——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)  (อ่าน 50028 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
โชนได้เอิ้นแล้วทิ้งข้วางความรู้สึกกันแบบนี้เหรอ :beat: :beat:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
โทรครั้งที่ 14_______________



Call 98



เอิ้นพยายามไม่คิดมากเรื่องที่แล้วมา เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ควรเก็บมาคิดมากหรือน้อยใจให้วุ่นวาย สลัดความรู้สึกหม่นหมองออกไป จดจ่อกับปัจจุบันให้มากที่สุดเหมือนที่โชนเคยบอก



เอิ้นชวนให้โชนค้างคืนที่นี่ เพราะดึกมากแล้ว ส่วนโชนเองก็ไม่ปฏิเสธ อันที่จริงเขาก็ตั้งใจจะมาค้างกับเอิ้นอยู่แล้ว



โชนอาบน้ำเสร็จสรรพ เขามองตัวเองในเสื้อผ้าของเอิ้นที่ดูจะผิดไซส์เล็กน้อย



คนตัวสูงเดินใช้ผ้าขนหนูขยี้ผมมาหาเอิ้น ก่อนนั่งลงข้างๆ



“คุณเอิ้น...ยังโกรธอยู่ใช่ไหม”



“ผมบอกแล้วไงว่าไม่ได้โกรธ”



“แต่ว่า...” โชนอยากจะบอกว่าเอิ้นดูเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง เพียงแต่คนแก่กว่าหันมาส่งยิ้มให้



“ไม่ได้โกรธครับ” รอยยิ้มของเอิ้นทำให้โชนหัวใจเต้นแรงจนหาเสียงตัวเองไม่เจอ



ต่อจากรอยยิ้ม ก็ตามด้วยอ้อมกอดอุ่นจากอีกฝ่าย เอิ้นพุ่งกอดโชนโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ตั้งตัว เขาตกใจเล็กน้อย แต่ก็เอื้อมมือกอดคนตัวเล็ก ตอบรับไออุ่น กดให้เอิ้นจมลงไปกับหน้าอก



“คิดถึง” เอิ้นเอ่ย... “คิดถึงจังเลย”



“ผมด้วย”



“จริงหรือ...? ไม่ใช่ว่าติดเกมจนลืมผมไปแล้วหรอกหรือ”



“เปล่านะครับ” คนติดเกมเอ่ยเถียง แต่เพราะโชนติดเกมจริง ทำให้มาหาเอิ้นช้า เขาจึงไม่อาจหาข้อแก้ตัวอะไรให้ตัวเองมากมายอีกนอกจากคำปฏิเสธที่ฟังไม่ขึ้น



โชนรู้ตัวว่าทำให้เอิ้นเสียใจอีกแล้ว เขาควรละเอียดอ่อนกับความรู้สึกของเอิ้นให้มากกว่านี้ แต่ตอนนี้เรื่องที่ทำผิดไปแล้วล้วนย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้



“...ขอโทษนะครับ” จึงได้แต่เอ่ยคำขอโทษที่ใครๆ ก็พูดกันได้



เอิ้นยิ้ม ไม่ได้สนใจคำแก้ตัวหรือคำขอโทษใด เขากอดโชนแน่นขึ้นไปอีก



ที่ต้องการ...มีแค่นี้เอง



ขอแค่อ้อมกอดและไออุ่นจากคนๆ นี้ ให้เขารู้สึกว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว



ขอแค่นี้เอง



Call 99



เวลาผ่านไปจนดึกกว่าเดิม ทั้งคู่พากันเข้านอน ครานี้เตียงนอนของเอิ้นไม่ได้เล็กแคบเหมือนเตียงที่หอโชนแล้ว แต่สองร่างก็ยังคงนอนเบียดกันไม่ห่าง



เอิ้นลอบดมกลิ่นกายของโชน แสนคิดถึง แสนคะนึงหา



ซุกซบใบหน้าตัวเองแนบกับอกแกร่ง ลอบฟังเสียงหัวใจของอีกฝ่าย แอบใช้เสียงจังหวะการเต้นของหัวใจแทนบทเพลงขับกล่อมให้นอนฝันดี



ทว่ายังไม่ทันจะได้หลับตา โชนก็เอ่ยออกมาทำลายความเงียบ



“คุณเอิ้น”



“หืม”



“ยังโกรธอยู่ใช่ไหม”



“บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ได้โกรธ”



“...ผมไม่อยากให้คุณเอิ้นปิดบังผมนะ” โชนคอยสังเกตเห็นเอิ้นอยู่ตลอด และการที่เอิ้นดูเงียบซึมเช่นนี้ เขาหวาดกลัวว่าอีกฝ่ายจะนึกเคืองกันอยู่



คงจะดีกว่าถ้ายอมพูดให้เข้าใจกัน



“ผมไม่ได้โกรธ” เอิ้นว่า “แต่ก็เสียใจนิดหน่อยที่โชนไม่มาหา”



“ผม...ติดเกม ผมผิดเอง ขอโทษนะครับ”



“อืม ไม่เป็นไรหรอก”



“ผมปล่อยให้คุณเอิ้นอยู่คนเดียวอีกแล้ว...”



“ไม่เป็นไรหรอก”



“คุณเอิ้นอยากตีผมไหม ลงโทษผมยังไงก็ได้ คุณเอิ้นจะได้สบายใจ”



“ไม่ทำหรอก...”



โชนสำนึกผิดอย่างจริงจัง เขาเคยใจร้อนเป็นเด็กๆ จนทำให้เกิดเรื่องมาครั้งนึงแล้ว พอครั้งนี้ก็ทำเรื่องไม่เป็นเรื่องให้เอิ้นเสียใจอีก เขามันไม่ละเอียดอ่อนเลยจริงๆ



ถึงอย่างนั้น เอิ้นก็ไม่ได้ว่าอะไร นอกจากเอ่ยคำว่าไม่ได้โกรธ กับไม่เป็นไร



แต่โชนรู้ว่ามันไม่จริง น้ำเสียงของเอิ้นเบาหวิวจนสัมผัสได้ว่าคนน่ารักมีเรื่องไม่สบายใจ



“คุณเอิ้น...มีอะไรอยากบอกผมอีกไหม”



“...” เอิ้นลังเล ไม่กล้าบอกความจริงในใจ กลัวอีกฝ่ายรำคาญ



“บอกมาเถอะนะ เราจะได้เข้าใจกันมากขึ้น”



“ผม...” เอิ้นตัดสินใจเอ่ย “ผมคิดว่ามีแค่ตัวเองที่คิดถึงโชน...”



“ผมก็คิดถึงคุณเอิ้นนะ”



“แต่โชนไม่มาหา...ปล่อยผมรออยู่คนเดียว ผมเลยคิดว่ามีแค่ผมที่รอให้เราเจอกัน”



“ไม่จริงนะ” โชนว่า



เอิ้นมุ่นคิ้วกับคำเอ่ยปฏิเสธของคนข้างกาย เขาขยับตัว จับไหล่โชนไว้แน่น พลิกตัวขึ้นมาคร่อมโชนไว้ใต้ร่าง



เอ่ยประโยคที่ค้างคาอยู่ในใจออกมา



“ถ้างั้นทำไมไม่รีบมาหา”



ไม่ว่าเปล่า เขาขยับใบหน้าเข้าหาอีกฝ่าย บรรจงจุมพิตแสนหวาน เอ่ยแทนความคิดถึงที่ท่วมล้น



Call 100



“คุณ...เอิ้น...”



เอิ้นไม่ปล่อยให้โชนส่งเสียงอะไรออกมา เมื่อเขาเริ่มชิมริมฝีปากของอีกฝ่าย ทำตามที่โชนเคยพร่ำสอนยามจูบกัน ค่อยๆ ใช้ลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัด ชอนไชไปในโพรงปาก ไล่ชิมน้ำหวานละมุนลิ้น



โชนค่อยๆ สัมผัสใบหน้าหวาน ยึดมือจับแน่นไม่ให้เอิ้นหันหน้าหนี ก่อนรุกจูบกลับ



คนเริ่มจูบพลันอ่อนแรง ทิ้งน้ำหนักตัวลงใส่คนใต้ร่าง หลับตาปี๋ หอบหายใจแรง เมื่อตามจังหวะของอีกฝ่ายไม่ทัน



โชนพลิกตัวขึ้นคร่อม จับคนตัวเล็กฝังลงกับเตียงนุ่ม



ระดมจูบอีกครั้ง ไล่ลามไปทั่วใบหน้า มุดลงซอกคอขาว



“โชน...พอก่อน”



“...ครับ?” เจ้าของชื่อรับคำ เงยหน้าออกจากต้นคอ



“พอแล้ว” เอิ้นว่า ดันไหล่แกร่งให้ออกห่าง



“คุณเอิ้น...” โชนร้องเสียงหงอยที่ถูกสั่งให้หยุด ก็ตอนนี้อารมณ์กำลังระอุได้ที่ขนาดนี้



“นอนกัน”



“ไม่ทำต่อเหรอ...”



“...” เอิ้นดันให้โชนมานอนข้างๆ แทนคำตอบ คนเด็กกว่าพยายามจ้องอีกฝ่ายฝ่าความมืด



“คุณเอิ้น...พี่เอิ้น...”



“ไม่ต้องเรียกเลย”



“พี่เอิ้นครับ...”



“นอนครับ”



โชนส่งเสียงร้องหงุงหงิงเมื่อโดนขัดใจ เอิ้นเริ่มรุกใส่เขาก่อนแท้ๆ แต่กลับหยุดกลางคันแบบนี้ เขาแทบขาดใจแล้ว



คนแก่กว่าลอบยกยิ้ม เมื่อเห็นอาการอีกฝ่าย เขาตวัดแขนไปกอดโชนไว้ ขยับตัวแนบชิด



“ถือว่าเป็นการลงโทษนะ”



กระซิบบอกคำลงโทษแสนหวาน



“ถ้าโชนมาหาผมไวกว่านี้ ก็คงให้ทำแล้วล่ะ”



Call 101



คืนนั้น โชนนอนพลิกตัวไปมาอย่างบ้าคลั่ง นอนมองเจ้าของบ้านหลับปุ๋ยอย่างนึกอยากจะย้อนเวลากลับไป



นี่คงเป็นวิธีลงโทษของเอิ้น ซึ่งมันได้ผลเอามากๆ  ตอนนี้โชนเข้าใจแล้วว่าความรู้สึกอยากกอดมากแค่ไหนก็ทำไม่ได้มันเป็นยังไง บทลงโทษครั้งนี้ เขาหลาบจำแล้ว



กว่าโชนจะสงบจนหลับได้ก็ใช้เวลาไปกว่าชั่วโมง



เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามา บอกเวลาเช้า โชนลืมตาตื่นก่อนอีกฝ่าย เขาลอบสังเกตคนหลับปุ๋ยพลันสังเกตเห็นว่าเอิ้นมีรอยคล้ำใต้ตาดำอย่างที่ผิกปกติไปเห็นได้ชัด ปกติเอิ้นทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่เคยปรากฏร่องรอยของความเหนื่อยล้าเช่นนี้



โชนเอื้อมมือไปลูบใบหน้าของเอิ้นอย่างเบามือ ไล่นิ้วไปยังเปลือกผิวตาของอีกฝ่าย



เขาผิดเองที่ติดเกม ผิดเองที่ให้สัญญาไว้แล้วแท้ๆ แต่กลับเมินเฉย ผิดเองที่ปล่อยให้เอิ้นเฝ้ารออยู่คนเดียว



ยิ่งคิดก็ยิ่งตระหนักได้ว่าเอิ้นต้องรออยู่คนเดียวนานแค่ไหน และเฝ้ารอวันที่เราจะได้เจอกันอย่างใจจดใจจ่อแค่ไหน



เขาไม่อยากทำลายความคาดหวังของเอิ้นอีกแล้ว



เขาควรจะเป็นแฟนที่ดี ไม่ใช่เป็นคนที่เอิ้นต้องมานั่งกังวลเช่นนี้



เขาควรจะเป็นคนที่เอิ้นอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่ใช่กังวลใจ



เขาควรโตขึ้นได้แล้ว



เวลาเจ็ดโมงกว่า เอิ้นขยับตัว ซุกหนีอากาศเย็นเข้าไปในผ้าห่ม ขยับตัวแนบแน่นกับไออุ่นจากอีกฝ่าย



“อือ...หนาว” เจ้าของห้องบ่นอุบจนโชนนึกเอ็นดูคนแก่กว่า อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปสัมผัสเส้นผมเส้นเล็ก ลูบมันเบาๆ



“โชน...?”



“ครับ คุณเอิ้นหนาวหรือ เดี๋ยวผมลุกไปปิดแอร์ให้นะ”



แม้ว่าอากาศข้างนอกจะเย็นสบายก็ตาม แต่เอิ้นติดนอนในห้องปรับอากาศจึงเปิดแอร์ไว้ทั้งคืน



ทันทีที่โชนขยับตัวตั้งท่าจะลุก คนหนาวก็ขยับมือวาดโอบรอบคนตัวโตไว้ไม่ให้ไปไหน



“ไม่ต้องไป อยู่อย่างนี้” เจ้าของห้องเอ่ยสั่ง และโชนจะว่าอะไรได้ นอกจากนอนกอดคนตัวหอม มอบไออุ่นในยามเช้าให้เอิ้นต่อไป



แปดโมงครึ่ง เอิ้นตื่นเต็มตา กะพริบตาปริบๆ มองโชนที่นอนมองเอิ้นอยู่ก่อนแล้ว



พลันใบหน้าขาวก็ขึ้นสี



ทั้งเขินเรื่องเมื่อคืนที่เขารุกจูบโชน ทั้งอายที่ตอนนี้เขาเป็นฝ่ายกอดรั้งโชนไว้แนบแน่น



การไม่ได้เจอกันแค่พักเดียวทำให้เอิ้นควบคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนี้เชียวหรือ



คนขี้เขินรีบขยับตัวออกห่าง



“อรุณสวัสดิ์ครับคุณเอิ้น”



“อะ...อือ อรุณสวัสดิ์”



โชนไม่ได้สังเกตว่าเอิ้นกำลังเขินม้วน เขาขยับตัวยืดเส้นยืดสาย พลางเอ่ยชวนให้อีกฝ่ายไปทานข้าวด้วยกัน



เอิ้นตอบรับ พยายามไม่คิดถึงเรื่องเมื่อคืน



โชนเองก็ไม่ได้เอ่ยถึงมันอีก



เอิ้นคิดว่าวันนี้จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทว่าก่อนโชนจะกลับหอ เขาเอ่ยประโยคที่ชวนให้เอิ้นหน้าแดงแปร๊ดอีกครั้ง



“ไว้คราวหน้ามาต่อกันนะครับ”



Call 102



หลังจากคราวนั้น โชนก็ตัดสินใจทำการหอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่กับเอิ้นตลอดช่วงปิดเทอมเล็กนี้ เพราะอย่างไรเสียโชนก็ไม่ได้มีธุระต้องไปไหน จะให้ไปๆ มาๆ หาเอิ้นทุกวันก็คงจะเหนื่อย สุดท้ายเลยจบลงตรงที่โชนมาขลุกอยู่ในบ้านเอิ้น



ส่วนเอิ้นก็ได้อยู่กับแฟนสมใจ



โชนหอบเกมมาที่บ้านเอิ้น แต่จะเล่นช่วงระหว่างที่เอิ้นต้องทำวิทยานิพนธ์ เพราะเอิ้นต้องใช้สมาธิ ส่วนเขาไม่มีอะไรทำ ไปกวนเอิ้นก็ไม่ได้ เอิ้นจึงอนุญาตให้โชนติดเกมได้ในช่วงเวลานี้



แม้จะมีหลายครั้งที่เอิ้นทำงานเสร็จแล้ว แต่ต้องมานั่งดูโชนนั่งเล่นเกมต่ออีกสองสามตาก็ตาม



แต่เพียงแค่เอิ้นนั่งลงข้างๆ โชนก็แทบจะหยุดเกมเพื่อมาดูแลคนรักของตัวเองอยู่แล้ว



ส่วนเอิ้นเองบางครั้งก็เกรงใจที่ต้องให้โชนมานั่งรอตนทำงาน จึงเอ่ยชวนโชนไปเที่ยวนอกบ้านอยู่บ่อยครั้ง ท้ายสุดโชนก็เอ่ยออกมาว่าไม่ได้ต้องการไปไหนเป็นพิเศษ ขอแค่อยู่ข้างๆ เอิ้น และเอิ้นไม่เป็นกังวลก็พอ



นั่นทำให้ปิดเทอมเล็กของโชนมีแต่เอิ้นและเกมเพลย์



“เบื่อมั้ย...”



“หืม ไม่ครับ”



เอิ้นเอ่ยถามโชนตอนกลางวันของวันหนึ่ง พวกเขานอนกลิ้งอยู่บนเตียงด้วยกัน เอิ้นนอนอ่านหนังสือ ส่วนโชนนอนฟังเพลงพลิกตัวไปมา



“ปกติปิดเทอมโชนทำอะไรหรือ”



“อืม...ถ้าอยู่บ้านป้าก็มักจะช่วยป้าน่ะครับ แต่ถ้าว่างๆ ก็เช่าการ์ตูนมาอ่าน ฝึกดีดกีตาร์”



“ไม่ออกไปไหนเหรอ”



“ผมไม่ค่อยมีตังค์ ไม่อยากสิ้นเปลืองด้วย อยู่บ้านก็ไม่ได้แย่ แต่บางทีก็ออกไปเตะบอลกับเด็กแถวบ้าน”



“จริงสิ โชนชอบออกกำลังกายนี่นะ”



“อืม ครับ แต่ไม่เป็นไรหรอก อยู่กับคุณเอิ้นนี่แหละดีที่สุด”



“ถ้าอย่างนั้น...ช่วงเย็นๆ ออกไปวิ่งก็ได้นะ ที่หมู่บ้านมีสวนสาธารณะเล็กๆ ให้ออกกำลังกายอยู่”



“คุณเอิ้นมาวิ่งด้วยกันมั้ย”



“ไม่เอา ผมบอกแล้วว่าผมไม่ถนัดด้านนี้”



“ผมวิ่งคนเดียวก็เหงาแย่สิ”



โชนทำให้เอิ้นชะงัก เขาพยายามหาคำเถียงต่อ ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ชอบออกกำลังกายจริงๆ



“ไปแป๊บเดียว ไม่เหงาหรอก”



“แต่ถ้าไปสองคนจะดีกว่า”



“งั้นวิ่งหน้าบ้านผมเถอะ” เอิ้นว่า ก้มอ่านหนังสือ ตัดบทไม่ให้โชนหาทางลากเอิ้นออกไปวิ่งได้อีก



ส่วนคนโดนตัดบทก็ขยับตัวมาหาเอิ้น โดยเอิ้นไม่ทันรู้ตัวว่าอีกฝ่ายเคลื่อนตัวมาใกล้ และทิ้งน้ำหนักใส่หลังเอิ้นอย่างไม่ปรานี



“โชน!”



เจ้าของชื่อโชนนอนหนุนหลังเอิ้นอย่างไม่ขออนุญาต เอิ้นที่นอนคว่ำตัวอ่านหนังสืออยู่ก็ไม่สามารถพลิกตัวกลับได้ จึงได้แต่ร้องเรียกชื่ออีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น



มือใหญ่เอื้อมไปตะปบเอวสอบ ลากไปถึงก้อนเนื้อนิ่ม บีบเค้นอย่างสนุกมือจนเอิ้นร้องลั่น



“จริงๆ เราออกกำลังกายในห้องกันสองคนก็ได้นี่เนอะ”



เอิ้นหน้าขึ้นสี ทำไมมันมาเรื่องนี้ได้กันล่ะเนี่ย



Call 103



ใกล้วันปีใหม่มากขึ้นทุกที โชนขลุกตัวอยู่กับเอิ้นตลอดเวลา เขาตัดสินใจออกไปวิ่งรอบๆ หมู่บ้านช่วงเย็นบ้าง สำหรับโชนแล้ว การได้ออกกำลังกายทำให้เขามีความสุข



เสียแต่ถ้าเอิ้นยอมออกกำลังกายด้วยกันกับเขาคงจะมีความสุขมากกว่านี้



เขาหมายถึงออกกำลังกายใต้ร่มผ้า



ที่ผ่านมาทั้งคู่นอนเตียงเดียวกัน แต่ไม่มีอะไรเกินเลยเพราะเอิ้นเอาแต่เขินม้วน โชนจับนิดจับหน่อยเอิ้นก็รู้สึกแล้ว เพียงแต่คนขี้เขินก็เอาแต่ม้วนตัวหนีทุกที โชนก็ไม่อยากบังคับ เห็นคนเขินเขาก็ใจพองโต ลอบยิ้มอย่างมีความสุขไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เลยต้องหาทางให้เหงื่อออกด้วยวิธีอื่นแทน



แม้ว่าจะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่โชนทำสำเร็จไปครึ่งทาง ช่วยกันปลดปล่อยออกมา



ทว่ามันก็จบแค่นั้น เมื่อเอิ้นเขินม้วนจนตัวบิด และไม่ยอมให้โชนแตะต้องตนมากจนเกินไป



เพราะถ้าเตลิดแล้วคงห้ามใจไม่ได้เหมือนที่แล้วมาอีก



เอิ้นไม่อยากเขินตายคาบ้าน อีกอย่าง...ถ้าทำอะไรลึกซึ้งกว่านี้ ป้าภาจะต้องรู้แน่แท้



โชนจึงได้แต่นอนกอดแฟนตัวเองตามคำขอ ทว่าในหัวพลางคิดถึงวิธีลากเอิ้นไปโรงแรม



ช่วงนี้เป็นหน้าหนาว แต่โชนยังคงออกวิ่งได้อย่างไม่สะทกสะท้านอากาศเย็น ผิดกับเอิ้นที่เอาแต่นอนแฉะแบะ ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนา



พอได้อย่ด้วยกันหลายวันทำให้ทั้งคู้รู้นิสัยใจคอกันมากขึ้น นิสัยหลายๆ อย่างของพวกเขาต่างกัน เพราะฉะนั้นจึงมีแต่ต้องพยายามปรับความเข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้น



เอิ้นลดความคิดมากและความขี้น้อยใจลง ส่วนโชนก็ลดความใจร้อนและใช้เหตุผล ละเอียดละอ่อนกับความรู้สึกให้มากขึ้น



ความรักไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ขอเพียงเข้าใจกันก็มากพอ



ช่วงกลางวันพวกเขามักจะนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น โชนเล่นเกมเพลย์ตามปกติ ส่วนเอิ้นนั่งดูอยู่ข้างๆ พอเอิ้นเริ่มห่อตัวหนีจากอากาศหนาว โชนก็สังเกตเห็นพอดี



“คุณเอิ้น หนาวหรือ”



“อือ ปีนี้อากาศหนาวเนอะ”



โชนไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาไม่ได้รู้สึกหนาวขนาดนั้น แค่เย็นๆ ผิวเฉยๆ เขาสงสัยว่าคุณเอิ้นคงขี้หนาวพอสมควร หรือไม่ก็เขาหนังหนากว่าชาวบ้าน



คนเด็กกว่าทำหน้าที่แฟนไม่รอช้า มือใหญ่หยิบเอาผ้าคลุมที่พาดบนโซฟามาคลุมตัวเอิ้นไว้ พร้อมกับมอบอ้อมกอดของตัวเองให้อีกฝ่าย



“แบบนี้อุ่นขึ้นมั้ย”



“...”



เอิ้นพยักหน้า เขาเขินจนหาเสียงตัวเองไม่เจอ



ใช่ว่าโชนจะไม่เคยทำแบบนี้ แต่พอเอิ้นโดนโชนถูกตัวเข้านิดหน่อยก็พลันเขินมันซะทุกที



ถึงอย่างนั้น เอิ้นก็ไม่ได้นิ่งเฉยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขาขยับเขาไปซุกอกแกร่ง ใช้ปลายจมูกถูไถออดอ้อนหาไออุ่น ถึงจะแอบเคอะเขินอยู่บ้าง แต่มุดอยู่ในอ้อมกอดแบบนี้ โชนคงไม่เห็น



โดยที่เอิ้นไม่รู้ว่าแม้จะสามารถซ่อนใบหน้าตนได้ แต่ใบหูแดงๆ นั่นไม่สามารถเล็ดรอดจากสายตาโชนไปได้




___________________________________



อีกสองตอนจะจบแล้วน้า



#Call123456



 

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
จะจบแล้ว ใจหายเลย

ออฟไลน์ Kx0806

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 ไม่อยากให้จบเลยยย รักคุณเอิ้นคนขี้เขินกันโชนคนใจร้อนมากๆ รักกลิ่นอายของเรื่องนี้ ฮืออ เขียนแนวนี้อีกนะคะ :o12:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ้าววววว  ใกล้จบแล้วเหรอเนี่ย 

แต่ก็นะเสริฟมาม่าชามเล็กไปแล้วนิ

คงไม่มีมาม่าให้ทานแล้วเนอะ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
จะรีบไปไหนๆจะจบแล้ว o9 o9

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
เข้าใจกันแล้ว รักกันก็ต้องปรับตัวหากันเนาะ รัก :mew1:

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
ตัวละครมีพัฒนาการดีจริง ๆ

ชอบค่ะ ... และนึกภาพออกเลย
เพราะเราเองก็เคยกดโทรผิด จนได้คุยและรู้จักใครคนหนึ่ง
... ในซอยรามคำแหง 22 มาแล้วเช่นกัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
โทรครั้งที่ 15_________________






Call 104



“มึงเป็นกะเทยเหรอวะ”



“ตอนที่เข้ามาคุยกับกูตอนนั้นแม่งเล็งกูอยู่ป่ะวะ ขนลุกโว้ย”



“เอิ้นเป็นบัณเฑาะว์”



 “ไอ้ตุ๊ด ไปห่างๆ โว้ย”



“ที่นี่ไม่ต้องการตุ๊ดโว้ย”



“พวกมึง ไล่บัณเฑาะว์กัน”



เสียงของเพื่อนร่วมห้องนับสิบดังออกมาประสานเป็นคำด่าทอต่อว่า ทุกประโยคหนีไม่พ้นเรื่องเพศสภาพของเอิ้น ทุกคนต่างเข้ามาพูดเสียดสี ทำสีหน้ารังเกียจใส่ ใบหน้าของเพื่อนร่วมห้องลอยไปมา



บ้างหัวเราะเยาะเย้ย บ้างทำเพียงเหลือบมองด้วยหางตา ร้ายแรงหน่อยเขาก็โดนลอบทำร้ายให้เป็นแผลเล็กๆ บางคนแม้ไม่ได้ร่วมแกล้ง แต่ก็ไม่เข้าใกล้ ราวกับเขาเป็นเชื้อโรคน่ารังเกียจ



เอิ้นหันไปทางไหนก็เจอแต่คนพวกนี้



ยิ่งหนี ยิ่งโดนทำร้าย



เขาก้มหน้าเดินหนีสายตาเพื่อนร่วมห้อง พลันเห็นใบหน้าของรุ่นพี่หนุ่มที่ตนเคยแอบชอบ



รุ่นพี่ยกยิ้มเยาะ ทำสีหน้ารังเกียจ ตะโกนบอกลั่นโรงอาหาร



“เอิ้นเป็นกะเทย!”



เฮือก!



“คุณเอิ้น? ฝันร้ายเหรอครับ”



เอิ้นเบิกตาโพลง หายใจหอบถี่ น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เขาจ้องมองห้องนอนของตัวเอง มองไปรอบๆ ตัวจนพึงพอใจถึงบอกกับตัวเองได้ว่าฝันไป



“คุณเอิ้น ไม่เป็นไรนะ”



เสียงคนข้างตัวดังขึ้นอีกครั้ง เอิ้นหันไปหาต้นเสียง พลันปรากฏใบหน้าของโชนที่ส่งสายตาเป็นห่วงมาให้



เขาคบกับโชนแล้ว เขาเป็นแฟนกับโชน ช่วงชีวิตที่ผ่านมาช่างมีความสุขเหลือเกิน แม้จะมีทะเลาะกันบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง แต่สุดท้ายโชนก็อยู่ตรงนี้



มือใหญ่ลูบใบหน้าแสนรัก เมื่อเห็นเอิ้นจ้องมาที่ตนด้วยใบหน้าขาวซีด



“ผมอยู่ที่นี่แล้ว ไม่เป็นไรนะ”



โชนเอ่ย ดันใบหน้าของเอิ้นเข้ามาซบที่อกอตัวเอง กอดปลอบคนฝันร้าย



“ขวัญเอ๋ย ขวัญมา”



เอิ้นฝันร้าย แถมเขาปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น เอิ้นร้องไห้สะอึกสะอื้น สีหน้าเจ็บปวดทรมานจนเขาทนแทบไม่ไหว อยากกระโจนเข้าไปยังความฝันเพื่อปกป้องคนตัวเล็ก



แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่นี้ แค่เพียงกอดปลอบ



ด้วยหวังว่าอ้อมกอดของเขาจะช่วยบรรเทาทุกข์ของเอิ้นได้ไม่มากก็น้อย



เอิ้นซุกซบอยู่ในอ้อมกอดของโชนนิ่ง เขาอยากเอาเปรียบอีกฝ่ายด้วยการอยู่ในอ้อมกอดนี้ให้นานแสนนาน ให้สองมือของโชนคอยลูบหลังปลอบประโลมเขาเช่นนี้ตลอดไป



น้ำตาจากอดีตที่นำมาสู่ความฝันได้เหือดแห้งแล้ว



เหลือเพียงไออุ่นของคนข้างๆ คอยปกป้องเขาจากอากาศหนาว



Call 105



“คุณเอิ้นหันมาหน่อย”



แชะ



“คุณเอิ้น ยิ้มหน่อยครับ”



แชะ



วันสิ้นปีมาถึงแล้ว โชนกลายร่างเป็นลิงทโมนเมื่อเห็นว่าเอิ้นมีกล้องถ่ายรูปให้เขาได้เล่น เด็กหนุ่มมือซนถ่ายทุกอย่างรอบตัวอย่างบ้าคลั่ง



“โชน พอแล้ว เปลืองฟิล์ม”



แชะ



“โชน”



เอิ้นร้องอีก โชนก็ถ่ายอีก และดูเหมือนว่าโชนจะถ่ายรูปเอิ้นเยอะเป็นพิเศษ



อันที่จริงเอิ้นไม่ได้มีปัญหาเรื่องเปลืองฟิล์ม แต่เขาเขินเกินกว่าจะยิ้มให้กล้อง และตากล้องก็ขยันมาถ่ายรูปเขาเสียเหลือเกิน เอิ้นไม่คุ้นชินกับการมีคนถ่ายรูปตัวเอง เลยได้แต่บ่นใส่เพราะห้ามไปโชนก็ไม่ฟัง



“คุณเอิ้น เราออกไปหน้าบ้านกัน แล้วให้ป้าภาถ่ายรูปให้ดีกว่า”



“เดี๋ยวสิ”



“เร็วๆ เดี๋ยวแสงหมดก่อนนะ”



เอิ้นปฏิเสธไม่ได้เมื่อโชนจับจูงเขาไปหน้าบ้านแล้ว พร้อมกับป้าภาที่ทำความสะอาดอยู่ลานจอดรถพอดี



แม้จะเอ่ยห้ามสักแค่ไหนโชนก็ทำตามประสงค์ของตัวเองได้สำเร็จอยู่ดี



ถ้าฟิล์มม้วนนี้ถูกล้างออกมา พวกเขาก็จะมีรูปคู่ด้วยกันเป็นครั้งแรก



เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน แสงสุดท้ายของปีหมดไป พวกเขากอดเกี่ยวกระหวัดกันอยู่บนเตียงใหญ่



ความอดทนของโชนสิ้นสุดลงหลังจากที่ถ่ายรูปคู่เสร็จ และป้าภาได้ลากลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย



ป้าภาขออนุญาตลากลับบ้านในช่วงปีใหม่สองสามวัน เช่นเดียวกับลุงวีที่ลากลับไปได้อาทิตย์นึงแล้ว เหตุเพราะทั้งคู่เบาใจว่าคุณหนูของเขาจะไมได้อยู่ตัวคนเดียวข้ามปีแน่แท้



และเพราะเอิ้นน่ารักจนเกินห้ามใจ



หลายต่อหลายครั้งที่โชนหักห้ามใจไม่ให้ตัวเองทำอะไรเกินเลยเพราะเกรงใจผู้ใหญ่ในบ้าน รวมถึงเอิ้นเอาแต่ดิ้นหนี



ครานี้เขาใช้เวลาที่เอิ้นไม่ทันตั้งตัว จัดการรวบหัวรวบหางแฟนคนน่ารักของเขาจนไปไหนไม่รอด



พลุส่งสัญญาณบอกถึงการเข้าปีใหม่เป็นแสงสว่างวาบสีสวยตามด้วยเสียงดังปัง



แต่มีหรือที่เสียงพลุจะน่าฟังไปกว่าเสียงร้องหวานๆ ของเอิ้น



ร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งคู่ถูกอาบด้วยแสงสีอ่อนๆ จากพลุข้างนอก ทว่าไม่มีใครลุกออกไปดูพลุในคืนข้ามปี



ประสานบรรเลงบทเพลงรัก สองร่างรวมเป็นหนึ่ง



Call 106



โชนทำให้เอิ้นลืมอดีตที่ผ่านมาจนแทบหมดสิ้น เมื่อเขาอยู่ภายใต้ร่างนี้ สมองของเอิ้นคิดเรื่องอะไรไม่ออกทั้งนั้นนอกจากความรู้สึกสุขสม สุขจนนึกว่าเป็นความฝัน สุขจนเหนือจริง



โชนทำให้เอิ้นรู้ว่าขอแค่มีคนที่เข้าใจเขา และรักเขาที่เป็นแบบนี้ก็เพียงพอแล้ว



สายตาคนนอกไม่สำคัญเท่าอ้อมกอดของโชน



ยามเช้าของปีใหม่อากาศเย็นสบาย เอิ้นมุดอยู่ในอ้อมแขนของคนรักอย่างออดอ้อน



คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่รู้ตัวที่เขาทำตัวเป็นเด็กเช่นนี้



ทว่าผิดคาดเมื่อโชนเอ่ยออกมาจนเอิ้นสะดุ้งตัวโยน



“สวัสดีปีใหม่ครับคุณเอิ้น”



“อ่า...อืม สวัสดีปีใหม่” เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากเอ่ยตอบกลับไปด้วยความเขินอาย



“ปีนี้ก็อยู่ด้วยกันนะครับ”



“อะ อืม...อยู่ด้วยกันนานๆ นะ” เอิ้นเอ่ยเสียงเบาจนแทบเป็นการกระซิบด้วยความเขินอาย



โชนรวบตัวเอิ้นเข้ามากอดแนบแน่นขึ้น พวกเขาไม่ได้สวมเสื้อผ้า ทำให้ร่างเนื้อเบียดเสียดสีกันอยู่ใต้ผ้าห่ม จนเอิ้นดิ้นยุกยิก



“คุณเอิ้นอย่าดิ้นสิ หรือว่าอยากต้อนรับปีใหม่อีกรอบ?”



เขาตีคนเด็กกว่าดังเพี๊ยะ



ช้อนมองตาอีกคนคล้ายต้องการจะดุ เสียแต่สายตาของโชนที่มองกลับมาทำให้เอิ้นหน้าร้อนเป็นไฟ คนแก่กว่ายอมแพ้ มุดหน้าเข้ากับอกของโชน พยายามไม่ให้อีกฝ่ายมองเห็นใบหน้าที่ขึ้นสี



โชนร้องโอดโอยภายในใจ ร้องขออย่างไร้เสียงว่าถ้าคุณเอิ้นไม่อยากทำ ก็อย่าทำตัวน่ารักให้มันมากนักสิ



Call 107



วันปีใหม่เต็มไปด้วยความสุขลอยฟุ้ง โชนทำหน้าที่ดูแลเอิ้นแทนป้าภาได้ไม่ขาดตกบกพร่องทั้งเรื่องอาหารและทำความสะอาดบ้าน รวมถึงดูแลเอิ้นในหลายๆ อย่าง



เป็นวันแรกของปีที่เอิ้นมีความสุขที่สุด



แต่กว่าพวกเขาจะลุกจากเตียงก็เกือบเที่ยง พอไม่มีผู้ใหญ่ในบ้าน เด็กๆ ก็เอาแต่นอนเอกขเนก เกเรไม่ยอมทานข้าวเช้า จนถึงเวลาหิวถึงได้ลุกมาหาอะไรกินกัน แน่นอนว่าโชนเป็นคนนำวัตถุดิบในบ้านมาปรุงรสให้เอิ้น



ปีใหม่แล้ว เหลือวันหยุดปิดเทอมอีกไม่กี่วัน



พวกเขาเลยทำตัวติดกันให้นานที่สุด เพื่อทดแทนวันที่จะไม่ได้เจอกัน



แม้ไม่ได้มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เพียงแต่การได้อยู่เคียงข้างกัน ก็ถือว่าเป็นความสุขของทั้งคู่แล้ว พวกเขาต่างหวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดี และเป็นปีที่ได้อยู่เคียงข้างอีกคนไปเรื่อยๆ



เมื่อวันเปิดเทอมมาถึง ทั้งเอิ้นทั้งโชนต่างเรียนหนัก ไม่ได้มาเจอหน้ากันเท่าที่ควร



แต่ยังคงมีเสียงจากโทรศัพท์ดังมาอยู่เสมอ



“คุณเอิ้น ทำวิจัยอยู่ใช่ไหมครับ”



“อือ โชนเลิกซ้อมเชียร์แล้วหรือ”



“ใช่ครับ วันนี้เลิกเร็วหน่อยเลยได้โทรมา จะได้คุยกันนานๆ”



“เหนื่อยไหม”



“นิดหน่อย ทั้งเรียนทั้งกิจกรรม เยอะไปหมดเลย เทอมสองนี่เป็นเทอมที่กิจกรรมหนักหน่วงมากเลยครับ”



“อย่างนั้นหรือ เหนื่อยหน่อยนะ”



“คุณเอิ้นก็เหนื่อยเหมือนกันใช่ไหมครับ”



“นิดหน่อย อยากเร่งให้จบในปีนี้เลยต้องขยัน”



“ไว้จะไปหานะครับ”



“ไว้ค่อยนัดกันก็ได้”



โชนมีกิจกรรมของมหาลัยที่ต้องทำ ส่วนเอิ้นก็เร่งทำวิจัย ทั้งคู่จึงไม่ค่อยได้พบกัน การพูดคุยทางโทรศัพท์ช่วยให้หายคิดถึงก็จริง แต่อย่างไรเสีย การได้เจอตัวก็คงจะดีเสียกว่า



อยากบอกเล่าเรื่องราวให้อีกฝ่ายได้รับรู้ต่อหน้า



แต่ตอนนี้คงมีแต่ต้องทำตามหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด



Call 108



จบกิจกรรมแล้ว โชนถึงเวลาสอบอีกครั้ง ส่วนเอิ้นก็เร่งทำวิทยานิพนธ์จนถึงโค้งสุดท้ายแล้ว



ระหว่างนี้พวกเขาได้พบกัน แม้จะไม่มากเท่าที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่าช่วยคลายความคิดถึงได้บ้าง



หลังจากที่โชนสอบเสร็จ เขาก็ชวนเอิ้นมาที่ร้านเดิม เพื่อปลดปล่อยความเครียดสะสมมาทั้งเทอม แน่นอนว่าเอิ้นไม่ปฏิเสธ และมาถึงร้านตรงเวลาที่นัดไว้



เป็นไม่กี่ครั้งที่เขามาที่นี่โดยไม่ได้แต่งหญิง



แม้จะรู้สึกแปลกๆ แต่เอิ้นก็พยายามปรับตัวให้คุ้นชิน



เขานั่งลงข้างโชน วงเหล้าห้อมล้อมไปด้วยเพื่อนๆ ของโชน และปาร์ตี้ของเด็กมหาลัยหลังสอบเสร็จก็เริ่มขึ้น



วันนี้คนในร้านเยอะเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะใครหลายคนล้วนอยากมาปลดปล่อยความเครียดเหมือนอย่างพวกเขา เอิ้นหัวเราะและร่ำสุราไปพร้อมๆ กับโชน เสียงเพลงบรรเลงอย่างสนุกสนาน พวกเขาร่วมวงร้องเพลงด้วยกัน จนเวลาล่วงเลยผ่าน



ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ทั้งเสียงเพลงและบทสนทนาล้วนสนุกสนาน ผ่อนคลายความเครียดของทุกอย่างได้อย่างที่ตั้งหวังไว้



พอใกล้ถึงเวลาร้านปิดแล้ว พวกเขาเริ่มสลายกลุ่ม แยกย้ายกันออกจากร้าน



เอิ้นยังคงอยู่กับโชน เพราะนอกจากการมาดื่มสุราแล้ว...พวกเขายังนัดหมายอย่างอื่นกันด้วย



นัดหมายที่ว่าคือการที่เอิ้นจะไม่กลับบ้าน แต่เป็นการนอนพักด้วยกันที่โรงแรม...



เอิ้นรู้สึกเคอะเขินทุกครั้งเมื่อนึกถึงการร่วมรักกับโชน และคืนนี้ก็คงเป็นอีกคืนที่พวกเขาจะได้รักกัน เอิ้นเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว ทั้งชุดใหม่และน้ำหอมแสงแพงกลิ่นโปรด อาบน้ำขัดเนื้อขัดตัวเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านมา



ทว่าจะกี่ครั้งเอิ้นก็ไม่เคยเตรียมใจได้เลย



หัวใจดวงน้อยของเขาสั่นระรัวทุกครั้งที่คิดว่าจะได้อยู่ในอ้อมกอดของโชน



เอิ้นรอโชนเข้าห้องน้ำอยู่ที่หน้าร้าน ในหัวเริ่มจินตนาการไปไกลจนต้องหยุดสะบัดหัวไล่ความคิด พลางมองซ้ายขวาหาโชน รู้สึกว่าโชนจะเข้าห้องน้ำนานไปแล้ว หรือว่าเป็นเพราะคนเข้าห้องน้ำเยอะกันแน่



เอิ้นตัดสินใจกลับเข้าร้านเพื่อตามหาโชน



พลันเห็นร่างของคนรักของเขายืนอยู่กับหญิงสาวที่เขาไม่รู้จัก



หญิงงามกอดแขนโชนแน่น ส่วนโชนพยายามปฏิเสธหญิงสาวอย่างสุภาพ เอิ้นเดินเข้าไปหา มากขึ้น มากขึ้น จนได้ยินเสียงพูดคุยของทั้งสอง



“ก็เห็นอยู่นี่คะว่ามากับเพื่อน”



“แต่ผมมีแฟนแล้วจริงๆ”



“แล้วมาที่แบบนี้แฟนไม่ว่าเหรอคะ”



“ไม่ว่าหรอก ปล่อยผมได้แล้วครับคุณ”



“ไม่ปล่อยหรอก แฟนไม่อยู่แบบนี้ก็ให้ฉันเป็นเพื่อนคุณก็ได้นี่คะ”



“ไม่ได้หรอกครับ”



“แน่ใจหรือ แค่คืนนี้ก็ได้”



โชนส่ายหน้า ถอนหายใจให้แม่สาวน้อยช่างตื๊อ เขาปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีกแต่เธอก็ยังไม่ไปไหน เจ้าหล่อนใช้โอกาสที่โชนอยู่คนเดียวเข้ามาหาพร้อมกับบอกว่าแอบมองโชนมาตั้งแต่เข้าร้านแล้ว ดูท่าแม่สาวกลางคืนคนนี้คงถูกใจเขาเข้า และดึงดันเกาะแขนจะไปกับเขาให้ได้



โชนคิดว่าป่านนี้เอิ้นคงรอแย่แล้ว



ทว่าเอิ้นกลับมายืนอยู่ตรงหน้า...



Call 109



“คุณเอิ้น...คือว่า...”



โชนเริ่มตื่นตระหนก เขาในสภาพนี้คงดูล่อแหลมมากเป็นแน่ เอิ้นอาจจะกำลังเข้าใจเขาผิดอยู่ก็ได้



แต่เอิ้นทำเพียงส่งยิ้มหวาน



“ไปกันได้แล้วโชน”



“ครับ” โชนตอบรับ หันไปปลดมือหญิงสาว “ผมต้องไปแล้ว”



“บอกเพื่อนคุณไปสิว่าคืนนี้คุณจะไปกับฉัน” สาวเจ้าไม่ยอมแพ้ ขยับตัวเบียดเสียดโชนมากขึ้น



“ไม่ได้หรอก”



ทว่าคนเอ่ยปฏิเสธเจ้าหล่อนคือเอิ้น “เขานัดกับผมแล้ว”



“ระหว่างเพื่อนคุณกับฉัน คุณคงไม่เลือกเพื่อนคุณหรอกนะ” สาวเจ้าเอ่ยแย้ง



โชนยกยิ้มหวานให้สาวสวย ออกแรงปลดพันธนาการที่หล่อนสร้างไว้ เมื่อหลุดพ้นจากการเกาะกุมแล้ว โชนเดินไปข้างเอิ้น ยกมือโอบคอเอิ้นไว้ เอ่ยคำลาที่แฝงด้วยความหนักแน่น



“ขอโทษด้วยนะครับ ผมเลือกเขา”



สองร่างเดินจากไป



“ขอโทษนะครับคุณเอิ้น ผมสลัดเธอยังไงก็ไม่หลุดเลย”



“...ถ้าผมไม่เข้าไป ก็จะยืนคุยกันอยู่อย่างนั้นใช่มั้ย”



“โถ่ คุณเอิ้น ผมก็ต้องสลัดออกมาอยู่แล้ว แค่ต้องใช้เวลานิดหน่อย”



เอิ้นถอนลมหายใจพรู่ด



นึกหงุดหงิดที่เขาไม่สามารถแสดงความเป็นเจ้าของโชนได้ ถึงได้แต่บอกคนอื่นว่าเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น



เอิ้นเจ็บใจนัก เขามั่นใจว่าตนตอนแต่งหญิงต้องสวยกว่าเจ้าหล่อนคนนั้นแน่ๆ ถ้าเขาอยู่ในร่างของหญิงสาวคงควงแขนโชนอวดเย้ยหล่อนไปแล้ว



โชนเห็นเอิ้นมุ่นคิ้วจึงรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังหงุดหงิด เขาเอื้อมมือไปลูบใบหน้าแสนรัก



“คุณเอิ้น ผมมีแค่คุณนะ”



“ผมรู้...” เอิ้นเอ่ยอุบอิบ “ผมแค่หงุดหงิดที่ทำตัวเป็นเจ้าของโชนไม่ได้”



“อ้าว...คุณเอิ้นอยากแสดงความเป็นเจ้าของผมเหรอ”



“อือ แต่ผมเป็นผู้ชาย คงไม่ดี”



“ถ้าคุณเอิ้นบอกแต่แรก ผมจูบคุณเอิ้นโชว์ไปแล้ว”



“หา อะไรนะ!”



“ผมคิดว่าคุณเอิ้นคงไม่อยากเปิดเผยความสัมพันธ์ แต่ผมพร้อมจะบอกคนอื่นเสมอนะว่าคุณเอิ้นเป็นของผม”



“...ผม” เอิ้นเงยหน้ามองโชน แววตาสั่นไหว “ไม่มีความกล้ามากพอ...และมัน...ไม่ดีเลย”



“ไม่เป็นไรหรอกครับ ค่อยๆ ปรับกันไปเนอะ”



“อืม” เอิ้นเอ่ยเสียงเบา ซบหน้าลงที่ไหล่โชนขณะเดิน



ท่ามกลางหมู่ดาวแพรวพราว ตึกสูงเล็กตั้งขนาบทางเดิน ลมกลางคืนพัดแผ่วเบา บาทวิถีไร้ผู้คน มีเพียงสองร่างเดินอิงแอบกัน



เอิ้นนึกเจ็บใจเรื่องเมื่อครู่ ได้แต่บอกตัวเองว่าอย่างไรเสียตอนนี้โชนก็เป็นคนของเขา และจะเป็นไปอีกนาน



เอิ้นตั้งความหวัง เอ่ยออกมาน้ำเสียงแผ่วเบา ทว่าชัดเจน



“สักวันคงมีวันที่พวกเราเปิดเผยความสัมพันธ์นี้ได้แบบไม่อายใคร”





_________________________________

ตอนหน้าจบแล้วน้า

#Call123456






ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ค่อยๆ ปรับกันไปนะ
 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
มันต้องมีแหล่ะน่าวันที่เปิดเผยความสัมพันธ์ได้แบบไม่ต้องอายใคร หรือกลัวใครจะไม่ยอมรับ

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
คุณเอิ้นน่ารักมากเลย
เอ็นดูความอยากแสดงตัวเป็นเจ้าของ

 :pig4:

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ตอนนี้น่ารักทั้งโชนและคุณเอิ้นเลย  :hao5:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
คุณเอิ้นมีแสดงความเป็นเจ้าของน่ารัก  :a1: :a1:

ออฟไลน์ fullmoonny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
คุณเอิ้นนนนนน น่ารักกกกมากกกกกก ถ้าคุณเอิ้นกล้ามากว่านี้คงจะแซ่บบบบโชนหลงคุณเอิ้นมากมายแน่

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำทั้งคู่อยู่กันไปนานๆ คงชินกันไปเอง  555

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

จะจบแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
โทรครั้งสุดท้าย



Call 110



เวลาล่วงเลยผ่านไปไม่นาน โชนก็เรียนจบปีแรกของมหาลัยแล้ว



ส่วนเอิ้นก็เรียนจบป.โทแล้วด้วยความอุสาหะ งานรับปริญญาของเอิ้นมีในช่วงปลายปี ผ่านวันเปิดเทอมของโชนไปไม่กี่อาทิตย์



เอิ้นไม่ได้คิดมากเรื่องรับปริญญาเพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าโชนคงติดเรียน เขาจึงไม่ได้อยู่ถ่ายรูปตามซุ้มต่างๆ แต่กลับเดินออกจากหอประชุมใหญ่ไปยังที่จอดรถแทบทันทีที่เลิกงาน เพราะนัดหมายกับลุงรวีไว้



เขาคงขึ้นรถกลับบ้านไปคนเดียวแล้ว ถ้าไม่ได้ยินเสียงเรียกดังมาเสียก่อน



“คุณเอิ้น ทางนี้!”



เสียงที่เขาจำได้อย่างดีไม่ใช่ใครนอกจากโชน



มหาบัณฑิตหมุนตัวกลับไป แล้วก็ต้องแปลกใจ



“ผมพาเพื่อนๆ มาแสดงความยินดีครับ”



คนเจ้าแผนการว่าพร้อมฉีกยิ้มร่า ข้างหลังโชนมีตาวและเพื่อนๆ ของโชนที่เอิ้นรู้จักอีก



เวลาที่ผ่านมามีหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย แต่เหตุการณ์ที่เอิ้นไม่มีทางลืมคือเพื่อนๆ ของโชนทุกคนรับรู้ว่าตนเป็นคนรักของโชน และไม่มีใครมีทีท่ารังเกียจใส่เอิ้นอย่างที่นึกคิด



กลับกัน เด็กกลุ่มนี้เป็นมิตรกับเอิ้นมากยิ่งกว่าเดิม



สำหรับเอิ้นแล้ว เขาไม่ได้ต้องการให้ใครมารับรู้รสนิยมของตัวเอง เพราะไม่อยากเจอสายตารังเกียจของใครอีกแล้ว ทว่าเพื่อนของโชนไม่มีใครคิดว่าเอิ้นวิปริตหรือน่ารังเกียจเหมือนที่เขานึกกลัว



ตอนนั้นเองที่เอิ้นได้รู้ว่า แท้จริงแล้วตัวเองต้องการเพียงแค่ความรักจากคนใกล้ตัวเพียงเท่านั้น



สายตาคนนอก ความรู้สึกของคนอื่น ทั้งหมดนั้นไม่จำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจทั้งหมด



เขาไม่ขอให้ใครเข้าใจมากมาย



ในเมื่อคนที่เขารักเข้าใจกัน ก็มากพอยิ่งกว่าสิ่งใด



ดอกไม้ช่อใหญ่ถูกส่งมาในมือของเอิ้น



“ยินดีด้วยนะครับ” สิ้นเสียงโชน เสียงคนอื่นก็ตามมา แสดงความยินดีให้กับความสำเร็จของเอิ้น



มหาบัณฑิตฉีกยิ้มกว้าง พุ่งสู่อ้อมกอดคนรัก ใบหน้าเปื้อนน้ำตาและรอยยิ้มแห่งความสุข



เขาดีใจจริงๆ ที่มีคนรักเขามากขนาดนี้



และดีใจจริงๆ ที่มีโชนอยู่ข้างกายกันจนถึงวันนี้



“ขอบคุณนะ”



Call 111



ในที่สุดวันที่โชนถูกทำโทษก็มาถึง



โชนมีโทรศัพท์มือถือแล้ว...



หลังจากที่ไม่ติดต่อหาเอิ้นหลายต่อหลายที และทำให้เอิ้นเป็นห่วงอยู่หลายครั้ง จนในที่สุด คนแก่กว่าก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ยัดโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ให้โชนอย่างไม่ให้คนรักปฏิเสธ



“โถ่ คุณเอิ้น~ ผมบอกแล้วว่าไม่เอา”



“ครั้งนี้ผมไม่ยอมแล้ว” เอิ้นว่าเสียงแข็ง เขาทนติดต่อโชนไม่ได้มาหลายครั้งแล้ว



สมัยนี้ผู้คนก็เริ่มใช้โทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น เทคโนโลยียุคนี้กำลังก้าวกระโดด ทำให้ราคาเครื่องไม่ได้แพงเหมือนเมื่อก่อน



แต่สำหรับโชนแล้วก็ถือว่าแพงอยู่ดี คนน้องโอดครวญแต่ไม่เป็นผล เมื่อเอิ้นไม่ยอมอ่อนข้อให้เหมือนที่แล้วมา



โชนเรียนหนักมากขึ้นและไม่มีเวลาว่างออกไปหยอดตู้โทรศัพท์เหมือนทุกที ไอ้คนรอก็เป็นห่วง จนกระทั่งครั้งหนึ่งโชนป่วยหนัก ไม่สามารถไปเรียนได้ ต้องนอนซมอยู่บนเตียงหลายวัน ตาวก็ไปออกค่ายไม่ได้อยู่ร่วมห้องดูแลเพื่อนซี้



กว่าเอิ้นจะรู้ก็ตอนที่ตาวโทรมาบอกหลังจากที่โชนใกล้จะหายดี



คนแก่กว่าทั้งโกรธทั้งเป็นห่วง ถ้าเกิดโชนเป็นอะไรขึ้นมาเขาต้องเสียใจมากแน่ๆ



เขาไม่อยากจู้จี้จุกจิกเรื่องพวกนี้แต่เขาก็ไม่อยากเป็นฝ่ายรอสายเรียกเข้าจากโชนฝ่ายเดียวอีกแล้ว จึงทำใจแข็ง ยัดโทรศัพท์มือถือให้อีกฝ่ายโดยไม่ฟังคำปฏิเสธ



คราวนี้เอิ้นสามารถติดต่อโชนได้โดยตรงเสียที



“ไว้ผมจะหาเงินค่ามือถือมาคืนคุณเอิ้นนะครับ”



เอิ้นยิ้มรับ ไม่ตอบอะไรกลับไป เขาไม่ได้ต้องการของตอบแทนใดๆ ในเมื่อการได้คุยกับโชน ได้อยู่เคียงข้างโชน รับรู้ว่าคนข้างกายสบายดีก็สำคัญที่สุดกว่าสิ่งอื่นใด



หลังจากนั้นการติดต่อกับโชนก็ไม่เคยขาดหายอีก โชนไม่ต้องออกไปหยอดตู้โทรศัพท์เหมือนเคย เขาสามารถนอนคุยเล่นกับเอิ้นอยู่ในห้องให้ตาวรำคาญใจได้อย่างสบายอารมณ์



ส่วนเอิ้นก็ไม่ต้องเป็นกังวลรอสายเรียกเข้าจากโชนแล้ว



ในเมื่อเขาสามารถโทรหาโชนได้โดยตรง



กดหมายเลขปลายทางอย่างชำนาญ พร้อมกับกดโทรออก รออีกฝ่ายรับสาย เพียงไม่นานเขาก็จะได้ยินเสียงจากความคิดถึง



“สวัสดีครับ คุณเอิ้น”



“สวัสดี โชน...”



Call 112



เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่างสะดวกสบาย ทว่าการได้คุยกันทุกวันกลับทำให้ความอดทนในการรอคอยน้อยลงกว่าเดิม จากที่เอิ้นสามารถรอโชนทุกๆ สามถึงสี่ทุ่มได้ กลับเป็นไม่ได้ พอโชนไม่โทรมาก็กระวนกระวายใจ ต้องเป็นฝ่ายโทรหาตลอด



โชนเองก็ไม่ได้ว่างรับสายตลอดเพราะกิจกรรมที่มากขึ้น และการเรียนที่หนักขึ้น



ถึงอย่างนั้นเอิ้นก็ไม่ได้เง้างอนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขาพยายามเข้าใจโชนมากขึ้น รวมถึงตั้งใจทำหน้าที่อาจารย์ของตัวเองให้ดี



ที่สำคัญที่สุดก็คือ โชนไม่เคยทำให้เอิ้นรู้สึกต้องน้อยใจอีก



โชนแสดงออกเสมอว่าตนมีแค่เอิ้น



ส่งผ่านสายตาและการกระทำ



แม้ไม่อาจแสดงออกได้ทุกสถานที่ แต่โชนก็ดูแลเอิ้นเป็นอย่างดีและพอเหมาะพอควร ไม่ทำให้เอิ้นอึดอัดใจหรือเป็นกังวลอะไรอีก เอิ้นเองก็ไม่ปฏิเสธการกระทำของโชนอีกแล้ว



ทั้งคู่ค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากัน แม้จะยังไม่ทุกเรื่อง แต่ว่าทั้งสองเชื่อว่ารอยแยกที่มีอยู่นั้นสักวันมันจะแนบสนิท



มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาตกลงกันไว้ก็คือ ทุกๆ วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ถ้าไม่มีใครติดธุระ จะต้องมาเจอกัน รวมถึงนอนค้างคืนด้วยกัน



ในทีแรกมันไม่ใช่ข้อตกลง แต่เป็นโชนที่มาหาเอิ้นที่บ้านทุกอาทิตย์ มากอดความคิดถึงให้หายคิดถึง



แต่บางอาทิตย์โชนก็ไม่ว่าง และนั่นทำให้เอิ้นเป็นฝ่ายไปหาโชนที่หอบ้าง



โชนอยู่หอกับตาว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ทำอะไรเกินเลยไปมากกว่ากอดและจับมือกัน



แต่แค่นั้นก็มากพอสำหรับหนึ่งอาทิตย์ที่ไม่ได้เจอกัน



โทรศัพท์ที่มีเพียงเสียงหรือจะสู้ตัวเป็นๆ ที่เห็นและสัมผัสได้



Call 113



คำว่าเกย์ถูกใช้อย่างแพร่หลาย



คำนิยามใหม่สำหรับกลุ่มคนที่มีรสนิยมรักร่วมเพศ และคงเป็นคำนิยามให้กับเอิ้น



แต่นั่นสำคัญอะไร เขาเลิกใส่ใจกับคำนิยามที่ใช้เรียกรสนิยมตัวเองมานานแล้ว



ร่างเล็กมุดเข้าหาอ้อมกอดอุ่นของโชนมากขึ้น กะพริบตาไล่ความคิดที่ทำให้ตัวเองเป็นกังวล ซบศีรษะลงกับซอกคอและไหปลาร้าโชนอย่างพอดี กลับเข้าสู่นิทราแสนสุขอีกครั้ง



เอิ้นตื่นขึ้นมาอีกทียามสาย โชนเองก็ตื่นแล้วเช่นกัน แต่คนเด็กกว่าไม่ยอมลุกไปไหน นอนกอดเจ้าของดวงใจอยู่บนเตียง รอจนกว่าเอิ้นจะตื่น



 “อรุณสวัสดิ์ครับ”



“อือ”



เอิ้นครางรับ ขยับตัวกอดคนรักแน่นกว่าเดิม งอแงไม่อยากตื่น



“กินข้าวเช้ากันได้แล้วนะ”



“รู้แล้ว” ว่า แต่ยังคงนอนนิ่ง



โชนถอนหายใจ นึกคิดว่านับวันเอิ้นยิ่งปลุกยาก แม้ไม่อยากรบกวนการพักผ่อนของเอิ้น เพราะเมื่อคืนโชนรบกวนเอิ้นมาทั้งคืนแล้ว แต่ข้าวเช้าเป็นมื้อสำคัญ ถ้าเอิ้นพลาดมื้อนี้ไปคงปวดท้องเป็นแน่



คนเด็กกว่าจึงได้แต่หาทางแงะให้คนขี้เซายอมลุกจากเตียง



สุดท้ายร่างเล็กก็ผุดลุกขึ้นด้วยเนื้อตัวเปลือยเปล่า เอิ้นก้มหน้าซ่อนใบหน้าร้อนๆ ตวัดผ้าคลุมมาห่อตัว เดินก้มงุดๆ หนีเข้าห้องน้ำไป



มีหลายอย่างเปลี่ยนแปลง แต่ก็มีหลายอย่างที่ยังคงเดิม



หลักๆ คือเอิ้นยังคงขี้อายเหมือนเดิม ส่วนความน่ารัก โชนรับประกันว่าเพิ่มมากกว่าเดิม



Call 114



เครื่องเล่น mp3 เริ่มเป็นที่นิยมแพร่หลาย เทคโนโลยีสมัยนี้พยายามพัฒนาตอบสนองให้ผู้ใช้สะดวกสบายมากที่สุด แต่โชนยังคงใช้เซาว์เบาท์ที่ตกรุ่นเครื่องเดิม เทปคลาสเซ็ทของเด็กหนุ่มมีเต็มกล่อง แม้จะยุ่งยากไม่เหมือนเครื่อง mp3 ที่สามารถบรรจุไฟล์เพลงได้มากกว่า แต่เขาก็ยังชื่นชอบการฟังเพลงจากเทปอยู่ดี



รวมถึงเขาชื่นชอบฟังเพลงเก่าสมัยยังเป็นเด็กมาแต่ไหนแต่ไร



โชนค้นเทปของตัวเองและพบกับเพลงเพลงหนึ่ง



เด็กหนุ่มไม่รอช้าที่จะเอาให้คนรักของตนฟัง เมื่อทั้งคู่ได้พบกันในคืนวันเสาร์



เนื้อเพลงและความหมายของเพลงผ่านการคัดกรองจากเด็กหนุ่มมาอย่างดี โชนเชื่อมั่นอย่างเต็มหัวใจ ว่าเพลงนี้เขาต้องมอบให้เอิ้นได้ฟังให้ได้



โชนยื่นหูฟังให้เอิ้นใช้ร่วมกัน



พออีกฝ่ายได้ฟังก็หน้าแดงแปร๊ด เมื่อได้ฟังเพลงนี้ร่วมกับเจ้าของเสียงเต้นของหัวใจ



ดนตรีดำเนินไปอย่างไพเราะ น้ำเสียงของคนร้องหวานหยดย้อย แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย


ทอดพาดวงใจ เราไปยังนภาฟ้าที่แสนไกล ที่ไม่มีใครเคยก้าวลํ้าข้ามผ่านพ้นไป



เก็บดวงดาวที่ลอยเกลื่อนฟ้า จับมาเรียงร้อยเป็นมาลัยคล้องใจ





เพลงรักแสนหวานแทรกซึมไปทุกโสตประสาท เอิ้นนั่งก้มหน้าหนีความเขินอายที่ปะทุขึ้นมา ใบหน้าร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรงจนแทบกระดอนออกมาจากอกอีกครั้ง เมื่อโชนชวนเอิ้นมานั่งฟังเพลงที่ระเบียงบ้านของเอิ้น ไม่ต่างจากเนื้อเพลงที่ดังอยู่ตอนนี้





เพียงแค่ใจเรารักกัน บดบังความสําคัญอื่นใด

เพียงแค่ใจเราสองใจ เข้าใจในรักจริง


ชวนชมดวงดาวที่ลอยเกลื่อนฟ้า นั่งทอดกายภายใต้นภาที่ส่องสว่างไปด้วยแสงจันทร์



เอิ้นรู้จักเพลงนี้ดี และรับรู้ว่าท่อนฮุคของมันมีความหมายลึกซึ้งมากเพียงไหน เพราะเช่นนั้นเขาถึงได้ก้มหน้าก้มตาหลบหน้าโชนด้วยความเขินอาย



ความยาวของเพลงไม่นานนักก็จบลง



โชนทาบฝ่ามือลงมาที่มือของเอิ้น ความอบอุ่นแพร่กระจายไปถึงหัวใจดวงน้อยที่เต้นระรัว



“คุณเอิ้น...”



เจ้าของชื่อเอิ้นพยายามสบตากับโชน และก็หลบตาในไม่กี่วินาทีต่อมา



“พี่เอิ้น~”



“บ...บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียก”



โชนหัวเราะขำกับความขี้อายของคนรัก เชยใบหน้ามนเข้าหาตัว



มอบจุมพิตที่หวานไม่แพ้บทเพลง



สื่อความหมายผ่านการกระทำ มอบแทนคำมั่นสัญญา



ไร้ซึ่งคำเอื้อนเอ่ย ทว่าลึกซึ้งกว่าคำบอกรักใด



แค่เพียงหัวใจสองดวง เข้าใจกันและกัน



และเรามีเพียง งานวิวาห์เดียวดายภายใต้แสงจันทร์

สุขสกาวดวงดาวแพรวพราวนับหมื่นร้อยพัน

ร่วมกันเป็นพยานแห่งรัก ที่ไม่มีพิธีใดจะสําคัญ

เหนือใจ

-End-

 _______________________________

#Call123456




 ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ ตั้งแต่ในทวิตจนถึงตอนนี้เลย

เป็นเรื่องที่เริ่มมาจากการทวิตเล่นๆ แล้วจู่ๆ ก็ต่อยอดงอกออกมาจนได้เป็นสิบตอนได้ไงก็ไม่รู้555

คิดว่าจังหวะเรื่องนี้ไปค่อนข้างเร็ว เพราะติดจังหวะที่ใช้ในทวิตมาด้วย

ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกขัดๆ ต้องขออภัยด้วยนะคะ



ไม่คิดว่าจะพาคุณเอิ้นกับเจ้าโชนมาถึงตรงนี้ได้

หลักๆ แล้วแค่อยากเขียนเรื่องราวสมัยก่อนดูบ้าง

อันที่จริงแล้วเรื่องนี้อยู่ในยุคต้นๆ 20s นะคะ55555

(ที่จริงก็ตั้งใจให้เป็นยุค 90s แต่เราเกิดไม่ทัน ถ้าใช้ช่วงยุคนั้นจะมีความทรงจำแต่ตอนที่เป็นเด็กมากๆ

เลยกลัวว่าจะมีข้อมูลไม่มากพอ ;-;)



อย่างไรก็ตาม ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันนะคะ

รัก

 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
ดีใจกับคุณเอิ้นที่พบรักแท้จริงๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ kikilululu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านถึงตอนที่เอิ้นกลับไปหาคนที่บ้านแล้วร้องไห้เลย ทุกเรื่องของคุณ raccool จะต้องมีซีนที่แปล๊บหัวใจ
ยิ่งอ่านก็ยิ่งไม่อยากให้เอิ้นเจออะไรแบบนี้แล้ว ยังไงคนก็คือคนจริงๆอ่ะ
เราได้มาอยู่ในสังคมที่ส่วนใหญ่เค้ามองว่าเรื่องแบบนี้มันผิด เราเจ็บใจมากเลยนะทำไมอ่ะ
เค้ามีความรักไม่ได้หรอ ทำไมต้องไปตัดสินว่าเค้าผิด ทุกครั้งที่เราอ่านเจอแนวประมานนี้เราอินหนักมากทุกที
ขนาดเราเองไม่ได้เจอกับตัวเองแค่คิดว่าต้องมีใครสักคนเจ็บปวดเพราะโดนทำร้ายจากสังคนแบบนี้เราก็เสียใจแทนแล้วอ่ะ
ถึงตอนล่าสุดเราดีใจกับเอิ้นมสกๆที่เอิ้นยิ้มอย่างมีความสุข เอิ้นได้พยายามก้าวไปข้างหน้าแล้วทั้งๆที่ก็กลัวอ่ะ
และในส่วนของโชน ด้วยความเด็กน้อยเราเข้าใจนางนะแต่เราทีมเอิ้น55555 ตอนติดเกมนี่อยากไปบิดหูลากมาขอโทษเอิ้น
สองคนนี้เหมือนมีชีวิตจริงในช่วงหนึ่งๆเลย เนี้ยถ้าคุณนักเขียนจะพาดราม่าไปเรื่องบ้านโชนด้วยนะเราร้องไห้ตายแน่เลย
เราชอบความมีชีวิตชีวาของตัวหนังสือของคุณ raccool มากอ่ะ อ่านแล้วเหมือนเรากำลังดูหนังทุกที //กอดคุณเอิ้นแก้หนาว

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

แทงคิ้ว

ออฟไลน์ full

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เป็นเรื่องที่รู้สึกดีต่อใจมากยิ่งอ่านก็ยิ่งดี อบอุ่นไปทั้งใจได้เห็นความรักของพวกเขาทั้งสองมันดีมาก ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆนี้ค่ะ ตามมาตั้งแต่ทวิตเตอร์เลยยย  :pig4:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Kx0806

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
จบแล้วก็ใจหาย เหมือนตามลุ้นมาตั้งแต่ต้นจนเค้าสมหวังกัน อยากเห็นชีวิตของทั้งคู่ในยุคปัจจุบันจัง ต้องน่ารักมากแน่ๆ

ออฟไลน์ TheBig

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆแบบนี้นะคะ  :pig4:  :pig4:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
จบแล้ว  :hao5:

ชอบทั้งสองคนมาเลยมีการเติมโตทางอารมณ์มากมาย  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
สองคนนี้คือส่วนผสมที่ลงตัวมากๆ เลยยยยย

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
 :กอด1: จบแล้วว ใจหายจุง จะติดตามเรื่องต่อๆไปเรื่อยๆนะคะ :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด