บทที่ 4
Rrrrrrrrr
ผมที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงยกหมอนขึ้นมาปิดหู ร้องครางงึมงำด้วยความรำคาญแต่ก็ไม่ได้สนใจขยับไปกดปิดมัน คิ้วของผมขมวดยุ่งเหยิง แต่ก็หลับลงไปทั้งแบบนั้นเพราะผมง่วงเอามากๆ
เมื่อคืนใช้แรง ใช้พลังไปจนหมด ผมต้องการการพักผ่อน
Rrrrrrrrr
โทรศัพท์เจ้ากรรมก็ยังก่อความน่ารำคาญ ผมสะดุ้งหลุดจากฝันอีกครั้งเมื่อมันแผดเสียงขึ้นมาเป็นรอบที่สอง และคราวนี้เล่นเอาผมตาสว่างโร่ ผุดลุกมานั่งด้วยความหงุดหงิดที่โหมกระพืออยู่ในอก ผมเอื้อมมือไปหยิบมือถือที่โต๊ะข้างเตียง ปลดสายชาร์ตออกพลางมองเบอร์ผู้โทรเข้าอย่างพิจารณา
ถ้าเป็นคนสนิทผมคงรับสายแล้วกรอกคำด่าลงไปแล้ว แต่นี่คือเบอร์ของใครไม่รู้ คุ้นๆ แต่ไม่ได้เมมไว้ ผมเลยจำต้องกดรับแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่พยายามใจเย็นที่สุดในชีวิต
“ฮัลโหล ใครครับ”
[อ่า... คุณไม่ได้เมมเบอร์ผมเหรอ]
ถ้าเมมก็คงไม่ถามไง
ผมอยากตอบไปแบบนี้มากๆ เพราะทั้งง่วงทั้งหงุดหงิด อยากล้มตัวลงนอนต่อเพราะยังนอนไม่เต็มอิ่ม ตาของผมปรือปรอยเต็มไปด้วยขี้ตาเกรอะกรัง มันลืมแทบไม่ขี้นด้วยซ้ำ ผมใช้หลังมือขยี้คราบขี้ตาออกพลางอ้าปากหาวหวอดใหญ่
“ไม่ ...หาวววว ได้เมมครับ” ผมตอบขณะหาวปากกว้างไปด้วย
[ยังไม่ตื่นเหรอครับ]
“ตื่นแล้วครับ แต่จะนอนต่อแล้ว” ปกติผมเป็นคนสุภาพนะ (คิดเอาเองครับไม่เคยมีใครชม) แต่ตอนนี้หงุดหงิดโคตรๆ แถมไม่มีสติจะคิดอะไรก่อนพูดด้วย ผมทิ้งตัวลงนอน ตะแคงข้างแล้ววางโทรศัพท์ไว้บนหู ขณะมือทั้งสองดึงหมอนข้างลูกรักมากอดก่าย เกยคางไว้บนนั้นแล้วปิดเปลือกตาลง
ถ้าคนในโทรศัพท์ไม่พูดธุระมาสักที ผมจะหลับใส่จริงๆ ด้วย
[จะเที่ยงแล้วนะครับ]
“...” ผมไม่ได้ตอบ เพียงแค่ครางงึมงำเป็นเชิงรับรู้ ให้อีกฝ่ายพูดต่อได้
[คือผมกำลังจะไปสตูดิโอ...]
“ครับ...” ผมกำลังอยู่ระหว่างความฝันกับความจริง สติถูกดูดเข้าห้วงนิทรา เสียงที่ได้ยินรอบข้างเลยดูเหมือนดังขึ้นกว่าปกติในชัวขณะหนึ่ง และขณะนั้นนั่นและที่ฉุดกระชากผมให้ลืมตาโพลงด้วยความตกใจ “อะไรนะครับ”
[ผมจะเข้าสตูดิโอหลังมื้อเที่ยงครับ]
ปุจฉา: ใครที่มีนัดที่สตูฯ กับผม
วิสัชนา: โฬมไง โฬมเอง
ผมตาสว่าง กระชากตัวเองออกมาจากความง่วงงุน คราวนี้ผมตั้งหน้าตั้งตาคุยกับปลายสายด้วยความตื่นเต้นที่เต็มอกจนล้นปรี่
“ได้ครับ ได้ๆ”
ทำเพลง ทำเพลง ทำเพลง
ผมกระดี๊กระด๊าเหมือนปลากระดี่ได้น้ำเลยตอนนี้ จากที่งอแงจะนอนต่อ ตอนนี้ผมแทบจะพุ่งออกไปที่รถแล้วเหยียบเต็มแม็กขับไปที่สตูดิโอเดี๋ยวนี้เลย ถ้าไม่ติดว่ายังไม่อาบน้ำแล้วขี้ตาเต็มหน้าขนาดนี้นะ ผมเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง อีกสิบนาทีก็จะเที่ยงแล้ว ผมยังไม่ได้จัดการตัวเองสักอย่างเดียว คงต้องซื้อข้าวกล่องแช่แข็งเข้าไปกินที่ทำงานแน่ๆ ผมไม่อยากให้ first impression ของเราสองคนออกมาไม่ดี
ผมต้องไปรอต้อนรับโฬมที่สตูดิโอ!
[สกายไปทันเหรอครับ นี่ก็เที่ยงแล้ว]
“ทันครับ เดี๋ยวเจอกันที่สตูฯ เลย”
[... ทานข้าวเที่ยงไหมครับ]
“อ๋อ เดี๋ยวผมซื้อไปกินที่สตูฯ”
[ไปทานด้วยกันไหมครับ?]
เอ๊ะ
“เอ่อ ไม่เป็น...”
[เดี๋ยวผมรับที่บ้านสกาย] ผมยังพูดไม่ทันจบประโยค คนปลายสายก็สวยมาอย่างรีบร้อน
“ไม่เป็นไรครับ ผมมีรถ”
[เราจะได้เข้าสตูดิโอพร้อมกันไงครับ]
“เอ่อ” นี่คือผมโดนบังคับให้ไปกินข้าวเที่ยงด้วยทางอ้อมรึเปล่า
ผมอาจจะคิดมากไปเอง โฬมคงคิดว่าผมจะสาย เขาเลยจะมาหาจะได้ไม่ต้องไปยืนรอหน้าสตูฯ ที่เข้าไปข้างในไม่ได้ อาจจะเป็นแบบนั้น ผมพยักหน้ากับคำตอบของตัวเองงึกงัก
“นัดเจอที่ร้านเลยก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมขับรถตามไป”
[ผมไม่ถนัดแถวนี้ มีร้านไหนแนะนำไหมครับ]
“เอ่อ...” ผมเอ่ออีกแล้ว เพราะผมไม่รู้ เวลาอยู่ที่สตูฯ ส่วนตัว ผมไม่ค่อยกินข้าวกินปลาด้วยสิ กินอีกทีก็ตอนกลับคอนโดแล้วแวะตลาดหน้าซอยซื้อกลับไปกินที่ห้อง “ผมก็ไม่แน่ใจ...”
[…]
โฬมเงียบ ในขณะที่ผมกระวนกระวาย
First impression ในการทำงานร่วมกันเราจะเป็นแบบนี้จริงๆ เหรอ ผมเครียด ถึงขั้นยกมือกุมขมับแล้วบ่นตัวเองในใจ ไม่ดีเลย ผมอยากให้งานชิ้นนี้ออกมาดีจริงๆ นะครับ ถ้าเพื่อนร่วมงานไม่ชอบเรา ก็คงทำงานด้วยลำบาก จริงไหม
ในระหว่างที่ผมกำลังหัวหมุนหาข้อแก่ต่างให้ตัวเอง อยู่ๆ ปลายสายก็พูดโพล่งขึ้นมาหลังจากเงียบไปพักหนึ่ง
[เดี๋ยวผมไปรับสกาย แล้วเราขับวนหาร้านพร้อมกัน ดีไหมครับ]
“กะ ก็ได้ครับ”
จริงๆ ทางออกนี้ก็ดี
ถึงผมจะมีรถ แต่ถ้าให้ขับตามตูดกันไปตอนหาร้านข้าว ก็คงลำบากน่าดู
[ถ้าอย่างนั้น สกายส่งโลเคชั่นมาให้ผมหน่อยนะครับ ทางไลน์ก็ได้]
“ผมไม่มีไลน์โฬม”
[mr_rome ครับ แอดมาได้เลย]
“ได้ครับ”
[แล้วเจอกันนะครับ]
“แล้วเจอกันครับ” เราร่ำลากันแปบเดียวก็กดตัดสาย ผมจิ้มลงบนไอคอนสีเขียวๆ กดเพิ่มเพื่อนแล้วกรอกไอดีไลน์ที่อีกคนให้มา โฬมคงไม่ได้ตั้งแอดเพื่อนอัตโนมัติจากเบอร์ ผมก็ไม่ได้ตั้งครับ เพราะเคยทำแบบนั้นแล้วมีใครไม่รู้เด้งมาเต็มเลย ไม่รู้จักสักกะคน ไม่รู้เอาเบอร์ผมมาจากไหน
เมื่อผมกดแอดไลน์โฬมเสร็จก็เข้าไป sent location คอนโดตัวเองให้ทันที แต่ก่อนที่จะลุกไปอาบน้ำ ผมเผลอมือไปส่องรูปโปรไฟล์ของเขา เพราะลักยิ้มมุมปากนั่นแหละที่ทำเอากดดูแบบไม่รู้ตัว
โปรไฟล์ไลน์ของโฬมเห็นแค่ช่วงคางขึ้นมาถึงปีกจมูก เอียงข้างน้อยๆ โชว์เขี้ยวและมุมปากอันน่าหลงใหล โฬมคงรู้ว่ามันคือเสน่ห์ของตัวเอง ถึงได้ตั้งใจถ่ายมุมนี้ออกมา
แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีเสน่ห์จริงๆ นั่นแหละ ผมยังชอบมองเลยให้ตาย
ผมฉีกยิ้มหมั่นไส้ให้เครื่องหน้าของโฬมครั้งหนึ่งก่อนลุกไปอาบน้ำ ชะโลมสบู่ไปอย่างเยอะเพราะอยากตัวหอมๆ เวลานั่งบนรถคนอื่นเขาเขาจะได้ไม่รังเกียจ วันนี้ผมจะแต่งตัวง่ายๆ (ง่ายของผมไม่ใช่ของคนอื่นนะ) ด้วยเชิ้ตสีขาวกับเอี๊ยมดำติดบนกางเกงแสล็ก ผมเซ็ตหน้ามาตัวเองลงมาด้วยเจล พอหัวตัวเองแล้วก็อยากไปตัดผม ตอนนี้ไม่เป็นทรงสุดๆ แล้วผมอยากเปลี่ยนสีผมด้วย หลังจากทำสีดำมาทั้งชีวิต
ผมเหลือบเห็นแว่นตาไร้กระจกทรงกลมของตัวเองบนโต๊ะเครื่องแป้ง ผมคว้ามันมาสวมแล้วก็คิดว่าเข้ากันได้เลยไม่ได้ถอดออก น้ำหอมกลิ่นประจำถูกพรมลงบนตัว ผมปะแป้งผงเบาๆ บนหน้า แต่งไม่เป็นครับ ปกติช่างแต่งหน้าทำให้หมด ผมอาจเป็นคนชอบแต่งตัว แต่ผมไม่ได้สำอางค์
พร๊อบแต่งตัวผมเยอะ แต่ครีมแทบไม่มี มีแค่เจลว่านหางจระเข้ไว้ทาตอนหน้าแห้งๆ กระปุกแป้งสีเนื้อ กับลิปมันแท่งหนึ่ง ใช้ชีวิตแบบเอาเครื่องแต่งกายให้เด่นกว่าหน้า คนจะได้ไม่สนใจเบ้าหน้าโง่ๆ ของผม
ผมยืนสำรวจตัวเองในกระจกครั้งสุดท้าย พอดีกับที่เสียงเรียกเข้าจากคนที่ผมเพิ่งเมมเบอร์ดังขึ้นมาพอดี ผมกดรับขณะยัดเท้าลงในรองเท้าสลิปออนสีกรมท่า
“กำลังลงไปครับ”
[ผมรอที่ล็อบบี้นะครับ]
ผมรับคำแล้วรีบวิ่งไปกดลิฟต์ ผมต้องไม่ทำวันแรกของการทำงานพัง ผมบอกกับตัวเองอย่างแน่วแน่ ขณะรอลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นมารับและลงไปยังชั้นหนึ่ง ก็คิดในหัวไปพลางว่าจะทำอะไรก่อนดี คุยเรื่องคอนเซ็ปต์หรือนั่งถกกันก่อน อืม อยากฟังความเห็นของโฬมเหมือนกัน ในฐานะที่เขามีประสบการณ์ตรงกับเรื่องพวกนี้
ผมเดินออกมาจากลิฟต์พลางกวาดสายตามองหาคนรู้จัก รอบเดียวเท่านั้นแหละครับก็เจอแล้ว หน้าหล่อๆ ของเขาโคตรเด่นเลยให้ตาย ขนาดแค่นั่งพิงโซฟาไถโทรศัพท์เล่น ยังเหมือนมาถ่ายแบบ ผมไม่เข้าใจเอามากๆ ว่าทำไมอนาคตเขาดับเอาง่ายๆ เพราะแค่เรื่องเป็นเกย์
จริงๆ อาจไม่เรียกอนาคตดับหรือเปล่า เพราะยังเห็นเขามีงานในวงการ แต่ท่าทางจะน้อยลงเยอะ คิดว่าค่ายเก่ารวมถึงผู้จัดการคงเทเขา เพราะผมเห็นเขารับงานเอง วิ่งงานเองไม่มีคนดูแลแบบพวกซุปตาร์ทั่วไป
“สวัสดีครับ” ผมเอ่ยทักก่อนเมื่อเดินมาถึงตัว โฬมเงยหน้าจากจอโทรศัพท์ขึ้นมายิ้มให้ผม
โอ เอ็ม จี!
ลักยิ้มเขามีพลังทำลายล้างสูงจริงๆ นะครับ
แต่ผมชอบฟันเขี้ยวของเขามากกว่าอ่ะ มันโคตรน่ารักเลย แถมยังดรอปความคมดุของดวงตาเรียวได้อีกด้วย โฬมเป็นคนตาสวย แพขนตาเขายาวมากๆ แต่ขอบตาของเขาลึกจนเกิดเงาดำ ทำให้ดูเหมือนคนกรีดตาตลอดเวลา ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นี้เลยดูดุร้ายไม่หยอก
แต่กลับยิ้มได้สวยและโลกสดใสขนาดนี้ ไม่ต้องเป็นผู้หญิงก็หลงได้ครับ งานโคตรดี
“ไปเลยไหมครับ” ผมพูดพร้อมดันแว่นขึ้นแก้เก้อ เผลอจ้องหน้าโฬมไปซะนาน ไม่สุภาพเลยสักนิด
“ครับ” โฬมลุกขึ้นจากโซฟา หมุนตัวเตรียมเดินนำไปที่รถ แต่สายตาสุดท้ายที่ทิ้งบนร่างผมกลับระยิบระยับแปลกๆ ผมเห็นมุมปากนั้นขยับยิ้มกว้างกว่าเดิม พร้อมประโยคพึมพำที่ต้องถามตัวเองว่าหูฝาดหรือเปล่า “วันนี้แต่งตัวน่ารักนะครับ”
“อะไรนะครับ” ผมถาม เพราะสงสัยว่าหูแว่วหูเพี้ยนรึเปล่า
“ผมหิวแล้วครับ”
ผมมั่นใจว่าเขาไม่ได้พูดประโยคนี้ แต่ก็ขี้เกียจคาดคั้น เลยได้แค่ปล่อยมันไป
ผมมันพวกไม่ค่อยสนใจอะไรนอกเหนือจากความชอบตัวเองอยู่แล้ว มันเลยไม่ยากที่จะปล่อยความสงสัยให้ผ่านไป โฬมเดินนำไปยังลานจอดรถสำหรับแขก คอนโดนี้มีที่จอดรถเยอะมากครับ เพราะผมเลือกออกมาชานเมืองพอสมควร ค่าคอนโดจะถูกและพื้นที่เยอะ แต่ไม่แฮปปี้เวลารถเสียแล้วหาขนส่งสาธารณะยากสุดๆ เลยนี่สิ
ผมก้าวขึ้นมาบนรถคันที่เคยเห็นผ่านตา เก๋งคันสวยสีดำด้าน เบาะด้านในก็นุ่มแถมยังกว้างขวาง โฬมคงทำเงินได้เยอะมากๆ เพราะเขาเข้าวงการมาก่อนผมหลายปี
อืม และอีกอย่างเขาก็น่าจะอายุมากกว่าผมด้วย
ผมไม่ได้ศึกษาประวัติเขาขนาดนั้น เรียกชื่อเล่นห้วนๆ ไปก็หลายที รู้สึกผิดขึ้นมาเลย
“เดี๋ยววนแถวๆ สตูดิโอนะครับ”
ผมพยักหน้า คาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จก็หันไปมองใบหน้าด้านข้างของคนที่กำลังถอยรถออกจากซองจอด ผิวหน้าเนียนจัง ดูไม่รู้เลยว่าแก่กว่ากันกี่ปี ถ้าให้เดาก็ปีสองปี คงไม่เป็นไรถ้าผมไม่ได้เรียกเขาว่าพี่ ใช่ไหม...
จะให้กลับตัวไปเรียกพี่ตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วนี่น่า
โฬมขับรถนิ่มมากครับ ผมคงไม่กล้าให้เขามาขึ้นรถผมแน่ๆ เพราะพี่ยุทธเคยด่าเอาไว้ว่า ‘นี่มึงซื้อใบขับขี่มาเหรอ’ ผมว่าผมก็ขับดีออก ไม่เคยชนคนอื่นสักครั้งเลยนะครับตั้งแต่ซื้อรถมา แต่โดนบีบแตรใส่ก็เยอะอยู่...
“สกายอยากกินอะไรไหมครับ”
ผมครุ่นคิด เกือบตอบอะไรก็ได้ไปแล้ว แต่ชะงักปากไว้ทัน
First impression ท่องไว้ให้ขึ้นใจ
“พะแนงไก่ครับ” ของชอบของโปรด
โปรดที่สุดคือพะแนงไก่ที่ยายทำ
อ่า พูดแล้วอยากกลับบ้านเลยครับ กลับต่างจังหวัดไปฝากท้องไว้กับคุณยาย
“ถ้างั้นร้านอาหารไทยนะครับ” โฬมสรุป
ผมหันไปลอบมองหน้าของโฬมอีกครั้ง อาหารตาอย่างแท้จริง มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ มีแต่อิจฉาขึ้นมากกว่า ผมอยากหน้าหล่อแบบนี้บ้างจัง ใส่เสื้อผ้าอะไรก็ดูดี ขนาดวันนี้เขาสวมแค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ ยังดูดีเหมือนตั้งใจแต่งตัวมาถ่ายแบบ นี่ไม่ได้เว่อร์นะ เขาหล่อจริงๆ ถึงมันจะมีคนที่หล่อกว่านี้อยู่เยอะในวงการก็เถอะ แต่ไม่มีใครมีฟันเขี้ยวกับลักยิ้มทรงเสน่ห์แบบนี้แน่ๆ
อ๊ะ รวมถึงนั่นอีก
ดวงตาของโฬม ปกติผมจะเห็นเป็นสีน้ำตาลเข้มเกือบดำเลยด้วยซ้ำ แต่พอต้องกบแสงแดดที่สะท้อนผ่านกระจกรถเข้ามา แก้วตาของเขากลับกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน เหมือนลูกแก้วที่เคยดีดเล่นตอนเด็กๆ
ทำไมคนๆ หนึ่งถึงได้มีเอกลักษณ์ที่ดีมากมายขนาดนี้
ผมสงสัย และจบลงด้วยการหันมามองหน้าตัวเองที่สะท้อนเงาจางๆ ในกระจกฟากตัวเอง บางทีถ้าผมอยากได้หน้าแบบโฬม ผมคงต้องตัดหัวเขามาใส่ ศัลยกรรมไม่สามารถช่วยได้จริงๆ
“ร้านนี้นะครับ เงียบดี” โฬมชี้ไปทางซ้ายมือ มีร้านอาหารไทยอยู่ร้านหนึ่ง ไม่ได้ใหญ่มากแต่ตกแต่งได้สะอาดสะอ้านน่านั่ง ผมพยักหน้ารับปุ๊บโฬมก็ตบไฟเลี้ยวเข้าไปจอดเรียบฟุตปาธทันที โชคดีที่บริเวณนี้สามารถจอดข้างทางอย่างนี้ได้ พวกผมลงจากรถพร้อมกัน แต่เป็นผมเองคนเดียวที่เดินหน้าระรื่นเข้าร้านอาหารก่อนใครเพราะหิวสุดๆ
โฬมล็อครถและเช็กความเรียบร้อยอยู่แปบเดียวก็ตามเข้ามา ผมเลือกนั่งมุมที่แอร์ตก ในร้านมีลูกค้าสองสามคนจึงเงียบมาก โฬมเลยไม่ต้องสวมแว่นกันแดดมาปิดบังตน เขาเปลือยหน้าหล่อๆ เดินยิ้มเข้ามานั่งลงตรงข้ามผม มีพนักงานยื่นสมุดเมนูมาให้สองเล่ม ผมพลิกเปิดดูราคา
ไม่แพงเท่าไหร่ อยู่ในช่วงที่รับได้
“สกายสั่งเลยครับ”
ผมไม่ปฏิเสธให้เสียเวลา “พะแนงไก่ ไข่เจียว ต้มยำกุ้งครับ แล้วก็ขอน้ำกระเจี๊ยบหนึ่งแก้ว เอาอะไรเพิ่มอีกไหมครับ” ประโยคสุดท้ายผมหันไปถามเพื่อนร่วมโต๊ะ
“ไม่แล้วครับ ผมขอข้าวเปล่าสองจานกับน้ำเปล่า”
พนักงานยิ้มรับ ทวนออเดอร์ให้ฟังหนึ่งรอบแล้วเก็บสมุดเมนูกลับไป
ระหว่างรออาหารผมเลยชวนโฬมคุยเรื่องเพลงฆ่าเวลา
“เรื่องเพลงผมยังไม่ได้คิดอะไรเลย โฬมมีอะไรเสนอไหมครับ”
“อืม สกายอยากทำเพลงแนวไหนครับ”
“เพลงรักโรแมนติกดีไหมครับ แต่ท่อนแรปของผมจะพูดเรื่องความไม่ยุติธรรมจากสังคมต่อความรักของ...” ผมเลี่ยงจะพูดคำว่าเกย์ เพราะไม่รู้ว่ามันแรงไหมสำหรับโฬม แต่ผู้ชายตรงหน้าผมแค่ยิ้มบางๆ มาให้ ผมเลยคลายความอึดอัดลงไปครึ่งหนึ่ง
“ก็ดีนะครับ”
“...”
โฬมไม่เสนอความคิดอะไรต่อ ผมเลยไม่รู้จะพูดอะไรอีก
พวกเราต่างคนต่างเงียบ ผมเลยหยิบมือถือขึ้นไถทวิตเตอร์เล่น โฬมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนกัน แอบเห็นยกกล้องมาทางนี้ แต่คิดว่าคงถ่ายบรรยากาศร้าน โฬมดูเป็นคนติดไอจีติดสแนปไอจีสตอรี่ เลยไม่แปลกใจเท่าไหร่ถ้าเขาจะยกกล้องมือถือขึ้นมาบ่อยๆ
“สกายครับ”
“ครับ?”
“ชอบแต่งตัวเหรอครับ”
ผมเงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนา เห็นโฬมเท้าคางมองหน้าผมยิ้มๆ ลักยิ้มกระแทกเบ้าตาอีกแล้ว พลังทำลายล้างนี้เมื่อไหร่ผมจะชินกันนะ เกิดมาเพิ่งเคยได้จ้องหน้าคนหล่อแบบชัดๆ อย่างนี้ก็ครั้งแรก ทั้งปลื้มทั้งอิจฉาตีรวนไปหมดเลยครับ
“ชอบครับ ชอบมาตั้งนานแล้ว”
“แล้วชอบแต่งตัวสไตล์ไหนเหรอครับ”
“อืม ไปเรื่อยครับ เห็นมันน่าจับมาคู่กันได้ก็ใส่” ผมตอบ ไม่ได้ก้มลงเล่นมือถือต่อเพราะกลัวดูไม่มีมารยาท โฬมยังจ้องหน้าผมไม่ละสายตา มือถือของเขาวางคว่ำหน้าทิ้งไว้บนโต๊ะอาหารแล้ว
“แต่งแบบวันนี้บ่อยๆ สิครับ”
“หืม ครับ?”
โฬมยิ้มและเอ่ยเปลี่ยนเรื่อง “ผมไปฟังเพลงสกายมา เพราะทุกเพลงเลยครับ”
“ฟังแนวนี้เป็นด้วยเหรอครับ”
“ก็เพิ่งเคยฟัง แต่ชอบทุกเพลงเลยนะครับ ความหมายดี”
“ขอบคุณครับ”
“เวลาสกายอยู่ในเอ็มวีดูเท่มากๆ เลย” โฬมชม ส่วนผมยิ้มเขินไปแล้ว นานๆ ทีจะมีคนชมผม ส่วนมาเขาจำพูดถึงเพลงกับผลงานของผมมากกว่า “ไม่คิดว่าจะดูแบดได้แบบนั้น”
“ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะครับ ผมว่าผมก็เท่ตลอดนะ” ผมหยอดมุกกลับหวังว่าเขาจะหัวเราะ แต่โฬมก็แค่ยิ้ม ยิ้มด้วยรอยยิ้มเจ้าชายพร้อมสายตาระยิบระยับที่มองมา
ผมไม่เข้าใจสายตาของโฬม แต่ผมก็ปล่อยเบลอผ่านไปเมื่ออาหารมาส่ง พวกเราต่างจับกินข้าวกันอย่างเงียบๆ โดยที่คนตรงข้ามยังมีรอยยิ้มเล็กๆ ประดับมุมปากเสมอ
ช่างเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ทะลุปรอทจริงๆ เลยนะ
ผมว่าการร่วมงานกับโฬมคงไม่ยากเท่าไหร่ เราก็ดุเข้ากันได้ดี First impression ก็ไม่ได้แย่ นับว่าเริ่มต้นงานได้อย่างสวยงาม แค่นี้ผมก็ดีใจแล้วครับ
Rome_o [IG story]
วิดีโอสั้นๆ ถ่ายแบบ boomerang เป็นภาพของสกายกำลังยิ้มขำกับจอโทรศัพท์ตัวเอง แก้มพวงนุ่มขยับเป็นก้อนเมื่อเข้าตัวฉีกยิ้มกว้าง ผมหน้าม้าปกปิดใบหน้าไปครึ่งหนึ่งเพราะอีกคนก้มหน้า เห็นเพียงแค่ริมฝีปากสีอ่อนกับแว่นตาทรงกลมขยับเขยื้อน
‘มากินข้าวกับเพื่อนใหม่’________________________
Talk:
เมื่อวานปั่นไม่จบงับ งื้อ เลยมาวันนี้แทน
เจ้าสกายโดนหลอกเอาทั้งไลน์ทั้งที่อยู่ หนูยังไม่รู้เรื่องอีก
พี่โฬมก็ร้ายด้วยรอยยิ้มนะคะ
ฝาก #เจ้าสกาย ไว้ในอ้อมใจด้วย
ทวิตเตอร์ก็ใช้แท็ก #เจ้าสกาย น้าา
ขอบคุณทุกยอดวิว ยอดคอมเม้นนะคะ
รักมากๆ เลย คนอ่านทุกคนนนน
แปะชุดเจ้าสกาย
Cr.kpopmap.com