♣ พนันท้ารัก ♣ The Fountain Casino || วงล้อที่สามสิบแปด (END) UP!! 02/04/2020
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♣ พนันท้ารัก ♣ The Fountain Casino || วงล้อที่สามสิบแปด (END) UP!! 02/04/2020  (อ่าน 65637 ครั้ง)

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ใครบางคนกำลังโดนรุกหนัก บนตียง...ด้วยจูบ
แอร๊ยยยยยยย
 :mew1:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ยกความดีให้นุ้งพาย เพราะเสื้อตัวนั้น

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
บอสรุกแล้วจร้าาาาา

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
กลายเป็นว่าที่เมียมาเฟียแล้ว

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
เพิ่งเข้ามาอ่าน คือแบบเป็นเรื่องที่อ่านละติดมากๆ อ่ารวดเดียวมาถึงตอนปัจจุบันเลย สนุกมากๆ

น้องจำพี่ชายได้แล้ว คือแบบรู้สึกดีมาก รอติดตามต่อไป

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter

วงล้อที่ยี่สิบสอง





ไม่เห็นเหมือนครั้งแรกเลย



คำพูดวนเวียนอยู่ในหัวภาสกร ตอนนั้นที่เขาถูกอรรควัสจูบ ชายหนุ่มเต็มไปด้วยความตกใจ หากครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม ความรู้สึกแปลก ๆ หรืออะไรที่เขาสัมผัสได้ว่ามันคือความวาบหวามกำลังทำให้ร่างกายภาสกรปั่นป่วน และเขาย่อมรู้ดีว่าสาเหตุมาจากอะไร



บอสใหญ่ไม่ได้ทำแค่จูบ แต่มือไม้ยังไม่อยู่สุข ปัดป่ายไปทั่วร่างกายคนอ่อนวัยกว่า มันเป็นปฏิกิริยาที่ทำไปโดยอัตโนมัติ จมูกโด่งดอมดมซอกคอหอมกรุ่นเต็มไปด้วยกลิ่นครีมอาบน้ำที่เจ้าตัวเพิ่งอาบน้ำมาใหม่หมาด ๆ ยิ่งปะทุให้หอมรัญจวนขึ้นไปอีก



“พาย” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเสียงเบาที่ข้างหูชวนให้เจ้าของชื่อใจเต้นระส่ำ



“คะ..ครับ” ภาสกรขานรับกระท่อนกระแท่น ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว



“เผยอปากหน่อย”



“...” ชายหนุ่มที่กำลังตกอยู่ในห้วงอารมณ์นั้นไม่เข้าใจ ไม่รู้ต้องทำอะไรกับคำพูดประโยคนั้น



“พาย” อรรควัสเรียกชื่ออีกฝ่ายอีกครั้ง



“ครับ” เมื่อภาสกรเปิดปากตอบทำให้บอสหนุ่มได้จังหวะโอกาสอันดีสอดแทรกลิ้นอุ่นเข้าไปในโพรงปากได้อย่างง่ายดาย





เรียวลิ้นไล้ผ่านแนวแผงฟัน ดูดดึงหยอกเย้าเร้าอารมณ์คนอ่อนประสบการณ์กว่าให้หลงมัวเมาในสิ่งที่คนช่ำชองนั้นกำลังปรนเปรอมอบให้ ภาสกรปรือตาขึ้นมองทว่าไม่เห็นใบหน้าอรรควัสกลับเป็นกลุ่มผมหนาแทน ถึงอย่างไรตอนนี้ตาของภาสกรก็พร่ามัวมองภาพไม่ชัดเพราะอารมณ์พิศวาสอยู่ดี จิตใจของเขาใกล้เตลิดเต็มทีแล้ว



“อือ..” มือใหม่หัดจูบทนไม่ไหวหลุดเสียงครางด้วยอารมณ์ในกายออกมา





ริมฝีปากถูกขบเม้มแปรเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น ดูคล้ายกับสีแดงของผลเชอร์รี่ ยิ่งกระตุ้นคนมองให้ก้มลงไปลองลิ้มชิมรสอีกครั้ง





สงสัยว่าผลไม้รสหวานนี้กินเท่าไหร่ก็คงจะไม่อิ่มเสียแล้ว





เสื้อนอนที่ภาสกรสวมใส่อยู่ถูกเลิกขึ้นไปเหนือยอดอก ไอเย็นปะทะเข้ากับร่างกายจนภาสกรขดตัวลงเล็กน้อยจากความหนาวเย็น เจ้าของเสื้อตัวจริงจึงกระชับร่างของภาสกรให้เข้ามาใกล้ตนเองขึ้นกว่าเดิม เวลานี้หากอากาศอยากจะแทรกผ่านก็คงจะหาช่องว่างยากเต็มที แนบชิดสนิทกาย



“หนาวครับ” ภาสกรบอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงวิงวอนเห็นใจ



“อีกเดี๋ยวเธอก็จะอุ่นขึ้น”





บอสหนุ่มผละจากผลไม้แสนอร่อยเปลี่ยนมาเป็นจุดแดงโดดเด่นสองจุดซ้ายขวาบนหน้าอกแทนบ้าง คราแรกที่ความอุ่นภายในปากกระทบเข้ากับปลายยอด ภาสกรแอ่นร่างขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ความรู้สึกเดิมที่ปั่นป่วนอยู่ก่อนแล้วกลับพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิม





ห้ามใจให้สงบลงไม่ได้เลย



“ผม..” เสียงหายใจเข้ารัวเร็วราวกับคนควบคุมการหายใจไม่เป็น



“ใจเย็น ๆ หายใจ ช้า ๆ” คนที่สร้างความวุ่นวายให้ภาสกรเงยหน้าขึ้นมาสอนเสียงเบาแต่ฟังชัด คนอายุน้อยกว่าปรับจังหวะการหายใจทำตามคำแนะนำ “อย่างนั้น ใช่..พาย ค่อย ๆ หายใจ ไม่ต้องรีบ”



“ผม..มะ..ไม่รู้เป็นอะไร ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย” ภาสกรรู้ดีว่าอาการเกิดขึ้นเพราะอะไร เขาไม่ได้ใสซื่อถึงขนาดไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะรู้สึกมากขนาดนี้กระทั่งเวลาช่วยตัวเองยังไม่เคยรู้สึกเท่ากับครั้งนี้เลย



“เธอ” คนได้ยินขมวดคิ้วสงสัย “ไม่เคยมีแฟน?”



“ครับ”



“ไม่เคยนอนกับใคร?”



ภาสกรเม้มปากแน่น เขาไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัวลักษณะนี้กับใครจึงทำให้ไม่กล้าตอบคำถาม



“ตอบมาเถอะ ฉันจะได้รู้ว่าต้องทำยังไง”



“อื้อ” ภาสกรยอมตอบห้วน ๆ พร้อมกับพยักหน้าทีหนึ่ง หลับตาปี๋ ไม่ยอมพูดอะไรต่อ



“เป็นเด็กดีมาก” ภาสกรได้ยินแต่ไม่กล้าถามกลับไปว่าคำพูดนั้นหมายความว่าอย่างไรกันแน่ ดีไม่ดีสุดท้ายจะกลายเป็นเข้าตัวเสียเปล่า ๆ



คนเอ่ยชมกลับมาให้ความสนใจที่ยอดอกทั้งสองข้างอีกครั้ง ลมหายใจที่เริ่มจะคงที่ของภาสกรกลับต้องสะดุดอีกระลอกเมื่อความเสียวซ่านกลับมาเยือน เขาหายใจเข้าอย่างแรงพยายามควบคุมลมหายใจของตัวเองให้ได้ ชายหนุ่มไม่อยากจะขาดใจตายในสภาพนี้





ถ้ามีคนมาเห็นเข้าต้องขายหน้าแย่เลย





ไม่เคยคิดเลยว่าเสื้อยืดกางเกงขายาว เสื้อผ้าใส่สบายสำหรับการนอนจะเป็นอันตรายต่อตัวเอง ไม่ต้องปลดกระดุม ไม่ต้องเสียเวลาถอดเข็มขัด แค่ดึงรั้งขอบเอวกางเกงให้ลงมามันก็พร้อมจะกระเด็นหลุดพ้นออกไปจากร่างกายเพียงพริบตา





ต้นขาขาวกระทบความเย็นของเครื่องปรับอากาศ คล้ายเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ภาสกรชักขาขึ้นมาอยากจะขดตัวแต่ก็ทำไม่ได้เมื่อขาของเขาถูกขาของใครอีกคนพาดทับอยู่ทำให้ชายหนุ่มไม่สามารถทำได้ เขาจึงทำได้เพียงขยับยุกยิกไปมาบอกใบ้อีกฝ่ายให้รับรู้



“อยู่เฉย ๆ” คนด้านบนห้ามด้วยเสียงไม่ได้จริงจังนัก อันเป็นน้ำเสียงที่ผิดกับยามปกติ



“ผมหนาว” คนด้านล่างโอดครวญ



“ถ้าหนาวก็กอดฉันแน่น ๆ” บอสหนุ่มเสนอ แต่พนักงานคนนี้กลับไม่กล้าทำตาม สองมือวางอยู่ข้างลำตัวกำผ้าปูที่นอนไว้แน่น





อรรควัสรู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่กล้าทำแน่ ๆ เขาจึงเลื่อนมือข้างหนึ่งลงไปที่ด้านล่างของคนใต้ร่าง กอบกุมสิ่งที่กำลังตื่นตัวอยู่ส่งผลให้ภาสกรผวาเฮือก มือที่กำแน่นเปลี่ยนจากผ้าปูที่นอนคว้าหมับที่ต้นแขนแข็งแรงของบอสหนุ่มอย่างรวดเร็ว





ได้ผลดียิ่งนัก คนเจ้าเล่ห์คิดอย่างนั้น



“บอส” ภาสกรร้องเสียงหลงเมื่อรู้ว่าส่วนนั้นของตนเองถูกสัมผัสโดยมือคนอื่นไม่ใช่มือตัวเองเป็นครั้งแรก



“หืม?” คนที่ตอบไม่ได้ตอบเพียงอย่างเดียวกลับขยับข้อมืออย่างช้า ๆ



“บอส...ผม” ภาสกรเหมือนคนพูดไม่เป็น สมองขาวโพลน ความรู้สึกที่ภาสกรบอกไม่ถูกว่าตอนนี้เขาควรต้องทำตัวอย่างไร ขาของเขาเริ่มป่ายเปะไปมาแต่ก็ไม่ขยับได้ไม่มากนัก



“เป็นอะไร”



“ผม..คือ..”



“ถ้าเธอไม่พูดให้ชัดเจน ฉันก็ไม่มีทางเข้าใจ” คำพูดกระซิบที่ข้างหูยิ่งทำให้ภาสกรใจเต้นไม่เป็นส่ำ ส่วนมือข้างนั้นก็ทำหน้าที่ได้ดีและเริ่มรัวถี่ขึ้น



“ผมต้องตายแน่ ๆ”



“ไม่ตายหรอกพาย เธอจะไม่ตายด้วยเรื่องแค่นี้” อรรควัสนึกขำกับคำพูดของอีกคน เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้หมายความแบบนั้นจริง ๆ ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเลยด้วยซ้ำแต่บอสหนุ่มกลับอยากบอก



“ผมไม่ไหวแล้ว”



“ภาสกร..พาย”



“อื้อ” ภาสกรที่เริ่มทนไม่ไหวไม่ได้ตอบอีกฝ่ายด้วยคำสุภาพเหมือนในเวลาที่มีสติสมบูรณ์



“นอนกับฉัน”



“ขอผมไป..ก่อน..ได้ไหม..” ถึงแม้จะเป็นคำพูดขาดห้วงแต่อรรควัสกลับเข้าใจว่าหากเจ้าตัวไม่ได้ปลดปล่อยคงแย่แน่นอน



“ฉันหมายถึงนอนกับฉัน เป็นของฉัน” น่ากลัวว่าภาสกรจะตีความหมายผิด บอสหนุ่มจึงอธิบายความเพิ่มเติมขึ้นและหวังว่าเจ้าตัวจะเข้าใจความหมายที่แท้จริง



“ผม” ภาสกรสับสนทั้งความรู้สึกที่ประดังประเดเข้ามาและเรื่องที่เพิ่งรู้ว่าอรรควัสคือพี่ชายคนนั้นในวัยเด็กยิ่งทำให้ภาสกรสับสนเพิ่มขึ้นไปอีก





ชายหนุ่มรู้ตัวว่าชอบผู้ชายช่วงที่เข้าวัยรุ่น แต่เขาไม่เคยบอกเลยใช่ไหมว่าผู้ชายที่เขาชอบคนแรกนั้นคือใคร แต่เพราะไม่ได้เจอกับอีกฝ่ายเลยนับแต่นั้นมาจึงลืมเลือนไป ลึก ๆ แล้วเขารู้สึกมีอะไรติดค้างอยู่ในใจตลอดมาทำให้ชอบใครก็ชอบได้แป๊บ ๆ ไม่กล้าเดินหน้าจริงจังจนไม่มีแฟนมาถึงบัดนี้





และผู้ชายคนแรกคนนั้นคือคนที่กำลังสบตากับเขาด้วยดวงตาคู่สวยที่เขาชมชอบ





คุณอรรควัส





“ครับ”



“อย่าฝืนใจ เธอปฏิเสธได้ ยังไงฉันจะไม่ปล่อยให้เธออารมณ์ค้างแน่นอน”



“ผม..เต็มใจ” ภาสกรพูดจบก็หันหน้าหนีไปอีกทางเพื่อข่มความเขินอาย อรรควัสใช้นิ้วเกลี่ยแก้มอีกฝ่าย เขาอาจจะลำเอียงแต่เด็กคนนี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็ทำให้เขารู้สึกเอ็นดูอยู่เสมอ



“ขอบใจ แต่เธอรู้อะไรไหมพาย” บอสหนุ่มรู้อยู่แก่ใจว่าขออีกฝ่ายในสถานการณ์เช่นนี้ดูจะเป็นการมัดมือชกไปเสียหน่อย แต่เขาก็มั่นใจว่าต่อให้ภาสกรชอบช่วยเหลือคนก็จริง แต่ไม่มีทางที่เจ้าตัวจะยอมทุ่มเทตัวเองแบบนี้



“ครับ?”



“อย่างไรเสีย ตอนนี้ฉันก็คงปล่อยเธอไปไม่ได้อีกแล้ว”











ทางด้านผู้จัดการเพื่อนคู่ใจเจ้าของผับ หลังจากภาสกรกลับออกไปแล้ว ทว่าเขายังอยู่ที่ห้องเดิมเพื่อจัดการกองเอกสารรวมไปถึงบัญชีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของผับต่อ แต่เขาคงทำงานเพลินไปหน่อย อีกทั้งความเงียบทำให้สมองแล่น มนุษย์นกฮูกอย่างเขาที่คุ้นเคยกับชีวิตกลางคืน นอนกลางวันจึงยังไม่รู้สึกง่วงเท่าที่ควรจะเป็น รู้ตัวอีกทีตะวันก็แยงตาเสียแล้ว





เมื่อออกมาจากผับก็เกือบเจ็ดโมงเช้า แสงแดดแจ่มจ้า สายตาที่สู้แสงไม่ค่อยได้ ผนวกกับร่างกายที่ยังไม่ได้พักผ่อนทำให้เขาเซจนเท้าแขนเข้ากับขอบประตูผับ



“ไหวไหมครับคุณจิณณ์” เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับมือแข็งแรงที่เข้ามาช่วยพยุงด้วยความเป็นห่วงและหวังดี



จิณณ์หยีตามองจึงรู้ว่าเป็นใคร “อ้อ..อาเฉิน มาได้อย่างไร”



“ผมรอคุณอยู่ครับ”



“มารอฉัน รอทำไม มีเรื่องอะไรล่ะ แล้วทำไมไม่เข้าไปนั่งรอข้างในดี ๆ”



“ผมนั่งรออยู่ข้างในครับ แต่คุณจิณณ์ไม่เห็นผมเอง”



“งั้นเหรอ” จิณณ์เดาะลิ้น เขาคงรีบเดินจ้ำอ้าวออกมาทำให้ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง



“พอเห็นคุณจิณณ์ ผมเลยเดินตามออกมา”



“แล้วมีเรื่องอะไรถึงมารอฉัน” ผู้จัดการกำลังดีใจอยู่ในอก ร้อยวันพันปีถ้าหากเขาไม่บอกแกมสั่ง อีกฝ่ายไม่มีทางมารอเขาแน่ ๆ



“บอสสั่งให้ผมไปส่งคุณครับ” คำตอบของบอดี้การ์ดคู่ใจของบอสใหญ่ ทำให้ใจของจิณณ์ที่กำลังฟูฟ่องกลับสลดห่อเหี่ยวฟีบลงทันควัน เขาไม่ควรจะดีใจเลยด้วยซ้ำ ไม่ควรหวังอะไรลม ๆ แล้ง ๆ รู้ทั้งรู้ว่าอาเฉินไม่มีทางทำอะไรแบบนี้





เรื่องความรักทั้งที่เกิดขึ้นง่ายดายแต่ทำไมกลับเดินหน้ายากเย็นนักนะ อีกฝ่ายยกย่องให้เกียรติเขาเสมอทั้งที่จิณณ์ไม่ได้เป็นลูกคนรวยหรือลูกผู้ลากมากดี ก็เป็นแค่ผู้จัดการผับคนหนึ่งเพียงเท่านั้น แต่อาเฉินก็ไม่กล้าปฏิบัติตนกับเขาเสมอเพื่อนหรือคนรู้จัก





ใครใช้ให้เขาเป็นเพื่อนกับเจ้านายของอาเฉินกันล่ะ





นึกถึงแล้วจิณณ์ก็รู้สึกเซ็ง



“จะไปส่งฉันใช่ไหม งั้นก็นำไปสิ”





จิณณ์พยักพเยิดออกไปข้างหน้า เขาไม่รู้หรอกว่าอาเฉินขับรถมาหรือจะเรียกแท็กซี่ไปส่งเขา อีกฝ่ายจะเลือกวิธีไหนก็ตามใจ เอาเถอะ อย่างน้อยวันนี้เขาก็ไม่ได้กลับบ้านคนเดียวเหมือนทุกครั้ง





เพียงเท่านี้เขาก็อุ่นใจแล้ว



“คุณจิณณ์ดูเหนื่อย ๆ เดี๋ยวผมประคองคุณไปที่รถนะครับ”



“อืม” จิณณ์แค่เดินเซเพราะสู้แสงไม่ไหวและยังไม่ได้พักผ่อน แต่เขาไม่ได้เหน็ดเหนื่อยอะไรมากมาย ในเมื่อคนหวังดีบอกว่าเขาเหนื่อย งั้นเขาก็ขอทำให้สมบทบาทหน่อยก็แล้วกัน





ผู้จัดการปล่อยให้อีกฝ่ายประคองพาตนเองไปที่รถโดยง่าย ซ้ำยังทิ้งน้ำหนักพิงอาเฉินเต็มตัวทำให้ประคองเฉย ๆ ไม่ไหวเสียแล้ว ตอนนี้อาเฉินจำต้องโอบเอวคนแสดงละครตลอดทางเดินไปที่รถยนต์ ทำให้จิณณ์พอใจยิ่งนัก อยากจะยืดเวลานี้ออกไปนาน ๆ แต่ระยะทางไม่ไกลเดินนิดเดียวก็ถึงเป้าหมาย



“คุณจิณณ์ยืนไหวไหมครับ ผมจะเปิดประตูให้”



“พอไหว”



“ครับ”





อาเฉินค่อย ๆ ปล่อยร่างอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ เขาเดินไปที่ประตูด้านหลังเตรียมจะเปิดประตูบานนั้นออก ผู้จัดการผับเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้ว



“ฉันจะนั่งข้างหน้า”



“ทำไมล่ะครับ”



“นายไม่ใช่คนขับรถฉันเสียหน่อย”



“แต่คุณจิณณ์น่าจะเพลีย ถ้านอนข้างหลังจะสบายกว่านะครับ”



“อาเฉิน..” จิณณ์เรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงค่อนข้างไม่พอใจ



“ครับคุณจิณณ์ เชิญครับ” อาเฉินหยุดต่อความและเปิดประตูข้างคนขับให้ เนื่องจากเห็นว่าเพื่อนเจ้านายไม่สบอารมณ์จึงทำตามที่อีกฝ่ายบอกไม่ขัดใจอีก





ผู้จัดการก้าวขึ้นไปนั่งก่อนที่บอดี้การ์ดหนุ่มจะปิดประตูให้อย่างนุ่มนวลเสร็จแล้วจึงกลับมาประจำตำแหน่งคนขับและออกรถทันที



“อาเฉิน” จิณณ์เรียกคนที่ตั้งใจขับรถ ตอนนี้เริ่มง่วงนอนขึ้นมาบ้างแล้วแต่เขาไม่อยากพลาดโอกาสที่ได้อยู่ตามลำพังกับอีกฝ่ายจึงฝืนตาไว้ไม่ยอมหลับ



“ครับ” เจ้าของชื่อตอบรับโดยไม่ได้ละสายตาจากถนนมาที่คนเรียก



“รอฉันนานหรือเปล่า”



“ไม่นานครับ”



“นายมาที่ผับพร้อมอรรคใช่ไหม”



“ใช่ครับ”



“อรรคมาถึงผับตอนตีสี่กว่า ๆ แสดงว่ารอฉันหลายชั่วโมงทีเดียว ขอโทษทีนะ ฉันไม่รู้ว่าอรรคให้นายไปส่งฉัน” เมื่อคำนวณเวลาที่อีกฝ่ายต้องรอ จิณณ์ก่นด่าตัวเองในใจเขาไม่น่าทำงานจนลืมเวลาเลย



“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว”



“ฉันไม่ใช่เจ้านายของนายสักหน่อย” จิณณ์บ่นอุบ มีโอกาสครั้งใดเขาไม่เคยพลาดที่จะบอกอีกฝ่ายว่าแท้จริงแล้วเขาก็คือคนธรรมดาทั่วไปเหมือนกับบอดี้การ์ดหนุ่มนี่แหละ



“คุณเป็นเพื่อนคนสำคัญของบอสครับ”



“พูดแบบนี้อีกแล้ว” ผู้จัดการทำหน้าเหม็นเบื่อ เป็นอย่างนี้ทุกครั้งสิน่า ไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไร อาเฉินก็ไม่เคยลืมตัวตนของตัวเองเลยสักครั้ง



“คุณจิณณ์ก็อย่าพูดให้ผมลำบากใจสิครับ”



“อือ ฉันเข้าใจแล้ว” จิณณ์พิงศีรษะเข้ากับเบาะที่นั่ง หันหน้ามองออกไปทางหน้าต่าง พลางทอดถอนหายใจ



“ผมขอโทษครับ”



“ไม่เป็นไรหรอก นายก็รู้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของนายเลย มันเป็นปัญหาของฉันเองคนเดียวทั้งนั้น ฉันต่างหากควรเป็นฝ่ายที่ต้องขอโทษ” จิณณ์พูดในขณะที่ยังมองไปนอกหน้าต่าง “ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจ”





อาเฉินไม่ได้พูดอะไรกลับไป เขาเลือกนิ่งเฉยและขับรถไปตามทางเงียบ ๆ รู้ดีว่าพูดอะไรออกไปก็คงไม่ทำให้ผู้จัดการรู้สึกดีขึ้นได้





รถแล่นไปตามทางอีกไม่นานไม่ถึงสิบนาที รถคันสวยจึงหยุดลงที่ปลายทางอันเป็นที่พักของผู้จัดการหนุ่ม



“ถึงแล้วครับคุณจิณณ์”



“ขอบใจนะ” จิณณ์ปลดเข็มขัดนิรภัยออกก่อนลงจากรถเขาหันไปพูดคำสั้น ๆ กับอาเฉินเล็กน้อยเสร็จแล้วจึงลงจากรถไป “ขับรถกลับดี ๆ ล่ะ”





บางครั้งความรักก็ทำให้เขารู้สึกเหนื่อย





ถ้าลดระดับจากความรักลงเหลือเป็นเพียงความชอบได้ เขาคงจะไม่รู้สึกเหนื่อยเช่นนี้ อาเฉินไม่เคยให้ความหวังใดกับจิณณ์เลยสักครั้ง ไม่เคยมีคำพูดหวานหูให้ได้ยิน ไม่เคยมีการกระทำที่ชวนให้คิดว่ามีใจ ไม่เคยเลยแม้แต่เพียงนิด แล้วทำไมเขาถึงตัดใจกับคน ๆ นี้ไม่ได้สักที





ต้องทำอย่างไรถึงจะหยุดความรู้สึกของตนเองได้









ทำอย่างไรถึงจะเลิก ‘รัก’ ได้เสียที









========================================



อิอิ ตัดอารมณ์กันไปเลยยยย คอมเมนต์ติชมหรือจะติดแท็กกันได้นะคะ

อ่านทุกตัวอักษรเลยค่า



HASHTAG #พนันท้ารัก ค่ะ




ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :hao4: กำลังลุ้นคู่นู้น
อยู่ๆ ก็ต้องมาลุ้นคู่อาเฉินต่อจ้า

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
อาเฉิน.......ใจแข็งไปแล้ว  สงสารจิณณ์

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ภาพยังไม่ตัดไปโคมไฟเลย แต่ถูกฉุดอารมณ์ด้วยสถานะการณ์อึดอัดของอีกคู่   :mew2:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อาเฉินก็คงจะรักจิณณ์มั้ง  แต่สถานะเพื่อนบอสค้ำคออยู่แหงม

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
อาเฉิน ไม่กล้าสอย จริงแล้วคงรักจิณณ์มากกว่าที่แสดงออก

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เขาบอกรักกันแบบนี้หราาา อิอิ

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
คู่บอสสมหวังไปแล้ว​ มาเชียร์คู่เพื่อนบอสต่อ

ออฟไลน์ ป้าหมีโคตรขี้เกียจ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
ดึงอารมณ์กลับมาไม่ถวกเลยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
คู่บอสหวานน้ำตาลท่วม
เจออีกคู่ เอิ่ม...สู้ๆ นะอาเฉิน

ออฟไลน์ Puring Pudding

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
บอสส พายยังไม่เป็นต้องค่อยๆ5555 :really2: :hao6:

ง่ะจิน เลิกรักไงดี :mew2:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
บอสอย่ารุนแรงกับพายนะคะ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
นั้นสิ ทำยังไงถึงจะเลิกรักใครได้สักที

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter

วงล้อที่ยี่สิบสาม


ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมานอนตัวเปล่าไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับบอสใหญ่แห่ง Fountain Casino



ไม่มีคนเมา ไม่มีคนขาดสติและไม่มีคนยับยั้งความชั่งใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเช้าตรู่



“เรื่องอลัน ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะจัดการให้เรียบร้อย” จู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากคนด้านหลังที่กอดกระชับร่างภาสกรเอาไว้อยู่



“เอ่อ..คือ..เรื่องคุณอลัน ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มบอกตะกุกตะกัก ภาสกรคิดอย่างที่พูดและเขาก็คิดว่าตนเองไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะมากะเกณฑ์มีสิทธิ์ให้อรรควัสทำอะไรอย่างนั้น



“ไม่เป็นไรได้อย่างไร เธออยากให้ฉันมีคนอื่นนอกจากเธอด้วยหรือ” อ้อมแขนแข็งแรงกอดคนปฏิเสธแน่นขึ้นไปกว่าเดิม



“คุณอลันไม่ได้ทำอะไรผิดแต่เป็นผมต่างหาก..ดีไม่ดีคุณอลันคงจะโกรธผม” ภาสกรหน้าสลดโดยที่คนด้านหลังไม่มีโอกาสเห็น ทว่าเจ้าของอ้อมแขนกลับสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงความรู้สึกผิดจึงพลิกร่างอีกฝ่ายให้หันกลับมาเผชิญหน้ากับตนเอง



“พาย..ฉันจะบอกอะไรให้เธอฟังอย่างหนึ่ง”



“ครับ” คนรู้สึกผิดสบตากับคนเรียกชื่อ



“อลันไม่ใช่คนรัก เขาอยู่กับฉันเพราะเรามีผลประโยชน์ร่วมกัน ทุกอย่างคือสัญญาข้อตกลง ฉันจะยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ เขาเองก็เช่นกัน ดังนั้นเธอไม่ควรกังวลเรื่องของอลัน เข้าใจหรือเปล่า” อรรควัสบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้คร่าว ๆ ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหนุ่มน้อยต่างชาติ



“เข้าใจครับ”



“เข้าใจก็ดีแล้ว แต่ว่าตอนนี้ฉันจัดการเลยไม่ได้ ยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการก่อนจะยกเลิกสัญญากับอลัน”



“ผมไม่รู้ว่าบอสต้องจัดการเรื่องอะไร แต่อันที่จริงบอสไม่จำเป็นต้องยกเลิกสัญญากับคุณอลันเลยด้วยซ้ำ เพราะผมเองก็ไม่ได้คิดเรียกร้องอะไร” ภาสกรตอบอย่างที่ใจคิด เขาเองก็เป็นผู้ชาย และไม่ได้เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยิ่งพอได้รู้ว่าอรรควัสคือพี่ชายคนนั้น ยิ่งทำให้เขาเต็มใจเสียด้วยซ้ำ



“แต่ฉันเรียกร้อง



“บอส..” ภาสกรอ้ำอึ้งไม่รู้จะพูดอย่างไรดีจึงเรียกอีกฝ่ายลอย ๆ ขึ้นมา



“อรรค” หากเจ้าของตำแหน่งบอสกลับพูดชื่อตัวเองออกมาเสียอย่างนั้น



“ครับ?”



“อรรค ไม่ใช่บอส” คนอนุญาตเปรยมาถึงขนาดนี้ ถ้าภาสกรไม่เข้าใจคงแย่เต็มทีว่าคนตรงหน้าสื่อความหมายอะไร



“ครับ บะ.. เอ๊ย คุณอรรค”



“เด็กดี” บอสใหญ่พึงพอใจกับการว่านอนสอนง่ายของคนอายุน้อยกว่า เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากนวลของอีกฝ่ายเบา ๆ ทีหนึ่งแล้วจึงผละออกมา ปล่อยให้คนที่ถูกขโมยจูบนั้นก้มหน้างุดลงไม่ยอมสบตา



“หลบตาทำไม”



“เปล่าครับ” ชายหนุ่มปฏิเสธ ใจเขาเต้นรัวเร็วกับเพียงจูบแผ่วเบาเพียงใดนั้นคงไม่มีใครรู้ได้นอกจากตัวเอง



“มากกว่านี้ก็ทำไปแล้ว ยังจะเขินอยู่อีก”



“...” ภาสกรไม่พูด กลับก้มหน้าลงกว่าเดิมจึงได้ยินเสียงทุ้มหัวเราะเพราะอาการของเขา หัวใจรัวกลอง ทำไมคนที่เงียบขรึม ดุอยู่เป็นนิจ ไฉนเมื่อละลายพฤติกรรมแล้วกลับแปรเปลี่ยนเป็นคนละคนไปได้ หากบอสใหญ่ยังขืนแกล้งเขาต่อไม่หยุด เห็นทีภาสกรคงต้องหลับตาหนีอีกฝ่ายแน่แล้ว



“จะทำอย่างไรให้เธอไม่เขินดี”



“ไม่ต้อง..”





ภาสกรเงยหน้าขึ้นปฏิเสธไม่ทันจบประโยค ปากที่เจ่อแดงเล็กน้อยก็ถูกสัมผัสเข้าอีกครา มันถูกดูดดึง โลมเลียจนชายหนุ่มปรับลมหายใจไม่ทันอีกแล้ว ปากสวยเผยอออกหมายจะโกยอากาศเข้าปอดกลับได้บางสิ่งที่นุ่มนิ่มเข้ามาพัวพันกับลิ้นของเขาแทน





มือของคนที่เป็นฝ่ายเริ่มนั้นลูบไล้ร่างกายเปล่าเปลือยของภาสกรอย่างถือสิทธิ์ คล้ายกับต้องการปลุกปั่นสร้างให้เกิดอารมณ์ และคงทำได้สำเร็จเมื่อได้ยินเสียงครางเบา ๆ ดังออกมาจากปากเจ้าของร่างกาย





คนแก่กว่าเลื่อนตัวเองให้ลงไปที่กึ่งกลางลำตัวภาสกร เมื่อผ้าห่มหลุดพ้นจากร่างกาย ภาสกรเกร็งตัวขึ้นอัตโนมัติด้วยความตกใจผสมผสานกับความหนาวเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ยังไม่ทันที่จะคว้าผ้าห่มคืนมาแต่กลับต้องจับไหล่หนาของคนที่อยู่ด้านล่างไว้แน่นด้วยความหฤหรรษ์เมื่อแกนกลางลำตัวถูกครอบครองด้วยริมฝีปากจากอีกฝ่าย





ให้เอ่ยออกมาเป็นคำพูดคงไม่สามารถบรรยายความรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้ภาสกรมีความสุขแค่ไหน เขาได้สัมผัสเพศรสจากการถูกปรนเปรอด้วยความเชี่ยวชาญของอีกคน แทบจะทำให้เขาสำลักความสุขสมตายเสียตรงนี้ ภาสกรไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใคร มีอรรควัสเป็นคนแรกและอีกฝ่ายทำให้รู้อย่างหนึ่งว่าหลังผ่านความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดในครั้งแรกไปแล้ว เขากลับพึงใจในเรื่องนี้พอสมควร





คนที่กำลังนอนระทวย เต็มไปด้วยอาการลมหายใจติดขัด จวนเจียนใกล้จะถึงปลายฝั่งฝัน เต็มไปด้วยความรู้สึกในห้วงอารมณ์ ล่องลอยอยู่บนปุยเมฆนั้นมือของบอสกลับหยุดไม่ขยับต่อ ภาสกรลืมตามองการกระทำนั้นด้วยความไม่เข้าใจหรือเขาจะโดนแกล้งอีกแล้ว





“ยังเสร็จไม่ได้เดี๋ยวจะเหนื่อยหมดแรงไปเสียก่อน” คนคุมเกมเฉลยให้อีกฝ่ายฟัง หากภาสกรไปถึงปลายทางเพียงคนเดียวเสียตั้งแต่ตอนนี้ เกรงว่าเจ้าตัวจะเหนื่อย อ่อนเพลีย จนไปไม่ถึงขั้นตอนสุดท้ายสำหรับกันและกัน



เจ้าของคำพูดพลิกร่างขาวให้คว่ำลงกับเตียงนุ่ม พลันขยับตัวขึ้นมาโลมเลียต้นคอของอีกฝ่าย กดจูบบดย้ำให้สมกับการเฝ้ารอ แต่ต้นคอคนนอนคว่ำคงเย้ายวน น่าดึงดูดคนมองมากไปหน่อยจึงอดไม่ได้ที่จะขบเม้มเบา ๆ ให้เจ้าตัวได้รู้สึกวูบวาบราวกับมีกระแสไฟไหลผ่านร่างกายไปอย่างควบคุมความรู้สึกไม่ได้



“บอส..” เสียงกระเส่ายามเอ่ยเรียกอีกฝ่าย ทว่าเจ้าของชื่อกลับไม่ค่อยพึงพอใจนัก จึงกัดใบหูคนเรียกหากไม่แรงนักเพื่อเป็นการบ่งบอกให้ภาสกรนั้นเรียกชื่อตนเสียใหม่



“ลืมชื่อฉันไปแล้วหรือ”



“ขอโทษครับ” สติอันน้อยนิดทบทวนคำพูดอีกฝ่ายก่อนจะเปล่งออกมาใหม่อีกครั้งอย่างถูกต้อง “คุณอรรค”



“เก่งมาก” เมื่อเอ่ยชมก็ต้องได้รับรางวัล อรรควัสหันใบหน้าภาสกรมาทางข้างซ้ายก่อนจะแนบใบหน้าตนเองลงไปจูบอีกฝ่ายเพื่อมอบรางวัลให้



“อือ..” เสียงครางเครือแทบจับคำไม่ได้ แต่นาทีนี้คงไม่มีใครสนใจอยากรู้ความหมายคำเหล่านั้น





เรียวลิ้นพัวพันในช่องปากได้รูปของชายหนุ่ม ภาสกรคนไม่ถนัดด้านนี้แต่เมื่อฝึกไม่นานก็เริ่มคุ้นเคยขึ้นมาบ้าง เจ้าตัวเริ่มตอบสนองอีกฝ่ายกลับส่งผลให้บอสหนุ่มนั้นเพลิดเพลินไม่น้อยกับความตั้งใจของคนใต้ร่าง ช่างเป็นเด็กที่เรียนรู้เร็วเหลือเกิน แต่ทั้งนี้อรรควัสก็ยินดีหากว่าภาสกรนั้นจะเรียนรู้และฝึกฝนกับเขา ไม่ใช่กับคนอื่น เพราะเขาคงไม่มีทางยอมให้อีกฝ่ายหลุดลอยไปอีกครั้งเด็ดขาด





เขาเคยยอมให้ภาสกรใช้ชีวิตในแบบที่เจ้าตัวต้องการ อีกทั้งยังทำใจยอมรับว่าถ้าอีกฝ่ายจะคบใครอื่นไม่ว่าจะชายหรือหญิง เมื่อมีคนรักแล้วจะให้หลีกเลี่ยงเรื่องบนเตียงคงเป็นไปไม่ได้ ทั้งที่เคยให้ใช้ชีวิตอย่างอิสระแล้ว แต่ภาสกรก็ไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเสียที วันนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตร หลังจากนี้เขาคงไม่มีวันยอมให้อีกฝ่ายตกเป็นของใครได้อีก





นิ้วมือที่เคยจับดินสอวาดรูปนั้นลากไล้ผ่านแนวกระดูกสันหลังภาสกร ไม่เร่งรีบแต่ไม่ได้เชื่องช้า ทุกอย่างเป็นไปตามจังหวะที่พอเหมาะพอดี ค่อย ๆ ป้อนความดื่มด่ำอารมณ์พิศวาสที่กำลังดำเนินต่อไปไม่หยุดยั้ง กระทั่งได้ยินเสียงฉีกห่อฟอยล์ดังขึ้น ภาสกรเกร็งตัวอัตโนมัติรับรู้เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้





ขลาดกลัวแต่ก็เฝ้ารอ





ขั้นตอนเตรียมร่างกายให้พร้อมใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ต่างคนต่างอดทนรอเพราะรู้ว่าผลของมันนั้นคุ้มค่ามากแค่ไหน อรรควัสเคยมีคู่นอนมากมายก็จริงหากเขาไม่เคยเอาแต่ตัวเองสุขสม ถึงอย่างไรเรื่องเซ็กซ์นั้นก็ควรมีความสุขทั้งสองฝ่าย ขนาดคนที่เขาไม่เคยคิดคบหาหรือมีใจให้ อรรควัสยังไม่เคยลงไม้ลงมือหรือทำให้อีกฝ่ายต้องเจ็บปวดทางร่างกาย แล้วยิ่งเป็นภาสกรคนที่เขาคอยมองหามาตลอดด้วยแล้ว เขายิ่งต้องดูแลดีกว่าคนอื่นหลายร้อยเท่า ไม่ยอมให้ต้องรู้สึกไม่ดีแน่นอน





จะเรียกว่าลำเอียงก็คงไม่แปลก





อันที่จริงทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับภาสกร ไม่ว่าจะเรื่องอะไรบอสคนนี้ก็ลำเอียงมานานแล้ว





เมื่อทุกอย่างลงตัวพร้อมจะไปต่อชายหนุ่มที่ยังนอนคว่ำอยู่รับรู้ได้ถึงช่องทางของตนเองกำลังถูกบางสิ่งสอดใส่เข้ามาเรื่อย ๆ จนในที่สุดสองร่างก็สอดผสานกลายเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์



“ผม..” ชายหนุ่มเผยอปากเพียงเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายขยับตัว



ภาสกรกำผ้าห่มแน่นตามความรู้สึกที่ปะทุขึ้น เขาอยากจะกัดหมอนเพื่อกลั้นเสียงที่น่าอายของตนเองไม่ให้เล็ดลอดไป หากก็ทำไม่ได้ไม่รู้ว่าหมอนที่หนุนนอนอยู่ก่อนหน้านี้หายลับไปไหนเสียแล้ว เขาจึงพยายามกัดริมฝีปากแน่น ทว่าบอสหนุ่มคงเดาได้จึงพลิกร่างภาสกรกลับมานอนหงายแทน



เมื่อเผชิญหน้ากันภาสกรก็เลือกหลบตาอย่างรวดเร็ว



“อย่าอายฉันเลย” บอสหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงติดจะอ่อนโยน



“คือผม..”



“มองฉันสิ”



“...” ภาสกรไม่ตอบ



“...” ส่วนอรรควัสก็ไม่พูดอะไรอีก ภาสกรกลับรู้สึกไม่ค่อยดี รู้สึกเหมือนเป็นความผิดเล็ก ๆ จึงยอมทำตามใจอีกฝ่าย เงยหน้าขึ้นเพื่อสบตากับคนข้างบน





และภาสกรก็ได้รับรางวัลอีกครั้ง



เหตุการณ์บนเตียงยังดำเนินต่อแม้จะไม่มีใครพูดหรือเอ่ยวาจาอะไรใด ๆ ออกมา แต่สายตาทั้งคู่กลับมองกันอยู่ตลอดเวลา ต่างฝ่ายต่างรับรู้ตัวตนซึ่งกันและกัน



สุดท้ายเมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลง ภาสกรถึงกับเหนื่อยหอบกับบทเรียนที่สองนี้ เขาสะลึมสะลือถูกอรรควัสประคองไปล้างเนื้อล้างตัวอีกรอบ เมื่อหัวถึงหมอนก็ได้ยินคำพูดแว่ว ๆ เข้ามาในหูว่าพรุ่งนี้สามารถหยุดงานได้หนึ่งวัน เขาจึงพยักหน้าพลางยิ้มรับ ตอบกลับไปไม่รู้ตัวและพาตัวเองเข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างรวดเร็ว



“พรุ่งนี้ไม่ต้องไปทำงานนะพาย”



“อือ”



“วันนี้เธอน่ารักกับฉันมาก”









เนื่องจากช่วงเย็นวันเดียวกันไม่ต้องทำงาน ชายหนุ่มจึงนอนเสียเต็มอิ่ม ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ไม่พบกับคนที่นอนอยู่ด้วยกันเมื่อเช้า หากภาสกรไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือน้อยใจ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงไปที่คาสิโนแล้วแน่ ๆ บอสงานเยอะแค่ไหน ใคร ๆ ต่างก็รู้ดี





เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ใบหน้าก็ร้อนฉ่า ยกมือขึ้นปิดหน้าก่อนจะสลัดศีรษะแรง ๆ รีบใส่เสื้อผ้ากลับไปที่ห้องพักของตัวเอง จัดการธุระส่วนตัว ออกไปหาอะไรกินสำหรับมื้อเย็นอันเป็นมื้อแรกของวันอย่างเรียบร้อย เขาจึงเห็นข้อความที่ถูกส่งมาจากภารวีหรือพี่พรีม พี่สาวของตนเอง น้องชายคนดีจึงรีบโทรกลับหาพี่สาวโดยด่วน



“พี่พรีม”



เมื่อภารวีกดรับ ภาสกรก็รีบเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงสดใสทันที พักหลังเขามีโอกาสคุยกับพี่สาวน้อยกว่ามารดาเพราะพี่สาวนั้นเลือกรับทำงานพิเศษโดยการไปสอนเป็นครูพิเศษตามบ้านเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวอีกทาง



“เงียบหายไปเลยนะเรา ถ้าพี่ไม่ส่งข้อความไปจะโทรหาพี่บ้างไหม” เสียงตำหนิแต่ก็แฝงด้วยความเป็นห่วงถูกส่งกลับมา



“ก็พี่พรีมไม่ค่อยว่าง พายเลยโทรหาแม่คนเดียว” น้องชายคนเล็กโต้แย้งเพราะรู้จักนิสัยพี่สาวคนโตดี ภารวีแค่เป็นห่วงเขาเท่านั้น



“จ้า พี่มันงานยุ่งเอง” ภารวีประชดคนโทรหาเล็กน้อยแต่ไม่ได้จริงจัง



“พี่พรีมสบายดีไหม งานหนักหรือเปล่า ถ้าหนักไปก็ไม่ต้องสอนพิเศษแล้วนะครับ พี่คอยดูแลแม่ดีกว่า เดี๋ยวพายส่งเงินไปให้เยอะ ๆ เอง”



“พี่สบายดีพาย เรื่องงานไม่ต้องเป็นห่วงหรอก งานที่พี่ทำอยู่งานมันเป็นงานเบา ๆ สบายกว่าเราเยอะ ว่าแต่เราเถอะเป็นไงบ้าง”



“สบายดีครับ พี่พรีมไม่ต้องเป็นห่วงพายนะ”



“เรามันปากแข็ง พี่รู้ว่าที่นั่นงานหนัก ทำงานที่คาสิโนเดินไปเดินมาทั้งวันไม่ได้นั่ง เหนื่อยแย่เลย” ภารวีพูดอย่างเป็นห่วง ก่อนหน้านี้เธอก็พอจะรู้จากนวพล เพื่อนสนิทของน้องชายมาบ้างว่าลักษณะงานที่คาสิโนเป็นอย่างไร



“ตอนแรกก็เหนื่อยแหละพี่ แต่พอร่างกายมันปรับตัวได้ก็ไม่เหนื่อยแล้ว” ภาสกรตอบ โดยหลีกเลี่ยงเรื่องที่เขาไม่ได้ทำงานที่คาสิโนแล้ว เกรงว่าหากบอกพี่สาวและแม่ไป เธอสองคนจะเป็นกังวลเสียเปล่า ๆ อีกอย่างหนึ่ง อีกไม่กี่วันเขาก็จะได้กลับไปทำงานต่อที่คาสิโน ดังนั้นจึงเลือกไม่เล่าจะดีกว่า



“พี่รู้ว่าพายเก่ง เข้มแข็งแต่พี่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี”



“พายเอาตัวรอดได้น่า ว่าแต่พี่พรีมมีเรื่องอะไรถึงบอกให้พายรีบติดต่อกลับ” ชายหนุ่มย้ำให้พี่สาวมั่นใจพลางถามถึงสาเหตุหลักที่พี่สาวส่งข้อความมาหา



“เออ..จริงด้วย พี่เกือบลืมเลย พี่ขอถามอะไรหน่อย” ภารวีเกริ่นด้วยน้ำเสียงจริงจัง



“ครับพี่พรีม”



“ตอบพี่มาตามตรงนะ”



“ทำไมต้องทำเสียงเครียดด้วย พูดเหมือนพายไปทำอะไรผิด” คนที่เพิ่งไปมีสัมพันธ์กับเจ้าของคาสิโนเริ่มเสียวหลัง เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน พี่สาวของเขาจะรู้เรื่องนี้แล้วเหรอ แล้วจะรู้ได้อย่างไร



“ถ้าไม่มีเรื่องเงินมารักษาแม่ พายอยากกลับบ้านไหม”



“โธ่ นึกว่าเรื่องอะไร” ภาสกรโล่งใจจนปิดกั้นความดีใจไม่มิด “พี่พรีมถามทำไมอะ”



“ตอบมาเถอะน่า พี่อยากรู้”



“อืม ก็...ถ้าไม่มีเรื่องเงินก็คงจะกลับมั้งครับ”



“ถ้าอย่างนั้นก็กลับบ้านเราได้แล้วเจ้าพาย” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น



“เอ๊ะ!? เกิดอะไรขึ้นอะพี่พรีม”



“ทางโรง’ บาลเขาติดต่อพี่มาเรื่องค่ารักษาของแม่น่ะ จู่ ๆ ก็มีคนมาบริจาคเงินให้”



“เอ้ย..พี่พรีมแน่ใจเหรอ เช็กแล้วหรือยัง” ภาสกรขมวดคิ้ว มีเรื่องอะไรแบบนี้กับครอบครัวเขาด้วยเหรอ ไม่น่าเชื่อและไม่น่าเป็นไปได้เลย



“เช็กเรียบร้อยแล้ว ไม่งั้นพี่จะบอกในข้อความที่ส่งไปให้พายเหรอว่าเป็นเรื่องด่วนสำคัญมากน่ะ”



“ใครกันที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้พวกเรา” ชายหนุ่มฟังแล้วก็นึกสงสัย



“พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกัน มาจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม แล้วทางโรง’ บาลไม่สามารถบอกได้”



“เขาให้ผิดคนหรือเปล่าครับ พายคิดว่าแปลก ๆ นะ ครอบครัวเราถึงไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกยากจนขนาดต้องขอรับบริจาค”



“พายอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ พี่กับแม่ไม่เคยประกาศขอรับบริจาคเลยเหมือนกัน และพี่ก็เช็กกับทางโรง’ บาลแล้วชื่อที่เขาต้องการให้คือชื่อของแม่เราจริง ๆ พี่เองก่อนที่จะบอกพายก็สอบถามกับทางโรง’ บาลมาอย่างละเอียด ตอนรู้เรื่องก็งงเหมือนกัน”



“เราไม่รับดีไหมพี่” ภาสกรยังไม่ไว้ใจ



“อันที่จริงพี่ปฏิเสธไปแล้ว แต่ทางโรง’ บาลยืนยันได้ว่าถูกต้องตามขั้นตอนทุกประการจริง ๆ และอยากให้เรารับไว้ พี่ก็เลยตกลงรับมา”



“เหรอครับ เสียดายที่เราไม่รู้ว่าใคร พายอยากไปขอบคุณเขา แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมต้องเลือกครอบครัวเรา”



“คนบริจาคอาจจะมีเงินเยอะแยะล่ะมั้งพาย เลิกคิดมากดีกว่า ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว พายลาออกจากงานกลับมาอยู่บ้านเราเถอะ”



“เอ่อ..พาย...คือ” ตอนที่เขาตอบคำพี่สาวคราวแรกนั้นก็ตอบแบ่งรับแบ่งสู้เพราะคิดว่าพี่สาวตนเองนั้นถามเล่น ๆ ไม่จริงจัง แต่เมื่อเป็นเรื่องจริงเขากลับลังเลยังไม่อยากกลับไปตอนนี้



สาเหตุแรกคือเขายังไม่รู้ตัวการเลยว่าใครเป็นคนใส่ร้ายเขา



ส่วนอีกสาเหตุก็คงเป็น..คุณอรรค



“อย่าบอกนะว่าที่อึกอักลังเลไม่อยากกลับแบบนี้เพราะเรามีแฟนแล้ว” ภารวีพูดอย่างรู้ทัน



“ใช่ที่ไหนกันเล่า” น้องชายรีบปฏิเสธแต่ก็รู้ว่าคงปิดอาการไม่มิดสักเท่าไหร่



“ให้พี่บอกแม่ไหมว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนยังไม่กลับจากนอกเพราะติดผู้ชายอยู่ เอ๊ะหรือผู้หญิงนะ” หญิงสาวยังเย้าแหย่น้องชายต่อไม่หยุด



“พี่พรีม!! อย่าแกล้งพายสิ”



“ก็เรามันน่าแกล้ง ตกลงว่ายังไม่อยากกลับเหรอ”



“พายขอยังไม่กลับตอนนี้ได้ไหมครับพี่พรีม”



“อีกนานไหม พี่กับแม่คิดถึงเรามากนะ”



“พาย..ยังไม่รู้ แต่พายก็คิดถึงแม่กับพี่พรีมนะ ยังไงพายก็จะกลับไปหาแม่กับพี่แน่นอน”



“รู้ใช่ไหมว่าพี่เป็นห่วงพาย แม่ก็เหมือนกัน”



“ครับ”



“ถ้ามีปัญหาหรือมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล กลับบ้านเราเลยนะ เข้าใจหรือเปล่า” ภารวีบอกแกมสั่ง



“เข้าใจครับ แต่ไม่มีอะไรหรอกน่า พายก็แค่สนุกกับงานอยู่”



“อืม ตามใจพายละกัน งั้นพี่จะบอกแม่ตามนี้ก็แล้วกันว่าพายยังอยากหาประสบการณ์การทำงานต่ออีกหน่อย แบบนี้โอเคไหม”



“ขอบคุณครับ พี่พรีมใจดีกับพายที่สุด”



“จ้า ก็เรามันดื้อน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ อย่าทำให้แฟนปวดหัวล่ะรู้ไหม” หญิงสาวหัวเราะก่อนจะปิดท้าย “ถ้าอย่างนั้นพี่ไปสอนพิเศษต่อก่อนนะพาย ดูแลตัวเองด้วย”



“พี่พรีมเลิกแกล้งพายได้แล้ว



“จ้า ๆ”



“พี่พรีมกับแม่ดูแลตัวเองด้วย พายคิดถึงนะครับ”



“คิดถึงก็โทรหาแม่บ่อย ๆ ล่ะ”



“ครับ”





หลังสายสนทนาสิ้นสุดลง ภาสกรก็นึกถึงเรื่องที่ภารวีโทรมา ใครกันที่บริจาคเงินมาช่วยเหลือครอบครัวเขา และไว้ใจได้มากน้อยแค่ไหนกัน แต่ถ้าภารวีก็ตรวจสอบกับทางโรงพยาบาลมาอย่างดีแล้ว เขาควรจะต้องเบาใจใช่ไหมว่าไม่มีปัญหาอะไรแน่ ๆ อย่างน้อยแม่ก็จะได้รักษาตนเองโดยไม่ต้องมาพะวงถึงเรื่องเงินอีกต่อไป จิตใจก็น่าจะแจ่มใสเบิกบานขึ้น ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี





ว่าไปก็อยากกลับไปกอดแม่เหมือนกัน ถ้ารู้ตัวคนร้ายเมื่อไหร่ เขาคงจะต้องกลับบ้านอย่างจริงจังเสียที





เมื่อถึงตอนนั้นหากต้องลาจากเจ้าของคาสิโนไป





ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรเลย







========================================





หวังว่าตอนนี้พอจะทดแทนได้นะคะ

ขอบคุณทุกท่านค่ะ


HASHTAG #พนันท้ารัก ค่ะ


ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
อย่าเพิ่งกลับเลยนะพาย เพิ่งจะเจอกันเอง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด