บทที 11 ครับ ขอโพสตอนบ่ายแก่ๆ ทิ้งอะไรไว้ให้อ่านจะได้มีใครคิดถึงผมบ้าง หนังสือคดีรัก ภาค 1 กำลังพิมพ์อยู่ที่โรงพิมพ์ ใกล้จะเสร็จแ้ล้ว อุดหนุนกันหน่อยนะคร้าบบ
ซื้อหนึ่งเล่มแถมลายเซ็น
ซื้อสองเ่ล่มแถมสองที่คั่นหนังสือ (ที่แอบไปจิ๊กมาจากร้านนายอินทร์)
ซื้อสามเล่มแถมกายคนเขียน
ซื้อสี่เล่มแถมหัวใจคนเขียน
ซื้อห้าเล่มแถมทั้งกายทั้งใจ
โปรโมชั่นน่าสนใจมาก ๆ ครับ
ซื้อสักสามเล่นจะได้ตัวคนเขียนแถมมาใช่ไหมครับ
จะเอามาทดสองทางวิทยาศาสตร์ ตัดโน้น ผ่านี้ เล่น ๆ แก้เซ็ง
กลั๊ว กลัว
คุร clearest จะใจร้ายกับผมไปถึงไหนนี่ นึกว่าจะมีแต่โน๊อากับsasi และอีกหลายๆ คน
แต่ถ้าทำกับผมได้ลงคอก็เอาเลยครับ
จะแก้ผ้านอนแผ่หราให้ผ่าสำรวจตามใจชอบ
เอ่อ ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่ามันเศร้าๆ นะ แต่งอะไรเศร้าแล้วมันเศร้ายังไงไม่รู้ ปกติมันไม่เคยแต่งอะไรเศร้าอ่ะครับ แต่มันออกมาเศร้าได้ยังไงไม่รู้ สงสัยเพราะผู้เขียนยังสะบักสะบอมจากพิษรักอยู่มั๊ง นิยายมันเลยติดเชื้อมาจากชีวิตจริง แต่อีกหน่อยก็หวานแล้วล่ะครับ มันมีขึ้นๆ ลงๆ อ่ะนะ อัพแอนด์ดาวน์
บทที่ 14 ช่วงที่สอง อ่านเล่นๆ ก่อนกลับบ้านครับ โทษทีนะ แต่ละบทมันค่อนข้างยาวๆ ไงไม่รู้ พอดีผมไม่ค่อยคุ้นกับอะไรสั้นๆ
ครึ่งเรื่องมาแล้วนะ รู้สึกเหมือนเพิ่งเริ่มต้น 555
พ้นจากประตูโรงละคร อนุภาพหยุดยืนรออธิคมที่กำลังจะก้าวถึงตัวเขาพอดี
โชคร้ายกระหน่ำซ้ำเติมอธิคม ขณะที่กำลังจะเอ่ยปากเรียกอนุภาพ เสียงสองเสียงก็ดังขึ้นพร้อมกัน
"สารวัตร"
ทั้งอธิคมและอนุภาพหันตาม ชายหนุ่มสองคนใบหน้าคล้ายกันราวกับฝาแฝดยืนอยู่ไม่ไกล ร่างสูงกล้ามเนื้อเป็นมัดเพราะใส่ชุดสีขาวรัดรูปเดินเข้ามาทักพร้อมส่งยิ้มกว้าง
อนุภาพถอนหายใจ หันไปมองอธิคม ฝ่ายนั้นทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะเจอเป๊กกับโป้ง...อดีตของเขาที่เป็นพี่น้องคู่หูเข้ามาประชิดตัว
"ไม่นึกว่าสารวัตรจะดูละครเวทีเป็นด้วย" คนแรกพูด
"แปลกแต่จริง" คนที่สองประสานเสียง ใบหน้ายิ้มๆ
"สารวัตรหรือ" อนุภาพพึมพำ
"คุณนุ" อธิคมหันไปทำเสียงโอดครวญ กลัวว่าอนุภาพจะเข้าใจผิดอีก
"ผมจะไปรอที่รถ" อนุภาพบอกเสียงเรียบ แล้วหันหลังเดินตรงไปยังบันไดเลื่อน อธิคมรีบเดินตามแต่พี่น้องรูปหล่อทั้งสองรีบคว้าแขนไว้
"สารวัตรเดี๋ยวก่อนสิครับ นี่โป้งนะครับ ไม่ใช่ผีที่ไหน"
"ทำไมรีบเดินหนีล่ะ ไม่อยากให้เป๊กเห็นเด็กใหม่สารวัตรหรือไง" คนที่เป็นน้องชายทำเสียงเง้างอด
"สารวัตรเปลี่ยนรสนิยมไปนะ เคยชอบเพลงร๊อค ไหงกลับมาชอบเพลงคลาสสิค"
"พี่ต้องไปแล้ว" อธิคมสลัดแขน เดินตามอนุภาพไปโดยเร็ว แต่พี่น้องสองหนุ่มยังเดินตาม
"พี่คม จะรีบไปไหน คุยกันก่อนสิ" โป้งร้องเรียก
"เขาบอกว่าจะไปรอที่รถ ไม่ได้ยินหรือไง" เป็กประสานเสียงตามเช่นเคย
อธิคมส่ายหน้า สองพี่น้องนี้พูดสลับกันคนละประโยคอย่างน่ารำคาญ ทั้งจะยื้อยุดฉุดเอาเขาไว้เสียให้ได้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าในอดีตเขาจะเคยมีอะไรกับสองหนุ่มพร้อมกันๆ
...ตอนนั้นทนได้ยังไงวะ...อธิคมคมพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ แล้ววิ่งเหยาะๆ ตามหลังอนุภาพไป
...บ้าจริงๆ กษิดิษฐ์เพิ่งลุยอนุภาพไปหมาดๆ ยังไม่ไปถึงไหน เจออีกสองหน้าโรงละคร ทำไมวันนี้ถึงซวยแบบนี้...
...รู้อย่างนี้นอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านซะก็ดี
...ซวย...ซวยจริงๆ...
อธิคมส่ายหน้าหงุดหงิด แต่ต้องหยุดชะงักทันใดเมื่ออนุภาพที่เดินลิ่วๆ อยู่หน้าเขาหยุดกระทันหัน
"คุณนุ มากับสารวัตรหรือครับ" เสียงทักอนุภาพดังขึ้น
อธิคมถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกระลอก เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนส่งเสียงทักทายให้คนรักของเขา
ใบหน้าของศรุตยิ้มเรียบ ทักทายอนุภาพแต่มองมาที่เขา ส่งประกายสายตาราวกับว่าสะใจเป็นยิ่งนัก
"เห็นสารวัตรอยากได้ตั๋วมาก ที่แท้ก็จะมาดูกับคุณนุนี่เอง"
ศรุต...พูดออกมาได้ ทำไมศรุตพูดได้หน้าตาเฉย เขาเจอศรุตที่บูธขายตั๋วโดยไม่ตั้งใจ พอซื้อตั๋วเสร็จ เขาเดินสวนกับศรุตห่างๆ ไม่ได้พูดหรือทักทายอะไรกันด้วยซ้ำ
...อนุภาพจะเข้าใจว่ายังไงกันนี่...
"คุณ...อนุภาพพยายามนึกชื่อของชายหนุ่มในชุดสูทสีดำที่เข้ามาทักทาย "ศรุตครับ" ศรุตแนะนำชื่อตัวเอง
"มาคนเดียวหรือครับ" อนุภาพถาม
"เปล่าครับมากับเพื่อน ชื่อเจอาร์" ศรุตหันหน้าไปยังชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล ท่าทางคงเป็นคนมีชื่อเสียงเพราะกำลังถูกกลุ่มสาววัยรุ่นห้อมล้อมอยู่
"สารวัตรคงจำเจอาร์ได้" ศรุตเน้นเสียง
...จำได้สิ...เจอาร์ชอบใส่ชุดหนังเล่นซาดิสม์ แล้วให้เขาฟาดฝ่ามือแรงๆ จนแดงไปทั้งตัว...อธิคมนึก
...บ้าจริงๆ คืนนี้เจอแจ๊คพอต
"เจอาร์ก็บ่นว่าอยากเจอสารวัตรอีกครั้งอยู่เหมือนกัน" ศรุตไม่นำพาต่อใบหน้าผะอืดผะอมของอธิคม และใบหน้าเรียบนิ่งของ "แฟนใหม่" ของคนเจ้าชู้
...คราวนี้เป็นยังไงล่ะ...เป็นแฟนอธิคมนะไม่ง่ายนักหรอก...คิดว่าเก่งหรือที่ปราบพยศคนเจ้าชู้อย่างอธิคมได้ อยากจะรู้นักว่าจะทนได้ซักกี่น้ำ อนุภาพจะอยู่กับอธิคมได้นานแค่ไหน
...แม้จะถึงปีก็จริง แต่ไม่ตลอดไปหรอกคุณอนุภาพ อธิคมทิ้งเขาแล้ว ทิ้งเจอาร์ ทิ้งคนที่เขารู้จักอีกหลายคน ไม่นานก็ต้องทิ้งคุณ...เขาให้เวลาสองปีเป็นอย่างมาก
ศรุตสนุกกับสิ่งที่เห็น สนุกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สนุกกับการได้เห็นสีหน้าของอธิคมที่ทำเหมือนจะกระโจนเข้ามาขย้ำเขาให้แหลกคามือ แต่อีกใจหนึ่งลึกๆ เขากลับเสียใจ...
เสียใจที่เห็นอธิคมเป็นทุกข์เป็นร้อนกับ "เด็กใหม่" คนนี้...เด็กใหม่ที่หน้าตาสู้เขากับเจอาร์หรืออีกหลายต่อหลายคนไม่ได้เลย เสียใจที่เห็นว่าอธิคมยังอยู่กับอนุภาพอยุ่แม้เวลาจะผ่านไปเป็นปีแล้ว
...นานกว่าที่เคยให้กับเขา ...นานกว่ามาก...
ศรุตยิ้มเมื่อทั้งสองเดินผ่านหน้าเขาไม่...ไม่อำลา อนุภาพไม่พูดอะไร ทำหน้านิ่ง ก้มศรีษะให้เขานิดหน่อยแล้วเดินผ่านไปเฉยๆ ส่วนอธิคมไม่มองเขาด้วยซ้ำ เดินตามแฟนไปอย่างรีบเร่ง
เขาสนุกจริงหรือ...ศรุตถามตัวเอง สนุกที่เห็นสองคนนี้เข้าใจผิดกัน หรือเขาเสียใจที่ไม่ได้เป็น "คนนั้น" ของอธิคม เป็นคนที่อธิคมเดินตามง้อ
อนุภาพนั่งนิ่งเงียบตลอดทางที่ขับรถกลับบ้าน อธิคมไม่ชวนคุยเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะทำอะไรบ้าบิ่นเพราะอนุภาพเป็นคนควบคุมพวงมาลัยรถ
ครั้นเดินเข้ามาในห้องชุด ลูกระเบิดเวลาก็ถูกถอดสลักเพราะอธิคมพูดขึ้นว่า "อย่าไปสนใจศรุตเลยนะคุณนุ เขาไปเอาอะไรมาพูดก็ไม่รู้ นั่งทางในทั้งนั้น"
"นี่ถ้าเราอยู่ต่อ จะเจอคนเก่าๆ ของสารวัตอีกกี่คน" อนุภาพเสียงเข้ม ยืนมองผนังนิ่ง สูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ
"โธ่คุณนุ จะพูดเรื่องนี้ทำไมเล่า"
"ใครก่อนใครหลัง สารวัตร แฝดชุดขาวสองคนนั้นสารวัตรก็ไม่เว้นเลยหรือ ทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ แล้วทำไมเขาเรียกว่าสารวัตร ผมจำได้วาเลื่อนยศตอนที่สารวัตรเริ่มจีบผมไปตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือ คนเหล่านั้นควรจะเรียกสารวัตรว่าผู้กอง"
"ศรุตก็เรียกผมว่าผู้กอง มารู้ว่าผมเลื่อนยศตอน..."
"ตอนเราไปทานอาหารที่อาเบดีนซ์ วันครบรอบหนึ่งปีของเรา ทำไมผมจะจำไม่ได้ ที่นี้สารวัตรบอกเรื่องแฝดหลุดโลกสองคนนั่นมาซิ" อนุภาพคาดคั้น ร้อยวันพันปีเขาไม่เคยขุดคุ้ยเรื่องเด็กเก่าๆ ของอธิคม แต่คืนนี้เขาทนไม่ไหวแล้ว แค่ออกไปดูละคร เจอะเจอมาตั้งสี่คนพร้อมกัน นี่ถ้าไปผับด้วยกันมิเจอเป็นโหลเลยหรือ
...ไม่ใช่สิ...ห้าคน...ลืมกษิดิษฐ์ไปได้ยังไง ดาวเด่นขนาดนั้น ร้ายที่สุดก็คงไม่เกินกษิดิษฐ์
...แต่ศรุตนั้นดูร้ายเรียบๆ ลึกๆ พูดช้าๆ ใบหน้ายิ้มๆ แต่ประกายตาร้ายกว่ากษิดิษฐ์นัก
แล้วนี่เจาจะสู้กับ "อดีต" ของอธิคมได้หรือ หากกษิดิษฐ์กับศรุตพร้อมใจกันเข้ามาแย่งอธิคมกลับไป เขาจะสู้ไหวหรือ ตอนแรกนึกว่าอัสนัยจะร้ายแล้ว อัสนัยก็พูดรู้เรื่อง นิตินัยก็ดูเหมือนไม่มีพิษมีภัยอะไร หมอคนนั้นที่เจอที่โรงพยาบาลก็ดูเงียบๆ อายๆ
...หรือว่าไปทำลับหลัง...เขาไม่ได้อยู่กับอธิคมตลอดเวลานี่นา
แล้วนี่จะมีใครคนอื่นโผล่ขึ้นมาอีกหรือเปล่า ใครที่อาจจะร้ายยิ่งกว่ากษิดิษฐ์ ใครที่ติดใจผู้กองรูปหล่อ...สารวัตรเสน่ห์แรงอย่างพันตำรวจตรีอธิคม!
...ฉุนอธิคมนัก โกรธตัวเองที่เกิดมารักคนเจ้าชู้
"ว่าไงครับสารวัตร" อนุภาพคาดคั้นเพราะอีกฝ่ายยังนิ่งไม่ยอมพูดอะไรต่อ
"โธ่คุณนุ จะเล่าอะไรกัน จะไปสนใจทำไม"
"ทำไมเล่าไม่ได้ เล่าไม่ได้เพราะจำไม่ได้ ไม่ได้จำ ขี้เกียจจำ ขี้เกียจเล่า หรือไม่อยากเล่า" อนุภาพเสียงเข้มขึ้น
"ก็แค่คนเก่า รู้ไปก็เท่านั้น คุณนุจะไปใส่ใจทำไมเล่า" อธิคมเสียงค่อย
"ทำไมจะสนใจไม่ได้"
"ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป มันหลายคน ถ้าเริ่มเล่าก็ไม่ต้องนอนกันพอดี"
อนุภาพเม้มปาก พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ แล้วพูดวา "ทำไมต้องโยกโย้ แสดงว่าไม่อยากเล่า"
อนุภาพหันซ้ายหันขวา มองเห็นกระดาษและปากกาวางอยู่บนโต๊ะจึงเอื้อมมือไปคว้ามายื่นให้อธิคม
"งั้นเขียนมาเลย เขียนรายชื่อออกมาเลยว่ามีกี่คน ไม่ก็เรียกประชุมให้รู้แล้วรู้รอด ประกาศให้อดีตคนเก่าๆ ของผู้กองรู้ว่าอย่ามายุ่งกับเรา" อนุภาพเหลืออด ขึ้นเสียงดัง ทั้งที่ไม่เคยทำแบบนี้
"โธ่ คุณนุ จะเขียนออกมาได้ยังไง" อธิคมครางเสียงอ่อย
"เขียนไม่ได้เพราะผู้กองเขียนได้ไม่หมดใช่ไหมล่ะ หรือว่าไม่อยากเขียน"
"เรียกผู้กองทำไมเล่า" อธิคมบ่นอุบอิบ "ผมผิดตรงไหน"
"ทำไมคนเก่าสารวัตรถึงเยอะนัก เยอะจนนึกชื่อได้ไม่หมดหรือไง กี่ร้อยกี่พัน แล้วนี่คนใหม่ๆ จะโผล่มาอีกหรือเปล่า"
"ผมจะไปรู้ได้ไง คุณนุ มีเหตุผลหน่อยสิครับ อดีตก็คืออดีต ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป จะขุดมันขึ้นมาทำไม" อธิคมเริ่มฉุน อนุภาพไม่ยอมเลิกพร่ำเรื่องคนเก่าๆ ของเขาเสียที
อนุภาพนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าช้าๆ ราวกับเห็นด้วย จนอธิคมคิดได้ว่าตัวเองพูดผิดไปถนัด
"คุณนุ เงียบทำไม"
ถ้าเป็นตอนหยอกเย้ากัน อธิคมก็จะล้อวาอนุภาพเข้าโหมดนิ่งเงียบอีกแล้วเพราะงอน เขาก็จะยื่นนิ้วไปหาปุ่มกดให้ออกจากโหมดไร้เสียง แล้วก็ล้อเลียนให้ชายหนุ่มหัวเราะ
ตอนนี้อนุภาพไม่ได้งอน แฟนเขากำลังโกรธ โกรธที่อยู่ดีๆ เจอเด็กเก่าเขาไปถึงสี่คน ไม่นับเจอาร์คนที่ห้าที่ยืนอยู่เฉยๆ
พักหลังเขาสังเกตว่าอนุภาพความอดทนน้อยลง และเข้าโหมดนิ่งเงียบบ่อยขึ้นและนานขึ้น จนบางครั้งเขาต้องเลี่ยงออกไป ปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งอยู่คนเดียวอย่างที่ตฤณเคยบอก
อนุภาพถอนหายใจช้าๆ ก่อนพูดวา "ใช่ อดีตควรจะผ่านไป แต่อดีตของผู้กองกลับมาอยู่แทบทุกอาทิตย์ จะให้ผมสู้กับอดีตของผู้กอง หรือให้ผมอดทนกับอดีตของผู้กอง หรือทิ้งไป"
"โธ่คุณนุ อย่าพูดแบนี้สิครับ" อธิคมเสียงแผ่ว พอถึงตอนแบบนี้ คนเจ้าคารมอย่างเขาก็จนคำพูด นึกโกรธตัวเองนัก ตอนนี้เขาจำคำพูดของอาวุธที่เคยบ่นให้เขากับธงรบอยู่บ่อยๆ ว่า เขาทั้งสองคนถนัดแต่ยียวนกวนประสาท เจ้าชู้ชีกอ แต่พอตอนซีเรียส ได้แต่อ้ำอึ้งพูดไม่ออก
อนุภาพนั่งลง หมดแรงจะเถียง ไม่อยากจะพูดอะไรต่ออีกแล้ว
......
http://upic.me/i/sf/lovecasecover.jpg