---> ดาวอย่ายั่ว!!__Chapter25 >> END <<
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ---> ดาวอย่ายั่ว!!__Chapter25 >> END <<  (อ่าน 65725 ครั้ง)

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
นังใบโพธิ์นี่......แฮร่

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
Chapter 17 - เงาเเค้น



ช่วงที่ขิงยุ่งอยู่กับการสอบ ดาริณก็ได้รับคำตอบจากโมเดลลิ่งต้นสังกัดว่าสินค้าลิปบาล์มเลือกเขากับโพนี่มาเล่นโฆษณาคู่กัน เป็นเพื่อนรักคาเเรคเตอร์นว้อง~ที่พากันไปเลือกลิปบาล์มสองกลิ่นแล้วทดลองแลกกันใช้ก่อน เพื่อบอกต่อแก่แม่ๆ ว่ามาเปย์สินค้าขิงนว้องด้วยนะฮับ

สถานที่ถ่ายทำคือสตูดิโอที่ตึก GXX นั้นเเหละ ดาริณไปตามนัด แล้วก็เห็นนายเเบบคู่เขานั่งอยู่ก่อนเเล้ว

โพนี่เป็นคนน่ารัก สูงร้อยเจ็ดสิบนิดๆ เท่าดาริณ ตัวก็ลีนๆ กำลังน่ามอง ใบหน้าดึงดูด ตาสวย จมูกโด่ง และปากก็ให้ความรู้สึกว่าอยากลองงับเล่น เหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ เลย ถ้าเขาเป็นฝ่ายรุกดิบๆ สักคนคงนึกอยากย่ำยีบุคคลนี้ไว้ใต้ร่าง

ดาริณคงจ้องเพลินไป โพนี่เลยหันมาเลิกคิ้วด้วยสีหน้าหาเรื่องและคาเเรคเตอร์มือตบเเห่งละครช่องหลากสี ดาริณเบ้ปากถอยเท้าหมุนตัวไปหาช่างเเต่งหน้าของตัวเองทันที ที่ชมในใจเมื่อกี้ขออนุญาตถอนคืนทั้งหมด

และขณะกำลังนั่งให้พี่ๆ ดูเเลความเรียบร้อยของเบ้าหน้าให้ เสียงวี้ดว้ายจากมุมของโพนี่ก็ดังมา

“ทั้งกาแฟ ทั้งขนมเยอะเเยะขนาดนี้ พี่อิจฉาไปหมดแล้วค่ะ” เสียงเมคอัพอาร์ตติสอีกคนที่ดูเเลโพนี่ดังขึ้นมา

“คนโปรดก็แบบนี้เเหละค่ะเจ๊” พี่ผู้ช่วยสนุบสนุนเสียงดังจนได้ยินกันไปทั้งกอง

“คุณอลงกรณ์เค้าเทคเเคร์เก่งครับ ผมอุตส่าห์ไม่บอกตารางงาน ยังอุตส่าห์ให้เลขาแอบเช็คแล้วตามมาส่ง”

“รักมากก็เเบบนี้เเหละค่ะ ต้องดูเเล ไม่เหมือนพวกที่เค้าอยากควงเล่นๆ หรอกค่ะ ดูสินั่งอดอยากไม่มีอะไรจะกินเลย!!”

นี่ใครจ้างเจ้แกมาตะโกนให้ทั้งกองฟังรึป่ะ!!

พี่ซิน PM (Production Manger) คนเดิมเเห่งกองถ่ายเดินปราดเข้ามาเม้าท์กับดาริณทันที

“เค้าเเขวะคุณน้องค่ะ”

ขออนุญาตทราบเรื่องตั้งแต่พี่ไม่มาบอกแล้วครับ

“ต๊าย!! น้องดาว หนูก็เป็นเด็กคุณอลงกรณ์หรือลูก” พี่ช่างเเต่งหน้าก้มลงมาถามทันที ดาวส่ายหน้าผับ

“เบาลูก! เดี๋ยวผมเสียทรง” พี่ช่างผมดุจนดาวหยุดกึก

“แล้วทำไมเค้าเเขวะเราขนาดนั้น ไม่ได้ไปแย่งแฟนใครเค้าใช่มั้ย”

“เเฟนเฟินอะไร๊ หล่อนๆ ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าคุณอลงกรณ์เขาก็หว่านไปทั่วนั้นเเหละ นี้ก็มาเต๊าะน้องดาวเสียละมั้ง คุณโพนี่เธอเลยของขึ้นขนาดนั้น แต่จะว่าไปนะพี่ซินก็เชียร์น้องดาวมากกว่า เรียบร้อย น่ารักกว่าเยอะ พี่ว่าคุณโพนี่เค้าดูเเรงเกินไป” พี่ซินว่า

หือ...พี่ไม่เคยเจอดาวเวอร์ชั่นบนเตียงสินะครับ

พี่ซินเกาคางดาวเเถมท้าย คาเเรคเตอร์น้องน้อยๆ ของดาวนี่มันน่าเอ็นดูในสายตาคนอื่นจริงๆ

ดาวหันซ้ายทีขวาทีฟังคนนู่นคนนี้คิดวิเคราะห์เเล้วก็เหนื่อยใจ เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเล้ยยย ไม่อยากจะไปอยู่ในวังวนคุณอลงกรณ์สักนิด

ดาริณอาศัยจังหวะที่พี่ๆ รอบตัวเขาเม้าท์กันต่อ ไลน์หาเจ้าเด็กทันที

‘เจ้าเด็กทำอะไร’

‘ติวก่อนเข้าห้องสอบ ดาวละ’

‘แต่งหน้า’ ขิงรู้อยู่เเล้วว่าเขามากองถ่าย

‘พี่ดาวไม่มีกาเเฟดื่ม ไม่มีขนมกิน จนโดนนายเเบบอีกคนอวดใส่ว่าเเฟนเค้านะซื้อนู่นซื้อนี่มาให้กินเต็มเลย’

‘พี่ก็ไปขอเค้ากินสิ’

เอ้อ...แฟนเด็กกูมันช่างกร้าวใจ ดาริณเบ้ปากใส่โทรศัพท์ทันที

‘เค้าซื้อมาให้เเฟนคนเดียว พี่จะไปกินได้ไงละ ไม่พอแบ่งหรอก’

ดาวก็เล่นกับน้องไปอีก

‘อยู่สตู GXX ใช่ป่ะ ชั้นไหน’

‘ชั้นรักเธอ’

‘พี่เดี๋ยวผมทำข้อสอบไม่ได้’

‘ทำม่ะ’

‘ใจเต้นเเรงเกิน มือสั่น อาการเหมือนคนจะเป็นลม’

‘สอบไปเจ้าเด็ก เอาคะเเนนเต็มมาเเลกท่าแปลกๆ กับพี่’

‘หือ...ผมนี้เปิดเว็บ SM รอเลย’

‘อยากโดนดาวซ้อมก็ลองดู เข้าเว็บอะไรก็เกรงใจสายดำกูด้วย’

‘สายจีสตริง?’

‘มีแต่จีสะตีน เอาม่ะ’

‘โอ๋เอ๋ ล้อเล่น รักรักนะ’

‘รักรักด้วย ไม่กวนเเล้ว จุ๊บจุ๊บ’

ดาวอมยิ้มกับตัวเองแล้วคว่ำโทรศัพท์ลง เขามีเจ้าเด็กคนเดียวก็พอแล้ว ไม่ต้องมีขนมกินให้อิ่มท้องแต่ก็อิ่มใจมากเว่อร์

ดาวนั่งง่วงทำผมต่อไปสักพักก็มีพี่ในกองถ่ายเดินเข้ามาถามหา

“ครับ?”

“มีของว่างมาส่งค่ะ”

“ไหนครับ” ดาริณแอบดีใจ สุดท้ายเจ้าเด็กก็สั่งขนมมาให้ เขาคิดว่ามันคงเป็นกาแฟดำกับพวกคุกกี้พอกรุบกริบ

“กำลังตั้งไลน์บุฟเฟ่ต์อยู่ค่ะ”

“วะว่าไงนะครับ!?”

“ก็เห็นร้าน After Me มาบอกว่ามีลูกผู้บริหาร GXXสั่งให้มาจัดบุฟเฟ่ต์ Afternoon Tea และเบเกอร์รี่ที่สตูค่ะ”

‘เจ้าเด็ก สั่ง After Me มาหรอ’ ดาริณพิมพ์ถามทันที

‘ได้กินยัง’

‘ยังเค้ายังจัดโต๊ะอยู่’

‘กินให้อิ่มๆ นะ แล้วก็ขิงเเจกทุกคน ยกเว้นคนที่กวนตีนดาว’

ดาริณยิ้มขำ

‘เงาแค้นจังอะเรา’

‘ไม่ชอบให้ใครมาเเกล้งดาว ดาวอวดกลับไปเลยนะ ว่าว้ายๆ ที่บ้านเธอไม่มีแฟนขี้เว่อร์สินะ’

‘เป็นคนร้ายๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่’

‘จะดีจะชั่วก็ผัวเธอ’

ดาริณแทบปามือทิ้งไปตรงนั้น

‘อย่ารุนเเรงกับใจพี่นักได้มั้ย'

‘หึ แฟนเค้าอ่อนอ่ะ ซื้อฝากแค่คนเดียว ต้องขิงนี่ เเจกยกกอง’

‘ไปสอบเห๊อะ อิน้อง เหม็นคนรวยอ่ะ’

‘เเต่ขิงอ่ะ เหม็นความรัก...ของเราสองคน’

เกลี๊ยดดดดดด!!! แต่สองฝ่าเท้านี่กระทืบผับๆ ๆ

‘ขิง อวยตัวเองทำไมครับ พี่พาไปหาหมอมั้ย เพ้อๆ นะช่วงนี้’

‘ก็น่ารักให้น้อยลงหน่อย’

‘ไปสอบ!!’

‘เปิดกล้อง 2วิ เอาปากงุ้ยๆ มาเป็นกำลังใจหน่อย’

ดาริณมองซ้ายมองขวาแล้วกด VDO Call ก่อนที่สองคนจะทำปากงุ้ยๆ มาชนกล้องพร้อมกัน

“ร้ายนะคะ” พี่ซินมาอีกแล้ว

“ครับพี่”

“ลูกผู้บริหารสั่งไลน์บุฟเฟต์ขนมหวานมาส่งให้ถึงที่ เเจกคนทั้งกอง เหมือนลากน้องโพนี่ไปตบกลางสี่เเยก”

“อ่า…” ดาวไม่รู้จะอธิบายยังไง

“แล้วลูกผู้บริหาร GXX ก็มีเเต่คุณอลงกรณ์”

ชิปหาย! ดาริณตบหน้าผาก เจ้าขิง เจ้าเด็กของเขามันคุณชายนิรนาม

“คุณโพนี่หน้าซีดสลับเขียวเลยค่ะ”

“เขาปวดอึป่ะครับ”

“ปวดอึอะไรละคะ ปรี๊ดแตกหนะสิไม่ว่า สงสัยคราวนี้คุณอลงกรณ์คงเลือกน้องดาวเเล้วล่ะ บุฟเฟ่ต์จัดเต็มเปรมปรีด์กันทั้งกองแบบนี้”

ขิงงงงงงงงงงงคนเลว~ ขิงไม่หวังดีกับพี่ดาว ขิงอยากให้พี่โดนตบกางกองใช่มั้ยครับ

ดาริณทิ้งตัวลงกับเก้าอี้ หมดอารมณ์จะกินขนมไปเลย

เมื่อนายเเบบทั้งคู่เเละตัวประกอบเตรียมตัวเสร็จ ผู้กำกับก็เรียกไปบล็อคช็อตแล้วก็ซักซ้อมกันเล็กน้อย ในเรื่องไม่มีบทพูด เพราะจะใช้เสียงโฆษกภาคทับทีหลัง การเเสดงจึงมีเเค่ทั้งคู่เดินมาจากคนละมุม แล้วก็เข้าร้านเครื่องสำอางค์ไป แย่งกันหยิบลิปบาล์มเพราะตอนเเรกเหมือนจะเล็งเเท่งเดียวกัน แต่ก็หันมายิ้มให้กัน แล้วหยิบคนละกลิ่นมาทาริมฝีปากให้อีกฝ่ายเเทน

“3 2 1 Action!”

งานภาพเคลื่อนไหวที่เป็นบทบาทสมมุติแบบนี้ยังใหม่สำหรับดาว เพราะปกติเจาถ่ายคลิปรีวิวครีมก็จะเป็นตัวของตัวเองเต็มที่ การเเสดงจึงยังดูเเข็งไม่เป็นที่พอใจของผู้กำกับ

Cut!!

“เสียเวลา” โพนี่ยิ้มเยาะ ก่อนจะเเยกเดินกลับไปคนละมุมตามที่ผู้กำกับสั่ง ผู้ช่วยผู้กำกับเดินเข้ามาบรีฟดาวใหม่ก่อนจะถ่ายทำรอบต่อไป

“3 2 1 Action!”

คราวนี้ดาวก็เเสดงโอเว่อร์เกินไปอีก

“อ่อน” โพนี่ยิ้มเยอะดาวอย่างกับเดจาวู

ดาวเองก็เริ่มเครียดและกดดันตัวเอง เพราะเล่นไม่ผ่านสักทีทั้งที่เป็นบทง่ายๆ พอเป็นเเบบนี้ ดวงตากลมก็เริ่มสอดส่ายหากำลังใจ ถ้าเจ้าเด็กมาด้วยก็คงโอ๋ๆ เขาได้เป็นอย่างดี แต่นี่เจ้าเด็กไปสอบ ดาวฮึบๆ ตัวเอง เพราะขนาดขิงเป็นน้องยังพยายามทำหน้าที่ตัวเองเต็มที่ดาวเป็นพี่ก็ต้องไม่ให้เเพ้น้องเหมือนกัน

“ทำสมาธินะครับน้องดาว เป็นธรรมชาติ เหมือนวันที่เเคสนั้นเเหละ” ผู้กำกับปลอบมาอย่างใจเย็น

“ครับ” ดาวพยักหน้ารับ นึกถึงหน้าขิงแทนหน้าพระ

แล้วเทคนี้ก็ผ่านไปด้วยดี จนมาถึงจังหวะที่ต้องทาลิปให้กันและกัน

ในเรื่องเขาคือเพื่อนรักที่รู้ใจ แต่ความเป็นจริงโพนี่จ้องจะเเดกหัวดาวเข้าไปอยู่เเล้ว

“อื้อ!” ลิปบาล์มที่อีกฝ่ายทามา มันกระเเทกเเรงจนดาวได้รสเลือดที่ริมฝีปาก

“Cut!”

ผู้กำกับมองในมอนิเตอร์แล้วสะกิดให้ช่างเเต่งหน้าเข้าไปดู

“ขอโทษครับ ผมกะเเรงผิดไปหน่อย” โพนี่ทำหน้าสำนึกผิด

ไม่หน่อยล่ะมึง เล่นเอาทิ่มพรวดมาขนาดนั้น ดาวพยายามไม่หันไปมองหน้าอีกฝ่ายให้ของขึ้น เเน่จริงเจอกันตัวต่อตัวหลังตึกมั้ยละ พ่อจะฟาดให้หน้ายับเหมือนฟาดหน้าเหี้ย เอาให้ไปแคสงานไม่ได้อีกสามเดือนเลยคอยดูสิ

โพนี่มือตบแต่พี่ดาวเนี่ยมือเเตะ เลี้ยงด้วยลำเเข้ง ฟาดหน้าด้วยส้นรองเท้าเเตะนะบอกไว้ก่อน

ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ แต่สิ่งที่เเสดงออกไปได้คือรอยยิ้มนางฟ้า แล้วบอกทุกคนว่า “ดาวไม่เป็นไร ดาวโอเค”

ดาวให้พี่ช่างเเต่งหน้าทำเเผลให้แล้วก็เล่นเทคใหม่

คราวนี้ผ่านไปอย่างละมุนละม่อม ทาปากให้กันเสร็จ ก็หันหากล้องพรีเซนต์โปรดักต์ ผู้กำกับสั่งเลิกกอง

ดาริณหันไปขอบคุณโพนี่อย่างคนมีมารยาท เพราะยังไงก็ร่วมงานด้วยกัน แต่ฝ่ายนั้นกลับทำเป็นไม่เห็นเดินเมินออกไป

ยังด่าไล่หลังในใจไม่ทันจบก็เห็นโพนี่วิ่งกลับมาหาอีกครั้ง ดาริณขมวดคิ้วด้วยความงง ก่อนจะถึงบางอ้อเมื่อเห็นคุณอลงกรณ์กำลังเดินตรงมาทางนี้ เด็กกองทุกคนเเหวกทางให้อย่างกับเป็นพระเอกของเรื่องไม่ปูพรมแดงให้ก็บุญแล้ว

ร่างสูงโปร่งอยู่ในชุดสูทภูมิฐาน เซตผมเปิดหน้าผากฉายประกายความหล่อมาเเต่ไกล

โพนี่หันมายิ้มเยาะดาว

มึงเยาะกูทำไมเนี่ย!?

“พี่มาชวนเด็กน้อยไปทานข้าวค่ะ”

ชายหนุ่มพูด โพนี่ก้าวไปด้านหน้ากระโดดเกาะเเขนอลงกรณ์แล้วหันมาส่งสายตาร้ายๆ ให้ดาวทันที

ดาวยกมือบ๊ายบายอย่างโล่งอก ไปเถอะทั้งคุ่ไปสู่ประตูสวรรค์

“พี่มาชวนน้องดาวครับ”

เพล้ง!! เหมือนได้ยินเสียงหน้าใครเเตก

หึ ยิ้มเยาะที่หลังกว้างกว่าโว้ย!

“พี่กรณ์” โพนี่ทำเสียงเหมือนจะร้อง

“โพนี่ได้ขนมจากพี่ไปแล้วนี่คะ มือเที่ยงพี่ก็ต้องให้น้องดาวบ้าง”

โพนี่ช็อค อ้าปากพะงาบ

“ไปนะครับ ปฏิเสธผู้ใหญ่ เสียมารยาทนะ”

ดาวก็ไม่อยากเเย่งหรอกนะ แต่เเผลที่ปากนี่ยังปวดปุดๆ ร้ายมาร้ายกลับไม่โกง

“ครับพี่กรณ์ น้องดาวหิวจังเลย~”

อลงกรณ์ยิ้มหวานทันที เขาผายมือเชิญให้ดาวเดินนำไปก่อน ทิ้งโพนี่ให้ยืนตาค้างอยู่ที่เดิม

“มันเป็นใคร!!!” นายเเบบรุ่นพี่อาฆาตเเค้นผ่านสายตาแบบกิ๊กสุวัจนี ดาริณเพิ่งเข้ามาอยู่ในโมเดลลิ่งนี่ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ กล้าดียังไงมาคว้าคุณอลงกรณ์ของเขาไป







TBC 

เกลียดความอวยกันเเละกันแบบ โว้ย โพนี่ก็หึงไปไม่รู้เรื่องรู้ราวอ่ะ 

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ขิงเป็นบุคคลปริศนาไปแล้ว5555

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
เวรกรรม กลายเป็นอลงกรณ์ได้หน้ากับคนในกองไปซะอีก :hao4:

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนแรกแปลกใจที่ดาวคิดว่าถ้าเป็นรุกน่าจะอยากได้แนวโพนี่ แต่พึ่งนึกออกว่าเคยพยายามรุกขิงด้วยนี่นา  :laugh:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องขิงเป็นบุคคลนิรนามไปซะแร้ว 5555

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ขิงรีบโตเร็วลูกกกกก มาช่วยพี่ดาวก่อน

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เดี๋ยวให้ขิงมาจัดการเลยเนี่ย

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
Chapter 18



ช่วงรอยต่อการสอบปลายภาคของขิง ก็ถึงคราวปลายภาคของดาวบ้าง เขามีสอบวิชาพื้นฐานที่เรียนรวมกับคณะอื่นๆ ส่วนวิชาประจำภาคตัวเองนั้นส่วนใหญ่เป็นสอบปฏิบัติคือทำงานส่งอาจารย์ และเปิดให้เพื่อนวิจารณ์กันในห้องนั้นเอง

ช่วงหมกมุ่นทำงาน ดาวก็เลิกหมกมุ่นเรื่องบนเตียงไปเกือบสองอาทิตย์เช่นกัน

ขิงที่เคยสนุกกับพี่เกือบทุกวัน พอห่างเรื่องแบบนี้ไปก็รู้สึกเเปลกๆ แต่เขารู้ว่าดาวค่อนข้างจริงจังกับFinal Project จึงไม่ได้งอเเงใส่ แถมยังคอยดูเเลส่งข้าวส่งขนมให้อยู่เกือบทุกคืน

เจ้าเด็กของเขาน่ารัก ดาริณรู้ดี

ขณะที่ดาริณนั่งปั้น Motion Graphic อยู่ในคอมพิวเตอร์ เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ใกล้ตัวขิงที่นั่งเล่นเกมอยู่ตรงห้องนั่งเล่นก็ดังขึ้น เด็กหนุ่มละมือจากจอยสติ๊ก แล้วหยิบเครื่องมือสื่อสารไปให้พี่ที่นั่งในห้องนอน

“พ่อโทรมา”

“ขอบใจเจ้าเด็ก” ดาริณที่มัดจุกน้ำพุกลางศีรษะสมควรจะถูกเรียกว่าเจ้าเด็กมากกว่าเขาอีก ในเมื่อเข้ามาในห้องนอนเเล้ว เขาก็ทิ้งตัวลงบนเตียงกว้าง รอเก็บโทรศัพท์ให้ดาริณ

คนตัวเล็กคุยกับพ่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ฟังดูบทสนทนาเเล้วก็ดูช่างอ้อนน่ารักสมกับเป็นลูกคนเล็ก ขิงขมวดคิ้วนิดหน่อยเมื่อดาริณพูดเรื่องวิชาสอบออกมาในชื่อที่เขาคุ้นว่าเหมือนวิชาของคณะบริหาร แต่อาจจะเป็นวิชาเลือกของดาวก็ได้ จากนั้นคนตัวเล็กก็หยุดฟังพ่อพูดบ้าง ก่อนจะร้องตะโกนดีใจอีกพักใหญ่แล้วก็วางไป

“โวยวายอะไรครับ” ขิงลุกขึ้นไปโอบรอบไหล่ดาว ก้มลงหอมเเก้มที่เริ่มจะมันเพราะนั่งทำงานอยู่หน้าคอมมาตั้งเเต่เช้า

“พ่อบอกว่ามีรายการจะไปสัมภาษณ์พ่อเเหละ”

“สัมภาษณ์เรื่อง?”

“ก็ไปรีวิวรีสอร์ท แล้วก็ทัวร์เรือยอร์ชนะ”

“ฟังดูน่าสนุก ขิงอยากไปบ้างจัง”

“ไว้ปิดเทอมพี่ดาวพาเจ้าเด็กไปเที่ยวบ้านนะ”

“คุณพ่อคุณเเม่ดุมั้ย”

ดาวส่ายหน้า

“แล้วพ่อเเม่พี่รู้เรื่องเรามั้ย”

ดาวยู่ปาก “ดาวยังไม่ได้บอก แต่เค้ารู้ว่าดาวไม่ได้ชอบผู้หญิง เพราะฉะนั้นพาเจ้าเด็กไปแนะนำได้เลยไม่เป็นไร”

“ผมกลัวโดนพ่อตาไล่ยิงจัง”

“พ่อตาอะไรเล่า ยังไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”

“ได้เสียเป็นเมียผัวกันมากี่ครั้งเเล้วครับ ต้องให้ผัวช่วยรื้อฟื้นอีกสักครั้งมั้ย”

“เจ้าเด็ก!!” ดาริณว่าเสียงดัง แล้วทำหน้าตกใจสุดขีดเหมือนพึ่งนึกถึงเรื่องคอขาดบาดตายขึ้นมาได้

“จะ เจ้าเด็ก อดอยากมากี่วันเเล้ว เจ้าเด็กยังทนไหวมั้ย”

“ดาวววววว ถ้าเจ้าเด็กบอกว่าทนไม่ไหว พี่ดาวจะให้เจ้าเด็กกินหรอ”

“ไม่อ่ะ เจ้าเด็กต้องอดทนก่อน ร่างกายพี่ไม่พร้อมโดนกระเเทก”

“ฮรือ ดาวไม่อ่อนโยนเลย”

ดาริณหยิบมือถือตัวเองขึ้นมา แล้วจัดการถอดเสื้อยืดออกจากหัวดังพรึ่บ

“เฮ้ย”

แชะ! กัดปาก กดเซลฟี่กล้องหน้าในมุมที่ลึกไปถึงหน้าท้องเเบนราบ แล้วยื่นรูปพอร์นไปให้ขิง

“เจ้าเด็กไปเล่นกับตัวเองก่อนนะ”

ขิงไม่นึกไม่ฝันว่าตัวเองต้องโรคจิตดูหน้าดาวในมือถือ แล้วนั่งขัดจรวดตัวเองในห้องน้ำ!!



ดาวส่ง Final Project ไปแล้ว และได้รับเสียงตอบรับที่ดีตอนพรีเซ้นท์ให้อาจารย์เเละเพื่อนๆ ดู ดังนั้นคนตัวเล็กจึงอารมณ์ดีเป็นพิเศษและอยู่ในช่วงผ่อนคลาย

เจ้าเด็กของเขากำลังมีโครงการใหญ่เช่นกัน ขิงกำลังซ้อมเพื่อไปเเข่งขันวงดนตรีมัธยมระดับประเทศ เเละหากติดหนึ่งในสามก็จะได้ไปเข้าค่ายเก็บตัวเเละประกวดรอบชิงเเชมป์ระดับเอเชียที่ญี่ปุ่น ดาริณเเอบอยากให้ขิงได้ไป เพราะเขาเองก็ยื่นฝึกงานสตูดิโออนิเมชั่นที่นู่นไว้เช่นกัน วันประกาศผลก็ใกล้เข้ามาเเล้ว ถ้าได้รับการตอบรับละก็ จะเป็นช่วงเดียวกับที่ขิงไปเข้าค่ายพอดี

หึหึ เห็นพอร์นๆ กันไปวันๆ นี่ก็มีความจริงจังในชีวิตไม่ใช่ย่อยเหมือนกันนะ

แต่ที่ หึหึ กว่าคือ ไม่อยากจะคิดเลยว่าดาวเเละขิงอินน์เเจเปญจะยกระดับความบันเทิงไปถึงขั้นไหน เขาคงไปเดทกันที่เซ็กส์ช็อปทุกวันอ่ะ แค่คิดก็อิคึอิคึ อิไต้อิไต้ล้าววววว!

กลับไปรอเจ้าเด็กที่ห้องดีกว่า ยังเหลือชุดอะไรน๊าที่เขายังไม่ใส่



ขิงเปิดประตูห้องเข้ามาด้วยความเหนื่อยอ่อน เขาวางกระเป๋าใส่เบสไว้ตรงที่ประจำแล้วหันกลับมาดูในครัว เลือดกำเดาแทบพุ่ง

“ดาว ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า” คนน้องดุ แต่ก็รีบเดินเข้าไปหาอย่างไว

“นี่ไงใส่ผ้ากันเปื้อนเเล้ว”

“พี่ต้องแยกแยะนะว่าผ้ากันเปื้อน กับเสื้อผ้ามันคนละชนิดกัน”

“พี่ใส่ Jockstrap แล้ว นับเป็นเสื้อผ้าป่ะ”

ไอสิ่งที่ดาริณกำลังพูดถึงคือกางเกงในเเบบเกือบเปลือย มีเพียงขอบผ้าชิ้นน้อยที่คอยประคองเเก้มก้นอยู่เท่านั้น และเล็กน้อยเพียงเท่านี้ก็ทำขิงเเทบเลือดทะลักหมดตัวได้ มันรัดเสียจนเนื้อก้นขาวอมชมพูเหมือนตูดเด็กของดาริณเป็นลูกพอดีขยำ

“นั้นก็เสื้อผ้าครับ เเต่คนทั่วไปเขาต้องใส่กางเกงที่มิดชิดทับอีกชิ้น”

“แต่พี่ไม่ใช่คนทั่วไป” ดาริณวางมือจากกระทะย่างสเต็ก แล้วหันมาใช้สองมือคล้องคออีกฝ่าย

“พี่เป็นคนพิเศษ...”

ละมือข้างหนึ่งลงมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตทรงดีของอีกฝ่าย

“พี่เป็นเเฟน”

จูบใต้คาง

“พี่เป็นเมียของขิงนะ”

ซบหน้าลงไปตรงซอกคอ

“ผมเป็นศพครับพี่ ตายสงบศพสีชมพูเลยเจอแบบนี้”

ดาริณหัวเราะคิกคัก หน้าตาเศร้าๆ อ้อนๆ แบบเมื่อกี้ร่าเริงเหมือนมีเขาเเหลมๆ ของเจ้าปิศาจร้ายงอกออกมาก่อนจะหันกลับไปดูอาหารบนเตาต่อ

“ยั่วเก่งจังอ่ะคนนี้” ขิงคล้องเเขนรอบเอวอีกฝ่าย วางคางไว้ตรงหัวไหล่บางแล้วชะโงกหน้าไปดูว่าคนสวยกำลังทำอะไร

“หอมจัง”

“สเต็ก หรือเเก้มพี่” ดาริณหันมาถามแล้วกดจูบลงไปบนขมับเจ้าคนน้อง

“ดาริณหอมทั้งตัว เเต่ดาริณจะหอมเหมือนสเต็กไม่ได้นะครับ”

“แล้วสรุปว่าดาวหรือสเต็กหอมกว่า”

“ดาริณหึงหมูในกะทะหรอ”

คนพี่กดจูบลงไปแรงกว่าเดิม แล้วก็ไซร้หน้าเหมือนมันส์เขี้ยวเจ้าขิง

“พี่ก็หึงทุกอย่างที่ดีกว่าพี่ในสายตาขิง”

“ผมหลงพี่ชิปหายเเล้วเนี่ย” เขารัดเอวดาริณเเรงๆ แล้วสองคนก็หันมาหัวเราะให้กันด้วยความสุข

ขิงเดินไปเลือกไวน์ในตู้เย็นมาเปิดฉลองวันสอบเสร็จของดาริณ เขาเปิดจุกก๊อกอย่างชำนาญ แล้วรินน้ำสีเเดงเข้มลงเเก้วอ้วนสองใบ นำมาวางลงบนโต๊ะอาหาร ส่วนขวดที่ยังเหลือน้ำอยู่ก็จัดการเเช่ลงถังน้ำแข็งอลูมิเนียมวางไว้ใกล้มือ ปกติไวน์เเดงจะดื่มอุณหภูมิห้อง แต่ด้วยอากาศเมืองไทยที่ไม่ได้หนาวเย็นเเบบประเทศต้นตำรับ ขิงมองว่าเเช่ให้มันเย็นหน่อยเถอะ จะได้เพิ่มความชื่นใจ

ดาริณวางจานสเต็กที่ไม่ได้ตกเเต่งหรูหราแต่ดูน่ากินด้วยตัวเนื้อลงบนโต๊ะ ก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนออกทางศีรษะ ใช้มือจัดเรือนผมที่ยุ่งๆ เล็กน้อย

ขิงกลืนน้ำลายดังเอื้อก บางทีกูก็อยากชิมพี่เค้าก่อนชิมเนื้อเนาะ

“ไวน์ดีมั้ย ชิมหน่อย” ดาริณเดินเข้ามาพิงสะโพกตรงโต๊ะข้างๆ ที่ขิงยืนตะลึงอยู่

“อ่ะ” ขิงยื่นเเก้วให้ ดาริณยกนิ้วชี้ขึ้นมาส่ายไปมา

“พี่ชิมไวน์ที่อุณหภูมิปาก”

ยิ่งกว่าตาย กูได้ Fastpass ไปเเดนฉิมพลีเลยทีเดียว

ขิงกระดกน้ำเมาเข้าปาก เขาอมไว้อึกใหญ่ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปหาคนพี่ ค่อยๆ ป้อนให้ชิมทีละนิด แบบที่ปากเราเเนบชิดไม่มีอะไรเล็ดลอดออกไปได้

แต่ดาริณก็ยังกระทุ้งลิ้นขิงให้ไวน์มันกระฉอก หกย้อยผ่านริมฝีปาก คาง ลงไปถึงยอดอก ทำไม่ดาริณกินเลอะเทอะ

“หนาว” ดาริณทำท่าสั่นสะท้านราวกับตัวเองเป็นลูกนกตัวจ้อย ขิงหันไปหยิบทิชชู่มาจะซับให้

“ไม่! ระคายผิว”

มึง!! บริษัทผลิตกระดาษที่โฆษณาปาวๆ ว่าอ่อนละมุนต่อใบหน้าร้องไห้แล้ว

“แล้วอะไรที่ไม่ระคาย” เด็กชายรู้ว่าคนพี่เริ่มเจ้าเล่ห์ เขาชิดตัวเองเข้าไปใกล้ผิวอ่อนๆ นั้น

“ลิ้น”

สัสๆ ๆ ๆ ขิงสบถอยู่ในใจ พี่เขายั่วเบอร์เเรงจังว่ะ

“แต่ลิ้นผมสากนะ”

“ดี! พี่ชอบ”

“พี่เเม่ง!” ขิงทำหน้าเหมือนหงุดหงิดเสียเต็มประดา เเน่ล่ะข้าวแม่งก็หิว แล้วดาริณยังยั่วชิบหายอีก อดอยากกันมาก็หลายวัน อิน้องข้างล่างของเขาก็เต้นเเร้งเต้นกายื่นป้ายประท้วงขอออกมานอกร่มผ้าเเล้วเนี่ย

“ซับไวน์ให้พี่เร็วเลอะตัวไปหมดแล้วอ่ะขิง”

ดาริณจงใจให้มันเลอะเหอะ เห็นตาก็รู้เเล้ว ขิงใช้จูบซับเครื่องดื่มสีเเดงออกจากเนื้อกายขาวผ่อง เริ่มจากปลายคาง ร่องกระดูก แล้วก็เนินอก ปลายลิ้นค่อยๆ และเล็มไปรอบฐานสีชมพูสวย

“อึก”

จุ๊บ!

“เเห้งยัง” ขิงถาม

ดาริณส่ายหน้า ขิงจึงบรรจงโอบลิ้นไปรอบเนื้ออกอ่อนๆ นั้นอีกรอบ

อย่าว่าแต่ขิงเลย ดาริณว่างเว้นจากเรื่องแบบนี้ไปหลายวันก็จะทนไม่ไหวเอา และตั้งเเต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ที่จานชามถูกกวาดให้พ้นทาง เเผ่นหลังเปลือยเปล่าถูกผลักให้เอนราบไปกับพื้นโต๊ะ ขิงลากลิ้นลงมาจนถึงเเอ่งสะดือ กดจูบพลางดูดเนื้อคนพี่อย่างหิวโหย สเต็กที่ว่าอร่อยน่าจะยังไม่ฟินเท่าพุงกะทิของดาริณ

ขิงหันไปยกไวน์ขึ้นจิบอีกรอบ กลิ่นเเอลกอฮอลล์ร้อนผ่าวที่ไหลลงไปในช่องท้องทำให้เขาเริ่มมึนเมานิดๆ และอารมณ์กระเจิงไปมากขึ้น สองมือคนหล่อประคองข้อเท้าดาวให้ยกวางขึ้นบนโต๊ะ กดจูบลงไปบนทุกสัดส่วนของร่างกายที่ปากเขาจะลากป่านได้ ก่อนจะเทไวน์ลงไปที่ตรงนั้นจนดาวร้อง อ๊ะ เหมือนเคะทุกเรื่องที่กำลังถูกจับกิน!!

รสสัมผัสเย็นฉ่ำ ตัดกับโพรงปากร้อนๆ เล่นเอาดาวเเทบบ้า ขิงดูดกลืนตัวตนของดาวไปพร้อมกับไวน์ชั้นเลิศที่รินรดลงไป

“อร่อย”

เสียงทุ้มพูดชม แล้วก็ก้มลงไปซุกไซร์ชิ้นเนื้อหวานล้ำจนสะโพกดาวต้องโยกรับแบบแทบไม่ติดพื้นโต๊ะ

ดาวครางต่ำๆ แต่ทว่าเซ็กซี่มากในความรู้สึก ขิงไล้ลิ้นไปเรื่อยพร้อมทั้งบางครั้งก็เลยจนมาถึงส่วนเร้นลับด้านหลัง

“ขะ ขิง มะไม่” ดาวสั่งห้ามเสียงกระท่อนกระเเท่น

“ไม่ชอบหรอคะคนดี” คนน้องถามแต่ก็ยังไม่หยุดปรนเปรอด้วยความอ่อนโยน

“ดะ ดีเกิน ฮึก อื้อ งื้อ ฮือ” ดาวร้องไม่เป็นจังหวะเลย เมื่อขิงรัวลิ้นลงไปหนักๆ

“ฮือ..อย่าฆ่าพี่ด้วยลิ้นของเธอ”

ร่างสูงยิ้มกริ่ม เขาอุ้มเอวคนพี่ลงมาจากโต๊ะ จูบปลอบให้หายตื่นกลัว เเล้วพลิกตัวอีกฝ่ายหันหลัง ขิงกดแผ่นหลังคนพี่ให้เอนลงจนเกือบราบไปกับโต๊ะ ไวน์ในขวดเทราดลงมาบนเเผ่นหลังนวลอีกครั้ง เเล้วมันก็ไหลไปตามแรงโน้มถ่วงให้ขิงตามเก็บชิมอย่างอร่อยปาก

เนื้อนิ่มๆ แกล้มไวน์ขิงดูดซับจนมันไม่เหลือซักหยด ทิ้งรอยสีกลีบกุหลาบงดงามไว้ทั่วเนินเนื้อ ดาริณโดนจับกินของแท้ แล้วเมื่อกลางลำตัวเขาทานทนไม่ไหวแล้ว ขิงก็เลิกละเลียดชิม วางขวดไวน์ลงไปในถังเเช่ดั่งเดิม ปลดซิปกางเกงของตัวเองลง แล้วนำความร้อนรุ่ม ไปซุกลงกับสิ่งที่ระอุไม่เเพ้กัน

“อื้อ” ดาริณกัดปาก ข่วนเล็บไปกับเนื้อโต๊ะ

ขิงค่อยๆ ชักนำมันลงไป ความรู้สึกของการเสียดสีกำลังจะเกิดขึ้น เนื้อสะโพกโดนขิงใช้ฝ่ามือโอบอุ้มไว้ บางครั้งก็บีบขย้ำ บางครั้งก็ตีเบาๆ เร่งเร้าความรู้สึก

ขิงเริ่มขยับ

ดาริณห้ามเสียงไม่ไหว

ขิงขยับไวขึ้น

ดาริณเองก็เร่งเสียงตามความซาบซ่านที่พุ่งสูง

แรงสั่นที่เนื้อกระทบกัน และมันก็ถูกส่งต่อไปยังสิ่งของบนโต๊ะ จานช้อน ซ้อมมีดร้องระงม แก้วน้ำกระฉอกเเเรงจนเลอะหกออกมาภายนอก

หายใจหอบหนัก

หัวใจระรัว

หยดเหงื่อตกกระทบเเผ่นหลัง

สีหน้าทรมานแต่สุขสม

เนื้อตัวเเดงก่ำแต่ไวไปทุกความรู้สึก

ขิงถูกส่วนลึกในร่างกายดาริณหลอมละลายเป็นเถ้าถ่าน

ธารอารมณ์ถูกปลดปล่อยออกมาเปรอะเปื้อนไปทั่วซอกขา

ขิงจะถอนตัวออก แต่ดาริณส่ายหน้า

ยังไม่พอ...

ร่างกายยังต้องการกันเเละกันมากกว่านี้



(ใส่รูปพักใจ แล้วไปอ่านต่อค่ะ)









หลังจากไม่ค่อยมีเวลาให้กันมาตลอดสองสัปดาห์ เมื่อคืนกว่าจะทานมื้อเย็นกันก็ดึกดื่น เเถมดาริณยังถูกจับกินเสียจนน่วมไปหมดทั้งตัว ถ้าขิงปั้นก้อนพี่ได้ก็คงจับกลืนลงท้องไปแล้ว กลางคืนจึงเป็นเวลาหลับพักผ่อนเต็มที่ สายๆ คู่รักจึงค่อยรู้สึกตัวตื่น

ขิงลุกไปต้มไข่แล้วเวฟอาหารคลีนแบบกล่องที่สั่งมาทิ้งไว้ในตู้เย็นทุกๆ อาทิตย์ เด็กหนุ่มวัยกำลังโตเป็นแบบนี้ หากได้ใช้เเรงมากๆ ไปตอนดึก เช้ามาท้องจะร้องหนักเป็นพิเศษ ส่วนดาริณก็ได้รับอานิสงส์กินของอร่อยกับน้องไปด้วย

เมื่อรองท้องกันเรียบร้อย ขิงก็ชวนดาริณกลับมานอนเปื่อยด้วยกันที่บนเตียงต่อ มันเป็นวันหยุดที่ไม่มีเเพลนอะไรพิเศษ นอกจากใช้เวลา Cuddle กันบนเตียง ดาริณนอนให้ของเกาคางเล่นเป็นลูกเเมวเลย ผลัดกันซุกไซร้ซอกคอ กินหูกันไปมา มองตากัน หัวเราะ บอกรัก แล้วก็นอนทับกัน วนสลับกันไปแบบนี้ไม่รู้จักเบื่อ จนกระทั่ง

กริ๊ก!

เสียงปลดล็อคประตูจากด้านนอก

ดาริณตาโต ผลักขิงออกจากซอกคอตัวเองทันที แต่เจ้าเด็กยักษ์ก็รั้งข้อมือไว้ ไม่ให้คนพี่ดีดตัวลงจากเตียง

“ผมหรือเขาที่เป็นชู้”

ดาริณอยากจะเบิ้ดกะโหลกให้ไอ้เด็กที่หึงไม่รู้จักเวล่ำเวลา

“พ่อโว้ย พ่อมา คนที่เข้าห้องนี้ได้อีกคนคือพ่อ”

เท่านั้นเเหละก็โกลาหล วิ่งลงจากเตียงไปคนละทาง

“ผมต้องไปเเอบในตู้เสื้อผ้ามั้ย หรือปีนลงทางหน้าต่าง”

“พ่อโว้ย ไม่ใช่ชู้ จะหลบทำไม” ดาริณจับเเขนเจ้าเด็กที่ล่กไม่เข้าท่า

“แต่งตัวให้เรียบร้อยก็พอ”

ใช่สิ ตอนนี้พวกเขานะมีเสื้อผ้าติดตัวเเค่คนละชิ้น ดาริณใส่เสื้อ ส่วนของใส่เเต่กางเกง แถมมาจากชุดนอนเซตเดียวกันด้วยนะ เมื่อคืนนัวกันเสร็จก็หลับ เมื่อเช้าหิวๆ คว้าอะไรมาใส่ได้ก็ใส่ไปก่อน

“แล้วทำไมพ่อมาไม่บอกไม่กล่าว” ดาริณบ่นฟ่อดแฟ่ดไปพลางหยิบเสื้อผ้าที่ดูเรียบร้อยมาสวมใส่ โชคดีที่เขาสองคนล้างหน้าแปรงฟันไว้เเล้วเลยไม่ลำบากนัก

“พี่ผมลน” ขิงเดินมือสั่นออกมาเจอดาริณที่เเต่งตัวอยู่หน้ากระจก

“หายใจลึกๆ อิน้อง” ดาริณลูบหลังเด็กตัวใหญ่แต่ใจนิดเดียว

“พ่อตานะพี่ ไม่ใช่คนทั่วๆ ไป ทำไงดีอ่ะ”

“เจอหน้าแล้วก็ยกมือไหว้ ค้อมตัวต่ำๆ แค่นั้นพอ ไม่ต้องอะไรมาก”

“ละ เเล้วผมก็เหมือนชิงสุกก่อนห่าม ปล้ำพี่ก่อนที่จะเอ่อ...คบกันอีก”

“พี่ดาวสมยอม... แต่ใจเย็นเจ้าเด็ก เรื่องบนเตียงของเราก็ไม่ต้องบอกให้พ่อรู้ก็ได้มั้ง”

“ละ เเล้ว เราออกไปจากห้องนอนด้วยกันพ่อตาผมจะไม่สงสัยหรอ”

“ถ้าเเกเรียกพ่อตาได้ไม่กระดากใจอะไรทั้งนั้น จะตื่นเต้นทำซากอ้อยอะไรห๊ะเจ้าขิง”

“กะก็กลัวพ่อเค้าไม่ยกลูกให้”

“เออ ไม่ยกให้ก็ค่อยหนีตามกันโอเค๊ ออกมาได้เเล้ว พ่อดาวรอนานเเล้วเนี่ย”

ดาวเข้าไปลากมือเจ้าเด็ก พึ่งสัมผัสได้ว่ามันเย็นเฉียบจนน่าสงสาร สีหน้าก็ไม่ดีสุดๆ ดาวถอนหายใจด้วยความเอ็นดู หนูรู๊กกกกก มาหอมหัวเหม่งทีนึงจุ๊บๆ ให้กำลังใจเเล้วต้องใจเย็นๆ จูงมือน้องออกไปด้วยกัน

เจ้าของคอนโดเปิดประตูห้องนอนออกไป ผู้ชายวัยกลางคนหน้าตาจีนเเท้คนหนึ่งยืนอยู่กลางห้องนั่งเล่น พร้อมกระเป๋าสัมภาระใบเล็กๆ ลูกชายคนเล็กกระโดดเข้าไปกอดปะป๊าด้วยท่าทางเหมือนตอนสามขวบไม่มีผิด อ้อมกอดอบอุ่นตอบรับมาเช่นกัน มือใหญ่ๆ ตบบ่าลูกชายสองสามครั้ง พร้อมทั้งใช้สายตาคมดุจเหยี่ยวจ้องมองเด็กหนุ่มไม่คุ้นหน้าอีกคนไปด้วย

ขิงกลืนน้ำลายเอื้อก ส่วนดาริณรับความอบอุ่นที่ห่างหายไปนานเสร็จก็ผละออกมา กอดเเขนพ่อไว้แล้วเเนบหน้าอ้อนเป็นท่าไม้ตาย

“ปะป๊า ดาวมีเเฟนแล้ว”

“ฮึ่ม ถ้าไม่มาเจอเองลื้อก็คงไม่บอก”

“ดาวจะพาไปให้ดูที่บ้านอยู่เเล้ว”

“ชื่ออะไร”

“ขิงครับ”

“รุ่นเดียวกัน?”

“น้องครับ” ดาวตอบ “ป๊าอย่าเสียงเข้มนักสิ แฟนดาวกลัวหมดแล้ว”

“น้องเเค่ไหน”

“น้องยังไม่จบม.6” ดาวยิ้มปะเหลาะ เเต่พ่อนั้นกุมขมับ

“ไปล่อลวงเด็กเค้ามา ระวังจะโดนจับนะอาดาว”

“เด็กมาเองหรอก ปะป๊าก็รู้ว่าน้องดาวเสน่ห์เเรงเเค่ไหน”

คนเป็นพ่อส่ายหน้า รับไหว้ขิงที่ยกมือค้างไว้ตั้งเเต่ 5นาทีที่เเล้ว และเมื่อผู้ใหญ่นั่งลงที่โซฟา ดาวนั่งตาม ขิงจึงเดินไปรินน้ำที่ตู้เย็นมาให้

“ลื้อสอบเสร็จเเล้วใช่มั้ย” พ่อถามลูกชายคนเล็กของบ้าน

“ครับ”

“ยากมั้ย”

ดาวส่ายหน้า แล้วยิ้มอ้อน “น้องดาวเก่ง น้องดาวของป๊าทำข้อสอบได้หมดเลย”

“ขี้โม้จัง” พ่อบิดจมูกรั้นๆ นั้นอย่างเอ็นดู

“ป๊าขอดูบัตรนักศึกษาลื้อหน่อยสิ”

ดาวตัวชาวาบ ทำไมอยู่ๆ พ่อก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา

“ดูทำไมอ่ะป๊า”

“แล้วทำไมให้ดูไม่ได้”

“ไม่ใช่ให้ดูไม่ได้ รอเเป๊บนะ” ดาววิ่งเข้าไปในห้อง โชคดีที่เขาเคยทำบัตรนักศึกษาปลอมไว้ ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เอามาใช้จริงๆ

“นี่ไง” ดาริณยื่นบัตรพลาสติกแข็งไปให้บิดา

นายดาริณ พิชิตเทวากุล รหัสนักศึกษา XXXXXXXX

คณะบริหารธุรกิจ

“ป๊าขอดูเกรดหน่อยสิ”

“เกรดเทอมนี้ยังไม่ออก”

“เข้าไปดู GPA ของเทอมที่เเล้วก็ได้”

“ป๊าจะดูทำไม ป๊าเเปลกๆ นะวันนี้”

“พ่อขอดูผลการเรียนลูกผิดตรงไหน”

“คอมเสียเข้าไม่ได้”

“มือถือ เข้าเว็บมหาวิทยาลัยได้ป๊ารู้”

“ป๊า..” ดาวโอด ขิงมองสองพ่อลูกคุยกันอย่างไม่เข้าใจ แถมบัตรนักศึกษาที่ดาวยื่นให้ ก็ไม่ใช่ใบที่ขิงเคยเห็น ดาริณเรียนคณะ Digital Media, Major Computer Animation ไม่ใช่หรอ ใช่สิเพราะนั่งวาดนั่งปั้น 3D กันหลังขดหลังเเข็งอยู่ให้เห็นตลอด

ขิงคาดเดาเรื่องราวต่างๆ นานาไปในใจ พอกับดาริณที่ทำหน้าเหมือนกำลังถูกบังคับให้กินยาขม ขณะกดมือถือเข้าไปในเว็บไซต์คณะและกรอกรหัสนักศึกษา มือเรียวพยายามจะเลื่อนเร็วๆ ไปที่GPA เลยเเต่ทว่า...

“ไม่ต้องเรียนมันเเล้วไอ้คณะไร้สาระนี่!!” คุณพ่อของดาวขึ้นเสียงดัง

“ป๊า... ดาวขอโทษ”

ขิงตกใจ ดาริณน้ำตาไหลโดยไม่มีเสียงสะอื้น

“ถ้าไอ้พิธีกรรายการที่มันไปสัมภาษณ์พ่อไม่มาบอกให้รู้นี่ป๊าก็คงโง่ให้ลื้อหลอกต่อไปเรื่อยๆ สินะ”

“ป๊า...ดาวขอโทษ แต่อย่าให้ดาวเลิกเรียนเลยนะ” คนตัวเล็กทรุดลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น ขิงทนมองภาพนั้นไม่ไหวถึงกับต้องเบือนหน้าหนี

“อาดาวลื้อนี่มันเกินเยียวยา!”

ดาริณนั่งสะอื้นอยู่กับตัวเอง

“เก็บของ แล้วกลับภูเก็ตกับอั๊ววันนี้เลย”

ดาริณส่ายหน้า “ดาวไม่กลับ”

“กลับ!! นี่ป๊ากับม๊าก็ทะเลาะกันจนจะเลิกกันอยู่เเล้ว เพราะม๊าลื้อต้องช่วยลื้อโกหก”

“มะม๊าไม่เกี่ยว ดาวผิดเอง”

“รู้ตัวก็ดีไปเก็บของ เดี๋ยวนี้!!”

ดาริณไม่สามารถเถียงอะไรได้อีก เขาหลอกพ่อมาตลอดเรื่องคณะที่เรียน พ่ออยากให้เขากลับไปทำกิจการที่บ้าน ส่งให้เขามาเรียนคณะบริหารธุรกิจ เเต่ดาวรู้มาตั้งเเต่เรียน ม.ต้นเเล้วว่าตัวเองชอบอะไร เขาอ่านการ์ตูนมาเยอะ ดูอนิเมชั่นทั้งของญี่ปุ่นเเละฝรั่ง เขามีความฝันว่าวันหนึ่งจะมีชื่อตัวเองบนEnd Credits เรื่องเหล่านั้นบ้าง และดาวก็รู้ฝีมือตัวเองดี เขาเลยกล้าส่งPortfolio ไปขอฝึกงานในประเทศที่เป็นเหมือนไอดอลของเด็กๆ มาหลายยุคหลายสมัย

ดาวอยากเรียนในสิ่งที่...ผู้ใหญ่หลายคนยังไม่เปิดรับ รวมถึงป๊าของเขาด้วย

ส่วนม๊า...ก็ไม่ได้เข้าใจเท่าไหร่ แต่ม๊าเเค่สงสารทนเห็นเขาร้องไห้ไม่ไหว เลยช่วยกันเล่นละครปกปิดความลับ

ดาวลืมไปว่าความลับไม่มีในโลก

แล้วพิธีกรรายการท่องเที่ยวที่ไปบอกความจริงกับป๊าคือใคร?

เขาจะรู้มั้ยนะว่ากำลังพังโลกของดาว

การที่เขากลับไปภูเก็ตครั้งนี้ ก็หมายความว่าจะไม่ได้กลับมาเรียนอีก 3ปีที่ผ่านมาคือสูญเปล่า

ขิงเดินตามดาวเข้าไปในห้องนาน เขาอ้าเเขนรอรับคนที่ไม่ไหวมาไว้ในอ้อมกอด

“ฮึก ดาวหลอกป๊า ดาวหลอกป๊าเรื่องเรียน ฮึก ขิง”

เด็กหนุ่มลูบหลังปลอบเเผ่วเบา เขาเองก็อึ้งกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน

“ดาว ฮึก ดาวยังอยากเรียน” เสียงของคนรักที่สะอื้นอย่าน่าสงสาร กับถ้อยความที่กัดกร่อนความรู้สึกนั้นทำให้ขิงเเทบขาดใจตามไปด้วย เขารู้ เขาเข้าใจได้ว่าความฝันที่แรงกล้ามันเป็นยังไง เพราะเขาเองก็เองก็มีความฝันในสายทางดนตรีเช่นกัน

ดาริณคือดวงดาวที่เจิดจรัสอยู่บนท้องฟ้าเเห่งจินตนาการ

ระยิบระยับเพราะความฝันที่ส่องประกายออกมาจากตัวเอง

แต่ความฝันนั้นมันกำลังจะดับลง ดาวคงเจ็บปวดไม่ต่างกับการโดนกระชากจิตวิญญาณออกไปจากตัว

“ถ้าดาวกลับไป สถานการณ์จะเป็นยังไง” ขิงถามเพื่อหาทางหนีทีไล่

“ฮึก .. ก็ ก็คงถูกขัง ยึดโทรศัพท์ไม่ให้ติดต่อใคร จนกว่าดาวจะยอมไปสมัครเรียนใหม่”

ขิงถอนหายใจ เขาลูบหลังดาวอีกครั้ง ให้คิดหนทางช่วยตอนนี้เขาก็ยังคิดไม่ออก แต่มันต้องมีทางสิ ดาริณควรได้อยู่กับความฝันที่ยิ่งใหญ่ของตัวเอง

“ขิง...ดาวฝากเรื่องสำคัญได้มั้ย”

“ได้สิครับ”

“ดาวยื่นฝึกงานไว้ เค้าน่าจะตอบเมล์กลับมาเร็วๆ Password ต่างๆ ดาวเเปะไว้ที่ใต้คีย์บอร์ดคอม”

“ครับ”

“ถ้าเขาตอบรับมาจริงๆ ช่วยให้ดาวได้ไปทีนะ”

มันเป็นคำขอที่เรียบง่ายแต่ทำให้หัวใจหนักอึ้ง

“ได้สิดาว”

ถ้ามันเป็นคำขอของคนรัก ไม่ว่ายากเย็นสักเเค่ไหน ขิงรู้เพียงว่าตั้งทำมันให้สำเร็จ

“ขิง…”

“ครับ”

“แล้วถ้ามันเป็นเเบบนั้น ขิงก็ต้องชนะเเข่งวงนะ เราจะได้ไปเจอกันที่ญี่ปุ่น”

“แน่นอนดาว” ขิงรวบคนพี่เข้ามากอดแล้วจูบหน้าผากอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ก่อนจะปล่อยดาวไปเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า คนตัวเล็กเอาไปเเต่ของที่จำเป็นเพราะหวังลึกๆ ว่าจะได้กลับมาที่คอนโดเห่งนี้อีก

“ขิง” ดาริณเรียก พร้อมกระเป๋าลากในมือ

“ดาวไม่รู้ว่ามันจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง แต่ถ้าไม่อยากรอดาวเเล้วก็...”

ขิงส่ายหน้า

“มาพยายามให้ถึงที่สุดไปด้วยกันก่อน ผมไม่ปล่อยมือพี่ไปง่ายๆ เเน่”

“ขอบคุณนะเจ้าเด็ก”

“พี่ไม่เหมาะกับน้ำตาหรอก ยิ้มไว้นะ ผมจะต้องหาทางพาพี่กลับมาให้ได้”

ดาวพยักหน้า พวกเขากอดกันเเน่นอีกครั้ง ก่อนจะผละจากกันเพื่อออกไปเผชิญหน้ากับพ่อที่ยังนิ่งเงียบ เเต่ก็รู้ว่ากำลังหัวเสียถึงขีดสุด

ดาริณที่เคยร่าเริงจ๋องเหลือตัวนิดเดียวเลย ขิงอยากจะกอดปลอบไม่ห่าง แต่ก็รู้ว่ามันไม่ควร

“เดี๋ยวผมขับรถไปส่งที่สนามบินนะครับ” ขิงพูดขึ้น เมื่อสถานการณ์มันบีบบังคับ เขาก็ต้องเเสดงความน่าเชื่อถือออกมาบ้างเเม้จะอายุยังน้อยก็ตาม เผื่อวันหน้าที่ต้องเผชิญหน้ากับพ่อดาริณอีก จะได้คุยกันง่ายขึ้น







TBC



ช็อคเลยดิ

#ดาวอย่ายั่ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ ่KEI_jry

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้  :sad4:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เป็นโพนี่รึป่าว ขอให้เป็นม่าตอนเดียวของพี่ดาวเถอะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
นังโพดำแน่ๆ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
งุ๊ยยยย....สงสารดาว โดนพรากจากสิ่งที่รักทั้งเรื่องเรียนและความรัก  อิพิธีกรนั่นมันเป็นใครน้องขิงจัดการมันเลย

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
สู้ สู้ นะดาว ทำให้ปะป๊าเข้าใจ ยอมให้เรียนต่อนะ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น้องดาวสู้ๆ ทำให้ป๊าเข้าใจความฝันของตัวเองให้ได้นะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เฮ้ย..ยยย ดราม่ามาไม่ทันตั้งตัว  :a5:

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
เดี๋ยวขิงเรียนบริหารเองคุณพ่อตา

ดาวลูกคนเล็กทำไมพ่อต้องบังคับเรื่องเรียนด้วยละ

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
Chapter 19



ห้องผู้บริหาร ฝ่ายงานการจัดการนักเเสดง ศิลปินและไอดอล บริษัท GXX

อลงกรณ์มองโทรศัพท์ในมืออย่างหงุดหงิด เขาติดต่อดาวไม่ได้เลย อุตส่าห์มีงานใหญ่เข้ามา และหวังว่าถ้าดาวเข้ามาถ่ายงานที่บริษัทอีกก็จะมีโอกาสสานความสัมพันธ์เพิ่มขึ้นเเท้ๆ ระหว่างที่หัวเสีย เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานก็ดังขึ้น อลงกรณ์กดกริ่งอนุญาต เเล้วเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังเดินเข้ามาเป็นใครก็วางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะ

“ผมซื้อขนมร้านอร่อยมาฝาก” โพนี่ไอดอลในสังกัดเอ่ยทักทายเสียงใส ก่อนจะปิดประตูเเล้วกดล็อกเหมือนที่เคยทำปกติ ร่างโปร่งสมส่วนเดินเข้ามาจนถึงโต๊ะทำงาน อลงกรณ์มองทุกก้าวย่างของอีกฝ่ายด้วยสายตาคมกริบ มันทำให้เด็กหนุ่มหน้าร้อนผ่าว

“คุณกรณ์”

“รู้ใช่มั้ยว่าฉันต้องการอะไร”

โพนี่พยักหน้า สองเเก้มขึ้นริ้วเเดง เขาวางของทั้งหมดลงบนโต๊ะรับเเขกในห้องนั้น ก่อนจะเดินอ้อมไปหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่แล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเก้าอี้ของอีกฝ่าย

“ดีมากเด็กน้อย” อลงกรณ์เอ่ยชม พลางลูบไล้มือไปตามเรือนผมของอีกฝ่าย บางครั้งก็กำมันเเน่นเพื่อควบคุมจังหวะการขยับเข้าออกของใบหน้าดูดีนั้นกับบางส่วนในร่างกายเขา

เเละเมื่อปลดปล่อยออกไปรอบหนึ่งมันก็ยังไม่เพียงพอ

เขาสั่งให้โพนี่กางขาออก แล้วกดหลังอีกฝ่ายให้แบนราบไปกับโต๊ะ จากนั้นเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดก็ดังไปทั่วห้อง

เเต่เมื่อผู้บริหารหนุ่มกำลังจะถึงปลายทางเเห่งอารมณ์ ชื่อเปล่งออกมาจากปากอีกฝ่ายกับเป็น ‘ดาว’

อลงกรณ์ใช้ทิชชูเปียกทำความสะอาดร่างกายตัวเอง แล้วสวมกางเกงกลับเหมือนเดิม โพนี่ก็เช่นกัน ร่างเล็กยังเเดงเรื่อไปด้วยฤทธิ์อารมณ์ พร้อมทั้งเสื้อผ้าที่ยับย่นกว่าตอนเดินเข้ามา แม้จะไม่พอใจอย่างรุนเเรงที่อลงกรณ์เรียกชื่อคนอื่นขณะมีเพศสัมพันธ์กับตัวเองแต่ก็ยังต้องข่มเอาไว้ในใจ สิ่งที่เเสดงออกมาเป็นเเค่รอยยิ้มใสซื่อเหมือนเด็กที่น่าเอ็นดูคนหนึ่ง

“คุณกรณ์ทานขนมหน่อยมั้ยครับ” โพนี่ถามอย่างเอาใจ คนที่โตกว่าพยักหน้า ออกเเรงไปไม่น้อย ท้องเขาก็ร้องอยู่เหมือนกัน

ไอดอลหนุ่มถือวิสาสะเดินมานั่งตัก แล้วค่อยๆ บิขนมปังส่งเข้าปากอีกฝ่าย

“พี่ติดต่อน้องดาวไม่ได้เลย หนูพอจะเจอน้องดาวบ้างมั้ยช่วงนี้”

คนตัวเล็กกว่ายิ่งหงุดหงิดเข้าไปอีก แต่ก็ยิ้มไร้เดียงสากลบเกลื่อน

“มีอะไรกับดาวรึเปล่าครับ ถ้าเจอโพนี่จะบอกให้” เขาต้องเเสร้งว่าตัวเองเป็นมิตรกับอีกฝ่ายในสายตาอลงกรณ์

“งานใหม่นะสิ เค้ารีเควสดาว แต่นี่พี่โทรไปแล้วปิดเครื่องตลอดเลย ไม่รู้หายไปไหน”

“ปิดเทอมรึเปล่าครับ อาจจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด”

“น้องดาวมีบ้านที่ต่างจังหวัดหรอ”

โพนี่พยักหน้า “ครับ พอดีวันก่อนผมทำรายการท่องเที่ยว ไปสัมภาษณ์เจ้าของเรือยอร์ชปรากฎว่าเป็นพ่อของดาว”

“จะไปก็น่าจะเเจ้งทีมงานไว้หน่อย แบบนี้เสียลูกค้าเลยสิ”

“พี่กรณ์ลงส่งนายเเบบในสังกัดเราคนอื่นๆ ไปดูมั้ยครับ เผื่อลูกค้าเปลี่ยนใจ”

อลงกรณ์มองหน้าเด็กน้อยบนตักเขา แล้วก็เดาะลิ้น

“อืม...พี่อาจจะส่งโพนี่ไปให้เค้าดู”

“ขอบคุณพี่กรณ์ที่ให้โอกาสครับ” เด็กน้อยกอดอีกฝ่ายเเน่น เเนบเเก้มลงไปกับอกอย่างเเสนอ้อน เห็นเเบบนั้นเเล้วผู้บริหารหนุ่มที่นิยมเด็กๆ ขี้อ้อนก็อดจะก้มลงไปหอมแก้มไม่ได้

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง อลงกรณ์ส่งสัญญาณให้โพนี่หลบลงไปใต้โต๊ะก่อน ส่วนเขาก็เดินไปเปิดประตู เมื่อเห็นว่าเป็นคุณอรรถพลหุ้นส่วนใหญ่สุดของบริษัทซึ่งเป็นเพื่อนขอพ่อก็รีบทำความเคารพ

อลงกรณ์พึ่งสังเกตเห็นด้านหลังคุณอาอรรถมีเด็กหนุ่มที่เขาคุ้นหน้ายืนอยู่ด้วย วันนี้อีกฝ่ายสวมเสื้อเชิ้ตเรียบร้อยเเต่งตัวภูมิฐานจนเกือบจำไม่ได้ว่าคือคนเดียวกับที่ดาวเคยแนะนำว่าเป็น ‘เเฟน’

“คุณอามีอะไรให้ผมรับใช้รึเปล่าครับ”

“อ๋อ เปล่าหรอก พอดีจะเเวะมาบอกว่าช่วงนี้หนูดาวเขากลับไปอยู่บ้านยาว ยังไม่ต้องป้อนงานให้นะ หรือลูกค้ารีเควสก็ให้เลือกคนอื่นไปก่อน เพราะยังไม่มีกำหนดกลับ”

“ไอดอลในสังกัดคนเดียวต้องให้คุณอาเดินมาบอกผมเลยหรอ”

“เปล่าหรอก ก็...เเฟนเจ้าขิงเค้า ลูกชายอาเอง นี่พี่กรณ์เก่งมาก ขิงต้องมาเรียนรู้งานกับพี่เค้านะ”

ทั้งสองคนทักทายกันตามมารยาท และเก็บเรื่องที่เคยเจอกันไว้จนมิด อลงกรณ์เเอบหงุดหงิด ถ้าดาวเป็นเเฟนเด็กไร้อนาคตสักคนเขาคงเเย่งมาง่ายๆ แต่นี่เป็นถึงลูกชายผู้ถือหุ้นใหญ่แห่งบริษัทGXX แถมยังมีธุรกิจอื่นๆ ประกอบอีกจนเรียกว่ารวยล้นฟ้าเลยก็ว่าได้

พูดคุยกันอีกนิดหน่อยคุณอรรถพลก็ขอตัว พอดีขิงที่ร้อนใจเรื่องดาวเเวะมาหาปรึกษาที่บริษัทหลังจากที่คุยกันเเล้วก็คิดได้ว่าควรเดินมาเเจ้งเรื่องดาวกับแผนกที่สังกัดไว้ และเเจ้งโดยตรงกับอลงกรณ์ที่เป็นผู้ดูเเลสูงสุดน่าจะดีกว่าฝากเด็กๆ มาบอก เดี๋ยวก็ซักไซร้กันจนเป็นข่าวซุบซิบเรื่อยเปื่อยอีก

อลงกรณ์เดินกลับเข้ามาในห้อง ความหงุดหงิดที่พลุ่งพล่านในใจ ทำให้เขาไล่โพนี่ออกไปจากห้องทันที เด็กหนุ่มไม่ได้โมโหอย่างที่ควรเป็นเพราะเมื่อกี้หูเขาดีจนได้ข้อมูลใหม่ หึ เจ้าเด็กดาวนั้น...โดนส่งกลับบ้านไปสมใจอยากเขาเเล้วล่ะ และเป้าหมายใหม่ที่เขาอยากได้เริ่มไม่ใช่อลงกรณ์แล้ว แต่เป็นลูกชายคุณอรรถพลที่ดูเด็กกว่า และรวยกว่าเป็นไหนๆ ถ้าหากเขาทำให้ขิงถูกใจได้ละก็...หึหึ เห็นทีงานทุกอย่างที่เขาอยากได้ก็คงได้มาโดยง่าย หรือเผลอๆ ไม่ต้องทำงานเเล้วด้วยซ้ำ ใช้ชีวิตสบายๆ ได้เต็มที่



วันต่อมาขิงเช็คอีเมล์ของดาริณตามที่อีกฝ่ายขอไว้ แล้วมันก็เป็นอย่างที่คาดไว้ ผลงานของดาวเข้าตาสตูดิโอที่ญี่ปุ่น ขิงโทรหาพี่กระเจี๊ยบเพื่อนสนิทดาวให้ช่วยนัดอาจารย์ที่ปรึกษาของดาวให้ทันที เขาอยากไปขอคำแนะนำเพื่อหาวิธีช่วยกันขอร้องให้ดาวได้รับโอกาสที่ไม่ใช่ว่าจะได้กันง่ายๆ นี้

อาจารย์เขียนจดหมายอธิบายศักยภาพของดาว และโอกาสในอนาคตฝากให้ของไปให้พ่อดาว พร้อมทั้งให้เบอร์ส่วนตัวเพื่อที่เมื่อเด็กหนุ่มเจอผู้ปกครองของอีกฝ่ายเเล้วจะได้โทรหาเพื่อช่วยพูดให้เพราะอาจารย์เข้าใจสถานการณ์ดี คณะ Digital Media พึ่งเปิดในเมืองไทยมาได้ไม่นาน ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสายงานก็ยังอยู่ในวงเเคบ ผู้ปกครองหลายคนยังมองว่าอนาคตไม่มั่นคง รายได้ไม่ดี (เเต่ก็ไม่มีใครเคยไปเปิดสมุดบัญชีของคนอาชีพนี้ดูสักที) สู้พวกอาชีพยอดฮิตอย่างหมอ วิศวะฯ หรือสายงานบริหารธุรกิจไม่ได้ เด็กๆ ที่จะเข้าเรียนนอกจากมีใจรักแล้วก็ต้องมีความพยายาม รวมถึงควรมีกำลังใจที่ดีจากทางบ้านด้วย กรณีของดาริณนี่ก็มีให้เห็นบ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับอนุญาตตั้งเเต่เลือกสอบเข้าคณะเเล้ว อาจารย์ฝากความหวังไว้กับขิง เเละหวังว่าเด็กอนาคตไกลอย่างดาริณจะได้กลับมาเรียนต่อ

ขิงเอาที่อยู่บ้าน กับเบอร์โทรคุณม๊าจากระเบียนคณะมาด้วย ถ้าจำไม่ผิดเเม่จะช่วยดาริณเรื่องที่ให้เรียนคณะนี้ เด็กหนุ่มกลับไปเก็บเสื้อผ้าไม่กี่ตัว จากนั้นก็จองตั๋วเครื่องบินไปจังหวัดภูเก็ตทันที ระหว่างนั่งรถไปสนามบินเขาก็โทรปรึกษาเรื่องนี้กับมะม๊าดาวไปด้วย และพอทราบข่าวคนพี่กลับมาบ้าง

แค่นึกสภาพตามที่ม๊าเล่าว่าดาวไม่กินไม่นอนใจขิงก็ร้องไห้แล้ว

เมื่อถึงสนามบินภูเก็ต ขิงสอดส่ายสายตาหาคนรถที่มะม๊าดาวส่งมารับ ไม่นานก็เจอเเล้วก็เดินตามไปขึ้นรถเบ๊นซ์กลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่ง นั่งไปเรื่อยๆ ประมาณชั่วโมงกว่าก็เข้ามาถึงรั้วคฤหาสน์ขนาดใหญ่ เขาพอรู้ว่าบ้านดาริณก็มีฐานะ น่าจะตะหงิดใจตั้งเเต่หาเงินซื้อคอมพิวเตอร์เองล่ะ ดาวคงไม่กล้าขอเงินหลักเเสนมาซื้ออุปกรณ์การเรียนเพราะโกหกไว้นั่นเอง

แม่ของดาวเดินออกมารับ หน้าตาของหญิงกลางคนที่ผิวขาวใสและยังคงสวยงามเกินวัย แม่ดาวหน้าตาใจดี เเละก็มีอ้อมกอดอบอุ่นมาต้อนรับซึ่งนั้นพอจะทำให้ขิงยิ้มได้บ้าง

“พี่ดาวล่ะครับ”

“ปะป๊าเค้าขังไว้ในห้อง กลัวหนีกลับกรุงเทพฯ” พูดถึงแล้วเเม่ก็ทำตาเเดงๆ อีกรอบ

“แล้วคุณพ่ออยู่มั้ยครับ”

“ออกไปดูงานข้างนอกกับพี่ๆ ของดาว น้องขิงเข้ามาข้างในบ้านก่อน เเม่เตรียมกับข้าวกับขนมไว้ให้เยอะเลย”

“ขอบคุณครับ”

ขิงใจชื้นอย่างนน้อยเขาก็มีเเม่ของคนพี่เป็นแบ็คอัพล่ะ

คุณนายของบ้านไล่เด็กๆ รับใช้ออกไปจากห้องทานอาหาร หลังจากนำสำรับเข้ามาวางเรียบร้อย

“พาน้องดาวหนีไปเลยมั้ย” คนเป็นเเม่ทัก ทำเอาขิงที่กำลังจิบชามะลิเย็นแทบสำลัก

“ม๊าสงสาร” เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเครือๆ “ม๊าเลี้ยงมากับมือตั้งเเต่น้องดาวตัวเล็กๆ โอ๋มาตลอดไม่เคยให้ร้องไห้ ไม่เคยจะขัดใจ แล้วดูป๊าเค้าทำสิ น้องดาวร้องไห้จนตาช้ำไปหมด ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน ม๊าหัวใจจะพัง”

“มะม๊า” ขิงเรียกตามดาวบ้าง

“เฮ้อ…” เธอถอนใจ “ป๊าเค้าก็ตามใจดาวนะ ยอมทุกอย่าง มีเเฟนเป็นผู้ชายเค้าก็ไม่ว่า เเต่เรื่องเรียนนี่ไม่ยอมเลย ทะเลาะกันถึงขั้นม๊าบอกว่าจะเลิก ก็ยังรั้นไม่ยอม จะให้น้องดาวเรียนบริหารให้ได้”

ขิงพยักหน้า เขาเข้าใจทั้งดาวทั้งพ่อนั่นเเหละ เพราะบ้านเขาก็ทำธุรกิจส่วนตัวเขาก็ชอบเล่นดนตรี เเต่โชคดีหน่อยที่ธุรกิจของพ่อสอดรับกับความชอบของเขา ส่วนดาวกลับกลายเป็นสายปฏิบัติอยากลงมือทำมากกว่าขึ้นเป็นคนบริหาร

“ม๊าพูดอะไรก็ไม่รู้เนาะ น้องขิงกินข้าวก่อน แล้วเดี๋ยวจะได้ขึ้นไปคุยกับพี่ดาว ไปปลอบเขาหน่อย บอกให้ช่วยกินข้าวที”

“ครับมะม๊า ถ้างั้นผมขึ้นไปกินกับดาวที่ห้องได้มั้ย”

“อ่อ...ดีเลยๆ น้องดาวจะได้กินเยอะหน่อย”

คุณนายของบ้านเรียกเด็กๆ มายกสำรับขึ้นไปบนห้องลูกชายคนเล็ก ที่ปะป๊าเขาล็อกประตูหน้าห้องไว้ เเถมยังให้บอดี้การ์ดมาเฝ้าไว้อีกต่างหาก

ขิงก้าวเข้าไปในห้องนอนที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ มันกว้างขวางและสะดวกสบายสมกับเป็นห้องของคุณหนูคนเล็กของบ้าน มีเเบ่งสัดส่วนเป็นโต๊ะทำงานชั้นวางหนังสือ โซฟาและชุดโฮมเธียเตอร์เหมือนห้องนั่งเล่นย่อมๆ แล้วค่อยมีประตูเล็กเข้าไปสู่ห้องนอนอีกที ร่างสูงผลักประตูเข้าไปตามที่คนเป็นเเม่บอก ส่วนอาหารเธอให้เด็กๆ จัดไว้ตรงระเบียงห้องนั่งเล่น กลิ่นจะได้ไม่รบกวน

รอให้ทุกคนออกไปหมด ของก็ค่อยเข้าไปทรุดนั่งลงบนเตียงที่มีก้อนผ้านวมกองอยู่ตรงกลาง ดาวปิดม่านปิดไฟจนมันสลัวไปหมด

“ดาว...ขิงมาหา” เขาเรียกเบาๆ ไม่รู้ว่าคนพี่หลับอยู่หรือเปล่า

ก้อนผ้าขยับเล็กน้อย มือขาวโผล่มาก่อนที่เรือนผมยุ่งๆ จะโผล่ตาม

“ฝันอยู่หรือเปล่า”

ดวงตาที่เคยสดใสซุกซนบวมช้ำ ใบหน้าน่ารักซูบลงทั้งที่พึ่งจากมาไม่กี่วัน ขิงอ้าเเขนกว้างเป็นเชิงให้คนพี่ลุกมากอด ดาวยิ้มขื่นๆ แล้วขยับตัว

ขิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่ไหว เขาทนเห็นคนที่เคยเจิดจ้าดุจดาวศุกร์บนท้องฟ้าหม่นเเสงเเบบนี้ไม่ได้เลย

“กลับมั้ยดาว กลับไปกับขิง ไปเรียนต่อให้จบ รอจนกว่าจะทำอะไรได้ดีเเล้วค่อยกลับมาหาป๊า ขิงจะอยู่เป็นกำลังใจให้ เป็นครอบครัวให้ดาวเเทน”

ดาริณที่ซุกตัวอยู่ในเผ่นอกกว้างส่ายหน้า เขาร้องไห้จนไม่มีน้ำตาเเล้ว เเต่พอได้ฟังขิง ไม่รู้ว่าเพราะความตื้นตันหรือคับเเค้นในใจ น้ำตามันเลยไหลออกมาอีกครั้ง ดาริณไม่ได้ฟูมฟายเเต่มันเป็นเพียงความเศร้าเสียใจเงียบๆ

ขิงกอดปลอบไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเข้าใจเเล้วว่าทำไมมะม๊าถึงบอกให้พาดาวหนีไป และมันก็คงทำได้จริงๆ ถ้ามะม๊าออกปากว่าจะช่วย

“ดาวไม่อยากให้ม๊าทะเลาะกับป๊า” เสียงแหบแห้งกระท่อนกระเเท่นจนขิงต้องลูบหลังเบาๆ

ร่างสูงพยักหน้า ดาริณน่ารักถึงเพียงนี้ ทำไมป๊าถึงกล้าใจร้ายใส่นะ

“งั้นกินข้าวก่อนดีมั้ย ม๊าบอกว่าดาวไม่ค่อยกินเลย”

“ดาวไม่หิว”

“งั้นกินเป็นเพื่อนขิงได้มั้ย ขิงเหงา ไม่อยากกินข้าวคนเดียว”

ดาริณเงยหน้ามองคนน้อง ขิงยิ้มอบอุ่น จุมพิตลงมาบนปากเเห้งๆ เเผ่วเบา

คนพี่ยิ้มตอบรู้ว่าน้องกำลังเจ้าเล่ห์ แต่เป็นความเจ้าเล่ห์ที่น่ารัก

เพียงได้อยู่ใกล้ของจิตใจเขาก็สงบขึ้นมาก

ทั้งสองคนนั่งทานมื้อเที่ยงด้วยกันเงียบๆ ที่ระเบียง กลิ่นดอกแก้วโชยมาเบาๆ พร้อมลมเย็น บ้านดาวอยู่ไม่ไกลจากทะเลมากนักจึงทำให้อากาศดี

ขิงยังไม่ได้บอกเรื่องฝึกงานกับดาว เพื่อไม่ให้คนพี่กระวนกระวายมากกว่านี้ กะว่าจะคุยกับป๊าดาวเพื่อหาข้อตกลงให้ได้ก่อนแล้วค่อยให้คนพี่รู้ข่าว

อาหารใต้เชื้อสายจีนที่มะม๊าลงครัวทำเองรสชาติอร่อยและไม่เผ็ด ดาวเห็นคนน้องชอบกินก็ดีใจ ตักหมูค้องกับใบเหลียงผัดไข่ใส่จานให้ไม่ขาด เเกงเหลืองมะม๊าก็ตำเครื่องแกงเองโดยลดพริกลง เด็กกรุงเทพฯ ตัวโตจึงกินได้เยอะ

“กินบ้างเถอะ เอาแต่ตักให้ขิง”

“เห็นเจ้าเด็กกินได้ พี่ดาวก็มีความสุขเเล้ว”

“เจ้าเด็กจะมีความสุขกว่า ถ้าพี่ดาวกินด้วย” ขิงอ้อนกลับ คนพี่ฮึ่มฮั่มเผลอร่าเริงขึ้นมาเมื่อยามได้อยู่ใกล้คนรัก ขิงรีบตักกับข้าวให้เอาใจทันที ดาวเองก็เจริญอาหารกว่าปกตินั่นเเหละ เมื่อได้ขิงมาชวนคุยไปเรื่อย

“เจ้าเด็กมาได้ยังไงนะ” ดาวนึกได้เลยถามถึง

“ขิงโทรหามะม๊าดาว ได้เบอร์มาจากพี่กระเจี๊ยบ”

ดาวพยักหน้า

“มะม๊าฟ้องว่าดาวของขิงเหลือตัวนิดเดียวเเล้ว ขิงเลยต้องมาบังคับให้กินข้าว”

ดาวย่นจมูก นึกหมั่นไส้ในถ้อยคำน่ารักนั้น

“ของหวานมั้ยดาว” ขิงถาม เมื่อเห็นว่าคนพี่ยกน้ำขึ้นดื่ม ดาวส่ายหน้า

“อยากกอดเจ้าเด็กแล้ว”

ขิงยิ้ม ลุกขึ้นจูงคนพี่เข้าไปนั่งในห้องนั่งเล่น ดาวซุกตัวเข้าหาขิงโดยไว เขารู้ดีว่าเวลาที่จะอยู่กับขิงมีไม่นานหรอก เดี๋ยวพอพ่อกลับมาก็คงต้องเเยกจากกันเเล้ว ช่วงนี้เขาจึงอยากตักตวงพลังหน่อย

“เรื่องฝึกงานดาวว่าไงบ้าง เขาตอบมาหรือยัง”

ขิงปั้นหน้าเรียบเฉย เเล้วตอบไปว่ายัง

“เห้อ...ถ้าไม่ได้ก็ดีนะ ดาวจะได้ไม่รู้สึกเสียใจมากนัก”

ขิงลูบผมของอีกฝ่ายเเผ่วเบา ใคร่ครวญเรื่องที่จะคุยกับพ่อดาวไปด้วย พวกเขานั่งซุกตัวกันนิ่งๆ แบบนั้นโดยไม่พูดอะไรต่อ และพอผ่อนคลายจิตใจได้ ดาริณจึงเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว ขิงกดจูบลงไปบนขมับคนพี่อย่างรักใคร่ เขามองแก้มใสๆ นั้นเเล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจ เขารู้จักดาริณไม่นานก็จริงเเต่เพราะความเป็นตัวของตัวเองแบบดาว ไม่สามารถมีใครมาเเทนได้ ความชอบและซื่อตรงต่อความรู้สึกตัวเองทำให้เขาสนุกที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับดาว

และจะว่าไปอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้เขารู้สึกศรัทธาในคนรักคือ ‘ความตั้งใจจริง’ ของอีกฝ่าย การที่ใครคนหนึ่งจะหมกมุ่นทำในสิ่งที่ตัวเองรักมากๆ เขาว่าเป็นเสน่ห์ ดาวรักการวาดการ์ตูน และก็ทำมันอย่างจริงจังแม้จะพอร์นไปบ้างแต่ก็เป็นไปด้วยความน่าเอ็นดู

เกิดมาทั้งทีแล้วได้รู้ว่าตัวเองอยู่ไปเพื่ออะไร มันน่าอิจฉาจะตายไม่ใช่หรอ

และที่ขิงเข้าใจตรงนี้ได้ดีเพราะเขาก็รักการเล่นดนตรีเช่นกัน แถมก็มีความฝันก้อนใหญ่ไม่น้อย อยากจะชนะวงดนตรีระดับมัธยมในเวทีระดับเอเชียให้ได้

ขิงเข้าใจใน ‘ความพยายาม’ นั้นมีทั้งความหอมหวานเเละความเจ็บปวด

เขาปล่อยให้ดาริณหลับ เเล้วเดินออกจากห้องมาเมื่อได้รับสัญญาณจากม๊าว่าป๊ากลับมาเเล้ว เด็กหนุ่มกำพระที่ขอมาจากพ่อตัวเองเเน่น เขากำลังทำสิ่งที่ถูก ทำสิ่งที่ดีเพราะฉะนั้นขอให้ทำมันสำเร็จด้วยเถอะ

ร่างสูงใหญ่เกินวัยเดินเข้าไปในห้องทำงานของคุณพ่อดาริณ อีกฝ่ายยังคงหน้าตาไม่ใจดีใส่ได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย พ่อของดาวนั่งลงหลังโต๊ะทำงานไม้ขนาดใหญ่ ขิงนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม พยายามคุมมือตัวเองไม่ให้สั่นเพื่อยื่นซองเอกสารที่บรรจุผลการเรียนทั้งหมดของดาว อีเมล์ตอบรับเข้าฝึกงานจากสตูดิโอญี่ปุ่น และจดหมายของอาจารย์ให้พ่อของดาวดู

คนสูงวัยกว่ารับไปดู เสียงเปิดซองเเละหยิบกระดาษอ่านดังมากกว่าความเป็นจริง เพราะในห้องนี้สงัดมาก ขิงทั้งตื่นเต้นเเละกดดันจนมือเย็นไปหมด ได้เเต่รอด้วยความหวังว่าพ่อของดาวจะอ่อนลงบ้าง

เเต่...

“แล้วยังไง เรื่องรายได้หลังเรียนจบหรืออะไรก็ตามป๊าไม่ได้สนอยู่แล้ว เเต่สิ่งที่ป๊าต้องการคือให้ดาวกลับมาดูเเลกิจการที่บ้าน จึงจำเป็นต้องเรียนบริหาร”

ขิงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก หลากหลายคำพูดที่เขาเรียงเอาไว้ในสมองก่อนหน้านี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย มันหยิบจับมาใช้ลำบากเหลือเกิน

“ถ้าไม่มีอะไรจะพูดแล้วก็ออกไปเถอะ ถ้าขิงเองยังคบกับดาวอยู่จะเเวะมาเยี่ยมหรืออะไรป๊าก็ไม่ว่า แต่ถ้าจะให้ดาวกลับไปกรุงเทพฯ อีก คงไม่ได้”

ขิงเงียบฟังเเต่เขายอมรับไม่ได้ถ้ามันจะจบแบบนี้

“ป๊า อยากได้คนมาช่วยดูเเลกิจการใช่มั้ยครับ”

“ใช่”

“ถ้าเป็นผมแทนดาวได้มั้ย”

คราวนี้คนสูงวัยกว่าเลิกคิ้วเเล้วนิ่งฟัง

“ให้ดาวกลับไปทำในสิ่งที่ดาวชอบเถอะครับ แล้วเรื่องกิจการที่บ้านผมจะกลับมาช่วยเอง ยังไงผมก็จะเรียนบริหารอยู่เเล้ว น่าจะตรงกับที่ป๊าต้องการ”

“คิดดีเเล้วหรอ แล้วที่บ้านขิงไม่ว่าหรือไง”

“ผมคุยกับพ่อเเม่เรื่องนี้เเล้วก่อนมา ถ้าต้องมาทำงานที่ภูเก็ตจริงๆ พ่อผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ถือว่าเป็นการหาประสบการณ์ ส่วนกิจการที่บ้านผมก็ยังมีพี่ชายอีกสองคนช่วยดูเเลอยู่ครับ แล้วถ้าผมโตพอที่จะดูเเลทั้งสองส่วนได้ เดี๋ยวนี้เรามีเทคโนโลยีช่วยซัพพอร์ตมาก จะทำงานผ่านอินเตอร์เนตก็ไม่ลำบาก”

พ่อของดาวพยักหน้า มองขิงในเเง่ที่ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา เพราะเเม้จะยังเด็กไปบ้างแต่ความคิดความอ่านไม่เเย่

“เรียนอยู่ชั้นไหนแล้วล่ะเรา”

“จบม.5ครับ ปิดเทอมนี้ผมมีเเข่งดนตรีอาจจะยังมาช่วยไม่ได้ ยังไงให้ผมเรียนจบ ม.6โรงเรียนเก่าก่อนได้มั้ยครับ แล้วจะมาต่อมหาวิทยาลัยที่นี่ก็ได้ จะได้รีบช่วยป๊าดูเเลกิจการเลย”

“รู้หรอว่าที่นี่ก็มีมหาวิทยาลัย”

“หาข้อมูลมาบ้างครับที่มองไว้คือวิเทศน์ธุรกิจจีน จะได้เรียนภาษาจีนไปด้วยครับ มีประโยชน์มากสำหรับการทำงาน”

คนเป็นพ่อพยักหน้า เขาเองก็เล็งคณะนี้ไว้ให้ดาริณเหมือนกัน

“แน่ใจนะว่าจะทำได้”

“จากใจเลยนะครับ ผมทนไม่ได้ที่เห็นดาวใช้ชีวิตเเบบซังกะตาย ถ้าใช้ชีวิตโดยไม่ความฝันเเบบนั้นก็ไม่ต่างจากตายไปแล้วครึ่งนึง อย่างน้อยก็ให้เขาได้ไปลองก่อนถ้ามันไม่เวิร์คจริงๆ ค่อยให้เรียนปริญญาโทบริหารก็ยังไม่สาย แต่สำหรับผมยังไงก็อยากมาลองทางฝั่งบริหารอยู่เเล้ว เเค่เปลี่ยนมหาวิทยาลัยกับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายน่าสนใจ”

คนเป็นผู้ใหญ่หน้าชาในสิ่งที่ขิงพูด เขาไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนี่จงใจจะเเดกดันเขาที่บังคับลูกเกินไปหรือเปล่า เเต่ในเมื่อมันพูดออกมาด้วยความสุภาพเเละเหมือนเป็นสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจ เขาจะไปโมโหให้เสียความน่าเคารพก็ใช่ที่

“ก็ตามนั้น พาเจ้าดาวกลับไปให้มันเรียนให้จบ เเล้วก็ทำงานที่มันอยากทำ ส่วนขิงจบ ม.ปลายแล้วก็มาอยู่ที่นี่ซะ”

“ครับ” ขิงรับคำ อดจะดีใจไม่ได้เเต่ก็ต้องเก็บอาการไว้

“แต่บอกไว้ก่อนนะว่าป๊ายังไม่หายโกรธดาว”

“ครับ ผมจะคอยดูเเลดาวเอง ป๊าไม่ต้องห่วง”

คนเป็นพ่อถอนหายใจ แล้วโบกมือไล่เด็กรุ่นลูกออกไปจากห้อง

คุณดำรงหมุนเก้าอี้ไปมองกรอบรูปที่ชั้นวางหน้าสือด้านหลังโต๊ะ ดาริณตัวเล็กๆ ที่เขาอุ้มไว้ด้วยแขนข้างเดียว พาไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทั่วภูเก็ต เห็นเเล้วทั้งรักทั้งหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน





TBC 


เนี่ยๆ ชอบมาม่าใช่มั้ย พอม่ากันเยอะเลย 555
ให้กำลังใจคู่นี้ไปด้วยกันนะคะ
 #ดาวอย่ายั่ว  

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
มาม่าไม่เหมาะกะพี่ดาว...ววววว   :impress3:

ออฟไลน์ todiefor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ความนว้องงงนี้ยยย์ ชอบมากกกก โง้ยๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องขิง  หนูทำเจ้ใจบางไปแล้ววว

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
สงสารน้องดาว คนร่าเริงสดใสปานตะวัน ต้องเศร้าซึมเหงาหงอยเพราะป๊าจับขัง.  :m15:

น้องขิงแมนมากลูก ดีใจแทนน้องดาวได้แฟนดีอ่ะ

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
น้องขิงแมนสุดๆ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ขิงเป็นผู้นำสุดๆ พี่ดาวคงปลื้มน้องมาก

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
 o13

โชคดีที่ไม่ได้ถอดใจตั้งแต่บทแรกเพราะปกติไม่ชอบเคะลักษณะนี้
แต่เรื่องนี้ ว้าววววววว เหนือคำบรรยาย คงจะประหลาดเหมือนน้องดาว 555+
สรุปว่าเฝ้ารออ่านตอนต่อๆๆๆๆไป

 :pig4:

ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เจ้าเด็กกกกก น่ารักมาก น้องดาวสู้ๆ

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
Chapter 20



ขิงรับดาริณกลับมากรุงเทพฯ ได้สำเร็จ โดยบอกเพียงว่าเพราะจดหมายจากอาจารย์ที่คณะ และโอกาสที่ดาริณได้รับให้ไปฝึกงานที่ญี่ปุ่น ส่วนเงื่อนไขที่ขิงบอกว่าจะดูเเลกิจการที่บ้านให้นั้น เขาคิดว่าค่อยทยอยบอกตอนที่สภาพจิตใจดาริณดีขึ้นกว่านี้

การกลับมาครั้งนี้ก็เป็นช่วงใกล้วันเเข่งขันวงดนตรีรอบชิงเเชมป์ประเทศไทยของขิงพอดี เจ้าเด็กของดาวออกไปซ้อมเเทบทุกวัน ส่วนดาวก็เตรียมสัมภาระต่างๆ เพื่อไปฝึกงาน ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

และไม่กี่วันก่อนเเข่งขิงก็กลับมาคอนโดด้วยสีหน้าไม่ดีนัก

“มีอะไรหรอเจ้าเด็ก” ดาริณที่กำลังเตรียมอาหารเย็นถาม เขากำลังเคี่ยวหมูค้อง เมนูเด็ดจากคุณม๊าที่เจ้าเด็กติดอกติดใจ

“ดาวจำน้ำได้ป่ะ” ร่างสูงพูดถึงเพื่อนสนิท ที่รับหน้าที่เป็นนักร้องนำในวง

“ขึ้นใจเลยล่ะขิง”

“เป็นเนื้องอกในสมอง”

“ห๊ะ!! จริงรึเปล่า”

“ตอนเเรกก็คิดเหมือนดาวนั้นเเหละว่าหลอกกันรึเปล่า เเต่มันจะไปผ่าหลังเเข่งรอบที่เมืองไทยเสร็จ”

“ยังเด็กๆ อยู่เลย” ดาริณเองก็อึ้งไปไม่เเพ้กัน ก่อนหน้านี้ดาริณเคยรู้จักน้ำมาบ้าง เพราะเป็นเพื่อนในโรงเรียนที่ขิงแอบชอบมานานเเต่ไม่ได้เเสดงตัวออกไป

“แล้วถ้าน้ำไปแข่งที่ญี่ปุ่นไม่ได้ เจ้าเด็กจะทำไง”

ขิงย่นจมูก “ก็มีทีอีกคนในวงร้องเเทนได้ คนที่น้ำชอบนั้นเเหละ เรื่องนี้ก็น่าปวดหัวจะพูดยังไงให้โน่ยอมไปเเข่งต่อที่ญี่ปุ่น ขิงล่ะกลัวมันอาละวาด”

ดาริณดึงเจ้าเด็กของเขามากอดให้กำลังใจ “ขิงทำได้อยู่เเล้ว ขนาดป๊าดาวขิงยังเอาชนะได้เลย”

ร่างสูงพยักหน้า เขากอดตอบคนรัก “ยังไงขิงก็ต้องตามไปเจอดาวที่ญี่ปุ่นให้ได้”

“ฟ้าดินแยกเราเท่าไหร่ไม่ขาด ภพชาติรั้งเราห่างกันไม่ได้...” ดาวฮัมเพลงประกอบละครเรื่องบุพเพสันนิวาสที่ฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองออกมาจนขิงขำ เเละเพราะมรสุมที่รุมเร้าเข้ามาช่วงนี้ทั้งเรื่องที่บ้านดาวและเรื่องน้ำ เขาจึงนึกผูกพันกับดาริณมากขึ้นกว่าเดิม เเละอยากใช้เวลาในทุกวันให้คุ้มค่าไปกับดาวก่อนที่อะไรจะสายเกินไป

“วันนี้ทำอะไรให้ขิงกิน หอมจัง” เด็กหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง เขากลัวว่าตัวเองจะเเสดงพิรุธให้ดาวเห็น ถ้ายังคุยเรื่องเศร้ากันต่อ

“เมนูที่เจ้าเด็กชอบทั้งนั้นเลย พี่ดาวจดสูตรมาจากคุณม๊า”

“น่ารักเก่งจังเลยคนนี้”

“ไปอาบน้ำก่อนเร็ว อี๊กแป๊บนึงก็พร้อมกินเเล้ว”

“ขอบคุณนะครับ” ขิงจุ๊บเเก้มคนพี่เเล้วเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อล้างเนื้อล้างตัว

หลังจบมื้อเย็นที่ผ่านไปด้วยความเรียบง่าย ขิงก็ช่วยดาริณเก็บล้าง ซึ่งเเค่มายืนรับจานจากดาริณไปคว่ำนั้นเเหละ แต่ก็ถือเป็นความน่ารักที่ดาวประทับใจแล้ว เเละเมื่อเสร็จงานดาริณก็ขอตัวไปอาบน้ำบ้าง

ขิงมารอดาวอยู่ในห้องนอน เเละเมื่อคนตัวเล็กออกมาจากห้องน้ำอีกฝ่ายก็กวักมือให้เดินมาหา เขาถือขวดโลชั่นของดาวไว้ในมือแล้วบอกให้อีกฝ่ายนั่งลงเพื่อทาครีมบำรุงผิวให้ ดาริณเลิกคิ้วด้วยความสงสัยแต่ก็ยอมทำตามโดยดี เจ้าเด็กหยิบเเขนของคนพี่ไปลูบไล้

ร่างสูงหัวเราะเบาๆ เมื่อคนตัวเล็กยังทำหน้างุนงงไม่หาย

“อยากทำให้ อยากดูแล ในวันที่ยังมีโอกาส”

ดาริณย่นคิ้ว เเต่เขาคิดว่าอาจเป็นเพราะขิงพึ่งรับรู้เรื่องอาการป่วยของเพื่อนสนิทมา จึงได้มีพฤติกรรมที่อ่อนหวานเช่นนี้

“เสียใจมากมั้ย” ดาริณถาม

ขิงยังคงลูบผิวเขาไปเรื่อยๆ

“ใจหายกับเป็นห่วงมากกว่า”

“ไหวมั้ยเจ้าเด็ก” ถึงจะเคยเป็นศัตรูหัวใจอันดับหนึ่ง เเต่ดาริณก็เเยกเเยะออกและอดห่วงใจของคนรักไม่ได้

“ไหวดิ ดาวอยู่ด้วยทั้งคน”

“ไม่ต้องเเล้ว มาให้พี่ดาวกอดนะ” ดาริณยกมือห้ามขิงไม่ให้ทาครีมต่อ เเล้วขยับตัวเข้าไปอ้าเเขนรอ ร่างสูงใหญ่ซุกหน้าเข้าหาอีกฝ่ายทันที

“เมื่อไหร่ที่ไม่ไหวก็บอกดาวนะ ดาวจะปกป้องขิงเอง”

“เก่งที่สุดอ่ะคนนี้” ขิงชม แล้วเบียดตัวเข้าไปในอ้อมกอดของคนพี่มากขึ้น

ความรักก็เท่านี้เอง ผลัดกันลุก ผลัดกันล้ม และช่วยดูเเลอีกคนในวันที่อ่อนเเอ



การแข่งขันเป็นไปตามความคาดหมายคือวงของขิงได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งที่ไทย เเละมีกำหนดการต้องไปเก็บตัวที่ญี่ปุ่นเพื่อเเข่งขันรอบชิงเเชมป์เอเชีย ส่วนน้ำก็เข้ารับการรักษาพยาบาล โดยมีพ่อมารับตั้งเเต่หลังรับรางวัลบนเวที

ขิงจะบินไปโตเกียวหลังดาริณ เเต่ทั้งคู่เช็คเรื่องที่พักแล้ว โชคดีว่าอยู่ห่างกันไม่กี่สถานีรถไฟ และขิงเองมีอิสระในการออกมานอกหอพักนอกเวลาซ้อมได้

ขิงกับดาวเคยห่างกันเเล้วช่วงที่ดาวโดนให้กลับภูเก็ตด่วน การจากกันครั้งนี้จึงเป็นไปอย่างเรียบง่าย เพราะรู้ดีว่าอีกไม่กี่วันขิงก็จะตามไปเจอกัน

แต่ความฝันและความเป็นจริงมักสวนทางกันเสมอ จากที่ดาวและขิงจินตนาการไว้ว่าจะได้ตระเวณวิ่งเล่นในโลก18+ ด้วยกันก็เห็นทีจะพังไม่เป็นท่า เนื่องจากดาวที่ไปฝึกงานกับออฟฟิสคนญี่ปุ่นก็ต้องปรับตัวมาก เเค่เรื่องภาษาที่ดาวรู้เเค่งูๆ ปลาๆ ก็ลำบากแล้ว โชคดีที่ในทีมยังมีเพื่อนเพื่อนจากชาติอื่นๆ มาช่วยๆ กันคุยภาษามือกับรุ่นพี่ที่เป็นญี่ปุ่นก็พอจะถูไถทำงานกันได้ ฝ่ายขิงเองก็ซ้อมหนัก เพราะมีโค้ชต่างชาติร่วมพัฒนาฝีมือให้

นานๆ ทีที่ขิงกับดาวจะว่างตรงกัน เวลาส่วนใหญ่จึงใช้ไปกับการออกไปหาของอร่อยทาน แล้วก็นอนพักแต่มันก็ช่วยพิสูจน์ให้เขาสองคนรู้ว่า เรื่องบนเตียงเป็นเพียงสีสันหนึ่งในการคบกันเท่านั้น ความเข้าใจซึ่งกันเเละกันต่างหากที่จะช่วยให้ความรักยั่งยืนยิ่งกว่า

และวันที่ขิงประกวดรอบขิงชนะเลิศ ดาวก็ขอลางานไปให้กำลังใจ เจ้าเด็กของเขาหล่อมากเมื่อขึ้นเวที จังหวะการเล่นที่หนักหน่วง สีหน้าจริงจัง คิ้วขมวดแบบเกรี้ยวกราดไปตามจังหวะร็อคหนักๆ หลอมรวมให้ขิงดูดีจนดาวตาพร่า หูก็ฟังเพลงรู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้าง จะหันไปกรี๊ดกับใครก็ไม่มีเลย เป็นทีมญี่ปุ่นกันหมด แง้~แต่ไม่เป็นไรป้ายไฟเชียร์หลัวของดาวอันใหญ่สุด!!

“And the first runner-up is…..”

ดาริณกุมมือตัวเองเเน่นมาก เหงื่อไหลเต็มไปหมด นึกเกลียดพิธีกรที่ต้องลากเสียงให้ใจตุ๊บต่อม ถ้าขิงไม่ได้รางวัลรองชนะเลิศ ก็เหลืออีกหนึ่งรางวัลให้ลุ้น แต่จากที่ดู Performaceของทีมอื่นๆ แล้ว ทีมไทยก็ดูจะไม่ชนะขาดในสายตาคนดู

“….is Forever and the One from Thailand”

เฮ!!! ที่สองก็ไม่เป็นไร มาไกลมากแล้วเจ้าเด็กของพี่ดาว

ดาริณกระโดดโหยงเหยง พอๆ กับเสียงเฮดังลั่น ขิงนำทีมทุกคนขึ้นเวทีแล้วรับถ้วยรางวัลจากศิลปินชื่อดังชาวญี่ปุ่นที่มาเป็นโค้ชให้ตอนฝึกซ้อมด้วย

ร่างสูงหล่อเหลาจับไมค์แล้วขอบคุณเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงรื่นหู พี่ดาวกรี๊ดจนจะไม่มีเสียงแล้วจ้า

ขิงเริ่มต้นขอบคุณสมาชิกทุกคนในทีม รวมไปถึงทุกๆ กำลังใจจากครอบครัว เเฟนคลับ คุณครูทุกคนที่มาให้ความรู้ในด้านดนตรี และขอบคุณ ‘ความรัก’ ที่เป็นดั่งดวงดาวนำทางให้เขาสามารถเอาชนะทุกอย่างมาได้

ดาวพยักหน้าให้ทุกประโยคของเจ้าเด็ก เขาภูมิใจ รู้สึกเหมือนเห็นอีกฝ่ายเติบโตขึ้นจนเกือบเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวเเล้ว

ขิงมีไปเลี้ยงฉลองกับทีมงาน ดาริณส่งข้อความไปบอกว่ากลับก่อนโดยไม่ได้โกรธงอนอะไร แต่อยากให้คนรักได้ไปใช้เวลาช่วงนี้กับวงโคจรทางดนตรีของตัวเองก่อน ส่วนที่จะฉลองกับYour Guiding Star นั้นเดี๋ยวค่อยไปจัดหนักที่ไทยก็ได้



หลังจากวันเเข่งขันเสร็จไม่กี่วันทีมทั้งหมดก็ต้องกลับไทยไปก่อน เพราะมีคิวงานสัมภาษณ์รวมทั้งโชว์ตัวรออยู่เเล้ว ส่วนดาริณยังมีฝึกงานต่ออีกเกือบเดือนถึงจะกลับไปหาขิงที่ไทยได้

มือเบสคนดังที่พึ่งคว้ารางวัลจากต่างประเทศมาหมาดๆ ถูกสืบประวัติทันที แถมยังขึ้นทำเนียบหนุ่มเนื้อหอมเพราะรูปร่างหน้าตาที่เป็นพิมพ์นิยมในปัจจุบัน ผิวขาว เบ้าหน้าดุ ตาโต คิ้วขมวด จมูกโด่งสวย แล้วก็ปากเเดงเเบบไม่ต้องพึ่งลิปสติก

“น้องขิงแม่งเเซ่บ” โปรดิวเซอร์รายการ TV ในเครือ GXX พูดขึ้นกลางที่ประชุม “ไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณอรรถพลจะมีลูกชายหล่อขนาดนี้”

“คนโตกับคนกลางก็หล่อนิ แต่เหมือนจะดูเเลธุรกิจอื่นอยู่ แล้วก็ห่างกับน้องขิงหลายปี” ครีเอทีฟรายการพูดบ้าง ขณะที่ทีมกำลังประชุมกันเรื่องรูปแบบสัมภาษณ์ที่ได้คิวของวงForever and the One มาพรุ่งนี้

อลงกรณ์เดินมาที่เเผนกนี้พอดี เขามองเลยเข้าไปในห้องประชุมที่เป็นกระจกใส บนจอProjector ที่ทีมงานใช้โชว์ข้อมูลมีรูปของขิงโชว์หรา บางครั้งก็เป็นคลิปผลงานของวงที่พึ่งไปแสดงมาที่ญี่ปุ่น และข้างกับอลงกรณ์คือโพนี่ไอดอลในสังกัดที่ยืนมองจอนั้นอยู่ก่อนเเล้ว

“สนใจเจ้าขิงหรอ” อลงกรณ์ถามเสียงเบาที่ให้ได้ยินกันเเค่สองคน เด็กผู้ชายผิวขาวหน้าตาจิ้มลิ้มเปลี่ยนสายตาร้ายกาจของตัวเองให้บ๊องเเบ๊วทันควัน ก่อนจะเงยขึ้นมองคนพูด

“ผมมีเเต่พี่กรณ์ จะไปสนใจใครได้”

ร่างสูงหัวเราะหึในลำคอ เขากับโพนี่คือคู่ขาบนเตียง เจ้าเด็กนี่ทะเยอทะยานเเค่ไหนทำไมจะไม่รู้

“ร่วมมือกันมั้ย โพนี่ได้ขิง พี่ก็ได้น้องดาว”

คนตัวเล็กตกใจแต่ไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยสักนิด อลงกรณ์กำลังจะเขี่ยเขาออกไปให้พ้นทางตัวเองชัดๆ เเถมยังใช้ประโยชน์จากเขาด้วย

“วินวินหน่า ถ้าโพนี่ไม่ได้พี่ก็อด ความสัมพันธ์ของเราสองคนก็ยังเหมือนเดิม แต่ถ้า...สำเร็จละก็ โพนี่ก็ได้เป็นคนรักของลูกเจ้าของบริษัทใหญ่สบายไปทั้งชาติ แถมวันก่อนพี่เจอขิงก็ดูจะเป็นคนรักเดียวใจเดียวและพร้อมจะหยุดที่ใครสักคนไม่เหมือนพี่นะ”

โพนี่พยักหน้าเบาๆ เขารู้อยู่เเล้วว่าอลงกรณ์ร้ายกาจเเค่ไหน และทุกประโยคที่พูดออกมานั้นก็ช่วยตอกย้ำได้เป็นอย่างดีว่าอีกฝ่ายไม่เคยคิดรักเขาเลย

อ่า...จะว่าไปหัวใจเขาก็เจ็บนิดๆ เหมือนกันนะ

“ร่วมมือกันมั้ยละ”

เด็กหนุ่มมองตาคนตรงหน้าที่เเวววาวอย่างชั่วร้ายเเล้วตอบตกลง ไม่สำเร็จเขาก็ไม่เสียหาย แต่ถ้าสำเร็จละก็เหมือนจะหลุดพ้นความเจ็บปวดที่อลงกรณ์มอบให้ไปได้สักที

“เก่งมากเด็กน้อยของพี่” อลงกรณ์เปลี่ยนสีหน้าเป็นอบอุ่นทันทีแล้วขยี้หัวโพนี่เหมือนกำลังเอ็นดูนักหนา เขาเดินเข้าไปในห้องประชุม เลือกใช้อำนาจความเป็นลูกชายหุ้นส่วนดันให้โพนี่เป็นพิธีกรร่วมในการสัมภาษณ์วงของขิงพรุ่งนี้ทันที

ปกติโพนี่เป็นพิธีกรรายการท่องเที่ยวของช่องอยู่เเล้ว ทีมงานจึงเห็นว่าไม่ได้เสียหายอะไรก็รับปากอลงกรณ์ไปได้ในทันที



วันรุ่งขึ้นโพนี่ตื่นมาเตรียมตัวเเต่เช้า เขาวางเเผนหลายอย่างไว้ในหัวมันเป็นการเดิมพันที่เขาอยากชนะขึ้นมาอย่างหนักหน่วง เพราะปัจจัยหลักคืออลงกรณ์และความเเค้นเคืองที่มีต่อดาริณที่ดันไปมีอิทธิพลต่อใจผู้ชายที่เขาอยากรักมากเกินไป

เพราะอยู่ในวงการมานานประมาณหนึ่ง วิธีการเเสดงละครแบบเอาอินเนอร์คนอื่นมาใส่ตัวเองจึงไม่ยากเลยสำหรับโพนี่ เขารู้มาว่าช่วงนี้ขิงไม่ได้อยู่ใกล้ชิดดาวเนื่องจากอีกคนยังต้องฝึกงานอยู่ต่างประเทศ แล้วคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอดมันก็ต้องมีโหยหากันบ้านสินะ ไอดอลหนุ่มจึงเลือกจะดึงคาเเรคเตอร์ของดาริณมาใช้ ทั้งการเเต่งตัวเเละวิธีการพูดจา แถมรูปร่างหน้าตาเขายังมีความเป็นไทป์เดียวกับดาริณอยู่บ้าง

‘ซุกซนและน่ารัก’ โพนี่ท่องคำนี้ไว้ในใจ ก่อนจะออกจากคอนโดมาแล้วตรงไปที่ตึกGXX

ทีมงานส่วนใหญ่พร้อมหมดแล้ว รวมถึงเเขกรับเชิญที่ทยอยมา เเละอลงกรณ์ก็จัดให้พวกเขาใช้ห้องMake Up เดียวกัน คนตัวเล็กส่องดูจากนอกประตูผ่านช่องกระจก เห็นขิงนั่งคุยอยู่กับเพื่อนในวง เขาจึงเดินเข้าไปและจงใจผ่านหน้าอีกฝ่ายแบบเร็วๆ ให้เห็นหน้ากันไม่ชัด แต่จงใจทิ้งกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ แบบเดียวกับดาริณใช้เอาไว้ แถมเสื้อผ้าที่ใส่มาวันนี้ก็สไตล์เดียวกันด้วย

“ดาว…”

ไอดอลหนุ่มยิ้มในใจทันทีที่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายเรียกเบาๆ เขาหันไปทำตาโตใส่ เอียงคอน้อยๆ ในองศาที่มั่นใจว่ามัดใจคนมานักต่อนักแล้ว

“เรียกเราหรอ”

“อ่า...ขอโทษครับ” อีกฝ่ายทำหน้าสลดไปจนโพนี่ต้องส่งยิ้มสดใสให้

“เราชื่อโพนี่นะ จะได้ไม่เรียกผิดอีก คุณชื่ออะไร”

“ผมขุนเขาครับ เรียกขิงก็ได้”

“ยินดีที่ได้รู้จักน๊า เดี๋ยวเราไปแต่งหน้าก่อน”

ขิงพยักหน้า

“เอ๊ะ ขิงคือวง Forever and the One รึเปล่า” โพนี่ต่อบทสนทนาไปอีกหน่อย

“ใช่ครับ”

“อื้อ เดี๋ยวเจอกันตอนถ่ายนะ ฝากตัวด้วย วันนี้เรามาเป็นพิธีกรคู่พี่ชมพู แต่เราทำการบ้านมาเเล้วน๊า รับรองสัมภาษณ์ดีชัวร์”

“ฮะฮ่าครับ เจอกันครับ” ร่างสูงยิ้มให้ เพราะรู้สึกว่าอีกฝ่ายร่าเริงเเละอัธยาศัยดีมาก ขนาดชูครีมมือกลองในวงที่ไม่ค่อยสนใจใครยังอดเงยหน้าขึ้นมามองไม่ได้

“เหมือนพี่ดาวจังว่ะ” เพื่อนร่วมวงทัก

“เออ โคตรเหมือน ดีนะเมื่อกี้ไม่รวบกอดแล้วซุกไซร้ โว้ยๆ ๆ คิดถึงๆ” ขิงโวยวายเอากับชูครีม จนอีกฝ่ายต้องกรอกตา



เมื่อได้เวลาทีมงานก็มาเชิญทุกคนเข้าฉาก ขิงเป็นหัวหน้าวงจึงได้นั่งใกล้พิธีกรมากที่สุด เเละกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของโพนี่ก็กวนใจเขาตลอดเวลา แต่กระนั้นการถ่ายทำก็ดำเนินไปอย่างสนุกสนานเพราะความมืออาชีพของชมพูผู้ดำเนินรายการคนดังระดับประเทศ โพนี่เองก็ทำการบ้านมาเยอะเหมือนจึงทำให้ถามตอบได้อย่างคล่องเเคล่ว แถมยังเพิ่มภาพลักษณ์การเป็นคนทำงานเก่งในสายตาขิงด้วย

“น้องโพนี่เรามาถามเรื่องหัวใจของหนุ่มๆ กันบ้างดีกว่า” ชมพูหันไปยักคิ้วกับกล้อง เพราะรู้ว่าจะเป็นคำถามที่เรียกความสนใจได้ดี

“มีเเฟนกันบ้างรึยังเอ่ย เเต่ที่รู้มาคือในวงมีคู่จิ้นอยู่เเล้วด้วยนะครับพี่ชมพู” โพนี่คุยกับพิธีกรสาว

“น้องโน่กับน้องนางฟ้าใช่มั้ยครับ ที่ประกาศว่าคบกันตั้งเเต่ตอนเเข่ง” ชมพูถาม ทั้งคู่พยักหน้ายิ้มๆ ไม่ได้ตอบอะไรมาก

“แล้วหนุ่มพูดน้อยของเราละครับ” โพนี่หันไปถามชูครีม รายนั้นส่ายหน้านิ่ง จนชมพูต้องกรี๊ดกร๊าดเเทนสาวๆ ทั้งประเทศที่ยังไม่ได้ดูรายการ

“มาถึงคนสุดท้าย พ่อหนุ่มมากเสน่ห์ของเรา นี่ขึ้นเเท่นเป็นเเฟนมโนอันดับหนึ่งของคนทั้งประเทศเเล้วนะคะ” ชมพูชงให้

ขิงหัวเราะ โบกมือให้กล้องว่าไม่ถึงขนาดนั้น

“แหนะ อย่ามาทำปฏิเสธ จะทำให้สาวๆ อกหักทั้งประเทศรึเปล่าเนี่ย”

“ว่าไงครับน้องขิงมีเเฟนรึยัง” โพนี่ถามแหย่ด้วยท่าทางน่ารักเหมือนรุ่นพี่ขี้สงสัย

“มีแล้วครับ” ขิงพยักหน้าเบาๆ เล่นเอาชมพูทำหน้างอใส่ แถมทีมงานคนอื่นๆ ก็ส่งเสียงโห่เเสดงความเสียใจมาด้วย

“ทำสาวๆ อกหักทั้งประเทศเลยนะคะ”

“ขอโทษด้วยนะครับ แต่เเฟนผมน่ารักมากจริงๆ ครับ รักผมแล้วก็รักแฟนผมด้วยนะคร้าบบบบ!!” ขิงไม่ลืมที่จะอวดเเฟนตัวเองออกกล้องด้วย

“พูดเเบบนี้ น้องขิงดูท่าทางจะหลงแฟนมากด้วยใช่มั้ยครับเนี่ย” โพนี่เเซว

“ก็มากครับ เค้าศรัทธาในสิ่งที่ผมทำ สนับสนุนผมทุกอย่าง แล้วก็ในช่วงที่มีเรื่องไม่สบายใจตอนแข่งเขาก็คอยบอกให้ผมสู้ๆ”

“ผู้ชายรักแฟนแบบนี้ยิ่งเรียกคะเเนนจากสาวๆ ได้ใหญ่เลยนะครับ ว่ามั้ยครับพี่ชมพู” โพนี่อวยเข้าไปอีก ขิงจะได้ไม่ระเเวงว่าเขากำลังวางเเผนตีท้ายครัวอยู่

“อิจฉาแฟนน้องขิงเค้านะคะ แต่น้องชูครีมยังว่าง เพราะฉะนั้นก็กรี๊ดกันต่อได้เลยค่า”

กรี๊ด!! สาวๆ ในสตูฯ ส่งเสียงรับอย่างไว

ปิดท้ายช่วงสัมภาษณ์ด้วยการให้ขิงฝากผลงานของวง แล้วก็เสร็จสิ้นการอัดรายการ

เด็กๆ นักดนตรีขอบคุณทีมงาน พี่ชมพูเข้ามาคุยด้วยอีกนิดหน่อยก็โบกมือลาเพื่อไปอัดรายการอื่นต่อ โพนี่ก็ขอตัวกลับเช่นกัน วันนี้เขาต้องการเเค่ให้ขิงจำหน้ากับรู้จักชื่อก็พอ ส่วนความสนิทสนมนั้นค่อยๆ สร้างไปก็ได้

ขิงเเยกย้ายกับเพื่อนๆ เพราะคนอื่นล้วนมีนัด เขาเเวะขึ้นไปทักทายพ่อที่ชั้นบนสุดแล้วค่อยกลับบ้าน

พอลงไปเอารถที่ลานจอดก็เหงาใจนิดหน่อย ปกติต้องมีตุ๊กตาหน้ารถคอยคุยเล่นด้วยเสมอ แต่มาวันนี้ดาริณยังไม่กลับจากญี่ปุ่นเลย ขับรถใจลอยๆ แต่พอรถกำลังจะเลี้ยวออกจากบริษัทเท่านั้นแหละหางตาของขิงก็สังเกตเห็นโพนี่เดินยกมือบังเเดดออกมาจากตึกพอดี ร่างเล็กๆ ที่ดูคล้ายดาริณมากนั้นทำให้สายตาเขาอดจะมองตามไม่ได้ แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นอีกฝ่ายที่ยืนเหมือนจะรอเเท็กซี่ที่หน้าฟุตบาทกำลังโงนเงนไปมา แล้วกระพริบตาถี่ๆ เขาเคลื่อนรถไปจอดเทียบทันที แล้วก็ต้องตาโตเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเหงื่อออกเต็มหน้า แล้วก็ปากซีดมาก

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw

“พี่เป็นอะไรรึเปล่า!” ขิงถามด้วยความตกใจ รีบวิ่งไปรับอีกฝ่ายให้ขึ้นรถ โพนี่เอนหลังพิงเเล้วหลับตา

“ไปหาหมอมั้ยครับ”

โพนี่ส่ายหน้า ล้วงยาดมออกมาจากกระเป๋า แล้วอาการก็เหมือนค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ โพนี่ยกมือลูบหน้าสองสามที ปากก็เริ่มมีสีเลือดให้เห็น

“สงสัยพี่หิวข้าวจนจะเป็นลม” คนตัวเล็กยิ้มอายๆ ออกมา

“เมื่อเช้ารีบมาสัมภาษณ์พวกน้องขิงไง ยังไม่ได้กินอะไรเลย เเล้วเมื่อกี้ทีมงานก็เรียกไปคุยงานต่อด้วย” โพนี่เล่า

เท่านั้นขิงก็หัวเราะ เขาเกือบเอื้อมมือไปขยี้ผมคนท่าทางเเมวๆ นั้นเเล้ว เเต่ก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่สนิทกันมาก จึงยั้งมือไว้ทัน

“งั้นไปทานข้าวกันดีกว่าครับ ผมก็ยังไม่ได้ทานมื้อเที่ยงเลย” ร่างสูงเอ่ยอย่างมีน้ำใจ โดยไม่ได้นึกรู้เลยว่านี่คือเเผนอ่อยระดับเทพ ปากที่ซีดๆ ก็โปะคอนซีลเลอร์มา หน้าชุ่มเหงื่อก็สเปรย์น้ำเเร่ไง แล้วไอ้ที่เเขนเย็นๆ โพนี่ก็ไปอังกับช่องฟรีชในตู้เย็นก่อนออกมาพบขิงโดยไม่บังเอิญเพราะอลงกรณ์ที่เข้าไปคุยงานกับพ่อของขิงรายงานมาเป็นระยะว่าควรต้องออกมาเป็นลมให้ขิงเห็นในจังหวะไหน

“เกรงใจน้องขิงจังเลยอ่ะ” โพสนี่พูดด้วยใบหน้าหงอยๆ เรียกความสงสาร

“ไปเหอะพี่ ผมก็ไม่มีเพื่อนกินข้าวเนี่ยะ” ขิงเป็นคนร่าเริงอยู่เเล้ว จึงเเสดงอาการสบายๆ ออกมาเพื่อให้คนที่พึ่งรู้จักไม่เกร็ง

“ถ้างั้นก็ได้ แต่ให้พี่เลี้ยงนะ พี่เกรงใจอ่ะ กวนเวลาขิงด้วย”

เด็กหนุ่มพยักหน้า “พี่เลี้ยงขนมละกัน แล้วผมเลี้ยงข้าว โอเคมั้ย”

โพนี่ยิ้ม แล้วก็พยักหน้าหงึกๆ ท่าทางเหมือนเด็กๆ นั้นยิ่งทำให้ขิงนึกไปถึงใครอีกคนจนทำให้เขาทำหน้าอ่อนโยนมากๆ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว ท่าทางเเบบนั้นไม่มีทางหลุดพ้นสายตาโพนี่ได้ นักล่าเหยื่อตัวยงเลือกที่จะถอยออกมาก่อน เขาหันออกไปมองด้านข้างรถเเทนเพื่อทิ้งระยะห่างให้เหยื่อชะล่าใจ

รถสปอร์ตคันสวยเลี้ยวเข้ามาจอดในชั้น Super Car ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังไม่ไกลจากตึกGXX นัก โพนี่ลงจากรถ พร้อมขิง เด็กหนุ่มเดินนำเข้าไปในตัวอาคาร

“ร้านไหนดี”

“แล้วเเต่ขิงเลย”

“พี่เป็นคนหิวนะ อืม ทานอะไรย่อยง่ายๆ หน่อยดีมั้ย เพราะหิวมากแล้วกินเข้าไปมันน่าจะท้องอืด”

โพนี่พยักหน้ารับ เขารู้สึกชอบในความใส่ใจของอีกฝ่ายขึ้นมามากกว่าเดิม

ขิงพารุ่นพี่ไปร้านโจ๊กและติ่มซำฮ่องกงชื่อดังที่มาเปิดสาขาในไทย

“กินเเบบนี้ขิงจะอิ่มหรอ” โพนี่ทักยังไงก็ผู้ชายตัวโตๆ น่าจะชอบกินอะไรหนักๆ มากกว่า

“อิ่มสิครับ มันมีพวกบะหมี่หมูเเดงอร่อยด้วยน๊า แต่สำหรับพี่ผมอนุญาตให้ทานได้แค่โจ๊ก” ขิงยักคิ้วตามสไตล์ แต่นั้นก็ยิ่งทำให้โพนี่หัวใจเต้นเเรงเข้าไปอีก ความอบอุ่นของขิงไม่ได้มากเกินไป แต่มันสื่อออกมาได้ในปริมาณที่พอจะทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆ หวั่นไหว

โพนี่บอกให้ขิงสั่งอาหารให้ เพราะไม่เคยมาไม่รู้ว่าอะไรอร่อย ส่วนตัวเขาเองก็เเอบจำเงียบๆ ว่าเด็กหนุ่มสั่งอะไรมาทาน เผื่อครั้งหน้ามีโอกาสมาเจอกันอีก เขาจะได้เก็บเเต้มเรื่องความใส่ใจบ้าง

จบจากโจ๊กเบาๆ โพนี่ก็ถามขิงเรื่องของหวาน เพราะอีกฝ่ายบอกว่าจะให้เขาเลี้ยง

“พี่ดื่มกาเเฟมั้ย”

โพนี่พยักหน้า เขาดื่มได้แต่ไม่ชอบมาก

“งั้นผมก็เติมคาเฟอีนหน่อย ง่วงมาก”

“อายุแค่นี้เอง ติดกาแฟแล้วหรอ” โพนี่เอียงคอถาม

“ก็ต้องมีบ้างป่ะล่ะ” ขิงบอก แล้วเดินนำไปยังร้านที่หมายตา เขาสั่งอเมริกาโน่เย็นไม่ใส่น้ำเชื่อมมาเเก้วนึง ส่วนโพนี่สั่งลาเต้อ่อนๆ มาจิบ

“ดื่มอะไรดูโตจัง” โพนี่ทักเมื่อได้เครื่องดื่ม

“ผมก็เด็กๆ นี่แหละ”

“แฟนรุ่นเดียวกันป่ะ” โพนี่ถามเหมือนชวนคุยเรื่องทั่วไป

“รุ่นพี่ครับ”

“เลยต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่หรอ”

ขิงส่ายหน้า ดาริณชอบที่เขาเป็นเจ้าเด็กนี่เเหละ เเต่เพราะเขากิจกรรมเยอะบางครั้งก็มีเรื่องให้ง่วงบ้างระหว่างวัน เลยหันมาพึ่งพากาเเฟนิดหน่อย

“แต่ดูรักแฟนมากเลยอ่ะ ตอนสัมภาษณ์”

“ก็มากครับ เค้าน่ารัก” ขิงตอบยิ้มๆ

“ดูหล่อขึ้นเลย พี่ชอบจังพวกที่รักเเฟนมากๆ ไม่เจ้าชู้” โพนี่ชื่นชมพลางมองตาขิงไปด้วย เด็กน้อยที่เเพ้ทางแนวรุ่นพี่อยู่เเล้วยิ่งยิ้มเขิน

“แล้วพี่อ่ะมีเเฟนรึยัง”

“ก็....มีคนคุยๆ นะ เเต่ยังไม่ได้คบ” โพนี่ตอบให้ตัวเองดูไม่น่าระเเวงในทางชู้สาวและก็เป็นรุ่นพี่ที่ขิงสามารถพูดคุยด้วยได้บ่อยๆ

“น่ารักแบบพี่เนี่ยนะ ไม่มี” ขิงเริ่มสนิทใจเเล้วก็คุยไปเรื่อยเปื่อย

“น่ารักก็ไม่จำเป็นต้องมีรึเปล่าล่ะ พี่โตเเล้วก็ค่อยๆ คุยไปไง ไม่ได้รีบต้องมีหนิ เป็นโสดก็มีความสุขดี”

ขิงพยักหน้า เเนวความคิดของคู่สนทนาก็น่าสนใจดี

“อ้อ ถ้าขิงจะกลับก็กลับได้เลยนะ พี่กวนเวลามาเยอะเเล้ว”

“อ้าว ไม่กลับด้วยกันอ่ะ เดี๋ยวผมไปส่ง”

โพนี่ส่ายหน้า “พี่ว่าจะหาหนังดูสักเรื่องอ่ะ กลับไปคอนโดก็เบื่อๆ ไม่รู้จะทำอะไรดี”

ขิงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู บ่ายๆ แบบนี้กลับบ้านไปเขาก็นอนเหมือนกัน ไม่ก็เล่นเกม เพราะดาริณยังไม่เลิกฝึกงานเลย

“ผมดูด้วยได้รึเปล่า” ขิงถามออกไป เพราะอยากหาอะไรทำเหมือนกัน

“ได้ดิ พี่ไม่ได้ชวนตอนเเรก เพราะคิดว่ายังไม่ได้สนิทกันมาก เดี๋ยวขิงจะรู้สึกแปลกๆ”

ขิงโบกมือในอากาศ “งั้นไปดูหนังด้วยได้ แปลว่าเราสนิทกันเเล้วนะ”

โพนี่หัวเราะ เหมือนเอ็นดูอีกฝ่ายในฐานะน้องชายจริงๆ

“โอเคๆ สนิทก็สนิท”

ขิงไม่รู้หรอกว่าบรรยากาศพูดคุยสุดสนุกนั้น รวมถึงการเดินถือน้ำเเละป๊อบคอร์นเข้าไปโรงหนังด้วยกันมีคนบันทึกภาพไว้เเล้ว แถมตอนกลับบ้านเขายังอาสาวนไปส่งอีกฝ่ายถึงคอนโดด้วย



“ทำดีมาก” อลงกรณ์ที่มาดักรอไอดอลหนุ่มอยู่ในห้องพักเอ่ยขึ้นทันทีเมื่ออีกฝ่ายเปิดประตูเข้ามา ห้องนี้เขาออกเงินซื้อให้โพนี่ครึ่งหนึ่ง จึงไม่เเปลกที่จะเข้าออกได้เหมือนเป็นเจ้าของร่วม คนตัวทิ้งตัวลงบนโซฟาทำท่าเหนื่อยล้า จะไม่เหนื่อยได้ยังไงละ ก็เขาต้องรักษาคาเเรคเตอร์ให้ใกล้เคียงดาริณตลอดเวลาน่ะสิ

“ให้รางวัลผมหน่อยสิ” โพนี่หันไปพูดกับผู้บริหารหนุ่มที่ยังยืนอยู่กลางห้อง อีกฝ่ายตรงเข้ามากดจูบเเรงๆ จนได้รสเลือดนิดหน่อย

“ไปอาบน้ำ” เสียงติดจะดุกล่าว โพนี่รู้เเล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาเพื่อรอชมเชยเขาเฉยๆ หรอก คงหวังจะปลดปล่อยอารมณ์กำหนัดกับร่างกายเขาอีกนั้นเเหละ

โพนี่เดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วทอดถอนลมหายใจเมื่อเทียบเคียงหันในใจแล้วความปรารถนาที่จะครอบครองขิงกำลังเพิ่มขึ้นอีกแล้ว



ฝ่ายขิงเมื่อกลับถึงบ้านก็รีบอาบน้ำอาบท่าทันที เขารอเปิดกล้องคุยกับดาริณตอนอีกฝ่ายทานมื้อเย็น พวกเขาทำแบบนี้เสมอตั้งเเต่ขิงกลับมาไทย

เด็กม.ปลายวิ่งตึงตังลงไปที่โต๊ะอาหารเมื่อดาริณส่งข้อความมาว่าพร้อมคุยเเล้ว ญี่ปุ่นเวลาเดินเร็วกว่าไทยสองชั่วโมง แต่กว่าดาริณจะทำงานเสร็จ และพร้อมทานอาหารก็ปาเข้าไปสองทุ่มดังนั้นที่บ้านขิงจึงหกโมงเย็นพอดี คุณพ่อกับคุณเเม่นั่งพร้อมอยู่ที่โต๊ะอยู่เเล้ว เด็กหนุ่มเลยหมุนกล้องให้ดาวได้สวัสดีผู้ใหญ่ด้วย

ตอนทานข้าวขิงกับดาวไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก เพียงเเค่เปิดกล้องวางไว้ให้เห็นหน้ากัน แล้วก็หันมาบอกกันว่าของที่กำลังกินอร่อยหรือไม่เท่านั้น ขิงทำแบบนี้เพราะเขาไม่อยากให้ดาวรู้สึกเหงา เเละวันไหนที่คนรักออกไปทานกับเพื่อนๆ ขิงก็ไม่ได้วอเเวที่จะโทรไปกวน

เมื่อต่างคนต่างทานเสร็จ ขิงก็ให้ดาวโบกมือลาพ่อกับเเม่ตัวเอง เเล้วสาวเท้าขึ้นบันไดกลับสู่ห้องนอน ร่างสูงทิ้งตัวลงบนเตียงกว้าง วางโทรศัพท์พิงไว้กับหัวเตียงเเล้วกอดหมอนนอนคุยกับคนที่ตัวอยู่ไกล

“คิดถึงจังดาว”

“ไปทำอะไรผิดมารึเปล่า ทำไมวันนี้ดูอ้อนๆ”

“จะไปมีเวลาทำอะไรผิดล่ะ ออกไปถ่ายรายการเเต่เช้า แล้วก็รอคุยกับดาวเนี่ย” ขิงไม่คิดว่าเรื่องของโพนี่สำคัญพอที่จะต้องเล่าดาว เขาเลยข้ามไป

คนที่อยู่ปลายสายยิ้ม ยื่นมือเข้ามาใกล้จอเหมือนจะลูบหัวขิงเหมือนยามที่เราอยู่ใกล้กัน

“พี่ดาวก็คิดถึง รอแป๊บนึงนะ จะกลับไปกอดให้เเน่นๆ เลย”

ขิงทำปากจู๋ส่งกลับไป ดาวก็ทำกลับมา แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะใส่กัน

“พี่...มีเรื่องอยากขอ”

“ว่ามา... นั่นไงทำอะไรผิดมาใช่มั้ย” ดาวยังเล่นมุกไม่เลิก จนขิงต้องขมวดคิ้วหน้าดุ

“อยากลองเซ็กส์โฟนมานานเเล้วอ่ะ ลองได้ป่ะ”

ดาริณขมุบขมิบปากไม่ต้องเดาขิงก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังก่นด่าเขาเเน่ๆ

“นะนะ ถ้าไม่ลองกับพี่ ผมต้องเข้าทวิตไปนัดแอคเค่อหรอ”

“เด็กผี!” ดาริณตวาดเเว้ด แต่ก็อดหน้าเเดงซ่านไม่ได้ เขาก็เขินนะที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ “เปิดกล้องแล้วก็ถอดเสื้อผ้า

หรอ” ดาริณถามอ้อมเเอ้ม

ขิงพยักหน้า

“ปิดไฟได่ป่ะ อายอ่ะ” ดาวขอ คราวนี้ขิงเป็นคนทำปากมุบมิบบ้าง

“ปิดแล้วผมจะเห็นหน้าพี่มั้ยล่ะ”

“งื้อ!”

“ไม่งื้อแล้ว เร็วๆ”

“งื้อ งื้อ” ดาริณเบะปากงอแง แต่เขาก็อยากตามใจขิงบ้างเหมือนกัน

“ถอดพร้อมกันนะ” ดาวว่า

“ตื่นเต้นชิปหาย”

“ตัดจบก่อนนะ ไม่กล้าให้ใครรู้จริงๆ ว่าทำแบบนี้” ดาริณพูดกับคนอ่าน เเล้วบทนี้ก็ต้องพอเเต่เพียงเเค่นี้เเหละ คิก!



TBC 



talk ไม่ค่อยได้ทักทายเนาะ วันนี้เลยเเวะมาเล่าเรื่องนิดหน่อยเเล้วกันค่ะ


1.ไรต์ไม่สามารถเขียนฉากทางโทรศัพท์ได้จริงๆ ต้องขออภัย 

2.ตอนที่เเล้วเม้นกันยาวเชียว ขอบคุณนะคะ   ^^

3.มาคุยเรื่องดาวกันบ้างค่ะ ตอนเเรกจะตั้งชื่อเรื่องว่า Cosplay Love แต่ก็กลัวจะหาชุดมาคอสไม่รอด เลยเปลี่ยนชื่อเรื่องดีกว่า แล้วพอดีได้ชื่อดาว ดาริณ มาก่อน เลยตั้งเป็น ดาวยั่ว แล้วกัน เอ๊ะ เเต่รู้สึกว่าตรงไป เลยกลายเป็นดาวอย่ายั่วค่ะ ... ส่วนชื่อภาษาอังกฤษตั้งไว้ว่า Lost Star แต่ไม่ได้เอามาใช้ ที่เป็น Lost Star เพราะคิดว่าช่วงหลังของเรื่องดาวจะหลงทางหน่อยๆ ค่ะ 

4. กลับมาที่ตอนนี้ โพนี่กับอลงกรณ์ยังคงอยู่ ฮึ่ม ฮั่ม แฮ่ รอดูว่าเเผนของทั้งคู่จะสั่นคลอนพี่ดาวได้หรือเปล่า 

เเล้วเจอกันตอนหน้าจ้า 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด