นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -  (อ่าน 845279 ครั้ง)

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองน่ะ ธงรบ

FOAM

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ nbee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 849
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1

ธงรบ

ยังไม่รู้ใจตัวเองอีกเหรอเนี่ย

 :n1:


katawoot

  • บุคคลทั่วไป
“เออ” ธงรบตอบรับสั้นๆ กดล๊อคดังกริ๊กแล้วดึงประตูปิด อธิคมมองตามยิ้มๆ แล้วขยับศรีษะซุกหมอนให้เข้าที่ ก่อนจะหลับตาแล้วเห็นใบหน้าเรียบนิ่งของอนุภาพลอยไปลอยมาอยู่นานจนเขาหลับไป

ธนาภพยิ้มกว้าง ตรงรี่เข้ามาทักอนุภาพและอธิคมที่เดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงที่ตกแต่งอย่างหรูหรา งานเปิดตัว The Avalon Resort อย่างเป็นทางการจัดขึ้นกลางแจ้ง ณ ลนหญ้ากลางรีสอร์ทพื้นที่กว่า 100 ไร่
ธนาภพอยู่ในชุดทักซิโด้สีดำสนิท รูปร่างหนามากกว่าเดิม ใบหน้าเข้มขึ้นราวกับตากแดดมาแรมเดือน
“นุ...สารวัตร ยินดีต้อนรับครับ ขอบคุณที่มาเป็นแขกวีไอพีของผม ขอโทษด้วยที่ตอนบ่ายมาต้อนรับไม่ได้ พอดีผมติดรับแขกรัฐมนตรีการท่องเที่ยว”
“ไมเป็นไรครับ รู้ว่าคุณธนาภาพยุ่ง แล้วก็ขอบคุณสำหรับห้องสวีทเช่นกันครับ” อธิคมยิ้ม ตอบธนาภพสั้นๆ
“เหนื่อยไหมภพ” อนุภาพถามแล้วยื่นของฝากให้เป็นแผ่นทองเหลืองแกะสลักตัวหนังสือภาษากรีก “เอาไว้แปะหน้ารีสอร์ท”
“ขอบใจนะนุ” ธนาภพยิ้ม ก้มลงมองสิ่งที่อยู่ในมือ “อย่าบอกนะว่าเป็น...”
อนุภาพพยักหน้า “ขอแสดงความยินดีด้วยนะภพ ถ้ามีอะไรให้นุช่วยก็บอก”
“ช่วยทำโฆษณาให้ก็พอแล้ว” ธนาภพยิ้มมุมปากแล้วหันไปมองอธิคมที่ยิ้มบางๆ เหมือนกัน
...
บนเครื่องบินระหว่างเดินทางมาเชียงใหม่ อนุภาพอธิบายให้อธิคมฟังแล้วว่าเขาให้อะไรธนาภพเพื่อแสดงความยินดีกับโครงการรีสอร์ท อธิคมทำหน้ามุ่ย บ่นออดแอดว่าทำไมต้องทำอะไรพิเศษขนาดนั้น อนุภาพบอกนายตำรวจหนุ่มไม่ให้คิดมาก สิ่งที่เขาทำเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เพื่อนทำให้เพื่อน
“ผมกับภพเป็นอดีตไปแล้ว สารวัตรต่างหากที่เป็นปัจจุบัน ที่มานี่ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า เราสามคนเคลียร์กันแล้ว จะได้สบายใจกันทั้งสามฝ่าย”
อธิคมพยักหน้าหงึกหงักแล้วยื่นหน้าเข้าใกล้จนอนุภาพต้องดุว่าทำอะไรประเจิดประเจ้อบนเครื่องบิน
“ห้ามมาทำเจ้าชู้ประตูดินกับแฟนผมก็แล้วกัน ไม่งั้น ดิ อาวาล่อน พัง” อธิคมทำเสียงขู่
“ผู้กองก็เถอะ อย่าหาเรื่องใครล่ะ ไม่งั้นได้นอนมุ้งสายบัว ไม่ก็นอนนอกห้อง” อนุภาพขู่เหมือนกัน
...
อธิคมทำตัวดีตลอดงานเลี้ยงเปิดตัว The Avalon Resort ธนาภพยุ่งกับการทักทายแขกคนสำคัญมากหน้าหลายตา แต่ก็ยังแวะเวียนมาคุยกับอนุภาพและอธิคมจนอนุภาพต้องบอกให้ไปดูแลแขกคนอื่นดีกว่า
“ซุปเปอร์วีไอพีก็ต้องดูแลเป็นธรรมดา” ธนาภพยิ้มกว้างแล้วหันไปพูดกับอธิคม “สารวัตต้องการอะไรบอกพนักงานได้เลยนะครับ ทุกคนรู้จักสารวัตรกับคุณนุว่าเป็นแขกพิเศษอันดับหนึ่งของผม ผมสั่งไว้แล้ว”
“ขอบคุณครับ” อธิคมยิ้มตอบบางๆ ทำหน้าเคร่งขรึม พยายามวางมาด
“ภพไปดูแลแขกคนอื่นเถอะ ไม่ต้องห่วงนุ มาบ่อยๆ นุชักจะเบื่อหน้าแล้วนะ” อนุภาพไล่เจ้าของงาน
“ได้เลย จะไม่มาให้เห็นหน้าอีกแล้ว” ธนาภพหัวเราะแล้วขอตัวไปคุยกับกลุ่มดาราดังของเมืองไทยที่เดินเข้ามาในงาน
อธิคมถอนหายใจเบาๆ มองตามธนาภพจนลับตา แล้วหันมาพูดกับอนุภาพว่า “คุณนุ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนสรรพนามพูดกับผมเหมือนพูดกับธนาภพ ไม่ก็เลิกเรียกชื่อตัวเองซะที”
“ทำไมหรือครับ”
“ก็ผมหึง ทำไมไม่เรียกตัวเองว่านุเวลาพูดกับผม”
อนุภาพยิ้มให้คนตัวโตที่กำลังทำหน้ามุ่ย “ได้สิ งั้นสารวัตรต้องพูดเหมือนที่ภพพูดด้วยนะ เช่น คมเลิกเจ้าชู้แล้ว นุไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไม่ก็ คมจะทำตัวดี ไม่หาเรื่องทะเลาะกับใครให้นุปวดหัวหรอกจ๊ะ ทำได้ไหมล่ะ”
อธิคมเบ้ปาก ทำหน้าเหมือนจะกลืนยาขมสักสิบเม็ด “นั่นก็เกินไป ผมพูดอาจไม่ดูน่ารักเหมือนคุณนุพูด”
“แล้วเรียกคุณนุอยู่ได้” อนุภาพทำเสียงเข้ม
“ก็มันติดปากนี่นา” อธิคมแก้ตัว
“แล้วทำไมมาให้ผมเรียกตัวเองว่านุล่ะ”
“ก็ผมอยากได้ยิน”
“ไม่พูด”
“น่า นะ พูดหน่อยเถอะ” อธิคมเซ้าซี้
“คนไม่อยากพูด อย่ามาบังคับนะ”
“ไม่ได้บังคับ แต่อยากได้ยิน”
“ไม่”
“น่า นะ นุ พูดให้คมได้ยินซักหน่อย แค่นี้จะเป็นไรไปจ๊ะ” อธิคมแกล้งทำเสียงอ่อนเลียนแบบธนาภพแล้วหัวเราะชอบใจ
อนุภาพส่ายหน้า อดขำกับการยั่วเย้าของนายตำรวจอารมณ์ดีไม่ได้ แต่รอยยิ้มของเขาต้องหุบลง เมื่อมองไปเห็น “ตัวปัญหา”คนสำคัญที่กำลังเดินตรงมา
...กษิดิษฐ์...กษิดิษฐ์อีกแล้ว...คราวนี้มาพร้อมกับนิตินัย
อธิคมยังไม่เห็น “อดีต” ของตัวเองสองคนที่แท็คทีมเดินเข้ามาพร้อมกัน ปากยังคงล้อเลียนธนาภพอยู่ไม่ยอมหยุด จนอนุภาพกระทุ้งศอกเข้าชายโครงจึงรู้สึกตัว
“โอ๊ย อะไรกันคุณนุ เจ็บนะ ผมทำอะไรผิดอีกละทีนี้” อธิคมบ่น พลันนิ่งไปชั่วขณะเมื่อเงยหน้าขึ้นมองสองหนุ่มที่เดินเข้ามาหา
“ดีๆ นะผู้กอง ถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ผมไม่รับรองความปลอดภัยของสองคนนั่น” อนุภาพเสียงเข้ม “กุญแจห้องสวีทอยู่ที่ผมนะ ขอบอก ระวังได้นอนตากยุงหน้ารีสอร์ท”
“ใจร้าย ถ้าผมจัดการได้คืนนี้ต้องให้รางวัลผมนะ” อธิคมบ่น ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เตรียมพร้อมสำหรับการบุกของข้าศึก
...เอาวะ เป็นไงเป็นกัน หากกษิดิษฐ์กับแบงค์พูดยังไม่รู้เรื่องอีกละก็ เขาจะดุให้ร้องไห้กลางงานเลยทีเดียว จะได้จบเรื่องไปเสียที...ยังไงๆ คืนนี้เขาก็ไม่ยอมนอนตากยุงหน้ารั้ว The Avalon Suite หรอก ยิ่งธนาภพเป็นเจ้าของรีสอร์ท เขายิ่งไม่ไว้ใจให้อนุภาพนอนคนเดียว

งานเลี้ยงเปิดตัว The Avalon Resort อย่างเป็นทางการจบลงเอาเกือบหกทุ่ม แบงค์ นิตินัยร้องเพลงคู่กับเวโรนิกา สเตรดี้ นักร้องดาวรุ่งดวงใหม่ที่บินตรงมาจากออสเตรเลียเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
อธิคมยอมรับว่านิตินัยเป็นนักร้องมืออาชีพที่มีความสามารถเยี่ยมยอด แม้ชายหนุ่มจะมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับคลิปวีดีโอที่ทำเอาชีวิตซวนเซไปพักหนึ่ง แต่นิตินัยก็กลับมายืนหยัดในวงการได้เหมือนเดิม และดูท่าทางจะยิ่งดังขึ้นมากกว่าเดิม  และแม้ว่าจะโดนเขาตำหนิอย่างตรงไปตรงมาต่อหน้าอนุภาพและกษิดิษฐ์จนนักร้องหนุ่มน้ำตาซึม แต่เมื่อถึงคิวจะต้องขึ้นร้องเพลงปิดงานคู่กับนักร้องดังระดับโลก นิตินัยก็ทำหน้าที่ไม่บกพร่อง
กษิดิษฐ์เสียอีกที่ทำท่าเก่งกว่านิตินัยมาตลอด แต่กลับเสียศูนย์จนผลุนผลันออกไปจากงาน คราวนี้เขาไม่ไว้หน้ากษิดิษฐ์อีกแล้ว ชายหนุ่มคุกคามอนุภาพจนเขาทนไม่ได้ กษิดิษฐ์ไม่ยอมรับความเป็นจริงที่ว่าเขามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วและไม่คิดจะหวนกลับไปคบกับใครในอดีตที่ผ่านมา
“อดีตก็คืออดีตนะกษิดิษฐ์ เลิกตอแยพี่เสียที ปัจจุบันนี้พี่มีแต่คุณนุคนเดียวเท่านั้นและอนาคตก็คุณนุ” เขาพูดกับกษิดิษฐ์เป็นครั้งสุดท้าย สองต่อสอง ก่อนน้ำตาของชายหนุ่มจะไหลออกมาเอ่อล้นดวงตาเจ็บปวดคู่นั้น
บางทีอธิคมก็ไม่แน่ใจนักว่ากษิดิษฐ์อาลัยอาวรณ์เขาขนาดนี้เพราะรักและหลงมากจนตัดใจไม่ได้ หรือเพราะต้องการเอาชนะกันแน่
อนุภาพไม่ทันได้ยินประโยคสุดท้ายที่เขาพูดกับกษิดิษฐ์เพราะก่อนหน้านั้นชายหนุ่มผละหนีไปคุยกับตฤณที่ยืนคุยอยู่กับอัสนัยเพราะคงหมดความอดทนที่จะต่อล้อต่อเถียงกับกษิดิษฐ์แล้ว


11  11  11  11  11  11  11  11  11  11  11  11  11


ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
จิ้ม ๆ ๆ ๆ ๆ

แอนด์ งง

เอิ๊กกกกกก

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
คืนนี้ ได้รางวัลป่าว

สารวัตร  :z1:

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
เหมือนจะ งงๆ แบบว่ารวบรัดบ้างอะไรบ้างรึเปล่า

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
เรื่องโน้น ก็ 11
เรื่องนี้ ก็ 11

เดี๋ยวก็ ให้คุณนุ เป็นแฟนกะคุณภูวนัย เลยซะนี่

MonsterP

  • บุคคลทั่วไป
เอาหน่ะ สู้ๆ มาต่ออีกนะ ทุกคนกำลัง งง

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณที่ติดตามอ่านและติดตาม งง กันครับ คนเขียนก็งงเหมือนกันครับ  :z1:
อนุภาพกับอธิคมได้รับเชิญจากธนาภพมางานเปิดตัวรีสอร์ที่เชียงใหม่ครับ
รวบรัดเิกินไป เดี๋ยวจะแก้ไขเพิ่มใน draft ที่ 2 ครับ โพสที่นี่เป็น draft 1 ใหม่ๆ สด พิมพ์เสร็จร้อนๆ

ต่อไปบทที่ 12 ครับ

12

เวลานี้...กลางดึก..บนเตียงนอนกว้างกลางห้องนอนใหญ่ของ The Avalon Suite อธิคมจึงทวง “รางวัล” ในฐานะที่ปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้น
“มามะ คุณนุ ตามสัญญา มาให้ผมชื่นใจซะดีๆ” อธิคมทำเสียงหวาน นัยน์ตาพราวระยับเมื่อเอื้อมมือไปดึงอนุภาพให้ขึ้นมาบนเตียง
“รางวัลอะไร” อีกฝ่ายตีหน้าซื่อ
"อ๊ะอ๊ะ อย่ามาทำเป็นลืม ก็รางวัลที่ผมกำจัดมารหัวใจคุณนุไปได้ตั้งสองคน" นายตำรวจหนุ่มยักคิ้ว
"ผมว่ามันเป็นหน้าที่ของสารวัตรที่ควรกระทำมากกว่านะครับ" อนุภาพยักไหล่
"อ้าว ไหงพูดแบบนี้ล่ะครับ" อธิคมทำหน้าเหรอหรา
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับรางวัลที่ว่า" อนุภาพยังทำไม่รู้ไม่ชี้
"รางวัลสำหรับคนที่เลิกเจ้าชู้ไงจ๊ะที่รัก" อธิคมยักคิ้วหลิ่วตา "ให้กำลังใจกันหน่อยสิ จะได้มีแรงสู้ต่อ"
"ผมว่าควรจะเป็นผมที่ต้องพูดว่าจะได้มีแรงสู้ต่อ" อนุภาพยังขัดขืน ไม่ยอมขึ้นมาบนเตียง "สารวัตร ผมกำลังเช็ดหน้าอยู่"
"ไม่ต้องแล้ว จะเช็ดทำไม อีกหน่อยก็เหงื่อออกโทรมตัว มามะ มาให้ผมเชยชมเดี๋ยวนี้นะ" อธิคมออกแรงมากกว่าเดิม จนในที่สุดคนที่ทำไก๋ไม่ยอมรักษาสัญญาก็ถูกอ้อมแขนแข็งแรงของนายตำรวจหนุ่มประคองกอดเอาไว้
"สารวัตร ผมง่วงแล้ว" อนุภาพอู้อี้ เพราะอธิคมเร่มเรียกร้องรางวัลด้วยการระดบจูบทั่วใบหน้า
"ผมไม่ง่วง"
"ฮื่อ สารวัตร พรุ่งนี้เช้าไม่ได้หรือ ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว" อนุภาพพยายามต่อรอง
"พรุ่งนี้อีกรอบ แต่คืนนี้ขอโหมโรงก่อน" อธิคมสอดมือเข้าไปใต้เสื้อยืดสีขาวของอนุภาพ ลูบไล้ผิวกายเนียนแน่นของชายหนุ่ม ส่วนมืออีกข้างหนึ่งอ้อมไปด้านหลัง เกาะกุมบั้นท้ายเกร็งแน่นของคนรักแล้วบีบเค้นเบาๆ
"โหมโรงทั้งปี โหมโรงกับเอาจริงไม่เห็นต่างกันเลย" คนที่โดนลุกล้ำบ่นเสียงกระท่อนกระแท่น ก่อนจะบิดตัว แอ่นร่างเมื่อปลายนิ้วของสารวัตรมือปราบเขียจุดเล็กๆ บนหน้าอกที่ไวต่อความรู้สึก ลิ้นของอธิคมสอดเข้าไปในหูของเขา ตวัดดุนแล้วเม้มติ่งหูนุ่มๆ จนต้องส่ายหน้าไปมา มือดันอกกว้างบึกบึนของนายตำรวจให้ออกห่าง แต่อีกฝ่ายไม่ยอม กลับบดเบียดตัวเข้าแนบชิดมากกว่าเดิม
"คุณนุครับ ผมจะไม่ไหวอยู่แล้ว" อธิคมเสียงกระเส่า มือที่อยู่ด้านหลังสอดเข้าไปในกางเกงของอนุภาพ นิ้วสอดไล้เข้าไปในจุดที่เขาโปรดปรานที่สุด
อนุภาพสะดุ้งเฮือก มือที่เคยผลักหน้าอกของคนรักเปลี่ยนเป็นขย้ำราวจะหาที่ยึด อีกฝ่ายไม่ร้องโอดโอยอย่างที่เคยแกล้งทำ หากส่งเสียงครวญครางอยู่ในลำคออย่างชอบใจ บดปากเข้ากับปากอิ่มเต็มของอนุภาภ แล้วสอดลิ้นเข้าไปลิ้มรสความหอมหวานของชายหนุ่มที่เขารัก
อธิคมหมดสิ้นแล้วซึ่ความอดทน แรงปรารถนาอัดอยู่ในตัวเขาแจนแทบจะระเบิดราวกับลูกโป่งที่ถูกสูบลมเข้าไปจนเต็มที่ ร่างกายร้อนเร่าประหนึ่งถูกเผาด้วยไฟร้อนจัด องคาพยพส่วนนั้นของเขาแข็งแกร่งจนปวด ขยับตัวดุนดันกางเกงจนต้องปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
ร่างเปลือยทั้งสองกอดกระหวัดรัดกับแน่นดั่งงูสองตัวที่กำลังต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงอาหาร สองร่างบดเบียดเข้าหากันจนเกือบกลายเป็นเนื้อเดียว เกลือกกลิ้งไปหาบนที่นอนนุ่มสบาย เสียงครวญครางสอดประสานกันดั่งเสียงดนตรีที่กำลังบรรเลงเพลงจังหวะเร้าใจ
อธิคมพลิกตัวนอนหงาย หรี่ตาให้อนุภาพรู้ว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะ 'เรียกร้อง' รางวัลของเขา ชายหนุ่มคนรักของเขาแกล้งทำหน้าอิดออด จนอธิคมต้องเอื้อมมือไปประคองท้ายทอยของชายหนุ่มให้ก้มต่ำลงมา อนุภาพช้อนตาขึ้นมองนายตำรวจหนุ่มผู้ที่กำลังมองอยู่ด้วยสายตาอ้อนวอน ก่อนจะขยับศรีษะลง
อธิคมตาปรือด้วยความปรารถนา ปากเผยอขึ้น เลียริมฝีปาก พนักหน้าให้คนรัก 'เริ่ม' เสียที
"คุณนุ ผมจะขาดใจอยู่แล้ว อย่าทรมานกันเลยครับ" อธิคมขอร้องเสียงกระเส่า แอนกรายเกร็งแน่น สองมือของอนุภาพเกาะกุมความเป็นชายของเขาขยับช้าๆ เพียงสัมผัสแรก อธิคมก็แทบจะระเบิดราวกับน้ำพุร้อนที่จะกระเสือกกระสนจะดันพุ่งขึ้นมาจากผิวดิน
"คุณนุครับ" อธิคมหลับตาพริ้ม กลั้นหายใจ รอความเย็นชุ่มชื่นจากริมฝีปากของชายหนุ่มปากแดงอิ่มเต็มที่เขาเคยลิ้มรสไม่เคยเบื่อ
อนุภาพยังไม่ยอมให้สิ่งที่อธิคมต้องการ ชายหนุ่มหยอกล้อนายตำรวจด้วยปลายนิ้ว จนสารวัตรมือปราบแทบดิ้นพรวดพราด มือแข็งแรงดันท้ายทอยเขาให้ต่ำลง แต่อนุภาพส่ายหัวขัดขืน สองมือที่เกาะกุมแก่นกายของอธิคมขยับพรวดเดียว ทำให้ร่างของนายตำรวจหนุ่มสะดุ้งเฮือก สูดปากเสียงลั่น หน้าท้องแกร่งเด้งขึ้น ลอยเด่นสวนทางกับมือของอนุภาพ ท่อนขากำยำอ้ากว้างขึ้น เกร็งจนกล้ามเนื้อชัดเจน
...ไม่ไหวแล้ว จะขาดใจตายเสียให้ได้...อนุภาพ...ทำไมทรมานเขาแบบนี้...
อธิคมอ้าปากกว้าง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ รออย่างทุรนทุราย แต่ก็รู้ว่าอีกไม่นาน อนุภาพจะทำให้เขารู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์ที่เย็นฉ่ำ แต่เร่าร้อนภายในเวลาเดียวกัน
อธิคมนึกอะไรบางอย่างได้ จึงละมือออกจากท้ายทอยของคนรัก สองแขนเหยียดกาง เตรียมตัวรอกับการทักทายจากปลายลิ้นของชายหนุ่ม หลังๆ มานี่เขาเรียนรู้ว่าอนุภาพไม่ยอม 'ให้รางวัล' เขาหากมือเขายัง 'ดื้อดึง' อยู่บนหัวของชายหนุ่ม
"โอ้ว" อธิคมครางเสียงสั่น ทันทีที่เขาละมือ อนุภาพก็ฉกลิ้นใส่กายของเขาราวจงอางฉกเหยื่อ สารวัตรหนุ่มสะท้านไปตังเพียงเพียงได้รับการสัมผัสเพียงน้อยนิด กายแอ่นไปตามจังหวะที่ถูกจู่โจม ช้าบ้าง เร็วบ้างสลับกันไป สอดประสานกับอีกฝ่ายทีปรนเปรอเขาด้วยลิ้นและริมฝีปากจนแทบเขาแทบจะทนไม่ไหวต้องขยับตัวออก หากคนที่กำลังเมามันกับการฉกเหยื่อกลับไม่ยอม สองมือรั้งเอวนายตำรวจเอาไว้แน่นไม่ยอมให้หลบหนี อธิคมกลายเป็นนักโทษที่ต้องโดนทำร้ายด้วยปากอย่างรุนแรง เมื่อพอใจแล้ว อีกฝ่ายจึงเงยหน้าขึ้นเปลี่ยนเป้าหมาย
...คราวนี้อธิคมยิ่งครวญครางเสียงดังขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้รับรางวัลเกินคาด
คืนนี้เขาไม่ได้เป็นคนคุมเกม เขามีหน้าที่นอนอยู่เฉยๆ รอรับการปรนนิบัติอย่างเดียว...การปรนเปรอที่อนุภาพเป็นคนทำให้...ทุกอย่าง...
...อนุภาพไม่อิดออด หากทำหน้าหน้าที่สุดฝีมือ เมื่อ 'เชยชม' สารวัตรที่รักของเขาจนเป็นที่หนำใจแล้ว คราวนี้ถึงเวลา 'ทะยาน' สู่สวรรค์ด้วยพาหนะที่แข็งแรงทรงพลังของเขาส
ชายหนุ่มยึดข้อมือสองข้างของเขาที่นอนแผ่หราอยู่ ก้มหน้าลงมายิ้มให้บางๆ แล้วขยับตัวลงไปยังเป้าหมายที่ผงกรอรับอยู่ อนุภาพหลับตา ปากบิดเบี้ยวด้วยความจุกแน่นเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น เพราะพาหนะที่จะพากันและกันไปถึงจุดหมายนั้นไม่ได้ขึ้นขี่ได้ง่ายๆ บางครั้งเขายังสงสัยตัวเองว่า 'ครอบครอง' ส่วนนั้นของอธิคมเข้าไปได้อย่างไร เพราะอธิคมนั้นรูปร่างสูงใหญ่ และอะไรๆ ในตัวก็มหึมาน่ากลัวยิ่งนัก
อนุภาพหอบหายใจถี่หนัก ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ กลั้นเก็บเอาไว้แล้วดันตัวลงไปช้าๆ จนได้ครึ่งทางจึงจำต้องอ้าปากกว้าง พ่นลมหายใจออกมาเพราะรู้สึกเหมือนจะขาดใจ และเมื่อครอบครองที่นั่งบนยานพาหนะที่จะพาขึ้นสู่สวรรค์ได้สำเร็จเต็มที่ เขาหยุดรอชั่วครู่หายใจแรงๆ ราวกับวิ่งมาเป็นสิบๆ กิโล มือตบหน้าอกคนที่อยู่ข้างล่างเบาๆ
"สารวัตร อยู่เฉยก่อนนะครับ" อนุภาพเสียงขาดห้วง รู้สึกเหมือนจะขาดใจ "ผมจะขยับเอง"
อนุภาพเริ่มการเดินทาง ขยับกายขึ้นล้าๆ แม้จะคุ้นเคยกับม้าศึกตัวนี้ แต่ทุกครั้งที่ขึ้นขี่ ม้าคึกก็มักจะพยศทุกครั้งเมื่อใกล้จะถึงกลางทาง เขาต้องคอยลงแส้ไม่ให้คึกคะนองเกินเหตุ
อธิคมครวญครางเสียงดัง ส่ายหน้าไปมาเมื่อคนขี่ม้าขยับเร่งความเร็วขึ้น แก่นกายของเขาขยับตามอัตโนมัตื เร่งจังหวะตามคนขี่ให้ทัน จนบางครั้งแทบจะควมคุมตัวเองไม่ได้ เพราะหากเร็วเกินไป คนขี่จะกระแทกกายลงมาแล้วหยุดนิ่ง กดบีบเอาไว้จนเขาต้องกลั้นหายใจ ยอมผ่อนความเร็วให้จ๊อคกี้ขยับท่วงท่าต่อไป แล้วเปลี่ยนเป็นบดเบียดวนไปวนมาเหมือนจะพยายามถอดเสาที่ปักหลักอยู่กับพื้นดินด้วยการโยกไปโยกมาให้ดึงขึ้นได้ง่าย
…ไม่ไหวแล้ว...แก่นกายของเขาร้อนผ่าวแทบจะระเบิด แดงก่ำและร้อนเหมือนเอาแท่งเหล็กแช่ลงไปในปากปล่องภูเขาไฟ ยิ่งได้รับการเสียดสียิ่งทำให้แท่งเหล็กอยากจะพุ่งทะยานขึ้นไป หวังว่าจะได้รับความชุ่มเย็นจากฝนที่อาจจะตกลงมาดับความเร่าร้อน
"คุณนุ อ๊าส์...เสียวจังเลยครับที่รัก อย่าหยุดนะ...อืมม" อธิคมครางกระเส่าเมื่ออนุภาพเร่งความเร็วขึ้น นายตำรวจมือปราบขยับเอวตามหวังหวะให้ทัน หากบางครั้งเขาใจร้อน เผลอตัวเด้งแรงเกินไปจนจ๊อคกี้หัวสั่นหัวคลอน จึงโดนกำราบด้วยการฟาดฝ่ามือลงบนอกกว้างแกร่งจนเห็นเป็นรอยแดง
"ผู้กอง...บอกว่าให้อยู่เฉยๆ" อนุภาพเสียงเข้ม กดตัวลงมาแน่น เข่าหนีบสีข้างของอธิคม แล้วหยุดนิ่ง "นี่แน่ะ"
"โอ้ย...คุณนุจ๋า ผมอยู่เฉยแล้ว" อธิคมแก้ตัว แต่เอวยังพยายามขยับดันให้อนุภาพโหย่งตัวขึ้น
จ๊อคกี้ที่กำลังพักเหนื่อยขย้ำหน้าอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของนายตำรวจหนุ่มจอมพยศเพื่อเป็นการบังคับให้ม้าศึกอยู่นิ่ง แล้วฟาดด้วยฝ่ามือเสียงดัง
"นี่แหน่ะอยู่เฉย"
"อูย คุณนุ" อธิคมครางราวเจ็บปวดที่โดนฟาด หากนัยน์ตาพราวระยับ ไม่มีท่าทีจะเชื่อฟังหรือเกรงกลัว
"โอ๊ย สารวัตร...บอกว่า...อย่า..."
อธิคมไม่อาดทนได้อีกต่อไป อนุภาพบอกให้เขาอยู่เฉยๆ เขาจะทำได้อย่างไร ที่ยอมนอนเป็นม้าอาหรับให้ห้อตะบึงมาตั้งนานเขาต้องอดทนจนแทบกัดลิ้นตัวเองขาด กรามที่เกร็งตอนนี้ปวดไปหมด ถึงเวลาที่เขาต้องเป็นฝ่ายควบบ้างแล้ว...คราวนี้เขาต้องเป็นคนคุมจังหวะ
นายตำรวจหนุ่มเอื้อมมือไปจับเอวของคนรักแล้วตรึงเอาไว้แน่นเพราะกลัวว่ากายจะหลุดออกจากกัน อนุภาพรู้ตัวว่าอธิคมจะทำอะไรจึงขึงตัวนิ่ง นายตำรวจดันตัวลุกขึ้น อนุภาพยังพยายามผลักหน้าอกเขาไว้ แต่อธิคมแรงเยอะกว่า
"ผู้กอง บอกแล้วไงว่าให้อยู่เฉยๆ"
"ผมขอขึ้นบนบ้างสิ เดี๋ยวเสียเชิงชายหมด อยู่ข้างล่างหายใจไม่ออก" อธิคมโต้แย้ง แล้วยื่นหน้าเข้าซุกไซร้ซอกคออนุภาพ ตวัดลิ้นโลมเลียลำคอขาวสะอาดของคนรัก ขณะที่เอวก็ขยับไปมาไม่ยอมหยุดนิ่ง
"สารวัตรครับ..." อนุภาพเสียงขาดห้วง มือเปลี่ยนจากการผลักหน้าอกแฟนหนุ่มเป็นโอบรัดต้นคอ เลิกคิดที่จะขัดขืนอธิคมอีกต่อไป เพราะถึงยังไง อธิคมก็คงไม่ยอม เพราะนายตำรวจมักจะกลายเป็นผู้ควบคุมเกมเพื่อพาเขาไปสู่สวรรค์เช่นเคย
อธิคมยังไม่ยอมถอนกายออกจากคนรัก นายตำรวจผู้คึกคะนองดั่งม้าศึกยังตะกองกอดคนรักเอาไว้แนบออก (ปราถนาอยากจะดันกายให้ทะลุไปถึงข้างหลังของอนุภาพ อิ อิ อิ) ก่อนดันตัวให้ชายหนุ่มนอนราบลงกับเตียง
"เอ่าล่ะนะคุณนุ อย่าหลับตานะครับ" อธิคมล้อเล่นยิ้มๆ ดึงตัวออกมาพอหมิ่นเหม่ก่อนจะเสือกตัวดันเข้าไปช้าๆ
"ฮื่อ...สา..ร...วัตร...แน่น" อีกฝ่ายร้อง กัดฟันแน่น
"เมื่อกี้ไม่เห็นบ่น" อธิคมเสียงกระเส่า "อ้าขากว้างอีกหน่อยสิครับที่รัก"
อนุภาพทำตาม รู้สึกราวกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ "สารวัตร...สงสารผมบ้างนะ"
อธิคมยิ้มหวาน ก่อนจะดึงตัวออกอีกครั้งช้าๆ แล้วหยุดนิ่ง หมุนเอวไปมาเพื่อหยอกล้อคนรัก อีกฝ่ายจิกนิ้วลงกลางหลัง แหงนหน้าสูดปากด้วยความซาบซ่านพลางดุนายตำรวจขี้เล่นว่า "อย่าแกล้งสิ โอว..."
"คุณนุ ผมเร่งแล้วนะ" อธิคมก้มหน้าลง เม้มติ่งหูของชายหนุ่ม สลับกับไล้ลิ้นโลมเลีย "นะครับ นะ นะ"
"พูดอยู่นั่นแหล่ะ" อนุภาพดุ "จะทำ...อะไร...ก็...ทำ...โอ๊ย" สิ้นเสียง ชายหนุ่มต้องสะดุ้งเฮือกเพราะนักเจาะรูปหล่อควงสว่านกระแทกเข้ามาจนจุกไปทั่วท้องน้อย
อธิคมขยับตัวเร่งแรงและเร็วขึ้น สลับกับบดเบียดเชื่องช้าให้โอกาสแฟนหนุ่มได้หายใจพัก ก่อนจะพาอนุภาพทะยานไปด้วยกัน เสียงร้องผสมผสานกับเสียงหอบหายใจถี่กระชั้น ต่างฝ่ายต่างเรียกชื่อกัน พร่ำรำพันถ้อยคำรัก ขยับลีลาท่วงท่าพลิกแพลง ทำราวกับว่าบนเตียงเป็นสมรภูมิรบที่ต้องกระหน่ำแทงห้ำหั่นกันให้ขาดใจตายกันไปข้างหนึ่ง
อนุภาพปล่อยให้อธิคมพาเขาลอยละล่องไปในความเร่าร้อนประหนึ่งควบม้ากลางทะเลทราย...ร้อน...ร้อนมาก...ร้อนจนปรารถนาจะให้มีน้ำพุ่พุ่งขึ้นมาจากผืนดิน ราดรดเขาทั้งสองให้เย็นชุ่มฉ่ำ
"ผู้กอง..." อนุภาพเรียกคนรัก หอบหายใจถี่ราวกับอากาศรอบข้างกำลังจะหมดไป ต้องอ้าปากกว้างสูดเข้าไปเพื่อต่อชีวิต "เร็วๆ สิครับ...ผม...จะไม่ไหวแล้ว"
อธิคมไม่ตอบ สอดมือเข้าไปใต้เอวของชายหนุ่ม รัดไว้แน่น แล้วดันตัวคุกเข่า ก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืน
คราวนี้อนุภาพทักท้วงเพราะรู้ว่าอธิคมกำลังจะทำอะไร "ผู้กอง จะทำอะไร"
"รู้แล้วยังจะถาม" อธิคมเสียงสั่น เขาเองก็แทบจะทนไม่ไหวเหมือนกัน "เดินเล่นกันซักหน่อยนะจ๊ะ"
อนุภาพส่ายหน้า แต่มือรีบรัดต้นคอชายหนุ่มไว้แน่น ซุกหน้าเข้ากับซอกคอของอธิคม เตรียมตัวรับสิ่งที่นายตำรวจกำลังจะทำกับเขา
"เดี๋ยวตกนะจ๊ะ" อธิคมกระซิบเสียงพร่า มืออีกขวาละมาช้อนใต้ต้นขาส่วนบนของคนรัก "รัดแน่นๆ"
"อู้ว...สารวัตร อย่านานนักนะ จะไม่ไหวแล้ว"
"รอบเดียวเท่านั้น" อธิคมพยักหน้า แล้วเริ่มพาแฟน 'เดินเล่น' ไปรอบๆ ห้อง หยุดพักเป็นจังหวะเพื่อขยับกายท่อนล่างให้กระชับแน่นขึ้น เพราะเกรงกลัวว่าจะพรากออกจากกัน เวลานี้เขาอยากจะเป็นเนื้อเดียวกันกับอนุภาพมากที่สุด
"คุณนุจ๋า ผมรักคุณนุที่สุด คุณนุรักผมไม๊ครับ" อธิคมออดอ้อน อีกฝ่ายส่ายหน้า หลับตาปี๋ หอบหายใจแรง
"นี่แน่ะ" อธิคมยิ้มมุมปาก ทำโทษคนที่ไม่ยอมรับว่ารักเขา เสียงคนที่โดนทำโทษร้องโอดโอย แต่นายตำรวจหาได้สงสารไม่ กลับเร่งจังหวะเร็วขึ้น พร้อมกับเซ้าซี้ไม่หยุด "รักไม๊ครับ...โอย..."
อนุภาพก้มหน้าลงงับปากเข้ากับต้นคอของนายตำรวจที่จงใจแกล้งเขา มือฟาดเข้าที่กลางหลังของคนที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง
ยิ่งโดนทำร้าย อธิคมยิ่งฮึกเหิม ตอบกลับด้วยความรุนแรงเช่นกัน จนอนุภาพยอมเลิกกัดเขา เปลี่ยนมาเป็นแหงนหน้า อ้าปาก ร้องครางด้วยความรัญจวน
ปากแดงของชายหนุ่มยั่วยวนอธิคมนัก เขายื่นหน้าไปโลยเลียใต้คางของคนรัก พยายามเขย่าตัวของอนุภาพให้ยอมยื่นหน้าเข้ามาบดปากจูบเขา ลิ้นทั้งสองตวัดเกี่ยวกันแน่นจนแทบหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกันเช่นร่างกาย อธิคมพาคนรักระเริงสุขอยู่จนเขาก็แทบจะทนไม่ไหวเหมือนกัน อธิคมร้องครางเสียงดัง สะดุ้งเฮือกเป็นครั้งสุดท้าย ร้องเรียกอธิคมด้วยคำที่นำตำรวจหนุ่มอยากได้ยินที่สุด ก่อนจะเกร็งตัวหนีบรัดอธิคมจนชายหนุ่มแทบจะขาดใจ
สารวัตรอธิคมไม่รออีกต่อไปแล้ว อนุภาพเพิ่งถึงจุดหมาย เขารู้สึกได้ถึงความอุ่นข้นพุ่งรดหน้าท้องแกร่งของเขา จึงกระแทกกายเข้าไปในตัวคนรักลึกที่สุดเท่าที่ทำได้ พร้อมกับพาอนุภาพไปสัมผัสกับความสุขสุดยอดที่ทำให้ร่างกายของทั้งสองกระตุกราวถูกช๊อตด้วยไฟฟ้า...หากเป็นการกระตุกที่เสียวซ่านจนแทบจะทำให้ทั้งสองลืมว่ากำลังยืนอยู่บนโลกมนุษย์
เวลานี้...ชายหนุ่มทั้งคู่รู้สึกประหนึ่งว่ากำลังล่องลอยอยู่เหนือเมฆ สูงขึ้น...สูงขึ้น...สูงจนมองไม่เห็นสรรพสิ่งรอบกาย นอกจากความว่างเปล่า...ความว่างเปล่าที่สวยงามราวกับว่ากำลังอยู่บนสวรรค์
อธิคมหมดแรง...ม้าศึกที่คึกคะนองต้องทรุดตัวลงกองกับพื้น แต่กายของเขายังตรึงแน่นอยู่ในร่างของคนรักที่โอบรัดเขานิ่งสนิท...มีเพียงส่วนนั้นที่กำลังห่อหุ้มเขาอยู่กระตุกถี่กระชั้น บีบรัด รีดเอาทุกอยาดหยดของความสุขจนอธิคมครางกระเส่าเพราะความเสียวซ่าน
"คุณนุ พอเถอะครับ...ผม...โอย..." อธิคมวิงวอน "อูย...เดี๋ยวตัวแห้งหมด"
"บ้า" อนุภาพเสียงเข้ม ฟาดคนขี้เล่นด้วยฝ่ามืออีกหนึ่งครั้ง
"โอ๊ยเจ็บ" อธิคมร้องลั่น แล้วขยับเอวแรงๆ จนอีกฝ่ายก็ร้องลั่นเหมือนกัน
"ผู้กอง หยุดนะ ไม่เอา..."
"มาทำผมก่อนทำไมล่ะ" อธิคมทำเสียงงอน
"ออกไปนะ" อนุภาพสั่ง
"ไม่"
"ฮื่อ...สารวัตร"
"ได้เค้าแล้ว จะให้เค้าออกเร็วๆ ได้ไง ขออยู่ต่อนานๆ" อธิคมยิ้มวาบหวาม ดันตัวอนุภาพให้เอนนอนตะแคงลงกับพื้น แล้วหมุนตัวเองให้ไปอยู่ด้านหลัง
"สารวัตร..." อนุภาพครางเสียงอ่อน แม้จะถึงจุดสุดยอดไปแล้วแต่เขาก็ยังรู้สึกเสียวซ่านไม่ต่างจากเมื่อครู่ ความเปียกลื่นเมื่อครู่ตอนนี้เริ่มฝืด อธิคมยังไม่ยอมถอนกายออก กลับตะกองกอดเขาไว้แนบออก แผ่นหลังเขาเบียดอยู่กับอกกว้างของชายหนุ่ม รู้สึกถึงไออุ่นซาบซ่านจนไม่อยากให้อธิคมขยับตัวออกห่าง
อธิคมกระซิบข้างหูคนรักด้วยถ้อยคำหวาน ปากขบเม้มจนอนุภาพบ่นว่าใบหูเขาคงเป็นแดงไปหมดแล้ว อธิคมบอกว่าหยุดเม้มก็ได้ แต่ขอเป็นไล้ลิ้นแทน
"ผู้กอง...เมื่อยแล้วนะ เจ็บแขน" อนุภาพบ่น การนอนตะแคงบนพื้นเป็นเวลานานเริ่มทำให้รู้สึกไม่สบายตัว
"งั้นไปต่อบนเตียง" อธิคมพูดกลั้วหัวเราะ โอบรัดตัวแฟนหนุ่มแน่น แล้วขยับตัวทำท่าจะลุกขึ้นทั้งๆ ที่ตัวยังติดกันอยู่
"สารวัตรอย่านะ"
"ทำไม่อีกล่ะ คุณนุนี่เรื่องมากจริง" อธิคมแกล้งบ่น ก่อนจะร้องออกมาเพราะโดนอีกฝ่ายจิกนิ้วที่ต้นแขน
"ก็จะไปทั้งยังงี้เหรอ"
"ผมทำได้ อย่าดิ้นก็แล้วกัน" อธิคมหัวเราะ ตั้งท่าจะทำอย่างที่พูดจริงๆ "อุ้มแฟนขึ้นเตียง ไม่เห็นจะยากตรงไหน"
"หยุดแผลงได้แล้ว" อนุภาพปรามนายตำรวจคนเก่ง ก่อนจะกำราบอธิคมด้วยการกระตุกกล้ามเนื้อบางส่วนทำโทษชายหนุ่ม
"อูย..." อธิคมคราง...ยิ้มร่ารับการทำโทษ ก่อนจะอุทธรณ์เสียงอ่อนเมื่ออนุภาพขยับตัวหนีจากแก่นนกายของเขา "คุณนุ...ฮื่อ...รีบออกทำไม"
"เจ็บ"
"เจ็บจริงเหรอ เมื่อกี้ครางเสียงหลงบอกว่าชอบ บอกว่าเร็วๆ แรงๆ" อธิคมเย้า ก่อนจะรีบพลิกตัวออกห่าง เพราะรู้ทันอนุภาพที่รีบหันมาเงื้อมือเตรียมฟาดคนปากดี
"คุณนุ อย่านะ อย่า...เจ็บนะ เห็นไม๊ ผมได้แผลไปทั้งตัวแล้วนี่" อธิคมอ้อนวอน แต่นัยน์ตาเต้นระริก "สงสารกันบ้างสิ"
"กวนอยู่ได้" อนุภาพพึมพำ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง
"แหม ก็คนมันรักนี่นา รักหรอกถึงหยอกเล่น รู้ไม๊ ถ้าไม่รักไม่ยอมให้รีดน้ำจนหมดตัวหรอก...โอ๊ยย..." คราวนี้อธิคมหนีไม่พ้น พูดเสร็จจึงต้องร้องลั่นเพราะอีกฝ่ายโถมตัวเข้าหา ฟาดฝ่ามือทั้งสองข้างบนหน้าอกกว้างแกร่ง แล้วฟาดซ้ำอีกครั้งจนคนหวงน้ำหงายหลังลงกับพื้น หากไม่ยอมแพ้ดึงตัวคนที่ทำร้ายเขาตามลงไปด้วย
"ฤทธิ์มากนัก เดี๋ยวก็โดนแทงอีกรอบ" อธิคมขู่
"ก็ลองดูสิ" อนุภาพไม่ยอมเหมือนกัน
"ขอพักซักห้านาทีนะ" อธิคมต่อรอง
"ไม่มีน้ำยา ห้านาทีเลยเหรอ เก่งจริงทำตอนนี้เลยสิ"
"อ๊ะ อ๊ะ อย่ามาท้านะ"
"ผู้กอง...ง่วงแล้ว ปล่อยทีเถอะ" อนุภาพเลิกเล่นกับอธิคม ยอมนิ่ง ปล่อยให้นายตำรวจกอดเขาแน่น
"บอกก่อนสิว่ารักผม และขอโทษที่สบประมาท บอกว่า นุ จะไม่พูดแบบนี้อีกแล้ว" อธิคมเสียงนุ่ม
"ไม่"
"งั้นก็โดน" อธิคมทำตาลุกวาบ ขยับตัวจะพลิกคนรักให้นอนราบกับพื้น
"เจ็บหลัง"
"งั้นไปที่มันไม่เจ็บหลัง" สารวัตรหนุ่มเสนอทางเลือก
"ผู้กอง นี่มันดึกแล้วนะ ผมง่วงนอนแล้ว" อนุภาพทักท้วง ทำปากยื่นอย่างไม่พอใจ
"ดึกแล้วจะเป็นไรไป ไม่มีใครเขาเก็บเงินค่านอนดึกหรอกน่า"
"ง่วงนอน เข้าใจไม๊ ง่วง...นอน" อนุภาพเน้นเสียง ตอนนี้รู้สึกง่วงนอนจริงๆ
"ถ้าง่วงก็หลับไป ผมทำของผมเอง" อธิคมหัวเราะ ไม่ยอมเลิกหยอกล้อเลียนแฟน
อนุภาพหมดปัญญาจะทัดทานนายตำรวจหนุ่มพลังม้า อธิคมอยากได้อะไรแล้วต้องได้ ไม่เคยเลยสักครั้งที่อธิคมจะยอมเชื่อฟังเขาเรื่องบทรัก ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน บางครั้งเขาต้องตื่นนอนแต่เช้า ไปทำงานอย่างเหนื่อยอ่อน หมดแรงเพราะโดนอธิคมกวน จนใครๆ ที่ทำงานล้อเขาว่าหักโหมมากระวังต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล
...แบบนี้คงอายตายเลย...หากต้องเข้าโรงพยาบาล ให้หมอให้น้ำเกลือเพราะโดนแฟนมอบความรักจนไม่ได้พักผ่อน...ใครไม่รู้ แต่เขารู้...บางครั้งเขายังนึกเล่นๆ ว่าอธิคมก็คงตามไปสะกิด ส่งสายตาวิบวับให้แบบที่กำลังทำอยู่...ว่า "ขอผมเถอะ ผมไม่ไหวแล้ว"
...ใครจะช่างออดอ้อนเหมือนอธิคมเป็นไม่มี...และที่สำคัญ ทุกครั้งที่อธิคมอ้อน เขาก็ทนไม่ได้เสียที...
"รักคุณนุจัง" อธิคมกระซิบข้างหู
อนุภาพโชคดี คืนนี้อธิคมคงพอใจแล้วจึงยอมให้เขาได้นอนพักผ่อน นายตำรวจหนุ่มดึงตัวเขาให้ลุกขึ้น โอบกอดเขาแน่น พาเดินกลับไปที่เตียงนอน จูบเขาอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง ก่อนจะผลักให้ค่อยๆ เอนตัวลงบนที่นอน
"รัก รัก รัก"
"รู้แล้ว...นอนได้หรือยัง"
"คุณนุ ไม่อาบน้ำหรือ" อธิคมถาม
"ฮื่อ" อนุภาพหลับตา ทำเสียงในลำคอเบาๆ
"เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้นะ" อีกฝ่ายเสนอเสียงนุ่ม ก่อนจะผละออกไปเงียบๆ...

ธนาภพขบกรามแน่น มือที่ล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกงกำแน่นจนรู้สึกถึงความเจ็บปวดของอุ้งมือที่โดนเล็กจิก เขาบอกตัวเองว่าการเห็นอธิคมและอนุภาพอยู่ด้วยกันอาจจะช่ยให้เขาตัดใจจากอดีตคนรักได้อย่างสิ้นเชิง ปีกว่าที่ผ่านมาเขาคิดว่าตัวเองเข้มแข็งมากพอแล้ว แต่การได้เห็นอธิคมและอนุภาพอยู่ด้วยกันอย่างคนรั เขาก็ยิ่งเจ็บปวดมากกว่าที่คาดคิด
...อะไรที่คิดเอาไว้...ผิดไปหมด
The Avalon Suite ตรงหน้าที่เขายืนมองอยู่เป็นรีสอร์ทวีไอพีที่ออกแบบอย่างหรูหรา มีอาณาบริเวณที่แยกออกมาจากส่วนอื่นๆ ของโรงแรม เฉพาะพื้นที่ใช้สอยของสิ่งก่อสร้างก็มีพื้นที่กว่า 400 ตารางเมตร ยังไม่นับถึงสวนและสนามหญ้าที่กว้างกว่า 200 ตารางวาและสระว่ายน้ำขนาด 25 เมตร กำแพงสีขาวกั้นรอบบริเวณเพื่อความเป็นส่วนตัว ตอนนี้กั้นเขาออกจากอนุภาพโดยสิ้นเชิง
ธนาภพดึงมือออกจากกระเป๋ากางเกงเขายืนมองกำแพงสีขาวของเรือนพักสวีทมาเกือบชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ไฟดับลงเหลือเพียงดวงไฟหน้าประตูทางเข้าและนอกอาคาร ป่านนี้อนุภาพกับอธิคมคงเข้านอนไปแลว หลังจากที่จู๋จี๋กันตามประสาคนรัก เหลือเขาเพียงคนเดียว
...เขาที่เดียวดาย...เดียวดายมาตลอดตั้งแต่จากอนุภาพมาก...


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ต่อ

เช้าวันใหม่อันสดชื่นทำให้คนที่เดินทอดน่องไปตามทางเดินโรยกรวดของรีสอรท์หรือสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอด ตฤณมองภาพธรรมชาติสองข้างทางอย่างเพลิดเพลิน เขาต้องยอมรับว่าธนาภพสร้างรีสอร์ทได้สวยงามมาก เท่าที่ได้คุยกับแขกคนอื่นๆ ทุกคนต่างชมเป็นเสียงเดียวกันและพร้อมใจกันเทคะแนนให้เป็นรีสอร์ทระดับเหนือกว่าห้าดาว
...ทุกคน...รวมถึงแขกคนที่ชอบกระทบกระเทียบเขาอยู่บ่อยๆ ซึ่งตอนนี้ยืนหันรีหันขวางอยู่ตรงหน้า...

อัสนัยหันมาเจอตฤณที่ยืนมองอยู่จึงทำหน้าดีจแล้วเดินตรงเข้ามาหา เขาเดินตามหาตฤณอยู่นาน ตั้งแต่เห็นแวบๆ ที่ส่วนโถงต้อนรับของรีสอร์ท
...ผู้ชายอะไร เดินช้า แต่หายตัวไปเร็วมาก เหมือนในหนังผีที่ค่อยๆ เลื่อนไปเลื่อนมา แต่พอหันหน้าไปมองอีกทีก็หายตัวไปเสียแล้ว...
ตฤณดูผ่อนคลายขึ้น ใบหน้าเรียบตึงที่เห็นอยู่เป็นนิจเช้านี้ดูอ่อนโยนมากกว่าปกติ อัสนัยเดินเข้าไปหา ตั้งใจว่า ยังไงวันนี้ต้องชวนตฤณไปเที่ยวให้ได้ คืนที่ผ่านมาขณะนอนอยู่คนเดียวบนเตียง เขาคิดอะไรต่างๆ มากมายเกี่ยวกับผู้ชายหน้าดุคนนี้ และตัดสินใจแล้วว่า...ตฤณนี่ล่ะ ที่เขาจะเอามาเป็นแฟน และหากตณฤไม่ยอมจีบเขาเสียที เขาก็จะเป็นฝ่ายจีบเอง
...จะรอให้ตฤณเป็นคนเอ่ยปาก ท่าทางจะยาก จะพูดอะไรแต่ละคำ ดูเหมือนคิดแล้วคิดอีก...
"เจอคุณตฤณพอดี ตื่นเช้าเหมือนกันนะครับ" อัสนัยยิ้มกว้าง ทักทายอย่างอารมณ์ดี ทำให้อีกฝ่ายวางสีหน้าไม่ถูกเพราะแทบทุกครั้งที่พบกัน อัสนัยมักจะขัดแย้งเขาอยู่เสมอ
"ผมเป็นคนตื่นเช้า" ตฤณพูดเสียงเรียบ
...รู้แล้วน่า เข้านอนแต่หัวค่ำ แล้วจะไม่ตื่นเช้าได้อย่างไร เมื่อคืนเห็นหายไปตั้งแต่สี่ทุ่ม ไปเช็คดูที่รีเซฟชั่น พนักงานก็บอกว่าตฤณไปเอากุญแจห้องพักกลับห้องแล้ว แถมยังสั่งให้ปลุกตอนตีห้าครึ่ง
...คนอะไร...มาเที่ยวแท้ๆ ยังจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับไก่ขัน...ทำยังจะรีบไปขึ้นเครื่องบินเที่ยวแรกยังไงยังงั้น...
"แล้ววันนี้คุณตฤณมีแผนจะทำอะไรครับ" อัสนัยชวนคุย "คุณธนาภพชวนไปปีนเขา พี่คมกับคุณนุก็ไปด้วย คุณตฤณไปด้วยกันนะครับ"
"ผมปีนเขาไม่เก่ง" ตฤณออกตัว "กลัวว่าไปแล้วจะไม่สนุก"
...เขาสิจะสนุก...อัสนัยคิดในใจ รอโอกาสที่จะแกล้งตฤณมานาน เขาเพิ่งเรียนรู้เมื่อคืนนี้ว่าตฤณไม่ค่อยชอบความสูง
โลกกลมจริงๆ เมื่อคืนเขาคุยกับคุณเกรียงไกร เพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งของพ่อเขาที่บังเอิญเคยรู้จักกับคุณอาของตฤณและเห็นตฤณมาตั้งแต่วัยรุ่น เขาหลอกถามเกรียงไกรจนในที่สุดก็รู้เรื่องเกี่ยวกับตฤณหลายอย่าง
ตฤณชอบดุเขาเสมอว่าทำตัวเป็นเด็กกว่าอายุ และทำให้เขาอ้ำอึ้งพูดไม่ออกหลายครั้ง ที่สำคัญ เขาอยากจะแหย่ให้ตฤณแสดงอารมณ์ทางสีหน้าออกมาบ้าง ตฤณเอาแต่ทำหน้าเคร่งขรึม เขาอ่านไม่ออก ไม่รู้ว่าตฤณคิดอะไรอยู่
...เขาอยากจะรู้ว่าตฤณรู้สึกอย่างไรกับเขา ดูๆ ไปตฤณก็ดูเหมือนจะชอบเขาอยู่บ้าง แต่ดูอีกด้านหนึ่งก็เหมือนเอือมระอาเขาเต็มทน เพราะแทบทุกครั้งที่เจอกันมักจะเอาแต่เถียงกันอยู่เสมอ และทุกครั้ง เขาเถียงสู้ตฤณไม่ได้เสียที ทั้งที่ฝ่ายนั้นก็พูดอยู่แค่ไม่กี่ประโยค
"ไปกันเถอะรับ จะได้เป็นเพื่อนผม พี่คมก็ไปกับคุณนุ ผมไม่มีเพื่อน"
"คุณธนาภพก็ไป" ตฤณกล่าว
"คุณกษิดิษฐ์เกาะแจเลยครับ เห็นว่ากำลังตื๊อให้สอนปีนเขา" อัสนัยเบ้ปาก
...เมื่อคืนนี้เขาเห็นกษิดิษฐ์ทะเลาะกับอธิคมแล้วหายหน้าไป หลังจากนั้นไม่นานก็กลับเข้ามาในงานอีก แล้วทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเปลี่ยนมาคุยกับธนาภพอย่างสนิทสนม
"แต่ถ้าคุณตฤณกลัวว่าจะเบื่อที่มาเสียเวลากับผมก็ไม่เป็นไรครับ ผมก็คงไปนั่งดูสองคู่นั้นเขาปีนเขากัน" อัสนัยทำหน้าซึม
...ตฤณก็ตฤณเถอะ เจอลูกอ้อนแบบนี้ไม่ใจอ่อนบ้างก็ให้มันรู้ไป...
อัสนัยแอบหันหน้าไปซ่อนยิ้ม เพราะรู้ว่าขนาดนี้แล้ว ตฤณคงไม่ปฏิเสธ
"ไปก็ได้ครับ แต่ขอบอกก่อนว่าผมปีนเขาไม่คล่อง"
...ไม่คล่องสิดี...
อัสนัยยิ้มกว้าง นัยน์ตาระยิบระยับด้วยความดีใจ "ผมก็ไม่เก่งเหมือนกัน เราแค่ปีนๆ ตะกายอยู่เชิงเขาก็พอ ให้สองคู่นั้นเขาไปบนยอด"
ตฤณทำหน้านึก "แล้วนี่ไม่มีกิจกรรมอื่นทำกันหรือ"
...เช่นนั่งตกปลาอยู่เป็นชั่วโมงๆ โดยไม่พูดอะไรซักคำงั้นหรือ น่าเบื่อตายล่ะ ครั้งเดียวที่เคยไปตกปลากับตฤณ เข็ดจนตาย ไม่เอาอีกแล้ว...อัสนัยร้องตะโกนอยู่ในใจ
...ตีกอล์ฟ ตกปลา เล่นหมากรุก...กิจกรรมคนแก่...
"สิบโมงเจอกันที่ล๊อบบี้นะครับ ผมไปเตรียมของก่อน" อัสนัยขยับตัวจะเดินจากไป แต่หันกลับมาย้ำตฤณว่า "อย่าเบี้ยวนะครับ ไม่งั้น ผมจะตามไปลากคุณตฤณ ไม่ว่าคุณจะไปทำอะไรอยู่ที่ไหนก็ตาม"
ตฤณพยักหน้า แล้วยืนมองอัสนัยที่เดินลิ่วๆ ตรงไปสุดปลายทางเดินแล้วลับหายไปในสวนพรรณไม้ดอกไม้ประดับ
รีสอร์ทนี้กว้างมาก เหมือนเป็นหมู่บ้านเล็กๆ หมู่บ้านหนึ่งที่ใช้เวลาเดินร่วมชั่วโมงกว่าจะเดินรอบ

ตฤณเดินเล่นไปจนถึงร้านอาหารที่เปิดโล่ง มีระเบียงกว้างทาสีขาวสะอาดตา โต๊ะเก้าอี้ล้วนเป็นสีขาวเช่นกัน รวมถึงเคาท์เตอร์และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ทุกชิ้น ให้ความรู้สึกประหนึ่งว่ากำลังเดินอยู่กลางเทวสถานที่กำลังเตรียมประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
ชายหนุ่มเจ้าของบริษัทโฆษณาพบกับคุณเกรียงไกรเพื่อนของคุณอาเขา ทั้งสองนั่งคุยกันจึงรู้ว่าเกรียงไกรรู้จักกับอัสนัยและตฤณก็ได้ข้อมูลบางอย่าง
"เขาซักอาใหญ่เลย ซักละเอียดยิบ บอกว่ากำลังจะจ้างตฤณทำงานให้ เลยอยากได้ข้อมูล รายนี้ท่าทางจะเป็นลูกค้ารายใหญ่"
ตฤณอมยิ้ม...นึกถึงใบหน้าของอัสนัยและแววตาแปลกๆ เมื่อชวนเขาไปปีนเขา
...นี่ถ้าซักอาเกรียงไกรละเอียดยิบ ก็คงรู้ไปแล้วสิว่าเขาไมถูกโรคกับความสูง พี่พยายามชวนเขาไปปีนเขานี้ก็คงคิดอะไรไม่ดีอยู่แน่ๆ
...อัสนัยนะอัสนัย จะพยายามแกล้งเขาให้ได้เลยหรือ
...รู้จักตฤณน้อยไปเสียแล้ว...
*************

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
แปะก้น น้องนาย ทันม้ายยยยยยยย



ลืมไปเลยว่ามีคู่นี้ด้วย อัสนัยกะตฤณ หุหุ ความจำสั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-02-2009 17:10:30 โดย jokirito »

ืnuttykung

  • บุคคลทั่วไป
วันนนี้พี่นายน่ารักที่สุดในโลกเลย :กอด1:

มาลงให้เต็มๆตอนเลย  หุหุ

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
โห ลงกันสองเรื่อง วันละสองบท ขนาดนี้ รักตายเลย

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
แหม.................ตอนนี้เรียกเลือดสุดๆ  :pighaun:

แต่คู่ตฤนกับอัสนัยนี้ก็น่าสนุกน่ะเนี่ย อิอิ

prawy

  • บุคคลทั่วไป

Zarch_Chabu_Chabu

  • บุคคลทั่วไป
 :pighaun: :impress3:รู้สึกว่าหลังนี่มดจะเต็มบอร์ดเลยนะครับ
สงสัยช่วงนี้คุณนักเขียนคงมีเรื่องดีๆ :กอด1:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
ฮิ้วววววววววววววว อนุภาพสมชื่อจิงๆ เอาอธิคมอยุ่หมัดเลย  :กอด1:

kythe

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ได้อ่านตั้งหลายวัน วันนี้จุใจเลย ขอบคุณนะคับบบ

ว่าแต่ เรื่องลื่นขึ้นนะคับ อ่านรวดเดียว หลายตอนเลย... หรือว่าได้ยาดีมาคับเนี่ยย หุหุ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3
 :m25:

บรรเทาอาการ คิดส์ถึง
คุณนุ สารวัตรทั้ง 2 และอาตี๋

ไปไดนิดส์ละ

+1 ขอบคุณที่มาต่อจ้า :z1:

MonsterP

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักจิงๆ คุณคนแต่ง กัวโดนบ่นชิมิ รวดมาสองตอนเรย อิอิ หนุกมากเรย รอ ต่อปาย

TonG_x_Zhi

  • บุคคลทั่วไป
คุณตฤณ  แก้เผ็ดอัสนัยเลยค๊าบ

จะได้เป็นอีกคู่ซักที  หุหุ  รออ่านและลุ้นในตอนต่อไปนะครับ o13

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
เฮือก

 :m25:


คุณนุสุดยอด จิงๆ

5555

คิดถึงอาทิตย์ๆๆ

คู่ตฤณ ก็น่าสน หุหุ

ออฟไลน์ sasi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เอ่อ งงนิ๊โหน่ยอ่ะคับพี่นาย คือมันเกี่ยวอะไรกะ sasiล่ะเนี่ย ที่พี่นายมาโพสท์ช้าอ่ะ งง...

เอ๊...รึว่าเราไปเข้าฝันบอกพี่นายว่าให้มาลงช้าๆน๊อ จำไม่ได้ :confuse:

ว่าแต่ คู่ตฤณก็น่าสนนะเนี่ย อิ่ๆ  o3 นอกใจพี่นุ กะศาลาวัด เอ๊ย สารวัตรแล้วอ่ะ :-[

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
อ้าว หมดสต๊อกแล้วเหรอจ๊ะ หนุ่มไม่น้อย


สรุปแล้วจริง ๆ แล้วอ่ะ เค้าจะกัดเราแน่เลย แต่ ไปใส่ชื่อผิด เป็นคุณ sasi อิอิ

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 13 ครับ
(โพสช้าไปหน่อยนะ มัวแต่ดูเขาแข่งว่ายน้ำกันอยู่ อาทิตย์เต็มสระเลย ให้ตายสิ  :z1:
13

Toyota Alphad สีดำจอดลงหน้าจุดปีนเขาแห่งหนึ่งของอำเภอทางตอนเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ ชายหนุ่มหกคนก้าวลงมาหยุดยืนมองหน้าผาที่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
"โอ้โห สูงไม่ใช่เล่น แบบนี้กี่ชั่วโมงจะถึงยอดครับคุณภพ" เสียงของกษิดิษฐ์ดังขึ้นก่อนใคร
ธนาภพยิ้มแล้วตอบว่า "ถ้าเก่งๆ ก็ครึ่งชั่วโมงครับ"
"แต่อย่างเราๆ คงสองชั่วโมง" อัสนัยเติม
"เราๆ นี่กี่คนกันเอ่ย" กษิดิษฐ์หันไปมองรอบๆ หยุดสายตาอยู่ที่อนุภาพชั่วครู่ แลวหันไปพูดกับธนาภพ
"แต่ถ้าได้ครูดี และนักเรียนตั้งใจ ผมว่าผมใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวก็คงถึง"
"พี่คมล่ะครับ ครึ่งชั่วโมงไหวหรือเปล่า" อัสนัยถามนายตำรวจหนุ่มที่ยืนทำตาหวานใส่อนุภาพที่ยืนกอดอกนิ่ง
"ชั่วโมงครึ่ง พี่ไม่มีครูสอนด้วยสิ" อธิคมตอบ ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง "ถึงมี ครูก็ไม่ยอมสอน"
"เจอนักเรียนแบบนี้ อาจโดนถีบตกเขา" อัสนัยยั่วเย้า "ใครสอนพี่ได้ก็เก่งล่ะ"
"โธ่ นัย พูดแบบนี้อย่ามาปีนด้วยกันดีกว่า" อธิคมประท้วง
อัสนัยยักไหล่ หันไปหาตฤณที่เอาแต่นิ่งเงียบมาเกือบตลอดทาง "แล้วคุณตฤณล่ะครับ จะใช้เวลาเท่าสารวัตรหรือเปล่า"
"ผมปีไม่เก่ง คงไปไม่ถึงยอด เอาแค่ตีนเขาก็พอ" ตฤณถ่อมตัว
"ให้คุณนุช่วยสอนสิครั" กษิดิษฐ์แทรก "คุณตฤณปีนคู่คุณนุ แล้วคุณอัสนัยคู่กับสารวัตร สลับคู่กันบ้าง จะได้ไม่น่าเบื่อ"
...ปากเสีย...อัสนัยฉุนกษิดิษฐ์นัก...มาคู่กับเราสิ จะได้แอบถีบให้ตกเขาซะเลย  กัดอนุภาพไม่เลิก เรื่องของตัวเองกับอธิคมจบแล้วก็ยังไม่ยอมจบ เขาเองยังตัดใจจากอธิคมได้เลย...
--จริงหรือ...เสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวของอัสนัย
...ฮื่อ...จริงสิ แม้จะยอมรับอยู่ว่า ลึกๆ ในใจยังรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้างที่เห็นอธิคม "หวาน" กับอนุภาพจนทำให้เขาอิจฉา
...อยากจะให้ตฤณทำแบบนั้นบ้าง แต่คนหน้านิ่งอย่างตฤณคงทำไม่เป็น
...ตฤณ...ให้ตฤณทำแบบนั้นหรือ นี่เขาเริ่มคิดว่าตฤณจะเป็นอะไรกับเขาแล้วหรือ...
อัสนัยตกใจกับความคิดนี้ หันไปมองตฤณแล้วลอบถอนหายใจเบาๆ จะรอตฤณมาจีบคงต้องรอชาติหน้า ดีแต่ทำทื่อๆ อยู่นั่นล่ะ เขาเผยว่าชอบแล้ว หากอีกฝ่ายก็ยังทำเฉยๆ
...สงสัยต้องเป็นฝ่ายเริ่มซะแล้ว อัสนัยคิดได้ดังนั้นจึงพูดขึ้นว่า "คุณตฤณจะขึ้นปีนกับผมครับ ผมจะรับผิดชอบคุณตฤณเอง รับว่าพากันขึ้นถึงครึ่งทางภายในหนึ่งชั่วโมง"
"งั้นก็ดีครับ สารวัตรจะได้คู่กับคุณนุสมใจ" กษิดิษฐ์ยิ้มใสซื่อ ก่อนจะหันไปหานายตำรวจมือปราบ "มาแข่งกันไหมครับพี่คม"
"อย่าเลยครับ กษิดิษฐ์ ปีนเขานะ ไม่ได้วิ่งแข่งกัน" ธนาภพหันมาพูดแทรกยิ้มๆ
"แข่งอะไรก็แข่งได้ แข่งบางอย่างแข่งไม่ได้" อัสนัยแทรกบ้าง จงใจพูดให้งง แต่รู้ว่า "อีกคน" นั้นเข้าใจ
"ผมล้อเล่น ใครจะไปแข่งคุณนุได้" กษิดิษฐ์หัวเราะแล้วดึงแขนธนาภพให้เดินตรงไปยังสะพานเล็กๆ ที่ข้ามธารน้ำเพื่อไปสู่ทางเดินที่นำไปจุดเริ่มปีนเขา
"ยังไม่เลิกแฮะ" อธิคมเปรยเบาๆ หันมายิ้มแหยๆ ให้อนุภาพที่เดินกอดอกอยู่ข้างๆ "เมื่อคืนผมคุยกับเขาแล้วนะ"
"ช่างเถอะครับ กษิดิษฐ์เขาก็เป็นของเขาแบบนี้ สารวัตรก็พูดเองไม่ใช่หรือ" อนุภาพตอบเสียงเรียบ
"งอนหรือเปล่านี่" อธิคมเลิกคิ้ว
"เปล่า"
"จะงอนก็ได้นะ ผมจะได้ง้อ จะได้เคลียร์กันก่อนขึ้นปีนเขา ผมกลัวว่าจะโดนถีบลงมา"
"ใครจะกล้าถีบสารวัตรได้ลงคอ" อนุภาพตอบ "สารวัตรอธิคมออกจะน่ารัก"
"ประชดหรือเปล่าน๊อ" อธิคมยังสงสัย
"เปล่า"
"ประชดก็ไม่ว่าหรอก" อธิคมดันไหล่มาชนอนุภาพเบาๆ "ชอบให้คุณนุประชด จะได้รู้สึกว่าหึงผมบ้าง"
"ผู้กอง เลิกยั่วซะที รีบๆ เดินเข้า จะได้ทันเค้า" อนุภาพเสียงเข้ม แล้วเร่งฝีเท้า ทิ้งให้อธิคมเดินเอื่อยๆ รั้งท้าย
"เร็วสิ" ชายหนุ่มอดหันไปเร่งนายตำรวจไม่ได้
"คร้าบคุณผู้กำกับ" อธิคมรับคำ "จะรีบไปไหนกัน ภูเขามันก็ตั้งอยู่ที่เดิม ไม่ได้ไปไหนซักหน่อย"
อธิคมรับคำก็จริง แต่ยังเดินด้วยความ "ช้า" คงเดิม ไม่มีทีท่าจะก้าวเท้าให้ทัน
...เขาอยากมองด้านหลังของอนุภาพ...ด้านหลังที่เขาชอบมองมาก...ด้านหลังที่เขาได้เชยชมสมใจอยากมาแล้วเมื่อคืน
คิดๆ ไป ห้าคนที่เดินนำหน้าแต่ละคนรูปร่างหน้าตาดีไม่แพ้กัน สมมุติว่าไม่รู้จักกันมาก่อน แล้วเขามาเจอชายหนุ่มทั้งห้ากำลังเดินอยู่พร้อมๆ กัน เขาจะชอบใคร จะมองใครก่อน...
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาตอบได้ไม่ต้องคิดเลยว่า "กษิดิษฐ์กับอัสนัยสิ" รูปร่างหน้าตายั่วกิเลสแบบนั้น ใครไม่มองก็บ้าแล้ว แต่เป็นเดี๋ยวนี้ เขามองอนุภาพคนเดียวเท่านั้น ถึงหน้าตาไม่สู้สองคนนั่น แต่บุคลิกเรียบๆ นิ่งๆ แฝงความดื้อรั้น ยิ่งมองยิ่งเพลิน ยิ่งมองยิ่งมีเสน่ห์ ไม่รู้ทำไม

อนุภาพหยุดยืนรออธิคมอยู่ ส่วนคนอื่นกำลังเตรียมตัวขึ้นปีน ธนาภพกำลังช่วยกษิดิษฐ์แต่งตัว ชายหนุ่มหัวเราะสนุกสนาน ชวนธนาภพคุยไม่หยุดปาก ส่วนอัสนัยกับตฤณยืนแต่งตัวกันเงียบๆ
...อัสนัยไม่อยากเงียบ...แต่ตฤณต่างหากที่เงียบ อีกฝ่ายเลยสงบปากสงบคำไปโดยปริยาย
"จะรีบไปไหนเล่า ปล่อยให้เขาปีนขึ้นไปก่อน เดี๋ยวเราก็ตามทัน" อธิคมพูดเสียงเบาเมื่อเดินเข้าหยุดยืนข้างคนรัก "มามะ ผมจะช่วยแต่งตัว"
อนุภาพขยับตัวออกห่างเมื่ออธิคมทำท่าจะยื่นมือมาจับเนื้อต้องตัวเขา
"ผู้กอง ไปหยิบโน่นมา" อนุภาพชี้มือไปยังกองเชือกและอุปกรณ์
"ทำหวงตัว" อธิคมบ่น
"อย่ามาทำอะไรทะลึ่งนะ เดี๋ยวผมผลักตกเขาซะเลย" อนุภาพขู่
อธิคมเบ้ปาก กำลังจะอ้าปากพูดคำเดิมๆ แต่อนุภาพรีบแทรก
"ไม่ต้องมาว่าผมใจร้าย"
"ใครจะว่าคุณนุว่าใจร้าย" อธิคมยักคิ้ว "กำลังจะว่าน่ารักต่างหาก ยิ่งทำหน้าบึ้งยิ่งน่ารัก น่าหยิก...เอ้านี่" อธิคมยื่นอุปกรณ์ให้
"มาเถอะ มาให้ผมช่วยใส่กระจับให้นะ"
"บ้าหรือ เขาไม่ใด้เรียกว่ากระจับ" อนุภาพดุ ใบหน้ากึ่งยิ้มกึ่งฉุน มือที่ถือสายรัดคล้องเชือกปีนเขาอยู่ทำท่าจะยกขึ้นฟาดคนตัวโต
"อ๊ะ อ๊ะ อย่านะคุณนุ มันเจ็บนะ เจ็บจริงๆ" อธิคมยกนิ้วขึ้นชี้ "อย่ามาเล่นเจ็บๆ เอะอะก็จะตีผมท่าเดียว"
"แล้วกวนทำไมเล่า" อนุภาพพึมพำ

"คุณนุขึ้นไปก่อน ผมจะช่วยเอามือดันก้น" อธิคมเสนอตัวช่วยเหลือ อมยิ้มอย่างมีเลศนัย
"สารวัตรนั่นล่ะขึ้นไปก่อน ไม่ต้องคิดอะไรทะลึ่งเลย"
"เอ๊ะคุณนุ ทำไมคิดแต่ว่าผมจะคิดอะไรทะลึ่งล่ะ" อธิคมทำหน้าดุ
"ผู้กอง เขาปีนขึ้นไปกันแล้ว" อนุภาพถอนหายใจ แล้วหันหน้าไปมองธนาภพกับกษิดิษฐ์
"แล้วไง" อธิคมยักไหล่ "อัสนัยกับคุณตฤณก็ยังเถียงกันเหมือนเราอยู่เลย"
หันไปทางตฤณกับอัสนัย สองคนนั้นก็ดูท่าทางยังเตรียมตัวไม่เสร็จ อัสนัยขมวดคิ้ว หน้าง้ำเหมือนกำลังถกเถียงกับตฤณที่ทำหน้าเรียบนิ่งเช่นเคย
"งั้นมาเปลี่ยนคู่กันดีไหม ผมจะไปปีนกับคุณตฤณ สารวัตรพาคุณอัสนัยขึ้นปีน"
"หึงละสิ" อธิคมเย้า
"ไม่ได้หึง" อนุภาพเสียงดัง ก่อนจะลดเสียงลง "ผู้กองฟังนะ ผมไม่ได้หึงอัสนัย"
อธิคมอมยิ้ม ไม่พูดอะไร เอื้อมมือไปดึงตรวจดูสลักเชือกที่รัดเอวของอนุภาพ อีกฝ่ายยืนนิ่ง ปล่อยให้นายตำรวจตรวจทุกอย่างให้เรียบร้อย ก่อนจะพูดขึ้นเบาๆ ว่า "ถ้าเป็นกษิดิษฐ์ละไม่แน่"
"ผมคุยกับเขาแล้วเมื่อคืน น้ำตาซึมวิ่งออกไปจากงานเลยล่ะ" อธิคมรายงาน
"แล้วท่าทางก็ไม่ได้ผล" อนุภาพหันไปมองกษิดิษฐ์ที่กำลังห้อยตัวอยู่บนหน้าผา
"กษิดิษฐ์ร้ายกว่าคนอื่น บางทีอาจต้องมีรอบสอง" อธิคมถอนหายใจเล็กน้อย แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ "ผมจะไม่ให้กษิดิษฐ์มารบกวนคุณนุหรอก เชื่อผมเถอะ"
อนุภาพมองตาคนรัก ยิ้มมุมปากเล็กน้อยราวกับจะบอกขอบคุณ
"ไปได้หรือยัง"
"เห็นไหมล่ะ พอจะซึ้งเข้าหน่อยก็เปลี่ยนเรื่อง" อธิคเบ้ปาก "จะโรแมนติกซะหน่อยไม่มีเล๊ย"
"..."
"เอ้า ตรวจให้ผมด้วยสิ" นายตำรวจหนุ่มกางแบนออก หมุนซ้ายหมุนขวาให้อนุภาพตรวจตราความเรียบร้อยของอุปกรณ์
"เป้าตุงเชียว คิดจะหว่านเสน่ห์ถึงนี่เชียวหรือ" อนุภาพบ่นพึมพำ แล้วเดินตรงไปที่จุดเริ่มปีน เกาะตะขอเข้ากับหมุดของเส้นทางปีนเขาที่มีคนติดตั้งไว้แล้ว
"ขอหว่านเสน่ห์กับแฟนผมคนเดียวเท่านั้น ไม่รู้ว่าหลงเสน่ห์ผมบ้างหรือยังก็ไม่รู้ แต่ผมนะ หลงคุณนุจนหัวปักหัวปำ"
"บ้า" อนุภาพเสียงเข้ม ยกมือขึ้นชกหน้าอกนายตำรวจหนุ่มที่กำลังหัวเราะร่า
"เลิกจับได้แล้ว" อนุภาพดุ คิ้วขมวดเพราะเมื่อครู่อธิคมพูดจบประโยคพร้อมกับที่เอื้อมมือมาจับก้นเขา "ทะลึ่ง"
"อ้าวปีนซะทีสิครับ มัวแต่บ่นอยู่นั่น" อธิคมทำเฉไฉ หัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปจับเชือก ส่งสัญญาณให้อนุภาพปีนขึ้น แล้วพึมพำเบาๆ "ก้นสวยจริงๆ"

การปีนเขารอบแรกเสร็จสิ้นลงภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ชายหนุ่มทั้งหกนั่งอยู่ใต้เพิงที่ทำไว้ให้นักปีนเขานั่งพักผ่อน อัสนัยกับตฤณปีนได้ไม่ถึงจุดสูงสุด ธนาภพจึงเสนอตัวช่วย หลังจากนั่งพักไม่นาน ธนาภพจึงพาตฤณกับอัสนัยแยกตัวไปเพื่อฝึกซ้อมการปีน เหลืออธิคมกับอนุภาพนั่งคุยกันอยู่ตามลำพัง ส่วนกษิดิษฐ์เดินออกไปโทรศัพท์
"คุณนุ เย็นนี้เราไปทานข้าวที่ร้านอิงดอยกันนะครับ ผมอยากนั่งบรรยากาศโรแมนติก"
"เย็นนี้ภพชวนทานข้าว" อนุภาพตอบเสียงเบา
"เมื่อคืนก็ทาน" อธิคมท้วง
"เมื่อคืนงานเลี้ยงครับ คืนนี้เชิญเฉพาะคนสนิท มีกันหลายคน คุณตฤณกับคุณอัสนัย คุณอาของคุณตฤณด้วย ไม่ได้นั่งทานกับภพสองต่อสองซักหน่อย" อนุภาพอธิบายแล้วถามว่า "หึงเหรอ"
อธิคมเบือนหน้าไปมองด้านข้าง แกล้งทำงอน "น่าหึงไหมล่ะ ผมสังเกตอยู่นะว่า ธนาภพแอบลอบมองคุณนุบ่อยๆ ทำเหมือนกับว่า ถ้าผมเผลอตัวออกห่างคุณนุเมื่อหร่ จะเข้ามาเกาะแกะทันที"
"คิดมาก" อนุภาพใช้ไหล่ดันไหล่ของอธิคมอย่างที่อีกฝ่ายเคยชอบทำ
"ไม่ให้คิดได้ยังไง ผมมองออก สายตาของคุณภพมันยังเป็นประกายอยู่เลย เหมือนลืมไม่ลง เหมือนสายตาของ..."
"เหมือนสายตากษิดิษฐ์ที่มองสารวัตร" อนุภาพเติม
อธิคมพยักหน้า ถอนหายใจเล็กน้อยแล้วพูดวา "บอกตามตรง ผมไม่ค่อยไว้ใจธนาภพ ไม่รู้ว่าเชาเชิญเรามางานนี้ด่วยทำไม แล้วอะไรๆ ที่เขาสร้างนี่ก็เป็นเหมือนอนุสาวรีย์รำลึกถึงคุณนุใช่ไหม"
"นี่ผมยังไม่ได้ตายนะ อนุสาวรีย์เขาสร้างสดุดีคนตายนะผู้กอง" อนุภาพทำเสียงเข้ม
"โอเคๆ ผมใช้คำผิด" อธิคมกรอกตา "ผมดูออกนะว่ามันมีสัญลักษณ์อะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมดเลย เหมือนโค้ดลับที่บอกความนัยอะไรบางอย่างที่เฉพาะคุณนุกับเขาเท่านั้นที่เข้าใจ"
อนุภาพนิ่ง...ยอมรับว่าบางส่วนที่อธิคมพูดนั้นถูกต้อง
"เขาคิดจะทำอะไร คิดว่าเชิญเรามาแล้วจะพยายามเปลี่ยนใจคุณนุหรือ"
อนุภาพเงียบไปชั่วครู่ เข้าใจความรู้สึกของอธิคม ที่อธิคมพูดนั้นไม่ผิด เขาเห็นอย่างนั้นจริงๆ ธนาภพยังไม่ลืมเขา แต่อีกใจหนึ่งก็บอกตัวเองว่า นี่เป็นความฝันของธนาภพมาแต่ไหนแต่ไร สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ธนาภพวาดหวังเอาไว้ตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีแรกๆ
"ไม่ใช่ว่าภพจะสร้างแต่ตึกผอมๆ สูงๆ นะนุ ภพจะสร้างที่มันแบนๆ กว้างๆ ด้วย เพราะความรักของเรามันมีทุกมิติ ไม่ว่าแหงนหน้าขึ้นหรือก้มหน้าลงเหลียวมองไปรอบตัวๆ ก็มีแต่หัวใจภพลอยไปลอยมา"
...ธนาภพเป็นคนที่พูดจาอ่อนหวานมาก โรแมนติกไม่มีใครเกิน...
"งั้นก็สร้างอุโมงค์ซะด้วยสิ" อนุภาพเหน็บยิ้มๆ แล้วธนาภพก็จะตอบว่า "มีแล้วไง ชั้นใต้ดิน ลานจอดรถตั้งสามชั้น เพราะฉะนั้นครบหมดแล้ว ทั้งสวรรค์ พื้นดิน และใต้ภิภพ"
"สารวัตรครับ อย่าคิดมาก ที่ภพเชิญมาก็เพราะเขาอยากให้คนที่เขารู้เขารู้จักได้ร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของเขา สารวัตรเชื่อใจผมนะ" อนุภาพพูดเสียงนุ่ม มองตาอธิคมต่างแน่วแน่ "ผมกับภพ จบกันไปแล้ว"
"คุณนุจบ แต่เขาอาจไม่จบ" อธิคมตัดพ้อ แต่แวบหนึ่งอดหวั่นใจไม่ได้ว่า...อนุภาพจบจริงหรือ คนรักกันมาสิบปีจะตัดใจจากคนรักเก่าได้ง่ายๆ แบบนี้หรือ ขนาดเขารักกับอนุภาพได้แค่ปีกว่าๆ หากลองคิดว่าจะให้เขาตัดใจจากชายหนุ่ม เขายังบอกได้ทันทีว่าคงแทบไม่ได้ หากต้องทำอย่างนั้น เขาคงรู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย
...ตอนนี้เขาเริ่มจะเข้าใจความรู้สึกของธนาภพ...หรือแม้แต่กระทั่งอาทิตย์...
...สองคนนั้นเป็นคนที่มุ่งมั่น จริงจังในความรัก ไม่ใช่คนที่เคยเจ้าชู้สุดๆ อย่างเขา เพราะฉะนั้น ความรู้สึกแน่วแน่ต่อความรักก็คงไม่น้อยไปกว่าเขาแน่นอน
แต่สิ่งที่เกาะกินใจเขาอยู่ตอนนี้ก็คือว่า...
...อนุภาพจบ แต่ธนาภพอาจไม่จบ เหมือนๆ ที่อนุภาพไม่ได้คิดอะไรกับอาทิตย์ แต่ "ตี๋น้อย" คนนั้นก็ยังไม่ยอมจบเสียที...คนอะไร รักได้รักดีไม่มีจืดจาง...
ทันทีที่เขาพูดจบประโยค เขาเห็นประกายตาบางอย่างของอนุภาพ ก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดว่า...
"เหมือนที่กษิดิษฐ์ไม่จบกับสารวัตรงั้นหรือ" อนุภาพมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนรัก "ภพไม่เหมือนกับคนอื่นๆ นะครับ สถานการณ์ระหว่างผมกับภพต่างกันกับ..."
"ต่างกันกับผมหรืออดีตเก่าๆ ของสารวัตรอธิคม" เสียงกษิดิษฐ์แทรก
อนุภาพกับอธิคมสะดุ้ง กษิดิษฐ์มายืนอยู่ข้างหลังเงียบๆ ใบหน้าบูดบึ้ง "จะบอกให้ก็ได้นะคุณนุ ไม่ว่าจะยังไง พี่คมกับผมก็ไม่จบกันหรอก ไม่จบกันง่ายๆ"
"กษิดิษฐ์" อธิคมลุกขึ้น เรียกอีกฝ่ายเสียงเบา
"พี่คมอย่าคิดว่าจะทิ้งผมได้ง่ายๆ"
"พี่ไม่ได้ทิ้ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน จะทิ้งได้ยังไง" อธิคมเสียงเข้มขึ้น
"โกหก พี่คมพูดได้ยังไงว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ตอนที่นอนอยู่บนเตียงกับผม ทำอะไรกัน พี่พร่ำรำพันว่ารักว่าหลง แล้วอนุภาพเป็นใครมาจากไหน อยู่ๆ ก็มาแย่งพี่ไป พี่ยังเคยพูดเลยว่าจะแค่จีบเล่น" กษิดิษฐ์เริ่มตาแดง เริ่มควบคุมอารมณ์ไม่ได้
...เฮ่ย...กษิดิษฐ์ไปเอาคำพูดนี้มาจากไหน...จะซวยซะแล้วไหมล่ะ
"คุณนุไม่ได้แย่ง พี่ไปหาคุณนุเอง" อธิคมแก้ต่างแทนอนุภาพซึ่งเอาแต่นั่งนิ่ง
"ทั้งๆ ที่เขากับธนาภพก็ยังรักกัน"
"คุณนุไม่ได้รักธนาภพแล้ว" อธิคมยังแก้ตัวแทน...หากในใจรู้สึกแปล๊บขึ้นมาเล็กน้อย
"คุณกษิดิษฐ์" อนุภาพลุกขึ้น เรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเข้ม
"ทำไม ผมพูดอะไรผิด ตอนที่ปีนเขาอยู่กับคุณภพ เขาเล่าให้ผมฟัง" กษิดิษฐ์จ้องหน้าอนุภาพ แล้วหันมามองอธิคม "พี่คม เขารักกันมาสิบกว่าปี ผูกพันกันมากขนาดนั้น มองตาแวบเดียวก็รู้ใจกัน เข้ากันได้เหมือนเป็นคนๆ เดียวกัน รักกันดูดดื่มขนาดนั้น พี่คิดหรือว่าเขาจะไม่เหลือเยื่อใยต่อกันเลย"
"ผมกับธนาภพเหลือเพียงแค่ความเป็นเพื่อน" อนุภาพพูดเสียงเรียบ กำลังจะก้าวเท้าเดินหนี
"แต่คุณภพไม่ได้จะเป็นเพื่อน เขาบอกผมว่าเขารักคุณไม่เสื่อมคลาย ต่อให้ตายเขาก็ยังจะรักอยู่ คุณนุ ผู้ชายที่รักคุณได้ขนาดนี้ คุณไม่รักเขาหรือ ทั้งที่คุณก็เป็นคนเชื่อมั่นในรักแท้ รักเดียวใจเดียว ส่วนพี่คม เจ้าชู้ลอยชายไปวันๆ คุณมั่นใจได้หรือว่าจะรักคุณได้อย่างที่คุณภพรัก"
...เฮ่ย กษิดิษฐ์พูดอะไรบ้าๆ...อธิคมฉุนกึกที่โดนดูถูกซึ่งหน้า
"กษิดดิษฐ์ หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ" อธิคมเสียงห้วน แล้วหันไปมองอนุภาพที่กำลังเดินออกจากใต้เพิงพัก "คุณนุ อย่าไปฟังกษิดิษฐ์"
อธิคมเดินตามอนุภาพออกไป แต่หันมาพูดทิ้งท้ายกับกษิดิษฐ์ว่า "พี่ขอเตือนว่าให้หยุดเดี๋ยวนี้นะ กษิดิษฐื ถ้ายังไม่ยอมหยุด อย่าหาว่าพี่ใจร้าย พี่รักคุณนุ พี่ไม่ยอมให้เรามาทำให้พี่กับคุณนุผิดใจกันหรอก"

กษิดิษฐ์มองตามอธิคมอย่างเจ็บปวด ใบหน้าของอธิคมจริงจังมาก เขาไม่เคยคิดว่าผู้ชายเจ้าชู้อย่างอธิคมจะรักใครได้เหมือนธนาภพ...

เดี๋ยวมาต่อครับ ขอไปดูว่ายน้ำก่อนนะ ผู้ชายกำลังจะแข่งแล้ว อิ อิ

หนังสือจะพิมพ์เสร็จวันที่ 11 กุมภาพันธ์ครับ ช่วยอุดหนุนหน่อยนะคร้าบบ

ราคา 250 บาท ค่าส่ง 25 บาทลงทะเบียนธรรมดา แต่ลงอีเอ็มเอส 45 แต่ถ้าต้องการบริการพิเศษส่ง home delivery ต้องคุยนอกรอบ  :z1:

ืnuttykung

  • บุคคลทั่วไป
 :z13: :z13: :z13:



จิ้มก้นพี่นายไว้ก่อน

เด๋วค่อยอ่าน  หุหุ

yoshiki

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
พูดอะไร ก็พูดมาตรง ๆ สิ

จะดูเค้าว่ายน้ำ หรือว่าดูอะไร ตอนว่ายจริง ๆ คงไม่มีอะไรให้ดูแล้วมั้ง แต่ก่อนจะลง คงมีอะไรให้ชื่นชมล่ะสิท่า

ปล. อ่ะ เลขที่บัญชีมาเลยดีกว่า ไม่อยากแบบ Home Delivery อ่ะ ไม่อยากได้หลายเล่ม (เล่มเล็ก เล่มน้อย ไม่อาวววว)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด