ขอบคุณที่ติดตามอ่านและติดตาม งง กันครับ คนเขียนก็งงเหมือนกันครับ
อนุภาพกับอธิคมได้รับเชิญจากธนาภพมางานเปิดตัวรีสอร์ที่เชียงใหม่ครับ
รวบรัดเิกินไป เดี๋ยวจะแก้ไขเพิ่มใน draft ที่ 2 ครับ โพสที่นี่เป็น draft 1 ใหม่ๆ สด พิมพ์เสร็จร้อนๆ
ต่อไปบทที่ 12 ครับ
12
เวลานี้...กลางดึก..บนเตียงนอนกว้างกลางห้องนอนใหญ่ของ The Avalon Suite อธิคมจึงทวง “รางวัล” ในฐานะที่ปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้น
“มามะ คุณนุ ตามสัญญา มาให้ผมชื่นใจซะดีๆ” อธิคมทำเสียงหวาน นัยน์ตาพราวระยับเมื่อเอื้อมมือไปดึงอนุภาพให้ขึ้นมาบนเตียง
“รางวัลอะไร” อีกฝ่ายตีหน้าซื่อ
"อ๊ะอ๊ะ อย่ามาทำเป็นลืม ก็รางวัลที่ผมกำจัดมารหัวใจคุณนุไปได้ตั้งสองคน" นายตำรวจหนุ่มยักคิ้ว
"ผมว่ามันเป็นหน้าที่ของสารวัตรที่ควรกระทำมากกว่านะครับ" อนุภาพยักไหล่
"อ้าว ไหงพูดแบบนี้ล่ะครับ" อธิคมทำหน้าเหรอหรา
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับรางวัลที่ว่า" อนุภาพยังทำไม่รู้ไม่ชี้
"รางวัลสำหรับคนที่เลิกเจ้าชู้ไงจ๊ะที่รัก" อธิคมยักคิ้วหลิ่วตา "ให้กำลังใจกันหน่อยสิ จะได้มีแรงสู้ต่อ"
"ผมว่าควรจะเป็นผมที่ต้องพูดว่าจะได้มีแรงสู้ต่อ" อนุภาพยังขัดขืน ไม่ยอมขึ้นมาบนเตียง "สารวัตร ผมกำลังเช็ดหน้าอยู่"
"ไม่ต้องแล้ว จะเช็ดทำไม อีกหน่อยก็เหงื่อออกโทรมตัว มามะ มาให้ผมเชยชมเดี๋ยวนี้นะ" อธิคมออกแรงมากกว่าเดิม จนในที่สุดคนที่ทำไก๋ไม่ยอมรักษาสัญญาก็ถูกอ้อมแขนแข็งแรงของนายตำรวจหนุ่มประคองกอดเอาไว้
"สารวัตร ผมง่วงแล้ว" อนุภาพอู้อี้ เพราะอธิคมเร่มเรียกร้องรางวัลด้วยการระดบจูบทั่วใบหน้า
"ผมไม่ง่วง"
"ฮื่อ สารวัตร พรุ่งนี้เช้าไม่ได้หรือ ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว" อนุภาพพยายามต่อรอง
"พรุ่งนี้อีกรอบ แต่คืนนี้ขอโหมโรงก่อน" อธิคมสอดมือเข้าไปใต้เสื้อยืดสีขาวของอนุภาพ ลูบไล้ผิวกายเนียนแน่นของชายหนุ่ม ส่วนมืออีกข้างหนึ่งอ้อมไปด้านหลัง เกาะกุมบั้นท้ายเกร็งแน่นของคนรักแล้วบีบเค้นเบาๆ
"โหมโรงทั้งปี โหมโรงกับเอาจริงไม่เห็นต่างกันเลย" คนที่โดนลุกล้ำบ่นเสียงกระท่อนกระแท่น ก่อนจะบิดตัว แอ่นร่างเมื่อปลายนิ้วของสารวัตรมือปราบเขียจุดเล็กๆ บนหน้าอกที่ไวต่อความรู้สึก ลิ้นของอธิคมสอดเข้าไปในหูของเขา ตวัดดุนแล้วเม้มติ่งหูนุ่มๆ จนต้องส่ายหน้าไปมา มือดันอกกว้างบึกบึนของนายตำรวจให้ออกห่าง แต่อีกฝ่ายไม่ยอม กลับบดเบียดตัวเข้าแนบชิดมากกว่าเดิม
"คุณนุครับ ผมจะไม่ไหวอยู่แล้ว" อธิคมเสียงกระเส่า มือที่อยู่ด้านหลังสอดเข้าไปในกางเกงของอนุภาพ นิ้วสอดไล้เข้าไปในจุดที่เขาโปรดปรานที่สุด
อนุภาพสะดุ้งเฮือก มือที่เคยผลักหน้าอกของคนรักเปลี่ยนเป็นขย้ำราวจะหาที่ยึด อีกฝ่ายไม่ร้องโอดโอยอย่างที่เคยแกล้งทำ หากส่งเสียงครวญครางอยู่ในลำคออย่างชอบใจ บดปากเข้ากับปากอิ่มเต็มของอนุภาภ แล้วสอดลิ้นเข้าไปลิ้มรสความหอมหวานของชายหนุ่มที่เขารัก
อธิคมหมดสิ้นแล้วซึ่ความอดทน แรงปรารถนาอัดอยู่ในตัวเขาแจนแทบจะระเบิดราวกับลูกโป่งที่ถูกสูบลมเข้าไปจนเต็มที่ ร่างกายร้อนเร่าประหนึ่งถูกเผาด้วยไฟร้อนจัด องคาพยพส่วนนั้นของเขาแข็งแกร่งจนปวด ขยับตัวดุนดันกางเกงจนต้องปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
ร่างเปลือยทั้งสองกอดกระหวัดรัดกับแน่นดั่งงูสองตัวที่กำลังต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงอาหาร สองร่างบดเบียดเข้าหากันจนเกือบกลายเป็นเนื้อเดียว เกลือกกลิ้งไปหาบนที่นอนนุ่มสบาย เสียงครวญครางสอดประสานกันดั่งเสียงดนตรีที่กำลังบรรเลงเพลงจังหวะเร้าใจ
อธิคมพลิกตัวนอนหงาย หรี่ตาให้อนุภาพรู้ว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะ 'เรียกร้อง' รางวัลของเขา ชายหนุ่มคนรักของเขาแกล้งทำหน้าอิดออด จนอธิคมต้องเอื้อมมือไปประคองท้ายทอยของชายหนุ่มให้ก้มต่ำลงมา อนุภาพช้อนตาขึ้นมองนายตำรวจหนุ่มผู้ที่กำลังมองอยู่ด้วยสายตาอ้อนวอน ก่อนจะขยับศรีษะลง
อธิคมตาปรือด้วยความปรารถนา ปากเผยอขึ้น เลียริมฝีปาก พนักหน้าให้คนรัก 'เริ่ม' เสียที
"คุณนุ ผมจะขาดใจอยู่แล้ว อย่าทรมานกันเลยครับ" อธิคมขอร้องเสียงกระเส่า แอนกรายเกร็งแน่น สองมือของอนุภาพเกาะกุมความเป็นชายของเขาขยับช้าๆ เพียงสัมผัสแรก อธิคมก็แทบจะระเบิดราวกับน้ำพุร้อนที่จะกระเสือกกระสนจะดันพุ่งขึ้นมาจากผิวดิน
"คุณนุครับ" อธิคมหลับตาพริ้ม กลั้นหายใจ รอความเย็นชุ่มชื่นจากริมฝีปากของชายหนุ่มปากแดงอิ่มเต็มที่เขาเคยลิ้มรสไม่เคยเบื่อ
อนุภาพยังไม่ยอมให้สิ่งที่อธิคมต้องการ ชายหนุ่มหยอกล้อนายตำรวจด้วยปลายนิ้ว จนสารวัตรมือปราบแทบดิ้นพรวดพราด มือแข็งแรงดันท้ายทอยเขาให้ต่ำลง แต่อนุภาพส่ายหัวขัดขืน สองมือที่เกาะกุมแก่นกายของอธิคมขยับพรวดเดียว ทำให้ร่างของนายตำรวจหนุ่มสะดุ้งเฮือก สูดปากเสียงลั่น หน้าท้องแกร่งเด้งขึ้น ลอยเด่นสวนทางกับมือของอนุภาพ ท่อนขากำยำอ้ากว้างขึ้น เกร็งจนกล้ามเนื้อชัดเจน
...ไม่ไหวแล้ว จะขาดใจตายเสียให้ได้...อนุภาพ...ทำไมทรมานเขาแบบนี้...
อธิคมอ้าปากกว้าง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ รออย่างทุรนทุราย แต่ก็รู้ว่าอีกไม่นาน อนุภาพจะทำให้เขารู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์ที่เย็นฉ่ำ แต่เร่าร้อนภายในเวลาเดียวกัน
อธิคมนึกอะไรบางอย่างได้ จึงละมือออกจากท้ายทอยของคนรัก สองแขนเหยียดกาง เตรียมตัวรอกับการทักทายจากปลายลิ้นของชายหนุ่ม หลังๆ มานี่เขาเรียนรู้ว่าอนุภาพไม่ยอม 'ให้รางวัล' เขาหากมือเขายัง 'ดื้อดึง' อยู่บนหัวของชายหนุ่ม
"โอ้ว" อธิคมครางเสียงสั่น ทันทีที่เขาละมือ อนุภาพก็ฉกลิ้นใส่กายของเขาราวจงอางฉกเหยื่อ สารวัตรหนุ่มสะท้านไปตังเพียงเพียงได้รับการสัมผัสเพียงน้อยนิด กายแอ่นไปตามจังหวะที่ถูกจู่โจม ช้าบ้าง เร็วบ้างสลับกันไป สอดประสานกับอีกฝ่ายทีปรนเปรอเขาด้วยลิ้นและริมฝีปากจนแทบเขาแทบจะทนไม่ไหวต้องขยับตัวออก หากคนที่กำลังเมามันกับการฉกเหยื่อกลับไม่ยอม สองมือรั้งเอวนายตำรวจเอาไว้แน่นไม่ยอมให้หลบหนี อธิคมกลายเป็นนักโทษที่ต้องโดนทำร้ายด้วยปากอย่างรุนแรง เมื่อพอใจแล้ว อีกฝ่ายจึงเงยหน้าขึ้นเปลี่ยนเป้าหมาย
...คราวนี้อธิคมยิ่งครวญครางเสียงดังขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้รับรางวัลเกินคาด
คืนนี้เขาไม่ได้เป็นคนคุมเกม เขามีหน้าที่นอนอยู่เฉยๆ รอรับการปรนนิบัติอย่างเดียว...การปรนเปรอที่อนุภาพเป็นคนทำให้...ทุกอย่าง...
...อนุภาพไม่อิดออด หากทำหน้าหน้าที่สุดฝีมือ เมื่อ 'เชยชม' สารวัตรที่รักของเขาจนเป็นที่หนำใจแล้ว คราวนี้ถึงเวลา 'ทะยาน' สู่สวรรค์ด้วยพาหนะที่แข็งแรงทรงพลังของเขาส
ชายหนุ่มยึดข้อมือสองข้างของเขาที่นอนแผ่หราอยู่ ก้มหน้าลงมายิ้มให้บางๆ แล้วขยับตัวลงไปยังเป้าหมายที่ผงกรอรับอยู่ อนุภาพหลับตา ปากบิดเบี้ยวด้วยความจุกแน่นเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น เพราะพาหนะที่จะพากันและกันไปถึงจุดหมายนั้นไม่ได้ขึ้นขี่ได้ง่ายๆ บางครั้งเขายังสงสัยตัวเองว่า 'ครอบครอง' ส่วนนั้นของอธิคมเข้าไปได้อย่างไร เพราะอธิคมนั้นรูปร่างสูงใหญ่ และอะไรๆ ในตัวก็มหึมาน่ากลัวยิ่งนัก
อนุภาพหอบหายใจถี่หนัก ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ กลั้นเก็บเอาไว้แล้วดันตัวลงไปช้าๆ จนได้ครึ่งทางจึงจำต้องอ้าปากกว้าง พ่นลมหายใจออกมาเพราะรู้สึกเหมือนจะขาดใจ และเมื่อครอบครองที่นั่งบนยานพาหนะที่จะพาขึ้นสู่สวรรค์ได้สำเร็จเต็มที่ เขาหยุดรอชั่วครู่หายใจแรงๆ ราวกับวิ่งมาเป็นสิบๆ กิโล มือตบหน้าอกคนที่อยู่ข้างล่างเบาๆ
"สารวัตร อยู่เฉยก่อนนะครับ" อนุภาพเสียงขาดห้วง รู้สึกเหมือนจะขาดใจ "ผมจะขยับเอง"
อนุภาพเริ่มการเดินทาง ขยับกายขึ้นล้าๆ แม้จะคุ้นเคยกับม้าศึกตัวนี้ แต่ทุกครั้งที่ขึ้นขี่ ม้าคึกก็มักจะพยศทุกครั้งเมื่อใกล้จะถึงกลางทาง เขาต้องคอยลงแส้ไม่ให้คึกคะนองเกินเหตุ
อธิคมครวญครางเสียงดัง ส่ายหน้าไปมาเมื่อคนขี่ม้าขยับเร่งความเร็วขึ้น แก่นกายของเขาขยับตามอัตโนมัตื เร่งจังหวะตามคนขี่ให้ทัน จนบางครั้งแทบจะควมคุมตัวเองไม่ได้ เพราะหากเร็วเกินไป คนขี่จะกระแทกกายลงมาแล้วหยุดนิ่ง กดบีบเอาไว้จนเขาต้องกลั้นหายใจ ยอมผ่อนความเร็วให้จ๊อคกี้ขยับท่วงท่าต่อไป แล้วเปลี่ยนเป็นบดเบียดวนไปวนมาเหมือนจะพยายามถอดเสาที่ปักหลักอยู่กับพื้นดินด้วยการโยกไปโยกมาให้ดึงขึ้นได้ง่าย
…ไม่ไหวแล้ว...แก่นกายของเขาร้อนผ่าวแทบจะระเบิด แดงก่ำและร้อนเหมือนเอาแท่งเหล็กแช่ลงไปในปากปล่องภูเขาไฟ ยิ่งได้รับการเสียดสียิ่งทำให้แท่งเหล็กอยากจะพุ่งทะยานขึ้นไป หวังว่าจะได้รับความชุ่มเย็นจากฝนที่อาจจะตกลงมาดับความเร่าร้อน
"คุณนุ อ๊าส์...เสียวจังเลยครับที่รัก อย่าหยุดนะ...อืมม" อธิคมครางกระเส่าเมื่ออนุภาพเร่งความเร็วขึ้น นายตำรวจมือปราบขยับเอวตามหวังหวะให้ทัน หากบางครั้งเขาใจร้อน เผลอตัวเด้งแรงเกินไปจนจ๊อคกี้หัวสั่นหัวคลอน จึงโดนกำราบด้วยการฟาดฝ่ามือลงบนอกกว้างแกร่งจนเห็นเป็นรอยแดง
"ผู้กอง...บอกว่าให้อยู่เฉยๆ" อนุภาพเสียงเข้ม กดตัวลงมาแน่น เข่าหนีบสีข้างของอธิคม แล้วหยุดนิ่ง "นี่แน่ะ"
"โอ้ย...คุณนุจ๋า ผมอยู่เฉยแล้ว" อธิคมแก้ตัว แต่เอวยังพยายามขยับดันให้อนุภาพโหย่งตัวขึ้น
จ๊อคกี้ที่กำลังพักเหนื่อยขย้ำหน้าอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของนายตำรวจหนุ่มจอมพยศเพื่อเป็นการบังคับให้ม้าศึกอยู่นิ่ง แล้วฟาดด้วยฝ่ามือเสียงดัง
"นี่แหน่ะอยู่เฉย"
"อูย คุณนุ" อธิคมครางราวเจ็บปวดที่โดนฟาด หากนัยน์ตาพราวระยับ ไม่มีท่าทีจะเชื่อฟังหรือเกรงกลัว
"โอ๊ย สารวัตร...บอกว่า...อย่า..."
อธิคมไม่อาดทนได้อีกต่อไป อนุภาพบอกให้เขาอยู่เฉยๆ เขาจะทำได้อย่างไร ที่ยอมนอนเป็นม้าอาหรับให้ห้อตะบึงมาตั้งนานเขาต้องอดทนจนแทบกัดลิ้นตัวเองขาด กรามที่เกร็งตอนนี้ปวดไปหมด ถึงเวลาที่เขาต้องเป็นฝ่ายควบบ้างแล้ว...คราวนี้เขาต้องเป็นคนคุมจังหวะ
นายตำรวจหนุ่มเอื้อมมือไปจับเอวของคนรักแล้วตรึงเอาไว้แน่นเพราะกลัวว่ากายจะหลุดออกจากกัน อนุภาพรู้ตัวว่าอธิคมจะทำอะไรจึงขึงตัวนิ่ง นายตำรวจดันตัวลุกขึ้น อนุภาพยังพยายามผลักหน้าอกเขาไว้ แต่อธิคมแรงเยอะกว่า
"ผู้กอง บอกแล้วไงว่าให้อยู่เฉยๆ"
"ผมขอขึ้นบนบ้างสิ เดี๋ยวเสียเชิงชายหมด อยู่ข้างล่างหายใจไม่ออก" อธิคมโต้แย้ง แล้วยื่นหน้าเข้าซุกไซร้ซอกคออนุภาพ ตวัดลิ้นโลมเลียลำคอขาวสะอาดของคนรัก ขณะที่เอวก็ขยับไปมาไม่ยอมหยุดนิ่ง
"สารวัตรครับ..." อนุภาพเสียงขาดห้วง มือเปลี่ยนจากการผลักหน้าอกแฟนหนุ่มเป็นโอบรัดต้นคอ เลิกคิดที่จะขัดขืนอธิคมอีกต่อไป เพราะถึงยังไง อธิคมก็คงไม่ยอม เพราะนายตำรวจมักจะกลายเป็นผู้ควบคุมเกมเพื่อพาเขาไปสู่สวรรค์เช่นเคย
อธิคมยังไม่ยอมถอนกายออกจากคนรัก นายตำรวจผู้คึกคะนองดั่งม้าศึกยังตะกองกอดคนรักเอาไว้แนบออก (ปราถนาอยากจะดันกายให้ทะลุไปถึงข้างหลังของอนุภาพ อิ อิ อิ) ก่อนดันตัวให้ชายหนุ่มนอนราบลงกับเตียง
"เอ่าล่ะนะคุณนุ อย่าหลับตานะครับ" อธิคมล้อเล่นยิ้มๆ ดึงตัวออกมาพอหมิ่นเหม่ก่อนจะเสือกตัวดันเข้าไปช้าๆ
"ฮื่อ...สา..ร...วัตร...แน่น" อีกฝ่ายร้อง กัดฟันแน่น
"เมื่อกี้ไม่เห็นบ่น" อธิคมเสียงกระเส่า "อ้าขากว้างอีกหน่อยสิครับที่รัก"
อนุภาพทำตาม รู้สึกราวกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ "สารวัตร...สงสารผมบ้างนะ"
อธิคมยิ้มหวาน ก่อนจะดึงตัวออกอีกครั้งช้าๆ แล้วหยุดนิ่ง หมุนเอวไปมาเพื่อหยอกล้อคนรัก อีกฝ่ายจิกนิ้วลงกลางหลัง แหงนหน้าสูดปากด้วยความซาบซ่านพลางดุนายตำรวจขี้เล่นว่า "อย่าแกล้งสิ โอว..."
"คุณนุ ผมเร่งแล้วนะ" อธิคมก้มหน้าลง เม้มติ่งหูของชายหนุ่ม สลับกับไล้ลิ้นโลมเลีย "นะครับ นะ นะ"
"พูดอยู่นั่นแหล่ะ" อนุภาพดุ "จะทำ...อะไร...ก็...ทำ...โอ๊ย" สิ้นเสียง ชายหนุ่มต้องสะดุ้งเฮือกเพราะนักเจาะรูปหล่อควงสว่านกระแทกเข้ามาจนจุกไปทั่วท้องน้อย
อธิคมขยับตัวเร่งแรงและเร็วขึ้น สลับกับบดเบียดเชื่องช้าให้โอกาสแฟนหนุ่มได้หายใจพัก ก่อนจะพาอนุภาพทะยานไปด้วยกัน เสียงร้องผสมผสานกับเสียงหอบหายใจถี่กระชั้น ต่างฝ่ายต่างเรียกชื่อกัน พร่ำรำพันถ้อยคำรัก ขยับลีลาท่วงท่าพลิกแพลง ทำราวกับว่าบนเตียงเป็นสมรภูมิรบที่ต้องกระหน่ำแทงห้ำหั่นกันให้ขาดใจตายกันไปข้างหนึ่ง
อนุภาพปล่อยให้อธิคมพาเขาลอยละล่องไปในความเร่าร้อนประหนึ่งควบม้ากลางทะเลทราย...ร้อน...ร้อนมาก...ร้อนจนปรารถนาจะให้มีน้ำพุ่พุ่งขึ้นมาจากผืนดิน ราดรดเขาทั้งสองให้เย็นชุ่มฉ่ำ
"ผู้กอง..." อนุภาพเรียกคนรัก หอบหายใจถี่ราวกับอากาศรอบข้างกำลังจะหมดไป ต้องอ้าปากกว้างสูดเข้าไปเพื่อต่อชีวิต "เร็วๆ สิครับ...ผม...จะไม่ไหวแล้ว"
อธิคมไม่ตอบ สอดมือเข้าไปใต้เอวของชายหนุ่ม รัดไว้แน่น แล้วดันตัวคุกเข่า ก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืน
คราวนี้อนุภาพทักท้วงเพราะรู้ว่าอธิคมกำลังจะทำอะไร "ผู้กอง จะทำอะไร"
"รู้แล้วยังจะถาม" อธิคมเสียงสั่น เขาเองก็แทบจะทนไม่ไหวเหมือนกัน "เดินเล่นกันซักหน่อยนะจ๊ะ"
อนุภาพส่ายหน้า แต่มือรีบรัดต้นคอชายหนุ่มไว้แน่น ซุกหน้าเข้ากับซอกคอของอธิคม เตรียมตัวรับสิ่งที่นายตำรวจกำลังจะทำกับเขา
"เดี๋ยวตกนะจ๊ะ" อธิคมกระซิบเสียงพร่า มืออีกขวาละมาช้อนใต้ต้นขาส่วนบนของคนรัก "รัดแน่นๆ"
"อู้ว...สารวัตร อย่านานนักนะ จะไม่ไหวแล้ว"
"รอบเดียวเท่านั้น" อธิคมพยักหน้า แล้วเริ่มพาแฟน 'เดินเล่น' ไปรอบๆ ห้อง หยุดพักเป็นจังหวะเพื่อขยับกายท่อนล่างให้กระชับแน่นขึ้น เพราะเกรงกลัวว่าจะพรากออกจากกัน เวลานี้เขาอยากจะเป็นเนื้อเดียวกันกับอนุภาพมากที่สุด
"คุณนุจ๋า ผมรักคุณนุที่สุด คุณนุรักผมไม๊ครับ" อธิคมออดอ้อน อีกฝ่ายส่ายหน้า หลับตาปี๋ หอบหายใจแรง
"นี่แน่ะ" อธิคมยิ้มมุมปาก ทำโทษคนที่ไม่ยอมรับว่ารักเขา เสียงคนที่โดนทำโทษร้องโอดโอย แต่นายตำรวจหาได้สงสารไม่ กลับเร่งจังหวะเร็วขึ้น พร้อมกับเซ้าซี้ไม่หยุด "รักไม๊ครับ...โอย..."
อนุภาพก้มหน้าลงงับปากเข้ากับต้นคอของนายตำรวจที่จงใจแกล้งเขา มือฟาดเข้าที่กลางหลังของคนที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง
ยิ่งโดนทำร้าย อธิคมยิ่งฮึกเหิม ตอบกลับด้วยความรุนแรงเช่นกัน จนอนุภาพยอมเลิกกัดเขา เปลี่ยนมาเป็นแหงนหน้า อ้าปาก ร้องครางด้วยความรัญจวน
ปากแดงของชายหนุ่มยั่วยวนอธิคมนัก เขายื่นหน้าไปโลยเลียใต้คางของคนรัก พยายามเขย่าตัวของอนุภาพให้ยอมยื่นหน้าเข้ามาบดปากจูบเขา ลิ้นทั้งสองตวัดเกี่ยวกันแน่นจนแทบหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกันเช่นร่างกาย อธิคมพาคนรักระเริงสุขอยู่จนเขาก็แทบจะทนไม่ไหวเหมือนกัน อธิคมร้องครางเสียงดัง สะดุ้งเฮือกเป็นครั้งสุดท้าย ร้องเรียกอธิคมด้วยคำที่นำตำรวจหนุ่มอยากได้ยินที่สุด ก่อนจะเกร็งตัวหนีบรัดอธิคมจนชายหนุ่มแทบจะขาดใจ
สารวัตรอธิคมไม่รออีกต่อไปแล้ว อนุภาพเพิ่งถึงจุดหมาย เขารู้สึกได้ถึงความอุ่นข้นพุ่งรดหน้าท้องแกร่งของเขา จึงกระแทกกายเข้าไปในตัวคนรักลึกที่สุดเท่าที่ทำได้ พร้อมกับพาอนุภาพไปสัมผัสกับความสุขสุดยอดที่ทำให้ร่างกายของทั้งสองกระตุกราวถูกช๊อตด้วยไฟฟ้า...หากเป็นการกระตุกที่เสียวซ่านจนแทบจะทำให้ทั้งสองลืมว่ากำลังยืนอยู่บนโลกมนุษย์
เวลานี้...ชายหนุ่มทั้งคู่รู้สึกประหนึ่งว่ากำลังล่องลอยอยู่เหนือเมฆ สูงขึ้น...สูงขึ้น...สูงจนมองไม่เห็นสรรพสิ่งรอบกาย นอกจากความว่างเปล่า...ความว่างเปล่าที่สวยงามราวกับว่ากำลังอยู่บนสวรรค์
อธิคมหมดแรง...ม้าศึกที่คึกคะนองต้องทรุดตัวลงกองกับพื้น แต่กายของเขายังตรึงแน่นอยู่ในร่างของคนรักที่โอบรัดเขานิ่งสนิท...มีเพียงส่วนนั้นที่กำลังห่อหุ้มเขาอยู่กระตุกถี่กระชั้น บีบรัด รีดเอาทุกอยาดหยดของความสุขจนอธิคมครางกระเส่าเพราะความเสียวซ่าน
"คุณนุ พอเถอะครับ...ผม...โอย..." อธิคมวิงวอน "อูย...เดี๋ยวตัวแห้งหมด"
"บ้า" อนุภาพเสียงเข้ม ฟาดคนขี้เล่นด้วยฝ่ามืออีกหนึ่งครั้ง
"โอ๊ยเจ็บ" อธิคมร้องลั่น แล้วขยับเอวแรงๆ จนอีกฝ่ายก็ร้องลั่นเหมือนกัน
"ผู้กอง หยุดนะ ไม่เอา..."
"มาทำผมก่อนทำไมล่ะ" อธิคมทำเสียงงอน
"ออกไปนะ" อนุภาพสั่ง
"ไม่"
"ฮื่อ...สารวัตร"
"ได้เค้าแล้ว จะให้เค้าออกเร็วๆ ได้ไง ขออยู่ต่อนานๆ" อธิคมยิ้มวาบหวาม ดันตัวอนุภาพให้เอนนอนตะแคงลงกับพื้น แล้วหมุนตัวเองให้ไปอยู่ด้านหลัง
"สารวัตร..." อนุภาพครางเสียงอ่อน แม้จะถึงจุดสุดยอดไปแล้วแต่เขาก็ยังรู้สึกเสียวซ่านไม่ต่างจากเมื่อครู่ ความเปียกลื่นเมื่อครู่ตอนนี้เริ่มฝืด อธิคมยังไม่ยอมถอนกายออก กลับตะกองกอดเขาไว้แนบออก แผ่นหลังเขาเบียดอยู่กับอกกว้างของชายหนุ่ม รู้สึกถึงไออุ่นซาบซ่านจนไม่อยากให้อธิคมขยับตัวออกห่าง
อธิคมกระซิบข้างหูคนรักด้วยถ้อยคำหวาน ปากขบเม้มจนอนุภาพบ่นว่าใบหูเขาคงเป็นแดงไปหมดแล้ว อธิคมบอกว่าหยุดเม้มก็ได้ แต่ขอเป็นไล้ลิ้นแทน
"ผู้กอง...เมื่อยแล้วนะ เจ็บแขน" อนุภาพบ่น การนอนตะแคงบนพื้นเป็นเวลานานเริ่มทำให้รู้สึกไม่สบายตัว
"งั้นไปต่อบนเตียง" อธิคมพูดกลั้วหัวเราะ โอบรัดตัวแฟนหนุ่มแน่น แล้วขยับตัวทำท่าจะลุกขึ้นทั้งๆ ที่ตัวยังติดกันอยู่
"สารวัตรอย่านะ"
"ทำไม่อีกล่ะ คุณนุนี่เรื่องมากจริง" อธิคมแกล้งบ่น ก่อนจะร้องออกมาเพราะโดนอีกฝ่ายจิกนิ้วที่ต้นแขน
"ก็จะไปทั้งยังงี้เหรอ"
"ผมทำได้ อย่าดิ้นก็แล้วกัน" อธิคมหัวเราะ ตั้งท่าจะทำอย่างที่พูดจริงๆ "อุ้มแฟนขึ้นเตียง ไม่เห็นจะยากตรงไหน"
"หยุดแผลงได้แล้ว" อนุภาพปรามนายตำรวจคนเก่ง ก่อนจะกำราบอธิคมด้วยการกระตุกกล้ามเนื้อบางส่วนทำโทษชายหนุ่ม
"อูย..." อธิคมคราง...ยิ้มร่ารับการทำโทษ ก่อนจะอุทธรณ์เสียงอ่อนเมื่ออนุภาพขยับตัวหนีจากแก่นนกายของเขา "คุณนุ...ฮื่อ...รีบออกทำไม"
"เจ็บ"
"เจ็บจริงเหรอ เมื่อกี้ครางเสียงหลงบอกว่าชอบ บอกว่าเร็วๆ แรงๆ" อธิคมเย้า ก่อนจะรีบพลิกตัวออกห่าง เพราะรู้ทันอนุภาพที่รีบหันมาเงื้อมือเตรียมฟาดคนปากดี
"คุณนุ อย่านะ อย่า...เจ็บนะ เห็นไม๊ ผมได้แผลไปทั้งตัวแล้วนี่" อธิคมอ้อนวอน แต่นัยน์ตาเต้นระริก "สงสารกันบ้างสิ"
"กวนอยู่ได้" อนุภาพพึมพำ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง
"แหม ก็คนมันรักนี่นา รักหรอกถึงหยอกเล่น รู้ไม๊ ถ้าไม่รักไม่ยอมให้รีดน้ำจนหมดตัวหรอก...โอ๊ยย..." คราวนี้อธิคมหนีไม่พ้น พูดเสร็จจึงต้องร้องลั่นเพราะอีกฝ่ายโถมตัวเข้าหา ฟาดฝ่ามือทั้งสองข้างบนหน้าอกกว้างแกร่ง แล้วฟาดซ้ำอีกครั้งจนคนหวงน้ำหงายหลังลงกับพื้น หากไม่ยอมแพ้ดึงตัวคนที่ทำร้ายเขาตามลงไปด้วย
"ฤทธิ์มากนัก เดี๋ยวก็โดนแทงอีกรอบ" อธิคมขู่
"ก็ลองดูสิ" อนุภาพไม่ยอมเหมือนกัน
"ขอพักซักห้านาทีนะ" อธิคมต่อรอง
"ไม่มีน้ำยา ห้านาทีเลยเหรอ เก่งจริงทำตอนนี้เลยสิ"
"อ๊ะ อ๊ะ อย่ามาท้านะ"
"ผู้กอง...ง่วงแล้ว ปล่อยทีเถอะ" อนุภาพเลิกเล่นกับอธิคม ยอมนิ่ง ปล่อยให้นายตำรวจกอดเขาแน่น
"บอกก่อนสิว่ารักผม และขอโทษที่สบประมาท บอกว่า นุ จะไม่พูดแบบนี้อีกแล้ว" อธิคมเสียงนุ่ม
"ไม่"
"งั้นก็โดน" อธิคมทำตาลุกวาบ ขยับตัวจะพลิกคนรักให้นอนราบกับพื้น
"เจ็บหลัง"
"งั้นไปที่มันไม่เจ็บหลัง" สารวัตรหนุ่มเสนอทางเลือก
"ผู้กอง นี่มันดึกแล้วนะ ผมง่วงนอนแล้ว" อนุภาพทักท้วง ทำปากยื่นอย่างไม่พอใจ
"ดึกแล้วจะเป็นไรไป ไม่มีใครเขาเก็บเงินค่านอนดึกหรอกน่า"
"ง่วงนอน เข้าใจไม๊ ง่วง...นอน" อนุภาพเน้นเสียง ตอนนี้รู้สึกง่วงนอนจริงๆ
"ถ้าง่วงก็หลับไป ผมทำของผมเอง" อธิคมหัวเราะ ไม่ยอมเลิกหยอกล้อเลียนแฟน
อนุภาพหมดปัญญาจะทัดทานนายตำรวจหนุ่มพลังม้า อธิคมอยากได้อะไรแล้วต้องได้ ไม่เคยเลยสักครั้งที่อธิคมจะยอมเชื่อฟังเขาเรื่องบทรัก ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน บางครั้งเขาต้องตื่นนอนแต่เช้า ไปทำงานอย่างเหนื่อยอ่อน หมดแรงเพราะโดนอธิคมกวน จนใครๆ ที่ทำงานล้อเขาว่าหักโหมมากระวังต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล
...แบบนี้คงอายตายเลย...หากต้องเข้าโรงพยาบาล ให้หมอให้น้ำเกลือเพราะโดนแฟนมอบความรักจนไม่ได้พักผ่อน...ใครไม่รู้ แต่เขารู้...บางครั้งเขายังนึกเล่นๆ ว่าอธิคมก็คงตามไปสะกิด ส่งสายตาวิบวับให้แบบที่กำลังทำอยู่...ว่า "ขอผมเถอะ ผมไม่ไหวแล้ว"
...ใครจะช่างออดอ้อนเหมือนอธิคมเป็นไม่มี...และที่สำคัญ ทุกครั้งที่อธิคมอ้อน เขาก็ทนไม่ได้เสียที...
"รักคุณนุจัง" อธิคมกระซิบข้างหู
อนุภาพโชคดี คืนนี้อธิคมคงพอใจแล้วจึงยอมให้เขาได้นอนพักผ่อน นายตำรวจหนุ่มดึงตัวเขาให้ลุกขึ้น โอบกอดเขาแน่น พาเดินกลับไปที่เตียงนอน จูบเขาอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง ก่อนจะผลักให้ค่อยๆ เอนตัวลงบนที่นอน
"รัก รัก รัก"
"รู้แล้ว...นอนได้หรือยัง"
"คุณนุ ไม่อาบน้ำหรือ" อธิคมถาม
"ฮื่อ" อนุภาพหลับตา ทำเสียงในลำคอเบาๆ
"เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้นะ" อีกฝ่ายเสนอเสียงนุ่ม ก่อนจะผละออกไปเงียบๆ...
ธนาภพขบกรามแน่น มือที่ล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกงกำแน่นจนรู้สึกถึงความเจ็บปวดของอุ้งมือที่โดนเล็กจิก เขาบอกตัวเองว่าการเห็นอธิคมและอนุภาพอยู่ด้วยกันอาจจะช่ยให้เขาตัดใจจากอดีตคนรักได้อย่างสิ้นเชิง ปีกว่าที่ผ่านมาเขาคิดว่าตัวเองเข้มแข็งมากพอแล้ว แต่การได้เห็นอธิคมและอนุภาพอยู่ด้วยกันอย่างคนรั เขาก็ยิ่งเจ็บปวดมากกว่าที่คาดคิด
...อะไรที่คิดเอาไว้...ผิดไปหมด
The Avalon Suite ตรงหน้าที่เขายืนมองอยู่เป็นรีสอร์ทวีไอพีที่ออกแบบอย่างหรูหรา มีอาณาบริเวณที่แยกออกมาจากส่วนอื่นๆ ของโรงแรม เฉพาะพื้นที่ใช้สอยของสิ่งก่อสร้างก็มีพื้นที่กว่า 400 ตารางเมตร ยังไม่นับถึงสวนและสนามหญ้าที่กว้างกว่า 200 ตารางวาและสระว่ายน้ำขนาด 25 เมตร กำแพงสีขาวกั้นรอบบริเวณเพื่อความเป็นส่วนตัว ตอนนี้กั้นเขาออกจากอนุภาพโดยสิ้นเชิง
ธนาภพดึงมือออกจากกระเป๋ากางเกงเขายืนมองกำแพงสีขาวของเรือนพักสวีทมาเกือบชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ไฟดับลงเหลือเพียงดวงไฟหน้าประตูทางเข้าและนอกอาคาร ป่านนี้อนุภาพกับอธิคมคงเข้านอนไปแลว หลังจากที่จู๋จี๋กันตามประสาคนรัก เหลือเขาเพียงคนเดียว
...เขาที่เดียวดาย...เดียวดายมาตลอดตั้งแต่จากอนุภาพมาก...