┌▼3KINGS▲┘==ประมุข== END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข== END  (อ่าน 58798 ครั้ง)

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.15]=[P.7]==[29/03/19]
«ตอบ #210 เมื่อ12-04-2019 19:13:55 »

-16-


“งานเลี้ยงในครั้งนี้ ลูกต้องเข้าร่วมด้วย”

“เหตุผลล่ะ”

“งานวันเกิดท่านทูต ท่านเกริ่นเองว่าอยากเจอลูก”

เกรย์มองหน้ามารดาที่เป็นคนพูดโดยไม่ได้ตอบอะไรเพิ่มเติ่ม ก่อนจะเบนสายตาไปหาบิดาที่นั่งจิบน้ำเงียบๆ ไม่ปฏิเสธหรือตอบรับ เห็นท่าทีเหล่านั้นแล้วเขาก็รู้ได้ในทันทีว่าที่แม่พูดคงเป็นเรื่องจริง แต่มีหรือที่จะอ่านเจตนาของฝั่งคนชวนไม่ออก คงจะเห็นด้วยที่อยากให้ไปเจอกับลูกสาวของฝ่ายนั้นถึงไม่ยอมปฏิเสธมากกว่า

ทั้งที่รู้ว่าเขาพาลูกแกะมาที่นี่ด้วยแท้ๆ...

“เกรย์...” เสียงของคนที่ขลุกอยู่ในครัวตั้งแต่เช้าดังขึ้นอย่างร่าเริง พร้อมกันกับที่เจ้าตัวเดินถือจานขนมเข้ามาด้านใน ประมุขดูจะตกใจเล็กน้อยเมื่อพบว่าพ่อแม่ลูกอยู่กันพร้อม แต่เมื่อเห็นคนสำคัญยิ้มและพยักหน้าให้เข้าไปหา เขาก็รีบเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว “อันนี้คุ้กกี้กาแฟไม่หวานครับ แต่ผมไม่ได้ทำเองนะ เห็นพี่เมดทำอยู่เลยเข้าไปยืนดูด้วยเฉยๆ เรื่องขนมนี่ไม่ไหวจริงๆ”

ประมุขหันไปอธิบายให้พ่อแม่เกรย์ฟังแล้วเลื่อนจานไปให้ ท่านผู้นำบ้านหน้านิ่งไม่แสดงอาการใดๆ แต่ก็ยังหยิบตามมารยาทไปทานหนึ่งชิ้น ต่างจากคุณผู้หญิงที่นั่งเชิดไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย หากยังไม่ทันที่ลูกแกะน้อยจะรู้สึกตัวว่าถูกเมิน คนที่นั่งอยู่ข้างกายก็โน้มตัวไปหยิบจานคุ้กกี้มาถือไว้และเริ่มลงมือทานด้วยตัวเอง

“กินด้วยกันสิ” เกรย์ส่งคุ้กกี้ชิ้นหนึ่งให้ถึงปาก ซึ่งแน่นอนว่าคนว่าง่ายย่อมอ้าปากรับโดยไม่เสียเวลาคิด

“อร่อย”

เมื่อเห็นคนของตัวเองยิ้มได้ เกรย์ก็ป้อนให้ไม่ขาดช่วง สายตาเบนไปมองมารดาที่จ้องมาอยู่ก่อนแล้วด้วยความไม่พอใจ คล้ายจะมีประกายไฟกำเนิดขึ้นอย่างไรก็ไม่รู้ โชคดีที่พ่อของเขากระแอมเบาๆ เพื่อดึงความสนใจของทุกคนกลับไปเสียก่อน

“ชวนไปด้วยกันสิ”

“คุณคะ!”

“มาถึงขั้นนี้แล้ว มีอะไรก็พูดออกไปตรงๆ เถอะ โตๆ กันหมดแล้ว” พอถูกเตือนด้วยน้ำเสียงที่ดูดุดันขึ้นหนึ่งระดับ คาร่าก็ยอมถอนหายใจแล้วนั่งขมวดคิ้วนิ่งๆ โดยไม่ขัดอะไรอีก เห็นดังนั้นเอริคจึงส่ายหน้าหน่าย หันกลับไปหาลูกชายอีกครั้ง “ถ้าอยากทำอะไรให้มันชัดเจน ก็ชวนเขาไปด้วยกัน พิสูจน์ตัวเองให้พ่อกับแม่แล้วก็คนอื่นๆ เห็นว่าเขาสมควรจะยืนอยู่ตรงนี้จริงๆ”

“พูดเรื่องอะไรกันเหรอครับ”

เกรย์มองหน้าคนเพียงคนเดียวที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย ก่อนจะหันไปมองหน้าพ่อ พยายามค้นหาความจริงเบื้องหลังสายตาอ่านยากที่เหมือนกันกับเขาแทบทุกอย่าง กระทั่งแน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายคิดแบบที่พูดและไม่มีอะไรแอบแฝง จึงหันกลับมาพูดกับลูกแกะที่นั่งรอฟังคำตอบอีกครั้ง

“อีกไม่กี่วันจะมีงานเลี้ยงวันเกิดของท่านทูตเพื่อนพ่อ ฉันเองก็ต้องไปเหมือนกัน ลูกแกะอยากไปด้วยไหม” เกรย์ถามอย่างไม่กดดัน คล้ายจะบอกว่าหากไม่อยากไปเขาก็จะไม่บังคับ ทว่าลูกแกะตัวน้อยที่ได้ฟังคำพูดของพ่อเขาไปแล้วมีหรือจะยอมถอยง่ายๆ แม้จะยังไม่รู้ว่าจุดมุ่งหมายที่พ่อแม่อยากให้เกรย์ไปงานนี้คืออะไร แต่แค่ได้ยินคำว่าพิสูจน์ตัวเอง เจ้าตัวก็ไม่แสดงท่าทีลังเลใดๆ ออกมาแล้ว

“ไปครับ” ประมุขพูดด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ หลังจากนั้นบรรยากาศรอบด้านก็เงียบลงด้วยไม่มีใครพูดอะไรออกมา คาร่าไม่ได้ขัดเมื่อคนที่ไม่ชอบร้องบอกจะไปด้วย เช่นเดียวกันกับคนที่หยิบยกโอกาสให้ ซึ่งไม่รู้ว่าแท้จริงมีเจตนาดีหรือไม่ดีกันแน่ เพราะตัวเองก็รู้อยู่แล้วว่าเด็กคนนี้พูดภาษาฝรั่งเศสไม่เป็น แต่กลับต้องไปพบเจอกับแขกใหญ่โตมากมายในงาน

“ไม่ต้องห่วง”

ความมั่นใจที่มีมากอยู่แล้วทวีคูณขึ้นหลายส่วนเมื่อได้ยินเสียงกระซิบของคนสำคัญที่ส่งรอยยิ้มและแววตาอบอุ่นมาให้ มาถึงตอนนี้แม้ไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร ประมุขก็มั่นใจว่าเกรย์จะอยู่เคียงข้าง ไม่หนีไปไหนแน่นอน

“คุณผู้หญิงครับ ผมมีเรื่องหนึ่งที่อยากถามให้แน่ใจ... คุณท่านด้วย”

“ว่ามาสิ” เอริคเป็นผู้ตอบแทน เพราะรู้ว่าภรรยาคงไม่ยอมตอบคำถามง่ายๆ

“ผมอยากทราบว่าทำไมพวกคุณถึงไม่ชอบผม ทำไมถึงไม่อยากให้ผมยุ่งกับเกรย์ และทำไมต้องกีดกันกันมากขนาดนั้น ช่วยบอกกันตรงๆ ได้ไหม ผมจะได้รู้ว่าควรทำยังไงต่อ”

ถามตรงๆ แบบนี้ก็ได้เหรอ...

เกรย์เลิกคิ้วมองใบหน้าของลูกแกะน้อยที่ดูจริงจังเอามากๆ แล้วก็ลอบยิ้มขำ ลองเจอคนซื่อถามตรงๆ แบบนี้เข้าไป ต่อให้เป็นพ่อหรือแม่ของเขาก็ต้องมีเหวอกันบ้าง ถึงจะไม่ได้แสดงออกมาภายนอกให้เห็นจะๆ เพราะเก็บอารมณ์เก่งกันทั้งบ้าน หากคนที่อยู่ด้วยกันมานานย่อมมองเห็นแววตาที่ดูวูบไหวด้วยความประหลาดใจนั่นได้อย่างชัดเจน

“ฉันไม่ได้ดีใจที่ลูกชายรักกับเธอ... แต่ก็ไม่ได้คิดกีดกันอะไร ตราบเท่าที่เธอไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ และมีความสามารถเหมาะสมที่จะยืนอยู่ตรงนี้จริงๆ” เอริคเป็นผู้ที่พูดขึ้นมาก่อนด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ แต่ทุกสิ่งล้วนออกมาจากใจจริง

“ผมเข้าใจครับ” ประมุขพยักหน้ารับ มือทั้งสองข้างกอบกุมกันไว้แน่น ขณะหันไปมองคุณผู้หญิงของบ้านที่ยังนั่งเชิดไม่สนใจอะไร แต่เพราะสมาธิทั้งหมดจดจ่ออยู่กับการรอฟังคำตอบ ประมุขจึงจ้องค้างอยู่อย่างนั้นจนคล้ายเป็นการกดดัน กระทั่งผู้ที่อยู่ในวงการธุรกิจและช่ำชองในเรื่องของการเจรจาต่างๆ ยังอดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้

เธอไม่ชอบแววตาใสซื่อนั่นเลยจริงๆ...

“ครอบครัวของฉันไม่เหมือนครอบครัวของเธอ” ในที่สุดคาร่าก็เริ่มพูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งที่ไม่ได้ดูเย็นชาเหมือนเคย “เราทุกคนต่างมีหน้ามีตาในสังคม เกรย์น่าจะเคยบอกแล้วว่าหากอยู่ที่นี่ แทบจะไม่มีใครกล้ามายุ่งวุ่นวายกับเรา นั่นเป็นเพราะอำนาจและชื่อเสียงที่สั่งสมมาเนิ่นนาน และถึงสามีของฉันจะบอกว่าขอแค่เธอเหมาะสมก็พอ แต่คิดหรือว่าการที่เธอเป็นผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งจะคู่ควรใช้คำว่าเหมาะสมได้”

“…”

“ไม่ใช่เพียงแค่เป็นเพศเดียวกัน แต่ยังเป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้มีกำลังพอจะช่วยเหลืออะไรเกรย์ได้ มีแต่เขาที่ต้องคอยปกป้องดูแลเธอ แบบนั้นไม่ใช่ว่าเธอเข้ามาเพื่อทำให้ลูกชายของฉันเหนื่อยขึ้นหรือไง”

“ผม…”

“แน่นอนอยู่แล้วว่าเขาดูแลเธอได้ เผลอๆ ต่อให้ต้องเหนื่อยกว่าเดิมอีกกี่เท่าก็คงบอกว่าไม่เป็นไร แต่เธอคิดว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่จะยินดีหรือไง แม้ฉันจะเป็นแม่ที่ไม่ค่อยได้พูดคุยดีๆ กับลูกนักก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สนใจอะไรเลย”

ประมุขพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะเมื่อได้ยินสิ่งที่คาร่าเอ่ยออกมาอย่างตรงไปตรงมา เขาเงียบและนิ่งไปนานจนคนที่นั่งอยู่ด้านข้างและพยายามไม่พูดอะไรแทรกเพราะถูกขอร้องทางสายตาเริ่มเป็นห่วง เกรย์กอบกุมมือลูกแกะน้อยเอาไว้ รั้งแขนอีกคนให้ลุกขึ้นยืนและจูงคนที่ยังขมวดคิ้วเหม่อลอยไม่เลิกให้ตามออกไปด้านนอก

“ไม่ว่ายังไง ผมก็ไม่มีวันยอมให้ลูกแกะหายไปแน่นอน” เขาพูดทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจะพาคนสำคัญเดินออกไปโดยไม่ได้หันกลับไปมองด้านหลังอีกเลย

คาร่ามองตามแผ่นหลังของลูกชายที่โตไวมาแต่ไหนแต่ไรไปจนสุดสายตา มาถึงตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าคิดถูกหรือไม่ที่ปล่อยให้เด็กคนนั้นดูแลตัวเอง คิดและตัดสินใจอะไรได้ตั้งแต่เด็กๆ จนแทบไม่เคยต้องร้องขออะไรจากเธอเลย

“เด็กคนนั้นเหมือนคุณขึ้นทุกวันเลยนะคะ”

“หึ…” เอริคหัวเราะในลำคอโดยไม่ได้ตอบอะไร ในใจคิดว่าลูกชายเหมือนเขามากก็จริง แต่เรื่องนี้กลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะถ้าเขาคิดเหมือนกันกับเกรย์ ไม่ยอมแต่งงานหรือเลือกคนที่พ่อแม่เลือกให้ ทุกอย่างคงไม่ได้ออกมาในรูปแบบอย่างที่เป็นอยู่

อันที่จริงมันก็น่าคิดอยู่เหมือนกัน... ไม่รู้ว่าถ้าในเวลานั้น เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนเขามีคนของตัวเองอยู่แล้ว การแต่งงานเพื่อชื่อเสียงและธุรกิจระหว่างเขากับคาร่าจะยังเกิดขึ้นหรือเปล่า

แต่สิ่งหนึ่งที่เอริคแน่ใจก็คือ...ลูกชายของเขาคนนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางเลือกคนผิดแน่นอน เหลือก็แต่ให้เจ้าตัวพิสูจน์ออกมาให้เห็นเท่านั้น



นับตั้งแต่เกรย์พาลูกแกะของเขาออกมานอกบ้าน อีกคนก็เอาแต่เหม่อลอย ทำหน้าเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ตลอดเวลาจนเขาไม่อยากกวน กระทั่งพาขึ้นมานั่งบนรถเย็นๆ โดยยังไม่เริ่มเดินทางไปไหนก็ยังนิ่งไม่ขยับ เขาจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ เปิดหน้าต่างบอกวิคเตอร์และการ์ดคนอื่นให้เตรียมพร้อม อีกสิบห้านาทีจะออกไปข้างนอก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาเบอร์ของคนคุ้นเคย

[มีอะไร]

“เดี๋ยวฉันจะพาลูกแกะไปหา”

[มุขมาที่นี่?]

“อืม” เกรย์เหลือบมองใบหน้าด้านข้างของลูกแกะน้อยแล้วตอบกลับเป็นภาษาฝรั่งเศส “เจอแม่พูดอะไรใส่นิดหน่อยเลยคิดมาก แต่ฉันไม่รู้ว่าคิดอะไร นายช่วยดูหน่อยแล้วกัน ลูกแกะบ่นอยากเจอมาหลายวันแล้ว”

[พาไปเจอพ่อแม่แล้วเหรอ]

“หลายวันแล้ว”

[ถ้าให้เดาคงเรื่องอะไรเหมาะสมอะไรไม่เหมาะสมสินะ] เสียงเรียบเย็นจากปลายสายเอ่ยอย่างรู้เท่าทัน ได้ฟังดังนั้นมุมปากของเกรย์ก็ยกขึ้นเล็กน้อย

“สมแล้วที่อยู่ในวงการเดียวกันมานาน นายคงรู้ดีอยู่แล้วว่าพวกผู้ใหญ่คิดยังไง แต่บอกให้รู้ไว้ก่อนเลยว่าฉันไม่มีทางปล่อยลูกแกะไปแน่นอน จริงๆ จะให้ปลอบเองก็ทำได้ แค่คิดว่าถ้าได้เจอพี่ชายคนโตเขาน่าจะดีใจมากกว่าก็เท่านั้น” เจ้าของใบหน้าคมคายผู้มีรอยยิ้มขี้เล่นติดอยู่บนใบหน้าเสมอเบนสายตาออกไปมองนอกรถ เพื่อไม่ให้คนด้านข้างที่เริ่มรู้สึกตัวและหันมามองด้วยความสงสัยเห็นสีหน้าเย็นชาของเขายามพูดประโยคถัดไป “เพราะงั้นอย่าได้คิดพูดให้ลูกแกะไปจากฉันเด็ดขาด...”

เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าลูกแกะตัวน้อยรักครอบครัวมากขนาดไหน แม้เขาจะมั่นใจว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมไปจากกันง่ายๆ พิสูจน์เอาจากหลายเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าลูกแกะจะไม่คิดจากไป หากได้รับคำแนะนำผิดๆ จากพี่ชายในช่วงเวลาที่ยังอ่อนแอและคิดมากอยู่

ถ้าเป็นแบบที่พูดจริงๆ ต่อให้เป็นเพื่อนเขาก็ไม่เอาไว้แน่

[หึหึ... ความมั่นใจหายไปไหนหมด ปกติเกรย์ไม่ใช่คนขี้กลัวแบบนี้ไม่ใช่หรือไง]

“ก็คงเหมือนกับนายตอนที่มีคนสำคัญเป็นของตัวเอง” เกรย์สวนกลับทันควันพร้อมรอยยิ้ม มือยกขึ้นลูบหัวลูกแกะน้อยที่ยื่นหน้ามาหาเพราะเขาไม่ยอมหันกลับไปมองอย่างเอ็นดู “เราก็เป็นเพื่อนกันมานาน... นายคงไม่มานึกอยากรู้เอาตอนนี้ว่าฉันทำอะไรได้บ้างใช่ไหม คิง”

[…]

“อย่าลืมว่าตอนนี้นายไม่เหลืออำนาจอะไรแล้ว เพราะงั้นคงไม่อยากเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนเป็นอย่างอื่นใช่ไหม” ประกายเย็นเยียบวาบผ่านดวงตาสีฟ้าคู่สวยไปวูบหนึ่ง หากกลับทำเอาคนที่จ้องมองอยู่สะดุ้งจนตัวโยน แต่แค่พักเดียวก็เปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วมุ่นแทน

“เกรย์... คุณคุยกับพี่จักรเหรอ ห้ามขู่พี่จักรนะ”

“ฉันจะดีใจหรือเสียใจที่นายเริ่มเข้าใจภาษาฝรั่งเศสแล้วดีนะ” เกรย์รีบเก็บอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหมดลงไปและบ่นงึมงำใส่ลูกแกะที่เริ่มกลับมายิ้มได้เป็นภาษาอังกฤษ

“ต้องดีใจสิ”

[จะมาตอนไหน]

พอได้ยินเสียงคนกลางเล็ดลอดเข้ามาในสาย อารมณ์ของชายหนุ่มสองคนก็กลับมาคงที่อีกครั้ง คนที่เกือบจะตีกันกลับมาเป็นเพื่อนสนิทเช่นเคย โดยที่ไม่มีใครคิดยกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ขึ้นมาพูดถึงอีกเลย

“สี่สิบนาทีน่าจะถึง”

[อืม]

หลังจากสายถูกตัดไปแล้ว เกรย์ก็เปิดม่านโบกมือออกคำสั่งให้การ์ดทั้งหลายเข้าประจำที่เพื่อออกเดินทางไปยังจุดหมาย วิคเตอร์ที่ปกติจะนั่งอยู่ด้านข้างหรือด้านหลังเวลาประมุขไปไหนมาไหนเปิดประตูขึ้นไปนั่งด้านหน้าเคียงคู่คนขับ กลายเป็นการ์ดประจำตัวของประมุขที่ต้องตามติดกันไปทุกที่โดยสมบูรณ์

“คุณคุยอะไรกับพี่เหรอ แล้วนี่เราจะไปไหนกันครับ”

“ไปทำให้ลูกแกะอารมณ์ดีไง”

“ผม…”

“ไม่เป็นไร ยังไม่ต้องพูด” เกรย์ยกมือปิดปากคนที่ทำท่าจะเล่าทุกอย่างออกมาให้ฟังอย่างง่ายดายเอาไว้แล้วส่งยิ้มไปให้ “เอาไว้ไปคุยกับตัวช่วยก่อนแล้วค่อยว่ากัน ไม่ต้องรีบหรอก”

“ตัวช่วย... คุณหมายถึงพี่เหรอ” ลูกแกะน้อยทำตาโต ท่าทางตื่นเต้นดีใจที่จะได้เจอพี่ชายเอามากๆ จนเขาอดคิดในใจไม่ได้ว่าถ้าลูกแกะมีหูเหมือนสัตว์อื่นๆ มันคงจะกระดุกกระดิกไปมาอย่างร่าเริงแน่ๆ

“ฉันบอกแล้วว่าจะพาไปหา ลูกแกะคิดว่าฉันจะผิดสัญญาเหรอ”

“ไม่อยู่แล้ว”

“ใช่แล้ว... ฉันไม่มีทางผิดสัญญา และไม่มีทางผิดคำพูดด้วย” ดวงตาสีฟ้าจ้องมองคนสำคัญอย่างมีความหมาย แม้ใจจริงไม่ค่อยอยากให้ลูกแกะไปเจอพี่ชาย เพราะกลัวจะติดฝ่ายนั้นจนลืมสนใจกัน แต่เขาก็ยังดีใจที่อย่างน้อยชื่อของเพื่อนก็ทำให้อีกคนลืมเรื่องเครียดๆ ไปได้ชั่วคราว

ใช้เวลาเดินทางสามสิบกว่านาที รถตู้คันใหญ่พร้อมรถการ์ดอีกสองคันก็มาหยุดอยู่หน้าโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง แทบจะทันทีที่เกรย์ก้าวเท้าลงจากรถ พนักงานของโรงแรมก็วิ่งเข้ามาหา และให้การต้อนรับอย่างใกล้ชิดจนคนที่เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรกตกใจ ประมุขต้องคอยโค้งให้บรรดาพนักงานทั้งหญิงและชายไปตลอดทางด้วยความเกรงใจ กว่าทุกอย่างจะกลับสู่โหมดปกติก็ตอนที่เขาขึ้นลิฟต์มาพร้อมเกรย์แล้ว

“ตกใจเหรอ หน้าเหวอเชียว” คนขี้แกล้งหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่คิดเฉลยว่าอันที่จริงจะบอกให้พวกที่มารับสลายตัวไปแต่แรกก็ได้ หากจะโทษก็คงต้องโทษที่ลูกแกะน้อยเอง เพราะขยันทำหน้าทำตาน่าเอ็นดูให้เขาเห็นบ่อยเหลือเกิน

“ตกใจสิครับ พวกเขาทำอย่างกับคุณเป็นเจ้าของที่นี่” ว่าจบคนพูดก็ยกมือลูบหน้าลูบตาที่เพิ่งหลุดจากอาการตกอกตกใจยกใหญ่ กว่าจะรู้สึกตัวว่ารอยยิ้มของเกรย์ที่ไม่ได้ปฏิเสธอะไรมีความหมายว่าอย่างไรก็ตอนที่อีกฝ่ายจูงมือเดินออกจากลิฟต์ไปแล้ว

ที่บอกว่ามีธุรกิจหลายอย่างนี่ไม่ได้เกินจริงเลยสักนิด....

ห้องพักซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของพวกเขามีขนาดกว้างขวาง เมื่อขึ้นมาถึงการ์ดทุกคนก็เดินไปประจำที่อย่างรู้งาน ราวกับคุ้นชินกับสถานที่แห่งนี้อยู่แล้ว เกรย์เปิดประตูเดินเข้าไปด้านในโดยไม่เคาะพร้อมลูกแกะข้างกาย จากนั้นก็เดินไปกอดอกพิงกำแพง รอให้ลูกแกะน้อยที่กำลังมองสำรวจรอบๆ หันไปเห็นเจ้าของห้องเอง

“พี่จักร!”

แล้วก็เป็นไปตามคาด...

เพียงแค่ได้หันไปเห็นพี่ชายที่นั่งอยู่บนโซฟา โดยมีรถวีลแชร์จอดทิ้งอยู่ด้านข้าง ลูกแกะตัวน้อยก็ตะโกนเรียกด้วยความดีใจแล้วพุ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว เกรย์ยืนยิ้มมองคนเย็นชาทำอะไรไม่ถูกเมื่อน้องชายตรงเข้าไปกอดเอวตัวเองไว้แน่นขำๆ รอจนเห็นว่าลูกแกะของเขาชักจะกอดคนอื่นนานเกินไปจึงเดินเข้าไปนั่งลงบนโซฟา แล้วเกี่ยวเอวเจ้าตัวให้กลับมานั่งด้านข้างตามที่ควรเป็น

“คุณพาผมมาหาพี่จริงๆ ด้วย” ลูกแกะขนฟูหันมาพูดกับเกรย์พร้อมรอยยิ้มกว้าง ซึ่งนั่นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พี่ชายผู้หวงน้องขมวดคิ้วยามเห็นมือของเกรย์เกาะอยู่ที่เอวผอมพอดี

“ฉันบอกว่าจะพามาหาตั้งแต่อยู่บนรถแล้วไม่ใช่เหรอ นี่ไม่เชื่อกันหรือไง” คนที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากแววตาเย็นชาของจักรพรรดิพูดกับคนในอ้อมแขนเสียงนุ่ม ทั้งยังยกมือขึ้นบีบจมูกลูกแกะด้วยความมันเขี้ยว “ฉันอนุญาตให้ลูกแกะสนใจคนอื่นมากกว่าฉันสองชั่วโมง รีบคุยก่อนจะหมดเวลาเร็วเข้า”

พอถูกกำหนดเวลาแบบไม่จริงจังนัก คนที่เชื่อฟังเกรย์ยิ่งกว่าอะไรก็เบิกตากว้าง พยักหน้าหงึกๆ ด้วยสีหน้ามุ่งมั่นและหันไปหาจักรพรรดิพร้อมรอยยิ้มหวานจ๋อยอีกครั้ง

“พี่จักร มาอยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง มุขคิดถึงมากเลย” ถึงจะได้รับอนุญาตให้สนใจพี่ชายแล้ว แต่ประมุขก็ยังไม่เมินเฉยต่อคนข้างกาย เขาเลือกใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเพื่อให้เกรย์ฟังได้ง่าย ทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าแม้อีกฝ่ายจะพูดภาษาไทยได้แบบประหลาดๆ และอ่านเขียนไม่ได้ หากก็ฟังออกแทบทุกคำ

ความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้รับทำให้คนขี้หวงยิ้มกริ่ม มือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยงานกับจิมเงียบๆ และยินยอมให้ลูกแกะของตัวเองพูดคุยกับพี่ชายโดยไม่ขัดอะไรอีก

“สบายดี แล้วอยู่กับเกรย์เป็นยังไงบ้าง” จักรพรรดิตอบน้องชายด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้อ่อนลงอย่างสุดความสามารถ

“ดีมากเลยครับ เกรย์ดูแลมุขดีมากเลย”

“เหรอ... แล้วที่บ้านเกรย์ดูแลดีด้วยหรือเปล่า” คนรู้ทันหรี่ตามองสังเกตท่าทีของน้องชายที่ชะงักไปครู่หนึ่งอย่างพิจารณา เมื่อแน่ใจแล้วว่าคำตอบคืออะไรจึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ถ้าอยู่แล้วไม่สบายใจก็ถอยออกมา”

.
.
(ต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.15]=[P.7]==[29/03/19]
«ตอบ #211 เมื่อ12-04-2019 19:14:34 »



เกรย์ตวัดสายตาเย็นเยียบไปมองเพื่อนทันทีโดยที่ประมุขซึ่งนั่งหันหน้าไปหาจักรพรรดิในทิศทางเดียวกันไม่ทันเห็น ทว่าวินาทีถัดมาเขาก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นสูง ยามได้ยินคำตอบของลูกแกะที่ไร้ซึ่งความลังเลโดยสิ้นเชิง

“ไม่ได้หรอกครับ”

“ทำไมล่ะ”

“เพราะมุขสัญญาแล้วว่าจะไม่ไปไหน ต่อให้ต้องเจออันตรายหรือถูกกดดันมากกว่านี้อีกกี่เท่าก็จะไม่ยอมทิ้งเกรย์ไว้เพียงลำพัง มุขอยากอยู่เคียงข้างเขา”

ไม่ใช่เพียงแค่คำพูดที่แสดงออกถึงความรักที่มีจนเต็มเปี่ยม เพราะแม้แต่สีหน้าและแววตาใสซื่อคู่นั้นก็บ่งบอกความรู้สึกแบบเดียวกัน น่าเสียดายที่เกรย์ไม่เห็น เพราะหากเขาเห็นเหมือนที่จักรพรรดิเห็น ลูกแกะน้อยคงถูกรวบตัวเข้าไปกอดตั้งแต่แรกแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นก็ทำให้เต็มที่” จักรพรรดิส่งยิ้มจางให้น้องชายคนเล็ก “คนในครอบครัวของเราไม่มีใครอ่อนแอ แสดงให้คนนอกเห็นว่าไม่มีใครเหมาะจะยืนอยู่ตรงนี้นอกจากมุขเท่านั้น”

คนฟังกะพริบตาช้าๆ มองพี่ชายด้วยแววตาเชื่อมั่นสุดหัวใจ และเพียงไม่กี่วินาทีถัดมา ประมุขก็ฉีกยิ้มกว้างพร้อมตอบรับคำพูดนั้นด้วยน้ำเสียงมั่นคง

“ครับ”

เมื่อได้พูดคุยกับคนในครอบครัว แม้จะเป็นประโยคสั้นๆ หากก็ยังทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก ประมุขเริ่มกลับมาสดใสและเต็มไปด้วยความมั่นใจอีกครั้ง ในดวงตาใสแจ๋วที่หันไปจ้องมองเกรย์ไม่มีวี่แววของความลังเลหลงเหลืออยู่อีก

‘พยายามให้มาก เลือกสิ่งที่จะทำให้ตัวเองเจ็บน้อยที่สุด แล้วก็ไม่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง’

คำพูดที่ดีดี้เคยบอกย้อนกลับเข้ามาในหัว ทำให้ความสับสนในใจที่เกิดจากคำถามของคุณผู้หญิงจางหายไปช้าๆ ถึงเวลานี้จะยังไม่เหมาะจะให้คำตอบอะไร เพราะพูดไปท่านก็คงไม่เชื่อ แต่อีกไม่นานเขาต้องแสดงออกให้พวกท่านเห็นว่าเขาเหมาะสมจะยืนอยู่ตรงนี้อย่างที่พี่จักรบอกให้ได้

ถึงเวลานั้นจะได้ตอบกลับไปอย่างมั่นใจ...ว่าเขาไม่ได้อยู่เฉยๆ เพียงเพื่อให้เกรย์ดูแลและทำให้เกรย์เหนื่อยอย่างเดียว

“คิง” เกรย์ลูบหัวลูกแกะที่เอนมาพิงเขาไว้และหันไปพูดกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงจริงจัง “อีกสองวันฉันต้องพาลูกแกะไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนพ่อ”

“เพื่อน...”

“อืม... ตาลุงโทมัสนั่นแหละ”

“ไว้ใจไม่ได้ รายนั้นศัตรูเยอะเกินไป” จักรพรรดิขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาเย็นชาจ้องมองน้องชายที่ดูไม่ค่อยเข้าใจอะไรเท่าไหร่ด้วยความเป็นห่วง “แม่นายคงไม่ได้คิด...”

“ตามนั้น... ใจจริงฉันก็ไม่อยากให้ลูกแกะไป แต่ถ้าช้ากว่านี้คงถูกมัดมือชก เผลอๆ อาจจะประกาศกลางงาน ถ้าเป็นแบบนั้นต่อให้ฉันปฏิเสธตรงๆ อะไรๆ ก็คงไม่ง่าย แม่ฉันเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวยิ่งกว่าอะไร นายเองก็รู้ดี”

“นายจะเปิดตัวมุขที่นั่น?”

“ใช่ ฉันจะลงมือก่อน ไม่ต้องถึงขั้นพูดออกไมค์อะไร แค่แนะนำตัวให้เจ้าของงานกับแขกที่มีความสำคัญรู้ก็พอ”

“เรื่องนั้นไม่ได้น่าเป็นห่วงเท่าความปลอดภัยของมุข” จักรพรรดิมองประมุขด้วยแววตาอ่านยาก ไม่ว่าจะกวาดมองยังไงก็ไม่เห็นหนทางที่เด็กคนนี้จะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่เลวร้ายได้เลย หากเป็นเรื่องของจิตใจเขาคงไม่ห่วงอะไรมากนัก แต่นี่มันหมายถึงชีวิต “นายคงไม่คิดว่างานเลี้ยงนี่จัดขึ้นเพื่อฉลองวันเกิดอย่างเดียวใช่ไหม”

“ย่อมไม่ใช่” มีหรือที่คนอย่างเกรย์จะมองไม่ออกว่างานเลี้ยงครั้งนี้ปิดซ่อนอะไรอยู่ นอกจากไปจากการพยายามจับคู่ให้เขากับลูกสาวเจ้าของงาน “ลูคัสสืบเรื่องราวทั้งหมดมาแล้ว หลังจากที่นายกลับไปไทย อูโก้ ลูกชายของสตีฟที่เพิ่งถูกลุงโทมัสจับเข้าคุกก็ปีนป่ายขึ้นมาบริหารงานแทน แล้วยังเล่นแง่ตั้งท่าจะตีกับลุงอยู่หลายรอบ ใครๆ ก็รู้ว่ายังไม่ปลอดภัย แต่จู่ๆ ลุงโทมัสก็มาจัดงานเอาช่วงนี้ มองยังไงก็จัดฉากล่อเสือออกจากถ้ำชัดๆ คงอยากถอนรากถอนโคนตระกูลนั้นจนเต็มแก่”

“ไม่กลัวมีใครโดนลูกหลงเลยสินะ”

“คงคิดว่าถ้ามีใครเป็นอะไรไป ความผิดทั้งหมดก็ต้องถูกโยนไปให้คนร้ายที่บุกเข้ามาอยู่แล้ว” เกรย์ยักไหล่อย่างไม่แปลกใจ เพราะเขาเคยชินกับเรื่องสกปรกในโลกธุรกิจอยู่แล้ว ไอ้ความคิดประเภทขอแค่ตัวเองไม่เป็นอะไรก็พอนั่นมันหาได้ทั่วไปในหมู่คนในแวดวงนี้ เชื่อเถอะว่าเจ้าของงานไม่มีทางจ้างการ์ดมาเพื่อดูแลคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตัวเองหรอก

“เพราะแบบนั้นแม่นายถึงได้คิดว่างานนี้น่าจะสะดวกสินะ”

“อืม ทั้งยอมเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเพื่อดูเหตุการณ์น่าสนุกของชาวบ้าน สุดท้ายไม่ว่าจะจบลงแบบไหน หากปลอดภัยออกมาก็ต้องได้รับความเห็นใจจากคนทั่วไปที่คิดว่านักธุรกิจกับท่านทูตและลูกชายต้องเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์อันตรายอยู่ดี แล้วก็คงคิดว่ายังไงฉันก็ไม่กล้าพาลูกแกะไปด้วยแน่ๆ จะจับคู่ให้ลูกสาวเจ้าของงานหรือลูกสาวคนสำคัญคนอื่นๆ ก็เป็นเรื่องง่าย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว”

“อุตส่าห์หลบไม่ไปออกงานกับพ่อแม่มาได้ตั้งหลายปี สุดท้ายก็ไม่รอดสินะ” จักรพรรดิยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย และแอบหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูงงเป็นไก่ตาแตกของน้องชาย

“ตอนนี้ลูกแกะอยู่ข้างๆ แล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องหลบอีก พาไปเปิดตัวซะก็สิ้นเรื่อง” หนุ่มตาฟ้าว่าเสียงเรียบ ก่อนจะมองไปตามสายตาของเพื่อน แล้วก็หัวเราะออกมาเช่นกัน “ทำหน้าอะไรของลูกแกะเนี่ย”

“คือ…” คนที่ดูเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจเรื่องราวที่ได้ยินกะพริบตาปริบๆ พร้อมยกมือขึ้นนวดขมับเบาๆ “ผมว่าจะไม่งงแล้วนะ แต่ก็ยังงงอยู่ดี สรุปว่างานที่เราจะไปกันไม่ใช่งานเลี้ยงวันเกิดเหรอครับ”

คำถามซื่อๆ กับหน้าตาเด๋อด๋าของลูกแกะน้อยผู้ตามใครไม่ทันทำให้บรรยากาศเงียบสงบกดดันแลดูสดใสขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ จักรพรรดิส่ายหน้าเหนื่อยหน่าย ขณะที่เกรย์ยิ้มจางไม่ถือสา ค่อยๆ บอกค่อยๆ เล่าให้ลูกแกะเข้าใจตามไปด้วยอย่างใจเย็น

“งานวันเกิดเป็นแค่ฉากหน้า จริงๆ แล้วเจ้าของงานต้องการลากอูโก้ ประธานบริษัทส่งออกอาหารแช่แข็งคนปัจจุบันที่ทำธุรกิจเบื้องหลังเกี่ยวกับยาเสพติดออกมา แต่ถ้าไม่เชิญแขกคนไหนมาเลยก็ดูจะไม่เนียนและอาจเป็นอันตรายต่อตัวเอง เพราะแบบนั้นถึงเลือกเชื้อเชิญแขกคนสำคัญมาอย่างจริงจัง คงคิดว่าถ้าอูโก้ลงมือทำเรื่องไม่ดีจริงๆ ยังไงก็ดิ้นไม่หลุดแน่”

“ซึ่งอูโก้ที่ว่าคือลูกชายของคนชื่อสตีฟที่เพิ่งถูกเจ้าของงานจับเข้าคุกใช่ไหมครับ”

“คนเก่ง...” เกรย์ลูบแก้มของลูกแกะคนเก่งที่อมยิ้มแก้มตุ่ยรับคำชมอย่างเอ็นดูจนคนที่นั่งเงียบอยู่ข้างกันต้องกลอกตาอย่างเอือมระอา “สตีฟพัวพันกับคดีค้ายาเสพติดมานาน ลุงโทมัสใช้เวลาหลายปีกว่าจะร่วมมือกับตำรวจรวบตัวได้ แต่ฝ่ายนั้นก็เก่งใช่ย่อย ขนาดเข้าคุกไปแล้วยังผลักลูกชายอย่างอูโก้ให้หลุดออกมาได้ ลุงโทมัสคงอยากให้เข้าคุกไปทั้งพ่อทั้งลูกถึงได้ดึงดันอยู่อย่างนี้ ก็นะ...เจ้านั่นเป็นพวกหัวรุนแรง ใจร้อนยิ่งกว่าอะไร ถ้าไม่ยอมกำจัดให้พ้นทาง ประมาทขึ้นมาคงถูกเล่นงานเองแน่ ตอนนี้ยังไม่ลงจากตำแหน่งยิ่งต้องใช้อำนาจที่มีแบบเต็มกำลังให้เด็ดขาด”

“แล้วถ้าเขารู้ว่าบรรดาคนสำคัญมากันเยอะแบบนี้จะกล้าทำอะไรไม่ดีเหรอครับ”

“คนเยอะสิดี จับมือใครดมแทบไม่ได้ งานใหญ่หวังชีวิตแบบนี้มือปืนรับจ้างต้องเป็นมืออาชีพ ถ้าไม่ตายก็ไม่มีทางเปิดปากบอกตัวตนของผู้ว่าจ้างแน่นอน อีกอย่าง...ดูจากนิสัยเสียๆ อูโก้คงจะอยากให้เป็นข่าวใหญ่อยู่แล้ว”

“คุณหมายถึงลุงโทมัสที่ว่าเขามั่นใจว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจริงๆ ใช่ไหม”

“ไม่ได้มั่นใจขนาดนั้นหรอก ต้องบอกว่าห้าสิบห้าสิบมากกว่า ถ้าเกิดขึ้นจริงก็เป็นไปตามแผน แต่ถ้าไม่มาก็เลี้ยงวันเกิดธรรมดา พยายามจับคู่ให้ลูกสาวกับฉัน ไม่มีอะไรเสียหาย” เกรย์ยกยิ้มเมื่อเห็นลูกแกะน้อยขมวดคิ้วครู่หนึ่งยามได้ยินคำว่าจับคู่ที่เขาพูด “มีสิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้คือมันไม่มีทางทำร้ายคนอื่นๆ โดยไม่จำเป็นแน่นอน ยังไงเป้าหมายที่สำคัญก็คือลุงโทมัส และฝ่ายนั้นก็คงเตรียมแผนรวบตัวไว้อยู่แล้ว ฉันไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่นัก แต่ถ้าพ่อแม่อยากไปร่วมสนุก อยากได้ผลประโยชน์จากเหตุการณ์พวกนี้ด้วยก็คงต้องไป”

“แล้วผม...”

“แน่นอนว่าฉันไม่อยากให้ลูกแกะต้องเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์น่ากลัวๆ แม้จะมั่นใจว่าฉันปกป้องลูกแกะได้หนึ่งร้อยเปอร์เซนต์ และไม่มีทางให้ใครได้แตะต้อง...”

“พูดกล่อมขนาดนี้แล้วก็ไม่ต้องถามความเห็นหรอก” จักรพรรดิที่เงียบไปนานเอ่ยกัดด้วยความหมั่นไส้ส่วนตัว คำพูดคำจาของเพื่อนดูจะย้อนแย้งในตัวเองสุดๆ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าน้องชายแสนซื่อของเขาคงตามคนเจ้าเล่ห์อย่างเกรย์ไม่ทัน

แล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ...

“มุขจะไปครับ” ลูกแกะผู้ยึดมั่นกับคำพูดที่เคยเอ่ยไปแล้วบอกด้วยน้ำเสียงมั่นคง “มุขบอกพ่อแม่เกรย์แล้วว่าจะไป แล้วก็จะไม่ยอมให้ใครจับคู่ให้เขาด้วย อีกอย่างคือถ้ามันอันตราย มุขก็อยากจะอยู่ตรงนั้นกับเขา”

“แล้วถ้าพี่บอกว่าไม่ให้ไปล่ะ”

ครั้งนี้เกรย์ไม่ได้มองเพื่อนด้วยแววตาเชือดเฉือน เพราะดูออกว่าอีกฝ่ายเพียงแค่อยากรู้ว่าลูกแกะของเขาจะตอบว่าอะไร อีกทั้งเขาเองก็อยากรู้ไม่ต่างกัน จึงทำเพียงแค่กอบกุมมือขาวไว้แล้วส่งยิ้มไปให้เท่านั้น

“มุขจะพูดจนกว่าพี่จักรจะเข้าใจ” คำตอบที่ดูรักษาน้ำใจทั้งสองฝ่าย แต่กลับแฝงความต้องการของตัวเอง และแอบยกคนสำคัญมาไว้ในระดับเทียบเท่าครอบครัวทำให้คนฟังทั้งสองแสดงอาการแตกต่างกันไป

จักรพรรดิลอบส่ายหน้าโดยไม่ได้ว่าอะไร ขณะที่เกรย์จ้องมองลูกแกะแสนน่าฟัดด้วยความพอใจ

“ไม่ต้องห่วงหรอกคิง เพราะที่บอกว่าจะไม่ให้ใครได้แตะต้อง... ”

“…”

“ฉันหมายความตามนั้นจริงๆ”

ถ้าใครกล้าก็ลองดู...


-----------------------

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.16]=[P.8]==[12/04/19]
«ตอบ #212 เมื่อ12-04-2019 20:01:13 »

จะมีใครโดนแกะเชือดไหมนะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.16]=[P.8]==[12/04/19]
«ตอบ #213 เมื่อ12-04-2019 22:04:32 »

แกะมุขโตแล้ว แกะมุขจะไปไหนก็ได้ ใครจะทำไม  :a14:

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.16]=[P.8]==[12/04/19]
«ตอบ #214 เมื่อ12-04-2019 22:44:38 »

 :impress2: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.16]=[P.8]==[12/04/19]
«ตอบ #215 เมื่อ12-04-2019 22:48:41 »

ลูกแกะเตรียผจญภัย :katai2-1:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.16]=[P.8]==[12/04/19]
«ตอบ #216 เมื่อ13-04-2019 01:12:32 »

อย่าโดนลูกหลงเลยน้าลูกแกะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.16]=[P.8]==[12/04/19]
«ตอบ #217 เมื่อ13-04-2019 09:55:35 »

ถ้าใครแตะต้องลูกแกะ คนนั้งต้องตายอย่างทรมานแน่ๆ

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.16]=[P.8]==[12/04/19]
«ตอบ #218 เมื่อ13-04-2019 16:31:45 »

น้องมุขน่ารักมากกกกกกกก ลูกแกะน้อยเข้มแข็งจริงๆ o13

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.16]=[P.8]==[12/04/19]
«ตอบ #219 เมื่อ19-04-2019 19:00:23 »

-17-


ประมุขจัดแต่งชุดสูทสีครีมของตัวเองให้เข้าที่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหันกลับไปหาคนที่ยืนยิ้มอยู่ด้านหลังแล้วถามด้วยน้ำเสียงภูมิใจทั้งที่ยังไม่ได้รับคำชมใดๆ

“ผมใส่สูทแล้วดูดีไหม”

ดีใจไปล่วงหน้าอย่างนี้แล้วจะถามทำไมอีก...

“ลูกแกะเหมาะกับสีนี้มาก” เกรย์เอ่ยชมจากใจตามประสาคนหลงแกะ และช่วยติดกระดุมสูทตัวนอก รวมถึงจัดไทด์สีดำที่เข้ากันกับเสื้อเชิ้ตสีขาวด้านในให้ลูกแกะน้อยอย่างปราณีต “อันที่จริงน่าจะบอกว่าเหมาะกับทุกสีมากกว่า”

“คุณต่างหากที่เหมาะกับทุกสี” ไม่ว่าเปล่า เพราะทันทีที่พูดจบลูกแกะก็เป็นฝ่ายลากเกรย์ไปที่หน้ากระจกบานใหญ่ บังคับให้เขาหันไปมองสภาพตัวเองในชุดสูทสีเทาเข้มเข้ากับไทด์สีเดียวกันและเสื้อเชิ้ตสีดำด้านในซึ่งเจ้าตัวเป็นผู้เลือกให้อีกรอบ “นี่ถ้าไม่กลัวคุณเด่นเกินไป ผมอยากให้ลองสีเลือดหมูนะ ต้องดูดีมากแน่ๆ เลย”

“งั้นเรารีบไปก่อนลูกแกะจะบอกให้ฉันเปลี่ยนดีกว่า”

“ผมไม่บอกให้เปลี่ยนหรอกน่า”

ชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนเดินพูดคุยขำขันกันไปจนถึงด้านล่าง ซึ่งคุณท่านกับคุณผู้หญิงของบ้านยืนรออยู่ก่อนแล้ว เอริคในชุดสูทภูมิฐานยังคงดูดีแม้จะอายุขึ้นเลขห้า ขณะที่คาร่าในชุดราตรีดูสวยสดงดงามราวกับหญิงสาวอายุสามสิบต้นๆ เท่านั้น ความหน้าตาดีที่สืบทอดกันมาถึงคนเป็นลูกทำให้แม้แต่ประมุขที่เพิ่งเดินลงมายังอดมองด้วยความตกใจไม่ได้

“คุณผู้หญิงสวยมากๆ เลยครับ คุณท่านเองก็ดูดีมากเหมือนกัน” หากเป็นคนอื่นมาพูดคงไม่พ้นถูกกล่าวหาว่าประจบสอพลอ แต่พอออกมาจากปากของคนที่ดูซื่อทั้งเสียงทั้งหน้า มันก็กลายเป็นดูน่าเชื่อถือขึ้นมาจนคาร่าลอบเชิดหน้าด้วยความพอใจอยู่ครู่หนึ่ง

การเดินทางไปงานเลี้ยงในครั้งนี้ใช้รถสองคัน ไม่นับรถการ์ดที่ขับนำและขับตามอีกหลายคัน ประมุขแยกนั่งอยู่กับเกรย์ที่รถคันหลัง ตามติดรถของเอริคและคาร่าไปติดๆ หากยังไม่ทันได้ออกจากตัวบ้าน ลูกแกะน้อยก็ต้องหันซ้ายหันขวา มองหน้ามองหลังด้วยความสนใจอยู่หลายครั้ง เพราะเหมือนคราวนี้คนติดตามของพวกเขาจะเยอะมากเป็นพิเศษ

“งานอันตรายแบบนี้ แขกทุกคนต้องขนการ์ดตามติดไปเยอะเป็นปกติอยู่แล้ว แต่พวกที่จะเข้าไปในเขตงานด้านในมีจำนวนจำกัด เพราะแบบนั้นเราถึงต้องระมัดระวังตลอดเวลา”

“ผมจะระวังตัวให้ดี คุณห่วงตัวเองด้วยนะ”

“เข้าใจแล้ว” เกรย์ยิ้มจางให้ลูกแกะน้อย มือลูบแก้มขาวไปมาเบาๆ ด้วยความรักใคร่ จากนั้นก็ปล่อยให้อีกฝ่ายแง้มม่านมองวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนตามต้องการโดยไม่ได้กวนอีก

หลังใช้เวลาเดินทางกว่าสองชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็ไปถึงสถานที่จัดงาน ซึ่งเป็นคฤหาสน์หรูติดทะเลที่โทมัสใช้สำหรับการจัดงานสังสรรโดยเฉพาะ ขบวนรถยาวเหยียดและบอดี้การ์ดในชุดสูทที่เดินผ่านไปมาพร้อมสรรพบ่งบอกได้ดีว่างานเลี้ยงในครั้งนี้มีคนสำคัญมาร่วมเยอะขนาดไหน แม้แต่ประมุขยังประหลาดใจจนต้องหันไปถามคนข้างกาย เมื่อได้รับคำตอบว่ามันเป็นงานเลี้ยงฉลองวันเกิดและเป็นปีสุดท้ายในตำแหน่งของโทมัสด้วยจึงเข้าใจ

จากที่คิดว่าทำใจได้หลายวันแล้ว พอถึงเวลาเข้าจริงๆ ประมุขก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เขาสูดลมหายใจเข้าเพื่อควบคุมสติอยู่หลายครั้ง ซึ่งการ์ดที่รออยู่ด้านนอกก็ไม่ได้มีท่าทีจะเปิดประตูกดดัน ราวกับจะรอให้คนด้านในพร้อมที่สุดก่อน และในช่วงเวลาที่กำลังทำใจอยู่นั่นเอง จู่ๆ คนที่นั่งด้านข้างก็ประคองหน้าเขาให้หันไปหา แล้วจ้องมองมาด้วยดวงตาเยือกเย็นที่ทำให้จิตใจสงบตามไปด้วย

“ลูกแกะช่วยอะไรฉันอย่างหนึ่งได้หรือเปล่า”

“ได้ครับ” ประมุขพยักหน้ารับคำทันควันโดยไม่เสียเวลาคิด แล้วก็ได้รับรอยยิ้มอ่อนโยนตอบกลับมาเหมือนเช่นทุกครั้ง ทว่าก่อนจะได้ถามว่าอยากให้ช่วยอะไร ฝ่ามือข้างหนึ่งก็วางทับลงบนใบหน้าจนเขาต้องหลับตาลงตามสัญชาตญาณ

“หลังจากฉันปล่อยมือออก นายต้องใส่หน้ากากนักแสดงเอาไว้ คิดเสียว่ากำลังเล่นละครอยู่บนเวทีที่มีผู้คนจับจ้องอยู่มากมาย อย่าให้ใครเห็นอารมณ์และความรู้สึกที่แท้จริงไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ทำได้หรือเปล่า”

ประมุขไม่ได้ตอบรับในทันที แต่ค่อยๆ คิดตามคำพูดนั้น และใช้เวลารวบรวมสมาธิอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อมั่นใจว่าตัวเองทำได้แล้ว เขาจึงพยักหน้าช้าๆ รอคอยให้เกรย์ปล่อยมือออก

“ผมทำได้...เพื่อคุณ” สีหน้ายากจะคาดเดา ดวงตาสงบนิ่งไร้ระลอกคลื่น และใบหน้าที่ถูกประดับประดาด้วยรอยยิ้มสุภาพตามมารยาทซึ่งดูแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิงทำให้คนมองยิ้มออกมาด้วยความพอใจ

เกรย์เคาะกระจกรถเบาๆ จากนั้นเขาก็สวมหน้ากากการค้าที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าตลอดเวลาเช่นเดียวกันกับประมุข หากดูลึกลับซับซ้อนกว่ามากด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะเดินนำลงไปก่อนเมื่อการ์ดเปิดประตูให้

โชคดีที่งานเลี้ยงในครั้งนี้เป็นงานภายในที่มีการตรวจตราดูความปลอดภัยอย่างเข้มงวด บรรดานักข่าวจึงถูกกั้นให้ถ่ายรูปได้เฉพาะภายนอกรั้วคฤหาสน์ซึ่งอยู่ห่างไกลพอสมควร หมายความว่าแม้จะถ่ายภาพได้อย่างไรก็ไม่มีทางเห็นชัดและไม่มีโอกาสสัมภาษณ์อะไรได้เลย

ระหว่างทางเดินเข้าไปในคฤหาสน์หรูพร้อมพ่อแม่ของเกรย์และบรรดาการ์ดที่ห้อมล้อมทุกทิศทาง ประมุขมองไปรอบกายด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าเหมือนปกติ เขาเชื่อฟังเกรย์ทุกคำพูดโดยการสวมหน้ากากตลอดเวลา แม้แต่เอริคและคาร่าที่ลงจากรถมาเห็นในทีแรกยังมองด้วยความประหลาดใจ...

ความประหลาดใจที่เกรย์เชื่อว่ามันจะยิ่งทวีคูณมากขึ้นไปอีก หากเข้าไปในงานแล้วพ่อกับแม่ของเขาได้เห็นว่าลูกแกะคนนี้ทำอะไรได้บ้าง

เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปด้านในพร้อมการ์ดสี่นายที่ถูกคัดเลือกไว้แล้ว ครอบครัวของผู้มาใหม่ก็กลายเป็นเป้าสายตาแทบจะทันที ทั้งนี้เพราะมีชื่อเสียงกันทั้งครอบครัวและยังมากันครบ แม้กระทั่งลูกชายคนสำคัญของเอริคที่ไม่ได้ออกงานมานานก็ยังมาด้วย นอกเหนือจากนั้นยังมีหนุ่มน้อยชาวเอเชียที่ดูโดดเด่นเมื่ออยู่ท่ามกลางคนฝรั่งเศสจำนวนมากมาดึงความสนใจให้ทวีคูณขึ้นไปอีก ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะถูกจับจ้องยิ่งกว่าใคร

การ์ดที่ได้รับอนุญาติให้เข้ามาในงานแบบหนึ่งคนต่อหนึ่งเจ้านายกระจายตัวยืนอยู่ตามจุดต่างๆ อย่างแนบเนียน หากลูคัสที่ประกบเกรย์และวิคเตอร์ซึ่งอยู่ข้างกายประมุขกลับไม่เดินไปไหน หูคอยฟังถ้อยคำรายงานจากสมาชิกในทีมอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ตามองสังเกตสภาพแวดล้อมรอบด้านตามไปด้วย

“นาย…” เสียงกระซิบเรียกของลูคัสทำให้เกรย์ที่กำลังเดินตามหลังพ่อแม่หยุดเท้าและเอียงหัวไปหาโดยอัตโนมัติ “หนอนรายงานว่าตัวตลกเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว”

“อืม ดูท่าพ่อแม่ก็ได้รับรายงานแล้วเหมือนกัน เรารีบเข้าไปทักทายแล้วแยกตัวออกมาเถอะ”

ประมุขที่พอจะจับใจความทุกอย่างได้โดยไม่ต้องให้ใครบอกคลี่ยิ้มจริงใจที่ไม่ใช่หน้ากากให้คนสำคัญที่หันมามองวูบหนึ่ง ก่อนจะรีบปกปิดความรู้สึกทั้งหมดลงไปและเดินนำไปก่อนโดยไม่ได้พูดหรือถามอะไรสักคำ ทิ้งให้เจ้าของแกะยืนมองด้วยความพอใจและมันเขี้ยวอยากจับมาฟัดอยู่ครู่ใหญ่

“มัวชักช้าอะไรอยู่” คาร่าที่ยืนถือแก้วไวน์์รออยู่ก่อนแล้วหันไปมองลูกชายกับคนของอีกฝ่ายที่เพิ่งเดินเข้ามาหาด้วยแววตาตำหนิ “รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วก็เร่งหน่อย”

เพียงแค่ได้เห็นสายตาแหลมคมคู่นั้น ประมุขก็เข้าใจได้ในทันทีว่าเขาเป็นผู้ถูกตำหนิอยู่เพียงคนเดียว หากลูกแกะน้อยของเกรย์กลับไม่แสดงอารมณ์หรือถกเถียงอะไร เพียงแค่ก้มหัวน้อยๆ โดยไม่คลายรอยยิ้ม และตอบกลับด้วยความสุภาพเท่านั้น

“ขออภัยด้วยครับคุณผู้หญิง”

“คุณแม่อย่าว่าน้องเลยครับ” คนที่เพิ่งเดินตามมาถึงวาดยิ้มและเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงโทนนุ่มเหมือนเช่นที่ลูกที่ดีควรใช้กับพ่อแม่ หากดวงตาเยือกเย็นกลับทอประกายวาววับราวกับจะบอกให้มารดาหยุดคิดหักหน้าคนของเขา และการที่เกรย์ยกมือโอบบ่าประมุขเอาไว้เป็นเชิงปกป้องก็ดูจะได้ผลดีในหลายๆ ด้าน เพราะนอกจากจะเรียกสายตาของคนรอบด้านให้หันมามองด้วยความสนใจแล้ว ยังเป็นการทำให้แม่ของเขาพูดอะไรต่อไม่ได้ เนื่องจากต้องรักษาหน้าเอาไว้อีกด้วย

หากสิ่งที่คาร่าและเอริคคาดไม่ถึงกลับไม่ใช่การแสดงออกของลูกชายที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว...

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเดินมาช้าจะถูกคุณผู้หญิงตักเตือนก็ไม่แปลกอะไร ปล่อยให้เจ้าของงานรอนาน ไม่ยอมเข้าไปทักทายแบบนี้ถือว่าผิดมารยาทอยู่มาก ต้องขอโทษด้วยนะครับ”

แม้ประมุขจะไม่ได้ใช้ภาษาฝรั่งเศสในการสื่อสาร แต่เพราะแขกคนสำคัญของที่นี่เกินครึ่งล้วนรู้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว พวกเขาจึงได้ฟังถ้อยคำเหล่านั้นเข้าเต็มๆ น้ำเสียงทุ้มอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอของหนุ่มเอเชียซึ่งดูจะมีความสำคัญกับชายผู้ได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลที่สุดในฝรั่งเศสสามปีซ้อนอย่างเกรย์ทำให้เริ่มมีเสียงพูดคุยนินทาในเชิงบวกดังขึ้นโดยรอบ กระทั่งผู้ที่ใครต่อใครต่างหลีกทางให้อย่างเอริคยังดูพอใจอย่างเห็นได้ชัด

“ไปเถอะ” คราวนี้ชายผู้เป็นใหญ่ที่สุดในครอบครัวเป็นผู้แตะแขนภรรยาซึ่งยืนนิ่งอยู่เป็นเชิงเตือน และเดินนำไปยังจุดที่เจ้าของงานยืนอยู่ด้วยตัวเอง การแสดงออกที่เหมือนจะช่วยเหลือของพ่อทำให้เกรย์ลอบมองคนข้างกายด้วยความยินดี น่าเสียดายก็ตรงที่ลูกแกะของเขาดูจะไม่รับรู้และไม่ได้สังเกตเห็นว่าพ่อของเขาเริ่มเปิดใจให้แล้ว

ลุงโทมัสที่เกรย์เรียกเป็นชายผมขาวสูงอายุ หน้าตาดูน่ากลัวและมากเล่ห์คล้ายจิ้งจอกจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นนักการทูตคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงไม่แพ้เอริค และทันทีที่อีกฝ่ายหันมาเห็นว่าใครกำลังเดินเข้าไปหาก็รีบตัดบทกับคนที่พูดคุยอยู่แล้วหันมายิ้มต้อนรับอย่างรวดเร็ว

“เอริค...” ชายสูงวัยทั้งสองกอดและตบบ่ากันไปมาราวกับจะให้กำลังใจ หลังจากนั้นก็เอ่ยคำทักทายอีกสองสามประโยคก่อนจะหันมาหาคาร่าและเกรย์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง “คาร่า... เกรย์ นี่หลานก็มาด้วยหรือ”

“วันเกิดคุณลุงทั้งที จะไม่มาได้ยังไงกันครับ” เกรย์ยกยิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อย ขณะที่โทมัสเองก็ยิ้มแย้มตอบอย่างอารมณ์ดี หากยังไม่ทันได้ชวนหลานชายพูดคุยเรื่องอื่น คาร่าก็ก้าวเท้าเข้าไปหาและยื่นของขวัญในมือไปให้เพื่อตัดบทเสียก่อน

“คุณโทมัส นี่ของขวัญจากครอบครัวดิฉันค่ะ” 

“ไม่น่าต้องลำบากเลยคาร่า แต่ยังไงก็ขอบคุณมากนะ น่าเสียดายจริงๆ ที่วันนี้ลูกสาวของฉันมาไม่ได้ รถเสียกลางทางน่ะ” ท่าทางที่ดูราวกับจะขอโทษอยู่ในทีขัดกันโดยสิ้นเชิงกับคำพูดที่ดูไร้เหตุผลเป็นอย่างยิ่ง และคนฟังก็ดูจะยิ้มค้างไปครู่หนึ่งเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเอริคหรือคาร่าที่หน้าเริ่มนิ่ง หรือเกรย์ที่สีหน้าดูน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม

จากข้อตกลงของผู้ใหญ่ทั้งสองฝั่งที่ต้องการพาลูกชายและลูกสาวมาทำความรู้จักกัน โดยแยกชัดเจนว่าหากมีปัญหาเกิดขึ้นก็จะยอมทิ้งเรื่องนี้ไว้ก่อน แต่หากไม่มีก็จะเข้าทางของการจับคู่โดยแท้จริง การที่โทมัสจงใจไม่พาลูกสาวมาแต่แรกและมาบอกหลังได้รับข่าวว่าอูโก้เริ่มเคลื่อนไหวย่อมหมายถึงการไม่ทำตามคำพูด ยึดเอาความปลอดภัยของลูกสาวเป็นหลัก และล่อให้ครอบครัวของเกรย์มากันให้ครบเพื่อให้กลายเป็นพยานคนสำคัญรวมถึงทำให้งานดูน่าเชื่อถือมากขึ้น

ทว่าเกรย์ไม่ได้โกรธที่ตัวเองถูกดึงมา... เพราะสิ่งที่ทำให้เขาโมโหคือการที่อุตส่าห์พาลูกแกะน้อยมาด้วยเพื่อเปิดตัวในงานที่เห็นได้ชัดว่าอันตราย แต่กลับไม่มีความจำเป็นต้องทำเลยสักนิด เนื่องจากอีกฝ่ายไม่คิดพาลูกมาแนะนำตัวตั้งแต่แรกแล้ว

“น่าจะบอกกันก่อนนะ โทมัส” เอริคที่เก็บอารมณ์ด้านลบกลับมาได้เป็นคนแรกยังคงยกยิ้ม หากดวงตากลับไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย

“ถ้าบอกก่อน พวกนายก็คงไม่มาที่นี่กันน่ะสิ ธุรกิจก็เป็นแบบนี้ เอริค... ฉันจำเป็นต้องใช้ชื่อเสียงของคนสำคัญบางคนเพื่อเชื้อเชิญให้แขกคนอื่นๆ มาร่วมงานด้วย น่าเสียดายที่นายดันเป็นคนที่มีชื่อเสียงและน่าไว้วางใจมากที่สุด ทั้งที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งหลัก ผันตัวมาเป็นที่ปรึกษาภายในแทนแล้วแท้ๆ หากไม่ใช่เพราะนายตอบรับ มีหรือคนอื่นๆ ที่รู้ดีว่าฉันมีปัญหากับอูโก้อยู่จะยอมตามมา”

คาร่าที่ได้ยินถ้อยคำอธิบายเหล่านั้นถึงกับกำมือแน่นด้วยความหัวเสียที่ดันเสียรู้ให้ตาแก่คนหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะโทมัสเป็นตาแก่ที่มีอำนาจและฐานะเหมาะสม ไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจมืดใดๆ เธอคงไม่คิดอยากจับคู่ให้ลูกชายจนต้องยอมมาถึงที่นี่ กระทั่งเรื่องผลประโยชน์ที่จะได้รับ หากต้องมาเจอสถานการณ์ย่ำแย่ในงาน อย่างเช่นเรื่องที่อูโก้จะมาจัดการโทมัสก็คิดไว้หมดแล้ว

แต่สิ่งที่เธอไม่รู้คือตาแก่โทมัสมั่นใจแต่แรกแล้วว่ายังไงอูโก้ก็ต้องมา...

“คุณมีสายอยู่ในนั้นสินะคะ”

“ฉลาดสมเป็นภรรยาของเอริค” โทมัสชมจากใจจนใบหน้าเจ้าเล่ห์ดูจริงใจขึ้นมาชั่วครู่ แต่แล้วเมื่อสายตาเบนไปสบเข้ากับดวงตาสงบนิ่งคู่หนึ่งที่จ้องมองมา ชายสูงวัยก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ “แล้วนั่น...”

“ประมุข คนของผมเองครับ” เกรย์ที่ยืนเงียบอยู่นานพูดขึ้นมาเป็นภาษาอังกฤษเพื่อบอกให้คนข้างกายได้รู้ไปในตัวว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงเจ้าตัวอยู่ และเมื่อได้ยินดังนั้น โทมัสจึงหันไปทักทายประมุขเป็นภาษาอังกฤษอีกครั้ง หลังจากใช้ภาษาฝรั่งเศสพูดคุยกับแขกมาตั้งแต่แรก

“เธอดูน่าสนใจดีนะ”

“ขอบคุณครับ”

เกรย์ลอบยิ้มพอใจเมื่อลูกแกะของเขาตอบตามมารยาทและไม่คิดพูดอะไรมากไปกว่านั้น ดูท่าคงจะจับสัญญาณความไม่พอใจของเขากับพ่อแม่ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ได้ แม้จะฟังไม่เข้าใจก็ยังรู้ว่าควรทำอย่างไร

“เชิญลุงโทมัสเตรียมตัวให้พร้อมเถอะครับ” เขาหันไปตัดบทบอกเจ้าของงานที่ดูจะสนใจคนของเขามากขึ้นเรื่อยๆ แค่เห็นสายตาก็รู้แล้วว่ายังอยากชวนคุยต่อ หากไม่ใช่เพราะสีหน้าน่าสนใจของลูกแกะ ก็คงเป็นเพราะสถานะที่เขาบอกไปอย่างชัดเจนว่าเป็นคนของตัวเอง “จะว่าไปแล้วการที่คุณลุงไม่พาลูกสาวมาก็ดีเหมือนกัน... ผมจะได้ไม่ต้องเหนื่อยหักหน้าใครเพราะมีคนของตัวเองอยู่แล้ว”

ประมุขที่ครั้งนี้เข้าใจคำพูดทุกประโยคอย่างชัดเจนแอบหันไปมองเอริคกับคาร่าเล็กน้อย แต่แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าทั้งคู่เพียงยืนมองลูกชายพูดจาไม่เหมาะสมใส่คนสูงอายุโดยไร้ท่าทีใดๆ แม้เขาจะถูกแนะนำในฐานะคนของเกรย์ก็ยังไม่คิดปฏิเสธ

เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกันนะ...
.
.
(ต่อด้านล่าง)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.16]=[P.8]==[12/04/19]
« ตอบ #219 เมื่อ: 19-04-2019 19:00:23 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.16]=[P.8]==[12/04/19]
«ตอบ #220 เมื่อ19-04-2019 19:01:13 »


ลูกแกะน้อยได้แต่เก็บงำความสงสัยเอาไว้ในใจโดยไม่แสดงออกให้ใครเห็น แม้ยามเจ้าของงานที่ยิ้มมาโดยตลอดหุบยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของเกรย์ และเขาถูกคนข้างกายโอบไหล่พาเดินถอยออกมาแล้ว ความงุนงงก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว

“เกรย์... เราจะกลับกันแล้วเหรอ” ประมุขเงยหน้าถามเมื่อถูกพาเดินไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่โทมัสอยู่ หันไปมองข้างหลังก็พบว่าเอริคกับคาร่ารวมถึงการ์ดทั้งสี่คนล้วนเดินตามมากันหมด

“ยังกลับไม่ได้หรอกลูกแกะ แต่ตอนนี้โอกาสที่อูโก้จะส่งคนมาที่นี่กลายเป็นหนึ่งร้อยเปอร์เซนต์แล้ว เราต้องระวังตัวให้ดี”

“ครับ”

เนื่องจากงานในครั้งนี้เป็นงานเลี้ยงแบบค็อกเทลที่ไม่ได้มีโต๊ะนั่งประจำอะไร แขกทั้งหลายจึงเดินไปมาหาสู่พูดคุยกันได้ตามสะดวก เพราะเหตุนั้นเองกลุ่มของครอบครัวเกรย์เลยถูกคนจับจ้องอยากเข้ามาพูดคุยด้วยตลอดเวลา ทว่าการที่มีการ์ดยืนขวางสายตาย่อมบ่งบอกได้ว่าหากไม่ใช่ผู้ที่มีความสนิทสนมกันจริงๆ พวกเขาจะไม่ต้อนรับ ดังนั้นผู้คนที่ยืนมองมาด้วยความสนใจจึงทำได้เพียงวนเวียนอยู่ด้านนอก ไม่ได้เข้ามาหาในทันที ราวกับจะรอดูว่าใครจะเป็นผู้กล้ากลุ่มแรก

“คุณพ่อคุณแม่ของคุณไม่ต้องไปพูดคุยกับแขกเหรอครับ” สุดท้ายลูกแกะของเกรย์ก็ทนเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ไหว ต้องหันไปกระซิบถามคนสำคัญเสียงค่อย พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้ผู้ที่ถูกพูดถึงได้ยิน ซึ่งดูจะเป็นไปได้ยากหากพวกเขายังยืนรวมกันอยู่อย่างนี้

“ไม่ต้องหรอก เพราะถ้ามีคนอยากพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่สำคัญมากพอ เดี๋ยวพวกเขาก็เข้ามาหาเอง” เกรย์พยายามอธิบายอย่างเป็นกลาง ไม่ให้ครอบครัวของเขาดูยิ่งใหญ่เกินไปนักสำหรับลูกแกะน้อย แม้ความเป็นจริงเขาควรจะบอกว่าสถานะของตนอยู่เหนือกว่าคนอื่นๆ ในงานนี้ก็ตาม “ส่วนเรื่องที่ลูกแกะสังเกตเห็นความผิดปกติตอนคุยกับตาลุงนั่น... เอาไว้ถึงบ้านแล้วฉันจะเล่าให้ฟัง”

“ครับ ผมจะรอฟังนะ”

ลูกแกะแสนว่าง่ายก้มลงมองนิ้วมือเย็นเฉียบของตัวเองที่ถูกใครอีกคนกอบกุมไว้แล้วยิ้มออกมาจากใจ ดวงตาสงบนิ่งฉายแววสดใสออกมาวูบหนึ่งก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้รู้เลยว่าการกระทำและสีหน้าทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่สองคนที่ลอบสังเกตอยู่ตลอดเวลา

“นาย…” เสียงเรียกจากลูคัสที่ยืนบังอยู่ด้านหน้าทำให้คนทั้งหมดรู้สึกตัวและหันไปมองอีกทาง พอพบว่ามีหญิงชราบนรถวีลแชร์กับชายสูงวัยที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้วเดินเข้ามาหาพร้อมผู้ติดตามนับสิบอันบ่งบอกถึงสถานะพิเศษได้อย่างชัดเจน เกรย์จึงพยักหน้าน้อยๆ เพื่อให้การ์ดถอยออกไป และเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาหญิงชราผู้นั้นด้วยตัวเอง

“ท่านย่า มางานนี้ด้วยเหรอครับ”

“หากไม่มาจะได้เจอหลานหรือเกรย์” อลิเซียจ้องมองพันธมิตรทางธุรกิจที่เธอมองเป็นหลานชายคนสำคัญนิ่งงัน หากดวงตาเยือกเย็นอันเกิดจากการสั่งสมประสบการณ์ในโลกสายนี้มานานหลายสิบปีกลับยังคงดูสว่างจ้าและเต็มไปด้วยความรอบรู้เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน และเธอก็สังเกตเห็นความสำคัญของประมุขได้ในทันทีโดยที่ไม่ต้องรอให้ถูกแนะนำ “แนะนำพ่อหนุ่มคนนั้นให้ย่ารู้จักหน่อยสิ คงพูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้สินะ”

“ถ้าเป็นคำง่ายๆ ก็พอรู้เรื่องบ้างครับคุณผู้หญิง” โดยไม่ต้องให้ใครเอ่ยเตือน ประมุขเป็นผู้ก้าวเท้าเข้าไปหาหญิงชราและเอ่ยบอกด้วยภาษาฝรั่งเศสชัดถ้อยชัดคำ รวมถึงหันไปก้มศีรษะให้ลูกชายของเธอด้วยตัวเอง “ผมกำลังศึกษา ต้องขอโทษด้วยที่ไม่อาจคุยเป็นภาษาฝรั่งเศสได้”

“จริงๆ เท่านี้ก็น่าประหลาดใจแล้วนะ” ประโยคภาษาอังกฤษแท้ที่แค่ฟังก็รู้ว่าเจ้าของภาษามาเองทำให้ประมุขเผลอแสดงสีหน้าประหลาดใจออกไปชั่วครู่ “ฉันเป็นลูกครึ่ง เกิดที่่อังกฤษก่อนจะย้ายมาที่นี่ จะบอกว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรกที่พูดได้ก็ไม่ผิดนัก... นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้ออกจากบ้านมาใช้ภาษานี้ มาคุยกับฉันหน่อยเป็นไงพ่อหนุ่ม”

ประมุขสบตาเกรย์เป็นลำดับแรก แม้ใจนึกอยากเข้าไปพูดคุยกับผู้เรียกหาอยู่แล้ว เพราะเขารู้สึกอบอุ่นเมื่อได้สบตากับหญิงชราผู้นั้น ทว่าในความเป็นจริงกลับเลือกที่จะถามความเห็นของคนที่เชื่อฟังมาโดยตลอด หากเกรย์ส่ายหน้าเพียงนิดเดียวเขาก็พร้อมจะปฏิเสธทุกเมื่อ

“ลูคัส”

“อีกสี่สิบห้านาทีพวกมันน่าจะมาถึง”

เกรย์พยักหน้าเมื่อได้ยินคำตอบจากการ์ดคนสนิทที่รู้ทันทุกความต้องการของเขา หนุ่มตาฟ้าหันกลับไปหาหญิงชราที่จ้องมองมาอย่างรอคำตอบ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วคลี่ยิ้มจางที่ดูจริงใจกว่าทุกครั้ง

“สิบห้านาทีครับท่านย่า”

“สิบห้านาทีจะพออะไร ไม่ใช่ว่าให้เขามาอยู่กับย่าจะปลอดภัยกว่าหรือ หลานไปจัดการดูละครให้สนุก ปล่อยให้เด็กคนนี้จิบชารอกับย่าดีกว่าไหม”

“ผมเชื่อว่าเขาจะปลอดภัยที่สุดเมื่ออยู่ข้างกายผมครับ”

อลิเซียกลอกตาให้เห็นจะๆ ขณะให้ลูกชายของเธอที่เงียบไม่แพ้พ่อแม่ของเกรย์พยุงลุกขึ้นยืน และยื่นมือไปให้ประมุขประคองต่อด้วยตัวเอง

“พาฉันไปเดินเล่นหน่อยแล้วกันพ่อหนุ่ม เดินไปแบบนี้จะได้ช้าหน่อย พ่อหลานชายของฉันคงไม่ใจร้ายถึงขนาดนับรวมเวลาเดินของคนแก่ด้วยหรอกใช่ไหม”

คนฟังอมยิ้มขำและหันไปพยักหน้าให้เกรย์ที่ยืนกอดอกมองด้วยรอยยิ้มไม่ต่างกัน รวมถึงเผื่อแผ่การขออนุญาตไปยังคาร่ากับเอริคที่แลดูจะเงียบผิดปกติด้วย

“ค่อยๆ เดินนะครับคุณผู้หญิง”

“เรียกย่าเหมือนเกรย์เถอะ สมัยนี้ใครเขาจะมากีดกันคนรักของลูกของหลานที่นิสัยน่ารักรู้จักวางตัวอย่างเธอกัน แค่มองตาก็รู้แล้วว่าเป็นคนใสซื่อแต่ไม่โง่ คนประเภทนี้หาได้ง่ายๆ ที่ไหน ใครมองก็รู้ว่าไม่ใช่เด็กรับใช้ ถ้าแม่ของเกรย์ไม่ยอมรับก็มาอยู่กับย่าก็ได้”

เสียงพูดคุยของคนต่างวัยค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ เนื่องจากประมุขพาหญิงชราเดินห่างไปไกลแล้ว หากประโยคสุดท้ายที่ได้ยินกลับกระทบกลางใจคาร่าเข้าอย่างจังจนเธอเผลอถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง

“ขอโทษด้วยนะครับคุณคาร่า” ลูกชายของอลิเซียที่ยังยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้ตามผู้เป็นแม่ไปด้วยเพราะถูกห้ามด้วยสายตาได้แต่ยิ้มแห้ง ก้มศีรษะเล็กน้อยเพื่อขอโทษสองสามีภรรยาที่อายุพอๆ กันด้วยท่าทีที่ไม่ได้ดูแข็งกร้าวหากก็ไม่ได้ดูนอบน้อมจนเกินไป

“ขอโทษอะไรกันคะคุณนิโคลัส ท่านอลิเซียมีความสุขก็ดีแล้วค่ะ”

“ผมเกรงใจคนรักของเกรย์น่ะครับ ดูก็รู้ว่าคงรักกันมาก พ่อหลานชายจ้องไม่ละสายตาเลย ท่าทางคงไม่อยากปล่อยให้ไกลหูไกลตา โดยเฉพาะช่วงเวลาอันตรายแบบนี้” นิโคลัสยกมือตบบ่าเกรย์เบาๆ เป็นเชิงแซว ทั้งยังพูดคำว่าช่วงเวลาอันตรายออกมาได้หน้าตาเฉย ราวกับรู้เรื่องราวทั้งหมดอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งสำหรับคนระดับนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก

“อานิคไม่ต้องเป็นห่วงครับ คนของผมเขาน่ารักมาก พอเห็นท่านย่าก็ตาเป็นประกาย คงจะนึกถึงครอบครัวขึ้นมาเลยอยากเข้าไปพูดคุยด้วยอยู่แล้ว” เกรย์จำได้ว่าอีกฝ่ายเคยพูดถึงญาติผู้ใหญ่ที่เสียไปตั้งแต่ตอนเด็กๆ ให้ฟัง แล้วก็บอกว่าคิดถึงท่านมาก การได้เห็นท่านย่าคงจะทำให้นึกถึงจนอยากเข้าไปออดอ้อนตามนิสัย

“แต่ท่านย่าของหลานชอบใจตั้งแต่แรกเห็นแบบนี้ เห็นทีหลานคงต้องพาไปเยี่ยมบ่อยหน่อยนะเกรย์”

“ด้วยความยินดีครับอานิค”

สองอาหลานต่างสายเลือดพูดคุยกันต่อหลายประโยค ขณะที่เอริคกับคาร่าได้แต่ฟังคำพูดเกี่ยวกับเรื่องของประมุขและความชอบพอของอลิเซียที่มีต่ออีกฝ่ายไปเรื่อยๆ โดยไม่มีแขกคนไหนกล้าเข้ามาทักทายอีกเลย คงเป็นเพราะพวกเขาเห็นว่าผู้ที่มีความสำคัญมากในงานกำลังพูดคุยกับแขกที่สำคัญมากกว่าทั้งยังไม่มีใครคาดว่าจะมาปรากฏตัวที่นี่ จึงทำได้เพียงยืนมองอยู่ห่างๆ เท่านั้น

“เราไม่ได้เจอกันมานานเท่าไหร่แล้วนะ ปีกว่าแล้วหรือเปล่า”

“น่าจะเกือบสองปีแล้วครับอานิค ตั้งแต่ที่อากับท่านย่าไม่เปิดรับแขกที่คฤหาสน์ และไม่ไปออกงานสังคมใดๆ อีกเลย”

“อา... นั่นสินะ” นิโคลัสคลี่ยิ้มจนเห็นรอยยับย่นบนใบหน้า ทว่าประกายในดวงตากลับเต็มไปด้วยความสุขเสียจนคนมองยังอดแปลกใจไม่ได้ “พอหยุดมือจากงานทุกอย่างมันก็ว่างอยู่ไม่น้อย แต่พอได้เห็นลูกๆ หลานๆ วิ่งไปวิ่งมา ได้พักผ่อนโดยไม่ต้องสนใจอะไรอีกมันก็มีความสุขมากทีเดียว ก็อย่างว่า... อยู่มาเกินครึ่งชีวิตขนาดนี้แล้ว คนแก่ๆ อย่างเราจะต้องการอะไรนอกจากการได้เห็นคนที่เรารักอย่างลูกๆ หลานๆ มีความสุข ว่าไหมครับคุณคาร่า”

คนที่ถูกเรียกชื่อโดยตรงมีหรือจะไม่เข้าใจว่านิโคลัสต้องการสื่ออะไร แต่สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจ กลับเป็นคำถามที่ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมามากกว่า

“ดิฉันขออนุญาตถามตามตรงนะคะ ทำไมคุณกับท่านอลิเซียถึงได้ดูชื่นชอบเด็กคนนั้นนัก”

“คาร่า!” เอริคที่ยืนเงียบมานานตวาดใส่ภรรยาด้วยเสียงไม่เบาไม่ดัง ราวกับจะต่อว่าที่เธอเสียมารยาทกับแขกคนสำคัญ แต่นอกจากจะไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจแล้ว นิโคลัสยังยิ้มออกมาและส่ายหน้าน้อยๆ อย่างระอาใจให้เห็นจะๆ อีกต่างหาก

“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณเอริค ผมเองก็อยากจะตอบคำถามนั้นอยู่เหมือนกัน”

“…”

“อันที่จริงเรื่องที่คุณแม่ชื่นชอบเด็กคนนั้นก็ออกจะเหนือความคาดหมายของผมเช่นกันครับ แต่เพราะทั้งผมและคุณแม่ต่างก็รักเกรย์ราวกับเป็นหลานแท้ๆ เห็นมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนตัวโตขนาดนี้แล้ว คุณคาร่าคงไม่คิดว่าแปลกหากเราสองแม่ลูกจะเป็นห่วงหลานคนนี้ และอยากเจอจนถึงขั้นยอมลงทุนมาที่งานเลี้ยงอันตรายๆ โดยไม่บอกล่วงหน้า ส่วนเรื่องที่ผมกับคุณแม่พูดก็คงจะเป็นเพราะมองเห็นความรักที่ถูกส่งออกมาจากแววตาของหลานคนสำคัญทั้งที่ปกติเจ้าตัวไม่เคยหลุดอารมณ์ใดๆ ออกมาเลยสักนิด อีกอย่าง...ต่อให้เป็นคนนอกก็มองออกครับว่าคุณไม่ชอบเขานัก ฟังเอาจากคำที่ใช้เรียกก็พอจะเข้าใจ ดังนั้นถึงได้เผลอพูดแนะนำอะไรออกไป อย่าได้ถือสาเลยนะครับ”

“ดิฉันไม่ได้...”

“คุณแม่ของผมผ่านโลกมามาก แค่มองตาท่านก็รับรู้ได้ว่าใครเป็นคนอย่างไร และในเมื่อท่านชื่นชอบมากถึงขนาดนี้ ผมจึงมั่นใจว่ายังไงเด็กคนนั้นก็ต้องเป็นคนดีแน่นอน แล้วยังไม่นับเรื่องที่เขาทำให้ลูกชายผู้แสนเย็นชาของคุณรักได้อีก เหตุผลเท่านี้ยังไม่เพียงพอจะทำให้คุณยอมรับเขาอีกหรือครับ” นิโคลัสพูดเพียงแค่นั้นแล้วก็หันไปมองหน้าหลานชายคนโปรดอีกครั้ง “ท่านย่าเองก็เคยผ่านเหตุการณ์คล้ายกันกับหลานมา เพราะแบบนั้นถึงได้เข้าใจ และพูดให้อาเข้าใจด้วยเสมอ หากคำพูดของอาในครั้งนี้ช่วยให้แม่หลานยอมรับได้ง่ายขึ้นสักหน่อย ก็อย่าได้ถือว่าเป็นโชคดี จำไว้ว่ามันเป็นผลจากการที่หลานกับเด็กคนนั้นพยายามมาโดยตลอด”

“ขอบคุณครับอานิค” เกรย์เอ่ยคำขอบคุณและยิ้มออกมาจากใจจริง ขณะที่คาร่าได้แต่ยืนเงียบเพราะพูดอะไรไม่ออก

แม้จะไม่ได้มียศฐาบรรดาศักดิ์ใดๆ นำหน้าเหมือนเช่นต้นตระกูลในอดีต หากผู้ที่อยู่สูงกว่าก็ยังอยู่สูงกว่าอยู่วันยันค่ำ ทว่านั่นไม่ใช่เพราะพวกเขากดขี่คนอื่น หากเป็นเพราะความดีความชอบที่มีอยู่มากมายทำให้ถูกมองเป็นคนที่คู่ควร และการที่ถูกคนเหล่านั้นตักเตือนย่อมไม่ใช่เรื่องที่จะปล่อยผ่านไปได้

“ดิฉันจะจำเอาไว้ค่ะ”

เกรย์มองมารดาที่ค้อมศีรษะลงต่ำ ก่อนจะหันไปหาอาคนสนิทที่ขยิบตาใส่อย่างขี้เล่นแล้วผงกหัวขอบคุณท่านอย่างจริงใจ

นับจากที่ได้รู้จักกับท่านย่าและอานิคโดยบังเอิญเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนที่เขาเข้าไปช่วยหลานคนหนึ่งของท่านที่ถูกทำร้ายร่างกายอยู่ เกรย์ก็กลายเป็นหลานอีกคนของครอบครัวคนใหญ่คนโตที่มีมากกว่าอำนาจและเงินทอง ครั้งหนึ่งเขาเคยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กผู้ชายตัวน้อยที่ตนหลงชอบตั้งแต่เห็นภาพถ่ายให้ท่านย่าฟัง และให้คำสัญญาว่าหากได้เจอกันแล้วและความรู้สึกของเขายังไม่เปลี่ยนไปก็จะพามาพบท่านย่า เวลาผ่านมานานนับสิบปี ท่านยังคงจดจำคำพูดนั้นได้และมาหาด้วยตัวเองเพื่อช่วยเหลือ เพราะรู้ดีว่าแม่ของเขามีนิสัยแบบไหน ความเมตตาในครั้งนี้ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะใช้คำพูดใดๆ อธิบายได้

แม้รู้ว่าลำพังคำพูดของท่านย่ากับอานิคไม่อาจเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ในทันทีทันใด แต่เขาก็ยังเชื่อว่าหากแม่เปิดใจเพียงนิด ลูกแกะตัวน้อยของเขาจะต้องเจาะกำแพงสูงตระหง่านนั้นเข้าไปได้อย่างแน่นอน

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น...คือผลจากความอดทนและความพยายามของเกรย์กับประมุขที่สั่งสมมานานนับสิบปี




--------------------

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.17]=[P.8]==[19/04/19]
«ตอบ #221 เมื่อ19-04-2019 19:58:28 »

ลูกแกะน่ารัก ใครๆก็ต้องรักอยู่แล้ว o13

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.17]=[P.8]==[19/04/19]
«ตอบ #222 เมื่อ19-04-2019 20:50:41 »

 :L1: :L1:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.17]=[P.8]==[19/04/19]
«ตอบ #223 เมื่อ19-04-2019 21:00:44 »

ลูกแกะน่ารักออกอย่างนี้จะทนใจแข็งไปทำไม  ว่าแต่งานเลี้ยงอันตรายอย่างนี้ขอให้ไม่เกิดเรื่องกับลูกแกะน๊า :mew1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.17]=[P.8]==[19/04/19]
«ตอบ #224 เมื่อ19-04-2019 22:14:16 »

อันตราย ๆ อยู่หนใด อยากรู้ อยากเห็น  :hao4:

ออฟไลน์ Kimmoominn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.17]=[P.8]==[19/04/19]
«ตอบ #225 เมื่อ21-04-2019 13:32:46 »

ไม่มีใครไม่แพ้ความดีเจ้าลูกแกะ ฮ่าๆๆ คุณแม่ใจอ่อนซะเถอะ!

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.17]=[P.8]==[19/04/19]
«ตอบ #226 เมื่อ21-04-2019 14:36:55 »

ยอมเถอะคุณแม่ ยอมอ่อนให้ลูกแกะเถอะ ขนาดนี้แล้ว

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.17]=[P.8]==[19/04/19]
«ตอบ #227 เมื่อ21-04-2019 20:37:06 »

เอ็นดูประมุข ขนาดคนไม่รู้จักยังอยากเจอ
เจอแล้วก็ชอบใจกันทันที ไม่ธรรมดานะ

ประมุขวางตัวได้ดี น้องเรียนรู้ที่จะเติบโต
แถมมีเกรย์อยู่เคียงข้างเสมอ ไม่ห่าง
แบบนี้ยิ่งโตยิ่งมีคุณภาพแน่นอนค่ะคุณหญิง

พ่อเกรย์เปิดใจให้น้องแล้ว คุณหญิงคงจะทำได้เร็วๆ นี้

ชอบที่เกรย์แกล้งน้องอยู่ได้ กับน้อง ร้ายตลอด 5555
ชอบที่ประมุขอ้อนคิง น่ารักดี ถึงจะห่างกันไปบ้าง
แต่เพราะความผูกพัน ความรัก เป็นตัวเชื่อมที่ดี

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.17]=[P.8]==[19/04/19]
«ตอบ #228 เมื่อ22-04-2019 00:48:18 »

เป็นที่รักจริงๆลูกแกะ
หวังว่าต่อจากนี้แม่เขาจะเปิดใจขึ้นเรื่อยๆนะ  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.17]=[P.8]==[19/04/19]
«ตอบ #229 เมื่อ23-04-2019 12:39:41 »

ลูกแกะกับเกร์ยรักกันและอดทนจับมือกันฝ่าฟันอุปสรรคไปได้แน่นอน :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.17]=[P.8]==[19/04/19]
« ตอบ #229 เมื่อ: 23-04-2019 12:39:41 »





ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.17]=[P.8]==[19/04/19]
«ตอบ #230 เมื่อ23-04-2019 12:54:26 »

ลูกแกะน่ารัก

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.17]=[P.8]==[19/04/19]
«ตอบ #231 เมื่อ04-05-2019 20:06:05 »

-18-


“จะไม่เป็นไรจริงๆ เหรอครับท่านย่า”

“ไม่เป็นไรหรอก เชื่อย่าสิ”

“แต่ว่า...”

ปัง!

“ลองทานนี่ดู ย่าให้คนอบมาจากบ้าน”

“ครับ...”

ปัง!

บนรถคันหรูที่มีพื้นที่มากพอจะจัดเป็นโต๊ะกินข้าว ประมุขกะพริบตามองหญิงชราผู้มีฐานะไม่ธรรมดาตาปริบๆ ก่อนจะหยิบคุ้กกี้ชิ้นเล็กบนโต๊ะขึ้นมาชิมอย่างเสียมิได้ หากเป็นเวลาปกติเขาคงชื่นชมและกินจนหมดจานแบบไม่ต้องสงสัย เพราะนอกจากจะเป็นขนมที่ชื่นชอบแล้วยังมีรสชาติถูกปากเอามากๆ อย่างกับคนทำรู้ว่าเขาชอบอะไร

ทว่าในยามที่มีเสียงกึกก้องของกระสุนปืนดังประกอบ เห็นทีคงไม่มีใครมีอารมณ์สุนทรีย์พอจะพูดถึงรสชาติของขนม อย่างน้อยก็ไม่ใช่เขาคนหนึ่ง

“ท่านย่าครับ ผมเป็นห่วงเกรย์ แล้วยังมีคุณท่านกับคุณผู้หญิงที่อยู่ในงานด้วย”

อลิเซียจ้องมองใบหน้าของเด็กน้อยจิตใจดีที่แสดงออกชัดเจนว่าเป็นห่วงคนที่ยังอยู่ในงานมากจริงๆ ด้วยความเอ็นดู ยิ่งได้ใกล้ชิด ได้พูดคุยก็ยิ่งชื่นชอบเด็กคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่ามากเสียจนอยากพามาอยู่ด้วยกัน ให้พูดจ้อนั่นนี่ให้เธอฟังทั้งวันเห็นทีคงไม่มีทางเบื่อ แต่หากทำเช่นนั้นจริง เห็นทีหลานชายคนโปรดคงจะโยนความเป็นย่าหลานต่างสายเลือดทิ้งและบุกมาชิงตัวคนรักคืนเป็นแน่

“น่าเสียดายจริงๆ” ถ้าคนที่ได้เจอเด็กคนนี้ก่อนเป็นหลานแท้ๆ ของเธอก็คงจะดี หากเป็นแบบนั้นเธอคงไม่ลังเลเลยที่จะรับเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

“ท่านย่า... ผมต้องกลับไปหาเกรย์จริงๆ ครับ” คราวนี้คนที่สงบเสงี่ยมเรียบร้อย แต่ดูกังวลอยู่ตลอดเวลาเริ่มอยู่ไม่สุข ดวงตาที่เคยอ่อนน้อมฉายแววมุ่งมุ่นไม่ยินยอม ราวกับจะบอกว่าหากยังคิดจะรั้งเขาไว้ ไม่ยอมพาไปส่งคืนทั้งที่เลยเวลามากว่าสี่สิบนาทีแล้ว คนที่อ่อนนอกแข็งในก็พร้อมจะเปิดประตูและวิ่งออกไปด้วยตัวเอง

“ใจเย็นๆ ก่อนเถอะพ่อมุข” หญิงชราจ้องมองท่าทีที่ได้เห็นด้วยความพอใจ ก่อนจะเอนกายพิงพนักนุ่มช้าๆ “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก หากเจอเหตุการณ์แค่นั้นยังมีบาดแผลกลับมา แสดงว่าเกรย์ยังไม่พร้อมจะดูแลใคร เชื่อเถอะว่าเขาจะตามหาเราจนเจอแน่ๆ”

“ผมถามได้ไหมครับว่าท่านย่าทำแบบนี้ทำไม”

“ทำอะไรเหรอ”

“ให้ผมพามาเดินเล่นแล้วก็บอกให้ขึ้นมานั่งพักเป็นเพื่อนบนรถคันนี้ที่อยู่ห่างจากงานมาไกลพอสมควร ท่านย่ากักตัวผมไว้ทำไมเหรอครับ” แม้ประมุขจะเป็นคนซื่อ แต่เขาไม่ใช่คนโง่ กระทั่งฮ่องเต้ที่ชอบด่ากันอยู่บ่อยๆ ก็รู้เรื่องนี้ดี บางทีอาจเป็นเพราะไม่ใช่เรื่องที่คิดว่าควรใส่ใจจึงปล่อยผ่านไปราวกับไม่ได้คิดจะฟังตั้งแต่แรก ทำให้ใครต่อใครเข้าใจไปเองว่าเขาเป็นพวกบื้อหัวช้า ทว่าเรื่องราวในครั้งนี้มีความสำคัญ ทั้งเกี่ยวพันกับตัวเองและคนที่รักมาก มีหรือที่ลูกแกะของเกรย์จะไม่สนใจ “ตอนที่พาท่านย่าเดินมาทางนี้ สองข้างทางในตอนแรกเป็นสวนดอกไม้ก็จริง แต่จู่ๆ ก็ทะลุเชื่อมมายังจุดที่คล้ายจะเป็นป่า เหมือนกับมีใครเตรียมทางไว้อยู่แล้ว ผมพอจะเข้าใจว่าท่านย่าต้องมีทางที่ปลอดภัยกว่าคนอื่น...”

“แต่ที่ไม่เข้าใจคือย่าพาเรามาด้วยทำไมสินะ” อลิเซียหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างอารมณ์ดีจนใบหน้าสูงวัยมีร่องรอยยับย่นปรากฏให้เห็น “ไหนเกรย์เคยบอกว่าลูกแกะของตัวเองเป็นลูกแกะตัวน้อยๆ แสนใสซื่อกัน ดูท่าทางจะเก่งกว่าที่เห็นมากเลยนะนี่”

“คงเพราะผมไม่ต้องการเป็นตัวถ่วงของเกรย์”

“ย่าแค่ยื่นมือมาช่วยเท่านั้น ไม่ต้องกลัวว่าเกรย์จะโมโหหรอก เขารู้ดียิ่งกว่าใครว่าหากอยู่กับย่า มุขจะไม่เป็นไรแน่นอน อาจจะดูเป็นการคิดแทนไปสักหน่อย แต่งานในวันนี้จะมีคนเสียเลือดเนื้อ และย่าคิดว่ามุขยังไม่ควรได้เห็นอะไรพวกนั้น อย่างน้อยก็จนกว่าจะเรียนจบและได้มาอยู่เคียงข้างเกรย์ตลอดเวลา”

ประมุขหลุบตาลงต่ำเมื่อได้ฟังคำพูดของคนที่มองเขาออกจนทะลุปรุโปร่ง ต่อให้เป็นคนสบายๆ อย่างไร เขาก็ไม่ได้โง่พอจะทำอะไรโดยไม่รู้จักประมาณตนเอง อันที่จริงเขาหวาดกลัวมาโดยตลอด ทั้งกลัวว่าจะเผลอถอยหนีเมื่อได้เห็นภาพเหตุการณ์น่าหวาดกลัว และหากทนผ่านมันไปได้ก็ยังกังวลว่าพอต้องแยกกับเกรย์เพื่อไปเรียนต่อให้จบจะต้องตกอยู่ในภวังค์ เห็นภาพหลอนของอะไรก็ตามที่อาจจะเกิดขึ้นในวันนี้เพียงลำพัง

หากถึงตอนนั้นแล้วเกรย์ไม่อยู่เคียงข้างจะทำอย่างไร...

“ไม่จำเป็นต้องรีบ” อลิเซียวางมือทาบทับลงบนฝ่ามือที่กำแน่นของเด็กน้อยซึ่งกำลังสับสน ก่อนจะเบนสายตาออกไปมองนอกหน้าต่าง เมื่อเห็นเงาร่างของคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้ “แค่เห็นแววตาของมุข ย่าก็รู้แล้วว่าเราเข้าใจดีทุกอย่าง แต่เพราะรักถึงเลือกหนทางที่จะช่วยเหลือเกรย์ได้มากที่สุด แม้ตัวเองจะต้องเจ็บหรือหวาดกลัวขนาดไหนก็ตาม"

“…”

"แต่จำเอาไว้ว่าการถอยหลังเพื่อมองหาหนทางใหม่ที่จะไม่ทำให้ใครต้องเจ็บปวดไม่ใช่เรื่องผิด และยิ่งไม่ได้หมายถึงความพ่ายแพ้ เพราะบางครั้งชัยชนะก็ไม่ได้หมายถึงการเผชิญหน้าเสมอไป”

“ท่านย่า...”

“หากอยากได้รับการยอมรับก็จงพยายามให้มาก จับจุดให้ถูกแล้วค่อยๆ คิดและลงมือทำ การพยายามเผชิญหน้ากับสิ่งสกปรกและความสูญเสียไม่ได้ช่วยยกใครให้สูงกว่าเดิม ถ้าเป็นไปได้ก็เลี่ยงมันเสียดีกว่า เพราะต่อให้เรายืนมองคนยิงกันได้โดยไร้ความรู้สึกใดๆ มันก็ไม่ได้ช่วยให้ใครมองเราด้วยความเชิดชูอยู่ดี”

อลิเซียยิ้มให้เด็กน้อยที่เธอนึกเอ็นดูอีกครั้ง ก่อนจะเคาะกระจกรถเบาๆ เพื่อส่งสัญญาณให้คนด้านนอกรับรู้ และหลังจากนั้นไม่นานนักประตูรถก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นร่างของชายหนุ่มตัวสูงผู้มีดวงตาสีฟ้าเยือกเย็นซึ่งกำลังจ้องมองไปที่ประมุขโดยไม่ละสายตา

“ลูกแกะ... ฉันมารับแล้ว”

ผู้ถูกเรียกหันกลับไปหาอลิเซียเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าให้พร้อมรอยยิ้มจาง เขาก็สูดลมหายใจเข้าจนสุดและเดินลงจากรถ ตรงเข้าไปกอดใครอีกคนเอาไว้แน่น

“คุณไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม”

“ไม่มีใครเป็นอะไร เรากลับบ้านกันเถอะ” เกรย์อาศัยช่วงเวลาที่ลูกแกะยังซุกอยู่กับอกเบนสายตาไปมองท่านย่าของเขาด้วยความสงสัย แต่เมื่อไม่ได้รับคำอธิบายใดๆ กลับมา นอกจากสีหน้าที่เหมือนจะบอกให้กลับไปถามกันเอง เขาก็ถอนหายใจและผงกหัวร่ำลาตามมารยาท “กลับบ้านดีๆ นะครับ”

“อย่าลืมพามุขมาหาย่าบ้างล่ะ”

“ถ้าเกรย์ลืม ผมจะเตือนให้เขาพาไปแน่นอนครับท่านย่า” เสียงพูดแทรกของคนร่าเริงทำให้เกรย์ที่กำลังจะตอบชะงักไปครู่หนึ่ง แต่แล้วก็ต้องส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ เพราะดูท่าลูกแกะของเขาคงไม่ยอมผิดคำพูดแน่ๆ

“แล้วเจอกันครับท่านย่า”

หลังจากแยกกับอลิเซีย เกรย์ก็จูงมือพาลูกแกะไปขึ้นรถซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลพร้อมการ์ดสี่คนที่คอยระแวดระวังภัยให้ตลอดเวลา กระทั่งขึ้นมาอยู่บนรถแล้วลูกแกะตัวน้อยก็ยังเกาะติดอยู่กับอกไม่ไปไหน โดนโจมตีด้วยท่าทีออดอ้อนที่แสนแพ้ทางเข้าไป สุดท้ายก็ต้องหยุดปากที่กำลังจะถามว่าเจ้าตัวคุยอะไรกับท่านย่าบ้าง แล้วกลายเป็นฝ่ายเปิดปากเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังแทน

“จำตอนที่พวกเราเดินเข้าไปทักลุงโทมัสได้หรือเปล่า...”

“จำได้ครับ”

“ตอนนั้นเขาบอกว่าลูกสาวรถเสียเลยมางานไม่ได้ แต่จริงๆ คือไม่ได้กะจะให้มาตั้งแต่แรกแล้ว ที่ทำทั้งหมดก็เพราะต้องการให้ฉันกับพ่อแม่มางานนี้เพื่อดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ”

“แบบนี้นี่เอง” พอได้ฟังคำอธิบายประมุขก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมในช่วงเวลานั้นทุกคนถึงทำหน้าตาน่ากลัวกันหมด “แล้วตอนที่ผมอยู่กับท่านย่าเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ ผมได้ยินเสียงปืนด้วย”

“เกิดความวุ่นวายขึ้นในงานน่ะ เหมือนฝั่งอูโก้จะส่งคนแฝงเข้ามาตั้งแต่แรกแล้ว พอได้รับสัญญาณก็มีคนบุกเข้ามาเพิ่ม โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรเพราะฝั่งนั้นวางแผนมาดี แต่ที่วางแผนดียิ่งกว่าก็คงเป็นลุงโทมัสที่ให้ตำรวจปะปนอยู่ในงานเกินสิบคน สุดท้ายก็จับได้หมด เหลือก็แต่สาวไปหาตัวการแล้วลากเข้าคุกเท่านั้น เรื่องนี้คงไม่ยากเท่าไหร่เพราะยังไงก็มีสายอยู่ในนั้นแล้ว ยิ่งมาเกิดเรื่องนี้ขึ้น มีคนสำคัญๆ เสี่ยงอันตรายอยู่หลายชีวิต ยังไงก็ดิ้นไม่หลุด โทษอย่างต่ำคือตลอดชีวิตแน่นอน”

“คุณไม่กลัวใช่ไหม” คำถามซื่อๆ ที่ดังออกมาจากปากคนน่ารักทำให้เกรย์ชะงักไปนานเกือบนาที ก่อนเขาจะเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นแววตาเป็นห่วงเป็นใยของลูกแกะน้อยที่ไร้ซึ่งวี่แววของการล้อเล่น

“ฉันชินแล้ว สำหรับงานนี้ถือว่าเสียเลืิอดเสียเนื้อน้อยมาก แต่บอกตามตรงว่าพอเห็นความวุ่นวายพวกนั้นก็อดดีใจไม่ได้เหมือนกันที่ท่านย่าพาลูกแกะออกมาไกลถึงที่นี่ เพราะภาพพวกนั้นมันไม่ใช่อะไรที่น่าดูนัก...” ท้ายประโยคเขาเบาเสียงลงจนแทบไม่ได้ยิน แต่เมื่อสัมผัสได้ว่าคนข้างกายกำลังจ้องมองกันอยู่ก็รีบพูดเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว “แล้วท่านย่าพูดอะไรกับลูกแกะบ้างเหรอ เหมือนจะคุยเพลินจนไม่ยอมพากลับไปส่งเสียด้วย”

“ตอนแรกท่านย่าเล่าเรื่องคุณให้ฟังครับ” พอพูดถึึงเรื่องนี้ขึ้นมา ประมุขก็กลับมายิ้มได้อีกครั้ง “ท่านเล่าให้ฟังว่าเจอคุณได้ยังไง ตอนเด็กๆ คุณเป็นคนแบบไหน แล้วก็เล่าเรื่องที่คุณพูดถึงผมให้ท่านฟังด้วย”

“หึหึ... ดีแล้วที่ฉันเคยหลุดเล่าเรื่องของลูกแกะให้ท่านฟัง เพราะแบบนั้นท่านถึงได้มาที่งานนี้เพราะอยากจะเจอ แล้วก็ช่วยพาลูกแกะออกมาที่นี่ ทำให้ไม่ต้องพบเจอเหตุการณ์พวกนั้น...”

เพียงแค่นึกถึงภาพของเลือดที่เจิ่งนองเต็มพื้นซึ่งเขาชินชามาตั้งแต่เด็ก เกรย์ก็อดรู้สึกหนักอึ้งในอกไม่ได้ ลำพังตัวเขาไม่ได้รู้สึกอะไรอยู่แล้ว แต่นั่นไม่ใช่กับลูกแกะที่อยู่ในโลกสีขาวสะอาดมาโดยตลอด คงต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้เขาลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปจริงๆ

จะว่าไปแล้ว...

“เกรย์... เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

“ลูกแกะ” เกรย์จับมือของคนสำคัญเอาไว้หลังจากนึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ “กลัวมากหรือเปล่า”

“ครับ?”

“พอรู้ว่าต้องมาเจอเหตุการณ์พวกนี้ นายกลัวมากหรือเปล่า”

“…”

ความเงียบและใบหน้าหงอยๆ ของลูกแกะน้อยแลดูจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดสำหรับคำถามของเขา เพียงแค่นั้นหัวใจคนมองก็กระตุกวูบ สองแขนรีบรั้งคนสำคัญเข้ามากอดแล้วลูบหัวปลอบเบาๆ อย่างอ่อนโยน

“ขอโทษ”

“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ผมเต็มใจมาที่นี่เอง แล้วสิ่งทำให้ผมกลัวก็ไม่ใช่การที่จะต้องพบเจอกับเหตุการณ์พวกนั้นหรอก” ประมุขยกแขนขึ้นกอดตอบ ก่อนจะหลับตาลงช้าๆ และพูดความรู้สึกทั้งหมดออกมาโดยไม่ปิดบัง “ผมกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น กลัวว่าภาพของมันจะติดตา กลัวว่าถ้าต้องแยกกลับไปเรียน ไม่มีคุณคอยอยู่เคียงข้างแล้วจะทนไม่ไหว ผมคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมจะเจอเรื่องราวน่ากลัวเหล่านั้นเพียงลำพัง ไม่พร้อมจะก้าวผ่านมันไปโดยไม่มีคุณอยู่เคียงข้าง”

“ลูกแกะ...”

“เป็นเพราะผมอยากให้คุณพ่อคุณแม่ของคุณยอมรับ แต่กลับลืมนึกถึงเรื่องอื่นๆ หลังจากนั้นไป ท่านย่าบอกว่าการที่ผมพยายามเผชิญหน้ากับเรื่องพวกนั้นไม่ได้เป็นการยกตัวเองให้สูงขึ้น แล้วก็ไม่ได้ช่วยทำให้ใครหันมาเชิดชู บางครั้งการหลีกเลี่ยงอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า... ผมขอโทษที่ไม่ได้วิ่งกลับไปอยู่เคียงข้างคุณ”

“ลูกแกะไม่ผิด ไม่ผิดเลยแม้แต่นิดเดียว” เกรย์โคลงตัวไปมาช้าๆ เพื่อปลอบประโลมลูกแกะน้อยที่ดูจะคิดมากกว่าที่เห็นภายนอก “เป็นฉันเองที่ผิด เอาแต่มองเป้าหมายของตัวเองโดยไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของนายเลย”

“คุณไม่ผิด”

“งั้นเราผิดกันคนละครึ่งแล้วกัน” เขาจับใบหน้าของคนในอ้อมแขนด้วยมือทั้งสองข้าง ค่อยๆ ประคองให้เงยขึ้น และส่งผ่านความรักความห่วงใยทั้งหมดไปให้ผ่านทางแววตา “ท่านย่าพูดถูกแล้ว ฉันควรจะปกป้องลูกแกะจากเรื่องสกปรกที่ไม่ควรพบเจอ ไม่ใช่พาไปเผชิญหน้าทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาเพียงเพื่อเป้าหมายเล็กๆ ที่จะมาตามแก้ทีหลังก็ไม่ได้สายเกินไป อีกอย่าง...ฉันเป็นคนบอกเองให้ลูกแกะเป็นตัวของตัวเองเวลาเจอพ่อแม่ แต่กลับบีบบังคับให้มาที่นี่ สวมใส่หน้ากากที่ไม่จำเป็นเพียงเพื่อแนะนำให้คนอื่นรู้จักและทำให้พ่อแม่ยอมรับ นั่นเป็นความคิดที่ผิดพลาดที่สุด”

พอเห็นแววตาสำนึกผิดอย่างเห็นได้ชัดของคนพูด ลูกแกะน้อยที่รักเกรย์ยิ่งกว่าอะไรก็เป็นฝ่ายยกมือขึ้นประคองใบหน้าคมเอาไว้ และกดจูบลงที่ปลายคางของคนตัวสูงอย่างอ่อนโยน

“เราตัดสินใจร่วมกันครับ คุณไม่เคยบังคับผม เป็นผมเองที่ไม่ยอมพูดว่ากำลังคิดหรือรู้สึกอะไร”

“งั้นต่อจากนี้เราจะบอกกันทุกเรื่อง... ไม่ใช่แค่สิ่งที่กำลังทำอยู่เหมือนปกติ แต่รวมถึงสิ่งที่กำลังคิดหรือรู้สึกด้วย ดีไหม” เกรย์ใช้ปลายนิ้วไล้แก้มใสของคนน่ารักด้วยความรักใคร่ ยิ่งได้เห็นลูกแกะของเขาพยักหน้าหงึกๆ ด้วยความยินดีก็ยิ่งมันเขี้ยวจนอยากจับฟัดสักหลายรอบ “จากนี้เป็นตัวเองให้เต็มที่ ถ้าถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับอะไร หรือต้องสวมใส่หน้ากากเพราะความจำเป็นเมื่อไหร่ ฉันจะเป็นคนบอกและจะอยู่ตรงนั้นกับลูกแกะ ไม่ปล่อยให้เก็บไปคิดหรือนึกถึงเพียงลำพังแน่นอน”

“ครับ ผมเชื่อคุณ”

หลังจากพูดคุยกันจนเข้าใจ พวกเขาก็นั่งจับมือกันไปเงียบๆ ตลอดทางกลับบ้าน กระทั่งเดินลงจากรถเข้าไปด้านในแล้วก็ยังไม่ได้พูดคุยอะไรมากไปกว่านั้น หากในความรู้สึกกลับเหมือนได้ใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม

ประมุขกวาดตามองไปรอบโถงด้วยความประหลาดใจเมื่อไม่เห็นเจ้าของบ้านทั้งสองคน และดูเหมือนเกรย์จะจับความสงสัยของเขาได้ จึงอธิบายให้ฟังโดยไม่ต้องรอให้ถาม

“วันนี้พ่อกับแม่ไปนอนโรงแรม เพราะพรุ่งนี้เช้าต้องคุยธุระในเมือง แล้วก็อีกสามสี่วันพ่อน่าจะต้องบินไปธุระต่างประเทศ ถึงจะไม่ได้ทำหน้าที่ทูตต้องไปประจำที่ไหนแล้วแต่ก็ยังงานหนักเหมือนเดิม ช่วงนั้นฉันก็คงต้องไปดูงานเหมือนกัน แล้วก็จะถือโอกาสพาลูกแกะไปเที่ยวด้วยเลย”

“หมายถึงให้ผมไปกับคุณด้วยเหรอ”

“ฉันไม่อยากปล่อยลูกแกะไว้คนเดียว ไปด้วยกันได้ไหม”

“ได้อยู่แล้ว!”

เกรย์อ้าแขนรับร่างของคนที่พุ่งเข้ามากอดเขาอย่างอารมณ์ดีเพราะได้ยินคำว่าเที่ยวด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ลูกแกะตัวนี้ก็ยังทำให้เขายิ้มได้เสมอ

โชคดีจริงๆ...

โชคดีที่วันนี้ลูกแกะไม่ต้องไปเจอเหตุการณ์น่ากลัว

โชคดีที่ลูกแกะของเขายังยิ้มได้อยู่

“ขอบคุณครับท่านย่า”



สามวันต่อมา เอริคเดินทางไปทำงานต่างประเทศตั้งแต่เช้า ส่วนเกรย์กำลังจะพาลูกแกะของเขาตามติดไปทำงานด้วย เพื่อจะได้แวะพาเที่ยวทิ้งท้าย เพราะอีกไม่นานประมุขก็ต้องเดินทางกลับไปเรียนต่อที่ประเทศไทยแล้ว พวกเขาช่วยกันถือกระเป๋าลากไปส่งให้การ์ดเอาขึ้นรถ ก่อนจะยืนยิ้มมองบรรยากาศในยามเช้าด้วยความสดใส

อากาศในเวลานี้ไม่ได้ร้อนและไม่ได้เย็นจนเกินไป ให้ความรู้สึกสบายเหมาะแก่การเดินทางไปเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง ทว่าจู่ๆ ก็เหมือนจะหนาวเย็นขึ้นมาเสียเฉยๆ เมื่อคุณผู้หญิงของบ้านเดินลากกระเป๋าเดินทางออกมาด้านนอกและส่งให้การ์ดของเธอเอาขึ้นรถคันเดียวกันกับเกรย์และประมุขหน้าตาเฉย

“ทำอะไร”

คาร่าเหลือบตามองลูกชายอย่างเย็นชา ก่อนจะดึงแว่นกันแดดที่ใส่อยู่ออกช้าๆ และค่อยๆ พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์

“ได้ข่าวว่าจะไปเที่ยว แม่อยากพักผ่อนพอดีเลยจะไปด้วย”

“ผมจะแวะไปทำงานก่อน” เกรย์หรี่ตามองมารดาอย่างระแวดระวัง ไม่ไว้ใจการกระทำใดๆ ของแม่บังเกิดเกล้าเลยสักนิด แม้ยามนี้แม่ของเขาจะไม่ได้มองลูกแกะด้วยแววตาน่ากลัวเหมือนช่วงแรกๆ แล้วก็ตาม

“ทำก็ทำสิ แม่อยู่เป็นเพื่อนคนของลูกจะได้ไม่เหงา ไม่ดีหรือไง”

“ไม่…”

“ดีสิครับ!” ลูกแกะน้อยที่ได้ยินว่าจะมีคนมาอยู่เป็นเพื่อนรับคำทันควัน ดวงตาเป็นประกายแสดงออกถึงความดีใจอย่างชัดเจน ไร้ซึ่งการเสแสร้งใดๆ จนคนมองทั้งสองที่ตั้งท่าจะเถียงกันต่อต้องหยุดพูดไปโดยไม่รู้ตัว

“คนอะไรอารมณ์ดีได้ตลอดเวลา” หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มชายหนุ่มและบอดี้การ์ดตัวโตพึมพำอยู่กับตัวเอง จากนั้นก็หมุนกายเดินไปขึ้นรถโดยไม่ได้พูดอะไรอีก ปล่อยให้เกรย์ขมวดคิ้วมองตามด้วยความไม่พอใจ ซึ่งก็จางหายไปอย่างรวดเร็วยามพบว่าลูกแกะของเขาดูจะดีใจเอามากๆ ที่แม่จะไปด้วย

พื้นที่บนรถตู้คันหรูที่ใช้ในครั้งนี้ประกอบไปด้วยโซฟาตัวยาวซึ่งจุคนได้หลายคน ทั้งยังมีโต๊ะทำงานและพื้นที่สำหรับวางเครื่องดื่มรวมถึงข้าวของพร้อมสรรพ มีการ์ดนั่งอยู่ด้านหน้าหนึ่งคนเคียงข้างคนขับรถ ส่วนที่เหลือขับรถประกบอยู่ด้านหน้ากับด้านหลังไม่ต่ำกว่าสองคัน ต้นเหตุมาจากที่คราวนี้มีผู้ร่วมเดินทางคนสำคัญมากกว่าหนึ่ง

“คุณผู้หญิงลองกินขนมหน่อยไหมครับ” คุ้กกี้ของโปรดที่เตรียมไว้กินในยามหิวถูกยกขึ้นมาวางบนโต๊ะและเลื่อนไปให้คนที่นั่งห่างออกไปเล็กน้อยอย่างใจดี แต่แค่มองดูใครก็รู้ว่าเจ้าตัวอยากกินมากขนาดไหน ที่ต้องยื่นส่งให้ผู้ใหญ่ก่อนก็เพราะต้องทำตามมารยาทเท่านั้น

“เพิ่งทานข้าวเช้าไป เธอหิวอีกแล้วเหรอ”

“ปกติหลังอาหารผมจะกินขนมด้วยครับ” ประมุขหัวเราะอารมณ์ดีและรีบหยิบคุ้กกี้ชิ้นหนึ่งเข้าปากเมื่อคาร่าส่ายหน้าปฏิเสธ หลังจากนั้นเหมือนจะนึกขึ้นมาได้ว่ายังมีคนบ้างานก้มหน้าก้มตาคุยกับโน้ตบุ๊กอยู่อีกคนจึงรีบหยิบคุ้กกี้รสกาแฟไปป้อนให้ถึงที่ ซึ่งเกรย์ก็อ้าปากรับขนมเข้าไปเคี้ยวตามความเคยชินโดยไม่สนใจสายตาของมารดาที่มองมาด้วยความสนใจ

“เกรย์ก็กินด้วยงั้นเหรอ” คาร่าเลิกคิ้ว จำได้ว่าลูกชายของเธอไม่เคยแตะต้องขนมชนิดใดเลยมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าใครจะบอกว่าอร่อยเพียงใดก็ไม่สนใจ หากเมื่อถูกเด็กคนหนึ่งป้อนให้กลับรับไปกินอย่างง่ายดาย ต่อให้ชอบพอกันอย่างไรก็ดูจะน่าประหลาดใจเกินไปหน่อย “ต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือไง”

“ผมไม่ได้ฝืน” คนที่ก้มหน้าก้มตามานานเหลือบมองมารดาครู่หนึ่งแล้วก็ไม่สนใจอีก กลายเป็นคนทำคุ้กกี้ที่ยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจขณะเฉลยคำตอบให้คนที่สงสัยฟัง

“ผมรู้ว่าเกรย์ชอบรสชาติแบบไหนก็เลยลองผิดลองถูกทำดูครับ ตอนแรกๆ เขาก็ไม่กินหรอก แต่เพราะคอยบอกตลอดว่าหวานไป ขมไป หรืออะไร สุดท้ายก็เลยได้รสชาติที่เขากินได้ออกมา คุณผู้หญิงลองทานดูสิครับ” พอพูดจบลูกแกะน้อยก็ขยับกล่องคุ้กกี้ไปให้คาร่าอีกครั้ง ทั้งยังเฝ้ามองด้วยแววตาคาดหวังชนิดที่ไม่ว่าใครก็คงปฏิเสธไม่ลง แม้แต่คนที่เกือบจะทำตัวเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายก็ยังต้องเบนหน้าหนีความใสซื่อนั้นเช่นกัน

สุดท้ายคาร่าก็หยิบคุ้กกี้รสกาแฟขึ้นมาหนึ่งชิ้น และค่อยๆ ชิมรสชาติของมันด้วยความสนใจ คุ้กกี้รสกาแฟที่ประมุขทำไม่ได้อร่อยเลิศจนเทียบเท่ากับแบรนด์ดังๆ แล้วก็ยังห่างไกลจากความชอบของคาร่าไปมาก หากในฐานะแม่ เธอกล้าพูดว่ามันคือรสชาติแบบที่ลูกชายของเธอกินได้จริงๆ เป็นรสแบบที่ต่อให้ลงมือเข้าครัวเองก็ไม่รู้ว่าจะทำออกมาได้หรือเปล่า

“ขมไปหน่อย” ดวงตาคมคล้ายลูกชายเหลือบมองใบหน้าจ๋อยสนิทของคนฟัง ก่อนจะกระแอมออกมาและพูดต่ออย่างไม่แน่ใจนัก “มีรสอื่นที่หวานกว่านี้หรือเปล่า”

คำถามนั้นไม่ได้ทำให้ประมุขตกใจเพียงผู้เดียว เพราะแม้แต่เกรย์ซึ่งกำลังทำงานแต่ก็ยังเงี่ยหูฟัง เนื่องจากกลัวมารดาพูดจาทำร้ายลูกแกะของเขาก็ยังเงยหน้ามองด้วยความไม่เข้าใจ กระทั่งผ่านไปนานนับนาที เมื่อคาร่ากระแอมอีกครั้ง ประมุขจึงหลุดออกจากภวังค์และยิ้มด้วยความยินดี

“มีครับ ด้านนี้จะเป็นรสวนิลากับช็อกโกแลต ครั้งหน้าผมว่าจะลองทำรสอื่นๆ เพิ่มอยู่เหมือนกัน ถ้าอยากลองรสไหนบอกได้เลยนะครับ”

“อืม”

พอเห็นว่าคาร่ายอมพูดคุยด้วย ลูกแกะของเกรย์ก็ยิ่งอารมณ์ดี หานั่นหานี่มาชวนคุยไม่มีหยุด หากสิ่งที่น่าแปลกกลับเป็นการที่คาร่าไม่ได้เอ่ยขัดหรือหันหน้าหนีอะไร เธอเพียงพยักหน้าบ้างเป็นบางคราว และตอบเท่าที่อยากตอบ แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้บรรยากาศอันน่าอึดอัดบนรถดูดีขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าแล้ว

หลังจากใช้เวลาเดินทางนานเกือบสองชั่วโมง ในที่สุดรถก็มาจอดอยู่หน้าบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่ที่เกรย์ต้องเข้าไปคุยงาน ตอนแรกเขาคิดว่าจะให้ลูกแกะนอนรออยู่บนรถ แต่พอมีแม่มาด้วยอีกคนจึงไม่แน่ใจนักว่าจะเอาอย่างไร หากในขณะที่กำลังคิดอยู่ ลูกแกะที่ดูอารมณ์ดีเกินกว่าจะง่วงนอนก็หันมาเขย่าแขนออดอ้อนทั้งหน้าซื่อๆ ที่เขาแพ้ทาง

“คุณรีบไปทำงานสิครับ เดี๋ยวสายนะ เราจะได้รีบไปเที่ยวกันต่อด้วย”

“ฉันไม่อยากปล่อยให้นายอยู่คนเดียว”

“ไม่ได้อยู่คนเดียวนะ มีพี่การ์ดอยู่ด้วย แล้วก็มีคุณผู้หญิงอีกคน”

ก็นั่นแหละที่น่าเป็นห่วง...

เกรย์มองแม่ตัวเองด้วยความไม่ไว้วางใจ แม้เมื่อชั่วโมงที่ผ่านมาจะดูเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน แต่เขาก็ยังไม่อยากให้ลูกแกะพูดคุยกับแม่เพียงลำพังสองคนอยู่ดี

“แม่ไม่รังแกคนของลูกหรอก” เสียงเย็นๆ ของคาร่าทำให้คนทั้งคู่หันกลับไปสนใจอีกครั้ง ซึ่งประมุขที่ได้ฟังก็ทำได้เพียงยิ้มและหันมาพยักหน้าเด๋อๆ ให้คนข้างกาย ขณะที่เกรย์ขมวดคิ้วมุ่นเพราะไม่อยากยินยอมเท่าไหร่นัก

“ฉันจะรีบกลับมา รออยู่บนรถนะ”

“ครับ” คนว่าง่ายพยักหน้าหงึกๆ หลับตาลงให้คนตัวสูงก้มลงจูบที่หน้าผากตามความเคยชินโดยไม่ได้สนใจสายตาของใคร ก่อนจะโบกมือส่งจนเกรย์เดินลงจากรถไปหาจิมที่รออยู่ด้านนอกแล้วก็รีบหันกลับมาทางเดิมอีกครั้ง

พอเกรย์จากไป บรรยากาศบนรถก็กลับมาเงียบสงบอยู่ครู่หนึ่ง เนื่องจากการ์ดกับคนขับด้านหน้าทำตัวเป็นอากาศธาตุอันไร้ตัวตนมาตั้งแต่ต้น คาร่าเองก็เอาแต่จับจ้องคนสำคัญของลูกชายคล้ายอยากรู้ว่าเขาจะทำยังไงต่อ ในเมื่อตอนนี้ไม่มีเกรย์คอยให้เอาหน้าแล้ว หากเด็กคนนี้ไม่ได้จริงใจกับเธอจริงๆ ก็คงเผยตัวตนออกมาจนหมด

ทว่า...

“คุณผู้หญิงจะทำอะไรระหว่างรอดีครับ ผมเห็นบนรถมีหมากรุกอยู่ เรามาเล่นด้วยกันดีไหม” รอยยิ้มใสซื่อและคำพูดที่ไม่ได้แตกต่างจากยามอยู่กับเกรย์ทำให้เธอดูราวกับเป็นคนโง่ ไม่รู้ว่าเมื่อกี้คิดอะไรแบบนั้นออกไปได้ยังไง ทั้งที่มองคนขาดมาโดยตลอดแท้ๆ

คงจะจริงอย่างว่า... พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับลูก ผู้เป็นแม่ก็ดูจะเอาความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่โดยไม่รู้ตัว

“เอาสิ”

“รอสักครู่นะครับ” คนที่สดใสเหมือนดวงตะวันคลี่ยิ้มกว้าง รีบหันไปคุ้ยหาเกมกระดานที่ตัวเองหยิบติดมาด้วยเพราะกะจะเอามาเล่นในช่วงที่ว่างออกมา พอตั้งกระดานเรียบร้อยแล้วก็เปลี่ยนท่าทีเป็นเคร่งขรึมจริงจัง “คุณผู้หญิงจะเริ่ม...”

“เธอเริ่มก่อนเลย”

“งั้นผมขอเล่นเต็มที่ ไม่เกรงใจนะครับ”

“เอาสิ”

คาร่าเอนกายพิงพนักโซฟาอย่างสบายใจ ขณะลอบสังเกตท่าทีของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยความสนใจไปด้วย มีหลายครั้งที่เจ้าของใบหน้าใสซื่อเผยสีหน้าเฉียบคมออกมายามต้องวางแผน และมีอีกหลายครั้งที่เผยใบหน้ามู่ทู่ยามพบว่าเธอดักทางได้หมด แต่ไม่ว่าจะพ่ายแพ้สักกี่เกม บนใบหน้านั้นกลับไม่ปรากฏวี่แววของการยอมแพ้เลยสักครั้ง

ยิ่งเล่นเกมที่ต้องใช้สมองมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งได้เห็นอะไรๆ ในตัวประมุขมากขึ้น และสิ่งที่ดูจะชัดเจนมากที่สุดก็คือความพยายามกับความอดทน...

“รุกฆาต!” เสียงประกาศชัยชนะด้วยความดีอกดีใจเป็นครั้งแรก หลังจากเล่นเกมมาเกือบสิบตาของประมุขไม่ได้ทำให้ผู้ฟังแสดงท่าทีไม่พอใจใดๆ ออกไป ตรงกันข้าม...คาร่ากลับมองคนที่ฉีกยิ้มกว้างและมองหน้าเธอด้วยแววตาคาดหวังราวกับอยากได้รางวัลเป็นคำชมนิ่งงัน

วินาทีนั้นเธอเพิ่งรู้ตัวเป็นครั้งแรก...ว่าเธอโง่มากเพียงใดที่ใช้เวลาไปอย่างเสียเปล่ากับการพยายามไล่เด็กคนนี้ออกไปจากชีวิตเกรย์

“ฉันแพ้แล้ว” ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ปิดลงอย่างเชื่องช้า ก่อนร่างบอบบางของผู้ที่เชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองมาโดยตลอดจะเอนกายพิงพนักโซฟาอีกครั้งด้วยความสบายใจ ไม่มีวี่แววของความเกลียดชังใดๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอีก

แม้จะยังไม่ได้อ้าแขนรับอย่างเต็มตัว ทว่าหัวใจของเธอกลับเริ่มเปิดออกทีละน้อย

และสักวันหนึ่งก็คงจะพ่ายแพ้ให้แก่เด็กตรงหน้าเหมือนเช่นหมากรุกตานี้

พ่ายแพ้...เหมือนเช่นลูกชายของเธอ

----------------

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.18]=[P.8]==[04/05/19]
«ตอบ #232 เมื่อ04-05-2019 20:31:25 »

 :hao3: น้องน่ารักขนาดนี้ไม่รักได้ไง
 :impress2:  :impress2:

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.18]=[P.8]==[04/05/19]
«ตอบ #233 เมื่อ04-05-2019 21:32:44 »

สรุปสุดท้ายบ้านนี้แพ้แกะทุกคนจ้า ลูกแกะชนะเลิศ 5555

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.18]=[P.8]==[04/05/19]
«ตอบ #234 เมื่อ04-05-2019 23:20:37 »

เสร็จลูกแกะหมดทุกคนสุดท้ายคุณแม่จะหวงลูกแกะมากกว่าใครๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.18]=[P.8]==[04/05/19]
«ตอบ #235 เมื่อ04-05-2019 23:38:24 »

เหลือใครที่แกะมุขยังไม่ได้ปราบบ้างเนี่ย  :hao3:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.18]=[P.8]==[04/05/19]
«ตอบ #236 เมื่อ05-05-2019 05:59:53 »

ความน่ารักและจริงจของลูกแกะ ชนะใจคุณแม่แล้ว หนทางข้างหน้าเริ่มสดใส :katai2-1:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.18]=[P.8]==[04/05/19]
«ตอบ #237 เมื่อ05-05-2019 10:15:54 »

รุกฆาต :mc3: :mc2: เอาชนะใจคุณแม่ได้แล้วจ้า

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.18]=[P.8]==[04/05/19]
«ตอบ #238 เมื่อ06-05-2019 00:41:37 »

ความเป็นตัวน้องจะชนะทุกอย่าง  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ┌▼3KINGS▲┘==ประมุข==[CH.18]=[P.8]==[04/05/19]
«ตอบ #239 เมื่อ06-05-2019 10:19:04 »

ลูกแกะทำได้แล้ว :sad4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด