,,เพราะนายคือของฉัน[II],, ตอนที่พิเศษ :เรื่องหลอนๆ ... [P.13][UP!!] [11/11/62]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ,,เพราะนายคือของฉัน[II],, ตอนที่พิเศษ :เรื่องหลอนๆ ... [P.13][UP!!] [11/11/62]  (อ่าน 74539 ครั้ง)

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ถึงเวลาทำหน้าที่ของตัวเองเพื่ออนาคตของกันและกัน :กอด1:

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5

เพราะนายคือของฉํน [ll] : 16




         หลังจากพี่โชไม่อยู่ ภาพที่เคยเกิดก็ค่อยๆ ทยอยโผล่ขึ้นมา... ห้องที่เคยเดินชนกันบ่อยๆ เตียงนอนคิงไซส์ที่ตื่นมาแขนขาพันกันทุกครั้ง ไหนจะห้องน้ำที่ผมชอบตดทิ้งไว้หลังอาบน้ำเพื่อให้พี่โชเข้าต่อ โซฟาที่ชอบมีคนขายาวๆ นอนพาดจนผมต้องลงไปนั่งที่พื้น โทรทัศน์ที่มีไว้สำหรับดูหนังพ่อมดซ้ำๆ แถมชอบด่าเวลาที่ผมกวน
 
   วันนี้ไม่มีแบบนั้นแล้ว และไม่รู้อีกกี่ปีถึงจะได้เป็นแบบนั้นอีก

   นี่ผมดราม่า น้ำตาคลอทำไหมเนี่ย

   อันที่จริง พอพี่โชถึงที่นู้นก็โทรมาหา บ้างก็เฟซไทม์มา แม้เจ้าตัวจะง่วงสักแค่ไหนก็ตาม แต่ก็พยายามถ่างตาดูหน้าผม ก็แบบนี้จะไม่ให้รักปีศาจในคราบเทพบุตรได้ไงเล่า อีกอย่าง เดี๋ยวนี้เวลาผ่านไปไวจะตาย แป๊บๆ ก็ปี อย่างที่ผมคบกับพี่โช เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ พอได้ลองนับนิ้วทีตาแทบบอด เพราะเอานิ้วจิ้มตา แฮ่ (มุกบ้าบอ) เวลามันผ่านไปไวจริงๆ นะครับ

   เช่นตอนนี้ ผมมายืนอยู่หน้าโรงเรียนสอนศิลปะที่รุ่นพี่แนะนำ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะตอบรับจดหมายขอเข้าฝึกงานของผมด้วย และก่อนจะมาถึงจุดนี้ ผมแทบอยากลงไปกราบไอ้สักเพื่อนรัก ที่มันช่วยปั่นรายงานสำหรับพรีเซ็นต์ให้ ถ้าไม่ได้มันละก็ ผมคงไม่มีหน้ามาเสนออยู่ที่โรงเรียนนี้หรอก

   ทันทีที่ยื่นขาก้าวแรกเข้าโรงเรียนไป เหมือนกำลังจะผ่านเข้าไปในสวรรค์ เพราะอากาศเย็นเฉียบ ต่างจากด้านนอกที่ดั่งนรกกำลังสุมไฟรอเผาผมอยู่ ความเงียบทำเอาขาแขนเกร็งไปหมด จะเดิน จะยิ้มก็ติดๆ ขัดๆ พอคนที่นั่งด้านหน้าเคาน์เตอร์เงยขึ้นมาสบตากับผม เธอส่งยิ้มหวานมาให้พลางเอียงคอมอง

   “สนใจคอร์สเรียนไหน ถามได้นะคะ” คงเพราะเป็นแพทเทิร์นในการทักทาย ผมยิ้มแห้งๆ ก่อนโบกมือปฏิเสธไป “อ่าว แล้วมารับใครหรือเปล่าคะ?”

   “พอดีผมเป็นนักศึกษาที่จะมาฝึกงาน...”

   “อ๋อ” ลากเสียงยานครางซะผมทำหน้าไม่ถูกเลย “นึกว่าอยู่มัธยมซะอีก หน้าเด็กนะคะ”

   “ขอบคุณที่ชมครับ”

   ไม่มีการถ่อมตัวใดๆ ทั้งนั้น รู้หรอกว่าชมไปงั้นๆ เพราะผมสวมชุดนักศึกษามาซะเต็มขนาดนี้ พี่พนักงานขำออกมา ก่อนขอเอกสารผมไปตรวจสอบ พลางให้นั่งรอคุณเจ้าของที่กำลังเดินทางมา ระหว่างรอผมก็ฆ่าเวลาด้วยการมองนั่นนี่ เป็นโรงเรียนไม่ใหญ่มาก แต่ภาพคนมาเรียนที่ติดผนังมันเยอะซะจนติดทับซ้อนๆ กัน

   “อีกเดี๋ยวจะมีน้องอีกคนมาฝึกด้วยนะ” อยู่ๆ ก็มีคำบอกเล่า ทำให้ผมหันไปมอง “เป็นผู้หญิง”

   “อ่า ครับ” พยักหน้ารับไป แน่ๆ ไม่ใช่มหาลัยผม เพราะผมไล่ถามมาจนแน่ใจแล้ว “เอ่อ ที่นี่เปิดสอนเด็กตั้งแต่อายุเท่าไหร่เหรอครับ” ใช้ความตีเนียนสอบถาม พี่พนักงานยิ้มส่งคืนพลางยื่นเอกสารแผ่นพับมาให้

   “ที่นี่เปิดรับเด็กตั้งแต่ 5 ขวบ ไปจนถึงคนมีอายุเลย มีหลายคอร์สให้เลือก แล้วก็มีแบบตัวต่อตัวด้วย”

        โรงเรียนแบบนี้ สมัยตอนอยู่มัธยมผมก็อยากเรียนนะ แต่ไม่มีเพื่อนเรียนด้วย ไม่งั้นฝีมือผมคงเก่งกว่าไอ้สักแน่ๆ มันบอกว่าเคยเรียนตั้งแต่ขึ้นมอปลาย ฝีมือไอ้สักเลยสวยกว่าใครเพื่อนบวกพรสวรรค์ของมันนั่นแหละ

   “แล้วเด็กฝึกงานต้องทำอะไรบ้างเหรอครับ” รู้ก่อน ได้เปรียบ

   “ส่วนใหญ่ก็จะช่วยครูผู้สอนดูแลเด็กในคลาสนั่นแหละ พี่ก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากหรอก”

   “ขอบคุณครับ”

   ยิ้มหวานส่งคืนไป ก็แหม คนออกตัวว่าไม่รู้นี่แหละ คือรู้มากที่สุด ผมขอบอกตรงนี้ไว้เลย รอไม่นานประตูก็เปิดออก คราวนี้เป็นผู้หญิงสวมชุดนักศึกษาท่าทางดูรีบร้อน คงคิดว่าตัวเองมาสายแน่ๆ

   “ขอโทษนะคะ พอดีรถติด”

   “ไม่เป็นไรค่ะ นั่งรอกับเพื่อนก่อนนะ เดี๋ยวเจ้าของโรงเรียนกำลังมา”

   ผมได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังมาจากคนข้างๆ และเธอคงรู้ว่าผมมองอยู่ เลยหันมายิ้มแห้งๆ ส่งให้

   “มาฝึกที่นี่เหมือนกันเหรอ” น้ำเสียงใสถามผม ซึ่งผมก็พยักหน้าตอบ “ดีจัง อย่างน้อยก็มีเพื่อนคุย ไม่งั้นคงเหงาแย่”

   “นั่นสิครับ” ดูเป็นคนเข้ากับคนง่ายดีนะครับ วางใจได้ อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องเหงาเป็นเด็กฝึกงานคนเดียว คิดแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย

   รออีกไม่นาน เจ้าของโรงเรียนก็มา พลางเรียกผมกับอีกคนเข้าไปคุย ส่วนใหญ่จะเป็นรายละเอียดยิบย่อยของที่นี่ พร้อมการฝึกงานว่ามีอะไรบ้าง ก็เคลียร์ดี จะได้รู้หน้าที่ของกัน ซึ่งแน่นอนว่าผมกับผู้หญิงอีกคนจะได้ช่วยครูของที่นี่ดูแลเด็กในห้องที่กำลังเรียน โดยที่แต่ละสัปดาห์ เราสองคนจะถูกครูผู้สอนเทสด้วย ซึ่งแต่ละรุ่นก็ฝึกแบบนี้ เอาวะ ในเมื่อมาแล้ว จะไปกลัวอะไร ไอ้กลอยประเกรียนสุดหล่อแม่นเว่อร์ซะอย่าง ช่วงกำลังเดินลงมาถึงชั้นสอง ขาที่ก้าวลงบันไดต้องหยุดชะงัก เมื่อมีแรงกระตุกข้อศอกเสื้อด้านหลัง พอหันไปมองเจอเด็กผู้ชายตัวอ้วนจ้ำม่ำทำหน้าซีดอยู่

   “เป็นอะ...”

   “ปวดขี้”

   “ฮะ?”

   “ปวดขี้ พาผมไปหน่อย เร็วๆ”

   “ห้องน้ำอยู่ไหนวะ”

   พึมพำกับตัวเอง แต่ขาก็ต้องรีบจูงมือเด็กไปหาห้องน้ำ วันแรกก็เจอเด็กปวดขี้ซะแล้ว

   “ห้องน้ำ”

   เด็กอ้วนก็ร้องหาห้องน้ำ ไอ้ผมก็ไม่รู้ โชคดีที่เดินมั่วๆ ไปก็เจอ ทันทีที่เห็นว่ามันคือที่ปลดทุกข์ เด็กอ้วนก็วิ่งปรู๊ดเข้าไป ก่อนไปยังฝากกลิ่นอันน่าพิศวงไว้ด้วย เอาซะขมคอเลยเชี้ยเอ้ย รู้สึกเหมือนกรรมเริ่มจะตามทันเวลาแกล้งพี่โชแบบนี้ ผมลังเลว่าจะลงไปชั้นล่างเลยไหม หรือต้องอยู่รอก่อน พอจะก้าวขา ก็ชักกลับ แต่ถ้ารอแล้วจะได้อะไร ก่อนตัดสินใจว่าลงไปเถอะ แต่ดันมีแรงกระตุกที่แขนเสื้ออีกรอบ

   “ขี้เสร็จแล้ว” ยิ้มแป้นโชว์แก้มยุ้ยๆ เอาซะผมพูดไม่ออก ไม่ใช่เพราะความน่ารักหรอกนะครับ แต่เพราะกลิ่นที่ลอยตามหลังออกมา

   กินข้าวบูดมาหรือเปล่าวะ เหม็นเกิน

   “กลับห้องได้” กลั้นหายใจอยู่นานกว่าจะพูดได้ และพอพูดจบ เด็กอ้วนก็ยักคิ้วกวนผมไปทีแล้ววิ่งปรู๊ดกลับไปทางที่เดินมา
 
   อ่าว วันแรกก็โดนเด็กเล่นแล้วไหมล่ะไอ้กลอย

   เดินลงมาชั้นล่าง เจอผู้หญิงที่จะมาร่วมฝึกกับผม อ่อ เธอชื่อมะยม นี่ถ้าเป็นผู้ชายนะ ผมจะขอเรียกมันว่า ไอ้ยมเลยทีเดียว แต่พอเป็นผู้หญิง ดูไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไหร่ มะยมเป็นสาวรูปร่างผอมสูงที่สูงเกือบจะตัวเท่าผมแล้วซะด้วยซ้ำ หน้าตาก็จัดว่าน่ารักดี แต่เรื่องที่ต้องยกนิ้วให้คือการตีสนิทที่ทำอย่างกับเรารู้จักกันมาเป็นปี 

   ความตีเนียนให้ห้า ความบ้า (กว่าผม) ให้สิบ ต้องบอกว่า เหนือกลอยประเกรียน ยังมีมะยมโคตรเพี้ยนมาจุติบนโลก




   และแล้ววันแรกก็ผ่านพ้นไปอย่างงงๆ ผมกะจะเก็บทุกอย่างไปเล่าให้พี่โชฟัง แต่คนอีกฝั่งกลับงัวเงียอยู่บนที่นอนผมเลยยกยอดความแสบของเด็กอ้วนเอาไว้ก่อน

   “พี่โชจะตื่นกี่โมง” ถามไป ตาก็มองถนนไป วันนี้มีนัดกับพวกไอ้ทูที่ร้านยาดองหลังมหาลัย ไม่ใช่เพราะอยากไปกิน แต่เพราะเป็นวันเกิดของเพื่อนร่วมรุ่น แน่นอนว่าผมหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นสายโครหัสกัน ง่ายๆ ก็ดองรหัสกันตั้งแต่สมัยรุ่นก่อนๆ นั่นแหละครับ “พี่โช”

   (เดี๋ยวก็ตื่นแล้ว) ตอบทั้งที่ตายังปิด (ห้ามกลับดึก ห้าแก้วอย่าลืม)

   “ไม่ลืมหรอกน่า กลอยเคยลืมที่ไหนกัน” ทำตาลอกแลกสุด พี่โชขำออกมาก่อนลุกขึ้นมานั่ง ทรงผมชี้ตั้งอย่างกับรังนก “พี่ตื่นสายนะวันนี้ ไม่ไปเทคคอร์สเหรอ” เทคคงเทคคอร์สอะไรนี่ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง พี่โชเล่ามายาวๆ ก็ฟังไปงั้นๆ ไม่ใช่ไม่สนใจ แต่มันไม่รู้เรื่อง

   (มีตอนบ่าย นี่เพิ่งจะแปดโมงเช้าเอง)

   “เมื่อคืนนอนกี่โมง”

   (ช่วยป้าเก็บร้านถึงตีสอง)

   “ร้านขายอาหารอะไรเปิดถึงตีสอง” บ่นแต่ออกเสียง พี่โชขำออกมาพลางยกมือขยี้ผมตัวเอง “รีบไปอาบน้ำ แล้วกินข้าว ห้ามลืมกินข้าวให้ครบทุกมื้อนะ ถ้ากลับมาแล้วผอม กลอยจะ...” จะอะไรดีวะ “จะกินหมูกระทะให้อ้วนแทนเลย”

   (ไอ้เพี้ยน)

   คิดถึงพวกคำด่าแบบนี้เวลาถูกด่าใส่หน้าจัง แล้วเบื่อตอนขับรถจะมองหน้าพี่โชอย่างเต็มตาก็ไม่ได้ เดี๋ยวไปจูบท้ายคันข้างหน้าอีก

   “คิดถึง”

   (คิดถึงมากกว่าอีก)

   “รีบๆ เรียนแล้วรีบๆ กลับมา กลอยเหงา”

   (อย่าพูดแบบนี้สิ เดี๋ยวพี่ก็เก็บของกลับหรอก)

   “ทำให้ได้อย่างที่พูดก่อน”

   (เอาไหมล่ะ วันนี้เลย)

   ท้าไม่ได้นะครับบอกเลย ผมรีบแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ โชคดีหน่อยตอนนี้ติดไฟแดง ทำให้มองหน้าคนห่างไกลได้อย่างถนัดตา พี่โชผมยาวขึ้นเยอะ จากกันไม่นานแท้ๆ

   “จะถึงแล้ว เดี๋ยวกลอยต้องวาง...”

   (ตอนกลับโทรมาหาพี่ด้วย แล้วตอนถึงห้องก็ต้องส่งข้อความมาบอกด้วย โอเคไหม)

   “รับทราบครับท่านครับ พี่ก็รีบไปอาบน้ำกินข้าว อ่อ อย่าแต่งตัวหล่อมาก เดี๋ยวสาวๆ จะเข้ามาจีบ”

   (หวงเหรอ)

   “พอดีเป็นคนขี้หึงมาก”

   (เตือนตัวเองเถอะ)

   ทำไมผมถึงโดนตลอดวะ

   “แค่นี้นะ เดี๋ยวกลอยโทรหาใหม่”

   พี่โชไม่ได้ตอบนอกจากยิ้มแล้วจูบผ่านกล้องมา ผมเลยจูบกลับบ้าง โคตรคิดถึงเลยให้ตาย แต่ยังตายไม่ได้ เพราะต้องอยู่รอให้กลับมา คนรักจริงก็แบบนี้แหละ (อวยตัวเองไปอีก)

   ผมถอยรถเข้าจอดข้างรถไอ้ทูที่มันเพิ่งมาถึงเหมือนกัน โชคดีที่ไม่ต้องเดินเด๋อด๋าเข้าไปคนเดียว ไอ้ทูมันไปฝึกงานบริษัทของเพื่อนพ่อ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า มันไปฝึกงานอะไร ตำแหน่งไหน เพราะเอาที่เพื่อนสะดวกจะเล่านั่นแหละ แต่ถ้าเรื่องไหนที่ต้องรู้ ผมก็ต้องรู้ แปลง่ายๆ คือ ขี้เผือกเฉพาะเรื่องนั่นเอง

   เสียงเพลงเพื่อชีวิตดังออกมาถึงนอกร้าน วันนี้ปิดร้านเพื่อเลี้ยงฉลองเลยนะครับ ก็แน่ล่ะ เจ้าของร้านเป็นรุ่นพี่คณะของผม เด็กในคณะคนไหนจะจัดงานแล้วมาร้านแกๆ จะปิดร้านเลี้ยงแทบทุกครั้ง โคตรใจป้ำเลยจริงๆ

   “ไอ้กลอย ไอ้ทู ทางนี้ๆ” ไอ้ต๋องกวักมือเรียกยิกๆ เพราะมันนั่งจ๋องอยู่ที่โต๊ะคนเดียว
 
   “ไอ้เคล่ะ” ผมถามขณะหย่อนก้นนั่ง มือก็ยกรับไหว้บรรดารุ่นน้อง ที่มากันแน่นร้าน พอของฟรีละรีบเชียวไอ้พวกนี้ “คนเยอะจริงสัด”

   “ไอ้เคถูกพี่ขุนลากไปดวลเหล้านู้น พวกมึงมาโคตรช้า” ไอ้นี่บ่นเก่ง

   “กว่ากูจะเลิกก็ค่ำแล้วไหมล่ะไอ้ห่า” ผมตอบ ส่วนไอ้ทูก็พยักหน้าเห็นด้วย “เสียดายไอ้สัก ไปต่างจังหวัด”

   “ถ้ากลัวมันไม่ได้แดกเหล้าละก็ ไม่ต้องห่วง ตอนนี้มันก็อยู่ร้านเหล้า” ไอ้ต๋องว่าอย่างขำๆ

   “ไอ้นี่ขาดผู้หญิงได้ แต่ขาดเหล้าไม่ได้” ไอ้ทูสรุป

   คุยกันได้ไม่นาน ไอ้เคก็หอบสังขารครึ่งๆ กลางๆ มานั่ง หน้ามันเริ่มแดงอย่างเห็นได้ชัด ผมว่า ที่บอกถูกลากไปดวลคงไม่ใช่แล้วล่ะ สภาพนี้คงโดนลากไปมอมมากกว่า

   “มาช้าไอ้เหี้ย” เจอหน้าก็สาดคำด่าเลยไอ้นี่

   “เมาแล้วเหรอมึง” ลองหยอดไป ไอ้เครีบยกนิ้วชี้ส่ายไปมาพลางเล่นหูเล่นตาอย่างตอแหล

   “คนอย่างกู ยาดองทำอะไรกูไม่ได้” อยากถีบความมั่นใจนี้จริงๆ แต่ผมทำได้แค่คิด เพราะไอ้ทูถีบมันแทนไปแล้ว เกือบตกเก้าอี้ ยังดีที่ไอ้ต๋องคว้าไว้ทัน

   และทันทีที่โหลยาดองมา ก็ถึงเวลาแจกแก้ว บนโต๊ะมีสารพัดยำมาวางเป็นกับแกล้ม มีถั่วกับข้าวเกรียบกุ้งที่ผมชอบด้วย เมื่อก่อนตอนมากิน ผมจะพกถุงก๊อบแก๊บมาด้วย เพื่อขอข้าวเกรียบกลับหอ ด้านได้ อายอด คือคติผมเอง

   ไอ้ทูทำหน้าที่แจกยาดอง ผมก็ยกจิบไปนิดๆ เพราะไม่อยากรีบ กลัวครบกำหนดห้าแก้วไว ต่างจากคนอื่นที่ดื่มเอาๆ เดี๋ยวเถอะ ต้องมีคนเมาเหมือนหมา บรรยากาศภายในร้านก็คึกคัก เด็กรุ่นน้องบางคนพาแฟนมาด้วย อย่างไอ้รอนที่ควงแฟนบัญชีมานั่งด้วย ตอนเข้าร้านมาเมื่อกี้ เห็นมันยักคิ้วให้ผมทีหนึ่งคล้ายอวด แต่ผมก็ไม่ได้แคร์ แค่ส่งนิ้วกลางคืนกลับไปก็เท่านั้น

   กวนมากวนกลับไม่โกง

   “ไอ้กลอย” เสียงเรียกชื่อผมยางคางมาแต่ไกล “มาดวลกับพวกพี่ๆ เร็ว”

   “ผมขับรถมา ไม่อยากมีถังขยะเดินตัดหน้าอีก” รีบออกตัว แม้แขนจะถูกฉุดกระชากให้ลุก แต่ก็พยายามจับเก้าอี้ไว้

   “ป๊อดเหรอมึง เมื่อก่อนไม่เมาไม่กลับไม่ใช่เหรอวะ”

   “ให้มันเถอะพี่ เดี๋ยวผัวด่า” ถลึงตาใส่ไอ้ทู ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขำ เมื่อมันซวยถูกลากไปแทน

   โชคดีเพื่อนทูของกลอย

   พอไอ้ทูถูกลากไป ผมก็คุยเรื่องฝึกงานวันแรกให้เพื่อนฟัง ไอ้ต๋องส่ายหัวรัวๆ เพราะมันไม่ค่อยถูกกับเด็ก ส่วนไอ้เคขำอย่างเดียว อย่างว่า ยาดองในเส้นเลือดมันสูงเกินไป สติเลยมาครึ่งๆ กลางๆ

   “โชคดีที่กูไม่ต้องอยู่กับเด็ก ไม่งั้นกูคงได้แดกยาพาราวันละกระปุก” ไอ้ต๋องว่า

   “พรุ่งนี้ฝึกแล้วจบเลยได้ไหมวะ แม่ง” ผมว่าอย่างหัวเสีย ไอ้ต๋องยักไหล่พลางชูแก้วยาดองมาชนกับผม

   “คิดมาก ฝึกๆ ไปเดี๋ยวก็จบ”

   “ก็จริงของมึง ไอ้เค ตามึงเยิ้มเกินไปนะสัด”

   “ตากูไม่ได้เยิ้ม ตากูมันหวานต่างหาก มึงดูน้องขวัญสิ โคตรน่ารัก” ไอ้เคทำตาลอยๆ ชี้ไปทางโต๊ะรุ่นน้องปีสองที่นั่งหัวเราะอย่างสนุกสนาน “ยิ่งมองยิ่งน่ารัก”

   “น่ารักแต่ห้ามแตะ เดี๋ยวมึงได้โดนตีนผัวน้องเขา” เตือนเพื่อนด้วยความหวังดี

   “มึงไปเอาข่าวที่ไหนมา น้องเขาไม่มีผัว” ไอ้เคเถียงเสียงสูง

   “ไม่ได้เอาข่าวไหนมา แต่กูเห็นมากับตา ว่าเขาควงผัวไปดูหนังไอ้สัด แทบจะจูบปากกันในโรงอยู่แล้ว”

   “มั่ว”

   “พี่โชก็เห็น”

   “ไอ้สัด กูเสียใจ อยากร้องไห้”

   “ตอแหลสัดหมา”

   ไอ้ต๋องด่าเสร็จก็ยกยาดองดื่ม ไอ้เคมองตาขวาง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากตักยาดองใส่แก้วตัวเองแล้วยกดื่มรวดเดียวหมดแก้ว หากเป็นเมื่อก่อน ผมก็ทำแบบพวกนี้แหละ ตักแล้วเท แล้วดื่ม โหลหนึ่งไม่เคยพอ ต้องต่อด้วยโหลสอง โหลสาม คอแข็งจนรุ่นพี่ต้องยกนิ้วให้ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้แตะ แค่แก้วเดียวยังมึนๆ เลย (ไม่นับแอลกอฮอล์อื่น)
 
   อยากคืนสังเวียน แต่คำสัญญาค้ำคอ...ห้าแก้ว

   เวลาเริ่มดึกเท่าไหร่ ทั้งเพลงและคนก็เริ่มคึก หน้าเวทีที่มีดนตรีสดก็เต็มไปด้วยพวกสติครึ่งๆ กลางๆ สองในนั้นคือไอ้ต๋องกับไอ้เค ส่วนไอ้ทูนั่งคอพับอยู่ข้างๆ ผม ถูกมอมไปหลายโหล โชคดีของผมแล้วที่ไม่ได้ไป แต่ถึงแม้ไม่ไปร่วมก๊งกับรุ่นพี่ แต่ก็ยังมีคนเดินมาชนไม่ขาดสาย คนฮอตก็งี้แหละ อยู่เฉยๆ ก็มีคนเข้ามาหา (วอนหาเรื่องให้ตัวเองอีกแล้ว)

   “มึงขับรถกลับไหวหรือเปล่าไอ้ทู” สะกิดถามเพื่อน ไอ้ทูยกมือโบกแทบจะทันที “งั้นเดี๋ยวกูไปส่ง”

   “กูส่งข้อความให้พี่เบมารับ มึงจะได้ไม่ต้องวนไปวนมา” ไอ้ทูบอกอู้อี้ ตาคงจะหนักเพราะยกไม่ขึ้น “เชี้ยเอ้ย พรุ่งนี้กูจะไหวไหมเนี่ย”

   “สู้ๆ เพื่อน”

   “เพราะมึงนั่นแหละ”

   “กูผิดอะไร”

   “ก็กูปกป้องมึง เลยซวย”

   ผมไม่ตอบอะไรนอกจากหัวเราะ ไอ้ทูง้างมือจะตบหัวผม แต่พอยกปุ๊บก็ร่วงปั๊บ...อาการหนักมากจริงๆ ผมขำเพื่อนสนิทไม่นานโทรศัพท์ไอ้ทูก็ดังเลยล้วงออกมารับให้แทน พี่เบโทรถามไม่เยอะเพราะกำลังขับรถมารับ ก่อนวางมีบ่นว่าขี้เกียจขับรถด้วย แหม ปากแข็ง ฟังน้ำเสียงก็รู้ว่าห่วงเพื่อนผม

   “พี่กลอย ชนแก้วหน่อย” เสียงห้วนๆ โดยคนพูดเดินเก็กหล่อมาหา

   “มึงเตรียมตัวนอนเลยเหรอวะไอ้ไม้” ยกแก้วชนพลางหยอก สภาพกางเกงบอลกับเสื้อยืดย้วยๆ มันชุดนอนชัดๆ

   “เผื่อเมาก็ขอนอนร้านนี้เลยไง” มันว่ายิ้มๆ “ไม่เจอนาน พี่ยังปากหมาเหมือนเดิมเลยนะครับ”

   “แน่นอน หมาในปากกูมีเป็นฟาร์ม เกิดมาเรื่อยๆ ไม่มีวันตาย รู้จักไหมคำว่าเนเวอร์ดายส์” ร่ายยาวเป็นชุดจนได้นิ้วโป้ง ไอ้ไม้ขำก่อนขอตัวกลับไปนั่งโต๊ะตัวเอง แต่พอเห็นหน้ามันแล้วก็พาลนึกถึงแก๊งเก่าตอนปีหนึ่ง ที่ตอนนี้หนึ่งในกลุ่มมันย้ายไปเรียนอีกที่ เพื่อจะสะดวกเฝ้าแฟนตัวเองอย่างไอ้เม่น

   ยอมใจในความทุ่มเทจริงๆ

   ชนแก้วไปเรื่อยๆ จนพี่เบเดินเข้ามาสะกิดไอ้ทู ผมยกมือไหว้พลางไล่มองคนบอกว่าขี้เกียจที่แต่งตัวจัดเต็มตั้งแต่หัวจรดเท้า

   “รถจอดที่นี่ได้ใช่ไหม” ถามขณะหิ้วไอ้ทูขึ้น ผมพยักหน้าลงรัวๆ “เมาเหมือนหมาเลยไอ้ห่า”

   “เมียพี่เป็นหมา งั้นพี่ก็ เชี่ย” ถูกตีนถีบเข้าเต็มน่อง ยาดองกระฉอกเลย

   “มึงก็รีบๆ กลับ อย่ามานั่งอ่อยให้เพื่อนกูหึง”

   “อ่อยที่ไหนวะ”

   “หรือจะให้กูไปส่ง?”

   “ไม่เป็นไร ผมเพิ่งยกแก้วที่สามเอง”

   “เออดี งั้นกูกลับล่ะ แม่ง ไอ้นี่ก็หนักเกิน แดกควายลงท้องหรือเปล่าสัด”

   ผมขำตามหลังพี่เบที่บ่นไอ้ทู คนอะไร ปากบ่นแต่สายตาโคตรเป็นห่วง ไม่เหมือนปีศาจของผมเลย เพราะถ้าบ่น ตาก็ดุ ไม่มีมองแบบนี้หรอก นึกได้ก็อยากกลับ ผมเดินซุยๆ เข้าไปด้านในเพื่ออวยพรเจ้าของวันเกิดที่เมาหลับไปแล้วๆ ก็ต้องรีบชิ่งหนีออกมา ก่อนจะถูกจับมอมเหล้าไปด้วย สภาพโซนด้านหน้าเหมือนสงครามเลย ฟาดฟันกันด้วยจำนวนโหลและการเต้น คนรับกรรมก็รุ่นน้อง โดยเฉพาะปีหนึ่ง การรวมตัวของรุ่นพี่ที่จบไปแล้วแบบนี้ มันคือขุมนรกดีๆ นี่เองถ้ามีแอลกอฮอร์ในวง

   ใช้เวลาขับรถไม่นานก็ถึงคอนโดของพี่โช ห้องแสนกว้างแต่อยู่คนเดียวความเหงาก็วิ่งเข้าชน ทั้งที่เมื่อก่อนตอนอยู่หอผมก็อยู่คนเดียวได้แท้ๆ เข้าห้อง อาบน้ำ แล้วขึ้นเตียงเตรียมตัวนอน แต่ยังไม่ง่วงเลยหยิบหนังสือการ์ตูนมาอ่านสายตามองไปยังโทรศัพท์ที่นิ่งสนิท ส่งข้อความไปบอกพี่โชแล้วแต่ยังเงียบ สงสัยจะยุ่งอยู่... อยากคุยจังเว้ย

   ไอ้กลอยกำลังอาการหนักครับพี่น้องทั้งหลาย

   “ไอ้เชี่ย ทำไมตลก” ทั้งที่การ์ตูนมันตลก แต่น้ำตากลับไหล “แม่งเอ้ย”

   ผมปิดหนังสือการ์ตูน ปิดไฟ ข่มตาให้หลับ ดึงหมอนข้างที่มีกลิ่นพี่โชมากอด คิดถึงมากๆ มันเป็นแบบนี้นี่เอง ผมเริ่มนับตัวเลขโดยใช้พี่โชเป็นตัวแปลให้กระโดดข้ามรั้ว นับไปขำไป แล้วสติก็ค่อยๆ ลดลงจนหลับไปในที่สุด

   วิธีนี้ดีจริง สงสัยต้องทำทุกวันแล้ว ปล่อยให้ตาเป็นแพนด้ามาตั้งนาน (แล้วยายจะเป็นอะไร แป๋ว แว่ว แว่ว)


   พี่โช...รีบๆ กลับมานะ 



...TBC

กลอยประเกรียนในยามเศร้าช่างน่าสงสารจริงๆ (ตีหน้าเศร้าแต่ปากฉีกยิ้ม)

ขอบคุณทุกคนที่รักกลอยค่าาา (ก้มกราบงามๆ) แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ (>/l\<)

ออฟไลน์ AutoAngels

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กลอยน่ารักกกกกมาต่ออีกนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สงสารกลอยประเกรียนจัง  :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
โอ๋ ๆ นะกลอยปะเกรียน เตรียมแรงไว้ไปรับมือกับเด็ก ๆ ในที่ฝึกงานดีกว่านะจ๊ะ  o18 o18 o18

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
กลอย เจอกงกรรมกงเกวียน ที่เึยแกล้งพี่โช  :z3:
เลยโดนเด็กอ้วนมาตดให้ดม   o22 :really2:
สงสารกลอย คิดถึงพี่โช   :mew2:
ถ้ากลอยมีประตูมิติผ่านตลอดแบบโดเรม่อน
คงผลุบเข้าไปหาพี่โชอน่เลย  :-[
พี่โช  กลอย    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
บอกพี่โชไปสิว่ามีคนมาจีบกลับอย่างไวแน่

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
สงสารกลอยที่ต้องาห่างจากโชแต่ก็ขำที่ไปฝึกงานวันแรกโดนเด็กปีนเกลียว

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
กว่าจะปี T____T

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
อะไรคือตดทิ้งไว้ในห้องน้ำเพื่อให้พี่โชเข้ามาใช้ห้องน้ำพอดี  o13 ไม่ใช่กลอยทำไม่ได้นะ555555

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอ๋นะ กลอยใจของพี่โช เอ็นดูจังเลย
น้องก็เหงาแต่เพื่ออนาคตของพี่เนาะ

อย่ามีเหตุไม่ปกติอะไรเลยนะคะ
แค่นี้น้ำตาก็มาแล้วนะ

โชคงหนักพอกัน เพราะแทบไม่เคยห่างกันเลย
แถมความหวง ความห่วง เข้าขั้นหนักมากด้วย

เอิ่มมม ไปฝึกงานคงไม่ต้องไปรบกับเด็กน้อยเนาะ

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
กลอยเอ้ยยยย
กอดนะลูก มาให้หอมเหม่งมา
เก่งมากๆ สู้ๆนะ
รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีดี

พี่โชเองก็สู้ๆ
แป๊ปเดียวเดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว

เป็นกำลังใจให้คนเขียนเสมอนะคะ
เจอกันจ้าาาา(^^)

ปล. เอ็นดูความโดนเด็กเล่นของกลอย เอาน่ะกลอยดูเข้ากับเด็กที่สุดแล้วในเรื่องงงง

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
พี่โชไม่อยู่ คงไม่มีใครมาจีบกลอยนะ

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5

เพราะนายคือของฉัน [ll] : 17




        “พี่ครับๆ เหลาดินสอให้หน่อย” เสียงเจื้อยแจ้วมาพร้อมแรงดึงชายเสื้อด้านหลัง ผมหันไปมองยิ้มๆ ก่อนเอาดินสอทู่ๆ ของเด็กในคลาสไปเหลาที่โต๊ะมุมห้อง เหลาเสร็จก็เอามาคืน “พี่ครับๆ”

   “อะไรอีกครับ?”

   “เหลาแท่งอื่นให้ด้วย” คราวนี้มาเป็นกล่อง ผมมองหน้าเด็กอ้วนอย่างนิ่งๆ แต่ก็ยอมเอาไปเหลาให้ รู้ว่ากำลังถูกกวนอวัยวะเบื้องล่าง แต่ก็ต้องนิ่งเข้าไว้ “พี่ครับๆ”

   “อะไรอีก?” ตอบรับเสียงห้วน

   “เรียกเฉยๆ”

   นั่นไง เด็กมันกวนผมจริงๆ ปล่อยกลิ่นตดให้ผมดมตั้งแต่ครั้งแรก ผ่านไปเป็นอาทิตย์ ความกวนยิ่งเพิ่ม แต่ผมก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอก นอกจากหมั่นเขี้ยวนิดๆ อยากเตะหน่อยๆ บ่อยครั้งที่ทนไม่ไหวก็จะดึงแก้มยุ้ยๆ นั่น จนเจ้าตัวหน้างอ ผ่านไปไม่นานก็กลับมากวนผมใหม่

   เป็นเด็กที่งอนง่าย หายเร็วจริงๆ

   คลาสที่ผมช่วยดูเป็นคลาสของเด็กเล็กสลับกับผู้ใหญ่ ส่วนมะยมได้ไปดูคลาสของเด็กมัธยมที่มาเรียนสำหรับการไปสอบความถนัด ไม่รู้คนแบ่งคลาสตัดสินจากอะไร ทั้งที่ผมเป็นผู้ชายควรได้ไปดูฝั่งนั้นมากกว่า หรืออาจจะเป็นเพราะว่ามะยมเรียนคณะสถาปัตย์มาโดยตรงก็ไม่รู้

   จากที่วันแรกๆ ผมเอาแต่มองนาฬิกาติดผนังอยู่ตลอด เพราะรู้สึกเวลาเดินช้า แต่พอผ่านไปเป็นอาทิตย์ก็เริ่มปรับตัวได้ ยิ่งเจอเด็กกวนประสาทก็ยิ่งทำให้รู้สึกเวลาเดินเร็วขึ้น อาจเพราะความเบื่อมันหายไปด้วย อีกอย่างเด็กคลาสที่ผมดูล้วนแล้วแต่แสบๆ ทั้งนั้น ทั้งผู้หญิงผู้ชายไม่มียอมกัน แต่ถึงแม้จะร้ายกันแค่ไหน ฝีมือวาดกับการจินตนาการก็เด็ดดวงชนิดที่ว่าผมยังต้องยกนิ้วโป้งให้เกือบทุกคน

   เอาซะไฟในการฝึกงานลุกโชนขึ้นมา
 
   “พี่ขา” จังหวะยืนเหม่อ เสียงเรียกก็ดังขึ้น ผมหันไปยิ้มให้น้องผู้หญิงที่เรียบร้อยที่สุดในคลาส “หนูขอไปดื่มน้ำด้านนอกได้ไหมคะ”

   “ได้ครับ”

   กฎของคลาสคือห้ามนำของกินทุกชนิดเข้าห้อง แม้แต่น้ำก็ไม่ได้ ผมเดินไปเปิดประตูให้น้อง ก่อนกลับเข้ามานั่งประจำโต๊ะด้านข้างของตัวเอง ไม่ใช่ผมจะเดินลอยไปลอยมาหรอกนะครับ แต่หน้าที่อีกอย่างคือตรวจดูงานของเด็ก ช่วยเหลือ ให้คำแนะนำบ้างเท่าที่ทำได้ในบางทีที่ครูผู้สอนไม่อยู่ในห้อง อย่างวันนี้ที่ครูไม่มา ผมเลยรับหน้าที่ไปเต็มๆ
 
   “พี่ครับๆ” เสียงเดิมเรียกอีกแล้ว ผมเงยหน้าจากกระดาษวาดรูปตัวเอง “ผมวาดเสร็จแล้ว ตรวจให้หน่อย”

   “สวยนะเนี่ย”

   “ยังไม่ได้ดูเลย”

   “อ่าวเหรอ”

   ผมหัวเราะเด็กอ้วนที่ตีหน้างอเป็นปลาทู แกล้งเด็กนี่มันสนุกจริงๆ พอเลิกขำก็ถึงเวลาตรวจงาน ขอบอกว่างานดีทีเดียว ตัวการ์ตูนที่มาจากจินตนาการของเด็กอ้วนคนนี้

   “เป็นไง”

   “สวยดีนะ” ได้ยินคำชมปุ๊บ แก้มยุ้ยก็แทบปริ ผมหยิบปากกามาเซ็นต์ด้านหลังกระดาษให้อย่างทุกครั้งที่ต้องตรวจงานแทน “ถ้าลงสีด้วย จะสวยมาก”

   “จริงเหรอ”

   “อืม ลายพวกนี้เอาไปสกรีนทำเป็นลายเสื้อขายได้เลยนะเนี่ย”

   “จริงเหรอ”

   คราวนี้ผมพยักหน้าให้ เด็กตรงหน้าทำตาเป็นประกายแวววาวจนผมขำออกมา

   “เก่งมากไอ้หนู กลับบ้านได้”

   ไม่มีคำตอบนอกจากการพยักหน้า เด็กอ้วนยกมือไหว้ผมก่อนเดินถืองานตัวเองกลับไปที่โต๊ะแล้วหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายหลัง ผมมองตามแผ่นหลังใหญ่ๆ จนประตูปิดลง ก่อนความสนใจจะกลับเข้ามาในห้องเมื่อเด็กคนอื่นๆ เริ่มเอางานมาให้เซ็นต์ คงเพราะใกล้เลิกคลาสเต็มที วันนี้ทั้งวันผมวนอยู่กับคลาสเด็กสลับกับคลาสผู้ใหญ่ ใช้พลังงานชีวิตเยอะมาก แถมงานที่ต้องสอบทุกอาทิตย์ก็ยังไม่ถึงครึ่งอีก ตายแน่ๆ

   ผมปิดไฟในห้องหลังจากเด็กๆ ออกไปกันหมดแล้ว เดินลงบันไดด้วยเรี่ยวแรงโรยรา เริ่มเห็นใจและเข้าใจครูอาจารย์ที่ต้องคอยดูแลนักเรียน นักศึกษาแล้ว ว่ามันเหนื่อย ลำบากแค่ไหน ต่อไปไอ้กลอยจะไม่ดื้อแล้วครับ

   “เพิ่งเลิกเหรอ” เดินเจอมะยมที่กำลังออกจากห้อง เพื่อนร่วมฝึกงานทำหน้าตาโรยแรงไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ นึกถึงวันแรกที่เธอมา กระดี้กระด๊าคึกคักสุด “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ”

   “ง่วงมากมึง” นั่นแหละครับ พอเริ่มสนิท ภาษาพ่อขุนรามก็มา “หิวด้วย”

   “นั่นดิ่ หิวเหมือนกัน”

   “ไปแดกหมูกระทะกันไหม”

   “ก็ได้อยู่”

   เราสองคนคุยกันขณะลงไปชั้นล่าง ส่วนใหญ่ก็เรื่องของกิน พอเท้าเหยียบชั้นล่างสุดก็เจอบรรดาเด็กที่เพิ่งเลิกยืนออกันอยู่ บ้างก็ซื้อขนมกิน บ้างก็รอผู้ปกครองมารับ มะยมเดินไปนั่งข้างพี่ที่เคาน์เตอร์ ส่วนผมเดินมาหาเด็กในคลาสที่ลงมาก่อนตั้งนานแต่ก็ยังนั่งอยู่

   “พ่อยังไม่มารับอีกเหรอ” ถามขณะลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ เด็กอ้วนหันมามองหน้าผมพลางส่ายหน้า

   “วันนี้พ่อติดธุระ” เด็กอ้วนตอบเสียงหงอยๆ

   “อ่าว แล้วกลับยังไง ใครมารับ”

   “พี่ชายฮะ แต่บอกจะมาช้าเพราะติดดูหมาอยู่”

   “ดูหมา?”

        คล้ายๆ ดูหมอหรือเปล่าวะ

   “ก็ดูหมาที่ป่วยไง”

   “สัตวแพทย์?”

   “อื่อๆ”

   “ว้าว”

   “พี่ของผมเก่งมาก หล่อด้วย”

   “จะหล่อกว่าพี่เหรอ” ว่าแล้วก็เก็กให้ดู เด็กอ้วนหัวเราะออกมาแทบจะทันที เอาความมั่นใจลดนิดๆ มามากจนประโยคที่ตอบกลับมานี่แหละ

   “หล่อกว่าเยอะเลย”

   “ขี้โม้หรือเปล่า”

   “ไม่ได้โม้ เดี๋ยวรอดูเลย”

   เห็นความทะเล้นแล้วก็อดยกมือขยี้หัวเด็กอ้วนไม่ได้ ที่จริงเด็กนี่ชื่อแทน แต่ผมชอบเรียกเด็กอ้วนมากกว่า พุงยื่นๆ นั่นนุ่มดี ผมชอบตีบ่อยๆ ระหว่างนั้นคนก็เริ่มทยอยกลับกันจนหมด เหลือแค่พี่พนักงาน มะยม ผมแล้วก็เด็กอ้วนที่นั่งชะเง้อคอยื่นหน้ามองหาคนมารับ

   “หิวไหม” ว่าแล้วก็ยื่นช็อกโกแลตที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อให้

   “เมื่อไหร่พี่ผมจะมา” พูดไป เคี้ยวไป “หรือจะลืม”

   “โทรไปหาสิ”

   “เผื่อดูหมาอยู่จะทำยังไง”

   “เออว่ะ”

   คุยๆ อยู่ ประตูบานกระจกก็เปิดออก พร้อมๆ กับมีคนเดินเข้ามาและเด็กก็รีบลุก จะว่าไปคนที่เพิ่งมาหน้าตาคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน

   “พี่มาแล้ว” เด็กอ้วนปรี่เข้าไปหาจนลืมหยิบกระเป๋า ผมเลยต้องเอาไปให้

   “อ่าว” เผลอสบถออกมาหลังจากเห็นหน้าพี่ชายของเด็กอ้วนอย่างถนัดตา ซึ่งคงจะไม่ต่างจากอีกฝั่งที่ดูชะงักตอนเห็นหน้าผม “พี่เป็นพี่ของน้องอ้วนเหรอ”

   “อืม” สั้นๆ แต่ได้ใจความ ว่าแล้วเด็กอ้วนก็รีบลอยหน้าลอยตา “มาฝึกงานหรือมาเรียน?”

   “ถามผมเหรอ”

   “ถามหมามั้ง ก็มีมึงยืนอยู่”

   “ฝึกงาน” พี่เทสพยักหน้าบางๆ ก่อนคว้ากระเป๋าเป้น้องตัวเองไปถือ “กลับดีๆ นะครับ” โบกมือลาส่งท้าย ไม่วายเด็กอ้วนยังยกนิ้วโป้งไปยังพี่ชายตัวเอง คล้ายกับจะอวดความหล่อ

   เออ! พี่มึงหล่อจริงไอ้อ้วน

   “มึงรู้จักเหรอกลอย” ประตูยังปิดไม่สนิทดี ไหล่ผมก็ถูกมือพุ่งมาจับ ทำเอาสะดุ้งโหยง “หล่ออะ กูชอบ”

   “ก็รู้จักนิดหนึ่ง เป็นพี่ร่วมมหาลัยอะไรทำนองนี้แหละ” ตอบเสียงสั่นๆ เพราะสายตาวิบวับของมะยมทำให้ผมขนลุก “แต่เขามีแฟนแล้วนะ”

   “ไหงงั้นล่ะ”

   “ไม่รู้”

   “ไอ้กลอย!”

   “เอ้า ก็กูไม่รู้”

   “มะยมอารมณ์เสีย” ว่าแล้วก็สะบัดหน้าจนปลายผมหางม้าปลิว ก่อนเดินย้อนไปนั่งเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์แทน


   อารมณ์ผู้หญิงนี่เหมือนน้ำทะเลเลยนะครับ ขึ้นๆ ลงๆ เอาซะผมมึนงงตามไม่ทัน



   หลังจากปิดประตูโรงเรียน ผมกับมะยมรวมทั้งพี่พนักงานต่างพากันยกโขยงไปนั่งกินหมูกระทะที่อยู่ไม่ไกล เพียงแค่เดินข้ามถนนมาสองซอยก็ถึง ร้านไม่ใหญ่แต่คนเยอะสุดๆ เห็นว่าน้ำจิ้มเด็ด ซึ่งผมไม่รู้ว่าเด็ด ไม่เด็ดคืออะไร เพราะเวลาหิวก็กินได้หมด

   “น้องๆ ฝึกจบแล้วพี่คงเหงาแย่เลย” พี่หน้าเคาน์เตอร์ชื่อพี่หญิงครับ คุยเก่งมาก ขนาดผมที่ว่าคุยเก่งยังต้องยอม พี่เขาพูดจนผมหลับในตอนนั่งฟังคอร์สของโรงเรียน “โดยเฉพาะน้องกลอย พี่ต้องเหงามากแน่ๆ”

   “พี่จะสบายหูมากกว่า มะยมว่า” นี่ถ้าไม่ติดว่าหมูเต็มปาก มีเถียงกลับแน่นอน “แต่พี่น้องคนเมื่อกี้หล่อมากจริงๆ นะคะ มะยมใจสั่นเลย”

   “เรียนสัตว์แพทย์ด้วยนะ หล่อ รวย เก่งหายากนะแบบนี้” พี่หญิงรีบบอกรายละเอียด

   ที่จริงมีคนเพอเฟกที่ผมรู้จักแบบนั้นอยู่อีกเยอะ โดยเฉพาะปีศาจสุดที่รักของผม ที่เห็นแล้ว ทั้งใจ ทั้งตัวสั่นรัวๆ เลยล่ะ ที่พูดนี่ ไม่ได้อวดแฟนเลยนะครับเนี่ย ไม่งอก ไม่เส้น ความจริงล้วนๆ (ยังจะเล่นมุกแป้ก)

   “แล้วมึงรู้จักได้ไง เขาเรียนหมอไม่ใช่เหรอ” อุตส่าห์ทำเงียบแล้ว ยังวกกลับมาหาอีกจนได้ “ว่าไงมึง”

   “กูเคยเอาแมวไปรักษาที่คลินิกของมหาลัย เขามาฝึกงานมั้ง” บอกอย่างไม่ใส่ใจ แต่คนฟังกลับอยากใส่ใจ “รู้จักแค่นั้น”

   “แล้วมึงไปรู้ว่าเขามีแฟนได้ยังไง” คำถามเจาะลึก แต่ผมเลือกที่จะยัดหมูใส่ปากแทน มันเป็นความไม่ค่อยมั่นใจ แต่ก็น่าจะใช่ที่พี่เทสกับพี่เนิร์ดแอบคบกัน...ก็แหม สายตาของคนมีความรัก ปิดยังไงก็ไม่มิด เซ้นส์เรื่องนี้ไว้ใจไอ้กลอยได้ “อีหอย แดกเงียบสัด”




   หลังจากอิ่มกันจนเต็มที่ก็แยกย้าย ผมขับรถกลับคอนโดสภาพเหงื่อตก ไม่ใช่ร้อน แต่เพราะปวดขี้ น้ำจิ้มซีฟู้ดออกฤทธิ์เร็วเหลือเกิน พอถึงลานจอดใต้คอนโดปุ๊บ ผมก็รีบพุ่งเข้าลิฟต์ ยืนเขย่าขาบิดไปมากลัวข้าศึกทะลุด่าน พี่เอ้ย น้องเอ้ย ทรมานอย่างที่สุด เข้าห้องได้กระเป๋าถูกเหวี่ยงไปตรงไหนไม่ได้สน ห้องน้ำเท่านั้นที่ต้องการ

   ตอนแรกคิดแค่ว่าจะปลดทุกข์ แต่ถอดกางเกงแล้วเลยเปลี่ยนใจอาบน้ำซะให้รู้แล้วรู้รอด ท้องโล่งสบายตัวเดินพันผ้าขนหนูออกมาจากห้องน้ำก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากที่ไหนสักที่ กว่าจะหาเจอสายก็ดับไปแล้ว พอจะตีหน้าเศร้าเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีก หน้าพี่โชโชว์หลาอยู่ทำให้ผมยิ้มออกมาทันที

   “ฮัลโหล”

   (รับช้า ทำอะไรอยู่) เสียงเขียวมาเชียว หน้าก็บึ้งด้วย

   “ขี้อยู่” บอกปุ๊บ พี่โชก็ยกมือปิดจมูก “อย่ามาเว่อร์ ไม่ได้เหม็นทะลุจอขนาดนั้น”

   (กินข้าวแล้วสินะ ถึงขี้แบบนี้) พี่โชขำออกมารัวๆ ซึ่งผมก็พยักหน้ารับ (แล้ว..)

   “แล้วอะไร”

   (ไปแต่งตัวดีๆ ไป) อยู่ๆ พี่โชก็เปลี่ยนเรื่องเฉย ผมเอียงคอมองอย่างสงสัย แถมตอนนี้พี่โชก็ตีคิ้วยุ่งอีก (กลอย ไปแต่งตัว)

   “ทำไมอะ?” ถามอย่างสงสัย พลางก้มมองดูตัวเองถึงได้เข้าใจ ว่าบนตัวผมไม่มีผ้าขนหนูที่พันเอวนี่เอง “ตอนอยู่พี่โชเห็นออกจะบ่อย” ไม่มีคำว่าอาย ก็อย่างที่บอก เห็นๆ กันอยู่แทบทุกวัน

   (ก็นั่นมันตอนอยู่ ไอ้กลอย ไปแต่งตัวดีๆ ไป) มีหงุดหงิดด้วยว่ะ ผมยังลอยหน้า ลอยตาเดินโทงๆ ร่อนไปทั่วห้อง จนได้ยินเสียงตะคอกผ่านโทรศัพท์ออกมานั่นแหละ (ไอ้กลอย เดี๋ยวนี้โว๊ย!)

   “ก็ได้ๆ อะไรเนี่ย ทำไมต้องจริงจัง” ผมว่ายิ้มๆ “อย่าเก็บเอากลอยน้อยไปฝันเชียว เดี๋ยวฝันจะเปียกเอา” ว่าจบก็หัวเราะรัวๆ พี่โชถึงขั้นชูนิ้วกลางส่งมาให้ นี่ถ้าอยู่ด้วยกัน ผมอาจได้กินฝ่าเท้าคุณพี่เขาไปแล้ว

   ใช้เวลาแต่งตัวไม่นานก็กลับมานอนมองหน้าพี่โชอีกรอบ คนฝั่งนั้นกำลังสาระวนจัดของทำอะไรสักอย่าง แต่ที่เห็นๆ คือกองหนังสือด้านหลังมันสูงมาก ผมละกลัวจะหล่นลงมาทับพี่โชจริงๆ

   “พี่ทำอะไร ยุ่งเหรอ” มองพี่โชเงียบๆ หลายนาทีกว่าจะลองถาม พี่โชหันมายิ้มพลางชูหนังสือเล่มหนาที่เกี่ยวกับการบริหารอะไรสักอย่าง เห็นแบบนี้ผมก็พอรู้คำภาษาอังกฤษนะครับ ไม่ได้โง่มาก แต่ก็โง่
 
   (จัดหนังสือที่ต้องใช้น่ะ)

   “ทั้งหมดเลย?”

   (ครับ ต้องใช้ทั้งหมด)

   “อ่านกี่วันจะจบ เล่มหนากว่าวิชากฎหมายของไอ้อัธซะอีก”

   (ถ้าตั้งใจแล้วก็มีสมาธิ ไม่อ่านไปเล่นไปแบบกลอย วันสองวันก็จบ)

   นั่นไง มันต้องมาลงที่ผมอีกจนได้

   “แล้วพี่โชกินข้าวหรือยัง ที่นั่นเช้าอยู่ใช่ไหม”

   (กินแล้วครับ ตอนนี้เกือบๆ เที่ยงแล้วล่ะ)

   “ที่นี่มืดมาก...แล้วก็คิดถึงพี่โชมาก” อดที่จะหยอดไม่ได้ คราวนี้คนจัดนั่น จัดนี่ถึงกับชะงักก่อนเดินมานั่งตรงหน้าโทรศัพท์ตัวเอง สายตาที่มองมานั่นผมโคตรคิดถึง “คิดถึง”

   (พี่ก็คิดถึงมากเหมือนกัน)

   พอถึงตรงนี้ เราทั้งคู่ได้แต่มองหน้ากันโดยไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก เพราะสายตาที่มองผ่านกล้องกับสัญญาณไร้สายมันสื่อสารแทนได้หมด

   “รัก” บอกก่อนที่พี่โชจะกดปิด เนื่องจากมีเสียงเคาะประตูเรียก พี่โชบอกให้ผมยกมือถือแนบแก้ม ก่อนตัวเองจะจูบผ่านกล้องมา

   (โคตรรักเลย)

   ใจโหวงๆ อีกแล้วหลังจากวางสาย มันเป็นแบบนี้แทบทุกวันและทุกครั้งเวลาที่ต้องวางสายจากพี่โช เวลาที่เราจะได้คุยกันก็มีแค่เวลานี้ เพราะผมต้องฝึกงาน ช่วงเวลาที่ผมฝึกงาน ฝั่งพี่โชก็จะเรียนบ้าง ทำงานบ้าง หรือแม้แต่นอน ช่วงเวลาที่ต่างกัน มันทำให้ทุกอย่างยาก แต่แน่นอนว่าไม่มีผลกระทบต่อความรักของผม...อวดไปอีก

   วางสายพี่โชไปแล้ว ผมก็กดเข้าเช็คข่าวคราวบนโลกโซเชียล เห็นไอ้สักเช็กอินที่ร้านเหล้าทุกวัน ไม่รู้ไปฝึกงานหรือไปกินเหล้ากันแน่ พวกเพื่อนคนอื่นๆ ก็บ่นบ้าบอตามประสา แต่ที่เห็นโอดครวญสุดก็ไอ้เม่นที่โพสดราม่าเศร้าซึม บางทีก็โพสเฮฮา หรือมันจะเป็นไบโพล่าวะ หลายอารมณ์เกิน นี่ถ้าไม่ติดว่ามันคบกับไอ้ม่านละก็ ผมไม่รับมันเป็นเพื่อนหรอก

   ว่าแล้วผมก็ลองอัพเดตบ้าง พิมพ์สั้นๆ ง่ายๆ ว่า ‘เหงา’ เพียงแค่ไม่กี่วินาทีก็มีคนมากดถูกใจพร้อมคอมเม้นสองคำที่แปลความหมายได้ตรงตัวว่า ‘ตอแหล’ นี่พี่จอมไม่คิดว่าผมจะมีความรู้สึกเหงาจริงๆ บ้างเหรอวะ แม่ง จะว่าไป พรุ่งนี้วันหยุดนี่หว่า สงสัยที่คิดว่าจะนอนเป็นผักอยู่ในห้องคงโดนรบกวนแน่ พอไม่มีพี่โชแบบนี้ ชีวิตไอ้กลอยคนนี้ ช่างมีเดียมแรร์จริงๆ หมายถึงสุขไม่เต็มที่ (มุกแป้กข้ามไปอย่าใส่ใจ)


   เอาเป็นว่า ขอนอนก่อน พรุ่งนี้จะเป็นไงค่อยว่ากัน เพราะไอ้กลอยคนนี้...เอาอยู่ (รึเปล่าวะ) กู๊ดไนท์ครับผม


...TBC

ช่วงนี้ก็มาแบบเรื่อยๆ นะคะ ถ้าน่าเบื่อก็ขออภัยด้วย พยายามใส่มุกแล้ว แต่แป้กตลอด (เสียใจจจจ)

ส่วนยังมีดราม่าไหม ก็ไม่น่าจะมีแล้ว...มั้งคะ เพราะแค่กลอยอยู่คนเดียวก็เศร้าพอแล้ว สงสารแทบขาดใจ (สะอื้น)

ขอบคุณสำหรับที่ชื่นชอบ และรักกลอยประเกรียนกับพี่โชค่าาา ขอบคุณทุกคนเลย แค่เข้ามาอ่านก็ดีใจแล้ว ทำให้รู้สึกหายเหนื่อยจริงๆ

แล้วพบกันตอนหน้าค่า (วันรวมแก็งสายย่อ)

รักกกกกก

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รักกกกกกก   :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
กลอยนี่น่ารักน่าหยิก :mew1: :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เจ้ากลอยน่าเอ็นดูเสมอเลย
อยู่กับเด็กนี่เข้ามากกกกก

พี่ชอบความเรื่อยๆปนฮานี่ล่ะค่ะ
เป็นเสน่ห์ของคู่นี้เลย

เป็นกำลังใจให้เสมอนะจ้ะ(^^)

ปล.พี่เทสนี่คูลตลอดเลยนะครัชชชชช

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ AutoAngels

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องกลอยกับพี่โชสู้ๆนะคะ :mew6:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เดี๋ยวพี่โชก้กลับมาแล้ว  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตลกกลอย จะเศร้าก็เศร้าไม่สุด

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
กลอยจะเหงาก็ไม่วายมีความเกรียนมาด้วยอีกนะ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
สักวันนึงกลอยจะขรี้แตกบนรถไหมเนี่ยคนอะไรระบบขับถ่ายทำงานดีเกิ้น   :laugh: :laugh: :laugh:
แต่ด้วยประสปการณ์จริงของเราการปวดขรี้บนรถมันเป็นอะไรที่โคตรทรมานเลย  :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
กลอย เหงามากกกกกกกก........คิดถึงพี่โช  :impress2:
พี่โช ก็คิดถึงกลอย  :mew2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด