Whose Fault ?
ผิด...ครั้งที่ 3
โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
'งี่เง่าชะมัด ยังคิดอยู่เหรอว่าที่คินเขาคบกับนายเพราะว่ารักน่ะ' ใบหน้าน่ารักยามนี้แสยะยิ้มร้ายกาจอย่างไม่น่าเชื่อ
'นาย...กะ กำลังจะพูดอะไร' เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
'หึ จะบอกอะไรให้เอาบุญ ที่คินยังคบกับนายเพราะแค่ความรับผิดชอบ' ปากยิ้มหวานแต่ดวงตาฉายแววดูถูกเหยียดหยัน 'ไม่ใช่ความรัก'
'...ไม่ใช่' ดวงหน้ามนซีดเผือดไร้สี สิ่งที่เคยคิดเมื่อได้ยินยิ่งตอกย้ำ
'คินเป็นคนดี เขารับผิดชอบกับคำพูดของพ่อ ไม่ใช่เพราะอยากดูแลนาย ไม่ใช่เพราะรักนาย ชะเอม รู้ไว้ซะด้วย!!'
'ไม่ใช่!'
'...' คนตัวเล็กกว่าไม่พูดอะไรแต่แค่นเสียงอย่างสมเพชกับภาพที่เห็น
'คนอย่างนายจะไปรู้อะไร!?'
'ก็ฉันเป็นแฟนคิน' เรื่องที่ได้ยินยิ่งที่ให้ชะเอมนิ่งอึ้งหน้าชา 'มีเรื่องไหนที่ฉันไม่ควรรู้ล่ะ กับเรื่องของเด็กกำพร้า ไม่มีใครต้องการอย่างนาย เขาก็เป็นคนบอกเรื่องนี้กับฉันเองเลย'
'...ไม่จริง...คินน่ะเหรอ...'
ดวงหน้ามนส่ายไปมาช้าๆ อย่างไม่อยากเชื่อ ดวงตาเหม่อลอย หยาดน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไหลอาบหน้าอย่างห้ามไม่อยู่ เรื่องที่สำคัญอย่างนั้น ไม่มีทางที่คินจะเล่าให้ใครฟัง...อย่างนั้นเหรอ แล้วคนตรงหน้าล่ะ รู้ได้ยังไง
'สงสัยเขาคงอยากเลิกกับนายเต็มแก่แต่ไม่อยากบอกตรงๆ เพราะเห็นว่าโตมาด้วยกัน เขาก็เลยให้ฉันมาบอกเอง หึหึ เป็นไง ช็อคเลยสิ'
ไม่อยาก...ฟังแล้ว
'อ้อ แล้วก็อีกไม่นานคินเขาจะย้ายมาอยู่กับฉัน อยู่กับนายแล้วเขาต้องลำบากพาไปนู่นมานี่ แถมเรียนกันคนละคณะอีก ฉันไม่อยากให้คินเขาเหนื่อยมาก'
ร่างบางไม่เคยรู้เลยว่าตอนที่คินจะอยู่กับเขา ต้องดูแล คอยไปรับไปส่งทุกวัน จะเหนื่อยหรือเปล่า...คินไม่เคยบ่น ไม่เคยบอก ไม่เคยว่าอะไรเลย เพราะคิดว่ารักกัน เรื่องอยากเอาใจใส่ก็เป็นเรื่องธรรมดา
แต่กลับเล่าให้ฟังกับคนตรงหน้า กับคนที่เขานึกว่าเป็นแค่เพื่อนสนิทของคิน...เรย์
'ไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้ว ก็อย่ามาเกาะแกะเขาอีกเลยนะ สงสารคิน สงสารพ่อคินด้วย' คนตัวเล็กถอนใจ ส่ายหน้าน้อยๆเหมือนเห็นใจ ยื่นมาหวังจะไปตบไหล่แต่ก็โดนปัดมือออกมาซะก่อน ทำเอาเรย์ชะงักและเหยียดรอยยิ้ม 'อันที่จริงถ้าฉันเป็นพ่อคิน อาจจะคิดอยู่หน่อยๆ แหละว่าเมื่อไหร่กาฝากอย่างแกจะออกไปซะที' สรรพนามที่ใช้เรียกเปลี่ยนไปทันที แต่ไม่ทำให้ชะเอมสนใจ แต่อีกประโชคต่างหากที่ทำให้เขานึกโมโห กำหมัดแน่น น้ำตาที่คลอเหือดแห้งไปแล้ว
'หยุดพูดนะ ลุงเกษมไม่ใช่คนแบบนั้น!' ชะเอมตวาดดังลั่น แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ฟัง
'ไปอ่อยอะไรไว้ล่ะ เขาถึงได้เลี้ยงดูแกต่อ หึ เอาคนลูกไม่พอยังจะไปเอาพ่ออีก น่าสมเพ...'
เพียะ!
ชะเอมสะบัดมือฟาดเข้าไปที่ใบหน้าอีกคนเต็มแรงไม่ยั้ง จะว่าอะไรเขาเขาไม่ว่า แต่มาดูถูกคนที่มีบุญคุณต่อเขาขนาดนี้ แถมมาด่าว่าเสียๆหายๆ เขายอมไม่ได้!
การกระทำครั้งนี้เขาเพียงหวังแค่ให้อีกคนหยุดพูดว่าร้ายเท่านั้น แต่แล้ว...
แกร๊ก
เขาก็เห็นรอยยิ้มมุมปากที่ปรากฏขึ้น
เพล้ง!!
'โอ๊ย! เอมทำอะไร เรย์เจ็บ ฮือ'
'เกิดอะไรขึ้น!?'
ชะเอมทั้งตกใจ ทั้งอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อจู่ๆ คนที่ยืนทะเลาะกับเขาเมื่อสักครู่ ปัดแจกันที่วางอยู่บนชั้นข้างๆ ลงมาจนแตกกระจายเต็มพื้น และล้มลงบนเศษแก้วชิ้นน้อยใหญ่ทำให้ได้เลือดออกมาทั้งขาและมือ ไหลรวมกับน้ำแจกันที่เจิ่งนองจนแยกไม่ออก
ช่างประจวบเหมาะกับคินที่กลับออกมาจากไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อด้านล่างของคอนโด เห็นฉากที่ชวนเข้าใจผิดแบบนี้ ทำเอาร่างบางพูดไม่ออก
'เรย์เป็นอะไรมากไหม...เอมทำแบบนี้ทำไม เรย์เขาทำอะไรให้เหรอถึงต้องทำกันรุนแรงแบบนี้' ไม่ผิดจากที่คิด เมื่อเห็นสภาพของเพื่อน...ของแฟนตัวเองบาดเจ็บ ก็หันมาตะคอกทันทีไม่คิดถามไถ่ น้ำเสียงช่างแตกต่างจากที่พูดกับอีกคน
แววตาดุทำให้ชะเอมไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี
'เอมไม่ได้ทำนะคิน ก็เขา...' ร่างบางทำหน้าจะร้องไห้ พยายามจะอธิบาย ไม่เคยเห็นคินโกรธเขาขนาดนี้มาก่อน ยิ่งตอกย้ำเรื่องที่เรย์เป็นแฟนใหม่ของร่างสูงเข้าไปอีก ทำให้ใจชะเอมสั่นไหว
คินคงอยากเลิกกับนายเต็มแก่แล้ว แต่ไม่อยากบอกตรงๆ
ยังไม่ทันพูดจบก็โดนร่างเล็กที่ตอนนี้ร้องไห้สะอื้นอยู่ในอ้อมอกแกร่งก็ดึงความสนใจของคินไปซะก่อน
'คิน เรย์เจ็บ เจ็บมากเลย' ร่างเล็กเอื้อมมือกอดคอซบไหล่กว้างร้องไห้พูดเสียงอู้อี้ ทำให้เลือดที่มือเปรอะเสื้อประปรายแต่คินก็ไม่ว่าอะไร กลับกระชับแขนอุ้มประคองขึ้น
'ไม่เป็นไรนะเรย์' เสียงทุ้มอ่อนโยนกระซิบปลอบข้างหู ให้คนในอ้อมกอดเลิกขวัญเสียกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังเจ็บแผล 'เดี๋ยวคินพาไปโรงพยาบาล แผลแค่นี้เดี๋ยวก็หาย'
ร่างสูงเดินหยิบกระเป๋าเงินกับกุญแจรถขณะอุ้มอีกคนด้วยแขนข้างเดียว แสดงความแข็งแรงแต่ทว่ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
'เอมไปด้วย' เลือดที่ไหลออกมาไม่หยุดทำให้ชะเอมนึกเป็นห่วง เลยอยากตามไปดูอาการด้วย แต่กลับต้องหน้าซีด เมื่อโดนปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเย็นชา
'ไม่ต้อง'
'แต่...'
'อยู่ที่นี่แล้วเก็บห้องให้สะอาด กลับมาแล้วเราค่อยคุยกัน' ขายาวหันหลังเดินออกจากห้องไม่เหลียวมามองร่างบางที่ยืนนิ่ง ยิ่งได้เห็นแววตายิ้มเยาะฉายชัดออกมาจากคนที่คิดว่าบาดเจ็บสาหัสก่อนประตูจะปิดลง ยิ่งทำให้ชะเอมเข้าใจอะไรมากขึ้น
เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะความตั้งใจของ 'มัน'
'คิน...'
ปัง!
เสียงประตูที่ปิดลง และแผ่นหลังที่ซ้อนกันกับในอีกสามวันต่อมาที่คินหายไปและกลับเข้ามาเก็บของทั้งหมดออกไป ประกาศว่าจะย้ายออกซึ่งเป็นไปตามที่ใครบางคนบอกทุกอย่าง
'เพราะมันใช่มั้ย!!'
'ไม่ใช่...ไม่ใช่เพราะเขา ถ้าจะโทษใคร'
แผ่นหลังที่เดินจากไป
'ก็โทษตัวเอง'
มือที่เอื้อมไปอีกนิด ห่างกันเพียงฝ่ามือกั้นจะคว้าเอาไว้ได้แล้ว แต่ก็ไม่ทัน
พร้อมกับเสียงประตูที่ปิดลง
ปัง!
เฮือก!
มือที่ชะงักค้างกลางอากาศ ตาเบิกโพลงพลันหรี่ลงเมื่อพบแสงที่สาดส่องลอดหน้าต่างยามเช้า ร่างบางลดมือลงและตั้งสติพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงที่คอนโด ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์อะไรทั้งนั้น
...แค่ความฝัน
เสียงหอบหายใจและเหงื่อที่ชุ่มไปทั้งตัวทำให้เขาลุกขึ้นจากที่นอน ผ่อนลมหายใจให้แผ่วเบา ลูกอกพบหัวใจที่เต้นแรงรัวจนเจ็บ จากนั้นก็เสยผมที่ชุ่มเหงื่อลูบหน้าลูบตาแล้วลุกขึ้นหยิบของเตรียมอาบน้ำ
ไม่แปลกเลยที่เขาจะฝันอะไรแบบนี้
เพราะมันคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ที่ยังฝังใจ
นับตั้งแต่เขาทะเลาะและ(ถูกเข้าใจว่า)ทำร้ายเรย์ คินพาเรย์ไปโรงพยาบาลทำแผล แต่ไม่กลับมาคุยกันอย่างที่บอก หายไปสามวันกลับมาอีกทีก็ทำหน้าตึงเย็นชาใส่เขา เก็บเสื้อผ้าแล้วออกไป
แผ่นหลังที่เดินจากไป...ยังติดตา วันนั้นเขาร้องไห้อย่างหนัก
ร่างบางสะบัดหัว ขณะยืนสระผมใต้ฝักบัวน้ำไหล อยู่เงียบๆ คนเดียวแล้วชอบคิดอะไรไม่เข้าท่า
ชะเอมขยี้หัวแล้วชโลมด้วยน้ำชะล้างออก ฟองสบู่ไหลจากบนลงล่างไล้ตามสรีระผอมบางที่เห็นซี่โครงแต่ละซี่ชัดเจนเมื่อยกแขน
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ร่างบางรีบไล้ตัวให้สบู่ออกให้หมดอย่างรวดเร็วเมื่อพบว่าไม่มีฟองแล้ว ก็คว้าผ้าขนหนูพันท่อนล่าง อีกผืนคล้องคอ รีบเดินออกไปไม่ทันระวัง เท้าที่กำลังเปียกลื่นทำให้ก้าวพลาดหงายท้อง
แย่ล่ะ...!!
ปั่ก! ตึง!
ด้วยสัญชาตญาณ จึงรีบคว้าขอบอ่างล้างหน้าไว้แต่มือก็ดันเปียกลื่นจับไว้ไม่อยู่ทำให้ต้นแขนกระแทกเข้าที่คอห่านที่อยู่ข้างๆ อย่างจัง
"โอ๊ย" ร่างบางหลุดปากครางซี้ดด้วยความเจ็บรวดร้าว ถึงจะดีที่ศีรษะไม่ได้กระแทกหรือได้รับความกระทบกระเทือนส่วนใดมาก แต่แค่ความเจ็บที่แขนก็ทำเอาน้ำตาเล็ด
เพราะมัวแต่นั่งโอดโอย ตอนนี้เสียงโทรศัพท์จึงเงียบไปแล้ว ร่างบางสำรวจตัวเองก่อนค่อยๆ ใช้แขนซ้ายที่ไม่เจ็บพยุงตัวเองลุกขึ้น แขนขวาข้างถนัดยังหนึบๆ ชาๆ อยู่เลย
ก้นก็เจ็บ โอย ให้ตายเถอะ ซุ่มซ่ามอะไรอย่างนี้ ชะเอมค่อนขอดตัวเองในใจ
ชะเอมเดินไปกดปุ่มดูโทรศัพท์ พบว่ามีแถบสายที่ไม่ได้รับขึ้นชื่อว่าพระราม และ ไลน์กลุ่มซึ่งแน่นอนว่ามีแค่กลุ่มเดียวที่เมื่อหลายวันก่อนเพิ่งดึงเขาเข้าไปร่วม แน่นอนว่าก็เป็นข้อความที่รามเพิ่งส่งมา เขาจึงรู้ว่ารามจะโทรหาเขาแต่เขาไม่ได้รับสาย จึงส่งข้อความมาทางไลน์นั่นเอง
RamĀ : เอม พรุ่งนี้มีธุระไปไหนรึเปล่า ไปห้างกันเหอะ **@**chÄim
chÄim : ไม่ได้ไปไหนนะ พรุ่งนี้เราว่าง
RamĀ : โอเค งั้นพรุ่งนี้สิบโมงเจอกันที่ห้างแถว XYZ มาเป็นใช่มั้ย
chÄim : อื้ม
chÄim : นี่รามมีเบอร์เราด้วยเหรอ
RamĀ : อ้อ นั่นเหรอ ก็ตอนที่แอดไลน์ เราใช้เครื่องนายโทรเข้าเครื่องเราเองแหละ ถือโอกาสบันทึกเบอร์ให้ด้วยเลย โทษทีๆ
RamĀ : ก็คิดว่ามีเบอร์ติดต่อไว้มันสะดวกกว่าน่ะ
ชะเอมพยักหน้าน้อยๆ เห็นด้วย เพราะปกติเวลาเขามีธุระอะไรจะโทรตลอด เลยไม่ค่อยได้ใช้งานเจ้าแอพสีเขียวนี้เท่าไหร่ เพราะหนึ่งเลยคือสะดวกกว่า และสองรวดเร็วกว่าด้วย โดยเฉพาะเวลามีธุระเร่งด่วน
ร่างบางโยนมือถือลงบนเตียงนุ่ม แต่ก็หยิบขึ้นมาใหม่เพราะนึกขึ้นได้ว่าลืมถามอะไรไปบางอย่าง
chÄim : ว่าแต่จะไปทำอะไรกันเหรอ
แต่รอแล้วรอเล่ายังไม่มีคนอ่านข้อความจึงโยนมือถือไว้เช่นเดิม เดินไปเปิดประตูหยิบเสื้อผ้า พอเหลือบเห็นรอยช้ำสีแดงม่วงที่ต้นแขนเป็นวงกว้างผ่านกระจก นี่เขาลืมไปได้ไงว่าเขาเพิ่งกระแทกกับชักโครกอย่างแรง พอไม่รู้ว่ามีแผลก็ไม่รู้สึกเจ็บแต่พอเห็นปั๊บก็เจ็บปุ๊บทำเอาต้องร้องซี้ด
ชะเอมหยิบเสื้อโปโลมาใส่ แขนเสื้อสั้นทำให้เห็นรอยช้ำแดงน่าเกลียด จึงถอดออก ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวแทน รอยช้ำนี้ทำให้ยิ่งเป็นอุปสรรคกับการยกแขนขึ้นลง ทำให้การใส่และถอดเสื้อเป็นไปอย่างทุลักทุเลเพราะความเจ็บปวด
สงสัยช่วงนี้คงต้องใส่เสื้อเชิ้ตไปก่อนน่าจะดีกว่า...
ตึ๊ง
NissiN : เอมลืมรึเปล่าว่ามะรืนนี้ต้องไปค่ายปลูกป่าของมหาลัยแล้วนะ พรุ่งนี้พวกเราสามคนเลยนัดกันไปซื้อของจำเป็นกันไง
chÄim : อ๋อ จริงด้วย
chÄim : โอเค งั้นไว้เจอกันวันพรุ่งนี้นะ
:DiN : เห้ยๆๆ ว่าแต่ไอ้ราม นี่มึงมีเบอร์ของชะเอมได้ไงวะ อะไรๆ กูไม่ยอมนะเว้ย @Ram****Ā
ชะเอมหลุดหัวเราะกับข้อความของดิน พอเห็นรามไม่ตอบ มือขาวก็กดโทรศัพท์จึ้กๆ ตอบแทน
chÄim : ไม่เป็นไรดิน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเอาเบอร์เราก็ได้นะ
chÄim : แต่ต้องแลกกับเบอร์ดินนะ เราแลกเบอร์กัน
:DiN : โคตรโอเคเลยค้าบ นางฟ้าใจดีของดิน
หลังจากนั้นก็มีการเถียงกันระหว่างสินกับดิน(อีกแล้ว) ถึงจะงงๆ กับนางฟ้าใจดีแต่ชะเอมก็ไม่ได้ติดใจอะไรปล่อยให้ทั้งสอนคนทะเลาะกันในข้อความต่อไป
ตั้งแต่วันนั้นที่ได้กินข้าวด้วยกันกับทั้งสามคน เขาก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่เพราะยังไงก็เรียนกันคนละเอก ถึงจะคณะเดียวกันก็เถอะ แถมปีสามแล้วด้วยเลยไม่มีวิชาเรียนที่เหมือนกันเลย ทั้งๆ ที่ตอนปีหนึ่งก็มีบางวิชาที่ต้องเรียนพื้นฐานรวมกับเอกอื่นแท้ๆ
ชะเอมส่องกระจก จับหน้าลูบผม จัดแต่งเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนและกางเกงสแลคสีดำไซส์เล็กสุดในตู้ที่เคยใส่พอดีบัดนี้มันหลวมโพรกจนต้องหาเข็มขัดมาใส่ อันที่จริงไม่ใช่แค่กางเกงที่หลวม เสื้อก็ด้วย
เพราะช่วงนี้มีหลายๆ เรื่องประดังประเดเข้ามา ทำให้ทั้งเครียดและนอนน้อยกว่าเดิม น้ำหนักจะลดก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่จะปล่อยไว้แบบนี้ไปเรื่อยๆ คงไม่ได้เพราะปัญหาที่จะตามมานี่สิ...ยุ่งยาก
มือจับเอวอย่างสำรวจแล้วใบหน้านิ่วคิ้วขมวด
ไม่ได้การละ เขาต้องขุนน้ำหนักตัวเองให้ขึ้นมากกว่านี้อีกซักหน่อย
เมื่อเห็นว่าใบหน้ากับผมเป็นทรงเรียบร้อยดีแล้ว ก็ใส่ถุงเท้าหยิบกระเป๋าเงินเปิดดูว่าไม่ลืมคีย์การ์ดจึงใส่รองเท้าหนังมันเงาดูดี กวาดตาสำรวจห้องก่อนเดินออกมา
"อ้าว คุณชะเอม โอ้โห วันนี้แต่งตัวหล่อมากเลย จะออกไปธุระที่ไหนเหรอครับ" ยามที่คอยเปิดประตูกระจกให้คนเดินเข้าออกทักทายร่างบาง
"สวัสดีครับลุงธรรม วันนี้จะออกไปทานข้าวกับคุณลุงครับ แล้วลุงทานข้าวรึยังครับ" ลุงยามนามว่าธรรมมองดูการกระทำอ่อนน้อมของคนหนุ่ม น้อยคนที่เกิดมาบนกองเงินกองทองแล้วยังรู้จักเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ นอกจากจะให้ความเคารพแล้วชะเอมยังแสดงความเป็นห่วงเป็นใย ไม่ถือตัวให้กับคนรอบข้างแม้คนๆ นั้นจะทำงานเป็นยาม ตำแหน่งอันต่ำต้อย ด้วยการถามไถ่ด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วชื่นอกชื่นใจคนแก่อย่างเขาเป็นอย่างมาก
ถ้ามีลูกแบบชะเอมคงทำให้เขารู้สึกดีไม่น้อย
งามทั้งภายนอกและภายในจริงจริ๊ง
"อู๊ย ทานเสร็จตั้งแต่เช้าแล้ว กับข้าวเมียลุงนะอร่อยอย่าบอกใคร" ลุงยามว่าแล้วลูบปาก ท่าทางนั้นทำให้ชะเอมหัวเราะเสียงใส เชื่อแล้วล่ะว่าอร่อยจริงๆ
"ถ้าอย่างนั้นคราวหน้าลุงต้องเอาอาหารฝีมือภรรยาลุงมาฝากเอมบ้างแล้วล่ะ โทษฐานทำให้เอมอยากกิน" เสียงทุ้มใสเอ่ยแซวๆ แต่ลุงธรรมพยักหน้าอย่างเต็มใจ แต่แล้วกลับชะงักลังเล
"ถ้าเป็นคุณชะเอมล่ะก็ได้แน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่าจะดีหรือ คุณชะเอมไม่เหมือนพวกเราๆ ถ้าทานแล้วเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง ลุงมิต้องเสียหายหลายล้านหรอกหรือไปทำร้ายลูกเต้าเค้า" ลุงธรรมว่าอย่างลำบากใจ เขาน่ะมั่นใจในฝีมือเมียตัวเองแน่ๆ ล่ะ แต่คนรวยกับคนจนท้องไม่เหมือนกัน กินเข้าไปแล้วท้องเสียเขาจะทำยังไง แค่ลำพังงานที่ทำอยู่ ชดใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมดแน่
ชะเอมหัวเราะเสียงดัง แต่ยังคงกิริยาที่น่ารัก น่าเอ็นดูให้กับคนเดินผ่านไปมา
"โธ่ ลุงธรรมครับ ผมก็เป็นคนเหมือนกับลุง เหมือนกับภรรยาลุงนั่นแหละ ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย ถ้ายังไงภรรยาลุงสะดวกก็ฝากผมได้นะ ผมอยากกิน"
ธรรมไม่โกรธสักนิดที่คนรุ่นอายุน้อยกว่าเขาตั้งหลายรอบหัวเราะใส่ เขารู้ว่าคนหนุ่มอย่างชะเอม ทั้งกิริยาใสซื่อ อ่อนโยนและมีความเอาใจใส่คน ไม่มีทางหัวเราะเยาะอย่างดูถูกแน่
ธรรมพยักหน้ารัว "ได้ครับได้ เอ๊ะว่าแต่คุณชะเอมจะไปทานข้าว ไปยังไงครับ"
"เดี๋ยวผมนั่งแทกซี่ไปน่ะครับ"
"อ้าว แล้วคุณคินล่ะครับ" ธรรมทำหน้างงปนสงสัย อย่าถามว่ารู้จักได้ยังไง ยามอย่างเขาทำงานที่นี่มานานก่อนคินและเอมจะย้ายเข้ามาอยู่เสียอีก คนเข้านอกออกในทั้งเก่าและใหม่เขาต้องจำได้และต้องรู้จักทั้งหมด
"คินเค้า...ไปค้างหอเพื่อนทำงานกลุ่ม แล้วก็เอารถไปด้วยน่ะครับ ช่วงนี้เลยต้องเดินทางแบบนี้ไปก่อน" ชะเอมตอบเท่านี้เพื่อไม่อยากต่อบท ซึ่งดูเหมือนธรรมจะเข้าใจ
"ไม่เห็นยากเลย ให้คุณเกษมออกรถใหม่ให้สิครับ ลุงว่าเดินทางแบบนี้ลำบากออก" ธรรมเอ่ยด้วยความเป็นห่วง แต่ชะเอมส่ายหน้า
"ไม่ดีกว่าครับลุงธรรม เอมขับรถไม่ค่อยแข็งเท่าไหร่ รถคันนึงก็ราคาแพง เอมไม่อยากรบกวนคุณลุง" ชะเอมยิ้มบาง พอนึกขึ้นได้ว่าต้องไปไหนต่อก็เอ่ยลา "ถ้างั้นผมคงต้องขอตัวก่อน คุยกับลุงธรรมซะนานเลย ผมก็ไปก่อนนะครับ" ชะเอมมองนาฬิกาข้อมือแล้วรีบเดินออกไป ธรรมพยักหน้าเข้าใจและเปิดประตูให้ตามหน้าที่
"เชิญครับเชิญ เดินทางปลอดภัยนะครับคุณชะเอม" ธรรมมองตามแผ่นหลังเล็กบางขึ้นรถแทกซี่ไป ก็ถอนใจ
รบกวนอะไรกัน คุณเกษมน่ะ ประธานบริษัทใหญ่ระดับร้อยล้านเลยนะ
************************Whose fault? ************************
ชะเอมโชคดีเป็นลูกหลานเศรษฐี ใครๆ ต่างก็พูดแบบนี้ ทั้งๆ ที่มันไม่จริงเลย
เขาน่ะแต่เดิมฐานะต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ถ้าไม่มีลุงเกษมเขาก็ไม่มีอะไรเลย ทุกวันนี้ก็เหมือนกาฝากอย่างที่เรย์เคยปรามาสไว้ เขาอยากเรียนจบเร็วๆ เพื่อจะทำงานหาเงิน ถ้าเป็นไปได้ก็จะคืนสิ่งที่ได้มาจากลุงเกษมทั้งหมด ถึงจะคิดไว้ว่า แม้ชีวิตนี้ทั้งชีวิตก็คืนให้ไม่หมดก็เถอะ
อยากทำเท่าที่ทำได้
ร่างผอมบางในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวหลวมโพรก เดินอยู่ในห้างที่เพิ่งมาถึง จุดนัดพบคือร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่ลุงเกษมชอบทาน ชะเอมเดินผ่านร้านรวงต่างๆ ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นป้ายประกาศบางอย่างที่ติดอยู่หน้าร้านอาหาร
‘รับสมัครพนักงานเสิร์ฟ 2 ตำแหน่ง และ พนักงานทำความสะอาด 1 ตำแหน่ง
เบอร์ติดต่อ 09X-XXXXXXX หรือติดต่อโดยตรงได้ที่หน้าร้าน
ต้องการด่วน ภายในวันที่ X เดือน XX’
ชะเอมตาเป็นประกาย
นี่แหละ!!
ตอนเรียนก็เรียนไป ส่วนเวลาว่างทำงานพิเศษหาเงินเก็บไปเรื่อยๆ เท่านี้ก็ไม่ต้องรอจนเรียนจบก็ได้ ระหว่างนี้เขาก็หารายได้ได้แล้ว
แต่เนื่องจากเวลาใกล้นัดเต็มที ร่างบางจึงควักโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปป้ายประกาศนั้นไว้ แล้วค่อยติดต่อมาทีหลังก็ได้ ร่างบางยิ้มกว้างดีใจเหมือนเด็กๆ เดินมาจนถึงหน้าร้านอาหารญี่ปุ่นที่นัดไว้ไม่รู้ตัว
"ยินดีต้อนรับค่าคุณลูกค้า มากี่ท่านคะ" พนักงานต้อนรับเมื่อเห็นร่างบางแต่งกายดูดีก็รีบเข้ามาพูดตามหน้าที่อย่างร่าเริงสดใส ชะเอมก็ยิ้มรับ
"พอดีว่าจองโต๊ะไว้น่ะครับ ในชื่อคุณเกษมศักดิ์"
"อ๋อได้เลยค่ะ สักครู่นะคะ" พนักงานหญิงเอ่ยก่อนกดบนหน้าจอบางอย่างที่เธอถือติดตัวเอาไว้ก่อนจะผายมือ "โต๊ะคุณเกษมศักดิ์นะคะ เชิญทางนี้เลยค่ะ"
>>>>>>>ต่อรีพลายถัดไปค่ะ<<<<<<<