อรุณสวาทครับทุกท่าน ขอบคุณที่ติดตามอ่านคดีรักภาคสองนะครับ
ยังไงก็อย่าลืมคดีรักภาคหนึ่ง เดี๋ยววันสองวันนี้จะมาแจ้งข่าวเรื่ืองซื้อหนังสือครับ วันนี้ต้องไปไปรษณีย์ซะก่อนเพื่อหาข้อมูล ไม่ได้ส่งพัสดุไปรษณีย์มานานมากแล้ว เลยไม่รู้ว่าซอง จ.ม. ที่ใส่หนังสือหนา 400 หน้าได้ัมันมีรึเปล่าและค่าส่งกี่บาท
เมื่อวานขอโทษนะครับที่ลืมบอกว่าไปเล่นกีฬาแล้วไม่ได้กลับมาโพสต่อ ปล่อยให้รอจนถึงค่ำคืน อันนี้ไปโทษคุณ sasi นะ
บทที่ 11 ต่อ
ธงรบสะอึก บทอาทิตย์จะพูดตรงก็ตรงเสียจนทำให้เขาอึ้ง
ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ธงรบพูดไม่ออก ในชีวิตตำรวจเจ้าสำราญของเขาที่ผ่านใครต่อใครมาหลายคนเขาไมเคยจนคำพูด ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเหมือนมีใครยัดลูกมะนาวลูกใหญ่ๆ เข้าปากเขาพร้อมกันสักสองสามลูก
"ขอเวลาพี่หน่อยอาทิตย์" ในที่สุดธงรบก็พึมพำเบาๆ เมื่อใกล้ถึงจุดที่เขาต้องลงจากรถ
หรือจะพูดให้ถูก...จุดที่เขารู้สึกเหมือนกันว่าอาทิตย์ "ถีบ" เขาลง
ธงรบบอกให้อาทิตย์จอดให้เขาลงหน้าตึกสูงตึกหนึ่งกลางซอยอโศก เขาบอกว่าจะนั่งแท็กซี่ไปหาอธิคม อาทิตย์ไม่พูดอะไร จอดรถให้นายตำรวจลงแต่โดยดี
"พรุ่งนี้เจอกัน" อาทิตย์พูดสั้นๆ ขณะที่รอให้ธงรบลงจากรถ
"ครับผม" ธงรบตอบรับสั้นๆ เช่นกัน "ขับรถดีๆ นะ"
อาทิตย์พยักหน้า รอธงรบปิดประตู แล้วพุ่งรถออกไปโดยเร็ว ทิ้งให้นายตำรวจหนุ่มมองตามด้วยสายตาครุ่นคิด
...พรุ่งนี้เจอกัน...พรุ่งนี้คือวันที่สามของช่วงเวลา "ตื๊อได้" ก่อนที่จะต้องห้ามไปตื๊ออีกสามวัน...
...อีกสามวันที่เขาจะไม่ได้เจอหน้าอาทิตย์...
...สามวันที่เขารู้สึกคงจะรู้สึกเหงาอย่างประหลาด...
...สามวันที่เขาไม่รู้จะทำอะไรดี นอกจากกลับไปนอนเล่นดูทีวีอยู่ที่บ้าน
จะชวนอธิคมไปเที่ยว ฝ่ายนั้นก็ไม่ยอมไปไหน วันๆ ติดหนึบอยู่กับอนุภาพ ทิ้งเขาให้ลอยไปลอยมาคนเดียว เบื่อแสนเบื่อ
...สามวันที่ได้ตื้ออาทิตย์ก็สนุกดีอยู่หรอก แต่สามวันที่ติดเคอร์ฟิวนี่สิ...เซ็งสุดๆ...
ธงรบเดินเข้ามาในห้องชุดของอธิคมเพราะรู้สึกเบื่อเป็นอย่างยิ่ง หลังจากแยกกับอาทิตย์ เขาแวะไปนั่งปล่อยอารมณ์ในผับในซอยทองหล่อจนเกือบเที่ยงคืน ตอนแรกคิดว่าจะไปโทรไปชวนภาณุวัฒน์ เด็กหนุ่มคนล่าสุดของเขาออกมาเที่ยว ภาณุวัฒน์เป็นคนน่ารัก ไม่เคยขัดเขาสักอย่าง ไม่กวนใจ ไม่เร่งรัด ไม่ตื๊อ และท่าทางจะหลงเขาหัวปักหัวปำ
...แต่ทำไมเขาเอาแต่นึกถึงแต่อาทิตย์...
จะว่าไป หากจะตัดสินใจเลือกภาณุวัฒน์เป็นแฟนก็ได้ เทียบกับทุกคนที่เคยผ่านมา เขาให้ภาณุวัฒน์เป็นอันดับต้นๆ
...แต่อาทิตย์นี่สิ...จะทำอะไรก็มีแต่อาทิตย์...
...อาทิตย์...อาทิตย์...อาทิตย์...
...นี่เรากำลังตกหลุมรักอาทิตย์หัวปักหัวปำหรือไร...แล้วภาณุวัฒน์ล่ะ จำทำยังไงดี...คนอื่นๆ ล่ะ ต้องให้เลิกกับทุกคนเหมือนกับอธิคมเลยหรือ ต้องมีอาทิตย์คนเดียวหรืออย่างไร...
ธงรบถอนหายใจเพราะหาบทสรุปให้กับตัวเองไม่ได้ คืนนี้เขาตั้งใจว่าจะขอนอนที่บ้านเพื่อนเพราะไม่มีอารมณ์จะกลับไปนอนบ้านตนเอง
บ้านอธิคมเงียบสนิท เพื่อนเขาคงนอนจู๋จี๋กับแฟนอยู่ในห้องนอน ธงรบเดินไปที่ครัว หยิบแก้วมาหนึ่งใบ รินเหล้าที่ถือมาด้วยลงไปครึ่งแก้วแล้วเดินไปที่ระเบียง
...ทำไม อยู่ดีๆ อาทิตย์ก็นิ่งเงียบ ทำเหมือนโกรธอะไรเขาสักอย่าง..
...หรือว่าเรื่องที่ปวริศว์ส่งยิ้มมาให้ในร้านอาหาร...เขาไม่ได้ทำอะไรนี่นา ไม่ได้หันไปมองด้วยซ้ำ...
ธงรบแน่ใจว่าอาทิตย์หึง ใจหนึ่งก็นึกดีใจที่ตี๋หนุ่มดูเหมือนจะยอมรับเขากลายๆ ว่าเป็นคนพิเศษ เขายังไม่กล้าสรุปว่าเป็นแฟน แต่หากอาทิตย์ทำท่าทางหึงหวงเขาแบบนี้ จุดหมายปลายทางก็คงไม่ไกล
...แต่ทำไมเขารู้สึกเหมือนจะลอยห่างออกจากอาทิตย์...
เขารู้สึกเหมือนกับว่า ใกล้ๆ จะคว้าตัวอาทิตย์ได้แล้ว ชายหนุ่มก็ขยับห่างเขาออกไปอีกก้าวสองก้าว เขาตามติดอีก อาทิตย์ก็ขยับอีก
...เหมือนจะคว้าได้...แต่ก็ไม่ได้...
ความรู้สึกสับสบปนเปกันไปหมด...
อธิคมเปิดประตูออกมาจากห้องนอนแล้วทำหน้างงๆ เมื่อเห็นธงรบยืนดื่มเหล้าอยู่ที่ระเบียงของห้องนั่งเล่น
“แกไปเอาเหล้ามาจากไหนวะ” อธิคมถามคำถามแรก
“ไอ้นี่ แทนที่จะทักทายเพื่อน มาซักข้าเหมือนเป็นผู้ต้องหา ข้าก็ถือมาด้วยสิโว้ย ที่บ้านเอ็งมีที่ไหน” ธงรบหันมามองเพื่อนแล้วโคลงศรีษะ
“บ้านตัวเองมี ทำไมไม่กลับไปนอนบ้าน หรือเอ็งแค่แวะมาหาที่ดื่มเหล้า” อธิคมเดินมาใกล้ธงรบ เอียงหน้ามองคนที่เคยทำหน้าทะเล้นเป็นกิจวัตร หากวันนี้ดูซึม “ผับก็เยอะแยะเต็มบ้านเต็มเมือง”
ธงรบยักไหล่ ไม่ตอบอะไร ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
“เป็นอะไรวะธงรบ โดนใครที่ไหนหักอกมา ทำหน้าเหมือนจะตายยังงั้นล่ะ”
“เปล่า” ธงรบยักไหล่ “รู้สึกเบื่อๆ แล้วขี้เกียจถ่อสังขารกลับบ้าน เลยมาขอเอ็งนอนด้วยซักคืน”
“ขอ” อธิคมทำเสียงไม่เชื่อ “ขอ แต่เอ็งเดินเข้ามาเฉยๆ พอข้าออกมาจากห้องนอนก็เห็นยืนดื่มเหล้า นี่นะเรียกว่าขอ”
“งั้นอีกหน่อยข้ากลับก็ได้วะ เอ็งจะได้มีเวลาจู๋จี๋กับแฟน” ธงรบทำเสียงเซ็งๆ
“คุณร้อยตำรวจเอ๋งธงรบครับ ไม่ต้องมาทำเป็นงอนหรอก อยากโดนเตะหรือไงวะ ทำท่าแบบนี้ข้าจะอ๊วก” อธิคมหัวเราะเสียงดัง “คุณนุก็นอนบ้านเขาโน่นสิ คืนนี้วันจันทร์ ห้ามไปรบกวนเพราะคืนนี้ต้องทำงานด่วน เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็ได้จู๋จี๋กันก่อนนอน”
ธงรบเบ้ปาก ชักจะทนไม่ได้กับสภาพของอธิคม...พักหลังๆ เพื่อนเขาหวานจนเอียน
...สภาพของอธิคมหรือ...สภาพของเขาต่างหากที่ชักจะทำให้ตัวเองทนไม่ได้
พักนี้ธงรบรู้สึกว่าตัวเองชักจะเซ็งได้ง่ายและบ่อยเกินไป ไม่ว่าจะทำอะไรเขาก็ยังรู้สึกเบื่อไม่หาย สามวันที่เขาตกลงกับอาทิตย์ “พักยก” เป็นสามวันที่ทรมานพอสมควร เขาแทบจะนับวันรอเวลาที่จะได้หวนกลับไปตื๊ออาทิตย์อีก แต่แม้จะได้สนุกและรู้สึกสดชื่นเวลาที่อยู่กับอาทิตย์ ครั้นแยกกันเขาก็กลับบ้านคนเดียว แล้วนอนมองเพดานอย่างเบื่อหน่าย ก่อนนั้นเวลาเหงาและเซ็งเขามักจะพาใครไปนอนด้วยไม่เคยขาด แต่พักหลังเขาไม่รู้สึกอยากจะพาใครกลับบ้านด้วยเลยแม้แต่คนเดียว
เขาไม่เข้าใจตัวเอง...ตอนนี้...ถ้าจะให้สนุกกับใครบนเตียงในห้องนอน เขาขอนอนเล่นดูทีวีดีกว่า
“อ้อ ลืมบอกไป ข้าจะไปเชียงใหม่กับคุณนุ วันศุกร์นี้ล่ะ กลับวันจันทร์ หยุดยาว ไปเที่ยวซะหน่อย เอ็งหิวไม่ต้องแอบเข้ามาขโมยอะไรในตู้เย็นข้ากินนะโว้ย ไม่มีอาหารจากแฟนข้ามาเผื่อแผ่เอ็งเหมือนเคยเป็นเวลาสี่วัน ขอบอก” อธิคมบอกว่าข่าวเพื่อน
ธงรบทำหน้ามุ่ย “ว๊า ข้ายิ่งเซ็งกว่าเดิมเลยสิทีนี้ แล้วข้าจะคุยกับใครวะคม”
...สุดสัปดาห์นี้ตรงกับช่วงเวลาสามวันพักยกระหว่างอาทิตย์กับเขาพอดี แล้วนี่เขาต้องแกร่วอยู่คนเดียวหรือไร กะว่าจะชวนอธิคมไปเล่นเวคบอร์ดที่บางนาอยู่พอดี...
“อ้าวเด็กแกก็เยอะแยะ ไม่ก็ไปตื๊ออาทิตย์ให้กระชุ่มกระชวยหัวใจเล่น” อธิคมแนะนำ
“คิวหยุดพักว่ะ ตรงกับวันศุกร์พอดีเลย” ธงรบเบ้ปาก “อังคาร พุธ พฤหัสฯ ข้าไปเจออาทิตย์ได้ แต่ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์...ห้าม”
อธิคมมองธงรบด้วยสายตายากจะบรรยาย ใจหนึ่งก็สงสารเพื่อน ใจหนึ่งก็สมน้ำหน้า บางทีเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนักว่าทำไมธงรบถึงไม่ยอมเลิกลาจากอาทิตย์เสียที
“อย่าบอกนะเสาธง ว่าแกรักอาทิตย์เข้าไปแล้วจริงๆ อาทิตย์ที่ฝังใจกับคุณนุไม่ยอมเลิก ขั้วเดียวกันกับเรา มันยากเกือบจะพอๆ กับตั้งใจจะเผด็จศึกชายแท้ๆ เลยนะโว้ยไอ้หมาจิ้งจอก” อธิคมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ธงรบที่ตีสีหน้าไม่สู้ดี
“ว่าไงธงรบ” อธิคมเพยิดหน้าถามเพื่อน เพราะอีกฝ่ายยืนนิ่งไม่ตอบ
ธงรบยักไหล่ ไม่ยอมตอบเช่นเคย ยกแก้วเหล้าขึ้นเทพรวดเดียวลงคอ แล้วเดินกลับเข้าใปในห้องนั่งเล่น ทิ้งให้อธิคมโคลงศรีษะ เดินตามหลังมาช้าๆ
“เอ็งก็ลองแหกกฏหน่อยสิวะ” อธิคมแนะนำ “ไม่ก็มอมเหล้าซะเลย”
“ไม่ได้โว้ย” ธงรบปฏิเสธเสียงดัง แล้วรินเหล้าเติมอีกหนึ่งแก้ว “กฏเหล็ก แหกไม่ได้ ข้าไม่อยากเสี่ยง ส่วนเรื่องมอมเหล้า อาทิตย์ระวังตัวแจเลยว่ะ ท่าทางจะยากส์”
“จับไพร่หลัง ใส่กุญแจมือ ปล้ำซะเลยสิ” อธิคมแนะนำอีก
“จะบ้าเหรอไอ้ชิบหาย แนะนำมาได้” ธงรบหันมาแยกเขี้ยวใส่อธิคม “แต่ตอนนี้อาทิตย์ก็ดูอ่อนๆ ลงพอสมควร ข้าว่าอีกไม่นาน ก็น่าจะสำเร็จ...มั๊ง”
ธงรบพูดราวกับให้กำลังใจตัวเอง แต่ก็ลงท้ายด้วยความไม่แน่ใจ ทำให้อธิคมมองเพื่อนด้วยสายตาบอกไม่ถูก ตอนแรกที่คิดว่าทั้งสงสารทั้งสมน้ำหน้าธงรบ ตอนนี้คงเหลือเพียงความสงสารเพียงอย่างเดียว
“คิดไปแล้วก็อิจฉาเอ็งกับคุณนุที่ลงเอยกันได้ด้วยดี” ธงรบทิ้งตัวลงกับโซฟาตัวใหญ่แล้วกระแทกศรีษะตัวเองกับพนักพิงแรงๆ “เฮ้อ ไม่เข้าใจว่าทำไมข้ามาหลงหนุ่มอาทิตย์แบบนี้วะ เซ็งตัวเองจริงๆ คนอื่นมีเยอะแยะ”
“เขาเรียกว่าคู่กรรมมั๊ง” อธิคมมาหยุดยืนข้างๆ ธงรบ ถือขวดเหล้าไว้ในมือ ตั้งท่าจะรินให้เพื่อนแต่อีกฝ่ายส่ายหน้า
“แกรีบกลับได้ไหมวะ ต้องไปตั้งสี่วันเลยหรือ”
“ธงรบ อย่าบอกนะว่าแกเหงาจนอยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องให้ข้าเป็นเพื่อน” อธิคมทำหน้าเหมือนโดนผีหลอก
“ไม่ใช่เอ็งคนเดียว คุณนุด้วย” ธงรบยักคิ้ว
“ไอ้นี่” อธิคมทำท่าจะชกเพื่อน อีกฝ่ายนั่งเฉย ไม่ทำท่าขยับตัวหนีเช่นทุกครั้ง “วอนโดนต่อยซะแล้ว”
“ก็ข้าอิจฉาคนไปฮันนี่มูนนี่หว่า”
“เปล่าฮันนี่มูน” อธิคมส่ายหน้า รินเหล้าให้ธงรบหน้าตาเฉย ฝ่ายนั้นจึงต้องกระดกแก้วขึ้นดื่ม “ธนาภพเชิญไปงานเปิดตัวรีสอร์ทโครงการอภิมหาโปรเจ็คของเค้า”
“ฮ้า แล้วแกก็ไป” ธงรบไม่เชื่อหู “ธนาภพแฟนเก่าคุณนุนี่นะ แกคิดอะไรอยู่วะ”
“เขาคิดอะไรอยู่ต่างหากล่ะ” อธิคมพูดเสียงเบาอย่างคิดคำนึง “ธนาภพโทรมาเชิญข้าเลยล่ะ พูดดีๆ ข้าก็ถามคุณนุก็เลยรู้ว่าเขาก็เชิญคุณนุด้วย หมายความว่าเชิญทั้งคู่ เข้าใจไม๊ เชิญทั้งสองคน”
“เข้าใจโว้ย ข้าไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะไอ้คนฉลาด” ธงรบถลึงตา “สงสัยเขามีแผนทดสอบใจคุณนุ หรือทดสอบความมั่นคงของความสัมพันธ์ของแกกับคุณนุ”
“คุณนุบอกว่าธนาภพคงอยากทดสอบตัวเองว่าตัดใจได้หรือยัง คุณนุบอกว่าเขากับธนาภพเป็นเพื่อนกันแล้ว และการไปคราวนี้ก็เพื่อเป็นการตอกย้ำว่า ไม่มีอะไรติดค้างระหว่างกันอีกแล้ว ทั้งธนาภพก็จะได้เห็น คุณนุก็จะได้เห็น ข้าก็จะได้เห็น”
******************* to insert****** เท้าความที่ธนาภพโทรมาหาอธิคม สองย่อหน้า ย้อนคำพูดของธนาภพ และคำสัญญาที่อธิคมให้ไว้กับธนาภพ*******************************************
“ก็ดีเหมือนกัน” ธงรบพยักหน้าเห็นด้วย “แต่ว่ามองอีกแง่หนึ่งก็หวาดเสียวเหมือนกัน เยื่อใยถักทอกันแน่นขนาดนั้น มันขาดได้ง่ายๆ เลยหรือ”
“ถักทอ...แกไปจำมาจากไหนวะ” อธิคมแสยะปาก ไม่นึกว่าธงรบจะพูดอะไรแบบนี้เป็น
“อาทิตย์” ธงรบพูดยิ้มๆ แล้วรีบปรามเพื่อน “อ๊ะ อย่านะอย่า อย่าล้อเด็ดขาด อยู่กับอาทิตย์ ข้าชักจะเริ่มพูดคำสวยๆ ได้แล้ว ข้าก็เห็นว่ามันจริง อาทิตย์แค่รู้จักคุณนุไม่ทันไร แค่สองปีเองมั๊ง เอ็งก็เห็นว่าผูกกันแน่นขนาดไหน ข้าหมายความว่าอาทิตย์ถูกผูก เพราะคุณนุไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย แต่รายธนาภพ เขาผูกกันมาเป็นสิบปีนะโว้ยคม แม้แยกกันแล้วแต่แกปฏิเสธไหมล่ะว่าคุณนุก็ยังมีเยื่อใยกับธนาภพอยู่”
“แต่ตั้งแต่ที่กระบี่ ข้ามั่นใจว่าคุณนุรักข้าและตัดธนาภพได้แล้ว ไม่งั้นไม่ยอมมีอะไรกับข้าและบอกรักข้าหรอก” อธิคมพูดอย่างมั่นใจ “คุณนุก็ยังเชื่อว่าข้าเลิกเจ้าชู้แล้วและเชื่อใจว่าข้ารักจริงๆ ข้าก็ควรจะเชื่อใจคุณนุด้วยไม่ใช่หรือวะ”
“แล้วตกลงเอ็งเลิกเจ้าชู้จริงๆ หรือวะ ข้ายังเห็นหูตาเอ็งยังแพรวพราวอยู่ไม่ใช่เล่น”
“เอ๊ะไอ้ธง วอนหาเรื่อง” อธิคมทำท่าจะต่อยธงรบอีกครั้ง คราวนี้ธงรบสะดุ้งโหยง ขยับตัวหนีจากรัศมีมืออธิคมเอื้อมถึง
“เออๆ ข้าเชื่อแล้ว ไอ้นี่ เอะอะก็จะต่อยท่าเดียว” ธงรบโวยวาย แล้ววางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะข้างๆ
“พอแล้วหรือ เหล้ายังไม่หมดขวดเลย” อธิคมถาม
ธงรบส่ายหน้า แล้วยื่นมือมาข้างหน้า “เอาขวดมาเลย วันนี้ข้าขอดื่มให้กับความเหงา”
อธิคมส่ายหน้าเช่นกัน “อยู่กับข้าแล้วยังเหงาอีก”
“อยู่กับเอ็งเหมือนอยู่คนละโลก เอ็งมันอยู่ในโลกแห่งความรัก ข้ามันอยู่ในโลกแห่ง...แห่งอะไรดีวะ...”
“แห่งกามารมณ์” อธิคมเติมประโยคแล้วหัวเราะเสียงดัง “ที่บอกว่าตามๆ อาทิตย์นี่ แกกะฟันอย่างเดียวล่ะสิ”
ธงรบยักไหล่ปฏิเสธ “ไม่ใช่โว้ย คราวนี้รักจริงหวังแต่ง แต่ทำไม๊ ทำไม ดันมาเจอขั้วเดียวกัน”
“รักจริงหวังแต่ง” อธิคมมองธงรบราวเป็นตัวประหลาด “อยากจะอ๊วก แกจำได้ไม๊ ตอนที่ข้าเคยพูดถึงคุณนุว่า รักจริงหวังแต่ง ตอนนั้นแกรู้สึกยังไง ตอนนี้ข้าก็คงรู้สึกยังงั้นล่ะ แต่ที่ต่างกันคือ ข้าได้แต่งจริง แต่เอ็งยังหวังลมๆ แล้ง”
“หุบปากเลยคม หยุดทับถมข้าซะที” ธงรบชี้หน้าเพื่อน “แต่ถึงยังไง ข้ายังไม่ยอมแพ้หรอกโว้ย เพื่อรัก ข้าทำได้ทุกอย่าง”
“ไม่ไหวแล้ว ข้าไปนอนดีกว่า กลัวพรมเลอะ” อธิคมลุกขึ้นเดินตรงไปห้องนอน ธงรบทำหน้างงๆ แล้วตะโกนถามตามหลังว่าทำไมถึงกลัวพรมเลอะ
“ก็จะอ๊วกไงวะ ไม่ได้ถือกระโถนไว้ในมือซะด้วยสิ” อธิคมตอบแล้วปิดประตูห้อง ทิ้งให้อีกฝ่ายยืนทำหน้าบึ้ง มองตามอย่างขุ่นมัว ไม่นึกว่าจะโดนเพื่อนทับถมขนาดนี้ หากใจหนึ่ง ธงรบก็ยังอดกังวลไม่ได้
เขาไม่เข้าใจตัวเอง คนอื่นมีเยอะแยะ จะว่าไป ตี๋หนุ่มหน้าตาดี มีชื่อเสียง และรวยกว่าอาทิตย์ที่เขาเคยคบด้วยก็มี หนุ่มไฮโซที่เขาเคยผ่านและดูท่าว่าติดใจเขาก็พร้อมจะมีความสัมพันธ์จริงจังกับเขา แต่ในใจเขากลับรุ่มร้อน นึกถึงแต่ตี๋หนุ่มอาทิตย์คนเดียว ที่แย่ก็คือ ยิ่งนานเข้า ความรู้สึกนั้นยิ่งเข้มข้นมากกว่าเดิม
อาทิตย์เป็นคนใจแข็งก็จริงๆ แต่ลูกตื๊อเขาก็ใช่ย่อย ตี๋หนุ่มยอมเขามากขึ้นแต่ลึกๆ กำแหงหินที่ขวางอาทิตย์เอาไว้คือข้อเท็จจริงที่ว่า ในใจของอาทิตย์นั้นยังมีอนุภาพอยู่...อนุภาพแฟนอธิคม...เพื่อนสนิทของเขา...อนุภาพที่ครั้งหนึ่งเขาก็เคยพึงใจ
เขายอมรับว่ารอยยิ้มของชายหนุ่มยังติดตาเขาจนเท่าทุกวันนี้
เขายอมรับว่า บางเสี้ยววินาที เงาของอนุภาพก็เคลื่อนเข้ามาซ้อนทับเงาของอาทิตย์บ้าง
เขายอมรับว่า ในใจเขาสับสนมากพอสมควร อยากหยุดจริงจังกับคนคนเดียวตลอดไป แต่ก็ยังอดแว๊บไปหาเศษหาเลยไม่ได้
แบบนี้หรือที่คนเขาว่าคนเจ้าชู้เป็นคนหลายใจ...แบบนี้หรือ...
ไม่ได้การแล้ว...ต้องถามอธิคม
“ไอ้ธง อะไรอีกวะ” อธิคมขมวดคิ้ว เพ่งมองไปที่ประตูห้องนอน อยู่ดีๆ ธงรบก็เปิดประตูโผล่หน้าเข้ามา
“คม ข้าขอถามหน่อยสิวะ เอ็งคิดว่าข้าจะรักใครได้เหมือนเอ็งรักคุณนุหรือเปล่า แบบว่า รักใครคนเดียวจริงจัง”
อธิคมถอนหายใจเบาๆ อดนึกถึงเมื่อครั้งที่เขาเริ่มจีบอนุภาพไม่ได้ ตอนนั้นเขาเข้านอนแล้ว ธงรบเปิดประตูเข้ามากวนเขาและถามคำถามเดียวกันที่ถามอยู่ตอนนี้
“เอ็งก็ลองดูสิ” อธิคมตอบสั้นๆ
“ข้าลองแล้ว แต่บางทีมันก็มีแว๊บๆ คิดถึงคนอื่นบ้าง เห็นหล่อๆ ใสๆ ขาวๆ แล้วบางครั้งมันก็อดใจไม่ไหว”
“แกมันอาการหนักกว่าข้าเยอะนี่หว่า คงต้องโดนดัดสันดานหนักกว่าหลายเท่า แต่ถ้านอนหลับตาแล้วเห็นแต่หน้าอาทิตย์ลอยไปลอยมา ข้าก็ว่าใกล้เคียงแล้วล่ะ” อธิคมแนะนำ “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยูที่นั่น”
ธงรบไม่ตอบ ยังคงยืนพิงขอบประตูนิ่งราวกับครุ่นคิดคำนึง อธิคมจึงส่งเสียงถามไปว่า “แล้วนี่ ข้านอนได้หรือยัง”
“ข้านอนไม่หลับ” ธงรบไม่สนใจตอบคำถาม
“เดี๋ยวช่วยเอาไม๊ รับรองหมัดเดียวสลบถึงเช้า” อธิคมเสนอความช่วยเหลือ “ไปนอนได้แล้วธงรบ ปิดประตูให้ด้วยนะ”
“เออ” ธงรบตอบรับสั้นๆ กดล๊อคดังกริ๊กแล้วดึงประตูปิด อธิคมมองตามยิ้มๆ แล้วขยับศรีษะซุกหมอนให้เข้าที่ ก่อนจะหลับตาแล้วเห็นใบหน้าเรียบนิ่งของอนุภาพลอยไปลอยมาอยู่นานจนเขาหลับไป