Setting Sun ☀ อาณาจักรพระอาทิตย์ : ประกาศร่วมเล่ม หน้า 1 (5 March 19)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Setting Sun ☀ อาณาจักรพระอาทิตย์ : ประกาศร่วมเล่ม หน้า 1 (5 March 19)  (อ่าน 128723 ครั้ง)

ออฟไลน์ himoru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
สงสารพี่ซันนะ ที่สุดของพี่ซันคือตอง
แต่สำหรับตองไม่ใช่พี่ซัน
เข้าใจตองนะ คนเป็นพ่อ
แต่ก็อดสงสารพี่ซันไม่ได้ ในชีวิตเคยได้อะไรบ้าง
ชีวิตพี่ซันมีแต่ตอง ทนทุกอย่างเพื่อตอง แต่ตองไม่เคยมองเลย ตอนนี้ตองยังเด็กเข้าใจ
แต่สงสารพี่ซัน สงสารทั้งๆที่หมั่นไส้นี่แหละ เฮ่อออออออ

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Chapter 32 Trouble

สุริยะ หยางกลับมาจากปักกิ่งหลังจากต้องไปประชุมกับรัฐบาลถึงสองอาทิตย์ ร่างกายเมื่อยล้าไปหมดแถมยังหงุดหงิดเพราะเป็นสองอาทิตย์แห่งความยุ่งเหยิง ยังไม่ถึงช่วงเปลี่ยนสมัยด้วยซ้ำแต่พวกรัฐบาลก็เริ่มระแวดระวังกันแล้ว

ยังดีที่จุดยืนของเขาไม่เป็นภัยต่อรัฐบาล แต่เพราะเอื้อประโยชน์หลายอย่างก็เลยถูกเรียกเข้าร่วมประชุมบ่อยครั้ง ที่น่าหงุดหงิดคือสุดท้ายต้องมาอยู่ร่วมฝ่ายกับรัฐมนตรีหวง แม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้วหลังจากผลงานไม่ค่อยเข้าตาเติ้งเสี่ยวผิงอยู่หลายอย่าง แต่เขาก็ยังอยู่ในกลุ่มคณะปกครอง

ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องจะให้เขาแต่งงานกับลูกสาวบ้านไหนอีกแม้แต่ประธานาธิบดี ทุกคนเข้าใจไปว่าที่เขาย้ายฝ่ายไปเข้ากับอีกกลุ่มเพราะว่าลูกสาวรัฐมนตรีหวงหักหน้า หนีการแต่งงานโดยการขโมยหลานชายของเขาหายไป

หลังๆ มานี้สุริยะ หยางผลงานเข้าตาคณะปกครอง ทำให้ผู้ใหญ่หลายคนก็เปรยๆ เชิงตำหนิรัฐมนตรีหวงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่โจ่งแจ้งขนาดนั้นเพราะเรื่องงานมาก่อนเรื่องส่วนตัว แถมประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมิงเอ่ยปากว่าจะไม่ยุ่งเรื่องแต่งงานของเขาอีก ก็ไม่มีใครกล้าพูดแล้ว



มือหนาถอดเสื้อคลุมพาดกับโซฟา พยักหน้ารับชิวซีที่เดินเลี่ยงข้ามสวนไปยังศาลาพระอาทิตย์ การกลับมาถึงเซี่ยงไฮ้ยามห้าทุ่มในบ้านมีแต่ความเงียบงัน

ขายาวก้าวไปที่ห้องกระจกที่ตอนนี้กลายเป็นห้องเด็ก เบาะนอนมีคอกกั้นรอบด้านมีโมบายกระต่ายห้อยเปิดเพลงกล่อมเด็ก พระจันทร์ตัวเล็กนอนอยู่คนเดียวในนั้น มีขวดนมที่ยังดูดไม่หมดกลิ้งหล่นอยู่ข้างๆ มือหนาเอื้อมไปหยิบออกมาวางไว้ดีๆ

กระต่ายยางหลายตัววางอยู่ตามมุม เจ้าจันทร์จะสองขวบแล้ว แก้มยุ้ยปากเล็กตาโต ไม่ค่อยคล้ายกันติชาเท่าไหร่ แต่คุณจินเคยบอกว่าลูกชายต้องหน้าเหมือนแม่ถึงจะไม่อาภัพ เขาก็จำหน้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้อยู่ดี เอาเป็นว่าชาตินี้ทั้งชาติศศิมณฑลไม่อาภัพหรอก เขารวยขนาดนี้จะปล่อยลูกกันติชาอาภัพได้ยังไง?

สุริยะ หยางนั่งอยู่บนขอบกั้นคอกเด็กมองสิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่ตอนนี้ตัวใหญ่กว่าปลาแล้ว ผ้าห่มผืนหนา ถุงมือ ถุงเท้าเจ้าจันทร์ยังต้องใส่เพราะไม่สบายบ่อย หลายครั้งก็คิด...ว่าการมาเซี่ยงไฮ้ทำให้เจ้าตัวเล็กต้องเหนื่อยเกินไปหรือเปล่า

ความดึงดันของเขากับกันติชาที่จะอยู่ด้วยกันอาจจะไม่ได้เหมาะกับศศิมณฑลเลย



“พี่ซันกลับมาแล้วหรอครับ”

กันติชาในชุดคลุมหลวมๆ เดินเข้ามา แขนแกร่งอ้ากว้างรับคนตัวบางเข้ามากอด กลิ่นสบู่หอมกรุ่นกับปลายผมเปียกชื้นบอกว่าเจ้าตัวคงเพิ่งไปอาบน้ำมา

“ทำไมอาบน้ำดึก อากาศยังเย็นอยู่เลย”

“ลูกไม่ยอมนอนน่ะครับ เล่านิทานสามเรื่องก็ยังไม่หลับ สงสัยตองเล่าไม่สนุกเท่าพี่ซัน”

บ่นแกมหัวเราะก่อนมือบางจะยกขึ้นสัมผัสใบหน้าของสุริยะ หยาง ดวงตาหรี่ลงก่อนจะยกยิ้มมุมปาก

“ไม่เจอกันสองอาทิตย์ ผัวตองเป็นคุณปู่แล้วหรอครับ?”

คนโดนล้อว่าแก่ดึงมือเล็กมากัดเบาๆ

“สงสัยต้องพิสูจน์แล้วมั้งว่าแบบพี่เขาเรียกรุ่นใหญ่ไฟแรง กินเมียเด็กได้ทั้งคืน”

ตั้งแต่มีลูก ความสัมพันธ์ลึกซึ้งก็ไม่ได้บ่อยครั้งเหมือนแต่ก่อน เพราะเจ้าจันทร์มักจะตื่นมางอแงกลางค่ำกลางคืน จะอ้อยอิ่งกันก็ไม่ได้เพราะกลายเป็นว่าค้างทั้งคู่ ต้องลุกมาอุ้มลูกที่ร้องงอแง

สุริยะ หยางก็ไม่อยากจะหงุดหงิดที่กันติชาเลือกลูกก่อน เพราะเจ้าตัวเล็กเป็นคนสำคัญของทั้งเขาและกันติชา แถมยังป่วยบ่อย พอร้องนิดหน่อยกันติชาก็กังวลไปหมด

“ทะลึ่งแล้วครับพี่ซัน ตองช่วยอาบน้ำดีกว่า จะได้มานอนพัก”

“พี่อาบเองก็ได้ ตองมานอนกับลูกไป”

“ลูกไม่ตื่นเร็วๆ นี้หรอกครับ เพิ่งหลับเอง...แช่น้ำดีกว่าครับพี่ซัน...ตองนวดให้นะ?”



สุริยะ หยางยกยิ้มมุมปากนั่งอยู่ขอบเตียง มองกันติชาที่คุกเข่าอยู่ข้างหน้า สองมือเล็กถอดถุงเท้าให้เขาทีละข้าง ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องทำให้ขนาดนี้ก็ได้

“อวิ๋นอยากทำให้...ไม่ได้หรอครับ?”

กันติชาในวัยยี่สิบสองเย้ายวนไปคนละแบบกับตอนอายุสิบห้า กลิ่นไอแบบผู้ใหญ่ คำพูดและรอยยิ้มทุกอย่างให้ความรู้สึกเย็นสบายอย่างบอกไม่ถูก สาบเสื้อที่ร่วงหล่นลงมาเปิดไหล่บางทำให้ ‘คุณปู่’ ต้องทอดถอนใจ

เมื่อถุงเท้าถูกทอดออกสุริยะ หยางก็ต้องกัดฟันเมื่อเมียเด็กช้อนตาขึ้นมามอง ปากเล็กยกยิ้มแล้วทาบมือลงกับหน้าขาเขาก่อนจะชันเข่าขึ้นมาจนใบหน้าเคลื่อนเข้ามาใกล้

“อวิ๋นถอดเข็มขัดให้นะครับ”

นิ้วสวยขยับเคลื่อนเชื่องช้าอย่างตั้งใจบนต้นขาแกร่ง สุริยะ หยางหรี่ตามองคนยั่วที่ค่อยๆ แกะเข็มขัดให้อย่างอ้อยอิ่ง แก้มขาวขึ้นสีเรื่อ...น่ารักไปแล้วอวิ๋น

เข็มขัดถูกดึงออกไป สุริยะ หยางก็ถูกดึงให้ยืนขึ้น มือหนาขยับโอบเอวบางเมื่อกันติชาเขย่งเท้าแกะกระดุมคอให้ กระดุมหลุดทีละเม็ด ละเม็ด...ไม่ได้สังเกตกระดุมเท่าไหร่เพราะสายตามัวแต่จรดจ้องใบหน้าคนแก้มแดง

“ลวนลามพี่แล้วแก้มแดงเองได้ยังไง หืมอวิ๋น?”

“ก็พี่ซันไม่เขิน อวิ๋นก็เขินแทนไงครับ”

คนโดนแซวยู่ปากเล็กน้อย...ไอ้ท่ายู่ปากของศศิมณฑลคงจะเลียนแบบคุณพ่อแก้มแดงคนนี้มาแน่ๆ มือหนายกขึ้นบีบแก้มแดงๆ ด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะขยับออกเล็กน้องดึงเสื้อออกจากตัว กำลังจะดึงกางเกงลงก็ต้องชะงักเมื่อกันติชาคุกเข่าลงตรงหน้า แล้วจัดการปลดกระดุมกางเกงของเขาช้าๆ ซิปกางเกงเลื่อนต่ำลง ก่อนกางเกงแสล็คจะถูกดึงจนหล่นไปกองกับพื้นพร้อมกับชั้นใน ไม่ทันได้ตั้งตัวปากเล็กก็สัมผัสความเกรี้ยวกราดกลางตัว

กันติชา...คนร้ายกาจ

สุริยะ หยางหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเมื่อปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในโพรงปากเล็ก...บางส่วนเลอะเทอะไปบนใบหน้าเนียนของคนที่รับไว้ไม่ได้ทั้งหมด

“เลอะเทอะแล้วอวิ๋น...คงต้องอาบน้ำกับพี่อีกรอบแล้วล่ะ”



ตาคมกวาดมองผิวขาวผ่องที่ขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความพึงพอใจ คลื่นน้ำในอ่างขนาดกว้างถาโถมตามจังหวะเขาเคลื่อนตัวจนบางส่วนล้นออกไปจากขอบอ่าง

“อวิ๋น...อา”

สองมือยึดสะโพกนิ่มของคนที่คว่ำหน้ายึดขอบอ่างไว้แน่น

“พะ พี่ซัน...แรงๆ”

ควันจากน้ำอุ่นลอยละล่องไปทั้งห้องน้ำ กระจกบานกว้างด้านหน้าเห็นเงาคนสองคนร่วมรักในความเลือนราง



สุริยะ หยางโอบประคองคนหมดแรงมานอนเกยบนตัว ทั้งคู่ยังคงตระกองกอดกันอยู่ในอ่างน้ำที่เหลือน้ำเพียงครึ่งอ่าง มือหนาบีบคลึงสะโพกนิ่มที่ยังมีน้ำรักคั่งค้างอยู่ข้างใน

ปลายจมูกก้มแตะลงที่กลุ่มผมเปียกชื้น มืออีกข้างเชยคางคนอ่อนล้าขึ้นมารับจูบครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนพายุในอ่างน้ำจะเริ่มต้นขึ้นอีกรอบเมื่อกันติชาขยับตัวขึ้นมานั่งคร่อมตักแกร่ง

เกมนี้สุริยะ หยางไม่ได้เป็นคนคุมจังหวะ...หน้าที่เดียวที่มาคือการให้ความรักกับลูกเชอร์รี่สองลูกบนแผ่นอกเนียน..สีแดงระเรื่อหวานอร่อยไปทั้งเนื้อทั้งตัว



สุริยะ หยางทิ้งตัวลงนอนซ้อนหลังกันติชา เกือบตีสี่ทั้งคู่ถึงพากันลงมานอนกันในคอกเด็ก ตั้งแต่ย้ายกลับมาอยู่ที่นี้น้อยครั้งมากที่จะไปนอนกันข้างบน

“นอนได้แล้วอวิ๋น”

สุริยะ หยางกดจมูกหอมไหล่บาง

“พี่ซัน...จริงๆ ช่วงนี้ตองมีเรื่องกังวลกับลูกเยอะไปหมด”

“หืม? เรื่องจันทร์ป่วยบ่อย?”

เจ้าจันทร์ป่วยกระเสาะกระแสะมาตลอด แต่เด็กมักป่วยง่ายอยู่แล้วเพราะภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่ แต่เห็นว่าก็ป่วยน้อยลงกว่าตอนมาแรกๆ เยอะแล้วเหมือนกัน

“นั่นก็ด้วย...”

“ไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวเขาก็แข็งแรงขึ้น โรงพยาบาลก็อยู่ใกล้แค่นี้ จันทร์ไม่เป็นอะไรแน่นอนเชื่อพี่”

“พี่ซัน...ตองอยากพาลูกกลับไทย”

ดวงตาคมที่พริ้มหลับเบิกกว้างในทันที อาการง่วงงุนหายวับเป็นปลิดทิ้ง สุริยะ หยางดันตัวขึ้นลุกนั่ง มือหนาคว้าแขนกันติชาดึงขึ้นให้หันมาหากัน

“ตองหมายความว่าไง?”

“พี่ซัน...ตอง ตองไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ที่นี่ไม่มีอะไรเหมาะกับลูกเลย”

ในความมืดยามตีสี่ สุริยะ หยางมองไม่ออกว่าแววตาของกันติชาเป็นยังไง แต่น้ำเสี่ยงสั่นไม่มั่นใจบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังหวาดกลัว...กลัวอะไร?

“ตอง ไปกันใหญ่แล้ว ทำไมคิดแบบนั้น ลูกก็ป่วยน้อยลงตั้งเยอะแล้วนะ...แล้วที่นี่ก็มีพร้อมทุกอย่าง เราสร้างอนาคตให้ลูกด้วยกันที่นี่ได้ ทำไมต้องอยากกลับไทย...ที่นี่เป็นบ้านตอง บ้านพี่ บ้านเรา?”

“พี่ซันแทบไม่ได้อยู่กับเขา ไม่ได้อยู่กับตอง พี่ซันจะไปรู้อะไรว่าที่ผ่านมาตองต้องรับมือกับอะไรบ้าง ฮึก...พี่ซัน..ฮืออ พี่ซันไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลย”

เสียงร้องไห้โฮทำให้สุริยะ หยางรู้สึกวูบโหวงกลางอก กันติชาร้องไห้จนตัวสั่นไปหมด แต่ตอนนี้เขาเองก็ทำอะไรไม่ถูก ชีวิตครอบครัวที่มีครบทุกอย่าง...อยู่ๆ คนที่เดินร่วมทางกันมากลับบอกว่าเขาไม่รู้อะไรเลย

“แงงงง”

ศศิมณฑลร้องไห้ออกมา คงเพราะการเถียงกันของผู้ใหญ่ทำให้เจ้าหนูตกใจตื่น

“ถ้าพี่ไม่รู้อะไร แล้วทำไมตองไม่คิดจะบอกกัน? เช็ดหน้าเช็ดตาเถอะ...พี่ให้เวลาตองก่อนแล้วกัน เดี๋ยวพี่อุ้มจันทร์เอง”

สุริยะ หยางขยับตัวไปอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นเดินออกจากห้อง เสียงงอแงดังลั่นบ้านไปหมด พยายามจะปลอบด้วยวิธีเล่านิทานสงครามกระต่ายชิงสวนแคร์รอทที่เจ้าหนูมักจะหายร้องไห้ยามตื่นมางอแงกลางดึก แต่วันนี้เสียงเล่านิทานของเขากลับสั่นพร่าอย่างแปลกประหลาด

“ตกใจไม่ต่างกันหรอก...พ่อเขาไม่สบายหรอไหนบอกลุงหน่อย? ...หรือใครมาแกล้งพ่อ...ทำไมพ่ออยากจะหนีจากลุงไปล่ะเจ้าจันทร์?”

ไม่มีคำพูดอะไรนอกจากตากลมโตชื้นน้ำที่มองมา กับสองมือเล็กที่ยกขึ้นมาแตะเบาๆ ที่ใบหน้า

“ลุง ลุง...โอ๋”

สุริยะ หยางโอบกอดเจ้าตัวเล็กที่ยกมือป้อมมากอดคอเขาไว้

“ช่วยลุงด้วยนะจันทร์ บอกพ่อ...ว่าลุงรักพ่อ อย่าทิ้งลุงไปเลย”



บรรยากาศยามเช้าในบ้านเงียบงันและอึดอัด กันติชาไม่สบตาสุริยะ หยางเลยตลอดมื้อเช้า แถมยังกินน้อยแล้วรีบลุกไปป้อนข้าวลูก คนโดนทิ้งไว้ในห้องอาหารคนเดียวก็เพียงแค่นั่งดื่มชาเงียบๆ ไม่คิดจะรั้งอีกฝ่ายไว้

ชิวซีเดินมาเติมชาในถ้วยแล้วถอยกลับมายืนเยื้องไปทางด้านหลัง ท่าทางครุ่นคิดของสุริยะ หยาง กับนิ้วแข็งแรงที่ไล้วนขอบถ้วยชา...อาการเวลาเครียดจัดที่ช่วงนี้ได้เห็นบ่อยครั้ง

“เครียดไม่ดีนะครับ อาการจะแย่ลง”

“ชิวซี...ตองอยากกลับไทย”

“ก็ไม่แปลกครับ กลับไปเยี่ยมญาติพระจันทร์ของเขาบ้าง”

“ไม่...เขาอยากพาลูกกลับไปอยู่ที่ไทย”

“ความเครียดจากการเลี้ยงลูก ส่วนมากแม่บ้านปกติจะเป็นกันครับ แต่หยางอวิ๋นต้องทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่แล้วเขายังต้องเรียนอีก เขามีเรื่องต้องห่วงไปหมด แล้วเสี่ยวเยว่ก็ป่วยบ่อย ถึงจะป่วยน้อยลงแล้วแต่สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ลูกป่วยก็คือป่วย ไหนจะปัญหาจุกจิก กว่าจะป้อนข้าว อาบน้ำ เด็กๆ นิดเดียวก็ร้องไห้ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเขาร้องไห้เพราะอะไร...หยางอวิ๋นจะเครียดก็ไม่แปลกหรอกครับ ตอนอยู่ไทยคุณจินยังช่วยดูช่วยอุ้ม พอมาที่นี่มีแค่แม่บ้าน หยางอวิ๋นไม่มีทางไว้ใจแม่บ้านเท่ากับพี่สาวตัวเองอยู่แล้ว ถึงให้แม่บ้านกลับไปทุกเย็น...อดทนหน่อยนะครับ”

“เคยมีลูกหรอชิวซี?”

“เรื่องพวกนี้ถามคนมีประสบการณ์เอาก็ได้ครับ”

“อวิ๋นบอกฉันไม่รู้อะไรเลย...ชิวซี ฉันพยายามไม่พอใช่ไหม”

“คนเราเวลาโกรธ สติแตกก็พูดอะไรออกมาได้หมดล่ะครับ หน้าที่ของคุณทั้งคู่แบ่งกันชัดเจน คุณดูเรื่องนอกบ้าน หยางอวิ๋นดูเรื่องในบ้าน แต่ปัญหาของคุณทั้งคู่คือไม่มีใครเล่าเรื่องตัวเองให้อีกฝ่ายฟังสักคน คุณเล่าทุกเรื่องให้ผมรับรู้ แต่หยางอวิ๋นไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ว่าข้างนอกบ้านคุณต้องเจอกับอะไร เหมือนกับที่เขาก็ไม่เคยเล่าอะไรให้คุณฟัง”

“ฉันไม่อยากให้เขาเครียด...ก็คงเหมือนกันที่เขาก็ไม่อยากให้ฉันเครียด”

“ใช่ครับ แล้วจะเป็นชีวิตคู่ได้ยังไง?”

“ตั้งแต่มีคู่นี่ประสบการณ์เยอะนะ? แล้วทำไมไม่เตือน?”

อดไม่ได้ต้องกัดคนสนิทไปสักคำ แต่ชิวซีก็คือชิวซีหน้าหนากว่ากำแพงไม่แม้แต่จะเขิน แถมยังทำหน้าตายเป็นแจกันแข็งทื่อ

“หยางหวาง ถ้าผมสอดมือเข้าไปยุ่งกับชีวิตคู่คุณทั้งสองคนมากเกินไป มันจะเรียกชีวิตคู่ได้ยังไงครับ มันเป็นเรื่องปกติที่ต้องทะเลาะกันบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง ก็อยู่ที่พวกคุณจะไปต่อหรือยอมแพ้”

สุริยะ หยางยกมือเสยผมตัวเองแรงๆ ใช่...มันก็ต้องมีปัญหากันบ้าง ก็ต้องแก้ไขต้องปรับความเข้าใจ ไม่มีทางที่อยู่ด้วยกันแล้วจะหวานชื่นกันไปได้ตลอด...แค่ต้องผ่านมันไปให้ได้

“ไม่ต้องเป็นแล้วมั้งผู้ช่วยฉัน ไปเป็นกูรูรับปรึกษาปัญหาหัวใจไป”

“ดีครับ งั้นต่อไปถ้าคุณต้องการความเห็นผมจะคิดค่าปรึกษาครั้งละพันหยวน”

“ไปเขียนใบลาออกเลยไป”

“ไม่เขียนครับ งานดีเงินดี สวัสดิการก็ดี อยู่ฟรี กินฟรี ได้อยู่บ้านข้างๆ จักรพรรดิพระอาทิตย์อีกด้วย”

“ไล่ออก! ”

“คุณเป็นเจ้าของแต่ไม่ได้มีสิทธิ์ในการบริหารกิจการตัวเอง คุณต้องแจ้งผ่านไปที่คณะผู้บริหารว่าจะไล่ผมออก เรื่องก็ต้องไปถึงหัวหน้า HR แล้วเขาก็ต้องทำเรื่องสอบถามกลับมาว่าคุณมีเหตุผลอะไร เพราะถ้าผมร้องเรียนกับรัฐบาลเรื่องการไล่ออกที่ไม่เป็นธรรม อาณาจักรพระอาทิตย์ก็จะต้องยอมให้รัฐเข้ามาตรวจสอบ เรื่องก็ต้องส่งไปศาลแรงงาน พอค้นไปค้นมา เจอทุจริต...อาจจะเจอเร็วกว่านั้นด้วยเพราะผมเก็บความลับของคุณไว้เยอะมาก...ไล่ผมออกก็ไม่เป็นผลดี ดังนั้นเสียเงินค่าปรึกษาครั้งละพันหยวนดีกว่าครับ เริ่มจากครั้งนี้เลย คำแนะนำว่าไม่ควรไล่ผมออก อนุญาตให้ทบไปจ่ายทีเดียวปลายเดือนได้ เราคนกันเอง ดีไหมครับคุณลูกค้า?”

สุริยะ หยางตบโต๊ะลุกขึ้นถลึงตาใส่คนสนิท อยากจะด่ามันแต่โมโหจนพูดไม่ออกเลยได้แต่ยื่นมือไปคว้ากาน้ำชามาถือเองแล้วหิ้วเดินหนีออกจากห้องครัว จะเดินไปห้องเด็กก็ยังไม่พร้อมจะคุยกับกันติชาเลยทำได้แค่เดินกระแทกเท้าไปที่ริมบ่อปลา แต่พอจะรินน้ำชาก็พบว่าตัวเองไม่ได้หยิบถ้วยชามาด้วย

“ถ้วยครับหยางหวาง”

“ไสหัวไป! ไปเรียกอาเฟยมา”

“อาเฟยหยุดครับวันนี้ ถ้าคุณอยากบ่นกับใครสักคนก็มีแค่ผม เหมาจ่ายหมื่นหยวนคุณหิ้วกามานั่งคุยกับผมได้ทั้งคืนเลยครับ”

“ใครก็ได้แต่ไม่เอามึง! ไอ้คนหน้าเลือด”

“งั้นก็มีอีกหนึ่งตัวเลือกครับ”

“ใคร?”



“เออดี อย่างน้อยฉันก็มีแก”

สุริยะ หยางปรายตามองกระต่ายหูยาวที่ชิวซีไปพามานั่งตรงข้ามกัน แถมยังกวนประสาทเอาถ้วยชาอีกใบมารินชาให้มันด้วย ปั้นชามันคงมีปากมาดื่มหรอกนะ

ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องมาคุยกับตุ๊กตา อาจจะเพราะชิวซีก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแล้ว คำแนะนำของชิวซีที่ให้มาเป็นเขาต้องตัดสินใจว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง เขารู้ว่าต้องคุยกับอวิ๋น แต่ถ้าอวิ๋นไม่อยากอยู่ด้วยกันแล้ว? จะให้ใจร้ายรั้งอวิ๋นไว้เขาก็ทำไม่ลง

เพราะรักมากเกินไป...กลัวว่าการดึงดันจะผูกมัดไว้จะยิ่งทำให้อีกฝ่ายเสียใจ ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยลังเลกับเรื่องไหนนอกจากเรื่องของอวิ๋น...ตำแหน่งในหัวใจที่มอบให้อีกฝ่าย สูงลิบลิ่วยิ่งกว่าสายล่อฟ้าที่งอกจากยอดหลังคาอาณาจักรพระอาทิตย์ขึ้นไปอีก

“ฉันจะคุยกับอวิ๋นยังไง...เขาจะพาเจ้าลูกกระต่ายกลับไทย แต่ฉันอยากให้เขาอยู่กับฉัน กว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันมันไม่ง่ายเลย...ฉันไม่อยากเสียอวิ๋นไป เข้าใจไหมปั้นชา? หรือเขารู้สึกว่าฉันไม่รักลูกเขา? ฉันกับเจ้าลูกกระต่ายก็ออกจะเข้ากันได้ดี ครอบครัวเราก็มีพ่อ ลูก ลุง มันก็ครบแล้ว...หรือเขาไม่อยากได้ลุงอีกต่อไปแล้ว?”

ไร้เสียงตอบรับ แถมลมพัดแรงหันมาอีกทีเจ้าปั้นชาก็ล้มหล่นตุ้บลงไปในบ่อปลา ฝูงปลาคาร์ฟลูกรักหลากสีว่ายแตกฮือด้วยความตกใจ

สุริยะ หยางเองก็ตกใจรีบลุกไปเอากระชอนยักษ์ที่คนทำความสะอาดใช้ตักตะไคร่น้ำมาช้อนกระต่ายหูยาวที่คว่ำหน้าลอยไปไกลขึ้นมาจากน้ำ... ขอคำปรึกษาครั้งแรก ผู้ให้คำปรึกษาก็ชิงกระโดดน้ำฆ่าตัวตายก่อนเลย ปัญหานี้มันไม่ธรรมดาแล้วล่ะ

“ชิวซี! ชิวซี มาเอาปั้นชาไปหาหมอ กระต่ายจมน้ำตายแล้วโว้ย!! มาเอาเงินไปด้วยสองหมื่นหยวนเลย คืนนี้มึงไม่ต้องนอน! มาช่วยกูคิดแผน A-Z เดี๋ยวนี้”

มองกระต่ายเปียกในมือแล้วก็เครียด ถ้าคืนนี้อวิ๋นถามหาปั้นชาจะเอาตัวไหนไปคืนให้? เป็นกระต่ายตัวโปรดของเจ้าตัวเขาด้วย จะอบก็กลัวความร้อนจะทำให้มันหด อวิ๋นน่าจะชอบกอดมันไซส์ปกติมากกว่า เปลี่ยนร่างเป็นกระต่ายดีไหม? เผื่ออวิ๋นจะเห็นใจกันบ้าง



------

กลับมาอัพแล้วจ้า

ให้กำลังใจพี่ซันกันนะคะ <3 นางตกใจของนางอยู่

ส่วนฉากพี่ซันคุยกับกระต่าย ก็คล้ายๆ เจ้าลูกกระต่ายคุยกับสินเชื่อแหละค่ะ 555555555555555 ได้รับอิทธิพลกันมา

พยายามให้มีความเครียดนิดๆ แต่ไม่ดราม่าขนาดปวดตับปวดไต ช่วงนี้พี่ซันอาจจะดูเด๋อๆ ด๋าๆ ไปบ้าง แต่อย่าเพิ่งหมดความหวังกับพี่ซันนะคะ พี่ซันเท่จริงๆ พระเอกของแบมคนนี้เท่มากๆ บอกเลย แม้ตอนนี้จะเป็นลุงแล้วก็ตาม แถมเป็นลุงที่ยังคงเข้าใจ (ไปเอง) ว่าเมียเครซี่กระต่าย -…-


















ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สงสารเฮียซัน

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ส่งกำลังใจให้พี่ซันนะ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
มันเครียดไม่สุดแต่ก็เครียดอ่ะพี่ซันนนนนนนนนนนน  :hao5:
ยังดีที่มีชิวซีถึงค่าปรึกษาจะแพงมากก้เถอะ 55555555

ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
โอ๊ยยยย  พี่ซัน! ลุงข้างบ้าน! คุณสุริยะหยาง! กำลังจะกังวลไปด้วยแต่ก็เบรกหัวทิ่ม อะไรคือเมียชอบกระต่าย ที่ปรึกษาชิงกระโดดน้ำตาย 555555 ชิวซีเป็นทุกอย่างให้เธอเเล้วจ้าาาาา

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
สงสารพี่ซัน รักตองมากๆ จริงๆ
ประโยคนี้สะท้อนใจมา ...ช่วยลุงด้วยนะจันทร์ บอกพ่อ...ว่าลุงรักพ่อ อย่าทิ้งลุงไปเลย... สะท้อนใจเหลือเกิน

ว่าไปพี่ซันนี่ลึกๆ แล้วคิดดีนะ เข้าใจอะไรง่าย ไม่คิดรั้ง ไม่ดึงดัน แค่ตองไม่เสียใจ

แต่พี่ซันก็เจ้าเล่ห์ แค่คิดแผน A ถึง Z ... ยังไงก็ต้องรับมันให้ได้ แค่ต้องใช้เวลานะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เป็นพระอาทิตย์ที่เก่งกาจ ร้อนระอุ  :a2:
แต่พอเป็นเรื่องของหัวใจที่อยู่ในอุ้งมืออวิ๋น :z9:
พี่ซันก็วุ่นวาย เวิ่นเว้อ ไปหมด   :z3:
ชิวซี ได้เงินสองหมื่นทันทีทันใด  :m20: :laugh:

สุริยะ  กันติชา   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ btoey

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
ค่าปรึกษาแพงหูฉี่ :m20: :m20:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :serius2: สงสารลุงเค้านะค่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ลุง ลุง โอ๋

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ขนาดดราม่า อิลุงยังพามาขำได้อีก  o18

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
พี่ซันสู้ๆ :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
ก็ยังคิดว่าตองรักปั้นชาอยู่ดีเฮ่อ!ลุงซันนะลุงซัน แต่ยังใงก็สู้สู้นะ  o18 o18 o18

ออฟไลน์ corn_rain

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
พอเปนพาร์ทลุงมันก้อจะคอมมาดี้ซะงั้น555

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ก่อนให้ชิวซีพาปั้นชาไปหาหมอ ควรให้หมอมาดูอาการพี่ซันก่อนนะ สติแตกกระเจิงหมดแล้วนั่น

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
พาร์ทพี่ซันเนี่ยจะเครียดก็เครียดไม่สุดจริงๆ 5555

เฮ้อ ทั้งคู่มีการแสดงออกกันคนละแบบจริงๆ

ออฟไลน์ Hapmar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สงสารพี่ซันอ่า แต่เข้าใจตองมากๆ สงสารทั้งคู่เลย เพราะสาเหตุนี้รึป่าว มำให้เจิ้นได้อยู่กับจั๋น อั่งๆๆ

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Chapter 33 Emperor

สุริยะ หยางยืนไพล่หลังเงยหน้ามองพระจันทร์เว้าแหว่ง จากศาลากลางสวนตรงนี้เห็นแล้วว่าห้องเด็กปิดไฟมืดสนิท กันติชากับเจ้าจันทร์เข้านอนไปตามปกติ เหลือแต่เขาที่ยังนอนไม่หลับ มีเพียงกาน้ำชาเป็นเพื่อน

ความเงียบงันทำให้นึกถึงยามหิ้วกาน้ำชายืนมองทะเลทรายเวิ้งว้างที่ไม่มีอะไรเลย ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก็กลับมาอยู่เซี่ยงไฮ้แล้วแต่เหมือนทะเลทรายก็ไม่เคยจากไปไหน

สองปีที่กลายเป็นเหมือนคนที่ตายแล้ว มันไม่ใช่เวลาน้อยๆ เลย มันนานพอจะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นคนที่เดินช้าลง ความสุขหายไปนานจนพอได้มันกลับมาอีกครั้งก็ยังทำตัวไม่ถูก จนกระทั่งจะเสียมันไปอีกครั้งก็ยังไม่ทันตั้งตัวอีกเหมือนกัน

กันติชาในสองปีที่เขาตายจากอีกฝ่ายไปก็มีการเปลี่ยนแปลงไม่น้อย เราต่างไม่ใช่คนเดิมของกันและกัน ที่ชัดเจนที่สุดคืออันดับหนึ่งในใจของอีกฝ่ายไม่ใช่เขาอีกต่อไปแล้ว

พระอาทิตย์ที่ไม่มีวันชนะพระจันทร์

พระจันทร์ที่ยังทำอะไรเองไม่เป็น เป็นเพียงเด็กวัยหัดเดิน กับทำให้ก้อนเมฆรักได้มากกว่าเขาที่มีทุกอย่าง แล้วจะเอาอะไรไปสู้?

คิดแล้วก็ปวดหัว ท้อแท้หมดกำลังใจจนต้องหยิบยาดมขึ้นมาดมไปเฮือกใหญ่ กลิ่นเมนทอลเย็นๆ ไม่ได้ทำให้ใจเย็นลงเลยสักนิด

“หยางหวาง”

“อืม”

ชิวซีเพิ่งกลับมา เรื่องที่จะปรึกษากันถูกเลื่อนออกไปเพราะมีข่าวไม่ค่อยดีที่ต้องให้ชิวซีไปสืบ เรื่องในครอบครัวยังเอาไม่รอด เรื่องข้างนอกก็เข้ามาแทรก

“ตระกูลลู่ถูกทหารรัฐบาลล้อมจริงครับ คงจะเริ่มสุ่มตรวจ ให้ฝ่ายที่คิดจะทรยศหวาดกลัว”

ตระกูลลู่เพิ่งเปลี่ยนผู้นำเป็นลู่ชิงอวิ๋น คุณชายอายุน้อยที่มีรอยยิ้มประดับมุมปาก อีกหนึ่งตระกูลที่เคยถูกหางเลขช่วงเปลี่ยนการปกครองแต่ก็รอดมาได้หวุดหวิด เจ้าบ้านคนเก่าต้องวางมือให้ลูกชายคนเดียวขึ้นมาออกหน้าแทน

เป็นคุณชายที่มุ่งมั่นในเส้นทางอำนาจอย่างชัดเจน แถมเล่นการเมืองเป็นแปรพักตร์เข้ากับเติ้งเสี่ยวผิงได้ทันในจังหวะสุดท้าย ยอมเสียผลประโยชน์ไปหลายอย่างเพื่อการกลับมายืนแถวหน้าของชนชั้นปกครองอีกครั้ง

“ไม่เจออะไรหรอก”

“ไม่เจอครับ แต่อีกไม่นานคงถือตาอาณาจักรพระอาทิตย์บ้าง”

สุริยะ หยางถอนหายใจ ดึงยาดมออกมาถือไว้ สถานะของเขาต่อรัฐบาลไม่นับว่าย่ำแย่แต่ถ้ามองข้ามเขาไปก็จะไม่เป็นผลดีกับตัวรัฐบาลเองที่อาจจะถูกมองว่าไม่เป็นกลาง ยังไงก็ต้องโดนหางเลขไปด้วย

“เดี๋ยวก็มา เขาไม่ปล่อยเราไปไหนหรอก ตึกระฟ้าสามตึกที่ดาดฟ้าเชื่อมกันเป็นเสาค้ำเซี่ยงไฮ้ขนาดนี้ มันคงทิ่มตาไอ้พวกขี้อิจฉา ชิวซีระวังไว้ให้ดี เราอยู่สูง ยิ่งสูงยิ่งอันตราย ใครๆ ก็อยากเลื่อยเสาเข็มอาณาจักรเรา แต่มันยังทำไม่ได้ เพราะเราเป็นเส้นเลือดใหญ่ของราชวงศ์มานับพันปี พอหมดราชวงศ์เราก็สนับสนุนรัฐบาล ฉันไม่มีลูกมีหลานใครก็มาเป็นหยางหวางต่อได้แค่ได้รับการแต่งตั้ง ใต้เท้าเรานี่เหยียบเงินเป็นพันเป็นหมื่นล้านและมันจะเพิ่มขึ้นทุกปี โจรมันก็อยากได้กันทั้งนั้น”

“ไม่อยากให้เสี่ยวเยว่รับตำแหน่งต่อหรอครับ”

“ฉันอยากยกให้เขาทั้งหมดนั่นแหละ แต่ดูชีวิตฉันด้วย...ต้องมายืนดมยาดม นอนไม่หลับอยู่ตรงนี้ วันดีๆ คืนดีก็ได้ย้ายบ้านไปอยู่ทะเลทราย พ่อแม่ถูกส่งไปอยู่เมืองห่างไกลห้ามเจอกันอีก...มีแค่เงิน ตายไปก็เอาไปไม่ได้...จันทร์ไม่มีวันมีความสุข นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ”

“ครับ”

“อาณาจักรเราถ้าไม่มีทายาทมันก็จะถูกส่งคืนไปให้รัฐบาล ถึงเวลานั้นก็ให้เขาจัดการกันเอง แต่ก่อนหน้านั้นขนเงินไปให้หมดเข้าใจไหม? จะขุดดิน ทางน้ำทางเรือ เอาให้อาณาจักรเรามันจนกรอบมีแต่ตึกไม่มีห่าไรเลย ฉันอีกไม่กี่ปีก็ตาย แต่จันทร์เขายังอยู่อีกหลายปี เพิ่งจะขวบสองขวบ ก็เก็บเงินไว้ให้เขาเอาไปใช้ยันแก่ ยันลูกยันหลานแล้วกัน เงินเกือบแสนล้านขนาดนี้ ใช้ทิ้งใช้ขว้างไปสี่ห้ารุ่นยังไม่จนเลย เผื่อเจ้าลูกกระต่ายอยากจะแต่งเมียรวยๆ จะได้มีเงินไปขอลูกสาวบ้านอื่น”

“คุณต้องรีบคุยกับหยางอวิ๋นว่าเขาจะตัดสินใจยังไง รัฐบาลคงจะมาในอีกไม่กี่วันนี้ เขาจะไม่ปล่อยให้เรามีเวลาเตรียมตัว ถ้าพวกเขาเจอเสี่ยวเยว่คุณจะกลายเป็นคนมีทายาท พวกเขาจะถูกเพ่งเล็งแทนที่จะเป็นคุณคนเดียว ถ้าคุณจะอยู่ด้วยกันต่อต่อก็ต้องย้ายไปที่อื่นสักพักจนกว่าจะผ่านช่วงเวลานี้ไป”

“แต่จันทร์ไม่ใช่ลูกฉัน พวกรัฐบาลจะเหมาว่าเป็นทายาทของฉันไม่ได้?”

“ถ้าจะระแวง สู้ฆ่าทิ้งไม่ดีกว่าหรอครับ? ถ้าคิดแบบง่ายๆ คุณไม่ได้จะมีตำแหน่งอะไรในรัฐบาลอยู่แล้ว องค์กรของเราก็เป็นเอกชน ผู้สืบทอดไม่จำเป็นต้องเป็นคนจีนตั้งแต่แรก ย้ายสัญชาติมาทีหลังเพื่อรับตำแหน่งหยางหวาง...การที่คุณยังลอยชายไม่สร้างครอบครัวแบบเป็นทางการ ยังไงก็ต้องมีคนสงสัยว่าอีกหลายปีข้างหน้าใครจะมาเป็นหยางหวางแทน แล้วคุณก็ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย...แสดงว่าคุณมีไพ่ตายรับมือไว้อยู่แล้ว”

“แต่ฉันไม่มี”

“คนระดับคุณ จะมีคนคิดไหมล่ะครับว่าจะไม่มีทายาทมาต่อคิว ใครจะมาคิดว่าหยางหวางจะวางแผนปล้นอาณาจักรตัวเองไปให้ลูกคืนอื่น แล้วจะส่งบริษัทที่ใกล้จะล้มจะพังให้รัฐบาลไปจัดการเอง”

สุริยะ หยางถอนหายใจ เขาอยู่กับเรื่องพวกนี้มาทั้งชีวิตจนเอียนเต็มที

“ฉันอยากอยู่กับอวิ๋น แค่อยากอยู่กับครอบครัวฉันทำไมมันยากนัก...ทำไมฉันทำอะไรไม่ได้เลย ทำไมกัน ตอนนี้มันไม่ใช่ว่าตองอยากอยู่หรือไม่อยากอยู่กับฉันแล้ว แต่อยู่ไม่ได้ต่างหาก ถ้าอยู่เขากับลูกจะไม่ปลอดภัย ชิวซีฉันเบื่อ จะตายก็ไม่ได้ อยู่ก็ไม่มีความสุข”

“...”

“น่าจะเกิดเป็นกระต่ายให้รู้แล้วรู้รอด ไม่ต้องทำอะไรให้อวิ๋นรักไปวันๆ”

“หยางหวาง...ผมคิดว่าหยางอวิ๋นไม่ได้ชอบกระต่ายนะครับ”

“อย่ามาใส่ร้ายเมียฉัน คนไม่ชอบจะอยู่กับกระต่ายมาได้ยังไงตั้งหลายปี แถมเขายังไม่ว่าอะไรที่ฉันเรียกลูกเขาว่าลูกกระต่ายด้วย ขี้อิจฉาก็ไปหากระต่ายให้อาเฟยถือเล่นบ้างไป”

“...”



ผมกับพี่ซันเรายังไม่ได้คุยกันเลย ผมรู้สึกผิด มันจริงแบบที่พี่ซันพูด ผมไม่เคยบอกอะไรเขาเลยแล้วทำไมไปกล่าวหาว่าเขาไม่รู้อะไรสักอย่าง

เราต่างมีภาระกันคนละอย่าง พี่ซันเหนื่อยกับเรื่องนอกบ้านจนผมขาวโพลนไปหมดผมยังทำให้เขาต้องมาเหนื่อยใจกับเรื่องที่ผมงอแงไปคนเดียวอีก

การที่เราไม่คุยกันไปหนึ่งวันมันทำให้ผมรู้สึกแย่ เราควรจะคุยกันตรงๆ ผมไม่ควรทำตัวแบบนี้...ผมสับสนแล้วอารมณ์กระเจิดกระเจิง

“ลุง ลุง”

เจ้าจันทร์เกาะกระจกหันมาหาผมแล้วชี้ไปที่ร่างสูงที่ยืนคุยกับอาเฟยด้านนอก เมื่อคืนพี่ซันไม่ได้เข้ามานอนด้วยกัน ปกติตอนเช้าเจ้าจันทร์จะเล่นกับพี่ซัน เจ้าตัวเล็กชอบคลานไปนอนทับลุงของเขาแล้วทำเสียงตลกๆ ปลุกให้พี่ซันมาเล่นด้วยกัน

“ลุงซันคุยธุระอยู่ครับ เจ้าจันทร์มากินนมก่อนนะลูก”

“ฮื้อ ลุง ลุง”

ไม่ได้สนใจขวดนมเลย แต่ทำหน้าไม่พอใจที่มีกระจกกั้นเลยทำให้ไปหาลุงไม่ได้ ไม่ใช่เจ้าจันทร์คนเดียวหรอกที่อยากไปหาพี่ซัน ผมก็อยากไป... ใช้วิธีอุ้มลูกเนียนไปคุยกับพี่ซันดีกว่า...เขินจัง

ผมจับลูกใส่หมวก ใส่ถุงมือถุงเท้า เสื้อกันหนาวจนมั่นใจว่าลูกจะไม่โดนลมก็อุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้น

“ตัวเริ่มหนักแล้วนะเนี่ย พ่อเลี้ยงตั้งหลายปีจะได้เป็นลูกหมูกับเขาแล้ว”

เจ้าจันทร์น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตลอด เป็นอีกเรื่องที่ผมท้อจนเครียด พอเจ้าตัวเล็กเริ่มอ้วนขึ้นมานิดหน่อยผมมีความสุขมากจริงๆ

“ไม่เป็นแล้วนะลูกกระต่ายพ่อไม่ชอบเลย เป็นลูกหมูดีกว่า น่ารักกว่ากระต่ายอีก”



“ลุง ลุง”

เสียงเล็กๆ ร้องเรียกทำให้สุริยะ หยางที่กำลังกำชับเรื่องความปลอดภัยกับอาเฟยต้องชะงัก มองเจ้าก้อนกลมๆ โบกมือหยอยๆ ยิ้มโชว์เหงือกกับฟันสองสามซี่มาแต่ไกล

“ตามนั้นนะอาเฟย เดี๋ยวค่อยคุยต่อ”

“ครับ หยางหวาง”

สุริยะ หยางยกยิ้มมองเจ้าตัวเล็กที่หัวเราะอารมณ์ดี แต่ที่สนใจมากกว่าคือคุณพ่อที่แก้มแดงระเรื่อแต่ยังไม่ยอมสบตากัน

“จันทร์อยากเล่นกับพี่ซันครับ ไม่ยอมกินนม”

“หืม...ดื้อกับพ่อหรอเรา”

มือหนารับเจ้าตัวเล็กมาอุ้ม แต่สายตายังวนเวียนอยู่กับคุณพ่อ จนโดนมือเล็กฟาดแก้มไปหนึ่งที

“แกล้งลุงซันทำไมอ่ะ? เจ็บนะเนี่ย”

“คิก ลุง หม่ำ”

“ไม่ยอมกินนมแต่จะชวนไปหม่ำ หรือว่าพ่อหิวข้าวแต่ไม่ยอมกินข้าวครับ? เลยต้องมาตามลุงไปจัดการ”

“พ่อหิว..เหยอ”

สุริยะ หยางหัวเราะเบาๆ เมื่อกันติชาเงยหน้าขึ้นทำตาโตใส่ลูก สงสัยจะเขินที่โดนลูกแซว ก่อนเสียงหัวเราะจะชะงักเมื่อน้ำตาเม็ดโตๆ ไหลลงจากกรอบตาลงมาที่แก้มเนียน

“ตองร้องไห้ทำไม?”

“พี่ซัน พี่ซัน...ลูกพูดได้แล้ว”

“อ้าว ก็ต้องพูดได้สิ ลูกเราเป็นคนนะตอง ไม่ใช่ปลาคาร์ฟ”

กันติชายกมือทำปูหนีบหยิบเอวคนกวนด้วยความหมั่นไส้ แล้วแย่งอุ้มลูกคืน เจ้าจันทร์ที่พูดเป็นคำติดกันไม่ได้ ในที่สุดก็พูดได้แล้ว แม้จะช้าแต่ในที่สุดก็ทำได้แล้ว

“เก่งมากเจ้าจันทร์...พูดเยอะๆ นะลูก พ่อมีเรื่องคุยด้วยเยอะไปหมดเลย”

“แล้วกับพี่ ตองมีเรื่องอยากคุยด้วยไหม? เรื่องที่พี่ไม่รู้...ให้โอกาสพี่ได้รู้บ้างได้ไหมครับ”

มือหนายกขึ้นเช็ดน้ำตาให้คุณพ่อขี้แง ยังไงก็ต้องคุยกันแล้วไม่ว่ามันจะจบยังไงเขาก็พร้อมจะยอมรับในการตัดสินใจของกันติชา



บรรยากาศระหว่างผมกับพี่ซันค่อนข้างเครียดแต่พอมีเจ้าจันทร์เราทั้งคู่เลยเหมือน...เหมือนดีขึ้น ต้องขอบคุณลูกที่ทำให้เราไม่อึดอัดจนเกินไป

มื้อเช้าผ่านไปแบบวุ่นวายเพราะเจ้าจันทร์คันเหงือกจนพ่นข้าวออกมา ฟันลูกกำลังทยอยขึ้น แม้แต่ฟันก็ขึ้นช้า หมอบอกว่าสองขวบก็ควรขึ้นครบแล้ว แต่ตอนนี้สองขวบกว่ายังเหลืออีกตั้งหลายซี่

พี่ซันเป็นคนป้อนข้าวลูก ป้อนไปก็บ่นไปว่าพ่นข้าวใส่หน้าลุงทำไม คราวหลังไปพ่นใส่ชิวซีโน่น เราต้องเป็นทีมเดียวกันต่อสู้กับปิศาจสิ

จริงๆ แล้วพอมีพี่ซันช่วยเลี้ยง ผมรู้สึกหายเหนื่อยขึ้นเยอะ ตอนพี่ซันไม่อยู่ผมต้องรับทุกอย่างคนเดียวไม่ว่าลูกจะอารมณ์ดีหรืออารมณ์ไม่ดี แต่พี่ซันใจเย็นกว่า เขามองการงอแงของเจ้าจันทร์เป็นเรื่องตลก

บางที...พี่ซันอาจจะเหมาะกับการเป็นพ่อมากกว่าผม

“พี่ซันอยากมีลูกไหมครับ...ลูกของตัวเอง”

“ไม่ล่ะ พี่ไม่ชอบเด็ก”

คำตอบแบบไม่คิดทำให้ผมประหลาดใจ เขาไม่ชอบเด็กแต่เขาเข้ากันได้ดีกับเจ้าจันทร์มาก

“เจ้าจันทร์ก็เด็กนะครับ”

“เจ้าจันทร์ไม่ใช่เด็ก แต่เป็นแก๊งหูยาว ใช่ไหมพลทหารแร็บบิท อ้าปากเร็ว กินอีกคำ เดี๋ยวไม่มีแรงไปขุดแคร์รอต”

แล้วพลทหารหูยาวก็หัวเราะกินข้าวไปอีกคำ ผมหัวเราะตามไปอย่างไม่ตั้งใจ...ทุกอย่างมันดีขึ้นแบบไม่น่าเชื่อว่าเมื่อวานเราทะเลาะกัน

ขอบคุณนะครับลูก



เราวุ่นวายกับลูกจนถึงช่วงกลางวันที่เจ้าจันทร์หลับ ผมกับพี่ซันเลยได้ไปอาบน้ำแล้วมานั่งคุยกันที่ริมบ่อปลา เจ้าปลาแสนสวยแหวกว่ายไปมาในสายน้ำเย็น...มันก็ไม่เย็นเท่าไหร่เพราะพี่ซันบอกว่าเป็นบ่อปลาปรับอุณหภูมิ

เขาใส่ใจกับทุกอย่างรอบตัวเขาไปหมด พี่ซันเป็นคนละเอียด...เอ๊ะ...ผมว่าผมมองข้ามอะไรไป ด้วยนิสัยเป็นคนละเอียดของเขา แค่กับปลา กับต้นไม้ อาหารการกินเขายังละเอียดขนาดนี้แล้วถ้าเป็นเรื่องของผม ผมที่เป็นเมียเขา เขาจะไม่ละเอียดเลยหรอ?

“พี่ซัน...พี่ซันรู้อยู่แล้วใช่ไหมครับ”

“เรื่องอะไรล่ะ?”

เขาทำหน้าแปลกใจ แล้วยื่นมือมาให้ผมวางมือตัวเองลง...ผมถูกรั้งให้นั่งลงบนตักเขา อ้อมกอดของพี่ซันอบอุ่น อ้อมกอดที่ผมคุ้นเคยและไม่อยากเสียมันไป

“เรื่องลูก...”

“ลูกเราทำไมหืม?”

“เจ้าจันทร์...พัฒนาการช้าครับ ตอนจะสองขวบลูกยังพูดเป็นคำติดกันไม่ได้เลย หมอบอกว่าเขาจะช้า...ช้ากว่าคนอื่น ฮึก...ตองกลัวเขาโดนแกล้ง กลัวพี่ซันผิดหวัง กลัวเขาอ่อนแอ กลัว กลัวไปหมด ฮืออ”

“ชู่ว...คนดี...ไม่มีอะไรต้องเครียดเลย”

“ก็พี่ซันอยากจะยกนั่นยกนี้ให้จันทร์...แต่เขา ฮืออ ไม่เก่ง เขาจะสู้ใครไม่ได้...แล้ว...แล้วเขาก็จะ..”

“หยุก่อนอวิ๋น...ฟังพี่นะ...พี่ไม่ได้อยากให้เจ้าจันทร์เก่งเหมือนอวิ๋น อวิ๋นเอาตัวเองไปเทียบกับลูกไม่ได้ ลูกมีชีวิตของเขา อวิ๋นมีชีวิตของอวิ๋น เขาช้าพี่รู้แต่เขาไม่ได้ผิดปกติ...แล้วยกสมบัติให้แล้วยังไง? ดูพี่สิทุกวันนี้พี่ทำอะไรนอกจากจ่ายเงินจ้างชาวบ้านทำงานแทน?”

ผมชะงัก...คำพูดของพี่ซันทำให้ผมคิดอะไรออก ผมมองข้ามจุดนี้ไปโดยสิ้นเชิง ความเครียดทำให้ผมจมอยู่กับความกังวลจนคิดไม่ออกว่าพี่ซันก็ไม่ได้บริหารงานเอง เขาแทบไม่ทำอะไรเองเลย เป็นจักรพรรดิขี้เกียจ

“ทำเองไม่ได้ก็จ้างคนอื่นทำ วันๆ นั่งนับเงินนับทองก็พอแล้ว หรือถ้าทำไม่ไหวก็ขายทิ้งไป อวิ๋น...อย่ายึดติด อาณาจักรพระอาทิตย์ของพี่ พี่ก็ไม่ได้สร้างมาเอง จะล่มวันไหนก็ไม่รู้ จะเอาความหวังของคนอื่นมาแบกไว้บนไหล่ลูกทำไม ถ้าต้องปวดหัวปกป้องตึกนี่ พี่จะมีความสุขกว่าถ้าให้เจ้าจันทร์หอบเงินหอบทองไปใช้ชีวิตเป็นกระต่ายขี้เกียจที่ไหนก็ได้”

“พี่ซัน...ไม่เสียดายหรอครับ”

“หึ...เศษเงิน อวิ๋นอาจจะเครียดเพราะไม่เคยรวยแบบพี่ เลยรู้สึกว่าเป็นภาระที่ต้องดูแลมัน แต่จริงๆ แล้วเงินต่างหากที่ดูแลเรา เราดูแลตัวเองไม่ได้เราก็เอาเงินให้บอดี้การ์ดมาดูแล เราป่วยก็เอาเงินไปให้หมอ เราทำงานไม่เป็นก็จ้างคนมาทำ อวิ๋นไม่ต้องเครียดเลยเพราะเราอยู่ในจุดที่ใช้ทิ้งใช้ขว้างปาหัวหมา โปรยให้ปลากิน หรือไม่รู้จะทำอะไรเอาเงินไปโยนทิ้งถังขยะทุกถังในเซี่ยงไฮ้ เราก็ยังรวยอยู่ดี อย่ากังวลเลยว่าจันทร์จะทำให้อาณาจักรพี่ล่มจม บอกเลยว่าเหนื่อยมาก เป็นภาระรุ่นสู่รุ่นแน่ๆ จันทร์อาจจะต้องเขียนพินัยกรรมให้ลูกให้หลานผลาญเงินพี่ให้หมดสักสามสี่ชั่วอายุคน”

วิธีการปลอบใจผมของพี่ซันทำไมมันดูน่าหมั่นไส้มากกว่าจะซึ้งน้ำตาไหลก็ไม่รู้

“แต่อวิ๋นจำได้ว่าเคยคำนวณเงินแล้วพบว่าพี่ซันจะกลายเป็นยาจกในหนึ่งปีเลยนะครับ”

“ใช่ ต้องขอบคุณอวิ๋นนะ ตอนนั้นพี่ตกใจมาก แต่ชิวซีตกใจกว่า แล้วชิวซีก็ไปบอกพ่อบอกแม่พี่ คราวนี้ทุกคนตกใจกันไปหมด ในช่วงที่เรายังมีอำนาจพี่เลยได้นักวางแผนทางการเงินจากต่างประเทศมาจัดการทุกอย่างให้ มีฝ่ายลงทุนสารพัด พี่ก็จำไม่ค่อยได้อวิ๋นต้องไปถามชิวซี เอาเป็นว่าตอนนี้ถ้านับเงินที่พี่ไปลงทุนนอกประเทศผ่านบริษัทตัวแทน พี่อาจจะรวยที่สุดในเซี่ยงไฮ้ แต่อวิ๋นต้องแกล้งจนแล้วนะ เพราะพี่ฟอกเงิน เราเลยจะบอกว่าเรารวยไม่ได้ เราต้องสมถะ”

ผมหัวเราะกับคำพูดของเขา สมถะอะไรเนี่ยโคตรบ้าบอ ผมไม่เห็นว่าเขาจะทำตัวเป็นคนจนอะไรนี่ตรงไหน ให้พูดเป็นจุดๆ ยังได้ว่าเขาทำอะไรที่เวอร์วังอลังการเกินคนปกติบ้าง

“อวิ๋นทำให้พี่อยากมีชีวิตต่อไปนานๆ ...พี่ไม่เคยวางแผนเรื่องการเงิน อนาคตอะไรเลย คิดว่าตัวเองคงตายไวด้วย ในเมื่อทำให้พี่อยากจะอยู่ไปจนแก่...ก็หมดสิทธิ์แก่ไปคนเดียวแล้วนะ เราต้องแก่ไปด้วยกัน”

เนี่ยผมถึงได้ร้องไห้จริงๆ สักที อวดรวยอะไรไม่รู้กว่าจะซึ้ง พี่ซันยังเป็นคนเดิมกับตอนที่ผมได้เจอเขาครั้งแรก เหมือนเมื่อหลายปีก่อนที่ผมตกหลุมรักเขา พอมาวันนี้ผมไม่ใช่คนเดิมแล้วผมก็ยังรักเขาอยู่ดี

“แต่พี่ก็มีเรื่องอื่นที่ต้องบอกอวิ๋นเหมือนกัน เราไม่เคยคุยกันเรื่องนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่เคารพการตัดสินใจของอวิ๋น”

“เรื่องอะไรครับ”

พี่ซันเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง แม้เราจะยังกอดกันอยู่แต่ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันจะเป็นเรื่องใหญ่มาก พี่ซันไม่เคยคุยอะไรกับผมเรื่องงานของเขา ผมรู้แค่ว่าเขาทำอะไรอย่างผิวเผิน รู้แค่เขามีกิจการใหญ่โต มีฝั่งมีฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล และเขาก็เป็นคนที่จัดการเรื่องศิลปะ กับพวกของเถื่อนที่ซื้อขายในตลาดมืด

สถานะของพี่ซันอันตราย ผมรู้แค่นั้น...

“ทุกอย่าง...ที่ตองต้องไปอยู่กับเยว่ พี่ต้องเป็นหยางหวาง ที่พี่ต้องโดนเนรเทศไปอยู่ทะเลทราย และอีกหลายอย่างที่อาจจะเกิดขึ้น...”

“ผม...ไม่ได้ถูกเยว่เก็บมาเลี้ยงหรอครับ?”

“ตอนนั้นตองยังเด็กมาก ตัวเท่าเจ้าจันทร์เอง...อ้วนกว่าหน่อยนึง...พ่อของตองตัดสินใจส่งตองไปไทย เพราะพ่อตองกำลังจะตาย”

ผมใจหายและหวาดกลัว ผมนึกมาตลอดว่าตัวเองถูกทิ้งในสถานเลี้ยงเด็ก แล้วเจ้าบ้านเยว่ก็มาพบผม จริงๆ มันก็น่าสงสัยที่ผมถูกส่งมาอยู่กับพี่ซันอย่างง่ายดาย แล้วเราก็มีความสัมพันธ์กันอย่างรวดเร็ว แต่ผมในตอนนั้นมัวแต่กลัวว่าผมจะไม่มีใครอีก...กลัวจะถูกทิ้งอีกเลยไม่ได้มีเวลาคิดเกี่ยวกับอะไรพวกนี้ ความคิดผมวนเวียนอยู่แค่รอบตัวพี่ซัน สังคมของเขา สังคมในโรงเรียน...

“พ่อของผม? ...พ่อเป็นอะไรครับ ทำไม...ทำไมพ่อจะต้องต่าย”

“เขาคือหยางหวางคนก่อน อาณาจักรนี้ควรเป็นของตองไม่ใช่พี่ พี่เป็นแค่คนที่ถูกเลือกมาทำหน้าที่แทนเด็กวัยสองขวบคนหนึ่งก็เท่านั้นเอง หยางหวางอายุสิบสองในสายตาผู้ใหญ่ก็ดีกว่าหยางหวางอายุสองขวบ...พี่ขโมยทุกอย่างที่เป็นของตองมาหมดเลย”

นัยน์ตาเขาอ่อนแสงลง แต่การกล่าวโทษตัวของสุริยะ หยางทำให้ผมร้องไห้เหมือนคนเป็นบ้า ผมต่างหากที่ขโมยชีวิตของเขามา ความกดดันในตระกูลเยว่มันเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เขาต้องแบกรับอยู่ทุกวันนี้ ผมมีความสุขแล้วทิ้งให้เขาโดดเดี่ยวอยู่ในสงครามการเมือง เขาไม่ได้อยากเป็นหยางหวาง พี่ซันชอบของโบราณ ชอบพิพิธภัณฑ์ เขาอาจจะได้เป็นนักโบราณคดีระดับโลก หรือเป็นอะไรก็ได้ที่เขาอยากเป็น ไม่ใช่มาแบกรับภาระที่ควรจะเป็นของผม...ภาระที่ทำให้เขาไม่ได้วางแผนจะมีชีวิตอยู่ไปจนแก่

“พี่ซัน ตองขอโทษ ตองขอโทษนะ...ฮือออ”

ผมใช้ชีวิตตามใจตัวเอง ไร้สาระ บ้าบอ ไม่เคยรู้เรื่องอะไรพวกนี้เลย คนที่คนโดนไล่ไปอยู่ทะเลทรายไม่ควรเป็นพี่ซัน แต่เป็นผมที่เสียเวลาไปกับการใช้ชีวิตอย่างไร้ค่า เมาไม่รู้เรื่อง ติดบุหรี่ แล้วยังทำผู้หญิงท้องอีก ผมไม่มีค่าอะไรจะให้เขารักเลยด้วยซ้ำ

“ขอโทษทำไม...ตองไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ทุกอย่างพี่เป็นคนตัดสินใจเอง แล้วตอนนี้ตองต้องเป็นคนตัดสินใจบ้างแล้วว่าจะเอายังไง เพราะเรื่องต่อไปที่กำลังจะเกิดขึ้นเราต้องหาทางรับมือกับมัน อย่ายึดติด ต่อให้ที่นี่จะเคยเป็นสิทธิ์ของตองแต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว อาณาจักรนี้เป็นของพี่ ดังนั้นเรื่องที่ตองควรจะนำมาเป็นเหตุผลควรมีแค่เรื่องของเจ้าจันทร์อย่างเดียว...รัฐบาลจะส่งคนเข้ามาตรวจสอบ สิ่งที่พี่ทำลงไปแล้วหลายอย่างคล้ายๆ กับการยักยอกเงินของประเทศ ค้าของเถื่อนในตลาดมืด สร้างฐานอำนาจในธุรกิจสีดำและยังมามีบทบาทในรัฐบาล พี่ไม่ได้อยากทำแต่เป็นภาระที่ทำต่อกันมาหลายรุ่นและพี่ไม่ได้คิดว่าจะได้ตองกลับมาอยู่ด้วย จะกลับตัวก็ไม่ทัน อาณาจักรพระอาทิตย์อยู่ในเส้นทางสีเทามาตั้งแต่อดีต พี่ไม่รู้ว่าจะรัฐบาลจะแกะรอยจนเจออะไรบ้าง...ถ้าอวิ๋นอยากอยู่ด้วยกันพี่จะหาทางที่เราจะปลอดภัยที่สุด แต่ถ้าไม่อยากอยู่ด้วยกันแล้ว พี่จะไม่รั้งอวิ๋นกับลูกไว้เลย”

พี่ซันตัดสินใจแล้ว ผมเองก็ตัดสินใจแล้ว ถึงเราจะรักกันแต่บริบทลายล้อมไม่ได้เอื้อให้เราได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเลย พี่ซันพูดถูกผมต้องเอาเจ้าจันทร์เป็นหลัก ทั้งเรื่องสุขภาพ เรื่องความปลอดภัย น้ำหนักในใจของผมก็ยังเหมือนเดิม ผมไม่อยากให้ลูกเป็นหยางหวาง ผมไม่อยากให้ลูกเป็นเหมือนผม เหมือนเจิ้น และเหมือนกับพี่ซันที่ต้องอดทนอดกลั้น ต้องฝ่าฟันจนไม่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองอยากทำ ภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมันทำให้เราทั้งหมดอึดอัด

ศศิมณฑลควรได้ใช้ชีวิตที่เขาเลือกเอง ไม่ใช่เพราะความดึงดันของผมหรือของพี่ซันที่จะผูกมัดเขาไว้ให้ต้องมาใช้ชีวิตในแบบที่เรากำลังเจอ

“ถ้าผมไป...พี่ซัน พี่ซันจะอยู่กับใคร พี่ซันไม่มีใครแล้ว มีแค่ผม”

“มีความสุขให้มากๆ ตองเป็นความรักของพี่ ดูแลความรักของพี่ที่อยู่กับตองให้ดี ตองไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว พี่อยากให้ตองมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นหยางอวิ๋นในวัยสองขวบหรือยี่สิบสอง พี่อยากให้ตองมีความสุข”

“พี่ซัน...ตองกำลังจะทิ้งพี่ซัน พี่ซันรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าตองจะไม่เลือกพี่ซันแน่ๆ ตองจะใจร้ายกับพี่ซัน”

“คนเป็นฝ่ายทิ้งจะมาร้องไห้ทำไมล่ะ...พี่สิที่ต้องร้องไห้ โดนเมียหักอก หอบลูกหนี พี่ว่าพี่ก็รวยแล้วนะทำไมยังรั้งลูกรั้งเมียไว้ไม่ได้อีก...”

“ไม่ขำนะครับ ตองจริงจัง”

“ใจร้ายกับพี่ แต่อย่าใจร้ายกับตัวเอง เสร็จเรื่องแล้วพี่จะไปหา แต่ถ้าพี่ไม่ไปก็หาแฟนใหม่ซะ แต่ต้องทำใจนะมันไม่รวยเท่าพี่หรอก”

ผมจะไปรักคนอื่นได้ยังไง...เป็นไปไม่ได้เลย ความรักของสุริยะ หยางอยู่กับผมนานแล้ว...ความรักของผมก็อยู่กับเขาไม่ต่างกัน เมื่อไหร่...เมื่อไหร่เราจะได้อยู่ด้วยกันสักที ถ้าชาตินี้ไม่ได้...ชาติหน้าก็ได้ ผมแค่อยากอยู่กับพี่ซัน อยากอยู่กับเขา พระอาทิตย์ของผม





-----------

คอมเม้นต์ให้กำลังใจพี่ซันนะคะ กลับมาหล่อแล้ว 555555555555 หลังจากเป็นลุง อีลุง ตาลุง ไปหลายตอน ได้โปรดต้อนรับการกลับมาของพระเอก (?) หรือก็ลุงอยู่ดี?

ตอนนี้ต้องเป็นชื่อตอน จักรพรรดิ นะคะ เพราะว่าพี่ซันได้เสียสละตัวเองอย่างมาก ควรได้รับตำแหน่ง ลุงแห่งชาติ (พี่ซันร้องไห้ทำไม)

เรื่องนี้จบแฮปปี้ค่ะ เผื่อคนอ่านตกใจ หมดนี่ก็ไม่มีไรดราม่าแล้วค่ะ ตอนต่อไปก็แฮปปี้แล้วนะ (โฆษณาชวนเชื่อ)

ตอนนี้รู้แล้วนะว่าพ่อตองเป็นใคร -….- ใกล้จบละกลั้นใจอีกนิดดดดดดด อีกนิดเท่านั้น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เกือบจะซึ้งสุดๆ แต่ติดแค่ความรวยจนน่าหมั่นไส้ของพี่ซันนี่แหละ 555
สู้ๆนะพี่ซัน เพื่อจะได้อยู่กับเมีย และลูกเมีย

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
จากกันชั่วคราว เพื่อที่จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาในอนาคต พี่ซันสู้ๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Hapmar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอ้ย ลุลหล่อมาก แต่จะซึ้งก็ซึ่งไม่สุด ลุงพาตลกตลอดอ่ะ แต่ลุงหล่อมากๆเลย ลุงงงงงงง

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
ลุงงงงงงง ดีดเงินมาทางนี้บ้างได้มั้ย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ลุ้นจนลืมหายใจ

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
ชอบพี่ซันจริงๆ
ผช.ที่โคตรแห่งโคตรรวย!!
ผช.ที่รวยจริงไม่ได้โม้!! 
ผช.ที่รักเมียมากๆ อยากให้เมียมีแต่ความสุข!!
ผช.ที่คนอ่านอย่างเราอยากให้มีความสุขมากๆ ตามประสาคนโคตรรวยและคนรักเมีย!!

ออฟไลน์ fahdekkom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ลุงข้างบ้านหล่อมากเลยค่ะตอนนี้

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบพี่ซันจริงๆ
ผช.ที่โคตรแห่งโคตรรวย!!
ผช.ที่รวยจริงไม่ได้โม้!! 
ผช.ที่รักเมียมากๆ อยากให้เมียมีแต่ความสุข!!
ผช.ที่คนอ่านอย่างเราอยากให้มีความสุขมากๆ ตามประสาคนโคตรรวยและคนรักเมีย!!

ลุง.........หล่อมาก เท่มาก ยกนิ้วให้เล้ยยยยย   :katai2-1: :m19: :impress: :ped149:
สรุป ตองเป็นทายาทของหยาวหวางรุ่นก่อน
มิน่าตองเก่งเศรษฐศาสตร์มาก คำนวณการเงินของพี่ซัน จนทำให้การเงินแตกยอด  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
แต่พอมาถึงเจ้าจันทร์ นี่ช้าทุกอย่างทั้งการเจริญเติบโต ทั้งด้านสมอง
แสดงว่าเป็นผลพวงมาจากแม่ที่ห่วยแตก   :m16:
ทั้งยีนที่สมอง ทั้งผลที่มาจากการกินยาขับลูก.....ขึ้นเลย  :fire:
ชังน้ำหน้าทั้งนาง ทั้งสามีขี้โกง หน้าหนา หน้าด้าน :angry2: :z6: :ling2:

พี่ซัน  ตอง   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ todiefor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
โอ๊ยยย รักลุง ยิ่งอ่านยิ่งรัก ตอนนี้ยกให้ลุงเป็นพระเอกอันดับหนึ่งในใจเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด