21
Time Part
ภาพตรงหน้าทำให้เขาต้องเบือนหน้าหนี ธารอาจจะเจ็บปวดที่จู่ๆ ผมก็มาปรากฏตัวพร้อมกับความจริงที่ถ้าหากเป็นผมคงไม่อยากเจอ ผมพึ่งรู้ว่าตัวเองมีฝาแฝดจริงๆ แม้ที่ผ่านมาจะรู้สึกถึงการมีใครอยู่แต่ก็หลอกตัวเองว่าเป็นความรู้สึกที่คิดไปเอง จนกระทั่งตอนนั้นบังเอิญเจอกับธารและไฮด์ที่ห้างแม้จะเห็นไกลๆ แต่ผมก็เห็นว่าธารหน้าเหมือนผม จะไม่แปลกถ้าหากว่าไม่เหมือนราวกับส่งกระจก เพราะอยากรู้ความจริงเลยไปถามคุณพ่อคุณแม่แต่ก็ไม่ได้คำตอบจนผมต้องสั่งให้คนไปสืบ เพราะตอนนี้ผมขึ้นมาบริหารทุกอย่างแทนพ่อแล้วอำนาจทุกอย่างอยู่ในมือเขา
หลังจากที่สืบเรียบร้อยก็ได้ผลลัพธ์ที่ผมแทบใจสลาย เป็นพ่อและแม่ที่ทิ้งน้องของผมน้องที่เกิดมาพร้อมกันไว้ที่เนอสเซอรี่โดยรับแค่ผมเป็นลูกเพียงคนเดียว เย็นวันนั้นผมถือหลักฐานทุกอย่างเข้าไปถามหาความจริงกับผู้ให้กำเนิด และนั่นทำให้ผมต้องเสียน้ำตา
“เพราะเด็กนั่นเกิดมาหลังแกและเด็กนั่นถือว่าเป็นเด็กในคำสาปของตระกูลเรา” ไม่รู้ว่าตอนนั้นผมเดินออกมายังไง มือที่กำแน่นถูกจิกจนเลือดซึม ความเชื่อบ้าๆ ของตระกูลเก่าแก่ของผมรู้อยู่แล้วว่าบางเรื่องไม่สมเหตุสมผล แต่ไม่คิดว่าจะเชื่อกับเรื่องบ้าๆ แบบนี้
ครูแอนคือคนที่เลี้ยงดูธารมาผมเลยเลือกที่จะเข้าไปหาครูแอนโดยบอกว่าเป็นพี่ของธารและต้องการที่จะเจอน้อง แต่ครูแอนก็ห้ามพร้อมกับบอกให้ผมกลับไปก่อน และก็เงียบไปจนกระทั่งได้เจอน้องที่งานเลี้ยง
“ชู่วไม่ร้องนะครับเดี๋ยวปวดหัวนะ” มองภาพน้องที่ร้องไห้สะอื้นอย่างน่าสงสารในอ้อมกอดของคุณไฮด์ด้วยสายตาเจ็บปวด เขาคิดผิดรึเปล่าที่มาเจอน้อง
“ธาร พี่ขอโทษแต่พี่อยากเจอเราจริงๆ พอรู้ว่าพี่มีน้องชายพี่ยิ่งอยากเจอ” ผมมองธารที่ยังคงซุกหน้าอยู่ในอ้อมกอด คุณไฮด์ก้มลมกระซิบข้างหู ธารถึงได้เงยหน้าขึ้นมาดวงตาที่ดูจะต่างจากผมแดงก่ำ
“พะ...พี่ไธม์” รู้สึกเหมือนตัวจะลอยได้เลยครับเมื่อน้องเรียกผมว่าพี่ ไม่รู้ว่ามุมปากยกยิ้มกว้างแค่ไหน
“ครับ”
“ผม..ธาร..ก็ดีใจที่ได้เจอพี่ไธม์ครับ” เท่านี้ล่ะที่ผมต้องการ แค่น้องยินดีและยอมรับผมก็พอแล้วส่วนเรื่องครอบครัวที่มีความเชื่อล้าหลังถึงขนาดที่ทิ้งลูกตัวเอง แม้จะยอมคุยกับผมแต่ธารก็ไม่ยอมห่างจากคุณไฮด์
“ทานข้าวกับพี่สักมื้อได้ไหมครับ” พอถามธารก็หันไปสบตากับคุณไฮด์ก่อนที่จะพยักหน้าตกลง พวกเราเลยย้ายสถานที่ไปยังห้องอาหารที่ผมจองโต๊ะไว้เป็นห้องส่วนตัว ผมนั่งข้างๆ ธารโดยอีกข้างเป็นคุณไฮด์ มองดูน้องที่ถูกดูแลจากร่างสูงข้างๆ ด้วยความรู้สึกอิจฉานิดๆ เอาเถอะเพราะยังไม่สนิทกดับน้องแค่ยอมเรียกว่าพี่ก็ดีแค่ไหน
.
ธาร Part
เพราะคำพูดของพี่ไฮด์ทำให้ผมยอมที่จะเรียกใครอีกคนว่าพี่ สายตาดีใจและรอยยิ้มกว้างของอีกคนก็ทำให้ผมตัดสินใจไม่ผิด แม้จะเจ็บปวดที่ถูกทอดทิ้งแม้จะไม่รู้เหตุผลแต่พี่ไธม์คงจะมีคำตอบให้เขา ผมแอบเขินหน่อยๆ ด้วยซ้ำที่เรียกใครอีกคนว่าพี่
“ทานนี่สิ ธารชอบทานอะไรบ้าง” แม้จะไม่คุ้นชินแต่ผมก็ยินดีที่จะตอบคำถามที่พี่ไธม์กระตือรือร้นที่จะถาม
“ผมทานได้หมดครับไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษ” คำถามง่ายๆ ถูกส่งมาตลอดและผมก็ตอบคำถามจนกระทั่งทานเสร็จพวกเราก็แยกย้าย
“พี่เจอเราอีกได้ไหม”
“ได้สิครับพี่ไธม์” ผมยกยิ้มให้และขยับเข้าไปกอดพี่ชายแน่นแล้วค่อยผละออก พี่ไธม์ยิ้มกว้างต่างคนต่างแยกย้ายกลับ ผมกุมมิอพี่ไฮด์แน่นเอนหน้าซบไหล่กว้าง
“ขอบคุณนะครับ”
ขอบคุณที่ช่วยเตือนสติและอยู่เคียงข้าง
พี่ไฮด์เป็นคนบอกให้ผมให้โอกาสพี่ไธม์ และต่อให้ผมถูกทอดทิ้งจริงแต่ก็จะมีพี่ไฮด์และทุกคนจะเป็นครอบครัวให้ผมเอง และผมก็รู้สึกดีที่เชื่อพี่ไฮด์อย่างน้อยผมก็มีพี่ชายที่ดูจะตืนเต้นกับการที่มีผมเป็นน้องชาย และผมก็ได้รู้ว่าจงอย่าคาดหวังที่จะได้รับความรักจาคนที่ไม่รัก แต่จงรักคนที่รักเราดีกว่า เมื่อผู้ให้กำเนิดไม่ได้รักและทอดทิ้งผมก็ไม่ควรที่จะเก็บมาทำร้ายตัวเอง เมื่อคิดได้ปล่อยวางได้ความรู้สึกในใจก็เบาขึ้น
“ร่างกายเป็นยังไงบ้าง” พอถูกถามก็รู้สึกร้อนไปทั้งหน้าเมื่อคิดถึงเมื่อคืนที่ผ่านมา
“ไม่เป็นไรแล้วครับแค่รู้สึกง่วง” หลังจากอาการฮีทผมก็รู้สึกง่วงบ่อยๆ ยิ่งวันนี้ผมไม่ได้พักตอนนี้เลยรู้สึกง่วงมาก พี่ไฮด์เอื้อมไปหยิบเสื้อสูทมาคลุมตัวผมพร้อมกับปรับเบาะ
“นอนก่อนนะครับ” เพราะสายตาอบอุ่นที่มองมาทำให้ผมกล้าที่จะสิ่งที่ไม่เคยทำ
จุ๊บ
ผมขยับตัวเข้าไปใกล้กดริมฝีปากแนบเรียวปากนุ่มหยุ่นแล้วผละออก ยกเสื้อสูทคลุมหัวหลบสายตาแวววับทันที ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะทุ้มเบาๆ แล้วพี่ไฮด์ก็เคลื่อนรถออกไป เพราะความเพลียไม่นานผมก็หลับไป
.
.
ไฮด์มองคนที่กอดสูทนอนหลับสนิทอยู่ที่เบาะแม้จะถึงบ้านนานแล้ว ใบหน้าหวานหลับสนิทมีรอยยิ้มจางๆ ติดอยู่ น่ารักและน่าปกป้อง เรื่องครอบครัวถ้าเดาไม่ผิดก็คงเป็นความเชื่อของตระกูลนั่นล่ะนะ แค่น้องไม่เศร้ากับเรื่องนี้ก็พอแล้ว เพราะยังไงเขาก็พร้อมที่จะเป็นทุกอย่างให้กับร่างบางอยู่แล้ว เพราะท่าทางหลับสนิทผมเลยไม่คิดที่จะปลุกน้องเพียงแต่อุ้มน้องเข้าบ้าน เมื่อถึงเตียงก็ค่อยถอดถุงเท้าจัดท่าทางให้น้องนอนสบายๆ แล้วปล่อยให้หลับไป ส่วนผมก็ลงไปด้านล่าง
“มิซา พรุ่งนี้ผมมีงานด่วนไหม” ร่างสูงโทรหาเลขาคนใหม่ที่ตอนนี้คอยดูแลงานช่วยเขาในระหว่างที่ธารกำลังฮีทแม้ไอ้โนเอลจะคอยแซะเขาอยู่
“ (ไม่มีครับ คุณไฮด์จะกลับมาทำงานวันไหนหรือครับ) ” แม้ใจจริงอยากจะตอบไปว่าไม่อยากกลับไปทำงานคงจะโดนมิซาแล่นมาแหกอกแน่ๆ
“อีกสองวันถ้ามีงานด่วนก็เอามาให้ฉันที่บ้านธาร”
“ (ครับ) ” หลังจากวางสาย เปิดทีวีไว้ก่อนที่จะเอนตัวนอนบนโซฟาเพื่อพักสายตาสักครู่ ยังไม่ทันได้หลับก็มีแรงกดทับ
หือ
“ตื่นแล้วเหรอครับ”
“นอนไม่หลับ พี่ไฮด์ทำไมไม่นอนกับน้อง” ก้มมองน้องที่ตัวเกยอยู่บนตัวเขาแถมยังส่งสายตาอ้อนๆ มาให้อีกมันน่าฟัดเกินไปไหมล่ะ ยิ่งน้องติดกลิ่นเขาธารยิ่งเข้ามาคลอเคลียเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ ที่น่าขย่ำ
“ยังไม่หายดีไม่ใช่เหรอ มายั่วพี่แบบนี้ไม่กลัวเจ็บตัวรึไงหือ” มือหนาเลื่อนลงไปยังเนินสะโพกนิ่มแล้วบีบเบาๆ
เพียะ
เจ็บ ฝ่ามือเรียวฟาดเข้าที่หน้าอกผมเต็ม ไม่ได้เจ็บอะไรมากแต่แสบครับ แสบมากเพราะน้องตีด้วยปลายนิ้ว ผมเลยบีบก้นนุ่มแรงๆ เป็นการเอาคืน
“นอนอีกไหมครับ” ยกมือขึ้นลูบผมนิ่ม ทั้งตัวน้องนุ่มนิ่มจนเขาอยากจะฟัดให้จมเขี้ยวแต่เพียงไม่นานน้องก็หลับคาอกเขา ยอมเป็นเบาะให้น้องนอนหลับพร้อมกับประคองน้องไว้
.
หลังจากอาการฮีทของน้องหายดีแล้วแต่ธารก็ยังคงง่วงนอนอยู่บ่อยๆ อยู่นิ่งๆ ก็หลับโดยไม่เกี่ยงสถานที่ต่อให้เสียงดังแค่ไหนธารก็ยังคงหลับได้ เหมือนอย่างตอนนี้ที่หลับทั้งๆ ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้
“ธาร...ตื่นได้แล้วครับพี่มารับแล้ว” ธารงัวเงียนัยน์ตากลมยังคงปรือดูง่วง เลยขยับไปพยุงให้ธารลุกขึ้น
“พี่ไฮด์ น้องง่วง” ผมเริ่มเป็นห่วงเพราะอาการของน้องมันไม่ใช่เรื่องปกติตอนแรกเขาคิดเพียงว่าคงเป็นผลของอาการฮีทแต่อาการฮีทผ่านไปแล้วน้องก็ยังคงง่วงตลอดเวลา วันนี้เลยคิดที่จะพาน้องไปหาลุงหมอ
“เดี๋ยวค่อยนอนนะครับ พี่ว่าเราไปให้ลุงหมอตรวจดีกว่านะครับ” ธารพยักหน้าเดินตามผมไปขึ้นรถอย่างว่าง่าย เอาจริงๆ คือน้องง่วงเลยเดินตามผมง่ายๆ พอขึ้นนั่งบนรถน้องก็หลับทันทีผมเลยหยิบผ้าห่มผืนเล็กที่ติดรถขึ้นมาคลุมร่างเล็ก แล้วค่อยขับรถไปที่โรงพยาบาล
แต่พอถึงโรงพยาบาลธารก็ยังคงหลับอยู่ผมเลยรออยู่สักพักแล้วค่อยปลุกธารให้ตื่น แม้จะยังง่วงแต่น้องก็ยอมที่จะเดินไปกับผมดีๆ
“สวัสดีครับคุณลุง”
“อ่าวมากันแล้วเหรอ แล้วนั่นจะหลับอีกแล้วเหรอ” ลุงหมอหันมาก็ทักกับธารที่นั่งลงแล้วทำท่าจะหลับ
“นี่ละครับผมเลยเป็นห่วง น้องดูง่วงตลอดเลยครับ”
“งั้นเหรอ อาการนี้เกิดขึ้นหลังจากฮีทใช่ไหม งั้นลุงขอตรวจหน่อยนะ ลุงก็เป็นห่วงธารเพราะพึ่งแสดงอาการเพศที่สองตอนช่วงอายุนี้” ลุงหมอสั่งให้ผมประครองน้องขึ้นบนเตียง ผมปรึกษากับลุงหมอแล้วเรื่องที่ธารมีอาการง่วงนอนตลอดเวลาเหมือนนอนเท่าไหร่ก็ไม่พอแถมยังติดเขาไม่หาย ลุงหมอเจาะเลือดธารไปตรวจซึ่งเจ้าตัวไม่ได้รู้สึกอะไรเลยเพราะพอหัวถึงหมอนก็หลับอีกแล้ว ถึงจะบอกว่าการนอนหลับไม่น่าเป็นห่วงอะไรแต่ถ้านอนมากๆ ก็คงไม่ดีใช่ไหมล่ะครับ
ลุงหมอเลยให้พวกเรารอผลตรวจในห้องตรวจ ระหว่างรอผลตรวจผมก็ปรึกษาเกี่ยวกับธาร ร่างกายน้องไม่เหมือนโอเมก้าทั่วไป คุยรอไม่นานพยาบาลก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับยืนผลให้กับลุงหมอแม้รอยยิ้มแปลกๆ ของพยาบาลจะทำให้เขาสงสัยก็เถอะ
“อืม.....เป็นข่าวดีนะ” พอได้ยินว่าเป็นข่าวดีใจผมก็เต้นรัว คงเป็นเพราะท่าทางตื่นเต้นมากไป ลุงหมอถึงได้ขำ “ธารกำลังตั้งท้องแถมยังมีแนวโน้มว่าจะท้องแฝดด้วยนะ”
“จริงนะครับ!! ลุงหมอไม่โกหกผมนะ” ผมลุกขึ้นแทบจะเขย่าตัวลุงหมอ ดวงตาคมเปล่งประกายจ้าทั้งรอยยิ้มกว้างจนคนเป็นลุงหลุดขำกับท่าทางตื่นๆ ของหลานชาย จนต้องพยักหน้ายืนยัน เท่านั้นล่ะไอ้หลานชายก็แทบกลายร่างเป็นเด็กโข่งร้องดีใจแถมยังโผเข้ามากอดเขาแน่น เห็นใจคนแก่บ้างเถอะ ร่างสูงผละออกจากร่างท้วมก็หยิบมือถือกดหาน้องชาย
“ไอ้โนเอล ฉันกำลังจะมีลูก!!!!” ทันทีที่รับสายผมก็ร้องบอกโนเอลทันที
“ (หูจะแตกเว้ย) ”
“ธารท้องแล้วเว้ยแถมยังจะเป็นลูกแฝดด้วย แฝดเลยนะ”
“ (รู้แล้วยินดีด้วย..มีอะไรเหรอครับ....ไฮด์โทรมาบอกว่าธารท้องแล้วนะ) ” โนเอลหันไปคุยกับไคล์
“แฝดด้วยนะเว้ย” นี่เป็นพ้อยต์สำคัญผมเลยย้ำไปอีกทีได้ยินเสียงถอนหายใจจากปลายสายก่อนที่จะได้ยินเสียงโนเอลบอกกับไคล์
“ (ดีใจด้วยนะครับพี่ไฮด์ น้องคีธจะได้มีเพื่อนเล่นแล้ว) ”
“ขอบคุณนะไคล์” คุยกันได้แปบเดียวโนเอลก็แย่งโทรศัพท์กลับไปพร้อมกับตัดสาย เดาไม่ยากเลยว่ามันหวงน้องแค่คุยก็ยังไม่ได้เหรอ หลังจากนั้นผมก็โทรบอกทุกคนว่าธารท้องรวมทั้งพี่ชายของธาร ที่ตื่นเต้นยิ่งกว่าผมเสียอีก แถมยังบอกว่าจะมาหาตอนเย็น ลุงหมอให้คำแนะนำอีกหลายเรื่องแล้วค่อยเดินออกจากห้องตรวจไป เพราะอยากให้ว่าที่คุณแม่พักผ่อน เขาเดินเข้าไปนั่งลงข้างเตียง ยกมือนุ่มขึ้นมาแนบแก้มกดจูบที่กลางฝ่ามือ
“ขอบคุณนะครับ”
.
ร่างบางที่หลับบนเตียงหลังจากที่นอนจนเต็มอิ่มก็งัวเงียลุกขึ้นเมื่อเห็นที่นอนดูแปลกตานั่งนิ่งถึงได้นึกออกว่าอยู่ที่โรงพยาบาล หันมองข้างๆ ก็เห็นร่างสูงที่นั่งกุมมือเขาอยู่ ริมฝีปากหยักยกยิ้มกว้างแววตาคมฉายแววมีความสุขอย่างที่เขารู้สึกได้
“หิวรึยังครับ” ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบช่วงนี้ผมไม่ค่อยอยากทานอะไรเพียงแต่ง่วงนอนบ่อยมาก
“ลุงหมอบอกว่าผมเป็นอะไรรึเปล่าครับ” พอถามรอยยิ้มที่กว้างยิ่งกว้างขึ้นออร่าความสุขแผ่กระจายออกมายิ่งทำให้ผมงง
“ข่าวดีครับ ธารกำลังจะมีตัวเล็กๆ แล้วนะ” ตัวเล็ก...ตัวเล็กๆ เหรอ
ผมท้อง
พอได้ยินว่าตัวเองท้องน้ำตาก็ร่วงกราวราวกับทำนบแตก ผมทั้งร้องไห้ทั้งยิ้มกว้างในใจตอนนี้มันอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
“เด็กๆ หรือครับ”
“ใช่แล้ว ลุงหมอบอกว่าน่าจะเป็นแฝด”
“อึก..ผมจะเลี้ยงเขาอย่างดี” เพราะความทรงจำในวัยเด็ก ผมจะไม่ยอมให้ลูกของผมต้องรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว พี่ไฮด์พูดปลอบจนผมหยุดร้องแล้วพาผมกลับบ้าน
“ตอนเย็นไธม์จะมาหานะ พี่โทรบอกเขาไปเรียบร้อย”
“ครับ” ตอนนี้ต่อให้ใครมาผมก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ผมยิ้มไม่หุบแล้ว
ครอบครัว
ตอนนี้ผมจะมีครอบครัวของตัวเองแล้ว
มือเรียวเอื้อมไปประสานกับมือหนาบีบมือนั้นแน่น
“ขอบคุณนะครับ”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เราก็ขอบคุณนะคะ ช่วงนี้เหลวไหลมากเลยค่ะ ดองนิยายอีกแล้วพอใกล้จบเป็นแบบนี้ทุกที
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ
ดีใจที่ทุกคนรักเรื่องนี้
มีเรื่องจะประกาศด้วยค่ะ ตอนนี้มีแพลนไว้สองเรื่องเลยจะเปิดโหวตดีกว่าค่ะ มีสองแนวเลย
กด 1 ถ้าหากคุณเลือก skyline เนื้อหาจะหน่วงหน่อย เป็นแนวที่เราไม่เคยเขียนเพราะปกติจะฟิลกู๊ด
กด 2 ถ้าหากคุณเลือก นิยายจีนโบราณ ย้อนอดีตหลงยุค อันนี้จะเป็นแนวคอมเมดี้หน่อยๆ
ยังไงก็ฝากโหวตด้วยนะคะ
รักนะจุ๊บๆ