พิมพ์หน้านี้ - ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: makok_num ที่ 17-09-2018 22:20:20

หัวข้อ: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 17-09-2018 22:20:20
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


















☀ Tattoo-ism ☀

#มอปลายลายสัก




“พี่ครับ... พี่กำลังจับก้นผม”

“ก็มึงสักตรงนี้ แล้วจะให้กูจับตรงไหน”





☀ ------------------------------------- ☀



สืบเนื่องจากที่เคยโพสต์พล็อตในทวิตเตอร์  #มอปลายลายสัก

สู่เรื่องยาวที่จะมีลำดับเส้นทางสู่ห้องขังที่มีรายละเอียดมากขึ้น

ฝากเอ็นดูพี่ช่างสักและน้องม.ปลายด้วยนะคะ




ปล. เนื้อหาอาจมีความรุนแรง (มีฉากพันธนาการและการใช้อุปกรณ์) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ




รัก

-Martian-



☀ ------------------------------------- ☀

ติดตามข่าวสาร

แฟนเพจ : https://www.facebook.com/makoknum.writer/?ref=bookmarks
ทวิตเตอร์ : https://twitter.com/makok_num
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 17-09-2018 22:21:06
Intro.

 

รอยสักแต่ละรอยบอกอะไรได้บ้าง



...ว่ากันว่าแต่ละเส้น สี และลวดลายที่ตัดสินใจสลักลงบนร่างล้วนสะท้อนตัวตนของผู้สัก



รสนิยม ความเชื่อ นิสัย



ถ้าอย่างนั้น... คนตรงหน้านี้ล่ะ เป็นคนยังไง



ดวงตากลมไล่มองจากปลายนิ้วเรียวที่คีบมวนบุหรี่ขาว เลื่อนสายตาตามเส้นเลือดเด่นชัดบนหลังมือ สู่แขนที่ถูกสลักไว้ด้วยลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์



รูปถ่ายที่ถูกโพสต์ไว้บนอินสตราแกรมของร้าน ไม่เคยปรากฏใบหน้าของช่างสักที่เด็กหนุ่มชื่นชอบเลยสักครั้ง



แต่เขาจำได้



ลวดลายสวนสวยบนท่อนแขนกำยำ...



สวนสวรรค์ต้องห้าม



อีเดนที่เด็กน้อยอยากเห็นสักครั้ง... อยากสัมผัส



เพียงแต่... เขาไม่คิดว่าในวันที่ได้เห็นกับตาครั้งแรก ภาพรอยสักที่เขาหลงใหลจะผิดแผกไปด้วยเส้นที่คาดทับตรงตำแหน่งหน้าท้องของอดัมกับอีฟซึ่งกำลังกอดก่าย ร่วมรัก



เส้นสีชมพูเด่นชัด ของยางรัดผมที่มีลูกปัดรูปสามสาวพาวเวอร์พัฟฟ์เกิร์ล…



รสนิยมหรือ?



หากอีเดนบ่งบอกถึงความหลงใหลในเสน่ห์ต้องห้ามลึกลับ ยางรัดผมสีหวานก็คล้ายกำลังขีดทับลงกลางสวน ขัดแย้งลวดลายอันเย้ายวนอย่างอุกอาจ



เด็กหนุ่มรู้ดีว่าเป็นเรื่องเสียมารยาทที่เผลอยืนจ้องคนตรงหน้าอยู่นานสองนาน ซ้ำยังหลุดยิ้มกับความคิดชวนขันในใจ



กระทั่งชายที่กำลังเดินล่นอยู่ในภวังค์ปลดปล่อยความว้าวุ่นใจละลายไปกับกลุ่มควันหันกลับมามองหัวจรดเท้า แล้วกลับมาสบตาอีกครั้ง



ถูกจับได้แล้ว...



ยิ่งประหม่าเมื่อคิ้วเข้มเลิกขึ้น ก่อนค่อยๆ ขยับชิด ขมวดมุ่น สายตาคมกรีดลึกเข้ามาในดวงตา



เด็กหนุ่มยืนชะงักงัน ถ้อยคำที่อุตส่าห์เตรียมไว้เลือนหาย คล้ายถูกดวงตาคู่นั้นพันธนาการ ได้แต่จ้องกลับนิ่ง เพ่งพินิจสีดำหม่นที่สะท้อนเงาใบหน้าของตัวเองด้วยความรู้ลึกประหลาด



...คลับคล้ายคลับคลาว่าเขาเคยเห็นสิ่งหนึ่งที่คล้ายกัน



“อะไร” ไม่ทันได้หาคำตอบว่าสิ่งนั้นคืออะไร เขาสะดุ้งด้วยน้ำเสียงทุ้มติดจะแหบต่ำที่เอ่ยถามอย่างไม่เป็นมิตรนัก



ดวงตากลมกะพริบปริบ นึกตำหนิตัวเองที่เสียมารยาทอีกครั้ง



“สวัสดีครับ พี่...พี่วาที่เป็นช่างสักใช่ไหมครับ” ในที่สุดเด็กน้อยสะกดกลั้นความรู้สึกประหลาดที่อัดคับอยู่ในใจ เอ่ยถาม สบดวงตาสีหม่นที่ดูขุ่นข้องใจมากขึ้นทุกขณะ



“อือ มีอะไร” มือข้างหนึ่งยกปัดป่ายกลุ่มควัน กวนอากาศที่อวลด้วยสารก่อมะเร็งให้เจือจาง



“คือ... ผมติดตามพี่ในอินสตราแกรม ผมชอบเส้นพี่...” คนเด็กกว่าละล่ำละลักอธิบายด้วยตื่นเต้น แต่ไม่ทันเอ่ยความรู้สึกได้ดั่งใจ ไม่ทันควักสมาร์ทโฟนที่ตั้งใจอวดอ้างถึงการติดตามด้วยความชื่นชม



“รีบๆ พูดดิ๊ เกะกะ” ...กลับถูกตัดบทด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เรียกว่าไล่กันอย่างไม่ปิดบัง



หยาบคาย



เขาขมวดคิ้วบ้าง เริ่มรู้สึกไม่พอใจกับท่าทางที่ไม่ควรแสดงต่อคนที่เพิ่งเจอหน้าครั้งแรก



แถมมาในฐานะลูกค้า 



“คือ... ผมจะสักครับ”



แต่เขาคิดผิดว่าท่าทีอีกฝ่ายจะเปลี่ยนไปเมื่อเอ่ยจุดประสงค์ ดวงตาสีหม่นคู่นั้นยังคงมองเขาหัวจรดเท้า เท้าจรดหัวอย่างไม่คิดรักษามารยาท



“จริงจัง?”



“ครับ” เขาตอบ สุภาพ จริงจัง



คราวนี้ใบหน้าคมบิดเบี้ยว นิ้วเรียวที่คีบบุหรี่สลัดมวนนิโคตินทิ้ง จงใจให้เฉียดรองเท้าผ้าใบสะอาดสะอ้านไปไม่ถึงหนึ่งนิ้ว พอตั้งท่าจะก้าวเท้าหนี ร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนก้าวเท้าเหยียบก้นบุหรี่จนประกายไฟดับสนิท แขนทั้งของข้างซุกลงในกระเป๋ากางเกงจนเหลือรอยสักให้เห็นเพียงครึ่ง ขณะโน้มตัวลงมาหาเขาด้วยท่าทางคุกคาม



“มึงอายุเท่าไหร่”



เด็กหนุ่มนิ่งเงียบอยู่สักพัก ท่าทางลังเล วันนี้เขาจงใจใส่ชุดลำลองเพื่อให้ตัวเองดูมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกนิด แม้อายุแท้จริงแทบจะถูกขายด้วยใบหน้าอ่อนใสน่ารัก



“อีก 2 เดือน 18 ครับ” สุดท้ายตัดสินใจเอ่ยความจริงเมื่อไม่เห็นเหตุผลของการปิดบัง แถมพูดเองคงดีกว่าให้คนตรงหน้ามาละลาบละล้วงขอตรวจบัตรประชาชน



แต่แล้วกลับยิ่งน่าหงุดหงิดเมื่อได้เห็นคิ้วขมวดมุ่นด้วยสายตาอ่านยาก คล้ายเย้ยหยัน พร้อมด้วยถ้อยคำเสียมารยาท



“กลับไปถอนฟันน้ำนมให้หมดปากก่อนไป”



"อะไรนะครับ"



"มาทางไหนกลับไปทางนั้น" คล้ายได้ยินเสียงเส้นความอดทนขาดผึงในวินาทีนั้น คนเด็กกว่าถลึงตามองชายที่ตัวเองเคยหลงคนปลาบปลื้มด้วยความรู้สึกหลากหลาย



หงุดหงิด ผิดหวัง เสียใจ...



ก่อนตระหนักว่าเขาผิดเองที่คาดหวังกับคนที่ไม่เคยเห็นแม้ใบหน้าสักครั้ง อยากให้อีกฝ่ายเป็นคนยังไง ยิ้มแย้มแจ่มใส เอ่ยต้อนรับเด็กกะโปโลอย่างเขาเข้าร้านด้วยน้ำเสียงใจดีหรือ?





เป็นเขาเองที่ไร้เดียงสาเกินไป อาจจริงอย่างที่สังคมนิยาม คนสักนั้นน่ากลัว...



“เดี๋ยว”



ยังไม่ทันที่ขาเรียวใต้กางเกงห้าส่วนจะก้าวพ้นหน้าร้าน เสียงแหบต่ำกลับเรียกเขาไว้อีกครั้ง คิ้วเข้มยังคงเลิกขึ้นเพียงข้างเดียว การแสดงสีหน้าที่เด็กหนุ่มคิดว่าช่างกวนประสาทและไม่เป็นมิตรอย่างน่ารำคาญ



“ชื่ออะไร” ยิ่งน้ำเสียงที่ใช้ ท่าทางการยืนล้วงกระเป๋าคล้ายไม่ยี่หระทั้งที่เป็นฝ่ายตั้งคำถาม



"..."



“ไม่ได้ยิน?” เมื่อเขาไม่ยอมตอบ จึงเอ่ยย้ำ “ถามว่าชื่ออะไร”



ไม่จำเป็นต้องตอบด้วยซ้ำ แต่เขาไม่อยากมีปัญหา ไม่รู้ว่าการต่อล้อต่อเถียงกับคนท่าทางน่ากลัวแบบนั้นจะส่งผลร้ายอะไรบ้าง



“ป่าน” ห้วนสั้นอย่างไม่คิดคำนึงถึงมารยาท เขาทำได้เพียงเท่านี้ ด้วยเพราะได้รับการอบรบสั่งสอนมาดี



“หืม?” แต่เด็กดีแทบข่มอารมณ์ไม่ไหวเมื่อได้เห็นสีหน้ากวนประสาทขอทวนซ้ำ ทั้งที่ตำแหน่งที่ยืนเงียบจัดจนได้ยินแม้แต่เสียงฝีเท้า



คราวนี้เขาสาวเท้าเข้าใกล้ สบตาแน่วแน่แบบที่ทำให้อีกฝ่ายถึงกับผงะในความกล้า ย้ำชัดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง



“ป่านครับ ชื่อป่าน” 



“ป่าน” แต่เมื่อคนโตกว่าทวนชื่อด้วยเสียงแหบต่ำ เด็กน้อยกลับเป็นฝ่ายชะงักบ้าง



...ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนเรียกชื่อป่าน ชื่อที่หวานเกินชาย



ทว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม คำเพียงพยางค์เกียวที่ถูกเอ่ยด้วยเสียงนั้นช่าง...แตกต่าง



คงเพราะน้ำเสียงทุ้มที่ต่ำกว่าผู้ชายทุกคนที่เด็กหนุ่มรู้จัก...



เสียงที่เหมือนกระซิบพร่าทว่าชัดเจนคล้ายเอ่ยอยู่ข้างหู



“น้องป่าน”



...และใช่ คราวนี้ป่านได้ยินชื่อตัวเองข้างหูจริงๆ



คนตัวสูงถือโอกาสที่เขายืนนิ่งโน้มตัวลงมากระซิบเรียก ใกล้ชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นและลมหายใจเจือกลิ่นนิโคติน



คนเด็กกว่าได้แต่ขมวดคิ้วยอมจำนนต่อสายตาที่ยิ่งคล้ายจะบาดลึกเมื่ออยู่ในระยะเพียงลมหายใจ สมองของเขาสั่งให้ผลักคนตรงหน้าออกไป ก่นด่า ต่อว่าทั้งเรื่องเสียมารยาทตอนนี้และก่อนหน้า



ทว่าชั่วขณะที่สมองยังขาวโพลนเพราะความเย็นของมิ้นต์ ดวงตากลมสะดุดลงที่รอยสักบนแขนกำยำที่ล้วงอยู่ในกระเป๋า



เสี้ยวหนึ่งโผล่พ้นเนื้อผ้าทำให้เห็นรายละเอียดชัด... ลวดลายบางอย่างที่ไม่เคยสังเกตปรากฏบนเส้นสีดำ... เดิมเขาคิดเพียงว่ามันคือเชือกที่ใช้พันธนาการสองร่างเปลือยเปล่าเข้าด้วยกัน



แต่เมื่อสังเกตดีๆ จึงพบว่าสุดปลายเงาทมิฬซึ่งไล้เรื่อยถึงผลแอปเปิ้ลต้องห้ามที่ถูกกัด คือดวงตาสีดำหม่นเดียวกันกับดวงตาที่กำลังจ้องนิ่งมาที่เขา



"วันหลังอย่าเที่ยวมาเดินแถวนี้คนเดียว”



มุมปากผุดรอยยิ้มกระหยิ่มคล้ายกำลังลำพองที่ล่อลวงสามารถให้มนุษย์เพลี่ยงพล้ำต่อบาป



“มันอันตราย” 



“...”



ผู้ชายคนนี้คืออสรพิษตนนั้น



...คือร่างจำแลงของซาตาน






☀ -------------------------------------☀

มาแล้วววว พี่วาเปิดตัวมาอย่างพระเอกกก (หรือตัวร้าย?)

แอบมีความกังวลเล็กๆ ว่ามันจะไม่ได้ดีอย่างที่ทุกคนคาดหวัง

แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุดเลยค่ะ

ติชมได้เสมอเลยนะคะ

ฝาก #มอปลายลายสัก ด้วยน้า ^^



- Martian -



หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Bluedock ที่ 17-09-2018 22:44:19
 :hao7:ดีใจอะรออยู่
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Maccagadz ที่ 17-09-2018 22:56:41
ตามมาจากทวิตค่ะ เห็นมาจากรูปที่สปอยเสียใจหนักมากที่เพิ่งมารู้จัก
ดีใจที่เอามาลงนะคะ จะติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: sehuniie ที่ 17-09-2018 23:03:32
ตามมาจากในทวิตจ้า อิพี่วาทำเป็นดุใส่น้อง  :a14:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: SN_sanook ที่ 17-09-2018 23:17:16
แกล้งน้อง
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-09-2018 23:25:23
ตามต่อ......  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-09-2018 23:44:20
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: gemgems ที่ 18-09-2018 02:07:19
ออร่าความแบดของพี่วานั้น คุคุคุคุ  :katai1:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 18-09-2018 09:17:28
โอ้วววววว มาแล้วววววววว
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 18-09-2018 09:54:54
ตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: JanTi ที่ 18-09-2018 10:24:48
 o13รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: naezapril ที่ 18-09-2018 16:09:30
ตามมาติดๆ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 18-09-2018 19:36:24
ตามเลยยย น้องป่านน
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: saccarrum ที่ 18-09-2018 19:41:03
มาอัพในนี้ด้วย แงงง พี่วา  :katai5:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: BloodyBlue ที่ 18-09-2018 22:11:20
เรื่องนี้ใช่ที่ตอนแรกเป็นเรื่องสั้นป่าวคะหรือเราจำผิด :ling1: แงงงง แต่ยังไงก็ติดตามมม
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 19-09-2018 10:33:50
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Bluedock ที่ 19-09-2018 19:46:18
ตอนต่อไปมายังๆ :ling1:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: sunsatoh ที่ 13-10-2018 19:24:30
 ชอบๆ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 17-10-2018 13:30:29
พี่วา เกรี้ยวกราดกับ น้องป่าน จังเลย
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 17-10-2018 14:32:08
พี่วาพูดด้วยความเป็นห่วงรึป่าว(?) ตามค่าๆ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ Intro - 17.09.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 17-10-2018 19:26:16
แอบมาเปิดเรื่องใหม่อีกแล้วววว

รอนะคะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 1 : Butterfly - 21.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 21-10-2018 20:43:35
ลายที่ 1 Butterfly

(ยามผีเสื้อโผผิน)




 

               

หากรอยสักสามารถบอกตัวตนได้ ชื่อ คงทำหน้าที่คล้ายกัน



ทิวากร หมายถึงดวงอาทิตย์



พ่อที่เป็นคนตั้งชื่อนี้คงต้องการให้ชายหนุ่มมีชีวิตส่องสว่างเหมือนกับช่วงเวลาเกิดของเขา สดใสอ่อนโยนเช่นแดดเช้า ทว่ายิ่งนานวัน ทั้งผู้ให้กำเนิดและตัวเขาเองรู้ดีว่าบุคลิกนิสัยของเขากลับพัฒนาในทางตรงกันข้าม

               

ทิวากรในวัยยี่สิบหกปี กลายเป็นแดดเที่ยง จ้าจัด พร้อมแผดเผา

               

ไม่ว่าเต็มใจหรือไม่ ใครก็ตามที่ก้าวเข้ามาในรัศมีเขาล้วนแหลกลาญ

               

“น้องคนนั้นอีกแล้ว”

               

“น้องพิชญ์เป็นลูกค้าประจำ”

               

“สักครั้งเดียวไม่ถือเป็นลูกค้าประจำมั้ง”

               

น่ารำคาญ

               

“พี่วาขอเบอร์หน่อยได้มั้ยคะ”

               

นี่ก็น่ารำคาญ

               

"นั่นน่ะ" คำขอถูกเมินเฉยด้วยพยักเพยิดหน้าไปทางกล่องใส่นามบัตรที่อยู่ข้างเตียงสัก ใช้สองมือที่จับกล้องถ่ายรูปและปากที่คาบบุหรี่เป็นข้ออ้าง

               

แนบเนียนปัดรำคาญด้วยการก้มหน้าขะมักเขม้นกดเลื่อนภาพถ่ายต่อไปทั้งที่ในใจคิดว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ

               

นางแบบสวย แถมคุณเธอจงใจโพสต์ท่าอวดหน้าอกหน้าใจที่เตะตาเกินรอยสักกระจิริดที่ชายโครงซ้าย

               

สวย... ทว่าดาษดื่นไร้รสเสน่ห์ให้ค้นหา

               

ไม่ใช่สเปกเขา

               

“ขอบคุณครับ” วางกล้อง ดับบุหรี่ เปิดประตูสตูดิโอเชิญคุณลูกค้าออกจากร้านอย่างพยายามรักษามารยาท แม้ท่าทีเมินเฉยจะทำให้ใบหน้าสวยเจื่อนชา แต่เจ้าหล่อนก็ไม่อาจดึงดันสานบทสนทนาต่อได้ ทำได้เพียงหยิบนามบัตรในโหลเดินคอตกออกจากร้านไป

               

“เขามาเจาะ”

               

คราวนี้เรื่องน่ารำคาญจึงเหลือเพียงอย่างเดียว

               

“คราวนี้เจาะตรงไหนอีก”

               

เสียงคู่รักที่สุ้มเถียงกันตั้งแต่เขาเริ่มสัก จนไล่ลูกค้ากลับไปแล้วก็ยังวนซ้ำหัวข้อเก่า น่าเบื่อ รุงรัง



มีคนบอกว่าการทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของคนรัก

               

แต่ขอโทษ เขาไม่เข้าใจว่ะ

               

“ทำไมเงียบ...”

               

“...”

               

“พี่...”

               

ไม่เข้าใจทั้งสาเหตุของการโต้เถียงแสนงี่เง่า

               

...ไม่เข้าใจความรัก

               

เขาเคยรู้จักมันเมื่อนานแสนนาน ทว่าตอนนี้กลายเป็นเพื่อนเก่า ไม่สนิทชิดเชื้อ เข้าขั้นหมางใจ หากแวะเวียนมาหาสักครั้งก็มีแต่จะชวนให้งุ่นง่าน

               

“นม”

               

“หา”

               

“เจาะนม”

               

ตัวอย่างมีให้เห็นตรงหน้า จากปัญหาเท่าจุดไข่ปลาดูเหมือนจะเริ่มบานปลาย

               

“พี่จับนมเขาเหรอ?”

               

“ก็เจาะนม จะให้พี่จับตรงไหน นมไอ้วาพี่ก็เจาะให้ น้องไม่เห็นว่าอะไร”

               

อะ... ปลายลามมาถึงกูแล้วไง

               

“เออ เฮียแม่งลวนวามผมอ่ะคุณหนู” พอดวงตาหวานหันกลับมา คนที่ถือวิสาสะยืนฟังอย่างเสียมารยาทก็แสร้งยกมือข้างหนึ่งกุมหน้าอกตัวเองไว้ สะดีดสะดิ้งทำเสียงออเซาะน่าหมั่นไส้

               

คนถูกกล่าวหาแทบยกเท้ายันด้วยความพาล แต่ประเด็นคือคนตัวเล็กที่ท่าทางจะยังงอนไม่หาย

               

“แล้วทำไมไม่ให้วาเจาะ”

               

“เขาไม่คุ้นกับมัน”

               

"อ๋อ แสดงว่าคุ้นเคยกันเหรอ”

               

วาหัวเราะเมื่อทิศทางระเบิดวนกลับไปหาเพื่อนรุ่นพี่ที่เขาเรียกติดปากว่า ‘เฮีย’ อีกครั้ง และก่อนที่มันจะลากลามมาถึงเขาร่างสูงชิงดับบุหรี่ หยิบมวนใหม่ชิ่งออกมาหน้าร้าน



ทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นต่างระดับ ยังไม่ทันเปลวไฟรนปลายบุหรี่ที่มุมปาก



แดดยามเย็นถูกทดแทนด้วยเงาที่ทาบทับ เขาเงยหน้ามองร่างค้ำหัวที่ยืนย้อนแสงจนเห็นเพียงเงาสลัวราง



ที่ชัดคงเป็นสีน้ำเงินจากกางเกงขาสั้นเต่อโชว์ขาอ่อนขาว มองปราดเดียวก็นึกออกว่าเป็นเครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนชายล้วนชื่อดัง



“พี่...” แค่เสียงเขาก็จำได้ว่าเป็นใคร



“ไอ้เด็กม.ปลาย” เด็กหนุ่มหน้าใสที่ถูกเขาไล่ตะเพิดไปเมื่อาทิตย์ก่อน



หายหน้าไปนานจนเขาคิดว่าเด็กนี่ล้มเลิกความคิดที่จะสักไปแล้ว ที่ไหนได้ นอกจากจะไม่ล้มเลิกความคิด ซ้ำยังแสดงท่าทีหัวรั้นต่อต้านคำพูดเขา



“ร้านพี่ไม่จำกัดอายุคนสักนี่ครับ”



“...” คิ้วเข้มขมวดกับคำบอกเล่าไร้ที่มาที่ไป ก่อนนึกได้ว่าครั้งก่อนเขาถามอายุเด็กกลิ่นน้ำนมก่อนไล่ตะเพิดไป



รู้ดีว่าร้านตัวเองไม่มีข้อกำหนดอย่างว่า แต่ปัญหามันอยู่ที่อายุซะเมื่อไหร่...



ที่จริงวาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปัญหามันอยู่ที่ตรงไหน เพียงเห็นใบหน้าสดซื่อ ราวลูกกวางน้อยหลงทางเข้ามาอยู่ในป่าแห้งร้างที่มีแต่ไม้ยืนต้นตายมันชวนให้รู้สึกประหลาด



เหมือนเห็นข้าวของวางผิดตำแหน่ง ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบชั้นดีวางเด่นกลางเสียกบาล



แต่พี่วาไม่อยากเป็นคนใจร้าย แทนที่จะโบกมือไล่ทันทีเหมือนคราวนั้นเขาเพียงเก็บบุหรี่กระดิกนิ้วให้เด็กที่ยืนค้ำหัวอยู่นั่งลง เด็กมัธยมก็ว่าง่าย ทรุดตัวข้างกายเขา กลิ่นน้ำนมอุ่นชัดเท่าอุ่นไอจากร่างที่คงกะระยะผิดจนไหล่เฉียดชิดกันทำเอาคิ้วเข้มขมวดอีกครั้ง



กลิ่นน่ารำคาญ ไออุ่นน่ารำคาญ



กางเกงขาสั้นที่ร่นขึ้นจนเห็นไปถึงครึ่งขาอ่อนขาวแสบตานี่ก็น่ารำคาญ



เด็กม.ปลายสมัยนี้มันใส่กางเกงขาสั้นกันแบบนี้ทุกคนมั้ยวะ…



คิดว่าขาวแล้วจะปล่อยให้ขอบกางเกงมันถลกขึ้นมาแค่ไหนก็ได้ว่างั้น?



“วันนี้ผมเอาลายสักมาด้วย ผมวาดเอง พี่ช่วยดูหน่อยได้ไหมครับ” พอเห็นเขาในดีด้วยหน่อยก็ดันลามปาม ตาประกายวาวกระตือรือร้นเปิดกระเป๋าเป้ดึงกระดาษเอสี่ที่เก็บไว้อย่างดีในแฟ้มพลาสติกออกมาอวดเขา



ในนั้นมีภาพวาดสีสดสวยเก็บไว้อีกปึกหนึ่ง



“วาดสวยนี่ เด็กศิลป์?” เอ่ยชมจากใจพลางรับเอากระดาษเรียบกริบที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นแบบสำหรับสักมาพิจารณา



ภาพฝูงผีเสื้อที่เกือบทำให้เขาเบื่อหน่ายเพราะเคยสักลายเดียวกันมาหลายครั้งกลับดึงดูดสายตาด้วยสีสันจัดจ้าน และลวดลายบนแผงปีกที่ราวกับกำลังล่อลวงให้เขาจับจ้องไม่วางตา



“เปล่าครับผมเรียนสายวิทย์” ได้สติอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงปฏิเสธปนเศร้า เขาเลิกคิ้วมองดวงตาสดใสที่คล้ายจะจางแสงลงเล็กน้อยอย่างไร้สาเหตุ



แสงหม่นติดตาขัดใจจนพานงุ่นง่าน



“เออ ดูเป็นเด็กดีไม่น่ามาสัก” เผลอหลุดปากไม่ทันคิดว่าจะเป็นประเด็นให้คนตัวเล็กกว่าผงะห่าง ขมวดคิ้วมองเขาด้วยสีหน้าผิดหวัง



“พี่จะบอกว่าคนสักคือคนไม่ดีเหรอครับ”



“...” อะไรวะ ไหงเข้าใจไปนั่น



คนโตกว่าได้แต่อ้าปากพะงาบทำท่าจะอธิบาย แต่เพราะไม่รู้จะอธิบายยังไง ย้อนแย้งด้วยสันดานส่วนตัวที่กู่ตะโกนว่าไม่จำเป็นต้องอธิบายให้เด็กกะโปโลเข้าใจความคิดตัวเอง



ยังไงซะก็คงไม่ได้เจอกันอีก เพราะเขาไม่คิดจะสักให้



“พี่ไม่ควรตัดสินคนอื่น...” ไม่รอให้พูดจบเขายื่นกระดาษคืนใส่มือเด็กหนุ่มหน้าใส เอสี่ยับย่นด้วยอารมณ์ที่ถูกกระชากกลับด้วยคำตำหนิและสายตากลมใสที่มองว่าเขาทำตัวน่าผิดหวัง



จากที่งุ่นง่านยิ่งงุ่นง่าน ด้วยอุปนิสัยเดือดง่ายมาแต่ไหนแต่ไร



“ไม่สักแล้วโว้ย! อารมณ์ไม่ดี”



“พี่ครับ...”



“มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยไป”



สุดท้ายทิวากรแผดเผา ไม่ปราณีแม้ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบหวานจับตา

               

               





ทว่ากระเบื้องคือกระเบื้องทนไฟ

             

“พี่ครับ” หลอมเหลวแล้วปั้นใหม่ไร้รอยหักพัง



“มึงอีกแล้ว” มุมเดิม เวลาเดิม คนคนเดิมหยุดการกระทำเดิมของเขาราวภาพฉายซ้ำ



วาถอนใจ ดึงบุหรี่ที่ไม่ทันได้จุดออกจากปากอีกครั้ง นึกประหลาดใจปนหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะ ทั้งไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงเลือกจะไม่สูบบุหรี่ต่อหน้าเด็กมัน ทั้งที่อีกคนก็ไม่ได้ห้ามหรือแสดงท่าทางรังเกียจอะไร



แค่ไม่อยากทำร้ายผู้บริสุทธิ์ด้วยพิษควัน



...คนดีสัดๆ



“คือผม...” อาการอึกอักเช่นครั้งแรกไม่เคยหายไป ยิ่งชวนให้เขาหงุดหงิดในความสั่นไหวในแววตากึ่งประหม่ากระเง้ากระงอดที่เจ้าตัวคงเผลอทำออกมาโดยธรรมชาติ ไม่รู้ตัว



น่ารำคาญจริงๆ



“โมโจรับแขกดิ๊” เบือนหน้าหนีอย่างไม่คิดเสียเวลาต่อบทสนทนา แม้สายตาเจ้ากรรมจะเผลอทิ้งจังหวะมองขาขาวที่คราวนี้ถูกปกปิดไว้ใต้กางเกงยีนห้าส่วนเห็นเพียงส่วนเหนือข้อเท้า



ทำไมไม่ใส่ชุดนักเรียนวะ... โมโจคงสงสัย



ถ้าใส่ชุดนักเรียนขาสั้นเช่นคราวก่อนคมเขี้ยวที่แม้จะทื่อกุดของเจ้าพิทบูลสีดำของเขาคงได้ขบชิมเนื้อหวาน แถมคงขู่ให้ลูกค้าหัวดื้อหดหัวไม่กล้ากลับมาให้เห็นหน้า



แต่ผลลัพธ์กลับตรงข้าม สิ้นคำลูกชายผู้ซื่อสัตย์ของเขากลับวิ่งเข้าไปดมฟุดฟิด ซ้ำยังเลียแข้งเลียขาเจ้าเด็กมัธยมยกใหญ่



“โมโจครับ ป๊ะป๋าให้เห่าไล่ ไม่ใช่เลียสิ เห่าแบบนี้ โฮ่งๆ” คนเป็นพ่อเลยต้องสอนความเกรี้ยวกราดให้



“...” แต่โมโจไม่ฟัง



“โห่ โมโจทำไมดื้ออ่ะ”



ป่านมองหน้าผู้ชายตัวโตสอนหมาเห่าเปลี่ยนเป็นเสียงเล็กเสียงน้อยใส่เจ้าตัวโตที่กำลังออดอ้อนเขาอย่างไม่เชื่อหู



หลุดยิ้ม ด้วยไม่คิดว่าจะได้เห็นอีกด้านของผู้ชายที่เอาแต่ตวาดดุไล่ตะเพิดเขาซ้ำๆ



คงไม่ใช่คนใจร้าย...



“ชื่อโมโจเหรอครับ น่ารักจัง” ร่างบอบบางนั่งลงลูบหัวลูบหางเจ้าพิทบูลอย่างเอ็นดู พลางยิ้มให้เจ้าของที่ถึงกับชะงักค้าง



“...” รอยยิ้มแรกตั้งแต่ได้เจอกัน



ราวผีเสื้อสีจัดจ้าลวดลายงามตาในภาพวาดกระพือปีกบินพร้อมกัน



...งดงามกว่าในฝัน



“ฉลาดด้วยนะครับ อ้อนใหญ่เลย”



“...”



“น่ารักจังครับโมโจ”



งดงามจนชวนงุ่นง่าน



ทิวากรหงุดหงิด



...กำลังหงุดหงิด



ทว่าวันนี้ดวงอาทิตย์ไม่แผดเผา กลับเคลื่อนคล้อยโอนอ่อนจางแสงจัด



ด้วยรอยยิ้มบางที่ผุดขึ้นมุมปากอย่างไม่อาจต้านทาน



“เออ น่ารัก”



...หากชื่อทำหน้าที่คล้ายรอยสัก



ป่าน คงหมายถึงเชือกที่ถักทอโยงใย ฝ่าไอร้อนผูกยึดใจกลางดวงอาทิตย์ไว้โดยไม่ทันรู้ตัว












☀ ------------------  #มอปลายลายสัก  -------------------☀

หายไปนานเพราะไปตบตีกับทรีตเม้นท์ที่แก้แล้วแก้อีกจนถึงทุกวันนี้ก็ยังแก้อยู่มาค่ะ

ถ้ารู้สึกแปลกๆ หรือขัดใจตรงไหนติติงได้เสมอเลยนะคะ ^^



แจ้งอีกครั้งเพราะหลายคนยังเข้าใจผิด

เรื่องยาว #มอปลายลายสัก ยังไม่ได้ตีพิมพ์นะคะ

เล่มที่ออกมาก่อนเป็นเพียงบทสนทนาที่เคยเอาลงในทวิตเตอร์ รวมกับเรื่อง #เหล้าหนังสือ ค่ะ

ส่วนรวมเล่มเรื่องยาวอาจจะประมาณปลายปี หรือต้นปีหน้าค่า

ตอนนี้กำลังเร่งทำต้นฉบับอยู่เนอะ

จะอัพให้อ่านในเว็บจนจบแน่นอน เพื่อให้คนอ่านพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ ^^



ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ

-Martian-
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่1 : Butterfly - 21.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Patsz ที่ 21-10-2018 22:43:18
สนุกมากเลยค่ะ ภาษาก็ดีงามมาก รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่1 : Butterfly - 21.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 24-10-2018 16:34:12
พี่วาอ่อนโยนกับน้องป่านหน่อยสิ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่1 : Butterfly - 21.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 25-10-2018 19:43:05
ที่ว่าน่ารักนี่ ไม่ใช่โมโจแล้วมั้งพี่วา มีแววหลงเด็กตั้งแต่ต้นเรื่องเลยทิวากร
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่1 : Butterfly - 21.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 25-10-2018 23:55:31
ปักป้าย รอจ้า
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่2 : Snake - 29.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 29-10-2018 02:50:17
ลายที่ 2 Snake

(อสรพิษสั่นหาง)




วาเป็นคนใจร้อน...

               

“เราอ่ะ มาคุยกันหน่อยดิ๊”

               

โผงผาง

               

“คราวหลังอย่าเที่ยวไปไว้ใจใครสุ่มสี่สุ่มห้ารู้ป่ะ เจอกันแค่ไม่กี่ครั้งเกิดเขาเป็นคนไม่ดีขึ้นมาทำไง”

               

“...”

               

“ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่เชื่อฟังอ่ะ”

               

“...” ไม่มีเสียงตอบรับจากใบหน้าถมึงทึงด้วยสายพันธุ์นักล่า ดวงตากลมไร้เดียงสาเพียงจ้องฉงนคนที่กำลังพล่ามภาษาคนใส่เป็นวรรคเป็นเวร

               

ถึงพูดไม่ได้ แต่สีหน้าบ่งชัดว่าโมโจไม่เข้าใจ...

               

“คราวหน้าถ้าป๊ะป๋าบอกให้เห่าต้องเห่าเลยนะ เอาดังๆ ดุๆ โฮ่งๆ!”

               

โฮ่งๆ!

               

แต่เด็กฉลาดรู้ว่าต้องทำอะไรคุณพ่อถึงจะหยุดบ่นได้

               

“เก่งมากครับ เด็กดี”

               

แถมยังได้ขนมเป็นรางวัล

               

“วา เด็กมึงมา” อยู่ๆ ประตูหลังร้านเปิดโผลง คุณพ่อที่กำลังสอนบทเรียนความเกรี้ยวกราดให้ลูกชายเลยสะดุ้ง หันไปขมวดคิ้วงุนงง

               

“เด็กไหน?”

               

“ ‘เด็ก’ ที่ติดมึงอยู่ช่วงนี้ก็มีอยู่คนเดียวป่ะ” ไม่ต้องอธิบายให้มากความกว่านั้นก็คิดได้

               

“มาอีกละ?  แม่ง กูไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไป เด็กอะไรดื้อฉิบหาย”



หงุดหงิด... งุ่นง่าน...



นับเดือนแล้วที่เด็กคนนั้นแวะเวียนมาหา สัปดาห์ละครั้ง เพิ่มเป็นสอง เป็นสาม... ส่วนอาทิตย์นี้โผล่หน้ามาแทบทุกวัน



“เด็กดื้อแล้วมึงยิ้มทำไม”



“อะไร” ใครยิ้มที่ไหน เขากำลังไม่พอใจต่างหาก... ไม่พอใจมากๆ



“อะไรที่หน้ามึงอ่ะ”

               

“...”



“จะยิ้มจะขมวดคิ้ว จะหน้าโหดหรือโหมดคิตตี้มึงเลือกเอาสักทางซิ” เพื่อนสนิทเบ้หน้าหน่าย ไอ้อาการหัวใจย้อนแย้งกับการแสดงออกนี่มันอะไร



พอโดนจี้จุดแก้ต่างไม่ได้ คนแมนๆ อย่างพี่วาจึงเลือกเมินคำสีหน้าข้องใจหอบใบหน้าคิ้วขมวดแต่ยกยิ้มมุมปากอย่างเลือกโหมดไม่ได้ ออกไปหน้าร้านพร้อมลูกชายที่กระดิกหางวิ่งตามราวรู้ว่ากำลังจะได้เจอใคร



“ปะ โมโจ ไปไล่แขกกัน”

 

               

หน้าร้าน ป่านในเสื้อแขนยาวสีอิฐกรอมมือและกางเกงวอร์มขายาวปิดข้อเท้า... ราวกับรู้ตัวว่าถูกคุกคามทางสายตา นับวันเสื้อผ้าที่ใส่ถึงได้มิดชิดขัดกับสภาพอากาศ นั่งลงบนม้านั่งยาวที่เพิ่งถูกนำมาตั้งไว้เมื่อไม่กี่วันก่อน มองเถ้าบุหรี่ในที่เขี่ยข้างตัว เผลอนับก้นกรอง…

               

1…2…3…

               

อาทิตย์นี้มีเพียงสาม... หักลบตามจำนวนวันที่เขามาหา

               

เป็นธรรมดาของเด็กวัยมัธยม หรืออาจเป็นนิสัยช่างสังเกตส่วนตัว ป่านมักพบว่าทันทีที่เขาปรากฏตัว หากกำลังละเลียดควัน พี่วาคนนั้นจะดับบุหรี่ปัดควันให้พ้นทาง หรือต่อให้คาบมวนนิโคตินอยู่ในปาก ไม่ทันจุดไฟ บุหรี่มวนนั้นจะถูกเก็บ ทดแทนควันจางด้วยเสียงทุ้มงุ่นง่านบ่นว่าถูกขัดจังหวะ



ไล่น้อง แต่กลับหาเก้าอี้มาวางให้นั่ง... เป็นความย้อนแย้งที่ป่านไม่เข้าใจ รู้เพียงจากที่เคยลงความเห็นว่าน่ากลัว กลับเปลี่ยนไปเมื่อเนื้อแท้เปิดเผยในทางตรงข้าม



น่ารัก... คำนิยามที่ขัดกับใบหน้าคมเข้มและร่างกายกำยำที่เต็มไปด้วยรอยสัก



แต่ป่านไม่รู้ว่าควรนิยามคำใดนอกจากน่ารัก



“มาทำไม” ไม่ทันไรเสียงดุดันดังจากด้านหลัง ป่านสะดุ้ง หันกลับไปมองใบหน้าของคนที่เพิ่งชมว่าน่ารัก



วันนี้ก็ยังบิดเบี้ยวไม่สบอารมณ์เช่นทุกครั้ง



เคยยิ้มดีๆ บ้างไหมนะ...



“วันนี้ร้านปิด” เมื่อเงียบ ใบหน้าคมจึงพยักหน้าไปทางป้ายที่บอกเวลาทำการเด่นชัดใต้ชื่อร้าน



‘Sunday’



นอกจากการนำชื่อของสองผู้ก่อตั้งมาเรียงกันก็ไม่มีนัยใดที่เกี่ยวกับวันอาทิตย์ แถมยังล้อเลียนด้วยการปิดร้านวันอาทิตย์ด้วยซ้ำ



“ผมรู้ครับ” ป่านยิ้ม รอยยิ้มที่ทำคนมองยิ่งขมวดคิ้ว ใบหน้าบิดเบี้ยวแปร่งประหลาด “วันนี้ที่เรียนพิเศษเลิกเร็ว ก็เลยแวะมา”



“อ๋อ นี่ร้านกูมีค่าแค่ให้นั่งฆ่าเวลารอแม่มารับ ว่างั้น?” โยนคำถามให้อีกคนลำบากใจ



หวังได้ยินคำตอบตรงข้าม



“เปล่าครับ” แค่นั้น คนที่พยายามกลั้นยิ้มก็แทบเกร็งริมฝีปากไว้ไม่ไหว



แต่ไม่ทันไร...



“ผมมาหาโมโจ” คล้ายมีเสียงบางอย่างแตกละเอียดอยู่ในหัว กลั้นยิ้มกลายเป็นยิ้มค้างเมื่อน้องคว้ากระเป๋าเป้ใบโปรด เปิดซิปหยิบขนมชนิดเดียวกับที่เขาเพิ่งให้โมโจกินเป็นรางวัลก่อนหน้า



“โมโจกินยี่ห้อนี้หรือเปล่าครับ” ได้รับคำตอบเป็นเจ้าลูกชายที่วิ่งเข้าใส่ กระโจนสองขาพักไว้บนตักเด็กหนุ่มหน้าหวานอย่างออดอ้อนรู้งานแทนที่จะเห่าใส่แบบที่สอนไว้



เห็นแบบนั้นป่านก็ยิ้มกว้าง กะพริบตาปริบๆ เปลี่ยนคำถา “ผมป้อนได้ไหมครับ”



แล้วตอบว่าไม่ได้ได้ไหมล่ะ... ก็ไม่ได้อีก ลูกชายเล่นออเซาะน้ำลายสอขนาดนั้น



“เออ ชิ้นเดียวล่ะ” เสียงแข็งตอบกระแทกพลางทิ้งร่างลงข้างกันบนม้านั่ง ไม่สบอารมณ์ที่คำตอบไม่เป็นดั่งหวัง…



หวังอะไร? ใครหวังวะ



ยิ่งคิดยิ่งงุ่นง่าน หงุดหงิดกับความย้อนแย้งในตัวเองจนอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อหาทางระบาย แต่บุหรี่ก็ไม่ได้หยิบมา หมาก็ดันเข้าข้างคนแปลกหน้าอย่างน่าน้อยใจ



วามองเจ้าลูกชายที่ดี๊ด๊าฟาดขนมจนเกลี้ยงลามไปเลียไม้เลียมือที่เพิ่งจับของกินให้ พอเด็กน้อยไม่ว่าอะไรเจ้าลูกชายเจ้าเล่ห์ก็ได้คืบจะเอาศอก ยืดตัวเลียไปถึงแก้มใส



“อื้อ...”



ฉิบหาย…



ไอ้เสียงโหยหวานน่ารักน่าชังนี่มันอะไรกัน



ความรู้สึกประหลาดแล่นพล่านจนต้องเบือนหน้าหนี ปกปิดความคิดไม่ซื่อที่ผุดเข้ามาเมื่อได้เห็นลิ้นเจ้าลูกชายปัดป่ายซุกซนจนเด็กน้อยร้องเสียงหลง ใบหน้าเหยเกด้วยความจั๊กจี้ซ้ำยังขึ้นสีระเรื่อ



เผลอจินตนาการถึงรสผิวกายอ่อนใส ไออุ่นกรุ่นกลิ่นหอมยั่วชัดเมื่อได้นั่งใกล้ๆ



หากคนที่ได้ออเซาะไล้ละเลียดลิ้นผ่านความขาวอมชมพูนั้นเป็นเขา...



“อ๊ะ...พี่ครับ!”



ฉิบหายๆ



คล้ายได้ยินเสียงไซเรนดึงก้องขึ้นมาในหัวเมื่อนิ้วบอบบางกลับคว้าลงมาที่แขนเขา ตำแหน่งเดียวกับอสรพิษที่กำลังเกี่ยวพัน



"ช่วย...อื้อ!" หากมีชีวิต คงถูกแว้งกัด ขบนิ้วขาว พ่นพิษอาละวาดทันทีที่โดนสัมผัส



ทว่าไร้ชีวิต อสรพิษจึงเพียงนิ่งงัน



ต่างจากเส้นเลือดที่แขน ขา...กระทั่งปลายเท้า เต้นตุบสูบฉีดเห่อขังอยู่ที่ใบหูเขาที่คล้ายจะพ่นควัน



“โมโจ!” เสียงตวาดลั่น ทุกสิ่งหยุดชะงัก เจ้าสี่ขาวิ่งเข้ามาหมอบซบแทบเท้า สำนึกผิดทันควัน



“พี่...” ป่านชะงัก ปล่อยมือจากแขนกำยำด้วยท่าทางรู้สึกผิดเช่นกัน



น้องไม่เข้าใจว่าพี่วาโกรธอะไร หูเหอถึงได้กลายเป็นสีแดงจัด ใบหน้านิ่วซ้ำยังมองเขาด้วยแววตาประหลาด



...ราวกับจะกลืนกินกันอย่างนั้น



ไม่ได้น่ากลัวเท่าตอนเจอกันใหม่ๆ ให้ความรู้สึกต่างออกไป... แต่อันตรายไม่แพ้กัน



“เข้าบ้าน” ไม่ทันได้ถามให้กระจ่างคนตัวโตผุดลุก สาวเท้ากลับเข้าร้านโดยไม่มีคำบอกลา โมโจวิ่งตามสองขายาวอย่างไม่คิดขัดคำสั่งด้วยสัมผัสถึงกลิ่นอารมณ์ประหลาดที่กำลังบ่มตัวเหมือนจะปะทุในไม่ช้า



“มึงดุน้องเขาจังวะ”



แต่คนที่อยากเห็นดวงอาทิตย์ระเบิดไอสุริยะกลับขวางอยู่ตรงหน้าไม่ให้เขาได้หลบสงบสติอารมณ์ มองใบหน้าบิดเบี้ยวเก็บอาการไม่ทันอย่างขบขัน



“กูเปล่า”



“เปล่าอะไรน้องทำอะไรมึงก็หงุดหงิด” ปฏิเสธก็เท่านั้น นอกในเพียงกระจกใสกั้น ได้ยินชัดทุกถ้อยคำ เห็นทุกอาการ



“เออ กูรำคาญ”



เพื่อนรุ่นพี่หัวเราะ ใช้น้ำเสียงไม่ยี่หระไล่ต้อน "กูสักแทนให้มั้ยล่ะ"



"ไม่!" สนุกนักล่ะ เวลาเห็นคนปากแข็งเสียอาการ



“อ่อ กูรู้แล้ว” แสร้งนึกออกฉับพลัน ทั้งที่ลอบสังเกต ระแคะระคายถึงสาเหตุความงุ่นง่านชวนขัดตาของคนตรงหน้ามานาน



ทิวากรเป็นคนใจร้อน...



“รู้เชี่ยอะไร” 



โผงผาง



“กูรู้จักมึงยิ่งกว่าพ่อ ทำไมจะดูไม่ออกว่ามึงคิดอะไร”



“...”



“ขาวใส ม.ปลาย สเปกมึงเลยนี่”



“...”



เพราะแบบนั้นถึงได้อ่านง่าย... พยายามเท่าไหร่ก็ไม่อาจปกปิดอาการที่แสดงออกทางแววตา...ลามถึงสีหน้า



“หางโผล่แล้วพี่วา : )”



เพียงถูกกระต่ายน้อยสัมผัส อสรพิษกลับสั่นหางขู่ลั่น



กระดิ่งกังวาน... ศิโรราบต่อศัตรูไร้พิษภัย 






☀ ------------------  #มอปลายลายสัก  -------------------☀

พี่วาาาาาา ซึนเก่งงงง เข้ารู้กันทั้งหมู่บ้านแล้วจ้าว่าหวั่นไหวกับน้องแค่ไหน 5555

ตอนหน้าจะเลิกเล่นตัวยอมพาน้องเข้าห้องเชือด เอ๊ย ห้องสักแล้วค่ะ ฝากติดตามด้วยน้า

 

ผิดพลาดตรงไหนติชมได้เสมอเลยนะคะ ^^

ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาอ่านค่า

Martian

หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่2 : Snake - 29.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 29-10-2018 09:19:39
อุ๊ย พี่วาคะ เขารู้กันทั้งหมู่บ้านแล้วพี่ว่าน้องโดนใจ :hao3: น้องป่านน่ารักจัง รอตอนหน้านะคะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่2 : Snake - 29.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: juthamart ที่ 29-10-2018 19:59:32
ชอบความซึนของพี่วาจังค่ะ สนใจน้องจะเเย่อยู่เเล้ว เเต่ต้องเเกล้งทำเป็นเมินน้อง วงวารรร
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่2 : Snake - 29.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 29-10-2018 21:41:22
ว้ายๆๆ หนุ่มซึนชอบนัก
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่2 : Snake - 29.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 30-10-2018 01:06:52
โถ่พี่วา ลูกน้องยังรู้แล้วเลย โจโมก็น่าจะรู้แล้วด้วย
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่2 : Snake - 29.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 30-10-2018 02:25:03
ปากแข็งเหลือเกิน โมโจกัดพี่แกให้หายซึนที  :m20:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่2 : Snake - 29.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 30-10-2018 08:50:10
พี่วาาา ตีมึนเก่งง

แม้แต่โมโจ ยังรู้เลยมั้ง ไม่งั้นมันไม่อ้อนหรอกกก
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่2 : Snake - 29.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: tararatart ที่ 30-10-2018 12:18:06
พี่วาจะทนได้นานแค่ไหนน้าาาา555. ชอบเรื่องนี้จังค่ะเป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่2 : Snake - 29.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 30-10-2018 13:38:16
พี่วาเลิกซึนแล้วจับน้องขึ้นเขียงเถอะค่ะ เพราะว่าพี่ปิดไม่มิดแล้วเขารู้กันหมดแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่2 : Snake - 29.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 30-10-2018 15:24:00
พี่วางูพี่วาตื่น
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่2 : Snake - 29.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 02-11-2018 10:32:49
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :katai3:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่2 : Snake - 29.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าวสวย ที่ 02-11-2018 15:17:29
 :-[ อิพี่เอ้ย ปากแข็งเป็นไทเทเนี่ยมแบบนี้น้องมันหนีไปทำไงงงงง
มาต่อเร็วๆนะคะ รออยู่ตลอดเลยยยย
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่2 : Snake - 29.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 02-11-2018 15:57:19
ติดตามใน twitter มานานแล้วววว

น้ำตาจะไหลค่ะ มีเรื่องยาวววว
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่2 : Snake - 29.10.2561 (P.1) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: PK.Kenaf ที่ 16-11-2018 13:19:35
ชอบพี่วาคนซึน งุ้ยยย
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 3 : Angel Wings - 13.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 13-01-2019 03:02:59
ลายที่ 3 Angel Wings

(สยบสยายวันวาน)


               

ป่านเป็นเด็กดี

               

ใครเห็นก็ว่าเป็นเด็กหัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย

               

แต่พี่วาไม่เข้าใจ

               

“บอกว่าไม่สักให้ไง”
               

ทำไมกับพี่วาถึงได้ดื้อด้าน ร้ายรั้นนัก



แถมยังชอบตีหน้าซื่อ ตาใส แกล้งแย้มยิ้มล่อลวงหวังให้ใจอ่อน 

               

“ตื๊อจังวะ”

               

ไม่ได้ผลหรอก

               

โฮ่ง!

               

ไม่ได้ผล...

               

“โมโจครับ”

               

ซะที่ไหนล่ะ

               

คล้ายหัวใจกระด้างถูกทุบจนอ่อนเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยวบยุบทันควันเมื่อดวงตาซื่อใสเปล่งประกายวาว อ้าแขนกอดฟัดเจ้าสี่ขาที่วิ่งเข้าไปออเซาะทันทีที่เจอหน้า

               

น่ารักๆ

               

ใบหน้าล่อเหลาบิดเบี้ยวไม่เป็นทรงอีกครั้งเมื่อความรู้สึกกับการแสดงออกแตกหักคนละทิศทาง อยากยิ้มแต่กัดริมฝีปาก คิ้วกระตุกขมวดมุ่นทั้งที่ดวงตาหวานเยิ้มตกห้วงฝัน มองคนน้องดึงห่อขนมในกระเป๋าเป้ออกมา หยิบป้อนหนึ่งชิ้นตามที่ได้รับอนุญาต



เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาหวั่นๆ เห็นพี่วากอดอกมองเขม็งก็ได้แต่ถอนใจ

               

หน้าบึ้งอย่างนั้น สักวันริ้วรอยคงแซงหน้าโมโจ

               

ป่านคิด... และยกมือตบปากตัวเองในความคิดอันเสียมารยาท   

               

เท่านี้ก็โดนหงุดหงิดใส่อย่างไร้สาเหตุพอแล้ว ถ้าไม่ติดว่าชอบ... ฝีมือการสักมาก ป่านคงยอมแพ้ไปตั้งแต่โดนไล่ครั้งแรก 



อีกอย่างพอมีโมโจ การมานั่งรอนั่งตื๊อก็ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป

               

อันที่จริง ต้องบอกว่าป่านลืมไปแล้วด้วยซ้ำถึงจุดประสงค์แท้จริง เด็กน้อยหลงเจ้าสี่ขาขี้อ้อนหัวปักหัวปำ

               

ส่วนเจ้าของ... ดุนัก ป่านตัดสินใจจะพยายามไม่เข้าใกล้จนถูกกัดแล้วกัน

               

“เดี๋ยวนี้เข้าทางหมา?” แต่ฝ่ายนั้นนับวันการกระทำจะยิ่งตรงข้ามกับสีหน้า

               

พี่วาขยับลงมานั่งข้างกันบนพื้นยกระดับ น้ำเสียงถึงจะไม่ใจดีแต่ก็ไม่ติดตวาดรำคาญเช่นครั้งที่ผ่านๆ มา

               

...และดูเหมือนว่าจะยิ่งอ่อนลง



“ครับ โมโจคุยง่ายกว่า” เรียนรู้ว่าไม่ใช่คนใจร้าย



“ด่ากูป่ะเนี่ย”



ปากดุทั้งที่จริงๆ ก็ใจดี ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยให้น้องคุยเล่นด้วยอย่างนี้



“พี่จะยอมสักให้ผมแล้วเหรอครับ” ป่านอมยิ้ม เฉไฉ แกล้งทำตาใสหว่านล้อมทีเล่นทีจริงอีกครั้ง



หยอดซ้ำๆ หยอดหวานๆ แค่พอให้มุมปากหยักยิ้มเอ็นดูเขาขึ้นสักนิดก็ยังดี



“เปลี่ยนเรื่องเฉย” ไม่หวังว่าจะได้ผล



“ถ้าสักให้มึงจะไสหัวไปใช่มะ”



หรือจะเป็นวันนี้



“ครับ จะไม่มารบกวนอีกเลย” เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงัก กระตือรือร้นไม่เก็บอาการ เห็นแบบนั้นคนพยายามกลั้นยิ้มเอ็นดูก็ยิ่งยากจะต้านทาน



“งั้นก็เข้ามา”



น่ารัก



“เย้ ขอบคุณครับ” ยิ้มกว้างซะจนตาปิดขนาดนั้น



ใครจะไม่ใจอ่อนด้วยล่ะครับ



“ร้องไห้กูไล่กลับนะ” แต่คนปากแข็งยังตีมึนไว้ท่าทาง ทั้งที่พยายามเม้มปากกลั้นยิ้มจนหน้าตาย่นยู่ดูพิลึก ในขณะที่คนน้องพยักหน้ารับ



“ครับ จะไม่ร้อง” ยิ้มกว้างจนโลกสว่าง



“ไม่ต้องมายิ้ม รำคาญ”



น่ารำคาญเสียจนเผลอยิ้มตาม



...ในที่สุดพี่วาหลุดเก๊ก เสียอาการ

 

               



เป็นครั้งแรกที่ป่านได้เหยียบย่างเข้าร้านสัก ไม่มีที่อื่นเทียบเคียง เพียงรู้ว่าบรรยากาศในร้านพี่วานั้นชวนให้รู้สึกตื่นตา ผนังอิฐเปลือยละลานด้วยภาพถ่ายสรีระที่ประดับด้วยลวดลาย ลายเส้นเอกลักษณ์น่าหลงใหลที่เด็กหนุ่มเคยเห็นผ่านอินสตราแกรม

               

“อ้าว” ไม่ทันสังเกตเห็นใครบางคนที่เดินออกมาจากหลังร้าน ร่างสูงใหญ่ในสภาพเปลือยท่อนบน เคลือบหยาดน้ำ เส้นผมเปียกลู่ถูกคลุมด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก หยดน้ำจากเส้นผมหยดลงกระทบร่าง ดวงตาชั้นเดียวทว่าเรียวคมจ้องเด็กหนุ่มน่ารักด้วยรอยยิ้มเลศนัย ก่อนหันไปส่ายหน้าหน่ายใส่เพื่อนที่ยืนขมวดคิ้วงุ่นง่านอยู่ด้านหลัง

               

“จนได้นะมึงอ่ะ” ไม่คิดทำความเข้าใจประโยคนั้น ดวงตากลมสีน้ำตาลเพียงจับจ้องจดจ่ออยู่กับรอยสักบนร่างชายปริศนา ทั่วผิวสีแทนตั้งแต่หัวไหล่ จรดขอบกางเกงวอร์มขายาว... และคงลามเรื่อยใต้เนื้อผ้าที่ถูกปกปิดไว้



ลวดลายสะเปะสะปะ ทั้งสีสัน ขาวดำ รูปธรรมและนามอธรรมถูกวาดสลักอย่างวิจิตรบรรจงทั่วร่าง



“ทำไมไม่แต่งตัวดีๆ ก่อนออกมาวะ” เด็กหนุ่มหลุดจากภวังค์ด้วยน้ำเสียงงุ่นง่าน แผ่นหลังกว้างแทรกกลางระหว่างเขากับชายแปลกหน้าที่ป่านเดาได้ว่าคงเป็นเพื่อนพี่วา



“วันอาทิตย์ ใครจะรู้ว่ามึงพาแขกมา”



“ไม่ใช่แขก นี่ลูกค้า” ว่าพลางหันมาสบตาเขา ยังคงขมวดคิ้วขึ้งขวาง



ป่านไม่แน่ใจว่าตัวเองทำผิดอะไร สิ่งเดียวที่พอจะนึกได้คือมันคงเสียมารยาทที่เขาทะเล่อทะล่าเข้ามาในวันปิดร้าน



“ขอโทษที่รบกวนนะครับ” เด็กหนุ่มหน้าเจื่อนก้มหัวขอโทษอย่างรู้สึกผิด



“ครับ” แต่พี่คนเดิมกลับยกยิ้มไม่ถือสา



ทำไมใจดีกว่าพี่วา



ทั้งที่ใบหน้าออกไปทางคมดุไม่แพ้กัน แต่กลับเป็นมิตรกว่ากันมาก ป่านลอบยิ้ม เริ่มคิดทบทวนกับตัวเองว่ารู้อย่างนี้ขอให้พี่ใจดีสักให้ จะได้ไม่ต้องคอยตื๊อคอยโดนดุ



หรือว่าควรเปลี่ยนช่าง...



ไม่ทันคิดจนจบป่านสัมผัสได้ถึงออร่าขึ้งขวางจากดวงตาคมที่เขม่นจ้องราวรู้ว่ากำลังคิดเปลี่ยนใจ เผลอลอบกลืนน้ำลาย ก่อนเอ่ยถามเสียงเบา



“เอ่อ... ผมต้องทำอะไรบ้างเหรอครับ” ยิ้มสู้เสือที่กลายเป็นพ่อเสือหวงลูกค้าที่เคยเอาแต่ตะเพิดไล่ พ่นลมออกจมูกฟึดฟัดอย่างไม่เก็บอาการ



“เอาลายที่จะสักมาดูอีกทีดิ๊”



ป่านรีบทำตามคำสั่ง เปิดกระเป๋าหยิบกระดาษแผ่นเดิมยื่นให้



วากวาดสายตาพิจารณาเพียงแวบหนึ่งก่อนเอ่ยปากบอกราคา



“สี่พัน” ราคาขูดเลือดสำหรับลวดลายกระจิริดของฝูงผีเสื้อหลากสีสัน



อย่างว่า เขามันไม่ใช่ช่างสักไก่กา



แต่พี่วาไม่ใช่คนใจร้าย ถ้าน้องตาหวานออดอ้อนต่อราคาสักนิดสักหน่อย...



“โอเคครับ”

             

เวร

               

...ง่ายจังวะ

               

ไม่มีท่าทีลังเลสักนิด มีเพียงรอยยิ้มดีใจ ดวงตาใสซื่อจ้องเขาอย่างมีความหวัง

               

คนอยากเล่นตัวก็เลยได้แต่ยิ้มแห้งกระหยิ่มค้าง อึกอัก จะเสนอตัวลดราคาให้เองทิฐิมันก็ขวางคอ

               

“โห พี่วา คนกันเอง ลดให้เด็กมันหน่อย” สมที่เป็นเพื่อนรักกันมานาน เจ้าของร่างกึ่งเปลือยที่ยืนดูสถานการณ์น่าขันนี้มาสักพักจึงออกปากแทนกลั้วขำ

               

ทำดีครับเฮียครับ

               

“ให้แปดร้อย” ราคาที่ลดฮวบต่ำกว่ามาตรฐานทำน้องป่านเบิกตา อ้าปากค้าง



“จริงเหรอครับ”



“เออ... สักครั้งแรก... โปรโมชั่น” ตอบอ้อมแอ้ม แถต่อหน้าต่อตาทำเอาเพื่อนรักหัวเราะลั่นจนวาต้องหันไปเขม่นมองให้หุบปาก รีบเอ่ยปัดรำคาญ “ตกลงก็ไปจองคิวไว้”

               

คงเสร็จเรื่องง่ายดายถ้าไม่ถูกคนรู้ดีดักคอไว้

               

“คิวมึงว่างอีกทีปีหน้าอ่ะ” 

               

อ้าว ฉิบหาย



เขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท ช่วงนี้ร้านกำลังเป็นที่รู้จัก ปากต่อปากจากลูกค้าเก่าบวกช่องทางโปรโมทบนโซเชียลมีเดียยิ่งทำให้งานล้นมือ ทั้งคนไทยทั้งต่างชาติที่ชอบลายเส้นและสไตล์ของเขาต่างจองคิวเข้ามาจนรับงานไม่ทัน



วามองหน้าน้องป่าน ดวงตากลมที่เพิ่งจะวาวหวังกลับมอดแสงหงอยลงถนัด



“อาทิตย์หน้ากูว่าง” สีหน้าน่าสงสารจนเผลอโพล่งหลุดปาก



“วันอาทิตย์ร้านปิด”



ไอ้เฮีย มึงอย่าขัด



“เปิดได้” หมดแล้วที่เคยวางมาดเล่นตัว เหลือแต่พี่วาคนใจง่าย



น้องอยากสักพี่สักให้



“ขอบคุณนะครับ” ยิ้มหวานขนาดนี้ สักฟรียังได้



...วาคิดในใจ

               

               





หลังตกลงราคาและนัดวันสักเรียบร้อยโดยได้สิทธิ์ไม่ต้องวางมัดจำ ป่านขอเดินสำรวจภายในร้านอีกสักพักด้วยตื่นเต้นที่ไม่เคยเห็นบรรยากาศในร้าน



“ขอบคุณครับ” หันไปเอ่ยเมื่อร่างสูงที่ปล่อยให้เดินเรื่อยเปื่อยอยู่นานเดินเอาน้ำมาให้ ป่านรับมาจับก่อนวางไว้ เอ่ยอย่างนึกขึ้นได้ “เพื่อนพี่เท่มากเลยนะครับ”



อยากจะชมต่อหน้า แต่บทสนทนากับบรรยากาศเมื่อครู่ไม่เอื้อให้เด็กอย่างเขาได้เอ่ยแทรกอะไร



“ไอ้เฮียอ่ะนะ”



“เฮีย?”



“เออ ที่นั่งเก๊กอยู่หน้าร้านน่ะ ไอ้เหี้ยเฮีย” ป่านมองลอดผ่านประตูที่เปิดไว้ เห็นพี่ใจดีในสภาพเสื้อผ้าครบผมแห้งนั่งอ่านหนังสือนิ่งอยู่หน้าร้านอย่างว่าก็พยักหน้ารับ



“ครับ เท่มากเลย”



“ตรงไหน” เป็นอีกครั้งที่ป่านไม่เข้าใจว่าพี่วาโกรธอะไร ทั้งที่วินาทีก่อนยังดูท่าทีเป็นมิตร



เดี๋ยวดุ เดี๋ยวใจดีใจหาย ป่านตามไม่ทัน



“รอยสักบนตัวพี่เขาน่ะครับ สวยๆ ทั้งนั้น”



“มันมีเมียแล้ว คุณหนู น่ารักมาก”



“ครับ?”

               

เดี๋ยวนะ นี่พี่วาเข้าใจไปทางไหน



“มันไม่สนเด็ก...”



“พี่เข้าใจผิดแล้วครับ ผมแค่ชอบรอยสัก ไม่ได้ชอบพี่เขา”



“อ่อ งั้นก็แล้วไป” หลังได้ยินคำอธิบาย คิ้วขมวดมุ่นกลับคลาย ยักไหล่ไม่ยี่หระ เดินไปทิ้งสะโพกพิงเตียงสักกลางห้องทั้งที่ทิ้งความงุนงงไว้



แต่ป่านไม่เอะใจพอจะใส่ใจ

               

เด็กหนุ่มไล่เดินรอบสตูดิโอช้าๆ อีกครั้ง



มองภาพแต่ละภาพ มองความละเมียดละไมของสี เส้น และลวดลายที่สลักลึกบนร่างกายคนแปลกหน้าปะปนกับภาพร่างลายเส้นที่ถูกจัดวางองค์ประกอบในจังหวะพอดิบพอดี งดงามราวงานแสดงศิลปะ



จากผนัง จรดเพดาน ภาพเก่าตั้งแต่เปิดร้าน จนถึงภาพปัจจุบัน



ราวค้นหาบางอย่าง

               

กระทั่งในนับร้อยมีภาพหนึ่งที่ป่านหยุดมอง นิ่งนาน เพียงลวดลายที่เห็นได้ทั่วไป แต่กลับทำให้ผุดยิ้มบาง คล้ายหวนนึกถึงความหลัง

               

ทุกการเคลื่อนไหวแม้มุมปากต่างอยู่ในสายตาเจ้าของสตูดิโอ

               

“มองอะไร” รอยยิ้มจางทำคนมองขัดใจ คิ้วกลับมาขมวดขึ้งอีกครั้ง

               

แต่คราวนี้ไม่รู้เรื่องรู้ราว ป่านยังยิ้มกว้างชี้ไปยังกรอบรูปขนาดกว้างเท่าแผ่นหลังคนที่นั่งพิงสะโพกกับเตียงสัก



“ปีกนั่น”



ภาพวาดลายเส้นปีกสีดำสงบนิ่งคล้ายรอวันกางปีกสยาย



“พี่เป็นคนวาดเหรอครับ”



“เออ ทำไม”



ป่านส่ายหน้า “สวยมากเลยครับ”



คงดีใจอยู่หรอก ถ้าน้องไม่ได้อมยิ้ม มีเลศนัย



“พี่จำได้ไหมครับ ว่าเคยสักให้ใคร” คำถามชวนคาดเดา



หงุดหงิดอย่างไร้เหตุผลเมื่อคิดว่าเด็กน้อยคงมีบางอย่างเชื่อมโยงสัมพันธ์กับภาพปีกเทวทูตที่เขาไม่คิดใส่ใจ



“ใครจะไปจำได้วะ”



“เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนผมน่ะครับ” ยิ่งได้ยินยิ่งหงุดหงิด



ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์หงุดหงิด



“แล้วยังไง” ตอบห้วน ล้วงซองบุหรี่ออกมาหวังดับอารมณ์กรุ่นปริศนาด้วยความเคยชิน



แต่ทำได้เพียงคาบไว้ ไม่คิดจุด ไม่อยากรมควันพิษเด็กดื้อแม้จะเป็นสาเหตุความงุ่นง่าน



ทว่าน้องกลับหัวเราะน้อยๆ ส่ายหน้าอีกครั้ง “ไม่มีอะไรหรอกครับ”



เหนือความคาดหมายเมื่อตัวเล็กกว่าเยื้องย่างมาหยุดตรงหน้า ก้มหยิบไฟแช็กที่ถูกโยนไว้ลวกๆ ข้างที่เขี่ยบุหรี่ขึ้นมา



จุดไฟ



“มันเป็นลายสักแรกที่ทำให้ผมรู้จักร้านนี้... ได้รู้จักพี่...”



ปลายบุหรี่ที่คาบไว้ถูกเผาไหม้ลามเลียเชื่องช้า ขณะตาสบตา

             

น้ำตาลหวานสะท้อนควันจากมวนนิโคติน สะท้อนรอยยิ้มมุมปากที่หยักยกไม่รู้ตัวเมื่อได้ยิน

               

“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ พี่วา”

               







ป่านเป็นเด็กดี



ใครเห็นก็ว่าเป็นเด็กหัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย



ทว่าเนื้อแท้ใช่จะไร้เดียงสา...



เพียงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ มีทั้งอ่อนน้อมและต่อต้าน วัยคะนอง พร้อมโจนทะยานสู่การก้าวผ่าน การค้นหา ...ความเปลี่ยนแปลง



เปลี่ยนแปลงที่หยุดเปลี่ยนแปลงมาสักพัก... ส่วนสูงและขนาดรูปร่างที่เห็นผ่านกระจกขยับขยายน้อยลงทุกวัน



ร่างกายเปลือยเปล่าที่เฝ้าสำรวจทุกซอกมุมหลังอาบน้ำ เพิ่มเติมเพียงขี้แมลงวันที่ผุดเหนืออกข้างซ้าย ใต้จุดแต้มสามจุดใต้ไหปลาร้าที่หากลากต่อจุดจะกลายเป็นภาพจำลองกลุ่มดาวคันไถ สุกสว่างชี้หมุดหมายสู่ดาวดวงอื่น



ป่านสงสัยว่าแต้มจุดเหล่านี้มาจากไหน และจะไปสิ้นสุดที่ส่วนใดบนร่างกาย



ร่างกายที่ถูกหยุดไว้เพียงส่วนสูงร้อยเจ็ดสิบสองเซนติเมตร เคยผ่ายผอมเก้งก้าง ก่อนถูกเติมเต็มจนสมส่วนนวลอิ่มน้ำ ผิวของป่านไม่เคยกร้านหยาบด้วยไม่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เกลียดความเสียดกระด้างจึงไม่เคยปล่อยขนหน้าแข้งรุงรัง



...ไม่เคยปละปล่อยให้สักส่วนในร่างกายมีขนรุงรัง



แม้ไม่มีใครเห็น แม้อยู่ในที่ลับสุดลับ ไรอ่อนหรือหยาบกระด้าง



ป่านชอบความหมดจด เมื่อลูบไล้จะได้นวลเนียนผุดผ่องทั่วร่าง เรียบลื่นทุกสัดทุกส่วนชวนลุ่มหลงในสัมผัส



ในทุกเช้า ก่อนนอน ในทุกวัน ขณะดวงตากลมหวานสีน้ำตาลจดจ้อง ปลายนิ้วจะลากผ่านทีละตารางนิ้ว แต่ละอวัยวะ... เชื่องช้า ควานหาความบกพร่องในความหมดจด ที่เจ้าตัวไม่เคยรู้สึกถึงหมดจดงดงาม



ยิ่งสำรวจยิ่งเห็นความจางจืด ผิวขาวจัดดูจืดชืดกับร่างกายที่ไม่อ้วนไม่ผอม ไม่สูงไม่เตี้ยนั้นธรรมดาจนน่าเบื่อหน่าย 



หาคำตอบอยู่นานว่ามีสิ่งใดขาดหาย บางสิ่งที่จะช่วยแต้มเติมสีสันให้ผิวกายซีดขาวให้ไม่ขาวซีดจนเกินไป

               

รอยสัก...

               

ป่านค้นพบมันในสื่อเดียวกับที่ทำให้ค้นพบความต้องการในจิตใจ... สื่อแสลงต้องห้ามของผู้ใหญ่

               

ผิดจากเพื่อนวัยเดียวกัน ป่านไม่เคยกระหายจะสนใจในเพศตรงข้าม เข้าใจว่าเพราะไม่เอื้อด้วยสภาพแวดล้อม การหมกมุ่นกับการเรียนทำให้ไม่มีความกระตือรือร้นมากพอ... ไม่สนใจความรัก



แต่เปล่าเลย เมื่อเฉยชากลับแปรเปลี่ยนเป็นหวามไหวกับอดีตประธานนักเรียนที่มีเหตุบังเอิญเจอกันเพียงหนึ่งครั้ง



ในสถานการณ์กระอักกระอ่วน



‘อ๊ะ...เฮ้ย!’



ในห้องน้ำเงียบสงัด เคล้ากลิ่นราะคลุ้ง กลิ่นเหงื่อปะปนกลิ่นอบอับ ใบหน้าคุ้นตาในสภาพกึ่งเปลือย... แผ่นอกแนบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของใครอีกคนที่เขาไม่รู้จัก



‘...’



ความตกใจทำสติเลือนราง พร่าเลือนแม้คำขอโทษก็ไม่อาจหลุดออกจากปาก



มีเพียงสิ่งเดียวที่ติดตรึงในความทรงจำ คือปีกคู่หนึ่งที่กลางหลัง ปีกหุบห่อต่อเชื่อมจากกลางสันหลังลากผ่านสะบักทั้งซ้ายขวา ลามเรื่อยมาถึงบั้นเอว



‘ชู่ว...’



‘…’



‘น้องอย่าบอกใครนะครับ’



หลังจากนั้นเด็กหนุ่มจึงระแคะระคาย หวั่นไหว สับสนว้าวุ่นใจในความกระหายลึกลับ



วัยอยากรู้อยากลองจึงพิสูจน์ความสงสัยด้วยปลายนิ้ว... คลิกเพียงหนึ่งครั้งสู่เว็บไซต์ต้องห้าม



หนังผู้ใหญ่ละลานตา ทว่าเรือนร่างหญิงสาวสะพรั่งไม่อาจดึงดูดความสนใจ ลากเม้าส์เลื่อนเคอเซอร์สู่ช่องค้นหา พิมพ์คีย์เวิร์ดสองคำที่หลอกหลอนค้างคา



Gay, Tattoo



ราวก้าวพ้นผ่านหมอกควัน ข้องใจละลายจาง หลายคำถามกระจ่างในคำตอบเดียว

               

ทว่าหลังหมอกหนาคือทะเลโคลนหนักอึ้ง เพราะลูกชายเพียงคนเดียวรู้ตัวว่าเป็นความหวังของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว... ความหวังเพียงหนึ่งเดียว

               

ป่านจึงเลือกก้าวถอยหลังเก็บมันกลับไว้ในหมอกอีกครั้ง



ลับซ่อนความต้องการไว้เพียงในห้องนอนเล็กๆ ใต้แสงไฟจากจอโน้ตบุ๊ค... ในเงียบสงัด ใต้หูฟังที่อึงอลด้วยเสียงโอดคราง ครวญหวานตามจังหวะร่างกายที่สอดปะสาน



...จังหวะเดียวกับอุ้งมือที่ขยับรูดรั้ง สัมผัสร่างกายตัวเอง



สายตาจับจ้องลวดลายงดงามที่คล้ายจะเริงระบำตามความเคลื่อนไหว ระยิบระยับด้วยเหงื่ออาบชโลมผิวกาย คล้ายได้รับรสซ่านกระสันผ่านรอยจูบและรอยฟันที่ประดับทั่วร่างที่กำลังหอบกระชั้นก้องหูฟัง



จินตนาการถึงความรู้สึกที่ถูกกดกระแทกครั้งแล้วครั้งเล่า จนถึงปลายทาง

             

ดวงตาฉ่ำน้ำมองลวดลายงดงามบนร่างในจอที่กระตุกสะท้านเกือบจะพร้อมกัน เผลอกัดริมฝีปากขณะมองหยาดราคะที่กระฉอกเลอะรอยสัก กัดแรงพอให้สีชมพูฝาดแดงเจ่อขึ้นรอยฟัน

               

ก้มมองฝ่ามือฉ่ำแฉะด้วยขุ่นข้นไม่แพ้กัน



ตัดสินใจแตะปลายนิ้วที่ช่องทางด้านหลัง ไล้วนให้จีบนุ่มอาบจนชุ่มฉ่ำ



แล้วจึงกดแทรกปลายนิ้วลงไป



ครั้งแรกที่ยอมให้หนึ่งนิ้วสอดสู่ร่างกาย



หลับตา... ปล่อยใจสู่จินตนาการหวามไหว



ครั้งแรกที่มีใบหน้าของใครบางคนปรากฏในห้วงภวังค์... จินตนาการถึงอ้อมแขนกำยำที่โอบรัด



“Please…”



ท่อนแขนที่ปรากฏลวดลายสวนสวย



...สวรรค์ต้องห้าม 



“Daddy… Give it to me…”

             

จินตนาการ ถลำลึก สู่อ้อมกอดของซาตาน









☀ ------------------  #มอปลายลายสัก  -------------------☀



ตั้งใจจะเขียนให้จบแล้วค่อยอัพค่ะ แต่ไม่ไหวเนอะ ลงแดง กระหายกำลังใจ 55555

ตอนนี้เขียนนานมาก แก้หลายรอบ ถ้ามีตรงไหนเบลอๆ ผิดพลาดติติงได้เลยนะคะ

จริงๆ อยากให้เริ่มสักเลย แต่เขียนไปเขียนมามันยาวกว่าที่คิดไว้

แล้วก็มีซีนที่อยากเขียนแทรกเข้ามาเลยยืดตอนสักออกไปก่อนค่ะ u_u



ขอโทษที่มาช้า ต่อไปจะพยายามอัพให้ต่อเนื่องขึ้นนะคะ

ฝากเอ็นดูพี่วากับน้องป่านด้วยน้า



ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ

Martian
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 3 : Angel Wings - 13.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 13-01-2019 15:01:40
ฮื่ออออ อิะี่วาปากแข็งอดกินนะบอกเลย จะเอาไง
ปล.น้องแบบน้องมากๆ น่ารัก เอ็นดูมาก รูกร้ากของแม่ รักหนู //หอมหัว
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 3 : Angel Wings - 13.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 13-01-2019 15:36:42
อื้อหื้อ!!...น่าติดตามคะ.. :m25:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 3 : Angel Wings - 13.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 13-01-2019 21:13:33
พี่วาซึนอะไรขนาดนั้น  :mew3: ปากไม่ตรงกับใจเลย ใจนี่อยากจะทำอะไร18+ไปแล้ว ส่วนน้องป่าน มันก็ต้องมีการเรียนรู้ล่ะเนอะ  :o8: ขอบคุณมากค่ะ มาต่อบ่อยๆน้ะคะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 3 : Angel Wings - 13.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 13-01-2019 22:04:18
5555 เกลียดความกลั้นยิ้มจนหน้าตาบิดเบี้ยวของพี่วามากอ่ะ คือออ ถ้าไม่ไหวก็ยิ้มออกมาเถอะพี่ แล้วไหนจะความย้อนแย้งของคุณพี่วาอ่ะ จะดุ จะเอ็นดู จะโหด หรือจะใจดี เอาสักทาง รุงรัง หมั่นใส้  55555

เราสัมผัสได้ถึงความแซ่บของน้องป่าน ohhh Daddy ... คืออออ  :haun4: ตายแน่ พี่วาต้องตายแน่ๆ เจอมอปลายวัยใสอยากเรียนรู้แบบนี้ พี่วาต้องเจอศึกหนักจากดาเมจของน้องแน่ๆ เอาเลยค่ะน้องป่าน พี่เชียร์ พี่หมั่นใส้ความซึนของอิพี่มากก เอาให้อิพี่ลืมเก็กกันไปเลยนะคะลูกกก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 3 : Angel Wings - 13.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-01-2019 03:06:17
โหห พรากผู้เยาว์นะ คริคริ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 3 : Angel Wings - 13.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 14-01-2019 15:21:46
น้องป่านนนนน
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 3 : Angel Wings - 13.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: bekeyyy ที่ 14-01-2019 19:09:56
ห่างหายไปนานมาก คิดถึงงคนแต่งงงงงงง
สุขสันต์วันปีใหม่ค่า คุณพี่วาหลงน้องต้องกระอักเลือดตายแน่
อยากฟอร์มจัดนะคะคุณพี่ เดี๋ยวน้องป่านหายไปจะรู้สึก
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 3 : Angel Wings - 13.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 15-01-2019 09:31:48
น้องป่าน หนูนี่ยั่วมากนะ พี่วาจะอดใจไหวมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 3 : Angel Wings - 13.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 15-01-2019 11:12:57
วี้ดดด คุณน้องวา
จินตนาการถึงใครคะเนี่ย?
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 3 : Angel Wings - 13.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 15-01-2019 17:55:20
 :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 3 : Angel Wings - 13.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 16-01-2019 00:49:32
น้องงงงง!!!  เตรียมรูดก้านมะยม
อิพี่วาคนซึนเลิกเก๊กได้แล้วค่ะ คนอ่านรอฉากไซเรน อุ๊บส์ :hao6: :hao7:
//สิงร่างโมโจ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 3 : Angel Wings - 13.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 16-01-2019 13:28:01
พี่วาเลิกซึนได้แล้วว- น้องป่านรู้กก
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 23-01-2019 00:39:27
ลายที่ 4 Colorful

(เจ็บปวดแสนหวาน)

 

               

การเป็นลูกค้าคนเดียวในวันอาทิตย์ไม่ใช่สิทธิพิเศษ

               

การได้ส่วนลดจากสี่พันเหลือแปดร้อยก็ไม่ใช่สิทธิพิเศษ

               

...วาบอกตัวเอง

               

เกลียดนักเรื่องเส้นสาย เขาไม่ใช่คนเห็นแก่พรรคพวก เพื่อนพ้อง ไม่ได้เห็นแก่น้องนุ่ง

               

แต่ชอบเห็นตอนน้องไม่นุ่ง

               

คืนวันเสาร์เขานอนไม่หลับ จิตใจมันกระสับกระส่ายใคร่คิดว่าสัมผัสผิวอ่อนใสนั้นจะเป็นยังไง เขาเคยสัมผัสตัวน้องเพียงหนึ่งครั้ง... เรียกว่าน้องมาโดนตัวเขาเองมากกว่า



ฝ่ามือนุ่มกับนิ้วเรียวสวยที่ผวาจับตัวเขาตอนโดนโมโจเลียหน้า แค่นั้นพี่วาก็เสียอาการ



แล้วถ้าเป็นผิวใต้ร่มผ้า... แค่จินตนาการก็ตื่นเต้นมือเท้าสั่น



เพราะผิวคุณภาพ หมายถึงงานคุณภาพ สีจะออกมาสวย เส้นเนี้ยบกริบลื่นเรียบลวดลายงดงามไร้ที่ติ



และเป็นจริงอย่างจินตนาการ ไม่มีอะไรจะติ ทั้งสี ทั้งสัมผัส



นุ่ม... ขาว... เนียน แม้ผ่านถุงมือ...



“พี่ครับ... พี่กำลังจับก้นผม”



พอดิบพอดีจนเผลอลงน้ำหนักมือแรงไป จนกระต่ายตื่น

               

“ก็มึงสักตรงนี้ แล้วจะให้กูจับตรงไหน” ตีหน้าเข้มเสียงดุกลับไป



เขาไม่มีเจตนา ไม่ได้จงใจจะแต๊ะอั๋ง แต่เพราะตำแหน่งที่สักมันล่อแหลม หลีกเลี่ยงไม่ได้ต่างหาก



ฝูงผีเสื้อตัวน้อยที่โบกบินวาดลวดลายสีสันบนสะโพกที่ผายได้รูปสวยเกินชาย



สัดส่วนที่คาดคะเนเอาไว้ใต้เนื้อผ้าแท้จริงกลับดูดีกว่า เอวสมส่วนเว้าได้รูปรับสะโพก ซี่โครง ช่วงไหล่ กระทั่งลำคอระหงส์ ทุกองค์ประกอบล้วนเสริมให้ร่างสะโอดสะองน่ามอง



ไม่ใช่แค่พรจากสวรรค์ เพราะน้องหมั่นดูแลร่างกาย ทั้งรูปร่าง ทั้งผิวถึงได้เนียนนวลปลั่งไม่มีส่วนไหนหยาบระคายฝ่ามือยามจับ



และคงไม่เคยเปิดเผยให้ใครได้เห็นด้วยเช่นกันถึงได้ออกอาการประหม่าเขิน เลิ่กลั่ก ไหล่บางห่อเกร็ง มือไม้เกะกะอย่างไม่รู้ว่าจะวางตรงไหน ยกกอดอกบ้าง เกาหลังหูหลังคอบ้าง เห็นแล้วอดเอ็นดูไม่ได้



ธรรมดาผู้ชายเพียงถอดเสื้อกับรั้งขอบกางเกงลงต่ำเพียงครึ่งก้นคงไม่ทำให้กระดากอาย โดยเฉพาะกับผู้ชายด้วยกัน แถมเป็นช่างสัก... คนที่ได้รับอนุญาตให้ถึงเนื้อถึงตัว



ป่านกัดริมฝีปาก เหลียวมองกระจกบานสูงที่สะท้อนภาพด้านข้างของตัวเองกับช่างสักที่นั่งในระดับต่ำกว่า แขนข้างขวาที่จับอยู่ตำแหน่งสะโพกยังคงประดับด้วยลวดลายสวนสวยที่ซุกซ่อนบางส่วนไว้ใต้ถุงมือสีดำ ผมยาวปรกหน้าถูกรวบไว้ครึ่งหัวเผยให้เห็นเสี้ยวหน้าได้รูปสวย ตำแหน่งสายตาที่อยู่ตรงกับสะโพกชัดชวนให้ขัดเขิน



คล้ายเห็นภาพผีเสื้อที่ร่างไว้กลืนหายเข้าไปขยับปีกในช่องท้องให้วูบวาบหวามไหว



ยิ่งหวิวหวั่นเมื่อดวงตาคมคู่นั้นหันมาสบตากันผ่านกระจกคล้ายรู้ตัวว่าถูกจ้อง รอยยิ้มหายากกลับหยักยกที่มุมปากง่ายๆ พร้อมน้ำเสียงกลั้วหัวเราะระคนประหลาดใจ



“อายแล้วจะสักตรงนี้ทำไม”



“...” ป่านไม่มีคำตอบให้



จะให้ตอบอย่างไรว่าเป็นตำแหน่งที่เห็นจนชินตาจากพอร์นสตาร์คนโปรด


จนพานจินตนาการหากตัวมีบ้าง... บนเนินเนื้อที่หยุ่นนุ่มยามขยับ ขณะถูกกอดก่ายร่วมรัก ผีเสื้อทั้งฝูงคงพากันกระพือปีกกระเพื่อมไหวงดงาม



“ปกติตัวแดงง่ายงี้ป่ะ” ไม่รู้คิดไปถึงไหนต่อไหน ผิวบางที่เคยขาวอมชมพูถึงได้ขึ้นสีจัด

               

ยิ่งน่ารัก น่าบีบ



ถึงจะหวั่นไหวแต่พี่วาต้องข่มความคิดที่พลุ่งพล่านไปไหนต่อไหนให้กลับมาสำรวม ด้วยต้องรักษาความเป็นมืออาชีพ



เคยเห็นมามากกว่านี้ยังมือนิ่งใจนิ่ง



ลูกค้าบางคนต้องเปลือยเปล่าทั้งร่าง มีเพียงผ้าผืนบางปิดส่วนลับ แต่เมื่อถึงเวลาต้องทำงาน วาจะโฟกัสเพียงการขยับมือวาดลวดลายตรงหน้า



ไม่ว่าจะเย้ายวนแค่ไหนไม่ต่างจากผืนผ้าใบ ว่างเปล่า



ขาวๆ เนียนๆ...



แม่งเอ๊ย! เห็นแล้วคันเขี้ยว



อยากกัดสักทีให้หายฟุ้งซ่าน ชิมเนื้อนิ่มกรุ่นกลิ่นน้ำนมให้หายอยาก



แต่ยังไม่พร้อมติดตาราง เลยได้แต่ทำใจกระแอมไอสลัดความคิดบาป



“แล้วมาสักนี่แม่ว่าไง?” เอ่ยถามเรื่อยเปื่อยคลายบรรยากาศชวนอึดอัด



“แม่ไม่...” แต่คำถามคงชวนอึดอัดกว่า น้องจึงมีหน้ากระอักกระอ่วนลำบากใจ



“ไม่ว่า?”



“แม่...ไม่รู้ครับ”



นั่นไง กูว่าแล้ว



“เวร” สบถพึมพำ วางเข็มสักลงบนชั้นวางอุปกรณ์อีกครั้ง กอดอกมองหน้าเด็กดื้อที่เพิ่งสารภาพบาป นึกโทษตัวเองที่ไม่เคยถาม



จริงอยู่ตอนสักครั้งแรกวาเองก็ไม่คิดขออนุญาตที่บ้าน แต่เขาไม่คิดจะสนับสนุนให้ใครทำตาม



ป่านสบดวงตาคมที่ยิ่งดุดัน กัดริมฝีปากครุ่นคิดถึงคำแก้ตัว



“มันอยู่ใต้ร่มผ้า...” อึกอัก แต่กลับชี้โพรงให้อสรพิษมองตาม เงากระจกสะท้อนเห็นภาพสีนิลหม่นเหลือบลงจดจ้องสะโพก ครุ่นคิด นิ่งงัน 



ก็จริง ถ้าน้องไม่แก้ผ้า คงไม่มีใครเห็นรอยสัก... นอกจากเขา



เผลอคิด พลางกระยิ้มยิ้มจนกระต่ายตวาดตื่นเสียงดัง



“พี่! อย่าจ้องสิครับ”



“เออๆ หวงตัวจัง” แกล้งพึมพำงุ่นง่านแล้วสบตาน้องอีกครั้ง



“ถ้าสักให้ ต้องบอกแม่” เอ่ยจริงจัง



ถือเป็นข้อต่อรองเสียเปรียบเพราะหากสักไปแล้วต่อให้น้องจะบอกผู้ปกครองหรือไม่เขาไม่มีทางรู้



แต่เพราะเชื่อใจ



น้องไม่ใช่คนกลับกลอก ไม่อย่างนั้นคงโกหกแต่แรกว่าทางบ้านอนุญาต



“ไม่งั้นไม่ต้องสัก” พี่วาไม่มีเวลาให้ตัดสินใจนาน ทำท่าจะถอดถุงมือไล่ ป่านจึงรีบพยักหน้าหงึกหงัก



“ครับๆ จะบอกครับ” ดวงตากลมแป๋วกระเง้ากระงอดออดอ้อนตาม “สักนะครับ”



ถึงไม่อ้อนพี่วาก็ใจอ่อนมาตั้งนาน



แสร้งกระแอมกลบเกลื่อนรอยยิ้มร้าย ก่อนสวมถุงมือกลับ จับสะโพกน้องหมุนให้อยู่ตำแหน่งถนัดมืออีกครั้ง



“อย่าเกร็งครับ เดี๋ยวเจ็บ” แต่ไม่วายแกล้งตีก้นเล็กๆ ที่หดเกร็งอย่างมันเขี้ยว



แต่เพราะคำพูดคำจาที่เปลี่ยนไปกะทันหัน ทำน้องขมวดคิ้ว



“ทำไมอยู่ๆ พูดเพราะล่ะครับ” ยิ่งเกร็งไปกันใหญ่



“ก็วันนี้เป็นลูกค้า” ปกติเขาจะใช่น้ำเสียงอ่อนหวาน คำพูดนุ่มนวลช่วยให้ผ่อนคลาย “หรือชอบให้ดุ?”



น้องเม้มปาก ส่ายหน้ารัว ถึงจะไม่ชิน แต่ป่านชอบมากกว่าน้ำเสียงประโชกโฮกฮาก เกรี้ยวกราดชวนตกใจ



“งั้นก็อย่าเกร็งครับ” เอ่ยย้ำด้วยน้ำเสียงยียวนกลั้วขำ

               

ก่อนเสียงมอเตอร์ดังก้องในห้องเงียบงัน เข็มสักได้ฤกษ์สลักลงผิวเนียน

               

“เจ็บป่ะ”

               

น้องส่ายหน้าตอบ ความหวาดเสียวชวนให้กลั้นใจเพียงเข็มแรก ทว่าเพียงเสี้ยววินาทีกลับคลายหวาดหวั่น



...เป็นความเจ็บที่ชวนให้ตื่นเต้น ท้าทาย



“ดีครับ เก่งมาก” หลุดยิ้มเมื่อคำชมที่ไม่เคยได้ยินเอ่ยผ่านเสียงทุ้มที่ไร้ความเกรี้ยวกราด สายตายังคงจดจ่อกับฝีเข็มที่ตวัดวาด



ราวกับคนละคนกับพี่วาที่รู้จัก



“เจ็บบอกนะ”



“ครับ”



อ่อนโยนกับลูกค้าแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า?



...คงใช่ ไม่อย่างนั้นคงไม่เหลือเพียงความไว้ใจ ไร้กดดัน

               

นุ่มนวลยิ่งกว่าเสียง คือฝ่ามือที่ขยับ

             

ท่ามกลางความถี่แหลมสั่นหลอนหูคล้ายข่มขู่ ทุกจังหวะลากเข็มกลับอ่อนหวาน ตวัดวาดลวดลายสลักบนผิวหนังรวดเร็วทว่าแม่นยำ สลับเงยหน้ามองเงาสะท้อนกระจกสังเกตสีหน้าอ่อนใส

               

ไม่มีอาการโหยเจ็บจนเกินทนไหว นิ่วหน้าเพียงเล็กน้อย น้ำตาลสวยสบตอบด้วยประกายแวววาว ตื่นเต้นเจือความหวัง

               

เรียกยิ้มหลุดเอ็นดูอีกครั้ง

               

“เด็กดี”



ไม่นาน ผิวกายขาวปรากฏเส้น ต่อเส้นเป็นรูปร่างทีละน้อย ก่อนค่อยๆ แต่งแต้มละเลงสี



จากหนึ่งตัว สู่ทั้งฝูง... ผีเสื้อหลากสีสันแข่งโบกบินอวดความงาม

 

             





หลังทำความสะอาด พี่วาขอตัวออกไปข้างนอก ปล่อยให้ป่านสำรวจลวดลายบนร่างตัวเองอีกครั้ง เขย่งตัวบิดร่างทุลักทุเลด้วยตำแหน่งเยื้องด้านหลังทำให้เห็นทั้งหมดไม่ชัด

               

“เดี๋ยวถ่ายให้ดู” ร่างสูงที่เดินกลับมาพร้อมกล้องถ่ายรูปสะพายอยู่บนคอเอ่ยกลั้วหัวเราะ



"ไปยืนตรงนั้นไป" โบกมือไล่เด็กที่กำลังตื่นเต้นไปยังผนังโล่งที่ใช้ถ่ายภาพ ส่งสัญญาณให้หันหลัง



ลอบกดชัตเตอร์ทั้งที่น้องยังเก้กัง ลอบยิ้มกับท่าทางหันซ้ายขวาอึกอักมือไม้เกะกะ



ลวดลายเหนือเนินสะโพกกลับถ่ายเต็มตัวแทบไม่โฟกัสรอยสัก



“เอ่อ... แล้วจะเอาไปแปะหน้าร้านด้วยหรือเปล่าครับ” ป่านสงสัย เพราะกล้องที่ใช้และฉากหลังดูจริงจังกว่าเพียงถ่ายให้ดูรอยสัก

               

“ถ้าไม่อยากให้โชว์ก็บอกได้” 



“เปล่าครับ แค่...”



“เขิน?”



“ครับ” พยักหน้าอ้อมแอ้ม แม้ปรากฏเพียงสรีระบางส่วนไม่เปิดเผยหน้า ก็รู้สึกแปลกอยู่ดีที่ได้เห็นเรือนร่างตัวเองโชว์หรารวมลวดลายละลานตา



“ไม่เห็นต้องเขิน” เอ่ยกระซิบขณะขยับมายืนซ้อนหลังมือหนึ่งแตะบ่าจัดท่าทางให้นายแบบมือใหม่ที่ยังประดักประเดิดเห่อสีไปทั้งหน้า



ส่วนอีกมือถือวิสาสะรั้งขอบกางเกงให้เลื่อนร่นลดลง ให้เหลือเพียงเกาะหมิ่นเหม่อวดรอยสัก



“จับไว้ครับ” คล้ายถูกล่อลวงด้วยลมหายใจอุ่นซ่าน เพียงกระซิบข้างหูนิ้วเรียวสวยก็เกี่ยวรั้งขอบกางเกงไว้อย่างว่าง่าย



ร่างสูงคุกเข่า ยกกล้องส่องเลนส์โฟกัสยังฝูงผีเสื้อบนเนินสะโพกขาว



เสียงชัตเตอร์ลั่นกังวาน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า



จากรอยสักค่อยๆ เลื่อนสูงถึงใบหน้าประหม่าเขินที่จับจ้องทุกการกระทำ ก่อนเลนส์กล้องถูกลดลงเหลือเพียงเลนส์สายตา




สบประสาน นิ่งนาน


“สวยดีนะ”



“ครับ?”



“หมายถึงลายสัก” หยอกแหย่ด้วยรอยยิ้มยียวนให้คนน้องงุนงงงุ่นง่าน     



“น่ารักมาก”



ก่อนตลบตะแลง



“หมายถึง...”



“หมายถึงน้อง”

             

หยอดคำหวานแนบเนียน

 

               





หนึ่งอาทิตย์หลังจากนั้นทิวากรไม่เห็นแม้เงาเชือกป่าน

               

เด็กดีรักษาคำพูดที่ว่าจะไม่มาให้เห็นหน้าอีกหากพี่วายอมสักให้

               

...รักษาสัญญาเคร่งครัดจนน่าใจหาย

               

“ไงล่ะ หงอยทั้งพ่อทั้งลูก” หนึ่งคนนั่งเหม่อลอย อีกหนึ่งตัวหมอบหงอยเคียงข้างกัน

               

ไม่ทันเตรียมใจว่าน้องจะไปแล้วไปลับ

               

“เฮีย กูแพ้ว่ะ แพ้ราบคาบ”



ไม่ทันเตรียมรับมือกับความคิดถึงยามไม่เจอหน้า



“มึงสักมาเป็นร้อยคนแล้วเพิ่งจะมาหวั่นไหวอะไรเนี่ย”



สวยกว่านี้ น่ารักระดับนางแบบดารา ทิวากรก็ไม่เคยแสดงอาการครั่นเนื้อครั่นตัวรู้ร้อนรู้หนาวให้เห็นสักครั้ง



ดันมาแพ้ทางกับเด็กม.ปลายธรรมดาๆ เสียหมดรูป น่าประหลาดใจ



“ทีมึงแค่เห็นข้อเท้าคุณหนูยังหวั่นไหวได้”



แต่ไม่ใช่เรื่องแปลก



“...อ่ะ กูยอม”



คนเราบทจะตกหลุมรักเหตุผลอะไรก็เอาไม่อยู่ รั้งไม่ไหว



“น้องแม่งน่ารัก... น่ารักโคตรๆ ทั้งหน้าตาทั้งนิสัย”



“เออ เข้าใจ”



“แบบว่าไม่เหมือนใคร เป็นคนที่ใช่ มึงเข้าใจไหม”



“เออ”



“แค่เห็นน้องยิ้มกูก็จะละลายแล้ว แม่งเอ๊ยยย” ยิ่งคิดถึงใบหน้าหวาน ดวงตาใสซื่อ รอยยิ้มน่ารักก็ยิ่งหวั่นไหว



ไหนจะภาพตอนน้องจุดบุหรี่ให้ ดวงตาลูกกวางชวนฝันยังติดตา ตรึงใจ



รู้ตัวแล้วว่าชอบคนนี้ ชอบฉิบหาย อยากได้



“ตอนนี้หน้ามึงแดงเป็นสาวน้อยเลย อุบาทว์ฉิบหาย” ถึงจะเข้าใจความรู้สึก แต่ไอ้ท่าทางเพ้อพกฟุ้งซ่านเกินจริตก็เกินรับไหว



“แล้วทำไมไม่ขอคอนแทคไว้วะ เฟส ไลน์”



“กูไม่รู้ กูไม่ได้เตรียมใจว่าน้องจะหายไป” พอโดนสะกิดถาม ทิวากรก็กลับมาหงอยหงออีกครั้งราวมีสวิตช์เปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน



“เฮีย ทำไงดีวะถ้าไม่ได้เจอน้องเขาอีกกูคงขาดใจตาย”



“งั้นขอให้มึงตาย” ไม่อยากซ้ำ แต่อาการมันน่าซ้ำ น่าหมั่นไส้



เล่นตัวนักก็สมควรนกไป

               

อยากซ้ำมากกว่านี้ ให้อาบเลือดช้ำหนอง แต่ต้องหยุดปากไว้

               

ไม่ใช่เพราะเห็นใจเพื่อนรักที่ซบหน้าลงฝ่ามือหนักอกคล้ายจะร้องไห้ แต่เพราะสายตาเหลือบไปเห็นร่างคุ้นตากำลังเดินมาจากระยะไกล

               

เด่นชัดด้วยยูนิฟอร์มเชิ้ตแขนสั้นกางเกงน้ำเงินเต่อโชว์ขาขาว



ไม่ทันไรก็เดินมาใกล้ ชะงักฝีเท้า เลิกคิ้วประหลาดใจที่เห็นเจ้าของร้านรวมตัวอยู่ตรงม้านั่ง เกือบจะเอ่ยทัก แต่เฮียกลับยกนิ้วชี้แตะปากจุเสียงห้าม

               

ป่านพยักหน้าปิดปาก เพียงเลิกคิ้ว ฟังบทสนทนาชวนขัน

               

“แล้วถ้าเจอน้องเขาอีก มึงจะทำไง”

               

“กูจะไม่ดุ”

               

“ไม่เห่า”

               

“...”

               

“ไม่กัด”

               

“ครับ ไม่เห่า ไม่กัด”



ว่าง่ายกว่าโมโจก็พ่อมันแล้วล่ะ

               

“แล้วถ้าน้องเขาอยากสัก”

               

“จะสักให้ฟรีเลยครับ”   

               

“ถ้าน้องเขาน่ารัก”

               

“ก็จะชมว่าน่ารัก” 

               

“จริงเหรอครับ”

               

“ครับ”



“...”



“...” กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่เสียงโทนต่ำของเฮียกลายเป็นเสียงทุ้มหวาน

               

หวานคุ้นหูจนชะงัก จนใจสั่น

             

“ปะ โมโจ กินข้าว” เจ้าแผนการเอาตัวรอดลุกขึ้นลากเข้าสี่ขาที่กระดิกหางระรี้ระริกเข้าบ้าน

               

ทิ้งระเบิดไว้ให้คนโป๊ะแตกเก็บซาก

               

ซากเศษใบหน้าที่แตกยับแหลกละเอียดหมดมาด

               

“มาทำไมอีก สักเสร็จไปแล้วนี่” หลักฐานมัดตัวแน่น แต่ทิวากรยังเฉไฉรักษาท่าทีดุเข้ม น่าเกรงขาม



“คือผมมี...” เด็กดีใจดีตามน้ำ ก้มหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋ายื่นให้



พยายามกลั้นยิ้ม ทว่าไม่อาจอดใจ สุดท้ายทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่จึงขยับมุมปากยกยิ้มตามกัน



หลุดหัวเราะกับสถานการณ์ฉายซ้ำ ย้อนความเดิมตอนเจอกันครั้งแรกๆ



กระดาษแบบเดียวกัน ลวดลายบรรจงวาดจากดินสอและสีสันจากพู่กันด้ามเดียวกัน



เพียงจากผีเสื้อเปลี่ยนเป็นฝูงปลาแหวกว่ายกลางเวหา



“ติดใจ?” 



เช่นที่ตนเคยเสพติด... ความเจ็บปวดแสนงดงามยากเกินจะห้ามไม่ให้ลิ้มลองอีกครั้ง



รสบาปแสนหวานเกินยั้งใจ จึงยอมแหวกกฎ ทลายม่าน



กัดผลแอปเปิ้ลเย้ายวนตรงหน้า



“เข้ามาสิ”



ป้ายยังคงขึ้นป้าย Closed on Sundays เด่นหรา ไม่ต้อนรับลูกค้า



ทิวากรยังคงบอกตัวเอง เน้นย้ำ

               

การเป็นลูกค้าคนเดียววันอาทิตย์ไม่ใช่สิทธิพิเศษ

               

...แต่ถ้าน้องอยากสักฟรีตลอดชีวิต พี่ให้สิทธิพิเศษ




☀ ------------------  #มอปลายลายสัก  -------------------☀


หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: แพรวฐา ที่ 23-01-2019 01:42:00
โดนน้องป่านตกเต็มเลยจ้าาาา :-[

พี่ทิวาซึนเหลือเกิ๊นนนนน ขำคนโป๊ะแตก หลับหลังก็น้องน่ารักงั้นงี้ พอน้องมาทำเป็นเข้ม5555555555
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Patsz ที่ 23-01-2019 06:11:55
หลงน้องหนักมาก
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: aha_aha ที่ 23-01-2019 08:03:55
โอ้ยน่าร้ากกกกก
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: mookim ที่ 23-01-2019 10:07:56
โอ๊ยยยย อิพี่จะหลงน้องไปไหน เขินๆๆ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: pharuthai ที่ 23-01-2019 10:08:40
งือออออ ตายไปเลยยยยย :impress2:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: bowbeauty ที่ 23-01-2019 11:33:37
ไม่ไหวแล้วววววววว แก้มแตก
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: popuri ที่ 23-01-2019 14:46:32
พี่วาจะทนได้แค่ไหนกันคะะะ น้องเองก็ใช่ย่อย ฮือออออ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 23-01-2019 19:47:26
หลงเขาจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วพี่วา อย่าทำเป็นเข้มมม  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 23-01-2019 22:03:31
หลงน้องไปถึงดาวอังคารแล้วจ้าาาา พี่วาเอ๊ยยยยยย  :-[
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 24-01-2019 20:36:43
ตกติดตกได้
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 25-01-2019 02:33:30
น่าร้ากกกกก  :hao7: น้องน่ารักมากเลย คนพี่ก็ซึนได้น่ารัก

ว่าแต่ จบแล้วหรอ?
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 25-01-2019 07:59:01
อิพี่ โดนน้องตกแล้ววววววว :katai5:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 25-01-2019 11:20:42
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPlai ที่ 26-01-2019 12:21:29
เขินอ่ะ ฮือออออออ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: YYuiiiiuYY ที่ 26-01-2019 12:50:42
ซึนเก่งนะพี่วา
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 26-01-2019 13:34:38
น่ารัก
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 27-01-2019 02:23:30
น่ารักมากก แงงงง รอค่า
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 27-01-2019 17:11:21
หื้อออ น้องป่าน
หนูแซ่บมากค่ะ
อยากจะเห็นผีเสื้อทั้งฝูงขยับจัง
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 28-01-2019 01:37:19
หลงน้องงงง
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: mookim ที่ 28-01-2019 21:31:21
งื้ออ  รอนะนะ อยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 29-01-2019 23:19:20
โอ้ยยย อิพี่วาา คนซึนแห่งชาติ
เป็นไงล่ะ โป๊ะแตก!!
น้องป่านน่ารักมาก ๆ พี่ชอบน้อง เบื่ออิพี่คนซึนทางนี้ยินดีรับ 5555
รอคนเขียนมาต่อนะคะ กำลังสนุกก  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 29-01-2019 23:52:55
ร่ายมนต์    โอม.........จงมา จงมาบังเกิด ณ บัดนี้!!!!!!!!!! :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 31-01-2019 20:33:35
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: M_Y MILD ที่ 02-02-2019 14:00:27
นัวมากค่ะพี่เราชอบบบบบ Ncต้องเด็ดแล้ว รอๆๆๆๆ ชอบแนวรอยสักมาก55555555
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 4 : Colorful - 23.01.2562 (P.2) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 03-02-2019 03:19:32
ฮื่ออ น้องป่านน่ารักมากกรู้กกก เป็นน้อนนๆให้พี่วาหลง
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 04-02-2019 03:55:31
ลายที่ 5

Pit bull

(คมเขี้ยวคุคลั่ง)



 หนูป่านรู้ตัวว่าตัวเองน่ารัก             



ใบหน้าได้รูป โดดเด่นด้วยดวงตาสีน้ำตาลกลมกวางแพขนตาหนาวาวหวาน จมูกจิ้มลิ้ม รับกับริมฝีปากกระจับอิ่มสีชมพูดฝาด มุมปากหยักชัดส่งให้รอยยิ้มสวยสว่าง



สะดุดตาชวนฝัน มักถูกมองตาม เหลียวหลัง จับจ้องด้วยความเสน่หา     

         

“คนนี้เหรอแฟนวา”



ทว่าเมื่อเทียบกับคนตรงหน้า... ป่านคิดว่าความน่ารักของตัวไม่ถึงส่วนหนึ่งในเศษเสี้ยวของความน่ารัก



“คุณ...หนู?” ไม่ทันฟังความทึกทัก จึงไม่เอะใจปฏิเสธความเข้าใจผิด



แม้ไม่เคยเจอกัน แต่ตัวตนของคนตรงหน้าไม่ยากเกินคาดเดา



รูปร่าง หน้าตา บุคลิก แฟนเฮียคนนี้สมฉายาคุณหนูอย่างที่พี่วาว่า สูงศักดิ์ น่าทะนุถนอม



ทั้งที่จัดอยู่ในพิมพ์นิยมไม่ต่างกัน ทว่ามีออร่าบางอย่างที่ชวนสะกดให้จดจ้องไม่อาจละสายตา ไม่ใช่ด้วยโครงหน้า รูปตา หรือทรงริมฝีปาก



“ไง” เพราะวิธีการใช้องค์ประกอบสมบูรณ์แบบเหล่านั้นต่างหาก



“สวัสดีครับ”



“น่ารักจริงด้วย” วิธีมองด้วยแววตาหวานหยดสะกดลึก



“...”



“ใสอย่างที่วาอวด” วิธียกยิ้มมุมปากลึกร้าย



“เอ่อ...”



“เด็กมัธยมเนี่ย เนื้อหอม... ” กระทั่งวิธีการโน้มตัวลงมาฉกปลายจมูกรั้นเฉียดแก้มขาวอย่างจงใจยั่วเย้า “น่ากินเนอะ”



น้ำเสียงคล้ายกระซิบพร่าพราวเจือหัวเราะหวานติดปลายเสียง ทุ้มหู น่าฟัง



“...”



ป่านไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไง เพียงถูกจ้องก็เงอะงะ คล้ายถูกตรึงแน่นด้วยแวววาวหวานทว่าร้ายรั้นในดวงตาคู่สวยจนนิ่งงัน



คนที่มีเสน่ห์ และรู้วิธีใช้... ยากจะต่อต้าน



คงมีคนเดียวที่สามารถรับมือ



“สวัสดีครับน้องป่าน ไอ้วาโทรมาบอกว่ารถติด รอแป๊บนึงนะ” ป่านลอบถอนใจ โล่งอกกับน้ำเสียงคุ้นเคยที่โพล่งคั่นกลางคลายบรรยากาศแปลกหน้า



คุณหนูผละจาก ทิ้งตัวลงบนโซฟาตรงข้ามขณะที่เจ้าของร้านอีกคนส่งรอยยิ้มและน้ำเสียงใจดีเดินเข้ามาทักทาย



เฮียในสภาพเปลือยท่อนบนอวดรอยสักสวยกลายเป็นภาพที่เด็กหนุ่มชาชิน ทว่าภาพของร่างสูงที่หอบอุ้มแมวอ้วนขนฟูสามตัวในอ้อมแขนไม่ใช่ภาพชินตา



ใช่ว่าไม่เคยเจอกัน สามเหมียวบลอซซั่ม บับเบิ้ลส์ บัตเตอร์คัพมาป้วนเปี้ยนให้ป่านเห็นอยู่บ้างนานๆ ครั้ง ทว่าไม่เคยเห็นทั้งสามตัวอยู่ในร้าน อาจเพราะคนเลี้ยงออกตัวว่าเป็นแมวจรที่ชอบมาขโมยอาหารสร้างความรำคาญรุงรัง



...แต่แมวจรประสาอะไรถึงตั้งชื่อให้เป็นตุเป็นตะ ซ้ำยังวิ่งเล่นกับโมโจอย่างสนิทสนทไม่สนสายพันธุ์



“ไอ้วาเอาศาสตราจารย์ไปซื้อของ ขับรถน้องไปแทนนะ”



และหากรำคาญคงไม่หอบลูกรักชวนกันออกไปซื้ออาหารมาให้เป็นนานสองนาน



เฮียทิ้งตัวนั่งข้างคนรัก เสียงเหมียวหง่าวเรียกร้องให้แขนกำยำคลายอ้อมกอด สามชีวิตปีนป่ายคลอเคลียบนตักคนตัวเล็กที่นั่งเอนตัวกึ่งพับเพียบบนโซฟายาว คุณหนูยกมือลูบหัวเกาคางแต่ละตัวพร้อมยิ้มหวาน ขณะที่ขาเรียวขาวซึ่งโผล่พ้นกางเกงยีนขาสั้นเหนือเข่าถูกลูบทอดต่อด้วยฝ่ามือใหญ่ของคนเป็นแฟน ลูบเรื่อยไปมาอย่างเคยชินในสัมผัส กระทั่งหยุดนิ้วโป้งไล้วนตรงข้อเท้าซ้ำๆ ตรงรอยสักที่ป่านเพิ่งสังเกตเห็น



ดอกไม้เล็กจ้อยผลิงาม



“แล้วใครจะดูแลสามสาวอ่ะ” ดวงตาที่เคยตรึงมนต์กลับคลายสะกดเหลือเพียงออเซาะอ่อนหวานไร้พิษสง หมดแววทะเล้นร้าย



“ฝากน้องป่านดูแลได้ไหมครับ แป๊บนึง เดี๋ยวไอ้วากลับมาให้อาหาร” ก่อนต้องลบลืมความคิดฉับพลับเมื่อถูกเจ้าของร้านเอ่ยถามแกมขอร้อง



นึกแปลกใจที่ได้รับความไว้วางใจขนาดยอมให้เฝ้าร้านลำพัง แต่ไม่จำเป็นต้องขัดข้อง ไม่ใช่เรื่องรบกวนมากมาย



“ครับ” ยังไงป่านก็ต้องรอ



คนที่บอกให้รอ



คนที่ตอนน้องหายไปก็งุ่นง่านตัดพ้อ พอน้องกลับมาให้เห็นหน้าก็ทำท่าคล้ายจะดีใจ ทว่าไม่ทันไรก็ปั้นปึ่ง ขมวดคิ้วขึ้งขวาง ดุดัน



‘ยังไม่ได้บอกแม่เลย... แล้วยังกลับมาอีก ขอโทษนะครับ’ อาจเพราะน้องเอ่ยสารภาพความสัตย์ ยังไม่ได้ทำตามรับปาก ‘แต่ผมมีเหตุผล ผมอยากขอเวลา...’



‘แล้วนี่จะสักตรงไหนอีก’ พี่วาไม่ได้ว่า แต่ป่านยังจำได้ว่าน้ำเสียงและสีหน้าของคนอายุมากกว่าในบทสนทนาเมื่ออาทิตย์ก่อนชวนให้ป่านสับสน งุนงง



อ่อนโยน ทว่างุ่นง่าน



‘ตรงนี้ครับ ขาอ่อนด้านใน’



อยากให้มีฝูงปลาแหวกว่ายบนขาอ่อนขาว เร้นไว้ใต้กางเกงน้ำเงินที่สวมมาแม้วันอาทิตย์เพื่อให้พี่วาได้สักเหนือขอบชาย



‘...’



‘มันจะเจ็บมากไหมครับ’



หรือเพราะน้องหวาดระแวงเกินเหตุพี่วาถึงได้ขมวดคิ้วเครียดขึ้งท่าทางยุ่งยากใจ



‘ผมกลัวจัง...’



‘...’



‘พี่ครับ?’



ก็เขาว่าตรงขาอ่อนเป็นตำแหน่งที่สักแล้วเจ็บจนน้ำตาไหล



...น้องสัญญาแล้วว่าจะไม่ร้องไห้ ไม่อยากให้พี่รำคาญ



แต่เหนือกว่าความรำคาญคือภัยเงียบในสีนิลหม่นที่กำลังคุคลั่ง



‘กูไปสูบบุหรี่แป๊บ เดี๋ยวมา’



จนวันนี้ป่านไม่รู้ว่าทำอะไรผิด



วันนั้น หลังจากหายออกจากร้านไปพักใหญ่พี่วาก็กลับมาพร้อมกลิ่นนิโคตินคละคลุ้ง ดวงตาคมเพียงจ้อง...และจ้อง ราวจดจ้องจะดูดกลืนกักเก็บร่างน้องไว้ในดวงตา



...กักขัง หน่วงเหนี่ยว ครอบครองแต่เพียงผู้เดียว



‘มาใหม่อาทิตย์หน้า’           



ทว่าตัดบทเท่านั้น... ไม่ทันได้เข้าห้องสักด้วยซ้ำ



เด็กหนุ่มไม่อาจคิดค้าน เพราะเดิมทีก็เป็นวันที่ร้านปิดทำการ



ทั้งสัปดาห์ หลังเลิกเรียนพิเศษ ก่อนกลับบ้านทุกวันป่านจึงแวะเวียนมาที่ร้าน... กิจวัตรเวียนซ้ำตลอดเจ็ดวัน ต่างเพียงสีหน้าและการกระทำของคนที่ป่านมักจะเห็นนั่งอยู่ที่เดิมในเวลาเดิมราวนัดไว้ทั้งที่ไม่ได้นัด



สัมผัสได้ถึงความแข็งเข้มค่อยๆ ละลายจาง ไม่ฉับพลันทว่าโอนอ่อนทีละน้อยจนหมดความน่ากลัว



“งั้นไปเลยไหม” เสียงทุ้มหวานของคนตัวเล็กฉายาคุณหนูดึงห้วงคิดของป่านสู่ปัจจุบันอีกครั้ง เจ้าของเสียงวางสามสาวลงกับพื้นลุกขึ้นปัดขนแมวออกจากเสื้อผ้า ลูบหัวตบท้ายเมื่อมีเสียงหง่าวๆ ออดอ้อนตาม



“ไปเปลี่ยนกางเกงก่อน” ส่วนตัวก็โดนลูบหัวอีกทอด... ป่านทึกทักเอาเองว่าเฮียคงติดสัมผัส อยากจับ อยากลูบคนน่ารักตลอดเวลา... อย่างที่ป่านนึกอยากทำเช่นกัน



มีแรงดึงดูดมหาศาลออกมาจากคนคนนี้ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร



“ตกลงกันแล้วไปร้านเหล้าห้ามใส่ขาสั้น”



“มันร้อน” เพียงพริบตาออดอ้อนกลับกลายเป็นเย็นเฉยทำนองไม่ยี่หระ



“ที่ร้านมีแอร์”



“แต่พี่ชอบนั่งในสวน” ...เพื่อต่อรอง



“งั้นวันนี้นั่งในร้าน”



ลอบเห็นมุมปากสีชมพูหยักยิ้มขณะแกล้งทำทีชั่งใจ ก่อนคืบศอกเสนอเงื่อนไขใหม่ “ใส่ขายาวแล้วดื่มได้ไหม”



“เฮ้ย ไม่สิ ไม่เกี่ยวกัน”



“เกี่ยวครับ ขายาวดื่มได้ เมาแค่ไหนก็ล้วงไม่ได้ ไม่อันตราย” ตะล่อมเก่ง ตรรกะเอาแต่ใจ



แต่เฮียไม่ง่าย หรี่ตาส่ายหัวรู้ทัน “ล้วงไม่ได้แล้วยังไง น้องเมาแล้วน่ากินฉิบหาย ไม่โอเคๆ”



“งั้นใส่ตัวนี้แหละ ไม่เมา ขาสั้นก็ดูแลตัวเองได้ คนกันเองทั้งนั้น” พอได้ยินแบบนั้น ร่างสูงถอนใจงุ่นง่าน เห็นแววยกธงขาวตามใจ



“ดื้อจังวะ สามสาวดุมี้หน่อยค่ะ” แต่ไม่วายตัดพ้อหาพวก



เมี้ยว~ เมี้ยว~ เมี้ยว~



สามเสียงขานรับตรงจังหวะราวเตี๊ยมกัน ทั้งป่านทั้งคุณหนูเลยหลุดหัวเราะออกมา ดวงตาหวานสองคู่ประสานสบ ก่อนน้องม.ปลายจะเป็นฝ่ายหลบสายตาไม่อาจต้าน



คนชนะลอบยิ้มมุมปาก กลับสู่บทสรุปข้อตกลงกับคนรักที่ยอมจำนวนง่ายดาย



“ใส่ขายาว ดื่มได้ แต่เมาแล้วกลับ โอเคไหม”



คล้ายได้ยินเสียงลูกกุญแจถูกไขเข้าล็อก เสือร้ายติดกับตามเส้นทางที่กระต่ายแสนซนวางไว้



“อื้อ” ได้ดั่งใจจึงกลับมาหวานเยิ้ม ออเซาะอีกครั้งอย่างเอาใจ



“เมาแล้วอ้อนพี่จะดุให้ช้ำเลยนะคะ”



เสียงทุ้มหวานหัวเราะรับ “ค่ะ”



ป่านมองท่าทีที่ทั้งหมดของคนสองคนด้วยความสนใจ เก็บข้อมูล ประมวลผล...คล้ายฉุกฉลาดบางอย่างขึ้นมาได้



ไม่ว่าจะมองมุมไหน คุณหนูแฟนเฮียล้วนเปี่ยมเสน่ห์ร้ายล้ำ น่าสนใจ



...น่าสนใจ

 







ป่านไม่เคยรู้ว่าต้องใช้เสน่ห์ตัวเองยังไง... ไม่เคยใช้ ไม่เคยคิดใช้



ด้วยรูปร่างหน้าตา นิสัยสงบเงียบลึกลับ คล้ายเด็กเนิร์ดคร่ำเคร่ง จืดชืดน่าเบื่อในแวบแรก ทว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างที่ไม่อาจปกปิดได้ นานวันยิ่งเป็นที่สนใจ จากมองผ่านกลับเหลียวหลัง กระวนกระวายอยากทำความรู้จัก โดยเฉพาะกับเพื่อนในวัยเดียวกัน ห้องเรียนเดียวกัน



ทว่า ‘เด็กชาย’ ในโรงเรียนชายล้วนที่คละคลุ้งด้วยกลิ่นความคะนองนั้นไม่อยู่ในความสนใจ 



ป่านสนใจ ‘ผู้ชาย’ ...ชายเต็มชาย



รู้ดีในรสนิยมและยิ่งชัดเจนเมื่อได้สัมผัสใกล้ชิด



ชิดใกล้... ในระยะที่ทำให้หัวใจเต้นจนปวดหนึบ ตระหนกตื่นคล้ายสัตว์เล็กที่สัมผัสถึงอันตราย 

               

สองขาแยกห่าง กางเกงถูกถอดเพื่อเปลือยเนื้อเนียนเกลี้ยง หว่างขาถูกแทรกด้วยร่างสูงที่กำลังขยับมือสลักวาดฝูงปลางามว่ายเวหากลางขาขาว

               

ตามหน้าที่ ขยี้เข็มไร้เมตตา 



“พี่ครับ...” เสียงสั่นพร่าบางเบาแทบจะถูกกลบด้วยเสียงมอเตอร์ของเข็มสักที่ดังก้องอยู่ในโสตประสาท



ทว่าเพียงเท่านั้นก็เรียกให้ช่างสักหยุดชะงัก ดวงตาเจนจัดที่เอาแต่จดจ้องมองต่ำเงยหน้าขึ้นมาสบตาป่านครั้งแรกของวัน



“เจ็บเหรอ”



ไม่รู้ทำไม วันนี้พี่วาถึงนิ่งผิดปกติ ตั้งแต่กลับมาไม่พูดพล่าม ไล่น้องเข้าห้อง เตรียมอุปกรณ์ นึกจะทำตัวเป็นมืออาชีพขึ้นมา



ชะงักค้างเพียงชั่วครู่เมื่อเห็นน้องถอดกางเกงนั่งรอบนเตียงสัก ...ชั่วขณะ ทั้งห้องเงียบงัน ชวนอึดอัดเมื่อดวงตาที่มักจะฉายแววเกรี้ยวกราดกลับนิ่งขรึม จริงจัง...อย่างที่ไม่เคยจริงจัง



“อือ...” เนื้ออ่อนที่ต้นขาสักแล้วเจ็บอย่างที่เขาว่า



ที่ผ่านมาน้องกัดฟัน อดกลั้นไม่บ่งบอกความทรมาน แต่ยิ่งนานยิ่งเกินกลั้น



นึกน้อยใจที่พี่ไม่อ่อนโยน ไม่ปลอบประโลมเห็นใจเหมือนคราวก่อน ทำไมอยู่ๆ ถึงเฉยชาใส่กันอีก ป่านไม่เข้าใจ



ไม่ต่างกัน... พี่วาก็ไม่เข้าใจ



เห็นมาแล้วหลายขา โป๊กว่านี้ ขาวกว่านี้พี่ไม่เคยหวั่นไหว สรีระสวยมีให้เห็นผ่านตาจนชิน แต่ทำไมกับเด็กคนนี้ กลับไม่อาจทำใจสงบได้



ลวดลายเพียงเล็กจ้อยไม่หวือหวา คุณช่างมือดีกลับใช้เวลานานกว่าปกติ กลิ่นเนื้ออ่อนหอมหวนกวนสติเตลิดจนต้องกลั้นหายใจ อดกลั้น ทำใจแข็งไม่เงยหน้ามองดวงตากวางที่เยิ้มหวานคลอน้ำตาจนวินาทีสุดท้าย



อีกไม่กี่เส้น ตั้งสติ พี่วากลั้นใจ



“งั้นให้จิกหัวคืน จะได้หายกัน” จับมือน้องวางบนหัว หวังให้ขยุ้มช่วยระบาย



...เจ็บแค่ไหนพี่เจ็บด้วย



“ไม่เอา ผมไม่กล้า... อื้อ...!!” ไม่ทันขาดคำ แหลมคมสลักลงผิวเนียนอีกครั้ง เสียงดื้ออึงเปลี่ยนเป็นเสียงหวีดคราง ฝ่ามือเล็กลืมตัวขยำเส้นผมคนที่นั่งจดจ่ออยู่ตรงหว่างขา ก้มหน้าก้มตาลากตวัดเส้นสุดท้าย



“ผมเจ็บ... วา...” จังหวะเดียวกับที่เส้นความอดทนขาดผึง



เสียงมอเตอร์หยุดทันควัน



“...”



“...”



เงียบกริบ ชะงักงัน ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงลมจากเครื่องปรับอากาศ



“วันนี้พอแค่นี้” ก่อนดังก้อง ระรัว อึงอลด้วยเสียงหัวใจ เสียงหายใจ เสียงความคิดครวญครางกู่ร้องว่าถ้าไม่หยุดเพียงเท่านี้จะคลุ้มคลั่ง จะเป็นจะตาย ที่อดทนไว้แตกยับ แหลกสลาย



น่ากินว่ะ



น่ากินฉิบหาย ทำยังไงดีๆ น่ากินๆ กินไม่ได้ แต่น่ากินฉิบหาย



“ทำไมครับ” ได้สติขมวดคิ้วมุ่น ไม่แน่ใจว่าพี่โกรธเคืองเรื่องไหนทำไมถึงโดนไล่ ทิ้งรอยสักไว้ครึ่งๆ กลางๆ



มีเพียงเส้นไร้สีสัน



“เพราะผมงอแงเหรอ” สันนิษฐาน พยายามกะพริบไล่น้ำตาที่เอ่อคลอดวงตาหวาน กัดริมฝีปากอดกลั้น



โถๆ น่าสงสาร



แต่พี่วายืนยัน “ค่อยมาเติมสีอาทิตย์หน้า”



มือเก็บอุปกรณ์ ก้มหน้าก้มตา ก่อนชะงักเมื่อเด็กดื้อทำเสียงแข็งต่อต้านขึ้นมา



“หรือเพราะเรื่องเงินครับ”



“...” เข้าใจผิดไปไหนอีกนั่น



เด็กน้อยโน้มตัวจับแขนเขา ออดอ้อน จริงจัง



“ปกติพี่สักได้ชั่วโมงละหลายพัน แถมทำงานวันหยุดอีก ผมรู้ว่าพี่เสียเวลา” เป็นตุเป็นตะเลยนะ



มันเขี้ยวว่ะ



“ถ้าเป็นเรื่องนั้น...”



งับ!



คันฟันจนเผลอกัดไปหนึ่งที คมเขี้ยวฝังลงข้างรอยสักบนขาอ่อนขาวจนสะดุ้ง ไม่รุนแรงหวังแค่หยุดความเข้าใจผิด และได้ผล น้องชะงัก ทั้งห้องกลับมาเงียบกริบอีกครั้ง



“โง่จังวะ” งุ่นง่าน น้ำเสียงชวนใจสั่น “ทำไมต้องให้อธิบาย”



ไม่ใช่เพราะโดนดุ แต่เพราะแรงปะทุของอารมณ์บางอย่างที่ทะลักผ่านดวงตาสีนิลหม่นคมขวาง



“น้องครับ เติมสีอาทิตย์หน้า...”



ดิบร้าย โหยกระหาย คุคลั่ง



“แปลว่าอยากเจอ”



ทว่ากลับเจือเว้าวอน อ่อนไหว



ไม่เสียเวลานาน หลังได้คำตอบ เด็กน้อยยกยิ้ม ดวงตากลมวาวหวานแวววาวกระจ่าง ฝ่ามือที่จับแขนเลื่อนขึ้นไปยังหน้าผาก ปลายนิ้วคลึงขมวดมุ่นให้คลาย ยับย่นงุ่นง่านจางหาย




หนูป่านรู้ตัวว่าตัวเองน่ารัก รู้เสมอ ตลอดมา



"กว่าจะพูดได้นะครับ" 



แต่วันนี้เพิ่งได้เรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์ความน่ารัก



“ผมก็อยากเจอวาเหมือนกัน”



...รีดอสรพิษ ให้สิ้นฤทธิ์ร้าย



ให้เชื่องเชื่อ



...เป็นลูกไก่ในกำมือ






☀ ------------------  #มอปลายลายสัก  -------------------☀

มาแล้ววว แงงง มาช้าอีกแล้ว ;-;

เป็นตอนที่แก้นานมากอีกแล้วค่ะ เพิ่มเข้าตัดออกเพิ่มเข้าตัดออกอยู่อย่างนั้น กว่าจะได้จุดที่พอใจ (สุดท้ายตัดออกไปเยอะเลย 555)



วันก่อนเพิ่งคิดแท็กใหม่ได้ค่ะ #สักวาป่านหวาน น่ารักเนอะ -..-

ใช้ร่วมกับ #มอปลายลายสัก #วาป่าน ได้ตามสะดวงเลยนะคะ

จริงๆ ไม่ได้อยากเเท็กเยอะ แต่ในทวิตเตอร์รกมาก ข่าวปลอม แอคเค่อต่างๆ กดรีพอร์ตแล้วก็ไม่หายค่ะ เซ็งมาก (บ่นๆ)

ฝากพี่วากับน้องป่านด้วยน้า

ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามค่ะ ^^



-Martian-
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 04-02-2019 06:36:29
ยัยน้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: mookim ที่ 04-02-2019 07:54:28
โอ๊ยยยยหืดหาดอีกแล้ววว
แม่งง  คนอ่านก็กลั้นหายใจตามพี่วาค่ะ ยังกะกำลังนั่งสักเอง 555+

ส่วนเฮียของเราก็ใช่ย่อย น้องอย่าเมาเชียวนะ ไม่งั้นพี่จะดุให้หนักเลยย อร๊ายยยยยย
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Bluedock ที่ 04-02-2019 08:04:03
 :pighaun:  :hao3:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 04-02-2019 09:46:17
มีเรื่องแยกของเฮียกะคุณหนูไหมเอ่ย???  อยากอ่าน..นนนนน    :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: bowbeauty ที่ 04-02-2019 10:13:14
ร้ายกาจมากๆ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 04-02-2019 12:41:08
เฮ้ยยย น้องวาร้ายเหมือนกันจ้ะ
ใจบางเล้ยย
ป.ล คุณหนูกับเฮียดีจัง อยากรู้เรื่องคู่นี้
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 04-02-2019 21:15:56
คุณหนูร้ายมาก โผล่มาแย่งซีนตอนนี้สุดๆ ทำไมอยู่เรื่องตัวเอลใสๆ คะ 555555555

น้องป่านน่ารักแบบอยากหอมหัวรูก แง นึกภาพอิพี่ก้มหน้าก้มตาอยู่หว่างขาน้อง จะเป็นลมค่ะ วิวดีเหลือเกิน  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 04-02-2019 21:29:23
เผลอคิดภาพตามคุณหมีค่ะ ตายแล้ว

ฮื่อออน้องป่านแบบน้อง น้องมาก  :katai1:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 04-02-2019 21:47:53
ตอนนี้คือสงสารอิพี่สุดๆ อีกนิดเดียวเท่านั้น

ขาของพี่ก็จะเข้าไปอยู่ในคุกแล้วจ้าา :hao7: :hao7:

รอๆตอนต่อไปนะคะ มาดูว่าจะได้ลงสีปลาหรือลงอย่างอื่น แค่กๆๆ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 04-02-2019 22:01:00
น้องอัพเลเวลการอ้อยแบบข้ามกระโดดเลยนะจ้ะ  ทำเอาพี่วาอดใจไม่ไหวแล้วเนี้ย
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: แพรวฐา ที่ 04-02-2019 22:03:59
น้องป่าน ยั่วๆบดๆมากกกกกแงงงง น้องควีนสุดดดดดด :-[

นึกภาพน้องตอนสักแล้วแบบโอ้ยยยใจ :m25:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 04-02-2019 22:14:43
วิวดีขนาดนั้น วาทนไหวได้ไง หึดหาด  :haun4:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 04-02-2019 23:12:36
 o13


ชนะใสๆ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 05-02-2019 10:18:43
กรี้ดดดดดดดดดดด ร้ายกาจจจจจ ร้ายกาจมากๆๆๆๆๆ  ชอบความตะมุตะมิของพี่วา อยากกินแต่กินไม่ได้คงงุ่นง่านน่าดู น้องกผ้ใส ใสขงจนกลายเป็นร้ายกาจแบบไม่รู้ตัว ฮืออออ ชอบ ชอบบมากกกกกก

เรารู้สึกว่าอ่านไปแล้วให้ความรู้สึก อิโรติกและเซกซี่ด้วยค่ะ ไม่ว่าจะบรรยายให้เห็นภาพอย่างตอนาักหรือเสียง โอ้ยยยยชอบ ชอบพี่วามากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: HappyYaoi ที่ 05-02-2019 14:04:57
ใครไหวไปก่อนค่ะ นี่ไม่ไหว โอยยยยย อ่านแล้วหอบหื่นจะขึ้น
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 05-02-2019 14:23:03
แง่มมมมๆๆๆ อดกลั้นไว้  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 05-02-2019 14:23:26
จะเป็นลม นว้องงงงง
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 06-02-2019 01:39:47
น้องป่านแอบร้ายอยู่นาาา อิพี่วาไม่น่าไหว5555
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: M_Y MILD ที่ 06-02-2019 03:00:21
นัวมากกกกกก ชอบๆๆๆๆๆนัว ncของนุ แงๆ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Patsz ที่ 06-02-2019 07:03:18
น้องป่านไม่ใสนะจ๊ะ อ่อยแรงอยู่ นี่ถ้าได้ฝึกสกิลจากคุณหนู พี่วาไม่รอดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 5 : Pit bull - 04.02.2562 (P.3) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 08-02-2019 00:56:06
นว้องงงงง
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 08-03-2019 07:15:58
ลายที่ 6

Destiny

(หลุมลวงเอกภพ)


 

วาไม่เชื่อในพรหมลิขิต

               

แต่เชื่อในสเปก

               

เด็กม.ปลาย ขาวๆ ใสๆ ตัวเล็กๆ ก็แค่ตรงสเปก ก็แค่น่ารักป่ะวะ

               

“มึงเลือกรูปน้องได้ยัง” น่ารักๆ ก็เลยมองเพลิน เพียงรูปถ่ายมองได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ



ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่ใช่การตกหลุมรักแรกเจอ เขาไม่ได้ใจง่ายขนาดนั้น



“ได้แล้ว โคตรน่ารัก” คนใจแข็งอวดหน้าจอโทรศัพท์ โฮมสกรีนรูปน้องป่านยืนหันหลังถลกเสื้ออวดรอยสัก เด็กมัธยมขี้เขินเอี้ยวตัวกลับมาสบตาคนหลังกล้อง จ้องเขม็งกัดริมฝีปาก คล้ายกำลังตำหนิเขาที่เอาแต่ลั่นชัตเตอร์ไม่หยุด



ทั้งที่ตัวแดงจัด น่ารักเสียขนาดนั้น



“ไอ้สัด! กูให้เลือกรูปโปรไฟล์ร้าน ไม่ใช่เลือกวอลเปเปอร์โทรศัพท์ตัวเอง” เฮียกุมขมับ แทบขว้างโทรศัพท์ทิ้ง คนกำลังเป็นงานเป็นการ ไม่ใช่เวลามาเพ้อพกตกห้วงภวังค์แห่งรัก



ทิวากรถอนใจ กลับมาเลื่อนรูปในอัลบั้มไปเรื่อยอย่างไร้จุดหมาย



ถึงจะปนเคอะเขินด้วยมือใหม่ แต่ก็เป็นธรรมชาติ ไม่มีรูปไหนออกมาขี้เหร่ รูปนู้นก็ดี รูปนี้ก็น่ารัก ถ้าอัพโหลดโปรโมทร้าน คนคงยิ่งสนใจ



แต่น่าเสียดาย...



“กูเลือกไม่ได้” วาส่ายหน้า หนักใจ



“อย่าเยอะ มึงเลือกมาสักรูปกูจะได้เอาไปอัดแขวนผนังด้วย” เฮียเข้าใจ บางทีรูปถ่ายสวยๆ ก็มีเยอะเกินกว่าจะเลือกเพียงรูปเดียว...   



“เฮีย...กูไหว้ละ” แต่ไม่คิดว่าเพื่อนรักจะเล่นใหญ่ ถึงขั้นยกมือไหว้ สงสายตาเว้าวอน



“เชี่ยอะไร”



“คนนี้กูขอ...”



“...” กว่าจะเอะใจ ไม่ใช่เพราะเลือกรูปไม่ได้



พระอาทิตย์สิ้นท่า ทิวากรหวั่นไหว... ยิ่งกว่าหวั่นไหว



“ขอเก็บไว้ดูคนเดียว นะเฮีย”



จะรอยสัก หรือสักเศษเสี้ยวผิวขาว เนื้ออ่อนสีชมพูจัด เว้าสะโพก กระทั่งขี้แมลงวันหนึ่งเม็ดที่ประดับแต้มข้างแนวกระดูกสันหลัง อยากเก็บ จองจำในทรงจำ ในสายตาคู่เดียวของเขา ไม่แบ่งใคร



“จ้องรูปน้องเขาขนาดนั้นมึงสิงเข้าไปในกล้องเลยไหม”



“เสือกว่ะเฮีย”



ถ้าไม่ติดว่าสนิทกัน ปากหมาขนาดนี้เฮียคงแช่งให้น้องป่านหายหน้าไปอีกสักหน แต่นี่เห็นเป็นน้องนุ่งเลยปล่อยผ่าน



“เสียดาย รอยสักสวย น่าจะอัดโชว์”



“ไม่ให้โว้ย ของกู”



“เออๆ หวงจัง”



กำลังจะเบือนหน้าหนีหมดธุระ แต่ทิวากรกลับรั้ง อวดรูปถ่ายที่แอบบันทึกไว้ในอัลบั้ม “มึงดูดิ รูปนี้โคตรน่ารัก คนอะไรเขินนิดเดียวก็แดงไปทั้งตัวแล้วอ่ะ น่าฟัดสัด”



“มึงทำหน้าอย่างกับจะกินเขา” เห็นแล้วหมั่นไส้ ทั้งที่ต่อหน้าตีหน้าขรึมหน้ามึนใส่น้องเขาเสียขนาดนั้น ลับหลังกลับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ อาการหนัก



“เออ กูเผลอกัดไปแล้วทีนึง” ...ยิ่งกว่าหนัก



ไอ้ฉิบหาย



“...นี่มึงเป็นโมโจหรือไง”

 









วาตกหลุมรักครั้งแรกในต้นมัธยมปลาย สาวน้อยหัวกะทิห่างไกลเหลือเกินกับเด็กทโมนห้องท้าย ปลายแถว ไม่เป็นที่สนใจ เด็กหนุ่มทิวากรจึงได้แต่จ้องมอง เพ้อฝัน ไม่อาจเอื้อมจึงไม่เอื้อม ปล่อยเท้งเต้ง ลอยคว้าง ก่อนกระทบขอบเวียนความรู้สึกวัยหวานกลับมาอีกครั้ง



อาจเพราะตะกอนรักครั้งแรกตกค้าง กองก้น เตือนซ้ำในความขลาดเขลา หลังจากนั้นดวงตาคมหม่นดึงดูดเพียงคนลักษณะคล้ายคลึง ไม่ถึงกับทุกกระเบียดนิ้ว ทว่าจุดร่วมเด่นชัด อ่อนใส น่ารัก หวาน นุ่มนวล ชวนให้รู้สึกอยากเก็บถนอม



ไม่แปลกใจ น้องป่านเพียงกวางน้อยพลัดหลงเข้ามาในขอบเขต ในสายตา กลิ่นเนื้ออ่อนโชยหวาน ยากจะยั้งไม่ให้สูดกลิ่น แตะชิม   



แค่นั้น



...คงแค่นั้น



หากนับวันยิ่งต่างจากความวาบหวามชั่วครู่คราว ไม่ได้ต้องการเพื่อตอบสนองความคะนองทางเพศ เติมเต็มรสเซ็กซ์ให้เสพพอเรียนรู้สันชาตญาณดึกดำบรรพ์ เขาอิ่มเกินอิ่มในรสชาติประสบการณ์



“พี่ถอดเสื้อทำไมครับ”



“แอร์เสีย กูร้อน”



นับวันตัวตนผิดแผลกจากจินตนาการยิ่งสร้างความประหลาดใจ สั่นไหวให้งุ่นง่าน ปริแตก



“วันนี้เติมสี... ไอ้ฉิบหาย! มึงแก้ผ้าทำไม” เห็นไหม ไม่ทันไรก็สร้างความแตกตื่นประหลาดใจให้เขา



มีอย่างที่ไหน เห็นคนถอดเสื้อก็ถอดเสื้อตาม ทั้งที่ท่อนล่างเหลือเพียงกางเกงชั้นในขาสั้นตัวจิ๋วเพื่อเตรียมตัวสัก



เหมือนน้องกำลังล้อเล่นกับขีดจำกัดของคนพี่ที่กำลังลดฮวบฮาบ ทั้งที่ไม่ใช่เด็กสาวสะพรั่งสดใส แต่เสน่ห์เย้ายวนบางอย่างในตัวเด็กชายกลับตีรวน กวนให้วาหวนถึงกลิ่นรักครั้งแรก



กลิ่นหอมยวนเคล้าความหวาดหวั่นอันตราย



“สักขาอ่อนก็ต้องถอดกางเกงไม่ใช่เหรอครับ?”



ต่างที่ไม่คลุ้งด้วยหวานละมุน บางครั้งสงบเดียงสา บางครั้งกลับแฝงฟุ้งด้วยความดิบร้าย ทั้งอยากถนอม อยากตะกรุมตะกราม

               

“ส่วนเสื้อนี่...ผมก็ร้อนเหมือนกัน”



เกินเอื้อม แต่จะไม่เอื้อมยังไงไหว



“ก...กูไปสูบบุหรี่แป๊บ”



คราวนี้ ซาตานร้ายกลับถูกผลไม้ต้องห้ามโน้มกิ่งล่อลวงหมดท่าเสียเอง





☀ ------------------  50%  -------------------☀



 

“พี่สูบบุหรี่นานจังครับ” ใช้เวลาพักใหญ่กว่าพี่วาจะกลับเข้ามาในห้องสักอีกครั้ง กลิ่นควันคลุ้ง อัดนิโคตินดับความฟุ้งซ่านจนปอดขุ่นประกอบสติให้สมประกอบอีกครั้ง บอกตัวเองว่าต้องทำงาน



“ยุ่งน่า” ขมวดคิ้วดุ แต่ถอนใจโล่งอกเมื่อเห็นคนน้องนั่งรออยู่บนเตียงสัก สภาพใส่เสื้อเรียบร้อย เขาหยิบเสื้อยืดที่โยนพาดไว้บนเก้าอี้ขึ้นมาสวมบ้าง กันเด็กมันเลียนแบบพฤติกรรมจนสติเตลิดเปิดเปิงอีก



“ขอโทษครับ”



ขมวดคิ้วกับเสียงที่อ่อนหงอยคล้ายรู้สึกผิดที่ก้าวก่าย แต่ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงว่าไม่ได้จะดุว่าอะไร ทำเป็นก้มหน้าก้มตาเตรียมอุปกรณ์ทำหน้าที่คั่งค้าง



มันจะยากแค่ไหน ช่างสักมีหน้าที่สัก ไม่มีอะไรซับซ้อน แค่ทำเหมือนที่เคยทำ ขาอ่อนขาว ผิวเนียนละเอียดเพียงกำไรเล็กน้อยพอเป็นอาหารตา เคยคิดตื้นเขินแค่นั้น ไม่เคยพลาดท่าผิดจรรยาบรรณ



...แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ก้าวล้ำผ่านเส้นต้องห้าม จิตกรไม่กล้าแตะต้องแต้มสีลงผ้าใบชั้นดี



พอตั้งสติได้คนตัวสูงลากเก้าอี้ประจำตำแหน่งหว่างขาขาว ขยับโต๊ะอุปกรณ์เข้ามุมถนัด สวมถุงมือหนัง สวมหน้ากาก ก่อนสูดหายใจทำสมาธิพลางชวนคุยเพื่อให้ลูกค้าผ่อนคลาย



“แล้วนี่อยู่ม.หกคิดไว้ยังว่าอยากเรียนต่ออะไร”



สมาธิมา ไม่มีอะไรยาก หลังจากทำความสะอาดเตรียมผิวเรียบร้อยเสียงเครื่องจักรก็ทำงาน มือบังคับเข็มสักนิ่งมั่น แต้มสีลงบนฝูงปลาที่เคยร่างไว้ คราวนี้น้องดูผ่อนคลายไม่เกร็งจิกเหมือนครั้งก่อนเพียงนิ่วหน้า จิกไหล่เขาบ้างบางคราวที่ลากเข็มลงน้ำหนักถูกจุดที่ทำให้รู้สึกเจ็บ



“แม่อยากให้เรียนหมอครับ” คำตอบซื่อตรงกลับทำเขาหยุดชะงักอีกครั้ง ขมวดคิ้วถาม



“เฮ้ย หมอนี่สักได้ป่ะ”



“ในร่มผ้า ก็คงได้มั้งครับ” เสียงยืนยันไม่หนักแน่นชวนให้หรี่ตาสงสัย แต่ต่อให้ไม่ได้ก็ไม่ทัน มาขนาดนี้จะหยุดครึ่งๆ กลางๆ ได้ยังไง



“แล้วทำไมถึงอยากเรียนหมอ”



“ผม...” เพียงต่อคำถาม แต่คำตอบอ้อมแอ้ม ขาดห้วงบ่งบอกถึงบางอย่างที่เก็บงำไว้



“มึงไม่อยาก?” ดวงตาคมที่โผล่พ้นผ้าปิดปากจ้องตรง แต่ไม่คาดคั้น



“ครับ ถ้าโดนบังคับอีกผมจะโชว์รอยสัก เอาคืนบ้าง” แปลกที่ไม่ปิดบังทั้งที่ก่อนหน้าทำท่ากระอักกระอ่วน แถมบ่นกระเง้ากระงอด งอแงแบบที่ไม่เคยทำ



วาเลิกคิ้ว มองเด็กดีที่ทำดื้อจะต่อรองกับผู้ใหญ่



“ผมดื้อใช่ไหม?” แถมยังรู้ตัว



“เออ โคตร” เขาไม่ปฏิเสธ แต่น่าแปลกใจ



คล้ายมีแววหม่นวูบประหลาดในดวงตาที่บ่งบอกว่าน้องกำลังปกปิดบางอย่างไว้



“แต่กับพี่ผมไม่ดื้อนะ แปลกไหมครับ” เก็บงำมิดชิดด้วยท่าทางทีเล่นทีจริงอันผิดแผลก “พี่ให้อ้าขาผมก็อ้า...”



แถมน้ำเสียงยังออกทางยั่วเย้าอย่างจงใจ พอได้เผยด้านดื้อ ก็ไม่รู้ไปเอาความกล้ามาจากไหน เผยด้านร้ายตาม



“เจ็บจะแย่ แต่ไม่ร้องสักคำ”



“...” ถ้าวาความอดทนต่ำ ก็นับเป็นคนความอดทนต่ำที่มีความอดทนสูงมาก



“ชมผมหน่อยสิครับ” ในใจร้อนรุ่ม อยากอัดนิโคตินเข้าไปมัวเมาเบี่ยงความสนใจให้มอดดับอีกครั้ง



แต่ที่ทำได้คือจำนน จนหนทางจะเถียงกับเสียงต้องห้ามในใจ



“หึ...” แม้แต่คนขี้ยั่วก็ไม่ทันคิดว่าสุดท้ายคนโตกว่าจะหลุดยิ้ม หมุนตัวกลับมาสบตาทั้งที่ยังนั่งอยู่ระหว่างหว่างขาในตำแหน่งอันตราย



แต่อันตรายกว่าคือฝ่ามือหนาที่ถือวิสาสะเอื้อมมาขยี้ผมเขาเบาๆ ก่อนวางค้างปลายนิ้วโป้งไล้เกลี่ยตรงขมับ ดวงตาคมขวางกลับฉายแววอ่อนโยน



เด็กน้อยประเมินฤทธิ์อสรพิษต่ำเกินไป



“เออ มึงเก่ง” ถูกกัดจึงนิ่งงัน ใจสั่น เลือดสูบฉีดรุนแรง อุณหภูมร่างกายโดยเฉพาะใบหน้าพุ่งสูงแตะระดับอันตราย 

 









หากเหตุการณ์ในห้องสักคือเกม คนชนะคงเป็นคนที่ก้าวนำก่อนหน้าโดยอีกฝ่ายไม่ทันเอะใจ



หลายครั้งแล้วที่ป่านรับรู้ได้ถึงความผิดปกติหลายอย่าง เด็กฉลาด สังเกตเห็นอาการงุ่นง่านที่แตกต่างของคนงุ่นง่าน



นึกสงสัยว่าเหตุเกิดจากตัวเอง แต่เด็กหนุ่มไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปนัก



อาจเอ็นดู อาจหวั่นไหว หรืออาจแสดงออกโดยสัญชาตญาณนักล่าไม่ได้คิดอะไร



แต่นั่นคือความคิดก่อนเจอใครบางคนอีกครั้ง คนที่อยู่เบื้องหลังความกล้าและท่าทางออดอ้อนยั่วเย้าก้าวกระโดดของน้องป่าน



‘แอร์ห้องวาเสีย รอตรงนี้ก่อน’ เพราะมาถึงร้านก่อนเวลา คนต้อนรับจึงไม่ใช่ช่างสักที่นัดไว้ การเจอกันครั้งที่สองใบหน้าหวานยังคงน่าประทับใจ คุณหนูช่วยทำหน้าที่พนักงานต้อนรับจำเป็น



ป่านยิ้มรับ นั่งลงที่โซฟาเดี่ยวข้างกัน ลอบมองคนขาสวยในชุดลำลองขาสั้น เหยียดขากึ่งชันเข่าบนโซฟา ก้มตัวลงทาเล็บเท้าที่ตัดสั้นสะอาดสะอ้านด้วยสีชมพูกลีบกุหลาบ ...เข้ากับสีของรอยสักที่ข้อเท้า



‘อยากทาไหม’ ก่อนถูกจับได้ ดวงตาหวานเงยสบตาก่อนยิ้มขำถามทีเล่นทีจริง



ป่านสั่นหัว ไม่ได้สารภาพว่าการมองอีกคนเงอะงะกับกิจกรรมไม่ถนัดคงเพลินกว่าการทาเล็บตัวเอง



‘พี่เดย์ไม่ชอบกลิ่น เลยต้องมาทาตรงนี้’ อาจเพราะเห็นความประหม่าเขินจึงเปลี่ยนประเด็นชวนคุย



‘พี่เดย์?’



‘หมายถึงเฮีย’ คุณหนูยิ้ม รอยยิ้มที่ป่านทั้งรู้สึกชื่นชมและอิจฉาในเสน่ห์ร้ายรั้น



ก่อนใบหน้าหวานจะเบือนหน้าไปทางสตูดิโอ ป่านมองตาม ประตูเปิดแง้มพอให้เห็นเจ้าของร้านทั้งสองคนที่กำลังถกเถียงบางอย่างกันอยู่ข้างใน ร่างท่อนบนต่างเปลือยเปล่าอวดรอยสักบนผิวกายกำยำ



วันอาทิตย์ ไม่แปลกที่ทุกคนจะปล่อยตัวตามสบาย



แต่ถึงอย่างนั้น... ภาพที่เห็นก็ไม่ใช่สิ่งที่ป่านเตรียมใจจะเห็น



เด็กหนุ่มเคยเห็นรอยสักของเฮียจนชินตา แต่ของพี่วานอกจากลวดลายสวนสวยที่กินพื้นที่ทั้งท่อนแขนป่านก็ไม่เคยจินตนาการถึงรอยสักอื่น ทั้งประหลาดใจ และดึงดูดความสงสัยให้อยากรู้ว่าบนร่างกายของช่างสัก มีรอยสักอะไร



จากมุมที่มองผ่านเพียงช่องลอดประตู ป่านเห็นไม่ถนัดนัก บอกได้เพียงตำแหน่ง ไม่แน่ใจรูปร่าง ลายเดียวที่พอจะเดาได้คือรูปร่างคุ้นตาที่ชายโครงขวา



โฮ่ง!



รอยสลักรูปเจ้าสี่ขาที่หันมาส่งเสียงทักทาย โมโจวิ่งออกมาจากห้องคงเพราะได้กลิ่นเขา ประตูที่แง้มเปิดกว้างเมื่อเจ้าตัวโตกระโจนโถมใส่ตักออดอ้อนคนมาใหม่ คนด้านในหันมาให้ความสนใจ



ป่านยกมือไหว้เฮีย แต่น้องกลับเพียงพงกหัวทักทายอีกคนที่คิ้วขมวดขึ้งคล้ายตำหนิตลอดเวลา



สายตาเหมือนส่งคำถามว่าทำไมรีบมา



‘เป็นเกย์หรือเปล่า’



‘ครับ?’ ท่ามกลางกระอักกระอ่วนเสียงทุ้มหวานเรียกให้ป่านหันกลับมาสนใจคนข้างตัวอีกครั้ง คุณหนูหยุดง่วนกับการทาเล็บเท้า เก็บหัวแปรงลงขวด จุ่มค้าง จ้องสบตาเด็กน้อยที่ตื่นตระหนกกับคำถาม



...ไม่เคยมีใครกล้าถาม



เพื่อนร่วมชั้น คนรอบตัวตะขิดตะขวงในพฤติกรรมของเขา แต่ไม่มีใครสนิทสนมถึงขนาดออกตัวเสียมารยาท แม้แต่ครอบครัว ป่านรู้ว่าแม่ระแคะระคาย แต่คงกลัวคำตอบจึงไม่เคยเอ่ยปากเลยสักครั้ง



‘ผม... ชอบผู้ชาย’ แต่ไม่รู้ทำไม แทนที่จะโกรธป่านกลับยอมรับ เปิดใจให้คนตรงหน้าง่ายๆ



เคยแบกไว้จนหนักอึ้ง แต่บทจะปลดปล่อยกลับง่ายดายทั้งที่อีกฝ่ายเกือบจะแปลกหน้าด้วยซ้ำ



‘แต่วาไม่ใช่หรอกนะ เขาเคยคบแต่ผู้หญิง ไม่เห็นเคยสนใจผู้ชายมาก่อน’ ก่อนความรู้สึกใหม่จะกดทับลงมาทันควัน คำพูดคุณหนูทำให้ป่านหันกลับไปมองร่างสูงที่ยืนอยู่ในห้องอีกครั้ง ภาพพี่วาปีนเก้าอี้บ่นงุ่นง่านหงุงหงิงใส่เครื่องปรับอากาศทำให้ป่านหลุดยิ้ม



ก่อนยิ้มค้าง ฉุกคิด ทบทวนความรู้สึกบางอย่าง



ที่ผ่านมา นอกจากดวงตาคมที่ฉายแววประหลาดอ่านยากบางคราว ก็นับว่าน้อยครั้งพี่วาเคยแสดงออกถึงความชมชอบในตัวเขา ออกจะขึงขังเจือรำคาญ



เป็นไปได้หรือเปล่าว่าป่านคิดไปเอง เคยชินกับการมีคนเอ็นดูรักใคร่ จึงไม่เคยเห็นมุมต่าง



‘แต่คนอย่างวาถ้าไม่ชอบ จะไม่มอง ไม่ใส่ใจ หน้าก็ยังไม่จำ’ คุณหนูเอ่ย ยกยิ้ม ปัดความกังวลในความคิดของน้องทันควันราวเข้ามานั่งในใจกัน



‘...’ เหมือนถูกตีรวนจนสับสน ป่านขมวดคิ้วมองคนตรงหน้า งุนงง



‘ถ้าอยากรู้ว่าเขารู้สึกยังไง ลองหาอะไรกระตุ้นสักหน่อยสิ’ ดวงตาหวานสบกลับ วาววับ อย่างคนเจอเรื่องสนุกท้าทาย



‘หมายความว่ายังไงครับ’ แววตารั้นร้ายยิ่งดูอันตราย นิ้วเรียวดันใบหน้าเดียงสาให้ดวงตาซื่อใสหันกลับไปจดจ้องเจ้าของร่างกำยำที่ยืนวุ่นวายอยู่หน้าเครื่องปรับอากาศ ไม่รับรู้ถึงการถูกจับตามอง



‘ก็ถ้าเข้าถ้ำเสือแล้วล่อเสือออกมาไม่ได้...’ แน่นอนว่าไม่มีทางได้ยินเสียงกระซิบหวาน ยั่วยุ ปลุกปั่น 'บางทีลูกกระต่ายคงต้องหัดล่าเสียเอง'



‘...’ ป่านอยากถามมากกว่านี้ แต่ไม่รู้ควรถามอะไรสบดวงตาวาววับที่อ่านออกว่าเด็กน้อยรู้โดยไม่ต้องอธิบาย



ลูกกระต่ายหัวไว ไม่ทันไรก็คงเรียนรู้ว่าต้องล่าเสือยังไง



‘ไอ้วาแม่งโคตรดื้อ บอกให้ตามช่าง’ ไม่มีใครเอ่ยอะไรต่อ หัวข้อสนทนาถูกตัดขาดด้วยร่างสูงที่เดินออกมาจากห้อง เหงื่อเม็ดโตผุดรอบหน้าผาก คงเพราะห้องที่แอร์เสียอบอ้าวจนทนไม่ไหว



‘ผมโทรให้แล้ว อีกสักพักคงมา’ 



เฮียยิ้มทักทายลูกค้าคนพิเศษอีกครั้ง ก่อนเดินไปนั่งข้างๆ ฝ่ามือใหญ่แย่งน้ำยาทาเล็บมาจากมือแฟนตัวเอง



จับเท้าเปลือยเปล่าวางพาดตัก บรรจงปาดสีหวานเคลือบทีละเล็บทั้งที่คิ้วขมวดมุ่นด้วยกลิ่นฉุน



‘ไหนบอกว่าเหม็น’



‘น้องทาแบบนี้เมื่อไหร่จะเสร็จครับ’ เสียงบ่นติดไม่จริงจัง ซ้ำคนบ่นยังยกปลายเท้าเล็กขึ้นมาจ่อริมฝีปาก เป่าเบาๆ หวังให้สีทาเล็บแห้งไวๆ



ป่านมองคู่รักที่หัวเราะหยอกเย้าอย่างเป็นธรรมชาติไม่ปิดบัง ไม่ขัดเขิน ไม่สนว่าทั้งคู่ต่างเป็นชาย ก่อนสังเกตเห็นบางอย่างที่ไม่เคยสนใจในสายตา เมื่อข้อเท้าซ้ายของคุณหนูถูกยกขึ้นจรดริมฝีปากอีกครั้ง ป่านจึงได้เห็นเส้นใยบางอย่างที่ผูกโยงคนทั้งสองไว้ด้วยกัน ดอกไม้ที่สลักบนข้อเท้าขาว คือดอกเดียวกับที่โยงใยสลักไว้บนแผ่นอกกว้างของคนรัก ตำแหน่งหัวใจ



ป่านลอบยิ้มกับตัวเองอีกครั้งด้วยความรู้สึกยากจะอธิบาย



คงเพราะแบบนี้ ถึงยอมโพล่งความรู้สึกที่เก็บงำไว้ออกไป เพราะมีรสนิยมเดียวกัน ทั้งที่แปลกหน้าแต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาต้อนรับกลับอบอุ่นชวนสบายใจ ไม่ตัดสิน ไม่สงสัย เพียงยอมรับ



แต่อีกใจคงหวังมากกว่านั้น หวังที่พึ่งพิง หวังเข้าเป็นกลุ่มก้อนกับระบบใดระบบหนึ่งในนับพันที่ป่านไม่เคยกล้าพาตัวเองเข้าไป



เพราะกลัวถูกปฏิเสธจึงได้แต่รอ เฝ้าสังเกต ไม่กล้ามุทะลุพิสูจน์สมมติฐาน



‘ป่าน’ เมื่อได้ยินชื่อตัวเองป่านหลุดจากภวังค์ความคิด หันไปหาเสียงทุ้มต่ำ



พี่วาที่ยังอยู่ในสภาพท่อนบนเปลือยเปล่าเหงื่อโซมร่าง ยืนล้วงกระเป๋าอยู่หน้าห้องสัก ดวงตาสีหม่นสบตา ไม่ยิ้มแย้ม ไม่มีอาการแสดงความยินดีต้อนรับ แต่เท่านั้นก็เพียงพอให้อวัยวะในอกเต้นด้วยจังหวะแปร่งประหลาด



แปลกแปร่งจนไม่อาจปล่อยไว้



‘มา’ เพียงกวักมือเรียก พร้อมกระโจนหา อยากหาคำตอบแน่ใจ



ท่าทีขึ้งขวางทั้งที่ยังรั้ง มีเพียงสองข้อ ถ้าไม่จงใจแกล้งแหย่กัน คงเพราะกำลังปิดเร้น ซ่อนความจริงบางอย่างเอาไว้ ...ความรู้สึกซับซ้อนย้อนแย้งจนเจ้าตัวแสดงออกงุ่นง่านกลบเกลื่อน



จริงอย่างคุณหนูบอก เสือร้ายตัวนี้ขลาดอายเกินกว่าจะออกล่า ต้องกระตุ้นกระทุ้งด้วยกลิ่นเนื้อหวาน



‘พี่ถอดเสื้อทำไมครับ...’



ไม่มีหรอกพรหมลิขิต บางครั้งเราต้องพึ่งตัวเอง



ขุดหลุมลึกร้าย จงใจก่ออุบัติเหตุ



...อุบัติเหตุของจักรวาล






☀ ------------------  #มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน -------------------☀

ช่วงนี้ไม่มีความมั่นใจในงานตัวเองเลยค่ะ ไม่รู้ทำไม 5555

อย่างบทนี้เล่าด้วยวิธีแบบนี้สำนวนแบบนี้คนอ่านจะชอบไหมนะ จะงงไหม

(ถ้างง จะกลับมารื้อใหม่นะคะ 55555)

ฝากพี่วากับน้องป่านด้วยนะคะ

ผิดพลาดตรงไหนยังติติงได้เสมอ

ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกันค่ะ

รัก

- Martian -
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-03-2019 10:06:14
 :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: pharuthai ที่ 08-03-2019 11:15:15
มาแล้วๆ พี่วาโดนกระต่ายล่าแน่ๆรอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: HappyYaoi ที่ 08-03-2019 11:17:56
สงสารพี่วามาก ๆ พี่ต้องเข้มแข็งนะคะ อย่างาบน้องก่อนเวลาค่ะพี่
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Patsz ที่ 08-03-2019 13:04:39
อ่อยขนาดนี้แล้ว ถ้าพี่วายังไม่กินซะที น้องป่านคงต้องปล้ำพี่วาแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 08-03-2019 13:21:03
น้องง ยั่วมากรูก รุกขนาดนี้พี่วาเตรียมทนายไม่ทันน

คุณหนูกับเฮียก็น่ารักก  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: GDNEE ที่ 08-03-2019 14:29:26
โอ้ยยชอบบบ​ ดีค่ะแต่งแบบนี้ก็ตื่นเต้นไปอีกแบบ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: แพรวฐา ที่ 08-03-2019 16:43:34
คุณกนูกับเฮีนคือกวานมากอ่าาาา อยากให้มีเรื่องแยกเลยแงๆ

น้องป่านก็ยังน่ารักเหมือนเดิมค่ะ พี่ไม่นอกใจหนูแน่นอน ออกล่าเสือเลยจ้ะลุยยย
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 08-03-2019 21:28:35
รอวันอิพี่วาตะบะแตก..กกกกกกกกกก    :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 08-03-2019 21:43:36
น้องงงง   กระต่ายจะเผยเนื้อหมาป่าออกมาแล้วว   น้องน่ารักมากกก  อิพี่แม่งก็น่าแกล้งให้ตบะแตกซักที
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 08-03-2019 22:22:20
ถ้าพี่วามันช้านักหนูป่านจับปล้ำเลยยย คู่เฮียคือหวานหยดมาก อ่านไปแล้วก็ยิ้มเขินไปตลอดเลย
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 08-03-2019 23:35:18
น้องป่านนนนนนนนนนนนนนนน ยั่วได้น่ากินมากกกก ถ้าพี่วาไม่กินเราจะกินน้องแทน
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 09-03-2019 03:28:51
ดูอีโรติกเบาๆ555
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 11-03-2019 00:38:08
เราไม่งงนะคะ ดีแล้ว ดีมากๆเลย พี่วามัวแต่ปากแข็ง เราต้องกระตุ้นกันค่ะน้อง
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 11-03-2019 01:01:34
ชอบการบรรยายแบบนี้มากๆเลยยยยค่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 11-03-2019 14:56:54
 :pig4: อ่อยอีกค่ะ เอาให้พี่วาทนไม่ไหวว
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 25-03-2019 17:39:53
น้องงงง แงงงงงง พี่ปาทับจัยยยย อ่อยอีกรู้กๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: M_Y MILD ที่ 26-03-2019 00:36:01
คิดถึงนะคะ  ㅠ ㅠ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 6 : Destiny - 08.03.2562 (P.4) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: kun98 ที่ 16-04-2019 01:18:59
อยากอ่านตอนต่อไปแย้วววววววว  :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 7 : Flying Fish - 16.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 16-07-2019 18:44:13
ลายที่ 7

 

Flying Fish

 

(มัจฉาถลาลม)

 

 

 

ป่านไม่มีความฝัน

 

 

 

ไม่ใช่เรื่องผิดประหลาด หากสุ่มถามเพื่อนวัยเดียวกัน แม้มัธยมปีสุดท้ายกำลังก้าวผ่านสู่อุดมศึกษา พื้นที่กึ่งฝันกึ่งจริง สู่ความเป็นผู้ใหญ่อีกขั้น แต่เด็กในระบบการศึกษาที่ไม่เอื้อให้ฝันอาจหาตอบไม่ได้ เป็นเพียงล้อเหล็กเลื่อนเรื่อยบนรางรถไฟ

 

 

 

‘น้องป่านเรียนเก่งขนาดนี้ สอบติดหมอให้คุณแม่ได้แน่นอนเลยค่ะ’

 

 

 

เขาโทษว่าเป็นความผิดเธอคนนั้น คุณป้าข้างบ้านที่จุดประเด็นสนทนาก้าวก่ายความคิด รวมถึงอนาคตของเขา

 

 

 

‘แหม ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีสิคะ หม่ามี้ป่วยไข้ แก่ตัวไปน้องป่านจะได้ดูแลหม่ามี้ได้’ โทษแม่ที่ยิ้มแย้ม แววตาเปี่ยมด้วยความภูมิใจ คาดหวัง

 

 

 

‘แต่น้องป่านวาดรูปเก่งด้วยนี่คะ บางทีอาจจะเดินตามรอย เป็นศิลปินเหมือนพ่อ...’

 

 

 

ที่สุดแล้วเขาโทษตัวเอง

 

 

 

‘ป่านจะเรียนหมอครับ’

 

 

 

ไม่อาจควบคุมตัวเอง พยายามหนีไกลจากผู้ชายคนนั้น คนเห็นแก่ตัวที่เลือกปลดเปลื้องภาระทุกอย่างเพื่อวิ่งตามความฝัน

 

 

 

สิ่งที่เหลือไว้มีเพียงพรสวรรค์ที่ติดสายเลือด ติดปลายนิ้ว ย้ำตัวตนผู้ให้กำเนิดทุกครั้งยามจับพู่กัน

 

 

 

มีพรสวรรค์ แต่ไม่มีฝัน 

 

 

 

แต่ถ้าความฝันมันทำให้ต้องทิ้งคนที่รักไว้ข้างหลัง ก็ดีแล้วล่ะที่ไม่มี

 

 

 

ไม่จำเป็นต้องวิ่งเต้นค้นหา ไม่จำเป็นต้องกระเสือกกระสนไขว่คว้าอะไร แค่วิ่งไปตามราง... รถไฟที่เพิ่มจำนวนตู้ตามความหวังที่บรรจุไว้เต็มคัน เอ่อล้น ถมทับ หนัก ล้าแต่ไม่อาจหยุดชะงักกลางทาง

 

 

 

[ วันนี้หม่ามี้มารับช้าหน่อยนะคะ น้องป่านรอที่เดิมนะ ] เพราะรู้ดีว่ามีอีกคนที่เหนื่อยกว่า หวังมากกว่า

 

 

 

“ครับ” ไม่ต้องถามถึงสาเหตุ ชาชินกับการถูกเลื่อนนัดเพราะรู้ดีว่าคนปลายสายกำลังติดพันธุระสำคัญถึงได้มีน้ำเสียงเร่งรีบนัก

 

 

 

รู้ดีว่ายิ่งงานยุ่งเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีกับความเป็นอยู่ของสองแม่ลูก เป็นผลดีกับอนาคตป่าน

 

 

 

[ ขอโทษนะคะลูก ]

 

 

 

แต่ถึงอย่างนั้น   

 

 

 

“หม่ามี้ครับ...” ป่านเหนื่อย

 

 

 

[ ว่าไงคะ ]

 

 

 

บางทีถ้าเราต่างลืมเรื่องอนาคต ถ้าเราต่างหยุดพักบ้าง...

 

 

 

“อย่าหักโหมนะครับ เดี๋ยวไม่สบาย”

 

 

 

คนปลายสายหัวเราะ เอ็นดูในความห่วงใย [ น้องป่านก็เหมือนกัน เรียนพิเศษเสร็จก็ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนบ้าง อย่าเอาแต่อ่านหนังสืออย่างเดียวนะคะ ]

 

แม้ไม่เห็นแต่เด็กดีก็พยักหน้ารับ ระบายยิ้มให้มารดาสบายใจ

 

 

 

“ครับ ป่านรักหม่ามี้นะ”

 

 

 

[ มี้ก็รักป่านค่ะ ] รอยยิ้มระบายบางที่อ่อนระโหยลงในบางคราว แต่เพียงได้ยินคำบอกรักอ่อนหวานก็เติมเต็มเชื้อความหวัง ราวได้อ้อมกอดอุ่นโอบอุ้มให้มีกำลังใจก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง

 

 

 

ตลอดมาแม่คือความรักหนึ่งเดียวของป่าน อะไรที่แบ่งเบาได้ป่านจะช่วยแบ่งเบา อะไรที่เป็นความสุขของแม่ก็เป็นความสุขของป่าน

 

 

 

แต่บางที ป่านคงต้องเริ่มเผื่อพื้นที่ความสุขให้คนอื่นบ้าง

 

 

 

ที่พึ่งพึงอื่น เซฟโซนที่จะพาใจไปวางพัก

 

 

 

“ทำไมไม่เข้าไปในร้าน”

 

 

 

สายถูกตัดไปพักใหญ่ แต่เด็กหนุ่มยังนั่งจมจ่อมในความคิด ไม่รู้ตัวว่าเสี้ยวหน้าเหม่อลอยถูกจับจ้องด้วยดวงตาคมอยู่นานสองนาน กระทั่งเสียงทุ้มเอ่ยทัก ร่างสูงเดินมานั่งที่ม้านั่งตัวเดียวกัน ตามด้วยเจ้าตัวโตที่วิ่งตามมานอนแหม่บแทรกกลาง

 

 

 

“คุยโทรศัพท์น่ะครับ” ไม่มีรอยยิ้มอยู่ในคำตอบ ดวงตายังคล้ายตกอยู่ในห้วงภวังค์บางอย่าง

 

 

 

พี่วาขมวดคิ้ว ไม่ชอบเลยสีหน้าแบบนี้

 

 

 

“เป็นไร” เสียงทุ้มถามเจืองุ่นง่าน เป็นห่วงจนหงุดหงิด ยิ่งหงุดหงิดเมื่อรู้ตัวว่าเป็นห่วง

 

 

 

“เปล่าครับ” เด็กน้อยไม่อยากให้พี่วาไม่สบายใจ ปั้นยิ้มซื่อใสพลางเอ่ยปากเปลี่ยนเรื่อง “วันนี้พี่ไม่มีคิวสักเหรอครับ”

 

 

 

สองมือลูบหัวลูบหางโมโจที่ทำหน้าเคลิ้มสบายใจ เห็นแบบนั้นป่านก็คลายความหนักล้าลงบ้าง เขาว่าการเลี้ยงสัตว์จะช่วยประโลมจิตใจได้ คงจริงดังนั้น มาที่นี่ทีไรแค่ได้เห็นโมโจเริงร่ากระโจนขออาหารป่านก็อารมณ์ดีตาม อยากมีโมโจเป็นของตัวเองบ้าง ติดอยู่ที่ว่าแม่คงไม่อนุญาต

 

 

 

“ลูกค้าแคนเซิล” คนพี่ตอบไม่ยี่หระควักมวนบุหรี่ออกมาคาบ ทว่าไม่จุดสูบเหมือนทุกครั้ง

 

 

 

แม้จะเสียลูกค้าแต่ก็ดีแล้ว เขาจะได้พักบ้าง

 

 

 

อีกอย่าง ดูเหมือนตรงนี้จะมีคนต้องการเขา

 

 

 

วาไม่ได้ทึกทักไปเอง แม้ไม่ได้เซ้าซี้ถามจี้จุดให้ลำบากใจ ทว่าการมีคนนั่งอยู่ข้างๆ ก็ช่วยให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเกินไป

 

 

 

“ทำไมพี่ถึงมาเป็นช่างสักเหรอครับ ” ในความเหม่อหม่นน้องเอ่ยปากถาม

 

 

 

เส้นทางผิดแผลกเกินจินตนาการ อยากรู้ว่าเป็นเพราะความฝัน หรือวิ่งตามความฝันคนอื่นแบบเขา

 

 

 

“ไอ้เฮียมันชวนมา” คนพี่ตอบไม่ยี่หระ ฟังยียวนจนคนถามหันมาขมวดคิ้วเบ้หน้าใส่

 

 

 

“...” ไม่เห็นหรือว่าน้องจริงจัง

 

 

 

วาหัวเราะพลางเอื้อมมือลูบหัวน้องเบาๆ “ล้อเล่น พี่ชอบนะ ศิลปะบนเลือนร่าง เรียกว่าหลงใหลเลยล่ะ”

 

 

 

อาจเพราะเห็นใจ เห็นน้องมีเรื่องกังวลหรืออย่างไร คำพูดและการกระทำวันนี้ถึงได้ฟังดูอ่อนโยนกว่าทุกครั้ง แถมฝ่ามือที่วางอยู่บนหัวก็คล้ายจะแผ่ความร้อนลงทั่วหน้า ความรู้สึกบางอย่างวูบไหวอยู่ชั่วครู่ ก่อนกลบเกลื่อนแกล้งเย้า

 

 

 

“หลงใหลความเจ็บปวดด้วยหรือเปล่าครับ”

 

 

 

“นั่นมันเราต่างหาก” คนพี่เลิกคิ้ว แซวกลับ

 

 

 

“...” สรรพนามไม่คุ้นหูทำน้องชะงักไปอีกครั้ง

 

 

 

“อยากให้พี่ถ่ายรูปให้ดูไหม ว่าตอนโดนสัก เราทำหน้ายังไง” ไม่ชอบเลยเวลาพี่วาพูดเพราะ อ่อนหวาน เจือออดอ้อน

 

 

 

“มะ... ไม่ดีกว่าครับ” เหมือนแกล้งกัน หัวใจป่านกำลังเต้นตึกตัก จนน่ากลัวอีกฝ่ายจะได้ยิน

 

 

 

พี่วายิ้ม มองแก้มที่ขึ้นสีระเรื่ออย่างน่ารัก สีหน้าขึ้นสีฝาดไร้ริ้วความกังวลอย่างตอนแรกทำให้เขาพอใจ

 

 

 

“ขอดูบัตรประชาชนหน่อยดิ” ในเมื่ออารมณ์ดีแล้วก็ถึงเวลาที่เขาจะเอ่ยธุระบ้าง

 

 

 

“ครับ?” ป่านหันกลับมาเลิกคิ้วงุนงง

 

 

 

ทำไมถึงจะมาตรวจบัตรประชาชนเอาตอนนี้ ตอนที่สักเกือบจะเสร็จแล้ว

 

 

 

พี่วารู้ว่าแปลก ก็ไม่รู้จะถามยังไงให้ไม่แปลก มันเป็นความผิดของเขาเองที่ไม่ได้ตรวจตั้งแต่แรก เพราะไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร

 

 

 

เกือบไม่คิดว่าเป็นปัญหา หากบทสนทนากับเฮียเมื่อวานไม่เตือนสติขึ้นมา

 

 

 

‘เฮีย กูว่าแย่ว่ะ ’ โทษน้องนั่นแหละ คราวก่อนที่มาสักเล่นพูดจาหยอกยั่วเสียจนพี่วาตบะแตก

 

 

 

‘อะไร’

 

 

 

‘มีแววจะติดเชื้อ’ เพ้อพกเตลิดไกล

 

 

 

‘เอดส์?’

 

 

 

‘ไอ้สัด! หมายถึงติดเชื้อหลงเมียเด็กจากมึงเนี่ย’ ยังไม่ทันเป็นอะไรกันก็ทึกทัก คิดเอาเองไปถึงไหนต่อไหน

 

 

 

‘หึ ธรรมดา เนื้ออ่อนมันหวาน’ เฮียเข้าใจ คุณหนูของเขาก็เด็กกว่าเช่นกัน เนื้อขบเผาะแสนหวาน ทุกครั้งที่เจอหน้าต้องห้ามใจไม่ให้กอดฟัดจนช้ำจนไม่เป็นอันทำงานทำการ

 

 

 

‘ยัง กูยังไม่ได้เขา’

 

 

 

อ้าว

 

 

 

‘อ้าว มึงเพ้อซะกูคิดว่าได้กันแล้ว’

 

 

 

‘ก็อนาคต... แม่งต้องได้ว่ะ ต้องได้แน่ๆ’ ก็คงจริงอย่างนั้น ในฐานะผู้สังเกตการณ์ฝั่งน้องก็ใช่จะดูไม่ออกว่ามีใจ

 

 

 

สายตาที่มอง พวงแก้มใสที่มักเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อยามอยู่ใกล้ชัดเจนว่าคงใจตรงกัน ติดก็แต่รุ่นน้องเขานี่แหละที่เล่นตัว อยากเล่นหัวเล่นหางเขาจะแย่แต่ก็ยังทำซึนใจแข็ง

 

 

 

แต่แข็งยังไงก็ละลายให้กลิ่นเนื้ออ่อนหอมหวานแสนน่ารัก พนันเลยว่าอีกไม่นานสัตว์ร้ายจะคลุ้มคลั่ง

 

 

 

‘งั้นได้เมื่อไหร่ก็บอก กูจะได้เตรียมขายร้านไปประกันตัวให้’ แต่เหมือนวาจะลืมปัญหาใหญ่

 

 

 

‘...’ พอเฮียเตือนถึงนึกได้ หลุดภวังค์เสน่หาเบิกตากว้าง

 

 

 

‘…’

 

 

 

‘เออว่ะ ไอ้ฉิบหาย! น้องยังอยู่ม.ปลาย’

 

 

 

เฮียหัวเราะเสียงดัง นานๆ จะเห็นไอ้ขี้เก๊กตื่นตูม ‘แต่สิบแปดแล้วไม่ใช่?’

 

 

 

‘น้องบอกว่าอีกสองเดือนสิบแปด’ เขานึกถึงคำพูดตอนที่เจอกันครั้งแรก

 

 

 

‘สองเดือนตั้งแต่ตอนไหน’

 

 

 

เออว่ะ

 

 

 

‘สองเดือนตั้งแต่สองเดือนที่แล้ว...’

 

 

 

‘…’

 

 

 

นั่นแหละปัญหาที่ทำให้พี่วานึกอยากตรวจบัตรประชาชนน้องเอาป่านนี้

 

 

 

ไม่จำเป็นต้องทู่ซี้มากมาย แม้จะไม่ค่อยเข้าใจนักป่านก็ยอมควักกระเป๋าสตางค์ออกมาหยิบบัตรประชาชนให้

 

 

 

สิ่งแรกที่มองคือใบหน้าอ่อนใสวัยเมื่อสมัยทำบัตรประชาชน เขาลอบยิ้มกับใบหน้าบึ้งเกร็งทว่ากลับฆ่าไม่ตาย แม้แต่กล้องแสนห่วยของราชการยังทำอะไรความน่ารักของน้องป่านไม่ได้

 

 

 

สายตาคมไล่อ่านชื่อ-นามสกุลจริงน้องลอบจดไว้ในใจก่อนเลื่อนสู่ใจความสำคัญ แต่กลับชะงัก เบิกตากว้าง

 

 

 

“เฮ้ย วันนี้นี่”

 

 

 

“อะไรครับ” ยิ่งตกใจยิ่งกว่าเจ้าตัวดูจะไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ

 

 

 

“วันเกิดน้อง”

 

 

 

“อ๋อ ครับ” น้องพยักหน้ารับ

 

 

 

ไม่ใช่ไม่รู้ แต่ป่านเลิกสนใจมันไปนานแล้ว วันเกิดไม่ใช่วันสำคัญสำหรับป่าน เพียงวันธรรมดา ไม่มีงานเลี้ยง ไม่มีครอบครัวพร้อมหน้า อย่างมากที่สุดถ้าหม่ามี้ไม่ลืมก็จะมีเค้กก้อนเล็กๆ วางไว้ในครัวพร้อมของขวัญ

 

 

 

แต่เมื่อเช้ามีเพียงเงินจำนวนหนึ่งเพิ่มเข้ามาในบัญชีเท่านั้น

 

 

 

หรือนี่เองสาเหตุที่ท้องฟ้าวันนี้หม่นหมองนัก

 

 

 

“แล้วมานั่งทำไมอยู่นี่ ไม่ไปปาร์ตี้อ่ะ” คนที่จัดแม้กระทั่งวันเกิดโมโจอย่างพี่วาไม่เข้าใจ

 

 

 

“ไม่มีหรอกครับปาร์ตี้” น้องหัวเราะเบาๆ นึกตลกที่สีหน้าพี่วาดูเป็นเดือดเป็นร้อนยิ่งกว่าตัวเอง

 

 

 

ยิ่งได้ยินแบบนั้นพี่ยิ่งเป็นเดือดเป็นร้อน

 

 

 

“ไร้สาระ วันเกิดไม่มีปาร์ตี้ได้ไงวะ”

 

 

 

สำหรับป่านปาร์ตี้ต่างหากที่ไร้สาระ

 

 

 

ป่านแทบไม่มีเพื่อน หม่ามี้ก็ไม่ว่าง จะให้เขาจัดงานเลี้ยงไปเพื่อใครกัน

 

 

 

“มานี่มา” แต่พี่วาไม่ละความพยายาม น้องไม่สน แต่พี่ใส่ใจ

 

 

 

“ครับ?” ฝ่ามือหนาเอื้อมมาจับมือน้องฉุดจากที่นั่ง

 

 

 

ไร้คำอธิบาย พี่วากึ่งลากกึ่งจูงน้องเข้าไปในร้านกดไหล่ให้นั่งบนโซฟาก่อนเดินไปเปิดห้องสักของเฮียซึ่งกำลังรับลูกค้าตะโกนฝ่าเสียงมอเตอร์เข้าไป

 

 

 

“เฮีย วันนี้วันเกิดป่าน” ป่านไม่แน่ใจว่าเฮียตอบอะไรกลับมา แต่พอรายงานเสร็จพี่วาก็ควักโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาใครอีกคน

 

 

 

“คุณหนูวันนี้เข้าร้านไหม” ดวงตาป่านเบิกกว้าง เดี๋ยวสิ... “ต้องเข้าแล้วแหละ ซื้อขนมมาเยอะๆ...”

 

 

 

“พี่ครับ” ป่านทำท่าจะแย้งด้วยความเกรงใจ ทว่ากลับโดนสายตาดุๆ ปรามก่อนกลับไปคุยกับปลายสาย

 

 

 

“ซื้อเค้กมาด้วย”

 

 

 

“...”

 

 

 

“อือ วันนี้มีคนอายุครบสิบแปด”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

วาเคยมีความฝัน

 

 

 

เขารู้ตัวตั้งแต่เด็กว่าชอบอะไร อยากเป็นอะไร

 

 

 

วาชอบวาดรูป และอยากเป็นจิตรกร

 

 

 

โชคดีที่ครอบครัวของวาเปิดกว้างและเคารพเส้นทางที่เขาเลือก ด้วยรู้ว่าลูกชายมีนิสัยเลือดร้อนหัวขบถจึงไม่คิดตีกรอบให้ยิ่งแหกกฎเละเทะไปกันใหญ่ ที่ดีที่สุดคือปล่อยให้ทำตามใจ ปล่อยให้ใช้ชีวิตดิ้นรนต่อความฝันด้วยตัวเอง

 

 

 

ในวัยยี่สิบหกปีวาเผชิญมาแล้วทั้งฝันดีฝันร้าย ฝันสลาย ฝันใหม่อีกครั้ง

 

 

 

เส้นทางศิลปินของทิวากรล้มลุกคลุกคลานกว่าที่คาด จากเด็กที่มีความสามารถในชั้นมัธยม ตาสว่างถูกผลงานชั้นเลิศของคนอื่นกดทับจมหายในสมัยมหาวิทยาลัย มุ่งมั่นพยายามจนจบ เพื่อกลายเป็นศิลปินไส้แห้งในประเทศกำลังพัฒนาซึ่งไม่มีกำลังพัฒนาศิลปะ

 

 

 

ข้อดีคือในความหัวร้อนรั้นร้ายนั้นไร้อีโก้ ขบถทว่าพร้อมเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ อารมณ์ร้ายแต่มองโลกในแง่ดี ไม่เคยปล่อยตัวจมหายในความสิ้นหวังน่าหดหู่ของชีวิต

 

 

 

เมื่อพี่ชายคนสนิทออกปากชวนเขาทำร้านสักจึงตอบตกลงอย่างไม่คิดลังเล ศิลปะบนเรือนร่างคือสิ่งที่เขาหลงใหลมาตั้งแต่สมัยมัธยม วารู้ตัวว่าชอบรอยสักทว่าไม่เคยคิดถึงการเป็นช่างสัก กระทั่งเฮียของเขามาชี้ทางสว่าง

 

 

 

เขาตกหลุมรักอีกครั้ง ทวีลุ่มหลงเมื่อได้เห็นฝีแปรงของตัวเองบนเรือนร่างของคนอื่น ยิ่งกว่าชื่อเสียงคือใบหน้าอิ่มเอิบพอใจของลูกค้ามากหน้าหลายตา

 

และพอใจยิ่งกว่าคือการได้เห็นลวดลายแสนสวยบนสรีระหมดจดงดงาม

 

 

 

ดวงตาคมไม่อาจละสายตาจากร่างบางที่กำลังวิ่งวุ่นเดินตามคนนู้นทีคนนี้ทีเพื่ออาสาช่วยจัดงานปาร์ตี้วันเกิดตัวเอง เรียวขาขาวในกางเกงขาสั้นที่เลิกให้เห็นฝูงปลาแหวกว่ายเป็นระยะดูน่าสัมผัส

 

 

 

...ทว่าไม่อาจสัมผัส ได้เพียงจับจ้องจดจารด้วยสายตาเพียงเท่านั้น

 

 

 

งานเลี้ยงเล็กๆ ถูกจัดขึ้นในเวลาเพียงหัวค่ำ ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรด้วยความฉุกละหุกกะทันหัน มีเพียงไฟหลากสีที่เฮียช่วยจัด ป้ายแฮปปี้เบิร์ดเดย์ที่พี่วาช่วยเขียน ขนมขบเคี้ยวหนึ่งรถเข็นที่คุณหนูซื้อมา และเค้กหน้าตาน่ารัก ปักเทียนเป็นเลขอายุ

 

 

 

ไม่ได้ดีที่สุด แต่ดีที่สุดแล้วสำหรับป่าน

 

 

 

เด็กน้อยตาวาว แม้จะเคยปฏิเสธไม่เห็นความสำคัญ แต่ลึกๆ แล้วใครๆ ก็คงอยากมีงานวันเกิดของตัวเองทั้งนั้น เพราะมันอาจเป็นเพียงวันเดียวที่เราจะเป็นคนพิเศษ

 

 

 

“อย่าลืมอธิษฐาน” วันที่ได้เอ่ยความปรารถนาโดยไม่ต้องครุ่นคิดพะวง ลืมความเป็นจริงสักครั้ง

 

 

 

ป่านหลับตา อธิษฐานเงียบงัน ก่อนลืมตาขึ้นมาสบดวงตาคมต้องแสงเทียน ก่อนเป่าดับ

 

 

 

คำอธิษฐานคงเป็นจริงหากเก็บไว้เป็นความลับ

 

 

 

งานเลี้ยงเริ่มต้นเมื่อไฟสว่างอีกครั้ง ขนมและเครื่องดื่มถูกเปิด เจ้าของร้านสักดูจะสนุกมากกว่าใครเพราะจะได้เปิดแชมเปญที่เก็บไว้สำหรับโอกาสพิเศษ ขณะที่โมโจเริงร่ากับขนมและอาหารส่วนของตัวเองที่ได้รับอนุญาตให้กินมากกว่าทุกวัน

 

 

 

เป็นงานวันเกิดแปลกๆ ที่คงไม่มีวันเกิดขึ้นถ้าป่านไม่ได้มาที่นี่ ไม่ได้รู้จักคนเหล่านี้ที่ผูกพันโดยไม่รู้ตัว

 

 

 

“คราวหลังบอกให้เร็วกว่านี้สิ” น้ำเสียงคาดโทษดังมาจากคนที่นั่งข้างๆ “ตอนวาโทรมาเรายังอยู่ต่างจังหวัดอยู่เลย ดีนะที่คุยงานเสร็จแล้ว” สภาพของคุณหนูวันนี้ดูจริงจังกว่าทุกครั้ง คนที่มักจะชอบใส่เสื้อยืดโคร่งๆ กับกางเกงขาสั้นอวดเรียวขาขาวกลับสวมเชิ้ตสูทภูมิฐาน ดูดีเสียจนป่านตะลึงไปในตอนแรก

 

 

 

“ขอโทษครับ ผมไม่คิดว่ามันสำคัญ” เด็กยิ้มเจื่อน แต่น้องไม่ได้เป็นคนต้นคิดนี่ พี่วาต่างหาก

 

 

 

ว่าแล้วก็หันมองตัวตั้งตัวตีที่กำลังละเลียดเค้กแกล้มแชมเปญ สีหน้ามีความสุขของพี่วานั้นดูมีเสน่ห์เสียยิ่งกว่าตอนบูดบึ้งที่ชอบทำเป็นประจำ

 

 

 

“สำคัญสิ” คุณหนูแค่นหัวเราะจางๆ หลังได้ยินคำตอบ ยิ้มมีเสน่ห์แพรวพราวยิ่งพราวระยับใต้แสงไฟหลากสี ฝ่ามือที่เอื้อมมาลูบหัวเด็กน้อยแผ่วเบา อ่อนโยนทำให้ป่านรู้สึกได้ถึงความเอ็นดูแม้จะเจอกันไม่กี่ครั้ง

 

 

 

“อีกหน่อยก็คงจะได้เป็นครอบครัวเดียวกัน” ทิ้งถ้อยคำพร้อมความอุ่นที่ศีรษะไว้ก่อนลุกออกไปร่วมวงกับเฮียและพี่วา

 

 

 

ป่านมองทั้งสามคนในวงแชมเปญที่ป่านไม่ได้รับอนุญาตพลางลอบยิ้ม นานแค่ไหนที่ไม่ได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับส่วนใด โดดเดี่ยว คล้ายมีเพียงตัวคนเดียวในโลก

 

 

 

ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ป่านถูกต้อนรับเข้ามาในโลกใบเล็กๆ ที่ไม่เคยจินตนาการถึง โลกที่ไร้การตัดสิน คาดหวัง และหลงใหลในสิ่งเดียวกัน

 

 

 

“แม่มารับสี่ทุ่มใช่ป่ะ” เมื่อเห็นน้องนั่งคนเดียวพี่วาจึงผละจากวงมานั่งเป็นเพื่อนเอ่ยถามชวนคุยเพื่อตะล่อมเข้าจุดประสงค์บางอย่าง

 

 

 

“ครับ” วามองนาฬิกา อีกไม่กี่นาทีหม่ามี้ของป่านก็คงโทรมา นี่คงเป็นจังหวะสุดท้าย

 

 

 

 “อ่ะ” กล่องสีฟ้าผูกริบบิ้นขาวขนาดเล็กเท่าฝ่ามือถูกดึงออกมาจากกระเป๋ายื่นให้

 

 

 

“ครับ?” น้องงุนงง เลิกคิ้วมองของขวัญสลับกับใบหน้าที่กลับมาเก๊กนิ่งอย่างไม่แน่ใจ ไม่เคยคาดหวังของขวัญวันเกิด แค่จัดปาร์ตี้ให้ก็ถือว่ารบกวนมากแล้วด้วยซ้ำ แต่จะปฏิเสธก็คงเสียมารยาท ป่านจึงเต็มใจรับไว้

 

 

 

“ขอบคุณครับ”

 

 

 

“แกะดูสิ” พยายามคาดเดาจากขนานว่าข้างในเป็นอะไร กล่องเล็กๆแบบนี้น่าจะเป็นเครื่องประดับสักอย่างล่ะมั้ง

 

 

 

และเป็นจริงตามนั้น ภายในกล่องบุผ้าสักราดสีครามปรากฏสร้อยสีเงินเส้นห้อยจี้รูปผีเสื้อและปลาตัวเล็กๆรอบวงซึ่งขนาดใหญ่กว่าข้อมือของป่านอยู่มาก

 

เป็นสร้อยข้อเท้า

 

 

 

“มา สวมให้” ไม่เปิดโอกาสให้น้องได้ถามว่าไปหามาจากไหน ของขวัญเฉพาะเจาะจงขนาดนี้จะบอกว่าฝากคุณหนูซื้อมาเหมือนขนมอื่นๆ คงไม่ใช่ แต่ป่านก็ไม่เห็นพี่วาหายไปจากปาร์ตี้เลย

 

 

 

หมายความว่าเตรียมไว้ก่อนหน้าจะรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดน้องงั้นหรือ?

 

 

 

ป่านคิด แต่ไม่อนุญาตให้ตัวเองเชื่อในความคิดนั้น

 

 

 

ดวงตากลมมองร่างสูงที่นั่งคุกเข่าลงตรงหน้า ฝ่ามือบรรจงประคองฝ่าเท้าน้องขึ้นมาวงบนตัก สวมสร้อยข้อเท้าสีเงินกับจี้ที่ห้อยล้อแสงไฟพราวระยับขับให้ข้อเท้าได้รูปยิ่งดูงดงาม

 

 

 

ถึงจุดนี้ป่านคิดอะไรไม่ออกนอกจากปล่อยให้หน้าแดงซ่าน สัมผัสอุ่นจากฝ่ามือใหญ่คล้ายจะสลักไว้อยู่อย่างนั้นตลอดกาลทั้งที่พี่วาปล่อยมือขยับออกไปจ้องมองเรียวขาขาวอย่างพอใจ

 

 

 

ป่านคิดว่ามันเป็นเพียงความเอาแต่ใจของคนพี่ที่เห็นข้อเท้าน้องสวยจึงหาเครื่องประดับให้ ไม่ได้พิเศษมากกว่านั้น ทว่าจี้รูปผีเสื้อและฝูงปลาทนโท่ก็ทำให้ยากที่จะกล่อมความคิดไม่ให้เตลิดไกล

 

 

 

โดยเฉพาะสายตาที่กำลังมองสบตาคล้ายกำลังจกภวังค์หหลงใหล

 

 

 

“พี่ครับ หยุดจ้องได้แล้ว ”

 

 

 

“เฮ้อ”

 

 

 

“พี่...”

 

 

 

“มึงอ่ะ ยี่สิบสักทีดิ๊”

 

 

 

คำพูดเอาแต่ใจผูกโยงกับบทสนทนาก่อนเก่าที่ดังเข้ามาในหัวราวกับจะช่วยเตือนความทรงจำ

 

 

 

‘ผมเห็นคุณหนู... เอ่อ แฟนเฮียสักรูปดอกไม้ตรงข้อเท้า สวยดีนะครับ ’

 

 

 

‘เอาบ้างไหมล่ะเดี๋ยวสักให้’ เหตุที่มาของของขวัญวันเกิดที่ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ทั้งที่ไม่รู้ด้วยว่าน้องเกิดวันไหน

 

 

 

‘ผมไม่อยากได้รูปดอกไม้’

 

 

 

‘ก็ไม่ได้จะสักดอกไม้ให้’

 

 

 

‘...’

 

 

 

‘ของมึงแค่เส้นเดียวรอบข้อเท้าก็พอ’

 

 

 

‘อย่างกับถูกจองจำเลยครับ’

 

 

 

‘อือ’ แม้ไม่ได้สลักลวดลายสมใจ ทว่าสร้อยข้อเท้าจับจองจองจำไว้

 

 

 

‘...’

 

 

 

‘กูจอง’

 

 

 

รอวันที่ฝูงปลาจะแหวกว่าย ผีเสื้อสยายปีกโตเต็มวัย

 


 ☀ ------------------  #มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน -------------------☀
ขอโทษที่ไม่เคยแจ้งไว้ในนี้เลยว่าตั้งใจจะเขียนให้จบแล้วมาโพสต์ทีเดียวเลยหายไปค่ะ 

ตอนนี้ก็ยังเขียนไม่จบง่ะ แต่คิดถึงจังเลย เลยแอบแวะมาขอกำลังใจแงๆ ;-;

ตอนนี้แก้อยู่ประมาณเกือบ10รอบแน่ะ สาหัสมากถ้ายังไม่สมูทหรือผิดพลาดตรงไหนแจ้งได้เลยนะคะ



ปล.เดี๋ยวจะหายไปซุ่มต่อ เจอกันอีกทีประมาณปลายเดือนน้า (ภาวนาให้ปั่นจบทันเดดไลน์ด้วยเท้อออ)



ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและเป็นกำลังใจให้กันเสมอนะคะ

รักมากๆ เลย



-Martian-
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 7 : Flying Fish - 16.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 16-07-2019 19:12:51
คิดถึงจังเลยค่ะะะะะ นึกว่าไม่มาต่อแล้ววว เป็นดำลังใจให้นะคะ รอได้ค่ะ อย่าทิ่งน้องไว้กลางทางก็พอ สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้

ส่วนพี่วา ปิดความหื่นไว้ไม่มิด น่าแจ้งตำหนวด
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 7 : Flying Fish - 16.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวลูกไก่ ที่ 16-07-2019 19:16:11
แงง กอดๆนะน้องป่าน สุขสันต์วันเกิดนะลูก ขอบคุณพี่วานะคะ ที่ขอดูบัตรน้อง แม้ว่าเจตนาพี่จะดูว่ากินน้องได้ละยังก็เหอะ 55555 ตอนแรกเราคิดว่าคุณหนูน่าจะห่างจากน้องวาไม่กี่ปี แต่คุณหนูทำงานแล้ว น่ารักจนเดาอายุไม่ถูกเลยค่ะ อีกอย่างเป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนนะค้าา ขอบคุณที่พาครอบครัวนี้มาให้หายคิดถึง :3123:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 7 : Flying Fish - 16.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 16-07-2019 20:06:25
คิดถึง....งงงงงงง  สุขสันต์วันเกิดน้องป่าน  :HBD2:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 7 : Flying Fish - 16.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Chama ที่ 16-07-2019 21:30:04
เป็นนิยายที่มีเสน่ห์มาก
รู้สึกโชคดีที่ได้อ่าน
ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆนะคะ
ปล. รอตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 7 : Flying Fish - 16.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 16-07-2019 23:16:56
เราชอบความมุ่งมั่นของพี่วาค่ะ ยังไม่ทำอะไรกระโตกกระตากกับน้องเกินไปนะ แต่ถึงกับไปพูดกับเฮียเลยว่าเดี๋ยวต้องได้ มันต้องได้แน่ๆ รู้แหละว่าตัวเองก็อยากได้น้องและน้องก็ชอบตัวเองไม่เบาเลย โอเค เจตนาชัดเจนและมุ่งมั่นดีมาก นับถือใจ รอดูค่ะว่าคนเราจะทนไหวได้แค่ไหน จะรอน้องถึง20ได้หรือเปล่า เรารู้สึกพี่วากับป่านไม่ใช่คนที่เหมือนกันเลยนะคะ แตกต่างกันหลายส่วนมาก แต่เติมเต็มส่วนที่ขาดของกันและกันได้ดีมาก เพิ่งผ่านไปไม่กี่ตอนเองพี่วาก็ทำให้ป่านได้รับการเติมเต็มในเรื่องที่ป่านไม่เคยได้รับและบางเรื่องน้องไม่คิดด้วยซ้ำว่ามันขาดหายไป แถมยังเป็นที่พึ่งให้น้องได้ด้วย ให้ความสบายใจและมีตัวตนอยู่ในเวลาที่น้องต้องการ  ดีต่อใจมากๆเลยค่ะ ยังไงรอติดตามตอนต่อไปเรื่อยๆนะคะ เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนก้าวผ่านทุกๆเรื่องไปได้ด้วยดีนะคะ ขอบคุณสำหรับผลงานที่ดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 7 : Flying Fish - 16.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 17-07-2019 17:21:52
พี่วาอย่าเพิ่งตบะแตกน้าา คุกๆ ๆ ท่องไว้ก่อน 555 แต่น้องน่าเอ็นดูมากจริงๆ น้องป่านคือน่ารัก
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 7 : Flying Fish - 16.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 18-07-2019 13:25:54
พี่วาาาา ไหวไหมคะ?  55555 ชอบมากค่ะ คนเขียนท้อได้ แต่อย่าถอยนะคะ คนอ่านรออ่านรอเชียร์พี่วาอยู่น้าาา สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 8 : Falling - 20.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 20-07-2019 03:12:16
ลายที่ 8

Falling

(ตกสู่ห้วงรัก)





นานแล้วที่วาไม่ได้คิดจะจีบใคร ครั้งสุดท้ายที่จำได้คือดาวบริหาร สมัยนั้นเขายังไว้ผมยาวแต่งตัวเซอร์สไตล์เด็กจิตรกรรม ใครรู้ก็ว่าเป็นหมาวัดริอ่านจะสอยเครื่องบิน



แต่สุดท้ายหมาก็เห่าจนเครื่องบินร่วงลงมา ดอกฟ้าโน้มกิ่งให้เด็ดชมอวดหยันคำปรามาส ก่อนจะยิ่งถูกหัวร่อกลับเมื่อเจ้าหล่อนหักอกเขาไปหาเดือนมหาวิทยาลัยรุ่นเดียวกัน



เป็นความเจ็บปวดที่ถูกหักหลัง ทว่าไม่ได้เสียใจเท่าที่ควรเสียใจ ไม่ใช่สาเหตุให้เขาเข็ดขยาดความรัก แต่เพราะเขายังไม่เจอคนที่ถูกใจอีกนับจากนั้น

กระทั่งได้มาเจอน้องป่าน



รู้ทันทีว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาใช้กับน้องไม่ได้ ไม่ใช่แค่ต่างร่างกายเป็นชาย ทว่าอายุ นิสัย ดูเหมือนจะพลิกหงายคนละขั้วข้างกันอย่างปฏิเสธไม่ได้

‘มึงคิดจะจีบน้องช้าไปไหม ปกติสองเดือนได้ไปถึงไหนต่อไหน’ แถมยังโดนเฮียซ้ำเติม



ก็คนมันเพิ่งยอมรับนี่หว่าว่าตัวเองชอบเด็ก แถมยังเป็นเด็กผู้ชาย



ตั้งแต่เกิดมาเขาเคยชอบผู้ชายซะที่ไหน ถึงจะมีเพื่อนคบเพศไหนก็ได้ หญิงสลับชายให้เห็นชินตาทว่าที่ผ่านมาคนที่ถูกใจก็ไม่เคยมีผู้ชาย โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย

อายุที่ห่างกันมากทำให้มีเรื่องให้ขบคิดมากตาม ที่สำคัญ เขาไม่แน่ใจว่าน้องคิดยังไง



ประสบการณ์รักแรกหลอกหลอน จุดจบของการชอบคนที่แตกต่างเกินไปทำให้เขานึกหวั่น ลังเล ทว่าก็ไม่อยากพลาดโอกาสซ้ำ



ยิ่งคิดก็ยิ่งงุ่นง่าน



ยิ่งงุ่นง่านก็ยิ่งลุกลน



“มึงแต่งตัวไปไหนเนี่ย” ลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ไม่เคยทำ



เท่าที่นับ ก็คงไม่เกินสองครั้งที่เห็นทิวากรหยิบสูทขึ้นมาใส่ แม้จะเป็นสูทลำลองสวมทับเสื้อยืดสีดำทว่าก็สุดแสนจะผิดวิสัยสำหรับคนที่สวมเพียงเสื้อยืดสีพื้นกับกางเกงยีนปีละสามร้อยหกสิบวันเป็นอย่างต่ำ



“โรงเรียน” คำตอบยิ่งน่าประหลาดใจ



“ฮะ?”



“ไปโรงเรียน”



“มีเลี้ยงรุ่น?” มีเหตุผลเดียวเท่านั้นแหละที่ทำให้เพื่อนรุ่นน้องของเขาแต่งตัวเต็มเบอร์นี้ แม้เฮียจะไม่เคยเห็นวาไปงานเลี้ยงรุ่นสักครั้งในชีวิตก็ตาม



“ไม่ใช่โรงเรียนกู”



อ้าว...



เฮียไม่เข้าใจ แต่ตามประสาคนที่รู้จักกันมานานปะติดปะต่อนิสัยกับสถานการณ์ช่วงนี้เข้าด้วยกันก็พอจะเดาความหมายได้



“อ่อ... แค่จะไปส่องเด็กต้องใส่สูทจัดเต็มขนาดนี้” เป็นจริงดังนั้น วาที่ยืนปลดกระดุมติดกระดุมสลับหมุนตัวไปมาหน้ากระจกหันมาเบ้หน้าถอนใจใส่



“ก็คราวก่อนกูใส่เสื้อยืดเกงยีนไปแล้วโดนยามเรียก”



“...” ไม่รู้ว่าควรแสดงสีหน้ายังไง



โดยเฉพาะเมื่อน้องรักขมวดคิ้ว เสยผมยาวๆ ปรกๆ ที่พยายามจะเซตเป็นทรงพลางตัดพ้อจริงจัง



“หล่อขนาดนี้สงสัยว่ากูเป็นโจรได้ไง”



“อือ แล้วแต่มึงเลย”









เรื่องของเรื่องก็คือมันไม่ใช่ครั้งแรกที่วามาวนเวียน ป้วนเปี้ยน ด้อมๆ มองๆ ลับๆ ล่อๆ อยู่หน้าโรงเรียนมัธยมชายล้วนชื่อดัง



ในใจขบคิดครุ่นถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่าทำเพื่ออะไร



คำตอบง่ายดาย เขาอยากจีบเด็กมัธยมจึงมารอรับส่งน้องหน้าโรงเรียน ทว่าความท่ามากเล่นตัวกลับกระส่ายคำตอบเหลือเพียง...ดูลาดเลาให้แน่ใจ



ไม่มีคำตอบว่าลาดเลาสิ่งใดหรืออยากแน่ใจอะไร



คราวแรกที่มาเยือนเขาไม่ได้อยู่นานด้วยซ้ำ ด้วยรูปลักษณ์ฉาบฉวยอันแปลกแยกบวกความโชคร้ายที่การปรากฏตัวของเขาไล่หลังเหตุการณ์คู่อริตีกันเพียงไม่นาน โรงเรียนเอกชนค่าเทอมแพงหูฉี่จึงเพิ่มมาตรการป้องกันปัดกวาดคนน่าสงสัยไม่ให้มายุ่มย่ามใกล้โรงเรียน



ทิวากรไม่ใช่คนหัวอ่อนยอมแพ้ง่ายๆ ครั้งที่สองเขาแก้ตัวใหม่ด้วยการแต่งกายภูมิฐานเซตผมโกนหนวดจนเกลี้ยงเกลาขับรถหรูดูแพงจอดเทียบท่าหน้าโรงเรียน ความมั่นใจเกินร้อย



ทว่าใช้ไม่ได้กับกรณีที่ยามจำหน้าเขาได้



“ตกลงว่าน้องชายคุณชื่ออะไรเรียนอยู่ชั้นไหนห้องไหนนะครับ” จากเพียงโดนยามไล่จึงกลายเป็นถูกยามลากเข้าห้องปกครอง



“เอ่อ...ที่จริงไม่ต้อง...” จะเรียกว่ามีปมก็คงได้ อดีตเด็กห้องท้ายอย่างเขามีประวัติไม่ดีกับห้องนี้นัก บรรยากาศกดดัน คุณครูมาดเฮี้ยบที่จ้องตรงมาอย่างกังขาน่ากลัวเรียกความทรงจำวัยท้าไม้เรียวกลับมาจนปากคอสั่น



“อยู่ม.หกครับ” น้องเรียนห้องอะไรเขาไม่รู้ด้วยซ้ำ โกหกให้ตายอย่างไรคงไม่มีใครเชื่อว่าเป็นพี่น้องกัน



“ชั้นไหน ชื่ออะไรครับ”



ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งขอดูบัตรประชาชนป่าน ชื่อและนามสกุลน้องยังฝังหัวแจ่มชัด



“ป่านครับ น้องปัณณธร โชติพิสุทธิ์เมธา”









หมดแล้วมาดโหดคนคูลที่อุตส่าห์สั่งสมมา…



“ตกลงผู้ปกครองเธอจริงๆ ใช่ไหม เห็นมาด้อมๆ มองๆ ตั้งแต่เมื่อวาน ดูไม่น่าไว้ใจ” เป็นช่างสักอยู่ดีๆ กลายเป็นโรคจิต ถ้ำมอง ถูกส่งเข้าห้องปกครองซะอย่างนั้น



“ครับ” แถมยังต้องลำบากให้น้องมาช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ใจ



ทั้งที่ทีแรกวางแผนจะเซอร์ไพรซ์ คิดภาพในหัวเสียดิบดีว่าน้องคงจะประหลาดใจที่ได้เห็นเขายืนหล่อรออยู่หน้ารถออดี้ในมาดพระเอกเกาหลี



เซอร์ไพรซ์กว่าด้วยการเจอกันในห้องปกครองที่น้องคงไม่เคยเข้าด้วยซ้ำ ถึงได้ไม่มีท่าทีกดดัน เลิ่กลั่ก เหงื่อแตกซกกลัวความผิดแม้แต่น้อย



“แน่ใจนะ?”



แถมยังช่วยโกหกแทนเขา “แน่ใจครับ นี่พี่ชายผมเอง”



หมดกันๆ









พี่วาทั้งรู้สึกผิดและอับอายเมื่อแผนที่วางไว้โป๊ะแตกหมดท่า แม้สุดท้ายน้องจะได้มานั่งบนเบาะข้างคนขับ ข้างเขา ตาโตจ้องปริบๆ มองไม่วางตาพลางทำท่าอึกอักสับสนอย่างน่ารัก



“พี่ครับ”



“ครับ” พอถูกเรียกเขาตอบทันควัน รถที่ติดไฟแดงยาวเหยียดยิ่งทำให้บรรยากาศกระอักกระอ่วนจนแทบทะลัก



“อ่า... ทำไมอยู่ๆ พูดเพราะเฉยเลย” แม้แต่คนน้องก็สัมผัสได้ ก้มหน้าเม้มปากอย่างไปไม่เป็น



“ให้เกียรติสูทที่ใส่มาไงครับ”



ไม่รู้ว่าพูดเล่นหรือจริงจัง เพราะพี่วาเอ่ยหน้าตายทั้งที่ตายังจ้องตัวเลขบนสัญญาณไฟจราจรอยู่อย่างนั้น



กระทั่งป่านรวบรวมความกล้าเอ่ยทำลายความเงียบอีกครั้ง “เอ่อ แล้วตกลง... พี่มาโรงเรียนผมทำไมครับ”



“ก็... ทางผ่านอะ” แก้ตัวชัดๆ



“...” คิดว่าป่านไม่รู้หรือว่าโรงเรียนของน้องอยู่ห่างคนละเส้นทางกับร้านสัก และพี่วาไม่น่ามีกิจธุระอะไรใกล้ๆ แถวนี้ด้วยซ้ำ



“ไม่เนียนเหรอ?” เมื่อทั้งรถกลับมาเงียบกริบคนโกหกจึงถอนหายใจยอมรับ



“ครับ”



“โอเค เอาเหตุผลจริงๆ ไหม” หันหน้ากลับมาสบตาน้อง ความเครียดเกร็งก่อนหน้าอันตรธาน อาจเพราะตอนนี้ไม่มีอาจารย์ฝ่ายปกครองคอยจับจ้องกดดัน



“ครับ”



“พี่อยากเห็นน้องในชุดนักเรียน” ไร้ความเกรงใจ



อสรพิษเผยเขี้ยวเปลือยความต้องการ งับเหยื่อไม่ทันตั้งตัว









นานแล้วที่ป่านไม่มีใครมาจีบ



ไม่เคยมีใครกล้าจีบ... เด็กน่ารักทว่าเก็บตัวเข้าถึงยาก เกินเอื้อมเกินกว่าจะอาจหาญ



ไม่คิดว่าจะมีใครมุทะลุอุกอาจ



“ขอบคุณมากนะครับที่มาส่ง” ไม่เคยนึกภาพว่าจะได้เห็นพี่วาปรากฏตัวที่โรงเรียนเขา



โดยเฉพาะในห้องปกครอง ท่ามกลางการสอบสวนคร่ำเคร่งราวกับผู้ต้องสงสัยคดีร้ายแรง



“อือ”   อดยอมรับไม่ได้ว่าพี่วาในชุดสูทเต็มยศนั้นดูดีเสียจนแทบจำไม่ได้ แถมป่านไม่เคยเห็นพี่วาสงบเสงี่ยมขนาดนี้


อาจเพราะประหม่า อาจเพราะอาย...



ก็น่าอับอายอยู่หรอก คนอายุยี่สิบหกปีที่ผวาหวาดกับห้องปกครองในโรงเรียนมัธยม ท่าทางเจื่อนจัดแบบที่ป่านไม่เคยเห็น ยิ้มแหยแห้งเกรียมด้วยรัศมีของเด็กที่กลัวความผิด



น่ารัก



ป่านคงจำสีหน้านั้นของพี่วาไปนาน



“งั้น... ผมไปนะครับ พี่ก็ ขับรถดีๆ นะ”



“อือ” เพราะคงยากที่จะได้เห็น หรืออาจไม่มีโอกาสเลย หากเขาเข็ดจนไม่อยากไปรับน้องอีก



“บ๊ายบายครับ”



แต่ถ้าคิดอย่างนั้นคงดูถูกพี่วาเกินไป



“เดี๋ยว เราอะ”



“ครับ?”



ครั้งที่หนึ่งเขาพลาด ครั้งที่สองเจอเหตุไม่คาดฝัน



“ถ้าไม่ว่าอะไร พรุ่งนี้พี่มาส่งอีกได้ไหม”



ทว่าครั้งที่สาม สี่ ห้า....



“ว่าไง?” เร็วเกินหากจะปรามาสว่าเขาอ่อนหัด ก่อนจะเห็นว่าเขาสามารถทำให้น้องประทับใจได้แค่ไหนในคราวถัดไป



“ก...ก็ได้...ครับ”



“งั้นพรุ่งนี้เจอกันครับ”



ทิวากรไม่ใช่คนหัวอ่อนยอมแพ้ง่ายๆ



เมื่อเดินหน้าหนึ่งก้าว กระโจนจ้วงหมดตัวไม่มีหันกลับหลัง








☀ ------------------  #มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน -------------------☀

ทำดีแล้วค่ะพี่วา ปุๆ (ตบไหล่ปลอบ)



แอบย่องมาปล่อยตอนใหม่ก่อนเวลาเพราะอยากฉลองที่เด็กดีครบ1000คอมเมนต์ค่ะ เย้ๆๆ

ตอนนี้สั้นๆ แทบจะไร้สาระเลยล่ะ แต่ก็แก้เยอะมากอีกแล้ว (จริงๆ แก้มากกว่า3ร่างทุกตอนเลยค่ะ เป็นท้อorz)

ถ้าไม่สมูทหรือผิดพลาดตรงไหนบอกกันได้เลยนะคะ ;-;



ปล. เดี๋ยวคงแจ้งอย่างเป็นทางการอีกทีว่าในเรื่องยาวจะมีบางจุดที่ไม่เหมือนในเล่มบทสนทนานะคะ

มีการตัดออกเยอะอยู่เหมือนกันด้วยความที่ต้องปรับให้มันสมูทค่ะ

ต้องขอโทษไว้ล่วงหน้าถ้ามีบางบทสนทนาไม่ปรากฏในเรื่องยาว แต่จะพยายามใส่ให้ได้ใจความครบถ้วนคงเดิมมากที่สุดเนอะ



ปล.2 หรือเราจะกลับมาทยอยอัพแบบไม่ต้องรอจบดีมั้ยนะ

แง้งง คิดถึงบรรยากาศการอัพนิยายมากๆ ขอดูฟีดแบคก่อนนะคะ ;-;



ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่มีให้กันนะคะ



รักมากๆ

-Martian-
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 8 : Falling - 20.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 20-07-2019 07:32:46
พี่วาน่าเอ็นดู..มาอัพบ่อยๆก็ดีนะจ๊ะ รออยู่  :mew1:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 8 : Falling - 20.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 20-07-2019 14:50:32
พี่ว่าคนคูลลเหมือนโตรตรงไหนน ไม่เล้ยยน 555
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 8 : Falling - 20.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 20-07-2019 22:58:17
พี่วาาา ทำดีแล้วนะะะ //ตบไหล่
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 8 : Falling - 20.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 21-07-2019 09:02:28
ทยอยเถอะค่าาาาา เดือนละหนก็ยังดี พลีสสสสส  :ling3:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 8 : Falling - 20.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 21-07-2019 15:25:52
เชียร์พี่วานะคะ เดินหน้าจีบน้องซะที
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 8 : Falling - 20.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 21-07-2019 17:03:18
ฮือออออ เราแอบเอ็นดูความพี่วาค่ะ ความรุกเข้าหาน้องแบบจริงจัง โจ่งแจ้ง แต่ก็ทำเป็นเนียนตีมึนไป แต่พอน้องรู้ทันก็ยอมรับสารภาพไปตรงๆทื่อๆ ชอบค่ะ น่ารัก555555555555 แล้วก็ชอบป่านตรงที่ก็ไม่ได้เคยโดนจีบหรืออะไรชีดเจน แต่ก็ใจกล้า ใจสู้มาก เราว่าทั้งคู่ศีลเสมอกันค่ะ ไปกันได้ อยากอ่านถึงตอนที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ผูกพันกันไปมากกว่านี้ มันต้องน่าหลงใหลมากแน่ๆเลยค่ะ ยังไงรอติดตามตอนต่อไปนะคะ อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนค่ะ ขอบคุณสำหรับผลงานที่ดีนะคะ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 8 : Falling - 20.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: btoey ที่ 21-07-2019 22:17:33
ทยอยอัพก็ดีน้าา จะได้หายคิดถึงง พี่วากำลังเร่งเครื่องแล้วนะน้องป่าน. ดูไปดูมาน้องก็ใช่เล่นน้า
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 8 : Falling - 20.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: BloodyBlue ที่ 22-07-2019 00:03:35
พี่รุกแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 8 : Falling - 20.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 22-07-2019 00:58:52
ทยอยอัปก็ดีน้าาาาา จะได้อ่านบ่อยๆ ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายพิเศษ1 : Daisy - 22.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 22-07-2019 02:40:53
ลายพิเศษ 1

Daisy

(เรื่องเล่าจากบุปผา)

เดซี่คือดอกไม้แห่งรัก



กลีบดอกสีขาวกระจิริดล้อมกรอบยอดเกสรสีเหลืองแสนน่ารัก ดอกก้านเล็กจ้อยลู่ลมดูซุกซนและงดงามไปพร้อมกัน



“อ่านอะไรเยอะแยะ” ดวงตาเดียงสาแฝงประกายสนุกสนานขณะกระโดดนั่งบนโซฟามือคว้าแย่งหนังสือชีววิทยาที่น้องป่านกำลังอ่าน



“คุณหนู” เด็กเบิกตากระเง้ากระงอดทว่าไม่กล้าแย่งคืน



“เลิกเรียกคุณหนูได้แล้ว” คนถูกเรียกบึ้งหน้า ถ้าเป็นคนอื่นคงใช้สรรพนามนั้นเรียกด้วยความยียวน แต่คุณหนูรู้ดีว่าน้องไม่ได้ตั้งใจ



“เฮียให้เรียกแบบนี้” เห็นไหม ถ้าไม่มีใครยุยงน้องคงไม่กล้าเรียกฉายาล้อเลียนที่วาเป็นคนตั้งให้



แต่ไม่คิดถือสา ที่ผ่านมาโดนทั้งวาทั้งเฮียเรียกกรอกหูจนชินชา



“เรียกอีกทีเราจะจุ๊บ” แต่จะปล่อยผ่านง่ายๆ ก็ผิดวิสัยคนขี้แกล้ง แกล้งขู่ให้น้องเลิ่กลั่กพลางเหลือบสายตามองอีกคนที่กำลังเดินออกมาจากห้องสักพอดี



“...” ป่านเองก็อึกอักเหลือบมองไปตามเสียงประตูที่เปิดออกเห็นพี่วาเดินออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะเบิกตาค้าง



จุ๊บ!



...ด้วยเหตุผลเดียวกับที่ป่านเบิกตากว้าง



เด็กน้อยสะดุ้งเล็กๆ หันไปมองคนข้างตัวที่ลอบจุ๊บแก้มกัน



“ตะ... แต่ ผมยังไม่ได้เรียก...” อึกอักยกมือกุมสัมผัสที่ยังอุ่น เหวอมองใบหน้าระรื่นของคุณหนูสลับสีหน้าตกใจของพี่วา เลิ่กลั่ก



“มันเขี้ยว”



เห็นชัดว่าคนถูกแกล้งไม่ได้มีแค่น้องคนเดียว จากที่เบิกตากว้างพี่วาขมวดคิ้วตะโกนฟ้องเกรี้ยวกราด “ไอ้เฮีย! มาเอาเมียมึงไปเก็บ!”









เดซี่ขี้แกล้งแอบสอดส่องจับจ้องปฏิกิริยาของดวงตะวันมาสักพัก แม้ไม่ได้เห็นบ่อยครั้งทว่าก็อ่านอาการเสียอาการของวาออกจนทะลุปรุโปร่ง



นับตามอายุแล้ววาแก่กว่าคุณหนูเกือบสองปี ทว่านอกจากจะไม่เคยเรียกวาว่าพี่ยังไม่เคยแสดงท่าทีเคารพกัน นิสัยเจ้ากี้เจ้าการเอาแต่ใจทว่าขี้อ้อนรู้จักใช้เสน่ห์ของตัวเองทำให้คนแก่กว่าทั้งเกรงใจและเอ็นดูไปพร้อมกัน



ตรงกันข้ามนิสัยมุทะลุเกรี้ยวกราดของวากลับไม่เคยทำให้คุณหนูเกรงกลัวเลยสักครั้งเพราะรู้ว่าเนื้อแท้แล้วรุ่นน้องของแฟนคนนี้เป็นคนอ่อนไหวน่ารัก ต่อให้คนละขั้ว ร้อน เย็น พายุคลั่งทว่าความสัมพันธ์ของทั้งสามคนแน่นแฟ้นเหมือนพี่น้อง เพื่อน เหมือนครอบครัวเดียวกัน



สิ่งสุดท้ายที่คุณหนูต้องการคือการเห็นคนในครอบครัวพลาดหวังเสียใจ



ดังนั้นเมื่อวาแสดงออกว่าชอบใคร...โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่อายุห่างกันถึงเจ็ดปีก็อดมาสอดส่องดูลาดเลาไม่ได้



Daisy's eyesสีสดใสมองทะลุปรุโปร่งสืบสาวดวงใจของทานตะวัน เพียงลอบสังเกตอยู่ห่างๆ และหยิบยื่นความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ เป็นบางครั้ง



หลังจากป่วนแกล้งกระตุ้นให้วาเกรี้ยวกราดเสียอาการกระทั่งลูกค้าคนใหม่เข้ามาตามนัดก็แยกย้าย คุณหนูคืนหนังสือเรียนให้น้องป่านอ่านขณะที่ตัวเองหยิบนิตยสารแฟชั่นขึ้นมาพลิกเล่นฆ่าเวลา สองขาเหยียดพาดบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาอวดรอยสักบนข้อเท้าขาว



ป่านลอบมองก่อนเผลอลูบสร้อยสีเงินรอบข้อเท้าตัวเองเล่นเช่นกัน คุณหนูเห็นดังนั้นก็หัวเราะเบาๆ นึกเหตุการณ์วันที่วามอบให้ก็อดแซวขึ้นมาไม่ได้



“สร้อยข้อเท้าสวย” ขับกับขาเรียวขาวที่โผล่พ้นกางเกงสีน้ำเงินขาสั้นให้ยิ่งน่าดู



วันนี้น้องป่านมาที่ร้านในชุดนักเรียนผิดจากหลายครั้งที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนด้วยไม่อยากให้เป็นที่สังเกตตอนเข้าร้านสัก ทว่าอาทิตย์นี้พี่วาไปรับจากโรงเรียนจึงอาจไม่มีโอกาสเปลี่ยน หรืออาจเพราะไม่จำเป็นต้องปกปิดอีกต่อไป



หรือเพราะรู้ว่าพี่วาชอบเห็นน้องในชุดนักเรียน ก็ไม่แน่ใจ



ที่แน่ๆ คุณหนูเข้าใจที่วาหวั่นไหว ก็น้องป่านในเครื่องแบบกางเกงสีน้ำเงินขาสั้นนั้นแสนจะน่ารัก ขนาดตัวเองที่มักจะหัวขบถต่อต้านเครื่องแบบยังรู้สึกว่ามันเหมาะกับน้องมาก เหมือนออกแบบมาพอเหมาะพอเจาะกับใบหน้าอ่อนใสและรูปร่าง



ใครๆ ก็ชอบมองชอบจ้องสิ่งสวยๆ งามๆ



“ทำไมคุณหนูถึงสักรูปดอกไม้เหรอครับ” ขวยเขินอยู่แวบหนึ่งป่านก็เป็นฝ่ายถามกลับบ้าง



ไม่ใช่คำถามเสียทีเดียว เป็นการชวนคุยเฉไฉเสียมากกว่า



“พี่เดย์เลือกให้” คนตอบยักไหล่คล้ายไม่ยี่หระ ทว่าใบหน้าขึ้นสีระเรื่อก็บ่งบอกว่ามีเบื้องความหลัง



ป่านลอบยิ้มลอบจินตนาการทว่าโดนจับได้ทันควัน



“ไม่ต้องยิ้มเลย เฮียเขาก็แค่เห็นว่าเหมาะกับข้อเท้าเราดีก็แค่นั้น”



ป่านหัวเราะ ยังไม่วายส่งสายตาหยอกเย้า “เหมาะจริงๆ ด้วยครับ น่ารักมาก”



จะแซวน้องไหงถูกแซวกลับ คนขี้แกล้งกลับเป็นฝ่ายหน้าแดงแจ๋แกล้งยกมือยีหัวน้องด้วยท่าทีมันเขี้ยวเบาๆ



เสียงหัวเราะของสองหนุ่มปะทะเข้าหูคนถูกพาดพิงที่เปิดประตูสตูดิโอออกมาพอดี ทว่าติดลูกค้าจึงได้เพียงเลิกคิ้วประหลาดใจก่อนเดินไปหลังเคาน์เตอร์คิดเงินพลางแนะนำวิธีดูแลแผลใหม่



ลูกค้าสาวสวยส่งสายตาแฝงความนัยชัดเจน ยิ่งผิดสังเกตเมื่อเจ้าหล่อนแกล้งสัมผัสปลายนิ้วมือหยาบตอนยื่นบัตรเครดิตให้



ป่านเห็นทั้งหมดจึงลอบมองท่าทีของทั้งเฮียทั้งคุณหนูที่จับจ้องอยู่เช่นกัน ทว่าเฮียไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ราวกับไม่รับรู้ถึงสัมผัสสัญญาณ ขณะที่คุณหนูก็เมินเฉยพอกัน



“คุณหนูครับ เฮียเจ้าชู้มากไหม” เห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกระซิบถาม



เฮียที่ป่านรู้จักคือผู้ใหญ่ เงียบขรึม ดูใจดีทว่าก็เข้าถึงยากมากๆ ในบางครั้ง



คุณหนูเลิกคิ้ว มองสงสัยสักพักก็ตอบคำถาม “เมื่อก่อนก็ใช่นะ เดี๋ยวนี้ยังจับไม่ได้”



“แล้วเวลาสาวๆ มาสัก คุณหนูหวงไหม” เท่าที่เห็นผ่านตาบางครั้งก็มีผู้หญิงสวยหุ่นดีมาที่ร้าน แถมช่างสักต้องใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัวกัน



คนเป็นแฟนคงรู้สึกตะขิดตะขวงใจบ้าง



“หวงสิ” ถึงจะตอบแบบนั้นทว่าคุณหนูก็ยังยิ้มมุมปาก



“แล้วคุณหนูทำยังไงครับ”



“ก็ทำใจ อาชีพเขา เราจะห้ามไม่ให้ทำก็ไม่ได้” คราวนี้สายตารั้นร้ายเหลือบสายตามองแฟนที่ยังคงคุยกับลูกค้า ลดเสียงแผ่ว “แต่มีข้อแม้นะ”



“เตียงที่เราสัก ใครก็ห้ามนั่งทับ”



“...”



“ตอนนี้เฮียเลยย้ายไปไว้ในห้องนอน ให้เราใช้คนเดียว”



ป่านคิดภาพตามทว่าเดียงสาไม่เข้าใจ “แต่คุณหนูมีรอยสักแค่ข้อเท้าที่เดียวนี่ครับ ไม่เห็นมีเพิ่มตรงไหน”



“หึ ก็แล้วใครบอกว่าเอาไว้สักล่ะ” คุณหนูหัวเราะ ดวงตาซุกซนสบตาก่อนเอียงตัวแนบข้างหูกระซิบเอ่ยความลับ “บนเตียงแคบๆ ...ตื่นเต้นกว่าเยอะเลยนะ :) ”



เสียงเจือเจ้าเล่ห์หยอกเย้าให้เด็กตกใจ และได้ผล เด็กน้อยตาตื่นหัวใจเต้นแรงเมื่อเข้าใจความหมาย มองกระเง้ากระงอดใส่คนบอกเล่าอย่างไม่รู้ว่าควรจะทำสีหน้ายังไง



ใบหน้าป่านร้อนจัดราวกับจะเป็นไข้ ได้แต่อึกอักตัดพ้อในใจว่าเรื่องแบบนี้ทำไมเอามาบอกกัน ก่อนจะโทษตัวเองที่เป็นฝ่ายถาม



แต่ไม่ทันได้เอ่ยอะไรต่อลูกค้าสาวสวยก็เสร็จธุระเดินออกจากร้าน หมดหวังสานสัมพันธุ์กับช่างสักที่ไม่มีทีท่าสนใจ หมดธุระเฮียก็หันมาทางพวกเขาเลิกคิ้วมองปฏิกิริยาแปลกๆ ของคนหนึ่งที่หน้าแดงเจ๋อเบิกตากว้างกับอีกคนที่หัวเราะคิกคัก ประหลาดใจแต่ก็พอจะเดาได้ด้วยรู้จักนิสัยแฟนตัวเอง



“แกล้งอะไรน้อง” ถามเจือรอยยิ้มไม่จริงจัง ได้รับคำตอบเป็นรอยยิ้มซุกซนก็หัวเราะ เปลี่ยนคำถาม



“หิวหรือยัง” คุณหนูส่ายหน้า ส่งสายตาออดอ้อนเช่นทุกครั้ง



“วันนี้ค้างที่นี่นะ” เฮียไม่ว่าอะไร เพียงยิ้มรับแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาเดี่ยว กวักมือเรียกให้แฟนตัวเองไปนั่งตัก กอดร่างบอบบางหอมกรุ่นซุกหน้าสูดซอกคอระดมจูบไล่ถึงขมับราวสูบซับพลัง



“สายตาสั้นขึ้นหน่อยแล้วมั้ง มองลายเล็กๆ ไม่ค่อยชัดเลย” บ่นงึมงำเรื่อยเปื่อยพลางหลับตาซบหน้าลงกับไหล่บางแช่ไว้อย่างนั้น



ป่านเคยชินกับฉากสวีทหวานของทั้งสองคนแล้วแต่ก็อดไม่ได้ที่จะลอบยิ้ม ให้เวลาส่วนตัวด้วยการก้มหน้าอ่านหนังสือทำทีไม่สนใจ



“ไหน” คงแนบเนียนแกล้งไม่สนใจได้หากคุณหนูไม่เปลี่ยนท่าหมุนตัวไปนั่งคร่อมตักแกร่ง สองมือประคองแก้มตอบสบตาห่างระยะหนึ่งแล้วยียวนถาม



“แบบนี้เห็นไหม”



พอเห็นคนรักให้ท่าคนเจ้าเล่ห์ก็ยิ้มร้ายรู้ทันวางมือลูบไล้เรียวขาขาว ไล้วนเล่นตรงรอยสักพลางส่ายหน้าตอบ



“แล้วแบบนี้” ดอกไม้น่ารักขยับชิดจนจมูกแตะกัน



เสือร้ายยังคงส่ายหน้า คราวนี้รอยยิ้มมุมปากคลี่จนเห็นเขี้ยวขาว หัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วเป็นฝ่ายเคลื่อนใบหน้าเข้าหา ริมฝีปากจรดริมฝีปาก



“สั้นขนาดนี้แล้วล่ะ” จุมพิตหยอกเย้าครั้งหนึ่งก่อนทาบทับตักตวงแสนหวาน ร้อนแรงกว่าทุกครั้ง ฝ่ามือใหญ่เลื่อนลูบผิวเนียนลามถึงใต้เสื้อยืดบีบเค้นผิวขาว ขณะที่คนตัวเล็กกว่าหลุดเสียงครางในลำคอถลำกอดลำคอแกร่งรั้งจูบลึกล้ำ



เนิ่นนานกระทั่งคุณหนูกระแอมเตือนพลางผลักอกคนรักออกห่าง ยังรู้ตัวเหลือบสายตามองป่าน “เด็กดูอยู่”



“งั้นพี่ไปเก็บของก่อน น้องเลือกร้านอาหารไว้เลยนะครับ” เฮียหัวเราะไม่ยี่หระ กดจูบขมับทิ้งไว้ก่อนผละจากเดินกลับเข้าไปในสตูดิโออีกครั้ง



ถึงตอนนี้ป่านก็ไม่มีสมาธิท่องตำรากวาดสายตาเพียงบรรทัดเดียวซ้ำไปซ้ำมาไม่ให้มีพิรุธ แต่ใบหน้าที่แดงไปถึงหูกับสายตาหลุกหลิกล้วนเป็นพิรุธ



แม้จะเคยชินกับฉากสวีทหวานแต่ก็ไม่เคยเห็นฉากจูบดูดดื่มแบบนี้จะๆ กับตาสักครั้ง อย่างมากก็จุ๊บกันเบาๆ เด็กน้อยจึงสติตื่นทำตัวไม่ถูก คุณหนูหัวเราะได้ใจกระโดดกลับมานั่งลงข้างป่านอีกครั้ง จ้องใบหน้าแดงแจ๋พลางคิดว่าเหยื่อกำลังติดกับ



วิธีแสดงออกเล็กๆ น้อยๆ กระทั่งดูดดื่มคงกำลังฝังจำลงในสมองชาญฉลาด



ที่ผ่านเห็นว่าน้องยังเป็นผู้เยาว์คู่รักเลยไม่อยากแสดงความรักโจ่งแจ้งนัก แต่วาน่ะชักช้า บื้อใบ้ เล่นตัวเกินไป แถมยังทึ่มทื่อ ซับซ้อนแสดงออกไม่ตรงกับใจ ความสัมพันธ์มันถึงต้วมเตี้ยมไม่ไปไหน เดินหน้าหนึ่งถอยหลังสาม อ้อมไปอ้อมมากว่าจะปลงใจยอมจีบน้องจริงจัง



แต่กระตุ้นฝั่งนั้นไม่ได้ผล ก็ยังเหลืออีกฝั่ง



เด็กขี้อายมีบางอย่างที่สะกิดใจให้คุณหนูรู้ว่าน้องก็ร้ายใช่ย่อยเหมือนกัน



...มีออร่าบางอย่างเหมือนตัวเองในบางครั้ง



ไม่แปลกที่จะคาดหวัง



เดซี่ซ่อนพิษเคยล่าเสือได้ยังไง



...กระต่ายน้อยซ่อนเขี้ยวเล็บก็คงล่าอสรพิษได้เหมือนกัน






☀ ------------------  #มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน -------------------☀

คุณหนูคือตัวร้ายของเรื่องนี้ล่ะ 55555

ตอนพิเศษสั้นๆ แทรกๆ (และจะมีแทรกอีกหลายตอน)

หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะคะ



ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ

รักมากๆ

-Martian-




หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายพิเศษ 1 : Daisy - 22.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 22-07-2019 10:08:06
 :pig4:
 :L2:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายพิเศษ 1 : Daisy - 22.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 22-07-2019 13:12:34
ชอบมากกกกก เจ้าเดซี่ตัวแสบของเฮียยยย ไปหย่อนเมล็ดพันธุ์ไว้ให้ป่านน้อยได้เกิดความอยากรู้ อยากลอง ร้ายยยยยยย  :man1:
หัวข้อ: Re: ☀ Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายพิเศษ 1 : Daisy - 22.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 22-07-2019 13:24:34
ชอบคู่เฮียกะคุณหนู ร้อนแรง ได้ใจ  :hao6:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายพิเศษ 1 : Daisy - 22.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 22-07-2019 21:04:56
5555 คุณหนูทำป่านเสียคนนะคะ ถึงน้องจะซุกซนอยู่แล้วก็เหอะ
ป่านก็ร้ายไม่เบาน้า มีโมเมนท์ของวัยฮอร์โมนพุ่งมากจ้า

แล้วอะไรคือมาหยอกพี่แบบเนียนๆ พี่ก็กลับไปเรียนไม่ทันแล้ว
ป่านดูทันพี่มากกว่าอีกน่ะ แล้ววาคืออะไร ทำเข้มเพื่อหนีน้อง
แต่ใจนี่เพ้อมากนะคะ อาการออกชัด และแสดงออกลับหลังเก่ง

จากได้เจอขาอ่อนขาวๆ ตอนนี้ไม่รู้วาจะได้เจออะไรอีก
ป่านต้องรายงานความคืบหน้าให้ครูรู้ไหมล่ะนั่น

คุณหนูกับเฮียคือแซบหลาย ดูร้อนแรง แต่มุ้งมิ้ง  :hao3:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายพิเศษ 1 : Daisy - 22.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 23-07-2019 09:45:39
อยากเห็นพี่วา หัวหมุนแล้วอ่ะะะ  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่9 : Secret - 23.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 23-07-2019 20:39:54
ลายที่ 9

Secret

(พร่างพรายเสน่หา)


เหมียว~



ใครบางคนมีความลับ



“วันนี้ป่านไปกับเพื่อน หม่ามี้ไม่ต้องมารับนะครับ” เจ้าเหมียวเงยหน้าสบตาเจ้าของฝ่ามือที่กำลังลูบหัวมัน ดวงตาสีอำพันคล้ายมองค่อนแคะ

เพื่อนที่ไหนกัน เด็กเลี้ยงแกะ



[เพื่อนคนเดิมอีกแล้วเหรอ เขาชื่ออะไรนะจ๊ะ หม่ามี้รู้จักหรือเปล่า] ป่านอึกอัก เด็กดีไม่เคยโกหกหม่ามี้เลยสักครั้ง... มีแต่เรื่องที่ปิดบัง พอถูกถามตรงๆ หัวใจเลยลุกลนลนลาน หาคำตอบสารพัด สุดท้ายก็ลงเอยที่



“ชื่อโมโจครับ” ไม่ได้โกหกนะ โมโจก็เป็นเพื่อนป่าน “เป็นเพื่อนที่เรียนพิเศษ หม่ามี้ไม่รู้จักหรอกครับ”



ถึงไม่ได้มาเรียนด้วยกันแต่ร้านสักก็อยู่ระแวกนั้น และหม่ามี้ก็ไม่รู้จัก...



เหมียว~



ก็ได้ ป่านโกหก เด็กดีกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะโดยมีเจ้าแมวจรบนตักเป็นพยาน



ความจริงแท้คือเมื่อโกหกหนึ่งครั้งก็จะต้องมีครั้งที่สองครั้งที่สามผูกทอดคำโกหกต่อๆ ไป ผูกเงื่อนรัดแน่นจนหนีไปไหนไม่ได้



[หม่ามี้ดีใจนะที่ป่านออกไปไหนมาไหนกับเพื่อนบ้าง ป่านเอาแต่หมกตัวอ่านหนังสือหม่ามี้เป็นห่วงนะคะ] โดยเฉพาะคำโกหกที่ทำให้อีกฝ่ายสบายใจ [ยังไงก่อนกลับโทรบอกหม่ามี้หน่อยนะคะ]



“ครับ” รับปากยิ้มเจื่อนด้วยความรู้สึกผิดที่ปิดบัง



แต่จะให้บอกว่าไปขลุกตัวอยู่ที่ร้านสัก... ผู้ใหญ่คงไม่เข้าใจ ถึงแม่ของป่านจะเป็นคนหัวสมัยใหม่แต่ป่านก็ไม่แน่ใจว่าจะบอกทุกเรื่องได้ โดยเฉพาะเรื่องสัก เรื่องพี่วา...



ใช่ว่าป่านจะไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่พี่วามารับมาส่งคืออะไร แถมยังพูดเพราะ ทำตัวน่ารักๆ ... ความเปลี่ยนแปลงกะทันหันเล่นเอาป่านตั้งรับไม่ทัน ไม่ต้องคิดถึงเลยว่าถ้าคนเป็นแม่รู้ว่ามีชายฉกรรจ์อายุมากกว่ากันตั้งแปดปีมาจีบลูกตัวเองจะเป็นยังไง



ถ้ารู้ว่าป่านเองก็ตั้งใจจะจีบเขา... จะคิดยังไง



ใช่ ป่านตั้งใจจะจีบพี่วากลับ เพื่อความยุติธรรม เพราะอยากรู้จักพี่วามากขึ้นป่านจึงไม่รอเป็นฝ่ายโดนสืบสาวสำรวจหัวใจแค่ฝ่ายเดียว



ถ้าเราก้าวมาข้างหน้าคนละก้าว ความสัมพันธ์ก็น่าจะเดินหน้าดั่งใจ จริงไหม?



“นั่นรอยสักเหรอ” ความคิดฟุ้งซ่านถูกปัดกระจัดกระจายด้วยเสียงแหบห้าวเพิ่งแตกหนุ่ม ป่านสะดุ้งหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นกลุ่มเด็กผู้ชายร่วมชั้น



ป่านไม่เคยคุยกับพวกเขาเพราะวิถีในโรงเรียนไม่มีอะไรเกี่ยวโยงให้ทำความรู้จักกัน เคยเห็นหน้าเพียงผ่านและเห็นพฤติกรรมผิดกฎระเบียบตามประสาวัยคะนองเป็นบางครั้ง



ไม่เคยคิดแพร่งพรายเพราะป่านเองก็มีความผิดที่ต้องปกปิดเหมือนกัน



กางเกงขาสั้นที่ชายเลิกเต่อเพราะนั่งคุกเข่าเผยสีสันลวดลายของหางปลาสะบัดไหวโดยไม่รู้ตัว ถึงอย่างนั้นป่านไม่แสดงท่าทีกระโตกกระตาก เพียงอุ้มเจ้าแมวจรมอมแมมออกจากตักวางกระป๋องอาหารให้มันกินตามอัธยาศัยแล้วลุกขึ้นดึงชายกางเกงปกปิดรอยสักที่โผล่แพลมแล้วทำท่าจะเดินหนีไป



ท่าทีไม่ใส่ใจกลับยิ่งยั่วโทสะ เด็กหนุ่มตัวโตที่สุดเดินมาขวางหน้า อีกสองคนขนาบหลังต้อนสู่สถานการณ์คับขัน



“มึงใช่ไหมที่เอาเรื่องพวกกูสูบบุหรี่ไปฟ้องครู” ป่านเลิกคิ้วงุนงง



“เปล่าครับ” จริงอยู่ว่าป่านเป็นคนเห็นเหตุการณ์ แต่จะหาเรื่องใส่ตัวให้ยุ่งยากทำไม ในเมื่อก็มีชนักติดหลังเหมือนกัน



“ถ้ามึงไม่บอกแล้วครูจะรู้ได้ยังไง” ป่านส่ายหัว จะรู้ได้ยังไง



“ดีเลยพวกกูก็จะไปฟ้องเหมือนกันว่ามึงสัก” ว่าจบคนหนึ่งที่ขนาบหลังก็เข้ามาล็อกแขนทั้งสองข้างไม่ให้ขัดขืน คนหนึ่งมือถือออกมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากำลังปิดกล้องถ่ายวิดีโอ



“ปล่อยนะ! เราไม่ได้เป็นคนฟ้อง” สถานการณ์คับขันป่านพยายามขืนตัว มองหาความช่วยเหลือทว่าห้องน้ำด้านหลังอาคารหลักเลิกเรียนเงียบสงัด ไม่มีแม้แต่ยาม



“จับไว้ กูจะถอดกางเกงมันให้เห็นรอยสักชัดๆ” หัวโจกซึ่งตัวโตที่สุดเข้ามาประชิดตัวสองมือพยายามจะถอดเข็มขัดนักเรียน



“อย่าถอดนะ! เราไม่ได้สัก อย่ามายุ่งกับเรา!” ป่านดิ้นพล่านพยายามยกสองขาถีบท้วงแต่ก็สู้แรงไม่ไหว สุดท้ายเข็มขัดก็ถูกปลดทิ้งไป



“ถ้าไม่มีรอยสักจริงก็เอาให้พวกกูดูดิวะ กลัวอะไร” แต่ละคนหัวเราะล้อยังคงพยายามปลุกปล้ำไม่ได้มีท่าทีเห็นใจสีหน้าซีดสลดของเด็กน้อยที่น่าสงสาร



ดวงตาสองข้างเริ่มน้ำตาเอ่อคลอไม่คิดฝันมาก่อนว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดกับตัวเอง ยื้อยุดจนหมดเรี่ยวแรง ได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือทั้งที่ความหวังริบหรี่



“เออ แน่จริงถอด...”



“เฮ้ย ตรงนั้นน่ะ มีอะไรกัน!” สะดุ้งกันหมดเมื่อได้ยินเสียงคำราม มีเพียงป่านที่ตอนนี้ดวงตาเกิดม่านพร่าน้ำตามองเห็นรูปร่างของคนที่วิ่งเข้ามาพร้อมน้ำเสียงต่ำก้องก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร



“พี่...” วา... มาได้ยังไง



ไม่ต้องรอให้ถึงตัวพอเห็นชายตัวโตคิ้วขมวดเคร่งน่ากลัวเดินเข้ามาสามเด็กอันธพาลก็ปล่อยป่านเป็นอิสระ ยืนยักแย่ยักยันอึกอัก



ดวงตาคมกริบกวาดมองเด็กสามคนนั้นยังไม่ตัดสินอะไรแล้วกันไปคุยกับคนของตัวเอง “เห็นไม่มาที่รถสักที เลยมาตาม”



ยิ่งขมวดคิ้วขุ่นอารมณ์เมื่อเห็นสีหน้าผวาพร้อมสภาพยับเยินของน้อง ทว่าพี่วาไม่ใช่อันธพาล และเป็นผู้ใหญ่พอจะใจเย็นเอ่ยถามสถานการณ์



“แล้วตกลงมีเรื่องอะไร พวกนี้มันทำอะไรเรา”



“แค่นี้มึงต้องฟ้องพ่อเลยอ่อวะ”



“พี่ก็พอมั้ง” แต่จะเริ่มเย็นไม่ไหวเมื่อเจอเด็กปากหมา ซ้ำยังเหลือบสายตาไปเห็นเข็มขัดจากชุดนักเรียนของป่านที่ถูกประชากทิ้งอยู่บนพื้น



“พี่ครับ...ไม่เอา” ได้ยินน้ำเสียงกดต่ำขมวดคิ้วขึ้งขวางน่ากลัวกว่าทุกคราวป่านจึงเข้าไปเกาะแขนปราม



“พี่ถามว่ามันทำอะไร” เลือดขึ้นหน้าแค่ไหนถึงกลับมาถามน้องเสียงต่ำ ดวงตาวาวโรจน์แบบที่ป่านก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน



“ไม่มีอะไรครับ เรากลับกันเถอะ...นะครับ”



“จะบอกเองหรือให้เค้นจากพวกมัน” เสนอทางเลือกลำบากใจ ป่านได้แต่มองซ้ายมองขวาก่อนเขย่งตัวกระซิบข้างหูสารภาพ



“พวกเขารู้ว่าผมสัก... จะหาหลักฐานไปฟ้องอาจารย์...”



“...” คิดว่าบอกความจริงจะทำให้คุกรุ่นเย็นลงบ้าง ให้เห็นว่าป่านเองก็มีชนักติดหลังพี่วาจะได้ไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม



ทว่าดูท่าจะไม่คลี่คลายอย่างที่หวัง เมื่อแขนที่จับเกร็งขึงเพราะมือกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาจนสัมผัสได้



“พี่ครับ...” ในหัวหวีดร้องส่งสัญญาณอันตราย ไม่ใช่แค่พวกอันธพาลที่ซีดสั่นลุกลน ป่านเองก็เริ่มไม่แน่ใจว่าจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้เช่นกัน



“ไปรอที่รถก่อนไป” เสียงพี่วาคำรามต่ำ บ่งบอกว่าถึงขีดจำกัด



“พี่...” ป่านไม่เคยเห็นพี่วาโมโหจริงจังแบบนี้ ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง จะพูดคำไหนจะทำให้ใจเย็นลงได้ได้แต่อึกอักสีหน้าเบะบึ้งคล้ายจะร้องไห้



“เออน่ะ พี่ไม่ฆ่าใครหรอก ไปรอที่รถ” เห็นแก่สีหน้าเว้าวอนคลอน้ำตาแสนน่ารัก พี่วาจึงเริ่มใจเย็นเอ่ยคลายกังวลด้วยสีหน้าจริงจัง



“ไม่ฆ่าจริงนะ” แต่เด็กน้อยยังไม่อาจวางใจ พี่วาจึงแกะมือน้องออกจากแขนจับให้หมุนตัวไปทางที่เขาเพิ่งเดินมามือหนาลูบหัวแผ่วเบาพลางยิ้มรับ



“ครับ”



“งั้นก็ได้ครับ”



เมื่อป่านยอมเดินจากไปพ้นจากปัญหาพี่วาจึงหันกลับมามองหน้าพวกเด็กเกเรอีกครั้ง เรียงคน หัวจรดเท้า



“ส่วนพวกมึงอ่ะ”



คนมุทะลุเลือดร้อนเดิมทีตั้งใจจะสั่งสอนเด็กอันธพาลให้หลาบจำ แต่พี่วาไม่ได้อยากทำให้น้องเดือดร้อน แค่อยากจะเจรจาประนีประนอมเท่านั้น



“ตามกูมา”



รับรองว่าคลี่คลายหมดจดด้วยเมตตา ไร้ปัญหารังควานตามหลัง









โฮ่ง



ใครบางคนมีความลับ



“พี่ทำอะไรไว้ครับ” เสียงปิดประตูดังปังตามมาพร้อมสีหน้าบูดบึ้งของเด็กมัธยมที่เพิ่งหอบดอกไม้ช่อโตเด่นหราเดินออกมาจากโรงเรียน



“อะไร” คนถูกถามเลิกคิ้วไม่เข้าใจ มองช่อดอกไฮเดรนเยียสีน้ำเงินขาวในมือสลับกับใบหน้าน้องอย่างไม่เข้าใจ เกือบจะขุ่นเคืองถ้าป่านไม่เร่งอธิบาย



“เนี่ย พวกเมื่อวานเอาดอกไม้มาไหว้ผม ขอขมา”



ภาษาดอกไม้ ไฮเดรนเยียแปลว่าขอโทษ ขออภัย



โถ พี่วาก็คิดว่ามีหนุ่มที่ไหนมาจีบทับรอย



“โห เล่นใหญ่ว่ะ” พอรู้แบบนั้นก็โล่งใจ คิ้วขมวดกลายเป็นยิ้มระรื่นถือวิสาสะรับดอกไม้ในมือน้องไปวางไว้เบาะหลังข้างโมโจที่พามารับด้วย



เพี้ยะ!



ท่าทีไม่ยี่หระเลยโดนน้องฟาด แขนกำยำวันนี้ไร้ความเครียดเกร็งปูดโปนน่ากลัว



ที่จริงก็ดูหายโกรธตั้งแต่เมื่อวานแล้ว หลังจากทิ้งป่านให้กระวนกระวายอยู่พักใหญ่พี่วาก็กลับมาพร้อมสีหน้าเรียบเฉย คืนเข็มขัดให้ไม่ยอมบอกอะไร ถามก็ตอบคลุมเครือว่าเจรจาสงบศึก แต่เจราอีท่าไหนวันต่อมาพวกเด็กเกเรถึงได้พฤติกรรมกลับตาลปัตรจากหน้ามือเป็นหลังเท้า หอบดอกไฮเดรนเยียช่อโตมาขอขมาอล่างฉ่างจนป่านโดนเพื่อนนินทาทั้งห้อง



“ผมซีเรียสนะ พี่ทำอะไรครับ”



“พี่แค่ถาม... ว่าหนูสักรูปอะไร” ไม่ต้องมาหนงมาหนูเลย ไอ้สรรพนามมุมิน้ำเสียงออดอ้อนนี่เพื่อจะกลบเกลื่อนความผิดใช่ไหม



“แล้ว?” ถ้าเป็นปกติป่านคงหวั่นไหว แต่ตอนนี้... ถึงใบหน้าจะเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อนิดๆ ก็ยังไม่วางใจ



แค่ถามว่าสักรูปอะไรเฉยๆ จะพลิกสถานการณ์ลบเป็นบวกขนาดนี้ได้ยังไง ถ้าไม่แฝงด้วยข่มขู่...



“ถ้าตอบได้... จะควักลูกตาให้โมโจกิน” คำขู่เลือดเย็นจากปากชายฉกรรจ์ท่าทางน่ากลัว เด็กมัธยมที่ไหนจะไม่ผวาบ้าง



โฮ่งๆ



แถมผู้สมรู้ร่วมคิดยังส่งเสียงเห่าคำรามรับ



“พี่ครับ...”



คงไม่ได้จะควักลูกตาใครจริงๆ ใช่ไหม









พอถึงร้านป่านก็อาสาหาแจกันมาใส่ไฮเดรนเยียประดับเปลี่ยนบรรยากาศ พี่วาอยู่ในสตูดิโอกำลังสักให้ลูกค้าคงอีกประมาณชั่วโมงกว่าถึงจะออกมา



จะว่าไปพอมาป้วนเปี้ยนอยู่นานเข้าองค์ประกอบแสนดิบเปลือยจากเจ้าของร้านชายฉกรรจ์แห้งเหือดสองคนก็คล้ายจะโอนอ่อนลงไม่รู้ตัว พอคุ้นเคยกันป่านกับคุณหนูก็เริ่มหาสิ่งโน้นสิ่งนี้มาประดับ ต้นไม้ หนังสือ ของตกแต่งบางชิ้นเข้ามาเติมแต่งสีสันให้ร้านที่เคยแข็งกระด้างดูเป็นมิตรขึ้นอย่างเห็นได้ชัด



“ดอกไม้สวย น้องป่านซื้อมาเหรอ” เฮียที่เพิ่งเดินเข้ามาจากหลังร้านเอ่ยทัก วันนี้ไร้เงาคนรักเพราะคุณหนูไปธุระต่างจังหวัด



ป่านรู้เพราะอยู่ในกลุ่มไลน์ Sunday morning เช่นกัน... กรุ๊ปไลน์ครอบครัวที่มักจะแจ้งเตือนในตอนเช้าบอกอรุณสวัสดิ์ แจ้งธุระ หรือแม้แต่ส่งรูปอาหารเช้าก่อนต่างแยกย้ายไปใช้ชีวิตประจำวัน



“มีคนให้มาน่ะครับ” ป่านยิ้มรับไม่ได้สาธยายที่มา ทว่าเฮียกลับเอ่ยถามเข้าประเด็น



“เมื่อวานไอ้วาบอกว่าน้องป่านมีเรื่อง เป็นอะไรไหม ถ้ามีอะไรบอกพี่กับคุณหนูได้นะ คนนั้นเขาหัวร้อนใหญ่บ่นว่าถ้าไม่ติดงานคงจะมาเคลียร์ให้”



ป่านหัวเราะ นึกภาพคุณหนูหัวร้อนไม่ออก “ไม่เป็นไรแล้วครับ พี่วาจัดการให้แล้ว”



เฮียเลิกคิ้ว ส่งเสียงอ้อเบาๆ ก่อนเดินไปนั่งหลังเคาน์เตอร์จัดการงานที่คั่งค้าง



ป่านจัดดอกไม้เสร็จไม่มีอะไรทำ อีกอย่างป่านมีคำถาม



“เฮียครับ” เลียบๆ เคียงๆ ไปยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ท่าทางอึกอัก ตัดสินใจไว้แล้วว่าจะถามเพราะต้องการรู้หลายๆ เรื่องของพี่วา

ก็จะจีบเขานี่นา



“ทำไมพี่เขาไม่มีแฟนล่ะครับ” ค้างคามานาน คนรูปร่างหน้าตาอย่างพี่วาทำไมถึงยังครองโสดมานาน



คุณหนูบอกว่าเขาไม่มีแฟนมาตั้งแต่สมัยมหาลัย ไม่พูดถึงความรัก ถึงจะมีสัมพันธ์ชั่วคราวสนองความต้องการบ้างแต่ก็ไม่เคยคบกันจริงจัง



แต่เท่าที่เห็นพี่วาไม่ใช่คนเจ้าชู้มีลูกค้าหน้าตาดีพยายามเล่นหูเล่นตาก็ไม่เคยเห็นมีทีท่าสนใจ เมินเฉย ออกจะปัดรำคาญด้วยซ้ำ ไม่รู้เพราะอะไร ถ้ามีแฟนแล้วอย่างเฮียก็พอเข้าใจได้ จะว่าเกรงใจป่าน... ทั้งสองคนก็ยังไม่คืบหน้าถึงขั้นนั้น



“มันบอกเหรอว่าไม่มี”



“เอ๊ะ พี่เขามีแล้วเหรอครับ” ป่าหน้าเหวอเมื่อถูกย้อนถาม เกือบจะคิดว่าตัวเองคิดเองเออเองถ้าเฮียไม่หุดหัวเราะยักไหล่ยียวน



“ไม่มี”



“...” เพิ่งรู้เดียวนี้ว่าคนนิ่งขรึมแบบเฮียก็มีมุมขี้แกล้งเหมือนกัน ...ไม่รู้ว่าติดมาจากเพื่อนหรือแฟน



“หึ ก่อนหน้านี้ก็มีบ้าง แต่เลิกหมดแล้ว หาคนรสนิยมตรงกันยาก”



“รสนิยม? ... หมายถึงเพศ?” ไม่สิ พี่วาเคยคบผู้หญิงมาตลอด หรือถ้าอยากจะคบผู้ชายใช่ว่าหน้าตาแบบนั้นจะหาคนที่เข้าตาไม่ได้



“เปล่า”



“ผมไม่เข้าใจ” ทำไมตัวตนของพี่วาถึงได้ดูจะมีอะไรซับซ้อนกว่าที่ป่านคิด



...อะไรบางอย่างที่ป่านสังหรณ์ทว่ายังไม่มั่นใจ



“ไปถามมันเองสิ”









ในเมื่อเดินหน้าแล้วป่านก็ไม่ลังเลที่จะถาม



“เฮียเขาว่ามาอย่างนั้นน่ะครับ” เมื่ออยู่ตามลำพังป่านก็เล่าบทสนทนาที่เพิ่งคุยกับเฮียให้ฟัง สีหน้ายังดูสับสนทว่าก็คล้ายจะคลี่คลายบางอย่างไปพร้อมกัน



“ไอ้เหี้ยเฮีย”



ใครบางคนมีความลับ ความลับที่ส่งกลิ่นพร่างพราย คล้ายจะมองเห็นแต่ยังจับต้องไม่ได้



“หมายถึง... เรื่องอย่างว่า เหรอครับ”



“...” การไม่ตอบ ก็คือคำตอบที่ชัดเจน



“ใช่จริงด้วย” ดวงตาของเด็กหนุ่มเปล่งประกายอ่านยาก ส่องสว่างย้อนกลับสู่ความทรงจำครั้งหนึ่งที่กลับมาสักซ้ำ



‘ต้องทำขนาดนี้จริงๆ เหรอครับ’ คล้ายพิธีกรรมประหลาด คล้ายกลั่นแกล้ง เรียวขาขาวเปลือยเปล่าถูกล็อกแน่นกับเตียงสัก



‘เออน่า กันไว้ คราวก่อนทึ้งผมกูแทบร่วงหมดหัว’ ข้ออ้างมาพร้อมสีหน้าขบขัน ดวงตาวาวชวนให้รู้สึกหวามประหลาด



ทว่าไม่คิดต่อต้าน เพราะภายในอกเต้นตุบด้วยความตื่นเต้นเร้าให้อยากรู้ว่าคนพี่ต้องการจะทำอะไร



‘งั้นทำไมไม่ล็อกมือล่ะครับ’ ต่อล้อไม่อาจซ่อนรอยยิ้มมุมปากร้ายพอกัน



‘...’



‘พี่...’



‘หึ’ ยิ่งได้ใจเมื่ออีกฝ่ายจนคำถาม หลุดยิ้มเผยธาตุ แกล้งกระเง้ากระงอดหยอกเย้า



‘โธ่ อย่าแกล้งกันสิครับ’



...เพราะแบบนี้ของเล่นแปลกปลอมถึงได้โผล่เข้ามาในห้องสัก



“กุญแจมือ เอาไว้ใช้กับเรื่องแบบนั้นเหรอครับ” เดิมไม่คิดอะไร เพราะนึกว่าเป็นเพียงการล้อเล่นแกล้งให้น้องหวั่นกลัว



พี่วาได้แต่เงียบงัน ครุ่นคิด คิดหนัก แต่เมื่อถูกจับได้แล้วก็ไม่มีประโยชน์จะเฉไฉปฏิเสธ ดีเสียอีกที่ได้สารภาพก่อนถลำลึก ไกลกว่านี้อาจถอนตัวยากเป็นเหตุพังความสัมพันธ์เหมือนที่ผ่านมา



นอกจากนิสัยใจคอ อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้ชีวิตรักเจอทางตัน คือรสชาติเซ็กซ์ที่ไม่อาจเข้ากัน



“พี่เข้าใจนะถ้าเรารับไม่ได้”



ถ้าน้องจะตีตัวออกห่างตอนนี้ก็คงพอทำใจ...



“บอกแล้วเหรอครับว่าผมรับไม่ได้”



“…” ทว่ากระต่ายน้อยไม่เดียงสาอย่างที่เข้าใจ



“เจ็บกว่าตอนสักไหมครับ” ตั้งใจจะเล่นกับงูพิษมีหรือจะไม่เตรียมใจไว้



“ก็อาจจะ...”



“เหรอครับ” เหนือกว่าความตื่นตระหนกคือตื่นตาตื่นเต้นเมื่อรับรู้ถึงอันตราย



“...”



“บางครั้ง ความเจ็บปวดก็เป็นศิลปะนะครับ... พี่ว่าไหม”



อยากรู้ อยากเห็น อยากพิสูจน์ ว่าพิษนั้นจะร้ายแรงแค่ไหน






#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

เขียนตอนนี้แล้วตื่นเต้น ไม่รู้จะทอล์กอะไรเลย

ขอก๊อปคำชี้แจงที่เคยโพสต์ในเฟส/ทวิตมาแปะหน่อยแล้วกันนะคะ (ฮา)



เราเพิ่งเพิ่มWarning BDSMตรงหัวบทความเรื่อง #มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน มาค่ะ

ถ้าใครเคยอ่านในทวิตหรือเล่มบทสนทนาจะพอรู้ว่ามีฉากพันธนาการและการใช้อุปกรณ์นิดหน่อย

ถามว่ารุนแรงมากมั้ยตอบเลยว่าไม่ค่ะเพราะเขียนไม่เป็น 55555 เป็น BDSM ซอฟต์ๆ พอเซ็กซี่ๆ

เดิมเขียนเตือนไว้หน้าบทความเฉยๆ เพราะคิดว่าน่าจะตัดเข้าโคมไฟซะเยอะ

แต่เพื่อให้เข้าใจตรงกัน (หรือหลีกเลี่ยง) เลยเตือนไว้ก่อนดีกว่าเนอะ



ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ

รักมากๆ

-Martian-

หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 9 : Secret - 23.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: TamuNe ที่ 23-07-2019 21:03:44
น้องลู๊กกก​ เดี๋ยว​อิพี่ก็ตะบะแตกหรอกค่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 9 : Secret - 23.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 23-07-2019 21:10:41
โอ้ยยย

ก็เป็นแบบนี้คนพี่จะทนไหวได้ไง
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 9 : Secret - 23.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 23-07-2019 21:23:09
งุ้ย..ยยยยยยยย     เป็นแบบนี้นีเอง    :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 9 : Secret - 23.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 23-07-2019 22:20:59
น้องงงงงง อย่าเล่นกับไฟฟฟฟ  อิพี่มันไม่ธรรมดาา #คนอ่านเช็ดกำเดารอ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 9 : Secret - 23.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: TheSpaceOfM ที่ 24-07-2019 02:07:03
จุดนี้พี่กับน้องจะทำอะไรกัน จะยังไงจัดไปเลยค่ะ คนพี่นี่ทุ่มสุดตัว คนน้องก็ใจสู้ ใจมันได้ ฮือออ อยากอ่านต่อไม่ไหวแล้ว ตอนที่ทั้งคู่รักกันมันต้องเต็มไปด้วยความรักและความหลงใหลมากแน่ๆเลยค่ะ รอติดตามนะคะ ส่งกำลังใจให้คุณนักเขียน
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 9 : Secret - 23.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 24-07-2019 05:53:12
น้องป่านจะถูกใส่กุญแจมืออออ แส้พร้อมเทียยพร้อม
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 9 : Secret - 23.07.2562 (P.5) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 24-07-2019 07:03:43
โอ้วววววววว
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่10 : Play - 25.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 25-07-2019 18:12:34
ลายที่ 10

Play

(ลวงเล่นบาป)


มีเด็กน้อยพยายามยั่วยวนเขา วารู้ทัน



เด็กตาใสที่ไม่ใสอย่างหน้าตากำลังหยอกเย้าเล่นกับสัตว์ร้าย ล่อให้อยากฝังเขี้ยวพ่นพิษ รัดรึง กลืนกินลงไป แทบคลั่ง แทบพ่ายแพ้ให้กับความเย้ายวน



กลิ่นหอมราคะ กลิ่นเยาว์วัยหวาน กลิ่นบาปต้องห้ามก่อกวนชวนให้หวามไหวงุ่นง่าน อยากรวบกินเสียเดี๋ยวนั้นทว่าต้องห้ามใจ



‘บางครั้ง ความเจ็บปวดก็เป็นศิลปะนะครับ... พี่ว่าไหม’



หึ ไปเอาคำพูดแบบนี้มาจากไหนกัน เด็กดื้อ



“เฮียครับ พี่เขา...ไม่อยู่เหรอครับ”



ไม่ทันหาวิธีตั้งรับเจ้าของเสียงหวานก็กลับมาคนขุ่นความคิดฟุ้งซ่านที่เพิ่งจะสงบไม่นาน หนึ่งวันเต็มๆ ที่วาโดนความร้ายเดียงสาสะกดลึกตรึงความคิดเวียนซ้ำไปซ้ำมา เล่นงานจนหัวใจเต้นตุบ ความรู้สึกบางอย่างพลุ่งพล่าน เมื่อกำแพงความลับที่ปกปิดไว้คลี่คลายง่ายดาย ความกังวลหนึ่งในร้อยของความสัมพันธ์ทลายจาง



“กินเหล้าอยู่หลังร้าน”



“กินเหล้า? เพิ่งหกโมงเย็นเองนะครับ”



ได้แต่หวังว่าวันนี้เนื้อหวานขบเผาะจะไม่ออกลายยั่วยวนตบะเขาเกินไปนัก



“อืม มันกำลังคิดหนัก”



“คิดหนัก เรื่องอะไรครับ?”



ไม่อย่างนั้นคงแตกเตลิดไม่มีใครควบคุมได้



“หึ ก็คิดหนักว่าจะยอมอกหัก หรือติดคุกฐานพรากผู้เยาว์”



...เพราะเขาเองก็ใช่ว่าจะอยากควบคุมมัน



เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอไม่ได้ทำให้คนที่นั่งอยู่บนพื้นรู้ตัว มือข้างหนึ่งคีบบุหรี่รมควันส่วนอีกข้างถือขวดเบียร์ที่หมดนานแล้วแต่ยังถือไว้อย่างนั้น ขมวดคิ้วครุ่นค้าง ข้างกันคือโมโจที่กำลังก้มหน้าก้มตากินอาหารเย็นไม่รู้เรื่องรู้ราว



หลังร้านไม่ใช่ส่วนน่าดูเท่าไหร่ ต่างจากหน้าร้านที่ถูกจัดวางอย่างต้อนรับ ด้านหลังเป็นเพียงครัวรกๆ เชื่อมต่อกับสวนเล็กๆ ที่กั้นระหว่างโรงรถกับตัวอาคาร ทว่าไม่ใช่สถานที่ต้องห้าม ไม่นานป่านก็เดินมาหยุดตรงหน้าร่างสูงที่นั่งเหยียดขายาว ดวงตาคมมองเห็นสร้อยข้อเท้าเป็นสิ่งแรก ไล่เรื่อยขาเรียวขาวอวัยวะได้สัดส่วนใต้ชุดนักเรียนผ่านตาอย่างช้าๆ กระทั่งสบดวงตาหวาน



“หวัดดี ผู้เยาว์” เลิกคิ้วประหลาดใจ ก่อนยกมุมปากยิ้มทักทาย



วันนี้พี่วาไม่ได้ไปรับเพราะติดลูกค้าที่จองคิวไว้ ป่านไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่การไม่ได้เห็นหน้าหลังจากตอบสนองความลับทำให้น้องติดใจ



พี่วาจำเป็นต้องใช้เวลาครุ่นคิดบางอย่าง ชั่งใจ ตัดสินใจ



“ผม...มารบกวนหรือเปล่า?”



“มานี่ดิ” แต่ไม่ต้องห่วง คำตอบนั้นแสนง่ายดาย



“...” ดวงตาววับท่าทางเจ้าเล่ห์ทำให้น้องไม่กล้าทำตามคำสั่งในทันที หรืออาจเพราะเกรงใจ



ไม่ใช่ด้วยสถานที่แต่กลัวใจที่จะอยู่ใกล้เขาต่างหาก



ก็ตอนนี้พี่วาอยู่ในสภาพที่น้องเคยชินเสียที่ไหน



เคยคิดว่าใส่สูทดูแปลกตาแล้ว ทว่าร่างกายเปลือยเปล่าตรงหน้านั้นแปลกตาไปกันใหญ่ เคยไม่กล้ามองยังไงก็ยังไม่กล้าอยู่อย่างนั้น ร่างกายกำยำใต้เสื้อผ้าที่เห็นเพียงแวบเดียวก็ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ยิ่งพอได้เห็นรายละเอียดบางอย่าง ใบหน้าน้องก็เห่อซ่าน



...พี่วาเจาะหน้าอกด้วย



บาร์เบลสีเงินสะท้อนแสงเตะตาอยู่กลางแมกไม้ลวดลายสวนสวยที่ลามขึ้นมาจากท่อนแขน เห็นแค่นั้นก็ได้แต่ก้มหน้ามองเท้า คล้ายจะสำรวจฝีเท้าที่ค่อยๆ ก้าวก่อนนั่งลงข้างๆ โดยมีโมโจคั่น



“เฮียบอกว่าพี่กำลังคิดหนัก แล้วคิดออกหรือยังครับ... ว่าจะเลือกทางไหน” งึมงำ ...เด็กใจกล้าเมื่อวานกลับเหลือเพียงเด็กน้อยขี้อาย ทั้งหน้าทั้งหูลามถึงคอกลายเป็นสีแดงจัดอย่างน่ามันเขี้ยว



“ออกแล้ว”



“หืม?”



เห็นแบบนี้จะไม่แกล้งได้ยังไง



“อ่ะ เอาไป” วาหยิบบางอย่างที่ซ่อนไว้ออกมาโยนใส่ตักเด็กน้อยที่เบิกตากว้างตกใจ



“ครับ? พี่... นี่มัน...กุญแจมือ?”



กลิ่นเก่าไม่ทันจางกลิ่นใหม่ก็กวนเคล้าเย้ายวนขึ้นมาอีกจนได้



“อือ”



“ทำไม…”



“กำลังอยากลองใช้อยู่พอดี”



กลิ่นบาปหวานอันตรายที่ไม่มีใครเกรงกลัว









มีผู้ใหญ่บางคนกำลังล่อลวงน้อง ป่านจับได้



“เจ็บไหม”



น้องส่ายหน้ามองพันธนาการเหล็กที่คล้องข้อมือล็อกแขนของคนสองคนเขาด้วยกัน มันเสียดสีบาดเนื้ออ่อนในทุกคราวที่ก้าวไปข้างหน้า บางครั้งฉุดกระชากตามจังหวะของผู้นำทางสี่ขา แต่กลับทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากกว่า



พี่วาบอกว่าจะพาโมโจมาเดินเล่น



คำบอกเล่าที่สร้างความเร้าใจด้วยผ้าปิดตาสีดำที่คาดไว้ขณะที่ยานพาหนะเคลื่อนที่โดยไม่รู้ทิศทาง ตลอดทางหัวใจป่านเต้นไม่เป็นส่ำ ความรู้สึกอธิบายยาก ตื่นเต้นระคนหวาดระแวง



แต่พี่วาไม่โกหก เมื่อเปิดตาออกมาสถานที่ตรงหน้าคือสวนสาธารณะที่ป่านจำได้ว่าอยู่ไม่ไกลจากร้านสักนัก พี่วาหัวเราะกับสีหน้าสับสน ก่อนจะเริ่มทำสิ่งที่น่าสับสนกว่าด้วยการล็อกข้อมือทั้งสองคนไว้ด้วยกัน



มันคือการทดสอบความไว้ใจ



ไม่เคยปรากฏในตำรา ยากจะเข้าถึงในสังคมที่ยังไม่เปิดกว้าง เส้นทางดำมืดจำเป็นต้องทำความเข้าใจ เขาไม่



อยากให้น้องตื่นตระหนกกับสิ่งที่ยังซ่อนไว้ จำเป็นต้องรู้ว่าเด็กน้อยอ่อนประสบการณ์สามารถรับตัวตนหลังม่านของเขาได้แค่ไหน



ไม่เร่งร้อน บุ่มบ่าม ไม่ควรให้เซอร์ไพรซ์ประสบการณ์ล้มเหลวในความสัมพันธ์สอนให้เขาค่อยๆ ก้าว



...แต่ถึงตอนนี้ก็ช้าเกินไปแล้ว



พอเอาเข้าจริงเขาก็เสียเวลาคิดครุ่นงุ่นง่านมากกว่าจะทำอะไรให้ได้ดั่งใจ เช่นตอนนี้นอกจากเดินตามโมโจไป



เรื่อยๆ ก็แทบจะไร้บทสนทนา



กระทั่งน้องต้องเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมา



“ผมมีอะไรจะให้ด้วยครับ” เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ป่านล้วงหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง



ยางรัดผมเล็กๆ ที่มีลูกปัดพาวเวอร์พัฟเกิร์ลสามเส้น



“ผมเห็นของพี่มันเก่าแล้ว” อมยิ้มมองคิ้วเข้มที่เลิกขึ้นสีหน้าตกใจ พี่วาอึกอักแต่สุดท้ายก็รับไปคล้องกับแขนอีกข้างของตัวเองไว้ปากบ่นพึมพำว่าน้องรู้ได้ยังไง



พี่ต่างหากที่ไม่รู้ไม่เคยเท่าทันว่าน้องสังเกตมานานแล้วว่านอกจากรสนิยมรุนแรงอีกขั้วหนึ่งพี่วากลับมีมุมสดใสเกินคาด



“ชื่อโมโจนี่มาจากโมโจ โจโจ้ใน The Powerpuff Girls เหรอครับ” บรรยากาศชวนประหม่าผ่อนคลาย ประเด็นหมกมุ่นถูกปัดเบี่ยงด้วยคำถามไร้เดียงสาที่ทำเอาคนถูกถามตาเป็นประกาย



“เฮ้ย รู้ได้ไง” โธ่ ก็นอกจากโมโจแล้วยังมีบับเบิ้ลส์ บลอสซัม บัตเตอร์คัพ แบบนี้จะไม่ให้เดาถูกได้ยังไง “ดูเหมือนกันเหรอ ชอบตัวไหน”



ป่านหัวเราะ ส่ายหน้า ผิดกันเลยกับพี่วาคนที่เพิ่งจะเอาแต่เงียบมาเป็นชั่วโมง “เปล่าครับ เห็นน้องผู้หญิงข้างบ้านดู”



ดวงตาซื่อใสเปลี่ยนเป็นรั้นร้าย เอ่ยประโยคล้อเลียน “เป็นอีกครั้งที่พวกเราปลอดภัย ขอบคุณเหล่าพาวเวอร์พัฟฟ์เกิลส์นะครับ”



คนถูกล้อหยุดชะงัก กะพริบตาปริบๆ ก่อนจะหลุดหัวเราะเบาๆ



เด็กร้าย



สองขาก้าวตามโมโจที่กระตุกให้เดินอีกครั้ง ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพักแม้แสงอาทิตย์ลาลับเหลือเพียงแสงไฟข้างทางล้อแสงตะวัน มือสองข้างยังคงถูกล็อกติด ลดเสียดสีเมื่อฝ่ามือที่ใหญ่กว่ากุมมือน้องไว้แล้วซุกลงกระเป๋าแจ็กเกตยีนที่สวมมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ



พี่วามักจะดึงมือของน้องไปซุกในกระเป๋าเมื่อมีคนผ่านมาเพื่อปกปิดสองมือที่พันธนาการ ทว่าตอนนี้สวนสาธารณะจะเกือบร้าง บริเวณที่พวกเขาเดินอยู่ก็ยังไม่มีใครผ่านมาสักคน



อาจเพราะหัวค่ำแล้วอากาศเริ่มเย็นขึ้นหน่อยล่ะมั้ง พี่คงกลัวน้องจะหนาว



“พี่ไม่ได้จีบใครมาหลายปีแล้ว” นานทีเดียวกว่าเสียงทุ้มต่ำจะเอ่ยขึ้นมาเคล้ากับเสียงลมพัดต้นไม้แผ่วเบา



ถ้าตัวคนเดียวป่านคงไม่มา แต่เพราะมีพี่วาอยู่ด้วย...คงไม่อันตราย



“งานรัดตัวแทบไม่มีเวลาว่าง คงไม่ได้ชวนออกไปกินข้าว ดูหนัง เดินห้างบ่อยๆ”



“ผมก็เหมือนกัน” เพราะใกล้จะถึงเวลาสอบเข้ามหาลัยนอกที่โรงเรียนกับสถาบันกวดวิชาก็แทบไม่ได้กระดิกตัวไปไหน แม้แต่ร้านพี่วาก็คล้ายจะเป็นสถานที่ติวหนังสือยามว่างของน้องมากกว่า



ดังนั้นป่านไม่ได้อยากเรียนรู้ตัวตนอีกคนผ่านการกินข้าว ดูหนัง แต่เป็นการได้เห็นเขาในแต่ละวัน สีหน้าคร่ำเคร่งตอนทำงาน รอยยิ้มทะเล้นร้ายียวนตอนเล่นกับเพื่อน หรือกระทั่งงอแงกระงอดกระเง้ากับลูกชายสี่ขาที่ไม่ค่อยเชื่อฟัง



ป่านรู้จักพี่วาจากสิ่งเหล่านั้น



หรือแม้แต่ความลับ...



“สิ่งที่พี่ต้องการคือการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ถามในสิ่งที่อยากถาม บอกในสิ่งที่ต้องการ” เรื่องรสนิยมบนเตียงของเขา ป่านรู้ว่ามันคือเรื่องสำคัญ อาจเป็นตัวกำหนดว่าความสัมพันธ์จะเดินหน้าไปด้วยกันหรือแยกทาง



“ป่านเข้าใจครับ”



เด็กน้อยเลือกที่จะร่วมทาง



“ถ้าอย่างนั้นพี่มีคำถาม” สองเท้าหยุดชะงัก ทั้งโมโจทั้งป่านหยุดชะงักตาม เงยหน้าสบดวงตาสีหม่นที่กำลังเปล่งประกายอ่านยาก “หนูไว้ใจพี่ไหม”



หม่นสลัวเผยวาววับของดวงตาอสรพิษร้ายล่อหลอกให้ลิ้มลองผลไม้รสหวาน



แอปเปิ้ลต้องห้ามส่งกลิ่นเย้ายวนอยู่ตรงหน้าใครจะห้ามใจ



“ตอบป๊ะป๋าสิคะ”



เด็กน้อยมองใบหน้าเรียบนิ่งท้ายทายก่อนเผยยิ้มเข้าใจความหมาย... ในแสงสลัวเงาไร้เดียงสากลับคืบกลืนด้วยรั้นร้าย



มันคือกาลเล่น มันคือเกมสวมบทบาท



คนหนึ่งคือทาส คนหนึ่งคือนาย



สอดประสานนิ้วมือที่ยังซุกซ่อนในกระเป๋า เขย่งสบตา ลมหายใจจรดได้กลิ่นแอลกอฮอล์จาง ก่อนเอ่ยกระซิบพร่าชิดริมฝีปาก



“Yes, Daddy”



...เราจะมาเล่นเกมนี้ไปด้วยกัน




#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

ต่างคนต่างล่อลวงงง เจ้าพวกร้ายกาจจจ ><



ถ้ามีอะไรผิดพลาดท้วงติงได้เลยนะคะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

รักมากๆ

-Martian-
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 10 : Play - 25.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 25-07-2019 19:37:59
บร๊ะะะะะ พี่วา บังอาจจะเป็น daddy เดี๋ยวเจอน้องวาคลานขึ้นตัก ละจะร้องไม่ออกกกกก
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 10 : Play - 25.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Shmew ที่ 25-07-2019 19:56:22
 :-[ :o8: โอ้โห  ต่างคนต่างร้ายย กลิ่นอายตีวละครเซ็กซี่มากค่ะ

มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 10 : Play - 25.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 25-07-2019 20:28:23
ตาย ตายๆๆๆๆ ขอยาดมที  :dont2:  ตอนแรกก็กังวลเป็นห่วงหนูป่านกลัวจะเดินหลงไปเข้าปากสิงโต  แต่ในเพลานี้นั้น .... คำถามเดียวสั้นๆ “ไหวไหม daddy?”  :z3:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 10 : Play - 25.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 25-07-2019 21:17:49
วี้ดดดดดดดดดดดดดดด จะเป็นลมมมมมมมมม :heaven
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 10 : Play - 25.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 25-07-2019 21:20:42
 :man1: :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 10 : Play - 25.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 26-07-2019 02:39:56
plss daddy !! ทางนี้เกียมยาดมแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 10 : Play - 25.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: M_Y MILD ที่ 26-07-2019 17:59:53
ncต้องมาแล้วปะคะ ตื่นเต้นนนนน
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 10 : Play - 25.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: aha_aha ที่ 27-07-2019 15:13:15
แซบ!! แซบแน่ๆ คู่นี้แซบแน่ๆ!!
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 11 : Riptide 27.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 27-07-2019 20:47:59
ลายที่ 11

Riptide

(ครืนคลื่นคลั่ง)


มีคนกำลังอารมณ์ดีผิดปกติ

               

ปกติแล้วเวลาที่หม่ามี้บอกว่าจะมารับช้าเพราะติดประชุมป่านมักจะมีสีหน้าเบื่อซึมเพราะต้องรอนาน แต่เดี๋ยวนี้นอกจากจะไม่ซึมเซื่อง กลับมีสีหน้าดีใจ ดวงตาเป็นประกายวาวจนสังเกตได้



“ป่านให้เพื่อนมาส่งก็ได้ครับ”



เหตุเพราะเด็กน้อยจะได้มีเวลาเถลไถลกับเพื่อนใหม่ที่หม่ามี้เพิ่งได้ยินชื่อไม่นาน



“โมโจเหรอจ๊ะ” เด็กเลี้ยงแกะชะงักไปนิดหน่อย ก่อนจะพยักหน้าไม่กล้าพูดอะไรอีกเพราะน้ำท่วมปาก



มือใหม่หัดโกหก ปดเพียงไม่กี่ครั้งก็ครั่นเนื้อครั่นตัวอยากบอกความจริงจะแย่ว่าโมโจเป็นเพียงสุนัขที่เจ้าของร้านสักเลี้ยงไว้



เจ้าของร้านสักที่ป่านซ่อนไว้ในความสัมพันธ์อธิบายยาก



ถึงจะยังไม่คืบหน้าไปไหนไม่มีอะไรชัดเจนแม้จะผ่านการเปิดใจเพราะทั้งพี่วาทั้งป่านต่างยุ่งกับภาระหน้าที่ของตัวเอง ตลอดทั้งเดือนนี้ตารางสักถูกจองจนแน่น พี่วาแทบไม่มีเวลาปลีกตัวไปไหน นอกจากไปรับป่านจากโรงเรียนมาที่เรียนพิเศษ หรือไปส่งบ้านเป็นบางครั้งทั้งสองก็แทบไม่ได้อยู่ด้วยกัน ในขณะที่เด็กม.6กำลังเข้าสู่ฤดูการสอบสารพัด ป่านเองถึงจะไปที่ร้านสักทุกวันแต่ก็แทบไม่ได้เงยหน้าจากตำราเรียน



“แล้วเรื่องสอบเป็นยังไงบ้างจ๊ะ ผลใกล้ออกหรือยัง” คิดถึงไม่ทันไรก็ถูกเอ่ยถาม



ก่อนหน้านี้ป่านเพิ่งลงสนามสอบแรกกับมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดัง คณะที่เลือกก็ไม่พ้นแพทยศาสตร์อย่างที่ตั้งใจ... อย่างที่หม่ามี้ตั้งใจ



ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่ช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาป่านรู้สึกว่าแม่จับตาการเรียนของป่านมากกว่าปกติแบบพลิกผัน จากที่เคยปล่อยให้ป่านเรียนรู้ตามครรลองก็เริ่มเข้มงวดสอบถาม แนวทางที่วางไว้ให้เริ่มเด่นชัด



“หม่ามี้ว่า...ป่านควรสอบคณะอื่นด้วยดีไหมครับ” หลายครั้งป่านอยากเอ่ยคำถามนี้ทว่าไม่มีโอกาส



“หืม ทำไมจ๊ะ ป่านกลัวสอบไม่ได้เหรอ”



“เปล่าครับ” ไม่ใช่ว่าทำข้อสอบไม่ได้ หรือกลัวไม่ผ่าน



ป่านเพียงไม่มั่นใจ... ไม่แน่ใจว่าทางที่กำลังเดินคือความต้องการของตัวเองจริงๆ ไหม



หรือเพียงเพราะรถไฟที่ออกตัวมาแล้วมีปลายทางที่คนอื่นกำหนดไว้



“แม่มั่นใจนะว่าป่านทำได้”



“...”

 

“สอบติดหมอให้หม่ามี้หน่อยนะคะ” 



ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่รถไฟขบวนนี้แล่นตรงไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่ทำให้ป่านไม่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ข้างทางได้ ไม่สามารถจอดแวะหรือมองหาชานชาลาอื่น



“ครับ” ...ช้าเกินไปที่จะกลับลำ “ยังไงวันนี้... ป่านอาจจะกลับดึกหน่อยนะครับ”

 







ในใจของเด็กน้อยมีแต่คำถาม คิดไม่ตก และได้แต่ปลงกับคำตอบจนหนทาง



มีบางอย่างในท่าทีพลิกผันของแม่ที่ป่านไม่เข้าใจ ท่าทีคาดหวังที่ทำให้ป่านเริ่มอึดอัดจนสัมผัสได้



โฮ่งๆ



แต่ความกังวลทั้งหลายก็ถูกปัดทิ้งทันทีที่เจ้าสี่ขาส่งเสียงทักทายพร้อมกระโจนเข้าใส่ คิ้วขมวดคลายปมเปลี่ยนเป็นหัวเราะนั่งคุกเข่าลงลูบหัวลูบหางโมโจอย่างมันเขี้ยว ก่อนเงยหน้ามองร่างสูงที่นั่งสูบบุหรี่อยู่ไม่ไกล



ดวงตาคมกำลังขมวดคิ้วมองน้องอยู่เช่นกัน สีหน้าเหมือนมีคำถามแต่ยังไม่ถาม เพียงดับบุหรี่ที่ยังสูบไม่ถึงครึ่งมวนแล้วขยับให้น้องมานั่งข้างๆ



“เป็นอะไร” ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ป่านไม่อาจซ่อนความรู้สึกตัวเองจากผู้ชายคนนี้ได้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พี่วาหัดสังเกตน้องจนเห็นแม้แต่ความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในแววตา



“เปล่าครับ” เห็นแม้แต่คำโกหกที่เอ่ยเพราะยังไม่พร้อมจะบอก



แม้จะเคยบอกให้สื่อสารกันอย่างตรงไปตรงมาอย่างเปิดใจ ทว่าไม่คิดคาดคั้นเรื่องที่ทำให้ลำบากใจ



รอยยิ้มจางๆ ประดับบนใบหน้าป่านอีกครั้งเมื่อในความเงียบงันสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วก้อยที่แตะลงบนนิ้วก้อยน้องพลางเกลี่ยไปมาเบาๆ แทนการปลอบประโลมไร้ถ้อยคำ ดวงตากลมมองเหม่อ ก่อนสะดุดลงตรงที่เขี่ยบุหรี่ข้างตัวแล้วหลุดถาม



“พี่สูบบุหรี่จัดนะครับ ” จากที่เห็นเศษมวนนิโคตินมากขึ้นจากครั้งล่าสุดที่ป่านนับ “มวนที่สี่แล้ว...”

 

“อยากให้เลิก?” พี่วาประหลาดใจที่น้องสังเกตถึงขนาดนั้น



แต่ถ้าให้พูดตามจริงนี่ยังน้อยไปด้วยซ้ำ เมื่อก่อนเขาสูบแทบจะทุกชั่วโมงที่ได้พัก มวนต่อมวนอย่างไม่กลัวปอดจะดำเพราะไม่เคยมาคอยนับคอยเตือน



ป่านส่ายหน้า อันที่จริงแค่เกิดสงสัยขึ้นมาต่างหากว่ามันช่วยให้รู้สึกดีจริงๆ ไหม ทำไมใครๆ ถึงใช้เป็นข้ออ้าง



...ป่านไม่กล้าถาม



“เพลาๆ หน่อยก็ดีนะครับ” ที่แน่ๆ โทษของมันมีคนพิสูจน์ให้เห็นมานักต่อนัก



“เป็นเมียพี่อ่อครับน้องถึงมาสั่ง” เด็กหนุ่มเงยหน้าสบตาคนที่กำลังเลิกคิ้วยียวนหยอกเย้าแกล้งถาม



จริงของพี่วา ป่านไม่มีสิทธิ์บังคับ



“เปล่า...” เอ่ยตอบด้วยแววตาจริงจัง “เป็นห่วงพี่น่ะครับ”



แววตาห่วงใยเปิดเผยชัดจนพี่วาอยากจะเอาบุหรี่ทั้งโลกมาทำลายทิ้งให้สิ้นซาก



“ครับ ยอม” เห็นทีพี่วาคงต้องหาทางลด ละ เลิกบุหรี่จริงๆ ก็คราวนี้ล่ะมั้ง

 

               





มีคนกำลังอารมณ์เสียผิดสังเกต

               

จะไม่ให้อารมณ์เสียได้ยังไง พี่วาหายไปทำงานไม่กี่ชั่วโมงกลับออกมาเจอเด็กของเขาในสภาพดูไม่ได้



“ไอ้เฮีย มึงทำไรเนี่ย ” ตาแทบถลนเมื่อเห็นน้องนอนฟุบอยู่หน้าขวดเบียร์ที่วางระเกะระกะ



“เด็กมันอยากลอง กูให้กินนิดเดียว” แถมผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ไม่คิดห้ามปราม เฮียยักไหล่กระดกขวดของตัวเองอย่างไม่ยี่หระ



“นิดเดียวพ่อมึง เมาจนตัวแดงขนาดนี้”



ก่อนหน้านี้วาคิดอยู่แล้วว่าสีหน้าน้องดูผิดปกติคล้ายมีเรื่องไม่สบายใจ แต่แทนที่จะเอ่ยปากบอกกลับมาหาทางออกแบบผิดๆ เสียได้



“ตัวแดงๆ น่ารักดีนะมึง” เฮียยังคงไม่สะทกสะท้าน



ไม่ใช่ให้ดื่มเพราะอยากแกล้ง แต่เพราะเฮียสังเกตเหมือนกันว่าน้องป่านมีความผิดปกติบางอย่างไม่อย่างนั้นคงไม่ขอลองดื่มของมึนเมา แต่น้องอายุสิบแปดแล้วแถมยังอยู่ในสายตาจึงไม่ปฏิเสธ คิดว่าพอแอลกอฮอล์เข้าปากคงได้ระบายความอัดอั้น ทว่าน้องกลับเมาแล้วยิ่งเงียบ แถมหลับใส่กันซะงั้น

 

“สัด! น้องต้องกลับบ้านก่อนสี่ทุ่มด้วย ทำไงเนี่ย” รู้อยู่แล้วว่าคงโดนโวยวายใส่ แต่เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้



“ไม่ต้องห่วง กูโทรบอกแม่น้องแล้วว่าวันนี้ไม่กลับ ปั่นรายงานบ้านโมโจ”

               

ฉิบหาย จะไม่ให้ห่วงได้ยังไงกัน



“ไอ้เชี่ยเฮีย!”

 

               





ไม่คิดว่าเรื่องจะมาลงเอยแบบนี้

               

เดิมทีตั้งใจจะให้เวลาป่าน รอให้สบายใจแล้วระบัดระบายปัญหาในใจให้ฟัง ทว่าความอึดอัดที่น้องกำลังเผชิญคงเร้นกายลึกกว่าที่คิด แม้กระทั่งฤทธิ์น้ำเมาก็ยังไม่ทำให้เปิดปาก



“อือ...น้ำ ...” แถมยังเป็นเขาเองที่แทบคลั่ง



ทำไมตัวแดงแจ๋ขนาดนั้น ผิวนวลเนียนกลายเป็นสีปลั่งแปลกตายิ่งดูน่าฟัดไปกันใหญ่ แค่เห็นเขาก็ลุกลนจนทำอะไรไม่ถูก แถมไอ้เฮียก็เผ่นแน่บทิ้งระเบิดไว้



“ตื่นแล้วเหรอ” สุดท้ายวาเลยได้แต่อุ้มน้องมานอนแล้วนั่งเฝ้า นั่งมอง นั่งทำสมาธิหายใจเข้าออกกำหนดจิตห้ามใจ



น้องยังเด็ก น้องเมา ยังกินไม่ได้



“พี่เหรอ” ตอนหลับน่ะไม่เท่าไหร่ แต่พอตื่นมาก็ลุกนั่งจ๋องน่าเอ็นดูพร้อมเรียกเขาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอ่อนหวานกว่าเดิมเป็นสิบเท่านี่จะให้ทนยังไง



“อ่ะน้ำ วันหลังพี่ไม่อยู่ไม่ต้องไปยุ่งกับไอ้เฮียเลยนะ แม่งหลอกเด็ก...” นั่งลงป้อนน้ำพลางสบถพึมพำ งุ่นง่าน แต่ยังไม่ทันขาดคำ



“พี่”



“ครับ” อย่าเรียกแบบนั้นซิ อย่ามาทำเสียงอ่อนให้หวั่นไหว



“พี่...”



“...”



“พี่ครับ”



ให้ตายเถอะ!



“อ้อนอีกทีพี่จะจูบแล้วนะ”



“...” คล้ายจะได้ผลเมื่อเสียงออเซาะเงียบไปชั่วขณะ เจ้าของใบหน้าแดงจัดนั่งจ้องเขาดวงตากลมเยิ้มหวานจนใจสั่น



“...”



แต่ทิวากรน่าจะรู้ว่าดูถูกกระต่ายน้อยตัวนี้ไม่ได้



“พี่...”



“หึ” เนื้อหอมเย้ายวนยั่วเย้าจนเส้นความอดทนไว้ขาดผึง หลุดยิ้มชั่วร้าย



“Kiss me”



เหยื่อทอดกายอยู่ตรงหน้ามีหรือที่อสรพิษจะไม่ฉกชิม ริมฝีปากประทับลงบนริมฝีปากอิ่มพลางขยับกายใกล้ชิด อ้อมแขนแกร่งรวบเอวน้องพลางยกขึ้นนั่งคร่อมตัก



คนเมาก็ว่าง่ายไม่ขัดขืน สองมือเกาะไหล่กำเสื้อคนตัวโตไว้แน่น ในหัวลอยฟุ้งสติเตลิดไปถึงไหนต่อไหน สัมปชัญญะน้อยนิดปรากฏภาพปลายนิ้วคีบนิโคตินเพราะรสชาติบุหรี่ที่ปลายลิ้น



“อือ... ลิ้น?” กว่าจะรู้ตัวว่าถูกรุกล้ำ ริมฝีปากถูกบดเบียดบังคับให้เปิดปาก ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดโรมรัน ดวงตาพร่าหวานพริ้มหลับขณะถูกดูดดึงลึกล้ำแทบหมดลมกว่าจะยอมให้น้องได้พักหอบหายใจ



“ช่วยดูดพิษจะได้สร่างไวๆ ไง” มุมปากบางยกยิ้มเจ้าเล่ห์ยกนิ้วโป้งปาดฉ่ำเยิ้มออกจากริมฝีปากที่กลายเป็นสีแดงเจ่อ



ป่านขมวดคิ้วกะพริบตาปริบๆ มึนเมารสจูบอยู่พักใหญ่ มองกระเง้ากระงอดขณะที่สองมือยังคงเกาะบ่าแกร่งแน่น ก่อนขยับตัวแนบจนหน้าท้องชิดกัน

ท่วงท่าอันตรายชวนใจหาย



“แบบนี้เหรอ?” ดวงตาคมเบิกกว้างชะงักงันชั่วขณะเมื่อน้องเลียริมฝีปากเขาเบาๆ



พอเมาแล้วใจกล้าจนน่ารังแกให้เข็ดหลาบชะมัด



“อืม... หัวไวจริง” คนล่อลวงหัวเราะในลำคอ ก่อนแนบริมฝีปากรุกล้ำอีกครั้ง คราวนี้ริมฝีปากน้องเผยอรับแถมตอบด้วยเรียวลิ้นที่ยังสะเปะสะปะอ่อนหัด ทว่ากลับกวนตบะให้ยิ่งคลุ้มคลั่ง ริมฝีปากช่ำชองนำทางกลืนกินจนแทบสำลัก



“อือ... พี่ช่วยด้วย... ไม่เอา... น้องไม่อยากเมา” กระเง้ากระงอดคลอเคลียจนหลุดยิ้มเอ็นดูเจือเจ้าเล่ห์



“ครับ เดี๋ยวพี่ช่วยนะ”



เข้าทีอสรพิษ กอดรัดเหยื่อไว้ในอ้อมกอดแน่น ถือโอกาสจาบจ้วงลูบไล้ฝ่ามือทั่วผิวขาวบีบเคล้นเนื้อนิ่มทั่วกายทั้งที่ยังสวมใส่เสื้อผ้าครบชิ้น



ทว่าไม่คิดล่วงเกินมากกว่านั้น จูบดูดดื่มดูดดึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนคนเมาทั้งเมาเหล้าเมาจูบอ่อนเพลียหลับไปในอ้อมกอดเขา



วาห้ามใจทั้งที่ความต้องการเตลิดเกินจะหักห้าม ฝืนคืนสติตัวเองกลับมาพลางหัวเราะเบาๆ กับการกระทำข้ามขั้น ดวงตาคมมองใบหน้ายามหลับใหลของกระต่ายร้ายที่กลับมาไร้เดียงสาอีกครั้ง อุ่นใจเมื่อคิ้วที่ขมวดมุ่นมาตลอดทั้งเย็นดูผ่อนคลายลงแล้วใบหน้าขึ้นสีระเรื่อด้วยฤทธิ์แลกอฮอล์ยิ่งดูน่าเอ็นดู



เขามองใบหน้าแสนน่ารักอยู่นานพลางเกลี่ยนิ้วเล่นพวงแก้มระเส้นผมอ่อนนุ่มเบาๆ จูบหน้าผากสลับขมับซ้ำๆ อย่างปลอบประโลมคนที่กำลังหลับใหล



เอาเถอะ ไม่ว่าน้องจะมีเรื่องไม่สบายใจอะไรก็ตาม ตอนนี้คงคุยไม่ได้แล้ว



ตอนเช้าค่อยว่ากัน


#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน[/center]
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 11 : Riptide - 27.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 27-07-2019 21:02:09
โอ๊ยยยย อิฉันควรห่วงพี่วา มากกว่าน้องป่านไหมคะเนี่ย.  :ling3:  น้องยั่วสุดๆเลย ตายแน่ๆอิพี่เอ้ยยย
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 11 : Riptide - 27.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 27-07-2019 21:11:54
น้อนนนนนนนนนนนนนน เมาแล้วยั่วเยมากรูกกกกกกกกก  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 11 : Riptide - 27.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 27-07-2019 21:12:57
คุณตำหนวดดดดดดดด ทางนี้ค่าาาาาา ทางนี้มีคนโดนล่อลวงงงงงง
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 11 : Riptide - 27.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 27-07-2019 21:14:36
คนที่โดนล่อลวงคือพี่วา ใ่ช่ไหม
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 11 : Riptide - 27.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 27-07-2019 22:22:08
 :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 11 : Riptide - 27.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 27-07-2019 22:24:01
โมโจกลายเป้นเพื่อนน้อง 555 เอ็นดูน้องโดนพี่วาล่อลวงง แง้ พี่จะไม่คุกใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 11 : Riptide - 27.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 28-07-2019 12:37:34
หลังจากนี้ก็จะมีคำถามให้พี่วาว่า "daddy ไหวเหรอ" 5555
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 11 : Riptide - 27.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 29-07-2019 00:31:36
ทำไมพึ่งเจอเรื่องนี้ หวีดหนักมาก
อ่านไปก็จิกหมอนดึงผมไป เขิลลล
น้อวววงงง กร๊าวใจมาก เซ็กซี่ฮืดฮาดสุดๆ
สงสารพิวาจังเลย. เด็กมันร้ายยย
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 11 : Riptide - 27.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 29-07-2019 15:44:13
 o13
 :katai2-1:
 :pig2:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 11 : Riptide - 27.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 29-07-2019 17:02:58
 :ling3:อุว้าก มองเห็นอนาคตพี่วาเลยจ้า
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM)Tattoo-ism#มอปลายลายสัก ☀ ลายที่12: Relationship-31.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 31-07-2019 23:06:51
ลายที่ 12

Relationship

( ผูกสัมพันธ์ )





รู้ไหมว่าทำอะไรลงไป



ป่านอยากจะทึ้งหัว อยากจะตีตัวเองให้ตาย แม้ว่าความปวดหัวหนักอึ้งจะกำลังเล่นงานแทบตายทันทีที่ลืมตาก็ยังอยากตีซ้ำให้เข็ดหลาบ



ความทรงจำทุกอย่างไหลเข้ามาเหมือนน้ำป่าล้นทะลัก ภาพสุดท้ายคืออ้อมกอดและสัมผัสร้อนแรงที่ทำเอาป่านเผลอยกมือแตะริมฝีปาก คล้ายความรู้สึกยังเด่นชัด



บ้าไปแล้ว กล้าทำแบบนั้นได้ยังไง



ใบหน้าค่อยๆ ขึ้นสีระเรื่อ ก่อนเปลี่ยนเป็นแดงจัดไปทั้งตัวอย่างห้ามไม่ได้



จนประตูห้องนอนถูกเปิดเข้ามาป่านสะดุ้งโหยง จะแสร้งทำเป็นหลับอยู่ก็ไม่ทัน ได้แต่เงยหน้ามองเจ้าของห้องตาปริบๆ



“ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงยืนมองใบหน้าแดงจัดขัดเขินอย่างน่าเอ็นดูก็คลี่ยิ้ม วางเสื้อผ้าที่ขนาดตัวเกือบจะพอดีกับป่านไว้ให้ก่อนลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามเท้าข้อศอกลงกับหัวเข้าจับจ้องกรุ้มกริ่มเหมือนจงใจจะแกล้งกัน “จำได้หรือเปล่าว่าเมื่อคืนทำอะไรไว้บ้าง”



ป่านยิ่งลนลานเลิ่กลั่ก สบตาพี่วาได้เพียงแวบเดียวก็เผลอกัดริมฝีปากแน่นส่ายหน้า “ไม่ครับ”



โกหกไม่เนียน ในเมื่อหน้าแดงแจ๋ขนาดนั้น ภาพจุมพิตดูดดื่มฉายซ้ำก็ยิ่งเห่อซ่าน



พี่วาหัวเราะเบาๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ กลัวน้องหัวใจวาย ดวงตาคมมองนิ่งรอให้น้องหันกลับมาสบตา สีหน้าเรียบนิ่งจริงจัง



“จะบอกพี่ได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น” ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าแววตานั้นอ่อนโยนและดูใจเย็นกว่าทุกครั้ง



เป็นผู้ใหญ่แบบที่วาเองก็ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะเป็นได้เช่นกัน



ป่านเงียบ ยังคงปวดหัวเพราะอาการเมาค้างจึงยิ่งปวดหัวหนัก



“ผม... ไม่แน่ใจ” อึกอักเพราะแม้แต่ตัวน้องเองก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเช่นกัน



คล้ายคนหลงทาง สับสน หวาดกลัว... หนักอึ้งอึดอัดกับความคาดหวัง



“เรื่องเรียนเหรอ” ทว่าไม่ทันบอกอะไรพี่วาก็เอ่ยถามราวกับรู้ทัน



จำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยถามน้องเรื่องนี้และป่านมีสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด พอเห็นสีหน้าแบบเดียวกันจึงเดาไม่ยาก



“มีอะไรให้พี่ช่วยไหม” ถามทั้งที่ยังไม่มีคำตอบเหมือนกันว่าจะช่วยยังไง ทว่าความห่วงใยที่ส่งผ่านมาก็ทำให้ป่านคลี่ยิ้มออกมาด้วยความอุ่นใจ



“ไม่เป็นไรแล้วล่ะครับ” ไม่ใช่เพราะรู้ว่าพี่วาคงช่วยอะไรไม่ได้ แต่เมื่อคิดทบทวนแล้วสิ่งเดียวที่ต้องการก็คือการทำให้แม่มีความสุข



เพราะที่ผ่านมาการเหลือเพียงสองคนแม่ลูก การเห็นหม่ามี้ทำงานหนักทุ่มเทเพื่ออนาคตเพื่อความสุขของป่าน มันทำให้ป่านไม่เคยคิดตั้งคำถามกับความต้องการของตัวเองเลยสักครั้ง ไม่ว่าอย่างไรความสุขของแม่ก็คือความสุขของป่าน เด็กน้อยรู้เพียงเท่านั้น



ถึงจะยังติดใจ แต่เมื่อจนแล้วจนรอดป่านก็ยังไม่สะดวกใจจะเล่า ยังไม่คิดพึ่งพิงเขา พี่วาก็ไม่ซักไซ้คาดคั้นต่อ เพียงยิ้มจางพลางเอื้อมมือลูบหัวน้องเบาๆ



“พี่อยู่ตรงนี้นะ” ยืนยันเพื่อให้ป่านอุ่นใจ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ชื่นชมทุกความคิดทุกการตัดสินใจของเด็กดีแสนฉลาดตรงหน้าและพร้อมจะอยู่เคียงข้าง



“ขอบคุณมากนะครับ”



“พี่เอาเสื้อผ้าคุณหนูมาให้ป่านคงใส่ได้” ร่างสูงลุกขึ้นยืน รอยยิ้มยังคงอ่อนโยนจนใจที่กำลังสั่นไหวกระตุกอีกครั้ง



“อาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปกินข้าวนะครับ” น้ำเสียงและสรรพนามที่ฟังเรียกอย่างเอ็นดูทำเอาป่านหลุดยิ้มทั้งที่ยังกัดริมฝีปากบวมเจ่อไว้ ได้แต่พยักหน้าหงึกหงักว่าง่าย



รอจนแผ่นหลังพี่วาลับหายไปเด็กน้อยก็ทิ้งตัวลงตุบ จ้องเพนดานปล่อยให้ความคิดหลากหลายหลั่งไหลเข้ามาโดยไม่คิดห้าม กระทั่งรสสัมผัสเมื่อคืนและรอยยิ้มเจิดจ้า น้ำเสียงอ่อนโยนปลอบประโลมของพระอาทิตย์ยามเช้า ท่ามกลางกลิ่นอายของร่างกายอีกคนบนหมอน ผ้าห่ม เจือกระจายอยู่เต็มห้องก็ยิ่งทำให้จิตใจฟุ้งซ่าน



ป่านยกมือแตะริมฝีปากอีกครั้ง ยิ่งคิดถึงหัวใจก็ยิ่งเต้นแรงแทบคลั่ง



ชอบ... ชอบมากๆ



ชอบคนคนนี้มากๆ เลย









แต่ชอบมากถูกซ่อนไว้ในความเขินอายกลายเป็นความคลุมเครือเจือจาง เหมือนความกังวลที่ป่านเลือกแบกไว้คนเดียวความรู้สึกที่ไม่พูดให้แน่ชัดคงยากเกินจะเข้าใจ



“เฮียครับ”



“เชี่ย ขนลุก”



“ผมหล่อยังครับ” ร่างสูงในชุดสูทลำลองตัวเก่งยืนหมุนหน้ากระจกเลิกคิ้วถาม



“สูทอีกแล้ว? นี่มึงยังไม่สนิทกับยามโรงเรียนน้องเขาอีกเหรอวะ”



“เปล่า เมื่อวานกูไปส่งน้องแล้วเจอแม่เขาหน้าบ้าน”



“แล้ว?”



“วันนี้กูเลยแต่งใหญ่เผื่อน้องจะพาไปแนะนำตัว”



“...”



“ตื่นเต้นว่ะ เจอแม่ยายครั้งแรก” คิดเองเออเองเป็นตุเป็นตะแล้วใครจะกล้าห้าม



“เออ แล้วแต่มึงเลย”









ไม่มีใครปรามว่าความมั่นใจออกตัวแรงอาจจะทำให้แหกโค้งทีหลัง



เหตุการณ์กลับตาลปัตรจนทำให้คนที่หน้าบานตอนขับรถออกจากบ้านกลับมาด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียดตึงตัง สูทตัวนอกถูกถอดทิ้งไม่ไยดีสีหน้างุ่นง่าน



“เป็นไงเจอแม่ยายครั้งแรก”



“เหี้ยไรล่ะเฮีย” เกรี้ยวกราด



“โมโหใส่กูทำไมเนี่ย? น้องเขาไม่พามึงไปแนะนำเหรอ” พอถูกถามจี้จุดทิวากรก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ย้อนคิดถึงตอนที่ไปส่งน้องถึงบ้าน



ระยะหลังป่านกลับบ้านดึกขึ้นเพราะยิ่งใกล้สอบการติวก็ยิ่งเข้มข้น แถมน้องอ่านหนังสืออยู่ในร้านจนลืมเวลาหลายครั้ง



วันนี้ก็เช่นกัน เมื่อกลับไปถึงบ้านก็เห็นรถของหม่ามี้อยู่ในลานจอดรถเรียบร้อยแล้ว และคงเพราะได้ยินเสียงรถจอดหน้าบ้านจึงออกมารับป่านด้วยตัวเอง

เด็กน้อยที่หลับมาตลอดทางถูกปลุกให้ตื่นก็งัวเงียเปิดประตูออกไปโดยไม่รู้ตัวว่าลืมกระเป๋านักเรียนไว้



โอกาสเหมาะที่วาจะเอาไปคืนแล้วถือโอกาสไหว้ฝากเนื้อฝากตัว



ทว่า...



“แนะนำ” ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ ยิ่งหงุดหงิดงุ่นง่าน



“อ้าว แล้วมึงหงุดหงิดอะไร”



ทั้งที่ไปรับไปส่ง ทั้งที่เจอหน้ากันทุกวัน ทั้งที่แสดงออกขนาดนั้น แถมยังจูบกันแล้ว... ถึงน้องจะเมา แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าป่านจะเลือกปิดบังสถานะของเขาไว้หลังม่าน



“Grab”



“ฮะ?”



“ก็พอแม่เขาถามว่ากูเป็นใคร น้องก็แนะนำสั้นๆ คำเดียว”



“...”



“Grab” น้องอาจจะยังไม่พร้อม อาจจะสับสนไม่แน่ใจในสถานะที่ยังไม่ชัดเจนถึงจำเป็นต้องอ้างเขาก็เข้าใจ แต่แกร๊บเนี่ยนะ?



“โถ…”



“กูขับออดี้นะเฮีย” แถมใส่สูทอย่างดี หน้าตาก็หล่อเหลา



“เออ…ชีวิตมันก็ยังงี้” เฮียได้แต่พยักหน้าเข้าใจพลางตบบ่าเบาๆ









ท่าทีและคำพูดของป่านทำให้วากลับมาทบทวนบางอย่างอีกครั้ง



ไม่ใช่ว่าเขาไม่เข้าใจความคิดน้อง เขาผ่านวัยนี้มาก่อนย่อมรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่ผู้ปกครองจะเข้าใจ เพราะอายุของพวกเขาห่างกันมาก แถมหน้าตาสถานะทางสังคมก็ไม่ได้ทำให้แม่น้องวางใจได้ทันทีที่เจอหน้า ยิ่งอยู่ๆ เขาโผล่เข้าไปปุบปับคงทำให้น้องลำบากใจจนต้องเอ่ยออกไปแบบนั้น



แต่นั่นหมายความว่าป่านไม่เคยเล่าเรื่องของตัวเองให้ครอบครัวฟัง



...คิดไปคิดมาก็น่าน้อยใจ



แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับน้องก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะแนะนำให้ครอบครัวรู้จักจริงๆ แถมหลายวันมานี้เหมือนน้องกำลังกลัดกลุ้มอะไรบางอย่าง คงไม่อยากมีปัญหา แต่ว่า...



มีแต่คำว่าแต่... แต่มากเกินไป ทิวากรหงุดหงิดที่ยิ่งคิดก็ยิ่งวกวนไม่ได้ดั่งใจ



เขาอยากเดินหน้าให้มากกว่านี้... แต่ควรทำยังไง



“วันนี้ยุ่งเหรอครับ เห็นพี่ไม่ไปรับ…” ราวกับรู้ตัวเมื่อเปิดประตูเข้ามาในร้านเห็นพี่วานั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์ก็อ้อมแอ้มเดินไปทักทาย



รู้สึกผิด รู้ดีว่าพี่วาคงน้อยใจกับคำพูดไม่คิดของตัวเอง



“วันนี้ไม่ได้เรียก Grab นี่ครับ”



“โกรธผมเรื่องนั้นเหรอครับ”



“เปล๊า” แต่ท่าทีปฏิเสธเสียงสูงพร้อมกับเบือนหน้าไม่สนใจทำให้ป่านไม่พอใจเช่นกัน เด็กน้อยพูดโพล่งหลุดความคิด



“ผมไม่ผิดนะ ก็พี่ไม่เคยบอกสักหน่อยนี่ครับว่าเป็นอะไรกัน”



“อ้อ...” คนพี่ชะงัก หันมาเลิกคิ้วสบตา



ถ้าน้องจะพูดอย่างนั้น... เขาก็ยิ่งรู้ว่าต้องทำยังไง



“ในเมื่อพี่ไม่บอกเราก็...อื้อ!” สาวเท้าเพียงก้าวเดียวก็ถึงตัวริมฝีปากทาบทับ ปิดคำพูดที่กำลังจะทำร้ายจิตใจซ้ำ ไม่ใช่แค่เพราะไม่อยากได้ยินคำแก้ตัวเฉไฉ แต่เพราะเขาคิดมาทั้งวัน ถ้วนถี่แล้วว่าตัวเองต้องการอะไร



“งั้นพี่ต้องเป็นอะไรถึงจะทำแบบนี้กับน้องได้ ไหนบอกซิ” ไม่ได้อยากวู่วามทว่าเขาไม่อาจรอไหวอีกต่อไป



“พี่...วา...”



“พี่ชอบเรา” ความรู้สึกที่ทบทวีขึ้นทุกวันนั้นยิ่งกว่าชัดเจน



“พี่อยากดูแลเรา อยากเป็นที่พึ่ง อยากให้ป่านไว้ใจ”



“...” คราวนี้ไร้มึนเมา เอ่ยในสิ่งที่อยากเอ่ย ถามในสิ่งที่อยากถาม



“น้องป่าน คบกับพี่นะครับ”



ตอนที่น้องเลือกปฏิเสธความช่วยเหลือของเขาหันไปพึ่งน้ำมึนเมา หรือแม้กระทั่งตอนที่บ่ายเบี่ยงกลบเกลื่อนปัญหาไม่ยอมบอกเขา วากลับยิ่งรู้สึกว่าอยากเป็นที่พึ่งได้มากกว่านั้น



เขาเคยกลัวความสัมพันธ์ และรู้ว่าน้องยังไร้เดียงสาเกินกว่าจะกระโจนจ้วงเข้ามาในความสัมพันธ์



แต่เขาไม่อยากรอแล้ว ไม่อยากประวิงความต้องการจะอยู่เคียงข้าง พาคนตรงหน้าผ่านทุกอุปสรรค เขารู้ว่าตัวเองทำได้ พึ่งพาได้ ไว้ใจได้ ขอแค่น้องให้โอกาส



“ครับ”



เพราะเขาก็ชอบป่าน ชอบเด็กคนนี้



...ชอบมากๆ เลยเหมือนกัน









รู้ดีว่าทำอะไรลงไป



สัมผัสร้อนเหมือนจะยังติดอยู่บนริมฝีปาก จูบสะเปะสะปะอ่อนหัดของเด็กไม่รู้ประสากลับทำชายหนุ่มหวามไหวเกินคาด



รสสัมผัสชวนเมามายทั้งที่ไร้มึนเมากลับทำให้เมาค้างทั้งที่ผ่านมาแล้วหนึ่งวัน ราวกับพวกอ่อนประสบการณ์ทั้งที่จริงผ่านเรื่องรักๆ ใคร่ๆ มาก็หลายครั้ง



ความสัมพันธ์ที่ไม่มีอะไรมายืนยันสักนิดว่าคราวนี้จะไปได้ตลอดรอดฝั่ง



ทว่าเขาก็คว้ามันไว้ จับแน่นพร้อมเดินไปข้างหน้าไม่เหลียวหลัง



“มึงอ่านอะไรเห็นนั่งอ่านมาตั้งแต่เช้า” ความยินดีที่แสดงออกอย่างไม่ปิดบังกลายเป็นอาการผิดปกติ ผิดวิสัยเด่นชัดจนเฮียอดถามไม่ได้



ไม่รู้ผีเข้าหรืออะไร อยู่ๆ ทิวากรก็เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เปิดปิดหนังสือเล่มหนาไปมาอย่างคนเสียอาการ



อาการหนัก ฟุ้งซ่าน



“ประมวลกฎหมาย” ยิ่งรู้ว่าเป็นหนังสืออะไรก็ยิ่งประหลาดใจ



“อ่านเพื่อ?” อย่าว่าแค่หนังสือ แต่หนังสือกฎหมาย... สงสัยจะผีเข้าจริงๆ



“อยากรู้ว่าจูบเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีนี่ติดคุกไหม”



ผีรัก ผีสวาท ผีเสียจริตน่ารำคาญ



“คือมึงจะขิงว่าได้จูบน้องเขาแล้ว กูเข้าใจถูกไหม?”



“งื้อออ”



“งื้อพ่อง!”



เฮียด่าในใจ



ไอ้สัด น่ารำคาญ




#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

สองสามวันที่ผ่านมาเริ่มรู้สึกเหนื่อย ท้อ คิดว่าตัวเองยังทำได้ไม่ดีพอสักที

แต่พอคิดว่ายังมีคนรออยู่ก็ฮึกเหิมขึ้นมาทันทีเลย

อยากบอกว่ากำลังใจของทุกคนส่งมาถึง และมีผลกับหัวใจป่วยๆ ท้อง่ายดวงนี้มากเลยค่ะ 55555



ผิดพลาดตรงไหนบอกได้เลยน้า

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาตลอดนะคะ

รักมากๆ

- Martian -
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 12: Relationship-31.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 01-08-2019 01:46:12
จากเครียดๆพี่วาทำเอาฮาแตก5555 หนุ่มน้อยมาก
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 12: Relationship-31.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 01-08-2019 02:13:49
เรียกได้แกร๊บงานดีขนาดนี้ทำบุญด้วยอะไรคะน้องงงง 555
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 12: Relationship-31.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 01-08-2019 15:40:44
โอ้ยเขินมาก >////<
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 12: Relationship-31.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 01-08-2019 18:52:51
สงสารพี่วา ถึงกับต้องหาข้อมูล จะโดนพรากผู้เยาว์ไหมนะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 12: Relationship-31.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 01-08-2019 21:30:32
อยากบอกให้รู้ว่าชอบงานเขียนของหนู เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 12: Relationship-31.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 01-08-2019 21:48:33
55555555 เกลียดความขิงของพี่แกร้บ เอ้ยยย พี่วา มากอ่ะ  คือตอนนี้ขำอ่ะ ชอบ  ชอบความที่น้องบอกว่าพี่เป็นแกร้บ (ที่ใส่สูทขับออดี้) ขำความเหม็นของเฮีย ขำความ งื้อออ ของอิพี่ โอ๊ยยยย ร้านสักร้านนี้มันบันเทิงดีจริงๆ ชอบอ่าา
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 12: Relationship-31.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 02-08-2019 00:31:32
กอดกอดดดดดน้า รอตอนต่อไปคา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 12: Relationship-31.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 02-08-2019 00:33:56
 :pig4:
 :o8:
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 12: Relationship-31.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 03-08-2019 21:08:55
มาดูหน้าคนเสียอาการ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 12: Relationship-31.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: CKLUVTEN ที่ 04-08-2019 02:59:13
ชอบมากๆเลยค่ะ ภาษาดีมาก ชอบนิสัยพี่วาน่ารักที่สุดเลย เป็นกำลังใจให้ไรท์นะคะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 12: Relationship-31.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 04-08-2019 17:36:13
grab ได้เลื่อนขั้นแล้วนะคะ 555 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 12: Relationship-31.07.2562 (P.6) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Foggytea ที่ 06-08-2019 23:17:02
รออย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 13 : Whisper-06.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 06-08-2019 23:28:06
ลายที่ 13

Whisper

( รำพันรัก)





ป่านเพิ่งเคยมีแฟนคนแรก



เป็นความรู้สึกแปลก ความสัมพันธ์คล้ายจะก้าวกระโดด แต่ก็เหมือนเตรียมใจมานาน



ประดักประเดิด หวาดกลัว ทว่ายินดีรับ



“อ้าปากสิ” เด็กน้อยอ้าปากตามสั่ง สายตายังคงจับจ้องโจทย์ปัญหาของแบบฝึกหัดที่ยังแก้ไม่เสร็จ



ความเย็นและรสหวานอมเปรี้ยวของไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี่เชอร์เบทกระจายทั่วโพรงปากให้ความรู้สึกสดชื่นติดใจจนต้องหันกลับไปอ้าปากส่งสายตาอ้อนให้ป้อนอีกคำ



คุณหนูหัวเราะเบาๆ ตักไอศกรีมคำโตใส่ปากน้องก่อนยื่นให้ทั้งถ้วย ส่วนตัวเองก็ทิ้งตัวนอนหนุนตักคนเด็กกว่าอย่างเกียจคร้าน



วันนี้วันอาทิตย์ร้านจึงเงียบเหงาไร้ลูกค้า เฮียนั่งเคลียร์บัญชีอยู่หน้าเคาน์เตอร์ขณะที่พี่วานั่งออกแบบรอยสักอยู่ในสตูดิโอตั้งแต่เช้า



เมื่อคืนป่านมานอนค้างเพราะหม่ามี้ไปสัมมนาต่างจังหวัดไม่อยู่บ้านหนึ่งอาทิตย์ เดิมทีถ้าเป็นแบบนี้ป่านอยู่บ้านคนเดียวได้แถมอาทิตย์นี้ไม่จำเป็นต้องไปโรงเรียนเพราะต้องเตรียมตัวสอบก็ยิ่งไม่มีปัญหา แต่เป็นคุณหนูที่ไม่ยอม พอน้องบอกว่าต้องอยู่คนเดียวก็บุกไปถึงบ้านช่วยจัดกระเป๋าเก็บข้าวของแถมยังออกหน้าโทรไปขออนุญาตแม่ให้น้องมาอยู่ด้วยกันที่ร้านทั้งอาทิตย์



ป่านเกรงใจ แต่ทุกคนกลับบอกว่าไม่ต้องเกรงใจ โดยเฉพาะคุณหนูที่ออกปากให้เฮียสละห้องให้น้องป่านกับตัวเองนอนด้วยกันขณะที่เฮียต้องย้ายไปนอนห้องพี่วาแทน



เห็นชัดว่ามีคนเสียดาย



ห้องของเฮียแตกต่างจากห้องของพี่วาอย่างสิ้นเชิงจนป่านประหลาดใจ ขณะที่ห้องนอนพี่วาคล้ายกับหน้าร้านที่โชว์วัสดุดิบเปลือยเน้นสีของอิฐและไม้ ห้องของเฮียกลับดุสุขุมกว่าด้วยสีขาวตัดคราม ที่แปลกตาคือเตียงสักตัวหนึ่งที่ถูกตั้งไว้แทนโซฟา กับลวดลายของลูกไม้ที่ประดับตามส่วนต่างๆ ทั้งผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ จนห้องที่ควรจะแข็งกระด้างดูอ่อนหวานขึ้นมาหลายเท่า



ไม่บอกก็พอจะเดาได้ว่าผ้าลูกไม้เหล่านั้นเป็นฝีมือใคร



ทั้งคืนสองหนุ่มเอาแต่คุยกันไม่หยุด ทั้งเรื่องจิปาถะ เรื่องจริงจัง น้องป่านถูกคะยั้นคะยอให้เล่าเรื่องระหว่างป่านกับพี่วาให้ฟังว่าไปยังไงมายังไง คลาดสายตาไปแป๊บเดียวทำไมถึงตกลงคบกันไป ป่านเล่าไปเขินไป ทว่าพอได้เปิดอกคุยกับใครสักคนแล้วก็ยิ่งรู้สึกสบายใจ



ดูเหมือนแฟนเจ้าของร้านทั้งสองคนจะสนิทกันไปอีกขั้น



...ไม่รู้ว่าเป็นข้อดีหรือข้อเสียเหมือนกัน



เฮียได้แต่มองแฟนตัวเองออเซาะแฟนคนอื่นอย่างจนใจ คิดในใจว่าถ้าไอ้วามาเห็นคงงอแงโวยวายใส่เขาอีกแน่ แต่จะให้ทำอะไรได้ พอเห็นของสวยๆ งามๆ คลอเคลียเล่นล้อกันไปมาอยู่ตรงหน้าจะทำใจแข็งจับแยกยังไงไหว



“อาหารมาส่งแล้ว” นอนเล่นไม่ทันไรคุณหนูก็ผุดลุกขึ้นมานั่งมองโทรศัพท์ที่ส่งเสียงเตือน ป่านวางไอศกรีมทำท่าจะอาสา



“เดี๋ยวผมไปรับให้เองครับ” ทว่าคุณหนูส่ายหน้า แกล้งยิ้มหยอกกลับมา



“ไปเรียกวามากินข้าวดีกว่า” คงเพราะรู้ว่าพี่วาเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องตัวเองตั้งแต่เช้าเลยมีใครบางคนทั้งเป็นห่วงทั้งอยากเจอหน้าทว่าเกรงใจไม่อยากให้เสียเวลางาน



ป่านอึกอักมองคนรู้ทันด้วยใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีระเรื่อจางก่อนจะพยักหน้ารับ



ป่านเดินไปผลักประตูสตูดิโอที่เปิดค้างไว้นิดหน่อยเพื่อระบายอากาศก่อนชะงักไป ไม่ทันคิดว่าจะเห็นพี่วาในสภาพเปลือยท่อนบนอวดกล้ามเนื้อกำยำที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก หูสองข้างเสียบหูฟังอยู่จึงไม่รู้ตัวว่าน้องเดินมา



แต่แทนที่จะเรียกให้รู้ตัวป่านกลับยืนนิ่งมองเสี้ยวหน้าด้านข้างที่กำลังเคร่งขรึมตั้งอกตั้งใจทำงาน มือที่ถนัดขวากำลังตวัดดินสอสเกตแบบร่างลงบนกระดาษจนเกิดลวดลายแปลกตา ดวงตากลมไล่มองรอยสักตามลำตัวซีกขวาราวต้องมนต์สะกด เชื่องช้า สำรวจลวดลายบนผิวเนื้อแน่นตึงที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก



สวนสวรรค์ แอปเปิ้ลต้องห้าม อดัม อีฟ และร่างจำแลงของซาตานที่เกาะเกี่ยวเกี่ยวพันบนท่อนแขนที่เด่นชัดไปด้วยเส้นเลือดและมัดกล้ามยังคงงดงาม เพิ่งสังเกตว่าท่ามกลางพงกุหลาบที่เต็มไปด้วยหนามตรงแผงอกมีมนุษย์อีกคู่กำลังกอดก่ายเล่นระบำ



ไม่สิ... ไม่ใช่มนุษย์เสียทีเดียว แต่จากตรงนี้ป่านมองไม่ถนัดนัก



แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้คือรูปเจ้าพิทบูลสีดำที่ถูกสลักไว้ตรงเชิงกรานขวาเยื้องมาทางด้านหลัง



ป่านหลุดหัวเราะด้วยความรู้สึกอธิบายยาก ทั้งทึ่ง ทั้งเอ็นดูที่พี่วาให้ความสำคัญกับโมโจขนาดนั้น



ถูกจับจ้องเนิ่นนานซ้ำเสียงหัวเราะเพียงบางเบาที่ลอดเข้ามาในหูตอนเสียงเพลงดับพอดีทำให้ในที่สุดพี่วาก็รู้ตัว เจ้าของดวงตาคมหันกลับมามองป่าน ถอดหูฟังออกก่อนเลิกคิ้วข้างหนึ่งถาม



“ครับ?”



รอยยิ้มที่ผุดขึ้นตรงมุมปากทำเอาป่านเผลอยิ้มตาม ใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมาเมื่อถูกดวงตาสีหม่นวาววับจับจ้องราวกับจะให้ทะลุ



“กินข้าวเที่ยงครับ” อ้ำอึ้งลืมคำพูดอยู่พักหนึ่งถึงจะควานหาเสียงตัวเองเจอ พี่วาพยักหน้ายิ้มรับ ก่อนวางมือเก็บเศษกระดาษที่ถูกขยำระเกะระกะใส่ถังขยะ



“พี่สักตรงไหนบ้างเหรอครับ” ป่านเดินเข้ามาช่วยเก็บและอาศัยจังหวะนั้นเอ่ยถาม



“หือ? ถามทำไม”



ใช้เวลาไม่กี่นาทีบริเวณโต๊ะทำงานก็กลับมาสะอาดอีกครั้ง พี่วาวางถังขยะลงที่เดิมเลิกคิ้วมองเด็กน้อยที่กวาดสายตามองร่างกายท่อนบนของตัวเองแวบหนึ่งก่อนเบือนขึ้นมาสบตา ลนลาน ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงนิดๆ อย่างน่าเอ็นดู



“ผมอยากรู้ พี่สักทั้งตัวเลยไหม”



“ปะ” ถือวิสาสะคว้าข้อมือน้องทำท่าจะลากออกไป ป่านคิดว่าหมายถึงออกไปกินข้าว ทว่าสายตากรุ้มกริ่มนั้นบอกว่าไม่ใช่



“ไปไหนครับ?”



และก็จริงอย่างที่คิด “ห้องพี่”



“...” คนขี้แกล้งหาโอกาสแกล้งให้น้องยิ่งเขินด้วยคำชวนสองแง่สองง่าม



“เดี๋ยวเปิดให้ดูว่าสักตรงไหนบ้าง”



ยิ่งกว่าได้ผล เด็กน้อยยืนเหวอ ชะงักงัน แก้มแดงแจ๋ลามถึงคอ



คนโตกว่าถึงกับหลุดหัวเราะเสียงดัง เสียงหัวเราะที่ไม่ได้ยินบ่อยนักกับสีหน้าที่บ่งบอกว่ากำลังอารมณ์ดีมากทำเอาป่านแทบตีหน้ากระเง้ากระงอดไม่ทัน หัวใจเปลี่ยนจังหวะเต้นรัวเร็วพยายามสั่งตัวเองไม่ให้หวั่นไหวกับรอยยิ้มกว้างกับสายตาที่มองมา



อย่ายิ้มแบบนั้นสิ อย่าหัวเราะแบบนั้น รู้ตัวไหมว่าตอนนี้พี่วาดูดีมาก



ทว่าคงไม่ใช่ป่านคนเดียวที่กำลังปั่นป่วน เพราะแกล้งจนน้องอึกอักไม่ทันไรตัวเองก็ได้แต่เงียบตาม ปล่อยข้อมือน้องเป็นอิสระก่อนทำท่าเฉไฉ



“หิวแล้ว” แกล้งเดินผ่านน้องไปที่ประตู



ทว่าขณะที่ป่านลอบยิ้มหมุนตัวกำลังจะเดินตามคนพี่กลับหมุนตัวกลับมา ร่างสูงโน้มตัวยื่นหน้าเข้ามางับริมฝีปากอิ่มเบาๆ ถือโอกาสตอนที่น้องไม่ทันตั้งตัวลิ้มรสเปรี้ยวอมหวานที่ติดอยู่ปลายลิ้นก่อนผละไปทันควัน



แสร้งล้วงกระเป๋าทำท่าคิด เลิกคิ้วถาม



“ไอติมสตรอว์เบอร์รี่?”



“...”



“อร่อย”



พิษจากริมฝีปากที่ฉกฉวยฉีดพ่นทั่วร่างที่ยังชะงักค้าง หน้าแดงจัด



...ร้อนจัด แดงแจ๋แม้กระทั่งปลายนิ้ว ไม่อาจเก็บความเขินอาย





พี่วามีแฟนมากี่คน... ไม่เคยนับ



อาจจะสาม หรือสี่ หลายคนเพียงสถานะคนคุยไม่เคยคบเป็นแฟนจริงๆ จังๆ จึงไม่เคยสนใจ



ถึงอย่างนั้นรู้ดีว่าควรทำอะไร ไม่ใช่ด้วยประสบการณ์ แต่เพราะใจมันอยากทำ



อยากดูแล ใส่ใจ อยากอยู่ใกล้ๆ



แม้บางอย่างจะผิดวิสัย



“น้องมึงจะอ่านหนังสือถึงกี่โมงเนี่ย” ไม่เคยคิดมาก่อนว่าอายุปูนนี้แล้วยังต้องมานั่งเฝ้าเด็กอ่านหนังสือ



...เรื่องนี้แม้คนที่คบสมัยเรียนยังไม่ทำ



“เขาบอกว่าขออีกแป๊บนึงมาสองชั่วโมงแล้ว” คนที่เรียนจบมานานแล้วอย่างเขาอย่าว่าแต่ติวให้น้อง อ่านโจทย์ยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำ



“มึงไม่ห้ามอ่ะ”



“ห้ามแล้ว โดนอ้อนขออีกสองชั่วโมง” ห้ามไม่ได้จึงทำได้เพียงแค่นั่งเฝ้าพร้อมอำนวยความสะดวก ทั้งที่ตัวเองง่วงจนตาแทบปิดสับหงกไปก็หลายครั้ง



“เวร”



“เฮ้อ ทำไงได้ อนาคตเขา” แต่เห็นเด็กกำลังขะมักเขม้นตั้งใจก็อดภูมิใจไม่ได้ ยิ่งอยากอยู่ด้วย อยากเป็นกำลังใจ “เนี่ยกูก็ได้แต่เอาน้ำเอาขนมไปป้อน กลัวเขาไม่มีแรงอ่าน”



“โถ พี่วา ศรีภรรยาสัดๆ”



ใช่ไหมล่ะ นี่แหละ หน้าที่แฟน









ก้มหน้าก้มตาอ่านอยู่หลายชั่วโมงจนเกือบตีสามป่านก็เผลอหลับฟุบคาโต๊ะไม่รู้ตัว พี่วาที่เพิ่งเดินไปหยิบน้ำขวดใหม่มาให้น้องเห็นแบบนั้นก็ได้แต่ถอนใจ วางขวดน้ำที่ยังไม่ได้เปิดลงกับพื้น เก็บข้าวเก็บของแล้วช้อนตัวน้องเข้ามาในอ้อมแขน



“อือ...พี่” ป่านตื่นง่าย พอถูกอุ้มลอยจากพื้นไม่ทันไรก็งัวเงียขึ้นมา มือที่ห้อยอยู่ยกขึ้นขยี้ตาพยายามตั้งสติท่าทางน่าเอ็นดูจนคนพี่หลุดยิ้ม



“ชู่ว พี่จะอุ้มไปนอนข้างบน” คืนนี้เฮียทวงที่นอนข้างคุณหนูคืนไปแล้ว จึงช่วยไม่ได้ที่ป่านจะต้องนอนกับเขา



ไม่ได้ตั้งใจสักนิด ไม่ได้วางแผนกับไอ้เฮียไว้เลยจริงๆ



“ไม่เอา ไม่อุ้ม หนัก” แทนที่จะกังวลเรื่องที่นอนเด็กกลับห่วงเรื่องน้ำหนักตัวตัวเองเสียอย่างนั้น พี่วายิ้มขำ กระชับอ้อมแขนจนร่างกายแนบชิดยิ่งกว่าเก่า



“หนักอะไร ตัวแค่นี้” เบาไปด้วยซ้ำ เทียบกับขนาดตัวพี่แล้วน้องแทบไม่ต่างจากโมโจ จะจับอุ้มจับโยนยังไงก็คงไม่เกินกำลัง



“ผมยังอ่านหนังสือไม่จบ” คนงัวเงียยังงอแง พี่วาถอนใจเริ่มใช้สายตาดุ



“จะตีสามแล้ว นอนได้แล้ว”



“ไม่เอา...”



“เอา พี่บังคับ”



“...” น้ำเสียงทุ้มต่ำเจือความเข้มงวดทำเอาป่านชะงัก ลืมตามองเต็มตาก็เห็นคิ้วเข้มขมวดขู่



“ไม่งั้นก็กลับบ้าน”



คราวนี้ป่านถึงกับเบะปาก ยอมยกมือสองข้างโอบรอบคอให้คนตัวโตอุ้มแต่โดยดี



“...อย่าดุน้อง” กระเง้ากระงอดงึมงำ แต่ไม่วายแกล้งกัดไหล่คนเจ้ากี้เจ้าการเอาคืนเบาๆ



“หึ กัดพี่เหรอเด็กดื้อ เดี๋ยวถึงห้องพี่จะกัดคืนทั้งตัว”



คำขู่ทำเอาน้องเบิกตากว้าง มองคนขี้แกล้งที่หัวเราะอย่างพออกพอใจ



รู้ดีว่าพี่วาแค่พูดไปอย่างนั้น ทว่าความหมายสองแง่สองง่ามก็ทำเอาน้องหน้าแดงแจ๋อีกครั้ง พี่วาหัวเราะเสียงกัง



เพิ่งสังเกตว่าตั้งแต่ตกลงคบกันพี่วาดูยิ้มง่ายกว่าปกติมาก แถมพูดเพราะเอ็นดูน้องราวกับคนละคนกับผู้ชายที่เจอกันครั้งแรก



ป่านหลุดยิ้ม รอยยิ้มที่ทำเอาคนถูกมองเลิกคิ้ว



“หืม? ยิ้มอะไรครับ”



น้องส่ายหน้า ทว่ายังจดจ้องใบหน้าคมหล่อเหลาอยู่อย่างนั้น



“วา”



“...” คล้ายหลุดปากไร้สรรพนาม คนถูกเรียกเลิกคิ้วค้าง



“วา” ไม่ทันไรก็หลุดยิ้มออกมาพร้อมกัน แผ่นอกที่แนบสนิทคล้ายแข่งกันส่งเสียงเอะอะ จนน้องต้องซ่อนความเขินอายด้วยการซบหน้าลงกับไหล่กว้าง



กลางดึกสงัดต่างกอดซบกันและกันแลกไออุ่นเจือเสียงกระซิบหวาน



“ผมชอบวามากๆ เลย”









#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

รักทุกคนมากๆ เลย (เลียนแบบน้องป่าน 5555)



ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

- Martian -

หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 13 : Whisper - 06.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 06-08-2019 23:52:22
หื้ออออ ดีต่อใจมากกกกก พี่วาดูแลน้องดีมากๆๆๆๆ ยัยน้องก็ยั่วเล็กๆ
แงงงงงวง พี่วากินน้องเลยค่ะ ทางนี้เตรียมเงินประกันพร้อมแล้ววววว :hao7:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 13 : Whisper - 06.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Shmew ที่ 07-08-2019 00:19:03
โอ้โหน้องลูกกกกกกกก พี่อยากจับหนูปั้นเป็นก้อนแล้วกลืนลงท้อง :o8: :-[
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 13 : Whisper - 06.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 07-08-2019 00:34:41
 มันจั้กกะจี้หัวใจจริงจริ๊งงงงง
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 13 : Whisper - 06.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 07-08-2019 01:48:04
น้องงง ทั้งอ้อน ทั้วยั่วเก่ง
สงสารพิวาจังเลยย ฮึบไว้ก่อนนะ รอเอาคืนหนักๆเลย
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 13 : Whisper - 06.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 07-08-2019 06:51:03
ตายๆๆๆ วาต้องตาย น้องน่ารักมากกกก  /  ชอบความหลงเมียของเฮีย มันน่าร๊ากกก
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 13 : Whisper - 06.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 07-08-2019 13:47:17
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 13 : Whisper - 06.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 07-08-2019 19:59:21
น้องทำอย่างนี้แล้วพี่วาจะหลับหลงได้อย่างไร  :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 13 : Whisper - 06.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 08-08-2019 07:50:26
พี่วาต้องหน้าบึ้งเป็นหมีอดน้ำผึ้งแน่ๆคืนนี้
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 13 : Whisper - 06.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 08-08-2019 09:13:23
น้องอ้อนขนาดนี้พี่จะอดใจไม่กินน้องได้ยังไงไหว 555 พี่วาต้องทนน
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 13 : Whisper - 06.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 08-08-2019 10:27:45
ต๊ายๆๆๆ​ น้องป่านตกพี่วาได้แล้ว​  :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 13 : Whisper - 06.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 08-08-2019 20:50:29
ทนไม่ได้อย่าทนจ้า พี่วา จัดไปจะได้จบๆ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 13 : Whisper - 06.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 09-08-2019 11:58:13
 :m25: :m25: :m25: :m25:
ตายแล้วว ฤทธิ์น้องป่านรุนแรงเหลือเกิน อิพี่วาทนไปได้ยังไง 5555
มีแต่คำว่าน่ารักน่าเอ็นดูเต็มไปหมดด กรี๊ดดดด
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 13 : Whisper - 06.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 09-08-2019 20:28:47
พี่วาทำบุญด้วยอะไรคะ แงง อยากได้น้องบ้างงง  :hao5:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่14:Truth - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 09-08-2019 23:48:18
ลายที่ 14

Truth

( ความจริงหวนกลับ )



เด็กเลี้ยงแกะถูกลงโทษยังไง



การโกหกแม้เป็นสีขาว เจ้าตัวรู้อยู่แก่ใจ สันหนึ่งคงเปิดเผยไถลเลื่อนเรื่อยไปต่อไม่ได้



สักวันป่านคงต้องบอกแม่ว่าพี่วาคือแฟน คือคนรัก



ถ้าได้รู้จัก หม่ามี้ต้องชอบพี่วาอย่างที่ป่านชอบแน่ๆ



ดวงตากลมไล่มองขนตายาวที่ระผิวแก้มสากเพราะเปลือกตายังคงปิดสนิท ใบหน้าคมดุกลับดูไร้พิษภัยยามหลับ ริ้วความขมวดขึ้งผ่อนคลาย สงบสุขจนไม่อยากรบกวนให้ตื่นแม้เสียงนาฬิกาปลุกจะดังเตือนจนน้องปิดไปแล้วสักพัก



พี่วาไม่รู้สึกตัวสักนิด ไม่คิดว่าจะเป็นคนขี้เซา นอกจากส่งเสียงฮึดฮัดก็ไม่มีทีท่าว่าจะลืมตา คงเพราะเมื่อคืนนอนดึกกว่าปกติมาก ผิดที่ป่านเองที่รั้งจะอ่านหนังสือจนตีสองตีสาม



พี่วาทำงานทั้งวัน ยังอุตส่าห์มานั่งเป็นเพื่อนน้องอีก คงเหนื่อยมากจริงๆ



“ไอ้วา ตื่นยัง” นอนจ้องคนขี้เซาอยู่สักพักก็ได้ยินเสียงเฮียเคาะประตู



ป่านพลิกตัว ทำท่าจะลุกไปเปิดประตูให้ทว่ากลับถูกแขนของอีกคนเอื้อมมากอด รั้งเอวกลับไปแนบชิดกับร่างกำยำ



“เออ ตื่นแล้ว” ตะโกนตอบกลับไปทั้งที่ยังงัวเงีย ริมฝีปากจรดอยู่กับท้ายทอยน้องลมหายใจคลอเคลียให้รู้สึกจั๊กจี้วาบหวาม



“ลูกค้ามึงโทรมา บอกว่ากำลังเข้ามาที่ร้านนะ” เสียงจากหลังประตูบอกธุระคล้ายเร่งให้ลงไปหน้าร้านไวๆ



“ครับๆ เดี๋ยวลงไปครับ” คนเพิ่งตื่นจึงทำเสียงฮึดฮัดตอบ



ป่านหลุดหัวเราะเบาๆ ไม่คิดว่าคนที่อายุมากกว่าตัวเองเกินครึ่งรอบจะยังงอแงขี้เซา แต่ปล่อยให้กอดไม่ทันไรพี่วาก็อาศัยตอนน้องนิ่งสูดกลิ่นผิวเนื้อหอมจากไหล่ไล่ริมฝีปากระลำคอขาวขึ้นมาจนถึงขมับ จุมพิตหนักๆ ทักทาย



“ตื่นเช้าจัง”



ป่านได้แต่อ้ำอึ้งด้วยความเขินอาย ไม่ชินกับความใกล้ชิดจึงได้แต่นอนแก้มแดงในอ้อมกอดอุ่นๆ ทำตัวไม่ถูกอยู่พักใหญ่



จนได้ยินเสียงหัวเราะข้างหู เจ้าของอ้อมกอดลืมตาขึ้นมาชะโงกดูสีหน้าน้องที่เอาแต่เงียบฉี่ สายตาวิบวับ



เด็กแก้มแดงยิ่งแก้มแดงซ่าน แม้แต่ใบหูก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูจัด น่าเอ็นดูเสียจนถูกแกล้งงับเข้าเบาๆ



“หิวหรือยังครับ” อาจเพราะได้เห็นใบหน้าน่ารักทันทีที่ตื่นนอนเช้านี้ถึงได้ดูสดใสไปหมด คนขี้หงุดหงิดกลับเป็นชายหนุ่มปากหวาน ออเซาะเอาใจจนน้องตั้งตัวไม่ทัน



ป่านพยักหน้าหงึกๆ อาศัยโอกาสใช้ความหิวเป็นข้ออ้างเอาตัวรอดจากความเสี่ยงที่จะหัวใจวาย



อย่างน้อยแค่หนีไปจากตรงนี้ก่อนพี่วาจะได้ยินเสียงตึกตักของหัวใจตัวเองก็ยังดี



พี่วาหัวเราะอีกครั้ง คราวนี้ยอมปล่อยน้องออกจากอ้อมแขนลุกขึ้นมาหยิบมือถือดูนาฬิกา



“หน้าปากซอยมีร้านโจ๊กอร่อย เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้” แต่น้องป่านรีบส่ายหน้า



“ไม่เป็นไรครับ เมื่อวานผมกับคุณหนูคุยกันว่าจะเป็นคนออกไปซื้อข้าวเช้า” ได้ยินแบบนั้นก็ไม่ว่าอะไร พี่วาพยักหน้าเข้าใจ ร่างสูงลุกออกจากเตียงเดินไปหยิบผ้าขนหนูเตรียมอาบน้ำ



“ถ้างั้นพี่ไปเตรียมตัวทำงานก่อน”



เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงัก ความรู้สึกใกล้ชิดเป็นธรรมชาติทำให้หัวใจรู้สึกอุ่นวาบขึ้นมาจนเผลอยิ้มจางๆ แต่ไม่ทันไรคนขี้แกล้งก็เร่งไอร้อนให้ใบหน้าที่เพิ่งหายแดงอีกครั้ง



“ป่านจะอาบน้ำเลยไหม”



เกือบเข้าใจว่าพี่วาจะสละให้น้องใช้ห้องน้ำก่อน ทว่าดูจากรอยยิ้มมุมปากคงไม่ใช่



“จะได้อาบด้วยกัน”



คนเจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ สายตาวาววับแบบนั้น คิดไปถึงไหนต่อไหนกัน!









ตอนไปเคาะห้องคุณหนูยังไม่ตื่นด้วยซ้ำ ร่างเพรียวบางเดินมาเปิดประตูในสภาพลืมตากึ่งหนึ่งสีหน้างุ่นง่านเพราะถูกปลุกแต่เช้า ป่านเกรงใจจนไม่กล้าเอ่ยธุระทว่าเจ้าตัวนึกขึ้นได้เลยพยักหน้าเข้าใจเปิดประตูให้ป่านเข้าไป



ของใช้ป่านอยู่ในห้องของเฮียเลยถือโอกาสล้างหน้าแปรงฟันพร้อมกัน คนตัวเล็กสองคนยืนแปรงฟันด้วยกันหน้ากระจกดูกระจิริดน่ารัก คุณหนูเลยแกล้งพยายามยืดตัวให้สูงกว่าป่านให้มากกว่าเดิม ทำให้น้องเพิ่งสังเกตกว่านอกจากเสื้อยืดตัวโคร่งคลุมต้นขา ภายในมีเพียงร่างเปลือยเปล่าพอเขย่งแก้มก้นขาวงอนถึงได้โผล่พะเยิบพะยาบ วับแวม ชวนให้น้องใจสั่น



ยิ่งแดงไปทั้งหน้าเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนก่อนนอนคุณหนูไม่ได้ใส่ชุดนี้ เป็นเสื้อของเฮียต่างหาก



ไม่อยากจะคิด แต่ความคิดเตลิดไกลเด็กน้อยก็เลยตัวแดงแก้มแดงไปทั้งหน้าจนคุณหนูหลุดหัวเราะออกมา ท่าทางอารมณ์ดีกว่าตอนตื่นนอนเยอะ จนป่านอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม



เข้าใจเลยว่าทำไมเฮียถึงแพ้ทุกที ก็คุณหนูน่ะน่ารัก ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งรู้สึกว่ามีเสน่ห์มาก



หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้ากันแล้วเดินลงมาข้างล่างก็เห็นเฮียกำลังเปิดร้าน พี่วากำลังเตรียมอุปกรณ์รอลูกค้าอยู่ในสตูดิโอ ดูเหมือนจะเป็นคิวที่นัดพิเศษถึงได้เช้านัก

ที่หน้าปากซอย บนทางเท้ามีร้านอาหารแผงรอยตั้งเรียงกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งตลอดทางลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศในระแวกนี้มาจับจ่ายอย่างเร่งรีบก่อนไปทำงาน ป่านกับคุณหนูเลือกซื้อโจ๊กร้านที่พี่วาบอกก่อนจะจูงมือกันมาเลือกซื้อของจุกจิกแกล้มอาหารเช้าจนเต็มไม้เต็มมือ



ป่านนึกไม่ออกว่าครั้งสุดท้ายที่ได้ออกมาเดินเล่นตอนเช้าๆ แบบนี้คือตอนไหน ชีวิตประจำวันของเด็กมัธยมที่เรียนจนค่ำ อ่านหนังสือสอบจนดึก ตื่นเช้ามาก็เห็นเพียงภาพอาหารเช้าที่หม่ามี้ทำให้ก่อนไปส่งป่านที่โรงเรียน



เช้าเร่งรีบกลับกลายเป็นเช้าที่ผ่อนคลาย อากาศกำลังพอดี ทำให้ป่านสบายใจ คุณหนูหันมาเห็นป่านยิ้มก็ยิ้มตาม สะกิดให้ป่านรู้ตัวก่อนพยักหน้าไปทางร้านน้ำเต้าหู้



“วาชอบน้ำเต้าหู้ร้านนี้ จะซื้อไหม” เด็กน้อยพยักหน้าทันทีไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ คุณหนูหัวเราะเบาๆ ขยับมาคล้องแขนเดินไปด้วยกัน



ถ้าเป็นไปได้ ป่านก็อยากมีเช้าที่สดใสแบบนี้ทุกวัน



แต่สดใสได้เพียงพริบตา ผลที่ทำไว้ก็ไล่ตามทัน



พอกลับมาถึงร้าน คนที่ป่านไม่คิดว่าจะได้เจอที่สุดกำลังนั่งทำหน้าสับสนอยู่ตรงโซฟา



“...หม่ามี้” หัวใจป่านกระตุก มือไม้สิ้นเรี่ยวแรงจนของทั้งหมดในมือร่วงลงไปกองที่พื้นขณะสองเท้าก้าวเข้าไปหา แม่กวาดสายตามองป่าน มองคุณหนู ไล่ไปจนพี่วาที่ยืนอยู่ด้านหลัง ไม่รู้ว่าพูดคุยอะไรกันไปก่อนหน้านี้บ้างถึงได้มีปนรู้สึกผิดฉายชัด



“ไหนล่ะโมโจ”



โฮ่ง!



คล้ายได้ยินชื่อตัวเองโมโจจึงขานรับ ก่อนถูกคุณหนูเดินเข้าไปลูบพร้อมส่งเสียงชู่วเบาๆ คราวนี้สถานการณ์ยิ่งน่ากระอักกระอ่วนจนพี่วาต้องเดินเข้ามาแทรกระหว่างกลางปกป้องน้องด้วยท่าทางสุภาพ



“คุณแม่ครับ น้องป่าน...”



“กลับบ้าน” แต่แม่เบือนหน้าหนีไม่รับฟัง



เอ่ยคำสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบๆ สายตามองตึงมาที่ป่าน บ่งบอกชัดว่ามีเรื่องต้องคุยกัน



ฝ่ามือเล็กๆ เอื้อมมาจับมือพี่วา สบตาบอกว่าไม่เป็นไร ยังไงซะก่อนหน้านี้ป่านก็ตั้งใจไว้แล้วว่าบอกความจริงทั้งหมด จะเร็วจะช้าก็ต้องสารภาพ พี่วาบีบมือน้องกลับเบาๆ ท่ามกลางสายตาของคนเป็นแม่ที่มองความสัมพันธ์ของทั้งคู่ออกในทันที



“เดี๋ยวป่านอธิบายให้หม่ามี้ฟังเองครับ”









เด็กเลี้ยงแกะถูกลงโทษยังไงเมื่อความจริงเปิดเผย ปั้นน้ำเป็นตัว



ไม่ใช่การถูกกักบริเวณ สั่งห้าม หรือกีดกัน แต่คือความเงียบที่มาพร้อมสายตาของความผิดหวัง



หลังจากเล่าเรื่องทั้งหมดว่าโมโจคือสุนัข และพี่วาเป็นใคร เปิดเผยกระทั่งรอยสักที่แอบซ่อนไว้ หม่ามี้ก็ไม่พูดอะไรสักคำ ป่านรู้ว่าหม่ามี้กำหลังโกรธ ผิดหวัง แต่การแต่เงียบงันทำให้ป่านอึดอัดสู้ดุด่าออกมาเลยยังดีกว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาป่านแอบร้องไห้ออกมาหลายครั้ง ไม่กล้าออกไปหาพี่วา ทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเพื่อลบความคิดฟุ้งซ่าน



การสอบผ่านไปอย่างซึมเซา แม้จะทำข้อสอบได้แต่ความหนักอึ้งในอกก็ยังไม่หายไป สุดท้ายป่านได้แต่เหม่อลอยพาตัวเองมาถึงร้านสักได้ยังไงก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ สิ่งที่เรียกสติคือกลิ่นฉุนของบุหรี่จากร่างสูงที่นั่งอยู่หน้าร้าน



บนม้านั่งตัวเดิม กับสายตาที่ยังคงให้การต้อนรับ



“สอบเป็นไงบ้าง” รอยยิ้มที่บอกว่าไม่เป็นไร เราปล่อยวางเรื่องยุ่งยากไว้ข้างหลังสักพักคงไม่เป็นไร



เด็กน้อยวิ่งเข้าสู่อ้อมแขนของคนรักอย่างไม่คิดอะไรอีกต่อไป ความอัดอั้นถูกกลั่นออกมาเป็นน้ำตาที่ไหลอย่างเงียบงัน ได้ยินเพียงเสียงสะอื้นไร้ถ้อยคำฟูมฟาย

พี่วาดับบุหรี่ อุ้มกอดน้องไว้ในอ้อมแขนลูบหัวลูบหลังปลอบโดยไม่พูดอะไรเช่นกัน เพียงปล่อยให้น้องร้องไห้กระทั่งพอใจ



“ตกลงว่าจะเรียนหมอ” บรรยากาศกลับสู่ความผ่อนคลายอีกครั้งจึงเอ่ยถาม เพราะวันนี้เป็นการสอบเฉพาะของนักเรียนที่กำลังจะไปต่อคณะแพทย์เท่านั้น

“อือ” เสียงงึมงำอู้อี้เพราะเพิ่งหยุดร้องไห้หมาดๆ ตัวเล็กยังกอดเกาะซุกซบคนตัวโตกว่าไม่ห่าง



ไออุ่นและกลิ่นกายของพี่วาทำให้น้องสบายใจขึ้นหลายเท่า ขณะที่ฝ่ามือใหญ่ยังคงลูบผมน้องเล่นซ้ำๆ



“ไหนบอกจะไฟต์กับแม่ไง”



“ไม่แล้ว” พูดแล้วก็เริ่มเบะปาก พี่



“อย่าทำหน้าอย่างนั้น” วาหัวเราะก้มลงจูบแก้มชื้นแผ่วเบา กระซิบถาม “ให้พี่ช่วยพูดไหม”



ไม่ใช่แค่เรื่องนี้ แต่เป็นทุกเรื่องที่กำลังคาราคาซัง เรื่องที่ตัวพี่วาเองก็มีส่วนผิดเช่นกัน



“ไม่เอา” ป่านส่ายหน้า ยืนยัน ไม่ทันไรเด็กงอแงก็เริ่มส่งเสียงกระเง้ากระงอดออดอ้อน “วากอดผมหน่อยนะ”



แม้จะยังคงอยู่ในอ้อมแขน แต่ก็ยังโอบกระชับแนบชิดพลางซุกหน้ากับไหล่บาง พรมจูบปลอบประโลมซ้ำๆ



“พี่ว่าผมจะทำได้ไหม”



“ทำได้สิ”



“ผม... ไม่มั่นใจ” ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ดูยากเย็นเกินกำลัง



พี่วารู้ความหมายของคำพูดนั้นดี “อย่าร้อง คนเก่งของพี่ ทำได้อยู่แล้ว”



สองคนกอดซบปลอบประโลมแลกไออุ่นกันกระทั่งพระอาทิตย์ลาลับ พี่วาไปส่งป่านที่บ้าน ทว่าหม่ามี้คงรออยู่ถึงได้ออกมาเผชิญหน้ากัน



นอกจากเสียงทักทายของพี่วาแล้วก็ไม่มีใครเอ่ยอะไร ยังคงเงียบงัน อึดอัด



ป่านรู้ดีว่ายังเร็วเกินไปที่จะได้รับการอภัย ทว่าก็อดน้อยใจไม่ได้ แม่ไม่เคยใจร้ายกับป่านแบบนี้มาก่อน พอเห็นสีหน้ามึนตึงผิดหวังเด็กน้อยก็น้ำตารื้นขึ้นมาอีก คงแอบไปร้องไห้ถ้าไม่ถูกเอ่ยถาม



“กินข้าวมาหรือยัง” น้ำเสียงนั้นหนักอึ้ง คล้ายเจือสะอื้นเช่นกัน



ป่านไม่ได้หันไปมอง เพียงพยักหน้า ทำท่าจะเดินขึ้นชั้นบนทว่าคำพูดต่อมากลับทำให้ชะงัก



“พรุ่งนี้ป่านไปโรงพยาบาลกับแม่หน่อยนะ”



คราวนี้ป่านหันกลับมา เบิกตากว้าง “หม่ามี้เป็นอะไรครับ”



น่าตกใจยิ่งกว่าเมื่อดวงตาของแม่มีน้ำตาเอ่อล้นปริ่มล้น ป่านไม่คิดว่าเรื่องที่ตัวเองโกหกจะร้ายแรงจนทำให้คนที่รักมีสีหน้าเจ็บปวดขนาดนี้

และใช่ สาเหตุที่หม่ามี้ไม่ใช่เพราะป่าน



“คุณหยาง... พ่อของป่าน กลับมาแล้วนะ” แต่คือความจริงที่หวนกลับมาทำร้ายซ้ำ



“...”



“เขาเป็นมะเร็งปอด ระยะที่สาม...” เอ่ยได้เพียงเท่านั้นน้ำตาของแม่ที่ป่านไม่เคยเห็นก็ไหลทะลัก ไม่อาจกลั้น



“...” ป่านเข้าใจแล้ว



นี่ต่างหาก บทลงโทษที่แท้จริง







#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 14 : Truth - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 10-08-2019 00:20:57
มันเกิดอะไรขึ้น  :a5:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 14 : Truth - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-08-2019 00:30:16
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 14 : Truth - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 10-08-2019 01:23:47
ขอให้พี่วาอยู่เคียงข้างป่านนะ ดราม่าแค่ครอบคระวพอ ใจรับไม่ไหววว อุแง
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 14 : Truth - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 10-08-2019 09:42:48
โถถถถถถถ น้องป่านลูกกกกกก :hao5:
มรสุมชีวิตจริงๆลูก เรื่องแฟนยังไม่เคลียกับแม่ สอบก็ยังไม่รู้ผล พ่อโผล่มาป่วยเป็นมะเร็งอีก :katai1:
พี่วาช่วยน้องด้วยยยยย :sad4:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 14 : Truth - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 10-08-2019 11:57:47
น้องยังเด็ก แค่ม.6 แต่ต้องรับศึกหลายด้าน ทั้งเรื่องหัวใจตัวเอง ความใฝ่ฝันของตังเอง ความหวังของครอบครัว แล้วยังมีเรื่องความเจ็บป่วยที่กำลังจะสูญเสียของคนในครอบครัวอีก ไหวไหมลูก/ลูบหัว  พี่วาตต้องออกโรงแล้ว พี่วาต้องเปิดตัวอาสาดูแลน้องให้หม่ามี๊ได้แล้ว  :hao5:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 14 : Truth - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 10-08-2019 13:31:11
ผ่านมันไปให้ได้นะทั้ง2คน
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 14 : Truth - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 10-08-2019 19:09:53
 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่ 14 : Truth - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 11-08-2019 08:50:29
ฮื้อ ดีมาก ที่ตัดสินใจอ่าน ภาษาสละสลวย เรียงลำดับการพูดไหลลื่น ชอบความเพ้อของตัวละคร ความรู้สึกเหมือนชีวิตจริง มีด้านเคร่งขรึม ด้านอ่อนโยน รักตัวละครทุกตัว เนื้อเรื่องกระชับ เราสะเทือนใจฉากที่ น้องป่านโดนเด็กเกเร ทำร้าย เราไม่คิดไง ว่าเด็ก ม.6 จะใช้วิธีนี้กัน ขนาดน้องป่านไม่เคยยุ่ง ไม่เคยรู้จักใครในโรงเรียน 
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ ลายที่15:Punishment 11.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 11-08-2019 19:37:33
ลายที่ 15

Punishment

(ทัณฑ์ทรมาน)



สิ่งเดียวที่แม่ต้องการคือการเห็นป่านมีชีวิตที่สุขสบาย เติมเต็มชีวิตครอบครัวที่ขาดแหว่ง ฉีกสะบั้น



ตั้งแต่จำความได้ ป่านรู้แค่ว่าหม่ามี้ต้องทำงานทุกวันเพื่อเลี้ยงปากท้องสองแม่ลูกจนมั่นคง ขณะที่คนคนนั้น... คนที่เลือกเดินอีกเส้นทางเพื่อตามหาความฝัน ขาดการติดต่อไปนับสิบปี



พ่อของป่านเป็นจิตรกรมีฝีมือ เคยมีชื่อเสียงอยู่ระยะหนึ่งจนกระทั่งมีเอเจนซี่ติดต่อนำงานไปแสดงที่ต่างประเทศ ไม่มีใครคัดค้าน เพราะนอกจากเงินก้อนใหญ่ที่ช่วยให้สุขสบายได้ระยะหนึ่งยังเป็นหนทางเติบโตบนเส้นทางฝัน แต่ความยินดีก็อยู่ได้เพียงชั่วคราว เมื่อมีเงื่อนไขบางอย่างที่รั้งตัวเขาไว้ไม่ให้กลับบ้าน



พ่อของป่านเป็นคนทะเยอทะยาน ช่างฝัน ขณะเดียวกันก็รักอิสระเกินกว่าจะปล่อยให้โอกาสนั้นลอยหลุดมือไป



ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะไม่กลับมาอีก



ขณะที่แม่กำลังก้าวหน้ากับหน้าที่การงานจนไม่ทันหวาดระแวงกับคลื่นใต้น้ำที่ค่อยๆ ก่อตัว ไม่ทันระวังสงสัยกับจำนวนเงินที่ส่งมาและความถี่ของการติดต่อที่ค่อยๆ ขาดหาย



รู้ตัวอีกที... ผู้ชายคนนั้นก็สร้างครอบครัวใหม่อยู่ในที่ห่างไกล



ครั้งสุดท้ายที่ป่านได้เจอพ่อ เขามาพร้อมกับทะเบียนหย่าและค่าเลี้ยงดูก้อนสุดท้าย



ป่านไม่เคยเข้าใจว่าความฝันของพ่อคืออะไร ในความฝันนั้นมีป่านกับแม่อยู่ด้วยไหม... ป่านไม่เข้าใจอะไรเลย



ไม่เข้าใจแม้กระทั่งตอนนี้ ทำไมถึงกลับมา



“หม่ามี้บอกว่าน้องป่านกำลังจะเรียนหมอ อีกหน่อยคงมารักษาปะป๊าได้” รู้ดีว่าเป็นเพียงการชวนคุยเพื่อคลายบรรยากาศแสนอึดอัดเท่านั้น



เพราะต่อให้เป็นแบบนั้นจริง ก็คงไม่อาจรักษา...



“ทีแรก ปะป๊าคิดว่าน้องป่านจะเป็นจิตรกรเหมือนปะป๊า”



“...”



“แต่แบบนี้ก็คงดีแล้วล่ะ” ในหัวของเด็กน้อยขาวโพลนเกินกว่าจะตอบโต้อะไร ได้เพียงยืนนิ่งพยายามกลืนก้อนความรู้สึกมากมายที่กำลังเอ่อล้นกลับลงไปอย่างเงียบงัน



แทนที่จะมองหน้าบิดาที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานาน ดวงตาสองข้างเลือกก้มลงมองพื้นสีขาวชืดชาของโรงพยาบาลด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับไม่รู้สึกอะไร



“ป่านกับแม่คงโกรธพ่อมาก” แม้จะเตรียมใจมาแล้วว่าคงไม่พ้นได้ยินคำขอโทษ ทว่าเมื่อได้ยินน้ำเสียงรู้สึกผิดถ้อยคำตอบโต้ก็ถูกกลืนหายไป ป่านเงยหน้าขึ้นสบตาดวงตาอิดโรย ใบหน้าตอบซีดที่จำแทบไม่ได้



ป่านเคยคิดว่าตัวเองเกลียดเขา



เคยคิดว่าแม่คงโกรธ เกลียดผู้ชายคนนี้ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย



ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมให้ป่านมาพบ ไม่ให้โอกาสเราสองคนพ่อลูกได้อยู่ตามลำพังเพื่อนปรับความเข้าใจกัน



และความจริง ป่านไม่ได้เกลียดเขา



แม้สิ่งที่พอทำจะไม่สามารถอภัยได้ง่ายๆ ทว่าสิ่งที่ทั้งสองคนแม่ลูกต้องการคือต่างคนต่างมีชีวิตที่เป็นสุขมากกว่าการได้เห็นอีกฝ่ายในสภาพป่วยไข้หมดอาลัย



“คุณอยากเห็นผมใส่เสื้อกาวน์ไหม”



หลายอาทิตย์ที่ผ่านมาป่านสับสนกับเส้นทางตัวเอง ตั้งคำถาม วาดฝันรูปแบบชีวิตที่แตกต่างออกไป แต่ยังคงมองไม่เห็นภาพตัวเองมีความสุขไม่ว่าจะทางเลือกไหนๆ



แต่ตอนนี้ป่านได้คำตอบแล้ว



ถ้ามันคือความหวัง คือความภูมิใจ



“อีกหกปี... จนกว่าผมจะเรียนจบ มารักษาคุณ...รอได้ไหม”



ต่อให้เป็นคำโกหก



“อืม พ่อจะรอ”



แต่หากเติมเชื้อไฟ ยื้อกำลังใจในการมีชีวิตของตรงหน้าได้ ป่านก็พอใจ









ตลอดทางกลับจากโรงพยาบาลมีเพียงความเงียบงันและความอึดอัดกระจายฟุ้งเต็มบรรยากาศ



แม่ไม่ได้เอ่ยอะไร และป่านก็ได้แต่ปล่อยให้คำมากมายวนเวียนอยู่ในหัวโดยไม่เอ่ยถาม ...ทุกอย่างมันถาโถมเกินรับทัน



“วันนี้ไม่ต้องไปเรียนพิเศษดีไหม” ขับรถออกมาได้เกินครึ่งทางแม่ก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมา



ป่านยิ้มจางๆ รู้ดีว่าแม่หายโกรธกับสิ่งที่ตัวเองทำแล้วถึงได้เลิกมึนตึงเป็นฝ่าเริ่มบทสนทนา น้ำเสียงแม้จะเหนื่อยล้าแต่ก็เหลือเพียงความอ่อนโยนห่วงใย



“ไม่เป็นไรครับ” เด็กดีส่ายหน้า แม่จึงหันกลับมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล



“ถ้าเหนื่อยก็พัก หม่ามี้ไม่อยากให้ป่านหักโหมเกินไป” ฝ่ามือเอื้อมมาแตะใบหน้าอิดโรยของลูกชายแผ่วเบา



“ไม่เป็นไรครับ ป่านไหว” ป่านจับมือหม่ามี้แนบแก้มตัวเองแล้วยิ้มกว้าง “เดี๋ยวต่อไปคงเหนื่อยกว่านี้อีกคงต้องเตรียมตัวไว้ จริงไหมครับ”



ถึงแม้จะไม่ได้ร่วมบทสนทนา แต่ป่านก็รู้ว่าแม่ได้ยินทุกอย่าง



เพิ่งเข้าใจเดี๋ยวนี้เองว่าไม่ใช่แค่เพราะความมั่นคงในอนาคต ยังเป็นเพราะไม่อยากให้ป่านเดินตามรอยเท้าของผู้ให้กำเนิด จะเป็นยังไง ถ้าป่านเลือกเดินทางตามพรสวรรค์ที่พ่อทิ้งไว้ให้... ตอนจบอาจจะลงเอยแตกต่าง แต่อดีตแสนยากเย็นคงทำให้แม่ไม่อาจวางใจให้ป่านเลือกทางนั้น เพราะแบบนั้นทันทีที่ได้ยินว่าป่านจะเรียนหมอแม่จึงดีใจมาก พร้อมผลักดัน สนับสนุนสุดกำลัง



และป่านก็จะไม่ทำให้หม่ามี้ผิดหวัง



“ป่านขอโทษนะครับ” ไม่แน่ใจว่าเด็กน้อยขอโทษเรื่องอะไร อาจเป็นทุกๆ เรื่องที่ป่านทำให้แม่ไม่สบายใจ



ภายในรถเงียบลงอีกครั้ง ด้วยจังหวะการจราจรยามบ่ายที่ไม่หนาแน่นทำให้รถไม่ติดนัก ไม่ทันไรก็ถึงปลายทาง ทว่าแทนที่จะจอดหน้าสถาบันกวดวิชาแม่กลับยังขับรถเรื่อยมา หักเลี้ยวเข้าในซอยที่ป่านคุ้นเคย



ก่อนจะจอดที่หน้าร้านสักของพี่วา



“เรื่องที่ป่านเป็นเกย์... แม่รู้มานานแล้ว”



“...” ป่านควรจะตกใจทว่ากลับไม่ได้ตกใจเท่าที่คิด



ถ้ามีใครในโลกนี้รู้จักป่านดีที่สุดนอกจากตัวเอง ก็คงเป็นหม่ามี้



“หม่ามี้รอ ว่าเมื่อไหร่ป่านจะบอกหม่ามี้ แต่ป่านเลือกที่จะโกหก เพราะแบบนี้หม่ามี้ถึงโกรธ เข้าใจไหม”



ได้แต่พยักหน้า ในใจยังรู้สึกผิด ทว่าเจือโล่งใจ



“แกร๊บเหรอ? หม่ามี้เห็นแกร๊บลูบหัวลูกชายหม่ามี้นะคะ” ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าแดงแจ๋เมื่อถูกจับได้



“พี่วาเขา...” อ้ำอึ้งไม่รู้ว่าควรแก้ตัวอะไร สุดท้ายก็ได้แต่ยิ้มแหยออกมา



“ป่านชอบพี่เขาใช่ไหม”



“ครับ” ผิดกับคำถามนี้ที่รีบพยักหน้าตอบทันควัน



หม่ามี้ได้แต่ถอนใจ ยังรู้สึกหนักใจกับความแตกต่าง ทั้งอายุ ทั้งภาพลักษณ์ ไม่คิดว่าน้องป่านจะมีรสนิยมแบบนี้



ดูจากสายตา น่าจะเกือบสามสิบแล้วล่ะมั้ง...



“ถ้าอย่างนั้นวันนี้ให้พี่เขาไปส่งบ้านด้วยแล้วกัน”









สิ่งเดียวที่ป่านต้องการในตอนนี้คือไออุ่น



“อ้าว ทำไมวันนี้มาเร็ว เพิ่งจะบ่ายสอง... หืม? ทำไมอยู่ๆ มากอด...”



กลิ่นกาย และอ้อมกอดจากคนรัก



“พี่ครับ มาทำกัน”



“หา?” ความโหยหา ความสุขสมที่จะช่วยลบความอึดอัดกดทับภายในใจ



“มาทำกัน”



ตอนนี้ เวลานี้ วินาทีนี้



“เฮ้ย เดี๋ยว อย่าเพิ่งถอด”



สิ่งเดียวที่ต้องการคืออ้อมกอด คือสัมผัสลึกซึ้ง เติมเต็ม ตักตวง ฉีกทึ้งตะกละตะกลาม



“น้อง...”



“พี่ จูบผมหน่อย...” จุมพิตย้อมความรู้สึกให้ยิ่งมัวเมา “กอดผมนะ นะครับ”



“...” รสจูบรุนแรงเจือหวานล้ำทวีปลุกปั่นความกระหายหาทรมาน



“วา...”



ลืมความจริง ลืมความฝัน



ลืมอดีต อนาคต ลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง



“รู้ใช่ไหม ต่อให้ร้องไห้อ้อนวอนทีหลัง พี่ก็จะไม่หยุดให้”



กระโจนสู่โลกอีกใบที่เหลือเพียงกันและกัน









วาบอกตัวเองเสมอว่าต้องหักห้ามใจ มันยังไม่ถึงเวลา น้องยังบริสุทธิ์เกินกว่าจะล่วงเกินตามใจ



เก็บงำความรู้สึก ความใคร่ ความกระหายจะกลืนกินทั้งตัวไว้มิดชิด ไม่แพร่งพราย



ยินดีจะทะนุถนอมไปอีกปี สองปี หรือสิบปีจนกว่าน้องจะยินยอมพร้อมใจ



แล้วนี่มันอะไรกัน



ทิวากรอ่านออกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง บางสิ่งผิดปกติทว่าสติแข็งขืนกลับถูกบั่นทอนทีละนิด...ด้วยรสจูบ ด้วยกลิ่นกาย เสียงกระซิบที่เรียกชื่อเขาซ้ำๆ



“วา...”



เตลิดสิ้นท่ากับดวงตาหวานที่จับจ้องอย่างเว้าวอน ยั่วเย้า



ราวผลึกหีบลับแตกกระจาย สัตว์ร้ายหิวกระหายถูกปลดปล่อยให้อาละวาดตามใจ



ตะครุบเหยื่อ กระชากทึ้งเนื้อหวาน กัดกินไม่รู้จักอิ่ม ตะกรุมตะกราม



“แน่ใจแล้วเหรอว่าจะทำแบบนี้” ถามเพียงเป็นพิธี เพราะความยับยั้งชั่งใจเหลือเพียงน้อยนิด เมื่อร่างเปลือยเปล่าถูกกดลงกับเตียงสัก ขาสองข้างแยกห่าง สั่นระริกแทบสิ้นแรง



“ผมอยากเป็นของวา” เพียงเท่านั้นคล้ายปีศาจจำแลงกลับร่าง ความแข็งขึงที่จดจ่อช่องทางกดกระซวกเข้าจมลึกเกินครึ่งทาง



เสียงหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังลั่นขณะที่ตัวตนแช่ค้าง ร่างกายกำยำโน้มทาบแผ่นหลัง พรมจูบผิวแก้ม ใบหู ก่อนบังคับเอี้ยวคอกลับมารับจุมพิตที่ริมฝีปาก

มัวเมา ปลุกเร้าความปรารถนาให้คลายทรมาน



โดยไม่รู้ตัว กลืนกินตัวตนใหญ่คับเข้ามาในร่างจนสุดทาง



ความเจ็บกลับกลายเป็นกระสัน ปรารถนาเสียดซ่านจนหลุดเสียงครางอีกครั้ง ภายในบีบรัดความแข็งขึงคับแน่นจนอึดอัดยิ่งเร่งให้อยากถาโถมกระแทกกระทั้น



เจ้าของร่างกำยำยืดตัวยืนเต็มความสูง มือทั้งสองข้างประคองสะโพก บีบเค้นสลับฟาดจนขึ้นรอยมือแดงช้ำอย่างไม่อาจห้าม ถอนกายออก ก่อนสอดใส่ ถอนกายซ้ำ กระแทกสุดทาง ดวงตาคมจับจ้องรอยสักบนสะโพกขาว แสยะยิ้มก่อนยิ่งเร่งจังหวะรัวเร็วเกินตั้งรับ ร่างบอบบางโยกคลอนเปล่งเสียงหวีดสั่น



ฝูงผีเสื้อถูกกระตุ้นให้กระเพื่อมไหวเริงระบำ



ก่อนจะกระชากร่างน้องกลับมายืนทาบทับ หมุนตัวสู่กระจกสะท้อนใบหน้าที่แดงซ่านด้วยราคะ อวดร่างกายที่ดูดดึงขยับโยกในจังหวะเดียวกันอย่างงดงาม



มือปะป่ายบีบเค้นเนื้อนุ่มหอมหวาน ขย้ำจนขึ้นรอยทั่วร่าง ริมฝีปากจุมพิตทั่วลำคอและไหล่บางตักตวงซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้อิ่ม



“Stop kissing...”



“...” กลิ่นราคะคลุ้งกระจายฉีกสติขาดสะบั้น ความแยกแยะถูกผิดเลือนราง



“Bite me…”



“...” ถลำลึก...



เหลือเพียงสองร่างเปลือยเปล่าที่ตอบสนองตามแรงปรารถนามัวเมา หลากท่วงท่า ทำตามสัญชาตญาณราวกับสัตว์



“Please…”



เสียงเนื้อกระทบเนื้อ เสียงครางเจือเสียงคำราม เสียงเตียงเหล็กลั่นตามจังหวะถี่เร็ว



เอี๊ยดอ๊าด... เอี๊ยดอ๊าด



เร่งเร้า รุนแรง เสียวซ่าน...



จนถะถั่งปลดปล่อยหยาดราคะ กระชากความสุขสมสู่จุดสูงสุดไปพร้อมกัน




#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

มีความกังวลเล็กน้อยเรื่องจังหวะเรื่องที่อาจจะแปลกประหลาด

ถ้าไม่โอเค หรือผิดพลาดตรงไหนบอกได้เสมอเลยนะคะ



ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

รักมากๆ

-Martian-


หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Zestful ที่ 11-08-2019 19:59:56
น้องป่านนนนนนนนนน โอ๊ย เขินนนนนนน
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 11-08-2019 20:19:22
น้องป่านนนนนนนน มาให้ตีเดี๋ยวนี้นะ รอบหน้าจะโดนกุญแจมือกับแส้แน่ๆนะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 11-08-2019 20:37:59
ตอนที่แล้วเครียดจะแย่ มาคืนความสุขให้มิตรรักนักอ่านรวดเร็วทันใจมาก เลือดสาดเลยอ่ะ   :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 11-08-2019 20:38:47
 o22 :haun4: o22
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 11-08-2019 20:55:40
สวัสดีค่ะทางเราได้รับแจ้งมาว่าที่นี่มีบุคคลต้องสงสัยที่ได้ทำการพรากผู้เยาว์ ไม่ทราบว่าจะขออนุญาตเข้าไปตรวจสอบได้ไหมคะ /ยื่นหมายค้น   :hao7:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: bowbeauty ที่ 11-08-2019 21:17:14
น้องป่านกับพี่วาร้อนแรงสุดๆ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 11-08-2019 22:36:15
สู่ขิต มากจ้า พี่วา&น้องป่าน
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 11-08-2019 23:09:31
เข้าใจว่าน้องป่านอารมณ์ไม่มั่นคงต้องการที่ยึดเหนี่ยว
แต่ว่าเมื่อฝูงผีเสื้อกระเพือมไหวนั้นนนน อิชั้นต้องจกยาดมมาสูด
แซ่บสุดคือ ‘Bite me’ โซ แดม ฮอท เด้ออออ :hao7:
หู้ยยยยย เขินหลายเด้ออออออ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 11-08-2019 23:23:15
น้องป่านนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 11-08-2019 23:29:56
ยัยน้องน่าสงสารจริงๆเลยพี่วาห้ามทิ้งน้องนะชั้นจะดักตีหัวเธออย่าดราม่ามากเลยใจจะรับไม่ไหวแล้ว
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 12-08-2019 00:09:20
น้องป่านน่าตีมากกกกก //จับฟาดก้น

เป็นเด็กที่ทำผิดแล้วทั้งน่าโอ๋และน่าลงโทษในเวลาเดียวกัน กรี๊ดดดด

บุคลิกเหมาะกับ BDSM มากก อิ  :hao6: :z1:  :haun4:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 12-08-2019 03:04:11
งือออ น้องง
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: btoey ที่ 12-08-2019 08:45:35
 :pighaun: :haun4: :pighaun: :jul1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 12-08-2019 17:45:21
ทำไมชั้นรุสีกว่า เด่วมันมีมาม่าชามโต นะ.. หืมมม..
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-08-2019 20:42:31
 :jul1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 15 : Punishment - 09.08.2562 (P.7) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 13-08-2019 16:45:17
คุณพี่วาจัดหนักน้องเลยหรอ​ ใจคอจะไม่ถนอมน้องเลยหรอ​ ครั้งแรกของน้องนะ​
 :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 16:Comforting 14.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 14-08-2019 01:00:01
ลายที่ 16

Comforting

(ประโลมขวัญ)



ความเจ็บปวดลบล้างความเจ็บปวดได้ไหม



เพี้ยะ!



รสชาติการถูกเฆี่ยนตี การถูกโถมขย่มร่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า



‘มีอะไรจะสารภาพไหมเด็กดื้อ’ ถูกกดข่ม ขู่คำราม ราวกระตุ้นความประหวั่นเจือวาบหวาม ร่างเล็กสวนกายรับตอบสนองทั้งที่ส่ายหน้าปฏิเสธเสียงสั่น



‘ไม่...อึก’



เพี้ยะ!



‘อยากให้พี่ตีเราให้ตายหรือไง’



‘ไม่...’ คือบททาสพยศนาย



เพี้ยะ!



‘อย่าร้อง!’



สุดท้ายหวัดร้อง วอนขอให้ลงโทษสาสมใจ



‘Please...’



‘...’



‘Harder... Daddy...’



ความทรงจำย้อนการกระทำ ฉายชัดกระทั่งเสียงแปร่งประหลาดที่ไม่คิดว่าเป็นเสียงตัวเอง



ป่านมองร่างเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยฝ่ามือและรอยฟันสะท้อนอยู่ในกระจกเงา ผิวขาวละเอียดปรากฏรอยช้ำเป็นจ้ำแทบทั่วร่าง ไม่เว้นแม่แต่ตรงรอยสักตรงสะโพกและขาอ่อนยังมีสีกุหลาบตีตราไว้



ทั้งหมดเพราะตัวเองวอนขอ... ไม่รู้ว่าขุดความกล้ามาจากไหน ราววิญญาณร้ายสิงร่างไร้การควบคุม ปลุกปล่อยสัญชาตญาณดิบที่ไม่เคยแสดงออก... ไร้ละอาย



พอไฟปรารถนามอดดับความกระดากกลับถาโถมจนอยากจะละลายหายไปในอากาศซะให้รู้แล้วรู้รอด โชคดีที่พี่วาต้องตื่นเช้าไปทำงาน จึงเหลือป่านลำพังในห้องนอนที่ไม่รู้ว่าถูกอุ้มขึ้นมาตอนไหน ไม่อย่างนั้นป่านก็ไม่รู้จะสู้หน้ายังไงไหว



แต่โชคร้าย... ที่การหมกตัวอยู่ในห้องคือการปล่อยให้เด็กน้อยเดินเล่นซุกซนได้ตามใจ



ได้รู้ ได้เห็น ‘ความลับ’



...ไม่สิ ‘ห้องลับ’ ต่างหาก



ในห้องแต่งตัวแบบวอล์คอินไร้สิ่งเตะตากลับซ่อนประตูสู่อีกห้องไว้ รังของเล่นหรรษาที่ป่านเคยเห็นเพียงในเว็บไซต์ของผู้ใหญ่เรียงรายอยู่ตรงหน้า น่าตื่นตาตื่นใจ



จากรู้สึกละอายกลับกระตุ้นความทรงจำหวามไหว ราวกับค่ำคืนหรรษาถูกฉายซ้ำ คล้ายได้ยินเสียงกระซิบจากเงามืดเลือนราง ยังต้องการอีก... อยากได้ทั้งหมดนี้



หากถูกเฆี่ยนตี ถูกพันธนาการทั่วร่าง จับดัดผิดรูปขณะร่วมรัก... จะรู้สึกยังไง



จะรู้สึกยังไง หากอยู่ท่ามกลางความเจ็บปวดหอมหวานที่ทำให้ลืมโลกความจริง แม้เพียงชั่วครู่...



ความคิดที่กำลังเตลิดทำให้ป่านหลุดยิ้ม ส่ายหน้าเรียกสติตัวเองกลับมาก่อนจะถือวิสาสะหยิบของบางสิ่งติดไม้ติดมือออกไป



ไม่ใช่ของเล่นพิสดารที่ป่านยังไม่กล้าแตะต้อง เพียงสายหนังรัดร่างกายที่ยังบรรจุอยู่ในกล่องใหม่เอี่ยม



เด็กซนลองสวมทับลงบนร่างที่มีเพียงเสื้อยืดสีขาวของพี่วาที่หยิบมาพร้อมกัน ครั้งแรกจึงทุลักทุเลสวมผิดถูกกว่าจะดูเข้าที่เข้าทาง



เส้นสายพันรอบคอโยงรยางค์ลงมารัดรอบแผ่นอก ต้นแขนและใต้เชิงกรานดูงดงามแฝงอันตราย



“พี่ซื้อโจ๊กมาให้...เฮ้ย! ทำไมใส่ชุดนั้น” ไม่ทันไรต้นเหตุแห่งความอันตรายก็เปิดประตูเข้ามา



พี่วาชะงัก ถุงโจ๊กแทบร่วงหลุดมือกว่าจะได้สติมองซ้ายมองขวาแล้วรีบปิดประตูราวกับกลัวใครจะผ่านมาเห็น



“หือ? ผมเห็นมันอยู่ในกล่อง” แกล้งตีหน้าซื่อ ก่อนหลุดขำแต่ยังพยายามยียวนซ้ำ “พี่ไม่ได้ซื้อไว้ให้ผมใส่เหรอครับ”



“ไม่...ก็ใช่ แต่...” วินาทีนั้นแสงอาทิตย์กะพริบพร่าเลอะเลือนจนตอบไม่เป็นภาษา ตามไม่ทันความร้ายกาจของปีศาจกระต่ายน้อย



“ผมใส่ผิดวิธีเหรอ?”



“ไม่ผิด แต่ว่ามัน...”



“มันไม่น่ารักเหรอครับ” ก็เจอแบบนี้ใครจะไปตั้งรับทันเล่า!



“...”



“งั้นผมถอด...”



“เดี๋ยว! ไม่ใช่อย่างนั้น” พยายามกลืนก้อนความกระหายหื่นสบตาน้อง



อยากจะตอบว่าน่ารัก น่ารักโคตรๆ เลยครับ



“ห้องพี่มี ‘ของเล่น’ เเปลกๆ เยอะเลยนะครับ” เด็กเจ้าเล่ห์ยังไม่หยุดคิดลูกเล่นยั่วหยอก ทั้งที่สีหน้าแทบจะเก็บอาการขบขันไว้ไม่ไหว มองใบหน้าสับสนเจือแดงซ่านของคนรักก็ยิ่งได้ใจ “พวกนั้น... พี่เตรียมไว้ให้ผมด้วยหรือเปล่า?”



“...” ตายๆ ๆ



“แต่ผมใช้ไม่เป็น รบกวนพี่สอนด้วยนะครับ”



ใครสั่งใครสอนให้พูดแบบนี้กัน...



“ป่าน...” เสียงดุเจือกระเง้ากระงอดอย่างจนใจ ทิวากรหมดท่าได้แต่พยายามยับยั้งชั่งใจไม่ให้หลุดขย้ำ เขารู้ดีว่าน้องเพิ่งผ่านศึกหนักหนามาคงรับอีกไม่ไหว เขาถึงปล่อยให้สลบไสลจนเช้าเพื่อฟื้นร่างกาย



แต่ให้ตาย... ช่างน่าฟาด น่าฟาดมากๆ เด็กอะไร ทำไมขยันยั่วให้ตบะแตกอยู่ได้



“มานี่ซิ” สะกดกลั้นดับกระหายสักพักถึงคุมสติใจเย็นได้ วาถอนหายใจเอื้อมมือไปจับมือน้องจูงมานั่งบนเตียง ขณะที่ร่างสูงทรุดลงขัดสมาธิบนพื้นตรงหน้า



“อ๊ะ!” ป่านหุบขาแทบไม่ทันเมื่อนึกได้ว่าภายใต้เสื้อยืดขาวไร้อาภรณ์ใดๆ ทั้งที่เคยเห็นกันไปถึงไหนต่อไหนแล้วแท้ๆ แต่ในที่สว่างแถมสติครบถ้วนแบบนี้มันก็... อดเขินไม่ได้



คราวนี้อสรพิษแสยะยิ้มเมื่อเด็กเจ้าเล่ห์กลับกลายเป็นกระต่ายตาถลนตื่นตูม



คนพี่หัวเราะได้ใจ มองล้อเลียนเด็กดื้อพลางค้นลิ้นชักหยิบยาทาแก้ฟกช้ำออกมา เปิดตลับวนนิ้วป้ายยาก่อนคว้าขาข้างหนึ่งของน้องมาวางบนตักแล้วจรดลงบนขาอ่อนขาว



“...”



“...”



ทั้งห้องเงียบงัน จากอวดเก่งเหลือเพียงกระดากอาย ผิวขาวกลับแดงแจ๋มองการกระทำอ่อนโยนไม่วางตา



พี่วาจับได้ว่าน้องกำลังเขินจัดจึงหลุดขำ เงยหน้าสบตาขณะเลื่อนนิ้วทายาตามรอยขบกัด ไล่ปลายนิ้วถลกชายเสื้อจนเกือบเผยส่วนลับเพื่อทายาตรงสะโพก แถมยังแกล้งใช้สายตาโลมเลียอุกอาจจนผิวใสขึ้นสีก่อนเสขึ้นสบตา ปลายนิ้วยังไล้วนอยู่ที่เดิมนานเกินจำเป็น ขณะค่อยๆ ยืดตัวยื่นใบหน้าใกล้ชิด



กระทั่งลมหายใจปะทะ ริมฝีปากคลอเคลียริมฝีปากในระยะอันตราย



แต่แล้วกลับแสยะยิ้มร้าย แตะจูบเพียงปลายจมูกรั้นแล้วผละจาก ยื่นตลับยาให้น้องแทน



“อยากทาเองไหม” ข้อเสนอชั้นดี เพราะหากให้พี่วาทายามากกว่านี้สิ่งที่ต่างฝ่ายต่างกดไว้อาจปะทุเลยเถิดจนห้ามไม่ได้



ไม่ต้องเดาก็เห็นภาพชัด ล้ำเส้นอีกเพียงหนึ่งมิลลิเมตรคงตบะแตกเตลิด ไม่มีใครห้ามใคร…









อาจเป็นความอ่อนโยนต่างหากที่ลบล้างความเจ็บร้าว



สัมผัสแผ่วเบา นุ่มนวล จุมพิตเพียงริมฝีปากแตะ ปลายนิ้วเพียงลูบไล้ เกลี่ยทิ้งไออุ่นบางเบา ฝ่ามือที่ประสานกันและกันกระชับเพียงครั้งคราวไม่กุมแน่นจนไร้อิสระ พูดคุยไร้สาระตลอดทาง



ความธรรมดาที่ชโลมอบอุ่นทั่วทั้งบรรยากาศ



“แล้วทำไมเราถึงชอบสัก” คำถามเรื่อยเปื่อยในร้อยพันถูกเอ่ยขณะรถเคลื่อนตัวตามสัญญาณไฟ



“...”



“เสพติดความเจ็บปวด?” สันนิษฐานเมื่อหันมาเห็นสีหน้าอธิบายยาก เด็กน้อยหัวเราะ ส่ายหน้าก่อนสบตายิ้มซุกซน



“เสพติดช่างสักต่างหากครับ”



“ตายแล้ว! โดนเด็กบอกรัก”



นับวันยิ่งน่าหยิกน่าตี น่ามันเขี้ยวจนอดไม่ได้ที่จะดึงมือที่กุมไว้แกล้งขบหลังมือให้ร้องโอดโอย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจรดริมฝีปากจุมพิตซ้ำๆ ทั้งที่สายตายังจ้องไปยังถนนเบื้องหน้า



ป่านรู้สึกถึงกระแสอุ่นวาบที่แล่นจากหลังมือเข้าสู่หัวใจ ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อยกยิ้มระคนเขินอาย



“ถึงแล้ว” กระทั่งรถจอดเทียบหน้าประตูบ้าน ป่านจึงละสายตาจากเสี้ยวหน้าหล่อเหลาของคนรัก



หันไปมองเห็นรถของหม่ามี้ที่จอดอยู่ก็ถึงกับได้สติถอนใจ นึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานตัวเองทำตัวเหลวไหลน่าตำหนิ โชคดีที่ระหว่างหลับพี่วาโทรกลับมาขออนุญาตให้ป่านนอนค้างเพื่อไม่ให้หม่ามี้เป็นห่วง



แต่ก็มีเรื่องอื่นน่าห่วงมากกว่า...



“ให้พี่เข้าไปด้วยได้ไหม” ป่านเบิกตากว้างหันกลับไปเลิกคิ้วมองคนถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหู “พี่มีเรื่องจะคุยกับหม่ามี้ของป่าน นะครับ”



เด็กน้อยได้แต่อึกอัก หันรีหันขวางไม่แน่ใจ



จริงอยู่ที่คำพูดของแม่เมื่อวานดูเหมือนจะเข้าใจตัวตนของป่านและเปิดทางให้คบกัน แต่ป่านก็ตั้งใจว่าจะพูดคุยในแน่ใจอีกครั้งก่อนจะพาพี่วามาแนะนำกับแม่อย่างเป็นทางการ



“เอายังงี้ พี่จะรออยู่ข้างนอกให้หนูไปขออนุญาตหม่ามี้ก่อน ดีไหมคะ” รู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นเด็กน้อยที่ถูกตะล่อมให้โอนอ่อนในสถานการณ์ตัดสินใจยาก

ป่านสบตาพี่วา ดวงตาคมฉายแววจริงจัง เห็นแบบนั้นก็ได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก



“เดี๋ยวป่านออกมานะครับ” เปิดประตูลงจากรถ เหลียวหลังมองไม่เห็นความลังเลใจในรอยยิ้มอ่อนโยนที่มอบให้



ป่านสูดลมหายใจ เดินเข้าบ้าน ไม่ทันไรก็เจอหม่ามี้นั่งคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องนั่งเล่น



“สวัสดีครับหม่ามี้”



“กลับมาแล้วเหรอ” เลิกคิ้วมอง แววตาประหลาดใจมากกว่าตำหนิ อาจเพราะไม่คิดว่าลูกชายจะกลับมาแต่เช้าตรู่ หรือเพราะชุดรุ่มร่ามปิดทุกสัดส่วนดูแปลกตา ทว่าธุระที่ติดพันทำให้ไม่อาจถามไถ่ได้มากนัก ป่านรอให้แม่คุยโทรศัพท์จนเสร็จท่าทางอึกอักทำให้แม่ผิดสังเกต



“มีอะไรหรือเปล่า” ถามกลั้วหัวเราะ



“คือ... พี่วาเขา รออยู่ข้างนอก” เอ่ยเพียงเท่านั้นแม่ก็เปลี่ยนสีหน้าทันควัน เลิกคิ้วงุนงง ก่อนขมวดคิ้วคล้ายครุ่นคิด



“หม่ามี้ยังโกรธพี่วาอยู่เหรอครับ” เห็นท่าไม่ดีเด็กน้อยยิ่งเจื่อนซีด ทำท่าจะอธิบาย



“หม่ามี้โกรธเรานั้นแหละที่โกหกหม่ามี้” ทว่าแม่ส่ายหน้า ถอนใจ ย้ำความผิดจนป่านได้แต่เบะปากจนคำพูดด้วยความรู้สึกผิด



“ง่ะ”



“ไปเรียกพี่เขาเข้าบ้านก่อนสิ”









หลังจากนั้นป่านไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ร่วมวงสนทนา



ธุระของพี่วาคงไม่พ้นเรื่องของป่าน แต่จะเป็นเรื่องอะไรกัน



แม่กับพี่วาคุยกันราวกระซิบ มีจังหวะเงียบ และจังหวะที่พี่วาโดนหม่ามี้ตำหนิ ได้ยินคำขอโทษ เสียงถอนหายใจ ก่อนบทสนทนาจะจบลงด้วยรอยยิ้มจางๆ ของทั้งสองฝ่าย



ป่านวิ่งเข้าไปหาทันทีที่พี่วาถูกปล่อยตัว หม่ามี้เห็นท่าทางของลูกชายก็ได้แต่ส่ายหัวเจือขบขันอย่างจนใจก่อนหลบขึ้นชั้นสองไป



“คุยอะไรกันเหรอครับ”



น้องถาม แต่คนตัวโตกว่ากลับเลิกคิ้วถามกลับ ทำทีเฉไฉ



“วา” แต่พอน้องเบะใส่ก็หลุดหัวเราะเอ็นดู ยกธงขาวแพ้ความน่ารัก



“หม่ามี้บอกว่าอาทิตย์หน้าให้ไปส่งน้องป่านสอบ” เห็นชัดว่าไม่ได้มีเพียงเท่านั้น แต่ป่านก็ไม่ได้ถามต่อเพราะเข้าใจใจความ



หมายความว่าหม่ามี้ยอมรับ...



เมื่อเห็นเด็กน้อยยิ้มกว้าง พี่วาก็ยิ้มตามเอื้อมมือมาลูบหัวน้องเบาๆ ดวงตากลับฉายแววอ่อนโยนอีกครั้ง



“ตอนอายุ 18 พี่เองก็มีเรื่องที่รู้สึกว่ารับมือไม่ไหว หาทางออกไม่ได้ แต่เพราะยังมีครอบครัว มีคนที่รักพี่ถึงผ่านมันมาได้”



“...” แม้ไม่บอกแต่วารับรู้ได้ว่าน้องกำลังแบกภาระบางอย่างที่มองไม่เห็นด้วยตา บ่าเล็กๆ จึงห่อเหี่ยว บางครั้งดวงตาฉายแววเหนื่อยล้ากดดัน



“ตอนนี้นอกจากหม่ามี้ครอบครัวป่านมีพี่แล้วนะครับ” นิ้วโป้งเกลี่ยแก้มใส มองใบหน้าแสนรัก



หนักล้าจะช่วยแบ่งเบา ถ้าก้าวพลาดจะจูงมือค่อยๆ หาเส้นทางใหม่ไปด้วยกัน



เขาจริงจังกับเด็กคนนี้มากมายขนาดเห็นภาพอนาคตร่วมกัน



เพราะรัก



“ขอบคุณนะครับ” จากรอยยิ้มบางเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะแผ่วเบาโผเข้าสู่อ้อมกอด ฝังกายลงสู่อ้อมแขนที่อ้ารับด้วยความเต็มใจ



อบอุ่น อ่อนโยน อุ่นใจ



“อ้อลืม ยังมีคุณหนู ไอ้เฮีย สามสาวแล้วก็โมโจด้วย”



ป่านหลุดขำ นึกภาพออกว่าถ้าหากโมโจอยู่ตรงนี้คงเห่าขานรับทันควัน






#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

ผิดพลาดตรงไหนติติงได้เสมอเลยนะคะ



ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

รักมากๆ

- Martian -
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 16 : Comforting- 14.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 14-08-2019 01:35:34
แงงงงง น้องป่านซุกซนมากกกกกก มีอ้อนพี่ด้วยว่าใส่แล้วไม่น่ารักหรอ หู้ยยๆๆ :-[
ต่อไปนี้คงต้องเรียกรถพยาบาลมาสแตนบายเผื่อพี่วาหัวใจวายไปก่อน :laugh:
และในที่สุดหม่ามี้ยอมรับแล้วววว ยินดีกับพี่วาด้วยนะคะ  o13
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 16 : Comforting- 14.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 14-08-2019 01:51:25
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 16 : Comforting- 14.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-08-2019 02:59:39
บรรยากาศ​ดอกไม้​บาน​
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 16 : Comforting- 14.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 14-08-2019 06:23:24
ตกหลุมน้องป่านแบบถอนตัวไม่ขึ้น
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 16 : Comforting- 14.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 14-08-2019 07:29:16
Harder ~~ ตายยยยย  คนอ่านอ่ะตาย แต่อิพี่นี่สิ คึกลงไม่ได้เลยทีนี้ 5555

น้องวาต้องได้สวมเสื้อกาว์นแน่ๆ กำลังใจดีขนาดนี้ สู้ๆๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 16 : Comforting- 14.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 14-08-2019 12:17:07
น่าร้ากกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 16 : Comforting- 14.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Bambooyamy ที่ 14-08-2019 14:25:51
ใช้ให้หมดเลยนะคะของในห้องลับบแงง อยากมีน้องป่านเป็นของตัวเอง  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 16 : Comforting- 14.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-08-2019 14:57:05
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 16 : Comforting- 14.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 14-08-2019 16:27:45
งื้ออออ (งื้อพ่อง//เสียงอิเฮีย)

น้องป่านน่ารักน่าตีมากๆจริงๆ อย่างนี้จะให้หม่ามี๊(ปลอมๆ)กับพี่วาไม่ลงโทษยังไงไหว

จับฟาดก้นที่ไปเล่นซนของคนอื่น เพี๊ยะๆๆ  :m10: :man1: :oo1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 16 : Comforting- 14.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 14-08-2019 17:00:59
โล่งอก...  :z2:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ: Beast - 15.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 15-08-2019 02:02:49
ลายพิเศษ 2

Beast

 ( ในดวงตาอสูร )



ไอ้วามีความรัก



ไอ้เด็กที่เคยบอกว่าการมีแฟนเป็นเรื่องงี่เง่า การงอนง้อของคู่รักเป็นเรื่องไร้สาระ ตอนนี้กลับติดแฟนยิ่งกว่าอะไร



แต่จะโทษใครได้



เมื่อเจอคนที่ใช่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย อยู่เหนือทฤษฎีหรือตรรกะใดๆ ทั้งนั้น



“ลูกค้าบอกว่าอยู่ๆ มึงก็โทรไปแคนเซิล... เดี๋ยวนะ เชี่ย มึงทำอะไร” แม้แต่เรื่องเสี่ยงคุกเสี่ยงตาราง



“อะไร?”



“ตัวมึงมีแต่รอยเนี่ย นี่มึง...” สภาพแบบนี้ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องสัก เดย์ไม่อยู่แค่ครึ่งวันดันเกิดเรื่องเสียได้



เขาไม่ว่าหรอกเรื่องคบกัน แต่อย่างที่รู้ว่าน้องยังไม่บรรลุนิติภาวะ เขาเตือนไอ้วาเสมอว่าทำอะไรต้องระมัดระวัง เด็กมีพ่อมีแม่ ไม่ใช่แค่ตัวน้องป่าน แต่จะทำอะไรต้องนึกถึงพ่อแม่น้องด้วย



แล้วนี่มันอะไรวะ ฉิบหาย



“น้องเขาอยู่ในห้องใช่ไหม”



“...เออ”



“ไหนมึงบอกจะรอไง” แต่จะให้โกรธก็คงไม่ใช่หน้าที่ เขามีหน้าที่เพียงเตือนน้องเท่านั้น เขารู้ว่าวาจริงจังและน้องป่านก็น่ารัก เขาเข้าใจว่ามันรู้สึกยังไง



เพราะกับหลิน...เขาก็ไม่เคยห้ามใจได้เลยเหมือนกัน



“เออน่า กูรู้ตัวแล้วกันว่าทำอะไรลงไป”



ก็ได้แต่หวังว่ามันจะรู้ตัวจริงๆ ว่าทำอะไรลงไป









“กูบอกแม่น้องแล้วนะ” แต่คนอย่างทิวากร พูดคำไหนคำนั้น



เดย์รู้จักรุ่นน้องคนนี้มานานพอจะรู้ว่ามันรู้จักรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ



“กูขออนุญาตคบกับป่าน แล้วก็เล่าให้แม่น้องฟังทุกอย่าง”



พอได้ยินแบบนั้น เดย์ก็แสยะยิ้ม เลิกคิ้วมองอย่างล้อเลียน “แล้วแม่เขาไม่ตกใจแย่เหรอวะ”



รู้ว่าวาเป็นคนในร้อน แต่ไม่คิดเหมือนกันว่าจะร้อนขนาดนี้ พอรู้ตัวว่าทำผิดก็แบกหน้าไปขอโทษทันที แสดงความรับผิดชอบให้รู้ว่าไม่ได้ตั้งใจจะฟันแล้วทิ้ง



จริงอยู่ว่าต่างเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่น้องก็ยังเด็ก ซ้ำยังเป็นเด็กดีอยู่ในลู่ในทางมาตลอด แม้จะเห็นจากแววตาว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา ก็อดยอมรับไม่ได้ว่าน้องเริ่มแสดงตัวตนอีกด้านออกมาตั้งแต่ที่รู้จักกับไอ้วา



ทุกอย่างอยู่ในสายตาผู้ใหญ่อย่างเขามาตลอด แต่ไม่คิดเข้าไปห้าม ความรักไม่ใช่เรื่องผิด ความต้องการก็ไม่ใช่เรื่องผิดเช่นกัน



“ก็ตกใจ แต่เขาก็เข้าใจ” วาหันมาสบตา คล้ายย้อนคิดถึงบทสนทนาระหว่างตัวเองกับน้องป่านแล้วหัวเราะออกมาจางๆ “เขาถามแค่ว่าป้องกันไหม พอกูบอกว่าป้องกันเขาก็ไม่ว่าอะไรอีกนอกจากดุเรื่องที่กูโกหกว่าเป็นแกร๊บ”



เดย์หัวเราะตาม นึกภาพออกว่าความรักและห่วงใยของพ่อแม่เป็นยังไง



เผลอย้อนคิดถึงเรื่องราวของตัวเอง แล้วรู้สึกว่าไอ้วาโชคดีมากที่แม่น้องเข้าใจ ผิดกับเขากับหลิน กว่าพ่อแม่คุณหนูจะไฟเขียวยอมให้คบกันได้เขาแทบกระอักเลือด



แต่ก็สมควรแล้ว เพราะเขาทำเรื่องแย่ๆ กับลูกชายท่านไว้เยอะเช่นกัน



“พอคิดว่าเมื่อก่อนมึงเคยไล่น้องเขาสารพัดแล้วหมั่นไส้สัด” อดล้อเลียนไม่ได้ รู้ว่าแพ้แทบตายก็ยังจะเล่นตัว ฟอร์จัด



เป็นไงล่ะ สุดท้ายก็พลาดท่า หลงยิ่งกว่าหลง



“บอกแล้วว่าเนื้ออ่อนมันหวาน”



“เออ หวาน โคตรหวาน”



“หึ”



“มึงจำไว้เลยนะเฮีย คนเนี้ย กูจริงจัง”



คิดไปคิดมา ไม่แปลกเลยที่คนอย่างไอ้วาจะตกหลุมรัก



เพราะแม้แต่เขา คนที่ได้ชื่อว่าอสูรร้ายไร้หัวใจ มองความรักเป็นสิ่งไร้ค่า เป็นของตาย แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้คำคำเดียวนี้เช่นกัน









แต่จริงจังแค่ไหนก็ควรเพลาๆ บ้าง



“เสียงดังฉิบหาย” รู้ว่าหลง รู้ว่ารัก รู้ว่าน้ำผึ้งกำลังหวาน



แต่มึงจะเอากันอาทิตย์ละเจ็ดวันเลยหรือยังไง



“น่าสนุกดีนะ”



คนที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนหลังเอ่ยกลั้วหัวเราะ มือที่เกาะไหล่เปลี่ยนเป็นโอบรอบคอขณะที่ร่างกำยำยังวิดพื้นแข็งขัน ไม่มีเสียจังหวะ



“เสี่ยงคุกเสี่ยงตารางมากกว่า” เสียงบ่นจนใจเจือเสียงลมหายใจหอบหนักเพราะออกกำลังกายมาพักใหญ่



“หืม?”



“ก็เด็กมันยังไม่บรรลุนิติภาวะ” ร่างกายเกือบเปลือยเต็มไปด้วยเหงื่อแต่คนตัวเล็กกว่าก็ไม่นึกรังเกียจ เปลี่ยนท่าเป็นเกาะก่ายคล้ายจะยิ่งแกล้งถ่วงน้ำหนัก เอ่ยน้ำเสียงขบขัน



“แปลกเหรอ... ตอนครั้งแรกกับพี่ผมก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะ”



คราวนี้เดย์หยุดชะงัก เอี้ยวใบหน้าหันกลับไปมองแฟนตัวเองอย่างประหลาดใจ “ฮะ? แต่เราใส่ชุดนักศึกษา...”



“พอดีเรียนก่อนเกณฑ์น่ะ”



“...” เดี๋ยวสิ



“อืม แจ้งตำรวจตอนนี้ทันมั้ยน้า”



“คุณหนู!” แขนที่ยึดกับพื้นถึงกับเสียหลักเกือบทำร่างบอบบางตกลงมากระแทก ยังดีที่เขาสอดแขนลงมารองหัวไว้ทัน ก่อนพลิกตัวเป็นฝ่ายคร่อมอยู่เหนือร่าง กักคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขน



“ล้อเล่น” ยังไม่วายแลบลิ้นยียวน ประจวบกับที่เขานึกขึ้นได้ว่าอายุของหลินห่างจากวาเพียงสองปี งานนี้เขาถูกต้มให้ตกใจเก้อเท่านั้นเอง



“ตัวแสบ” ทว่าแทนที่จะตำหนิกลับแสยะยิ้ม แกล้งฝังใบหน้าลงกับซอกคอขาว ขบซ้ำไปซ้ำมาจนอีกฝ่ายหัวเราะคิกคักด้วยความจั๊กจี้



“ไม่วิดพื้นแล้วเหรอ” เอ่ยถามพลางยกแขนขึ้นมาโอบรอบคอแกร่งทั้งที่ใบหน้าแดงแจ๋



ใบหน้าคมเลื่อนขึ้นมาจูบแก้มใสเบาๆ เสียงทุ้มกระซิบเจืองอแง “ไม่เอาอ่ะ เหนื่อยแล้ว”



แต่มีหรือที่คนเจ้าเล่ห์จะไม่รู้ทัน ขณะที่ถูกริมฝีปากร้อนพรมจูบบางเบาทั่วใบหน้า ลมหายใจคลอเคลียหน่วงหนักเผยเจตนาเด่นชัด



หลินหัวเราะเบาๆ มือข้างหนึ่งค่อยๆ เลื่อนลูบลงตามร่างกายที่เต็มไปด้วยเหงื่อ ผ่านลำคอแกร่ง แผ่นอกหนา และหน้าท้องกำยำ ไล้วนทุกส่วนที่เต็มไปด้วยรอยสัก ก่อนเลื่อนต่ำลงถึงส่วนที่ดุนดันกางเกงวอร์มออกมา



สอดมือเข้าไปในขอบกางเกงกอบกุมส่วนร้อนจัด



“สงสัยตรงนี้ยังไม่เหนื่อยล่ะมั้ง” นิ้วโป้งแตะส่วนปลายที่ฉ่ำชื้น ไล้วนไปมาจนได้ยินเสียงคำราม



ขาเรียวยกเกาะก่ายเอวสอบให้ส่วนแข็งขึงดุนดันบั้นท้ายผ่านเนื้อผ้า ขยับหยอกพลางหัวเราะซุกซน น่ามันเขี้ยว



อสูรร้ายแสยะยิ้ม ดวงตาสบดวงตา ทะลุปรุโปร่ง ต่างเอ่อล้นด้วยความต้องการ



ตั้งแต่ได้ยินเสียงบรรเลงบทรักดุดันจากอีกฟากหนึ่งของผนัง บรรยากาศก็คล้ายจะเคล้าไปด้วยกลิ่นจางๆ



กลิ่นความปรารถนา กลิ่นราคะถูกกระตุ้นด้วยกลิ่นเหงื่อจากคนรัก



“ถ้าวิดพื้นเหนื่อยแล้ว เราเปลี่ยนไปออกกำลังท่าอื่นดีไหม”



กลิ่นดอกไม้สะพรุั่งยั่วเย้า รัญจวนเกินต้านทาน




#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

เอาตอนพิเศษพาร์ทเฮียมาฝาก สั้นมาก 5555

คราวนี้รู้ชื่อคุณหนูแล้วนะ ชื่อหวานไม่แพ้น้องป่านเลย -..-



ผิดพลาดตรงไหนติติงได้เสมอเลยนะคะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่า

-Martian-
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ : Beast - 15.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Zestful ที่ 15-08-2019 03:10:36
มีแ่ของน่ารักนุบนิบบบ ทั้งคุณหนูหลิน และน้องป่านนร อิจฉาเฮียกับพี่วามากกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ : Beast - 15.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-08-2019 04:23:50
 :mew3:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ : Beast - 15.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 15-08-2019 08:35:08
เอาอี๊ก...กกกกกกกกกกก  :hao6:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ : Beast - 15.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 15-08-2019 10:52:28
นี่อ่านมาตั้งนานเพิ่งโฟกัสได้ว่า คุณหนู ชื่อ หลิน แต่เดี๋ยวก่อนนะน้องป่านกับพี่วานี่7วันเลยหรอคะ!? ผนังห้องบางด้วยยยย สงสารเฮีย :laugh:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ : Beast - 15.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 15-08-2019 11:44:57
ทำผนังห้องใหม่เถอะเฮียยย  ไม่งั้นต้องปิดร้านสักแล้วล่ะ เพราะช่าง2คนมัวแต่สักอย่างอื่น
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ : Beast - 15.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 15-08-2019 12:31:36
รอนะคะ  :katai4:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ : Beast - 15.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 15-08-2019 13:44:42
งืออออ หวานนนนน คุณหนูชื่อหลิน/เพิ่งรู้ 555555

ตอนนี้ถ้าเอาตำรวจมาล้อมจับ คงได้ผู้ต้องหาคาหลักฐาน ก็อิพี่วาหลงขนาดนี้  :-[
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ : Beast - 15.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 15-08-2019 18:30:35
 :haun4: กดได้แต่ไอ้ตัวนี้เท่านั้นเลยเหมาะสมแล้ว555
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ : Beast - 15.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 15-08-2019 18:32:15
น้องป่านขี้อ่อยเหลือเกิน​   o18
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ : Beast - 15.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 16-08-2019 10:39:42
หลินก็ขี้ยั่วเหลือเกิน :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ : Beast - 15.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 18-08-2019 01:49:45
อิพี่ใจบ่ดีแล้วจ้า มีเรื่องให้ตื่นเต้นทุกตอนเลย

วาเปิดตัวว่าชอบเล่นของ ป่านชอบความเย้ายวน
แถมดูจะปลื้มของเล่นพี่ไม่น้อยเลยด้วย
มีความย้อนแย้งแต่ไม่แสดงออกมาก 5555

คุณหนูน่ารัก ชื่อก็น่าเอ็นดูด้วย สมแล้วที่เฮียรักหนักมาก
ชอบความแปลกใหม่ และตื่นเต้นพอกัน
เฮียจะได้รู้ว่าที่ผ่านมา วาต้องทนเหมือนกันไหม

คงต้องบุผนังกั้นเสียงกันหรือเปล่า  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ : Beast - 15.08.2562 (P.8) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 18-08-2019 16:50:07
ช่างสัก มีจุดให้สักถาวรแล้ว
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่ 17:New Year - 19.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 19-08-2019 06:40:24
ลายที่ 17

New Year

(พลันประกาย)



ไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้



รู้ตัวอีกทีก็กำลังจะขึ้นปีใหม่แล้ว เทศกาลเฉลิมฉลองที่ใครหลายคนต่างตั้งตารอคอย



ป่านเองก็รอคอยเช่นกันเพราะนี่จะเป็นการหยุดพักครั้งแรกหลังเอาแต่คร่ำเคร่งกับการเรียน การอ่านหนังสือมานาน



ทว่าสำหรับเด็กม.6 คงเป็นการหยุดพักที่จิตใจยังฟุ้งซ่าน เมื่อยังไม่มีมหาลัยให้ลงหลักปักฐาน ผลการยื่นโปร์ไฟล์สำหรับการคัดเลือกรอบแรกของมหาลัยที่ป่านหวังไว้ใกล้ประกาศผลเต็มที ดังนั้นในใจของเด็กน้อยจึงยังเต็มไปด้วยความกดดันและกังวล



โชคดีที่คอยมีคนอยู่เคียงข้างร่วมปั่นป่วนไปด้วยกัน



‘ไม่ต้องกังวลหรอก ป่านเก่งอยู่แล้วยังไงก็ผ่าน’



‘ถ้าไม่ผ่านรับตรงก็รอรอบแอดก็ได้’



‘หมอมีรอบแอดซะที่ไหนล่ะมึง’



‘สมัยนี้เขาเรียก TCAS ต่างหาก’



‘คืออะไร’



‘ใครจะไปรู้’



‘เป็นเด็กม.6นี่ลำบากฉิบหายเลย’



ป่านจำได้ว่าตัวเองหัวเราะออกมาจริงๆ ตอนที่ฟังคุณหนู เฮีย และพี่วาทะเลาะกันเรื่องระบบการสอบเข้ามหาลัยที่ดูจะยุ่งยากขึ้นทุกที ย้อนรำลึกความหลังสมัยที่ตัวเองอยู่ม.6 คุยเรื่องข้อสอบที่ผิดประหลาดและไม่รู้ว่านำไปวัดความสามารถอะไรได้ และบรรยากาศก็ผ่อนคลายเมื่อต่างคนต่างแย่งกันพูดเรื่องขบขัน



“มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้จ๊ะ” คิดเรื่อยเปื่อยกระทั่งถูกแก้วน้ำอัดลมเย็นเฉียบแตะลงที่แก้ม เงยหน้าขึ้นก็เห็นหม่ามี้ยืนยิ้มอยู่ ก่อนจะวางจานขนมขบเคี้ยวไว้ข้างป่านแล้วนั่งลงตาม



ทีแรกป่านตั้งใจจะอยู่เคาท์ดาวน์กับทุกคนที่ร้านสัก แต่หม่ามี้ชวนออกมาฉลองที่บ้านคุณปู่ด้วยกัน ปีนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ครอบครัวได้อยู่ฉลองวันส่งท้ายปีกันอย่างพร้อมหน้า มันเป็นความตื่นเต้น ปะปนกับความรู้สึกประหลาด เพราะนอกจากป่านกับแม่ พ่อยังมีครอบครัวปัจจุบันมาร่วมงานสังสรรค์



ไม่ใช่ความอิจฉา ไม่ใช่ความเกลียดชัง แต่เป็นความรู้สึกประหลาด...ว่างโหวง ราวกับมีโพรงกลวงโบ๋อยู่ในอก เมื่อเห็นชัดเจนว่าที่ตรงนั้นไม่ใช่ที่ของป่านกับแม่อีกแล้ว



ป่านทำตัวไม่ถูกจึงปลีกตัวออกมา แม่ก็คงเช่นกัน



สองแม่ลูกนั่งห้อยขาอยู่บนชานศาลาริมน้ำ สายตาทอดมองผิวน้ำสะท้อนแสงดาว เงียบเชียบ ราวกับกำลังรำลึกความหลัง



บ้านหลังนี้เป็นของคุณปู่ บ้านเกิดของพ่อ ป่านจำได้ว่าตอนเด็กๆ พ่อกับแม่เคยพาป่านมาเยี่ยมปู่กับย่าบ่อยครั้ง ก่อนที่ทั้งสองคนจะแยกทาง ตอนนี้สภาพบ้านทรุดโทรมไปมาก เพราะไม่มีใครอยู่มาหลายปี แม้พ่อกับครอบครัวจะย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วก็ยังมีบางส่วนที่ยังไม่เรียบร้อย



ในใจของป่านรู้ดีว่ามันจะไม่มีทางเรียบร้อยไปมากกว่านี้ เพราะสุดท้ายพ่อต้องกลับไป



ป่านหันกลับไปมองหน้าแม่ พยายามคาดเดาว่าแม่จะรู้สึกยังไงกับการกลับมาเพื่อต้องลาจากอีกครั้ง



บางทีในใจของแม่อาจมีโพรงกลวงโบ๋ที่ลึกและกว้างกว่าป่านก็ได้ ใช่ไหม



“แม่เหงาไหมครับ”



“หืม?” แม่หันมาสบตา ยังคงประดับรอยยิ้มงดงาม



วินาทีนั้นป่านรู้สึกโชคดี ที่ทั้งดวงตาและรอยยิ้มของป่านถอดแบบมาจากคนตรงหน้า



“ตอนที่พ่อไม่อยู่... แม่เหงาไหมครับ” เด็กน้อยพยายามคิดภาพสีหน้าของหม่ามี้ในตอนนั้น แต่กลับนึงไม่ออก จำได้เพียงอ้อมกอด รอยยิ้ม และแผ่นหลังแข็งแกร่งของผู้หญิงคนหนึ่งที่ยังคงก้าวเดินไปข้างหน้าในทุกวัน



“เพราะมีป่าน หม่ามี้เลยไม่เคยเหงา” แม่เอื้อมมือมาลูบหัวลูกชายเบาๆ ป่านยิ้มกว้างไถแก้มกับฝ่ามือออดอ้อนแบบที่ชอบทำ



“ตอนเด็กๆ ป่านซนมากไหมครับ”



แม่หัวเราะ “ไม่เลย ป่านเงียบมาก จนคุณครูเขียนมาในสมุดพกว่าเป็นเด็กขี้เหงา” ป่านหัวเราะ จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่ามีเรื่องทำนองนั้น



แม้เป็นเด็ก แต่ป่านรับรู้ได้ว่าสถานการณ์ที่บ้านเป็นยังไง สิ่งเดียวที่ป่านคิดว่าตัวเองพอจะทำได้คือการพยายามตั้งใจเรียนและไม่สร้างปัญหา



“พอโตมาก็เลยดื้อมากๆ เลยสินะครับ” ไม่วายยกความผิดที่ผ่านไปแล้วมาถล่มตัวเอง หม่ามี้ขำ ดึงตัวป่านลงมาหนุนตักพลางลูบหัวเบาๆ



“แต่หม่ามี้ชอบที่ป่านเป็นตอนนี้ ป่านดูมีความสุขกว่าแต่ก่อน” เด็กน้อยเลิกคิ้ว ไม่เคยสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง



แต่ในสายตาของคนเป็นแม่มองเห็นชัดเจน และพอจะรู้ว่าเป็นเพราะอะไร



ติ๊ง~



ไม่ทันไรก็มีเสียงเตือนข้อความดังขึ้นมาจากคนที่เป็นความสุขของลูกชาย



“พี่วาส่งข้อความมาสวัสดีปีใหม่ครับ” อุบอิบไม่บอกว่ามีอีกข้อความที่ส่งมาติดๆ กัน





‘คิดถึงแล้วครับ’





ข้อความที่ทำให้ลูกชายของหม่ามี้ยิ้มกว้าง รีบลุกขึ้นมาตอบกลับ





‘คิดถึงเหมือนกันครับ’





เห็นแล้วอดเอื้อมมือไปหยิกแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อด้วยความมันเขี้ยวไม่ได้ ป่านหัวเราะ เก็บมือถือแล้วสบตาแม่อยู่พักใหญ่



“มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”



ได้คำตอบของคำถามที่เพิ่งถาม จากสีหน้าเปื้อนยิ้ม จากแววตา โพรงในใจของหม่ามี้คงถูกเติมเต็มปิดถมมานานแล้วด้วยความรักความห่วงใยจากลูกชายคนนี้



“ใกล้จะเคาท์ดาวน์แล้ว เรากลับเข้าไปในบ้านกันเถอะครับ”



เมื่อรู้อย่างนั้นโพรงในใจของป่านก็ถูกเติมเต็มในทันทีเช่นกัน









เห็นได้ชัดว่าที่ร้านสักก็คงจัดปาร์ตี้ปีใหม่กันทั้งคืน



เปิดประตูเข้ามาป่านก็เห็นขวดเหล้า จานอาหาร และเศษซากของประดับมากมายระเกะระกะเต็มร้าน เฮียเดินมาเปิดประตูให้ด้วยสภาพเหมือนเมาค้าง ขณะที่คุณหนูนั่งกินน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ทั้งที่หน้างัวเงียอยู่บนโซฟา



“กินอะไรมาหรือยัง”



“หม่ามี้ให้เอาข้าวเช้ามาฝากด้วยครับ” ป่านพยักหน้า ตั้งใจจะเอาปิ่นโตใส่กับข้าวที่หิ้วมาด้วยไปใส่จานให้ แต่เฮียกลับมาคว้าไป



“ไอ้วาอยู่ในห้องสัก” บอกโดยไม่รอให้น้องถามก่อนหันหลังเดินเข้าไปในครัว คุณหนูลุกขึ้นตามอาหารไปแต่ไม่วายแวะแต๊ะอั๋งน้อง สวมกอดจากด้านหลังแล้วก้มลงหอมหัว



“ตัวหอมจังๆ” เบ้ปากบ่นงึมงำ คงเพราะสภาพตัวเองตอนนี้แทบดูไม่ได้



“คุณหนูก็ไปอาบน้ำสิครับ” ป่านหัวเราะ ปล่อยให้แฟนเฮียซุกจมูกสูดกลิ่นพลางบ่นอิจฉาจนพอใจแล้วผละตามกลิ่นอาหารไปจึงเดินไปเปิดประตูห้องสักของพี่วา

ภายในห้องแทบไม่มีแสงสว่างเพราะปิดม่านปิดไฟ แต่แสงที่ลอดผ่านประตูก็เพียงพอจะทำให้มองเห็นร่างสูงที่นอนแผ่อยู่บนเตียงสักเลือนราง



“พี่ครับ” ส่งเสียงเรียกทว่าไม่มีการตอบสนองใดๆ “หลับอยู่เหรอ?”



สองเท้าเดินเข้าไปใกล้ ก่อนทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ของช่างสัก เด็กซนลอบยิ้มกับตัวเองเมื่อรู้สึกแปลกๆ กับตำแหน่งที่สลับกัน



“วา...” เรียกซ้ำอีกครั้ง เมื่อยังไม่มีทีท่าตอบสนองจึงลอบไล้ปลายนิ้ววาดตามลวดลายที่สลักลงบนร่างกายเปลือยเปล่า นึกภาพหากตัวเองเป็นช่างสักและพี่วาเป็นลูกค้าบ้างจะรู้สึกยังไง



“ทำไรอ่ะ”



“...!!” แต่เมื่อลากมาถึงตัวอักษรที่สักอยู่เหนือไหปลาร้า ดวงตาคมก็ลืมขึ้นมา ป่านสะดุ้ง มองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนที่นอนอยู่ ไม่รู้จะตอบคำถามยังไง



“จะจูบ?”



“ผ...ผมแค่... อยากดูรอยสักใกล้ๆ” เมื่อได้ยินคำตอบพี่วาก็ปรับเบาะขึ้นมาอยู่ในท่านั่งพิงหลัง เปิดโคมไฟ ก่อนอุ้มน้องขึ้นไปนั่งคร่อมตัก โอบหลังจนร่างชิดกัน



“ตรงไหน ตรงนี้?”



“...!”



“ใกล้ขนาดนี้ เห็นชัดยัง”



ในระยะนี้ยังไงก็ต้องเห็นเด่นชัด ป่านอ่านออกเสียงเบาๆ



“Kiss me”



“อือ”



ปลายนิ้วเรียวลูบไล้ทีละตัวอักษรแผ่วเบา ผุดรอยยิ้มยียวนมุมปาก ดวงตาหวานสบตา “แล้วจูบได้จริงไหมครับ ตรงนี้”



“ก็ลองดูดิ” คนพี่ยกยิ้มท้าทาย ก่อนจะหลุดหัวเราะเมื่อน้องก้มหน้าลงมา จรดริมฝีปากเหนืองโค้งไหปลาร้าสวยแผ่วเบา



จุ๊บ



“หึ Good boy” ฝ่ามือใหญ่ลูบหัวพลางรั้งให้คนตัวเล็กนอนซบลงบนร่าง กอดก่ายซุกซบซอกคอขาวทั้งจูบทั้งหอมจนคลายความคิดถึง



เด็กน้อยหัวเราะออกมาด้วยความจั๊กจี้ นิ้วมือยังเกลี่ยไล้ตามรอยสักบนตัวคนรักเล่นเบาๆ



“ฉลองปีใหม่กับที่บ้านเป็นยังไงบ้าง”



พอได้ยินคำถามป่านเพียงพยักหน้า ไม่ได้เล่าอะไรต่อ แต่วาเดาออกว่าน้องมีอะไรจะพูดจึงไม่ได้ซักไซ้มากความ เพียงรอให้น้องตัดสินใจ



“พ่อของป่าน เป็นมะเร็ง...”



แต่คาดไม่ถึงว่าเรื่องที่น้องอยากจะพูดจะเป็นเรื่องนี้



วากระชับอ้อมกอดพลางกดจูบหน้าผากน้องซ้ำๆ ปลอบประโลมไร้ถ้อยคำ น้องวาดแขนกอดกลับ พยายาอมกลืนก้อนความรู้สึกที่เอ่อล้นขึ้นมาทันทีที่เริ่มพูดปัญหาที่กดทับอยู่ในใจ



แต่พี่วาเคยบอกว่าจะอยู่เคียงข้าง และป่านคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะเปิดใจ



“เขาทิ้งเราไปตอนที่ป่านยังเป็นเด็ก... เพิ่งกลับมา” ใช้เวลาพักใหญ่ในการรวบรวมคำพูดแต่ละครั้ง ทว่าพี่วาไม่คิดคาดคั้น “เขาบอกว่าจะรอจนกว่าผมจะเรียนจบ อีกหกปี พี่ว่าจะทันไหมครับ”



“นี่คือสาเหตุที่เรายอมเรียนหมอเหรอ”



“...” ไม่มีคำตอบ



อาจทั้งใช่และไม่ใช่ ป่านตัดสินใจจะเรียนต่อทางนี้ตั้งแต่ก่อนที่จะรู้ว่าพ่อกลับมา ขณะที่ข่าวร้ายก็ช่วยกระตุ้นให้ความรู้สึกยิ่งชัดเจนเช่นกัน



“ทั้งที่หายไปตั้งหลายปี ทำไมถึงกลับมาสภาพนี้”



“...”



“ทำไมไม่บอกเร็วกว่านี้ ถ้าบอกก่อน... ผมจะได้เป็นเด็กดี...ฮึก...” ทั้งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะร้องไห้ แต่เมื่อได้เอ่ยออกมาก็คล้ายกับกำแพงที่ปริแตก ความรู้สึกทะลักทะลาย



พี่วากอดน้องไว้แน่น ทั้งจูบทั้งลูบหัวลูบหลังปลอบใจ เรื่องที่ได้รับรู้มันหนักหนาเกินกว่าที่เด็กคนหนึ่งจะรับไหว ไม่แปลกเลยที่น้องจะรู้สึกอึดอัดจนร้องไห้



“ชู่ว... เราเป็นเด็กดีที่สุดเท่าที่พี่รู้จัก เป็นเด็กดีที่สุดในโลกแล้วครับ ได้ยินไหม”



สิ่งเดียวที่ไม่ถูกต้องคือการที่น้องโทษตัวเอง



“อย่าแบกรับไว้คนเดียว ป่านมีพี่อยู่ตรงนี้ จำได้ไหม” เอ่ยย้ำคำที่เคยบอกเพื่อให้สบายใจ



เขาดีใจที่ป่านยอมเปิดใจ ให้เขาได้รับรู้ปัญหา ให้เขาได้ปลอบประโลม ให้เขาได้ช่วยแบกรับ



เขามั่นใจว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี ต่อให้มันเป็นเรื่องหนักหนาแค่ไหนก็ตาม ต่อให้สุดท้ายหมดหนทางก็ไม่เป็นไร เขาจะสอนให้น้องรู้เองว่าบนโลกนี้มีเรื่องมากมายที่แม้แต่ผู้ใหญ่ยังแก้ไม่ได้ ไม่ผิดเลยที่น้องจะรับมือไม่ไหว



สอนให้รู้ว่าบางครั้งสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์ตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะทำได้ คือการปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามทางของมัน









ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ กว่าน้องป่านจะหยุดร้องไห้



เสียงสะอื้นหยุดลงขณะที่สองร่างยังนอนกอดซบกันไม่ห่าง คนหนึ่งปลอบโยน คนหนึ่งอาศัยไออุ่นชำระความเศร้า กระทั่งความรู้สึกกลับมาคงที่อีกครั้ง



ป่านดีใจที่ได้บอกเล่า และพี่วาก็ยินดีรับฟัง



“คุณหนูบอกว่ารอยสักบนตัวเฮียทั้งหมดคือแฟนเก่า ทำไมล่ะครับ” หลังจากเงียบอยู่นาน น้องก็เป็นฝ่ายเอ่ยถามเรื่อยเปื่อย ชวนคุยเพื่อคลายบรรยากาศให้พี่วารู้ว่าไม่เป็นอะไรแล้ว



“เฮียมันสันดานไม่ดีไง” เสียงทุ้มตอบกลั้วหัวเราะ ฝ่ามือยังลูบหัวน้องซ้ำๆ



“พี่” เงยหน้าเบะบึ้ง บ่งบอกว่ากำลังจริงจังพี่วาเลยหัวเราะเบาๆ อีกครั้งพลางอธิบาย



“หึ เฮียมันเป็นคนเปิดเผย เคยผ่านอะไรมาบ้างก็อยากให้คนปัจจุบันรู้ไว้” ป่านไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็เปลี่ยนคำถาม



“แล้วรอยสักบนตัวพี่... เหมือนกันไหมครับ” ขยับตัวลุกขึ้นนั่งบนหน้าท้องแกร่ง เพ่งมองรอยสักบนตัวคนรัก แต่เดาไม่ออกถึงที่มาที่ไป



“ก็คล้ายๆ แต่บันทึกไว้เฉพาะคนสำคัญๆ”



“...”



น้องยังคงทำหน้างง พี่วาจึงหัวเราะ ดึงร่างเล็กลงมาซบลงบนตัวอีกครั้ง “อยากรู้ขนาดนั้นก็มาใกล้ๆ สิ”



ไล่จากแขน และเชิงกรานซ้าย ขวา



“อันนี้พ่อกับแม่พี่ อันนี้โมโจ อันนี้เลนนอน” ป่านลากนิ้วตามร่างของอดัมกับอีฟ เจ้าสี่ขา และศิลปินชื่อก้องโลกผู้ล่วงลับ



เข้าใจแล้ว ความหมายของคำว่าคนสำคัญ



“Beauty and the Beast คือเฮียกับคุณหนูเหรอครับ?” หมายถึงรอยสักบนแผ่นอกที่ป่านเคยเห็นแต่จับลวดลายไม่ได้ คือใบหน้าของอสูรและหญิงสาวที่กำลังเต้นรำ ถอดแบบจากนิทานชื่อดัง



“อือ สักไว้แก้เคล็ด ไอ้เฮียมันจะได้ไม่ทิ้งคุณหนูอีก” ป่านหัวเราะ นิ้วยังคงลูบเรื่อยวาดตามเส้นที่พลิ้มไหวงดงาม ก่อนหยุดชะงัก



“แล้วอันนี้ เอ๊ะ... อันนี้ผมไม่เคยเห็น...” จะว่าไป ป่านเพิ่งสังเกตว่ารอยสักจากอกขวาตอนนี้ลามเรื่อยมาเกือบทั่วแผ่นอกซ้าย



ท่ามกลางสวนสวยปรากฏลวดลายแปลกใหม่ คือฝูงปลาที่กำลังแหวกว่าย



...ไม่สิ กำลังบินต่างหาก



“แล้วคิดว่าหมายถึงใครล่ะ หืม?”



ตอนนั้นเองที่ป่านเพิ่งเอะใจว่าเป็นลวดลายที่ถอดแบบมาจากรอยสักของตัวเอง...



ทั้งโค้งเว้าและสีสัน มัจฉาที่สวมปีกสยายงดงาม เข้ากันดีเหลือเกินกับแมกไม้ในสวนสวรรค์



ป่านยิ้มกว้าง สบดวงตาคมที่ยิ้มตอบ พี่วาเกลี่ยนิ้วตามกรอบหน้าน้อง ก่อนยื่นหน้าเข้ามาจูบหน้าผากแผ่วเบา



“สำหรับพี่ ป่านคือคนสำคัญ” เอ่ยชัดเจน



ให้รู้ว่าต่อไปนี้ป่านไม่ได้เดินไปข้างหน้าโดยลำพังอีกต่อไป











#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

เป็นเด็กม.6 นี่เหนื่อยจังเลยน้าา

ตอนเขียนเราทำตารางเรียนตารางสอบให้น้องป่านด้วยค่ะ

งงงวยพอสมควร เพราะเรียนจบมาพักใหญ่แล้ว ถ้าผิดพลาดตรงไหนแจ้งได้เลยนะคะ ;-;



ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

รักมากๆ



-Martian-
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่17 : New Year - 19.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 19-08-2019 06:58:27
มันคือดีๆๆๆๆๆๆ "สำหรับพี่ป่านคือคนสำคัญ"   :hao7:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่17 : New Year - 19.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 19-08-2019 07:54:06
ทำไมเราอ่านแล้วน้ำตาซึมเข้าใจความรู้สึกของป่านมากๆพ่อกลับมาพร้อมจ่าวร้ายแถมยังต้องพาตัวเองกลับไปอยู่ในที่เหมือนเป็นส่วนเกินป่านและแม่เก่งมากพื้นฐานจิตใจมั่นคงมากๆแล้วทำไมพ่อไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรเลยน้องป่านอย่าลืมไปสอบกสพท.นะคะ
ขอบคุณนักเขียนค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ผลิตงานดีๆแบบนี้ไปเรื่อยๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่17 : New Year - 19.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 19-08-2019 08:37:33
เราเคยอยู่ในสถานะเหมือนป่านนะคะ จะว่าเราอกตัญญูก็ได้ แต่ตอนที่เรากับแม่ลำบากแทบตาย เค้าไม่เคยยื่นมือมาช่วย พอใกล้ตายเกิดสำนึกได้อะไรไม่รู้ จะขอกลับมา เราเลยบอกไปว่าถ้ากลับมาแล้วมาเป็นภาระ ไม่ต้องกลับมาค่ะ ชีวิตเราตอนนี้ดีอยู่แล้ว เราแค่ช่วยเหลือไปตามสมควรแล้วจบกันไป ไม่ต้องข้องเกี่ยวกันอีก
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่17 : New Year - 19.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 19-08-2019 12:52:03
พี่วาอบอุ่นมาก..กกกกกกกกก   :-[
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่17 : New Year - 19.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-08-2019 14:17:52
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่17 : New Year - 19.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 19-08-2019 14:20:43
ผ่านคุกผ่านตารางมาแล้ว ไม่มีไรห้ามพี่วาได้แล้ว จะอ้อยน้องเท่าไหร่ก็จัดมาค่ะ คนอ่านรับไหว ฮึบๆๆๆ  :-[
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่17 : New Year - 19.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-08-2019 14:49:12
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่17 : New Year - 19.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 19-08-2019 16:25:36
อยากจะหวงน้องป่าน แต่ก็ไม่ทันแล้ว ถ้าขอคุณหนู เฮียคงกระโดดถีบ

ขอโมโจ ได้มั้ยคะ มีสินสอด เป็น royal canin 1กระสอบ กับ snack อีก 100 ห่อ

อ่านมาถึง น้องป่าน ต้องสอบ แล้ว มึนเลยค่ะ อะไรคือ TCAS รู้จักแต่เอนทรานซ์ กับ onet-anet 
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่17 : New Year - 19.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 19-08-2019 17:26:52
สงสารน้องจัง
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่18: Dreams - 21.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 21-08-2019 08:04:16
ลายที่ 18

Dreams

( ไฟในฝัน )



อีกสามวันจะประกาศผลสอบ



คล้ายความกังวลทั้งชีวิตถาโถมลงมาให้โอบรับ ความคิดแง่ร้ายผุดกะพริบเกือบทุกชั่วโมงในกิจวัตร



ป่านยิ่งอ่านหนังสือหนักกว่าเก่า เพราะหากสอบไม่ผ่านอย่างที่คิดขึ้นมา เท่ากับว่าโอกาสยิ่งน้อยลง การแข่งขันยิ่งสูงขึ้นป่านยิ่งต้องพยายามให้มาก เด็กน้อยจิตตกถึงขั้นนอนไม่หลับ ผวาตื่นกลางดึกเพื่ออ่านหนังสือจนเช้าติดต่อกันหลายวัน



หม่ามี้เป็นห่วงจนไม่รู้จะทำยังไง ป่านเองก็รู้ว่าแม่ไม่สบายใจจึงขออนุญาตมานอนค้างที่ร้านสักเผื่อว่าการมีเพื่อนจะช่วยให้ผ่อนคลายความเครียดเกร็งลงบ้าง



แต่ไม่วายหอบหนังสือเตรียมสอบมาอ่านจนได้ พี่วาไม่ได้ห้าม แต่มีข้อแม้ว่าอย่าหักโหม และต้องกำหนดตารางการอ่านชัดเจน มีเวลาพัก มีเวลาผ่อนคลายคิดเรื่องอื่นให้ไม่กดดันจนเกินไป แปลกดีที่ร่างกายป่านกลับสงบเชื่อฟัง แม้ความกังวลยังตกค้าง แต่กลางดึกหากผวาตื่นก็จะมีอ้อมกอดและเสียงกระซิบกล่อมช่วยปลอบใจให้หลับใหลต่อได้ตลอดคืน



สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากเสร็จงานสักพี่วาก็จะมานั่งเฝ้าเด็กเตรียมสอบอ่านหนังสือเพื่อเข้านอนพร้อมกัน



“พี่ไม่ต้องรอก็ได้ครับ เหลืออีกหลายบท” ทั้งที่น้องบอกไปตั้งหลายครั้งว่าไม่จำเป็นต้องฝืนร่างกาย เพราะเข้าใจดีว่าพี่วาทำงานมาทั้งวันก็เหนื่อยมากแล้ว



“ไม่เป็นไรพี่ว่าง” ยังจะเถียงทั้งที่ดวงตาคมจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่



อาจเป็นเพราะแบบนี้ป่านจึงรู้สึกเกรงใจ ไม่เคยอ่านหนังสือเกินเวลาที่กำหนดไว้เพราะไม่อยากให้พี่วาลำบาก



“แต่พี่ทำงานมาทั้งวัน”



“พี่ยังไม่ง่วง”



“แน่ใจนะครับ”



“แน่ใจๆ ไหนๆ เดี๋ยวอ่านเป็นเพื่อน ชีววิทยานี่พี่ถนัดมาก” ป่านจนปัญญาจึงปล่อยให้ผู้ใหญ่ดื้อหยิบหนังสือที่ตัวเองเพิ่งอ่านจบไปเปิดเล่น ท่าทางเคร่งขรึมขึ้นทันควันทำน้องหลุดขำ รู้ดีว่าทำท่าตั้งใจไปอย่างนั้นเองเพื่อไม่ให้โดนไล่



ปกติป่านชอบอ่านหนังสือคนเดียวที่บ้านมากกว่ารวมกลุ่มติวหรือในสถานที่ที่มีเสียงจอแจ แต่พอมีพี่วาอยู่ด้วยกลับไม่รู้สึกรำคาญอะไร เพราะพี่วาแทบไม่พูด ไม่รบกวน เวลาป่านอยากพักก็มักจะมีขนมหรือน้ำหวานสำหรับเติมพลังวางไว้ให้โดยไม่ต้องร้องขอ



ในทีแรกความไม่ชินทำให้ป่านรู้สึกลำบากใจ แต่เมื่อเป็นแบบนี้บ่อยเข้าทุกครั้งที่ป่านละสายตาจากแผ่นกระดาษแล้วเห็นใบหน้าของพี่วา รอยยิ้มที่คล้ายจะให้กำลังใจ มันกลับทำให้ป่านรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก



แต่เผลอละสายตาจดจ่ออยู่กับหนังสือไม่กี่ชั่วโมง หันกลับมาอีกทีก็เห็นพี่วานอนหลับอ้าปากหวอจนน้ำลายย้อยใส่หนังสือตัวเองแล้ว



“วา... น้ำลายย้อยใส่หนังสือผม”



“ชิบหาย!”



“หนังสือเรียนก็น่าเบื่อแบบนี้แหละครับ” ป่านอดขำไม่ได้ หยิบทิชชู่ออกมาเช็ดหนังสือกับมุมปากผู้ใหญ่ดื้อที่ยังไม่วายขอแก้ตัว



“เอาใหม่ คราวนี้ไม่หลับแล้ว”



“อ่านจบแล้วครับ” ป่านมองนาฬิกา เกือบจะตีสามแล้ว ป่านกำหนดเวลาให้ตัวเองดึกสุดเพียงเท่านี้ และก็อ่านได้ตามเป้าพอดี



“เหรอๆ งั้นไปนอนกัน” ร่างสูงรีบรวบหนังสือของน้องจัดวางเป็นระเบียบไว้ที่มุมโต๊ะแล้วคว้าข้อมือเล็กลุกทันควัน



“เดี๋ยวครับ”



“หือ?”



ป่านอึกอัก ช้อนสายตาสบตาดวงตาคมที่ตั้งคำถาม พลางยกชายเสื้อตัวเองขึ้นมาซุกจมูกสูดกลิ่นฟุดฟิด ยิ้มแหย



“เรา... อาบน้ำกันก่อนไหม?”









สงสัยว่าพี่วาคงจะเข้าใจความหมายคำว่า ‘เรา’ ต่างจากป่าน



หมายถึงต่างคนต่างอาบต่างหาก ไม่ใช่แบบนี้สักหน่อย



“อะไรกัน เมื่อกี้ยังง่วงอยู่แท้ๆ” สองร่างนั่งซ้อนกันในอ่างอาบน้ำคับแคบ เปลือยเปล่า คนที่สัปหงกเมื่อไม่กี่นาทีก่อนกลับตาสว่างทั้งจมูกทั้งมือทั้งสองข้างซุกไซ้ซุกซนไปทั่วร่างขาวนุ่มอย่างน่าตี



“อือ ง่วงๆ” ป่านคงไม่บ่นถ้าหากคนแกล้งง่วงไม่เอาแต่พรมจูบไปทั่วแผ่นหลังชวนให้รู้สึกแปลกๆ อย่างนี้



“งั้นก็รีบล้างตัวแล้วรีบไปนอนสิครับ”



“นอนๆ”



“นอนในห้องน้ำไม่ได้ครับ”



“เอา...ในห้องน้ำ” ไม่พูดจาสองแง่สองง่ามเปล่า มือไม้ยังอยู่ไม่สุขจนน้องฟาดเข้าให้หนึ่งที



“พี่! อย่าจับไปทั่วสิครับ”



“ไม่จับๆ”



“ไม่จูบด้วย”



“จูบๆ”



“อื้อ! วา...อย่าซนสิครับ” เด็กน้อยร้องท้วงก่อนจะหลุดหัวเราะเมื่อยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ พี่วาเอาแต่จูบลูบคลำไปทั่วไม่หยุด ทั้งจั๊กจี้ ทั้งรู้สึกวูบโหวงแปลกๆ เมื่อนิ้วสากลากวนตรงขาอ่อนน้องตำแหน่งรอยสักที่จำได้ขึ้นใจ



ป่านผลอกลั้นหายใจ ที่จริง... ก็น่าจะเดาได้ตั้งแต่ยอมลงอ่างมาด้วยกันแล้วว่าคงไม่ได้จบแค่อาบน้ำแน่ๆ



ไม่น่าหลวมตัวเลย...



“หึ” ทว่าไม่ทันได้ปล่อยตัวปล่อยใจถลำลึกไปมากกว่านั้น พี่วากลับหยุดชะงัก เสียงหัวเราะดังขึ้นข้างหูก่อนริมฝีปากร้อนจะกดจูบหนักๆ ลงมา สองแขนที่เคยลูบไล้สะเปะสะปะรวบเอวบางกอดกระชับแน่นขณะซุกหน้าลงกับไหล่ที่ห่อเล็กๆ อย่างตั้งตัวไม่ทัน



“หนูเหนื่อยแย่แล้ว...” เอ่ยงึมงำเกือบฟังไม่ได้ศัพท์ กอดน้องแน่นขึ้นอีกก่อนขออนุญาต “อีกแป๊บนึงนะ”



ป่านหลุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อเข้าใจความหมาย จริงอยู่ที่ป่านไม่เคยขัดความต้องการของพี่วาเลยสักครั้ง ยามอีกฝ่ายมีอารมณ์ต่างปลุกเร้าไต่อารมณ์ตอบสนองกันและกันโดยไม่มีการฝืนใจ แต่จริงอย่างพี่วาว่า ช่วงนี้ป่านเหนื่อยมาก ในหัวมีแต่ความเครียดจึงไม่มีแม้แต่ความคิดอยากปลดปล่อยความใคร่ด้วยตัวเองด้วยซ้ำ



“วา...” ยกมือขึ้นลูบหัวคนแก่กว่า เรียกให้เงยหน้าขึ้นก่อนเอียงหน้าเข้าหา



ลมหายใจชิดลมหายใจ ริมฝีปากยิ้มกว้างคลอเคลีย จูบแผ่วเบาหนึ่งครั้งพลางกระซิบบอก “อีกสามวันนะครับ”



คล้ายการเดิมพัน หากประกาศผลสอบออกมาว่าป่านสอบติดก็ถือเป็นรางวัลให้ตัวเองด้วย เพราะว่างเว้นมานานเช่นกัน



เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอจูบกลับเพียงบางเบา “ครับ อีกสามวันครับ”



ก่อนที่ตัวจะเปื่อยจึงอุ้มน้องขึ้นจากอ่างอาบน้ำ เสียงจูบเคล้าเสียงกระซิบกระซาบ เสียงหัวเราะยามผลัดกันเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กันและกัน



คืนนั้นสองร่างกอดก่ายทั้งที่เปลือยเปล่า ไร้บรรเลงร่วมรัก เพียงถ่ายทอดไออุ่นจากร่างสู่ร่าง ซุกซบในอ้อมกอดสู่หลับใหลไร้ฝัน









อีกสองชั่วโมงจะถึงเวลาประกาศผล



“มายังๆ” กลับเป็นพี่วาที่นั่งแทบไม่ติด แทบไม่เป็นอันทำงานทำการ ออกจากห้องสักทีหนึ่งก็วิ่งมาหาน้องหน้าตาตื่นทีหนึ่ง



จากที่ควรจะเครียดป่านกลับขำ



“ยังครับ อีกตั้งสองชั่วโมง” บอกไปไม่รู้ตังกี่รอบ ดูเหมือนพี่วาจะไม่เชื่อตัวเลขบนนาฬิกาถึงได้เอาแต่จ้องหน้าเว็บประกาศผลราวกับเวลาในหน้าเว็บจะเร็วกว่า

แต่ป่านเองก็นั่งรีเฟรซหน้าเว็บทุกๆ ห้านาทีอย่างห้ามไม่ได้เช่นกัน



“คุณพ่อ อย่าตื่นเต้นเกินเหตุ ไปทำงานไป๊” คุณหนูแกล้งกระดิกเท้าไล่ เห็นอาการลุกลี้ลุกลนของผู้ปกครองปลอมๆ ของน้องป่านแล้วก็อดหมั่นไส้ไม่ได้



พี่วาเบ้หน้า แต่ก็ยอมเดินกลับสตูดิโอไป บอกตัวเองว่าเหลือลูกค้าอีกเพียงคิวเดียวเท่านั้น ยังไงเสียก็ออกมาช่วยลุ้นทัน



ระหว่างนั้นป่านกับคุณหนูคุยกันเรื่อยเปื่อยเพื่อไม่ให้ความคิดจดจ่อกับความกดดัน แต่ก็ไม่วายถามถึงความเป็นไปได้ในแง่ร้ายที่อาจเกิดขึ้น



“แล้วถ้าไม่ติดล่ะครับ”



“ก็ยังมีรอบสองนี่นา” ก่อนหน้านี้ป่านอธิบายระบบการสอบให้คุณหนูเข้าใจก่อนแล้ว



ในระบบการสอบแบบใหม่คณะแพทย์แทบทุกมหาวิทยาลัยจะสอบเพียงสามรอบ หากไม่ผ่านรอบแรก จะต้องลงสนามสอบความถนัด วิชาสามัญ วิชาเฉพาะ เพื่อยื่นคะแนนเข้าระบบคัดเลือกในรอบที่สอง และหากไม่ติดอีก ก็ยังมีรอบที่สาม...



หากถึงตอนนั้นป่านไม่รู้ว่าตัวเองจะยังเหลือความหวังไหม จากที่เคยคิดว่าตัวเองจะทำได้ ความเหน็ดเหนื่อยและความผิดหวังซ้ำๆ อาจบั่นทอนจนหมดความมั่นใจไม่เหลือกำลังแล้วก็ได้



จริงอยู่ที่ป่านเคยลังเลไม่แน่ใจว่าตัวเองอยากเรียนแพทย์ ทว่าพอคิดถึงตัวเลือกสำรองในกรณีที่สุดท้ายพลาดหวัง ในหัวก็มืดแปดด้านเช่นกัน



คิดไปคิดมาแล้วนึกอิจฉาคนที่มีความฝัน รู้ดีว่าความต้องการของตัวเองคืออะไรและเดินไปตามเส้นทางนั้นจนสุดทาง



“ตอนมัธยมเราก็มีรู้เหมือนกันว่าตัวเองอยากเรียนต่ออะไร” ราวกับเดาความคิดของป่านได้ คุณหนูเอ่ยออกมา มือบางเอื้อมหยิบขนมขบเคี้ยวกินสลับกับป้อนน้องขณะเล่าเรื่องตัวเองด้วยท่าทางสบายๆ “พอถึงเวลาพ่อบอกว่าให้เรียนบริหารเพื่อมาดูแลกิจการที่บ้านต่อ เราก็เลือกตามนั้นและมันก็ไม่ได้แย่อะไร ไม่มีแพสชั่นในการใช้ชีวิตเหมือนคนอื่น ก็ใช่ว่าเราจะเป็นloserนี่นา”



“...”



“แม้แต่พี่เดย์เองที่บ้านไม่มีเงินส่งเสีย ก็เลยต้องพยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้เรียนตามที่ตัวเองฝันเพื่อตั้งตัวมีชีวิตอย่างทุกวันนี้ ส่วนวาไม่ได้อยากเป็นช่างสักมาตั้งแต่แรก แต่ความฝันมันเลี้ยงชีพไม่ได้ก็ต้องหาเส้นทางที่ดีกว่า” คุณหนูยิ้มบางๆ แววตาเต็มไปด้วยความหวังดีและให้กำลังใจ



“เห็นไหมโลกนี้มันก็มีทั้งคนที่มีโอกาส ไม่มีโอกาส มีฝัน ไม่มีฝัน ทางหนึ่งพลาด ก็ยังเหลืออีกหลายเส้นทาง วันนี้เราอยู่ตรงนี้ พรุ่งนี้อาจไปอยู่ในที่ไกลแสนไกล ชีวิตมันผกผันทุกวินาทีนั่นแหละ ขึ้นอยู่กับว่าเรามองเห็นและรับมือมันยังไง”



ฝ่ามือข้างหนึ่งยกขึ้นมาขยี้หัวน้องแรงๆ หนึ่งทีคล้ายมันเขี้ยว



“ตัวแค่เนี้ย ใช้ชีวิตให้สนุกเถอะ อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป เดี๋ยวหน้าแก่เหมือนวา” ป่านเกือบหลุดหัวเราะเมื่อจบประโยคเสียงประตูก็เปิดออก คนถูกพาดพิงโผล่หน้าออกมาราวรู้จังหวะ



“อะไร ใครแก่นะ” คนถูกนินทาเลิ่กลั่ก สองคนมองหน้ากันแล้วลอบยิ้มใส่กัน



คุณหนูลุกขึ้นแกล้งยักไหล่ลอยหน้าลอยตา อ้างไปหยิบขนมมาเพิ่มแล้วเดินหนีไป พี่วาเลยได้แต่คาดโทษก่อนหันกลับไปจัดการคิดเงินกับลูกค้า อธิบายวิธีดูแลรักษาแผลต่างๆ ตามหน้าที่จนลูกค้ากลับไปจึงเดินมาหาป่าน



“อะไรอ่ะ” ชะงักเมื่อเห็นน้องมองอยู่ก่อนแล้วพลางยิ้มด้วยสีหน้าอ่านยาก



ป่านอ้าแขน ยิ้มกว้าง “ขอกำลังใจหน่อยได้ไหมครับ”



ไม่น่าถาม มีหรือจะไม่ได้



พี่วาอ้าแขนรับ อุ้มน้องขึ้นจากเก้าอี้แล้วให้น้องนั่งตัก ต่างฝ่ายต่างซุกซบสูดกลิ่นกายหอมแลกไออุ่นกันและกัน



เด็กน้อยสูดลมหายใจ ก่อนหันหน้ากลับมาจ้องแล็ปท็อปมองนาฬิกาที่บอกเวลาประกาศผลพอดี มือจับเม้าส์ ก่อนรีเฟรซหน้าเว็บอีกครั้ง มีหัวข้อใหม่ปรากฏขึ้นมา



‘ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์คณะแพทยศาสตร์...’



ป่านหันกลับไปมองหน้าพี่วาที่มองกลับมาเช่นกัน ไม่มีคำพูดใดเล็ดลอด ทั้งสองคนแทบกลั้นหายใจด้วยซ้ำขณะที่ป่านขยับลูกศรคลิกเข้าลิ้งก์ เลื่อนผ่านคำอธิบายยืดยาวในหน้าแรก สู่รายชื่อที่เรียงรายลงไปอีกสามหน้ากระดาษ



สายตาสองคู่บรรจงอ่านทีละรายชื่ออย่างเชื่องช้า จากหน้าแรก สู่หน้าที่สอง...



และชื่อของป่านก็อยู่ตรงนั้น



‘ลำดับที่ 32 นาย ปัณณธร โชติพิสุทธิ์เมธา’



“...”



“...”



มีความรู้สึกมากมายลอยอวลอยู่ในความเงียบนั้น



“เป็นไง” กระทั่งคุณหนูเดินออกมาจากห้องครัวเห็นสีหน้าของทั้งสองคนกับจอแล็ปท็อปก็พอจะเดาออกว่าผลประกาศออกมาแล้ว พี่วาจึงหันไปยิ้มกว้างตอบแทนเด็กน้อยที่ยังได้แต่จ้องชื่อตัวเองนิ่งค้าง



“ติดแล้ว”



ปัง!



ทันควัน เสียงพลุกระดาษก็ดังขึ้นพร้อมกับกระดาษสีรุ่งโปรยปรายลงมา ที่แท้คุณหนูก็แอบเข้าไปหยิบของเล่นเตรียมแสดงความยินดีด้วยความมั่นใจ



“ยินดีด้วย ไปบอกให้พี่เดย์เตรียมฉลองดีกว่า” ว่าแล้วก็วิ่งเข้าไปหาแฟนตัวเองที่ยังทำงานอยู่ในสตูดิโออีกห้อง



ป่านมองพลุกระดาษที่ปลิวไปทั่ว ก่อนหันมาสบตาพี่วารอยยิ้มค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าพร้อมกับดวงตากลมที่ค่อยๆ มีน้ำตาเอ่อล้นขณะพยายามจะเอ่ยความในใจ



“ทำได้แล้ว... ป่านทำได้ ฮึก ฮือ...” แทบพูดไม่รู้เรื่องเมื่อน้ำตาแห่งความโล่งใจล้นทะลัก ก่อนจะได้แต่สะอึกสะอื้นโผเข้ากอดคนรักแน่น



พี่วาหัวเราะเบาๆ กอดตอบแน่นไม่แพ้กัน พลางมือหนึ่งลูบหัวลูบหลังน้องจูบขมับซ้ำไปซ้ำมา ปลอบประโลมเพราะรู้ว่าป่านเหนื่อยมามากไม่แปลกเลยที่ผลลัพธ์จะออกมาสมกับความพยายาม



“เก่งมาก เด็กดีของพี่เก่งที่สุดเลยครับ”










#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

ตอนหน้านะตอนหน้า พี่วาต้องทวงรางวัลสาสมแน่นอนค่ะ :)



เรื่องนี้ใกล้จบเต็มทีแล้ววว ที่คิดไว้เหลืออีกประมาณ 4-5 ตอนค่ะ

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดกำหนดเปิดพรีน่าจะประมาณต้นเดือนหน้านะคะ

เดี๋ยวจะบอกอย่างเป็นทางการพร้อมแจ้งราคาและรายละเอียดต่างๆ อีกทีเนอะ



ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ

รักมากๆ

- Martian -




หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่18 : Dreams - 21.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 21-08-2019 09:00:28
น้องป่านเก่งที่สุด  o13
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่18 : Dreams - 21.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 21-08-2019 09:22:02
ดีจัง ในวันที่เหนื่อย ที่ท้อ ที่กดดัน ที่ลุ้น มีพี่วาอยู่ด้วยข้างๆตลอดเลย

คุณป๋าของหนู ~~ คำว่า daddy ลอยมารอตอนหน้าแล้วววว  :z1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่18 : Dreams - 21.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 21-08-2019 12:31:48
เก่งมากครับน้องป่าน
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่18 : Dreams - 21.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-08-2019 12:59:34
 o13
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่18 : Dreams - 21.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 21-08-2019 16:22:25
 :mc4: :mc4: :mc4:  น้องทำได้แล้วยินดีด้วยน้า
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่18 : Dreams - 21.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 21-08-2019 20:42:08
สู้ๆนะเจ้าป่านนนน
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่18 : Dreams - 21.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 21-08-2019 21:59:19
ดีใจด้วยนะคะน้องวาพี่ป่านน่ารักมากดูแลน้องดีมากๆรอเขาทวงสัญญากัน
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่18 : Dreams - 21.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 21-08-2019 23:36:17
เย้!!! น้องป่านเก่งมากลูก o13
พี่วาก็แสนดีซัพพอร์ทน้องตลอด น้องสอบได้แล้วต้องฉลองเต็มที่น้าาาาพี่วาาาาา :hao3:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่18 : Dreams - 21.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 22-08-2019 09:47:44
ป่านสอบติดแล้ว​ ดีใจๆๆๅ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward- 23.08.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 23-08-2019 02:44:59
ลายที่ 19

Reward

(ตอบแทนพยายาม)



มนุษย์รับความเจ็บปวดได้แค่ไหน

หากมาพร้อมความกระสันซ่าน เจ็บร้าวเจือด้วยแรงขับราคะร้ายล้ำ ระบัดระบายความดำมืดในจิตใจ

โบยตีด้วยความใคร่ ความโหยหา... หื่นกระหายปลดปล่อย ราคะข้นคละคลุ้ง

รสชาติการถูกพันธนาการคือความเจ็บปวดแสนหวานที่ไม่อาจต้านทานได้ เนื้อตัวเปลือยเปล่าถูกขึงรัด แขน ขา ขดบิดผิดรูปผูกแน่นด้วยเชือกสีแดงตัดกับผิว โหนห้อยผิดหัวหางราวเครื่องบูชายันต์

“ร้อนไหม” เปลวเทียนพลิ้วไหวเหนือร่าง หลั่งน้ำตารินรดหัวไหล่ขาว หยดแล้วหยดเล่า เรียกเสียงครวญหวานอื้ออึง

ยิ่งดีดดิ้นยิ่งเสียดสีเนื้อผ้ารัดขึ้นรอยตามลายเชือกขึ้นสีช้ำ

“อือ...” แทบคลั่ง คล้ายกำลังมอดไหม้ด้วยไฟปรารถนาที่เร่งร้อนตามจำนวนน้ำตาเทียนที่หลั่งรดลงมาบนร่างกาย ยิ่งทุรนทุรายเมื่อของเล่นในกายถูกเร่งเร้า

เสียงเครื่องสั่นที่ซุกซ่อนในช่องทางบีบรัดสั่นกระตุก ทำงานแข่งกับเสียงกระเส่า

“เจ็บหรือเปล่า” การกระทำหยาบโลนทว่าไร้ถ้อยคำหยาบคาย บทบาทเจ้านายเลือดเย็นในคราบอ่อนโยนยิ่งกระตุ้นให้ทาสพยศตอบสนองโดยง่าย

“ไม่...”

ตามคำขอ เปลวเทียนไล้ลามลงต่ำ หลั่งหยดน้ำตาพร่างพราวลงแผ่นหลัง หน้าท้อง สะโพก ขณะที่มือหนึ่งลูบไล้ บีบเค้นบั้นท้ายที่ถูกตีจนแดงจัด เต็มไปด้วยรอยฝ่ามือ

ตีซ้ำ

“อยากให้พี่หยุดไหม”

“อย่า...อึก... อย่าหยุด...” พึงพอใจในคำตอบจึงประคองใบหน้าให้เงยรับจุมพิตหวานเป็นรางวัล

“เด็กดี”

“วา...” ทาสตัวน้อยเงยหน้าสบตา ดวงตาชื้นฉ่ำเว้าวอนแววหวาน “ผม... สวยไหม”

ริมฝีปากบางยกยิ้มเลื่อนจูบบนหน้าผาก

“สวย... สวยมาก”

รสชาติเซ็กซ์ยิ่งทวีดุดันเมื่อของเล่นถูกแทนด้วยแก่นกายที่ตื่นตัวเต็มที่ กระแทกกระทั้นไร้ความปรานีหลังจากล้อเล่นจนพอใจ

ปลดปล่อยทั้งที่ยังห้อยโหนไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ทว่าไม่รู้สึกเติมเต็มจึงเรียกร้องตัวตนแข็งขึงของคนรัก อ้อนวอนจนถูกปลด ถูกคว่ำกดอยู่บนเบาะหนังคับแคบของเตียงเหล็กคับแคบห้องลับ

เสียงดังเอียดอาดตามจังหวะ

ร่างกำยำโถมรุนแรง บรรเลงรักคลุ้มคลั่งตามปรารถนา ระเริงร่างร่านราคะที่ตอบสนองแม้ยังอยู่ในพันธนาการ ไร้แรงต่อต้าน เสียงหวานเปล่งครางสุขสมยามตัวตนที่ขยายคับเสียดสีเข้าออก กดกระแทกลึกสุดทาง เน้นย้ำ ก่อนค่อยๆ ผ่อนปรนเมื่อช่องทางบีบรัดในจุดที่รู้ว่าน้องกำลังปลดปล่อยอีกครั้ง

รั้งรอให้ทรมานอย่างร้ายกาจ

“วา... วา...” อยากประกาศท้วง ทว่าทำได้เพียงเอ่ยเรียกซ้ำๆ น้ำตาหลั่งรินด้วยความอึดอัด ยิ่งได้ใจพี่วายกยิ้มกระซิบถามยั่วเย้า

“ครับ? ร้องจะเอาอะไรเด็กน้อย”

“วา... กว่านี้... แรงๆ ... อีก...” พยายามสวนกายเข้าออกแต่ไม่อาจถึงรสตามต้องการ

“หึ น่ารักจริงๆ” อสรพิษฉีกยิ้มกว้างมองสะโพกที่ขยับเร่งเร้าด้วยความมันเขี้ยว อดไม่ได้ที่จะก้มลงฝังคมฟันกัดหู กัดลำคอ กัดผิวกายขาว

ลิ้มรสจนพอใจ จึงพลิกกายนอนหงายจับร่างน้องนั่งคร่อมทั้งที่ตัวตนยังเชื่อมอยู่ในร่าง

“วา... อย่าแกล้ง” น้องส่งเสียงกระเง้ากระงอดอีกครั้ง หยาดน้ำเอ่อล้นด้วยความทรมาน ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวด้วยตัวตนที่แทรกลึกเข้ามาจนสุดจุดกระสัน ทว่าไม่ยอมขยับ

พี่วาหัวเราะ เอื้อมมือเกลี่ยใบหน้าน้องแผ่วเบา ก่อนแทรกปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางเข้าไปในโพรงปาก ให้ดูเม้ม ไล้เลีย เล่นล้อปลายลิ้น บดขยี้ปากฉ่ำ

เอ่ยคำสั่งด้วยเสียงกระซิบพร่า “ไหนหนูลองทำให้ดูหน่อยสิคะ”

เพียงเท่านั้นร่างเล็กตอบสนองขยับโหย่งถอนกาย ก่องทิ้งสะโพกกลืนกินตัวตนใหญ่คับ... ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ขยับเชื่องช้า ก่อนเร่งเร้าด้วยความปรารถนาทบทวี

อสรพิษแสยะยิ้ม พึงพอใจ ดวงตาคมฉายประกายวาววับขณะมองสรีระงดงามที่ขย่มระเริงรักอยู่บนร่างทั้งที่ถูกพันธนาการ

เชือกสีแดงยังคงรัดไขว้จนเกิดลวดลายแดงช้ำ เนื้อตัวที่เคยสะอาดสะอ้านเปรอะเปื้อนด้วยเหงื่อและคร่ำราคะ ผิวขาวเปลี่ยนสี เคลือบฉาบด้วยสีแดงฉานของน้ำตาเทียนแห้งกรัง

ร่างกายหมดจดเปล่งประกายราวประติมากรรม

งดงาม ยิ่งกว่างดงาม






เด็กน้อยรู้สึกตัวเพราะความรู้สึกอึดอัด ความอึดอัดระคนเสียดเสียวจากตัวตนที่ยังแช่ค้างอยู่ในช่องทาง

เพียงขยับกลับกระตุ้นจุดกระสัน

“พี่ครับ ลุกก่อน” สองมือดันร่างคนที่ยังนอนกอดจากด้านหลัง ค่อยๆ ถอนกายออกจากแก่นกาย

“อือ...” ทว่ากลับสวนลึกเข้ามาใหม่ราวแกล้งกัน

แรงที่เหลือเพียงน้อยนิดหมดสิ้น ร่างกายปวกเปียกได้เพียงร้องท้วงด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

“พี่ครับ...อะ...อึดอัด”

“หนาวๆ ๆ”

ข้ออ้างชัดๆ ทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยเหงื่อ ทั้งเหนอะหนะทั้งร้อนรุ่มจนแทบจะละลาย

น้องเบ้หน้ากับเสียงงัวเงียงอแง ก่อนสะดุ้งหลุดครางเมื่อร่างกายแนบชิดตัวตนยิ่งแทรกลึกสุดทาง

“ผมไปเอาผ้าห่ม... อื้อ! พี่...อย่าขยับ”

“...”

“วา... ผมไม่ไหว” สุดท้ายเหลือเพียงเสียงแหบกระเส่าไร้กำลัง

“อะไรไม่ไหว หืม?”

“ไม่...”

“ไม่ก็ได้” ทำท่าจะถอนกาย ทว่าช่องทางกลับบีบรัด การกระทำสวนทาง

ได้ยินเสียงหัวเราะข้างหู รู้ทัน

สุดท้ายมือที่ผลักกลับบังคับให้ร่างกำยำกดสะโพกลงมาอีกครั้ง

“ไม่... อย่าเอาออกไป...”

“ว้า เอาใจยากจังเลย เด็กอะไร”

ทั้งคืน... ทั้งวัน...

คนโลภเอาแต่รีดเค้น ตักตวงกำไรทุกหยาดหยด ทดแทนเวลาที่เสียไป






เป็นปกติไปแล้วที่พี่วาจะถูกมองเป็นผู้ปกครองน้องป่าน

คล้ายคุณพ่อยังหนุ่มมายืนรอลูกชาย ไม่สิ เขายังไม่แก่ขนาดนั้น...

คล้ายพี่ชายที่แสนดี มารอน้องชาย ในวันสอบสัมภาษณ์ วันที่จิตใจของน้องหวั่นไหว อยากได้กำลังใจ แม้จะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการเดินวนไปวนมาบริเวณสนามสอบก็ตาม

ถึงป่านจะบอกให้พี่วามาส่งแล้วกลับไปก่อน ทว่าสุดท้ายหลังสอบเสร็จก็ออกมาเห็นพี่วาที่นั่งไม่ติดยืนก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ที่เดิม

“เป็นไงๆ ทำข้อสอบได้มั้ย” ร่างสูงเบิกตากว้าง เดินเข้าไปช่วยน้องถือของที่มีอยู่น้อยนิดทันที

สีหน้าตื่นเต้นยิ่งกว่าคนเข้าสอบเองเสียอีก

“นี่พี่รออยู่ตรงนี้ตลอดเลยเหรอครับ”

“เปล่า พี่เดินไปเดินมานั่งไม่ติด แล้วเป็นไงๆ”

ป่านยิ้มขำ พยักหน้า “ทำได้ครับ”

การสอบสัมภาษณ์ไม่มีอะไรต้องกังวลแม้แต่น้อย แทบไม่ถือว่าเป็นการสอบด้วยซ้ำ เป็นการทำความรู้จักนักศึกษาก่อนเข้าเรียนจริงเสียมากกว่า

“เหรอๆ ดีจังๆ”

เห็นท่าทางลิงโลดของพี่วาแล้วอดขำไม่ได้ “ตื่นเต้นกว่าแม่ผมซะอีก”

“ตื่นเต้นสิ เนี่ยพี่เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่ที่มานั่งรอเลย ภูมิใจในตัวลูกมาก ลูกพ่อทำได้เหรอ ดีจัง”

“หึ งั้นแด๊ดดี้ต้องให้รางวัลผมแล้วครับ”

“รางวัลเหรอ ไม่ต้องห่วง แด๊ดดี้เตรียมของขวัญไว้ให้คนเก่งที่บ้านแล้วค่ะ : ) ”

“...” ทั้งที่เป็นคนเสนอเอง แต่พอได้รับการตอบสนองเป็นรอยยิ้มร้ายกาจแววตาแพรวพราวจริงจังน้องกลับชะงัก กลืนน้ำลายอย่างอยากลำบาก

“อะไร ทำไมหนูทำหน้าเหมือนไม่ไว้ใจแด๊ดดี้อย่างนั้นล่ะคะ”

“ครับ ไม่ไว้ใจสักนิดเลยครับ”

ต้องย้ำหรือเปล่าว่าครั้งล่าสุดที่พี่วาให้รางวัล ป่านระบมไปทั้งตัวลุกไม่ขึ้นเดินเหินไม่สะดวกอยู่ตั้งหลายวัน






มนุษย์รับความเจ็บปวดได้แค่ไหน

หากเป็นการป่วยไข้ผ่ายผอมด้วยโรคร้าย

เป็นปกติไปแล้วที่แม่จะพาป่านไปเยี่ยมพ่อในวันหยุด สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ตามความปรารถนาของพ่อที่อยากใช้เวลาร่วมกันทดแทนเวลาที่เสียไป ป่านไม่เคยทวงถาม ทว่าก็ไม่อาจปฏิเสธได้ อย่างน้อยก็ได้ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ ตามอาการ และคราวนี้ป่านก็มีข่าวดีไปบอกท่าน

เมื่อมีหัวข้อสนทนา บทสนทนาจึงลามเรื่อยทอดต่ออย่างเป็นธรรมชาติ ป่านแทบไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนเมื่อก่อน

“วันนี้เป็นยังไง” เป็นธรรมดาเช่นกันที่วันไหนรู้ว่าน้องไปเจอพ่อกลับมาพี่วาจะเอ่ยถาม

แปลกดีที่ป่านไม่รู้สึกว่ามันเป็นการก้าวก่าย กลับเล่าทุกอย่างให้ฟัง

“เขาก็...ถามว่าผมกับแม่สบายดีไหม” ในหัวเรียงลำดับบทสนทนาจากเรื่องง่ายๆ

“...”

“แล้วก็ เขาชอบรอยสักผม”

“ดีแล้วนี่” พี่วายิ้ม ดังน้องลงมานั่งตัก ฝ่ามือลูบเล่นรอยสักบนขาอ่อนขาว

จากที่ป่านเล่าแม้จะไม่เคยเจอกันสักครั้งแต่เขาก็พอจะเดาออกว่าพ่อของป่านเป็นคนใจดี เขาไม่มีหน้าที่ตัดสินสิ่งที่ท่านทำในอดีต แต่ปัจจุบันถ้าท่านทำดีกับป่านเขาก็พอใจ

“เขาบอก... ว่าผมไม่จำเป็นต้องเรียนหมอก็ได้” ปล่อยให้น้องเล่า ขณะที่ยังกอดไว้ ริมฝีปากแตะค้างที่ขมับ รับฟังด้วยความใส่ใจ “ผมเลยตอบว่าไม่ใช่เพื่อเขา เพราะแม่ต่างหาก...”

พอเอ่ยถึงตรงนี้ป่านก็หันมาสบตา เบ้หน้า

“ผมใจร้าย...” มันอาจเป็นทิฐิที่ยังเหลือคั่งค้าง หลายครั้งป่านรู้สึกว่าตัวเองพูดไม่ดี ทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย หลายครั้งจึงอดรู้สึกผิดไม่ได้ แต่พี่วารู้ว่าน้องไม่ได้มีเจตนา

“ชู่ว ไม่หรอก เขารู้แน่ว่าเราไม่ได้หมายความแบบนั้น” กดจูบปลอบประโลมให้คลายความคิดแง่ร้าย

ป่านจึงค่อยๆ ยิ้มออก ก่อนเงียบไป ร่างบางหมุนตัวเข้าหาเพื่อกอดกลับ ซบหน้าลงกับอกกว้าง

“เขารู้ว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชาย” น้ำเสียงเจือลำบากใจ ขณะที่พี่วาเลิกคิ้ว ไม่คิดว่าน้องจะบอกเร็วขนาดนี้

“...”

“เขาอยากเจอพี่...”

“...” เอ๊ะ...

“แต่ถ้าพี่ไม่อยากไป...”

เดี๋ยวสิ ก่อนน้องจะคิดเตลิดไปมากกว่านี้พี่วาก็ผุดลุกขึ้นยืนทั้งที่ยังกอดน้อง หน้าตาตื่น

“สูท สูทพี่อยู่ไหนแล้วนะ”

จากที่เคยลังเลลำบากใจ กลัวว่าพี่วาจะไม่พร้อมป่านจึงโล่งใจ

ดวงตากลมโตมองคนรัก กอดแน่นซึมซาบความรู้สึกโชคดีที่ได้เข้ามาอยู่ในชีวิตของกันและกัน อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มกว้างเมื่อรู้สึกได้ว่าเรื่องราวหลายๆ อย่างในชีวิตกำลังคลี่คลาย




#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

แทบตายกับnc ไม่เอาแล้วนะ BDSMอ่ะ 5555

ผิดพลาดตรงไหนบอกได้เลยนะคะ

ส่วนคำผิดเดี๋ยวมาเช็กให้อีกทีน้า



ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ

รักมากๆ

-Martian-



หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-08-2019 02:58:22
คนที่ชอบ​ SM  บอกเลยร่างกายจะมีความต้านทาน​ความเจ็บปวดมากๆค่ะ​ ฟื้นตัวแบบไวเว้อ วันนี้ตีจนแดงมีรอยเขียวช้ำแต่วันสองวันก็หายเป็นปกติแล้ว(ประสบการณ์​จากคนรู้จักเลยค่ะ)​ ** อย่าเล่นพิเรนทร์​แบบดัดท่าดัดทางจนกลายเป็นข่าวนะคะพี่วา
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.9) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 23-08-2019 03:12:17
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 23-08-2019 06:48:01
เป็นรางวัลที่ร้อนระอุมากเป็นncที่ภาษางดงามมากมายไม่รู้ว่านักเขียนต้องกลั่นกรองเรียบเรียงขนาดไหนถึงได้สละสลวยขนาดนี้ขอบคุณนะคะเราแอบรู้สึกดีใจไปกับน้องด้วยขอเป้นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 23-08-2019 07:35:06
ุอิพี่วาาาา น้องชุ้นช้ำหมดแล้วววว สะบัดแส้ใส่โต๊ะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 23-08-2019 08:56:56
อมกกกกกกกกก  :katai1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 23-08-2019 14:16:55
อมก น้องช้ำหมดแล้ว /แต่น้องชอบ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 23-08-2019 15:38:06
 :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 23-08-2019 17:25:09
เขาเป็นคู่แท้จริงๆ น้องน่ารักมาก  o13    :pig4:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 24-08-2019 19:46:07
ฉาก sm ช่างสวยงามมาก ปกติไม่ชอบเลย รักวานะ มีความพร้อมกับการพบเจอ พ่อแม่ของน้องได้ตลอดเวลา
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 24-08-2019 19:59:42
น้อง 18 รึยังคะเนี่ยย คุณตำหนวดคะ 555
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 26-08-2019 00:41:29
โหยยยย รางวัลน้องสอบติดของพี่วาคือดีงามมากๆๆๆ เป็นBDSMที่ไม่รู้สึกกลัวเลย ยิ่งคนพี่ถามเป็นห่วงน้องตลอด คือดจีย์ย์ย์ย์ ประทับใจ o13 :katai2-1:

เมื่อพ่อน้องอยากเจอพี่วาแล้ว ไปค่ะ!! แด๊ดดี้ไปตัดสูทใหม่เลยค่ะ!! ไม่ต้องหาของเก่าแล้วแด๊ด ว่าที่ลูกเขยจะเปิดตัวทั้งที ซื้อใหม่เลยค่าแด๊ดดดดดดของน้องป่าน :katai3:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 26-08-2019 02:06:44
วาไม่ถนอมน้องเลย
น้องก็ยั่วเหลือเกิน
 :hao6:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 26-08-2019 21:00:16
เข้าตาจน พี่วาต้องร้องเรียกหาสูทตัวเก่งทุกครั้งเลย ไอเทมประจำตัว ใส่แล้วเป็นได้ตั้งแต่แกร๊บจนถึงว่าที่ลูกเขย 5555
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 29-08-2019 05:41:24
เผ็ดเด้อ เผ็ดมากค่ะ พ่นไฟได้แล้ว
โอ๊ยยย ใจรับไม่ไหว ทำไมร้อนแรงกันได้ขนาดนี้
วาเป็นไม่เท่าไหร่ แต่ป่านเป็นด้วย ชอบล่ะสิ
ในโหมดของเด็กน้อยผู้เงียบขรึมและเรียบง่าย
ยังมีความลึกลับ และร้อนแรง ซ่อนอยู่ 5555

เอ็นดูป่าน น้องคิดมาก คิดไปเองเยอะเลย
แต่ก็นะ ความกกดันไม่เข้าใครออกใคร
ดีที่แม่เปิดใจกับป่าน และวาอยู่กับน้องเสมอ

วาเป็นคนบ้าบอที่เอาใจใส่น้องมาก ดูแลเก่ง
ตื่นเต้นล่ะสิ จะได้เจอพ่อตา
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: bowbeauty ที่ 01-09-2019 08:37:50
เอาเถอะ มันเหมาะกับน้องจริงๆ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่19 : Reward - 23.08.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-09-2019 12:23:29
 :katai5: มารอจ้ะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่20 : Sunshine-03.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 03-09-2019 19:02:23
ลายที่ 20

Sunshine

(ทิวากรอ่อนหวาน)


มีเพียงความสุขุมมุ่งมั่นสะท้อนในแววตาของพี่วา



ป่านมองเงาในกระจกของคนรัก นึกประหลาดใจที่พี่วาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมากเพียงเปลี่ยนเสื้อผ้า จากเสื้อยืดกางเกงยีนธรรมดากลายเป็นเสื้อเชิ้ตกับกางเกงสีเข้ม แปลกตาทว่าดูดีจนป่านไม่อาจละสายตา



เด็กน้อยลอบยิ้มมองฝ่ามือที่จับแขนเสื้อพับขึ้นแล้วคลายออกคล้ายลังเลว่าควรปิดหรือเปิดเผยรอยสักบนท่อนแขนกำยำ



“ไม่เห็นต้องมากพิธีเลยครับ” ป่านตัดสินใจให้ ขยับเข้าไปยืนหน้ากระจกข้างกัน สองมือบรรจงพับแขนเสื้อเป็นทบเท่ากันไปจนถึงข้อศอกอวดสวนสวยบนแขนขวา ก่อนย้ายไปพับอีกข้างพลางปลดกระดุมคอเสื้อสองเม็ดบนเพื่อโชว์รอยสักที่ต้นคอด้วย



แบบนี้เหมาะกว่าเยอะเลย



“ก็ไปเจอพ่อตาทั้งที” พี่วาหัวเราะ รู้ว่าไม่จำเป็นต้องสำรวจกระจกอีกแล้ว เพียงสบตาน้องก็รู้ว่าตัวเองคงดูดีอยู่พอตัว ดวงตากระต่ายน้อยจึงวิบวับยั่วยวน



แขนข้างหนึ่งยกขึ้นรวบเอวบางแนบร่างจรดหน้าผากแตะหน้าผากระลมหายใจรินรดกันและกัน



“พ่อตาเลยเหรอครับ ขี้โม้จัง” น้องยียวนกลับ มือหนึ่งยกขึ้นแตะรอยสักบนแขนไล้ปลายนิ้วเล่นตามแนวเส้นเลือดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถูกจับมือไว้ ฝ่ามือใหญ่ประสานนิ้วมือทั้งห้าพลางใช้ปลายจมูกเขี่ยปลายจมูกเรียกร้องความสนใจ ป่านเงยหน้าขึ้นสบตาด้วยรอยยิ้ม เผยอริมฝีปากคลอเคลียหยอกเย้าแตะเพียงผ่านล่อหลอกอยู่อย่างนั้นก่อนต่างหัวเราะออกมาเบาๆ



“ขอกำลังใจหน่อย”



บรรจงจุมพิตแผ่วเบา หวานล้ำ โอบอุ้มมอบไออุ่นแก่กันและกัน









พ่อดูผอมลงกว่าครั้งล่าสุดที่ได้เจอมาก ใบหน้าซูบตอบทว่ายังเจือรอยยิ้มยินดีเมื่อได้เจอลูกชายก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นประหลาดใจเมื่อได้เห็นร่างสูงของคนที่เดินตามมา



“สวัสดีครับ” น้องป่านบอกว่าพี่วาเป็นช่างสัก อายุห่างจากตัวเองถึงแปดปี พอได้เจอแล้วพี่วาก็ดูโตกว่าป่านมากจริงๆ



ใบหน้าคมคายหล่อเหลา ดวงตาเรียวคมเกือบจะดูแข็งกร้าวทว่าแฝงความสุขุมเสียมากกว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ จากประสบการณ์การเจอผู้คนอันหลากหลายทำให้พ่อรับรู้ได้ถึงความจริงใจเพียงแวบแรก เขารับไหว้ เอื้อมมือหยิบของฝากที่แฟนลูกชายอุตส่าห์หอบมาให้



“ตามสบายๆ” เอ่ยได้เพียงเท่านั้นก็หยุดเพื่อไอออกมาหลายครั้ง ป่านขมวดคิ้ว ไม่ได้คิดไปเองจริงๆ ว่าสีหน้าพ่อไม่สู้ดีนัก แม้จะพยายามปั้นยิ้มทว่าลมหายใจติดขัดอย่างเห็นได้ชัด



บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบสักพัก ก่อนที่พี่วาจะยื่นแก้วน้ำข้างตัวให้คนป่วยดื่มแล้วเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา



“บ้านน่าอยู่มากเลยนะครับ” บ้านริมน้ำที่เคยทรุดโทรมดูสะอ้านสะอ้านและอบอุ่นขึ้นเมื่อมีผู้อาศัย พ่อเปลี่ยนโถงและห้องรับแขกเป็นแกลเลอรี่ย่อมๆ ผสมกับห้องทำงาน



ก่อนหน้านี้ป่านมีส่วนร่วมในการช่วยจัดโน่นนี่บ้าง เห็นแล้วก็อดชื่นชมไม่ได้ ดีใจที่พ่อได้อยู่ท่ามกลางสิ่งที่รักแม้ร่างกายไม่เอื้ออำนวย



“อยากเห็นข้างในไหมล่ะ” เสียงที่ยังแหบแห้งหัวเราะเบาๆ ก่อนจะผายมือชวนพี่วาไปยังส่วนของห้องทำงาน ป่านเคยเข้าไปเพียงหนึ่งครั้งรู้ว่าในนั้นมีภาพวาดของพ่อเรียงรายอยู่เยอะมาก พี่วาคงชอบใจ



แต่ก่อนที่ป่านจะตามเข้าไป พ่อกลับหันมายิ้มให้



“ป่านอยู่ช่วยลิซ่าเตรียมข้าวเย็นดีกว่า” ป่านเลิกคิ้วมองลิซ่าหรือก็คือภรรยาใหม่ของพ่อที่ยิ้มรับ แม้จะยังงุนงงทว่าก็ยอมพยักหน้าเดินตามลิซ่าเข้าไปในครัว ไม่วายหันกลับมาสบตาพี่วาที่เพียงยิ้มให้แล้วพยักหน้าเบาๆ



เป็นอันเข้าใจว่าพ่อคงมีเรื่องอยากคุยกับพี่วาตามลำพัง









ในสตูดิโอมีภาพที่ยังวาดไม่เสร็จค้างอยู่บนเฟรมผ้าใบ เป็นใบหน้างดงามของเด็กผู้ชายที่พี่วารู้ดีว่าเป็นใคร



“ผมไม่เคยรู้เลยว่าป่านชอบผู้ชาย” น้ำเสียงแหบแห้งเริ่มต้นบทสนทนา ดวงตาอิดโรยสำรวจร่างสูงอีกครั้ง ก่อนหัวเราะเบาๆ “แต่จะรู้ได้ยังไงกัน จริงไหม”



วาเพียงยิ้มรับ เขาเบือนหน้ากลับไปยังภาพวาด มองดวงตาสุกใสที่ถูกระบายอย่างสมจริงราวมีชีวิตแล้วอดเอ่ยชมไม่ได้



“ภาพสวยมากเลยครับ” ป่านเคยบอกว่าพ่อเป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์ และผลงานที่รายล้อมอยู่รอบห้องก็ช่วยยืนยันได้อย่างดี



“ผมไม่แน่ใจว่าจะวาดภาพนี้ได้เสร็จไหม” น้ำเสียงเจือขบขันทว่ามือที่สั่น เสียงไอ ร่องรอยบนผ้าเช็ดหน้าที่บ่งบอกอะไรได้มากมาย



วาได้แต่ขมวดคิ้วพยายามไม่ให้ตัวเองแสดงสีหน้าสงสารออกมา



“ป่านคงเคยเล่าเรื่องครอบครัวของเราให้ฟังแล้วใช่ไหม” ปล่อยให้คนหนุ่มได้สำรวจผลงานศิลปะรอบห้อง ก่อนที่ร่างผ่ายผอมจะทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ผ่อนลมหายใจคล้ายเหนื่อยเต็มที



“ครับ” พี่วานั่งลงตามสายตาสบดวงตาอิดโรยด้วยความจริงจัง



สัมผัสได้ว่าคนตรงหน้าตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่าง ไม่อย่างนั้นคงไม่เอ่ยปากบอกว่าอยากเจอเขา



“ตอนนั้นผมคิดถึงแต่ตัวเอง คิดถึงแต่ชื่อเสียง คิดถึงความสำเร็จ ผมคิดว่าสิ่งเหล่านั้นจะทำให้พวกเราสุขสบาย”



“...”



“แต่นานวันเข้าเส้นทางมันยิ่งห่างไกล ผมรู้ว่าตัวเองกำลังจะล้มเหลว และกำลังจะกลายเป็นภาระ” อาจอ้างไม่ได้ว่านี่คือเหตุผล แต่เสาหลักของครอบครัวที่กำลังสั่นคลอนยากที่จะปักหลัก ไม่อยากเหนี่ยวรั้งให้ทุกคนจมลงไปพร้อมกัน “ตอนนั้นผมคิดว่าต้องเริ่มใหม่ ผมต้องปล่อยมือ ให้พวกเราต่างก้าวไปข้างหน้าได้”



“นั่นไม่มีเหตุผลเลย” วาเอ่ยออกไปตามตรง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน “ป่านกับแม่รอคุณอยู่”



เขาเข้าใจหัวอกคนที่ไม่อาจเดินตามเส้นทางฝัน ทว่ามันอาจไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายในชีวิตก็ได้ไม่ใช่หรือ?



พ่อของป่านหัวเราะ ก่อนจะไอออกมาโขลกใหญ่



“จริงของคุณ” คนป่วยสูดหายใจพลางยิ้ม สายตาของเขามองไม่ผิดจริงๆ ที่ว่าแฟนของลูกชายดูจะเป็นคนจริงใจ “แต่มันสายเกินไปแล้ว”



“...”



“ตอนนั้นผมหลงทางและโดดเดี่ยว ทุกอย่างเหมือนไม่มีทางออก แล้วเธอก็เข้ามา เธอเป็นเหมือนแสงสว่างและผมก็ตัดสินใจเลือกทางอื่นที่ไม่สามารถย้อนกลับมาได้”



การนอกใจ



วาไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ ในใจนึกตำหนิ กล่าวโทษแทนป่านกับแม่ที่ต้องถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ชายตรงหน้าคือคนเห็นแก่ตัวโดยแท้ ทว่าความคิดทั้งหมดก็มลายหายไปเพียงเสี้ยววินาที



“ผมจึงไม่ได้กลับมาที่นี่เพื่อขอการอภัย” เขาทำผิด เขารู้ตัวดี และเสียใจ ต่อให้แม่กับป่านจะให้อภัยและไม่คิดกล่าวโทษด้วยจิตใจที่ดีงามอ่อนโยนเกินกว่าจะฝังใจโกรธเคือง เขาก็คิดว่าตัวเองกำลังได้รับบทเรียนสาสมอย่างที่ใครก็ไม่อาจช่วยบรรเทาได้



“ผมกลับมาเพื่อบอกลา”



ความตาย









อาหารเย็นถูกจัดเตรียมพร้อมไว้ก่อนที่ป่านกับพี่วาจะมาเสียอีก ดังนั้นเด็กน้อยจึงไม่มีหน้าที่อะไรมากไปกว่าวางจานอาหารลงบนโต๊ะกินข้าว และปลีกตัวออกมานั่งรับลมที่ศาลาท่าน้ำเหมือนเคย



ไม่รู้ว่าพี่วากับพ่อคุยอะไรกันตั้งนานสองนาน ระหว่างที่ป่านปล่อยใจไปกับสายน้ำไหลเอื่อยชวนสงบร่างสูงก็ทรุดตัวลงมานั่งข้างๆ



“เขาพูดอะไรบ้างครับ...” ป่านรีบหันขวับกลับไปตั้งใจจะพรั่งพรูคำถาม ทว่าพอเห็นมุมปากที่แตกขึ้นสีช้ำของพี่วาก็ได้แต่ชะงัก เบิกตากว้าง “เดี๋ยวนะครับ หน้าพี่ เขาชกพี่เหรอ ให้ตายเถอะ! เขาไม่มีสิทธิ์...”



น้ำเสียงกับท่าทางโกรธเคืองจะไปเอาเรื่องทำให้พี่วาต้องเอื้อมมือไปคว้าเอวน้องไว้ รั้งลงมานั่งตักปลอบขวัญ



“ชู่วๆ ไม่ๆ นี่ความผิดพี่เอง” น้ำเสียงทุ้มกลั้วหัวเราะ เพราะมันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร “เขาขอให้พี่ถนอมเราไว้ ไม่ล่วงเกินจนกว่าจะเรียนจบ แต่พี่บอกว่าไม่ทันแล้ว ก็เลยโดนหมัดสวนกลับมา”



ที่จริงคงเป็นปฏิกิริยาโต้ตอบด้วยความตกใจมากกว่า เพราะหลังจากใช้แรงแทบทั้งหมดชกเขาพ่อของป่านก็หัวเราะออกมา เอ่ยทีเล่นทีจริงว่าสามารถแจ้งตำรวจจับเขาได้



แต่วารู้ดีว่าท่านไม่มีทางทำอย่างนั้น เพื่อเห็นแก่ความสุขของป่าน และอย่างที่น้องบอก ท่านคิดว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายการตัดสินใจที่ป่านกับแม่เห็นดีเห็นงามแล้ว



“พี่...” เด็กน้อยเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าบทสนทนาของทั้งสองคนจะเจาะจงไปถึงขั้นนั้น



พี่วาหัวเราะ ไม่บอกน้องว่ากระทั่งหม่ามี้ก็รับรู้แล้วเช่นกัน



ยังคงแกล้งเอ่ยขบขัน “มีแฟนน่ารักพ่อตาก็ต้องหวงเป็นธรรมดาอ่ะเนอะ”



ป่านเบ้หน้า ก่อนสีหน้าจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแดงก่ำ เบี่ยงประเด็นคำถาม “แล้วเขาพูดอะไรอีกหรือเปล่าครับ”



“เขาฝากให้พี่ดูแลเรา อย่าทำให้เราร้องไห้” ว่าพลางโอบกอดน้องไว้ “เขาเป็นคนดีนะ”



“ครับ เป็นคนดี... แต่ไม่ใช่พ่อที่ดี” น้ำเสียงนั้นช่างแสนงอน ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “แต่ผมไม่โกรธหรอก สิ่งที่เขาทำผมให้อภัยทุกอย่าง... ผมเป็นห่วงเขา ผมรู้ตัวว่ายังรักเขา”



พี่วายิ้มออกมาพลางกดจูบขมับน้องซ้ำๆ จับเด็กน้อยในอ้อมกอดโยกซ้ายขวาเบาๆ คล้ายกำลังปลอบประโลมปกป้องจากภัยอะไรก็ตามที่จำเข้ามาทำให้จิตใจแสนบริสุทธิ์ดวงนี้บอบช้ำ



“เด็กดี”









มีเพียงความอุ่นใจสะท้อนในแววตาของป่าน



มื้อเย็นในบ้านริมน้ำผ่านไปด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลายกว่าทุกครั้งมาก ป่านไม่เคยรู้เลยว่าพี่วามีความสามารถในการคลายบรรยากาศจนได้เห็นว่าเขาเป็นคนทำลายความเงียบระหว่างมื้อเย็น



ถามประสบการณ์ทำงานของพ่อ เอ่ยชื่นชมเรื่องที่ป่านติดหมอ แม้กระทั่งลิซ่าก็ได้รับความใส่ใจให้เป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนา



ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ทิวากรอ่อนแสงอ่อนโยนได้ถึงเพียงนี้



จากที่เคยขึ้งขวางเกรี้ยวกราด เป็นอาทิตย์เที่ยงวัน กลับกลายเป็นแสงเช้าแดดอุ่นโอบอุ้มทุกสรรพสิ่งโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ



ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพียงเพราะต้องการปกป้องเคียงข้างเป็นไออุ่นแก่กระต่ายน้อยน่ารักเพียงตัวเดียวเท่านั้น



“โกรธพี่หรือเปล่าที่ตอบพ่อไปแบบนั้น” คำถามถูกเอ่ยทดแทนเสียงหายใจหอบหนัก ร่างกำยำพลิกหงายก่อนจะเป็นฝ่ายรั้งร่างบางขึ้นมาเกยก่ายตัวเองไว้



ร่างกายชื้นเหงื่อเจือกลิ่นราคะกอดรัด แนบชิด ซุกซบในอ้อมกอดที่ยังเต็มไปด้วยไอร้อนจากกิจกาม



“เรื่องไหนครับ” ถามกลับ ใบหน้าแนบอกเปลือยเปล่าฟังเสียงหัวใจที่เต้นถี่รัวอยู่ภายใน ไม่แพ้หัวใจตัวเองที่กำลังโครมครามไม่แพ้กัน



รสชาติเซ็กซ์แสนเรียบง่ายที่ไม่ได้ลิ้มลองบ่อยนักแม้ไม่เติมเต็มล้นปรี่ทว่ากลับให้ความรู้สึกสุขสมเกินบรรยาย



“ก็เรื่อง...” ทิ้งประโยคไว้เพียงเท่านั้น แต่น้องก็เดาได้ ใบหน้าที่ยังคงร้อนจัดยิ่งแดงแจ๋ เงยสบตาคนพี่แล้วได้แต่อึกอัก เบือนหน้าหนีลงซบอกอีกครั้ง



“ปะ... เปล่า แต่เรื่องแบบนี้มัน... พูดได้เหรอครับ” นานทีเดียวกว่าจะยอมตอบ น้ำเสียงไม่แน่ใจ พี่วาหัวเราะเบาๆ ประคองใบหน้าป่านให้เงยขึ้นสบตาอีกครั้ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง



“พี่ไม่อยากโกหก พี่รักเรา ถ้าพ่อกับแม่จะเอาเรื่อง พี่ก็พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง”



ป่านได้แต่เม้มปากด้วยความเขินอาย แต่ไม่ทันไรก็ขยับขึ้นมาจุมพิตริมฝีปากพี่วาแผ่วเบา เอ่ยด้วยแววตาจริงจังบ้าง



“ผมก็รักพี่ พวกเขาไม่มีทางเอาเรื่องพี่หรอกครับ”



“หืม? เมื่อกี้พี่ได้ยินว่ารัก” แต่คนพี่กลับแกล้งทำเสียงไม่เชื่อหูน่าหมั่นไส้ ป่านเลยเบ้หน้างอแง



“ไม่เคยพูดเหรอครับ”



“ไม่เคย ไหนพูดอีกทีซิ” ยังจะตีหน้ามึนโกหกแผนสูง กระชับอ้อมแขนดึงน้องขึ้นมานอนทับร่าง ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกัน ดวงตาอสรพิษเจ้าเล่ห์แพรวพราว



“โธ่ พี่ครับ”



“นะๆ พูดอีกทีๆ พูดอีกทีได้รึเปล่า” ก่อนจะเปลี่ยนเป็นออดอ้อนงอแงกลับ



“หึ” ป่านหลุดขำ เบ้ปากแต่ยอมตามใจ ยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บริมฝีปากอีกครั้งพลางกระซิบแผ่วเบา “รัก...”



“...”



“รักพี่วานะครับ”



ดวงตาสบตา เห็นริ้วความเขินอายระเรื่ออยู่บนใบหน้าคมก่อนจะถูกกลบเกลื่อนด้วยถ้อยคำน่าหมั่นไส้เช่นเคย



“หูย ยังกับใจจะละลาย ให้ตายพรุ่งนี้พี่ก็ไม่มีอะไรติดค้างในใจแล้วอ่ะ”



“เฮ้อ ก็ต้องเวอร์ตลอดเลยนะครับ”










#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

หายไปเคลียร์เรื่องสั้นมาค่ะ แพ็คหนังสืออย่างหักโหมหลังหัก และแอบติดนิยาย 5555
ปล. เหลืออีก 3 ตอนก็จบแล้ววว แอบใบว่าเหลือแต่ความหวานๆ เผ็ดๆ ล่ะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ

รักมากๆ เลย

-Martian-



หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่20 :Sunshine - 03.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 03-09-2019 19:19:25
มันสุขใจ ไตละลายไปกะพี่วาน้องป่าน
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่20 :Sunshine - 03.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-09-2019 19:37:23
 :man1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่20 :Sunshine - 03.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 03-09-2019 21:15:05
ก่อนพ่อตาจะแจ้งจับ เลาจะแจ้งจับก่อนนน
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่20 :Sunshine - 03.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 03-09-2019 21:36:51
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่20 :Sunshine - 03.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 03-09-2019 22:11:18
อบอุ่นกว่าพระอาทิตย์ก้อพี่วาแล้วเนอะ   :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่20 :Sunshine - 03.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Zestful ที่ 03-09-2019 23:20:02
หวานจ๊นนนนนนนนน เขินไปหมดแล้วจ้าาาาา  :jul1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่20 :Sunshine - 03.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 04-09-2019 10:29:40
น่ารัก เขินไปหมด
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่20 :Sunshine - 03.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 07-09-2019 15:39:45
งืออ เด็กดี...
เหมือนมีเสียงออกมาจากตัวหนังสือ  :o8: :man1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ 3 :Naughty 08.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 08-09-2019 00:19:05
ลายพิเศษ 3

Naughty

(ซนสะพรั่ง)





วันนี้ร้านสักเงียบเหงากว่าทุกวัน



เพราะเป็นวันอาทิตย์ลูกค้าจึงไม่เข้าร้าน ทว่าสาเหตุแท้จริงคือหุ้นส่วนที่ถือโอกาสที่แฟนเด็กปิดเทอมลางานไปเที่ยวฉลองตั้งแต่เมื่อวานต่างหาก



โมโจก็ไปด้วย แฟนตัวเองก็ไปทำงานที่ต่างจังหวัด ร้านสักจึงเหลือเพียงเฮียเดย์กับสามสาวที่คอยมาคลอเคลียร้องเหมียวๆ ราวกับจะช่วยคลายเหงา



“วาไม่อยู่เหนื่อยแย่” หลังจากทำความสะอาดสตูดิโอ เช็กอุปกรณ์ ให้อาหารแมวแล้วนั่งๆ นอนๆ จนค่ำ คนที่กำลังคิดถึงก็เฟสไทม์มาเยอะเย้ยคนเหงา



จริงอย่างที่หลินว่า ปกติอยู่บ้านสองคน ไอ้วากับเขาก็สลับกันทำหน้าที่ ตื่นเช้าออกไปซื้อข้าว ให้อาหารหมาแมว รดน้ำต้นไม้ ก่อนจะช่วยกันเปิดร้าน ดูแลลูกค้า อยู่ด้วยกันรู้ใจกันจนถูกแซวว่าเหมือนผัวเมียยิ่งกว่าผัวเมียแท้ๆ ตั้งหลายครั้ง



แต่เรื่องของพรุ่งนี้น่ะช่างมันก่อนเถอะ เรื่องที่ทำให้เขานิ่วหน้าอยู่ตอนนี้คือคนปลายสายต่างหาก



“อือ ไปใส่เสื้อผ้าดีๆ ไป” ไอ้เสื้อคลุมซีทรูลูกไม้สีเนื้อแสนเบาหวิวนั่นมันอะไรกัน ใส่ราวกับไม่ใส่ ผ้าบางจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน



อย่างกับจงใจยั่วให้คนไกลคลุ้มคลั่ง



“ไหนบอกว่าชอบลูกไม้ อุตส่าห์เลือกให้เข้ากับลายสักด้วย น่ารักจะตาย” และคงตั้งใจจริง เจ้าตัวถึงได้ยิ้มกริ่มแววตาแพรวพราว



ถ้าอยู่ใกล้ๆ จะจับตีให้ก้นลาย แต่เพราะทำอะไรไม่ได้เขาจึงได้แต่หัวเราะ มองร่างซุกซนเดินไปหยิบจานผลไม้กับแก้วนมมานั่งหน้าจอ ยิ่งใกล้ก็ยิ่งเห็นเนื้อหนังภายใต้ผ้าพลิ้วบางชัด

กำหนัดแล่นพล่าน ความคิดถึง ความโหยหา ตีรวนจนอดไม่ได้ที่จะถาม



“แล้วเมื่อไหร่จะมา” กว่าไอ้วาจะกลับก็อีกตั้งสามวัน ตอนกลางวันคงพอทำตัวให้ยุ่งได้ แต่กลางคืนจะทนเหงายังไงไหว



อยากเจอแทบแย่แล้ว อยากกอด อยากหอม อยากฟัด อยากสูดกลิ่นยั่วยวนที่แทบจะทะลุจอออกมาให้หนำใจ



“ไม่เอาอ่ะ กลัวโดนคนใจร้ายรังแก” เล่นลิ้น แกล้งเบ้หน้า เตือนความจำถึงตอนก่อนจากกันที่มีเหตุทะเลาะตามประสา เรื่องเล็กน้อยจนงี่เง่า ทว่าพอเห็นสีหน้างอแงแล้วนึกหมั่นไส้



สุดท้ายไม่รู้มีปากเสียงกันท่าไหน ถึงได้จบที่ปากประกบปาก ร่างประสานร่าง รุนแรงร้อนเร่า มัวเมาในรสกามเสียจนเช้า ซ้ำแล้วซ้ำอีกเสียจนอีกคนร่างช้ำ ยังหลงเหลือร่องรอยที่คอและเลือนรางใต้ผืนผ้าบาง



“จำไม่ได้เหรอครับ น้องนั่นแหละร้องให้พี่รุนแรงอีก” เขาตอบกลั้วขำ ทำดวงตาวาววับกลับ



“...” ดอกไม้ระเริงลมเต้นระริกหน้าแดงซ่าน ก่อนจะเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง



“อิจฉาป่าน”



เขาเลิกคิ้วถาม “อยากไปเที่ยวบ้าง?”



จะว่าไปก็นานแล้วที่ไม่ได้หาโอกาสไปเที่ยวกันสองต่อสอง เพราะที่ร้านยุ่งมาก หลินเองตั้งแต่รับช่วงกิจการจากที่บ้านก็ไม่ค่อยว่าง



แต่คนเป็นแฟนกลับส่ายหน้า “เปล่า ผมน่าจะเรียนหมอ”



“...” เขาไม่เข้าใจ กระทั่งเสียงหวานขบขัน



“อยากเล่นเข็มฉีดยา” เอ่ยน้ำเสียงแพรวพราว



“หึ เบื่อเข็มสักแล้วหรือไง” เข็มสักที่ไม่ใช่เข็มสัก บทสนทนาเคลือบอาบด้วยความหมายสองแง่สองง่ามชวนหวามไหว



“อืม... มันก็ขึ้นอยู่กับว่า เข็มของพี่ จะทำให้ผมสนุกได้แค่ไหน” ยั่วหยอกยวนเย้า ไม่มีใครยอมแพ้ใคร ดวงตายังคงประสาน แผ่กลิ่นกรุ่นความปรารถนาผ่านสายตา



ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายทนไม่ไหว แสดงอารมณ์หื่นกระหายผ่านเสียงกระซิบพร่า



“ไหน ใต้ลูกไม้มีอะไร ขอพี่ดูหน่อยซิ” คำขอมากกว่าคำสั่ง รอยยิ้มร้ายกาจ จงใจมองด้วยสายตาทะลุผ้าผ่อน มองยอดอกสีหวาน ถึงหน้าท้องที่ถูกซ่อนไว้ต่ำกว่าระดับของกล้อง



บ่งชัดว่าอยากเห็นมากกว่านี้ แล้วมีหรือที่อีกฝ่ายจะไม่ตอบสนอง เพราะสายตาซุกซนก็จับจ้องอยู่บนเรือนายท่อนบนเปลือยเปล่าของเขาด้วยสีหน้าเดียวกัน ราวกับตกอยู่ใต้มนต์สะกดหลงใหล แค่วาดจินตนาการถึงเซ็กซ์ยามห่างไกล ก็แทบคลั่ง



“หึ เพราะเห็นใจที่ต้องเฝ้าร้านคนเดียวหรอกนะเลยตามใจ” ยั่วยิ้มขณะที่ยกขาชันเข่า ขยับกล้องจนเห็นกระทั่งรอยสักที่ข้อเท้าขาว สองขาแนบชิดก่อนค่อยๆ อ้ากว้าง



อย่างที่คาด ภายใต้ลูกไม้โปร่งบางมีเพียงร่างขาวเปลือยเปล่า



“อ้ากว้างกว่านี้หน่อยสิ”



“แบบนี้เหรอ...” แหวกกางตามเสียงกระซิบเรียกร้องอย่างเอาใจ พอใจเมื่อเห็นฝ่ามือหนาเลื่อนต่ำปลดกางเกงนอนพลางปรับมุมกล้องให้เห็นท่อนล่าง เห็นแก่นกายที่กำลังขยายยั่วไม่แพ้กัน ตาเยิ้มหวานมองมือที่กำรูดเป็นจังหวะ เชื่องช้า... จินตนาการถึงความอุ่นร้อนสอดคับในช่องทางที่กำลังขยับเชิญชวน



สีหน้าพึงพอใจทำให้นึกสนุก กระดกนมอุ่นจงใจให้บางส่วนไหลรดผ่านลำคอขาว เปียกเลอะผ้าลูกไม้บาง ทุกกิริยาเชื่องช้า นวดเฟ้นตามร่าง มือหนึ่งลูบไล้ มือหนึ่งบดคลึงช่องทาง... ก่อนนิ้วผลุบหาย



 “ชอบไหม”



 “อืม” มีหรือจะปฏิเสธได้ ต่างฝ่ายต่างขยับมือตามจังหวะรักที่จำได้ขึ้นใจ คล้ายรับรู้ถึงสัมผัสจากร่างกายของกันและกัน



“พี่เดย์...” ทว่าไม่อาจเติมเต็ม ทุกครั้งที่ปลายนิ้วแทรกลึกไม่ถึงจุดกระสันร่างกายร้อนรุ่มจึงบิดเร่า กระเส่ากระซิบออเซาะ ร่อนสะโพกเรียกร้องอย่างทวีความต้องการ



แค่มองก็แทบคลั่ง อยากไปหาเสียเดี๋ยวนี้ อยากรักให้รุนแรง ขยี้ขย่มให้แตกสลาย ทว่าทำได้เพียงส่งเสียงปรนเปรอเอาใจ ฝ่ามือยังคงขยับรูดรั้ง ในใจเรียกร้องต้องการมากกว่านี้เช่นกัน



“คุณหนูของผม... น่ารักที่สุด” 









ไม่ใช่ความผิดเขาสักนิดที่จะดึงดันเอาแต่ใจ



เพราะถูกยั่วยุ ถูกเย้ายวนด้วยท่าทางรั้นร้าย ทั้งสีหน้า น้ำเสียง ร่างกายงดงามหมดจดที่ไม่ว่าจะจับหรือจูบตรงไหนก็คล้ายจะเบ่งบานส่งกลิ่นหวานไปทั่ว ชวนหน้ามืดตามัว



“วาไปทะเลเดิมทุกปี ไม่เบื่อบ้างเหรอ” ในที่สุดก็อ้อนจนยอมรีบเคลียร์ธุระมาหากันได้ ภายในร้านสักจึงไม่เงียบเหงาอีกต่อไป



เสียงสนทนาเคล้าจูบ สลับเสียงเนื้อกระทบเจือเสียงคราง เสียงความโหยหาตะกรุมตะกรามอื้ออึงเสียจนแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร



“เพราะไปทุกปีไง เลยยิ่งต้องไป” รุ่งสางสองร่างยังคงคลอเคลียแนบชิดอยู่บนเตียง โซมเหงื่อ คลุกราคะ เปรอะเปื้อนหมดสภาพ หมดเรี่ยวแรงทว่าไม่อยากหลับ รู้ดีว่ายังไม่เต็มอิ่มจึงหาบทสนทนาคั่น พาดพิงถึงคู่รักที่หายไปพักร้อนไม่ส่งข่าวคราว



“ทำไมอ่ะ” งุนงงกับคำตอบ ทะเลที่ว่าเป็นชายหาดส่วนตัวของบ้านหลิน ชวนกันไปทุกปีตั้งแต่รู้จักกัน เหมือนบ้านหลังที่สองที่ทุกคนเอาไว้ตากอากาศ ผ่อนความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ชายหาดทั่วไป ไม่ได้สวยเลิศเลออะไร พิเศษตรงที่มันเงียบสงบดีเท่านั้น แต่ไอ้วามักจะหาโอกาสไปอย่างน้อยปีละครั้ง



“มันบอกจะไปอวดเมีย”



“กับทะเล?”



“อือ”



“โคตรวาเลย คนประหลาด”



เขาได้แต่ยิ้ม นึกถึงเหตุผลอีกข้อที่คนประหลาดกระซิบบอกเขาเป็นการส่วนตัว “อีกอย่าง มันบอกว่าอยากลองเอาท์ดอร์”



“โอ๊ะโอ” พอได้ยินคำตอบ คนในอ้อมกอดกลับทำเสียงคล้ายกับนึกอะไรบางอย่างได้ เงยหน้าขึ้นมามองตาแป๋ว เขาก้มลงงับปลายจมูกรั้นอย่างรู้ทัน



“ทำเสียงแบบนี้คิดซนอะไร”



ไม่มีคำตอบ ร่างเล็กถลกผ้าห่มผุดลุกขึ้นนั่งทั้งที่ยังเปลือยเปล่า ยื่นแขนออกมาหาเขา “อุ้มๆ”



“หืม? อุ้มไปไหน” ยังไม่เข้าใจทว่าก็ยอมทำตาม ร่างสูงลงไปยืนข้างเตียง อ้าแขนรับร่างปวกเปียกอุ้มกระเตงแนบร่าง



สองแขนเรียวโอบรอบคอแกร่ง ขาก่ายสะโพกสอบเกาะแน่น พลางยกยิ้มร้ายกาจ แกล้งกัดริมฝีปากล่างเขาดูดดึงเบาๆ กระซิบพร่า



“...ไปดาดฟ้ากัน” ทั้งที่โดนฟัดจนร่างเต็มไปด้วยรอยสีกุหลาบ กลีบบวมช้ำยังอุตส่าห์มีลูกเล่นยั่วเย้า กลิ่นราคะที่ยังอาบร่างกระตุ้นความต้องการอีกครั้ง



แล้วอย่างนี้จะไม่ให้หลงจนมัวเมา จะไม่ให้รังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ให้ช้ำเกินช้ำแหลกสลายคาร่างได้ยังไงกัน











#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

ตอนหน้าไปทะเลกัน :)





ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

- Martian -
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ3 : Naughty - 08.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 08-09-2019 00:49:12
ตายแล้ววว คุณหนู ;///;)
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ3 : Naughty - 08.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-09-2019 01:03:35
 :haun4:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ3 : Naughty - 08.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 08-09-2019 07:25:40
คุณหนูแซ่บบมากก
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ3 : Naughty - 08.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 08-09-2019 10:51:03
มีคนไม่ยอมน้อยหน้าวาป่านค่ะ  :hao6: :hao7:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ3 : Naughty - 08.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวลูกไก่ ที่ 08-09-2019 14:59:30
ฉันรักคู่นี้เหลือเกินน แสนซนจังเลยคุณหนู
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ3 : Naughty - 08.09.2562 (P.10) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 08-09-2019 21:23:13
 :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายพิเศษ21: Beach - 10.09.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 10-09-2019 21:33:40
ลายที่ 21

Beach

(หาดสวรรค์)



แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดลอดผ้าม่านกระทบเปลือกตาที่ค่อยๆ ขยับเปิดอย่างเชื่องช้า แดดอุ่นยามเช้าอาบไล้ใบหน้าคมที่ยู่ย่นด้วยความรำคาญ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นประหลาดใจเมื่อพบว่าข้างกายไร้ร่างนุ่มนิ่มที่กกกอดไว้ทั้งคืน


เตียงยังอุ่น แสดงว่าน้องคงลุกไปได้ไม่นาน


ไม่มีประโยชน์จะลีลาอยู่บนเตียงอีกต่อไป ร่างสูงลุกขึ้นบิดขี้เกียจหยิบกางเกงวอร์มที่ตกอยู่ขึ้นมาสวมปกปิดร่างกาย ก่อนจะเดินสะโหลสะเหลออกจากห้อง


โฮ่ง!


สิ่งแรกที่เขาคิดคือป่านคงออกไปดูวิวข้างนอก ทว่าพอลากเท้าเดินลงบันไดลงไปยังชั้นล่าง ก็ได้ยินเสียงเห่าเรียกจากลูกชาย โมโจวิ่งมาคลอเคลียรอบเท้าเขาก่อนจะวิ่งนำผ่านบาร์เล็กๆ เข้าไปยังห้องครัว


“แป๊บนึงนะครับโมโจ”


ป่านอยู่ตรงนั้น ร่างสมส่วนหันหลังให้เขา กำลังง่วนอยู่กับอะไรสักอย่างบนเตาไม่ละความสนใจแม้จะโดนเจ้าตัวโตพันแข้งพันขาจนโมโจยอมแพ้ วิ่งกลับไปหมอบรอหน้าถ้วยอาหาร


กลิ่นคุ้นจมูกทำพี่วาหลุดยิ้ม ดึงยางรัดผมบนข้อมือมารวบผมไว้ครึ่งหัวลวกๆ ปัดรำคาญ แล้วยืนกอดอกมองคนน่ารักยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าเตา


เด็กน้อยอยู่ในเสื้อยืดของเขามันจึงหลวมโพรกจนคอเสื้อหย่อนเกือบตกจากไหล่ โชว์ผิวลำคอที่เต็มไปด้วยร่องรอยจากกิจกาม ชายเสื้อคลุมถึงครึ่งขาอ่อนเปิดรอยสักวับแวมขณะร่างเล็กเขย่งหยิบจานจากเคาน์เตอร์เหนือศีรษะ


มองจนอิ่มตาจึงเดินเข้าไปซ้อนหลังหยิบให้ ถือโอกาสจูบกระหม่อมสูดกลิ่นเส้นผมหอม จูบลามถึงหัวไหล่ แกล้งกัดซ้ำรอยจูบเบาๆ ก่อนถาม


“ทำอะไร” รู้อยู่แล้วจากกลิ่นแต่ยังอยากถามย้ำ สองแขนเท้าเคาน์เตอร์กักขังไม่ให้เด็กดื้อหนีไปไหนอีก


ป่านกัดริมฝีปากอารามตกใจที่พี่วาโผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียงกับการกระทำชวนเขินหายทำน้องอึกอักชั่วครู่กว่าจะเอ่ยตอบ “ต้มมาม่าครับ พี่หิวหรือยัง”


บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่ควรเป็นมื้อแรกของวัน แต่ป่านจนปัญญา ในตู้เย็นมีของสดของทะเลที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้แต่ป่านไม่รู้จริงๆ ว่าจะจัดการมันยังไง รู้เพียงอยากทำมื้อเช้าให้พี่วาด้วยตัวเองบ้าง


“หิว” มุมปากยกยิ้มร้ายกาจซ่อนความหมาย ทว่าเด็กไม่รู้เรื่องรู้ราวหันกลับไปยังหม้อมาม่าที่สุกได้ที่ พยายามอธิบาย


“มาม่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ผมทำอย่างอื่นไม่เป็น เลยใส่หมูกับผักให้จะได้มีสารอาหาร... อ๊ะ! อย่าเพิ่งกอดสิครับ” ไม่ทันพูดจบกลับถูกรวบกอด จูบฟัดไปทั่วอย่างไม่ให้ตั้งตัว


“มันเขี้ยวว่ะ” ยิ่งเดียงสายิ่งน่ารัก


ใครเขาหิวมาม่ากัน พี่วาหิวอย่างอื่นต่างหาก


“อื้อ! พี่ครับ อย่ากัดหู” กว่าจะรู้ตัวว่ากำลังจะถูกกินก็สายไปแล้ว ลูกกระต่ายจมอยู่ในอ้อมกอดสรพิษ ถูกรัดสูดกลิ่นกายหอมอย่างเอาแต่ใจ


“ไม่ไหวๆ เมียพี่น่ารัก”


ป่านหลุดหัวเราะ เอี้ยวคอกลับไปหา พยายามปั้นหน้าดุปรามทว่ากลับยิ่งถูกรุกไล่ ริมฝีปากซุกซนพรมจูบไปทั่วอย่างออดอ้อน ก่อนหยุดที่ริมฝีปาก


สองร่างอาบแสงละมุนจากหน้าต่าง จุมพิตยามเช้าแผ่วเบา ดูดดื่ม ผลัดดูดดึงริมฝีปากกันและกัน เรียวลิ้นตวัดตักตวงโหยหา ก่อนแดดอ่อนค่อยเร่งร้อน เร่งความต้องการเตลิดเกินควบคุม


ริมฝีปากดื้อรั้นตักตวงจนพอให้จึงผละสู่ซอกคอ หัวไหล่ กลิ่นหอมจากผิวกายอุ่นดึงดูดให้ยิ่งอยากจูบ เนื้อหวานชวนให้อยากกลืนกินทั้งร่าง ฝ่ามือซุกซนถลกชายเสื้อเปิดเรือนร่างพลิกร่างบอบบางดันหลังติดโต๊ะกลางครัวพลางลากริมฝีปากลงต่ำ จูบหน้าท้องขาวที่หดเกร็ง หยอกเย้าปลายลิ้นเล่นขณะรั้งชั้นในเปลือยตัวตนหมดจดที่ถูกกระตุ้นด้วยจูบจนขยาย


“พี่ครับ...มะ... มาม่าจะอืด...” อึกอักปรามการกระทำอุกอาจ ทว่ารู้ดีว่าเตลิดเกินหยุดยั้ง ยิ่งเกร็งสะท้ายเมื่อปลายลิ้นร้อนแตะลงส่วนปลาย แกล้งไล้วนแผ่วเบา


เด็กน้อยลมหายใจกระตุก สองมือทำได้เพียงคว้าขยำเส้นผมขณะที่ใบหน้าฝังลงกลางร่าง แนบชิดตามความลึกของโพรงปากที่ครอบครองแก่นกาย


“พี่... บอกว่าหิว...” เสียงสั่นพร่าปะปนเสียงครางอย่างน่าอายจนต้องกัดริมฝีปากห้ามเสียง ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอพึงพอใจ


“กำลังกินนี่ไง” คนตะกละกอบโกย รูดรั้งด้วยริมฝีปากปรนเปรอด้วยจังหวะที่ป่านชอบจนน้องหลุดร้องอีกหลายครั้ง ส่วนร้อนจัดสั่นระริก ร่างกายร้อนเร่าด้วยความกระสัน


“วา...”


“หืม?” ทั้งที่ง่วนอยู่กับร่างกายแสนน่ารักยังไม่วายยียวนส่งเสียงตอบรับ


แต่คนเรียกตัวแดงแจ๋ได้แต่หอบหายใจ ร่างกายปวกเปียกจนแทบยืนไม่ไหว ครั้งแรกที่พี่วาใช้ปากให้ ทั้งอยากทั้งอาย ความต้องการ ต่อต้าน ตีรวนจนไม่อาจเอ่ยเป็นคำ


“ฮื่ออ... ไม่เอา” หลุดร้องเสียงหลงเมื่อปลายนิ้วลอบสอดสู่ช่องทางที่ยังอ่อนนุ่มจากเมื่อคืนอย่างไม่ทันตั้งตัว


ทว่าพี่วาไม่สนใจจับขาเรียวพาดไหล่ ปรนเปรอส่วนหน้าพลางกระตุ้นส่วนหลังไปพร้อมกัน


“ตรงนี้ใช่ไหม” ไม่เหลือแรงตอบมีเพียงความขาวโพลน คลุ้มคลั่ง ไม่อาจห้ามเสียงครางอีกต่อไปเมื่อถูกรุกเร้าทั้งสองทาง ไม่อาจห้ามแม้แต่ร่างกายที่ขยับร่อนตามจังหวะ


เสียงเฉอะแฉะสลับดูดดึงหยาบโลนกลบทุกสติสัมปชัญญะ กระทั่งถึงจุดสูงสุด เสียงครางหวีดหวาน สั่นสะท้านไปทั้งร่าง


“...!!”


“โอ๋ๆ กระตุกใหญ่เลย” มุมปากยกยิ้มพึงพอใจ ก่อนรูดรีดขุ่นขาวด้วยฝ่ามือให้ฉ่ำเยิ้มก่อนค่อยๆ ไล้เลีย


“อึก...! ไม่ๆ วา... วา... อย่ากลืนนะ!” กว่าจะได้สติกว่าจะส่งเสียงร้องห้าม ราคะกามก็ถูกกลืนหมดจด ไร้ขุ่นข้น


“ไม่ทันแล้วครับ”


“...”


“หวาน :) ” เด็กน้อยเบ้ปาก มองคนขี้แกล้ง ก่อนเอื้อมมือประคองใบหน้าคมบดจูบทำโทษริมฝีปากซุกซนก่อนพลิกตัวดันร่างสูงจนมุมบ้าง


ฝ่ามือลูบไล้ผ่านลอนกล้ามลงต่ำ รั้งขอบกางเกงกอบกุมกลางร่างเล่นล้อกับส่วนขยาย


พรมจูบลำคอ หัวไหล่ ลากตามรอยสักบนแผ่นอกแกล้งสะกิดบาร์เบลสีเงินเล่นก่อนจะลูบผ่านหน้าท้องแกร่ง ทรุดตัวลงคุกเข่าลงหน้าแก่นกาย


“หึ” ดวงตาอสรพิษวาววับ นึกเอ็นดูการเอาคืนที่เขาเป็นฝ่ายได้กำไร “หนูก็หิวเหมือนกันเหรอคะ”


ลูกกระต่ายสบตาแป๋ว แนบใบหน้าคลอเคลียคล้ายจะทำความคุ้นเคยกับท่อนเนื้อที่กำลังเรียกร้องให้กลืนกินให้อิ่มหนำ


ก่อนแววตาแปรเปลี่ยนเป็นร้ายรั้น มือเล็กกอบกุม จับมั่น


“กินล่ะนะครับ”


ก่อนค่อยๆ ครอบริมฝีปาก เลียนแบบการกระทำ






แดดบ่ายไม่เหมาะกับการวิ่งเล่นเลยสักนิดแต่จะทำยังไงได้ กว่าจะกินจนอิ่ม กว่าจะฟื้นเรี่ยวแรงลุกขึ้นมาจากโซฟาที่ใช้กกกอดต่างเตียงก็เลยเที่ยงเข้าไปแล้ว


พี่วาทำข้าวผัดให้ป่านกิน ขณะที่ตัวเองกินมาม่าของป่านจนหมดเกลี้ยงทั้งที่เส้นอืดน้ำหมดรสชาติ แถมยังยอฝีมือการทำอาหารของน้องเกินเรื่องทั้งที่ไม่จำเป็นต้องใช้ฝีมือเลยสักนิด


สองคนจูงโมโจออกมาเดินเล่นริมหาดก่อนป่านจะยอมแพ้ต่อความร้อนขอไปนั่งพักข้างซอกหินที่พอจะมีหินก้อนโตให้ร่มเงาบ้าง มองพี่วาเล่นจานล่อนอยู่กับเจ้าลูกชายโดยไม่สนใจแดดเลยสักนิด ร่างกายท่อนบนที่ยังคงเปลือยเปล่าถูกแสงอาทิตย์เผาจนขึ้นสี ผิวที่เปลี่ยนเป็นสีแทนเคลือบน้ำทะเลอาบเม็ดทรายระยิบระยับโดยเฉพาะเครื่องประดับสีเงินบนยอดอกยิ่งสะท้อนแสงเด่นชัด


โชคดีที่เป็นหาดส่วนตัว ไม่อย่างนั้นป่านคงรู้สึกหวงเรือนร่างน่ามองนี้ที่คงกลายเป็นเป้าสายตาใครต่อใคร


ถูกมองจนรู้ตัวพี่วาจึงหันกลับมายิ้มให้ เหวี่ยงจานร่อนสีสดออกไปให้โมโจวิ่งตามอีกรอบก่อนจะเดินกลับมาหาป่าน ร่างสูงโน้มตัวลงประทับริมฝีปาก คล้ายถูกแรงดึงดูดเกินห้าม แขนแกร่งเพียงข้างเดียวเกี่ยวเอวบางรวบเข้าหาพลางทิ้งตัวนอนหงายบนพื้นทราย พลิกกายน้องขึ้นมานั่งทับ จุมพิตดูดดื่มท้าเสียงคลื่นและดวงอาทิตย์จ้าจัด


โฮ่ง!


ไม่ทันไรถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเห่าเจ้าลูกชาย ป่านหลุดขำ ผละริมฝีปากออกแต่ยังนั่งคร่อมร่างอยู่อย่างนั้น


“อย่าขัดจังหวะดิโมโจ” เสียงทุ้มปรามไม่จริงจัง ก่อนจะหยิบจานร่อนที่โมโจคาบมาวางไว้ให้ออกไปให้ไกลกว่าเดิม


พอลูกชายพ้นสายตา สองร่างก็ดึงดูเข้าหากันอย่างเชื่องช้า ทว่าริมฝีปากเพียงแตะแผ่วเบาก่อนน้องจะผละออกมา


“ทำไมพี่ชอบผมเหรอครับ” คล้ายกำลังเล่นเกมถามตอบ หนึ่งคำถามแลกหนึ่งจูบ เล่นล้อกับความโหยหาของคนพี่ที่พยายามดื้อดึง แต่เพียงถูกสองมือประคองใบหน้าปรามก็ยอมละสายตาจากริมฝีปากฉ่ำ คิดคำตอบ


“บอกแล้วเหรอว่าชอบ” ไม่วายยียวน


“...”


“โอ๋ๆ พี่ล้อเล่นๆ ไม่เบะสิ” ปลอบกลั้วขำก่อนจะขยับลุกพิงโขดหินให้น้องคร่อมตักเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง “ไม่รู้ดิ รักแรกพบมั้ง”


สืบสาวไม่ได้ความ ไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองตกหลุมรักเด็กน้อยตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ถอนตัวไม่ขึ้น หลงจนโงหัวไม่ไหว


“โกหก ตอนเจอกันครั้งแรกพี่เอาแต่ดุ”


“ดุตอนไหน”


“พี่ไล่ผมกลับ” ป่านเบ้หน้า นึกถึงตอนแรกที่เจอกันพี่วาไม่มีท่าทีของคนตกหลุมรักสักนิด มีแต่ความรำคาญ


คิดแล้วก็ยิ่งน่าประหลาดใจที่ความสัมพันธ์มาไกลถึงขั้นนี้


“ก็เรา...” ผู้ใหญ่ดื้อชะงักไปสักพัก คิดหาคำแก้ตัวแต่สุดท้ายก็ได้แต่ยกธงขาว ยอมรับ “โอเค ยอมแพ้ ดุว่ะ ทำไมตอนนั้นดุน้องวะ แม่ง ปากหมา”


ดุด่าตัวเองจนป่านหลุดหัวเราะ น่ารักจนอดไม่ได้ที่จะแหกกติกากดจูบหนักๆ ลงไปอีกครั้ง


“สงสัยพี่แพ้ความขาว” ยังไม่หยุดแกล้งให้น้องหมั่นไส้ในคำตอบ จนถูกงับริมฝีปากเบาๆ พี่วาหัวเราะ รวบร่างเล็กไว้ในอ้อมกอด จูบฟัดจนพอใจก่อนจะเอ่ยกระซิบข้างหูแผ่วเบา


“หึ ล้อเล่น พี่ก็ชอบทุกอย่างที่เราเป็นนั่นแหละ”


“ยังไงครับ” น้องเงยหน้าถาม


ครุ่นคิดสักพักพี่วาก็ก้มลงจรดหน้าผากแตะกัน สบตา เอ่ยจริงจัง “ก็ยังงี้ เป็นเด็กดี ฉลาด น่ารัก น่ารังแก”


“มิน่า ถึงชอบแกล้งผม”


“ล้อเล่นหรอก ใครจะรังแกลง ตอนพี่สักให้แล้วเราน้ำตาคลอ เหมือนใจพี่จะสลายเลยรู้ป่ะ”


“เวอร์แล้ว”


“จริง ไม่รู้เหรอว่าตัวเองน่ารัก น่าทะนุถนอม” ย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจนคนคาดคั้นถึงกับอึกอัก


“ค... ใครจะไปรู้เล่า”


“เออ งั้นก็รู้ไว้ซะ น้องโคตรน่ารักเลยครับ” พอถึงตรงนี้ก็เสียอาการทั้งคนตอบคนถาม พี่วาหูแดง ส่วนป่านก็ขึ้นสีจัดไปทั้งแก้ม ก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน ริมฝีปากทาบริมฝีปากมอบจูบหวานเมื่อได้คำตอบที่พอใจ


“ช่างสักมีตั้งเยอะแยะ ทำไมถึงเป็นพี่” ตักตวงจนชุ่มฉ่ำจึงผละริมฝีปาก พี่วาเป็นฝ่ายถามกลับบ้าง


“ข้อนี้ผมเคยบอกไปแล้วนะครับ”


“หา? ตอนไหน”


“โธ่ ไหนบอกเป็นรักแรกพบไงครับ”


“ตอนไหนอ่ะ ตอนไหนๆ”


“ไม่บอกแล้วครับ”


“...”


“วาอ่ะ ไม่ใส่ใจ” คนขี้ลืมได้แต่หัวเราะ แกล้งงับปลายจมูกย่นด้วยความมันเขี้ยว


“แล้วทำไมชอบพี่” ก่อนจะเปลี่ยนคำถาม นิ้วมือเกลี่ยเส้นผมออกจากใบหน้า พรมจูบแก้ม ระถึงหน้าผากแผ่วเบา


“บอกตอนไหนครับว่าชอบ?” ได้ทีจึงยอกย้อนยียวนกลับ


“แน่ะ มุกซ้ำ”


เล่นตัวไม่เท่าไหร่ เห็นสีหน้าออดอ้อนของพี่วาก็ยอมเฉลยออกมาจนได้ “หึ เพราะโมโจครับ”


“ฮะ?”


“ตอนโมโจป่วยพี่เหมือนจะร้องไห้ ผมเลยคิดว่าจริงๆ แล้วพี่อ่อนโยนจัง”


“เอ้อ... ไม่รู้เหรอพี่ทำบังหน้าไปงั้น” คนขี้อายยังทำกลบเกลื่อนเฉไฉ


“เวลาพี่เขินแล้วเฉไฉแบบนี้ก็น่ารัก”


“หึ เวลาเขินแล้วทำอย่างอื่นพี่ก็น่ารักนะ อยากเห็นไหม” ถูกต้อนจนทำหน้าไม่ถูก คนพี่จึงทำเป็นต้อนกลับ คิดไม่ถึงว่าจะถูกน้องร้องห้ามด้วยถ้อยคำที่ทำเอาผงะ


“หยุดเลยตาเฒ่าหื่นกาม!”


“ฮะ...เฮ้ย! ไปเอาคำนี้มาจากไหน”


“คุณหนูครับ” คำตอบไม่ยากเกินคาดเดา คำพูดประหลาดๆ แบบนี้จะมีใครสอนได้อีก


“ต่อไปนี้ห้ามไปเล่นกับคุณหนูอีกเลยนะ!”


ป่านหัวเราะชอบใจ ไม่รับปาก เพียงโน้มใบหน้าพี่วาลงมารับจุมพิตอีกครั้ง จูบหวานไม่รู้อิ่ม มีแต่อยากจูบซ้ำๆ


ในความคิดหวนกลับถึงความประทับใจแรกที่เจอกัน ความเกรี้ยวกราดที่ใช้กลบเกลื่อนความอ่อนโยน มุมอบอุ่นที่ซ่อนไว้เปิดเผย แปรเปลี่ยนให้ความน่ากลัวกลายเป็นความน่ารัก






‘โมโจ ไม่งอแงดิ’


‘...’ ตอนนั้นป่านมาร้านสักเพื่อรอแม่มารับ นึกแล้วก็แปลก ทั้งที่มีสถานที่อื่นให้เลือกมากมายแต่น้องกลับเลือกไปที่ร้านสัก ทั้งที่โดนไล่โดนดุสารพัด


แต่กลับ... อยากเจอหน้าทุกวัน


‘โธ่ โมโจครับ’ พี่วาดูเป็นห่วงลูกชายจนน่าสงสาร ได้แต่งอแงกับเจ้าตัวโตที่นอนหงอยหงอไม่รู้เรื่องรู้ราว


‘พี่เป็นอะไรครับ นั่งหงอยเชียว’ ป่านอดถามไม่ได้ มองหนึ่งคนหนึ่งหมาที่อยู่ในอาการเดียวกัน


พี่วาถอนใจ หดหู่หมดมาด


‘โมโจดิ โมโจป่วย ไม่ยอมกินข้าว’


‘ไปหาหมอหรือยังครับ’


‘ไปไม่ได้ นัดลูกค้าไว้ ไอ้เฮียก็อยู่กับคุณหนู ไอ้เฮียนะไอ้เฮียเห็นเมียดีกว่าลูกได้ไง คอยดูนะกลับมาจะฟ้องหย่าเอาค่าเลี้ยงดู
@$%$^* ((_...’


‘พี่ครับ ใจเย็น’ พอได้ยินเสียงปลอบประโลมของน้อง พี่หยุดบ่น ถอนใจ หันกลับมาทำเสียงอ่อนใส่โมโจอีกครั้ง


‘โมโจคร้าบ โมโจ กินข้าวหน่อยลูก พ่อเป็นห่วงจะแย่แล้ว’


ป่านไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้ มุมซึมเซาน้ำเสียงอ่อนใจ รู้ดีว่าเสียอาการเพราะโมโจสำคัญกับพี่วามาก เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่เขาอ่อนโยนอ่อนหวานด้วย รักเหมือนสายเลือดแท้ๆ


สุดท้ายจึงอาสา


‘ผมพาไปโรงบาลให้ไหมครับ’ ยังไงเสียวันนั้นป่านก็ต้องรอแม่มารับอยู่แล้ว แถมไม่มีคิวสัก แทนที่จะอยู่ว่างๆ น้องอยากทำประโยชน์ตอบแทนพี่วาบ้าง


‘ได้เหรอ’ คนพี่ตาวาว สีหน้ามีความหวัง


‘ครับ’ ตอนนั้นพี่วาคงไม่ทันรู้ตัวว่าตัวเองไว้ใจน้องแค่ไหน ทั้งที่เพิ่งเจอกันไม่นาน แถมยังตีหน้ามึนไล่น้องทุกครั้งที่เจอหน้า


‘เออพี่ก็ว่าได้ ลูกพี่ก็เหมือนลูกเรา’


แต่บอกตามตรง ถ้าจะมีใครสักคนบนโลกที่เขาจะยอมให้ดูแลโมโจแทน ใครคนนั้นคือน้องป่าน


คำพูดที่ดูไม่คิดอะไรของพี่วาทำให้ป่านคิดมากกว่าที่คิด ยิ่งถูกตอกย้ำจากสัตวแพทย์ที่เป็นคนรู้จักพี่วาก็ยิ่งทำน้องฟุ้งซ่าน


‘แปลกนะครับปกติวาไม่ให้ใครพาโมโจมาหาหมอแทนเลย แค่จะเล่นด้วยยังโดนขู่แง่งๆ ดุกว่าหมาก็เจ้าของนี่แหละ’


ทั้งที่ดูเหมือนจะไม่มีประเด็นอะไรให้ขบคิด ทว่าป่านไม่อาจหยุดคิดมาก ได้แต่พยายามสลัดความคิดเตลิดไกล จดจ่อเพียงหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย กลับไปถึงร้านสักพักเห็นพี่วายังไม่เสร็จธุระป่านจึงถือวิสาสะจัดการเรื่องอาหารให้เจ้าตัวโตที่คงกำลังหิวได้ที่


โมโจยอมกินอาหารที่ป่านผสมให้ในจังหวะเดียวกับที่พี่วาสักเสร็จแล้วเดินเข้ามาเห็นพอดี


‘เก่งมากเลยครับ กินเยอะๆ คุณพ่อจะได้ดีใจนะ’ เห็นจังหวะที่น้องชื่นชมปรบมือให้เจ้าลูกชายที่หันมามองเขาพลางส่งเสียงเห่าให้เด็กน้อยรู้ตัว


ป่านหันกลับมาสบตาเขา ยิ้มกว้างรีบรายงานอาการให้คลายเป็นห่วง


‘หมอบอกว่าน้องเบื่ออาหารน่ะครับ ไม่ได้เป็นอะไรมาก’


‘ทำไมเดี๋ยวนี้ดื้อวะโมโจ’ ถึงปากจะบ่นแต่คนพี่ลงมานั่งคุกเข่าข้างกัน ฝ่ามือใหญ่ลูบหัวลูบหลังโมโจที่กำลังกินอาหารเอร็ดอร่อยอย่างเอ็นดู


‘ก็พี่ให้กินตามใจ’ คนเด็กกว่าบ่นบ้าง ลืมตัวว่าอีกฝ่ายอาจไม่พอใจ


แต่พี่วาหันมาทำตาโตใส่ ‘ไม่ตามใจได้ไง นี่ลูกนะ’


‘ครับ รู้แล้วว่าลูกรัก’ สีหน้าตื่นตูมทำป่านหลุดขำ


‘เนี่ยเลี้ยงมาแต่เด็ก เดี๋ยวให้ดูรูปตอนเล็กๆ พี่ถ่ายไว้หมดเลย’ คนพี่ยังไม่วายดึงดันอวดอ้างเหตุผลที่อดตามใจไม่ได้


‘นี่ตอนรับมาเลี้ยงใหม่ๆ ตอนไปเดินเล่นกัน นี่ตอนหัดขอมือครั้งแรก โมโจโตไวมากเผลอแป๊บเดียวก็อุ้มไม่ไหว’ ที่ประคบประหงมก็เพราะรักมากหรอก ออเซาะหน่อยก็ใจเหลวไปหมด ให้ใจแข็งยังไงไหว


‘ฮะๆ’ ป่านไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกในตอนนั้นได้ยังไง รู้เพียงว่าตัวเองยิ้มกว้างกว่าครั้งไหนๆ


‘น่ารักไหม น่ารักเนอะ’ นั่นสิ ใครจะใจแข็งได้


‘ครับ น่ารักมาก’


‘เนอะๆ โมโจของพ่อน่ารักที่สุด’ ถึงยิ้มยาก ถึงเกรี้ยวกราด แถมชอบทำหน้ามึนตีซึนทำดุเขา


‘ครับ คุณพ่อโมโจก็น่ารัก’


แต่กลับมีมุมอ่อน มุมอ้อนให้ใจเหลวเสียขนาดนี้


จะไม่ให้หลงกลหลงชอบได้ยังไง






แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดลอดโขดหินกระทบสองร่างเปลือยเปล่าที่ค่อยๆ ขยับเชื่องช้า


“วา...หลัง... หินบาดหมดแล้ว” เสียงคลื่นลมไม่อาจกลบเสียงเนื้อสะโพกที่กระทบกับหน้าขาเป็นจังหวะ เสียงเฉอะแฉะยามช่องทางอุ่นกลืนกินความแข็งขึงร้อนจัด


“อือ ไม่เป็นไร” ฉากหลังคือดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าสะท้อนผิวน้ำทะเลระยิบระยับงดงามจับใจ


“เป็น...วาเจ็บ”


“ไม่อยากให้เจ็บก็อย่าขย่มแรงสิครับ”


เสพสมไม่อายฟ้า ร่างขย่มโยกไม่กลัวว่าแผ่นหลังเปลือยเปล่าจะขูดครูดกับหินคมจนได้แผล


“ผม... ทำไม่ได้”


จะกลัวอะไรในเมื่อยามปกติดรสเซ็กซ์ดิบดุเจ็บน้อยกว่านี้เสียที่ไหน ทั้งกรงเล็บทั้งคมเขี้ยวฝังลึกฝากรอยรักไว้เต็มแผ่นหลัง


“หึ ได้ทำพี่เจ็บบ้างชอบไหม?” ราวบทบาทย้อนสลับ ตั้งแต่เช้าได้รับการปรนเปรอจนอิ่มหนำ


ทาสเป็นฝ่ายขย่มกดข่มเจ้านายยามร่วมรัก เป็นฝ่ายควบคุมร่างกำยำไว้ใต้ร่าง


“ชอบล่ะสิ รัดพี่แน่นเชียว”


“อึก...” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยกสะโพกสูงก่อนกลืนกินจนสุดทาง ท่าทางเงอะงะแปรเปลี่ยนเป็นช่ำชองเริงรัก


สองขาชันเข่าอ้ากว้าง ท่วงท่าน่าอายทว่าความปรารถนาถลำลึกจนไม่อาจควบคุมได้ เพียงขยับโยกตามความต้องการ ให้ความแข็งขึงแทรกลึกกระทบจุดกระสัน


“อย่ากัดปากสิ เลือดออกแล้ว” คนพี่ร้องปราม มองใบหน้าคนรักบิดเบี้ยวด้วยความซ่านเสียวอย่างน่ารัก


“ฮื่อ... ไม่เอา...เสียง...”


“ไม่มีใครได้ยินหรอก” มุมปากยกยิ้มเอ็นดู ก่อนจะจับเปลี่ยนท่า จับร่างบอบบางอุ้มกระเตงทั้งที่สองร่างยังเชื่อมกัน ร่างเปลือยเปล่าออกจากร่มเงา ถูกอาบด้วยแสงอาทิตย์สีส้มจัดสะท้อนเหงื่อยิ่งดูงดงาม


“ไม่...อ๊ะ วา!”


ถึงถูกร้องห้ามมองซ้ายขวาอย่างระแวงว่าจะมีคนมาเห็นเขา กระนั้นพี่วาก็ยังเลือกก้อนหินที่เรียบที่สุดในมุมที่มองอาทิตย์ลับขอบฟ้าได้ชัด สองมือรองแผ่นหลังบางไม่ให้บาดเจ็บขณะกระแทกกระทั้น “นะครับ ขอพี่ฟังเสียงหน่อย”


“อือ...”


“เรียกชื่อพี่สิ” ออดอ้อนผิดกับตัวตนแข็งขืนที่สอดกระทบรุนแรงตามแรงราคะที่โหมกระพือร้อนเร่า


“วา...พี่วา”


“อืม... เสียงเราเพราะกว่าเสียงคลื่นอีกนะ รู้ตัวหรือเปล่า” ยิ้มพอใจ ฟังเสียงกระเส่าเจือเสียงคลื่น เสียงหอบเคล้าเสียงครางหวาน


ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงครางหวีดเมื่อถึงฝั่งฝัน หยาดขาวข้นกระเซ็นสาดเปรอะรอยสักบนร่างกำยำ ภายในบีบรัดถี่จนเสร็จสมตามกัน ปลดปล่อยในช่องทางจนล้นทะลัก


พี่วาทิ้งตัวกอดซบปลอบประโลมร่างบางที่ทั้งหอบสั่นทั้งกระตุกรุนแรงด้วยอารมณ์เสร็จสมสูงสุด ถูกเติมเต็มเกินความปรารถนาจนสติเตลิดขาวโพลน คล้ายจะคลุ้มคลั่ง


ก่อนจะสงบ สองมือยกปะป่ายลูบไล้ไปตามรอยสักที่เปรอะเปื้อนด้วยขุ่นขาว ยกโอบรอบคอเรียกร้องให้จุมพิตลงมาอีกครั้ง ต่างคลี่ยิ้ม เสียงทุ้มกระซิบชิดริมฝีปาก คลอเคลียปลายจมูก ลมหายใจอุ่นเป่ารดใบหน้ากันและกัน


...เนิ่นนานราวนิรันดร์


“ทิวากรหมายถึงพระอาทิตย์รู้ไหม”


“อือ...”


“แล้วรู้หรือเปล่าว่าแสงอาทิตย์มันอันตราย”


“รู้...”


“งั้นก็ควรรู้ไว้ ว่าจนกว่าจะแหลกสลายอยู่ใต้ร่าง... พี่จะไม่ปล่อยเราไป”


ต่อให้คลื่นสงบ ลมหาย กลางวันเคลื่อนคล้อยลงต่ำ สองร่างยังคงกอดก่าย ร่วมรัก สุขสม เสพสุขซ้ำแล้วซ้ำเล่า


ท่ามกลางอาทิตย์ตกเป็นพยาน






#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

ตอนหน้าบทส่งท้ายแล้ววววว



ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ 

- Martian -
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่21 : Beach - 10.09.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 10-09-2019 22:07:20
ทะเลจะลุกเป็นไฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่21 : Beach - 10.09.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 10-09-2019 22:28:22
พี่วาเป็นคนรักสัตว์และรักเด็ก(ม.ปลายสินะ)  o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่21 : Beach - 10.09.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 10-09-2019 22:31:09
อื้อหือ อู้หู อ้าห๋า หวานเลือดสาดเลย..ยยยยยยยย     :z1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่21 : Beach - 10.09.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: caramelismylove ที่ 10-09-2019 23:31:48
หาดสวรรค์ฉันรักเธอจริงๆ ร้อนแรงดั่งไฟเย่อ กรี๊ดดดด :haun4:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่21 : Beach - 10.09.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 11-09-2019 00:23:03
ตามมาฟินที่นี่... เกือบลืมรหัสผ่านตัวเองแนะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่21 : Beach - 10.09.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 11-09-2019 00:59:57
งื้ออ ตายไปเลยยย  :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่21 : Beach - 10.09.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-09-2019 01:12:02
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่21 : Beach - 10.09.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-09-2019 01:31:03
พ่อๆเขาพลอดรักกันอยู่​ โมโจไปไหนแล้ว
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่21 : Beach - 10.09.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 11-09-2019 10:34:38
เขินมาก โอ่ยย
โมโจอยู่ไหนลูกกก
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่21 : Beach - 10.09.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 11-09-2019 11:13:03
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่21 : Beach - 10.09.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 11-09-2019 18:19:56
โอ่ยๆๆๆ ดีงามมากกกกกก ทริปทะเลครั้งนี้คือไม่เที่ยวไหนเนอะ ฟัดน้องรัวๆๆๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่21 : Beach - 10.09.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 12-09-2019 01:28:04
พี่วาหวานกะเค้าก็เป็นเน้อ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่21 : Beach - 10.09.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 24-09-2019 01:09:38
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀ลายที่21 : Beach - 10.09.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Moonoii ที่ 28-09-2019 12:41:33
มาต่อตอนจบเร็วนะคะะะะะะ รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: makok_num ที่ 05-10-2019 21:07:15
บทส่งท้าย


               

เส้น สี และลวดลายที่บรรจงสลักลึกบนร่างกายล้วนสะท้อนตัวตนของคนผู้นั้น

               

รสนิยม ความเชื่อ นิสัย...

               

อสรพิษล่อลวง กักผีเสื้อในสวนสวย

               

ฝูงปลาในหมู่เมฆแหวกว่ายไร้เดียงสา ไม่อาจรู้ตัวว่ากำลังถูกดวงอาทิตย์จัดจ้าแผดเผา

               

หญิงสาวผู้กัดกินผลแอปเปิ้ลต้องห้าม ถูกสาปด้วยความรัก

               

...เจ็บปวดแสนหวาน

               

รอยสักเหล่านั้นบ่งบอกอะไร

 

               





“สักกระดูกสันหลังมันเจ็บมากเหรอครับ” ร่างเปลือยเปล่าถูกพันธนาการด้วยตรวนเหล็กทั้งแขนขา กางตรึงคว่ำหน้าอยู่บนเตียงหนังราวนักโทษถูกคุมขัง

               

ห้องลับกลับกลายเป็นห้องสัก



“เจ็บสิ ผู้ชายตัวโตๆ บางคนยังร้องไห้” คำขู่เจือเสียงหัวเราะ ดวงตาคมลามเลียแผ่นหลังบาง จดจ้องเนินเนื้อนิ่มที่ยังทิ้งรอยช้ำเก่าอย่างหื่นกระหาย ยิ้มย่อง อสรพิษได้ใจที่ล่อลวงกระต่ายน้อยตกหลุมพรางจนได้



“แต่ล่ามไว้ขนาดนี้มันก็...”



“เผื่อเราดิ้นแล้วเข็มเคลื่อนไง” ข้ออ้าง



น้องสักเพียงหลัง แต่พี่กลับให้ล่อนจ้อนทั้งร่าง แถมล่ามโซ่ไว้แน่นหนา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าป่านกำลังถูกแกล้งชัดๆ



“แกะมือได้ไหม เผื่อผมร้องไห้” งอแงต่อรอง ทว่ามีหรือที่พี่วาจะยอม



“เดี๋ยวพี่เช็ดน้ำตาให้”



“งั้นผมขอกางเกง”



“โนๆๆ” ปฏิเสธแข็งขันจนน้องหลุดขำ พยายามตีหน้ากระเง้ากระงอดใส่แต่ทำได้เพียงเอี้ยวคอมองเท่านั้น



คนเจ้าเล่ห์ยิ้มร้าย ฝ่ามือซุกซนบีบสะโพกเต็มฝ่ามือพลางโน้มตัวลงจูบแก้มขาวที่ขึ้นเลือดฝาด กระซิบยั่วเย้า



“พี่จะได้ช่วยดูให้ไงครับ ว่าลายสักใหม่เข้ากับลายที่สะโพกเราไหม” แสนลื่นไหลเอาแต่ใจ สุดท้ายจึงได้แต่ยอมปล่อยตามน้ำ



ไร้ขัดขืนยามเสียงมอเตอร์อื้ออึง เข็มสักจรดผิวหนัง บรรจงวาดลวดลาย



ดวงอาทิตย์ฉายรัศมีลงกลางแผ่นหลัง ตวัดลายคล้ายฝีพู่กัน ตัวอักษรจีนพาดลงตามแนวสันหลัง เป็นคำสองคำที่มีความหมาย



ดวงอาทิตย์ และลูกชาย

 

               





คนที่กำลังจะตายปรารถนาสิ่งใด ความอาลัย ยึดติดในอัตตา



ไม่เลย ความคิดในห้วงสุดท้ายมีเพียงความปล่อยวางเท่านั้น ไร้ความยึดติด หรือแรงปรารถนา เพียงโอบกอดความรัก กระทั่งวินาทีสุดท้าย



เด็กน้อยเคยกังขาถึงการกลับมา ต้องการสิ่งใด อยากเรียกร้องทำหน้าที่ที่ปล่อยมือทิ้งไปนานแล้วน่ะหรือ



ก่อนจะได้คำตอบว่าไม่ใช่ คนที่กำลังจะจากไปต้องการเพียงบอกลาเท่านั้น



“ลายสักที่หลังนี่หมายถึงพ่อเหรอ” ปลายนิ้วที่เกลี่ยไล้ตามแนวสันหลังของคนที่อยู่บนเตียง ขณะปลายนิ้วอีกข้างคีบมวนบุหรี่มวนสุดท้ายที่ยังไม่ได้จุดสูบ ร่างสูงเหยียดขานั่งพิงขอบเตียง เพ่งพิจารณารอยสักรูปดวงอาทิตย์และตัวอักษรจีนที่เขาเป็นคนสักให้



กลิ่นราคะยังค้างคลุ้ง ปะปนกับกลิ่นหวานลิลลี่ที่กระจัดกระจาย เต็มผ้าปู กลิ่นนิโคตินทิ้งละอองลอยคว้างทั่วบรรยากาศ ปนเปกับกลิ่นความคำนึงถึงชีวิต ความรัก



“ครับ อยากขอบคุณเขา ที่ทำให้ผมเกิดมา” ป่านขยับตัวเอื้อมหยิบไฟแช็กจากโต๊ะ ถือวิสาสะหยิบบุหรี่ชืดเหี่ยวจากมือจรดริมฝีปากพี่วาแล้วจุดให้



เขาหัวเราะหึ อัดควัน พรูขุ่นขาวเป็นสายยาว ก่อนก้มลงแนบริมฝีปากที่ยังทิ้งสีแดงจัด



“น่ารักจังนะ”



นี่คือบุหรี่มวนสุดท้าย



ที่ผ่านมาเขาลดปริมาณการสูบลงอย่างเห็นได้ชัด จากที่เคยเสพติดกลับคิดถึงมันน้อยลงจนตัวเองยังประหลาดใจ กระทั่งวันที่ป่านเสียพ่อไปด้วยมะเร็งปอด เขาจึงตัดสินใจเด็ดขาด



ทั้งเพื่อป่าน และเพื่อตัวเขาเอง



“เขาคงเจ็บกว่าผม ว่าไหมครับ” ป่านหลับตา รับการปลอบประโลมอย่างเต็มใจ ภาพในวันที่พ่อจากไปยังคงติดตา ค้างคาในความคิด



“อืม”



ร่างกายซีดผอมยิ่งดูซีดเซียวไร้ชีวิต ทว่าใบหน้าสงบ ปลดปลง ถึงแม้นั่นจะหมายความว่าในที่สุดพ่อก็รักษาสัญญาไว้ไม่ได้ แต่ป่านก็ยินดีถ้าหากมันหมายความว่าท่านไม่ต้องทนทุกข์กับความป่วยไข้อีกต่อไป



“คงดี ถ้าเขาไม่ต้องทรมาน”



บุหรี่เหลือครึ่งมวนทว่าพี่วาดับทิ้งอย่างไม่นึกเสียดาย เพื่อให้สองแขนว่างพอ เพื่อปลอบประโลม เพื่อโอบรับ



“มาให้พี่กอดหน่อย”



อย่าร่วงหล่นอีกเลย ดวงใจของเขา







เส้น สี และลวดลายที่บรรจงสลักลึกบนร่างกายล้วนสะท้อนตัวตนของคนผู้นั้น



ทว่าไม่อาจตัดสิน ไม่อาจปรามาสถึงตัวตนทั้งหมด แท้จริง



ไม่ต่างจากเครื่องประดับ เพื่อความงาม ความงามเฉพาะตัวที่ไม่อาจหาได้จากใครอื่น ลายประดับบนผืนกายเรียบเนียน ผิวขาวหมดจดน่ามอง ชวนหลงใหล



ไม่เคยอดใจสูดดม จรดริมฝีปากพรมจูบตามรอยสักทั่วร่างด้วยเสน่หาอันล้นทะลักได้เลยสักครั้ง



“พี่ครับ ผมจะไปเรียนสายแล้ว” รุ่มร่ามจนถูกปราม ไม่อยากนั้นน้องคงแต่งตัวไม่ถึงไหน



ตั้งแต่เช้ากว่าจะได้ลุกจากเตียง อาบน้ำ สวมเสื้อผ้า ทุกกระบวนการล้วนถูกขัดขวางจากคนตัวโตที่หาเรื่องกอดหาเรื่องฟัดไม่ยอมปล่อยยอมคลาย



ถึงอย่างนั้นยังไม่ยอมผละจาก สองแขนยังคงโอบเอวบางฝังหน้าซุก คลอเคลียไหล่เปลือยเปล่าคล้ายถูกดึงดูดไว้ด้วยกลิ่นกรุ่นหอมสะอาดของร่างที่เพิ่งออกจากห้องน้ำมาพร้อมกัน



กลิ่นครีมอาบน้ำเดียวกันทำไมพออยู่บนตัวน้องถึงได้ยิ่งหอม ติดหนึบจนน่าหมั่นไส้



“วา...” ส่งเสียงปรามกลั้วขำด้วยไรหนวดที่คลอเคลียเสียดผิวจนจั๊กจี้ ก่อนหันไปย่นหน้าเบ้ปากใส่ “ไปแต่งตัวเลยครับ ไม่งั้นจะให้คุณหนูไปส่ง” ปั้นหน้าดุยืนคำขาด พี่วาหัวเราะ ก่อนยกมือยอมแพ้ถอยห่างจากร่างที่มีเพียงผ้าขนหนูพันเอวไว้ไม่ต่างกัน



ป่านหันหน้าเข้ากระจกอีกครั้ง ต่างคนต่างแต่งตัวคนละมุม ทว่าดวงตาคมกลับยังจับจ้องมองร่างเล็กหยิบชั้นในและเสื้อผ้าสวมทีละชิ้นด้วยสายตาโลมเลียหัวจรดเท้า แฝงด้วยความนัยบางอย่าง



วันนี้เปิดเทอมวันแรก



น้องป่านของเขากำลังจะกลายเป็นหนุ่มมหาลัย กำลังจะเดินตามเส้นทางชีวิตสู่ความเป็นผู้ใหญ่ เติบโตขึ้นไปอีกขั้น



ทว่าเด็กน้อยตรงหน้าของเขาก็ยังเป็นเด็กน้อยน่าทะนุถนอม น่าโอบกอดหล่อเลี้ยงด้วยความอ่อนโยนที่สุดอยู่วันยังค่ำ



จนสบตากันผ่านกระจกอีกครั้ง รับรู้ถึงอารมณ์คุคั่งในดวงตาป่านจึงหน้าม้าน แก้มแดงซ่านอย่างตั้งตัวไม่ทัน



เห็นกันมาเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ยังไม่เบื่ออีกหรือ ทำไมยังเอาแต่จ้องกันแบบนั้น



“ไม่ร้อนเหรอ ติดกระดุมถึงคอขนาดนี้” มุมปากยกยิ้มกริ่มถาม เมื่อเห็นนิ้วเรียวไล่กลัดกระดุมเสื้อนักศึกษาจนถึงเม็ดบนสุด ดูน่าอึดอัด



“ต้องปิดรอยนี่ครับ”



“เราไม่ได้สักตรงคอนี่?” ทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ยังแกล้งถามให้น้องงุ่นง่านใส่



“ผมไม่ได้หมายถึงรอยสัก...ไม่ต้องมายิ้มเลยครับ”



ยิ่งหน้าบึ้งเมื่อคนเอาแต่ใจเผยเขี้ยวขาว รอยยิ้มอสรพิษร้าย ดูก็รู้ว่ารอยสีกุหลาบทั่วผิวขาวไว้ล้วนจงใจทิ้งไว้ จับจอง หวงก้าง ให้รู้ว่าลูกกระต่ายมีเจ้าของ ใครหน้าไหนก็ห้ามเข้าใกล้







ไม่รู้ว่าใครตื่นเต้นกว่ากันระหว่างป่านที่กำลังจะได้ใช้ชีวิตนักศึกษาเป็นวันแรก หรือคนรอบข้างที่พากันตื่นตูมตื่นตัวแทนทั้งที่พ้นวัยนักศึกษากันมานาน



ทั้งหม่ามี้ที่โทรมาปลุกแต่เช้าแม้จะไปสัมนาที่ต่างจังหวัด พี่วาที่ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวพร้อมกันทั้งที่มีหน้าที่เป็นสารถีขับรถไปส่งเท่านั้น คุณหนูกับเฮียที่อุตส่าห์ออกไปหาอาหารบำรุงสมองมาเสิร์ฟถึงโต๊ะแต่เช้า



หรือกระทั่ง...



โฮ่งๆ!



โมโจที่พร้อมรออยู่หน้าประตูตั้งแต่ที่ป่านยังกินข้าวเช้าไม่เสร็จด้วยซ้ำ



“แต่งตัวช้า กินข้าวได้นิดเดียวเองเนี่ยเห็นไหม” ยังกับแม่คนที่สอง คุณหนูบ่นอุบพลางมองเวลาสลับมองคาดโทษพี่วาเพราะเดาสาเหตุได้ว่าที่ทั้งสองคนออกจากห้องสายป่านนี้เพราะใคร



“ก็...”



“ไม่เป็นไรหรอกครับ ป่านไม่ค่อยหิว” น้องช่วยห้ามทัพก่อนพี่วาจะเริ่มอ้าปากเถียง... เดี๋ยวจะเสียเวลาไปกันใหญ่



“ยังไงเอาขนมปังกับนมไปกินบนรถแล้วกัน” ว่าพลางส่งห่อขนมปังกับนมให้ ป่านรับมาใส่กระเป๋า ก่อนจะลุกขึ้นเตรียมตัวออกจากร้าน โดยมีพี่วาและโมโจตามหลัง



ทว่าเมื่อจะก้าวพ้นประตู ความรู้สึกบางอย่างกลับเอ่อล้นอย่างอธิบายไม่ถูก ป่านเงยหน้ามองป้ายร้านสัก มองคุณหนูกับเฮียที่เดินออกมาส่งถึงหน้าร้าน มองโมโจ ก่อนจะเงยหน้ามองพี่วา... มองคนรักของเขา นิ่งนาน



“ยิ้มอะไร” แม้จะไม่เข้าใจความหมายแต่ดวงตาที่เปี่ยมด้วยความสุขของน้องก็ทำให้พี่วายิ้มออกมาง่ายดาย



“ไปขึ้นรถได้แล้ว อย่าลีลา” จนถูกคุณหนูตะโกนไล่ตามหลัง



“รู้แล้วครับๆ” พี่วาบ่นอุบ ก่อนยื่นมือมาจับจูงน้องไปที่รถตามคำสั่ง



ป่านหัวเราะ กุมฝ่ามืออุ่นไว้ และเริ่มเดินอีกครั้ง



ไม่มีอะไรต้องกังวล ไม่จำเป็นต้องลังเล ไม่ว่าจะหนทางข้างหน้าจะเป็นยังไง จะสำเร็จหรือผิดหวัง จะหัวเราะหรือร้องไห้



จะไม่ร่วงหล่น ไม่โดดเดี่ยว ไม่จำเป็นต้องแบกรับเพียงคนเดียวอีกต่อไป



“พี่วา”



“หืม?”



“ดีใจที่ได้รู้จักนะครับ”



ยินดีที่ได้รู้จัก ยินดีที่ได้รัก ยินดีที่ได้ร่วมชีวิต





จับมือจูงกันไปทีละก้าว เติบโต ผลิบาน








#มอปลายลายสัก #สักวาป่านหวาน #วาป่าน

ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ

ขอบคุณมากจริงๆ ที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงบทส่งท้าย

ระหว่างเขียนเรื่องนี้เราท้อใจ และหยุดเขียนไปหลายครั้ง รู้สึกมันยากมากๆ

หรือว่าตัวเองแก่ตัวหมดสมรรถภาพทางการเขียนไปแล้วก็ไม่รู้ 5555

แต่สุดท้ายก็พาพี่วากับน้องป่านมาถึงตอนจบจนได้

เป็นเรื่องที่ได้รับผลตอบรับดีเกินคาดมากๆ เลย เขียนมาหลายปีไม่เคยได้รับคอมเมนต์เยอะขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ ดีใจมากๆ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ

หวังว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีกนะคะ



ปล. ตอนพิเศษเรื่องนี้มีประมาณ 5 ตอนค่ะ มีพาร์ทของเฮียกับคุณหนูด้วย

หนังสือเปิดให้พรีออเดอร์ตั้งแต่วันนี้ - 9 พฤศจิกายนนี้นะคะ มารับพี่วากับน้องป่านไปดูแลกันเยอะๆ น้า 
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: pookkuk ที่ 05-10-2019 21:19:50
งือออ พี่วา ร้อนแรง
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-10-2019 21:31:56
 :L1: :L1: :3123: :L2: :L1: :L2:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 05-10-2019 21:52:47
จับมือเดินเคียงข้างกันไปเรื่อยๆนะคะชีวิตข้างหน้ายังมีอะไรอีกมากมายพี่วาน้องป่าน..ขอขอบคุณนักเขียนนะคะที่ตั้งใจเขียนเรื่องราวจนจบเป็นกำลังใตให้นะคะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-10-2019 22:24:14
 :man1: ยินดีที่ได้อ่านเรื่องนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 05-10-2019 23:06:31
เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียน อยากบอกว่าชอบในผลงาน จะรอที่ท่าน้ำเสมอนะจ๊ะ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 08-10-2019 22:20:10
งื้อออ ไม่อยากให้จบเลยยย รักพี่วา น้องป่านน

รอตอนพิเศษแบบจุกจุกค่าา อิอิ

ยินดีที่ได้อ่านเรื่องนี้เสมอนะคะ  :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: KKIMKIMMY ที่ 10-10-2019 16:28:40
ชอบคุนหนูกะน้อววาน้วยกันแงงง รอกรี๊ดตอนพิเศษในเล่มนะคะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 12-10-2019 13:46:34
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ จะรอติดตามผลงานเรื่องต่อๆไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 12-10-2019 20:14:03
ขอบคุณผู้แต่งมากๆ อ่านรวดเดียวจนจบเลย เนื้อเรื่องชวนติดตามมากๆ รักทุกคนเลย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 13-10-2019 00:05:24
น้ำตาไหล ซึ้งอ่ะ ร้านสักอบอุ่นจริงๆ เด็กคนนึงที่พ่อแยกไป แม่ทำงานดึกไปต่างจังหวัดบ่อย เจอพี่วา เฮีย คุณหนู โมโจ เหมือนได้ความอบอุ่นกลับมา ดีอ่ะ ร้องไห้แล้วววว :hao5:

ขอบคุณคุณนักเขียนนะคะ เรื่องน่ารักมากๆๆๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: MaidenQueen ที่ 14-10-2019 11:16:37
น้องป่านเด็กดีของม๊ามี๊ พี่วาคนขี้เก๊กหลุดมาดหมดเลย 55555555 คุณหนูกับเฮียก็คือดี คุณนักเขียนแต่งออกมาได้ดีมากค่ะ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 19-10-2019 14:59:20
น่ารักมากเลยค่ะ เอ็นดูป่านมาก มีความซ่อนเร้นและร้อนแรง
แต่น้องเป็นคนดีที่น่าเอ็นดู น่าจับกอดมาก และตามใจพี่วามาก

ป่านเก็บเรื่องพ่อไว้มาตลอด แต่ในที่สุดน้องก็ทำใจได้และเข้าใจ
แล้วมีพี่วาที่คอยอยู่เคียงข้าง เป็นกำลังใจให้กัน และแม่ก็ยอมรับสิ่งที่ป่านทำ
เป็นอะไรที่ดีงามค่ะ ได้เรียนรู้ เปิดรับสิ่งใหม่ และได้เจอพี่วา
มีโมเมนท์ของคนซึนที่เจ้าเล่ห์ และอบอุ่นเสมอ ตลอดเวลา

วาก็ได้เจอคนที่ใช่ มาในเวลาที่ถูกแบบไม่รู้ตัว
ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบหลุดลอย และไม่ได้มีแค่เฮีย คุณหนู และโมโจแล้ว

ชอบความใส่ไข่ของคุณหนูที่ทำให้ป่านร้อนแรง
และเขินอายในเวลาเดียวกัน

ขอบคุณมากนะคะ สำหรับนิยายดีๆ เรื่องราวสนุก น่ารัก
มีมุมให้ข้อคิดด้วย อบอุ่นด้วยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งจ้า
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 23-10-2019 00:58:13
เอ็นดูน้องป่าน
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Nongsea13 ที่ 24-10-2019 12:43:38
ชอบมากค่ะ  เขียน NC ด้วยภาษาที่ไม่ได้โจ่งแจ้งมากนัก แต่เห็นภาพลอยมาเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 27-10-2019 15:47:36
พึ่งได้เข้ามาอ่าน อ่านจบแล้วคืออบอุ่นมากๆ ชอบคุณหนูมากๆเลย :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 05-11-2019 00:25:01
จับเข้าคุกเลย  :hao7:
ขอบคุณสำหรับนิยาย  o13
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: abc_b ที่ 08-12-2019 20:45:51
คุกๆๆ  :katai5:
ถ้านิยายดราม่าอีกหน่อยนี่ได้ไปจีบกันต่อในคุกจริงๆแน่เลยคุณพระอาทิตย์
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 11-12-2019 09:56:48
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 14-12-2019 11:50:16
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: piakunaa ที่ 14-12-2019 22:58:00
 :o8: ก็คือเขินมากแม่​  พี่วาของน้อนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: piakunaa ที่ 15-12-2019 14:59:49
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 15-12-2019 18:06:02
สนุกมากจริงๆค่ะ อ่านแบบไม่อยากจะพักเลย น้องน่ารักมากๆค่ะ ยังไงก็ขอสมัครเป็นแฟนนิยายอีกคนนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 15-12-2019 18:50:57
อ่านแล้วอยากสักขึ้นมาเลย สำนวนนิยาย เป็นเอกลักษณ์ดีค่ะ เรื่องนี้ซึนแบบแซ่บๆ เลย ฮ่าฮ่า เป็นกำลังใจให้เรื่องต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 16-12-2019 22:05:49
 :-[
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: Mushroom_mus ที่ 17-12-2019 02:02:56
ชอบน้องมากๆ ได้หลายมุมมองจากเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ☀ (BDSM) Tattoo-ism #มอปลายลายสัก ☀บทส่งท้าย - 05.10.2562 (P.11) ☀
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 21:03:22
 :pig4: