Whose Fault ?
ผิด...ครั้งที่ 20
โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
ครืด ครืด
ภาคิน : อยู่ไหน 2.02pm Read
ชะเอมขมวดคิ้วกับคำถามสั้นๆ แต่ชวนงง หากย้อนความไปเมื่อกว่าครึ่งชั่วโมงก่อน ร่างบางก็เพิ่งบอกไปเองนะ
chÄim : อยู่ห้างyyy ไงครับ ผมมาซื้อของ 2.04pm Read
ภาคิน : ไม่ใช่ 2.05pm Read
ภาคิน : ฉันอยู่ห้างyyy แล้ว ที่ถามหมายถึงอยู่ตรงไหนของห้าง 2.05pm Read
ชะเอมใจเต้นระรัว ที่บอกว่าเจอกันหมายถึงคินจะมาหาที่นี่เองเหรอ...ถึงจะคิดไว้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเป็นจริง
จะได้เดินห้างกับคิน
กินข้าวเย็นกับคิน
วันนี้เป็นวันดีจัง
ร่างบางกลั้นยิ้มดีใจอย่างบอกไม่ถูก มองข้อความที่ถูกส่งมาแล้วอ่านวนหลายครั้งให้ตอกย้ำว่าตัวเองไม่ได้เข้าใจผิด
chÄim : อยู่ชั้นซุปเปอร์ครับ 2.07pm Read
chÄim : คินจะมาเหรอ 2.07pm Read
ตากลมโตสีดำจดจ้องมองข้อความนานกว่าสองนาที แต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมา จึงเก็บมือถือลงไปนอนนิ่งอยู่ในกระเป๋ากางเกง
ร่างผอมบางเข็นรถเข็นใหญ่มองผ่านแต่ละโซนไปเรื่อย ในหัวก็พลางคิดว่าจะทำอะไรให้คินกินดี หรือว่าจะถามเจ้าตัวไปเลยดีกว่า?
ว่าแล้วก็ล้วงมือถือขึ้นมาเปิดแอพสีเขียวอีกครั้ง
chÄim : คินอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย 2.15pm
ผ่านไปสักพัก ก็ยังไม่มีการอ่านใดๆ แถมข้อความด้านบนก่อนหน้านี้อีกฝ่ายก็ยังไม่ตอบ
หายไปไหนน่ะ?
ชะเอมครุ่นคิดก่อนจะเหลือบเห็นเด็กผู้หญิงชั้นประถมตัวเล็กกำลังยืนจ้องมองชั้นขนมห่อสีสันสดใสเรียงรายอยู่ตาแป๋วแหวว แถมยังยกมือขึ้นดูดนิ้วจนน้ำลายเลอะเทอะเต็มมือเล็กไปหมด
สงสัยจะนึกว่านิ้วของตัวเองเป็นขนมแน่ๆ เลย ร่างบางคิดอย่างขำๆ
แล้วพ่อแม่ของเด็กคนนี้ไปไหนแล้วล่ะ
ชะเอมสอดส่ายสายตาไปรอบๆ ในซอกชั้นขนมนี่ก็มีแต่เขากับเด็กน้อยสองคน ร่างบางจึงตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ ย่อตัวนั่งยองๆ เพื่อให้ความสูงเท่ากับเด็กคนนั้น
"สวัสดีค่ะ มองหาอะไรอยู่เหรอ" เสียงใสเอ่ยใจดี ยิ้มกว้างตาใสเพื่อให้เด็กตัวเล็กจะได้ไม่กลัวคนแปลกหน้า
"น้องลูกอมจะกินขนมค่ะ" เด็กหญิงเอามือที่อมออกจากปากเช็ดกับเสื้อตัวเอง ยิ้มแป้นตอบเสียงชัดเจน ดูไม่กลัวคนแปลกหน้าอย่างเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
ร่างบางยิ้มค้าง แอบงง แต่พอคิดแปปนึงก็ได้คำตอบว่าน้องเขาชื่อลูกอมนี่เอง
ใครตั้งชื่อให้เนี่ย...น่ารักจัง
"แล้วน้องลูกอมจะกินขนมอันไหนคะ" ชะเอมถามต่อ
"น้องลูกอมอยากกินขนมอันนั้นค่ะ!" เด็กหญิงใช้นิ้วป้อมชี้บอกความต้องการทันที ซึ่งชะเอมมองตามทิศทางไป...อันไหนหว่า?
ขาบางหยัดยืน แล้วใช้มือชี้ห่อขนมที่คิดว่าเด็กหญิงอยากกิน "อันนี้เหรอคะ?"
ลูกอมส่ายหน้าจนผมทวินเทลสะบัด "ไม่ใช่ค่ะ! อันนั้น!"
"อันนี้?" ชะเอมขมวดคิ้ว นิ้วเลื่อนไปห่อขนมทางซ้ายอีก
"ฮื่อ! ไม่ใช่ค่ะ! อันนั้น!" เด็กหญิงส่ายหน้าหน้ามุ่ย
"เอ่อ..." เขามองตามทิศทางที่นิ้วป้อมแล้ว มันก็ยังอยู่ที่เดิมนี่นา...มือบางเลื่อนไปอีก หรือว่าจะ... "นี้เหรอคะ?"
"ฮื่อ!" ลูกอมยังส่ายหน้า หันมากระตุกขากางเกงถามพี่ที่หน้าตาน่ารักแถมยังใจดี "พี่ๆ พี่ชื่ออะไรคะ?"
"หืม?" ชะเอมเลิกคิ้ว ยิ้มบางกับความใสซื่อของเด็กหญิงที่เปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว ร่างบางย่อตัวลง "พี่ชื่อชะเอมค่ะ น้องลูกอม"
"งั้นพี่ชะเอมอุ้มน้องลูกอมหน่อย" แขนเล็กสองข้างเข้ามากอดคอร่างบาง "เดี๋ยวน้องลูกอมหยิบขนมเองค่ะ"
"อ๋อ ฮ่าๆ โอเคได้ค่ะ" ชะเอมยิ้มขำ ที่ถามชื่อเขาเพราะว่าจะขอให้อุ้มให้นี่เอง สงสัยว่าเพราะเขาจะไม่ได้ดั่งใจเด็กหญิงจนคิดจะหยิบเองแน่เลย
เด็กอะไรฉลาดจริงเชียว
แต่มาขอคนแปลกหน้าให้อุ้มมันอันตรายไปหน่อยนะ...ถึงเขาจะไม่ใช่คนไม่ดีก็เถอะ
แขนบางประคองร่างเล็กในอ้อมกอดอย่างระมัดระวัง "จับดีๆ นะคะ อึ๊บ!"
ถึงเด็กหญิงลูกอมตัวจะเล็กนิดเดียวแต่สำหรับเขาที่ไม่ได้ตัวใหญ่อะไรมาก จึงคิดว่าน้ำหนักเท่านี้ก็ต้องใช้แรงเยอะพอสมควรกันเลยทีเดียว
"อันนั้นค่ะ!" เด็กหญิงยิ้มร่าเริงทันทีเพราะเห็นขนมที่อยากได้อยู่ใกล้ๆ แค่เอื้อม ไม่ได้มองจากข้างล่างแล้ว
"โอ๊ะ ระวังค่ะ น้องลูกอม เดี๋ยวตกนะ" แรงดิ้นจากเด็กที่เห็นของโปรดปรานทำเอาชะเอมทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มแหยกระชับแขนมากขึ้นอีก แล้วเดินตามไปที่นิ้วป้อมชี้
ทิ้งรถเข็นไว้ไม่เป็นไรมั้ง...ยังไงก็ยังไม่ได้หยิบของอะไรเลยด้วยซ้ำ
แล้วก็ลืมเรื่องข้อความในโทรศัพท์ไปซะสนิทเลย
"ได้ขนมพอหรือยังคะน้องลูกอม กินเยอะเดี๋ยวปวดท้องไม่รู้ด้วยนะ" ใบหน้าหวานยิ้มเจื่อน แขนเขาเริ่มเมื่อยจนสั่นแล้ว แต่ดูเหมือนเด็กหญิงลูกอมที่อ้อมแขนเต็มไปด้วยขนมห่อจะยังไม่พอใจซักที เพราะสายตาเปล่งประกายเห็นอะไรก็อยากกินไปหมด
"ขออีกสามห่อนะคะ พี่ชะเอม" ลูกอมยิ้มกว้างโชว์ฟัน แถมยังชูสามนิ้วน่าเอ็นดูแบบนี้ใครจะปฏิเสธลง
แต่ดูสิแค่นี้ก็จะถือไม่หมดอยู่แล้วนา
"ก็ได้ค่ะ...อ๊ะ! ขอโทษครับ" ร่างบางเผลอก้าวถอยหลังชนใครบางคน แต่พอหันไปก็เจอกับร่างสูงที่ไม่ได้เจอกันเกือบสองอาทิตย์ตั้งแต่จบค่ายไป
แผ่นหลังบางเผลอแนบกับอกกว้าง ความร้อนจากร่างกายของร่างสูงทำให้ใบหน้าหวานขึ้นริ้วแดงอย่างห้ามไม่ได้ รีบผละออกอย่างรวดเร็ว
"คิน..."
"มัวทำอะไรอยู่ ไหนบอกว่าซื้อของ" สายตาคมมองเด็กในอ้อมแขนผอมซึ่งทำให้เจ้าตัวซุกหน้ากับซอกคอของชะเอมอย่างกลัวๆ พี่ชายคนนี้ตาดุจัง "เด็กคนนี้ใคร?"
"คือ...ผมเห็นน้องเขาอยู่คนเดียว ก็เลย...ขอโทษทีครับ" ชะเอมก็ไม่รู้จะพูดยังไง แววตาหม่นลงนิดหน่อยเพราะคิดว่าโดนดุอีกแล้ว
“นายไม่ตอบแชท” คินชูโทรศัพท์
“อ่า...ขอโทษทีครับ ผมไม่ได้ดู” เพราะมัวแต่วุ่นวาย
"ช่างเถอะ...แล้วพ่อแม่ของเด็กคนนี้ล่ะ" ชะเอมไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองรึเปล่าว่าร่างสูงเสียงอ่อนลงนิดหน่อย คำถามที่ได้ยินทำให้ร่างบางตาโต...เออเนอะ
"น้องลูกอมคะ ปะป๊ากับหม่าม้าของน้องลูกอมไปไหนแล้วล่ะคะ" เสียงใสถามเด็กหญิงทันที ใบหน้ากลมได้ยินพี่น่ารักถามเลยยอมเงยหน้าขึ้นสบตา
"น้องลูกอมก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ น้องลูกอมยืนมองขนมที่อยากกินอยู่แล้วพี่ชะเอมก็เข้ามาคุยด้วย ส่วนคุณแม่เดินไปไหนแล้วก็ไม่รู้ค่ะ" เด็กหญิงส่ายหัวจนผมแกละสองข้างแกว่งไปมา
ทั้งสองฟังคำซื่อของเด็กหญิงก็อ่อนใจ นี่แสดงว่าพ่อกับแม่ของเด็กเดินช็อปปิ้งโดยที่ไม่สนใจเด็กน้อยที่ถูกทิ้งไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เหรอเนี่ย "พี่ชะเอมว่าป่านนี้คุณแม่คงเป็นห่วงน้องลูกอมแล้วแน่เลย ถ้ายังไงพวกเรารีบไปหาคุณแม่ของน้องลูกอมกันดีกว่าเนอะ"
เด็กหญิงขมวดคิ้ว ส่งสายตาอาลัยอาวรณ์ขนมห่อบนชั้น "แต่ว่าน้องลูกอมอยากได้ขนมอีกค่ะ"
ชะเอมลังเลนิดหน่อยแต่ก็พยักหน้าตามใจ ไม่อยากให้ช้าก็จริงแต่ไม่อยากให้เด็กหญิงงอแงมากกว่า "ถ้างั้นรีบเลือกให้เสร็จแล้วไปค่อยไปหากัน โอเคมั้ยคะ"
"โอเคค่ะ!" ลูกอมยิ้มดีใจ นิ้วป้อมพยายามทำสัญลักษณ์โอเคอย่างน่ารักน่าชัง พี่คนนี้ใจดีที่สุด
ร่างสูงยืนนิ่ง สายตามองสำรวจใบหน้าหวานที่หัวเราะอย่างเป็นธรรมชาติ ชะเอมเป็นผู้ชายที่มีแรงดึงดูดทางเพศมากไม่ว่าจะกับผู้ชายหรือผู้หญิง ยิ่งตอนที่ยิ้มและหัวเราะกับเด็ก ดวงตากลมโตจะยิ้มเปล่งประกายไปด้วย ประกอบกับผิวขาวซีด ริมฝีปากบางสีระเรื่อรับกับจมูกได้รูป ยิ่งทำให้น่าเอ็นดู ร่างบางที่เคยมีกล้ามเนื้อนิดๆ แต่ตอนนี้ผอมเกือบติดกระดูกยิ่งทำให้เอวกับสะโพกยิ่งเล็ก แค่แขนข้างเดียวของเขาก็สามารถโอบเอวบางนั่นได้พอดี อาจจะเหลือด้วยซ้ำ
แค่ตัวเขาเองยังสำรวจขนาดนี้แล้วคนอื่นล่ะ?
แถมเจ้าตัวก็ดูเหมือนจะไม่รู้ตัวสักนิดว่าตัวเองเรียกสายตาคนรอบข้างให้หันมามองได้มากขนาดไหน
โดยเฉพาะสายตาของพวกผู้ชายหื่นกระหาย...
"ลูกอม...ลูกแม่อยู่ที่ไหน...น้องลูกอม..." เสียงคร่ำครวญของหญิงสาวทำให้คินหลุดจากภวังค์ สายตาคมละจากร่างบาง เห็นผู้หญิงผมลอนยาวคนหนึ่งสอดส่ายสายตาหาบางอย่าง ใบหน้าแสดงถึงความรู้สึกร้อนรน ซึ่งในอ้อมแขนของเธอก็อุ้มเด็กทารกอีกคนหนึ่งอยู่ด้วย
"น้องลูกอม..." ขาบางเร่งเดินหาซึ่งกำลังจะห่างจากตรงนี้ไป คินหันไปมองชะเอมที่ดูเหมือนจะยุ่งกับเด็กน้อยจนไม่ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนี้ ร่างสูงถอนหายใจ ขายาวเดินเข้าไปใกล้หญิงผมยาว
"ขอโทษครับ คุณกำลังหาเด็กผู้หญิงอายุประมาณประถมอยู่รึเปล่าครับ"
เธอหันขวับ "ใช่ค่ะ! ดิฉันหาลูกสาวอยู่ค่ะ คุณเห็นหรือคะ!?"
"ครับ ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงที่ชื่อลูกอมล่ะก็ ทางนี้ครับ" คินเดินนำ ชะเอมก็สอดส่ายสายตาหาพอเห็นร่างสูงเดินมาก็คลายกังวล "คินไปไหนมา..."
"ลูกอม!"
"คุณแม่!"
ชะเอมสะดุ้งเพราะเสียงเรียก แถมร่างเล็กในอ้อมแขนก็ดิ้นขลุกขลักยกใหญ่ เมื่อกี้เรียกผู้หญิงผมยาวคนนี้ว่าคุณแม่ ร่างบางก็ยิ้มดีใจวางตัวเด็กหญิงลงให้เดินไปหาหญิงสาวผู้เป็นแม่พร้อมกับขนมอีกกองใหญ่ซึ่งไม่รู้ถือไปได้ยังไง "ขอโทษนะครับ พอดีเห็นน้องเขายืนอยู่คนเดียวเลยเข้าไปทัก ต้องขอโทษจริงๆ นะครับ"
"ไม่เป็นไรเลยค่ะ ดิฉันต้องขอบคุณคุณมากกว่า...ต้องขอบคุณคุณด้วยนะคะ" หญิงสาวก้มหัวต่ำให้ชะเอมกับคิน ร่างบางก็รีบโบกมือปฏิเสธทันที
"มะไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่เล่นกับเด็กเท่านั้นเองครับ ใช่มั้ยคะน้องลูกอม" เสียงใสรีบพยักเพยิดหาพวก ซึ่งเด็กหญิงก็หัวเราะยิ้มกว้าง
"ใช่ค่ะคุณแม่ พี่ชะเอมน่ารักม๊ากมาก ช่วยน้องลูกอมเลือกขนมด้วยค่ะ" เด็กหญิงพูดจ้อย วาจาไพเราะหวานหูซะชะเอมชื่นชมในใจ
"แต่คุณแม่อย่าทิ้งเด็กไว้อีกนะครับ ผมเกรงว่าคนไม่ดีจะมาเจอน่ะ" ร่างบางเอ่ยขึ้น ไม่ได้มีเจตนาจะว่าอะไรใดๆ แค่บอกเพราะเป็นห่วงทั้งเด็กทั้งผู้ปกครองนั่นแหละ ขาเรียวย่อตัวลงให้เท่ากับเด็กหญิง “น้องลูกอมเป็นพี่สาวแล้ว อย่าดื้อกับคุณแม่นะคะ แล้วก็อย่ากินขนมเยอะ เดี๋ยวปวดท้องไม่รู้ด้วยนะ”
ชะเอมเตือนเพราะคุณแม่น้องลูกอมอาจจะยุ่งๆ เพราะมีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องดูแลพะวงอีก
"ค่ะพี่ชะเอม บ๊ายบายค่ะ!" มือป้อมโบกหยอยๆ ซึ่งหญิงสาวผู้เป็นแม่ไม่วายก้มหัวขอบคุณอีกครั้ง ชะเอมก็อมยิ้มแต่พอหันมาเจอสายตาคมกริบก็ยิ้มเจื่อน
"...เอ่อ..."
ร่างสูงตวัดกายหันหลังเดินออกไป ซึ่งขาเรียวก็เดินตามหลังกว้างไปทันที ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายโมโหอะไรรึเปล่า สายตากลมโตหันรีหันขวางมองหารถเข็นที่ตัวเองเอามา แต่มันหายไปแล้ว สงสัยพนักงานคงจะเอาไปเก็บ...
พลั่ก!
"อุ๊บ!" มือจับจมูกตัวเองเมื่อเกิดแรงกระแทกกับแผ่นหลังแข็ง "อูย..."
"ทำอะไรซุ่มซ่าม" ร่างสูงเอ่ยเสียงดุ
"ก็คินนั่นแหละ..." หยุดเดินทำไมไม่บอกไม่กล่าว
"รีบๆ ไปซื้อของสิ" เสียงทุ้มไล่ ซึ่งชะเอมที่ยังจับดั้งของตัวเองอยู่พยักหน้าหงึกๆ
"ครับ"
เสียงใสรับคำ ขาบางย้อนกลับไปอีกทางเพื่อจะไปเอารถเข็นแต่แทบตัวปลิวเมื่อถูกรั้งไว้ เป็นมือใหญ่นั่นเองที่จับต้นแขนผอมไว้แน่น
"ไปไหน"
ใบหน้ามนมึนงง "ไปเอารถเข็นครับ"
เมื่อได้รับคำตอบ คินก็ค่อยๆ คลายมือ หันหน้าไปทางอื่น “ก็รีบไปสิ”
“คะ ครับ” ชะเอมแม้จะยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็รีบหันหลังเดินไป ซ่อนใบหน้าแดงเถือกของตัวเอง
เมื่อกี้นี้มันอะไรกันน่ะ...
"คินอยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า"
หลังจากปรับสีหน้าของตัวเองได้ ร่างบางก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติ
"อะไรก็ได้"
ใจดวงน้อยที่เต้นรอคอยด้วยความหวังฟีบลง
อะไรก็ได้เหรอ...
"ครับ..."
ดวงตากลมเหม่อมองชั้นผักตรงหน้า ยังไงเราก็จะทำของที่คินชอบกินอยู่แล้ว...ก็ไม่เห็นต้องถาม
"ขอบคุณครับ" มือบางรับบลอคโคลี่หัวใหญ่มาจากพนักงาน หลังจากชั่งน้ำหนักติดราคาเสร็จเรียบร้อย
ผักชีต้นหอม มะเขือเทศ หัวหอม บล็อคโคลี่ คะน้า...อืม ผักน่าจะครบแล้ว เหลือพวกเนื้อกับไข่ อะ...เต้าหู้ไข่ด้วย
สายตาเหลือบเห็นร่างสูงยืนกอดอกทำหน้านิ่งอยู่ไม่ไกล
"เอม..."
"อ้าวราม...ติมด้วย" ชะเอมเอ่ยแปลกใจ บังเอิญจัง "ทำไมอยู่ด้วยกันล่ะ"
รามอ้าปากทำท่าจะตอบ แต่ร่างสูงกว่าเอ่ยแทรกขึ้นมา "บังเอิญเจอกันน่ะครับ"
ดวงตาที่ไม่มีใครสังเกตเห็นฉายแววปวดร้าวลึก หึ น่าสมเพชตัวเองชะมัด
"แล้วพี่เอมล่ะครับ มาคนเดียวเหรอ"
ร่างบางเหลือบมองคิน ซึ่งคินก็ไม่ได้มองมาทางนี้ ริมฝีปากบางยิ้มอ่อน "อ๋อ พอดี..."
"เข้าใจกันแล้วเหรอ" รามถามขึ้นยิ้มๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีใจกับร่างบางด้วย
...จะได้มีความสุขซักที
"ก็เปล่าหรอก" ชะเอมส่ายหน้า
"ไม่เป็นไรหรอก เอม นายเป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว" รามตบบ่าเล็กให้กำลังใจ ชะเอมที่เป็นอย่างนี้ดีอยู่แล้ว...เพราะใครๆ ก็ต่างชอบนาย รักนาย
...ไม่เว้นแม้แต่คนที่เขาชอบ
"อื้ม ขอบใจนะ"
“ช่วงนี้อาจจะไม่ค่อยได้เจอกัน” รามพูดขึ้น
ใบหน้าหวานพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก็เพราะหลายๆ เรื่องล่ะนะ “อื้ม เราเข้าใจ”
“แต่มีอะไรก็โทรหาได้ ไลน์มาได้ตลอดเลยนะ”
“รามก็เหมือนกันนะ” ริมฝีปากบางอมยิ้ม ก่อนสายตากวาดสำรวจร่างกายสูงโปร่งของคนตรงหน้า มันมีอะไรแปลกไป “ว่าแต่ช่วงนี้รามผอมลงรึเปล่า”
“ก็นิดหน่อย...” รามเลี่ยง “เอมก็เหมือนกันแหละ”
“ผมก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน พี่ชะเอม พี่ผอมเกินไปแล้วนะครับ” ติมพูดบ้าง ซึ่งชะเอมก็บุ้ยปาก มุ่นคิ้ว
“ก็มันกินแล้วได้เท่านี้ จะทำยังไงได้ล่ะ” ชะเอมหัวเราะคิกใช้กำปั้นชกอกตึงแน่นของร่างสูงเบาๆ “ติมสอนพี่กินให้ได้แบบนี้บ้างสิ”
“ผมว่าพี่ชะเอมอ้วนขึ้นอีกนิดก็น่ารักแล้ว ไม่ต้องเป็นแบบผมหรอก แต่จริงๆ ตอนนี้ก็น่ารักนะครับ” ร่างสูงยิ้มใส่ตา พูดเสียงหวานเชื่อม
รามมองท่าทางนั้นของไอติม “หึ”
ร่างบางตาโต “ติมชมพี่ว่าน่ารักอีกแล้ว พี่เป็นผู้ชาย” ชะเอมซื่อ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโดนหว่านเสน่ห์ใส่
“ก็...”
"งั้นเดี๋ยวเราไปก่อนนะเอม ไม่อยากอยู่เป็นกอขอคอ...มึงน่ะไปได้แล้ว" รามแทรก มือเรียวยกขึ้นขยี้หัวทุยเบาๆ แล้วเดินผ่านไปโดยไม่ลืมลากคนตัวสูงข้างกายไปด้วย
ชะเอมร้อนหน้าวูบหนึ่งกับคำแซว ก่อนเหลียวหลังหันไปมอง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน แต่ได้คุยกันแปปเดียว... "หืม?" เสียงใสครางสูง ไอติมกำลังเอื้อมมือโอบเอวของรามเข้ามาแนบชิด ซึ่งรามก็ดูเหมือนขัดขืนในตอนแรกแต่ก็ยินยอมในที่สุด
หรือว่าทั้งสองคน...?
"ซื้อเสร็จรึยัง"
ไหล่บ้างสะดุ้งเฮือก ริมฝีปากยิ้มเจื่อน
"...ใกล้เสร็จแล้วครับ"
"เดี๋ยวเข็นให้ นายไปเลือกของซะ จะได้เสร็จเร็วๆ" มือใหญ่คว้ารถเข็นไป ชะเอมเลยได้แต่ตอบรับเพราะคินคงเริ่มรำคาญกับการเชื่องช้าเอื่อยเฉื่อยของเขา
"ครับ"
"นี่ พ่อได้โทรมาคุยรึเปล่า"
"คุณลุง?...อ่ะ ขอบคุณครับ" ร่างบางหันไปรับปลานิลตัวใหญ่เนื้อเนียนน่ากินมาวางบนรถเข็น "ครับ โทรมาเมื่อวานตอนดึกๆ น่ะ"
“แล้วคุยอะไรบ้าง”
“อื๋อ” ชะเอมหันไปมองอย่างแปลกใจ ไม่คิดว่าคินจะถามอะไรแบบนี้ “ก็หลายเรื่องเลยครับ เรื่องทั่วๆ ไป คุณลุงบอกว่าคิดถึงก็ให้โทรไปหาได้เบอร์เลขา เพราะอีกนานกว่าคุณลุงจะกลับน่ะครับ”
“...”
“แล้วคุณลุงโทรหาคินแล้วใช่มั้ย เมื่อไหร่ครับ” ชะเอมถามอมยิ้ม ถึงคุณลุงจะพูดว่าคินไม่น้อยใจกับเรื่องแบบนี้ แต่ก็โทรหานี่นา...แต่เขาว่าไม่โทรหาสิแปลก ลูกชายตัวเองแท้ๆ
“เมื่อคืน...คุยอยู่ประมาณห้านาทีได้”
แค่ห้านาทีเองเหรอ...แต่ก็ถือว่าได้คุยล่ะนะ...ว่าแต่เมื่อคืน? หลังจากที่โทรหาเขาแล้วคุณลุงยังโทรหาคินด้วยเหรอ
“แล้ว...”
"พ่อบอกว่านายไม่ได้ใช้เงินเลย”
ร่างบางชะงัก ดวงตากลมสบตาคินที่มองมา
“ทำไม?"
คุณลุงพูดเรื่องนี้ด้วย?
เสียงใสหัวเราะแผ่วเบา "ครับ...ผมก็แค่ไม่อยากรบกวนคุณลุง"
"..."
"ทุกวันนี้ได้อยู่กินสบายมันก็เป็นบุญคุณมากแล้ว แถมยังได้เรียนหนังสืออีก ผมไม่กล้าใช้เงินของท่านไปมากกว่านี้หรอกครับ" ชะเอมแย้มยิ้มบาง มือขาวหยิบถุงใสเพื่อคีบเนื้อหมูสีแดงก้อนใหญ่...นี่ก็สำหรับอาหารเย็นวันนี้
"เหลือไข่อีกแผงนึง เดี๋ยวผมไปหยิบเอง คินไปต่อแถวจ่ายเงินเลยนะ จะได้ไม่เสียเวลามาก" ร่างบางหันหลังเดินออกไป พอขาเรียวเดินกลับมาหาร่างสูงก็แปลกใจ เพราะเจอคนรู้จักอีกแล้ว ซึ่งต่อแถวแคชเชียร์ช่องเดียวกัน กำลังจะจ่ายเงินเลย
"สวัสดีครับ พี่ฝน"
ฝนที่อายุเกือบสามสิบห้าแต่ใบหน้ายังอ่อนเยาว์ยิ้มรับแปลกใจ "อ้าว น้องชะเอม 'ดีจ้า มาซื้อของเหรอ"
"ครับ นี่คินครับ เอ่อ เพื่อน...เพื่อนผมครับ" ชะเอมแนะนำตะกุกตะกัก คินก็ยกมือไหว้ ถึงจะไม่รู้จักแต่อาวุโสกว่าก็ทำเป็นมารยาท
"ไหว้พระเถอะจ้ะ โอ้โหชะเอม นี่พี่เพิ่งรู้ว่าเราก็มีเพื่อนหล่อเหมือนกันนะเนี่ย...งานดีมาก" ฝนยิ้มกริ่มส่งสายตาเจ้าเล่ห์ ร่างบางยิ้มอ่อน ซึ่งร่างสูงก็ก้มหัวรับคำชมด้วยใบหน้านิ่งไม่พูดอะไร
"แล้วพี่ฟ้าไปไหนล่ะครับ" ชะเอมเห็นหญิงสาวแค่คนเดียวเอง
"อ้อ วันนี้เขาไม่ว่างจ้ะ เลยไม่ได้มาด้วยกัน...ขอบคุณค่ะ พี่ไปก่อนนะเอม วันนี้พี่รีบมาก ขอโทษนะจ๊ะ พรุ่งนี้เจอกัน" ฝนรับเงินทอนแล้วบอกลา เดินจากไปด้วยของเต็มไม้เต็มมือท่าทางพะรุงพะรัง ดูท่าทางหญิงสาวจะรีบมากจริงๆ ชะเอมจึงไม่ได้รั้งเอาไว้
ทั้งสองคนจ่ายเงินเสร็จ โดยที่คินเป็นคนออกเงิน เพราะร่างสูงบอกว่าเป็นคนกินเอง ชะเอมเลยไม่คัดค้าน
"นั่นใคร" เสียงทุ้มถามหลังจากขึ้นนั่งประจำที่คนขับ ส่วนร่างบางก็นั่งบนเบาะข้างคนขับที่ไม่ได้นั่งมานาน ใบหน้าหวานงุนงง หันไปมองคินที่จ้องกลับมาด้วยสายตาคมกริบ
"เอ่อ...พี่ฝนเหรอ" ชะเอมเดา บรรยากาศในรถเงียบซะได้ยินเสียงลมหายใจ "เขาเป็นผู้จัดการร้านที่ผมไปทำงานพิเศษน่ะ"
"ผู้จัดการ? ทำงาน?"
"ครับ ผมทำมาได้หลายวันแล้ว"
"ทำงานอะไร" ร่างสูงถาม น้ำเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์
"เป็นเด็กเสิร์ฟ บางทีก็ช่วยล้างจานบ้างน่ะครับ"
คินฟังแล้วขมวดคิ้ว หันมามองอย่างไม่เข้าใจ "...ไม่มีอะไรทำหรือไง ถึงต้องไปหางานทำ"
"ผมก็แค่ทำเวลาว่างเท่านั้น...ไม่ไปรบกวนเวลาเรียนหรอกครับ"
“เมื่อกี้พี่เขาบอกว่าเจอกันพรุ่งนี้ ทำวันธรรมดาด้วยเหรอ”
“ครับ ทำแค่ตอนเย็นหลังเลิกคลาสจากมหาวิทยาลัยแล้ว”
อีกฝ่ายฟังแล้วถอนหายใจ “ที่นายทำงานนี้เพราะอะไร...อยากได้เงิน?”
ริมฝีปากบางขบกัดกันแน่น “ครับ” ไม่รู้เหมือนกันว่าคำถามนั้นดูถูกกันหรือไม่ แต่มันก็ทำให้น้ำตารื้นขึ้นมา
"แล้วนายจะเอาเงินไปทำอะไร หือ"
"ก็ซื้อของที่อยากได้ หรืออาจจะออมเก็บไว้ครับ" เสียงใสตอบสั่นเครือ
"เก็บไว้?"
"ครับ ที่ผมได้มาจากคุณลุง ผมอยากจะคืนให้...ถึงชาตินี้ทั้งชาติผมอาจจะคืนให้ไม่หมด แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย"
"..."
"เพราะฉะนั้นอะไรที่ผมพอทำได้ในตอนนี้ผมก็จะทำ" มือบางกำชายเสื้อแน่นจนข้อขาวซีด ใบหน้าหวานช้อนมองสบใบหน้าคมทั้งๆ ที่น้ำตามันกำลังจะไหล "คินเป็นคนบอกผมเองไม่ใช่เหรอ"
'เงินของพ่อฉันน่ะเหรอ หึ เงินแค่นั้นครอบครัวเรย์เขาก็มีปัญญาจ่ายหรอก'
"ผมมันก็แค่คนที่ท่านเก็บมาเลี้ยง...ไม่มีสิทธิ์แม้แต่เศษเสี้ยวที่จะไปใช้เงินพ่อของคินด้วยซ้ำไป"
ยังไม่เคยลืม...คำดูถูกที่ตอกย้ำมาตลอดนั่น
"แล้วผม...ไม่อยากเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ทำตัวเป็นกาฝากเกาะชีวิตของคุณลุงเพื่ออยู่สบายๆ ไปวันๆ " เขาน่ะรู้สึกตัวมาตลอด...และไม่เคยคิดหลงระเริงคิดเป็นหงษ์ขาวบริสุทธิ์แสนสูงส่ง "คินคงจะไม่รู้ว่าผมก็...อึก เอมก็รู้สึกสมเพชตัวเองเหมือนกันที่ต้องคอยพึ่งพ่อของคินอยู่ตลอด"
เพราะเขารู้...ว่าเขาเป็นแค่ลูกเป็ดสีดำตัวจ้อยที่กำพืดต่ำเตี้ยเรี่ยดิน...เขาเป็นได้แค่นั้น
"เพราะงั้นที่ทำไปทั้งหมด ผมก็แค่ไม่อยากรู้สึกติดค้าง...ก็แค่นั้นเอง"
และทั้งหมดที่ทำไป
ไม่ใช่เพราะอยากได้ความสงสารใดๆ จากอีกฝ่ายเลย
ก็แค่อยากจะพิสูจน์ตัวเองให้คินเห็น...อยากให้ร่างสูงหันมามองกันบ้างว่าลูกเป็ดสีดำตัวนี้มันก็มีค่าพอที่จะให้รักเหมือนกัน
************************Whose fault? ************************
อย่าลืมเม้นให้กำลังกันด้วยเน้อออ
เจอกันจ้าาา