Setting Sun ☀ อาณาจักรพระอาทิตย์ : ประกาศร่วมเล่ม หน้า 1 (5 March 19)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Setting Sun ☀ อาณาจักรพระอาทิตย์ : ประกาศร่วมเล่ม หน้า 1 (5 March 19)  (อ่าน 128630 ครั้ง)

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
อยากรู้อีกคน ยังไงตองมีเมีย

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
บอกกงๆ ว่าตอนนี้ รอเล่มแล้ววว ง่าาาา.. คุงแบมมมม..

ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตั้ลล้าคจังงงงง ฮื้ออออ ลุงหยางคือมุมิมาก

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โอ้โห กระต่ายเกรี้ยวกราดทั้งสองตัวนี้
สินเชื่อนี่เป็นหนึ่งในบรรดากระต่ายเกะกะนี่ไหม

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
หรือลู่ชิงอวิ๋น มองลิลลี่ เพราะรู้ว่าลิลลี่ชอบตอง
แต่จริงแล้ว ลู่ชอบตอง  o18  o22 :really2:

ซินแส ทำนายแม่นนะ จะหันหลังให้พระอาทิตย์เพื่อโอบอุ้มพระจันทร์ :z3:
เพราะตองจะมีพระจันทร์เองเลย

พี่ซัน  ตอง    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อื้อหื้อ ความเจ้าเล่ห์และร้ายกาจของกันติชา
มีแต่เพิ่มไม่มีลดเลยจ้า จะเป็นควาญช้างเลยนะ
ซันระวังตัวไว้ล่ะ ที่สบายใจว่าไม่ถูกเลื่อยเสา พลาดแล้ว

55555 อยู่กับพี่มากไปใช่ไหม ระแวงได้เต็มขั้นเลย
แล้วเซอร์ไพรส์กว่าไปอีก วันครบรอบการกลับมาอยู่ด้วยกัน
ในดงกระต่ายขนนุ่ม ที่ซันปลื้มหนักมาก แต่ตองอยากเผาทิ้ง


ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
พี่ซันก็คือพี่ซัน

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
พ่อตองเจ้าแผนการนู๋จั๋นเลยเจ้าแผนการตามพ่อถึงจะไม่ร้ายเท่าก็เถอะ  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Chapter 19 Plan

“งดออกจากบ้านเลย ห้ามอ้อน ห้ามพูด เม้มปากไว้ เดี๋ยวพี่ใจอ่อน ห้ามช้อนตามองด้วย มองมือตัวเองไป”

แล้วเท้าผมก็โดนเขากัด

“ก็อยากมองหน้าพี่ซันอ่ะ”

สุริยะ หยางโมโหอีกแล้ว เหตุผลเขาไร้สาระมากคือผมเดินสะดุดบันไดแล้วเข่าช้ำ เขาก็โวยวายว่าผมไม่รู้จักดูแลตัวเอง ห้ามออกจากบ้าน จริงๆ คือคืนนี้ผมต้องไปงานเลี้ยงของสภานักเรียนที่ร้านอาหารร้านหนึ่งแล้วเขาไม่อยากให้ผมไป เพราะอยากจะชวนผมนอนดูหนังกำลังภายใน

“ไม่ได้ หน้าพี่แพง จ่ายก่อนถึงมองได้ คิ้วนี่สี่ล้านนะ”

ผมอยากจะหัวเราะจริงๆ นะ แต่ตอนนี้ปล่อยเขานวดขาให้ไปก่อน ผมนอนแผ่ไปกับโซฟายกขาพาดตักสุริยะ หยาง ทำตัวเป็นลูกแมวให้เขาขยำเล่น

“โห ลดราคาไม่ได้หรอครับ ทำไมค่าตัวแพงจัง ตองจะมีปัญญาซื้อไหมอ่ะ สงสัยต้องยกให้คนอื่นแล้วล่ะมั้ง”

“ตองจะยกพี่ให้คนอื่นได้ลงคอเลยหรอ?”

ตาคมหันมามองผม มีกระต่ายตัวใหม่ที่บังเอิญอยู่ในมุมที่เหมือนชะโงกหน้ามาจากด้านหลังพี่ซันมองมาที่ผมด้วย เหมือนโดนกดดัน

“เอ...เอายังไงดีน้า?”

พี่ซันถลึงตาใส่ผมแล้วก็ลุกหนีเฉยเลย หิ้วกระต่ายตัวใหม่กับปั้นชาไปด้วย มือซ้ายหิ้วหนึ่งตัวมือขวาคว้าอีกตัว ตอนนี้ตระกูลหูยาวถูกยกไปไว้ในห้องนอนเก่าผมหมด เหลือสองตัวคือปั้นชากับอีกตัวที่พี่ซันบอกมันอ้วนก่ายสบายของเขา

แล้วทำไมผมกลายเป็นคนผิดล่ะ? เลยต้องลุกจากโซฟาดึงชุดคลุมผูกตัวเองให้เรียบร้อยหลังจากเมื่อกี้โดนเขาดึงเสื้อผ้าหลุดลุ่ยไปหมด นมผมบวมช้ำเพราะโดนพี่ซันดูดเล่นกัดเล่นอยู่นั่นแหละ

ความเฉอะแฉะเหนอะหนะตรงต้นขาทำให้ผมเดินไม่ค่อยสะดวกนัก แต่ก็ต้องเดินไปง้อเขาในครัว กระต่ายเกรี้ยวกราดของผมยืนชงชาทำหน้าบึ้งอยู่ตรงเคาน์เตอร์

“งอนตองแล้วหรอ ของ้อหน่อยนะครับ”

ผมสอดมือเข้าไปโอบกอดแผ่นหลังเปล่าเปลือยที่มีรอยเล็บของผมประปราย จูบหลังเขาเบาๆ แต่พี่ซันก็ชอบเล่นตัวเหมือนทุกที ทำเป็นเดินหันไปหันมาไม่ยอมหันมาคุยกัน

“อ๊ะ”

ผมร่วงลงกับพื้นในจังหวะที่เขาหมุนตัว เขาไม่ได้หมุนแรงหรอกผมแกล้งล้มเอง เบะปากเล็กน้อยแค่นั้นคนงอนก็เลิกงอน โวยวายๆ บ่นๆ ๆ แล้วก็อุ้มผมออกจากที่เกิดเหตุไปบนห้องนอน แล้วผมก็ชนะ เพราะผมแกล้งงอนบ้างจนเขายอมให้ผมไปงานเลี้ยง

ก็เท่านั้นแหละ ไม่เห็นต้องดึงดันเอาชนะกับเขาในตอนแรกเลย...



“หยางอวิ๋นมาแล้ว”

ผมทักทายทุกคนแล้วเลือกนั่งลงของรุ่นพี่ลู่ชิงอวิ๋น ช่วงนี้เราสนิทกัน...พูดง่ายๆ คือผมตีสนิทเขาเอง แล้วก็ไม่ได้ปิดกั้นผมเพราะผมมักจะพาลิลลี่มาเจอเขา

ทุกคนคุยกันแต่เรื่องงานวิชาการที่ผ่านมา ถึงผมจะเป็นตัวตั้งตัวตีแต่การจัดงานยังไงทุกคนก็ช่วยกัน ลู่ชิงอวิ๋นเลยพาทุกคนมาฉลองกัน

เพื่อนกลุ่มสภานักเรียนของผมเรียนกว่าเป็นลูกหลานผู้มีบทบาทในสังคมหลายคนที่อยู่ฝั่งเดียวกับตระกูลลู่ ฝั่งรัฐมนตรีไม่เป็นที่ต้อนรับสักคนยกเว้นผม สถานะพี่ซันอาจจะไม่ได้เอียงข้างชัดเจนนักผมเลยไม่ได้ถูกกีดกันเท่าไหร่

เหนื่อยเหมือนกันนะการต้องพยายามจับกลุ่มกันตั้งแต่อายุเท่านี้ ผมเองก็ไม่ต่างกัน อาจจะเพราะเรารู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร มันไม่ใช่การเรียนจบ ทำงาน สร้างครอบครัว ....มันคืออำนาจ

เหมือนที่ผมก็ต้องปีนบันไดไปคว้าพระอาทิตย์ให้ได้เหมือนกัน



“รุ่นพี่...ผมมีเรื่องมาปรึกษาครับ ค่อนข้างส่วนตัวนิดหน่อยแต่ผมไม่รู้จะปรึกษาใครแล้ว”

ผมเลือกเอียงตัวไปกระซิบลู่ชิงอวิ๋นในจังหวะที่ทุกคนกำลังสนใจกับเรื่องเล่าของเพื่อนคนหนึ่งกันทั้งโต๊ะ เราลุกเดินกันออกมาบริเวณสวนหน้าร้านอาหารที่ไม่ได้มีคน

“ว่าไงหยางอวิ๋น”

“รุ่นพี่....ลิลลี่...กำลังจะแต่งงานกับอาของผม”

ลู่ชิงอวิ๋นเบิกตากว้าง อันที่จริงผมไม่แน่ใจว่าพี่ซันเป็นอาได้ไหม เขาอาจจะเป็นน้า? แต่บริบทตรงนั้นไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ แล้วลู่ชิงอวิ๋นก็ไม่ได้สนใจด้วย

“อะไรนะ แต่ลิลลี่กับนาย...”

“ผู้ใหญ่คุยกันครับ แล้ว ผมกับลิลลี่เราเป็นเพื่อนสนิทกัน คนเข้าใจว่าเราคบกันแต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ครับ”

ผมถอนหายใจออกมาแกล้งทำเป็นดูไม่ออกว่าเขารู้สึกยังไง

“แล้ว...ลิลลี่รู้เรื่องนี้ยัง”

“รู้แล้วครับ ลิลลี่ไม่อยากแต่งงาน คุณอาของผมค่อนข้างดุมาก เขา... ไม่เหมาะกับการเป็นสามีที่ดีหรอกครับ รุ่นพี่น่าจะรู้เขาค่อนข้างรักสนุก”

ตามข่าวพี่ซันคือเศรษฐีเพลบอย รักสนุกเลยล่ะ ผมคิดว่าเป็นการพีอาร์ของขั้วอำนาจสักฝั่งเพราะพี่ซันแทบไม่ออกจากบ้านเท่าไหร่ เขาจะไปรักสนุกยังไงตอนไหนล่ะ

“ผมสงสารเพื่อนครับพี่ลู่ แต่ผมไม่รู้จะทำยังไง คุณอาผมเขามีคนอื่นอีกตั้งเยอแยะ”

ทั้งหูยาวแฟมิลี่ ทั้งปลาคาร์ฟลูกรัก แจกันลูกโปรด ภาพวาดกิ๊กตลอดกาลนานเทอญ ลิลลี่จะไปอยู่ในตู้โชว์แข่งกับแจกันหรือไง?

“ทำไมรัฐมนตรีหวงถึงตัดสินใจแบบนั้น...”

“ผมคิดว่าเพราะหยางหวางเขาอายุกำลังพอดี รอบข้างๆ รัฐมนตรีหวงมีแต่ผู้ชายที่อายุไล่เลี่ยกับเขา มีแค่คุณอาของผมที่มารับตำแหน่งในอาณาจักรพระอาทิตย์ทีหลัง เขาอายุยังน้อยและ...ก็ไม่ได้มีภรรยาแบบเป็นทางการ”

มีแค่ผมที่ยืนหลบอยู่ในเงาของพระอาทิตย์

ลู่ชิงอวิ๋นไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เขาไม่กล้าออกความเห็นหรอกเพราะเขาไม่เกี่ยว แล้วเขาก็จะอาสาแต่งงานก็ไม่ได้เพราะบ้านเขายืนคนละฝั่งกับบ้านลิลลี่

“ผมจะพาลิลลี่หนี”

ก็ต้องเป็นผมที่เปิดทางให้ก่อน

“อะไรนะ?”

“ผมไม่อยากให้เพื่อนสนิทของผมต้องเสียใจ ผมรู้ว่าไอเดียนี้มันโง่ แต่รุ่นพี่ครับ ลิลลี่ร้องไห้จนตาบวม ผมต้องปลอบเพื่อนเป็นสิบๆ ครั้ง ถ้าผมไม่พาเธอหนี ลิลลี่จะฆ่าตัวตาย”

โหดร้ายไหมล่ะครับรุ่นพี่ลู่? กระวนกระวายสิ คนที่แอบรักมาหลายปีจะไปแต่งกับคนอื่น จะฆ่าตัวตาย รุ่นพี่ก็จะไม่ได้เห็นเขาอีกต่อไป

“แล้วนายมีแผนการอะไร”

“ก็...ผมจะให้ลิลลี่หนีไปก่อน แล้วผมก็จะตามไปเจอเธอไปทีหลัง เพราะถ้าเธอหายไปยังไงผมก็ถูกถามคนแรก ผมก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หรือแนะนำให้ผู้ใหญ่ไขว้เขวไปคนละที่กับที่ลิลลี่ไป จากนั้นผมค่อยหนีตามเธอไปบ้าง กว่าผู้ใหญ่จะรู้ว่าเราหนีไปด้วยกันเราอาจจะ...จะไปไกลแล้ว ผมคิดว่าจะหนีไปทางเขตทิเบต มันกันดารคงไม่คิดว่าเราสองคนจะไป มันลำบากแต่เราก็จะทำ”

“นายจะไปทิเบตยังไง จากเซี่ยงไฮ้ต้องข้ามไปอีกฝั่งของจีนเลยนะหยางอวิ๋น”

“ผมจะขึ้นรถไฟไป”

รถไฟของจีนค่อนข้างแออัดเพราะจำนวนประชากรมหาศาล อันที่จริงแผนการณ์ของผมไม่ได้ถูกพูดคุยกับลิลลี่เลยด้วยซ้ำ ผมคิดเอง เออเอง และมาคุยกับลู่ชิงอวิ๋นเอง

“ลิลลี่จะขึ้นรถไฟไปก่อน...ผมกังวลว่าการเดินทางคนเดียวของลิลลี่จะอันตราย แต่ แต่เราก็ต้องเสี่ยงครับ”

“เฮ้อ หยางอวิ๋นนายกำลังทำเรื่องใหญ่นะ”

“ผมรู้ครับ ผมเลยอยากปรึกษาใครสักคน แล้วคนที่ผมคิดออกก็มีรุ่นพี่คนเดียว ผมแค่อยากมั่นใจว่าแผนนี้มันโอเคไหม รุ่นพี่คิดว่ายังไงครับ”

“อย่าเลย ลิลลี่เป็นผู้หญิง ไม่เคยลำบากการไปถึงทิเบตมันอันตราย แบบนี้ดีกว่าหยางอวิ๋น ให้เธอมาหลบในห้องชุดของฉัน ไม่ได้มีใครอยู่ห้องนั้น คนของฉันไว้ใจได้ แล้วเราจองตั๋วอีกใบไปทิเบต แต่ไม่มีใครเดินทางไปจริงๆ รอจนทุกคนคิดว่าเธอไปทิเบต ฉันจะพาเธอไปอยู่คุณหมิง ที่นั่นอากาศดีและปลอดภัย แล้วนายค่อยตามไปหาเธอทีหลัง”

ผมเปลี่ยนสีหน้าเป็นซาบซึ้งกับน้ำใจมหาศาลของลู่ชิงอวิ๋น แบบที่ผมซ้อมอยู่หน้ากระจกมานาน

“แต่นายก็ต้องคิดต่อด้วยว่าจะเอายังไง มันหนีไม่ได้ตลอด แล้วถ้ารู้ว่าฉันช่วย...ฉันก็แย่เหมือนกัน”

ครับ ผมอยากให้รุ่นพี่แย่ ดังนั้นผมไม่มีแผนอะไรต่อไปทั้งนั้น



ผมกลับบ้านมานอนกอดปั้นชา จมอยู่ในอ้อมแขนของสุริยะ หยาง สาเหตุที่ผมต้องเตรียมตัวเรื่องลิลลี่เพราะว่ามันใกล้เข้ามาทุกที รัฐมนตรีหวงพาลิลลี่มากินข้าวที่บ้านอีกแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน ทางฝั่งพี่ซันผมไม่แน่ใจว่าเขามีแผนรับมือยังไง แต่ผมจะไม่รอ ผมก็ต้องเตรียมตัวของผม ถ้าเกิดจู่ๆ อำนาจเบื้องหลังพี่ซันเห็นสมควรให้เขาแต่ง ผมจะไปคัดค้านอะไรได้ การแต่งงานทางการเมืองมีอยู่ทุกที่

“อวิ๋น ยังไม่นอนอีก”

เขาสะลึมสะลือตื่นมาจูบหน้าผากผม คงเพราะผมยุกยิกไปนิดหน่อยเลยทำเขาตื่น

“อวิ๋นฝันร้าย”

“ฝันว่าอะไร หืม”

เสียงพี่ซันแหบนิดหน่อยเพราะเขาเพิ่งตื่น

“ฝันว่าพี่ซันทิ้งอวิ๋นไป ฮึก...ทำไมทิ้งกัน ฮืออ”

ความฝันที่ว่ามันไม่จริง แต่ที่ผมร้องไห้มันเรื่องจริง ผมกลัว กลัวไปหมด กังวลไปทุกอย่าง กลัวว่าเขาจะหายไป หรือว่าผมต้องจากไป ผมไม่อยากไปไหน อยากอยู่ที่นี่กับเขา อยากอยู่กับพี่ซันตลอดไป

“อวิ๋น ชู่ววว มันแค่ความฝันไง พี่อยู่นี่ ยังอยู่ตรงนี้”

พี่ซันลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง เขาโอบรั้งเอวผมไปนั่งตัก ฝ่ามืออุ่นลูบหลังปลอบให้ผมหายร้องไห้ แต่ผมก็ยังคงร้องไห้อยู่ดี จริงๆ แล้วอาจจะเพราะว่าผมไม่เคยร้องไห้กับเรื่องนี้เลย พอได้ร้องทั้งทีความอัดอั้นมันเลยทะลักออกมาหมด

“อย่าทิ้งอวิ๋นไปนะครับ”

“ไม่มีทาง...ต่อให้อวิ๋นหนีพี่ไปพี่ก็จะตามหาจนเจอ ต่อไม่ให้พี่อยู่ด้วยพี่ก็จะด้านอยู่ จะนอนหน้าบ้านอวิ๋นนั่นแหละ พาชิวซีไปด้วย”

“ทำไมต้องพาชิวซีไปนอนหน้าบ้านอวิ๋นด้วยครับ”

“มันหล่อกว่าพี่ เผื่ออวิ๋นสงสารที่มันลำบาก จะได้ใจอ่อนเผื่อพี่ด้วย”

ปลอบผมทั้งทียังพาลคนอื่นได้อีก หยางหวางคนนิสัยเสีย



“ตกลงว่าเรื่องแต่งงานเป็นยังไงบ้าง”

“ท่านบอกให้แต่งครับ แล้วจะส่งคนมาขโมยเจ้าสาวในงานให้ คุณจะได้ไม่ผิดใจกับรัฐมตรีหวงแต่จะกลายเป็นเจ้าบ่าวน่าสงสารถูกว่าที่เมียทิ้ง”

“แล้วขโมยไปไหน?”

“ไปไหนก็ได้ คุณจะสนใจทำไม”

สุริยะ หยางทำหน้าเอือมใส่คนสนิท ก่อนจะยกการินชาให้ตัวเอง เมินถ้วยชาอีกฝ่ายที่ว่างเปล่า กวนตีนนักอยากกินก็รินเองแล้วกัน

“เผื่อจะหาทางกลับมาเจออวิ๋นอีก เหอะ..”

“หยางอวิ๋นเขาไม่ได้ชอบสักหน่อย”

“แต่ยัยคุณหนูนั่นชอบ คนมีตั้งเยอะดันมาชอบเมียคนอื่น ไม่ได้เรื่อง รัฐมนตรีหวงนี่เลี้ยงลูกไม่มีคุณภาพ”

“ไม่เหมือนเยว่เลี้ยงใช่ไหมครับ เลยได้หยางอวิ๋นคุณภาพมาเลย”

“นั่นก็ดีเกิน! กระต่ายเป็นสิบๆ ตัวไม่สนใจ สนใจแต่เครื่องคิดเลข ถามจริงอวิ๋นเขาชอบกระต่ายของฉันไหม? ก็ว่าเลือกคุณภาพเกรดเอบวกมาแล้วนะ”

“เขาก็...น่าจะชอบนะครับ”

ชิวซีไม่อยากจะบอกว่าเวลาสุริยะ หยางไม่อยู่ กันติชาแทบไม่กอดปั้นชา บางทีก็วางไว้กับพื้นแล้วก็เดินเตะมันล้มถึงหิ้วหูมันขึ้นมาวางบนโซฟาดีๆ ส่วนสารพัดตุ๊กตาอื่นๆ ก็ไม่เคยหยิบออกมาจากห้องนอนเลย จะเห็นอุ้มเห็นกอดก็ตอนที่หยางหวางอยู่ด้วยเท่านั้น

“แน่นะ?”

“ถามเองสิครับ”

“ก็สืบให้หน่อย”

“สืบว่าหยางอวิ๋นชอบกระต่ายหรือเปล่า?”

“ใช่”

“หยางหวางคุณอายุเท่าไหร่แล้วครับ”

“เท่าแกไง ให้ดูเมียให้แค่นี้ทำมาเล่นตัว แล้วตกลงแจกันขายออกยัง มันซื้อไหม?”

“ซื้อครับ เจอปิ่นหยกแล้วด้วย คุณจะเก็บไว้เองหรือส่งคืนรัฐบาล”

“เก็บเอง เผื่อตองผมยาว เอาไว้ให้ตองใช้”

“ผมยาวมีคนมาชอบนะครับ”

“งั้นเอาคืนรัฐบาลไปเลย ส่งไปให้ ‘ท่าน’ ไป บอกว่าด้วยรักจากฉัน”

“แล้วจะไปกินข้าวกับท่านเมื่อไหร่”

“เมื่อฉันไม่ต้องแต่งงาน ช่วงนั้นก็ส่งอวิ๋นกลับบ้านด้วย ไปร้องไห้ในงานแต่งเปล่าๆ”

“ผมว่าหยางอวิ๋นไม่ร้องไห้หรอกครับ คนที่ร้องไห้น่าจะเป็นคุณนะหยางหวาง”

สุริยะ หยางถลึงตาใส่คนสนิท

“ลงไปนอนกับอาเฟยเลยไป รำคาญ! ”

ชิวซีส่ายหัวให้เจ้านายคนพาลที่หิ้วกาเดินกลับบ้านตัวเองไป แล้วสักพักคนที่เดินหิ้วกาไปได้ครึ่งสวนก็กลับมาอีก ชิวซีที่อุตส่าห์จะได้นอนเลยต้องนั่งลงที่เดิม

“แล้วฉันจะบอกเมียยังไงว่าฉันจะจัดงานแต่ง?”

“ก็ชวนหยางอวิ๋นไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวสิครับ”

“เจ้าบ่าวอยากงาบเพื่อนเจ้าบ่าวมากกว่าเจ้าสาวเนี่ยนะ”

“คุณก็ต้องบอกเขาว่ามันเป็นแผน”

“เดี๋ยวก็ถามอีกว่าแผนอะไร ทำเพื่ออะไร แล้วฉันจะอธิบายยังไง”

ชิวซีอยากจะโทรตามอาเฟยให้ขึ้นมาแก้ปัญหา ‘รักๆ ใคร่ๆ ’ ของเจ้านายวัยใกล้จะวัยทอง สุริยะ หยางไม่เคยมีปัญหาหัวใจเลยเพราะรักใครไม่เป็น พอรักทั้งทีดันโคตรจะปั๊ปปี้เลิฟ

“ก็อธิบายว่าคุณไม่ได้อยู่ฝ่ายรัฐมนตรีหวง จริงๆ แล้วคุณอยู่อีกฝั่ง แต่ดันต้องตอแหลไว้เพราะเขาสั่งมาให้เป็นนกสองหัว”

“มันพูดที่ไหนล่ะวะ! ”

“ส่งหยางอวิ๋นกลับไทยช่วงนั้นสิครับ ส่งคนตามไปด้วย เอาให้แน่ใจว่าหยางอวิ๋นจะไม่แอบกลับมา จะไม่รู้ข่าว จะไม่เอะใจ ให้เขาอยู่กับเยว่ไป”

“เคยดูละครหลังข่าวไหม พระเอกทำแบบนี้ทีไรนางเอกมันรู้ทันทุกที”

“คุณดูละครน้ำเน่าด้วยหรอครับ”

“คิดว่าฉันพูดไทยได้ ฟังไทยคล่องนี่หัดพูดกับปลาคาร์ฟหรือไง มันก็ต้องดูทีวีภาษาไทยสิวะ! ”

คนรองรับอารมณ์คันปากอยากจะบอกเหลือเกินว่าจำตัวเองตอนหัดท่อง ก ไก่ ให้ปลาฟังได้ไหม หยางหวางเตรียมตัวมาหลายปีเพื่อรอเจอหยางอวิ๋น คนทั้งบ้านที่มีแค่เขากับแม่บ้านเลยพอจะพูดไทยได้เพราะโดนบังคับเรียนเป็นเพื่อนจักรพรรดิเอาแต่ใจ

“คุณไม่ใช่พระเอก พระเอกต้องดีแสนดี ไม่ทำอะไรเลวๆ แบบคุณหรอกครับ”

“เหอะ...ไปเฝ้าอวิ๋นที่ไทยด้วย”

“ไปไม่ได้ครับ ผมต้องฉุดเจ้าสาว”

“เพราะ?”

“คุณว่าเธอจะยอมหนีตามง่ายๆ หรอถ้าส่งคนแบบอาเฟยไปฉุด? มันก็ต้องใช้วิธีคุยด้วยเหตุด้วยผล พูดดีๆ ไม่ต้องใช้แรงก็สำเร็จ”

“จะไปหลอกให้เขาหนีตามว่างั้น?”

“ครับ”

“แล้วตกลงจะหนีไปไหน?”

“ทิเบต ไกลหน่อยพ่อเขาจะได้ไม่มีปัญญาตาม แล้วแถวนั้นมีคนของเรา”

“แล้วฉันต้องทำไง”

“ทำเรื่องที่ถนัดครับ สร้างภาพว่าเสียใจ เมาตกบ่าปลาคาร์ฟ เข้าโรงบาล โดนรถชน เยอะแยะที่คุณทำได้”

“เออดี แล้วหนีไปหาอวิ๋นที่ไทยดีกว่า”

“คุณออกนอกประเทศไม่ได้”

“จะออก! อุตส่าห์เสียเงินยอมแต่งงาน เป็นพ่อหม้ายเมียหาย จะให้ออกนอกประเทศสักครั้งมันจะตายไหม?”

ชิวซีส่ายหัวกับคนเอาแต่ใจที่หิ้วกาน้ำชาตัวเองกลับไปอีกรอบ หยางหวางเอาแต่ใจตั้งแต่เด็กจนโต แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าจักรพรรดิพระอาทิตย์ สมกับเป็นพระอาทิตย์ เรื่องที่ควรเด็ดขาด เรื่องที่ควรปล่อย หยางหวางจัดการได้ดี

หยางหวางเข้าใจว่าด้วยสถานะเลยทำให้ออกนอกประเทศไม่ได้ แต่จริงๆ ที่ห้ามออกเพราะนอกเขตจีนแผ่นดินใหญ่การดูแลความปลอดภัยมันไม่รัดกุมเท่าก็เท่านั้นเอง

แม้จะได้ชื่อว่าเป็น ‘คนโปรด’ นั่นก็เพราะหยางหวางยอมเลือกที่จะอยู่ฝั่งนี้ ยอม ‘โดนโปรด’ ถ้าไม่มีหยางอวิ๋นเป็นของรางวัล ป่านนี้คงไปล่าขุมทรัพย์โบราณกับนักโบราณคดีที่ไหนแล้วไม่รู้

“ทำไมยังไม่นอน”

เสียงแหบต่ำมาพร้อมกับร่างหนาที่เดินออกมาจากมุมมืดของศาลาพระอาทิตย์

“มาทำอะไรบนนี้”

“มาดูลาดเลา ช่วงนี้ไม่ค่อยปลอดภัย”

อาเฟยไม่ได้เป็นศัตรู แต่ก็ไม่นับว่าเป็นพวกเดียวกันนัก

“คงอีกไม่นาน หยางหวางใกล้จะหมดความอดทนแล้ว”

“อืม ทางนี้เตรียมรับมือแล้ว ทางนายพร้อมหรือยัง”

อาเฟยเป็นคนของรัฐบาลที่มีหน้าที่ดูแลตระกูลหยางในฐานะตระกูลที่สืบทอดหน้าที่ดูแลทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นบอดี้การ์ดนอกราชการที่ถูกจ้างมาทำภารกิจนี้ ส่วนเขาเป็นคนของคนที่ตำแหน่งสูง...สูงกว่ารัฐมนตรีหวง

“พร้อมนานแล้ว ดูแลหยางหวางให้ดี เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ”

“หน้าที่นี้ไม่ได้รวมถึงหยางอวิ๋น ทางนั้นต้องดูแลกันเอง ถ้าสถานการณ์คับขัน ภารกิจของทางนี้แค่หยางหวางไม่ตายก็พอ”

“รู้แล้ว เรามีคนของเราดูแลหยางอวิ๋นอยู่ ไม่ต้องห่วง”

“ใคร?”

“งานไม่เกี่ยวข้องกันไม่ต้องถาม”

อาเฟยสบถเบาๆ ก่อนจะหายลับไปในความมืด เหลือชิวซีที่เงยหน้ามองพระจันทร์เว้าแหว่ง ภารกิจหลายปีคงใกล้จะจบได้แล้ว การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้



-------------------------

ต่างคนต่างมีแผนนะคะ 55555555555+ แผนเหมือนกันตรงจะส่งลิลลี่ไปทิเบต มาดูกันใครจะได้พาไป ใกล้ละ หญิงสาวที่จะเป็นแม่จั๋นใกล้เข้ามาแล้วค่ะ อิ้อิ้


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
รอชั้นรอเทออยู่..
รอตอนต่อไปนะคะ..  :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ทำไมสงสารลิลลี่?? เทอรักคนผิดซะแล้ว 555

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เตรียมท้องไว้กินมาม่า...ท้องอืดรอ   :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
การทำเพื่อตัวเองมันต้องลากคนอื่นมาเจอเรื่องแย่ ๆ ด้วยสินะตอง

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
ชอบหยาง ความปั๊บปี้เลิฟทำให้อะไรๆ ก็ตอง อะไรๆ ก็เมีย

ชอบที่บอกว่า "ไม่มีทาง...ต่อให้อวิ๋นหนีพี่ไปพี่ก็จะตามหาจนเจอ ต่อไม่ให้พี่อยู่ด้วยพี่ก็จะด้านอยู่ ..." และก็เป็นเช่นนั้น

ตองเองก็กดดัน ทำเป็นเก่งไปงั้น พอเขาจะแต่งจริง ต้องมีเหตุรุนแรงกระทบต่อจิตใจมากๆ แน่ๆ เลยหนีกลับไทยเลย ถือคติว่าเมื่อพี่ซันจะมีหรือมีเมียได้ ตองก็มีได้เช่นกัน หรือเปล่า? มีก็แปร๊บเดียว แต่เชื้อแรง เจ้าจันทร์ถึงเกิดมา ... เดาล้วนค่ะ

ชิวซีกัยอาเฟย พอได้อยู่นะคะ ว่าแต่ใครคือคนที่คอยดูแลตองอยู่ อยากรู้ๆ

สนุกดี ชอบค่ะ รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สงสารลุงหยางขึ้นทุกวันนน ทำไมตองร้ายยยยย

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
สรุปพี่ซันนี่ได้น้องตองรึยังคะ หรือเราพลาดตอนไหนไป ตอบเราทีค่ะ555
พี่ซันก็คือพี่ซันนนน

ออฟไลน์ k.suttho

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอ๊ยๆๆๆ แผนใครเป็นแผนใครมีเป็นสามสี่แผน แผนใครจะสำเร็จจจจจจจจจ อยากจะรู้  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แผนพาลิลลี่ไปทิเบต ของตอง
เหมือนกับที่ชิวซี คิดเลย
แสดงว่าตอง สมองไม่แพ้ผู้ใใหญ่เลย   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

สุริยะ  กันติชา   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พี่ตองดูมีความร้ายๆเหมือนกันนะ

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
แผนใครจะสำเร็จ  :katai3:

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เด็ดสุดตรง เป็นพ่อหม้ายเมียหาย แล้วเมียในเงายังหนีไปมีเมียอีก #งงในงงกันไป 5555

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ใครจะทำสำเร็จตามแผนก่อนหละทีนี้

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Chapter 20 Tibet

สุริยะ หยางในชุดโค้ดตัวยาวสีดำคอตั้งปิดไปครึ่งหน้าหรี่ตามองมงกุฏจักรพรรดิเปอร์เซียที่ทำมาถวายตั้งแต่สมัยพระนางบูเช็คเทียนด้วยแววตาวิเคราะห์ มงกุฏทรงยุโรปแม้จะมาจากเปอร์เซียแต่กลับได้รับอารยธรรมของอังกฤษสมัยก่อนมาเต็มๆ

“ถ้าหยางหวางอยากได้ ก็แค่พันล้าน มงกุฏเลียนแบบของควีนอังกฤษ”

เสียง ‘หึ’ ในลำคอดังเบาๆ ก่อนมือหนาในถุงมือหนาสีดำจะยกขึ้นโบกเล็กน้อย

“ทางเราไม่สนใจมงกุฏ”

ชิวซีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบสนิท แม้จะมีรอยยิ้มจางๆ ต่างจากหยางหวางที่เมินไปทางอื่น ไม่ใช่เพราะไม่สนใจศิลปะทางยุโรป แต่มงกุฏที่จะล่อตาล่อใจหยางหวางได้ต้องไม่ใช่แค่ของที่ได้รับ ‘แรงบันดาลใจ’ มา ถ้าจะซื้อมงกุฏก็ต้องมงกุฏของควีนเท่านั้น

“หยางหวางกำลังจะแต่งงาน ให้เจ้าสาวใส่ในพิธี...อึก”

น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ชะงักเมื่อมีดสั้นแบบตะวันตกจ่อเข้าที่คอหอย ตาคมมองต่ำลงไปยังคนที่ตัวเตี้ยกว่า มุมปากปรากฏรอยยิ้มที่ตีความไม่ออก

“ไม่เอาก็คือไม่เอา”

“ครับๆ ๆ ๆ งั้นต่อไป ตราพระราชลัญจกรของจิ๋นซี เคยหายไปช่วงรัฐฉินกำลังขยายอิทธิพล ที่ฮ่องเต้ใช้อยู่หลังจากรวบรวมอาณาจักรสำเร็จคืออันใหม่ อันนี้ที่หยางหวางตามหา ราคาสูงมากในตลาดมืด”

“อืม”

ชิวซีเลื่อนกระเป๋าเก็บอุณหูมิเข้ามาใกล้ หยางหวางรับมาหมุนดูอยู่สองสามรอบก่อนจะพยักหน้า การซื้อขายจบลงในเวลาอันรวดเร็วภายในพิพิธภัณฑ์ เงินสดถูกโอนเข้าบัญชีในสวิตเซอร์แลนด์ทันที คนนำของมารีบเดินออกไป ครึ่งชั่วโมงต่อมาอาเฟยก็พาคนของรัฐบาลมาตรวจรับของและเจ้าหน้าที่ก็นำไปจัดวางในห้องนิรภัยของพิพิธภัณฑ์รอนำจัดแสดงต่อไป



“จะขโมยเองไหมครับ?”

ชิวซีเอ่ยปากหลังจากเห็นหยางหวางยืนจ้องตราพระราชลัญจกรในตู้กระจกเก็บอุณหภูมิ

“ไม่ คราวก่อนอวิ๋นโมโหจนปาที่ทับกระดาษอันละหลายร้อยล้านของฉันแตกจำได้ไหม? เอาอะไรห่างๆ มืออวิ๋นเถอะ เก็บมันไว้ในตู้นี่แหละ”

หยางหวางส่ายหัวกับอารมณ์ฉุนเฉียวของหยางอวิ๋น ช่วงนี้อยู่ๆ อวิ๋นของเขาก็กลายเป็นคนเกรี้ยวกราด ดุกว่าสมัยมาอยู่ด้วยกันแรกๆ ราวกับเสือ

“เรื่องปกติของวัยรุ่นครับ ส่วนคุณจะวัยทองแล้วคงจำไม่ค่อยได้”

มีดสั้นแบบยุโรปอันเดิมถูกตวัดขึ้นแทงคนสนิท แต่ชิวซีกับแอ่นตัวไปข้างหลังราวกับจะทำท่าสะพานโค้งแล้วเบี่ยงตัวกลับมายืนดีๆ

“คุณใช้มีดตัดกระดาษขู่ชาวบ้านไปทั่ว ไม่ละอายแก่ใจบ้างหรอครับ”

มันไม่ใช่มีดสั้นที่ใช้เป็นอาวุธ แต่เป็นมีดสำหรับตัดซองจดหมายแบบโบราณที่หยางหวางบังเอิญได้มาถือเล่นๆ เลยเห่อเป็นพิเศษ

“ว่าจะเอาไปให้อวิ๋นใช้ แต่กระดาษคงสบายดี ส่วนฉันตาย”

ส่ายหัวขำๆ ก่อนจะโยนมีดสั้นให้ชิวซี

“เอาไปไว้ห้องทำงานฉันดีกว่า ให้ของมีคมเดี๋ยวทะเลาะกัน”



ขายาวก้าวออกจากห้องนิรภัยไปยังกำแพงกระจกที่ทอดออกไปเป็นวิวสวนสวยแบบจีนด้านข้างของพิพิธภัณฑ์ ตาคมมองต้นไผ้พันธุ์ดีที่ตั้งใจเลือกมาปลูกตามคำแนะนำของซินแส

“ชิวซี ดูอวิ๋นดีๆ ข่าวลือมันเริ่มเยอะ ถึงเราจะป้องกันยังไงถ้ามันถึงอวิ๋น การที่เขารู้จากคนอื่นยังไงก็ต้องมีปัญหา”

“คุณคิดไม่ตกเรื่องนี้ ก็ควรให้เขารับรู้ว่าเรากำลังทำอะไร”

“คิดว่าอวิ๋นจะนอนหลับได้ยังไง ถ้ารู้ว่าฉันออกจากบ้านมาทำอะไร? อวิ๋นจะเป็นคนข้างหลังที่ทำได้แค่รอ แล้วถ้าเกิดฉันตาย?”

“คุณขังตัวเองไว้บนยอดหอคอย แล้วคุณก็พาเขาไปถูกขังกับคุณ”

“มันปลอดภัย ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นอาเฟยไม่ชวนอวิ๋นแน่ นายก็ด้วย จะมีใครปกป้องอวิ๋นได้ถ้าไม่ใช่ฉัน”

น้ำเสียงมั่นคงทว่าดวงตากลับวูบไหว ชิวซีไม่ได้พูดอะไรอีกเพราะเป็นความจริง หยางหวางไม่มีคนของตัวเอง เข้าไว้ใจได้แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ใช่คนของหยางหวาง อาเฟยก็ไม่ต่างกัน

“ฉันคิดว่าการพาอวิ๋นมาอยู่ที่นี่มันก็ดีกว่าการที่เขาหนีออกจากเยว่...แต่ฉันอาจจะคิดผิด ชิวซี เมื่อไหร่เรื่องนี้จะจบ ฉันเบื่อบัลลังก์จักรพรรดิเต็มที”

“อีกไม่นานแล้วครับ...อีกไม่นาน หลังงานแต่งงานของคุณ”

“พอทุกคนหมดหน้าที่แล้วจากไป มันจะเหลือแค่ฉันกับอาณาจักรที่ฉันไม่ได้ต้องการ ถึงวันนั้นอวิ๋นจะยังอยู่กับฉันไหม? ”



กำหนดการแต่งงานของพี่ซันออกมาแล้ว พี่ซันไม่ได้บอก ลิลลี่เป็นคนมาบอกผม เธอร้องไห้จนตาบวม ผมเองก็ร้องไห้ เพราะพี่ซันกำลังจะแต่งงาน แม้จะเป็นการแต่งการเมือง แต่พี่ซันก็กำลังจะเป็นของคนอื่น

พี่ซันไม่บอกผม อันนี้ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะเขาคงคิดว่าเขาไม่ได้อยากจะแต่งจริงๆ แต่สถานะสามีภรรยาของทั้งคู่มันจะไม่ใช่เรื่องหลอกลวง พี่ซันจะต้องก้าวไปอยู่ในวงสังคมที่ต่อไปเขาจะหนีจากมันไม่ได้ เขาจะกลายเป็นคนที่ได้ชื่อว่าลูกเขยรัฐมนตรีตลอดกาล และผมก็จะเป็นชู้ ลิลลี่ก็จะย้ายมาอยู่บ้านเรา สถานะสามีสองภรรยา

แต่ผมติดนิสัยสุริยะ หยางมาแล้ว ผมหวงบ้าน ผมจะไม่ให้ใครมาอยู่บ้านผม โดยเฉพาะคนที่จะมายืนในตำแหน่งเดียวกัน เขาจะไม่ได้แค่มาร่วมใช้พื้นที่บ้านเรา แต่เขาจะควงแขนพี่ซันออกงาน เขาจะเดินจับมือกันข้างนอก เขาจะต้องแสดงว่าคือครอบครัวโดยที่ผมทำได้แค่ยืนรออยู่ตรงนี้

ผมจะเป็นอะไรก็ได้ในชีวิตสุริยะ หยาง เป็นแค่คนในเงา เป็นแค่คนที่มีสถานะเหมือนปลาที่เขาเลี้ยง โดนเขาขังไว้ในบ้านก็ได้ แต่...อย่าได้มีคนอื่นได้ไหม คนที่เป็นได้มากกว่าผม...อย่าแบ่งความสำคัญอันน้อยนิดของผมไปให้ใคร

ชีวิตผมมีแค่เขาคนเดียว



พอชีวิตไม่เหลือตัวเลือกอะไร คนเราก็ทำเรื่องที่ไม่คาดคิดได้ง่ายๆ เหมือนที่ผมดึงมือลิลลี่มากุมไว้ เป็นครั้งแรกที่เราแตะต้องกัน การสัมผัสจะสร้างน้ำหนักทางคำพูดได้มากกว่า

เหมือนที่เวลาผมถูกกอด...คำบอกรักของพี่ซันน่าฟังกว่าทุกครั้ง

“หยางอวิ๋น...”

“เราหนีกันไหม”

เสียงผมแห้งผาก และน้ำตาก็ร่วงหล่น ผมหวาดกลัว และหวั่นใจ มันไม่มีความมั่นใจเหลืออยู่เลย

“นะ...หนีหรอ”

“อย่าแต่งงานเลยนะ...อย่า...”

อย่าแย่งพี่ซันกับผมเลยนะ เพราะผมคงไม่มีปัญญาไปแย่งเขาคืนมา

“ฮึก...ฉันก็ไม่ได้อยากแต่ง ฮือออ”

ลิลลี่ขยับเข้ามากอดผมแน่น สองแขนของผมยกขึ้นโอบเอวบาง เธอตัวเล็กจริงๆ บอบบางราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบในตู้โชว์แสนสวย

“หยางอวิ๋น ฉัน...รักเธอ”

“ผม....ผมรู้”

เราสองคนสติแตกอยู่ในห้องเรียนที่ไม่มีนักเรียนกันสักพัก ผมไม่ได้ไปสภานักเรียน ลิลลี่เองก็ไม่ได้ไปชมรม แล้วพอลิลลี่ร้องไห้แบบนี้ผมยิ่งเกลียดตัวเอง ผมกำลังทำผิด กำลังจะลักพาตัวลิลลี่ไปอยู่ในที่ๆ ที่เธอไม่คุ้นเคย

ทำไมผมจะไม่รู้ว่ากานที่เราต้องไปอยู่บ้านใหม่ สถานที่ใหม่ที่ไม่ใช่บ้านเรามันอึดอัดขนาดไหน เหมือนกับที่ผมเคว้งคว้างตอนมาอยู่กับพี่ซันแรกๆ นานทีเดียวกว่าจะเรียกที่นี่ว่าบ้านได้

“ลิลลี่...ผมขอโทษที่ชวนหนีไป ข้างนอกนั่นมันไม่ปลอดภัยเลย”

“ไม่เป็นไรจ้ะ....จริงๆ ฉันก็มีแผนเหมือนกัน แต่ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่”

มือของเรายังกอบกุมกันไว้ ผมคิดว่าเวลานี้เราอาจจะเป็นเพื่อนร่วมกันในสถานการณ์แสนลำบากแบบนี้ และในเวลาที่ผมสติแตกการมีลิลลี่สติแตกด้วยมันก็ไม่ได้แย่

“แย่จังเนอะ ทำอะไรไม่ได้เลย”

เรานั่งกันบนพื้น พิงกำแพงห้องเรียนมองไปที่กระดานตรงหน้า ความเงียบดำเนินอยู่เกือบห้านาทีก็ถึงเวลาที่เราต้องกลับบ้าน

“หยางอวิ๋น ฉัน...ฉันจะพยายามนะ”

“ครับ...”

ผมไม่รู้หรอกว่าลิลลี่จะพยายามอะไร อาจจะไปคุยกับรัฐมนตรีหวงอย่างจริงจัง แต่ในสภาวะสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ความเห็นของลิลลี่คงไม่มีค่าพอ รัฐมนตรีหวงคงมองอุดมการณ์มากกว่าความสุขของลูกสาวคนเดียว

มื้อเย็นผ่านไปแบบที่ผมกินอะไรไม่ค่อยลง ตอนนี้ในหัวผมเหมือนมีสองฝ่ายกำลังทะเลาะกันเอง ฝ่ายแรกยืนยันให้ผมทำตามแผน พาลิลลี่หนีไป แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่ามันไม่ถูกต้อง

ใจผมไม่แข็งพอจะทำเรื่องเลวร้าย ความคิดคนเรามันน่ากลัว และผมก็เริ่มกลัวตัวเอง...เริ่มเกลียดที่มีความคิดจะพาลิลลี่ไปลำบาก แต่อีกใจผมก็หวาดกลัว...กลัวว่าความใจอ่อนจะทำให้เสียพี่ซันไป

“ฮึก...ฮือออ”

ผมร้องไห้เพราะความสับสน มันแย่มากจริงๆ ที่ต้องมายืนอยู่ตรงทางแยกแล้วตัดสินใจว่าจะซ้ายหรือขวาทั้งๆ ที่เราไม่อยากไปสักทาง

“ปั้นชา...ฮืออ ทำยังไงดี ช่วยตองด้วย...ช่วยด้วย”

ใครก็ได้ช่วยด้วย



ผมร้องไห้จนถึงเช้า ตาบวมฉึ่งจนใช้สิทธิ์โดดเรียน นอนอยู่บ้านนั่งทำบัญชีคาเฟ่ชาให้ตัวเองไม่ฟุ้งซ่าน พี่ซันยังไม่กลับจากเจิ้งโจว เขาพาชิวซีไปด้วยอีกแล้ว อาจจะไปซื้อของเถื่อนอีกแล้ว

พอสงบสติอามณ์มองดูปลาคาร์ฟในบ่อผมก็เริ่มคิดว่าบางทีผมอาจจะต้องเลิกคิดคนเดียวแล้วอธิบายทุกอย่างให้พี่ซันฟัง คุยกับพี่ซันตรงๆ ว่าผมคิดยังไง ผมรู้อะไร แล้วเราจะได้ช่วยกันรับมือกับปัญหา

การแกล้งไม่รู้อะไรเลยของผม ทำให้เขากันผมออกจากเรื่องราวทั้งหมด แล้วก็กลายเป็นผมที่กระวนกระวายว่าตกลงอนาคตของเรามันจะไปในทิศทางไหน

บางทีการจับเข่าคุยกันไปเลยอาจจะดีที่สุด...ในเมื่อผมไม่อยากเลือกทางไหนสักทาง ก็ต้องให้พี่ซันเป็นคนเลือกให้ ไม่แน่อาจจะมีทางที่สามงอกออกมาและเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

ความคิดนี้อาจจะไม่ใช่ทางที่ดีที่สุดของผม แต่มันสบายใจมากเลย แค่คิดว่าเราจะได้คุยกันทุกเรื่องได้จริงๆ สักทีมันก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก

สุริยะ หยางอาจจะตกใจจนสบถสามภาษาเหมือนที่เขาชอบทำ เพราะผมดันไม่ใช่ลูกแมวหรือลูกกระต่ายนุ่มนิ่มแบบที่เขาชอบ ผมไม่ยอมเป็นปลาในบ่อของเขา...ผมแค่กำลังจะเป็นตัวเอง

ผมเชื่อว่าสองสามปีที่เราอยู่ด้วยกันมานี้ พี่ซันคงไม่โกรธขนาดไล่ผมไป หรือทิ้งผม...เราจะเหมือนคู่รักที่ทะเลาะกัน ง้อกัน และกลับมาเป็นเหมือนเดิม

เราไม่ใช่แฟนกันสักหน่อย...ผมบอกแล้วว่าระหว่างเราคือ ผัวเมีย ไม่เข้าใจก็คุยกันบนเตียง...ลูกหัวปีท้ายปี มันหน้าอายที่มั่นใจขนาดนี้...แต่...ผมก็แค่อยากให้กำลังใจตัวเอง



ผมไปโรงเรียนในวันต่อมา วันนี้ลิลลี่ค่อนข้างเงียบ เธอยังไม่พูดกับผมตั้งแต่เช้าอาจจะเพราะเธอคุยกับพ่อแล้วและรัฐมนตรีหวงก็คงยืนยันเรื่องการแต่งงาน

ส่วนผมต้องพยายามสงบสติอารมณ์ในช่วงหลายวันนี้เพื่อรอพี่ซันกลับมา ตอนเย็นผมตั้งใจจะไปล้มเลิกแผนการกับลู่ชิงอวิ๋น เรื่องนี้เขาไม่ควรมาเกี่ยวข้องด้วย ถ้ารัฐมนตรีหวงรู้ว่ารุ่นพี่ลู่มาเกี่ยวข้อง อาจจะทำให้สองตระกูลทะเลาะกันอย่างโจ่งแจ้งมากขึ้น สงครามจิตวิทยาทางการเมืองอาจจะกลายเป็นเรื่องบานปลาย

“หยางอวิ๋น ช่วยฉันถือของหน่อยได้ไหม วันนี้ฉันจะกลับบ้านก่อนจ้ะ ไม่เข้าชมรม”

“ได้ครับ เอาหนังสือมาเถอะ ผมถือให้”

ลิลลี่ยืมหนังสือหลายเล่มมาจากห้องสมุดอีกแล้ว เราเดินกันไปตามระเบียงทางเดินที่ยังมีนักเรียนอยู่กันเต็มไปหมด เพราะเพิ่งจะเลิกเรียนเท่านั้นเอง

เราเดินกันออกมาหน้าประตู แต่แปลกที่รถของตระกูลหวงไม่ได้จอดรอตรงนี้เหมือนทุกที อาจจะเพราะเวลานี้เป็นเวลาเลิกเรียน รถจึงค่อนข้างติด

“สงสัยรถติดน่ะ เราเดินเลียบรั้วไปกันนะหยางอวิ๋น เผื่อวนรถกลับไปทางเดิมได้เลย”

“ครับ”

ถึงจะแปลกๆ ที่ลิลลี่เลือกจะเดินออกไปแทนที่จะรอ แต่รถมันก็เยอะจริงๆ เราไม่ได้กลับบ้านช่วงนี้กันมาเป็นปีๆ แล้วตั้งแต่เธอมีชมรมของเธอ และผมต้องทำงานในสภานักเรียน

“รถอยู่นั่นจ้ะ”

รถของตระกูลหวงจอดแอบอยู่ในซอยเลยรั้วโรงเรียนมาสักพัก ไม่ใช่คันเดิมที่มาจอดรอเหมือนทุกที แต่มีบ้างที่คนขับรถของลิลลี่จะเปลี่ยนรถมารับ บ้านเศรษฐีมักมีรถหลายคัน มันไม่ได้ไกลมากแต่แปลกที่รถของลิลลี่ไม่ได้ขับไปตามทางเหมือนคันอื่น แต่กลับมาจอดที่ซอยเล็กๆ ผมเดินตามไปที่รถเหมือนเวลาที่ช่วยเธอถือของหนักๆ ลิลลี่จะเปิดประตูเบาะหลังให้ฝั่งหนึ่งและผมก็วางของลง

พลั่ก!

ผมโดนลิลลี่ผลักเข้ามาในรถ จริงๆ แรงเธอไม่ได้เยอะ แต่เป็นตอนที่ผมก้มลงวางหนังสือทำให้การทรงตัวไม่ค่อยดีนัก หน้าผมทิ่มลงไปกับเบาะ ภาพสุดท้ายที่เห็นคือชายในชุดสูทที่เบาะหน้าหันมาโปะผ้าที่มีกลิ่นแปลกๆ ใส่ผม...และภาพก็ตัดนับตั้งแต่ตอนนั้น



เสียงดังจนหนวกหูกับการที่ตัวผมสั่นตลอดเวลาทำให้ผมค่อยๆ ลืมตา แล้วพบว่าตัวเองอยู่ในโบกี้รถไฟที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว อาการปวดหลังกับมึนหัวทำให้ผมต้องทิ้งตัวลงนอนกับเบาะแข็งๆ อีกครั้ง ทำไมผมมาอยู่ในรถไฟ?

“เฮ้ หยางอวิ๋น ตื่นแล้วหรอ?”

“เอ็ดเวิร์ด?”

เพื่อนร่วมห้องจากตระกูลมหาเศรษฐีที่ผมสนิทอยู่พอสมควม

“เซอไพรส์ไหม ตอนนี้เราอยู่บนรถไฟ ฉันตื่นเต้นเป็นบ้าที่ได้ลักพาตัวนาย”

“อะไรนะ!? ลักพาตัวผม?”

“ฉันรู้ว่านายกับลิลลี่คบกัน แล้วลิลลี่ดันเป็นคู่หมั้นหยางหวาง เธอกับฉันก็สนิทสนมกันตั้งแต่อนุบาล พอเพื่อนสนิทมาขอให้พานายหนี ฉันก็เลยบ่ายเบี่ยงไม่ได้นะ คิดซะว่ามาเที่ยวนะหยางอวิ๋น”

เอ็ดเวิร์ดนั่งลงที่เบาะฝั่งตรงข้าม เท้าคางมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วฮัมเพลงอารมณ์ดี

“เดี๋ยว นี่มันลักพาตัวนะเอ็ดเวิร์ด ไม่ใช่เล่นขายของ แล้วเรากำลังไปที่ไหน?”

“ใจเย็นๆ ไม่เคยเห็นนายสติแตกเลยนะหยางอวิ๋น ลิลลี่แค่ให้พานายหนีไปในช่วงใกล้วันแต่งงาน ไปเที่ยวสักเดือนรอเธอหนีงานแต่ง แล้วพวกนายก็จะได้คบกัน ส่วนฉันก็รับบทเพื่อนตัวเอก โคตรสนุกเลย”

ไอ้เอ็ดเวิร์ด! ตอนผมคิดแผนลักพาตัวลิลลี่ทั้งเครียดทั้งกังวล แต่เอ็ดเวิร์ดกับลักพาตัวผมแล้วบอกว่าสนุกเนี่ยนะ

“นายคิดบ้างไหมถ้าทุกคนรู้ว่านายพาฉันมา พ่อนายจะเดือดร้อนนะ ตรงนั้นอาจจะมีกล้องวงจรปิด ยังไงตำรวจก็ต้องไปหาลิลลี่คนแรกเพราะฉันเดินออกมากับเธอ”

“โนๆ ไม่มีกล้อง จริงๆ คือมันมีกล้องแหละแต่ลู่ชิงอวิ๋นที่เป็นประธานนักเรียนปิดกล้องให้ ฉันบอกแล้วไงว่ามันน่าสนุกจะตาย เหมือนพวกเราร่วมกันทำภารกิจอะไรสักอย่างเลย ฮ่าๆ ๆ”

“ลู่ชิงอวิ๋น?”

“ใช่ ตอนฉันไปขอให้เขาช่วย เขาบอกนายกำลังวางแผนจะไปทิเบตพอดี เขาก็เลยช่วย....อ๋อ ฉันยังไม่ได้บอกสินะ นี่เป็นรถไฟไปทิเบตน่ะ ฉันมีบ้านพักตากอากาศของพ่ออยู่ที่นั่นด้วย ตื่นเต้นดีนะหยางอวิ๋น เราสองคนกำลังจะได้ไปเที่ยวทิเบตด้วยกัน ฉันขอพ่อมาหลายทีแล้ว เคยดูสารคดีเจงกิสข่านไหม? อาจจะใกล้ๆ แถวนั้นก็ได้ ช่วงนี้พ่อฉันไปดูงานที่สาขาอังกฤษด้วย ฉันจะได้หนีเที่ยวตั้งเดือน โคตรดีเลยว่ะ”

ผมถึงกับพูดไม่ออก ผมวางแผนให้ลิลลี่ไปทิเบต แต่กลับถูกลิลลี่ซ้อนแผนพาตัวมาทิเบตเอง โดยมีเอ็ดเวิร์ดร่วมแผนการ แล้วยังมีลู่ชิงอวิ๋น!

สุริยะ หยางคุณจะมาตามหาผมไหม...

ความกังวลทำให้ผมนอนข่มตานิ่งๆ ทิเบตทั้งกันดาร ทั้งห่างไกล กว่าทุกคนจะเจอผม? ก็เหมือนกับที่ผมเคยคิดจะพาลิลลี่มา เพราะมันไกลกว่าคนจะเจอลิลลี่ก็คงเป็นเดือน

ผมดูถูกแผนการของเด็กผู้หญิงเกินไป คิดว่าพวกเธอเป็นตุ๊กตาบอบบางแต่จริงๆ แล้วผู้หญิงคือเพศที่เด็ดขาดกว่าผู้ชายอย่างผม ลิลลี่มีผมเอ่ยชวนหนีแค่วันเดียวกลับใจเด็ดพอที่จะลักพาตัวผมทันที ต่างจากผมที่ลังเลอยู่อย่างนั้น

ผมแพ้แล้ว....แพ้ลิลลี่ แพ้จริงๆ

เอ็ดเวิร์ดสะดุ้งที่ผมหัวเราะออกมา ผมขำที่กลายเป็นตัวเองแพ้ ความพยายามของผมพังลงไม่เป็นท่า ผมต้องไปอยู่ทิเบตแล้วผมจะมีเวลาไปจัดการเรื่องงานแต่งพี่ซันได้ยังไง ผมจะต้องไปตามรอยเจงกิสข่านกับเอ็ดเวิร์ด เจงกิสข่านเป็นกษัติย์มองโกล ผมอาจจะโดนพาไปไกลถึงในเขตมองโกล

“หยางหวางจะมาตามหาฉันไหม?”

“เขาก็ต้องตามสิ แต่เราคงขี่ม้าไปเที่ยวกันไกลเลยล่ะ ฉันจ้างไกด์ท้องถิ่นไว้ เราจะไปซัมบาลากัน”

เอ็ดเวิร์ดจะรู้ไหมว่าซัมบาลาเป็นแค่สถานที่สมมุติของคนทิเบต มันไม่มีอยู่จริงแต่เป็นสังคมอุคติของชาวพุทธ ที่เชื่อว่าเป็นดินแดนของพระศรีอาริย์

ผมไม่ได้รู้เรื่องพวกนี้แต่แรกหรอก แต่ไอเดียส่งลิลลี่ไปทิเบตก็มาจากการดูสารคดีท่องเที่ยวทิเบต แล้วเขาก็พูดเรื่องซัมบาลาซะจนผมจำขึ้นใจ

แต่เอ็ดเวิร์ดมันไม่รู้อะไรเลย!

“ฉันหนีจากนายได้ไหม?”

“ไม่เอาน่าหยางอวิ๋น ผู้ชายอย่างเราก็ต้องไปผจญภัยกันสักครั้ง เชื่อเหอะสนุก นายอยากมาไม่ใช่หรอ ลู่ชิงอวิ๋นก็บอกว่านายสนใจทิเบต คิดซะว่าทริปสละโสดไง พอลิลลี่มาพวกนายก็จะแต่งงานกันแล้ว ไม่ได้เที่ยวแล้วนะ”

หมดคำพูด...หมดแล้วจริงๆ

พวกลูกเศรษฐีสมองกลัวที่ผมเกลียด นั่งอยู่ตรงหน้าผมหนึ่งคนถ้วน ที่เจ็บใจกว่าคือผมถูกคนสมองกลวงลักพาตัวมาสำเร็จ!

---------------------



ลิลลี่ไม่ได้มาเล่นๆ นะจ๊ะ ใครสงสารลิลลี่เมื่อตอนที่แล้ว มาส่งสารน้องตองกันด่วน 55555555555+



ที่ต้องให้ตองเป็นคนไป ก็เหมือนกับให้ตัวละครได้รู้ว่าเวลาเราตัดสินใจผิดพลาด แล้วผลที่ตามมาจะเป็นยังไงนั่นเอง ประสบการณ์จะทำให้น้องตองโตเป็นพ่อตองแบบ In control นะคะ สู้ๆ นะน้องตอง ตอนนี้ไปขี่ลามะก่อน



ลามะ รอตองอยู่นะจ๊ะ แต่ตองไม่รู้บ้างเลย



ปล. เดาสถานะลู่ชิงอวิ๋นออกกันยัง อิอิอิอิอิ










ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อ้าววววว

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: ทัมโม สังโค

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
อ้าว กลายเป็นตองซะงั้น ไปกันใหญ่ ไปซะไกลเลย

ยังไงยังคิดอยู่แต่กับเหตุแห่งการมีเมีย 555
พยายามหาที่มาที่ไป แต่ตอนนี้งงค่ะ
อ่านช่วงแรก ยังคิดว่าพี่ซันเองแหละที่สร้างเหตุให้ตองกลับ เพราะห่วงความปลอดภัย แต่ตองไม่อยากกลับ เลยต้องเป็นเหตุแห่งการเข้าใจผิด ไม่พอใจเท่านั้น
แต่แม่เจ้า กลายเป็นตองไปทิเบตเสียเอง พลิกๆๆ

รออ่านต่อค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด