☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀  (อ่าน 65755 ครั้ง)

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เอาอี๊ก...กกกกกกกกกกก  :hao6:

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
นี่อ่านมาตั้งนานเพิ่งโฟกัสได้ว่า คุณหนู ชื่อ หลิน แต่เดี๋ยวก่อนนะน้องป่านกับพี่วานี่7วันเลยหรอคะ!? ผนังห้องบางด้วยยยย สงสารเฮีย :laugh:

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ทำผนังห้องใหม่เถอะเฮียยย  ไม่งั้นต้องปิดร้านสักแล้วล่ะ เพราะช่าง2คนมัวแต่สักอย่างอื่น

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
งืออออ หวานนนนน คุณหนูชื่อหลิน/เพิ่งรู้ 555555

ตอนนี้ถ้าเอาตำรวจมาล้อมจับ คงได้ผู้ต้องหาคาหลักฐาน ก็อิพี่วาหลงขนาดนี้  :-[

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
 :haun4: กดได้แต่ไอ้ตัวนี้เท่านั้นเลยเหมาะสมแล้ว555

ออฟไลน์ Cheese[C]ake

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น้องป่านขี้อ่อยเหลือเกิน​   o18

ออฟไลน์ Cheese[C]ake

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
หลินก็ขี้ยั่วเหลือเกิน :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อิพี่ใจบ่ดีแล้วจ้า มีเรื่องให้ตื่นเต้นทุกตอนเลย

วาเปิดตัวว่าชอบเล่นของ ป่านชอบความเย้ายวน
แถมดูจะปลื้มของเล่นพี่ไม่น้อยเลยด้วย
มีความย้อนแย้งแต่ไม่แสดงออกมาก 5555

คุณหนูน่ารัก ชื่อก็น่าเอ็นดูด้วย สมแล้วที่เฮียรักหนักมาก
ชอบความแปลกใหม่ และตื่นเต้นพอกัน
เฮียจะได้รู้ว่าที่ผ่านมา วาต้องทนเหมือนกันไหม

คงต้องบุผนังกั้นเสียงกันหรือเปล่า  :hao7:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ช่างสัก มีจุดให้สักถาวรแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
ลายที่ 17

New Year

(พลันประกาย)



ไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้



รู้ตัวอีกทีก็กำลังจะขึ้นปีใหม่แล้ว เทศกาลเฉลิมฉลองที่ใครหลายคนต่างตั้งตารอคอย



ป่านเองก็รอคอยเช่นกันเพราะนี่จะเป็นการหยุดพักครั้งแรกหลังเอาแต่คร่ำเคร่งกับการเรียน การอ่านหนังสือมานาน



ทว่าสำหรับเด็กม.6 คงเป็นการหยุดพักที่จิตใจยังฟุ้งซ่าน เมื่อยังไม่มีมหาลัยให้ลงหลักปักฐาน ผลการยื่นโปร์ไฟล์สำหรับการคัดเลือกรอบแรกของมหาลัยที่ป่านหวังไว้ใกล้ประกาศผลเต็มที ดังนั้นในใจของเด็กน้อยจึงยังเต็มไปด้วยความกดดันและกังวล



โชคดีที่คอยมีคนอยู่เคียงข้างร่วมปั่นป่วนไปด้วยกัน



‘ไม่ต้องกังวลหรอก ป่านเก่งอยู่แล้วยังไงก็ผ่าน’



‘ถ้าไม่ผ่านรับตรงก็รอรอบแอดก็ได้’



‘หมอมีรอบแอดซะที่ไหนล่ะมึง’



‘สมัยนี้เขาเรียก TCAS ต่างหาก’



‘คืออะไร’



‘ใครจะไปรู้’



‘เป็นเด็กม.6นี่ลำบากฉิบหายเลย’



ป่านจำได้ว่าตัวเองหัวเราะออกมาจริงๆ ตอนที่ฟังคุณหนู เฮีย และพี่วาทะเลาะกันเรื่องระบบการสอบเข้ามหาลัยที่ดูจะยุ่งยากขึ้นทุกที ย้อนรำลึกความหลังสมัยที่ตัวเองอยู่ม.6 คุยเรื่องข้อสอบที่ผิดประหลาดและไม่รู้ว่านำไปวัดความสามารถอะไรได้ และบรรยากาศก็ผ่อนคลายเมื่อต่างคนต่างแย่งกันพูดเรื่องขบขัน



“มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้จ๊ะ” คิดเรื่อยเปื่อยกระทั่งถูกแก้วน้ำอัดลมเย็นเฉียบแตะลงที่แก้ม เงยหน้าขึ้นก็เห็นหม่ามี้ยืนยิ้มอยู่ ก่อนจะวางจานขนมขบเคี้ยวไว้ข้างป่านแล้วนั่งลงตาม



ทีแรกป่านตั้งใจจะอยู่เคาท์ดาวน์กับทุกคนที่ร้านสัก แต่หม่ามี้ชวนออกมาฉลองที่บ้านคุณปู่ด้วยกัน ปีนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ครอบครัวได้อยู่ฉลองวันส่งท้ายปีกันอย่างพร้อมหน้า มันเป็นความตื่นเต้น ปะปนกับความรู้สึกประหลาด เพราะนอกจากป่านกับแม่ พ่อยังมีครอบครัวปัจจุบันมาร่วมงานสังสรรค์



ไม่ใช่ความอิจฉา ไม่ใช่ความเกลียดชัง แต่เป็นความรู้สึกประหลาด...ว่างโหวง ราวกับมีโพรงกลวงโบ๋อยู่ในอก เมื่อเห็นชัดเจนว่าที่ตรงนั้นไม่ใช่ที่ของป่านกับแม่อีกแล้ว



ป่านทำตัวไม่ถูกจึงปลีกตัวออกมา แม่ก็คงเช่นกัน



สองแม่ลูกนั่งห้อยขาอยู่บนชานศาลาริมน้ำ สายตาทอดมองผิวน้ำสะท้อนแสงดาว เงียบเชียบ ราวกับกำลังรำลึกความหลัง



บ้านหลังนี้เป็นของคุณปู่ บ้านเกิดของพ่อ ป่านจำได้ว่าตอนเด็กๆ พ่อกับแม่เคยพาป่านมาเยี่ยมปู่กับย่าบ่อยครั้ง ก่อนที่ทั้งสองคนจะแยกทาง ตอนนี้สภาพบ้านทรุดโทรมไปมาก เพราะไม่มีใครอยู่มาหลายปี แม้พ่อกับครอบครัวจะย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วก็ยังมีบางส่วนที่ยังไม่เรียบร้อย



ในใจของป่านรู้ดีว่ามันจะไม่มีทางเรียบร้อยไปมากกว่านี้ เพราะสุดท้ายพ่อต้องกลับไป



ป่านหันกลับไปมองหน้าแม่ พยายามคาดเดาว่าแม่จะรู้สึกยังไงกับการกลับมาเพื่อต้องลาจากอีกครั้ง



บางทีในใจของแม่อาจมีโพรงกลวงโบ๋ที่ลึกและกว้างกว่าป่านก็ได้ ใช่ไหม



“แม่เหงาไหมครับ”



“หืม?” แม่หันมาสบตา ยังคงประดับรอยยิ้มงดงาม



วินาทีนั้นป่านรู้สึกโชคดี ที่ทั้งดวงตาและรอยยิ้มของป่านถอดแบบมาจากคนตรงหน้า



“ตอนที่พ่อไม่อยู่... แม่เหงาไหมครับ” เด็กน้อยพยายามคิดภาพสีหน้าของหม่ามี้ในตอนนั้น แต่กลับนึงไม่ออก จำได้เพียงอ้อมกอด รอยยิ้ม และแผ่นหลังแข็งแกร่งของผู้หญิงคนหนึ่งที่ยังคงก้าวเดินไปข้างหน้าในทุกวัน



“เพราะมีป่าน หม่ามี้เลยไม่เคยเหงา” แม่เอื้อมมือมาลูบหัวลูกชายเบาๆ ป่านยิ้มกว้างไถแก้มกับฝ่ามือออดอ้อนแบบที่ชอบทำ



“ตอนเด็กๆ ป่านซนมากไหมครับ”



แม่หัวเราะ “ไม่เลย ป่านเงียบมาก จนคุณครูเขียนมาในสมุดพกว่าเป็นเด็กขี้เหงา” ป่านหัวเราะ จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่ามีเรื่องทำนองนั้น



แม้เป็นเด็ก แต่ป่านรับรู้ได้ว่าสถานการณ์ที่บ้านเป็นยังไง สิ่งเดียวที่ป่านคิดว่าตัวเองพอจะทำได้คือการพยายามตั้งใจเรียนและไม่สร้างปัญหา



“พอโตมาก็เลยดื้อมากๆ เลยสินะครับ” ไม่วายยกความผิดที่ผ่านไปแล้วมาถล่มตัวเอง หม่ามี้ขำ ดึงตัวป่านลงมาหนุนตักพลางลูบหัวเบาๆ



“แต่หม่ามี้ชอบที่ป่านเป็นตอนนี้ ป่านดูมีความสุขกว่าแต่ก่อน” เด็กน้อยเลิกคิ้ว ไม่เคยสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง



แต่ในสายตาของคนเป็นแม่มองเห็นชัดเจน และพอจะรู้ว่าเป็นเพราะอะไร



ติ๊ง~



ไม่ทันไรก็มีเสียงเตือนข้อความดังขึ้นมาจากคนที่เป็นความสุขของลูกชาย



“พี่วาส่งข้อความมาสวัสดีปีใหม่ครับ” อุบอิบไม่บอกว่ามีอีกข้อความที่ส่งมาติดๆ กัน





‘คิดถึงแล้วครับ’





ข้อความที่ทำให้ลูกชายของหม่ามี้ยิ้มกว้าง รีบลุกขึ้นมาตอบกลับ





‘คิดถึงเหมือนกันครับ’





เห็นแล้วอดเอื้อมมือไปหยิกแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อด้วยความมันเขี้ยวไม่ได้ ป่านหัวเราะ เก็บมือถือแล้วสบตาแม่อยู่พักใหญ่



“มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”



ได้คำตอบของคำถามที่เพิ่งถาม จากสีหน้าเปื้อนยิ้ม จากแววตา โพรงในใจของหม่ามี้คงถูกเติมเต็มปิดถมมานานแล้วด้วยความรักความห่วงใยจากลูกชายคนนี้



“ใกล้จะเคาท์ดาวน์แล้ว เรากลับเข้าไปในบ้านกันเถอะครับ”



เมื่อรู้อย่างนั้นโพรงในใจของป่านก็ถูกเติมเต็มในทันทีเช่นกัน









เห็นได้ชัดว่าที่ร้านสักก็คงจัดปาร์ตี้ปีใหม่กันทั้งคืน



เปิดประตูเข้ามาป่านก็เห็นขวดเหล้า จานอาหาร และเศษซากของประดับมากมายระเกะระกะเต็มร้าน เฮียเดินมาเปิดประตูให้ด้วยสภาพเหมือนเมาค้าง ขณะที่คุณหนูนั่งกินน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ทั้งที่หน้างัวเงียอยู่บนโซฟา



“กินอะไรมาหรือยัง”



“หม่ามี้ให้เอาข้าวเช้ามาฝากด้วยครับ” ป่านพยักหน้า ตั้งใจจะเอาปิ่นโตใส่กับข้าวที่หิ้วมาด้วยไปใส่จานให้ แต่เฮียกลับมาคว้าไป



“ไอ้วาอยู่ในห้องสัก” บอกโดยไม่รอให้น้องถามก่อนหันหลังเดินเข้าไปในครัว คุณหนูลุกขึ้นตามอาหารไปแต่ไม่วายแวะแต๊ะอั๋งน้อง สวมกอดจากด้านหลังแล้วก้มลงหอมหัว



“ตัวหอมจังๆ” เบ้ปากบ่นงึมงำ คงเพราะสภาพตัวเองตอนนี้แทบดูไม่ได้



“คุณหนูก็ไปอาบน้ำสิครับ” ป่านหัวเราะ ปล่อยให้แฟนเฮียซุกจมูกสูดกลิ่นพลางบ่นอิจฉาจนพอใจแล้วผละตามกลิ่นอาหารไปจึงเดินไปเปิดประตูห้องสักของพี่วา

ภายในห้องแทบไม่มีแสงสว่างเพราะปิดม่านปิดไฟ แต่แสงที่ลอดผ่านประตูก็เพียงพอจะทำให้มองเห็นร่างสูงที่นอนแผ่อยู่บนเตียงสักเลือนราง



“พี่ครับ” ส่งเสียงเรียกทว่าไม่มีการตอบสนองใดๆ “หลับอยู่เหรอ?”



สองเท้าเดินเข้าไปใกล้ ก่อนทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ของช่างสัก เด็กซนลอบยิ้มกับตัวเองเมื่อรู้สึกแปลกๆ กับตำแหน่งที่สลับกัน



“วา...” เรียกซ้ำอีกครั้ง เมื่อยังไม่มีทีท่าตอบสนองจึงลอบไล้ปลายนิ้ววาดตามลวดลายที่สลักลงบนร่างกายเปลือยเปล่า นึกภาพหากตัวเองเป็นช่างสักและพี่วาเป็นลูกค้าบ้างจะรู้สึกยังไง



“ทำไรอ่ะ”



“...!!” แต่เมื่อลากมาถึงตัวอักษรที่สักอยู่เหนือไหปลาร้า ดวงตาคมก็ลืมขึ้นมา ป่านสะดุ้ง มองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนที่นอนอยู่ ไม่รู้จะตอบคำถามยังไง



“จะจูบ?”



“ผ...ผมแค่... อยากดูรอยสักใกล้ๆ” เมื่อได้ยินคำตอบพี่วาก็ปรับเบาะขึ้นมาอยู่ในท่านั่งพิงหลัง เปิดโคมไฟ ก่อนอุ้มน้องขึ้นไปนั่งคร่อมตัก โอบหลังจนร่างชิดกัน



“ตรงไหน ตรงนี้?”



“...!”



“ใกล้ขนาดนี้ เห็นชัดยัง”



ในระยะนี้ยังไงก็ต้องเห็นเด่นชัด ป่านอ่านออกเสียงเบาๆ



“Kiss me”



“อือ”



ปลายนิ้วเรียวลูบไล้ทีละตัวอักษรแผ่วเบา ผุดรอยยิ้มยียวนมุมปาก ดวงตาหวานสบตา “แล้วจูบได้จริงไหมครับ ตรงนี้”



“ก็ลองดูดิ” คนพี่ยกยิ้มท้าทาย ก่อนจะหลุดหัวเราะเมื่อน้องก้มหน้าลงมา จรดริมฝีปากเหนืองโค้งไหปลาร้าสวยแผ่วเบา



จุ๊บ



“หึ Good boy” ฝ่ามือใหญ่ลูบหัวพลางรั้งให้คนตัวเล็กนอนซบลงบนร่าง กอดก่ายซุกซบซอกคอขาวทั้งจูบทั้งหอมจนคลายความคิดถึง



เด็กน้อยหัวเราะออกมาด้วยความจั๊กจี้ นิ้วมือยังเกลี่ยไล้ตามรอยสักบนตัวคนรักเล่นเบาๆ



“ฉลองปีใหม่กับที่บ้านเป็นยังไงบ้าง”



พอได้ยินคำถามป่านเพียงพยักหน้า ไม่ได้เล่าอะไรต่อ แต่วาเดาออกว่าน้องมีอะไรจะพูดจึงไม่ได้ซักไซ้มากความ เพียงรอให้น้องตัดสินใจ



“พ่อของป่าน เป็นมะเร็ง...”



แต่คาดไม่ถึงว่าเรื่องที่น้องอยากจะพูดจะเป็นเรื่องนี้



วากระชับอ้อมกอดพลางกดจูบหน้าผากน้องซ้ำๆ ปลอบประโลมไร้ถ้อยคำ น้องวาดแขนกอดกลับ พยายาอมกลืนก้อนความรู้สึกที่เอ่อล้นขึ้นมาทันทีที่เริ่มพูดปัญหาที่กดทับอยู่ในใจ



แต่พี่วาเคยบอกว่าจะอยู่เคียงข้าง และป่านคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะเปิดใจ



“เขาทิ้งเราไปตอนที่ป่านยังเป็นเด็ก... เพิ่งกลับมา” ใช้เวลาพักใหญ่ในการรวบรวมคำพูดแต่ละครั้ง ทว่าพี่วาไม่คิดคาดคั้น “เขาบอกว่าจะรอจนกว่าผมจะเรียนจบ อีกหกปี พี่ว่าจะทันไหมครับ”



“นี่คือสาเหตุที่เรายอมเรียนหมอเหรอ”



“...” ไม่มีคำตอบ



อาจทั้งใช่และไม่ใช่ ป่านตัดสินใจจะเรียนต่อทางนี้ตั้งแต่ก่อนที่จะรู้ว่าพ่อกลับมา ขณะที่ข่าวร้ายก็ช่วยกระตุ้นให้ความรู้สึกยิ่งชัดเจนเช่นกัน



“ทั้งที่หายไปตั้งหลายปี ทำไมถึงกลับมาสภาพนี้”



“...”



“ทำไมไม่บอกเร็วกว่านี้ ถ้าบอกก่อน... ผมจะได้เป็นเด็กดี...ฮึก...” ทั้งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะร้องไห้ แต่เมื่อได้เอ่ยออกมาก็คล้ายกับกำแพงที่ปริแตก ความรู้สึกทะลักทะลาย



พี่วากอดน้องไว้แน่น ทั้งจูบทั้งลูบหัวลูบหลังปลอบใจ เรื่องที่ได้รับรู้มันหนักหนาเกินกว่าที่เด็กคนหนึ่งจะรับไหว ไม่แปลกเลยที่น้องจะรู้สึกอึดอัดจนร้องไห้



“ชู่ว... เราเป็นเด็กดีที่สุดเท่าที่พี่รู้จัก เป็นเด็กดีที่สุดในโลกแล้วครับ ได้ยินไหม”



สิ่งเดียวที่ไม่ถูกต้องคือการที่น้องโทษตัวเอง



“อย่าแบกรับไว้คนเดียว ป่านมีพี่อยู่ตรงนี้ จำได้ไหม” เอ่ยย้ำคำที่เคยบอกเพื่อให้สบายใจ



เขาดีใจที่ป่านยอมเปิดใจ ให้เขาได้รับรู้ปัญหา ให้เขาได้ปลอบประโลม ให้เขาได้ช่วยแบกรับ



เขามั่นใจว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี ต่อให้มันเป็นเรื่องหนักหนาแค่ไหนก็ตาม ต่อให้สุดท้ายหมดหนทางก็ไม่เป็นไร เขาจะสอนให้น้องรู้เองว่าบนโลกนี้มีเรื่องมากมายที่แม้แต่ผู้ใหญ่ยังแก้ไม่ได้ ไม่ผิดเลยที่น้องจะรับมือไม่ไหว



สอนให้รู้ว่าบางครั้งสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์ตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะทำได้ คือการปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามทางของมัน









ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ กว่าน้องป่านจะหยุดร้องไห้



เสียงสะอื้นหยุดลงขณะที่สองร่างยังนอนกอดซบกันไม่ห่าง คนหนึ่งปลอบโยน คนหนึ่งอาศัยไออุ่นชำระความเศร้า กระทั่งความรู้สึกกลับมาคงที่อีกครั้ง



ป่านดีใจที่ได้บอกเล่า และพี่วาก็ยินดีรับฟัง



“คุณหนูบอกว่ารอยสักบนตัวเฮียทั้งหมดคือแฟนเก่า ทำไมล่ะครับ” หลังจากเงียบอยู่นาน น้องก็เป็นฝ่ายเอ่ยถามเรื่อยเปื่อย ชวนคุยเพื่อคลายบรรยากาศให้พี่วารู้ว่าไม่เป็นอะไรแล้ว



“เฮียมันสันดานไม่ดีไง” เสียงทุ้มตอบกลั้วหัวเราะ ฝ่ามือยังลูบหัวน้องซ้ำๆ



“พี่” เงยหน้าเบะบึ้ง บ่งบอกว่ากำลังจริงจังพี่วาเลยหัวเราะเบาๆ อีกครั้งพลางอธิบาย



“หึ เฮียมันเป็นคนเปิดเผย เคยผ่านอะไรมาบ้างก็อยากให้คนปัจจุบันรู้ไว้” ป่านไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็เปลี่ยนคำถาม



“แล้วรอยสักบนตัวพี่... เหมือนกันไหมครับ” ขยับตัวลุกขึ้นนั่งบนหน้าท้องแกร่ง เพ่งมองรอยสักบนตัวคนรัก แต่เดาไม่ออกถึงที่มาที่ไป



“ก็คล้ายๆ แต่บันทึกไว้เฉพาะคนสำคัญๆ”



“...”



น้องยังคงทำหน้างง พี่วาจึงหัวเราะ ดึงร่างเล็กลงมาซบลงบนตัวอีกครั้ง “อยากรู้ขนาดนั้นก็มาใกล้ๆ สิ”



ไล่จากแขน และเชิงกรานซ้าย ขวา



“อันนี้พ่อกับแม่พี่ อันนี้โมโจ อันนี้เลนนอน” ป่านลากนิ้วตามร่างของอดัมกับอีฟ เจ้าสี่ขา และศิลปินชื่อก้องโลกผู้ล่วงลับ



เข้าใจแล้ว ความหมายของคำว่าคนสำคัญ



“Beauty and the Beast คือเฮียกับคุณหนูเหรอครับ?” หมายถึงรอยสักบนแผ่นอกที่ป่านเคยเห็นแต่จับลวดลายไม่ได้ คือใบหน้าของอสูรและหญิงสาวที่กำลังเต้นรำ ถอดแบบจากนิทานชื่อดัง



“อือ สักไว้แก้เคล็ด ไอ้เฮียมันจะได้ไม่ทิ้งคุณหนูอีก” ป่านหัวเราะ นิ้วยังคงลูบเรื่อยวาดตามเส้นที่พลิ้มไหวงดงาม ก่อนหยุดชะงัก



“แล้วอันนี้ เอ๊ะ... อันนี้ผมไม่เคยเห็น...” จะว่าไป ป่านเพิ่งสังเกตว่ารอยสักจากอกขวาตอนนี้ลามเรื่อยมาเกือบทั่วแผ่นอกซ้าย



ท่ามกลางสวนสวยปรากฏลวดลายแปลกใหม่ คือฝูงปลาที่กำลังแหวกว่าย



...ไม่สิ กำลังบินต่างหาก



“แล้วคิดว่าหมายถึงใครล่ะ หืม?”



ตอนนั้นเองที่ป่านเพิ่งเอะใจว่าเป็นลวดลายที่ถอดแบบมาจากรอยสักของตัวเอง...



ทั้งโค้งเว้าและสีสัน มัจฉาที่สวมปีกสยายงดงาม เข้ากันดีเหลือเกินกับแมกไม้ในสวนสวรรค์



ป่านยิ้มกว้าง สบดวงตาคมที่ยิ้มตอบ พี่วาเกลี่ยนิ้วตามกรอบหน้าน้อง ก่อนยื่นหน้าเข้ามาจูบหน้าผากแผ่วเบา



“สำหรับพี่ ป่านคือคนสำคัญ” เอ่ยชัดเจน



ให้รู้ว่าต่อไปนี้ป่านไม่ได้เดินไปข้างหน้าโดยลำพังอีกต่อไป











#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

เป็นเด็กม.6 นี่เหนื่อยจังเลยน้าา

ตอนเขียนเราทำตารางเรียนตารางสอบให้น้องป่านด้วยค่ะ

งงงวยพอสมควร เพราะเรียนจบมาพักใหญ่แล้ว ถ้าผิดพลาดตรงไหนแจ้งได้เลยนะคะ ;-;



ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

รักมากๆ



-Martian-

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
มันคือดีๆๆๆๆๆๆ "สำหรับพี่ป่านคือคนสำคัญ"   :hao7:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ทำไมเราอ่านแล้วน้ำตาซึมเข้าใจความรู้สึกของป่านมากๆพ่อกลับมาพร้อมจ่าวร้ายแถมยังต้องพาตัวเองกลับไปอยู่ในที่เหมือนเป็นส่วนเกินป่านและแม่เก่งมากพื้นฐานจิตใจมั่นคงมากๆแล้วทำไมพ่อไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรเลยน้องป่านอย่าลืมไปสอบกสพท.นะคะ
ขอบคุณนักเขียนค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ผลิตงานดีๆแบบนี้ไปเรื่อยๆนะคะ

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
เราเคยอยู่ในสถานะเหมือนป่านนะคะ จะว่าเราอกตัญญูก็ได้ แต่ตอนที่เรากับแม่ลำบากแทบตาย เค้าไม่เคยยื่นมือมาช่วย พอใกล้ตายเกิดสำนึกได้อะไรไม่รู้ จะขอกลับมา เราเลยบอกไปว่าถ้ากลับมาแล้วมาเป็นภาระ ไม่ต้องกลับมาค่ะ ชีวิตเราตอนนี้ดีอยู่แล้ว เราแค่ช่วยเหลือไปตามสมควรแล้วจบกันไป ไม่ต้องข้องเกี่ยวกันอีก

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
พี่วาอบอุ่นมาก..กกกกกกกกก   :-[

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ผ่านคุกผ่านตารางมาแล้ว ไม่มีไรห้ามพี่วาได้แล้ว จะอ้อยน้องเท่าไหร่ก็จัดมาค่ะ คนอ่านรับไหว ฮึบๆๆๆ  :-[

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อยากจะหวงน้องป่าน แต่ก็ไม่ทันแล้ว ถ้าขอคุณหนู เฮียคงกระโดดถีบ

ขอโมโจ ได้มั้ยคะ มีสินสอด เป็น royal canin 1กระสอบ กับ snack อีก 100 ห่อ

อ่านมาถึง น้องป่าน ต้องสอบ แล้ว มึนเลยค่ะ อะไรคือ TCAS รู้จักแต่เอนทรานซ์ กับ onet-anet 

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
สงสารน้องจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
ลายที่ 18

Dreams

( ไฟในฝัน )



อีกสามวันจะประกาศผลสอบ



คล้ายความกังวลทั้งชีวิตถาโถมลงมาให้โอบรับ ความคิดแง่ร้ายผุดกะพริบเกือบทุกชั่วโมงในกิจวัตร



ป่านยิ่งอ่านหนังสือหนักกว่าเก่า เพราะหากสอบไม่ผ่านอย่างที่คิดขึ้นมา เท่ากับว่าโอกาสยิ่งน้อยลง การแข่งขันยิ่งสูงขึ้นป่านยิ่งต้องพยายามให้มาก เด็กน้อยจิตตกถึงขั้นนอนไม่หลับ ผวาตื่นกลางดึกเพื่ออ่านหนังสือจนเช้าติดต่อกันหลายวัน



หม่ามี้เป็นห่วงจนไม่รู้จะทำยังไง ป่านเองก็รู้ว่าแม่ไม่สบายใจจึงขออนุญาตมานอนค้างที่ร้านสักเผื่อว่าการมีเพื่อนจะช่วยให้ผ่อนคลายความเครียดเกร็งลงบ้าง



แต่ไม่วายหอบหนังสือเตรียมสอบมาอ่านจนได้ พี่วาไม่ได้ห้าม แต่มีข้อแม้ว่าอย่าหักโหม และต้องกำหนดตารางการอ่านชัดเจน มีเวลาพัก มีเวลาผ่อนคลายคิดเรื่องอื่นให้ไม่กดดันจนเกินไป แปลกดีที่ร่างกายป่านกลับสงบเชื่อฟัง แม้ความกังวลยังตกค้าง แต่กลางดึกหากผวาตื่นก็จะมีอ้อมกอดและเสียงกระซิบกล่อมช่วยปลอบใจให้หลับใหลต่อได้ตลอดคืน



สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากเสร็จงานสักพี่วาก็จะมานั่งเฝ้าเด็กเตรียมสอบอ่านหนังสือเพื่อเข้านอนพร้อมกัน



“พี่ไม่ต้องรอก็ได้ครับ เหลืออีกหลายบท” ทั้งที่น้องบอกไปตั้งหลายครั้งว่าไม่จำเป็นต้องฝืนร่างกาย เพราะเข้าใจดีว่าพี่วาทำงานมาทั้งวันก็เหนื่อยมากแล้ว



“ไม่เป็นไรพี่ว่าง” ยังจะเถียงทั้งที่ดวงตาคมจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่



อาจเป็นเพราะแบบนี้ป่านจึงรู้สึกเกรงใจ ไม่เคยอ่านหนังสือเกินเวลาที่กำหนดไว้เพราะไม่อยากให้พี่วาลำบาก



“แต่พี่ทำงานมาทั้งวัน”



“พี่ยังไม่ง่วง”



“แน่ใจนะครับ”



“แน่ใจๆ ไหนๆ เดี๋ยวอ่านเป็นเพื่อน ชีววิทยานี่พี่ถนัดมาก” ป่านจนปัญญาจึงปล่อยให้ผู้ใหญ่ดื้อหยิบหนังสือที่ตัวเองเพิ่งอ่านจบไปเปิดเล่น ท่าทางเคร่งขรึมขึ้นทันควันทำน้องหลุดขำ รู้ดีว่าทำท่าตั้งใจไปอย่างนั้นเองเพื่อไม่ให้โดนไล่



ปกติป่านชอบอ่านหนังสือคนเดียวที่บ้านมากกว่ารวมกลุ่มติวหรือในสถานที่ที่มีเสียงจอแจ แต่พอมีพี่วาอยู่ด้วยกลับไม่รู้สึกรำคาญอะไร เพราะพี่วาแทบไม่พูด ไม่รบกวน เวลาป่านอยากพักก็มักจะมีขนมหรือน้ำหวานสำหรับเติมพลังวางไว้ให้โดยไม่ต้องร้องขอ



ในทีแรกความไม่ชินทำให้ป่านรู้สึกลำบากใจ แต่เมื่อเป็นแบบนี้บ่อยเข้าทุกครั้งที่ป่านละสายตาจากแผ่นกระดาษแล้วเห็นใบหน้าของพี่วา รอยยิ้มที่คล้ายจะให้กำลังใจ มันกลับทำให้ป่านรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก



แต่เผลอละสายตาจดจ่ออยู่กับหนังสือไม่กี่ชั่วโมง หันกลับมาอีกทีก็เห็นพี่วานอนหลับอ้าปากหวอจนน้ำลายย้อยใส่หนังสือตัวเองแล้ว



“วา... น้ำลายย้อยใส่หนังสือผม”



“ชิบหาย!”



“หนังสือเรียนก็น่าเบื่อแบบนี้แหละครับ” ป่านอดขำไม่ได้ หยิบทิชชู่ออกมาเช็ดหนังสือกับมุมปากผู้ใหญ่ดื้อที่ยังไม่วายขอแก้ตัว



“เอาใหม่ คราวนี้ไม่หลับแล้ว”



“อ่านจบแล้วครับ” ป่านมองนาฬิกา เกือบจะตีสามแล้ว ป่านกำหนดเวลาให้ตัวเองดึกสุดเพียงเท่านี้ และก็อ่านได้ตามเป้าพอดี



“เหรอๆ งั้นไปนอนกัน” ร่างสูงรีบรวบหนังสือของน้องจัดวางเป็นระเบียบไว้ที่มุมโต๊ะแล้วคว้าข้อมือเล็กลุกทันควัน



“เดี๋ยวครับ”



“หือ?”



ป่านอึกอัก ช้อนสายตาสบตาดวงตาคมที่ตั้งคำถาม พลางยกชายเสื้อตัวเองขึ้นมาซุกจมูกสูดกลิ่นฟุดฟิด ยิ้มแหย



“เรา... อาบน้ำกันก่อนไหม?”









สงสัยว่าพี่วาคงจะเข้าใจความหมายคำว่า ‘เรา’ ต่างจากป่าน



หมายถึงต่างคนต่างอาบต่างหาก ไม่ใช่แบบนี้สักหน่อย



“อะไรกัน เมื่อกี้ยังง่วงอยู่แท้ๆ” สองร่างนั่งซ้อนกันในอ่างอาบน้ำคับแคบ เปลือยเปล่า คนที่สัปหงกเมื่อไม่กี่นาทีก่อนกลับตาสว่างทั้งจมูกทั้งมือทั้งสองข้างซุกไซ้ซุกซนไปทั่วร่างขาวนุ่มอย่างน่าตี



“อือ ง่วงๆ” ป่านคงไม่บ่นถ้าหากคนแกล้งง่วงไม่เอาแต่พรมจูบไปทั่วแผ่นหลังชวนให้รู้สึกแปลกๆ อย่างนี้



“งั้นก็รีบล้างตัวแล้วรีบไปนอนสิครับ”



“นอนๆ”



“นอนในห้องน้ำไม่ได้ครับ”



“เอา...ในห้องน้ำ” ไม่พูดจาสองแง่สองง่ามเปล่า มือไม้ยังอยู่ไม่สุขจนน้องฟาดเข้าให้หนึ่งที



“พี่! อย่าจับไปทั่วสิครับ”



“ไม่จับๆ”



“ไม่จูบด้วย”



“จูบๆ”



“อื้อ! วา...อย่าซนสิครับ” เด็กน้อยร้องท้วงก่อนจะหลุดหัวเราะเมื่อยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ พี่วาเอาแต่จูบลูบคลำไปทั่วไม่หยุด ทั้งจั๊กจี้ ทั้งรู้สึกวูบโหวงแปลกๆ เมื่อนิ้วสากลากวนตรงขาอ่อนน้องตำแหน่งรอยสักที่จำได้ขึ้นใจ



ป่านผลอกลั้นหายใจ ที่จริง... ก็น่าจะเดาได้ตั้งแต่ยอมลงอ่างมาด้วยกันแล้วว่าคงไม่ได้จบแค่อาบน้ำแน่ๆ



ไม่น่าหลวมตัวเลย...



“หึ” ทว่าไม่ทันได้ปล่อยตัวปล่อยใจถลำลึกไปมากกว่านั้น พี่วากลับหยุดชะงัก เสียงหัวเราะดังขึ้นข้างหูก่อนริมฝีปากร้อนจะกดจูบหนักๆ ลงมา สองแขนที่เคยลูบไล้สะเปะสะปะรวบเอวบางกอดกระชับแน่นขณะซุกหน้าลงกับไหล่ที่ห่อเล็กๆ อย่างตั้งตัวไม่ทัน



“หนูเหนื่อยแย่แล้ว...” เอ่ยงึมงำเกือบฟังไม่ได้ศัพท์ กอดน้องแน่นขึ้นอีกก่อนขออนุญาต “อีกแป๊บนึงนะ”



ป่านหลุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อเข้าใจความหมาย จริงอยู่ที่ป่านไม่เคยขัดความต้องการของพี่วาเลยสักครั้ง ยามอีกฝ่ายมีอารมณ์ต่างปลุกเร้าไต่อารมณ์ตอบสนองกันและกันโดยไม่มีการฝืนใจ แต่จริงอย่างพี่วาว่า ช่วงนี้ป่านเหนื่อยมาก ในหัวมีแต่ความเครียดจึงไม่มีแม้แต่ความคิดอยากปลดปล่อยความใคร่ด้วยตัวเองด้วยซ้ำ



“วา...” ยกมือขึ้นลูบหัวคนแก่กว่า เรียกให้เงยหน้าขึ้นก่อนเอียงหน้าเข้าหา



ลมหายใจชิดลมหายใจ ริมฝีปากยิ้มกว้างคลอเคลีย จูบแผ่วเบาหนึ่งครั้งพลางกระซิบบอก “อีกสามวันนะครับ”



คล้ายการเดิมพัน หากประกาศผลสอบออกมาว่าป่านสอบติดก็ถือเป็นรางวัลให้ตัวเองด้วย เพราะว่างเว้นมานานเช่นกัน



เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอจูบกลับเพียงบางเบา “ครับ อีกสามวันครับ”



ก่อนที่ตัวจะเปื่อยจึงอุ้มน้องขึ้นจากอ่างอาบน้ำ เสียงจูบเคล้าเสียงกระซิบกระซาบ เสียงหัวเราะยามผลัดกันเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กันและกัน



คืนนั้นสองร่างกอดก่ายทั้งที่เปลือยเปล่า ไร้บรรเลงร่วมรัก เพียงถ่ายทอดไออุ่นจากร่างสู่ร่าง ซุกซบในอ้อมกอดสู่หลับใหลไร้ฝัน









อีกสองชั่วโมงจะถึงเวลาประกาศผล



“มายังๆ” กลับเป็นพี่วาที่นั่งแทบไม่ติด แทบไม่เป็นอันทำงานทำการ ออกจากห้องสักทีหนึ่งก็วิ่งมาหาน้องหน้าตาตื่นทีหนึ่ง



จากที่ควรจะเครียดป่านกลับขำ



“ยังครับ อีกตั้งสองชั่วโมง” บอกไปไม่รู้ตังกี่รอบ ดูเหมือนพี่วาจะไม่เชื่อตัวเลขบนนาฬิกาถึงได้เอาแต่จ้องหน้าเว็บประกาศผลราวกับเวลาในหน้าเว็บจะเร็วกว่า

แต่ป่านเองก็นั่งรีเฟรซหน้าเว็บทุกๆ ห้านาทีอย่างห้ามไม่ได้เช่นกัน



“คุณพ่อ อย่าตื่นเต้นเกินเหตุ ไปทำงานไป๊” คุณหนูแกล้งกระดิกเท้าไล่ เห็นอาการลุกลี้ลุกลนของผู้ปกครองปลอมๆ ของน้องป่านแล้วก็อดหมั่นไส้ไม่ได้



พี่วาเบ้หน้า แต่ก็ยอมเดินกลับสตูดิโอไป บอกตัวเองว่าเหลือลูกค้าอีกเพียงคิวเดียวเท่านั้น ยังไงเสียก็ออกมาช่วยลุ้นทัน



ระหว่างนั้นป่านกับคุณหนูคุยกันเรื่อยเปื่อยเพื่อไม่ให้ความคิดจดจ่อกับความกดดัน แต่ก็ไม่วายถามถึงความเป็นไปได้ในแง่ร้ายที่อาจเกิดขึ้น



“แล้วถ้าไม่ติดล่ะครับ”



“ก็ยังมีรอบสองนี่นา” ก่อนหน้านี้ป่านอธิบายระบบการสอบให้คุณหนูเข้าใจก่อนแล้ว



ในระบบการสอบแบบใหม่คณะแพทย์แทบทุกมหาวิทยาลัยจะสอบเพียงสามรอบ หากไม่ผ่านรอบแรก จะต้องลงสนามสอบความถนัด วิชาสามัญ วิชาเฉพาะ เพื่อยื่นคะแนนเข้าระบบคัดเลือกในรอบที่สอง และหากไม่ติดอีก ก็ยังมีรอบที่สาม...



หากถึงตอนนั้นป่านไม่รู้ว่าตัวเองจะยังเหลือความหวังไหม จากที่เคยคิดว่าตัวเองจะทำได้ ความเหน็ดเหนื่อยและความผิดหวังซ้ำๆ อาจบั่นทอนจนหมดความมั่นใจไม่เหลือกำลังแล้วก็ได้



จริงอยู่ที่ป่านเคยลังเลไม่แน่ใจว่าตัวเองอยากเรียนแพทย์ ทว่าพอคิดถึงตัวเลือกสำรองในกรณีที่สุดท้ายพลาดหวัง ในหัวก็มืดแปดด้านเช่นกัน



คิดไปคิดมาแล้วนึกอิจฉาคนที่มีความฝัน รู้ดีว่าความต้องการของตัวเองคืออะไรและเดินไปตามเส้นทางนั้นจนสุดทาง



“ตอนมัธยมเราก็มีรู้เหมือนกันว่าตัวเองอยากเรียนต่ออะไร” ราวกับเดาความคิดของป่านได้ คุณหนูเอ่ยออกมา มือบางเอื้อมหยิบขนมขบเคี้ยวกินสลับกับป้อนน้องขณะเล่าเรื่องตัวเองด้วยท่าทางสบายๆ “พอถึงเวลาพ่อบอกว่าให้เรียนบริหารเพื่อมาดูแลกิจการที่บ้านต่อ เราก็เลือกตามนั้นและมันก็ไม่ได้แย่อะไร ไม่มีแพสชั่นในการใช้ชีวิตเหมือนคนอื่น ก็ใช่ว่าเราจะเป็นloserนี่นา”



“...”



“แม้แต่พี่เดย์เองที่บ้านไม่มีเงินส่งเสีย ก็เลยต้องพยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้เรียนตามที่ตัวเองฝันเพื่อตั้งตัวมีชีวิตอย่างทุกวันนี้ ส่วนวาไม่ได้อยากเป็นช่างสักมาตั้งแต่แรก แต่ความฝันมันเลี้ยงชีพไม่ได้ก็ต้องหาเส้นทางที่ดีกว่า” คุณหนูยิ้มบางๆ แววตาเต็มไปด้วยความหวังดีและให้กำลังใจ



“เห็นไหมโลกนี้มันก็มีทั้งคนที่มีโอกาส ไม่มีโอกาส มีฝัน ไม่มีฝัน ทางหนึ่งพลาด ก็ยังเหลืออีกหลายเส้นทาง วันนี้เราอยู่ตรงนี้ พรุ่งนี้อาจไปอยู่ในที่ไกลแสนไกล ชีวิตมันผกผันทุกวินาทีนั่นแหละ ขึ้นอยู่กับว่าเรามองเห็นและรับมือมันยังไง”



ฝ่ามือข้างหนึ่งยกขึ้นมาขยี้หัวน้องแรงๆ หนึ่งทีคล้ายมันเขี้ยว



“ตัวแค่เนี้ย ใช้ชีวิตให้สนุกเถอะ อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป เดี๋ยวหน้าแก่เหมือนวา” ป่านเกือบหลุดหัวเราะเมื่อจบประโยคเสียงประตูก็เปิดออก คนถูกพาดพิงโผล่หน้าออกมาราวรู้จังหวะ



“อะไร ใครแก่นะ” คนถูกนินทาเลิ่กลั่ก สองคนมองหน้ากันแล้วลอบยิ้มใส่กัน



คุณหนูลุกขึ้นแกล้งยักไหล่ลอยหน้าลอยตา อ้างไปหยิบขนมมาเพิ่มแล้วเดินหนีไป พี่วาเลยได้แต่คาดโทษก่อนหันกลับไปจัดการคิดเงินกับลูกค้า อธิบายวิธีดูแลรักษาแผลต่างๆ ตามหน้าที่จนลูกค้ากลับไปจึงเดินมาหาป่าน



“อะไรอ่ะ” ชะงักเมื่อเห็นน้องมองอยู่ก่อนแล้วพลางยิ้มด้วยสีหน้าอ่านยาก



ป่านอ้าแขน ยิ้มกว้าง “ขอกำลังใจหน่อยได้ไหมครับ”



ไม่น่าถาม มีหรือจะไม่ได้



พี่วาอ้าแขนรับ อุ้มน้องขึ้นจากเก้าอี้แล้วให้น้องนั่งตัก ต่างฝ่ายต่างซุกซบสูดกลิ่นกายหอมแลกไออุ่นกันและกัน



เด็กน้อยสูดลมหายใจ ก่อนหันหน้ากลับมาจ้องแล็ปท็อปมองนาฬิกาที่บอกเวลาประกาศผลพอดี มือจับเม้าส์ ก่อนรีเฟรซหน้าเว็บอีกครั้ง มีหัวข้อใหม่ปรากฏขึ้นมา



‘ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์คณะแพทยศาสตร์...’



ป่านหันกลับไปมองหน้าพี่วาที่มองกลับมาเช่นกัน ไม่มีคำพูดใดเล็ดลอด ทั้งสองคนแทบกลั้นหายใจด้วยซ้ำขณะที่ป่านขยับลูกศรคลิกเข้าลิ้งก์ เลื่อนผ่านคำอธิบายยืดยาวในหน้าแรก สู่รายชื่อที่เรียงรายลงไปอีกสามหน้ากระดาษ



สายตาสองคู่บรรจงอ่านทีละรายชื่ออย่างเชื่องช้า จากหน้าแรก สู่หน้าที่สอง...



และชื่อของป่านก็อยู่ตรงนั้น



‘ลำดับที่ 32 นาย ปัณณธร โชติพิสุทธิ์เมธา’



“...”



“...”



มีความรู้สึกมากมายลอยอวลอยู่ในความเงียบนั้น



“เป็นไง” กระทั่งคุณหนูเดินออกมาจากห้องครัวเห็นสีหน้าของทั้งสองคนกับจอแล็ปท็อปก็พอจะเดาออกว่าผลประกาศออกมาแล้ว พี่วาจึงหันไปยิ้มกว้างตอบแทนเด็กน้อยที่ยังได้แต่จ้องชื่อตัวเองนิ่งค้าง



“ติดแล้ว”



ปัง!



ทันควัน เสียงพลุกระดาษก็ดังขึ้นพร้อมกับกระดาษสีรุ่งโปรยปรายลงมา ที่แท้คุณหนูก็แอบเข้าไปหยิบของเล่นเตรียมแสดงความยินดีด้วยความมั่นใจ



“ยินดีด้วย ไปบอกให้พี่เดย์เตรียมฉลองดีกว่า” ว่าแล้วก็วิ่งเข้าไปหาแฟนตัวเองที่ยังทำงานอยู่ในสตูดิโออีกห้อง



ป่านมองพลุกระดาษที่ปลิวไปทั่ว ก่อนหันมาสบตาพี่วารอยยิ้มค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าพร้อมกับดวงตากลมที่ค่อยๆ มีน้ำตาเอ่อล้นขณะพยายามจะเอ่ยความในใจ



“ทำได้แล้ว... ป่านทำได้ ฮึก ฮือ...” แทบพูดไม่รู้เรื่องเมื่อน้ำตาแห่งความโล่งใจล้นทะลัก ก่อนจะได้แต่สะอึกสะอื้นโผเข้ากอดคนรักแน่น



พี่วาหัวเราะเบาๆ กอดตอบแน่นไม่แพ้กัน พลางมือหนึ่งลูบหัวลูบหลังน้องจูบขมับซ้ำไปซ้ำมา ปลอบประโลมเพราะรู้ว่าป่านเหนื่อยมามากไม่แปลกเลยที่ผลลัพธ์จะออกมาสมกับความพยายาม



“เก่งมาก เด็กดีของพี่เก่งที่สุดเลยครับ”










#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

ตอนหน้านะตอนหน้า พี่วาต้องทวงรางวัลสาสมแน่นอนค่ะ :)



เรื่องนี้ใกล้จบเต็มทีแล้ววว ที่คิดไว้เหลืออีกประมาณ 4-5 ตอนค่ะ

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดกำหนดเปิดพรีน่าจะประมาณต้นเดือนหน้านะคะ

เดี๋ยวจะบอกอย่างเป็นทางการพร้อมแจ้งราคาและรายละเอียดต่างๆ อีกทีเนอะ



ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ

รักมากๆ

- Martian -





ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น้องป่านเก่งที่สุด  o13

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ดีจัง ในวันที่เหนื่อย ที่ท้อ ที่กดดัน ที่ลุ้น มีพี่วาอยู่ด้วยข้างๆตลอดเลย

คุณป๋าของหนู ~~ คำว่า daddy ลอยมารอตอนหน้าแล้วววว  :z1:

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
เก่งมากครับน้องป่าน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
 :mc4: :mc4: :mc4:  น้องทำได้แล้วยินดีด้วยน้า

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
สู้ๆนะเจ้าป่านนนน

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ดีใจด้วยนะคะน้องวาพี่ป่านน่ารักมากดูแลน้องดีมากๆรอเขาทวงสัญญากัน

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เย้!!! น้องป่านเก่งมากลูก o13
พี่วาก็แสนดีซัพพอร์ทน้องตลอด น้องสอบได้แล้วต้องฉลองเต็มที่น้าาาาพี่วาาาาา :hao3:

ออฟไลน์ Cheese[C]ake

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ป่านสอบติดแล้ว​ ดีใจๆๆๅ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด