“ระ...รางวัลเหรอ” ลูกแกะคนเก่งทำตาโต จากที่ไม่เคยเขินเคยอายอะไรเท่าไหร่ ยามนี้สองแก้มแดงก่ำน่าเอ็นดู เหมือนจะอึ้งค้างไปนาน ถูกรวบเข้าไปกอดก็ยังไม่รู้สึกตัว
“ไม่อยากฟังต่อแล้วเหรอว่าฉันจัดการยังไง”
“อยาก...อยากครับ”
เกรย์กระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นด้วยความมันเขี้ยว ซ้ำยังโคลงตัวลูกแกะของเขาไปมาราวกับเป็นเด็กตัวเล็กๆ ครั้งนี้ยินยอมไม่ดันใบหน้าอีกคนให้เงยมองกันเพราะสงสาร แค่ลูบหัวปลอบธรรมดา รอให้เจ้าตัวหายจากอาการเขินไปเองเท่านั้น
“ตอนนั้นเหมือนฝ่ายผู้หญิงก็สนใจฉันมากพอควร แรกๆ ทั้งพยายามเข้าหา พยายามมาเกาะแกะน่ารำคาญตลอดเวลา ฉันเลยบอกเธอว่าการอยู่ข้างกายฉันต้องโดนเพ่งเล็งชีวิตแทบจะตลอดเวลา ไม่รู้ว่าต้องตกอยู่ในอันตรายวันละกี่รอบ ซึ่งแน่นอนว่าฉันปกป้องคนของฉันได้ แต่ว่า...คนที่พ่อแม่เลือกไม่ถือเป็นคนของฉัน ถ้าคิดจะมาเป็นสะใภ้บ้านนี้แล้วดูแลตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพากันได้ก็ลองดู”
“ใจร้ายจัง...แล้วเธอว่ายังไงบ้าง”
“ก็เหมือนจะตกใจพอควร แต่โชคดีที่ผู้หญิงคนนั้นฉลาด ได้ยินแค่นั้นก็ยิ้มแล้วบอกว่าเข้าใจ ทั้งยังพูดว่าคนของฉันจะต้องน่ารักมากแน่ๆ คงเพราะคำพูดประโยคนั้นเราเลยยังติดต่อธุรกิจกันได้อยู่”
แม้ตอนนี้เขากับเธอจะไม่ได้พูดคุยกันมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว แต่หากได้เจอกันและถูกทักทายในงานเลี้ยงต่างๆ เกรย์ก็คงจะพูดคุยเรื่องธุรกิจอื่นๆ ได้เช่นเดิม หมายถึงถ้าจำหน้าได้นะ เพราะนอกจากจะฉลาดแล้วเธอคนนั้นยังมองออกได้ทะลุว่าเขาชื่นชอบอะไร และรู้ดีว่าเขามีคนของตัวเองอยู่แล้วโดยไม่ต้องพูดตรงๆ ลักษณะนิสัยที่ดูไม่จู้จี้น่ารำคาญเหมือนช่วงแรกทำให้เขาพอใจไม่น้อย โดยเฉพาะประโยคที่บอกว่าลูกแกะจะต้องน่ารักมากแน่ๆ...
ก็มันเป็นความจริงนี่นะ
“แล้วพ่อแม่คุณไม่ว่าอะไรเหรอ” คนขี้สงสัยที่น่าจะลืมเรื่องเมื่อครู่ไปแล้วเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาเป็นคำถาม แต่พอสบตาได้พักเดียวก็เหมือนจะนึกออกขึ้นมาอีกรอบ ถึงได้รีบหลุบตาหลบยกใหญ่แล้วกลับไปซุกอกกันเหมือนเดิม เกรย์มองท่าทางเหล่านั้นพร้อมรอยยิ้ม ตัดสินใจยอมปล่อยไปเพราะไม่อยากให้ลูกแกะเขินจนตัวแตก
“จะว่าอะไรได้ พอพูดกันแบบส่วนตัวจนเข้าใจ ทั้งฉันและเธอต่างไม่ได้คิดหรือพยายามเข้าหากันต่อ สุดท้ายพวกผู้ใหญ่ก็เงียบไปเอง”
“แล้ว...ผมต้องเตรียมตัวอะไรไหม หมายถึงก่อนไปเจอพ่อแม่คุณ”
“ไม่ทันแล้ว” จบคำพูดของเกรย์ รถคันหรูก็จอดนิ่งไปในที่สุด ลูกแกะน้อยในอ้อมแขนของเขาที่นิ่งเงียบมาตลอดสะดุ้งจนตัวโยน รีบเด้งไปนั่งบนเบาะด้านข้างแล้วเปิดม่านมองออกไปด้านนอกด้วยท่าทีตกอกตกใจ
“ทำไมไวแบบนี้!”
“อันที่จริงก็ไม่ได้ไวนะ...” เป็นเพราะเขาตั้งใจชวนคุยให้ลูกแกะผ่อนคลายต่างหาก แต่เหมือนจะผ่อนคลายเกินไปนิด พอถึงเวลาเลยแตกตื่นแบบนี้ “ลูกแกะ หันมามองฉัน”
“อือ” ถึงจะทำเหมือนสติแตกขนาดไหน เมื่อได้ยินเกรย์บอกให้ทำอะไร ประมุขก็หันไปทำตามแทบจะทันทีโดยไม่คิดถาม เขาหันกลับไปหาคนเรียก จ้องมองดวงตาสีฟ้าแสนสงบคู่นั้นอยู่นานจนรู้สึกใจชื้นขึ้นจึงบีบมืออีกคนตอบเพื่อสร้างกำลังใจ
“ลูกแกะแค่เป็นตัวเองก็พอ... โอเคไหม”
“แค่...เป็นตัวเองเหรอ” ประมุขแสดงสีหน้าไม่มั่นใจนัก เพราะเคยโดนด่าว่าซื่อบื้อบ่อยๆ ความมั่นใจเรื่องนิสัยของตัวเองจึงแทบเป็นศูนย์ แต่เพียงแค่คิดจะทำหน้าหงอยก็ถูกฉุดดึงให้หันกลับไปสนใจคนที่เริ่มขมวดคิ้วเป็นเชิงไม่พอใจอีกครั้ง
“ใช่สิ ขนาดฉันคนนี้ยังหลงรักลูกแกะที่เป็นตัวเอง แล้วจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรอีก สนใจแค่ฉันก็พอ เชื่อเถอะว่าสองคนนั้นใจแข็งได้ไม่นานหรอก”
ลูกแกะตัวน้อยที่เชื่อฟังคำพูดของเกรย์ยิ่งกว่าอะไรมาตั้งแต่แรกยอมพยักหน้าเมื่อถูกจ้องด้วยแววตามั่นคงไม่ไหวหวั่นต่อสิ่งใด หลังจากชาร์จพลังโดยการบีบมือคนตัวสูงอยู่นานเกือบนาที ในที่สุดเขาก็ยอมเดินลงจากรถ ปล่อยให้การ์ดเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังตามปกติ ขณะที่สายตากวาดมองสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ตรงหน้านิ่งงัน
‘บ้าน’ ของพ่อแม่เกรย์ไม่ใช่บ้านธรรมดาๆ แต่เป็นคฤหาสน์หรูที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบ มีบอดี้การ์ดยืนอยู่ตามจุดต่างๆ หลายจุด ยังไม่นับบรรดาพวกที่เฝ้าอยู่นอกรั้วซึ่งประมุขไม่ทันมองเพราะมัวคุยกับเกรย์อยู่บนรถอีกไม่รู้กี่คน มองๆ ไปแล้วที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นแหล่งกบดานของคนสำคัญอย่างไรอย่างนั้น
“ที่นี่เป็นบ้านพักส่วนตัวของครอบครัวฉัน ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามาโดยพลการ เว้นแต่ว่าจะมีคนในพาเข้ามา...ซึ่งก็ไม่มีมานานมากแล้ว” เกรย์ก้าวเท้าลงไปยืนข้างลูกแกะที่มองทางเข้าบ้านของเขาตาลอย ก่อนจะจับมืออีกคนไว้ เรียกให้ลูกแกะกลับมาได้สติอีกครั้ง “อย่างที่เห็นว่าค่อนข้างจะเล็ก ไม่ได้มีพื้นที่มากมายเท่าไหร่ เอาไว้ตอนว่างๆ ฉันจะพาลูกแกะข้ามไปที่เกาะส่วนตัว ที่นั่นสวยกว่านี้หลายเท่า”
“นี่เล็กเหรอ...”
“เล็กสิ ไม่กี่ร้อยไร่เอง” เขาทำหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นลูกแกะน้อยมองมาด้วยสีหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
“เอาเถอะ... ผมพร้อมแล้ว” คนน่ารักสูดหายใจเข้าแล้วยิ้มอย่างสดใส ทำให้โลกที่ดูมืดมนของเขามีสีสันตามไปด้วย เกรย์กระชับมือที่จับไว้ให้แน่นขึ้นเล็กน้อย พร้อมทั้งส่งรอยยิ้มกลับไปให้ และค่อยๆ พาลูกแกะเดินเข้าไปด้านใน โดยไม่มีการ์ดคนใดก้าวเท้าตามเข้าไปแม้แต่คนเดียว
พื้นที่ด้านในของบ้านขนาดใหญ่กว้างขวางมากจนมองแทบไม่ออกว่าต้องเดินไปทางใดจึงจะถูก ประมุขได้แต่หันซ้ายหันขวามองการประดับตกแต่งที่ดูงดงามและมีราคาอย่างตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟ แจกัน กระทั่งของชิ้นเล็กๆ ที่ใช้วางตกแต่งก็ดึงดูดความสนใจของเขาได้หมด ถ้าไม่ใช่เพราะถูกจูงมือไว้ เห็นทีคงวิ่งเข้าไปดูใกล้ๆ ตามนิสัยคนชอบของแปลกไปแล้ว
“ลูกแกะ...”
“ครับ” ประมุขหันไปตอบรับคำเรียกพร้อมรอยยิ้ม หากยังไม่ทันได้ถามว่ามีอะไรหรือเปล่า เสียงแก้วกระทบโต๊ะที่ดูจงใจทำให้ได้ยินก็ดังขึ้นแบบพอดิบพอดี
“ยืนทำอะไรไร้มารยาทอยู่ได้ ทำไมไม่เข้ามาทักทายเจ้าของบ้าน”
ประมุขกะพริบตาปริบๆ เมื่อได้ยินเสียงพูดเป็นภาษาอังกฤษดังขึ้นจากห้องที่เปิดประตูทิ้งไว้ทางด้านขวา ขณะที่เกรย์ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังจูงมือคนข้างกายเดินเข้าไปในนั้นโดยไม่ได้พูดอะไร
ห้องรับแขกที่แยกมาจากโถงกลางอีกทีเป็นห้องขนาดใหญ่ที่มีการประดับตกแต่งอย่างสวยงามไม่ต่างจากด้านนอก หากสิ่งที่ทำให้ประมุขสนใจมากที่สุดในยามนี้ไม่ใช่ชั้นวางของที่เต็มไปด้วยของมีราคา หรือโคมไฟระย้าที่น่าจะแพงระยับ แต่เป็นสองสามีภรรยาชาวฝรั่งเศสที่นั่งนิ่งจิบชาอยู่บนโซฟาขนาดใหญ่ตรงหน้าเขา
ชายวัยกลางคนที่ยังคงดูดีและหน้าตาคล้ายเกรย์เกินหกส่วน กับหญิงสาวหน้าตาสะสวยที่ดูราวอายุสามสิบต้นๆ ทั้งที่จริงๆ ควรจะมากกว่านั้น พวกเขาดูราวกับไม่ใช่คนธรรมดาในสายตาของประมุข เพราะนอกจากจะมีใบหน้าเยือกเย็นราวกับคนที่ผ่านโลกมามาก บรรยากาศกดดันรอบกายยังชัดเจนเสียจนคนสบายๆ อย่างเขายังสัมผัสถึงมันได้อย่างชัดเจน
“จะไม่แนะนำตัวหรือไง” หญิงสาวที่นั่งหน้านิ่งคนเดิมพูดซ้ำเป็นเชิงเตือน ขณะหยิบแก้วน้ำขึ้นจิบด้วยท่าทางของผู้ดีมีมารยาท
“สวัสดีครับ” ประมุขที่เพิ่งรู้สึกตัวปล่อยมือเกรย์ออก ก่อนจะยกมือไหว้แล้วยิ้มกว้างตามนิสัย “ผมชื่อประมุขครับ”
“เรียกฉันว่า...” เจ้าของบ้านเหลือบตามองประมุขด้วยสีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ แต่เพียงแค่เอ่ยประโยคถัดมา ใบหน้าของคนร่าเริงก็ดูซึมลงไปเล็กน้อยในทันที “คุณผู้หญิง”
“ไม่ต้อง”
“เกรย์...” ลูกแกะน้อยหันกลับไปมองคนพูดแทรกอย่างตกใจ ไม่คาดคิดว่าเกรย์จะตัดบทคำพูดของแม่ตัวเองด้วยน้ำเสียงเย็นชาแบบนั้น
“ผมไม่ได้พาเขามาที่นี่เพื่อเป็นคนนอก และยิ่งไม่ได้พามาเพื่อเป็นคนใช้หรือบอดี้การ์ด เพราะงั้นไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องเรียกคุณแบบนั้น”
“ไร้มารยาท”
“พอได้แล้ว” เสียงทุ้มต่ำของชายผู้อยู่เหนือทุกคนในบ้านดังขึ้นเป็นการตัดบทสนทนาระหว่างลูกชายกับภรรยาของตัวเอง เอริคจ้องมองคาร่าเป็นเชิงปราม ก่อนจะหันกลับไปมองคนมาใหม่ที่ดูตื่นเต้นอยู่บ้าง แต่กลับไม่มีความหวาดกลัวแฝงอยู่ในดวงตาเลยแม้แต่น้อยเป็นเชิงสำรวจ ดวงตาคู่คมที่เหมือนเกรย์ราวถอดแบบกันมากวาดมองร่างของประมุขอยู่สองสามครั้ง จากนั้นก็หันกลับไปมองลูกชายที่ยืนสงบนิ่ง หากสีหน้ากลับบ่งบอกชัดเจนว่าพร้อมปกป้องคนข้างกายตลอดเวลา “พาเขาไปพัก พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากัน”
“คุณคะ...”
“ขอบคุณครับพ่อ” เกรย์พยักหน้าให้บิดาเล็กน้อยแล้วหันไปจับมือลูกแกะที่ยังดูจับต้นชนปลายไม่ถูก กึ่งลากกึ่งจูงให้เดินออกไปจากบริเวณนั้นด้วยความรวดเร็ว ทิ้งให้คุณผู้หญิงของบ้านมองตามด้วยท่าทางไม่พอใจไปจนสุดสายตา
“ทำไมปล่อยให้ไปง่ายแบบนี้” คาร่าหันไปมองสามีที่ยังคงยกน้ำขึ้นจิบด้วยท่าทีไร้อารมณ์ “เอริค คุณก็รู้ว่าเด็กนั่นเป็นคนธรรมดา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า...”
“อย่าพูดว่าเขาไม่รู้ คุณส่งคนไปเล่นงานเขามาแล้วไม่ใช่หรือไง”
“เรื่องนั้น...”
“ทำอะไรให้มันมีขอบเขตบ้าง ที่นั่นไม่ใช่ที่ของเรา อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย คุณอยากจะทดสอบเขาหรืออยากจะผลักเขาออกไปผมไม่ว่า แต่อย่าได้เล่นนอกกติกาของกฎหมายโดยเด็ดขาด” ดวงตาคมดุดันมองหน้าภรรยาเป็นเชิงตักเตือน แม้แต่น้ำเสียงก็เข้มขึ้นหลายส่วน “อย่าลืมว่าคุณเป็นคนปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขั้นนี้เอง ทั้งที่มีโอกาสกำจัดเขาทิ้งตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนที่เกรย์ยังไม่แข็งแกร่งพอแล้ว”
“นั่นเพราะฉันไม่คิดว่าลูกจะจริงจังถึงขั้นนี้”
“แล้วยังจะโทษใครได้อีกเล่า...” เอริคทอดถอนใจเบาๆ เพราะเขาเองก็ไม่ได้แตกต่างจากภรรยาเท่าไหร่นัก “แน่นอนว่าผมไม่ได้ชอบใจที่คนรักของลูกเป็นผู้ชาย แต่คุณก็รู้ว่าสิ่งที่ผมไม่ชอบยิ่งกว่าคืออะไร เพราะงั้นอย่าได้ทำมันอีกเป็นครั้งที่สอง”
“คุณพูดเหมือนยอมรับได้”
“ได้หรือไม่ได้ผมจะตัดสินใจเอง คุณอยากทำตัวเป็นแม่ใจร้ายก็ทำไป แต่อย่าลืมแล้วกันว่าถ้าลูกชายของคุณโมโหขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น แม้แต่ผมก็ช่วยคุณไม่ได้หรอกนะ” พูดจบผู้นำของบ้านก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินจากไปโดยไม่รอฟังคำตอบใดๆ ทิ้งให้คุณผู้หญิงถอนหายใจและส่ายหน้าอยู่กับตัวเองเพียงลำพัง
“เหมือนกันแทบทุกอย่าง...”
--------------------
สำคัญ : สำหรับคนที่ต้องการเก็บน้องมุขแบบเป็นรูปเล่ม รบกวนเข้าไปทำแบบสอบถามความต้องการให้หน่อยนะคะ
ลิงก์แบบสอบถาม:
https://drive.google.com/open?id=1_rJXCX8iXW144Pv9nqF6n8KfdNoAq9SwbGy33lYMLOw