกษตรกรคงทำแต่ไร่อ้อย  :hao3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 10-04-2019 00:36:39
โอ๊ยยยยยยยย คุณผู้ช่วยยยยยย ไม่ไหวแล้วนะ!!!
น้วยไปหมด  :heaven
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: แพรวฐา ที่ 10-04-2019 01:19:01
โอ้ยหลงผู้ชายในเครื่องแบบเลยค่ะ คุณผู้ช่วยยยย งืื้ออออ :o8:

เขาจีบกันค่ะคุณณณณณ :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 10-04-2019 02:10:22
เขินหลายตลบแล้วนะเพลิง ทำไมทำร้ายหัวใจกันแบบนี้
รเณศไม่ต้องไปตรวจที่ไหน บอกหมอป่าได้ เค้ารู้ดี

เปลวก็ช่างสังเกตเนาะคนเรา แถมเดาได้ฉากๆ 5555

เค้าเปิดใจกันแล้ว และมีแววว่าเพลิงจะรุกคืบจ้า

จะรอไปบ้านท้ายป่ากับเนตรนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 10-04-2019 02:24:59
จีบพี่เขาคืนเลยลูก อย่าไปยอม!!
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 10-04-2019 02:35:05
ผู้ชายในเครื่องแบบลายพรางแต่เป็นหมอรักษาป่าแพรวพราวมากคนอ่านเขินค่ะบอกเลย แล้วหมอยาจะเหลือเหรอคะ
จีบกันน่ารักเชียวค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 10-04-2019 06:59:54
ผู้ช่วยเดินหน้าจีบหมอยาเต็มที่เลยใช่มั๊ยคะ  :hao3:

วุ้ยๆๆๆ เขินแทน  แพรวพราวจังเลยนะพี่เพลิง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-04-2019 07:42:03
หยอดจังงงงงงงง ฮ่าา
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 10-04-2019 09:42:55
ผู้ช่วยได้ทีเอาใหญ่เลยนะ

หยอดเอาหยอดเอา

จะเปลี่ยนอาชีพมาขายขนมครกเหรอ

ขยันหยอดเหลือเกิน

น้องเนตรเขินจนตระคริวจะกินอยู่แล้ว

พูดแล้วอยากกินหมูทอด
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 10-04-2019 10:49:04
 :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 10-04-2019 11:50:39
พี่เพลิงหยอดแบบคอมโบ้เซ็ตเลย เขินนนนน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-04-2019 17:49:20
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 10-04-2019 21:20:05
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้สนุกมากๆๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 11-04-2019 00:06:43
จูบก่อนจีบ ร้ายยยนะพี่เพลิง  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 11-04-2019 00:15:46
หลงรักหมอยากับผู้ชายในเครื่องแบบแล้วอ่ะ  :-[
ว๊าปไปวันจันทร์เลยได้ปะ อยากตามน้องเนตรเข้าป่าแล่วอ่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอย ที่ 11-04-2019 13:06:02
โอ้ย เขินตัวจะแตก พี่เพลิงน้องรเนศน่ารักมาก แต่เชื่อว่ามันต้องมีพาร์ทดราม่าแน่ๆ ช่วงหลังๆเพราะปมอิบ้านของพี่เพลิงกับอดีตคนรักเฮงซวยของน้องดันเป็นคนๆเดียวกัน ฮื่ออออ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 12-04-2019 11:24:41
 :pig4: :pig4: :pig4:

หวัย ๆ  เขาปิ๊งปั๊งกันไวเนอะ  เจอกันไม่กี่ครั้ง  รู้จักกันไม่กี่วัน  อิอิ

แต่ก็นะ  คนเหงาสองคนเจอกันมันก็สปาร์กกันได้ง่าย  หุหุ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 13-04-2019 11:45:53
อ่านแล้วรู้สีกรักเจ้าหน่าที่ป่าไม้ขี้นกว่าเดิมเยอะเลย น่าจะมีคนที่เสียสละแบบนี้บริหารประเทศเยอะๆเนอะ
ขอเอาใจช่วยเพลิงและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในชีวิตจริงทุกๆท่านให้แคล้วคลาดปลอดภัย
ขอบคุณที่รักษาผืนป่าไว้ให้เรา (อินมากๆๆๆ)
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Mariinariiz ที่ 13-04-2019 14:02:52
เขินอ่ะ กลั้นยิ้มจนปวดแก้มไปหมด หมอป่า หมอยาอะไรกัน ฉันเขิน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: mysun ที่ 13-04-2019 15:29:24
เขินอะ  จีบกันน่ารักเชียว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 13-04-2019 20:40:44
ผู้ช่วยเต๊าะอ่ะ
เขินแทนนุ้งเนตร
 :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: FrozenSnow2019 ที่ 14-04-2019 22:59:47
กรี๊ดเค้าชอบกันแล้ว ผู้ช่วยเตาะหนักมาก อิอิ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: มาดามพีพี ที่ 16-04-2019 00:54:56
หมอยาอย่ายอมค่ะ เต๊าะหมอป่าคืนเดี๋ยวนี้เลยค่ะ อย่าปล่อยให้เค้าได้ใจ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [11] #ป่าห่มรัก [9.4.62] P.8 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: smmikie ที่ 22-04-2019 23:30:36
ฉันรอคอยเทออยุ่นะจ่ะ

 :katai4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update-50%]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 23-04-2019 20:39:37

[ 12 ]


รเณศยืนมองร้านขายยาที่เสร็จสมบูรณ์ตรงหน้าแล้วหวนนึกถึงช่วงชีวิตที่ผ่านมา ช่วงสองสามเดือนมานี้เขาพบเจอกับเรื่องราวมากมายในที่ผ่านเข้ามา อย่างการแยกจากเตวิชซึ่งเป็นเรื่องทุกข์เรื่องหนึ่งในชีวิต และการได้หวนคืนมาที่บ้านของแม่ที่ทำให้เขาได้พบกับความสุขที่สุดในชีวิตเช่นกัน

เภสัชกรหนุ่มเหลือบตามองเด็กน้อยแก้มใสที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ในรถเข็นข้างกาย แก้มสีแดงก่ำนั่นบ่งบอกว่าเจ้าตัวคงจะร้อนไม่น้อย เขาจึงตัดสินใจอุ้มเด็กน้อยไปหลังร้านที่ทำเป็นห้องพักเผื่อวันไหน รเณศอาจจะต้องนอนพักที่นี่ ก่อนจะเปิดแอร์ให้หนูน้อยได้นอนสบายตัวมากขึ้น คนเมืองกดจูบที่แก้มอวบอูมนั่นก่อนจะผละออกไปหน้าร้านที่เปิดขายอย่างเป็นทางการแล้ว

เนื่องจากเมื่อเช้าที่ผ่านมาป้าอนงค์แกนิมนต์พระท่านมาฉันเพลและทำบุญเปิดร้านใหม่ รเณศถึงกับยิ้มแก้มปริเพราะวันนี้ทั้งป้าอนงค์และป้าสมัยอุตส่าห์ตื่นแต่ดึกมาช่วยงาน พอทำบุญเสร็จตอนสายๆ เจ้าเปลวก็รับอาสาขับรถพาทั้งป้าทั้งสองไปดูตลาดผลไม้ในเมืองต่อ แก้มใสซึ่งถูกบิดาอุ้มมาช่วยงานแต่เช้าตรู่จึงงอแงตามประสา รเณศจึงรับอาสาดูแลหนูน้อยให้

“ยาอมกับยาพาราอย่างละแผงจ๊ะพี่เนตร”

รเณศพยักหน้าหงึกหงักแล้วหันไปยิ้มให้กับลูกค้าคนหนึ่งซึ่งยืนรอท่าอยู่ เภสัชกรหนุ่มเหลือบตามองแผงยาซึ่งผู้ช่วยสาวช่วยหยิบมาคิดเงินให้

“ขอบคุณครับ”

คนเมืองยกมือไหว้ลูกค้าซึ่งจำหน้าได้ว่าป้าแกเป็นเจ้าของร้านอาหารตามสั่งละแวกนี้

“ค้าขายดีๆ นะลูกนะ”

ป้าแกให้ศีลให้พรเพราะช่วงที่ต่อเติมร้านนั่นรเณศแทบจะไปฝากท้องที่ร้านป้าแกทุกวัน

“ขอบคุณครับป้า”

“หนูเช็ครายการยาเสร็จแล้วนะจ๊ะพี่เนตร”

รเณศที่มองตามหลังลูกค้าไปจนลับตาหันมายิ้มให้กับผู้ช่วยสาวซึ่งเด็กสาวที่ว่านี่เป็นลูกสาวคนงานในไร่ป้าอนงค์นั่นแหละ ท่าทางขยันขันแข็งและดูกระตือรือร้นที่จะช่วยงานนั่นถูกชะตารเณศไม่น้อย เด็กสาวที่ทำงานพิเศษหาเงินค่าเทอมส่งตัวเองเรียนแบบนี้ เขาจึงอยากสนับสนุนเลยเอ่ยปากบอกขอให้มาช่วยหยิบจับและดูร้านช่วยกัน

“งั้นเดี๋ยวพี่เช็คอีกที”

 รเณศพยักหน้าหงึกหงัก “ยังไงฝากเราแวบไปดูน้องแก้มใสที่หลังร้านที เสร็จแล้วออกมาช่วยขยับตู้มุมนั้นช่วยพี่หน่อยนะ”

“จ๊ะพี่เนตร”

เด็กสาวรับคำก่อนจะผละไปหลังร้าน ระหว่างนั้นรเณศจึงหันไปสนใจเช็คใบรายการยา

กรุ๊งกริ๊ง!

เสียงโมบายที่แขวนไว้ตรงหน้าประตูกระจกร้านดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ามีลูกค้าเข้ามาในร้าน รเณศซึ่งกำลังก้มหน้าเช็ครายการยาอยู่จึงส่งเสียงทักทายออกไปโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกค้าตรงหน้านั้นเป็นใคร

“รับอะไรดีครับ”

“รับดูแลเจ้าหน้าที่ป่าไม้สักคนมั้ยครับ”

หือ?

รเณศมุ่นหัวคิ้วก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา ภาพใบหน้าคมสันในชุดเครื่องแบบลายพรางที่ปรากฏตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ ตรงมุมปาก แต่อากัปกิริยานั่นทำเอาคนเมืองนึกเก้อกระดากอย่างบอกไม่ถูก ในเวลาแบบนั้นเขายังอุตส่าห์นึกถึงบทสนทนาวันนั้นขึ้นมา

‘เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็เป็นหมอได้นะ...หมอรักษาป่าน่ะ เคยได้ยินมั้ย’

บ้าเอ๊ย!

ประโยคนั่นเล่นเอาเขานอนไม่หลับมาเป็นสัปดาห์เลยให้ตายเถอะ

“ผมมาแสดงความยินดี”

“มาอะไรเอาป่านนี้” รเณศบ่นพึมพำ “จนร้านจะปิดอยู่แล้ว”

เภสัชกรหนุ่มแกล้งค้อนให้

“มาช้าดีกว่าไม่มา”

เพลิงพูดยิ้มๆ ขณะที่คนที่อยู่ในเสื้อกาวน์แบบสั้นมองซ้ายมองขวาสำรวจไปทั่วร่างกายอีกฝ่าย

“หาอะไร”

“ไหนล่ะ ของแสดงความยินดี”

รเณศแบมือมาตรงหน้า

“ไม่มี”

เพลิงส่ายหัวไปมา

“อ้าว”

“ไม่มีหรอกครับของที่ว่า..” เพลิงมองหน้าเขาตรงๆ “มีแต่คำยินดี”

รเณศแกล้งยืนกอดอกทำหน้านิ่ว

“พูดมาสิตั้งใจฟังอยู่”

เพลิงมองหน้าเขานิ่ง

“ขอให้การเริ่มต้นชีวิตใหม่ของคุณที่นี่มีแต่ความสุข”

“งานแบบใหม่ๆ ด้วย”

รเณศสำทับ

“อืม งานใหม่ๆ คนใหม่ๆ”

คนฟังพยักหน้าหงึกหงัก

“...ใหม่”

หือ?

รเณศมุ่นหัวคิ้วเมื่อได้ยินประโยคนั้นไม่ชัดเจนนัก

“ว่าไงนะ”

“แฟนใหม่”

“...”

“มีแต่อะไรใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต แล้วไม่สนใจมีแฟนใหม่บ้างเหรอ”

รเณศอ้าปากพะงาบๆ ใบหน้าร้อนเห่อยิ่งสบเข้ากับแววตาพราวระยับนั่นด้วยแล้ว

“ผมหมายถึงพัดลม”

“...”

“แฟน พัดลมน่ะ”

ปลายนิ้วเรียวแต่แข็งแรงชี้ไปที่พัดลมติดผนังซึ่งค่อนข้างเก่าเนื่องจากรเณศอยากจะช่วยป้าอนงค์ประหยัดงบประมาณค่าต่อเติมจึงขอติดพัดลมผนังอันเก่าที่ติดไว้ตั้งแต่ห้องแถวยังไม่ปรับปรุง

“คุณ”

รเณศหน้าดำหน้าแดงเสียงเขียว

“พัดลมน่ะเก่า”

“แต่ผมอ่ะยังใหม่”

“อะไร”

รเณศหน้าร้อนวูบวาบ

“ผมหมายถึงชุดลายพรางที่ใส่วันนี้อ่ะ เป็นตัวใหม่”

เพลิงแกล้งหยอกก่อนจะชี้ไปที่เครื่องแบบซึ่งยังสีสดอยู่แสดงว่าเป็นของใหม่จริงๆ

“แม่ง”

รเณศบ่นงึมงำในลำคอ

“เสื้อใหม่ เป้ใหม่ และอาจจะมีแฟนใหม่เร็วๆ นี้”

“...”

“อ่อ ผมหมายถึงจะซื้อพัดลมใหม่เร็วๆ น่ะ”

“ไอ้คุณเพลิง”

รเณศแยกเขี้ยวใส่อีกฝ่าย ก่อนจะเดินตึงตังไปที่มุมหนึ่งของห้องแล้วคว้าเอากล่องยาสามัญสามสี่กล่องมายื่นกระทกอกอีกฝ่าย

“เอาไป”

เพลิงยิ้มน้อยๆ ตอนที่เอื้อมมือไปรับกล่องยาเหล่านั้น เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยเอ่ยปากอยากขอซื้อยาสามัญทั่วไปและให้เภสัชกรหนุ่มเตรียมกล่องยาสามสี่กล่องนี่ให้หน่อย เนื่องจากเพลิงและเจ้าหน้าที่ป่าไม้คนอื่นๆ จะเข้าไปที่หมู่บ้านท้ายเขาเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับชาวบ้านและสำรวจหมู่บ้านนี้ด้วย

“ขอบคุณครับ”

“กองไว้ตรงนั้นแหละ”

รเณศเชิดหน้าสูงขึ้น

“ผมจะเอายาพวกนี้ไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่นั่นน่ะ”

รเณศหูผึ่งขึ้นมาทันที

“เห็นเจ้าเปลวบอกว่าคุณไม่คิดเงิน เพราะอยากบริจาคยาพวกนี้ให้ฟรี”

รเณศพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้

“ขอบคุณมาก” เพลิงพูดยิ้มๆ “คุณรู้มั้ยว่ายาพวกนี้มันมีประโยชน์มหาศาลมากนะกับคนที่นั่น”

“เอ่อแล้ว...คุณจะเข้าไปที่หมู่บ้านท้ายเขานั่นเมื่อไหร่”

รเณศเอ่ยถาม

“มะรืนนี้”

“ผมไปด้วย”

คนเมืองโพล่งขึ้นมานั่นทำเอาร่างสูงใหญ่มุ่นหัวคิ้ว


.

.


รเณศทำหน้ามุ่ยทันทีเมื่ออีกฝ่ายปฏิเสธเสียงแข็ง คนเมืองทำหน้าไม่สบอารมณ์นักขณะที่อีกฝ่ายยืนกอดอกหน้านิ่งมองเขาอยู่อีกฝั่ง บรรยากาศมาคุนั่นส่งผลให้บุคคลที่สามซึ่งเปิดประตูเข้ามาในร้านยาถึงกับชะงักกึก

เปลวเกาหัวแกรกๆ มองคนโน้นทีคนนี้ทีก่อนจะเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัย

“มีอะไรกันเหรอครับ”

รเณศหน้างอเป็นจวัก

“เปล่า”

“ถามพี่เนตรนายดูสิเปลว”

เปลวหันกลับมามองใบหน้าขาวในชุดกาวน์สั้นอีกครั้ง

“ก็แค่อยากไปหมู่บ้านท้ายเขาด้วย”

“หือ?”

“ซูเนียนเขาเคยชวนไปเที่ยวบ้าน”

รเณศทำเสียงอุบอิบในลำคอ นึกถึงบทสนทนาตอนที่เขาไปเยี่ยมซูเนียนหลังคลอดเมื่อสัปดาห์ก่อนแล้วฝ่ายนั้นเอ่ยชักชวนเขาไปเที่ยวบ้านเจ้าตัวซึ่งอยู่ที่หมู่บ้านท้ายเขา แน่นอนว่ารเณศหูผึ่งและหมายมาดเอาไว้แล้วว่าจะไปยลความสวยงามตามธรรมชาติที่ได้ยินมาก่อนหน้านี้ให้ได้

ป้าอนงค์เคยเล่าว่าที่นั่นแม้จะเป็นที่ทุรกันดารเพราะมีแค่ทางลูกรังเข้าไปถึงตัวหมู่บ้านเพียงทางเดียวนอกจากทางเข้าผ่านป่าลึกไปยังท้ายหมู่บ้านซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้ในการลาดตระเวน  แต่ที่นั่นกลับมีธรรมชาติและทัศนียภาพที่สวยงามน่าไปสัมผัสยิ่งนัก

นอกจากนี้แล้วรเณศอยากไปเห็นวิถีชีวิตของคนที่นั่นด้วย เพราะบทสนทนาที่คุยกับแม่ลูกอ่อนชาวป่านั่นบ่งบอกว่าคุณภาพชีวิตที่นั่นมันไม่ดีนักหรอก เห็นว่ายาที่ได้จากการบริจาคบางตัวก็เก็บไว้กินกันตั้งหลายปีโดยที่ไม่รู้ว่ามันหมดอายุแล้วด้วยซ้ำ ได้ยินแบบนั้นเขาจึงอดห่วงชาวบ้านแถวนั้นไม่ได้จริงๆ

“ให้พี่เนตรไปด้วยก็ดีนะพี่เพลิง”

เพลิงมุ่นหัวคิ้ว

“การที่มีคนอื่นๆ นอกจากเจ้าหน้าที่เข้าไป บางทีอาจจะทำให้ชาวบ้านเขาไว้วางใจพวกเรามากขึ้นนะพี่”

ร่างสูงในชุดลายพรางคิดตามเพราะสิ่งที่เด็กหนุ่มพูดมาเป็นจริงทุกอย่าง การที่เจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ที่มีความเปราะบางอาจทำให้คนในพื้นที่หวั่นเกรงและไม่ให้ความร่วมมือ  แต่การที่มีคนอื่นนอกจากเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นคนนอกอาจเพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างเจ้าหน้าที่และคนในพื้นที่ได้

เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ยิ่งสบเข้ากับดวงตาใสแจ๋วตรงหน้าที่เขาถึงกับพูดไม่ออก การที่รเณศร่วมเดินทางไปด้วยย่อมเป็นผลดี แต่การที่คนเมืองอย่างหลานป้าอนงค์นี่จะทนลำบากไปยังหมู่บ้านแห่งนั้นให้ตัวเองเหนื่อยยากนั่นทำให้เขานึกห่วง

รเณศจะทนลำบากได้อย่างไร ในเมื่อการเดินทางไปที่นั่นมันไม่ใช่เรื่องสนุก ซ้ำอาจทำให้คนเมืองเจ็บไข้ขึ้นมาก็ได้

‘ห่วง’

เพลิงยอมรับว่าห่วงคนตรงหน้าไม่น้อย

“คุณ..”

รเณศทำตาปริบๆ มองใบหน้าคมคายอย่างมีความหวัง

“เฮ้อ”

“...”

“ถ้าคุณคิดว่าตัวเองไหว”

“เย่”

รเณศร้องดีใจเป็นเด็กๆ ชายหนุ่มยิ้มเสียกว้างให้คนในชุดลายพรางกว่าจะรู้ตัวว่าเผลอยิ้มให้เขาอย่างเผลอตัวไป เพลิงก็กดยิ้มมุมปากมองเขาดูแววตาที่แปลกไปแล้ว จนรเณศต้องแกล้งเบือนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยใบหน้าร้อนผ่าว

เปลวมองสองคนเบื้องหน้าสลับไปมาก่อนจะกดยิ้มมุมปาก สงสัยว่าการเข้าไปหมู่บ้านท้ายเขาในอีกไม่กี่วันนี่จะมี ‘เรื่องสนุกๆ’ ไปคุยกับพี่พล พี่เกิ้งและไอ้เต็งอย่างแน่นอน

เฮ้อ ทะแม่งๆ ว่าจะเป็นเรื่องคนรักกันว่ะ!

☘☘☘☘

50%



ขออนุญาตมาครึ่งนึงก่อนนะคะ ครึ่งหลังยังไม่ได้รีไรท์ ฮือออ แต่อยากลงให้สักครึ่งก่อนเพราะหายไปนาน
สัปดาห์ที่แล้วติดแพ็คหนังสือจ้า เมื่อวานนี้ที่บ้านเจอพายุฤดูร้อน ต้นไม้ล้มกับป้ายเลขที่บ้านปลิว 555555
ส่วนวันนี้สดๆ ร้อนๆ ขับรถชนขอบปูนที่ยื่นเลยถนนมาจนหน้ารถยุบ โทรตามประกันวุ่นวายทั้งวัน ฮืออออ  :hao5:

**ขอติดครึ่งหลังที่น้องเนตรจะเข้าป่าไปสัปดาห์หน้านะคะ**
   
ใครหวีดในทวิตรบกวนติดแท็ค #ป่าห่มรัก ให้ด้วยเด้อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-04-2019 20:43:28
เตรียมชิพเลยเปลว 555555
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-04-2019 21:27:47
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 23-04-2019 21:31:21
เปลวเตรียมฟินได้เลยจ้า
อย่าลืมพาคนอ่านไปฟินด้วยนะ

ขอให้ทุกเรื่องผ่านไปได้ด้วยดีนะคะคนเขียน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอย ที่ 23-04-2019 22:02:32
แงง ไม่จุใจเลย รอสัปดาห์หน้าไม่ไหวแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: fxxahhh ที่ 23-04-2019 22:47:10
รอนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 23-04-2019 23:06:04
 :pig4: :pig4: :pig4:


 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 23-04-2019 23:12:13
 :mew3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 23-04-2019 23:14:24
มาต่อให้หายคิดถึงคนช่างหยอดหน่อยนะคะ รออ่านตอนเปลวเม้าส์กะเพื่อนๆ  :laugh:

เทคแคร์ค่ะไรท์.  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 24-04-2019 06:50:29
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: Aimlovelove ที่ 24-04-2019 08:48:52
หยอดเก่งจังคะผู้ช่วยยย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 24-04-2019 10:19:25
หยอดเก่งงงงง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 24-04-2019 15:40:57
กวนมากผู้ช่วย น่าโดนฟาดซักที 5555555555
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 24-04-2019 17:45:08
จะมีอะไรเกิดขึ้นมั้ยย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-04-2019 20:31:54
ต่อไปนี้จะมีแต่เรื่องดี ๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 24-04-2019 21:45:29
ตอนหน้าต้องมา150แล้วคนเขียนถ้าจะทิ้งไว้น่าอ่านต่อขนาดนี้55555555

อยากเป็นเจ้าเปลวเลยวุ้ย อยากเม้าบ้าง555555
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 24-04-2019 22:31:02
 :กอด1: รอน๊าาา
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 25-04-2019 07:42:49
 หยอดเก่งนะจ๊ะผู้ช่วย เข้าป่าครั้งนี้ใบไม้ต้นไม้ จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 25-04-2019 10:08:57
เค้าจีบกันน่ารัก 5555
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 25-04-2019 13:21:54
เขาจีบกัน  :-[ 
ร้ายยยยยยอ่า พี่เพลิงเสือซ่อนเล็บชัดๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-04-2019 20:26:38
เข้าไปจัดการกับพ่อเฒ่าทีค่ะ จะตายกันหมดเพราะอิตานี่แหล่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 26-04-2019 05:24:51
ผู้ช่วยหยอดเก่งจริงๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: เงาในพระจันทร์ข้างขึ้น ที่ 26-04-2019 07:46:10
อ่านเรื่องนี้แล้วอินมากๆ ที่บ้านเราไปปลูกป่า ไปช่วยผู้พิทักษ์ป่าบ่อยๆ งานนี้หนักหน่วงมากจริงๆ ชอบเรื่องนี้มากๆ จะคอยติดตามอ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [23.4.62] P.9 [Update -50%]
เริ่มหัวข้อโดย: Mariinariiz ที่ 26-04-2019 20:38:34
อ่านแล้วก็ได้แต่ยิ้มเขิน งุบงิบคนเดียว 555
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update 100%]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 29-04-2019 20:43:46
(ต่อ)


“รถติดหล่ม”

เพลิงหันมาบอกคนที่นั่งอยู่เบาะข้างกาย ก่อนจะเปิดประตูรถกระบะออกไปคุยกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้คนอื่นซึ่งนั่งอยู่ท้ายกระบะ นั่นจึงทำให้คนเมืองที่นั่งเงียบมานานเปิดประตูรถตามออกมาด้วย ระหว่างนั้น รเณศเห็นว่าเจ้าหน้าที่ในชุดลายพรางพากันระโดดลงมาจากท้ายกระบะแล้วยืนคุยกับเพลิงหน้าเครียด

เขาสังเกตว่าล้อรถด้านหลังสองข้างจมลงไปในโคลมตม คาดเดาได้ว่าก่อนหน้านี้มันคงเป็นดินลูกรังที่ฝุ่นคลุ้งแต่เมื่อคืนมีฝนตกลงมาอย่างหนักทั้งคืน คงไม่แปลกหากน้ำจะขังอยู่ในแอ่งและทำให้พื้นดินแถบนี้ทั้งลื่นและแฉะเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางจนทำให้รถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ที่มีตราอุทยานติดหล่มจมไปกว่าครึ่งล้อแล้ว

“มีอะไรให้ผมช่วยมั้ย”

รเณศเดินไปเลียบๆ เคียงๆ ถาม เพลิงชะงักไปก่อนจะเหลือบตามองรเณศแล้วส่ายหัว

“ไม่มี”

ร่างสูงใหญ่บุ้ยปากไปยังต้นไม้ใหญ่ข้างทาง

“ไปหลบอยู่ในร่มก่อน ตรงนี้แดดมันร้อน”

พูดไม่พอยังยัดหมวกลายพรางใส่มือให้เขาอีก

“แต่ผมอยากช่วย”

เภสัชกรหนุ่มเอ่ยท้วงเพราะเห็นเจ้าหน้าที่คนอื่นยืนประจำที่ท้ายกระบะบ่งบอกว่าพวกเขาคงจะช่วยกันใช้กำลังดันรถให้ขึ้นจากโคลน เห็นคนอื่นๆ ทำแบบนี้จึงอดเปรียบเทียบกับตัวเอง ขณะที่เพลิงไล่ให้เขาไปนั่งพักในร่มตรงโน้น แต่เจ้าหน้าที่คนอื่นกลับไม่ได้พักไปด้วย

“นั่นมันหน้าที่ของผู้ชายตัวโตๆ เขา”

รเณศเบะปาก

“ผมก็เป็นผู้ชายนะคุณ ถึงไม่ได้ตัวใหญ่แต่ก็มีแรงมีกำลังช่วยได้ก็แล้วกัน”

เพลิงกวาดสายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

“คุณไม่ไหวหรอก”

“อย่าเพิ่งดูถูกผมสิ” รเณศเอ่ยท้วง

“เอ่อผู้ช่วย”

หลังจากที่ทั้งคู่ยืนจ้องกันอยู่พักหนึ่ง พลซึ่งถูกเพื่อนร่วมทีมถีบให้เข้าหาเพลิงทำหน้ากระอักกระอ่วน

“ว่าไงพล”

“เอาไงดีพี่เพลิง นี่บ่ายกว่าแล้วนะ”

เพลิงจ้องหน้ารเณศนิ่งก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ไปช่วยกันดันรถ”

คนเมืองหลุดยิ้มดีใจ ขณะที่เปลวซึ่งยืนสังเกตอยู่นานยิ้มเผล่มารับกุญแจรถไปจากมือเพลิง เพราะเจ้าตัวจะสลับไปดันรถช่วยเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ

เหอะ! ช่วยคนอื่นหรือช่วยคนกรุงตัวขาวกันแน่วะ เด็กหนุ่มกลั้นยิ้มหันไปส่งสัญญาณให้พี่พล พี่เกิ้งและไอ้เต็งที่หันมาสบตากันโดยมิได้นัดหมาย

ครืด...ครืด

เสียงล้อที่จมไปในโคลนดังขึ้น ตอนที่เปลวประคองพวงมาลัยเหยียบคันเร่งจนมิด ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ รวมถึงรเณศพากันออกแรงดันจนหน้าดำหน้าแดง

“อีกนิดพี่”

เสียงเจ้าเปลวตะโกนขึ้น

“เอาหน่อยโว้ย”

เกิ้งพูดเสียงหอบทั้งเนื้อทั้งตัวสั่นเทาเพราะออกแรงเยอะ

ครืด...ครืด

“บรื้น”

“เฮ้ย”

รเณศร้องเสียงหลงจังหวะที่ล้อหลังขึ้นจากหล่มนั่นมันดีดเอาโคลนกระเด็นใส่ตัวเขาเต็มๆ เป็นโชคร้ายเพราะเจ้าหน้าที่คนอื่นขยับหลบทัน ยกเว้นก็แต่คนเมืองที่เปรอะเปื้อนดินโคลนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า รเณศหันไปแยกเขี้ยวใส่ผู้ช่วยหนุ่มหลังจากที่ได้ยินเสียงทุ้มหัวเราะในลำคอจากฝ่ายนั้น ท่าทางไม่ต่างจากเจ้าหน้าที่คนอื่นนักหรอก แต่ดีว่าคนอื่นๆ พยายามกลั้นยิ้มทำหน้านิ่งเฉยก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ต่างจากเพลิงซึ่งจ้องหน้าเขานิ่งก่อนหัวเราะออกมาเบาๆ

“เอาน้ำล้างตัวก่อน”

ฝ่ายนั้นยื่นขวดน้ำให้ รเณศจึงรับมาด้วยกิริยากระแทกกระทั้น

“หยุดหัวเราะขำผมเลยนะ”

“ผมเปล่า”

“เปล่าอะไร เมื่อกี้ยังทำหน้าขำผมอยู่เลย”

“ผมทำแบบนั้นเหรอ”

เพลิงเลิกคิ้วถาม

“เหอะ”

รเณศแยกเขี้ยวใส่อีกฝ่าย ก่อนจะหันหลังเดินไปตรงร่มไม้เพื่อล้างเนื้อล้างตัว

“ชอบเขาแต่ก็แกล้งเขา”

เกิ้งพูดขึ้นลอยๆ จนเพลิงซึ่งยืนกอดอกอยู่เลิกคิ้วมอง

“ผมพูดลอยๆ นะผู้ช่วย ใช่มั้ยไอ้พล” ฝ่ายนั้นหันไปพยักพเยิดไปทางคู่หู

“เขาเรียกคนปากหนัก”

เพลิงโคลงศีรษะเมื่อสบตากับเจ้าพวกนี้

“อย่ามองพวกผมแบบนี้สิผู้ช่วย”

เพลิงกดยิ้มมุมปาก

“ว่าจะทำเขียนรายงานขอเพิ่มเงินเดือนให้สักหน่อย แบบนี้คงต้องเปลี่ยนเป็นขอลดเงินเดือนแล้วมั้ง”

“โห่ผู้ช่วย”

“...”

“ทุกวันนี้ก็จะไม่พอกินอยู่แล้วครับ”

เพลิงยิ้มขำ เพราะสิ่งที่ทั้งคู่พูดมากเป็นความจริงทุกอย่าง เงินเดือนเจ้าหน้าที่น่ะ มันน้อยนักเมื่อเทียบกับความหนักของภาระงาน บางครั้งตรงกับช่วงปิดปีงบประมาณเงินเดือนก็มาล่าช้า ตกเบิกไปหลายเดือนจนทำให้เจ้าหน้าที่อยู่อย่างขัดสน ต้องกระเบียดกระเสียรชักหน้าให้ถึงหลังกันน่าดู

“พวกผมแซวแค่นี้เอง”

“...”

“ผู้ช่วยก็...” เกิ้งบุ้ยปากไปด้านหลัง “แกล้งเขาจนหน้างอแล้วนะครับ”

“ไปง้อหน่อยเถอะผู้ช่วย เมื่อกี้เห็นพี่เนตรของไอ้เปลวออกแรงหน้าดำหน้าแดง ท่าทางแกมีใจอยากจะช่วยจริงๆ นา”

“คุณเนตรนี่แกน่ารักไม่หยอกเลยนะผู้ช่วย”

เพลิงหรี่ตามองทั้งคู่

“แหน่ะ! แค่ชมว่าน่ารักมองพวกผมตาขวางเลยนะครับ”

เพลิงยักไหล่ทำหน้านิ่ง ขณะที่พลและเกิ้งพากันหัวเราะชอบใจ

“ไปดูแกหน่อยเถอะครับ”

พลสำทับ

“เลอะไปทั้งตัวขนาดนั้น กว่าจะถึงหมู่บ้านคงมอมแมมน่าดู” เกิ้งพูดยิ้มๆ “แต่ผมว่านะขนาดมอมแมมแบบนี้ ผมก็ว่าน่าดูอยู่นา ผู้ช่วยว่าจริงมั้ยครับ”

“อือ น่าดู”

เพลิงพูดเสียงเรียบ

“อะไรน่าดูนะผู้ช่วย”

สองคนนั้นตะโกนถามเคล้าไปกับเสียงหัวเราะตามหลังมา

“ช่วยดูของบริจาคหลังรถให้ด้วย”

“โห่ผู้ช่วย”

สองคนนั้นส่ายหัวเมื่อเขาเปลี่ยนเรื่องคุยหน้าตาเฉย

.

.

หลังจากล้างเนื้อล้างตัวเอาคราบดินโคลนออกได้เล็กน้อย รเณศเลยตัดสินใจออกมานั่งท้ายกระบะกับเจ้าหน้าที่คนอื่นเพราะไม่อยากให้เบาะด้านในเลอะโคลนไปด้วย ไม่นานหลังจากนั้นกระบะซึ่งเปลี่ยนคนขับเป็นเจ้าเปลวก็มาจอดอยู่ที่ฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนโดยใกล้ๆ กันนั้นมีสะพานเล็กๆ ข้ามไปในตัวหมู่บ้าน 

จุดนี้เป็นจุดสุดท้ายที่ยานพาหนะจะเข้าไปได้ เพลิงกับเจ้าหน้าที่คนอื่นต้องเดินแบกของบริจาคข้ามสะพานไป โดยจอดรถฝากไว้ที่หน่วยนี้ ระหว่างนั้นมีชาวบ้านชายฉกรรจ์สี่ห้าคนยืนรอพวกเจ้าหน้าที่อยู่กลางสะพานไม้ ซึ่งหนึ่งในนั้นเพลิงแนะนำว่ามีผู้นำหมู่บ้านนี้รวมอยู่ด้วย พวกเขามาช่วยเจ้าหน้าที่ขนของบริจาคเข้าหมู่บ้านกัน

รเณศเองก็หอบพวกยาสามัญประจำบ้านสองสามกล่องติดมือด้วย จริงๆ อยากแบ่งเบาคนอื่นให้มากกว่านี้ แต่เพลิงก็แย่งไปถือหมด คิดดูสิว่านอกจากกระเป๋าเป้ใบโตที่สะพายอยู่แล้วมือทั้งสองข้างของเพลิงและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ยังหอบเอาของบริจาคอื่นๆ ซึ่งมีน้ำหนักไม่น้อยเลย

ระยะทางจากจุดที่รถจอดนั่นต้องเดินเท้าเข้าไปในตัวหมู่บ้านอีกราวๆ สองกิโล แต่เส้นทางนั้นต้องผ่านป่าซึ่งมีความสลับซับซ้อน ซ้ำยังมีจุดที่ลื่นและแฉะเนื่องจากเมื่อคืนมีฝนตกหนัก ดีว่าเขาสวมใส่เสื้อผ้ารัดกุม สวมรองเท้าสำหรับเดินป่าไม่อย่างนั้นคงได้สะดุดหินลื่นล้มเป็นแน่

“ไหวมั้ย”

เพลิงชะลอฝีเท้าก่อนจะเดินย้อนกลับมาด้านหลังซึ่งรเณศเดินรั้งท้ายคนอื่น เพราะไม่คุ้นชินกับการเดินป่า

คนเมืองพยักหน้าหงึกหงักโดยมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้าและกำลังจะไหลย้อยลงมาตามขยับ ใบหน้าขาวเนียนแดงก่ำ ลมหายใจเข้าออกนั่นกระชั้นและแรงขึ้นเพราะอาการเหนื่อยหอบ มือเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นปาดเหงื่อตามใบหน้าแรงๆ ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อปลายนิ้วเรียวยาวของคนตรงหน้าเกลี่ยเหงื่อเม็ดโตที่ผุดขึ้นบริเวณข้างขมับให้อย่างแผ่วเบา

“ทำไมถึงไม่ใส่หมวก”

เพลิงถามถึงหมวกลางพรางซึ่งเคยให้ไว้ก่อนหน้านี้

“คุณหน้าแดงไปหมดแล้ว”

“ผมไหว”

รเณศหลุบตามองพื้นพูดเสียงแผ่ว

“พักกินน้ำหน่อยมั้ย”

“ไม่เอา” รเณศส่ายหัว “เดี๋ยวเดินไม่ทันคนอื่น”

เพลิงถอนหายใจก่อนจะเหลือบตามองเจ้าหน้าที่คนอื่นซึ่งชะลอฝีเท้าเพื่อรอรเณศ เห็นแบบนั้นเขาเลยบุ้ยปากและทำสัญญาณให้คนอื่นเดินนำไปก่อน

“นั่งพักก่อน”

“แต่ผมไม่อยากเป็นภาระให้คนอื่นต้องรอ”

“ผมให้คนอื่นนำหน้าคุณไปแล้วไม่ต้องห่วง”

“แต่ว่า...”

“ถ้าคุณไม่พักก่อน คุณจะเป็นภาระของผม”

รเณศทำหน้างอใส่อีกฝ่ายทันที

‘คุณเป็นภาระของผม’

แม่ง!

รเณศจำใจหยุดนั่งพักที่โขดหินก้อนหนึ่ง ระหว่างนั้นเพลิงเดินถือกระบอกใส่น้ำมายื่นให้ตรงหน้า

“ค่อยๆ จิบน้ำ ถ้าดื่มเร็วๆ คุณจะสำลัก”

รเณศรับมาดื่มอย่างเสียไม่ได้

“ถ้าคุณไม่ไหว คุณต้องบอกผมนะ การเดินป่าสำหรับคนที่ไม่ชิน มันสาหัสพอดู”

“แล้วถ้าผมไม่ไหวจริงๆ คุณจะทำยังไง”

รเณศแกล้งถาม

“ก็ให้คุณนั่งพักจนกว่าจะหาย”

เพลิงเหลือบตามองอีกฝ่ายแล้วกดยิ้มมุมปาก

“ผมไม่แบกคุณไปหรอก แต่จะนั่งเฝ้าอยู่เนี่ยล่ะ”

รเณศรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนแปลกๆ เมื่อได้ยินว่าฝ่ายนั้นจะอยู่เฝ้าโดยไม่ทิ้งกันเอาไว้

“ถ้าพักแล้วไม่หายล่ะ”

“...”

“คุณจะทิ้งผมมั้ย”

เพลิงสบตากับอีกฝ่ายนิ่ง

“ไม่”

แววตาคู่นั้นมีประกายจริงจัง

“ผมไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

น้ำเสียงหนักแน่นและมั่นคงจนเผลอทำรเณศใจสั่น

“ผมไม่เคยคิดจะทิ้งคุณ”

“...”

“ไม่มีวันทิ้ง”

เพลิงเป็นคนรักษาสัญญา

เมื่อรเณศหายเหนื่อยแล้ว ร่างสูงใหญ่นั่นเดินชะลอฝีเท้าเคียงข้างเขาไปตลอดทาง มีบางจังหวะที่ รเณศเชื่องช้าไปเพราะเหนื่อยหอบ คนในเครื่องแบบก็จะชะลอและหยุดเดินเพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่เท่ากัน

เดินเคียงกันไป

ไม่มีใครนำ ไม่มีคนตาม มีแต่หัวไหล่ที่เสียดสีกันไปตลอดทาง

☘☘☘☘



บ่ายแก่ๆ แล้วตอนที่รเณศและเพลิงมาถึงตัวหมู่บ้าน ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่มาถึงก่อนพวกเขาราวๆ ครึ่งชั่วโมง ซูเนียนอุ้มลูกวิ่งร้องดีใจมาแต่ไกลที่เห็นเขา ท่าทางสนิทสนมระหว่างเขากับแม่ลูกอ่อนทำให้ชาวบ้านยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร เด็กเล็กๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่แถวนั้นต่างพากันมาด้อมๆ มองๆ เขากันใหญ่ เพราะรเณศเป็นคนเดียวที่แต่งตัวแปลกไปจากเจ้าหน้าที่คนอื่น

“คุณรเณศ เขาเป็นพวกเดียวกับผู้ช่วยเพลิง คนเมืองนี่แหละที่ช่วยชีวิตฉันกับลูกไว้”

แม่ลูกอ่อนหันไปเล่าให้ชาวบ้านคนอื่นฟัง เท่านั้นไม่พอ มือทั้งสองข้างยังเขย่าแขนเขาอย่างดีใจ ระหว่างนั้นคนเมืองเหลือบตามองเด็กทารกซึ่งอยู่ในเป้ผ้าติดกับอกของมารดา

ดวงตาใสแจ๋วน่าเอ็นดูไม่น้อย

“ดีใจจังเลยจ๊ะที่คุณมาเที่ยวบ้านซูเนียน”

“บ้านซูเนียนน่าอยู่มากครับ”

รเณศกวาดตามองไปรอบๆ เห็นบ้านไม้ติดพื้นมุงหลังคาด้วยหญ้าอย่างเรียบง่ายแต่มองเลยไปด้านหลังหมู่บ้านนั่นมีป่ไม้ผืนใหญ่ เสียงน้ำตกดังซ่าๆ มาเป็นระยะทำให้คาดเดาไม่ยากว่า ไม่ไกลจากนี่คงมีน้ำตก รเณศรู้สึกหนาวขึ้นมาเล็กน้อยทั้งที่เป็นเวลากลางวัน

หมู่บ้านท้ายเขามีธรรมชาติสวยงามสมคำร่ำลือ

“ไปนั่งทางโน้นดีกว่าคุณ”

รเณศเดินตามแรงจูงของสาวชาวป่าไปจนถึงลานโล่งใกล้กันนั่นมีศาลากลางหมู่บ้าน ที่นั่นตู้หนังสือสองหลังและกระดานเก่าๆ อันหนึ่งตั้งอยู่ตรงกลาง

“นั่งก่อนจ๊ะคุณ”

รเณศเลิกคิ้ว

“ที่นี่เป็นโรงเรียนหรือครับ”

รเณศกวาดตามองไปรอบๆ เห็นบรรดาเจ้าหน้าที่นั่งล้อมวงคุยกันกับผู้นำหมู่บ้านอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

“ไม่ใช่หรอกจ๊ะ จริงๆ เป็นลานกลางบ้าน แต่วันหยุดจะมีตำรวจตระเวนนายแดนเข้ามาสอนหนังสือเด็กในหมู่บ้าน แต่ก็นานๆ ครั้งจ๊ะคุณ”

“ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่เข้ามา พวกเราก็ไม่ได้เรียนอย่างนั้นหรือ”

“ใช่จ๊ะ”

รเณศพ่นลมหายใจแรงๆ เพราะเข้าใจความยากลำบากของเจ้าหน้าที่ กว่าจะเข้ามาถึงพื้นที่ก็ยากลำบากแล้ว ซ้ำภาระงานก็หนักหน่วงไม่น้อย คนที่นี่เองถึงได้มีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก แม้แต่การศึกษาขั้นพื้นฐานก็ไม่มีโอกาสได้เรียน

“แต่ผู้ช่วยเพลิงกับเจ้าหน้าที่แกเข้ามาบ่อยๆ จ๊ะ มาทีไรมีของบริจาคมาให้เต็มแล้ว ถ้าแกว่างบางทีแกก็จะสอนหนังสือให้พวกเด็กๆ ด้วย”

“งั้นหรือ”

“ผู้ช่วยแกใจดี เด็กๆ ชาวบ้านชอบแกมากจ๊ะคุณ”

รเณศเผลอยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าดุดันนั่นอยู่ท่ามกลางเด็กๆ

ดูไม่เข้ากันเอาซะเลย!

แต่นั่นต้องเป็นภาพที่น่ามองมากแน่ๆ

“ลุงซอยางแกบอกว่า พวกเราโชคดีที่เจ้าหน้าที่มาหาบ่อยๆ อีกไม่นานบ้านเราจะมีน้ำประปาและไฟฟ้าใช้กันแล้ว”

ซูเนียนเอ่ยถึง ‘ลุงซอยาง’ ผู้นำหมู่บ้านของที่นี่

“ทางการเขาจะให้เหรอจ๊ะพี่ซูเนียน ก็เราไม่ใช่คนไทย”

เด็กสาวคนหนึ่งท่าทางเฉลียวฉลาดพูดขึ้น

“ลุงซอยางบอกว่าพวกเราคือคนไทย อีกอย่างพวกเราก็มีบัตรประชาชนกันทุกคน”

“แต่พ่อเฒ่าบอกว่าไม่ใช่นี่จ๊ะ”

รเณศมุ่นหัวคิ้ว

“ใช่สิ พวกเราเกิดบนผืนแผ่นดินไทย พวกเราคือคนไทยนะ ถ้าไม่ใช่ ผู้ช่วยเพลิงคงไม่ดั้นด้นขนของสารพัดมาให้พวกเราหรอก”

รเณศเหลือบตามองเด็กชาวบ้านเกือบสิบคนที่นั่งฟังเขาตาแป๋ว

“ผู้ช่วยเพลิงเก่งจ๊ะ”

เด็กคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

“คุณรเณศก็เก่ง เห็นผู้ช่วยบอกว่าคุณเอายามาบริจาคให้พวกเราด้วย”

ซูเนียนยิ้มดีใจ รเณศยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเหลือบตาไปยังปฏิทินที่แขวนอยู่มุมหนึ่งของศาลา

“ที่จริงบ้านเมืองเรามีคนเก่งมากมายนะ ขอให้พวกเราภูมิใจเถอะที่เป็นคนไทย”

“โห มีคนเก่งเยอะเลยเหรอจ๊ะ”

“ใช่ โดยเฉพาะคนๆ หนึ่งที่เกิดมาสูงกว่าใคร แต่กลับไม่ได้อยู่สุขสบาย วันหนึ่งๆ คิดแต่จะทำประโยชน์ให้คนอื่น คิดอยากให้คนอื่นๆ อยู่อย่างสุขสบาย”

“เกิดมาสูงนี่เกิดมาจากบ้านสูงๆ เหรอจ๊ะ”

รเณศยิ้มขำในความไร้เดียงสาของเด็กน้อย

“เปล่าหรอก คนๆ นั้นเกิดมาฐานะสูงส่งไม่ใช่คนธรรมดา แต่ต้องแบกรับภาระหน้าที่อันหนักหนา”

“แล้วเขาทำอะไรบ้างจ๊ะ”

“เขาเดินทางไปทั่ว ไปในที่ยากลำบากทุรกันดาร ไปพัฒนาให้ที่ต่างๆ เจริญ ที่ไหนไม่มีไฟฟ้าไม่นานก็มีใช้ ที่ไหนไม่มีถนนทางผ่านถ้าคนๆ นั้นได้ไปเยือน ไม่นานหลังจากนั้นที่นั่นก็จะมีถนนและความเจริญไปหา”

“โห เก่งจัง”

“ใช่...เป็นคนเก่งที่มีอาวุธแค่แผ่นที่และกล้องถ่ายรูปรักษาความยากจน”

เด็กทำเสียงฮือฮาอย่างสนใจ

“ที่ไหนดินไม่ดี เพาะปลูกไม่ได้ก็ทำให้เพาะปลูกได้ ที่แห่งไหนไม่มีน้ำก็ทำให้มีน้ำไว้ใช้ไม่ขาด ที่ใดแห้งแล้งฝนไม่ตกก็ทำให้ฝนตกได้”

“โห นี่คนหรือเทวดากัน”

“เป็นเทวดาเดินดิน”

รเณศเสียงสั่น

“ว่าแต่เขาเป็นใครเหรอจ๊ะ”

รเณศน้ำตาคลอเหลือบตาไปมองที่ปฏิทินซึ่งแขวนอยู่มุมหนึ่ง เขายกมือประนมให้นิ้วโป้งจรดศีรษะแล้วพูดเบาๆ ว่า

“คนบนฟ้า”


.

.


เพลิงชะงักปลายเท้านิ่งฟังสิ่งที่ใครบางคนถ่ายทอดออกมา ในอกเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ มันทั้งตื่นเต้น ทั้งตื้นตันจนบอกไม่ถูก ตลอดชีวิตของเพลิงพบเจอผู้คนมาก็ไม่น้อย ยิ่งพอได้เจกับอดีตคนรักเขาหวังเพียงว่าขอให้คนๆ นั้นเชื่อมั่นและศรัทธาบางสิ่งที่เหมือนกัน แต่เพลิงก็คาดการณ์ผิดไปหมดเมื่อถึงวันหนึ่งที่ต้องจากลากันเพราะเราต่างไม่ศรัทธาในสิ่งเดียวกันแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่งที่คนเมืองโซซัดโซเซมาไกลเพราะผิดหวังในความรัก เมื่อแรกเจอเขาก็ไม่ได้นึกติดใจอะไร แต่พอได้รู้จักและสนิทสนมมากขึ้นจึงได้เข้าใจตัวตนของอีกฝ่าย

คนที่ทำให้เพลิงใจเต้นแรงอีกครั้ง

คนที่มีแนวคิดและทัศนคติเหมือนกัน

คนที่มีความเชื่อและศรัทธาในสิ่งเดียวกัน

รเณศศรัทธาในสิ่งที่เขาศรัทธามาตลอดชีวิต

รเณศถ่ายทอดความรู้สึกนั้นอย่างน่าภาคภูมิใจ คนเมืองนั่นคือตัวแทนของการส่งต่อเรื่องราวงดงามในชีวิต

เพลิงเหลือบตามองธงไตรรงค์ที่ปลิวไสวอยู่หน้าศาลาไม้แห่งนี้ มองออกไปไม่ไกลนักเขาเห็นแนวป่าผืนใหญ่ด้านหลังหมู่บ้าน ป่าไม้ที่เขาอุทิศตนเพื่อปกปักษ์รักษา เพียงแค่อยากให้มันหลงเหลือไปถึงคนรุ่นหลัง

ผืนป่าจะไม่ใช่แค่ภาพถ่ายเท่านั้น แต่มันจะต้องยืนหยัดไปให้ชั่วลูกหลานได้ปกปักษ์รักษากันต่อไป

☘☘☘☘


ฮืออออ อัพครบ 100% แล้วน้า
หวีดในทวิตรบกวนติดแท็ค #ป่าห่มรัก ให้ด้วยเด้อ ❤❤
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 29-04-2019 21:21:24
คิดถึง "คนบนฟ้า" เหมือนกันค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอย ที่ 29-04-2019 21:25:13
ฮือ มาแล้ว น้องมารักทุกวันจ้ะพี่จ๋า
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-04-2019 21:31:47
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 29-04-2019 21:44:22
 :กอด1:
เนตร น่ารักมากเลย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-04-2019 22:03:33
 :mew2: :mew2: :mew2:  รักคนบนฟ้า
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: prateep ที่ 29-04-2019 22:20:12
ผมชอบตอนนี้จังครับ ถ่ายทอดได้ดีมาก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 29-04-2019 22:31:26
เข้าใจอารมณ์ผู้ช่วยเพลิงเลยค่ะ สิ่งที่มากกว่าการเจอคนที่รู้สึกด้วยก็คือการเจอคนที่รู้สึกดีด้วย และมีทัศนคติ เจตนารมณ์ที่ตรงกัน เข้าใจหัวอกกันและกัน อยากอ่านซีนหวานๆของคู่นี้เยอะๆ ชอบเวลาคนไม่ค่อยพูดแบบเพลิงพูดหยอดรเณศจนไม่ได้พักหัวใจ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณสำหรับผลงานคุณภาพค่ะ
ป.ล.รออ่านซีน outdoor อย่างใจจดใจจ่อค่ะ  :o8: :-[ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: Aimlovelove ที่ 29-04-2019 22:46:26
น้ำตาคลอเลย "คิดถึง คนบนฟ้า" มันทั้งละมุนและซึ่ง :mew6:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 29-04-2019 23:16:01
ในฐานะคนอ่าน เราชอบที่คนเขียนถ่ายทอดความเป็น "คน" ของคนบนฟ้าท่านนั้นได้ออกมาเรียลมาก ไม่ได้ยกย่องในฐานะเจ้าฟ้ามหากษัตริย์แต่ยกย่องในความดีของคน

ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป กาลเวลาหมุนไปแต่ความดีของท่านผู้นั้นยังคงอยู่เสมอ และความดีนั้นได้ส่งต่อให้เกิดคนดี คนมีอุดมการณ์ที่ตั้งใจทำงานเพื่อผู้อื่นนั้นมีอยู่จริง แม้คนเหล่านั้นจะเล็กจ้อย ค่าตอบแทนน้ิยนิด แต่คนเหล่านั้นล่ะที่ทำให้เรายังมีสิ่งดีๆต่างๆให้ชื่นชมอยู่

ตอนนี้คนเขียนเอาใจเราไปเลย!!!
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 30-04-2019 05:23:56
อ่านตอนคนบนฟ้าแล้วน้ำตาซึม คิดถึงพ่อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 30-04-2019 07:28:08
น้ำตาจะไหล  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 30-04-2019 07:41:57
โอยยย ผู้ช่วยออกอาการหยอดหนักมาก
และหวง ห่วง ออกนอกหน้ามากจ้า

แล้วเนตรก็เต้นตามไปเหอะ เค้าหยอก เค้าล้อ
ก็ของขึ้นง่ายเลยนะ เข้าทางเพลิงเลย เอ็นดูเนตร

แหมมม เปลวแท็คทีมส่องผู้ช่วยกับเนตรกันหรอ 5555

อุดมการณ์เดียวกัน ความคิดมั่นคงเหมือนกัน
คิดถึงคนบนฟ้า ที่เป็นเทวดาเดินดิน


หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 30-04-2019 09:25:42
น้ำตาซึมตอนพูดถึงคนบนฟ้า
ใครๆ ก็คิดถึงสิ่งท่านทำเพื่อเราทุกคน

พี่เพลิงเดินหน้าจีบน้องไปเลยจ้า...เจอคนคุยกันรู้เรื่องแล้วเนาะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 30-04-2019 09:34:53
มือกุมอก

แหงนหน้ามองฟ้า

ยิ้มทั้งน้ำตา

คิดถึงคนบนฟ้าเช่นกัน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 30-04-2019 10:11:49
 :pig4: :pig4: :pig4:

ง่า...น้ำตาไหล  คิดถึง "คนบนฟ้า" คิดถึง "เทวดาเดินดิน"
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 30-04-2019 12:34:50
คิดถึงคนบนฟ้าเช่นกันค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 30-04-2019 13:28:33
เอ็นดูเขามากมั้ยอ่ะผู้ช่วยยยยยยยย  :hao3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 30-04-2019 13:42:40
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาไหลเลย คิดถึงคนบนฟ้ามากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 30-04-2019 18:56:42
ทำไมอ่านครึ่งหลังแล้วจะร้องไห้ คิดถึง "คนบนฟ้า" เหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 30-04-2019 20:15:41
คนถึงคนบนฟ้าเช่นเดียวกัน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 30-04-2019 21:12:03
คิดถึง "คนบนฟ้า" เหมือนกันค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 30-04-2019 21:51:48
คนบนฟ้า
สามคำสั้นๆ ทำเอาน้ำตาซึม
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-04-2019 22:38:49
น้ำตาซึม
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 30-04-2019 22:51:03
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: mildmildss ที่ 30-04-2019 23:58:17

 คิดถึงคนบนฟ้าเหมือนกันค่ะ กำลังใจของลูก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: เงาในพระจันทร์ข้างขึ้น ที่ 01-05-2019 08:21:39
คนบนฟ้าตอนนี้คงยังมองทุกคนอยู่แล้วแน่ๆเลย คิดถึงคนบนฟ้าไม่ต่างจากพี่เนตร กับผู้ช่วยเลย คิดถึงคนบนฟ้า คิดถึงเทวดาที่มีอยู่จริง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 01-05-2019 12:11:43
เทวดาบนดิน..ที่มีเพียงแผ่นที่และกล้องถ่ายรูป
คิดถึง ''คนบนฟ้า''
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 01-05-2019 13:07:55
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [12] #ป่าห่มรัก [29.4.62] P.10 [Update -100%]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 01-05-2019 17:31:34
อ่านแล้วมันแน่นในอกจังเลยค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 07-05-2019 22:01:12
[ 13 ]


เวลาบ่ายแก่ๆ นั่นฝนตกลงมาอย่างหนัก สภาพอากาศมืดฟ้ามัวดินจนมองไม่เห็นอะไร บรรดาเจ้าหน้าที่ซึ่งนั่งอยู่บริเวณชานบ้านต่างพากันขยับเข้ามาด้านในมากขึ้น เพราะสายฝนที่ซัดกระหน่ำแรงขึ้นเรื่อยๆ ลุงซอยองผู้นำหมู่บ้านจึงเอ่ยเรียกให้เจ้าหน้าที่เข้าไปข้างใน

“ฝนแรงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ผู้ช่วยกับลูกน้องเข้ามาข้างในก่อนเถอะครับ”

“ไม่เป็นไรลุง พวกผมยืนหลบตรงชายคานี่ดีกว่า ยังไงฝากผู้ช่วยผมคนนี้เข้าไปหลบฝนข้างในคนเดียวพอ”

เพลิงตอบก่อนจะดันไหล่รเณศเข้าไปหลบฝนด้านใน

“ฝนตกมืดฟ้ามัวดินขนาดนี้น่ากลัวทางจะขาดเอานะครับ ยังไงวันนี้พวกผู้ช่วยพักที่นี่กันสักคืนเถอะ”

แกร้องบอกก่อนจะกระวีกระวาดพารเณศเข้าไปนั่งหลบฝน คนเมืองยิ้มแหยให้ผู้นำหมู่บ้านและภรรยาของแกซึ่งยิ้มให้เขาเสียกว้าง ยังไม่ทันที่เพลิงจะเอ่ยตอบ เสียงดังโหวกเหวกโวยวายแหวกเสียงฝนก็ดังมาแต่ไกล นั่นทำให้เพลิงและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ พากันขยับตัว

“ลุงซอยางๆ”

“...”

“ลุงช่วยที ช่วยพวกเราที”

เด็กหนุ่มในหมู่บ้านสองคนในสภาพเปียกม่อล่อกม่อแลกวิ่งฝ่าสายฝนมาหยุดที่ชานบ้าน สีหน้าตื่นตระหนกและเสียงละล้ำละลักนั่นส่งผมให้ผู้นำหมู่บ้านก้าวฉับๆ ออกด้านนอกอย่างว่องไว

“มีอะไรกันรึพวกเอ็ง”

“สะพานขาดจ๊ะลุง”

เพลิงมุ่นหัวคิ้วนึกถึงสะพานข้ามแม่น้ำทางเข้าหมู่บ้านนั่น

“ฝนตกหนักจนสะพานไม้ขาด มีชาวบ้านที่กลับมาจากในเมืองผลัดตกลงไปจ๊ะลุง ตอนนี้มีคนส่วนหนึ่งช่วยพาขึ้นมาอยู่ แต่สู้แรงน้ำไม่ไหวเลยให้พวกนั้นเกาะขอนไม้ลอยตัวไปก่อน พวกผมเลยรีบมาขอกำลังคนจากลุงไปช่วยกันหน่อย”

ลุงซอยางทำหน้าตกใจก่อนที่แกจะก้าวยาวๆ  ไปคว้าหน้าไม้และเชือกเส้นใหญ่ที่แขวนอยู่ตรงผนังก่อนจะวิ่งมาหยุดตรงหน้าเพลิง

“ขอแรงหน่อยเถอะผู้ช่วย ฝนตกขนาดนี้ผมกลัวน้ำป่ามาซะก่อนจะช่วยคนตกน้ำได้”

“ไปพวกเรา”

ไม่ทันที่เพลิงจะหันไปเรียกเจ้าหน้าที่ คนเหล่านั้นต่างพากันยืนขึ้นอย่างว่องไว ทุกคนคว้าอุปกรณ์ป้องกันตัวที่นำติดตัวมาก่อนจะวิ่งตามหลังเพลิงไป

“ผมไปด้วย”

เพลิงชะงักปลายเท้าตอนที่รเณศถลันมาหยุดเบื้องหน้า

“ไม่”

น้ำเสียงนั่นเด็ดขาดและแข็งกร้าวจนคนเมืองแอบย่นจมูก

“แต่ว่า...”

“รออยู่ที่นี่”

รเณศเม้มปากแน่น

“ก่อนเข้าป่าคุณบอกจะเชื่อฟังผมทุกอย่าง เวลานี้คุณควรเชื่อฟังในสิ่งที่ผมพูด”

“แต่ผม...”

“อย่าทำให้ผมมีห่วง”

“...”

“รอที่นี่”

แววตาดุดันนั่นจ้องใบหน้าเขาราวกับจะคาดคั้นให้รเณศยอมตกลง สุดท้ายเภสัชกรหนุ่มจึงพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ เพลิงเห็นอีกฝ่ายยอมจำนนจึงเบาใจก่อนจะเตรียมผละออกไป

“เดี๋ยว”

รเณศเอ่ยเรียก

“มีอะไร”

“คุณต้องปลอดภัยนะ”

คนเมืองเม้มปากแน่นเพราะในใจอดกังวล เนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักแบบนี้มันย่อมทำให้การเดินทางในป่าเต็มเพิ่มอันตรายไปอีกหลายเท่าตัว ถึงแม้เพลิงและเจ้าหน้าที่คนอื่นจะชำนาญการเดินป่าแต่สภาพที่ไม่เอื้ออำนวยแบบนี้มันก็น่ากังวลใจไม่น้อย

“ห่วงผม?”

ฝ่ายนั้นหรี่ตามองเขาแล้วยิ้ม

“กะ ก็ห่วงเจ้าหน้าที่ทุกคนนั่นแหละ”

“ห่วงพูดแบบนี้”

รเณศถอนหายใจก่อนจะพูดว่า

“ถ้าผมบอกว่าห่วง คุณจะกลับมาอย่างปลอดภัยมั้ย”

ร่างสูงโปร่งจ้องใบหน้าคมคายนิ่ง

“อืม”

“ผมห่วง”

รเณศพูดเสียงแผ่ว

“ผมจะกลับมาอย่างปลอดภัย”

เพลิงพูดเบาๆ

“ผมสัญญา”

รเณศมองตามแผ่นหลังกว้างในชุดลายพรางที่วิ่งฝ่าสายฝนเม็ดใหญ่ไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เขามองจนกระทั่งแผ่นหลังนั้นหายลับไป เสียงฝนที่ตกกระทบหลังคาดังสนั่น ลมกระโชกแรงจนต้นไม้ไหวเอนไปตามแรงลม

เพลิงเป็นคนรักษาสัญญา

รเณศภาวนาให้เขารักษาสัญญาเขาได้ดังเดิม

“เข้าไปนั่งรอข้างในเถอะคุณ”

ภรรยาผู้นำหมู่บ้านเดินมาฉุดแขนเข้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ถึงนัยน์ตาจะเป็นกังวลไม่น้อยแต่เธอยังอุตส่าห์ตบหลังมือเขาเบาๆ คล้ายจะปลอบประโลมให้คลายกังวล

รเณศเข้าใจแล้ว...เขาเข้าใจแล้วว่าความรู้สึกของ ‘แนวหลัง’ ที่ต้องรอคอยมันเป็นยังไง


.


.


ชั่วโมงกว่าๆ หลังจากนั้นฝนที่ลงเม็ดมาอย่างรุนแรงก็เริ่มเบาบางลงเหลือเพียงแต่เม็ดฝนปรอยๆ เวลาใกล้ค่ำนั้น ‘ป้าจำเนียร’ ภรรยาของลุงซอยางแกชักชวนให้เขาไปเป็นลูกมือทำอาหารรอท่าเจ้าหน้าที่ ป้าแกเล่าให้ฟังว่าตอนสาวๆ แกพบรักกับลุงซอยางตอนเรียนในตัวเมือง เพราะป้าจำเนียรพื้นเพเป็นในตัวอำเภอบ้านขายข้าวแกง ส่วนลุงซอยางนั้นทางครอบครัวส่งไปเรียนหนังสือที่นั่นเลยได้เจอกัน

มิน่าเล่า ลุงซอยางถึงดูมีท่าทางเข้าใจอะไรได้อย่างง่ายดาย ซ้ำมีมุมมองกว้างขวางสมกับที่ได้เล่าเรียนมา ป้าแกเล่าไปคนแกงในหม้อไปอย่างใจเย็น นั่นจึงทำให้รเณศรู้ไปอีกว่าแกมีลูกชายสองคนซึ่งส่งไปเรียนในเมืองโดยอาศัยอยู่กับญาติที่นั่น

“การศึกษามันสำคัญนะคุณ”

รเณศซึ่งนั่งเด็ดผักอยู่พยักหน้าเห็นด้วย

“ฉันกับผัวน่ะไม่มีสมบัติอะไรให้พวกมันหรอก ดีหน่อยที่พอส่งเสียให้พวกมันได้เล่าเรียน อย่างน้อยๆ ความรู้ที่มันได้มาจะไม่ทำให้มันอดตาย และหากคิดไกลกว่านั้นพี่ซอยางอยากให้ลูกๆ กลับมาพัฒนาที่นี่”

ป้าแกยิ้มน้อยๆ

“แกบอกว่าเห็นคนหนุ่มอย่างผู้ช่วยทำงานแล้วแกนึกชอบใจไม่น้อย เพราะอยากให้ลูกได้สักครึ่งหนึ่งของผู้ช่วยก็ยังดี คนหนุ่มมีอนาคตไกลแต่กลับเลือกทำหน้าที่ปกป้องป่าไม้ซึ่งน้อยคนนักที่จะเห็นความสำคัญ”

“...”

“เมื่อก่อนนี้ท้ายหมู่บ้านนี่มีแต่ป่าแหว่งๆ ทั้งนั้น ไม่อุดมสมบูรณ์เท่าไหร่หรอก แต่ผู้ช่วยแกก็มาพาพวกเราปลูกต้นไม้ ไปๆ มาๆ เขียวครึ้มกันไปทั่ว แกสอนว่านอกจากป่าจะเป็นแหล่งอาหารและให้ชีวิตแล้ว พวกเราควรจะดูแลรักษา เพื่อที่ป่าจะได้อุดมสมบูรณ์ให้ผลผลิตไว้เก็บกินและให้เราได้พึ่งพาไปอีกนาน”

รเณศยิ้มน้อยๆ เมื่อได้ยินเรื่องราวเหล่านั้น มันรู้สึกฟูๆ ในอกอย่างบอกไม่ถูก ผู้ชายตัวโตซึ่งเดินแบกเป้ใบใหญ่ไปทั่ว รองเท้าเต็มไปด้วยโคลนตม เสื้อผ้าเองก็เลอะเปื้อนไปทุกหย่อม สภาพเหล่านั้นไม่น่ามอง ยิ่งใบหน้ามีแต่สีพรางหน้ากระดำกระด่างดูสกปรก แต่แววตาคู่นั้นกลับมีประกายเจิดจ้าทุกครั้งที่ได้มองผืนป่า

แววตาที่เปรียบเสมือนเปลวเทียนแห่งศรัทธา

ศรัทธาที่จะไม่มอดไหม้ไปตามกระแสของสังคม

ศรัทธาในการอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่า

ศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยมที่มีในตัวของ...เพลิง

เพลิงคือผู้ช่วยคนดีที่ใครต่อใครต่างกล่าวขวัญ

ผู้ช่วย...ที่ทำให้หัวใจของรเณศกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง

ในอดีตรเณศใจสั่นเมื่อสบตากับเตวิชในตอนนั้นแล้วเผลอใจไปในที่สุดเพราะเข้าใจว่านั่นคือความรัก แต่ในตอนนี้รเณศหัวใจเต้นแรงทุกขณะยามที่นึกถึงเพลิง มันเป็นอาการประหลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ความรู้สึกประหลาดนั้น...คืออาการตกหลุมรัก

รเณศตกหลุมนั้นเข้าให้แล้ว เขาหลงรักความดีของคนตัวโตนั่น

ความดีที่จะทำให้ความรักนั้นมั่นคง เพราะความดีคือสิ่งที่จะไม่เสื่อมคลายแม้กาลเวลาจะแปรผันไปก็ตาม

☘☘☘☘



“เดี๋ยวผมลงไปกับพี่เพลิงเอง”

เปลวยกมืออาสาหลังจากที่ช่วยกันนำเอาชาวบ้านสองสามคนขึ้นมาบนฝั่งได้แล้ว แต่ยังเหลือตาหลานคู่หนึ่งซึ่งเกาะอยู่บนต้นไม้ต้นหนึ่งกลางน้ำด้วยสภาพอิดโรย ซ้ำตอนนี้ปริมาณน้ำยังท่วมสูงขึ้นจนใกล้จะถึงกิ่งซึ่งสองตาหลานนั่งกอดกันอยู่

เพลิงเหลือบตามองเศษซากไม้ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นสะพานลอยเหนือน้ำไปติดอยู่ที่กอผักตบริมตลิ่งบ่งบอกว่าสภาพนั้นเสียหายไม่น้อย ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักรับคำเจ้าเปลวก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบเชือกเส้นยาวมามัดรอบเอวโดยทิ้งปลายเชือกไว้ให้เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งซึ่งอยู่บนฝั่งเพื่อทำการปฐมพยาบาลคนจมน้ำคอยช่วยจับเชือก ร่างสูงใหญ่ค่อยก้าวลงไปในสายน้ำอันเชี่ยวกรากอย่างระมัดระวัง

“ระวังตัวด้วยเปลว”

ชายหนุ่มหันไปบอกเด็กหนุ่มซึ่งว่ายน้ำเคียงข้างกันมา

“ครับพี่เพลิง”

ทั้งคู่ค่อยๆ ว่ายไปจนถึงต้นไม้ที่ว่านั่น เพลิงเหลือบตามองเด็กน้อยในอ้อมกอดของผู้เป็นตา เด็กนั่นร้องไห้สะอึกสะอื้นท่าทางตกใจไม่น้อย

“รอดแล้ว”

แกละล้ำละลักบอกตอนที่เพลิงเหนี่ยวตัวขึ้นไปจนถึงกิ่งที่ทั้งสองนั่งเกาะอยู่

“พวกเรารอดแล้วลูกเอ๊ย”

คนมีอายุลูบศีรษะเด็กน้อยท่าทางดีใจเสียเต็มประดา ดวงตาพร่ามัวนั่นมีหยาดน้ำตาคลอขึ้นมาเล็กน้อย

“ฮือตาจ๋า”

“ไม่เป็นไรแล้วนะหนู”

เปลวลูบศีรษะเด็กน้อย

“ฮือ หนูกลัว”

“ไม่ต้องกลัว”

เพลิงลูบหลังอีกฝ่าย

 “พี่กับเจ้าหน้าที่คนอื่นมาช่วยแล้ว”

“ขอบคุณครับ ขอบคุณมาก”

ผู้สูงวัยยกมือไหว้พวกเขาปลกๆ เพลิงพยักหน้ารับก่อนจะหันไปทางเปลว

“เราต้องพาไปทีละคน น้ำเชี่ยวแบบนี้พาไปพร้อมกันไม่ไหวหรอก”

เพลิงมุ่นหัวคิ้วนึกกังวลใจเพราะสายน้ำเปลี่ยนเป็นสีโคลนสันนิฐานได้ว่าน้ำป่ากำลังไหลบ่ามาทางนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

“หนูจะอยู่กับตา”

เด็กน้อยร้องไห้โฮเมื่อรู้ว่าจะถูกแยก ท่าทางนั้นทำให้ทุกคนนึกกังวล

“ไม่ต้องกลัวนะ พี่สัญญาว่าเราจะปลอดภัย”

เด็กน้อยชะงักไปเมื่อสบตากับเพลิงตรงๆ

“ยังไงตาไปกับเจ้าเปลวก่อนนะ”

“...”

“เด็กสภาพยังไม่พร้อม ผมกลัวเขาดิ้นจนหลุดจากเชือก”

เพลิงบุ้ยปากไปยังเชือกอีกเส้นที่มัดตัวเด็กให้ติดเพลิง ไม่ต่างจากเปลวที่ผูกเชือกติดกับผู้สูงวัย ชายหนุ่มสบตากับเปลวหน้าเครียดก่อนจะบุ้ยปากไปยังผืนน้ำที่มีสีคล้ำขึ้นเรื่อยๆ

“รีบไปเถอะ”

ท่าทางคนในชุดลายพรางซึ่งอยู่กลางน้ำนั่นทำให้คนบนฝั่งต่างทำหน้าเครียดไม่ต่างกัน เกิ้งนำปลายเชือกของเพลิงและเปลวไปมัดติดกับต้นไม้ใหญ่ริมฝั่งซึ่งมีความแข็งแรงพอที่รั้งให้ทั้งคู่ไม่พลัดจมไปในน้ำในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน เขาถอนหายใจอย่างแรงตอนที่สบตากับพลและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ

“ภาวนาอย่าให้น้ำป่ามาเลย”

เขาพูดเสียงเครียด

“แม่งเอ้ยน้ำเปลี่ยนสีแล้วพี่”

พลสบถออกมาอย่างสบอารมณ์ตอนที่เปลวพาชายชรามาถึงกลางทางแล้ว ส่วนเพลิงกำลังประคองร่างน้อยๆ นั่นว่ายตามมาไม่ห่าง

“ไอ้เปลวเร็วหน่อย”

เกิ้งป้องปากตระโกนเรียก

“ผู้ช่วยเร็วหน่อยครับ”

เจ้าหน้าที่ทุกนายวิ่งไปรอกันที่ริมฝั่งด้านหนึ่งหลังจากปฐมพยาบาลคนจมน้ำจนดีขึ้นแล้วมีผู้นำหมู่บ้านคอยดูแลอยู่อีกที

“ช่วยกันดึงเชือกผู้ช่วยกลับมาเร็ว”

เปลวหอบหายใจแรงๆ ตอนที่พาชายชราว่ายขึ้นฝั่งได้แล้วทรุดตัวนั่งอย่างหมดแรง ลุงซอยางรีบมาพาลุงแกไปปฐมพยาบาล ระหว่างเปลวเองก็รีบผุดลุกขึ้นไปช่วยเจ้าหน้าที่คนอื่นดึงเชือกเพราะตอนนี้เพลิงว่ายมาได้กลางทางแล้ว

“ดึงหน่อย”

“เอาหน่อยเว้ย”

“ช่วยกัน”

ทุกคนช่วยกันดึงหน้าดำหน้าแดง เพราะสายน้ำนั้นเกิดเชี่ยวกรากขึ้นมาราวกับมีมวลน้ำขนาดใหญ่หนุนหนำ

“ฉิบหาย”

ใครคนหนึ่งร้องลั่นก่อนจะตะโกนโหวกเหวก

“น้ำป่า”

ทุกคนหันขวับไปยังทิศทางทางซึ่งมีมวลน้ำขนาดใหญ่กำลังไหลบ่ามามาทางนี้

“วิ่ง”

ลุงซอยางตะโกนบอกทุกคน

“วิ่งขึ้นที่สูงเร็ว วิ่งขึ้นไป”

แกตะโกนบอกคนอื่นๆ ก่อนจะช่วยพยุงชาวบ้านซึ่งอ่อนเพลียจากการจมน้ำขยับหนี มวลน้ำนั่นไหลมาอย่างรวดเร็วเมื่อเจอกับสิ่งกีดขวางก็ซัดทุกอย่างกระเซ็นส่านไปทั่ว เปลวมองภาพนั้นอย่างตกใจเมื่อปริมาณน้ำมหาศาลนั่นพัดให้คนที่อยู่กลางแม่น้ำจมหายไปกับตา

“พี่เพลิง”

เด็กหนุ่มร้องลั่นก่อนจะถลาไปเบื้องหน้าหมายจะกระโจนลงน้ำไปช่วย แต่ถูกเจ้าหน้าที่คนอื่นดึงรั้งเอาไว้

“ปล่อยผม ผมจะไปช่วยพี่เพลิง”

เปลวเสียงสั่น มันร้องไห้ขวัญเสียไม่น้อย ไม่ต่างจากคนอื่นๆ ซึ่งหน้าเสียไม่ต่างจากมัน


.


.


“โอ๊ย”

รเณศร้องขึ้นตอนที่ถูกปลายมีดแหลมคมเถือเนื้อเข้าให้ เขาสะบัดมือเร่าๆ เมื่อรู้สึกส่วนที่โดนบาดนั่นเลือดพุ่งออกมาทันที

“ตายแล้วคุณ”

ป้าจำเนียรร้องตามแกรีบก้าวฉับๆ เข้ามาหาอย่างว่องไว

“มีดบาดหรือคะ”

“ครับ”

รเณศทำหน้าเหยเก

“ไปล้างน้ำสะอาดก่อนค่ะคุณ มีดนี่มันคมจริงๆ คุณต้องระวังนะคะ”

แกฉุดมือเขาไปที่โอ่งหลังบ้านก่อนจะสาละวนตักน้ำมาล้างทำความสะอาดแผลให้ ระหว่างนั้นซูเนียนและเนียงรอซึ่งลงไปเก็บผักก็เดินสวนขึ้นมาพอดี

“เกิดอะไรขึ้นจ๊ะป้าเนียร”

ซูเนียนทำหน้าตื่นตอนที่เห็นเขาสูดปากเทื่อโดนแกเค้นเลือดออกแล้วกดแผลเอาไว้

“มีดบาดน่ะ”

“ตายแล้ว”

สองคนซึ่งอาสามาช่วยเป็นลูกมือทำกับข้าวเย็นนี้พากันตบอกตกใจ

“เจ็บนิดหน่อยครับ ผมไม่เป็นไร”

รเณศโบกมือไหวๆ หลังจากล้างแผลแล้วเขาก็ขอตัวไปทำแผลปิดพลาสเตอร์เสร็จแล้วเขาก็ออกมาช่วยคนอื่นหยิบจับอะไรเล็กๆ น้อยๆ เนื่องจากป้าแกไม่ยินยอมให้เขาจับมีดอีกแล้ว คนเมืองช่วยเจ้าบ้านทำกับข้าวจนเสร็จก็เป็นเวลาโพล้เพล้ ระหว่างนั้นเสียงเด็กในหมู่บ้านร้องขึ้นเกรียวกราวก่อนที่กลุ่มคนซึ่งหายไปหลายชั่วโมงทยอยเดินกลับมา

“กลับมากันแล้ว”

เนียงรอยิ้มระรื่นก่อนจะทำชะเง้อชะแง้สอดส่ายสายตา รเณศเองก็ผลุนผลันขยับตัวลุกขึ้น ในอกเขาสั่นระรัวเต็มไปด้วยความคาดหวังและตื่นเต้น กลุ่มแรกเป็นชาวบ้านจำนวนหนึ่งสภาพดูอิดโรยมีผู้นำหมู่บ้านเดินตามกันมา ก่อนจะมีคนในชุดลายพรางเดินรั้งท้าย รเณศกวาดสายตามองไปทั่วก่อนจะวิ่งลงจากเรือนไม้มาอย่างเร็วรี่

แต่มองยังไงเขาก็ไม่เห็น...เพลิง

คนเมืองยืนนิ่งพยายามชะเง้อชะแง้มองไปด้านหลังแต่ก็ยังไร้วี่แววของคนที่กำลังมองหา

“เปลว”

รเณศถลันไปเบื้องหน้าเด็กหนุ่มที่มีสีหน้าซีดเผือด ดวงตามีสีแดงก่ำเพราะอารมณ์บางอย่าง

“ผู้ช่วยล่ะ”

เปลวมองหน้าเขานิ่งก่อนจะพูดเสียงสั่น

“พี่เพลิงจมน้ำครับ”

รเณศยืนอึ้ง

ในสมองเต็มไปด้วยความรู้สึกสับสน ทุกอย่างอื้ออึง คล้ายกับตาบอดหูหนวก เขาไม่รับรู้เสียงที่ดังขึ้นรอบกาย คนเมืองรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังจะหมดแรง ร่างสูงโปร่งไร้เรี่ยวแรงจวนเจียนจะล้มแต่ว่ามีมือคู่หนึ่งฉุดรั้งเอาไว้

“ระวังล้ม”

เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูนั่นทำให้เขาหันขวับ

ภาพใบหน้าคมคายในสภาพอิดโรย ซ้ำเนื้อตัวยังเปียกปอนเลอะเทอะ สภาพที่ว่านั่นย่ำแย่มากสำหรับคนมอง แต่แววตาคู่นั้นกลับทอดมองกันนิ่ง

“คุณ”

รเนศผวากอดอีกฝ่ายเสียแน่นจนร่างสูงเซถอยหลังก่อนที่จะปล่อยน้ำตาเม็ดโตออกมาอย่างหมดอาย

“ชูว์”

“...”

“รเณศ”

“คุณปลอดภัยใช่มั้ย” รเณศเขย่าตัวอีกฝ่ายแรงๆ “ตอบผมสิว่าคุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”

“ผมสัญญา”

เสียงทุ้มกระซิบข้างหู

“สัญญาแล้วไง”

“...”

“ว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย”



☘☘☘☘



มาช้า มาน้อย แต่มานะ(สัปดาห์หน้าอัพวันจันทร์เช่นเดิมนะจ๊ะ)
ฝากพี่เพลิงกอดน้องแรงๆ ด้วยคนข้างหลังขวัญเสียแย้ววว
หวีดในทวิตรบกวนติดแท็ค #ป่าห่มรัก ให้ด้วยเด้อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 07-05-2019 22:31:11
 พี่เพลิงงงงง

:pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 07-05-2019 22:44:37
 :pig4: :pig4: :pig4:

ผู้ช่วยแอบมาทางไหน?  ทำไมคนอื่น ๆ ถึงไม่รู้ไม่เห็น?
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 07-05-2019 23:08:08
โอย...ขวัญเอ๊ยขวัญมา
คนข้างหลังเขารอ เขาก็ห่วงอ่ะเนาะ ฮือ~~~

พี่เพลิงจะปลอบคุณเขายังไงน้อ~~~ อิอิ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 07-05-2019 23:26:15
ใจหายแว่บเลยค่ะ ชีวิตที่ต้องนอนดกอดก้อนหินมากกว่านอนกอดเมียนี่ต้องการคนที่เข้าใจมากๆเลยนะ รัดพี่เขามากๆนะน้องเนตร แค่รักและเข้าใจก็พอแล้ว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอย ที่ 07-05-2019 23:47:20
บรรยากาศในเรื่องอบอุ่นมากเลย รอวันที่เขาบอกว่ารักกันทั้งคู่จนคบกันไม่ไหวแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Aimlovelove ที่ 08-05-2019 00:20:33
เกือยร้องไห้ตามเนตรแล้วว :mew4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 08-05-2019 00:54:47
คุณผู้ช่วยทำรเณศเป็นห่วงทุกตอนเลย หวังว่าเพลิงจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับรเณศได้ตลอด ไม่อยากให้เพลิงเป็นอะไรไป เพราะการใช้ชีวิตที่อาจจะต้องเจอกับอันตรายและไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้าแบบเพลิงทำอยู่ก็ใช้ชีวิตที่เสียสละและทุ่มเทมากพอแล้ว รเณรู้และยอมรับใจตัวเองแล้ว ส่วนเพลิงไม่ต้องถามคำพูดและการกระทำชัดเจนเลย อยากอ่านต่อยาวๆ รออ่านตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณสำหรับผลงานค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 08-05-2019 01:10:13
โห ร้องให้แทนรเณศแล้วเรา
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 08-05-2019 01:21:13
พี่เพลิงทำเราใจหายใจคว่ำกันเรื่อยเลยนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-05-2019 01:57:29
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: เงาในพระจันทร์ข้างขึ้น ที่ 08-05-2019 02:50:56
คุณพี่เพลิง ทูนหัวของบ่าว อุแง ตอนน้ำป่ามานี่ใจหายแว้บ พี่เนตรร้องไห้เลย ผู้ช่วยต้องปลอบแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 08-05-2019 07:21:35
ใจหายแว้ป ตอนเปลวบอกน้องเนตรว่าผู้ช่วยจมน้ำ   :mew6:

ดีใจที่ทุกคนปลอดภัยนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: FrozenSnow2019 ที่ 08-05-2019 09:59:32
โอ๊ยยยย เล่นเอาใจเสียเลย ดีแล้วที่เพลิงปลอดภัย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 08-05-2019 10:16:43
 :monkeysad: ลุ้นแทบแย่ คนเมืองเขาบอบบางต้องคอยถนอมนะจ๊ะพี่เพลิง ทำเอาใจหายแว๊บเลย  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 08-05-2019 10:26:20
เปลวไปแกล้งคุณรเณศ ได้ไง เดี๋ยวเขาก็ไม่เลี้ยงลูกให้หรอก อิอิอิ
และแล้ว สิ่งที่เปลวสงสัยก็ได้เห็นชัดๆ แล้วทีนี้
 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 08-05-2019 12:01:19
ระวังตัวหน่อยน้าผู้ช่วยยย
ใจคนข้างหลังเขาไม่ชิน  :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 08-05-2019 12:17:21
รอเค้าคบกันไม่ได้ไหวแล้วเด้อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fun_la_ong ที่ 08-05-2019 16:20:24
พี่เพลิงคะ! จะทำเราใจหายทุกตอนไม่ได้นะ ///ร้องไห้แล้ววว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 08-05-2019 18:15:41
พี่เพลิงงงงงงงงม
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 08-05-2019 19:00:55
พี่เพลิงจริงๆใช่ใหม


พี่เพลิงปลอดภัยใช่ใหม
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 08-05-2019 22:25:27
ใจหายใจคว่ำ พระเอกของเราต้องมีกี่ชีวิตถึงจะพอเสี่ยงภัยที่มาทุกรูปแบบ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 09-05-2019 01:42:07
ผู้ช่วยทำเราตกใจไม่พอ ทำเนตรตกใจมากด้วย
เกือบไปแล้วไหมล่ะ เนตรถึงกับเข่าอ่อนเลยนะ

ชอบความเพลิงที่ห่วงเนตรมาก เลยไม่ให้ตามไปด้วย
แต่เรื่องเนตรห่วงเหมือนกัน เพลิงต้องทำเข้มใส่ถึงบอกได้ 
เอ็นดูเนตร ตอนนี้ความรู้สึกชัดเจนมากเกินจะบรรยายแล้วมั้ง

สัญญาไว้แล้วไง เพลิงไม่ทำผิดสัญญาด้วย

หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 09-05-2019 13:10:09
ใจหายหมดเลยคุณเพลิงง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 09-05-2019 21:49:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Tommytime ที่ 11-05-2019 23:59:15
 :m25:
รออ่านแทบไม่ไหวแล้วค่ะ คือแบบว่าอ่านแล้วมันละมุนมากเข้าถึงชีวิตจริงมากเลยค่ะ อ่านแล้วประทับใจมาก ถ้าเรื่องนี้แต่งจบอยากให้ทำเป็นหนังมากเลยค่ะอ่านแล้วยิ้มตลอดเลย เรื่องที่ไรท์แต่งทุกเรื่องละมุมมากเลยค่ะอ่านแล้วหัวใจเบิกบาน5555
#จะรอตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 12-05-2019 14:35:55
พี่เพลิงใจหายโหม๊ดดด
โอ๋ๆน้อง ขวัญเอ๋ยขวัญมา
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 12-05-2019 21:04:00
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [13] #ป่าห่มรัก [7.5.62] P.11 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 12-05-2019 22:49:10
ใจหายหมด :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 13-05-2019 20:59:07
[ 14 ]


รเณศทำหน้าไม่ถูกหลังจากที่ผละออกจากอ้อมกอดของเพลิงแล้วเห็นสายตาของเจ้าหน้าที่ในชุดลายพรางคนอื่นๆ พร้อมใจกันยิ้มก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น คนเมืองหน้าแดงวาบเพราะรู้ตัวว่าเผลอแสดงกิริยาประหลาดแบบนั้นกับเพลิงท่ามกลางสายตาของหลายๆ คู่

“ผมไปช่วยป้าจำเนียรก่อนนะ”

รเณศเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะเดินตุปัดตุเป๋ผละออกมาแทบจะทันที เพราะนอกจากสายตาคนอื่นแล้วแววตาเป็นประกายของเพลิงนั่นก็ทำให้เขาทำตัวไม่ถูกเช่นกัน ท่าทางเก้อกระดากของคนเมืองส่งผลให้ร่างสูงใหญ่มองจนลับตา

พลสีไหล่เกิ้งยิกๆ ก่อนที่หันไปสบตากับเปลวที่ลอบยิ้มอยู่

“ไม่ตามเหรอครับ”

เกิ้งพูดขึ้นลอยๆ นั่นทำให้เพลิงถอนสายตาจากใครบางคนหันมามองลูกน้องตัวเองที่ยืนยิ้มราวกับคนเสียสติอยู่ตรงหน้า

“ตามใคร”

“โธ่ผู้ช่วย”

พลร้องโอดโอยจนเพลิงขยับรอยยิ้มทันทีหลังจากแกล้งทำหน้าตายถามกลับไปเมื่อกี้ นั่นทำเอาบรรยายกาศรอบตัวสบายขึ้น เพราะก่อนหน้านี้เจอกับสถานการณ์ที่กดดันและตึงเครียด เนื่องจากเพลิงเกือบจมน้ำแต่เป็นโชคดีว่าเชือกที่เพลิงมัดติดกับตัวนั้นไม่ขาดไปตามกระแสน้ำจึงทำให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันดึงเขาและเด็กน้อยขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย ถึงแม้จะทุลักทุเลพอสมควรเพราะมวลน้ำมหาศาลนั่นพัดเพลิงไปติดกับต้นไม้ที่ถูกท่วมจนเกือบมิดไม่อย่างนั้นเขาคงหลุดลอยไปไกล

เพลิงรู้ดีว่าสถานการณ์ก่อนหน้าที่ทำเอาเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เสียกำลังใจมากแค่ไหน ถึงแม้จะช่วยเขาขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยแต่บรรยากาศระหว่างกันกลับตึงเครียดพอสมควร แม้เพลิงจะบอกว่าเขาไม่เป็นอะไรมากเพียงแค่เคล็ดขัดยอกไปทั่วตัวเพราะถูกเศษไม้พัดมากระแทกจนเกิดรอยช้ำ

“ไปอาบน้ำพักผ่อนกันเถอะ”

เพลิงพูดขึ้น

“เสร็จแล้วมากินข้าวกัน”

“ครับ”

“วันนี้ขอบคุณทุกคนมากนะ ทำได้ดีมาก”

การชื่นชมและให้กำลังใจลูกน้องถือเป็นเรื่องที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพราะน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ นี่จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีกำลังใจในการทำงาน นอกจากนี้คำพูดนั้นยังทำให้เจ้าหน้าที่พากันขยับรอยยิ้มท่าทางโล่งใจไม่น้อย

“ผมใจหายมากเลยนะพี่”

เปลวพูดเสียงแผ่ว มันหลุบตามองพื้นดูหงอยลงไปถนัดตา

“ภาพที่พี่จมลงไปยังติดตาผมอยู่เลย”

เพลิงขยับไปตบบ่าอีกฝ่ายเบาๆ

“พี่ไม่เป็นไรแล้ว”

เพลิงขยี้ศีรษะเด็กหนุ่มเมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นตาแดงๆ เหมือนกำลังสะกดกลั้นอารมณ์ตัวเองอยู่

“เรื่องปกติน่ะเปลว” เพลิงยิ้มให้อีกฝ่าย

“การทำงานมันมีความเสี่ยงแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดา”

“ผมรู้พี่”

เปลวถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ทำใจให้เข้มแข็งไว้”

เพลิงมองสบตากับเจ้าหน้าที่แต่ละคน แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเอื้ออาทร

“ชีวิตในป่ามันไม่แน่ไม่นอนหรอก ในเมื่อเลือกที่จะก้าวเข้ามาในจุดนี้ต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น อย่าเสียกำลังใจไปเลย ผมรู้ว่าทุกคนทำดีแล้ว เรื่องที่ผ่านมาคือสิ่งที่กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ จงภูมิใจที่ทำ จงเข้าใจและยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดเวลา”

เพลิงรู้ว่าเจ้าหน้าที่แต่ละคนกำลังเสียขวัญ

“ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอแล้ว”

เปลวสอบตากับเพลิงนิ่ง

“ครับ ผมสัญญา”

แวบหนึ่งมันมองเห็นความเอ็นดูที่เพลิงมีให้ อาจเพราะเปลวเป็นน้องเล็กที่สุดในกลุ่ม แม้จะผ่านเรื่องราวชีวิตมาพาสมควร แต่ประสบการณ์การทำงานแบบนี้ยังน้อยนัก คราแรกเพลิงเองก็อดวิตกกังวลไม่ได้ แต่เห็นเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ให้ความเอ็นดูและคอยช่วยเหลือกันเขาก็เบาใจ

เพลิงยังจำได้ว่าตอนที่เจอเด็กนี่ครั้งแรกเพราะฝ่ายนั้นกระทำความผิดจนถูกจับ ใครจะไปคิดว่าเด็กที่ดูไม่เอาไหนวันนั้นจะเติบโตทั้งความคิดและการกระทำได้ขนาดนี้ ผู้ช่วยหนุ่มยิ้มน้อยๆ ตอนที่พลและเกิ้งต่างกระโดดมารั้งคอเปลวราวกับจะปลอบขวัญจนเจ้าตัวยืนเซ

“ขอบคุณที่ไม่ทิ้งผมนะ”

เพลิงมองหน้าเจ้าหน้าที่แต่ละคนแล้วพูดขึ้น

“ผู้ช่วยไม่เคยทิ้งพวกผม ทำไมเราถึงจะทิ้งผู้ช่วยล่ะครับ จริงมั้ยพวกเรา”

เกิ้งหันไปพยักพเยิดกับคนอื่นๆ เงินเดือนไม่พอใช้ผู้ช่วยก็ช่วยเหลือ ใครเดือดร้อนทุกข์ใจมาเพลิงก็ยื่นมือเข้ามาช่วยทุกครั้ง ผู้ช่วยไม่เคยเอาเปรียบลูกน้องตรงกันข้ามผู้ชายคนนี้มีน้ำใจให้พวกเขาอยู่เสมอ

“เรามันทีมเดียวกันนี่ครับ รวมกันเราอยู่ ขืนแยกกันคงซี้แหงแก๋ เฮ้อ ยิ่งเดือนนี้เงินตกเบิกอยู่ด้วย”

พลพูดสำทับแต่ท้ายประโยคนั่นทำเอาที่เหลือพากันฮาครืน


.


.


รเณศโผล่ไปช่วยป้าจำเนียรได้ไม่นานฝ่ายนั้นก็ไล่ให้เขาไปอาบน้ำพักผ่อน หลังจากที่ป้าแกช่วยหาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน คนเมืองหอบเสื้อผ้าเดินลัดเลาะไปทางท้ายหมู่บ้านที่ป้าแกบอกว่าเป็นธารน้ำกว้างและมีน้ำตาซึ่งเป็นสถานที่อาบน้ำ หมู่บ้านท้ายเขาแบบนี้ไม่มีห้องน้ำในบ้านกันหรอกต้องอาศัยอาบกันที่ริมธารเท่านั้น บ้านผู้ใหญ่ดีหน่อยมีพื้นที่กั้นเป็นส่วนตัวแต่รเณศดันเกิดอยากไปสำรวจน้ำตกท้ายหมู่บ้านนั่นเพื่อยลโฉมความงามกับตาเลยตัดสินใจเดินดุ่มๆ ออกมา

เกือบสิบนาทีที่รเณศเดินตามเสียงน้ำตกมาจนถึงธารน้ำใสสะอาด มีน้ำตกไหลมาตามร่องหินขนาดใหญ่เป็นทาง ต้นไม้สูงใหญ่นับสิบต้นโอบล้อมคล้ายกับเป็นวงล้อมธรรมชาติซึ่งเมื่อเดินไปหยุดที่โคนต้นไม้ต้นหนึ่งเขาจึงแหงนหน้าขึ้นสูงจึงเห็นว่าแทบทุกต้นโน้มกิ่งเขาหากันราวกับโดมสูงใหญ่ มันสวยงามจนเผลอยืนตะลึง

“สวยมาก”

รเณศเผลอครางออกมาก่อนจะทรุดตัวนั่งยองๆ วักน้ำใสสะอาดลูบไล้ใบหน้า น้ำในธารนั่นเย็นจนสะดุ้งอาจจะเพราะฝนเพิ่งหยุดตกใหม่ๆ จึงทำให้ลำธารแห่งนี้เย็นจนขนลุกได้ คนเมืองแอบยู่หน้ากับความเย็นแต่พอเอาปลายเท้าจุ่มลงไปในน้ำนั่นทำให้เขาเผลอยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี ท้ายสุดรเณศเลยตัดสินใจเปลื้องผ้าอาบน้ำทันที

เขาดำผุดดำว่ายอยู่นานสองนานจนกระทั่งเดินยินเสียงพูดคุยและเสียงฝีเท้าของคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ รเณศมุ่นหัวคิ้วก่อนจะว่ายไปหลบหลังโขดหินเพื่อพิจารณาผู้มาใหม่

“ไหนบอกว่าแค่ช้ำไงครับผู้ช่วย นี่มีแผลเป็นทางยาวที่หัวไหล่ด้วยนี่”

ใครคนหนึ่งพูดขึ้น

“ไม่รู้สิ สงสัยโดนกิ่งไม้เกี่ยวเอา”

“งั้นผู้ช่วยรีบอาบน้ำเลย พวกผมจะทำแผลให้”

รเณศสะดุ้งโหยงเมื่อแอบโผล่หน้าออกมาจากโขดหินแล้วเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เคยอยู่ในชุดลายพรางบัดนี้เปลือยแผ่นอกเหลือไว้เพียงกางเกงส่วนล่างกันทุกคนเลย

“อ้าวพี่เนตร”

รเณศรีบหลบว่ายแต่ไม่พ้นไปจากสายตาของเปลวที่เหลือบมาเห็นพอดี มันร้องทักเขาจนทำให้ชายกลุ่มนั้นหันมามองเป็นแถว ไม่เว้นแม้แต่ตัวคนเป็นหัวหน้าที่ยกยิ้มทันทีที่รเณศค่อยๆ โผล่หน้าออกมา

“ผมตามหาอยู่นึกว่าพี่หายไหน”

รเณศยิ้มแหยๆ พยายามกอดตัวเองอยู่ใต้น้ำเพื่อให้ไกลจากสายตาคนที่มองอยู่ อาการขัดเขินเก้อกระดากนั่นทำให้เพลิงมุ่นหัวคิ้ว ชายหนุ่มเหลือบตามองกองผ้าที่ใต้โคนต้นไม้สลับกับคนที่อยู่ในน้ำ เพราะสายน้ำที่ใสสะอาดนั่นทำให้สังเกตไม่ยากหรอกว่าคนที่อยู่ใต้น้ำนั่นขาวสว่างขนาดไหน

“กลับกันก่อนเถอะ”

เพลิงหันไปบอกลูกน้องก่อนจะทำตาดุใส่แต่ละคนที่จ้องคนในน้ำจนฝ่ายนั้นว่ายไปหลบหลังโขดหินอีกครา

“ให้คุณเนตรอาบน้ำเสร็จก่อน พวกเราค่อยมาอีกที”

“ครับๆ”

คนอื่นๆ พากันหันหลังกลับ ยกเว้นแต่เกิ้งและพลที่ยืนรอท่าเขาอยู่

“ผู้ช่วยอยู่เป็นเพื่อนคุณเนตรแกก่อนเถอะครับ”

“ใช่พี่เพลิง โพล้เพล้แบบนี้กลัวแกเดินไปเหยียบสัตว์อันตรายตอนกลับเอาได้”

เพลิงพยักหน้าหงึกหงักก่อนหน้านี้ก็คิดไว้อยู่แล้วว่าหากเจ้าหน้าที่ผละออกไปหมดแล้ว เขาจะยืนเฝ้าอยู่แถวๆ นี้เพราะกลัวว่าคนเมืองจะได้รับอันตรายเอา ฝนตกใหม่ๆ แบบนี้สัตว์เลื้อยคลานมีพิษมักจะมากเป็นพิเศษ

รเณศเองเมื่อเห็นว่าบรรดาเจ้าหน้าที่ผละออกไปแล้วจึงรีบอาบน้ำให้เสร็จก่อนจะขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ระหว่างนั้นอารามรีบร้อนเท้าข้างหนึ่งจึงเผลอเหยียบตะไคล้น้ำริมฝั่งจนเซถลาลื่นล้มหัวเข่ากระแทกโดนเหลี่ยมหินเต็มๆ จนได้เลือด

“โอ๊ย”

เสียงร้องของรเณศเรียกให้คนที่ยืนรออยู่แถวนั้นขยับตัวเข้ามาหาอย่างว่องไว เพลิงเหลือบตามองคนในเสื้อยืดตัวโคล่งกับกางเกงขาสั้นนั่งนิ่วหน้าอยู่กับพื้น ปลายเส้นผมที่มีหยดน้ำไหลหยดแหมะจนทำให้บริเวณเสื้อตรงหัวไหล่เปียกเป็นหย่อมๆ

สีหน้าเหยเกของคนเมืองทำให้นึกร้อนใจ

“เกิดอะไรขึ้น”

รเณศเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโต

“คุณเลือดออกนี่”

เพลิงก้มลงมาพิจารณาแผลตัวหัวเข่าแล้วนิ่วหน้า

“ลื่นล้มงั้นหรือ”

“ครับ”

รเณศสูดปากด้วยความเจ็บ

“หินบาดเอา”

“คุณลุกไหวมั้ย”

คนเจ็บพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะค่อยๆ ผุดลุกขึ้นตามแรงพยุงของอีกฝ่ายแต่แค่ขยับเขาก็เจ็บแปลบแล้ว รเณศทรุดตัวลงไปนั่งด้วยใบหน้าเหยเก ดวงตาสีแดงก่ำที่โดยรอบมีน้ำใสๆ เอ่อคลออยู่นั่นทำให้เพลิงใจกระตุก

คงจะเจ็บไม่น้อย

แต่ถึงเจ็บก็ไม่ปริปากบ่นสักคำ

แวบหนึ่งเพลิงนึกเอ็นดูคนเจ็บที่พยายามสะกดกลั้นความเจ็บอย่างสุดกำลังจนเผลอเลื่อนปลายนิ้วไปเกลี่ยแก้มอีกฝ่ายเบาๆ

รเณศชะงักกึกก่อนจะรู้สึกร้อนวูบวาบบริเวณแก้มด้านที่โดนจับ

“เจ็บมากมั้ย”

“...”

“รเณศ...คุณเจ็บมากมั้ย”

พอได้สบตากันในระยะประชิดหัวใจเขาจึงสั่นไหวอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“ผมห่วงคุณนะ ช่วยตอบผมทีว่าคุณรู้สึกยังไง”

‘ห่วง’ คำเดียวที่มีอิทธิพลกับใจคนฟัง

“ผมห่วงคุณเหมือนที่คุณเป็นห่วงผมก่อนหน้านี้”

“ใครบอก...”

รเณศตอบเสียงอ้อมแอ้ม

“ผมห่วงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทุกคนนั่นแหละ”

เพลิงกดยิ้มมุมปาก

“ครับ...ผมเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ป่าไม้”

รเณศกลั้นยิ้มจนปวดแก้มเพราะคำตอบนั่นเหมารวมได้ว่าเขาห่วงเพลิงแน่นอน คนเมืองเหลือบตามองไปที่หัวไหล่ซึ่งมีรอยเลือดเป็นทางยาว เพราะอีกฝ่ายเปลือยท่อนบน รเณศจึงเห็นมัดกล้ามเนื้ออันสวยงามแต่กลับมีรอยช้ำเขียวม่วงไปทั่ว

“เจ็บมากมั้ย”

รเณศเผลอเลื่อนมือไปลูบไล้รอยช้ำเหล่านั้นก่อนจะสบตากับเพลิงตรงๆ ได้ยินมาว่าเพลิงเกือบจมน้ำเพราะถูกน้ำป่าซัดพาไป ระหว่างนั้นคงโดนพัดจนไปเกี่ยวกระแทกกับสิ่งที่ลอยมาตามน้ำ ดูสิเนื้อตัวถึงได้เขียวช้ำเป็นหย่อมๆ ขนาดนี้

เพลิงคว้าปลายนิ้วข้างที่ฝ่ายนั้นลูบแผ่นอกเขาเอาไว้ก่อนจะรวบข้อมือขาวมากุมไว้

“ถ้าบอกว่าเจ็บคุณจะห่วงผม”

รเณศเม้มปากแน่น ขณะที่อีกฝ่ายมองหน้าเขายิ้มๆ

“เคยมีใครบางคนถามผมว่า ถ้าวันหนึ่งผมมีครอบครัวแล้วยังจะทำงานนี้อยู่มั้ย”

รเณศทำหน้าสนใจ

“คุณรู้มั้ยว่าผมตอบเขาไปว่ายังไง”

เพลิงยิ้มน้อยๆ ตอนที่รเณศส่ายหัวไปมา

“ผมตอบว่าผมไม่อยากให้ใครมาลำบาก ไม่อยากให้เขาต้องกระวนกระวายเวลาเข้าป่า และสุดท้ายผมไม่อยากให้เขาต้องทุกข์ทรมานใจไปชั่วชีวิต”

“ทำไม”

รเณศพึมพำ

“ถ้าหากวันหนึ่งผมไม่มีโอกาสได้กลับมาหาเขา”

คนฟังนั่งอึ้งก่อนจะกระพริบตาปริบๆ แล้วมองหน้าเพลิงนิ่ง

“ป่าคือบ้านที่ผมไม่สามารถทิ้งมันไปได้”

“...”

“ถ้าหากว่าคุณเป็นครอบครัวนั้นของผม คุณจะรู้สึกยังไง”

เพลิงยิ้มน้อยๆ ตอนที่รเณศทำอิหลั่กอิเหลื่อวางหน้าไม่ถูกไม่รู้ว่าจะตกใจหรือจะเขินดี

“ถ้าผมเป็นครอบครัวของคุณงั้นเหรอ”

“ใช่”

รเณศหลุบตามองพื้น

“ถ้าผมคือคนที่ต้องให้คำตอบ ผมคงห้ามไม่ให้ห่วงคุณไม่ได้ หากเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วคนๆ นั้นของคุณ เขาไม่กลัวลำบากหรอก เขาอาจจะกระวนกระวายใจเวลาคุณไปทำหน้าที่ แต่เขาจะรับรู้มันด้วยความเข้าใจ และสุดท้าย...”

รเณศกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ

“เขาคงรอคอยคุณกลับมาอย่างปลอดภัย เฝ้ารอทุกลมหายใจให้คุณกลับมา”

“...”

“ถึงแม้เขาจะเสียใจที่คุณไม่กลับมา แต่เขาจะไม่เสียใจเลยที่เลือกคุณ”

รเณศรู้สึกว่าหัวตาตัวเองร้อนผ่าว

“งั้นผมคงเป็นคนที่โชคดีมากที่ ‘เขา’ เข้าใจ”

เพลิงเกลี่ยน้ำตาให้รเณศอย่างแผ่วเบา

 “คุณ”

“หือ?”

“ผมไม่ได้อ่อนไหวนะ”

“...”

“ผมแค่เจ็บแผล”

เพลิงทำหน้างงสักพักก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างขบขันตอนที่ใบหน้าขาวปรายตามองมายังแผลที่ถูกหินบาดตรงหัวเข่าด้วยสีหน้าเหยเก

คนตัวโตประคองรเณศลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลก่อนจะหันหลังย่อตัวให้อีกฝ่ายปีนป่ายขึ้นหลังเขา คนเมืองกอดคอเพลิงแน่น โดยที่ขาทั้งสองข้างนั่นเพลิงใช้แขนเกาะเกี่ยวเอาไว้ไม่ให้เขาหล่น เพลิงค่อยออกเดินช้าๆ โดยมีรเณศขี่หลังอยู่

เวลาโพล้เพล้นั่นได้ยินแต่เสียงสกุณาบินอยู่บนฟ้ากับเสียงจิ้งหรีดไรเรี่ยที่เกาะอยู่ตามโคนต้นไม้ นอกนั้นก็เงียบสงัดจนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นระรัว รเณศแอบแนบใบหน้าของตัวเองไปที่บ่าและแผ่นหลังกว้างเพื่อฟังเสียงจังหวะการเต้นของอวัยวะที่หน้าอกด้านซ้าย

“จริงๆ แล้วผมไม่ได้ชอบคนในเครื่องแบบชุดกาวน์หรอก”

รเณศเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ

“หือ?”

เพลิงทำหน้าสนใจก่อนจะเอี้ยวใบหน้ามายังคนด้านหลัง

“นี่ผมเข้าใจผิดเหรอเนี่ย”

“เปล่าสักหน่อย”

“คุณรู้มั้ยว่าผมหวังคำตอบจากคุณ”

“คำตอบอะไร”

รเณศกลั้นยิ้ม

“คำตอบที่ว่า..”

“ว่า”

รเณศแกล้งทวนซ้ำ

“ผมชอบคนในเครื่องแบบนะ แต่ไม่ใช่ชุดกาวน์”

“แล้ว”

รเณศเลิกคิ้ว

“แต่เป็นชุดลายพราง”


เพลิงพูดจบก่อนจะกดยิ้มมุมปากแล้วเอี้ยวมามองเขาตาเป็นกระกาย

โอ๊ย

หัวใจเต้นแรงมาก...กลั้นยิ้มไม่ไหวแล้ว

ในความเงียบที่ได้ยินแต่เสียงลมหายใจนั่น เสียงทุ้มของเพลิงก็ร้องเพลงๆ หนึ่งซึ่งมีเนื้อหาไม่คุ้นหูเอาซะเลย แต่รเณศก็กอดคอเพลิงนิ่งฟังอยู่อย่างนั้น เนื้อหามันทำให้นึกภาพตามก่อนจะกอดคอคนที่เดินแบกเขาให้แน่นขึ้น

*เราปองพิทักษ์วนา

ปกป้องแนวป่าไม้ของเมืองไทย

มิเคยหวั่นเกรงอันตราย

ผองเราชาติชายยอมตายในไพร*

ผู้ชายตัวโตที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยศรัทธากำลังฮัมเพลงนั้นไปตลอดทางโดยมีคนด้านหลังยิ้มน้อยๆ แล้วเอียงหน้าซบที่หัวไหล่แข็งแรงนั่นด้วยความรู้สึกอุ่นใจ

รเณศรู้สึกว่าปลอดภัยทุกครั้งที่อยู่กับเพลิง

.

.

.

อีกฟากหนึ่งซึ่งมีกลุ่มคนสี่ห้าคนหลบอยู่มุมหลังต้นไม้ใหญ่พากันส่ายหัว

“ให้ตายเถอะ ผู้ช่วยนึกยังไงร้องเพลงคณะจีบหนุ่มวะ”

“ทำเป็นพูดดี ถ้าเป็นพี่จะร้องเพลงอะไรจีบสาวอ่ะ”

“กูอ่ะเหรอ”

ที่เหลือพากันพยักหน้าหงึกหงัก ขณะที่เกิ้งลูบคางตัวเองอย่างใช้ความคิด

“จะเลิกคุย (กับพยาบาล) ทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว”

พลโพล่งขึ้น แน่นอนว่านั่นทำให้ที่เหลือฮาครืน

“ถุยยยยยยยยยย”

คนพูดวิ่งหลบปลายเท้าของเกิ้งอย่างว่องไว ท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนอื่นๆ

☘☘☘☘

 

เวลาพลบค่ำนั่นผู้นำหมู่บ้านยกสำรับอาหารมาเลี้ยงพวกเราอย่างเป็นกันเองที่ลานกลางหมู่บ้าน และเพราะที่นี่ไม่มีไฟฟ้าจึงต้องอาศัยแสงไฟจากกองไฟที่จุดอยู่กลางลานโดยมีชาวบ้านนั่งล้อมวงปะปนไปกับเจ้าหน้าที่ เพลิงมองภาพนั้นแล้วยิ้มน้อยๆ ดูเหมือนว่าการที่เจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือชาวบ้านที่จมน้ำเนื่องจากสะพานขาดจะทำให้ชาวบ้านเป็นกันเองกับพวกเรามากขึ้น จริงอยู่ว่าเพลิงเข้ามาที่หมู่บ้านนี้หลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งเขาก็ยังรู้สึกว่าได้มีคนกลุ่มหนึ่งดูจะระแวดระวังจับตามองเหล่าเจ้าหน้าที่เป็นพิเศษ ต่างจากครั้งนี้ที่บรรยากาศผ่อนคลายลงไปโข

ถึงแม้ว่ามื้อเย็นรอบกองไฟครั้งนี้พ่อเฒ่าที่เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของที่นี่จะไม่โผล่มาก็ตาม

เพลิงนั่งกินข้าวเงียบๆ ระหว่างที่ลุงซอยางกับเมียแกกำลังคุยกับชาวบ้านคนอื่นๆ อย่างออกรสออกชาติ

“ดีนะว่าผู้ช่วยกับคนของแกไปช่วยทัน ไม่อย่างนั้นตาหลานบ้านท้ายไม่รอดแน่”

ลุงซอยางหันมาพยักพเยิดกับเขานั่นทำให้ชาวบ้านคนอื่นๆ หันมายิ้มให้เพลิงเสียกว้าง เท่านั้นไม่พอใครต่อใครต่างตักสำรับอาการมาใส่จานเขาเต็มไปหมดจนเพลิงต้องบอกให้หยุดมือ

“แคนม้งน่ะผู้ช่วย”

ลุงซอยางหันมากระซิบข้างหูเมื่อเห็นเพลิงนิ่งฟังเสียงดนตรีที่นักดนตรีประจำหมู่บ้านกำลังทำการแสดงรอบกองไฟ ลุงแกเล่าก่อนหน้านี้ว่าการแสดงดนตรีพื้นบ้านนั้นจะกระทำในโอกาสสำคัญต่างๆ รวมถึงการเฉลิมฉลองให้แขกผู้มาเยือน

ระหว่างนั้นเขาสังเกตว่าหนุ่มในหมู่บ้านต่างลุกเดินเอาดอกไม้ในมือไปในอีกฝ่าย แน่นอนว่าท่าทางแบบนั้นทำให้คนเมืองที่ลอบมองอยู่มุ่นหัวคิ้วอย่างสงสัย

“ดอกไม้แสงดาวจ้ะคุณ”

ซูเนียนบอกเขา

“คืออะไรหรือครับ”

“ก็เวลาที่นักดนตรีเป่าเพลงทำนองรักขึ้นมาในช่วงเวลาที่เฉลิงฉลองนี่เป็นโอกาสให้หนุ่มสาวที่พึงใจใครสามารถเอาดอกไม้ที่ตัวเองเก็บมาไปให้กับอีกฝ่าย”

“...”

“โดยฝ่ายชายจะใช้ดอกไม้สีแดง”

รเณศหันไปเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งยื่นดอกไม้สีแดงให้กับเด็กสาว

“ส่วนฝ่ายหญิงหากพึงใจชายคนนั้นให้มอบดอกไม้สีขาวกลับคืนไป”

รเณศเผลอยิ้มออกมา

“แล้วทำไมถึงเรียกดอกไม้นั่นว่าแสงดาวล่ะครับ”

“อ๋อ”

แม่ลูกอ่อนยิ้มน้อย

“หากหนุ่มสาวคู่ไหนแลกดอกไม้กันแล้วเป็นอันเข้าใจกันว่า หลังจบงานทั้งคู่จะไปพบกับที่สะพานแสงดาว”

คนเมืองทำหน้าสนใจ

“มันเป็นแค่สะพานไม้เล็กๆ จ้ะคุณอยู่ทางไปน้ำตกท้ายหมู่บ้านโน่น”

“ทำไมถึงต้องไปที่นั่นครับ”

“เพราะหมู่บ้านเรามีความเชื่อว่าคู่รักหรือคนรักของเราเปรียบได้กับสะพานแสงดาวเป็นทางเชื่อมหรือคู่ชีวิตที่จะนำพาความสุขไปจนนิรันดร์”

“โรแมนติกจัง”

“พอจบงานนี้คุณเดินไปดูสิจ้ะ หนุ่มๆ สาวๆ เขาจะยืนมองดาวกันที่สะพานนั่น”

แน่นอนว่ารเณศจะไม่พลาดที่จะไปดู!

สีหน้าตื่นเต้นของคนเมืองนั่นไม่หลุดรอดไปจากการสังเกตของคนตัวโตที่ลอบมองอยู่เงียบๆ แต่ถึงอย่างนั้นไม่นานเจ้าตัวก็รู้ตัวอยู่ดีว่าถูกแอบมอง รเณศทำหน้าไม่ถูกตอนที่เหลือบไปสบเข้ากับแววตาคู่กล้านั่น วูบหนึ่งเขารู้สึกว่าใบหน้าตัวเองร้อนวูบวาบขึ้นมา

แม้จะมองเสี้ยวหน้าของเพลิงไม่ชัดเพราะอยู่ในความมืดซึ่งต้องอาศัยแสงไฟจากกองเพลิง แต่เขาก็แน่ใจว่าเพลิงยิ้มให้เขาโดยที่มือข้างหนึ่งถือดอกไม้สีแดง

.

.

ดึกดื่นแล้วตอนที่รเณศเดินลัดเลาะไปยังจุดหมายนัดพบของหนุ่มสาว ในความมืดที่ต้องอาศัยตะเกียงในมือนั่นเขาเห็นเงาตะคุ่มของหนุ่มสาวหลายสิบคู่ยืนอิงแอบซบกันแล้วเงยหน้าเหม่อมองไปยังท้องฟ้าอันกว้างไกล

แสงดาวสว่างไสวที่หาได้ยากยิ่งในเมืองหลวงกลับละลานตาที่เบื้องหน้าเขา คนเมืองล้วงมือเข้าไปในกางเกงแล้วคลึงดอกไม้สีแดงซึ่งเก็บมาจากข้างทางด้วยจิตใจอันเหม่อลอยจึงไม่รู้ว่ามีใครบางคนเดินมาหยุดยืนเคียงข้างกัน

“คุณเจอสะพานแสงดาวของตัวเองรึยัง”

เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูนั่นทำเอาเขาสะดุ้งโหยง แม้ไม่ได้หันไปมองแต่รเณศก็รับรู้ได้ว่าความบออุ่นที่แผ่มาจากด้านหลังนั่นเป็นของใคร

“ผมเจอแล้ว”

“...”

“สะพานแสงดาว”

รเณศยืนนิ่งตอนที่มีบางอย่างสอดเข้ามาวางไว้บนฝ่ามือ

‘ดอกไม้สีแดง’ อยู่ในมือเขา

ดอกไม้จากเพลิง

รเณศกลั้นยิ้มเต็มกำลังก่อนจะล้วงเอาดอกไม้ที่กระเป๋ากางเกงตัวเองวางที่ฝ่ามืออีกฝ่าย แล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยใบหน้าแดงซ่าน เพลิงยิ้มน้อยๆ ก้มมองดอกไม้ในมือแล้วแหงนหน้ามองท้องฟ้า ไม่ต่างจากรเณศที่ยืนกำดอกไม้ของเพลิงแล้วเงยหน้าสบตากับดวงดาว

‘เจอกันแล้วนะสะพานแสงดาว’

รเณศพึมพำ


☘☘☘☘


ง่อออ สะพานแสงดาว คิกคิก
หวีดในทวิตติดแท็ค #ป่าห่มรัก ด้วยน้า
*เครดิตเพลงชีวิตวนศาสตร์ เพลงประจำคณะวนศาสตร์*
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอย ที่ 13-05-2019 21:10:10
วี้ดด มาต่อแล้ว โรแมนติกมายเลยพี่เพลิงน้องรเนศ อยากให้เขาหวานกันไปทุกตอนยันจบไม่อยากให้ถึงตอนรู้ความหลังของกันและกันเลย พาร์ทนั้นต้องดราม่าแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 13-05-2019 21:17:13
น่ารักจนใจละลายเลยค่ะ
สะพานแสงดาวช่างโรเมนติกนัก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 13-05-2019 21:20:23
เขินแทนเลยอ่ะ   :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-05-2019 21:37:48
 :pig4: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 13-05-2019 21:47:10
อ๋อย


มดกัด

หวานกว่านี้

ก็เบาหวานขึ้นตาแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-05-2019 22:06:48
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Aimlovelove ที่ 13-05-2019 22:20:14
มันละมุนมากเลยเนอะ เขินจังงง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 13-05-2019 22:58:54
 :pig4: :pig4: :pig4:

เอ๋...ดอกไม้ของรเนศเป็นสีแดงหรือสีขาวหล่ะ  อิอิ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Plakhem ที่ 13-05-2019 23:04:55
 :hao5: รออยู่นะ  :mew6:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 13-05-2019 23:10:08
ละมุนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fun_la_ong ที่ 13-05-2019 23:36:22
อบอุ่นกว่าดวงอาทิตย์อีกค่ะพี่เพลิง❤️
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 13-05-2019 23:55:08
อ่านวนสองรอบหยุดยิ้มไม่ได้เลย บ้าจริง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 14-05-2019 00:07:38
ฉากนี้คือดีมาก โรแมนติกสุด ๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 14-05-2019 00:10:56
จีบกันแบบนี้ก็แย่น่ะสิ  :heaven
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 14-05-2019 00:20:12
ป่านี้น่าจะมดเยอะเน๊อะ  เพราะน่าจะมีคนหว่านน้ำตาลไว้แถวๆ สะพานดาว.  :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: CanonInD ที่ 14-05-2019 00:21:08
 :o8: เขิลลลลลลลลลลลลลล อยากได้ดอกไม้แดงจากผู้ช่วยบ้างอ่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 14-05-2019 00:45:48
หวานมากกก เจอรักจริงสักทีนะรเณศ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 14-05-2019 04:36:20
ชอบตอนเพลิงกับรเณศอยู่ด้วยกันและเค้าจีบ(?)กันน่ารักดีค่ะ ชอบซีนหวานๆที่พูดออกมาตรงแต่แฝงความซึน ชอบที่เพลิงกับรเณศได้พูดคุยกันตรงๆ แลกเปลี่ยนความคิด และ ความต้องการของแต่ละคนออกมา มันเหมือนเป็นการเรียนรู้กันและกัน ทำให้ทั้งคู่ยิ่งเข้าใจและเห็นอกเห็นใจกันมากยิ่งขึ้น ถ้ามันจะกลายเป็นความรักระหว่างคน2คนคงเป็นความรักที่ดีและมีความเข้าใจกันให้กันอย่างมาก รอติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณสำหรับผลงานที่ดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 14-05-2019 12:01:29
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 14-05-2019 14:06:59
เขินอ่าาาา
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 14-05-2019 14:31:06
น่ารักจริงๆ
 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: FrozenSnow2019 ที่ 14-05-2019 14:46:44
ฮือ โรแมนติกมากกกกก ละมุนใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 14-05-2019 23:25:33
สะพานแสงดาวของกันและกัน อบอุ่นละมุใจ พี่เพลิงขอน้องเป็นแฟนเลย  :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 15-05-2019 06:57:20
หวานสุดๆบอกรักกันได้โรแมนติกมากๆๆ
เขารักกันแล้ว :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 15-05-2019 11:18:49
หวานมากๆเลย :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-05-2019 16:09:28
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 16-05-2019 17:13:22
นั่นแน่ เนตรกับผู้ช่วยจะมาไว เคลมไวแบบนี้ไม่ได้นะ
ทีมเชียร์จะเป็นเบาหวานกันได้ 5555

เมื่อมั่นใจก็ชัดเจน ทั้งเพลิงกับเนตรเปิดใจคุยกัน
เข้าใจกันดี อารมณ์หวาน อารมณ์น่ารักก็มาเลยจ้า

ชแบความดูแลและห่วงใย มองตากัน แล้วยิ้มได้  :mew3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 16-05-2019 20:47:11
แปะไว้ก่อนนะคะ :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [14] #ป่าห่มรัก [13.5.62] P.12 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 18-05-2019 21:12:44
สารภาพรักกันแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 20-05-2019 20:51:39

[ 15 ]



เสียงจิ้งหรีดไรเรพากับส่งเสียงร้องราวกับว่าพวกมันกำลังประสานเสียงกันตอนที่รเณศเดินเคียงข้างเพลิงกลับมายังที่พัก ตอนนี้บรรดาหนุ่มๆ สาวๆ ต่างทยอยเดินกลับมาจากสะพานแสงดาว เสียงพูดคุยกระซิบกระซาบพร้อมกับเสียงหัวเราะที่เคล้าคลอกันไปนั่นทำให้คนเมืองเผลอยิ้มออกมาเบาๆ ก่อนจะเหลือบตามองคนตัวโตข้างกายที่ไม่ปริปากพูดอะไรเลยนอกจากรอยยิ้มบางๆ เท่านั้น

“หน้าผมมีอะไรติดอยู่งั้นเหรอ”

รเณศหลบตาอีกฝ่ายทันทีตอนที่ฝ่ายนั้นหันหน้ามามองกัน นั่นเพราะถูกจับได้ว่าแอบมองหน้าคนข้างกายจนเจ้าตัวเขารู้ตัวเข้าให้แล้ว คนเมืองเม้มปากแน่นด้วยใบหน้าร้อนผ่าว เหงื่อออกที่ตรงฝ่ามือซึ่งกำดอกไม้ของเพลิงอยู่จนชื้น คนตัวโตคงจะสังเกตได้ว่าอากัปกิริยาที่เงียบไปอย่างนี้เพราะอีกฝ่ายเก้อเขิน เขาจึงไม่ถามย้ำคนขี้อายแต่เลือกที่จะแตะหลังมือเภสัชกรเบาๆ แล้วพาก้าวเดินไปพร้อมๆ กัน

‘เปรี้ยง’

รเณศสะดุ้งโหยงทำหน้าตื่น ตอนที่ได้ยินกระสุนนัดหนึ่งดังแหวกอากาศมาแต่ไกล ไม่ต่างจากเพลิงที่ทำหน้าเครียดทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น เสียงปืนดังสนั่นนั่นทำให้หนุ่มสาวที่เดินตามๆ กันมาพากันส่งเสียงอื้ออึงอย่างแตกตื่น

“เสียงดังมาจากลานกลางบ้าน”

เพลิงพึมพำก่อนจะออกวิ่งไปตามทิศทางที่มาของเสียงนั้น สีหน้าเครียดขมึงนั่นทำให้รเณศนึกกังวลใจตามไปด้วย เมื่อวิ่งไปยังจุดเกิดเหตุแล้วเห็นความโกลาหลมากมาย ชาวบ้านต่างพากันมาอออยู่ที่หน้าบ้านของผู้นำหมู่บ้านเขายิ่งใจเสีย

“เกิดอะไรขึ้น”

เพลิงถามเสียงดังก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่คมเบิกกว้างเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งนอนจมกองเลือดอยู่ สีหน้าอิดโรยของคนเจ็บนั่นพาให้รเณศแข้งขาอ่อนแรงด้วยความตกใจ

“มีคนลอบยิงเจ้าหน้าที่ครับ”

ลุงซอยางพูดเสียงเครียดก่อนที่แกจะหันไปตะโกนเรียกผู้ชายในหมู่บ้านให้ช่วยกันออกล่าตัวคนร้าย

“ต่อให้ต้องค้นทั้งป่า พวกเราต้องล่าตัวมันมาให้ได้ ฉันจะไม่ยอมให้พวกมันบุกเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ในหมู่บ้านพวกเราฟรีๆ หรอก”

“มืดขนาดนี้ พวกมันคงอาศัยความมืดหลบหนีไปแล้ว”

“ยังไงก็ตาม ต้องหาพวกมันให้เจอ”

ลุงซอยางพูดเสียงเครียดก่อนจะเดินไประดมคน

“พิทักษ์”

เพลิงกระโจนวิ่งไปดูลูกน้องทันที ใบหน้าคมคายเคร่งเครียด สันกรามเกร็งขึ้นราวกับว่าพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ในตอนนี้ มือใหญ่พยายามมองหาบาดแผลในร่างกายคนเจ็บ ก่อนจะพบว่ากระสุนนัดหนึ่งเจาะฝังเข้าที่แขนด้านหนึ่งในสภาพฝังอยู่

“แม่งเอ้ย”

เปลวร้องขึ้น เด็กหนุ่มนัยน์ตาแดงก่ำตอนที่มองคนเจ็บ

“มันลอบเข้ามาในความมืดพี่เพลิง ไอ้พวกเวรนั่นมันจงใจยิงพวกเรา”

เปลวพูดเสียงสั่น

“พวกมันตะโกนว่าให้ยิงแต่คนในชุดลายพราง โดยเฉพาะผู้ช่วยเพลิง”

“ระยำ”

เพลิงสบถออกมา ชายหนุ่มกัดฟันแน่น

ไอ้พวกเวรจงใจทำร้ายเขา แต่พิทักษ์กลายเป็นที่รับเคราะห์แทน ในอกเพลิงร้อนรนเหมือนกลางกองเพลิง มันไม่ใช่ความหวาดกลัว ตรงกันข้ามเขากำลังเดือดดาลเพราะคนของเขาถูกทำร้าย สาเหตุมันมากจากตัวเขาเอง

“ตอนนี้พี่พลกับพี่เกิ้งวิ่งตามมันไปอยู่ครับพี่”

รเณศยืนอึ้งขาแข็งทำอะไรไม่ถูก ตอนที่ลุงซอยางกับป้าจำเนียรวิ่งซอยเท้าเข้ามาหา

“เป็นยังไงผู้ช่วย”

แกบุ้ยปากไปยังลูกน้องที่นอนนิ่งไปโดยที่เพลิงและเปลวพยายามห้ามเลือดอยู่

“กระสุนฝังใน”

“คุณพระ”

ป้าจำเนียรตบอกตกใจ

“ตอนนี้พิทักษ์เลือดไหลไม่หยุด เขาเสียเลือดมาก”

เพลิงพูดเสียงเครียด รเณศมองเห็นความเสียใจในแววตาคู่นั้น

“งั้นคงต้องผ่าเอากระสุนออก แต่ที่นี่ก็ไกลมดไกลหมอเหลือเกิน” ลุงซอยางทำหน้าเครียด

“ลุงครับ” เพลิงมองหน้าอีกฝ่าย

“มีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลูกน้องผมได้”

น้ำเสียงแห้งผากนั่นทำเอาผู้นำหมู่บ้านนิ่งไป เดิมทีแกก็นึกชอบใจคนหนุ่มตรงหน้านี้อยู่แล้ว ยิ่งได้ยินเพลิงออกปากแบบนี้แกยิ่งมองอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความศรัทธา

“ผมจะไปตามคนมาช่วย หมู่บ้านเรามีหมอสมุนไพรอยู่คนนึง บ้านพ่อเฒ่าแกอยู่ชายป่าโน่น พ่อเฒ่าน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง”

เพลิงพยักหน้ารับก่อนที่เขาและเจ้าหน้าที่คนอื่นจะช่วยกันอุ้มคนเจ็บขึ้นไปที่ชานบ้านลุงซอยางเพื่อให้สะดวกกับการรักษา ขณะที่ป้าจำเนียรรีบวิ่งไปต้มน้ำเพื่อเตรียมเอาไว้ ระหว่างนั้นนั้นเสียงโหวกเหวกโวยวายก็ดังขึ้นมาแต่ไกล รเณศทำอะไรไม่ถูกตอนที่เกิ้งแบกพลซึ่งกุมแผลที่หน้าท้องเอาไว้ด้วยสีหน้าซีดเผือดคล้ายกับคนเสียเลือดมาก

“พลโดนพวกมันแทงครับ”

เพลิงกำหมัดแน่น ขณะที่เกิ้งซึ่งวางคนเจ็บลงแล้วทำหน้าลุแก่โทษตอนที่สบตากับเพลิง

“ผมขอโทษครับผู้ช่วย..” เกิ้งพูดเสียงสั่น

“ผมห้ามมันไม่ให้ออกไปตามคนร้ายไม่ได้ ไอ้พลมันถึงได้เจ็บตัวกลับมาแบบนี้”

เพลิงถอนหายใจแรงๆ สีหน้าเขาดูเจ็บปวดไม่น้อย อาจจะเพราะสีหน้าแบบนั้นเจ้าหน้าที่ทุกคนถึงได้พากันหน้าเสีย

“ผู้ช่วย ขอโทษ”

เพลิงยกมือห้าม

“เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่ถามหาคนผิด รักษาคนเจ็บก่อน”

“ครับ”

“มาช่วยกันแบกพลเข้าไปข้างใน”

รเณศวิ่งไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลแทบจะทันที เขายอมรับว่าเป็นคนกลัวเลือดและหวาดกลัวไม่น้อยกับแผลเหวอะหวะไม่น่าดู แต่วินาทีนี้เขากลัวการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นตอนนี้มากกว่า คนเมืองวิ่งซอยเท้าไปดูอาการของพลแล้วเห็นว่าฝ่ายนั้นโดนแทงเป็นรอยยาว เสียเลือดค่อนข้างมาก แต่ดีว่าคนเจ็บยังมีสติพูดคุยตอบโต้เขาได้ เขาจึงลงมือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนโดยมีป้าจำเนียรและเกิ้งเป็นผู้ช่วย ผ่านไปสักพักหนึ่งพลมีสีหน้าดีขึ้นรเณศเลยผละไปยังคนเจ็บที่โดนยิงซึ่งเพลิงนั่งเฝ้าอยู่

รเณศยืนนิ่งมองเพลิงที่เพียรหาผ้ามาพันห้ามเลือดที่ไหลซึมปาดแผลออกมาอยู่ตลอดเวลา เขาตั้งหน้าตั้งหน้าพันรอบบาดแผลเพื่อห้ามเลือดอย่างสุดกำลัง

“ผู้ช่วย”

เสียงคนเจ็บเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา ใบหน้าซูบซีดไร้สีเลือด สีหน้าอิดโรย และลมหายใจที่แผ่วเบาลงเรื่อยๆ นั่นทำให้รเณศใจสั่นทำอะไรไม่ถูก ขณะที่เพลิงขยับไปจับมือคนเจ็บเอาไว้

“ว่าไงพิทักษ์”

คนเจ็บยิ้มให้เขาแต่รอยยิ้มนั่นทำให้เพลิงใจสะท้าน

“ผมขอผู้ช่วยสักอย่างได้มั้ย”

“ว่ามาเลย”

“วันนี้วันเกิดลูกสาวผมครับ”

รเณศน้ำตาร่วงทันที ขณะที่เพลิงจุกในลำคอ

“ผมสัญญากับลูกสาวว่าถ้ากลับไป ผมจะพาแกไปกินไอศกรีม” คนเจ็บพูดไปไอไปท่าทางเจ็บปวดไม่น้อย

“ผมรู้ว่าคุณจะพูดอะไรพิทักษ์ ผมรู้แล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว”

คนเจ็บส่ายหน้าไปมา

“ผู้ช่วย”

เพลิงกำหมัดแน่นคนเห็นเส้นเลือดที่ปูดโปน

“พาแกไปเลี้ยงไอศกรีมแทนผมได้มั้ย”

คนเมืองเบือนหน้าหนีเพราะเขากลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว

“แกชอบไอศกรีมรสวานิลานะ”

“...”

“กินทีไรเลอะทุกที”

คนเจ็บหลับตายิ้มกว้าง

“พิทักษ์”

“บอกแกผมว่ารักแกมากนะผู้ช่วย”

“ไม่”

เพลิงเสียงสั่น

“นายต้องกลับไปบอกลูกสาวด้วยตัวเอง” เพลิงตาแดงก่ำ “ผมไม่ให้สัญญาอะไรนั้น ผมไม่สัญญา”

คนเจ็บขยับรอยยิ้มทั้งที่น้ำตาไหลซึม

“ผู้ช่วย”

“พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว”

เพลิงกำมือคนเจ็บแน่น

“ในฐานะหัวหน้า ผมขอสั่งให้คุณกลับไปพร้อมกับพวกเรา เราทีมเดียวกัน ถ้ามาด้วยกันก็ต้องกลับไปพร้อมกัน กลับไปพาลูกสาวไปกินไอศกรีมตามที่พิทักษ์สัญญา”

“...”

“พิทักษ์”

เพลิงร้องเรียกอีกฝ่ายที่กำลังจะหลับตาอีกครั้ง

“ผมอยากกลับไปหาลูก”

รเณศกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว

“อดทนหน่อยนะ อดทนไว้ ผมสัญญา ผมจะพาคุณออกจากป่า พาคุณไปหาลูกสาว ผมเป็นคนรักษาสัญญา พิทักษ์เชื่อผมนะ”

“ครับผู้ช่วย”

คนเจ็บพึมพำทั้งที่ตาจะปิดอยู่แล้ว ภาพนั้นทำเอาเจ้าหน้าที่คนอื่นพากันเบือนหน้าหนี โดยเฉพาะเปลวที่ปล่อยน้ำตาให้ไหลริน

นี่หรือคือผลตอบแทนของคนที่ทำหน้ารักษาป่า

นี่หรือคือรางวัลของการทำดี

นี่หรือ...ชีวิตของผู้ปิดทองหลังพระ

ชีวิตหนึ่งอาจจะต้องแลกกับความอยุติธรรม

มันสมควรแล้วอย่างนั้นหรือ?


☘☘☘☘




รเณศยืนนิ่งทั้งที่ในใจวูบโหวง จังหวะนั้นลุงซอยางวิ่งนำพ่อเฒ่าหมอสมุนไพรมาแต่ไกล ท่าทางคนมีอายุดูเหนื่อยหอบแต่ยังกระฉับกระเฉง รเณศไม่รู้ว่าบรรยากาศโดยรอบเป็นยังไง เขาทราบแต่เพียงว่าตอนหมอสมุนไพรเอ่ยปากขอผู้ช่วยเพื่อทำการผ่ากระสุนรักษาคนเจ็บ รเณศเสนอตัวเองทันที

คนเมืองไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนตอนที่ผ่าเอากระสุนออกจากร่างกายคนเจ็บได้แล้ว พิทักษ์เสียเลือดมากแม้จะเอากระสุนออกได้อาการก็ยังน่าห่วง รเณศเห็นพ่อเฒ่าเดินไปมาหลายรอบเพื่อเคี่ยวสมุนไพรก่อนจะกรองเป็นน้ำมาให้คนเจ็บดื่ม

พิทักษ์ยังไม่ได้สติ ขณะที่พลหลับสนิทหลังจากดื่มยาและทำแผลฉกรรจ์ที่กลางท้องไปแล้ว ทุกอย่างเงียบสงัดชวนใจหาย เขาสังเกตเห็นเพลิงนั่งนิ่งอยู่ในความมืด ชายหนุ่มไม่พูดอะไรเลย หากไม่ยินเสียงลมหายใจอันแผ่วเบา เขาคงคิดว่าร่างสูงที่นั่งนิ่งอยู่นั้นกลายเป็นหินไปแล้ว รเณศจ้องเพลิงจนกระทั่งฝ่ายนั้นขยับตัวแล้วออกเดินไปอย่างช้าๆ แน่นอนว่านั่นทำให้รเณศตัดสินใจเดินตามอีกฝ่ายมาเรื่อยจนกระทั่งเขามาหยุดที่สะพานไม้อันเล็กซึ่งมองเห็นดาวที่ดารดาษเต็มท้องฟ้า

‘สะพานแสงดาว’

เงาร่างสูงใหญ่นั่นเงยหน้ามองท้องฟ้าอันห่างไกล เขามองมันอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งรเณศขยับไปยืนอยู่ข้างหลังอีกฝ่าย

“คุณรู้มั้ยว่าความตายไม่น่ากลัวหรอก”

เสียงทุ้มนั่นเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ

“มันคือหลับใหลไปชั่วนิรันดร์ก็เท่านั้นเอง”

“...”

“แต่ชั่วนิรันดร์นั้นทำให้หลายคนหวาดกลัวและเกลียดชัง” เพลิงพูดเสียงแผ่ว “คุณรู้มั้ยว่าผมเกลียดอะไรมากที่สุด”

รเณศส่ายหน้าไปมา

“ผมเกลียดที่ชั่วนิรันดร์นั้นทำให้คนข้างหลังตายทั้งเป็น มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก หากผมต้องเดินไปบอกครอบครัวเขา บอกลูกเมีย บอกพี่น้องว่าหัวหน้าครอบครัวของพวกเขาไม่มีโอกาสได้กลับคืนไป”

คำพูดนั้นบ่งบอกว่าคนพูดกำลังเจ็บปวดไม่น้อย

“ถึงเวลานั้นความหวังของครอบครัวคงดับมลายลง”

รเณศรู้ดี หนึ่งชีวิตที่ต้องดับลงนั่นทำให้หัวใจใครอีกหลายคนต้องสูญมลายไปด้วย

“ผมเกลียด เวลาที่ต้องสบสายตากับลูกเมียคนข้างหลัง มันมากกว่าความเจ็บปวด เพราะดวงใจดับหายไปแล้ว”

รเณศจุกในอก ชายหนุ่มขยับไปใกล้แล้วกอดแผ่นหลังเพลิง มือข้างหนึ่งของเขาลูบไล้แผ่นอกด้านซ้ายใกล้หัวใจ เขาลูบอยู่อย่างนั้นหมายจะให้สัมผัสที่แผ่วเบาปลอบประโลมจิตใจและปัดเป่าความรู้สึกเจ็บปวดนั้นเบาบางลง

เพลิงยืนนิ่งปล่อยให้คนเมืองกอดอยู่อย่างนั้น เขาขยับมือข้างหนึ่งมากุมทับมือของรเณศที่ลูบแผ่นอกเขาอยู่

“ซูเนียนบอกว่าสะพานแสงดาวหมายถึงคนรักหรือคู่ชีวิต นั่นหมายความว่าเขาคือครึ่งหนึ่ง คือส่วนหนึ่งของชีวิตเรา หากคุณรู้สึกว่าประกายไฟในใจคุณกำลังริบหรี่คล้ายจะมอดไหม้ คุณหันกลับมามองสะพานแสงดาวของคุณนะ สะพานแสงดาวของคุณจะจุดไฟที่กำลังมอดดับให้มันสว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง”

รเณศเสียงสั่นปล่อยให้น้ำตาตัวเองไหลริน เมื่อสัมผัสได้ถึงหยดน้ำอะไรสักอย่างหยดใส่มือเขา

เพลิงกำลังเจ็บปวด นั่นทำให้รเณศเจ็บปวดยิ่งกว่า

“ตอนนี้มันมืดมน”

“...”

“ตอนนี้มันเจ็บปวด ผมรู้”

รเณศลูบแผ่นอกด้านซ้ายของเพลิงจนกระทั่งฝ่ายนั้นหันกลับมา รเณศเผชิญหน้ากับเพลิงในความมมืด แม้ไม่เห็นเครื่องหน้าชัดเจนนอกจากเงามืด แต่เขารับรู้ได้ว่าคนตัวโตกำลังจดจ้องเขาอยู่ เพลิงจับมือที่ลูบแผ่นอกเขาขึ้นมาจูบเบาๆ

ณ วินาทีนั้นเพลิงรู้สึกความเจ็บปวดในอกกำลังถูกปัดเป่า

รเณศขยับมาเป่าลมเบาๆ ที่อกด้ายซ้ายก่อนที่ศีรษะกลมนั่นจึงถูไถและซุกซบที่บริเวณนั้นทำคล้ายกับจะกล่อมเขาราวกับเด็กน้อย

“ไม่เป็นไรนะ”

รเณศพึมพำโดยมีเพลิงสวมกอดเขาแนบอก



.


.


เพลิงและรเณศกลับมาที่บ้านผู้นำหมู่บ้านหลังจากนั้น ก่อนที่คนเมืองจะเผลอหลับไป รเณศรู้สึกตัวตื่นตอนที่แสงอาทิตย์ของวันใหม่สาดส่องเข้ามาในแล้ว เขากระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วกวาดตามองไปรอบๆ เสียงหมอสมุนไพรกับป้าจำเนียรกำลังคุยอะไรกันสักอย่างอยู่ที่ครัวแว่วๆ มา รเณศขยับเอามือไปแตะที่หน้าผากของพิทักษ์ซึ่งยังไม่ฟื้น เขายังจำได้ดีที่หมอสมุนไพรพูดเอาไว้ว่า

‘ถ้าพ้นคืนนี้แผลไม่ติดเชื้อมันก็รอด’

คนเมืองขยับดูที่แผลตรงแขนแล้วขยับรอยยิ้มบางๆ ก่อนจะมองเลยไปยังพลซึ่งนอนมองเกิ้งซึ่งนั่งหลับเฝ้าอยู่ข้างๆ คนป่วยที่โดนแทงหันมายิ้มให้รเณศก่อนจะส่งซิกทางสายตาบอกว่าไม่ให้ส่งเสียรบกวนเกิ้งที่นั่งหลับจับมือคนป่วยอยู่

ไม่รู้ว่าคนดีเฝ้าคนป่วย หรือคนป่วยเฝ้าคนดีกันแน่

เห็นแบบนั้นแล้วรเณศก็เลยผละออกมา เพราะตั้งแต่ตื่นมายังไม่เห็นเพลิงเลย เมื่อลับร่างของคนเมืองแล้วคนเจ็บอย่างพลเลยหันกลับมามองคนเฝ้าไข้ที่ยังนั่งกุมมือเขาอยู่ พลยิ้มน้อยๆ เพราะปกติไม่มีซะหรอกที่เกิ้งจะแสดงอาการห่วงหาอาทรแบบนี้ เพราะรู้จักมักคุ้นกันมานาน เวลาแสดงออกถึงความห่วงใยมันถึงออกมาแนวห่ามๆ ไปตามประสาผู้ชาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ต่อปากต่อคำกันเป็นเรื่องปกตินั่น

เกิ้งเป็นทั้งรุ่นพี่ ทั้งเพื่อนร่วมงาน เพื่อนกินที่ถึงไหนถึงกัน แต่พอทำงานก็เถรตรงและบ้าดีเดือดไม่แพ้กัน

มีคู่หูรู้ใจกันขนาดนี้ จะตายทิ้งกันไปได้ยังไงเล่า

พลนอนมองคนเฝ้าไข้จนกระทั่งฝ่ายนั้นรู้ตัว เกิ้งกระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อรู้ตัวแล้วว่าคนเจ็บตื่นมานานแล้วซ้ำยังนอนมองเขาจับมือมันอยู่ เกิ้งรีบสะบัดมือที่กุมฝ่ายนั้นเอาไว้ด้วยท่าทางรังเกียจเดียดฉันท์

“แหมเมื่อกี้จับมือผมซะแน่นเลยนา”

“มึงเพ้อเพราะพิษไข้รึเปล่า”

“ห่วงผมก็มาบอกเหอะ”

เกิ้งทำหน้าพะอืดพะอม

“ขืนมึงตายห่าไปกูก็เหงาปากแย่สิ”

พลยิ้มน้อยๆ

“ไม่ตายง่ายๆ หรอกอยู่ดูพี่แอ้วพยาบาลทั้งจังหวัดได้สบายเลย”

“ปากดีฉิบหาย ไอ้ห่านี่”

เกิ้งชี้หน้าอีกฝ่าย ขณะที่พลหัวเราะร่วน มันขำจนเจ็บแผล

“สมน้ำหน้า”


.


.


อากาศยามเช้าวันนี้สดชื่นไม่น้อย รเณศเดินตามทางไปเรื่อยเมื่อรู้จากผู้นำหมู่บ้านว่าเพลิงเดินไปแถวชายป่าหลังหมู่บ้าน ก่อนหน้านี้ลุงซอยางฝากตามเพลิงด้วยเนื่องจากตอนนี้ชาวบ้านจับกุมคนร้ายได้แล้วบางส่วน ตอนนี้กำลังรอให้เพลิงและเจ้าหน้าที่ไปสอบสวนและจับไปดำเนินการ

น้ำเสียงดุดันของลุงซอยางก่อนหน้านี้ทำให้เขารู้ว่าแกเองก็ไม่พอใจที่มีคนร้ายกระทำอุกอาจทำร้ายเจ้าหน้าที่ในหมู่บ้านแบบนี้ คนเมืองเดินทอดน่องไปเรื่อยจนกระทั่งเดินผ่านบ้านไม้หลังหนึ่ง ชานบ้านที่ยื่นออกมาดูโอ่อ่ากว่าคนอื่นๆ ในหมู่บ้านนั่นทำเอารเณศมองด้วยความสนใจแต่จังหวะนั้นดอกหญ้าที่เก็บได้ข้างทางร่วงหล่นมือปลิวตกพื้น

เภสัชกรหนุ่มนึกฉงนเพราะบริเวณใกล้กันนั้นมีร่องรอยของสีแดงคล้ายเลือดที่ถูกน้ำชะล้างออกแล้ว หากไม่ทันสังเกตคงไม่รู้แต่นี่บังเอิญว่าดอกหญ้านั่นปลิวตกไปตรงนั้นพอดี คนเมืองยื่นนิ้วไปแตกร่องรอยนั้นก่อนจะยกขึ้นดม

กลิ่นเลือดจริงๆ ด้วย!

“ผมไม่อยากทำ”

รเณศสะดุ้งโหยงตอนที่ก้มลงพิสูจน์รอยนั้นทำให้เขาต้องค่อมตัวคล้ายกับมุดไปที่ใต้ถุนเรือนจนทำให้เจ้าของบทสนทนานั่นไม่ทันได้สังเกต

“มึงต้องทำ”

เสียงแหบสากของอีกคนดังขึ้น

“คนพวกนั้นดีกับครอบครัวผม”

“แล้วไง”

คู่สนทนาทำเสียงขึ้นจมูก

“มึงคิดว่าคนเมืองพวกนั้นจะทำอะไรไม่หวังผลงั้นเหรอ เหอะ ไอ้หน้าโง่”

“แต่พวกเขาไม่เคยทำร้ายพวกเรา”

“มึงมันโง่เง่าไปต่างจากคนที่นี่หรอก กูถามหน่อยถ้ามึงไม่ทำ มึงจะกินห่ะ ลูกมึง เมียมึงจะแดกอะไรกัน มึงคิดว่าแค่เก็บของป่าไปขายมันจะพอกินรึไง สิ้นคิดฉิบหาย งานสบายๆ ไม่ชอบ”

“แต่มันผิดกฎหมาย”

“หุบปาก”

รเณศเผลอกลืนน้ำลาย ซ้ำยังแอบกลั้นลมหายใจเพราะกลัวว่าสองคนนั้นจะสังเกตเห็น

“มึงอย่าโง่นักไอ้ซา”

“...”

“แล้วอีกอย่าง ไปบอกไอ้พวกนั้นด้วยว่าได้เงินแล้วไปหาที่กบดานซะ งานเมื่อคืนมันทำได้ดี แต่อย่าพวกมันเสือกเสนอมาที่นี่ ช่วงนี้พวกคนเมืองมาเพ่นพ่านบ่อยจนผิดสังเกต เหมือนพวกมันระแคะระคายแล้ว”

“ลุงไม่น่าทำเลย”

“มึงกล้าว่ากูเหรอ?”

“ผมจะช่วยงานลุงครั้งนี้ครั้งสุดท้าย ผมไม่ทำแล้ว ผมทำไม่ลง คนพวกนั้นดีกับผม”

พูดจบชายคนนั้นก็เดินผละออกไป โดยมีเสียงแหบพร่าตะโกนด่าตามหลังไป

“มึงมันโง่”

ชายชรานั่นสบถออกมาอย่างยืดยาว ก่อนจะผละไปอีกคน รเณศรอจนแน่ใจจึงออกจากที่ซ่อน เขากุมหน้าอกตัวเองแน่นทั้งที่ในใจสั่นระรัวอย่างตื่นตระหนกที่บังเอิญมาได้ยินเรื่องราวเหล่านี้เข้า คนเมืองสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะรีบออกจากไปตรงนี้ โดยที่ไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านซึ่งบังเอิญเดินย้อนมาอีกครั้งเห็นแผ่นหลังเขาไวๆ ก่อนจะมุ่นหัวคิ้วทำหน้าเครียด



☘☘☘☘

เสียงพูดคุยของคนจำนวนไม่น้อยดังมาจากชายป่านั่นทำให้รเณศซอยเท้าเข้าไปใกล้ๆ จนกระทั่งเห็นแผ่นหลังกว้างของเพลิงยืนอยู่ท่ามกลางเด็กในหมู่บ้าน คนตัวโตที่รายล้อมไปด้วยเด็กๆ นั่นน่ามองไม่น้อย รเณศยืนมองชายหนุ่มกำลังชี้ชวนให้เด็กพวกนั้นดูอะไรสักอย่าง

“เห็นนั่นมั้ย”

“นั่นต้นไม้จ๊ะผู้ช่วย”

เพลิงพยักหน้ายิ้มๆ

“นั่นทองคำต่างหาก”

เด็กๆ พากันส่ายหัว

“ต้นไม้ไม่ใช่ทองคำสักหน่อย”

“ต้นไม้เปรียบได้กับทองคำ” เพลิงค่อยอธิบาย

“มันจะเป็นทองคำได้ยังไงจ๊ะผู้ช่วย”

“ป่าพวกนั้นคือทรัพย์สินที่ทำให้เรามีกิน ป่าเป็นบ้าน เป็นยา เป็นอาหาร คุณค่ามันขนาดนั้นจะไม่เทียบเท่าทองคำได้ยังไง”

เด็กพากันพยักหน้าหงึกหงัก

“แล้วพวกเรารู้มั้ยว่าทำยังไงมันถึงจะคงอยู่ให้เราได้ใช้ประโยชน์ไปอีกนาน”

เพลิงยิ้มตอนที่เด็กๆ พากันส่ายหัว

“อ่อที กะต่อที อ่อก่อ กะต่อก่อ”

รเณศทำหน้าฉงนเมื่อเสียงทุ้มพูดประโยคนั้นออกมา ภาษาที่ไม่คุ้นเคยสำหรับรเณศแต่ทำให้คนฟังตัวจิ๋วพากันร้องอ๋อ ก่อนจะทวนประโยคนั้นของเพลิงซ้ำๆ ราวกับว่าเข้าใจภาษาเดียวกัน

“อ่อที กะต่อที อ่อก่อ กะต่อก่อ”

รเณศทวนประโยคนั้นซ้ำๆ จนกระทั่งลุงซอยางซึ่งเดินมาพบพอดียิ้มให้เขาน้อยๆ

“คำสอนลูกหลานของพวกเราน่ะ ไม่นึกว่าผู้ช่วยแกจะรู้จักด้วย”

“มันแปลว่าอะไรเหรอครับ”

““อ่อที กะต่อที อ่อก่อ กะต่อก่อ กินน้ำรักษาน้ำ อยู่ป่ารักษาป่า”

รเณศยิ้มน้อยๆ เมื่อฟังจนจบเขาเหลือบตามองแผ่นหลังกว้างที่ยังชี้ชวนให้เด็กๆ ดูผืนป่า เขามองตามแผ่นหลังกว้างนั่นนิ่ง มองเพื่อให้เห็นผู้ชายตรงหน้าอย่างชัดเจน ผู้ชายที่แม้จะถูกทำให้เจ็บปวดและหมดเรี่ยวแรงในการทำดี แต่ผู้ชายคนนี้ไม่เคยหมดศรัทธา

เพลิงอาจถูกทำให้สิ้นศรัทธา ถูกปองร้าย ทำให้เจ็บปวด แต่เขาไม่เคยหมดแรงที่จะทำหน้าของตัวเอง หน้าที่พิทักษ์พงไพร และหน้าที่ซึ่งจะทำให้ป่าคงอยู่ยั่งยืนอย่างการถ่ายทอดศรัทธานี้ให้ผู้อื่นได้รักษากันต่อไป



อ่อ ที กะต่อ ที อ่อ ก่อ กะต่อก่อ 

กินน้ำรักษาน้ำ อยู่ป่ารักษาป่า

เปอะอ่อกะต่อ อ่อกะต่อ กุ อ่อ ปกา เล ตื่อ เล ตอ

เรากินไป เรารักษาไป เราจึงมีกินตลอดไป


☘☘☘☘

ฮือ ตอนนี้มันจะจุกๆ หน่อย แต่สัญญาว่าตอนหน้าจะพาไปยิ้มแก้มแตก ฮึบๆ
หวีดในทวิตติดแท็ค #ป่าห่มรัก ด้วยเด้อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอย ที่ 20-05-2019 21:10:11
น้องรเนศแอบได้ยิน คนนั้นต้องรุ้ตัวแน่เลย เอาใจช่วยพี่เพลิงกับน้องรเนศนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 20-05-2019 21:14:51
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 20-05-2019 21:27:13
มันก็ละมุนอยู่นาาา ให้เรื่องของการเยียวยาความรู้สึกเป็นหน้าที่ ของคนสำคัญ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 20-05-2019 21:34:28
ดูแลตัวเองให้ดีๆ นะ ทั้งเพลิงและรเณศ
ว่าแต่พลเกิ้งนี้ จะเกินเพื่อนหรือเปล่านะ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Mariinariiz ที่ 20-05-2019 21:43:08
เขินผู้ช่วยมาก โรแมนติกเบาๆตลอด หวังว่าคนไม่ดีจะไม่มีวันชนะคนที่ทำความดีนะ ห่วงรเณศกลัวโดนทำร้าย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 20-05-2019 21:56:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-05-2019 22:25:50
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 20-05-2019 22:31:34
ขอให้ปลอดภัยกลับบ้านกันทุกคนนะ ห่วงน้องเนตรจังไปได้ยินความลับแล้วดันถูกเห็นซะอีกเนี่ย  :hao4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 20-05-2019 23:31:11
เสียน้ำตาไปหลายหยด ตั้งแต่บรรยายถึงคนบนฟ้า
ตอนพิทักษ์ฝากพาลูกสาวไปกินไอติม ตอนคนเมืองปลอบใจผู้ช่วย  :o12:
รอกินอมยิ้มอยู่น๊าาาาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 20-05-2019 23:41:20
ตอนหน้ายิ่มแก้มแตก.....จงมา   จงมา
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 21-05-2019 00:13:54
น้องเนตรจะกลายเป็นเป้าหมายใหม่รึป่าวเนี่ยเพราะไปรู้ความลับเข้า ระวังตัวด้วยนะเนตร
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 21-05-2019 00:17:15
จะเป็นอันตรายอีกคนมั้ยรเณศ  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 21-05-2019 00:50:25
ชีวิตในป่าคือความไม่แน่นอนจริงๆสินะคะ นาทีนี้ดี นาทีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นก็คาดเดาไม่ได้เลย
เอาใจช่วยผู้ช่วยเพลิงกับเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ยึดมั่นในอุดมการณ์อย่างแรงกล้าค่ะ สู้กับอะไรก็ไม่ยากเท่าความโลภและความไม่คิดถึงจิตใจผู้อื่นของมนุษย์บางคน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ความสัมพันธ์และความรู้สึกของเพลิงกับรเณศพัฒนาไปอย่างมากๆเลย ชอบอ่านตอนที่เค้าอยู่ด้วยกัน พูดคุยกัน และได้ให้กำลังใจกัน รอติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณสำหรับผลงานที่ดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 21-05-2019 05:03:50
เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกถึงพลังของความดีรู้สึกรักชาติรักป่าแต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้รู้สึกท้อที่จะทำดีเพราะมักถูกคนไม่ดีจ้องคอยทำร้ายตลอดเวลา
ขอให้ผู้พิทักษ์ป่าทุกคนปลอดภัยนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: FrozenSnow2019 ที่ 21-05-2019 07:40:22
ห่วงความปลอดภัยของรเนศแล้วสิ ต้องโดนปองร้ายแน่เลย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-05-2019 08:15:23
เป็นผู้รักษาและพิทักษ์ผืนป่าด้วยหัวใจ ดังนั้นขอเจ้าป่าเจ้าเขาจงคุ้มครองผู้ช่วย รเณศ และเพื่อนๆด้วยนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 21-05-2019 16:27:25
ซวยแล่ววว น้องโดนเห็น
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 21-05-2019 23:54:03
รเณศรีบบอกเพลิงนะเดี๋ยวเป็นอะไรไปป :sad4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Plakhem ที่ 21-05-2019 23:54:19
 :katai2-1: ปกติจะเป็นคนที่ชอบให้นิยายจบแล้วอ่านแบบรวดเดียว  มีเรื่องเนียะ ที่ตามอ่านทีละตอน ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน 5555 :o8:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 22-05-2019 11:07:28
อ่านแล้วคิดถึงผู้ดูแดป่าที่โดนลอบยิงเลย จนป่านนี้ยังจับตัวคนจ้างวานฆ่าไม่ได้  :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 22-05-2019 13:25:51
สะเทือนใจ คิดถึงหัวจิตหัวใจเจ้าหน้าที่ผู้ปิดทองหลังพระ
ขอบคุณที่เขียนเรื่องนี้นะคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 23-05-2019 05:27:26
ยุ่งขิงไปหมดแล้วจ้า มาอยู่บ้านเค้าดันมาทำร้ายเค้า
คนแบบนี้อยู่นานซะด้วย หวังว่าเนตรจะปลอดภัย

ใจเสียกันมาแล้ว กำลังดีใจกันไม่พ้นคืน ต้องมาเจอเรื่องกันอีก
เพลิงคงทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ ทำให้คนอื่นเดือดร้อนแทน
เนตรเป็นกำลังใจที่ดี เป็นคนข้างหลังที่เคียงข้างและเข้าใจ
ในโมเมนท์ความเศร้า ก็ยังมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น

เอิ่มม อีกนิดจะคิดมากแล้วนะคะ พลเกิ้ง 5555

หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 23-05-2019 07:21:21
มาลงชื่อเป็นแฟนคลับผู้ชายในเครื่องแบบอีกคนจ้า

สนุก มีเนื้อหา สาระ แต่ไม่ลืมความบันเทิง
ตัวละครทุกตัวมีมิติที่เชื่อมโยงกับการกระทำ
จุด ปม ที่วางให้ช่วยสังเกต ไม่ง่ายเกินจะมอง
แต่ก็ไม่ยากหรือซับซ้อนเกินที่คนอ่านจะไม่ทันคิด
รู้สึกเหมือนได้ช่วยเป็นหูเป็นตา

เรื่องคนพิทักษ์ป่า เขียนได้สมจริง ลึกซึ้งมากค่ะ

รออ่านตอนต่อไปแทบไม่ไหว ^^
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 23-05-2019 11:09:33
รเณศรีบบอกผู้ช่วยด่วนเลยนะคะ
ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-05-2019 20:53:21
จุกในอก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [15] #ป่าห่มรัก [20.5.62] P.13 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: hoihak ที่ 26-05-2019 17:36:53
ฮืออออออออออออออออออออออออออออออ ร้องไห้หนักมาก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 27-05-2019 21:25:52
[ 16 ]



เสียงพัดลมติดผนังที่ดังกึกๆ คล้ายกับเสียงกล่อมให้นอนในตอนบ่ายแก่ๆ ส่งผลให้รเณศรู้สึกง่วง หงาวหาวนอนขึ้นมาหากไม่ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของผู้ช่วยสาวซึ่งกำลังสนใจหนังสือพิมพ์ในคอลัมน์บันเทิงตามประสาสาวช่างฝัน

“นางแบบไฮโซส่อเค้าเตียงหักกับสามีหมอฟันตระกูลดัง”

สาวเจ้าพึมพำก่อนจะทำตาโต

“โห สวยขนาดนี้ยังมีปัญหาเรื่องหัวใจอีกเหรอเนี่ย”

รเณศเงยหน้าจากดอกไม้ที่แห้งกรอบจนกลายเป็นสีซีดแต่เขายังสอดเอาไว้ในสมุดโน๊ตเล่มโปรด และทุกครั้งที่เผลอนึกถึงคนให้ก็มักจะหยิบเอามันมาคลึงเล่นอย่างไม่รู้เบื่อ

“ท่าทางพี่เนตรจะชอบดอกไม้เนอะ”

ผู้ช่วยสาวเอ่ยทักตอนที่เธอเงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ในมือก่อนจะพยักพเยิดไปยังอดีตดอกไม้สีแดงที่บัดนี้แห้งกรอบจนไม่เห็นเค้าสีเดิมของมัน คนเมืองทำหน้าไม่ถูกเมื่อโดนจ้องตรงๆ คล้ายกับจะแซวแบบนั้น

“ใครให้มาน้อ หนูเห็นพี่เนตรนั่งยิ้มได้ทุกวันตั้งแต่กลับมาจากป่า”

รเณศยิ้มเฉยทั้งที่หัวใจเต้นรัวไม่น้อยเมื่อนึกถึงคนให้ เกือบสัปดาห์แล้วที่เขาและเจ้าหน้าที่กลับออกมาจากป่า เภสัชกรหนุ่มยังนึกถึงเหตุการณ์ระทึกที่มีคนร้ายบุกมาลอบยิงเจ้าหน้าที่ในค่ำวันนั้น ลูกน้องของเพลิงบาดเจ็บสาหัสคนหนึ่ง ดีว่าฝ่ายนั้นใจสู้ถึงรอดมาได้ พอรุ่งเช้าที่พิทักษ์ฟื้นขึ้นมา เพลิงก็ไม่รอช้า เขาและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ รวมถึงคนในหมู่บ้านพากันเคลื่อนย้ายคนเจ็บมารักษาตัวที่โรงพยาบาลในตัวอำเภอทันที นอกจากนี้คนร้ายซึ่งจับกุมได้สองคนซึ่งรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิงเจ้าหน้าที่แต่ไม่ยอมเปิดปากว่าใครเป็นผู้จ้างวานถูกรวบตัวไปส่งทางการในวันนั้นทันที

ทุกอย่างดูเหมือนจะคลี่คลายแต่รเณศรู้สึกลึกๆ ว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างที่รบกวนจิตใจเขามาตลอด รเณศยังเก็บความสงสัยที่พบเจอรอยเลือดนั่นเอาไว้ เขาพยายามจะหาโอกาสพูดคุยกับเพลิงแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีโอกาสเสียที ตั้งแต่เพลิงกลับออกจากป่าฝ่ายนั้นก็ยุ่งไม่น้อย เรื่องที่เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกลอบทำร้ายดูเหมือนจะเป็นประเด็นให้ชายหนุ่มหัวหมุนจนไม่มีเวลาได้พบเจอกันเลย จะพูดว่าไม่ได้พบเจอกันเลยคงไม่ได้ เพราะทุกวันผู้ช่วยหนุ่มจะเจียดเวลามาเยี่ยมลูกน้องที่โรงพยาบาลซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้านยาของเขามากนัก ผลพลอยได้คือหลังจากเยี่ยมไข้แล้วเพลิงจะโผล่มาหาเขาช่วงสั้นๆ ก่อนจะกลับไปทำงาน

ช่วงสั้นๆ ที่รเณศเฝ้ารอคอยอยู่เงียบๆ

“พี่เนตรเหม่ออีกแล้ว”

ผู้ช่วยสาวโบกไม้โบกมือเรียกเขา

“ว่างแล้วรึไงเรา ถ้าไม่อ่านหนังสือพิมพ์แล้วใช่มั้ยเรา ถ้าอย่างนั้นไปเช็คสต๊อกยาให้พี่อีกสักรอบเป็นไง”

“อุ้ย”

เด็กสาวเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะทำเป็นก้มหน้าก้มตากับหนังสือพิมพ์ในมือ

“จากกระแสข่าวของนางแบบไฮโซ นีรกุล ศศิกุลนารถกับสามีทันตแพทย์...”

นามสกุลคุ้นหูนั่นทำเอารเณศชะงักไป พอดีกับที่เด็กสาวอุทานไม่ขาดปากว่าสามีนางแบบคนดังกล่าวหล่อเหลาสมกับนางแบบคนนั้น

คงสมกันอยู่หรอก

รเณศโคลงศีรษะเพราะจำได้ดีว่าคู่หมั้นของเตวิชเป็นนางแบบไฮโซจากตระกูลผู้ดีมีอันจะกินทัดเทียมกันมากแค่ไหน เพราะเหมาะสมกันนั่นแหละในอดีตเขาถึงนึกน้อยใจในตัวเองที่ไม่มีสิ่งไหนคู่ควรและเหมาะสมกับอดีตคนรักรุ่นพี่

คนเมืองยักไหล่ก่อนจะเบือนหน้าไปหยิบหนังสือมาอ่านเล่นตามประสาหนอนหนังสือ หากเป็นเมื่อก่อนการได้รับรู้เรื่องราวของอดีตคนรักสำหรับเขาคงเป็นเรื่องที่ทำให้เจ็บปวดทรมานและน่าอึดอัดใจไม่น้อย ต่างจากตอนนี้ที่เรื่องราวของคนๆ นั้นผ่านเข้ามาในโสตประสาทแล้วไหลผ่านออกไปราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป

“สามีนางแบบนี่หล่อจริงๆ นะพี่เนตร”

รเณศพยักหน้าเห็นด้วย

“หล่อ แต่ใจร้าย”

“หือ?”

เด็กสาวทำหน้าสนใจ

“พี่เนตรรู้จักคนหล่อๆ นี่ด้วยเหรอจ๊ะ”

รเณศยิ้มน้อยๆ

“เคยรู้จัก”

“...”

“แต่ตอนนี้ไม่อยากรู้จักแล้ว”

รเณศเผลอขำออกมาตอนที่ฝ่ายนั้นอ้าปากหวอ ก่อนจะคะยั้นคะยอให้เขาเล่าให้ฟังว่าไปรู้จักกับคนในหัวข้อสนทนาได้อย่างไร

“เรื่องในชีวิตมีให้จดจำเยอะแยะ อย่าให้พี่ต้องไปจดจำเรื่องแย่ๆ ในชีวิตเลยนะ”

เตวิชอาจเคยเป็นเรื่องราวดีๆ ในชีวิตเขา แต่บัดนี้รเณศขอจดจำว่าเตวิชเพียงแค่เป็นเรื่องราวดีๆ ที่ผ่านเข้ามาให้จำและจากไปอย่างไม่น่าจดจำก็เท่านั้น

“พี่เนตรพูดอะไรก็ไม่รู้ หนูไม่เห็นเข้าใจเลย”

เด็กสาวเกาศีรษะแกรกๆ ตอนที่รเณศยักไหล่ก่อนจะผุดลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงร้องของเด็กน้อยแก้มใสที่ตื่นมาร้องไห้โยโยอยู่หลังร้านในตอนนี้

เฮ้อ พี่เนตรที่เหมือนพ่อลูกอ่อนเข้าไปทุกวันแล้ว เด็กสาวคิดอยู่เงียบๆ


.


.


“ว่าไงครับคนเก่ง หนูร้องไห้ทำไมลูก”

รเณศพูดเสียงหวานตอนที่ช้อนตัวเด็กน้อยขึ้นมาแนบกับอก มือข้างหนึ่งลูบไล้แผ่นหลังน้อยๆ อย่างแผ่วเบาราวกับปลอบประโลม ก่อนจะไล่ปลายนิ้วขึ้นมาเกลี่ยรอบดวงตากลมโตของเด็กน้อยที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตา สีหน้าเหยเกคล้ายกับไม่สบายตัวจนเขานึกเอะใจ พอเลื่อนจมูกไปดมๆ แถวก้นจึงได้กลิ่นตุๆ โชยขึ้นมาทันที

“โอ้ว เจ้าแก้มใส”

รเณศยิ้มขำตัวเองก่อนจะทำจมูกฟุดฟิดไปมา

“โดนเล่นซะแล้วเรา”

รเณศค่อยวางเด็กน้อยไว้ที่เบาะแล้วลงมือถอดแพมเพิสที่เลอะออก จากนั้นก็พาไปล้างทำความสะอาดก้นกลมก่อนจะพากลับมาใส่แพมเพิส พอสบายตัวแล้วเด็กน้อยก็ยิ้มหวานจ๊อยให้เขาทันที วันนี้ทั้งป้าอนงค์และป้าสมัยต่างติดธุระไปดูแผงผลไม้ในเมือง ส่วนเจ้าเปลวก็ติดงานที่อุทยานดังนั้นรเณศจึงขันอาสาดูแลหนูน้อยเหมือนเช่นทุกครั้ง

“ยิ้มแป้นแล้นเชียวนะเรา”

คนเมืองอดใจไม่ไหวฟัดพุงกลมๆ นั่นอย่างมันเขี้ยว หนูน้อยหัวเราะเอิ้กอ้ากพร้อมกับยื่นมือมาแตะที่ใบหน้าเขาคล้ายกับจะจับ รเณศจึงนิ่งให้แก้มใสจับหน้าเขาแล้วส่งยิ้มหวานให้อีกครา

“น่ารักไปไหนเนี่ยเจ้าแก้มกลม”

“...”

“พ่อเนตรรักหนูขนาดนี้ เดี๋ยวยกร้านขายยานี่ให้ซะเลยดีมั้ยเนี่ย”

“แอ๊ะ แอ๊ะ”

“รู้ความซะด้วยนะตัวแสบ”

เด็กน้อยตาเป็นประกายราวกับว่าฟังที่พูดรู้เรื่อง

“มาเป็นลูกพ่อเนตรมั้ย”

“แอ๊ะ แอ๊ะ”

“งั้นตกลงตามนี้เนอะ”

เด็กน้อยยิ้มหวานจ๋อย จนรเณศแกล้งขยับเอานิ้วก้อยไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยอันกลมป้อมของทารกน้อย

“ขอฟัดแก้มหน่อยนะลูกสาวพ่อ”

เด็กน้อยหัวเราะเอิ้กอ้ากเคล้าไปกับเสียงของรเณศ ภาพนั้นอยู่ในการรับรู้ของคนตัวโตที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาหลังร้านตามคำบอกเล่าของผู้ช่วยสาวที่บอกว่ารเณศอยู่หลังรานกับเด็กน้อย ภาพความรักที่สะท้อนออกมาจากสายตาคนเมืองเวลามองแก้มใสนั่นเป็นภาพที่น่าดูมากจริงๆ

รเณศรักเด็กและเพลิงก็ทราบดีว่าฝ่ายนั้นเอ็นดูลูกสาวเจ้าเปลวไม่น้อย

คนเมืองสะดุ้งโหยงตอนที่เด็กน้อยร้องกรี๊ดคล้ายกับดีใจและขยับตัวไปมาก่อนที่มือจะยื่นไปด้านหลังเขา พอเอี้ยวตัวหันกลับไปเห็นคนตัวโตยืนยิ้มอยู่ เขาถึงได้เข้าใจว่าปฏิกิริยาของแก้มใสที่แสดงออกมาเพราะเด็กน้อยเห็นเพลิง

“คุณ”

รเณศเพิ่งหาเสียงตัวเองเจอตอนที่สบสายตากับดวงตาพราวระยับนั่น

“ขอโทษที่มาไม่ให้สุ้มให้เสียง ผมทำให้คุณตกใจหรือเปล่า”

เภสัชกรหนุ่มส่ายหน้าหวือ

“คิก”

แก้มใสยื่นมือขึ้นก่อนจะกำแบๆ อยู่หลายรอบเป็นท่าทางที่อยากให้คนในชุดลายพรางนั่นอุ้ม

“ท่าทางแกอยากให้คุณอุ้ม”

“มือผมสกปรก”

เพลิงแบมืออกมาสีหน้าดูไม่อยากให้เด็กน้อยเข้าใกล้สักเท่าไหร่

“อีกอย่างเสื้อผมมีแต่กลิ่นเหงื่อ”

“ไปล้างมือสิครับ”

รเณศบุ้ยปากไปยังห้องน้ำใกล้ๆ กัน

“เจ้าเปลวเวลากลับมาจากทำงานสภาพแย่กว่านี้อีก เจ้านั่นยังตรงมาฟัดลูกไม่สนด้วยซ้ำว่าเจ้าแก้มจะเหม็นกลิ่นตัว”

เพลิงโคลงศีรษะแล้วยิ้มบางๆ ก่อนจะผละไปล้างมือ พอออกมาก็เดินตรงดิ่งไปยังร่างจิ๋วที่มองเขาตาแป๊ว เด็กน้อยยิ้มกว้างตอนที่เขาขยับไปช้อนร่างเด็กน้อยขึ้นมาแนบอก หนูน้อยกำคอเสื้อเขาแน่นก่อนจะเอียงหน้าซบที่แผ่นอกเขาราวกับรู้ความ

“ขี้อ้อนจริงนะเรา”

“แกคงรู้ว่าใครรักแกบ้าง”

รเณศลูบกระหม่อมบางเบาๆ ก่อนจะเลื่อนนิ้วไปเกลี่ยเหงื่อตรงขมับของคนในชุดลายพราง เพราะสังเกตตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าเพลิงมีเหงื่อ

“ขอบคุณ”

“เหนื่อยมั้ย”

คำถามง่ายๆ จากรเณศนั่นทำเอาคนตัวโตถึงกับชะงัก เพลิงนิ่งมองอีกฝ่ายเงียบๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา ต้องยอมรับว่าภาระงานที่แบกรับเอาไว้มันหนักและเหนื่อยไม่น้อยจริงๆ เพลิงกำลังสืบหาตัวผู้จ้างวานที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ในหมู่บ้านอย่างอุกอาจ ขณะเดียวกันเขาและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ยังต้องตรวจจับการลับลอกขนไม้พะยูงในแต่ละวัน

ตั้งแต่กลับออกจากป่า เพลิงไม่เคยหลับตาได้สนิทในแต่ละวัน ความกังวลและความเครียดสะสมจากการที่ลูกน้องถูกทำร้ายยังรบกวนจิตใจเขาตลอดเวลา พิทักษ์เป็นลูกจ้างชั่วคราวของอุทยาน หมอนั่นมีครอบครัว แน่นอนว่าการบาดเจ็บสาหัสนั่นทำให้ภรรยาและลูกสาวต้องทุกข์ทรมานใจ เขายังจำได้ดีว่าสองแม่ลูกนั่นร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดตอนที่รู้เรื่องหัวหน้าครอบครัว

ภาพนั้นทำให้เพลิงจุกในอก

เป็นโชคดีที่พิทักษ์ดวงแข็งจึงรอดมาได้ และอีกไม่กี่วันคงจะกลับบ้านได้แล้ว หลังจากนี้เพลิงกะว่าจะไปส่งลูกน้องพร้อมครอบครัวที่บ้านซึ่งอยู่จังหวัดใกล้ๆ กันนี่แหละ เพื่อให้ชายหนุ่มพักรักษาตัวและฟื้นฟูสภาพจิตใจของลูกเมีย

เพลิงพยายามให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ เพราะพิทักษ์เป็นแค่ลูกจ้างจึงไม่มีสวัสดิการอะไรให้มากนัก ทั้งๆ ที่ทำงานเสี่ยงอันตรายขนาดนั้น นึกแล้วก็น่าท้อใจ

ใช่น่าท้อใจ

เพลิงโคลงศีรษะเมื่อนึกถึงรายงานที่เขียนไปเพื่อของบดูแลความเป็นอยู่ของผู้พิทักษ์ แต่กลับได้รับการปฏิเสธมาว่าไม่มีงบที่ว่านั้นหรอก นั่นหมายความว่าชีวิตของผู้พิทักษ์คงต้องเป็นไปอย่างยากลำบากเช่นที่แล้วมา แต่เรื่องนี้เพลิงยอมไม่ได้หรอก คนทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถควรได้รับสิ่งตอบแทนกลับไปบ้าง

ชายหนุ่มปล่อยให้ความคิดของตัวเองหลุดลอยไปไกลจนกระทั่งเหลือบไปสบสายตากับดวงตาคู่หนึ่งซึ่งจดจ่อรอคำตอบเขาอย่างน่าเอ็นดู

‘เหนื่อยมั้ย...อย่างนั้นหรือ’

“อื้ม”

รเณศยิ้มกว้างเมื่อได้คำตอบก่อนที่จะเลื่อนมือไปลูบบ่าอีกฝ่าย

“หายเหนื่อยนะ”

เพลิงคว้ามืออีกฝ่ายมากุมเอาไว้

“ครับ”

แก้มใสส่งเสียงประท้วงเมื่อเห็นผู้ใหญ่ทั้งสองยืนจ้องตาหวานหยดอยู่แบบนั้น

เฮ้อ เด็กก็อยากมีส่วนรวมนะ



☘☘☘☘


ป้าอนงค์มุ่นหัวคิ้วเล็กน้อยตอนที่รู้สึกว่าบรรยากาศตรงหน้าแปลกออกไป เวลาเย็นค่ำที่กำลังนั่งล้อมวงกินข้าวเย็นกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ข้างกายเธอคือนางสมัยซึ่งกำลังตักกับข้าวใส่จานให้เจ้าเปลวหลานชาย อีกข้างคือรเณศหลานชายของเธอซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตากินข้าว ทุกอย่างดูปกติเฉกเช่นทุกวัน ยกเว้นก็แต่วันนี้มีแขกหน้าคุ้นตาในชุดลายพรางที่นั่งถัดไปจากรเณศ ทุกอย่างคงไม่ผิดแปลกหากว่านางจะไม่สัมผัสได้ว่าวันนี้ไม่ปกติเสียแล้ว

อย่างแรกเมนูทอดหมูที่ห่างหายไปนานกลับมาวางอยู่ในสำรับอีกครั้ง และนางคงไม่ได้คิดไปเองว่าทุกครั้งที่ผู้ช่วยหนุ่มมาเยือนที่นี่ ทอดหมูฝีมือของหลานเจ้าบ้านมักจะปรากฏของในสำรับทุกครั้งไป และไอ้เมนูที่ว่านี่แหละที่ทำให้คนในชุดลายพรางเจริญอาหารไม่น้อย

อย่างที่สองทั้งๆ ที่คนทั้งคู่นั่งใกล้กันขนาดนั้นก็ยังอุตส่าห์ส่งสายตาให้กันอยู่ร่ำไป หากเป็นแต่ก่อนตอนที่ยังไม่เข้าป่าไปด้วยกัน นางต้องอ่อนอกอ่อนใจกับสายตาของหลานที่มองฝ่ายนั้นดูไว้เชิงและท่าทางที่แสดงออกอย่างไม่เป็นมิตร ต่างจากวันนี้โดยสิ้นเชิง

รเณศมีท่าทีแปลกไปตั้งแต่กลับออกมาจากป่า ณ ที่แห่งนั้นมีอะไรเกิดขึ้นกันหนอ

“อิ่มแล้วเหรอ”

รเณศถามขึ้นตอนที่เพลิงวางช้อน

“เอาข้าวเพิ่มมั้ย”

“พอแล้ว” เพลิงส่ายหัว “ผมอิ่มแล้ว”

รเณศกุลีกุจอยื่นน้ำให้อีกฝ่าย ท่าทางที่แสดงออกถึงความเอาใจใส่นั้นอยู่ในสายตาของคนมีอายุ

“หมูทอดวันนี้ไม่อร่อยหรือผู้ช่วย”

ป้าอนงค์เอ่ยเย้า ขณะที่คนถูกเย้ายิ้มน้อยๆ ก่อนจะส่ายหัว

“อร่อยเหมือนทุกครั้งครับ” เขาตอบแต่สายตาเหลือบมองคนข้างกายที่หน้าร้อนเห่ออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “แต่วันนี้ผมรองท้องมาจากข้างนอกมาแล้ว ผมต้องขอโทษป้าอนงค์ด้วยที่วันนี้เสียมารยาท”

ป้าแกโบกมือไหวๆ

“วุ้ย ไม่ต้องขอโทษขอโพยอะไรกันหรอกผู้ช่วย ป้าน่ะแค่ห่วงกลัวผู้ช่วยจะไม่อิ่มซะมากกว่า ป้าไม่คิดเล็กคิดน้อยหรอกจ้ะ ห่วงก็แต่คนทำน่ะสิจะน้อยใจเอารึเปล่า”

รเณศทำหน้าเหรอหราก่อนจะหลุบตามองพื้น เมื่อเห็นแววตาของป้าอนงค์ คำพูดนั้นก่อนหน้านั้นเหมือนการโยนหินถามทาง แน่นอนว่าคนมีอายุนั่นมองเห็นหนทางอะไรบางอย่างลางๆ แล้ว

“อย่าน้อยใจเลยครับ”

เพลิงพูดยิ้มๆ ขณะที่รเณศนั่งหน้าแดงก่ำ

“วันนี้ป้าทำลูกตาลลอยแก้วนะ ผู้ช่วยจะรับสักหน่อยมั้ยล่ะ”

ป้าแกชวนคุยตอนที่เก็บสำรับอาหารคาวออกไปแล้ว

“ไม่ดีกว่าครับ”

เพลิงปฏิเสธ “ดึกแล้วผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า”

“ถ้ามันดึกก็นอนค้างบ้านป้าเลยสิผู้ช่วย”

ป้าแกเอ่ยชวน

“ห้องหับที่นี่เยอะแยะ ดึกดื่นป่านนี้จะฝืนขับรถกลับไปทำไมกัน ป้ารู้มาว่าผู้ช่วยโดนลอบทำร้ายที่หมู่บ้านท้ายเขา ขากลับค่ำๆ มืดๆ แบบนี้ มันอันตรายนะผู้ช่วย”

“ผมไม่ได้กลับที่พักหรอกครับ วันนี้ว่าจะไปนอนเฝ้าลูกน้องที่โรงพยาบาล”

ป้าอนงค์พยักหน้าหงึกหงัก

“ถ้าอย่างนั้นก็ดูแลตัวเองด้วยนะผู้ช่วย”

เพลิงไหว้ลาผู้สูงอายุทั้งสอง ก่อนจะพยักพเยิดไปทางเจ้าเปลวที่อุ้มลูกสาวอยู่ในอ้อมแขน ชายหนุ่มเดินไปหอมแก้มเด็กน้อยที่หัวเราะชอบใจ ก่อนจะเดินลงเรือนไปโดยมีรเณศตามมาส่ง

“ส่งผมแค่นี้แหละ ค่ำแล้วขึ้นเรือนไปเถอะ”

เพลิงพูดขึ้น

“ขับรถดีๆ นะครับ”

คนในชุดลายพรางพยักหน้ายิ้มพราย

“รเณศ”

“...”

“หมูทอดวันนี้อร่อยเหมือนเดิม”

“...”

“เสียดายวันนี้ไม่ได้ชิมลูกตาลลอยแก้วฝีมือของป้าอนงค์”

รเณศหลุบตามองพื้นพอดีกับที่ปลายเท้าที่เปื้อนโคลนขยับมาหยุดตรงหน้า คนเมืองจึงเงยหน้าขึ้นสบตากับคนในชุดลายพราง

“ช่วยไม่ได้ คุณไม่อยากทานเอง”

รเณศทำหน้ายู่ใส่ ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อใบหน้าคมคายโน้มลงมาใกล้ ชายหนุ่มดันเข้าไปยังมุมมืดตรงพุ่มไม้ข้างบ้าน วินาทีนั้นเขาเห็นเงาของเพลิงวูบผ่านสายตาก่อนที่ริมฝีปากคู่คมจะฉกจูบริมฝีปากเขาทันที เพลิงเม้มริมฝีปากเขาเบาๆ คล้ายจะแกล้ง ก่อนที่ริมฝีปากร้อนผ่าวจะแนบไปทั่วขอบปากและไม่นานลิ้นร้อนๆ ก็แทรกเข้ามาในกลีบปากนุ่ม

คนเมืองซวนเซจะล้มเพราะอาการตื่นตะลึงระคนเขินอายทำอะไรไม่ถูก

“เผื่อคุณยังไม่รู้”

เพลิงงับขอบปากเขาอย่างมันเขี้ยว

“จริงๆ ผมไม่อยากเป็นแค่ผู้ช่วยที่ป้าอนงค์เอ็นดูเหมือนลูกหลานเท่านั้นนะ”

“...”

“คุณรู้มั้ยว่าผมอยากเป็นอะไร”

รเณศตาปรืออ่อนแรงเพราะฤทธิ์จูบดุดันนั่น

“ไม่รู้”

คนเมืองตอบเสียงเบาหวิวทั้งที่ริมฝีปากบวมเจ่อและเงาวับโดดเด้งขึ้นมา

“เผื่อคุณยังไม่รู้...ว่าผมอยากเป็นหลานเขยป้าอนงค์”



☘☘☘☘

เกือบสัปดาห์หลังจากนั้นพิทักษ์ออกจากโรงพยาบาล เพลิงจึงพาอีกฝ่ายไปส่งบ้านที่เพื่อพักฟื้นร่างกาย รเณศขออาศัยติดรถอีกฝ่ายไปด้วยเพราะขากลับเขาจะขอแวะซื้อของ คนเมืองถึงกับน้ำตาซึมตอนที่เห็นครอบครัวของพิทักษ์ต่างยิ้มกว้างดีใจที่หัวหน้าครอบครัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย ก่อนที่คนตัวโตจะผละออกมาเขายังจำได้ดีถึงบทสนทนาของเพลิงกับลูกน้อง

“ผมให้ลาพักจนกว่าพิทักษ์จะหายดีนะ”

“ครับผู้ช่วย”

“แต่ผมมีข้อแม้”

“อะไรครับผู้ช่วย”

“พิทักษ์ต้องส่งหลักฐานให้ผม”

ฝ่ายนั้นทำหน้างง

“หลักฐานอะไรเหรอครับ”

“รูปถ่ายตอนที่พิทักษ์พาลูกสาวไปกินไอศกรีมมาให้ผมด้วย”

พิทักษ์ร้องไห้กอดลูกสาวแน่นและแน่นอนว่าคำพูดนั้นของเพลิงทำให้รเณศอดน้ำตาซึมตามไม่ได้เพลิงเป็นคนรักษาสัญญาเสมอ เขายังจำได้ดีตอนที่ฝ่ายนั้นรับปากว่าจะพาฝ่ายนั้นกลับมาหาลูกสาว


.


.


รเณศนั่งยิ้มมาตลอดทางจนกระทั่งคนในชุดลายพรางบังคับพวงมาลัยรถเข้าเขตวัดแห่งหนึ่ง ภาพความสวยงามตามแบบศิลปะเมืองเหนือตรงหน้าทำหน้าคนเมืองมองอย่างสนใจก่อนที่เพลิงจะสะกิดให้เขาให้ได้สติ รเณศเดินตามอีกฝ่ายไปเงียบๆ เขาเข้าไปกราบสักการะพระพุทธรูปด้านในเสร็จแล้วจึงเดินชมจิตรกรรมกรรมฝาผนังรอบๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ภาพหนึ่ง

คนเมืองเงยหน้ามองภาพดังกล่าวราวกับต้องมนต์ ภาพชายคนหนึ่งกำลังทำท่าทางราวกับจะเกี้ยวหญิงสาวในรูปด้วยการยกมือป้องปากราวกระซิบกระซาบข้างหูหญิงสาว

“ปู่ม่านย่าม่าน”

เสียงกระซิบข้างหูและความรู้สึกอบอุ่นที่เบื้องหลังบ่งบอกว่ามีใครสักคนยืนซ้อนหลังเขาอยู่ รเณศ นึกสนใจเมื่อได้ยินเพลิงพูดด้วยสำเนียงที่แปลกไป

“แม่ผมเป็นคนน่าน ผมเลยพูดเหนือได้บ้าง”

มิน่าเล่า!

รเณศพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะหันไปมองภาพจิตรกรรมนั้นอีกครั้ง

“สวยมาก”

“ใช่” เสียงทุ้มพึมพำ “สวยจนมีคนแต่งกลอนเป็นภาษาที่สละสลวยเพื่อบรรยายความงดงามนั้น”

“ดีจัง”

รเณศยืนพิจารณาความงามนั้นเงียบๆ ก่อนที่เสียงทุ้มของเพลิงจะดังขึ้นที่ข้างหู



*คำฮักน้อง กูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว

จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาคะลุม

จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป

ก็เลยเอาไว้ในอกในใจตัวชายปี้นี้ จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้

ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา*



ภาษาคำเมืองลื่นหูจากน้ำเสียงทุ้มนั่นพาให้หัวใจของเขาสั่นระรัวแม้จะแปลไม่ออกว่าเนื้อความนั้นหมายความว่าอะไร แต่ถ้อยคำที่เปล่งจากน้ำเสียงเพลิงพาให้คนฟังเช่นเขานึกเก้อเขินราวกับว่าถูกอีกฝ่ายเกี้ยวพาก็ไม่ปาน

ใบหน้าคนเมืองร้อนเห่อ ขนอ่อนตรงหูลุกชันอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งตอนที่เขาหันมาสบสายตาลุ่มลึกของคนที่ยืนซ้อนหลังกันอยู่

“มันแปลว่าอะไร”

เพลิงไม่ตอบนอกจากมองหน้าเขาแล้วยิ้ม

“กลอนอวยพรให้คนรักกัน ไม่มีความหมายหรอก”

“แน่หรือ”

รเณศทำหน้าไม่เชื่อ เพราะท่าทางของเพลิงราวกับว่าจะเอ่ยเย้ากันมากกว่าบอกข้อเท็จจริง


.


.


รเณศเก็บความสงสัยนั้นจนมาถึงบ้าน พอเจอป้าอนงค์นั่งดูละครภาคค่ำเรื่องโปรดที่โถงรับแขกเขาจึงอดที่จะเอ่ยปากถามไม่ได้

“ป้าครับ”

“ว่าไงหรือเจ้าเนตร”

“ป้ารู้จักปู่ม่านย่าม่านมั้ยครับ”

ป้าอนงค์พยักหน้าหงึกหงัก

“รู้จักสิ”

“แล้วกลอน...”

“กลอนกระซิบรักงั้นหรือ”

รเณศทำหน้ามึนงง

“ไม่ใช่กลอนอวยพรให้คนรักกันเหรอครับ”

ป้าแกหรี่ตามองเขาก่อนจะหัวเราะออกมา

“ใช่ที่ไหนกันเล่า นั่นมันกลอนกระซิบรัก ชื่อก็บอกว่ากระซิบรัก ย่อมเป็นกลอนที่ใช้บอกรักและขอพรให้มีความรักยืนยง มั่นคงและยาวนาน”

บอกรักงั้นหรือ?

รเณศหน้าแดงวาบเมื่อนึกถึงแววตาของเพลิงที่ทอดมองกัน

“มันแปลว่าอะไรเหรอครับ”

ป้าอนงค์มองเขาแล้วยิ้ม



*ความรักของน้องนั้น พี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว

จะฝากไว้กลางท้องฟ้าอากาศกลางหาว ก็กลัวเมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย

หากเอาไว้ในวังในคุ้ม เจ้าเมืองมาเจอก็จะแย่งความรักของพี่ไป

เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่ จะให้มันร้องไห้รำพี้รำพันถึงน้อง

ไม่ว่ายามพี่นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น*



รเณศหน้าแดงวาบ

“อะไรกัน ถูกใครหลอกบอกรักหรือเปล่าน่ะเรา”

ป้าอนงค์เดาถูก

เพราะเขาถูกหลอก...รเณศถูกเพลิงหลอกด้วย ‘กลอนกระซิบรัก’

บ้าเอ๊ย!

คนเมืองกลั้นยิ้มจนปวดแก้ม ยิ่งรู้สึกวูบวาบเมื่อนึกถึงลมหายใจรดต้นคอตอนที่ฝ่ายนั้นยืนซ้อนหลังเขาแล้วกล่าวกลอนกระซิบรัก

‘เผื่อคุณยังไม่รู้...ว่าผมอยากเป็นหลานเขยป้าอนงค์‘

เขารู้แล้ว...เพราะรู้ถึงยากที่จะข่มตาหลับได้ในคืนนี้เพราะอาการคันยุบยิบในอก

☘☘☘☘




Cr. ภาพจิตรกรรมกลอนกระซิบรักที่ฝาผนัง วัดภูมินทร์ จ.น่าน
แหมะๆ หลานเขยป้าอนงค์ คิกค้ากกก
หวีดในทวิตติดแท็ค #ป่าห่มรัก ให้ด้วยเด้อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 27-05-2019 21:27:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-05-2019 21:37:33
มีความหวานมาให้กระชุ่มกระชวยเบาๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 27-05-2019 21:48:09
 :3123: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 27-05-2019 21:55:35
น้ำตาท่วม แง้
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Aimlovelove ที่ 27-05-2019 22:05:00
เขาจะหวานกันกว่านี้ใช่มั้ยยยย เขินเลยยย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 27-05-2019 22:21:19
อื้อหือ ค่อย
ๆถักทอแต่ลึกซึ้งขนาดเจ้า
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 27-05-2019 22:34:36
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 27-05-2019 22:41:38
ร้ายนะคะผู้ช่วย ปล้นจูบเค้าไปแล้วค่อยมาจีบทีหลัง  :hao3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 27-05-2019 23:08:46
อมยิ้มแก้มตุ่ยเลยทีเดียว  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 27-05-2019 23:18:50
โอ้ยยยยยยยย
เขินไม่ไหวแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 27-05-2019 23:30:13
แล้วรเณศ จะนอนหลับได้เหรอคืนนี้ คงคิดถึงแต่คนกระซิบรักละสิ
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fun_la_ong ที่ 27-05-2019 23:55:52
เขินกว่าเนตรก็เรานี่แหละ โอ้ยยย พี่เพลิง~~~~
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 28-05-2019 00:34:18
ไปเที่ยวน่านกันเถอะเรา
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-05-2019 00:41:34
 :-[ :impress2: :o8:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 28-05-2019 01:00:35
เขินนนนน :jul1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 28-05-2019 01:32:58
ฮือออ น่ารักกก ความสัมพันธ์พัฒนาไปเรื่อยๆ รเณศก็ดูจะตัดใจได้แล้ว และพอเป็นเรื่องความสัมพันธ์เพลิงก็พูดตรงไปหมด พูดทุกอย่างเลย รเณศเขินแล้วเขินอีกขนาดนี้ตำแหน่งหลานเขยป้าคงไม่หนีเพลิงไปไหน ส่วนอีกเรื่องก็คืออยากให้รเณศได้บอกเพลิงเรื่องคำพูดที่ได้ยินมาบนหมู่บ้านบนดอยกับรอยเลือด คิดว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับคนในหมู่บ้านนั่นแหละ กลัวเหล่าเจ้าหน้าที่จะเป็นอันตรายหนักกว่าเดิม ยังไงจะรอติดตามตอนต่อไปค่ะ ขอบคุณสำหรับผลงานที่ดีนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 28-05-2019 05:22:36
เผื่อคุณเพลิงยังไม่รู้​ คนอ่านยิ้มแก้มจะแตกแล้ว
ทำไมน่ารัก​ อบอุ่น​ ขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-05-2019 08:12:53
เขินจนตัวเป็นเกลียวแล้ว :-[ :-[ 
ผู้ช่วยเขาร้ายจริงๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอย ที่ 28-05-2019 09:05:53
โอ้ยยยยย น่ารัก เขินไปหมด
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 28-05-2019 09:12:22
คุณผู้ช่วยยยยย สาบานว่าอยู่ป่ามานานนน

ฮือ เขินว้อยยยย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 28-05-2019 09:28:54
ความรักกำลังเบ่งบาน แต่ดูท่ามารจะมาผจญหรือเปล่า  :m16: กำจัดมันออกไป แล้วเรามาฟินต่อยามเขาหยอดกัน  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 28-05-2019 09:45:26
 เขินผู้ช่วยมากเลย :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 28-05-2019 11:41:13
จีบหนักมากผู้ช่วย เขินนนนนนนนนนนนนนนนน
แต่รเณศอย่าลืมบอกผู้ช่วยว่าไปเจออะไรมา
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 28-05-2019 12:00:08
หวานๆๆน่ารัก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 28-05-2019 13:11:34
ลีลาจีบร้ายนักผู้ช่วย แงงงง เขินนนนนน  :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 28-05-2019 15:04:23
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 28-05-2019 17:56:57
พี่เพลิงเป็นคนวร๊ายๆๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 28-05-2019 20:55:07
รุกหนักมาก..ผู้ช่วย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 29-05-2019 07:37:57
น้ำตาไหล เจ้าหน้าที่ป่าไม้เสี่ยงชีวิตทุกวันจริงๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: brapair ที่ 31-05-2019 21:35:38
โอ้ยยย!! คนอ่านอมยิ้มแก้มแตกแล้วจ้าพ่อออ
จีบเก่งอะไรขนาดนี้อ้ะ!
ละนี่เค้าก็รักกันจนคนอื่นดูออกหมดแล้ววว
เหม็นฟามรักกกก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: lovenine ที่ 01-06-2019 12:58:44
ติดตามสนุกมากๆ^^
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [16] #ป่าห่มรัก [27.5.62] P.14 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Mariinariiz ที่ 01-06-2019 17:42:54
ฮืออออออออออออออ เขินผู้ช่วยอ่ะ ทำไมคำพูดคำจาของผู้ช่วยถึงได้รุกรุนแรงขนาดนี้ ถ้านี่เป็นพี่เนตรนี่ระเบิดตัวเองแล้ว เขินนนนนนนนนนนนนน :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 03-06-2019 20:51:17
[ 17 ]



รเณศเร่งซอยเท้าอย่างเร่งรีบเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้จ้าของเด็กน้อยดังมาจากโถงกลางบ้าน คาดว่าป่านนี้แก้มใสคงตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบใครจึงร่ำไห้ขวัญเสียขนาดนั้น อีกอย่างผู้สูงวัยอย่างป้าอนงค์และป้าสมัยคงคุมคนงานคัดผลไม้อยู่ใต้ถุนเรือนไทยโดยมีเจ้าเปลวเป็นลูกมือช่วย เพราะวันอาทิตย์แบบนี้เจ้านั่นจึงได้หยุด แต่ถึงจะถูกไล่ให้ไปพักผ่อน คนมีน้ำใจอย่างเปลวก็ขันอาสาไปช่วยผู้สูงวัยทั้งสองอยู่ดี

เสียงแผดร้องของหนูน้อยในตอนแรกค่อยเบาเป็นเสียงสะอื้น แต่ถึงอย่างนั้นคนเมืองก็เร่งฝีเท้าเร็วขึ้นด้วยเกรงว่าเจ้าแก้มกลมจะร้องไห้จนป่วยไข้ไปซะเปล่าๆ รเณศไปถึงโถงกลางในจังหวะที่ใครคนหนึ่งช้อนร่างนุ่มนิ่มในเปลขึ้นอุ้ม ร่างสูงใหญ่นั่นโอบอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอกก่อนจะขยับโยกไปมา ก่อนจะอุ้มพาหนูน้อยไปชี้ชวนดูสิ่งอื่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ

“ชูว์”

“ฮึก”

เด็กน้อยยังแบะปากทำหน้าเหยเกทั้งที่ซบใบหน้าแนบไปกับแผ่นอกกว้าง

“นิ่งซะนะคนดี”

“ฮึก”

“ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย...”

เนื้อเพลงคุ้นหูที่ได้ยินทุกเช้าเย็นดังมาจากเสียงทุ้มในลำคอของคนตรงหน้า รเณศอมยิ้มกลั้นขำที่เห็นคนในชุดลายพรางกำลังร้องเพลงชาติกล่อมหนูน้อย

ให้ตายเถอะ...ดูไม่เข้ากันเอาซะเลย

แต่เชื่อมั้ยว่าเสียงสะอึกสะอื้นของหนูน้อยในอ้อมแขนของเพลิงกลับเงียบลง ใบหน้าเด็กน้อยเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตากำลังจ้องมองเพลิงนิ่ง แก้มใสทำหน้าฉงนสนเท่ห์ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มหวานจ๋อยให้คนที่จับอุ้ม มืออันใหญ่ของเพลิงซึ่งใหญ่กว่าใบหน้าน้อยๆ ของแก้มใสกำลังเกลี่ยน้ำตาตามร่องแก้มนุ่มอย่างแผ่วเบา

มันเป็นภาพที่มีเสน่ห์

เพลิงคือคนที่มีบุคลิกจริงจัง มีอุดมการณ์และแน่วแน่ในการทุ่มเททำงานเพื่อป่าไม้อันเป็นที่รัก และผู้ชายจริงจังคนนี้แหละที่เป็นคนๆ เดียวกับผู้ชายที่ร้องเพลงคณะให้เขา เป็นคนที่แกล้งหลอกบอกความรู้สึกพิเศษด้วยกลอนกระซิบรัก และเป็นผู้ชายที่ร้องเพลงชาติเพื่อปลอมประโลมเด็กน้อย

“แก้มใส”

“...”

“หนูเห็นนั่นมั้ย...”

เพลิงชี้ชวนเด็กในอ้อมแขนให้ดูแนวป่าท้ายไร่ปลายดอยที่กว้างไกลสุดสายตา “ตรงท้ายไร่นั่นน่ะคือพื้นที่ป่าไม้นะ มันคือทรัพย์สมบัติที่หนูเก็บรักษานะลูก”

“...”

“หนูจำเอาไว้นะ ว่าป่าคือของขวัญจากธรรมชาติ เป็นของขวัญที่ทำให้เราเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้สารพัด เพราะมันมีคุณค่าอนันต์แบบนั้น หนูจึงต้องดูแลรักษามันให้อยู่กับหนูนานๆ นะ”

รเณศยืนกอดอกนิ่งฟังเพลิงชี้ชวนให้เด็กน้อยสนใจในบทสนทนา แน่นอนว่าเนื้อความเหล่านั้นไม่ทำให้เด็กวัยยังไม่ถึงขวบเข้าใจอะไรนักหรอก แก้มใสเกาหัวยุ่งๆ ท่าทางไม่เข้าใจจนเพลิงหัวเราะน้อยๆ

“วันนี้หนูอาจจะยังไม่รู้ความ ไว้ลุงจะแวะมาเล่าให้หนูฟังบ่อยๆ นะ” แก้มใสยิ้มกว้างก่อนจะยื่นมือทั้งสองข้างไปจับประคองใบหน้าของเพลิง

“ถ้าลุงอยู่ถึงวันที่หนูโต หนูจะเข้าใจเองว่าป่าไม้ให้อะไรกับคนเราบ้าง”

เพลิงจูบขยับเด็กน้อย

“ป่าไม้ทำให้ผมรู้จักคนๆ หนึ่ง”

คำตอบของรเณศทำให้เพลิงเอี้ยวตัวหันกลับไปมองจึงเห็นว่ารเณศยืนยิ้มให้กันอยู่ด้านหลัง

“ป่าสำหรับผมอาจจะเป็นแค่ผืนป่าที่งดงามตามธรรมชาติ แต่ป่าสำหรับเขาคือชีวิตและลมหายใจของคนๆ หนึ่ง”

“...”

“ป่าทำให้ผมเจอเขา”

รเณศรู้สึกว่าใบหน้าตัวเองร้อนผ่าวเมื่อเพลิงจ้องหน้าเขาแล้วยิ้ม

“เขาคือใครเหรอ”

เพลิงแกล้งถาม

“คนในเครื่องแบบ...”

รเณศเผลอกัดปากตัวเองก่อนจะต่อท้ายประโยคนั้นด้วยเสียงอันแผ่วเบา “...ลายพราง”

“เขามีความสำคัญกับคุณยังไง”

คนเมืองแอบกลืนน้ำลาย

“สำคัญมาก”

“ยังไง”

“เขาเป็นหมอรักษาป่าที่รักษาหัวใจของหมอยา”

รเณศพูดจบแล้วรีบเดินก้มหน้างุดๆ ปิดบังใบหน้าใบหน้าแดงก่ำด้วยการผละหนีออกไปทันทีทิ้งให้เพลิงขยับรอยยิ้มกว้างก่อนจะก้มลงไปหยอกล้อกับเด็กน้อยในอ้อมแขน


.

.


บ่ายคล้อยแล้วหลังจากที่กล่อมหนูน้อยให้นอนกลางวัน วันนี้ป้าอนงค์มีผู้ช่วยคัดผลไม้เพิ่มมาอีกคนหนึ่งซึ่งดูท่าจะแข็งขันใช้ได้จนแกต้องเอ่ยบอกผู้ช่วยในชุดลายพรางให้นั่งพักซะบ้าง หลังจากมื้อเที่ยงป้าอนงค์บอกให้คนงานและชาวบ้านแถวนั้นที่แวะมาช่วยแยกย้ายไปพักผ่อนเพราะคัดผลไม้กันเสร็จแล้ว แต่ส่วนหนึ่งยังนั่งจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน รเณศมองภาพนั้นแล้วยิ้มน้อยๆ เขาไม่เคยพบเจอบรรยากาศแบบนี้มาก่อนเพราะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงมาตลอดชีวิต วิถีคนเมืองและวิถีชาวบ้านมีความแตกต่างกัน คนที่นี่ถือเรื่องน้ำใจเป็นใหญ่ มีอะไรก็แบ่งปันกัน ชีวิตเรียบง่ายไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่เป็นความเงียบที่ทำให้เขาสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

รเณศเห็นเพลิงนั่งยองๆ แล้วโน้มตัวลงให้ต่ำเพื่อฟังสิ่งที่ชาวบ้านกำลังบอกเขา ดูเหมือนว่าผู้ช่วยเพลิงจะเป็นที่สนใจของชาวบ้านไม่น้อย  ใครๆ ต่างก็เรียกหาเขา

“ยิ้มอารมณ์อะไรขนาดนั้นฮึเจ้าเนตร”

ป้าอนงค์ซึ่งกำลังนั่งปลอกเปลือกลูกตาลเพื่อน้ำไปทำลูกตาลลอยแก้วถามขึ้น รเณศสะดุ้งโหยงก่อนจะหันมาสบตากับเจ้าของบ้าน

“ไม่มีอะไรนี่ครับ”

ป้าอนงค์หรี่ตามองเขาแล้วยิ้มน้อยๆ

“แกรู้มั้ยว่าตอนนี้สีหน้าแกดูดีกว่าตอนมาแรกๆ อีกนะ ตอนนั้นน่ะ สีหน้าอมทุกข์อย่างกับคนแบกโลกอยู่”

รเณศยิ้มแหย

“ตอนนี้ฉันเห็นแกมีความสุข ฉันก็ดีใจ”

รเณศยิ้มกว้างก่อนจะขยับไปกอดเอวอีกฝ่าย

“อู้ย มากอดฉันทำไม”

“ขอผมกอดหน่อยนะครับ” รเณศรัดอีกคนให้แน่นขึ้นจนแกร้องโวยวายทั้งที่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ขอบคุณนะครับป้าที่ให้ชีวิตใหม่กับผม”

คนสูงวัยถอนหายใจก่อนจะละมือมาลูบศีรษะเขา

“หมดทุกข์หมดโศกนะลูกเอ๊ย อะไรที่ผ่านมาแล้วก็แล้วกันไป ใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้มีความสุขนะเจ้าเนตร”

ความสุขงั้นหรือ? ความสุขของรเณศในตอนนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากคนในชุดลายพราง ‘ผู้ช่วยคนดีของป้าอนงค์’

รเณศสบตาป้าอนงค์นิ่ง

“ป้าครับ” เขากัดริมฝีปากตัวเองแน่น “ถ้าผมไม่เหมือนคนอื่น ป้าจะรังเกียจผมมั้ยครับ”

ป้าแกถอนหายใจแรงๆ

“แกอยากทำอะไรก็ทำเถอะ อยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป แค่มันไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอแล้ว”

คนมีอายุรู้ทุกเรื่องของเขา แววตาปราณีคู่นี้ทำให้รเณศตื้นตันใจขึ้นมา

“ป้า”

“เอาน่า ฉันไม่ได้เดือดร้อนกับเรื่องของแก แต่ถ้ามันหนักหัวใครที่ไม่ได้มีผลกับชีวิตแกก็ช่างมันเถอะ แกไม่ได้ขอข้าวมันกินสักหน่อย ชีวิตคนเราตัวเราเป็นคนกำหนดอย่าให้ลมปากของคนอื่นมามีผลอะไรเลย”

รเณศยิ้มขำด้วยความโล่งใจ ระหว่างนั้นเขาสังเกตเห็นเพลิงผละออกไปรับสายโทรศัพท์ข้างนอก ก่อนที่จะเดินหน้าเครียดกลับเข้ามา ท่าทางแบบนั้นทำให้คนที่ลอบมองอยู่อย่างเขารีบปรี่เข้าไปหา คนเมืองเดินซอยเท้าตามร่างสูงที่เดินหลบไปยังซุ้มเฟื้องฟ้าข้างบ้าน เพลิงคุยโทรศัพท์อีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม รเณศจึงยืนรอท่าให้ชายหนุ่มคุยธุระก่อนจะวางสายไปในที่สุด

“คุณ”

สีหน้าเคร่งเครียดของเพลิงบ่งบอกว่าธุระสำคัญในสายนั่นน่าหนักใจไม่น้อย

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ”

เพลิงถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะสบตาเขานิ่ง

“คนร้ายที่ลอบยิงพวกเราที่หมู่บ้านท้ายเขาฆ่าตัวตาย”

รเณศยืนอึ้งทำหน้าไม่ถูก

“แล้ว...”

“ตายคนนึง อีกคนสาหัส”

รเณศรู้สึกอ่อนแรงและหวิวในอกบอกไม่ถูก ข่าวว่าคนร้ายที่จับกุมได้นั้นถูกสอบเค้นอย่างหนักแต่พวกมันไม่ปริปากซัดทอดใครเลยนอกจากนิ่งเงียบแล้วให้การณ์ว่าคิดและลงมือทำกันเอง แต่วันดีขึ้นดีก็ลุกขึ้นมาฆ่าตัวตายซะอย่างนั้น

คนเมืองถอนหายใจเฮือกใหญ่ แวบหนึ่งเขานึกถึงรอยเลือดที่หมู่บ้านนั่น

“คุณ” เภสัชกรหนุ่มทำหน้ายุ่งยากใจ “ผมมีเรื่องจะบอกคุณ”

เพลิงทำหน้าประหลาดใจในคำพูดของเขา

“เช้าตรู่ตอนที่ผมจะไปตามคุณที่ท้ายป่า ผมเจอรอยเลือดใหม่ๆ ที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังนั้นใหญ่โตกว่าทุกคนในหมู่บ้าน”

เพลิงทำหน้าเครียดทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่คนตรงหน้าเล่าสู่กันฟัง

“พวกมันเห็นคุณมั้ย”

รเณศส่ายหน้าหวือ

“ไม่น่าครับ แต่ผมแอบได้ยินพวกเขาคุยกัน คนหนึ่งบอกว่าไม่อยากทำงานผิดกฎหมายอีกแล้ว ขณะที่อีกคนไม่เห็นด้วยซ้ำยังพูดถึงเจ้าหน้าที่ไม่ดีนัก”

“รเณศ” เพลิงเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเข้ม “ทำไมถึงพาตัวเองไปในที่อันตรายแบบนี้”

“ก็..”

เพลิงยกมือห้ามไม่ให้เขากล่าวอะไรต่อ ชายหนุ่มเอื้อมมือมาคว้ารเณศไปกอดไว้แนบอก

“ระวังตัว”

“คุณ”

รเณศกระซิบเสียงอู้อี้กับอกกว้าง

“สัญญากับผมว่าต่อจากนี้ไปให้ระวังตัวเองมากๆ และอย่าทำแบบนี้อีก” คนเมืองพยักหน้าหงึกหงักอยู่กับอกของเพลิง

“พวกมันเป็นใครเหรอครับ”

เพลิงไม่ตอบแต่ท่าทางนิ่งเงียบแบบนั้นก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว

“คุณบอกผมให้ระวังตัว คุณเองก็ต้องระวังตัวนะ” รเณศพูดเสียงแผ่ว ขณะที่อีกฝ่ายรับคำเสียงทุ้ม เพลิงค่อยผละออกจากเขา มือใหญ่เกลี่ยใบหน้าเขาเบาๆ ก่อนจะมุ่นหัวคิ้วเมื่อมองข้ามรเณศไปเห็นอะไรบางอย่าง

“นั่นควันอะไร”

รเณศเอี้ยวมองไปด้านหลังก่อนจะเห็นควันไฟลอยขึ้นท้องฟ้าจากที่ไกลๆ จำนวนควันที่พวยพุ่งขึ้นมานั่นบ่งบอกว่าบริเวณนั่นคงมีการเผาไหม้ คิดดูสิว่าขนาดมองจากที่ไกลๆ ยังเห็นได้ชัดขนาดนี้ แล้วตรงจุดเกิดเหตุนั่นจะเป็นอย่างไร คนเมืองไม่ทันได้ถามความกับเพลิงเพราะทันทีที่เห็นควันไฟชายหนุ่มรีบกระโจนขึ้นรถพร้อมกับตะโกนเรียกเจ้าเปลวเสียงดังลั่น



☘☘☘☘

เพลิงทำหน้าเครียดตอนที่สบตากับเจ้าหน้าที่ในชุดลายพรางแต่ละคนที่วันนี้ต้องออกมาทำหน้าที่อย่างกะทันหันในวันหยุดพักผ่อน แต่สถานการณ์ตรงหน้าทำให้เขาต้องยอมเรียกกำลังคนแทนที่จะให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาวันหยุดกับครอบครัว

“มีคนเห็นชาวบ้านมาหาเก็บของป่าไปขายครับ พวกมันน่าจะทิ้งก้นบุหรี่โดยไม่ได้ดับ พอดีกับที่อากาศแห้งแล้ง ไฟเลยลามติดกันไว”

เกิ้งทำหน้าไม่สู้ดีนัก

“จากไฟไหม้ธรรมดากลายเป็นไฟป่าไปแล้ว”

“กลัวแต่มันจะลุกลามไปในเพื่อที่ป่าอุทยานน่ะสิ”

พลพึมพำ

“คงต้องแบ่งเป็นสองทีม ทีมแรกไปดับไฟ อีกทีมไปทำแนวกันไฟ กันไม่ให้ลุกลามเข้าเขตป่าอุทยาน ไม่อย่างนั้นพวกสัตว์ต่างๆ จะได้รับอันตรายไปด้วย”

เพลิงวิเคราะห์ หลังจากนั้นจึงแบ่งกำลังคนตามแผนก่อนจะมุ่งหน้าเดินเท้าเข้าไปในพื้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งด้านหนึ่งของตัวหมู่บ้านที่ชาวบ้านมักเข้าไปหาของกันกำลังกลายเป็นกองเพลิง ภาพเปลวเพลิงที่กำลังโหมไหม้ต้นไม้นั่นน่ากลัวไม่น้อย แต่เหนือสิ่งอื่นใดนอกจากความน่ากลัวคือความรู้สึกเสียดายที่เห็นต้นไม้ใหญ่ยืนต้นถูกไฟไหม้จนกลายเป็นตอตะโกไปแล้วบางส่วน อีกส่วนกำลังถูกไฟลามเลียไปเรื่อย สะเก็ดไฟพุ่งกระจายไปทั่ว และหากไฟลามไปถึงกิ่งไม้ใด มันก็จะทำให้กิ่งที่ถูกแผดเผาร่วงหล่นลงสู่พื้นและลามไปติดกับหญ้า

กลายเป็นกองเพลิงขนาดใหญ่ที่ไม่มีท่าทีว่าดับลงได้อย่างง่ายดาย

“ระวังตัวกันด้วยนะ”

เพลิงตะโกนบอกเจ้าหน้าที่

“ครับ”

การดับไฟป่าเป็นงานที่อันตรายถึงชีวิตหากขาดความระวังระวังยิ่งวันนี้ลมแรง การดับไฟจึงเป็นไปได้ยากลำบากเพราะแรงลมส่งผลให้ไฟไหม้ลุกลามไปเรื่อยยากที่จะดับ ดีว่านอกจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้แล้วยังมีชาวบ้านแถบนั้นพากันอาสามาช่วยทำแนวกันไฟ

“ไอ้พวกระยำสูบบุหรี่สร้างภาระให้คนอื่นดมจนเป็นโรคร้ายไม่พอ มันยังทำเลวด้วยการทิ้งก้นบุหรี่จนไฟไหม้ป่าอีก”

เปลวทำเสียงกระฟัดกระเฟียด ขณะที่เต็งพยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วย

“อย่าให้เจอ กูจะจับย่างพวกแม่งให้เป็นไก่อบฟางแน่มึง”

“โอ๊ยลูกไฟ”

ใครคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาตอนที่ลูกไฟซึ่งเกิดจากกอไผ่ไหม้ปลิวไปทั่วจนต้องพากันหลบ แรงลมนั่นส่งผลให้เปลวไฟโหมกระพือขึ้นอย่างน่ากลัว

“ฉิบหายแล้ว”

พรานธีปออุทานดังๆ

“มีคนโดนไฟลวก”

เสียงชาวบ้านตะโกนมาจากอีกฟากหนึ่งซึ่งกำลังทำแนวกันไฟอยู่นั่นทำให้เพลิงรีบวิ่งไปดูอาการคนเจ็บอย่างว่องไว

“ผู้ช่วยระวัง”

เพลิงรีบเบี่ยงไหล่ออกอย่างเฉียดฉิวเมื่อกิ่งไม้ที่ติดไฟร่วงลงมาในระยะประชิด เขาถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะเบี่ยงหน้าไปอีกทาง

“ผู้ช่วยเป็นอะไรมั้ย”

คนตัวโตโบกมือไหวๆ

“ไม่เป็นไรๆ ผมไม่โดน”

เจ้าหน้าที่คนอื่นพากันถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินสะพายถังดับเพลิงไล่เลาะฉีดไปตามแนวไฟ


.

.


“ไฟไหม้ป่าน่ะ”

ป้าอนงค์พูดขึ้นตอนที่ลงมือทำอาหารมื้อเย็น มือข้างหนึ่งโคลกน้ำพริกเสียงดัง ขณะที่อีกข้างนั่นกอบเอาวัตถุดิบเทใส่ครกไปเรื่อย

“น่ากลัวอยู่นะพี่อนงค์”

ป้าสมัยซึ่งยืนคนแกงอยู่หันมาสนทนาด้วย นั่นทำให้คนที่ป้อนนมเด็กน้อยในอ้อมแขนรู้สึกหายใจติดๆ ขัดๆ เพราะนึกถึงใครบางคน

“เขาว่าต้นเพลิงจากฝีมือไอ้กเฬวรากท้ายหมู่บ้านบ้านสามโน่น”

“เห็นว่าอย่างนั้นนะ”

“ดูสิหาภาระให้ผู้ช่วยกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ต้องลำบากไปด้วย”

ป้าอนงค์พยักหน้าหงึกหงัก

“นี่ก็ดับมาจะสามวันแล้ว ยังไม่มีท่าทีว่าจะดับได้เลย”

แกพูดก่อนจะพยักพเยิดไปยังเศษผงจากการเผาไหม้ที่ปลิวลงมาเกลื่อนพื้น คิดดูว่าบ้านแกห่างจากจุดที่ไฟไหม้ตั้งหลายกิโลยังได้รับผลกระทบขนาดนี้ แล้วหมู่บ้านที่ใกล้กับต้นเพลิงจะแย่ขนาดไหน ได้ข่าวว่ามีชาวบ้านป่วยเพราะสูดดมควันไฟไปหลายคนแล้ว

“เฮ้อ ห่วงก็แต่เจ้าหน้าที่กับชาวบ้านที่ไปช่วยกันดับไฟป่านั่นแหละ ป่านนี้จะกินจะนอนกันยังไง เห็นว่าช่วยกันดับไฟทั้งวันทั้งคืน”

รเณศเม้มปากแน่นเพราะเพลิงกับเปลวหายไปแล้วสามวัน เป็นสามวันที่ทำให้รเณศอยู่ไม่สุขนักหรอก ข่าวว่าสถานการณ์มันเลวร้ายลงเรื่อยๆ ตอนนี้ไฟไหม้ลามเข้าพื้นที่ป่าอุทยานแล้ว ความเสียหายมากมายเกินจะประเมินค่าได้ ซ้ำก่อนหน้านี้พื้นที่สวนผลไม้ของชาวบ้านก็วอดวายไปแล้วไม่น้อย

“ถ้าฝนตกลงมาสักหน่อยคงจะดี”

“มันก็ยากอยู่นะพี่อนงค์ ตอนนี้อากาศมันแห้งจะแย่”

“ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ไฟมันดับก่อนถึงวันเกิดผู้ช่วยแกเถอะ”

วันเกิดงั้นเหรอ?

รเณศทำหน้าสนใจพอดีกับที่ป้าอนงค์หันมายิ้มให้เขา

“อีกสี่วันจะถึงวันเกิดผู้ช่วยแกน่ะ ป้าจำได้เพราะปีที่แล้วแกมาจ้างให้ทำอาหารเพื่อไปเลี้ยงเพล ไอ้เราก็เอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลานอยู่แล้วเลยทำให้ฟรีร่วมทำบุญไปด้วยเลย นานๆ จะได้เห็นแกทำตัวสบายๆ สักที ได้ยินว่าแต่ละปีแกก็ไม่ว่างนักหรอก ขนาดปีที่แล้วทำบุญเลี้ยงพระเสร็จพอสายหน่อยก็พาเจ้าหน้าที่เข้าป่าไปลาดตระเวนแล้ว ไม่ได้ว่างได้เว้นกับคนอื่นเขาหรอก เห็นแล้วก็อดเห็นใจไม่ได้ ปีนี้ป้าเลยตั้งใจไว้ว่าอยากทำบุญเลี้ยงพระให้แกอีกสักปี”

รเณศเม้มปากแน่นนึกถึงคนในชุดลายพรางที่ป่านนี้คงจะมอมแมมไปทั้งตัว จะได้กินข้าว จะได้พักผ่อนนอนหลับบ้างหรือไม่หนอ




☘☘☘☘


“ขอบคุณมากครับลุงซอยาง”

เพลิงหันไปขอบคุณผู้นำหมู่บ้านท้ายเขาที่สองสามวันมานี้พาชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านมาช่วยชาวบ้านแถบนี้ดับไฟป่ากัน ก่อนหน้านี้ชาวบ้านแถบนี้ก็มองพวกบ้านท้ายเขากันอย่างไม่เป็นมิตรนักหรอกเพราะได้ยินข่าวเรื่องเจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายในหมู่บ้านนั่น แต่พอเห็นคนท้ายเขามาช่วยกันดับไฟความรู้สึกกินแหนงแคลงใจก็เบาบางลง

เพลิงยกหลังมือขึ้นเช็ดเหงื่อที่ซึมออกทางขมับเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าว ก่อนจะยกน้ำในกระบอกซึ่งลุงซอยางยื่นให้เมื่อกี้ยกดื่มอีกครั้งให้คลายกระหาย สีหน้าเหนื่อยอ่อน ท่าทางดูเหนื่อยล้าของบรรดาเจ้าหน้าที่ทำให้คนที่มองอยู่นึกเห็นใจ

เสียงสะเก็ดเปลวไฟที่แตกเป็นระยะๆ บ่งบอกว่าเพลิงไฟยังทำงานของมันได้ดีทั้งๆ ที่บรรดาเจ้าหน้าที่และชาวบ้านระดมกำลังมาช่วยกันดับ ดีว่าช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงที่ลามไปไหม้ที่ป่าอุทยานได้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นทั้งพืชพรรณและสัตว์ป่าก็ต่างสูญเสียไปในกองเพลิงไม่น้อยเลย

“ผู้ช่วย”

เสียงเกิ้งตะโกนมาจากอีกฝ่ายทำให้คนที่เพิ่งได้นั่งพักขาผุดลุกขึ้น ลุงซอยางเหลือบตามองคนหนุ่มที่ผุดลุกขึ้นอย่างว่องไว ดูเอาเถอะเห็นผู้ช่วยแกเดินไม่หยุดตั้งแต่เช้า บรรดาเจ้าหน้าที่คนอื่นยังได้เปลี่ยนกันพัก แต่เพิ่งเห็นว่าเพลิงได้พักเหนื่อยก็ตอนที่พักดื่มน้ำเมื่อกี้นี้เท่านั้นเอง

“พบซากควายป่านอนตายในกองไฟตรงชายป่าด้านโน้นครับ”

เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตอนที่ทอดมองซากสัตว์ชนิดหนึ่งที่ดำเป็นตอตะโกจนแทบมองไม่เห็นเค้าโครงเดิมของมัน ใครๆ ก็รักชีวิตกันทั้งนั้นไม่เว้นแม้กระทั่งสัตว์ป่า มันคงจะหนีตายมาทางนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหลุดรอดไปจากเพลิงกัลป์ที่เผาคร่าชีวิตของพวกมัน

สูญเสียอย่างอื่นสามารถใช้เงินทองซื้อหามาทดแทนกันได้ แต่สูญเสียชีวิตนี่จะหาอะไรมาทดแทนกันเล่า ป่าต้องใช้เวลากว่าชั่วอายุคนในการเจริญเติบโตเพื่อให้เราคนเก็บเกี่ยวความอุดมสมบูรณ์ของมัน ไม่ต่างจากสัตว์ป่าที่ต้องอาศัยความอุดมสมบูรณ์นั้นในการดำรงชีวิต และต้องใช้เวลาไม่น้อยเลยกว่าจะฟื้นฟูคามหลากหลายทางชีวภาพในป่าแห่งนี้

เพลิงเหลือบตามองหน้าดินที่ดำเป็นนิลถูกไฟพลาญจนสูญเสียธาตุอาหารสำคัญ มองไปรอบกายเขาเห็นแต่ซากต้นไม้ใหญ่ยืนต้นตายนับสิบและอีกนับร้อยแปรสภาพจากสีเขียวอุดมสมบูรณ์เป็นสีดำอันธกาล กลิ่นควันไฟ กลิ่นซากความสูญเสียฟุ้งกระจายไปทั่ว

“แนวกันไฟที่ป้องกันไฟลามเข้าไปเขตอุทยานด้านหนึ่งได้ผลครับ”

“...”

“แต่ว่าไฟป่าอีกด้านดูเหมือนจะลุกลามเข้าเขตสวนผลไม้ของชาวบ้าน”

พลทำหน้ายุ่งยากใจ

“อีกอย่างป่าเราเสียพื้นที่ป่าไปเกือบร้อยไร่”

ป่านับร้อยถูกทำลายลงด้วยฝีมือของมนุษย์

เพลิงกำหมัดแน่น

“แต่เมื่อวานนี้ทางการแจ้งมาว่ากรมฝนหลวงฯ จะขึ้นทำการบินวันนี้”

เกิ้งเสริมขึ้นอย่างมีความหวัง

“ข้าได้แต่ภาวนาว่าขอให้ฝนตกลงมาทีเถอะ”

พรานธีปอลูบไปที่ลำคอซึ่งแกห้อยเหรียญบาทเอาไว้ “ป่าห่มรักของพวกเราเสียหายมามากเกินพอแล้ว”

เพลิงเงยหน้ามองท้องฟ้าตอนที่ได้บินเสียงเครื่องบินลำหนึ่งบินผ่านมา ลุงซอยางยกมือไหว้ปลกๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า

“ขอให้สำเร็จที่เถอะ”

เพลิงรู้ดีตอนนี้ความหวังสุดท้ายของพวกเราคือภาวนาให้ฝนตก เพราะหากสายฝนเทลงมาเพลิงกัลป์ที่กำลังโหมแรงอยู่คงจะดับลงได้ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนอ่อนล้าเพราะสู้กับมันมาหลายวัน ถึงจะเหนื่อยแต่ไม่มีใครปริปากบ่น ทุกคนยังก้มหน้าก้มตาทำงานกันอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย

แต่ยิ่งทำก็เหมือนยิ่งหมดแรง

เพลิงรู้ดีว่าตอนนี้พวกเรากำลังต่อสู้กับธรรมชาติ ถึงแม้สาเหตุจะมาจากการกระทำของมนุษย์แต่ตอนนี้ธรรมชาติกำลังทดสอบพวกเราอย่างไม่ปราณี สภาพอากาศแล้งแห้งที่มีแต่ลมไร้ทิศทางไม่สามารถคาดเดาทิศทางของไฟได้มันเหมือนด่านทดสอบจากธรรมชาติวซึ่งกำลังเล่มเกมกับผลการกระทำของมนุษย์

เขารู้ดีต่อให้คนเรามีพละกำลัง มีสติปัญญา หรือมีเทคโนโลยีมากมายเกิดขึ้นในทุกๆ วัน แต่มนุษย์ก็ไม่เคยเอาชนะธรรมชาติได้หรอก


.

.


“สาธุ”

รเณศเหลือบตามองป้าอนงค์และบรรดาชาวบ้านที่พากันมาตั้งเต็นท์ประกอบอาหารเพื่อนำเอาเสบียงไปให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่กำลังดับไฟป่ากันอยู่ตอนนี้  เขาเห็นคนในหมู่บ้านผลัดกันมาช่วยทำกับข้าวไม่ได้ขาด จนกระทั่งใครคนหนึ่งนำเอาข่าวดีมาบอกว่าวันนี้ทางการจะทำฝนหลวงเพื่อให้ฝนตกตั้งแต่เช้า นั่นจึงทำให้เกิดเสียงสาธุดังไปทั่วเต็นท์

บ่ายแก่ๆ วันนั้นคนเมืองจึงวิ่งออกมองด้านนอกเต็นท์ก่อนที่เขาจะเงยหน้ามองท้องฟ้าเบื้องหน้า ท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับดำมืด กลุ่มเมฆที่ลอยตัวไปมาเริ่มจับกลุ่มเป็นก้อนขนาดใหญ่สีดำมหึมา ในความดำมืดนั่น รเณศกลับเห็นแสงสว่างบางอย่าง ไม่ใช่แสงไฟหรือแสงฟ้า แต่เป็นแสงแห่งความหวังที่ทุกคนเฝ้ารอมานาน

“ฝนตกแล้ว”

เสียงใครบางคนตะโกนดังลั่น ไม่นานหลังจากนั้นทุกคนก็พากันกรูออกมานอกเต็นท์ สายฝนที่โปรยปรายในระยะแรกกลับเริ่มหนาเม็ดแล้วตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา รเณศมองไปรอบกายเขาเห็นผู้คนต่างโห่ร้องดีใจ ไม่มีใครวิ่งเข้าเต็นท์หลบฝน แทบทุกคนต่างพากันยืนตากฝนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและหัวเราะไปกับสายฝนที่ซัดกระหน่ำ

รเณศรู้สึกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวและใบหน้าของเขาเปียกปอนไปหมด ไม่แน่ใจว่าเพราะน้ำฝนหรือน้ำตากันแน่ หรืออาจจะเป็นทั้งสองอย่างปะปนกันไป

เขาไม่ได้ร้องไห้เพราะเศร้าเสียใจ ตรงกันข้ามน้ำตานั้นเกิดจากความปรีติดีใจ

ดีใจ...ที่ไฟป่าจะมอดดับลงแล้ว

และดีใจ...ที่คนไกลซึ่งเขาห่วงใยกำลังจะได้ ‘กลับบ้าน’



.

.


เพลิงหลับตาแหงนหน้ามองท้องฟ้าเพื่อสัมผัสกับเม็ดฝนที่ร่วงหล่นลงมาไม่ขาดสาย เจ้าหน้าที่พากันคนกอดคอโห่ร้องด้วยความดีใจ

“ฝนหลวง”

พรานธีปอและลุงซอยางต่างพากันคุกเข่าก้มลงกราบพื้นดิน

มนุษย์ก็ไม่เคยเอาชนะธรรมชาติได้...เป็นความจริง แต่มีบุรุษผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่คิดวิธีการต่อกรกับธรรมชาติจนได้ผล ไม่ใช่เพื่ออยากเอาชนะธรรมชาติหรอก เปล่าเลย แต่เพื่อเอาชนะความลำบากยากจนของประชาชนคนบนพื้นดินเฉกเช่นพวกเราต่างหาก


☘☘☘☘

บอกแล้วว่านี่คือนิยายฟิลกู๊ด (ตามแบบฉบับเรา คิกค้ากก)
สำหรับผู้ติดตามใหม่เราลงนิยายทุกวันจันทร์นะคะ
หวีดในทวิตติดแท็ค #ป่าห่มรัก ให้ด้วยเด้อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 03-06-2019 21:33:34
ผู้ช่วยแบบว่า... หวานแท้
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 03-06-2019 21:39:18
คนที่อุทิศตัวเอง สละเวลาการใช้ชีวิตส่วนตัว และทุ่มเทแรงแรงกายเพื่อธรรมชาติและผืนป่าเเบบเพลิงไม่ควรต้องมาเจออะไรร้ายๆเลยค่ะ มันตลกร้ายทั้งในนิยายและความเป็นจริงตรงที่ยิ่งมีคนพยายามดูแลรักษาธรรมชาติผืนป่าอย่างดีเท่าไหร่ มันก็จะมีคนที่ทำอะไรอย่างมักง่ายและทำลายผืนป่า ธรรมชาติให้เสียหายมากขึ้นเท่านั้น คำว่าป่าค่อชีวิตสำหรับเพลิงคือไม่ได้เกินจริงแม้แต่น้อยเลย แทบจะทำทุกอย่างในผืนป่าหมดแล้ว นอน กิน ลาดตะเวน ดูแล ทุกอย่างจริงๆ พอจะมีซีนให้เพลิงกับรเณศได้อยู่ด้วยกัน มันก็จะมีงานเข้ามาตลอดๆเลย จนบางทีถ้าเราเป็นรเณศกับเพลิงเราคงจะเหนื่อยและท้อใจ แต่สำหรับเพลิงกับรเณศคือมีความเข้าใจให้แก่กันมากๆทั้งคู่เลย มันเลยยิ่งกลายเป็นแรงผลักดันให้กลับมาเจอคนที่ตัวเองรัก ไม่รู้ว่าจะได้อ่านพาร์ทแบบในวันที่ชีวิตของเพลิงราบรื่นไร้ปัญหาใหญ่ๆจากการที่ธรรมชาติถูกทำลายหรือเปล่า ยังไงก็รอติดตามตอนต่อไปเสมอนะคะ ฮืออ ส่งกำลังใจค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Aimlovelove ที่ 03-06-2019 21:43:45
มีหลายอารมณ์มากตอนี้ มั้นทั้งละมุน มันทั้งจุกในอก ตื้นตันใจ ให้เจ้าหน้าที่ ที่ดูแลป่า
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: brapair ที่ 03-06-2019 22:14:17
ไฟป่าน่ากลัวมากกก ดับกันสามวันก็ยังไม่หมด เห็นใจผู้ช่วยและเจ้าหน้าที่ทุกคนมากต้องเหน็ดเหนื่อยกันน่าดู
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 03-06-2019 22:21:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 03-06-2019 22:38:22
ยิ้มทั้งน้ำตาเป็นแบบนี้เอง
ตื้นตันที่ในทุกความยากลำบากของชาวบ้าน มีใครคนนึงเห็นและหาทางแก้ไขให้ได้...คิดถึงคนบนฟ้าจัง

ป่า...ให้ทุกอย่างจริงๆ
อยากให้คนเห็นแก่ตัวได้สำนึกบ้างจัง - -"
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 03-06-2019 23:49:34
 :กอด1:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 03-06-2019 23:50:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 04-06-2019 00:01:12
ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่เป็นผู้เสียสละความสุขส่วนตัวมาทำเพื่อส่วนรวมแบบนี้ค่ะ  :L2:
ปล. อีกเรื่องที่สุดยอดของพี่เพลิง คือร้องเพลงคณะจีบน้องเนตร  ร้อวเพลงชาติปลอบน้องแก้มใส  ยกนิ้วโป้งให้เลยค่ะ   o13
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 04-06-2019 05:08:48
คอนเซปน้ำตาซึมกลับมาอีกแล้ว​ เราซึ้งในความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ป่าไ้ม้ และพออ่านตรงคำว่าฝนหลวงน้ำตาก็ซึมทันที
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 04-06-2019 06:26:22
ดีใจฝนตกแล้ว.....สงสารผู้ช่วย
ว่าแต่วันเกิดผู้ช่วยปีนี้.....จะได้เมียมั้ย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 04-06-2019 07:25:40
แค่อ่านเจอคำว่าฝนหลวงก็น้ำตาซึมแล้ว

คนเห็นแก่ตัวมักง่ายมีแต่จะทำลายสิ่งที่คนอื่นเพียรรักษาไว้ ไม่ได้คิดถึงผลตามมาที่จะเกิดกับลูกหลานต่อไปในภายหน้าเลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 04-06-2019 09:13:48
น่ารัก
อบอุ่น
อ่านแล้วมีความสุข
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 04-06-2019 13:12:39
แค่คำว่า 'ฝนหลวง' น้ำตาก็แทบร่วง

ยิ่งอ่านยิ่งอบอุ่นในหัวใจ ยิ่งคิดถึง 'คนบนฟ้า'
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 04-06-2019 15:38:34
คือ อ่านต่อนนี้แล้วจุกอยู่ในอก

คนที่พยามทำทุกอย่าแทบตายที่จะรักษาผืนป่า

แต่ก็จะมีคนบางกลุ่มจ้องทำลายเช่นกัน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 04-06-2019 16:48:36
เริ่มหยอดกลับบ้างแล้ว  :hao7: :hao7:
นับถือใจคนทำงานจริงๆ TT
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 04-06-2019 22:37:36
ใจตุ้มๆ ต่อมๆ อ่านไปก็ลุ้นไป
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 04-06-2019 23:03:13
อ่านตอนนี้แล้วมันมีหลายอารมณ์มาก  ทั้งโกรธคนทำไฟป่าลุก และก็ซึ้งใจเจ้าหน้าที่ทุกคน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 05-06-2019 14:14:36
น้ำตาซีม :mew6:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 06-06-2019 06:17:47
น้ำตาไหลเลยค่ะ ความทุ่มเทเพื่อสิ่งที่รัก
ถึงผลตอบแทนมีไม่มาก จนแทบไม่มี ใครอื่นอาจไม่เห็นค่า
แต่สิ่งที่ได้ คือ ความภาคภูมิ ความดีที่ติดตัว ความเชื่อใจไว้ใจ
เพลิงและทีมทำดีที่สุดแล้วค่ะ คนเราแพ้ธรรมชาติจริงๆ
แต่ก็ยังพร้อมทำลายไม่เว้นวันเช่นกัน

และที่สำคัญ สิ่งที่พ่อทำไว้ ไม่สูญหายและใช้ได้เสมอค่ะ

ตัดมาฉากหวานที่เค้าส่งคำให้กัน แหมมม ไม่ยอมกันเลยนะ
แพ้ใจหมอยาหนักมากแล้วเพลิง ไม่อยากเป็นแค่ผู้ช่วยแล้วเนาะ


หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 08-06-2019 17:37:26
ยิ่งกว่านิยายอี๊ก น้ำตาไหล คิดถึง "คนบนฟ้า" ขอให้เพลิงกับเนศ ครองรักกันนิรันดร
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 08-06-2019 21:27:25
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [17] #ป่าห่มรัก [3.06.62] P.15 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Mariinariiz ที่ 09-06-2019 14:36:20
เอาใจช่วยทั้งคู่เลย ไม่อยากให้มีอุปสรรคอะไรมาบั่นทอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรักของทั้งคู่ หรือแม้แต่อุปสรรคต่อใจที่มุ่งมั่นจะรักษาผืนป่าสืบต่อไป
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 10-06-2019 20:43:34
[ 18 ]



ฝนที่ตกลงมาอย่างมืดฟ้ามัวดินโดยไม่มีท่าที่ว่าจะหยุดทำให้ไฟที่โหมกระหน่ำมาหลายวันค่อยมอดดับลงจนในที่สุดเห็นแต่ควันไฟสีเทาลอยเอื่อยๆ ขึ้นบนท้องฟ้า ระหว่างนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งในสภาพมอมแมมเดินเท้าออกมาจากป่า สีหน้าแต่ละคนดูอิดโรยเหนื่อยอ่อน แต่แววตาทุกคนกลับเปล่งประกายอย่างชัดเจน

“ไฟดับแล้ว”

ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้น คำพูดนั้นทำให้คนที่เหลือพากันยิ้มกว้าง ระหว่างนั้นสายฝนที่ลงเม็ดใหญ่หนาแน่นมาหลายชั่วโมงค่อยบางเบาลงเป็นเม็ดฝนปรอยๆ เพลิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพ่งมองไปในความมืดเห็นกระบะซึ่งหน่วยงานมารอรับก่อนที่ทุกคนจะปีนป่ายขึ้นไปนั่งจนเรียบร้อยแล้วรถจึงเริ่มออกตัว สายลมและปรอยฝนเล็กๆ ที่ปะทะใบหน้าพาให้ความรู้สึกสับสนวุ่นวายในหัวโล่งสบาย

“คิดถึงที่นอนนุ่มๆ ชะมัด”

เจ้าเต็งหลับพริ้มตอนพูด ท่าทางชวนหมั่นไส้จนพลอดใจไม่ไหวเคาะกะโหลกฝ่ายนั้นแรงๆ ไปสักที

“เฮ้อ นึกว่าจะไม่รอดกลับมา”

ลุงแสวงพูดขึ้น “ข้านึกว่าตัวเองจะตายในกองเพลิงซะแล้ว เกิดมาจนปูนนี้เลยเพิ่งเคยเห็นไฟไหม้รุนแรงขนาดนี้”

“ข้าไม่ปล่อยให้เอ็งตายง่ายๆ หรอกไอ้แหวง”

พรานธีปอเอ่ยเย้าเกลอรัก

“จะรีบตายไปไหววะ อีกไม่กี่เดือนก็จะเกษียณ ถึงเวลานั้นค่อยพักยาวๆ” เกลอวัยเก๋าเย้าต่อเพราะอีกไม่กี่เดือนเพื่อนรักจะถึงเวลาพักผ่อนตามที่ใจปรารถนา

“ข้าไม่ไปไหนหรอก ถึงเขาจะไม่จ้างแล้ว ก็จะวนเวียนอยู่ในป่านี่แหละ ข้าอยู่ที่นี่มาทั้งชีวิตแล้วไม่มีที่ให้ไปหรอก ขอตายที่นี่แหละ”

“พูดอะไรแบบนั้นล่ะลุง”

เกิ้งเอ่ยท้วง

“ลุงไม่อยากกลับไปอยู่กับลูกกับเมียเหรอ”

เป็นที่รู้กันดีว่าลุงแสวงแกเคยมีเมียแล้วเมียแกทนลำบากไม่ไหวหอบลูกหนีไป แต่ถึงจะเลิกรากันไปนานแล้วลูกสาวทั้งสองก็ยังแวะมาเยี่ยมเยียนอยู่บ้างถึงแม้จะนานๆ ครั้งก็ตาม แต่ใครๆ ก็รู้ว่าลุงแกดีใจหนักหนาที่ลูกเมียยังไม่ลืมกัน

“เขาก็มีชีวิตของเขา ข้าแก่แล้วไม่อยากไปเป็นภาระให้เขาหรอก”

แกส่ายหัว

“อีกอย่างข้าอยู่ตัวคนเดียวจนชินแล้ว”

“เฮ้อ นี่มันอุดมการณ์คนโสดหรือยังไงกันเนี่ย”

พลพูดขำๆ

“ผู้ช่วยเห็นว่ายังไงครับ นั่งเงียบมาตั้งนาน”

เพลิงโคลงศีรษะไปมาก่อนจะขยับเปลี่ยนอิริยาบถ

“เฮ้ยๆ มึงก็ถามอะไรไม่คิด ผู้ช่วยเขาไม่โสดแล้วนะ”

เกิ้งเอ่ยแซวอย่างอาจหาญแน่นอนว่าถ้อยคำหยอกล้อนั่นพาให้เจ้าหน้าที่คนอื่นยิ้มหัวกันได้หลังจากที่เคร่งเครียดกันมาหลายวัน

“ไปถามคนมีคู่เขาจะรู้เรื่องอะไรล่ะ”

“เกี่ยวอะไรกับผมกันล่ะเนี่ย”

เพลิงแกล้งทำหน้านิ่ง

“ไม่เกี่ยวกับผู้ช่วยแต่เกี่ยวกับคุณรเณศใช่มั้ยครับ”

คนอื่นๆ ต่างพากันเป่าปากโห่ร้อง

“รเณศนี่ใคร”

เพลิงแกล้งถามหน้าตาย

“ก็รเณศเจ้าของหมูทอดเมนูโปรดของพี่เพลิงไง”

เจ้าเปลวสอดปากขึ้น

“หรือจะให้ชัดก็เจ้าของดอกไม้สีแดงที่แห้งอยู่ในกระเป๋าตังค์ผู้ช่วยนั่นแหละ” เพลิงหรี่ตามองเกิ้งก่อนจะแสยะยิ้ม

“เหมือนที่พลให้เกิ้งอ่ะเหรอ”

เกิ้งตาเหลือกสำลักน้ำลายตัวเองท่ามกลางเสียงโห่แซวของคนอื่นๆ ขณะที่พลขำไหล่สั่นเพราะเคยแกล้งเอาดอกไม้สีแดงไปใส่ในกระเป๋าอีกฝ่าย จนฝ่ายนั้นรู้ตัวเลยโวยวายจนถูกเจ้าหน้าที่คนอื่นแซวจนกลายเป็นเรื่องตลกขบขันของคนอื่นๆ

“มึงขำมากไปแล้วไอ้ห่าเปลว”

เปลวยักไหล่อย่างไม่เกรงกลัวซ้ำยังเอ่ยแซวต่อ

“พวกพี่นี่ยังไงๆ กันแน่นะ”

“เสือกกก”

“ขำแต่พวกกูว่าแต่มึงเหอะ ไม่คิดจะหาแม่ใหม่ให้แก้มใสบ้างเหรอวะ”

เปลวส่ายหน้าหวือ

“ไม่เอาหรอกพี่”

มันทำหน้ายุ่ง

“รักเก่ายังไม่ลืมเหรอวะ”

“เปล่าพี่ ผมลืมเขาไปแล้วด้วยซ้ำ ทุกวันนี้คิดถึงแต่ลูก อยากให้แก้มใสโตขึ้นมาได้เรียนสูงๆ ได้สนับสนุนให้ลูกทำในสิ่งที่รัก เมื่อก่อนไม่เข้าใจความรู้สึกของการมีลูกเลยพี่ แต่พอเห็นหน้าลูกแล้วไม่อยากนึกถึงอดีตที่ผ่านมากเลย เมื่อก่อนผมทำไม่ดีไว้เยอะ กลัวลูกรู้แล้วจะเสียใจที่ผมเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องเลย”

เปลวยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าของลูกสาวตัวน้อย ป่านนี้เจ้าแก้มกลมคงนอนหลับอุตุฝันหวานไปแล้วเป็นโชคดีของเด็กน้อยเพราะถึงแม้คนเป็นพ่อจะห่างหายไปจากลูกเกือบสัปดาห์ แต่เขามั่นใจได้ว่าแก้มใสต้องได้รับการดูแลอย่างดีจากรเณศแน่นอน

เฮ้อ คิดถึงลูกชะมัด ป่านนี้ลูกสาวจะลืมหน้าเขาไปหรือยังหนอ

“ลูกทำให้มึงเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น”

เปลวยิ้มรับ

“ใช่พี่ เห็นแบบนี้ผมยิ่งกลัวตาย กลัวไม่ใครดูแลลูก แต่วางใจได้อย่างนะ ถ้าผมเป็นอะไรไป อย่างน้อยพี่เนตรแกก็เอ็นดูแก้มใส อีกอย่างมีพี่เพลิงอีกคน ลูกผมรอดตายแน่ๆ”

“พูดอะไรอย่างนั้นวะเปลว”

เพลิงมุ่นหัวคิ้วเมื่อได้ยินเด็กน้อยพูดเรื่องความเป็นความตายอย่างนึกสนุก

“ผมพูดจริงๆ นะพี่เพลิง”

“...”

“ถ้าผมเป็นอะไรไปฝากพี่กับพี่เนตรดูแลลูกผมด้วยนะ”

“เปลว”

“รับปากสิพี่”

เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อสบสายตากับแววตาจริงจังของเด็กหนุ่ม

“ไม่ต้องกลัวมันจะตายหรอก อิหรอบนี้กลัวมันหาแม่ใหม่ให้เจ้าแก้มดีกว่า ถึงเวลานั้นระวังมันจะไปกับสาวแล้วทิ้งลูกให้พี่เลี้ยงนะ”

พลพูดขำๆ ทำให้บรรยากาศเงียบสงัดเมื่อกี้กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง

“โหพี่พลทำไมรู้ทันผมวะ”

เปลวรับสมอ้างหน้าตาย

“ถ้าอย่างนั้น เปลวก็ยกแก้มใสให้รเณศเขาเลี้ยงเถอะ คนนั้นเขาอยากรับเป็นลูกจะแย่” เพลิงพูดติดตลก “แล้วจะไปกับสาวที่ไหนก็ไป”

“โห่พี่”

เปลวตาประหลับประเหลือก

“ไม่คิดจะห้ามผมเลยเหรอครับ”

เพลิงยักไหล่เรียกเสียงหัวเราะจากคนโดยรอบ



☘☘☘☘


ดึกดื่นแล้วตอนที่เพลิงและเจ้าหน้าที่กลับมาถึงที่พักเจ้าหน้าที่ในอุทยาน ความมืดที่โรยตัวไปทั่วบวกกับเสียงจิ้งหรีดที่ร้องกันระงมท่ามกลางสายฝนโปรยปรายนั่นทำให้รู้สึกหนาวสั่นไม่น้อย

“หนาวจนปากสั่นเลยวันนี้”

“ร้องเพลงคลายหนาวกันหน่อยพวกเรา”

ระหว่างนั้นใครคนหนึ่งร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ขึ้นนำ ไม่นานหลังจากนั้นคนอื่นๆ ก็ร้องคลอเป็นลูกคู่วนเวียนอยู่ถึงสามรอบจนกระทั่งถึงหน้าทางเข้าบ้านพัก

“สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้านะผู้ช่วย”

ลุงแสวงเป็นตัวแทนทุกคนพูดขึ้น ขณะที่เจ้าของวันเกิดล่วงหน้ายิ้มน้อยๆ เพราะนึกไม่ถึงว่าเจ้าหน้าที่คนอื่นจะจำวันเกิดของเขาได้ ขนาดตัวเขาเองยังเกือบลืมไปแล้วแต่โชคดีที่เขาทำภารกิจดับไฟป่าสำเร็จก่อนที่จะถึงวันเกิดในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

“มีความสุขมากๆ นะผู้ช่วย”

“อยู่กับพวกผมไปนานๆ นะครับ”

“รอไปงานแต่งผู้ช่วยอยู่นะ”

แต่ละคนหันมาอวยพรวันเกิดกันเสียงเซ็งแซ่

“งานนี้ต้องฉลอง”

พรานธีปอตาเป็นประกายก่อนหันไปพยักพเยิดกับเจ้าเต็งหลานชาย “เตรียมเหล้าพื้นบ้านไว้เลยไอ้เต็ง”

เพลิงส่ายหัวเมื่อคนอื่นๆ พากันร้องเฮเมื่อนานๆ ครั้งเขาจะอนุญาตให้ดื่ม วันเกิดปีนี้เพลิงตั้งใจไว้ว่านอกจากจะไปเลี้ยงเพลพระแล้ว ตกเย็นเขาจะซื้ออาหารมากินมาเลี้ยงพวกเจ้าหน้าที่ด้วย ไม่ใช่เพื่อฉลองวันเกิดหรอก งานเฉลิงฉลองแบบนั้นไม่มีอยู่ในหัวเขามานานแล้ว ตั้งแต่เริ่มจำความได้เพลิงมักไปทำบุญกับมารดาและครอบครัวของป้าวดีเท่านั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา แต่ความตั้งใจที่จะอาหารมาเลี้ยงเจ้าหน้าที่นั่นเพราะอยากให้รางวัลคนทำงานที่ต่อสู้กับงานหนักจนแทบถอดใจมาตลอดสัปดาห์

“วันนี้เหนื่อยกันมากมายแล้ว ไปพักผ่อนกันเถอะ”

เพลิงบอกให้ทุกคนไปพักผ่อน

“ขอบคุณทุกคนมากสำหรับคำอวยพร”

คนตัวโตเหลือบตามองเจ้าหน้าที่แต่ละคน “และขอบคุณมากๆ ที่ช่วยกันมาตลอดหลายวัน พวกคุณคงเหนื่อยมามากแล้ว ไปพักเถอะ นอนหลับให้สบาย พวกเรารักษาป่าไม้กันไว้อย่างเต็มที่แล้ว”

เพราะรู้ว่าไฟไหม้ครั้งนี้สร้างความเสียหายให้กับผืนป่าและทำให้เจ้าหน้าที่เสียกำลังใจไม่น้อย ทุกคนถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะหันมายิ้มให้กำลังใจกัน

“ขอบคุณผู้ช่วยมากเหมือนกันที่ไม่ทิ้งพวกเรา”

เพลิงยิ้มกว้างตอนที่เห็นเจ้าหน้าที่แต่ละคนเดินหยอกล้อกันไปจนถึงห้องพักแต่ละคน เพลิงผละออกมาก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปยังกระท่อมท้ายป่าที่พักของเขา แสงไฟจากเปลวเทียนที่ไหววูบจากที่พักทำให้เพลิงนึกฉงนใจ เพราะบ้านหลังนั้นเขาพักอยู่เพียงคนเดียว ดังนั้นแสงไฟนั้นคงไม่มีใครเทียวอุตริไปจุดทิ้งไว้แน่นอน

คนในชุดลายพรางขยับปลายเท้าให้เบาลงอย่างระแวดระวังก่อนจะชะงักกึกเมื่อเห็นแสงจากเปลวเทียนสาดส่องไปกระทบกับใบหน้าคุ้นตาที่ซึ่งนอนทับแขนฟุบหลับไปอยู่หน้าห้องครัวเล็กๆ นั่น ชายหนุ่มเผลอกระตุกรอยยิ้มก่อนจะขยับอย่างเชื่องช้าแล้วเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าคนหลับ เพลิงโน้มใบหน้าใกล้เพื่อพิจารณาคนหลับแล้วจับจ้องใบหน้านั้นให้เต็มตา

ใบหน้าเนียนใส ดวงตาหลับพริ้มน่ามองจนเผลอใจไม่ไหวเอื้อมมือไปลูบไล้อย่างแผ่วเบา ถึงแม้จะทำทุกอย่างเบามือเพราะไม่อยากรบกวนห้วงนิทราของคนหลับ แต่สุดท้ายคนหลับก็ขยับเปลือกตาเพราะจมูกงอนได้กลิ่นไม่คุ้นชิน

รเณศขยับเปิดเปลือกตาขึ้นมาก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเห็นใครบางคนอยู่ตรงหน้า

“ผมทำให้คุณตื่นเหรอ”

เพลิงถามยิ้มๆ ตอนที่เอื้อมมือไปเกลี่ยแก้มขาว ขณะที่รเณศส่ายหน้าหวือก่อนจะยิ้มแหม

“ผมได้กลิ่นควันไฟน่ะ”

เพลิงร้องอ๋อก่อนจะทำจมูกฟุดฟิดสูดไปตามเสื้อผ้าชุดลายพรางที่ใส่อยู่ สูดไปทางไหนก็ได้แต่กลิ่นควันไฟที่ติดอยู่กับเสื้อ

“เนื้อตัวผมมีแต่กลิ่นควันไฟ กลิ่นคงไม่พึงประสงค์เท่าไหร่”

เพลิงขยับถอยหลังแต่รเณศคว้าข้อมือเขาเอาไว้

“ไม่เหม็นหรอก”

“พูดจริง”

“ก็เหม็นนิดหน่อย”

รเณศทำเสียงอุบอิบในลำคอจนเพลิงขำออกมา

“ผมไม่ได้รังเกียจหรือคิดรังเกียจ ตรงกันข้ามผมดีใจมากๆ ที่คุณปลอดภัยกลับมา”

“...”

“หิวข้าวมั้ย ผมทำกับข้าวมาให้”

เพลิงเหลือบตามองอาหารในจานสองสามอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะ ใกล้ๆ กันนั้นมีเถาปิ่นโตเปล่าวางอยู่บ่งบอกว่าอาหารมื้อนี้รเณศคงนำมาฝากอย่างไม่ต้องสงสัย

“หิวครับ”

รเณศหน้าแดงวาบเมื่อเพลิงขยับมากระซิบคำลงท้ายใกล้ๆ หู

‘ครับ’ คำเดียวทำเอาคนฟังใจสั่น

“อื้อ ยังไงไปอาบน้ำก่อนนะแล้วค่อยมากินข้าว”

“ขอบคุณนะ”

เพลิงพูดเสียงทุ้ม

“ที่มารอผมที่นี่”

“ไม่ถามเหรอว่าเข้ามาได้ยังไง”

รเณศพูดเสียงอ่อย ขณะที่เพลิงเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“คุณลืมปิดประตูบ้าน”

“...”

“ผมเลยแอบมารอ เดาว่าคืนนี้คุณคงต้องกลับมา”

รเณศทำเสียงงึมงำ

“แล้วคุณก็กลับมาจริงๆ”

“เดาเก่ง” เพลิงพูดยิ้มๆ

“เหนื่อยมั้ย”

คำใดใดจะสุขเท่าคำๆ นี้ ฟังทีไรทำให้ความรู้สึกเหนื่อยล้าได้ถูกปลดเปลื้อง เพลิงเคยรู้สึกว่า ‘บ้าน’ สำหรับเขาเป็นแค่ที่พักอาศัย แต่วันนี้ ‘บ้าน’ สำหรับเขาหมายถึงคน คนที่เฝ้ารอคอยการกลับมาของเขาและถามคำถามนั้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แน่นอนว่ามันทำให้หัวใจที่แห้งแล้ง ความรู้สึกเหนื่อยล้าถูกปัดเป่า มันทำให้เขารู้สึกอยากกลับ ‘บ้าน’

บ้านซึ่งเป็นที่พักกายและที่พักใจ

“เหนื่อยครับ”

“...”

“เหนื่อยมาก”

รเณศยิ้มกว้างก่อนจะขยับไปกอดเพลิง

“หายเหนื่อยนะ”

มือข้างหนึ่งลูบไล้หน้าอกด้ายซ้าย ขณะที่มืออีกข้างลูบแผ่นหลังกว้าง

“ผมรู้ว่ามันเหนื่อย”

“...”

“มันหนักเกินบ่ากว้างๆ ของคุณ...ผมรู้”

“...”

“ขอบคุณที่ยอมเหนื่อย ขอบคุณที่กลับมาอย่างปลอดภัย”

เพลิงไม่ตอบแต่กอดอีกฝ่ายให้แน่นขึ้น เขาสองคนกอดกันในความมืดที่มีเพียงแสงจากเปลวเทียนทุกอย่างรอบกายมืดสนิทแต่หัวใจทั้งคู่กลับสว่างไสว


.


.


“อย่าเพิ่งรีบนอนได้มั้ย”

คำถามด้วยน้ำเสียงเกรงใจนั่นทำเอาคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จนึกฉงนใจ

“มีอะไรงั้นหรือ”

จริงๆ ตอนนี้เขาเองก็รู้สึกเหนื่อยล้าเนื่องจากไม่ได้พักผ่อนมาหลายวัน แต่เพราะได้อาบน้ำจนหัวโล่งและได้ทานอาหารจากฝีมือของคนเมือง จึงทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาจนยากที่จะอธิบาย แม้จะเหนื่อยล้าแค่ไหนก็ยากที่จะข่มตาหลับลงได้ในตอนนี้

“รออีกหน่อยนะครับ”

ร่างสูงมุ่นหัวคิ้วเมื่อสังเกตเห็นรเณศมองไปที่ด้านหลังเขาบ่อยๆ

“ทำไม”

รเณศถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินดุ่มๆ ไปหยิบกล่องอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ด้านหลังของเพลิง คนเมืองทำหน้าไม่ถูกตอนที่เดินกระมิดกระเมี้ยนหอบเอาของดังกล่าวมาหยุดตรงหน้าเพลิง

“อีกไม่นานจะเป็นวันใหม่”

รเณศเม้มปากแน่น “วันเกิดของคุณ”

“คุณรู้?”

คนเมืองพยักหน้าหงึกหงัก

“ผมมีอะไรบางอย่างจะให้คุณ”

“ไม่ต้องหรอก”

เพลิงอมยิ้มก่อนจะส่ายหัวปฏิเสธ

“อย่าเพิ่งขัดผมสิ”

รเณศทำหน้ายู่ก่อนจะก้มหน้าก้มตาแกะห่ออะไรบางอย่างในกล่องนั้น

“เนตร”

เจ้าของชื่อชะงักไปเพราะถูกเรียกชื่อเล่นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

“ลองใส่ดูสิ”

รเณศแกล้งทำเฉยทั้งๆ ที่เขินไม่น้อยเมื่อถูกเรียกแบบนั้น เขาแกล้งเมินด้วยการเลื่อนของขวัญในกล่องนั้นมาตรงหน้าเพลิง

“เนตร”

“รองเท้าคู่เก่าของคุณมันขาดแล้ว”

รเณศพยักพเยิดไปยังรองเท้าจังเกิ้ลสำหรับเดินป่าของเพลิง ลักษณะมันคล้ายๆ รองเท้าบูท ซึ่งเพลิงใช้งานมันอย่างคุ้มค่าจนแทบไม่เห็นเค้าของสภาพแต่เดิมของมัน รองเท้าคู่นั้นเปรอะเปื้อนโคลนตมและมีรอยขาดจนเห็นช่องโหว่งขึ้นที่ส้นเท้า เมื่อก่อนเป็นรอยเล็กๆ แต่เขาใช้งานมันอย่างสมบุกสมบันจนกลายเป็นรอยใหญ่ ไม่นึกเลยว่ารเณศจะสังเกตเห็นด้วย

“ลองใส่สิครับ”

พูดไม่พอยังยื่นมือไปคว้าข้อเท้าเพลิงมาทดลองสวมใส่รองเท้าให้อย่างไม่รังเกียจ

“อย่า...”

เพลิงรั้งข้อมืออีกฝ่ายเอาไว้

“เท้าผมสกปรก”

รเณศยิ้มเฉยก่อนจะส่ายหน้าหวือ

“สกปรกแล้วยังไง ไม่ใช่เท้าคู่นี้หรือที่เดินไปทั่วป่า ก็รอยเท้าคู่นี้แหละที่เหยียบย่ำไปในพื้นสกปรก ป่ารกชัฏ พื้นดินแตกละเอียด รวมถึงเส้นทางที่คนทั่วไปเข้าไปไม่ถึง เพื่อจะรักษาป่าไม้และสัตว์ป่าเอาไว้”

“...”

“เท้าคุณสกปรกเพราะคุณทำในสิ่งที่มีเกียรติ ต่อให้มันสกปรกและไม่น่ามองแต่ผมไม่เคยรังเกียจ เพราะเลอะเปื้อนดินโคลนยังไงก็ล้างออกได้ ดีว่าเลอะเปื้อนด้วยการกระทำที่ไม่สุจริตที่ล้างยังไงก็ไม่มีวันหมด”

เพลิงนิ่งฟังถ้อยคำนั้นอย่างตื้นตัน

“เนตร”

“ยื่นเท้ามาสิครับ”

รเณศยิ้มกว้าง

“ลองใส่ดูสิ”

คนเมืองคงไม่รู้ว่าตอนที่เจ้าตัวกำลังจับประคองฝ่าเท้าเพลิงเพื่อลองสวมรองเท้านั่นเหมือนมีใครบางคนฉุดเอาหัวใจเขาให้หลุดลอยไปด้วยฝ่ามือนุ่มนิ่มๆ รเณศโอบประคองเท้าเขาอย่างเบามือ ตอนที่สวมใส่มันลงไปเขารู้สึกสบายเท้าบอกไม่ถูก

“พอดีเลย”

รเณศทำเสียงตื่นเต้นก่อนจะยิ้มจนตาหยี

“สุขสันต์วันเกิดนะครับ”

เพลิงมองภาพนั้นอย่างตื้นตันใจ

“รองเท้าใหม่ใส่แรกๆ มันคงยังไม่สบายเท้านัก เพราะความไม่คุ้นชิน แต่นานๆ ไปมันจะดีขึ้น”

“ผมรู้”

เพลิงพึมพำ

“ไหนลองเดินดูสิครับ”

รเณศสะดุ้งโหยงเมื่อเพลิงฉุดเขาให้ลุกขึ้นพร้อมกัน

“คุณ...”

คนเมืองหน้าแดงวาบเมื่อได้สบสายตากับเพลิงในระยะประชิด

“เที่ยงคืนแล้ว”

รเณศพยักหน้าหงึกหงัก

“วันเกิดผมแล้ว”

“ครับ”

“คุณรู้มั้ย ว่าถ้าผมขอพรได้ในวันเกิด ผมจะขออะไร”

รเณศส่ายหน้าหวือ ขณะที่เพลิงยิ้มน้อยๆ ด้วยความพอใจที่เห็นว่าสีแก้มทั้งสองข้างของรเณศขึ้นสีสวยน่าสัมผัสขนาดไหน

“ผมไม่อยากโสดแล้ว”

คนเมืองหน้าร้อนวาบรู้ตัวเลยว่ามือไม้ทั้งสองข้างเกะกะไปหมด

“มาเป็นสะพานแสงดาวให้ผมได้มั้ย” เพลิงเกลี่ยปลายนิ้วที่แก้มขาว “ช่วยมาจุดแสงไฟในใจให้ผมในวันที่มันอ่อนแสงลงคล้ายจะหมดเรี่ยวแรง”

“ผมถามอะไรคุณสักอย่างได้มั้ย”

รเณศเอ่ยขึ้น

“เอาสิ”

“หากวันข้างหน้า มีเรื่องราวผ่านเข้ามาทำให้เราเหนื่อยล้าที่จะส่องแสงให้กัน คุณจะทิ้งดอกไม้สีแดงที่ครั้งหนึ่งคุณเคยให้ผมมั้ย”

“ผมไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

เพลิงยังยืนยันคำเดิมที่ครั้งหนึ่งเขาเคยพูดกับรเณศ คำตอบนั้นทำให้คนเมืองยิ้มกว้าง

“แล้วคุณล่ะ”

เพลิงถามกลับ

“ผมทำไม”

“ผมไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะมีใครมายืนเคียงข้าง ถึงได้ตอบคำถามของพรานธีปอที่เคยถามผมว่าหากผมมีใครสักคน ผมยังจะทำงานนี้อยู่มั้ย งานที่เสี่ยงอันตราย และมันอาจทำให้ผมผิดสัญญาที่ให้กับคุณว่าผมจะกลับมาอย่างปลอดภัย”

“...”

“ผมอาจผิดสัญญากับคุณในสักวันหนึ่ง คุณจะเสียใจมั้ย”

“เสียใจ”

รเณศตอบเสียงสั่น ขณะที่เพลิงเกลี่ยหยาดน้ำตาที่ไหลเอ่อคลอรอบดวงตาให้อย่างแผ่วเบา

“ผมเสียใจมากๆ หากวันหนึ่งคุณจำเป็นผิดสัญญา”

“...”

“แต่ผมไม่เคยเสียใจที่เลือกคุณ”

เพลิงจุมพิตเขาที่ขมับ

“ผมจะเป็นสะพานแสงดาวให้คุณ”

รอยยิ้มของเพลิงทำให้คนมองอยู่ตาพร่า

“ผมก็จะรักษาหัวใจของหมอยาไว้อย่างดี”

เพลิงกระซิบชิดริมฝีปากเขา “จนกว่าจะถึงวันสุดท้ายที่ผมยังมีลมหายใจ ปลายสะพานอีกด้านหนึ่งของชีวิตคือคุณคนเดียวรเณศ”

จูบที่หวานละมุนนั้นทำเอาเขายืนไม่อยู่

“ปี้ฮักน้อง”

ภาษาคำเมืองลื่นหูนั่นดังก้องอยู่ในหูของเขาก่อนที่ริมฝีปากหนาไล่เลาะไปตามขอบปากแล้วอาศัยจังหวะมึนเบลอของคนเมืองแทรกปลายลิ้นไปหยอกล้อโพรงปากเขาอย่างชำนาญ ฝ่ามือหนาลูบไล้แผ่นหลังบางก่อนที่จะสอดมือข้างในเสื้อยืดเนื้อนิ่ม รเณศหอบหายใจถี่ๆ ก่อนจะลืมตาปรือปรอยหลังจากจูบที่สูบเอาเรี่ยวแรงเขาไปจนเกือบหมด

ใบหน้าขาวหน้าแดงวาบเมื่อได้ยินเสียงทุ้มกระซิบอย่างแผ่วเบาที่ข้างหู

“ผมเพิ่งรู้”

“อื้อ”

“ว่าหมอยาก็น่ากิน”

ริมฝีปากของรเณศคล้ายเยลลี่รสหวานที่จูบเท่าไหร่ก็ไม่รู้เบื่อ ยิ่งเจ้าตัวยินยอมพร้อมใจให้เขารุกรานยิ่งทำให้คนตัวโตเพลิดเพลินไปกับสัมผัสนุ่มละมุนนั่น นิ้วเรียวยาวแต่แข็งแรงบดคลึงสะโพกกลมไปมาจนรเณศครางเสียงหวิว อนุสติอันน้อยนิดของเขาพอจะรับรู้ได้ว่าตอนนี้เขาถูกประคองให้แผ่นหลังสัมผัสกับฟูกหนาบนเตียง ซ้ำยังรู้สึกหนาวสั่นเพราะเสื้อยืดตัวบางร่วงหลุดออกจากร่างกายไปตอนไหนก็ไม่รู้ รเณศตัวสั่นตอนที่นิ้วร้อนๆ ของเพลิงบดคลึงแผ่นอก สัมผัสร้อนผ่าวนั่นพาให้ร่างกายทุกส่วนตื่นตัว คนเมืองเงอะงะทำตัวไม่ถูกตอนที่ริมฝีปากหนาขยับไปจูบแถวซอกคอของเขา

เงาร่างของเพลิงที่ขยับขึ้นคร่อมเขาในความมืดเหมือนว่ารเณศกำลังจะถูกกลืนกิน รเณศลูบไล้ไปตามัดกล้ามเนื้อเรียงสวยก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อฝ่ายนั้นรวบมือเขาไปจับที่กึ่งกลางลำตัว

“คุณ”

รเณศครางเสียงหวิว

“มันตื่นก็เพราะเนตร”

“ฮื่อ”

คนเสียเปรียบส่ายหัวปฏิเสธ คาดว่าหากมีแสงไฟสว่างเพลิงคงจะเห็นใบหน้าแดงก่ำของเขาเป็นแน่”

“เนตร”

“อะ อะไร”

“ช่วยหน่อย”

คนเมืองตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก

“ช่วยอะไร”

เสียงกระซิบข้างหูนั่นทำเอารเณศเบือนหน้าหนีด้วยความอับอาย แต่ถึงจะหนีอย่างไรฝ่ามือเขาก็ถูกจับประคองความร้อนรุ่มตามการชักนำของเพลิง

“เนตร”

“ผมยังไม่พร้อม”

“แค่ข้างนอก”

รเณศเขินอายทำตัวไม่ถูก

“อื้อ”

ริมฝีปากร้อนผ่าวนเวียนมารังแกเขาอีกครา

“เนตร”

“...”

“น้องเนตร”

รเณศกลั้นยิ้มจนปวดแก้มก่อนจะแกล้งกัดที่หัวไหล่อีกฝ่ายแรงๆ

“เจ็บ”

“ก็ทำให้เจ็บ”

รเณศลอยหน้าลอยตา

“ไม่กลัวโดนเอาคืนหรือ”

เพลิงยิ้มตาเป็นกระกาย

“ไม่กลัว”

“กลัวหน่อยเถอะ”

“ไม่กลัว อื้อ”

รเณศถูกลงโทษฐานที่ทำปากกล้าจนปากเจ่อแล้วหลังจากนั้นถูกเพลิงชักนำให้ ‘ช่วย’ อีกฝ่ายจนสุขสม คนเมืองแอบเบะปากตอนที่เหลือบตามองคนตัวโตซึ่งเข้าสู่ห้วงนิทราไปสักพักแล้ว เภสัชกรหนุ่มนั่งมองใบหน้าคมคายในความมืดแม้จะมองเห็นไม่ชัดแต่เขาก็จดจำใบหน้าของเพลิงได้ชัดเจน ดวงตาคู่คมที่หลับพริ้มด้วยความเหนื่อยล้าจากงานหนักและ ‘เรื่องไม่เป็นเรื่อง’ ที่ทำกัน ริมฝีปากหนาปิดสนิท เสียงลมหายใจแผ่วเบาคล้ายคนหลับลึก

คนแอบมองทรุดตัวลงนอนแนบใบหน้าไปกับแผ่นอกเปล่าเปลือย มือบางลูบไล้ไปตามแผ่นอกก่อนจะไปสะดุดมือกับร่องรอยบาดแผลที่ตกสะเก็ดแล้วตรงสีข้างด้าน เพลิงมีบาดแผลประปรายเป็นสัญลักษณ์ว่าคนๆ นั้นคงจะมีภารกิจที่หนักหนา แผ่นอกที่ขยับขึ้นลงตามลมหายใจเข้าออกพาให้เขานิ่งฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะ

รเณศนอนฟังเสียงหัวใจของเพลิงในความเงียบ

“หลับฝันดีนะ...คนในชุดลายพราง”

“...”

“คืนนี้ผมจะปกป้องคุณเอง หมอรักษาป่าคนดีของผม”

รเณศขยับไปกอดเพลิงให้แน่นขึ้น

☘☘☘☘


ช่วงนี้มันจะหวานๆ หน่อย อิอิ
หวีดในทวิตติดแท็ค #ป่าห่มรัก

หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 10-06-2019 21:02:20
งื้อ~~~ คือดีย์~~~
น้องเกือบถูกกินเป็นของขวัญแถม อิอิ

เป็นความรักที่ค่อยเป็นค่อยไป...ดีงาม ^^
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: baslowbatt ที่ 10-06-2019 21:14:43
ขอหวานนานๆนะ ใจหายใจคว่ำมาหลายตอน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 10-06-2019 21:24:16
 :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 10-06-2019 21:27:15
ออกปากผูกมัดกันแล้ว
หวั่นๆเจ้าเปลวหลายรอบแล้ว ปลอดภัยเถอะนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 10-06-2019 21:36:24
ผู้ช่วยพูดตรงอีกแล้วว เป็นแฟนกันแล้ว ความสัมพันธ์ก็ยิ่งพัฒนาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายของกันและกันอย่างเห็นได้ชัดเลย ชอบอ่านตอนสองคนหวานๆกันมันเป็นมุมที่รู้สึกเหมือนทั้งคู่ได้พักกายพักใจ รอิดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณสำหรับการอัพผลงานค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Plakhem ที่ 10-06-2019 21:43:01
 :mew1:หวาน อิจฉา  :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 10-06-2019 21:44:32
คงเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดของผู้ช่วยล่ะนะ  o18

ชอบคำบอกรักกันอ่ะ เขินแทน  :mew1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-06-2019 22:00:08
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 10-06-2019 22:22:38
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 10-06-2019 22:27:13
ซีน...เกือบได้กัน...555
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 10-06-2019 22:34:51
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 10-06-2019 22:49:08
หูยยย ผู้ช่วยเหนื่อยมาได้ยาดี หลับเป็นตายเลยนะ อิอิอิ ดีใจด้วยที่ทุกคนปลอดภัย
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 10-06-2019 23:02:30
อบอุ่นหัวใจมากเลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: nnoii2538 ที่ 10-06-2019 23:54:43
งุ้ยยยย เขิน ชอบฉากขอเป็นแฟน
//อ่านตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนล่าสุด คือมันดีมากเลย :hao5: มันไม่ใช่แค่นิยายรัก แต่มันให้อะไรมากกว่านั้น อ่านแล้วน้ำตาซึม
ทุกตัวอักษรในเรี่องรู้เลยว่า คุณkarnsaii ตั้งใจเขียนมากแค่ไหน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Aimlovelove ที่ 11-06-2019 00:14:29
ดีต่อใจเหลือเกินนน เขาเป็นแฟนกันแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 11-06-2019 01:09:46
นึกว่าน้องจะมอบตัวเป็นของขวัญให้ผู้ช่วยซะอีก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 11-06-2019 01:26:02
เป็นแฟนกันแล้ว  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 11-06-2019 06:23:31
เป๋นแฟนกั๋นละหนา ฮื่อฮักกั๋นนักๆเน้อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 11-06-2019 08:47:14
เจอหมอดีผู้ช่วยก็หายเหนื่อยหายเพลียทันที
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-06-2019 08:51:25
 :-[ :-[ :-[


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 11-06-2019 09:06:35
ปี้ฮักน้อง
ตายๆๆๆๆๆๆๆๆประโยคนี้
กวานมากกกก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 11-06-2019 09:22:05
เกือบได้ของขวัญใันเกิดชิ้นใหม่
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 11-06-2019 13:44:45
ทีละขั้นๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: lovenine ที่ 11-06-2019 17:18:10
หวาน  จุงๆ^^
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: FrozenSnow2019 ที่ 11-06-2019 18:23:13
อีกนิดน้องเนตรก็ได้กลายเป็นของขวัญแล้ว 555
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 11-06-2019 18:55:37
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 11-06-2019 18:56:33
งื้ออออ น่ารักน่าเอ็นดู
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 12-06-2019 07:42:24
"ผมเพิ่งรู้ ว่าหมอยาก็น่ากิน" เจอประโยคนี้เข้าไป  :m25:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 12-06-2019 12:47:15
'ปี้ฮักน้อง' หวานนนนนนนแต้ๆ  :-[
 
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [18] #ป่าห่มรัก [10.06.62] P.16 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Mariinariiz ที่ 16-06-2019 01:05:45
ฉันเขิน ถึงแม้วันข้างหน้าจะมีอุปสรรคผ่านเข้ามาแค่ไหน ก็อย่าหยุดเชื่อมั่นในกันนะ ผู้ช่วย พี่เนตร
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 17-06-2019 20:49:23

[ 19 ]



เช้านั้นเพลิงและรเณศตื่นแต่เช้ามืดเพื่อไปช่วยป้าอนงค์ทำอาหารไปเลี้ยงพระ ป้าอนงค์กับป้าสมัยพากันเอาด้ายสายสิญจน์มาผูกข้อมือให้เพลิงพร้อมกับให้ศีลให้พรกันยืดยาว ข้างๆ กันนั้นเจ้าเปลวอุ้มแก้มใสที่วันนี้ตื่นมาอารมณ์ดีแต่เช้ามายืนยิ้มอยู่

พอสายๆ หน่อยพวกเราก็พากันไปทำบุญถวายเพลพระที่วัดใกล้บ้าน หลังจากทำบุญเสร็จแล้วเพลิงก็ถือที่กรวดน้ำไปนั่งยองๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่ก่อนจะพึมพำท่องบทกรวดน้ำ ท่าทางสงบและสำรวมนั่นน่ามองไม่น้อย รเณศมองฝ่ายนั้นอยู่สักพัก ก่อนจะผละตามป้าอนงค์ซึ่งถือโอกาสชวนเขาไปทำความสะอาดธาตุอัฐิของตาซึ่งตั้งตระหง่านอยู่หลังกำแพงวัดฝั่งหนึ่ง

“บอกตาเขาสิว่าแกมาเยี่ยม”

ป้าอนงค์ยื่นธูปและไฟแช็คให้เขาจุด

“เสียดายถ้าตาแกยังอยู่คงดีใจไม่น้อยที่มีหลานโตขนาดนี้แล้ว”

รเณศจ้องมองภาพสีขาวดำที่ติดอยู่หน้าธาตุแล้วยิ้มน้อยๆ

“พ่อ”

ป้าอนงค์ลูบไล้ที่ภาพของตา

“หลานมาเยี่ยมนะ ปกป้องคุ้มครองหลานด้วยนะพ่อ”

“ตาครับ”

รเณศเสียงสั่น

“ผมมาช้าไป ตาอย่าโกรธผมนะ ให้อภัยในความไม่รู้ของผมด้วย”

“...”

“ตาครับ ตาให้อภัยแม่กับพ่อผมด้วยนะ ผมเกิดจากความรักของพ่อกับแม่ ถึงแม้จะเป็นความรักที่ตาไม่เห็นด้วย แต่ผมรู้ดีว่าท่านทั้งสองเสียใจไม่น้อยที่ทำให้ตาเสียใจในวันนั้น ถ้าหากพ่อกับแม่ยังมีชีวิตอยู่ เขาคงหาโอกาสพาผมกลับมาหาตาแน่ๆ”

ป้าอนงค์แอบปาดน้ำตา

“แต่เวลาของคนเรามันสั้นนัก ไม่รู้เลยว่าโชคชะตาจะนำพาเราไปเจอเรื่องเลวร้ายในวันใด”

“...”

“ป่านนี้ตาคงจะได้เจอพ่อกับแม่ผมแล้ว ตาอย่าดุมากนักนะครับ อย่าทะเลาะกันด้วย ผมห่วงนะรู้มั้ย”

ผู้สูงวัยยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะกอดหลานเสียแน่น

“ตาแกน่ะหัวดื้อ ป่านนี้คงทะเลาะกับพ่อแม่แกวุ่นวายแน่แล้ว”

รเณศเผลอหัวเราะออกมา หลังจากนั้นเขากับป้าอนงค์ช่วยกันทำความสะอาดบ้านหลังสุดท้ายของตาจนสะอาด ก่อนกลับป้าอนงค์เลยผละออกไปเข้าห้องน้ำระหว่างนั้นร่างสูงใหญ่ของเพลิงเดินมาทรุดตัวนั่งใกล้ๆ

“สวัสดีครับคุณตา”

เพลิงยกมือไหว้คนในภาพราวกับคุ้นเคยกันดี

“เห็นป้าอนงค์เล่าว่าเวลาว่างๆ คุณชอบมาโขกหมากรุกกับคุณตาบ่อยๆเหรอครับ”

คนถูกถามขยับรอยยิ้มกว้าง

“ผมนี่ศิษย์เอกของคุณตาเลยล่ะ”

“ขี้โม้แล้ว”

รเณศทำหน้าไม่เชื่อ

“ไม่เชื่อไปถามป้าอนงค์ดูก็ได้”

เพลิงยักไหล่ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบธูปมาจุดไฟ ชายหนุ่มพึมพำอะไรบางอย่างแล้วเอาธูปไปปักในกระบะทรายหน้ารูป

“คุณพูดอะไรเหรอ”

ร่างสูงไม่ตอบ

“ขอพรคุณตาเหรอ”

“เปล่า”

“แล้ว?”

“มาฝากเนื้อฝากตัว”

ความร้อนพากันวิ่งไปกระจุกตัวอยู่ที่แก้มทั้งสองข้างของรเณศในทันที

“ไม่ถามเหรอว่าฝากตัวเรื่องอะไร”

“ไม่เห็นอยากรู้เลย”

รเณศทำเสียงค่อยแล้วพาลนึกถึงเหตุการณ์ที่ ‘ทำร่วมกัน’ เขายิ่งทำหน้าไม่ถูก ให้ตายเถอะ ในเขตวัดแท้ๆ เขาดันคิดเรื่องสัปดนไม่เข้าท่า ช่างน่าละอายเสียจริง

“ผมมาฝากตัวเป็นหลานเขย”

“คุณ”

เภสัชกรหนุ่มทำเสียงงุ้งงิ้งด้วยความเขินอาย

“หน้าคุณแดง”

“อากาศมันร้อน”

“ร้อนหรือเขิน”

“คุณ...”

รเณศทำหน้าง้ำ

“ต่อหน้าคุณตาแท้ๆ”

“ก็ต่อหน้าผู้ใหญ่น่ะสิถึงได้พูด คบกับลูกหลานเขาแล้วจะทำเล่นๆ ได้ยังไง ผมอยากให้เกียรติถึงได้มากราบท่าน เพราะคุณสำคัญผมถึงอยากให้คุณตาคุณได้รับรู้นะ”

คนเมืองเผลอกัดริมฝีปากตัวเองแน่น

“คุณไม่อายเหรอที่คบผู้ชาย”

รเณศหลุบตามองพื้นเพราะรู้ดีว่าเพลิงเป็นผู้ชายทั้งแท่ง ชายหนุ่มไม่มีประวัติหรือรสนิยมแบบเดียวกับเขามาก่อน ต่างจากรเณศที่รู้ตัวเองและมีรสนิยมแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก

“รเณศ”

“ครับ”

“คุณอายมั้ยที่คนๆ เป็นผม”

เพลิงจับมือรเณศเอาไว้ตอนที่พากันเดินออกมารอป้าอนงค์ที่ใต้ต้นไม้หน้าศาลาวัด คนถูกถามส่ายหน้าแรงๆ

“ผมเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ไม่มีเกียรติยศหรือชื่อเสียง ไม่มีตำแหน่งให้กล่าวขวัญ ห้องทำงานผมอยู่ในป่าใหญ่ไม่ได้ใส่ชุดโก้หรู ซ้ำเนื้อตัวผมยังสกปรกมอมแมม ไม่มีสิ่งไหนที่ดูดีในสายตาคนทั่วไป คุณอายมั้ย”

“ผมไม่เคยอาย”

“นั่นสิ” เพลิงยิ้มน้อยๆ “แล้วผมจะอายในสิ่งที่คุณถามทำไม”

“คุณ”

รเณศยิ้มกว้างก่อนจะกระชับมืออีกฝ่ายให้แน่นขึ้น

“อ๊ะ”

คนเมืองสะดุ้งโหยงตอนที่ป้าอนงค์เดินมาทางนี้พอดี รเณศรีบสะบัดมือออกจากการเกาะกุมแต่เพลิงนี่สิดันกุมมือเอาไว้เขาเสียแน่น แน่นอนว่าป้าอนงค์มองเห็นทุกอย่าง แต่แกทำเฉยก่อนจะยิ้มให้เขาน้อยๆ แต่สีหน้ารู้ทันนั่นทำให้รเณศร้อนผ่าวไปทั้งตัว



☘☘☘☘


“คืนนี้จะค้างที่บ้านพักผู้ช่วยมั้ยล่ะเรา”

คำถามจากป้าอนงค์นั้นทำเอาคนมีชนักติดหลังนั่งกระสับกระส่าย คนเมืองค่อยคลานเข่าขยับไปใกล้ผู้สูงวัยซึ่งนั่งเลือกเมล็ดพันธ์สำหรับการเพาะปลูกอยู่

“ป้าครับ”

“ทำหน้าอะไรแบบนั้นล่ะเจ้าเนตร”

“เมื่อคืน...”

รเณศเผลอกัดริมฝีปาก

“ทำไมหรือกับข้าวที่ทำไปให้ผู้ช่วยบูดหรือไง”

“เปล่าครับ”

“แล้วทำหน้าเครียดแบบนั้นทำไมล่ะ ทำหน้าไม่สดใสเหมือนคนมีความรักเลย”

“ป้า”

รเณศทำหน้าไม่ถูกขณะที่แกเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองเขายิ้มๆ

“เมื่อเช้าผู้ช่วยเขามากราบขอพรวันเกิด”

คนเมืองนิ่งฟัง

“น่าสงสารแกนะ วันเกิดทั้งทีก็อยู่ไกลบ้าน พ่อแม่รึก็เสียกันไปหมดแล้ว เพราะอย่างนี้ป้าถึงเอ็นดูแก”

“...”

“แกไม่มีญาติอยู่ใกล้ให้อุ่นใจป้าก็จะเป็นญาติให้” ป้าอนงค์ยิ้มน้อยๆ “แกมาสารภาพกับป้าว่าแกน่ะอยากมาเป็นลูกเป็นหลานแท้ๆ”

รเณศแทบจะสะดุดลมหายใจ

“ผู้ช่วยเขาพึงใจหลานชายป้า เขาเลยมาบอกเพราะไม่อยากทำอะไรลับหลัง เขาอยากคบหาในสายตาผู้ใหญ่ น้อยคนนะที่จะทำแบบนี้”

“ป้า”

“เขินแล้วมากอดทำไมเจ้าเด็กคนนี้”

รเณศไม่ตอบอะไรนอกจากกอดเอวผู้สูงวัยแน่น

“แล้วยังไงกันคืนนี้จะกลับมั้ย ผู้ช่วยเขามาขออนุญาตพาแกไปกินข้าวกับลูกน้องเขา”

“...ครับ”

“พูดอะไรงึมๆ งำๆ”

“กลับดึกหรืออาจจะไม่กลับครับ”

“ก็เท่านั้นแหละ”

ป้าอนงค์หัวเราะร่วนโดยมีป้าสมัยที่อุ้มแก้มใสอยู่หัวเราะผสมโรงไปด้วย


.


.


[สุขสันต์วันเกิดนะลูกเพลิง]

เพลิงยิ้มกว้างเมื่อได้ยินเสียงจากทางไกล ป้าวดีอวยพรเขาอยู่เสียนาน น้ำเสียงอ่อนหวานนั่นทำให้เขารู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่ได้ยิน

[วันเกิดปีนี้ขอให้เพลิงมีความสุขมากๆ นะลูก ป้าคิดถึงและเป็นห่วงเพลิงมากนะ รอคุณลุงท่านว่างก่อนป้าจะไปหาเพลิงหลายๆ วันให้หายคิดถึงเลย]

“ขอบคุณมากครับป้า แล้วป้ากับลุงทัศน์สบายดีนะครับ”

[สบายดีเจ้าเพลิง คิดถึงแกว่ะ ฝีมือหมากล้อมเจ้าธามสู้เพลิงไม่ได้สักกระฝีก เมื่อไหร่จะแวะมาเล่นหมากล้อมกับลุงสักทีล่ะลูก]

เพลิงยิ้มกว้างได้ยินเสียงธามโอดครวญมาตามสายที่ถูกเหน็บเรื่องฝีมือการเล่นหมากล้อม

[ให้ตายเถอะ แกจะทำให้ฉันเป็นลูกอิจฉาไอ้เพลิง]

เสียงธามเล็ดลอดเข้ามา

“พี่น่าจะรู้ตัวนานแล้วนะ”

[ไอ้น้องเวรนี่]

เสียงขลุกขลักจากปลายสายก่อนที่จะได้ยินเสียงธามชัดเจนขึ้น เพลิงหัวเราะน้อยๆ

“สบายดีนะพี่”

[เออ...ยังอยู่ฝึกปรือฝีมือเล่มหมากล้อมกับลุงแกไปได้อีกนาน]

ธามทำเสียงฮึกเฮิม

“ผมว่าเกิดใหม่ยังจะง่ายกว่า”

[ไอ้น้องเวร]

เพลิงยิ้มมุมปากนึกถึงใบหน้าลูกพี่ลูกน้องออกเลยว่าตอนนี้อีกฝ่ายทำหน้าแบบไหน ธามเป็นอารมณ์ดีและคนขี้เล่นมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว

“ของขวัญวันเกิดปีนี้ของผมล่ะครับ”

[แกยังจะกล้าทวงอีกรึไง]

ฝ่ายนั้นทำเสียงระอาไม่จริงจังนัก

“นิดหน่อยหน่าพี่”

[เงินสดโอนเข้าบัญชีแกแล้ว อยากได้อะไรก็ไปซื้อเอาเอง]

เพลิงส่ายหัวเพราะธามเป็นแบบนี้ประจำ หมอนั่นไม่ใช่คนละเอียดอ่อนเอาใจใครหรอก ตั้งแต่ทำงานหาเงินเองได้ ธามก็ให้ของขวัญเขาแบบนี้ทุกปี จนหลังๆ เพลิงเคยเอ่ยปรามไม่อยากให้อีกฝ่ายสิ้นเปลือง แต่หมอนั่นดันตอบมาว่า

‘ฉันรวย จบนะ’

หัวแข็งไม่มีใครเกิน

[เมื่อเช้านี้พ่อกับแม่ก็ไปทำบุญเลี้ยงพระที่วัดด้วย เขาบ่นกันตลอดว่าอยากให้แกกลับมาอยู่ด้วยกัน อยู่ทางโน้นแกก็ดูแลตัวเองด้วยนะ ฉันเห็นข่าวไฟไหม้ป่านั่นแล้ว พ่อกับฉันพยายามปิดแม่อยู่ เพราะไม่อยากให้แม่ห่วงแกจนไม่เป็นอันทำอะไร]

“ครับ”

เพลิงยิ้มกว้างเมื่อธามทำเสียงจริงจัง

[เออไอ้เพลิง แกอยากได้ของขวัญวันเกิดก้อนโตมั้ยวะ]

“อะไรวะพี่”

[ย้ายเข้ากรุงเทพฯ สิ รับรองแม่ฉันเซ็นเช็คให้เป็นของขวัญแน่ๆ]

“นี่หลอกล่อกันด้วยเงินเลยเหรอเนี่ย”

ธามส่งเสียงหัวเราะใหญ่ ขณะที่เพลิงส่ายหัวไปมา

“เงินซื้อผมไม่ได้หรอกครับ”

เพลิงแกล้งทำเสียงเข้ม

“ถ้ามันไม่มากพอ”

ปลายสายก่นเสียงดังลั่นเคล้าคลอไปกับเสียงหัวเราะจนเขาขำตาม ก่อนวางสายทุกคนสลับกันอวยพรวันเกิดให้เขาอีกครั้ง เสียงจากคนที่เพลิงเรียกว่า ‘ครอบครัว’ ได้เต็มปากฟังแล้วรู้สึกดีชะมัด อย่างน้อยวันเกิดที่ไร้เงาบุพการีในพื้นที่ห่างไกลจากความเจริญทุกรูปแบบก็ยังมีความห่วงใยจาก ‘ครอบครัว’

.


.


บ่ายวันนั้นที่มุมหนึ่งของเมืองหลวง ธามกำลังมุ่นหัวคิ้วอย่างประหลาดใจหลังจากทานข้าวกับลูกค้าเสร็จแล้ว ระหว่างนั้นภาพใครบางคนที่ทำลับๆ ล่อๆ เดินตามผู้ชายคนหนึ่งนั้นตกอยู่ในสายตาเขาพอดี ปกติแล้วธามไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นนักหรอก อะไรที่ไม่ใช่ธุระกงการเขามักปล่อยผ่านไม่ใส่ใจ แต่บังเอิญบุคคลหนึ่งในสองคนนี่สิที่ดันเป็นที่สนใจซ้ำยังเป็นที่เขาเองก็รู้จักเป็นอย่างดี

ธามในชุดสูทสีกรมปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสองเม็ดบนลงแล้วออกเดินอย่างช้าๆเพื่อสังเกตเหตุการณ์ตรงหน้า เขาถอดแว่นกันแดดมาเสียบไว้ที่คอเสื้อก่อนจะหรี่ตาจับผิดพี่ชายต่างมารดาของเพลิงซึ่งกำลังทำตัวเป็นผู้ร้ายสะกดรอยตามร่างบุรุษท่าทางตุ้งติ้งซึ่งกำลังแวะไปส่งพัสดุที่สำนักงานไปรษณีย์สาขาย่อยในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้

เขาเดินตามไปสักระยะหนึ่งจนแน่ใจว่าไอ้หมอนั่นกำลังสะกดรอยตามคนอื่นแน่ชัดแล้ว ธามจึงแยกไปอีกทาง แล้วหาจังหวะที่บังเอิญมีคนเดินตัดไอ้หมอนั่นจนคลาดกับร่างตุ้งติ้ง

ชินกรสะดุ้งโหยงเมื่ออยู่ๆ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เจ้าของใบหน้าคมคายโผล่มาเบื้องหน้าของเขา

“ขอโทษที่ทำให้ตกใจครับ”

“คะ ครับ”

ผู้ชายหัวใจสาวอ้าปากค้างเมื่อเห็นใบหน้าเจ้าของคำพูดนั้นชัดๆ ชินกรนึกเก้อเขินเมื่อสบสายตาของธามตรงๆ

“คุณมีธุระกับผมงั้นหรือครับ”

ธามยิ้มมุมปากก่อนจะเอียงใบหน้าเล็กน้อย

“ไม่รู้คุณจะเชื่อรึเปล่า” ชายหน้าแสร้งถอนหายใจ “มีคนสะกดรอยตามคุณอยู่”

ชินกรยืนอึ้ง ความรู้สึกเก้อเขินหายตรงหน้าหายวับไปตา เขาทำตาโตก่อนจะมองซ้ายขวาทำให้ธาม ต้องดันหลังให้อีกฝ่ายหลบไปยังหลังต้นคริสต์มาสจำลองต้นใหญ่

“ใครสะกดรอยตามผม”

ธามไม่ตอบแต่พยักพเยิดไปด้านหลัง ชินกรมองลอดต้นคริสต์มาสไปจนเห็นใครคนหนึ่งยืนหันซ้ายหันขวาอยู่ตรงทางแยกกลางห้างนั่น คนถูกตามทำหน้าซีดก่อนจะอุทานชื่อชายคนนั้นออกมา

“พี่เต”

ชินกรใจหายวาบ

“ฉิบหายแล้ว”

“เขาตามคุณมาสักระยะแล้ว” ธามโคลงศีรษะไปมา “ถ้าคุณรู้สึกว่าถูกคุกคาม ผมแนะนำให้ไปแจ้งความ”

ชินกรส่ายหน้าหวือ

“เขาไม่ได้ตามผมหรอก”

ธามมุ่นหัวคิ้ว เมื่อเห็นแววตาร้อนรนของคนตรงหน้า

“แต่เขากำลังตามหาเพื่อนของผมอยู่ต่างหาก”

ชินกรทำหน้ายุ่งก่อนจะหันมาขอบคุณธามแล้วอาศัยจังหวะที่เตวิชเดินไปทางอื่นวิ่งหนีไปอีกทาง ธามไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าเท่าไหร่หรอก แต่จังหวะที่เตวิชหันมาแล้วเห็นแผ่นหลังของชินกรไวๆ นั่นทำให้คนที่ไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นโผล่ไปยืนขวางทางเตวิชจนทำให้ตามชินกรไปไม่ทัน

“โทษที”

ธามทำทีแกล้งขอโทษที่เดินมาชนไหล่อีกฝ่ายอย่างไม่ตั้งใจทั้งที่เขาตั้งใจ เตวิชทำหน้ามุ่ยก่อนจะสบถในลำคอแล้วมองเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

“ไม่มีตาหรือไงวะ”

“ตาน่ะมี แต่มันไม่เห็นไงว่ามีคนเดินมาแถวนี้ ต้องขอโทษคุณด้วยคุณเตวิช”

“รู้จักกันงั้นเหรอ”

ธามโคลงศีรษะก่อนจะยื่นนามบัตรให้อีกฝ่าย เพราะนอกจากเดินชนแล้ว เขาดันทำกาแฟหกใส่เสื้ออีกฝ่ายเต็มๆ

“เพื่อเป็นการขอโทษที่ทำสูทคุณเปื้อน ติดต่อให้ผมส่งสูทคุณไปซักรีดได้เลย ผมมีร้านประจำ”

“ธาม อัคราวัตร”

เตวิชเอ่ยชื่อที่ปรากฏในนามบัตรก่อนจะทำตาเข้มจ้องมองคนตรงหน้าด้วยท่าทางยียวน

“ลูกพี่ลูกน้องไอ้เพลิงงั้นหรือ”

ธามนิ่วหน้าเมื่ออีกฝ่ายทำหน้าคล้ายจะเย้ยหยัยกัน

“ครับพี่ชายไอ้เพลิง”

เตวิชกัดฟันแน่นเมื่อถูกอีกฝ่ายตอบกลับเสียงเรียบ

“ผมไม่เคยนับญาติกับมัน”

“ผมก็ไม่อยากให้มันนับญาติกับคุณ” ธามยักไหล่ “แต่วางใจเถอะ มันไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกคุณหรอก แม้แต่นามสกุลสูงส่งของพวกคุณมันยังไม่ใช้เลย”

“แน่สิในเมื่อครอบครัวผมกับมันไม่ได้เกี่ยวข้องกัน และผมก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณด้วย สูทนี่ผมจะส่งซักเองแล้วค่อยส่งบิลค่าใช้จ่ายไปตามที่อยู่นามบัตรนี้”

เตวิชยิ้มเยาะก่อนจะเดินจากไป ขณะที่ธามมองฝ่ายนั้นนิ่ง

“ไม่เกี่ยวกันก็ดีแล้ว เพราะถ้าคุณยุ่งกับไอ้เพลิงน้องผมเมื่อไหร่ ผมเกี่ยวแน่”



☘☘☘☘

“เมนูหมูมะนาวของพี่เนตรโคตรแซ่บ”

เจ้าเต็งสูดปากไม่พอยังยกนิ้วโป้งให้เขาทั้งสองข้างด้วยสีหน้าทะเล้น

“ตลกแดกสิมึง”

พลแกล้งแซว

“ไม่ใช่สักหน่อยพี่” เต็งส่ายหน้าหวือ “รสมือของพี่เนตรอร่อยดีจริงๆ ไม่เชื่อพี่ลองชิมสิ”

“เอออร่อย”

พลเห็นหน้าหงึกหงักหลังจากลองชิมแล้วหันมายิ้มให้คนทำ

“อร่อยจริงๆ นั่นแหละคุณเนตร”

“ขอบคุณครับ”

รเณศยิ้มจนตาหยี เขาอดดีใจไม่ได้ที่เมนูอาหารที่นำมาเลี้ยงเจ้าหน้าที่มื้อเย็นวันนี้เป็นที่ถูกปากถูกใจคนกินไม่น้อย อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้มารดาเขา เพราะตอนเด็กๆ รเณศชอบเป็นลูกมือของแม่ อาศัยว่าลูกพักลักจำเอาเลยได้เทคนิคการทำอาหารติดตัวมาบ้างเล็กน้อย

บรรยากาศยามค่ำที่ความมืดเริ่มโรยตัวไปทั่ว จนต้องอาศัยแสงจากแผงโซลาร์เซลล์ซึ่งมีไฟสะท้อนมาจากกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ แค่อันเดียวเท่านั้น แต่ถึงจะอย่างนั้นมันก็สว่างไสวเกินพอสำหรับคนที่ใช้ชีวิตแบบนอนกลางดินกินกลางทราย รเณศยิ้มกว้างที่เห็นสีหน้าเจ้าหน้าที่แต่ละคนดูผ่อนคลาย

“ผู้ช่วยแกยิ้มไม่หุบเลย”

“นั่นสิแกคงดีใจที่เด็กมันนึกถึง”

รเณศเงี่ยหูฟังเจ้าหน้าที่คุยกัน เพราะก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มที่เพลิงเคยเอ่ยปากขออุปการะซึ่งรเณศจำได้รางๆ ว่าสองคนนั้นคือลูกเจ้าหน้าที่ซึ่งเสียชีวิตจากการลาดตระเวนตอนที่รเณศมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ ตอนนั้นเขายังนึกกังขาว่าคนอย่างเพลิงจะอุปการะเด็กเหล่านั้นจริงๆ

แต่ความจริงวันนี้ก็ปรากฏขึ้นเมื่อสองหนุ่มในชุดนักเรียนถือมาลัยมากราบอวยพรวันเกิดเพลิงถึงที่ทำการอุทยาน แน่นอนว่าการกระทำนั้นทำให้คนตัวโตถึงกับยิ้มไม่หุบถึงขนาดรีบเอาพวงมาลัยพวกนั้นไปเก็บที่บ้านพักทันที หลังจากเด็กสองคนนั้นกลับไป

การเป็นผู้ให้นั้นมันเป็นความสุขอย่างหนึ่ง เคยมีคนพูดไว้แบบนั้น ซึ่งมันเป็นความจริงทุกประการเมื่อได้ลองเป็นผู้ให้แล้วความรู้สึกนั้นมันดีมากๆ มันเป็นภาพจำที่ไม่มีวันลืมเลือน เพราะการแบ่งปันเป็นความดีที่กระทำได้อย่างง่ายดาย

รเณศนึกถึงสีหน้าของผู้ชายตัวโตที่ยิ้มกว้าง แววตาที่เขามองเด็กสองคนนั้นทั้งอบอุ่นและภูมิใจ เพลิงคงไม่รู้ตัวว่าเขาได้เพาะพันธุ์เมล็ดแห่งความดีในใจของเด็กเหล่านั้นแล้ว เด็กหนุ่มที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่และในสักวันหนึ่งเด็กนั่นจะกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์และมีคุณค่าให้กับสังคม

“ยิ้มอะไร”

เพลิงเดินกลับมาพร้อมของกินในมือยื่นให้เขาชิม รเณศยิ้มกว้างไม่ยอมตอบคำถามนั้นก่อนจะพยักพเยิดไปยังของกินในห่อใบตองซึ่งกลัดด้วยไม้ที่ชายหนุ่มยื่นให้ก่อนหน้านี้

“ไข่ป่าม”

“น่ากินจัง”

“รสชาติคล้ายๆ ไข่นึ่งนั่นแหละ กรรมวิธีคล้ายๆ กัน”

“ยังไงเหรอครับ”

คนเมืองสูดกลิ่นใบตองที่ย่างไฟหอมๆ ชวนทำลายสอ รเณศลองกัดเนื้อไข่สีสวยที่ด้านในมีต้นหอมซอยกับพริกหั่นผสมอยู่ประปราย

“อร่อยครับ ว่าแต่มันทำยังไงเหรอครับ”

“วิธีทำน่ะเหรอ อืมตอกไข่ผสมพวกเครื่องปรุง ใส่ต้นหอมซอยสักนิด ใส่พริกซอยสักหน่อย แล้วเทใส่ใบตองที่กลัดเป็นกระทง เสร็จแล้วก็เอาไปย่างเตาถ่านให้สุก แค่นี้ก็น้ำลายสอแล้ว”

“อื้อ หอมใบตอง”

กลิ่นใบตองย่างไฟมันหอมจริงๆ

“อร่อยมากเลยเหรอ”

เพลิงถามยิ้มๆ ตอนที่เห็นรเณศกินไม่หยุด

“มาก” คนเมืองทำจมูกฟุดฟิดดมใบตองไม่เลิก

“ผมไม่เคยกินอะไรแบบนี้เลย”

“น่าเสียดายนะ”

เพลิงพึมพำ

“ถ้าแม่ผมยังอยู่ คุณคงได้ชิมบ่อยๆ เพราะตอนเด็กๆ แม่ผมชอบทำไข่ป่ามให้ผมกิน” เพลิงเหม่อมองไปไกลเมื่อถึงอดีตในวันวาน น้ำเสียงราบเรียบนั่นพาให้คนฟังใจสั่น

เพลิงคงคิดถึงแม่

รเณศเอื้อมมือไปจับกุมมือของอีกฝ่าย

“คุณคิดถึงท่านใช่มั้ย”

“คิดถึงมาก”

เพลิงเหม่อมองท้องฟ้า

“แม่คุณเขามองคุณจากบนนั้น เขาต้องภูมิใจแน่ๆ เชื่อผมสิ ตอนที่ท่านคงกำลังอวยพรให้คุณอยู่แน่ๆ”

รเณศยิ้มน้อยๆ ก่อนจะแกล้งทำเสียงอ่อนหวานคล้ายคนสูงวัย “มีความสุขมากๆ นะเพลิง วันเกิดปีนี้ถึงจะไม่ได้กินไข่ป่ามฝีมือแม่ แต่รู้เอาไว้นะว่าแม่รักเพลิง”

“เสียงคุณแก่ไปหน่อย”

เพลิงแกล้งเย้าก่อนจะหัวเราะร่วน รเณศจึงเบะปากก่อนจะทำตาโตเมื่อเหลือบไปเห็นของกินอีกอย่างที่วางอยู่ใกล้ๆ กัน

“โอ๊ะ นั่นอ่องปูนา”

“รู้จักด้วยเหรอ”

รเณศยิ้มจนตาหยี

“ให้ตายเถอะ อุตส่าห์ทำของกินดีๆ มาเลี้ยงเจ้าหน้าที่ แต่ตัวเองมานั่งกินไข่ป่ามกับอ่องปูนาเนี่ยนะ จะฝึกเป็นสะใภ้คนเมืองหรือยังไง”

“แค่กๆๆ”

รเณศไอจนสำลัก ใบหน้าขาวนั้นแดงก่ำจนเพลิงขำ เภสัชกรหนุ่มเลยตอบเสียงแผ่ว

“ถ้าใช่แล้วจะทำไมเล่า”

คราวนี้กลายเป็นเพลิงที่ทำหน้าเหวอก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาซะดังลั่น

☘☘☘☘


ตอนนี้กินไข่ป่าม ตอนหน้ากินไข่เพลิ_ แค่กๆๆๆๆๆๆๆๆ
แอบใบ้ว่าตอนหน้าคือ "อะไรเอ่ยอยู่นอกประตู" ค่อกกกแค่กกกกก
หวีดในทวิตตติดแท็ค #ป่าห่มรัก ให้ด้วยเด้อ

หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 17-06-2019 21:39:49
วันพิเศษก็อยุ่กับคนพิเศษเนอะ // มองข้ามอิตาแฟนเก่านิสัยแย่คนนั้น ไป
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 17-06-2019 21:43:27
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 17-06-2019 21:59:35
ตอนหน้ากินอะไีนะอยากอ่านต่อแช้ว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 17-06-2019 22:06:26
สุขสันต์วันเกิดผู้ช่วยเพลิง ปีนี้ได้ของขวัญวันเกิดเป็นหมอยาซะด้วย ขอให้มีความสุขมากๆ จ้า.  :L2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-06-2019 22:17:23
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:   อีเตต้องโดนอีพี่ธามปราบ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 17-06-2019 22:33:49
 :pig4: :pig4: :pig4:

อั๊ยยะ   ตอนหน้ามี outdoor ดัวะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 17-06-2019 23:02:00
หูย อดใจไม่ไหวอยากอ่านตอนหน้าแล้ว อิอิอิอิ
คนเขียนทำให้อยากแล้วจากไป
 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 18-06-2019 00:32:00
 อ่านแล้วก็อยากกินไข่ป่ามกับอ่องปูนาขึ้นมาทันที
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Mariinariiz ที่ 18-06-2019 11:34:20
วันพิเศษกับคนพิเศษของพี่เพลิง พี่เนตรก็เขินน่ารักตลอด 5555 ชอบใจป้าอนงค์แกมาก ชอบแซวหลาน

รำคาญเตวิชมากกกก ต้องโดนพี่ธามจัดหนักๆแล้วคนแบบนี้ โหหหห หยิ่งเกินไป

ก็ไม่ได้สูงส่งขนาดนั้นคนเรา หมั่นไส้ๆๆๆ

หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 18-06-2019 11:56:56
พี่หยอด น้องก็อ่อย โง้ยยย น่ารักกก ไข่ป่ามหรือจะสู้ไข่เพลิ_  :m25:

ธามเต อืมๆ พี่ธามจัดอิพี่เตไปเลยย คนนิสัยไม่ดี ต้องกดให้สยบ!  :laugh:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: nut2557 ที่ 18-06-2019 12:10:58
 :mew3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-06-2019 13:06:50
พี่ธาม ไอ้พี่เตมันจะมายุ่งกับน้องสะใภ้พี่  รบกวนจัดหนักจัดเต็มเลยนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 18-06-2019 16:06:42
ก็ไปแซวเขา 55555555555555
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 18-06-2019 19:39:15
วันเกิดของผู้ช่วยปีนี้คงเป็นวันที่ผู้ช่วยมีความสุขมากแน่ไ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 18-06-2019 20:11:47
อ่านแล้วหิวเลยค่ะ อยากกินทั้งหมูมะนาว ไข่ป่าม แล้วก็อ่องปูนา ฮาาาาา

สุขสันต์วันเกิดผู้ช่วยน๊าาาา ขอให้มีชีวิตที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปน๊าาา
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 18-06-2019 20:44:05
อยากลองกินไข่ป่าม ผู้ช่วยมาทำให้กินหน่อย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 19-06-2019 00:31:22
ละมุนละไมที่สุด
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 19-06-2019 22:43:21
อ่านตอนนี้แล้วสรุปได้ว่าตอนนี้กินไข่ป่าม ตอนหน้าก็กินไข่อะไรสักอย่างประมาณนี้แหละ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: SLEEPERINDY ที่ 20-06-2019 02:13:00
กุมหัวใจเเน่นเลย ทำไมเพิ่งได้อ่านเรื่องนี้  พี่เพลิงเท่มากเลย น้องเนตรก็น่ารักมาก รออ่านตอนหน้าใจจดใจจ่อค่า  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 22-06-2019 11:21:14
น่ารัก ทำดีกันมากค่ะ ไปรออยู่ที่บ้าน
เพื่อเซอร์ไพรส์วันเกิด เนตรน่ารักซะไม่มี
แถมยังตกลงเป็นแฟนกันแล้วด้วย เอ็นดู

เพลิงคือคนที่ทุ่มเทในทุกหน้าที่จริงเลย
ไม่ทิ้งงาน ไม่ทิ้งใคร ไม่ทิ้งหัวใจ
และไม่ขออะไรมาก ขอแค่ให้คนที่รักเข้าใจ

ทุกคนมีความแซวเพลิงเนตร
อยากให้ธามเจอเนตร ธามช่วยชินกรด้วยนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Plakhem ที่ 23-06-2019 19:11:42
 :impress2: :-[  เขินแทนเนตร อิอิ :mew1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [19] #ป่าห่มรัก [17.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: evanescence_69 ที่ 23-06-2019 19:50:51
จะ ดราม่า ขนาดไหนนะ ถ้ารู้ว่าเพลิงเป็นน้อง ของแฟนเก่า
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 24-06-2019 21:03:18
[ 20 ]




ดึกแล้วตอนที่เพลิงและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ แยกย้ายกันไปพักผ่อน ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ตอนที่หันมามองคนที่นั่งยิ้มอยู่เพียงลำพัง รเณศทำตาปรือก่อนจะยิ้มให้เขาเสียหวานจ๋อยด้วยท่าทางที่สติไม่อยู่กับตัว

เพราะรเณศเมา!

จังหวะที่เขาหันไปคุยกับพรานธีปอแป๊บเดียวหันกลับมาอีกทีคนเมืองก็ยกเหล้าพื้นบ้านซึ่งเจ้าหน้าที่คนอื่นยื่นให้เข้าปากไปแล้วถึงสามแก้ว พอถูกเขาดุรเณศจึงหยุดดื่ม แต่ก็นั่นแหละคนที่ไม่ประมาณตัวเองซ้ำยังคออ่อนแบบนั้นกำลังก็นั่งโงนเงนตาเยิ้มใส่เขา

เพลิงส่ายหัวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันแรกที่เจอรเณศในสถานบันเทิงแล้วฝ่ายนั้นกินเหล้าย้อมใจแล้วเมามายไม่ได้สติจนใจกล้าถึงขนาดชวนเขาไปนอนด้วย

เฮ้อ ไม่ประมาณตนเองเอาซะเลย

“คนขี้เมา”

เพลิงเขี่ยแก้มคนเมา ขณะที่ฝ่ายนั้นเบือนหน้าหนีเพราะรู้สึกคล้ายมีแมลงหวี่บินวนเวียนสร้างความรำคาญอยู่ใกล้ใบหน้า

“เอ้า ยืนดีๆ เดี๋ยวขี่คอผมก็แล้วกัน”

ท่าทางว่ารเณศจะยืนทรงตัวเองไม่ไหวหรอก เพลิงจับประคองฝ่ายนั้นให้ขี่หลังเขา รเณศทำตาปรือก่อนจะขยี้ตาตัวเองไปมาเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใครเขาจึงยิ้มให้

“เพลิง”

“ครับ”

“ฮือ เวียนหัวอ่ะ”

“ไม่เวียนได้ยังไง กินจนยืนไม่ตรงแล้วเนี่ย”

“ไม่เมา”

รเณศพึมพำตอนที่กอดคอเพลิง คนเมาแต่ทำตัวไม่เมากระซิบข้างหูร่างสูงทำเสียงงุ้งงิ้งจนเพลิงส่ายหัว

“รเณศคนขี้เมา”

“ไม่เมาสักหน่อย”

“เมาแล้วเถียงเก่ง”

“ไม่เถียง”

“นั่นแหละเถียง”

เพลิงนึกอ่อนใจกับอาการเมาของคนรักหมาดๆ

“ไม่เถียงก็ด้ายย”

“...”

“ฮือ แต่อยากกินไข่ป่าม”

“หมดแล้ว ค่อยกินวันอื่นนะ”

เพลิงค่อยชะลอฝีเท้าลงตอนที่พาคนเมาถึงบ้านพักแล้ว ชายหนุ่มค่อยประคองอีกฝ่ายลงนอนกับเตียงกลางห้อง

“อยากกิน”

รเณศนอนกระสับกระส่ายวุ่นวายจนเพลิงคลึงขมับ

“นอนดีๆ”

“ยังไม่ได้อาบน้ำเลย”

“ค่อยเช็ดตัวเอานะ”

“ฮือร้อน”

“...”

“อยากอาบน้ำ”

คนเมาเริ่มรู้สึกร้อนพยายามถอดเสื้อผ้าตัวเองให้วุ่นวาย รเณศพยายามถ่างตาตัวเองทำหน้ายุ่งๆ ตอนที่เสื้อคลุมติดอยู่ที่ข้อพับแขนทำยังไงก็ไม่ออก พอไม่ได้ดั่งใจคนเมาเลยแบะปากทำหน้ายุ่ง

“อะไรอีกล่ะทีนี้”

เพลิงขยับไปช่วยถอด

“ฮือ ไข่ป่ามของเนตร”

“...”

“นั่นอะไร นั่นอ่องปูนา”

คนเมาชี้ไปมั่วซั่วจากที่เพลิงพยายามทำหน้าดุใส่ตอนนี้ชายหนุ่มเลยเผลอขำออกมา

“คุณนี่จริงๆ เลยนะเนตร”

“เพลิงดุ”

รเณศทำหน้ามุ่ย

“เพลิงไม่ใจดี”

“แล้วอยากให้ใจดีมั้ย”

รเณศพยักหน้าหงึกหงัก

“งั้นนอนนิ่งๆ ผมจะถอดชุดให้”

คนเมานอนนิ่งๆ ให้คนตัวโตถอดเสื้อตัวนอกออก

“นิ่งแล้วได้กินไข่ป่ามมั้ย”

“วันนี้หมดแล้วครับ”

เพลิงพูดเสียงอ่อนโยน

“ฮือ”

รเณศเบะปากแล้วยกมือปิดหน้าร้องไห้ เพลิงซึ่งมองอาการคนเมาอยู่ถึงกับขำไม่ออก

“เมาแล้วเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย”

“ไข่ป่าม”

คนเมายื่นมือปะป่ายไปด้านข้างจนเพลิงต้องขยับไปรวบร่างยุกยิกนั่นเอาไว้ในอ้อมแขน แต่ดูเหมือนคนเมาจะยิ่งดิ้นหนีจนมือป่ายไปโดยในส่วนที่ไม่สมควรจับ

“ฮือ ไข่ป่าม”

“ไม่ใช่”

เพลิงส่ายหัว

“ไข่ป่าม”

“ใช่นี่ไหนกับเล่านี่มันไข่ผม”

เพลิงรวบมือบางที่จับบริเวณกึ่งกลางลำตัวเขาเต็มๆ ออก แต่ให้ตายเถอะ อุ้งมือที่ผวาจับของสงวนเมื่อกี้นี้ทำเอาเขาที่ถูกคนเมาลวนลามรู้สึกถึงกระแสไฟวิ่งวนไปทั่วร่างกาย เพลิงเม้มปากแน่นก่อนจะรวบตัวคนเมามากอดแนบอก

“รเณศคนดื้อ”

“ไม่ดื้อน้า”

“ครับรู้แล้ว”

“ฮือร้อน”

รเณศขยับตัวจากการอ้อมแขนของเขา คนเมาโยกตัวโงนเงน การเคลื่อนไหวสะเปะสะปะไร้ทิศทางชวนให้เวียนหัวไม่น้อยเลยทีเดียว

“อยู่นิ่งๆ ก่อน”

“จะไปอาบน้ำ”

“เดินยังไม่ตรงเลย จะไปอาบยังไงไหว”

“ฮือจะอาบน้ำ”

ให้ตายเถอะ! เถียงกับคนเมาที่น่าปวดหัวชะมัดยาด

“ไปอาบน้ำ”

คนเมาดุนแผ่นหลังเพลิงก้าวออกเดิน เรี่ยวแรงอันน้อยนิดนั่นไม่ทำให้คนตัวโตราวกับยักษ์ปักหลั่นเคลื่อนกายไปได้หรอก เพลิงอาศัยจังหวะนั้นพลิกตัวแล้วโอบร่างสูงโปร่งเพื่อดันไปชิดผนังด้านหนึ่งป้องกันไม่ให้คนเมาเดินวุ่นวายจนไปถึงหน้าประตู แต่เรี่ยวแรงของเพลิงคงจะมากไปสักนิด ถึงได้ดันให้ศีรษะทุยสวยของรเณศโขลกผนังเสียงดัง ซ้ำมือข้างหนึ่งของคนเมายังฉุดให้เขาเซถลาจนปลายคางเพลิงไปเสียดสีกับหน้าผากอีกฝ่าย

เพลิงก้มมองคนตรงหน้าพอก้มมองอีกฝ่ายนั่นแหละทำให้รู้ว่าส่วนสูงของเราต่างกันพอสมควร รเณศเป็นคนสูงโปร่งก็จริง แต่ส่วนสูงของฝ่ายนั้นก็เพียงแค่บ่าของเขาเท่านั้นเอง เพลิงเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่จนบางครั้งส่วนสูงก็เป็นอุปสรรคเวลาต้องก้มผ่านประตูหรือทางเข้าออกบางที่

ความใกล้ชิดนี้ทำให้คนตัวโตรู้สึกร้อนวูบวาบไม่ต่างจากคนเมาที่ถึงกับสะดุ้งโหยงตอนที่มือข้างหนึ่งผวาคว้าคออีกฝ่าย ร่างสูงจ้องมองใบหน้าคนเมานิ่ง ทั้งคู่ใกล้กันจนได้ยินเสียงลมหายใจร้อนผ่าวจากอีกฝ่าย เพลิงร้อนวาบเมื่อได้กลิ่นลมหายใจเจือกลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวรเณศ คนเมืองยืนนิ่งก่อนจะสะบัดหน้าแรงๆ เพื่อเรียกสติ แน่นอนว่ามันได้ผล คนเมืองกระพริบตาถี่ๆ สะบัดศีรษะแรงๆ เพื่อลำดับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้โดยที่ปฏิกิริยาทางร่างกายยังเชื่องช้าเพราะฤทธิ์ของมึนเมา

“ไหวมั้ย”

มือข้างหนึ่งของเพลิงขยับไปเกลี่ยแก้มขาว

“อื้อ”

เสียงครางของรเณศทำเอาปลายนิ้วของเพลิงชาวาบ คนมีสติถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะขยับถอยห่าง กลิ่นกายและกลิ่นลมหายใจของพวกเขาตีกันวุ่นพาให้เนื้อร้อนผ่าว ร่างกายของเพลิงมีปฏิกิริยากับเนื้อตัวของรเณศ เพียงแค่สัมผัสหรือสะกิดเพียงนิดก็ก่อให้เกิดอารมณ์หวามไหว

“ไปรอที่เตียงนะ เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้ คุณจะได้นอนสบาย”

นอกจากจะไม่นำพาคำพูดของเขาแล้ว อีกฝ่ายยังรั้งต้อคอของเพลิงให้ขยับไปจนชิด

“เนตร”

“อยากอาบน้ำ”

“คุณเดินไหวหรือ”

“คิดว่าไหว”

“ทำไมถึงกินจนเมาแบบนี้ครับ หือ”

เพลิงยืดแก้มอีกฝ่ายอย่างไม่ออมแรงจนคนเมาทำหน้าเหยเกส่งเสียงประท้วง

“ขี้บ่น”

“ก็คุณดื้อ”

รเณศส่ายหัวแรงๆ ก่อนจะรั้งใบหน้าของเพลิงเข้ามาใกล้จนปลายจมูกทั้งสองแตะกันเบาๆ ทั้งคู่ต่างชะงักไปกับสัมผัสบางเบานั่น เพลิงขยับเลื่อนนิ้วมือไปเกลี่ยขอบปากล่างของรเณศ ขณะที่มืออีกข้างเกาะอยู่ตรงช่วงสะโพก

แวบหนึ่งเขานึกถึงภาพแผ่นหลังอันขาวกระจ่างใสของคนเมืองที่เคยพบพานมาก่อน แค่คิดถึงก็ดูเหมือนว่าจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางร่างกายอย่างฉับพลัน เพลิงรับรู้ถึงความแข็งขืนบริเวณกึ่งกลางลำตัวแต่เขาพยายามทำตัวเองให้นิ่งที่สุดและพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ แต่รเณศคือคนที่ทำให้ปณิธานในใจเพลิงต้องมอดดับด้วยการขยับตัวยุกยิกไปมา

“ตัวร้าย”

เพลิงกระซิบข้างใบหูขาวอย่างมันเขี้ยว

“ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

คนตัวโตถอนหายใจอีกคราก่อนจะสวมกอดคนที่คล้ายจะส่างเมาแล้วเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้การเคลื่อนไหวของรเณศทำลายความอดทนอดกลั้นที่มีอย่างน้อยนิดของเขา

แม่งเอ้ย!

รเณศกอดตอบเขาซ้ำยังลูบไล้แผ่นหลังกว้าง ปฏิกิริยานั้นเหมือนไฟช๊อต เพลิงยืงนิ่งทั้งที่หัวสมองขาวโพลน ชายหนุ่มกัดริมฝีปากตัวแน่นก่อนจะเผลอสูดดมกลิ่นแชมพูจากศีรษะคนเมืองที่โชยมาแตะเบาๆ ที่ปลายจมูก

“อยู่นิ่งๆ รเณศ”

“ฮื่อ”

“หยุดครางด้วย”

“ไม่เข้าใจ”

รเณศทำเสียงอู้อี้ในลำคอ แต่ลมหายใจแผ่วเบาที่เปล่งออกมานั่นกระทบเข้าที่ซอกคอเขาเต็มๆ เพลิงรู้สึกเลยว่าใบหูเขาร้อนวูบวาบ มัดกล้ามเนื้อทั่วร่างกายเกร็งแข็งโดยอัตโนมัติ ขนกายตามแผ่นอกพากันลุกชัน ตอนนี้เพลิงรู้สึกคล้ายกับว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเขาอีกต่อไปแล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันยากเกินที่จะควบคุมได้

“เนตร”

“อื้อ”

“ผมขอจูบคุณได้มั้ย”

ถึงแม้สมองและปฏิกิริยาร่างกายจะเชื่องช้าแต่คำพูดนั้นก็ทำให้คนเมืองก็รู้สึกร้อนวาบได้ไม่ยาก ในอกคันยุบยิบเหมือนมีใครเอานิ้วมาสะกิด ไม่ต้องพูดถึงความร้อนที่พากันไปกระจุกตัวอยู่ที่สองข้างแก้ม เพลิงดันเขาให้ถอยห่างก่อนจะโน้มใบหน้าลงมา แววตาคู่คมจ้องมองเขานิ่ง ประกายตาวาววับนั่นส่งผลให้หัวใจที่ควรเต้นเป็นจังหวะกลับสั่นไหวราวกับมีใครพากันมาตีกลองในอกเขา

“ได้มั้ย...”

รเณศไม่ตอบแต่เงยหน้าให้อีกฝ่ายโน้มลงมาสัมผัสกันได้อย่างง่ายดาย ริมฝีปากหนาค่อยๆ จูบซับไปทั่วขอบปากก่อนจะขบเม้มเบาๆ ที่ริมฝีปากล่าง เพลิงจุมพิตรเณศซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความรู้สึกอุ่นนุ่มและเบาบางราวกับสัมผัสขนนก เนื้อขอบปากเปรียบกับเยลลี่หยุ่นๆ ที่บดคลึงไปทางใดก็ให้ความรู้สึกน่าหลงใหลไปทั่ว ร่างสูงประคองเอวสอบของรเณศก่อนที่นิ้วโป้งจะไล่บดคลึงเนื้อสะโพกแล้วไล่ไปยังกลางหลัง นิ้วร้อนๆ ไล่บดคลึงแผ่นหลังสลับกับริมฝีปากที่เชยชมเขาอย่างไม่ว่างเว้น

“อยากอาบน้ำ”

“ถ้าอย่างนั้น...”

เพลิงกระซิบข้างหูเสียงพร่า

“ผมขออาบด้วยได้มั้ย”


---- ขออนุญาตตัดเนื้อหา----



“มันคือความรัก”

“...”

“เรื่องของเรามันคือความรัก...เนตร”

“...”

“ผมรักคุณ”

รเณศหลับตาพริ้มไปพร้อมกับฝันหวาน คำว่ารักของเพลิงยังหลุดลอยไปในความฝันนั้น และต่อจากนี้ไม่ว่ายามหลับหรือยามตื่น เขาจดจำคำๆ นี้อย่างไม่รู้ลืม

เสียงหัวใจของคนทั้งสองที่เต้นไปพร้อมๆ กัน เสียงลมหายใจ เสียงสายน้ำที่ตกกระทบพื้นดินเหมือนลำนำขับขานบทกลอนที่ทำพาสู่ห้วงฝันนิทราอันงดงาม


.


.


เพลิงขยับเปลือกตาขึ้นในตอนเช้ามืดที่ทุกอย่างรอบกายยังมืดสนิทอยู่ ชายหนุ่มขยับตัวอย่างเชื่องช้าไม่ให้รบกวนคนที่นอนเคียงข้างกันอยู่ รเณศครางเสียงแผ่วเมื่อเขาโน้มไปจุมพิตที่ปากแล้วจูบที่ขมับอย่างแผ่วเบา

“ฮื่อ”

คนเมืองเพลียจนแทบลืมตาไม่ขึ้น แต่เพราะเขารู้สึกว่าความอบอุ่นที่ซุกซบมาตลอดทั้งคืนกำลังจะหายไปจึงขยับตัวยุกยิกไปมาเพื่อไขว่คว้าสัมผัสนั้นเอาไว้ เพลิงกระชับผ้าห่มให้คลุมร่างของรเณศเพราะอากาศตอนนี้ค่อนข้างหนาว เมื่อคืนรเณศหลับไปหลังจากถูกเขาตักตวงจนพอใจ ดีว่าฝ่ายนั้นไม่มีไข้หลังจากไปแช่น้ำกันอยู่หลายชั่วโมง

“นอนนะครับ”

เพลิงกระซิบที่ข้างหูคนหลับแล้วเอื้อมมือไปลูบแผ่นหลังบางๆ คล้ายกับจะกล่อมให้นอนและในที่สุดคนรเณศซึ่งสะลึมสะลืออยู่ก็กลับสู่ห้วงนิทราขึ้นครั้ง เพลิงค่อยจรดปลายเท้าลงพื้นไม้อย่างระมัดระวังเพราะกลัวจะรบกวนให้คนหลับต้องตื่น ร่างสูงที่มีเพียงกางเกงวอร์มตัวเดียว ร่างกายส่วนบนเปล่าเปลือยเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ

ทั้งๆ ที่อากาศเย็นกว่าทุกวันแต่ยังเปลือยอกอย่างเคยชินเพราะคุ้นเคยกับชีวิตความเป็นอยู่แบบนี้ ชายหนุ่มลุกออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้ามืด ระหว่างที่นั่งกลับมาจากเดินไปก่อไฟต้มน้ำร้อนนั้นเขาเห็นเงาอะไรบางอย่างวูบไปมาอยู่ข้างบ้าน เพลิงมุ่นหัวคิ้วก่อนจะคว้าเอาท่อนไม้แถวนั้นขึ้นมาเป็นอาวุธแล้วค่อยย่องอ้อมไปอีกทางเพื่อค้นหาความผิดปกติ

เงาร่างที่วูบอยู่แถวๆ หน้าบ้านพักเขาเป็นเงาร่างของมนุษย์ไม่ผิดเพี้ยน เพลิงยืนนิ่งอยู่ในความมืดเพื่อพิจารณาเงาซึ่งถูกแสงจันทร์อาบส่องจนเห็นรูปร่างชัดเจน เขาเฝ้ารอให้เงานั้นหยุดนิ่งก่อนจะกระโจนเข้าไปใกล้แล้วยกอาวุธในมือขึ้นสูงหมายจะฟาดใส่ผู้บุกรุก

“อย่าผู้ช่วย”

เงานั้นร้องขึ้นส่งผลให้เพลิงชะงักมือที่เงื้อขึ้นสูงอยู่เหนือศีรษะ

“ผมเอง”

ร่างที่ค่อยๆ เดินมาหยุดตรงหน้าทำเอาเขานึกประหลาดใจ

“ซา”

พี่เขยของเจ้าเต็ง ชายหนุ่มจากหมู่บ้านหลังเขานั่นทำสีหน้าไม่สู้ดีนักตอนที่สบตากับเขาตรงๆ

“ผมมีเรื่องจะมาเตือนผู้ช่วย”

“เตือนผม?”

เพลิงมุ่นหัวคิ้วขณะที่คนตรงหน้าทำหน้ายุ่งยากใจ

“คนร้ายที่ลอบยิงเจ้าหน้าที่กำลังจะลงมือ”

“ลงมือทำอะไร?”

“ผมรู้ว่าผู้ช่วยกำลังสืบเรื่องสายที่ลักลอบขนไม้พะยูงที่หมู่บ้านผม”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคนร้ายที่ลอบยิงเจ้าหน้าที่”

เพลิงแกล้งถามออกไปทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่ากลุ่มคนที่ทำเรื่องเลวร้ายทั้งสองอย่างนั้นคือกลุ่มเดียวกัน

“พวกมันเป็นกลุ่มเดียว”

ซาพูดเสียงแผ่ว

“แล้วคุณมาบอกผมทำไม”

คนตรงหน้าหลุบตามองพื้นไม่กล้าสู้หน้าเขา

“ผู้ช่วยมีค่าหัวนะรู้ตัวมั้ย”

เพลิงพยักหน้าน้อยๆ พอจะทราบมาบ้างว่าตัวเองเป็นเป้าหมาย

“ผมมาเตือนให้ผู้ช่วยระวังตัว พวกมันไม่หยุดแน่” ซาพูดเสียงแผ่วก่อนจะเหลือบตามองไปในบ้านพักเขา “คุณคนนั้นก็ด้วย”

“รเณศเกี่ยวอะไร?”

“เขาได้ยินพวกมันคุยกัน”

เพลิงถอนหายใจแรงๆ

“ผู้ช่วย”

ชายหนุ่มตรงหน้ายกมือไหว้เขา “ผู้ช่วยต้องเชื่อผมนะ อีกไม่กี่วันจะมีการเคลื่อนไหว ผู้ช่วยอย่าไปหลงกลข่าวลวงนะ พวกมันรอซ้อนแผนอยู่”

“แล้วทำไมซาถึงมาบอกผมล่ะ”

คนตรงหน้าเม้มปากแน่น

“บุญคุณที่ผู้ช่วยช่วยลูกเมียผมวันนั้น ผมไม่มีวันลืม”

ซามองสบตาเพลิงนิ่ง ป่าไม้หนุ่มจ้องตาอีกฝ่ายแล้วพิจารณานอกจากความจริงใจที่ส่งผ่านออกมาเขาไม่เห็นความผิดปกติอื่นใด

“ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้ มันจะช่วยผู้ช่วยได้มากแค่ไหน ผู้ช่วยต้องระวังตัวให้มากนะ”

ซาย้ำอีกครั้งก่อนจะยื่นอะไรบางอย่างใส่มือเขา

“ถ้ามีเหตุจวนตัวผู้ช่วยเป่าให้เสียงมันลากยาวๆ สักสองรอบนะ มันเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือ”

คนตรงหน้าบอกเขาเสียงหนักแน่น

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าเชื่อข่าวลวงเด็ดขาด”

“ขอบคุณมากซา”

ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะวิ่งหายไปในความมืด เพลิงถอนหายใจก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านพักไป


☘☘☘

ไม่ได้เขียนNC นานแล้ว อาจไม่สมูทเท่าไหร่ ต้องขออภัยด้วยน้า
เราไม่เก่งบรรยายฉากแบบนี้เท่าไหร่ เอาพอถูๆ ไถๆ เนอะ คิกค้ากกก

ใครหวีดในทวิตรบกวนติดแท็ค #ป่าห่มรัก ให้เค้าด้วยน้า / ร้ากกกก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 24-06-2019 21:21:12
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 24-06-2019 21:25:59
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 24-06-2019 21:35:19
เค้าได้กันแล้ว...คลื่นลมสงบ..ก่อนพายุใหญ่จะมา
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 24-06-2019 21:48:43
 :pighaun: ตอนนี้หวานๆ ตอนหน้าล่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 24-06-2019 23:28:38
เป็นของขวัญที่ดีที่สุดของผู้ช่วยเลยอ่ะเน๊อะ.  :hao3:

แต่พายุใหญ่กำลังมาใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 24-06-2019 23:52:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 25-06-2019 00:17:21
 พายุลูกใหม่กำลังจะมาอีกแล้ว :katai1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 25-06-2019 00:27:02
Outdoor  ด้วยนะเพลิงเนตร
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 25-06-2019 00:38:13
อย่าเป็นอะไรได้มั้ยผู้ช่วย  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 25-06-2019 00:38:58
เรียบร้อยยย :hao5: ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปอีกขั้นแล้ว เค้ารักกันแล้ว เป็นการบรรยายบทรักที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติดีค่ะ เพลิงอ่อนโยนมากตอนขออนุญาตรเณศ แต่ในขณะเดียวกันก็ดุดันร้อนแรง สมแล้วที่ชื่อเพลิง ตอนต่อไปคงมีเรื่องราวให้เพลิงเหนื่อยกาย เหนื่อยใจ และรเณศต้องเป็นกังวลอีกไม่น้อย แต่เชื่อว่าเพลิงจะปลอดภัยกลับมาหารเณศได้ตามที่เคยให้สัญญาไว้ ยังไงรอติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณผลงานที่ดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 25-06-2019 00:46:26
ใจคอไม่ดีเลย  :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-06-2019 02:23:11
 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 25-06-2019 07:50:25
 :L1: :pighaun: :L2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 25-06-2019 10:28:16
เขาได้กันแล้ว แต่ความสุขต้องฟันฝ่าอุปสรรค ไม่ใช่ตัวเขาทั้งสอง
แต่เป็นอันตรายจากภายนอก สู้ๆ นะ เพลิง+เนตร
ว่าแต่ NC ในบ้านจะเป็นยังไงนะ อยากรู้แล้ว อิอิอิ
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 25-06-2019 11:49:25
พี่ธารปล้ำเลย

คนอะไรหยิ่ง อวดดี
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 25-06-2019 12:22:23
พี่เพลิงลงโทษเด็กดื้อ อร๊ายยยย  :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 25-06-2019 16:51:40
ครั้งแรกก็เอาท์ดอร์เลยนะ น่าจับตีจริงๆน้องเนตร
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 25-06-2019 23:23:18
 :pighaun: :pighaun:

เรื่องดีน่าติดตามมากๆเลยจร้า
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 27-06-2019 19:40:55
โอ๊ยยย ทำไมดื้อ ทำไมเซี้ยวจังเลยคะ เนตร
น่าจับมาตีให้หนุบหนับ เป็นไงล่ะ ไม่ให้ถาม
เลยไม่ต้องรอคำตอบเลย จัดไปอย่าให้เสีย

เอ็นดูเนตรมากเลย ป่วนประสาทเพลิงน่าดู 5555

เพลิงก็เคลิ้มไปเลยเหอะ แต่ตื่นมาเจอเรื่องใหญ่รออยู่
ไม่รู้ที่ฟินไปตอนดึกจะช่วยบรรเทาได้บ้างไหม

ทำไมทำร้ายกันไม่เลิกราเนาะ คนจะเป็นจะตายไม่สนใจ
ผลประโยชน์มาก่อนความมีศีลธรรมในใจคน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Plakhem ที่ 28-06-2019 22:24:17
 :katai5: ตอนหน้าน้ำตาจะท่วมจอไหมง่ะ :ling3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [20] #ป่าห่มรัก [24.06.62] P.17 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 29-06-2019 13:21:30
หวิวได้ไม่นานจะต้องเกิดเรื่องอีกแล้วหรอ :ling1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 01-07-2019 20:19:21
[ 21 ]



สายลมที่พัดผ่านร่างกายและปะทะกับใบหน้าของเขาตามความเร็วของรถจนทำให้เส้นผมที่ถูกจัดทรงมาอย่างดีปลิวไปตามแรงลม แต่ถึงอย่างนั้นลมเย็นๆ บวกกับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าก็ทำให้คนที่นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ยามาฮารุ่นคลาสสิกยิ้มกว้างหลับตาพริ้มเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์นี้ให้เต็มปอด จังหวะที่คนขับชะลอความเร็วเพื่อเข้าโค้ง ฝ่ายคนที่ซ้อนจึงเอียงแก้มซบแผ่นหลังกว้าง มือทั้งสองข้างรวบเอวเจ้าของรถให้แน่นขึ้น

พื้นถนนลาดยางสองเลนที่พอสวนกันได้เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวครึ้มสองข้างทาง บรรยากาศรอบกายดูเงียบสงัดเพราะนานๆ จะมีรถของชาวบ้านสวนทางมาสักคัน เพลิงชะลอความเร็วอีกครั้งเมื่อถึงทางแยก เขาบังคับแฮนด์รถเลี้ยวขวามุ่งสู่ทางลูกรังดินสีแดงผ่านทุ่งนาของชาวบ้านและไม่นานก็ถึงทางเล็กๆ ขึ้นสู่พื้นที่สูง

คนในชุดลายพรางละมือจากแฮนด์ข้างหนึ่งมาจับมือของรเณศที่เกร็งขึ้นเล็กน้อยเพราะอากาศรอบกายเย็นชื้นขึ้นเมื่อเข้าสู่เส้นทางธรรมชาติ แรงแตะเบาๆ สองสามครั้งนั้นทำให้คนเมืองรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาทันที เขาหันไปยิ้มให้กับกระจกด้านข้างรถทันเห็นเพลิงมองเขาจากกระจกด้านนั้นพอดี เพลิงละจากมือเขาหันไปบังคับพวงมาลัยเมื่อถึงทางแคบที่พื้นดินเป็นหลุมเป็นบ่อก่อนจะค่อยๆ ประคองรถไปช้าๆ มุ่งสู่เนินเขาที่สูงขึ้น

มันเป็นเส้นทางเล็กๆ ที่มีเพียงคนพื้นที่หรือเจ้าหน้าที่อุทยานเท่านั้นที่รู้กัน เส้นทางที่นานๆ ครั้งจะมีคนใช้สัญจรนี้จึงได้ดูระหกระเหินไม่น้อย แต่รเณศไม่มีความหวาดกลัวใดๆ หากผู้ชายที่อยู่ด้วยกันตรงนี้คือเพลิง คนเมืองเหลือบตามองสองข้างทางที่เป็นสันเขามีดอกหญ้าขึ้นเป็นทุ่ง เขามองมันโดนลมพัดไหวจนลู่ไปมา มองไปจนสุดสายตาเขาเห็นเทือกเขาสูงชัน แล้วเพลิงก็ประคองรถมอ’ไซค์มาจอดตรงทุ่งหญ้า

“ที่ไหนกันครับ”

รเณศถามขึ้นตอนที่ก้าวลงจากเบาะ คนตัวโตหันมายิ้มให้แล้วกระตุกข้อมือเขาให้ออกเดิน ทุ่งหญ้าอุดมสมบูรณ์มีต้นไม้ใหญ่หนึ่งเดียวตั้งอยู่ริมหน้าผามองลงไปเห็นผืนป่าขนาดใหญ่กว้างไกลสุดสายตา แต่ รเณศสะดุดตาตรงชายป่าด้านหนึ่งซึ่งแห้งโกร๋น แถบนั้นทั้งแถบเป็นผืนป่าสีดำเพราะถูกไฟผลาญไปแถบหนึ่งเต็มๆ

“จุดที่สูงสุดของดอยห่มรัก”

เพลิงพูดขึ้น

“เวลามองลงไปจะเห็นผืนป่าอุทยานเกือบทั้งหมด” เพลิงอธิบาย “ตรงนั้นคือป่าท้ายหมู่บ้านหลังเขา ส่วนตรงโน่นที่ไกลจากสายตาเรามีป่าไม้ขึ้นอย่างหนาแน่นคือผืนป่าลึกที่มีป่าพะยูงผืนสุดท้ายของที่นี่...อยู่ตรงนั้น”

คนเมืองมองตามปลายนิ้วของเพลิงไปอย่างตื่นเต้น

“เวลาได้มองผืนป่าเต็มตาแบบนี้ มันรู้สึกดีบอกไม่ถูกเลยครับ”

รเณศยิ้มกว้าง

“ผืนป่ากว้างใหญ่มาก”

“ใช่”

“คุณกับเจ้าหน้าที่ต้องดูแลทั้งหมดนั่นเหรอ”

เพลิงพยักหน้าน้อยๆ ขณะที่รเณศหันมามองอีกฝ่ายด้วยสายตามีประกายชื่นชม

“พวกคุณต้องเดินไปทั่วป่า”

“...”

“หมดนั่นเลยหรือครับ”

“ป่าเป็นบ้านหลังใหญ่ของพวกเรา”

เพลิงกระตุกข้อมือรเณศให้ทรุดตัวนั่งกับพื้นหญ้าริมหน้าผา รเณศเลยได้โอกาสชะโงกไปสำรวจพื้นป่าหลายแสนไร่ไกลสุดลูกหูลูกตาตัดกับผืนฟ้าสีคราม ธรรมชาติรังสรรค์ทุกอย่างมาได้สวยงามน่าอัศจรรย์ใจจริงๆ

“ถ้าคุณบอกว่าพวกคุณสามารถหลับตาเดินในป่าได้ ผมคงเชื่อ”

คนเมืองแกล้งเย้า

“เคยมีคนพูดอย่างนั้น”

“แล้วคุณทำได้จริงๆ มั้ย”

เพลิงยักไหล่ขำๆ ก่อนกระชับบ่าของรเณศให้ขยับมาจนชิดกันแล้วกระซิบข้างหูว่า

“ความลับ”

รเณศทำหน้ายู่ทันทีก่อนจะเอียงใบหน้าซบที่หัวไหล่ของเพลิง

“คุณเคยกลัวมั้ย เวลาเข้าป่าแต่ละครั้ง”

“แรกๆ ก็กลัว แต่พวกเราฝึกการเดินป่ามาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว”

เพลิงตอบ

“การเดินป่าเป็นมนต์เสน่ห์อย่างหนึ่ง มันเหมือนการผจญภัยที่ต้องลุ้นทุกครั้งเมื่อเจอสถานการณ์ที่ไม่เหมือนเดิมในแต่ละครั้ง”

“แต่มันเงียบมากเลยนะ”

“ใช่เงียบ”

คนในชุดลายพรางลูบแผ่นหลังเขาเล่น

“ความเงียบนั่นแหละน่ากลัวสำหรับบางคน”

นึกดูสิทั้งเงียบทั้งมืดกว่าจะข่มตามให้หลับจนถึงเช้าได้ต้องใช้ความพยายามไม่น้อยเลยทีเดียว รเณศคิดแบบนั้นแล้วได้แต่ส่ายหน้าหวือเพราะเขาเองไม่ชื่นชอบความมืดที่เงียบจนน่าใจหายนั่นเลย

คนเมืองนิ่งฟังเงียบจังหวะการเต้นที่หน้าอกด้านซ้ายของเพลิงเงียบๆ

“คุณเคยท้อมั้ย”

“งานแบบนี้มันก็น่าท้อไม่น้อยจริงๆ นั่นแหละ”

เพลิงตอบ

“แต่ถ้าพวกเราท้อแล้วใครจะทำหน้าที่นี้กันล่ะ ถ้าพวกเราหมดแรง ป่าจะเป็นยังไง ถึงบางช่วงเวลามันเหนื่อยยากก็แค่พักผ่อนให้หายแล้วกลับมาสู้กันใหม่ ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ ตราบใดที่ป่าและสัตว์ยังถูกระราน พวกเราก็ต้องทำหน้าที่ของเรากันต่อไป”

“...”

“ผมจะละทิ้งบ้านหลังใหญ่นั่นไปได้ยังไงกัน”

ผู้ชายตัวใหญ่จะมีขนาดของหัวใจใหญ่มากกว่าคนทั่วไปหรือเปล่าหนอ รเณศไม่อาจทราบได้ เขารู้แต่เพียงว่าเพลิงใจใหญ่ไม่ใช่เพราะขนาดหัวใจ แต่ใหญ่เพราะทั้งหมดทุกห้องนั้นเต็มไปด้วยความรักและศรัทธาที่ไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถทำให้เขาเพลิงแปรเปลี่ยนไปได้

“คุณรู้มั้ยมีผู้ชายคนหนึ่งที่เขายอมสละชีวิตเพื่อปกป้องผืนป่าและสัตว์ป่าเอาไว้ เขาทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากกว่าพวกผมมาก และการเสียสละของเขาครั้งนั้นก็ทำให้หลายคนหันมาตระหนักและให้ความสำคัญของป่าไม้กันอย่างจริงจัง”

“เขาเป็นใครเหรอครับ”

“ผมรู้จักเขาเพราะกลอนบทหนึ่ง” เพลิงเหม่อมองไปไกล “ซึ่งกวีซีไรต์ได้แต่งบทกลอนนั่นเพื่อสดุดีความเสียสละของผู้ชายคนนั้น”

รเณศนิ่งฟังเงียบ

*“หนึ่งเปรี้ยง! ปืนลั่นสะท้านป่า

หนึ่งวูบไหวผวา ทั้งป่าลั่น

หนึ่งคืน นานยาวราวกัปกัลป์

หนึ่งฝัน ฟุบแล้วลับแนวไพร

หนึ่งคน ควรค่าคารวะ

สืบสร้าง สัจจะ ยิ่งใหญ่

หมื่นคำ ร่ำหาอาลัย

รวมใจ สืบทอดเจตนา”*



เมื่อฟังจบเขาความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาในใจ หนึ่งในนั้นคือความรู้สึกจุกแน่นในอก รเณศ หายใจติดขัดคล้ายกับกลืนน้ำลายลงคอแล้วมีอะไรติดอยู่ มันยากเกินอธิบาย รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูกเมื่อนึกถึงเรื่องราวของนักอนุรักษ์ท่านหนึ่งซึ่งยอมเสียสละชีวิตเพื่อเรียกร้องให้สังคมเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

“น่าเสียดาย”

คนเมืองซบบ่ากว้างแล้วเหลือบตามองแนวป่าด้านหนึ่งซึ่งร้างโกร๋นเป็นสีดำเพราะถูกไหม้จนเสียหายไปทั่ว คนเมืองถอนหายใจเฮือกใหญ่แอบชำเลืองมองเพลิงที่มองภาพความเสียหายนั่นนิ่ง แวบหนึ่งเขาเห็นความเสียใจที่ปรากฏชัดในแววตาคู่นั้น แต่แค่แวบเดียวเท่านั้นก่อนที่มันจะพลันหายไป

“ถึงแม้เขาจะเสียไปพร้อมปณิธานในใจนานแล้ว แต่ป่าก็ยังถูกทำลายไม่เปลี่ยนแปลง”

“ไม่เป็นไรนะ”

เขาลูบหลังมือใหญ่ของเพลิง

“เราจะช่วยกันปลูกป่าไม้กันใหม่ ปลูกไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งมันจะต้องเติบใหญ่ขึ้นมาทดแทนส่วนที่เสียหายไป”

เพลิงกดยิ้มมุมปากแล้วหันมามองเขา

“คุณให้กำลังใจผมอยู่เหรอ”

“อื้อ”

รเณศหลับตาพริ้มเงยหน้ารับสัมผัสที่ปลายนิ้วของเพลิงซึ่งกำลังเกลี่ยใบหน้าเขาอยู่

“ขอบคุณครับ”

“...”

“แค่นี้ก็หายเหนื่อยแล้ว”

รเณศยิ้มกว้างก่อนจะสะดุ้งโหยงตอนที่เพลิงกระตุกให้เขาหงายตัวลงนอนกับพื้นหญ้า เพลิงยื่นแขนข้างหนึ่งให้เขาหนุนต่างหมอน มืออีกข้างใช้รองศีรษะตัวเอง เราทั้งคู่กำลังนอนมองท้องฟ้าซึ่งมีแดดอ่อนๆ สาดส่องลงมา

“วันนี้อากาศดีจัง”

รเณศชวนคุย

“นึกไม่ถึงว่าบ้านเราจะมีสถานที่สวยงามแบบนี้ ว่าแต่ส่วนนี้เป็นเขตหวงห้ามเฉพาะเจ้าหน้าที่หรือเปล่าครับ”

“ไม่หรอก”

คนในชุดลายพรางขยับตัวเล็กน้อย

“ปกติมีชาวบ้านขึ้นมาหาของป่าอยู่บ้าง แถวนี้เป็นเขตป่าให้ชาวบ้านทำกิน แต่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านเพราะทางสัญจรมันค่อนข้างลำบาก”

“แน่สิเมื่อกี้ยังแอบลุ้นอยู่เลย”

“ผมไม่พาคุณไปทางลูกรังจนถูกดีดโคลนใส่หลังหรอก”

รเณศแยกเขี้ยวใส่อีกฝ่ายทันทีเพราะจำได้ไม่ลืมว่าตอนที่มาที่นี่ใหม่ๆ เขาถูกเพลิงแกล้งพาไปทางลัดจนโดนโคลนตมดีดใส่เสื้อผ้าเนื้อตัวมอมแมมไปหมด

“โอ๊ย”

เพลิงร้องขึ้นเมื่อถูกอีกฝ่ายกัดบ่าอย่างมีอารมณ์

“ทำไมถึงชอบแกล้งผมนัก”

เพลิงยิ้มไม่ยอมตอบ ชายหนุ่มยกตัวขึ้นแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาหาเขาใกล้ๆ

“ตำฮื่อน้องลำบาก ปี้ขอสุมาเน่อ”

“ฟังไม่รู้เรื่อง”

คนเมืองแกล้งปิดหน้าหนีเพราะทนสายตาวิบวับของเพลิงไม่ได้

“น่าฮัก”

“ฮือ เสียงในฟิล์มอีกแล้ว”

เพลิงหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะแกะมือรเณศที่ปิดหน้าตัวเองอยู่นั่นให้คลายออก

“หน้าคุณแดงมาก”

“...”

“แดงเหมือนคืนนั้น”

สายตาวิบวับของเพลิงเล่นเอารเณศทำตาโตรีบเลื่อนมือไปปิดปากอีกฝ่ายทันที

“ห้ามแซว”

“ผมเปล่า”

ทั้งคู่สบตากันนิ่งก่อนที่เพลิงจะโน้มตัวไปกดจูบที่หน้าผากอีกฝ่าย

“รเณศ”

“ครับ”

“ช่วงนี้ช่วยปิดร้านขายยาสักพักนะครับ” เพลิงเกลี่ยแก้มอีกฝ่าย “อยู่แต่บ้านไปก่อน”

คนถูกขอร้องทำหน้านิ่วอย่างประหลาดใจยิ่งเห็นแววตาที่มองเขาแล้วกดยิ้มคล้ายกับจะกดดันให้เขารับปาก

“มีอะไรงั้นหรือ”

“ผมแค่จะต้องไปลาดตระเวน”

พอจะรู้มาบ้างว่าอีกไม่กี่วันจะถึงกำหนดการออกลาดตระเวนในป่า เห็นเจ้าเปลวเปรยๆ อยู่ แต่ครั้งนี้เพลิงแปลกไปจากทุกครั้ง จะเรียกว่าผิดปกติก็ย่อมได้ ขณะที่ฝ่ายนั้นสอดนิ้วสางผมเขาเล่นท่าทางดูไม่จริงจัง แต่แววตาคู่นั้นเข้มขึ้นอย่างเรื่อง

“ถ้าคุณคิดว่าผมไม่ควรรู้ ผมก็จะไม่ถาม แต่ถ้าผมสมควรรู้อะไรบ้าง ช่วยผมบอกได้มั้ย”

เพลิงยิ้มน้อยๆ

“คุณถูกจับตาโดยคนกลุ่มหนึ่ง แต่เขาทำอะไรไม่ได้หรอก เพียงแต่ผมอยากให้คุณระวังตัวเพราะไม่อยากให้ตกเป็นเป้านิ่งให้คนกลุ่มนั้นฉวยโอกาส”

“เพลิง”

รเณศท้วงขึ้น

“มันค่อนข้างอันตรายเนตร”

“แล้วคุณ...” คนเมืองเม้มปากแน่ “จะปลอดภัยใช่มั้ย”

เพลิงแค่ยิ้ม

“ช่วงนี้ตำรวจอาสาอาจจะวนเวียนอยู่แถวๆ ไร่ปลายดอยจนผิดสังเกตสักหน่อย แต่ไม่ต้องห่วงพวกเขาแค่มาสอดส่องดูแลคุณเท่านั้น”

“เพลิง”

แวบหนึ่งรเณศนึกกลัว ไม่ใช่กลัวว่าตัวเองจะเป็นอันตรายแต่เขากลัวว่าคนตรงหน้าต่างหากที่จะได้รับอันตราย เรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว

“ผมอยากขอร้องให้คุณไม่เข้าป่า แต่ผมรู้ว่าผมห้ามคุณไม่ได้ ฉะนั้นคุณสัญญาได้มั้ยว่าจะดูแลตัวเอง”

“ได้สิ”

“คุณต้องปลอดภัยนะ”

“แน่นอน”

เพลิงกอดเขาแน่นขึ้น



☘☘☘☘

 

วันสองวันนี้รเณศเห็นเปลวและแก้มใสเหมือนฝาแฝดที่ตัวติดกัน เพราะหากเห็นบิดาที่ไหนย่อมเห็นลูกสาวแก้มกลมอยู่ใกล้ๆ เสมอ ช่วงนี้เลยกลายเป็นว่าคนเมืองคล้ายกับคนตกกระป๋องเพราะถูกเด็กน้อยเมินใส่อย่างไม่ได้ตั้งใจ

“งอนลูกสาวผมเหรอพี่”

เปลวยิ้มขำเห็นรเณศจ้องเด็กน้อยซึ่งนอนดูดนมขวดอยู่ในอ้อมแขนเขา มือน้อยๆ ข้างหนึ่งกำขวดนมแน่น มืออีกข้างกำคอเสื้อของเจ้าเปลวเล่นโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลย รเณศย่นจมูกนึกมันเขี้ยวเจ้าแก้มกลมก่อนจะบีบแก้มที่คล้ายก้อนซาลาเปาสีแดงทั้งสองข้างอย่างมันเขี้ยว

“งื้อ”

เด็กคายขวดนมที่ดูดออกก่อนจะร้องประท้วง

“สู้หรือเรา”

คนเมืองแกล้งจิ้มพุง

“คิก”

สุดท้ายแก้มใสหัวเราะจนตาหยี เปลวเลยได้โอกาสยื่นเด็กน้อยไปใส่มือของรเณศที่รอท่าเพราะตัวเองจะปลีกตัวไปเก็บสัมภาระ แต่ดูเหมือนจะตัวน้อยจะรู้ทัน แก้มใสหันหน้าหนีคนเมืองไม่พอยังหันก้นหนีอีกต่างหาก ก่อนจะขยับยุกยิกไปมาเป็นสัญญาณว่าไม่ยอมไปหารเณศแต่โดยดีจนเขาอ่อนใจ

“ทำไมวันนี้ขี้อ้อนจังฮึเรา”

เปลวงึมงำอย่างอ่อนใจเพราะวันสองวันนี้แก้มใสติดเขาแจคล้ายฝาแฝดตัวติดกันก็ไม่ปาน

“สงสัยเจ้าแก้มมันจะรู้มั้งคะคุณเนตร ว่าพ่อจะไปทำงาน”

ป้าสมัยที่ยกของว่างมาให้รเณศเอ่ยขึ้น แกยิ้มขำมองสภาพหลานเจ้าบ้านที่อยากกอดเจ้าหนูใจจะขาด แต่เด็กน้อยกลับไม่ให้ความร่วมมือเอาซะเลย

“ก็ไม่แน่นะ เด็กอาจจะมันมีเซนส์ว่าพ่อจะไม่อยู่หลายวันเลยเกาะเป็นลูกลิงอย่างนั้น”

เจ้าบ้านที่เดินพ้นหัวบันไดบ้านขึ้นมาพยักหน้าเห็นด้วย

“พกใส่กระเป๋าเอาเข้าป่าด้วยเลยดีมั้ยเนี่ย”

เปลวแกล้งแซวลูกตัวเองจนรเณศขำตามไปด้วย

“ดูสิหน้าทะเล้นเชียว”

แก้มใสยิ้มแป้นเหมือนรู้ความ ก่อนจะหันหน้าเข้าหาขวดนมที่เปลวจับป้อนใส่ปากอีกครั้ง

“กินเยอะแบบนี้พ่อจะเลี้ยงไหวมั้ยเนี่ยลูก”

เปลวพูดยิ้มๆ

“ผมว่าพี่เนตรเลี้ยงลูกดีเกินไป ดูสิผมว่าแก้มใสหนักขึ้นเยอะเลย กลมเป็นลูกบอลเลยลูกพ่อ”

“เขาเรียกหุ่นเจ้าเนื้อ เนอะลูกเนอะ”

รเณศสัพยอกเด็กน้อย

“กินอิ่ม นอนหลับแบบนี้จะมีใครสบายเกินเจ้าแก้มใสไปได้”

ป้าอนงค์พูดยิ้มๆ

“ก็คุณเนตรเธอเลี้ยงดี เมื่อก่อนผอมแห้งเห็นแต่ลูกตา ดูตอนนี้สิแก้มกลมแทบจะปิดตาอยู่แล้ว”

รเณศขำคิก

“ลูกสาวผมนี่ครับจะน้อยกว่านี้ได้ยังไง”

คนเมืองชะโงกไปเล่นหน้าเล่นตากับเด็กน้อยซึ่งยิ้มหวานจ๋อยให้ พอกินอิ่มเด็กน้อยก็ยื่นไม้ยื่นมือออกมาจับหน้าจับตารเณศเล่นอย่างอารมณ์ดี

“สงสัยจะให้พี่อุ้มครับ”

รเณศอ้าแขนรอท่าแก้มใสที่ผวาเข้าใส่อ้อมกอดของเขา

“เหมือนลูกสาวพี่มากกว่าลูกผมอีก”

เปลวเอ่ยแซวไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจกับเด็กน้อยในอ้อมกอดของรเณศ ตรงกันข้ามเขาดีใจด้วยซ้ำที่ฝ่ายนั้นให้ความเอ็นดูแก้มใสจากใจจริง

“งั้นขอเลยแล้วกัน”

รเณศพูดหยอกแบบที่ทำประจำ

“เอาสิครับ”

เปลวยิ้มหัว

“ถ้าวันหนึ่งผมไม่อยู่แล้ว พี่คงดูแลแก้มใสได้สบายเลย”

รเณศมุ่นหัวคิ้วเมื่อได้ยินแบบนั้น ไม่ต่างจากป้าอนงค์และป้าสมัยที่พากันทำหน้าเครียด

“พูดอะไรแบบนั้นล่ะเปลว”

รเณศดุขึ้น

“แหมพี่เนตรคิดอะไรมากล่ะครับ”

“อย่าพูดจาเป็นลางแบบนั้น”  ป้าสมัยเสียงเขียวใส่อีกคน “พูดจาแบบนี้โบราณเขาถือ”

“งั้นคงหนักแย่”

เจ้าเปลวทำหน้าล้อเล่นเป็นลิงหลอกเจ้าเพื่อให้คนอื่นๆ คลายสีหน้าที่วิตกกังวล

“ดุแล้วยังทำเป็นเล่นเจ้าเด็กนี่”

ป้าอนงค์ส่ายหัว

“ผมขอโทษครับ”

เด็กมันรู้สึกว่าบรรยากาศตึงเครียดจริงจังจึงยกมือไหว้ขอโทษ

“ไม่ได้ตั้งใจจะให้ทุกคนคิดมาก อย่าคิดมากกันเลยนะครับ”

“เอาเถอะๆ”

ป้าสมัยโบกมือไหวๆ “ไปๆ ไปเก็บสัมภาระได้แล้ว พรุ่งนี้เดินทางกันตั้งแต่เช้ามืดไม่ใช่รึ”

“เห็นว่าอย่างนั้นนะครับ”

“งั้นรีบไปเตรียมตัว เดี๋ยวพวกป้าจะไปเข้าครัวแล้ว เย็นนี้ผู้ช่วยจะมากินข้าวด้วย”

บรรดาผู้สูงวัยต่างกุลีกุจอพากันไปทำมื้อเย็น ขณะที่รเณศมองตามแผ่นหลังเปลวอย่างไม่สบายใจ เพราะเขาหวนนึกถึงคำขอร้องของเพลิงเมื่อหลายวันก่อน

“จะมีเรื่องอะไรกัน”

รเณศพึมพำนึกกังวลใจ

ไม่ว่าจะเรื่องก็ตามขออย่าให้มันมีอะไรร้ายแรงจนเกินจะรับไหว รเณศถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะหันมามองเด็กน้อยในอ้อมแขนที่กำลังจ้องหน้าเขาตาแป๊ว


.


.


เช้ามืดวันนั้นเหมือนเช่นทุกครั้งที่ทุกคนในบ้านตื่นมาส่งเจ้าเปลวไปปฏิบัติหน้าที่ในป่าไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กน้อยที่วันนี้ตื่นเช้ามาส่งบิดา แก้มใสเกาหัวยุ่งๆ ก่อนจะเบะปากทันทีที่เปลวส่งร่างนุ่มนิ่มนั่นใส่มือของรเณศ

“พ่อไปก่อนนะ”

“...”

“เป็นเด็กดีนะลูก”

แก้มใสร้องลั่นมือพยายามไขว่คว้าหาเปลวแต่เจ้าตัวกลับยิ้มก่อนจะเกลี่ยน้ำตาของลูกสาวแล้วกดจูบที่หน้าผากลูกน้อย

“สงสัยจะง่วงครับ”

รเณศพยักหน้าเห็นด้วยเพราะวันนี้หนูน้อยตื่นก่อนเวลามาตั้งเกือบชั่วโมง

“คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองนะลูก”

ป้าสมัยตรงเข้าไปกอดหลานชายก่อนจะลูบแผ่นหลังนั้นอยู่นาน

“เปลว”

ป้าอนงค์ลูบศีรษะเด็กหนุ่ม

“ขอให้เอ็งปลอดภัยนะ ให้เอ็งและเจ้าหน้าที่ทุกคนแคล้วคลาดจากอันตราย พรใดใดที่ประเสริฐจงบังเกิดกับคนที่ประพฤติดี ขอให้ความดีคุ้มครองนะลูก”

“ครับ”

“เดินทางปลอดภัยนะเปลว”

รเณศจับมือเด็กน้อยโบกมือ เปลวหันมายิ้มให้พวกเขาก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์สองล้อหายลับไปในความมืด รเณศมองภาพนั้นไปจนลับตาก่อนจะเหม่อมองไปในความมืดมิดเบื้องหน้า

“ถ้าผมมีพรวิเศษสักข้อหนึ่ง”

เขาพึมพำคนเดียว

“ผมขอให้พวกเขาปลอดภัย”

รเณศนึกถึงเพลิง เปลวและเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าคนอื่นๆ ที่ป่านนี้คงเตรียมพร้อมกันอยู่ที่อุทยาน เขานึกถึงภารกิจที่คนในชุดลายพรางกำลังทำอยู่ คนกลุ่มหนึ่งที่ตื่นแต่เช้ามืดเพื่อไปทำภารกิจปกป้องผืนป่า ซึ่งเวลาเดียวกันนั้นคนอื่นๆ กำลังหลับใหล คนกลุ่มนั้นกำลังแบกภาระอยู่เต็มสองบ่า พวกเขามีเพียงเป้คนละใบ มีเสื้อผ้าเพียงไม่กี่ชุด รวมถึงอาหารกระป๋องของกินอย่างจำกัด และสองเท้าที่กำลังก้าวเดินสู่อันตรายในป่า

แต่พวกเขามีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ เป็นหัวใจที่เสียสละเพื่อส่วนรวม หัวใจที่ใครก็ไม่อาจทัดเทียม

หัวใจศรัทธาเพื่อปกป้องผืนป่าให้พวกเรา


☘☘☘☘


______________________________
*บทประพันธ์โดย จิระนันท์ พิตรปรีชา แต่งขึ้นเพื่อสดุดี สืบ นาคะเสถียร (นักอนุรักษ์และนักวิชาการด้านทรัพยากรธรรมชาติ) ที่ตัดสินใจจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องให้สังคมเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ


ยิ้มไว้เมื่อภัยมา ฮึบๆ มาช่วยให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กัน
หวีดในทวิตติดแท็ค #ป่าห่มรัก ให้ด้วยเด้อ

หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 01-07-2019 20:35:42
อ่านไปก็หน่วงไป

ไม่อยากร้องไห้นะคะคนเขียน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 01-07-2019 20:44:19
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-07-2019 21:32:08
ทำใจมาตั้งแต่เปลวพูดเป็นลางบอกจะยกลูกให้แล้ว คาดว่าตอนหน้าเปลวน่าจะเป็นคนที่เสียสละเพื่อพิทักษ์ป่าด้วยชีวิตอ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-07-2019 21:36:47
ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัยทุกคน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-07-2019 21:37:22
หวั่นใจกะเปลวจัง เฮ้อออ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 01-07-2019 22:03:19
อ่านจบก็บริจาคเงินให้มูลณิธิสืบไปอีก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 01-07-2019 22:25:45
ชักไม่อยากอ่านตอนหน้า กลัวเป็นอย่างที่คิด  :mew2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 01-07-2019 22:42:04
อย่ามีมาม่ามากนะ ใจไม่ดีเลย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 01-07-2019 22:51:47
อ่านแล้วก็กลัว...มันหวั่นใจ
หวังว่าทุกคนจะอยู่รอดปลอดภัย ได้ทำหน้าที่ที่ตั้งใจไปเรื่อยๆ ดังใจหวัง

ขอบคุณคนแต่งที่ส่งสารให้เราเห็นความตั้งใจอันแรงกล้าของผู้พิทักษ์ป่าที่กำลังทำหน้าที่ในทุกมุมของผืนป่าบ้านเรา ว่าพวกเขาทำเพื่อให้เรายังมีพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ให้อาศัยกันต่อไป
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 01-07-2019 23:07:16
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ่านตอนนี้  เหมือนมีลางบอกเหตุว่าเปลวน่าจะไม่รอด

ตั้งแต่เจ้าแก้มใสเกาะติดพ่อไม่ยอมห่างนั่นหล่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 01-07-2019 23:33:25
ใจไม่ดีเลยตอนนี้ TT
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Aimlovelove ที่ 01-07-2019 23:47:58
อ่านไปลุ้นไปทุกตอน ขอให้ทุกคนปลอดภัย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 02-07-2019 00:12:49
อ่านตอนนี้แล้วใจไม่ดีเลย ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 02-07-2019 06:30:25
กลัวเปลวเป็นอะไรไปจังเลย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 02-07-2019 17:02:44
ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัยทุกคนด้วยเถอะ สังหรณ์ใจยังไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 02-07-2019 20:34:03
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 03-07-2019 16:40:53
ขอให้ทุกคนปลอดภัย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 04-07-2019 10:58:42
สู้

สู้

นะ

คน

ดี
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 04-07-2019 15:45:48
ทำไมคนเขียน เขียนรางไว้แบบนี้คะ ไม่อยากร้องไห้ :ling2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 04-07-2019 20:04:01
มันเศร้าเมื่อคิดถึงข้าราชการป่าไม้ที่จากไปเพราะปกป้องป่า แต่แล้วเรื่องของพวกเขาก็เงียบหายเมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้น  :m15:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 04-07-2019 23:09:01
อ่านตอนนี้ละใจไม่ดีเลยอ่ะ ขออย่าให้มีอะไรร้ายแรง  :mew4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 05-07-2019 07:51:46
อ่านตอนนี้แล้วหน่วง ๆ เหมือนจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น น่าจะเป็นอย่างที่นายซามาบอกพี่เพลิงนะครับเนี่ย แอบหวั่นนายเปลวด้วย ระวังตัวกันด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [21] #ป่าห่มรัก [1.07.62] P.18 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Mariinariiz ที่ 07-07-2019 19:48:02
หน่วงอ่ะ ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะ คุณพระต้องคุ้มครองคนดีสิ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 08-07-2019 20:43:42


[ 22 ]




“สายข่าวเรารายงานว่าวันนี้จะมีการขนไม้พะยูงล็อตใหญ่ในป่าลึกครับ”

พลมุ่นหัวคิ้วทำหน้าเครียดขณะที่พูด

“แต่ปกติพวกมันไม่เคยขนล็อตใหญ่กันที่นั่น”

เกิ้งวิเคราะห์

“ถ้าจ้างลูกหอบขนไปซ่อนแถวชายป่าสักด้าน ก่อนจะเคลื่อนย้ายไปทีละน้อยเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตมันน่าจะเข้าเค้ามากกว่า”

พรานธีปอลูบคาง

“จังหวัดใกล้เคียงของเรามีช่องทางธรรมชาติที่ติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน”

“แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าขนผ่านอำเภอเราไปจังหวัดนั้น ยังไงก็ไม่พ้นสายตรวจหรอก ยกเว้นแต่ว่า”

เปลวทำหน้าครุ่นคิด

“พวกมันมีเส้นสายและยัดใต้โต๊ะ”

เพลิงพูดเสียงเรียบ ใบหน้าคมคายเคร่งขรึมขึ้นมา เขากวาดสายตามองเจ้าหน้าที่แต่ละคนซึ่งอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมสำหรับการลาดตระเวน

“ระวังตัวกันด้วยนะทุกคน”

เขาพยักพเยิดไปยังอาวุธปืนซึ่งเบิกใช้ในราชการ โดยอาวุธเหล่านี้จะสามารถเบิกใช้ในกรณีต้องออกลาดตระเวน เห็นสภาพของอาวุธสำหรับเจ้าหน้าที่แล้วก็นึกท้อใจ เพราะอายุการใช้งานของมันไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีทำให้มีสภาพที่ค่อนข้างเก่ามาก ดังนั้นจึงมีเจ้าหน้าที่บางคนประดิษฐ์อาวุธสำหรับป้องกันตัวอย่างง่ายๆ แต่ค่อนข้างใช้ได้ผลในกรณีฉุกเฉิน

“ก่อนหน้าที่จะได้ข่าวจากสายข่าว มีคนมาเตือนผม”

“ใครเหรอครับ”

เต็งถามขึ้นระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเช็คสัมภาระและอาวุธกันอยู่

“ผู้หวังดี”

“เขาเตือนว่าอะไรเหรอครับพี่เพลิง”

“อย่าเชื่อข่าวลวง”

ทุกคนทำหน้าฉงน

“ข่าวลวงอะไรกัน”

“หรือจะเป็นข่าวจากสายข่าวของเรา”

เพลิงส่ายหัวไปมา

“ผมเองก็ไม่รู้ แต่อย่าประมาทเป็นดีที่สุด” น้ำเสียงของเพลิงดุดันขึ้นมา “ฉะนั้นผมถึงอยากให้ทุกคนระวังตัวกันมากๆ”

“ครับผู้ช่วย”

“อีกอย่างสายข่าวบอกแค่ว่าวันนี้จะมีขนไม้ล็อตใหญ่ในป่า แต่ผมสังหรณ์ใจว่าอาจมีการเบี่ยงเบนให้เราสนใจไปลาดตระเวนในป่าลึก แทนที่ชายป่าฝั่งที่ติดกับอำเภอใกล้ชายแดน”

เพลิงพูดขึ้น

“ผู้ช่วยกำลังสงสัยใช่มั้ยครับว่า อาจมีการลักลอบขนไม้ที่ชายป่ามากกว่า”

เพลิงพยักหน้าหงึกหงัก

“งั้นสายข่าวเราทำงานพลาดเหรอครับ”

“คงไม่หรอก”

เพลิงทำหน้าครุ่นคิด

“บางทีพวกเขาอาจโดนข่าวลวงมาอีกที”

“แล้วอย่างนี้จะทำยังไงดีครับ”

“เราคงต้องไปลาดตระเวนแถวชายป่ากันก่อน แล้วผมอาจจะต้องแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังที่นั่นไว้ก่อน ส่วนที่เหลือให้เข้าไปลาดตระเวนในป่าลึกกับผม”

“ครับ”

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย

“สถานการณ์มันค่อนข้างเสี่ยง”

เพลิงทำหน้ายุ่ง

“ผมกลัวจะมีการประทะ หากรู้สึกไม่ชอบมากลหรือมีอะไรแปลกๆ ให้ถอนกำลังทันที” เพลิงสบตาเจ้าหน้าที่แต่ละคน

“ห้ามใครทำอะไรนอกเหนือคำสั่งของผมเด็ดขาด”

“ครับ”

“พวกคุณรู้ใช่มั้ยว่าชีวิตของพวกคุณมีความสำคัญมากๆ”

“...”

“ไม่ใช่แค่กับผม แต่รวมถึงครอบครัวของแต่ละคนด้วย”

“...”

“เราทีมเดียว ถ้าไปด้วยกัน เราต้องกลับออกมาพร้อมๆ กัน”

“แน่นอนครับ”

พลยิ้มเผล่ส่งผลให้บรรยากาศฮึกเหิมเมื่อสักครู่ผ่อนคลายลง หลังจากนั้นเพลิงและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็พากันเดินไปขึ้นท้ายกระบะรถของอุทยานที่จอดรถอยู่ สายลมที่ปัดผ่านลำตัวเขาพัดเอาอากาศเย็นสบายยามเช้าลอดผ่านตัวเขาไป

หมอกจางๆ คล้ายควันที่เคลื่อนผ่านมาทำให้เขามองไม่เห็นถนนสองข้างทางคล้ายกับว่าพวกเขากำลังเดินทางสู่เมืองลับแลที่มองไม่เห็นอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นทางออกหรือทางเข้า เหมือนการผจญภัยในป่าที่ก้าวสู่เส้นทางอันตรายยากเกินที่จะคาดการณ์เหตุการณ์ใดๆ ได้

เพลิงถอนหายใจแรงๆ แวบหนึ่งเขาอดที่จะนึกถึงใบหน้าใครคนหนึ่งที่ผุดขึ้นมาในมโนความคิดไม่ได้ ป่านนี้คนที่นึกถึงจะทำอะไรอยู่กันหนอ จะคิดถึงกันบ้างมั้ย เพลิงส่ายหัวให้กับความคิดของตัวเอง ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะมีอารมณ์ความรู้สึกแบบนี้

ความรู้สึกหนักแน่นและอ่อนหวาน

ความรู้สึกแท้จริงที่อบอวลอยู่ในหัวใจของเขา

เพลิงยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงรเณศ


.


.


“มีรอยเท้าคนเต็มไปหมดเลยครับ”

ใครคนหนึ่งตะโกนขึ้นตอนที่พวกเขากำลังเดินสำรวจชายป่ากันอย่างขะมักเขม้น เพลิงมุ่นหัวคิ้วก่อนจะเดินไปยังจุดเกิดเหตุ ชายหนุ่มนั่งยองๆ และกวาดสายตามองรอยเท้าน้อยใหญ่ที่บุ๋มรอยลึกลงไปกับพื้นดิน เมื่อพิจารณาใกล้ๆ ทำให้รู้ว่าเป็นรอยเท้าขนาดต่างๆ คาดการณ์ว่าไม่ใช่คนๆ เดียว อาจจะเป็นกลุ่มคนซึ่งสันนิษฐานได้ว่าต้องเป็นคนกลุ่มใหญ่

“ตรงนี้มีซากปลากระป๋องครับ”

“ร่องรอยยังใหม่ๆ อยู่เลย ไม่น่าเกินสองวัน”

เกิ้งใช้ไม้เขี่ยกองดินไปมาจึงเห็นว่านอกจากอาหารกระป๋องแล้วยังมีขวดน้ำดื่มพลาสติกและภาชนะโฟมใส่อาหาร

“พวกมันน่าจะตั้งแคมป์กันแถวนี้”

เพลิงยืนพิจารณา

“ตรงนั้นมีกองไฟครับ”

ทุกคนพากันเดินไปดู

“ใช้เศษใบไม้กลบฝังไว้ พวกมันลบร่องรอยได้ดีทีเดียว แทบจะมองไม่เห็นเลย ถ้าไม่สังเกต”

เพลิงพยักหน้าหงึกหงัก

“เชี่ยวชาญขนาดนั้นน่าจะเป็นคนพื้นที่หรือไม่ก็พรานป่า”

พรานธีปอลูบคางตัวเองทำท่าครุ่นคิด ตอนที่แกเหลือบเห็นสัญญาณลักษณ์บางอย่างที่ทิ้งรอยไว้ยังต้นไม้ก็นึกฉงนไม่น้อย เพราะมันคือ ‘สัญญาณขอความช่วยเหลือ’ ของคนจากหมู่บ้านท้ายเขาที่น้อยคนนึกจะรู้ เพราะหากไม่สังเกตดีๆ มันก็คล้ายรอยแตกของเปลือกไม้ดีๆ นี่แหละ

“ไอ้เต็งเอ็งมาดูอันนี้ช่วยข้าทีซิ”

พรานวัยเก๋ากวักมือเรียกหลานชาย

“อะไรเหรอลุง”

แกบุ้ยปากไปยังรอยดังกล่าว

“นั่นมัน..” เด็กหนุ่มทำตาโต

“แกว่าใช่มั้ย”

“ใช่ครับ ใช่แน่นอน”

“มีอะไรกันเหรอครับ”

เพลิงถามขึ้นตอนที่ขยับมาใกล้สองลุงหลาน

“สัญญาณขอความช่วยเหลือน่ะผู้ช่วย”

คนตัวโตมุ่นหัวคิ้วทันที

“มีแต่คนจากหมู่บ้านท้ายเขาเท่านั้นที่จะรู้จัก แต่ผมไม่เข้าใจว่าใครมันอุตริมาเขียนมันไว้ที่ต้นไม้นี่”

สัญญาณขอความช่วยเหลืออย่างนั้นเหรอ?

เพลิงนิ่วหน้าเมื่อนึกถึงสิ่งที่ซาให้เขามาในคืนนั้น อะไรสักอย่างคล้ายนกหวีดซึ่งฝ่ายนั้นบอกให้ใช้เวลาจวนตัว

“มีใครกำลังจะบอกใบ้อะไรเราหรือเปล่า”

เกิ้งทักขึ้น

“นั่นสิ”

“ข้าก็คิดเหมือนพวกเอ็ง ลองดูสิต้นไม้ทุกต้นในบริเวณนี้มีร่องรอยขีดเขียนเหมือนกัน แสดงว่าคนเขียนกำลังจะบอกอะไรเราสักอย่าง”

“ขอความช่วยเหลืองั้นเหรอ”

พลลูบครางอย่างใช้ความคิด

“มีสองอย่าง”

พรานธีปอพูดขึ้น

“ถ้าคนเขียนไม่ขอความช่วยเหลือเอง มันก็กำลังบอกว่าพื้นที่ตรงนี้มีอะไรสักอย่างที่กำลังรอความช่วยเหลือ”

“หรือว่า”

เพลิงโพล่งขึ้น

“ชายป่าแถบนี้คือพิกัดส่งไม้พะยูง”

“ใช่แน่ๆ”

เจ้าหน้าที่คนอื่นพยักหน้าเห็นด้วย

“แต่ว่า...” เปลวทำหน้ามุ่ย “ถ้าที่นี่คือพิกัดขนไม้เถื่อน แล้วข่าวจากสายข่าวของเราล่ะครับ”

“อาจจะเป็นข่าวลวง”

“เปรี้ยง!”

ขณะที่ทุกคนกำลังจดจ่อกับสิ่งที่วิเคราะห์กันอยู่ เสียงปืนนัดหนึ่งก็ดังขึ้นมา

“เสียงไม่ไกลจากตรงนี้เลย”

“ทุกคนระวังตัวด้วย”

เพลิงบอกก่อนจะกระชับอาวุธเอาไว้ในมือ ระหว่างนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นติดๆ กันอีกสองนัดและเสียงร้องโหยหวนของสัตว์ป่า

“ระยำเอ๊ย”

คนตัวโตกระซิบเสียงเครียดพอจะรู้อะไรได้ลางๆ แล้ว

“ผมจะไปดู ส่วนคนที่อยู่ที่นี่ใช้ว.แจ้งไปยังหน่วยขอความช่วยเหลือ และขอกำลังเสริมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเร็ว”

เพลิงขยับตัวอย่างว่องไว

“พวกผมไปด้วย”

เพลิงถอนหายใจเหลือบตามองเจ้าหน้าที่แต่ละคนก่อนจะอนุญาตให้ส่วนหนึ่งตามเขามา อีกส่วนนั้นให้เฝ้าสังเกตการณ์และรอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บริเวณนี้ ชายหนุ่มเดินเร็วๆ แทบจะวิ่งไปตามเสียงกระสุนแหวกอากาศขึ้นมาก่อนหน้านั้น ยิ่งเข้าไปใกล้ยังจุดเกิดเหตุหัวใจเขายิ่งสั่นไหว

“พวกเหี้ยเอ๊ย”

พลสบถออกมาเมื่อเห็นรอยเลือดกองใหญ่ตรงพื้นหญ้า ซ้ำรอยร่องแถวนั้นยังบ่งบอกว่าผู้โชคร้ายที่ถูกทำร้ายจนล้มลง มันคงกระเสือกกระสนหนีตายเอาชีวิตรอดไปในป่าลึก

“รอยเท้าเป็นกีบแบบนี้น่าจะเป็นหมูป่า”

เกิ้งก้มดูร่องรอยนั้นแล้วพยักหน้าเห็นด้วย

“มีขนของมันร่วงติดกับใบหญ้า ท่าทางตัวน่าจะใหญ่พอสมควร”

“ไอ้พวกเวรตะไล”

เปลวโกรธจนเขี้ยวฟันอย่างมีอารมณ์

“มีปลอกกระสุนตกอยู่ตรงนี้ครับ”

เพลิงขยับไปดูเห็นคราบเขม่าทิ้งรอยอยู่ใกล้ๆ กัน ชายหนุ่มกำหมัดแน่น ดวงตาดุดันเครียดขมึงขึ้นมาทันที แวบหนึ่งเขานึกชิงชังรังเกียจผู้ล่าใจบาปที่ตัดสินชีวิตคนอื่นเพียงเพราะแค่อยากล่า มนุษย์ไม่มีสิทธ์ตัดสินว่ามันสมควรตาย

สัตว์ป่าเองก็รักชีวิตไม่น้อยไปกว่าคนเรา เพราะมันอาจจะเป็นแค่แม่หมูที่ออกมาหาอาหารให้กับลูกๆ หรือบางทีมันอาจจะแค่ใช้ชีวิตของมันแบบนี้ในทุกๆ วันจนกระทั่งเจอสัตว์ประเสริฐที่เรียกตัวเองว่า “มนุษย์” ทำร้ายทารุณมันอย่างเลือดเย็น

สัตว์ดุร้ายที่ร้ายที่สุดก็ยังไม่เท่าสัตว์ร้ายในร่างกายคน สัตว์ร้ายที่ดูแล้วคล้ายๆ มนุษย์ แต่มีจิตใจมืดดำยิ่งกว่าเถ้าถ่าน

น่าเวทนา

เพลิงเจ็บแน่นไปทั้งหัวใจที่เห็นรอยเลือดนั้นหายลับไปในป่าลึก

“สาธุ”

เปลวยกมือท้วมหัว

“ขออย่าให้มันเป็นอะไรเลย”

เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะนิ่งเงียบลงเมื่อรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่าง ชายหนุ่มรีบทรุดตัวลงเอาหูแนบพื้นแล้วทำหน้าเครียด

“มีกลุ่มคนกำลังจะเดินมาทางนี้”

ทุกคนกระชับอาวุธในมือ

“หาที่ซ่อนตัวก่อน”

เสียงฝีเท้าจำนวนไม่น้อยที่เหยียบลงบนใบไม้แห้งดังขึ้นเรื่อยๆ บ่งบอกว่ามีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ เพลิงลอบสบตากับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก่อนจะส่งสัญญาณเพื่อบอกให้ทุกคนนิ่งเงียบ กลุ่มชายฉกรรจ์ในชุดสีดำทะมึนโพกศีรษะปิดบังใบหน้าเห็นแต่ลูกตา พวกมันมีอาวุธครบมือคาดการณ์จากสายตาพวกมันมีกำลังมากกว่าพวกเขาพอสมควร

เพลิงทำหน้าเครียดตอนที่จ้องพวกมันจากกอไม้ไผ่

ตอนนี้พวกเรากำลังเสี่ยง และเป็นความเสี่ยงที่เขาไม่อยากจะเผชิญหน้า สำหรับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ซึ่งมีอาวุธเพียงแค่ปืนลูกซองอายุการใช้งานกว่ายี่สิบปีกับฝ่ายตรงข้ามที่มีอาวุธครบมือแบบนี้ ชีวิตของเจ้าหน้าที่ทุกคนมีความสำคัญมากกว่าสิ่งใด และมันเป็นความรับผิดชอบของเพลิงทั้งหมด เขาจึงไม่พร้อมที่จะเอาใครเข้าไปเสี่ยง

พวกมันพูดคุยกันเสียงแผ่วก่อนจะสอดส่ายสายตาไปทั่วแล้วเตรียมผละออกไป

“แกร๊บ”

เสียงเจ้าหน้าที่สักคนเหยียบใบไม้แห้งจนเกิดเสียง จังหวะนั้นพวกมันหันปืนยิงเข้าใส่กอไผ่หนามที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่ เสียงกระสุนระรัวในระยะประชิดนั้นทำให้เพลิงกระชับปืนยิงสวนฝ่ายตรงข้าม และหลังจากนั้นก็เป็นการฉากยิงปะทะกันอย่างจริงจัง

“ระวัง”

เพลิงตะโกนบอกลูกน้อง ขณะเดียวกันเขาได้ยินเสียงสบถของฝ่ายตรงข้ามคาดว่ากระสุนจากปลายกระบอกปืนของเพลิงคงโดนใครสักคน พวกมันยิ่งระดมยิ่งด้วยความเกรี้ยวกราด

“แม่งเอ้ย”

พลสบถขึ้นตอนที่กำลังวิ่งหลบห่ากระสุน

“จับตายเจ้าหน้าที่ทุกคน”

เสียงดุดันจากฝ่ายตรงข้ามแต่เสียงนั้นคุ้นหูจนเต็งมุ่นหัวคิ้ว

“เสียงนั่น...”

“ทำไมวะ”

เปลววิ่งหลบกระสุนไปถามไป

“ฉิบหายเอ๊ย”

ยังไม่ทันที่เต็งจะได้ตอบ เกิ้งก็คำรามเสียงดังเพราะกระสุนจากฝ่ายนั้นเฉียดหน้าเขาไปนิดเดียว

“ถอนกำลัง”

เพลิงตะโกนก่อนจะดันเปลวให้ออกวิ่งโดนที่เขาระวังหลัง

“โอ๊ย”

เพลิงร้องขึ้นตอนที่กระสุนเฉี่ยวหัวไหล่ด้านหนึ่งจนได้เลือด

“พี่เพลิง”

“หนีไป”

เพลิงโบกมือไล่

“รีบไป” ชายหนุ่มหันหลังไปมองกลุ่มชายฉกรรจ์ที่วิ่งตามมาติด “รีบไปเร็ว”

แต่ถึงเพลิงจะบอกอย่างนั้นเจ้าหน้าที่ทุกคนกลับวิ่งกลับมาเพื่อป้องกันเพลิงซึ่งขยับตัวอย่างเชื่องช้าเพราะกำลังเสียเลือด

“ผมบอกให้พวกคุณไป”

“พวกผมไม่ไป”

เพลิงเหลือบตามองสถานการณ์ที่จวนตัว เขาจึงคว้าสิ่งที่ซาให้ไว้ขึ้นมาเป่าเสียงลากยาวสองครั้งก่อนจะออกวิ่ง แต่สุดท้ายกลุ่มคนร้ายก็วิ่งตามทัน พวกมันล้อมพวกเขาเอาไว้ก่อนที่ไอ้ตัวหัวหน้าซึ่งโดนยิงที่แขนซ้ายจะเดินลากขามาหยุดยืนประจันหน้ากับเพลิง

“ตายยากตายเย็นจังนะผู้ช่วย”

น้ำเสียงคุ้นหูนั่นพาให้ชายหนุ่มคิ้วกระตุก เขาคุ้นเคยมาก โดยเฉพาะแววตาเจ้าเล่ห์คู่นั้น

“พ่อเฒ่า”

ชื่อนั้นทำให้เต็งเพ่งพิจารณาไอ้ตัวหัวหน้าก่อนจะเบิกตาโพรง

“เป็นพ่อเฒ่าจริงๆ ด้วย”

ฝ่ายนั้นปลดผ้าที่คลุมหัวออกเผยให้เห็นใบหน้าของชายชราผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวบ้านท้ายเขา ดวงตาเจ้าเล่ห์หรี่ลงก่อนจะเหยียดยิ้มท่าทางดูชั่วร้ายราวกับไม่ใช่ชายชราที่หมู่บ้านนั่นเลย

“เก่งจริงนะ”

“คงไม่เท่าพ่อเฒ่ามั้งครับ” เพลิงยิ้มเครียด “ทั้งลอบยิงพวกผมที่หมู่บ้าน ทั้งขนไม้พะยูง ทำถึงขนาดนี้ ผมไม่คิดเลยว่าพ่อเฒ่าจะเปิดเผยตัวง่ายๆ เลย”

“ฉลาด”

มันแสยะยิ้ม

“แต่เสียดาย”

“...”

“ต้องตายก่อนวัยอันควร”

มันจ่อกระบอกปืนที่หน้าผากเพลิงแล้วปลดเซฟตี้

..เปรี้ยง!..

กระสุนปริศนาดังแหวกอากาศเข้ามาดึงความสนใจทุกคน กลุ่มชายฉกรรจ์อีกกลุ่มจำนวนสี่ห้าคนกำลังยิงใส่กลุ่มของพ่อเฒ่าเพื่อเปิดทางให้เพลิงและเจ้าหน้าที่เอาตัวรอดได้ เพราะกำลังคนที่มากกว่าทำให้กลุ่มของพ่อเฒ่าคล้ายจะเสียท่า

“ผู้ช่วยวิ่งเร็ว”

เพลิงไม่มีเวลาคิดอะไร นอกจากหันไปตะโกนบอกลูกน้อง ขณะที่เขาวิ่งตามไปติดๆ เพื่อระวังหลังให้ทุกคน

“พี่เพลิงระวัง”

..เปรี้ยง!..



☘☘☘☘




“เฮือก!”

รเณศสะดุ้งตื่นกลางดึก ชายหนุ่มลูบไปตามใบหน้าเพราะเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นตามไรผมก่อนจะยกมือปาดออก สายลมอ่อนๆ ที่พัดเข้ามาทางหน้าต่างทำให้รู้สึกว่าวันนี้อากาศหนาวเย็นกว่าทุกวัน คนเมืองคว้าเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูจึงรู้ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงจะเช้าแล้ว ระหว่างนั้นเสียงเด็กน้อยตัวกลมที่รเณศเอามานอนด้วยก็ดังขึ้นในความเงียบ

แก้มใสร้องไห้จ้าอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทำเอารเณศทำอะไรไม่ถูกต้องช้อนตัวเด็กน้อยขึ้นมาแนบอกแล้วผุดลุกขึ้นขยับกายไหวโยก มือข้างหนึ่งลูบแผ่นหลังน้อยๆ ขณะที่ริมฝีปากส่งเสียงเห่กล่อมหนูน้อยให้สงบลง หยาดน้ำตาเงาวับที่เอ่อรอบดวงตาซึ่งปิดสนิทชวนสงสารไม่น้อย

“หลับซะนะคนดี”

“ฮึก”

“ชูว์ แก้มใสเงียบนะลูกนะ”

มือน้อยๆ กำคอเสื้อของรเณศแน่น แต่จนแล้วจนรอดเด็กน้อยก็ยังไม่เงียบเสียง จนกระทั่งป้าสมัยเดินมาเคาะประตูเรียก

“คุณเนตรคะคุณเนตร เจ้าแก้มเป็นอะไรคะ”

รเณศเดินไปเปิดประตูรับผู้สูงวัยที่ถามเสียงร้อนใจ

“ไม่รู้สิครับ ร้องไม่หยุดเลย”

“เกิดอะไรขึ้นเจ้าเนตร”

ป้าอนงค์เดินตรงดิ่งข้ามธรณีประตูห้องเข้ามาถามอีกคน

“แก้มใสร้องไม่หยุดเลยครับ ท้องอืดรึเปล่าลูกหือ”

รเณศทำหน้ากังวล

“จับเจ้าแก้มลงนอนกับเตียงดีๆ แล้วสำรวจดูสิว่าตามร่างกายมีรอยอะไรหรือเปล่า ตัวอะไรกัดเจ้าแก้มหรือเปล่าลูก”

“แกไม่ยอมปล่อยครับ”

ผู้สูงวัยทั้งสองส่ายหัวไปมา ก่อนจะยิ้มขำแก้มใสกอดคนเมืองจนแน่น ตอนที่ชายหนุ่มจับเด็กน้อยนอนกับเตียงเพื่อสำรวจร่างกาย เด็กน้อยร้องไห้เสียงดังจนเขาต้องจับอุ้มพาเดินอยู่แบบนั้นตลอดทั้งคืน จนเช้านั่นแหละเด็กน้อยถึงหลับไปเพราะร้องไห้จนเพลีย


.


.


สายๆ วันนั้นรเณศจึงตัดสินใจพาหนูน้อยไปหาหมอ แต่ตรวจจนละเอียดแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร หมอเลยให้ยาและวิตามินถุงใหญ่กลับมาบ้าน ตอนที่เดินพ้นหัวบันไดบ้านมานั่นแหละ ป้าอนงค์ก็วิ่งหน้าตื่นมาแต่ไกล

“นะ เนตร เจ้าเนตร”

ป้าแกละล้ำละลักเสียงสั่น

“เกิดอะไรขึ้นครับป้านองค์”

“เมื่อกี้ป้าไปตลาดมา”

“ทำไมครับ”

“มีคนบอกว่าเมื่อคืนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ปะทะกับคนร้าย”

รเณศใจหายวาบ รู้สึกตัวเลยว่าตัวเองมือไม้สั่นจนกลัวว่าเด็กน้อยจะหลุดจากฝ่ามือเขา

“ป้าครับ..”

คนเมืองรู้สึกว่าลำคอตัวเองแห้งผาก ในอกหวิวไหวสั่นระรัว เนื้อตัวเย็นเฉียบคล้ายกับว่าโลหิตที่ไหลเวียนไปทั่วร่างกายคือน้ำเย็นจัด

“เขาว่าเจ้าหน้าที่เสียชีวิตหนึ่งคน และบาดเจ็บอีกหลายคน”

รเณศเข่าอ่อนแทบทรุด เขากอดแก้มใสแน่นจนเด็กน้อยส่งเสียงประท้วง เภสัชกรหนุ่มรู้สึกจุกในอกเหมือนใครมาปิดกลั้นลมหายใจ คล้ายกับจะหายใจไม่ออก คล้ายกับร่างกายชาวาบขยับเคลื่อนไหวไม่ได้

น่ากลัวเหลือเกิน

ความรู้สึกแห่งการสูญเสีย...ฟังแล้วหนาวจับใจ


☘☘☘☘



ไหน! ใครบอกว่าเรื่องนี้ฟิลกู๊ด (วิ่งหลบเท้าคนอ่านไม่ทันเลย แหะๆๆ)
บอกตรงๆ ว่าฉากนี้เขียนเองก็จุกในอกเองเหมือนกัน ฮือ เรามันซาดิสม์และใจร้ายค่ะ

หวีดในทวิตติดแท็ค #ป่าห่มรัก ให้ด้วยนะคะ
(ใครอินจะทวิตด่าเราได้นะ แต่อย่าด่าแรง เพราะเราไม่สู้คน แงงง)

หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 08-07-2019 20:57:50
ไม่กู้ดดดดดดดดดดดดดแล้วนะ   :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 08-07-2019 21:08:11
แง้~~~ เครียดมากกกก ฮือ~~~

ไม่รู้จะเม้นท์อะไรอะ เสียใจอยู่...แง~~~
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 08-07-2019 21:29:47
โอ๊ยๆๆๆๆๆ หน่วง :m15: :m15:
คนที่โดนยิง(เสียชีวิต)เป็นเปลวรึป่าว
จริงๆ อยากให้ทุกคนปลอดภัยมากกว่านะ 
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-07-2019 21:31:31
 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-07-2019 21:33:29
เปลวแน่ๆเลย เฮ้ออ สงสาร
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 08-07-2019 22:47:58
ไม่เอาแบบนี้สิ คนทำดีต้องรอดสิ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 08-07-2019 22:53:55
โอ้ย เครียดแทน คนเขียนใจร้ายมากมาย
 :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Malibu ที่ 08-07-2019 23:14:07
เปลวแน่เลย :m15:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 08-07-2019 23:31:49
ไม่อยากจะคิดเลย ไม่ว่าจะเสียใครไปก็เศร้าใจไม่ต่างกัน   :m15:

คนอยู่กับป่า เกิดและโตมากับป่า ก็ยังทำร้ายป่าได้ลงคอ ใจร้ายมาก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 08-07-2019 23:53:12
 :pig4: :pig4: :pig4:

ง่า...คนแต่งใจร้ายอ่ะ   แต่งให้เจ้าหน้าที่ตาย  ที่สำคัญเป็นพ่อลูกอ่อนด้วยอ่ะ  แต่คนร้ายกลับลอยนวลหนีไปได้
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Aimlovelove ที่ 09-07-2019 00:02:39
อ่านไปขนลุกไปไปจุกในอกด้วย ม่ายยย เราไม่อยากให้ตายเลย  :mew4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 09-07-2019 00:25:40
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 09-07-2019 00:51:09
หน่วงสุดเลยครับตอนนี้ ที่น้องแก้มใสร้องแบบนั้น T^T สงสารน้องมาก ๆ ครับ //ร้องไห้ตามแล้ว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 09-07-2019 03:58:48
มาแล้วความดราม่า :sad4: อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิดสินะคะ อยากให้ทุกคนในทีมของเพลิงปลอดภัย แต่มันก็คงยากที่ฝ่ายที่มีอำนาจและกำลังน้อยจะไปชนะฝ่ายที่มีอำนาจมากและกำลังมากกว่า เป็นกำลังใจให้รเณศและผู้ช่วย ยังไงรอติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณสำหรับผลงานที่ดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 09-07-2019 04:48:10
ทำไมผู้ช่วยบู๊ตลอด​ มีเรื่องตลอด​ สงสาร
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 09-07-2019 05:54:10
อย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลยนะอ่านไปก็จุกไปลุ้นตลอด
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 09-07-2019 07:21:18
สวีทกันอยู่ดีๆ ส่งใจช่วยให้ปลอดภัย แต่ทำไมเกิดเรื่องจนได้
คนชั่วมีอยู่ทุกที่ และอยู่นานมากกว่าคนดีด้วย

เอ็นดูแก้มใส เกาะพ่อเปลวแจเลย กว่าจะยอมให้เนตรอุ้ม

ขอให้ข่าวร้ายเป็นข่าวหลอกค่ะ คนตายขอให้เป็นคนชั่วนะ
ให้คนดีได้มีความสุข และใช้ชีวิตปกป้องผืนป่าต่อไป

แก้มใสร้องไห้เวลานี้ คือ กลัวใจจะเป็นเปลวมาก
เพลิงถูกยิงแน่นอนแล้ว แต่ขอให้อย่าให้เจ็บหนัก
ขอให้ปลอดภัยนะคะ และเจ้าหน้าที่ที่ออกลาดตระเวนทุกคนด้วย




หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 09-07-2019 21:00:30
ไม่รู้จะพิมพ์ด้วยอารมณ์ไหนดีเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 10-07-2019 13:37:07
ไม่นะ ใจไม่ดีเลย อย่าเป็นอย่างที่คิดเลย...
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 10-07-2019 17:04:37
ขอให้คนที่ตายน่ะเป็นไอ้พ่อเฒ่า

จอมชั่วทีเถอะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 10-07-2019 18:52:39
 ืออออขอให้ใครไม่เป็นอะไร
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 10-07-2019 19:31:02
ไม่เอามาม่าๆ เอาเค้กหวานๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 11-07-2019 14:19:13
ไม่เอาแบบนี้สิ....ถูกยิงได้แต่ห้ามตาย...มันเศร้า T_T
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-07-2019 10:40:10
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 13-07-2019 16:24:46
ไม่ชอบความสูญเสียเลย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [22] #ป่าห่มรัก [8.07.62] P.19 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 14-07-2019 21:54:44
รีบมาต่อไวๆนะค้า :ling3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 15-07-2019 20:26:55
[ 23 ]




“มันตายแล้ว”

“...”

“ผู้ช่วยพอแล้ว มันตายแล้ว”

“...”

“มันตายแล้วครับ”

ชายหนุ่มหลับตานิ่งเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา บ่ากว้างที่เคยตั้งตรงด้วยท่าทางองอาจพร้อมเป็นที่พึ่งให้ใครต่อใครบัดนี้กลับลู่ลงเหนื่อยล้าไร้เรี่ยวแรง

เพลิงไม่เคยเป็นที่พึ่งให้ใครได้!

เขาคิดอย่างนั้นเพราะคิดว่าตัวเองเป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่มีเพียงศรัทธาต่อผืนป่า รวมถึงภาระและหน้าที่อันหนักหนาซึ่งแบกเอาไว้ที่บ่ากว้างทั้งสอง เขาทำเพราะมันคือหน้าที่ที่ต้องกระทำ แต่วันนี้เพลิงกลับรู้สึกหมดเรี่ยวแรง ทุกอย่างรอบกายคล้ายกับว่ามันนิ่งสนิท ประสาทการรับรู้เหมือนจะหยุดทำงาน

มันชาไปหมด

“มันตายแล้ว”

ใช่ มันตายแล้ว

เพลิงจำได้ไม่ลืมว่า เขารับรู้คำบอกเล่าของเกิ้งด้วยหัวใจเจ็บชาแค่ไหน เขาจำได้ว่าตัวเองยืนจ้องพ่อเฒ่าในสภาพดวงตาเบิกโพรงเพราะถูกกระสุนจากปลายกระบอกปืนของเพลิงที่รัวยิงใส่จนหมด

มันตายสนิท

เพลิงหลับตานิ่งก่อนจะรู้สึกว่าลำคอตัวเองตีบร้อนขึ้นมา ดวงตาทั้งสองข้างร้อนผ่าว ชายหนุ่มกำหมัดแน่น ในอกเขามันเจ็บจนชา

ความตายของมันแลกกับชีวิตคนของเขา เป็นการแลกเปลี่ยนที่ไม่คุ้มค่า

หนึ่งชีวิตของผู้พิทักษ์ป่ากับหนึ่งชีวิตของผู้ทำลาย

เพลิงรู้สึกเหมือนกำลังกลืนหนามลงคอ ความรู้สึกสากระคายคอทุกครั้งที่กลืนน้ำลายเหนียวๆ บ่งบอกว่าในอกเขากำลังเจ็บปวด ชายหนุ่มมองไปรอบกาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเข้ามาเคลียร์พื้นที่หลังจากยึดจับกุมการขนไม้ล็อตใหญ่ได้ที่ชายป่า ก่อนจะส่งกำลังเสริมมาช่วยเหลือกลุ่มเจ้าหน้าที่และจับกุมผู้กระทำผิดได้

ร่างสูงยืนนิ่งก้มมองกองเลือดตรงโคนต้นไม้ เลือดที่แลกด้วยชีวิตเพื่อปกป้องผืนป่า เพลิงนิ่งมองมันอยู่อย่างนั้น ในหัวเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย

“ผู้ช่วย”

“...”

“ปะ..”

เพลิงยกมือห้ามไม่ให้คนอื่นพูดต่อ เขาเหลือบตามองหน้าเจ้าหน้าที่แต่ละคนที่มีสีหน้าแบบเดียวกัน พลเบือนหน้าหนีก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตา เกิ้งก้มหน้ากำหมัดนิ่ง เต็งร้องไห้อย่างไม่อาจกลั้นเสียงเอาไว้ได้ และคนอื่นๆ ต่างพากันเงียบทั้งที่ดวงตาแดงก่ำ

เพลิงรู้และเข้าใจดีทุกอย่าง

ความรู้สึกที่เจ็บจนจุกในอกร้องไห้ไม่ออกมันเป็นยังไง

เขารู้แล้ว

“ผู้ช่วย”

“ผมจะพาเปลวกลับบ้าน”

ทุกย่างก้าวที่เหยียบย่างไปกับพื้นดินเต็มไปด้วยความยากลำบาก ไม่ใช่ยากเพราะความทุรกันดารแต่ยากเพราะเขาต้องทำอย่างไรให้ก้าวย่างนั้นมั่นคง ทั้งที่ก้าวขาแทบไม่ออก แต่เพลิงยังต้องแข็งใจ เขาเดินอย่างเชื่องช้าไปใกล้เด็กหนุ่มที่นอนหลับตานิ่งอยู่ใต้โคนต้นไม้ใหญ่

เพลิงทรุดตัวนั่งคุกเข่า มือหนาเลื่อนไปจับกุมมือของเด็กหนุ่มขึ้นมา ดวงตาปิดสนิท เนื้อตัวยังอุ่นๆ ทุกอย่างเป็นปกติ ยกเว้นเพียงแต่สัมผัสไม่ได้ถึงลมหายใจของเด็กหนุ่มแล้ว

“เปลว”

“...”

“กลับบ้านกับพี่นะ”

เจ้าหน้าที่คนอื่นเบือนหน้าหนี

“เรากลับบ้านกัน”

เสียงเพลิงสั่นไหว มือหนาลูบศีรษะเด็กหนุ่มเบาๆ ก่อนจะค่อยประคองร่างไร้วิญญาณนั้นขึ้นพาดบ่าตัวเอง คนในชุดลายพรางค่อยขยับก้าวย่างอย่างช้าๆ มือข้างหนึ่งประคองเอวเด็กหนุ่มเอาไว้ เขาทำทุกอย่างอย่างระมัดระวัง ไม่สนใจว่าร่างกายจะเปื้อนไปด้วยคราบเลือด

“ผู้ช่วยพอแล้ว มันตายแล้ว”

เพลิงกัดฟันแน่น เมื่อนึกถึงกระสุนที่แหวกอากาศจากปลายกระบอกปืนของพ่อเฒ่ามาปะทะร่างของเปลว เด็กหนุ่มที่ผวาขยับมาบังร่างเขาเอาไว้ ภาพที่เด็กหนุ่มค่อยๆ ทรุดลงทำให้เพลิงไร้สติจนยกปืนรัวใส่อีกฝ่ายจนตายสนิท

‘เปลว’

‘อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิพี่เพลิง’

‘อดทนไว้ ขอร้อง พี่ขอร้องเปลวอดทนนะ พี่จะพาเราไปหาหมอ’

‘ผมไม่ไหวหรอกพี่’

‘ไหวสิ เปลวต้องไหวนะเชื่อพี่’

‘พี่เคยบอกพวกผมว่า หากจวนตัวแล้วเสื้อผ้าที่สวมใส่จะติดกายไปอย่างภาคภูมิ’

‘...’

‘ผมภูมิใจนะพี่’


เพลิงกระชับร่างของเด็กหนุ่มให้แน่นขึ้น ภาพที่เพลิงเดินแบกร่างไร้วิญญาณของเด็กหนุ่มในชุดลายพรางที่โชกไปด้วยสีแดงฉาน กลิ่นเลือดคละคลุ้งไปทุกหย่อมหญ้า

ภาพนั้นให้ความรู้สึกสลดหดหู่และหนาวจับใจ

เจ็บปวด...อ้างว้าง...ทรมาน

ไม่รู้เลยว่าตอนนี้รู้สึกแบบไหนมากกว่ากัน แต่ที่รู้แน่ๆ คือความรู้สึกเหล่านั้นกำลังเกาะกินหัวใจของผู้ชายในชุดลายพรางที่เดินแบกร่างไร้วิญญาณไปอย่างเชื่องช้า

ไม่มีรู้ใครว่าเพลิงปล่อยน้ำตาให้ไหลเอื่อยๆ ออกมาโดยไม่คิดที่จะเช็ด



☘☘☘☘



รเณศเงยหน้ามองท้องฟ้าสีหม่นในวันนี้ เสียงรอบกายเงียบสงัด สายลมที่พัดมาผะแผ่วต้องกายให้รู้สึกหนาวสะท้าน แม้จะเป็นช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ แล้วก็ตาม แม้ยินเสียงฝีเท้าของผู้คนมากมายจะเดินวนเวียนอยู่รอบกาย แต่ในใจเขาเงียบงัน มองไปทางไหนเขาพบเห็นแต่ความเศร้าหมอง

เศร้าหมองเพราะ ‘สูญเสีย’

คนเมืองหลับตานิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลรินตอนที่ก้มมองเด็กน้อยที่หลับตาพริ้มในอ้อมกอด แก้มใสกินอิ่มแล้วก็นอนหลับตามปกติ แวบหนึ่งเขานึกอิจฉาเด็กน้อย เพราะตอนเป็นเด็กเจ็บมากที่สุดก็แค่ร้องไห้โยเยแล้วใครต่อใครก็วิ่งมาปลอบพร้อมกับชี้ชวนให้เบี่ยงเบนความสนใจ แล้วไม่นานก็ลืมเลือนความเจ็บปวดนั้นไปได้ แต่เมื่อโตขึ้น เขาถึงได้รู้ว่าความเจ็บปวดของผู้ใหญ่มันเจ็บนานและทรมานอย่างที่สุด

เพราะเป็นผู้ใหญ่เราถึงเจ็บเจียนตาย

เพราะเป็นผู้ใหญ่ถึงได้หายเจ็บช้า

เพราะเป็นผู้ใหญ่ความเจ็บปวดนั้นจึงฝังแน่นอยู่ในหัวใจยากจะลืมเลือน

เภสัชกรหนุ่มเลื่อนปลายนิ้วเกลี่ยแก้มขาวของเด็กน้อยเบาๆ สัมผัสนุ่มนวลนั่นพาให้เนื้อตัวเขาสั่นเทา

“หลับฝันดีเหรอลูก”

แก้มใสนอนหลับตาพริ้มยิ้มหวานเหมือนหลุดล่อยไปในห้วงฝันอันสวยงาม

“เด็กดี”

“...”

“อยากให้หนูหลับฝันดีอย่างนี้ตลอดไป ไม่อยากให้หนูตื่นมาโลกแห่งความเป็นจริงเลย”

“...”

“ความจริงมันโหดร้าย”

รเณศกลั้นเสียงสะอื้น

“ความจริงมันน่ากลัวสำหรับหนูเหลือเกินแก้มใส”

“...”

“มันมืดมาก มันน่ากลัวที่สุด แต่หนูไม่ต้องกลัวนะลูก” รเณศกดจูบที่แก้มขาว “พ่อจะปกป้องหนูเอง พ่อสัญญานะลูก”

ถ้าวันหนึ่งผมไม่อยู่แล้ว พี่คงดูแลแก้มใสได้สบายเลย’

รเณศปิดปากร้องไห้จนตัวสั่น



☘☘☘☘



กลุ่มพยาบาลวิชาชีพซึ่งยืนจับกลุ่มคุยกันสี่ห้าคนตรงหน้าวอร์ดทันตกรรมนั่นเรียกให้ใบหน้าคมคายมุ่นหัวคิ้ว ชายหนุ่มในชุดกาวน์เดินล้วงกระเป๋ามาหยุดอยู่หลังกลุ่มพยาบาลกลุ่มนั้น ก่อนจะมองตามสายตาของสาวๆ ซึ่งกำลังยืนวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่ปรากฏในจอโทรทัศน์ สีหน้าแต่ละคนดูไม่ดีเท่าไหร่จนเขานึกแปลกใจ

“มีอะไรกันหรือครับ”

เตวิชถามขึ้น

“กำลังดูข่าวกันอยู่ค่ะ”

ใครคนหนึ่งเอ่ยตอบเขา

“ข่าวอะไรงั้นหรือครับ”

“เจ้าหน้าที่ป่าไม้ถูกยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่จับกุมพวกขนไม้เถื่อนค่ะ”

ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะละความสนใจไป

“น่าสงสารนะ ข่าวว่าลูกยังเล็ก”

พยาบาลสาวหันไปคุยกันเอง

“สงสารผู้พิทักษ์ป่าจัง งานทั้งหนักทั้งเสี่ยง ดูสิมาเสียชีวิตแบบนี้แล้วจะมีอะไรตอบแทนครอบครัวพวกเขาบ้าง”

เตวิชฟังผ่านๆ และคงจะเตรียมผละออกไปในไม่ช้า หากเขาไม่บังเอิญเหลือบไปที่หน้าจอโทรทัศน์นั่นอีกครั้งแล้วเห็นร่างโปร่งบางคุ้นตาที่แทบจะพลิกแผ่นดินตามหากำลังเดินผ่านหลังผู้สื่อข่าวที่กำลังรายงานข่าวอยู่ตอนนี้

“เนตร”

เตวิชตาเป็นประกาย


.


.


“ป้าครับ”

รเณศขยับปลายเท้าเข้าไปประคองผู้สูงวัยทั้งสองซึ่งใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา โดยเฉพาะป้าสมัยที่ร้องไห้จนเป็นลมไปแล้วก่อนหน้านี้ ป้าอนงค์จึงนั่งกุมมือป้าสมัยอยู่อย่างนั้น สายตาที่เริ่มฝ้าฟางของป้าสมัยเหม่อมองไปไกลอย่างไร้จุดหมาย ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นสะท้อนใจคนมองจนนึกเวทนา

คนเมืองถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ ศาลาวัด แต่มองหาเท่าไหร่ก็ยังไร้วี่แววของคนตัวโต เขาเห็นแต่เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีกำลังช่วยกันจัดเตรียมงานให้เปลวเป็นครั้งสุดท้าย

“ป้อ”

รเณศทำหน้าตื่นตอนที่เห็นเด็กน้อยคลานเข้าไปยังร่างกายของเด็กหนุ่มที่นอนนิ่งไม่ไหวติง เนื้อตัวสะอาดสะอ้านเพราะเจ้าหน้าที่ช่วยกันอาบน้ำแต่งตัวใหม่ให้ เปลวในชุดลายพรางนอนหลับตานิ่งอยู่ตรงนั้นเพื่อให้ญาติสนิทและพี่น้องร่วมวิชาชีพรดน้ำ

“ป้อ”

“...”

เสียงน้อยๆ เอ่ยเรียกพร้อมกับเขย่าตัวบิดาผู้หลับใหล ภาพนั้นทำให้ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นพากันเบือนหน้าหนีไปทางอื่น แก้มใสยิ้มหวานจ๋อยก่อนจะเอียงใบหน้าซบไปที่ตัวของเปลวแล้วนอนทับร่างนั้นก่อนจะขยับตัวยุกยิกไปมา

“ป้อ”

“พ่อหลับแล้วลูก”

รเณศเสียงสั่นตอนที่ขยับไปใกล้เด็กน้อยก่อนจะค่อยรั้งร่างน้อยๆ มาแนบอก แก้มใสทำหน้าไม่เข้าใจเด็กน้อยขืนตัวออกจากอ้อมแขนของเขาแล้วยื่นมือทั้งสองข้างออกไปหมายจะไขว่คว้าร่างของบิดา

“ป้อ”

“พ่อเปลวของหนูหลับแล้วแก้มใส”

รเณศสะอื้นเสียงสั่น

“พ่อเขาหลับแล้ว”

หลับใหลไปชั่วนิรันดร

“คนดี”

รเณศกดจูบที่หน้าผากเด็กน้อย

“ให้พ่อเขาพักผ่อนนะครับ”

“แอ๊ะ แอ๊ะ”

แก้มใสชี้มือไปยังบิดาอีกครั้ง

“แก้มใสครับ”

“...”

“หนูจำเอาไว้นะลูก ถึงแม้ดวงตาพ่อจะปิดสนิท ร่างกายพ่อจะขยับไม่ได้ หรือแม้กระทั่งลมหายใจจะสิ้นสุด แต่ความรักของพ่อยังคงอยู่ในตัวหนู”

“...”

“พ่อเขารักหนูมากที่สุดในโลก”

“อื้อ”

แก้มใสยิ้มหวานจ๋อยจนรเณศกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว ป้าอนงค์จึงขยับมารับร่างกลมป้อมนั่นไปดูแลแทน ขณะที่รเณศค่อยเดินกลับมาทรุดตัวนั่งใกล้ๆ กับคนในชุดลายพรางที่หลับใหลไปชั่วนิรันดร์

“เปลว”

“...”

“ไม่ต้องห่วงนะ พี่สัญญาว่าพี่จะดูแลแก้มใสให้ดีที่สุด ดูแลให้เหมือนลูกตัวเอง”

รเณศกุมมือซีดขาวของเปลวแล้วลูบเบาๆ

‘กลับไปนอนเถอะน่าพี่เนตร เดี๋ยวป่าไม้พวกนั้นผมจะดูแลเอง’

ถ้อยคำของเด็กหนุ่มที่พูดกับเขาในวันนั้นดังขึ้นมาในหัว

เปลวทำตามที่เคยพูดเอาไว้แล้ว  รเณศนิ่งมองใบหน้าเด็กหนุ่มอยู่อย่างนั้น เขามองเพื่อให้จำเด็กหนุ่มที่รักษาคำพูดนั้นจนถึงวินาทีสุดท้าย

ร่างที่นอนเหยียดยาวเหมือนคนที่นอนหลับใหล เพียงแต่มันคือการหลับใหลไปชั่วจนนิรันดร์

“หลับให้สบายนะ”

“...”

“ขอบคุณที่ดูแลป่าไม้ให้พวกเรา”


.


.


แผ่นหลังของเพลิงอันดูกว้างใหญ่อยู่เสมอ แต่บัดนี้มันกลับชวนอ้างว้าง หัวไหล่ลู่ลงคล้ายคนหมดแรง เพลิงในตอนนี้เหมือนกำแพงเมืองที่แข็งแกร่งแต่โดนทำลายให้ยับเยิน กำแพงอันแข็งแกร่งกำลังค่อยๆ ปริแตกและไม่นานมันจะทลายลง เมื่อถึงตอนนั้นหัวใจของกำแพงคงจะสูญสลาย

รเณศยืนมองร่างสูงใหญ่ในชุดลายพรางที่ยืนพิงต้นไม้ใหญ่เงยหน้าเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำ ทุกอย่างรอบกายเริ่มดำมืดคงเหมือนจิตใจของเขาในตอนนี้ คนเมืองค่อยสาวเท้าเดินไปยืนซ้อนร่างเพลิงแล้วโอบกอดชายหนุ่มจากด้านหลัง ศีรษะทุยซุกซบไปที่แผ่นกว้าง ฝ่ามือด้านหนึ่งลูบไล้หน้าอกด้านซ้ายของเพลิงเบาๆ

สัมผัสที่รู้สึกว่าหัวใจเต้นอย่างแผ่วเบานั้นบ่งบอกว่าคนตรงหน้าหวนคืนมาหาเขาอย่างปลอดภัย แต่ใครจะรู้ว่าในใจของเพลิงแหลกสลายแค่ไหน ไม่มีใครเห็นน้ำตาของเพลิง ไม่มีใครพูดถึงความอ่อนแอของเขา แต่ใครจะรู้ว่าผู้ชายที่แข็งแกร่งกำลังเจ็บเจียนตาย

รเณศเข้าใจดีว่าร้องไห้ไม่มีน้ำตามันเจ็บที่สุด เพราะความเสียใจนั้นมันยากเกินกว่าที่จะกลั่นออกมาเป็นน้ำตาได้

“เพลิง”

“...”

“เจ็บมากใช่มั้ย”

“...”

“แบ่งเบามันมาให้ผมได้มั้ย”

จบสิ้นประโยคนั้นมือข้างหนึ่งซึ่งลูบอกซ้ายของรเณศสัมผัสได้ถึงหยาดน้ำตาของคนในชุดลายพราง

เพลิงกำลังเจ็บปวด...นั่นทำให้รเณศเจ็บปวดไปด้วย

หัวใจที่เคยแข็งแกร่งดังหินผากำลังเจ็บปวดเหมือนใครกำลังบีบหัวใจเขาอยู่

“เป็นความผิดของผม”

รเณศส่ายหน้าหวือเพราะไม่เห็นด้วยกับความคิดนั้น

“ผมพาทุกคนกลับบ้านไม่ได้”

“ไม่จริงเลย”

รเณศกอดอีกฝ่ายแน่นขึ้น

“คุณพาทุกคนกลับมาแล้ว”

“กลับมาแต่ร่างไร้วิญญาณอย่างนั้นเหรอ”

รเณศทำตาร่วงทันทีแวบหนึ่งเขานึกถึงบทกลอนที่เพลิงเคยเปรยให้เขาฟังก่อนหน้านี้


‘หนึ่งเปรี้ยง! ปืนลั่นสะท้านป่า

หนึ่งวูบไหวผวา ทั้งป่าลั่น

หนึ่งคืน นานยาวราวกัปกัลป์

หนึ่งฝัน ฟุบแล้วลับแนวไพร’


และอีกหนึ่งชีวิตแลกแล้วกับผืนป่า

ป่าไม้ที่คนกลุ่มหนึ่งใช้ทั้งชีวิตและลมหายใจเพื่อรักษา แต่กลับมีคนอีกกลุ่มที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ตักตวงเอาผลประโยชน์จากป่าอย่างไร้จิตสำนึก ซ้ำยังทำร้ายคนที่มีลมหายใจเพื่อป่าจนถึงแก่ชีวิต

ช่างน่าละอาย...ช่างน่าอัปยศอดสู

“คุณเจ็บเถอะนะ เพราะผมจะเจ็บปวดไปกับคุณเอง”

“เนตร”

“ครับ”

“ผมทรมานที่ตรงนี้”

เพลิงทุบหน้าอกตัวเองแรงๆ นัยน์ตาแดงก่ำดูเจ็บปวดจนน่าใจหาย

“เปลวตายเพราะผม”

“ไม่จริง” รเณศขยับไปเผชิญหน้าอีกฝ่าย

“เขาตายเพราะปกป้องคุณและผืนป่า ผมรู้ว่าเขาภูมิใจ คุณรู้ไว้เลยนะเพลิงว่าเพราะคุณคือฮีโร่ของเปลว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณคือแบบอย่างที่เขาเชิดชู”

เป็นความจริงทุกครั้งที่เอ่ยถึงเพลิง แววตาของเปลวมักเป็นประกายทุกครั้ง เด็กหนุ่มนั่นศรัทธาเพลิง รเณศทราบดี

“แก้มใสคือตัวแทนของเปลว”

“...”

“ผมสัญญากับน้องแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะดูแลลูกสาวของเราให้ดี”

‘ของเรา’

คำนี้ทำให้เพลิงหลับตานิ่ง

‘ถ้าผมเป็นอะไรไปฝากพี่กับพี่เนตรดูแลลูกผมด้วยนะ’

“สัญญา”

สัญญาไปจนถึงวันสุดท้ายที่ยังหายใจ

รเณศไปลูบบ่าทั้งสองข้างอย่างแผ่วเบาก่อนจะชะงักเมื่อเห็นรอยเลือดเปรอะเปื้อนเต็มชุดลายพราง แต่เจ้าตัวคงไม่ได้สนใจนักหรอก เพลิงทรุดตัวนั่งพิงโคนต้นไม้ก่อนจะเหม่อมองไปในความมืดอีกครั้ง

“เลือดนี่”

เพลิงกำหมัดแน่นส่ายหน้าเบาๆ

“ไม่ใช่เลือดของผม”

รเณศเม้มปากก่อนจะนึกถึงบทสนทนาที่ได้ยินมาก่อนหน้านี้

‘ผู้ช่วยแบกเปลวกลับมาโดยไม่ยอมให้ใครช่วยครับ ผู้ช่วยพาเปลวกลับมาบ้านตามสัญญา’

“เปลวได้กลับบ้านแล้ว”

รเณศลูบบ่าเขา

‘ผมไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง’

เพลิงเป็นคนรักษาสัญญา รเณศภูมิใจที่สุดที่เลือกผู้ชายคนนี้ แม้ในตอนนี้บ่ากว้างๆ จะเกินรับไหว

ไม่เป็นไร

หัวไหล่ของรเณศจะแบกรับความรู้สึกเลวร้ายนั้นเอาไว้อีกแรงเอง เขาเอื้อมมือไปลูบไหล่หัวไหล่ด้านหนึ่งที่มีเลือดซึมออกมา สัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนไม่นึกรังเกียจใดๆ

“คุณเป็นแผลนะ”

“ผมอยากให้มันเจ็บเยอะๆ เจ็บให้มากกว่าความทรมานในใจของผมตอนนี้”

“ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้คุณหายเจ็บเพลิง”

รเณศเสียงสั่นตอนที่แตะไปที่อกซ้าย

“แต่ผมอยู่ตรงนี้”

“...”

“สะพานแสงดาวของคุณจะส่องแสงให้คุณในความมืดมิดนี้”

รเณศกอดเพลิงให้แน่นขึ้น

“อย่ากลัวนะเพลิง เดินออกมาหาแสงสว่างเถอะ ผมยืนส่องแสงให้คุณอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งของสะพาน เดินออกมาหาผมนะ”


☘☘☘☘



ขอโทษที่ไม่ทำตามคำขอร้องของคนอ่านนะคะ ขอโทษจากใจจริงหากการดำเนินเรื่องด้วยการสูญเสียใครไปทำให้หลายคนผิดหวัง
ใช่ค่ะ มันเป็นตอนที่สะเทือนใจและหดหู่จริงๆ ขนาดที่ว่าเขียนเองก็ร้องไห้ออกมาเองอย่างง่ายดาย
แต่มันจำเป็นที่จะต้องดำเนินเรื่องไปเพื่อจุดประสงค์อะไรบางอย่างที่จะคลี่คลายในอีกสามตอนสุดท้าย
มันเจ็บปวด มันเศร้าใจมากๆ เรารู้ค่ะ เราเขียนเรื่องนี้โดยอิงเรื่องราวของผู้พิทักษ์ป่า
มันเป็นเรื่องจริงอันเจ็บปวดที่ฮีโร่เหล่านั้นอาจจะต้องเผชิญ ซึ่งความจริงที่ว่ามันพบได้ตามกรอบข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์กรอบเล็กๆ
เราถึงอยากเขียนเพื่อสดุดีคุณความดีของฮีโร่คนดีเหล่านั้น

เราเข้าใจว่ามันสะเทือนใจคนอ่านที่อินมากจนทนไม่ไหวถึงขนาดจะเลิกอ่านหรือเลิกติดตามเพราะทำใจไม่ได้ การสูญเสียไม่ใช่เรื่องสนุกเลย ฉะนั้นเราเคารพการตัดสินใจของคนอ่านทุกๆ คนนะคะ ขอบคุณมากๆ ที่เข้ามาติดตามและให้กำลังใจกัน เราไม่ดราม่านะคะดีใจด้วยซ้ำที่ผลงานเขียนของเราทำให้คนอ่านอินไปกับเนื้อเรื่องได้ขนาดนี้ แต่ขออนุญาตไม่แชทส่วนตัวเข้ามาแจ้งว่าจะเลิกอ่านหากมีการสูญเสียนะคะ เราเคารพพื้นที่ความคิดเห็นทุกคนค่ะ แต่บางข้อความมันค่อนข้างบั่นทอนกำลังใจเรานิดนึง (นิดเดียวเท่านั้นนะคะ แง)
 
เราต่างคนต่างเคารพสิทธิในการเขียนและพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็นกันน้า
ตอนนี้อ่านไม่ไหวไม่เป็นไร ไปบำรุงตับไตเยอะๆ
แล้วแวะมาอ่านมาให้กำลังใจกันใหม่นะคะ รักเหมือนเดิมแหละ เรารู้ ^^

สุดท้ายนี้คุณความดีใดๆ ที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้เราขอยกให้กับผู้พิทักษ์ป่าและผู้ที่เกี่ยวข้องในการดูแลป่าไม้และสัตว์ป่าทั้งหมด
ขอบคุณมากๆ ที่ดูแลและปกป้องป่าไม้ให้พวกเรา ❤❤❤

#ป่าห่มรัก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 15-07-2019 21:04:48
ทำใจอ่านจนได้ จะได้ไม่วุ่นวายใจ
แต่อ่านแล้วจะนอนหลับมั้ยนี่อีกเรื่อง แง~~~
น้ำตาไหลเบาเบา...ยังฮึ้บไหวๆ

คือเราเข้าใจเพราะมันคือจุดพีคสุด
แต่ขัดอารมณ์ตรงมีตัวง้องแง้งโผล่มาหน่อยนึง
ดูเป็นตัวภาระที่จะโผล่มาให้น่ารำคาญในตอนหน้า เฮ้อ~~~

หวังว่าทุกคนจะผ่านความใจเสียและเสียใจนี้ไปได้ด้วยดี...ฮึ้บๆ สู้!!
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 15-07-2019 21:19:26
ฮือออออออออออ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-07-2019 21:19:42
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 15-07-2019 21:38:58
น้ำตาท่วมเถอะ โอยยย พยายามเลี่ยงที่จะอ่านฉากแบบนี้ เจ็บปวดมากกกก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 15-07-2019 21:51:54
ฮืออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-07-2019 22:23:30
น้ำตาไหลไม่หยุดเลย มันบีบใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 15-07-2019 22:32:54
บรรยายไม่ถูก สงสารเพราะเปลวยอมสละชีวิตปกป้องเพลิง แต่คนมีชีวิตต่อไปกลับมีแผลความเจ็บปวดภายใน
 :mew6:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Plakhem ที่ 15-07-2019 22:47:42
ช่วงแรกยังไม่เท่าไหร่ แต่พอแก้มใสเรียก ป้อ นี่แหล่ะ จะร้องเลย :ling3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 15-07-2019 23:03:58
 :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 16-07-2019 00:21:07
คนดีๆตายไป เพื่อปกป้องสิ้งสำคัญ แต่ประเทศยังแย่อยู่ เป็นกำลังใจให้คนที่ทำงานเพื่อส่วนรวมและเป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 16-07-2019 01:29:44
 :pig4: :pig4: :pig4:

ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเหตุการณ์จะเป็นไปทางไหน

แต่ก็อดไม่ได้ ทนไม่ได้ น้ำตามันไหลออกมาเอง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 16-07-2019 02:25:57
อยากให้เพลิงรับรู้และเข้าใจว่าต้นเหตุที่ทำให้เปลวตายมันไม่ได้เกิดจากเพลิง และมันไม่ใช่ความผิดของเพลิงเลยซักนิดเดียว เพลิงทำสิ่งที่ตัวเองควรจะต้องทำเท่าที่คนคนนึงจะทำได้แล้ว เราเชื่อว่าเปลวก็มั่นใจและไว้ใจมากๆว่าเพลิงกับเนตรจะดูแลแก้มใสให้เติบโตได้อย่างดีไม่แพ้เท่าที่ตัวเองอยากจะทำ ขอเป็นกำลังใจให้เหล่าเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าไม้ทุกคนค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณสำหรับผลงานที่ดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 16-07-2019 08:35:30
ร้องไห้กับตอนนี้ ㅠ ㅠ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 16-07-2019 11:03:17
น้ำตามันไหลไม่หยุด  :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 16-07-2019 11:49:58
อ่านไปก็น้ำตาไหลไปสงสารเปลวสงสารเพลิงสงสารเนตรสงสารทุกๆคน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 16-07-2019 13:06:30
ฮือออออออออออออออออออออออออออออออออ เปลว...โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
ร้องไห้ตลอดเวลาที่อ่าน แล้วก็เป็นเปลวจริงๆที่จากไป เหมือนเราเสียคนใกล้ตัวไป เริ่มรู้จักน้องเขามาตั้งแรกๆที่พี่เนตรไปอยู่ที่นั้น ยากที่จะทำใจยอมรับ มันสะเทือนใจ บีบหัวใจที่สุดตอนแก้มใสคลานมาซบอกเรียก ป้อ ฮือออออออออออ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ อยากบอกว่าถ่ายทอดออกมาได้ดีมากๆ ขอบคุณนะคะ ราวเป็นเสียงเล็กๆเสียงหนึ่งที่สื่อออกมาบอกให้ทุกคนได้รู้ว่ายังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ยังคงปกป้องดูแลผืนป่าให้กับพวกเราอยู่ ในขณะที่เราอยู่อย่างสุขสบาย
ที่เราร้องไห้เสียใจไม่ใช่แค่เพราะเป็นเปลวที่เหมือนเป็นน้อง แต่เพราะมันคือความจริงที่สะท้อนออกจากเรื่องจริง ชีวิตของเจ้าหน้าที่ผู้ปกป้องผืนป่า ที่เสียสละตัวเองทุกอย่างแม้แต่ลมหายใจ มันเป็นความจริงที่เจ็บปวดของผู้ปิดทองหลังพระ แต่มันคือความภาคภูมิใจในหน้าที่ของพวกเขา...ผู้พิทักษ์ผืนป่า
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 16-07-2019 16:05:48
ดีที่สุดแล้วเพลิง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 17-07-2019 20:29:23
ถึงจะคาดไว้แล้วก้อเถอะ แต่มันก้อยังเจ็บ แล้วก้อเศร้ามากๆจริงๆ
ไหนพายุชื่อ เตชิต ก้อกำลังจะพัดมาอีก เฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-07-2019 21:44:31
หลับให้สบายนะเปลว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 17-07-2019 22:15:35
 :กอด1: ให้กำลังใจผู้แต่งครับ^^
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 17-07-2019 22:16:22
รู้แหละเรื้องเปลว แต่แง้ อดเสียใจไม่ได้ สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 19-07-2019 22:00:30
 :mew6:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 20-07-2019 00:09:36
ไม่ไหวบอกไหวไม่ไหวแล้ว น้ำตาท่วมมากค่ะ

คนไม่ดีหนึ่งคนเสียไป ยังเสียใจไม่เท่าคนดีที่ต้องจากไปเลย

ทำงานตรงนี้ต้องยอมรับความเสี่ยง และความเจ็บช้ำ
แบกรับความหวังของใครหลายคนที่ทั้งหวังดีและหวังร้าย

เสียใจที่ต้องเสียเปลว ไม่คุ้มกับสิ่งที่ต้องแลก
แต่ความจริงก็ไม่ต่างกัน ความเสียใจเกิดขึ้นได้เสมอ

เอ็นดูแก้มใสมากเลยลูกเอ้ยย นอนซบพ่อซะ

เพลิงเสียใจที่พาน้องกลับบ้านแบบสมบูรณ์ไม่ได้
แต่เหมือนเนตรบอก เปลวได้กลับบ้านแล้วนะ
เพลิงโชคดีที่มีเนตรพร้อมจะดูแลและรอคอย

เปลวได้กลับบ้านละนะ พี่เพลิงพี่เนตรสัญญาแล้ว
จะดูแล เลี้ยงดูแก้มใสอย่างดีเลย หลับให้สบายนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Rateesiri ที่ 20-07-2019 21:38:32
 :mew4
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 23-07-2019 12:54:18
ฮือ...ฮือ...ไปทำจายยยยแปปป
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 23-07-2019 14:12:17
ฉันกะว่าจะรอให้ผ่านตอนนี้ไปก่อนถึงจะเข้ามาอ่าน


แต่ฉันก็รอไม่ใหว

แล้วยังไงล่ะ

นั่งน้ำตาแตกอยู่นี่

ฮือออออ เปลวไปดีเถอะนะ

ส่วนแกไอ้พ่อเฒ่านรก แกกลับไปอยู่ในขุมนรกนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Mariinariiz ที่ 24-07-2019 13:18:40
ฮือออออออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [23] #ป่าห่มรัก [15.07.62] P.20 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 24-07-2019 14:35:19
เขียนดีมากเลยค่ะ คุณคนเขียน รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 29-07-2019 21:00:56
[ 24 ]



“ผู้ช่วยถูกตั้งข้อหาว่าทำเกินกว่าเหตุครับ”

น้ำเสียงของเต็งเต็มไปด้วยความกังวล ขณะที่รเณศซึ่งมองหาคนในชุดลายพรางทั้งวันได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ พอจะรู้มาเหมือนกันว่าการจับกุมการขนไม้เถื่อนครั้งนี้ดันไปเจอตอ เพราะผู้มีอิทธิพลในจังหวัดเกี่ยวข้องด้วยเนื่องจากมีลูกน้องของผู้มีอิทธิพลคนดังกล่าวรวมอยู่ในกลุ่มของชายฉกรรจ์ที่ถูกเพลิงและเจ้าหน้าที่ยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมาถึงสามคน นอกจากนี้หนึ่งในผู้บาดเจ็บยังเกี่ยวข้องเป็นหลานชายผู้มีอิทธิพล

ฝ่ายนั้นจึงแจ้งข้อหากลับว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ พร้อมทั้งปฏิเสธว่าหลานชายและกลุ่มลูกน้องเพียงเข้าไปเดินป่าตามปกติไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด

นั่นแหละ อำนาจเงินและอิทธิพลมันน่ากลัวกว่าที่คิด

เพลิงจึงต้องเดินทางไปไปรายงานตัวและรับทราบข้อกล่าวหา

“เหอะ ทำเกินกว่าเหตุงั้นเหรอ”

พรานธีปอทำเสียงคับแค้น

“พวกเรามีแต่ปืนลูกซองพอให้ป้องกันตัวเอง ปืนที่มีอายุการใช้งานยี่สิบกว่าปี ขณะที่พวกมันเล่นอาวุธสงคราม นี่น่ะเหรอทำเกินกว่าเหตุ”

ท่าทางแกดูหัวเสีย แววตาดูเสียใจไม่น้อย

“ผู้ช่วยออกรับแทนลูกน้องทุกอย่าง”

“...”

“มันน่าเจ็บใจที่ไอ้พวกสารเลวนั่นยัดข้อหาให้คนที่ปกป้องป่าแทบตาย”

ลุงแสวงทำเสียงขุ่น

“ขณะที่พวกเราสูญเสียทั้งเจ้าหน้าที่และกำลังใจ แต่ไม่มีใครมองเห็นพวกเราเลย”

น้ำเสียงเต็มไปด้วยความคับข้องใจ

“ชีวิตพวกเรามันคงไร้ค่า...แม้ทำหน้าที่จนตาย ก็ไม่มีใครเอ่ยถึง”

รเณศเม้มปากจนเจ็บ ในอกเต็มไปด้วยความรู้สึกอัดอั้นตันใจไม่แพ้กัน “อย่าน้อยใจไปเลยนะครับ ใครไม่เห็น แต่ผมเห็น”

คนเมืองเหลือบตามองเจ้าหน้าที่ตรงหน้าด้วยแววตาขอบคุณ

“อย่างน้อยผมคนหนึ่งที่เข้าใจและระลึกถึง ขอบคุณทุกคนแทนคนอีกหลายๆ คน ขอบคุณจริงๆ ที่ดูแลรักษาผืนป่าให้เรา”

รเณศยกมือไหว้ทุกคน

“ขอบคุณนะครับ”

ทุกคนมีสีหน้าดีขึ้น

“สาธุเทวดา เจ้าป่าเจ้าเขาโปรดปกป้องคุ้มครองผู้ช่วยเพลิง คุ้มครองคนดีที่ทำหน้าที่อย่างสุจริตด้วยเถอะ”

ลุงแสวงมือขึ้นจรดเหนือศีรษะ

รเณศเหม่อมองไปเบื้องหน้าก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ อย่างน้อยเพลิงก็ไม่ได้เดินทางไปรายงานตัวคนเดียว มีพลและเกิ้งไปด้วย สองคนนั้นคงพอช่วยอะไรได้บ้างหากเกิดอะไรขึ้น


.


.


แดดยามบ่ายที่กำลังแผดเผาอยู่ตอนนี้ส่งผลให้คนที่เคยชินกับชีวิตในเมืองหลวงขยับปกเสื้อไปมาเพื่อคลายความร้อน ปลายแขนเสื้อถูกพับขึ้นเหนือศอก ใบหน้าคมคายเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อที่ซึมออกตามขมับ ชายหนุ่มเหลือบตามองไปรอบกายแล้วแบะปากกับสภาพความเป็นอยู่ของวิถีชีวิตคนต่างจังหวัด

“สภาพแบบนี้เนตรอยู่ลงไปได้ยังไงวะ”

คนพูดทำหน้ารับไม่ได้ก่อนที่มือหนาจับกระเป๋าเดินทางลากไปยังบริเวณลานจอดรถ สักพักหนึ่งรถตู้ที่เขาจ้างมาก็จอดเทียบท่า เตวิชก้าวขึ้นอย่างเร่งรีบก่อนจะสบถออกมา เขาทั้งเหนื่อยทั้งร้อน ซ้ำยังหงุดหงิดเพราะก่อนออกเดินทางนังผู้หญิงคนนั้นส่งทนายมาแจ้งว่ากำลังดำเนินการฟ้องหย่าเขา

นังผู้หญิงหิวโซ

เตวิชกัดฟันเมื่อนึกถึงใบหน้าสวยๆ ของหล่อน เหอะ สวยแต่รูป ความเป็นจริงนิสัยเลวร้ายยิ่งกว่านางมารร้าย ชายหนุ่มยิ้มเครียดก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างที่เห็นเพียงต้นไม้เขียวขจีทั้งสองข้างถนน

“บ้านนอกสิ้นดี”


☘☘☘☘



บ่ายแก่ๆ วันหนึ่งหลังจากที่แดดจัดอยู่เต็มๆ สองวัน วันที่สามสภาพอากาศก็ดันวิปริตผิดเพี้ยนไปจากทุกวันเมื่ออยู่ๆ ฝนก็กระหน่ำเทลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย รเณศเหลือบมองสายฝนจากในศาลาวัด งานสวดเปลววันสุดท้ายวันนี้มีคนมาช่วยงานเยอะตั้งแต่เช้ามืด

รเณศนั่งมองชาวบ้านมาช่วยทำเหรียญโปรยทานกันอย่างขะมักเขม้น น้ำใจของคนที่นี่ทำให้ป้าสมัยซึ่งนั่งรวมอยู่ในกลุ่มนั้นยิ้มออกมาได้บ้าง ช่วงสองสามวันมานี้แทบจะเห็นรอยยิ้มแกนับครั้งได้ รเณศเข้าใจดีว่าสถานการณ์แบบนี้มันยากลำบากเหลือเกินที่ก้าวข้ามมันไปได้ ยังดีที่ป้าอนงค์อยู่ข้างๆ ให้กำลังใจ ประมุขของบ้านเลี้ยงดูคนที่บ้านอย่างเป็นกันเองเหมือนครอบครัว การกระทำนั้นไม่ได้ทำให้รเณศนึกตะขิดตะขวงใจเลย ตรงกันข้ามมันทำให้เขาเข้าใจคำว่า ‘ครอบครัว’ มากยิ่งขึ้น

ในช่วงเวลาที่น่าเศร้าใจอย่างน้อยก็มีกำลังใจดีๆ จากคนในครอบครัวเดียวกัน ช่วงนี้รเณศเอาแก้มใสไปนอนรวมกับผู้สูงวัยทั้งสองในห้องนอนใหญ่ของตา และมีบางวันเพลิงซึ่งอยู่ช่วยงานที่วัดจนดึกดื่นแวะไปค้างด้วยบ้าง

เพลิงกลายเป็นสมาชิกคนคุ้นเคยของที่บ้าน รเณศรู้ดีการมาของเพลิงทำให้ผู้สูงวัยรู้สึกอบอุ่นใจ คนเมืองรู้ว่าเพลิงพยายามทำหน้าที่แทนเปลว และชายหนุ่มทำมันได้ดี แม้ช่วงนี้เพลิงจะยุ่งๆ เรื่องที่ถูกตั้งข้อหานั่น เขารู้ว่าเพลิงเหนื่อยไม่น้อยแต่ไม่เคยเห็นชายหนุ่มปริปากบ่นอะไรสักคำ เพลิงยังทำหน้าที่ของตัวเองในทุกๆ วัน และหากช่วงไหนที่มีเวลาว่าง เขาจะเห็นเพลิงมานั่งนิ่งๆ มองรูปเปลวอยู่อย่างนั้น

ไม่ต่างจากวันนี้เลย

รเณศเดินเข้าไปยืนมองแผ่นหลังกว้างสักพักหนึ่งก่อนจะทรุดตัวคลานเข่าไปตามพื้นแล้วนั่งพับเพียบเคียงข้างเพลิง

“คุณ”

รเณศเอื้อมมือไปแตะข้อมืออีกฝ่าย

“หน้าตาคุณไม่สู้ดีเลย กลับไปนอนพักที่บ้านผมก่อนมั้ย”

เพลิงยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ

ทุกคืนกว่าเพลิงจะได้กลับไปพักผ่อนก็กว่าค่อนคืนแล้ว เขาอยู่เป็นคนสุดท้ายเพื่อปิดศาลาพร้อมๆ กับสัปเหร่อนั่นแหละ

“กลับไปนอนพักก่อนนะ แล้วเย็นๆ ค่อยกลับมา”

“...”

“คุณนอนดึกมาหลายคืนแล้วนะ วันนี้พักผ่อนสักหน่อยเถอะ”

“ผมกลัวมันเหงา”

เพลิงเหลือบตามองรูปเจ้าเปลว เพราะกลัวเหงาถึงได้นั่งอยู่ที่นี่จนดึกดื่นกลับคนสุดท้ายทุกวัน เพลิงหวนนึกถึงการเจอกับเปลวครั้งแรก เด็กหนุ่มที่หลงผิดแล้วดันโชคร้ายผ่านมาในจังหวะที่เพลิงจับยึดไม้เถื่อน ใบหน้าของเปลวดูตื่นตระหนก สีหน้าหวาดกลัวจนเขานึกขัน

เด็กหนุ่มเลือดร้อนดูอ่อนโยนทุกครั้งที่พูดถึงลูกน้อยในอุทรนั่นจึงทำให้เพลิงตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

‘ฉันจะช่วยถ้านายสารภาพและร่วมมือกับตำรวจ’

‘ผมเชื่อพี่ได้ใช่มั้ย’

เพลิงจำได้ดีว่าวันนั้นเขาเพียงยักไหล่โดยไม่ได้ตอบอะไรเปลว แต่เขาตอบคำถามเด็กหนุ่มด้วยการกระทำ นั่นทำให้วันหนึ่ง วันที่เพลิงจำได้ไม่ลืมว่าเด็กนั่นเดินถือขันน้ำดุ่มๆ มาล้างเท้าให้เขา

‘พี่ไม่ใช่พ่อแต่ก็เหมือนพ่อของผม พี่ให้ชีวิตใหม่กับผม ถ้าไม่มีพี่ ผมเองก็ไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะเลวร้ายมากขนาดไหน พี่ให้ผมล้างเท้าพี่เถอะนะ ผมไม่มีอะไรตอบแทนพี่เลย ผมเคารพพี่เหมือนพ่อคนหนึ่งเพราะพี่สอนให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้น ขอบคุณพี่มากนะครับ พี่คือแบบอย่างของผม ชีวิตผมต่อจากนี้ ผมจะอุทิศให้กับผืนป่าที่พี่ดั้นด้นมาเพื่อปกป้องรักษา’

เพลิงกระพริบตาถี่ๆ เมื่อหวนนึกถึงวันวาน

“อยู่ตั้งไกล ซ้ำยังอยู่เพียงลำพัง ผมกลัวว่ามันจะเหงา คุณรู้มั้ยว่าเมื่อก่อนมันเป็นเด็กขี้กลัว แต่พอถูกพาออกลาดตระเวนบ่อยๆ ไม่รู้ว่าไปได้ความใจกล้ามาจากไหน”

คนในชุดลายพรางยิ้มน้อยๆ

“แต่ลาดตระเวนทุกครั้งเราไปเป็นทีม” เพลิงเงียบไปก่อนจะเหม่อมองไปยังภาพเด็กหนุ่มที่ตั้งอยู่เบื้องหน้า “ครั้งนี้น้องมันไปคนเดียว เดินทางไกลคนเดียว มันคงเหงา”

“...”

“อย่ากลัวนะเปลว”

เพลิงลูบกรอบรูปภาพเปลวอย่างแผ่วเบา

“น้องมันไม่เหงาหรอก”

 รเณศพูดขึ้น

“เปลวต้องเข้มแข็งแน่นอน”

เพลิงยืนมองภาพนั้นนิ่ง

“ถ้าน้องมันรู้ว่าคุณไม่ได้พักผ่อน เปลวคงไม่สบายใจ” รเณศตบหลังมืออีกฝ่าย

“คุณเข้มแข็งมากนะเพลิง เข้มแข็งเกินไปด้วยซ้ำ ผมอยากให้คุณเหนื่อยล้า อยากให้คุณอ่อนไหวบ้างนะ”

เพลิงเหลือบตามองอีกฝ่ายแล้วยิ้มน้อยๆ

“เพราะผมอยากดูแลคุณ”

เพลิงกระชับมือรเณศสอดประสานกัน

“กลับบ้านไปพักผ่อนนะครับ”

เพลิงพยักหน้าหงึกหงัก รเณศจึงยิ้มกว้างก่อนจะกระตุกมืออีกฝ่ายให้ผุดลุกขึ้นแล้วพากันกลับบ้าน 

.

.

ปกติเพลิงเป็นคนนอนระวังตัว แต่คงเพราะเหนื่อยและเพลียอย่างหนัก พอหัวถึงหมอนฝ่ายนั้นจึงหลับสนิทในไม่ช้า รเณศจึงเดินไปเปิดหน้าต่างห้องนอนเพื่อให้ลมเบาๆ พัดผ่านเข้ามาในห้อง อากาศวันนี้เย็นสบายจนไม่ต้องเปิดพัดลม คนเมืองขยับเข้ามาทรุดตัวนั่งมองเพลิงอยู่ใกล้ๆ ปลายนิ้วเรียวเลื่อนไปคลี่หัวคิ้วที่ขมวดมุ่นให้คลายออกก่อนจะกระซิบข้างหูฝ่ายนั้นเบาๆ ว่า

“หลับฝันดีนะครับ”

เภสัชกรหนุ่มกดจูบที่ขมับกว้าง จังหวะนั้นเด็กน้อยที่เพิ่งหันเดินได้ไม่นานก็เดินเตาะแตะมาอยู่ที่หน้าประตู โดยมีผู้ช่วยสาวลูกจ้างจากร้านยาซึ่งช่วงนี้เขาจ้างมาให้ช่วยดูแลหนูน้อยเพราะใครๆ ต่างก็ยุ่งจึงไม่มีเวลาคอยดูแลเด็กน้อยอย่างใกล้ชิด

“อุ้ม”

แก้มใสยื่นมือมาทางรเณศก่อนจะส่งเสียงดัง

“ชูว์”

รเณศยกนิ้วแตะริมฝีปากเป็นการส่งสัญญาณให้เด็กน้อยเงียบเสียง

“อุ้ม”

“ครับๆ”

รเณศหันพยักหน้าบอกเด็กสาวให้ผละออกไปก่อนที่เขาจะรวบเอาตัวหนูน้อยขึ้นอุ้มแนบอก แล้วค่อยสาวเท้าอย่างช้าๆ พาร่างนุ่มนิ่มไปวางลงข้างเตียงที่คนตัวโตนอนหลับใหล แก้มใสทำหน้าสงสัยก่อนจะค่อยคลานอย่างเชื่องช้าไปใกล้เพลิง หนูน้อยทำหน้าฉงนก่อนจะตัดสินใจทิ้งศีรษะซุกตัวลงที่แผ่นอกอีกฝ่าย

“ป้อ”

“...”

“ป้อ”

หนูน้อยงึมงำก่อนจะหลับตาพริ้มในอ้อมกอดของเพลิงซึ่งลืมตาขึ้นมาอย่างงงงวย เมื่อเห็นว่าเป็นเด็กน้อยฝ่ายนั้นจึงรวบเอาเด็กน้อยไว้ในอ้อมกอด ก่อนที่ทั้งคู่จะนอนซุกกันเข้าสู่ห้วงนิทรา รเณศมองภาพนั้นแล้วยิ้มทั้งน้ำตา

แก้มใสตัวนิดเดียวเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเพลิง

ร่างสูงใหญ่ที่มีอ้อมกอดที่โอบกอดหนูน้อยเอาไว้...อ้อมกอดที่จะป้องภัยไปตลอดกาล



☘☘☘☘



เตวิชหลับๆ ตื่นๆ ไปพักใหญ่จนกระทั่งคนขับพาเขาเลี้ยวไปยังถนนลาดยางค่อนข้างแคบพอให้สวนเลนกันได้เท่านั้น ไม่นานรถก็หยุดที่บ้านเรือนไทยหลังหนึ่ง เสียงหมาเห่ากันระงมนั่นทำให้เขาคิ้วกระตุก เตวิชก้าวลงจากรถแล้วมองไปรอบๆ ก่อนที่เสียงเจ้าบ้านจะร้องห้ามปรามสัตว์สี่ขา เตวิชยืนรออยู่ตรงตีนบันไดบ้านอย่างใจเย็น เมื่อเห็นศีรษะผลุบๆ โผล่ๆ ของเจ้าบ้าน

เพียงไม่นานใบหน้าที่หวนนึกถึงมาตลอดก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

ฝ่ายนั้นยืนตะลึงก่อนจะชะงักปลายเท้า แววตาตื่นตระหนกด้วยใบหน้าไม่สู้ดีนั่นบ่งบอกว่าคนตรงหน้าดูห่างไกลจากคำว่ายินดีที่ได้พบเจอ

“เนตร”

รเณศยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น เนื้อตัวเขาชาวูบ ปลายเท้าเหมือนถูกหมุดตอกตรึงไว้กับพื้นไม่ให้ขยับเดิน ท่าทางประหลาดนั่นทำให้เพลิงที่เดินตามหลังมาติดๆ ฉงนใจ ชายหนุ่มเดินมาหยุดซ้อนหลังของรเณศก่อนจะมองไปยังผู้มาใหม่

ดวงตาคู่คมที่สอดประสานกับแววตาของผู้มาเยือนทำให้รอบข้างนิ่งสงัด

“ไอ้เพลิง”

รเณศยืนงงก่อนจะมองใบหน้าของอดีตคนรักกับเพลิงสลับกันไปมา

“มึงมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

“คุณรู้จักเพลิงงั้นเหรอ”

คำว่า “คุณ” ที่ออกจากปากรเณศบ่งบอกความห่างเหินนั่นทำให้เตวิชชักสีหน้าทันที

“รู้จักสิ”

“...”

“รู้จักดีด้วย”

เตวิชเหลือบตามองร่างสูงใหญ่ในชุดลายพราง ก่อนจะกดเสียงต่ำด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร

“ไม่เจอกันนานเลยนะน้องชาย”

“น้องชาย?”

คนเมืองมุ่นหัวคิ้วอย่างประหลาดใจ

“เนตรไม่รู้เหรอว่ามันเป็นน้องชายต่างแม่ของพี่”

รเณศยืนอึ้ง

‘ผมเป็นลูกเมียน้อย’

ครั้งหนึ่งเพลิงเคยบอกเขาแบบนั้น

รเณศตัวสั่นรู้สึกหายใจติดๆ ขัดๆ เภสัชกรหนุ่มหันไปสบตากับเพลิง ส่วนลึกเขาภาวนาให้เพลิงยืนกรานปฏิเสธหรือพูดอะไรสักอย่าง ไม่ใช่ยืนนิ่งแล้วมองหน้าเขาอยู่อย่างนั้น

“เพลิง”

เพลิงไม่พูดอะไรสักคำนอกจากเหลือบตามองเตวิชด้วยใบหน้าเรียบเฉย ผู้มาเยือนมุ่นหัวคิ้วเพราะรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลในปฏิกิริยาของคนทั้งสองคู่

อะไรสักอย่างสะกิดใจเขาบอกว่ารเณศและเพลิงมีอะไรบางอย่างที่ ‘พิเศษ’ ต่อกัน

“เพลิง”

รเณศไม่สนใจเตวิชแต่หันมาจ้องหน้าคนในชุดลายพราง

“คุณเป็นน้องชายของเตวิชงั้นหรือ”

“...”

“เพลิง”

“...”

“อรุณ ศศิกุลนารถคือพ่อผม”

เพลิงพูดเสียงแผ่ว ในอกเขาเสียดวาบเมื่อเห็นสายตาผิดหวังของคนรัก

“ทำไมไม่บอก”

เพลิงเม้มปากแน่น

“คุณรู้ใช่มั้ยเรื่องผมกับพี่ชายต่างแม่ของคุณ”

คนตัวโตพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ แววตาของรเณศไหวระริกก่อนจะเผลอขยับตัวถอยห่างจากคนรักที่ขยับมาหมายจะคว้าข้อมือเขา

“คุณรู้มาตลอดเหรอเพลิง”

เพลิงไม่ตอบอะไรนอกจากเม้มปากแน่น

“ทำไมไม่บอก หรือคุณไม่เคยคิดที่จะบอกความจริงข้อนี้ให้ผมรู้เลย”

รเณศพูดเสียงสั่น

“ผมไม่สนใจอดีตที่ผ่านมาของคุณ”

เพลิงพูดเสียงหนักแน่น ขณะที่เตวิชกำหมัดแน่นเมื่อได้ยินแบบนั้น นั่นหมายความว่าปฏิกิริยาประหลาดของคนทั้งคู่มันไปไกลเกินกว่าคนรู้จัก

มากกว่าคนรู้จักหรืออาจเป็นคนรู้ใจ

“คุณโกหกผมเพลิง”

“...”

“คุณไม่พูดความจริงกับผม”

“เนตร”

“คุณใจร้ายมาก”

รเณศต่อว่าอีกฝ่ายอย่างเจ็บปวด ยิ่งนึกถึงความรู้สึกที่ผ่านมา ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาความรู้สึกทั้งหมดของเขาเป็นเรื่องจริง แล้วของอีกฝ่ายล่ะ? เท็จจริงเป็นอย่างไร

“ขอโทษที่ใจร้าย”

เพลิงยื่นปลายนิ้วไปเกลี่ยรอบดวงตาคนรัก

“ขอโทษครับ”

รเณศเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ตอนที่ปล่อยให้น้ำตาเม็ดโตไหลออกมา



☘☘☘☘



เพลิงเงยหน้ามองควันสีเทาที่กำลังลอยเอื่อยๆ ไหลสู่ท้องฟ้าท่ามกลางบรรยากาศสงบ สีของมันไม่ต่างจากสีของท้องฟ้าที่มืดครึ้มในยามนี้ เมฆก้อนใหญ่สีดำทะมึนกำลังลอยต่ำคล้ายจะกับว่าสายฝนกำลังเตรียมตัวร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า บรรยากาศอืมครึมมืดมัวนั่นไม่ต่างจากใจเขาในยามนี้ เพลิงมองฝ่าผู้คนในชุดสีดำสนิทไว้ทุกข์เพื่อไว้อาลัยให้เปลวเป็นครั้งสุดท้าย ในฝูงชนนั้นเขาเห็นรเณศยืนเช็ดน้ำตาป้อยๆ โดยมีอดีตคนรักยืนเคียง

เตวิชส่งผ้าเช็ดหน้าให้คนเมือง ขณะที่รเณศส่ายหน้าปฏิเสธก่อนใช้หลังมือเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง เพลิงมองภาพนั้นแล้วได้แต่ถอนหายใจ อยากขยับเข้าไปใกล้เพื่อปลอบใจ แต่ดูเหมือนยิ่งขยับเข้าหา รเณศยิ่งถอยออกห่าง เขารู้ดีว่าตอนนี้รเณศกำลังโกรธ

โกรธมากจนไม่แม้แต่มองหน้ากัน

ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเหม่อมองไปยังรูปของเด็กหนุ่มที่ครั้งหน้าเคยยิ้มหัวให้เขา เด็กหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยเดินทางผิดแต่สุดท้ายกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วเดินเข้าสู่ทางสว่าง เด็กหนุ่มที่ขันอาสาทุกครั้งเพื่อทำภารกิจ

เด็กหนุ่มผู้หลับใหลแล้ว

‘ผมใจหายมากเลยนะพี่ ภาพที่พี่จมลงไปยังติดตาผมอยู่เลย’

เพลิงยังจำคำพูดและแววตานั้นได้ดี และเขาก็ยังไม่ลืมคำตอบของตัวเองวันนั้นเช่นกัน

‘ชีวิตในป่ามันไม่แน่ไม่นอน’

‘จงเข้าใจและยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดเวลา’


เพลิงเข้าใจมันมาตลอดจนกระทั่งวันนี้ วันที่ทุกอย่างผันแปร เขาถึงได้เข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง เข้าใจแม้จะเจ็บปวดมากแค่ไหน

เข้าใจที่สุด

“เปลว”

“...”

“ผืนป่าที่เปลวอุทิศชีวิตเพื่อรักษามันยังคงอยู่นะ...” เพลิงเหม่อมองไปไกล “ไม่ต้องห่วง พี่จะดูแลมันต่อจากเปลวเอง”

“...”

“ไม่ต้องห่วงอะไรแล้วนะ”

เพลิงเงยหน้ามองควันสีเทานั่นอีกครั้ง

‘ถ้าผมเป็นอะไรไปฝากพี่กับพี่เนตรดูแลลูกผมด้วยนะ’

“สัญญาด้วยชีวิต”


.


.


เพลิงถอนหายใจขณะที่หมายจะขยับปลายเท้าไปหารเณศ แต่โทรศัพท์ในสภาพย่ำแย่ที่ฝาหลังใช้หนังยางรัดดังขึ้นมาซะก่อน ชายหนุ่มมุ่นหัวคิ้วก่อนจะตัดสินใจผละออกรับสาย ภาพแผ่นหลังกว้างที่เดินลับออกไปนั่นอยู่ในสายตาของคนที่แอบลอบมองอยู่ตลอด

คนมองถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเม้มปากแน่น

“กินน้ำหน่อยมั้ยเนตร”

รเณศส่ายหัวก่อนจะหันมาสบตากับอดีตคนรักที่ยืนข้างกายไม่ห่าง นั่นไม่ได้ทำให้เขาซาบซึ้งใจนักหรอก ตรงกันข้ามเขาอึดอัดใจทุกครั้งที่สบตากับเตวิช

“พี่เต”

เภสัชกรหนุ่มสูดลมหายใจเขาลึกๆ ตอนที่เอ่ยเรียกชื่อฝ่ายนั้นตามความคุ้นชิน เตวิชถึงกับยิ้มออกมาน้อยๆ เมื่อเห็นท่าทางที่อ่อนลงของคนตรงหน้า

“ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”

“เอาสิ” ฝ่ายนั้นยิ้มกว้าง “พี่เองก็มีเรื่องจะคุยกับเราเหมือนกัน”

“งั้นเชิญครับ”

รเณศเดินนำอีกฝ่ายไปยังต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลจากนั้นมีริมน้ำเล็กๆ เป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างสงบ ส่วนหนึ่งเพราะมันอยู่ในเขตวัด

“ยกโทษให้พี่ได้มั้ย”

ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยอะไร เตวิชก็ชิงพูดขึ้นก่อน ฝ่ายนั้นขยับมากุมมือเขาเอาไว้ แต่รเณศค่อยขืนออกอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายหน้าเสียไปมากกว่านี้

“เรามาพูดความจริงกันนะครับพี่เต”

ฝ่ายนั้นทำหน้าฉงนสนเท่

“พี่คิดว่าผมโกรธพี่เลยหนีมาเหรอครับ”

“พี่กำลังจะหย่ากับนีรกุล”

“ครับ”

คนเมืองรับฟังด้วยใบหน้าสงบ รเณศมีสีหน้าเรียบเฉยดูสงบแตกต่างไปจากทุกครั้ง เป็นรเณศคนใหม่ที่เตวิชไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

“เนตร”

“ฟังผมก่อน”

รเณศยิ้มน้อยๆ

“ผมไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดพี่เลย” รเณศหวนนึกถึงความทรงจำเก่าๆ “แต่ผมเจ็บครับ ผมเจ็บที่ผมเคยรักพี่มากๆ”

“เคยรักงั้นเหรอ?”

“สามปี” เภสัชกรหนุ่มพึมพำ

“ผมอยู่ในที่มืดมาสามปี มันทำให้ผมกลัวการเดินคนเดียวในที่สว่างมากๆ มันน่ากลัวมากครับ แต่พี่รู้มั้ยว่าวันที่ผมลองเดินคนเดียว ในสภาพพื้นขรุขระโซซัดโซเซ ผมล้มเจ็บหลายครั้ง แผลผมเต็มตัวไปหมด แต่ผมดีใจมากๆ ที่ตัวเองมีแผล ดีใจมากๆ ที่ผมยังรู้สึกเจ็บ นั่นแปลว่าผมหายใจเองได้ และสามารถเดินได้เพียงลำพัง”

เตวิชทำหน้าตื่นตะลึงเมื่อได้ยินแบบนั้น

“เนตร”

“ผมไม่ได้หนีพี่เพราะความโกรธ แต่ผมอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่”

“แต่พี่รักเนตร พี่ขอโทษที่ยอมทุกอย่าง ขอแค่เนตรให้โอกาสพี่”

เตวิชละล้ำละลึกพูดขึ้น

“ผมรู้ว่าพี่รักผม”

เตวิชยิ้มออกมา

“แต่มันคงไม่มากพอ”

“...”

“พี่รักผม แต่พี่ก็ทำร้ายความรู้สึกผมมาตลอดสามปี”

“เนตร”

รเณศสบตากับเตวิชนิ่ง

“ผมพอแล้วพี่”

“...”

“ขอให้ผมได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้มั้ย” รเณศพูดเสียงสั่น “ถ้าพี่เตรักผมจริงๆ ปล่อยผมไปได้มั้ย”

“พี่ทำเนตรเจ็บมากเหรอ”

เตวิชเกลี่ยน้ำตาให้เขาด้วยมืออันสั่นเทา

“ครับ”

รเณศตอบเสียงสั่น

“เนตรเคยเกลียดพี่มั้ย”

“ไม่เคย”

รเณศพูดทั้งน้ำตา

“ผมไม่เคยเกลียด”

“เนตร”

“แต่ผมไม่เคยคิดที่จะกลับไปแล้วเป็นเหมือนที่แล้วมา...ไม่เคยเลย”

เตวิชชาดิกไปทั้งตัว

ความรักแท้จริงหลุดลอยไปแล้ว แววตาของรเณศบอกทุกอย่าง เขาได้สูญเสียหัวใจไปตลอดกาลแล้ว เตวิชกลืนน้ำลายที่รู้สึกขมปร่าลงคอ

“เราเริ่มกันใหม่ไม่ได้จริงๆ เหรอเนตร”

รเณศส่ายหน้าไปมา

“เนตรไม่เหลือหัวใจให้พี่เลยเหรอ”

“หัวใจของผม ผมยกให้คนอื่นไปแล้ว ผมให้เขาแล้วไม่มีวันขอคืน”

“เนตร”

“ขอโทษนะครับ”

รเณศพูดเสียงสั่น “ผมรักคนอื่นแล้ว”

“ไอ้เพลิงงั้นเหรอ”

เตวิชตาแดงก่ำ น้ำตาคลอเพราะความรู้สึกอัดอั้นที่ประทุอยู่ในอก

เขาแพ้ไอ้เพลิง...แพ้ไอ้ลูกเมียน้อย

เพลิงที่เติบโตมาท่ามกลางความรังเกียจของญาติพี่น้องฝั่งบิดา เด็กที่กระเสือกกระสนจนมาไกลได้ถึงขนาดนี้ แม้ศศิกุลนารถจะไม่เหลียวแล แต่มันยืนหยัดมาได้เพียงลำพัง เตวิชพูดไม่ออกเขาได้แต่ปล่อยน้ำตาให้ไหลริน

“เป็นไอ้เพลิงจริงๆ ใช่มั้ย”

ความเงียบของรเณศคือคำตอบของทุกอย่าง


.


.


เพลิงชะงักปลายเท้าตอนที่เห็นร่างสูงของพี่ชายต่างมารดามาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า สีหน้าย่ำแย่และใบหน้าแดงก่ำนั่นดูไม่ได้ หัวไหล่ลู่ลงเหมือนคนหมดแรงสิ้นสภาพ เตวิชผู้เคยยิ่งใหญ่กลับพังภินท์ได้ขนาดนี้เชียวหรือ ฝ่ายนั้นเหลือบตามองเขาก่อนจะพูดขึ้นว่า

“กูเกลียดมึง”

แล้วเดินชนหัวไหล่เขาออกไป

เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะทำหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นรเณศมาหยุดยืนตรงหน้า

“กอดผมเดี๋ยวนี้”

รเณศพูดเสียงสั่น แม้เพลิงจะไม่เข้าใจแต่เขาก็ขยับไปใกล้แล้วโอบกอดคนเมืองเอาไว้แน่น

“ผมขอโทษ”

“ไม่อยากฟัง”

คนเมืองเอียงใบหน้าซบที่แผ่นอกกว้างก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้

“ขอโทษครับ”

“พูดไปเรื่อยๆ นะ พูดไปจนกว่าผมจะให้อภัย”

“ขอโทษนะเนตร”

“คุณมันใจร้าย”

“เนตร ไม่ว่าอดีตคุณจะเป็นยังไงก็ตาม ขอให้รู้ไว้ว่าผมยังเก็บรักษาดอกไม้สีแดงของคุณอยู่เสมอ แม้ว่าวันหนึ่งมันจะแห้งกรอบเป็นผุยผงและสูญสลายไปตามกาลเวลา แต่ผมยังจำความรู้สึกที่ได้รับดอกไม้สีแดงจากคุณได้ไม่ลืม”

“กอดผมให้แน่นขึ้น”

รเณสสั่งไปสูดน้ำมูกไปด้วย

“จำเอาไว้นะเพลิง”

“...”

“คุณต้องชดใช้การโกหกครั้งนี้ด้วยการดูแลผมไปทั้งชีวิต”

เพลิงยิ้มน้อยๆ ก่อนจะกดจูบที่ขมับอีกฝ่าย

“ด้วยความยินดีครับ”


☘☘☘☘


อาทิตย์แล้วป่วยค่ะ เลยหายไปหนึ่งอาทิตย์
ตอนนี้ #ป่าห่มรัก ดำเนินมาโค้งสุดท้ายแล้วน้า อีก 2 ตอนก็จะจบแล้วค่ะ สำหรับเรื่องนี้เราส่งให้สนพ.เดิม
นะคะ แพลนหนังสือออกประมาณปลายปี ในเล่มนี้แพลนตอนพิเศษในเล่มไว้ประมาณ 5 ตอนค่ะ

และเรามีโปรเจ็กต์พิเศษคือแพลนว่าจะทำมือ #ป่าห่มรัก "เล่มพิเศษ" ใครที่คิดถึงพี่ปืนน้องแรกจาก #ค่ายสร้างรัก
และ พี่ฟ้าน้องธรจาก #จุดหมายคือท้องฟ้า ทุกคนจะมาโผล่ในเล่มพิเศษเล่มนี้แล้วทำภารกิจพิเศษไปกับพี่เพลิงและน้องเนตรน้า เราแพลนคร่าวๆ ว่าเล่มพิเศษคงราวๆ 80-100 หน้า และ "รายได้ส่วนหนึ่ง" ของเล่มพิเศษเราจะบริจาคให้ "มูลนิธิสืบนาคะเสถียร" เพื่อเป็นทุนช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่า สำหรับโปรเจ็กต์นี้คาดว่าจะปล่อยช่วงปลายเดือนกันยานี้

ปล. สำหรับแพลนเล่มพิเศษยังเป็นแพลนคร่าวๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้นะคะ  - -"

#ป่าห่มรัก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 29-07-2019 21:25:38
 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 29-07-2019 21:43:43
ยังร้องไห้กับการระลึกถึงเปลวในทุกบรรทัด
เพราะมันไม่ใช่แค่เปลวคนเดียว แต่สื่อไปถึงผู้พิทักษ์ป่าทุกคนที่สละชีวิต ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อพวกเราเสมอ

ใกล้จบแล้ว...และขอบคุณมาก ที่ทำการบ้านเพื่อเขียนเรื่องนี้ให้เราได้เห็นภาพการทำงานอันยากลำบากของผู้พิทักษ์ป่าทุกคนค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-07-2019 22:41:06
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kik_taki ที่ 29-07-2019 23:11:35
น้ำตาซึมเลยตอนอ่านถึงเปลว ขอบคุณนะคะที่เขียนเรื่องดีๆแบบนี้ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละเพื่อพวกเรา
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 29-07-2019 23:17:11
ดีแล้วที่เข้าใจกันและยอมรับกันและกันได้  o13
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Aimlovelove ที่ 29-07-2019 23:55:13
น้ำตาคลอไปกับความเสียสละที่เป็นเรื่องจริงที่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็น
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 30-07-2019 00:21:46
เหมือนประโยคขอแต่งงาน  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 30-07-2019 00:34:25
นึกว่าเนตรจะโกรธ เกลียดเพลิงจนไม่กลับมามองหน้าซะอีก.   :mew2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 30-07-2019 00:34:32
น้ำตาไหลเป็นทางเลยจริง ๆ ตอนที่เปลวถูกยิง T^T
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 30-07-2019 07:57:15
ยังคิดถึงเปลวอยู่อ่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 30-07-2019 15:12:44
ไอ้พวกอิทธิพลนิ่มันเลว

ทั้งชีวิตจริงและนิยาย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 30-07-2019 15:23:34
อืม เรามองว่าเพลิงไม่ได้โกหกอะไรเนตรนะ คือเขารู้ว่าเนตรคือคนรักเก่าของพี่ชายต่างแม่ แล้วยังไง เพลิงต้องบอกเหรอว่าตัวเองมีวงศาขณาญาติอะไรที่เกี่ยวข้องกับเนตร ไม่เห็นถึงความจำเป็น แล้วตัวเนตรเองเคยถามเพลิงเหรอ เรามองแบบนี้นะ

แล้วเราก็ซึมทุกครั้งกับการสูญเสีย แก้มใสเลือกป่าป๊าเองแล้ว ป้อเปิงงง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 30-07-2019 16:08:13
ทำเกินกว่าเหตุ โห...อำนาจเงินก็งี้ เห็นหลายคดีแล้ว  :seng2ped:
ใจหายแว๊บบบ เลย อีก 2ตอนจบ แล้วหรือนี้  :L2:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 31-07-2019 00:39:32
 :pig4: :pig4: :pig4:

นึกว่าเตวิชจะร้ายกว่านี้มากมาย ไหงถอยทัพไปแบบง่าย ๆ 555
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 31-07-2019 09:27:29
อ่านทุกตอนต้องลุ้นให้ทุกคนปลอดภัย :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 31-07-2019 12:33:22
เปลวเป็นเหมือนตัวเเทนถึงผู้พิทักษ์ป่าทุกคน มันสะท้อนใจกับความจริงที่เจ็บปวด...

พี่เพลิงไม่ได้ตั้งใจ เนตรก็แค่น้อยใจ แค่คำว่า ''..ขอโทษครับ'' ใจก็อ่อนยวบแล้ว ฮือออ :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 31-07-2019 12:49:47
เตวิชยอมง่ายไปป่าวเนี่ย​  :hao4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 31-07-2019 20:53:14
รักผช. แบบเพลิงจัง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Plakhem ที่ 31-07-2019 20:58:34
 :m15: สงสารแก้มใส  :monkeysad: สงสารเปลว  :m16: โกรธพวกเล่นพรรคเล่นพวก พวกขี้โกง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 31-07-2019 21:30:17
 :m15:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 31-07-2019 22:18:08
 :pig4:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 02-08-2019 11:47:15
 :hao3: :hao3:  คิดถึงคุณเพลิง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaamnutt ที่ 03-08-2019 06:01:43
น้ำตาท่วมจออออ  :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 03-08-2019 16:19:58
ชีวิตจริง ก็มีเรื่องเศร้า ดีใจ เสียใจ ขอบคุณเพลิงที่เข้มแข็งขึ้น ไว้ดูแลแก้มใสกับเนตรให้ดีๆ นะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 03-08-2019 23:14:49
        เปลวเค้าทำหน้าที่ของเค้าดีที่สุดแล้วTT
นี่แค่นิยายนะการสูญเสียในชีวิตจริง
มันโหดร้ายกว่ามาก
       ไม่กี่คนเฝ้ารักษา แต่ หลายคนจ้องทำลาย
  แค่คิดถึงตรงนี้ใจก็ร้าวละค่ะ :mew4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [24] #ป่าห่มรัก [29.07.62] P.21 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 05-08-2019 08:48:56
อ่านไปน้ำตาซึม ตอนท้ายหวานเลย :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 05-08-2019 20:55:58
[ 25 ]


รเณศนั่งอยู่ตรงริมธารแล้วหย่อนปลายเท้าจุ่มลงไปในพื้นน้ำเย็นสบาย มือทั้งสองคว้าเอาเสื้อตัวหนึ่งจุ่มน้ำแล้วขยี้รอยเปื้อน ระหว่างนั้นหญิงชาวบ้านที่คุ้นเคยกันดีก็เดินหอบเสื้อผ้ามากองโต แม่ลูกอ่อนยิ้มกว้างเมื่อเห็นเขา เธอแสดงความปรีติยินดีทั้งที่รอบดวงตาปวดช้ำและแดงก่ำไม่น้อย

“ซูเนียน”

คนเมืองเอ่ยทักเมื่อเธอเดินมาหยุดอยู่ข้างกัน

“คุณรเณศ”

“มาซักผ้าหรือครับ”

“จ๊ะคุณ”

“ผ้ากองโตขนาดนี้ถือมาคนเดียวไหวได้ยังไงครับ” รเณศทักขึ้น “ไม่ให้ซาถือช่วยล่ะครับ”

ซูเนียนชะงักไปเล็กน้อยไปแล้วน้ำตารื้อออกมาทันที

“พี่ซามาสารภาพกับฉันจ้ะคุณ”

“...”

“เขาบอกว่าเคยรับจ้างพ่อเฒ่าดูต้นทางให้พวกคนไม่ดีเขาไปตัดไม้ในป่า” หญิงสาวทำหน้าเหยเก “พี่ซามีส่วนทำร้ายป่าไม้บ้านเรา”

“...”

“ผืนป่าที่ผู้ช่วยสอนให้รักษา”

รเณศถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะขยับไปกุมมือหญิงสาวเอาไว้ เนื้อตัวซูเนียนสั่นระริกจนต้องลูบบ่าปลอบประโลม

“แต่สุดท้ายซาก็ช่วยทุกคนเอาไว้ได้นะ”

คนเมืองปลอบใจหญิงสาวที่ดูผิดหวังในตัวสามีของเธอไม่น้อย เพลิงเล่าทุกอย่างให้เขาฟังว่าเพราะความช่วยเหลือของซาคนรักเขาถึงรอดมาได้ เพลิงจึงพาซาและพวกเข้าพบตำรวจเพื่อรับสารภาพความผิดก่อนจะกันตัวไว้เป็นพยานเนื่องจากซาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่

แน่นอนว่าการที่พ่อเฒ่าผู้นำทางจิตวิญญาณซึ่งเป็นที่เคารพของคนในหมู่บ้านกระทำผิดร้ายแรงอย่างการเป็นหนึ่งในกระบวนการตัดไม้เถื่อนจนถูกยิงเสียชีวิตในป่านั่นเป็นที่โจษจันไปทั่ว สภาพจิตใจของคนที่หมู่บ้านท้ายเขาน่าเป็นห่วงจนเพลิงและเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาดูแล

เพลิงยังคงทำงานรักษาป่าเหมือนเดิม ถึงแม้เขาจะกังวลเรื่องที่ฝ่ายนั้นถูกตั้งข้อหาเรื่องกระทำเกินกว่าเหตุ แต่เพลิงกลับทำเฉยซ้ำยังใช้ชีวิตปกติจนข่าวคราวเรื่องนั้นหายไป รเณศพอจะรู้ว่ามีผู้ใหญ่ที่ส่วนกลางมองเห็นการกระทำของเพลิงจึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เพลิงจึงสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติแม้ระยะหลังนอกจากภารกิจที่ต้องทำ เขามักแวะมาที่หมู่บ้านท้ายเขา ซึ่งบางครั้งรเณศก็ติดสอยห้อยตามมาด้วยอย่างเช่นครั้งนี้

“แต่พี่ซาทำไม่ดีนะจ๊ะคุณ”

“ซูเนียน”

รเณศลูบบ่าอีกฝ่าย “ถ้าไม่ได้ซา ผู้ช่วยและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ อาจจะมีอันตรายมากกว่านี้นะ”

ซูเนียนร้องไห้เงียบๆ

“คนเราถ้าทำผิดแล้วรู้จักปรับปรุงตัวได้ เราก็ควรให้อภัยและให้โอกาสเขานะ”

“ถ้าตัวเองทำผิดซะเอง แล้วจะมีหน้าที่ไหนไปสอนลูกสอนหลานได้”

หญิงสาวยังทำเสียงขุ่นทั้งนี้สีหน้าดูอ่อนลงมากแล้ว

“ดีเท่าไหร่แล้วที่ผู้ช่วยแกช่วยเหลือไม่ให้ พี่ซาติดคุกไปกับพวกไอ้พ่อเฒ่า”

“...”

 “บุญคุณของผู้ช่วยที่ช่วยเหลือ ซูเนียนไม่มีทางลืมเลย”

“เพราะซาทำดีต่างหาก เพราะเขากลับตัวกลับใจ ความดีที่ทำจึงคุ้มครองเขา”

รเณศทำหน้ายิ้มๆ เมื่อมองไปด้านหลังหญิงสาวเห็นสีหน้าของผู้เป็นสามีที่ยืนหลบอยู่หลังต้นไม้ด้วยสีหน้าไม่ดีนัก คาดว่าคงจะได้ยินบทสนทนาทั้งหมดแล้ว

“ให้อภัยเขาเถอะนะ ชีวิตคนเรามันไม่แน่ไม่นอนหรอก”

รเณศนึกถึงการพบเจอความสูญเสียที่ผ่านมาทั้งหมดในชีวิต “วันนี้เราได้พบดคุย ได้เห็นหน้า พรุ่งนี้เขาอาจจะไม่ได้อยู่กับเราแล้ว”

“...”

“การพลัดพรากมันเป็นตลกร้ายที่ทุกคนต้องได้พบเจอนะ”

“...”

“ทำดีต่อกัน ให้อภัยกัน และรักกันให้มากๆ ในวันที่ยังมีโอกาสได้ทำ”

รเณศพึมพำก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้านึกถึงเด็กหนุ่มที่จากไปก่อนวัยอันควร ซูเนียนมีท่าทีที่เย็นลงแล้วเขาจึงผุดลุกขึ้นคว้าเอาเสื้อผ้าที่ซักจนสะอาดแล้วติดมือผละออกไป เป็นจังหวะที่ซาเดินเข้ามาแล้วก้มศีรษะให้เขาเป็นเชิงขอบคุณ


.


.


หลังจากตากผ้าเสร็จแล้วในช่วงบ่ายแก่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กๆ ในหมู่บ้านนำมาก่อนที่กลุ่มคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะเดินมาถึงลานกลางหมู่บ้าน

“ปลูกป่าสนุกมากเลยจ้ะผู้ช่วย”

เด็กคนหนึ่งพูดไปหัวเราะไปท่าทางมีความสุข

“วันหลังไปกันอีกนะ”

เพลิงยิ้มน้อยๆ

“ปลูกแล้วต้องหมั่นดูแลรดน้ำนะ”

“ครับ”

“หนูจะรอดูวันที่มันสูงเท่าหนู”

“ผมจะไปรดน้ำมันทุกวัน”

“ผมด้วย”

เด็กๆ แย่งกันพูดจนเพลิงหัวเราะออกมา ท่าทางหัวเราะอย่างเป็นธรรมชาติจนรเณศที่แอบมองอยู่ยิ้มตาม ก่อนหน้านี้เขาจินตนาการไม่ออกหรอกว่าเพลิงอยู่ท่ามกลางเด็กๆ แล้วจะเป็นยังไง จนกระทั่งวันที่เห็นเพลิงสอนเด็กๆ ให้รักษาป่าในครั้งนั้น และภาพเพลิงยิ้มหัวกับเด็กๆ ในวันนี้ รเณศยอมรับเลยว่าชายหนุ่มอยู่ท่ามกลางเด็กน้อยได้อย่างกลมกลืน

ดูเอาเถอะเสื้อผ้าชุดลายพรางเลอะเปื้อนโคลนตมไม่ต่างจากเสื้อผ้าของเด็กๆ เหมือนชายหนุ่มเป็นหัวหน้าแก๊งเด็กโข่งด้วยซ้ำ เฮ้อ พากันไปปลูกป่ายังไงถึงได้หน้าตามอมแมมกลับบ้านแบบนั้น

“พวกหนูจะช่วยผู้ช่วยดูแลป่า”

“ดีมาก”

เพลิงลูบศีรษะเด็กน้อย

“จำเอาไว้นะ ป่าที่พวกหนูปลูกในวันนี้มันอาจจะใช้เวลาสิบหรือยี่สิบปีกว่าจะเป็นร่มเงาให้เราได้ แต่เมื่อถึงวันนั้นเราจะภูมิใจว่าต้นไม้ที่เราขุดหลุมโกนดินเพื่อปลูกด้วยสองมือนั้น มันเติบโตมาได้เพราะมือทั้งสองนั่นแหละ ฉะนั้นสองมือที่ปลูกไม้ อย่าเป็นสองมือที่ทำลายมันนะ”



☘☘☘☘



ค่ำแล้วตอนที่เห็นเพลิงยืนเหม่อมองท้องฟ้าจากกระท่อมไม้ติดกับบ้านของลุงซอยาง เวลาค่ำมืดที่ความเงียบโรยตัวไปทั่ว แทบทุกบ้านดับตะเกียงไฟเข้านอนกันหมดแล้ว หากเป็นเมืองใหญ่ความมืดมิดไม่ใช่อุปสรรคในการใช้ชีวิตเลย เมืองหลวงเต็มไปด้วยแสงไฟ ผู้คน และความสะดวกสบายต่างจากที่นี่ราวอยู่กันคนละโลก

เมื่อก่อนความเงียบมันน่ากลัวไม่น้อยสำหรับรเณศ แต่ในตอนนี้เขาดันตกหลุมรักความเงียบนี้แล้ว เพราะความเงียบนั้นทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง ได้นั่งคิดพิจารณาสิ่งรอบกายให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น คนเมืองขยับมายืนเคียงข้างเพลิงแล้วเหม่อมองดวงดาวบนท้องฟ้า

“ดาวที่นี่สวยจัง”

เพลิงพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะเบือนหน้ามาทางเขา รเณศยิ้มน้อยๆ ตอนที่เพลิงขยับมายืนซ้อนหลังแล้วโอบกอดเขา

“ผมหนาว”

“...”

“ขอกอดแน่นๆ ได้มั้ยครับ”

รเณศไม่ตอบแต่เขาเลื่อนมือไปกุมทับแขนที่โอบกอดเขาอยู่

“นั่นดาวเหนือ”

เพลิงชี้นิ้วยังกลุ่มดาวที่อยู่ไกลสุดสายตา แสงของมันพราวระยับเป็นความสว่างไสวน่าจับตา

“มันเป็นดาวนำทาง”

รเณศทำหน้าสนใจ

“ดาวเหนือมีความสำคัญกับนักเดินทาง เพราะมันจะบอกทิศทาง ขณะที่ดาวอื่นๆ จะเปลี่ยนกลุ่มดาวตามแต่ฤดูกาล เพราะการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์”

คนเมืองพิงซบศีรษะไปที่แผ่นอกกว้างแล้วปล่อยตัวให้ผ่อนคลายนิ่งฟังเสียงทุ้มที่เอ่ยขึ้นเบาๆ ใกล้หู

“แต่ดาวเหนือจะอยู่ทางทิศเหนือเสมอ”

“คุณเคยใช้ดาวเหนือนำทางมั้ยครับ”

เพลิงพยักหน้าหงึกหงัก

“เคยสิ”

ปลายนิ้วแข็งแรงของเพลิงลูบปลายนิ้วของรเณศคล้ายจะเย้าแหย่

“มันใช้นำทางพวกเราลาดตระเวนตอนกลางคืนในกรณีจำเป็นน่ะ”

เพลิงอธิบายยิ้มๆ

“แต่นานๆ ครั้งเท่านั้น เพราะการลาดตระเวนตอนกลางคืนมีความเสี่ยงด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง”

รเณศพยักหน้าหงึกหงัก

“แล้วคุณเคยหลงป่ามั้ยครับ”

“ถ้าตอบว่าเคย คุณจะหัวเราะผมมั้ยเนี่ย”

รเณศกลั้นขำก่อนจะยิ้มจนตาหยี

“ไม่หัวเราะครับ แต่ขอยิ้มนิดนึงได้มั้ย”

ฟอด!

คนเมืองสะดุ้งโหยงเมื่อถูกขโมยจูบที่แก้มด้านหนึ่ง

“ผมเคยหลงไปกับเจ้าหน้าที่สองคนในป่าลึก นานเกือบสองวัน”

“แล้วทำยังไงครับ”

รเณศทำหน้าสนใจ

“ก็หาทางออก”

“ยังไง”

“เรามีเข็มทิศ และดาวนำทาง”

“สุดท้ายคุณก็หาทางออกเจองั้นเหรอ”

รเณศตื่นเต้นไปด้วย

“ครับ”

เพลิงยิ้มน้อยๆ

“ผมหาเจอ ไม่รู้คุณจะเชื่อมั้ย”

“เชื่ออะไรงั้นหรือ”

“เพราะป่าทำให้ผมหาทางออกเจอ”

“ป่าน่ะหรือครับ”

“ทุกครั้งที่มองผืนป่า ผมรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน”

“...”

“มันเหมือนมีประตู”

“คุณรู้ได้ยังไง”

เพลิงยิ้มน้อยๆ ก่อนจะรวบมือของเขามากุมไว้แล้วเลื่อนมาที่แผ่นอกด้านซ้าย

“ข้างในนี้มันบอก”

รเณศทำหน้าเจ้าเล่ห์ก่อนจะทำทะเล้นเพ่งมองไปที่หน้าอกด้านซ้ายของเพลิง

“ไหนดูสิข้างในนี้มีอะไร”

“คุณไม่เห็นตัวเองในนั้นเหรอ”

เภสัชกรหนุ่มรู้สึกว่าความร้อนแล่นมากองกันอยู่ที่แก้มทั้งสองข้าง ชายหนุ่มเลยกระแอมไอก่อนจะเสหน้าไปทางอื่น

“ผมไม่เห็นอะไรทั้งนั้นแหละ”

“มองดีๆ สิครับ”

เพลิงพูดเย้า

“ไม่เห็นอะไรเลย”

รเณศแกล้งปิดตาตัวเองก่อนจะบ่นงึมงำว่ามองไม่เห็นอะไร เพลิงเลยเอื้อมมือไปจับมือของรเณศให้ละออกจากใบหน้า คนเมืองกลั้นยิ้มหลับตาหยีทั้งที่ร้อบวูบวาบไปทั่วตัว

“ลืมตาแล้วมองสิครับ”

“มองแล้วจะเห็นอะไร”

รเณศยังยียวนต่อ

“มองก่อนสิ”

เพลิงกระซิบตรงขนอ่อนพาให้คนขี้อายขนลุกซู่

“ไม่เห็นอยากดูเลย”

รเณศทำหน้างึมงำ

“ดูหน่อยเถอะ”

“ฮื่อ”

คนเมืองแกล้งหรี่ตาข้างหนึ่งก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาเห็นใบหน้าคมคายกำลังยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน

“คุณเห็นตัวเองในตาผมมั้ย”

“ใครจะไปเห็นมืดจะตาย”

รเณศแกล้งบ่นก่อนจะหรุบตามองพื้น

“จริงเหรอ”

“ฮื่อ”

ใครจะกล้าพูดล่ะว่าถึงไม่เห็นเพราะความมืดมิด แต่เขารับรู้ได้ด้วยหัวใจ

“คุณรู้ตัวมั้ย”

“...”

“ว่าคุณอายน่ารักมาก”

“ก็พอจะรู้”

รเณศแกล้งตอบด้วยท่าทางขึงขังเพราะกลบเกลื่อนอาการเก้อเขินของตัวเอง

“รู้ว่า...”

“รู้ว่าคุณรักผม”

คนเมืองพูดเสียงแผ่ว

“คุณเก่ง”

อีกแล้ว เพลิงกระซิบที่ขนอ่อนเขาอีกแล้ว

ให้ตายเถอะ!

“เนตร”

“ครับ”

“คุณเห็นดาวเหนือนั่นชัดเจนมั้ย”

เพลิงถามแล้วชี้นิ้วไปยังดวงดาวที่สุขสกาวนั่น

“ถึงจะรู้ว่าระยะห่างจากผมกับดาวเหนือมันไกลกันมาก แต่ผมมองเห็นมันได้ชัดเจนครับ”

“เหมือนกัน”

เพลิงขยับมาใกล้แล้ววางปลายคางเหนือศีรษะเขา ตอนนี้รเณศจึงหลุดเข้าไปในอ้อมกอดเพลิงอีกครั้ง

“คุณคือดาวเหนือที่อยู่ปลายสะพานแสงดาวอีกด้านของผม”

รเณศยิ้มกว้าง

“คุณส่องประกายให้ผม แสงของคุณมันสาดมาถึงตัวผม”  เพลิงกระซิบบอก “ผมมองเห็นคุณอยู่เสมอเนตร ไม่ว่ารอบกายผมมันจะมืดมิดขนาดนี้ไหน ผมมองเห็นคุณเสมอ”

“เพลิง”

รเณศลูบมืออีกฝ่าย

“คุณสว่างมากเนตร คุณทำให้ความมืดในใจผมหายไป”

“ผมรู้”

รเณศยิ้มน้อยๆ

“ส่องแสงให้ผมแบบนี้ตลอดไปนะ อย่าจากผมไปไหน”

รเณศส่ายหัวไปมาก่อนจะหันกลับไปซุกใบหน้าที่อกของเพลิง

“ไม่ไป”

เพลิงกอดเขาแน่น

“ไม่เคยคิดจะไปไหนเลย”

“เดินไปพร้อมผมนะ”

“...”

“จับมือกับผม ส่องแสงให้ผมไปจนสุดปลายทางนะเนตร”

“ครับ”

รเณศเงยหน้ารับจูบที่อ่อนหวานจากเพลิง มือใหญ่โตของเพลิงประคองใบหน้าเขาเอาไว้แล้วโน้มใบหน้าลงมาจูบเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า รเณศเลื่อนมือไปเกาะที่เอวสอบของอีกฝ่าย ตอนที่เพลิงเลื่อนมือข้างหนึ่งไปลูบไล้แผ่นหลังของเขา เสียงลมหายใจสั่นสะท้าน เสียงครางกระเส่านั่นทำให้คนที่เผลอปล่อยเสียงน่าอายออกไปรู้ตัวเลยเงอะงะทำตัวไม่ถูก

“คุณน่ารัก”

“อื้อ”

“และผมรักคุณ”

“อ๊ะ”

“คำฮักน้อง ปี้จักเอาไว้ในอกในใจตัวปี้นี้ ตราบเสี้ยงชีวิต”

รเณศตาพร่าตอนที่เพลิงกระซิบชิดริมฝีปากเขา



☘☘☘☘


แสงไฟสลัวในสถานบันเทิงเลื่องชื่อทำให้มองเห็นบุคคลมากมายที่เข้ามาหาความสุขยามค่ำคืนได้เพียงเลือนราง ท่ามกลางผู้คนมากมายที่รายล้อมตัวไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เพียงลำพังในโซนด้านในสุดสนใจอะไรนอกจากแอลกอฮอล์ตรงหน้า

ดวงตาสีเข้มเหม่อมองไปในความมืดก่อนจะยกน้ำสีอำพันในแก้วขึ้นดื่ม แม้จะมีใครต่อใครเมียงมองมา แต่เขาไม่ละสายตาไปไหนเลยนอกจากแอลกอฮอล์คลายทุกข์

“ผมนั่งด้วยคนได้มั้ย”

อีกฝ่ายไม่รอคำอนุญาตแต่ถือวิสาสะทรุดตัวนั่งตรงกันข้ามกับเจ้าของโต๊ะทันที

“อย่ามายุ่งกับกู”

เตวิชพูดเสียงเรียบก่อนจะควักบุหรี่ขึ้นมาสูบ ท่าทางไม่แยแสโลกของอดีตทันตแพทย์ผู้เนี๊ยบไปทั้งตัวนั่นสมกับที่ข่าวหน้าสังคมตีข่าวกระพือไปไกล เตวิชถูกอดีตภรรยาฟ้องหย่าพร้อมเรียกร้องทรัพย์สินและค่าดูแล ส่วนข้อหาร้ายแรงที่ทำให้ทั้งสังคมโจษจันคือเตวิชเป็นเกย์และมีคู่ขาซุกอยู่ข้างกาย แน่นอนว่าข่าวฉาวนั่นถูกสาวไส้กันอย่างไม่รู้จักจบสิ้นเพียงเพราะอีกฝ่ายเป็นที่จับตามองจากสังคม

เตวิชเหมือนคนเสียศูนย์

ข่าวคราวนั้นทำให้ชายหนุ่มมาใช้ชีวิตเละเทะในสถานที่แห่งนี้ แวบหนึ่งคนมองนึกถึงท่าทางหยิ่งผยองของเตวิชเมื่อก่อนที่ต่างจากสภาพตอนนี้ไกลโข

“ผมว่าคุณเมาแล้ว”

“เสือก”

ธามโคลงศีรษะไปมา

“ด่ายังไงผมก็ไม่สะทกสะท้านหรอก แต่คุณนี่สิเล่นเมาเละเทะลงหนังสือพิมพ์ทุกวันแบบนี้ นักข่าวได้ขายข่าวกันสนุกแน่”

“เหรอ”

เตวิชแค่นยิ้ม

“ที่ชีวิตกูเป็นแบบนี้ก็เพราะไอ้เพลิงน้องมึงนั่นแหละ”

ธามมุ่นหัวคิ้ว

“เกี่ยวอะไรกับเพลิง”

“มันทำให้ชีวิตกูดิ่งลงเหวไง”

“แน่เหรอว่าเป็นเพราะน้องชายตัวเอง”

“กูไม่เคยนับมันเป็นน้อง”

เตวิชพูดเสียงกร้าว ขณะที่อีกฝ่ายถอนหายใจแรงๆ

“ก่อนจะโทษคุณอื่น คุณได้ก้มดูตัวเองก่อนมั้ยว่าที่เรื่องมันเป็นแบบนี้เพราะอะไร เพราะคุณหรือเพลิงกันแน่”

เตวิชนั่งอึ้ง

“ไอ้เหี้ยนั่นมันแย่งแฟนกู”

ธามส่ายหัวแรงๆ

“กล้าพูดนะ ทั้งๆ ที่ตัวเองมีภรรยาอยู่แล้ว โอ๊ะ ไม่สิว่าที่อดีตภรรยาต่างหาก”

“มึง”

เตวิชกัดฟันแน่น

“คุณโทษไอ้เพลิงหามันแย่งแฟนคุณ โทษที่มันเป็นลูกเมียน้อย แล้วเคยก้มมองดูตัวเองมั้ยว่าเพราะอะไรคุณถึงรักษาความรักเอาไว้ไม่ได้”

เตวิชนิ่งไป

“ไม่มีใครรู้ดีกว่าตัวคุณเอง คุณเตวิช”

“...”

“เพราะอะไรถึงรักษาสถานะสามีภรรยากับคุณนีรกุลได้”

“...”

“เพราะอะไรถึงรักษาแฟนตัวเองเอาไว้ไม่ได้”

“...”

“อย่าโทษคนอื่นเลย คุณทำตัวเองทั้งนั้น”

เตวิชเหมือนถูกความจริงกระแทกใส่ คำพูดของธามเหมือนน้ำเย็นที่แช่น้ำแข็งจนเย็นจัดสาดใส่หน้า ความรู้สึกเจ็บเพราะถูกความเย็นกัดเซาะผิวหนังนั่นทำให้เขาเจ็บแสบ

ธามพูดถูกทุกอย่าง

เขารักษาชีวิตครอบครัวไม่ได้เพราะรู้ตัวเองดีว่าผู้หญิงไม่ใช่คำตอบของชีวิตคู่ ถึงได้หาความสุขจากที่อื่นมาเติมเต็มจนถูกอดีตภรรยาจับได้ว่าเขาเป็นเกย์ เขารักษารเณศเอาไว้ไม่ได้เพราะไม่กล้าพอที่จะพาฝ่ายนั้นมายืนเคียงข้างกันท่ามกลางสายตาของครอบครัว เขาขี้ขลาดเกินไป ยิ่งรู้ว่าเสียรเณศให้กับน้องชายต่างมารดาที่เกลียดเข้าไส้เขาจึงนึกเจ็บแค้นสุดบรรยาย

ที่ทุกอย่างมันพังทลายลงเพราะตัวเขาเองทั้งหมด

เป็นความจริง

เตวิชแค่นยิ้มดวงตาสีแดงก่ำกำลังสะกดกลั้นความรู้สึกจุกอกที่กำลังล้นเอ่อออกมาด้วย เขายกแก้ว สีอำพันขึ้นดื่มอีกครั้ง

ดื่มเหล้าเคล้าน้ำตามันเป็นแบบนี้นี่เอง

นี่แหละผลลัพธ์ของการกระทำทั้งหมด


.


.


รเณศตื่นมาตอนเช้านี้เพื่อมาสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า สายหมอกที่ลอยเอื่อยๆ มาใกล้เหมือนจะพัดพาเข้าให้หายไปในกลุ่มหมอกสีจางนั่น คนเมืองรู้สึกหนาวเลยกระชับเสื้อคลุมให้แน่นขึ้นด้วยการกอดตัวเอง ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อรู้สึกถึงแผ่นอกกว้างที่โอบกอดเขาจากด้านหลัง

“หนาวเหรอ”

“ครับ”

“ผมกอดอย่างนี้หายหนาวมั้ย”

“กอดให้แน่นขึ้นอีกหน่อยได้มั้ยครับ”

รเณศร้องขอจนเพลิงยิ้มตาม

“อิจฉาจังเลยครับ”

เสียงแซวของบุคคลที่สามและสี่ซึ่งยื่นยิ้มเผล่อยู่ที่หน้าระเบียงหน้าลุงซอยางดังขึ้น รเณศยิ้มเขินๆ เมื่อเห็นสายตาวิบวับของพลและเกิ้งซึ่งเมื่อคืนอาศัยนอนที่บ้านผู้นำหมู่บ้าน

“กอดกันเองสิจะได้หายหนาว”

เพลิงเอ่ยเย้าพาให้ทั้งคู่ตาเหลือกก่อนจะลูบแขนตัวเองทำท่าขนลุกขนชัน

“ให้ตายเถอะผู้ช่วย แค่เสียงกรนไอ้ห่าพลเมื่อคืนก็ทำให้ผมขนลุกจะแย่แล้ว อย่าให้มากเกินกว่านั้นเลยครับ”

“เมื่อคืนผมกรนเหรอพี่”

“เออสิวะ”

เกิ้งทำหน้าหงุดหงิด

“ไม่ปลุกวะ จะได้พลิกตัว”

“พลิกไปก็เท่านั้นแหละ เสียงเหมือนรถไฟทั้งขบวน”

พลหัวเราะร่วน จังหวะนั้นเจ้าเต็งกำลังเดินท่อมๆ ผ่านหน้าบ้านกันแต่เช้ามืดพอดี

“ไปไหนแต่เช้าวะ”

“ไปดูแปลงผักน่ะพี่”

เต็งตอบยิ้มๆ ก่อนจะทำหน้าม่อยลงเล็กน้อย

“ผมเห็นแปลงผักแล้วก็นึกถึงไอ้เปลวมัน”

“...”

“ถ้ามันยังอยู่คงได้เห็นแปลงผักที่มันนั่งหลังขดหลังแข็งทำให้ชาวบ้านตอนนี้มันใช้ประโยชน์ได้ขนาดไหน”

เต็งทำหน้าเศร้า

“เฮ้อ...พูดแล้วก็คิดถึงมันว่ะพี่”

รเณศยิ้มน้อยๆ เพราะเขาเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน

“ถึงตัวจะไม่อยู่ แต่แปลงผักที่มันทำไว้ก็ยังอยู่นี่”

เพลิงพูดขึ้น

“นั่นแหละสิ่งที่มันหลงเหลือเอาไว้ให้”

ถูกต้องที่สุด

นอกจากชื่อแล้ว สิ่งที่หลงเหลือให้จดจำคือการกระทำ และสิ่งของที่คนเหล่านั้นทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้า มันเป็นยิ่งกว่าความทรงจำ เป็นบันทึกเรื่องราวของคนๆ หนึ่ง เป็นคำเล่าขานให้เล่าสืบต่อกันไป และเป็นบทเรียนทำให้รู้ว่าชีวิตคนเราเหมือนการเดินทาง

ทุกช่วงชีวิตที่ผ่านไปเป็นการเรียนรู้ เข้าใจและเปลี่ยนแปลง

จนกว่าจะได้พบกันใหม่...ภาพจำของคนนั้นๆ จะยังประทับแน่นอยู่ในใจไม่รู้ลืม หากเขาจากไปเพราะ ‘คุณความดี’


☘☘☘☘


สัปดาห์หน้าก็จะจบแล้วจ้า อาทิตย์หน้ามาร่วมส่งท้ายกันนะคะ  :)
ฝากคอมเม้นท์ และติดแท็ค #ป่าห่มรัก ด้วยเด้อ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 05-08-2019 21:15:56
 :mew1:
อยากได้ผช. แบบ เพลิง
อบอุ่นหัวใจ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Plakhem ที่ 05-08-2019 21:27:41
 :mew2:ยืดไปอีกหน่อยได้ไหม อย่าเพิ่งจบเลย :ling1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 05-08-2019 21:42:58
มุมโรแมนติกของผู้ช่วย~~~ ><

คนทำดีจะคงอยู่ในความทรงจำของผู้อื่นเสมอ...คิดถึงเปลวเนอะ ^^
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 05-08-2019 21:56:12
ไม่อยากให้จบเลยยยย   :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-08-2019 22:20:52
ตอนหน้าจะจบแล้วว ใจหายเลย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 05-08-2019 22:56:20
เขินมาก  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 05-08-2019 23:11:40
 :pig4: :pig4: :pig4:

เตวิชจะเสร็จทามไหม? 555
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอย ที่ 06-08-2019 00:33:44
แอบลุ้นคู่เตวิชกับธามแหะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 06-08-2019 01:52:03
พูดถึงน้องเปลวแล้ว ก็ยังอดคิดถึง และใจหายไม่ได้เลย T^T
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Aimlovelove ที่ 06-08-2019 05:34:43
ผู้ช่วยค่ะ ผู้ช่วยก็หยอดเก่งนะเนี่ย เขินนนนนน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 06-08-2019 07:40:55
อิพี่เตวิช จะตื่นเช้าในห้องพี่ธามใหมน๊าาาาา


ผู้ช่วยหวานใหญ่เลย หวานกันใหญ่


้เปลวววววววว
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 06-08-2019 10:00:17
       คิดถึงเปลววววมากเลยค่ะตอนที่อ่านแล้วพูดถึงแปลงผักนี่ขนลุกเลยแบบจะสะอื้นนะ :mew6:
       อะไรร้ายๆก็ผ่านไปหมดเเล้ว ต่อจากนี้ผืนป่าจะกลับมาสดใสด้วยฝีมือของเพลิงและเพื่อนๆ

ความรักของเนตรและเพลิงก็เช่นกัน :mew1:
       นอกเรื่องนีสนึง เตวิช กับธาม นี่จะมีเรื่องของเค้าไหมค่ะน่าสนใจอิอิ
       รออ่านตอนจบนะค่ะและรอซื้อตอนออกวางขายนะค่ะนักเขียน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 06-08-2019 13:09:16
ยังคงคิดถึงเปลว

ฮือออใจบางงงงงง  ผู้ช่วยเพลิงของน้องเนตร อ่อนโยน อบอุ่นหวานละมุนใจเหลืือเกิน :hao5:




หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: fun_la_ong ที่ 06-08-2019 14:35:09
ผู้ช่วยเพลิงไม่ควรมีคนเดียวจริงๆฮือออ อบอุ่นกว่าดสงอาทิตย์แล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 06-08-2019 19:45:58
คุณผู้ช่วยอบอุ่นเหมือนชื่อเลย
คิดถึงเปลวเหมือนกัน จากไปแต่ตัวความดียังมีให้คิดถึงเสมอ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 06-08-2019 20:06:07
หวานไฟ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 06-08-2019 20:18:40
ไม่รู้เลยว่าในป่าจะอบอุ่นขนาดนี้.   o18

คิดถึงเจ้าแก้ม.
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-08-2019 20:32:07
ทุกผู้คนต้องได้รับผลของการกระทำ
คนทำดีย่อมได้ดีมีความสุข
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaamnutt ที่ 06-08-2019 21:15:25
อบอุ่นมากเลยค่ะ อุ่นจนร้อนเลยยยคุณเพลิงงงง ใจหายยยไม่อยากให้จบเลยยยย :ling1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ตุยชิคชิค ที่ 07-08-2019 08:38:10
ผู้ช่วยจะเป็นอะไรมั้ย แงงง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: ตุยชิคชิค ที่ 07-08-2019 08:51:52
ผู้ช่วยยยย ผิดผีแล้วผิดผี
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 07-08-2019 10:30:48
เพลิงอบอุ่นมากเลยนะ มีแบบนี้เหลือๆ สักคนบ้างไหม อิอิอิ
ตอนนี้น่ารักมาก เรื่องร้ายๆ ขอให้ผ่านไปด้วยดีนะ
รักคนเขียนจัง
 :กอด1: :3123: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 07-08-2019 13:35:20
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 07-08-2019 17:43:51
อ่านเรื่องนี้แล้วสงสารเจ้าหน้าที่ป่าไ้ม้จัง​
ทำงานหนักลำบาก​ แต่สวัสดิการค่าตอบแทนน้อย​ ความเสี่ยงสูง​ ต้องมีใจรักจริงถึงทำงานตรงนี้ได้

สงสารเปลว :m15:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 08-08-2019 07:05:26
น้ำตาซึม คิดถึงเปลว แต่ผู้ช่วยนะ โอ้ยยย ผิดผีๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 08-08-2019 07:39:04
น้ำตาไหลคิดถึงเปลวจัง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 08-08-2019 12:50:56
 o13   :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [25] #ป่าห่มรัก [5.08.62] P.22 [Update]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 09-08-2019 19:47:43
หมดน้ำตาไปเยอะ กับสองบทที่สูญเสีย ขอส่งท้ายด้วยความสุขจากนี้ไป
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: [Karnsaii] ที่ 12-08-2019 20:55:12
[ 26 ]

- END -

 


...หนึ่งปีผ่านไป...




“อื้อ”

รเณศครางเสียงอู้อี้ก่อนจะยกมือดันหน้าท้องอีกฝ่ายให้ผละออกเนื่องจากความร้อนรุ่มที่แทรกเข้ามาในกายอย่างแนบสนิท คนเมืองหลับตาปี๋ตอนที่คนด้านบนโถมแรงใส่ ความรู้สึกมากมายที่ท่วมท้นเข้ามาทำเอาคนรองรับตัวสั่น ยิ่งตอนที่ริมฝีปากหนาไล่เลาะไปทั่วใบหน้าแล้วประกบจูบที่ริมฝีปากแล้วค่อยละเลียดเสาะหาความหวานอย่างย่ามใจ

“อื้อ”

“เพลิง”

รเณศครางเสียงสั่นเป็นห้วงๆ ใบหน้าขาวตอนนี้เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ทั้งเนื้อทั้งตัวจับไปส่วนใดก็ร้อนผ่าวไม่ต่างกัน

“อ๊ะ”

เภสัชกรหนุ่มรู้สึกหัวหมุน สมองทำงานเร็วจี๋เมื่อคนตัวโตขยับโยกพาเขาเข้าสู่เส้นทางที่รอคอยและเมื่อพาแตะสู่เส้นชัยนั้น ร่างใหญ่ก็ซุกซบที่ซอกคอเขาก่อนจะพ่นลมหายใจแรงๆ รดที่ขนอ่อนพาให้คนที่ต้องรองรับขนลุกซู่ตัวสั่นขึ้นอีกครา

“แง”

รเณศสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงร่ำไห้ของเด็กน้อย คนเมืองดันหน้าท้องอีกฝ่ายก่อนจะส่งเสียงประท้วง

“ลูกร้อง”

“ครับรู้แล้ว”

เพลิงกระซิบบอกก่อนจะถอนตัวออกไปแล้วผละไปสวมใส่กางเกงวอร์มที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นมาสวม

“นอนเถอะ เดี๋ยวผมไปดูเอง”

เพลิงขยับมากดจูบที่ขมับเขาเมื่อเห็นว่ารเณศกำลังจะผุดลุกขึ้นเช่นกัน

“แต่ว่า...”

“นอนนะ”

สัมผัสที่เปลือกตาทำให้เขายิ้มอ่อนๆ ก่อนจะค่อยหลับตาไปด้วยความเพลีย เพลิงรอจนกระทั่งอีกฝ่ายเข้าสู่ห้วงนิทราก่อนจะสาวเท้าไวๆ ไปยังร่างนุ่มนิ่มที่กำลังแบะปากร้องไห้โยเย เพลิงยิ้มน้อยๆ ก่อนจะช้อนเอาเจ้าตัวกลมที่ตอนนี้น้ำหนักขึ้นจนแทบจับอุ้มไม่ไหวแล้ว

แก้มใสในวัยเกือบสองขวบกำลังน่ารักน่าชัง ช่างเจรจาขี้อายแต่เวลาตื่นนอนใหม่ๆ เอาเรื่องน่าดู

“แง”

“ชูว์”

“ฮือ”

น้ำตาเม็ดโตไหลร่วงริน ท่าทางเด็กน้อยดูไม่สบายตัวจนเพลิงนึกเอะใจ

“แพมเพิร์สตึงแล้วนะเนี่ย”

“ฮึก”

“สงสัยจะไม่สบายตัว”

เพลิงอุ้มเด็กน้อยไปล้างตัวและทำความสะอาดก้นก่อนจะเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ใหม่ นั่นแหละเสียงสะอื้นถึงได้เงียบลงและแทนที่ด้วยรอยยิ้มหวานจ๋อย

“สบายแล้วสิเรา”

“งื้อป้อ”

คำนั้นเหมือนน้ำที่ชโลมรดหัวใจเขาให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เพลิงยิ้มกว้างก่อนจะอุ้มเด็กน้อยออกไปนอกห้อง ตอนนี่ยังเป็นเวลาเช้ามืด แต่เขาเห็นแสงไฟจากครัวด้านล่างคาดว่าป้าสมัยและป้าอนงค์คงตื่นแต่เช้าเพื่อเข้าครัวทำอาหารกันเป็นปกติเช่นทุกวัน

เพลิงกระชับเด็กน้อยในอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ก่อนจะรั้งเอาเสื้อกันหนาวพอดีตัวมาสวมส่วนหัวให้เด็กน้อยเพราะอากาศยามเช้าที่ค่อนข้างหนาว

“หนาวเหรอครับ”

เพลิงเขี่ยแก้มกลม

“หนาววว”

แก้มใสทำตัวสั่นส่ายหัวดุ๊กดิ๊ก

“หนาว ป้อ หนาว”

“งั้นกอดกันแน่นๆ นะ”

แก้มใสรู้ความขยับใบหน้าเอียงซบแผ่นอกเปล่าเปลือยของเพลิงทันที

“เอะอะอะไรแต่เช้าล่ะเจ้าแก้ม”

ป้าอนงค์ที่เดินพ้นหัวบันไดบ้านมาพอดีเอ่ยเย้าเด็กน้อย

“ได้ยินเสียงงอแงกันตั้งแต่ไก่โห่”

“ย่า”

เด็กน้อยทำตาเป็นประกายก่อนจะยื่นมือไปทางผู้มาใหม่ราวกับทักทาย

“เสียงแจ๋วๆ เชียวนะ”

ป้าแกขยับไปบีบแก้มกลมจนเด็กน้อยส่งเสียงประท้วง

“แล้วเจ้าเนตรล่ะผู้ช่วย”

“ยังไม่ตื่นครับ”

ป้าแกพยักหน้าหงึกหงัก

“อีกสักพักวานไปปลุกทีนะผู้ช่วยเดี๋ยวจะสาย ไปงานไม่ทันเอา”

“ครับ”

เพลิงยิ้มรับ

“ย่าไปทำกับข้าวก่อนนะลูก”

“งื้อ”

แก้มใสพยักหน้าหงึกหงักเรียกเสียงหัวเราะจากผู้อาวุโสได้ทันที


.


.


“สาธุ”

เสียงใครต่อใครพากันยกมือรับศีลรับพรหลังจากที่พระพรมน้ำมนต์ วันนี้ที่ทำการอุทยานมีการจัดงานทำบุญประจำปีและทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้พิทักษ์ป่าที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ แน่นอนว่าวันนี้ทั้งป้าสมัย ป้าอนงค์และชาวบ้านใกล้เคียงก็ต่างพากันมาร่วมพิธีนี้ด้วย นอกจากพิธีทำบุญแล้วทางอุทยานยังเชิญพระมาเจิมป้ายหินอ่อนที่จารึกชื่อผู้พิทักษ์ป่าที่เสียสละชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่

ป้ายหินอ่อนนั้นถูกสร้างขึ้นมาใหม่โดยตั้งอยู่กลางสวนหย่อมหน้าที่ทำการอุทยาน เพื่อให้เกียรติแก่ผู้พิทักษ์ที่วายชนม์และเป็นเกียรติกับครอบครัวผู้เสียสละด้วย รเณศมาหยุดอยู่ที่แผ่นป้ายอันหนึ่งแล้วยืนพิจารณารายชื่อบนนั้น

เภสัชกรหนุ่มค่อยบรรจงวางดอกไม้สีขาวตรงแผ่นป้ายนั้นก่อนจะกวักมือเรียกเด็กน้อยแก้มกลมในชุดกระโปรงสีหวานให้เดินมาทางเขา แก้มใสเดินตามแรงจูงของป้าสมัยมาจนหยุดอยู่หน้าป้าย

“แก้มใสครับ”

“งื้อ”

“นั่งลงลูก”

เด็กน้อยทำตามอย่างว่าง่าย

“วางดอกไม้ในมือหนูตรงนี้เลยครับ”

หนูน้อยค่อยประคองดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ในมือวางลงใกล้ๆ กับชื่อบนป้ายหินอ่อน

“ธุจ้าด้วยลูก”

“จ้า”

เด็กน้อยก้มตัวโก้งโค้งประนมมือไหว้อย่างไม่ประสีประสา แต่ท่าทางแบบนั้นชวนให้ผู้ที่มองอยู่นึกเอ็นดูไม่น้อย

“จำไว้นะแก้มใส พ่อหนูชื่อเปลว เป็นผู้พิทักษ์ป่าที่สละชีวิตเพื่อปกป้องผืนป่าให้พวกหนูได้มีป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติมากมายให้เก็บเกี่ยว”

แก้มใสมองเขาตาแป๊ว

“คนเก่ง”

เพลิงซึ่งเดินมาทรุดตัวนั่งข้างๆ ก่อนจะลูบศีรษะบาง

“ขอให้หนูภูมิใจนะลูก ว่าหนูมีพ่อที่ทำหน้าที่โดยสุจริตจนลมหายใจสุดท้าย”

“...”

“พ่อหนูคือผู้พิทักษ์ป่า”

“...”

“คนในชุดลายพรางที่ไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง ไม่ได้มีชื่อเสียง คนที่มีชีวิตเพื่อผืนป่าจนลมหายใจสุดท้าย”

แก้มใสไม่เข้าใจหรอก เด็กน้อยเกาหัวยุ่งๆ ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้เขา

“นี่ป้อเหยอ”

รูปประโยคที่ฟังไม่ชัดหลุดออกมาจากริมฝีปากน้อยๆ มือเล็กๆ ชี้ไปที่แผ่นป้ายหินอ่อนนั้นก่อนจะหันมามองหน้ารเณศสลับกับเพลิง

“ครับ นี่คือตัวแทนของพ่อ”

แก้มใสพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะก้มลงไปทำท่ากอดแผ่นป้ายนั้น

“ป้อ”

รเณศมองภาพนั้นแล้วอดน้ำตาซึมไม่ได้ สภาพเขาไม่ต่างจากป้าสมัยและป้าอนงค์หรอก มีเพียงเพลิงเท่านั้นที่ยืนเงียบๆ เขาจ้องมองป้ายนั้นอยู่อย่างนั้น ไม่มีใครรู้ว่าในใจเพลิงคิดอะไรอยู่ตอนนี้  เพลิงพร้อมกับรเณศและครอบครัวผละออกมาให้คนอื่นๆ ขยับมาวางดอกไม้ ก่อนเดินจากมาเขาหันกลับไปมองป้ายหินอ่อนที่จารึกชื่อด้วยหมึกสีทองซึ่งเขียนว่า



‘เปลว นาเที่ยง

ผู้พิทักษ์ป่าที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ วันที่..... ’
จารึกนั้นมันจะคงอยู่อีกนาน นานเท่านาน เพราะมีคนเล่าขานกล่าวถึงผู้พิทักษ์ที่เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องผืนป่าแล้ว



☘☘☘☘



รเณศเดินตามเพลิงไปยังกระท่อมท้ายป่าที่พักของชายหนุ่มหลังจากฝากฝังเด็กน้อยไว้ๆ กับผู้สูงวัยซึ่งนั่งคุยกับชาวบ้านที่มาร่วมงานอยู่ที่ทำการอุทยานโน่น คนเมืองเดินมาตามทางอย่างคุ้นชินเพราะบางครั้งเขาก็มีโอกาสมาที่นี่บ่อยๆ ในช่วงที่เพลิงงานยุ่งเพราะต้องมาส่งเสบียงให้อีกฝ่าย

ที่พักของเพลิงยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงยังคงเป็นกระท่อมที่ดูไม่น่าอาศัย เป็นสถานที่ห่างไกลความเจริญ แต่ใครจะรู้ว่าผู้อยู่อาศัยนั้นสมถะสมกับที่อยู่อาศัยจริงๆ รเณศเผลอนึกถึงโทรศัพท์ที่ฝาหลังปิดไม่สนิทจนต้องใช้หนังยางรัดที่เพลิงยังใช้อยู่ นึกถึงกระเป๋าตังขาดๆ ที่ตอนนี้ปลดระวางไปแล้วเพราะเขาขอร้องให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใบใหม่ นึกถึงรองเท้าจังเกิ้ลที่เปื้อนโคลนตมเช่นเคย รวมถึงกระเป๋าเป้ที่มอมแมมเพราะเจ้าตัวไม่ได้ใส่จังนัก

รเณศยิ้มกว้างๆ เมื่อนึกถึงทุกอย่างเกี่ยวกับคนตัวโตนั่น

“อ้าว”

เพลิงร้องทักตอนที่เห็นเขาเดินเข้ามาในห้อง เป็นจังหวะที่ชายหนุ่มถอดเสื้อเปลี่ยนพอดี

“เปลี่ยนเสื้อหรือครับ”

“อื้อ”

เพลิงตอบก่อนจะสวมเสื้อลายพรางตัวใหม่ใส่แทน

“ตัวเก่ามันเหม็นกลิ่นเหงื่อน่ะ พอดีช่วงบ่ายจะมีกลุ่มคณะอาจารย์พานักเรียนมาเยี่ยมชมอุทยานกัน ผมเลยต้องไปดูแล”

รเณศพยักหน้าหงึกหงักตอนที่ช่วยเพลิงแต่งตัว

“กลิ่นหอม”

คนเมืองแกล้งขยับไปใกล้แล้วก้มดมเสื้อตัวใหม่ที่มีกลิ่นหอมของน้ำยาปรับผ้านุ่มและกลิ่นแดดหอมสะอาด

“ต้องขอบคุณคนซัก”

เพลิงพูดยิ้มๆ เขาเลื่อนมือมาเกลี่ยแก้มของรเณศเป็นเชิงขอบคุณ

“ถ้าคนซักไม่ใจดี ผมคงได้ใส่แต่เสื้อผ้าเหม็นกลิ่นเหงื่อ”

“ยังไงตัวเก่าเก็บกลับไปให้ผมที่บ้านด้วยนะครับ จะเอาไปแช่น้ำยาปรับผ้านุ่มให้หอมๆ ก่อนค่อยลงมือขยี้”

“คุณซักมือเหรอ”

เพลิงทำหน้าฉงนเพราะไม่เคยรู้มาก่อน

“ครับ”

รเณศพยักหน้า

“ผมกลัวสีเสื้อคุณตก กลัวว่าถ้าซักเครื่องแล้วจะทำให้ผ้ายับและขาดได้ เลยซักมือแทน”

“ทุกตัวเลยเหรอ”

“รวมถึงกางเกงในคุณด้วย”

รเณศพูดขำๆ ขณะที่เพลิงทำตาโต

“นี่แอบซักกางเกงในให้ด้วยเหรอเนี่ย”

“ก็คุณซักผ้าไม่สะอาด”

“เว้นกางเกงในไว้ให้ผมซักเองเถอะเนตร”

“ทำไมล่ะครับ”

รเณศเลิกคิ้ว “ผมซักให้ดีกว่า มันก็เหมือนๆ ผ้าชนิดอื่นแหละ”

เพลิงส่ายหน้าหวือ

“ไม่เอาหรอก”

รเณศขำคิกขึ้นมาทันที

“ขอให้ผมทำอะไรด้วยตัวเองบ้างเถอะ คุณดูแลมากเกินไปแล้ว ทั้งเสื้อผ้า อาหาร ที่หลับที่นอน”

“ไม่เป็นไรผมชอบทำ”

“ผมเกรงใจนะ”

รเณศทำหน้ายุ่ง

“เกรงใจอะไรกันเล่า ช่วยกันได้ก็ช่วยกันไป คุณยังไปช่วยผมปิดร้านยาทุกวันเลย”

“งานแค่นั้นไม่ต้องยกมาพูดก็ได้มั้ง”

เพลิงส่ายหัว

“ผมอยากทำ”

รเณศมองหน้าเพลิงแล้วพูดยิ้ม

“ให้ผมทำเถอะ”

“เนตร”

“ผมอยากดูแลคุณ”

เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนรวบตัวคนเมืองไปกอดแนบอก

“ขอบคุณมากเนตร”

“...”

“ขอบคุณที่ทำเพื่อผมขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ผมทำอะไรให้คุณไม่ได้มากเลย” เพลิงพึมพำ

“ไม่จริงหรอก”

รเณศเอ่ยท้วงเพราะเข้าใจถึงภาระงานที่อีกฝ่ายแบกรักเอาไว้ โดยเฉพาะการเข้าป่าไปลาดตระเวนแต่ละทีก็หายไปเกือบสัปดาห์ ชายหนุ่มคงจะนึกว่าตัวเองกำลังเอาเปรียบเขาซึ่งดูแลอีกฝ่ายอย่างดี ทั้งที่ความจริงแล้วเพลิงให้เขามากกว่านั้น

“ผมไม่ค่อยได้ดูแลคุณเลยเนตร”

“ไม่เป็นไร ผมดูแลตัวเองได้”

รเณศพูดยิ้มๆ

“สบายมากด้วย”

“คุณเก่ง”

“ผมดูแลตัวเองได้อย่าห่วงเลย คุณมีหน้าที่ปกป้องก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ไม่ต้องดูแลอะไรผมหรอก ผมรู้คุณเหนื่อย ให้ผมดูแลคุณนะ”

เพลิงกอดรเณศให้แน่นขึ้น

“เหนื่อยหน่อยนะ...ที่อยู่กับผม”

“ด้วยความยินดีครับ”

รเณศตอบทันควัน

“ให้ตายเถอะรเณศ” เพลิงงึมงำในคอ

“ชีวิตผมขาดคุณไม่ได้จริงๆ”

“...”

“ไม่ได้แน่ๆ ต้องตายแน่ๆ”

รเณศหัวเราะร่วน

“ดีมาก” คนเมืองซุกใบหน้าไปที่ซอกคอคนในชุดลายพราง

“ถ้าวันไหนทิ้งผมนะ น่าดูเลย”

เพลิงหัวเราะร่วนขึ้นมาทันที


.


.


บ่ายวันนั้นทางอุทยานได้รับต้อนกลุ่มคณาจารย์ที่พานักเรียนมาทัศนศึกษาและปลูกป่ากัน โดยมีเพลิงและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ คอยให้ความรู้และอำนวยความสะดวกต่างๆ จนกระทั่งกลุ่มอาจารย์และลูกศิษย์เดินผ่านหินอ่อนที่จารึกชื่อกลางสวนหย่อมนั้น ทุกคนพากันเดินไปมุงเพราะเห็นกองดอกไม้วางเรียงรายเต็มไปหมด

“นี่อะไรหรือคะ”

เด็กคนหนึ่งเอ่ยถาม

“แผ่นป้ายจารึกนามผู้พิทักษ์ที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ครับ”

“น่าสงสารจัง ว่าแต่เพิ่งมีพิธีเหรอคะ ดอกไม้วางอยู่เยอะแยะเลย”

“ครับ”

เพลิงพยักหน้าน้อยๆ

“มีพิธีเมื่อเช้า”

“เด็กๆ ดูสิมีรายชื่อด้วย”

อาจารย์ท่านหนึ่งเอ่ยขึ้น

“เปลว นาเที่ยง”

“...”

“เขาเป็นใครเหรอครับ”

เด็กชายผินหน้ามาทางเพลิง คนตัวโตขยับรอยยิ้มน้อยๆ ก่อนจะค่อยอธิบาย

“เปลวเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อาสามาเป็นผู้พิทักษ์ป่า เด็กหนุ่มธรรมดาที่สละชีวิตเพื่อปกป้องผืนป่า”

เพลิงเหลือบตามองเด็กนักเรียนบางคนที่ตาแดงก่ำทำท่าเหมือนจะร้องไห้

“พวกเรารู้มั้ยว่าเราได้ข้อคิดอะไรจากนี้เลย”

“ความเสียสละ”

“การรักษาป่าไม้”

“ไม่ตัดไม้ทำลายป่าค่ะ”

เด็กๆ แย่งกันตอบ

“ถูกต้อง”

เพลิงยิ้มมุมปาก

“หน้าที่รักษาป่าไม้ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่ของเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานแต่ฝ่ายเดียว แต่เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ป่ามีประโยชน์มหาศาล เป็นทั้งบ้าน อาหารและยาให้กับมนุษย์และสัตว์ ต้นไม้ต้นหนึ่งใช้เวลากว่าชั่วอายุคนในการเติบโตและให้ผลผลิต ฉะนั้นเมื่อได้แสวงหาผลประโยชน์จากป่า เราเองก็ควรรักษาเพื่อให้ป่าอยู่กับเราไปนานๆ”

เด็กๆ ทำท่าตั้งใจฟัง

“หรือถ้าไม่รู้จักรักษา ก็ขออย่าทำลาย”

เสียงตบมือแปะๆ ดังมาจากด้านหลังพอเอี้ยวหันไปมองจึงเห็นรเณศจับมือแก้มใสปรบมือด้วยใบหน้าทะเล้น พอถูกจับได้คนเมืองจึงทำท่าเก้อกระดากก่อนจะคว้าเด็กน้อยให้ผละไปอีกทาง เพลิงยิ้มน้อยๆ ตอนที่เห็นรเณศจับมือแก้มใสโบกมือให้เขา

เภสัชกรหนุ่มหันไปมองแผ่นหลังเพลิงอีกครั้งตอนที่เขาเดินนำกลุ่มคนเหล่านั้นไปทางอื่น แผ่นหลังกว้างที่มองเห็นได้จากระยะไกล รเณศมองอยู่อย่างนั้นก่อนจะอมยิ้มออกมา

‘ฉะนั้นเมื่อแสวงหาผลประโยชน์จากป่า เราเองก็ควรรักษาเพื่อให้ป่าอยู่กับเราไปนานๆ’

เพลิงทำให้เขาตกหลุมรักฝ่ายนั้นอีกครั้ง

รเณศรักเพลิงด้วยเสน่หาเป็นความจริง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขารักผู้ชายคนนั้นด้วยความดี

เขาและเพลิงคงเหมือนสะพานแสงดาวที่ส่องสว่างให้ความอบอุ่นกันและกัน บนเส้นทางของชีวิต เราจะส่องแสงให้กันจนถึงวันสุดท้ายที่ฤดูกาลผันแปรไปตามกาลเวลา

การเปลี่ยนแปลงทำให้เราพบเจอ และการเปลี่ยนแปลงอาจทำให้เราพลัดพราก

ณ ที่แห่งนี้ทำให้เขาได้รู้จักและเรียนรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง

ป่าแห่งนี้ทำให้เขาพบเจอกับรักแท้ ป่าแห่งนี้มีเรื่องราว ทุกเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาอาจแปรผันไปตามวันและเวลา ทั้งทุกข์และสุขใจแต่ป่าแห่งนี้ยังปกคลุมห่อหุ้มไปด้วยความรัก สมกับคำเรียกขานที่ว่าที่แห่งนี้คือ ‘ป่าห่มรัก’



[END]


ไม่อยากพิมพ์ว่า "END" เลย แต่สุดท้ายวันนี้ก็มาถึง ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆ ที่ติดตามและให้กำลังใจกันมาตลอดนะคะ เรื่องนี้เราใช้เวลาหาข้อมูลก่อนลงมือเขียนนานพอสมควร มันเป็นผลงานที่เรารักที่สุดเรื่องหนึ่ง ถึงแม้มันอาจจะยังไม่ดีที่สุด ยังมีข้อติอีกมากมาย แต่อย่างน้อยก็ยังมีคนอ่านเข้าใจและมองเห็นถึงเจตนาที่เราอยากให้คนอ่านได้สะกิดใจ

และหากนิยายเรื่องนี้มีคุณความดีใดๆ เราขอยกให้กับผู้พิทักษ์ป่าและผู้ที่เกี่ยวข้องในการดูแลป่าไม้และสัตว์ป่าทั้งหมด ขอบคุณมากๆ ที่ดูแลและปกป้องป่าไม้ให้พวกเรา ❤

ต้นฉบับ #ป่าห่มรัก เราออกเล่มกับสนพ.เดิมน้า แพลนหนังสือออกประมาณปลายปีนี้ค่ะ

และเรามีโปรเจ็กต์พิเศษที่เคยเกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ว่า เราจะทำมือ #ป่าห่มรัก "เล่มพิเศษ" ที่รวมตัวละครหลักจาก #ค่ายสร้างรัก และ #จุดหมายคือท้องฟ้า ซึ่ง "รายได้ส่วนหนึ่ง" ของเล่มพิเศษเราจะบริจาคให้ "มูลนิธิสืบนาคะเสถียร" เพื่อเป็นทุนช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่า สำหรับแพลนหนังสือเราจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะในเพจนะคะ

ฝากติดตามผลงานเราเรื่องต่อๆ ไปด้วยน้า ใครที่รอคู่ #โดมวี อยู่ เตรียมปูเสื่อรอได้เลย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 12-08-2019 21:13:46
จบซะแล้ววววววววว  :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 12-08-2019 21:22:10
เป็นตอนจบที่...ร้องไห้ตามเคย
เปลวยังเป็นคนที่คิดถึงของทุกคน และแก้มใสเป็นเด็กน่ารักมาก

ขอบคุณที่พาทุกตัวละครมาให้เราได้เห็นแง่มุมของความเป็นมนุษย์ในแต่ละคนนะคะ
เป็นนิยายเรื่องนึงที่ตั้งใจว่าจะซื้อจริงๆ
ไม่ใช่แค่นิยายธรรมดา แต่มีค่ามากกว่านั้น ^^
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 12-08-2019 21:23:36
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
ประทับใจทุกตัวละครเลยค่ะ
จะติดตามผลงานอื่นๆต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 12-08-2019 21:54:35
ป่าห่มรัก❤
ขอบคุณนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 12-08-2019 22:00:01
ขอสดุดี ผู้พิทักษ์ป่าที่เสียสละทุกท่าน

ผู้ช่วยเพลิงผู้แสนดี

ขอให้คุณกับน้องเนตรมีความสุขมากๆนะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 12-08-2019 22:16:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 12-08-2019 22:19:03
เป็นเรื่องที่อ่านแล้ว รู้สึกดีจัง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-08-2019 22:30:25
 :L1: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 12-08-2019 22:36:00
 :pig4: :pig4:
 :3123: :3123: :3123:
จบได้อบอุ่นดีจัง ขอบคุณที่มีเรืองดีๆ มาให้อ่าน
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fun_la_ong ที่ 12-08-2019 23:03:36
ขอบคุณนะคะ  :L1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 12-08-2019 23:11:04
             :pig4: :pig4:  ในที่สุดนิยายเรื่องนี้ก็เดินทางมาถึงตอนจบ   :pig4: :pig4:
         ขอบคุณสำหรับนิยายที่ดีมากเรื่องนี้
        และขอบคุณสำหรับข้อคิดมากมาย
        ที่หลายๆคนมองข้ามจากชีวิตจริงเรื่องการอนุรักษ์ป่า
        และความเสียสละของเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าที่ทำเพื่อรักษาป่าไม้ให้คนรุ่นหลัง :pig4:
        และหนึ่งความเสียสละที่เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นคือการจากไปในหน้าที่ของ  " เปลว "
        เด็กหนุ่มผู้ที่จะอยู่ในใจนักอ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้ เราเชื่ออย่างนั้น ทุกคนจะรักเค้า
        และทุกๆคำพูดของเค้าจะอยู่ในใจนักอ่านทุกท่านเช่นเดียวกับเราที่รักนิยายเรื่องนี้และจะจำเค้าไว้ในใจ ด้วยประโยคสั้นๆ
        ที่เค้าได้กล่าวไว้ ทั้งคำพูดในฐานะพ่อ เเละ ในฐานะผูพิทักษ์ป่า

'' ถ้าวันหนึ่งผมไม่อยู่แล้ว พี่คงดูแลแก้มใสได้สบายเลย ''

 '' กลับไปนอนเถอะน่าพี่เนตร เดี๋ยวป่าไม้พวกนั้นผมจะดูแลเอง "



             เพลิง ก็เป็นอีกตัวแทนผู้พิทักษ์ป่าที่ทำหน้าที่เพื่อรักษาป่าให้คนรุ่นหลัง
        และเรียกรอยยิ้มให้เราในทุกๆครั้งที่อ่านเรื่องนี้มันเป็นรอยยิ้มที่ดีใจ ที่มีเค้าและภูมิใจ เพราะเราใช้ตัวละครตัวนี้
        อ้างถึงและเป็นตัวแทนของความเสียสละของเจ้าหน้าที่รักษาป่าไม้
                               

             รเณศ หรือ เนตร  หนุ่มคนเมืองที่ผิดหวังจากความรักและกลับมาที่บ้านเกิดของ
        แม่และได้รักการเยียวยาจาก เพลิงผู้พิทักษ์ป่า ที่จะมาคอยพิทักษ์และรักษาความผิดหวังนั้นให้กับเนตร
        จนได้ชื่อว่าป่าห่มรัก

                                 เราเชื่อว่าหลายๆคนที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้
         คงได้อะไรมากกว่าที่คาดไว้ ทั้งสนุก และ อิ่มแอมกับความรัก
         ของตัวละครในเรื่องนี้ตั้งแต่บรรทัดแรกที่อ่านจนจบตัวหนังสือตัวสุดท้ายในนิยายเรื่องนี้เช่นกัน
          ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้มากค่ะ...เเละจะเป็นกำลังใจให้ในผลงานทุกๆผลงานนะค่ะคุณ  [Karnsaii]

                                             :mew1: :mew1:
       
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 13-08-2019 01:15:47
แฝงข้อคิดดีๆไว้เสมอเลย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 13-08-2019 02:07:06
ยกให้เป็นนิยายดีแห่งปีของเราเลย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaamnutt ที่ 13-08-2019 02:08:57
จบแล้ว อบอุ่นมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ รอเรื่องต่อไปค่ะ ตามๆๆๆ :mew1: :L2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 13-08-2019 09:00:18
ตอนจบก็น้ำตาไหลเพราะเปลวอีกรอบ ขอบคุณคนเขียนที่ทำให้รักป่าไม้มากขึ้น
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 13-08-2019 10:46:55
ขอบคุณสำหลับงานเขียนดีๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 13-08-2019 11:08:09
อ่านตอนไหนๆก้อน้ำตาซึมทุกที เห้ออออออ
(อ่านข้างนอกด้วยค่ะ เขินคนอื่นมาก 5555555)
ทั้งซึ้งในความรักของคนสองคน และความรักษ์ที่มีต่อป่าไม้
อยากให้ทุกคนตระหนักเรื่องป่าไม้มากขึ้น อย่างน้อยก้อคนที่อ่านเรื่องนี้จนจบ
ขอบคุณมากค่ะ //โค้ง//
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 13-08-2019 11:59:49
น้ำตาไหลอีกแล้ว อิ่มเอมใจในเวลาเดียวกัน เป็นนิยายดีๆที่ให้มากกว่า ความสนุกบันเทิงใจ สะท้อนแง่มุมของ ผู้พิทักษ์ป่า ได้อย่างซาบซึ้งและบีบหัวใจมาก ขอบคุณนะคะ ที่เขียนเรื่องราวน่าประทับใจนี้ขึ้นมา เราจะจดจำ และจะไม่มีวันลืม ผู้ปิดทองหลังพระ ผู้ที่ยังคงทำหน้าที่ปกป้องผืนป่าให้กับพวกเรา ขอบคุณค่ะ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 13-08-2019 13:53:55
น้ำตาซึมถึงตอนสุดท้าย :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 13-08-2019 16:14:19
ขอบคุณคร้าบ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 13-08-2019 16:59:20
จบได้อบอุ่นมากเลย​  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 13-08-2019 19:26:28
1


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 13-08-2019 20:50:41
เป็นนิยายที่ดีมากเรื่องหนึ่งเลยค่ะ เพราะให้ทั้งความสนุก ความรู้และความเข้าใจทั้งเรื่องป่าไม้ การทำงานที่ต้องมีความอดทนและเสียสละเป็นอย่างมากและความยากลำบากของทั้งของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครพิทักษ์ป่า  เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกขอบคุณความอดทนต่อภาระที่ยิ่งใหญ่และความหนักแน่นในความรักป่าไม้และสัตว์ป่าที่คนส่วนใหญ่และรวมถึงเราด้วยที่เคยมองข้ามหรืออาจไม่ใส่ใจ  ขอบคุณค่ะที่ทำให้เรารู้สึกรักต้นไม้ที่อยู่รอบตัวเรามากขึ้น.  :กอด1: 
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 13-08-2019 22:28:44
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ  รออ่านเรื่องถัดไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-08-2019 23:38:24
ร้องไห้ตามอีกแล้ว T^T
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 14-08-2019 02:18:12
ครบรสมาก สุข เศร้า อบอุ่น ได้อะไรหลายอย่างจากเรื่องนี้ ขอบคุณที่เขียนนิยายน้ำดีมาให้อ่าน อ่านไปรู้สึกอินไปกับผู้พิทักษ์ทุกท่าน ที่เสียสละตนเพื่อรักษาฝืนป่าไว้ อย่างที่บอกไม่ดูแล ขอแค่อย่าทำลาย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าอ้วงงง ที่ 14-08-2019 18:27:40
ชอบมากเลยค่ะ อบอุ่นมากบางตอนก็ถึงกับน้ำตาซึม ขอบคุณค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 15-08-2019 20:03:37
จบซะแล้ว ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกสะท้อนใจหลายอย่าง บางสิ่งที่คนเพียรรักษาแทบตาย แต่ยังไงก็สู้คนมุ่งทำลายไม่ได้   เป็นเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ.

รอติดตามนิยายเรื่องต่อๆ. ไปนะคะ.  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 15-08-2019 21:38:53
อบอุ่นหัวใจมากเลยค่ะ สื่อได้ดีมาก สอดแทรกทุกสาระ
ทำให้รู้สึกรักป่าขึ้นมาอีก และรักษ์ป่าไม่เสื่อมคลาย

รู้สึก ผูกพัน สานต่อ ทำให้ป่าอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้
ใครว่าอุดมการณ์กินไม่ได้ มันคือความจริงในปัจจุบัน
แต่สำหรับคนที่มีอุดมการณ์ เค้าคือคนที่รักและรักษ์ป่า
ทำให้คนยังรักป่า ยังหลงเหลือป่า ให้ลูกหลานได้สัมผัสถึง
ทำให้ป่ามีชีวิต และมีจิตวิญญาณ และทำให้เรามีความเป็นมนุษย์

ความรักทำให้คนเราพร้อมสู้ พร้อมเดินทาง เพื่อความถูกต้อง
เพื่อความมั่นคงและเข้มแข็งของคนรอบข้าง และเป็นกำลังหลักให้ตัวเอง

เพลิงเนตร ต่างคนต่างมีกันและกัน ซาบซึ้งในความรัก
และเชื่อในสิ่งที่อีกคนศรัทธา ส่งเสริม และดูแลกัน
ชอบความอ้อนของเนตร และเนตรก้าวเดินไปข้างหน้าได้ดี
เพลิงก็สู้มาก ทั้งจิตและกาย ทำด้วยใจและความถูกต้อง

ทีมเพลิงทุ่มเทและผูกพัน ปรองดองกันทุกคน
เสียดายเปลว ชีวิตคนดีต้องมาแลกกับความเน่าของคนเลว
แต่เปลวคงไม่เสียใจและไม่เสียดาย ที่ได้ช่วยป่าและช่วยเพลิง

แก้มใสอ้อแอ้น่ารักจริงเลยลูก ตอนซบเพลิงคือน่าจับบีบมากค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ เป็นนิยายที่ดี แฝงด้วยสาระ
แฝงกลิ่นอายความรักและความผูกพัน
ทั้งคนรัก ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และสังคม
เป็นกำลังใจให้ต่อไปนะคะ รอติดตามเรื่องอื่นๆ ค่ะ






หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-08-2019 22:17:07
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 16-08-2019 11:28:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 16-08-2019 11:32:48
นิยายน้ำดี โคตรดี และสุดประทับใจ ใครเปิดผ่านแล้วไม่แวะอ่านถือว่าพลาดมาก ขอบคุณผู้แต่งที่แต่งเรื่องนี้และมาลงในนี่ให้ได้อ่านกัน อ่านรวดเดียวจบวางไม่ลงเลย โอ้ววววววววว มันอบอุ่นหัวใจดีจริงๆ อ่านแล้วมีความสุข รู้สึกรักป่า ภูมิใจในความเป็นไทย และเข้าใจเจ้าหน้าที่มากขึ้น :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 16-08-2019 15:07:43
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ต้องเหนื่อยยากต้องเสี่ยงภัยอันตรายสารพัดเพื่อปกป้องผืนป่าให้คนไทยเรา
แม้จะทำเอาน้ำตาซึม แต่ยังมีความหวานของเพลิงเนตรและความน่ารักของหนูน้อยแก้มใสมาช่วยชโลมใจให้ยิ้มได้

บวกค่ะ^^
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Plakhem ที่ 16-08-2019 15:30:39
 :mew6: ถึงแม้จะไม่ได้ช่วยปลูกป่ามากนัก แต่ผมก็สัญญาว่าจะไม่ตัดต้นไม้ และขอบคุณผู้พิทักษ์ทุกท่าน ที่ดูแลป่าแทนพวกเรา ขอบคุณผู้เขียนที่สะท้อนภาพของผู้พิทักษ์ให้เราเข้าใจมากขึ้น และขอบคุณกับนิยายเรื่องนี้  :L2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Guy_BLove ที่ 16-08-2019 19:12:38
เอาจริงๆคือชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ อาชีพนี้เป็นอาชีพในฝันเลยย
อ่านแล้วเข้าใจสุดๆไปเลยค่ะ
ขอบคุณคุณคนเขียนมากๆเลยนะคะ ชอบมากๆเลยค่ะ
 o13 :กอด1: :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 17-08-2019 07:44:33
นิยายเรื่องนี้ดีมากๆเลย เป็นครั้งแรกที่เราร้องไห้ กับความภาคภูมิใจ ตื้นตัน ในหลายๆตอน เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Appman ที่ 17-08-2019 08:22:41
ดีใจที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้ อินจัดกับผู้พิทักษ์ที่เสียสระ เขียนได้ดี เรื่องจริงของระบบราชการไทย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 17-08-2019 23:29:54
นิยายเรื่องนี้ดีมากๆเลยค่ะ ให้ข้อคิดและคำสอนหลายๆอย่างเกี่ยวกับป่า ในหลวง และผู้พิทักษ์ป่า สงสารที่สุดคือเปลวไม่น่าตายเลยค่ะ อ่านไปน้ำตาไหลไปคือเศร้ามาก แต่ก็จบได้น่ารักอบอุ่นมากค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 18-08-2019 15:28:31
เป็นเนื้อเรื่องที่ดีมากค่ะ มีสาระมาก อ่านแล้วน้ำตาซึมตอนคิดถึงคนบนฟ้า รูปถ่ายที่มีอยู่ทุกบ้านจิงๆค่ะ
เจ้าหน้าที่ทุกคนเสียสละมากจิงๆ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: nishihimitsu ที่ 19-08-2019 22:19:32
เนื้อหาดีมากๆเลยค่ะ ภาษาสละสลวยมากค่ะ อ่านเเล้วอินมากๆค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 20-08-2019 15:58:38
อ่านแล้วชอบมาก ตื้นตันไปหมดเลย
ฮือออออออออออ ขอบคุณคนเขียนมากๆน้า


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: clairon ที่ 20-08-2019 23:53:50
 :o12:
น้ำตาไหลเป็นสายเลยค่ะ
เราอินมากกลับเรื่องป่าไม้ การเสียสละเพื่อประเทศชาติ
คุณเขียนได้ดีมากๆเลยค่ะ
เราเข้าไปอยู่ในเรื่องตามเนตรเริ่มต้นชีวิตแบบใหม่ ในป่าเขาชนบท อินกับการปกป้อง รักผืนป่า อินเลิฟกับผู้ช่วยเวลาเค้าจีบกันเขินหนักมากค่ะ
 แล้วสุดท้ายเราก็ต้องร้องไห้กับการสูญเสีย :mew1:
เรารักเปลว รักน้องแก้มใส เราเหมือนเป็นญาติเปลวไปแล้ว  :o12:
ขอบคุณนะคะ
เจ้าหน้าที่ที่ปกป้องผืนป่า ขอบคุณจากใจ


หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 22-08-2019 19:48:40
ชอบอ่ะ  o13
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: HT...hanna ที่ 24-08-2019 07:55:41
 :กอด1: :L2:
รักนิยายเรื่องนี้มากเลยค่ะ มันตื้นตันใจกับความเสียสระของผู้พิทักษ์ทุกๆคนรู้สึกรักทุกๆตัวละคร
ส่วนตัวประทับใจฉากที่เกิดไฟไหม้ป่า แล้วมีฝนหลวงเกิดขึ้น ภูมิใจที่เกิดมาในแผ่นดินนี้
#คิดถึงคนบนฟ้า
สุดท้ายขอบคุณคนเขียนมากๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 24-08-2019 13:42:20
ขอบคุณที่สะท้อนเรื่องราวชีวิตของเจ้าหน้าที่ที่ต้องปกปักษ์รักษาป่าไม้ให้เราได้ดีมาก
ขอบคุณนักเขียนที่สรรสร้างนิยายดีๆ แบบนี้ให้เราได้อ่านนะคะ
เป็นกำลังใจให้และจะรอติดตามผลงานต่อไปเสมอนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Amaryllifolius ที่ 24-08-2019 21:57:16
เป็นเรื่องที่ประทับใจมากค่ะ อาจจะไม่แมส ไม่ใช่แนวที่ฮิตกันโดยทั่ว แต่ว่าเนื้อเรื่องดีมากเลย
โดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในระดับหนึ่งเลยดีใจมากที่ผู้เขียนสื่อเรื่องแบบนี้ออกมา
นึกถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่แล้วก็น่าเห็นใจเนอะ มีแต่เรื่องบั่นทอน คนกลุ่มนึงก็ปกป้องกันไป คนทำลายก็ผุดมาจากไหนไม่รู้เยอะแยะ เฮ้อออออ

ขอบคุณที่แต่งเรื่องนี้ออกมาค่ะ เป็นกำลังใจให้และจะรอติดตามผลงานต่อไปนะ

ปล. อ่านจบแล้วนี่ตามไปบริจาคให้มูลนิธิสืบนาคะเสถียรเลย อินจัด 555+ (แต่ก็รอเล่มพิเศษด้วยนะ)
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 24-08-2019 22:56:01
อ่านจบแล้ว ยิ้มตามบ้าง ร้องไห้ตามบ้าง ทั้งสนุกทั้งเศร้า
เศร้าเพราะมันคล้ายเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในสังคมตอนนี้
เหมือนดึงเอาความจริงมาตีแผ่ในรูปแบบนิยาย ซึ่งมันสะท้อนอะไรหลายอย่าง
ประทับใจมากๆ.  ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ  :pig4:  :กอด1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 25-08-2019 12:54:56
ขอบคุณนิยายเรื่องนี้ ที่ทำให้รักป่ามากขึ้น

เข้าใจในมุมจนท.ป่าไม้ ความยากลำบากและความเสียสละ

ขอบคุณคนเขียนเช่นกันที่เขียนเรื่องดี ๆ ให้เราอ่าน รักเทอจ้า
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 26-08-2019 23:26:49
ขอบคุณมากค่ะทีเขียนนิยายน้ำดีแบบนี้มาให้อ่านกัน มันสะท้อนชีวิตของผู้รักษาพื้นป่าของเราว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร ต้องอยู่กันอย่างลำบากยังไงเพื่อรักษาผืนป่าที่สำคัญนี้ไว้ให้กับลูกหลาน แอบน้ำตาซึมสงสารเปลวจัง :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: songsa1234 ที่ 28-08-2019 19:42:40
อ่านแล้วอบอุ่นหัวใจมากๆ
รู้สึกรักพื้นป่าไม้ขึ้นมากๆ
ขอบคุณผู้พิทักษ์ป่าทุกคนที่ข่วยรักษาพื้นป่าไว้ให้คนไทย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 29-08-2019 21:00:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ffern ที่ 30-08-2019 23:39:49
เขินจนจะบ้านั่งซ้อนหลังเเล้วยังมาจูบอีก ผมคนอ่านเสียอาการสุดๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 01-09-2019 10:28:54
ธาม เต ใช่ไหม  เพลิงอบอุ่นจังเลย
 อ่านนิยายเรื่องนี้คิดถึงคนที่อยู่บนฟ้าจัง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 09-09-2019 15:16:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Yumitun ที่ 18-09-2019 20:06:56
ทั้งที่จริงตอนนี้ควรจะฟินมาก แต่เหตุผลที่เนตรเก็บเรื่องที่ได้ยินมา มันอ่อนเกินอ่ะ ทำให้ฟินไม่ลง

ในสถาณการณ์ไม่ปกติแบบนั้น ยังมามัวพิรี้พิไรได้อยู่ ทั้งที่เป็นคนถือข้อความสำคัญไว้อยู่ ก็งงเหมือนกัน คือ ต่อให้เด็กไม่รู้ประสาแต่ถ้าฉลาดสักหน่อย ยังโยงเรื่องออกเลย ยังไงต้องรีบบอกผู้ใหญ่หรือใครให้เร็วที่สุด ไม่เก็บเรื่องไว้กับตัว แต่นายเอกกลับนิ่งนอนใจ ก็เซ็งอ่ะ

ถ้าบทมันเป็นว่า บอกสิ่งที่รู้ไปหมดแล้ว พระเอกหาทางจัดการปัญหาอยู่ วางแผนจับกุม รอรวบรวมหลักฐานไรก็ว่าไป และระหว่างนี้ มีบทพระนางกัน จะน่ารักมากเลยนะ คงฟินสุด เพราะรู้แล้วว่าตอนนี้ทำดีที่สุดแล้ว มีบทหวานก็เหมือนเป็นกำลังใจให้กัน

แต่นี่บอกยุ่งมาก เลยไม่มีเวลาบอก ยุ่งมากจ๊ะ เจอกันทุกเย็น กินข้าวบ้าน ไปส่งพิทักษ์ แวะวัดกระซิบรัก อีเว้นท์เยอะมากแม่ ไม่มีเวลาคุยกันเรื่องที่ได้ยินมาเลยหรอ งงใจ

ขออภัยคนเขียนที่บ่นยาว แต่หงุดหงิดจริง 555 ถ้ามีโอกาสปรับเส้นเรื่องตรงนี้ก็ดีนะคะ เป็นนิยายน้ำดีทั้งที ถ้าเรื่องสมเหตุสมผลด้วย คงยิ่งส่งเสริมให้น่าสนุกมากยิ่งขึ้นค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Yumitun ที่ 19-09-2019 09:29:24
ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆ แบบนี้มาให้อ่านนะคะ เราไม่มองว่าเป็นนิยายนอกกระแสนะ เพราะถ้าคนเขียน เขียนดี สำนวนดี นิยายแบบไหนก็สนุกและประทับใจผู้อ่านได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน ขอบคุณที่เลือกเรื่องราวของผู้พิทักษ์ผืนป่า มาเป็นไฮไลท์ของเรื่องนะคะ

หวังว่าผู้ที่ได้อ่านทุกท่าน จะตระหนักถึงธรรมชาติต่างๆมากขึ้น อย่างน้อยที่สุด ที่รณรงค์กันอยู่ตอนนี้ คือการลดใช้พลาสติก ใช้ของรียูส รีไซเคิล ลดการใช้ของแบบครั้งเดียวทิ้ง ก็ถือว่าทุกคนได้มีส่วนร่วมด้วยกันได้

ติดตามและให้กำลังใจผู้เขียนให้มีพลอตเรื่อง ตัวละคร ที่น่าสนใจ ในเรื่องต่อๆไปอีกนะคะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 21-09-2019 23:01:08
ขอบคุณมากนะครับ นิยายดีมาก เศร้ามากเพราะคิดถึงคนบนฟ้า เศร้ามากเพราะรู้สึกถึงความสูนเสีย รู้สึกถึงความเสียสละ และยังมีกลิ่นไอของความเสียดสีสังคมในเรื่องอำนาจจากเงิน และผืนป่าที่ไม่ใช่มีแค่ผีเจ้าป่าเจ้าเขาเฝ้ารักษา ยังมีวีรบุรุษลายพรางผู้ปกป้องป่าคอยรักษาอยู่อีกด้วย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 23-09-2019 12:06:27
สอดแทรกข้อคิดไว้มากมายเลยเรื่องนี้ น้ำตาซึมเลย ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Action19852 ที่ 25-09-2019 22:44:20
เป็นนิยายเรื่องแรก ที่ทำให้ร้องไห้น้ำตาซึม :mew6:
ไม่ใช่เพราะว่าเศร้าอย่างเดียว แต่เป็นเพราะว่ารู้สึกซึ้ง ตื้นตันใจ :sad11:

ในชีวิตปกติประจำวันไม่เคยนึกถึงเรื่องเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ต้นไม้ และสัตว์ป่า
แต่นิยายเรื่องนี้ทำให้ตระหนักถึงคุณค่าของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษาป่า

ขอบคุณนักเขียนนิยายเรื่องนี้ที่ทำให้เรานึกถึงอีกหนึ่งอาชีพที่เรามองข้ามไป
:pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: wetter ที่ 27-09-2019 07:14:06
ประทับใจมากค่ะ เปิดมุมมองใหม่ๆเรื่องการให้ความสำคัญกับป่าจริงๆ ทุกอย่างมันเรียลมากๆ
ผู้ข่วยคืออบอุ่นมาก หยอดเก่ง น้องเนตรก็ช่างเอาใจ
แอบทำใจไม่ได้กับเรื่องเปลว แง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: 9nawKIHAE ที่ 04-11-2019 01:01:30
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
ประทับใจมากๆเลยค่ะ
ทราบซึ้ง และเข้าใจความเสียสละของผู้พิทักษ์ผืนป่ายิ่งขึ้นไปอีก  :m15: :m15:
รอติดตามเรื่องต่อๆไปนะคะ ขอบคุณค่ะ
:กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 10-11-2019 08:20:35
อ่านรวดเดียวจบในเวลา 2 ชั่วโมง
ประทับใจกับอาชีพพระเอกค่ะ

เขาเป็นพระเอกจริง ๆ

แม้พล็อตจะไม่ได้แปลกใหม่อะไร
แต่เพราะเส้นเรื่องอยู่ในป่านี่แหละ ที่แปลก

ดีนะคะ เขียนดี
ถือเป็นอีกเรื่องที่เราชอบเลยละ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: yaoigirl ที่ 10-12-2019 21:33:35
เป็นนิยายที่ดีมากกกอีกเรื่อง อ่านแล้วก็หัรกลัยมานึกรักผืนป่า เพราะไม่อยากให้พี่เปลวตายฟรี คือดีไม่รู้จะดียังไง ทั้งสนุกและได้แง่คิด ขอบคุณคนแต่งมากๆๆๆที่สร้างผลงานดีๆๆมาให้เราอ่าน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Gimlongdeep ที่ 26-12-2019 12:52:36
จะระลึกถึงพวกคุณเสมอ ขอบคุณมากค่ะ
นักเขียนถ่ายทอดมาได้ดีมากกก//ปาดน้ำตา อ่านไปน้องเขินๆซักพักปาดน้ำตา  งื้อออมันดีย์ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: tonpaicat ที่ 01-01-2020 11:49:55
สวัสดีปีใหม่ครับ

อ่านจบแล้ว รู้สึกอินเป็นพิเศษเพราะ คุณพ่อเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เคยตามไปที่ทำงานของพ่อตอนปิดเทอม
บรรยากาศเป็นแบบนี้เลยครับ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 03-01-2020 00:07:34
อ่านไปน้ำตาไหลไป อ่อนไหวกับเรื่องพวกนี้จริงๆ ไม่รุ้เมื่อไหร่คนเราจะมีจิตสำนึกรักป่ารักบ้านของเรากัน ไม่ช่วยยังดีกว่าลงมือทำลายมันอ่ะ ขอบคุณนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 04-01-2020 23:04:43
 :hao7:ชอบมากกกก ชอบทุกตอนนนน :z13: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ppwct ที่ 11-01-2020 16:04:05
ดีมากค่ะ คิดไม่ผิดจริงๆที่เข้ามาอ่านนนน  :mew1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: PimKanyarat ที่ 12-01-2020 17:01:56
ขอบคุณที่ทำให้เกิดเรื่องดีๆแบบนี้นะคะ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละเพื่อผืนป่า :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 16-01-2020 23:00:27
ขอบคุณสำหรับนิยายมากๆค่ะ
อ่านแล้วก็คิดถึงคนบนฟ้า

 :mew6:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 18-01-2020 21:00:48
ทับใจมาก​ ร้องไห้น้ำตาแตก
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: FeRnChOi ที่ 19-01-2020 19:32:21
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้ออกมานะคะ
มันสะท้อนอะไรหลายๆอย่างในอาชีพนี้ให้หลายคนได้เห็นเลย
โดยเฉพาะความสูญเสียที่ครอบครัวของพวกเค้าได้รับ ผลตอบแทนที่น้อยนิด
เปลวคือตัวละครนึงที่เกิดขึ้นจริงในทุกๆวันของประเทศเรา ㅠㅠ
ขอบคุณมากนะคะ นิยายเรื่องนี้ดีมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 12-02-2020 14:04:31
 ขอบคุณคนแต่งสำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะคะ อ่านไปเป่าปี่ไป รู้สึกผูกพันกับทุกตัวละครมาก อ่านแล้วเข้าใจมากๆเลยสมัยนี้คนดีแต่ทำลาย แล้วก็มาโทษภัยธรรมชาติ ทั้งๆที่คนนี่แหละเป็นคนทำให้มันเกิดเร็วขึ้น ชอบคำที่บอกว่า ถ้าไม่รู้จักรักษา ก็อย่าทำลาย มากๆค่ะ กว่าจะใช้เวลารักษา ต้องใช้เวลาเกิดเท่าชีวิตคน แต่ทำลายกลับใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที  :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 13-03-2020 11:33:26
เป็นนิยายที่ดีมาก ไม่รู้จะคอมเม้นต์อย่างไรเลย เอาเป็นว่าอ่านแล้วทำให้มีความรู้สึกร่วมด้วย ไม่เคยอ่านนิยายเรื่องไหนแล้วอินถึงขั้นน้ำตาไหลมากมายขนาดนี้มาก่อน เรื่องนี้คือสุดจริง คุณเขียนเรื่องนี้ได้เก่งมาก ๆ

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Thep503 ที่ 01-04-2020 13:26:39
มีเสียน้ำตาตอนท้ายเรื่องจนได้ :sad4: แต่โดยรวมสนุกดีครับ ทำให้อยากรักษาป่ามากๆ ขอบคุณครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 14-04-2020 13:50:27
 :L2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TaddyC ที่ 08-05-2020 13:58:02
 :sad4: กรี้สสส พี่เพลิงโดนยิง   
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: TaddyC ที่ 09-05-2020 08:12:35
 o13 o13ขอบคุณนะครับ  ขอบคุณที่เขียนนิยาย ดีๆมาให้เราอ่านกัน  ขอบคุณผู้พิทักษ์ป่าที่ทำหน้าที่ปกป้ปองป่าแทนพวกเรา ขอบคุณจากใจครับ :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 10-05-2020 23:14:28
 ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆจ้า
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 11-05-2020 07:44:01
กลับมาอ่านทุกครั้งก็เสียน้ำตาทุกครั้ง
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: 末っ子 ที่ 12-05-2020 18:24:39
เขียนดีมากเลยค่ะ ขอชื่นชมจากใจจริง ประทับใจตัวละครเปลวมาก สงสารน้อง ร้องไห้ตอนเปลวตาย เขียนดีจริงๆ ทำให้รู้เลยว่าความเสียสละของกรมป่าฯมีมากขนาดไหน ภาษาดี ความรักพระนาย ดีหมดเลย ดีใจที่คนเขียนแต่งเรื่องนี้ขึ้นมานะคะ ขอบคุณ​มากเลย :n1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: xiproy ที่ 26-05-2020 02:31:33
เป็นนิยายที่ประทับใจมากๆเลย ร้องไห้ไปกับการเสียสละของเปลว ไม่มีอะไรทัชใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว เปลวยังอยู่ในใจทุกคนตลอด แง


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Bebii123 ที่ 31-05-2020 00:19:26
เรื่องนี้ดีจัง!!  o13 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: mayachiwit ที่ 31-05-2020 14:42:39
เป็นนิยายที่ดีจริงๆ คนเขียนเก่งมากๆ เลยค่ะ ประทับใจ ปล้นน้ำตาเราไปด้วย  :m15:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: fewho ที่ 31-05-2020 16:24:53
เป็นนิยายที่ดีมากๆ อบอุ่นใจทุกครั้งที่อ่าน
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 03-06-2020 23:12:15
 o13
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Tonson777 ที่ 10-06-2020 03:23:59
 :mew1:ู ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ค่ะ แม้จะเดาพอได้ว่าต้องมีการสูญเสียเจ้าหน้าที่แน่ๆ แต่พอถึงตอนที่เปลวตาย หรือพิทักษ์เกือบตายก็ยังรู้สึกเศร้ามากอยู่ดี  แต่มันคือหนึ่งในอรรถรสและมนต์เสน่ห์ของนิยาย  ขอบคุณที่สรรสร้างนิยายเรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 28-06-2020 00:18:53
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 08-08-2020 01:06:55
สนุกมากๆค่ะ อ่านแบบวางไม่ลงเลย
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 11-08-2020 07:49:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Pitachio ที่ 02-09-2020 11:41:23
สนุกค่ะ​น่ารักมากๆๆ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: moeiriver ที่ 21-01-2021 23:22:08
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะคะ เป็นเรื่องที่เราอ่านแล้วเราร้องไห้ไม่หยุดเลย มันอิ่มในความรู้สึกและมีความสุข ความเศร้า ระลึกถึงเต็มไปหมด นอกจากความสนุกแล้วเรายังได้ข้อคิดดีๆจากเรื่องนี้เยอะเลย ขอบคุณมากจริงๆค่ะ ขอให้คุณมีพลังใจที่จะผลิตผลงานดีๆแบบนี้ออกมาเรื่อยๆนะคะ

ขอระลึกถึงผู้พิทักษ์ผืนป่าทุกท่านที่เสียสละชีวิต และขอคาราวะกับความเสียสละนี้ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 22-01-2021 12:47:49
เรื่องนี้เขียนดีจริงๆค่ะ
อ่านแล้วซึ้งมาก  :hao5:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 26-01-2021 20:45:25
 :z13:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: bnmshhhhhhh ที่ 05-02-2021 22:39:55
ขอบคุณมากนะคะที่เขียนนิยายดีๆมาให้ได้อ่าน เป็นเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกอินไปกับเนื้อเรื่องมากๆ เป็นนิยายที่ขึ้นหิ้งอีกเรื่องสำหรับเราเลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: hardened-boy ที่ 09-02-2021 09:22:03
 o13 o13 o13 สงสารเปลวอะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 27-02-2021 02:31:20
เป็นนิยายที่ดีมากครับ  ดีมากจริงๆ  ขอบคุณคนแต่งมากๆเลยครับ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 02-03-2021 04:44:56
ขอบคุณที่เขียนนิยายดีดีนะคะ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 10-03-2021 15:12:37
สนุกมาก ๆ ครับ เป็นนิยายที่ดีมากอีกเรื่องนึงเลยครับ



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Kochiro ที่ 21-03-2021 00:02:43
 :mew6: ชอบมากคะ
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 30-04-2021 22:42:09
 :heaven :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Eakkadoor ที่ 03-06-2021 14:30:44
ยอมรับเลยครับว่าเสียน้ำตาจริงๆ
หน่วงมากๆตอนอ่านถึงตรงนั้น
ทั้งที่รู้ว่าจะเกิด ก็ยังร้องไห้อยู่ดี
เป็นเรื่องที่ดีมากเรื่องนึงที่ผมได้อ่านเลยครับ
อ่านแล้วอบอุ่น เขิน รู้สึกดี
ไปในคราวเดียวกัน
เพราะชีวิตมันไม่ได้สวยงามเสมอ
มันต้องมีอุปสรรค และเรื่องราวที่เสียน้ำตาบ้างเป็นธรรมดา
แต่อยากบอกว่า ผมรู้สึกโชคดีที่ได้อ่านเรื่องนี้ครับ
จะตามเก็บทุกเรื่อง ของผู้เขียนคนนี้เลยครับ
และจะกลับมาอ่านเรื่องนี้อีกแน่นนอนครับ
 :mew1:  :mew1: :hao4:  :hao3:
หัวข้อ: Re: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
เริ่มหัวข้อโดย: SeventeenCarat ที่ 02-02-2022 01:29:03
เรื่องนี้ดีมากกกกกกกก 

ชอบเนื้อเรื่อง อ่านแล้วรู้สึกฮึกเหิม และตระหนักถึงธรรมชาติมากขึ้น

แล้วก็หลังอ่านจบ ก็เสิร์ชหาช่องทางบริจาคมูลนิธิคุณสืบทันที

ความรู้สึกคือทั้งสุขทั้งเศร้าปนเปกันไปตลอดเรื่อง

ป.ล. พระเอกแบบพี่เพลิงนี่คือเหมาะกับบทพระเอกตัวจริง ไม่จำเป็นต้องเป็นคาสโนว่า เมื่อมีรักเขาก็รักเดียวใจเดียว ยึดมั่น

ในสัจจะ คือผู้ชายแบบนี้หาได้ที่ไหนบอกที

 :mew2: :o8: :pig4: :L1: