Chapter 19 Plan
“งดออกจากบ้านเลย ห้ามอ้อน ห้ามพูด เม้มปากไว้ เดี๋ยวพี่ใจอ่อน ห้ามช้อนตามองด้วย มองมือตัวเองไป”
แล้วเท้าผมก็โดนเขากัด
“ก็อยากมองหน้าพี่ซันอ่ะ”
สุริยะ หยางโมโหอีกแล้ว เหตุผลเขาไร้สาระมากคือผมเดินสะดุดบันไดแล้วเข่าช้ำ เขาก็โวยวายว่าผมไม่รู้จักดูแลตัวเอง ห้ามออกจากบ้าน จริงๆ คือคืนนี้ผมต้องไปงานเลี้ยงของสภานักเรียนที่ร้านอาหารร้านหนึ่งแล้วเขาไม่อยากให้ผมไป เพราะอยากจะชวนผมนอนดูหนังกำลังภายใน
“ไม่ได้ หน้าพี่แพง จ่ายก่อนถึงมองได้ คิ้วนี่สี่ล้านนะ”
ผมอยากจะหัวเราะจริงๆ นะ แต่ตอนนี้ปล่อยเขานวดขาให้ไปก่อน ผมนอนแผ่ไปกับโซฟายกขาพาดตักสุริยะ หยาง ทำตัวเป็นลูกแมวให้เขาขยำเล่น
“โห ลดราคาไม่ได้หรอครับ ทำไมค่าตัวแพงจัง ตองจะมีปัญญาซื้อไหมอ่ะ สงสัยต้องยกให้คนอื่นแล้วล่ะมั้ง”
“ตองจะยกพี่ให้คนอื่นได้ลงคอเลยหรอ?”
ตาคมหันมามองผม มีกระต่ายตัวใหม่ที่บังเอิญอยู่ในมุมที่เหมือนชะโงกหน้ามาจากด้านหลังพี่ซันมองมาที่ผมด้วย เหมือนโดนกดดัน
“เอ...เอายังไงดีน้า?”
พี่ซันถลึงตาใส่ผมแล้วก็ลุกหนีเฉยเลย หิ้วกระต่ายตัวใหม่กับปั้นชาไปด้วย มือซ้ายหิ้วหนึ่งตัวมือขวาคว้าอีกตัว ตอนนี้ตระกูลหูยาวถูกยกไปไว้ในห้องนอนเก่าผมหมด เหลือสองตัวคือปั้นชากับอีกตัวที่พี่ซันบอกมันอ้วนก่ายสบายของเขา
แล้วทำไมผมกลายเป็นคนผิดล่ะ? เลยต้องลุกจากโซฟาดึงชุดคลุมผูกตัวเองให้เรียบร้อยหลังจากเมื่อกี้โดนเขาดึงเสื้อผ้าหลุดลุ่ยไปหมด นมผมบวมช้ำเพราะโดนพี่ซันดูดเล่นกัดเล่นอยู่นั่นแหละ
ความเฉอะแฉะเหนอะหนะตรงต้นขาทำให้ผมเดินไม่ค่อยสะดวกนัก แต่ก็ต้องเดินไปง้อเขาในครัว กระต่ายเกรี้ยวกราดของผมยืนชงชาทำหน้าบึ้งอยู่ตรงเคาน์เตอร์
“งอนตองแล้วหรอ ของ้อหน่อยนะครับ”
ผมสอดมือเข้าไปโอบกอดแผ่นหลังเปล่าเปลือยที่มีรอยเล็บของผมประปราย จูบหลังเขาเบาๆ แต่พี่ซันก็ชอบเล่นตัวเหมือนทุกที ทำเป็นเดินหันไปหันมาไม่ยอมหันมาคุยกัน
“อ๊ะ”
ผมร่วงลงกับพื้นในจังหวะที่เขาหมุนตัว เขาไม่ได้หมุนแรงหรอกผมแกล้งล้มเอง เบะปากเล็กน้อยแค่นั้นคนงอนก็เลิกงอน โวยวายๆ บ่นๆ ๆ แล้วก็อุ้มผมออกจากที่เกิดเหตุไปบนห้องนอน แล้วผมก็ชนะ เพราะผมแกล้งงอนบ้างจนเขายอมให้ผมไปงานเลี้ยง
ก็เท่านั้นแหละ ไม่เห็นต้องดึงดันเอาชนะกับเขาในตอนแรกเลย...
“หยางอวิ๋นมาแล้ว”
ผมทักทายทุกคนแล้วเลือกนั่งลงของรุ่นพี่ลู่ชิงอวิ๋น ช่วงนี้เราสนิทกัน...พูดง่ายๆ คือผมตีสนิทเขาเอง แล้วก็ไม่ได้ปิดกั้นผมเพราะผมมักจะพาลิลลี่มาเจอเขา
ทุกคนคุยกันแต่เรื่องงานวิชาการที่ผ่านมา ถึงผมจะเป็นตัวตั้งตัวตีแต่การจัดงานยังไงทุกคนก็ช่วยกัน ลู่ชิงอวิ๋นเลยพาทุกคนมาฉลองกัน
เพื่อนกลุ่มสภานักเรียนของผมเรียนกว่าเป็นลูกหลานผู้มีบทบาทในสังคมหลายคนที่อยู่ฝั่งเดียวกับตระกูลลู่ ฝั่งรัฐมนตรีไม่เป็นที่ต้อนรับสักคนยกเว้นผม สถานะพี่ซันอาจจะไม่ได้เอียงข้างชัดเจนนักผมเลยไม่ได้ถูกกีดกันเท่าไหร่
เหนื่อยเหมือนกันนะการต้องพยายามจับกลุ่มกันตั้งแต่อายุเท่านี้ ผมเองก็ไม่ต่างกัน อาจจะเพราะเรารู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร มันไม่ใช่การเรียนจบ ทำงาน สร้างครอบครัว ....มันคืออำนาจ
เหมือนที่ผมก็ต้องปีนบันไดไปคว้าพระอาทิตย์ให้ได้เหมือนกัน
“รุ่นพี่...ผมมีเรื่องมาปรึกษาครับ ค่อนข้างส่วนตัวนิดหน่อยแต่ผมไม่รู้จะปรึกษาใครแล้ว”
ผมเลือกเอียงตัวไปกระซิบลู่ชิงอวิ๋นในจังหวะที่ทุกคนกำลังสนใจกับเรื่องเล่าของเพื่อนคนหนึ่งกันทั้งโต๊ะ เราลุกเดินกันออกมาบริเวณสวนหน้าร้านอาหารที่ไม่ได้มีคน
“ว่าไงหยางอวิ๋น”
“รุ่นพี่....ลิลลี่...กำลังจะแต่งงานกับอาของผม”
ลู่ชิงอวิ๋นเบิกตากว้าง อันที่จริงผมไม่แน่ใจว่าพี่ซันเป็นอาได้ไหม เขาอาจจะเป็นน้า? แต่บริบทตรงนั้นไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ แล้วลู่ชิงอวิ๋นก็ไม่ได้สนใจด้วย
“อะไรนะ แต่ลิลลี่กับนาย...”
“ผู้ใหญ่คุยกันครับ แล้ว ผมกับลิลลี่เราเป็นเพื่อนสนิทกัน คนเข้าใจว่าเราคบกันแต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ครับ”
ผมถอนหายใจออกมาแกล้งทำเป็นดูไม่ออกว่าเขารู้สึกยังไง
“แล้ว...ลิลลี่รู้เรื่องนี้ยัง”
“รู้แล้วครับ ลิลลี่ไม่อยากแต่งงาน คุณอาของผมค่อนข้างดุมาก เขา... ไม่เหมาะกับการเป็นสามีที่ดีหรอกครับ รุ่นพี่น่าจะรู้เขาค่อนข้างรักสนุก”
ตามข่าวพี่ซันคือเศรษฐีเพลบอย รักสนุกเลยล่ะ ผมคิดว่าเป็นการพีอาร์ของขั้วอำนาจสักฝั่งเพราะพี่ซันแทบไม่ออกจากบ้านเท่าไหร่ เขาจะไปรักสนุกยังไงตอนไหนล่ะ
“ผมสงสารเพื่อนครับพี่ลู่ แต่ผมไม่รู้จะทำยังไง คุณอาผมเขามีคนอื่นอีกตั้งเยอแยะ”
ทั้งหูยาวแฟมิลี่ ทั้งปลาคาร์ฟลูกรัก แจกันลูกโปรด ภาพวาดกิ๊กตลอดกาลนานเทอญ ลิลลี่จะไปอยู่ในตู้โชว์แข่งกับแจกันหรือไง?
“ทำไมรัฐมนตรีหวงถึงตัดสินใจแบบนั้น...”
“ผมคิดว่าเพราะหยางหวางเขาอายุกำลังพอดี รอบข้างๆ รัฐมนตรีหวงมีแต่ผู้ชายที่อายุไล่เลี่ยกับเขา มีแค่คุณอาของผมที่มารับตำแหน่งในอาณาจักรพระอาทิตย์ทีหลัง เขาอายุยังน้อยและ...ก็ไม่ได้มีภรรยาแบบเป็นทางการ”
มีแค่ผมที่ยืนหลบอยู่ในเงาของพระอาทิตย์
ลู่ชิงอวิ๋นไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เขาไม่กล้าออกความเห็นหรอกเพราะเขาไม่เกี่ยว แล้วเขาก็จะอาสาแต่งงานก็ไม่ได้เพราะบ้านเขายืนคนละฝั่งกับบ้านลิลลี่
“ผมจะพาลิลลี่หนี”
ก็ต้องเป็นผมที่เปิดทางให้ก่อน
“อะไรนะ?”
“ผมไม่อยากให้เพื่อนสนิทของผมต้องเสียใจ ผมรู้ว่าไอเดียนี้มันโง่ แต่รุ่นพี่ครับ ลิลลี่ร้องไห้จนตาบวม ผมต้องปลอบเพื่อนเป็นสิบๆ ครั้ง ถ้าผมไม่พาเธอหนี ลิลลี่จะฆ่าตัวตาย”
โหดร้ายไหมล่ะครับรุ่นพี่ลู่? กระวนกระวายสิ คนที่แอบรักมาหลายปีจะไปแต่งกับคนอื่น จะฆ่าตัวตาย รุ่นพี่ก็จะไม่ได้เห็นเขาอีกต่อไป
“แล้วนายมีแผนการอะไร”
“ก็...ผมจะให้ลิลลี่หนีไปก่อน แล้วผมก็จะตามไปเจอเธอไปทีหลัง เพราะถ้าเธอหายไปยังไงผมก็ถูกถามคนแรก ผมก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หรือแนะนำให้ผู้ใหญ่ไขว้เขวไปคนละที่กับที่ลิลลี่ไป จากนั้นผมค่อยหนีตามเธอไปบ้าง กว่าผู้ใหญ่จะรู้ว่าเราหนีไปด้วยกันเราอาจจะ...จะไปไกลแล้ว ผมคิดว่าจะหนีไปทางเขตทิเบต มันกันดารคงไม่คิดว่าเราสองคนจะไป มันลำบากแต่เราก็จะทำ”
“นายจะไปทิเบตยังไง จากเซี่ยงไฮ้ต้องข้ามไปอีกฝั่งของจีนเลยนะหยางอวิ๋น”
“ผมจะขึ้นรถไฟไป”
รถไฟของจีนค่อนข้างแออัดเพราะจำนวนประชากรมหาศาล อันที่จริงแผนการณ์ของผมไม่ได้ถูกพูดคุยกับลิลลี่เลยด้วยซ้ำ ผมคิดเอง เออเอง และมาคุยกับลู่ชิงอวิ๋นเอง
“ลิลลี่จะขึ้นรถไฟไปก่อน...ผมกังวลว่าการเดินทางคนเดียวของลิลลี่จะอันตราย แต่ แต่เราก็ต้องเสี่ยงครับ”
“เฮ้อ หยางอวิ๋นนายกำลังทำเรื่องใหญ่นะ”
“ผมรู้ครับ ผมเลยอยากปรึกษาใครสักคน แล้วคนที่ผมคิดออกก็มีรุ่นพี่คนเดียว ผมแค่อยากมั่นใจว่าแผนนี้มันโอเคไหม รุ่นพี่คิดว่ายังไงครับ”
“อย่าเลย ลิลลี่เป็นผู้หญิง ไม่เคยลำบากการไปถึงทิเบตมันอันตราย แบบนี้ดีกว่าหยางอวิ๋น ให้เธอมาหลบในห้องชุดของฉัน ไม่ได้มีใครอยู่ห้องนั้น คนของฉันไว้ใจได้ แล้วเราจองตั๋วอีกใบไปทิเบต แต่ไม่มีใครเดินทางไปจริงๆ รอจนทุกคนคิดว่าเธอไปทิเบต ฉันจะพาเธอไปอยู่คุณหมิง ที่นั่นอากาศดีและปลอดภัย แล้วนายค่อยตามไปหาเธอทีหลัง”
ผมเปลี่ยนสีหน้าเป็นซาบซึ้งกับน้ำใจมหาศาลของลู่ชิงอวิ๋น แบบที่ผมซ้อมอยู่หน้ากระจกมานาน
“แต่นายก็ต้องคิดต่อด้วยว่าจะเอายังไง มันหนีไม่ได้ตลอด แล้วถ้ารู้ว่าฉันช่วย...ฉันก็แย่เหมือนกัน”
ครับ ผมอยากให้รุ่นพี่แย่ ดังนั้นผมไม่มีแผนอะไรต่อไปทั้งนั้น
ผมกลับบ้านมานอนกอดปั้นชา จมอยู่ในอ้อมแขนของสุริยะ หยาง สาเหตุที่ผมต้องเตรียมตัวเรื่องลิลลี่เพราะว่ามันใกล้เข้ามาทุกที รัฐมนตรีหวงพาลิลลี่มากินข้าวที่บ้านอีกแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน ทางฝั่งพี่ซันผมไม่แน่ใจว่าเขามีแผนรับมือยังไง แต่ผมจะไม่รอ ผมก็ต้องเตรียมตัวของผม ถ้าเกิดจู่ๆ อำนาจเบื้องหลังพี่ซันเห็นสมควรให้เขาแต่ง ผมจะไปคัดค้านอะไรได้ การแต่งงานทางการเมืองมีอยู่ทุกที่
“อวิ๋น ยังไม่นอนอีก”
เขาสะลึมสะลือตื่นมาจูบหน้าผากผม คงเพราะผมยุกยิกไปนิดหน่อยเลยทำเขาตื่น
“อวิ๋นฝันร้าย”
“ฝันว่าอะไร หืม”
เสียงพี่ซันแหบนิดหน่อยเพราะเขาเพิ่งตื่น
“ฝันว่าพี่ซันทิ้งอวิ๋นไป ฮึก...ทำไมทิ้งกัน ฮืออ”
ความฝันที่ว่ามันไม่จริง แต่ที่ผมร้องไห้มันเรื่องจริง ผมกลัว กลัวไปหมด กังวลไปทุกอย่าง กลัวว่าเขาจะหายไป หรือว่าผมต้องจากไป ผมไม่อยากไปไหน อยากอยู่ที่นี่กับเขา อยากอยู่กับพี่ซันตลอดไป
“อวิ๋น ชู่ววว มันแค่ความฝันไง พี่อยู่นี่ ยังอยู่ตรงนี้”
พี่ซันลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง เขาโอบรั้งเอวผมไปนั่งตัก ฝ่ามืออุ่นลูบหลังปลอบให้ผมหายร้องไห้ แต่ผมก็ยังคงร้องไห้อยู่ดี จริงๆ แล้วอาจจะเพราะว่าผมไม่เคยร้องไห้กับเรื่องนี้เลย พอได้ร้องทั้งทีความอัดอั้นมันเลยทะลักออกมาหมด
“อย่าทิ้งอวิ๋นไปนะครับ”
“ไม่มีทาง...ต่อให้อวิ๋นหนีพี่ไปพี่ก็จะตามหาจนเจอ ต่อไม่ให้พี่อยู่ด้วยพี่ก็จะด้านอยู่ จะนอนหน้าบ้านอวิ๋นนั่นแหละ พาชิวซีไปด้วย”
“ทำไมต้องพาชิวซีไปนอนหน้าบ้านอวิ๋นด้วยครับ”
“มันหล่อกว่าพี่ เผื่ออวิ๋นสงสารที่มันลำบาก จะได้ใจอ่อนเผื่อพี่ด้วย”
ปลอบผมทั้งทียังพาลคนอื่นได้อีก หยางหวางคนนิสัยเสีย
“ตกลงว่าเรื่องแต่งงานเป็นยังไงบ้าง”
“ท่านบอกให้แต่งครับ แล้วจะส่งคนมาขโมยเจ้าสาวในงานให้ คุณจะได้ไม่ผิดใจกับรัฐมตรีหวงแต่จะกลายเป็นเจ้าบ่าวน่าสงสารถูกว่าที่เมียทิ้ง”
“แล้วขโมยไปไหน?”
“ไปไหนก็ได้ คุณจะสนใจทำไม”
สุริยะ หยางทำหน้าเอือมใส่คนสนิท ก่อนจะยกการินชาให้ตัวเอง เมินถ้วยชาอีกฝ่ายที่ว่างเปล่า กวนตีนนักอยากกินก็รินเองแล้วกัน
“เผื่อจะหาทางกลับมาเจออวิ๋นอีก เหอะ..”
“หยางอวิ๋นเขาไม่ได้ชอบสักหน่อย”
“แต่ยัยคุณหนูนั่นชอบ คนมีตั้งเยอะดันมาชอบเมียคนอื่น ไม่ได้เรื่อง รัฐมนตรีหวงนี่เลี้ยงลูกไม่มีคุณภาพ”
“ไม่เหมือนเยว่เลี้ยงใช่ไหมครับ เลยได้หยางอวิ๋นคุณภาพมาเลย”
“นั่นก็ดีเกิน! กระต่ายเป็นสิบๆ ตัวไม่สนใจ สนใจแต่เครื่องคิดเลข ถามจริงอวิ๋นเขาชอบกระต่ายของฉันไหม? ก็ว่าเลือกคุณภาพเกรดเอบวกมาแล้วนะ”
“เขาก็...น่าจะชอบนะครับ”
ชิวซีไม่อยากจะบอกว่าเวลาสุริยะ หยางไม่อยู่ กันติชาแทบไม่กอดปั้นชา บางทีก็วางไว้กับพื้นแล้วก็เดินเตะมันล้มถึงหิ้วหูมันขึ้นมาวางบนโซฟาดีๆ ส่วนสารพัดตุ๊กตาอื่นๆ ก็ไม่เคยหยิบออกมาจากห้องนอนเลย จะเห็นอุ้มเห็นกอดก็ตอนที่หยางหวางอยู่ด้วยเท่านั้น
“แน่นะ?”
“ถามเองสิครับ”
“ก็สืบให้หน่อย”
“สืบว่าหยางอวิ๋นชอบกระต่ายหรือเปล่า?”
“ใช่”
“หยางหวางคุณอายุเท่าไหร่แล้วครับ”
“เท่าแกไง ให้ดูเมียให้แค่นี้ทำมาเล่นตัว แล้วตกลงแจกันขายออกยัง มันซื้อไหม?”
“ซื้อครับ เจอปิ่นหยกแล้วด้วย คุณจะเก็บไว้เองหรือส่งคืนรัฐบาล”
“เก็บเอง เผื่อตองผมยาว เอาไว้ให้ตองใช้”
“ผมยาวมีคนมาชอบนะครับ”
“งั้นเอาคืนรัฐบาลไปเลย ส่งไปให้ ‘ท่าน’ ไป บอกว่าด้วยรักจากฉัน”
“แล้วจะไปกินข้าวกับท่านเมื่อไหร่”
“เมื่อฉันไม่ต้องแต่งงาน ช่วงนั้นก็ส่งอวิ๋นกลับบ้านด้วย ไปร้องไห้ในงานแต่งเปล่าๆ”
“ผมว่าหยางอวิ๋นไม่ร้องไห้หรอกครับ คนที่ร้องไห้น่าจะเป็นคุณนะหยางหวาง”
สุริยะ หยางถลึงตาใส่คนสนิท
“ลงไปนอนกับอาเฟยเลยไป รำคาญ! ”
ชิวซีส่ายหัวให้เจ้านายคนพาลที่หิ้วกาเดินกลับบ้านตัวเองไป แล้วสักพักคนที่เดินหิ้วกาไปได้ครึ่งสวนก็กลับมาอีก ชิวซีที่อุตส่าห์จะได้นอนเลยต้องนั่งลงที่เดิม
“แล้วฉันจะบอกเมียยังไงว่าฉันจะจัดงานแต่ง?”
“ก็ชวนหยางอวิ๋นไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวสิครับ”
“เจ้าบ่าวอยากงาบเพื่อนเจ้าบ่าวมากกว่าเจ้าสาวเนี่ยนะ”
“คุณก็ต้องบอกเขาว่ามันเป็นแผน”
“เดี๋ยวก็ถามอีกว่าแผนอะไร ทำเพื่ออะไร แล้วฉันจะอธิบายยังไง”
ชิวซีอยากจะโทรตามอาเฟยให้ขึ้นมาแก้ปัญหา ‘รักๆ ใคร่ๆ ’ ของเจ้านายวัยใกล้จะวัยทอง สุริยะ หยางไม่เคยมีปัญหาหัวใจเลยเพราะรักใครไม่เป็น พอรักทั้งทีดันโคตรจะปั๊ปปี้เลิฟ
“ก็อธิบายว่าคุณไม่ได้อยู่ฝ่ายรัฐมนตรีหวง จริงๆ แล้วคุณอยู่อีกฝั่ง แต่ดันต้องตอแหลไว้เพราะเขาสั่งมาให้เป็นนกสองหัว”
“มันพูดที่ไหนล่ะวะ! ”
“ส่งหยางอวิ๋นกลับไทยช่วงนั้นสิครับ ส่งคนตามไปด้วย เอาให้แน่ใจว่าหยางอวิ๋นจะไม่แอบกลับมา จะไม่รู้ข่าว จะไม่เอะใจ ให้เขาอยู่กับเยว่ไป”
“เคยดูละครหลังข่าวไหม พระเอกทำแบบนี้ทีไรนางเอกมันรู้ทันทุกที”
“คุณดูละครน้ำเน่าด้วยหรอครับ”
“คิดว่าฉันพูดไทยได้ ฟังไทยคล่องนี่หัดพูดกับปลาคาร์ฟหรือไง มันก็ต้องดูทีวีภาษาไทยสิวะ! ”
คนรองรับอารมณ์คันปากอยากจะบอกเหลือเกินว่าจำตัวเองตอนหัดท่อง ก ไก่ ให้ปลาฟังได้ไหม หยางหวางเตรียมตัวมาหลายปีเพื่อรอเจอหยางอวิ๋น คนทั้งบ้านที่มีแค่เขากับแม่บ้านเลยพอจะพูดไทยได้เพราะโดนบังคับเรียนเป็นเพื่อนจักรพรรดิเอาแต่ใจ
“คุณไม่ใช่พระเอก พระเอกต้องดีแสนดี ไม่ทำอะไรเลวๆ แบบคุณหรอกครับ”
“เหอะ...ไปเฝ้าอวิ๋นที่ไทยด้วย”
“ไปไม่ได้ครับ ผมต้องฉุดเจ้าสาว”
“เพราะ?”
“คุณว่าเธอจะยอมหนีตามง่ายๆ หรอถ้าส่งคนแบบอาเฟยไปฉุด? มันก็ต้องใช้วิธีคุยด้วยเหตุด้วยผล พูดดีๆ ไม่ต้องใช้แรงก็สำเร็จ”
“จะไปหลอกให้เขาหนีตามว่างั้น?”
“ครับ”
“แล้วตกลงจะหนีไปไหน?”
“ทิเบต ไกลหน่อยพ่อเขาจะได้ไม่มีปัญญาตาม แล้วแถวนั้นมีคนของเรา”
“แล้วฉันต้องทำไง”
“ทำเรื่องที่ถนัดครับ สร้างภาพว่าเสียใจ เมาตกบ่าปลาคาร์ฟ เข้าโรงบาล โดนรถชน เยอะแยะที่คุณทำได้”
“เออดี แล้วหนีไปหาอวิ๋นที่ไทยดีกว่า”
“คุณออกนอกประเทศไม่ได้”
“จะออก! อุตส่าห์เสียเงินยอมแต่งงาน เป็นพ่อหม้ายเมียหาย จะให้ออกนอกประเทศสักครั้งมันจะตายไหม?”
ชิวซีส่ายหัวกับคนเอาแต่ใจที่หิ้วกาน้ำชาตัวเองกลับไปอีกรอบ หยางหวางเอาแต่ใจตั้งแต่เด็กจนโต แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าจักรพรรดิพระอาทิตย์ สมกับเป็นพระอาทิตย์ เรื่องที่ควรเด็ดขาด เรื่องที่ควรปล่อย หยางหวางจัดการได้ดี
หยางหวางเข้าใจว่าด้วยสถานะเลยทำให้ออกนอกประเทศไม่ได้ แต่จริงๆ ที่ห้ามออกเพราะนอกเขตจีนแผ่นดินใหญ่การดูแลความปลอดภัยมันไม่รัดกุมเท่าก็เท่านั้นเอง
แม้จะได้ชื่อว่าเป็น ‘คนโปรด’ นั่นก็เพราะหยางหวางยอมเลือกที่จะอยู่ฝั่งนี้ ยอม ‘โดนโปรด’ ถ้าไม่มีหยางอวิ๋นเป็นของรางวัล ป่านนี้คงไปล่าขุมทรัพย์โบราณกับนักโบราณคดีที่ไหนแล้วไม่รู้
“ทำไมยังไม่นอน”
เสียงแหบต่ำมาพร้อมกับร่างหนาที่เดินออกมาจากมุมมืดของศาลาพระอาทิตย์
“มาทำอะไรบนนี้”
“มาดูลาดเลา ช่วงนี้ไม่ค่อยปลอดภัย”
อาเฟยไม่ได้เป็นศัตรู แต่ก็ไม่นับว่าเป็นพวกเดียวกันนัก
“คงอีกไม่นาน หยางหวางใกล้จะหมดความอดทนแล้ว”
“อืม ทางนี้เตรียมรับมือแล้ว ทางนายพร้อมหรือยัง”
อาเฟยเป็นคนของรัฐบาลที่มีหน้าที่ดูแลตระกูลหยางในฐานะตระกูลที่สืบทอดหน้าที่ดูแลทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นบอดี้การ์ดนอกราชการที่ถูกจ้างมาทำภารกิจนี้ ส่วนเขาเป็นคนของคนที่ตำแหน่งสูง...สูงกว่ารัฐมนตรีหวง
“พร้อมนานแล้ว ดูแลหยางหวางให้ดี เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ”
“หน้าที่นี้ไม่ได้รวมถึงหยางอวิ๋น ทางนั้นต้องดูแลกันเอง ถ้าสถานการณ์คับขัน ภารกิจของทางนี้แค่หยางหวางไม่ตายก็พอ”
“รู้แล้ว เรามีคนของเราดูแลหยางอวิ๋นอยู่ ไม่ต้องห่วง”
“ใคร?”
“งานไม่เกี่ยวข้องกันไม่ต้องถาม”
อาเฟยสบถเบาๆ ก่อนจะหายลับไปในความมืด เหลือชิวซีที่เงยหน้ามองพระจันทร์เว้าแหว่ง ภารกิจหลายปีคงใกล้จะจบได้แล้ว การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้
-------------------------
ต่างคนต่างมีแผนนะคะ 55555555555+ แผนเหมือนกันตรงจะส่งลิลลี่ไปทิเบต มาดูกันใครจะได้พาไป ใกล้ละ หญิงสาวที่จะเป็นแม่จั๋นใกล้เข้ามาแล้วค่ะ อิ้อิ้