Just a Fake Love...ไม่ต้องอินมากก็ได้พี่ : (18/05/2019) ตอนที่ 25 จบแล้วย้ายได้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Just a Fake Love...ไม่ต้องอินมากก็ได้พี่ : (18/05/2019) ตอนที่ 25 จบแล้วย้ายได้  (อ่าน 54196 ครั้ง)

ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม





------------------------------------------------------------------------------------------------------------


     ผมไม่ชอบความซับซ้อน เพราะผมไม่ใช่คนฉลาด ผมตีความหมายไม่เก่ง ถ้าไม่บอกผมตรงๆผมก็ไม่มีวันเข้าใจ
เพราะฉะนั้นเวลาจะพูดอะไรกับผม ไม่ต้องพูดอะไรให้ยืดเยื้อ เพราะนอกจากจะเสียเวลาเปล่าแล้ว อาจจะเสียสุขภาพจิตเพิ่ม
ก็ได้เช่นตอนนี้ผมถูกแฟนคนปัจจุบันเรียกออกมาระหว่างนั่งกินข้าวในโรงอาหาร ใบหม่อนเดินจูงมือผมออกมาห่างจากโรงอาหารไม่เท่าไหร่นักก่อนจะเริ่มพูดถึงสาเหตุที่เรียกผมออกมาครั้งนี้

“ขอโทษนะเทียนที่จู่ๆหม่อนก็เรียกเทียนออกมาทั้งๆที่เทียนกำลังกินข้าวอยู่”
ผมพยักหน้ารับ เป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นแล้วยืนฟังใบหม่อนพูดเงียบๆ
 
“เทียนดีกับหม่อนนะดีกับหม่อนมากๆ หม่อนรู้ว่าเทียนรักหม่อน”
พูดถึงตรงนี้ใบหม่อนมีสีหน้าเครียด มือทั้งสองข้างกำสายสะพายกระเป๋าแน่น เหมือนกำลังช่างใจอะไรบางอย่าง

“หม่อนเองก็รักเทียน รักเทียนมาก เพราะเทียนเป็นผู้ชายคนเดียวที่ให้เกียรติหม่อน ให้เกียรติหม่อนมาก จนเหมือนจะมากเกินไปด้วยซ้ำ เทียนไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวหม่อน ไม่เคยแม้กระทั่งจูงมือเหมือนคนอื่นๆที่เป็นแฟนกัน ไม่เคยนั่งใกล้กัน”
น้ำเสียงใบหม่อนเริ่มจะสั่นขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่รู้ว่าทำไมหม่อนถึงทำหน้าอยากจะร้องไห้ซะขนาดนั้น หรือเธอจะประทับใจในตัวผมที่ไม่เคยคิดที่จะเอาเปรียบเธอเลย

“เทียนดีเกินไปสำหรับหม่อน หม่อนขอให้เรากลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเก่าได้ไหม มันอาจจะดีกว่าที่เราเป็นอยู่ตอนนี้”
ใบหม่อนพูดพร้อมน้ำตา ในขณะที่ผมยืนฟังทุกคำพูดนิ่ง ที่นิ่งนี่ไม่ใช่อะไรนะครับแต่ที่นิ่งเพราะผมกำลังใช้ความคิดอยู่ว่ามันหมายว่าว่าอะไร เท่าที่ฟังมาตั้งแต่ต้นเหมือนหม่อนแค่ต้องการจะชมว่าผมให้เกียรติเธอ เพราะผมไม่เคยคิดจะเอาเปรียบเธอ แต่ที่ผมไม่เข้าใจก็คือให้เกียรติหม่อนแล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับที่ผมต้องลดสถานะจากแฟนไปเป็นเพื่อนด้วย ตรงนี้ผมไม่เข้าใจจริงๆ แต่ก็ตอบออกไปแค่ว่า

“ถ้าหม่อนต้องการแบบนั้น ก็ได้นะ เราโอเค”

‘เพี๊ยะ!!!’





“อ้าวไอเทียน เป็นไงเจอสวดหรอมึงหน้าแดงมาเชียว”
ไอเจงส่งคำถามให้ผมเป็นคนแรก หลังจากที่ผมเดินกลับมาที่โต๊ะ

“กูไม่เข้าใจ”
ผมตอบมันไปสั้นๆ แล้วหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวกินต่อ เมื่อกี้จำได้ว่าผมเหลือไก่ในจานตั้งหลายน่อง กลับมาอีกทีทำไมมันถึงเหลือแค่สองน่องเองวะ
 
“สัส พูดแค่ไม่เข้าใจแล้วพวกกูจะรู้ไหม ขยายความด้วยซิวะ”
ไอเผือกเอื่อมมือมาผลักหัวผมเบาๆ แถมยังทำหน้าขัดใจอีก วันหลังก็บอกด้วยซิวะว่าอยากให้เล่า กูก็นึกว่าเป็นคำถามลอยๆไม่ต้องการคำตอบ

“หม่อนบอกว่าหม่อนรู้ว่ากูรักหม่อน กูให้เกียรติหม่อนมาก จนดูเหมือนมากเกินไป”
ผมเล่าให้ไอเผือกไอเจงฟังไปด้วยแล้วก็คิดตามไปด้วยอีกที
 
“แล้วไงวะ ให้เกียรตินี่มันแบบไหน”
ไอเผือกถามต่อ ดูมันจะอยากรู้มากพอๆกับที่ผมอยากรู้เลย ให้เกียรติแล้วไม่ดีตรงไหน ทำไมต้องกลับไปเป็นเพื่อนกัน

“หม่อนบอกกูไม่เคยแตะต้องตัวหม่อน ไม่จับมือ ไม่นั่งใกล้”

“เดี๋ยวนะกูขอเบรคแปป อย่าบอกนะตั้งแต่มึงคบหม่อนมานี่มึงไม่เคยโดนตัวหม่อนเลย”

“อืม ก็เขาเป็นผู้หญิง”

“มือก็ไม่เคยจับ”

“อืม ไม่เคย”

“กูว่าหม่อนไม่ใช่ผูหญิงแล้ววะอย่างนี้”
ไอเจงว่าแล้วตบโต๊ะดังปัง

“เป็นซิ ใบหม่อนใส่กระโปรงนะ”
ผมเถียง ก็เห็นๆอยู่ว่าใบหม่อนใส่กระโปรงแถมยังมี เอ่อ นะ น..หน้าอกอีกจะไม่ใช่ผู้หญิงได้ไง

“เท่าที่ฟังมึงพูดใบหม่อนคงไม่ใช่ผู้หญิงแล้วหล่ะ แต่เป็นภิษุณี ไอสัส กูไม่แปลกใจเลยทำไมใบหม่อนถึงเลิกกับมึง”

“ใบหม่อนไม่ได้บอกว่าจะเลิก แค่บอกว่าให้กลับไปเป็นเพื่อนกันเฉยๆ มึงอย่ามามั่ว”
ผมเถียงกลับแทบจะในทันทีแล้วยกตีนถีบขาไอเจงที่ใต้โต๊ะเบาๆ

“กูหมดคำพูด แล้วแต่มึงจะคิดเลยไอเทียน”
ไอเจงว่าต่อ โดยมีไอเผือกทำหน้าเอือมสบทบ ก่อนที่พวกมันจะเอาช้อนเขี่ยเศษอาหารที่อยู่ในจานเล่นระหว่างรอผมกินข้าว
แต่เดี๋ยวนะ
 
“ไอเผือกร้านสุกกี้เขามีน่องไก่ทอดใส่ให้มึงด้วยหรอวะ”
ผมถามเพราะเหลือบไปเห็นกระดูกน่องไก่ในจากสุกี้แห้งของไอเผือก
 
“มึงคิดว่าไง”

“ทำไมต้องคิด กูแค่แปลกใจตอนกูแดกไม่เห็นจะมี”

“เฮ้อออ”
อย่างกับนัดกันมา พวกมันถอนหายใจใส่ผมแล้วทำหน้าเอื่อมใส่อีกครั้ง ไม่รูว่าเป็นห่าอะไรกัน ผมจัดการลงมือกินข้าวต่อจนหมดแล้วเตรียมตัวไปเรียนคาบบ่าย พอขึ้นมาถึงห้องก็เจอพี่ปีสามที่ลงเรียนวิชาเดียวกับพวกผมนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ผมเลยยกมือไหว้ทักทายตามมารยาท

“พี่ปราบ พี่นัท พี่เพลิงหวัดดีครับ มาซะเร็วเลยกลัวไม่ได้เรียนหรอพี่”
ผมแค่ยกมือไหว้ แต่ที่พูดทักเมื่อกี้เป็นไอเจงครับ ในนั้นมีพี่รหัสมันด้วยมันเลยเดินเข้าไปทักอย่างสนิทสนมได้โดยไม่โดนตีน

“เออ เจอมึงก็ดีแล้ววันนี้พวกกูว่าจะชวนไปแดกเหล้าฟรี เจ้าภาพแม่งรวยไปช่วยถลุงๆมันหน่อย”
พี่เพลิงพูดด้วยสีหน้าชั่วร้าย ไอเจงเลยรีบรับปากอย่างไว

“พอดีเลยพี่ ไอเทียนพึ่งอกหักมาผมชวนมันไปแดกเหล้าย้อมใจโดยไม่เสียเงินได้ใช่ไหมพี่”

“กูไม่ได้เลิกกัน แค่กลับไปเป็นเพื่อน”
ผมรีบหันกลับไปแก้ไขความเข้าใจใหม่อีกครั้ง
 
“อะไรยังไงวะ เล่ามาซิ”
พี่เพลิงตบเก้าอี้ให้ไอเจงนั่งข้างๆ ไอเจงก็นั่งอย่างว่าง่ายแล้วเริ่มเล่าเรื่องผมตั้งแต่ต้นจนจบ โดยไม่สนใจเจ้าของหัวข้อสนทนาอย่างผมเลยซักนิด ทั้งๆที่ผมก็นั่งอยู่ตรงนี้ด้วย




“มึงโอเคใช่ไหมไอเทียน”
พี่เพลิงถามผมด้วยน้ำเสียงกลั่วหัวเราะ พี่ๆคนอื่นก็พยายามอย่างมากที่จะไม่หลุดยิ้ม หน้าพี่แม่งโคตรจะจริงใจเลย

"ผมไม่ได้เลิกกัน พี่ก็อย่าไปฟังไอเจงมาก”

“แล้วเมื่อกี้ที่ไอเจงพูดมีเรื่องไหนที่ไม่จริงไหม”
พี่นัทถามอีก มีไหมน่ะหรอ เท่าที่ฟังมาก็ไม่มีนะ มันก็เล่าตามที่ผมเล่าให้ฟังหมดทุกช็อต

“ว่าไงมีไหม”
ไอเผือกช่วยเสริม แถมยังยักคิ้วล้อผมอีก

“ไม่มีครับ”
ไม่ทันที่ผมจะได้แก้ตัวเพิ่มเติมอาจารย์เจ้าของวิชาก็เดินเข้ามาเสียก่อน พวกผมเลยต้องแยกย้ายไปนั่งที่ของตัวเอง วิชานี้มีกฏการนั่งเรียนอยู่อย่างหนึ่งครับ ตลอดระยะเวลาหนึ่งเทอมนี้ ห้ามนักศึกษาเปลี่ยนที่เด็ดขาด อาจารย์เนี๊ยบจนถึงขั้นถ่ายรูปและล้างรูปมาประกอบการเช็คชื่อทุกครั้ง ในห้องนี้เลยไม่มีใครกล้าลองของกับแก




     หลังจากหมดคาบพวกพี่เพลิงก็แยกย้ายกันไปก่อน โดยไม่ลืมหันมากำชับพวกผมว่าให้ตามไปให้ได้ ถ้าสายพี่เขาจะสั่งซ่อมในร้านเหล้า แค่คิดพวกผมก็ไม่กล้าสายแล้ว ครั้งก่อนผมจำได้ไอเจงเคยโดน มันมาสายกว่าเวลานัดเกือบชั่วโมงพี่เพลิงเลยซ่อมมันโดยให้แต่งหญิงไปเต้นรูดเสา หลังจากนั้นเวลาพี่ๆนัดอีกพวกผมเลยไม่กล้าสายแม้แต่วินาทีเดียว

“ไอเทียนเอาไงไปพร้อมไหม หรือมึงจะไปเอง”
ไอเจงถาม

“กูไปเองดีกว่า เดี๋ยวแวะหาม๊าก่อน กูต้องกลับบ้านไปรายงานตัวไม่งั้นม๊างอน”

“เออไอลูกแหง่ อย่าไปสายนะมึง พวกกูไปก่อน เจอกันที่ร้านเลย”
ผมรับคำสั้นๆก่อนจะแยกขึ้นรถใครรถมันแล้วขับไปยังจุดมุ่งหมายทันที





-----------------------------------------------

ทักท้ายผู้อ่านค่ะ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องใหม่แกะกล่องที่ผู้เขียนเอามาลงที่เล้าเป็ดแห่งนี้ ยังไงก็
รบกวนเป็นกำลังใจ คอมเม้นส์ บวกเป็ดให้บ้างนะคะ สัญญาว่าจะมาลงบ่อยๆ

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-05-2019 23:50:49 โดย wookyu »

ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
                                                                                        -2-


     ผมกลับมาถึงบ้านก็เห็นม๊ากำลังนั่งดูละครอยู่ที่ห้องนั่งเล่น โดยมีพี่หวานนั่งอยู่เป็นเพื่อน ดูท่าจะสนุกกันเหลือเกินขนาดผมเดินมานั่งข้างๆได้ซักพักแล้วยังไม่มีใครสังเกตุเห็น

“อาหวานถ้าอีนางตัวร้ายนี่มาซื้อของร้านเรานา ลื้อห้ามขายให้อีเด็ดขาดเลย ไล่อีออกจากร้านเราไปเลย อั๊วไม่ชอบอีร้ายเกินไป”
โห!! อารมณ์มาเต็มเลยครับม๊าผม

“ได้คะหวานจะไม่ขายแล้วจะไล่มันไปซื้อร้านอื่นเลยคะเจ้ หวานก็ไม่ชอบนาง ผู้หญิงอะไร๊มาให้ท่าผู้ชายถึงบ้าน”
นี่ก็อีกคนเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยสองคนนี้

“ม๊าครับ ไม่คิดจะสนใจลูกชายตัวเองหน่อยหรอครับ”
ในที่สุดเมื่อผมอดทนรอให้ม๊าหันมาเจอผมเองไม่ไหว เลยต้องยื่นหน้าเข้าไปหาซะเอง
 
“เอ้าอาตี๋ ลื้อกลับมาตอนไหน หลบม๊าก่อนม๊าจะดูอาน้ำเพรชจัดการอาส้มเช้ง”
ผมกลายเป็นหมาหัวเน่าเพราะละครเรื่องนี้แท้ๆเลย ผมยื่นหน้าไปหอมแก้มม๊าแรงๆหนึ่งที ก่อนจะเดินขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า นี่ก็ใกล้จะได้เวลานัดแล้วด้วย

“ม๊าตี๋ไปก่อนนะ ถ้าดึกมากตี๋อาจค้างห้องไอเจงเลยม๊าไม่ต้องห่วงนะ”

“ไลน์มาบอกอั๊วด้วยถ้าลื้อถึงห้องอาเจงแล้ว ถ้าลื้อลืมครั้งหน้าอั๊วจะไม่ให้ลื้อไปอีก”
ม๊าทำเสียงเขียว เห็นอย่างนี้ม๊าผมไฮเทคนะครับรู้จักแอปพลิเคชั่นไลน์ด้วย เล่นเป็นทุกอย่าง ทั้งเฟสบุค ทวิตเตอร์ ไอจี
ม๊าผมมีครบทุกแอคเคาน์ ผมเคยถามว่าแก่แล้วจะเล่นไปทำไม ม๊าผมบอกว่าอั๊วจะได้เข้าใจลื้อไง ลื้อมันเด็กรุ่นใหม่ มีอะไรก็โพสต์ลงไอพวกนี้หมด พ่อแม่มีไม่รู้จักเล่าให้ฟัง นั่นแหละครับเหตุผลที่ม๊าผมต้องเล่นทุกอย่างเป็น หลังจากที่ผมบอกลาม๊าเสร็จผมก็ดิ่งตรงไปยังร้านเหล้าร้านประจำทันที โชคดีหน่อยที่รถไม่ค่อยติดมาก ทำให้ผมมาถึงก่อนเวลานัดสิบนาที เข้ามานั่งรอรุ่นพี่ได้อย่างสบายใจเชิบ

“มาเร็วนะมึง”

“มาช้าผมก็โดนซ่อมซิครับ”
ผมตอบก่อนจะยกมือไหว้รุ่นพี่อีกคนที่นั่งอยู่ด้านในสุด คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนต่างคณะของพี่เพลิง เพราะผมไม่เคยเห็นหน้าพี่เขามาก่อน

“เอ่อ ไอเหนือนี่รุ่นน้องกู มันชื่อเทียน พึ่งอกหักวันนี้สดๆร้อนๆเลย”
เหี้ยพี่เพลิงไม่เห็นต้องบอกทุกเรื่องเลยก็ได้นี่ครับ พี่เหนือไม่หือ ไม่อือ ไม่รับไหว้แต่อย่างใด เหลือบมองผมแวบเดียวแล้วก็หันไปสนใจหน้าเวทีต่อ นี่ใช่ไหมครับที่เรียกว่าหล่อแล้วหยิ่ง พี่เหนือหล่อตามที่ผมพูดเลยครับ ตาเรียวคม เรือนผมสีน้ำตาลอ่อน ลุคพี่เขาดูแบดบอยมาก รับกับทรงผมอัปเปอร์คัทได้อย่างลงตัว ดูไม่มีที่ติ ผมหมายถึงดูเลวได้อย่างไม่มีที่ตินะครับ

“ไอเทียนจะแดกอะไร เหล้าหรือเบียร์”
เสียงพี่เพลิงแทรกขึ้นในระหว่างที่ผมกำลังนั่งพิจารณาหนังหน้าพี่เหนืออย่างเพลิดเพลิน ทำให้ผมต้องย้ายสายตาจะหนังหน้าพี่เขาไปมองยังขวดสีชากับสีอำพันในมือพี่เพลิงแทน

“เป๊ปซี่ครับ”

“ผสมเป๊ปซี่หรอ”

“เปล่าครับผมขอเป๊ปซี่”

“ตุ๊ด”
ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ในเชิงถามคนตรงหน้ากลับว่าเมื่อกี้ว่าผมหรอ ไอพี่เหนือไม่ตอบ แต่ถ้าให้เดาตุ๊ดที่พี่มันว่าคงจะหมายถึงผมแน่ๆ

“อ่อ ครับใครๆก็ว่าผมตุ๊ด แต่จริงๆผมแมนนะพี่”
ผมตอบพร้อมหัวเราะเบาๆ ทำไมคนอื่นถึงชอบมองว่าผมเป็นตุ๊ดกันจังวะ หน้าอกตูมๆผมก็ไม่มี สูงก็เกินร้อยแปดสิบ ไม่รู้ว่าคนอื่นมองว่าผมเป็นตุ๊ดไปได้ไง หรือจะเพราะผมเป็นคนตัวขาว หน้าหวาน ก็ไม่น่าใช่นะครับ แต่ช่างมันเถอะผมไม่ได้เป็นอย่างที่คนอื่นคิดซะหน่อย

“นี่มึงกวนตีนกู?”

“เฮ้ย เหี้ยเหนือใจเย็น อย่าถือสาไอเทียนมันเลย มองแวบแรกมึงอาจคิดว่ามันกวนตีน ลองมึงรู้จักมันไปซักพักมึงจะรู้ว่ามันตรงข้ามกับที่มึงเห็นทุกอย่าง”
พี่เพลิงกระซิบอะไรกับพี่เหนือก็ไม่รู้ผมฟังไม่ถนัด เห็นอย่างเดียวคือสายตาไม่เป็นมิตรที่พี่เหนือส่งตรงให้ผมอย่างไม่คิดจะปิดบัง นี่ผมไปทำให้พี่เขาไม่พอใจตอนไหนวะเนี่ย

เวลาผ่านไปซักพักผมก็เห็นคนที่เหลือเดินเข้ามาพร้อมกันเป็นกลุ่มและสองในสี่นั้นก็มีไอเจงและไอเผือกรวมอยู่ด้วย
 
“ทำไมถึงมาพร้อมกันได้”
ผมถามพลางเขยิบตัวเข้าไปด้านในสุดเพื่อให้คนมาใหม่มีที่นั่งทำให้ตอนนี้ผมนั่งติดกับพี่เหนือไปโดยปริยาย ฝ่ายนั้นเหลือบตามามองผมเล็กน้อย แล้วก็จิบเหล้าต่อ มาดเยอะเหลือหลาย ผมไม่ได้อยากมานั่งข้างๆพี่ซักหน่อย

“เจอพี่ๆเขาหน้าร้านพอดี เลยเดินเข้ามาพร้อมกัน ดีนะที่พวกกูไม่สาย”
ไอเจงว่าพลางหยิบแก้วโค้กผมไปแดก
“เหี้ยเจงนี่แก้วกู”
ผมดึงแก้วจากปากมันมาแล้วยกมือปิดปากแก้วไว้แน่น น้ำในแก้วมันพร่องไปแล้วครับกูอุตส่าห์ค่อยๆจิบจะได้ไม่ต้องเติม
เพราะไอพี่เพลิงมันบอกว่าให้โค้กผมแก้วเดียวเท่านั้น หมดแก้วนี้เมื่อไหร่ ผมเลือกแดกได้แค่เหล้า หรือเบียร์

“ไอเพี้ยน ทำไมแก้วมึงถึงเป็นโค้ก”

“สัสเจงเบาๆ เดี๋ยวพี่เพลิงได้ยิน”
ผมถองสีข้างไอเจงเบาๆ ในเชิงให้มันหยุดพูด ดีนะที่พี่ๆไม่ทันสังเกตุไม่งั้นผมโดนเหล้าเพรียวๆอย่างไอเผือกไอเจงแน่

“ไอเหนือนี่รุ่นน้องกูอีกสองคน นั่งข้างไอเพี้ยนชื่อเจงน้องรหัสไอนัท ส่วนไอนี่เผือกน้องรหัสกูเอง”

“สวัสดีครับพี่เหนือ เคยได้ยินแต่ชื่อตัวจริงพี่โคตรหล่อเลย”
ไอพี่เหนือไม่พูดห่าอะไรเลย ยิ้มมุมปากรับหน่อยเดียว แล้วหันไปคุยกับเพื่อนมันต่อ

“เหนือแล้วแฟนมึงล่ะ ไม่ได้มาด้วยหรอ”

“ไม่ได้ชวน”
คำตอบของพี่เหนือเล่นผมที่ยกโค้กขึ้นดกถึงกับสำลักพรวด
 
“แค่ก ๆ”

“ไอเพี้ยนแดกไงของมึงเนี่ย สกปรกชิบหาย”
ไอเจงบ่นก่อนจะส่งทิชชู่ที่รับมาจากพี่นัทส่งให้ผมเช็ดหน้าเช็ดตา กูจะไม่เป็นแบบนี้เลยถ้าคำตอบของพี่เหนือมันปกติเหมือนมนุษย์ทั่วไป

“ไอห่าเป็นแฟนกันยังไงวันเกิดเสือกไม่ชวน แล้วน้องเขาไม่น้อยใจหรอ”
พี่นัทถามต่อ ถามเลยพี่ถามเลยผมก็อยากรู้
 
“สนใจเรื่องกูขนาดนั้น”
ไอพี่เหนือย้อนถาม ฟังดูรูปประโยคเหมือนมันจะถามพี่นัท แต่ทำตามันถึงเขมาที่ผมล่ะ

“เรื่องของเดือนมหาลัยผู้โด่งดังใครบ้างวะไม่อยากรู้ ใช่ไหมพวกมึง”
พี่นัทว่าแล้วหาแนวร่วมซึ่งแน่นอนว่าได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เห็นได้จากเสียงใช่ๆๆๆ ที่ดังขึ้นจากทุกมุมของโต๊ะ ยกเว้นผมไว้คนนึงแล้วกัน ไม่ออกเสียงแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่อยากรู้นะครับ เงียบฟังมาตั้งแต่ห้านาทีที่แล้ว

“กูไม่เล่าแล้ว แถวนี้มีคนไม่อยากรู้”
เหี้ยใครวะไม่อยากรู้ พี่เหนือแม่งจงใจจะไม่เล่าตั้งแต่แรกมากกว่า นิสัยเสียหว่ะแม่ง มึงเอาความตั้งใจกูคืนมาให้หมดเลย
ไอเหี้ยพี่เหนือ

“เออๆ เรื่องของมึงดูพวกกูสืบเองก็ได้ แดกเหล้าๆเว้ยวันนี้เสี่ยเหนือเขาเลี้ยงไม่อั้น”
พี่นัทว่าแล้วยกแก้วขึ้นมาชนกับแก้วทุกคนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะ ทุกอย่างเกือบโอเคแล้วสำหรับผมถ้า

“กูเลี้ยงเฉพาะคนแดกเหล้ากับเบียร์ แดกโค้กกูไม่เลี้ยง”

“พี่นัทขอเบียร์ผมแก้วนึงพี่”
ได้ยินเช่นนั้นผมรีบยกโค้กซดรวดเดียวหมดก่อนจะยื่นแก้วที่เหลือแต่น้ำแข็งให้พี่นัทเทเบียร์ให้ หันไปมองไอคนยื่นคำขาดมันก็ยกยิ้มกวนๆส่งให้ อย่างนี้มันแกล้งกันชัดๆ ถึงผมจะหัวช้าแต่ก็ไม่โง่นะครับ


ในที่สุดสภาพของพวกผมแต่ละคนก็เละเป็นโจ๊ก หลังจากเป่าเค้กเสร็จ พวกพี่นัท ไอเจงก็พากันไปเต้นเบียดสาวหน้าเวที ส่วนไอพี่เหนือแม้มันจะนั่งอยู่กับที่ ก็มีสาวๆเดินมาแจกขนมจีบให้มันไม่ขาดสาย แลกเบอร์ แลกไลน์กันเสร็จ ก็ต่อด้วยแลกน้ำลาย
พี่เหนือมันนั่งเฉยๆ ปล่อยให้สาวเจ้าจัดการเองทุกอย่าง ตั้งแต่ล็อคคอเข้ามาจูบ นั่งคร่อมบนตัก ไซค์คอซ้ายทีขวาที
ผมที่ไม่ได้อยากจะมอง ก็พลอยต้องเห็นไปด้วย พี่แม่งไม่รู้จักอายคนอื่นเขาบ้างหรือไง

“ไปต่อกันที่ห้องแซนดี้ไหมค่ะ”
กระซิบกันดังมากครับ ผมพยายายามไม่สนใจ ค่อยๆจิบเหล้าในแก้วต่อ อีกพักนึงผมว่าจะหนีกลับแล้ว ถูกทิ้งให้ดูหนังสดตรงนี้คนเดียวรู้สึกไม่โอเคเลยครับ

“หนุ่มน้อยสนใจไปดื่มด้วยกันที่โต๊ะไหม นั่งอยู่ตรงนี้ไม่เกรงใจเขาหรอ”
ผู้หญิงน่าตาน่ารักคนนึงเดินถือแก้วมานั่งข้างผม แล้วมุ้ยหน้าไปทางพี่เหนือที่อยู่อีกฝั่ง เธอนั่งใกล้ผมมากจนแก้มก้นข้างนึงของเธอเกือบขึ้นมาเกยบนตักผม ผมเลยรีบขยับออกห่างทันที

“หายากนะคะผู้ชายที่สุภาพบุรุษแบบนี้”

“ขอโทษนะครับแต่ผมกำลังจะกลับแล้ว”
ผมปฎิเสธอย่างสุภาพ ก้นก็เขยิบหนีผู้หญิงตรงหน้าไปเรื่อยๆ เธอเล่นเขยิบตามมานี่ครับนี่ผมเขยิบหนีจนจะหล่นจากโต๊ะอยู่แล้วเนี่ย
 
“โอย โอเคค่ะ แก้มไม่แกล้งแล้วก็ได้ ว่าแต่ชื่ออะไรค่ะ แก้มอยากรู้จัก นะ นะคนดี”
แก้มไม่ว่าเปล่าครับมือเธอเลื้อยมาเกาะแถวๆหน้าอกผมด้วย ผมเห็นท่าไม่ดีเลยคว้ามือเธอเอาไว้ก่อน

“ผะ ผมชื่อ”

“จะกลับบ้านหรือยังเดี๋ยวกูไปส่ง”
พี่เหนือเดินมาหยุดอยู่ข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่ผมไม่อาจทราบได้ สมองยังไม่ทันประมวลผล มือใหญ่ก็คว้าแขนผมให้ลุกขึ้นเดินตามแรงลากออกไป ใช้คำว่าลากนะครับ เดินตามขายาวๆนั่นออกมาผมนี่ต้องเอ่ยขอโทษคนข้างในมาตลอดทาง ไม่ชนก็เหยียบเท้าเขาบ้างล่ะ ดีนะที่ผมไม่โดนรุมกระทืบจากคนข้างใน ไอพี่เหนือพาผมมาลาดจอดรถ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์คุยกับใครซักคน ไม่กี่คำก็วางและก็ไม่วายส่งสายตาเจือความรำคาญส่งมาให้ผม

“เอ่อ พี่คือเรื่องเมื่อกี้ขอบคุณนะครับ ผมว่าผมจะกลับแล้วขอบคุณที่เลี้ยงนะพี่ แล้วก็สุขสันต์วันเกิดครับ”
ผมพูดรัวเป็นชุดยกมือไหว้ปิดท้ายเตรียมจะเดินออกไปเรียกแท็กซี่ที่หน้าผับ แต่
 
“กูไม่ได้ช่วยมึงฟรีๆหรอกนะ เผื่อมึงจะเข้าใจผิด”
ผมชะงักฝีเท้ากึก อะไรของพี่แม่งวะ อะไรฟรีๆ ผมได้ยินไม่ถนัดเลยต้องหันกลับไปเพื่อขอให้มันทวนสิ่งที่พูดใหม่อีกครั้ง
“พี่ว่าไงนะครับ”
พี่เหนือเดินเข้ามาใกล้ผมอีกนิด ก่อนจะยอมทวนคำพูดตัวเองให้ผมฟังอีกครั้ง
 
“กูบอกว่ากูไม่ได้ช่วยมึงฟรีนะ”

“อ้าว”
ผมอ้าวคำเดียวสั้นๆ แทนความสังสัยทั้งหมดทั้งปวงที่อยู่ในหัวตอนนี้ ไม่ได้ช่วยฟรี แล้วกูต้องจ่ายคืนเป็นอะไร เงินหรอ

“ถ้าพี่เหนือจะให้ผมจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงิน ตอนนี้ผมมีแค่พันกว่าบาท พี่เอาไปก่อนได้ไหม เดี๋ยวที่เหลือผมเอามาให้พรุ่งนี้”
ผมว่าพลางเปิดกระเป๋าตังค์ตัวเองหยิบแบงค์พันกับแบงค์ห้าร้อยอย่างละใบส่งให้พี่เหนือ ตอนนี้ในกระเป๋าผมเหลือเงินสดอยู่ไม่ถึงสองร้อย น่าจะพอค่าแท็กซี่อยู่มั้ง

“อะไรของมึง กูบอกตอนไหนว่าจะเอาเงิน”
งง หนักกว่าเดิมอีก เงินที่ผมส่งให้พี่เหนือเมื่อครู่ถูกยัดคืนใส่มือตัวเองอีกครั้ง พร้อมกับความ งง ไม่เอาเงินแล้วจะเอาไรของมันวะ

“มึงไม่ชอบผู้หญิง”
ถึงมันจะคนละประเด็นกับเรื่องเงินเมื่อครู่ ในฐานะรุ่นน้องเมื่อรุ่นพี่ถามผมก็ต้องตอบ

“เปล่าครับ”

“แล้วเมื่อกี้มึงหนีทำไม”

“เพราะเธอเป็นผู้หญิง”

“แล้ว?”

“ผมเป็นผู้ชาย มันเป็นการไม่ให้เกียรติถ้าผมไปลุ่มล่ามกับเธอทั้งที่ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกัน”
ผมตอบไปตามความคิด พี่เหนือมันทำหน้าอึ่งๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหลี่ตาเหมือนจะจับผมอะไรผมซักอย่าง

“มึงพูดเพราะมึงคิดอย่างนั้น หรือมึงแอ๊บทำเป็นสุภาพบุรุษ”

“พี่กำลังหาว่าผมพูดปดหรอครับ ผมเปล่านะสิ่งที่พูดคือสิ่งที่ผมคิด แล้วสรุปพี่จะให้ผมตอบแทนพี่ยังไงในเมื่อเงินพี่ก็ไม่เอา”

“มึงนี่น่าสนใจดี”

“ครับ?”
ได้ยินไม่ถนัดอีกแล้ว นี่หูกูหนวกหรือเปล่า

“เรื่องตอบแทนกูมีเรื่องให้มึงช่วยเรื่องนึง พรุ่งนี้เที่ยงไปหากูที่คณะแพทย์แล้วอย่าสายกูไม่ชอบรอ”
ให้ไปหาทำไมวะคณะแพทย์ตึกก็อยู่ไกล แล้วจะให้ช่วยอะไรวะ หน้าอย่างผมจะไปช่วยอะไรใครเขาได้ ไปเกะกะซิไม่ว่า

“ได้ยินไหมที่กูพูดเนี่ยไอเพี้ยน”

“เอ่อ พี่ครับผมเทียนครับ แล้วก็เข้าใจแล้วครับพรุ่งนี้เดี๋ยวผมไปหาที่คณะแพทย์”
ผมรับปากอย่างขอไปที กล่าวลาอีกซักรอบ อยากกลับบ้านใจจะขาดแล้วด้วย ครั้งนี้พี่เหนือมันไม่ได้ขัดอะไรปล่อยให้ผมกลับบ้านได้ตามต้องการ ก่อนที่มันจะเดินกลับเข้าไปในผับอีกสงสัยจะไปต่อกับน้องแซนดี้ ผมกลับถึงบ้านในเวลาตีหนึ่งกว่าๆ อาบน้ำเข้านอนโดยที่ไม่ลืมไลน์บอกม๊าว่าผมกลับมานอนบ้าน ไม่งั้นเช้ามาโดนบ่นหูชาแน่


 



 

 



ออฟไลน์ Cyclopbee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
น้องเป็นคนซื่อ พี่เหนืออย่าทำอะไรน้องนะ

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13

ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
                                                                                       

                                                                                                 -3-



โต๊ะหน้าตึกวิศวะ

“เพี้ยนเมื่อคืนมึงกลับบ้านไปตอนไหนวะ กูกลับมาที่โต๊ะเห็นแต่พี่เหนือ”
ผมละสายตาจากจอมือถือตัวเองมองเพื่อนรักที่พึ่งจะรู้สึกห่วงผม หลังจากที่ผมหายไปทั้งคืน ไอเผือกวางกระเป๋าลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนที่ผมนั่งอยู่ พร้อมกับแก้วน้ำที่มันถือติดมาจากโรงอาหารแล้วเลื่อนแก้วน้ำนั่นมาให้ผม
 
“ก็ตอนที่พวกมึงทิ้งให้กูนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้วออกไปหลี่หญิงกันไง กูไม่อยากดูหนังสดเลยหนีกลับก่อน”

“หนังสด?”
ไอเผือกถามตาเป็นประกาย เรื่องงี้อยากรู้ขึ้นมาเชียวนะเพื่อนเวร ผมคาดโทษมันในใจ
 
“เออ ดิ”
กูไม่เล่า อยากรู้ให้ตายไปเลย ชื่อเผือกไม่พอยังขี้เสือกอีก

“แล้วไงต่อวะ เหี้ยนี่ชอบเล่าอะไรครึ่งๆกลางๆ”

“ไม่แล้วไง ไสหัวไปกูจะเล่นเกมส์”
ผมว่าแล้วดันหน้าไอเผือกให้พ้นจากกรอบสายตา ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเล่นเกมส์ต่อ ด่านนี้บอสตีโคตรยาก ผมเล่นมาสองวันแล้วยังไม่ผ่านเลย

“ไอขี้งก แล้วไอเจงอ่ะมายัง นี่เที่ยงกว่าแล้วนะ มันจะโดดคาบอาจารย์เอื้อมพรหรือไง”

“โทรไปหามันดิ เที่ยงแล้วคงกินข้าวกับเด็กมันมั้ง”
ผมตอบตาก็จ้องเกมส์อย่างตั้งใจ ช้าก่อน เหมือนผมจะลืมอะไรซักอย่าง เกี่ยวกับอะไรเที่ยงๆ มือผมหยุดเล่นเกมส์ไปแล้วครับ ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนเริ่มฉายย้อนเป็นฉากๆ พี่เหนือลากผมออกจากผับเพราะผมถูกผู้หญิงก่อกวน ผมยืนอยู่กับพี่เหนือที่ลานจอดรถ ต่อรองกันเล็กน้อยเรื่องค่าตอบแทนที่พี่เหนือช่วยผม สุดท้าย

‘เรื่องตอบแทนกูมีเรื่องให้มึงช่วยเรื่องนึง พรุ่งนี้เที่ยงไปหากูที่คณะแพทย์แล้วอย่าสายกูไม่ชอบรอ’
ชิบลอสกูลืมสนิทเลยเหี้ย!!!
ผมรีบยัดมือถือใส่กระเป๋าคว้านหากุญแจรถก่อนจะวิ่งหน้าตั้งไปลานจอดรถมุ่งหน้าสู่คณะแพทย์ทันที
 
“เฮ้ย!! ไอเพี้ยนมึงจะไปไหน”

“เดี๋ยวกูกลับมาเล่ากูรีบ เจอกันเลิกคลาสเลย!!!”
ผมตะโกนตอบแค่นั้น 10 นาทีต่อมา ผมก็มายืนหอบแดกอยู่ที่หน้าตึกคณะแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ว่าแต่พี่เหนือมันอยู่ไหนวะ

“กูบอกว่าไม่ชอบรอมึงจำไม่ได้หรือไง”
เหี้ยหน้าบึ่งมาแต่ไกลเลย พี่เหนือมันเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม กดเสียงต่ำโคตรๆ ดูท่าจะโกรธมากทีเดียว

“ผมขอโทษพี่ ผมลืมพอคิดได้ก็รีบมาเลย”
ผมยกมือขอโทษคนตรงหน้า พี่เหนือมันไม่พูดอะไรสิ่งที่พี่มันทำคือวางหนังสือกองโตลงบนแขนผม ก่อนใช้สายตาสั่งให้ผมเดินตามไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดจะอธิบายอะไรให้ผมฟังเลยซักนิด

“มึงเดินให้มันเร็วกว่านี้ได้ไหม ขี้เหร่แล้วยังขาสั้นอีก!”
อ้าวปากหรอครับนั่นที่พูด รู้จักกันแค่วันเดียวเอาสิทธิ์ที่ไหนมาตำหนิหน้าตากูมิทราบครับ ผมชักสีหน้าไม่พอใจแล้วเร่งฝีเท้าก้าวให้ทันคนข้างหน้าขึ้นอีกเล็กน้อย ครั้นจะเอ่ยปากถามคนข้างตัวว่าจะพาไปไหน พี่มันก็ดันเปิดประตูห้องๆหนึ่งเดินนำผมเข้าไปยังภายในห้องซะก่อนและเมื่อผมเดินตามเข้าไปก็อดที่จะอุทานขึ้นมาเบาๆอย่างลืมตัวไม่ได้

“ห้องสมุด?”

“แล้วมึงเห็นเป็นโรงแรมหรือไง”

“พาผมมาที่นี่ทำไมวะ”

เพี๊ยะ!!

“โอ้ยย พี่ตบปากผมทำไม”
ผมยกมือลูบปากตัวเองทันทีที่มือหนาของพี่เหนือฟาดลงมาบนปาก แม้มันจะไม่แรงมากแต่มันเจ็บพอดูเลยนะครับปากแตกหรือเปล่าก็ไม่รู้
“มึงพูดไม่เพราะ แล้วก็ช่วยหุบปากซักทีเห็นไหมคนอื่นเขามองกันหมดแล้ว”
พอพี่เหนือพูดจบผมก็หันไปมองคนที่ยืนอยู่รอบๆห้อง มันจริงอยู่นะครับที่ว่าคนพวกนั้นกำลังมองอยู่ มองด้วยสายตาหยาดเยิ้ม มองด้วยความหลงไหล ซึ่งสายตาเหล่านั้นไม่ได้มีเผื่อแผ่มาถึงไอเทียนคนนี้เลย โน่นครับจุดโฟกัสของสาวๆพวกนั้นคือไอพี่เหนือต่างหาก
 
“ผมว่าเขามองพี่นะ”
ผมแก้ความเข้าใจผิดนั้นให้พี่เหนือใหม่ แต่ดูเหมือนพี่เหนือมันจะไม่ได้สนใจในสิ่งที่ผมพูดเลยซักนิด มือหนายังคงไล่นิ้วไปยังสันหนังสือบนชั้นทีละเล่มอย่างใจเย็น

“พี่หาหนังสืออะไรอยู่ ให้ผมช่วยไหม”
ผมเอ่ยปากถามหลังจากที่ยืนถือหนังสือมองพี่เหนือเงียบๆอย่างนี้มาเกือบ 5 นาที
 
“แค่ยืนหุบปากอยู่แบบนั้นก็ช่วยกูได้เยอะแล้ว”
กริบ ผมรีบหุบปากตัวเองอย่างไว ความหวังดีของผมถูกคนตรงหน้าขยี้ด้วยตีนแบบไม่เหลือซาก พี่เหนือมันเลือกหนังสือจากชั้นขึ้นมาสองเล่ม แล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือที่อยู่ไม่ไกลจากหมวดหนังสือที่พี่เหนือพึ่งเดินออกมาไม่เท่าไหร่ ผมเลยวางหนังสือแล้วนั่งลงบ้าง นั่งมองคนตรงหน้าอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ โอยย กูจะหลับลากกูมาทำไมเนี่ย

“เหนือคะ”
เสียงหวานร้องทักพี่เหนือด้วยท่าทีกล้าๆกลัวๆ ห้าวินาทีผ่านไปพี่เหนือก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่อ่าน หรือว่าพี่เหนือจะไม่ได้ยิน

“เหนือคะ”
เสียงหวานเอ่ยเรียกพี่เหนืออีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอให้น้ำเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย

“ถามเขาหน่อยว่ามีอะไร”
ห๊า!! เกี่ยวไรกับกูครับพี่ เขาเรียกมึง มึงก็ถามเขาเองซิครับ

“เอ้า ทำไมพี่ไม่ถามเองล่ะ”
ผมพูดเสียงเบาแล้วหันไปยิ้มแห้งๆให้คนสวยเสียงหวานตรงหน้า

“กูสั่งให้ถามก็ถาม ขาสั้น ขี้เหร่แล้วยังหูไม่ดีอีกนะมึง”
“แต่พี่”

“อย่าให้กูพูดเป็นรอบที่สอง”
โว๊ะ!! เอาแต่ใจตัวเองจริงๆแม่ง ผมหันไปมองคนเสียงหวานอีกครั้ง เธอยังคงยืนอยู่ที่เดิมแต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือรอยยิ้มที่เธอพกมาด้วยนั้นหายไปจากใบหน้าสวยๆของเธอ เฮ้อ หนักใจจริงๆ เรื่องของกูหรือเปล่าก็ไม่ใช่เป็นคนกลางที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียแบบนี้ไม่แฟร์ต่อผมเลยจริงๆ

“พี่เหนือถามว่ามีอะไรหรือเปล่าครับ”
ผมถามพร้อมยิ้มเจือนๆส่งไปให้ อย่าโกรธผมนะครับคนสวยผมแค่ทำตามที่มันบอก

“พลอยได้หัวข้อทำรายงานเรื่องเดียวกับเหนือ พลอยขอนั่งด้วยได้ไหม”

“บอกเขาไปว่าโต๊ะเต็มไม่มีที่ว่าง”
หื้ม เต็ม เต็มยังไง ผมก็เห็นเก้าอี้อยู่ว่างเกือบ 10 ที่ กระเป๋าหรือข้าวของของคนอื่นก็ไม่เห็นมีวาง

“เต็มยังไงวะพี่ ทั้งโต๊ะมีแค่พี่กับผมเองนะ”
ผมกระซิบถาม พี่เหนือเงยหน้าขึ้นมามองผมก่อนจะเอานิ้วชี้ดันหน้าผากผมแรงๆ

“กูบอกว่าเต็มคือเต็ม บอกไปตามนั้นแล้วอย่าให้ใครกวนกูตอนอ่านหนังสืออีก”
โอ้โห เย็นชาเหี้ยๆ ผมคงไม่ต้องบอกซ้ำใช่ไหม เสียงพี่เหนือที่พูดประโยคเมื่อกี้ก็ไม่ได้เบาเลยนะ ผมมั่นใจว่าเธอต้องได้ยิน แต่ว่าทำไมเธอยังยืนอยู่ที่เดิมเล่า เป็นผมคงเดินหนีไปตั้งแต่เห็นท่าทีเย็นชาของพี่แม่งแล้ว

“เอ่อ ผมคิดว่าพี่เหนือคงจองที่ไว้เผื่อเพื่อนน่ะครับ เลยไม่มีที่ว่าง”

“อ่อ ค่ะ”
เธอรับคำแล้วเดินหน้าเศร้าจากไป เห็นแบบนั้นแล้วผมเลยเผลอถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมาไม่ได้

“หึ ไอเด็กแคระเลี้ยงแกะ”

“ร้อยแปดสิบไม่แคระนะครับ อีกอย่างที่ต้องเลี้ยงแกะก็เพราะคนแถวนี้ไม่ใช่หรือไง”
“เตี้ยกว่ากูก็ถือว่าแคระอยู่ดี”
เออ เอาที่มึงสบายใจเลยพี่เหนือ กูจะไม่เถียงมึงให้ปวดหัวเล่นอีกแล้ว เชิญมึงอ่านหนังสือต่อเถอะ ผมหมดความสนใจคนตรงหน้า หยิบมือถือขึ้นมานั่งเล่นเกมส์ฆ่าเวลาไปพลาง ไม่น่าเชื่อเห็นลุคหล่อเลวอย่างพี่เหนือไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นคนขยันเรียนขนาดนี้ ไม่เห็นด้วยตาผมคงเชื่อไม่ลง ผิดกับผมที่คนภายนอกมองว่าท่าจะเรียนเก่งแต่แท้จริงแล้วผมมันก็ควายดีๆตัวหนึ่งนี่เอง รอดมาได้ถึงปี 1 ก็ปราฎิหารย์มากแล้ว


“สั้นตื่น กูจะกลับแล้ว”

“อือ”
ผมขานรับ ก่อนจะปรือตาขึ้นมามองคนที่ใช้ตีนสะกิดปลุกผม มารยาทมึงทรามขัดกับเบ้าหน้าที่แสนจะเพอร์เฟคของมึงมากครับพี่ ใช้ตีนปลุกคนที่พึ่งจะคุยกันไม่กี่ครั้งเนี่ยนะ

“กี่โมงแล้วพี่”

“ทุ่มนึง”

“โอ้โหนี่พี่อ่านหรือเขียนหนังสือใหม่กันแนะวะนานเหี้ย”

เพียะ!!

“โอ้ยย ตบทำไมอีกเนี่ย!”

“มึงพูดไม่เพราะ มึงพูดอีกกูก็จะตบมึงอีก”

“ไม่ยุติธรรมเลยทีพี่ด่าผมล่ะ”

“อย่าเถียงสั้นกูอยากกลับบ้านแล้ว”
และสั้นก็เป็นอีกชื่อหนึ่งของผมที่พี่เหนือมันยัดเยียดให้โดยไม่ให้คำอธิบายว่าทำไมถึงเรียกผมว่าสั้น และถ้าให้เดามันคงหมายถึงความสูงผมที่น้อยกว่ามันไม่ต่ำกว่า 5 เซนต์แน่ๆ

“รถมึงอยู่ไหนนำไปซิ”

“ไม่ต้องเดินไปส่งหรอพี่แค่นี้เองผมเดินได้”

“ใครว่ากูจะไปส่ง กูแค่จะเดินไปดูเฉยๆว่าขาสั้นอย่างมึงเหยียบเบรคถึงได้ยังไง”
เพล้ง ได้ยินเสียงแล้วก็ช่วยผมเก็บเศษหน้าตัวเองทิ้งด้วยนะครับ แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆเลยหน้ากู ผมชักสีหน้าไม่พอใจใส่พี่เหนือก่อนจะเดินกึ่งวิ่งไปยังที่จอดรถเปิดประตูได้ผมก็เอาเท้าวางบนเบรคทดลองเหยียบให้คนแถวนี้ดูว่าขาผมไม่ได้สั้นและเหยียบเบรคได้อย่างสบายๆ

“ผมเหยียบเบรคได้มิดตีนเลยเห็นไหมพี่ เห็นแล้วใช่ไหมงั้นผมกลับแล้วนะ”

“หึ”
มันหึเสร็จก็เดินกลับไปยังที่จอดรถของตัวเอง ผมเห็นแบบนั้นจึงขับรถกลับบ้านตัวเองทันที คิดถึงหมอนจะแย่แล้ว ห้าววว






-----------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอเม้นส์เป็นกำลังใจด้วยนะคะ บวกเป็ดให้ด้วยจะดีมากเลยค่ะ :)

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
                                                                                         

                                                                                             -4-



เหนือ พาร์ท

ผมมองไอเพี้ยนเดินหายกลับเข้าไปบนรถ รอจนกระทั้งรถซีอาร์วีสีขาวของมันหายลับไปจากสายตาแล้วจึงขับรถออกจากคณะบ้าง ปลายทางของผมคือร้านเหล้าแถวๆมหาลัย เนื่องจากผมโดนไอเพลิงโทรตามตั้งแต่หกโมงให้เข้าไปกินเหล้าด้วย ไม่มีโอกาสพิเศษใดๆทั้งนั้น ที่กินเพราะความอยากล้วนๆ มาถึงผมก็เห็นมันนั่งคุยกันเรื่องน้องรหัสของพวกมันผมก็ฟังแบบผ่านๆ และเมื่อสบโอกาสผมเลยลองถามถึงเรื่องของไอเพี้ยนดูบ้าง

“ไอเพี้ยนมันเป็นคนที่ให้เกียรติผู้หญิงมากๆคนหนึ่ง เท่าที่กูรู้จักและเห็นมันมานะ”

“พวกกูยังไม่ได้เล่าเรื่องที่น้องมันเลิกกับแฟนให้มึงฟังใช่ไหม”
ผมส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ ฟังไอนัทกับไอเพลิงผลัดกันเล่าเรื่องไอเพี้ยนรุ่นน้องแสนประเสริฐของมันให้ผมฟัง

“แฟนมันขอเลิกเพราะ มันไม่เคยแตะต้องแฟนมันเลยแม้แต่จูงมือ เอาง่ายๆนั่งข้างกันมันยังไม่ทำเลย เว้นห่างอย่างต่ำไม้บรรทัดนึงเสมอ”
คนแบบนี้ยังมีอยู่บนโลกอีกหรอ ฟังแล้วผมไม่อยากจะเชื่อเลย ถ้าไม่ติดว่าคืนนั้นผมเห็นมากับตาผมคงเชื่อไม่ลงแน่

“ว่าแต่มึงเกิดมาสนใจอะไรเรื่องของน้องกูไม่ทราบ”
นึกว่ามันจะไม่ถามซะแล้วว่าเพราะอะไร เห็นพอถามเรื่องน้องหน่อยก็ผลัดกันภูมิใจเสนอโดยไม่ถามเลยว่าจะอยากรู้ไปทำไม

“ก็ไม่ทำไมกูเห็นมันแปลกๆ เลยแค่อยากรู้ว่ามันเป็นคนยังไง”
ผมพูดอย่างไม่หยี่ระ ก่อนจะส่งเหล้าเข้าปาก ผมก็แค่อยากรู้จักรุ่นน้องในคณะมันเฉยๆก็เท่านั้น


     เช้าวันต่อมา ผมนัดพวกไอเพลิงกินข้าวที่คณะมัน โดยให้เหตุผลว่าผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศ เบื่อร้านข้าวที่คณะตัวเอง มันก็ไม่ได้ซักไซร์อะไรมากมายหนำซ้ำยังช่วยแนะนำร้านโน่นร้านนี้ให้ผมอีก โดยที่มันไม่รู้เลยว่าจุดประสงค์จริงๆวันนี้ของผมคือมาส่องชีวิตประจำวันของรุ่นน้องมันต่างหาก ถ้าถามว่าทำไมผมต้องทำแบบนั้นล่ะก็ อืม คงเป็นเพราะผมถูกชะตากับมันมั้ง ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ในระหว่างที่ผมกำลังนั่งกินข้าวไปพลางกวาดสายตามองหาไอเพี้ยนไปพลางพลันหูก็ได้ยินเสียงโหวกเหวงโวยวายจากโต๊ะข้างๆเสียก่อน ทำให้ผมต้องย้ายสายตากลับไปมองยังที่มาของเสียงแทน

“ไอเผือกมึงเดินไปถามป้าร้านสุกี้เป็นเพื่อนกูหน่อยดิ”
“ถาม? ถามอะไรของมึงวะ”

“ครั้งที่แล้วมึงสั่งสุกี้แห้งยังมีน่องไก่ทอดใส่ให้เลย ทำไมกูสั่งไม่เห็นจะได้ มึงไปสั่งป้าเขาว่าไงวะ”

“ฮ่าๆๆๆๆ เหี้ยเผือกพามันไปเอาน่องไก่เลย มึงหาเรื่องใส่ตัวชัดๆ”

“ไปให้เขาเอาตะหลิวตีหน้ากูไงไอเพี้ยน น่องไก่ที่มึงเห็นในจานกูวันนั้น ก็ของมึงนั่นแหละ กูหยิบไปแดกตอนมึงลุกไปคุยกับใบหม่อน”
ผมเห็นไอเพี้ยนมันทำท่าคิด อยู่พักก่อนมันจะโวยเพื่อนมันหน้ามันตลกมากครับ

“ไอสัส เผืออกกก กูว่าแล้วทำไมน่องไก่กูเหลือน้อยมึงเอาไปแดกนี่เอง เลวจริงๆไอเพื่อนเหี้ย”


“ยิ้มอะไรของมึงวะไอหมอ แปลกๆนะมึง เล็งน้องในคณะกูคนไหนอยู่ป่าวเนี่ย”
ไอเพลิงทำท่าจับผิด ว่าแต่ผมยิ้มหรอ บ้าหน่าแม่งตาฝาดแล้ว ผมจะยิ้มทำไม ก็แค่เห็นความเพี้ยนของใครบ้างคนมันตลกดี ทำไมผมจะต้องยิ้มด้วย หึหึหึ


     ระหว่างกินข้าวผมก็ฟังเพื่อนคุยบ้าง เหร่มองโต๊ะถัดไปบ้าง ไอเพี้ยนเวลามันอยู่กับเพื่อนดูสนุกดี มองมันแล้วก็รู้สึกผ่อนคลาย อย่างตอนนี้ผมไม่รู้มันคุยอะไรกัน เห็นแต่ไอเพี้ยนนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดมองมือถือตัวเอง ในขณะที่เพื่อนมันสองคนผลัดกันแอบหัวเราะ แล้วชี้ๆไปที่หน้าจอไอเพี้ยน ผมว่ามันต้องแกล้งอะไรไอเพี้ยนมันแน่ๆ

“ทำไมกูตีบอสด่านนี้แล้วเลือดกูลดวะ ตีมันทีเลือดกูลดที”

“ไอควาย ด่านนี้มันให้มึงบริจาคแรไอเทมสองชิ้นให้ผู้เล่นคนอื่นก่อน มึงถึงจะตีบอสได้”

“เหี้ยโคตรไม่ยุติธรรม กูมีแค่สามชิ้นเองหายากสัส ให้คนอื่นไปกูเสียดายว่ะ กว่าจะหามาได้”

“งั้นมึงก็ให้กูกับไอเจงดิ คนกันเอง เดี๋ยวกูรีบเข้าไปช่วยตีเลย”
มันสองคนทำหน้าชั่วร้ายมากก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา

“เทียนทำไรหน้านิ่วคิ้วขมวดเชียว”

“อ้าวพี่สองหวัดดีพี่ ผมกำลังตีบอสด่านนี้แต่มันต้องให้ผมบริจาคแรไอเทมให้คนผู้เล่นคนอื่นก่อนถึงจะตีได้ ผมโคตรเสียดายเลย”

“ไหนมีแบบนี้ด้วยหรอครับ ส่งมาให้พี่ดูซิ”
ไอนั่นมันเป็นใคร ทำไมต้องพูดกับไอเพี้ยนเพราะขนาดนั้นด้วย เห็นแล้วรู้สึกขัดตาแปลกๆ

“ด่านนี้พี่ผ่านแล้ว ไม่เห็นจะต้องบริจาคอะไรเลย”

“นี่ไงครับพี่สองพอเทียนตีบอสตัวนี้เลือดเทียนจะลดลง นี่ไงๆเห็นไหมพี่”

“เฮ้ยเทียนนั่นมันผู้ช่วยประจำตัวเราในด่านนี้ เทียนไปตีมันเลือดเทียนก็ลดซิครับ ฮ่าๆๆ มาพี่เล่นให้”

“อ๋อ ครับพี่ อย่างนี้นี่เอง พี่สองเทียนฝากด้วยนะครับ ส่วนพวกมึงมาให้กูกระทืบเดี๋ยวนี้ ไอเลวมึงทำแบบนี้กับกูได้ไงวะ กูเพื่อนมึงนะเว้ย”
ไอเพี้ยนมันว่าแล้ววิ่งไล่เพื่อนมันออกจากโรงอาหารไป นี่มันปีหนึ่งหรือปอหนึ่งกันแน่ เล่นห่าอะไรเหมือนเด็กไม่มีผิด

“เอาอีกแล้วน้องรหัสมึง ไล่กระทืบกันอีกแล้ว”
ไอเพลิงพูดกลั่วหัวเราะ สายตามันดูเอ็นดูเด็กกลุ่มนี้เอามากๆ โดยเฉพาะไอเพี้ยนนั่น

“ไม่รู้วันนี้ไอเพี้ยนกูโดนน้องรหัสมึงหรือน้องรหัสกูแกล้งกันแน่ ก็เจอพวกมันทีไรก็เป็นแบบนั้นตลอดเด็กฉิบหาย”
ไอนัทเสริม

“ดูเหมือนพวกมึงจะเอ็นดูไอเพี้ยนกันมากนะ ไอเหี้ยนั่นอีกคน”
ผมพูดพลางพยับเพยิบหน้าไปทางไอคนที่กดมือถือไอเพี้ยนเล่นอยู่ที่โต๊ะถัดไป ผมจำได้แล้วมันคือไอสองรองเดือนปีที่แล้วนี่เอง

“ไอสองหรอ เออ ไอนั่นดูเหมือจะชอบไอเพี้ยนนะ แต่ไอเพี้ยนมันไม่รู้หรอก มันบื้อ”

“พวกมึงก็บอกมันสิ!”

“เดี๋ยวแล้วมึงจะอารมณ์เสียทำไมไม่ทราบครับ นั่นน้องคณะกูครับเดือดร้อนอะไรด้วย”

“กูแค่ สงสารเด็กมัน ฝากเก็บจานด้วยกูกลับคณะแล้ว”
ผมทิ้งจากให้พวกมันเก็บก่อนจะเดินนอกจากโรงอาหาร และมันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไอเพี้ยนมันเดินกลับเข้ามา
แต่ดูเหมือนมันจะไม่ทันเห็นผม เพราะมันเดินเลยตัวผมไปเฉยๆ ไม่แม้แต่ทักหรือมองผมซักนิดจนผมต้องเอ่ยทัก

“ไอสั้นเดินผ่านรุ่นพี่แล้วไม่ทัก พี่ที่คณะมึงไม่สอนเรื่องมารยาทหรือไง”
ผมจับแขนมันไว้ก่อนมันจะเดินเลยผมไปไกล

“อ้าวพี่เหนือ หวัดดีพี่มาหาพวกพี่เพลิงหรอ”
มันทักพร้อมทำสีหน้าแปลกใจ ซึ่งผมมองแล้วคิดว่ามัน น่ารัก
 
“ขี้เหร่ ปกติหน้าตาก็ขี้เหร่อยู่แล้วยังจะทำหน้าอุบาศใส่กูอีก”

“โหพี่ เล่นซะความมั่นใจผมหดเหลือสองนิ้วเลย ใช่ดิใครจะไปหล่อวัวหายควายล้มเหมือนพี่วะ”

“มึงพูดไม่เพราะอีกแล้ว”
ผมทำท่าจะตบปากมัน แต่ไอเพี้ยนมันเร็วกว่ายกมือขึ้นปิดปากตัวเองไว้ทันที

“ครับๆคุณเหนือ ช่วยหลีกทางให้ไอขี้เหร่คนนี้เดินหน่อยนะครับ”
ดูความกวนตีนของมันนะครับ ไม่ได้เข้ากับหน้าตาของมันเลยจริงๆ ไอเพี้ยนพูดจบก็เตรียมจะเดินผ่านตัวผมไป แต่ยังไม่ทันที่มันจะได้ก้าวขา เสียงแหลมเล็กของผู้หญิงคนหนึ่งร้องทักขึ้น

“อ้าววววว เธอคนนั้นนี่”
ไอเพี้ยนตาโตทันทีที่ได้ยินเสียงพร้อมกับโฉมหน้าของผู้หญิงคนนั้น คนที่มันเคยเจอครั้งหนึ่งในผับ หึหึหึ สงสัยมึงจะติดหนี้กูเพิ่มแล้วมั้งไอเพี้ยนเอ้ย




------------------------------------------------------------------------------------------

เอาน้องเทียนมาลงอีกหนึ่งตอนค่ะ สงสารน้อง เพื่อนเห็นว่าบื้อหน่อยก็พากันรุมแกล้ง :)




ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
                                                                                       - 5 -


“เอ่อ คะครับ”

ทำไมผมถึงซวยแบบนี้ หนีเสือปะจระเข้ชัดๆ ไอพี่เหนือมันยืนยิ้มชอบใจอยู่ตรงหน้า ดูสะใจมากที่เจอผมในสถานะการณ์คล้ายๆกันอีก

“เจอกันครั้งที่สองแล้ว ทีนี้แก้มว่าแก้มควรจะรู้ชื่อของเธอได้แล้วนะ”

แก้มพูดพร้อมกับสอดแขนมาคล้องที่แขนผม แถมยังเอาหน้าอกเบียดมาซะชิดแขนเลย เป็นผู้หญิงไม่ควรทำแบบนี้นะแก้ม แม่ไม่สอนหรอ
 
“เราชื่อเทียน แก้มเราว่าเอาแขนออกไปเถอะมันดูไม่ดีเลย แก้มจะเป็นฝ่ายเสียหายนะ”

“เทียนน่ารักแบบนี้ แก้มไม่อยากปล่อยเลย เอางี้ไหมถ้าแก้มยอมปล่อยเทียนต้องยอมเป็นแฟนแก้มนะ”

ฮ๊ะ เดี๋ยวก่อน แก้มใจเย็นครับคุยกันไม่ถึงสิบนาทีเลย แก้มจะรีบไปไหนครับเนี่ย ในที่สุดผมก็ต้องหันหน้าไปขอความช่วยเหลือจากพี่เหนือ ขานั้นยืนดูด้วยสีหน้าที่ดูจะสนุกเหลือเกิน มีความสุขบนความทุกข์กูนี่มันดีมากเลยใช่ไหมพี่
ผมส่งสายตาอ้อนวอนให้มันช่วยทำอะไรซักอย่าง ในที่สุดพี่เหนือมันก็ยอมยื่นมือเข้ามาช่วยผมจริงๆครับ มันเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าผมกับแก้ม ก่อนจะพูดนิ่มๆ

“พี่ว่าสนุกกันมากพอแล้ว น้องแก้มครับพี่ขอรับแฟนพี่คืนได้ไหมครับ เรากำลังจะไปข้างนอกกันและกำลังจะสายด้วย เทียนครับไปกันเถอะ”

พี่เหนือพูดแล้วเดินเข้ามาจูงมือผม
 
“มุกไม่เนียนค่ะ แก้มไม่เชื่อหรอก เพราะแก้มรู้ว่าพี่เหนือ….โอเคค่ะโอเควันนี้แก้มยอมปล่อยเทียนไปก่อนก็ได้ แล้วเจอกันนะคะเทียน”

น่ากลัวชิบหายเลยผู้หญิงสมัยนี้ แก้มเดินไปแล้ว ผ่านไปนาทีนึงแล้วด้วยแต่

“พี่เหนือปล่อยมือผมได้แล้วมั้งพี่ แก้มไปตั้งนานแล้ว”

พี่เหนือก้มมองมือที่กุมผมอยู่เล็กน้อยก่อนจะคลายมือออกตามคำขอ

“นี่มือหรอ กูนึกว่าแง่งขิง หยาบกว่ากระดาษทรายเบอร์สิบอีก”

ผมยืนกระพริบตาปริบๆรับคำด่าที่แสนจะเจ็บแสบจากคนตรงหน้า ก่อนจะลองลูบที่ฝ่ามือตัวเองเบาๆ มันก็ไม่ได้หยาบอะไรขนาดนั้นซักหน่อยพี่แม่งก็เวอร์เกิน ตำหนิผมมันทุกสิ่งอย่าง จนตอนนี้ผมแทบจะไม่เหลือแล้วซึ่งความมั่นใจ แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้พี่เหนือมันบอกว่าผมเป็นแฟนมันนี่หมายความว่าไง?

“ทำไมพี่ต้องบอกแก้มว่าผมเป็นแฟนพี่วะ...ล่ะ”

ผมเกือบหลุดพูดคำว่า วะ ดีนะที่พลิกลิ้นทันไม่งั้นคงโดนตบปากแล้วหาว่าพูดไม่เพราะอีกแน่

“มันเป็นวิธีเดียวที่กูคิดออก นี่กูช่วยมึงแล้วมึงยังบ่นอีกหรอ”

เถียงไม่ออกเลยกู แต่ถ้าไม่ได้พี่มัน ป่านนี้ผมคงต้องไปดูหนังกับแก้มสองต่อสองแน่นอน แค่คิดก็ไม่ไหวแล้ว ผมไม่ค่อยชอบผู้หญิงแบบนี้เท่าไหร่ ผู้หญิงแบบนี้ไว้ใจไม่ได้ ผมหมายถึงเจอผู้หญิงแบบนี้ผมไว้ใจตัวเองให้ไม่เผลอไปกับสิ่งยั่วยุได้ ผมก็เป็นผู้ชายนะครับ เจออึ๋มๆอวบๆเข้าไปของก็ขึ้นได้เหมือนกันแล้วเรื่องมันจะไปกันใหญ่เลี่ยงได้เลี่ยงดีกว่า

“เปล่าครับพี่ แค่คิดว่ามันจะเกิดเรื่องยุ่งยากตามมาทีหลังหรือเปล่าถ้าแฟนพี่รู้”

วันนั้นตอนที่อยู่ในผับผมได้ยินว่าพี่เหนือมีแฟนนะ แล้วมาตู่ว่าผมเป็นแฟนแบบนี้ผมจะไม่โดนแหกอกเพราะแรงหึงหรือไง ใครๆก็ว่าผู้หญิงหึงโหด

“ไม่ต้องมาคิดแทนกู เก็บสมองเท่าหำมดของมึงไว้คิดเรื่องอื่นเถอะ”

“เขี้ยวว่ะพี่ ปากคอเราะร้ายตลอด ถามจริงแฟนพี่เขารู้ไหมว่าพี่ปากจัดแบบนี้”

ผมถามเพราะความอยากรู้ ระหว่างเดินตามพี่เหนือออกไปนอกโรงอาหาร

“หึ กูไม่เคยพูดแบบนี้กับใคร นอกจากมึง หมดคำถามหรือยังกูจะได้ไปเรียน”

“ผมควรภูมิใจไหมพี่”

“อย่ากวนตีนสั้น คอยรับโทรศัพท์กูด้วย”
 
“ครับๆ พี่รีบไปศึกษาเล่าเรียนเถิด”
                                                                         
หลังจากแลกเบอร์กันเสร็จไอพี่เหนือมันก็กลับคณะมันไป ส่วนผมก็เดินกลับไปที่โต๊ะในโรงอาหารอีกครั้งเพื่อไปรับโทรศัพท์คืนจากพี่สองเสร็จก็ขึ้นเรียนตามปกติ
 

“วันนี้เอาไง รายงานนี่จะไปทำที่ไหน ระหว่างหนึ่งบ้านไอเทียน สองบ้านไอเทียน สามบ้านไอเทียน”

“บอกว่าบ้านกูไปเลยก็ได้ ตัวเลือกห่าอะไรของมึงมีแต่บ้านกูทั้งนั้น”

ผมแหวกพวกมัน ระหว่างที่เดินไปยังลานจอดรถ
 
“สรุปไปบ้านมึงนะ แต่เดี๋ยวกูกับไอเผือกแวะซื้อของเซ่นม๊ามึงก่อน แล้วจะตามเข้าไป”

“จะซื้อทำบ้าอะไรม๊ากูไม่ใช่คนเห็นแก่กินนะเว้ย ไปมือเปล่าก็ได้”

“ไม่ได้ๆ กูอยากเป็นลูกรักของม๊ามึง มึงกลับไปเตรียมงานก่อนเลยไม่เกินชั่วโมงพวกกูขนเสื้อผ้าไปนอนห้องมึงแน่นอน”
เอากับพวกมันซิครับ ได้โอกาสเมื่อไหร่เป็นค้างบ้านผมตลอด มันบอกว่ามันชอบม๊าผม ชอบบ้านที่เต็มไปด้วยสวน ผ่อนคลายดี

“โอเคงั้นแยกกัน เจอกันบ้านกูเลย”

ผมออกรถมาได้ครึ่งทางเสียงแอปพลิเคชั่นยอดฮิตสีเขียวๆก็ดังขึ้น ใครวะชื่อไม่คุ้น

P’NEUANATEE : อยู่ไหนสั้น?
อย่าบอกนะว่ารูปผู้ชายหันข้างนี่มันพี่เหนือ เหี้ยรูปเท่ห์สัส

N’PHEIYN : ขับรถกลับบ้านแล้วพี่
 
N’PHEIYN : จะใช้อะไร ใช้วันหลังนะครับ จุ๊บๆ
ตัดบทแล้วโยนมือถือไว้เบาะข้างคนขับแม่ง แถมปิดเสียงอีกต่างหาก มีอะไรเรียกใช้เทียนวันหลังแล้วกัน


“ม๊าครับวันนี้เพื่อนเทียนมาค้างด้วยนะครับไอเจงกับไอเผือกลูกรักทั้งสองของม๊าไง”

ผมเดินเข้าไปกอดม๊าจากด้านหลัง ม๊ากำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่พอดี หอมกลิ่นแกงส้มมากเลย ผมชักหิวแล้วซิ

“อาตี๋ทำไมลื้อไม่บอกก่องว่าอาเผียกกับอาเจงจะมาด้วยอ่า อั๊วะเตรียมกับข้าวไว้สี่อย่างเอง”

“โห ม๊าสี่อย่างก็เยอะแล้วนะครับ ไหนจะของที่พวกมันซื้อมาอีกตี๋รับรองได้ว่าเต็มโต๊ะ”

“ไปบอกอาเจงอาเผียกเลยว่าไม่ต้องซื้ออะไรมาแล้ว”

เมื่อไหร่ม๊าผมจะจำได้ว่าเพื่อนผมชื่อเผือก เจอกี่ทีเรียกมันเผียกตลอด จนมันมาบ่นผม หาว่าผมเสี่ยมม๊าให้เรียกมันอย่างนั้นเพราะผมเกลียดมัน ดูมันคิด

“งั้นเดี๋ยวตี๋ลองโทรหามันก่อน”

ผมเดินออกมาจากห้องครัวถือกระเป๋าเดินขึ้นห้องไปก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อนจะโทรหาไอเจง แต่สายตาก็ไปสะดุดอยู่ที่แอปพลิเคชั่นสีเขียวๆนั่นซะก่อน

P’NEUANATEE : กวนตีนเดี๋ยวกูเปลี่ยนใจไม่ช่วยแม่ง

N’PHEIYN : เฮ้ยพี่ อย่ากลับกรอกดิ ลูกผู้ชายพูดแล้วคืนคำเป็นตุ๊ดเด็กนะครับ

P’NEUANATEE : ทำไมต้องเป็นตุ๊ดเด็กด้วยวะ?

N’PHEIYN : หัดเป็นแรกๆไง ต้องเริ่มจากเป็นตุ๊ดเด็กก่อน

P’NEUANATEE : มึงนี่เพี้ยนสมชื่อ

N’PHEIYN : พี่มีไรอีกหรือเปล่า

P’NEUANATEE : พรุ่งนี้มาหากูที่คณะด้วย กูมีเรียน
เอ้าพี่มันมีเรียนแล้วเกี่ยวอะไรกับผมวะ มีเรียนมึงก็เรียนไปซิครับให้กูไปหาทำไม

N’PHEIYN : ให้ไปทำไมพรุ่งนี้วันเสาร์ผมต้องช่วยม๊าขายของ
ตอแหลไปครับ ร้านผมหยุดเสาร์ อาทิตย์ ถึงไม่หยุดผมก็ไม่ค่อยไปช่วยม๊าอยู่แล้ว เพราะม๊าไม่ยอมให้ไปม๊ากลัวผมเหนื่อย

P’NEUANATEE : ไม่มาข้อตกลงถือว่าโมฆะ

N’PHEIYN : กี่โมงพี่ ผมว๊างว่าง ลืมไปม๊าเลิกขายของวันเสาร์ อาทิตย์แล้ว

P’NEUANATEE : รีบเชียวนะมึง 10 โมงห้ามสาย
จบบทสนทนาไลน์แต่เพียงเท่านี้ ไม่มีอะไรมากแค่ไลน์มาสั่งๆเสร็จแล้วก็เงียบไป ผมเห็นว่าไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆจากแอปพลิเคชั่นนั้นแล้วจึงปิดแอปไป



















-------------------------------------------------------------------------------

เอาน้องเพี้ยนมาฝากอีกตอนแล้วนะคะ ยังไงอย่าลืมช่วยกันติดตาม เม้นส์เป็นกำลังใจให้น้องเพี้ยนด้วยนะคะ :)

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
                                                                                          -6-

สามทุ่มโดยประมาณพวกเราเหล่าวิศวะพร้อมมากครับ อุปกรณ์การทำรายงานครบถ้วน อาบน้ำอาบท่ากันเรียบร้อยทาแป้งแคร์หอมฉุย พร้อมมากจริงๆครับ

“ไอเทียนกูจองที่ริมฝั่งขวา”
ไอเจง

“กูซ้าย”
ไอเผือก
สรุปมึงมานอนจริงๆใช่ไหม แล้วกองรายงานที่วางไว้กลางห้องกูนี่คืออะไร
 
“ส้นตีนครับทำงานก่อนค่อยนอน ไม่งั้นกูตัดชื่อมึงสองตัวออกจากหน้าปกรายงานนะ”

“โห ไอเพี้ยนพรุ่งนี้ก็หยุดทำพรุ่งนี้ก็ได้ รีบหรอมึง ห๊ะๆ รีบหรอๆ”
ไอเผือกมันว่าพลางเอาตีนมากระแซะๆผม ใช่กูรีบ เพราะพรุ่งนี้กูไม่อยู่ ไอพี่เวรเรียกกูไปเข้าเฝ้ากูเลยต้องทำวันนี้ไง

“เออ พรุ่งนี้กูธุระ ช่วง 10 โมง”

“ธุระอะไร ทำไมพวกกูไม่รู้”
เข้าคู่กันได้ดีเหลือเกินนะ เรื่องเผือกๆเนี่ย

“ธุระส่วนตัว มึงเข้าใจคำนี้ไหม ส่วนตัวคือส่วนตัว เลิกคุยๆ มาทำงาน”
พวกมันโอยครวญกันพอเป็นพิธีสุดท้ายก็ลงมานั่งสุมหัวเขียนรายงานกัน คืนนี้คงยาวไปครับไม่เสร็จไม่นอนคติของพวกผม



 9 โมงโดยประมาณ
มาถึงก่อนเวลาเล็กน้อยเพราะผมขี้เกียจฟังพี่มันบ่น ผมรอมันอยู่ที่ร้านกาแฟข้างตึกเรียนของมัน เห็นนักศึกษาแพทย์พากันมานั่งติว นั่งอ่านหนังสือกัน เยอะแยะไปหมด แต่แปลกครับคนเยอะขนาดนี้ผมกลับไม่ได้ยินเสียงคนคุยกันเลย แต่ละคนก้มหน้าติดหนังสือ เล่นซะผมเห็นภาพหลอนว่าเขาโดนหนังสือแดกหัวไปแล้ว บางคนก็ทำปากขมุบขมิบเหมือนกำลังท่องอะไรซักอย่าง พอลืมก็ทึ้งหัวตัวเองอย่างกับคนบ้า เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกโชคดีขึ้นมาทันทีที่ผมไม่เลือกเรียกหมอ แม้ว่าคะแนนผมจะไม่ถึงด้วยก็ตาม

ตืด ดือ ดึ้ง (เสียงเตือนไลน์ของไอโฟน)

P’NEUANATEE : ถึงยังอีกสิบนาทีกูจะเลิกแล้ว สายเตรียมเลี้ยงข้าวกูได้

N’PHEIYN : ถึงแล้วแหละ ว้ายๆๆ อดแดกของฟรีเลย

P’NEUANATEE : มึงนี่แม่งกวนตีนฉิบหาย ไอเด็กเวร

N’PHEIYN : ผมอยู่ร้านกาแฟข้างตึกคณะแพทย์นะ รีบมาจ่ายค่าน้ำให้ผมด้วย


สิบห้านาทีต่อมา

“หวัดดีพี่”
ผมทักคนที่พึ่งเดินเข้ามา พี่เหนือมันอยู่ในชุดนักศึกษาธรรมดาในมือมีชีทและเสื้อคลุมสีขาว เฮ้ยอย่าบอกนะว่า

“พี่เหนือพี่เรียนหมอหรอ? เชี่ยพีคสัส”

“มึงพึ่งรู้?”

“เมื่อกี้เลยตอนเห็นเสื้อขาวๆของพี่”
ผมตอบไปตามสัจจริง ถ้าไม่เห็นเสื้อกาวน์พี่มันผมคงคิดว่ามันเรียนสถาปัตย์แน่ๆ ลุคดูเลวขนาดนั้นใครจะคิดว่าแม่งเรียนหมอ

“สมกับเป็นมึงจริงๆ”
พี่เหนือพูดอะไรซักอย่างก่อนจะส่ายหัวพร้อมทำหน้าเบื่อโลก

“เออ แล้วพี่เรียกผมมาทำไม”

“กูจะให้มึงช่วยเข้าเล่มให้หน่อย เทคบางวิชาของกูมันเป็นไฟล์มาให้ปริ้น ที่คอนโดกูมีทุกอย่างขาดแต่แรงงาน”
“อ้อ เรียกมาเป็นเบ้ งั้นก็รีบๆพี่จะได้รีบทำรีบเสร็จ”
ผมพูดพร้อมเก็บมือถือยังใส่กระเป๋า กวักมือเร่งคนที่นั่งแดกน้ำในแก้วของผมอย่างถือวิสาสะ

“รีบไปไหน รอเพื่อนกูก่อน”

“ครับๆ”
ผมรับคำสั้นๆแล้วนั่งลงอีกครั้งแม้จะไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม ในระหว่างที่นั่งรอผมก็กวาดสายตามองไปรอบๆร้านกาแฟ แล้วก็ต้องแปลกใจที่ท่าทีของคนเหล่านั้นเปลี่ยนไป จำได้ไหมครับครั้งแรกที่ผมเดินเข้ามา ผมบอกว่าผมเห็นคนเหล่านั้นท่องหนังสือกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่หลังจากที่พี่เหนือเดินเข้าร้านมาคนเหล่านั้นกลับเอาแต่มอง แล้วซุบซิบกัน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แอบยกมือถือถ่ายรูปพี่เหนือกันระนาว แต่ที่กับผมพวกเขากลับใช้สายตาแปลกๆมองมาที่ผมแทน เฮอะ สองมาตราฐานชัดๆ

“สั้นเลื่อนน้ำมึงมากินหน่อย”
ผมกำลังจะเลื่อนแก้วตัวเองส่งให้พี่เหนือตามคำขอ แต่จำต้องวางไว้ที่เดิมเนื่องจากในแก้วผมตอนนี้มันไม่มีน้ำเหลือแล้วนี่ซิ คงต้องไปสั่งใหม่

“พี่เหนือน้ำในแก้วผมไม่มีแล้ว พี่จะกินอะไรเดี๋ยวผมไปสั่งให้”

“มึงชอบกินอะไร”

“สตอเบอร์รี่มะนาวโซดา ช้าก่อนได้โปรดอย่าใช้สายตาแบบนั้นมองผม ผมแค่ชอบเพราะมันกินแล้วชื่นใจเฉยๆไม่ได้ตุ๊ดแต๋วอะไรทั้งนั้น”
ผมรีบพูดดันเมื่อเห็นพี่เหนือมันช้อนตาขึ้นมามอง คงคิดว่าผมแดกน้ำตุ๊ดอยู่แน่ หน้ามันฟ้องว่าใจคิดแบบนั้น

“แล้วกูพูดอะไรหรือยัง”

“ก็ยังแต่ผมรู้ว่าพี่คิด”

“มึงเป็นกูหรือไงถึงได้รู้”

“ก็...อื้ออออ เอ็บๆ”

“เถียงคำไม่ตกฟาก ไปสั่งได้แล้วเอาน้ำที่มึงแดกนั่นแหละ”
ผมที่กำลังจะอ้าปากเถียงโดนพี่เหนือยื่นมือมาบีบปากกลั้นเสียงพูดของผมไว้ แล้วแม่งบีบโคตรแรงเลย ผมยู่หน้าใส่พี่เหนือก่อนจะเดินไปสั่งน้ำตามบัญชา

“เธอๆ เธอคนนั้นน่ะ”
จะสั่งกี่แก้วดีวะ สั่งสองแก้วเลยแล้วกันไม่รู้ว่าเพื่อนพี่เหนือจะมาเมื่อไหร่ แต่เงินผมจะไม่ยอมออกเองแน่นอน ขอให้มาช่วยก็มาแล้ว ยังจะให้รอเพื่อนเป็นเพื่อนอีกมันก็ต้องมีค่าเสียเวลาให้น้องนุ่งบ้าง

“เธอๆ”

“ครับ ผมหรอ”
ผมหันไปตามแรงสะกิดเบาๆที่ต้นแขน ก็เจอผู้หญิงประมาณ สี่คน อยู่ข้างหลัง เมื่อกี้ที่ผมได้ยินนั่นคือเรียกผมซินะ

“อืมเธอแหละ”

“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
ผมขยับห่างเล็กน้อย เพราะเธอคนนั้นอยู่ใกล้ตัวผมจนเกินไป

“คือ สนิทกับพี่เหนือหรอ สนิทได้ยังไง เรียนก็คนละคณะ แถมยังไม่ใช่กลุ่มเพื่อนพี่เหนืออีก”
นี่คือคำถามหรือผมกำลังถูกสืบสวนกันแน่วะ เธอคนนั้นเปลี่ยนสีหน้าที่เป็นมิตรเมื่อครู่ เป็นสีหน้าที่ผมเดาไม่ได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ผมสัมผัสได้ถึงความกดดันที่แผ่กระจายเป็นวงกว้างอยู่รอบๆตัว เลยรีบขยับปากตอบ

“ผมเป็นรุ่นน้องต่างคณะของพี่เหนือ รู้จักกันเพราะพี่ในคณะผมเป็นเพื่อนกับพี่เหนือ ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“แน่ใจนะคะว่าแค่รุ่นน้อง”
เธอถามซ้ำพลางหรี่ตาลงเล็กน้อยเหมือนกำลังจับผิดผม

“ครับรุ่นน้อง ผมอายุอ่อนกว่าพี่เหนือคงเป็นเพื่อนหรือพ่อมันไม่ได้”
ผมตอบไปตามความคิด ผู้หญิงคนนั้นทำท่าจะพูดอะไรต่อแต่พอดีเสียงเรียกชื่อผมจากหน้าเคาน์เตอร์ดังขัดขึ้น ผมเลยหันไปรับเครื่องดื่มพร้อมกับจ่ายเงินก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะผมก็หันไปมองที่เธอคนนั้นอีกครั้ง เผื่อเขาอยากจะคุยอะไรกับผมเพิ่มเติม

“มีอะไรกับผมอีกไหม ไม่มีผมไปนะ”

“ถ้าแค่รุ่นน้องทางเราก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่อย่าสนิทกับพี่เหนือเกินขอบเขตนะ หลายๆคนคงไม่ชอบ”
เธอคนนั้นพูดจบก็พากันเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทันที ทิ้งให้ผมยืนมองตามไปด้วยความไม่เข้าใจ

“แค่สั่งน้ำทำไมไปนาน”
มาถึงก็บ่นเลยเว้ยเฮ้ย ผมกำลังจะอ้าปากเถียงแต่ก็ปิดปากไว้ทันเนื่องจากที่โต๊ะไม่ได้มีแค่ผมกับพี่เหนืออีกต่อไปแล้ว ผมเลยรีบยกมือไหว้คนมาใหม่อีก 4 คน

“หวัดดีครับพี่ๆ”
ผมเอ่ยทัก ก่อนจะเดินไปนั่งยังที่ตัวเอง
 
“ไงไอพี่หมอไม่คิดจะแนะนำน้องให้พวกกูรู้จักหน่อยหรือไง”
พี่เหนือชักสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยก่อนจะแนะนำผมให้เพื่อนๆของเขารู้จัก

“เพี้ยนรุ่นน้องในคณะไอเพลิง...สั้นน้ำกูล่ะ”
พี่เหนือพูดจบก็หันมาทวงน้ำจากผม ผมเลยดันแก้วที่ยังไม่ได้กินส่งให้ แต่พี่เหนือมันไม่ยอมเอื่อมมือมาหยิบไป แถมยังทำหน้าบึ่งใส่ผมอีก

“กูไม่เอาแก้วนี้”

“หื้ม ไม่เอาแก้วนี้แล้วจะเอาแก้วไหน เมื่อพี่บอกให้ผมสั่งน้ำแบบเดียวกับผมไม่ใช่หรอ”

“เอาแก้วมึงมา”

“เฮ้ยได้ไงนี่ของผม ผมแดก เอ้ย ดูดไปแล้ว”

“เอามา”
สุดท้ายผมก็ต้องยอมเลื่อนแก้วน้ำตัวเองที่พร่องไปกว่าครึ่งส่งให้พี่เหนือ พี่มันก็รับไปดูดต่อหน้าตาเฉย
 
“นี่กูตาฝาดหรือเปล่าวะ ไอเหนือผู้แสนจะรักความสะอาดเนี่ยนะยอมแดกน้ำหลอดเดียวกับคนอื่น”
“ถ้ามึงฝาดกูคงฝาดเหมือนมึง”

“มันยังไง กูตกข่าวอะไรไปหรือเปล่า”
เพื่อนๆพี่เหนือผลัดกันพูดคนละประโยค แต่ผมไม่รู้หรอกว่าเขาพูดเรื่องอะไรกัน ซักพักเขาก็หันมาทางผม

“เพี้ยน พี่ชื่อป้องนะ นี่พี่ปิ๊ก พี่โอบ แล้วโน่นพี่พล”
ผมพยักหน้ารับก่อนจะยกมือไหว้พี่ๆทีละคนอีกที พี่ป้องกำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรกับผมบางอย่างแต่พอเห็นพี่เหนือเก็บของใส่กระเป๋าเตรียมจะย้ายทัพ พี่ป้องเลยปิดปากเงียบไว้เหมือนเดิม

“เหนือเดี๋ยวกูกับไอโอบทำเรื่องระบบหายใจเอง ส่วนระบบทางเดินอาหารไอปิ๊กกับไอพลมันจะเป็นคนทำ มึงโอเคไหม”
พี่ป้องเจ้าเดิมพูดหลังจากเดินพ้นประตูห้องเข้ามาได้ ในขณะที่มือก็หยิบโน๊ตบุคขึ้นมาวาง เช่นเดียวกับพี่ๆคนอื่น เพื่อนๆพี่เหนือแต่ละคนหน้าตาไม่ธรรมดากันเลยครับ พี่ป้องเป็นผู้ชายตัวสูง ผิวไม่ถึงกับขาวมาก คิ้วเข้ม หน้าคม พี่โอบผิวคล้ำๆ หน้าคมแบบไทยแท้ ผมดำเข้ม ดูมีเสน่ห์แบบไทย พี่ปิ๊กและพี่พลสองคนนี้ดูคล้ายกันครับหล่อแบบตี๋ๆตัวขาวสูง หุ่นนายแบบ ย้อนมองตัวเองแล้วได้แต่ถอนหายใจ ถึงผมจะสูงแต่หน้าผมไม่ได้เข้ม มาดแมนแฮนด์ซั่มเหมือนพี่หมอกลุ่มนี้เลย ใครๆก็บอกว่าผมเหมือนทอม บ้างก็ว่าผมเป็นผู้หญิงมีหำ มีแต่คนมองผมแบบนั้นผมล่ะเซ็ง

“สั้นเอาแฟลชไดร์ไป ปริ้นเอกสารในโฟลเดอร์ที่ชื่อรายงานออกมาให้หมดแล้วเข้าเล่มให้กูด้วย”
พี่เหนือมันโยนแฟลชไดร์สีดำของมันมาให้ผม แล้วชีนิ้วไปที่เครื่องปริ้นซ์มุมห้องที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้พร้อมแล้วตั้งแต่คอมตั้งโต๊ะ เครื่องปริ้น ที่เข้าเล่ม ปกรายงาน ผมเลยเดินไปทิ้งตัวนั่งแล้วเริ่มทำงานที่ได้รับมอบหมายทันทีเผื่อเสร็จเร็วผมจะได้กลับไปเล่นเกมส์

เวลาเกือบห้าทุ่มผมก็เข้าเล่มรายงานทุกวิชาของพี่เหนือเสร็จ จริงๆไอแค่เข้าเล่มมันไม่ได้นานเท่าไหร่หรอกครับ แต่ที่นาน เพราะผมต้องจัดเรียงเอกสารก่อนเข้าเล่มด้วยนี่ซิมันเลยนาน
 
“พี่เหนือเสร็จแล้วผมกลับก่อนนะพี่”

“ดึกแล้วนอนนี่แหละ กูขี้เกียจไปส่ง”
พี่เหนือพูดโดยตายังจับจ้องที่จอโน๊ตบุคตรงหน้า ขอบคุณซักคำก็ไม่มีแถมยังจะแล้งน้ำใจกับน้องนุ่งอีก นิสัยแบบนี้เป็นจะเป็นหมอได้ไงวะ

“ใครบอกว่าผมจะให้พี่ไปส่งรถผมก็มี”
“แล้วมึงจะเอาคีย์การ์ดที่ไหนสแกนออกจากคอนโด”
เออ หว่ะผมก็ไม่ทันคิดเรื่องนี้ แต่มันก็แค่ลงไปส่งข้างล่างนี่เองนะ จะขี้เกียจอะไรหนักหนา ในระหว่างที่ผมตั้งอกตั้งใจเถียงกับพี่เหนือ ผมไม่รู้เลยว่าผมกับพี่เหนือกำลังถูกจับตามองอยู่เงียบๆโดยเพื่อนๆทั้งสี่คนของพี่เหนือ

“พี่ก็ลงไปส่งผมดิ แปปเดียวเองผมอุตส่าห์มาช่วยพี่นะ”

“ไปอาบน้ำสั้น เสื้อผ้ากูในตู้เลือกเอาซักชุดแล้วมึงก็นอนไปก่อนเลย”

“แต่ผม...”

“ทำไมต้องให้กูพูดบ่อยๆ หูมึงหนวกด้วยหรือไง อาบน้ำก่อนค่อยขึ้นเตียงนะ ไม่งั้นกูจะไล่มึงไปนอนนอกระเบียง”
ไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ปฎิเสธเลยซักครั้ง พี่เหนือมันสั่งเสร็จก็ก้มหน้าทำงานต่อ ในขณะที่ไฟแห่งความหวังของผมกำลังจะมอดและดับลงช้าๆ เสียงระฆังช่วยชีวิตก็ดังขึ้น

“คีย์การ์ดอยู่ไหนเดี๋ยวกูลงไปส่งน้องมันเองก็ได้”
ผมยิ้มกว้างทันทีที่พี่โอบพูดจบ พี่เหนือเงยหน้ามองพี่โอบนิ่ง

“ไม่ทำงานหรอ เวลาเหลือเยอะ?”
พี่โอบส่งสายตาขอโทษมาให้ผม ก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาทำงสนที่ค้างไว้ตามเดิม ผมเลยจำใจต้องโทรศัพท์หาม๊าบอกว่าจะค้างบ้านรุ่นพี ก่อนจะเลือกเสื้อผ้าในตู้พี่เหนือมาหนึ่งชุด เดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำ เสร็จแล้วก็ทิ่งตัวนอนบนเตียงหลังใหญ่ภายในห้องพี่เหนือทันที ไม่เกรงจงเกรงใจแม่งละ ไม่นานผมก็ผลอยหลับไป



----------------------------------------------------------------------------------------

อย่าลืม comment เป็นกำลังใจให้น้องเพี้ยนด้วยนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
พี่เหนือ  ท่าเยอะจริง ๆ

 :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้กำลังใจคนเขียนครับ o13

ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
                                                                                             -7-




เช้าวันจันทร์ โรงอาหารคณะวิศวะ

“ไอเพี้ยนกูได้ข่าวว่ามึงโดนแก้มมนุษย์ศาสตร์ตามจีบหรอวะ”
ข่าวพวกมึงนี้ไวจริงๆ เร็วกว่าสีจีก็พวกมึงนี่แหละ

“เออ”
ผมตอบสั้นๆแล้วกินข้าวต่อ เสียงไลน์ผมมันก็ดังอย่างต่อเนื่องแต่ผมไม่คิดจะกดอ่านหรอกครับ อ่านแล้วเดี๋ยวก็งานเข้าอีก หลังจากคืนที่ผมนอนค้างห้องพี่เหนือ เช้ามาพี่เหนือมันก็ลงมาส่งผมข้างล่างแล้วกลับขึ้นไปนอนต่อ ประมาณช่วงบ่ายๆพี่แม่งก็ไลน์มาตามผมอีก แต่ผมชิ่งครับ วันหยุดผมทั้งทีผมก็อยากจะพักผ่อนบ้างอะไรบ้าง ผมเลยเลือกที่จะไม่เปิดไลน์อ่านตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้

“แล้วมึงว่าไง”

“ทำไมต้องว่าด้วย เขาชอบกูก็ปล่อยให้เขาชอบไปสิ สิทธิ์ของเขา”

“โอยย ไอห่ากูหมายถึงมึงชอบเขาไหม”
ตบหัวกูอีก มึงก็ถามให้ตรงประเด็นสิวะ

“กูไม่ได้ชอบ มึงก็รู้กูกลัวผู้หญิงแบบแก้ม”

“กูล่ะอิจฉามึงจริงๆ เจอแต่ผูหญิงสวยๆเข้ามาจีบ”
ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก ปล่อยให้มันสองคนนั่งเพ้อถึงดาวคณะโน่นคณะนี้ไปเรื่อย นี่ถ้าไม่ติดว่าพี่นัทพี่เพลิงให้รอ เพราะมีเรื่องงานสาขาให้ช่วย ป่านนี้ผมกลับบ้านไปแล้ว


“โทษทีพวกมึง อาจารย์อุดมแม่งปล่อยช้า ไม่ต้องมามองกูตาเขียวเลยไอเพี้ยนกูรีบสุดได้แค่นี้”
พี่เพลิงขว้างก้อนกระดาษยู่ๆมาใส่หัวผม คนเรานี่ก็แปลกกูทำหน้าเฉยๆหาว่ากูมองตาเขียวใส่ เอากระดาษปาใส่ซะงั้น

“อ้าว แล้วพี่โก้ พี่เปรมมาทำไมครับ”
“งานสาขากูอยากมีส่วนร่วมไม่ได้ไง”

“อะไรของพี่ๆวะ ผมถามดีๆทำไมต้องกวนตีนใส่ผมกันด้วย”
ผมเริ่มน้อยใจนิดๆแล้ว อะไรๆผมก็โดนกวนประสาทอยู่คนเดียว ไอเจง ไอเผือกไม่เห็นเคยโดน

“เฮ้ย นี่มึงงอนหรอ”

“งอนห่าอะไรล่ะครับพี่”

“เหี้ย คบกับมึงมาปีกว่าพึ่งจะรู้ว่ามึงมีมุมงอนน่ารักๆแบบนี้ด้วย”

“พอแล้วอย่าไปแหย่มัน ฮ่าๆๆ เอาเรื่องงานก่อน กลางเดือนนี้เรามีค่าอาสาซ่อมแซมห้องสมุดให้เด็กบนดอย กูอยากให้มึงช่วยหาคนเข้าร่วมค่ายอาสาหน่อย แต่กูขอให้เน้นคนที่ทำงานเท่านั้นนะ เอาแค่ 25 คน มากกว่านั้นเดี๋ยวรถจะไม่พอนั่ง
เพราะคณะเราแชร์รถกับอีกคณะนึงไป และก็ บลา บลา บลา

“กูจะได้คำตอบอย่างเร็วเมื่อไหร่”

“เดี๋ยวเร่งหาให้แล้วกันพี่ ภายในอาทิตย์นี้แหละ”

ไอเจงรับคำ ไม่นานการประชุมของพวกผมก็สิ้นสุดลง พวกผมเดินออกจากโรงอาหารมาราวๆ ห้าโมงกว่าพ้นโรอาหารมาได้ไม่ถึงสิบก้าวแขนผมก็ถูกใครบ้างคนคว้าเอาไว้

“กะ แก้ม”
ผมเอ่ยเรียกคนตรงหน้า มาได้ไงวะเนี่ย

“ค่ะแก้มเอง โชคดีจังไม่คิดว่าจะเจอเทียนเลยนะเนี่ย ว่าแต่เทียนจะไปไหนหรอ”

“ผมจะกลับบ้านครับ”
ผมพูดพร้อมแกะมือที่คล้องอยู่ที่แขนผมออกอย่างนิ่มนวลที่สุด
“เสียดายจัง แก้มมีเรียน ตอนห้าโมงครึ่งที่ตึกเรียนฝั่งนี้ ไม่งั้นแก้มจะชวนเทียนไปหาไรกินด้วยกันซักหน่อย”
“คือถ้าแก้มหิว เราพาไปกินในโรงอาหารเราก็ได้ ใกล้ตึกเรียนแก้มนิดเดียวเอง”
แก้มทำหน้าดีใจยกใหญ่ที่ผมอาสาไปส่งเธอที่โรงอาหาร แถมยังนั่งรอเธอกินข้าวอีก

“ขอบคุณมากเลยนะเทียน วันนี้เทียนใจดีกับแก้มมากเลย”

“ไม่เป็นไรครับ แก้มรีบไปเรียนเถอะ เทียนเองก็จะกลับบ้านแล้ว”
ผมไล่เป็นนัยๆ แก้มก็ยอมขึ้นเรียนอย่างว่าง่าย แลกกับสัมผัสเบาบางที่แก้มขวาของผม
 
“แก้มไปนะคะ”
ไปเลยครับ รีบไปเลย อยู่นานกว่านี้ผมคงไม่โดนหอมแก้มแค่ข้างเดียวแน่ หลังจากแยกกับแก้ม ผมก็ดิ่งกลับบ้านทันที
ผมกลับมาถึงบ้านก็นั่งคุยเล่นกับม๊าซักพัก อยู่เป็นเพื่อนม๊าดูละครหลังข่าวจนจบ ส่งม๊าเข้านอน ก่อนจะกลับเข้าห้องตัวเอง


เช้าวันต่อมา
ผมขับรถมาจอดหน้าคณะเป็นปกติ มองตรงไปหน่อยก็จะเห็นกลุ่มเพื่อนและพี่ปีสามนั่งสุ่มหัวกันอยู่ ถ้าให้เดาคงกำลังคุยเรื่องค่ายอาสากันแน่ๆ ไม่อยากจะเชื่อเห็นชอบทำตัวกากไปวันๆแบบพวกนั้น ก็มีมุมเอาจริงกับเขาเป็นเหมือนกัน

“สั้น”
ไม่ทันที่ผมจะตะโกนทักทายพวกรุ่นพี่ เสียงเรียกชื่อผมก็ขัดขึ้นซะก่อน

“อ่าว หวัดดีครับพี่เหนือ”
ผมยกมือไหว้ทักไปตามมารยาท หันหลังเตรียมชิ่ง ใครจะอยู่ล่ะครับหน้าแม่งโคตรโหดเลย

“มึงจะไปไหน”

“ไปหาเพื่อนครับ นั่งอยู่โน่นไง”
ผมบอกพรางชี้ไปทางพวกไอเจง แต่เดี๋ยวนะ ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มนั่นใคร

“มึงแน่ใจว่าจะเดินไปหาเพื่อนมึง”
แก้มมาทำอะไรแต่เช้าเลยวะ แถมยังไปนั่งร่วมอยู่กับกลุ่มเพื่อนผมอีก พี่เหนือกระตุกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ
ไม่แน่ใจหว่ะพี่ เมื่อวานแค่โดนหอมแก้มวันนี้ไม่รู้จะโดนอะไรอีก
“พี่เหนือ เอาไงดีวะพี่”

“ทีงี้เรียกกู”

“เมื่อวานผมโดนหอมแก้ม วันนี้ไม่รู้ว่าจะโดนอะไรอีก เอาไงดีวะ”

“เมื่อวานมึงโดนหอมแก้มด้วยหรอ?”
หน้าตึงทำไม เขาหอมแก้มกูไม่ใช่แก้มมึงพี่

“เออดิ เข้าไปตอนนี้โดนเกาะแกะแน่ งั้นเดี๋ยวผมไปหลบก่อนดีกว่า มีไรค่อยคุยกันนะพี่”
ผมพูดเสร็จก็เดินนำพี่เหนือออกมาเลย ชักช้าขืนพวกนั้นหันมาเห็นผมก่อนจบเห่แน่

“เดี๋ยวสั้น จะหนีทำไมกูก็อยู่”

“ไม่เอาพี่ ผมไม่อยากให้พี่ช่วยแบบนี้แล้ว แค่ผมไปไหนมาไหนกับพี่สาวๆพี่แม่งก็จ้องจะกัดหัวผมไม่เว้นแต่ละวัน ถ้ารู้ว่าพี่แกล้งเป็นแฟนผม ผมไม่โดนฆ่าหมกส้วมเลยหรอทีนี้”

“มึงมีวิธีรับมือแล้ว?”

“ยัง ก็คงหลบๆไปก่อน”

“ก็วิธีเดิมแหละมึงอย่าเรื่องมาก”

“แต่”

“เห้ยไอเพี้ยน ยืนทำเหี้ยอะไรตรงนั้นวะ อ้าวว พี่เหนือหวัดดีพี่”
ไอเผือกหันมาเห็นผมจนได้ มันทักผม ก่อนจะยกมือไหว้อีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ

“เทียนมาแล้วหรอค่ะ แก้มมารอตั้งนานแหนะ”

“คะ ครับ”
“แล้วมึงอ่ะ เหนือมาทำไม”

“มาส่งแฟน”

“ห๊า!!!”
ไอพี่เหนือมันไม่พูดเปล่า โอบไหลผมต่อหน้าเพื่อนและรุ่นพี่ผมหน้าตาเฉย ซวยแล้วไง ผมลืมไปว่าพวกมัน เอ่อ ผมหมายถึงพวกเพื่อนผมและรุ่นพี่ ไม่รู้เรื่องข้อตกลงระหว่างผมกับพี่เหนือ
 
“มึงว่าไงนะ ใครแฟนมึง”
พี่เพลิงได้สติก่อนคนแรก ถามพี่เหนืออย่างต้องการความชัดเจน ตอกย้ำให้เขากระจ่างอีกทีว่าไม่ได้ฟังผิด

“ก็ไอสั้นนี่ไง แฟนกู”

“เหี้ยพี่เหนือ”
ผมบ่นอุบพร้อมส่งข้อศอกไป ถองสีข้างคนข้างตัวเบาๆ พูดเรื่องแบบนี้ได้รื่นปากเหลือเกินนะไอพี่เวร

“มันยังไงวะไอเพี้ยน”
ไอเผือกถาม
 
“สรุปว่าพี่เหนือเป็นแฟนของเทียนจริงๆหรอคะ”
แก้มถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงไม่ทุกข์ร้อนใดๆทั้งสิ้น ฟังดูไม่ค่อยน่าไว้ใจเลยแฮะ

“ตามที่เห็น จะให้พี่ยืนยันอีกซักกี่รอบครับ”
พี่เหนือถามเสียงนิ่ง ในขณะที่มือย้ายไปโอบเอวผมแทนแล้ว
 
“แย่จริง ทำไมน้าทั้งๆที่รู้ว่าเทียนมีแฟนแล้ว แต่แก้มยังรู้สึกอยากจะให้เทียนเป็นของแก้มอยู่ดี และแก้มก็ไม่คิดว่าพี่เหนือจะเป็นอุปสรรค์เลยด้วย”
“โห กูนับถือความมุ่งมั่นของแก้มจริงๆ”
ไอเผือกกระซิบกระซาบกับไอเจง แต่มันกระซิบดังเกินเลยแว่วมาเข้าหูผมด้วย
“เอ่อ แก้มครับ”

“แก้มควรเลิกยุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้วจะดีกว่า เพราะเวลาพี่หึงพี่จะโหดมากนะครับ ไปสั้นเดี๋ยวกูไปส่งขึ้นห้อง”
พี่เหนือพูดจบก็จูงมือผมให้เดินตามขึ้นไปบนตึกเรียนทันที โดยที่ไม่ได้ถามผมเลยซักนิดว่า

“พี่เหนือผมเรียนตึกโน่นครับ”
ใช่ครับไม่ถามเลยว่าผมเรียกตึกไหน ลากกูขึ้นมาสองชั้นแล้ว
 
“แล้วทำไมมึงไม่รีบบอกกู”

“เอาเวลาไหนบอกวะพี่ พูดเองเออเองเสร็จก็ลากผมขึ้นมาเลยเนี่ย”

“กูผิดว่างั้น”

เออ
 
“เปล่าครับ”




-------------------------------------------------------------------------

ช่วยกัน Comment เป็นกำลังใจให้น้องเพี้ยนด้วยนะคะ
 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2018 22:12:08 โดย wookyu »

ออฟไลน์ changemoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบเทียน พี่เหนือหลบ 555 คนเนียนจริงเนียนสุด

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
เนียนเชียวนะพี่เหนือ

 :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :katai3:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
แหมมมมมม พี่เหนือเนียนเชียวนะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
                                                                                            - 8 -



หลังเลิกเรียน ณ โรงอาหารที่เก่า เวลาสี่โมงเย็น

“ไอเพี้ยนมีอะไรจะเล่าให้พวกกูฟังไหม?”
ไม่มีแต่กูรู้ว่าพวกมึงอยากเสือก

“มึงจำวันที่เราไปผับด้วยกันครั้งแรกได้ไหม”
ผมเริ่มเล่า พวกมันก็พยักหน้ารับรัวๆ ในเชิงว่าจำได้ๆ เล่าต่อซิไอควาย ถึงปากมันจะไม่ได้พูดออกมาอย่างนั้นแต่ผมรู้ว่ามันคิด เพราะสีหน้ามันฟ้องหมดทุกอย่าง

“กูเจอแก้มครั้งแรกที่นั่น แก้มเข้ามาชวนกูไปแดกเหล้าที่โต๊ะ แล้วก็ เอ่อ ลวนลามกู เหี้ยกระดากปากชิบ เป็นผู้ชายเสือกโดนลวนลาม”
ผมเล่าไปบ่นไป พวกเหี้ยนั่นก็หัวเราะชอบใจ ไม่สงสารกูเลยแม่ง

“แล้วไงต่อ”

“พี่เหนือมันเลยเข้ามาช่วยกู พากูหนีนั่นแหละ กูคิดว่าเรื่องมันควรจะจบแค่นั้น ไม่คิดว่าจะเจอแก้มอีกเป็นครั้งที่สอง แต่กูก็เจอ
ครั้งที่สองกูเจอแก้มที่โรงอาหาร วันที่กูไล่กระทืบพวกมึงเรื่องเกมส์อ่ะ วันนั้นแก้มพยายามจะลากกูไปดูหนังด้วย แต่กูไม่อยากไป บังเอิญเจอพี่เหนือกำลังเดินออกจากโรงอาหารมันเลยช่วยกูไว้อีกครั้งนึง มันออกอุบายว่ากูกับพี่มันเป็นแฟนกัน คิดว่าทำแบบนี้แล้วแก้มจะยอมถอยทัพ แต่ก็เป็นอย่างที่พวกมึงเห็น แก้มไม่ได้คิดจะถอยเลย”
ผมเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้พวกมันฟังตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่ข้ามอะไรไปแม้แต่ฉากเดียว
 
“กูว่าแล้วว่าเรื่องมันต้องมีที่มาที่ไป คนอย่างพี่เหนือมีแฟนเป็นถึงเดือนนิเทศน์จะมาคบอะไรคนเพี้ยนๆอย่างมึง”

“สัสเผือก”

“เดี๋ยว!!กูไม่เข้าใจว่าทำไมพี่เหนือต้องช่วยมึงด้วยวิธีนั้นด้วยวะ มึงกับพี่เขาสนิทกันหรอ”

“พี่มันบอกกูว่าคิดออกแค่วิธีนั้น กูก็ถามเขาอย่างที่มึงถามกูนี่แหละ”

“จวนตัวมั้งมึง แบบไม่รู้จะอ้างอะไรดี เลยคิดสั้นแบบนั้น”
ดูพวกแม่ง นอกจากจะไม่ช่วยแล้วยังจะกวนตีนกันอีก เพื่อนมึงกำลังเดือดร้อนนะเว้ย

“แล้วนี่มึงจะเอาไงต่อ แฟนพี่เหนือรู้เรื่องนี้หรือยัง แล้วไหนจะบรรดาแฟนคลับพี่เหนืออีก”
เฮ้อ นี่ไงเรื่องที่กูกังวลอยู่ ไม่รู้ว่าจะไปบอกแฟนพี่เหนือว่ายังไง จะให้อยู่ดีๆเดินไปบอกว่า พี่ครับผมยืมแฟนพี่เป็นไม้กันหมาหน่อยนะครับ แบบนี้พี่เขาจะยอมเข้าใจผมไหมล่ะ ไหนจะแฟนคลับพี่เหนืออีก
 
“กูยังคิดไม่ออกเลยหว่ะ”
ผมบอกไปตามตรง เรื่องนี้ไว้ผมลองปรึกษาพี่เหนือมันดูอีกทีแล้วกัน อย่างน้อยๆพี่เหนือที่เป็นแฟนคงจะให้คำแนะนำผมได้ดีกว่าผม ที่ตัดสินใจทำอะไรเองโดยพละการ

อีกด้านหนึ่ง
“เดหลีแกกับพี่เหนือเป็นไงบ้างช่วงนี้”
สาวสวยในชุดเกาะอกสีดำเปลือยผิวหลังขาวเนียนถามคนเป็นเพื่อนพร้อมส่งแก้วเครื่องดื่มสีสวยเข้าปาก คนถูกถามทำหน้าเบื่อหน่าย เมื่อคิดถึงบุคคลที่เป็นตกเป็นหัวข้อสนทนาในค่ำคืนนี้ เดหลีหแทบจะไม่ค่อยได้เจอหน้าเหนือว่าที่คู่หมั่นของตัวเองด้วยซ้ำ แม้ว่าเธอจะหมั่นไปหาเหนือที่คณะ หรือแม้แต่บุกไปหาที่คอนโด เหนือก็ยังคงสร้างช่องว่างระหว่างเธอไว้เสมอ เดหลีไม่เคยได้เข้าไปยังพื้นที่ส่วนตัวของเหนือ ทุกครั้งทีเดหลีไปหาเหนือที่คอนโดเดหลีจะได้อยู่แค่ในส่วนของห้องรับแขก เช่นเดียวกับเพื่อนๆของเหนือ แม้ว่าเดหลีนั้นกำลังจะเป็นคู่หมั่นของเหนือในอนาคตก็ตาม แต่เหนือกลับปฏิบัติกับเธอไม่ต่างไปจากเพื่อนคนหนึ่ง

“เหมือนเดิม แกถามทำไม”
เดหลีตอบเสียงเรียบก่อนจะยกแก้วทักทายผู้ชายอีกโต๊ะที่แสดงท่าทีสนใจเธอพร้อมรอยยิ้มเล็กที่มุมปาก

“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่ไปเจอเรื่องตลกมานิดหน่อย อย่าใส่ใจเลย โน่นผู้ชายโต๊ะโน่นมองแกใหญ่แล้ว”
เดหลีเองก็เป็นผู้หญิงเที่ยวเล่นรักสนุกทั่วไป ในเมื่อบางสิ่งที่เหนือให้เดหลีไม่ได้ มันก็ไม่เห็นแปลกถ้าเธอจะหาบางสิ่งที่ขาดมาเติมเต็มให้ตัวเองอย่างเช่นวันนี้ เดหลีตัดสินใจเดินถือแก้วเหล้าในมือไปนั่งกับชายที่เธอหมายตาก่อนจะพากันออกจากผับไป

 -----------------------------------------------------------------

     ใต้ตึกวิศวะ เหล่านักศึกษาที่ลงชื่อสมัครไปค่ายอาสากำลังช่วยกันจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆที่จะนำไปใช้ในค่าย อาทิ สีทาบ้าน ไม้หน้าสาม ไม้อัด เลื่อย ค้อน ตะปู แปรงทาสี อะไรทำนองนั้นแหละครับ เห็นพี่เปรมหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมนักศึกษาบอกว่าไม่ได้เป็นการซ่อมแซม แต่เรียกได้ว่าลื้อสร้างใหม่เสียมากกว่า เพราะห้องสมุด กับห้องเรียนของน้องเขาพุพังหมดแล้ว เลยอยากเนรมิตรให้น้องๆใหม่ไปเลย ผมว่าก็เข้าท่าดี
“ขาดอะไรอีกหรือเปล่าวะ เราจะไปอาทิตย์หน้าแล้วนะ”

“ไอของสำหรับงานช่างกูว่าไม่ขาดแล้วนะ ได้ของครบตามลิสแล้ว แต่ไปค่ายอาสาทั้งที กูว่าเราน่าจะมีพวกขนม หนังสือ อุปกรณ์การเรียนไปให้น้องๆมันบ้าง มีกิจกรรมเล่นกับน้องๆมันหน่อย น้องๆมันจะได้มีความสุขไง”
โอโห้ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดสวยงามแบบนี้จะหลุดออกจากปากพี่นัท หน้าตาไม่น่าจะใจดีเลยนะเนี่ย

“เออ กิจกรรมก็โยนให้พวกปีหนึ่งปีสองมันไป เราไปอยู่โน่นอาทิตย์นึง ก็เตรียมกิจกรรมไปให้พอล่ะ งานออกมาไม่ดีกูบอกเลยว่าซ่อมยกชั้น”
พี่เปรมขู่ และมันก็ทำให้พวกผมกลัวด้วย พี่เปรมบทจะเล่นก็เล่นบทจะเอาจริงก็โคตรน่ากลัว เพราะแบบนี้ไงพี่เขาเลยได้เป็นถึงหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมของคณะและมหาวิทยาลัย

เช้ายันเย็นของวันนั้นพวกผมก็นั่งเตรียมงานอยู่ใต้ตึก ไม่ได้ย้ายก้นไปไหนกันเลย มีซ้อมละครเปิดค่ายอาสาด้วย
และคนดูแลเรื่องกิจกรรมตลอดค่ายคือไอเจงกับเจ้กิ่ง เจ้กิ่งที่มว่านี่คือหญิงในร่างชายนะครับ วิศวะเราปีนี้ไม่ผู้หญิงก็เหมือนไม่มี เพราะผู้หญิงที่มีก็เป็นชายในร่างหญิงไปซะหมด พวกไอเจงถึงต้องไปหาอาหารตาจากคณะอื่นไง

“อ่ะนี่บทละครที่เจ้นั่งเขียนเมื่อกี้นะจ๊ะเด็กๆ เอาไปจ่ะ เอาไปไม่ต้องแย่งกัน”
ผมกับไอเผือกได้กระดาษที่ม้วนติดริบบิ้นสีแดงมาอย่างสวยงามมาไว้ในครอบครองคนละอัน เจ้กิ่งมันยังไม่ยอมให้แกะครับมันบอกว่าพรุ่งนี้คนที่ได้บททุกคนให้มารวมตัวกันหลังเลิกเรืยน หลังจากนั้นมันก็ไล่พวกผมกลับบ้าน เพราะมันจะใช้พื้นที่ในการซ้อมเต้น พวกเห็นทีมนางฟ้าแห่งวิศวะมายืนยืดเส้นยืดสายรอแล้ว
 
“เหี้ยรีบกลับเหอะเสียสายตา”
ไอเผือกทิ้งระเบิดไว้แล้วรีบวิ่งออกจากใต้ตึกทันที ผมได้ยินเสียงเจ้กิ่งมันตะโกนด่าไล่หลังมาด้วย แต่ไอตัวต้นเหตุออกรถไปโน่นแล้ว ผมเลยขับตามออกไปบ้าง

Rrrrrrrrrrrrr
ยังไม่ทันพ้นรั้วมหาวิทยาลัยดีเลย ไอพี่เหนือก็โทรเข้ามา

(ว่าไงครับพี่)

(เลิกเรียนยัง)

(เลิกแล้วครับ กำลังกลับบ้าน)

(แวะมาหากูที่คณะด้วย เร็วๆ)

ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด

สัส สั่งเสร็จก็วางเลยนะครับ ไม่คิดว่ากูจะไม่ว่างบ้างเลยหรือไง ตอนแรกที่ว่าจะขับกลับโดยใช้ถนนเส้นที่คุ้นเคย ผมจำใจต้องหักพวงมาลัยหันไปอีกทางซึ่งก็เป็นทางไปคณะแพทย์ของไอหมอเถื่อนแทน
ผมมายืนรอไอพี่เหนือหน้าคณะมันเหมือนเดิม พอถึงก็โทรหามัน ไม่นานมันก็เดินลงมาพร้อมกับกล่องกระดาษกล่องใหญ่

“กล่องอะไรวะพี่”
ผมถามแล้วชะโงกหน้าเข้าไปดู ในกล่องเต็มไปด้วยชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ที่ทำจากกระดาษเต็มไปหมด บางอันลงสีแล้ว บางอันก็ยัง พี่เหนือมันพยับเพยิบให้ผมไปเปิดประตูรถ แต่ไม่ใช่รถมันนะครับ เป็นรถผมเองต่างหาก

“เอามาไว้รถผมทำไมวะ”
ผมถามหลังจากที่เห็นพี่เหนือวางกล่องใบนั้นลงที่เบาะหลังรถผมอย่างเรียบร้อย ก่อนเจ้าตัวจะวิ่งไปในตึกอีกครั้งพร้อมกับถุงกระดาษใบใหญ่มาใส่รถผมอีกเช่นเคย

“ไป”
ไปเหี้ยอะไรละครับ เอาของมาวางๆ แล้วมึงก็เดินขึ้นมานั่งรถกูโดยไม่บอกอะไรซักคำ กูออกรถก็บ้าแล้ว
 
“ขับไปคอนโดกูนะ”
ครับผมเองแหละที่บ้า เพราะพอมันบอกให้ออกรถ ผมก็ออกรถตามที่มันบอกทันทีโดยไม่ถามด้วยซ้ำว่าให้ขับไปไหน

“สั้นวันนี้มึงนอนห้องกูนะ ช่วยกูลงสีไอพวกนั้นหน่อยกูทำคนเดียวไม่ทัน พรุ่งนี้เขาจะประกอบโครงแล้ว”

“ไม่ค้างได้ไหม ผมไม่ได้บอกม๊าว่าจะไปนอนบ้านคนอื่น เดี๋ยวม๊าเป็นห่วง”

“คนอื่นเหี้ยอะไรกูแฟนมึง”
“ฮ่าๆๆ แฟนเหี้ยอะไรล่ะพี่ อุ๋ยหลุด!!”
ผมตะครุบปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน ปกติเวลาจะด่าไอพี่เหนือผมก็จะด่าในใจตลอดวันนี้ปากลั่น พี่แม่งทำตาขวางใส่เลย

“มึงกล้าด่ากูเลยหรอห๊ะ ปีนเกลียวใหญ่แล้วเดี๋ยวกูตบปากแตก”
โหดกับกูจังเลยนะครับ ไม่ต้องการแล้วใช่ไหมคนช่วยทาสี กูจะได้กลับบ้าน

“แล้วแดกข้าวยัง ข้างคอนโดกูมีร้านข้าว แวะแดกก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง”

“ก็ต้องอย่างนั้นอยู่แล้ว ถ้าพี่ให้ผมจ่ายเองมันก็จะดูวรนุชไปนิดนึง”
พี่เหนือมันขมวดคิ้วเหมือนไม่เข้าใจว่าวรนุชของผมคืออะไร แต่ดีแล้วแหละครับที่มันไม่รู้ ถ้ามันรู้ผมคงได้กินตีนแทนข้าว


“ป้าครับผมขอกระเพาหมูกรอบไข่ดาวสุกๆครับ”

“เหมือนมันครับ สองจาน”
พอป้าเขารับออเดอร์ไปแล้ว ไอพี่เหนือมันจ้องหน้าผมเขม่น ตาขวางเลยด้วย

“ไอสั้นวันนี้มึงด่ากูสองรอบแล้วนะ เดี๋ยวมึงจะโดนกูจริงๆ”
“โอ๋ๆพี่ไม่โกรธนะ ฮ่าๆๆ อำเล่นนิดเดียวเอง เอางี้เดี๋ยวคืนนี้ผมจะตั้งใจช่วยงานพี่เต็มที่เลยนะๆ อย่าอาฆาตพยาบาทจองเวรผมเลยนะพี่นะ”

“หึหึ”
ไอพี่เหนือหัวเราะแล้ว ผมคงไม่โดนตีนมันแล้วใช่ไหม ระหว่างกินข้าวพี่เหนือมันก็กินเงียบๆ มีแต่ผมเนี่ยแหละที่ต้องกินไปตอบไลน์ไป ใบหม่อนยังคงไลน์มาคุยกับผมอยู่ทุกวันแม้ว่าสถานะของเราตอนนี้จะเป็นแค่เพื่อน ผมไม่ได้คิดว่าเราจะเลิกกันจริงๆหรอกใบหม่อนคงแค่น้อยใจผมเธอเลยพูดไปแบบนั้น และผมเองก็ยังไม่อยากจะเร่งรัดอะไรเธอด้วยถ้าเราสองคนเป็นแบบนี้แล้วเธอสบายใจผมก็โอเค

“มึงหยุดคุยไลน์แล้วรีบแดกๆให้เสร็จได้ไหม หรือไม่แดกแล้วก็ลุกกูจะรีบกลับไปทำงาน”
ไบโพลาห์แน่ๆ เมื่อกี้ยังหัวเราะอยู่เลยแม้จะแค่ หึหึ ก็ตามแล้วนี่เป็นอะไรอามารณ์เสียอะไรอีกพี่ กูตามอารมณ์ไม่ทันแล้วนะ

ณ คอนโดหลังงามที่ผมไม่มีปัญญาแม้แต่ที่จะเช่าอยู่ ในขณะที่พี่เหนือมันซื้อไว้
มาถึงห้องพี่เหนือก็ไม่ยอมพูดกับผมเลยซักคำ เอาแต่ทำหน้าตึงเป็นหนังกลองใส่ ลากกล่องที่ยกขึ้นมาไว้กลางห้อง ก่อนจะเดินไปหาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสือยืดสีดำ กางเกงบอลขากว้างทำให้เห็นต้นขาขาวๆของพี่มันเต็มๆ ก่อนโยนอีกชุดที่ไม่ต่างจากของมันมาให้ผม

ตืด ดือ ดึ้ง
BaiMon : เทียนทำไรอยู่ ตอนนี้อยู่ไหนอ่ะ

Tienkhai : ห้องพี่เหนือ เทียนมาช่วยงานพี่เหนือน่ะ

BaiMon : พี่เหนือไหน อย่าบอกหน่อมนะว่าพี่เหนือเดือนมหาลัยอ่ะ

Tienkhai : ไม่รู้ว่าเดือนมหาลัยไหม แต่พี่เหนือคนนี้คือเพื่อนพี่เพลิง เรียนแพทย์น่ะ

“ว่างก่อนได้ไหมโทรศัพท์มึง เอามานี่กูลิบเดี๋ยวงานกูไม่เสร็จ”
พี่เหนือพูดแล้วกดวางโทรศัพท์ผมไว้ข้างตัว อย่างถือวิสาสะ แล้วไล่ผมไปเปลี่ยนชุด
พอกลับมามันก็กวักมือเรียกผมให้มานั่งข้างมัน แล้วสอนให้ผมใช้สี

“มึงเห็นรูปตรงนี้ไหม ลงสียังไงก็ได้ให้เหมือนกับรูปมากที่สุด ที่สำคัญจำไว้ว่าต้องไม่เละ สีไม่เพี้ยน”

ผมพนักหน้ารับแล้วค่อยๆลองเอาพูกันจุ่มลงที่สีแดงเข้ม ปาดสีให้ติดพู่กันน้อยที่สุด แล้วค่อยๆระบายลงอวัยวะจำลองที่ทำมาจากกระดาษหนังสือพิมที่เคลือบสีขาวไว้ชั้นนึงก่อนแล้ว

“พี่เหนืออันนี้มันคืออะไรพี่ ที่ผมระบายอยู่”

“มึงมองไม่ออก?”

“มองออกแล้วผมจะถามพี่ทำด๋อยอะไร”
ปากผมพูดมือผมก็ยังคงบรรจงลงสีอย่างตั้งใจ

“หัวใจ”

“อ๋อ ไอก้อนบิดๆเบี้ยวๆนี่เขาเรียกว่าหัวใจหรอ มองรอบแรกผมนึกว่ากึ๋น”

“กวนตีน”

“ฮ่าๆๆ”

หลังจากก่อกวนของพี่เหนือจนพอใจแล้ว เราสองคนก็นั่งจมอยู่ในโลกของตัวเอง ต่างคนต่างตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายไปเรื่อย ไม่ได้สนใจเวลาบนกำแพงห้องเลยซักนิด แม้เวลาจะบอกเป็นเวลาตีสองกว่าแล้วก็ตาม
















-------------------------------------------------------------------------------

เดหลีมาแล้ววววว เรื่องราวของน้องเพี้ยนจะเป็นไงต่อไปกันนะ ในเมื่อตัวจริงเขาอยู่ตรงนี้ :)




ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
น้องเพี้ยนจะช้ากว่าพี่เหนือไม่ได้นะ 55
ทำไมเดหลีดูหน้ากลัว

 o18
 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
เพี้ยนจะสู้คู่หมั่นพี่เหนือได้มั้ยเนี๊ยะ
ยิ่งไม่ค่อยจะทันคนอยู่ด้วย

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
ชอบฮะ สนุกดี เทียนน่ารักมว้ากก ตลกดีด้วย 5555+
มาอัพบ่อยๆนะฮะ จะแวะเข้ามาดูทุกวันเล้ยยยย
 :pig4:

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
น้องก็ตามพี่ไม่ทันเลย 555555

ออฟไลน์ SeLoFENa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ติดตามน้องเพี้ยนจ้าาา

ออฟไลน์ wookyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
                                                                     

                                                                           - 9 -





พาร์ทเหนือ

“เหนือไม่ต้องทำแล้วก็ได้ เหนือทำเยอะแล้ว เดี๋ยวพวกเรากับเชนช่วยกันลงสีเอง”

“เรารับผิดชอบเรื่องนี้เอง ก้อยกับเชนค่อยไปทำเรื่องขึ้นโครงดีกว่า”

ผมยืนยันที่จะทำงานชิ้นนี้เอง ไม่ใช่ไม่ไว้ใจเพื่อนๆนะครับ แต่เพราะผมอยากหาข้ออ้างใช้งานเบ๊ส่วนตัวของผมมากกว่า หลังจากที่ตกลงเรื่องงานกันได้ ผมก็เก็บของใช้ที่จำเป็นใส่ถุงกระดาษใบใหญ่ที่เตรียมไว้ เสร็จก็โทรหาเบ๊กิติมาศักดิ์ของผมทันที

(ว่าไงครับพี่)
เสียงขึ้นจมูกเชียวนะไอเด็กเวร

(เลิกเรียนยัง)

(เลิกแล้วครับ กำลังกลับบ้าน)
ผมรู้มันตอบอย่างนี้เพราะจะดักไม่ให้ผมเรียกใช้มันแน่ แต่คิดหรอว่ากูแคร์

(แวะมาหากูที่คณะด้วย เร็วๆ)
ผมออกคำสั่งแล้วตัดสายทิ้งทันที ไม่ปล่อยให้มันหาข้ออ้างมาปฎิเสธผมเด็ดขาด งานนี้ผมต้องมีมันช่วย

สิบนาทีต่อมา ไอเพี้ยนก็โทรหาผมบอกว่ามันอยู่หน้าคณะแล้ว ผมเลยยกกล่องที่เตรียมไว้เดินไปหามันที่รถ
“กล่องอะไรวะพี่”

มันถามแล้วชะโงกหน้าเข้าไปดู
ผมไม่ได้ตอบว่าไอสิ่งที่อยู่ในกล่องคืออะไร ถ้ามันไม่โง่มากมองแค่นั้นก็น่าจะรู้แล้วว่ามันคืออวัยะในร่างกายของมุนษย์ ไอพี้ยนเงยหน้าขึ้นจากกล่องพอดี ผมเลยใช้สายตาส่งสัญญาณบอกให้มันเปิดประตูรถ มันทำหน้า งงๆ แต่ก็ยอมเปิดประตูรถด้านหลังให้ผมเอาของไปวาง

“เอามาไว้รถผมทำไมวะ”

คำตอบที่ผมให้มันในใจคือ กูจะใช้งานมึง มึงต้องค้างห้องกู และต้องขับรถมาส่งกูที่คณะพรุ่งนี้ เพราะกูทิ้งรถไว้ที่คณะ ทุกอย่างผมวางแผนไว้หมดแล้ว ไอเพี้ยนหาเรื่องปฎิเสธผมไม่ได้แน่นอน ผมวิ่งกลับไปที่ตึกอีกครั้งก่อนลงมาพร้อมกลับถุงกระดาษใบใหญ่หิ้วมาใส่ไว้ในรถมันอีกตามเคย แล้วสั่งให้มันออกรถ ไอเพี้ยนที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ออกรถตามคำสั่งของผม โดยที่มันไม่ถามผมเลยซักนิดว่าจะให้ไปไหน จนผมต้องเป็นฝ่ายบอกมันเสียเอง

“ขับไปคอนโดกูนะ”
มันพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะขับรถมุ่งยันเส้นทางไปคอนโดของผม
 
“เพี้ยนวันนี้มึงนอนห้องกูนะ ช่วยกูลงสีไอพวกนั้นหน่อยกูทำคนเดียวไม่ทัน พรุ่งนี้เขาจะประกอบโครงแล้ว”

“ไม่ค้างได้ไหม ผมไม่ได้บอกม๊าว่าจะไปนอนบ้านคนอื่น เดี๋ยวม๊าเป็นห่วง”

“คนอื่นเหี้ยอะไรกูแฟนมึง”
ผมแกล้งแหย่ นึกว่าแม่งจะอายดูมันทำนะครับ

“ฮ่าๆๆ แฟนเหี้ยอะไรล่ะพี่ อุ๋ยหลุด!!”
หัวเราะหน้าระรื่นแถมยังกวนตีนด่าผมอีก นี่แสดงว่าที่ผ่านมามันแอบด่าผมในใจมาตลอด ไม่งั้นมันไม่พูดหรอกว่าหลุด น่าจะตบกบาลซักทีจะได้หายเพี้ยน

“มึงกล้าด่ากูเลยหรอห๊ะ ปีนเกลียวใหญ่แล้วเดี๋ยวกูตบปากแตก”
ผมแกล้งทำเสียงดุ มันไม่ตอบอะไรเอาแต่ยิ้มทะเล้นส่งให้ผม เห็นความกวนตีนมันยังครับ ผมยกนาฬิกาดูเห็นว่ามันเย็นแล้ว และที่ห้องก็ไม่มีอะไรพอจะให้มันกินด้วย จำได้ว่าข้างคอนโดมีร้านอาหารอยู่แวะกินก่อนเข้าห้องไปเลยแล้วกัน
 
“มึงแดกข้าวยัง ข้างคอนโดกูมีร้านข้าว แวะแดกก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง”

“ก็ต้องอย่างนั้นอยู่แล้ว ถ้าพี่ให้ผมจ่ายเองมันก็จะดูวรนุชไป”
อะไรของมันวรนุช ถ้าให้เดามันต้องไม่ใช่คำพูดที่ฟังแล้วจรรโรงหูแน่ๆ ผมเคยได้ยินคำนี้ที่ไหนวะ

“ป้าครับผมขอกระเพาหมูกรอบไข่ดาวสุกๆครับ”

“เหมือนมันครับ สองจาน”
ไอเด็กเวรนั่นมันหลอกด่าผมว่า เหี้ยนี่เอง แสบนักนะมึง
“ไอสั้นวันนี้มึงด่ากูสองรอบแล้วนะ เดี๋ยวมึงจะโดนกูจริงๆ”

“โอ๋ๆพี่ไม่โกรธนะ ฮ่าๆๆ อำเล่นนิดเดียวเอง เอางี้เดี๋ยวคืนนี้ผมจะตั้งใจช่วยงานพี่เต็มที่เลยนะๆ อย่าอาฆาตพยาบาทจองเวรผมเลยนะพี่นะ”
ไอเด็กเวรนั่นพอมันรู้ว่าผมรู้แล้ว มันก็ทำเสียงอ้อน ถ้าเป็นเพื่อนผู้ชายคนอื่นมาทำแบบนี้ใส่ผม รับลองว่ามันได้แดกตีนผมไปแล้ว แต่กับมันผมกลับมองว่าน่ารักดี ไอเพี้ยนถ้าไม่พูดถึงเรื่องความมึนของมัน มันเป็นเด็กที่หน้าตาดีคนนึงเลยนะครับสำหรับผม หน้ามันหวานแต่ก็ไม่ถึงกับเหมือนผู้หญิง ตัวขาวด้วย และที่สำคัญผมชอบตายิ้มๆของมัน เวลายิ้มแบบนั้นแล้วมันโคตรน่ารักเลย


ผ่านไปไม่ถึงสิบนาที ข้าวที่ผมสั่งไปก็มาเสิร์ฟให้ทีโต๊ะ ระหว่างกินข้าวผมเห็นมันเอาแต่จับโทรศัพท์ เสียงไลน์มันก็ร้องเตือนไม่หยุด ไอสั้นกินข้าวไปตอบไลน์ไป ผมอยากรู้จริงๆว่ามันคุยกับใคร ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เห็นแล้วรู้สึกไม่ชอบใจยังไงก็ไม่รู้ อยู่กับกูมึงควรจะสนใจแต่กูสิวะแม่ง

“มึงหยุดคุยไลน์แล้วรีบแดกๆให้เสร็จได้ไหม หรือไม่แดกแล้วก็ลุกกูจะรีบกลับไปทำงาน”
พาลแม่ง ไอเพี้ยนพอเจอผมพูดไปแบบนั้นมันก็วางโทรศัพท์ไว้ข้างตัว แล้วตั้งใจกินข้าวในจานจนหมด
ระหว่างทางไปกลับคอนโดผมกับมันก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก ผมยังหงุดหงิดเรื่องเมื่อกี้ไม่หาย ไม่รู้ว่าทำไม รู้อย่างเดียวว่าผมไม่ชอบใจ ผมกลับมาถึงห้องก็ลากกล่องงานมาวางไว้กลางห้อง คว้าเสื้อผ้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำก่อนจะหยิบติดมือมาอีกชุด ส่งให้มัน
ตืด ดือ ดึ้ง
ตืด ดือ ดึ้ง
ตืด ดือ ดึ้ง
ตืด ดือ ดึ้ง
เสียงไลน์มันดังไม่หยุด มันหยิบมือถือมันขึ้นมากดตอบไลน์ โดยไม่สนใจเสื้อผ้าที่ผมโยนให้เลย นี่กูชักจะทนไม่ไหวแล้วนะเว้ย กูให้มึงมาช่วยงานไม่ได้ให้มานั่งตอบไลน์ใคร
 
“วางก่อนได้ไหมโทรศัพท์มึง เอามานี่กูลิบเดี๋ยวงานกูไม่เสร็จ”
ผมคว้ามือถือจากมือมันมาวางไว้ข้างตัว แล้วไล่มันด้วยสายตาให้ไปเปลี่ยนเสื้อ ผมต้องทำขนาดนั้นมันถึงจะยอมไป
ระหว่างที่มันเปลี่ยนเสื้อ ผมก็แอบกดโทรศัพท์ของมันดู ไอเพี้ยนไม่ได้ล็อคจอไว้ครับ ทำให้ผมเห็นว่ามันกำลังคุยกับใครอยู่ และชื่อที่เห็นบนหน้าจอมันก็ทำให้ผมแปลกใจไม่น้อย BiaMon ผมจำชื่อนี้ได้เหมือนพวกไอเพลิงจะเคยบอกผมว่าใบหม่อนคือแฟนเก่ามัน ไหนบอกว่าเลิกไปแล้ว และทำไมยังคุยไลน์กันเยอะขนาดนี่วะ ผมกดปิดโปรแกรมไลน์ก่อนจะนำโทรศัพท์ไปวางคืนไว้ที่เดิม ไม่นานนักไอเพี้ยนในชุดเสื้อยืดสีน้ำเงินกับกางเกงบอลแบบเดียวกับผม เดินกลับเข้ามานั่งประจำที่ ผมเลยเริ่มสอนงานมัน

“มึงเห็นรูปตรงนี้ไหม ลงสียังไงก็ได้ให้เหมือนกับรูปมากที่สุด ที่สำคัญจำไว้ว่าต้องไม่เละ สีไม่เพี้ยน”
ผมบอกพลางชี้ไปที่รูปตัวอย่าง มันพยักหน้ารับแล้วค่อยๆเอาพูกันจุ่มลงที่สีแดงเข้ม ปาดให้สีติดพู่กันน้อยที่สุด แล้วบรรจงระบายลงเปเปอร์มาเช่ชิ้นที่มันถืออยู่ในมือ

“พี่เหนืออันนี้มันคืออะไรพี่ ที่ผมระบายอยู่”
ผมเหลือบไปมองชิ้นส่วนที่อยู่ในมือมันแล้วย้อนถาม จะว่าผมทำไม่เหมือนก็ไม่น่าใช่นะ อาจารย์ยังบอกเลยว่าเหมือนของจริงมากๆ แล้วทำไมไอเพี้ยนถึงมองไม่ออกว่าที่มันถือยู่คืออะไร

“มึงมองไม่ออก?”
“มองออกแล้วผมจะถามพี่ทำด๋อยอะไร”
ตอบอย่างนี้แสดงว่ามันไม่รู้ กูสงเคราะห์ให้ก็ได้ควายน้อย

“หัวใจ”
ผมตอบมันด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความเอือมระอาเป็นที่สุด
 
“อ๋อ ไอก้อนบิดๆเบี้ยวๆนี่เขาเรียกว่าหัวใจหรอ มองรอบแรกผมนึกว่ากึ๋น”

“กวนตีน”

“ฮ่าๆๆ”
หลังจากที่มันกวนตีนผมจนสาแกใจแล้ว เราสองคนก็ต่างหันมาสนใจงานในมือตัวเอง จนเวลาล่วงเลยไปถึงตีสอง ไอสั้นตามันปรือๆแล้วครับ แต่ก็ยังฝืนทำงานอยู่โดยไม่บ่นผมซักคำเห็นแล้วสงสาร ผมควรให้ไล่มันไปนอนได้แล้ว

“สั้นพอแล้ว ที่เหลือเดี๋ยวกูทำเอง มึงไปนอนเถอะ”

“อีกอันเดียวก็เสร็จแล้วไม่เป็นไร แค่นี้ผมฝืนได้”
นั่นประชดกูใช่ไหม ตัวเองง่วงจะตายยังจะฝืนอีก

“ไม่ต้องมึงเข้าไปนอนเลย เดี๋ยวระบายสีผิดกูขี้เกียจมานั่งแก้”
ผมบอกพลางดึงของออกจากมือมันมาไว้ที่ตัวเองทั้งหมด มันเลยจำใจยอมเดินเข้าไปนอนในห้อง ห้องส่วนตัวของผมที่ไม่เคยให้ใครเข้าใกล้แม้กระทั่งเพื่อนสนิทของผมเอง โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เตียงนอน หรือกินของต่อจากคนอื่น ผมไม่ชอบและค่อนข้างถือเรื่องพวกนั้นด้วยซ้ำแต่กับไอสั้นนี้ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมไม่มีความรู้สึกว่าการใช้อะไรหลายๆอย่างร่วมกับมันเป็นเรื่องน่ารังเกียจ ในทางตรงกันข้ามผมกลับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่ได้แชร์อะไรๆของผมร่วมกับมัน หลังจากไอสั้นเดินหายเข้าไปในห้องไม่นาน ผมก็เดินตามเข้าไปดูก็พบว่าไอสั้นมันหลับไปแล้ว ผ้านวมผืนหนาถูกยกขึ้นคลุมทั้งตัว โผ่ลแค่ช่วงหัวให้เห็น ผมเลยเดินกลับไปทำงานจนเสร็จ
ตีสามกว่าๆ ผมถึงได้กลับมานอน ด้วยความง่วงบวกกับความเมื่อยล้าตลอดเกือบหกชั่วโมงทำให้ผมหลับอย่างง่ายดายบนเตียงหลังเดียวกับมัน
















ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น้องเพี้ยนน่ารัก น่าหยิกจริงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด