{ yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61  (อ่าน 163828 ครั้ง)

ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม










ทำแบบนี้...ขาดอากาศหายใจพอดี




เพราะเขาทำแบบนี้ไง ถึงได้รู้สึกหวั่นไหว หายใจติดๆ ขัดๆ ทุกที






Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-12-2018 09:23:43 โดย Swanlee »

ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
01



เรื่องที่ต้องรู้ คือเรื่องของคุณทั้งนั้น



 

มันมีไม่กี่คนหรอกที่ทำให้รู้สึกประทับใจตั้งแต่แรกเจอ จนอยากตามหา อยากพูดเรื่องดีๆ ในแต่ละวันให้ฟังเพื่อที่จะสนิทกับเขาคนนั้นได้มากขึ้น ความรู้สึกแบบนี้ถูกเรียกว่า ถูกใจตั้งแต่แรกเจอ ถูกชะตา ต้องใจ หรืออีกอย่างในเชิงความรักก็คือ พรหมลิขิต



คนที่ใช้ชีวิตเพื่อจมอยู่กับงานและเที่ยวเล่นไปวันๆ อย่างผมไม่ได้อคติอะไรกับคำว่าพรหมลิขิต แค่เอือมกับมัน เพราะมักจะถูกคนรอบข้างถามถึงเรื่องนี้บ่อยๆ



ผมอายุยี่สิบแปด เริ่มทำงานตั้งแต่อายุยี่สิบเอ็ด คนรอบข้างเลยมองว่าถึงวัยที่สมควรมีครอบครัวสักที แต่โทษที ผมมีพี่สาวคนหนึ่งที่แต่งงานมีลูกไปแล้ว และพี่ชายสองคนที่ยังโสด แล้วทำไมผมต้องแต่งงานปาดหน้าพี่ๆ ไปก่อน



ด้วยความที่ผมเป็นลูกคนสุดท้อง ผมเลยเกือบเสเพล ทำอะไรตามใจตัวเองมาตั้งแต่ช่วงที่ยังเป็นวัยรุ่น ผมเรียนอยู่ที่อังกฤษตั้งแต่อายุสิบขวบ เพิ่งกลับไทยตอนอายุยี่สิบ เรียนอยู่ที่นี่ได้แค่แป๊บเดียวแล้วก็ใช้ชีวิตกับงานมาตลอด



ตอนนี้ผมสนุกกับงาน แฮงก์เอ้าท์กับเพื่อนกลุ่มเดียวกันในผับที่มีไฮโซระดับท็อปๆ ใช้บริการ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น



ดูไม่มีอนาคต แต่ผมดูแลกิจการของครอบครัวรวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตัวเอง



เวลางานผมจริงจัง เวลาเที่ยวผมก็จริงจังเหมือนกันกัน



ชีวิตวนเวียนอยู่แค่นี้ นอนดึก แต่ตื่นเช้าไปทำงาน พบลูกค้า ตกดึกก็เที่ยว ดื่ม (ยกเว้นวันไหนที่งานเยอะ ก็งดเที่ยว)



ง่ายๆ เลยนะ ผมยังไม่อยากมีใคร



หลายคนที่ผมเคยคุยยังไม่คลิกกัน ทุกคนเข้าหาผมมีอยู่ไม่กี่อย่าง ถ้าไม่คิดว่าผมรวย ก็คงอยากใช้ชีวิตเป็นคุณนายในวัง มีสามีที่เป็นราชนิกุล



ใช่ ผมมีวัง วังที่ผมกับครอบครัวเรียกว่าบ้าน



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรด ภัสร์ฤทัย



หรือที่ทุกคนมักเรียกว่า คุณชายโปรด



และผม เป็นคุณชายที่เข้าผับบ่อยทุกสุด ควงสาวเยอะที่สุดในบรรดาพี่น้อง



โลกของผมไม่ได้แคบ แต่ผมเลือกจะใช้เวลาว่างอยู่ในผับ เพื่อนมักบอกว่าฉากการทำงานของผมก็แค่ตัวปลอม ที่แท้จริงผมมือต้องถือแก้วแอลกอฮอล์ ใช้สายตามองเหยื่อแล้วจับขึ้นห้อง ไม่ใช่ผมที่นั่งทำงานอยู่ในบริษัท



มีแต่คนบอกว่าผมเจ้าชู้



แต่เหมือนกับว่าไอ้นิสัยที่คนบอกว่าเจ้าชู้ของผมมันกำลังจะหายไปตลอดกาล เมื่อสายตาของผมเห็นกระต่ายตัวขาวกำลังแบกผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่ชุดนักศึกษา งงมั้ย กระต่ายจะแบกคนได้ยังไง



เขาเป็นคน...คนนั้นที่ผมเห็นดูนุ่ม ฟู แก้มกลม น่ารักเหมือนกระต่าย



น่ารักเหรอวะ



ผมห่างหายจากความรู้สึกแนวๆ นี้ไปนานมาก ผมไม่เคยมองอะไรสวยงามหรือน่ารัก แต่เด็กคนนั้นทำให้สายตาของผมล็อกเขาเอาไว้



“ไอ้คุณชาย มึงได้ยินกูมั้ยวะ”



“อะไร”



ผมไม่ได้ยิน เพราะเวลาที่จดจ่อกับอะไรสักอย่าง หูตาของผมจะไปอยู่ที่นั่น



อือ ตอนนี้ผมกำลังมองกระต่าย



“กูถามว่า ที่นี่ให้เด็กอายุไม่ถึงยี่สิบเข้าได้ด้วยเหรอ”



“ไม่รู้”



“มึงดูนั่น”



ผมเหลือบตามองตามของไอ้จอมภพ เพื่อนสนิทของผมเอง มันกำลังชี้ไปที่กลุ่มนักศึกษา และกระต่ายขาวของผมที่ยืนอยู่ในกลุ่มนั้น



“โตกันแล้ว”



“โตเหี้ยอะไร น้องที่แบกไอ้หัวเหลืองอยู่ กูว่าไม่ถึงยี่สิบ”



ผมเหลือบตามองไอ้ภพอีกครั้ง รู้ทันทีว่ามันกำลังเล็งกระต่ายตัวเดียวกับผม



และรู้ว่ามันทำได้แค่มอง เพราะจอมภพมีแฟนอยู่แล้ว



“น้องกลุ่มนั้นบรรลุนิติภาวะแล้วไอ้ภพ”



ผมละสายตาจากไอ้จอมภพเมื่อเสียงของไอ้พีชดังขึ้น ได้รับคำยืนยันจากเจ้าของผับแล้วว่าเด็กกลุ่มนั้นมีอายุที่สามารถเที่ยวผับได้



“หม่อม ทำไมวันนี้มึงดื่มน้อย” ไอ้พีชถาม มันไม่เคยเรียกชื่อเล่นผม เลยทำให้ผมมีชื่อเล่นเฉพาะที่มันเรียกเท่านั้น



“จะเข้าพรรษาแล้ว”



“สาบานนนน คอแข็งเป็นหินอย่างมึงเนี่ยนะจะเลิกเหล้าเข้าพรรษา”



ไม่หรอก เทศกาลไหนก็มาหยุดความชอบของผมไม่ได้ แต่รู้มั้ย ว่าเราต้องทำตัวดีๆ ให้ดูดีเพื่อเข้าหาคนที่ต้องตา ตัวผมอาจจะมีกลิ่นเหล้า แต่ก็พยายามทำให้ได้กลิ่นน้อยที่สุด



ถ้าน้องกระต่ายไม่ชอบเหล้า ผมก็พร้อมเลิกให้ตอนนี้เลย



“เหมือนว่าน้องเขาจะมีปัญหาหรือเปล่าวะ” ไอ้ภพช่างสังเกต แต่มันไม่เคยที่จะสังเกตเงียบๆ



ต่างจากผม



กระต่ายอยู่ในสายตาผมตลอด ผมว่าน้องเขาทำหน้ามุ่ย ซึ่งเป็นสีหน้าที่น่ารักมาก ปากจิ้มลิ้มพึมพำอะไรสักอย่างกับคนหัวเหลืองที่เมาปลิ้น



ผมยกโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา เข้าโหมดกล้อง ซูม และกดชัตเตอร์ทุกอิริยาบถของเด็กคนนั้น



น่าเอ็นดูมาก



“เชี่ย แม่งอ้วกใส่ร้านกูอีกแล้ว”



ไอ้พีชจิ๊ปาก ยกมือกุมขมับตอนที่ไอ้เด็กหัวเหลืองเอาทุกสิ่งออกจากปากแล้วพ่นลงพื้น ผมเหลือบตาหลบภาพนั้น แต่ยังไม่สามารถละสายตาจากกระต่ายตัวขาวได้



น้องเขาไม่มีอาการรังเกียจสักนิด



หรือชินแล้ววะ



ผ้าเย็นแจกแขกถูกฉีกมาเช็ดเสื้อกับปากไอ้เด็กหัวเหลือง กระต่ายของผมทำหน้าที่เก็บซากให้เกือบทั้งหมด ยกเว้นพื้นที่ผมภาวนาไม่ให้น้องเขาก้มลงไปเช็ด



แล้วผมก็หายใจทั่วท้องเมื่อเห็นว่ากระต่ายตัวนั้นแบกไอ้ตัวปัญหาเมาปลิ้นไปที่นั่งพักอีกฝั่งโดยไม่ก้มลงไปทำความสะอาดพื้นร้านให้ไอ้พีช



“มึงควรคัดลูกค้าแล้วว่ะ เกรดต่ำแบบนั้นห้ามเข้า”



ไอ้ภพพึมพำบอก ผมยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ สายตาจ้องน้องคนนั้น



“เกรดต่ำเหี้ยอะไร ไอ้หัวเหลืองลูกดาราดัง ส่วนน้องคนที่แบกมันอยู่เป็นลูกชายหม่อมราชวงศ์เทพพงศ์ วงศ์ประดิษฐ์”



“นามสกุลวงศ์ประดิษฐ์?” ผมพึมพำแล้วหันหน้ามองไอ้พีช



“มึงรู้จักเปล่าวะไอ้หม่อม นั่นน่ะลูกชายคุณแอ้ เผื่อเป็นเพื่อนแม่มึง”



“รู้ได้ไงว่าแม่เขาชื่อแอ้”



“แม่เขาเป็นมิสยูนิ เวิลด์ เวิร์สอะไรสักอย่างสมัยสาวๆ เดือนก่อนยังออกข่าวพิธีเปิดงานกินทุเรียนอยู่เลย”



รู้ลึก



คุณแม่ผมมีเพื่อนเป็นนางแบบนางงามหรือไฮโซเยอะ เพราะท่านอยู่ในแวดวงนี้ ผมคุ้นชื่อคุณหญิงแอ้ แต่ก็แค่คุ้น ผมไม่รู้จักเขาหรอก



ระหว่างที่ไอ้ภพกับไอ้พีชกำลังคุยเรื่องนางงามที่ผมเข้าไม่ถึง จู่ๆ กระต่ายน้อยก็พาไอ้หัวเหลืองเดินผ่านโต๊ะที่ผมกำลังนั่งอยู่



แต่คนเมาจังหวะเก้ามันมันก็เป๋ตามประสา ไอ้หัวเหลืองสะดุดบันไดล้มคะมำ และนั่นก็ทำให้ผมได้ยินเสียงหวานๆ ของกระต่ายร้องตกใจ



“พี่ปัน ลุกๆ พื้นมันนอนไม่ได้”



“ง่วงงงงแล้วน้องพี่ ขอนอนตรงนี้ละกัน”



“พี่ปัน ลุกขึ้นเถอะครับ อายคนอื่นเขา”



“เหล้าสักแก้ว เดี๋ยวเข้าพรรษาพี่จะจำศีลแล้วน้องเอ๋ย”



“พี่ปัน”



กระต่ายย้ำชื่อของไอ้หัวเหลือง ใบหน้าจิ้มลิ้มมู่ทู่ จมูกโด่งสวยย่นฟึดฟัด ปากอวบๆ สีชมพูของน้องเขาเม้มเล็กน้อย กระต่ายตัวขาวยืนเท้าเอวมองคนเมาที่สลบแทบเท้าเล็กๆ ของน้อง



ดูเหวี่ยง



แต่น่ารักว่ะ



“ถ้าพี่ปันไม่ลุก เอ็นจะกลับแล้วนะ”



“อย่าทิ้งเพ่ นี่เพ่รหัสงาย เอิ้ก”



“มึงไปช่วยน้องเขาหน่อยดิ นั่นลูกค้ามึงอ่ะ” ไอ้ภพพเยิดหน้า ดันไหล่ให้ไอ้พีชไปช่วยพยุงลูกค้าขึ้น



แต่ไอ้พีชขืนตัว แล้วเถียงอะไรไม่รู้กับไอ้ภพสองคน ผมเลยตัดความรำคาญ ลุกขึ้นเต็มความสูง ก้าวเท้าเดินลงบันไดสองขั้น แล้วย่อตัวจับปีกคนเมาให้ลุกขึ้น



“เชี่ย/แม่มึ้ง” เสียงไอ้สองคนนั้นสบถดังแว่ว



“ขอบคุณครับ” แต่เสียงหวานของน้องกระต่ายกลบเสียงของไอ้สองคนนั้น



น้องเขาไม่เงยหน้ามองผม เพราะมัวแต่ก้มหน้าประคองไอ้ขี้เมา



เคยเห็นกระต่ายน้อยตาแดงมั้ยครับ เขาว่ากันว่าดุเอาเรื่อง เข้าใกล้อาจโดนกัด ขนาดเจ้าของเลี้ยงจนเชื่องยังใช้เขี้ยวคมงับนิ้วได้เลย



น้องคนนี้เป็นกระต่ายแบบนั้น



น่ารัก ฟึดฟัด น่าฟัดด้วย



ผมเผ้าของน้องเขาฟูเพราะรบกับไอ้ขี้เมา ใบหน้าขาวกระจ่างมู่ทู่เพราะไอ้ขี้เมาเป็นต้นเหตุ ผมชอบเครื่องหน้าของน้อง ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว น่าดู น่ามองไปหมด



“พี่ปัน ใจเย็นๆ ยืนให้ตรงก่อนแล้วค่อยเดิน”



“น้องครับ เดี๋ยวให้รปภมาช่วย”



ไอ้พีชตัดสินใจลงมาทำหน้าที่เจ้าของร้าน แต่การที่มันใช้คำว่ารปภ ทำเอากระต่ายน้อยของผมเงยหน้าสบตากับมัน พร้อมทำหน้าเป็นกระต่ายตื่นตูม



“ขอโทษนะครับ เขาเป็นพี่รหัสผมเอง” ถึงผมจะเห็นใบหน้าจากด้านข้าง ก็รู้ได้เลยว่าน้องกำลังกังวล



“เฮ้ยน้อง ใจเย็นครับ พี่ไม่ได้ให้คนมาลากเพื่อนน้องไปไหน”



“น่ารักจริงๆ ว่ะ”



ไอ้พีชคุยกับน้อง ส่วนไอ้ภพเดินมากระซิบข้างๆ ผม



“อ่อ ครับ”



ผมจับปีกขวาของไอ้เด็กขี้เมา ส่วนน้องเขาจับปีกซ้าย



ผมจับด้วยมือข้างเดียว แต่น้องเขาต้องจับแน่นด้วยมือถึงสองข้าง



“อย่าพาพี่กลับบ้านนะเอ็นดู ไม่งั้นพี่โดนแม่ตีแน่ๆ เลย ฮือ”



“ไม่กลับครับไม่กลับ เดี๋ยวคืนนี้ไปนอนห้องเอ็นนะ”



“ฮืออออ เอ็นดู”



ไอ้ขี้เมาเศร้าอะไรมาไม่รู้ มันทำท่าจะคว้าคอน้องเขามากอด แต่โชคดีที่น้องเขาผงะออกและเป็นช่วงที่รปภวิ่งเข้ามาอุ้มไอ้ขี้เมานี่ได้พอดี



แต่น้องชื่อเอ็นดูเหรอ



น่าเอ็นดูสมชื่อเลยว่ะ



ผมยืนมองน้องเขาที่เอาแต่ชะโงกหน้ามองร่างเมาๆ ของพี่รหัสที่ถูกหิ้วออกไปข้างนอก



น้องเขาดูสับสนเมื่อเงยหน้าสบตากับไอ้พีช ส่วนไอ้เจ้าของร้านคนนี้ก็ยืนลุ้นว่าน้องเขาจะพูดอะไร



จุดๆ นี้ผมอิจฉามัน ทั้งที่ผมเสนอตัวเข้าช่วยแต่ก็แพ้คำว่ารปภ หรือผมควรพูดออกไปว่าจะเอาตำรวจมาจับไอ้เมานั่นดี ถึงจะได้รับความสนใจบ้าง



“ขอบคุณนะครับ แล้วก็ขอโทษด้วยนะครับ ร้านเลอะไปหมดเลย”



“ไม่เป็นไร พี่เข้าใจคนเมา”



ผมเห็นว่าน้องเขายิ้มเจื่อน ผงกศีรษะเบาๆ แล้วทำท่าจะวิ่งตามร่างของไอ้ขี้เมาออกไป แต่ผมไวกว่า เอื้อมมือคว้าต้นแขนของน้องเขาไว้



แล้วก็พบว่าแขนน้องเขานุ่มมาก



เพราะความนุ่มทำให้ผมเผลอออกแรงบีบจนเสียงหวานๆ ครางออกมา



ใครจะไปรู้ว่าจะบอบบางขนาดนี้



ผมเลยคลายมือจนสุดท้ายก็ปล่อยแขนของกระต่าย ผมกำมือแล้วล้วงไว้ในกระเป๋ากางเกงพร้อมกับสร้อยข้อมือที่น้องเขาทำหล่นบนพื้นไว้เมื่อกี้



แม้แต่หน้าน้องเขายังไม่กล้าเงยขึ้นมอง



ผมไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นสักหน่อย



“ขอบคุณครับที่ช่วยพยุงพี่ปัน”



น้องเขาคงคิดว่าที่ผมจับแขนไว้เพราะอยากได้คำขอบคุณ ความจริงผมไม่ได้อยากได้คำขอบคุณอะไรจากน้องเขาเลย



แต่ที่ผมอยากได้คือ



“ชื่ออะไร”



เสียงหวานๆ ของน้องเขา



“เอ็นดูครับ”



ผมอยากให้เขาเงยหน้ามองผม



“อายุเท่าไหร่ ยังเรียนอยู่เข้าผับได้ยังไง” แล้วผมจะเผลอทำเสียงเข้ม



“ไอ้เชี่ย มึงดุอะไรขนาดนั้น เป็นพ่อน้องเขาหรือไง”



เสียงไอ้ภพทำให้ผมกระตุกยิ้ม



กระต่ายตาแดงเป็นกระต่ายที่ดุ ผมเลยต้องใช้ความดุของตัวเองเข้าข่ม



 “อายุยี่สิบสองครับ ส่วนพี่ปันยี่สิบสาม”



ผมไม่ตอบอะไร แต่ยืนมอง ใช้ความเงียบของตัวเองกดดันให้น้องเขาเงยหน้ามอง แต่ก็ไม่



จนแล้วจนรอดกระต่ายก็ไม่ยอมสบตา น้องเขาไม่ได้ก้มหน้า แต่เหลือบตามองอย่างอื่น ผมขยับเท้าถอยหลังเล็กน้อย และเป็นจังหวะที่น้องเขาหมุนตัวหันหลัง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งหนีผมไปพร้อมกับเสียงหัวเราะของไอ้พีชกับไอ้ภพ



ผมมองตามแผ่นหลังเล็กๆ ที่ค่อยๆ หายไป และก่อนที่ประตูจะปิดลง ผมเห็นว่าน้องเขาหันหน้ามองเข้ามาในร้าน ดวงตาประกายคู่สวยสบสายตากับผมอย่างจัง และหายไปเมื่อประตูปิดสนิท



แล้วอาการถูกตา ต้องใจ ก็เกิดขึ้น กระต่ายน้อยที่ไม่มองหน้าผม เสียงหวานที่ดังวนอยู่ในความคิด



ถึงไม่ใช่ซินเดอเรลล่าทิ้งรองเท้าให้เจ้าชาย แต่น้องเขาทิ้งสร้อยข้อมือไว้ให้



และถึงผมจะไม่ใช่เจ้าชาย แต่หลังจากนี้ก็คงต้องตามหาเจ้าของสร้อยข้อมือเส้นนี้ซะแล้ว









#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

 


-----


เปิดเรื่องแย้วคับทุกคน><

ชื่อเรื่องยาวที่สุดตั้งแต่แต่งมาเลย 5555

ฝากด้วยนะคะ พงือ

 :katai4:
 

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
มาเอาใจช่วยให้คุณชายโปรดตามหาน้องเอ็นดูให้เจอโดยไว

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
เปิดเรื่องใหม่แย้ว​ ละมุนเหมือนเดิม​ น้องเอ็นดูน่าบีบจังเย​ยย​ คุณชายตามหาตัวน้องให้เจอไวๆน้า :katai3:

ออฟไลน์ เปลว แว๊บแว๊บ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ฮือออ น้องเอ็นดู น่าเอ็นดูจังเลยค่ะ

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
 ชอบชื่อน้องมันช่างน่ารัก น้องเอ็นดู มาต่อเร็วๆน้า :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
02



ซึมซับ ลึกซึ้งทุกสัมผัสชัดเจน

 



“แม่ว่าชุดนี้สวยดีนะ”



“ชุดนี้ก็สวยค่ะ เหมาะกับคุณแม่”



เครื่องเพชรระยิบระยับแสบตาจนคนตัวสูงที่นั่งอยู่ถึงกับหันหน้าหนี เสียงพูดคุยกันของคุณปนัดดากับหม่อมราชวงศ์รฐา ภัสร์ฤทัย ดังขึ้นภายในห้องรับรองของวังภัสร์ฤทัย คุณชายทรงโปรดเดินหนีมาอยู่ในห้องครัว ตอนแรกเขานั่งอยู่ข้างๆ พี่สาวกับคุณแม่ แต่เพราะแสบตาเครื่องเพชรนี่แหละ เลยต้องหาที่หลบ



เพราะว่าทรงโปรดเป็นคนที่ว่างที่สุดในบรรดาพี่น้อง หลังเลิกงานเลยถูกโทรตามให้กลับวังทันที ความคิดที่จะไปนั่งสังสรรค์กับเพื่อนหายวับไปกับตา



วันนี้เขาต้องไปงานเลี้ยงวันเกิดของคุณหญิงแป้วอะไรสักอย่างที่เขาไม่รู้จัก แต่พี่สาวกับคุณแม่รู้จักเป็นอย่างดี



 

Prod: ถ้าใครเลิกงานแล้วก็อยากให้มาอยู่ที่วังด้วยกันนะครับ

Prod: รถยังไม่ออก มีเวลาอาบน้ำแต่งตัวไปงานกับคุณแม่

Khun: โชคดีนะโปรด ตอนนี้พี่ยังอยู่ที่บริษัท

Plerng: พี่ติดประชุม

 



ดีมั้ยล่ะ พี่ชายทั้งสองของเขา หม่อมราชวงศ์ทรงคุณ กับ หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง หาเรื่องหนีงานเลี้ยงทั้งที่วันนี้ก็ว่างเหมือนกัน คุณชายทรงโปรดพิงสะโพกลงบนโต๊ะสีขาว คลี่ยิ้มให้กับหน้าจอโทรศัพท์ที่ขึ้นแชตของพี่ชายทั้งสอง



“น้องชายโปรด อยู่ไหนคะ รถมารอรับแล้วนะ”



ดวงตาคมละจากโทรศัพท์ก่อนเก็บมันใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง เขาเดินออกจากห้องครัวหลังจากที่ซ่อนตัวอยู่ในนี้ได้แค่แป๊บเดียวเท่านั้น คุณชายทรงโปรดเลิกคิ้วสงสัยเมื่อเห็นคุณแม่กับพี่สาวยืนชะเง้อคอมองหาร่างสูงๆ



สงสัยเลือกเครื่องเพชรกันเสร็จแล้ว



“น้องชายโปรดมาแล้วค่ะคุณแม่” หม่อมราชวงศ์รฐาเดินมาควงแขนเขา



ร่างสูงคลี่ยิ้มให้พี่สาวกับคุณแม่ที่คล้องแขนแกร่งคนละข้าง สองสาวสวยพากันก้าวเท้าออกบ้าน หม่อมราชวงศ์รฐากับคุณปนัดดาแต่งตัวสวยมาก เครื่องเพชรจัดเต็มจนเขาเริ่มสงสัยว่ารู้สึกเมื่อยคอกันบ้างมั้ย รู้สึกแสบตาหรือเปล่าที่แสงวับๆ ของมันแยงตา



ดูเหมือนพวกท่านทั้งสองชินชากับมันแล้ว หรือบางทีเขาควรต้องใส่ถึงจะได้รู้ว่ามันแยงตาหรือเปล่า



ไม่ดีกว่า



ชะลอเท้าตรงหน้าบ้าน ตอนนี้ฝนตกหนักแต่คุณแม่กับพี่สาวก็ยืนยันที่จะไปงานเลี้ยง ระหว่างรอสาวใช้ถือร่มมารับ ทรงโปรดชะงักแล้วคิดขึ้นได้อย่างหนึ่ง



ถ้านั่งรถคันเดียวกันไปงานเลี้ยง อย่างนี้เขาก็หาทางหนีออกจากงานลำบาก



ทรงโปรดเหลือบมองระหว่างรถตู้คันหรูกับเบนซ์สีดำของเขาที่จอดอยู่ในโรงรถ รถของเขาราคาแพงไม่แพ้กับรถตู้ของครอบครัว ทรงโปรดเก็บเงินซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เขาไม่มีวันปล่อยให้มันจอดเหงาๆ ข้างรถเก๋งไฟฟ้าขนาดเล็กของหลานชายแน่นอน



จนกระทั่งร่มถูกถือมาโดยสาวใช้และทรงโปรดรับมาถือไว้เอง กางให้พี่สาวกับคุณแม่ เดินส่งพวกท่านขึ้นรถตู้เสร็จสรรพ จังหวะที่กำลังจะปิดประตูให้ คุณปนัดดากลับใช้มือสวยๆ รั้งประตูไว้ซะก่อน



“ขึ้นรถครับชายโปรด” คุณปนัดดาส่งสายตาดุๆ



“รีบขึ้นมาเร็วๆ น้องชายโปรด ฝนกระเด็นเข้ารถหมดแล้ว” แถมยังถูกพี่สาวกดดัน



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคลี่ยิ้ม จับมือของคุณแม่ออกจากประตูรถ ตอนนี้น้ำฝนที่ตกลงพื้นมันกระเด็นโดนขากางเกงสีดำของเขาจนรู้สึกชื้นและแฉะหน่อยๆ



“ผมขับรถไปเองดีกว่าครับคุณแม่”



“ไม่ได้ เดี๋ยวชายโปรดหนีแม่อีก”



“ไม่หนีครับ ผมสัญญา”



ครั้งหนึ่งเขาเคยหนีงานเลี้ยงไปพร้อมกับเบนซ์คู่ใจคันหรู คุณปนัดดางอนอยู่หลายวันจนเขาต้องกลับมานอนที่วังร่วมเดือนเพื่อง้อคุณแม่



ทรงโปรดไม่อยากถูกงอนอีกแล้ว แต่เขาก็ไม่อยากนั่งรถตู้จริงๆ



มีรถขับไปเองแท้ๆ ทำไมต้องให้คนอื่นขับพาไปด้วย



“ได้ งั้นชายโปรดขับรถนำหน้าแม่ไป”



“...”



“ถ้าออกนอกเส้นทางเมื่อไหร่ แม่จะให้พลขับตามลูกไปติดๆ”



ก็นั่นแหละ แม่ยังไงก็คือแม่



ต่อให้โตแล้วยังไง ก็ต้องอยู่ในโอวาทแม่อยู่ดี



คุณชายทรงโปรดพยักหน้าก่อนจะเลื่อนประตูรถตู้ปิด เขากำมือร้อง Yes! ในใจ ตอนนี้เขายอมหมดทุกอย่างขอแค่ให้ได้ขับรถไปเอง



ร่างสูงก้าวฉับๆ ตรงไปยังโรงรถที่จอดรถเบนซ์คันงาม มือหนาเปิดประตู สตาร์ทรถ เปิดแอร์และเปิดเพลงฟังให้สบายใจ เขาเบื่องานเลี้ยงมาก แต่คิดซะว่าวันนี้ไปเปิดหูเปิดตาก็แล้วกัน อย่างน้อยอาจจะได้เพื่อนดื่มคนใหม่ หรืออาจจะได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นจากการไปงานเลี้ยงครั้งนี้



เท้าขวาเหยียบคันเร่งออกจากโรงรถ ทรงโปรดประคองพวงมาลัยเลี้ยวเทียบข้างรถตู้คันหรู ก่อนที่จะขับนำออกไปจากหน้าวัง แล้วชะลอรถด้วยการเหยียบเบรกเบาๆ เมื่อถึงประตูใหญ่ของวัง มองซ้ายขวา ดูให้แน่ใจว่าไม่มีรถสวนมา เขาถึงได้หักพวงมาลัยแล้วขับต่อไปบนถนน



ทรงโปรดอยู่ในรถพร้อมกับการจราจรติดขัดบนถนนสายหลัก ฝนตกกับเวลาเลิกงานของคนในเมืองเป็นของคู่กัน



เขาเคาะนิ้วบนพวงมาลัยตามจังหวะเพลง มองกระจกหลังก็เห็นรถตู้ที่คุณแม่กับพี่สาวที่อยู่จอดห่างจากเขา ทรงโปรดขับรถเร็ว ตลอดทางมีโทรศัพท์จากคุณแม่เข้ามาเป็นระยะ ท่านบอกให้เขาเลิกใจร้อนแล้วขับรถช้าๆ



โชคดีที่โรงแรมสำหรับจัดงานเลี้ยงอยู่ไม่ไกลจากวังของเขา เป็นโรงแรมติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทรงโปรดได้ยินมาว่าตอนแรกคุณหญิงแป้วจะขอใช้พื้นที่ในวังเพื่อจัดงานเลี้ยง เพราะนอกจากจะติดแม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนกันโรงแรมที่ต้องไปวันนี้ บรรยากาศในวังยังร่มรื่น สวย หรูหรา ใหญ่โตพอที่จะจัดงานเลี้ยงได้เลย



แต่วังภัสร์ฤทัยไม่ใช่สถานที่รับจัดเลี้ยง โชคดีที่คุณแม่ปฏิเสธไป



เขาหมดเวลาไปกับการอยู่บนถนนที่มีการจราจรติดขัดเกือบยี่สิบนาที สุดท้ายก็ถึงโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาสักที ทรงโปรดเคลื่อนกายลงจากรถเมื่อตอนที่ดับเครื่องยนต์ทุกอย่างเสร็จ คุณแม่กับพี่รฐาเดินควงกันเข้าไปในตัวโรงแรม เดินหาห้องบอลรูมที่ใช้จัดงานวันเกิดในคืนนี้



“คุณชายครับ ขอกุญแจรถด้วยครับ”



ทรงโปรดชะงักเท้าที่กำลังก้าวตามคุณแม่กับพี่สาว เขาเลิกคิ้วแล้วหันมามองพี่พล คนขับรถของวังที่กำลังยืนโน้มตัวเล็กน้อย ยื่นมือที่สวมถุงมือสีขาวมาตรงหน้า



“อะไรครับพี่พล”



“ผมขอกุญแจรถคุณชายด้วยครับ” คนขับรถเงยหน้าสบตาหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด “คุณปนัดดาสั่งให้ผมถือกุญแจรถของคุณชายจนกว่าจะจบงานครับ”



แม่นะแม่



ทรงโปรดตัดความรำคาญโดยการล้วงกุญแจรถจากกระเป๋ากางเกงใส่มือของพล คนขับรถโน้มตัวแล้วเดินหายไป ส่วนเขาก็ถอนหายใจ เลี่ยงอะไรไม่ได้สักอย่าง



แล้วสิ่งที่ทรงโปรดเกลียดที่สุดก็เกิดขึ้น



ทุกคนจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียวหลังจากที่ประตูห้องบอลรูมเปิดออก คุณชายทรงโปรดเคยออกงานสังคมและเขาก็ถูกจ้องแบบนี้บ่อยๆ เขารู้ว่าตัวเองหล่อ เท่ สุขุม คุณหญิงคุณนายหลายคนอยากได้ทรงโปรดไปเป็นลูกเขย แต่เขาไม่สน และที่สำคัญ ทรงโปรดคุยเรื่องนี้กับคุณแม่แล้วด้วย



บังคับให้เขาไปไหนมาไหนด้วยได้ แต่สิ่งที่ห้ามบังคับกัน คือเรื่องหัวใจ



“คุณชายทรงโปรดหรือเปล่าคะ”



กระทั่งตอนที่เขากำลังจะหนีสายตาของคุณหญิงคุณป้า หรือลูกท่านหลานเธอเข้าไปหาพี่สาวกับคุณแม่ หญิงสาวที่นั่งเฝ้าหน้าประตู ใส่ชุดราตรีสวยๆ ก็เปล่งเสียงขึ้นซะก่อน อีกทั้งยังมีเด็กผู้ชายสูงเท่าเข่าของเขากำลังกระโดดดึงปลายนิ้วก้อยของเล่นด้วย



ไอ้หนูน่ารักนี่ จับตีก้นซะดีมั้ง



“รบกวนคุณชายทรงโปรดลงชื่อเข้างานตรงนี้ แล้วเลือกหน้ากากใส่เข้างานได้เลยนะคะ”



ไม่น่าล่ะ คนในงานถึงได้มีหน้ากากสีดำใส่กันทั้งงาน ทรงโปรดโน้มตัวลง หยิบปากกาที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนเซ็นชื่อแล้วสุมหยิบหน้ากากครึ่งหน้าติดมือมา ก้มมองเด็กชายที่นัวเนียเกาะแข้งขาของเขา คาดว่าน่าจะอายุสามขวบเท่าลูกชายของหม่อมราชวงศ์รฐา เด็กน่ารักคนนี้ใส่หน้ากากแบบเดียวกันกับที่เขาหยิบมาด้วย



กำลังก้มมองอยู่พักหนึ่ง แม่ของเด็กคนนั้นก็มาอุ้มไป



ทรงโปรดใส่หน้ากากแล้วเดินเข้างาน แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน การอำพรางหน้าทำให้เขาเลิกเป็นจุดสนใจได้นิดหน่อย



อาหารเยอะ แต่ไม่มีอะไรถูกใจเขาเท่าวิสกี้ ทรงโปรดจิบแอลกอฮอล์ เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงบรรเลงเพราะเข้ากับบรรยากาศของงาน



ตาคมมองผู้หญิงในงานแต่ไม่ได้พิศวาส เขาแต่มองเพื่อให้ตัวเองเข้าใจว่าทำไมพี่สาวกับคุณแม่ถึงได้เลือกเครื่องเพชรอลังการสวมคอ เพราะหากไม่บอกว่าที่นี่คืองานเลี้ยงวันเกิด เขานึกว่าเป็นงานแสดงสินค้า พวกเครื่องเพชร พลอย อะไรแบบนี้ซะอีก



แต่ระหว่างที่เขากำลังจิบแอลกอฮอล์ เพลิดเพลินกับสิ่งอื่นนอกเหนือจากคน จู่ๆ คนตัวเล็กผิวขาวนวลก็เดินตรงมาทางเขา และหยุดอยู่ตรงหน้าผลไม้เคลือบช็อกโกแลต แม้จะใส่หน้ากากปิดบังหน้าไปครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าคุณชายทรงโปรดสนใจใครสักคนเข้าแล้ว เขาจะจำคนนั้นได้ขึ้นใจ



เจ้าของสร้อยข้อมือที่เขาต้องออกตามหา



-----

ต่อด้านล่างค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-08-2018 16:50:20 โดย Swanlee »

ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0

ไม่น่าเชื่อ...ข้ามคืนแค่คืนเดียวก็เจอตัว



เอ็นดู ที่น่าเอ็นดูเหมือนชื่อ



ทรงโปรดมองตามมือขาวๆ ที่กำลังหยิบส้อมขึ้นตักผลไม้ มืออีกข้างถือจานสำหรับรองไม่ให้ช็อกโกแลตไหลเปรอะโต๊ะวางของกิน น้องเก้ๆ กังๆ อยู่พักใหญ่ ไม่แน่ใจว่าทำไม่เป็นหรืออะไร



แต่น่าเอ็นดูมากๆ



และท่าทางไม่ชำนาญกับการเอาผลไม้ไปจุ่มช็อกโกแลตเพื่อเคลือบก็ทำให้ทรงโปรดวางแก้ววิสกี้ลง ก่อนจะเอื้อมมือหยิบผลไม้ชนิดเดียวกันกับที่เอ็นดูถืออยู่ขึ้นมา ทรงโปรดหยิบจานรองรอไว้ จุ่มเนื้อสตรอว์เบอร์รีลงในถังช็อกโกแลต แล้วยื่นให้คนเด็กกว่าที่ยืนอยู่ตรงข้าม



“ขอบคุณครับ”



“ให้สอนมั้ย ทำอย่างนั้นวันนี้ก็ไม่ได้กินพอดี”



“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ”



จะหนีเขาอีกแล้ว



เอ็นดูเดินเลี่ยงไปข้างหน้า แม้จะถือจานผลไม้ที่เขาทำให้ไปด้วยก็ตาม แต่ท่าทางนิ่งๆ ของเอ็นดูทำเอาทรงโปรดชะงัก



สงสัยจะจำกันไม่ได้



ทรงโปรดเดินตามอย่างระมัดระวัง เขาเลิกสนใจวิสกี้ เพราะตอนนี้มีอะไรน่าสนใจกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งเยอะ ร่างสูงชะลอเท้าเล็กน้อยก่อนหยิบหน้ากากออกจากใบหน้าของตัวเองแล้วล้วงมือไว้ในกระเป๋ากางเกง ดวงตาคมกริบจับจ้องใบหน้าหวาน จนคนถูกมองเงยหน้าขึ้น



“มีอะไรหรือเปล่าครับ”



มือขาวยกขึ้นแตะแก้มตัวเอง ใช้ตากลมๆ มองคนตัวสูง ทรงโปรดอยากเกี่ยวหน้ากากของเอ็นดูออก เขาอยากมองใบหน้าสวยๆ ให้ชัดเจนมากกว่ามีหน้ากากบดบังแบบนี้



แต่ทำแบบนั้นกระต่ายอาจจะตื่นตูม



“เพื่อนเป็นยังไงบ้าง เมื่อวานเห็นเมาไม่รู้เรื่อง”



“...”



“คืนนี้ไม่เที่ยวผับแล้วเหรอ”



“เฮ้ย”



ร้องออกมาแล้วก็รีบยกมือปิดปากตัวเอง ท่าทางลุกลี้ลุกลนของเอ็นดูทำให้ทรงโปรดยิ้มมุมปาก



สงสัยคงจำกันได้แล้วมั้ง



ถึงจะสบตากันแค่แวบเดียว แต่เขามั่นใจว่าเอ็นดูต้องบันทึกใบหน้าของทรงโปรดใส่สมองถึงได้สะดุ้งโหยงเหมือนเจอผีแบบนี้



แต่เขาไม่ใช่ผี ไม่ต้องสะดุ้งแรงแบบนั้นก็ได้



“คุณ...”



“จำได้มั้ย ที่เจอกันเมื่อคืน”



ถ้าปฏิเสธ เขาจะตีปากด้วยปาก



เพราะตอนที่เขาถามว่าจำได้มั้ย เจ้าคนเด็กกว่าก็รีบวางจานผลไม้แล้วจับต้นแขนข้างที่โดนเขาบีบเมื่อคืนทันที คงจะเจ็บ ช้ำใน หรืออะไรสักอย่างถึงได้จับตรงนั้น



“เจ็บเหรอ”



“เปล่าครับ”



“แล้วจับทำไม”



“ก็เมื่อคืนคุณจับตรงนี้”



สาบานว่าเขาไม่ได้ตาฝาด เมื่อกี้เจ้ากระต่ายน้อยน่ารักกัดปากตัวเองเบาๆ



“แสดงว่า เมื่อคืนรุนแรงไปหน่อย”



“รุนแรงอะไร”



“ที่จับแขนไง”



ทรงโปรดกลั้นยิ้มสุดฤทธิ์เมื่อเอ็นดูสะบัดหน้ารัวใส่ ปากจิ้มลิ้มมุบมิบเหมือนบ่นอะไรกับตัวเอง



“ขอโทษที่ทำให้เจ็บ”



“ไม่เจ็บครับ ไม่เป็นไร”



“สรุปยังไง ที่ถามเมื่อกี้”



คุณชายทรงโปรดหาเรื่องกระต่ายน้อยจนได้ เจ้าของร่างสูงที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงวกกลับไปประโยคแรกของวันนี้ที่เขาได้สนทนากับเอ็นดู กะต้อนด้วยคำถามเดิมๆ ให้น้องตอบ แล้วจะได้เข้าคำถามอื่นๆ ต่อ



แต่คนผิวขาวกลับเอียงหน้ามอง



ทีงี้ล่ะกล้าสบตา



อยากดึงหน้ากากออกจริงๆ อยากรู้ว่าจะกล้ามองหน้าเขาตรงๆ อีกมั้ย



“คุณถามอะไรเหรอครับ”



“เพื่อนเป็นยังไงบ้าง คืนนี้ไม่เที่ยวผับแล้ว--”



ยังไม่ทันพูดจบประโยค เจ้าเด็กผิวขาวก็ยกนิ้วชี้ขึ้นแตะปากอวบ ส่วนอีกมือรีบโบกหยอยๆ มาทางเขา ศีรษะก็ส่ายไปมา ลุกลี้ลุกลนดูร้อนใจ แต่ก็ดูน่ารักในสายตาคนมอง



ทรงโปรดชอบอะไรแบบนี้



แบบเอ็นดูนี่แหละ



“อย่าพูดนะครับ” เอ็นดูหันซ้ายหันขวา เหมือนกลัวว่าจะมีคนมาได้ยิน “เดี๋ยวคุณแม่ได้ยิน...”



แต่ประโยคหลังน้องพึมพำเบาๆ แล้วทรงโปรดก็ไม่แน่ใจว่าน้องพูดอะไรเพราะเสียงเพลงในนี้ดังกลบ



“ทำไม ไม่อยากให้แม่รู้เหรอ” เดาล้วนๆ



“นี่คุณ”



“อย่างนี้แสดงว่าหนีเที่ยว”



“ไม่ได้หนีเที่ยวนะครับ ผมไปตามพี่รหัสกลับบ้าน”



ทรงโปรดพินิจใบหน้ากระต่ายที่กำลังตื่นตูม แม้จะมีหน้ากากบังอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่แววตาที่ประกายวับวาวฉายความกังวลให้เขาเห็น



“พี่รหัสแบบไหนให้รุ่นน้องตามหิ้วกลับบ้าน” ทรงโปรดส่งเสียงทุ้มออกไปทางดุดันถามคนที่ตัวเล็กกว่า “เรียนที่ไหน คณะอะไร แบบนี้ควรฟ้องอาจารย์ดีมั้ย”



“คุณเป็นใครเนี่ย ทำไมต้องมายุ่ง--- เอ่อ ทำไมต้องมาใส่ใจเรื่องของผมด้วย”



เชื่อมั้ย ประโยคดูเกี้ยวกราด แต่น้ำเสียงของน้องสื่อออกมากได้นุ่มนวลมาก ทรงโปรดรู้ว่าน้องหมายความว่าอะไร เขากำลังโดนหาว่าไปเสือกอะไรกับเรื่องของคนอื่น ประมาณนี้



ทรงโปรดไม่แคร์ เมื่อคนตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงนิ่มๆ เขาเลยไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกด่า



“เป็นคนที่เก็บไอ้นี่ได้”



เขาหยิบสร้อยข้อมือเส้นเล็กออกจากกระเป๋าชุดสูทดำ ถือโชว์ระดับใบหน้าของน้อง แล้วก็ต้องรีบเก็บใส่กระเป๋าเหมือนเดิมเมื่อเจ้ากระต่ายยกแขนขึ้นหวังจะแย่งสร้อยข้อมือกลับคืน เอ็นดูอ้าปากสีหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนกัดริมฝีปากเบาๆ



ทรงโปรดชักสงสัย ไอ้อาการกัดปากเอ็นดูทำจนติดเป็นนิสัยเลยหรือเปล่า



แล้วเอ็นดูไม่รู้หรือไง ว่าทำแบบนี้...ทำให้เขาอยากเข้าใกล้มากขึ้นกว่าเดิม



ไม่ใช่แค่ทรงโปรด แต่ผู้ชายคนอื่นที่เห็นก็ต้องอยากเข้าใกล้



เพราะยั่วกันขนาดนี้



“นั่นสร้อยผม”



“แน่ใจ”



“ครับ แน่ใจ เมื่อวานมันหายที่ผั--” น้องเม้มปาก ส่ายหัวแรงๆ เหมือนไม่อยากให้คำว่าผับหลุดออกจากปาก “นั่นแหละ...คุณเก็บได้เหรอครับ”



ที่พีชบอกว่าแม่ของน้องเป็นอดีตนางงามคงเป็นเรื่องจริง เพราะกิริยา ท่าทาง คำพูด การวางตัวของเอ็นดูราวกับถูกอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี พูดเพราะกับคนแปลกหน้า น้ำเสียงนุ่มละมุนชวนฟัง เป็นเสียงหวานๆ ที่เขาเก็บไปฝัน



“มีคนทำตก เลยเก็บไว้”



“มันเป็นของผมเอง ขอคืนนะครับ”



กระต่ายน้อยแบมือขอพร้อมๆ กับเพลงเต้นรำที่ดังขึ้นพอดี เสียงพิธีกรบอกว่าช่วงนี้เป็นเวลาที่ทุกคนสามารถเชิดฉายบนฟลอร์ได้ขอเพียงมีคู่เต้นรำ ทรงโปรดยกยิ้ม ตาคมจับจ้องฝ่ามือขาวที่เขาคิดว่าหากได้สัมผัส คงจะนุ่มนิ่มไม่ต่างจากเนื้อแขนของเจ้าตัว



ร่างสูงค่อยๆ สาวเท้าเดิน ซึ่งแน่นอนว่าเอ็นดูก็เดินตามทั้งที่แบมือค้างไว้อย่างนั้น



“คุณ จะไปไหน ผมขอสร้อยคืนด้วยครับ”



น้องเดินตามทุกฝีก้าว ระหว่างกลางพวกเขาทั้งสองมีโต๊ะอาหารตัวยาวขั้นอยู่ จนกระทั่งสิ้นสุดความยาวของโต๊ะอาหาร คุณชายทรงโปรดเดินอ้อมมามาอีกฝั่ง ร่างสูงชะลอเท้าเมื่อเอ็นดูเดินใกล้เข้ามา ก่อนที่น้องจะชะงักนิ่งเมื่อระยะห่างตอนนี้ไม่ได้มีมากเหมือนก่อนหน้านั้น



ไม่มีโต๊ะอาหารแบ่งเขต ทรงโปรดเลยลดระยะให้ความใกล้ของเขากับน้องเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม



เอ็นดูสาวเท้าหนีไปหนึ่งก้าว และเขาคิดว่าต้องมีก้าวต่อไปแน่ๆ แต่คนอย่างทรงโปรดไม่มีวันปล่อยให้คนที่เขาถูกใจหนีหายไปไหนเป็นครั้งที่สอง



มือเล็กๆ ที่ยื่นรอเพื่อขอสร้อยคืนเลยถูกกุมไว้ด้วยมือหนา นิ้วเรียวยาวของเขาสอดประสานกับนิ้วของน้อง ทรงโปรดดึงร่างที่เล็กกว่าแนบชิดจนใบหน้าหวานแนบบนอกกว้าง เขาจับมืออีกข้างของเอ็นดูแล้วบังคับวางบนไหล่กว้าง ก่อนที่เอ็นดูจะได้ขัดขืน มือหนาอีกข้างก็ล็อกเอวบางของน้องไว้แล้ว



“คุณ ปล่อยผม”



“ไม่เห็นหรือไง คนอื่นเขาจับคู่เต้นรำกันหมด”



“เห็นครับ แต่คนอื่นเขาจับคู่ชายหญิง...ไม่ใช่แบบนี้”



เสียงน้องอู้อี้ เอ็นดูพยายามขืนตัวออกเพราะตอนนี้กลายเป็นว่าตัวเองตกอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูง แต่ทรงโปรดแรงเยอะ แถมมือไม้ยังเหนียวหนึบเหมือนติดกาวเลยทำให้ขยับตัวตามใจตัวเองไม่ได้เลย



“สมัยไหนแล้ว ผู้ชายด้วยกันก็จับคู่เต้นรำได้”



“จะสมัยไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้นแหละครับ”



“ตอนอยู่มัธยมเคยเรียนลีลาศมั้ย เวลาที่ผู้หญิงไม่พอให้จับคู่ ผู้ชายก็ต้องจับคู่ซ้อมกันเอง”



“เคยเรียนครับ แต่ไม่เคยจับคู่กับผู้ชาย”



“งั้นนี่ก็เป็นครั้งแรก”



“คุณ ปล่อยได้แล้ว”



ทรงโปรดชอบเสียงร้องที่ฟังดูวุ่นวาย หงุดหงิด แต่สื่อออกมาได้นุ่มนวล นุ่มนิ่มในแบบฉบับของเอ็นดู เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนขยับเท้าไปข้างหลังเล็กน้อย แน่นอนว่าคนตัวเล็กในอ้อมกอดก็ก้าวเท้าตามโดยอัตโนมัติ



“เต้นรำเก่งนะเรา”



“ก้าวเท้าตามคุณไง”



“แสดงว่าเป็นผู้นำที่ดี”



เขาอวยตัวเองหนักเอาการ และถ้าตอนนี้จ้องหน้าสบตากัน คงได้เห็นเอ็นดูเบ้ปากใส่



“ผมเป็นผู้ตามที่ดีต่างหาก”



“ถ้าคนนำก้าวเท้าไม่ดี คนตามจะก้าวตามดีๆ ได้ยังไง”



เขาได้ยินเสียงน้องถอนลมหายใจ



“เอาเถอะครับ เรื่องของคุณเลย”



เพราะขัดขืนไม่ได้เอ็นดูเลยจำใจจมอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูง แก้มขาวแนบอกกว้าง ทรงโปรดรู้ว่าน้องไม่ได้อยากใกล้ชิดคนแปลกหน้าอย่างเขา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะตอนนี้ใกล้จนไม่มีระยะห่าง



“แต่ถ้าคนนำก้าวพลาดจะเป็นแบบนี้”



“เฮ้ย คุณ!”



ทรงโปรดสาธิตผู้นำเต้นรำที่ก้าวเท้าพลาด ด้วยการก้าวเท้าไปข้างหลัง เพียงเสี้ยววินาทีเขาก็ชักเท้ากลับที่เดิม เป็นจังหวะเดียวกับที่เอ็นดูก้าวเท้าตามพอดี เลยทำร่างเล็กปะทะกับคนตัวสูงอย่างจังจนหลุดร้องออกมา



คนในอ้อมกอดทรงตัวไม่ได้ ซวนเซทำท่าจะล้มแต่ทรงโปรดกระชับเอวบางให้แน่นกว่าเดิม เลื่อนท่อนแขนแกร่งโอบหลังของเอ็นดูพลางลูบปลอบเบาๆ



ทรงโปรดหยุดเต้นรำนำน้องแม้ว่าเพลงจะบรรเลงดังอย่างต่อเนื่อง มือเล็กที่ประสานนิ้วกันบีบเข้ากับมือของเขาก่อนจะคลายแรงนั้นออก เอ็นดูเงยหน้ามองทรงโปรด สายตาของน้องฉายแววกังวล



“อย่าทำแบบนี้อีกนะคุณ”



“ทำไม”



“ยังต้องถามอีกเหรอครับ” เอ็นดูกัดปากเบาๆ “คุณเป็นใครไม่รู้...จู่ๆ ก็มากอด”



โคตรน่ารัก...



ทรงโปรดรู้สึกอยากฟัดคนที่เพิ่งเจอหน้ากันแค่สองครั้งจริงๆ เอ็นดูอาจจะไม่รู้ว่าความนุ่มนิ่มน่าบีบไปซะทุกส่วนของตัวเองทำให้ใจของใครอีกคนสั่นรัว เอ็นดูต้องไม่มีทางรู้ว่าน้ำเสียงของตัวเองชวนฝันหวานมากแค่ไหน และที่สำคัญ



ตัวน้องโคตรจะหอมเลย



โรคจิตก็คราวนี้แหละวะไอ้โปรด



“อยากรู้จักมั้ย เดี๋ยวบอกชื่อ”



“ไม่ครับ คืนสร้อยมาก็พอ”



“ไม่คิดจะขอบคุณคนที่เก็บสร้อยได้หน่อยเหรอ”



“ต้องคืนของก่อนสิครับ”



“ได้”



“คุณ!”



“ชู่ว”



ทรงโปรดคลายมือที่ประสานนิ้วกับน้องออก แล้วใช้มือข้างนั้นเกี่ยวเอาสายของหน้ากากที่คล้องใบหูขาวออกตามไปด้วย เอ็นดูหันหน้าหวังจะหนี แต่สุดท้ายก็ต้องยืนนิ่งยอมให้เขาเป็นคนถอดหน้ากากออกใบหน้า



จนกระทั่งมันหลุดออก ทรงโปรดโยนหน้ากากของเอ็นดูทิ้งลงพื้นทันทีที่เห็นใบหน้าขาวนวลเต็มตา


เอิบอิ่มทุกสัดส่วน

เขารับรู้ได้ทันทีว่าน้องหายใจแรงกว่าเดิม คนตัวเล็กในอ้อมกอดไม่ยอมสบตาเหมือนตอนที่หน้ากากยังบดบังครึ่งใบหน้า เอ็นดูหนีสายตาคมด้วยการก้มมองพื้น แต่ก็ถูกมือหนาเชยคางมนขึ้นจนได้



แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เอ็นดูแพ้เขา



“ชายโปรด!”



“เอ็นดู...ลูก!”



เสียงของผู้หญิงสองคนดังขึ้น เสียงหนึ่งที่เรียกชื่อจริงเขาจำได้ว่าเสียงของคุณแม่ ส่วนอีกเสียงที่เปล่งเรียกชื่อเอ็นดูด้วยความตกใจ...น่าจะเป็นเสียงคุณแม่ของน้อง



และเสียงสองเสียงนั้นส่งผลให้เขากับเอ็นดูหันหน้ามองเพียงแค่เสี้ยววินาทีฝ่ามือเล็กๆ ก็รีบดันไหล่ของเขาออกอย่างเต็มแรง ร่างสูงเซถอยหลัง แต่เขาก็สามารถตั้งหลักแล้วกลับมายืนล้วงกระเป๋าเท่ๆ ได้เหมือนเดิม



คนน่ารักหนีไปยืนข้างแม่แล้ว



“น้องชายโปรดรู้จักน้องเอ็นดูมาก่อนเหรอคะ”



เป็นหม่อมราชวงศ์รฐาที่เปล่งเสียงพูดปนรอยยิ้ม คุณชายทรงโปรดมั่นใจว่าพี่สาวของเขาเห็นภาพที่เขากับน้องยืนกอดกันกลางฟลอร์ เพราะเธอเล่นขยิบตายิ้มกริ่มแบบพี่น้องรู้กันให้ซะขนาดนั้น



ตาคมมองเจ้าเด็กน่ารักที่ไปยืนกัดปากก้มหน้าหลบสายตา นึกคิดถึงกลิ่นหอมหวานจากตัวของน้องทันที อยากใกล้ อยากกอดอีกครั้ง



เมื่อกี้ยังไม่หนำใจ



“บังเอิญครับ เมื่อวานผมเจอน้องที่ผั--”



“ที่ห้างครับ”



แล้วเจ้าคนน่ารักก็พ่นโกหกคำโตออกมา



“...เอ็นเจอคุณชายที่ห้าง เขาเก็บสร้อยของเอ็นได้ครับคุณแม่”



คงเป็นห้างที่มีเพลงเปิดดังๆ มีแอลกอฮอล์แทบทุกแบรนด์ แล้วก็มีพี่รหัสหัวสีเหลืองที่เมาแอ๋



ทรงโปรดยกยิ้ม ผงกศีรษะให้กับความโป้ปดเก่งของเอ็นดู เขายังไงก็ได้อยู่แล้ว ถ้าเอ็นดูไม่อยากให้บอกกับผู้ใหญ่ว่าไปเจอกันที่ไหน เขาก็จะไม่บอก



แต่การที่ทรงโปรดต้องช่วยน้องโกหกผู้ใหญ่...ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน



“บังเอิญจังเลยค่ะ ชายโปรด...แม่กำลังจะแนะนำให้รู้จักพอดี”



ไม่มีใครสงสัยเลยสักนิด แถมยังยินดีที่เขากับเอ็นดูเคยเจอกันแล้ว



“ชายโปรดครับ นี่คุณน้าแอ้ เพื่อนแม่เอง”



“สวัสดีครับคุณน้าแอ้”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดโน้มตัวยกมือไหว้คุณแอ้อย่างสุภาพ คุณแม่เขาน่ะเพื่อนเยอะ จำไม่หมดหรอกว่าใครเป็นใครบ้าง แต่สงสัยคนคนนี้คงต้องจำให้ขึ้นใจ



“สูงหล่อมากๆ เลยค่ะคุณนัด แอ้เคยเจอแต่คุณชายเพลิงก็คิดว่าสูงแล้วนะคะ แต่คุณชายโปรดสูงกว่าพี่ชายอีก”



ในบรรดาพี่น้องผู้ชาย ทรงโปรดสูงสุด เขาสูง 188 เซนติเมตร



“ชายโปรดชอบเล่นกีฬาค่ะคุณแอ้ เลยสูงนำพี่ๆ”



“ทฤษฎีดื่มนมอย่างเดียวไม่ได้ผลค่ะคุณนัด เอ็นดูดื่มแต่นมเลยสูงเท่านี้เอง”



“สูงเท่านี้เหมาะดีแล้วค่ะ น่ารักน่าตีจะตายไป”



เห็นมั้ย คุณแม่ยังคิดเหมือนกัน



ทรงโปรดมองคนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้า สองมือขาวที่เขาเคยสัมผัสประสานกลัดกุมกันไว้ น้องดูท่าทางอึดอัดเหมือนอยากออกจากที่นี่เร็วๆ



“คุณแม่ครับ เอ็นขอตัวกลับก่อนได้มั้ย...พอดีพรุ่งนี้มีสอบตอนเช้า ไม่อยากนอนดึกครับ”



คนไม่อยากนอนดึกที่เมื่อวานไปโผล่ในผับตอนเที่ยงคืนหน้ามุ่ยใส่คุณแม่ ทรงโปรดสังเกตทุกอาการของเอ็นดู รู้ว่าน้องไม่ได้อยากจะโกหกเลยพยายามหนีออกจากที่นี่ ทั้งที่ตอนนี้เป็นเวลาแค่สองทุ่มเศษเท่านั้น



“ตอนนี้ฝนตกหนักเลยนะลูก ว่าแต่เอ็นดูพักอยู่ที่ไหนเหรอครับ” แล้วก็เป็นแม่ของเขาเองที่แสดงความห่วงใหญ่โดยการไถ่ถาม



“เอ็นพักอยู่ที่คอนโด Star view ครับคุณน้า”



ตาคมมองคนเด็กกว่าที่พูดจาดูสนิทสนมเข้ากับผู้ใหญ่ง่าย พอเหลือบมองคุณแม่ของเขาก็เห็นว่าท่านดูโปรดปรานเจ้าเด็กขี้โกหกคนนี้เหลือเกิน



“งั้นก็ให้ชายโปรดไปส่งได้น่ะสิ”                                                   



เขาหันขวับมองคุณแม่ก่อนเหลือบมองเอ็นดูที่ทำตาโตเลิ่กลั่ก แล้วทรงโปรดก็คลี่ยิ้มออกมา



ขอบคุณครับคุณแม่ รักคุณแม่ที่สุดในโลกเลย



“อ้าว คุณชายโปรดจะกลับเลยเหรอคะ” คุณแม่ของน้องถาม



เขาไม่ต้องตอบ คุณแม่ก็ทำหน้าที่ตอบแทนทุกอย่าง



“ชายโปรดไม่อยากอยู่ในงานนานอยู่แล้วค่ะคุณแอ้ นี่ก็คงอยากกลับแทบแย่”



คุณแอ้ยิ้มกว้างพลางยกมือลูบผมสีน้ำตาลเข้มของเอ็นดู ท่านจับมือน้องแล้วพาเดินมาหยุดตรงหน้าร่างสูง



ดีว่ะ ผู้ใหญ่เข้าทางขนาดนี้



“อย่างนั้นน้าฝากน้องด้วยนะคะคุณชาย น้าไม่อยากให้กลับบ้านคนเดียวเลย กลัวจะเป็นอันตรายค่ะ”



แต่คนที่อยากกลับบ้านทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้



ทรงโปรดคลี่ยิ้ม โน้มศีรษะเล็กน้อยก่อนเอื้อมมือไปจับมือขาวของเอ็นดูเอาไว้ ออกแรงดึงนิดหน่อยน้องก็มายืนก้มหน้าข้างๆ เขาแล้ว



“ได้ครับคุณน้า ผมจะดูแลน้องอย่างดี”



ทรงโปรดเหลือบมองคนข้างกาย และยกยิ้มให้เมื่อเห็นว่าเอ็นดูก็เงยหน้ามองเขาพอดี



คุณแม่หวงขนาดนี้ สงสัยต้องส่งให้ถึงเตียงเลยว่ะ

 

 

 



#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี




-----


พี่โปรดเขาก็จะขี้แกล้งหน่อยๆ ><



 :z13:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
งุ้ยน่าฟัดจริงๆ ด้วย  :-[

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ผู้ใหญ่ก็เห็นดีเห็นงามด้วย
ชอบน้องเอ็นดู นุ่มนิ่ม น่าบีบมากเลยค่ะลูก
พี่โปรดก็ขี้แกล้งมากๆเลยเนอะ
รออ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
เชียร์ให้ส่งถึงเตียงค่ะ
ว่าแต่น้องก็แอบชอบหรือเปล่าหนอ อาการไม่กล้าสบตานี่น่าสงสัย

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
 :ling1


สงสารน้องจะตามเสือร้ายอย่างชายโปรดได้งัยเนี่ยะ  สนุกมากแวดวงศไฮโซ


ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
ฮืออออออ  น้องงงงงงหนีไปปปปปปปปปปป

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:

ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0










03

เป็นเกลียวคลื่นที่กระทบในอกซ้าย

แล้วเราก็ลงไปในนั้น จนแทบขาดอากาศหายใจ

 







“ไม่ต้องจับมือแล้วก็ได้มั้งครับ”



ทั้งที่เดินอยู่ในลานจอดรถแล้วแท้ๆ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดยังจับมือไม่ยอมปล่อย และรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองสูงกว่าก็ยังแกล้งด้วยการก้าวขายาวเดินไปตามโถงทางเดินของโรงแรมอย่างเร็วจนเอ็นดูแทบต้องวิ่งตาม



“ปล่อยได้ยังไง เดี๋ยวลูกคุณน้าหายรับผิดชอบไม่ไหวพอดี”



“คุณพูดเว่อร์”



“ขึ้นรถ”



คุณชายทรงโปรดรับกุญแจรถจากคนขับรถที่ก่อนหน้านั้นยึดกุญแจเขาไป เสียงปลดล็อกประตูรถดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงทุ้มของเขา เอ็นดูเงยหน้ามองทรงโปรดแวบเดียว ก่อนเปิดประตูรถแล้วหย่อนตัวเข้าไปนั่ง



ขนาดทำตามคำสั่งของคนโตกว่าอย่างดี เขายังไม่ยอมปล่อยมือเอ็นดูออกเลย



“จะปิดประตูครับ”



เขาถึงยอมปล่อย



เมื่อมือขาวเป็นอิสระ เอ็นดูเลยคว้าประตูรถแล้วดึงเข้าตัวเพื่อปิด เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเจ้าของรถก็เข้ามานั่งในตำแหน่งคนขับ เอ็นดูกัดริมฝีปากเหลือบมองทรงโปรดที่ทำหน้าสบายอกสบายใจ



เอ็นดูเบนสายตาจากใบหน้าของเขาแล้วมองไปที่อื่น มือขาวดึงสายเบลท์เพื่อคาดตัว แต่ดึงยังไงก็ดึงไม่ออก เลยตัดใจปล่อยเลยตามเลย



“คุณ! อีกแล้วนะ จะทำอะไรครับ”



“จะคาดเบลท์ให้”



“ไม่เป็นไร ผมคาดเองได้”



ใจแทบร่วงลงตาตุ่มเมื่อร่างสูงขยับตัวแนบชิด มือหนาข้างซ้ายเอื้อมพาดตัวเอ็นดู ส่วนมือขวาอ้อมผ่านด้านหลัง กักขังไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง และใกล้ชิดเอ็นดูอีกครั้ง



มือเรียวเล็กทาบบนอกกว้างพร้อมออกแรงดันแต่ทรงโปรดไม่สะท้าน แถมยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ยื่นจมูกของตัวเองเข้าใกล้กับพวงแก้มยุ้ยของเอ็นดูจนเจ้าตัวต้องหันหน้าหนี



คนอะไรไม่รู้ชอบฉวยโอกาส



“ถ้าจะคาดเองทำไมไม่คาดตั้งแต่แรก”



“ก็สายเบลท์รถคุณดึงไม่ออก ติดอะไรอยู่ไม่รู้”



ดูเหมือนว่าทรงโปรดก็กำลังพยายามดึงมันออกอยู่เหมือนกัน เอ็นดูกลั้นหายใจเมื่อลมอุ่นๆ จากปลายจมูกโด่งของร่างสูงสัมผัสลงบนลำคอขาวของตัวเอง เม้มปากแน่น กลืนน้ำลายคอช้าๆ รอให้เวลาที่ตัวเองได้เป็นอิสระมาถึงไวๆ



จนกระทั่งตาเรียวเห็นสายเบลท์สีดำถูกดึงออกโดยมือหนา ทรงโปรดดึงเบลท์พาดกายของเอ็นดู เขาผละตัวถอยออกก่อนขยับไปนั่งประจำที่คนขับเหมือนเดิมเมื่อเสียงล็อกของเบลท์ดังขึ้น



เอ็นดูยกมือขึ้นจับเบลท์แน่น ต่างคนต่างเงียบ



ไม่ได้อยากจะเหลือบมองเขาเลย แต่สายตาดันเผลอมองตลอด และทุกครั้งที่เหลือบมองก็เห็นว่ามุมปากหยักของคุณชายทรงโปรดกำลังยกยิ้มอยู่ด้วย



คงมีความสุขมากที่ได้แกล้ง



“จอดหน้าโรงแรมก็ได้นะครับ”



เมื่อรถเบนซ์สีดำคันหรูเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถ เอ็นดูก็เปล่งเสียงบอกทรงโปรด คงดีกว่าถ้าหารถกลับเอง อย่างน้อยก็ไม่ต้องนั่งร่วมทางกับเขา



แต่เมื่อตอนที่รถออกสู่ถนนใหญ่ทรงโปรดกลับไม่แวะจอดตรงไหนให้สักที่ เขาเอื้อมมือเปิดเพลงเพราะๆ จากคลื่นวิทยุแล้วขับต่อไปท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมา



“คุณ”



“รับปากคุณน้าแอ้ไว้แล้วว่าต้องส่งให้ถึงที่”



“ไม่เป็นไรหรอกครับ ออกมาขนาดนี้แล้วคุณแม่คงไม่รู้”



“...”



“ไม่อยากรบกวนเวลาคุณด้วย”



“จะให้จอดแล้วทิ้งไว้แถวๆ นี้ จากนั้นก็ไปโกหกคุณน้าแอ้ว่าส่งลูกชายถึงหน้าคอนโดอย่างนั้นเหรอ”



จังหวะที่รถติดไฟแดงร่างสูงเปล่งเสียงถามเอ็นดูที่นั่งหายใจไม่ทั่วท้องอยู่บนรถ ยังคงแอบมองเขาอยู่ แต่เว้นระยะเพราะตอนนี้ทรงโปรดกำลังหันหน้าจ้องเอ็นดูด้วยดวงตาคมกริบ



“โกหกคนเดียวไม่พอ ยังชอบให้คนอื่นช่วยโกหกอีกด้วย”



“...”



“ร้ายนะเรา”



“ขอโทษครับ ผมไม่ได้อยากโกหก”



เอ็นดูขอโทษเขาจากใจจริง ใช่ว่าอยากโกหกซะเมื่อไหร่ และไม่ใช่แค่เปล่งคำขอโทษออกมาอย่างเดียว แต่สองมือขาวเรียวยังยกขึ้นพนมก้มหน้าไหว้คนอายุมากกว่าอีกต่างหาก



หม่อมหลวงจิรา วงศ์ประดิษฐ์ ถูกเลี้ยงดูปูเสื่อมาอย่างดี เอ็นดูเป็นผ้าขาวสะอาดเอี่ยมของตระกูลวงศ์ประดิษฐ์ ถูกเลี้ยงมาให้อยู่ในโอวาทของคุณหญิงลักขณาผู้เป็นป้าที่ค่อนข้างจะเป็นคนหัวโบราณ ทำให้เอ็นดูไม่สามารถนอกลู่นอกทางได้



ปกติเอ็นดูต้องอาศัยในวังที่เขาใหญ่ แต่เพราะสอบติดมหาวิทยาลัยดังในกรุงเทพฯ เขาเลยได้รับอนุญาตจากผู้ใหญ่ให้ออกมาใช้ชีวิตคนเดียวได้ คุณแอ้ซื้อคอนโดใจกลางกรุงฯ ให้เอ็นดูที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย



คุณแม่อะลุ่มอล่วยกฎครอบครัวกับเอ็นดูมากที่สุดแล้วเพราะท่านเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ แต่สิ่งที่คุณแม่ขออย่างเดียวก็คืออย่าไปเที่ยวสังสรรค์ดึกดื่น พยายามอย่าไปในสถานที่ที่คุณหญิงป้าไม่ชอบเพราะหากรู้ถึงหูหม่อมราชวงศ์ลักขณาขึ้นมาเมื่อไหร่ ไม่ใช่เอ็นดูที่ถูกดุคนเดียว แต่คุณหญิงป้าอาจจะดุคุณแม่ไปด้วย



“ไม่ได้อยากโกหกแต่ก็โกหกไปแล้ว”



เอ็นดูกัดริมฝีปากอวบเบาๆ อยากถอนหายใจแรงเพื่อระบายความอึดอัดใจแต่ก็กลัวเสียมารยาท แค่นี้เอ็นดูก็ถูกข้อหาคนขี้โกหกรัดตัวไปหมดแล้ว



“ผมมีเหตุผลครับ”



“เหตุผลอะไร” เขาถามพร้อมหันหน้าหล่อๆ มองคนตัวขาว



“คืนสร้อยมาก่อนได้มั้ย แล้วผมจะบอก”



“คนที่โกหกมีข้อแม้ได้ด้วยเหรอ”



“คุณ”



“บอกเหตุผลมา ถ้าฟังขึ้นจะคืนสร้อยให้”



“ไม่เกี่ยวกันมั้งครับ สร้อยของผม คุณเก็บได้ก็ควรคืน”



“เกี่ยวสิ”



เป็นผู้ชายที่เอาแต่ใจตัวเองมาก



แต่เอ็นดูก็ทำอะไรเขาไม่ได้เลย เพราะตอนนี้ทรงโปรดเป็นคนกุมความลับของเอ็นดูอยู่ ถ้าเกิดเรื่องที่เขาเข้าผับถึงหูคุณแม่กับคุณหญิงป้าเมื่อไหร่ เอ็นดูคงถูกเรียกกลับวังแล้วอาจจะถูกกักบริเวณทันที



ยังไงตอนนี้ก็หาทางเลือกอื่นไม่ได้ ในเมื่อสร้อยข้อมือยังอยู่กับเขา และทรงโปรดเองก็เป็นคนที่ถือไพ่เหนือกว่า...บอกเหตุผลไปคงไม่มีอะไรเสียหาย



“คุณแม่ไม่ชอบให้ผมไปในที่แบบนั้นครับ”



“อืม” เขาครางรับเสียงเบา



“แต่ที่คุณเจอเมื่อวาน เพราะว่าพี่ปัน...พี่รหัสเขาอกหักแล้วดื่มหนักมาก ผมกลัวว่าจะเกิดอันตรายเลยไปรับกลับห้อง”



“...”



“...”



เอ็นดูเม้มปากแน่น บีบมือตัวเองเบาๆ ไม่รู้ว่าความจริงที่พูดไปทรงโปรดจะเชื่อมากน้อยแค่ไหน แต่อย่างน้อยเขาก็คือคนเดียวที่เอ็นดูไม่ได้โกหกด้วย



“คอนโดอยู่ข้างหน้าใช่มั้ย”



“ครับ? อ่อ ใช่ครับ”



เขาไม่หือไม่อืออะไรกับเหตุผลของเอ็นดูเลยสักนิด แต่เปลี่ยนเรื่องได้เร็วเหมือนเปลี่ยนเครื่องดื่มในผับ



ทรงโปรดพยักหน้าเล็กน้อยก่อนหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าบริเวณคอนโดหรู ก่อนจะขับรถขึ้นบนลานจอดรถของคอนโด



“คุณจะขึ้นไปดื่มน้ำก่อนมั้ยครับ”



“อือ กำลังคอแห้งอยู่พอดี”



เอ็นดูชะงักหันขวับมองทรงโปรด เบิกตากลมของตัวเองเล็กน้อย อ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าประโยคที่เอ่ยตามมารยาทจะส่งผลให้คนตัวสูงเปิดประตูแล้วลงจากรถคันหรูในทันที



งานเข้าแล้ว



“ไม่ลงมาล่ะ”



เอ็นดูปลดเบลท์เมื่อทรงโปรดเดินอ้อมจากอีกฝั่งมาเปิดประตูรถให้ คนผิวขาวก้าวลงจากรถก่อนเสียงประตูปิดจะดังขึ้น เงยหน้ามองร่างสูงแวบเดียวก็ต้องหลบสายตาเมื่อพบว่าเขาจ้องมองก่อนอยู่แล้ว



“พักอยู่ชั้นไหน”



“ห้าสิบสองครับ”



“โอเค เชิญครับ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดผายมือให้เอ็นดูเดินนำไปก่อน คนผิวขาวก้าวขาพลางยกข้อมือขวาขึ้นมาลูบเบาๆ



สร้อยยังอยู่กับทรงโปรด แต่จะขอคืนตอนนี้เขาคงทำไม่รู้ไม่ชี้ใส่อีก



คงต้องรอให้เขาดื่มน้ำจนสบายใจก่อน แล้วค่อยทวงสร้อยคืนอีกที










*****











เพราะว่าวันนี้ฝนตกหนัก เอ็นดูเลยไม่ได้ออกไปยืนริมระเบียงเพื่อดูแสงสีของแม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนวันก่อนๆ มือขาวดึงผ้าม่านปิดหน้าต่าง นอกจากเม็ด นอกจากฝนที่สาดกระทบเกาะอยู่บนกระจกก็ไม่มีอะไรน่ามองแล้ว



นอกซะจากเจ้าของร่างสูงที่นั่งดูทีวีจิบน้ำแก้วเดียวมานานเกือบสองชั่วโมง



ตั้งแต่ถึงห้อง เอ็นดูเดินทำอะไรเรื่อยเปื่อยเสร็จไปแล้วเยอะมาก เสิร์ฟน้ำให้ทรงโปรด หวังว่าเขาจะจิบเบาๆ แล้วขอตัวกลับ แต่เปล่าเลย ทรงโปรดขอเปิดทีวีดูข่าว แล้วทำตัวสบายๆ เหมือนที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง



เขาจะทำตัวสบายๆ ก็ไม่ผิดหรอก เพราะเอ็นดูพลาดเองที่บอกกับเขาว่า ‘ตามสบายครับ’



พลาดเองจริงๆ



ใครจะคิดว่าเขาจะทำตัวตามสบายแบบนี้



“คุณ ยังไม่กลับอีกเหรอครับ”



เอ็นดูยืนห่างจากร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟาราวห้าเมตร เอ่ยปากถามเชิงไล่ให้เขากลับบ้านกลับช่องได้แล้ว



ทรงโปรดมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง แต่พอพบว่ามีม่านปิดอยู่เขาเลยขยับตัวลุกขึ้นเดินไปตรงนั้น มือหนาแง้มม่านสีเทาออกเล็กน้อย ก่อนปิดมันไว้เหมือนเดิมแล้วเดินกลับมายืนอยู่ตรงหน้าโซฟา



“ฝนยังตกอยู่ ตกหนักด้วย”



เอ็นดูเห็นเขายกยิ้ม



“ใจคอจะไล่กลับทั้งๆ ที่ฝนอยู่แบบนี้เลยเหรอ”



“แล้วคุณจะเอายังไง”



“ก็ต้องอยู่ที่นี่จนกว่าฝนจะหยุดตก”



“งั้นคงเช้าเลยแหละครับ”



“อืม”



“...”



“ถ้าหยุดตกตอนเช้าคืนนี้คงต้องนอนค้างที่นี่”



ร่างสูงยืนล้วงกระเป๋ากางเกง เปล่งเสียงทุ้มด้วยท่าทางนิ่งเฉย ผิดกับเอ็นดูที่ขมวดคิ้ววุ่นวาย ส่ายหน้าจะพูดปฏิเสธแต่ก็ถูกคุณชายทรงโปรดดักทางไว้ก่อน



“อย่าลืมนะว่าเราทำเรื่องอะไรไว้”



“ผมรู้ว่าผมโกหก ผมขอโทษและบอกเหตุผลให้คุณฟังไปหมดแล้ว”



เอ็นดูไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย การที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เพราะถูกเขาแกล้งมันทำให้เอ็นดูหงุดหงิดตัวเองที่สุด รู้ทั้งรู้ว่าเขาจงใจทำให้ปั่นป่วนแต่ก็ยังหลงเข้าไปอยู่วังวนคนขี้แกล้งอยู่ดี



“ฝนตกไม่พอ แต่เมาด้วย ทำไมใจร้ายไล่กลับบ้านแบบนี้”



“คุณเมาเหรอ”



“ใช่”



“เมาแล้วขับรถมาส่งผมทำไมครับ”



“ก็คุณน้าแอ้ฝากฝังไว้แล้ว”



“ดื่มด้วยเหรอ ทำไมไม่เห็น...” เอ็นดูพึมพำเพราะไม่อยากส่งเสียงเถียงกับเขาแล้ว



“ดื่มวิสกี้ไปแก้วหนึ่ง”



ร่างสูงยกยิ้มตอนที่เอ็นดูสบตาเขา



ปากจิ้มลิ้มมุบมิบเหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่ก็เปลี่ยนเป็นเม้มแน่น



“นอนห้องไหน”



“ผมเหรอครับ”



“ใช่”



“ห้องนี้ เฮ้ย ไม่ๆ คุณ”



เสียงร้องหวานๆ ดังขึ้นเมื่อทรงโปรดสาวเท้าเข้าไปในห้องนอนของเอ็นดู เขาถอดสูทสีดำออกแล้วพาดไว้กับเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ในห้องนอนก่อนล้มตัวลงบนเตียงนุ่มๆ ที่มีกลิ่นหอมของเจ้าของห้องติดอยู่



เอ็นดูวิ่งตามมาติดๆ จะร้องบอกให้ทรงโปรดลุกขึ้นแล้วออกจากนี้ไปก็ไม่ได้แล้ว เพราะมือหนาค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาออกทีละเม็ดจนแผงอกขาวกำยำเผยต่อหน้าต่อตาเอ็นดู



ทรงโปรดดุนลิ้นข้างแก้ม ยกยิ้มร้ายตามแบบฉบับคนเจ้าเล่ห์



 “สร้อยข้อมืออยู่ในกระเป๋าเสื้อ”



 “ผมหยิบได้ใช่มั้ยครับ”



แต่เขาก็เจ้าเล่ห์กับเอ็นดูคนเดียวเท่านั้น



“ได้”



“ขอบคุณนะครับที่เก็บสร้อยไว้ให้”



“แต่คืนนี้ห้ามหนีไปนอนที่อื่น”



เขารู้ทันความคิดเจ้ากระต่ายน่ารักนี่หมดแหละ



“เคยนอนตรงไหนก็นอนตรงไหน”



“ผมนอนตรงนี้”



เอ็นดูชี้นิ้วไปตรงจุดที่เขานอนอยู่



“แต่คุณนอนอยู่”



“ไม่เป็นไร เดี๋ยวขยับให้”







*****







จอมภพPP: เมื่อคืนไม่ครบแก๊งว่ะ

จอมภพPP: มีคนหายหัว

Peach: ไอ้หม่อมถูกคุณแม่กักตัวเหรอวะ

จอมภพPP: หรือว่ามันจะเจอหญิงถูกใจแล้วนัดกินตับ

Peach: ก็น่าคิด ได้ข่าวว่าเมื่อคืนหม่อมมันไปงานเลี้ยงด้วย น่าจะเจอคุณหนูสวยๆ เปล่าวะ

จอมภพPP: ตรวจเลือดด้วยเพื่อน อย่ามั่วมากน้าเป็นห่วง

Prod: รำคาญ

จอมภพPP: เกี้ยวกราดใส่เพื่อนแต่เช้า

Peach: เมื่อคืนไม่มาร้านกู ไปไหนมาวะ

Prod: งานเลี้ยง

Peach: ไม่ดิ งานเลี้ยงกี่ครั้งมึงก็ปลีกตัวมาร้านได้

Prod: เบื่อ จะให้ไปทุกวันเลยเลยหรือไง

จอมภพPP: อย่างไอ้โปรดเนี่ยนะเบื่อ

Prod: เออ เมื่อวานไปส่งเด็กมา

จอมภพPP: นั่นไงกูว่าละ

จอมภพPP: เฮ้ย เดี๋ยวๆ

จอมภพPP: มึงส่งเด็กด้วยวิธีไหนวะ

จอมภพPP: ลงมาส่งแล้วให้เขานั่งแท็กซี่กลับเองงี้อ่อ พ่อคนหวงรถ

Prod: เปล่า ก็ขับไปส่ง

Peach: กูไม่เชื่อ

จอมภพPP: กูก็ไม่

จอมภพPP: นอกจากคุณหญิงแม่แล้ว มึงก็ไม่เคยให้ใครนั่งรถของมึง

จอมภพPP: โดยเฉพาะที่นั่งข้างคนขับ

Prod: ใช่ ก็คุณแม่สำคัญที่สุด

Peach: แล้วเด็กที่ไปส่งเนี่ย สำคัญเท่าคุณหญิงแม่เลยเหรอ

Prod: อือ สำคัญ

 

ถ้าไม่สำคัญจะให้มานั่งบนรถทำไมล่ะวะ



นอกจากคุณแม่แล้ว ทรงโปรดไม่เคยให้ใครขึ้นมานั่งบนรถของเขา โดยเฉพาะที่นั่งข้างคนขับ



ตามนั้น ทรงโปรดเป็นคนรักรถเข้าเส้นเลือด เขาไม่อยากให้ใครมายุ่งกับรถสุดรักสุดหวง เลยตัดปัญหาโดยการไม่อนุญาตให้ใครสักคนขึ้นมาหย่อนก้นในรถของเขา มีแต่คุณแม่คนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์



แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่คุณแม่แล้ว



เพราะมีเจ้าคนน่ารักที่ชื่อเอ็นดูได้สิทธิ์เป็นคนสำคัญของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด



ตอนนี้เขาเหมือนคนบ้าที่นั่งดมกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มหอมๆ กลิ่นเดียวกับน้องแล้วคลายปากยิ้มอารมณ์ดีอยู่ในห้องรับแขก รอเจ้าเด็กน่ารักแต่งตัวไปสอบจนตัวเองดื่มโกโก้ร้อนหมดแก้วไปแล้ว



มุ้งมิ้งดีมั้ยล่ะ



คนคูลๆ อย่างเขาต้องมายกแก้วโกโก้ขึ้นดื่มเพราะที่นี่ไม่มีกาแฟ



ห้องน้องไม่มีกาแฟเลยจริงๆ หลังจากที่ทรงโปรดตื่นนอน อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จแล้วก็เจอกับเจ้าของห้องที่นั่งอยู่หน้าทีวีจอใหญ่ เอ็นดูถามเขาว่าจะดื่มอะไรก่อนกลับมั้ย แน่นอนว่าเขาต้องดื่มกาแฟ แต่เอ็นดูส่ายหน้าแล้วบอกเสียงนิ่มว่าที่นี่ไม่มีคาแฟ มีแต่โกโก้ ชาเชียว แล้วก็นมสด



เข้มๆ อย่างเขาก็ต้องเลือกอะไรที่เข้มๆ โกโก้อ่ะพอได้อยู่



เอ็นดูมีสอบตอนสิบโมง เขาเลยอาสาไปส่งเพราะเช้านี้ฝนตกไม่ยอมหยุดสักที เอ็นดูปฏิเสธไม่ได้เพราะทรงโปรดดันหยิบเรื่องในผับกับเรื่องที่น้องโกหกเมื่อคืนขึ้นมาพูดอีกครั้ง



ไม่ได้จะขู่ แค่บอกให้รู้ว่ายังไม่ลืม : )



น้องพูดอะไรมากไม่ได้ เอ็นดูเลยเป็นเด็กดีที่ตกอยู่ในโอวาทของเขาแทน แถมน้องยังใจดีกอดเสื้อผ้าของเขาไว้แนบอกไปปั่นแห้งให้ ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มซะหอมจนทรงโปรดดมแล้วดมอีก



แต่อยากดมเนื้อหอมๆ ของน้องมากกว่า



ทั้งที่มีสอบสิบโมงแต่เอ็นดูตื่นมาตั้งแต่ตีห้าเพื่อซักผ้าให้ ดูเหมือนน้องจะตื่นเช้า ก็ใช่ แต่ก็ยังไม่ทันทรงโปรดที่ตื่นมาจ้องหน้าคนนอนอยู่ตั้งแต่ตีสี่ครึ่งอยู่ดี



เหมือนโรคจิตจริงแหละ

 



Peach: ไอ้หม่อม แล้วเด็กที่มึงขับรถไปส่งนี่ชื่ออะไรวะ

 



“คุณ เห็นสร้อยข้อมือของผมมั้ยครับ”



เสียงนุ่มนิ่มดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า แน่นอนว่าทรงโปรดเลือกที่จะสนใจเสียงนุ่มเจือความว้าวุ่นมากกว่าเสียงอื่น เขาเอี้ยวตัวมองเจ้าของห้องที่เดินทำหน้ามุ่ยออกจากห้องแต่งตัว คิ้วสวยขมวดชนกันยุ่งเหยิง เอ็นดูเดินประคองข้อมือขวาตรงมาหาเขา



“สร้อยหายอีกแล้ว...” เอ็นดูเม้มปาก “คุณไม่ได้แกล้งกันใช่มั้ย”



ถ้าเป็นคนอื่นคงโวยวายแต่เอ็นดูแค่เปล่งเสียงนิ่มๆ นุ่มๆ ของตัวเองออกมาเท่านั้น ใบหน้าของน้องมีแต่ความเครียดจนทรงโปรดต้องลุกขึ้นเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ



ถึงเขาจะชอบแกล้ง แต่ถ้าได้คืนของแล้วก็คืนเลย



ไม่เก็บไว้กับตัวเพื่อหาเรื่องน้องแน่นอน



“คืนไปแล้วนี่”



“เมื่อคืนผมหยิบออกจากสูทของคุณแล้ว แต่ว่า...มันหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”



“แล้วได้ใส่หรือยัง”



เอ็นดูพยักหน้าหงึก เม้มปากแน่น ตาแดงก่ำเหมือนเด็กกำลังจะร้องไห้



“โอเค ใจเย็นๆ ก่อน เดี๋ยวช่วยหา”



ทรงโปรดวางมือบนศีรษะกลม ก้มหน้ามองน้อง ลูบเส้นผมนุ่มกับโครงหน้าหวานของคนตัวเล็กเบาๆ แล้วผละตัวออกก่อนเดินกลับเข้าไปในห้องนอน



เอ็นดูยืนนิ่งเมื่อรับสัมผัสกับน้ำเสียงอ่อนโยนของคุณชายทรงโปรด ขอบตาร้อนพลันหายไปทันทีแล้วเปลี่ยนเป็นแก้มปลั่งขึ้นสีแดงแทน น้องหมุนกายตามร่างสูงที่หายเข้าไปในห้อง คลี่ยิ้มบางเมื่อเห็นว่าคนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับสร้อยข้อมือนั้นดูเป็นเดือดเป็นร้อนยิ่งกว่าเอ็นดูซะอีก



“คุณ ผมหาในห้องนอนแล้ว”



ร่างสูงก้มๆ เงยๆ รื้อหมอน ผ้าปูที่นอนทุกอย่างลงพื้น ตอนนี้ทรงโปรดกับกำลังรื้อลิ้นชักของเอ็นดูด้วย



“แล้วเจอมั้ย” ทรงโปรดหันมาถาม แล้วก็พบกับคำตอบว่าไม่จากการส่ายหัวของเอ็นดู “โอเค”



“ผมจำไม่ได้เลยว่ามันหายไปตอนไหน”



“จำไม่ได้ไม่เป็นไร ช่วยกันหาแป๊บเดียวก็เจอ”



ทรงโปรดทำท่าจะเดินออกจากห้องแล้วหาต่อ แต่ตอนนี้มันเก้าโมงเศษๆ ไปแล้ว เอ็นดูมีสอบตอนสิบโมง แน่นอนว่าน้องไปสายกว่านี้ไม่ได้



“ไม่เป็นไรครับ คุณไปทำงานเถอะ ผมก็จะไปสอบแล้วเหมือนกัน”



ร่างสูงชะงักเท้าที่กำลังเดินเข้าห้องน้ำ เขาหันมามองน้องที่ทำหน้ามู่ทู่



ดูวุ่นวายใจขนาดนี้ อยากรู้จริงๆ ว่าจะเอาสมาธิที่ไหนไปสอบ



“บอกแล้วไงว่าจะไปส่ง”



“คุณไม่ทำงานเหรอครับ”



“ทำ แต่จะไปส่งเราก่อน”



“...”



“แล้วสร้อยที่หายสำคัญมากมั้ย”



ทรงโปรดถาม เขาขมวดคิ้วตามเอ็นดู รู้สึกเครียดไปด้วยจริงๆ



“สำคัญครับ เป็นสร้อยที่คุณพ่อให้ไว้ก่อนเสีย”



น้องเงยหน้าสบตาก่อนละไปมองอย่างอื่น ทั้งๆ ที่อยู่ในโหมดดราม่ายังอุตส่าห์กัดริมฝีปากอวบยั่วเขาอีกจนได้



รู้แล้วว่าเป็นท่าประจำตัว

แต่ไม่ต้องทำบ่อยๆ ก็ได้




 “มันเก่าแล้วเลยขาดง่าย ผมจะเอาไปซ่อมตั้งหลายครั้งแต่ก็ลืมทุกที”



ทรงโปรดขยับกายสูงเข้าใกล้ ประคองโครงหน้าหวานนุ่มนิ่มของน้องด้วยมือหนาทั้งสองข้างให้เงยขึ้นสบตาอีกครั้ง เขาโล่งใจเมื่อเห็นว่าดวงตาของน้องไม่ได้แดงก่ำเหมือนตอนแรก แต่เป็นแก้มกลมๆ นุ่มๆ ที่แดงระเรื่อแทน



“งั้นไปสอบก่อน เสร็จแล้วค่อยกลับมาหาใหม่ ดีมั้ย”



น้องกะพริบตาปริบ พยักหน้าเบาๆ สองครั้ง



เด็กดี ไม่ดื้อเลยว่ะ



“แล้วสอบเสร็จกี่โมง”



“ประมาณสี่โมงครึ่งครับ”



“ถ้าสอบเสร็จแล้วอย่าเพิ่งกลับ เดี๋ยวไปรับ เข้าใจมั้ย”



“ทำไมต้องมารับผมด้วย”



“เดี๋ยวช่วยหาสร้อยต่อไง”



“เอ่อ...ไม่ต้องก็ได้ครับ ผมหาเองได้”



“เอ็นดู มีสิทธิ์ดื้อกับพี่ด้วยเหรอ”




สรรพนามที่เขาใช้เรียกตัวเองทำเอาเอ็นดูชะงักค้างทันที ลมหายใจที่เข้าออกสม่ำเสมอก็พาลหยุดไปด้วย เสียงทุ้มนุ่มของทรงโปรดน่าฟัง ยิ่งประกอบกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มมุมปากด้วยแล้ว...เอ็นดูยิ่งรู้สึกร้อนผ่าวแปลกๆ



“ไม่ได้ดื้อสักหน่อย...” น้องพึมพำ กลอกตาเลิ่กลั่ก ไม่กล้าสบตา



จู่ๆ ก็รู้สึกแพ้...ไม่รู้ด้วยว่าแพ้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ตั้งแต่เจอเขา



“เอาเป็นว่าทำตามที่บอก ถ้าไม่ตกลง--”



“คุณนี่ชอบขู่จริงๆ เลย”



“ไม่ได้ขู่ คนมีความผิดร้อนตัวไปเองมากกว่า”



“คุณทำเป็นลืมบ้างได้มั้ย ไม่ต้องจำเอาไว้ทุกเรื่องก็ได้”



“เรื่องของเรามันน่าจำ”



“...น่าจำตรงไหนครับ ไม่เห็นจะน่าจำเลย”



ทรงโปรดยกยิ้ม ค่อยๆ ผละมือออกจากแก้มนุ่มนิ่มของน้องแล้วล้วงมือไว้ในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง ร่างสูงก้าวขายาวเดินตรงไปยังประตูห้อง แล้วหยุดเมื่อพบว่าประตูนี้ต้องใส่รหัสหรือสแกนนิ้วเพื่อเปิดประตูเท่านั้น



แต่ยิ่งนิ่งได้ไม่นานเจ้าของห้องก็หิ้วกระเป๋าเป้พาดไหล่ก่อนเดินมาสแกนนิ้วปิดประตูให้ เอ็นดูไม่มองหน้าทรงโปรดแต่ยู่ปากพร้อมเปล่งเสียงหวานๆ ของตัวเองออกมา



“ก็ได้ สอบเสร็จแล้วผมจะรอคุณ”



ไม่รู้ว่าไอ้ท่าทางช้อนตามองแล้วกะพริบแพขนตางอนยาวหน่อยๆ น้องไปเรียนรู้มาจากไหน



แต่บอกเลยว่าน่ารักมาก



“มารับด้วยแล้วกันนะครับ”



น่ารักจนอยากให้รางวัลเลยว่ะ















#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

 

 




















แบบนี้น้องเอ็นดูก็ไม่ปลอดภัยพอดี ._.

 thx.


 
 :katai4:
 

 

 


ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ฮือออ ติดตามนะคะ น่ารักอะ อยากบีบน้องงง
น้องเอ็นดู พี่ไม่ไหววว น่าเอ็นดูจังรู้กกกกกกก
แงงงงง นุขอจับนุขอทัชน้องงงง คนอะไรน่ารักกก
พี่โปรดก็แกล้งน้องงงงงง แงงงง คนบ้าาาา

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
เนื้อเรื่องน่ารักน่าเอ็นดูจริงๆเลย

ออฟไลน์ Marnajung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไม่รู้ว่าจะแพ้เอ็นดูหรือชายโปรดก่อนดี เขิน :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เอ็นดูน้องสมชื่อน้อง
น่าบีบมากเลย
พี่โปรดก็รุกเร็วเหลือเกิน

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:

ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
04

เหมือนดวงอาทิตย์ในวันที่ฝนตกเลย

ท้องฟ้ามืดครึ้ม แต่คุณยังสว่าง โดดเด่น และสดใส



 



“คืนนี้ห้ามไปผับหรือร้านเหล้าที่ไหนอีกนะพี่ปัน



“เออหน่า พี่ทำใจได้แล้ว”



“ไม่น่าเชื่อเท่าไหร่เลย”



หม่อมหลวงจิรายู่ปากใส่พี่รหัสที่ทำตัวไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ คนเพิ่งอกหักจิตใจยังบอบช้ำ ถึงพี่ปันจะยืนยันนักหนาว่าตัวเองโอเคดีทุกอย่าง แต่เอ็นดูก็ไม่อยากปักใจเชื่อ



“เห็นมั้ย สีผมก็เปลี่ยนแล้ว”



“เกี่ยวอะไรกันล่ะพี่ปัน”



“เกี่ยว ก็หมายถึงตัดใจได้แล้ว เปลี่ยนสีผม เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนใหม่”



“สาธุเลย จะได้ไม่ต้องไปหิ้วพี่ปันกลับบ้านอีก”



“แหะ ก็ไม่อยากให้น้องมาลำบากเพราะพี่แล้วนี่หว่า”



เอ็นดูเดินอยู่ในตึกรวมของมหา’ลัย ตั้งแต่สอบวิชาแรกยันวิชาสุดท้ายเสร็จแล้วก็อยู่แต่วนนี้ไม่ได้ไปไหน ฝนตกหนักทำให้ร้านกาแฟในตึกเรียนรวมเต็มไปด้วยนักศึกษา รวมถึงบริเวณรอบๆ ด้วยเช่นกัน



เอ็นดูชะเง้อคอมองรถที่จอดอยู่หน้าตึกแล้วก้มมองนาฬิกาข้อมือ ไม่รู้ว่าคนที่บอกจะมารับอยู่ไหน เบอร์โทรหรือช่องทางติดต่อกันก็ไม่มี



ไม่ได้รอเขานะ แต่เขาบอกเองนี่นาว่าจะมารับ



แต่ถ้าเขาไม่มารับ...ก็คงจะแย่หน่อยๆ : (



ปกติเอ็นดูขับรถมาเรียนเอง ฝนตกหนักแค่ไหนถ้าได้นั่งอยู่ในรถของตัวเองก็ยังพออุ่นใจ เอ็นดูไม่ชอบอยู่ในมหา’ลัยนานๆ ถ้าไม่มีอะไรจำเป็น



แต่ตอนนี้รถของตัวเองจอดอยู่ที่คอนโด เพราะเมื่อเช้ามีคนมาส่งถึงที่ แถมยังบอกว่าจะมารับกลับคอนโดอีกด้วย



เอ็นดูยืนรอจุดเดิม คือหน้าตึกเรียนรวม เมื่อเช้าทรงโปรดบอกให้มารอตรงนี้เพื่อจะได้หาตัวกันง่ายๆ หน่อย



“แล้วเรายังไม่กลับบ้านอีกเหรอ”



“เอ็นรอรถครับพี่ปัน”



“รอรถ? วันนี้ไม่ได้ขับรถมาเองว่างั้น”



เอ็นดูฉีกยิ้ม หันไปพยักหน้าหงึกๆ ให้พี่รหัสที่ยืนอยู่ข้างๆ



“แล้วนี่ใครจะมารับ คนในวังป่ะ”



“ลูกชายของเพื่อนคุณแม่--”



ยังไม่ทันจบประโยค ร่างสูงดูเด่นกว่าใครก็เดินกางร่มสาวเท้าตรงมาทางที่คนผิวขาวยืนอยู่ และในตอนนั้นเองที่มุมปากเอิบอิ่มเผลอกระตุกยิ้ม...



จู่ๆ ก็ดีใจที่เขาไม่เบี้ยวนัด



เอ็นดูสะกิดแขนพี่ปันเบาๆ ก่อนที่ตัวเองจะยกมือสวัสดีคนแก่กว่า ส่วนพี่ปันถึงจะทำหน้างงๆ แต่สุดท้ายก็ยกมือไหว้ตามรุ่นน้อง



เอ็นดูไม่ค่อยชอบใบหน้านิ่งเรียบของคุณชายทรงโปรดเท่าไหร่ เหมือนกับใบหน้านั้นได้หมายหัวเขาไว้ตลอดว่าตัวมีความผิดใหญ่หลวงติดตัว



“กลับเลยมั้ย”



หลังจากที่ทรงโปรดรับไหว้เด็กทั้งสอง เขาก็เอื้อมมือดึงคนผิวขาวให้มายืนอยู่ใกล้ๆ



ตาคมมองรุ่นพี่ขี้เมาของเอ็นดูที่เจอในผับ สภาพในตอนนั้นกับตอนนี้เหมือนเป็นคนละคน



ตอนนี้ดูเป็นผู้เป็นคนกว่าเยอะ



“คุณ ปล่อย”



เอ็นดูกัดฟันร้องเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน ดิ้นขลุกขลักเมื่อจู่ๆ ทรงโปรดก็โอบไหล่กลมแนบกาย เอ็นดูแทบจมไปกับอกเมื่อทรงโปรดกระชับแขนแน่นกว่าเดิม



“อยู่นิ่งๆ ร่มมันคันเล็ก”



“คุณจอดรถไว้ตรงไหน เดี๋ยวผมเดินไปเอง”



“เดินไปเองก็เปียก”



“ไม่เป็นไรครับ”



“เป็น เดี๋ยวไม่สบาย”



เอ็นดูเม้มปากเลิกพูดเพราะรู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไร คนตัวเล็กเลยปล่อยให้เขาโอบ ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในอ้อมกอดภายใต้ร่มคันนี้ เอ็นดูก้มหน้าก้าวเท้าระมัดระวัง กลัวว่าน้ำจะกระเด็นเปื้อนกางเกงของทรงโปรด



กลิ่นชื้นของฝนโชยแตะจมูกจนเอ็นดูทำจมูกฟึดฟัด แต่เชื่อเถอะว่ากลิ่นหอมๆ ของเอ็นดูดึงดูดความสนใจทรงโปรดมากกว่าอีก



ทรงโปรดไม่ใช่คนที่ชอบเสียสละอะไรเพื่อคนอื่นมากมาย เขาเป็นนักธุรกิจ ชอบได้กับได้มากกว่าเสีย แต่ตอนนี้เขากำลังสละแขนและมือเพื่อโอบไหล่ของน้องเพื่อไม่ให้เอ็นดูเปียกฝน เอียงร่มไปทางน้องเยอะกว่าจนซีกขวาของเขาชุ่มน้ำไปหมด



กระทั่งฝ่าฝนมาถึงเบนซ์สีดำ ทรงโปรดเปิดประตูข้างคนขับแล้วให้น้องแทรกตัวขึ้นรถก่อน เขาวางมือหนาไว้บนศีรษะกลม กันเอาไว้ไม่ให้หัวไปกระแทกกับกรอบประตูจนเอ็นดูเข้านั่งอย่างปลอดภัยถึงได้ผละออก



แล้วก็เป็นทรงโปรดบ้างที่ก้าวเท้ายาวๆ เพื่ออ้อมไปนั่งประจำที่คนขับ



“คุณ”



สตาร์ทรถเรียบร้อย เตรียมจะเข้าเกียร์แล้วเหยียบคันเร่ง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเสียงนิ่มๆ หวานๆ ดังขึ้น



“เสื้อคุณเปียกเหรอครับ”



ทรงโปรดมองใบหน้าหวานที่กำลังชะเง้อมองแขนข้างซ้ายของเขา ทรงโปรดหันมองเช่นกัน ก่อนจะเห็นว่ามันเปียกชุ่มจนน้ำหยดแหมะลงพื้น



“หันมาหน่อยครับ เดี๋ยวผมเช็ดให้”



มือขาวกำผ้าเช็ดหน้าสีครีมไว้ในมือ เอ็นดูช้อนตามองเขา กะพริบตาเมื่อเห็นว่าทรงโปรดกระตุกยิ้มก่อนจะหันหน้าเข้าหาเอ็นดู ทรงโปรดยื่นแขนข้างที่เปียกให้ แล้วมองใบหน้าหวานที่ก้มเงยๆ อยู่แถวๆ อกของเขา



น่ารักว่ะ



ทรงโปรดไม่รู้ว่าไอ้ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้จะทำให้เสื้อของเขาหายเปียกได้ยังไง แต่ก็ยอมนั่งนิ่งให้เอ็นดูเช็ดๆ ถูๆ บิดน้ำออกจากเสื้อต่อไป



“มันเปรอะคราบสีดำน่ะครับ ไม่รู้ว่าไม่โดนอะไรมา”



“สงสัยเป็นฝุ่น พอเสื้อเปียกน้ำเลยดูสกปรกกว่าเดิม”



“อ่า...ขอโทษนะครับ”



“ขอโทษอะไร”



แม้จะก้มหน้าหลบสายตา แต่ทรงโปรดเห็นว่าน้องกำลังกัดริมฝีปากตัวเองอยู่ สองมือน้อยๆ ที่จับต้นแขนข้างซ้ายของเขาสั่นประหม่า



“ไหน เงยหน้าสิ...บอกหน่อยว่าขอโทษอะไร”



ประคองแก้มด้วยมือหนา เชยขึ้นให้น้องสบกับตาคมของเขา ทรงโปรดยกยิ้มเมื่อเห็นปากจิ้มลิ้มสีแดงบวมหน่อยๆ คงกัดปากจนเกือบช้ำไปแล้ว



แก้มกับจมูกก็แดงระเรื่อ น่ารัก น่ากัดไปหมด



“ขอโทษที่ทำให้คุณเปียก เสื้อก็เปื้อนด้วย”



“ไม่ต้องขอโทษหรอก”



“ทำไมครับ”



“ไม่อยากให้เปียกฝนไง เลยเต็มใจเปียกแทน”



ลูกตาสีน้ำตาลเข้มเลิ่กลั่กก่อนจะหยุดโฟกัสที่จุดๆ หนึ่งซึ่งไม่ใช่ใบหน้าเขา ทรงโปรดหัวเราะในใจเมื่อเห็นว่าแก้มน้องแดงกว่าเดิม มือเล็กเริ่มขยับยุกยิกบนท่อนแขนขวา เอ็นดูกำลังเช็ดเสื้อให้เขาอีกแล้ว



จะทำยังไงกับเด็กน่ารักคนนี้ดีวะ



ถ้าเป็นคนอื่นเมื่อถูกใจเขาคงเปิดโรงแรมแล้วพาขึ้นเตียง จบด้วยการดึงถุงยางอนามัยออกแล้วก็หายไปจากชีวิตเพราะรู้ว่ามันไม่ใช่ แต่กับเอ็นดูนั้นแตกต่าง เขาไม่มีความคิดที่จะเริ่มทุกอย่างเร็วด้วยการพาน้องขึ้นเตียงแล้วจบลงเหมือนคนอื่นๆ ที่ผ่านมา แต่ทรงโปรดรู้สึกอยากแกล้งไปเรื่อยๆ จนแก้มกลมแดงระเรื่อหลายๆ ครั้ง



“คุณเต็มใจเปียกฝนแทนคนอื่นแบบนี้บ่อยใช่มั้ยครับ”



“กับเราคนเดียว”



มือเล็กที่กำลังเช็ดแขนเสื้อชะงัก จากที่ทำตาเลิ่กลั่กก็เปลี่ยนเป็นจ้องตาคมจนระริกสั่นไหว ทรงโปรดคลี่ยิ้ม ผละมือที่ประคองกรอบหน้าหวานออก เลื่อนไปรวบเอวของคนน่ารักแทน ออกแรงรั้งให้น้องขยับเข้าใกล้ ทรงโปรดโน้มใบหน้าลงแล้ววางลงบนไหล่แคบๆ หันหน้าเข้าหาลำคอขาวที่เป็นจุดรวมของกลิ่นหอม



ได้กลิ่นแล้วชื่นใจ หายเหนื่อย



เขารู้วางน้องพยายามดันตัวออก เพราะมือเล็กเลื่อนมาทาบบนอกแล้วดันเบาๆ แต่เขาน่ะดื้อ ต่อให้เอ็นดูผลักจนสุดแรงยังไงทรงโปรดก็ไม่ยอมผละตัวออกไปหรอก



“แล้วเราล่ะ สละผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดแขนเสื้อให้คนอื่นแบบนี้บ่อยใช่มั้ย”



ทรงโปรดใช้ปลายจมูกสูดกลิ่นหอมๆ จากลำคอขาวเข้าปอด เขาเห็นว่าคอขาวๆ นี้มีขนอ่อนสีทองที่ไหวลู่ไปตามแรงหายใจของเขาด้วย



โคตรเซ็กซี่เลยว่ามั้ย



“ดูช่ำชองดี”



“คุณคือคนแรกครับ”



“...”



“เพราะไม่มีใครกางร่มให้ผมแบบนี้”



น้ำเสียงนิ่มๆ นุ่มๆ หวานหยดย้อย กับคำตอบที่ทำให้ทรงโปรดยิ้มออกมา



“ไม่มีใครยอมเปียกฝนเพื่อผมเหมือนคุณหรอกครับ”



เปลี่ยนใจไม่แกล้งไปเรื่อยๆ แล้วได้มั้ยวะ

แต่ขออุ้มขึ้นเตียงแล้วฟัดให้จมเขี้ยวไปเลย







*****





หม่อมหลวงจิราทำหน้ามุ่ยยืนมองท้องฟ้าที่เทฝนลงมาจนน้ำท่วมกรุงเทพฯ เป็นเหตุผลให้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องหลังจากที่หาสร้อยข้อมือเส้นสำคัญให้จนเจอ



แล้วจะทำยังไงได้ ในเมื่อเขายืนยันว่ายังไงคืนนี้ก็ต้องค้างที่นี่เหมือนเดิม



“น้ำท่วม รถมันลุยน้ำไม่ได้ เดี๋ยวเข้าท่อแล้วดับกลางทางจะทำยังไง”



น้ำท่วมระดับเข่าของเอ็นดู แล้วท่อรถเบนซ์คันหรูของทรงโปรดก็ต่ำกว่าเข่าไปอีก มิดช่วงล่างจริงๆ นั่นแหละ



จะแนะให้เขายืมรถของตัวเองไปขับก่อนก็ใช่เรื่อง รถของเอ็นดูเป็นของ Lexus NX300h มันสูงว่าเบนซ์คันหรู และมั่นใจว่าสามารถขับลุยน้ำได้ เอ็นดูได้มาจากวังในวันคล้ายวันเกิดครบรอบยี่สิบปี...ก็เมื่อสองปีที่ผ่านมานี่เอง



ไม่รู้ว่าทรงโปรดขับรถของคนอื่นได้หรือเปล่า แต่เอาเถอะ อย่าไปหาเรื่องไล่เขากลับบ้านเลย



เดี๋ยวโดนงอนอีก : (



ตอนที่ทรงโปรดก้มๆ เงยๆ หยิบสร้อยข้อมือออกจากใต้โซฟาในห้องแต่งตัวได้แล้ว เขาก็รีบเดินมาบอกข่าวดีกับเอ็นดู แต่เจ้าของห้องดันใจร้าย แค่ขอบคุณแล้วบอกให้เขากลับบ้านเดี๋ยวนั้น



เอ็นดูรู้ว่าตัวเองผิดที่ไล่แขก คุณชายทรงโปรดมีน้ำใจมาช่วยหาของก็สมควรต้องเลี้ยงน้ำเลี้ยงข้าวเขาสักหน่อย



คนตัวใหญ่ทำหน้าเซ็งแล้วเงียบไป บอกให้ไปล้างมือทรงโปรดก็นั่งนิ่งๆ อยู่บนโซฟาในห้องรับแขกจนเอ็นดูอ่อนใจ ต้องหยิบทิชชูเปียกกับเจลล้างมือแล้วเดินไปหาเขาเอง



‘นี่คุณ ยื่นมือมาหน่อยครับ’



‘...’




ตั้งแต่เกิดมาจนอายุยี่สิบสอง ก็มีแต่คุณแม่ที่งอนเพราะเอ็นดูดื้อ นอกจากนั้นก็ไม่มีใครมางอนเขาอีกเลย นอกจากทรงโปรด ผู้ชายตัวโตๆ คนนี้



‘มือคุณสกปรก เดี๋ยวผมเช็ดให้’




เอ็นดูหย่อนสะโพกนั่งข้างๆ ร่างสูง เม้มปากเล็กน้อยเพราะเขาไม่ยอมยื่นมือที่กอดอกให้สักที



หวงนักหรือไงก็ไม่รู้



‘คุณ--’



‘เดี๋ยวเช็ดเอง’




ทรงโปรดเอื้อมมือจะหยิบทิชชูเปียกไปเช็ดเอง แต่เอ็นดูซ่อนมันไว้ข้างหลัง ยู่ปากมองค้อนคนตัวสูง



‘คุณงอนผม’




‘ไม่ได้งอน’



‘นี่ไง คุณ...งอน’



‘มันน่ามั้ยล่ะ ฝนตกแบบนี้ยังมาไล่กลับบ้าน’



‘ขอโทษครับ ผมไม่ไล่แล้ว ตามสบายเลยแล้วกัน”




ทรงโปรดผ่อนคลายใบหน้าตึงๆ กว่าเดิม



‘แต่ยื่นมือมาหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมเช็ดให้’



ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ทรงโปรดไม่งอนแล้ว และตอนนี้เขากำลังนั่งเปลือยท่อนบนเพราะเสื้อเชิ้ตสีขาวถูกจับโยนใส่เครื่องซักผ้า



เอ็นดูไม่ได้จะเสนอว่าจะซักเสื้อให้ แต่ตอนน้องกำลังหอบตะกร้าเสื้อไปซัก เขาก็รีบปลดกระดุมเสื้อออกแล้วเดินตามหลังมาติดๆ เอ็นดูเกือบหัวใจวายตายตอนที่หมุนตัวกลับแล้วพบกับแผงอกกว้างๆ ของทรงโปรด



“ส่วนสร้อยเดี๋ยวเอาไปซ่อมให้”



“คุณซ่อมเป็นเหรอครับ”



ทรงโปรดส่ายหน้า “พี่ชายทำงานเกี่ยวกับพวกเครื่องประดับ น่าจะมีช่างฝีมือดีๆ ช่วยซ่อมให้ได้”



“พี่คุณเหรอครับ”



“รู้จัก?”



“ก็...พี่คุณออกงานกับคุณป้านัดบ่อยๆ”



ในบรรดาพี่น้องตระกูลนี้ เอ็นดูเจอหน้าหม่อมราชวงศ์ทรงคุณบ่อยสุด ประมาณสี่ห้าครั้งได้ แต่ก็ไม่ได้สนิทหรือเคยคุยกันเหมือนกับทรงโปรด



“กับคนอื่นเรียกพี่ได้ แต่กับพี่เรียกคุณ”



ทรงโปรดวางนิ้วเรียวบนจมูกโด่งสวยของเอ็นดู ออกแรงเคาะเบาๆ จนน้องหลับตาปี๋ หดคอถอยหนีเล็กน้อย



“เดี๋ยวจะโดนตี”



“คนอื่นที่ไหน นั่นพี่ชายคุณนี่ครับ”



“ไหนลองเรียกพี่โปรด”



น้องเม้มปาก กลอกตาเลิ่กลั่ก



“เอ็นดู”



“...ผมหิวข้าวแล้ว ขอไปหาอะไรกินก่อนนะครับ”



ไม่เอาหรอก ถ้าเรียกแบบนั้น...หัวใจต้องสั่นมากแน่ๆ



แต่ถึงหนียังไงก็ไม่รอด เพราะเอ็นดูหยุดเดินแล้วหมุนซ้ายขวาในแพนทรี่ มือไม้มันสั่นเพราะคำว่า ‘พี่โปรด’ จากเสียงทุ้มนุ่มที่ลอยวนเวียนในหัว หิวก็หิว แต่คิดไม่ออกเลยว่าจะกินอะไรดี



ก็ตอนนี้ในหัวไม่มีพื้นที่ให้คิดอย่างอื่น เพราะมีแต่เรื่องของทรงโปรดเต็มหัวไปหมดเลย



เอ็นดูลากสลิปเปอร์แบรนด์เนมราคาแพงจนเกิดเสียง ทรงโปรดเดินมาดูคนน่ารักที่กำลังเดินไปมาอยู่ในแพนทรี่ เขาหัวเราะเบาๆ พลางไหวไหล่ พิงสะโพกแกร่งบนโซฟา ตาคมล็อกไว้กับร่างเล็กๆ ของกระต่ายตัวน้อยเรียบร้อยแล้ว



“ไหนบอกว่าหิว ทำไมมาเดินเล่นอยู่ในนี้ล่ะ”



“เฮ้ย”



เอ็นดูสะดุ้งเหมือนเจอผี แต่โทษที เขาคือเทวดา



ทรงโปรดยกยิ้ม มองน้องที่กำลังเบิกตาโตยกมือขาวขึ้นปิดปาก เขาสาวเท้าตรงเข้ามาในแพนทรี่ มือหนาล้วงไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนหยุดอยู่ตรงหน้าเอ็นดูที่ขยับถอยหนีไปแล้วหนึ่งก้าว



“เอาเสื้อคลุมมั้ยครับ เดี๋ยวผมไปหยิบให้”



“จะหนีกันอีกแล้ว”



เอื้อมมือคว้าเจ้าเด็กน่ารักไว้ด้วยมือเดียวก่อนดึงเข้าหาตัว ทรงโปรดต้อนจนน้องหมดทางหนี เอวของเอ็นดูชนกับเคาน์เตอร์จนถอยหลังไปไหนไม่ได้แล้ว คนผิวขาวหันหน้าหนีแผ่นอกขาวๆ ของทรงโปรด จะยกมือดันออกก็ไม่กล้า



ไม่กล้าสัมผัสเนื้อแนบเนื้อ



“ไง ไหนบอกว่าหิว”



“ก็...กำลังคิดอยู่ครับว่าจะทำอะไรกินดี”



ทรงโปรดเลิกคิ้ว เอียงหน้ามองคนที่หาสารพัดข้ออ้างมาพูด ตอนนี้เขากักตัวเอ็นดูไว้ด้วยแขนสองข้างที่มีลอนของกล้าม เท้าแขนบนเคาน์เตอร์ โน้มตัวเล็กน้อยแต่จมูกโด่งก็เกือบชนเข้ากับหน้าผากที่มีผมนุ่มคลอเคลีย



“ปกติทำอาหารกินเองเหรอ”



“ครับ”



“ไม่น่า เมื่อวานที่กินถึงได้อร่อยเหมือนเชฟมาเอง”



“ขอบคุณครับ”



“สอนบ้างได้มั้ย ปกติซื้อกินอย่างเดียว”



“คือ...คุณ ไปคุยที่อื่นดีกว่ามั้ยครับ”



เอ็นดูวางศอกสองข้างบนเคาน์เตอร์ เอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อยเมื่อทรงโปรดโน้มหน้าลงมา ร่างสูงคลี่ยิ้มตอนที่น้องเอียงหน้าหนี ทำให้เขาเห็นเส้นเลือดฝอยจางๆ บนแก้มขาวใส



“คุยในนี้แหละ”



“งั้นใส่เสื้อคลุมก่อนดีกว่า เดี๋ยวผมไปหยิบให้”



“หนีเก่งนะเรา”



“ไม่ได้หนีนะครับ”



ยิ่งใกล้ยิ่งได้กลิ่นหอมๆ ชัดเจน ทรงโปรดสงสัยเหลือเกินว่าตัวของน้องมีส่วนไหนบ้างที่ไม่หอม



คอก็หอม แก้มกับใบหูก็หอม เหลือตรงไหนอีกที่เขายังไม่ได้ดมและควรจะต้องดม แล้วเขาก็เผลอใช้ปลายจมูกคลอเคลียแก้มขาว เฉียดไปเฉียดมาจนน้องเข่าอ่อน



เอ็นดูคือสารเสพติดชนิดใหม่

มีฤทธิ์ร้ายที่ทำให้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดมัวเมา อยากฝังจมูกให้จมไปทุกส่วน



“คุณ ออกไปเถอะครับ”



“ยังคุยไม่จบเลย”



“ไม่เอาแล้วครับ ใกล้เกินไปแล้ว”



“ตาเถร! นี่มันผิดผี”



“เอ็นดู...นั่นหนูพาใครเข้าห้องคะ”




อดีตนางงามรีบถอนแว่นตากันแดดสีชาออกแล้วพับเก็บลงกระเป๋า Prada สีดำ ส่วนคนข้างๆ...หม่อมราชวงศ์ลักขณา หรือคุณหญิงป้าของเอ็นดูยืนช็อกไปแล้ว



“ชายโปรดเหรอคะ” เสียงคุณแม่ดังขึ้นอีกครั้ง



เจ้าของห้องรีบยกมือผลักไหล่เปลือยของทรงโปรดให้ออกห่าง แต่ร่างสูงยังเนิบนาบ ค่อยๆ ผละตัวออกปล่อยให้น้องเป็นอิสระ



คนตัวขาวเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูกเมื่อถูกสองสายตามองมาที่เขา คิ้วสวยขมวดแน่นก่อนจะคลายออก เอ็นดูเม้มปาก ฝืนฉีกยิ้มแล้วยกมือสวัสดีผู้ใหญ่ทั้งสอง



“สวัสดีครับคุณแม่ สวัสดีครับคุณหญิงป้า”



“สวัสดีครับ” แล้วก็เป็นทรงโปรดที่ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ตามมาติดๆ



แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะตอนนี้หัวใจดวงน้อยๆ ของเอ็นดูมันเต้นรัวจนแทบระเบิดออกมา



เอ็นดูรีบวิ่งปรี่เข้าหาคุณหญิงลักขณาที่ยืนนิ่งไปแล้ว มือขาวแตะลงเบาๆ บนท่อนเเขนนุ่มของท่าน ก่อนจะหันหน้าขอความช่วยเหลือจากทรงโปรดและคุณแม่



“คุณแม่ คุณหญิงป้าเขา--”



“คงช็อกน่ะลูก ชายโปรดคะ มาช่วยน้าประคองคุณหญิงไปนั่งพักหน่อยค่ะ”



เอ็นดูแอบค้อนทรงโปรดตอนที่ร่างสูงวิ่งมาช้อนร่างของคุณหญิงลักขณาไว้ เขาไม่มีอาการตกใจเหมือนที่เอ็นดูเป็นเลยสักนิด



แต่ร้ายกว่านั้น เอ็นดูกลับเห็นทรงโปรดกระตุกยิ้ม



คงดีใจมากน่ะสิที่ได้แกล้งคนอื่น







*****





ฟ้าฝนเป็นพยานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทรงโปรดแค่แกล้งเอ็นดูเล่นๆ เท่านั้น แต่เรื่องมันกลับบานปลายจนถึงหูผู้ใหญ่ที่วังภัสร์ฤทัย



คุณหญิงลักขณาให้คุณแม่ของเอ็นดูต่อสายไปที่วังภัสร์ฤทัยด่วน ท่านต้องการคุยกับใครก็ได้ที่จะสามารถรับฟังเรื่องราวที่คุณหญิงลักขณาพบเจอเต็มสองตา



และแน่นอนว่าคนที่รับที่โทรศัพท์ก็คือคุณแม่ของทรงโปรดเอง



แล้วก็นั่นแหละ พอท่านทราบข่าวก็รีบบึ่งมาถึงคอนโดของน้องทันที



ตอนนี้ทรงโปรดกับคนผิวขาวเลยนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสามท่าน



“พี่อยากให้คุณนัดเข้าใจนะคะ ไม่ว่าจะชายหญิง หญิงหญิงหรือ...ชายชาย เมื่ออยู่กันสองต่อสองก็ไม่ควรใกล้ชิดกันเกินควร”



คุณหญิงลักขณาถือยาดมติดจมูก หัวใจแทบวายตายตอนที่เห็นภาพไม่ควรต่อหน้าต่อตา



“ค่ะคุณหญิง”



“แล้วพี่ก็อยากให้คุณนัดเข้าใจด้วยนะคะ ว่าการกระทำแบบนี้ บ้านพี่เรียกว่าผิดผี”



“คุณพี่คะ เด็กๆ เขาก็แค่หยอกกันเล่นๆ”



“เล่นแบบไหนหอมแก้มแนบเนื้อเหรอจ๊ะแม่แอ้ สมัยพี่สาวๆ ไม่มีการหยอกเล่นแบบนี้หรอกนะ”



“...”



“ที่สำคัญ หลายชายโปรดก็แต่งตัวไม่เรียบร้อย” คุณหญิงลักขณาเหลือบมองทรงโปรด ลอนที่แขนแกร่งกับซิกซ์แพ็กส์บนหน้าท้องของทรงโปรดยังติดตาท่านอยู่เลย



เอ็นดูก้มหน้ากัดปาก ตั้งแต่นั่งคุกเข่ามาเนี่ย เขายังไม่มีโอกาสเปิดปากอธิบายอะไรเลยสักนิด แล้วก็อย่าพูดถึงคนขี้แกล้งนั่นเลย ทรงโปรดดูท่าจะไม่สะทกสะท้านกับการโดนเรียกไปเทศน์ แต่กลับดูชอบซะอีก



“คุณหญิงป้าครับ เรื่องนี้เอ็นอธิบายได้”



เสียงนุ่มนิ่มแว่วดังอย่างใจเย็น ทรงโปรดเห็นน้องช้อนตาฉ่ำน้ำมองผู้ใหญ่ทั้งสามท่าน สองมือขาววางประสานบนหน้าตัก ความเรียบร้อยของเอ็นดูทำให้เขาต้องเลิกคิ้ว



มารยาทดีมาก คงถูกอบรมสั่งสอนอย่างดี



“อะไรอีกเอ็นดู ป้าเห็นเต็มตา”



“คุณพี่ลองฟังเด็กๆ อธิบายก่อนดีมั้ยคะ” คุณแอ้บอกด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น และความใจเย็นของเธอก็ทำให้คุณหญิงลักขณาพยักหน้า



“พูดมา ป้ารอฟังอยู่”



“เสื้อคุณ...เสื้อคุณชายโปรดเปียกฝนครับ เอ็นเลยอาสาซักให้ พอดีคุณชายโปรดไปรับเอ็นที่มหา’ลัยครับคุณหญิงป้า”



“เรามีรถขับเอง ทำไมต้องให้คนอื่นไปรับ” คุณหญิงลักขณายิงคำถามต่อ



“สร้อยข้อมือเอ็นหายครับ คุณชายโปรดเลยจะช่วยหา เอ่อ...เมื่อคืนคุณชายโปรดค้างที่นี่ เพราะฝนตกหนัก ตื่นเช้ามาเอ็นหาสร้อยข้อมือไม่เจอ คุณชายโปรดเลยสัญญาว่าจะช่วยหา”



“นอนที่นี่...อย่าบอกนะว่านอนด้วยกันแล้ว!”



“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับคุณหญิงป้า”



คุณหญิงลักขณาตีความหมายไปในทางอื่น ท่านขมวดคิ้วอยู่คนเดียวในขณะที่คุณแอ้กับคุณนัดปิดปากพากันกลั้นหัวเราะให้กับความหัวโบราณของคุณหญิง



ท่านเป็นคนหัวโบราณที่ถือเรื่องการสัมผัสตัวเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งเอ็นดูถูกเลี้ยงมาราวกับเป็นผู้หญิงด้วยแล้วเลยทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องที่คนหัวโบราณอย่างคุณหญิงลักขณาไม่มีวันเข้าใจ



“ไม่ใช่อย่างนั้นอะไรของเรา ถึงจะอธิบายแต่ป้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี...แล้วทำไมต้องหอมแก้มกัน”



เอ็นดูกัดปาก เผลอยกมือขึ้นลูบแก้มกลมเบาๆ



ยังไม่ได้หอมสักหน่อย แค่จมูกเฉียดไปมาเท่านั้นเอง



“ถ้าไม่ได้เป็นอะไรกันทำไมต้องหอมแก้ม ตอบป้าสิ”



ทรงโปรดหันมองเอ็นดูที่ก้มหน้าจ๋อยเหมือนเด็กถูกดุ เขาเอ็นดูน้องในเวลาแบบนี้จริงๆ



ร่างสูงค่อยๆ ขยับเข้าใกล้ ทรงโปรดไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ เขายื่นมือหนาของตัวเองไปกุมมือขาวไว้ การกระทำนั้นทำให้เอ็นดูสะดุ้งแล้วเงยหน้าขึ้นมอง



“คุณ...”



“เอาหล่ะ คุณนัดคะ พี่ไม่รู้ว่าวังภัสร์ฤทัยมีความเชื่อยังไง แต่ภาพที่พี่เห็นกับคำอธิบายของเอ็นดูที่บอกว่า...นอนด้วยกันแล้ว มันประกอบกันชัดเจนว่าผิดผี”



ทรงโปรดบีบมือขาวเบาๆ เป็นครั้งแรกที่น้องสบตาคมของเขาแบบไม่กะพริบหรือหลบหนี



“ทรงโปรดต้องผูกข้อไม้ข้อมือกับเอ็นดูไว้ก่อนค่ะคุณนัด”



“คุณหญิงป้าครับ แต่พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะครับ” เอ็นดูโอดครวญออกมา น้องทำตาละห้อยน่าสงสาร



“ไม่ได้เป็นแล้วหอมแก้มกันได้ยังไง ไหนจะนอนด้วยกันอีก โกหกป้าหรือเปล่าว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน”



“ขอโทษแทนน้องด้วยครับคุณหญิงป้า” เสียงทุ้มเปล่งขึ้นครั้งแรกหลังจากที่เงียบไปนาน “น้องยังไม่กล้าบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ เพราะกลัวว่าจะไม่เหมาะ”



เอ็นดูเงยหน้ามองเขา



หัวใจดวงน้อยๆ หยุดเต้น



“ผมกับเอ็นดูเป็นแฟนกันครับ”



“คุณ!”



“เพื่อเป็นการรับผิดชอบทุกอย่าง ผมจะทำให้ถูกต้องตามที่ผู้ใหญ่เห็นสมควรครับ”



“คุณรู้มั้ยว่าผูกข้อไม้ข้อมือหมายความอะไร คุณพูดอะไรออกมาครับ”



“แล้วหมายความว่ายังไง เอ็นดูบอกให้พี่เข้าใจได้มั้ย”



ทรงโปรดยกยิ้ม ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าความหมายของการผูกข้อไม้ข้อมือคืออะไร ตรงข้ามกัน เขารู้เต็มอกเลยแหละ



“งั้นดีเลย ถ้าชอบกันรักกันก็ผูกไม้ผูกมือจองตัวไว้ก่อน ไปมาหาสู่จะได้ไม่มีใครว่า”



เอ็นดูอ้าปากพะงาบ พยายามดึงมือออกจากมือหน้าแต่ก็ไม่สำเร็จ จะหันไปปฏิเสธคุณหญิงป้าก็ไม่ทันแล้ว



“ถ้าคุณนัดไม่ขัดข้องอะไร เสาร์นี้พี่อยากจะเชิญเยี่ยมวังวงศ์ประดิษฐ์ค่ะ จะได้กันหารือดูหาฤกษ์ยามวันหมั้นด้วย”

 

 











#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

 







 

 

 

 

 

 

 



 เอาใจช่วยน้องเอ็นดูด้วยนะคะ >.<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2018 09:45:39 โดย Swanlee »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
สงสารน้องงงง โดนมัดมือชกซะงั้น

คุณชายพี่ย่ามใจไป ระวังน้องโกรธจริงจะยิ้มไม่ออก หึหึ

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
เข้าทางชายโปรดเลยแบบนี้ไม่ต้องออกแรงจีบให้เหนื่อย

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

แหม่.......เข้าทางคุณชายโปรดหล่ะสิ  พอได้ยินคำว่าผูกข้อไม้ข้อมือเนี่ย  เลยฉวยโอกาสพูดเลย  อิอิ

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
เดี๋ยวก่อนนะคะคุณหญิงป้า555555555555
หัวหน้าชิปเปอร์เปล่าเนี่ย คือป้าไวมาก

ออฟไลน์ Mafiaziip

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
พลิกล็อคไปอีก ยิ่งอธิบายก็ยิ่งผิดผี แต่ดีที่คุณหญิงป้าไม่หัวโบราณเรื่องเพศ

ชายโปรดก็ต้องทำให้น้องรู้ได้แล้วว่าตัวเองคิดจริงจังกับน้องจริง ๆ เดี๋ยวน้องจะคิดว่าอยากแกล้งกันเฉย ๆ

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :hao7: เข้าทางชายโปรดเขาหละคุณหญิงป้า  :hao7:
 o13 ดีงามมากๆๆๆ  o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด