นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -  (อ่าน 845244 ครั้ง)

ออฟไลน์ ben~ya

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0

juuuno99

  • บุคคลทั่วไป

ฮารุ

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ben~ya

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีตอนบ่ายก่อนกลับบ้านนะครับ เอาบทที่ 24 มาให้อ่านครับ ก่อนที่ผู้เขียนไปหาหมอฟัน  :m15:
ขอบคุณที่ติดตามอ่านและลงคอมเมนท์และจิ้มก้นผม + 1 กันทุกคนนะครับ
ใครที่ไม่ได้จิ้มก้นให้คะแนน + 1 ผมขอให้หาซื้อกระทงไม่ได้  :m14:

บทที่ 24 “บ้านริมทะเล”

รถจอดสนิท อนุภาพงัวเงียรู้สึกตัวตื่น ชายหนุ่มกระพริบตาถี่ๆ พยายามปรับสายตา ลมเย็นโชยมาปะทะใบหน้า หูแว่วได้ยินเสียงซ่าๆ รอบข้างมืดสลัวมีแสงไฟวิบวับด้านหน้า ชายหนุ่มหันไปมองด้านข้าง...อธิคมหายไป
...นี่ไม่ใช่ลานจอดรถหน้าคอนโดนี่นา…
ชายหนุ่มหันขวับมาทางด้านซ้าย กระจกรถลดลงมาจนถึงขอบประตู อธิคมยืนยิ้มอยู่ เอามือล้วงกระเป๋า
“นี่ที่ไหน”
“บ้านริมทะเล”
“อะไรนะ...บ้านริมทะเล แล้ว...คอนโดผม...” อนุภาพเริ่มคิดอะไรออก
“คอนโดคุณนุ ก็ยังอยู่ที่เดิม”
“...”
“คุณหลับตลอดทาง” อธิคมยังพูดเสียงเนิบนาบ
“ผู้กองอธิคม คุณพาผมมาที่ไหน ผู้กองไม่ได้พาผมไปส่งที่คอนโดหรือ” ชายหนุ่มเสียงเข้ม
“บ้านพักตากอากาศริมทะเลของผมเองครับ ผมพาคุณมาพักผ่อน” เขาพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่แอบขับรถพาเขามาไกลถึงริมทะเล
“คุณใส่ยานอนหลับให้ผมกิน แล้วลักพาตัวผมมาไกลถึงที่นี่” อนุภาพเริ่มเสียงดัง
“ใครบอก คุณทานอาหารเย็นมื้อพิเศษราคาแพงจนอิ่มแปล้ แล้วก็หลับเป็นตาย อย่ามากล่าวหาผมนะ” อธิคมยังเอามือล้วงกระเป๋ายืนอยู่ไม่ห่าง กางขาออกเล็กน้อย ท่าทางสบายๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พาผมกลับกรุงเทพฯ เดี๋ยวนี้นะ”
“โอโห ผมเพิ่งมาถึงนะครับ ขับรถมาเหนื่อยจะตาย ไม่เห็นใจกันบ้างเลย กลับได้ไง นี่มันดึกมากแล้ว”
อนุภาพมองนาฬิกาข้อมือ “ดึกผมก็จะกลับ”
“ผมง่วงแล้ว ผมจะนอน” อธิคมทำท่าหาว ยกมือขึ้นบิดขี้เกียจ
“ผู้กอง...”
“สารวัตรครับ” อธิคมแก้ยศของตัวเองให้ถูก
อนุภาพไม่สนใจ “ผู้กองจะนอนก็ไปนอน ขอกุญแจให้ผมด้วย ผมจะขับรถกลับเอง”
“อยากได้ก็มาล้วงเอาสิ” อธิคมเอานิ้วเกี่ยวกุญแจยกให้ดู ก่อนจะยัดลงไปในกระเป๋ากางเกงเครื่องแบบตำรวจรัดรูป ยกมือขึ้นกอดอก เอียงคอทำหน้าขึงขัง
อนุภาพถอนหายใจ กัดฟัน ขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียง เพราะรู้ดีว่ายังไงเขาก็ไม่ชนะสารวัตรเจ้าเล่ห์คนนี้
ชายหนุ่มหันหน้ากลับมองตรงไปข้างหน้า แสงไฟวิบวับหน้าบ้านไม้สีขาวอยู่ไม่ไกล บ้านชั้นเดียว หลังใหญ่พอสมควร ระเบียงหน้าบ้านกว้างมีซุ้มไม้เลื้อย เสียงลมทะเลสาดซัดหาดทรายดังซ่าๆ
ชายหนุ่มเหนื่อยและง่วงจนแทบจะนั่งหลับต่อในรถได้ ถึงขนาดนี้แล้วก็คงต้องพักที่บ้านพักตากอากาศริมทะเลของอธิคม ผู้ชายสองคนนอนค้างคืนในบ้านหลังใหญ่ด้วยกันไม่มีอะไรเสียหาย
“คุณนุครับ ผมเห็นคุณทำงานหนักมากจนน่าสงสาร ไปต่างประเทศกลับมาก็รีบตรงเข้าออฟฟิสทำงานต่อจนดึก วันถัดมาก็ทำงานตั้งแต่เช้าตรู่จนเย็น ทานข้าวเสร็จขึ้นนั่งบนรถไม่เท่าไหร่คุณก็หลับปุ๋ยไม่รู้เรื่อง ผมขับรถมาถึงนี่คุณก็ไม่รู้สึกตัว จนถึงป่านนี้ยังไม่อยากพักอยู่หรือ ซักวันสองวันก็ได้ จะโกรธผมก็ยอม แต่ผมไม่ส่งคุณกลับหรอก ผมแค่อยากให้คุณได้พักผ่อนตากอากาศ” อธิคมก้าวเข้ามาใกล้ประตูรถ พูดเสียยืดยาว
อนุภาพถอนหายใจเบาๆ แล้วเปิดประตูรถลงเดินตรงไปที่บ้านพักริมทะเลเงียบๆ ไม่หันหลังกลับไปมองโจรลักพาตัว
อธิคมหอบของพะรุงพะรังเดินตามมา ทั้งกระเป๋าของตัวเอง กระเป๋าคอมพิวเตอร์ของอนุภาพ แต่ไม่มีแฟ้มเอกสาร
“แฟ้มคุณนุทิ้งไว้ในรถก่อนนะ ไม่หายไปไหนหรอก ขืนเอาเข้าบ้านด้วย เดี๋ยวคืนนี้คุณก็นั่งทำงานต่อ”
“เอาคอมพิวเตอร์มาผมก็ทำงานได้”
“คืนนี้เก็บคอมไว้ที่ห้องผมก่อน พรุ่งนี้ผมคืนให้”
“อยากได้ก็เก็บไว้เลยไม่ต้องคืน” อนุภาพประชด อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ

อนุภาพยืนอยู่กลางห้องโถงของบ้าน มองไปรอบๆ ด้วยความชื่นชอบ ห้องโถงกว้างทาสีขาว พื้นไม้ขัดมันสีโอ๊ค เฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้น มีเพียงโซฟา โต๊ะติดผนัง ตู้หนังสือสองตู้  ตู้เก็บของเล็กๆ และอุปกรณ์ยกน้ำหนัก ประตูห้องซึ่งน่าจะเป็นห้องนอนอยู่ตรงข้ามกัน สุดห้องโถงเป็นห้องครัว มีโต๊ะทานอาหารอยู่ตรงกลางห้อง ตู้เย็นสีตะกั่วใหม่เอี่ยม
“ห้องนอนคุณฝั่งซ้าย ของผมฝั่งขวา มีห้องโถงกั้นกลางระหว่างเรา ปลอดภัยไว้ใจได้ครับ”
อนุภาพเดินตรงไปที่ห้องนอน
“แล้วเสื้อผ้า...”
“ในตู้มีเสื้อยืดกับกางเกงบ๊อกเซอร์อยู่หลายตัวครับ ห้องน้ำก็อยู่ข้างใน ทุกอย่างครบ ไม่ต้องห่วง”
“เสื้อผ้าคุณนี่นะ ตัวใหญ่ยังกะ...”
“ตัวเล็กก็มี คุณเปิดตู้เลือกดูเอา”
“อ้อ มีทุกขนาดทุกไซท์ เอ็ส เอ็ม แอล เอ็กซ์แอล” อนุภาพประชด
“โธ่คุณนุ อย่าประชดกันสิ” อธิคมทำท่าอ่อนใจ
“ใส่เสื้อผ้าของผู้กอง แล้ว...เอ่อ...จะดีหรือ” อนุภาพอึกอัก
“ไม่เป็นไร ผมไม่ถือ”
อธิคมพูดหน้าตาเฉย...นัยย์ตาวิบวับอีกแล้ว... อนุภาพรีบเปิดประตูห้องแล้วกล่าวราตรีสวัสดิ์ ปิดห้องทันที ทิ้งให้อธิคมยืนอึ้งอยู่หน้าประตู
“อ้าว...” ชายหนุ่มยืนมองประตูห้องสีขาวด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์
“คุณนุ จะนอนเลยหรือ...คุณนุ”
ไม่มีเสียงตอบรับ อนุภาพเงียบสนิท
สารวัตรหนุ่มยิ้มมุมปากกับการงอนเล็กๆ ของอนุภาพ ภูมิใจกับปฏิบัติการลักพาตัวผู้ต้องหามาพักผ่อนที่บ้านริมทะเลของเขา
ก่อนหน้านั้นอธิคมใจตุ้มๆ ต่อมๆ กลัวอนุภาพจะโกรธและโวยวาย ‘ดับเครื่องชน’ ยื่นคำขาดให้เขาพากลับกรุงเทพฯ  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเหนือความคาดหมาย อนุภาพยังประชดเขาเหมือนเคย แต่ไม่ได้แสดงทีท่าว่าโกรธขึง
เอ...หรือเป็นเพราะเหนื่อยและง่วงจนไม่มีแรงทะเลาะ อธิคมคิดในใจ เดินไปปิดไฟแล้วเข้าห้องพักอย่างสบายอารมณ์
คืนนี้เป็นคืนที่เขารู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก คืนแรกที่เขาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับอนุภาพสองต่อสองในบ้านริมทะเลของเขา...
นายตำรวจหนุ่มถามตัวเองว่า...แล้วเมื่อไหร่จะได้อยู่ในห้องเดียวกัน นอนหลับบนเตียงเดียวกัน ได้ใกล้ชิด ได้สัมผัส ได้สนองแรงปราถนาที่พุ่งพล่านอยู่ในหัวใจของเขาเสียที....
--------------

เช้าวันใหม่ แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนปลุกอธิคมให้ลุกขึ้น ชายหนุ่มได้ยินเสียงกุกกักนอกห้องจึงรู้ว่าอนุภาพตื่นขึ้นมาก่อนแล้ว อธิคมรีบล้างหน้าแล้วเดินออกมาจากห้องนอน
กลิ่นหอมจากห้องครัวโชยมาแตะจมูก เขาเดินตรงไปยังต้นทางพบว่าอนุภาพนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารกำลังจัดเตรียมตัวจะทานอาหารเช้า ชายหนุ่มใส่เสื้อยืดสีขาวตัวโคร่ง คงจะเป็นเสื้อยืดตัวเล็กที่สุดของเขา
...แต่ทำไมบนโต๊ะมีจานเพียงชุดเดียว...
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณนุ” อธิคมยังจ้องอนุภาพเตรียมตัวจะถามคำถาม
“สวัสดีตอนเช้าครับสารวัตร” ชายหนุ่มก้มหน้าเริ่มทานอาหารเช้า ไข่ดาวสองฟอง ใส้กรอกสองชิ้น ขนมปังปิ้ง และนมสดหนึ่งแก้ว
“เอ่อ ทำไมมีอาหารแค่หนึ่งชุด คุณนุลืมอะไรไปหรือเปล่า เราอยู่กันสองคน... คุณกับผม...”
“อ้อ ในตู้เย็นมีเหลืออยู่แค่นี้ครับ ผมหิวก็เลยทาน...ใกล้จะหมดแล้ว” อนุภาพเงยหน้าขึ้นมามอง ทำหน้าเฉยแล้วก้มลงทานต่อไม่สนใจ
ชายหนุ่มจงใจแกล้งเขา
“ใจร้าย” อธิคมบ่น เดินไปเปิดตู้เย็น เห็นนมกล่องยูเอชทีเหลือสองกล่อง จึงคว้าออกมาวางบนโต๊ะตรงข้ามอนุภาพ
“คอยดูนะ วันนี้ผมจะไม่ออกไปไหน ดูซิว่าคุณจะทำอะไรทานตอนเที่ยง” อธิคมนั่ง จัดการกับนมสองกล่อง
“ผมก็จะเดินออกไปซื้ออะไรทานแถวนี้”
“แถวนี้ไม่มีอะไรหรอกครับ บ้านริมทะเลผมอยู่ไกลจากชุมชน ถ้าเดินไหวก็เชิญ กุญแจรถอยู่ที่ผมนะ อย่าลืม” อธิคมหน้าเรียบ
“ผมไม่กินก็ได้ ผู้กองไม่รู้อะไร ผมเคยอดอาหารลดน้ำหนักมาก่อน แค่สองวันสบายมาก”
“โธ่คุณนุ อย่ามาเล่นสงครามประสาทกันแบบนี้นะ ยังโกรธผมอยู่อีกหรือที่พามาพักผ่อนตากอากาศ?”
“เปล่า” อนุภาพตอบ ลุกขึ้นหยิบจานที่ทานเสร็จไปล้าง อธิคมเดินตามไปยืนข้างๆ
“ตอนกลางวันผมจะพาไปทานอาหารที่ร้านริมทะเลที่อร่อยที่สุดจนคุณลืมไม่ลง...เลี้ยงฉลองเลื่อนยศผมนะครับ...เมื่อคืนนี้ไม่นับ” อธิคมยิ้ม
อนุภาพพยักหน้า ไม่เงยหน้ามองอธิคมเต็มตัว
สารวัตรคนใหม่ใส่เสื้อกล้ามสีขาวบางๆ พอดีตัว ซึ่งน่าจะเก่ามากแล้วผ้าเลยบางพริ้วจนเห็นกล้ามเนื้อแน่นๆ ใต้เสื้อ กางเกงนอนผ้าฝ้ายสีเนื้อก็บางพอๆ กัน ยิ่งเข้ามายืนใกล้มากขนาดนี้ ยิ่งทำได้สัมผัสกลิ่นกายของเขา อนุภาพรู้สึกประหม่าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจึงรีบเดินเลี่ยงไป

อนุภาพนั่งอ่านหนังสือบนเปลยวนที่ขึงไว้หน้าบ้าน  ระเบียงกว้าง มองออกไปเห็นหาดทรายขาวทอดตัวเป็นแนวยาว น้ำทะเลใสน่าเล่น ลมทะเลพัดมาเอื่อยๆ
อธิคมไปค้นหาของกินในรถ เขาได้ขนมมาหลายถุงแบ่งให้อนุภาพ
“ใจร้าย...ทำอาหารเช้าก็ไม่ให้ผมทานด้วย คุณนุแน่ใจหรือว่าในตู้เย็นมีแค่นั้นจริงๆ ผมว่าป้านิ่มคนทำความสะอาดบ้านน่าจะทิ้งอะไรไว้มากกว่านั้น หรือว่าคุณจงใจขนไปทิ้ง แล้วทำเฉพาะให้ตัวเองพอกิน?” อธิคมนั่งบ่นอยู่บนเก้าอี้เอนนอนตัวใหญ่ข้างๆ เปล
“คำก็ใจร้าย สองคำก็ใจร้าย สารวัตรว่าผมใจร้ายมาหลายครั้งแล้วนะ เดี๋ยวก็ใจร้ายให้ดูจริงๆ”
“อย่าร้ายจริงๆ เลยครับ ผมกลัว” อธิคมยิ้มกว้าง “ผมว่าเราไปหาอะไรทานกันดีกว่านะ”
“เพิ่งอ่านหนังสือได้ไม่ทันไร นี่ยังไม่เที่ยงเลย”
“ถือซะว่าเป็นบลั้นท์ก็แล้วกันนะครับ ผมจะพาคุณแวะไปไหว้พระที่วัด ไปดูประภาคาร แล้วก็ขับรถชมวิวซักหน่อย แล้วเราค่อยไปร้านอาหาร”
อนุภาพกลั้นยิ้ม “บรั้นช์ ไม่ใช่บลั้นท์ สะกด b-r-u-n-c-h ไม่ใช่ b-l-u-n-t”
“อ้าวก็ผมไม่ใช่เด็กนอกนี่นา” อธิคมพูดเขินๆ
ใจจริงอนุภาพสงสารว่าอธิคมคงหิวเพราะอยากจะออกไปข้างนอกเต็มที่ อย่างน้อยได้แวะซื้ออะไรรับประทาน ชายหนุ่มจึงวางหนังสือลง พยักหน้าตอบรับว่าถึงเวลาออกไปเที่ยวนอกบ้านแล้ว

อธิคมขับรถช้าๆ ไปตามถนนเรียบริมทะเล เปิดกระจกลงให้ลมทะเลได้พัดเข้ามา อนุภาพมองทิวทัศน์สองข้างทางอย่างสนใจ ลมพัดผมดกดำของชายหนุ่มจนหัวยุ่ง อนุภาพหยีตาเพราะแสงแดดจ้า
“คุณนุครับ สวมแว่นกันแดดผมสิ จะได้ไม่แสบตา” อธิคมยื่นแว่นกันแดดให้
“โอ้โห ใหญ่เบ้อเริ่ม ปิดได้ทั้งหน้าเลยนะนี่”
“พูดเป็นเล่นไป ไหนลองใส่ให้ผมดูซิ”
อนุภาพส่ายหน้า อธิคมพยักหน้าลุ้นให้ชายหนุ่มใส่ “แดดจ้านะครับ”
อนุภาพสวมแว่นกันแดดของอนุภาพแล้วเงยหน้าขึ้นแกล้งทำเป็นกลัวว่าแว่นจะหล่น แล้วเอานิ้วชี้ดันแว่นให้แนบกับสันจมูก ชายหนุ่มยิ้มกว้าง อธิคมหัวเราะขัน เขาอยากเห็นแววตาเป็นประกายของอนุภาพยามยิ้มสดชื่น
“เดี๋ยวแวะซื้อแว่นที่พอดีๆ นะ คุณจะได้ซื้อของใช้ส่วนตัวด้วย”
“ใครว่าผมจะซื้อ” อนุภาพตอบ หันหน้าไปมองทะเล
“อ้าวคุณไม่อยากได้เอ่อ...อันเดอร์แวร์หรือครับ หรือว่านี่ใส่ตัวเดิมเมื่อคืน หรือไม่ได้ใส่ หรือใส่ของผม...”
“บ้า...ผู้กองนี่” อนุภาพหันมามองตาขวาง แต่อธิคมมองไม่เห็นเพราะแว่นกันแดดบดบังดวงตาคู่นั้น
“ก็คุณนุบอกว่ะไม่ซื้อนี่นา จะให้ผมเข้าใจว่ายังไง” อธิคมประท้วง
“แล้วทำไมผมต้องซื้อ สารวัตรต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายสิ ลักพาตัวมาแล้วนี่” อนุภาพล้อ
“แล้วก็ไม่บอก จะเอาอะไรผมหาให้ได้ทั้งนั้นล่ะ...เพื่อคุณนุ” วลีหลังพูดเบาๆ ให้ได้ยินแค่ตัวเอง “ของผม...” เสียงหายไปในลำคอ...

อนุภาพไม่เคยทานอาหารเยอะขนาดนี้มาก่อนในรอบหลายๆ ปี อาหารกลางวันอร่อยมากสมกับที่อธิคมชมนักหนา
“คงอ้วนไปหลายวัน” อนุภาพดื่มน้ำ เอนตัวพิงพนัก แว่นกันแดดสีชาราคาถูกที่แวะซื้อจากซุปเปอร์มาร์เก็ตในตัวเมืองทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มดูเข้มขึ้น ผมยุ่งเพราะลมทะเล อนุภาพไม่สนใจที่จะปัดเสยให้เรียบร้อย ชายหนุ่มดูร่าเริงอย่างที่อธิคมไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกครั้งอนุภาพอยู่ในมาดนิ่งๆ เย็นๆ และทำท่าทางฉุนเฉียวเล็กน้อยเมื่อมีใครกวนใจ ซึ่งใครคนนั้นมักจะเป็นอธิคมนั่นเอง
“ผมว่าเย็นนี้ทำกับข้าวทานกันดีกว่านะครับ” อธิคมเสนอ
“สารวัตรทำเป็นหรือ”
“ไม่เป็น” อธิคมบอกหน้าตาเฉย
“อ้าว แล้วมาชวนทำไม” อนุภาพแกล้งถาม ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าอธิคมหมายถึงให้เขาเป็นคนทำอาหาร
“ก็คุณนุทำอาหารเช้า ก็น่าจะทำอาหารเย็นด้วย คราวนี้ทำให้กินกันสองคนนะครับ ไม่ใช่คนเดียว”
“ก็ได้ ไข่ดาวสี่ฟอง ใส้กรอกสี่ชิ้น ขนมปังสี่แผ่น หารสอง ได้กินกันคนละคู่พอดี”
“ใจร้าย”
“ใจร้ายอีกแล้ว...ระวังผมใส่ยาพิษลงในอาหารเย็นนะ คราวนี้ได้ร้ายเหมือนที่กล่าวหา” อนุภาพเมินมองไปยังคลื่นที่กำลังซัดหาดทราย
“ถ้าทำลงก็เชิญเลย...” อธิคมชะงัก เขาเห็นร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มผิวขาวหน้าเข้มกำลังเดินเข้ามาในร้านอาหาร...อนุภาพหันตาม
“เพื่อนเก่าครับ” อธิคมบอกยิ้มๆ แล้วลุกขึ้นโบกมือให้ ชายหนุ่มคนนั้นหันมามองเห็นพอดีจึงยิ้มกว้างแล้วเดินตรงมาที่โต๊ะของทั้งสอง
“คม...ไม่นึกว่าจะเจอ”
“โลกกลมนะรองผู้กำกับ คุณนุครับ พันตำรวจโทธนาวุฒิครับ นายตำรวจมือดีกองสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อนเก่าผมที่ได้ดีเกินหน้าเกินตาผมกับธงรบ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ธนาวุฒิทักอนุภาพ ชายหนุ่มถอดแว่น ยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตร
ธนาวุฒิสะดุด อนุภาพดูคุ้นหน้าคล้ายกับอดีตคนรัก ชายหนุ่มตรงหน้าดูมีเสน่ห์ ยิ้มเป็นประกาย สดชื่นเหมือนกับท้องฟ้าสดใส ธนาวุฒิคุยกับชายหนุ่มทั้งสองชั่วครู่ก่อนขอตัวเพราะเขานัดทานอาหารกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เพื่อคุยกันเรื่องงาน
“กำลังตามคดีเพชร” ธนาวุฒิบอกอธิคม ก่อนหันมายังอนุภาพ “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณอนุภาพ”
ธนาวุฒิเดินไปแล้ว อธิคมจ่ายเงินค่าอาหาร แล้วชวนอนุภาพไปตลาดเพื่อซื้ออาหารเตรียมสำหรับมื้อเย็นและวันถัดไป
อธิคมเดินเคียงคู่กับอนุภาพไปที่รถ ในใจคิดคำนึงถึงสิ่งที่ได้เห็นในร้านอาหารเมื่อครู่
...ธนาวุฒิมองอนุภาพจนลืมไปว่าเขาสังเกตเห็นความสนใจที่ซ่อนเอาไว้... ทำไมอธิคมจะมองธนาวุฒิไม่ออก เคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งนาน แม้จะแยกกันไปหลายปีตั้งแต่ธนาวุฒิไปศึกษาต่อต่างประเทศแต่เขาก็รู้จักธนาวุฒิดี...อนุภาพคือลักษณะของคนแบบที่ธนาวุฒิชอบ...
ธนาวุฒิไม่เคยแสดงออกว่าชอบใครง่ายๆ  ตั้งแต่รู้จักกันมามีเพียงแค่สองคนที่ธนาวุฒิเคยมีความสัมพันธ์ด้วย คนแรกเป็นล่ามของสหประชาชาติ อีกคนเป็นหมอนิติเวช และทั้งสองคนมีลักษณะแบบเดียวกัน...เพื่อนของเขาไม่เคยเปลี่ยน...ธนาวุฒิชอบทำอะไรแบบเดิมๆ...
แต่สิ่งหนึ่งที่อธิคมกลัวก็คือ ธนาวุฒิเป็นคนที่มุ่งมั่นมาก ถ้าสิ่งใดที่เขาต้องการ ผู้ชายคนนี้ไม่เคยยอมแพ้
...อธิคมเอ๋ย...ศึกหนักละคราวนี้...ไหนจะตฤณ ไหนจะอาทิตย์ ไหนจะธงรบที่ทำท่าทีเล่นทีจริง แล้วยังจะธนาวุฒิอีก...
...อนุภาพ...ทำไมใครๆ ถึงมารุมชอบคุณกันนัก...
--------------------

ตะวันยามบ่ายคล้อยลง ทอแสงอ่อนๆ เงาของบ้านริมทะเลทาบทับบนสนามหน้าสีเขียวหน้าบ้าน อนุภาพนั่งเล่นบนเสื่อใต้ต้นไม้มองดูบ้านสีขาวหลังใหญ่ของอธิคม
...บ้านริมทะเล..บ้านพักตากอากาศของครอบครัว...หรือเขาเอาไว้มาพักผ่อนเอง...หรือเอาไว้พาใครๆ มาเที่ยว...
นายตำรวจหนุ่มเดินยิ้มเข้ามาหา
“คุณไม่เห็นปลุกผมเลย ปล่อยให้ผมนอนกลางวัน ทิ้งแขกให้นั่งเหงาอยู่คนเดียว”
“จะว่าผมใจร้ายอีกล่ะสิ” อนุภาพแกล้งทำเสียงเข้ม
“เปล่านะครับ ผมไม่ว่าคุณใจร้ายอีกแล้ว กลัวจะไม่ได้กินข้าวเย็น” อธิคมทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆ
“บ้านสวยนะครับ ชื่อบ้านริมทะเลเฉยๆ อย่างนี้หรือ ไม่ได้ตั้งชื่อเพราะๆ ให้ อย่างเช่น บ้านชมสมุทร บ้านอิงธาร หรืออะไรแบบที่คนอื่นๆ เขาตั้งกัน”
“ไม่มีชื่อครับ พอสร้างเสร็จก็เรียกมันว่าบ้านริมทะเลเฉยๆ” อธิคมเอนตัวตั้งข้อศอกกึ่งนั่งกึ่งนอน
“สารวัตรสร้างเอง?”
“ฮื่อ” อธิคมทำเสียงในคอเป็นคำตอบ “ก็จ้างช่างแถวๆ นี้สร้าง ธงรบมาช่วยชี้นิ้วออกความเห็นบ้าง แต่คนที่เป็นหัวแรงใหญ่คือธนาวุฒิ คนที่คุณเจอวันนี้ที่ร้านอาหาร...รายนั้นเขาเก่ง ออกความเห็นทีไรช่างก็พยักหน้าเห็นด้วย ผิดกับธงรบที่ช่างเอาแต่ส่ายหน้า"
อธิคมเล่าเรื่องสามทหารเสือในอดีตให้ฟังสั้นๆ ไม่ลืมจะข้ามตอนวีรกรรมความรักสนุกของเขากับธงรบ
“มาแยกกันตอนเขาไปเรียนเมืองนอก กลับมาก็ไปทำงานคนละที่เลยห่างๆ กันไป”
“ผมเคยฝันอยากมีบ้านแบบนี้ด้วยเหมือนกัน แต่อยู่บนเนินเขาที่มองออกไปเหินวิวธรรมชาติสีเขียวโล่งๆ อากาศเย็นๆ มีหมอกตอนเช้าตอนหน้าหนาว” อะไรไม่รู้ทำให้อนุภาพเล่าความใฝ่ฝันให้อธิคมฟัง
“ก็สร้างสิครับ...ผมช่วยไม๊ ผมรู้จักวิศวกรหลายคน”
“ยังดีกว่าครับ ยังไม่พร้อม ขอเก็บเงินซักระยะก่อน” อนุภาพส่ายหน้า หันสายตามองไปยังทะเล อดคิดคำนึงถึงใครคนหนึ่งที่ทำพิมพ์เขียวจนเสร็จ แล้วห่อกระดาษสีขาวผูกริบบิ้นสีแดงให้เขาเป็นของขวัญวันเกิด...ของขวัญวันเกิดชิ้นสุดท้าย...
“หลังนี้เสร็จตั้งแต่ผมจบตำรวจใหม่ๆ นี่ก็เพิ่งปรับปรุงซ่อมแซมทาสีใหม่หมดเมื่อปลายปีที่แล้วนี่เอง”
“เอาไว้ลักพาตัวคนมาพักผ่อน” อนุภาพเสริมแกมประชด
“เปล่านะ” อธิคมร้อนตัว รีบพูดเสียงตื่น
“เสื้อผ้าคุณในห้องมีตัวเล็กๆ เกือบพอดีตัวผม นึกว่าเตรียมพร้อมไว้สำหรับคนรูปร่างทุกไซส์...เอส เอ็ม แอล...หรือว่ามีเอ็กซ์แอลด้วย”
อธิคมหัวเราะเสียงดังก่อนลุกขึ้นนั่งกอดเขา หันมามองอนุภาพนัยน์ตายิ้มพราว
“ไม่ใช่ของผมครับ...ของน้องชายผม ตัวเขาประมาณคุณนุนี่ล่ะ” สายตาอธิคมยังตรึงอยู่ที่ใบหน้าของชายหนุ่ม
“บางทีเขาก็มาพัก หรืออาจพาเพื่อนๆ มาด้วย ก็ทิ้งเสื้อผ้าไว้บ้าง คนดูแลบ้านก็ซักเก็บไว้”
อนุภาพพยายามจินตนาการใบหน้าและบุคลิคลักษณะของน้องชายอธิคมว่าจะถอดแบบพี่ชายออกมาหรือเปล่า
“เขาเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ เหมือนคุณนุ ไม่เหมือนผมหรอก”
อธิคมอ่านความคิดของชายหนุ่มออกอีกแล้ว
“แต่เขาประชดไม่ค่อยเก่ง”
อนุภาพทำเป็นไม่ได้ยินคำประชดของอธิคมที่หาว่าเขาประชดเก่ง
‘ก็ประชดเก่งพอๆ กันแหล่ะน่า’...ชายหนุ่มนึกในใจ ‘ตัวเองก็ใช่ย่อย’
“บ้านพักตากอากาศของครอบครัวอยู่ที่กระบี่ครับ ไกลไปหน่อย...แต่คุณพ่อชอบที่นั่น ตั้งแต่ผมเรียนตำรวจก็ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน เรามีอยู่กันไม่กี่คน ผมสร้างบ้านริมทะเลเอาไว้พักผ่อนจริงๆ เดินทางไปมาสะดวก”
“สะดวกมากนะครับ อยู่ซะลึก...ร้านค้าอะไรก็ไม่มี” อนุภาพเว้นวรรรค “แสดงความเห็นนะ ไม่ได้ประชด”
“ก็แถวๆ นี้มันสำหรับบ้านพักตากอากาศส่วนตัวนี่ครับ ไม่ใช่บางแสนพัทยา”
อธิคมซึบซับบรรยากาศรอบข้างเอาไว้ในความทรงจำ นานมากแล้วที่เขาไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายเช่นนี้ ความสนุกที่เคยมียามท่องราตรีไม่เคยทำให้เขามีความสุขได้เท่ากับช่วงเวลาเพียงชั่วโมงเดียวบนสนามหญ้าหน้าบ้านริมทะเลที่เขากำลังเอนตัวนอนข้างอนุภาพ ชายหนุ่มยังนั่งกอดเข่ามองทะเลอย่างเพลิดเพลิน เขาอยากดึงอนุภาพลงมานอนข้างๆ ถึงไม่ได้กอด แต่นอนหงายมองท้องฟ้าแล้วคุยกันก็ยังดี
สายลมยามบ่ายพัดมาเอื่อยๆ แม้จะหลับกลางวันมาแล้วแต่ไม่นานอธิคมก็หลับไปได้อีกเพราะรู้สึกสบายใจ
เขาตื่นมาอีกครั้งเมื่อตะวันเริ่มจะลับขอบฟ้า แสงอาทิตย์สีทองสาดส่องทาบทาธรรมชาติรอบข้างดูสวยงามยิ่งนัก สารวัตรหนุ่มหันไปมองรอบๆ ข้างแต่ไม่พบชายหนุ่มคนที่เขาหลงไหล
.............................................

อนุภาพลอยคลออยู่ในทะเลเงียบๆ แหงนหน้ามองท้องฟ้าสีทองยามอาทิตย์อัสดง ชายหนุ่มขยับแขนไปมาและตีเท้าเบาๆ เพื่อพยุงตัวบนผิวน้ำ นึกขอบคุณอธิคมที่ลักพาตัวเขามาสัมผัสกับธรรมชาติอันสวยงาม นานมากแล้วที่ไม่เคยได้หลุดออกมาจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ ชีวิตที่เร่งรีบ และงานที่ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาพัก
“ฮั่นแน่ แอบหนีผมมาอยู่นี่เอง” เสียงอธิคมดังขึ้นใกล้ๆ
อนุภาพตกใจ พลิกหน้าหันไปมองทำให้น้ำทะเลเค็มๆ เข้าปากและแสบตา ชายหนุ่มพยายามทรงตัว ตีเท้ากระทุ้งน้ำ ปลายเท้าแตะเข้ากับร่างกายท่อนล่างของอธิคมที่ยืนอยู่ข้างๆ
“โอ๊ย” อธิคมแกล้งร้องลั่น
“ผู้กอง...มาเงียบๆ” อนุภาพทรงตัวได้แล้ว ขยับตัวออกห่าง ปลายเท้าเขย่งเหยียบอยู่บนพื้นทราย
อธิคมยืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้า ผมดำเปียกลู่ ไหล่กว้าง เห็นแผงอกกำยำพ้นผิวน้ำ
“ไม่เห็นชวนผมเลย”
“ก็เห็นสารวัตรนอนหลับฝันหวานอยู่ เลยไม่อยากกวน”
“ตกลงคุณนุจะเรียกผมผู้กอง หรือสารวัตรกันแน่” อธิคมประท้วง “ถ้าลำบากนักก็เรียกพี่คมก็ได้นะครับ”
“เรียกคุณตำรวจเลยดีกว่า” อนุภาพพูดเสียงงอนๆ แล้วว่ายน้ำออกไปยังทะเลกว้าง
อธิคมว่ายตาม “รอผมด้วยสิ”

ทั้งสองฝ่ายน้ำไปจนห่างจากฝั่งพอสมควร อนุภาพว่ายน้ำเก่งมากจนอธิคมแทบจะตามไม่ทัน ส่วนหนึ่งก็เพราะเขายังเจ็บแขนอยู่ ชายหนุ่มลอยคลอดูพระอาทิตย์กำลังจมลงสู่ผิวน้ำเบื้องหน้าไกลลิบลับ อธิคมเริ่มหายใจหอบเพราะเหนื่อย อนุภาพยิ้มกว้างก่อนตีกรรเชียงมุ่งกลับฝั่ง
“พักซักหน่อยไม่ได้หรือคุณนุ” อธิคมถอนหายใจแล้วว่ายตาม
เมื่อใกล้ถึงฝั่ง ชายหนุ่มลงยืนกับพื้นทรายแล้วเดินขึ้นฝั่งช้าๆ ทะเลราบเรียบสะท้อนกับแสงตะวันสุดท้ายที่ระบายผิวน้ำเป็นสีทองระยับ
“ชาติก่อนคุณเกิดเป็นปลาหรือไง” อธิคมบ่น ลุยน้ำตามหลังชายหนุ่ม แผ่นหลังขาวสะอาดของอนุภาพยามเปลือยเปล่ายิ่งเพิ่มแรงปรารถนาในใจของเขา อธิคมรู้สึกความเกร็งในช่องท้องที่เริ่มก่อตัวขึ้น จุดประกายความร้อนแผ่ซ่านลงไปเบื้องล่าง
อนุภาพนุ่งกางเกงขาสั้นสีดำมีลายทรงเรขาคณิตสีขาวพาดสะโพกถึงปลายกางเกงที่เปียกลู่แนบเนื้อ อธิคมอดไม่ได้ที่จะมองช่วงล่างด้านหลังของชายหนุ่ม...อนุภาพซ่อนรูปไม่เบา ยิ่งเวลาเดิน สองขาสลับไปมา ‘ส่วนนั้น’ ของร่างกายด้านหลังเคลื่อนไหวเป็นธรรมชาติ...อธิคมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก...อยากจะกระโจนเข้าใส่
...อนุภาพ...คุณนี่ช่างทรมานผมจริงๆ... นายตำรวจหนุ่มสูดลมหายใจลึกๆ แล้วเลือกที่จะเดินตามหลังชายหนุ่มเงียบๆ กลับไปที่บ้านเพราะอยากจะซึบซับภาพตรงหน้าให้ตรึงอยู่ในความทรงจำ
**************************************************



[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
อยากกระโจนแล้วทำไมไม่กระโจนล่ะผู้กอง :z1:
 คนอ่านลุ้นกันเมื่อยแล้วนะขัดใจจริงๆเล้ย :serius2:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
สนุกมากกกกกกกกกกกก เรื่อง พี่ตำรวจ

จะบ้าตาย.........

-----------------

ตามอ่านอยู่นะคะ แต่ยังไม่ทัน แหะๆ  กรี๊ดๆๆๆๆ

ออฟไลน์ FÂntastic 1st™

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
                                                ดูแลคุณนุให้ดีๆ นะคับ
                                                                สารวัตร....  :z1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






upzyte

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นเมื่อยแล้วฮ่ะสารวัตร  เมื่อไรจะรุกคืบซ้ะทีอ่า  ไปเที่ยวกันจะครบสี่ภาคแล้วยังไม่ได้จับมือเล้ย

benxine

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
ว้าว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

ลักพาตัวแล้ว

ลักหลับไปเล๊ย.......

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
ไม่ได้อ่านหลายวัน

มาไกลเลยทีเดียว

กรี๊ดดดดดดดดดด


รักผู้กอง...อยากได้อ่ะ

อุอุ

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
สวัสดีตอนบ่ายก่อนกลับบ้านนะครับ เอาบทที่ 24 มาให้อ่านครับ ก่อนที่ผู้เขียนไปหาหมอฟัน  :m15:



ไปหาหมอฟัน หรือ จะไปฟันหมอกันแน่จ๊ะ


ออฟไลน์ mutoo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-37
หลงรักคุณนุสุดใจขาดดิ้นนนน :monkeysad:
.
.
แอบไปรอที่บอร์ดคุณพี่บ่อยๆ...รอเก้อตลอด...
..ภาคสองเมื่อไหร่จะมาต่อจ๊ะ..  :m31:
.
.
อย่ากินของหวานมากนักนะจ๊ะ..ฟันจะได้ไม่ผุ..

TAMAKUNG

  • บุคคลทั่วไป
 :impress2: :impress2: :impress2:


สู้ต่อไปนะครับ




คู่แข่งเยอะจังเลย


สู้ต่อไปนะครับ




เปงกำลังใจให้นะครับ




 :call: :call: :call: :call:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
+1 ให้นะครับ แต่ไม่ได้กลัวหาซื้อกระทงไม่ได้นะ

ให้เพราะความขยัน ยิ่งวันนี้ 2 ตอนเลย ขอบคุณครับ

มารอลุ้นกันต่อไป ว่าศาลาวัด จะทำยังไง คู่แข่งปรากฎตัวอีก 1 555.....

สมน้ำหน้า คนเจ้าชู้ จะได้รู้สึก  :z1:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ว่าแล้วเชียวต้องมีคนกลับคำ :m20: ไปหาหมอฟันจริงๆ คร้าบ ปวดฟันมาก อุดไปสองซี่
ที่สำคัญเจาะจงเลือกทำนัดกับหมอผู้หญิงด้วยครับ (กลัวอดใจม่ายหวายและเมื่อวานลอยกระทง รถติด เลยเข้าไปถึงพญาไทไม่ได้)  :เศร้า1:
สวัสดีตอนบ่ายก่อนกลับบ้านนะครับ เอาบทที่ 24 มาให้อ่านครับ ก่อนที่ผู้เขียนไปหาหมอฟัน  :m15:



ไปหาหมอฟัน หรือ จะไปฟันหมอกันแน่จ๊ะ

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
อรุณสวัสดิ์ครับ
บทที่ 25 ครับ
บทที่ 25

อนุภาพเตรียมอาหารเย็นอย่างคล่องแคล่ว เขาทำอาหารง่ายๆ --- ผัดผักและตุ๋นไข่สำหรับตัวเอง ต้มยำกุ้งและยำปลาหมึกให้อธิคมซึ่งกำลังพยายามทำหน้าที่ลูกมือช่วยล้างผัก
"เบาๆ นะครับ อย่าทำให้ผักช้ำ" อนุภาพอดห่วงไม่ได้
"คร้าบบบท่านผู้กำกับ" อธิคมล้อเลียน หันมายิ้มทะเล้น "ผมกำลังล้างมะนาวนะ"
"ผมหมายถึงตอนล้างผักชี" อนุภาพยังดันทุรัง...อีกฝ่ายอมยิ้ม แกล้งผงกหัวงึกงักทำเป็นเข้าใจ...
'ก่อนโน้นอยากให้อนุภาพเป็นผู้จัดการส่วนตัว...ตอนนี้อยากให้เป็นผู้กำกับ'
“นึกว่าผมนุ่มนวลไม่เป็นรึไง” นายตำรวจมือปราบบ่นพึมพำเบาๆ
เสียงโทรศัพท์ของอธิคมดังขึ้น เขารีบเช็ดมือ ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วเดินเลี่ยงออกไปจากห้องครัว
…..
“ว่าไงไอ้ธง โทรมากวนทำไม”
“โอ้โห เพื่อนรัก ติดต่อไม่ได้ตั้งชาตินึง รับโทรศัพท์เสียงมะนาวไม่มีน้ำเลยนะโว้ย...ข้าจะชวนแกไปงานเลี้ยงของน้องบอยว่ะ น้องบอยเพิ่งชนะประกวดสุดยอดนายแบบ แล้วตอนนี้กำลังจะเป็นดารา”
“เอ็งจะไปก็ไปคนเดียว มาเกี่ยวอะไรกับข้า ไม่เห็นรู้จักน้องบอยอะไรของเอ็ง”
“ที่จะชวนไปก็เพราะเรื่องสืบยาอีของแกด้วย มีเป้าหมายที่ต้องสงสัยมางานด้วยว่ะ แกไม่อยากได้เบาะแสหรือไง”
“ข้าไปไม่ได้” อธิคมยิ้ม “ข้าอยู่ที่บ้านริมทะเลกับคุณนุ”
“อะไรนะ” ธงรบเสียงดัง “ฮั่นแน่...แกนี่ไม่เลวเหมือนกันแฮ่ะ ว่าแต่ว่า...เอ่อ...แบบนั้นกันรึยัง”
“ทะลึ่ง...เรื่องส่วนตัวเอ็งไม่ต้องยุ่ง”
“อ้าวแต่ก่อนเห็นเล่าให้ฟังทุกที”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วพอแค่นี้นะ ข้าต้องไปช่วยคุณนุทำกับข้าว เรื่องยาอีอะไรนั่น เอ็งหาข้อมูลไว้ให้ด้วย”
อธิคมวางสายและปิดโทรศัพท์เบอร์ฉุกเฉิน เพราะรู้ดีว่าธงรบต้องโทรมา ‘รอบสอง’ ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีเพื่อกวนประสาทเขา
……
เขายืนพูดโทรศัพท์อยู่ในห้องนั่งเล่น มองไปเห็นหลังอนุภาพอยู่ในห้องครัวที่มีเพียงมู่ลี่กั้นอยู่ อนุภาพไม่ได้หันมามองเขา ยังคงง่วนอยู่กับการทำอาหาร
อธิคมเดินกลับเข้าไปในครัวเงียบๆ อนุภาพเงยหน้าขึ้นมามองแล้วก้มหน้าลงทำอาหารต่อ อธิคมอึกอัก สายตาคู่นั้นเหมือนจะถามว่า “คุยกับใคร...ทำไมต้องเลี่ยงออกไปข้างนอก”
“เอ่อ...ธงรบโทรมาครับ ถามว่าผมกำลังทำอะไร...แต่ผมปิดโทรศัพท์ไปแล้วล่ะ” อธิคมไม่รู้ว่าทำไมเขารีบ ‘รายงาน’
อนุภาพไม่พูดอะไร เงยหน้าขึ้นมายิ้มบางๆ แล้วก้มหน้าทำงานต่อ
“ผมก็บอกว่ากำลังช่วยคุณนุทำกับข้าว”
อนุภาพยังเงียบ แล้วชี้มือชี้ไปที่ถ้วยน้ำมะนาว อธิคมหยิบเดินเข้าไปให้
“แล้วคุยเรื่องคดีนิดหน่อย เขาชวนผมไปงานเลี้ยงดาราที่มีดารานายแบบต้องสงสัยซื้อยาอีมาร่วมงาน”
อนุภาพพยักหน้ารับรู้ หันหน้ามาหาอธิคม เลิกคิ้วเล็กน้อย
“ผมมีโทรศัพท์สองเครื่อง เบอร์ที่คุณใช้โทรหาผมที่ปิดไว้ตลอดวันนี้ แล้วก็อีกเบอร์หนึ่งเป็นเบอร์ฉุกเฉินที่เปิดทิ้งไว้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เฉพาะเรื่องสำคัญ...เบอร์ 085-255-6235 เผื่อคุณนุอยากรู้ แต่ว่าตอนนี้ก็ปิดแล้วด้วยเหมือนกันครับ จะได้ไม่มีใครโทรมารบกวน”
อธิคมรู้สึกเหมือนเป็นจำเลย อยู่ๆ เขาก็รีบบอกอะไรต่ออะไรออกมา
ตลอดวัน เขาปิดโทรศัพท์เพราะอยากพักผ่อนอยู่กับอนุภาพ เมื่อเช้านี้เขายังตื้อให้ชายหนุ่มปิดโทรศัพท์
“โถ่คุณนุ เงียบอยู่ได้”
“แล้วจะให้ผมพูดอะไรครับ” ในที่สุด อนุภาพก็ถาม...
“ก็ไม่เห็นคุณนุถาม”
“ถามอะไร” อนุภาพเสียงเรียบๆ มือขยับปรุงอาหารอย่างคล่องแคล่ว
“ก็ถามว่าใครโทรมา โทรมาเรื่องอะไร ทำไมต้องไปรับโทรศัพ์ข้างนอก แล้วก็....”
“ถามทำไม อยู่ดีๆ สารวัตรก็บอกมาหมดแล้วนี่” อนุภาพยกหม้อต้มยำลงจากเตา กลิ่นหอมฉุยน่าทาน จากนั้นเอากระทะขึ้นวางบนเตาเตรียมตัวผัดผัก
อธิคมถอนหายใจ...ไม่เข้าใจตัวเอง -- แค่อนุภาพเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็รีบบอกอะไรต่ออะไรไปหมดสิ้น เหมือนมีพลังอยู่ในดวงตาคู่นั้น...เหมือนมีคำสั่งให้ตอบคำถาม...รีดเค้นเอาความจริง
ถ้าผู้ต้องหาที่เขาสอบสวนอยู่คายคำตอบออกมาง่ายๆ แบบนี้ก็ดี...แค่มองตา...ผู้ต้องหาก็ต้องรีบพูด
“ผู้กองเกะกะ ออกไปรอข้างนอกก่อนเถอะครับ” อนุภาพเดินมาหยิบของบนโต๊ะ อธิคมยืนอยู่ข้างๆ ขวางทางอยู่ ไหล่ของอนุภาพกระทบแผ่นอกของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ รู้สึกร้อนวูบวาบที่ได้สัมผัสเนื้ออุ่นๆ แน่นๆ ของชายหนุ่ม ใบหน้าร้อนผ่าว ความร้อนในช่องท้องแผ่ซ่าน
“อ้าว...เมื่อกี้ผมยังเป็นลูกมือคุณนุอยู่เลย”
“ตอนนี้ใกล้เสร็จ...สารวัตรก็หมดประโยชน์แล้ว” อนุภาพแกล้งพูด
“จำไว้เลยนะ” อธิคมแกล้งทำเสียงน้อยใจ แล้วขยับเดินออกมานั่งบนเก้าอี้ที่มุมห้องครัวติดกับประตู
“หอมน่ากินจังเลย”
“กินอิ่มแล้ว ผู้กองต้องรับหน้าที่ล้างจานนะครับ” อนุภาพเรียกเขาสลับไปมาระหว่างผู้กองกับสารวัตร...อธิคมขี้เกียจแก้ให้ถูก ในใจเขาอยากให้อนุภาพเรียกเขาว่า ‘ที่รัก’ มากกว่า ไม่ก็เรียกว่า ‘คุณ’ แทนที่จะเรียกยศของเขา
“ช่วยกันล้างสิครับ ทานด้วยกันก็ต้องช่วยกัน คุณนุล้างน้ำสบู่ ผมล้างน้ำเปล่า แล้วเรามาช่วยกันเช็ดจาน”
“ผมทำกับข้าวแล้ว ผู้กองก็ล้างชาม แฟร์ๆ ดี ถ้าไม่อย่างนั้นผู้กองต้องทำอาหารเช้า”
“พูดเป็นเล่น เกิดมายังไม่เคยทำอาหารซักครั้ง พอดีไม่ต้องกินกัน” อธิคมเกาหัว
“งั้นตอนเช้าต่างคนต่างกิน” อนุภาพยิ้มกว้าง
“ตอนเช้าผมไม่กินก็ได้ เมื่อเช้านี้ก็ไม่ได้กิน พรุ่งนี้ไม่ได้กินอีกจะเป็นไรไป” อธิคมแกล้งทำหน้าบึ้ง
อนุภาพยิ้ม...คนตัวใหญ่ประชด
….

เถียงกันไปเถียงกันมากับข้าวเสร็จพอดี อธิคมเสนอว่าไปนั่งทานที่ระเบียงหน้าบ้านดีกว่า เขาวิ่งออกไปเตรียมสถานที่แล้วกลับเข้ามาค้นของกุกกักในบ้าน จนอนุภาพเดินมาตาม
“ผู้กองเสร็จหรือยังครับ หิวข้าวแล้ว เมื่อไหร่จะได้ฤกษ์ทานเสียที”
“ผมหาเทียนอยู่” อธิคมยังก้มหน้า
“งั้นก็หาต่อไปแล้วกัน ผมทานก่อนนะ อาหารจะเย็นหมดแล้ว” อนุภาพเดินไปที่ครัว เริ่มยกอาหารไปที่ระเบียงหน้าบ้าน
ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นอธิคมตั้งโต๊ะตรงระเบียงใต้ซุ้มไม้เลื้อย เก้าอี้สีขาวสองตัววางไว้ติดกัน แทนที่จะวางไว้คนละฟาก โต๊ะปูผ้าสีขาวค่อนข้างยับยู่ยี่...สงสัยไปค้นมาจากลิ้นชักในตู้...อนุภาพดึงเก้าอี้มาวางอีกฟากหนึ่งของโต๊ะทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส
เสียงของนายตำรวจหนุ่มดังออกมาจากในบ้าน
“โธ่คุณนุ รออีกนิด จุดเทียนซะหน่อยจะได้โรแมนติก”
“ผมว่าเปิดไฟง่ายกว่า สว่างกว่า ได้กินเร็วกว่า”
 อธิคมยืนอยู่ที่ประตู ตามองมายังโต๊ะทานข้าวที่เก้าอี้ไม่ได้ตั้งอยู่ที่เดิม
นายตำรวจหรี่ตามองคนที่กำลังหิวข้าว
“ทำลายบรรยากาศ...”
อนุภาพยิ้มไม่สนใจ นั่งลงเตรียมตัวรับประทานอาหาร
“โรแมนติกกับท้องอิ่ม...ผมเลือกอันหลัง” นันย์ตาของชายหนุ่มวิบวับ สบายใจที่ได้แกล้งอธิคมบ้าง
...ท้ายที่สุด อาหารเย็นมื้อนั้นก็จบลงใต้แสงไฟสีอำพัน แทนที่จะเป็นแสงเทียน”
.......

“เป็นอาหารเย็นมืออร่อยที่สุดเลยครับ” อธิคมพูดเสียงนุ่ม ยิ้มกว้าง ส่งสายตาพราวระยับ
“อยากให้คุณนุทำให้ผมทานทุกเย็น”
อนุภาพเบือนหน้าไปมองทะเลที่กำลังสาดซัดหาดทราย...ชายหนุ่มนึกไว้อยู่แล้วว่าอธิคมต้องพูดอะไรแบบนี้
“คุณนุ...” อธิคมเรียก “นั่งเงียบอีกแล้ว จะให้ผมพูดพร่ำอยู่คนเดียวหรือยังไง”
“ถ้าขี้เกียจพูดก็หยุดสิครับ”
“ไม่อยากหยุด...อยากพูด”
“อ้าว อยากพูดก็พูดไปสิ มาบ่นทำไม”
“ไม่อยากพูดคนเดียวนี่นา...อยากคุยกับคุณนุ”
“ผมยังอิ่มอยู่...คุยไม่สะดวก” อนุภาพเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ เอามือลูบท้อง
“อ๋อ ลมมันตีท้อง เรอออกมาหน่อยก็ดีนะ” อธิคมล้อ
อนุภาพกรอกตา...’เมื่อกี้ยังทำท่าโรแมนติกอยู่เลย ผู้ชายคนนี้...เชื่อเขาเลยจริงๆ’
“คุณนุครับ กลับไปถึงกรุงเทพฯ ผมขอแวะไปทานอาหารเย็นที่บ้านคุณนุบ้างได้ไหม”
อธิคมเริ่มรุกมากขึ้น อนุภาพอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
“ที่คอนโดผมไม่มีครัว”
“โกหก...ผมรู้ว่าคุณมีครัว”
“รู้ได้ยังไง” อนุภาพถาม
“ก็เอ่อ...” อธิคมอึกอัก เกือบจะบอกแล้วว่า ‘ก็ถามแม่บ้านที่ทำห้องคุณนะสิ คุณทำอาหารอยู่บ่อยๆ’ แต่ยั้งไว้ทัน
“ผมรู้ก็แล้วกัน” เขารู้ว่าอนุภาพจะพูดอะไร
“อ้อลืมไป เพราะคุณเป็นตำรวจ เลยสืบจนรู้ได้ทุกอย่าง”
"คงงั้นมั๊ง"
"..."
“คุณนุครับ...ผมไม่อยากให้อะไรดีๆ ที่มันเกิดขึ้นที่บ้านริมทะเลสุดสัปดาห์นี้จบลงแค่นี้ ผมยังอยากให้มันเกิดขึ้นอีก...ที่ในกรุงเทพฯ...ในชีวิตประจำวันของเรา” อธิคมตัดสินใจรุกประชิด...รอไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวธงรบล้อว่า เงอะงะ...ไม่ทันกิน...ไร้น้ำยา...สารพัดที่จะสรรหามาดูถูก
…..
เขายื่นมือมาจับมืออนุภาพ ชายหนุ่มเกร็งมือเล็กน้อยเหมือนจะดึงมือออกแต่ก็ไม่ทำ อธิคมกุมมือแน่นขึ้น
“คุณนุก็รู้ว่าผมคิดกับคุณยังไง...ให้โอกาสผมบ้าง...ถ้ายังไม่รู้สึกอะไรกับผมตอนนี้ก็เปิดประตูแง้มๆ ไว้ให้ผมบ้างนะครับ”
อนุภาพไม่รู้ตัวว่าตัวเองหน้าแดง โชคดีที่อธิคมมองไม่เห็นเพราะแสงไฟสลัวสีอำพันจากโคมไฟตรงระเบียง แต่อธิคมเห็นสีหน้าขัดเขินของชายหนุ่ม ตาหลุบลงมองที่พื้นโต๊ะ
อนุภาพอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะพูดอะไรดี หูอื้ออึงแทบไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง ในใจนึกประหวั่นว่าอธิคมจะบอกรัก
...เขายังไม่พร้อม...เขายังไม่รู้ว่าจะลบอดีตที่ฝังแน่นอยู่ออกไปได้หรือไม่...หรือเมื่อไหร่...เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ภาพของชายหนุ่มสองคน--อธิคมและธนาภพ--ซ้อนทับกันอยู่ในห้วงคำนึงของเขายามล้มตัวลงนอนในทุกค่ำคืน...
...เขายังลบภาพธนาภพออกไปจากใจไม่ได้...

ทั้งสองไปเดินเล่นริมทะเล อธิคมอยากจะจับมือกันเดินไปเรื่อยๆ แต่เขาจำต้องอดทนไม่ทำเช่นนั้นเพราะกลัวว่าอนุภาพจะรู้สึกประดักประเดิด...เขาเลือกที่จะเดินล้วงกระเป๋า ทอดน่องเคียงข้างไปกับอนุภาพช้าๆ มองทะเล...มองท้องฟ้ายามค่ำคืนไปเรื่อยๆ ปราศจากการพูดคุยด้วยคำพูด...ไม่อยากให้เสียงใดๆ มารบกวนการคุยกันเงียบๆ ของหัวใจทั้งสองดวง
ความเงียบ...คนสองคนคุยกันโดยไม่ใช้คำพูด...นายตำรวจหนุ่มรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสอดประสานกับอนุภาพที่กำลังเดินอยู่ข้างๆ ไหล่กระทบกันบ้างเป็นครั้งคราว...
สัมผัสกายเพียงน้อยนิด...สร้างความหฤหรรษ์ให้แกเขาได้มากกว่าสัมผัสเร่าร้อนรุนแรงครั้งใดกับใครๆ ที่เขาเคยผ่านมาตลอดช่วงเวลาชีวิตรักสนุกของเขา
อธิคมยิ้มกับช่วงเวลาแห่งความสุขสั้นๆ ที่กำลังตรึงอยู่ในความทรงจำ...
...เขาไม่มีญาณรับรู้อนาคตว่าภาพของชายคนหนึ่งที่ทับซ้อนจางๆ กับภาพของเขาในห้วงคิดคำนึงของอนุภาพกำลังจะเด่นชัดเป็นตัวตนที่จับต้องได้...
 **********************



YO DEA

  • บุคคลทั่วไป

upzyte

  • บุคคลทั่วไป
ฟินนาเล่เลย   ได้จับมือแร้ว  โชคดีๆจริงๆที่ตื่นเช้ามาอ่าน

yaoifan

  • บุคคลทั่วไป
มีจับมือถือแขนกันแล้ว :กอด1:

อย่างนี้เรียก โจรในเครื่องแบบหรือเปล่าครับ

เมื่อคืนไม่ได้ไปลอยกระทงกับใครเลย

เลยไม่ เสีย...  ให้ใคร อิอิ :L3:


+1 ให้ระคร้าบบบบบ :call:
 :bye2:

ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4
อ่านถึงบรรทัดล่างๆ แล้ว
งานนี้จะมี "ยามเมื่อลมพัดหวน" ไหมเนี่ยคุณนุ :เฮ้อ:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด