☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀  (อ่าน 65749 ครั้ง)

ออฟไลน์ TheSpaceOfM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จุดนี้พี่กับน้องจะทำอะไรกัน จะยังไงจัดไปเลยค่ะ คนพี่นี่ทุ่มสุดตัว คนน้องก็ใจสู้ ใจมันได้ ฮือออ อยากอ่านต่อไม่ไหวแล้ว ตอนที่ทั้งคู่รักกันมันต้องเต็มไปด้วยความรักและความหลงใหลมากแน่ๆเลยค่ะ รอติดตามนะคะ ส่งกำลังใจให้คุณนักเขียน

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
น้องป่านจะถูกใส่กุญแจมืออออ แส้พร้อมเทียยพร้อม

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
โอ้วววววววว

ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
ลายที่ 10

Play

(ลวงเล่นบาป)


มีเด็กน้อยพยายามยั่วยวนเขา วารู้ทัน



เด็กตาใสที่ไม่ใสอย่างหน้าตากำลังหยอกเย้าเล่นกับสัตว์ร้าย ล่อให้อยากฝังเขี้ยวพ่นพิษ รัดรึง กลืนกินลงไป แทบคลั่ง แทบพ่ายแพ้ให้กับความเย้ายวน



กลิ่นหอมราคะ กลิ่นเยาว์วัยหวาน กลิ่นบาปต้องห้ามก่อกวนชวนให้หวามไหวงุ่นง่าน อยากรวบกินเสียเดี๋ยวนั้นทว่าต้องห้ามใจ



‘บางครั้ง ความเจ็บปวดก็เป็นศิลปะนะครับ... พี่ว่าไหม’



หึ ไปเอาคำพูดแบบนี้มาจากไหนกัน เด็กดื้อ



“เฮียครับ พี่เขา...ไม่อยู่เหรอครับ”



ไม่ทันหาวิธีตั้งรับเจ้าของเสียงหวานก็กลับมาคนขุ่นความคิดฟุ้งซ่านที่เพิ่งจะสงบไม่นาน หนึ่งวันเต็มๆ ที่วาโดนความร้ายเดียงสาสะกดลึกตรึงความคิดเวียนซ้ำไปซ้ำมา เล่นงานจนหัวใจเต้นตุบ ความรู้สึกบางอย่างพลุ่งพล่าน เมื่อกำแพงความลับที่ปกปิดไว้คลี่คลายง่ายดาย ความกังวลหนึ่งในร้อยของความสัมพันธ์ทลายจาง



“กินเหล้าอยู่หลังร้าน”



“กินเหล้า? เพิ่งหกโมงเย็นเองนะครับ”



ได้แต่หวังว่าวันนี้เนื้อหวานขบเผาะจะไม่ออกลายยั่วยวนตบะเขาเกินไปนัก



“อืม มันกำลังคิดหนัก”



“คิดหนัก เรื่องอะไรครับ?”



ไม่อย่างนั้นคงแตกเตลิดไม่มีใครควบคุมได้



“หึ ก็คิดหนักว่าจะยอมอกหัก หรือติดคุกฐานพรากผู้เยาว์”



...เพราะเขาเองก็ใช่ว่าจะอยากควบคุมมัน



เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอไม่ได้ทำให้คนที่นั่งอยู่บนพื้นรู้ตัว มือข้างหนึ่งคีบบุหรี่รมควันส่วนอีกข้างถือขวดเบียร์ที่หมดนานแล้วแต่ยังถือไว้อย่างนั้น ขมวดคิ้วครุ่นค้าง ข้างกันคือโมโจที่กำลังก้มหน้าก้มตากินอาหารเย็นไม่รู้เรื่องรู้ราว



หลังร้านไม่ใช่ส่วนน่าดูเท่าไหร่ ต่างจากหน้าร้านที่ถูกจัดวางอย่างต้อนรับ ด้านหลังเป็นเพียงครัวรกๆ เชื่อมต่อกับสวนเล็กๆ ที่กั้นระหว่างโรงรถกับตัวอาคาร ทว่าไม่ใช่สถานที่ต้องห้าม ไม่นานป่านก็เดินมาหยุดตรงหน้าร่างสูงที่นั่งเหยียดขายาว ดวงตาคมมองเห็นสร้อยข้อเท้าเป็นสิ่งแรก ไล่เรื่อยขาเรียวขาวอวัยวะได้สัดส่วนใต้ชุดนักเรียนผ่านตาอย่างช้าๆ กระทั่งสบดวงตาหวาน



“หวัดดี ผู้เยาว์” เลิกคิ้วประหลาดใจ ก่อนยกมุมปากยิ้มทักทาย



วันนี้พี่วาไม่ได้ไปรับเพราะติดลูกค้าที่จองคิวไว้ ป่านไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่การไม่ได้เห็นหน้าหลังจากตอบสนองความลับทำให้น้องติดใจ



พี่วาจำเป็นต้องใช้เวลาครุ่นคิดบางอย่าง ชั่งใจ ตัดสินใจ



“ผม...มารบกวนหรือเปล่า?”



“มานี่ดิ” แต่ไม่ต้องห่วง คำตอบนั้นแสนง่ายดาย



“...” ดวงตาววับท่าทางเจ้าเล่ห์ทำให้น้องไม่กล้าทำตามคำสั่งในทันที หรืออาจเพราะเกรงใจ



ไม่ใช่ด้วยสถานที่แต่กลัวใจที่จะอยู่ใกล้เขาต่างหาก



ก็ตอนนี้พี่วาอยู่ในสภาพที่น้องเคยชินเสียที่ไหน



เคยคิดว่าใส่สูทดูแปลกตาแล้ว ทว่าร่างกายเปลือยเปล่าตรงหน้านั้นแปลกตาไปกันใหญ่ เคยไม่กล้ามองยังไงก็ยังไม่กล้าอยู่อย่างนั้น ร่างกายกำยำใต้เสื้อผ้าที่เห็นเพียงแวบเดียวก็ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ยิ่งพอได้เห็นรายละเอียดบางอย่าง ใบหน้าน้องก็เห่อซ่าน



...พี่วาเจาะหน้าอกด้วย



บาร์เบลสีเงินสะท้อนแสงเตะตาอยู่กลางแมกไม้ลวดลายสวนสวยที่ลามขึ้นมาจากท่อนแขน เห็นแค่นั้นก็ได้แต่ก้มหน้ามองเท้า คล้ายจะสำรวจฝีเท้าที่ค่อยๆ ก้าวก่อนนั่งลงข้างๆ โดยมีโมโจคั่น



“เฮียบอกว่าพี่กำลังคิดหนัก แล้วคิดออกหรือยังครับ... ว่าจะเลือกทางไหน” งึมงำ ...เด็กใจกล้าเมื่อวานกลับเหลือเพียงเด็กน้อยขี้อาย ทั้งหน้าทั้งหูลามถึงคอกลายเป็นสีแดงจัดอย่างน่ามันเขี้ยว



“ออกแล้ว”



“หืม?”



เห็นแบบนี้จะไม่แกล้งได้ยังไง



“อ่ะ เอาไป” วาหยิบบางอย่างที่ซ่อนไว้ออกมาโยนใส่ตักเด็กน้อยที่เบิกตากว้างตกใจ



“ครับ? พี่... นี่มัน...กุญแจมือ?”



กลิ่นเก่าไม่ทันจางกลิ่นใหม่ก็กวนเคล้าเย้ายวนขึ้นมาอีกจนได้



“อือ”



“ทำไม…”



“กำลังอยากลองใช้อยู่พอดี”



กลิ่นบาปหวานอันตรายที่ไม่มีใครเกรงกลัว









มีผู้ใหญ่บางคนกำลังล่อลวงน้อง ป่านจับได้



“เจ็บไหม”



น้องส่ายหน้ามองพันธนาการเหล็กที่คล้องข้อมือล็อกแขนของคนสองคนเขาด้วยกัน มันเสียดสีบาดเนื้ออ่อนในทุกคราวที่ก้าวไปข้างหน้า บางครั้งฉุดกระชากตามจังหวะของผู้นำทางสี่ขา แต่กลับทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากกว่า



พี่วาบอกว่าจะพาโมโจมาเดินเล่น



คำบอกเล่าที่สร้างความเร้าใจด้วยผ้าปิดตาสีดำที่คาดไว้ขณะที่ยานพาหนะเคลื่อนที่โดยไม่รู้ทิศทาง ตลอดทางหัวใจป่านเต้นไม่เป็นส่ำ ความรู้สึกอธิบายยาก ตื่นเต้นระคนหวาดระแวง



แต่พี่วาไม่โกหก เมื่อเปิดตาออกมาสถานที่ตรงหน้าคือสวนสาธารณะที่ป่านจำได้ว่าอยู่ไม่ไกลจากร้านสักนัก พี่วาหัวเราะกับสีหน้าสับสน ก่อนจะเริ่มทำสิ่งที่น่าสับสนกว่าด้วยการล็อกข้อมือทั้งสองคนไว้ด้วยกัน



มันคือการทดสอบความไว้ใจ



ไม่เคยปรากฏในตำรา ยากจะเข้าถึงในสังคมที่ยังไม่เปิดกว้าง เส้นทางดำมืดจำเป็นต้องทำความเข้าใจ เขาไม่



อยากให้น้องตื่นตระหนกกับสิ่งที่ยังซ่อนไว้ จำเป็นต้องรู้ว่าเด็กน้อยอ่อนประสบการณ์สามารถรับตัวตนหลังม่านของเขาได้แค่ไหน



ไม่เร่งร้อน บุ่มบ่าม ไม่ควรให้เซอร์ไพรซ์ประสบการณ์ล้มเหลวในความสัมพันธ์สอนให้เขาค่อยๆ ก้าว



...แต่ถึงตอนนี้ก็ช้าเกินไปแล้ว



พอเอาเข้าจริงเขาก็เสียเวลาคิดครุ่นงุ่นง่านมากกว่าจะทำอะไรให้ได้ดั่งใจ เช่นตอนนี้นอกจากเดินตามโมโจไป



เรื่อยๆ ก็แทบจะไร้บทสนทนา



กระทั่งน้องต้องเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมา



“ผมมีอะไรจะให้ด้วยครับ” เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ป่านล้วงหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง



ยางรัดผมเล็กๆ ที่มีลูกปัดพาวเวอร์พัฟเกิร์ลสามเส้น



“ผมเห็นของพี่มันเก่าแล้ว” อมยิ้มมองคิ้วเข้มที่เลิกขึ้นสีหน้าตกใจ พี่วาอึกอักแต่สุดท้ายก็รับไปคล้องกับแขนอีกข้างของตัวเองไว้ปากบ่นพึมพำว่าน้องรู้ได้ยังไง



พี่ต่างหากที่ไม่รู้ไม่เคยเท่าทันว่าน้องสังเกตมานานแล้วว่านอกจากรสนิยมรุนแรงอีกขั้วหนึ่งพี่วากลับมีมุมสดใสเกินคาด



“ชื่อโมโจนี่มาจากโมโจ โจโจ้ใน The Powerpuff Girls เหรอครับ” บรรยากาศชวนประหม่าผ่อนคลาย ประเด็นหมกมุ่นถูกปัดเบี่ยงด้วยคำถามไร้เดียงสาที่ทำเอาคนถูกถามตาเป็นประกาย



“เฮ้ย รู้ได้ไง” โธ่ ก็นอกจากโมโจแล้วยังมีบับเบิ้ลส์ บลอสซัม บัตเตอร์คัพ แบบนี้จะไม่ให้เดาถูกได้ยังไง “ดูเหมือนกันเหรอ ชอบตัวไหน”



ป่านหัวเราะ ส่ายหน้า ผิดกันเลยกับพี่วาคนที่เพิ่งจะเอาแต่เงียบมาเป็นชั่วโมง “เปล่าครับ เห็นน้องผู้หญิงข้างบ้านดู”



ดวงตาซื่อใสเปลี่ยนเป็นรั้นร้าย เอ่ยประโยคล้อเลียน “เป็นอีกครั้งที่พวกเราปลอดภัย ขอบคุณเหล่าพาวเวอร์พัฟฟ์เกิลส์นะครับ”



คนถูกล้อหยุดชะงัก กะพริบตาปริบๆ ก่อนจะหลุดหัวเราะเบาๆ



เด็กร้าย



สองขาก้าวตามโมโจที่กระตุกให้เดินอีกครั้ง ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพักแม้แสงอาทิตย์ลาลับเหลือเพียงแสงไฟข้างทางล้อแสงตะวัน มือสองข้างยังคงถูกล็อกติด ลดเสียดสีเมื่อฝ่ามือที่ใหญ่กว่ากุมมือน้องไว้แล้วซุกลงกระเป๋าแจ็กเกตยีนที่สวมมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ



พี่วามักจะดึงมือของน้องไปซุกในกระเป๋าเมื่อมีคนผ่านมาเพื่อปกปิดสองมือที่พันธนาการ ทว่าตอนนี้สวนสาธารณะจะเกือบร้าง บริเวณที่พวกเขาเดินอยู่ก็ยังไม่มีใครผ่านมาสักคน



อาจเพราะหัวค่ำแล้วอากาศเริ่มเย็นขึ้นหน่อยล่ะมั้ง พี่คงกลัวน้องจะหนาว



“พี่ไม่ได้จีบใครมาหลายปีแล้ว” นานทีเดียวกว่าเสียงทุ้มต่ำจะเอ่ยขึ้นมาเคล้ากับเสียงลมพัดต้นไม้แผ่วเบา



ถ้าตัวคนเดียวป่านคงไม่มา แต่เพราะมีพี่วาอยู่ด้วย...คงไม่อันตราย



“งานรัดตัวแทบไม่มีเวลาว่าง คงไม่ได้ชวนออกไปกินข้าว ดูหนัง เดินห้างบ่อยๆ”



“ผมก็เหมือนกัน” เพราะใกล้จะถึงเวลาสอบเข้ามหาลัยนอกที่โรงเรียนกับสถาบันกวดวิชาก็แทบไม่ได้กระดิกตัวไปไหน แม้แต่ร้านพี่วาก็คล้ายจะเป็นสถานที่ติวหนังสือยามว่างของน้องมากกว่า



ดังนั้นป่านไม่ได้อยากเรียนรู้ตัวตนอีกคนผ่านการกินข้าว ดูหนัง แต่เป็นการได้เห็นเขาในแต่ละวัน สีหน้าคร่ำเคร่งตอนทำงาน รอยยิ้มทะเล้นร้ายียวนตอนเล่นกับเพื่อน หรือกระทั่งงอแงกระงอดกระเง้ากับลูกชายสี่ขาที่ไม่ค่อยเชื่อฟัง



ป่านรู้จักพี่วาจากสิ่งเหล่านั้น



หรือแม้แต่ความลับ...



“สิ่งที่พี่ต้องการคือการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ถามในสิ่งที่อยากถาม บอกในสิ่งที่ต้องการ” เรื่องรสนิยมบนเตียงของเขา ป่านรู้ว่ามันคือเรื่องสำคัญ อาจเป็นตัวกำหนดว่าความสัมพันธ์จะเดินหน้าไปด้วยกันหรือแยกทาง



“ป่านเข้าใจครับ”



เด็กน้อยเลือกที่จะร่วมทาง



“ถ้าอย่างนั้นพี่มีคำถาม” สองเท้าหยุดชะงัก ทั้งโมโจทั้งป่านหยุดชะงักตาม เงยหน้าสบดวงตาสีหม่นที่กำลังเปล่งประกายอ่านยาก “หนูไว้ใจพี่ไหม”



หม่นสลัวเผยวาววับของดวงตาอสรพิษร้ายล่อหลอกให้ลิ้มลองผลไม้รสหวาน



แอปเปิ้ลต้องห้ามส่งกลิ่นเย้ายวนอยู่ตรงหน้าใครจะห้ามใจ



“ตอบป๊ะป๋าสิคะ”



เด็กน้อยมองใบหน้าเรียบนิ่งท้ายทายก่อนเผยยิ้มเข้าใจความหมาย... ในแสงสลัวเงาไร้เดียงสากลับคืบกลืนด้วยรั้นร้าย



มันคือกาลเล่น มันคือเกมสวมบทบาท



คนหนึ่งคือทาส คนหนึ่งคือนาย



สอดประสานนิ้วมือที่ยังซุกซ่อนในกระเป๋า เขย่งสบตา ลมหายใจจรดได้กลิ่นแอลกอฮอล์จาง ก่อนเอ่ยกระซิบพร่าชิดริมฝีปาก



“Yes, Daddy”



...เราจะมาเล่นเกมนี้ไปด้วยกัน




#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

ต่างคนต่างล่อลวงงง เจ้าพวกร้ายกาจจจ ><



ถ้ามีอะไรผิดพลาดท้วงติงได้เลยนะคะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

รักมากๆ

-Martian-
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-07-2019 19:05:13 โดย makok_num »

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
บร๊ะะะะะ พี่วา บังอาจจะเป็น daddy เดี๋ยวเจอน้องวาคลานขึ้นตัก ละจะร้องไม่ออกกกกก

ออฟไลน์ Shmew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :-[ :o8: โอ้โห  ต่างคนต่างร้ายย กลิ่นอายตีวละครเซ็กซี่มากค่ะ

มาต่อไวๆนะคะ

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ตาย ตายๆๆๆๆ ขอยาดมที  :dont2:  ตอนแรกก็กังวลเป็นห่วงหนูป่านกลัวจะเดินหลงไปเข้าปากสิงโต  แต่ในเพลานี้นั้น .... คำถามเดียวสั้นๆ “ไหวไหม daddy?”  :z3:

ออฟไลน์ tipppppp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
วี้ดดดดดดดดดดดดดดด จะเป็นลมมมมมมมมม :heaven

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
plss daddy !! ทางนี้เกียมยาดมแล้วค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ncต้องมาแล้วปะคะ ตื่นเต้นนนนน

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
แซบ!! แซบแน่ๆ คู่นี้แซบแน่ๆ!!

ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
ลายที่ 11

Riptide

(ครืนคลื่นคลั่ง)


มีคนกำลังอารมณ์ดีผิดปกติ

               

ปกติแล้วเวลาที่หม่ามี้บอกว่าจะมารับช้าเพราะติดประชุมป่านมักจะมีสีหน้าเบื่อซึมเพราะต้องรอนาน แต่เดี๋ยวนี้นอกจากจะไม่ซึมเซื่อง กลับมีสีหน้าดีใจ ดวงตาเป็นประกายวาวจนสังเกตได้



“ป่านให้เพื่อนมาส่งก็ได้ครับ”



เหตุเพราะเด็กน้อยจะได้มีเวลาเถลไถลกับเพื่อนใหม่ที่หม่ามี้เพิ่งได้ยินชื่อไม่นาน



“โมโจเหรอจ๊ะ” เด็กเลี้ยงแกะชะงักไปนิดหน่อย ก่อนจะพยักหน้าไม่กล้าพูดอะไรอีกเพราะน้ำท่วมปาก



มือใหม่หัดโกหก ปดเพียงไม่กี่ครั้งก็ครั่นเนื้อครั่นตัวอยากบอกความจริงจะแย่ว่าโมโจเป็นเพียงสุนัขที่เจ้าของร้านสักเลี้ยงไว้



เจ้าของร้านสักที่ป่านซ่อนไว้ในความสัมพันธ์อธิบายยาก



ถึงจะยังไม่คืบหน้าไปไหนไม่มีอะไรชัดเจนแม้จะผ่านการเปิดใจเพราะทั้งพี่วาทั้งป่านต่างยุ่งกับภาระหน้าที่ของตัวเอง ตลอดทั้งเดือนนี้ตารางสักถูกจองจนแน่น พี่วาแทบไม่มีเวลาปลีกตัวไปไหน นอกจากไปรับป่านจากโรงเรียนมาที่เรียนพิเศษ หรือไปส่งบ้านเป็นบางครั้งทั้งสองก็แทบไม่ได้อยู่ด้วยกัน ในขณะที่เด็กม.6กำลังเข้าสู่ฤดูการสอบสารพัด ป่านเองถึงจะไปที่ร้านสักทุกวันแต่ก็แทบไม่ได้เงยหน้าจากตำราเรียน



“แล้วเรื่องสอบเป็นยังไงบ้างจ๊ะ ผลใกล้ออกหรือยัง” คิดถึงไม่ทันไรก็ถูกเอ่ยถาม



ก่อนหน้านี้ป่านเพิ่งลงสนามสอบแรกกับมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดัง คณะที่เลือกก็ไม่พ้นแพทยศาสตร์อย่างที่ตั้งใจ... อย่างที่หม่ามี้ตั้งใจ



ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่ช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาป่านรู้สึกว่าแม่จับตาการเรียนของป่านมากกว่าปกติแบบพลิกผัน จากที่เคยปล่อยให้ป่านเรียนรู้ตามครรลองก็เริ่มเข้มงวดสอบถาม แนวทางที่วางไว้ให้เริ่มเด่นชัด



“หม่ามี้ว่า...ป่านควรสอบคณะอื่นด้วยดีไหมครับ” หลายครั้งป่านอยากเอ่ยคำถามนี้ทว่าไม่มีโอกาส



“หืม ทำไมจ๊ะ ป่านกลัวสอบไม่ได้เหรอ”



“เปล่าครับ” ไม่ใช่ว่าทำข้อสอบไม่ได้ หรือกลัวไม่ผ่าน



ป่านเพียงไม่มั่นใจ... ไม่แน่ใจว่าทางที่กำลังเดินคือความต้องการของตัวเองจริงๆ ไหม



หรือเพียงเพราะรถไฟที่ออกตัวมาแล้วมีปลายทางที่คนอื่นกำหนดไว้



“แม่มั่นใจนะว่าป่านทำได้”



“...”

 

“สอบติดหมอให้หม่ามี้หน่อยนะคะ” 



ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่รถไฟขบวนนี้แล่นตรงไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่ทำให้ป่านไม่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ข้างทางได้ ไม่สามารถจอดแวะหรือมองหาชานชาลาอื่น



“ครับ” ...ช้าเกินไปที่จะกลับลำ “ยังไงวันนี้... ป่านอาจจะกลับดึกหน่อยนะครับ”

 







ในใจของเด็กน้อยมีแต่คำถาม คิดไม่ตก และได้แต่ปลงกับคำตอบจนหนทาง



มีบางอย่างในท่าทีพลิกผันของแม่ที่ป่านไม่เข้าใจ ท่าทีคาดหวังที่ทำให้ป่านเริ่มอึดอัดจนสัมผัสได้



โฮ่งๆ



แต่ความกังวลทั้งหลายก็ถูกปัดทิ้งทันทีที่เจ้าสี่ขาส่งเสียงทักทายพร้อมกระโจนเข้าใส่ คิ้วขมวดคลายปมเปลี่ยนเป็นหัวเราะนั่งคุกเข่าลงลูบหัวลูบหางโมโจอย่างมันเขี้ยว ก่อนเงยหน้ามองร่างสูงที่นั่งสูบบุหรี่อยู่ไม่ไกล



ดวงตาคมกำลังขมวดคิ้วมองน้องอยู่เช่นกัน สีหน้าเหมือนมีคำถามแต่ยังไม่ถาม เพียงดับบุหรี่ที่ยังสูบไม่ถึงครึ่งมวนแล้วขยับให้น้องมานั่งข้างๆ



“เป็นอะไร” ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ป่านไม่อาจซ่อนความรู้สึกตัวเองจากผู้ชายคนนี้ได้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พี่วาหัดสังเกตน้องจนเห็นแม้แต่ความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในแววตา



“เปล่าครับ” เห็นแม้แต่คำโกหกที่เอ่ยเพราะยังไม่พร้อมจะบอก



แม้จะเคยบอกให้สื่อสารกันอย่างตรงไปตรงมาอย่างเปิดใจ ทว่าไม่คิดคาดคั้นเรื่องที่ทำให้ลำบากใจ



รอยยิ้มจางๆ ประดับบนใบหน้าป่านอีกครั้งเมื่อในความเงียบงันสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วก้อยที่แตะลงบนนิ้วก้อยน้องพลางเกลี่ยไปมาเบาๆ แทนการปลอบประโลมไร้ถ้อยคำ ดวงตากลมมองเหม่อ ก่อนสะดุดลงตรงที่เขี่ยบุหรี่ข้างตัวแล้วหลุดถาม



“พี่สูบบุหรี่จัดนะครับ ” จากที่เห็นเศษมวนนิโคตินมากขึ้นจากครั้งล่าสุดที่ป่านนับ “มวนที่สี่แล้ว...”

 

“อยากให้เลิก?” พี่วาประหลาดใจที่น้องสังเกตถึงขนาดนั้น



แต่ถ้าให้พูดตามจริงนี่ยังน้อยไปด้วยซ้ำ เมื่อก่อนเขาสูบแทบจะทุกชั่วโมงที่ได้พัก มวนต่อมวนอย่างไม่กลัวปอดจะดำเพราะไม่เคยมาคอยนับคอยเตือน



ป่านส่ายหน้า อันที่จริงแค่เกิดสงสัยขึ้นมาต่างหากว่ามันช่วยให้รู้สึกดีจริงๆ ไหม ทำไมใครๆ ถึงใช้เป็นข้ออ้าง



...ป่านไม่กล้าถาม



“เพลาๆ หน่อยก็ดีนะครับ” ที่แน่ๆ โทษของมันมีคนพิสูจน์ให้เห็นมานักต่อนัก



“เป็นเมียพี่อ่อครับน้องถึงมาสั่ง” เด็กหนุ่มเงยหน้าสบตาคนที่กำลังเลิกคิ้วยียวนหยอกเย้าแกล้งถาม



จริงของพี่วา ป่านไม่มีสิทธิ์บังคับ



“เปล่า...” เอ่ยตอบด้วยแววตาจริงจัง “เป็นห่วงพี่น่ะครับ”



แววตาห่วงใยเปิดเผยชัดจนพี่วาอยากจะเอาบุหรี่ทั้งโลกมาทำลายทิ้งให้สิ้นซาก



“ครับ ยอม” เห็นทีพี่วาคงต้องหาทางลด ละ เลิกบุหรี่จริงๆ ก็คราวนี้ล่ะมั้ง

 

               





มีคนกำลังอารมณ์เสียผิดสังเกต

               

จะไม่ให้อารมณ์เสียได้ยังไง พี่วาหายไปทำงานไม่กี่ชั่วโมงกลับออกมาเจอเด็กของเขาในสภาพดูไม่ได้



“ไอ้เฮีย มึงทำไรเนี่ย ” ตาแทบถลนเมื่อเห็นน้องนอนฟุบอยู่หน้าขวดเบียร์ที่วางระเกะระกะ



“เด็กมันอยากลอง กูให้กินนิดเดียว” แถมผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ไม่คิดห้ามปราม เฮียยักไหล่กระดกขวดของตัวเองอย่างไม่ยี่หระ



“นิดเดียวพ่อมึง เมาจนตัวแดงขนาดนี้”



ก่อนหน้านี้วาคิดอยู่แล้วว่าสีหน้าน้องดูผิดปกติคล้ายมีเรื่องไม่สบายใจ แต่แทนที่จะเอ่ยปากบอกกลับมาหาทางออกแบบผิดๆ เสียได้



“ตัวแดงๆ น่ารักดีนะมึง” เฮียยังคงไม่สะทกสะท้าน



ไม่ใช่ให้ดื่มเพราะอยากแกล้ง แต่เพราะเฮียสังเกตเหมือนกันว่าน้องป่านมีความผิดปกติบางอย่างไม่อย่างนั้นคงไม่ขอลองดื่มของมึนเมา แต่น้องอายุสิบแปดแล้วแถมยังอยู่ในสายตาจึงไม่ปฏิเสธ คิดว่าพอแอลกอฮอล์เข้าปากคงได้ระบายความอัดอั้น ทว่าน้องกลับเมาแล้วยิ่งเงียบ แถมหลับใส่กันซะงั้น

 

“สัด! น้องต้องกลับบ้านก่อนสี่ทุ่มด้วย ทำไงเนี่ย” รู้อยู่แล้วว่าคงโดนโวยวายใส่ แต่เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้



“ไม่ต้องห่วง กูโทรบอกแม่น้องแล้วว่าวันนี้ไม่กลับ ปั่นรายงานบ้านโมโจ”

               

ฉิบหาย จะไม่ให้ห่วงได้ยังไงกัน



“ไอ้เชี่ยเฮีย!”

 

               





ไม่คิดว่าเรื่องจะมาลงเอยแบบนี้

               

เดิมทีตั้งใจจะให้เวลาป่าน รอให้สบายใจแล้วระบัดระบายปัญหาในใจให้ฟัง ทว่าความอึดอัดที่น้องกำลังเผชิญคงเร้นกายลึกกว่าที่คิด แม้กระทั่งฤทธิ์น้ำเมาก็ยังไม่ทำให้เปิดปาก



“อือ...น้ำ ...” แถมยังเป็นเขาเองที่แทบคลั่ง



ทำไมตัวแดงแจ๋ขนาดนั้น ผิวนวลเนียนกลายเป็นสีปลั่งแปลกตายิ่งดูน่าฟัดไปกันใหญ่ แค่เห็นเขาก็ลุกลนจนทำอะไรไม่ถูก แถมไอ้เฮียก็เผ่นแน่บทิ้งระเบิดไว้



“ตื่นแล้วเหรอ” สุดท้ายวาเลยได้แต่อุ้มน้องมานอนแล้วนั่งเฝ้า นั่งมอง นั่งทำสมาธิหายใจเข้าออกกำหนดจิตห้ามใจ



น้องยังเด็ก น้องเมา ยังกินไม่ได้



“พี่เหรอ” ตอนหลับน่ะไม่เท่าไหร่ แต่พอตื่นมาก็ลุกนั่งจ๋องน่าเอ็นดูพร้อมเรียกเขาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอ่อนหวานกว่าเดิมเป็นสิบเท่านี่จะให้ทนยังไง



“อ่ะน้ำ วันหลังพี่ไม่อยู่ไม่ต้องไปยุ่งกับไอ้เฮียเลยนะ แม่งหลอกเด็ก...” นั่งลงป้อนน้ำพลางสบถพึมพำ งุ่นง่าน แต่ยังไม่ทันขาดคำ



“พี่”



“ครับ” อย่าเรียกแบบนั้นซิ อย่ามาทำเสียงอ่อนให้หวั่นไหว



“พี่...”



“...”



“พี่ครับ”



ให้ตายเถอะ!



“อ้อนอีกทีพี่จะจูบแล้วนะ”



“...” คล้ายจะได้ผลเมื่อเสียงออเซาะเงียบไปชั่วขณะ เจ้าของใบหน้าแดงจัดนั่งจ้องเขาดวงตากลมเยิ้มหวานจนใจสั่น



“...”



แต่ทิวากรน่าจะรู้ว่าดูถูกกระต่ายน้อยตัวนี้ไม่ได้



“พี่...”



“หึ” เนื้อหอมเย้ายวนยั่วเย้าจนเส้นความอดทนไว้ขาดผึง หลุดยิ้มชั่วร้าย



“Kiss me”



เหยื่อทอดกายอยู่ตรงหน้ามีหรือที่อสรพิษจะไม่ฉกชิม ริมฝีปากประทับลงบนริมฝีปากอิ่มพลางขยับกายใกล้ชิด อ้อมแขนแกร่งรวบเอวน้องพลางยกขึ้นนั่งคร่อมตัก



คนเมาก็ว่าง่ายไม่ขัดขืน สองมือเกาะไหล่กำเสื้อคนตัวโตไว้แน่น ในหัวลอยฟุ้งสติเตลิดไปถึงไหนต่อไหน สัมปชัญญะน้อยนิดปรากฏภาพปลายนิ้วคีบนิโคตินเพราะรสชาติบุหรี่ที่ปลายลิ้น



“อือ... ลิ้น?” กว่าจะรู้ตัวว่าถูกรุกล้ำ ริมฝีปากถูกบดเบียดบังคับให้เปิดปาก ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดโรมรัน ดวงตาพร่าหวานพริ้มหลับขณะถูกดูดดึงลึกล้ำแทบหมดลมกว่าจะยอมให้น้องได้พักหอบหายใจ



“ช่วยดูดพิษจะได้สร่างไวๆ ไง” มุมปากบางยกยิ้มเจ้าเล่ห์ยกนิ้วโป้งปาดฉ่ำเยิ้มออกจากริมฝีปากที่กลายเป็นสีแดงเจ่อ



ป่านขมวดคิ้วกะพริบตาปริบๆ มึนเมารสจูบอยู่พักใหญ่ มองกระเง้ากระงอดขณะที่สองมือยังคงเกาะบ่าแกร่งแน่น ก่อนขยับตัวแนบจนหน้าท้องชิดกัน

ท่วงท่าอันตรายชวนใจหาย



“แบบนี้เหรอ?” ดวงตาคมเบิกกว้างชะงักงันชั่วขณะเมื่อน้องเลียริมฝีปากเขาเบาๆ



พอเมาแล้วใจกล้าจนน่ารังแกให้เข็ดหลาบชะมัด



“อืม... หัวไวจริง” คนล่อลวงหัวเราะในลำคอ ก่อนแนบริมฝีปากรุกล้ำอีกครั้ง คราวนี้ริมฝีปากน้องเผยอรับแถมตอบด้วยเรียวลิ้นที่ยังสะเปะสะปะอ่อนหัด ทว่ากลับกวนตบะให้ยิ่งคลุ้มคลั่ง ริมฝีปากช่ำชองนำทางกลืนกินจนแทบสำลัก



“อือ... พี่ช่วยด้วย... ไม่เอา... น้องไม่อยากเมา” กระเง้ากระงอดคลอเคลียจนหลุดยิ้มเอ็นดูเจือเจ้าเล่ห์



“ครับ เดี๋ยวพี่ช่วยนะ”



เข้าทีอสรพิษ กอดรัดเหยื่อไว้ในอ้อมกอดแน่น ถือโอกาสจาบจ้วงลูบไล้ฝ่ามือทั่วผิวขาวบีบเคล้นเนื้อนิ่มทั่วกายทั้งที่ยังสวมใส่เสื้อผ้าครบชิ้น



ทว่าไม่คิดล่วงเกินมากกว่านั้น จูบดูดดื่มดูดดึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนคนเมาทั้งเมาเหล้าเมาจูบอ่อนเพลียหลับไปในอ้อมกอดเขา



วาห้ามใจทั้งที่ความต้องการเตลิดเกินจะหักห้าม ฝืนคืนสติตัวเองกลับมาพลางหัวเราะเบาๆ กับการกระทำข้ามขั้น ดวงตาคมมองใบหน้ายามหลับใหลของกระต่ายร้ายที่กลับมาไร้เดียงสาอีกครั้ง อุ่นใจเมื่อคิ้วที่ขมวดมุ่นมาตลอดทั้งเย็นดูผ่อนคลายลงแล้วใบหน้าขึ้นสีระเรื่อด้วยฤทธิ์แลกอฮอล์ยิ่งดูน่าเอ็นดู



เขามองใบหน้าแสนน่ารักอยู่นานพลางเกลี่ยนิ้วเล่นพวงแก้มระเส้นผมอ่อนนุ่มเบาๆ จูบหน้าผากสลับขมับซ้ำๆ อย่างปลอบประโลมคนที่กำลังหลับใหล



เอาเถอะ ไม่ว่าน้องจะมีเรื่องไม่สบายใจอะไรก็ตาม ตอนนี้คงคุยไม่ได้แล้ว



ตอนเช้าค่อยว่ากัน


#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน[/center]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-07-2019 23:26:13 โดย makok_num »

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
โอ๊ยยยย อิฉันควรห่วงพี่วา มากกว่าน้องป่านไหมคะเนี่ย.  :ling3:  น้องยั่วสุดๆเลย ตายแน่ๆอิพี่เอ้ยยย

ออฟไลน์ tipppppp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้อนนนนนนนนนนนนนน เมาแล้วยั่วเยมากรูกกกกกกกกก  :hao7:

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
คุณตำหนวดดดดดดดด ทางนี้ค่าาาาาา ทางนี้มีคนโดนล่อลวงงงงงง

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
คนที่โดนล่อลวงคือพี่วา ใ่ช่ไหม

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
โมโจกลายเป้นเพื่อนน้อง 555 เอ็นดูน้องโดนพี่วาล่อลวงง แง้ พี่จะไม่คุกใช่ไหม

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
หลังจากนี้ก็จะมีคำถามให้พี่วาว่า "daddy ไหวเหรอ" 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ทำไมพึ่งเจอเรื่องนี้ หวีดหนักมาก
อ่านไปก็จิกหมอนดึงผมไป เขิลลล
น้อวววงงง กร๊าวใจมาก เซ็กซี่ฮืดฮาดสุดๆ
สงสารพิวาจังเลย. เด็กมันร้ายยย

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
 :ling3:อุว้าก มองเห็นอนาคตพี่วาเลยจ้า

ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
ลายที่ 12

Relationship

( ผูกสัมพันธ์ )





รู้ไหมว่าทำอะไรลงไป



ป่านอยากจะทึ้งหัว อยากจะตีตัวเองให้ตาย แม้ว่าความปวดหัวหนักอึ้งจะกำลังเล่นงานแทบตายทันทีที่ลืมตาก็ยังอยากตีซ้ำให้เข็ดหลาบ



ความทรงจำทุกอย่างไหลเข้ามาเหมือนน้ำป่าล้นทะลัก ภาพสุดท้ายคืออ้อมกอดและสัมผัสร้อนแรงที่ทำเอาป่านเผลอยกมือแตะริมฝีปาก คล้ายความรู้สึกยังเด่นชัด



บ้าไปแล้ว กล้าทำแบบนั้นได้ยังไง



ใบหน้าค่อยๆ ขึ้นสีระเรื่อ ก่อนเปลี่ยนเป็นแดงจัดไปทั้งตัวอย่างห้ามไม่ได้



จนประตูห้องนอนถูกเปิดเข้ามาป่านสะดุ้งโหยง จะแสร้งทำเป็นหลับอยู่ก็ไม่ทัน ได้แต่เงยหน้ามองเจ้าของห้องตาปริบๆ



“ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงยืนมองใบหน้าแดงจัดขัดเขินอย่างน่าเอ็นดูก็คลี่ยิ้ม วางเสื้อผ้าที่ขนาดตัวเกือบจะพอดีกับป่านไว้ให้ก่อนลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามเท้าข้อศอกลงกับหัวเข้าจับจ้องกรุ้มกริ่มเหมือนจงใจจะแกล้งกัน “จำได้หรือเปล่าว่าเมื่อคืนทำอะไรไว้บ้าง”



ป่านยิ่งลนลานเลิ่กลั่ก สบตาพี่วาได้เพียงแวบเดียวก็เผลอกัดริมฝีปากแน่นส่ายหน้า “ไม่ครับ”



โกหกไม่เนียน ในเมื่อหน้าแดงแจ๋ขนาดนั้น ภาพจุมพิตดูดดื่มฉายซ้ำก็ยิ่งเห่อซ่าน



พี่วาหัวเราะเบาๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ กลัวน้องหัวใจวาย ดวงตาคมมองนิ่งรอให้น้องหันกลับมาสบตา สีหน้าเรียบนิ่งจริงจัง



“จะบอกพี่ได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น” ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าแววตานั้นอ่อนโยนและดูใจเย็นกว่าทุกครั้ง



เป็นผู้ใหญ่แบบที่วาเองก็ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะเป็นได้เช่นกัน



ป่านเงียบ ยังคงปวดหัวเพราะอาการเมาค้างจึงยิ่งปวดหัวหนัก



“ผม... ไม่แน่ใจ” อึกอักเพราะแม้แต่ตัวน้องเองก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเช่นกัน



คล้ายคนหลงทาง สับสน หวาดกลัว... หนักอึ้งอึดอัดกับความคาดหวัง



“เรื่องเรียนเหรอ” ทว่าไม่ทันบอกอะไรพี่วาก็เอ่ยถามราวกับรู้ทัน



จำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยถามน้องเรื่องนี้และป่านมีสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด พอเห็นสีหน้าแบบเดียวกันจึงเดาไม่ยาก



“มีอะไรให้พี่ช่วยไหม” ถามทั้งที่ยังไม่มีคำตอบเหมือนกันว่าจะช่วยยังไง ทว่าความห่วงใยที่ส่งผ่านมาก็ทำให้ป่านคลี่ยิ้มออกมาด้วยความอุ่นใจ



“ไม่เป็นไรแล้วล่ะครับ” ไม่ใช่เพราะรู้ว่าพี่วาคงช่วยอะไรไม่ได้ แต่เมื่อคิดทบทวนแล้วสิ่งเดียวที่ต้องการก็คือการทำให้แม่มีความสุข



เพราะที่ผ่านมาการเหลือเพียงสองคนแม่ลูก การเห็นหม่ามี้ทำงานหนักทุ่มเทเพื่ออนาคตเพื่อความสุขของป่าน มันทำให้ป่านไม่เคยคิดตั้งคำถามกับความต้องการของตัวเองเลยสักครั้ง ไม่ว่าอย่างไรความสุขของแม่ก็คือความสุขของป่าน เด็กน้อยรู้เพียงเท่านั้น



ถึงจะยังติดใจ แต่เมื่อจนแล้วจนรอดป่านก็ยังไม่สะดวกใจจะเล่า ยังไม่คิดพึ่งพิงเขา พี่วาก็ไม่ซักไซ้คาดคั้นต่อ เพียงยิ้มจางพลางเอื้อมมือลูบหัวน้องเบาๆ



“พี่อยู่ตรงนี้นะ” ยืนยันเพื่อให้ป่านอุ่นใจ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ชื่นชมทุกความคิดทุกการตัดสินใจของเด็กดีแสนฉลาดตรงหน้าและพร้อมจะอยู่เคียงข้าง



“ขอบคุณมากนะครับ”



“พี่เอาเสื้อผ้าคุณหนูมาให้ป่านคงใส่ได้” ร่างสูงลุกขึ้นยืน รอยยิ้มยังคงอ่อนโยนจนใจที่กำลังสั่นไหวกระตุกอีกครั้ง



“อาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปกินข้าวนะครับ” น้ำเสียงและสรรพนามที่ฟังเรียกอย่างเอ็นดูทำเอาป่านหลุดยิ้มทั้งที่ยังกัดริมฝีปากบวมเจ่อไว้ ได้แต่พยักหน้าหงึกหงักว่าง่าย



รอจนแผ่นหลังพี่วาลับหายไปเด็กน้อยก็ทิ้งตัวลงตุบ จ้องเพนดานปล่อยให้ความคิดหลากหลายหลั่งไหลเข้ามาโดยไม่คิดห้าม กระทั่งรสสัมผัสเมื่อคืนและรอยยิ้มเจิดจ้า น้ำเสียงอ่อนโยนปลอบประโลมของพระอาทิตย์ยามเช้า ท่ามกลางกลิ่นอายของร่างกายอีกคนบนหมอน ผ้าห่ม เจือกระจายอยู่เต็มห้องก็ยิ่งทำให้จิตใจฟุ้งซ่าน



ป่านยกมือแตะริมฝีปากอีกครั้ง ยิ่งคิดถึงหัวใจก็ยิ่งเต้นแรงแทบคลั่ง



ชอบ... ชอบมากๆ



ชอบคนคนนี้มากๆ เลย









แต่ชอบมากถูกซ่อนไว้ในความเขินอายกลายเป็นความคลุมเครือเจือจาง เหมือนความกังวลที่ป่านเลือกแบกไว้คนเดียวความรู้สึกที่ไม่พูดให้แน่ชัดคงยากเกินจะเข้าใจ



“เฮียครับ”



“เชี่ย ขนลุก”



“ผมหล่อยังครับ” ร่างสูงในชุดสูทลำลองตัวเก่งยืนหมุนหน้ากระจกเลิกคิ้วถาม



“สูทอีกแล้ว? นี่มึงยังไม่สนิทกับยามโรงเรียนน้องเขาอีกเหรอวะ”



“เปล่า เมื่อวานกูไปส่งน้องแล้วเจอแม่เขาหน้าบ้าน”



“แล้ว?”



“วันนี้กูเลยแต่งใหญ่เผื่อน้องจะพาไปแนะนำตัว”



“...”



“ตื่นเต้นว่ะ เจอแม่ยายครั้งแรก” คิดเองเออเองเป็นตุเป็นตะแล้วใครจะกล้าห้าม



“เออ แล้วแต่มึงเลย”









ไม่มีใครปรามว่าความมั่นใจออกตัวแรงอาจจะทำให้แหกโค้งทีหลัง



เหตุการณ์กลับตาลปัตรจนทำให้คนที่หน้าบานตอนขับรถออกจากบ้านกลับมาด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียดตึงตัง สูทตัวนอกถูกถอดทิ้งไม่ไยดีสีหน้างุ่นง่าน



“เป็นไงเจอแม่ยายครั้งแรก”



“เหี้ยไรล่ะเฮีย” เกรี้ยวกราด



“โมโหใส่กูทำไมเนี่ย? น้องเขาไม่พามึงไปแนะนำเหรอ” พอถูกถามจี้จุดทิวากรก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ย้อนคิดถึงตอนที่ไปส่งน้องถึงบ้าน



ระยะหลังป่านกลับบ้านดึกขึ้นเพราะยิ่งใกล้สอบการติวก็ยิ่งเข้มข้น แถมน้องอ่านหนังสืออยู่ในร้านจนลืมเวลาหลายครั้ง



วันนี้ก็เช่นกัน เมื่อกลับไปถึงบ้านก็เห็นรถของหม่ามี้อยู่ในลานจอดรถเรียบร้อยแล้ว และคงเพราะได้ยินเสียงรถจอดหน้าบ้านจึงออกมารับป่านด้วยตัวเอง

เด็กน้อยที่หลับมาตลอดทางถูกปลุกให้ตื่นก็งัวเงียเปิดประตูออกไปโดยไม่รู้ตัวว่าลืมกระเป๋านักเรียนไว้



โอกาสเหมาะที่วาจะเอาไปคืนแล้วถือโอกาสไหว้ฝากเนื้อฝากตัว



ทว่า...



“แนะนำ” ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ ยิ่งหงุดหงิดงุ่นง่าน



“อ้าว แล้วมึงหงุดหงิดอะไร”



ทั้งที่ไปรับไปส่ง ทั้งที่เจอหน้ากันทุกวัน ทั้งที่แสดงออกขนาดนั้น แถมยังจูบกันแล้ว... ถึงน้องจะเมา แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าป่านจะเลือกปิดบังสถานะของเขาไว้หลังม่าน



“Grab”



“ฮะ?”



“ก็พอแม่เขาถามว่ากูเป็นใคร น้องก็แนะนำสั้นๆ คำเดียว”



“...”



“Grab” น้องอาจจะยังไม่พร้อม อาจจะสับสนไม่แน่ใจในสถานะที่ยังไม่ชัดเจนถึงจำเป็นต้องอ้างเขาก็เข้าใจ แต่แกร๊บเนี่ยนะ?



“โถ…”



“กูขับออดี้นะเฮีย” แถมใส่สูทอย่างดี หน้าตาก็หล่อเหลา



“เออ…ชีวิตมันก็ยังงี้” เฮียได้แต่พยักหน้าเข้าใจพลางตบบ่าเบาๆ









ท่าทีและคำพูดของป่านทำให้วากลับมาทบทวนบางอย่างอีกครั้ง



ไม่ใช่ว่าเขาไม่เข้าใจความคิดน้อง เขาผ่านวัยนี้มาก่อนย่อมรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่ผู้ปกครองจะเข้าใจ เพราะอายุของพวกเขาห่างกันมาก แถมหน้าตาสถานะทางสังคมก็ไม่ได้ทำให้แม่น้องวางใจได้ทันทีที่เจอหน้า ยิ่งอยู่ๆ เขาโผล่เข้าไปปุบปับคงทำให้น้องลำบากใจจนต้องเอ่ยออกไปแบบนั้น



แต่นั่นหมายความว่าป่านไม่เคยเล่าเรื่องของตัวเองให้ครอบครัวฟัง



...คิดไปคิดมาก็น่าน้อยใจ



แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับน้องก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะแนะนำให้ครอบครัวรู้จักจริงๆ แถมหลายวันมานี้เหมือนน้องกำลังกลัดกลุ้มอะไรบางอย่าง คงไม่อยากมีปัญหา แต่ว่า...



มีแต่คำว่าแต่... แต่มากเกินไป ทิวากรหงุดหงิดที่ยิ่งคิดก็ยิ่งวกวนไม่ได้ดั่งใจ



เขาอยากเดินหน้าให้มากกว่านี้... แต่ควรทำยังไง



“วันนี้ยุ่งเหรอครับ เห็นพี่ไม่ไปรับ…” ราวกับรู้ตัวเมื่อเปิดประตูเข้ามาในร้านเห็นพี่วานั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์ก็อ้อมแอ้มเดินไปทักทาย



รู้สึกผิด รู้ดีว่าพี่วาคงน้อยใจกับคำพูดไม่คิดของตัวเอง



“วันนี้ไม่ได้เรียก Grab นี่ครับ”



“โกรธผมเรื่องนั้นเหรอครับ”



“เปล๊า” แต่ท่าทีปฏิเสธเสียงสูงพร้อมกับเบือนหน้าไม่สนใจทำให้ป่านไม่พอใจเช่นกัน เด็กน้อยพูดโพล่งหลุดความคิด



“ผมไม่ผิดนะ ก็พี่ไม่เคยบอกสักหน่อยนี่ครับว่าเป็นอะไรกัน”



“อ้อ...” คนพี่ชะงัก หันมาเลิกคิ้วสบตา



ถ้าน้องจะพูดอย่างนั้น... เขาก็ยิ่งรู้ว่าต้องทำยังไง



“ในเมื่อพี่ไม่บอกเราก็...อื้อ!” สาวเท้าเพียงก้าวเดียวก็ถึงตัวริมฝีปากทาบทับ ปิดคำพูดที่กำลังจะทำร้ายจิตใจซ้ำ ไม่ใช่แค่เพราะไม่อยากได้ยินคำแก้ตัวเฉไฉ แต่เพราะเขาคิดมาทั้งวัน ถ้วนถี่แล้วว่าตัวเองต้องการอะไร



“งั้นพี่ต้องเป็นอะไรถึงจะทำแบบนี้กับน้องได้ ไหนบอกซิ” ไม่ได้อยากวู่วามทว่าเขาไม่อาจรอไหวอีกต่อไป



“พี่...วา...”



“พี่ชอบเรา” ความรู้สึกที่ทบทวีขึ้นทุกวันนั้นยิ่งกว่าชัดเจน



“พี่อยากดูแลเรา อยากเป็นที่พึ่ง อยากให้ป่านไว้ใจ”



“...” คราวนี้ไร้มึนเมา เอ่ยในสิ่งที่อยากเอ่ย ถามในสิ่งที่อยากถาม



“น้องป่าน คบกับพี่นะครับ”



ตอนที่น้องเลือกปฏิเสธความช่วยเหลือของเขาหันไปพึ่งน้ำมึนเมา หรือแม้กระทั่งตอนที่บ่ายเบี่ยงกลบเกลื่อนปัญหาไม่ยอมบอกเขา วากลับยิ่งรู้สึกว่าอยากเป็นที่พึ่งได้มากกว่านั้น



เขาเคยกลัวความสัมพันธ์ และรู้ว่าน้องยังไร้เดียงสาเกินกว่าจะกระโจนจ้วงเข้ามาในความสัมพันธ์



แต่เขาไม่อยากรอแล้ว ไม่อยากประวิงความต้องการจะอยู่เคียงข้าง พาคนตรงหน้าผ่านทุกอุปสรรค เขารู้ว่าตัวเองทำได้ พึ่งพาได้ ไว้ใจได้ ขอแค่น้องให้โอกาส



“ครับ”



เพราะเขาก็ชอบป่าน ชอบเด็กคนนี้



...ชอบมากๆ เลยเหมือนกัน









รู้ดีว่าทำอะไรลงไป



สัมผัสร้อนเหมือนจะยังติดอยู่บนริมฝีปาก จูบสะเปะสะปะอ่อนหัดของเด็กไม่รู้ประสากลับทำชายหนุ่มหวามไหวเกินคาด



รสสัมผัสชวนเมามายทั้งที่ไร้มึนเมากลับทำให้เมาค้างทั้งที่ผ่านมาแล้วหนึ่งวัน ราวกับพวกอ่อนประสบการณ์ทั้งที่จริงผ่านเรื่องรักๆ ใคร่ๆ มาก็หลายครั้ง



ความสัมพันธ์ที่ไม่มีอะไรมายืนยันสักนิดว่าคราวนี้จะไปได้ตลอดรอดฝั่ง



ทว่าเขาก็คว้ามันไว้ จับแน่นพร้อมเดินไปข้างหน้าไม่เหลียวหลัง



“มึงอ่านอะไรเห็นนั่งอ่านมาตั้งแต่เช้า” ความยินดีที่แสดงออกอย่างไม่ปิดบังกลายเป็นอาการผิดปกติ ผิดวิสัยเด่นชัดจนเฮียอดถามไม่ได้



ไม่รู้ผีเข้าหรืออะไร อยู่ๆ ทิวากรก็เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เปิดปิดหนังสือเล่มหนาไปมาอย่างคนเสียอาการ



อาการหนัก ฟุ้งซ่าน



“ประมวลกฎหมาย” ยิ่งรู้ว่าเป็นหนังสืออะไรก็ยิ่งประหลาดใจ



“อ่านเพื่อ?” อย่าว่าแค่หนังสือ แต่หนังสือกฎหมาย... สงสัยจะผีเข้าจริงๆ



“อยากรู้ว่าจูบเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีนี่ติดคุกไหม”



ผีรัก ผีสวาท ผีเสียจริตน่ารำคาญ



“คือมึงจะขิงว่าได้จูบน้องเขาแล้ว กูเข้าใจถูกไหม?”



“งื้อออ”



“งื้อพ่อง!”



เฮียด่าในใจ



ไอ้สัด น่ารำคาญ




#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

สองสามวันที่ผ่านมาเริ่มรู้สึกเหนื่อย ท้อ คิดว่าตัวเองยังทำได้ไม่ดีพอสักที

แต่พอคิดว่ายังมีคนรออยู่ก็ฮึกเหิมขึ้นมาทันทีเลย

อยากบอกว่ากำลังใจของทุกคนส่งมาถึง และมีผลกับหัวใจป่วยๆ ท้อง่ายดวงนี้มากเลยค่ะ 55555



ผิดพลาดตรงไหนบอกได้เลยน้า

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาตลอดนะคะ

รักมากๆ

- Martian -
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-07-2019 23:11:38 โดย makok_num »

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
จากเครียดๆพี่วาทำเอาฮาแตก5555 หนุ่มน้อยมาก

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
เรียกได้แกร๊บงานดีขนาดนี้ทำบุญด้วยอะไรคะน้องงงง 555

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
โอ้ยเขินมาก >////<

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
สงสารพี่วา ถึงกับต้องหาข้อมูล จะโดนพรากผู้เยาว์ไหมนะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
อยากบอกให้รู้ว่าชอบงานเขียนของหนู เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
55555555 เกลียดความขิงของพี่แกร้บ เอ้ยยย พี่วา มากอ่ะ  คือตอนนี้ขำอ่ะ ชอบ  ชอบความที่น้องบอกว่าพี่เป็นแกร้บ (ที่ใส่สูทขับออดี้) ขำความเหม็นของเฮีย ขำความ งื้อออ ของอิพี่ โอ๊ยยยย ร้านสักร้านนี้มันบันเทิงดีจริงๆ ชอบอ่าา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด