หาเพื่อนนอนสนใจทัก DM ครับ : ตอนพิเศษวันคริสต์มาส [25/12/2019] P.30
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หาเพื่อนนอนสนใจทัก DM ครับ : ตอนพิเศษวันคริสต์มาส [25/12/2019] P.30  (อ่าน 242671 ครั้ง)

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ฮาบทสวดมาก 555555555 // น้องเฟนมีแฝดด้วยอะ

แถมเป็นลูกครึ่งอีก งานดีย์~

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
555555555555555  ช่วยด้วยยย หยุดขำไม่ได้ 5555



ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :m20: 5555555555 อยู่ดีไม่ว่าดีพพ.เอ๊ย 55555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2019 18:55:27 โดย Noname_memi »

ออฟไลน์ JackXy Wu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-5
บทที่ 13

อย่าดูถูกสีเสื้อมงคล





รีวิวครอบจักรวาล แคปทวิตคิด 500 นะครับ @Daran_Review

หายหน้าหายตาไปนานเพราะงานยุ่ง ผมกลับมาเปิดรับออเดอร์แล้วนะครับ ใครสนใจสั่งเค้กอร่อยๆ ให้ตัวเองหรือคนพิเศษ DM มาได้เลยครับ จำกัดที่ 15 ออเดอร์เหมือนเดิม แล้วเดี๋ยวภายในอาทิตย์นี้ผมมาลงรีวิวคาเฟต์แมวเจ้าใหม่ให้ ใครเป็นทาสแมวรับรองว่าฟินแน่นนอน

พพ.ไม่ได้ขายไส้กรอกแต่ให้ฟรีครับ @pp_prapai

กำลังตอบกลับถึง @Daran_Review

ขอเค้กช็อกโกแลตสามชั้นสกรีนหน้ากู เขียนข้างเค้กว่า พี่ - ชอบ - หนู! ชั้นละคำ


[พระพาย]

“ฟังไรอยู่วะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่”

“เพลง”

ผมตอบ ยังไม่หุบยิ้มจนสายฟ้าขมวดคิ้วสงสัย มันคว้าหูฟังผมข้างหนึ่งไปยัดหูตัวเอง ผมเลยกดย้อนเพลงไปตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อให้มันได้ฟังและอินไปพร้อมๆ กัน


‘เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด บุพเพสันนิวาส ที่ประสาทความรักภิรมย์

คู่ใคร คู่เขา รักยังคอยเฝ้าชม คอยภิรมย์เรื่อยมา

ขอบน้ำขวางหน้า ขอบฟ้าขวางกั้น บุพเพยังสรรค์ประสบ ให้ได้สบพบรักกันได้

ห่างกันแค่ไหน เขาสูงบังกั้นไว้ รักยังได้บูชา…’



“ไอ้สัส!”

“ด่ากูทำไมวะ” ผมมองหน้ามัน “สุนทราภรณ์ไม่ดีตรงไหน?”

“ไม่ใช่ไม่ดี แต่…”

“แต่ไรวะ”

“ช่างเหอะ” สายฟ้าบอกปัด สีหน้าเหนื่อยหน่าย มันโยนหูฟังคืนใส่ผม ก้มหน้าก้มตากดมือถือยิกๆ “สรุปก็คือน้องยอมให้มึงจีบ?”

“มึงถามกูแบบนี้รอบที่ยี่สิบแล้ว”

“ไม่มึง กูแค่ต้องการแน่ใจว่ามันไม่ใช่สิ่งที่มึงคิดเพ้อไปเอง”

“น้องเขินเท่ากับน้องมีใจ” ผมยิ้มหน้าระรื่น “มีใจเท่ากับยอมให้จีบ”

“เฟนบอกมึง?”

“กูสัมผัสได้”

“แสดงว่าน้องไม่ได้ตกลงกับปากเองแน่ๆ” สายฟ้ากลอกตา ผมเห็นมันนวดขมับตัวเองแล้วมองเข้าไปในห้องพักอาจารย์ “เมื่อไหร่ไอ้รัญจะออกมา กูรับมือเรื่องนี้คนเดียวไม่ได้จริงๆ ประสาทจะแดก!”

“เข้าไปตามดิ” ผมโคลงหัว เอนตัวพิงโซฟาตัวยาวที่ตั้งอยู่หน้าห้องพักอาจารย์อย่างเกียจคร้าน “กูนั่งรออยู่ข้างนอกนี่แหละ ขี้เกียจเข้าไปเจอหน้าอาจารย์วิจัย”

“มึงคิดว่ากูอยากเจอด้วยหรือไง”

“งั้นก็รอไปอย่าบ่นสิวะ มันเข้าไปนานแล้ว เดี๋ยวก็ออกมาน่า”

ผมพูดจบประโยคไม่ทันไร ดารัญก็ผลักประตูเปิดออกมา มันมองหน้าผมสลับกับสายฟ้า เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“คนนึงหน้าระรื่น อีกคนหน้าเหมือนปวดขี้”

“ไม่มีอะไร” ผมปฏิเสธ ลุกขึ้นจากโซฟา “ปะ แดกข้าวเหอะ”

“เออ วันนี้กูอยากกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำร้านพี่พลอย” ดารัญพยักหน้ารับ มันกำลังจะเดินนำ ผมเลยรีบรั้งไว้ก่อนมันเดินไปโรงอาหารคณะ

“ไม่มึง วันนี้ไปกินที่โรงสินกำฯ”

“เดี๋ยวนะ” สายฟ้าแทรก มันจ้องผมเขม็ง “ขอเหตุผลที่กูต้องถ่อไปโรงอาหารสินกำฯ ทั้งที่กูหิวจนท้องบิดด้วย”

“เพราะกูจะไปหาเฟน”

“โรงสินกำฯ ไม่ใช่เล็กๆ มึงจะไปงมเข็มในมหาสมุทรหรือไง” ดารัญถาม

“กูมีสาย”

“ไอ้ป้อมเจ้าเดิม?”

“เหอะ” ผมส่ายหัว ออกเดินนำในขณะที่พูดต่อ “น้องหัวชมพูที่ชื่อตั้ม เพื่อนเฟนน่ะ”

“มึงไปซื้อน้องหัวชมพูไว้ตอนไหนวะ”

“ตอนกูจับได้ว่ามันโดดรับน้องคณะแล้วมาเจอกูตรงหัวมุมตึกพอดี” ผมยิ้ม หัวเราะหึๆ “กูเลยยื่นข้อเสนอให้น้องมันคอยช่วยส่งข่าวเฟนให้กู แลกกับที่กูจะไม่บอกพี่คณะมัน”

“กูก็ว่าอยู่” ดารัญเปรยๆ ขึ้นมา มันเหลือบตามองผม ยิ้มเล็กน้อย “ว่าคนอย่างมึง คงไม่มีใครอยากช่วยเพราะเต็มใจหรอก”

“เหมือนมึงเกลียดกู”

“ไม่ กูรักพวกมึงจะตาย” ดารัญหัวเราะ “บอกแล้วไงว่าอยู่กับพวกมึงแล้วกูดูดีขึ้นกว่าเดิม”

“กูเกลียดมันว่ะ” สายฟ้าบ่น ผมพยักหน้ารับ

“ก็มีแต่มึงที่เข้าใจกู”

“ไม่ กูก็เกลียดมึงด้วย”

“...”

“กูจริงจังมาก”

“สวัสดีจริงจังมาก กู…”

“เล่นมุกเหี้ยนี่อีกทีขอให้จีบเฟนไม่ติด”

หลังจากนั้นผมก็แทบรูดซิปปากไปจนถึงโรงอาหารคณะศิลปกรรมศาสตร์เลยทีเดียว


“น้องเฟนอยู่ไหนล่ะ คนเต็มไปหมด”

“ตั้มบอกว่านั่งอยู่โต๊ะหน้าร้านไก่ทอด” ผมกวาดสายตามองโดยรอบ “นั่นไง กูเห็นล่ะ”

“เดี๋ยวมึง”

“อะไรวะ” ผมมองสายฟ้าที่คว้าคอเสื้อผมเอาไว้ มันก้มมองถุงในมือผมจนต้องก้มมองตาม

“มึงแน่ใจว่าจะเอาไอ้นี่ไปให้น้อง”

“ไม่ดีตรงไหน?”

“มันควรเป็นอย่างอื่นมั้ย อย่างดอกไม้ ขนมเค้ก ช็อกโกแลตอะไรเทือกนั้น”

“อย่าไปขัดมันเลย” ดารัญแทรก มันตบไหล่สายฟ้าเบาๆ “กูเหนื่อยแทน”

“เออ แล้วแต่มึงล่ะถ้าอย่างนั้น”

สายฟ้าโบกไม้โบกมือ ผมเลิกคิ้วมองเพื่อนทั้งสองคนสลับกับถุงในมือ อะไรวะ ออกจะเป็นของจีบที่มีความหมายลึกซึ้งเป็นมงคล ไอ้พวกนี้ชอบมาพูดให้ผมเสียความมั่นใจ ถึงจะเคยเป็นฝ่ายโดนจีบตลอดจนไม่ต้องเสียแรงลงทุนจีบใครก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะจีบใครไม่เป็นสักหน่อย

รูปก็หล่อ คารมก็เป็นต่อ

เหนื่อยใจเกิดมาเพอร์เฟกต์แบบนี้ บ้าจริง…

คิดอะไรไปเพลินๆ รู้ตัวอีกทีก็เดินมาถึงโต๊ะของเฟนกับเพื่อนแล้ว ตั้มเป็นคนแรกที่เห็นผม เขาสะกิดเฟนยิกๆ แล้วชี้ให้น้องหันมาทางผมกับเพื่อนๆ ที่ยืนอยู่ด้านหลัง

“นั่งด้วยคนนะครับ”

ผมนั่งข้างน้อง ส่วนสายฟ้ากับดารัญนั่งฝั่งตรงข้ามถัดจากตั้ม

“พะ พี่?!”

“ครับผม พี่เอง พี่พระพายคนดีของหนูไง” ผมยิ้มให้น้อง แอบขยับเข้าหาเฟนจนไหล่ชนกันเบาๆ พอให้ไฟฟ้าสถิตยุบยิบหัวใจ เจ้าตัวเล็กตาโต เขารีบขยับออกห่างจากผม ทั้งแก้มทั้งหูกลายเป็นสีแดง เนี่ย น่ารัก รู้สึกอะไรก็แสดงออกทางสีหน้าจนหมด อยากจับมาฟัค แค่กๆๆ ฟัดๆ ฟัดแก้มซ้ายแก้มขวา เอาให้เขินจนต้องซุกหน้าร้องงือๆ กับอกผมเหมือนเมื่อคืนเลย

แต่เอาจริง เมื่อคืนน้องแม่งน้ำตาคลอเบ้าเลยตอนเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ไอ้เราก็ใจหายแวบ นึกว่าน้องโกรธ โคตรลน กำลังจะขอโทษน้องล่ะถ้าไม่ใช่ว่าเฟนชิงพูดออกมาก่อนว่าแสบตาเพราะแป้งตรางูที่ผมทาอาบไว้ทั่วตัว

พอ เปลี่ยนเลย! ต่อไปไม่ใช้แล้วแป้งตรางู ถึงจะเย็นชื่นใจเวลาเทใส่ กกน.ก่อนสวมก็เถอะ ต่อไปผมจะใช้แป้งเด็กแคร์ อ่อนโยนต่อผิวและกลิ่นหอมละมุนละไม!

“พี่มาทำไม?” เฟนหน้าเหลอหลา น้องมองผมสลับกับสายฟ้าและดารัญ

“มาหาหนูไงครับ”

“นั่นแหละจะมาหาเราทำไม”

“ก็คิดถึง” ผมหยอดไปทีนึง เฟนหน้าเหวอกว่าเดิม น้องค่อยๆ กระดึ๊บออกห่าง ผมเลยขยับเข้าหาใหม่ “อยากกินข้าวด้วยคน นี่ พี่ซื้อนี่มาฝากเราด้วยนะ”

“เอ่อ...ขนมจีบ?”

“เหมือนเวลาไหว้เจ้าเราต้องเลือกอาหารที่มีความหมายมงคล พี่จะจีบหนูก็ต้องใช้ขนมจีบจีบจะได้เป็นมงคลผลออกมาทางบวกไงครับ”

“ไหว้เจ้ากับจีบคนมันไม่เหมือนกันมึง” สายฟ้ากระแอม “ไม่เหมือนเลยสักนิด”

“อร่อยนะเจ้านี้ ลองชิมดู”

ผมเมินคำพูดของมัน ไอ้นี่แม่งขัดเก่ง ขัดได้ขัดดี

“ขะ ขอบคุณนะพี่” เฟนยื่นมือมารับ ผมยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อน้องยอมรับน้ำใจไมตรี เนี่ย บอกแล้วว่าน้องยอมให้จีบ ถ้าไม่มีใจจะรับขนมจีบผมทำไม

“กูจะไปซื้อข้าวนะ มึงไปกับกูมั้ย” ดารัญลุกจากเก้าอี้ ผมได้ยินเสียงมันถอนหายใจ

“กูไป กูอยู่ตรงนี้ไม่ไหว กูเครียด!”

ผมมองตามเพื่อนสองคนที่เดินหนีไปสั่งข้าว สายฟ้าแม่งชอบเล่นใหญ่ มันจะเครียดอะไรกับเรื่องของผมนักหนา ไม่เห็นเหรอว่าแค่เริ่มต้นก็มีแนวโน้มที่ดีแล้ว ต้องขอบคุณตารางเสื้อผ้าสีมงคลด้วยอีกอย่าง ถึงชุดนักศึกษาจะเป็นสีขาว แต่ผมปรับเอาเป็นใส่กางเกงในสีมงคลตามวันแทน โคตรเสริมดวง เห็นผลทันตา

“เออนี่หนู”

“อะ อะไรอีกพี่” น้องพูดจาตะกุกตะกัก แทบไม่กล้าสบตาผม แก้มใสๆ ยังแดงระเรื่ออยู่เลย “พี่มีอะไรก็รีบพูด ไม่ต้องจ้องหน้าเราขนาดนั้นได้มั้ย”

“วันนี้เลิกกี่โมง”

“ห้าโมงครึ่ง”

“ไม่นี่” ตั้มแทรกขึ้นมา “วันนี้เลิกบ่ายสามครึ่งไม่ใช่เหรอวะ หรือกูดูตารางเรียนผิด?”

“โอ๊ยตั้ม!” เฟนส่งเสียงบ่นอุบอิบขึ้นมา ผมหัวเราะหึๆ ฉวยโอกาสที่น้องเผลอยื่นมือไปบีบแก้มน้อยๆ ทีนึงจนน้องส่งเสียงประท้วง “อย่าบีบแก้มเรา!”

“มันเขี้ยว” ผมสบตาน้อง “ริจะโกหกพี่ก็ไปเตี๊ยมกับเพื่อนก่อนจะได้ไม่โป๊ะ”

“ไม่ได้จะโกหกสักหน่อย” เฟนอุบอิบ เขาหลุบตาไม่กล้ามองหน้าผม “แล้วพี่ถามเราทำไมว่าเลิกกี่โมง”

“จะชวนไปเดต”

“แค่ก!”

เฟนสำลัก ส่วนเพื่อนหัวชมพูของน้องก็หูผึ่งตาโตจนผมสังเกตเห็นชัด เฟนมองหน้าผม น้องเบิกตากว้างเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง น่ารักน่าเอ็นดูจนเผลอยื่นนิ้วเขี่ยจมูกน้อยๆ ของน้องไปทีนึง เขาสะดุ้ง ยกมือกุมจมูกตัวเองแล้วเตะขาผมจากใต้โต๊ะ ตอนนั้นเองที่เพื่อนผมถือจานข้าวกลับมาพอดี สายฟ้าเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นปฏิกิริยาของเฟนที่มีต่อผม

“มึงทำอะไรน้อง?”

“เปล่า”

“แล้วไมเฟนพองขนใส่มึงแบบนั้น?”

“ก็แค่ชวนไปเดต” ผมยักไหล่

“พี่พระพาย!” เฟนฟาดไหล่ผมไปทีนึง แสบจนร้องซี้ด น้องจ้องหน้าผมเขม็งทั้งที่แก้มยังแดงจัด “ไปบอกพี่สายฟ้าแบบนั้นเขาจะเสียใจนะ!”

“เดี๋ยว...ทำไมพี่ต้องเสียใจวะ” สายฟ้าเกาหัวแกร่กๆ ส่วนดารัญส่ายหัวไปมาแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวเงียบๆ

“ก็…” เฟนอึกอัก เขามองหน้าสายฟ้าแล้วพูดเสียงเบา “พี่สายฟ้ากับพี่พระพาย...กุ๊กกิ๊กกันไม่ใช่เหรอ”

“น้องมึง…”

สายฟ้ากุมขมับตัวเอง และตอนนี้ดารัญกลั้นหัวเราะไปกินข้าวไปจนไหล่สั่นไปหมด

“พี่กับมันขั้วเดียวกัน ไปกันไม่ได้” ผมบอกน้อง สายรุกไม่กินกันเอง

“แต่...เราก็ขั้วเดียวกับพี่นะ”

“เดี๋ยว พี่ว่าหนูคนละขั้วกับพี่นะ”

“ไม่ๆ เราขั้วเดียวกับพี่สิ” น้องเถียง ส่วนผมเริ่มเครียด หรือน้องจะสายรุกเหมือนกัน รุกประเภทปากแดงก็ผัวเธอ หน้าหวานก็ผัวเธอ ยังไงความสูงก็ไม่มีผลต่อแนวราบ เวร...หรือผมจะได้น้องเป็นผัว? “เนี่ย เป็นผู้ชายเหมือนกัน ขั้วเดียวกัน”

โอเค ตำแหน่งผัวน้องของผมยังไม่สั่นคลอน

เกือบแล้ว เกือบเทิร์นรับให้น้องมันแล้ว!

“นี่ไอ้หนู ฟังนะ พี่ไม่ได้ชอบมัน มันไม่ได้ชอบพี่ เราเป็นเพื่อนกัน หยุดคิดอะไรไปไกลได้แล้ว ไม่งั้นมันจะไปจีบเอ็งทำไมวะ”

“อะ อ้าว…”

“อย่างที่สายฟ้ามันบอก” ผมยิ้ม วางมือลงบนหัวน้องแล้วจับโยกเบาๆ “พี่ชอบแค่หนู แล้วก็จะจีบแค่หนูนี่แหละ”

แล้วเฟนก็เขินจนแทบม้วนตัวลงใต้โต๊ะ

น้องหน้าแดงก่ำ ก้มหน้างุดกินขนมจีบที่ผมซื้อให้ไม่พูดไม่จา ผมมองหูแดงๆ ของน้อง หลุดยิ้มออกมา อยากดึงเขาเข้ามากอดให้จมอก คงให้อารมณ์เจ้าตัวเล็กตัวน้อยในอ้อมกอดน่าดู แต่รู้ดีว่าถ้าทำแบบนั้นน้องต้องโกรธมากแน่ๆ เพราะตรงนี้ไม่ได้มีแค่พวกเราสองคน

“ข้าวน่ะจะแดกมั้ย มัวแต่จ้องน้องมัน”

“สายฟ้า ถ้ามึงไม่พูดอะไรก็ไม่มีใครว่ามึงเป็นใบ้” ผมกลอกตา ทำลายบรรยากาศฟรุ้งฟริ้งกูหมดไอ้ห่า

“มันคงอิ่มแล้วล่ะ” ดารัญเหลือบตาขึ้นมองผมสลับกับเฟน “อิ่มอกอิ่มใจ ชอบเขามากมั้ยมองไปยิ้มไป”

“มึงพอ น้องเขิน”

ผมปรามมัน หัวเราะเบาๆ เมื่อเฟนแทบจะมุดหน้าลงกับโต๊ะ

“เหมือนจะช่วยน้องแต่มึงยิ้มกว้างกว่าเดิม”

“ก็มีความสุขช่วยไม่ได้”

“พี่พระพาย พอ…” เฟนฟาดแขนสลับกับเตะขาผมใต้โต๊ะ “เราไม่อยู่แล้ว พี่แกล้งเรา!”

“ก็น่ารักเองทำไมล่ะ”

“เราผิดเหรอ?!”

“เฟน กูไปซื้อน้ำนะ” ตั้มกระแอม “มึงก็...ตามสบาย”

ว่าจบน้องหัวชมพูก็ลุกเดินหนีไปทันที ทิ้งเฟนที่นั่งตาโตอ้าปากพะงาบๆ จะรั้งเพื่อนไว้แต่ไม่ทันอยู่ข้างๆ ผม ผมขยับเข้าหาน้องอีกครั้ง ยกมือโอบไหล่อีกฝ่ายไว้แล้วยื่นหน้าไปใกล้

“สรุปเย็นนี้ไปเดตกันเนอะ”

“ไม่เอา!”

“พี่อยากซื้อของด้วย จะให้หนูช่วยพี่เลือก”

“ถ้าซื้อของพี่พระพายก็ไปกับเพื่อนพี่สิ” น้องยังคงบ่ายเบี่ยง แถมยังโยนขี้ไปทางเพื่อนๆ ผมอีกแน่ะ

“พี่ไม่ว่างครับเฟน” ดารัญปฏิเสธคนแรก “รับออเดอร์เค้กของลูกค้าไว้ต้องรีบเคลียร์น่ะ”

“พี่ก็ไม่ว่าง” สายฟ้าพูดต่อ “ต้องพาตุ๊ดตู่กับติ๊ดตี่ไปหาหมอ”

“เป็นไรอีกวะ” ผมถาม ตุ๊ดตู่กับติ๊ดตี่คือแฮมสเตอร์ที่สายฟ้ามันเลี้ยงเอาไว้ ตอนผมเป็นเมตกับมันก็คอยช่วยดูแลเจ้าสองตัวนี้บ่อยๆ “ตุ๊ดตู่แก้มเน่าอีกแล้วหรือเปล่า”

“เออ โรคเดิม นิสัยมันแก้ยาก แม่งแดกล้างแดกผลาญแดกบ้านแดกเมืองแถมยังชอบอม อมดะไปหมดเต็มแก้ม ไม่รู้จะโลภอะไรนักหนาอีตุ๊ดตู่ลูกกูเนี่ย ติ๊ดตี่ก็ไม่ได้แย่งอาหารมันด้วยซ้ำ มันต่างหากที่ไปแย่งอาหารติ๊ดตี่ ชอบนักล่ะอะไรที่ไม่ใช่ของตัวเอง”

“แล้วติ๊ดตี่เป็นอะไรถึงพาไปหาหมอด้วย”

“ไม่ได้เป็นอะไร กูแค่จะพาไปตรวจสุขภาพพร้อมกันเลย ขี้เกียจหลายรอบ”

ผมพยักหน้ารับ ก่อนหันกลับไปหาเฟน

“เห็นมั้ยว่าเพื่อนพี่ไม่ว่าง”

“แต่…”

“อีกอย่างนะหนู” ผมยิ้ม บีบจมูกน้องไปทีนึงจนเฟนหลับตาปี๋ใส่ “เรื่องหาซื้อของอะแค่ข้ออ้างไง แต่พี่อยากเดตกับหนูน่ะข้อหลักเลย”

“...”

“หน้าแดงแสดงว่ามีใจ งั้นไปเดตกันเนอะ” ผมส่งยิ้มล่อลวงเต็มที่ ส่วนในใจกำลังอ้อนวอนต่อ กกน.สีมงคลที่ใส่ให้นำพาโชคดีมาให้ผม

“กะ ก็ได้…” เฟนอุบอิบ “แต่...แต่เราไม่ได้ชอบพี่นะ ที่ตกลงเพราะพี่ขี้ตื๊อ พี่อย่ามาโมเม”

“ครับๆ”

เยส! กางเกงในสีเขียวสะท้อนแสงจงเจริญ!


[เฟน]

ตอนแรกผมคิดว่าพี่พระพายคงพาไปเดตที่แปลกๆ ที่ไม่มีใครน่าจะไปกัน แต่ผิดคาด พี่เขาพาผมมานั่งกินขนมเค้กที่ร้านดังในห้างสรรพสินค้าใกล้มหาวิทยาลัยเฉยๆ มันปกติจนผมอดขมวดคิ้วไม่ได้ อย่างพี่พระพายน่ะ นึกว่าจะพาผมไปนั่งร้านขนมจีบซะอีก เห็นชอบนักหนาว่าเป็นอาหารชื่อมงคลในการจีบคน

“พี่…” ผมรวบรวมความกล้าเรียกอีกฝ่าย เงยหน้าขึ้นจากจานเค้ก พี่พระพายมองผมอยู่ก่อนแล้ว ผมหลบสายตาเขา รอยยิ้มกับสายตาที่ส่งมาอันตรายกับอัตราการเต้นของหัวใจเกินไป ผมยังไม่อยากให้ขบวนพาเหรดมดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม “ทำไมพี่ชอบเรา...เราหมายถึง เรามีตรงไหนให้พี่ชอบ เราตีพี่ตลอดเลยนะ”

“อืม จะว่าไงดี”

“เอาตามที่พี่รู้สึกอะ” ผมเม้มริมฝีปาก ทำใจกล้าสบตาพี่เขา

“ตอนแรกก็ไม่ได้อะไร เอ็นดูเฉยๆ เราน่ารักดี”

“พี่ชอบแกล้งเรา เราจำได้”

“อย่ามาพองแก้มแถวนี้นะหนู เดี๋ยวอดใจไม่ไหวจับฟัดแก้มให้” พี่พระพายแหย่ ผมเลยเตะขาพี่เขาใต้โต๊ะ “โอเคๆ ก็เราน่ารัก พี่ก็เอ็นดู อยากแกล้งอยากเล่นด้วย ไปๆ มาๆ ก็…”

“ก็?”

“ก็เริ่มถามตัวเอง”

“ถามว่าอะไรล่ะพี่ พี่พูดมาทีเดียวสิ เราเองก็อยากรู้จะแย่แล้ว”

ผมเร่ง อยากรู้จนลืมเขินอายกับสายตาแพรวพราวที่จ้องมา พี่พระพายสบตาผม เขาอมยิ้ม มือที่วางบนโต๊ะขยับเข้ามาใกล้มือผมที่วางอยู่ไม่ไกลกัน เขาเกี่ยวนิ้วก้อยตัวเองกับนิ้วก้อยผม ขยับมือแกว่งเล่นเบาๆ

“พี่ถามตัวเองว่าเฟนก็น่ารักอยู่แล้ว แต่ทำไมพี่ถึงมองว่าหนูน่ารักมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันได้อีกนะ”

คำตอบของพี่พระพายทำผมก้มหน้างุด หมดความกล้าที่จะทำเป็นเก่งสบตากับเขาอีกต่อไป หน้าผมร้อนผ่าว ไม่ต้องส่องกระจกดูก็รู้ว่าคงแดงแน่ๆ เดาได้จากเสียงหัวเราะของพี่พระพายเลย แถมในใจก็คันยุบยิบ ขบวนพาเหรดมดกำลังยึดครองพื้นที่ในใจผม

“พอ ไม่อยากรู้แล้ว”

“ยังบอกไม่หมดเลย”

“เราไม่อยากรู้แล้วพี่” ผมจะตายอยู่แล้ว ใจรับไม่ไหวแล้ว

“แต่พี่จะบอก” พี่พระพายหัวเราะร่วน เขาดูชอบใจนักแหละที่เห็นผมเขินหนักขนาดนี้ “พอเห็นเราน่ารักขึ้นทุกวันๆ พี่ก็หวงว่ะ หวงความน่ารักของหนู กลัวว่าคนอื่นจะเห็นเหมือนกัน อยากเก็บหนูไว้กับตัวเอง จับปั้นเป็นก้อนแล้วกลืนลงท้องไปเลย”

“พี่!”

“เอ๊า ก็หวงไง”

“แล้วเป็นอะไรมีสิทธิ์มาหวงเค้าเล่า!” ผมแทบมุดหน้าลงกับโต๊ะ พี่พระพายไม่อ่อนโยนกับใจเลย ขี้แกล้งเป็นที่หนึ่งล่ะคนนี้ ฮึ!

“ตอนนี้ยังไม่เป็น เลยต้องจีบก่อน เดี๋ยวพอเป็นอะไรกันแล้วจะหวงให้หนักกว่านี้เลย”

“พี่พระพาย พอนะ” ผมส่งเสียงฮือออกมา ยกมือข้างที่ว่างปิดหน้าตัวเอง “เราไม่ไหวแล้วพี่ พี่ใจดีกับเราบ้างเถอะ”

“แล้วนี่ใจร้ายด้วยตรงไหนครับ”

“พี่แกล้งเราอะ”

“พี่แกล้งอะไร ไหนหนูบอกพี่เร็ว” ผมเหลือบตามองพี่พระพายแวบนึง อีกฝ่ายมองผมยิ้มๆ แววตาก็อ่อนโยนจนผมแทบทนมองไม่ไหว

“เราเขินพี่จนจะตายอยู่แล้ว!”

“หนูก็น่ารักจนพี่จะตายอยู่แล้วเหมือนกันเนี่ย”

พี่พระพายยิ้มกว้าง ส่วนผมรู้สึกเหมือนมีอะไรระเบิดบุ๋งอยู่ในใจ ผมหลบตาเขาอีกครั้ง พยายามสูดหายใจลึกๆ เรียกสติตัวเอง ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้เขินพี่พระพายหนักขนาดนี้ ทั้งที่ผ่านมาพี่เขาเอาแต่ทำตัวบ้าๆ บอๆ แกล้งผมไปเรื่อย ดูแล้วไม่น่าจะเขินให้คนแบบนี้ได้สักนิด แต่พอเขาอ่อนโยนกับผมเข้าหน่อย อาการเขินอายมันก็พากันแสดงตัวจนพี่พระพายรู้หมด

“เรายังไม่ได้ชอบพี่นะ” ผมพึมพำ “เราแค่เขินพี่เฉยๆ พี่อย่าได้ใจนะ”

“แล้วเมื่อไหร่ถึงจะได้ใจ”

“ก็…”

“หมายถึงได้ใจหนูน่ะ เมื่อไหร่ครับ : )”

“โอ๊ยพี่…”

“เฟน ไม่มุดโต๊ะสิหนู เงยหน้ามาเร็วเด็กดี คนอะไร เขินแล้วชอบมุด” เขาหัวเราะร่วน ดึงมือผมเบาๆ จนต้องเงยหน้าขึ้นมองทั้งที่ใบหน้ายังร้อนเห่อ “ถ้าอยากมุดมากนักมามุดอกพี่นี่มา”

ผมส่ายหัวแรงๆ ทันทีที่พี่พระพายพูดแบบนั้น เมื่อคืนน่ะผมเผลอซุกอกพี่เขาไป กลายเป็นว่าโดนกอดโดนหอมจนหน้าแดงตัวแดงไปหมด อ้อมกอดของพี่พระพายคือพื้นที่อันตราย ผมจะไม่หลุดเข้าไปตรงนั้นเด็ดขาด!

“งั้น…”

“อะ อะไร…”

“ถ้าหนูไม่มุดอกพี่” พี่พระพายยิ้มหวานจนตาหยีโค้ง เขาโน้มตัวมาข้างหน้า สบตากับผมที่จ้องเขาด้วยท่าทางตื่นๆ “งั้นเปลี่ยนเป็นพี่มุดอกหนูแทนดีมั้ยครับ”

“...”

“มันเขี้ยว อยากฟัดอยากกัดให้แดงทั้งตัวเลย : )”

ทั้งรอยยิ้มและสายตาคู่นั้นแพรวพราวจนผมไม่คิดว่าพี่พระพายพูดเล่น เสียงหัวเราะหึๆ ลอยมาเข้าหู ผมรู้สึกตัวเดี๋ยวนั้นว่าตัวเองอาจจะไม่ปลอดภัย

คุณตำรวจช่วยเฟนด้วย! ตรงนี้มีคนอยากจับเราฟัดอะ ฮือ! : (


บิ๊กไซซ์ปลงสังขาร @fdhjgjdll24hag

อย่าดูถูกสีเสื้อมงคล มันได้ผล อ่านปากกูว่ามันได้ผล!

บิ๊กไซซ์ปลงสังขาร @fdhjgjdll24hag

ขนาดใส่แค่ กกน.สีมงคลผลลัพธ์ยังดีขนาดนี้ ถ้ากูใส่ทั้งตัวคือน้องเป็นฝ่ายเดินมาขอกูคบแน่ๆ

บิ๊กไซซ์ปลงสังขาร @fdhjgjdll24hag

ไม่ได้คนนี้กูก็ไม่เอาใครแล้ว จั้ม!

---------------------------------

น้องแค่เขินนะ น้องยังไม่ได้ชอบพี่สักหน่อย พี่ พพ อย่ามาโมเมว่าน้องชอบ เดี๋ยวฟาดเลย 555555 อิพี่ก็แบบ เอาขนมจีบมาจีบน้องเพราะชื่อมงคลเหมือนตอนไหว้เจ้าต้องใช้อาหารชื่อมงคล อนาคตคือวางน้องไว้บนหิ้งบูชาเช้าเย็นพร้อมท่องบทสวดแน่ๆ

สุดท้ายนี้...อย่าดูถูกสีเสื้อมงคลนะคะ

#เพื่อนกล่อมนอน


ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
ยอมใจพี่มึงจริง ๆ   o18 o18 o18

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เครียดแทนแต่ล่ะมุกที่จีบน้อง ขำจนเหนื่อย 555555555555555555

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เอ็นดูววววววววววว  :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ขออนุญาตเกลียดกางเกงในสีมงคลของอิพี่นะคะ แหมมมมมมมม 5555

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
 :hao7: ระวังบ้าตามมันนะลูกเฟน อย่าไปตอดเชื้อเข้าล่ะ เป็นแล้วไม่หายแน่ๆ  :hao7:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
งุ้ย..ยยย ยิ่งอ่านยิ่งชอบอ่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ถ้าพพ.ใส่เขียวสะท้อนแสงทั้งตัว... น้องเฟนหนีไปลูกนี่มันคนบ้า

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เขินขนาดนี้แต่ยังไม่ชอบนะเฟน

ออฟไลน์ magmild

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
วงวารน้องเฟน55555555555

Sent from my GT-I8262 using Tapatalk


ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เครียดแทนน้องเลย5555

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เจ้าตัวน่ารัก T_T

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เขินบ้าบอจนมาขำบ้าบอกับท่อนตุ๊ดตู่กับติ๊ดตี่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Tulip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้องน่ารักกกกก :sad4: :impress2:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
น้องเฟนยิ่งเขินก็ยิ่งน่ารัก

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คุณ พพ. เสียสติ ปะทะน้องเขินตัวแตก

ออฟไลน์ Kimmoominn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หนูวววว น่ารักจังเลยลูกกก ไม่ไหวแลเวิสอสอวอวอมอด ทำไมน่ารักขนาดเนอาอแมแว หวงไม่อยากให้พี่พระพายจีบได้มั้ยสแมดสดส มแใแสก

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
 :laugh: ได้พี่ได้ งวดหน้าเอากางเกงในใส่ไว้ด้านนอกเลยนะ สะท้อนแสงซะด้วย

ออฟไลน์ JackXy Wu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-5
บทที่ 14

หนูจ๋า บดอีก พี่ขอแรงๆ





เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

พ่นน้ำจากตึกใบหยกอาจลดฝุ่นได้เฉพาะที่ แต่ถ้าทั่นพ่นน้ำจากนอกโลกจะช่วยโลกได้ทั้งใบ ไปครับทั่น ออกนอกโลกไปเลยครับ เสียสละตัวเองแล้วอยู่บนนั้นไปเลยไม่ต้องกลับมา หัวขวด!

เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

สร้างสรรค์มากครับ ภูมิใจจริงๆ ที่คิดวิธีนี้ออกมาได้ ปชช.คนธรรมดาไม่มีทางคิดได้นะครับเนี่ย ห้าห้าห้า

เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

อะ ล่าสุดจะลองผสมน้ำตาลในน้ำเพิ่มความหนืดดักจับฝุ่น มดแถวบ้านกูนี่ดี๊ด๊าใหญ่แล้ว เตรียมปาร์ตี้ฝนน้ำตาลเริงร่ากันทั้งรัง กูต้องเปิด EDM ให้มันเต้นด้วยมั้ย อีเวร!


ผมกดปิดทวิตเตอร์หลังเช็กความเคลื่อนไหวข่าวสารช่วงนี้เรียบร้อยก่อนกลับมาตั้งใจทำงานต่อ นาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มสิบห้านาที ผมชักจะง่วงแต่งานตรงหน้ายังไม่เสร็จ ที่จริงงานมันไม่ได้ยากอะไร ผมแค่...ถ่วงเวลารอให้พี่พระพายนอนหลับก่อนแล้วค่อยกระดึ๊บขึ้นเตียงนอนตามไม่ให้เขารู้ตัว

ผมทำแบบนี้มาได้หลายวันตั้งแต่พี่พระพายบอกว่าจะจีบผมแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผมไม่มีปัญหากับการนอนข้างเขาเลยนะ แต่ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป และผมรับมือกับมันไม่ถูกเอาซะเลย พี่พระพายน่ะชอบนอนตะแคงมองหน้าผมแล้วก็ยิ้มให้ รอยยิ้มของเขาอันตรายชะมัด พี่พระพายรู้ดีว่าจะทำให้ผมเขินได้ยังไง และพอผมเขิน การนอนหลับทั้งที่ยังมีขบวนพาเหรดมดอยู่ในใจก็ยากขึ้นทุกวัน

เพราะฉะนั้นต้องรอให้พี่พระพายหลับก่อน!

“หนู ดึกแล้วนะ มานอนได้แล้วเร็ว”

“เรายังทำงานไม่เสร็จ” ผมเงยหน้าจากงาน พี่พระพายนอนตะแคงข้างเอามือเท้าหัวตัวเอง เขามองผมที่กางโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กนั่งทำงานอยู่ข้างเตียง หัวคิ้วขมวดมุ่น

“ทำมาตั้งแต่สองทุ่มครึ่งแล้วนะหนู”

“ก็มันยังไม่เสร็จอะ พี่อย่าเร่งเราสิ”

“แต่เราทำงานดึกมาหลายคืนแล้วนะ” พี่พระพายหน้าบึ้งใส่ “ตัวหนูก็แค่นี้ เกิดไม่สบายหรือน็อกขึ้นมาจะทำยังไง”

“เราแข็งแรงนะ” ผมเถียง

“จริงอะ?”

“จริงสิ”

“พี่ไม่เชื่อหรอก” พี่พระพายยิ้มมุมปาก เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย “คนแข็งแรงอะไรกัน โดนจับกอดจมอกแค่นี้ก็ดิ้นไม่หลุด พอโดนหอมทีก็ตัวอ่อนปวกเปียก”

“พี่พระพาย!”

ผมฟาดแขนเขาไปทีนึง แรงพอให้คนตัวโตซี้ดปากหน้าเบ้ได้ พี่พระพายลุกขึ้นนั่ง เขาลูบแขนตัวเองไปมา บ่นงึมงำว่าผมใจร้ายกับเขามั่งแหละ ไม่อ่อนโยนกับเขามั่งล่ะ

พี่พระพายต่างหากที่ไม่อ่อนโยนอะ!

พูดบ้าอะไรก็ไม่รู้ ฮึ่ย!

“เออหนู”

“พี่อย่ากวนเราได้มั้ย ง่วงก็นอนไปก่อนเลย งานเราต้องใช้สมาธินะ” ผมชิงพูดก่อนพี่พระพายจะพูดจบ

“พี่ก็อยากนอนนะหนู แต่นอนไม่หลับเลย”

“อ้าว ทำไมอะ” ผมถาม งี้ถ้าพี่พระพายตาค้างทั้งคืนผมคงไม่ได้นอนกันพอดีน่ะสิ “พี่เป็นอะไร?”

“วันนี้น้องผู้ชายที่คณะเป็นลมตอนรับน้อง พี่กับเพื่อนเลยต้องช่วยกันแบกเขาออกมาปฐมพยาบาล” พี่พระพายเล่าพลางยกมือกดๆ นวดๆ ที่บั้นเอว “แล้วน้องนั่นตัวใหญ่มาก สงสัยพี่ออกแรงผิดท่า เอวเดาะปวดตั้งแต่กลางวันแล้วเนี่ย”

“ปวดมากเลยเหรอพี่” ผมเริ่มลุกลี้ลุกลน “ปวดจนนอนไม่ได้เลยเหรอ”

“สุดๆ เลยหนู”

“ทำไงดีอะพี่”

“ถ้าได้นวดสักทีเส้นน่าจะคลายนะ” พี่พระพายเหลือบตามองผม “หนูเป็นห่วงพี่เหรอ ดูสิ อยู่ไม่สุข นั่งไม่ติดเลยนะเรา พี่เห็นแล้วชื่นใจ”

ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ในหัวคิดแค่ว่าถ้าพี่พระพายยังไม่หลับ ผมก็ไม่กล้าขึ้นไปนอนแน่ๆ และสงสัยว่าความกังวลของผมคงแสดงผ่านสีหน้า พี่พระพายถึงได้ดี๊ด๊าแบบนั้นเพราะคิดว่าผมเป็นห่วง

“พี่”

“จ๋าหนู”

“เรานวดให้มั้ย”

“เดี๋ยว พูดจริงเหรอ?” พี่พระพายตาโต ก่อนที่วินาทีต่อมาจะยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยใส่ผม “เกรงใจจังเลย แต่ถ้าหนูเสนอตัวมาแบบนี้ พี่ก็ไม่ปฏิเสธหรอก เดี๋ยวหนูเสียน้ำใจเนอะ”

“พี่มีน้ำมันนวดมั้ย”

ผมมองข้ามสีหน้าและน้ำเสียงดี๊ด๊าของเขา พี่พระพายพยักหน้ารับ เขาเดินไปหยิบกระปุกน้ำมันนวดสมุนไพรยัดใส่มือผมก่อนจับชายเสื้อยืดที่ใส่นอนเลิกขึ้นถอดออกจากตัวแล้วโยนไว้ข้างเตียง ผมสะดุ้ง หลุบตาหนีไปทางอื่นจนกระทั่งพี่พระพายทิ้งตัวนอนคว่ำกับเตียงถึงได้หันกลับมา

ตรงหน้าผมคือแผ่นหลังกว้างสีแทนอย่างคนสุขภาพดี กล้ามเนื้อเขาแน่นตึงดูแข็งแรง ผมยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ข้างเตียงจนพี่พระพายเอี้ยวหน้ามามองแล้วส่งยิ้มพร้อมขยิบตา

“คร่อมบนตัวพี่เลยจ้ะเบบี๋”

“ฮะ?”

“หมายถึง…” เขากลอกตา ยกยิ้มมุมปากแล้วตบหลังเอวตัวเองเบาๆ “หนูขึ้นนั่งตรงนี้เลย จะได้ออกแรงกดได้หนักๆ กดจากทางตรงมันลงน้ำหนักได้ดีกว่า”

“เอ่อ จะดีเหรอพี่ เราหนักนะ…”

“ตัวเราก็แค่นี้ สบ๊ายยย”

ผมลังเล แต่ก็อยากรีบๆ นวดให้เส้นพี่พระพายคลาย เขาจะได้นอนหลับ แล้วผมจะได้นอนตามสักที ผมก้าวขึ้นเตียง นั่งคร่อมตรงเอวพี่เขา เลื่อนต่ำลงมาหน่อย ได้ยินเสียงพี่พระพายสูดปากเบาๆ เขาน่าจะปวดมากเลยทีเดียว เพราะเสียงสั่นมาก แถมยังหายใจหืดหาดอีก

ผมเปิดกระปุกน้ำมันนวด ป้ายมันทาบริเวณช่วงเอวของพี่พระพายแล้วออกแรงกดนวดตามจุด ผมเคยนวดให้แม่อยู่บ่อยๆ เลยพอรู้ว่าต้องกดเน้นบริเวณไหนบ้าง

“อื้มมมม ดีมากหนู อ่า...ขอแรงกว่านี้”

“พี่ชอบแรงๆ เหรอ”

“ช่าย พี่ชอบแรงๆ มันถึงใจดี”

ผมพยักหน้ารับ ออกแรงกดแรงเฟ้นหนักกว่าเดิมจนพี่พระพายคำรามฮึมฮัมในลำคอ เขาสูดปากสลับกับเป่าลมออกปาก ลมหายใจหอบกระชั้นทุกครั้งที่ผมเค้นฝ่ามือไปทั่วเอวและแผ่นหลังเขา

“พี่เจ็บเหรอ”

“ปะ เปล่า ไม่ได้เจ็บ”

“อ้าว เราเห็นพี่กำหมอนจนเส้นเลือดปูดไปหมดเลยนึกว่าพี่เจ็บ”

“แล้วหนูรู้มั้ย นอกจากเส้นเลือดที่มือปูดแล้ว เส้นเลือดตรงอื่นก็ปูดด้วยนะ”

“หือ? ตรงไหนอะพี่ แล้วทำไมมันปูด? พี่เป็นเส้นเลือดขอดเหรอ”

“มันปูดเพราะถูกกระตุ้นจนเลือดลมมันเดินไงครับ” พี่พระพายหัวเราะจนไหล่สั่นไปหมด ผมคิดว่าเขาน่าจะสบายตัวกว่าเดิมเพราะดูอารมณ์ดีขึ้นจนสังเกตได้ “แต่พี่บอกไม่ได้หรอกนะว่าตรงไหน เดี๋ยวหนูจะกลัวเอา”

“เส้นเลือดมันปูดจนน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“อย่าให้พี่พูด”

“...”

“ปูดเป็นลำๆ เลยหนู”

“งงอะ ภาษาไทยเราไม่ค่อยแข็งแรงพี่ก็รู้” ผมขมวดคิ้ว ยังออกแรงนวดเฟ้นให้พี่พระพายไปเรื่อยๆ “เส้นเลือดเขาเรียกเป็นเส้นๆ ไม่ใช่เหรอ เส้นเลือดเป็นลำแบบนี้เราไม่เคยได้ยินนะ”

“เป็นลำถูกแล้ว เชื่อพี่ดิ”

“ก็ได้” ผมยอมเพราะไม่อยากทะเลาะกับเขาเรื่องลักษณนามการเรียกสิ่งของ ยังไงพี่พระพายก็อยู่ไทยนานกว่าผม ภาษาไทยเขาต้องแม่นกว่าอยู่แล้ว “แต่ถ้ามันปูดเป็นลำขนาดนั้นจะไม่เป็นอันตรายเหรอ เราฟังแล้วดูน่ากลัวอะ”

“จะว่าอันตรายก็อันตรายนะ แต่จะว่าไม่อันตรายก็ได้”

“สรุปว่าอันตรายหรือไม่ล่ะเนี่ย?”

“ก็…” พี่พระพายลากเสียง เขาครางออกมาเบาๆ ปลายนิ้วจิกหมอนจนขึ้นข้อขาว “มันไม่อันตรายสำหรับพี่ จะมีเอฟเฟกต์ปวดหนึบๆ บ้างเล็กน้อย แต่พอนวดจนมันพ่นพิษออกมาก็หายแล้ว”

“พ่นพิษ?”

“หมายถึงนวดให้เหงื่อระบายออกน่ะครับ”

“อ๋อ…” ผมพยักหน้าเข้าใจ “แล้วที่พี่ว่ามันอันตรายกับคนอื่นนี่มันยังไง”

“ก็ถ้าพี่นวดจนมันพ่นพิษเองก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าพี่ไปนวดกับคนอื่นแล้วเผลอพ่นพิษใส่เขา มันจะทำให้เขาเหนื่อยจนขยับตัวไม่ไหวแถมยังปวดเอวด้วยน่ะสิ”

“นี่พี่เป็นตัวอะไรเนี่ย เอเลี่ยนเหรอ?!” ยิ่งฟังผมก็ยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปทุกที

“ฮ่าๆๆๆ ขำๆ นะหนู ไม่ต้องใส่ใจหรอก”

ผมขมวดคิ้วแน่น รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องแต่ก็ไม่รู้ว่าตรงไหน หรือผมควรลงเรียนภาษาไทยเพิ่มเติมดี? จะได้เข้าใจความหมายของภาษาไทยลึกซึ้งขึ้น แม่ไม่น่าส่งผมเรียนอินเตอร์เลยเนี่ย เฮ้อ…

“พี่รู้สึกดีขึ้นหรือยัง” ผมถามเพราะเริ่มง่วงแล้ว แถมยังเมื่อยด้วย

“อื้มมม ดีมากเลยหนู แต่ขออีกนิดนึง พี่ใกล้แล้ว” พี่พระพายว่า ผมเลยออกแรงนวดๆ เค้นๆ ให้เขาต่อ ก่อนที่เสียงโทรศัพท์มือถือพี่พระพายจะดังขึ้น เขาควานมือไปหยิบมากดรับและเปิดลำโพง เนื่องจากตอนนี้นอนคว่ำอยู่เลยจับแนบหูไม่ถนัดเท่าไหร่ “ซี้ด ฮัลโหล ว่าไงมึง”

“มึง รู้ยังพรุ่งนี้มหา’ลัย…”

“อ่า อื้ม...แรงๆ หนู”

“เดี๋ยวนะ...” เสียงปลายสายชะงักไป ผมจำได้ว่าเป็นเสียงพี่สายฟ้า “มึงไม่อยู่ห้องเหรอ ออกไปนัดเย็บเรอะ?”

“อะไร กูอยู่ห้องเนี่ย อูยยย แรงอีกหนู บดๆ หน่อย”

“เชี่ย! มึงพาคนมาที่ห้องเหรอวะ แล้วเฟนล่ะ มึงเอาน้องไปไว้ไหน?!”

“มึงจะเอะอะอะไร น้องก็อยู่ อ่า...ซี้ด กับกูเนี่ย”

“ฮะ?!”

“น้องขึ้นให้กูอยู่ มึงจะโวยวายอะไร”

“ขึ้นให้มึง!?”

พี่สายฟ้าตะโกนจนผมสะดุ้ง ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร แค่พี่พระพายบอกว่าผมขึ้นนวดหลังนวดเอวให้ทำไมต้องเสียงดังขนาดนั้น

“พี่ พอยังอะ เราเจ็บแล้ว” ผมเริ่มงอแง พี่พระพายใช้ให้ผมนวดจนเจ็บนิ้วไปหมด “เราเหนื่อยแล้วนะ แสบด้วยอะ”

น้ำมันนวดยี่ห้ออะไรก็ไม่รู้ นวดไปนานๆ แล้วแสบร้อนนิ้วสุดๆ

“หนูทนอีกนิดได้มั้ย พี่ใกล้แล้วหนู ขอบดๆ แรงๆ กระแทกกระทั้นเท่าที่แรงหนูจะไหวเลยจ้ะ อูยยย นั่นแหละๆ เค้นพี่หน่อย อ่าห์…”

“พระพาย มึง ไอ้เหี้ยยยยย!”

“แฮ่กๆๆ พี่พระพาย เราจะไม่ไหวแล้วอะ” ออกแรงจนเหนื่อยแล้ว คนบ้าอะไรหนังหนาขนาดนี้ ออกแรงจนสุดตัวกลับบอกว่าแรงอีก ผิวหนังพี่ทำด้วยอะไรถามจริงเถอะ

“หนูใส่น้ำมันเพิ่มอีกนิด จะได้ลื่นๆ พอไม่ฝืดจะได้ไม่เจ็บ”

“พระพายมึง! จัญไร! ไหนมึงบอกว่าตัวเองมีศีลธรรมจรรยาบรรณ นั่นผู้เยาว์! มึงลืมบทสวดที่กูให้ไปแล้วเหรอวะ ไอ้เพื่อนเวร!”

“มึงเป็นบ้าอะไรสายฟ้า พรุ่งนี้มหา’ลัยมีอะไรก็พูดมากูฟังอยู่เนี่ย นอกเรื่องอยู่ได้ ไร้สาระว่ะ”

“มึงจะให้กูพูดในขณะที่มึงครวญครางใส่หูกูเนี่ยนะ?!”

“ก็กูใกล้เสร็จสมอารมณ์หมายแล้ว มึงจะไม่ให้กูส่งเสียงหน่อยเหรอวะ!”

“มึงรออยู่นั่นเลย เดี๋ยวเจอกูแน่!”

ผมได้ยินเสียงโครมครามดังจากปลายสายตามด้วยเสียงปิดประตูดังปังแลtเสียงวิ่งตึงตัง พี่พระพายยังคงส่งเสียงซี้ดซ้าดทุกครั้งที่ผมออกแรงนวดกดเส้นให้เขา

“ตรงนั้นเลยเฟน ย้ำๆ หน่อย”

“ตรงนี้ใช่มั้ยพี่ แฮ่กๆ” ผมถามปนหอบ นวดให้พี่พระพายเหนื่อยยิ่งกว่าไปวิ่งรอบสนามอีก “ย้ำอีกเหรอพี่ เราจะฉีกแล้วนะ!”

ผมอดประชดไม่ได้ ถ้ากดแรงจนเล็บฉีกขึ้นมาจริงๆ จะเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลให้เข็ดเลยคอยดู!

ปังๆๆๆๆ

เสียงเคาะประตูทำให้ผมสะดุ้งโหยง พี่พระพายเองก็ตกใจเหมือนกัน ไม่ทันที่พวกเราจะได้คิดอะไร เสียงจากปลายสายก็ดังขึ้นมาพร้อมๆ กับเสียงจากหน้าห้องทำให้รู้ว่าใครมาหา

“มึงเปิดประตูเดี๋ยวนี้ หยุดสิ่งที่กำลังทำซะ มึงจะเข้าคุกก่อนกูไม่ได้ ไอ้ชิบหาย!”

“เป็นบ้าไรวะสายฟ้า กูไม่เปิด กูกำลังจะเสร็จ!”

“มึงไม่เปิดใช่มั้ย ได้!” ผมได้ยินเสียงกึกกักก่อนประตูจะถูกถีบเข้ามา พี่สายฟ้าผมเผ้ายุ่งเหยิงในชุดนอนเสื้อบอลคอย้วยและกางเกงบอลที่ย้วยพอๆ กันยืนจังก้าอยู่ตรงหน้า มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ อีกข้างถือตะหลิวง้างเตรียมฟาดอะไรบางอย่าง “เฟน เดี๋ยวพี่จะช่วยเอ็ง อ้าว…”

“เอ่อ ดีครับพี่สายฟ้า”

ผมส่งเสียงทักทายเมื่อพี่สายฟ้าเงียบไป เขาอ้าปากหวอมองมาที่ผมกับพี่พระพาย

“หนู ตรงนั้นๆ แรงเลยหนู แรงอีก ใช่!”

กร๊อบ…

ผมได้ยินเสียงกร๊อบเบาๆ หลังออกแรงสุดตัวกดจุดที่เขาต้องการ

“โอยยยย ในที่สุด” พี่พระพายหอบเบาๆ ผมผละออกจากตัวเขา มองอีกฝ่ายที่ลุกขึ้นบิดเนื้อบิดตัวสีหน้าผ่อนคลายกว่าเดิม “เรานี่นวดเก่งที่สุดเลยเฟน เดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงหนมตอบแทนนะ”

“มะ มึงไม่ได้…”

“อ้าว มึงเข้ามาได้ไงวะ” พี่พระพายขมวดคิ้ว “อ๋อ กูรู้ล่ะ มึงเอากุญแจสำรองที่กูเคยให้ไว้คืนมาเลยนะ เห็นกูลืมทวงหน่อยล่ะทำเป็นเนียน”

“นี่มึง…”

“อะไร?”

“...”

“แล้วจะเปิดประตูห้องกูค้างไว้อีกนานมั้ย ความร้อนมันเข้า เปลืองแอร์ห้องกู แล้วถ้ามียุงเข้ามากัดน้องนะมึงโดนแน่สายฟ้ากูบอกเลย”

พี่สายฟ้าอ้าปากพะงาบๆ เขาสูดหายใจลึก ลดตะหลิวในมือลงแล้วใช้เท้าดันประตูปิด พวกเราจ้องหน้ากันนิ่งๆ อยู่พักหนึ่ง ผมเลยฉวยโอกาสที่ห้องกำลังเงียบๆ ก้าวลงจากเตียงไปล้างมือที่เปื้อนยานวดในห้องน้ำจนสะอาดแล้วค่อยออกมาอีกครั้ง พี่สายฟ้ามองหน้าผม

“เมื่อกี้ทำอะไร”

“เรานวดให้พี่พระพาย” ผมเดินไปหยิบขวดยานวดชูให้พี่สายฟ้าดู “พี่พระพายบอกหลังเดาะ ปวดหลังมากนอนไม่หลับน่ะครับ”

“แล้วที่มันบอกให้เอ็งบดแรงๆ กระแทกกระทั้น?”

“ก็ออกแรงนวดไง” พี่พระพายเป็นคนตอบ เขามองหน้าเพื่อนตัวเองอย่างไม่เข้าใจ “เฟนก็ตัวแค่นั้น แรงจึ๋งนึง กูต้องบิ้วอารมณ์ให้น้องมันออกแรงเยอะๆ หน่อย ไม่งั้นไม่หายปวด”

“งั้นที่บอกว่าเจ็บกับแสบ แถมยังหอบแฮ่กๆ?”

“พี่พระพายหนังหนา เราออกแรงนวดจนเจ็บนิ้วไปหมด เหนื่อยจนหอบ” ผมหน้างอ “แถมยานวดนี่ก็แสบมือสุดๆ ไปเลยพี่สายฟ้า”

“ละ แล้วที่ว่าฉีก…”

“เราคิดว่าเล็บเราจะฉีกน่ะสิ พี่พระพายบอกแรงอีกๆ ทั้งที่เราเค้นให้สุดแรงแล้ว เกือบตายแน่ะ” ผมบ่น เดินกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะญี่ปุ่นบนพื้นต่อ

“ทำไมวะมึง แค่ให้น้องนวดนี่กูทำผิดศีลธรรมอะไรขนาดนั้น หรือเพราะว่ากูใช้แรงงานเด็กวะ?”

“ช่างเถอะ” พี่สายฟ้าโบกมือไปมา เขาทรุดตัวนั่งกับขอบเตียง ยกมือนวดขมับตัวเอง ก่อนหันไปทางพี่พระพาย “เออ ที่กูโทรมาเพราะจะบอกว่าพรุ่งนี้มอหยุดนะ คิดว่ามึงไม่น่าจะรู้”

“หยุดเนื่องในวันอะไร?”

“ปัญหาฝุ่นพิษ” พี่สายฟ้ายักไหล่ “ดูข่าวมั้ยล่ะ ที่ว่าจะไปพ่นน้ำบนตึกใบหยก ต่างอะไรกับไฟไหม้ป่าแล้วให้หมาฉี่ดับไฟวะกูถามหน่อย นอกจากไฟจะไม่ดับเจี๊ยวยังจะไหม้อีก”

“เบาหน่อยเพื่อน เบาหน่อย”

“กูเบาสุดแล้ว นี่ยังไม่พูดเรื่องที่จะเอาน้ำตาลไป…”

“เออ แฮมสเตอร์มึงเป็นไงบ้างแล้ว” ผมคิดว่าพี่พระพายจงใจเปลี่ยนเรื่อง

“ตุ๊ดตู่น่ะเหรอ เปลี่ยนจากอมอาหารมาอมน้ำแล้วพ่นใส่ขี้เลื่อยแทนล่ะ” พี่สายฟ้าส่ายหน้าไปมา “ไม่รู้เป็นห่าอะไรกับการพ่นน้ำ พ่นอยู่นั่นแหละ จะพ่นให้น้ำท่วมกรงหรือไงกูถามก่อน เดี๋ยวจะแยกติ๊ดตี่ออกจากตุ๊ดตู่ล่ะ ลูกรักกูขนเปียกเพราะลูกชังหมดแล้ว อยู่ไม่สุขเพราะมันตัวเดียว”

“มึงด่าแต่ก็ทนเลี้ยงมาหลายปีอะนะ”

“เลี้ยงๆ ไป เดี๋ยวก็หมดวาระมันล่ะ เอาบุญมึง”

“มึงต้องใช้คำว่าหมดอายุขัยหรือเปล่าวะ”

“มันก็คล้ายๆ กันแหละมึง” พี่สายฟ้าตบบ่าพี่พระพายไปทีนึง เขาเหลือบตามองผมแล้วหันไปหาพี่พระพาย ผมไม่ได้สนใจอะไรมากนัก “ส่วนมึงก็...หักห้ามใจหน่อยนะ ตอนแรกกูใจตกมาตาตุ่ม”

“ไมวะ”

“ก็กูคิดว่ามึง...น่ะ เข้าใจปะ”

“น่ะไรวะ…” พี่พระพายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนร้องอ๋อ ผมได้ยินเสียงเขาหัวเราะหึๆ “บ้า มึงก็คิดมากไป กูบอกแล้วไงว่ากูมีศีลธรรมจรรยาบรรณพอจะหักห้ามใจ”

“กูถามจริง เหยื่ออยู่ตรงหน้าแต่กินไม่ได้ ในหัวมึงไม่คิดอะไรหน่อยเหรอ”

“คิด”

“นั่นไง!”

“ก็แค่คิดปะวะ ยังไม่ได้ลงมือ เท่ากับกูยังมีศีลธรรมและจรรยาบรรณในใจอยู่”

“มึงรู้มั้ย ข้ออ้างมึงก็เหมือนการฉีดน้ำจากตึกใบหยก”

“ยังไงวะ?”

“พยายามแทบตายทั้งที่รู้ว่าไร้ค่า”

“...”

“ถ้าคิดได้แค่นี้ก็อย่าคิดเลยดีกว่า ปัญญาอ่อน มึงชำเราเขาในใจไปกี่ครั้งแล้วเหอะ”

“มึงด่ากูเนอะ”

“คุยอยู่กับมึงสองคนกูจะไปด่าหมาแมวที่ไหนนนนน” พี่สายฟ้าเสียงสูง

“เออ ก็ให้กูได้มีความสุขกับจินตนาการตัวเองหน่อยเถอะ” พี่พระพายบ่นพึมพำ “มึงหมดธุระแล้วก็กลับไปไป๊ กูกับน้องจะนอนแล้ว เออ หยิบเสื้อมาให้กูด้วย หนาวนม”

“ถุ้ย!”

ผมเงยหน้าขึ้นมาพอดีกับที่พี่สายฟ้าโยนเสื้อใส่หัวพี่พระพาย เขาหันมองผมอีกรอบ สายตาดูเป็นห่วง แต่ไม่พูดอะไร ทำแค่ส่ายหัวแล้วคว้าตะหลิวเดินออกจากห้องพวกเราไป

“มาหนู มานอนกันเร็ว ดึกมากแล้วเนี่ย”

“เรายังไม่ง่วง”

“ตาปรือขนาดนั้น พี่ไม่โง่นะเว้ย”

“พี่ก็นอนก่อนสิ” ผมหลบตา ทำเป็นขีดเขียนงาน “งานเรายังไม่เสร็จ...เหวอ!”

ผมร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ ก็ถูกรวบเอวอุ้มจนตัวลอย รู้สึกตัวอีกทีก็มานอนบนเตียงข้างๆ พี่พระพายเรียบร้อยแล้ว ผมเบิกตาโตมองเขา กระถดไปนอนชิดในสุด พี่พระพายมองท่าทีของผม เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนพลิกตัวไปปิดไฟจนห้องมืดสนิท มีเพียงแสงจากระเบียงห้องที่ลอดผ่านเข้ามาพอเห็นอะไรๆ ได้เลือนราง พี่พระพายหันหน้ามาทางผม สายตาเมื่อปรับเข้ากับความมืดแล้วก็เห็นว่าเขาอมยิ้มน้อยๆ อยู่

“รู้หรอกน่าหนู”

“ระ รู้อะไร”

“รู้ว่าไม่กล้ามานอนด้วย” พี่พระพายจิ้มจมูกผม “เขินอะดิ เวลาพี่นอนมองหน้าใช่ปะ เลยต้องให้พี่หลับก่อนแล้วค่อยเดินดุ๊กดิ๊กขึ้นเตียงมานอนขดตัวกลมป๊อก”

“รู้ได้ไง ยังไม่หลับเหรอ?!” ผมตาโต

“แกล้งหลับไง” เหมือนเขาจะยักคิ้วใส่ ผมมองไม่ถนัดเท่าไหร่ “เป็นไง เนียนกว่าตอนหนูแกล้งหลับมั้ยครับ”

“ไม่คุยด้วยแล้ว หลับไปเลยไป ไม่ต้องมามองหน้าเรา”

“น่ารักขนาดนี้ ถึงไม่อยากมองสายตาก็หันมาหาหนูตลอดนั่นแหละ แหม…”

“พี่นอนไปเลยไป” ผมพลิกตัวหันหลังให้เขา “เราง่วง จะนอนแล้ว”

“หันหลังให้พี่อันตรายกว่าหันหน้าน้า” พี่พระพายลากเสียงเจ้าเล่ห์ ผมสะดุ้งโหยง พลิกตัวหันกลับมาหาเขาแทบไม่ทัน “ว้า หันกลับมาซะแล้ว ยังไม่ทันได้ทำอะไรๆ เลย”

“พี่ เลิกแกล้งเราเหอะ เราง่วงจริงๆ แล้วนะ”

“ก็นอนดิครับหนู”

“ก็พี่มองเราอยู่ เราหลับไม่ลง”

“ทำไม มันตึกตักเหรอครับ”

“บ้า ไม่สักหน่อย” ผมหลุบตาหนี ดึงผ้าห่มคลุมมิดคอแล้วซุกหน้ากับหมอน “ขี้แกล้งขนาดนี้ไม่ตึกตักด้วยหรอก”

“โห แย่เลย คะแนนพี่ติดลบแล้วมั้งเนี่ย เพิ่งจีบได้ไม่เท่าไหร่เอง”

“ติดลบร้อยไปเลย!” ผมส่งเสียงฮึในลำคอ

“งั้นทำยังไงดีถ้าพี่อยากเพิ่มคะแนน”

“ไม่บอก”

“งั้นพี่คิดเองนะ”

ผมไม่ตอบ พยายามข่มตานอนหลับแต่จู่ๆ มือกลับถูกพี่พระพายจับไปกุมไว้ ผมลืมตาอีกครั้ง ยังไม่ทันถามว่าเขากำลังจะทำอะไร เจ้าตัวก็ตอบผ่านการกระทำ

“นวดให้พี่จนเจ็บนิ้วเลยใช่มั้ย งั้นพี่นวดคืนให้เนอะ” พี่พระพายออกแรงนวดมือให้ผมเบาๆ เขากดปลายนิ้วทั้งสิบของผมสลับกันไปมา ผมนิ่งไป ไม่ได้ดึงมือออกอย่างที่คิดจะทำในตอนแรก จะว่าไปมันก็...สบายดีนะ “นิ่งเลย เคลิ้มล่ะสิหนู”

“งะ งั้นๆ อะ”

“ถามจริง”

“จริง”

“ไม่หวั่นไหวหน่อยเหรอ”

“ถ้าพี่ทำหวังผลประโยชน์เราก็ไม่หวั่นไหวหรอก”

“งั้นถ้าทำเพราะอยากให้หนูนอนหลับสบายๆ ไม่เจ็บมือล่ะ” พี่พระพายเกลี่ยปลายนิ้วกับหลังมือผมเบาๆ “ไม่หวังให้หวั่นไหวหรือเพิ่มคะแนนให้ก็ได้ แต่สบายหรือเปล่าถามก่อน”

“กะ ก็สบายดี”

“งั้นก็ดีแล้วเนอะ หนูจะได้หลับฝันดี”

ผมเงียบ พี่พระพายก็ไม่ได้ชวนคุยอะไรอีก เขายังนวดมือนวดนิ้วให้ผมต่อเรื่อยๆ ไม่รู้จะทำไปจนถึงเมื่อไหร่ ผมเม้มริมฝีปาก ความเงียบรอบตัวทำให้เสียงเต้นของหัวใจชัดขึ้นเรื่อยๆ

ใจเต้นแรงขนาดนี้ เรียกว่าหวั่นไหวได้หรือเปล่า?

แย่จังเลย

พี่พระพายขี้โกงที่สุด มาทำคนอื่นใจเต้นแบบนี้ ตัวเองใจเต้นเหมือนเค้ามั้ยก็ไม่รู้

“พี่…”

“หืม?”

“แล้วพี่พระพายตึกตักมั้ย”

“อยากรู้มั้ยล่ะ”

“อือ เราจะได้ไม่รู้สึกเสียเปรียบ” ผมพยักหน้ารับในความมืด รู้สึกได้ว่าพี่พระพายขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม เขาวางมือโอบศีรษะผม ออกแรงดึงให้ขยับลงมานอนแนบอกตัวเอง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากเกินกว่าจะตั้งตัวทัน

“บอกไปคงไม่เชื่อ ฟังเองเลยแล้วกัน” เสียงทุ้มกระซิบใกล้จนรู้สึกจั๊กจี้

ตึกตักๆๆๆๆ

จังหวะหัวใจของพี่พระพายไม่ต่างจากผมสักนิด เต้นรัวเหมือนมีคนตีกลองอยู่ข้างใน แก้มผมร้อนผ่าว ไม่รู้ว่าเพราะอุณหภูมิจากตัวพี่พระพายส่งผ่านมาหรือเพราะผมกำลังเขินจนหน้าแดง

“พี่”

“ว่าไงครับ?”

“เราว่า...เราไม่เสียเปรียบแล้วแหละ”

“จริงดิ? ไหนพูดให้พี่ฟังหน่อยเร็วว่ามันทำไมครับ”

“ก็ใจพี่เต้นแรงพอๆ กับเราเลย” ผมอุบอิบ ไม่กล้าพูดเต็มเสียง แต่พี่พระพายต้องได้ยินอยู่แล้วเพราะเราอยู่ใกล้กันขนาดนี้ เขาลูบหัวผมเบาๆ

“ดีใช่มั้ยล่ะ?”

ผมเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้ารับ

“อื้อ เราว่าก็ดีล่ะมั้ง...”


เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

หยุดพ่นน้ำสักทีไอ้แฮมสเตอร์เวร กูนอนไม่หลับ! อิสัสนาโย้กกกกก!

เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

*นาโร้ก!

เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

นิ้วเบียด ให้อภัยกูด้วย...



-----------------------------

สโลแกนนิยายเรื่องนี้คือ "มีตอนใหม่ทุกครั้งที่มีข่าว" พี่สายฟ้าคัมแบคแล้วค่ะ หลายๆ คนน่าจะคิดถึง แต่อย่าลืมว่าพระเอกคือพระพายนะคะ พี่แกร้องไห้แล้ว น้อยอกน้อยใจโดนแม่ๆ น้องเฟนสาดเกลือไล่ 55555555 ไม่รู้จะทอล์กอะไรแล้ว ฮือ เอาเป็นว่าถ้าเราหายไปก็มาเยี่ยมกันหน่อยนะคะ เสียวหลังวาบๆ

/พี่สายฟ้า พี่ทำให้ฉันเสี่ยงคุก!

#เพื่อนกล่อมนอน


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 574
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
หนูเฟนลูก ลงเรียนภาษาไทยเพิ่มก็ไม่เข้าใจภาษาไทยพี่พพ.เพิ่มหรอกหนู มันต้องมีใจบาปร่วมด้วย ฮา
ดีแล้วที่พี่พพ.เป็นคนบ้าๆบอๆ แง บีบนิ้วเอย ฟังเสียงหัวใจเอย อมยิ้มจนหน้าเบี้ยวแล้วเนี่ย พี่พพ.เวอร์ชั่นนี้ไม่ดีต่อใจเลยซักนิด!
พี่สายฟ้าช่างน่าสงสารเจอแต่เรื่องปวดสมอง

 :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ง้อววววววว  นอนซบเนียนๆ

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ขนลุกกับพี่ พพ. จริงๆ ในความจีบน้องให้บีบนวดเหมือนเสี่ยลงอ่างจีบน้องนางนวล  :ling3: :ling3: 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด