Love tangled รักยุ่งเหยิงของคุณชายขาโหด (บทที่1 - 30 (จบ) +ตอนพิเศษ-จบ/ 13 ก.ค. 63
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Love tangled รักยุ่งเหยิงของคุณชายขาโหด (บทที่1 - 30 (จบ) +ตอนพิเศษ-จบ/ 13 ก.ค. 63  (อ่าน 62046 ครั้ง)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ่าววววว  อิหมอเอิร์ธ  รู้ได้ไงว่านนท์รู้จักกับหลงอ่ะ?

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ Shonennihon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +118/-1
หลังจากผ่านการสอบถามหลายเรื่อง (ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษา) เสมือนอยู่ในห้องสืบสวนของตำรวจ ชานนท์เดินออกจากห้องด้วยสีหน้างง กึ่งสงสัยกับการสนทนากับหมอเอิร์ธที่ผ่านมา

“หมอว่าไง ทำไมทำสีหน้าแบบนั้น”  คนตัวสูงที่นั่งรออยู่ด้านหน้าถามด้วยสีหน้ากึ่งกังวล
“หมอก็ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไรที่น่ากังวล แต่แค่งงกับคำถามแปลกๆ ของหมอเท่านั่นแหละ”
“เออ.... จริง! ถามนอกเรื่องเยอะ อย่างเรียนที่ไหน? คณะอะไร? เป็นกีฬาหรือเปล่า? .....แต่กูเลือกที่จะไม่ตอบ!”
“นึกว่าล่ะ นายเข้าไปแปปเดียวเอง”
“ช่างเหอะ! ไปรับยาเถอะ ต้องไปต่ออีกหลายที่”
วรุฒพูดจบก็เดินนำห่างออกไป
“หลายที่? เดี๋ยว!! ไปไหน? แล้วคาบเรียนช่วงบ่ายล่ะ?”
ชานนท์สาวเท้าเดินเร็วขึ้นเพื่อตามก้าวยาวๆของคนข้างหน้าให้ทัน

....................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2019 17:19:57 โดย Shonennihon »

ออฟไลน์ Shonennihon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +118/-1
บทที่ 11

Sweet revenge


แฮ่กๆๆ

เสียบหอบหายใจถี่รัวของชานนท์ ดังก้องไปทั่วโสตประสาทของเขาเอง เขาเข้ามานั่งในห้องเรียนคาบแรกของภาคการศึกษาแรกก่อนเวลาเพียงสองนาที

“ไปเหนื่อยจากที่ไหนมาเนี่ย?” เมย์ที่นั่งข้างๆ อยู่ก่อนทักขึ้นเสียงดังด้วยหน้าตาสงสัยสุดขีด
“ไม่..... ไม่ที่ไหน....... วิ่งมาจากชั้นล่างเนี่ยแหละ อย่าเพิ่งถามเลย โอ้ย! หายใจไม่ทัน” ชานนท์หอบไปพูดไป เขารู้สึกลมหายใจจะขาดห้วงไปในประโยคถัดไปหากเขาพูดต่อ

“เฮ้ย! นนท์ นายดูเปลี่ยนไปนิดหน่อยไหมเนี่ย? อืม..... แว่นใหม่นี่!! อย่าบอกว่าที่มาเกือบสายเนี่ย เพราะไปซื้อแว่นใหม่มา!!” เมย์ดูตื่นเต้นสายตาสอดส่อง
“เอ่อ......” ชานนท์นึกภาพไปถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าที่ เขาถูกลากไปลากมากับวรุฒ หลังจากถูกลากไปโรงพยาบาล วรุฒเป็นคนจัดการค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมดให้โดยอ้างว่าเป็นการขอบคุณที่เข้าช่วยแบ่งหมัดแบ่งตีนไอ้พวกนักเลงพวกนั้น ตามด้วยลากไปห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุด เขาถูกบังคับให้เดินตามวรุฒไปร้านแว่นตาหรูหราแห่งหนึ่ง วรุฒหยิบเลือกแว่นตาบนชั้นวางอย่างชำนาญ สลับกับการมองหน้าชานนท์ไปด้วย วรุฒวางแว่นตาจำนวนหนึ่งตรงหน้าชานนท์ที่ยืนอึ้งกับราคาแว่นตาที่วางอยู่ในตู้โชว์ภายในร้าน

ชานนท์รีบหยิบแว่นตาเหล่านั้นพลิกป้ายราคาขึ้นดูก่อนเป็นอย่างแรก ทุกชิ้นที่วางอยู่ล้วนมีรูปทรงที่สวยงาม และมีลักษณะคล้ายกับของที่พังไปแล้วของเขาทั้งสิ้น แต่ราคาแพงกว่ากันมาก

“ทำสีหน้าแบบนั้นแปลว่าอะไร?” วรุฒพูดตัดบทขณะชานนท์มองป้ายราตาเหล่านั้นด้วยสีหน้ากังวล
“แว่นพวกนี้มันแพงไปน่ะ ของเก่าเรายังใช้ได้ แค่เปลี่ยนเลนส์ก็พอ”
“กรอบเก่าของมึงมันบิ่นหมดแล้ว เสียรูปแล้วด้วย เปลี่ยนอันใหม่ไปเลย!! ไม่ต้องกลัวกูซื้อให้!!”
“เอ่อ...... มันแพงไปนะ”
“กูมีเงินจ่าย อย่าเรื่องมากสิ กูมีส่วนทำของมึงพังกูก็ต้องจ่าย!” วรุฒย้ำเสียงหนักแน่น
“เอ่อ......” ชานนท์หยิบแว่นที่วางอยู่ตรงหน้าจำนวนหนึ่งอย่างลังเล
“โอ้ย.... มึงนี่อะไรวะ!?! มากูเลือกให้!!” วรุฒหยิบแว่นชิ้นหนึ่งออกมาจากกองอย่างไม่ลังเล เขาลองทาบมันลงบนหน้าของชานนท์อย่างห่างๆ “เอาชิ้นนี้แล้วกัน เชื่อกู!!” แล้วเขาก็เดินไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์โดยทิ้งชานนท์ยืนอยู่เบื้องหลังจากหมดคำพูด เพราะหากเขาจำไม่ผิด ชิ้นนั้นเป็นชิ้นที่แพงที่สุด แม้เขาจะรู้สึกถูกใจ และดีใจที่ได้แว่นตาใหม่ที่ดีกว่าเดิมมาก แต่สิ่งนี้มันเกินกว่าสิ่งที่เขาเสียไป เขาไม่อยากรู้สึกติดหนี้บุญคุณอะไรวรุฒเพิ่มอีก(ค่ารักษาพยาบาลก็จ่ายให้) ทำให้เขารู้สึกไม่ดีกับเหตุการณ์นี้มากๆ

“เฮ้ย!! ไอ้เตี้ย!! เหม่ออะไรนักหนา มาวัดสายตาสิวะ พามาตัดแว่นจะเอาแต่กรอบหรือไง?!?” เสียงวรุฒดังขึ้นจากทางแคชเชียร์ทำให้ชานนท์รีบเดินเข้าไปหาทันที


“สวัสดีนักศึกษา!! กรุณานั่งให้เรียบร้อย!!”

เสียงดุดันเสียงหนึ่งดังขึ้นที่หน้าชั้นเรียน ทำให้ภาพในหัวของชานนท์ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน

“ว้าย!! อาจารย์มาแล้ว!!” เมย์ร้องเสียงหลงและกลับไปนั่งอย่างเรียบร้อยที่เก้าอี้ของตนเอง “เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน!!”
เมย์หันมากระซิบใส่ชานนท์ เขายิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป และหันไปสนใจอาจารย์ที่หน้าห้อง

“เอ้า! สายแล้วก็รีบเดินเข้าไปนั่งให้เรียบร้อยสิ!!”
อาจารย์หน้าห้องส่งเสียงดุนักศึกษาชายร่างสูง ที่เดินย่างเข้าห้องมาขณะอาจารย์กำลังเตรียมการสอนอย่างใจเย็น นักศึกษาที่มักจะเป็นจุดสนใจของนักศึกษาหญิงเสมอ วรุฒเดินเข้ามามองหน้าชานนท์อย่างไร้อารมณ์และเดินผ่านไปโดยไร้การทักทายใดๆ และผุบลงไปนั่งที่ท้ายห้องอย่างเงียบเชียบ
‘เฮ้อ.... เหตุการณ์กลับเป็นปกติแล้วสินะ หวังว่าเราคงไม่ต้องยุ่งอะไรกันอีกนะ มีวรุฒเข้ามาในชีวิตเขา ทำให้ชีวิตเขาวุ่นวายเป็นที่สุด เป็นเพื่อนร่วมห้องกันแค่นั้นเหมือนเดิมก็พอแล้ว’ ชานนท์คิดอยู่ในหัว

...........................


“โอ้ยยยยยย ฉันไม่ถนัดวิชานี้เลยแก....” สาวห้าวบ่นกระปอดกระแปดตอนสิ้นคาบเรียนของวันนี้
“เธอก็พูดแบบนี้ทุกวิชา!” ชานนท์พูดสวนไปอย่างประชดประชัน
“ใครจะเหมือนเธอล่ะ ตอบคำถามอาจารย์ได้ทุกข้อเลย!!”
“ปีหนึ่งมันมีแต่วิชาที่ปูพื้นฐานที่เรียนมาแล้วทั้งนั้น ทำไมจะตอบไม่ได้ล่ะ! ง่ายจะตาย แปลกใจนะที่เธอพูดแบบนี้ เธอสอบติดที่นี่ได้ไงเนี่ย?”
“นั่นสิ!! สงสัยดวงดี”
“อ้าว..... มุกใช่ไหมเนี่ย? ก็เห็นเธอจดโน้ตได้เยอะเลยนี่”
“ฉันมันพวกความจำสั้นน่ะ ออกนอกห้องก็ลืมแล้วเลยต้องตั้งใจหน่อย ว่าแต่....... แกดูจะมีคู่แข่งนะ” เมย์หันไปเหลือบมองคนตัวสูงหลังห้อง จนชานนท์ต้องหันตามไป
“เออ! นั่นสิ ไม่น่าเชื่อเลยนะ....” ชานนท์ตอบไปทั้งยังนึกย้อนไปที่คาบเรียนที่เพิ่งจบไป อาจารย์ให้ทำ ‘พรีเทสต์’ และคนที่ได้คะแนนเต็มมีเพียงสองคนเท่านั้นคือ ชานนท์และวรุฒ
“ไม่น่าเชื่อคนแบบนั้นจะเรียนเก่งเลยให้ตายเหอะ” เมย์ที่ได้คะแนนผ่านครึ่งมาเพียงเล็กน้อยตอบด้วยสายตาอิจฉาไปทางหลังห้อง

“สวัสดีรุ่นน้องทุกคน!!” เสียงรุ่นพี่ดังขึ้นที่หน้าห้อง พร้อมกับการก้าวเข้ามาของทัพรุ่นพี่ปีสองจำนวนหนึ่ง

“ฉันว่าแล้วเชียวว่าทำไมอาจารย์ถึงบอกให้รออยู่ในห้องก่อน!” เมย์โวยขึ้นมาเล็กน้อย
“กิจกรรมรับน้องภาคสอง อนุมัติแล้วสิเนี่ย!” ชานนท์มองไปที่จำนวนรุ่นพี่ข้างหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วสายตาก็ไปสะดุดที่พี่เอกที่โบกไม้โบกมือทักทายเขาอยู่ในแถวรุ่นพี่หน้าห้อง ชานนท์ยิ้มตอบกลับไปอย่างเกรงใจ เขาไม่อยากเจอกับพี่เอกในสภาพ ‘แผลใหม่’ แบบนี้เลย

....................

“เกิดอะไรขึ้น?!?”

เสียงพี่เอกพูดอย่างหงุดหงิด หลังจากที่เลิกการรับน้องและซ้อมเชียร์วันแรก
“ไม่เป็นอะไรครับ” ชานนท์ตอบได้ไม่เต็มปากนัก
“เอ็งไม่มีสมาธิ เต้นตามไม่ทัน เต้นไม่เข้าจังหวะ มีอาการเหนื่อยๆ” พี่เอกพูดวิจารณ์เป็นชุด
“เอ่อ....... อ่อ.........” ชานนท์อ้ำอึ้งไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน
“เอ็งยังไม่หายดีก็อย่าฝืนสิวะ” พี่เอกเข้ามาใกล้จนหน้าเกือบชนกับหน้าของชานนท์ “เฮ้ย!! เอ็งมีแผลเยอะขึ้นปะเนี่ย” พี่เอกทำท่าตกใจและใช้มือช้อนหน้าของชานนท์ให้หงายขึ้น พี่เอกเพ่งมองอย่างพินิจพิเคราะห์

“พี่เอก ผม... โอเคครับ เดี๋ยวผมจะตั้งใจครับ” ชานนท์สบัดหน้าหลบสายตาของอีกฝ่ายและพยายามเบี่ยงประเด็น
“อย่ามาโกหก! ท่าทางเอ็งเหมือนยังไม่หายดีทั้งที่พักตั้งหลายวันแล้ว ไอ้ขี้แก๊กมันซ้อมเอ็งเพิ่มเรอะ?!!” พี่เอกพูดจบก็ส่ายหน้าซ้ายขวามองหาเพื่อนร่วมห้องของชานนท์ด้วยดวงตาที่น่ากลัว

“เดี๋ยวๆ พี่ มันไม่ใช่อย่างที่พี่คิด ผมมีเรื่องจะเล่าให้พี่ฟังเหมือนกันแต่.... ไม่อยากให้พี่เป็นห่วง”  ชานนท์เขย่าแขนพี่เอกอย่างแรงเพื่อให้พี่เอกเลิกมองหาวรุฒ เพราะอาจจะทำให้เรื่องบานปลาย
“มันอยู่นั่นเอง!! แปลกนะที่มันไม่ได้อยู่กับยัยวิ! ดีจะได้เคลียร์กันได้สะดวก!!”
“พี่เอก!!” ชานนท์เสียงดังขึ้น “ฟังก่อน!!” ชานนท์พยายามเน้นเสียงและดึงพี่เอกรั้งให้อยู่กับตน เพราะไอ้ชายร่างสูงตัวปัญหาดันเดินมาทางทิศที่เขาอยู่พอดี

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปกลัวมันเดี๋ยวพี่เคลียร์เอง!”
พี่เอกเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจกับการฉุดรั้งของชานนท์เลย สภาพของเขาเหมือนสุนัขตัวน้อยที่เรียกน้องความสนใจจากเจ้านายที่ไม่สนใจสัตว์เลี้ยงตัวเองเลย
“เฮ้ย!! ไอ้เตี้ย เสร็จยัง? กลับเถอะ! แล้วพี่เองก็ควรจะปล่อยน้องกลับไปพักได้แล้วพรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้า!!”
วรุฒมาประชิดพวกเขาทั้งสองอย่างรวดเร็วและพูดด้วยสีหน้าและดวงตาที่ขวางโลก
“กูไม่ได้รั้งอะไรน้องกู แล้วมึงล่ะทำไมมาคนเดียวรุ่นพี่ ‘คนสนิท’ ของมึงล่ะ?” พี่เอกพูดจาด้วยสีกน้าจริงจังและน้ำเสียงที่ดุดันกว่าปกติ

“อืม...... ไหนมึงว่าไม่ใช่แฟนไง ทำไมหวงก้างอย่างนี้วะ!” วรุฒเหล่มองชานนท์ที่เพิ่งคลายมือจากแขนของพี่เอก เพราะขนาดนี้แล้วเขาคงไม่มีแรงห้ามแล้วหากจะมีเรื่องกัน

“ไม่ใช่แฟนโว้ย!!” ชานนท์ตอบกลับอย่างเหลืออดใส่วรุฒ แต่พี่เอกกลับหันมามองชานนท์ด้วยสายตาที่ต่างจากปกติ
“ไม่ใช่แฟน! มึงก็กลับได้แล้วดิวะ จะอยู่ด้วยกันทำไมนานๆ แบบนี้!! ไป!! กลับกันเถอะ” วรุฒพูดข้ามหัวพี่เอกไปเหมือนเป็นของประกอบฉาก

“เดี๋ยว!! กูพูดกับมึงอยู่นะ!!” พี่เอกเริ่มยั่วะ
“ก็กูไม่อยากคุยกับมึงไง!!” วรุฒทำหน้ากวนบาทาใส่
“มึงต้องเคลียร์กับกูก่อน!! เรื่องแผลของนนท์!!” พี่เอกที่มีความสูงไล่เลี่ยกับวรุฒได้กระชากคอเสื้ออีกฝ่ายอย่างไม่ยากเย็น สายตาเย็นชาของวรุฒปะทะกับสายตาที่ร้อนแรงของพี่เอกจนทำให้บรรยากาศปั่นป่วนไปหมด ทั้งที่มองไม่เห็นแต่ชานนท์รู้สึกได้
“มึง... อยากรู้อะไรก็ไปถามแม่หญิงงามเมืองกับคนของเธอตรงโน้นไป!!” หลังจากเกิดเดธแอร์เป็นระยะเวลาชั่วน้ำเดือดวรุฒก็พูดขึ้นมาและใช้สายตาเป็นสื่อให้ทุกคนมองไปที่ๆเขามอง

พี่วิกับชายท่าทางวางกล้ามกลุ่มหนึ่งปรากฏมาในระยะสายตาของทั้งพี่เอกและชานนท์ ทางฝ่ายที่ถูกจ้องมองเองก็รู้สึกถึงสายตาของอีกฝ่ายและใช้สายตามองกลับมาด้วยท่าทีดุดัน

ชานนท์รู้สึกปวดแสบที่ช่วงท้องปราดขึ้นมาทัน เขามีอาการหวาดกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัดจนเท้าของเขาก้าวถอยห่างจากจุดเดิมจนพี่เอกรู้สึกได้ การแสดงท่าทางของชานนท์อธิบายได้ทุกอย่าง จากประสบการณ์พี่เอกทำให้เขาปะติดปะต่อจิ๊กซอว์เหตุการณ์ได้อย่างสมบูรณ์ พี่เอกค่อยๆ คลายมือจากคอเสื้อของวรุฒ และมองสีหน้าที่เปลี่ยนไปของทั้งชานนท์และวรุฒสลับไปมา

“ชานนท์.... ไปจากตรงนี้ก่อน พี่มีเรื่องต้องเคลียร์นิดหน่อย!”
พี่เอกพูดเอ่ยขึ้นมา เสียงที่เหมือนลอดออกมาจากฟันที่ขบกันแน่น จนเหมือนเขาพูดกับตัวเอง
“พี่เอก.... ช่างมันเถอะ!!” ชานนท์ร้องทักขึ้นมา
“เฮ้ย! มึงไปกันก่อน รุ่นพี่มึงก็บอกแล้วไง!!” วรุฒลากชานนท์ออกจากจุดเดิมโดยง่าย แม้ชานนท์จะรู้สึกเป็นห่วงพี่เอกแต่เขาก็มั่นใจว่าพี่เอกดูแลตัวเองได้ จากสายตาที่ดุดันของคู่กรณี มันทำให้เขากลัวเกินกว่าจะหยุดขาตัวเองให้รั้งอยู่ตรงจุดเดิมได้ เขาจึงได้แต่มองพี่เอกเดินไปหากลุ่มอันธพาลนั่นด้วยสายตาที่เป็นห่วงเท่านั้น

“เอาน่า รีบเดินเถอะ กูว่ารุ่นพี่มึงดูแลตัวเองได้!! กูไม่ได้กลัวที่จะมีเรื่องกับมันอีกรอบนะ แต่กูกลัวมึงจะโดนลูกหลงอีกรอบ!!” วรุฒพูดไปลากชานนท์ไปด้วย เขาลากชานนท์จนแทบจะเรียกได้ว่าอุ้มเขาออกจากพื้นที่ลานกว้างหน้าอาคาร

“อะไรนะ?” ด้วยความกระทันหัน ชานนท์จึงจับใจความประโยคสุดท้ายไม่ชัดเจน
“เอาเป็นว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมึง มึงไม่ต้องยุ่ง กูจะหาทางเอาคืนพวกมันให้หนักเลย เอาคืนทั้งหมัดมั้งตีนพวกมันให้สาสม”
วรุฒพูดด้วยสีหน้าและแววตาที่เหมือนมีประกายไฟขึ้นมาวาบหนึ่ง
“โง่หรือเปล่า แบบนี้มันก็ไม่จบสิ คิดเหรอว่าเอาคืนพวกนั้นแล้วเขาจะไม่เอาคืนอีก!!” ชานนท์คัดค้าน
“หึ!! กะแล้วว่ามึงต้องพูดแบบนี้ กูก็เลยคิดแผนสองไว้แล้ว ก็เลยจะชวนมึงกลับมาเพื่อขอความร่วมมือนี่ไง!!”
วรุฒหันกลับมาตอบชานนท์ด้วยรอยยิ้มเจ้าเลห์
“อะ....อะไรเหรอ?” ชานนท์รู้สึกไม่ดีกับรอยยิ้มนั่นเอาเสียเลย
วรุฒไม่ได้ให้คำตอบอะไรเพียงแค่เดินนำหน้าไปอย่างเงียบสงบ

...........................

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อิวรุฒแกคิดอะไรอยู่ บอกมานะ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ทำไมบทที่ 10 ส่วนที่ 2 มันสั้นกุดขนาด

อิตาวรุฒพูดถึงแผนสอง  มันคืออัลไล?

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ Shonennihon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +118/-1
“อะไรนะ!!! ไม่เอาหรอก!!” ชานนท์ร้องเสียงหลงขณะฟังแผนการเอาคืนของวรุฒจนจบ
“อะไรวะ! วิธีแรกมึงก็บอกว่ารุนแรงไป พอกูบอกวิธีซอฟต์ๆมึงก็จะไม่เอาอีก!!” วรุฒโวยกลับ เขาเอนหลังไปพิงพนักเก้าอี้บริเวณโต๊ะอ่านหนังสือด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“มันร้ายกาจเกินไป วิธีแรกนายขยี้เขาทางกายภาพ แต่วิธีที่สองนี้นายขยี้เขาทั้งใจเลยนะ” ชานนท์พูดไปก็ย้อนทวนแผนการทั้งหมดที่วรุฒเล่าให้ฟัง
“แล้วมึงจะเอายังไง หากไม่ทำแบบนี้ พวกเราคงอยู่ที่นี่ไม่สงบสุขหรอก ต้องให้เด็ดขาดมันจะได้เลิกยุ่งกับพวกเราอีก หรือมึงอยากจะระแวงระวังตลอดเวลา!!”

วรุฒพูดมาทั้งหมดมันก็มีเหตุผล หากพวกเขาไม่ทำอะไรเรื่องแบบนี้มันคงไม่จบลงง่ายๆ โดยเฉพาะกับพี่วิที่ดูไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร เพราะห่วงแต่ความต้องการของตนเองเท่านั้น วิธีแรกก็อาจจะรุนแรงไป การจ้างคนไปรุมกระทืบและข่มขู่อีกฝ่าย มันเรียบง่ายแต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลหรือไม่ และแน่นอนพี่วิไม่ได้รับผลกระทบอะไรอยู่แล้ว ยิ่งถ้ารู้ว่าแฟนเธอไม่กล้ายุ่งกับพวกเขาแล้วจะยิ่งรุกพวกเขาหนักกว่าเดิม ส่วนวิธีที่สอง มันยุ่งยากกว่า ใช้เวลานานกว่า แต่ก็น่าจะได้ผลดี ชานนท์คิดทบทวนในใจจนเงียบไปพักใหญ่

“เอาไงมึง!?! รีบตัดสินใจเร็วเข้า!!” วรุฒเร่งเร้าด้วยเสียงที่เข้มดัง
“ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอ?”
“ไม่มี กูคิดได้แค่หรือมึงมี?”
“อืม..........เอาก็เอา!! วิธีที่สอง!!” ชานนท์พูดโดยไม่สบตาอีกฝ่าย เขาเลือกวิธีนี้เพราะวิธีแรกนอกจากอาจจะไม่ได้ผลแล้วอาจจะมีคนตายได้ด้วย เขาไม่อยากเป็นฆาตกร แต่วิธีที่สอง..... เขาหวังแต่ว่าจะไม่มีใครเจ็บเจียนตายนะ
“เลือกได้ดี!!” แววตาวรุฒมีแสงวาบขึ้นมาจนน่ากลัว “กรุณาให้ความร่วมมืออย่างดี และ.....ห้ามมาเสียใจทีหลังนะ”

..........................


“เอ่อ.... จะว่าไปก็รู้จักนะ พี่เขาดังจะตาย”
หลงทำหน้าครุ่นคิดพร้อมกับกับมองหน้าจอโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของชานนท์
“แปลว่าเขาอยู่คณะนายจริงๆใช่ไหม?” ชานนท์เก็บโทรศัพท์ของตนที่มีรูปที่ส่งต่อจากเพื่อนร่วมห้องของเขา หลังจากที่วรุฒวางแผนและส่งมอบหมายงานให้ชานนท์ไปสืบข้อมูลเพิ่มเติม
“เออสิ เขาเป็นถึงแชมป์นักกีฬามวยสากลประจำมหาวิทยาลัย นายถามไปทำไมเหรอ แปลกนะเนี่ย ที่นายมาหาเราถึงคณะฯแบบนี้ หรือว่าสนใจพี่เขา?”
ชานนท์แวะมาหาหลงที่คณะวิทยาศาสตร์ หลังเลิกเรียนในช่วงเที่ยง เพราะโดนวรุฒสั่งมาให้หาข้อมูลเพิ่ม
“จะบ้าเรอะ!!” ชานนท์ทำท่าทางขุ่นเคืองใส่
“ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าใช่ก็คงจะลำบากนะ เพราะพี่เขามีแฟนแล้ว สวยด้วย แต่จำไม่ได้ว่าอยู่คณะไหน” หลงแซวต่อ
“ก็คณะเรานี่แหละ!” ชานนท์หลุดพูดออกไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด
“อะไรนะ?” หลงถามเพราะไม่แน่ใจสิ่งที่ชานนท์พูดหงึมงำกับตัวเอง
“อ้อ... ไม่มีอะไร แล้วคือ...... ส่วนใหญ่ พี่.... เอ่อ...”
“พี่พัฒน์ พี่เขาชื่อพี่พัฒน์ ธนพัฒน์” หลงเติมคำในช่องว่าง
“เออ ใช่ ชื่อพี่เขา... ชื่อพี่พัฒน์.... ส่วนใหญ่เขาชอบทำอะไร ที่ไหนเหรอ?”
“ไหนบอกไม่สนใจ ทำไมถามอะไรแบบนี้วะ?”
“ก็แบบ...... มีเพื่อนเราชอบน่ะ.... เลยให้เรามาถามให้”
“อ้อ.... แบบแฟนคลับอะไรพวกนี้เหรอ?”
“อือ...เอ้อ เออ ใช่ แฟนคลับ”
“พวกผู้หญิงนี่ก็ชอบ ทำอะไรแบบนี้จริงๆนะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า.....” ชานนท์หัวเราะแห้งๆตอบกลับไป
หลังจากนั้นคนที่ดูเหมือนไม่ได้เต็มใจเล่าก็เล่าให้ชานนท์ฟังอย่างละเอียดยิบ สมแล้วที่วรุฒให้มาถามหลง เพราะคนอย่างหลงนี่เก็บอะไรได้ไม่อยู่จริงๆ วรุฒมองคนได้ขาดอย่างเหลือเชื่อ

................


เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจภายในร้านกาแฟขนาด สี่คูณสี่เมตรใต้อาคารคณะวิทยาศาสตร์ แหล่งรวมเหล่านักศึกษาจากหลากหลายคณะ โดยเฉพาะนักวิทยาศาสตร์ที่มีการจัดตกแต่งร้านได้สมกับเป็นคณะวิทยาศาสตร์จริงๆ ทั้งโต๊ะที่นั่ง ลักษณะแก้วเครื่องดื่มแบบปิ้กเกอร์และที่คนสะสารคล้ายกับห้องทดลองทางเคมี ลายวอลล์เปเปอร์แบบสูตรในตารางธาตุที่มีสีสันกลมกลืนกับพื้นสีขาวมันวาว ชานนท์นั่งอยู่ท่ามกลางนักศึกษาที่มีท่าทางอิดโรยจากการรับน้องของแต่ละคณะฯ และแวะมาผ่อนคลายที่ร้านคาเฟ่ที่มีสไตล์ที่สุดแห่งหนึ่งในคณะ

วันนี้ชานนท์มาเพียงลำพัง เขานั่งด้วยท่าทางชะเง้อซ้ายมองขวาอย่างไม่เป็นสุขเท่าไหร่ จนกระทั้งคนๆหนึ่งปรากฏเข้ามาในคลองสายตาของเขา ชานนท์ถึงกับยิ้มออกมาและผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“โหย...... ไกลเหมือนกันนะเนี่ย รอนานไหนจ๊ะ” สาวสวยน่ารักในชุดวอร์มสำหรับชั่วโมงพละของมหาวิทยาลัยพูดออกมาพร้อมหอบหายใจเล็กน้อย
“ไม่นานหรอก วันนี้ที่คณะทำการซ้อมเพลงเชียร์เกินเวลามาเหมือนกัน” ชานนท์ยิ้มกลับไปที่มายา หรือ มายด์ อนาคตดาวคณะบริหารธุรกิจ
“ขอบใจนะที่อุตส่าห์ชวนมา แต่แน่ใจนะว่ามีของเด็ด ไม่เด็ดนี่มีโกรธนะ มาไกลขนาดนี้” มายด์ใช้มือทำท่าพัดโบกตัวเองคลายความร้อนจากการเดินทาง
“เด็ดจริง! ไม่เชื่อดูเมนูสิ” ชานนท์ยื่นเมนูของร้านให้อีกฝ่ายดูทันที  “อันนี้เมนูแนะนำ และนี่ก็มีการรีวิวกันเยอะมากช่วงนี้” ชานนท์พูดแนะนำต่ออย่างชำนาญไม่ต่างจากเจ้าของร้าน เพราะก่อนจะมาร้านนี้เขาศึกษาเมนูและการรีวิวร้านอย่างละเอียด
“โห..... ทำการบ้านมาดีอ่ะ.... เอ่อ.... แล้วยัยเมย์ล่ะ?” มายด์ยกนิ้วให้กับความคล้องแคล้วของชานนท์
“อ้อ... วันนี้เธอมีนัดกับแฟนน่ะ”
“เบื่อคนมีคู่จริงๆ เลย!!” มายด์แอบเบะปากเล็กน้อย
“งั้นเดี๋ยวเราไปเอาน้ำดื่มเย็นๆมาให้ก่อนนะ เพราะกว่าของที่สั่งจะมาก็อีกสักพัก” ชานนท์มองซ้ายมองขวาก่อนที่จะพูดขอตัวกับมายด์
“นัดใครอีกเหรอ นึกว่าเราจะได้มีเวลาอยู่กันสองคนเสียอีก” มายด์ยิ้มล้อเลียนอย่างเจ้าเล่ห์
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ชานนท์หัวเราะอย่างเขินอาย แต่เขาก็รู้ตัวดีว่าเป็นการพูดล้อเล่นสไตล์มายด์เท่านั้น แต่อาการใจสั่นของเขาน่ะของจริง สิ้นเสียงหัวเราะเขาก็ขอตัวไปหยิบน้ำดื่มเย็นๆ ที่มีบริการอยู่ที่มุมเคาเตอร์สั่งอาหารของร้าน

ชานนท์เดินหายไปพักใหญ่จนกระทั้งมายด์ตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกเมนูอะไรบ้างมาลองรับประทาน ทุกอย่างถูกจดอยู่ในกระดาษสำหรับสั่งอาหารที่วางไว้ให้ทุกโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
มายด์จึงตัดสินใจยืนขึ้นเพื่อมองหาคนที่หายไป

สายตาของมายด์สอดส่ายไปทั่วร้านที่คลาคล่ำไปด้วยนักศึกษาหลากหลายชั้นปี และมีการแต่งกายที่ใกล้เคียงกันจนทำให้มายด์ตาลายไปพักใหญ่ จนในที่สุดเธอก็ไปสะดุดอยู่ที่ผู้ชายแต่งกายเรียบร้อยที่ยืนหันหลังเก้ๆกังๆ อยู่หน้าร้าน กับคนหน้าตาไม่คุ้นตากลุ่มหนึ่ง เธอรู้ในทันทีว่าคนที่ยืนอยู่หน้าร้านคือเป้าหมายเธอหาอยู่ มายด์จึงตัดสินใจหยิบของวางไว้ที่โต๊ะ และเดินไปที่เป้าหมายทันที

“นนท์!! ทำไมไม่กลับไปที่โต๊ะเสียที รอตั้งนาน! เดี๋ยวกลับดึกกันพอดี” มายด์โวยวายเมื่อเดินมาถึงจุดที่ชานนท์ยืนทำท่าทางแปลกๆอยู่
“โห.... มากับผู้หญิงเสียด้วย แฟนเหรอ... น่ารักนี่หว่า!!” ชายเสียงยียวน มาดนักเลงในชุดนักศึกษาแบบปล่อยชายพูดขึ้นและมองมาทางมายด์ด้วยสายตาน่ากลัว
“เพื่อน!!” ชานนท์ขยับก้าวจากจุดเดิมเพื่อมาปกป้องผู้หญิงบอบบางอย่างมายด์
“แต่สายตามึงบอกว่าคิดมากกว่านั้นนะ” ชายผิวเข้มที่อยู่ในกลุ่มนี้อีกคนพูดขึ้นจากด้านหลังชายนักเลงคนแรก
“นนท์... เราว่ากลับเข้าไปในร้านดีกว่านะ แถวนี้บรรยากาศไม่ดีเลย!!” มายด์พูดพร้อมดึงแขนขานนท์ให้ขยับออกจากตรงนั้น
“จะไปไหนล่ะน้องสาว อยู่คุยกันก่อนสิ!!”
ชายตาตี่อีกคนเดินอ้อมมาดักมายด์จากอีกทางหนึ่ง
“คนพวกนี้เป็นใครน่ะ นนท์?” เสียงของมายด์มีความกระวนกระวาย
“เอ่อ.... เราไม่รู้จัก อยู่ๆก็มาหาเรื่องเรา!” ชานนท์ตอบไปพร้อมกับหันซ้ายขวาระวังตัวไปด้วย
“เอ๊ะ! มึงนี่ก็ความจำสั้นจังนะ เราเคยเจอกันมาก่อนนะ หรือต้องโดนอีกสักหมัดถึงจะจำได้!!” ชายเสียงยียวนคนแรกพูดขึ้นพร้อมขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีกก้าวพร้อมยกหมัดขึ้นมา
“.............” ชานนท์หน้าเริ่มซีดมากกว่าเดิม ไม่ใช่เขาจำไม่ได้ แต่เขาไม่อยากจำ และไม่อยากมีเรื่องอีกแล้วมากกว่า แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังยืนในจุดเดิม จุดที่จะปกป้องมายด์ได้
“อะไรของพวกนี้เนี่ย! เราอย่าไปยุ่งกับพวกโรคจิตเลย ไปหาอะไรกินกันดีกว่า!” มายด์พยายามเบี่ยงตัวหลบคนที่มาขวางทางเธออีกด้านหนึ่ง ส่วนมือก็คว้าแขนชานนท์และดึงให้ตามเธอไป แล้วชานนท์ได้แต่คิดในใจว่านิสัยแบบนี้มันน่าจะมาจากเมย์มากกว่า สองคนนนี้คงอยู่ด้วยกันมากเกินไป

แต่ทว่ายังไม่ทันจะผ่านไอ้หน้าตี๋ตาตี่ไปได้ ชายตาตี่ก็ขยับก้าวไปดักด้านหน้าของมายด์อีกครั้ง

“จะไปไหนจ๊ะน้องสาว” ชายตาตี่ไม่เพียงแค่พูดเขายกมือขึ้นจับที่ไหล่ของมายด์แบบเต็มไม้เต็มมือ แต่แทนที่มายด์จะโววาย เธอกลับนิ่งเฉยกว่าที่คิด ชานนท์กำลังจะพลิกตัวเพื่อไปช่วยสาวน้อยที่กำลังโดนลวนลาม แต่ปฎิกิริยาของมายด์ว่องไวกว่าความคิดของชานนท์มาก เธอยกมือจับขึ้นจับข้อมือของชายที่รูปร่างใหญ่กว่า บิดมือต้นเองและวาดแขนอย่างอ่อนช้อยว่องไวจนทำให้อีกฝ่ายทรุดลงไปยอมจำนวนในท่าที่บิดงออย่างเหลือเชื่อ!!

“โอ้ย!!!....” ชายตาตี่ที่ทรุดลงไปทั้งที่แขนถูกบิดลงไปไขว้ที่หลังอย่างผิดธรรมชาติ และร้องอย่างเจ็บปวด
“เฮ้ย ยัยนี่นิ!!” พวกที่เหลือชี้และส่งเสียงประสานกัน ในขณะที่ชานนท์กำลังยืนอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า พร้อมกับมีคำพูดของวรุฒผุดขึ้นในหัว ‘อย่าเห็นว่าแม่นั้นเป็นผู้หญิงน่ารักบอบบางแล้วจะอ่อนแอจนดูแลตัวเองไม่ได้’

“เฮ้ย!! พวกมึงทำอะไร!!” เสียงดังทรงอำนาจแหวกอากาศมาจากอีกด้านหนึ่งของตึก
“ลูกพี่!!” กลุ่มอันธพาลพูดเป็นเสียงเดียวกัน หน้าซีดเผือดและถอยหลังไปครึ่งก้าว ส่วนไอ้ตาตี่ที่นั่งหมอบเพราะโดนมายด์ล็อคนิ้วล็อคมือไว้ ได้แต่ก้มหน้าก้มหน้าก้มตาหน้าซีด

“อ้อ! หัวหน้าฝูงมาพอดี ช่วยฝึกพวกของนายให้เชื่องหน่อยนะ ไม่ไช่ปล่อยมารังแกคนอื่น!!” มายด์ที่ยังคงใช้มือล็อคมือของไอ้ตาตี่ หันไปหาคนที่พวกอันธพาลเรียกว่า ‘ลูกพี่’ ชานนท์ยังจำเสียงและใบหน้านี้ได้ดี รวมถึงรสสัมผัสอันหนักหน่วงของหมัดเท้าของ ‘ลูกพี่’ คนนี้ได้ดี ทำใช้ชานนท์ถึงกับถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ

“พวกมึงกูบอกกี่ครั้งแล้วว่า ห้ามมีเรื่องกับผู้หญิง!!” เสียงลูกพี่ของกลุ่มนักเลงเข้มและดังขึ้น “เฮ้อ! รู้ที่ไหนอายเขาถึงที่นั้น พวกมึงอยู่สมาคมกีฬามวยสากล แต่กลับแพ้ให้กับผู้หญิงนี่นะ!!!” ลูกพี่ของเหล่าอันธพาลมองสภาพอันน่าสมเพชของลูกน้องของตน และมองสลับไปกับมายด์ที่ดูท่าทางหงุดหงิด (ไม่รู้ว่าหงุดหงิดเรื่องนี้หรือเรื่องหิวขนมกันแน่)

“น้องครับ พี่ขอโทษแทนรุ่นน้องของพี่ด้วยนะครับ” ลูกพี่ปรับเสียงให้อ่อนหวานขึ้นเมื่อพูดกับหญิงสาวน่ารักตรงหน้า
“หึ!! ก็ยังดีมีคนที่พอมีมารยาทอยู่บ้าง!!” มายด์พูดจบก็ปล่อยให้ไอ้หนุ่มตาตี่เป็นอิสระ พอไอ้ตาตี่เป็นอิสระก็ต้องหลบสายตามาดร้ายของลูกพี่ของเขาและวิ่งหลบไปที่ด้านหลังพรรคพวกตนเอง ส่วนชานนท์ก็ได้แต่คิดว่า ไอ้คนที่มายด์พูดด้วยนี่แหละร้ายที่สุด ชานนท์นึกพลางลูบรอยช้ำที่ท้องของตนและสังเกตท่าทีของ ‘พี่พัฒน์’ หนุ่มรูปร่างกำยำ นักศึกษาปีสาม และประธานชมรมกีฬามวยสากล เจ้าของแชมป์มวยสากลของกีฬามหาวิทยาลัย (วรุฒสืบมาอย่างละเอียด รวมถึงเรื่องที่พี่พัฒน์เป็นคนให้เกียรติผู้หญิงมาก ไม่ว่าจะแก่จะสาว จะสวยหรือไม่ก็ตาม....แต่กับผู้ชายนี่ฆ่าได้ก็ฆ่าให้ตายได้เลย!)

“พี่ชื่อพี่พัฒน์นะ น้องชื่อ.....?” พี่พัฒน์แนะนำตัวอย่างสุภาพและเว้นคำไว้เป็นเชิงคำถาม
“สวัสดีคะพี่พัฒน์ หวังว่าเราคงไม่ต้องมาเจอกันในสภาพนี้อีกนะคะ” นอกจากมายด์จะไม่ตอบคำถามกลับแล้ว เธอยังพูดคำลาแบบแปลกๆ อีกด้วย ชานนท์ที่ยืนเหงื่อแตกอยู่ข้างๆ ได้แต่ส่งสายตาไปบอกมายด์ว่า ‘พอเถอะ!!’ พอสิ้นประโยคมายด์ก็หันหลังใส่คนทั้งกลุ่ม
“ไปเถอะนนท์ ออกกำลังกายแบบนี้ จนเริ่มหิวแล้วไปหาอะไรกินกันดีกว่า” มายด์จับแขนชานนท์ดึงกึ่งลากให้เขาก้าวเท้าออกจากตรงนี้ซึ่งชานนท์ก็ยินดีอยู่แล้วจึงก้าวขาตามไปแต่โดยง่าย

“น้องจะไม่บอกชื่อพี่จริงๆ เหรอ?” พี่พัฒน์ยิ้มและมองมาทางมายด์อย่างเอ็นดู
“ไม่ดีกว่าคะ เจอกันแบบนี้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ อย่ารู้จักกันเลยดีกว่าคะ ขอตัวก่อนนะคะ” น้ำเสียงดูสุภาพแต่ถ้อยคำของมายด์ที่ฟังแล้วให้อารมณ์เสียกลับไม่ทำให้อีกฝ่ายมีอารมณ์ขุ่นมัว ตรงกันข้ามกลับมีแต่รอยยิ้ม รอยยิ้มนั่นทำให้ขานนท์ใจชื้นขึ้น ที่อะไรหลายๆ อย่างในวันนี้ไม่ได้แย่ไปกว่าเดิมและลงตัวอย่างที่ตนเองต้องการ

“พวกมึง!! มีเรื่องต้องคุยกัน!!” เสียงของพี่พัฒน์แผดดังไปทางกลุ่มลิ้วล้อของเขาจนชานนท์ที่กำลังจะเปิดประตูเข้าร้านคาเฟ่ ได้ยินจนรู้สึกกลัวแทนคนเหล่านั้น

.....................

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เอิ่มมมมม   เหตุการณ์นี้ก็อยู่ในแผนของวรุฒใช่ป่าว?

แผนสูงนะเนี่ย  เอานุ้งมายด์มาเป็นเหยื่อล่อพี่พัฒน์เนี่ย

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ jinutlove

  • ไม่คิดที่จะรัก
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Shonennihon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +118/-1
“สุดยอดเลย!! เมื่อกี้นี้มันสุดยอดเลย เธอทำได้ไง?” ชานนท์พูดขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อเขานั่งลงที่โต๊ะแล้ว

“หมายถึงเรื่องที่พูดออกไปน่ะเหรอ? บ้านเราญาติผู้ชายเยอะ บางทีก็เลยเผลอติดนิสัยพวกนั้นมาด้วย” มายด์พูดด้วยสีหน้าราบเรียบแต่สายตายังอยู่ที่เมนูอาหารที่เธอหยิบขึ้นมาทันทีหลังจากมาถึงโต๊ะ ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ที่ยังคงจ้องมาหลังจากเหตุการณ์หน้าร้าน มายด์เป็นคนใจเย็นมากจนน่าตกใจ

“นั่นมันก็ใช่ กล้าบ้าบิ่นชะมัด แต่ที่สำคัญคือที่เธอทำกับไอ้ตาตี่นั่น!!” ชานนท์ถามต่อด้วยท่าทางตื่นเต้น
“อ้อ.... ก็อย่างที่บอก ครอบครัวเรา มีลูกพี่ลูกน้องเป็นผู้ชายเยอะ โดนกลั่นแกล้งมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วไหนจะพ่อเราเองก็มีชื่อเสียงอยู่ เราเลยถูกสอนศิลปะป้องกันตัวมาตั้งแต่เล็กๆ พ่อบอกว่าจะได้ดูแลตนเองได้!” สายตาของมายด์ยังคงจดจ้องอยู่ที่เมนู ส่วนชานนท์ได้แต่คิดว่าเขาได้ก้าวเข้ามารู้จักกับคนแปลกๆเพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว ชีวิตเขามันจะมีสีสันเกินไปแล้ว!

“อันนี้นนท์ว่าดีไหม?” มายด์พลิกเมนูที่มีรูปบิงซูสายไหมสีชมพูและม่วงหวานแหว๋วและมีมาชเมวโลว์ชิ้นเล็กๆ โรยอยู่ทั่วชาม
“เอ่อ.... ก็ดีนะ” ตอนนี้ความอยากอาหารของชานนท์หมดไปพร้อมกับเหตุการเมื่อครู่แล้ว

“สวัสดีคะ ของที่สั่งได้แล้วนะคะ” บริกรสาวในชุดกระโปรงสั้นสีหวานกับชุดกราวด์ยาวสีขาวล้วน ยกขนมหน้าตาที่คล้ายกับที่มายด์ชี้ให้เขาดูในเมนูมาวางที่โต๊ะ และเครื่องดื่มแบบสมูธตี้สีหวานพาสเทลมาวางคู่กันสองแก้ว

“เอ่อ... ผิดหรือเปล่าคะ? พวกเรายังไม่ได้สั่งเลย”
“อืม.... ไม่ผิดนี่คะ โต๊ะที่ 12” บริกรสาวหยิบใบคำสั่งขึ้นมาดูพร้อมชี้ไปที่กล่องกระดาษเช็ดปากที่ทีเบอร์ ‘12’ ติดอยู่
“แปลกจัง.....” มายด์มองไปที่ถ้วยขนมชามใหญ่ตรงหน้าไปด้วยสีหน้าแปลกใจ

“ไม่แปลกหรอกครับ พี่สั่งให้เอง ถือเป็นคำขอโทษจากพี่ก็แล้วกัน” เสียงสากใหญ่ที่คุ้นหูดังขึ้นจากทางด้านหลังบริกรสาว เขาปรากฎตัวขึ้นทันทีหลังสิ้นเสียง เขาคือลูกพี่ของคนที่เป็นโจทย์กับพวกมายด์และชานนท์เมื่อครู่นี่เอง
“งั้นก็ไม่เกรงใจนะคะ” มายด์ยิ้มมุมปากและจับช้อนขึ้นมาตักขนมหวานสีพาสเทลเข้าปากทันที พร้อมทำหน้าแบบมีความสุขมากแฝงอยู่  ทำให้ผู้ชายบริเวณนั้นยิ้มหวานและเก็บเอาไปฝันดีได้เลย นั่นรวมถึงชานนท์และพี่พัฒน์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วย

“เอ้า ชานนท์ ลองสิ !! อร่อยมากเลย” มายด์ชวนชานนท์ทันทีหลังจากกลืนคำแรกไปจนหมดแล้ว ส่วนชานนท์ยังคงลังเลกับการกินของชิ้นนี้ที่มีตัวปัญหาจ้องอยู่ข้างๆ ชานนท์รู้สึกแปลกใจอีกครั้งที่มายด์มีท่าทีแบบนี้ เพราะหากเป็นเขาคงปฏิเสธและเดินออกจากร้านไปแล้ว
“อ่ะนี้ครับ บัตรแลกของหวานในครั้งถัดไป ฟรีเลยครับ หวังว่าน้องมายาจะให้อภัยพี่และอย่ากลัวที่จะมาที่นี่บ่อยๆ นะครับมา’ พี่พัฒน์ยื่นคูปองที่มีลายพิมพ์รูปของหวานน่ารัก และลายเซ็นเป็นเส้นหวัดยึกหยักตัวใหญ่อยู่บนนั้น

“รู้ได้ไงคะว่า น้องชื่อ ‘มายา’?” มายด์มองเจ้าของคูปองด้วยหางตา
“น้องเป็นคนมีชื่อเสียงอยู่นะ รู้ตัวหรือเปล่า?”
“.............  จะดีเหรอคะ? ให้เยอะขนาดนี้” มายด์นิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะตอบออกไปพร้อมชี้ไปที่ปึกคูปองในมือของพี่พัฒน์ที่ยื่นมา
“ไม่เป็นไร พี่เป็นหุ้นส่วนร้านนี้เอง พี่อยากขอโทษที่ทำให้น้องมาเจอเรื่องแบบนี้บริเวณร้านพี่” พี่พัฒน์ยิ้มได้หวานจนไม่เข้ากับรูปร่างที่ล่ำสัน
“งั้นก็ไม่เกรงใจนะคะ หากพี่ต้องการแบบนั้น” มายด์คว้าคูปองเหล่านั้นมาไว้ในมืออย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณนะคะ” มายด์พูดจบก็จับช้อนกินของหวานตรงหน้าอย่างมีความสุขโดยไม่ได้สนใจ คนที่ยิ้มจนแก้มแทบปริอย่างพี่พัฒน์ที่ยืนอยู่ข้างเลย กว่าพี่พัฒน์จะตัดสินใจเดินจากไปก็ใช้เวลาหลายนาที เพราะมายด์แทบไม่เปิดโอกาสให้พี่พัฒน์ได้เริ่มต้นบทสนทนาเลย เพราะมัวแต่สนใจขนมถ้วยใหญ่ตรงหน้าและการขยั้นขยอให้ชานนท์ชิมมุมนั้นมุมนี้ตามตนเองให้ได้

..............................

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ thyme812

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ Shonennihon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +118/-1


เฮ้อ..........

ชานนท์ผ่อนลมหายใจออกมายาวที่สุดเท่าที่เคยทำมา มันเหมือนยกอากาศหนักๆ ออกจากปอดจนโล่งเบาขึ้นอย่างบอกไม่ถูก เขาเดินกลับจากการไปแวะส่งมายด์ที่หอพักและตอนนี้เขามายืนเอาหลังพิงเสาอยู่บริเวณทางเข้าหอพักของตนเอง แล้วสายตาของชานนท์ก็วิ่งไปชนกับคนที่เขาคุ้นเคย คนที่วันนี้เขายังไม่เจอหน้าเลย

“พี่เอก!!” ชานนท์โบกมือขึ้นมาทักทาย หลังจากเห็นอีกฝ่ายมองมาที่ตนก็ยกมือไหว้ตามธรรมเนียมปฎิบัติ แต่พี่เอกกลับมีท่าทีลังเลที่จะเดินเข้ามาหาเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเดินเข้ามาหาชานนท์

“สวัสดีน้อง โทษทีนะ วันนี้พี่ยุ่งๆ จนไม่ได้ไปดูเอ็งซ้อมเลย” คำพูดแรกของพี่เอกเมื่อเดินมาถึงในระยะเอื้อมมือ
“เฮ้ย!! พี่ไปทำอะไรมา?” ชานนท์เอ่ยทักทันทีเมื่อเห็นพี่เอกในสภาพใบหน้ามีรอยช้ำจางๆ ที่หางตาข้างซ้าย

“อ้อ..... มีอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ”
“แน่ใจนะครับ ไม่ใช่.... พี่พัฒน์....” เป็นคำที่ชานนท์ไม่ค่อยอยากจะเอ่ยขึ้นมาเมื่อไหร่ เพราะแค่นึกเขาก็ยังรู้สึกกลัวจับใจ หากพี่เอกเกิดเหตุการณ์เดียวกันกับเขา การถูกรุมซ้อมไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย

“อ้าว! ไม่เบานี่หว่า รู้เรื่องที่นี่เยอะเหมือนกันนะ ที่ขนาดเพิ่งเข้ามานะเนี่ย ..... ไม่มีอะไรหรอก พี่กับไอ้พัฒน์จบมัธยมที่เดียวกันมา เป็นเพื่อนกันมาก่อน ก็แค่ปรับความเข้าใจกันนิดหน่อย” พี่เอกยิ้มออกที่ช่วงท้ายประโยค
“แค่บังเอิญผมเองก็มีเพื่อนอยู่คณะเดียวกับพี่พัฒน์ก็เลยรู้จักน่ะครับ แล้วนี่แน่ใจนะครับว่า นิดหน่อยจริงๆ” ชานนท์ยกมือขึ้นพยายามไปแตะรอยช้ำนั่นแต่ก็กลัวอีกฝ่ายหนึ่งเจ็บเลยยั้งมือไว้เว้นระยะห่าง

“เฮ้ย! นิดหน่อยเอง เมื่อก่อนพี่กับมันยิ่งกว่านี้ ต่อยตีกันบ่อยจนสนิทกันเลย นี่ถ้ามันหัวดีกว่านี้มันคงเข้าคณะเดียวกันกับพี่แล้ว..... จับดูสิ! พี่ไม่เป็นไร ไม่เจ็บด้วย!!” ระหว่างที่พี่เอกพูดพลางใช้มือตนเองจับมือของชานนท์ไปสัมผัสรอยช้ำบนใบหน้าของตนและประคองไว้อย่างนั้น

“พี่บอกกับไอ้พัฒน์แล้วว่าเอ็งน่ะไม่เกี่ยวอะไรกับยัยวิ!! เอ็งน่ะมันของ.......” พี่เอกหยุดประโยคค้างไว้และมองมาที่ชานนท์ ความอบอุ่นจากใบหน้าและอุ้งมือของพี่เอกไหลผ่านสัมผัสที่มือของชานนท์จนเขารู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวจนเผลอกระชากมือออกอย่างรวดเร็ว

“โอ้ย!!” พี่เอกร้องเสียงหลง
“อ้าว! ไหนพี่ว่าไม่เป็นไรมากไง!?!” ชานนท์ขยับเข้าไปใกล้เพื่อดูอาการของพี่เอก
“ก็เอ็งเล่นกระชากมือออกจากหน้าพี่เสียแรง มันก็ต้องเจ็บล่ะ” พี่เอกใช้มือลูบหน้าตัวเองเบาๆ
“ขอโทษครับ!” ชานนท์ยกมือขึ้นพนมกลางอก
“”เออๆ ไม่เป็นไร เห็นเอ็งทำหน้าแบบนี้ก็โกรธไม่ลงว่ะ” พี่เอกยกมือขี้นลูบหัวชานนท์อย่างเอ็นดู

“เฮ้ย!! ไปจีบกันบนห้องดีกว่าไหมวะ?!?” เสียงยียวนกวนบาทาที่คุ้นเคยดังขึ้นไม่ไกล ชานนท์หันไปที่ต้นเสียงจนเจอวรุฒยืนมองตาขวางอยู่ไม่ไกล

”แล้ววันนี้พี่ไปไหนมาครับ?” ชานนท์มองค้อนวรุฒควับหนึ่งก่อนหันมาถามพี่เอก
“ก็หน้าพี่เละขนาดนี้ พี่ไม่อยากให้เอ็งเป็นห่วงเลย หลบๆหน้าเอ็งไปก่อนจนกว่าจะดีขึ้น” พี่เอกยิ้มหวานใส่ชานนท์ ชานนท์ได้แต่มองใบหน้าใสๆ ของอีกฝ่ายที่มีรอยช้ำเล็กๆอยู่มุมหนึ่งพลางคิดในใจ
‘ยังไม่เละเสียหน่อย ยังดูดีพอให้สาวๆใจละลายอยู่เลย ไอ้หน้าหล่อตี๋อินเตอร์ขนาดนี้’ ชานนท์ยิ้มตอบกลับไป

“เอ็งว่างไหม? ไหนๆก็เจอกันแล้ว ขึ้นไปซักซ้อมที่ห้องพี่เรื่องวันนี้เสียหน่อยว่าตามพวกเพื่อนๆ ทันไหม?” พี่เอกพูดพร้อมกับสลับมองชานนท์และวรุฒที่ยังยืนคุมเชิงอยู่ทางด้านหลัง

“ไม่ว่าง!!” วรุฒพูดสวนขึ้นมาในขณะที่ชานนท์กำลังจะอ้าปากพูดคำแรก ชานนท์ถึงกับกลับไปมองวรุฒและถามด้วยสายตาว่า ‘อะไรวะ?’
“อ้าวก็จำไม่ได้เหรอว่าเรามีโปรเจ็คด้วยกันไง!!” วรุฒขยิบตาเล็กน้อยหลังพูดจบ
“โปรเจ็คอะไรน่ะ” ชานนท์หมุนตัวกลับไปกระซิบถามด้วยความสงสัย
“อ้าว! ก็เรื่องนั่นไง เรานัดจะทำกันวันนี้ ใกล้เดดไลน์แล้วนะ เรื่องนั่นไง!!” วรุฒเน้นที่คำสุดท้ายอย่างจงใจ
“อ้อ...อ๋อๆ ใช่ๆ เรื่องนั้น” ชานนท์เข้าใจเรื่องที่วรุฒพูดทันที เพราะวันนี้เขานัดกันจะสรุปเรื่องที่แยกย้ายไปทำภารกิจกันมา แต่ก็ไม่น่ารีบร้อนเพราะแผนมันก็เพิ่งเริ่มต้นเอง ถึงกระนั้นชานนท์ก็ตัดสินใจเออออไปกับวรุฒด้วย เพราะพี่เอกก็มีท่าทีแปลกๆใส่เขาอีกแล้ว จนเขารู้สึกขนลุก

“อืม.... ถ้าเรื่องเรียน พี่ก็ไม่รบกวนก็แล้วกัน งั้นเดินขึ้นห้องไปพร้อมๆ กันไหม? เราจะได้อัพเดทกันนิดหน่อย” พี่เอกทำหน้าผิดหวังเล็กน้อย
“เรื่องวันนี้เดี๋ยวช่วยติวให้ก็ได้นะ!” วรุฒพูดแทรกขึ้นหลังจากที่พี่เอกใช้มือโอบไหล่ชานนท์ให้เดินเข้าหอพักไปพร้อมกัน
“ขอบใจนะ! แต่มันหน้าที่รุ่นพี่อย่างกู จะให้คู่แข่งอย่างเอ็งมาบอกก็ใช่ที่!” พี่เอกหันมาพูดกับวรุฒครู่เดียวและดันให้ชานนท์เดินไปพร้อมกับเขา
“เหอะ!!!” วรุฒทำเสียงไม่พอใจแต่ก็เดินกระแทกเท้าตามมาอย่างระยะประชิด

.........................................

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อิพี่เอกเนี่ย  ชัดเจนหล่ะ 

แต่อิวรุฒนี่สิ  อะไรยังไง?

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เดี๋ยวไม่นานคงเกิดศึกชิงนาย

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ Shonennihon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +118/-1

“โอ้ย!! เหนื่อยจัง ...... ไม่เป็นมันแล้วได้ไหมเนี่ย! เชียร์ลีดเดอร์อะไรเนี่ย!!” ชานนท์ทิ้งตัวเองลงบนเตียงนุ่มๆ ของเขาอย่างหมดแรง เพราะเพิ่งโดนพี่เอกกำชับเรื่องซ้อมโน่นนี่อย่างละเอียดยิบระหว่างทางที่เขาเดินมาถึงห้อง โชคดีที่วรุฒทำท่าไม่ต้อนรับพี่เอกเข้าห้อง พี่เอกถึงได้ยอมเลิกราและถอยกลับห้องไป ชานนท์เพิ่งเห็นประโยชน์เรื่องความไม่เป็นมิตรของวรุฒก็วันนี้นี่เอง

“เฮ้อ.....” ชานนท์ผ่อนลมหายใจไปในที่สูงอย่างอ่อนล้า เขาไม่ได้มีทักษะทางร่างกายดีขนาดนั้นเลยต้องฝึกหนักกว่าคนอื่น
“ไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืน ไปลาออกก็สิ้นเรื่อง!!” วรุฒที่นั่งอยู่บนเตียงอีกฝากพูดขึ้น
“อืม.... ก็แอบเสียดาย เรา..... ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ใจหนึ่งก็อยากทำนะ จะว่าไป.... มันก็มีเหตุผลของเราอยู่....” ชานนท์พูดไปก็นึกถึงภาพอดีตของตนเองที่มีแต่ความผิดหวังซ้ำซาก “เอ้อ!! แล้วนายล่ะ!!  นายก็ดูไม่ค่อยอยากทำเหมือนกันนี่ ทำไมไม่ไปลาออก” ชานนท์หันไปถามกลับบ้าง

“กูก็...... มีเหตุผลของกูอยู่” เสียงของวรุฒแฝงไปด้วยความจำใจ แต่ก็ไม่มีความเกรี้ยวกราดแฝงอยู่
“.........” ชานนท์ไม่ได้ตอบอะไร เขาได้แค่นั่งเหม่อมองโครงสร้างใบหน้าของเพื่อนร่วมห้องที่เขาไม่สามารถระบุอารมณ์ได้ถูก

“เออ!! ว่าแต่ เรื่องที่กูให้มึงไปจัดการเรียบร้อยดีใช่ไหม?” วรุฒพูดตัดบรรยากาศที่สงบเงียบลง
“เรียบร้อยสิ แต่ก็เกือบไป เกือบจะเจ็บตัวรอบสองแล้ว โชคดีนะที่มายด์มาทันเวลา เธอนี่สุดยอดไปเลย นอกจากที่เธอจะไม่กลัวพวกนักเลงพวกนี้แล้ว เธอยังทำให้พวกนั้นผงะถอยไปเลย!!” ชานนท์พูดด้วยท่าทางตื่นเต้น
“เป็นไปตามแผน! กูบอกแล้วว่า ยัยมายด์น่ะ น่ากลัวกว่าพวกนักเลงพวกนั้นเยอะ!! ขนาดกูเองยังไม่อยากจะมีเรื่องกับเธอเลย เห็นสวยๆ น่ารักๆ แบบนั้น ก็สายดำอาคิโด้ ยูโด และเทคอวนโด้นะ!!”

“โห!! เยอะไปนะ!! จริงง่ะ!!” ชานนท์รู้สึกทึ่งและอึ้ง
“เออสิ!! เพราะความห่วงของพ่อของยัยนั่น บวกกับความชอบส่วนตัวนั่นแหละ ความจริงที่น่ากลัวคือเธอไม่ได้บอบบางอย่างที่เห็นภายนอกเลย!! ตอนเด็กเคยเล่นต่อสู้กับยัยนั่น ไม่เคยชนะเลย!” วรุฒมีสีหน้าที่สนุกสนานและยิ้มแย้มมากขึ้นจนเหมือนเด็กจากการพยายามนึกถึงเรื่องอดีตวัยเด็ก

“ทำไมพ่อของมายด์ถึงให้มายด์เรียนอะไรพวกนี้?”
“ก็..... อืม......... ไปถามยัยนั่นเองดีกว่านะ เข้าเรื่องกันดีกว่า!!” วรุฒนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง
“ทางฝั่งนี้น่าจะโอเค พี่พัฒน์ดูท่าทางสนใจมายด์อยู่ไม่น้อยเลย”
“ก็แน่ล่ะ ตัวเก็งดาวมหาวิทยาลัย แล้วก็มีความชอบคล้ายกัน น่าจะดึงดูดหากันได้ไม่ยาก”
“แล้วนายคิดดีแล้วเหรอ? เรื่องที่จะไม่บอกให้มายด์รู้เรื่องที่เราจะทำเนี่ย”
“เอาน่าๆ ยัยนั่นไม่ชอบเรื่องอะไรพวกนี้ บอกไปก็ใช่ว่าจะยอมร่วมมือด้วย ไม่รู้แบบนี้ล่ะดีแล้ว จะได้ดูเป็นธรรมชาติ ยัยมายด์น่ะ แสดงละครไม่เก่งหรอก!”
”อืมมมม” ชานนท์มีท่าทางคิดหนักจนแสดงออกทางสีหน้า
“เอาน่า มึงก็อย่าไปคิดมาก!!”
“จะไม่ให้คิดมากได้ไง!! นายก็น่าจะเคยเห็นเวลาเธอลงมือนี่นา หวังว่ามายด์จะไม่โกรธเรื่องนี้นะ!!”
“มึงก็อย่าให้เธอรู้สิ!! อย่าหลุดพูดอะไรออกไปเด็ดขาด อีกอย่างเรื่องแบบนี้เราแต่จัดฉากเท่านั้น ที่เหลือก็อยู่ที่ยัยนั่นว่าจะเลือกปฏิบัติแบบไหน เราไม่ได้บังคับเสียหน่อย ขอแค่กันไอ้พี่พัฒน์ มันออกไปได้ก็พอ กูจะได้จัดการฝั่งนี้สะดวกๆ หน่อย” วรุฒร่ายยาวด้วยสีหน้าเจ้าเลห์ ช่วงนี้ชานนท์ได้เห็นอารมณ์ต่างๆ จากวรุฒมากขึ้นหลังจากที่ได้ใกล้ชิดกัน ทำให้เขาเห็นมุมเด็กๆ ที่ซุกซนของวรุฒพอสมควรจนเผลอเล่นตามไปด้วย บรรยากาศตึงเครียดในห้องดูลดน้อยลงไป แต่แลกกับการร่วมมือวางแผนแปลกๆกับวรุฒ ซึ่งให้ความรู้สึกอันตรายพอๆกัน

“แล้วฝั่งนายล่ะ?”  ชานนท์ตัดบทถามออกไป
“ไม่ต้องห่วง คนบ้าผู้ชายแบบนั้น ไม่ได้คิดอะไรมากอยู่แล้ว ยัยนั่นแทบจะไม่เห็นไอ้พี่พัฒน์อะไรนั่นเป็นแฟนเสียด้วยซ้ำ เหมือนคบกันแก้เหงา”
“แล้วนายจะทำไงต่อ?” ชานนท์ไม่ค่อยอยากถามคำถามนี้เสียเท่าไหร่ แต่เพราะตนเองถลำลึกมาขนาดนี้แล้วคงต้องเดินหน้าต่อเท่านั้น
“โอเค!! นึกว่านายจะไม่ถามเสียแล้ว วันถัดไปก็พยายามพายัยนั่นไปที่นั่นอีก และพยายามให้ทั้งสองคนสานสัมพันธ์กัน!!” วรุฒยิ้มเจ้าเลห์อีกครั้ง

“นายก็พูดง่าย!!”
“มึงไม่เคยจีบหญิงหรือไง?! ใช้หัวหน่อยสิ!!”
“ก็ไม่เคยน่ะสิ ถามได้......” ชานนท์พูดเสียงหายเข้าไปในลำคอ
“เฮ้ย!! จริงดิ!!” วรุฒหันมาถามด้วยสีหน้าแปลกใจ “เอ่อ..... อืม.... ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูช่วย แต่ที่เหลือ ถ้าเจอสถานการณ์เฉพาะหน้ามึงต้องด้นสดเองนะ!!” วรุฒเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะย้ำ
“อืม” ชานนท์พยักหน้าเล็กน้อยและมีอาการกลุ้มใจอยู่ในแววตา
“ที่เหลือ.....เดี๋ยวกูจัดการฝั่งนี้เอง” วรุฒพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางมั่นใจ


......................................

ออฟไลน์ Shonennihon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +118/-1
......................................

เหตุการณ์ในวันถัดไปคล้ายภาพเดจาวู มันเกิดขึ้นซ้ำเหมือนเมื่อวาน แปลกแต่ที่มายด์กลับเป็นคนชวนชานนท์ไปร้านเดิมด้วยตนเอง แต่วันนี้มีเมย์ติดตามมาด้วย ชานนท์พยายามหาโอกาสให้พวกพี่พัฒน์เห็น และก็เป็นอีกครั้งที่เขาจะโดนมาหาเรื่องเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้พวกนั้นดูจะไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่าแค่พูดขู่เหมือนหมาดุที่เห่าผ่านกรงเท่านั้น พวกนักเลงลูกน้องพี่พัฒน์ มักจะมาจับกลุ่มนั่งเล่นกันที่โต๊ะใหญ่หน้าร้าน ดูเผินๆ เหมือนกลุ่มวัยรุ่นนั่งพูดคุยเล่นกัน แต่ความจริงแล้วแต่ละคนมีคดีติดตัวเรื่องความรุนแรงเกือบทุกคน ไม่รู้ว่าพี่พัฒน์คบกับพวกเหลือขอเหล่านี้ได้อย่างไร
 
เมื่อถึงคราวที่พี่พัฒน์เดินมาที่ร้านในเวลาเดิม ครั้งนี้พี่พัฒน์ไม่ได้เดินมาห้ามปรามอะไรกลุ่มของตนเองเพียงแค่มองปราดเดียวพวกสุนัขในกรงทองพวกนั้นก็เงียบกริบ พี่พัฒน์ยิ้มอ่อนๆ มาที่ชานนท์ก่อนจะกวาดตามองในร้านคาเฟ่ไปเจอเป้าหมายที่เขาสนใจ ดูท่าทางชานนท์คงไม่ต้องทำอะไรมากมายเพราะความสวยน่ารักของสาวๆ ที่เขาพามาด้วยมันช่วยให้แผนสำเร็จไปกว่าครึ่งเสียแล้ว

“ว่าไงครับ ขอบคุณที่ยังให้โอกาสร้านนี้อีกนะครับ” ชานนท์เดินตามมาทันพี่พัฒน์พูดประโยคแรกพอดี
“ก็มันอร่อย และวันนี้ยังได้มากินแบบฟรีๆ แบบนี้ จะพลาดได้ไงล่ะคะ วันนี้ก็เลยชวนเพื่อนมาด้วยคะ” มายด์พูดจบก็ปรายตาไปทางเมย์ที่สนใจขนมบนโต๊ะมากกว่าเพื่อนที่อยู่ข้างๆ
“ชอบไหมครับน้อง?” พี่พัฒน์เลื่อนสายตาไปทางเมย์ที่กำลังพินิจพิเคราะห์วัตถุดิบของขนมหวานสีสวยตรงหน้า
“ชอบคะ” คำตอบสั้นๆ จากปากสาวผิวสีน้ำผึ้งตาโตที่ก้มหน้าก้มตาตอบกลับมาได้น่ารักไม่แพ้มายด์

“น้องชอบพี่ก็ดีใจ พี่กับเพื่อนพี่คิดค้นกันเองเลยนะ พี่เป็นคนชอบของหวานน่ะครับก็เลยหาหุ้นส่วนมาเปิด บังเอิญไปรู้จักกับน้องเอกคหกรรมคนหนึ่งเข้า เลยได้เปิดร้านสมใจเลย” อยู่ๆพี่พัฒน์ก็พูดร่ายยาวเรื่องส่วนตัวที่ดูจะไม่เข้ากับรูปร่างหน้าตาขึ้นมา พี่พัฒน์เป็นคนรูปร่างใหญ่ ไม่เรียกว่าอวบอ้วนแต่น่าจะเรียกได้ว่าล่ำ ร่างกายทุกส่วนเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อใหญ่ๆ อัดแน่นไปหมดจนแม้แต่ยูนิฟอร์มนักศึกษายังไม่สามารถปิดกั้นความแน่นของกล้ามเนื้อเขาได้ แต่ก็ไม่ได้เยอะเกินไปเหมือนนักกล้าม ชานนท์สำรวจร่างกายอีกฝ่ายขณะนั่งลงข้างๆ เมย์ พี่พัฒน์เหล่มองชานนท์แต่ก็ทำนิ่งเหมือนไม่ได้สนใจเขาเลย

“ดูไม่ออกเลยนะคะว่าพี่จะชอบของหวาน” เมย์เริ่มเอ่ยคำที่ไม่ค่อยน่าฟังออกมาอีกแล้ว เลิกเลี้ยงสุนัขไว้ในปากเสียที!!
“ใครๆก็พูดแบบนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า” พี่พัฒน์หัวเราะร่าออกมาอย่างผิดคาด อาจเพราะคนพูดเป็นสาวน้อยน่ารัก หากเป็นชานนท์เป็นคนพูดคงได้ลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นเพราะฤทธิ์หมัดซ้ายมรณะที่เขาลือกัน เพียงแค่คิดรอยช้ำที่โดนพี่พัฒน์ทำไว้ก็เกิดอาการหน่วงตึบขึ้นมาเป็นจังหวะจนชานนท์แอบยกมือขึ้นลูบท้องเบาๆ

“แต่มันสุดยอดเลยนะคะ มันไม่หวานเกินไปทั้งๆ มันมีสีสันที่หวานขนาดนี้ ทำยังไงคะเนี่ย?” มายด์เสริมต่อในขณะที่ในมือก็ยังเขี่ยของหวานในชามไปมาก่อนที่จะใช้ช้อนตักเข้าปากคำน้อยๆหนึ่งคำ

“จริงด้วย!!” เมย์มีทีท่าสนใจกับการสนทนามากขึ้นจนหันมาสบตาพี่พัฒน์ และส่งสายตาเป็นเชิงอ้อนวอนคำตอบเพราะความอยากรู้
“เป็นความลับครับ! หากอยากรู้ก็มาชิมบ่อยๆ แล้วลองทายดูอาจจะถูกสักวันนะครับ” พี่พัฒน์ยิ้มตอบกลับมาอย่างเบิกบาน ใบหน้าที่ดูขึงขังน่ากลัวในความคิดของชานนท์ก่อนหน้านี้กลายเป็นใบหน้าเทพบุตรในผิวสีเข้ม พี่พัฒน์ถือว่าเป็นหนึ่งใน ‘คิ้วท์บอย’ ในตำนานของมหาวิทยาลัยนี้ เขาเป็นคนที่มีหน้าตาหล่อเหลาแบบไทยๆ ผิวที่ละเอียดสีแทน มันรับกับฟันที่เรียงตัวสวยขาวสะอาด รูปร่างนักกีฬาที่มีดีกรีเป็นนักกีฬารางวัล ทำให้เขาป้อปปูล่าในสาวๆ มหาวิทยาลัยพอสมควร

“แหม!! ขี้หวงสูตรอีกต่างหาก” เมย์โวยด้วยท่าทางหยอกเย้า เธอเป็นคนที่เข้ากันคนอื่นง่ายเหมือนเคย ในขณะที่มายด์ก็แค่ยิ้มและหัวเราะตามเท่านั้น
“เอางี้สิ มาเป็นสมาชิกที่นี่สิ เวลามีส่วนลดหรือโปโมรชั่นอะไรจะได้รู้ก่อนคนอื่นเขา แถมยังสะสมคะแนนได้ด้วยนะ!! แอดไลน์มาเลย!!” พี่พัฒน์ยื่น QR code จากป้ายบนโต๊ะข้างๆ มายื่นให้ทั้งสองสาว
“ขายเก่งจริงๆ นะคะ” มายด์แซวพร้อมกับยกโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดขี้นมาสแกนอย่างรวดเร็ว ส่วนพี่พัฒน์เองก็หยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นเดียวกันออกมาเช็คอย่างอัตโนมัติเช่นกัน

“เหมือนขอไลน์ไอดีกันเนียนๆเลยนะเนี่ย!” เมย์เห็นรูปการณ์แล้วก็อดแซวไม่ได้
“รู้ทันแบบนี้ อย่าบล็อกพี่นะครับ” พี่พัฒน์ยิ้มผูกมิตรอย่างเกินพอดี แต่ก็เป็นยิ้มที่สวย ฟันเรียงกันสวยจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นนักมวย
“จะจีบยัยมายด์หรือคะ บอกไว้ก่อนนะคะว่า....อุ๊บอิบอุบอิบ” ส่วนท้ายประโยคของเมย์ถูกมือของมายด์มาอุดปากไว้ด้วยทิชชูปึกใหญ่จากบนโต๊ะ
“อย่าไปฟังยัยปากมากนี่เลยคะ ชอบพูดอะไรไร้สาระ” มายด์พูดต่อด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ
“รู้ทันไปหมดแบบนี้พี่ก็แย่สิครับ” พี่พัฒน์หัวเราะกลบเกลื่อน ชานนท์ได้แต่แอบสั่นหน้ากับความเจ้าชู้ของอีกฝ่าย
“แล้วแฟนพี่เขาไม่ว่าพี่เหรอคะ พี่อะไรนะ พี่... พี่วิน่ะคะ” มายด์ตอบกลับหน้าตาย ส่วนชานนท์ได้แต่มองหน้ามายด์อย่างทึ่งในความรอบรู้ของอีกฝ่าย

“พี่กับเธอก็แค่เคยคบกันน่ะครับ แต่ก็ยังเป็นสนิทกันอยู่ครับ” พี่พัฒน์ตอบกลับทันควันด้วยสีหน้าประโยคบอกเล่าตามปกติ เขาไม่ได้ลนลานในการตอบคำถามแบบนี้เลย
‘สนิทแบบไหนถึงได้หวงก้างกันขนาดนั้นวะ’ ชานนท์แอบสวนกลับในใจ พลางยกย่องไหวพริบของอีกฝ่าย
“เหรอคะ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีนะคะ มายด์ไม่อยากเป็นมือที่สามแม้จะแค่คุยกันแบบพี่น้องก็เถอะคะ” มายด์พูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง แม้จะมีหน้าตาน่ารักอ่อนต่อโลกแต่มายด์ก็เป็นคนทันคนกว่าที่เห็นมาก แม้แต่เมย์ยังนั่งจ้องดูมารยาของมายด์อย่างเงียบเชียบ

บรรยากาศต่อจากนั้นชานนท์และเมย์ก็เหมือนเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากที่ให้มายด์และพี่พัฒน์ตัวหลักทั้งสองได้นั่งพูดคุยกันอย่างออกรส จนกระทั่งมายด์ขอตัวกลับไปหอพัก ในตอนแรกพี่พัฒน์ขออาสาไปส่งมายด์กับพวกเขากลับหอพักแต่มายด์ปฏิเสธเสียงแข็งจนพี่พัฒน์ไม่กล้าเซ้าซี้ และยอมให้พวกชานนท์เดินกลับมาด้วยกันแต่โดยดี

............................................

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด