#คนที่นอนข้างกันในวันอาทิตย์ : Epilogue: อาทิตย์สุดท้าย (08/05/19)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #คนที่นอนข้างกันในวันอาทิตย์ : Epilogue: อาทิตย์สุดท้าย (08/05/19)  (อ่าน 71256 ครั้ง)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
นั่นนนน คู่นี้มีซัมติง จริง ๆ ด้วย

ออฟไลน์ babybaphomet

  • Baby Baphomet
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • Twitter
5th Sunday
#คนที่นอนข้างกันในวันอาทิตย์




กฤติเห่อแทนใจแบบที่นรินทร์รู้สึกรำคาญ




ทุกวันนี้อีกฝ่ายทำให้เขานึกถึงพวกคนที่เพิ่งเคยเลี้ยงหมาเข้าไปทุกที ขนาดวันที่แทนใจมาสายจนเกือบจะประชุมไม่ทัน หัวหน้าแผนกยังแค่ยิ้มให้แบบใจดีแถมด้วยการกล่าวตักเตือนนิดหน่อยเท่านั้น ลองเป็นเขาสิ ถ้ามาสายแบบนั้นน่าจะโดนเหน็บแนมตั้งแต่เช้ายันเย็นแน่นอน




“คุณไม่ยุติธรรมเลย”




นรินทร์พูดออกมาทันทีเมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อกลางวัน วันนี้เป็นวันศุกร์สบายๆ ตอนที่เขากำลังนั่งคุยงานกับกฤติอยู่นั้น เด็กแทนใจมาเคาะประตูถามเฉยๆ ว่าจะฝากซื้ออะไรมั้ยเพราะเจ้าตัวกำลังจะลงไปซื้อกาแฟทานข้างล่าง แค่นั้นคุณหัวหน้าแผนกกลับยิ้มอยู่นั่น เหมือนคนที่เพิ่งมีลูกหมาตัวแรกในชีวิตอย่างไรอย่างนั้น




“อะไรของคุณ?”

“คุณไม่ยุติธรรม”




กฤติขมวดคิ้วเมื่อคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม วันนี้เขามีประชุมจนถึงเกือบสามทุ่ม พอออกมาตั้งใจว่าจะเอากระเป๋ากับของในห้องทำงานแล้วค่อยขับรถกลับบ้าน ก็เจอนรินทร์ นั่งรออยู่ พอถามถึงได้รู้ว่าวันนี้ลูกสาวไปเข้าค่ายต่างจังหวัด เลยจะขอไปนอนด้วย กฤติเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร




“แค่แทนใจคุยด้วยนิดเดียวคุณก็ยิ้มแล้ว พอเป็นผมพูดบ้างคุณปาถั่วใส่หน้า อะไรเนี่ย ไม่แฟร์เลย”

“คุณเป็นแทนใจเหรอ?”

“ไม่ใช่”

“แล้วทำไมผมต้องแคร์?”




ชายหนุ่มถามแค่นั้นแล้วสนใจโทรศัพท์มือถือต่อ คิ้วของหัวหน้าหนุ่มขมวดมุ่นเมื่อคนที่ทักมาวันนี้ไม่มีทีท่าจะหยุดประเด็นสนทนาง่ายๆ น่ารำคาญจริง



“คุณทำร้ายหัวใจลูกน้องแบบนี้ได้ไงเนี่ย ผมเสียใจนะ”

“...”

“จะร้องไห้แล้ว”

“...”

“นี่เศร้านะ”

“...”

“นี่คุณยังอยู่บนโลกหรือเปล่าเนี่ย?”




นรินทร์หันหน้าไปถามคนข้างๆ วันนี้รถติดมากเนื่องจากเป็นวันศุกร์ปลายเดือน แถมยังเป็นเส้นที่มีการทำถนน ดังนั้นการที่รถของพวกเขาจะยังไม่ไปไหนทั้งที่ดึกแล้วถือว่าไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมายเลยแม้แต่น้อย




“คุณกฤติ?!”

“ครับ?”

“ทำไมคุณไม่ตอบผม?”

“เวลาที่มีคนมาพูดจาไร้สาระด้วย ผมจะไม่ฟังทันทีน่ะครับ มันไม่มีประโยชน์”




โอโห เจ็บกว่าโดนไล่ออกอีก




โน้ตคิดในใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาเหยียบคันเร่งเมื่อรถคันหน้าเริ่มเคลื่อนตัว ในขณะที่กฤติวุ่นวายอยู่กับโทรศัพท์มือถือของตัวเอง นรินทร์นั้นยุ่งกับความคิดที่ว่าเขาไร้สาระขนาดที่อีกคนไม่ฟังเลยเหรอ? เฮ้ย บ้าหน่า ขนาดน้องนิ้งลูกสาวยังบอกว่าเขาเป็นพ่อที่ดีที่สุดที่เคยมีมาเลยนะ




ลูกสาวเขาเคยมีพ่อแค่คนเดียวเท่านั้น และนรินทร์คือที่หนึ่ง จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดหนึ่งคน

 


“คุณหิวมั้ย?”




เจ้าของรถถามขึ้นมา กฤติกดปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วยัดเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง บางครั้งเขาก็อยากปิดมือถือบ้าง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานั่งรับรู้งานหรือแม้แต่เรื่องที่ไม่ใช่งานแต่รบกวนเวลาส่วนตัวแบบนี้




ถึงแม้จะเป็นรถของเขาแต่วันนี้นรินทร์เป็นคนขับ โดยที่เจ้าตัวให้เหตุผลว่าอยากลองรถยุโรปบ้างเพราะของตัวเองเป็นรถญี่ปุ่น ซึ่งถึงแม้จะไม่เข้าใจเท่าไหร่นักแต่กฤติคิดว่าเขาไม่ควรถือสาคนบ้าเลยยอมเลยตามเลย ซึ่งก็จัดเป็นเรื่องดีเพราะเขาจะได้มีโอกาสตอบอีเมลกับแชทด้วยเลย




“หิว”

“จะแวะทานอะไรก่อนเข้าห้องมั้ยครับ?”

“คุณอยากกินอะไร?”




นรินทร์หันหน้ามามองคนข้างตัว เขามองกฤติที่กัดริมฝีปากแล้วเหลือบตาขึ้นด้านบนเหมือนกับกำลังใช้ความคิด เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น สีหน้าของอีกคนก็กลับมานิ่งอย่างเคย




“ไม่ล่ะ คุณอยากกินอะไร?”

“คุณ”

“...”

“ผมอยากกินคุณมากเลย เฮ้ยคุณ เราจอดข้างทางเลยได้มั้ย? ผมมีถุงยางในกระเป๋าเสื้อ คุณมีเจล-- โอ๊ย!”




ก่อนที่นรินทร์จะได้สานต่อสิ่งที่ตัวเองคิด กฤติตะปบมือไปบนขาอ่อนของอีกคนแล้วหยิกจมเนื้อ ยังดีที่นรินทร์มีสติมากพอที่จะไม่หักรถออกข้างทาง ไม่งั้นกฤติกับเขาได้ไปประชุมแผนกต่อในสวรรค์แน่




นรินทร์มั่นใจว่าถ้าเอาเสือกับสิงโตมาสู้กันนะ กฤติชนะแน่




จะดุไปไหนวะ




“คุณจะเล่นเกมพนันอะไรของคุณไม่ใช่หรือไง?”




เสียงนิ่มๆ ของหัวหน้าแผนกถามขึ้นมา นรินทร์ที่กำลังแอบใส่เขาให้กับหัวหน้าในใจถึงกับหยุดทุกอย่างกลางคัน แล้วหันมาสนใจคนที่นั่งอยู่ด้านข้างแทน




“ก็ใช่…”

“ชนะพนันให้ได้สิ แล้วจะทำอะไรค่อยทำตอนนั้นเอาละกัน”




นรินทร์หมายมั่นปั้นมือในใจเป็นรอบที่ร้อย ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องเป็นผู้ชนะให้ได้





 

------- Sunday In Bed -------




“พี่โน้ต หวัดดีครับ”

“ไงเรา มาเช้านะเนี่ย”




โน้ตรับไหว้ซุกซน เด็กในแผนกที่เอ่ยทักในเพนทรี่ ซุกซนเป็นเด็กหน้าจีน ติดจะขาวเหลืองและพูดเสียงดัง ยังดีที่เด็กนี่รู้ว่าตอนไหนควรเล่นและตอนไหนไม่ควร จึงไม่ได้ทำให้เขาหรือคนอื่นในแผนกรู้สึกว่าโดนปีนเกลียวเท่าไหร่




ตอนแรกนรินทร์นั่งกินข้าวอยู่กับคนที่เขากอดก่ายอยู่เมื่อคืน แต่อีกฝ่ายลุกขึ้นไปซื้อโกโก้ร้อน จึงเหลือเพียงแค่จานข้าวกับแก้วน้ำวางไว้เท่านั้น สิ่งที่เขาไม่เคยเข้าใจก็คือทำไมกฤติถึงได้ขึ้นมาข้างบนเพื่อวางกระเป๋า แล้วต้องลงไปซื้อของข้างล่างอีกรอบ ไม่ยอมซื้อให้จบในทีเดียว




ไลน์!




ไลน์แจ้งเตือนจากโทรศัพท์ที่เขาไม่ได้สนใจมาสักพักดังขึ้น เมื่อนรินทร์หยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นไลน์แผนกของพวกเขาเอง เปิดจากหัวหน้าแผนกที่ลงไปซื้อของกิน




Sales Co Team (18)

คุณกฤติ : วันนี้ผมอนุโลมให้เป็นประชุมตอน 10:00 แทนนะครับ

คุณใหม่ : ใหม่รักพี่กฤติค่ะ ฮืออออ

คุณฝน :  ตอนนี้น้ำหน้าบ้านฝนท่วมสูงกว่าเงินเดือนอีกค่ะ

คุณฝน : ว่าจะรอน้ำลดก่อนแล้วค่อยออก ขอบคุณที่เลื่อนประชุมนะคะ

คุณฝน : *สติกเกอร์ขอบคุณ*

ซุกซน : *สติกเกอร์โอเค*

คุณกฤติ : ตามนั้นครับ



 

นรินทร์เลิกคิ้ว รอยยิ้มมุมปากของชายหนุ่มค่อยๆ ปรากฏขึ้นเมื่อเขานึกอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้



 

คุณโน๊ต :*รูปภาพสวัสดีวันจันทร์*



 

กรุ๊ปแชทเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่คนเป็นหัวหน้าจะมาปิดแชท



 

คุณกฤติ : แต่วันนี้ใครป่วยไม่มีใบรับรองแพทย์ มาคุยกับผมในวันอังคารด้วยนะครับ



 

ในกรุ๊ปมีแค่นั้น ส่วนในแชทส่วนตัวของคุณนรินทร์นั้น มีข้อความใหม่ล่าสุดจากหัวหน้าแผนกพิมพ์เอาไว้



 

คุณกฤติ: คุณนรินทร์

คุณกฤติ: กวนตีนครับ



 

นรินทร์ยิ้มกว้าง แหม่ ให้ตาย เขานี่รักวันจันทร์จริงๆ เลย




หลังจากนั้นนรินทร์ก็นั่งกินข้าวของตัวเองไป โดยมีเด็กซุกซนชวนคุยไปเรื่อย เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งประตูห้องเพนทรี่เปิดออกพร้อมกับผู้มาใหม่สองคน




ท่าทางพระเจ้าจะแทงพนันข้างเขาหมดหน้าตัก นรินทร์ยิ้มย่องในใจเมื่อเห็นเมฆเดินนำแทนใจเข้ามาพร้อมกับถุงอาหารในมือ รอยยิ้มใจดีของเมฆที่มีให้กับแทนใจ พร้อมทั้งท่าทางเอ็นดูอีกฝ่ายอย่างออกนอกหน้าเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นตาสำหรับนรินทร์มากนัก




“อ้าว ซุกซน”

“ทักเหมือนเห็นผี นี่เพื่อนเอง”




 นรินทร์กินข้าวตรงหน้าอย่างเงียบๆ ด้านข้างของเขามีซุกซนที่กำลังคุยกับแทนใจแบบกัดกันเหมือนปกติ ส่วนเมฆนั้นเดินไปที่ตู้เพื่อหยิบชามสองใบมาวางไว้บนโต๊ะ ใกล้ๆ กับพวกเขา แล้วเริ่มลงมือเทโจ๊กสองถุง ของตัวเอง และของแทนใจ




“คุณเมฆ เทให้ผมทำไมเนี่ย” แทนใจโวยวายขึ้นมา ในขณะที่เมฆนั้นเพียงแค่ยิ้มใจดีให้อีกคน แล้วตอบกลับไป

“ก็คุณมาช้าไง ผมกลัวมันเย็น”

“พระเอกมาก!!”




ซุกซนชงคู่นี้แล้วปรบมืออย่างคึกคัก โน้ตเก็บจานของตัวเองไปวางไว้บนซิงค์ล้างจานหลังจากที่ทานเสร็จ เมื่อคิดอะไรดีๆ ได้ ชายหนุ่มจึงหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพตรงหน้าอย่างว่องไว แล้วแอบส่งไลน์หาอีกคน




นรินทร์ : คุณกฤติ

นรินทร์ : กระต่ายของคุณอยู่กับหมาเมฆนะ

นรินทร์ : *รูปภาพเมฆกับแทนใจ*




ตามปกติแล้วนรินทร์ไม่ใช่คนที่จะมาแอบถ่ายภาพคนอื่นแล้วส่งในแชทแบบที่พวกผู้หญิงในแผนกชอบทำกัน แต่วันนี้เขายอมแหกกฎตัวเองเล็กน้อย เพื่อเหตุผลเดียวเท่านั้น คือกวนประสาทกฤติ




ช่วยไม่ได้ ใครใช้ทำให้ตัวน่าแหย่แบบนี้กันล่ะ




“พี่โน๊ตนี่โชคดี ได้แฟนดี ลูกก็น่ารักด้วย”



 

นรินทร์เงยหน้าจากจอโทรศัพท์เมื่ออยู่ดีๆ ซุกซนก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย อาจจะเพราะเด็กนี่เห็นเขาเอาข้าวกล่องมากินตอนเช้าบ่อยครั้งเลยเอ่ยแซวขึ้นมา ชายหนุ่มบอกปัด



 

“ไม่ขนาดนั้นหรอก เวอร์ไป”



 

ทั้งที่พูดแบบนั้น แต่เด็กในแผนกก็ยังคงไม่ยอมปล่อยประเด็นนี้ให้หลุดลอยไป ซุกซนยังคงพูดเรื่องเดิมซ้ำอยู่แบบนั้น โดยมีแทนใจพยักหน้าสนับสนุน ส่วนเมฆเอาแต่มองแทนใจ จนเขาอยากจะเข้าไปถามว่าจะกินน้องแทนข้าวเลยหรือไม่?



 

“จริงนะพี่ ถ้าแฟนผมทำข้าวมาให้บ้างนี่โคตรรัก จะขอแต่งงานวันพรุ่งนี้เลย เขาเหมาะจะอยู่กับเราไปทั้งชีวิต”




นรินทร์ปล่อยให้พวกเด็กๆ คิดว่าเขามีแฟนทำกับข้าวให้โดยไม่คิดจะแก้ไขความเข้าใจผิดนั้น ตามปกติแล้วเขาทำกับข้าวทานเองที่บ้าน ทำให้ลูกสาว เคยเกือบจะทำให้หัวหน้ากินด้วยเหมือนกัน ถ้าไม่ติดว่าห้องของอีกคนครัวใหม่จนเหมือนไม่เคยใช้งานมาก่อนเลย ไม่มีวัตถุดิบอะไรที่พอจะหยิบจับขึ้นมาใช้งานได้เลยจริงๆ

 



“คุยกันสนุกเลยนะ”



 

คนที่นรินทร์รอคอยมาแล้ว กฤติเดินเข้ามาด้วยท่าทางนิ่งๆ แต่นรินทร์รู้ดีกว่านั้น อีกคนแทบจะไม่มองไปทางไหนเลยนอกจากฝั่งของแทนใจ



 

“พี่กฤติ หวัดดีครับ”

“ครับ”



 

ชายผู้มาใหม่พยักหน้ารับซุกซนที่ยกมือไหว้ แต่พอหันไปมองแทนใจ หัวหน้าแผนกก็เผยรอยยิ้มออกมา ซึ่งนั่นทำให้นรินทร์เบ้ปาก มันเหมือนคนที่เพิ่งจะได้กลับบ้านไปเจอลูกหมาที่เลี้ยงไว้ไม่มีผิด



 

“คุณกฤติ สวัสดีครับ”

“สวัสดีครับ แทนใจ”



 

กฤติถามไถ่แทนใจที่พูดนั่นพูดนี่ไม่หยุด พร้อมกับเอามือลูบหัวกระต่ายไปด้วย เขาชอบเวลาเห็นเด็กคนนี้พูด ถึงแม้จะไม่ได้ฟังเลยก็ตามว่าแทนใจพูดอะไรบ้าง เพราะส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องไร้สาระ



 

ถึงแม้จะไม่ค่อยมีสติ แต่แทนใจจัดว่าเป็นความน่ารักในแผนก



 

“แทนใจรีบกินสิ เดี๋ยวเย็นแล้วไม่อร่อยนะ”

“คุณเมฆกินเร็วมากเลย”

“ผมไม่ได้เร็ว เราน่ะช้านะ”

“เดี๋ยวเราต้องไปประชุมนี่ เห็นเมื่อกี้ยังบ่นอยู่เลย”

“โอ๊ยยยยย จริงด้วย”



 

เป็นเมฆที่ดึงความสนใจของแทนใจกลับไปอยู่กับตัวเองอีกครั้ง ซึ่งกระต่ายของแผนกก็ไม่ได้มีท่าทีรู้เรื่องราวอะไร นรินทร์แอบยิ้มอยู่ใน ตอนที่ไม่มีใครสังเกต นรินทร์ก้มลงพิมพ์ไลน์หาคนที่เขาเพิ่งจะแชทหาเมื่อสักครู่ ก่อนที่จะหันไปยักคิ้วให้เมื่อเห็นว่าอีกคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากวาดตามอง แล้วหันมาขมวดคิ้วให้เขา



 

นรินทร์ : เตรียมถุงน่องรอเลยมมั้ยคุณ?

นรินทร์ : *รูปภาพสวัสดีวันจันทร์*




“อ้าว รู้ด้วยเหรอว่าประชุมคืออะไร ไม่เคยเห็นคุณเข้าเลยนะครับ”



 

ตอนนี้กฤติเงยหน้าขึ้นไปขัดเมฆกับแทนใจที่กำลังคุยงุ้งงิ้งกันอยู่ ยิ่งมองหน้าเมฆชายหนุ่มยิ่งหงุดหงิด เขาเกลียดไอ้หน้าหล่อต่างแผนกนี่จริงๆ ไม่เหมาะสมกับแทนใจเลยสักนิด




ใบหน้าหล่อเปลี่ยนโฟกัสจากกระต่ายเป็นเสือของแผนกเซลล์ เขาจ้องตาคนรู้จักกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้



 

“อรุณสวัสดิ์พูดแบบนี้นะคุณกฤติ”



 

ทุกคนนั่งหลังตรงเมื่อรู้สึกกระแสความไม่พอใจของเมฆที่ถูกแขวะ แต่อาจจะยกเว้นแทนใจไว้สักคน เพราะรายนั้นหันซ้ายหันขวาไปมาไม่รู้เรื่องอะไร ซึ่งกฤติเองก็รู้สึกได้ ท่าทางเหมือนกับจะมีน้ำโหของชายหนุ่มต่างแผนกนั้นคือสิ่งที่กฤติไม่คาดไว้ เมฆรู้ดีว่าเขาเอ็นดูแทนใจ ตอนที่เจอแทนใจครั้งแรกนั้นท่าทางของเมฆยังไม่ชัดเจนเท่านี้

 



ชั่วขณะหนึ่ง กฤติรู้สึกว่าโปรเจคเมเนเจอร์คนนี้อาจจะออกตัวจีบแทนใจจริงจัง แต่ด้วยความที่ไม่อยากแพ้และหมั่นไส้เมฆเป็นทุนเดิม ชายหนุ่มเลือกที่จะพูดตอบอีกฝ่ายอย่างเผ็ดร้อน



 

“โปรเจคเมเนเจอร์ทำงานอยู่ชั้นบนนนี่ครับ มานั่งตรงนี้ทำไม”



 

กฤติยิงคำถามไปที่อีกคน ซึ่งมองกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงแม้พวกเขาจะพูดกันด้วยเรื่องอื่น แต่แววตาที่จ้องมองกันสื่อความหมายที่ลึกกว่านั้น




ท่าทางการออกตัวชัดเจนของอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นตา เขารู้จักเมฆดี ในบางมุมอาจจะมากกว่าที่เจ้าตัวรู้จักตัวเองอีกด้วยมั้ง ถ้าเมฆไม่สนใจ หรือแค่คิดว่า น่ารักดี ล่ะก็ ชายหนุ่มไม่มีทางเอาตัวเองเข้ามาวุ่นวายกับแทนใจแบบนี้แน่นอน



 

“ปกติ MD ต้องเอาเวลาตอนเช้าไปเตรียมประชุมไม่ใช่เหรอครับ ไปเถอะ เดี๋ยวทำไม่ทันนะ”

“ผมเตรียมแล้วครับ เพราะเรามีประชุมทุกสัปดาห์ ไม่เหมือนบางแผนกที่ไม่ค่อยทำงานน่ะครับ ไม่เคยเห็นใช้ห้องประชุมเลย”

“เรามีนวัตกรรมที่เรียกว่า VDO conference แล้วนะครับ เผื่อคุณยังไม่รู้”




เมื่อเห็นว่าถ้ายังอยู่ตรงนี้ต่อไป กฤติคงจะเถียงกับเมฆจนวันนี้ไม่ได้ทำงานแน่ นรินทร์จึงพูดแทรกขึ้นมา



 

“คุณกฤติครับ ช่วยดูพรีเซนท์ให้ผมหน่อยครับ”



 

โชคดีที่กฤติยอมพยักหน้าแล้วเดินตามนรินทร์ออกมาทั้งที่มันเป็นแค่ข้ออ้าง ไม่มีพรีเซนท์อะไรทั้งนั้น กฤติก็คงรู้ว่าถึงอยู่ต่อไปก็ไร้ประโยชน์เลยยอมออกมาง่ายๆ



 

นรินทร์เป็นฝ่ายเดินนำเข้ามาในห้องทำงานของอีกคน ก่อนที่กฤติจะเดินตามแล้วปิดประตู ยังไม่ทันที่เขาจะเดินผ่านอีกคนไปนั่งที่เก้าอี้อย่างที่ตั้งใจ ข้อมือของกฤติก็ถูกอีกคนกำเอาไว้แน่น คนที่เป็นหัวหน้าขมวดคิ้วมองอีกคนอย่างไม่พอใจ ซึ่งนรินทร์ไม่ได้มีท่าทางสะทกสะท้าน



 

“คุณ--”

“โอเคผมแพ้ ผมรู้แล้วไม่ต้องย้ำ”



 

นรินทร์ที่กำลังจะพูดว่า ‘คุณรอดูตอนเอ้าท์ติ้งได้เลย ผมชนะแน่นอน’ เบรกตัวเองทันที ในขณะที่กฤติไม่ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของอีกคนมากนัก เขามองพื้นด้วยท่าทางเซ็งๆ แล้วเป็นฝ่ายพูดต่อ

 

“ถ้าเมฆเขาทำขนาดนี้ก็คงจริงจังแล้วแหละ”

“...”

“คุณจะเอาอะไรของคุณนะ?”

“ถุงน่อง”



 

นรินทร์พูดทันทีโดยไม่ต้องรอให้อีกคนพูดซ้ำ โอกาสมาอยู่ตรงหน้ามีหรือเขาจะไม่รีบคว้าไว้ เพียงแค่คิดว่าเขาจะได้เห็นอีกฝ่ายในถุงน่องเร็วกว่าที่คิดนี่นรินทร์ก็แทบจะจับแทนใจประเคนใส่ปากให้เมฆเดี๋ยวนี้



 

“ครั้งนี้ผมชนะ คุณกันเมฆออกไปไม่ได้ คุณแพ้”

“บอกว่ารู้แล้วไงครับ”



 

กฤติปลดข้อมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของอีกคน ชายหนุ่มเดินอ้อมไปนั่งที่เก้าอี้ประจำตำแหน่ง ไขว่ห้างมองนรินทร์ที่ทรุดตัวนั่งตรงข้ามอย่างไม่เกรงกลัว ไม่ได้กังวลแม้ว่าตัวเองอาจจะต้องโดนคำสั่งพิลึกพิลั่นจากคนที่ไม่ปกติที่สุดในโลกของกฤติ



 

เขาเกลียดผู้ชายกวนประสาทที่นั่งทำหน้าหื่นอยู่ตรงข้ามชะมัด ไม่ต้องอ่านใจก็รู้ว่าหมอนี่ต้องคิดอะไรไม่ดีอีกแน่



 

“คืนนี้คุณใส่ถุงน่องนะ”

“...”



 

กฤติไม่ได้ตอบอะไร แม้ในใจจะมีคำด่ามากมายหลายร้อยคำ



 

“ผมอยากเห็นคุณใส่ถุงน่องตาข่ายแล้วเอาขาพาดตักผม แบบถ่างขาเป็นรูปตัวเอ็มน่ะ แล้วเอาเท้าวางบนตักผม โหย แค่คิดก็ฟินแล้ว”

“...”

“จัดจ้านในบ้านนรินทร์”



 

ไล่มันออกตอนนี้ทันมั้ย? กฤติได้แต่สงสัยในใจ



 

“คุณแพ้นะ ยังไงคุณก็ต้องทำ”

“อะไรก็ได้” กฤติโบกมือปัดเรื่องไร้สาระออกไปจากหัวสมอง “คุณออกไปได้แล้ว อีกสิบนาทีประชุมแผนก”

“ได้ แต่ก่อนไป…”

 



ฉับพลันโลกของกฤติก็มืดลง เขาคิดไม่ถึงว่าคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจะหุนหันลุกขึ้นมาประชิดตัว มือของคนเป็นลูกน้องเชยคางอีกคนขึ้นมาแล้วจับประกบปากอย่างรวดเร็ว รสชาติน้ำหวานในปากของกฤตินั้นทำให้นรินทร์ยิ้มทันทีที่ได้ลิ้มรส



 

โกโก้ใส่น้ำตาล เมนูเด็กน้อยเสียจนเขาคาดไม่ถึง



 

“หวานว่ะคุณ”



 

นรินทร์ที่ละริมฝีปากออกมาพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่น่าเกลียดมากในสายตาของกฤติ



 

“รสโกโก้ด้วย”

“...”

“ทำให้ผมนึกถึงโอวัลตินโรงเรียนสมัยประถมเลย คุณนี่ชอบเมนูเดียวกับเด็กปอสี่”

“...”

“ตอนนั้นผมชอบแกล้งเปิดกระโปรงเพื่อนผู้หญิงในห้อง ตอนนี้ผมเปิดกระโปรงคุณอย่างเดียว เออคุณ รอบหน้าคุณใส่กระโปรงนักศึกษา--โอ๊ย!”

 



ก่อนที่นรินทร์จะได้แชร์ประสบกามของตัวเองไปมากกว่านี้ เขาก็โดนกฤติบิดเนื้อตรงขาเสียจนมั่นใจว่ามันต้องเขียว

 





คอยดู รอบหน้าเขาจะต้องชนะ

ถ้ากฤติไม่ได้ใส่กระโปรงนักศึกษา อย่าเรียกเขาว่านายนรินทร์ นิ้วกลาง!



 


 

------- Sunday In Bed -------
[/b]

ต่อด้านล่างนะคะ

ออฟไลน์ babybaphomet

  • Baby Baphomet
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • Twitter
ต่อนะคะ


------- Sunday In Bed -------

เวลาไหนผ่านอย่างรวดเร็วเกินไปในความคิดของกฤติ



 

เพียงแค่ชั่วครู่ก็ถึงเวลาเลิกงาน ซึ่งวันนี้เขามีนัดกับเพื่อนเล่นที่มักจะเอาตัวเองเข้ามาวุ่นวายเยอะเกินจนน่าหมั่นไส้ กฤติยังจำวินาทีที่เข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลขหกได้ เมื่อเลิกงานปุ๊บไลน์เขาก็เด้งตลอดจนกฤติต้องเปิดอ่าน ซึ่งในนั้นก็มีแต่ข้อความทวงสัญญา



 

แถมยังมีหน้ามาบอกว่าตัวเองขับรถออกไปซื้อถุงน่องมาให้แล้วด้วย




“เฮ้อ”

 



กฤติถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยได้ เขามองกระจกด้วยใบหน้านิ่งสนิท แต่ในใจมีความรู้สึกหลายอย่างผสมปนเปกันเสียจนเขาแยกออกมาไม่ออก แต่ที่เด่นสุดๆ ก็คงเป็น…



 

ความกระดากอาย



 

หลังจากที่เขาแพ้พนันให้กับปีศาจในคราบลูกน้อง กฤติก็ต้องจำยอมยัดตัวเองเข้าไปในถุงน่องที่อีกฝ่ายกระเหี้ยนกระหือรือให้ใส่อย่างเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องไร้สาระ แต่แพ้ก็คือแพ้ เขาจะไม่ผิดสัจจะในคำพูดตัวเอง



 

ทั้งที่ตอนนี้กฤติอยู่ในห้องน้ำด้านในคอนโดฯของตัวเอง แต่เขากลับรู้สึกไม่คุ้นเคย ชายหนุ่มมองสะท้อนเงาในกระจกได้เพียงเสี้ยววินาทีก็ต้องเบือนหน้าหนีออกมา สภาพตัวเองที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตสีอ่อนที่ใส่มาตั้งแต่เช้า กับกางเกงชั้นในขาสั้น และถุงน่องตาข่ายสีดำ ช่างน่าอดสู่ในความคิดชายหนุ่ม



 

อยากจะฝังตัวเองลงไปในดินชะมัด

 

แต่เหมือนนรินทร์จะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น



 

“จะอยู่ในนั้นจนถึงปีหน้าเลยหรือไง ออกมาข้างนอกสักทีสิคุณ”

“...”

“ผมอยากฉีกถุงน่องคุณแล้ว”



 

ก่อนที่มันจะได้ฉีกถุงน่อง เขาจะฉีกอกนรินทร์ก่อน!



 

ถึงแม้ในใจจะคิดแบบนั้น แต่สุดท้ายกฤติก็รวบรวมความกล้า ค่อยๆ แง้มประตูห้องน้ำออกไปข้างนอก กฤติเลือกห้องนอนแบบที่เชื่อมกับห้องน้ำในตัว เผื่อว่าเวลาที่ตื่นมาจะได้ไม่ต้องปิดเปิดประตูวุ่นวาย แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าตัวเองอาจจะไม่ได้คิดถูกมากนัก เมื่อออกจากห้องน้ำไป เขาจะเจอเตียงเป็นอย่างแรก และตอนนี้กฤติเห็นนรินทร์นั่งห้อยขาส่งยิ้มกวนประสาทอยู่บนเตียงของเขาที่ถูกปูด้วยผ้าปูที่นอนลายการ์ตูนสีม่วง



 

“คุณแม่ง โคตรเซ็กซี่”

 



นรินทร์เด้งตัวออกจากเตียงทันทีที่กฤติออกมาจากห้องน้ำ ใครจะไปคิดว่าหัวหน้าแผนกที่ใส่สูทผูกไทตลอดเวลา จะสามารถดูน่าขยำในถุงน่องตาข่ายขนาดนี้ ให้ตาย นี่มันดีกว่าหนังโป๊ในมือถือที่มีอยู่อีกนะเนี่ย



 

“...”

“มานี่สิคุณ”



 

นรินทร์ดึงอีกคนเข้ามาใกล้ๆ กฤติยังคงทำหน้านิ่งเหมือนตอนที่นั่งอยู่ในห้องประชุม แต่ใบหูของอีกคนขึ้นสีจางๆ ยิ่งพอมาใกล้ๆ นั้นโน้ตก็รับรู้ได้ว่าใบหน้าที่เขาเคยเห็นว่านิ่ง ในแววตานั้นมีความสั่นไหวเล็กน้อย



 

น่ารักสัด



 

กฤติเป็นความอันตราย...ที่น่ารักฉิบหายเลยไอ้สัด!



 

“คุณ…”



 

ยังไม่ทันที่กฤติจะพูดอะไร เขาก็ถูกสุนัขหมาป่าในคราบลูกน้องประกบจูบอยย่างกระหาย มือใหญ่ปัดป่ายไปทั่วตัวเหมือนคนควบคุมตัวเองไม่อยู่ โน้ตที่ปกติจะขี้เล่นนั้น วันนี้กลับดูเป็นคนละคน



 

“คุณแม่ง… เชี่ยแม่ง ผมจะกลืนคุณทั้งคืน”



 

ถ้อยคำหยาบโลนพรั่งพรูออกมาจากนรินทร์ไม่ยั้ง กฤติรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นอาหารเลิศรสที่อีกคนเขมือบอย่างตะกละตะกลาม ทุกส่วนของเขาโดนสัมผัสอย่างเร่าร้อนและรุนแรง ถ้ามือของนรินทร์เป็นไฟ เขาคงมอดไหม้จนไม่เหลือแม้แต่ขี้เถ้า



 

“ปล่อยสิคุณ เป็นหมาหรือไงครับกัดอยู่ได้!”



 

กฤติเหวเมื่ออีกฝ่ายขบต้นขาเขาไปทั่ว ความรู้สึกกระดากอายเข้าควบคุมทุกบริเวณ ใบหน้าภายใต้แว่นยังคงเรียบนิ่ง เพียงแต่ใบหูที่แดงแจ๋กับวาจาเชือดเฉือนจากปากอีกฝ่ายเท่านั้น ที่ทำให้นรินทร์รู้ว่าอีกคนแตกต่างออกไป



“คุณๆ หันตัวมาทางนี้นิดนึง”



 

คุณพ่อลูกหนึ่งพูดคล้ายกับจะขออนุญาต หากแต่มือทั้งสองช้างยกตัวของอีกคนมาไว้กลางหว่างขาตัวเองโดยที่ไม่ถามความเห็นเลยสักนิด

 

 

“เป็นอะไรของคุณเนี่ย! เบาๆ สิ!”

“เป็นบ้าถุงน่อง”

“สมองคุณมีแต่ขี้เลื่อยกับเรื่องใต้สะดือหรือไงกันเนี่ย วันๆ ในหัวมีอะไรที่ถูกศีลธรรมมั่งมั้ย?”

“หูย ปากจัดจังเลย เมื่อเช้ายังปากหวานอยู่เลย”

“หวานที่หน้าคุณ!!”



 

นรินทร์ทำหูทวนลมกับคำต่อว่าที่ไม่ค่อยมีให้ได้ยินบ่อยนัก เขาจับขาอีกคนกางออกแล้ววางไว้บนต้นขาของตัวเอง วิวดีฉิบหาย ไม่เสียชาติเกิดเลย นรินทร์เชื่อว่าคุณพ่อต้องภูมิใจในตัวเขา



 

“คุณแม่ง เซ็กซี่ฉิบหาย ยั่วให้ขึ้นฉิบหาย”



 

ทั้งที่ขาของนรินทร์ไม่ได้เรียวสวยเหมือนกับผู้หญิง แต่กลับกระตุ้นอารมณ์ดิบของชายหนุ่มได้ดีราวกับเป็นน้ำมันที่โยนเข้ากองเพลิง



 

“ใครไปยั่วกันครับ คุณสัปดนเองมากกว่า”

“แม่งเอ๊ย โคตรขาว โคตรเอ็กซ์”



 

นรินทร์พูดพร่ำเหมือนคนเมายา เขาปล่อยเบลอทุกคำปรามาศของอีกคน สิ่งเดียวที่ตรึงความสนใจชายหนุ่มเอาไว้ได้คือร่างกายตรงหน้า โน้ตจับเท้าอีกฝ่ายมาวางบนจุดล่อแแหลมของตัวเอง



 

“คุณนรินทร์!”

“นวดให้หน่อยดิ”

“จะบ้าหรือไง”

“คุณแพ้นะ” คนที่หน้ามืดตามัวไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขามองตรงไปที่นัยน์ตาของอีกฝ่ายอย่างเหนือกว่า “คุณต้องทำตามที่ผมต้องการสิ”

“...”

“เอาเท้าคุณนวดมัน… นวดแบบนั้น"



 

กฤติอยากจะกัดลิ้นตาย นอนกับผู้ชายมาก็หลายคน ไม่เคยเลยสักครั้งที่ต้องมาใส่ถุงน่อง หรือใช้เท้าเล่นกับพวกเขา เหมือนที่นรินทร์กำลังเรียกร้องให้กับลิตเติ้ลโน้ตแบบนี้



 

“โอยคุณ… ดีมาก… แบบนั้น”

“โรคจิตนะคุณเนี่ย”

 



กฤติพูดทั้งที่ยังคงปรนนิบัติอีกคนแบบนั้น เพียงแค่ชั่วครู่ สิ่งที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาก็เปลี่ยนขนาด ไม่รู้ทำไม กฤติถึงได้รู้สึกสั่นเล็กน้อย



 

ไม่เคยมีใครมีอารมณ์ใต้ฝ่าเท้าเขามาก่อน



 

ควรจะรู้สึกดีใจหรือร้องไห้ดี?



 

“ไม่ทนแม่งแล้ว!”

“เฮ้ย!”



 

ในขณะที่กำลังขยับฝ่าเท้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ นั้น นรินทร์ก็ตะโกนแทรกความคิดของกฤติขึ้นมา ก่อนที่หัวหน้าหนุ่มจะได้โต้แย้งหรือแม้กระทั่งมีโอกาสตกใจ เขาพบใบหน้าของอีกฝ่ายอยู่ใกล้กับส่วนอันตรายใต้ถุงน่องของตัวเอง



 

คนประสาทดีที่ไหนเขาจับอีกฝ่ายแหกขาเป็นรูปตัวเอ็ม แล้วเอาหน้าตัวเองไว้ตรงกลางเป้าคนอื่นแบบนี้กัน!



 

“อึก!”

“กลั้นเสียงครางทำไม ปล่อยออกมาสิ”



 

กฤติหลับตาปี๋เมื่ออีกคนงับส่วนนั้นของเขาเบาๆ คล้ายกับจะแกล้งกัน ความทั้งอาย ทั้งโกรธ และทั้งมีอารมณ์ผสมปนเปจนเขาไปไม่เป็น หัวสมองชายหนุ่มขาวโพลน



 

หากย้อนเวลาได้ สัญญาเลยว่ากฤติจะปล่อยนรินทร์ให้นอนตายคาออฟฟิศ ไม่ไปวุ่นวายให้เปลืองตัวแบบนี้แน่นอน



 

‘แควก!’



 

เสียงน่องที่เคยถูกขอให้ใส่กลายเป็นซากอยู่ข้างเตียงสีม่วง บทรักของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นอย่างสัตว์ป่าที่หิวกระหาย ถ้อยคำต่างๆ ที่นรินทร์พูดยังคงวนเวียนอยู่ในสมองกฤติ เหมือนเทปที่ถูกกรอซ้ำๆ



 

‘‘หันก้นมานีสิคุณ ผมจะได้จับถนัด’

‘กระดกสะโพกขึ้นหน่อย’

‘อย่าปิดปากสิผมชอบฟังเสียงคุณครางนะ แม่งเซ็กซี่สัด อัดเก็บไว้ช่วยตัวเองได้มั้ย?’

‘วันนี้คุณแพ้นะ ผมสั่งอะไรคุณก็ต้องทำ อย่าผิดคำพูดสิครับเจ้านาย’



 

ชายหนุ่มโดนอีกคนรังแกจนเหนื่อยอ่อน เขาผล็อยหลับไปทั้งที่ไม่ทันรู้ตัว ก่อนที่สติจะดับวูบไป กฤติตั้งปณิธานกับตัวเองเอาไว้มาดมั่น



 

ครั้งหน้า เขาจะต้องเป็นผู้ชนะให้ได้! คอยดูแล้วกัน!



 

 

 

 

------- TBC -------






 

สวัสดีค่ะ

 

เรามาพร้อมถุงน่องแล้วนะคะ

 

ครั้งหน้าจะมาเมื่อไหร่เรายังไม่รู้จริงๆ ช่วงนี้ชีวิตเราค่อนข้างวุ่นวายด้วยหลายๆ เรื่อง หลักๆ ก็งานประจำ ส่วนตัวนิยายเองเราก็เขียนออกบ้างไม่ออกบ้าง เลยอยากจะหายไปขอปั่นก่อน เผื่อว่าจะมาอัพได้บ่อยๆ แบบที่ไม่ต้องเป็นเปอร์เซ็น หรือไม่ต้องค้างนานๆ นะคะ

 

เราไม่รู้จริงๆ ว่าเรื่องนี้จะได้เป็นเล่มมั้ย ตามตรงคือตอนที่พิมพ์อยู่นี่ก็ยังไม่รู้อะไรเลย อย่าถือสาเราเลยนะคะ เราอยากรีบอัพ รีบแต่ง แล้วก็คุยกับทุกคนอย่างแฮปปี้เหมือนที่เคยเป็น แต่ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าจะมีเล่มมั้ย จะมาอัพอีกครั้งเมื่อไหร่ จะเขียนจบหรือเปล่า จะดองแล้วโดดน้ำตายไปเลยมั้ย ไม่รู้จริงๆ ไม่อยากสัญญาเพราะกลัวว่าจะทำไม่ได้ค่ะ

 

ขอบคุณมากๆ ที่อ่านจนถึงตรงนี้ค่ะ

 

แล้วพบกันใหม่นะคะ

 

Baby Baphomet

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
สู้ๆ นะคะคนแต่ง

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ผู้ใหญ่เค้าเล่นกันสนุกดีจัง อยากไปแอบใต้เตียง

ออฟไลน์ toomild

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
คุณโน๊ตก็ขี้หื่นเหมือนกันนะคะเนี่ย แซ่บเกินเบอร์มากตอนนี้ :hao7:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
สู้ๆนะคะ คุณโน้ตหื่นจังเลยค่ะ กรั่กกๆ;-;

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ถุงน่อง...........สุดยอดดดดดดดดดด   :z1: :pighaun: :haun4:
กฤติ เซ็กซี่....  :-[
นรินทร์........ หื่นโคตร  :z3:
ให้สงสัยตอนที่อยู่กับเยตร เลเวลความหื่นจะได้หนึ่งส่วนที่หื่นกับกฤติไหม   :serius2: o22
 
รอคู่..... เมฆ  กระต่าย  :impress2:

นรินทร์  กฤติ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Panizzz3838

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 490
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
จะเป็นลมมม คูมกฤติ ฮื่อ ความหนุ่มแว่น ความควีนนี้ พรากความเมะของน้องแทนใจไปจากเรา แต่ไม่เป็นไรค่ะิแซ่บมากจนต้องร้องขอชีวิต ส่วนคุณโน้ตมาเลเซียที่ไม่ตรงปก สารภาพว่าตกใจมาก ก่อนมาอ่านก็งงว่าคุณโน้ตมีลูกเมียแล้วนี่ ทำไมมีคู่ และขอบคุณความสัปดนของคุณโน้ตที่ทำให้เราเห็นอะไรดีๆ ค่ะ กระโปรงนักศึกษารออยู่ในอนาคต  :hao6:

ออฟไลน์ piiya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-2
กรี๊ดดดดด :pighaun: เขินไปหมดแล้วค่า ชอบนรินทร์กับคำพูดหยาบโลนแบบนี้ที่ซู้ดดดด

ออฟไลน์ QueenPlai

  • twitter - @khunhappymoon gmail - JangPlailiiz@gmail.com
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เลือดจะหมดตัวแล้ววววว กี๊ดดดดดดด  :hao7: :jul1:

ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ชอบคสามแซบในตัวหัวหน้ามาก อิพี่โน็ตหื่นกว่านี้มีอีกไหมมมม

ชอบมาก ดูหัวหน้าแพ้ทางคนหื่นเวว่อร์น่ารักกกก  ชอบฟิลเรื่องนีดูโตกว่าเรื่องก่อนนิดหน่อย :haun4:
แต่ชอบรสนิยมพี่โน็ตมาก ถุงหน่องงี้ ต่อไปจะมีชุดอะไรอีกไหม รอเลย55555

ออฟไลน์ praewypn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชนะให้ได้นะคุณกฤติ อิอิ น่ารักมากค่า :o8: :-[

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
 ในคราบไอดอลของน้องแทนใจ ไม่คิดว่าพี่เมฆจะซ่อนตัวตนร้ายกาจไว้ขนาดนี้
หื่นมากค่ะ สงสารคุณกฤติเลย 5555

ออฟไลน์ mrsnikiforov

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
ครบหนึ่งปีคงมีผ้าปูที่นอนถึงร้อยเฉดสี

ถูกใจใช่เลยค่ะ


Sent from my iPhone using Tapatalk

ออฟไลน์ mrsnikiforov

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
ครบหนึ่งปีคงมีผ้าปูที่นอนถึงร้อยเฉดสี

ถูกใจใช่เลยค่ะ


Sent from my iPhone using Tapatalk

ออฟไลน์ tixjubz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ถึงกับสมัครยูสมาคอมเมนท์คุรนรินทร์ พระเอกที่กากยิ่งกว่าคนเมากาว โอ้ยนนยนนยยยยยยนนยยย :hao6:

ออฟไลน์ babybaphomet

  • Baby Baphomet
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • Twitter
6th Sunday
#คนที่นอนข้างกันในวันอาทิตย์






การเล่นเกมของพวกเขายังคงดำเนินต่อไป




ตอนช่วงวันเวลาทำงาน พวกเขาก็เป็นเพียงแค่เจ้านายลูกน้องร่วมแผนกกันปกติ แต่พอถึงตอนเย็นหรือวันอาทิตย์เมื่อไหร่นั้น พวกเขากอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างดุเดือด หลังจากที่เริ่มเล่นกันวันแรก ทุกที่คือสนามแข่ง มีผู้แพ้และชนะสลับกันไป




ตารางชีวิตของชายหนุ่มทั้งสองคนดำเนินแบบนี้มาหลายเดือน ที่เดียวที่พวกเขาจะฝากค่ำคืนเอาไว้คือห้องของกฤติ จากคอนโดฯที่เป็นระเบียบเสียจนคล้ายกับปราศจากผู้อยู่อาศัย ตอนนี้เต็มไปด้วยของมากมายที่นรินทร์ขนเข้ามาอยู่ในห้องกับหัวหน้าหนุ่มด้วย




กฤติเพิ่งจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในเช้าวันเสาร์ที่เขามองไปรอบห้อง เฟอร์นิเจอร์ที่เคยวางไว้เป็นระเบียบถูกใช้งานแทบจะทุกชิ้น ตะกร้าผ้าที่ไม่เคยมีเสื้อหล่นออกมาด้านนอกนั้น บัดนี้มีกางเกงในสีแดงห้อยอยู่ตรงหูตะกร้า แถมที่พื้นใกล้ๆ กัน ยังมีเนกไทของเขาที่ถูกอีกคนโยนอย่างไม่ใส่ใจเมื่อคืน




คืนวันศุกร์ที่ทุกคนรีบกลับบ้าน กฤติและลูกน้องของเขามา เคลียร์งาน กันที่ห้องนี้


เป็นวันศุกร์ที่สุดเหวี่ยง และทำให้ห้องของเขาอยู่ในสภาพเละเทะแบบนี้ในตอนเช้า




กฤติถอนหายใจ มือที่ใส่ถุงมือล้างจานเพื่อป้องกันความซกมกนั้น คีบเศษซากชั้นในของอีกคนเข้าไปไว้ในตะกร้าอย่างรังเกียจ เจ้าของห้องยังคงไม่เปลี่ยนสีหน้า ทั้งที่ในใจนั้นเต็มไปด้วยถ้อยคำหยาบคายที่พร้อมจะสาดใส่อีกฝ่ายทันทีเมื่อเจอหน้า




ชายหนุ่มมองไปรอบห้องแล้วถอนหายใจ ชั้นหนังสือของเขาตอนนี้มีแจกันที่อีกคนเอามาวางไว้ บนโต๊ะทำงานมีนาฬิกาข้อมือเรือนใหญ่ที่ไม่ใช่ของเขาวางเอาไว้ ใกล้ๆ กันก็เป็นบัตรพนักงานของอีกคนที่ยิ้มหล่อวางไว้ ซึ่งกฤติก็ไม่รู้ว่าอีกคนจะห้อยเอาไว้ทำไม ในเมื่อพวกเขาสามารถสแกนนิ้วเข้าออฟฟิศได้เลย



เหนือสิ่งอื่นใด ครัวของกฤติตอนนี้ กลายเป็นสถานที่แปลกปลอมสำหรับเขาไปแล้ว




เขาเอาครัวมากับห้องเพราะมันต้องมี ทั้งที่กฤติไม่ทำอาหาร และไม่คิดจะทำ ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม หากแต่คนที่ขโมยคีย์การ์ดเขาไปนั้น กลับทำประหนึ่งว่าครัวบ้านตัวเองไม่มีให้ใช้ เลยมายืมที่ห้องเขาใช้อยู่เป็นนิจ




กฤติมองไปรอบๆ ห้องจนไปสะดุดกับผ้าปูที่นอนสีเขียวเข้มลายการ์ตูนกบเคโระที่อีกฝ่ายทะลึ่งเปลี่ยนตอนไหนก็ไม่รู้แล้วถอนหายใจ มันคงจะกลับมาเป็นระเบียบอย่างเดิมได้ถ้านรินทร์หายไปจากชีวิตของเขาสักเดือน




วันนี้ช่างมันก่อน เขาจะออกไปทำงานที่ออฟฟิศ




อีกไม่ถึงสัปดาห์ดี พวกเขาต้องไปเอ้าท์ติ้งกันที่ต่างจังหวัด ซึ่งตามปกติแล้วการออกไปทำกิจกรรมลักษณะนี้ก็คือการเปลี่ยนที่ทำงานนั่นเอง สำหรับแผนกอื่นอาจจะไปสนุกสนาน แต่แผนกเซลล์มันคือการประชุมทีมรวมกับแผนกเซอร์วิสเพื่อสรุปผลงานช่วงปีที่ผ่านมาให้กับพนักงานบางส่วนของบริษัท รวมถึงพวกวิสัยทัศน์ของปีนี้ด้วย




ถึงแม้เลขาจะทำพรีเซนท์ให้แล้ว แต่ตัวเขาเองก็ควรจะไปตรวจสอบอีกรอบ และนั่งเก็บพวกงานบางอย่างเหมือนกัน




‘แอ๊ด’




ยังไม่ทันที่กฤติจะได้ขยับตัวไปไหน เสียงเปิดประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น ชายหนุ่มกลอกตา ภาวนาในใจให้เป็นยามหรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่คนที่เขาคิด




“อ้าวคุณ จะไปไหนน่ะ? มากินข้าวก่อนสิ ผมซื้อโจ๊กมาด้วยนะ”




โน้ต นรินทร์ที่กำลังถอดรองเท้าไว้ใกล้ประตูประหนึ่งเป็นเจ้าของห้องเองเอ่ยทัก เมื่อเหลือบตามาเห็นกฤติตรงกลาง สิ่งนี้เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของกฤติ เขาคิดว่านรินทร์จะกลับไปอยู่กับลูกสักอาทิตย์สองอาทิตย์ เพราะเมื่อวันศุกร์ก็รีบรุดกลับบ้านไม่ค้างคืนเพราะลูกสาวปิดเทอม เลยจะไปนอนด้วย




แล้วทำไมคุณพ่อลูกหนึ่ง ถึงได้มายืนทำหน้าเหลอหลาอยู่ตรงนี้กัน!




“ไม่กินโจ๊กเหรอ? ก็ดี ผมว่าถุงเดียวผมไม่น่าอิ่ม”




นรินทร์ยังคงพูดอยู่คนเดียว ชายหนุ่มเดินอ้อมเจ้าของห้องเข้าไปที่ครัว ปากก็ฮัมเพลงดังเมื่อสมัยตอนที่กฤติอยู่มัธยมไปด้วย ไม่ได้สนใจว่ากำลังรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่นเลยสักนิด




“คุณยังไม่กินข้าวใช่มั้ยล่ะ? จะกินไรดี ผมทอดไข่ดาวอร่อยนะ”

“...”




“ไม่เอาไข่ ไม่เอาโจ๊ก งั้นเอาผมมั้ย?”




กฤติปรายตามองอีกคน เหมือนกับตอนที่เขามองซากชุดชั้นในของอีกฝ่ายเมื่อครู่




“ผมมีเจลนะ ซื้อมาเพิ่ม ซื้อถุงยางมาเพิ่มด้วย 0.01 ที่ลองกันครั้งที่แล้ว แล้วคุณบอกว่ามันดีกว่า 0..03 ไง”




นี่ก็ยังคงพูดเรื่องถุงยางทั้งที่กินโจ๊กไปด้วยอย่างหน้าไม่อาย ซึ่งบางครั้งกฤติก็นึกสงสัย ว่านรินทร์นั้นรู้จักคำว่ากระดากอายบ้างหรือไม่



“ผมชอบสดนะ ไม่ชอบกลิ่นยางเลยว่ะ มันเหม็น”



น่าจะไม่รู้จัก



กฤติปล่อยให้คำพูดของอีกฝ่ายเป็นเหมือนสิ่งไร้สาระอื่นๆ แผนจากที่ชายหนุ่มจะไปออฟฟิศถูกเปลี่ยนเป็นนั่งทำงานที่ห้องแทน ไม่ได้แย่เท่าไหร่ เพราะเขาพกคอมพิวเตอร์ติดตัวไปไหนมาไหนตลอดอยู่แล้ว ทำงานที่ไหนก็เหมือนกัน



เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมง




กฤติเพิ่งรู้สึกว่าในห้องนี้มีอะไรแปลกไป นรินทร์ที่ปกติจะมารุ่มร่ามกับเขาวันนี้เพียงแค่มาแกะโจ๊กกิน ทำอาหารทิ้งเอาไว้ เปลี่ยนผ้าปูที่นอนเป็นลายการ์ตูนสีสด แล้วก็เอานั่งหนังสือเล่มเล็กๆ มานั่งอ่านบนเตียงเท่านั้น



ประหลาด



“คุณมาทำไม?”



เจ้าของห้องตัดสินใจเริ่มพูดทำลายความเงียบขึ้น ซึ่งคนที่ถือหนังสือเรื่องเกี่ยวกับการลงทุนหันม่าสนใจเจ้าของห้อง รอยยิ้มขี้เล่นที่มักแฝงความหื่นตามปกติของเจ้าตัวดูแปลกใจ เหมือนมีเรื่องหนักใจอะไรบางอย่าง



“ซื้อโจ๊กมาให้คุณไง”

“...”

“เอาผ้าปูผืนใหม่มาให้ด้วย ดูดิ ลายมอนส์เตอร์อิงค์นะคราวนี้ คุณรู้จักมั้ย? ลูกผมชอบมากเลย ไอ้ตัวเขียวๆ ที่เหมือนโมจิใบเตยมีตาเดียวนั่นน่ะ”

“...”

“โอเค ไม่รู้จักเนอะ”

“ตกลงคุณมาทำไม?”

“อ่า…”




นรินทร์เงียบไป ใบหน้าหล่อเจื่อนลงนิดหน่อย ก่อนที่จะกลับมายิ้มแย้มเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น




“ไม่มีอะไรนิคุณ ผมแค่--”

“คุณนรินทร์”

“ครับ?”

“ถ้าไม่มีอะไรก็กลับบ้านไป”



กฤติพูดออกมานิ่งๆ เขาไม่ชอบบรรยากาศแบบที่อีกคนมีอะไรแล้วไม่ยอมพูด มันทำให้นึกถึงครั้งแรกที่ชายหนุ่มเครียดเรื่องครอบครัวให้เขาเห็น


“มันไม่มีอะไรหรอกคุณ แค่… นุ้งนิ้งเขาอยากไปเอ้าท์ติ้งด้วยน่ะ แบบ ลูกผมยังไม่เคยไปโบนันซ่าเขาใหญ่เลย แถมอยากให้ เอ่อ… นั่นแหละ” 


ความจริงลูกเขาชื่อนิ้ง แต่นรินทร์ชอบเผลอเรียกลูกสาวว่านุ้งนิ้ง เพราะมันดูน่ารักเหมาะกับลูกสาวคนเขามาก ถึงม้ว่าเจ้าตัวจะชอบขอให้เรียกชื่อแค่นิ้งเฉยๆ ก็ตาม




“อ๋อก็ดีสิครับ ลูกคุณจะได้เที่ยวด้วย”

“คือ…”



นรินทร์ยังคงมีท่าทีอึกอัก เหมือนไม่กล้าพูดอะไร สุดท้ายแล้ว ชายหนุ่มก็ยอมเอ่ยออกมา




“เนตรแม่ของนุ้งนิ้งไปด้วยนะครับ”




บรรยากาศเปลี่ยนไปเล็กน้อย นรินทร์ไม่ได้พูดอะไรเพิ่ม ส่วนกฤติก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาต่อ ทั้งคู่นั่งอยู่ในความเงียบ นรินทร์นั่งขยับมือตัวเองไปมาคล้ายกับไม่สบายใจ ความรู้สึกของชายหนุ่มตอนนี้คล้ายกับเวลาที่ตัวเองจะต้องไปบอกแม่ว่าเขาทำจานแตกยกครัว




ซึ่งมันค่อนข้างประหลาด กฤติไม่ใช่แม่ และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องขออนุญาตใครอีกคนด้วยซ้ำ




ถึงแม้จะหาเหตุผลไม่ได้ แต่นรินทร์ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองจะต้องมาสารภาพความจริงกับอีกคนก่อนที่จะไปเจอเองอยู่ดี




“ครับ”




หลังจากหลายนาทีผ่านไป กฤติรับคำออกมาง่ายๆ ด้วยใบหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง นี่อาจจะเป็นไม่กี่ครั้งที่นรินทร์ไม่สามารถเดาอารมณ์จากใบหน้านิ่งของอีกฝ่ายได้




บรรยากาศขี้เล่นเมื่อกี้หายวับไปกับตา ตอนนี้เหลือเพียงแค่ผู้ชายสองคนที่ตกอยู่ในความคิดของตนเองเท่านั้น จนสุดท้ายแล้ว นรินทร์ก็พูดต่อเหมือนต้องการที่จะหาน้ำหนักเพิ่มให้คำพูดของตัวเองเมื่อสักครู่




“คือนุ้งนิ้งเขาอยากให้ไปกันหมดบ้านน่ะ ผมเลยต้อง… อ่า นั่นแหละคุณ … คือลูกผมเขาชอบคนเยอะๆ แถมเนตรก็ไม่มีบิน อ่า… นั่นแหละ”



กฤติก็เป็นคนที่เริ่มพูดออกมาอีกครั้ง ไม่ได้สนใจฟังประโยคยืดยาวจากปากอีกคนเสียเท่าไหร่ เพราะมันไม่ใช่ใจความสำคัญ และไม่มีสาระ 



“คุณไปจัดการเรื่องลูกกับแฟน--”

“แฟนเก่า”  นรินทร์พูดแทรก

“นั่นแหละ” กฤติพูดต่อ พร้อมบอกปัดอย่างไม่ใส่ใจ “คุณไปจัดการเรื่องลูกกับแฟนคุณเองนะ ติดต่อที่คุณอลิสาที่อยู่แอดมินเอาละกันนะครับ เขาเตรียมมการกันมาเป็นเดือนๆ แล้วทำไมเพิ่งมาบอก”

“ผม---”

“ช่างมันเถอะ” กฤติพูดแทรกอีกครั้งโดยไม่ได้สนใจฟังเหตุผลของอีกคน “ติดต่อคุณอลิสาเองละกัน ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้วรบกวนนั่งเงียบๆ ด้วยนะครับ ผมจะทำงาน”

“ครับ”




บรรยากาศในห้องต่างจากตอนแรกอย่างสิ้นเชิง กฤตินั่งมองแผนโครงสร้างของไตรมาสที่แล้วที่ถูกเลื่อนมาเป็นไตรมาสนี้แทนด้วยใบหน้านิ่งสนิท ชายหนุ่มยังคงดึงตัวเองมาทำงานอย่างมีสมาธิเหมือนเคย ภายใต้ความเงียบนั่นกฤติไม่รู้ว่าตอนนี้ผู้ร่วมห้องอีกคนกำลังทำอะไรอยู่ แต่เขาไม่สนใจ




ไม่สนใจสักนิดที่จะต้องเห็นแม่ของลูกนรินทร์


ไม่แคร์เลยสักนิดเดียว





------- Sunday In Bed -------


ต่อด้านล่างนะคะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-12-2018 20:01:34 โดย babybaphomet »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ babybaphomet

  • Baby Baphomet
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • Twitter
ต่อนะคะ

------ Sunday In Bed -------


วันนั้นนรินทร์กลับออกมาโดยที่ไม่ได้แม้แต่แตะปลายผมกฤติ




เวลาเดินผ่านไปอย่างรวดเร็วคล้ายกับมีใครเล่นตลกกับเข็มนาฬิกา บรรยากาศประหลาดระหว่างพวกเขายังคงอยู่  ทั้งกฤติและนรินทร์ระวังคำพูดเวลาจะติดต่อกัน ไม่มีการล่วงเกินใดๆ จากคุณพ่อลูกหนึ่ง รวมถึงกฤติเองก็หัวหมุนกับงานจนไม่ได้สนใจใคร




ในที่สุด ช่วงเวลาเอ้าท์ติ้งก็มาถึง




ถึงแม้บริษัทจจัดเตรียมรถบัสมาขนพนักงานทั้งหมดไปทริปพร้อมกัน แต่ตัวเขาที่มีชุดสูทและไม่อยากที่จะนั่งกับคนอีกมากมายเท่าไหร่ จึงเลืือกที่จะขับรถไปเอง ในส่วนของนรินทร์เองก็คงเป็นแบบนั้น กฤติไม่ได้เอ่ยปากถาม แต่หากอีกฝ่ายจะเอาครอบครัวไปด้วย ก็คงไม่ไปนั่งเบียดกับคนอื่นบนรถบัสอยู่แล้ว




ชายหนุ่มปล่อยเรื่องของลูกน้องที่ไม่มีประโยชน์อะไรลงข้างทางตั้งแต่ตอนที่มาถึงเขาใหญ่ สถานที่เอ้าท์ติ้งในปีนี้ กฤติลากกระเป๋าเข้ามาที่ห้องพักของตัวเอง พลางจัดวางของใช้จำเป็นแบบที่เป็นระเบียบเหมือนกับทุกครั้งเวลาที่ต้องออกนอกสถานที่




เขาไม่ชอบความวุ่นวาย และไม่ชอบความไม่เป็นระเบียบ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนหน้าเมื่อเห็นว่าทุกอย่างถูกจัดวางอย่างสวยงามในแบบที่เขาพึงใจ




กฤติมีเวลาเพียงนิดเดียวในการเตรียมตัวเพื่อจะต้องขึ้นพูดในการประชุมเหมือนกับทุกครั้ง ชายหนุ่มเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเพื่อเช็กความเรียบร้อยของพรีเซนเทชั่นอีกครั้ง อีกทั้งยังกวาดตาดู Inbox เผื่อว่ามีอะไรเร่งด่วนด้วยเช่นกัน บรรยากาศเงียบสงบนั้นยิ่งทำให้ชายหนุ่มมีสมาธิมากขึ้น เขาปล่อยเวลาให้ไหลไปแบบนั้น จนกระทั่งมีเสียงรบกวนจากหน้าประตูดังขึ้นมา





‘ก๊อกๆ’




“ครับ?”



กฤติขานรับพลางนึกสงสัยว่าในเวลาที่ทุกคนควรจะพักผ่อนตามสบายก่อนจะไปรวมตัวกันเพื่อประชุมนั้น ใครจะอยากรบกวนเขากัน ไม่นานเกินรอ เสียงทุ้มที่แกล้งดัดให้เล็กแบบประหลาดคล้ายเสียงสัตว์ที่กำลังทรมานข้างนอกก็ตอบกลับมา




“แทนใจครับ”




หัวหน้าแผนกหนุ่มถอนหายใจ อีกคนคิดว่าเขามีสมองหกขวบเหมือนตัวเองหรือไง?




“ไม่เนียนครับคุณนรินทร์”

“รู้ได้ไงอ่ะ?”

“แทนใจเสียงเพราะกว่าคุณเยอะ”

“โหย”




ก่อนที่นรินทน์จะได้โอดครวญอยู่หน้าห้องให้ผู้พบเห็นรู้สึกเวทนาไปมากกว่านี้ กฤติก็เปิดประตูแล้วหลบทางให้ผู้ชายอีกคนที่ทำหน้าระรึกระรี้เข้ามาด้านใน




“มาทำไมครับ?”




เออว่ะ ... นี่เขามาทำไมกัน?




นรินทร์ส่งยิ้มแห้งให้อีกคนแทนคำตอบที่เขาเองก็ไม่รู้




หลังจากที่เขาขับรถมาถึงเขาใหญ่ เช็กอิน รับกุญแจ แล้วพาเนตรกับน้องนิ้งไปที่ห้องแล้ว สองแม่ลูกก็ชวนกันอาบน้ำจนเขารู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินในห้องตัวเอง นรินทร์ตัวลีบเล็กลงเรื่อยๆ จนเมื่อรู้ตัวเขาก็เดินออกมานอกห้องเสียแล้ว




เขายินดีที่เห็นเนตรกับนิ้งหัวเราะด้วยกัน เล่นกันเหมือนแม่ลูกที่สนิทกันทั่วไป เพียงแค่ชายหนุ่มรู้สึกคล้ายกับว่าตัวเองไม่ใช่ส่วนหนึ่งของมัน เนตรกับนรินทร์ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันอีกแล้ว




การอยู่ห้องเดียวกับเนตรคือความกระอั่กกระอ่วน



เพื่อหลีกหนีความไม่สบายใจ คนแรกที่โน้ตนึกถึงก็คือกฤติ เพียงแค่ถามนิดหน่อยอลิสาที่อยู่แอดมินก็บอกมาหมดว่าหัวหน้าแผนกคนเก่งอยู่ห้องไหนตึกอะไร




เขาเลยมายืนยิ้มแห้งอยู่ตรงนี้ได้ในที่สุด




“ว่าไงครับ คุณมาห้องผมทำไม?”

“คิดถึงคุณ”




สิ้นถ้อยคำนั่น ความเงียบโรยตัวปกคลุมไปทั่วห้อง เพียงแค่ชั่วครู่ ก่อนที่กฤติจะเป็นคนทำลายบรรยากาศประหลาดนั่น




“ไร้สาระ”

“โหยคุณ เขินนิดนึงดิ”

“ปัญญาอ่อนครับ”




กฤติยังคงพูดด้วยใบหน้านิ่งสนิท โดยไม่แคร์ว่านรินทร์จะทำหน้าเรียกร้องความสนใจแค่ไหน ซึ่งเมื่อไม่ได้ผล นรินทร์จึงเป็นฝ่ายตัดบทเปลี่ยนเรื่องด้วยตัวเอง




“นี่คุณทำอะไรอยู่? ผมไม่ได้มากวนใช่มั้ย?”

“กวนครับ”

“เยี่ยม! ผมชอบกวนคุณพอดี”

“...”




ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งหลังแว่น กฤติกำลังคิดว่าถ้าทำร้ายร่างกายคนจะเสียค่าปรับเท่าไหร่




“คุณใส่เสื้อตัวนี้ดูดีนะ”




นรินทร์พูดชมเจ้าของห้องที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวเหมือนทุกวัน เพียงแค่วันนี้เขาเลือกเนกไทสีแดงสดเพราะต้องการดึงความสนใจของผู้ฟัง

 


“ขอบคุณครับ”

“แต่ถ้าคุณถอดนะ จะโคตรดูดี”

“เกลียดคุณครับ”

“ใจร้าย”




หัวหน้าหนุ่มเลิกสนใจอีกคน เขาเลือกหันหลังกลับไปที่ตู้เสื้อผ้า ตรวจความเรียบร้อยของสูทที่เตรียมจะสวมขึ้นเวทีประชุม แล้วจู่ๆ เขาก็รู้สึกถึงมือคู่หนึ่งค่อยๆ สอดเข้ามาตรงเอว ก่อนจะรัดแน่นขึ้นเหมือนเด็กที่ได้กอดตุ๊กตาหมีตัวโปรด กฤติถอนหายใจเมื่ออีกคนถือวิสาสะสวมกอดแล้วเอาหน้าแนบแผ่นหลัง




“ปล่อยนะคุณ เดี๋ยวเสื้อยับ”




กฤติพูดกับก้อนอึที่เกาะอยู่ด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย พยายามแกะมือคู่หนานั่นไปด้วย แต่มีหรือคนไม่ค่อยกินข้าวไม่เล่นกีฬาใดๆ จะสู้พลังคุณพ่อที่จับลูกสาวเหวี่ยงเล่นแบบเทพเจ้าธอร์เหวี่ยงค้อนได้




“ขออยู่ด้วยแป๊บนึง”




น้ำเสียงนิ่งๆ ไม่ได้ติดจะเล่นเหมือนอย่างเคยของอีกคนทำให้กฤติเผลอหยุดนิ่ง เขารู้สึกเหมือนกับตัวเองเพิ่งจะเริ่มจับงานใหม่เป็นครั้งแรก ชายหนุ่มตั้งสติเพื่อดึงตัวเองออกจากสถานการณ์ที่ไม่รู้จะรับมืออย่างไร




ความเงียบประหลาดโรยตัวปกคลุมพวกเขาทั้งคู่เอาไว้




มันไม่ใช่ความเงียบที่อึดอัด มันไม่ใช่อ้อมกอดที่รัดแน่นจนหายใจไม่ออก




แต่กฤตินั้นรู้สึกคล้ายกับว่าตัวเองถูกบรรยากาศ ‘ประหลาด’ นี้โอบรอบตัวจนไม่สามารถขยับออกไปจากวงแขนแน่นของอีกคนได้ พวกเขาอยู่แบบนั้นสักพัก ก่อนที่กฤติจะเป็นฝ่ายเลือกทำลายความเงียบนั่นด้วยการตัดสินใจเอ่ยปากถามออกไป




“คุณมีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่าครับ?”

“มี”

“เล่าได้นะ...”




เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง




กฤติที่นิ่งเสมอในทุกสถานการณ์เริ่มทำตัวไม่ถูก มือเขาสั่นน้อยๆ อย่างที่มักจะเกิดขึ้นตอนที่ไม่มั่นใจ ริมฝีปากถูกขบลงอย่างไม่รู้ตัว ในหัวสมองของหัวหน้าหนุ่มมีแต่ความคิดว่าตัวเขาไม่น่าพูดออกไปเลย ซึ่งน้อยครั้งที่ชายหนุ่มจะเป็นแบบนี้




เขาละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวอีกฝ่ายเกินไปหรือเปล่า?




ก่อนที่ความคิดฟุ้งซ่านจะครอบงำหัวหน้าแผนกคนเก่งไปมากกว่านี้ ในที่สุดเสียงทุ้มของผู้ชายที่ยังฝังตัวอยู่ที่แผ่นหลังอีกคนก็พูดออกมา




“ผมคิดไม่ตกทั้งคืน”

“...”

“ผมเลือกไม่ได้ว่าแบบไหนดีกว่ากัน ระหว่างเอาน้ำราดคุณตอนที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวให้มันเห็นข้างใน กับเอาเนกไทพันข้อมือคุณแล้วทำ... โอ๊ย!”



นรินทร์ร้องโอดโอยเสียงดังเมื่อกฤติเอาศอกถองท้องอีกคนเต็มแรงจนผู้บาดเจ็บทรุดลงไปนั่งกับพื้น โดยมีกฤติปรายตามองอย่างเย็นชา




คนอุตส่าห์เป็นห่วง มันยังคิดทุเรศได้ เชื่อเลย!






.

.

.







หลังจากนั้นนรินทร์ก็ถูกเตะออกจากห้องของกฤติทันที




คนที่ถูกไล่แถมปิดประตูใส่หน้า เกาหัวแกรกๆ ไม่ว่าจะที่ห้อง ที่ทำงาน หรือแม้กระทั่งการเอ้าท์ติ้งต่างจังหวัด ทำไมเขาโดนไล่ออกจากห้องตลอด




อิหยังวะ?




คิดไปก็ไม่ได้คำตอบ ชายหนุ่มจึงมุ่งหน้าไปรวมกับคนอื่นที่ห้องประชุมอย่างเสียไม่ได้ ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่อยากเข้าแค่ไหน แต่งานก็คืองาน ถึงแม้จะเป็นงานนอกสถานที่ที่ไร้ซึ่งความอภิรมย์แค่ไหน มันก็คืองานที่มีแต่ความเหนื่อยหน่ายใจอยู่ดี



ประชุมมีแต่เรื่องน่าเบื่อ




หลังจากการประชุมที่ยาวนานผ่านไป นรินทร์รู้สึกเหมือนพร้อมจะหลับตลอดเวลาเดินออกมาจากห้องประชุมเป็นคนหลังๆ ความตั้งใจแรกของชายหนุ่มคือจะอยู่กวนประสาทหัวหน้าแผนกที่เพิ่งลงมาจากเวทีเมื่อครู่ แต่ตอนนี้อีกคนติดคุยกับภูภูมิ หัวหน้าแผนกอื่นอยู่ ชายหนุ่มเลือกที่จะปลีกตัวออกมา




กฤติเป็นคนเก่ง




ภาพของหัวหน้าแผนกใส่สูทภูมิฐานพูดพรีเซ้นท์ภาษาอังกฤษรื่นหูด้วยความมุ่งมั่นทำให้นรินทร์อดปรบมือในใจให้อีกคนไม่ได้ ถึงแม้กราฟต่างๆ ที่กฤติพูดนั้นจะเป็นสิ่งที่พวกเขาประชุมกันมาหลายต่อหลายครั้ง แต่เมื่อได้เห็นหัวหน้ายืนพูดต่อหน้าคนนับร้อยก็ยังอดรู้สึกยืดเล็กๆ ไม่ได้




คนที่ใส่สูทผูกไทพูดจาฉะฉานบนเวทีนี่แหละ คือคนที่ใส่ถุงน่องตาข่ายได้เร้าอารมณ์ที่สุด!




เดินเกาหลังคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้มาเรื่อยจนถึงห้องตัวเอง คุณพ่อลูกหนึ่งสูดลมหายใจเรียกความมั่นใจเล็กน้อย ก่อนที่จะเคาะประตู



‘ก๊อกๆ’




“เปิดได้เลยค่ะคุณพ่อ”




เสียงเล็กของลูกสาวที่ดังลอดออกมาเรียกรอยยิ้มจากนรินทร์ได้ทันที ถึงแม้เขากับเนตรจะลงรอยกันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่กับลูกสาวนั้น นรินทร์ถือว่าเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้




“คุณพ่อกลับมาแล้ว!”

“ต้องทำยังไงก่อนนะคะ?”

“นิ้งไม่หอมแก้มคุณพ่อหรอกนะคะ นิ้งโตแล้วนะ”




เมื่อตอนที่น้องนิ้งยังเล็ก เขามักจะให้ลูกหอมแก้มตัวเองอยู่เสมอ แต่เมื่อเด็กน้อยเริ่มโตแล้ว นิ้งเองก็ไม่อยากจะทำแบบนั้นเท่าไหร่นัก ก็คุณพ่อแก้มไม่นุ่มนี่นา บางครั้งก็มีหนวดทิ่มๆ อีก




“น้องนิ้งไม่รักคุณพ่อแล้วเหรอคะ?”

“รักกันก็ไม่ต้องหอมแก้มกันก็ได้นี่คะ ใช่ไหมล่า”

“ลูกสาวใครคะเนี่ย พูดเก่งจังเลย”




ชายหนุ่มยิ้มกว้างเมื่อลูกสาวตัวน้อยพูดตอบฉะฉาน พร้อมส่งยิ้มกลับมาอย่างน่ารักน่าชัง




น้องนิ้ง ลูกสาวของนรินทร์




นิ้งเป็นเด็กที่มีดวงตากลมเหมือนลูกแก้ว ใบหน้าเกลี้ยงเกลาสมวัย เป็นคนพูดจาฉะฉานและชาญฉลาด ถึงแม้บางครั้งจะโลดโผนเกินไปบ้างจนทำให้คนเป็นพ่ออกสั่นขวัญแขวนก็ตาม แต่โดยรวมแล้วลูกสาวเขาถือว่าเป็นเด็กที่น่ารักที่สุดที่ชายหนุ่มเคยพบเห็นมาตลอดชีวิต




น้องนิ้งคือแก้วตาดวงใจของคนเป็นพ่อตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาได้ยินเสียงร้องของลูก ยิ่งเมื่อได้อุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขนในครั้งแรกนั้น นรินทร์ก็รับรู้ได้ทันทีว่านี่คือของขวัญจากพระเจ้า




“คุณแม่ล่ะคะ?”




นรินทร์อุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นมาไว้บนแขน ถึงแม้น้องนิ้งจะทำหน้าบึ้งเพราะอยากเดินด้วยตัวเองแต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ปล่อยลูกออกจากอ้อมแขนแต่อย่างใด




“คุณแม่คุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียงห้องค่ะ”




เด็กหญิงพูดตอบทันที ผมของเด็กหญิงถูกมัดเป็นแกละสองข้างด้วยโบสีเดียวกับเสื้อผ้า ทำให้ดูน่ารักสมวัยจนนรินทร์อดก้มลงหมายจะหอมแก้มเด็กหญิงอีกครั้งไม่ได้ แต่ทำไม่สำเร็จเพราะเด็กน้อยผลักห้วคุณพ่อออกไป




“คุณพ่อเหม็นกลิ่นกาแฟ หนูไม่ชอบ”

“แต่คุณพ่อต้องดื่มนะคะ ไม่งั้นพ่อทำงานไม่ได้”

“คุณพ่อก็ดื่มไปสิคะ ไม่ต้องมาหอมนิ้ง”




ระหว่างที่สงครามพ่อลูกกำลังจะเกิดขึ้นนั้น เสียงเปิดประตูระเบียงก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน เด็กหญิงหันไปส่งยิ้มกว้างให้ผู้ที่มาใหม่ ในขณะที่นรินทร์เพียงแค่พยายามทำหน้านิ่งทั้งที่เขารู้ตัวดีว่าทำไม่ได้ก็ตาม




หญิงสาวที่เดินเข้ามาในห้องนั้นคือเนตร แม่ของลูกสาวเขานั่นเอง




บรรยากาศของห้องเปลี่ยนไปในทันที นรินทร์รู้สึกเหมือนกับว่าเขาไม่ควรที่จะอยู่ตรงนี้ ขามานั้นเขาใส่ที่ปิดหูทำเป็นคุยเรื่องงานในขณะที่สองแม่ลูกนั่งกันอยู่เบาะหลัง พอมาถึงโรงแรมเขาก็รีบปลีกตัวออกไปกวนประสาทกฤติ จนตอนนี้ที่ต้องอยู่พร้อมหน้ากัน ความรู้สึกทำตัวไม่ถูกกลับมาครอบงำเขาอีกครั้ง




“ทำงานเสร็จแล้วเหรอคะ?”

“ครับ”




เด็กหญิงที่ยังอยู่ในอ้อมกอดพ่อมองผู้ปกครองสองคนของตัวเองสลับไปมา แล้วสุดท้ายน้องนิ้งก็เลือกกระโดดลงจากอ้อมแขนชายหนุ่มแล้ววิ่งไปหาหญิงสาวที่ยืนส่งยิ้มกว้างให้ลูกอยู่อีกฝั่งของห้อง




“คุณแม่คุยงานเสร็จแล้วเหรอคะ?”

“เสร็จแล้วค่ะ” หญิงสาวพูดกับลูกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ที่ทำให้นรินทร์นึกถึงพนักงานสาวที่คุยกับลูกค้า “เดี๋ยวเดือนหน้าคุณแม่จะต้องมีไปดูบ้านใหม่กับอาเอิร์ธ น้องนิ้งไปกับคุณแม่มั้ยคะ? ที่บ้านใหม่มีสระว่ายน้ำด้วยน้า”

“ไปค่ะ! น้องนิ้งชอบว่ายน้ำมากเลย”

“มีสวนใหญ่ๆ ด้วยนะคะ ตรงนั้นมีของเล่นให้หนูเล่นเยอะแยะเลยค่ะ”

“เย้ เราไปกันพรุ่งนี้เลยได้มั้ยคะ? น้องนิ้งอยากไปเล่นของเล่นแล้ว” 




เป็นอีกครั้งทีี่นรินทร์รู้สึกเหมือนถูกปล่อยทิ้งไว้กลางทะเลเพียงลำพัง บทสนทนาครอบครัวสุขสันต์ตรงหน้านั้นไม่มีส่วนให้เขาแทรกตัวเข้าไปเลยสักนิด รอยยิ้มแห้งประดับหน้าชายหนุ่มเหมือนกับทุกครั้งที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เขาไม่รู้ว่าควรจะวางตัวเองไว้ตรงไหนกับครอบครัวและบ้านใหม่ที่เนตรกำลังจะสร้างขึ้นมาเพื่อนิ้ง




เขาเป็นส่วนเกินฉิบหาย




นรินทร์ค่อยๆ ถอยออกมาจากห้องอย่างเงียบเฉียบ หูยังได้ยินเสียงหัวเราะของลูกสาวคล้อยหลังก่อนที่จะปิดประตูลง แบบนี้อึดอัดชะมัด ให้ตายเถอะ




เขากับเนตรไม่สามารถแม้แต่จะทนนอนข้างกันได้ ดังนั้นการที่ทุกคนคิดว่าเขามีครอบครัวที่น่ารักอบอุ่นนั้น จึงเหมือนละครหลังข่าวที่เขาเล่นไปตามบทต่อหน้าคนในบริษัท ตอนที่คุณอลิสาแอดมินส่งกุญแจห้องเตียงเดียวมาให้พร้อมกับแซวว่าเขาอาจจะมีลูกเพิ่มนั้น นรินทร์ทำได้แค่เพียงส่งยิ้มแห้งเหือดตอบกลับไปเท่านั้น




ไปอยู่ไหนดี?




รีสอร์ทที่ทางบริษัทเลือกให้จัดว่าสวยงาม อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและภูเขา ที่นี่มีทุกอย่างที่คนต้องการจะรีแล็กซ์จากงานประจำมาพักผ่อน เพียงแค่ความรู้สึกเป็นส่วนเกินมันกลืนกินจนไม่เหลือที่พอให้ชายหนุ่มรู้สึกได้พักแต่อย่างใด




เขาควรจะไปที่ไหน?




ในขณะที่กำลังเดินลอยชายอยู่นั้น ขาของนรินทร์ก็พาตัวเองมายืนอยู่หน้าห้องที่คุ้นเคยอีกครั้ง ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา เมื่อครู่เขาขโมยคีย?การ์ดที่วางอยู่บนโต๊ะอีกคนติดมาด้วย ไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้ประโยชน์เร็วขนาดนี้




‘คลิ๊ก’




เพียงแค่แตะเบาๆ ประตูห้องของหัวหน้าแผนกก็เปิดออก นรินทร์ยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี เพียงแค่คิดว่าวันนี้จะเอาโบผูกผมของน้องนิ้งมาแกล้งรัดกฤติน้อยให้อีกคนทำหน้าตาทรมานก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที




“...ไม่รับโทรศัพท์ผมสินะ”

“ไม่เกี่ยวกับคุณ”




รอยยิ้มกว้างของนรินทร์เลือนหายไปทันทีเหมือนไอติมทีละลายในฤดูร้อน ห้องของอีกคนที่ควรจะมีเพียงแค่กฤติใส่แว่นนั่งหรือยืนทำหน้านิ่งอยู่คนเดียว กลับมีผู้ชายอีกคนอยู่ด้วย แถมทั้งสองคนยังยืนอยู่ในท่าที่ชวนคิดไม่ดี




กฤตินั่งอยู่ที่ปลายเตียง ในขณะที่ผู้ชายตัวใหญ่อีกคนนั้นเท้าแขนคร่อมอีกฝ่ายจนเงาทาบทับไปทั้งตัว แถมใบหน้ายังอยู่ใกล้กันมากขนาดที่เขายังไม่เคยอยู่ใกล้กับเพื่อนคนไหนขนาดนี้




ภูภูมิ?




หัวหน้าแผนกการตลาด ทำไมถึงมาอยู่ในห้องของหัวหน้าของเขาแบบนี้?!









------- TBC -------




สวัสดีค่ะ

มาทิ้งระเบิดค่ะ อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ

หายไปนาน กลับมาแล้วนะคะทุกคนนนน *จุดพลุ*
เลยมาอัพเต็มตอน หวังว่าจะชอบกันนะคะ

 

ไม่มีอะไรจะทอล์คมาก ส่วนใหญ่เราเวิ่นเว้ออยู่ในทวิตเตอร์ค่ะ (เพจก็จะร้างๆ เล็กน้อย ._.)

ขอบคุณทุกๆ คนที่เมนต์ หรือแม้แต่เข้ามาอ่านนะคะ เราเห็นทุกทวีตในแท็ก #คนที่นอนข้างกันในวันอาทิตย์ ทุกเมนต์เลยค่ะ ขอบคุณจริงๆ นะคะ

 

แล้วเจอกันจย้า

 

เบบี้ (Baby Baphomet)

ใครอ่านแล้วชอบ (หรือไม่ชอบก็ได้ ไม่ว่ากัน) ช่วยบอกเราได้ในทุกช่องทางนะคะ ทั้งในนี้้ ในเพจ หรือในแท็ก #คนที่นอนข้างกันในวันอาทิตย์  ก็ได้นะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่า XD


ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อ้าววววววววววววววว

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
นรินทร์ ยังไง.........
ไอ้รักลูกก็ถูกต้อง แต่ทำไม ยอมพ่วงอดีตเมียมาด้วย
ถ้าโน้ต ไม่มีคนที่ชอบใหม่ก็แล้วไป
เนตรก็ยิ่งประหลาด แปลกๆนะ
หย่ากันแล้วยังตามมางานเอ้าต์ติ้งอดีตสามี มันใช่เหรอ........   :katai1: :angry2: :really2:
เอ.....หรือคิดจะคืนดีกับอดีตสามี  ไม่ต้องชะตาอ่ะ  :fire: :m31: :m16:

โน้ต  กฤติ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
กรุ่นกลิ่นดราม่านิดนึง อึดอัดแทนคุณโน้ต

ออฟไลน์ Cyclopbee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ IamLonelygirl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ฮื่ออออ
อิหยังวะะ

ออฟไลน์ tixjubz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เป็นการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลูกใหญ่มากกกกกกกก ฮรืออออออออ  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ กวังกีเมย์บี

  • วาย ว๊าย วาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อุ๊ย!!! ดราม่า!?! ชอบบบบ มาเลยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด