5th Sunday #คนที่นอนข้างกันในวันอาทิตย์
กฤติเห่อแทนใจแบบที่นรินทร์รู้สึกรำคาญ ทุกวันนี้อีกฝ่ายทำให้เขานึกถึงพวกคนที่เพิ่งเคยเลี้ยงหมาเข้าไปทุกที ขนาดวันที่แทนใจมาสายจนเกือบจะประชุมไม่ทัน หัวหน้าแผนกยังแค่ยิ้มให้แบบใจดีแถมด้วยการกล่าวตักเตือนนิดหน่อยเท่านั้น ลองเป็นเขาสิ ถ้ามาสายแบบนั้นน่าจะโดนเหน็บแนมตั้งแต่เช้ายันเย็นแน่นอน
“คุณไม่ยุติธรรมเลย”
นรินทร์พูดออกมาทันทีเมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อกลางวัน วันนี้เป็นวันศุกร์สบายๆ ตอนที่เขากำลังนั่งคุยงานกับกฤติอยู่นั้น เด็กแทนใจมาเคาะประตูถามเฉยๆ ว่าจะฝากซื้ออะไรมั้ยเพราะเจ้าตัวกำลังจะลงไปซื้อกาแฟทานข้างล่าง แค่นั้นคุณหัวหน้าแผนกกลับยิ้มอยู่นั่น เหมือนคนที่เพิ่งมีลูกหมาตัวแรกในชีวิตอย่างไรอย่างนั้น
“อะไรของคุณ?”
“คุณไม่ยุติธรรม”
กฤติขมวดคิ้วเมื่อคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม วันนี้เขามีประชุมจนถึงเกือบสามทุ่ม พอออกมาตั้งใจว่าจะเอากระเป๋ากับของในห้องทำงานแล้วค่อยขับรถกลับบ้าน ก็เจอนรินทร์ นั่งรออยู่ พอถามถึงได้รู้ว่าวันนี้ลูกสาวไปเข้าค่ายต่างจังหวัด เลยจะขอไปนอนด้วย กฤติเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
“แค่แทนใจคุยด้วยนิดเดียวคุณก็ยิ้มแล้ว พอเป็นผมพูดบ้างคุณปาถั่วใส่หน้า อะไรเนี่ย ไม่แฟร์เลย”
“คุณเป็นแทนใจเหรอ?”
“ไม่ใช่”
“แล้วทำไมผมต้องแคร์?”
ชายหนุ่มถามแค่นั้นแล้วสนใจโทรศัพท์มือถือต่อ คิ้วของหัวหน้าหนุ่มขมวดมุ่นเมื่อคนที่ทักมาวันนี้ไม่มีทีท่าจะหยุดประเด็นสนทนาง่ายๆ น่ารำคาญจริง
“คุณทำร้ายหัวใจลูกน้องแบบนี้ได้ไงเนี่ย ผมเสียใจนะ”
“...”
“จะร้องไห้แล้ว”
“...”
“นี่เศร้านะ”
“...”
“นี่คุณยังอยู่บนโลกหรือเปล่าเนี่ย?”
นรินทร์หันหน้าไปถามคนข้างๆ วันนี้รถติดมากเนื่องจากเป็นวันศุกร์ปลายเดือน แถมยังเป็นเส้นที่มีการทำถนน ดังนั้นการที่รถของพวกเขาจะยังไม่ไปไหนทั้งที่ดึกแล้วถือว่าไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมายเลยแม้แต่น้อย
“คุณกฤติ?!”
“ครับ?”
“ทำไมคุณไม่ตอบผม?”
“เวลาที่มีคนมาพูดจาไร้สาระด้วย ผมจะไม่ฟังทันทีน่ะครับ มันไม่มีประโยชน์”
โอโห เจ็บกว่าโดนไล่ออกอีก
โน้ตคิดในใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาเหยียบคันเร่งเมื่อรถคันหน้าเริ่มเคลื่อนตัว ในขณะที่กฤติวุ่นวายอยู่กับโทรศัพท์มือถือของตัวเอง นรินทร์นั้นยุ่งกับความคิดที่ว่าเขาไร้สาระขนาดที่อีกคนไม่ฟังเลยเหรอ? เฮ้ย บ้าหน่า ขนาดน้องนิ้งลูกสาวยังบอกว่าเขาเป็นพ่อที่ดีที่สุดที่เคยมีมาเลยนะ
ลูกสาวเขาเคยมีพ่อแค่คนเดียวเท่านั้น และนรินทร์คือที่หนึ่ง จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดหนึ่งคน
“คุณหิวมั้ย?”
เจ้าของรถถามขึ้นมา กฤติกดปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วยัดเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง บางครั้งเขาก็อยากปิดมือถือบ้าง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานั่งรับรู้งานหรือแม้แต่เรื่องที่ไม่ใช่งานแต่รบกวนเวลาส่วนตัวแบบนี้
ถึงแม้จะเป็นรถของเขาแต่วันนี้นรินทร์เป็นคนขับ โดยที่เจ้าตัวให้เหตุผลว่าอยากลองรถยุโรปบ้างเพราะของตัวเองเป็นรถญี่ปุ่น ซึ่งถึงแม้จะไม่เข้าใจเท่าไหร่นักแต่กฤติคิดว่าเขาไม่ควรถือสาคนบ้าเลยยอมเลยตามเลย ซึ่งก็จัดเป็นเรื่องดีเพราะเขาจะได้มีโอกาสตอบอีเมลกับแชทด้วยเลย
“หิว”
“จะแวะทานอะไรก่อนเข้าห้องมั้ยครับ?”
“คุณอยากกินอะไร?”
นรินทร์หันหน้ามามองคนข้างตัว เขามองกฤติที่กัดริมฝีปากแล้วเหลือบตาขึ้นด้านบนเหมือนกับกำลังใช้ความคิด เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น สีหน้าของอีกคนก็กลับมานิ่งอย่างเคย
“ไม่ล่ะ คุณอยากกินอะไร?”
“คุณ”
“...”
“ผมอยากกินคุณมากเลย เฮ้ยคุณ เราจอดข้างทางเลยได้มั้ย? ผมมีถุงยางในกระเป๋าเสื้อ คุณมีเจล-- โอ๊ย!”
ก่อนที่นรินทร์จะได้สานต่อสิ่งที่ตัวเองคิด กฤติตะปบมือไปบนขาอ่อนของอีกคนแล้วหยิกจมเนื้อ ยังดีที่นรินทร์มีสติมากพอที่จะไม่หักรถออกข้างทาง ไม่งั้นกฤติกับเขาได้ไปประชุมแผนกต่อในสวรรค์แน่
นรินทร์มั่นใจว่าถ้าเอาเสือกับสิงโตมาสู้กันนะ กฤติชนะแน่
จะดุไปไหนวะ
“คุณจะเล่นเกมพนันอะไรของคุณไม่ใช่หรือไง?”
เสียงนิ่มๆ ของหัวหน้าแผนกถามขึ้นมา นรินทร์ที่กำลังแอบใส่เขาให้กับหัวหน้าในใจถึงกับหยุดทุกอย่างกลางคัน แล้วหันมาสนใจคนที่นั่งอยู่ด้านข้างแทน
“ก็ใช่…”
“ชนะพนันให้ได้สิ แล้วจะทำอะไรค่อยทำตอนนั้นเอาละกัน”
นรินทร์หมายมั่นปั้นมือในใจเป็นรอบที่ร้อย ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องเป็นผู้ชนะให้ได้
------- Sunday In Bed -------
“พี่โน้ต หวัดดีครับ”
“ไงเรา มาเช้านะเนี่ย”
โน้ตรับไหว้ซุกซน เด็กในแผนกที่เอ่ยทักในเพนทรี่ ซุกซนเป็นเด็กหน้าจีน ติดจะขาวเหลืองและพูดเสียงดัง ยังดีที่เด็กนี่รู้ว่าตอนไหนควรเล่นและตอนไหนไม่ควร จึงไม่ได้ทำให้เขาหรือคนอื่นในแผนกรู้สึกว่าโดนปีนเกลียวเท่าไหร่
ตอนแรกนรินทร์นั่งกินข้าวอยู่กับคนที่เขากอดก่ายอยู่เมื่อคืน แต่อีกฝ่ายลุกขึ้นไปซื้อโกโก้ร้อน จึงเหลือเพียงแค่จานข้าวกับแก้วน้ำวางไว้เท่านั้น สิ่งที่เขาไม่เคยเข้าใจก็คือทำไมกฤติถึงได้ขึ้นมาข้างบนเพื่อวางกระเป๋า แล้วต้องลงไปซื้อของข้างล่างอีกรอบ ไม่ยอมซื้อให้จบในทีเดียว
ไลน์!
ไลน์แจ้งเตือนจากโทรศัพท์ที่เขาไม่ได้สนใจมาสักพักดังขึ้น เมื่อนรินทร์หยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นไลน์แผนกของพวกเขาเอง เปิดจากหัวหน้าแผนกที่ลงไปซื้อของกิน
Sales Co Team (18)
คุณกฤติ : วันนี้ผมอนุโลมให้เป็นประชุมตอน 10:00 แทนนะครับ
คุณใหม่ : ใหม่รักพี่กฤติค่ะ ฮืออออ
คุณฝน : ตอนนี้น้ำหน้าบ้านฝนท่วมสูงกว่าเงินเดือนอีกค่ะ
คุณฝน : ว่าจะรอน้ำลดก่อนแล้วค่อยออก ขอบคุณที่เลื่อนประชุมนะคะ
คุณฝน : *สติกเกอร์ขอบคุณ*
ซุกซน : *สติกเกอร์โอเค*
คุณกฤติ : ตามนั้นครับ
นรินทร์เลิกคิ้ว รอยยิ้มมุมปากของชายหนุ่มค่อยๆ ปรากฏขึ้นเมื่อเขานึกอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้
คุณโน๊ต :*รูปภาพสวัสดีวันจันทร์*
กรุ๊ปแชทเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่คนเป็นหัวหน้าจะมาปิดแชท
คุณกฤติ : แต่วันนี้ใครป่วยไม่มีใบรับรองแพทย์ มาคุยกับผมในวันอังคารด้วยนะครับ
ในกรุ๊ปมีแค่นั้น ส่วนในแชทส่วนตัวของคุณนรินทร์นั้น มีข้อความใหม่ล่าสุดจากหัวหน้าแผนกพิมพ์เอาไว้
คุณกฤติ: คุณนรินทร์
คุณกฤติ: กวนตีนครับ
นรินทร์ยิ้มกว้าง แหม่ ให้ตาย เขานี่รักวันจันทร์จริงๆ เลย
หลังจากนั้นนรินทร์ก็นั่งกินข้าวของตัวเองไป โดยมีเด็กซุกซนชวนคุยไปเรื่อย เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งประตูห้องเพนทรี่เปิดออกพร้อมกับผู้มาใหม่สองคน
ท่าทางพระเจ้าจะแทงพนันข้างเขาหมดหน้าตัก นรินทร์ยิ้มย่องในใจเมื่อเห็นเมฆเดินนำแทนใจเข้ามาพร้อมกับถุงอาหารในมือ รอยยิ้มใจดีของเมฆที่มีให้กับแทนใจ พร้อมทั้งท่าทางเอ็นดูอีกฝ่ายอย่างออกนอกหน้าเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นตาสำหรับนรินทร์มากนัก
“อ้าว ซุกซน”
“ทักเหมือนเห็นผี นี่เพื่อนเอง”
นรินทร์กินข้าวตรงหน้าอย่างเงียบๆ ด้านข้างของเขามีซุกซนที่กำลังคุยกับแทนใจแบบกัดกันเหมือนปกติ ส่วนเมฆนั้นเดินไปที่ตู้เพื่อหยิบชามสองใบมาวางไว้บนโต๊ะ ใกล้ๆ กับพวกเขา แล้วเริ่มลงมือเทโจ๊กสองถุง ของตัวเอง และของแทนใจ
“คุณเมฆ เทให้ผมทำไมเนี่ย” แทนใจโวยวายขึ้นมา ในขณะที่เมฆนั้นเพียงแค่ยิ้มใจดีให้อีกคน แล้วตอบกลับไป
“ก็คุณมาช้าไง ผมกลัวมันเย็น”
“พระเอกมาก!!”
ซุกซนชงคู่นี้แล้วปรบมืออย่างคึกคัก โน้ตเก็บจานของตัวเองไปวางไว้บนซิงค์ล้างจานหลังจากที่ทานเสร็จ เมื่อคิดอะไรดีๆ ได้ ชายหนุ่มจึงหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพตรงหน้าอย่างว่องไว แล้วแอบส่งไลน์หาอีกคน
นรินทร์ : คุณกฤติ
นรินทร์ : กระต่ายของคุณอยู่กับหมาเมฆนะ
นรินทร์ : *รูปภาพเมฆกับแทนใจ*
ตามปกติแล้วนรินทร์ไม่ใช่คนที่จะมาแอบถ่ายภาพคนอื่นแล้วส่งในแชทแบบที่พวกผู้หญิงในแผนกชอบทำกัน แต่วันนี้เขายอมแหกกฎตัวเองเล็กน้อย เพื่อเหตุผลเดียวเท่านั้น คือกวนประสาทกฤติ
ช่วยไม่ได้ ใครใช้ทำให้ตัวน่าแหย่แบบนี้กันล่ะ
“พี่โน๊ตนี่โชคดี ได้แฟนดี ลูกก็น่ารักด้วย”
นรินทร์เงยหน้าจากจอโทรศัพท์เมื่ออยู่ดีๆ ซุกซนก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย อาจจะเพราะเด็กนี่เห็นเขาเอาข้าวกล่องมากินตอนเช้าบ่อยครั้งเลยเอ่ยแซวขึ้นมา ชายหนุ่มบอกปัด
“ไม่ขนาดนั้นหรอก เวอร์ไป”
ทั้งที่พูดแบบนั้น แต่เด็กในแผนกก็ยังคงไม่ยอมปล่อยประเด็นนี้ให้หลุดลอยไป ซุกซนยังคงพูดเรื่องเดิมซ้ำอยู่แบบนั้น โดยมีแทนใจพยักหน้าสนับสนุน ส่วนเมฆเอาแต่มองแทนใจ จนเขาอยากจะเข้าไปถามว่าจะกินน้องแทนข้าวเลยหรือไม่?
“จริงนะพี่ ถ้าแฟนผมทำข้าวมาให้บ้างนี่โคตรรัก จะขอแต่งงานวันพรุ่งนี้เลย เขาเหมาะจะอยู่กับเราไปทั้งชีวิต”
นรินทร์ปล่อยให้พวกเด็กๆ คิดว่าเขามีแฟนทำกับข้าวให้โดยไม่คิดจะแก้ไขความเข้าใจผิดนั้น ตามปกติแล้วเขาทำกับข้าวทานเองที่บ้าน ทำให้ลูกสาว เคยเกือบจะทำให้หัวหน้ากินด้วยเหมือนกัน ถ้าไม่ติดว่าห้องของอีกคนครัวใหม่จนเหมือนไม่เคยใช้งานมาก่อนเลย ไม่มีวัตถุดิบอะไรที่พอจะหยิบจับขึ้นมาใช้งานได้เลยจริงๆ
“คุยกันสนุกเลยนะ”
คนที่นรินทร์รอคอยมาแล้ว กฤติเดินเข้ามาด้วยท่าทางนิ่งๆ แต่นรินทร์รู้ดีกว่านั้น อีกคนแทบจะไม่มองไปทางไหนเลยนอกจากฝั่งของแทนใจ
“พี่กฤติ หวัดดีครับ”
“ครับ”
ชายผู้มาใหม่พยักหน้ารับซุกซนที่ยกมือไหว้ แต่พอหันไปมองแทนใจ หัวหน้าแผนกก็เผยรอยยิ้มออกมา ซึ่งนั่นทำให้นรินทร์เบ้ปาก มันเหมือนคนที่เพิ่งจะได้กลับบ้านไปเจอลูกหมาที่เลี้ยงไว้ไม่มีผิด
“คุณกฤติ สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ แทนใจ”
กฤติถามไถ่แทนใจที่พูดนั่นพูดนี่ไม่หยุด พร้อมกับเอามือลูบหัวกระต่ายไปด้วย เขาชอบเวลาเห็นเด็กคนนี้พูด ถึงแม้จะไม่ได้ฟังเลยก็ตามว่าแทนใจพูดอะไรบ้าง เพราะส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องไร้สาระ
ถึงแม้จะไม่ค่อยมีสติ แต่แทนใจจัดว่าเป็นความน่ารักในแผนก
“แทนใจรีบกินสิ เดี๋ยวเย็นแล้วไม่อร่อยนะ”
“คุณเมฆกินเร็วมากเลย”
“ผมไม่ได้เร็ว เราน่ะช้านะ”
“เดี๋ยวเราต้องไปประชุมนี่ เห็นเมื่อกี้ยังบ่นอยู่เลย”
“โอ๊ยยยยย จริงด้วย”
เป็นเมฆที่ดึงความสนใจของแทนใจกลับไปอยู่กับตัวเองอีกครั้ง ซึ่งกระต่ายของแผนกก็ไม่ได้มีท่าทีรู้เรื่องราวอะไร นรินทร์แอบยิ้มอยู่ใน ตอนที่ไม่มีใครสังเกต นรินทร์ก้มลงพิมพ์ไลน์หาคนที่เขาเพิ่งจะแชทหาเมื่อสักครู่ ก่อนที่จะหันไปยักคิ้วให้เมื่อเห็นว่าอีกคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากวาดตามอง แล้วหันมาขมวดคิ้วให้เขา
นรินทร์ : เตรียมถุงน่องรอเลยมมั้ยคุณ?
นรินทร์ : *รูปภาพสวัสดีวันจันทร์*
“อ้าว รู้ด้วยเหรอว่าประชุมคืออะไร ไม่เคยเห็นคุณเข้าเลยนะครับ”
ตอนนี้กฤติเงยหน้าขึ้นไปขัดเมฆกับแทนใจที่กำลังคุยงุ้งงิ้งกันอยู่ ยิ่งมองหน้าเมฆชายหนุ่มยิ่งหงุดหงิด เขาเกลียดไอ้หน้าหล่อต่างแผนกนี่จริงๆ ไม่เหมาะสมกับแทนใจเลยสักนิด
ใบหน้าหล่อเปลี่ยนโฟกัสจากกระต่ายเป็นเสือของแผนกเซลล์ เขาจ้องตาคนรู้จักกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้
“อรุณสวัสดิ์พูดแบบนี้นะคุณกฤติ”
ทุกคนนั่งหลังตรงเมื่อรู้สึกกระแสความไม่พอใจของเมฆที่ถูกแขวะ แต่อาจจะยกเว้นแทนใจไว้สักคน เพราะรายนั้นหันซ้ายหันขวาไปมาไม่รู้เรื่องอะไร ซึ่งกฤติเองก็รู้สึกได้ ท่าทางเหมือนกับจะมีน้ำโหของชายหนุ่มต่างแผนกนั้นคือสิ่งที่กฤติไม่คาดไว้ เมฆรู้ดีว่าเขาเอ็นดูแทนใจ ตอนที่เจอแทนใจครั้งแรกนั้นท่าทางของเมฆยังไม่ชัดเจนเท่านี้
ชั่วขณะหนึ่ง กฤติรู้สึกว่าโปรเจคเมเนเจอร์คนนี้อาจจะออกตัวจีบแทนใจจริงจัง แต่ด้วยความที่ไม่อยากแพ้และหมั่นไส้เมฆเป็นทุนเดิม ชายหนุ่มเลือกที่จะพูดตอบอีกฝ่ายอย่างเผ็ดร้อน
“โปรเจคเมเนเจอร์ทำงานอยู่ชั้นบนนนี่ครับ มานั่งตรงนี้ทำไม”
กฤติยิงคำถามไปที่อีกคน ซึ่งมองกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงแม้พวกเขาจะพูดกันด้วยเรื่องอื่น แต่แววตาที่จ้องมองกันสื่อความหมายที่ลึกกว่านั้น
ท่าทางการออกตัวชัดเจนของอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นตา เขารู้จักเมฆดี ในบางมุมอาจจะมากกว่าที่เจ้าตัวรู้จักตัวเองอีกด้วยมั้ง ถ้าเมฆไม่สนใจ หรือแค่คิดว่า น่ารักดี ล่ะก็ ชายหนุ่มไม่มีทางเอาตัวเองเข้ามาวุ่นวายกับแทนใจแบบนี้แน่นอน
“ปกติ MD ต้องเอาเวลาตอนเช้าไปเตรียมประชุมไม่ใช่เหรอครับ ไปเถอะ เดี๋ยวทำไม่ทันนะ”
“ผมเตรียมแล้วครับ เพราะเรามีประชุมทุกสัปดาห์ ไม่เหมือนบางแผนกที่ไม่ค่อยทำงานน่ะครับ ไม่เคยเห็นใช้ห้องประชุมเลย”
“เรามีนวัตกรรมที่เรียกว่า VDO conference แล้วนะครับ เผื่อคุณยังไม่รู้”
เมื่อเห็นว่าถ้ายังอยู่ตรงนี้ต่อไป กฤติคงจะเถียงกับเมฆจนวันนี้ไม่ได้ทำงานแน่ นรินทร์จึงพูดแทรกขึ้นมา
“คุณกฤติครับ ช่วยดูพรีเซนท์ให้ผมหน่อยครับ”
โชคดีที่กฤติยอมพยักหน้าแล้วเดินตามนรินทร์ออกมาทั้งที่มันเป็นแค่ข้ออ้าง ไม่มีพรีเซนท์อะไรทั้งนั้น กฤติก็คงรู้ว่าถึงอยู่ต่อไปก็ไร้ประโยชน์เลยยอมออกมาง่ายๆ
นรินทร์เป็นฝ่ายเดินนำเข้ามาในห้องทำงานของอีกคน ก่อนที่กฤติจะเดินตามแล้วปิดประตู ยังไม่ทันที่เขาจะเดินผ่านอีกคนไปนั่งที่เก้าอี้อย่างที่ตั้งใจ ข้อมือของกฤติก็ถูกอีกคนกำเอาไว้แน่น คนที่เป็นหัวหน้าขมวดคิ้วมองอีกคนอย่างไม่พอใจ ซึ่งนรินทร์ไม่ได้มีท่าทางสะทกสะท้าน
“คุณ--”
“โอเคผมแพ้ ผมรู้แล้วไม่ต้องย้ำ”
นรินทร์ที่กำลังจะพูดว่า ‘คุณรอดูตอนเอ้าท์ติ้งได้เลย ผมชนะแน่นอน’ เบรกตัวเองทันที ในขณะที่กฤติไม่ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของอีกคนมากนัก เขามองพื้นด้วยท่าทางเซ็งๆ แล้วเป็นฝ่ายพูดต่อ
“ถ้าเมฆเขาทำขนาดนี้ก็คงจริงจังแล้วแหละ”
“...”
“คุณจะเอาอะไรของคุณนะ?”
“ถุงน่อง”
นรินทร์พูดทันทีโดยไม่ต้องรอให้อีกคนพูดซ้ำ โอกาสมาอยู่ตรงหน้ามีหรือเขาจะไม่รีบคว้าไว้ เพียงแค่คิดว่าเขาจะได้เห็นอีกฝ่ายในถุงน่องเร็วกว่าที่คิดนี่นรินทร์ก็แทบจะจับแทนใจประเคนใส่ปากให้เมฆเดี๋ยวนี้
“ครั้งนี้ผมชนะ คุณกันเมฆออกไปไม่ได้ คุณแพ้”
“บอกว่ารู้แล้วไงครับ”
กฤติปลดข้อมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของอีกคน ชายหนุ่มเดินอ้อมไปนั่งที่เก้าอี้ประจำตำแหน่ง ไขว่ห้างมองนรินทร์ที่ทรุดตัวนั่งตรงข้ามอย่างไม่เกรงกลัว ไม่ได้กังวลแม้ว่าตัวเองอาจจะต้องโดนคำสั่งพิลึกพิลั่นจากคนที่ไม่ปกติที่สุดในโลกของกฤติ
เขาเกลียดผู้ชายกวนประสาทที่นั่งทำหน้าหื่นอยู่ตรงข้ามชะมัด ไม่ต้องอ่านใจก็รู้ว่าหมอนี่ต้องคิดอะไรไม่ดีอีกแน่
“คืนนี้คุณใส่ถุงน่องนะ”
“...”
กฤติไม่ได้ตอบอะไร แม้ในใจจะมีคำด่ามากมายหลายร้อยคำ
“ผมอยากเห็นคุณใส่ถุงน่องตาข่ายแล้วเอาขาพาดตักผม แบบถ่างขาเป็นรูปตัวเอ็มน่ะ แล้วเอาเท้าวางบนตักผม โหย แค่คิดก็ฟินแล้ว”
“...”
“จัดจ้านในบ้านนรินทร์”
ไล่มันออกตอนนี้ทันมั้ย? กฤติได้แต่สงสัยในใจ
“คุณแพ้นะ ยังไงคุณก็ต้องทำ”
“อะไรก็ได้” กฤติโบกมือปัดเรื่องไร้สาระออกไปจากหัวสมอง “คุณออกไปได้แล้ว อีกสิบนาทีประชุมแผนก”
“ได้ แต่ก่อนไป…”
ฉับพลันโลกของกฤติก็มืดลง เขาคิดไม่ถึงว่าคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจะหุนหันลุกขึ้นมาประชิดตัว มือของคนเป็นลูกน้องเชยคางอีกคนขึ้นมาแล้วจับประกบปากอย่างรวดเร็ว รสชาติน้ำหวานในปากของกฤตินั้นทำให้นรินทร์ยิ้มทันทีที่ได้ลิ้มรส
โกโก้ใส่น้ำตาล เมนูเด็กน้อยเสียจนเขาคาดไม่ถึง
“หวานว่ะคุณ”
นรินทร์ที่ละริมฝีปากออกมาพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่น่าเกลียดมากในสายตาของกฤติ
“รสโกโก้ด้วย”
“...”
“ทำให้ผมนึกถึงโอวัลตินโรงเรียนสมัยประถมเลย คุณนี่ชอบเมนูเดียวกับเด็กปอสี่”
“...”
“ตอนนั้นผมชอบแกล้งเปิดกระโปรงเพื่อนผู้หญิงในห้อง ตอนนี้ผมเปิดกระโปรงคุณอย่างเดียว เออคุณ รอบหน้าคุณใส่กระโปรงนักศึกษา--โอ๊ย!”
ก่อนที่นรินทร์จะได้แชร์ประสบกามของตัวเองไปมากกว่านี้ เขาก็โดนกฤติบิดเนื้อตรงขาเสียจนมั่นใจว่ามันต้องเขียว
คอยดู รอบหน้าเขาจะต้องชนะ
ถ้ากฤติไม่ได้ใส่กระโปรงนักศึกษา อย่าเรียกเขาว่านายนรินทร์ นิ้วกลาง!
------- Sunday In Bed -------
[/b]
ต่อด้านล่างนะคะ