เพราะนายคือของฉัน [ll] : 10
บ่ายวันนี้มาเรียนด้วยความเครียด มือถือผมหายครับ ไม่รู้เอาไปวางไว้ที่ไหน จะโทรหาพี่โชก็ไม่ได้ เพราะรู้ว่าหลังเที่ยงพี่เขาต้องไปดูงานกับพ่อ เลยได้แต่นั่งหน้าเครียด ไม่ใช่เพราะเครื่องแพงหรืออะไรหรอกนะครับ ผมเสียดายรูปในนั้นมากกว่า มันเป็นรูปความทรงจำมากมาย รู้แบบนี้น่าจะเอาลงคอมให้หมดเสียก็ดี ไม่น่าขี้เกียจเลยให้ตาย
“ไงมึง หน้าบูดเป็นตูด ไม่ได้กินข้าวเที่ยงหรือไง” ไอ้ทูตบไหล่ผมตักปึกพร้อมกับคำทักทาย ผมหน้างอส่งไปให้จนมันเลิกคิ้วมอง “อะไรวะ”
“มือถือกูหาย” บอกสั้นๆ แต่ได้ใจความ
“มึงแน่ใจว่าหาดีแล้ว?”
“กูหาดีแล้ว ตอนเช้ากูก็ไม่ได้ถือไปไหน ตอนขี้กูก็ไม่ได้เอาเข้าไป”
“แล้วล่าสุดมึงใช้ที่ไหน” เงียบครับ ไม่มีคำตอบให้ ก็เพราะจำไม่ได้นี่ไงเล่าถึงมาเครียดแบบนี้ “หายตอนไหนไม่รู้ แต่เพิ่งมารู้ตอนนี้?” รีบพยักหน้าตามที่เพื่อนถาม “ไอ้โง่กลอยเอ๊ย งั้นเดี๋ยวกูลองโทรให้” พูดจบมันก็หยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมากดหาชื่อผมแล้วโทรออก “มึงบอกพี่โชยังวะ” ระหว่างรอสายมันก็ถาม ผมรีบส่ายหน้าช้าๆ พอจะพูดอะไรต่อมันก็รีบยกมือขึ้นห้าม “ฮัลโหล นั่นมือถือของกลอยใช่ไหมครับ”
(ใช่) น้ำเสียงนิ่งตอบกลับมา ที่ผมได้ยินเพราะไอ้ทูเปิดลำโพง (ทูเหรอ?)
“อ่าว พี่โชเหรอ” ไอ้ทูถามกลับอย่างงงๆ
“มือถือกลอยไปอยู่กับพี่โชได้ไง” รีบแทรกเข้าไป
(เมื่อคืนใครมาเล่นเกมส์ข้างกระเป๋าพี่ล่ะ) พอได้ยินผมก็หันมองหน้าเพื่อน ก่อนสมองจะเริ่มทวนความจำช่วงสั้นๆ จำได้ว่าเมื่อคืนนั่งเล่นเกมส์อยู่ที่โซฟา กระเป๋าพี่โชวางอยู่ข้างๆ สงสัยผมจะง่วงจัดเลยเอาสอดเข้าไปแน่ๆ (นึกออกหรือยัง)
“นึกออกแล้ว” อยากตบหัวตัวเองแรงๆ เครียดมาตั้งแต่เช้า ตอนนี้แทบปล่อยโฮเมื่อรู้ว่าโทรศัพท์ไม่ได้หายไปไหน “กลอยเครียดแทบตาย”
(ต่อไปก็เล่นเกมส์ให้น้อยๆ หน่อย จะได้มีสติมากกว่านี้) โดนด่าเลย แถมถูกไอ้ทูหัวเราะเยาะด้วย โชคดีพวกไอ้สักยังไม่มา ไม่งั้นขายขี้หน้าแหงๆ (แค่นี้นะ พี่ต้องออกไปข้างนอก)
ถูกบ่นเสร็จสายก็ตัดไป ส่วนผมก็ถูกไอ้ทูโบกเข้าหัว โทษฐานที่ทำให้มันตกใจไปด้วย ผมต่างหากที่ควรตกใจมากกว่า มีทั้งรูปตัวเอง แล้วก็รูปพี่โชที่หายากๆ กว่าจะแอบถ่ายมาได้ต้องใช้เวลานาน เมื่อก่อนพี่โชชอบแอบเอาไปลบด้วย ผมเลยต้องเอาลงแล็ปท็อปกันเหนียวอีกชั้น
“มึงทำงานจารย์ป้าเสร็จยังวะ” ถามอย่างเซ็งๆ กว่าจะปั่นจนเสร็จ ใช้พลังแรงกายไปเยอะ
“หน้าอย่างกู ถ้าทำเสร็จก็คงไม่ใช่เพื่อนมึงแล้ว” ไอ้ทูว่า ก่อนจะดึงหนังสือกับสมุดออกมาทำต่อบนโต๊ะ
จังหวะที่กำลังจะถามถึงพวกที่เหลือ มันก็โผล่หน้ามาซะครบแก๊ง ไอ้สัก ไอ้เค ไอ้ต๋องโบกมือทักทายด้วยท่าทางอิดโรย
“พวกมึงไปทำอะไรมาวะ” ถามด้วยความสงสัย
“หรือทำวิชาจารย์ป้า? งั้นกูขอลอกหน่อย” ไอ้ทูรีบเสริม พลางทำตาแวววาว
“ทำเสร็จเหี้ยอะไรล่ะ ไอ้ต๋องแม่งกวนกูทั้งคืน” คำตอบของไอ้สัก ทำเอาผมมีดาวที่หางตาแบบหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น “ไม่ต้องทำจมูกบานคิดอะไรใต้สะดือเลยไอ้ห่ากลอย ที่มันกวนเพราะแดกเหล้าไปเยอะ เดี๋ยวอ้วก เดี๋ยวขี้ กูไม่ได้นอนไอ้สัด” เสียงบ่นยาวเหยียดที่คนถูกบ่น กลับไม่ได้สนใจ นอกจากฟุบหน้าหลับที่โต๊ะ
“พวกมึงไปแดกเหล้าไม่ชวนเลยนะ”
“ชวนแล้วมึงจะได้ไปหรือไง”
“เออว่ะ” หน้าสลดเลยผม ก่อนที่จะอ้าปากคุยต่อ เสียงแปดหลอดเรียกชื่อผมก็ดังมาแต่ไกล อีเข็มพาร่างอันอวบอัดปรี่เข้ามาหา มือมันถือถุงบางอย่างมาด้วย พอมาถึงหน้าตาก็บานเป็นจานสังกะสี “อะไรของมึง”
“ไอ้กลอย” อีเข็มเรียกชื่อผมอีกรอบ ก่อนจะโชว์ถุงที่มันถือมา “มีคนใจดีซื้อลูกชิ้นเจ้าประจำมาให้ สน? ไม่สน?” ไม่พูดเปล่า ยังแกว่งถุงลูกชิ้นไปมา ทำให้ผมต้องมองตามจนปวดลูกตาไปหมด
“โหย ใครซื้อให้วะ กูกินมั่ง” ไอ้ต๋องจากที่ฟุบเพราะแฮงค์เหล้าก็รีบโผเข้าหา แต่โดนมืออวบฟาดเข้าให้จนหน้าเสีย “มึงเอาขาหน้าตีมือกูทำไม”
“มึงชื่อกลอยเหรอไอ้ห่า ถ้าไม่ใช่ก็หดหัวกลับไปที่เดิม” คำด่าช่างเจ็บแสบ ไอ้ต๋องสะบัดหน้าอย่างงอนแล้วนั่งลงฟุบหน้าหลับตามเดิม ส่วนอีเข็มหันกลับมาแกว่งถุงลูกชิ้นบริหารสายตาผมต่อ “สนไหม อร่อยนะมึง”
“ไม่” ปฏิเสธแม้จะลอบกลืนน้ำลายก็เถอะ
"ไม่สนจริงดิ่ ของฟรีนะมึง ร้านที่มึงชอบด้วย หมูเน้นๆ เด้งดึ๋งๆ เคี้ยวคงจะฟิน..."
ฟังไม่จบ มือก็ไวกว่าสมองคว้าถุงลูกชิ้นมาเปิดดู จากจำนวนแล้วคงหลายสิบบาทอย่างแน่นอน และสภาพลูกชิ้นกับน้ำจิ้มมันคือเจ้าประจำหลังมอผมจริงๆ
“แบ่งกูด้วย” ทันทีที่ผมถือ ไอ้ต๋องก็รีบปรี่เข้ามาหาอีกรอบ พร้อมกับกินลูกชิ้นล่อหน้าล่อตาอีคนเคยห้ามจนถูกฟาดด้วยขาหน้า เอ๊ย มือไปเต็มหลัง "อีเข็ม ใครซื้อให้ไอ้กลอยวะ หรือมึงถูกหวย"
“กูไม่เล่นการพนันเว๊ย”
“ตอแหล” ห้าเสียงประสานกันทั้งโต๊ะ เพราะมันก็บ้าหวยพอๆ ไอ้สักเลย
“ด่ากู แต่ก็กินของที่กูเอามาให้ ไอ้พวกคนเลว” โดนด่าจนชินเลยไม่รู้สึกอะไร ผมงับลูกชิ้นเคี้ยวตุ้ยๆ เต็มปาก อีเข็มยิ้มหน้าบานก่อนจะดึงโทรศัพท์ที่สอดไว้ที่เอวออกมา
“ทำอะไรวะ” ไอ้ทูถาม มันเงยหน้าจากเกมส์พอดี
“ถ่ายคลิปวีดีโอไง” อีเข็มว่า
“คลิป? เอาไปทำไม อย่าบอกว่าหลงชอบไอ้กลอย”
แทบสำลักลูกชิ้นตอนไอ้ทูว่า อีเข็มตวัดสายตาโหดมองโดยไม่ได้ตอบโต้อะไร ผมจ้องหน้าเพื่อนสาวร่างอวบก่อนสะดุ้งเมื่อมันหันมามองพอดี
“อย่างไอ้กลอยไม่ใช่สเปคกูเลย มันไม่มีทางได้เห็นขาอ่อนของกูหรอก”
“โชคดีของกู” เผลอคิดออกเสียง เลยถูกฝ่ามือฟาดเข้าหลังดึงปัก
“ปากดีอีห่า” ยักไหล่ไม่แคร์ ผมยัดลูกชิ้นเข้าปากหลังจากไอ้ต๋องขโมยกินเกือบหมด ไอ้นี่ไว้ใจไม่ได้เลย ส่วนอีเข็มก็ยังมุ่งมันถ่ายวีดีโอหน้าผม บางทีแทบเอามือถือมันมาทิ่มหน้า ดีที่หน้าผมดี ไร้รูขุมขน ดังนั้นซูมยังไงก็ไม่กลัว “เรียบร้อย”
“อะไรเรียบร้อยวะ” ไอ้ทูถามอีกรอบ แต่ไม่ได้คำตอบอะไร
“กูขึ้นห้องก่อน รีบๆ ตามมานะมึง อย่าช้า เดี๋ยวโดนป้าเชือดด้วยสายตา” พูดเสร็จอีเข็มก็พาร่างอวบอัดขึ้นบันไดไป ส่วนผมรีบยัดลูกชิ้นกลัวไม่ทันไอ้คนขี้แย่ง พอหมดมันก็ลุกหนี
ไอ้เพื่อนกิน!
ใกล้ถึงเวลาเรียน ผมกับพวกไอ้สักก็เก็บของเตรียมขึ้นตึก หลังจากรับไหว้เด็กปีสองไปแล้ว เดินมาได้ไม่กี่ก้าว ก็มีเสียงลอยเข้าหูที่ทำเอาผมต้องหันกลับไปมองด้วยความสงสัย
“มึงได้ยินป่ะเมื่อกี้” สะกิดไอ้ทูที่ยืนอยู่ข้างๆ มันหันมามองแล้วทำหน้างง “ก็ที่น้องเขาพูดเมื่อกี้ คลิปกูอะไรสักอย่าง”
“ไม่ได้ยินว่ะ คลิปอะไร”
“ถ้ากูรู้จะถามมึงเหรอ”
“เอ๊า ไอ้นี่”
ผมยักไหล่ก่อนจะดึงแขนเพื่อนขึ้นบันไดต่อ อาจจะหูแว่วเองก็ได้ไม่น่ามีอะไร พอขึ้นห้องได้ บรรดากลุ่มสาวๆ ที่รวมกลุ่มก็หันมามองหน้าผมเป็นระยะ จนต้องก้มมองสำรวจร่างกายตัวเองว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ซิปก็รูดปกติ หรือลูกชิ้นจะติดฟันวะ
“ไอ้ทู” สะกิดได้คนข้างๆ ก่อนยิงฟันให้มันดู “มีไรติดฟันกูป่ะ”
“มี”
“อะไรวะ ลูกชิ้นเหรอ”
“เหงือกไง”
“ขอบใจไอ้สัด”
ไอ้ทูหัวเราะงอหงาย ก่อนอาจารย์ป้าจะเข้าห้อง กลุ่มที่รวมหัวก็รีบกลับไปนั่งที่ตัวเอง นั่งฟังสิ่งที่ต้องทำกับหนังสือที่ต้องค้นหา ทำเอาไมเกรนจะขึ้น ปีสี่แม้เรียนไม่หนักแต่ทำผมหงอกไปเกือบหมดหัว เปลืองเงินไปย้อมผมอีก ผ่านไปเกือบๆ สองชั่วโมงก็เลิก พอดีกับฝนเทลงมาทั้งที่กรมอุตุฯ ไม่ได้แจ้งเตือน แล้วใครจะไปเตรียมตัว เตรียมร่มทันวะครับ ได้เปียกอีกแล้ว
“ไอ้เหี้ย ฝนตก” ไอ้สักโวยวาย เพราะมันวางแผนจะไปนั่งวาดรูปริมบึงในสวนข้างตึก
“หิว” ไอ้ต๋องพูดไปลูบท้องตัวเองไป ซึ่งผมก็เริ่มรู้สึกหิวเหมือนกัน “ไปหาอะไรกินไหมวะ”
“หมูกระทะไหมพวกมึง” เอ่ยชวนออกไป ทำเอาพวกเพื่อนหันมามองตาโต
“ก่อนชวนได้ถามผัวหรือยัง” ไอ้เคถามเสียงนิ่ง ผมส่ายหน้าตอบช้าๆ ไป “จอ บอ จบ”
“กูถามเดี๋ยวนี้แหละ” ว่าแล้วก็ตบกระเป๋ากางเกงสองข้าง “มือถือกูหาย” และก่อนจะมีเสียงโวยวายจากคนอื่น ไอ้ทูก็ขัดขึ้นมา
“อยู่ที่พี่โชไงไอ้ควาย”
“เออว่ะ งั้นกูยืมโทรศัพท์มึงหน่อย” ว่าแล้วก็แบมือไปตรงหน้าไอ้ทู
“แล้วทำไมต้องเป็นของกู”
“เพราะมึงมีเบอร์พี่โชไง”
“พวกไอ้สักก็มี”
“แต่มึงเป็นแฟนพี่เบ เพื่อนพี่โช”
“จะเอาให้ได้สินะ” ไอ้ทูถอนหายใจก่อนวางมือถือเครื่องแพงใส่มือผม “จ่ายเงินค่าโทรกูด้วย”
“ไอ้ขี้งก”
ผมเดินหนีมาอีกมุมเพราะจะได้คุยสะดวก รอสายไม่นานก็มีเสียงตอบรับ
(ทู?)
“กลอยเอง” รีบออกตัวจนปลายสายครางรับ “คือฝนตก”
(แล้ว?)
“กลอยหิว”
(แล้ว?)
“ขอไปกินหมูกระทะกับเพื่อนได้ไหม” ขอไปเสร็จ ใจเต้นอย่างระทึกกับคำตอบที่จะได้ยิน เอาจริงๆ เกือบกลั้นหายใจจนจะตายเลยด้วยซ้ำ “ได้ไหม น้า” เพิ่มเสียงอ้อนไปสักหน่อย
(ให้กลับไม่เกินสองทุ่ม)
“เย้”
(แต่อย่าลืมกฎที่พี่เคยบอก ไม่เกิน 5 แก้วเท่านั้น เข้าใจไหม)
“รับทราบ กลอยจะรีบกลับก่อนสามทุ่ม...”
(สองทุ่มเว๊ย อย่ามาเนียน)
“นั่นแหละ รักนะปีศาจ”
(เออ!)
เนี่ย ปีศาจน่ารักจะตายไป ใครหน้าไหนบอกโหด ไอ้กลอยจะไปต่อยหน้าคว่ำเลย ผมรีบปรับสีหน้าตัวเองให้ดูเศร้านิดๆ ก่อนเดินย้อนกลับไปหาพวกเพื่อนที่รอลุ้นผล
“พี่โชว่าไงวะ” ไอ้ทูถามขณะยื่นมือรับโทรศัพท์ที่ผมส่งคืน
“กูว่าไม่ได้ชัวร์”
“ไม่เกินสองทุ่ม” ว่าเสร็จผมก็ยิ้มพรายออกมา “ไปโลด”
“ไม่น่าเชื่อ” ไอ้ต๋องส่ายหน้าอย่างอึ้งๆ
“นี่ใคร นี่กลอยประเกรียนไง ว่าแต่ ร้านไหนดีวะ”
“หน้ามหาลัยมีร้านหมูกระทะเปิดใหม่ ลดราคาสำหรับนักศึกษาด้วยนะ” เสียงแหลมพูดแทรกขณะพวกผมกำลังคิดหาร้าน พอหันไปดูก็เจอร่างอวบๆ เดินนวยนาดเข้ามาหา “กูเคยไปลองแล้ว น้ำจิ้มเด็ด หมูนุ่มด้วย มีของเยอะมาก”
“ก็น่าสนนะ งั้นตามนั้น” ไอ้เคปิดการสนทนา
“โอเค” อีเข็มยิ้มส่งท้ายก่อนจะเดินผ่ากลางไป เอาซะพวกผมกระเด็นคนละทิศละทางยิ่งกว่าแผ่นดินไหวเสียอีก น่ากลัวจริงๆ
และเมื่อได้ร้านก็ถึงเวลาเดินทาง ผมขับสุดที่รักตามหลังไอ้ทูจนถึงร้าน โชคดีที่ร้านเพิ่งเปิดเลยมีโต๊ะนั่ง จะว่าไปบรรยากาศร้านนี้ใช้ได้เลยนะ แถมมีที่จอดรถเยอะด้วย ไม่แปลกที่จะมีคนเต็มแทบทุกวัน ได้ยินมาจากพนักงานว่าคนแน่นจนต้องมีบัตรคิว
“เดี๋ยวกูจองโต๊ะให้” ไอ้ต๋องว่า ก่อนมันจะสั่งเบียร์กับพนักงาน สงสัยจะถอนของเมื่อคืนออก
“ขี้เกียจล่ะสิมึงน่ะ” ไม่วายถูกไอ้สักแขวะ แต่คนโดนกลับทำเฉย
“ช่างมัน” ผมตัดบท ก่อนเดินนำหน้าไปที่โซนของสด
จริงอย่างที่อีเข็มบอก ของที่นี่มีให้เลือกเยอะมาก ทั้งหมู ไก่ เนื้อ รวมทั้งของทะเลก็สด ยิ่งไม่จำกัดเวลานั่งด้วย ยิ่งดีไปใหญ่ ผมเลือกหมูสไดล์ หมูสามชั้น ไก่หมัก
“มึงไม่คิดจะเอาผักเหรอวะ” ไอ้ทูถาม ในมือมันมีเนื้อกับตะกร้าผัก
“ก็มึงเอาไปแล้วไง” พูดเสร็จก็คีบไก่ต่อ
“ระวังขี้ไม่ออกนะมึง”
อยากเห็นตัวเองขี้ไม่ออกเหมือนกัน ทุกวันนี้แทบขี้หลังอาหารสามเวลาอยู่แล้ว
ผมเลือกของเสร็จก็กลับไปที่โต๊ะ เตาปิ้งย่างก็พร้อมแล้ว แถมมีแบบหม้อชาบูอีก อร่อยจนฟินก็คราวนี้แหละ เวลาเริ่มผ่านไปเรื่อยๆ คนในร้านก็เริ่มแน่น โต๊ะผมก็พากันได้ที่กันหมด เบียร์จากหนึ่งค่อยๆ เพิ่มหลายขวด แน่นอนว่าผมมีลิมิตแค่ห้าแก้ว ถึงแม้พี่โชไม่อยู่ แต่ผมก็ไม่อยากผิดคำพูด เลยได้แต่มองพวกเพื่อนชนแก้วกัน
“พวกมึง!” เสียงแหลมแหวกอากาศมาพร้อมกับร่างอวบๆ อีเข็มโบกมือทักทายก่อนปรี่เข้ามาหาโต๊ะพวกผม “กูนั่งด้วยสิ”
“ถ้ามึงจะนั่งโดยไม่รอคำตอบแบบนี้ ก็ไม่ต้องเสือกถามไหมอีห่า” ไอ้ต๋องใช้ตะเกียบชี้หน้าด่า แต่อีเข็มกลับไม่สนใจ เพราะมันเอาแต่กวักมือเรียกกลุ่มคนที่น่าจะตามมันมาด้วย “ใครวะ”
“รุ่นน้องถาปัตย์ที่กูรู้จัก พอดีเขาอยากมากินหมูกระทะ” เสียงดัดเล็ก ดัดแหลมอย่างน่าหมั่นไส้ “พี่คะ ขอต่อโต๊ะให้ด้วยค่ะ” ว่าแล้วอีเข็มมันก็ตะโกนเรียกพนักงานให้มาต่อโต๊ะ
“มึงจะต่อโต๊ะทำไมวะ ทำไมไม่ไปนั่งกับพวกรุ่นน้องมึง” ไอ้สักโวยเพราะตอนนี้วุ่นวายสุด ทั้งขยับเก้าอี้ ขยับของ ขยับจาน
“กูอยากนั่งกินกับพวกมึงนี่” ไม่มีท่าทางสลดแม้แต่น้อย พอต่อโต๊ะเสร็จ อีเข็มก็จัดแจงชี้นิ้วสั่งเด็กๆ ของมันให้นั่งประจำที่ “เดี๋ยวกูจะแนะนำน้องๆ เขาให้พวกมึงรู้จัก” ว่าแล้วมันก็ใช้นิ้วอวบๆ เริ่มชี้ “ข้างกูนี่ชื่อน้องต็อป ถัดน้องต็อปชื่อออย และคนสุดท้ายข้างไอ้กลอยชื่อไบร์ท”
ผมเหล่ตามองคนที่มานั่งข้างๆ ไอ้เด็กขายถั่วมันยิ้มแป้นมาให้ แต่ผมทำเมินยื่นมือไปคีบหมูบนเตามาเข้าปาก แล้วหมูชิ้นนั้นดันร้อนจนลวกลิ้นทำเอาต้องรีบคายออกมา
“โง่” นี่คำชมของไอ้ทู ผมตวัดสายตาโหดใส่เพื่อนตัวเองที่นั่งตรงข้าม แต่มันไม่ได้มองผม สายตาไอ้ทูมองไปที่คนข้างๆ ของผมแทน “รีบๆ กิน จะได้กลับ”
“รู้แล้วน่า” รับอย่างเคืองๆ ผมเป่าปากตัวเองดับความแสบร้อน ก่อนมองมือขาวที่คีบน้ำแข็งยื่นมาตรงหน้า “อะไร?”
“อมน้ำแข็งไว้ ผมว่าน่าจะดีกว่านะครับ” ขมวดคิ้วมองความหวังดี “รับไปสิครับ เดี๋ยวเป็นแผลนะ”
“เออๆ” ว่าแล้วก็หยิบน้ำแข็งก้อนพอดีเข้าปาก “ขอบใจ”
“ครับ”
“กี่โมงแล้ววะ”
ระหว่างมองหน้าไอ้ไบร์ท เสียงลอยๆ ของไอ้ทูก็ดังขึ้นมาอีก ผมพลิกดูนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เกือบทุ่มแล้ว เหมือนมานั่งแค่ไม่นานแท้ๆ เวลาผ่านไปโคตรไว
“จะกี่โมงก็ช่าง เด็กๆ ไปตักของเลยน้า แล้วก็ ตักเผื่อพี่ด้วย” อีเข็มรีบสั่ง พลางยิ้มหวานส่งให้เด็กข้างผม “ตักหมูมาเยอะๆ นะน้องไบร์ท มีคนชอบ”
“ได้ครับพี่”
ไอ้นี่ก็แสนรู้ สั่งอะไรก็ทำตามหมด หรือมันจะคบกับอีเข็มแล้ววะ ด้วยความอยากรู้ ผมเลยยื่นปากยาวไปถามขณะที่เด็กต่างคณะลุกไปตักของสด
“มึงคบกับไอ้เด็กไบร์ทนี่เหรอวะ” ทันทีที่ถามจบ น้ำที่อีเข็มเพิ่งเอาเข้าปากก็พ่นกระจายใส่หน้าไอ้เคที่นั่งอยู่ติดกัน คนถูกน้ำพ่นรีบโวยวายหากระดาษมาเช็ดหน้า เช็ดแขน
“โสโครกสัดๆ”
“มึงต้องด่าไอ้กลอยนู้น มันทำให้กูพ่นน้ำ”
“กูไม่เกี่ยว”
รีบออกตัวก่อนยัดหมูเข้าปากอีก นานๆ ได้มากินกับเพื่อน บรรยากาศก็จะต่างเวลาไปกินกับพี่โชแค่สองคน หรือแม้แต่มีเพื่อนพี่โชด้วยก็เถอะ พูดแล้วก็คิดถึงเลยว่ะ
“ไอ้กลอย” ระหว่างนึกถึงหน้าหล่อๆ ของคนรัก เสียงไอ้ทูก็ลอยเข้ามา “เปลี่ยนที่นั่งกับกูไหม”
“ทำไมวะ?”
“ก็...” พูดไม่ทันจบ เด็กที่มาพร้อมอีเข็มก็กลับมาที่โต๊ะพร้อมของสดกับของหวาน “ช่างเถอะ มึงก็รีบๆ กินจะได้กลับ”
“รู้แล้วๆ”
วันนี้ไอ้ทูมาแปลกจริงๆ ตอนมานั่งแรกๆ ยังเฮฮาบ้าบอชนแก้วรอบวงอยู่เลย ตอนนี้กลับดูนิ่งจนผมแปลกใจ ที่สำคัญ มันเอาแต่จ้องไอ้เด็กข้างผมนี่แหละ
“พี่กินกุ้งไหม” มัวแต่มองไอ้ทู พอมีคนถามก็หันไปมอง “เอาไหม”
“มึงไม่กินเหรอ” ถามเพราะมีกุ้งแกะเปลืองแล้วยื่นมาตรงหน้า พอมันพยักหน้าแทนคำตอบ ผมก็ใช้ตะเกียบคีบกุ้งมาจิ้มน้ำจิ้มแล้วเอาเข้าปาก “แต้งกิ้ว”
“พี่กินจุนะเนี่ย”
“เขาเรียกกินตามวัยเว้ย”
“เพิ่งรู้นะครับ” ตวัดสายตาโหดใส่ไอ้เด็กกล้าหัวเราะผม “ผักติดฟันน่ะพี่”
“ไอ้สัด อย่ามาอำกู” ไม่รู้ว่ามันโกหกหรือพูดจริง แต่ผมก็หันไปถามไอ้สักแล้ว มันพยักหน้ายืนยันผมเลยรีบเอาออก
“กูจำได้ละ” ไอ้สักยืดแขนที่มือคีบปูอัดผ่านหน้าผมไป “มึงเป็นน้องรหัสไอ้จอยใช่ป่ะ กูก็ว่าเคยเห็นหน้ามึงที่ไหน”
“ครับพี่” ไอ้เด็กข้างผมรับคำพร้อมรอยยิ้ม ส่วนผมหันซ้าย หันขวาด้วยความสงสัย
“ไอ้จอยไหนวะ” ผมถาม เพราะรู้สึกอึดอัดเมื่อต้องอยู่ตรงกลางโดยที่ไม่รู้อะไร
“ไอ้จอย ทอมถาปัตย์ มันเป็นเพื่อนโรงเรียนเก่ากู มันชอบโม้ตอนกินเหล้าว่าน้องรหัสมันเป็นเดือน แถมเป็นคนฮอตของมหาลัย”
“เป็นทอม?”
“เออ เอารูปไอ้เด็กนี่ให้กูดูตลอดตั้งแต่ปีที่แล้ว จนปีนี้เวลาเมาแม่งก็ยังเอาออกมาอวด กูโคตรเบื่อ”
“เหรอ”
แล้วผมก็ต้องหันไปดูหน้าไอ้เด็กที่ชื่อไบร์ทอีกรอบ หน้าตาจัดว่าดีระดับหนึ่ง คงเพราะช่วงนี้คนชอบสไตล์เกาหลีละมั้ง อย่างพี่โชก็ใช่ แต่คนนั้นหล่อจนต้องยอมรับ ขืนพูดว่าไม่หล่อ มีหวังถูกดัดขาอีก หล่อแบบปีศาจเขาล่ะ พอหลังจากได้รู้เรื่อง ผมก็ลงมือกินหมูต่อ โดยมีไอ้คนข้างๆ คอยคีบมาวางให้
“ผมช่วยปิ้งให้” พูดพลางยิ้มส่งมา
“กูมีมือ ปิ้งเองได้ อย่ายุ่งได้ป่ะ” บอกอย่างตัดบท
เอาจริงไหม ผมไม่ได้โง่ถึงขนาดดูไม่ออก จากการได้นั่งข้าง ได้เห็นสายตาของมัน ทำไมจะไม่รู้ ว่ามันคิดจะปีนเกลียว ความรู้มันชัดเจนพอๆ กับไอ้รอน น้องรหัสของผม รวมทั้งไอ้เม่นที่ผมส่งไปให้เพื่อนรักอย่างไอ้ม่าน นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ผมไม่ตอบข้อความผ่านเฟซบุ๊กมันอีก ส่งฝันดีมาทุกวัน สวัสดีตอนเช้าอีก โคตรจะบ้าบอ
“ผมรู้ว่าพี่มีมือ ก็เห็นอยู่ว่าจับตะเกียบ”
“ไอ้...”
โดนกวนตีนอีก ผมถลึงตาใส่ไอ้เด็กรุ่นน้องต่างคณะ ไม่อยากจะเสวนาให้มากความ เลยรีบๆ กิน แถมตอนนี้ใกล้จะสองทุ่มแล้วด้วย ผมต้องกลับตามที่ได้ตกลงกับพี่โชเอาไว้ ขืนผิดคำพูด คราวหลังผมคงไม่ได้ออกมาแบบนี้อีก
“พี่กลอยกลับยังไงเหรอครับ” คำถามที่มีชื่อผมทำเอาชะงักมือที่ยกน้ำขึ้นดื่ม
“ขับรถกลับเองสิ จะให้กูบินไปหรือไง” ต้องรีบขุดหมาในปากมาใช้ เพื่อจะให้ไอ้เด็กนี่ห่างจากผมมากที่สุด
“กวนได้โล่จริงนะพี่เนี่ย”
“ขอบใจที่ชม” ได้ยินเสียงขำขึ้นจมูกของไอ้เด็กคนข้างๆ พร้อมๆ กับสายตาของไอ้ทูที่ส่งรังสีโหดมาให้ “พวกมึง กูกลับก่อนนะ” ว่าแล้วก็ยื่นเงินให้ไอ้สักสำหรับค่าหมูกระทะตัวเอง
“ทำไมรีบกลับวะ” อีเข็มที่เม้าท์แตกฟองกับคนอื่นรีบหันมาถาม มันมองหน้าผมสลับกับเด็กข้างๆ “หรือมึงน้อยใจที่กูไม่สนใจมึง?”
“สำคัญตัวเองสูงมาก” ผมว่า เพื่อนร่างอวบยักไหล่ทำไม่แคร์
“จะสองทุ่มแล้วนี่หว่า” เป็นไอ้ต๋องที่ขัดขึ้น
“สองทุ่มอะไรวะ?”
“ก็มันขอผัวมันได้แค่นั้นไง ไม่น่าถามเลยอีเข็ม” พอได้ความกระจ่างจากไอ้ต๋อง คนอยากรู้ก็ร้องอ๋อลากยาว “กลับดีๆ นะมึง อย่าไปปีนฟุตบาทเล่นอีกล่ะ”
“ไอ้สัด” อวยพรเพื่อนสนิทไปแบบเบาๆ จนได้นิ้วกลางกลับมา ผมออกจากร้านโดยมีไอ้ทูตามออกมาทีหลัง ทั้งๆ ที่มันน่าจะอยู่ต่อแท้ๆ “อ่าว มึงก็กลับเหรอวะ”
“อืม” ตอบรับสั้นๆ และก่อนที่มันจะเดินผ่านผมไป ไอ้ทูหยุดเดินพลางปรายตานิ่งๆ มอง “กูว่า มึงควรอยู่ห่างๆ ไอ้เด็กนั่นมันให้มากที่สุด” คำเตือนที่ผมค่อนข้างเห็นด้วย
“กูรู้น่า”
“มึงรู้ก็ดี แล้วระวังพี่โชด้วย มึงก็น่าจะรู้ ว่าพี่เขาเป็นคนยังไง” คราวนี้ผมเงียบ ไอ้ทูยกมือขึ้นมาตบบ่าเบาๆ “มึงควรบอกพี่โชด้วย”
“ทำไมกูต้องบอกวะ ไอ้ไบร์ทมันก็ไม่ได้ทำอะไรหรือมาวุ่นวายกับกู...”
“ก็แล้วแต่มึง กูแค่เตือน”
ไอ้ทูขัดทั้งที่ผมยังพูดไม่จบ มันเดินผ่านหน้าไปขึ้นรถตัวเอง ปล่อยผมให้ยืนคิดในสิ่งที่มันเตือน...ผมควรบอกเรื่องนี้กับพี่โชเหรอวะ? ทั้งที่ยังไม่เกิดอะไรขึ้นเนี่ยนะ มันจะดูตื่นตูมไปหรือเปล่า อีกอย่าง พี่โชใจร้อนด้วย เกิดรู้แล้วพุ่งมาหาเรื่องโดยที่ยังไม่รู้เรื่องจริงจะลำบาก หากไอ้เด็กไบร์ทนั่นไม่ได้คิดอะไรกับผม พี่โชจะเป็นฝ่ายเดือดร้อนซะเอง
ว่าแต่ ทำไมวันนี้ผมไม่ถูกโทรตามหว่า...อ่อ ลืมไป โทรศัพท์อยู่ที่พี่โช สงสัยต้องกินปลาเยอะๆ ซะแล้ว จะได้ไม่ความจำปลาทองแบบที่น้องบีมหลานพี่โชชอบว่าผม แต่ถึงผมจะความจำปลาทอง ก็เต้นเพลงเต่างอยได้เป๊ะเถอะ คนมันมีของก็งี้แหละ (อวดตัวเองไปอีก) นี่กลอยประเกรียนไง จะใครล่ะ หล่อขนาดนี้....
...TBC
ตอนที่แล้วพี่โชเตือน ตอนนี้ทูเตือนอีก ระดับความรุนแรงน่าจะมากแล้วนะเกรียน!!! อย่าให้พี่โชได้ออกโรงเอง...
//
สวัสดีวันคริสมาสอีพค่าาา อากาศเปลี่ยนแถมไม่ค่อยดีมากนัก อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะคะ เดี๋ยวจะเที่ยวปีใหม่ไม่สนุก
รักทุกคนเหมือนเดิมค่าาาา
ตอนหน้าเป็นพี่โชนะคะ ขอฝากปีศาจด้วยค่าาา (>/l\<)