,,เพราะนายคือของฉัน[II],, ตอนที่พิเศษ :เรื่องหลอนๆ ... [P.13][UP!!] [11/11/62]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ,,เพราะนายคือของฉัน[II],, ตอนที่พิเศษ :เรื่องหลอนๆ ... [P.13][UP!!] [11/11/62]  (อ่าน 74708 ครั้ง)

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
เพราะนายคือของฉัน[ll] : 14




       “พี่โช กลอยเหนื่อยแล้วเนี่ย ปวดหลังด้วย” บ่นเป็นหมีกินผึ้งมาหลายนาที แต่คนถูกบ่นกลับยังทำเฉย “พี่โช ออกแรงหน่อยได้ไหม กลอยจะไม่มีแรงแล้ว ปวดขา ปวดหลังด้วย”

   “พี่เหนื่อยกว่ากลอยอีก ทำเองตั้งนาน” แล้วไหงกลายเป็นผมถูกบ่นกลับได้ “พักก่อนๆ ไม่ไหว เหนื่อย”

   “เพราะใครล่ะที่โชว์ความฟิตจะทำเอง” ใช้เท้าเขี่ยขาขาวๆ ของพี่โชให้ขยับ ก่อนหย่อนก้นนั่งข้างๆ “ฟิตจนเครื่องพังหมด”

   “ก็กลอยไปเออออกับพี่ชีสทำไม”

   “พี่โชนั่นแหละที่เออออ กลอยถามก็ไม่ยอมออกความเห็น” ถ้าถามแล้วไม่ออกความเห็น มันก็คือการเห็นด้วยไม่ใช่เหรอ “เหนื่อย”

   “พักก่อน เดี๋ยวค่อยทำต่อ” พี่โชเร่งเครื่องปรับอากาศจนเหลือเลขแค่ตัวเดียวดับความร้อน ส่วนผมนอนเหยียดยาวหนุนขาขาวของพี่โช “ตอนเย็นสั่งทะเลถังมากินดีไหม”

   “ยังต้องถามเหรอ”

   “หรือไม่กิน?”

   “เอาห้าถัง เน้นกุ้งกับหอย” ใครไม่กินก็บ้าแล้ว เหนื่อยจนสายตัวแทบขาดขนาดนี้ ไม่มีแรงทำกับข้าวหรอก ว่าแต่ มันต้องมีบางอย่างด้วยนี่นา “พี่โช...”

   “เบียร์เย็นๆ มาแกล้มด้วยท่าจะเหมาะ”

   รู้ใจดั่งมานั่งอยู่กลางสมองไอ้กลอย

   “เหมาะมาก เหมาะที่สุด”

   “ทีงี้ละออกตัวไวเชียว”

   แม้จะถูกเขกหัวแต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร เพราะผมไปงับขาพี่โชก่อน คนอะไรขาขาวเกินหน้า ส่วนขนขาก็ไม่มี ไม่ใช่ไม่มี ต้องเรียกว่าเคยมี แต่เพราะถูกพี่ชีสบังคับให้ไปใช้บริการเพื่อนสนิทที่เปิดร้านเสริมสวยครบวงจรอะไรสักอย่าง เลยถูกแว็กขนขาซะเนียนสวย โชคดีของผมที่ไม่ได้ไปด้วย ไม่งั้นคงโดนกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ตั้งแต่หัวจรดเล็บเท้าแน่

   และที่เราเหนื่อยหอบ ปวดหลัง ปวดขากันอยู่ตอนนี้ ก็มาจากพี่ชีสอีก ไม่รู้ไปแอบถามพวกพี่แม่บ้านมาหรือเปล่า ถึงได้รู้ว่าผมไปง้อพี่โชถึงที่บ้าน เลยรีบโทรมาสั่ง ขอย้ำพร้อมขีดเส้นใต้ว่าสั่ง พี่ชีสสั่งให้น้องชายตัวเองขยับสับเปลี่ยนข้าวของในห้องนอนเป็นเคล็ด เผื่อฮวงจุ้ยไม่ดีทำให้ทะเลาะกัน

        มันเกี่ยวด้วยเหรอวะ 

   แต่ถ้าตามความเห็นของผม คนเราจะทะเลาะกัน ฮวงจุ้ยหรืออะไรไม่น่าจะเกี่ยว มันอยู่ที่คนมากกว่า ในกรณีของผม เป็นเพราะสมองน้อยๆ ที่มันคิดได้แค่น้ำระดับข้อเท้า...ตึ่งโป๊ะ คิดอะไรตื้นๆ นั่นล่ะ และถึงแม้เรื่องโชคลางฮวงจุ้ยที่พี่ชีสว่า ผมกับพี่โชจะไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ต้องทำตาม ไม่อย่างนั้น คนที่แนะนำ จะต้องพุ่งมาหา แล้วจัดการเองแน่

        แค่คิดก็ขนลุกแล้ว

   อย่างแรกที่พี่ชีสบอกให้ขยับคือเตียงนอน โดยให้ขยับออกจากจุดเดิม แต่พื้นที่ของห้องนอนมันถูกจัดวางอย่างลงตัวอยู่แล้ว ไม่สามารถย้ายไปมุมนั้น มุมนี้ได้ พี่โชเลยเลือกที่จะขยับจากที่เดิมแค่สิบเซ็น ซึ่งถ้าจะขยับเท่านี้ ผมว่า ควรเอาไว้ที่เดิมน่าจะดีกว่า เตียงอะไรก็ไม่รู้ โคตรจะหนัก ลากแรงก็ไม่ได้ เดี๋ยวพังลำบากต้องไปซื้อใหม่อีก เลยต้องช่วยกันขยับทีนิด กว่าจะได้เล่นเอาหลังแทบเคล็ด

   เราสองคนใช้เวลาครึ่งค่อนวัน กว่าการเคลื่อนย้ายของทุกอย่างจะเสร็จ และก่อนที่พี่โชจะหนีไปอาบน้ำ ได้ทิ้งเงินไว้ให้ผม เผื่อพนักงานร้านทะเลถังมาถึงก่อน ผมขยับสมุดขึ้นลงเพื่อคลายความร้อน นี่ขนาดเปิดแอร์เย็นสุด เหงื่อก็ยังไหล หวังว่าวันนี้จะทำให้น้ำหนักผมลงไปหลายขีด นั่งผงกศีรษะด้วยความง่วงไม่นานก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อหน้าห้องก็มีคนกดเรียกรัวๆ

   “ครับๆ”

   ตบแก้มเรียกสติตัวเองพลางวิ่งไปเปิดประตูด้วยความไวที่เร็วกว่าแสง แต่พอเปิดดูก็แทบอยากปิดคืน หากคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งใช้ฝ่าเท้าถีบมาเสียก่อน เพราะมือข้างหนึ่งถือถุงของกิน ส่วนอีกมือมีผ้าพันแผลที่แขน

   “เพื่อนกูอยู่ไหน” มาถึงก็ถามหาเพื่อนตัวเอง สายตาสอดส่ายไปทั่วห้อง ยังดีที่ไม่ทำท่าแบบในหนังตอนถามหาช้างด้วย แบบนั้นคงตลกพิลึก “ขำอะไรของมึงไอ้เกรียน” ผมรีบส่ายหน้าตอบ กลัวโดนตีนถีบ

   “พี่โชอาบน้ำอยู่” พูดไป มือก็ค้นของกินในถุงไป แต่ดันถูกมือใหญ่ฟาดจนแสบ “ตีมือผมทำไมเนี่ย”

   “มึงควรเอาน้ำ เอาท่ามาให้แขกก่อน ไม่ใช่มารื้อถุงหาของฟรีแดก ผัวไม่สอนเหรอ” โดนเป็นชุด แทบไม่รู้จะเจ็บปวดกับประโยคไหนดี

   “เพิ่งรู้ว่าพี่จอมเป็นแขก นึกว่าเป็นคนไทยซะอีก เชี่ย” อุตส่าห์ขยับหนีมาซะไกลยังโดนถีบได้ ยังดีที่พี่ซันช่วยห้าม ไม่งั้นผมโดนกระทืบซ้ำจนปลิวติดกำแพงแน่ “พวกพี่มาทำไม”

   “เห็นไอ้โชบอกจะจัดห้องใหม่ พวกพี่เลยจะมาช่วย” พี่ซันตอบแบบนุ่มๆ “แล้วนี่ทำกันเสร็จแล้วเหรอ”

   “ก็...”

   “มึงไม่น่าถาม พวกมันเสร็จกันไปเป็นหมื่นรอบแล้วมั้งไอ้ห่า”

   ตอนแรกผมก็ทำหน้าเอ๋อเป็นหมางงเพราะไม่เข้าใจ ก่อนพี่ซันจะตบหัวแฟนตัวเองแล้วด่าว่าต่ำตม นั่นล่ะ ผมถึงร้องอ๋อจนโดนมอง

   “เอ่อ...แขนพี่เป็นไงบ้าง” ไม่ถามก็คงไม่ดีเพราะผมเป็นต้นเหตุให้พี่จอมเจ็บ

   “แค่นี้ไม่ระคายผิวกูหรอก” พี่จอมยืดตัวเชิ่ดหน้า หากโดนคนที่มาด้วยดักทาง เอาซะหน้างอ

   “ไม่ระคายผิว แต่ตอนทำแผลร้องอย่างกับควายโดนเชือดไอ้ห่า” พี่ซันไม่ไว้หน้าแฟนตัวเองสักนิด

   “อย่ามาใส่ร้ายกู”

   “แต่ผมก็ได้ยิน....” ตาเหลือกก่อนกระโดดไปอยู่หลังพี่ซัน เมื่อขายาวๆ ของพี่จอมง้างขึ้นเตรียมฟาดเข้าก้นผม พอดีกับพี่โชเดินหัวเปียกโชว์กล้ามท้องออกมาจากห้องนอน ผมเลยรีบวิ่งไปหลบหลังพี่โชแทน

   “ทะเลถังมาแล้วเหรอ” พี่โชมองหน้าเพื่อนตัวเองที่ยืนหัวโด่ในห้อง ก่อนหันมาถามผมที่ยังเกาะหลังไม่ปล่อย

   “ยังไม่มา มีแต่เพื่อนพี่มา” พูดจบก็ตีเข้าท้องแน่นๆ ไปที อิจฉาว่ะ ทำไมผมทำกล้ามท้องแบบนี้ไม่ได้บ้าง ไม่เข้าใจเลยจริงๆ “กลอยไปอาบน้ำนะ”

   “อืม” พี่โชตอบรับ ก่อนโน้มหน้ามาใกล้ๆ แล้วกระซิบข้างหู “ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยด้วยก่อนออกมา”

   “รู้แล้ว”

   เดินกลับเข้าห้องนอนเพื่อจะอาบน้ำ ไม่ไหว เหงื่อเยอะเกิน ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก็ตัวหอมฉุย พอเปิดประตูห้องนอนออกไปปุ๊บ จากที่มีแค่สาม เพิ่มมานับสิบ นั่งเรียงรายอยู่เต็มห้อง

   “มึงจะยืนโชว์ความเอ๋ออีกนานไหม มานั่งข้างกูนี่” ไอ้ม่านกวักมือเรียกผม ทั้งที่สับปะรดยังเต็มปาก

   “มาทำไมกันเยอะแยะ” ผมพูดกับตัวเอง แต่ดันออกเสียง เลยถูกพี่จอมปาขนมใส่หัว “ขยับไปดิ๊ไอ้ม่าน” ใช้เท้าเขี่ยเพื่อนตัวเองแล้วหย่อนก้นนั่ง “มาคนเดียว เด็กมึงไม่มาหรือไง”

   “มึงเห็นมันไหมล่ะ ถ้าไม่เห็น ก็แปลว่ามันไม่มา ไม่น่าโง่เลย” โดนด่าอีกแล้ว

   “ปากดีขึ้นนะมึง” กัดฟันด่าเพื่อนตัวเอง ก่อนหันไปหาพี่แทม ที่นั่งกินข้าวตังหน้าหมูหยองอย่างอร่อย “พี่แทม ผมขอโทษที่ทำให้พี่หัวแตก” มองผ้าก๊อซบนหน้าผากพี่แทมแล้วรู้สึกผิด

   “มึงไม่ได้ตีหัวกู ไม่ต้องขอโทษหรอก” น้ำตาแทบไหลเมื่อได้ยินแบบนั้น แต่ดันมาสะดุดประโยคต่อท้าย “แต่ต่อไปถ้าจะเล่นชู้ ก็หาที่มันแมนๆ หน่อย นี่แม่งหมาหมู่สัด”

   “ไอ้สัด” พี่โชด่ากลางวงจนทุกคนขำ มีแต่ผมนี่แหละที่ไม่ขำ ใครจะกล้า ก็สายตาปีศาจขู่มาซะอย่างนั้น ไม่กล้าเสี่ยงจริงๆ
 


   เสียงแข่งกันพูด แข่งกันเล่าจนไม่รู้เสียงใครเป็นเสียงใคร เรื่องงานปนเรื่องเรียน ผมนั่งเงียบมองทุกคนแล้วก็พาลนึกถึงช่วงแรกๆ ที่คบกับพี่โช ถึงแม้จะวุ่นวายและตอนสุดท้ายผมจะเหนื่อยทำความสะอาดอยู่คนเดียว แต่มันก็สนุกดี ยกเว้นตอนเก็บกวาดอ้วกน่ะนะ

   ไม่นานทะเลถังก็มา กว่าจะมาส่งได้ก็เกือบลืมว่าสั่งไป ผมหิ้วถุงของกินมา ยังไม่ทันได้วาง พี่จอมก็มาคว้าไปแล้วใช้ให้พี่ซันแกะอีก ขอให้ทุกคนนึกถึงภาพสารคดีนกอีแร้งเป็นฝูงที่บินอยู่บนท้องฟ้า ก่อนพวกมันจะบินถลาลงมาแย่งกันกินซากศพ นั่นล่ะ สภาพทุกคนในตอนนี้ ใครดีใครได้ แล้วชั่วพริบตาทะเลถังห้าถุงก็หมดเกลี้ยง

   “แดกไม่เกรงใจเจ้าของห้องเลยพวกมึงเนี่ย” พี่ตินค่อนแคะ ทั้งที่ปากยังแทะฝักข้าวโพด

   “กูเห็นด้วยกับมึงไอ้ติน ว่าแต่ ไอ้อัธ ข้าวตังยังมีอีกไหมวะ อร่อยสัด” พี่แทมหันไปถาม แต่คนที่ซื้อกลับส่ายหน้าเป็นคำตอบ “อะไรวะ ซื้อมานิดเดียว งกกับรุ่นพี่มึงเหรอ”

   “มีคนให้มา ผมไม่ได้ซื้อ”

   “อ่าวเหรอ แต่อร่อยว่ะ ขนาดป้ากูทำขายยังไม่อร่อยเท่านี้”

   “คนทำคงจะดีใจที่มีคนชอบ”

   “นั่นแน่ะ สาวคณะไหนให้มึงมา บอกพวกกูมาเดี๋ยวนี้” พี่เบยังทำตามฉายาที่เพื่อนๆ มอบให้ได้เป็นอย่างดี ส่วนฉายาอะไรนั้นคงต้องไปย้อนอ่านตั้งแต่แรกเริ่ม

   “มึงจะมีความลับกับใครก็ได้ ยกเว้นพวกกู เล่ามา” พี่แทมรีบเสริม ซึ่งแน่นอนว่าผมหูตั้งตาโตรอฟังเหมือนกัน

   “แม่ของเพื่อนให้มา ไม่ใช่สาวๆ หรอกครับ” ไอ้อัธแก้ตัว แต่ผมไม่ค่อยเชื่อ สายตาจับจ้องจนคนถูกมองหันมาสบตา “มองกูทำไมไอ้กลอย”

   “กูกำลังอ่านใจจากสายตามึงอยู่” พูดยังไม่ทันจบดี ก็ถูกฝ่ามือพิฆาตของใครสักคนฟาดเข้าเต็มหัว หันไปจะเหวี่ยงก็เจอสายตาพี่โชจ้องมาอย่างโหด “ไม่อ่านก็ได้” คนตีผมคือไอ้ทูที่นั่งข้างๆ ส่วนไอ้ม่านทำตัวยุกยิกลุกลี้ลุกลนแปลกๆ “เป็นไรไอ้ม่าน เด็กโทรตามเหรอ”

   “นิดนึง” ตอบพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู มีข้อความไลน์ส่งมาแต่เพื่อนผมปิดเสียงไว้ “ไม่รู้ควายหายหรือเปล่า ส่งมารัวขนาดนี้...อ่าว กูด่าตัวเองทำไม”

   ผมนั่งขำไอ้ม่านที่คุยกับตัวเอง ไอ้นี่ชักเพี้ยน มีแฟนเด็กก็ยิ่งเพี้ยน ตอนแรกผมก็แอบกังวลเหมือนกันที่ผลักภาระไปให้ แต่เห็นมันมีความสุขแบบนี้ผมก็รู้สึกเบาใจ

   “ไอ้เม่นดีกับมึงมากไหม” ถามพร้อมรอยยิ้ม ไอ้ม่านส่ายหน้ารัวๆ ก่อนจะเริ่มเล่าความบ้าบอของแฟนเด็กตัวเองให้ฟังเรื่องการมารอหน้าห้องเรียน หลายครั้งไอ้เม่นถูกเพื่อนร่วมรุ่นมาลากไปเข้าห้องเชียร์ เพราะถ้าคนขาดจะโดนทำโทษ “มันคงหลงมึงมาก”

   “เพราะมึงนั่นแหละ กูเลยโดนถูกด่าว่ากินเด็ก”

   “มึงกินเด็ก หรือเด็กกินมึง เอาดีๆ” หัวเราะงอหงายกับประโยคของตัวเอง ไอ้เม่นส่งฝ่าเท้ามาถีบเข้าที่ต้นขา แต่ผมก็ยังไม่หยุดขำ จนไอ้ทูยื่นหน้ามาสอดเพราะความอยากรู้ “กูดีใจที่มึงมีความสุข เหลือแค่ไอ้อัธใช่ไหม กูละอยากเห็นหน้าว่าที่แฟนเพื่อนอัธจริงๆ” พอผมพูดจบปุ๊บ ในห้องก็เงียบ เอาซะผมกระพริบตามอง “ผมพูดอะไรผิดหรือเปล่า” เริ่มลุกลี้ลุกลน หากพี่แทมไม่ลุกพรวดทำตาโต

   “กูลืม กูพกของมาด้วย”

   แทบจะถอนหายใจออกมาหลังจากกลั้นไว้ พี่แทมเดินไปหยิบของบางอย่างออกจากกระเป๋า ก่อนสั่งให้เอาจานกับแก้วเหล้าออก แล้ววางสิ่งที่เตรียมมาไว้กลางวงแทน

   “อะไรวะ” พี่ซันถามอย่างสงสัย

   “บิงโกไง วันนี้กูเจ็บคอ กลัวร้องเพลงแล้วเพี้ยน พวกมึงหัวเราะทำไม”

   อยากจะตอบแทนทุกคนจริงๆ ว่าเพราะอะไรถึงได้หัวเราะออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ส่วนคนไม่รู้เรื่องก็นั่งแจกแจงของที่ขนมาจากบ้านอย่างขมักเขม่น

   “มึงซื้อมาเหรอวะ ดีว่ะ” พี่ตินออกปากอย่างสนใจ

   “ขโมยของหลานมา ไอ้สัด กูก็ซื้อสิวะ” พูดจบพี่ตินกับพี่เบก็แท็กมือกัน คงเตรียมการไว้อยู่แล้วสำหรับคำถาม “เล่นตาละบาท”

   “อ่าว ไม่ได้เล่นฟรีเหรอพี่” ไอ้ม่านรีบเอ่ย

   “ถ้าเล่นเฉยๆ ก็ไม่สนุกสิวะ”

   “แต่การพนันเป็นสิ่งผิดกฎ...” พูดไม่ทันจบ ปากไอ้ม่านก็ถูกพี่ตินโฉบมาปิด

   “ไม่เล่นก็อยู่เฉยๆ ของมึงไปไอ้ม่าน ว่าแต่ ใครเล่นบ้าง กูจะแจกกระดาษเลขแล้ว”

   ผมยกมือคนแรก แต่พี่โชดันไม่ให้เล่น นอกนั้นก็ล้อมวงอย่างกระดี้กระด้า อ้อ มีไอ้ม่านอีกคนที่ไม่เล่น มันบอกถ้าฟรีไม่พลาดแน่

   “แล้วใครจะจับเลขวะ” พี่ตินถามขึ้นมา

   “ให้ไอ้เกรียนจับ ขืนให้ไอ้แทมจับ มันก็เอาแต่เลขบนกระดาษของมัน” พี่จอมออกความเห็น ซึ่งก็ทำให้ทุกคนตกลง กลายเป็นว่า ผมถูกห้ามเล่นไม่พอ ยังโดนใช้จับเลขอีก โคตรไม่ดีเลย “จับดีๆ นะมึง”

   ก่อนผมจะจับเลขในกล่องที่พี่แทมเตรียม เหรียญบาทของแต่ละคนก็ถูกวางลงตรงกลางวง พอเริ่มเกมส์แรก บางคนก็เฮ บางคนก็ด่า เอาใจยากชะมัด

   “กูบิงโก” เสียงทุ้มๆ ของพี่โชแทรกขณะผมบอกตัวเลขที่จับได้

   “มึงโกงป่ะไอ้กลอย” มาแล้วหนึ่งเสียงของพี่เบ

   “นั่นดิ่ โกงให้ผัวมึงหรือเปล่า” ตามด้วยพี่จอม

   “ส่งซิกให้กันแน่ไอ้สัด” พี่ตินก็โวยวายไม่ต่าง

   “เอาใหม่ๆ ตานี้ของกูแน่” พี่แทมรีบเปลี่ยนแผ่นกระดาษตัวเลข ในขณะที่คนอื่นๆ ก็สับเปลี่ยนเหมือนกัน ส่วนพี่โชก็กวาดเหรียญบาทไปไว้พลางขยิบตาส่งให้ผม

   นี่ผมไม่ได้โกงให้พี่โชเลยนะ มันจับได้เองจริงๆ

   แต่ก็แปลก พี่โชบิงโกเยอะกว่าคนอื่นๆ จนผมถูกเฉดหัวจากการจับตัวเลข ไอ้ม่านเลยซวยได้จับแทน คราวนี้ถูกแต่คนละแยกเขี้ยวใส่ด้วย ผมเลยถือโอกาสย้ายมานั่งข้างพี่โชซะเลย พลางเก็บเหรียญที่พี่โชได้มาเก็บ เกมส์บิงโกดำเนินไปเรื่อยๆ เหมือนๆ กับเบียร์ที่ถูกเปิดขวดแล้วขวดเล่า จากหนึ่งกล่อง เพิ่มเป็นสอง และเกือบจะได้เปิดเป็นกล่องที่สาม หากพี่จอมไม่โวยวายว่าปวดฉี่แต่ไม่กล้าลุก พี่แทมเลยเก็บเกมส์ตัวเอง ที่จริงเพราะตาหลังๆ นี้พี่แทมฟาดเรียบ ได้ถอนทุนคืนต่างหากถึงยอมหยุด จะมีก็พี่เบ แล้วก็พี่ตินที่ไม่ได้บิงโกกับเขาเลยสักครั้ง

   สงสารนิดหน่อย แต่สมน้ำหน้ามากกว่า

   หลังจากไม่มีอะไรให้เล่น พวกรุ่นพี่ก็พากันทยอยกลับ เหลือพี่จอมที่ยังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ที่โซฟา พี่ซันนั่งคุยกับพี่โชพลางเปิดไวน์ขวดที่ผมอุตส่าห์เอาไปซ่อน พี่จอมตาโคตรดี ไอ้กลอยนับถือ ส่วนเพื่อนของผมก็เหลือไอ้อัธที่นั่งดีดกีต้าร์ของพี่โชอยู่ข้างๆ ผม

   “มึงมีแฟนเหรอวะ” ถามตรงประเด็น เพื่อนผมชะงักเล็กน้อย ก่อนจะดีดกีต้าร์ต่อ “ไอ้อัธ มึงมีความลับกับกูเหรอ” ต้องทำเสียงให้ดูเหมือนงอนๆ เข้าไว้ เมื่อก่อนเวลาผมทำเสียงแบบนี้ ไอ้อัธจะรีบวางทุกสิ่งที่ทำแล้วมานั่งลูบหัวลูบหลังผม มันก็รู้ว่าผมตอแหล แต่ก็ยังทำ

   ขอย้ำว่าเมื่อก่อน ตอนนี้เหรอ แค่ปรายตามองก็เท่านั้น ใช่สิ ความสำคัญของผมมันน้อยนิด (แล้วผมจะน้อยใจมันทำไม)
 
   “กูไม่ได้มีใคร” กว่าจะตอบมาได้

   “แล้วมึงไม่คิดอยากมีแฟนเหรอ กู ไอ้ทู ไอ้ม่านก็มีหมด เหลือแค่มึงคนเดียว พวกกูเป็นห่วงมึง อยากเห็นมึงมีความสุขบ้าง” ร่ายยาวออกมา ไอ้อัธยกยิ้มบางๆ ก่อนส่ายหน้าช้าๆ “กูพูดจริง”

   “กูก็ไม่ได้ทุกข์อะไร” ดูมันตอบ “ทุกวันนี้แค่กูไปเรียน ไปสอบ ก็กินเวลาชีวิตเกือบหมดแล้ว”

   “มึงชอบแบบไหน”

   “อะไรของมึง ชอบแบบไหน” พอผมจะอ้าปากพูด ไอ้อัธก็แทรกขึ้นมาเอาซะผมหน้าชา “ถ้าคิดจะหาให้กูแบบไอ้ม่านละก็ เอาเวลาไปใส่ใจพี่โชของมึงจะดีกว่า วีรกรรมมึงใช่ย่อยนะ” หน้าบูดเลยผม ไอ้อัธจี้จุดเอาซะไปไม่เป็น “แล้วนี่ มึงกับไอ้ต่างคณะนั่นยังไง”

   “ก็ไม่อะไร ต่างคนต่างอยู่จบ”

   “ให้มันจบจริงๆ เถอะ พวกพี่ตินเกือบไปยำตีนไอ้พวกนั้นอีกรอบ ดีที่พวกมันนอนหยอดน้ำเกลือในโรงพยาบาล แล้วพี่โชก็ขอให้มันจบ เรื่องเลยหยุด”

   “เรื่องนี้กูก็รู้สึกผิดสัดๆ” หน้าสลดอีกแล้วผม “ว่าแต่ คุยเรื่องมึงอยู่ แล้วไหงวกมาเรื่องกูได้วะ”

   “จะไปรู้ได้ไง” แล้วไอ้อัธก็หัวเราะออกมา เฉไฉเก่งไอ้นี่ “กูกลับดีกว่า” อ่าว ยังไม่ได้ความคืบหน้าอะไรเลยนะเนี่ย หนีเฉยเลย

   “มึงยังไม่ได้บอกสเปคเลยว่าชอบแบบไหน” แม้จะคบกับมันมานาน แต่ผมก็ไม่ได้รู้ความชอบของไอ้อัธเลย มันควงคนนั้นคนนี้ไม่เคยมีบุคลิกซ้ำ

   “ไม่เสือกครับน้องกลอย” ไอ้อัธยกนิ้วชี้ส่ายไปมาพลางยื่นมาจิ้มหน้าผากจนผมหงายหลัง “ผมกลับนะพี่ ไว้เจอกันใหม่”
 
   ผมมองตามหลังเพื่อนสนิทจนประตูปิด ก่อนพี่ซันจะหิ้วพี่จอมกลับ ไม่ได้เมาหรอกนะครับ แต่หลับ เมื่อกี้ยังหัวร้อนกับเกมส์ในโทรศัพท์อยู่เลย เผลอแบบเดียวหลับเฉย ปลุกก็ยาก พี่ซันเลยต้องแบกขึ้นหลัง

   โชคดีจริง จีบทีได้แฟนแถมลูก

   “และแล้วก็สงบ” ผมทิ้งตัวนอนบนโซฟามองซากของกินที่ยังวางอยู่ที่พื้น “ได้เวลาทำความสะอาดแล้ว” กำลังจะลุก แต่ดันถูกนอนทับเสียก่อน “พี่โช หนัก”

   “เรายังไม่ได้ลองเตียงใหม่เลย” ลมหายใจที่ชิดหน้ามีกลิ่นเบียร์อ่อนๆ ลอยมากระทบ

   “พอได้ที่ก็หื่นเลยนะ แล้วเตียงมันก็ไม่ได้ใหม่” แย้งเสร็จก็ถูกงับปาก ดีที่งับไม่แรง

   “ถึงไม่ใช่เตียงใหม่ แต่เราขยับมันไง จะได้ลององศาใหม่ด้วย”

   “องศาใหม่? อะไร?”

   “ก็...”

   “พอเลย กลอยต้องเก็บของ”

   “แก้วกับจานมันไม่ละลายหายไปหรอก เก็บตอนไหนก็ได้”

   “นี่จะเอาให้ได้เลยใช่ไหม”

   “ใช่”

   โคตรตรงดีจริงๆ

   “เอาก็เอา”

   ตรงมา ตรงกลับ เสมอกันไม่มีโกง

   แต่...

   “พี่โช เดี๋ยวๆ” รีบยกมือดันหน้าคนที่แทบจะดูดกลืนคอผมเข้าท้อง

   “อะไร” น้ำเสียงติดหงุดหงิดสุด

   “ปวดขี้”

   “มึงจะมาปวดขี้ทุกครั้งเวลาจะเอากันไม่ได้”
   “แต่มันปวดจริงๆ” กลัวพี่โชไม่เชื่อ เลยตดให้ดู กลิ่นทะลุทะลวงขนาดกลั้นหายใจยังดันเข้ามาให้ได้กลิ่น “เชื่อยัง”

   “เออๆ รีบๆ ไป แม่ง”

   “ขอโทษ ไว้ขี้แล้วค่อยเอาใหม่ก็ได้”

   “กูหมดอารมณ์แล้ว”

   “เอาน่า เดี๋ยวกลอยช่วยปลุกมังกรให้ใหม่ กลอยปั้นเก่ง” พูดไป มือก็ทำท่าขย้ำลมไป เอาพี่โชขำออกมาได้

   “ปากดีนะมึง รีบๆ ไปขี้”

   “เก็บห้องรอด้วยนะ”

   “เออ”

   ผมว่า ความรักไม่จำเป็นต้องปั้นแต่งตัวเองให้ดูดี เป็นตัวเองนั่นแหละดีที่สุด ทั้งเขา ทั้งเรา อยู่ที่ว่า ต่างคนต่างจะรับนิสัยจริงๆ ของกันได้ไหม อย่างผมกับพี่โช เราเผยนิสัยจริงๆ ออกมาตั้งแต่แรกที่คบกัน พี่โชสามารถดมตดผมได้ อย่างที่ผมสามารถทนต่อความเอาแต่ใจตามฉบับคุณหนู รวมถึงข้อเสียต่างๆ ถามว่ามันยากไหม ก็ยากแหละ แต่ผมก็พยายามเข้าใจและค่อยๆ เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน บางเรื่องปรับได้ เปลี่ยนได้ก็ค่อยๆ ลองกันไป ก็นะ ไม่มีใครเกิดมาแล้วสมบูรณ์แบบมันอยู่ที่เส้นทางการดำเนินชีวิตมากกว่า เข้าใจ ให้อภัย แก้ไข คือเบื้องต้นของความรักของผม

   นี่ผมคิดเรื่องที่มีสาระก็เป็นนะ ไม่ได้คิดเป็นแต่เรื่องเกรียนๆ

   คนจะหล่อ หล่อที่ใจ ใช่เล็บตีน ตึ่งโป๊ะ!

   ขอเวลาขี้แป๊บ เพราะเดี๋ยวต้องไปปั้นมังกรให้พี่โชอีก ผมหมายถึงปั้นมังกรจากดินน้ำมัน นี่คิดทะลึ่งกันล่ะสิ ไม่ได้เลยนะ เผลอไม่ได้ คิดแต่เรื่องหื่นๆ กันตลอด ไม่ดีนะครับทุกคน


...TBC


หากผิดพลาดตรงไหน จะรีบกลับมาแก้ไขค่าาาา

อย่าเพิ่งลืมกลอยประเกรียนสุดหล่อแม่นเว่อร์นะคะ (ก้มกราบบบบบ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-03-2019 23:23:46 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
สงสารพี่โชแล้วสิอดเพราะกลอยปะเกรียนปวดขี้หลายรอบแล้วนะ  :laugh:   :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
กลอย โอ๊ยยย มีกลิ่นด้วยนะ 555555555555555
คนปริศนาของอัธคือใครกัน  :hao3:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
จบตอนพร้อมสาระซะงั้น 555 รอนุ้งกลอยปั้นมังกร  :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
กลอยเอ้ยยยยยยย
เอ็งดูจริงลูก

เรื่องน้องอัธนี่
เหมือนทุกคนรู้กันแล้วเลย
ยังไงอ่ะ คนที่จะมาเป็นแฟนน้องอัธนี่มีประเด็นเรอะ
ตื่นเต้นแฮะะะะ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนเสมอนะคะ(^^)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะขอดูด้วยก็ไม่ได้

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
พี่โชคือคำนิยาม รับกลอยปานแหกตูดดม (ตด)555555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไรท์มากับความฮากระจาย  ชอบบบบบ   :m20: :laugh: :pigha2:

ทุกคนรู้กันแน่ว่าแฟนอัธคือใคร เพราะนิ่งกันหมด  :hao3:
ชอบกลุ่มเพื่อนพี่โช กลุ่มเพื่อนกลอย  :mew1:
พอเจอกันมีแต่ความเข้าขา ฮา มีแต่ความรักของเพื่อนๆ  :katai2-1:
พี่จอม พี่ซันก็น่ารัก ตลอด  :o8:
กลอย มาพร้อมกลิ่นก่อนเข้าส้วมประจำ สมเป็นกลอยประเกรียน  :z3:
พี่โช  กลอย  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AutoAngels

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบกลอยจังเลยตลกมาก๕๕๕

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
ดีต่อใจ  :L1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
สงสารพี่โช จะหวานสักหน่อย

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
จะหวานทีไร ไม่ตดก็ขี้ต้องมาทุกทีเลยนะกลอย

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
5555 ตลกกลอย บ้าบอตลอดเวลา แต่เพราะกลอยเป็นแบบนี้
ปีศาจเลยหวงนัก หวงหนา ขนาดรมด้วยกลิ่น ยังรอดมาได้

กลอยเด๋อมาก ขนาดเค้าเล่นมุกกันยังตามไม่ทัน
แล้วจะไปเค้นเอาอะไรกับอัธ ยิ่งไม่มีทาง

โชตามใจกลอยใจมากเลย ปลื้มมากจ๊ะ
รอกลอยไปปลดปล่อยสักแปบ
แล้วพามาปั้นให้ด้วยนะ จะรอด้วยค่ะ

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5

เพราะนายคือของฉัน [ll] : 15





       จากที่คิดว่าจะไม่มีเรื่องอะไรให้กลุ้มแล้ว กลับมาเจอเรื่องที่น่าหนักใจยิ่งกว่าความรักเสียอีก นั่นคือการเลือกสถานที่ไปฝึกงาน แอบอิจฉาบางคณะที่ไม่มี แต่คิดไปก็เท่านั้น ในเมื่อมันต้องไปก็ต้องตามนั้น

   “สรุปมึงไปต่างจังหวัดจริงๆ เหรอวะ” ผมถามไอ้สักที่นั่งอัดบุหรี่อย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะตอนบ่ายมีพรีเซนงานชิ้นสุดท้าย

   “เออสิ” พูดจบก็โยนบุหรี่ลงพื้นแล้วขยี้จนเละ “มึงล่ะ หาได้หรือยัง”

   “กูไปกับมึงได้ป่ะ” เพราะขี้เกียจจะหา

   “ไปได้ ถ้าผัวมึงอนุญาต” เอาซะผมไปไม่เป็นหลังจากได้ยิน “แล้วนี่ บอกพี่โชของมึงหรือยัง”

   “ยังเลยว่ะ ว่าจะบอกเร็วๆ นี้แหละ”

   “แล้วมึงเลือกที่ไหน”

   “พี่รหัสกูแนะนำที่ๆ เขาเคยไปฝึกว่ะ”

   “ที่ไหนวะ”

   “โรงเรียนสอนศิลปะอะไรสักอย่าง”

   “หน้าอย่างมึงเนี่ยนะ จะไปสอนคน”

   “ทำไม หน้าหล่อๆ อย่างกูทำไมจะสอนคนไม่ได้”

   “เปล่า” ปฏิเสธเสียงสูงไอ้นี่ “แล้วพวกไอ้ทูไปไหนวะ”

   “ไปซื้อชานมไข่มุก ไอ้นี่ก็เสพติดเกิน กินมันได้ทุกวัน”

   พูดไม่ทันจบดี ไอ้ทูก็เดินนำหน้าไอ้ต๋องกับไอ้เคมาที่โต๊ะ สามสหายดูดชานมไข่มุกอย่างเอร็ดอร่อย ที่จริงผมก็ชอบนะ แต่ผมเคยดูดแล้วไข่มุกมันพุ่งเข้าไปในคอ พี่โชตบหลังผมแทบหัก กว่ามันจะย้อนออกมา เกือบได้ไปโรงพยาบาลเพราะไข่มุกติดคอแล้ว จากนั้นมา ผมก็ไม่เคยกินอีก เข็ดมากบอกตามตรง แค่เห็นตอนไข่มุกสีดำลอยขึ้นตามหลอด ขนแขนก็ลุกแล้ว

   “เย็นนี้แดกเหล้ากัน กูได้บัตรฟรีมิกเซอร์ว่ะ” ไอ้เคสะบัดการ์ดแข็งโชว์ เอาซะพวกผมตาลุกวาว “สนไหมๆ”

   “สนสิไอ้สัด” ไอ้ต๋องตอบก่อนใครเพื่อน

   “กูก็สนนะ” ตอบพลางมองตามบัตรในมือเพื่อนตาละห้อย “แต่เย็นนี้กูต้องไปกินข้าวบ้านพี่โชว่ะ”

   “อ่าว มีอะไรพิเศษเหรอวะ” ไอ้ทูหันมาถาม ทั้งที่ยังดูดมุกเข้าปากอยู่ตลอด ถ้าติดคอนะมึงเอ๊ย กูจะสมน้ำหน้าให้

   “ไม่รู้ว่ะ” ตอบไปงั้น ที่จริงก็เพราะเพื่อนของสามีพี่ชีสได้เนื้อวัวเกรดพรีเมี่ยมมา ที่บ้านพี่โชเลยจะทำชาบูกัน แถมมีอาหารทะเลด้วย มีหรือที่ไอ้กลอยจะพลาด “ไว้คราวหน้าแล้วกัน”

   “ตามใจ สรุปมีแค่สี่นะ”

   “เออ”

   เม้มปากอย่างเสียดาย แต่ชาบูบ้านพี่โชน่าจะแพงกว่า หากพลาดคราวนี้ ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้กินอีก ในเมื่อมันต้องเลือก ผมก็เลยต้องทิ้งเพื่อน ขอโทษจริงๆ เพื่อนเอ๋ย
 
   ว่าไปนั่น...



   พอหลังจากเลิกเรียน ผมก็ขับรถตรงไปยังบ้านของพี่โชเลย เพราะทุกคนรออยู่ที่บ้านหมดแล้ว กว่าผมจะถึงท้องฟ้าก็เริ่มมืด คนแรกที่วิ่งเข้ามาหาคือหลานสาวตัวน้อยของพี่โช น้องบีมยิ้มร่าเข้ามาจับมือผม บนศีรษะมีหมวกสตอเบอรี่ด้วย น่ารักดี

   “น้ากลอยชอบหมวกน้องบีมไหมคะ” แล้วน้องก็ส่ายหัวดุ๊กดิ๊กทำให้ผมพยักหน้าลงพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นส่ายหน้ารัวๆ เมื่อน้องจะถอดมาให้ผม “น้องบีมให้ค่ะ เพราะของน้องบีมมีอีก”

   “น้ากลอยไม่ได้สระผม เดี๋ยวหมวกน้องบีมเหม็น” ข้ออ้างที่น่าจะฟังขึ้นที่สุด เด็กตัวเล็กพยักหน้าลงเบาๆ อย่างเข้าใจ “เดี๋ยวน้ากลอยไปช่วยคนอื่นดีกว่าเนอะ”

   “น้องบีมไปด้วย”

   จากที่คิดว่าอยู่กับเด็กไม่ได้ ตอนนี้น้องบีมเกาะติดผมอย่างกับตังเม คงตั้งแต่ไปเต้นงานโรงเรียนให้ละมั้ง ที่ทำให้ผมเลิกระแวงฟันของน้อง ว่าจะมาจมในผิวเนื้อของผมส่วนไหนอีก พี่โชหาว่าผมประสาทหลอน ก็แน่ล่ะ ไม่เคยโดนเด็กกัดจมเขี้ยวก็พูดได้

   ผมเดินตามน้องบีมมาจนถึงสวนหลังบ้าน เห็นสระว่ายน้ำแล้วทำให้นึกถึงวันที่มาง้อพี่โช นึกแล้วโคตรจะขำ ไม่รู้ทำไปได้ยังไง จังหวะที่ยืนเหม่อ มือก็ถูกกระตุก น้องบีมบีบมือผมแล้วพาเดินเข้าไปรวมกลุ่มกับทุกคน ผมยกมือไหว้รอบโต๊ะตามมารยาทของคนอายุน้อยสุด พี่โชก็รีบขยับให้ผมนั่ง

   “หิวไหม” เสียงนุ่มถามในระยะประชิด ผมก็พยักหน้ารับ “เดี๋ยวพี่ตักให้”

   มองหม้อชาบูบนโต๊ะยาวอย่างน่าตื่นเต้น ยิ่งข้าวของที่วางเรียงรายรอเวลาต้มกับลวกยิ่งใจเต้น โดยเฉพาะปูตัวใหญ่สีแดงมีหนามแหลมที่ไม่ได้มีแค่ตัวเดียว เสร็จไอ้กลอยแน่

   “ทำไมเลิกช้าล่ะเรา” แม่พี่โชถาม ขณะที่ผมคีบลูกชิ้นปลาใส่ปาก อยากบอกว่าร้อนมาก แต่ก็พยายามเป่าปากคลายร้อน เป็นที่ขำขันให้กับคนทั้งโต๊ะ “ค่อยๆ กินก็ได้”

   “ขอโทษครับ” ตอบหลังจากของในปากเริ่มเคี้ยวได้ “พอดีต้องพรีเซ็นงาน เลยเลิกช้าครับ”

   “ว่าแต่ อีกเทอมเดียวก็จบแล้วใช่ไหม” เปลี่ยนเป็นพ่อพี่โชถามบ้าง คราวนี้เกร็งพอดู

   “ครับ เหลือฝึกงานเทอมสุดท้าย” พูดปุ๊บ มือพี่โชที่กำลังลวกเนื้อก็ชะงัก

   “จะฝึกที่ไหนเหรอ หรือจะมาฝึกกับโช?” พี่ชีสถามบ้าง ผมหันหน้ามายิ้มให้กับพี่สาวของพี่โชบางๆ พลางส่ายหน้า “อ่าว ทำไมไม่มาฝึกที่บริษัทล่ะ หรือที่เรียนมันคนละสาย?”

   “พอดีผม...”

   “กลัวว่าจะฝึกงานไม่เต็มที่ใช่ไหม” ถูกพ่อพี่โชขัดกลางปล้อง แต่มันก็ถูก ทำให้ผมพยักหน้าลง “ดีแล้วล่ะ จะฝึกงานทั้งที ก็ต้องเลือกที่เราได้โชว์สิ่งที่เรียนมา”
 
   “พ่อพูดดี แม่ยกผักบุ้งให้”

   การหยอกล้อของพ่อแม่พี่โชทำให้บรรยากาศมาคุเมื่อกี้ผ่อนคลายลง ใช่ครับ คนข้างผมนี่แหละทำให้มันดูอึมครึม พี่โชเงียบไม่ยอมคุยอะไรกับใคร นอกจากลวกหมู ลวกเนื้อให้ผม ก่อนจะชะงักจนตะเกียบร่วงเมื่อได้ยินหลานสาวเอ่ยประโยคคำสั่งออกมา

   “ถ้าน้าโชไปเรียนเมืองนอก อย่าลืมโทรมาหาน้องบีมนะคะ ไม่งั้นน้องบีมจะงอนแล้วก็สั่งให้น้ากลอยงอนด้วย” พี่ชีสรีบยกมือปิดปากลูกตัวเองอย่างไว แต่เหมือนจะไม่ทันซะแล้ว เพราะผมได้ยินเต็มสองรูหู

   “พี่โชจะไปเรียนเมืองนอกเหรอ” ถามเสียงเบา หัวใจเริ่มสั่น

   “ไม่ไปหรอก” ตอบเสียงหนักแน่น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมหายใจสั่น “กินปูไหม เดี๋ยวพี่แกะให้” รีบเฉไฉอย่างไว ผมพยักหน้าลงช้าๆ ไม่อยากให้ทุกคนอึดอัดเลยกลับมาบ้าบอ หยอกแม่ของพี่โช แกล้งแซวพี่ชีส แม้มือที่ถือตะเกียบจะสั่นก็ตาม

   ตอนนี้ทั้งเสียงคุย เสียงเพลงคึกคักกว่าเดิม ยิ่งพ่อพี่โชสั่งให้คนหอบแลปท็อปออกมาต่อไมค์ด้านนอก เพื่อจะร้องคาราโอเกะก็ยิ่งสนุก เอาจริงๆ หากย้อนกลับไปตอนเริ่มคบพี่โชใหม่ๆ ผมไม่เคยรู้เลยว่าท่านจะมีโมเม้นน่ารัก เฮฮาแบบนี้ คิดว่าจะนิ่งๆ ดุๆ อย่างกับพวกเศรษฐีในละครทีวีอย่างเดียว

   “น้ากลอยร้องเพลงไหมคะ”

   “ได้ละ....”

   ยังไม่ทันได้ตอบรับ ไมค์ที่น้องบีมยื่นมาก็ถูกพี่โชแย่ง แล้วส่งกลับคืนหลานตัวเอง แต่ยังไม่น่าเจ็บใจเท่าประโยคนุ่มๆ กับเสียงทุ้มๆ ดูไม่มีพิษมีภัยใดๆ แต่ทำไมมันถึงจี๊ด

   “น้าเขาร้องไม่ตรงจังหวะ น้องบีมร้องเถอะ”

   นี่ไง มันเจ็บ

   “น้ากลอยร้องเพลงไม่ตรงจังหวะ ทำไมล่ะคะ”

   ยัง

   “น้าโชก็ไม่รู้เหมือนกัน”

   ยังอีก

   “หรือน้ำในหูไม่เท่ากันคะ น่าสงสารแย่เลย น้ากลอยไม่ต้องเสียใจนะคะ ไว้ไปหาหมอแล้วค่อยไปเรียนร้องเพลงกับน้องบีม คุณครูสอนร้องเพลงที่น้องบีมไปเรียน ร้องเพราะมาก แม้จะแก่แล้วแต่ก็ยังเรียนได้นะคะ”

   เจ็บปวดรวดร้าวในทรวงอก ผมจ้องหน้าพี่โชจนตาแทบถลนออกจากเบ้า แต่เจ้าตัวดูจะไม่สนใจเพราะเอาแต่หัวเราะกับหลานสาวที่ใสซื่อ (แม้คำพูดจะฟังแล้วเจ็บปวดไม่น้อยก็ตามกับประโยคยาวๆ เมื่อกี้)

   อาหารบนโต๊ะพร่องไปจนเกือบหมด พ่อกับแม่พี่โชก็ขอตัวเข้าบ้าน ไม่ต่างจากครอบครัวของพี่ชีสที่ต้องพาน้องบีมเข้านอน ส่วนผมกับพี่โชยังนั่งแกะเปลือกกุ้งปิ้งกันอยู่ โดยที่มีเสียงจิ้งหรีดร้องขับกล่อมเพื่อไม่ให้เงียบจนเกินไป

   “พี่โชอยากไปเรียนต่อเมืองนอกเหรอ” คาใจมานานมันก็ต้องถาม เพราะผมเป็นพวกอยากรู้ก็ต้องถาม ไม่อยากเก็บไว้ให้เปลืองเนื้อที่สมองอันน้อยนิด “พี่โช”

   “พ่อพี่อยากให้ไป ไม่ใช่พี่อยากไป” สุดท้ายก็ตอบมา แม้จะรอนานสักหน่อย “แต่พี่ก็ปฏิเสธไปแล้ว”

   “ทำไมล่ะ คนส่วนใหญ่เขาก็อยากไปเรียนต่อเมืองนอกทั้งนั้น” ถามในสิ่งที่เคยคิดเอาไว้สมัยก่อน แต่หมายถึงตัวผมเองนะ ที่เคยฝันว่าอยากไปเรียนต่อเมืองนอกถ้ามีเงิน

   “นั่นมันคนส่วนใหญ่”

   “พี่คนส่วนน้อยเหรอ”

   พยายามไม่ให้สถานการณ์ตึงเครียดเกินไป พี่โชยิ้มพรายออกมาพลางยกมือมาขยี้หัวผม ลืมไปเลยว่ามือที่ยื่นมาเปื้อนกุ้ง กับปู

   “พี่ไม่ใช่คนส่วนน้อยหรอก”

   “อ่าว แล้วทำไม...”

   “ที่นั่นไม่มีกลอยนี่นา”

   “พูดให้ซึ้งป่ะเนี่ย”

   แต่ก็ซึ้งจริงๆ นั่นแหละ อยากยิ้มแต่ก็ยิ้มไม่ค่อยเต็มที่

   “พี่พูดจริงๆ อะกุ้ง”

   “เกือบซึ้งกว่านี้แล้ว”

   พี่โชหัวเราะเสียงดังหลังจากยื่นกุ้งมาในจานของผม ก่อนจะเงียบไปอีก เอาซะผมอึดอัดไปหมด ตั้งแต่ความรู้สึกต่ำลงไปที่พุง แล้วก็กางเกง สุดท้ายถึงกับต้องปลดตะขอกางเกงนักศึกษาออกเพราะมันไม่ไหวจริงๆ
 
   “กลอยอยากไปกับพี่ไหม” อยู่ๆ ก็มีคำถาม ที่ทำเอาผมหันขวับไปมอง พี่โชไม่ได้มองหน้าผม ดวงตาจ้องอยู่ที่กุ้งในมือที่กำลังแกะเปลือก แต่พอผมเงียบ ดวงตาคู่นั้นถึงเงยขึ้นมามอง “ว่าไง อยากไปกับพี่ไหม ถ้ากลอยไป พี่ก็...”

   “จะไปยังไง กลอยยังเรียนไม่จบ เดี๋ยวก็ฝึกงานแล้วด้วย”

   “ก็รอให้จบก่อน แล้วค่อยไป”

   “แบบนั้นพี่โชก็เสียเวลาแย่”

   “ไม่หรอก”

   “กลอยดีใจที่พี่อยากให้กลอยไปอยู่ด้วย ซึ้งอีกที่บอกจะรอ แต่มันอนาคตพี่เลยนะ ถึงกลอยไม่ได้ไปด้วย แต่ก็ไม่ได้ย้ายออกไปไหน ยังอยู่รอพี่ที่เดิม” ผมพยายามทำให้มันติดตลก เพราะไม่ชอบอารมณ์เทาๆ อย่างตอนนี้เลย “อีกอย่าง โทรศัพท์ก็มี ไลน์ก็เล่น คิดถึงเมื่อไหร่ก็ติดต่อมา แค่ตุ๊ดเดียวกลอยก็รับแล้ว”

   “ไอ้ขี้โม้ วันนี้พี่โทรไปตั้งหลายรอบ ไม่เห็นจะรับ” แล้วคนหน้านิ่งก็ยิ้มออกมา ยังดีที่ผมจับข้อมือพี่โชไว้ทัน ก่อนที่ความมันเยิ้มนั่นจะมาแปะอยู่บนหัวของผม

   “วันนี้มันสุดวิสัย พี่โทรมาตอนกลอยขี้อยู่”

   “จะมีสักวันที่ไม่ขี้ไหม”

   “ไม่ขี้ก็ตายสิ” คนระบบขับถ่ายดีไม่ได้น่าชื่นชมหรอกนะครับ การกินข้าวปุ๊บ แล้วอยากขี้ปั๊บน่ะ มันโคตรเป็นกรรมเลย “พี่โชไปเถอะ เผื่อกลับมาแล้วได้ดี จะได้มีเงินเยอะๆ ไว้ขุนกลอยไง” ว่าแล้วก็ลูบท้องตัวเองป้อยๆ
 
   “พูดง่าย”

   “ทำก็ง่าย พี่โชนั่นแหละ พูดยาก ทำยาก” ก่อนพี่โชจะอ้าปาก ผมก็รีบยกมือขึ้นห้าม “ที่จริงกลอยก็ไม่อยากให้พี่ไป ตอนพี่ไม่อยู่ห้อง กลอยจะอยู่คนเดียวในห้องกว้างๆ นั้นได้ยังไง ถ้าคิดถึงอกแน่นๆ ตอนจะหลับจะทำยังไง คำถามมันตีกันมั่วไปหมด”

   “พี่ถึงจะไม่ไปไง...”

   “แต่พอมาคิดอีกที กลอยกลับดีใจมากกว่า การที่พี่โชไปเรียนต่อ ไม่ได้ทำให้แค่ตัวเอง ยังทำเพื่อครอบครัว เพื่อบริษัท พี่โชเก่งขนาดนี้ ถ้าได้ความรู้มาพัฒนาเพิ่มเติม มันน่าจะดีมากขึ้นไปอีก” แทบไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะคิดได้ขนาดนี้ “ไปเรียนแค่ไม่กี่ปีเองด้วย”

   “ไม่อยากให้พี่อยู่ด้วยเหรอ ไม่คิดถึงพี่เหรอถ้าพี่ไม่อยู่”

   “คิดถึงสิ” ผมยกมือขึ้นจับแก้มของพี่โช พลางสบตากับดวงตาคู่ตรงหน้า “คิดถึงทุกนาทีที่อยู่คนเดียว”

   “ร้องเลยไหม”

   “ก็อยากอยู่ แต่เสียงไม่ถึง ปั๊ดโธ่ อย่าเพิ่งขัดสิ” แล้วพี่โชก็ยิ้มพรายออกมา “กลอยรอได้ พี่ก็รีบๆ เรียน แล้วก็รีบๆ กลับมา แต่ ขีดเส้นใต้หลังคำว่าแต่เอาไว้ ว่าห้ามหอบคนอื่นติดมือไม่ว่าจะที่ไหน ไม่งั้นกลอยจะ...”

   “จะ?”

   “จะใส่กางเกงว่ายน้ำเดินร่อนทั่วคอนโดเลย”

   “อยากเห็นซะแล้วสิ”

   “ไม่ตลกนะพี่โช”

   “พี่ก็ไม่ได้จะตลก”

   “ไม่ตลกแล้วขำทำไม”

   “ก็ขำคนที่ทำให้พี่สบายได้ทุกครั้ง ที่มีเรื่องหนักสมองให้คิดเยอะ”

   “เห็นคุณค่าของกลอยแล้วล่ะสิ”

   “มากที่สุด”

   พูดจบก็ยื่นหน้ามาจุ๊บปากผมไปหนึ่งที พลางส่งรอยยิ้มหวานมาให้ ที่จริงผมก็อยากดราม่านะ อยากห้ามพี่โชด้วย แต่ก็นั่นแหละ ผมเป็นคน ไม่ใช่จระเข้ที่ชอบขวางทางของใคร (มุกอะไรของผมวะเนี่ย) ผมอยากเห็นคนที่ผมรักได้ดี กลับกัน หากเป็นผม พี่โชก็คงให้ไป เพราะอยากให้ผมมีชีวิตที่ดี

   “สรุปแล้ว พี่โชจะไปที่ไหนเหรอ”

   “พี่ปฏิเสธพ่อไปแล้วไง”

   “อ่าว รีบไปบอกใหม่เลย”

   “ขอคิดดูก่อน”

   “อ่าว แล้วที่ลากดราม่ายาวๆ มานี่คือ?”

   ไม่มีคำตอบให้ นอกจากกุ้งที่แกะเปลือก ผมส่งค้อนให้พี่โชวงใหญ่ แต่ก็ไม่ลืมหยิบกุ้งจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดแล้วยัดปาก

   ถ้าถามความรู้สึกจากใจจริงๆ คงบอกได้ว่า ไม่มีใครดีใจที่คนรักจะไปอยู่ไกล จะห่างเราไป แต่จะให้ผมเห็นแก่ตัว ยึดพี่โชไว้ตลอดก็คงไม่ได้ ผมรู้ ถ้าผมเอ่ยปากว่าไม่อยากให้ไป แน่นอนว่าพี่โชก็จะไม่ไป แต่เพราะชีวิตของพี่โช ยังมีครอบครัว มีพี่น้อง มีบริษัทที่ต้องดูแล อย่างกับผม ที่ยังมีแม่ มีพี่กิ่ง และแม่ก็พร่ำสอนผมมาเสมอว่าอย่าเห็นแก่ตัว ซึ่งผมก็ทำตามมาตลอด

   ยกเว้นเรื่องกินที่ทำไม่ค่อยจะได้





*****

   และจากวันนั้นก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์ ผมกับพี่โชยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม จนเมื่อสองวันก่อน ระหว่างที่เรานอนคุยกันบนเตียง อยู่ๆ พี่โชก็บอกตัดสินใจแล้วว่าจะไปเรียนต่อ ครั้งแรกที่ผมได้ยินก็อึ้งและเงียบไป ก่อนจะรีบกอดแล้วตักตวงอ้อมกอดอุ่นๆ เพราะไม่รู้อีกนานแค่ไหนกว่าจะได้กอด ได้กลิ่นแบบนี้อีก

   “ฮึบไว้ไอ้เกรียน” เสียงดังมาจากด้านหลัง แน่นอนว่าผมก็บ้าจี้ทำตามจนพี่จอมขำ

   ทุกอย่างที่เกิดในช่วงนี้ดูรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทัน จากที่ได้ยินว่าพี่โชจะไป ก็มาถึงวันไป ทั้งที่ทำใจไว้ตั้งแต่ตอนไปกินข้าวบ้านพี่โชวันนั้น พอเอาเข้าจริงก็รู้สึกใจแป้ว

   “ผมไม่ร้องหรอกน่า” หันไปบอกพี่จอม เพราะตอนช่วยพี่โชเก็บของ ผมร้องไห้จนต่อมน้ำตาแห้งหมดแล้ว ร้องจนพี่โชเก็บเอาของในกระเป๋าออกไปไว้ที่เดิม นั่นล่ะ ถึงหยุดร้อง “พี่เถอะ อย่าร้องไห้ล่ะ”

   “ไอ้ห่า ผัวกูก็ไม่ใช่ จะร้องทำไม” พี่จอมใช้หัวเข่ากระแทกปลีน่องผม เอาซะแข้งขาอ่อนเกือบล้ม

   “แล้วถ้าพี่ซันไปเมืองนอกบ้าง พี่จะร้องไหม”

   “ไม่ร้อง”

   “โหย เก่งว่ะ”

   “เพราะกูจะไปด้วย”

   เกือบดีอยู่แล้วเชียว คราวนี้พี่จอมหัวเราะเสียงดังทำเอาคนรอบๆ ตัวหันมามอง รวมทั้งพี่โชที่ยืนคุยกับครอบครัวตัวเองแล้วก็แม่ของผม ประเทศที่พี่โชจะไปนั้น มีญาติของพี่เขาเปิดร้านอาหารอยู่ ก็สบายใจไปเปราะหนึ่ง ว่าไม่ต้องพึ่งอาหารสำเร็จรูป
 
   พี่โชผละจากครอบครัวแล้วตรงมาหาเพื่อนตัวเองที่กองอยู่ด้านหลังของผม พี่แทมโผเข้ากอดซุกหน้าเข้าซอกคอเลยโดนถีบออก สร้างเสียงหัวเราะให้แก่คนรอบข้าง

   “จะเรียนโททั้งที่ ถ่อไปไกลเลยนะมึง เมืองไทยก็มี” พี่ตินทักทายเพื่อน แต่ฟังกลายๆ แล้วเหมือนอิจฉาหรือเปล่า

   “ไอ้ห่าติน ไปเมืองนอกดีจะตาย” พี่แทมรีบขัด

   “ดียังไงวะ” ตามด้วยพี่เบที่ถามด้วยความอยากรู้

   “ไอ้ห่าเบ กูคิดมุกไม่ทัน”

   ผมหัวเราะกับความเข้าขาของพวกพี่ๆ แบบนี้พอพี่โชไม่อยู่ ผมคงไม่ค่อยได้เจอแน่ๆ ห้องคงจะเงียบเหงาน่าดู คิดแล้วขอบตาก็ร้อนขึ้นมาอีก

   “แล้วนี่มึงจะให้ไอ้กลอยไปอยู่ที่ไหนวะ” พี่แทมเปลี่ยนคำถามพลางปรับโหมดมานิ่ง คนถูกถามหันมามองผมพลางดึงเข้าไปกอดไหล่ “หรือจะให้มันกลับไปอยู่บ้าน?”

   “ถ้ากลอยอยากอยู่ไหนกูก็ตามใจ” ผมหันไปยิ้มให้กับทุกคน แม้จะพยายามกระพริบตาถี่ๆ เพื่อสกัดกั้นน้ำตาที่มันจะไหลออกมา “ไม่อยากไปแล้วว่ะ”

   “กูเข้าใจ” พี่ซันยื่นมือตบบ่าพี่โชเบาๆ ก่อนจะส่งรอยยิ้มหวานมาให้ผม “ยังไงซะ กูกับไอ้จอมจะช่วยดูให้ ไม่ต้องห่วง”

   “ผมห่วงตัวผมเองได้ไหม” พูดพลางเหล่หางตามองพี่จอม เลยถูกโบกหัวไปที เอาซะน้ำตาที่กั้นไว้ไหลเลย “เจ็บ” แต่ก็ได้ทีในการแถ

   “มึงนี่นะ ชอบแกล้งเมียกูตลอด” พี่โชง้างขาทำท่าจะเตะ แต่ก็ไม่เตะ ส่วนพี่จอมได้แต่ยักไหล่ “ซื้อตั๋วแล้วไปกับพี่ไหม ไม่อยากจากเลยว่ะ”

   “พี่โชอย่าเว่อร์” ทำเป็นเก่งไปงั้น ก่อนพูดยกมือเช็ดน้ำตาไปแล้ว

   “จากเป็นเดี๋ยวก็เจอ”

   “ไอ้ติน มึงอย่าพูดเป็นลาง ตบปากมึงเดี๋ยวนี้”

   “กูลืมไปไอ้จอม ซอรี่นะเพื่อนโช” ว่าแล้วพี่ตินก็ยกมือจะตบปากตัวเอง แต่ความไวเร็วแสงของพี่จอมที่ฟาดเข้าปากพี่ตินไปก่อนเสียงดังฟังชัดสุดๆ ทำเอาเจ้าตัวร้องโวยวายด้วยความแสบ

   “อย่าลืมโทรมาหานะ” ผมบอกเสียงอู้อี้ พี่โชยื่นหน้าผากมาแตะกับหน้าผากของผม “แต่ถ้าอ่านหนังสือหรือง่วงก็ไม่ต้องโทรมา”

   “ครับ”

   “อย่าลืมกินข้าวด้วย เดี๋ยวปวดท้อง”

   “รับทราบ”

   “แล้วก็...”

   “จะไปฝึกงานก็ดูแลตัวเองดีๆ ออกไปกินเหล้ากับเพื่อนได้ แต่ห้ามขับรถเอง ห้ามกลับห้องหลังห้าทุ่ม ห้ามให้คนอื่นเข้าห้อง ที่สำคัญ ห้ามไปนอนห้องไอ้จอม” เกือบหลุดขำกับข้อห้ามสุดท้าย “พูดจริงๆ นะ ไม่อยากไปแล้ว”

   “กลอยรู้ ว่าพี่โชเรียนเก่ง แป๊บเดียวก็จบ” งานอวยขอให้บอก ไอ้กลอยถนัด “รีบๆ กลับมานะ”

   “ครับ พี่จะรีบกลับ” จู่ๆ น้ำตาก็ทะลักออกมาโดยที่ยั้งไม่อยู่ พี่โชยกมือเช็ดแล้วเช็ดอีกก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดไหล “ร้องแบบนี้ พี่ไม่อยากไปแล้วเนี่ย”

   “ไม่ร้องแล้วก็ได้” ตอบเสียงสะอื้น ตอนนี้แสบหน้าไปหมด

   “พี่โอนเงินใส่บัญชีกลอยไว้ ถ้าจำเป็นต้องใช้ ก็ใช้ได้เลย ส่วนบัตรเครดิต พี่เพิ่มวงเงินให้แล้ว พี่ไม่อยู่แบบนี้อย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย สินค้าออนไลน์ก็เพลาๆ ลงบ้าง เห็นนะว่าเพิ่งสั่งของไปน่ะ”

   อูย อุตส่าห์แอบไปแล้ว ทำไมยังจับได้อีก

   ผมยิ้มแห้งๆ ส่งคืน คราบน้ำตาบนแก้มก็ถูกชายแขนเสื้อของพี่โชเช็ดออกจนหมด ระหว่างที่เราคุยกันอยู่ เสียงประกาศบอกเที่ยวบินของพี่โชก็ดังขึ้น ผมกับพวกพี่จอมเดินตามหลังพี่โชไปหาครอบครัว คนจะเดินทางยกมือไหว้พ่อกับแม่ตัวเอง ก่อนหันมาไหว้แม่ของผมพร้อมกับพี่กิ่ง และไม่ลืมเดินมากอดผมแล้วจูบปากส่งท้าย

   “ดูแลตัวเองด้วยนะ”

   “พี่โชด้วย เดินทางปลอดภัยนะ รีบๆ กลับมา”

   “ครับ” ส่งยิ้มให้ผม ก่อนหันไปหาพ่อตัวเอง “ฝากด้วยนะครับพ่อ”

   “ไม่ต้องห่วง จะดูแลให้”

   ทุกคนโบกมือโบกไม้ส่งให้พี่โชที่เดินหายเข้าไปด้านใน...แค่นี้ก็คิดถึงแล้วอะ แล้วอีกกี่วัน กี่ปีถึงจะได้เจอ ไอ้กลอยขอดราม่าสักวันได้ไหม แต่คงไม่ได้ เดี๋ยวไม่ตรงคอนเซ็ปของตัวเอง

   “เดี๋ยวพี่เขาก็กลับมาแล้วลูก” แม่ผมโอบเอวเพื่อปลอบ

   “ถ้าคิดถึงก็บินไปหาก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน อยากช็อปอยู่พอดี” พี่ชีสพูดจบก็ถูกสามีตัวเองมองแรง “ก็ปลอบใจน้องมันไง คุณก็”

   “เหรอ” ไม่ใช่แค่พี่อัล สามีพี่ชีสหรอกนะครับที่ส่งเสียงออกมา แทบจะทุกคนเลยก็ว่าได้ แต่มันก็ทำให้ผมยิ้มออกมาได้บ้าง แต่จะไม่เต็มปากก็เถอะ



   รีบๆ กลับมา กลอยประเกรียนสุดหล่อแม่นเว่อร์คนนี้รออยู่ ได้ยินไหมปีศาจ...



...TBC

ไม่อยากดราม่าเลย แต่ก็ต้องทำ เป็นดราม่าที่เป็นสไตล์ของกลอยเกรียน ให้สมกับคอนเซ็ป ความเกรียนได้ห้า ความบ้าให้ล้าน

และแน่นอนว่า ยังเหลืออีกหลายๆๆๆ ตอน ยังไม่จบนะคะ แม้จะดราม่าแบบเบาๆ ซึ่ง เรื่องนี้ ไม่มีดราม่าหนักหน่วงแน่นอน ได้เท่านี้ก็สงสารกลอยแล้ว T^T

แล้วพบกันตอนหน้าค่าาา

ขอบคุณสำหรับกำลังใจและการติดตาม ขอบคุณทุกๆ ยอดวิวเลยค่า (ก้มกราบงามๆ ที่ตัก)


ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อ้าวพี่โช เห็นกันอยู่ลัดๆ

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
พี่โช ไม่อยู่ กลอยต้องเกรียนแบบจัดหนักแน่ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-03-2019 23:08:18 โดย kenghan »

ออฟไลน์ Rateesiri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
จิ้มๆๆ :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
โอ๋ ๆ นะกลอยปะเกรียน ถ้าเหงามาอยู่กับเรานะ  :z1:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
พี่โชไม่อยู่กลอยจะก่อวีรกรรม​อะไร​อีก​หนอ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เอาล่ะรักทางไกล  :ling2:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
พี่โชไม่อยู่ กลอยหงอยแน่งานนี้

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
กลอยเกรียน  ความเกรียนได้ห้า ความบ้าให้ล้าน    ชอบบบบบบบ

ขนาดพี่โชอยู่ ยังมีคนเข้ามาแวะเวียนชอบ จีบกลอย  :serius2:
แล้วนี่ไม่อยู่ จะขนาดไหน  o22 :really2: :เฮ้อ:
พี่โช   กลอย    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
รู้สึกใจหายที่พี่โชต้องไปเรียน
ไม่รู้สิ จริงๆก็อยากให้พี่โชไปนะ แต่แบบก็กลัวคนที่จะเข้ามาในชีวิตกลอย

คนไปอยู่ต่างบ้านอ่ะไม่ค่อยมีอะไรหรอก
คนที่อยู่บ้านในสภาพใหมนี่สิน่าห่วงกว่าเยอะ
เป็นกำลังใจให้กลอยนะ
และก็ขอให้ไม่มีมาญมาผจญ
บอกเลยว่าเข็ดกับเคสเด็กผีก่อนหน้านี้ไม่หาย

แต่ก็โอเค คิดว่าพ่อพี่โชคงสัญญากับพี่โชไว้
แลกว่าถ้าพี่โชไปจะดูแลจัดการเรื่องกลอยให้
เอาเถอะอย่างน้อยก็ขอให้กลอยคิดให้เยอะขึ้น
มีอะไรก็เล่าก็พูดออกมาน่าจะโอเคแล้วล่ะ

ไม่รู้ว่าดราม่าและความหน่วงนี้จะยาวนานแค่ไหน
แต่ถ้าน้องคนเขียนบอกว่าจะไม่ดราม่าในประเด็นแรง เราก็จะไม่หนีไปพักใจ จะอยู่ไปเรื่อยๆอ่านทุกตอนตามติดเกรียนไปแบบนี้ล่ะะะะะ

เป็นกำลังใจให้เสมอนะจ้ะ(^^)

ออฟไลน์ AutoAngels

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านตอนล่าสุดแล้วเศร้าเลย55555มาต่ออีกนะคะเป็นกำลังใจให้กลอยประเกรียนนะ555

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอ๊ยยย เสียใจค่ะ น้ำตามาแล้ว
สงสารทั้งคู่ แต่เป็นช่วงเวลาพิสูจน์กันไปในตัวนะ
ขนาดอยู่ใกล้ยังมีคนเข้ามา อยู่ห่างก็ต้องเข้มแข็งล่ะ

ตอนแรกยังคิดว่าโชจะรอกลอยก่อน แต่คงมีเหตุผล
กลอยน่าเอ็นดูมาก รักขนาดนี้ อย่าไปเผลอสนิทใครเข้าล่ะ

เชื่อว่าโชคงฝากคนทางนี้ดูแลไม่ห่างแน่นอน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด