นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -  (อ่าน 844238 ครั้ง)

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 22

บทที่ 22 "กำแพง"

แอร์เย็นในรถพ่นปะทะใบหน้าของอนุภาพเบาๆ เขามองหยาดน้ำฝนที่ตกลงมาปรอยๆ กระทบกระจกบังลมหน้ารถ ใจล่องลอยไปถึงบ้านริมธารที่เคยไปพักเมื่อคราวที่บริษัทพาพนักงานไปเที่ยวพักผ่อนประจำปี...
ในห้องนั่งเล่น ผนังด้านที่มองเห็นภูเขาเป็นกระจกใสบานใหญ่สูงจรดเพดานที่ทำเป็นช่องสกายไลท์ เขานอนบนโซฟานุ่มสบายดูท้องฟ้ามืดมิดยามค่ำคืนที่ไร้แสงดาว หยาดฝนเม็ดเล็กๆ ที่เกาะอยู่ดูพร่างพราวยามต้องแสงไฟของเทียนหอมเล่มใหญ่บนโต๊ะข้างโซฟา แสงไฟเต้นระริกราวมีชีวิต ต้องหยาดฝนเม็ดเล็กๆ เหนือกระจกสกายไลท์ดูสวยงาม..เยือกเย็น
ไฟแดงเปลี่ยนเป็นเขียวสาดกระทบกระจกรถของเขา ละอองฝนหน้ารถสะท้อนเป็นประกาย อนุภาพขยับรถเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 49...อีกไม่นานก็จะถึงบ้านได้ซุกตัวบนที่นอนนุ่มๆ เพื่อพักผ่อนจากการทำงานอันหนักหน่วงของวันนี้
ชายหนุ่มเปิดที่ปัดน้ำฝันเบอร์เบาสุด ทันทีที่ใบปัดน้ำฝนทำงาน กระจกหน้ารถชัดเจนขึ้น เขามองไปเบื้องหน้าฝั่งซ้ายของถนน แวบหนึ่งเหมือนเห็นคนรู้จักเดินอยู่บนฟุตบาท ผู้ชายตัวสูงใหญ่ในเครื่องแบบสีกากี ไหล่กว้าง แผ่นหลังแกร่งกำยำ ตัวตรง เดินทอดน่องช้าๆ เหมือนไม่สนใจกับฝนปรอยๆ ที่กำลังโปรยปรายลงมา
“ผู้กองอธิคม” อนุภาพพึมพำ...'มาเดินทำไมแถวนี้'
เมื่อรถเคลื่อนเข้าใกล้ ชายหนุ่มสังเกตเห็นแขนขวาของอธิคมพับขึ้นสอดอยู่ในผ้าคล้องแขน
“แขนหักหรือ” อนุภาพอุทานเบาๆ

ชายหนุ่มชะลอรถ ทั้งที่ในใจก็รู้สึกประดักประเดิดนิดๆ ด้วยว่าในช่วงเกือบสองอาทิตย์ที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศและต้องทำงานแข่งกับเวลาทำให้เขาไม่ได้ติดต่อกับอธิคมเลย
ชายหนุ่มชะลอรถเพื่อจอดข้างอธิคมที่กำลังเดินอยู่ เขายังเดินต่อไป ไม่รู้ตัวว่ามีรถเก๋งอยู่ข้างๆ อนุภาพขยับรถตามแล้วบีบแตรรถเบาๆ เพื่อเรียกคนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ อธิคมยังไม่รู้สึกตัว ยังเดินต่อไป ไม่หันมามอง
“บ้าจริง ไม่ได้ยินหรือไง” อนุภาพนึกในใจ
อนุภาพขยับรถเลยไปข้างหน้าแล้วหยุดรถเพื่อรอผู้ชายตัวโตที่กำลังเดินอยู่ข้างถนนโดยไม่สนใจใคร เขาตั้งใจว่าเมื่ออธิคมเดินมาถึงจะบีบแตรดังๆ จุดนี้ข้างถนนเป็นด้านหน้าอาคารสำนักงาน ไม่มีเสียงรบกวน คราวนี้อธิคมต้องได้ยิน เมื่อสักครู่อาจจะมีเสียงจากร้านขายของข้างทางดังเกินไป
‘แต่เขาเป็นตำรวจนี่นา การสังเกตอะไรรอบข้างน่าจะเหนือกว่าคนธรรมดา ไม่รู้หรือยังไงว่าข้างๆ มีรถชะลอบีบแตรเรียก’

อนุภาพหันไปมองด้านซ้ายมือแต่ไม่เห็นว่า ‘ตำรวจหูตึง’ จะมาถึงเสียที กระจกด้านฝั่งผู้โดยสารโดนละอองฝนเกาะพอประมาณทำให้มองไม่เห็นชัดเจน ชายหนุ่มเปลี่ยนไปมองกระจกมองหลังเลิ่กลัก ด้วยแปลกใจว่าอธิคมหายไปไหน แต่ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อมีเสียงเคาะกระจกด้านข้างคนขับ ใบหน้าคมเข้มคุ้นตายิ้มเผล่อยู่ใกล้ๆ กระจก อวดฟันขาว ไรหนวดครึ้มทำให้ใบหน้าคร้ามคมยิ่งดูเข้มขึ้น นัยน์ตาคมกริบเหมือนเหยี่ยวคู่นั้นยิ้มเหมือนกำลังขัน
อธิคมยืดตัวขึ้นแล้วเดินอ้อมด้านหน้ารถมาฝั่งที่นั่งผู้โดยสารเอื้อมมือจับที่เปิดประตู แต่ยังล๊อคอยู่
...อยากล้อเล่นดีนักใช่ไม๊…อนุภาพฉุน ขยับรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเหมือนจะแกล้งว่า…ไม่ต้องขึ้นรถก็แล้วกัน
นายตำรวจหนุ่มตกใจนึกว่าอนุภาพงอนไม่ยอมรับเขาขึ้นรถ จึงปล่อยมือแล้วกำลังจะวิ่งตามเคาะกระจก แต่รถสปอร์ตสีแดงคันนั้นหยุดลงเมื่อเคลื่อนไปข้างหน้าได้ราวหนึ่งช่วงตัว
อธิคมส่ายหน้าอย่างนึกขัน “ร้ายจริงๆ คนขี้งอน” เขานึกในใจ
“ผมนึกว่าคุณจะทิ้งให้ผมเดินเปียกฝนซะแล้ว” อธิคมต่อว่าเมื่อขึ้นนั่งบนรถ เอียงหน้าหันมามองอนุภาพที่นั่งหน้าเคร่ง ตามองตรงไปข้างหน้า ก่อนออกรถพุ่งออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
“เทวดามาโปรดลูกช้างจริงๆ” อธิคมยังล้อเลียน รอยยิ้มกรุ้มกริ่มเจนตายังระบายบนใบหน้าเข้มคร้ามนั้น
“สนุกมากใช่ไหมครับผู้กอง คุณได้ยินตั้งแต่บีบแตรครั้งแรกใช่ไหม แต่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน” อนุภาพคาดคั้น
“เปล่าครับ ผมไม่ได้ยิน” ตำรวจหนุ่มออกตัว
อนุภาพหันหน้าไปมองแว่บเดียว อธิคมที่คมเข้มอยู่แล้วยิ่งดูเข้มขึ้นเพราะผิวที่คล้ำลงเหมือนอาบแดด ผมยาวขึ้น ไรหนวดและเคราครึ้มเป็นปื้นเหมือนไม่ได้โกนมาหลายวัน เขาดูเซียวๆ เหมือนอ่อนล้า แต่ใบหน้านั้นยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ
...ยิ้มกรุ้มกริ่มเจ้าชู้...อนุภาพเคยประชดประชันเวลาที่เขากับสมบัติ ‘นินทา’ นายตำรวจหน้าเข้มคนนี้
“ผมมัวแต่นึกถึงใครคนหนึ่งอยู่ เลยไม่ได้ยินเสียงอะไรรอบข้าง” อธิคมเล่นบทเจ้าชู้จนได้ อนุภาพไม่แน่ใจว่า ‘ใครคนหนึ่ง’ ที่เขาหมายถึงนั้นคือใคร จะพาซื่อถามว่าใครก็กลัวจะเข้าเนื้อตัวเอง
“แล้วผมก็เจ็บแขนด้วย คุณคงไม่ได้สังเกต” ดูเอาเถอะ น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นออดอ้อนได้ในทันที
“แขนหักเหรอครับ...แล้วรถไปไหน” อนุภาพถามเสียงเรียบเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ ที่จริงเขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“โดนยิงครับ...รถเข้าอู่” อธิคมตอบด้วยนำเสียงธรรมดาเช่นกัน
อนุภาพตกใจ มือที่กำลังกำพวงมาลัยกระตุก...ดูเถอะ เขาพูดว่าโดนยิงด้วยน้ำเสียงธรรมดาเหมือนบอกว่าไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ
“โดนยิง แล้วเจ็บมากไหม”
“คุณเป็นห่วงผมหรือครับ” นายตำรวจขี้อ้อนได้ที เปลี่ยนน้ำเสียงออดอ้อน
“ก็...ผมก็ถาม...เพราะ...ตาม...” อนุภาพอึกอัก
“ตามมารยาท” อธิคมเติมคำลงช่องว่าง แล้วหันหน้าไปมองถนนเบื้องหน้า
“อาทิตย์ที่แล้วผมไปวิ่งจับผู้ร้ายมา ล่อซื้อยาบ้าครับ แค่โดนเฉียดๆ หรอก ไม่เจ็บมาก” อธิคมบรรยายต่อ “แต่คืนแรกที่โดนนะ หลังกลับจากโรงพยาบาล ผมไข้ขึ้นเลย นอนอยู่ที่บ้านคนเดียว เหงื่อโทรมตัวไม่มีใครดูแล”
“แล้วทำไมไม่นอนโรงพยาบาล จะกลับไปบ้านทำไม” อนุภาพถามด้วยเสียงเรียบๆ พยายามไม่นึกว่าอธิคมกำลังเริ่มจะทำเจ้าชู้ใส่...แกล้งพูดให้สงสารเพื่อจะบอกว่าอยากให้เขาไปดูแล
“ไม่ได้เป็นอะไรมากนี่ครับ แผลแค่นี้เองใกล้จะหายแล้ว คืนนี้ก็ถอดผ้าคล้องแขนออกได้ ส่วนเรื่องนอนโรงพยาบาลนี่สำหรับพวกใจเสาะมากกว่า”
“ถ้างั้นก็ไม่เห็นต้องบ่นใช่ไม๊ครับ ผู้กองคนเก่ง” อนุภาพสรุป
“สารวัตรครับ” อธิคมหันมายิ้มกว้าง “ผมเพิ่งเลื่อนยศเป็นพันตำรวจตรี
“จริงเหรอ...ขอแสดงความยินดีด้วยครับ” อนุภาพยิ้ม ยินดีด้วยอย่างจริงใจ

อธิคมซึบซับภาพตรงหน้าด้วยความพึงพอใจ รอยยิ้มของอนุภาพเหมือนแสงไฟประกายวูบวาบที่ทำให้ความสลัวในรถสว่างเจิดจ้า เขาอยากยื่นหน้าเข้าไปใกล้แล้วสัมผัสกับริมฝีปากแดงระเรื่อนั้นเหลือเกิน
“แบบนี้ต้องฉลองครับ ผมเลื่อนยศใหม่เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว อยากจะบอกคุณแต่คุณก็ไม่อยู่ไปต่างประเทศ ติดต่อก็ไม่ได้ เกือบสองอาทิตย์ที่ไม่ได้คุย ไม่ได้เจอตั้งนาน ผมคิด...”
“ถึงแล้ว” อนุภาพตัดบท เบรครถหยุดจนอธิคมหัวทิ่ม ด้วยรู้ว่าบทจะพูด อธิคมก็จะระบายความรู้สึกออกมาเสียยืดยาว
นายตำรวจคนนี้คารมเป็นต่อรูปหล่อไม่เป็นรองจริงๆ
“คุณนุครับ ไม่ขึ้นไปส่งหรือครับ ผมบาดเจ็บ ไม่รู้จะขึ้นคอนโดไหวหรือเปล่า ช่วยพยุงหน่อยสิ” แววตาเว้าวอนจนอนุภาพอยากเอานิ้วจิ้มเข้าไปในดวงตาพราวระยิบระยับคู่นั้น
“แขนหักนะครับ ไม่ใช่ขาหัก...ไหนบอกว่าแค่โดนยิงเฉียดๆ ไม่เจ็บมาก ผู้กองคนเก่งใจไม่เสาะขึ้นลิฟท์ไม่ได้เลยหรือ” ชายหนุ่มกระแทกเสียง
“สารวัตรครับ สารวัตร” สารวัตรคนใหม่รีบแก้ไข “ตอนนี้ผมรู้สึกว่าจะไข้ขึ้น” อธิคมเริ่มสำออย
“ราตรีสวัสดิ์ครับ สารวัตรอธิคม” อนุภาพกล่าวอำลาเสียงเข้ม “เอาไว้ให้ขาหักเดินไม่ไหว ผมจะช่วยพยุงลงจากรถ ถ้าอาการปางตายจะลากไปส่ง รปภ.หน้าลิฟท์ให้พาขึ้นไป”
"ใจร้าย"
"ก็ไม่เคยเป็นคนใจดีนี่ครับ" อนุภาพเสียงเรียบ ใบหน้ายิ้มๆ
“เย็นวันศุกร์ไปทานข้าวด้วยกันนะครับ ฉลองยศผม คุณมารับนะ ผมเจ็บแขนขับรถไม่ได้” สารวัตรคนใหม่อ้อนวอน ไม่สนใจคำประชดของอนุภาพ

รถสปอร์ตสีแดงพุ่งทะยานออกไปแล้ว อธิคมยังยืนยิ้มมองตามไปจนลับตา อนุภาพไม่รับคำเพียงยิ้มมุมปากเล็กน้อย แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับอธิคม รับปากหรือไม่ พรุ่งนี้เขาก็จะโทรไปตื้อให้ไปทานข้าวเย็นกับเขาให้ได้ ผิดนักก็จะไปรอหน้าบริษัทจี้ตัวขึ้นรถเสียเลย
"ก็ยังดีวะ แค่พยุงไปส่งหน้าลิฟท์ก็เอา เขาจะแกล้งทำตัวหนักๆ ล้มทับซะเลย ดูซิว่าจะพยุงไหวรึเปล่า จะโอบแขนรอบคอ แล้วแกล้งคอพับคออ่อนซุกไซร้ใบหน้าขาวสะอาดแล้วก็..อืมม” อธิคมจินตนาการพลางเดินเข้าไปยังอาคารที่พัก ผิวปากอย่างอารมณ์ดี
----------------------------------

อธิคมหมุนลูกบิดประตูห้องชุดเปิดเข้าไปก็พบว่าไฟในห้องรับแขกเปิดสว่างไสว เสียงเพลงเบาๆ ดังออกมาจากห้องนอนแขกที่อยู่ซีกตะวันตกของห้องชุดสุดหรู มองไปยังระเบียงด้านหน้าของห้องนั่งเล่น ประตูกระจกเลื่อนบานใหญ่เปิดอยู่ ผ้าม่านลูกไม้สีขาวปลิวไสว ลมเย็นโชยเข้ามาในห้องนำเอาความสดชื่นของไอฝนเข้ามาด้วย
ธงรบ เพื่อนคู่หูของเขานั่นเองที่ถืออภิสิทธ์เข้ามาครอบครองห้องชุดของเขา
ชายหนุ่มหุ่นไล่เลี่ยกับอธิคมผละจากระเบียงห้องนั่งเล่นเดินเข้ามาในห้อง มือถือแก้วบรั่นดีที่พร่องไปเกินครึ่งแก้ว ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลายิ้มกว้าง แววตาเหมือนขบขันอะไรบางอย่าง
อธิคมโยนกุญแจห้องไปบนถาดเหล็กกลมเล็กๆ บนโต๊ะไม้โอ๊คสีดำข้างประตู มือซ้ายเริ่มปลดกระดุมเสื้อพลางเดินทอดน่องช้าๆ ตรงไปยังโซฟากลางห้อง
“ไอ้ธง บ้านเอ็งไม่มีที่กินที่นอนรึไง ดึกดื่นป่านนี้ยังมายืนยิ้มมีความสุขอยู่ในบ้านข้าอีก” อธิคมทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน
“บ้านข้าตอนนี้เป็นเขตอันตรายโว้ย คืนนี้ขออาศัยนอนซักคืน” ธงรบย่อตัวนั่งหมิ่นๆ บนขอบโซฟาอีกฟากหนึ่ง มือไกวแก้วบรั่นดีอย่างสบายอารมณ์ ท่าทางสบายๆ ตรงข้ามกับคำพูด
“น้องแม๊คมาว่ะ นั่งเฝ้ารอที่ห้องตั้งแต่เย็นแล้ว โทรตามยิกๆ เร่งให้ข้ากลับเร็วๆ นี่ข้าต้องปิดมือถือเลยนะเนี่ย รู้อย่างนี้ไม่ให้กุญแจเสียก็ดี” ธงรบรายงาน คิ้วย่น ส่ายหน้าน้อยๆ เหมือนระอาใจ
“ก็แกไปทำให้เขาติดใจทำไมว่ะ ตอนอยากได้เขาก็ตามเช้าตามเย็น ทีนี่ล่ะมาบ่น” อธิคมส่ายหน้า เอนตัวลงพิงพนักโซฟา แหงนหน้ามองเพดานห้อง ใบหน้าของอนุภาพลอยเด่นในความคิดคำนึง
“ใครจะไปรู้ว่าน้องเขาจะแรงดีไม่ดีตกยังงี้ว่ะ ทุกทีที่ค้างกันข้าแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เบิ้ลแล้วเบิ้ลอีก ตื่นมาฟ้าเหลืองหมดแรงแทบต้องคลานไปทำงาน นี่ไปทำคดีมาเกือบอาทิตย์ เหนื่อยฉิบ น้องแม๊คนั่งคอยที่ห้อง กลับไปคืนนี้โดนขย่มไม่ได้นอนแน่ๆ พรุ่งนี้ต้องเร่งทำสำนวนด่วนส่งซะด้วยสิ” ธงรบพร่ำยาวเช่นเคย กระดกแก้วเหล้าลงคอพรวดเดียวเกลี้ยง
“เวรกรรม” อธิคมไม่รู้จะหาคำพูดอะไรมาตอบ
“ว่าแต่แกเถอะ เหนื่อยๆ อย่างนี้นอนยิ้มอยู่ได้”
“ไปนอนได้แล้วธง พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” อธิคมตัดบท
“แล้วเขาไม่ขึ้นมาส่งหรือไงว่ะ แกก็บาดเจ็บ จะได้ช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวไง” ธงรบไม่สนใจว่าถูกไล่ เขาขยับเข้ามาใกล้ ขยิบตา
“ใคร” อธิคมหลับตา หน้ายังแหงนพิงพนักโซฟา
“ทำเป็นไก๋ ข้ามองเห็นนะโว๊ย ว่าใครขับเซลิก้าสีแดงมาส่งแกที่หน้าคอนโด”
“เอ็งมายุ่งอะไรด้วย ตาดีนักนะ อยู่สูงขนาดนี้ยังเสือกมองเห็นอีก” อธิคมลืมตา จ้องหน้าเพื่อนรัก
“ความสามารถพิเศษของตำรวจหว่ะ แกก็รู้ว่าตำราจเราตาดีขนาดไหน” ธงรบยักไหล่ “คนพิเศษของแกเขาไม่อยากดูแลตำรวจบาดเจ็บอย่างแกบ้างหรือไง” ธงรบไม่ยอมจบการสนทนา
“เขาไม่ยอมขึ้นมา คงรู้มั๊งว่ามีคนใช้อย่างเอ็งมารอเช็ดตัวให้ข้า” อธิคมลุกขึ้นจากโซฟาและเดินข้ามไปอีกด้านของห้องนังเล่นตรงไปยังห้องนอนใหญ่
“บ้าสิ แกอย่าพูด ขนลุก” ธงรบทำท่าประกอบ
อธิคมจบการสนทนา เดินเข้าห้องนอน อาบน้ำยังไม่ค่อยถนัดนักเพราะพยายามไม่ให้น้ำถูกแผลที่แขนขวา
ชายหนุ่มเช็ดตัวจนแห้ง พาดผ้าขนหนูไว้บนพนักเก้าอี้ข้างโต๊ะใกล้ๆ ตู้เสื้อผ้า แล้วเดินมาที่เตียง ก้มตัวลงจะคลี่ผ้าห่ม ประตูห้องนอนเปิดผลัวะ ธงรบเดินเข้ามายืนตรงประตู
“เฮ้ย” อธิคมตกใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้เอื้อมมือปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าเพราะเขายืนเอียงข้างให้ประตู ชายหนุ่มไม่อายเพื่อนคู่หูอย่างธงรบด้วยว่าทั้งสองสนิทกันมากตั้งแต่เรียนมัธยมปลายและเห็นอะไรต่ออะไรของกันและกันมานักต่อนักแล้วตลอดเวลาที่ทั้งคู่ไปสนุกด้วยกัน เพื่อนรักสองคนมีรสนิยม “ขั้ว” เดียวกันจึงไม่มีความรู้สึกอะไรต่อกันอย่างที่เกิดขึ้นกับคนอื่น
“ไอ้ห่...รบ อะไรอีกว่ะ ไม่รู้จักเคาะประตู” อธิคมบริภาษ
ธงรบไม่สนใจคำด่า “ขอถามหน่อย นี่แกว่าข้าจะรักใครได้หรือเปล่าว่ะคม ข้าไม่เห็นรู้สึกอยากหยุดอยู่ที่ใครคนเดียวเลยว่ะ มันอยากแต่จะลองคนใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ เปลี่ยนรสเปลี่ยนชาติไม่จำเจ แกว่าข้าจะหลงรักใครหัวปักหัวปำเหมือนแกได้ไหมวะ” ธงรบพูดแจ้วๆ
“คงไม่มั่ง เอ็งมันสำส่อนซึมลึกเข้าเลือดเข้าอณูเนื้อแล้วนี่ เปลี่ยนผู้ชายคนใหม่เหมือนเปลี่ยนกางเกงใน” อธิคมหัวเราะในลำคอหึๆ พลางก้าวขึ้นเตียง เอนตัวลงแล้วคลี่ผ้าหุ่มคลุมถึงหน้าท้องแกร่งเป็นลอน
“แกก็ไม่เห็นจะต่างจากข้านี่หว่า ที่ผ่านมาทุกทีที่เปลี่ยนกางเกงใน เราก็เปลี่ยนด้วยกัน พร้อมๆ กัน แกกับข้านี่มันคู่หูสองทหารเสือปาท่องโก๋เลยนะโว้ย” ธงรบอุทธรณ์
“ไอ้ธง แกไม่สังเกตรึไงว่าหลายเดือนมานี่ แกออกไปเที่ยวล่าเหยื่อคนเดียว” อธิคมเตือนความจำ
“เพราะฉะนั้น ข้าต่างจากแกว่ะ” อธิคมสรุปแล้วเอนตัวลงนอน ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมแผ่นอกกว้างแกร่ง เอื้อมมือปิดโคมไฟข้างเตียง ‘ไล่’ คู่หูทหารเสือทางอ้อม
“เออจริง” ผู้กองคู่หูจึงล่าถอยไป ปิดประตูตามหลังเบาๆ
อธิคมนอนลืมตาโพลงอยู่ในห้องนอนมืดสลัว แสงไฟจากข้างนอกส่องเข้ามาต้องกระทบผนังห้องฝั่งตรงข้ามปลายเตียง เขาขยับตัวให้เข้าที่และยกแขนขวาขึ้นวางบนหมอนใบเล็กๆ ที่นำมองรอง สารวัตรหนุ่มครางเบาๆ เพราะยังเจ็บแผลอยู่
เขานึกถึงคำของธงรบเพื่อนรักที่ล้อว่า “เผื่อเขาอยากจะดูแลตำรวจบาดเจ็บ...”
'คุณนุ คุณอยากจะดูแลผมหรือไม่นะ แต่ถ้าคุณไม่สบายผมอยากจะดูแลคุณ อยากอยู่ใกล้ๆ อยากสัมผัสเนื้อตัว อยาก...'
ความคิดของอธิคมหยุดชะงักเมื่อประตูห้องนอนเปิดผลัวะอีกครั้ง
“ไอ้ธง” อธิคมเข่นเขี้ยว เรียกชื่อเพื่อนรักเสียงเข้มรอดผ่านไรฟัน
“คำถามสุดท้ายว่ะคม แกทิ้งข้าท่องราตรีคนเดียวได้หลายเดือนแล้วนี่ ว่าแต่ว่าเอ็งได้แอ้มคุณนุรึยังว่ะ” ธงรบตีหน้าตาย ถามเสียงเรียบ
“คุณร้อยตำรวจเอ๋งธงรบครับ ถ้าคุณยังไม่เลิกกวน ผมจะยึดกุญแจคอนโดของผมคืนนะครับ” อธิคมแกล้งทำเสียงเย็นยะเยียบ เขาจะเรียกเพื่อนรักจอมกวนเต็มยศเวลาเขาเริ่มจะฉุน
“ไร้น้ำยา” ธงรบพูดเบาๆ หาได้อนาทรร้อนใจใดๆ ไม่ พลางหันหลังกลับปิดประตู
“กดล๊อคประตูด้วยนะโว๊ย” อธิคมส่งเสียงตามหลัง
เสียงประตูล๊อคดังกริ๊ก ความเงียบครอบคลุมห้องนอนกว้าง อธิคมส่ายหน้าระอากับนิสัยห่ามๆ ของเพื่อนรัก เขาหลับตา ขยับหัวบนหมอนนุ่มสีขาวเพื่อหาจุดที่สบายที่สุด
...ไร้น้ำยาหรือ... อธิคมนึกถึงคำพูดของเพื่อน ถ้าจะว่าไรน้ำยาก็อาจจะจริงในแง่ที่ว่าเขายังไม่ได้ 'แอ้ม' คนที่เขาหมายปองอย่างที่เพื่อนสบประมาท แต่อีกใจหนึ่งก็แย้งว่าไม่จริง น้ำยาของเขามีประสิทธิภาพมากต่างหาก ทุกครั้งที่เขาเจอคนที่เขาพึงใจ ไม่เคยเลยซักครั้งที่จะไม่สมดังใจต้องการ ความหล่อและมีเสน่ห์ของเขาแทบจะไม่ต้องทำให้เขาพยายามใช้ 'น้ำยา' จีบใครเลยสักคน
...เอ...แต่ว่านี่ผ่านไปเกือบสามเดือน อย่าว่าแต่จูบเลย แก้มก็ยังไม่ได้หอม แม้แต่กอดก็ยังไม่ได้ทำ ถ้าธงรบรู้คงถูกล้อไม่จบสิ้น...
ความสัมพันธ์ของเขากับอนุภาพเป็นไปอย่างช้าๆ อ้อยอิ่งๆ เขารู้ว่าอนุภาพเองก็ไม่ได้รังเกียจเขา แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ตอบรับความรู้สึกของเขาที่เสนอให้ อนุภาพยังมีช่องว่างกั้นระหว่างกันและกันอยู่ กำแพงเล็กๆ ที่เขายังทลายมันลงยังไม่ได้
...คุณนุ...คุณทำไมต้องกั้นผมเอาไว้ด้วย...
******************

สุขสันต์วันลอยกระทงนะครับ
รักษ์วัฒนธรรมไทย พยายามอย่าเสียตัวกันวันลอยกระทงนะครับ
ด้วยความเป็นห่วงจากผู้เขียน


YO DEA

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2008 11:20:38 โดย YO DEA »

ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4
มาแล้วๆ
วันนี้มารอตั้งกะเช้าแล้วนะเนี่ย
(อู้งานรอเลย :jul3:)

สารวัตรก็รีบๆ รุกหน่อยเด้

benxine

  • บุคคลทั่วไป

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
ตายแล้ว......3เดือนผ่านไปยังไม่ได้อะไรเลย



ฝีมือตกนะเนี่ย............คริๆ

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณครับที่จิ้ม
รู้สึกดีมากครับที่มีคนจิ้ม

เมื่อไหร่....ที่ผมพร้อมที่จะรัก.....ผมจะบอกนายเอง.....รอผมนะครับ....ผมรักนายคนเดียวนะ...
ืิ อิ อิ อันนี้ผมก็เคยทำ ผลก็คือ เขารอไม่ได้ เลยโบกมืออำลาไปซะแล่ะ  :m23:
จิ้มก่อน

 :m13:

ออฟไลน์ ben~ya

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
เห็นผู้กองธงรบออกมาที่ไร
อยากอ่านของตาผู้กองนี้จริงๆ

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
ธงรบยังไม่รู้ตัวอ่ะเด้


ว่าจาต้องมาหยุดที่อทิตย์



รอตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






TAMAKUNG

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
ได้เลื่อนตำแหน่ง

แต่ความรัก ยังไม่ได้เลื่อน

เอิ๊กกกกก

kororo

  • บุคคลทั่วไป
สารวัตรสู้ตายครับ กำแพงเมืองจีนยังอาจถล่มได้ นับประสาอะไรกับกำแพงเล็ก ๆ ในใจของอนุภาค ไม่เกินแรงหรอก จริงมะ  :laugh:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
สารวัตรครับ อย่าผลีผลาม ก็รู้อยู่ว่า นุ ก่อกำแพงเล็ก ๆ ขวางกั้นเอาไว้

ถ้าคิดจะหักหาร จะเจอกำแพงสูงใหญ่ดังกำแพงเมืองจีน เมื่อนั้นละเอ๋ย

สารวัตรได้ขาดใจตายแน่ ๆ

มารอตอนต่อไปดีกว่า   ขอบคุณนะครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ

+1 ให้เป็นค่ากระทง สุขสันต์ วันลอยกระทง นะครับ  :กอด1:

Kipper

  • บุคคลทั่วไป
 o13 ไม่ได้เข้ามาอ่านตั้งหลายวัน  คุณ Katawoot เอามาลงตั้งหลายตอน  อ่านสะจายไปเลย  ขอบคุณครับ  ว่าแต่เคยไปเขื่อนศรีนคิรนทร์มาเหรอครับ  สวยมาก ๆ ใช่ปะ  ผมเคยมีโอกาสนั่งเรือไปทอดกฐินที่วัดโบสถ์สแตนเลสด้วยแล้วก็ไปเที่ยวที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น  ยังจำได้ไม่ลืมอ่ะ  แต่น้ำตกทีลอซูนี่อยากไปมาก ๆ แต่ก็ไม่มีโอกาสไปซักที  ทำยังไงดีอ่ะ  อยากไปมาก ๆ เลย ( ชอบเที่ยวแบบลุย ๆ นั่งโฟร์วีลขึ้นเขาลงห้วย ลุยป่า โอ้โห.....สุดยอดมากกกกกก)

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
แล้วคุณก็ได้รับรู้ ว่าความยากลำบากนั้นเป็นเ่ช่นไร สารวัตรอธิคม  :jul3: :jul3: :jul3:


อีกน๊านนน

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป
หวังว่าวันฉลองตำแหน่งสารวัตร คงมีข่าวดีนะครับ อิอิอิ

ออฟไลน์ dada

  • mgKapleGD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สุขสันต์วัยลอยกระทงเช่นกันต่ะ ขอให้จีบกันไปนานๆนะคู่นี้ ชอบค่ะ o13

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
 :m23:  ยินดีด้วยกับตำแหน่งสารวัตใหม่นะครับ  แล้วก็สุขสันต์วันลอยกระทงเช่นกันครับ

jobisuka

  • บุคคลทั่วไป
เป็นศาลาวัด เอ๊ย สารวัตรแล้ว เอาเรื่องเลี้ยงฉลองมาอ้างซะงั้น อุอุ ขอให้แอ้มได้สำเร็จไว ๆ นะคร้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ออกต่ีางจังหวัดประจำครับ เขื่อนศรีนครินทร์ไปหลายครั้งแล้วครับ ก็ที่จริงก็ไม่ค่อยสวยหรอกครับ พอดีไปตอนมีความสุขเลยสวยดี
ลองไปตอนกำลังอกหักดูสิ สวิสเซอร์แลนด์ยังไม่สวยเลย  :เฮ้อ:
ทีลอซูไปเมื่อเกือบห้าปีที่แล้ว สมัยเริ่มอ้วน คนเยอะเหมือนปลวกเลย เต้นท์กางติดๆ กัน แบบยื่นมือออกไปเขกหัวกันได้ ตอนไปห้องน้ำต้องยืนเข้าแถวยาวเหมือนสมัยที่คนไปเข้าซื้อขนมปังอะไรนะ...เอ่อ...มิสเตอร์บันหรืออะไรนี่ล่ะ ไม่ก็แถวยาวเหมือนคนกำลังรอกดเิงินหน้าตู้เอทีเอ็มตอนสิ้นเดือนหน้าโรงงานทอผ้าแถวปทุมธานีอ่ะครับ ดีนะที่ตอนนั้นแค่ปวดฉี่ ไม่งั้นละคุณเอ๊ย...
หลังจากไปฉี่แล้วก็หาทางเดินกลับเต้นท์ วนไปวนมาหลายรอบ ก็เดินทางมาถึงที่พัก
นอนเล่นในเต้นท์ ฟังเสียงคนเดินไปเดินมานอกเต้นท์ ผู้ชายสองคนคุยกันว่า
"กูว่าไม่ใช่ทางนี้"
"กูจำได้ว่ามาทางนี้"
ซักหน่อยไม่ถึงห้านาที ผมก็ได้ยินเสียงเดิม
"เอ กูว่าตรงนี้เราเคยมาแล้ว"
"กูบอกแล้วให้ปักธงไว้หน้าเต้นท์ มึงก้ไม่เชื่อ"
555
ตอนที่ไปทีลอซู เขากำลังเอารถแบ๊คโฮ ปรับพื้นผิวถนนครับ คิดว่าไม่กี่เดือนหลังจากนั้นคงถนนดีขึ้นแล้วมนุษย์ผู้รักธรรมชาิตก็คงขึ้นไปหาความสำราญกับธารน้ำตกที่ความสวยงานเปลี่่ยนแปลงไปพอสมควร

....( ชอบเที่ยวแบบลุย ๆ นั่งโฟร์วีลขึ้นเขาลงห้วย ลุยป่า โอ้โห.....สุดยอดมากกกกกก).... อิ อิ เคยมาหมดแล้วล่ะ
ตอนนี้เป็นแบบนี้ครับ
...ขอเที่ยวแบบขับรถไปจอด เปิดประตูแล้วเดินสิบก้าวก็เอนตัวนอนเล่นได้...  :m4:  :m4: 555
สุดสัปดาห์นี้ไปกางเต้นท์ที่ตากครับ จะเอารูปมาฝากนะ ถ้าใครอยากดู ไปโต้ลมหนาว
อาทิตย์ถ้ดไป ไปดอยภูคา ครับ เพราะฉะนั้นช่วงเดือนนี้เดือนหน้าหากเห็นหายหน้าไปก็คิดถึงกันบ้างนะครับ  :m23:
o13 ไม่ได้เข้ามาอ่านตั้งหลายวัน  คุณ Katawoot เอามาลงตั้งหลายตอน  อ่านสะจายไปเลย  ขอบคุณครับ  ว่าแต่เคยไปเขื่อนศรีนคิรนทร์มาเหรอครับ  สวยมาก ๆ ใช่ปะ  ผมเคยมีโอกาสนั่งเรือไปทอดกฐินที่วัดโบสถ์สแตนเลสด้วยแล้วก็ไปเที่ยวที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น  ยังจำได้ไม่ลืมอ่ะ  แต่น้ำตกทีลอซูนี่อยากไปมาก ๆ แต่ก็ไม่มีโอกาสไปซักที  ทำยังไงดีอ่ะ  อยากไปมาก ๆ เลย ( ชอบเที่ยวแบบลุย ๆ นั่งโฟร์วีลขึ้นเขาลงห้วย ลุยป่า โอ้โห.....สุดยอดมากกกกกก)

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 23 “อาหารมื้อพิเศษ”

เช้าวันศุกร์ยุ่งเหมือนเคย อนุภาพทำงานด้วยความคล่องแคล่ว จัดการกับทุกอย่างจนเรียบร้อย โปรเจ็คใหม่คือโฆษณาเสื้อผ้าผู้ชายแบรนด์หรูที่จะเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ต้นเดือนหน้า มือสะอาดสะอ้านจับปากกาขีดเขียนร่างแผนงานบนกระดาษ จนเวลาผ่านไปถึงบ่ายสามโมง เสียงจากโทรศัทพ์มือถือเครื่องใหม่เอี่ยมข้างๆ ดังขึ้นเพื่อเตือนว่ามีข้อความสั้นส่งเข้ามา ชั่วเสี้ยววินาทีเขานึกถึง ‘ใครบางคน’ ที่ชอบโทรศัพท์มาช่วงใกล้เที่ยงถามเรื่อง ‘การจัดขบวนไปทานอาหารกลางวัน’
“ทุกทีผมเห็นคุณเดินนำหน้า ตี๋น้อยเดินตามหลัง พี่บั๊ดคุยจ้อเดินคู่กับคุณพจนีย์ แล้วอธิปปิดท้ายขบวน เคยเปลี่ยนลำดับบ้างไหมครับ” เขาล้ออาทิตย์ว่าเป็นตี๋น้อย
…วันนี้เขาไม่ได้โทรมาเลย หายเงียบไปทั้งวัน แล้วเสียงเตือนที่เพิ่งจะดังนี่เป็นข้อความจากอธิคมหรือไม่นะ…
อนุภาพกำลังเขียนวาระการประชุมที่ต้องคุยกันในตอนเช้าวันเสาร์--งานมอบหมายที่ต้องให้อาทิตย์ พจณีย์ ป้อง เอนก โต้ง.... ชายหนุ่มหันไปมองโทรศัพท์
--เย็นนี้เขาชวนไปทานข้าวเย็นเลี้ยงฉลองเลื่อนยศ
คราวนี้จะลองให้อาทิตย์เป็นรับผิดชอบเรื่องนายแบบ อาทิตย์คงฉุนนิดๆ เพราะเขากลัวว่าจะถูกนายแบบจีบ พี่บั๊ดชอบล้อว่า “อาทิตย์เขากลัวว่ายูจะงอนที่มีคนมาเกาะแกะ”
--เมื่อคืนก่อนเขาไม่ได้รับปากอธิคม
เขาอยากจะให้ copy writer คนใหม่ลองงานนี้ดูบ้าง เขาเห็นงานของป้องในโฆษณาน้ำหอมแล้วชอบ
--แม้จะบอกว่าไม่ไป อธิคมก็คงดึงดันทำให้ไปให้ได้อยู่ดี คนๆ นี้ อยากได้อะไรแล้วต้องได้
ต้องเตือนโต้งไม่ให้เล่นภาพวูบวาบเกินไป
--แต่ถ้าไปทานข้าวสองต่อสองกับอธิคม จะฉลองยังไงกัน ผู้กองต้องมีแผนจะพูดอะไรแน่ๆ ...ขอความรักหรือ?
นายแบบต้องดูดีมีสไตล์ วัยทำงาน หน้าตาไทย ไม่ลูกครึ่ง
--แล้วอธิคมจะทำเจ้าชู้อะไรอีก คราวที่แล้วเขาเหมือนจะรุกประชิดตัว
ตฤณกำหนด time line ถึงเมื่อไหร่นะ
อนุภาพหันไปมองโทรศัพท์
---บ้าจริง...อนุภาพสับสน ในสมองเหมือนมีเสียงไม่ได้ศัพท์ดังวุ่นวาย เขาควบคุมความคิดมุ่งไปจุดเดียวไม่ได้ มันปนเปกันไปหมด
ในที่สุด เขาหยิบโทรศัพท์มากดเรียกดูข้อความเพื่อเป็นการตัดปัญหาให้รู้แล้วรู้รอด
“ผมรู้คุณกำลังคิดว่าคืนนี้จะไปหรือไม่ไป
1 ทุ่มเจอกันที่ Le’ Crystal ถ.นราธิวาสนะครับ
อยากไปรับแต่ผมต้องไปเอารถ
สารวัตรอธิคม – I don’t take no for awnser}

ใช้ภาษาอังกฤษเสียด้วย...ภาษาต่างด้าวไม่แข็งแรงสะกดผิดเหมือนเคย อนุภาพยิ้มมุมปากนิดๆ
เสียงในหัวของอนุภาพเริ่มจะคุยกันเอง
---ถ้าเราไม่ไป และเงียบหายหนีกลับบ้านไปเลย เขาจะทำอย่างไร...ปล่อยให้นั่งเก้อที่ร้านอาหารคนเดียวหรือ?
’โหดร้ายไปนะ’
---หรือไปช้า ปล่อยให้รอซักชั่วโมง
’เข้าที แต่ว่ายังไงก็รู้สึกประดักประเดิดอยู่ดี ผู้กองพาไปทานร้านอาหารหรูมาก ต้องทำอะไรที่เขานึกไม่ถึงแน่ๆ’
อนุภาพพยายามใช้ความคิด
 ---ชวนพี่บั๊ดไปด้วยดีกว่า ไม่อยู่กันตามลำพังสองต่อสอง อย่างน้อยพี่บั๊ดก็รู้จักกันดี ไม่โหดร้ายเกินไป
‘เข้าที แล้วก็บอกว่าเข้าใจผิด นึกว่าให้ชวนพี่บั๊ดด้วย ยังไงเขาก็ไม่กล้าไล่พี่บั๊ดกลับบ้าน’
...สารวัตรอธิคม...ขอ “เอาคืน” ซักครั้งเถอะ...อนุภาพมาดมั่น ครั้นแล้วก็เดินตรงไปยังโต๊ะทำงานของสัมบัติ
“อ่ะแฮ่ม” อนุภาพเดินไปหยุดยืนอยู่ข้างหลังเพื่อนรุ่นพี่ กระแอมในลำคอ
พี่ใหญ่ประจำออฟฟิสตกใจ รีบเลื่อนมือคลิ๊กเมาส์กดปิดหน้าจออินเทอร์เน็ต
สมบัติกำลังเพลิดเพลินกับการชม “แคตตาล๊อกหนุ่มๆ” บนเว็บไซท์ hi5
“พี่บั๊ดเย็นนี้ว่างใช่ไม๊”/ “ไอ้บ้า” ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกัน
“ตกใจหมดเลย ไม่ให้สุ้มให้เสียง นึกว่าฮ่องเต้มาซะอีก” สมบัติค้อนประหลับประเหลือก
“ก็กระแอมแล้วไง” อนุภาพยิ้ม “ว่าไง เย็นนี้ว่างไช่ไม๊ ผมจะชวนพี่ไปทานข้าวเย็นมื้อพิเศษที่ร้าน Le Crystal”
“หา Le Crystal นี่นะ” สมบัติทำตาโต
“อาทิตย์ พี่นุชวนไปทานข้าวด้วยกันเย็นนี้ ว่างไหม ไปรึเปล่า” สมบัติทะลึ่งลุกพรวด ชะโงกหน้าถามชายหนุ่มที่กำลังมองอยู่จากมุมห้อง
“เจ๊สมบัติ” อนุภาพอุทาน ตกใจ ไม่นึกว่าสมบัติจะเล่นแรง
“ไปครับ ว่างครับ เอารถผมไปนะครับ” อาทิตย์ลุกขึ้นยืน พยักหน้า รีบรับคำ ฉีกยิ้มกว้าง ตาหยี
“พี่นุ” พจนีย์กับอธิปที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ประสานเสียง “ไม่ลืมเราใช่ป่าว” พจนีย์เสียงอ่อนเสียงหวาน
อนุภาพถอนหายใจ “เออ เออ” แล้วลดเสียงลง ดึงให้สมบัตินั่ง
“เจ๊ ผมกะชวนเจ๊ไป เอ่อ...คนเดียว” ชายหนุ่มตะกุกตะกัก
“แหม สงสารอาทิตย์มัน ชวนมันไปด้วยจะเป็นไรไป เดี๋ยวช่วยออกเงิน ไม่ก็ให้ออกเอง...อาทิตย์รวย”
“ผมไม่ได้เลี้ยง”
“อ้าว แล้วใครเลี้ยง”
“เอ่อ คือว่า.... เอ่อ... เย็นนี้สารวัตรอธิคมเขาชวน” อนุภาพอ้ำอึ้งเสียงเบา
“อ๋อ...แล้วจะชวนไอไปเป็นกันชน” สมบัติทำท่าทางเข้าใจ
“แต่ตอนนี้ยิ่งกว่ากันชนแล้ว...แผงปูนกั้นทางด่วนเลยล่ะ” อนุภาพกรอกตา
“ตายห่... แล้วใครจะไปรู้ว่ะว่าผู้กองเลี้ยง”
“ก็พี่ไม่ถาม เล่นอะไรไม่รู้”
“ก็ไอนึกว่ายูพูดเล่นนี่นา”
“ผู้กองอธิคมของพี่เขาได้เป็นสารวัตร เขาเลยเลี้ยง” อนุภาพถอนหายใจ
“อ้าว งั้นก็พอถูไถแก้ตัวไปได้ เลี้ยงฉลองเลื่อนยศ พ่อเทพบุตรในฝันของเจ๊คงไม่ใจดำไล่เรากลับบ้านหรอก ผู้กองเขาใจดี” สมบัติทำตาฝันเฟื่อง
“มันหลายคนเกินนะพี่นา ลำพังพี่คนเดียวก็ไม่น่าเกลียด” อนุภาพทำท่าจริงจัง
“พจน์กับอธิปนี่ไม่เท่าไหร่ บอกมันสองคนได้ไม่มีปัญหา ขำๆ แต่อาทิตย์นี่สิ ยูไม่เห็นหน้าพ่อหนุ่มน้อยเหรอ พี่กลัวอาทิตย์ร้องให้จังเลยหว่ะ” สมบัติทำท่าคิด
อนุภาพชะเง้อหน้ามองไปที่โต๊ะอาทิตย์ แต่เขาหายตัวไปเสียแล้ว
“อาทิตย์คงรีบวิ่งแจ้นไปเช็ดรถรอแล้วมั๊ง” สมบัติประชด
อนุภาพลุกขึ้นยืนจะเดินกลับห้องทำงาน “ปัญหาของเจ๊นะ แก้เอาเอง เล่นอะไรแผลงๆ รับหน้าผู้กองเองก็แล้วกัน ไม่ก็หาทางออกบอกทั้งสามคนว่าเปลี่ยนแผน” ชายหนุ่มทิ้งให้สมบัตินั่งกรอกตานึกหาทางออก
........................

เลิกงานหกโมงเย็น อนุภาพเก็บของเดินออกมาจากห้องทำงาน พนักงานส่วนมากกลับบ้านไปแล้ว ยังมีบางคนที่ยังนั่งทำงานหรือคุยกันอยู่ อนุภาพเดินตรงไปประตูทางออกหน้าบริษัท สมบัติ พจนีย์ อธิป และอาทิตย์ยืนจับกลุ่มคุยกัน แล้วทั้งหมดก็หันหน้ามาฉีกยิ้มให้อนุภาพเมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้
เขาอ่อนใจ ทางออกของสมบัติคือ “ไม่ต้องหาทางออก” ซึ่งก็หมายถึง “ดับเครื่องชน” อย่างที่เคยชอบพูด
สบบัติยังไม่ได้บอกทั้งสามคนว่าอาหารเย็นร้านหรูค่ำนี้ใครเป็น “เจ้ามือ”...
อนุภาพเดินนำทุกคนออกไปหน้าบริษัท “ตามลำดับ” อย่างที่อธิคมเคยล้อ อาทิตย์เดิมตามอนุภาพมาติดๆ
“ผมช่วยถือไม๊ครับพี่นุ” ชายหนุ่มยื่นมือมาจะช่วยแบ่งเอาแฟ้มเอกสารไปถือ
ปรกติอนุภาพจะบอกว่า “ไม่เป็นไร พี่ถือเอง”
สมบัติเดินเข้ามาใกล้ประซิบเบาๆ “ความสุขเล็กๆ น้อยๆ”
อนุภาพนึกถึงใบหน้าของอาทิตย์ที่กำลังจะเจอกับอธิคม เขาอดรู้สึกผิดไม่ได้ อย่างน้อยให้อาทิตย์ได้มีความสุขเล็กๆ น้อยๆ อย่างที่พี่บั๊ดแนะนำก็ยังดี ก่อนที่จะไปเจอคู่ปรับ
คราวนี้เขายื่นแฟ้มทั้งหมดให้อาทิตย์ คงเหลือแต่กระเป๋าคอมพิวเตอร์ที่ถือเอาไว้เอง
อาทิตย์ยิ้มกว้าง ตาเรียวเล็กหยีแทบมองไม่เห็น
ตอนที่อาทิตย์รู้ว่าไปทานอาหารเย็นที่เลี้ยงโดยอธิคม เขาจะทำหน้าอย่างไรนะ อนุภาพคิดกังวลอยู่ในใจ
.............................

อธิคมหุบยิ้มเมื่อเห็นชัดว่ารถเล็กซัส RX 300 รุ่นใหม่สีดำที่เคลื่อนเข้ามาจอดมีอาทิตย์เป็นคนขับและอนุภาพนั่งเคียงข้างมาด้วย
ใบหน้าของอาทิตย์ไม่ต่างจากอธิคมเท่าใดนัก ปากกำลังหัวเราะกับบทสนทนาตอบโต้กับเพื่อนๆ ในรถหุบลงในทันที เขาจอดรถหน้าตำรวจหนุ่มตัวโตที่เขาไม่ชอบหน้า ชายหนุ่มหันหน้าไปมองอนุภาพอย่างตัดพ้อ
อนุภาพกำลังก้มหน้าปลดเข็มขัดนิรภัย ไม่ทันเห็นแววตาน้อยใจของชายหนุ่มหน้าตี๋
อาทิตย์ไม่พูดไม่จา อนุภาพเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีไปกว่าการนิ่งเงียบ เขาลงรถก่อนคนอื่น ประตูด้านหลังเปิดออก อธิปและพจนีย์ก้าวลงตามมา ส่วนสมบัติลงอีกด้าน อาทิตยก้าวลงจากที่นั่งคนขับช้าๆ ยื่นกุญแจรถให้พนักงานรับจอดรถ
อธิคมยิ้มกว้างต้อนรับและทักทายทุกคน เขาพยักหน้าให้อาทิตย์เล็กน้อย อาทิตย์ก้มหัวให้เช่นกัน ไม่ยกมือไหว้เหมือนอธิปและพจนีย์
“พี่ผู้กองใจดีจังชวนเรามาเลี้ยงฉลองยศ” พจนีย์เจื้อยแจ้ว
“พี่สารวัตรถึงจะถูกยัยพจน์” อธิปแย้ง
“จะกินก็ระมัดระวังมารยาทนะย่ะหล่อน เกรงใจเจ้าภาพกันบ้าง” สมบัติเสริม ทำไม่รู้ไม่ชี้กับสายตาเข้มของอนุภาพที่ตวัดหันมามอง
“เชิญข้างในครับ โต๊ะ 7 ใกล้น้ำพุ” อธิคมผายมือเชิญ
อนุภาพเดินนำหน้าเฉียดผ่านอธิคมเพื่อเข้าไปร้านอาหาร
สายตาทั้งคู่สบกัน สารวัตรหนุ่มหรี่ตา ใบหน้ายังระบายยิ้มอ่อนๆ นัยย์ตาเข้ม เหมือนจะบอกว่า “ร้ายนักนะ เดี๋ยวมีคิดบัญชี”
อนุภาพหลบตาก้มหน้าเดินผ่านแล้วพึมพำเบาๆ กับอธิคม “เขาตามกันมาเอง” แล้วรีบเดินเข้าร้าน
“ตามกันมาตามลำดับเช่นเคยนะครับ” อธิคมตอบกลับเบาๆ พอได้ยินกันสองคนระหว่างเขากับจำเลย
อาทิตย์หน้าเข้มเดินผ่านนายตำรวจหนุ่ม สบตาอย่างท้าทาย แสดงให้เห็นว่าไม่พอใจ ส่วนพจนีย์กับสมบัติคุยกันจ้อ เดินไปหัวเราะไป ตามด้วยอธิป เช่นเคย เพียงแต่คราวนี้คนปิดท้ายขบวนคืออธิคมกับใบหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ใครจะนึกว่าอนุภาพจะ ’เล่นแรง’ อย่างนี้
นี่สงสัยคงหาโอกาส ’เอาคืน’ เขาอยู่ล่ะสิท่า
แต่อย่าคิดว่าเขาจะ ’ยอม’ ปล่อยให้จำเลยลอยนวล
...อนุภาพ ผมจะต้องคิดบัญชีกับคุณเร็วๆ นี้... อธิคมเริ่มคิดแผนลักพาตัวอนุภาพไปทานข้าวเย็นมื้อพิเศษกับเขาสองต่อสอง ทานกันที่นี่ไม่ได้ ก็ไปทานที่ไกลๆ เสียเลย จะได้ไม่มีก้างขวางคอ

จะว่าไปอาหารเย็นมื้อพิเศษมื้อนี้ก็ไม่น่าเบื่อ สมบัติ พจนีย์ อธิป และอธิคม คุยกันอย่างถูกคอเพราะเคยสังสรรค์กันแล้วคราวที่ไปถ่ายทำโฆษณาที่กาญจนบุรี เสียงหัวเราะสนุกสนานดังเป็นระยะๆ อาทิตย์นั่งเงียบ อนุภาพคุยบ้างแต่ก็นั่งเงียบเสียเป็นส่วนมาก
อธิคมหันไปมองอนุภาพอย่างคาดคั้น ส่วนอาทิตย์ก็หันมามองเขาอย่างตัดพ้อ ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนเป็นจำเลย สายตาของสารวัตรใหม่เหมือนจะบอกว่า “ระวังเถอะ ผมไม่ยอมหรอก” ส่วนสายตาของอาทิตย์ก็บอกว่า "พี่นุ ทำไมทำกับผมอย่างนี้"
“คุณนุดูเงียบๆ นะครับ อาหารไม่อร่อยหรือเปล่าหรือว่ากำลังกังวลอะไรอยู่” อธิคมจงใจเน้นเสียง
“พี่นุงานยุ่งครับ มีโฆษณาใหม่หลายตัว” อาทิตย์แทรกขึ้นมา
“ตอนนี้ต้องหานายแบบใหม่อีกแล้ว โฆษณาโรลออน นายแบบต้องห้าวๆ เท่ๆ เซ็กซี่มีเสน่ห์เร้าใจ มั่นใจในกลิ่นกายตัวเองเวลาใช้ ต้องถอดเสื้อโชว์หุ่นด้วย” พจนีย์ทำตาฝัน
“ผู้กองเหมาะที่สุด” อธิปชม
“สารวัตรย่ะ...กำลังกินของฟรีฉลองเลื่อนยศอยู่ยังมีหน้าลืม เดี๋ยวได้จ่ายเงินเอง” พจนีย์ดุอธิป
“คุณอาทิตย์คงหานายแบบได้แล้วมั๊งครับ” อธิคมหันไปหาอาทิตย์ พูดยิ้มๆ
“ครับ” ชายหนุ่มรับคำสั้นๆ อนุภาพรู้ว่าอธิคมจงใจกระทบกระเทียบ
“ผมไม่อยากเล่นโฆษณาอีกแล้ว ผมกลัวจะดัง” อธิคมพูดติดตลก คู่หูทั้งสามหัวเราะ
“อย่างผู้กอง เอ๊ย สารวัตรถ้าเล่นหนังนี่ดังเป็นพลุแน่ แล้วถ่ายแบบด้วย หนังสือต้องขายดียิ่งกว่าเทน้ำเทท่า” สมบัติจีบปากจีบคอ
“พี่บั๊ดจะจีบสารวัตรเป็นนายแบบในสังกัดส่วนตัวหรือไง” อธิปเย้า เพราะรู้ว่าสมบัติมี ‘เด็กๆ’ ที่กำลังผลักดันเข้าสู่วงการอยู่สองสามคม
“บ้าเหรอ สารวัตรท่านมีสังกัดแล้ว เดี๋ยวเจ้าของตัวจริงสารวัตรได้มาแหกอกพี่”
“สารวัตรยังโสดนี่ จริงไหมค่ะ” พจนีย์แกล้งทำเซ่อ
“อืมม...คิดว่าไม่แล้วนะครับ” สารวัตรอธิคมตอบยิ้มๆ
ลูกคู่หัวเราะสนุกสนาน อาทิตย์ไม่สนุกด้วย ชายหนุ่มขอตัวไปห้องน้ำ อนุภาพส่งสายตาไปยังสารวัตรเจ้าคารมกับสมบัติจอมชงเรื่องเหมือนจะบอกว่า ’สนุกนักหรือไง’

กว่าอาหารเย็นมื้อนั่นจะเลิกราก็กินเวลากว่าสี่ทุ่ม อาทิตย์ทำท่าอึกอักก่อนเสนอตัวว่าจะไปส่งทุกคน ซึ่งเขาหมายถึงทุกคนยกเว้นสารวัตรคนใหม่
“ผมกับคุณนุบ้านอยู่ซอยเดียวกัน กลับพร้อมกันก็ได้” อธิคมพูดเสียงเรียบ ใบหน้านิ่ง
“พี่นุไม่ได้เอารถมา สารวัตรก็ไม่ได้เอารถมา” อาทิตย์แย้ง
“ใครบอก ผมเอารถมา”
“ผู้กองยังแขนเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอครับ”
“หายแล้ว ผมขับรถได้สบายมาก...ถ้าคุณเป็นห่วงคุณนุเรื่องความปลอดภัย”
อนุภาพเริ่มเห็นความตึงเครียดระหว่างสองหนุ่มที่กำลังเพิ่มขึ้น...ส่วนอีกสามคนนั้นยังคุยจ้อกันไม่หยุด
“อาทิตย์ส่งพี่บั๊ดกับพจน์เถอะ ไม่ต้องห่วงพี่” อนุภาพตัดสินความ
อาทิตย์หน้าตึง น้อยใจ ทั้งที่เขาเองก็ยอมรับความจริงว่าที่พักของนายตำรวจกับอนุภาพนั้นอยู่ในซอยเดียวกัน ถึงเขาจะรั้นไปส่งก็ไม่เหมาะสมอยู่ดี อนุภาพต้องยกเหตุผลขึ้นมาว่า พจนีย์เข้าซอยลำบากเพราะดึกแล้วอันตรายสำหรับผู้หญิง
วูบหนึ่ง ชายหนุ่มอยากจะย้ายมาอยู่ใกล้ๆ อนุภาพเลยเสียก็ดี อยู่ในซอยเดียวกัน เขาจะได้มีข้ออ้างเหมือนที่สารวัตรอธิคมกำลังทำอยู่

รถของเพื่อนร่วมวงจากไปแล้ว อธิคมยืนอยู่หน้าร้านอาหารกับอนุภาพ ลมเอื่อยๆ โชยมาปะทะใบหน้า อนุภาพเผลอตัวหาวแสดงอาการง่วงนอน
“ขอบคุณครับที่มาทานข้าวกับผม” อธิคมพูดยิ้มๆ
“เอ่อ...ขอบคุณผู้กองต่างหากครับที่เลี้ยง” อนุภาพตอบเบาๆ แล้วนึกได้ว่าเรียกยศเขาผิด แต่อธิคมไม่แก้อะไร ในใจชายหนุ่มนึกว่าอาหารเย็นคืนนี้คงจะแพงไม่ใช่น้อย ร้านอาหารหรู ลำพังสองคนก็ราคาเอาการอยู่เหมือนกัน นี่ปาเข้าไปหกคน น่าจะเกินหลักหมื่น
“อาหารไม่อร่อยหรือครับ ผมเห็นคุณนุทานไม่เยอะ”
“อร่อยครับ แต่ปรกติมื้อค่ำไม่ทานเยอะ มันสะสมเป็นไขมัน”
“ท่าทางอาทิตย์เขาไม่ชอบหน้าผมเอามาก” อธิคมพูดเสียงเรียบ
อธิภาพอึดอัด ไม่รู้จะตอบอะไร ใบหน้าอธิคมดูยิ้มๆ ก็จริงอยู่ แต่ก็ดูไม่ขี้เล่นเหมือนเคย...หรือเขาจะโกรธ ผู้ชายคนนี้โกรธแล้วยังทำหน้ายิ้มๆ อย่างนี้หรือไร... ชายหนุ่มไม่แน่ใจ
“แล้วสารวัตรชอบหน้าอาทิตย์หรือเปล่าล่ะครับ”
“ถ้าเขาชอบผม ผมก็ชอบเขา” อธิคมเล่นลิ้น
“ผมว่าอาทิตย์ก็คงไม่ได้เกลียดผู้กอง” อนุภาพเริ่มเรียกยศเขาผิดๆ ถูกๆ ตามองไปข้างหน้า เริ่มสงสัยว่า นี่กำลังรออะไรอยู่
อธิคมเหมือนรู้ความคิด “เดี๋ยวพนักงานก็เอารถมาให้แล้ว” ขาดคำ รถแลนด์โรเวอร์แล่นเข้ามาจอดตรงหน้า อธิคมให้ทิปพนักงานรับรถแล้วยื่นมือมาคว้าเอากระเป๋าคอมพิวเตอร์และแฟ้มเอกสารจากอนุภาพไปเก็บที่เบาะหลัง
นายตำรวจหนุ่มรู้ดีว่าอนุภาพรู้สึกอึดอัด เขาแกล้งทำขรึมเพื่อให้ชายหนุ่มรู้สึกผิดที่ขนเอาเพื่อนมาด้วยในการนัดทานอาหารเย็นกับเขา อธิคมคิดว่าอนุภาพจงใจแกล้งเขาเพื่อแก้แค้นเรื่องรถ ไม่ก็อุบัติเหตุครั้งนั้นที่ทำให้ทั้งสองได้พบกัน หรือไม่ก็เรื่อง ‘การยื่นคำขาด’ บังคับให้ชายหนุ่มเดินทางไปดูการถ่ายทำโฆษณาที่กาญจนบุรีกับเขา
...คุณนุ เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับอธิคม... สารวัตรหนุ่มเริ่มคิดแผนการลักพาตัว
ออกจากร้านอาหารได้ไม่นานแลนด์โรเวอร์สีดำก็ต้องหยุดนิ่ง เมื่อเลี้ยวเข้าถนนใหญ่การจราจรติดขัดมากเพราะมีการซ่อมผิวถนน ช่องทางเดินรถหลายช่องบีบเหลือเพียงช่องเดียว รถขยับตามกันได้ทีละนิด เวลาผ่านไปร่วมครึ่งชั่วโมง เขาหันไปมองอนุภาพก็พบว่าชายหนุ่มหลับไปแล้ว
หลังอนุภาพเดินทางกลับถึงเมืองไทยเขาไม่เคยพัก ยังเร่งทำงานต่อจนดึกดื่น นอนเพียงไม่กี่ชั่วโมงแล้วก็ต้องรีบตื่นไปทำงานแต่เช้าจนงานเสร็จเอาเกือบบ่ายทันเสนอลูกค้า หลังจากนั้นเข้าประชุมมาราธอนกับผู้บริหารตลอดบ่าย หลังทานอาหารเย็นชายหนุ่มรับประทานยาแก้แพ้และเมื่อขึ้นนั่งบนรถที่เคลื่อนตัวทีละน้อย มีแอร์เย็นๆ เป่าหน้า ชายหนุ่มก็หมดพลัง หลับสนิท
'เป็นไงเป็นกัน เขาจะถือโอกาสนี้ลงโทษผู้ต้องหาเสียเลย' ทั้งที่ใจหนึ่งก็อดนึกหวาดหวั่นไม่ได้ว่าอนุภาพอาจจะโกรธ แต่ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ คนอย่างเขาไม่ใช่คนขี้ขลาด…ขอดับเครื่องชนสักครั้ง
พันตำรวจตรีอธิคมเลี้ยวรถออกนอกเส้นทางกลับบ้าน จุดหมายใหม่คือบ้านพักริมทะเลของเขาที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
เมื่อถึงที่หมาย เขาจะให้เหตุผลอนุภาพว่าชายหนุ่มต้องพักผ่อนเสียบ้าง
ปฏิบัติการลักพาตัวจึงเริ่มขึ้น...
***************************************


ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
^
^
^
^
ได้จิ้มคุณวุธ คิกๆๆๆ

คู่นี้อ่านกี่ทีก็น่าร้าก เอาคืนกันไปเอาคืนกันมา อย่างว่าละรักแท้มันต้องพิสูจน์กันนานๆนิ  :m4:

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
55555555

ปฏิบัติการลักพาตัวจะเป็นไงน้าาาาาาา



รอตอนต่อไปครับ

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป

TAMAKUNG

  • บุคคลทั่วไป
 :m1:  :m1: :m1: :m1: :m1:



รีบมาต่อเลยนะครับ



รอๆๆๆอ่ะ





ตอนหน้าน่าจะมีฉาก  หวานๆๆๆๆๆๆๆๆ





อ่ะนะ





รับๆๆๆๆๆๆๆๆมาลง  นะครับ

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4
:a5:
อ้าว
ไหงคุณตำรวจมากลายเป็นโจรเสียเองล่ะเนี่ย

โจรปล้นใจซะด้วย
ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววว

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด