พิมพ์หน้านี้ - ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Raccool ที่ 02-08-2018 14:35:43

หัวข้อ: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 02-08-2018 14:35:43
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐



M y N o v e l ::

๐ ▆ ▇ █ Maybe….I’ll try?-เล่นของสูง █ ▇ ▆  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41260.0)   [F i n i s h e d ]
๐   ☀ ☼ Dear Sunshine : วาดตะวัน ☼ ☀ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51550.0)    [ F i n i s h e d ]
๐   ※ MR.GREY ※  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58733.0)    [ F i n i s h e d ]
๐   ♦ Wake me up #รีบตื่น ♦  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61411.0)    [ F i n i s h e d ]
๐  ❄ Once upon a lie #บันทึกเด็กเลี้ยงแกะ ❄   (https://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64693.0)    [ F i n i s h e d ]
๐  ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67098.0)    [ F i n i s h e d ]



๐  [เรื่องสั้น] ✡ ส ม ห ม า ย ✎  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52526.0)   [ F i n i s h e d ]
๐  [เรื่องสั้น] :: ◤| Summer Wine |⊿ ::   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52774.0)   [ F i n i s h e d ]
๐  [เรื่องสั้น] ♪ ♫ :: SENSORY SERIES :: HEAR ♪ ♫    (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56968.0)   [ F i n i s h e d ]
๐  [เรื่องสั้น]░【 GROWTH 】#รีบโต    (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57556.0)   [ F i n i s h e d ]
๐  [เรื่องสั้น] 。• ✈ Page 49 ✈ •。  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59146.0)   [ F i n i s h e d ]
๐  [เรื่องสั้น]♡ ☽ Lucky Cat ☾ ♡  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60785.0)   [ F i n i s h e d ]
๐  [เรื่องสั้น] ✖ Soon We'll be found ✖  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61590.0)   [ F i n i s h e d ]
๐  [เรื่องสั้น] #อย่าปล่อยให้ความตายหลงรักคุณ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63610.0)   [ F i n i s h e d ]
๐  [เรื่องสั้น] ▣ Don't kick the chair ▣  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65435.0)   [ F i n i s h e d ]
๐  [เรื่องสั้น] ■ Have a ghost day #ผีของผม ■  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64808.0)   [ F i n i s h e d ]
๐  [เรื่องสั้น]┼ In another life ┼ #หากชาติหน้า  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66337.0)   [ F i n i s h e d ]
๐   [เรื่องสั้น] ◎ #มนุษย์โอ่ง ◎  (https://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?board=33.0)   [ F i n i s h e d ]
๐   [เรื่องสั้น] ✧ #แมวเองนักเลงพอ ✧  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67543.0)   [ F i n i s h e d ]



——————————





Call 0



“มึงแพ้อ่ะ โทรเลย”


“เชี่ย เอาจริงเหรอวะ”


“เออ เร็วดิ อย่าเล่นตัว”


“แต่เบอร์นี้เนี่ยนะ”


“บอกว่าเอาพิซซ่าหน้าซีฟู้ดนะ”


“เค้าก็รู้หมดดิว่าแกล้ง ใครมันจะบ้าสั่งพิซซ่าเบอร์ 0xx-123-456 วะ”


“เออ ก็แกล้งไง โทรเร็วๆ”


โชนเบ้หน้า แต่เพราะเป็นผู้แพ้ตามข้อตกลงของกลุ่มเพื่อนๆ ทำให้เขาต้องยอมโดนลงโทษตามกติกา โดยบทลงโทษครั้งนี้คือการให้โทรไปเบอร์แปลกหน้า เพื่อสั่งพิซซ่า


เป็นเวลาเย็นยามเลิกเรียนของเด็กมัธยม วันนี้พวกเขาเลิกเรียนหลังกริ่งโรงเรียนดังไปเป็นชั่วโมง


เด็กเกเรบ่นอุบที่ต้องมานั่งเรียนเลยเวลา ขณะนี้สนามบอลของพวกเขาถูกพวกนักเรียนชั้นปีอื่นแย่งชิงไปเสียแล้ว


สุดท้ายพวกเขาก็ลงมติไปจบกันที่ร้านเกมตู้หยอดเหรียญแห่งหนึ่งใกล้ๆ โรงเรียน เด็กๆ เตรียมสอบดูไม่มีทีท่ากังวลกับเรื่องเตรียมเข้ามหาลัยเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขาตั้งใจจะไปหางานทำทันทีหลงจบการศึกษา มีเพียงโชนกับเพื่อนอีกสองสามคนเท่านั้นที่ตั้งใจจะเรียนต่อ


แต่ถึงอย่างนั้นก็อดใจไม่ได้ที่จะผ่อนคลายจากสิ่งบันเทิง ก่อนจะต้องไปอ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำหลังกลับบ้าน


ตู้เกมเครื่องหนึ่งถูกเลือกมาเล่น โดยมีเด็กนักเรียนทั้งหมดเกือบสิบชีวิตได้มุงล้อมรอบคนเล่น ทั้งกลุ่มผลัดกันเล่นตามกติกาผู้แพ้ต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่น จนสุดท้ายก็ได้ผู้ชนะ


และโชนได้เป็นที่โหล่


บทลงโทษผู้แพ้เป็นการละเล่นขำๆ ของวัยมัธยม ทว่าคงไม่ดีต่อคนที่ถูกรบกวนนัก ทำให้โชนขมวดคิ้ว แต่สุดท้ายเขาก็ยอมหย่อนเหรียญบาทลงตู้โทรศัพท์ พร้อมกับกดเลขหมายปลายทาง


เสียงสัญญาณดังขึ้น


“...เชี่ย โทรติดด้วยว่ะ! แป๊บนะ...เอ่อ ฮัลโหล...”


เด็กๆ ต่างชะเง้อรอฟังเสียงปลายสาย ทว่าไม่ได้ยินเสียงใดเลย มีเพียงโชนตอบรับปลายสายไม่กี่คำก่อนวางสายไป แววตาของโชนหลังสางสายวูบไหว เค้าจ้องมองตู้โทรศัพท์ด้วยความรู้สึกประหลาด ก่อนจะมีเสียงเพื่อนเรียกดึงสติ


“เค้าว่าไงวะมึง”


“ผู้หญิงหรือผู้ชาย”


“ผู้ชาย...” โชนตอบ


“เขาด่าป่ะ หรือว่าไง”


“เขาบอกว่า โทรมาอีกก็ได้นะ...”


“แล้วไงอีก”


“ไม่ไง มีแค่นี้”


“เขาไม่โกรธเหรอที่มึงไปสั่งพิซซ่า”


“ไม่นะ แต่เสียงเขาดูเหงาๆ เศร้าๆ มากกว่า”


“คงเป็นพวกคนรวยที่ชีวิตว่างๆ ล่ะมั้ง”


“เบอร์สวยขนาดนี้คงเป็นเศรษฐีประมูลมา”


“งั้นมั้ง”


“ช่างมันเถอะ เย็นนี้ไปเที่ยวกัน”


จบเรื่องเกเร เด็กนักเรียนกลุ่มใหญ่พากันเกาะกลุ่มไปเฮโลกันที่อื่น และเรื่องราวในวันนี้จะกลายเป็นเพียงความทรงจำขำขันของวัยรุ่นวัยซน ทว่าไม่ใช่กับคนรับสาย...


ฝ่ายคนรับสายที่เป็นฝ่ายถูกโทรแกล้งนั้นได้แต่ยืนยิ้มกับปลายสาย


“ใครโทรมาหรือคะคุณหนู”


“เปล่าหรอก โทรผิดน่ะ”


“แปลกจริง ปกติไม่ค่อยมีคนโทรผิดมานะคะ ต้องแกล้งกันแน่เลย”


“นั่นสิครับ”


คนหนุ่มหัวเราะเบาๆ ตอบรับ เขารู้ว่าถูกแกล้งแน่แท้ แต่ช่างปะไร ในเมื่อเขาไม่ได้คุยกับคนแปลกหน้ามานาน และช่วยไม่ได้ที่น้ำเสียงปลายสายนั้นกลับดูหวั่นๆ ไม่ได้คิดจะแกล้งเขาจริงจัง ทำให้เขาเผลออมยิ้มไปกับการกลั่นแกล้งครั้งนี้



และได้แต่หวังว่าสักวันพวกเขาน่าจะได้คุยกันอีก




——————————




เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งในทวิตแล้วลองรวบรวมมาเป็นเรื่องยาวดูค่ะ

อาจจะตัดตอน หรือจังหวะเร็วแปลกๆ ก็ขออภัยด้วย

ฝาก #call123456 ด้วยน้า  :L1:



หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 1 |2.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 02-08-2018 14:40:59
Call 1


ทว่าหลังจากนั้น โชนก็ไม่เคยโทรไปเบอร์นั้นอีกเลย...เรื่องราวผ่านมาเป็นปี จากมัธยมเข้าสู่มหาลัย ความทรงจำเก่าเลือนรางใกล้จางหาย เรื่องราวเมื่อคราวนั้นกำลังจะกลายไปเป็นความทรงจำวัยทโมนอย่างแท้จริง เขาคงลืมเรื่องนี้ไปในที่สุด ถ้าหากเขาไม่ได้พบกับใครคนหนึ่งในสถานบันเทิง


ฉับพลันที่สบตา ดวงตาของอีกฝ่ายไร้ประกายใดในแววตา ดวงตาทอดมองบรรยากาศอย่างเอื่อยเฉื่อย ราวกับว่าโลกนี้ตนอยู่เพียงลำพัง


ความทรงจำที่หายไปนานถูกกระชากกลับมา เขาได้ยินเสียงหงอยเหงาส่งมาจากปีที่แล้ว


'ไม่เป็นไรครับ...ไว้โทรมาอีกก็ได้นะ' 


...มองตู้โทรศัพท์อีกครั้ง


Call 2


หลังจากนั้น เวลาผ่านมาร่วมปี กลับไม่มีใครโทรมาอีกเลย ภายในบ้านหลังใหญ่เขาเฝ้ารอวันแล้ววันเล่าให้คนแปลกหน้าหลงโทรมาอีกครั้ง ชีวิตที่ไร้เสียงพูดคุยเงียบเหงาเกินไป และน่ากลัวเกินไปหากจะออกไปค้นหาเสียงในโลกภายนอก


ได้แต่บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร ใครมันจะบ้าโทรกลับมาอีก เรื่องราวในวันนั้นก็แค่พวกเด็กเล่นกันขำๆ เขาไม่น่าไปจริงจังกับมันเลย
เสียแต่ทำอย่างไรก็ไม่เคยห้ามใจไม่ให้มองโทรศัพท์ได้สักที


กระทั่งสิ้นสุดการรอคอย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หัวใจเขากระตุก


ทันทีที่รับสาย เขาจำน้ำเสียงนั้นได้ดี


น้ำเสียงที่เคยมาเยือนความหงอยเหงาของเขาเมื่อปีก่อน


'สวัสดีครับ'


 --


"สวัสดีครับ"


ปลายสายเงียบไปพักหนึ่ง จนอีกฝั่งได้ยินเสียงเขย่าเหรียญในมือดังกรุ๊งกริ๊ง และคนโทรมาก็ไม่ปล่อยให้โทรศัพท์กลายเป็นสายร้างอีก เขาเอ่ย


“ผม...เคยโทรหาคุณเมื่อปีที่แล้ว”


คนเคยโดนแกล้งยิ้มรับ ระลึกหวนถึงอดีตที่จดจำไม่ได้ไม่ลืม ไม่มีคนสติดีมาสั่งพิซซ่าในเบอร์นี้หรอก นอกเสียจากเป็นการกลั่นแกล้งกันของเด็กๆ


“คุณที่จะสั่งพิซซ่า” เขากรอกน้ำเสียงนุ่มตอบรับ


 “ครับ...ตอนนั้นขอโทษด้วย คือ-”


“ผมดีใจที่คุณโทรมาอีกนะ...”


“...”


โชนชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็หัวเราะออกมาเบาๆ ทั้งสองฝ่ายพูดระลึกถึงความหลังกันนิดหน่อย เป็นโชนที่เอ่ยอธิบายออกมาว่าเขาเห็นใครบางคนแล้วนึกถึงปลายสายของเบอร์โทรนี้ จดจำได้ถึงประโยคที่บอกว่าให้โทรมาหาใหม่ได้ จึงลองโทรมาดู


เจ้าของเบอร์สวยยิ้มรับ เอ่ยยินดีให้โชนโทรมาหา


น้ำเสียงของคนโทรมาบอกเล่าเรื่องราวตลอดปีให้ฟัง จนกระทั่งเหรียญสุดท้ายถูกหยอดลงตู้โทรศัพท์ อีกฝ่ายบอกว่าไม่นานก็ต้องวางแล้ว น่ายินดีที่เขาโทรมาอีกครั้ง  ทว่าก็น่าเสียใจที่เขาโทรมาเพราะเห็นใครคนหนึ่งแล้วคิดถึงกัน


อย่างไรก็ตาม


เขากรอกเสียงลงไปก่อนสัญญาณจะถูกตัด


"ไว้โทรมาอีกนะ"


Call 3


โชนยังคงโทรหาอีกฝ่ายในวันศุกร์ต่อมา


“ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากคุยกับคุณอีก”


“มันสบายใจแปลกๆ”


“ไม่รู้คุณคิดเหมือนกันไหม”


“ขอผมโทรหาอีกบ่อยๆ นะ”


 อีกฝ่ายรับฟัง แล้วตอบกลับ


“คงเพราะเราต่างเป็นคนแปลกหน้า”


“คุณคงสบายใจเพราะผมไม่มีวันเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟัง”


“แต่ผมก็ชอบให้คุณเล่าเรื่องของคุณให้ฟังนะ”


“ผมอยากจะขอให้คุณโทรมาอีกบ่อยๆ เช่นกัน”


โชนรับคำ เขาโทรไปหาคนแปลกหน้าอีกบ่อยครั้งตามคำขอ เขาเล่าเรื่องหญิงสาวที่บังเอิญเจอในย่านแสงสีให้อีกฝ่ายฟังเพราะเพื่อนที่มหาลัยของเขาหาว่าเล่นของสูง หัวเราะขำขันเขาที่คิดจะเด็ดดอกฟ้าทั้งๆ ที่เจ้าหล่อนไม่เคยสนใจใครเป็นพิเศษ ทำเพียงแค่นั่งอยู่หน้าบาร์เฉยๆ เท่านั้น


เจ้าหล่อนแต่งตัวสวยสดไฉไลเสมอ เครื่องประดับดูหรูหราราคาแพง ดูมีเสน่ห์เย้ายวนให้เข้าหา มีรถมารับส่งทุกวัน โฉมงามไม่งามเพียงรูป แต่ยังมีสิ่งของรอบกายบ่งบอกถึงชนชั้นและฐานะ หลงรักเธอไปก็ไม่ต่างจากหมาเห่าเครื่องบิน


เมื่อพรรณนาพร่ำเพ้อถึงเธอให้กับเพื่อนรักไม่ได้ โชนเลยได้แต่เก็บความรู้สึกที่มีต่อหญิงสาวไปลงกับปลายสายแปลกหน้าแทน
คนแปลกหน้าชอบฟังเสียงของอีกฝ่าย มันทุ้มและนุ่มลึก ฟังแล้วพลิดเพลินไปกับเรื่องเล่าได้อย่างง่ายดาย โชนยังคงเล่าเรื่องของหญิงสาวที่เขาไปเจอมา เอ่ยถึงรายละเอียดทุกมุม ทุกเหตุการณ์ แม้นึกเสียดายที่ตัวเองไม่ได้เป็นตัวเอกในเรื่องเล่า แต่ก็ขอบคุณคนแปลกหน้าที่โทรมาทำให้เขาไม่ต้องจมอยู่ในความเงียบ


ระหว่างที่กำลังพูดคุยอย่างออกรสนั้น


จู่ๆ สัญญาณก็ตัด


Call 4


“ขอโทษ พอดีเหรียญหมด”


โชนแก้ตัวใหม่ในวันต่อมา อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ


“ให้ผมซื้อโทรศัพท์ให้คุณไหม เดี๋ยวนี้มีโทรศัพท์มือถือแล้วนะคุณ”


พอถามออกไป เขาพลันรู้สึกตัวว่ามันคงพิลึก ที่จู่ๆ คนแปลกหน้าจะซื้อของแพงให้ เขาพยายามคิดหาข้อแก้ตัวก่อนที่อีกฝ่ายจะสงสัย ทำนองว่าโทรศัพท์มือถือพกพาได้ง่ายและสะดวก สามารถส่งข้อความให้กันได้ด้วย ไม่ต้องลำบากออกไปหยอดตู้โทรศัพท์ตอนค่ำๆ มืดๆ


ทว่ากลับเสียงหัวเราะขำดังออกมาก่อน ตามด้วยถ้อยคำ


“ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่มีตังจ่ายค่าโทรอยู่ดี”


 จบคำพูดของโชน เขาอยากบอกว่าจะออกค่าโทรให้ แต่คิดอีกทีก็แปลกอยู่ดี


จึงตอบกลับด้วยความเงียบ ลบความคิดตัวเองทิ้ง ปล่อยให้โชนเป็นฝ่ายเล่าเรื่องเหมือนเช่นทุกที


“ผมเรียนมหาลัย เลยอยู่หอน่ะคุณ” เขาเล่า


“กว่าจะหาตู้ที่ไม่ค่อยมีคนเจอ จะได้ไม่ต้องต่อแถว ก็เล่นห่างจากหอเป็นกิโล” เขาเล่า


“ต้องเดินออกมาไกลเลย” เขาเล่า


“มืดก็มืด ยุงก็เยอะอีก” เขาเล่า


“นาทีละตั้งบาท แพงเป็นบ้า” เขาเล่า


“แถมคุยได้ไม่นานก็ต้องกลับ เดี๋ยวเพื่อนสงสัย” เขาเล่า


“เนี่ย ผมพยายามเพื่อให้ได้มาคุยกับคุณเลยนะ” เขาเล่า


เขายิ้ม


นึกอยากขอบคุณด้วยการซื้อโทรศัพท์มือถือให้คนพยายามสักเครื่องอย่างใจจริง


Call 5


“ตอนนี้อยู่ร้านเกม” โชนบอกเล่า เขาปลีกตัวออกมาหลังจากที่เพื่อนๆ มุงตู้เกมมองเพื่อนอีกคนเล่นอย่างเอาเป็นเอาตาย เขาสังเกตเห็นตู้โทรศัพท์อยู่ข้างร้าน และนึกถึงเบอร์โทรศัพท์ที่ช่วงนี้มักโทรไปหาบ่อยๆ เบอร์โทรที่ง่ายแสนง่ายต่อการจดจำ ตัวเลขเรียงกันสวยงามโดยไม่ต้องพึ่งสมุดจดเบอร์โทรด้วยซ้ำ


“อืม กำลังรอเพื่อนเล่นเกมอีกตา เสียไปเป็นร้อยแล้วมั้ง”


“ผมยังต้องให้มันยืมสิบบาทเลย”


“ออกมาโทรตู้ข้างๆ ร้านน่ะคุณ”



“เดี๋ยวต้องไปแล้ว คืนนี้คงไม่ได้โทรไปหานะ”


“วันศุกร์ทั้งทีก็ต้องไปเมาสิคุณ”


“คุณเองก็ออกไปผ่อนคลายบ้างล่ะ”


 จบสาย เขาคิดว่าวันนี้ควรออกไปเที่ยวบ้างเช่นกัน ชายหนุ่มลุกขึ้นจากที่นั่งประจำ เดินไปยังตู้เสื้อผ้ารอง คืนนี้ตู้เสื้อผ้าประจำคงไม่ได้ออกโรง เมื่อเขาตั้งใจแต่งตัวในชุดพิเศษ เพื่อไปดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนด้วยตัวคนเดียว


เขาได้ทำตามความต้องการอย่างสมใจ


โชนโทรมาหาเขาใหม่ในวันศุกร์ต่อมา


“วันก่อนผมเจอเธอด้วยล่ะ”


ประเดิมด้วยเรื่องหญิงสาวเป็นหัวข้อหลักในการสนทนาครั้งนี้


“คนอะไรสวยเป็นบ้า”


เขารับฟัง


“เสียดายหยิ่ง ไม่พูดกับใครเลย”


น้ำเสียงปลายสายทุ้มต่ำทว่ามีพลัง เหมือนผู้ชายวัยรุ่นกำลังคึกคะนอง สดใส เต็มไปด้วยพลังงาน


“ได้แต่หวังว่าถ้าผมเข้าไปทักแล้วเธอจะพูดด้วยนะ”


“คุณว่าผมพอจะมีหวังไหม”


เขาสะดุ้งเมื่อถูกโยนคำถามมาให้... ความจริงคือ ชายหนุ่มแทบไม่ออกจากบ้านไปพบปะใคร หรือต่อให้ออกไปไหน เขาก็ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับใครจึงให้คำแนะนำได้ไม่มาก ในใจเสียดายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสียใจนับร้อยครั้งที่ไม่ใช่ตัวเอง แต่คิดแล้วคงประหลาดน่าดู หากอีกฝ่ายจะมาพร่ำเพ้อถึงผู้ชายด้วยกัน...


Call 6


“จะว่าไปคุณอยู่จังหวัดOOใช่ไหม”


“รู้ได้ยังไง”


“รู้จากรหัสโทรศัพท์คุณน่ะ”


“อ้อ...”


“คุณอยู่ใกล้ตึกXXไหม”


“ทำไมหรือ”


“ผมมีบางอย่างอยากจะให้คุณ สะดวกมาเจอไหม”


 “ไม่”


ปลายสายตอบกลับแทบทันที ไม่ใช่ว่ารังเกียจหรืออะไร เขาสะดวกใจที่จะคุยกันเช่นนี้มากกว่าไปพบเจอหน้า ทว่าการปฏิเสธแบบตรงๆ เช่นนี้ เขากลัวว่าปลายสายจะคิดมาก แต่คนชวนไม่ได้เซ้าซี้ แต่บอกส่งท้ายเพียง


“พรุ่งนี้ผมจะเอาของไปใส่ไว้ที่ช่องกำแพงที่หกตรงตึกXX นะ”


“เอ๊ะ?”


เขาตอบกลับได้เพียงเสียงสงสัย ปลายสายเอ่ยถึงสถานที่นั้นอย่างละเอียดอีกเล็กน้อย แล้วก็ไม่ได้พูดถึงมันอีก โชนเล่าเรื่องราววันนี้ให้ฟังอีกสองสามเรื่องก่อนวางสายไป และมันน่าเสียดายที่เขารู้จักตึกที่โชนว่านั่นดี เหตุเพราะบ้านเขาเองก็ไม่ได้ไกลจากจุดนัดพบนัก


เขาอดใจไม่ได้ที่จะไปตามคำบอกของอีกฝ่ายในวันต่อมา สถานที่ที่โชนบอกไม่ได้หายากนัก แต่ก็ไม่ง่าย หลังตึกอยู่ในซอยที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน ช่องกำแพงที่หกมีพุ่มไม้บังทำให้สามารถซ่อนสิ่งของได้อย่างแนบเนียน เขาแหวกผ่านพุ่มไม้ไป เจอกับวัสดุใส่ไว้ในถุงพลาสติก


“คุณ ได้ของรึยัง”


“...ยังเลย ผมไปแล้วไม่เจอ”


“เอ๊ะ มีใครเอาไปหรือ ตรงนั้นไม่ค่อยมีคนนะ...เอาเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปดูให้”


คนไม่เจอลอบยิ้ม


ในวันถัดมา โชนโทรหาเขาตามคาด


“แผนสูงนะคุณ ใช้ให้ผมไปดูแล้วให้ตลับเทปผมกลับมาเนี่ย”


เขาไปรับของตามที่โชนบอกมาแล้ว เทปคลาสเซ็ทหนึ่งม้วนถูกสอดไว้ในช่องกำแพงรูที่หกตามคำบอก ในนั้นอัดแน่นไปด้วยบทเพลงจากนักร้องหลายๆ คน และเขาสังเกตว่าในเทปม้วนนี้ มีเพลงของนักร้องคู่หนึ่งที่มากกว่าเพลงอื่น ในระหว่างยามว่าง เขาจึงไปหาของขวัญมามอบให้เป็นการตอบแทน


“เห็นว่าคุณชอบอัสนีย์ วสันต์ ผมเลยไปหาเทปรวมเพลงมาให้”


“บอกกันดีๆ ก็ได้”


“อย่างนี้ดีกว่า”


คนให้ลอบยิ้ม เป็นการวางสายที่ไม่ได้รู้สึกเหงาอีกต่อไป เมื่อมีเสียงเพลงที่อีกฝ่ายเอาให้ฟังเป็นเพื่อน


เขาฮัมเพลงที่ได้มาจากคนแปลกหน้า เสียงเพลงจากเทปคลาสเซ็ทดังออกมาจากเครื่องเล่นเทปโก้หรู นาฬิกาบอกเวลาหัวค่ำ เมื่อวานอีกฝ่ายบอกแล้วว่าวันนี้อาจไม่ว่างโทรมา ให้ออกไปผ่อนคลายเที่ยวเล่นบ้าง วันนี้เป็นวันศุกร์ วันเที่ยวประจำของอีกฝ่าย และโชนจะไม่พลาดมัน


เขาทำตามที่โชนพูด ตั้งใจจะออกไปเที่ยวในค่ำคืนศิวิไล นักท่องราตรีตั้งใจแต่งตัวในชุดพิเศษ นิ้วมือจรดลิปสติกลงบนริมฝีปาก มองตัวเองในกระจกก่อนเริ่มวาดหน้าตาใหม่


วันนี้ใส่สีแดงน่าจะดูเข้าที...


เมื่อแต่งตัวเพียบพร้อม เขาก็ออกไปร่อนราตรี


เสาร์ถัดมา มีสายเข้าจากคนที่เขารอคอย


“วันก่อนผมเจอเธออีกแล้วด้วย” อีกฝ่ายลอบถอนหายใจ เมื่อเขาพูดถึงหญิงสาวที่หลงใหล


“สวยเหมือนเดิมเลย” เขามองเล็บตัวเอง หยิบสำลีชุบน้ำยาล้างเล็บ


“แต่ก็ยังไม่พูดกับใครเหมือนเดิม”


เช็ดเครื่องประทินโฉม


“ใส่ชุดสีแดงด้วย เซ็กซี่บรรลัย”


เขาชะงัก... ไม่ใช่หรอกน่า


Call 7


 “คุณได้ของที่ผมให้หรือยัง”


วันต่อมาโชนก็โทรมาติดตามความคืบหน้าของตัวเอง หลังจากเขามอบของอีกชิ้นให้อีกฝ่าย อันที่จริงชิ้นนี้น่าจะไม่เรียกว่ามอบให้ น่าจะเป็นการให้ยืมมากกว่า เพราะมันไม่ใช่ของเขา


“ได้แล้ว คราวนี้เป็นม้วนวิดีโอหนัง?”


“อืม เรื่องนั้นสนุกนะ อยากให้คุณได้ดู”


อีกฝ่ายยิ้มถามปลายสาย “ไปเอามาจากไหนล่ะ”


“ร้านเช่าแถวม.น่ะ”


“ให้ผมมาอย่างนี้ ไม่กลัวผมจะไม่เอาไปคืนเหรอ”


“คุณไม่ทำงั้นหรอกใช่ไหม”


“...”


“คุณ”


“ฮะๆ ไม่ทำหรอก”



“ไม่เชื่อแล้ว บอกที่อยู่คุณมาเลย”


“ไม่”


“งั้นบอกชื่อก็ได้”


เขายอมบอกชื่ออีกฝ่ายแทนบอกที่อยู่ วันต่อมาโชนโทรมาบอกให้รอฟังวิทยุคลื่นFM xxx.xx MHz ช่วงสามทุ่ม ก่อนวางสายไป
ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว เขารอด้วยใจอันกระวน จนกระทั่งสามทุ่มครึ่ง เสียงดีเจกล่าวถึงชื่อเขาออกมา


"สำหรับเพลงต่อไป ขอมอบให้คุณเอิ้นนะครับ"


"จากคุณโชน"



บทเพลงในวิทยุบรรเลง คนถูกให้เพลงหยุดไม่ได้ที่จะอมยิ้มใหญ่ๆ อยู่คนเดียว และคืนนั้นกลายเป็นคืนที่เขาหลับฝันดี เนื่องจากมีคนมอบบทเพลงไพเราะให้ฟัง


"ได้ฟังเพลงไหม"


โชนไม่รอช้าที่จะโทรมาติดตามผลงานของตนในวันถัดมา


“อืม นึกยังไงถึงให้เพลงนี้”


“เพราะดี ผมชอบ คุณเอิ้นชอบไหม”


“ก็ชอบ”


“จริงๆ ฟังแล้วนึกถึงเธอ วันนั้นเธอใส่สีแดง”


“ก็เลยเป็นไดอารี่สีแดง?”


“ผมนึกออกแต่เพลงนี้ ก็เข้าท่าดี แต่คงเอาให้หล่อนฟังไม่ได้”


“...”


“เลยให้คุณฟังแทน”


เขามองตัวเองในกระจก


ช่างอัปลักษณ์เหลือเกิน


Call 8


“วันนี้มีคนขอเพลงปาฏิหาริย์ไม่มีจริงมานะครับ”


จากคุณโชน ให้คุณเอิ้น”


จบจากเสียงเพลงวิทยุ อีกฝ่ายโทรมาราวกับรอเวลานี้อยู่แล้ว ทันทีที่เอิ้นรับโทรศัพท์ โชนก็อวดครวญ


“เธอต้องมีแฟนแล้วแน่เลย”


“คุณเลิกส่งเพลงที่อยากจะให้เธอมาให้ผมได้แล้ว”


“เฮ้อ ก็ผมไม่มีวันได้คุยกับเธอน่ะสิ”


“แต่เอามาให้ผมก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก”


“นั่นสิ...ผมก็รู้นะ แต่พอคิดว่าคุณได้ฟังแล้วก็รู้สึกดี”


“...”


“ผมควรทำไงดี”


“...ก็ลองคุยกับเธอดูสิครับ”


“ผมก็อยาก แต่ขนาดคนหล่อๆ เข้าไปหาเธอยังเมินเลย นับประสาอะไรกับผม”


“...คุณต้องมั่นใจหน่อยสิ ปอดแหกแบบนี้ไม่มีวันได้คุยหรอกคุณ”


“มันก็จริง”


“สู้เขานะ”


“อืม เดี๋ยวศุกร์หน้าผมจะลองดู”


“ขอให้สำเร็จนะ”


จบสาย เขาแค่นยิ้ม เจือจาง


คำอวยพรและคำแนะนำที่มอบให้ หลอกลวง


เขาภาวนาใหม่อย่างชั่วร้าย ขอให้อีกฝ่ายไม่สมหวัง และเมื่อโชนโทรมาในครั้งถัดไป เขาค้นพบว่าตำอธิษฐานของเขาสัมฤทธิ์ผล


“มันไม่ได้ผล”


“เธอไม่ยอมคุยกับคุณเหรอ”


“อืม แค่หันมามองแล้วก็หันไป ไม่สนใจกันเลย”


“ไม่เป็นไรนะ”


“อืม”


“คุณ..ผมคืนวีดิโอคราวนั้นแล้วนะ”


“ผมเห็นแล้ว”


โชนตอบแล้วเงียบ ไม่นานก็วางสาย คนปลายสายเพียงนึกในใจ คิดว่าวันนี้เราจะได้คุยกันเรื่องหนังม้วนนั้นเสียอีก...


เขาวางสาย


และหลังจากนั้นหลายวันโชนก็ไม่โทรมาอีก...



Call 10


เหมือนว่าสวรรค์จะตอบแทนคนคิดร้ายด้วยการพรากความสุขของเขาไป เอิ้นจ้องมองโทรศัพท์วันแล้ววันเล่าแต่ก็ไม่มีใครโทรมา คงเป็นเวรกรรมที่เขาลอบภาวนาคิดร้ายกับโชน


เขาขอโทษสวรรค์ สำนึกผิดแล้ว


ขอแค่โชนโทรมา ต่อให้ต้องฟังโชนเล่าเรื่องผู้หญิงคนนั้นอีกกี่ครั้งก็ได้


อย่าทิ้งเขาอยู่กับเสียงเงียบงันเช่นนี้เลย


เขาจ้องโทรศัพท์ บังคับให้มันส่งเสียงดังอีกครั้ง


'กริ๊ง'



——————


#call123456

หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 1 |2.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: Patsz ที่ 02-08-2018 17:27:30
เวลาในเรื่องน่าจะประมาณ20ที่แล้วหรือเปล่า เดาจากที่โชนบอกว่าไม่มีโทรศัพท์เพราะแพง
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 1 |2.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: 19august ที่ 02-08-2018 17:45:36
มันแอบหน่วงๆเหมือนพอจะเดาได้แต่ก็เดาไม่ได้
ฮื่ออรอนะคะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 1 |2.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 02-08-2018 17:58:47
มาให้กำลังใจ o13 o13
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 1 |2.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-08-2018 03:34:05
น่าจะเป็นยุคที่เริ่มมีโทรศัพท์มือถือรุ่นกระบอกน้ำปะ จำได้เครื่องเป็นหมื่น ค่าโทรนาทีละ 5 บาทได้มั่ง มีเทป มีวีดีโอ ตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญ รถเมล์ร้อน 3.50 บาท รถเมล์เย็นเริ่มต้น 8 บาท มาม่ากับน้ำอัดลมขวดแก้วนี่ราคาเท่ากัน 4 บาท ก๋วยเตี่ยวเรือชามละ 3 บาท ลูกอม 4 เม็ดบาท อ่านแล้วนึกถึงอดีตแฮะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 2 |7.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 07-08-2018 16:03:24
โทรครั้งที่ 2_____________________







Call 11



“ติดสอบน่ะคุณ”



เขาเอ่ยเฉลยในอีกสองอาทิตย์ถัดมา เป็นสองอาทิตย์ที่เหี่ยวเฉาสำหรับคนเฝ้ารอคอย สองอาทิตย์ที่ไม่มีเสียงโทรศัพท์โผล่มาสักกริ๊งเดียว เอิ้นไม่คิดว่าเขาจะดีใจเป็นบ้าที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์มากขนาดนี้



“ช่วงใกล้สอบแล้วเลยไม่มีเวลาได้ออกไปหยอดตู้โทรหาคุณเลย” โชนสารภาพ



“อืม ไม่เป็นไร” เอิ้นตอบกลับ เขาโล่งใจที่อย่างน้อยโชนก็ไม่ได้เกลียดเขาหรือลืมเขาแล้ว



แค่โทรกลับมาหากันก็พอ



“แต่ว่าผมได้ฟังเพลงนะ”



“หืม”



“เพลงที่คุณส่งมาทางวิทยุน่ะ”



“...”



“เล่าสู่กันฟัง...ใช่มั้ย”



ใบหน้าเอิ้นเปลี่ยนเป็นสีแดงโดยไม่ต้องแต่งเติมเครื่องสำอางใดๆ ก่อนที่เราจะร้องขอให้อีกฝ่ายหยุดพูดถึง โชนก็ร้องเพลงขึ้นมา



“ฝนที่ตกทางโน้น~”



กว่าเขาจะขอร้องให้อีกฝ่ายหยุดร้องเพลงก็เป็นตอนที่โชนร้องจบท่อนฮุคพอดี ใบหน้าของเอิ้นไม่ต่างจากสัญญาณไฟจราจรสีแดง เขาเขินเป็นที่สุด ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทันได้ยินเพลงที่เขาโทรศัพท์ไปของทางวิทยุ



“ผมฟังคลื่นนี้ตลอดแหละ”



“...”



“คุณขอเพลงนี้มาให้ผมสองครั้งด้วยใช่ไหม”



อ๊าก!



เอิ้นกรีดร้องในใจ นึกอยากให้อีกฝ่ายเหรียญหมดไปซะ จะได้หยุดความเขินอันบ้าคลั่งนี่ได้ลง เป็นความจริงที่ว่า เอิ้นขอเพลงไปทางวิทยุถึงสองครั้ง และเป็นเพลงเดียวกัน เขาคิดว่าโชนคงไม่ทันฟัง หรือถ้าได้ฟัง คงไม่ได้ฟังทั้งสองรอบ เขาพลาดแล้วที่ใส่ชื่อตัวเองกับคนที่ต้องการมอบเพลงให้ตามที่ดีเจถาม อันที่จริงเขาไม่ต้องบอกชื่อตัวเองก็ได้ แต่ก็เผลอบอกไปทั้งสองรอบ



มันน่าอาย เหมือนว่าเขากำลังพยายามบอกให้อีกฝ่ายรับรู้...



ว่ายังอยากได้ยินทุกเรื่องราว



และอย่าลืมเล่าสู่กันฟัง



Call 12



“วันนี้คงโทรได้ไม่นานนะคุณ”



“...”



“นัดเพื่อนไว้”



เอิ้นตอบรับ วันนี้คงเป็นวันเที่ยวอีกวันของโชน และปลายสายมั่นใจว่าจะได้เจอเธอคนนั้นอีก



แน่นอน...โชนโทรหาเขาเพราะต้องการคำแนะนำ ในใจเอิ้นนึกอยากบอกว่าตนไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการจีบหญิง แต่ทำไงได้ ถ้าเขาไม่พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คงไม่มีอะไรให้คุยกันเท่าไหร่



นิยายรักประโลมโลกทั้งหลายแหล่ถูกเอิ้นอ่านเสียจนเริ่มบรรลุวิธีการจีบสาว และเขาก็แนะนำโชนไปตามนิยายที่ได้อ่าน



โชนขอคำแนะนำในการเข้าหาเธอคนนั้นจากเอิ้นอีกเล็กน้อยก่อนวางสายไป ด้วยเพราะเพื่อนเร่งยิกๆ เสียยกใหญ่ เอิ้นเอ่ยคำอวยพรให้ส่งท้ายวัน ขอให้โชนสมปรารถนา



เขาไปเที่ยว เอิ้นก็เช่นกัน



ชายหนุ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภร ปะแป้งประทินโฉม ฉีดน้ำหอมกลิ่นหวาน



ไฉไลออกสู่ราตรี



Call 13



เอิ้นไม่ได้ดีใจเพราะมีคนซื้อค็อกเทลมาให้ เอิ้นไม่ได้ดีใจเพราะมีคนมานั่งคุยข้างๆ ชวนคุยด้วยคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เขาเพียงต้องการนั่งกินลมชมวิวเงียบๆ คนเดียวเท่านั้น ไม่ได้ต้องการมิตรภาพใหม่ในร้านเหล้า เอิ้นไม่ได้ดีใจที่คนๆ นั้นคอยนั่งเป็นเพื่อน ไม่ได้ดีใจที่เขาไปส่งเอิ้นที่รถ เขาไม่รู้ว่าคนแปลกหน้าต้องการอะไร



รู้แค่...ทุกอย่างมันเหมือนกับที่เอิ้นแนะนำให้โชนอย่างน่าขนลุก



ไม่ใช่หรอก เป็นไปไม่ได้หรอก



แม้จะคุ้นเคยกับน้ำเสียงอย่างน่าประหลาด



แต่ไม่มีทางหรอก



เสียงโทรศัพท์กรีดร้องในเวลาเดิม เป็นการรับโทรศัพท์ครั้งแรกที่เอิ้นรู้สึกทรมาน เมื่อรับสาย โชนเอ่ยถึงเรื่องราวเมื่อคืนอย่างไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัว



“เมื่อคืนผมเจอเธอด้วย”



“...”



“ผมทำตามที่คุณเอิ้นบอกด้วยนะ”



เขาภาวนาให้ไม่จริง



“แล้วได้คุยกันไหม”



“ยังเลย เธอดูตกใจ แต่อย่างน้อยก็ดีที่ไม่ได้ปฏิเสธ”



“งั้นหรือ”



“ผมว่าผมเริ่มมีความหวังนะ คุณเอิ้นว่าไหม”



“ทำไมล่ะ”



“ก็เธอดู...ไม่ได้รังเกียจผมเท่าไหร่ กับคนอื่นมีแต่เชิดหน้าใส่นี่”



“ง...งั้นหรือ”



เอิ้นกลืนน้ำลาย เอ่ยถามปลายสาย “เมื่อคืนเธอใส่ชุดสีอะไร”



“น้ำเงิน...ทำไมหรือ”



บรรลัย!



Call 14



เขาไม่ได้ต้องการเป็นผู้หญิง เขาไม่ได้แต่งตัวเป็นผู้หญิงเพราะชอบหรืออยาก เขาเพียงแค่ใช้ร่างนี้ในการหลบหนีความเป็นจริง ความจริงที่ว่าเขาชอบผู้ชาย



แต่เขาไม่ใช่กะเทย เขาไม่ใช่ตุ๊ด ไม่ใช่สาวประเภทสอง เขาเป็นผู้ชายที่รักผู้ชาย



ไม่มีคำนิยามอะไรให้เขาในยุคนี้



หรือใครจะพยายามหาคำนิยามต่างๆ มาให้เอิ้นมากมาย แต่สำคัญอย่างไร เมื่อสุดท้ายแล้วเอิ้นก็คือคน



ผู้ชายที่รักผู้ชายโดยที่ไม่ได้ต้องการเป็นเพศแม่ ไม่มีคำนิยาม และเขาก็ไม่ได้ต้องการมัน เพียงแต่ความชอบของเขาไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม เขาเป็นที่รังเกียจเพราะเขาแตกต่าง เพราะเขาไม่ได้เป็นอย่างที่คนส่วนใหญ่เป็น



เขาจึงลงทุนเปลี่ยนโฉมตัวเอง



ไม่ใช่เพราะชอบ แต่เพราะไม่ให้การเป็นผู้ชายของเขาไปขัดหูขัดตาใครยามเขาเผลอมองผู้ชายด้วยกัน แค่นั้นเอง



เอิ้นค้นพบว่าการแต่งเป็นผู้หญิงช่วยให้เขาไม่ถูกต่อยจากผู้ชายคนไหน แม้จะรำคาญใจที่มีคนเข้าหา แต่นั่นก็ดีกว่ามีคนเข้าหาเขาเพราะคิดว่าเขามองหน้าหาเรื่อง



ย้ำอีกครั้ง เอิ้นไม่ได้อยากเป็นผู้หญิง



และไม่ได้อยากให้คนที่เอิ้นชอบ ชอบเขาในร่างหญิงสาว



เพียงแต่เขาจะบอกโชนได้อย่างไร



แม้จะเคยคิดอยากให้ตัวเองเป็นตัวเอกในบทสนทนา แต่แบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เขาไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงเพื่อให้ใครมารัก ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากให้มีคนรักเขาที่เป็นเขามากกว่า



ถ้าเป็นไปได้ คล้ายจะเป็นไปไม่ได้



ไม่มีผู้ชายที่ไหนรักผู้ชายด้วยกันเหมือนเขาหรอก



เขาไม่คู่ควรกับใครทั้งนั้น



เพราะเช่นนี้ ถึงได้อยู่ตัวคนเดียวมาตลอดไม่ใช่หรือ



“คุณเอิ้น เป็นอะไรรึเปล่า?”



เขาวางสาย



ถอดสายโทรศัพท์



Call 15



โชนไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ เอิ้นถึงตัดสายใส่เขา แม้จะโทรหาอีกกี่ทีก็ไม่มีสัญญาณ ในทีแรก เขาคิดว่าคงมีปัญหาเกี่ยวกับโทรศัพท์ของปลายสาย แต่ปาไปเป็นอาทิตย์แล้ว โชนก็ยังติดต่อเอิ้นไม่ได้ เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงมีปัญหาจริงๆ ปัญหาที่ไม่ได้เกี่ยวกับโทรศัพท์



เขาหงุดหงิดเล็กน้อยที่เดินมาหยอดตู้โทรศัพท์ตั้งไกลแต่กลับไม่ได้คุยกับอีกฝ่ายอย่างที่ตั้งใจ



ครั้นจะไปหา ไปคุยให้รู้เรื่องก็ใช่ว่าจะรู้จักที่อยู่ เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอีกฝ่ายเลยนอกจากชื่อ นึกเสียดายที่ไม่ทำความรู้จักให้มากกว่านี้



แต่โชนไม่คิดว่าอีกคนจะหายไปแบบไม่บอกไม่กล่าวเช่นนี้นี่



แถมเอิ้นเป็นคนบอกเขาเองต่างหากว่าให้โทรมาหาบอ่ยๆ



แล้วเล่นหายไปแบบนี้หมายความว่าไง



โชนถอนหายใจใส่โทรศัพท์ ยกหูวางสายให้กับสัญญาณปลายทางที่ติดต่อไม่ได้ เขาเดินกลับหอ วันนี้ไร้เสียงนุ่มหูที่คุ้นเคยกลับมาด้วย



เอิ้นคิดว่าเขาควรบอกโชน



ไม่ใช่การจู่ๆ ก็หายไปเช่นนี้ อย่างน้อยก็น่าจะหาข้ออ้างดีๆ หน่อย



เอิ้นรู้ตัวว่าตนมีใจให้อีกฝ่าย แต่ยังไงต่อ มันไม่มีทางเลยที่โชนจะหันมาชอบเขา คนพิลึกที่ชอบเพศเดียวกันเช่นเขา ไม่สมควรได้รับความรักจากใคร



เขารักโชน คนที่มอบความสุขแทนที่ความเงียบเหงาให้เขาตลอดมา เพราะโชนทำให้เอิ้นมีชีวิตชีวาขึ้นมาใหม่อีกครั้งในบ้านที่อัดแน่นไปด้วยมวลความเงียบ



ครอบครัวเขาไม่มีใครต้องการร่วมอาศัยกับคนประหลาดเช่นเขา ทุกคนทิ้งเขาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ หนีไปอยู่บ้านใหม่ที่ซึ่งไร้เงาของเขา เอิ้นอยู่ในบ้านหลังนี้กับคุณแม่บ้านและคุณลุงคนขับรถเพียงแค่สามคน แม้ว่าคุณแม่บ้านกับคุณลุงจะปฏิบัติดีต่อเขา แต่ก็ใช่ว่าจะช่วยลดความเหงาในใจลงได้ มีแค่โชน แค่โชนคนเดียวที่ทำให้เขารู้สึกมีตัวตน



เพราะโชนสำคัญ เขาจึงไม่ควรหายไปเช่นนี้



แม้ไม่รู้ว่าโชนจะเป็นห่วงเขาหรือไม่ แต่เอิ้นรู้ว่าการหายไปเช่นนี้เป็นเรื่องไม่สมควร อย่างน้อยในฐานะเพื่อนก็ไม่ควรละเลยกัน



เขาควรบอกโชน



แต่บอกด้วยร่างไหนถึงจะดี



ควรบอกยังไงให้โชนเกลียดเขาน้อยที่สุด...



แล้วเอิ้นก็ตัดสินใจ แปลงร่างเป็นโฉมงาม ออกไปหาปลายสายของหัวใจ



Call 16



เอิ้นเลือกที่จะให้โชนเกลียดเขาในร่างนี้ดีกว่าเกลียดเขาที่เป็นเขาจริงๆ



เสียแต่พอเขามาถึงร้าน นั่งมองซ้ายมองขวาสักพัก โชนก็เดินเข้ามานั่งข้างๆ เอิ้นรู้อยู่แล้วว่าโชนจะเป็นฝ่ายเข้ามาหา เขาตั้งใจใช้โอกาสนี้บอกความจริงกับโชน บอกว่าเขาไม่ใช่ผู้หญิง อย่างน้อยโชนจะได้เลิกยุ่งกับร่างนี้ ส่วนเขาที่เป็นเขาก็จะอยู่รอโชนโทรมาเช่นเดิม



เอิ้นไม่ได้เสียใจหากโชนจะเกลียดเขาในร่างหญิงสาว เพราะแต่ไหนแต่ไรมาตนก็ไม่ได้ชอบแต่งหญิงนัก อย่างที่เคยบอก เอิ้นแค่ต้องเป็นผู้หญิงเพื่อปกป้องตัวเองเท่านั้น



โชนนั่งจ้องหน้าเอิ้นมาสักพักแล้ว โฉมสะคราญได้แต่นั่งเกร็ง สุดท้ายเขาก็พูดไม่ออก สุดท้ายเอิ้นก็ตัดสินใจลุกขึ้น เดินนำออกจากร้าน ทิ้งสายตาบอกให้อีกฝ่ายตามมา เขารอให้โชนเดินตามออกมาคุยกันข้างนอก



ใจนึงนึกถ่วงเวลาออกไปให้อีกฝ่ายรู้ความจริงช้ากว่านี้ อีกใจก็คิดว่าอย่างน้อยถ้าโชนรู้ว่าเขาเป็นผู้ชาย คนในร้านจะได้ไม่มีใครหัวเราะเยาะเขา



พวกเขาเดินออกมาได้สักระยะ ห่าฝนก็เทลงมา…



โชนตกใจที่ห่าฝนโหมกระหน่ำโดยไม่มีบอกกล่าวกันล่วงหน้า เขาไม่มีร่มบดบังสายฝนให้หญิงสาวในตอนนี้ ชายหนุ่มรีบมองหาตัวช่วย ซ้ายขวา



เอิ้นตกใจที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ตอนนี้พวกเขาอยู่ไกลจากร้านที่จากมามากพอสมควร แถวนี้ไม่มีที่ใดพอหลบฝนได้เลย 



นอกจากตู้โทรศัพท์ที่ตั้งอยู่ตรงนั้น...



ไม่รอช้า โชนจับมือเอิ้น พาไฉไลเข้าไปในตู้คับแคบ บดเบียดร่างอรชรไม่ให้โดนสายฝน



เอิ้นนึกขอบคุณที่ตนได้เข้าที่กำบังก่อนที่เครื่องประทินโฉมจะถูกสายน้ำชำระจนสิ้นความงาม ทว่าพอโชนเบียดตามเข้ามาด้วย นั่นทำให้ชายหนุ่มในร่างสาวน้อยสบถในใจนับร้อยครั้ง



บัดซบ!



ตู้โทรศัพท์มีพื้นที่น้อยเกินกว่าสองคนจะอัดอยู่ร่วมกันได้



บัดซบ!



โชนขยับตัวเข้ามาหาเขามากเกินไปแล้ว



บัดซบ!



เขาหวังว่าเสียงของสายฝนจะช่วยกลบเสียงหัวใจที่เต้นดังระรัวนี้ได้



Call 17



โชนขยับตัวเข้ามาอีก ตู้โทรศัพท์ไม่มีประตูปิดกั้น ทำให้แผ่นหลังเขาโชกไปด้วยน้ำฝน เขาเพียงขยับกายเพื่อหนีน้ำเท่านั้น ทว่าไม่ทันได้สังเกตที่อรอนงค์ตรงหน้า ว่าเจ้าหล่อนมีสีหน้าเป็นกังวลเช่นใด



โชนรีบขยับตัวถอยมา



“ขอโทษที ผมไม่ได้ตั้งใจจะแตะตัวคุณ...”



เอิ้นไม่ตอบ ก้มหน้างุด



“คือ...หลังผมเปียกฝน เลยขยับเข้ามา ไม่ได้ตั้งใจจะคุกคามคุณ...” โชนแก้ตัว



เอิ้นไม่ตอบอีกครั้ง แต่เขาขยับถอยเข้าไปชิดข้างในตู้ เพื่อให้อีกฝ่ายมีระยะเข้ามาหลบฝนมากขึ้น



สองคนเบียดกันในตู้โทรศัพท์คับแคบ ใกล้ชิดเสียจนได้ยินลมหายใจของอีกฝ่าย สายฝนภายนอกยังคงโหมกระหน่ำ สายน้ำเย็นเฉียบสายลมเย็นฉ่ำ พัดเข้ามาแทรกกลางระหว่างกายอุ่นของทั้งสอง มีเพียงเสียงฝนที่ดังขึ้นรอบกาย



เอิ้นเริ่มหนาวสั่นจากลมเย็น เขากอดตัวเองไว้ ในหัวมีแต่เรื่องจะบอกความจริงกับโชนอย่างไร จนไม่ทันไม่สังเกตคนตรงหน้า



โชนจับจ้องใบหน้าของหญิงสาวยามไร้แสงสีเคลือบผิวหน้าสวย โฉมงามยังคงงดงามแม้อยู่กลางสายฝน เส้นผมเธอเปียกเล็กน้อยลู่กรอบหน้ารูปไข่ ใบหน้าละมุนดูเป็นกังวลใจ คงเพราะต้องมาอยู่ในที่คับแคบกับคนแปลกหน้าสองต่อสอง โชนพยายามหาเรื่องพูดคุย ไม่ให้ความเงียบที่ก่อตัวขึ้นกลายเป็นความอึดอัด



มองซ้ายมองขวา เขาเห็นเพียงเครื่องโทรศัพท์ แล้วเรื่องราวก็ถูกกล่าวออกมา



“ที่จริง...คุณทำให้ผมคิดถึงเพื่อนคนหนึ่ง”



เอิ้นเงียบ เงยหน้าไปทางต้นเสียง แล้วก็ต้องชะงักกับความใกล้ชิดที่มากเกินกว่าเขาจะคาดไว้ จนแทบกลั้นหายใจ



“ตั้งแต่แรกที่เห็นคุณ ผมนึกถึงคนหนึ่งที่เคยโทรศัพท์ไปแกล้งเมื่อปีก่อน”



“เสียงเขาดูเหงาๆ เหมือนสายตาคุณตอนนี้เลย”



“แล้วรู้อะไรไหม ผมโทรกลับไปที่เบอร์เดิมด้วย และเขาก็ยังอยู่ แถมยังคอยฟังเรื่องของผมอีก”



“ผมไม่คิดว่าจะได้เป็นเพื่อนกับคนแปลกหน้าได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว”



“ประหลาดเนอะว่าไหม”



เอิ้นส่ายหน้า ส่วนอีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ



“อันที่จริง วิธีพูดแบบนี้เพื่อนผมก็สอนมา”



“...”



“เป็นการพูดที่ไม่ต้องให้อีกฝ่ายเอ่ยตอบ แต่สามารถแสดงออกได้”



“คุณไม่ต้องตอบผมก็ได้ ผมจะเล่าไปเรื่อยๆ คุณจะได้ไม่กังวล ดีไหม”



เอิ้นพยักหน้า พร้อมกับก้มหน้าเม้มปากหลบตาอีกคน โชนทำตามคำพูดของเขาทุกประการ เขาคิดว่าวิธีนี้น่าจะช่วยในการจีบหญิงสาวเย่อหยิ่งได้



แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอโชนเอามาใช้กับตัวเอง!



“พอเห็นตู้โทรศัพท์แล้วก็นึกถึงเขา”



“ตอนนี้จู่ๆ ก็ไม่รับสายผม แถมโทรไปก็ไม่ติด”



“คุณคิดว่าเขาเกลียดผมรึเปล่า”



เอิ้นส่ายหน้า



“แต่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงหายไป”



“ผมเสียใจที่ไม่รู้จักเขาเลยนอกจากชื่อ ถ้าเกิดเขาเป็นอะไรผมก็ช่วยเขาไม่ได้เลย ผมนี่เป็นเพื่อนที่แย่เนอะ”



เอิ้นส่ายหน้าอีก



“เขาเป็นคนบอกให้ผมโทรมาบ่อยๆ แท้ๆ”



“แต่จู่ๆ ก็หายไป ผมกังวลมากเลย”



โชนเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนเอ่ยน้ำเสียงเบาบางจนแทบเป็นการกระซิบ “ยังอยากให้ฟังทุกเรื่องราว...”



แล้วฟ้าก็ผ่าเปรี้ยง!





_____________________________



#call123456





หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 2 |7.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-08-2018 04:36:24
จะได้สารภาพความจริงไหมเนี่ย ฟ้าฝ่าลงมาแบบนี้  :ling3:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 2 |7.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: Patsz ที่ 08-08-2018 08:12:31
โอ๊ย ลุ้น จะได้บอกมั้ยว่าไม่ใช่ผู้หญิง แล้วโชนจะรับได้มั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 3 |8.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 08-08-2018 20:52:36
โทรครั้งที่ 3__________________









Call 18



เอิ้นสะดุ้งตัวโยน สบถด่าเสียงฟ้าร้องเป็นครั้งที่ร้อยในใจ ห่าฝนยังคงเทลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เอิ้นตัวสั่นงกๆ ด้วยความตกใจในเสียงฟ้าผ่าและหนาวจากอากาศเย็น



“คุณกลัวเสียงฟ้าผ่าหรือ”



เอิ้นไม่ตอบ กอดตัวเองไว้หลวมๆ



“หนาวหรือ”



เอิ้นไม่ตอบอีกครั้ง เขาแทบจะลืมไปแล้วว่ามาอยู่ที่นี่ทำไม



เขามาเพื่อบอกความจริงกับโชน ไม่ใช่มายืนเบียดกันติดอยู่ในตู้โทรศัพท์เช่นนี้ แต่เขานึกขลาดกลัวขึ้นมา...ในสถานที่คับแคบเช่นนี้ ถ้าจู่ๆ เขาเผยความจริงออกไป โชนจะอัดเขาตายคาตู้โทรศัพท์ไหม...



“คุณ...”



เอิ้นสะดุ้ง เมื่อเสียงที่เขาเชยชอบดังขึ้นข้างหู พลันสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายเอื้อมมือมาโอบรอบเอวตัวเองหลวมๆ เอิ้นจ้องมัน



“คือ...ผมไม่ได้จะแต๊ะอั๋งหรือลวนลามคุณนะ...ผมแค่กลัวคุณหนาว” โชนแก้ตัวตะกุกตะกัก



“เอ่อ ช่างเถอะ เอาเป็นว่าผมขอโทษ...แต่ไม่ได้ตั้งใจจะลวนลามคุณจริงๆ นะ” เขารีบดึงมือตัวเองออกไปไขว้หลัง พยายามทำตัวว่าตนบริสุทธิ์ใจอย่างถึงที่สุด



เอิ้นไม่ได้หวงตัวขนาดนั้น เพราะอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ผู้หญิง เสียแต่ว่าเขากลัวโชนจะจับได้ว่าร่างกายของเขาไม่ได้นุ่มนิ่มแบบหญิงสาว แต่ถึงอย่างไร ตนก็ไม่ได้รังเกียจอ้อมแขนอีกฝ่าย



เอิ้นกอดเอวของโชนไว้หลวมๆ แทนการพูด



หัวใจของโชนเต้นระรัว ตื่นเต้นที่อีกฝ่ายมีปฏิกิริยาตอบกลับแบบนี้ เขาจะเขินตายคาตู้โทรศัพท์อยู่แล้ว



ใครจะคาดคิดเล่าว่า ผู้หญิงที่เขาหมายปองจะมอบอ้อมกอดให้กันเช่นนี้



โชนโอบเอวคอดของโฉมงาม ขยับให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ตัว กลิ่นหอมจากอีกฝ่ายทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ เช่นเดียวกันกับคนถูกกอด เอิ้นลืมตัวไปชั่วขณะว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาคือใคร



เขาเพียงต้องการอ้อมกอดอุ่นจากคนๆ นี้



สายฝนเริ่มซา โชนเอ่ยถาม



“คุณ...มีอะไรจะบอกผมหรือเปล่า”



ดึงสติเอิ้นให้กลับมาในที่สุด



เอิ้นลังเลอย่างถึงที่สุด ใบหน้าแสดงความครุ่นคิด ทั้งๆ ที่ตัดสินใจมาบอกความจริงแท้ๆ ถึงอย่างนั้นกลับไม่อยากพรากจากอ้อมกอดอบอุ่นนี้ไป ถ้าเขาบอกไป อ้อมกอดนี่คงจะสลายไปพร้อมๆ กับคำพูดของเขา



เขาอยากเห็นแก่ตัว เก็บความลับนี้ไว้ตลอดไป แต่เพราะแคร์ความรู้สึกอีกฝ่ายมากเกินไป จึงไม่อยากหลอกลวง



เอิ้นนึกอยากหยุดเวลานี้ให้เป็นนิรันดร



 แต่อย่างไรเสียเวลาก็ไม่มีทางหยุดเดินได้ และเขาจะหลอกโชนตลอดไปไม่ได้



เมื่อเงยหน้าขึ้นมา เขาพบใบหน้าของโชนใกล้เข้ามา ริมฝีปากของเขากับอีกฝ่ายอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ



แม้ไม่เคยรู้จักจุมพิต แต่ในใจรับรู้ได้ว่าเขากำลังจะถูกจูบ



เหมือนถูกกระชากให้เข้ามาอยู่ในโลกแห่งความจริง เอิ้นเงยหน้าจ้องมองอีกฝ่ายอย่างตื่นตระหนก เขารีบผลักโชนออก



ไฉไลวิ่งออกไปท่ามกลางสายฝน



Call 19



“โทรศัพท์ผมเสียน่ะ”



“อือ เสียเป็นอาทิตย์เลย ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกคุณ”



สุดท้าย เอิ้นก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เขาต่อสายโทรศัพท์ใหม่อีกครั้ง รอการโทรมาของอีกฝ่าย สร้างเรื่องโกหกเพื่อหวังให้ตัวเองสบายใจ โชนนึกสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามให้มากความ เพราะไม่ได้คุยกันนานเขาจึงทำการพูดคุยกับอีกฝ่ายแทนเสียมากกว่า



“สบายดีหรือเปล่า”



“ก็ดี...คุณล่ะ” เอิ้นโกหก เขาเป็นหวัดเล็กน้อยจากการวิ่งฝ่าฝนเมื่อครั้งนั้น



“ผมสบายดี” โชนวรรค “คุณรู้อะไรไหม ช่วงที่ติดต่อคุณไม่ได้มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นด้วยแหละ”



“อะไรหรือ”



“ผมได้เจอเธอ ครั้งนี้ได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้นด้วย” อ๋อ เขารู้อยู่แล้ว



“ตอนแรกเหมือนเธออยากจะคุยกับผมที่ผับ แต่สุดท้ายเธอก็ให้ผมเดินตามออกมานอกร้าน” เขารู้อยู่แล้ว



“แล้วพอออกมาได้ไม่ทันไร ฝนก็ตกลงมาโครมใหญ่” รู้อยู่แล้ว



“ผมเลยพาเธอไปหลบฝนที่ตู้โทรศัพท์” รู้แล้ว



“ให้ตายเถอะ คุณรู้ไหม ผมตื่นเต้นมากๆ เลย” รู้...แล้ว?



“เอ๊ะ?” เอิ้นพลันสงสัย เพราะโชนในตอนนั้นไม่ได้ดูตื่นเต้นมากมายอะไร ทว่าความจริงแล้วชายหนุ่มกลับสารภาพว่าใจสั่นจนแทบทนไม่ไหว



“ผมไม่เคยใกล้ชิดเธอขนาดนี้มาก่อนเลย จะบ้าตาย เธอสวยมากๆ”



“หัวใจผมเต้นแรงมากตอนอยู่ใกล้เธอ”



“คุณรู้ไหม เธอกอดผมด้วย”



“หมายถึง...กอดหลวมๆ น่ะ คงหนาวจากอากาศ”



“จริงๆ แล้วผมเป็นฝ่ายกอดเธอก่อน”



“แต่ไม่คิดว่าเธอจะกอดตอบ”



“นี่มันเจ๋งเป้งมากๆ ผมไม่คิดว่าจะมีใครมีโอกาสแบบผมอีกแล้ว”



“คุณว่าผมมีหวังไหม”



“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ” เอิ้นถาม เขารู้ว่าเรื่องที่อีกฝ่ายตั้งใจจะจูบเขา แต่เขาผลักโชนไปเสียขนาดนั้นแล้ว ทำไมโชนถึงยังมีหวังอีก



“จริงๆ...ผมตั้งใจจะจูบเธอ”



คนเกือบถูกจูบหัวใจสั่นระรัวเมื่อนึกถึงภาพเมื่อครานั้น



“แต่เธอดันผลักผมออกแล้ววิ่งออกไป”



“ผมคิดว่าเธอน่าจะเขิน หน้าเธอแดงเป็นลูกตำลึงสุกเลย”



“ผมคงใจด่วนใจเร็วเกินไป”



“คราวหน้าถ้าเจอเธออีก คุณเอิ้นว่าผมควรสารภาพรักกับเธอไหม”



บรรลัยแล้ว เขาต้องรีบบอกความจริงให้อีกฝ่ายรู้!



ให้ไวที่สุด!



Call 20



ในระว่างที่เขาคิดหาทางบอกความจริงกับโชนใหม่ ทั้งคู่ยังคงติดต่อหากันอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่เอิ้นไม่ได้ไปร้านนั้นแล้ว และโชนก็บ่นอุบ

แต่เพราะเมื่อวันก่อนโชนเพิ่งส่งม้วนวิดีโอมาให้เขา ทำให้เอิ้นเลี่ยงบทสนทนาเกี่ยวกับหญิงสาวไปได้ พวกเขาคุยกันถึงเรื่องหนังแทนหญิงงาม ทำให้โชนอารมณ์ดีขึ้นมาได้เล็กน้อย



“ไว้ผมจะส่งอีกเรื่องไปให้นะ เรื่องนั้นก็สนุกเหมือนกัน”



“ได้สิ”



“เอ้อ..คุณเอิ้น”



“อะไรหรือ”



“ผมขออะไรอย่างสิ”



“...”



“ขอที่อยู่คุณได้ไหม ผมไม่สบายใจเลยเวลาคุณหายไป”



“...ไม่ ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอก”



“แต่จู่ๆ คุณก็หายไป ผมติดต่อไปไม่ได้แล้วมันกังวลนะ”



“ผมไม่หายไปแล้ว”



“ผมไม่เชื่อหรอก เกิดโทรศัพท์คุณเสียอีกทำไงล่ะ”



“ถ้างั้น...ถ้าผมหายไป คุณก็เสียบจดหมายไว้ที่กำแพงตรงตึกเดิมก็ได้”



“ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าคุณจะไปเอา”



“ผมจะส่งข้อความบอกไปทางนั้น ดีไหม”



“เฮ้อ ก็ได้”



เอิ้นยิ้ม “ขอบคุณนะ”



“อะไรหรือ”



“ที่ไม่เซ้าซี้” เอิ้นยังไม่พร้อมบอกที่อยู่ของตนให้อีกฝ่ายเท่าใดนัก



“ผมไม่อยากให้คุณไม่สบายใจนี่” โชนยิ้ม



ก่อนวางสายไป



Call 21



เอิ้นไม่อยากให้อีกฝ่ายไม่สบายใจเหมือนกัน เขาถึงได้แต่งองค์ทรงเครื่อง เป็นหญิงสาวอีกครั้ง



ครั้งนี้ต้องไม่ผิดพลาด ต้องไม่ตื่นตระหนก ต้องทำให้ได้



ก่อนที่อีกฝ่ายจะถลำลึก และเกลียดเขาไปมากกว่านี้



เอิ้นสูดหายใจเข้า รวบรวมความกล้า เดินเข้าร้านประจำอีกครั้ง บอกตัวเองในใจเป็นพันครั้งว่าอย่ากลัว โชนไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ต่อให้โชนเกลียดเขาที่เป็นร่างนี้ แต่เขาก็ยังเป็นคุณเอิ้นในโทรศัพท์ของโชนได้อยู่ดี



ไม่เป็นไร ต่อให้ถูกเกลียดก็ไม่เป็นไร



อาจจะถูกต่อย...ก็ไม่เป็นไร



เขาแค่อยากคุยกับโชนไปเรื่อยๆ แค่นั้นเอง



คราวนี้โชนมานั่งรอที่ร้านก่อนอยู่แล้ว เขารู้ว่าอีกฝ่ายมักจะมาที่นี่ทุกคืนวันศุกร์ ถึงแม้ว่าเจ้าหล่อนจะหายไปในอาทิตย์ที่แล้วแต่โชนก็ยังมีความหวังว่าสาวเจ้าจะมา คราวนี้เป็นดังหวัง เมื่อร่างสะโอดสะองเดินเฉิดฉายเข้ามา คนงามกลายเป็นเป้าสายตาได้อย่างง่ายดาย โฉมงามเช่นนี้ ใครก็ใคร่มอง



เอิ้นนั่งลงที่บาร์ประจำ และโชนก็เดินเข้ามาหาแทบจะทันที



เอิ้นสะดุ้ง ตกใจเล็กน้อยที่เจอโชนไวกว่าที่คิด แต่คราวนี้เขาเตรียมใจมาแล้ว เขาจะต้องไม่ตื่นเต้นตื่นตระหนกเหมือนที่แล้วมา



“สบายดีนะคุณ” โชนเป็นฝ่ายเอ่ยถาม เอิ้นพยักหน้าตอบกลับ พยายามทำหน้านิ่ง แม้ในใจจะเต้นรัวเหมือนมีคนมาตีกลอง



“ค็อกเทลสักแก้วไหม ผมเลี้ยง”



เอิ้นส่ายหน้า ปฏิเสธ



“อืม...ผมว่าคุณมีอะไรจะบอกผม ใช่ไหม”



“...” เอิ้นเงียบเช่นเคย เงยหน้าขึ้นมาสบตาสีเข้ม เอิ้นพยักหน้า



“จะบอกอะไรหรือ”



เอิ้นลุกขึ้น



“บอกตรงนี้ไม่ได้หรือ”



ไม่ได้ เอิ้นส่ายหน้า



โชนพยักหน้า ลุกเดินตามคนงามไปอีกครา



Call 22



ครั้งนี้เอิ้นเลือกสถานที่ไม่ไกลจากร้านนัก ที่นี่อยู่ในซอยเล็กๆ ข้างตึกค้าขาย และมีหลังคาผ้าใบคลุมหัว ไม่กลัวว่าฝนจะมาขัดจังหวะอีกแล้ว ท่ามกลางค่ำคืนศิวิไล ดวงดาวพราวนภา มีเพียงสองร่างในสถานที่แห่งนี้



พวกเขาอยู่ด้วยกันตามลำพังอีกครา



โชนเป็นฝ่ายเอ่ยก่อน



“แล้ว...มีอะไรหรือ”



เอิ้นรวบรวมความกล้า แต่ยังคงก้มหน้าเงียบ



“อันที่จริง...ผมก็มีเรื่องจะบอกคุณ”



ฉับพลัน เอิ้นเบิกตาโพลง เขารู้ว่าโชนจะพูดอะไร



“ตั้งแต่ที่ผมได้เจอคุณครั้งแรก...ใจมันก็สั่น...”



เขาจะให้โชนพูดออกมาไม่ได้



“และหลังจากนั้น ผมก็มองแค่คุณมาตลอด”



โชนไม่สามารถรักเขา ทั้งๆ ที่เขาเป็นเช่นนี้ได้ มัน...ไม่ได้!



“ผมคิดว่าผมช...”



“ผมไม่ใช่ผู้หญิง!”



เอิ้นโพล่งออกมา ตัดหน้าคำบอกรักเพียงเสี้ยววินาที



Call 23



“หา...”



“ผม...ไม่ใช่ผู้หญิง”



“เสียงคุณ...”



“ผมบอกแล้วว่าผมไม่ใช่ผู้หญิง” เอิ้นย้ำอีกครั้ง เหตุผลที่เขาไม่คุยกับใครหาใช่เพราะเย่อหยิ่ง แต่เสียงของชายหนุ่มมีหรือจะเล็กแหลมเหมือนหญิงสาว ต่อให้ภายนอกเอิ้นเหมือนผู้หญิงมากแค่ไหน อย่างไรก็ปิดบังกันเรื่องเสียงไม่ได้



“...” โชนนิ่งเงียบ ตกใจกับความจริงที่เกิด



เอิ้นรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องจบเช่นนี้ เขาไม่ได้อยากร้องไห้ เสียแต่อดเสียใจไม่ได้ น้ำตาเอ่อคลอเบ้าตาเขา ดวงตาสุกใสมีหยาดน้ำบางเคลือบไว้ สะท้อนแสงสียามค่ำคืน



ดีแค่ไหนแล้วที่โชนไม่อัดเขาทันทีที่รู้ความจริง เอิ้นคิดปลอบใจตัวเอง



“ฮะๆ คุณจะไม่ใช่ผู้หญิงได้ยังไง”



“...” โชนเอ่ยขำ ไม่คิดว่าสาวงามตรงหน้าจะกลายเป็นชาตรี เขาภาวนาให้ตนหูแว่ว



เสียแต่เอิ้นไม่ยอมให้โชนพลาดความจริงนี้ เขาหลับตา กักกั้นน้ำตาไม่ให้ทะลัก ยกสองมือถอดวิกผมยาวสวยออกมากุมไว้ เผยเส้นผมสั้นทรงผู้ชาย



“ผมไม่ใช่ผู้หญิง...อันที่จริง...ผมไม่ได้ตั้งใจจะหลอกคุณ”



“หมายความว่ายังไง...”



“ผมแค่...แต่งตัวเป็นผู้หญิงเฉยๆ...”



“...คุณ...” โชนมีสีหน้าประหลาดใจ คิ้วเข้มเริ่มขมวดมุ่น



“ผมขอโทษนะ ผมรู้ว่าคุณคงรู้สึกแย่ ต่อจากนี้ผมจะไม่มาที่นี่อีก”



“คุณ...เดี๋ยวก่อน”



“ขอบคุณสำหรับค็อกเทลนะครับ” เอิ้นเอ่ย กลืนก้อนสะอื้นลงคอ น้ำตากลับมาเอ่อคลอเบ้า



เขาหวังว่าเขาจะได้เจอโชนในร่างผู้ชาย และก่อกำเนิดมิตรภาพใหม่อีกครั้ง



ไม่ทันที่เอิ้นจะได้หมุนตัวจากไป โชนจับแขนผอมรั้งไว้ เอิ้นสะดุ้ง ในใจคิดเสียว่าคงโดนต่อยสักตุ๊บ เขาหลับตาปี๋ เตรียมรับการปะทะ



ทว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น



“คุณ...?” เอิ้นเอ่ยด้วยความสงสัย เมื่ออีกฝ่ายจับแขนเขาไม่ปล่อย ทว่าไม่เอ่ยอะไร



“เสียงคุณ...ผมคิดว่าผมคุ้นเสียงคุณ”



“คุณ...คุณคงจำผิดแล้ว” เอิ้นรีบปฏิเสธ



“ไม่หรอก ไม่น่าผิด...”



“ผมไม่เคยเจอคุณ”



“แต่เสียงคุณ...คุ้นมาก...เหมือนมาก”



“เหมือน...ใคร?”



“ผมคุยกับเขาแทบทุกวัน ผมว่าผมจำได้”



“ผม..ผมไม่เคยคุยโทรศัพท์กับคุณเสียหน่อย”



โชนจับจ้องไปที่ใบหน้าของเอิ้นหลังเขาพูดจบประโยค ดวงตาคมจ้องไปในดวงตาอีกฝ่าย คล้ายค้นพบความจริง



“...ผมไม่ได้บอกคุณนี่ว่าผมเคยคุยโทรศัพท์กับคุณ?”



“...”



“ว่าแล้วเชียว...คุณคือ...”



“ไม่! ไม่ใช่”



ก่อนที่จะได้ยินคำถัดไป เอิ้นสะบัดมืออีกฝ่าย ตะโกนปฏิเสธ ยิ่งทำให้น่าสงสัยกว่าเดิม



เขารู้ตัวว่าย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว จึงวิ่งหนีโชนไปยังรถที่จัดเตรียมไว้ให้ตัวเอง



จบสิ้นแล้ว



Call 24



“คุณเอิ้น!”



สิ้นเสียงไล่ตาม เขาเร่งฝีเท้าสุดชีวิต ชุดกระโปรงทำให้เทอะทะในการวิ่ง รองเท้าส้นเตี้ยทำให้เขาลงน้ำหนักตัวได้ไม่เต็มที่ เรียวขาของเขาไม่ได้มีกล้ามเป็นมัดเหมือนนักกีฬา และมันก็สั้นกว่าอีกฝ่ายมากนัก



เขาถูกจับได้อีกครั้ง



เอิ้นหันไปหาโชนทั้งน้ำตา



“ปล่อยผมนะ”



“คุณเอิ้นจริงๆ ใช่ไหม?”



“ปล่อยผมก่อน”



“คุณรู้เรื่องมานานแค่ไหน”



“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ผมไม่ได้จะหลอกคุณ ไม่ได้คิดว่าคนที่คุณพูดถึงคือผม”



“แล้วทำไม...”



“ผมตั้งใจมาบอกคุณ ให้เลิกยุ่งกับ...ผมที่เป็นเธอคนนี้”



“...”



“ผมขอโทษ”



เขาพลาดเอง และทุกอย่างมันก็จบเห่



ทั้งที่ตั้งใจว่าจะเป็นคนธรรมดาที่คุยโทรศัพท์กับโชนต่อไป แต่เขาทำมันพัง เผลอหลุดพูดโง่ๆ ลงไป โชนคงรับรู้แล้วว่าเอิ้นเป็นใคร โฉมงามที่โชนชมชอบกับเขาที่เป็นผู้ชายปลายสายคือคนเดียวกัน



โชนคงรู้แล้วว่าเขามันวิปริต



เขาหมุนตัวจากมา โชนไม่ได้วิ่งตามเมื่อครั้งที่แล้วอีก



โสภาเปิดประตูขึ้นรถ ลาจากสถานที่ที่ชมชอบและคนที่ชื่นชม



เอิ้นกลับมาทิ้งตัวนอนบนเตียงนุ่ม เตียงใหญ่ที่เคยเป็นพื้นที่ที่เอิ้นชอบที่สุด กลายเป็นเพียงพื้นที่ไร้ค่า



เอิ้นนอนคว่ำหน้า คว้าหมอนใบใหญ่มากอดไว้ หลั่งน้ำตา



เขาใช้หมอนแทนไดอารี่ และใช้หยดน้ำตาแทนน้ำหมึก บันทึกความเสียใจ



ร้อยเรียงความเศร้าที่ถาโถมใส่







_____________________________



#call123456
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 3 |8.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-08-2018 21:58:12
บอกไปแล้ว โชนว่าไง  :hao4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 3 |8.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: เพียงเพื่อน ที่ 08-08-2018 22:51:45
สงสารสมัยนั้นจริงๆนะ เรื่องพวกนี้มันร้ายแรงจริงๆในสมัยนั้น  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 3 |8.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 09-08-2018 17:56:01
บอกความจริงไปแล้ว สงสารคุณเอิ้นอ่า  :hao5:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 3 |8.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 09-08-2018 19:08:40
โอ้ยๆ :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 3 |8.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 10-08-2018 19:45:49
เศร้าเลยตอนนี้ สมัยนั้นมันยากจริงๆ
ตอนนี้ต้องให้เวลาโชนสักหน่อย ให้จูนความรู้สึกตัวเองให้ได้
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 3 |8.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 10-08-2018 21:47:04
สงสารคุณเอิ้นจัง เรื่องแบบนี้เมื่อก่อนยากจริงๆ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 3 |8.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 11-08-2018 09:13:59
อย่าทำคุณเอิ้นเสียใจสิ  :mew4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 4 |11.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 11-08-2018 15:06:13
โทรครั้งที่สี่__________________________           

           

Call 25



เอิ้นไม่ได้ถอดสายโทรศัพท์ เขาแค่ไม่ได้รับมัน ปล่อยให้เสียงกริ่งของโทรศัพท์ดังหนวกหูลั่นบ้านอยู่อย่างนั้น จนคุณป้าแม่บ้านทนไม่ไหว ขอร้องให้คุณหนูอย่างเขาทำอะไรสักอย่าง



เอิ้นลุกไปยกสายโทรศัพท์ในขณะที่ยังไม่มีใครโทรมา แล้ววางหูโทรศัพท์ไว้ข้างๆ ตัวเครื่อง



ทำเช่นนี้ก็ไม่มีใครสามารถโทรเข้ามาได้แล้ว



และเสียงรบกวนก็จะหายไป



เสียงรบกวนที่มาจากโชน...



เขาไม่กล้าคุยกับโชนอีกแล้ว แม้ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกลวง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ต่างจากที่เขาหลอกโชนมานาน เขาคิดว่าตนคงถูกรังเกียจแล้วเป็นแน่แท้



ใครเล่าจะรักคนวิปริตอย่างเขา ใครเล่าจะหลงรักผู้ชายอย่างเขา



ไม่มีในโลกหรอก



ขนาดคนในครอบครัวยังรับไม่ได้เลยไม่ใช่หรือ



เอิ้นไม่คาดหวังอะไรแล้ว



เขาปล่อยให้ตัวเองนอนแฉะแบะอย่างแห้งเฉาอยู่บนเตียงใหญ่



Call 26



เอิ้นนึกได้ว่าเขาเคยนัดจะส่งจดหมายหาโชน หากติดต่อไม่ได้...แต่คงไม่สำคัญอะไรแล้ว หากโชนส่งจดหมายมา คงไม่พ้นจดหมายต่อว่า และคำผรุสวาท



ถึงอย่างนั้น อีกใจกลับเรียกร้อง



ต่อให้ต้องโดนด่าทออีกกี่ครั้งก็ตาม ต่อให้ต้องถูกรังเกียจ ถูกติฉินท์นินทาอีกกี่ร้อยครั้ง เขาก็อยากคุยกับโชนอีกอยู่ดี แม้ว่าจะต้องเป็นการคุยผ่านตัวอักษร และเป็นการพูดคุยฝ่ายเดียวก็ตาม



เขาไม่คิดว่าโชนจะตอบจดหมายกลับมา ถึงอย่างนั้นก็ขอให้ได้ส่งก็พอ



เขาจรดปลายปากกาลงในกระดาษ เริ่มเขียนจดหมายถึงคนสำคัญ ใช้เวลาค่อนวันถึงเสร็จสรรพ เอิ้นพับมันไว้ในซอง จ่าหน้าชื่อโชน



เอิ้นไม่ได้รับโทรศัพท์ไปหลายอาทิตย์ เขาออกจากบ้านในรอบอาทิตย์เช่นกัน ตั้งแต่วันที่โชนรู้ความจริง เอิ้นก็เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในบ้าน แม้แต่ห้องสมุดของมหาลัยก็ไม่ยอมไป เป็นที่น่าเป็นห่วงของป้าแม่บ้านและลุงคนขับรถ แต่พวกเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากแสดงความเป็นห่วง



คุณหนูของบ้านเดินลงมาจากชั้นสอง ตามหาคุณลุงรวี



เขาตัดสินใจบอกคนขับรถว่าจะออกจากบ้าน คุณลุงรวีตื่นเต้นดีใจใหญ่ที่คุณหนูของเขายอมขยับตัวแล้ว ชายแก่ไม่สบายใจเวลาเห็นคุณหนูของเขานอนซม จึงได้แต่ดีอกดีใจที่เอิ้นจะออกบ้าน ลุงรวีรีบเตรียมรถให้พร้อม



เอิ้นเองพอแต่งตัวเสร็จก็ขึ้นรถ บอกป้าแม่บ้านว่าไม่นานจะกลับมา



เขาเพียงต้องการไปส่งจดหมายให้โชน



หรือไม่ก็รับจดหมายของโชน...ที่จริงๆ แล้วอาจจะไม่มีสักฉบับเลยก็ได้



แต่เขาคิดผิดมหันต์...



กองจดหมายถูกเสียบไว้ที่ช่องกำแพงจนล้นทะลัก ที่นี่แทบไม่มีคนเดินผ่าน เป็นสถานที่ของเขากับโชนแน่แท้ และกองจดหมายมหึมานี่ เอิ้นค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นของตัวเอง



เขาเอื้อมมือไปหยิบจดหมายซองหนึ่งแบบสุ่ม



แล้วจดหมายที่เหลือก็ร่วงลงมา



Call 27



เขามองจดหมายหลายต่อหลายฉบับที่ร่วงหล่นสู่พื้นเพราะไร้แรงค้ำ เอิ้นพยายามก้มเก็บจดหมายทีละฉบับ พลันสายตาก็เห็นว่าจดหมายทุกฉบับล้วนนั้นจ่าหน้าซองถึงเขา



ใจเอิ้นเต้นระส่ำ



ใจหนึ่งตื่นเต้นที่โชนส่งจดหมายมามากขนาดนี้ อีกใจก็ร่ำร้อง กลัวว่าทั้งหมดนี้จะเป็นจดหมายด่าทอไม่ก็สาปแช่ง



หวังว่าเนื้อหาในจดหมายที่โชนเขียนจะไม่รุนแรงมากนัก



จดหมายฉบับสุดท้ายอยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้ว เอิ้นลุกขึ้น เตรียมจากไปจากที่นี่ เขาตั้งใจจะเก็บจดหมายทุกฉบับไปอ่านที่บ้าน...ที่ห้องของตัวเอง เพราะถ้ามันเป็นจดหมายด่าทอ เขาจะได้ร้องไห้ได้อย่างไม่นึกอายใคร



เอิ้นหมุนตัว เตรียมออกจากตรงนี้



โดยไม่ทันระวัง เขาชนกับใครบางคนอย่างจัง



“ไอ้หยา” อีกฝ่ายร้องเสียงหลง



จดหมายในอ้อมแขนของเอิ้นร่วงกราวสู่พื้นดินอีกครั้ง เอิ้นรีบก้มเก็บของสำคัญ พยายามกวาดมันมารวมไว้ในอ้อมแขน พลันเสียงคุ้นหูก็ดังขึ้นมา



“โทษทีๆ ไม่คิดว่าคุณจะหันมาเร็วขนาดนี้”



แล้วคนก็แปลกหน้าก็ย่อตัวลง ช่วยเขาเก็บซองจดหมายพร้อมยื่นให้เอิ้น เผยใบหน้าสู่ระดับเดียวกัน



โชน!



อีกฝ่ายอมยิ้มจ้องหน้าเขา



“จับได้แล้ว”



Call 28



“ครั้งนี้อย่าคิดจะหนีไปไหนเลยนะคุณเอิ้น”



“ผ...ผิดแล้ว ผม ผมไม่ใช่”



“ไม่ใช่อะไรครับ”



“ไม่ใช่...คุณเอิ้น...อะไรนั่นหรอก ปล่อยผมนะ”



“ถ้าไม่ใช่คุณเอิ้นแล้วเก็บจดหมายทำไม”



“ผมแค่...เห็นว่ามัน...รก...เอ่อ...จะเอาไปไว้ให้อีกที่”



“เหรอครับ”



“อื้อ เดี๋ยวมันเปียกฝนจะทำไง”



“เมื่อไหร่คุณเอิ้นจะเลิกหลอกผมสักที”



“ผมไม่ได้หลอก อ๊ะ...”



ทันทีที่ตอบกลับ เอิ้นรู้ตัวแล้วว่าเขาพลาดให้อีกฝ่ายอีกแล้ว



โชนยิ้มขำ “คุณเอิ้น คิดว่าผมจำคุณไม่ได้งั้นหรือ”



“...”



“หน้าคุณตอนไม่ได้แต่งหน้าก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่นะ แค่ผมสั้นลง แล้วก็...ไม่ได้ใส่กระโปรง”



เอิ้นถอยเตรียมวิ่ง แต่โชนจับต้นแขนเขาไว้แน่นไม่ปล่อย



“เสียงคุณด้วย คิดว่าผมจะจำไม่ได้เหรอครับ คิดว่าจะหลอกผมได้หรือ”



“ผม...เปล่า”



คราวนี้คนทำผิดก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย



“คุณเอิ้น...” โชนส่งเสียงเรียก “ผมโกรธนะรู้ไหม”



เขารู้ ยังไงก็ต้องโดนโกรธอยู่แล้ว เขาทำให้โชนผิดหวัง แถมยังหลอกลวงกันอีก ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม เอิ้นหลับตาปี๋ โชนบอกเองว่าโกรธเช่นนี้ เขาคงโดนต่อยสักหมัด



ทว่ามีเพียงน้ำเสียงตัดเพ้อของคนตรงหน้า



“ไหนคุณบอกว่าจะไม่หายไปไง”



“...”



“ไหนคุณบอกว่าจะเขียนจดหมาย”



“...”



“ผมรอมาตั้งนานรู้ไหม เดินเอาจดหมายมาส่งทั้งๆ ที่ไม่เคยมีฉบับไหนถูกเก็บไป เดินไปหาตู้โทรศัพท์เพื่อให้ผมติดต่อคุณไม่ได้เนี่ย”



“...”



“ผมมารอคุณที่นี่ทุกวันเลย หวังว่าจะมีวันหนึ่งที่คุณจำผมได้ แล้วมาส่งจดหมายถึงกัน”



“...”



“ผมรอมาตั้งนาน โดดเรียนไปหลายรอบเลยด้วย”



“...”



“หนีผมทำไมครับ”



เอิ้นเงยหน้าลืมตาขึ้นมาสบตาอีกฝ่าย ตัวสั่นระริก



Call 29



“คุณเอิ้น?”



“ผมขอโทษ”



โชนไม่ตอบ จับแขนอีกฝ่ายไว้แน่นเช่นเดิม ถอนหายใจ



“ผมไม่โกรธแล้วก็ได้ แต่คุณเอิ้นต้องบอกผมก่อนว่าหนีผมทำไม”



“ผม...” เอิ้นพูดติดๆ ขัดๆ พยายามเรียบเรียงคำพูดในหัว “ผมเป็นแบบนี้...คิดว่าคุณโชนคงรังเกียจ”



“แบบไหน?”



“ก็ที่...แต่งตัวเป็นผู้หญิง”



“ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยที่คุณเอิ้นเป็นกะเทย”



“ผมไม่ได้เป็น!” เอิ้นขึ้นเสียง ก่อนตอบอ้อมแอ้ม “ขอโทษครับ”



“โอเคๆ ไม่ได้เป็นกะเทยก็ได้...แล้วเป็นอะไรล่ะ ตุ๊ด?”



“ผมไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น”



“...”



“คำนิยามต่างๆ ที่พวกคุณพยายามยัดเยียดมาให้มันสำคัญด้วยหรือ”



“...”



“เมื่อสุดท้ายผมก็เป็นคน”



Call 30



“ผมขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะว่าคุณอย่างนั้น”



โชนดึงตัวเอิ้นเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ลูบหลังเขาเบาๆ เอิ้นสะดุ้ง แต่ผลักอีกฝ่ายไม่พ้น โชนแรงเยอะกว่าเขา คนตัวเล็กจึงได้แต่ดิ้นขลุกขลักด้วยความตกใจ



“ช่างมันเถอะ ผมชินแล้ว” เอิ้นบอกเสียงสั่น เลิ่กลั่กอยู่ในอ้อมกอดของโชน เขาไม่เคยถูกใครกอดมาก่อน แล้วจู่ๆ ก็มาถูกกอดเช่นนี้ เขาไม่รู้ต้องทำตัวเช่นไร



“อย่าโกรธผมนะคุณเอิ้น”



“ผม...ไม่ได้โกรธ คุณ...ปล่อยก่อน”



“ทำไมล่ะ”



“มันแปลก...เราเป็นผู้ชายเหมือนกัน...มายืนกอดกันแล้วมัน...”



“คุณเอิ้นบอกเองไม่ใช่เหรอว่ายังไงเราก็เป็นคน”



“...”



“ขอผมกอดอีกแป๊บนึงนะ คิดถึงมากเลย”



“...”



เอิ้นหาเสียงตัวเองไม่เจอ ได้แต่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ในอ้อมแขนอุ่น ซบหน้าลงกับไหล่กว้าง โชคดีที่บริเวณนี้ไม่มีคนผ่าน ไม่อย่างนั้นล่ะก็เอิ้นต้องเขินจนจมดินแน่ๆ หรือไม่ก็โดนคนมองอย่างหยามเหยียด



คนตัวเล็กขบคิดพลางเริ่มดิ้นขลุกขลักอีกครั้ง เขาเริ่มกลัวว่าจะมีคนมาเห็น ไม่ว่าทางไหนก็แย่ทั้งนั้น



“คุณ...ปล่อยผมก่อน”



“ผมปล่อยก็ได้ แต่คุณเอิ้นห้ามหนีนะ”



“อือ” เขารับปาก และโชนก็ค่อยๆ คลายอ้อมกอดลงอย่างนึกเสียดาย เอิ้นตัวอุ่น ขนาดตัวกำลังพอดี ถึงจะผอมไปนิด แต่โชนชอบที่มีเอิ้นอยู่ในอ้อมแขน



“ผม...” โชนเริ่มเอ่ยก่อน “ไม่ค่อยเข้าใจที่คุณเอิ้นทำเท่าไหร่...หมายถึง...ตอนที่อยู่ในร้านนั้น”



“ผมมันก็แค่คนวิปริต”



“อย่าว่าตัวเองอย่างนั้นสิ ผมอยากรู้ว่าคุณเอิ้นทำไมถึง เอ่อ...แต่งตัวเป็นผู้หญิง”



“...ผมชอบผู้ชาย” เอิ้นตัดสินใจบอกโชน อย่างไรเสีย ที่เขาตั้งใจมาที่นี่ก็เพื่อเก็บความทรงจำครั้งสุดท้ายที่มีต่อโชน ถึงแม้ว่าโชนจะรู้ความลับอันน่าเกลียดของเขาเพิ่มไปอีกอย่างก็คงไม่เป็นไร เขาไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว



เอิ้นสูดหายใจเข้า กล่าวต่อ “แต่ผมไม่ได้อยากเป็นผู้หญิง”



“ที่แต่งตัวเป็นผู้หญิงก็เพื่อไม่ให้มีคนสงสัยเวลาผมมองผู้ชายด้วยกัน”



“ผู้ชายมองผู้ชาย เขาว่าน่าขยะแขยง”



“แต่พอผมเป็นผู้หญิง ก็ไม่มีใครว่าอะไรอีก”



“ผมเลยแต่งตัวแบบนั้น เพื่อไม่ให้เป็นเป้าสายตาใคร”



“หรือถูกใครทำร้าย..”



“แค่นั้นเอง...ครับ”



โชนยืนนิ่ง รับรู้เรื่องราว



“คุณเอิ้นไม่เคยบอกผมเลย” โชนกล่าวออกมาเป็นคำแรกหลังจบคำอธิบายของเอิ้น



“ผมไม่เคยบอกใคร มันน่าขยะแขยง ผมเป็นผู้ชายนะ แต่มาแต่งตัวแบบนี้มัน...”



“ก็น่ารักดีออก”



“เอ๊ะ...!?”



“ผมหมายถึง...ก็น่ารักดี...ตอนคุณเป็นผู้หญิงน่ะ”



“คุณบ้าไปแล้วหรือ”



Call 31



“เปล่านะ ผมแค่พูดตามจริง”



“คุณมาบอกผมว่าน่ารัก ทั้งๆ ที่ผมเป็นผู้ชายเนี่ยนะ”



“ก็คุณน่ารักจริงๆ นี่”



“คุณ!”



“ขนาดหน้าแดงเป็นตูดลิงยังน่ารักเลย”



“ผมไม่ขำด้วยหรอกนะ”



“ผมไม่ได้พูดให้ขำเสียหน่อย”



“แต่...”



“เอาเป็นว่า คุณเอิ้นมายังไงครับ”



“หา?”



“มาที่นี่ยังไง”



“ผม...ให้คนขับรถมาส่ง”



“แล้วเขายังอยู่ไหม”



“จอดรถอยู่ซอยข้างๆ” เอิ้นบอก ซอยนี้แคบเกินไป รถจอดขวางไม่ได้ เอิ้นเลยให้คุณลุงรวีจอดรอยังซอยข้างๆ แทน



“งั้นไปกัน”



“หา”



“ไปบอกคนขับรถคุณว่าคุณจะไปเที่ยวกับผม”



“เดี๋ยว...เดี๋ยวสิ”



โชนไม่ว่าเปล่า เขาช่วยเอิ้นหอบจดหมายของตนเดินนำไปยังซอยข้างๆ อย่างที่เจ้าตัวบอก



“คุณโชน ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไปกับคุณ”



“ถ้าคุณเอิ้นไม่ไป...งั้นผมจะลักพาตัวคุณเอิ้นนะ”



“หา”



“เร็วเข้า ถ้าไม่ไปบอกคนที่บ้านคุณ ผมก็จะอุ้มคุณหนีไปตอนนี้เลย”



“จะบ้าเหรอ”



“ไม่บ้าครับ ตกลงจะเอาอย่างนี้ใช่ไหม ให้ผมลักพาตัว”



“ไม่ๆๆๆ” เอิ้นปฏิเสธรัว และสุดท้ายเขาก็ยอมเดินไปหาคุณลุงรวีอย่างงุนงงในคำขู่ของโชน เอิ้นไม่คิดว่าโชนจะลักพาตัวเขาได้หรอก มันบ้าบอสิ้นดี แต่ในใจก็คิดว่าโชนอาจจะทำจริงก็ได้...



“คันนี้ใช่ไหม”



“ใช่...” เอิ้นตอบด้วยความเหนื่อยอ่อน เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรแล้ว



โชนเคาะกระจกรถสองสามที กระจกรถก็ถูกลด



“คุณลุงครับ ผมเป็นเพื่อนกับคุณเอิ้น บังเอิญเจอกันเลยจะพาเขาไปเที่ยวสักพัก คุณลุงกลับไปได้ก่อนเลยครับ”



“หา พ...เพื่อนคุณเอิ้น?”



“...เพื่อนผมเองครับลุงวี” เอิ้นตอบ เขาเคยมีเพื่อนที่ไหนกัน ลุงวีเองก็คงแปลกใจ แต่เอิ้นไม่อยากให้คุณลุงรวีที่แก่แล้วต้องมาตกใจ และไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เลยพยายามยืนยันอีกครั้งว่าเป็นเพื่อนที่มหาลัยที่ไม่ได้เจอกันมานาน



“ผมฝากจดหมายให้คุณลุงเอากลับบ้านก่อนนะครับ ส่วนคุณเอิ้นเดี๋ยวเย็นๆ ผมค่อยพาเขากลับ” โชนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม หยิบกองจดหมายยื่นให้คุณลุงในรถรับไว้



“โอ้ อย่างนั้นรึ งั้นลุงฝากคุณหนูด้วยนะ”



“ได้ครับ”



ว่าจบ รถคันหรูก็แล่นจากไป...



Call 32



โชนหันมายิ้มแฉ่งให้เอิ้น แต่เอิ้นไม่ได้ยิ้มกลับ เขาทำหน้าบู้



“คุณทำแบบนี้ทำไม”



“ผมอยากรู้จักคุณเอิ้นมากกว่านี้นี่ครับ”



“ทำไม...?”



“ไม่รู้สิ...”



“ผมไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณนะ”



“คุณเอิ้น ผมไม่รู้จริงๆ ว่าทำไม ผมแค่ไม่อยากให้คุณเลิกติดต่อกับผมแบบนี้ อย่างน้อยผมก็ยังอยากเป็นเพื่อนคุณนะ”



“ทั้งๆ ที่ผมเป็นแบบนี้น่ะหรือ...”



“แบบไหนครับ ที่แต่งหญิงกับชอบผู้ชายน่ะหรือ”



“อือ...”



“สำคัญตรงไหน ในเมื่อคุณเอิ้นบอกเองแท้ๆ ว่าคุณก็เป็นคน”



“ผมพูดแบบนั้นก็จริง...แต่คนทั่วไปเขาไม่ยอมรับนี่”



“เอาเป็นว่าผมยอมรับแล้วกันนะ”



“ทำไมล่ะ”



“ผมอยากคุยกับคุณเอิ้น”



เอิ้นไม่เข้าใจ ที่ผ่านมาเขาไม่มีเพื่อน พอทุกคนรู้ว่าเขาชอบเพศเดียวกัน ทุกคนก็พลันถอยหนีราวกับเขาเป็นตัวเชื้อโรค เอิ้นไม่มีเพื่อน ไม่มีใครอยากทำความรู้จัก และถึงแม้ว่าเขาจะออกไปนั่งเล่นที่ผับทุกอาทิตย์ แต่เขาก็กลัวการผูกมิตรใหม่



เอิ้นไม่คิดว่าการที่เขาเป็นแบบนี้จะเป็นที่ยอมรับของใครต่อใคร



เขาเลยสับสนกับการกระทำของโชน มากถึงมากที่สุด



เสียแต่โชนไม่สนใจ เขาจับมือเอิ้น จูงไปยังปากซอย



เอิ้นรีบสะบัดมือทิ้ง



“ผู้ชายจับมือกัน มันประหลาด” เอิ้นอ้าง โชนยักไหล่



ขยับมาเดินใกล้ๆ คนตัวเล็กกว่าแทน



Call 33



“ไปดูหนังกันไหม”



“เอ๊ะ?”



“หรือคุณเอิ้นหิว ไปหาอะไรทานกันไหม”



“เอ๊ะ?”



“หรือไปสวนสัตว์”



“หา”



“คุณเอิ้นสนใจไปตลาดไหม”



“เดี๋ยวสิ”



“อยากไปไหนครับ”



“...” เอิ้นเงียบ จับจ้องใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยความงุนงง เขาไม่รู้จะทำตัวเช่นไรเมื่ออยู่กับโชนสองต่อสองเช่นนี้ มือไม้ทุกอย่างดูเกะกะไปหมด และเขาก็คิดไม่ออกเลยสักนิดว่าต้องการไปที่ไหน



“เอาไปว่าไปหาอะไรทานก่อน ผมรู้จักร้านอาหารดีๆ แถวนี้ ตกลงไหมครับคุณเอิ้น”



“อ่า อื้อ”



โชนพาเขามาที่ร้านอาหารอย่างที่กล่าว ตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้ว แต่เอิ้นไม่ค่อยหิว เลยสั่งเพียงขนมทานเล่นเท่านั้น



ส่วนคนพามาดันรีบโซ้ยข้าวตัวเองเสร็จก็นั่งดูเอิ้นเคี้ยวขนมอย่างเพลินตา



“คุณ...มองอะไร”



“ผมว่าคุณเอิ้นหน้าตาน่ารักดี”



เอิ้นหน้าแดง



“ตอนเป็นผู้หญิงก็สวยพริ้ง ไม่แปลกหรอกถ้าผมจะชอบ”



“คุณโชน...อย่าพูดถึงมันอีกเลย”



“ทำไมล่ะครับ คุณเอิ้นเป็นรักแรกผมเลยนะ” โชนหัวเราะขำ



เอิ้นไม่ขำตาม เขาเอ่ยถามแทน “คุณโชน...ทำแบบนี้ทำไม”



“หืม แบบไหนหรือ”



“ที่ชวนผมมาอย่างนี้”



“ผมบอกแล้วว่าอยากรู้จักคุณเอิ้นมากกว่านี้ ขืนผมปล่อยคุณไป คุณก็จะหนีไปอีก”



“...”



“ผมไม่ชอบเลย...”



“...”



“ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่ผมชอบที่ได้คุยกับคุณเอิ้นนะ และก็ชอบที่ได้มองคุณเอิ้น...ตอนเป็นผู้หญิงด้วย”



เอิ้นเม้มปาก หน้าแดงอีกครั้ง เอ่ยอุบอิบ “ผมเป็นผู้ชาย”



“อืม ผมรู้แล้ว...ตอนนี้ผมก็ชอบมองที่คุณเอิ้นเป็นผู้ชายแบบนี้แหละ”



จบประโยค เหมือนเอิ้นโดนค้อนทุบหัวใจอย่างจัง แรงทุบรุนแรงจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่



หัวใจที่ว่าเต้นระรัวเมื่อได้คุยกับโชนนั้น ตอนนี้พลันเต้นแรงมากขึ้นเท่าทวีคูณ





_______________________






#call123456
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 4 |11.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 11-08-2018 15:24:01
เขินนนนนน :-[
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 4 |11.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 11-08-2018 17:17:21
สายหยอด !
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 4 |11.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 11-08-2018 21:18:04
หน้าแดง ม้วนกันไปเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 4 |11.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 11-08-2018 22:35:34
เขินแทนคุณเอิ้นนนนนนนนนนนนนน :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 4 |11.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 11-08-2018 22:59:38
เขินนนน  :o8:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 4 |11.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 12-08-2018 00:32:51
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 4 |11.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 12-08-2018 00:50:47
โชนรุกใหญ่เลยทีนี้
ไม่ต้องจูนความรู้สึกแล้วจ้า รับได้ที่เอิ้นเป็นทุกอย่างเลย
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 4 |11.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-08-2018 03:07:18
ระทวยจนเดินไม่เป็นแล้ว  :katai5:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 4 |11.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 12-08-2018 07:11:32
เอิ้นมั่นใจในดัวเองหน่อยนะ สู้ๆ :3123: :3123:

+1 เป็ดให้เอิ้น
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 4 |11.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 12-08-2018 17:20:44
โชนหยอดเก่ง เป็นเรา เราก็ม้วน >////<
ในความเขิน เรายังเอ๊ะ! นั่นสมัยก่อน จะเป็นยังไงต่อนะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 5 |14.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 14-08-2018 16:38:20
โทรครั้งที่ห้า______________________







Call 34



หลังจากทานข้าวเสร็จ โชนพาเอิ้นไปเดินเล่นตามทางเดิน ผ่านสวนสาธารณะ โชนเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาของเขาให้เอิ้นฟัง เป็นการเล่าเรื่องต่อหน้าครั้งแรกที่ไม่ผ่านการโทรศัพท์ น้ำเสียงของโชนยามที่ไม่ถูกกรองผ่านเส้นสัญญาณช่างนุ่มทุ้มน่าฟัง เอิ้นปล่อยให้โชนเล่าส่วนตนเป็นผู้รับฟังอย่างตั้งใจ



“พอไม่มีเรื่องสาวก็ไม่รู้จะปรึกษาอะไรคุณเอิ้นเลยแฮะ”



“...อันที่จริง ผมรับปรึกษาเรื่องนี้ได้ไม่ดีหรอก”



“ดีสิ เพื่อนผมไม่มีใครให้คำแนะนำดีๆ แบบคุณเอิ้นเลยสักคน”



“พวกเขาว่าอะไรหรือ”



โชนส่ายหน้า “พวกนั้นบอกว่าคุณเอิ้นสวยไป ไม่สนใจผมหรอก ให้ตัดใจ”



“...”



“แต่คุณเอิ้นไม่ได้พูดอย่างนั้น...”



“...ผมแค่...” เอิ้นไม่รู้จะบอกยังไง เขาไม่ได้เห็นคนที่โชนชมว่าสวย ตัวเขาที่อยู่ห่างๆ จึงได้แต่ให้กำลังใจโชน เพียงเพราะไม่ได้อยู่เคียงข้าง เลยอยากสนับสนุนอะไรเล็กๆ น้อยๆ ผ่านสายโทรศัพท์เท่านั้น



แต่ถ้าเอิ้นรู้ว่าโชนหมายถึงตน เขาก็คงบอกให้โชนเลิกสนใจเหมือนกัน



“อืม...คงต้องเปลี่ยนเรื่องแล้ว” สงสัยเพราะเอิ้นเงียบไปนาน โชนจึงพูดขึ้นตัดความเงียบ หาหัวข้อใหม่



“...”



“ผมถามเรื่องคุณเอิ้นบ้างได้ไหม”



“หืม”



“ตอนนี้คุณรู้ทุกอย่างของผมแล้วนี่ ผมเป็นนักศึกษาอยู่มหาลัยไหน เรียนคณะอะไร พักอยู่ที่ไหน เมื่อก่อนเป็นยังไง คราวนี้ตาคุณเอิ้นเล่าบ้างสิ”



“...เรื่องของผม...ไม่น่าสนใจขนาดนั้นหรอกครับ”



“เล่ามาเถอะนะ ผมอยากฟัง...”



เอิ้นถอนหายใจ เหลือบมองคนข้างๆ ที่ฉีกยิ้มหน้าแป้น รอฟังเรื่องราว



เอิ้นคิดว่าคราวนี้คงหาทางปฏิเสธไม่ได้แล้ว แต่อีกใจหนึ่งเขาก็อยากให้มีใครสักคนรับรู้เรื่องราวของเขาบ้าง ที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีเพื่อน จึงไม่เคยเล่าเรื่องของตัวเองให้ใครฟัง



หัวใจเอิ้นเต้นผิดจังหวะไปสักพักด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะเริ่มเอ่ย



“ผมเป็นลูกคนเล็ก...”



“พอพ่อแม่และพี่ๆ รู้ว่าผมชอบผู้ชาย ผมก็ถูกทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว”



“ส่วนพวกเขาก็อยู่บ้านอีกหลัง ไกลออกไปอีก”



“ผมไม่เป็นที่ยอมรับ ทั้งในสังคมและครอบครัว”



“ไม่มีใครอยากรู้ว่าผมต้องการอะไร หรือทำอะไรอยู่”



“พวกเขาปล่อยผมไว้ รอวันให้ผมตายอย่างโดดเดี่ยว”



“มีแค่ป้าภากับลุงวีที่คอยดูแลผม”



“พอคุณแกล้งโทรผิดมาผมเลยดีใจที่มีคนอื่นให้คุยบ้าง”



“แค่นั้นแหละ จบแล้ว”



“เดี๋ยวสิ” โชนร้อง “แล้วเรื่องก่อนหน้านี้ล่ะ ที่โรงเรียน สมัยมัธยม วีรกรรมต่างๆ”



เอิ้นเงียบ



และโชนก็รับรู้คำตอบได้ในความเงียบ



“ผมขอโทษ ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะ”



Call 35



ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว โชนจึงเปลี่ยนเรื่องไม่ให้เอิ้นหงอยไปมากกว่านี้



“บ้านคุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมไปส่ง”



“เอ๊ะ”



“บอกที่อยู่มาซะดีๆ” โชนเอ่ยเสียงทะเล้น ส่วนเอิ้นเบะปาก



“คุณส่งผมแถวนี้ก็ได้ เดี๋ยวผมให้ลุงวีมารับ”



“แล้วคุณเอิ้นจะบอกคุณลุงยังไง แถวนี้ไม่มีตู้โทรศัพท์นะ”



“ผมมีโทรศัพท์มือถือ”



“...”



โชนจ้องมองเอิ้นตาเขม็ง เขานึกว่าทำให้อีกฝ่ายโกรธอีกแล้ว



“คุณเอิ้นไม่เห็นบอกเบอร์มือถือให้ผมเลย”



“ผม...ผมแค่คิดว่าไม่จำเป็น คุณโทรมาตอนผมอยู่บ้านอยู่แล้วนี่”



“แต่ถ้าผมโทรเข้ามือถือก็จะเป็นส่วนตัวมากกว่าใช่ไหมล่ะ”



“...”



“แถมยังเป็นเบอร์สำรองได้ด้วย ถ้าคุณเอิ้นไม่ยอมรับโทรศัพท์บ้าน”



“ผมอยู่บ้านตลอด...”



“ไม่ให้แก้ตัวแล้วครับ ผมจะไปส่งคุณเอิ้นที่บ้าน”



“แต่...”



“ห้ามปฏิเสธด้วย”



สุดท้ายเขาก็ต้องยอมบอกที่อยู่ตนให้อีกฝ่ายเพราะทนแรงรบเร้าไม่ไหว คราวนี้เขาชิ่งวางสายหนีก็ไม่ได้แล้วด้วยเพราะไม่ได้โทรคุยกัน ที่อยู่ของเอิ้นไกลจากตรงนี้ไปเล็กน้อย พวกเขาจึงโบกรถสองแถวให้มาส่งหน้าหมู่บ้านเอิ้นแทน



“ผมกลับเองได้ คุณกลับเถอะ เดี๋ยวมืดกว่านี้จะอันตราย”



“บอกแล้วไงครับ ผมอยากไปส่งคุณเอิ้นถึงหน้าบ้าน”



“แต่...”



“ผมยังอยากอยู่กับคุณนะ ไปเถอะ”



เอิ้นยอมทำตาม เดินนำไปยังบ้านของตน ระหว่างทางโชนหาเรื่องพูดคุยไปเรื่อยไม่ให้เกิดความเงียบขึ้นระหว่างพวกเขา โชนกลัวเอิ้นจะอึดอัดที่ต้องอยู่กับเขาตามลำพัง รวมไปถึงต้องการแสดงให้เอิ้นเห็นถึงความจริงใจที่ตนมี เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายกับเอิ้น ถึงแม้ว่าเอิ้นจะแตกต่าง



ระหว่างทางเดินจากหน้าหมู่บ้านไปยังบ้านเอิ้น โชนก็ชวนคุย



 “คุณเอิ้นอยากลองชิมไอศกรีมที่เปิดใหม่ใกล้ม.ผมดูไหม ไว้ผมพาไป”



“จริงๆ ไว้สักวันเราไปดูหนังด้วยกันเถอะ”



“มีอะไรหลายอย่างที่ผมอยากทำกับคุณเอิ้นเยอะแยะไปหมด”



เอิ้นไม่ได้ตอบ อันที่จริงเขาคุยแข่งกับอีกฝ่ายไม่ทันเลยปล่อยให้โชนพูดคนเดียว



ยังไม่ทันจบเรื่องพูดคุยของโชน สุดท้าย ก็มาถึงหน้าบ้านของเอิ้น



“โห บ้านคุณเอิ้นหลังใหญ่จัง”



“...”



“อยู่คนเดียวต้องเหงาแน่ๆ ใช่ไหม”



“ผมชินแล้ว...”



“ไว้ผมจะโทรมาหาบ่อยๆ นะ โทรหาคืนนี้เลย คราวนี้รับสายด้วย”



“...”



“ถ้าไม่รับ ผมมาบุกถึงบ้านคุณแน่”



“...”



“ไม่เชื่อผมเหรอ”



“เชื่อแล้ว คุณกลับไปได้แล้ว”



โชนยกยิ้ม “หลังจากนี้คุณหนีไม่ได้แล้วนะ”



“...” เอิ้นไม่ตอบ ก้มหน้าหนีสายตาทะเล้นของอีกฝ่าย



“เราถือว่ารู้จักกันมานานแล้วเนอะคุณเอิ้น



“...อืม ก็นาน...มั้ง” เอิ้นคิด...ถ้านับรวมระยะเวลาที่โชนโทรคุยมาตลอดก็ถือว่าค่อนข้างนานพอสมควร



“รู้จักชื่อแล้ว เห็นหน้ากันแล้ว รู้ความลับแล้ว ไปเที่ยวด้วยกันแล้ว แถมผมยังมาส่งที่บ้านคุณได้อีก”



“...”



“จากนี้ไปเราเป็นเพื่อนกันนะ” โชนเอ่ยพร้อมรอยยิ้มดุจแสงตะวัน



เอิ้นพยักหน้ารับ เขาไม่มีทางปฏิเวธความสัมพันธ์นี้หรอก ซ้ำยังดีใจด้วยซ้ำที่มีคนยอมเป็นเพื่อนกับคนอย่างเขา ก่อนที่เอิ้นจะเปิดประตูรั้วเข้าบ้านไป เขาชะงักพลันนึกขึ้นได้ถึงเรื่องสำคัญบางอย่าง หันมาบอกกับโชน



“อันที่จริง...ผมเป็นพี่คุณนะ”



Call 36



เอิ้นกับโชนกลับมาคุยกันผ่านโทรศัพท์เช่นเดิม โชนต้องรีบเร่งเรียนให้ทันเพื่อน เหตุเพราะมัวแต่วุ่นเรื่องเอิ้นจนไม่เป็นอันตั้งใจเรียน เขาเลยไม่มีเวลาไปหาเอิ้นอย่างที่ใจนึก



หลังจากตอนนั้นที่โชนกลับไป เขาโทรมาหาเอิ้นแล้วรีบพูดใส่



“คุณแก่กว่าผมงั้นหรือ”



“ใช่ ผมเรียนป.โทแล้วน่ะ”



“แล้วผมต้องเรียกว่าพี่ไหม พี่เอิ้นๆๆ”



“พอแล้ว หยุดเลย เรียกแบบเดิมนั่นแหละ”



เอิ้นดีใจที่ได้กลับมาคุยกับโชนอีก แค่ในฐานะเพื่อนก็ดีแล้ว จะมีสักกี่คนที่ยอมรับเขาได้ขนาดนี้



“พี่เอิ้น~”



“หยุดเลยนะ!”



อันที่จริง เอิ้นอยากให้โชนเรียกตนว่าพี่นั่นแหละ เสียแต่พอโชนเรียกจริงๆ เขากลับไม่ชิน และเขินขึ้นมาเสียอย่างนั้น เขาคุ้นชินกับคำเรียกแบบเดิมมากกว่าและขอร้องให้อีกฝ่ายอย่าเปลี่ยนมัน



เพราะจะเป็นเขาเองที่จะเขินจนทนไม่ไหว



“คุณเอิ้น”



“หืม”



“เรียกผมว่าโชนบ้างสิ”



“ไม่เอา...”



“ทำไมล่ะ เป็นเพื่อนกันแล้วนะ”



“เป็นเพื่อนแล้วเรียกคุณไม่ได้หรือ”



“มันก็จะดูไม่สนิทสนมกันน่ะสิ”



“ก็...” เอิ้นเว้นวรรคยาว แม้จะรู้จักกันนานแต่ก็ยังไม่สนิทกันจริงๆ น่ะสิ ถึงได้ไม่กล้าเอ่ยเพียงชื่อธรรมดา เอิ้นกลัวว่ามันจะดูเสียมารยาท “เรียกแบบนี้แหละ”



“โถ่ คุณเอิ้น”



“ครับ คุณโชน”



Call 37



“คุณเอิ้น เย็นนี้ไปดูหนังกัน” หลังจากที่โชนได้เบอร์โทรศัพท์มือถือขเอิ้นมา เขาก็สามารถโทรหาอีกฝ่ายได้ทุกเวลา ไม่แค่เฉพาะตอนเย็น หรือค่ำๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว



“ผมไม่ว่าง”



“ทำอะไร”



“ทำวิจัย”



“พี่เอิ้น...”



“หยุดทำเสียงอย่างนั้นเลยนะ”



“คุณเอิ้นไม่อยากไปดูหนังกับผมเหรอ”



“อย่างอแงสิคุณ ผมต้องทำงานนะ คุณไม่มีงานหรือไง”



เอิ้นมายืนรออีกฝ่ายที่หน้าโรงหนัง



เขาล้มเหลวในการเถียงอีกฝ่าย อันที่จริง ในใจลึกๆ เอิ้นเองก็อยากเจอโชนเช่นกัน เขาไม่ได้เจอกันมาเกือบอาทิตย์แล้ว



โชนมาถึงหลังจากนั้นห้านาที



“เอิ้นอยากดูเรื่องอะไรไหม”



“ไม่อ่ะ คุณเลือกเถอะ”



 “โอเค งั้นดูเรื่องนี้กัน”



พวกเขาใช้เวลาหลังดูหนังเสร็จไปกับการวิพากษ์วิจารณ์ตัวหนังในร้านอาหาร โชนเป็นคอหนังสุดฤทธิ์ เขาเก็บแทบจะทุกรายละเอียดของตัวหนัง ไม่ว่าจะเป็นการแสดง การจัดแสง การตัดจังหวะ รวมไปถึงเสื้อผ้าและฉากประกอบ



เอิ้นไม่ได้ชอบดูหนังเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนั้น



แต่เขาก็ไหลตามน้ำไปกับอีกคน



เพียงเพราะอยากคุยด้วยนานๆ



Call 38



เอิ้นเริ่มไม่เข้าใจว่าโชนทำเช่นนี้ทำไม หลังจากที่โชนชวนเขาดูหนังครั้งก่อน ไม่กี่วันถัดมาโชนก็ชวนให้เอิ้นมาเจอกันในอาทิตย์นี้ แม้โชนจะเคยบอกชอบเอิ้น แต่เอิ้นไม่แน่ใจเลยสักนิดว่ามันเป็นคำว่าชอบแบบชู้สาว เอิ้นคิดว่าโชนคงชอบแบบเพื่อน หรืออารมณ์เจอของแปลกเลยชอบ ไม่ก็คงเป็นการหยอกล้อกัน ไมได้ลึกซึ้งอะไร



เพียงแต่การโทรคุยกันที่ถี่ขึ้นและนัดเจอกันบ่อยครั้งทำให้เอิ้นเริ่มไม่มั่นใจ



แต่เขาก็ตกลงทุกนัดที่โชนชวนอยู่ดี



เอิ้นมารอที่นัดหมายก่อนเวลาไม่กี่นาที และเมื่อถึงเวลา โชนก็มาถึง พร้อมกับทำหน้าแปลกใจ



“คุณ...เอิ้น?”



“ครับ?”



“ทำไมแต่งเป็นผู้หญิงมาล่ะ”



“ก็...คุณบอกว่าอาจจะพาไปทานขนม...ผู้ชายสองคนไปร้านขนมมันแปลกๆ นี่”



“ไม่เห็นต้องคิดมากเลย โถ่”



โชนทำตาหงอย ไม่ใช่ไม่ชอบที่เอิ้นแต่งตัวแบบนี้ มันน่ารัก เพียงแต่เขาอยากให้เอิ้นเลิกคิดมากเรื่องสายตาคนทั่วไปเสียที



“ผมกะจะพาเอิ้นไปเล่นเกมตู้ด้วย...” โชนเฉลย



เอิ้นมองสภาพตัวเอง ถ้าเขาแต่งตัวออกทอมบอยสักหน่อยน่าจะเข้าร้านเกมได้แบบไม่มีใครจ้องมอง ไม่สิ...ทำไมต้องแต่งตัวทอมบอย ทั้งๆ ที่เขาเองก็เป็นผู้ชาย!



เอิ้นก้มหน้างุด มองกระโปรงพลิ้วของตัวเอง...คงโดนคนเพ่งเล็งแน่ๆ ถ้าเขาเข้าร้านเกมด้วยสภาพชุดคุณหนูเช่นนี้



โฉมงามถอนหายใจ



เขาอุตสาห์เลือกชุดโปรดเลยแท้ๆ เชียว



“ไม่เป็นไรนะ ถ้างั้นเราไปทานไอศกรีมกันดีกว่า”



“ขอโทษนะ...”



“หืม”



“ที่ทำให้ลำบาก”



“คุณเอิ้นอย่าคิดอย่างนั้นสิ ผมเต็มใจ ไว้คราวหลังเราค่อยไปเล่นเกมด้วยกันก็ได้”



“อื้ม”



โชนพาเอิ้นไปทานไอศกรีม และเดินเล่นในห้างแทน พวกเขาเข้าร้านหนังสือ ร้านเทป ร้านเช่าวิดีโอหนัง ร้องคาราโอเกะ รวมถึงดูหนังด้วยกันอีกสักเรื่อง ก่อนที่โชนจะพาเอิ้นมาส่งที่รถ



จนสุดท้ายเอิ้นก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดีว่าโชนทำแบบนี้ทำไม



Call 39



“ที่จริง...คุณเอิ้นเสียงเพราะนะเนี่ย”



“อะไรของคุณ”



“ตอนที่ร้องคาราโอเกะกันไง” เอิ้นหน้าแดงอยู่หลังโทรศัพท์ เอ่ยอ้ำๆ อึ้งๆ



“คุณเองก็ร้องเพราะ...”



“จริงหรือ อย่าหลอกอำกันนา เดี๋ยวผมดีใจเก้อนะ”



“ไม่ได้หลอก” เอิ้นขำ



“ดีใจจนตัวลอยแล้ว”



“พอเลย”



เอิ้นอมยิ้มขำกับเสียงดีใจเหมือนเด็กๆ ของอีกฝ่าย คืนนี้เขาเข้านอนด้วยรอยยิ้ม และหุบยิ้มไม่ได้จนแม้กระทั่งยามหลับใหล



โชนชวนเอิ้นอีกครั้งในวันหยุดสุดสัปดาห์ ครานี้เอิ้นไม่ได้แต่งองค์ทรงเครื่องเป็นผู้หญิงแล้ว เขาปล่อยให้โชนลากไปลากมาตามใจชอบ และได้เข้าเล่นเกมเซ็นเตอร์อย่างที่โชนตั้งใจ



เอิ้นไม่รู้จักเครื่องเล่นเกมพวกนี้เท่าไหร่ แต่โชนก็พยายามสอนเขาเล่น เกมต่อสู้ที่ใช้ปุ่มกดเพียงไม่กี่ปุ่มดูไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แต่ก็ทำให้เอิ้นคิ้วขมวด สับสนในการบังคับตัวละครในตู้เกมอยู่ดี



แน่นอน เอิ้นเป็นฝ่ายแพ้ทุกรอบ



โชนยิ้มขำให้คนหน้าหวานที่ดูไม่พอใจกับผลการแข่งขัน ก่อนที่พวกเขาจะล้มละลายไปกับเกมหยอดเหรียญ โชนก็พาเอิ้นออกมา



แม้ว่าเอิ้นจะไม่ได้มีปัญหากับการเล่นเกมรอบละสิบบาทก็ตาม



“คุณเอิ้นไม่เคยเล่นอะไรแบบนี้เลยสินะครับ”



“อืม ไม่เคยเลยสักครั้ง”



โชนพยักหน้ารับ เขาไม่คิดถามอะไรอีก



ส่วนเอิ้นก็พลันระลึกถึงความหลังที่ไม่น่าจดจำ พ่อแม่เขาไม่ยอมให้เขาไปคลุกคลีอยู่ในร้านแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร เขาจึงไม่มีเพื่อนเล่นเลยสักคน เอิ้นมีแต่เพื่อนเรียน ที่ไว้ถามไถ่เรื่องการบ้านและวิชาความรู้เท่านั้น



“ไปเดินเล่นที่สวนตรงนั้นไหมคุณ” โชนเอ่ยชวนเมื่อเอิ้นเริ่มเงียบไป แถวนี้มีสวนสาธารณะให้ผู้คนมาออกกำลังกาย ตัวสวนค่อนข้างกว้างและร่มรื่น อุดมไปด้วยต้นไม้หลายสายพันธุ์



ไม่ทันได้ตอบอะไร พวกเขาก็มาถึงที่นี่แล้ว



“คุณเอิ้น วิ่งแข่งกับผมสักตาไหม”



“หา ไม่เอา”



เอิ้นร้องปฏิเสธทันควัน นอกจากเขาจะเล่นเกมไม่เก่งแล้วยังเล่นกีฬาไม่เก่งอีกด้วย เอิ้นใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับหนังสือ นอนเล่นอยู่แต่ในบ้าน แทบไม่ได้ออกไปไหน เรื่องออกกำลังกายน่ะหรือ ลืมไปได้เลย



“วอร์มร่างกายกันก่อน เอาเป็นเดินตรงนี้หนึ่งรอบ เสร็จแล้วเปลี่ยนมาวิ่งเหยาะๆ นะ”



โชนไม่สนใจคำปฏิเสธของคนข้างตัวสักนิด ในใจโชนอยากให้เอิ้นออกกำลังกาย เพราะคิดว่าเอิ้นตัวเล็กเกินไป ซูบซีดจนน่าเป็นห่วง กลัววันข้างหน้าจะเจ็บไข้ได้ป่วยเอาง่ายๆ



เมื่อทำตามโปรแกรมของโชนเสร็จสรรพ ทั้งการเดินและวิ่งเหยาะๆ รอบสวน



พวกเขาออกตัววิ่งแข่งกันในรอบที่สาม



Call 40



เอิ้นแพ้ตามคาด เจ้าตัวมานั่งหอบฮั่กอยู่บนม้านั่ง มีโชนนั่งประกบคอยพัดให้คนตัวเล็กพร้อมหัวเราะขำ



“ผมบอกแล้วว่าไม่อยาก”



“แต่คุณเอิ้นก็ทำได้ดีนะ วิ่งได้ตั้งสองรอบ”



“พอแล้ว ไม่เอาแล้ว เหนื่อย”



“คุณเอิ้นต้องออกกำลังกายเยอะๆ นะรู้ไหม”



“ผมไม่อยากนี่”



“คุณเอิ้นตัวก็เล็กนิดเดียว ถ้าไม่แข็งแรงด้วยจะลำบากนะ”



“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าป่วยก็ค่อยไปหาหมอ”



“ไม่ได้สิ เราต้องดูแลตัวเองด้วย พึ่งหมออย่างเดียวไม่ได้นะ”



“คุณ...ขี้บ่นนะ วันนี้” เอิ้นบอก หอบเอาลมหายใจเฮือกใหญ่เข้าปอด



“ผมแค่อยากให้คุณเอิ้นแข็งแรงสุขภาพดี”



แกล้งกันล่ะสิไม่ว่า เอิ้นคิด



พวกเขานั่งพักกันที่ม้านั่งจนกระทั่งตะวันใกล้จะตกดิน เอิ้นโทรเรียกให้ลุงวีมารับ ระหว่างที่รอรถ โชนก็หาเรื่องคุยไปเรื่อยๆ



วันนี้ทั้งวันเอิ้นเดินเยอะ แถมเสียพลังงานเยอะไปกับเกมเซ็นเตอร์ ยังไม่พอต้องมาวิ่งตากแดดกับโชนอีก พลังงานตอนนี้ของเขาใกล้จะหมดลงแล้ว



เอิ้นฟังโชนพูดคุยสัพเพเหระ  ดวงตาน้อยๆ คล้อยยานใกล้จะปิดลง



โชนสังเกตเห็นคนนั่งสัปหงกอยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่คิดทักท้วง เขาจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความขบขัน เอิ้นที่ควบคุมความง่วงไม่ได้ทำให้โงนไปเงนมา จนโชนปล่อยให้คนง่วงเอนหัวมาที่ไหล่ของเขาก่อนหลับไป



ตัวแทนหมอนอมยิ้มอยู่คนเดียว ภาวนาให้เวลาหยุดเดิน พวกเขาจะได้อยู่ในห้วงแห่งความเป็นนิรันดร์



ทว่าเวลาก็ผ่านไปจนใกล้ค่ำ โทรศัพท์มือถือของเอิ้นส่งเสียงเรียกเข้าดังลั่น ทำลายห้วงจักรวาลแสนหวาน



เอิ้นสะดุ้งตื่น และพบว่าตัวเองนอนซบโชนมาเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน เขาสบตากับที่พิงชั้นยอดอย่างไม่รู้จะพูดคำแก้ตัวอะไร



โชนยิ้มให้คนขี้เซา เพยิดหน้าให้เอิ้นรับสาย “ลุงวีคงมาถึงแล้วมั้งครับ”



เอิ้นเลิ่กลั่ก หันซ้ายหันขวา มองหน้าโชนสลับกับโทรศัพท์มือถือที่กรีดร้องเป็นเสียงริงโทน



เขาตัดสินใจรับสายลุงวี คุณลุงอยู่ไม่ไกลจากตัวสวนสาธารณะนี้ เอิ้นจึงเตรียมตัวกลับ และโชนก็ขอเดินไปส่งเขาจนถึงรถคันสวย



พอรถเคลื่อนตัวออกไป เอิ้นขบคิดกับตัวเอง



เขาซบโชนทั้งๆ ที่เขาเป็นผู้ชาย แล้วอย่างนี้คนที่เดินผ่านมาไหนไปไหนคงเห็นภาพไม่น่าชมนี้หมดแล้ว ทั้งเขาและโชนคงโดนนินทาไปแล้วเรียบร้อยแน่ๆ



เอิ้นตัดสินใจแล้วว่าเขายอมเป็นผู้หญิงตอนอยู่กับโชนคงจะดีกว่า





_____________________________



เจ้าโชนรุกหนักไม่ปล่อยให้คุณเอิ้นพักเลยย

#call123456
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 5 |14.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 14-08-2018 17:37:43
คุณเอิ้นแต่งหญิงมาเดี๋ยวโชนก็ว่าหรอกค่ะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 5 |14.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 14-08-2018 17:40:39
เข้าใจคุณเอิ้นนะะ แต่แงงง อย่าเลยย
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 5 |14.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 15-08-2018 06:13:15
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 5 |14.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 15-08-2018 11:05:25
เป็นตัวเราดีที่สุดนะคะคุณเอิ้น เป็นกำลังใจให้คุณเอิ้นนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 5 |14.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 15-08-2018 14:26:59
อีกคนรุกหนัก อีกคนก็คิดมาก
รออ่านตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 5 |14.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 15-08-2018 15:10:45
 :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 6 |15.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 15-08-2018 21:11:50
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 6 |15.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 15-08-2018 21:12:41
โทรครั้งที่ 6_______________





Call 41



“คุณเอิ้น เย็นนี้ว่างไหม”



“หืม”



“ไปเที่ยวกันนะครับ”



“ที่ไหนเหรอ”



“ที่ประจำ ร้านเดิม”



“อ้อ ได้สิ”



 “ผมไปเรียนก่อนนะครับ แล้วเจอกันสักสองทุ่มนะ”



“เดี๋ยวสิ”



สัญญาณถูกตัดไป โดยที่คนรับสายยังงัวเงียอยู่บนเตียง และไม่มีโอกาสได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไร ช่วงนี้โชนมักโทรมาไม่เป็นเวลา เขายังคงใช้ตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญโทรมาอยู่เสมอ เพียงแต่มักจะโทรเข้ามาในเบอร์มือถือเขามากกว่าเบอร์บ้านแล้ว



เอิ้นที่ถูกปลุกให้มารับสายตอนแปดโมงอยู่ในความมึนงง



โชนชวนเขาไปเที่ยวร้านเหล้าเย็นนี้ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก



เพียงแต่โชนไม่เคยชวนเขาไปที่ร้านเดิมนั่นเลยสักครั้ง ไม่รู้ว่ามีเหตุผลอะไรหรือเปล่า ปกติโชนมักจะไปร้านนั้นกับเพื่อน แต่ครานี้โทรมาชวนเขา เอิ้นก็ไม่รู้ว่าโชนจะพาเพื่อนมาด้วยกันไหม ครั้นจะให้โทรกลับไปถามก็ไม่ได้เสียอีก เพราะโชนใช้ตู้โทรศัพท์โทรมา



เอิ้นตื่นเต็มตา ลุกจากเตียง พลางกลุ้มใจเรื่องการแต่งตัวขึ้นมาทันที



Call 42



สุดท้าย เอิ้นก็เลือกสวมชุดกระโปรง



เอิ้นค่อนข้างมั่นใจกับการแต่งเป็นผู้หญิงออกไปมากกว่าเพราะไม่ต้องกลัวสายตาใคร แถมเป็นร้านเดิมทำให้เขาคุ้นชินกับการแต่งตัวแบบนี้มากกว่า



ยังมีเหตุการณ์ที่เขาซบไหล่โชนเมื่อคราวนั้นอีกที่ยังคงฝังใจ ทำให้เอิ้นไม่กล้าแต่งตัวเป็นชายออกไปไหนมาไหนกับโชน เพราะกลัวจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีก



เอิ้นไม่อยากให้ใครมองตนประหลาด รวมถึงไม่อยากให้ใครมองโชนแปลกๆ ด้วย



ให้เขาเป็นคนวิปริตคนเดียวก็พอ



เอิ้นเดินเข้าร้านตอนสองทุ่มเศษ



ร่างอรชรโดดเด่นทันทีตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามา ทุกคนในร้านมองเอิ้นเป็นตาเดียว เขาเคยชินกับสายตาแบบนี้แล้ว สายตาที่ไม่ได้มองเขาเพราะเหยียดหยาม ทำให้เอิ้นไม่รู้สึกอะไร เอิ้นตั้งใจจะนั่งรอที่บาร์ตัวเดิมรอโชนมาถึง



“คุณเอิ้น...”



ทว่าเจ้าตัวมาถึงก่อนได้สักพักแล้ว โชนเข้ามาหาเอิ้นทันทีที่เขานั่งลงตรงบาร์



“ทำไมแต่งตัวอย่างนี้อีกล่ะครับ”



“เอ๊ะ...ไม่ได้เหรอ” เอิ้นถามกลับ



“ผมว่าจะพาคุณเอิ้นมาแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จัก เลยคิดว่า...คุณเอิ้นจะไม่เป็นผู้หญิง”



“...โชนไม่ได้บอกผมว่าจะมีเพื่อนมาด้วยนี่นา... แถมผมโทรกลับหาคุณก็ไม่ได้ด้วย” เอิ้นเถียง แต่กระนั้นก็รู้สึกกระสับกระส่าย ถ้าโชนพาเพื่อนมาด้วยงั้นโชนอาจจะบอกเพื่อนๆ ไปแล้วก็ได้ว่าเขาเป็นผู้ชาย แล้วอย่างนี้เขาจะโดนอะไรไหม



“โอเค ผมผิดเอง”



โชนถอนหายใจ ลืมเอ่ยย้ำกับเอิ้นว่าไม่ต้องแต่งเป็นผู้หญิงเช่นนี้ก็ได้ แต่ก็เป็นโชคดีของเขาที่ยังไม่ได้บอกเพื่อนตนว่าคุณเอิ้นเป็นเพศอะไร มิเช่นนั้นคนตรงหน้าคงลำบากกว่านี้ เขาเพียงบอกว่ามีคนอยากแนะนำให้รู้จัก



แต่อย่างน้อยเขาก็คิดว่าการที่เอิ้นเป็นตัวของตัวเองคงจะดีกว่าหลบอยู่ในคราบสาวสะอาง



“แล้วก็...ผมคิดว่า ผมสบายใจที่จะเป็นแบบนี้มากกว่า” เอิ้นเอ่ยอุบอิบ เขาเคยชินกับการมาที่นี่ด้วยชุดนี้



“ทำไมล่ะ”



เขามองตาโชน ทำให้ต้องให้อธิบายซ้ำซาก “ผมชอบผู้ชาย คุณลืมแล้วหรือ”



“แล้วมันยังไง”



“ดีแล้วที่ผมแต่งตัวแบบนี้ ถ้าผมเผลอไปมองเพื่อนคุณที่เป็นผู้ชายเข้าจะทำไงล่ะ เพื่อนคุณได้แขยงผมตาย”



“ก็ไม่ต้องมองสิ”



“ได้ที่ไหน”



“ได้สิ มองแค่ผม”



“...”



โชนพาเอิ้นมานั่งร่วมวงกับเพื่อนของเขา ทุกคนฮือฮาเล็กน้อยที่เห็นว่าโชนพาคนสวยขนาดนี้เข้ามานั่งด้วยกัน



เพลง  Take Me Home, Country Roads ของ John Denver ถูกเปิดคลอเบาๆ ในร้านระหว่างรอวงดนตรีบรรเลง เอิ้นนั่งอยู่ข้างๆ โชน รายล้อมด้วยเพื่อนฝูงของคนตัวโตกว่า เอิ้นไม่รู้จักใครสักคนและมันทำให้เขาทำตัวไม่ถูก



จนอยากจะเทคมีโฮมตามเพลงจริงๆ



โชนแนะนำเอิ้นให้ทุกคนรู้จัก โดยใช้ชื่อว่าเอิน เขารู้สึกแปลกๆ ที่จะแนะนำอีกฝ่ายว่าเอิ้นในคราบผู้หญิง เอิ้นสำหรับโชนแล้วคือผู้ชายน่ารักมากกว่า เอิ้นไม่ได้ว่าอะไร เขาพยักหน้ารับ จดจำชื่อเพื่อนๆ ของโชนไว้ แต่ตัวเองไม่ได้พูดคุยกับใคร เขาแค่อมยิ้มให้แต่ละคนเท่านั้น



“คุณเอินขี้อายน่ะ” โชนอ้าง



และทุกคนก็ดูจะไม่ได้สงสัยอะไรที่เขาไม่เปิดปาก



Call 43



“คุณเอิ้นอึดอัดเหรอ” โชนเอ่ยถาม หลังจากที่พวกเขาขอตัวมาห้องน้ำกันสองคน เพื่อนๆ ของโชนแซวเอิ้นทันทีหลังจากที่โชนแนะนำตัวให้ ทุกคนล้วนรู้จักเอิ้นเป็นอย่างดี ในฐานะหญิงสาวที่โชนแอบมองมานาน



กูนึกว่ามึงจะพาใครมา ที่แท้ก็สาวคนนั้นนี่เอง – โทน



บอกว่าเพื่อนใหม่ จริงๆ จะเปิดตัวแฟนใช่มั้ยล่ะยะ – กานต์



คุณเอินสวยขนาดนี้ ทำไมถึงยอมคบกับโชนได้ล่ะครับ – หน่อย



ไหนมึงว่าคนนี้เขาไม่เล่นด้วยไง – ตาว



เอิ้นส่ายหน้า แต่เมื่อคิดถึงถ้อยคำเอ่ยแซวของเพื่อนร่วมโต๊ะ ทำให้เอิ้นอดครุ่นคิดไม่ได้ ว่าจริงๆ แล้วโชนต้องการพาเขามารู้จักเพื่อนๆ ในฐานะอะไรกันแน่



“ผมแค่อยากให้คุณรู้จักเพื่อนผม มีสังคมใหม่ๆ มีเพื่อนๆ บ้าง”



เอิ้นก้มหน้า “เพราะสงสารเหรอ”



“คุณเอิ้น ผมไม่ได้คิดแบบนั้น” โชนเริ่มกังวลเมื่อคนตรงหน้าไม่ได้มีความคิดเห็นตรงกับเขา “หรือว่าคุณเอิ้นไม่ชอบเพื่อนผม”



“ไม่ใช่นะ ผมแค่...ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง” เอิ้นยกมือเกี่ยวเส้นผมที่ตกลงมาขึ้นทัดหู “ผมไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติกับพวกเขายังไง”



เพราะที่ผ่านมาเอิ้นไม่เคยมีเพื่อนอายุใกล้เคียงกันมากขนาดนี้มาก่อน เขาทำตัวไม่ถูก ซ้ำยังถูกแซวกับคนข้างกาย ทำให้ยิ่งเลิ่กลั่กจนทำตัวไม่ถูกไปกันใหญ่



เขาอยากจะเอ่ยปฏิเสธเพื่อนๆ โชน แต่ก็ทำไม่ได้ เลยได้แต่ก้มหน้านิ่ง และไม่เข้าใจคนข้างๆ



“โถ่ คุณเอิ้นไม่เห็นต้องคิดมากเลย คุณก็แค่นั่งฟังพวกมันคุยกันไปก็ได้”



“ผมก็ทำแล้วไง...” เขาเพียงไม่เข้าใจที่เพื่อนๆ ของโชนเอ่ยแซว ใจนึงเขาเขินอาย แต่อีกใจก็คิดว่าทำไมโชนถึงไม่ปฏิเสธไป คนข้างตัวทำเพียงหัวเราะกับคำหยอกล้อของเพื่อนๆ



เอิ้นไม่อยากมีความหวังไปมากกว่านี้



“ผมคิดว่าถ้าผมแต่งตัวเป็นผู้ชายมาคงจะดีกว่านี้”



“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”



“ผมจะได้เฮฮากับเพื่อนๆ คุณได้...”



“คุณเอิ้นคิดมากจังเลย”



ก็เพราะใครล่ะ เอิ้นเม้มปาก



Call 44



พวกเขากลับมานั่งที่โต๊ะอีกครั้ง และหนีไม่พ้นคำเอ่ยแซว เมื่อพวกเพื่อนๆ เห็นว่าทั้งสองหายไปด้วยกันนานเกินกว่าเข้าห้องน้ำธรรมดา



เอิ้นนั่งหน้าแดง ส่ายหน้าปฏิเสธทุกคำหยอกล้อ เพียงแต่คนข้างๆ กลับนั่งยิ้ม



เอิ้นหันไปมองโชน ไม่เข้าใจ อีกแล้ว...



ทำไมถึงไม่ปฏิเสธ



“แหน่ะ มองกันอีกแล้ว” ทันทีที่เพื่อนของโชนเอ่ยแซวขึ้นมาในจังหวะที่เอิ้นช้อนตามองอีกฝ่าย โชนก็หันมาสบตากับเอิ้นกลับทันที



เอิ้นสะดุ้ง หันหน้าหนี ใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อเห็นสายตาของอีกฝ่ายที่จ้องมาราวกับจะกลืนกินกันยังไงอย่างนั้น



“โชน อย่าไปมองคุณเอินอย่างนั้น ดูสิคุณเอินตกใจหมดแล้ว”



“กูมองยังไง”



“ก็...มองเหมือนฉันจะกลืนกินเธอ”



แล้วทั้งโต๊ะก็ส่งเสียงหวีดหวิว จนเอิ้นหน้าแดงกว่าเดิม ส่วนคนมองกลับหัวเราะเหมือนเคย



ค่ำคืนศิวิไลอีกคืนกำลังจะผ่านพ้นไป พวกเขาเริ่มแยกย้ายกันกลับแล้ว จนเหลือเพียงเอิ้นกับโชนอยู่ด้วยกันเพียงสองคน ระหว่างรอให้ลุงวีขับรถมารับ



“ทำไมไม่ปฏิเสธล่ะ”



ท่ามกลางหมู่ดาวสุกสกาว เอิ้นเอ่ยถามคนข้างตัวทันที ทางเดินตรงนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านนัก ทำให้เอิ้นพูดได้อย่างไม่ต้องเก็บเสียง



เขารู้ว่าโชนไม่ใช่แบบเขา แล้วทำไมถึงไม่ปฏิเสธเพื่อนๆ ไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ว่าพวกเขาไม่ได้มีสัมพันธ์ชู้สาวอย่างที่พวกเพื่อนๆ คิด



ปล่อยให้ทุกคนเข้าใจผิดทำไม



แม้ว่ามันจะดีต่อเอิ้น แน่ล่ะ เขาชื่นชอบโชนมานานแล้ว เพียงแต่โชนทำเช่นนี้ยิ่งมีแต่ทำให้เขาเจ็บปวด เพราะรู้อยู่แล้วว่าสุดท้ายปลายความหวังของเขาจะไม่สวยงาม



“ปฏิเสธเรื่องอะไรหรือ” โชนถามกลับ จนเอิ้นเบ้ปาก รู้ทั้งรู้ยังจะถามกันอีก



“ก็เรื่องที่เพื่อนๆ คุณแซว”



“อ้อ...” โชนลากเสียงยาว แล้วก็เงียบไป ราวกับครุ่นคิด เป็นเวลานานจนเอิ้นเอ่ยมาอีกครั้ง



“ถ้าเกรงใจผมก็ไม่เป็นไรหรอก ดีเสียอีกที่คุณชัดเจน”



โชนหันมามองเอิ้นช้าๆ ใช้สายตาเดียวกับตอนที่จับจ้องร่างอรชรข้างในร้าน สายตาที่รุ่มร้อนและร้อนแรง ราวกับจะแผดเผาให้ตายทั้งเป็น สายตาของนักล่าที่จ้องเหยื่อ



เอิ้นตัวสั่นโดยไม่รู้สาเหตุ เขาพยายามหาเสียงตัวเองเพื่อไม่ให้บรรยากาศของพวกเขาเงียบไปกว่านี้



“คือ...ผมอาจจะชอบผู้ชาย แต่กับคุณผมแค่ปลาบปลื้ม”



“แค่นั้นหรือ?”



“อืม คุณทำดีกับผม ผมก็เลย...ดีใจน่ะ”



“แค่นั้นหรือ” เขาถามซ้ำ ไม่ว่าเปล่า โชนขยับเข้ามาใกล้เอิ้นมากขึ้น



“ใช่...ผมชอบผู้ชายไม่ได้หมายความว่าผมจะชอบผู้ชายทุกคนนะคุณ” เขาเอ่ยเสียงสั่น ไม่แน่ใจกับสิ่งที่ตัวเองเอ่ย แน่ล่ะ เขาชอบโชน เพียงแต่ต้องหาข้ออ้างเพื่อไม่ให้ตนเป็นที่รังเกียจไปมากกว่านี้



แค่โชนยอมเป็นเพื่อนเขาก็ดีเกินฝันแล้ว



โชนไม่ตอบอะไรกลับมา แสงสว่างยามค่ำคืนมืดมิด ทว่าดวงตาที่เร่าร้อนกลับแผดเผามากกว่าเดิม จนเอิ้นไม่สามารถหาเสียงของตัวเองเจออีกต่อไป



“ที่ผมไม่ปฏิเสธ” โชนกล่าว “เพราะผมต้องการให้มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ”



“เอ๊ะ?”



Call 45



“คุณเอิ้นคิดว่าหลังจากที่ผมรู้เรื่องคุณเอิ้นแล้วทำไมถึงไม่ถอยไปล่ะครับ”



โชนเอ่ยถามนำ ตามด้วยส่งคำถามต่อไปตามมาติดๆ



“คิดว่าผมจะส่งจดหมายให้คุณเอิ้นเป็นสิบๆ ฉบับทำไม”



“คิดว่าผมจะมารอคุณเอิ้นทำไม”



“คิดว่าผมจะโทรหาคุณเอิ้นทำไม”



“คิดว่าผมพาคุณเอิ้นไปเที่ยวบ่อยๆ ทำไม”



“คิดว่าผมเป็นห่วงคุณเอิ้นหลายๆ เรื่องทำไม”



“เพราะคิดว่าคุณเอิ้นเป็นเพื่อนเหรอครับ”



เขาแทบจะหดตัวให้หายไปในกำแพง โชนในตอนนี้น่ากลัวกว่าที่เคยรู้สึก แววตาของเขาราวกับจะฟาดฟันทุกอย่างที่ขวางหน้า และเอิ้นไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้...โกรธ...



โชนขยับตัวเข้ามาใกล้เอิ้นมาขึ้น จนสองร่างแทบจะชิดกัน เขาใช้แขนของตนค้ำกำแพงไว้ข้างหนึ่ง ไม่ให้เอิ้นคิดหนี



แววตาที่ดุดันทำให้เอิ้นหายใจติดขัด



“...แล้วมัน ไม่ใช่เหรอ”



เอิ้นถามกลับ



“คุณเอิ้น”



โชนพลันเปลี่ยนเป็นเสียงอ่อนใจ แววตาที่ราวกับพระเพลิงพลันเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน และเอ็นดู ลำแขนแกร่งที่เคยวางยันกำแพงหดกลับเข้ามา โชนหมุนตัวมาใช้หลังพิงกำแพงอยู่ข้างๆ เอิ้น



“คุณโชน?”



“ผมชอบคุณเอิ้นนะ ไม่รู้เลยหรือครับ”



“เอ๊ะ”



Call 46



“ไม่รู้จริงๆ ด้วย”



“เอ๊ะ...เอ๊ะ!”



เกินกว่าคำว่าตกใจ เอิ้นทำตัวไม่ถูกเมื่อสมองประมวลผลคำพูดของโชนเสร็จสรรพ พลันคิดว่าตนหูแว่ว เมื่อกี้โชนบอกว่าชอบเขาจริงๆ น่ะหรือ



“ผมว่าผมหูเพี้ยนแน่ๆ เมื่อกี้คุณโชนพูดว่า...”



“ผมชอบคุณเอิ้น”



“...”



“ชัดไหมครับ”



“...ชัด...ครับ”



เอิ้นมุดหน้าหนี เมื่อเสียงคำบอกรักถูกกระซิบอยู่ข้างหูอย่างหาข้ออ้างอะไรอีกไม่ได้ เขาหน้าแดงแปร๊ด และพยายามใช้เส้นผมยาวจากวิกผมปิดบังใบหน้าของตัวเอง



“คุณเอิ้น” โชนเป็นคนทัดผมให้คนขี้อายเผยใบหน้าน่ารักออกมา



“...”



“ได้ยินผมไหม”



“ได้ยิน...แล้ว...”



“คุณเอิ้นจะว่าอะไรไหม”



“...”



“ถ้าเราจะเป็นแฟนกัน”



พลันเสียงโทรศัพท์มือถือของเอิ้นก็ดังขึ้นขัดจังหวะ



Call 47



“ลุง...ลุงวีคงมาถึงแล้ว”



เอิ้นว่าตะกุกตะกัก พยายามควักหาโทรศัพท์ของตัวเองที่ส่งเสียงร้องเป็นเสียงเรียกเข้า ทันทีที่เขาหาเจอและกำลังจะกดรับมัน อีกฝ่ายก็ริบไปไว้ในมือ โชนยกยิ้มให้เจ้าของมือถือ กดตอบรับปลายสาย



“ครับลุงวี คุณเอิ้นอยู่กับผมครับ ขอเวลาอีกสักครู่นะครับ”



กรอกความต้องการของตนไม่กี่คำก่อนวางสายไป



“คุณเอิ้นห้ามหนีนะครับ”



 “บอกมาเลยผมจะได้ทำใจถูก”



 “ถ้าคุณเอิ้นไม่ได้ชอบผมแบบเดียวกันผมจะได้กลับไปทำใจ”



“ไม่สิ จะกลับเข้าร้านเดิมแล้วขอเจ้าของร้านนั่งดื่มเหล้าจนเช้าเลย”



“แต่ถ้าคุณเอิ้นตกลง...”



“ผมจะพาคุณเอิ้นเข้าม่านรูดตอนนี้เลย”



ไม่ได้สิ!!



เอิ้นเบิกตาโพลง จนโชนหัวเราะขำ “ล้อเล่นครับ ไม่พาไปไหนหรอก”



“รีบๆ ตอบเร็วคุณเอิ้น เดี๋ยวลุงวีรอนะ”



“ผม...”



“คุณเอิ้น...” โชนเร่ง เมื่อเอิ้นยังมีสีหน้าลังเล



จะให้เขาตัดสินใจได้ทันควันได้อย่างไรกัน ในเมื่อโชนเป็นผู้ชายคนแรกที่เข้ามาบอกชอบเอิ้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าเอิ้นเป็นผู้ชาย!



แถมโชนยังเป็นคนที่เอิ้นมีใจให้อีก!



พุทโธ่! คนมันไม่เคยคิดว่าจะมีคนรักชอบในสิ่งที่เขาเป็นนี่นา ช่วยเห็นใจเขาสักนิดจะได้ไหม



“คุณเอิ้น” โชนขยับตัวเข้ามาใกล้ขึ้น



“คุณเอิ้นครับ” ใกล้ขึ้นอีก



“เป็นแฟนกันนะ” จนแทบหยุดหายใจ



เอิ้นพยักหน้า ตอบรับคำในที่สุด “อืม...”



และริมฝีปากของเขาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้กล่าวคำใดอีก



นอกจากตอบรับจุมพิตจากอีกฝ่าย



__________________________________



#Call123456





 
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 6 |15.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: เพียงเพื่อน ที่ 16-08-2018 00:06:58
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :o8: :o8: :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 6 |15.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-08-2018 00:27:21
ยินดีด้วย  :mc4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 6 |15.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 16-08-2018 01:05:52
กรี๊ดดดดดดดด โชนไล่ต้อนจนได้ เป็นแฟนกันแล้วค่า เย่ๆๆๆๆๆๆ :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 6 |15.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 16-08-2018 01:08:53
#เหม็นความรัก    :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 6 |15.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 16-08-2018 07:37:46
อ๊ายยยยยยยยยยย   :m11: :m11:

เขาเป็นแฟนกันแล้ว  :mc3: :mc3:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 6 |15.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 16-08-2018 08:40:15
หวีดสุดเสียงงงงงงง เขาเป็นแฟนกันแล้วววววว
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 6 |15.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 16-08-2018 17:38:05
ไม่น้าาาา
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 6 |15.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 16-08-2018 19:19:59
งืออออ เขิน~ เป็นแฟนกันแล้ว
คราวนี้โชนไม่ได้โดนลงโทษที่เล่นเกมแพ้เพื่อนใช่ไม๊ >____<
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 6 |15.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 19-08-2018 07:14:18
คุณเอิ้น ดีใจด้วย เจาใจตรงกันค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 6 |15.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Maleewong ที่ 19-08-2018 08:36:41
งือออออ ชอบเรื่องนี้ อย่ามีม่านะ ละมุนใจแบบนี้เถอะ ฮือออ หลงรัก#โชนเอิ้น
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 7 |20.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 20-08-2018 15:23:56
โทรครั้งที่ 7_____________________







Call 48



ในคืนนั้น เอิ้นกลับบ้านด้วยสภาพไม่รับรู้อะไรแล้ว สมองเขาขาวโพลน ใบหน้าเขาร้อนผ่าวราวกับกำลังเผาไหม้ผิวหน้าตัวเอง นั่งเงียบตลอดทางจนลุงวีนึกสงสัย



พอถึงเตียง เอิ้นก็เอาหน้าฟาดหมอนทันที เมื่อครู่เขาไม่ได้ฝันไปใช่ไหม โชนไม่ได้เมาใช่ไหม หรือว่าเป็นเขาที่เมา



ไฉไลไม่ยอมรับความจริงจนคิดหาข้ออ้างต่างๆ นาๆ จนเผลอหลับไป



หรือว่าโชนจะหลอก!



เขาตื่นจากความฝันอันหอมหวานด้วยเพราะฝันร้ายในตอนจบ เอิ้นผุดลุกตัวนั่งราวกับเพิ่งนึกได้ถึงความเป็นไปได้เมื่อคืน



จริงๆ แล้วโชนอาจจะลงพนันกับเพื่อนไว้ก็ได้ ทำให้เขายอมตกลงรับเป็นแฟน เพื่อที่จะได้ชนะเกม เพื่อนโชนอาจจะรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นยังไง แล้วหลังจากนั้นก็พาเอิ้นไปสู่ความจริง ทุกคนรอบตัวหัวเราะเยาะใส่พร้อมกับเอ่ยคำต่อว่าเอิ้นอีกครั้ง เหมือนที่ผ่านมา ครั้นสมัยเอิ้นยังเป็นเด็กวัยมัธยม...



เอิ้นสมัยยังเป็นเด็กชายเคยแอบหลงรักรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่ง เด็กน้อยไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่าการแอบมอง แต่พอถูกจับได้ รุ่นพี่คนนั้นก็ทำเป็นทำดีด้วยในทีแรก พาเขาไปทานข้าวที่โรงอาหารของโรงเรียนด้วยกัน ก่อนประกาศเสียงดังลั่นว่าเขามีรสนิยมอย่างไร ร่วมกับพวกลูกหาบทำให้สถานการณ์ตอนนั้นแย่ลงไปอีก



คนที่เขาชอบมองเขาด้วยสายตาขยะแขยง ทำท่าทางลูบแขนลูบขา ขนลุกเกรียว เขาถูกเสียงหัวเราะจากทุกทิศทาง ถ้อยคำถากถาง หลากคำเยาะเย้ยพุ่งสู่กลางหัวใจจนแทบสลาย



ทุกคนหัวเราะใส่สิ่งที่เขาเป็น และด่าทอในสิ่งที่เขาไม่ได้เป็น



คำว่าร้ายจากคนไม่รู้จักกรีดหัวใจบอบบางจนเป็นแผลลึก



เรื่องราวถูกกล่าวขานมาสู่ครอบครัวของเขา จนกระทั่งมันต้องจบลงเช่นนี้



จบลงโดยที่เขาต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว



ไม่นะ ขออย่าให้มันเป็นเช่นนั้นเลย



เอิ้นภาวนา จ้องมองโทรศัพท์ของตน อยากให้โชนโทรมาหาเพื่อยืนยันกันสักนิดว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้ฝันไป และมันเป็นความจริง หาใช่การกลั่นแกล้งใด



เขาจ้อง จ้อง จ้องโทรศัพท์เครื่องสวยจนตัวเองน้ำตาคลอ



โทรมาเถอะนะ



เขาเฝ้ารอโทรศัพท์ทั้งวัน...และไม่มีเสียงเรียกเข้าใดดังขึ้นมา...



Call 49



คงถูกหลอกจริงๆ แล้ว...



เอิ้นปาดน้ำตาในรุ่งเช้า เขาควรเรียนรู้จากบทเรียนที่แล้วมาไม่ใช่หรือไง ทำไมยังเผลอใจไปกับโชนได้อีก...



แต่เพราะตอนนั้น โชนพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังเสียจนเอิ้นไม่คิดว่ามันจะเป็นการหลอกลวง อีกทั้งจุมพิตสุดท้ายก่อนจากลาทำให้เขาเผลอตัวลอย หัวใจโบยบินอยู่บนปุยนุ่น จนกระทั่งเขาพลันนึกได้ว่าปุยนุ่นเบาบางนั่นไม่สามารถรองรับหัวใจของตนได้ หัวใจดวงน้อยๆ จงหล่นสู่พื้น กระแทกสู่ความจริง



จะมีใครมาชอบเขากัน บ้าหรือเปล่า



สงสัยอยู่ตัวคนเดียวกับหนังสือนิยายมากเกินไปจนเพ้อเจ้อ



หลงลืมว่าความเป็นจริงไม่สวยหรูเหมือนในนิทาน



เขานอนจมกับกองน้ำตาทั้งวัน เขาเปิดอ่านจดหมายที่โชนเคยส่งมาให้เขาเมื่อคราวก่อน เนื้อหาข้างในมีแต่คำถามถึงการหายไปของเอิ้น และลงท้ายด้วยความเป็นห่วงทุกฉบับ ลายมือของโชนทำให้สภาพจิตใจของเอิ้นดีขึ้น แต่ก็ไม่ทั้งหมด จะมีอะไรดีไปกว่าได้พูดคุยกับเจ้าตัวจริงๆ



จนกระทั่งตอนเย็น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น



เอิ้นไม่กล้ารับโทรศัพท์ เป็นครั้งแรกที่เขาลังเล



เขามองโทรศัพท์บ้านที่กรีดร้องเสียงแหลมจนดับไป



พลันโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นมาแทน



ปรากฏเป็นเบอร์ไม่รู้จัก เบอร์ของตู้โทรศัพท์สาธารณะ



เอิ้นเม้มปาก รวบรวมความกล้า กดรับสาย



Call 50



“คุณเอิ้นไม่ได้อยู่บ้านเหรอครับ ผมโทรเข้าเบอร์บ้านแล้วไม่มีคนรับสาย”



“เปล่า...ผมแค่รับไม่ทัน...” เอิ้นโกหก ใจสั่นหวาดกลัวว่าสิ่งที่เขาคิดไปกำลังจะเกิดขึ้น



“คุณเอิ้นได้ฟังเพลงเมื่อคืนไหม”



“เอ๊ะ...?”



“โถ่ ว่าแล้วเชียว ไม่ได้ฟังสินะครับ”



“เพลง...อะไร”



“ผมโทรไปขอเพลงให้คุณเอิ้นที่คลื่นวิทยุ แต่ไม่ได้โทรบอกคุณเอิ้น ลืมไปเลยว่าคุณเอิ้นคงไม่ได้ฟังวิทยุทุกวันแบบผม”



“...”



“ผมเขินเก้อเลย”



เอิ้นงงงวยกับเรื่องตรงหน้า เขาคิดว่าโชนคงโทรมาด้วยเรื่องอื่น อย่างเช่นว่าเรื่องคืนนั้นผมล้อเล่นนะ ไม่ก็ชวนเขาไปเจอกับเพื่อนของโชนอีกรอบ เพื่อเฉลยความจริงว่าเขามันวิปริต



ไม่ใช่โทรมาพูดคุยเรื่องเพลงแบบนี้



“เอาไว้พรุ่งนี้ผมค่อยเอาเพลงให้ฟังนะครับ”



“...”



“ว่าแต่พรุ่งนี้คุณเอิ้นว่างใช่ไหม ออกมาเจอกันตอนเย็นเหมือนทุกทีได้รึเปล่า”



“ผม...ว่าง...”



“งั้นเจอกันที่ม.ผมไหมครับ”



“ได้...”



“...คุณเอิ้น เป็นอะไรรึเปล่า”



“ผม...” เอิ้นเว้นไปสักพัก ก่อนกรอกเสียง “ไม่เป็นไร”



“ผมว่าผมไปหาคุณเอิ้นที่บ้านดีกว่า”



“หา เดี๋ยวสิ มาทำไม”



“เสียงคุณเอิ้นเหมือนไม่สบายใจเลย ต่อให้ผมคาดเค้นยังไงคุณเอิ้นก็จะไม่ตอบใช่ไหมล่ะ”



“ไม่ใช่นะ ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ”



“นั่นไง ก็จะตอบแบบนี้ไง ผมไม่เชื่อหรอก”



“คุณโชน...”



“มาคุณโชนอะไรล่ะครับ เป็นแฟนกันแล้วนะ เลิกเรียกผมคุณได้แล้ว”



“...!”



“คุณเอิ้น...?”



“ห้ะ ค...ครับ!”



“อย่าบอกนะว่าลืมเรื่องนี้”



“เปล่านะ...ไม่ได้ลืม...”



“เสียงสั่นจัง มีพิรุธนะครับ”



“ไม่ใช่นะ”



เอิ้นเสียงสั่นกว่าเดิม เขาไม่ได้ลืมเรื่องที่โชนขอเป็นแฟน ให้ตายก็ไม่ลืม เพียงแต่เขาคิดว่าโชนต่างหากที่ลืม หรือไม่ก็ไม่ได้จริงจังกับมัน



“ผมว่าผมไปหาคุณเอิ้นดีกว่า”



“หา...จะ...จะมายังไง ไม่ต้องมาหรอก”



“เดี๋ยวผมยืมมอเตอร์ไซค์ไอ้ตาว บึ่งไปแป๊บเดียวถึง รอผมก่อนนะ”



“โชน!”



ปลายสายวางหูไปแล้ว



Call 51



“สรุปก็คือคุณเอิ้นกลัวว่าผมจะหลอก?”



“....อือ”



“แล้วก็เลยร้องไห้”



“ไม่ได้ร้องนะ”



“แต่ตาแดงนะครับ” โชนเอ่ย ยิ้มขำ เขามาถึงที่บ้านของเอิ้นภายในเวลาสิบห้านาทีเท่านั้น เอิ้นที่ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงจึงได้แต่ต้อนรับแขกแบบงงๆ



พวกเขาทั้งคู่นั่งคุยกันที่โถงใหญ่ ที่ซึ่งเป็นห้องสำหรับรับรองแขก



โชนลูบใบหน้าเอิ้นแผ่วเบา จ้องมองดวงตาคู่สวยที่ตอนนี้มีร่องรอยของคราบน้ำตา เขารู้ว่าเอิ้นเป็นคนคิดมาก แต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้



“คุณเอิ้น บอกผมได้ไหมว่าทำไม”



“หืม”



“ทำไมถึงคิดว่าผมจะหลอกล่ะ...”



เอิ้นกระพริบตาปริบๆ เรื่องราวในความทรงจำถูกฉายซ้ำขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เขาไม่อยากนึกถึงมัน แต่เมื่อหนีแขกไม่ได้รับเชิญไม่ได้ สุดท้ายเอิ้นจึงยอมเล่าเรื่องของตนให้อีกฝ่ายฟัง



โชนพลันเข้าใจทุกอย่างขึ้นมาทันที



เอิ้นปิดใจเพราะเรื่องราวในอดีตฝังใจ ทำให้คิดว่าไม่มีใครรักเขาได้อย่างแท้จริง การอยู่คนเดียวมาตลอดหลายปีของเอิ้นยิ่งทำให้เอิ้นเปิดใจได้ยากยิ่งขึ้นไปอีก



เขาตระกองกอดอีกฝ่าย



คนในอ้อมกอดไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองน่ารักน่าชังขนาดไหน และมีคนที่พร้อมจะมอบความรักให้ทั้งหมดอยู่ตรงนี้ คนตัวโตกดจูบลงกลางกระหม่อมของคนขี้คิดมาก



“ว้าย ตายจริง”



สิ้นเสียงของคุณป้าภา ทั้งคู่กระเด้งตัวออกจากกัน



Call 52



เอิ้นมาหาโชนที่มหาลัยตามที่เจ้าตัวนัดไว้เมื่อวาน



หลังจากที่ป้าภาเข้ามาขัดจังหวะโดยไม่ได้ตั้งใจแล้ว โชนก็ขอตัวกลับก่อนที่ฟ้าจะมืดไปกว่านี้ ไม่ลืมกำชับถึงนัดหมายของพวกเขาในวันพรุ่งนี้ ป้าภาขอโทษขอโพยเอิ้นเป็นการใหญ่ เพียงแต่เอิ้นไม่ได้นึกถือโทษโกรธอะไร



เขาแค่เขินมากๆ แค่นั้นเอง



พวกเขารู้อยู่แล้วว่าบ้านนี้ไม่ได้มีแค่พวกเขาสองคน แต่ก็ยังเผลอแตะเนื้อต้องตัวกันกลางบ้าน เรื่องนี้จะโทษใครก็ไม่ได้



โชนโทรมาหาเอิ้นก่อนนอนอีกครั้ง ตอกย้ำในความสัมพันธ์เพื่อให้เอิ้นเลิกคิดมาก



วันต่อมา เมื่อถึงเวลานัดหมาย เอิ้นก็มายังตึกคณะที่โชนเรียน ครานี้ไม่ได้มาในคราบไฉไล เพราะโชนบอกว่าอยากเที่ยวกับเอิ้นที่เป็นเอิ้นมากกว่าอยู่ภายใต้หน้ากากของใคร



นั่นทำให้เขาดีใจ



แต่ก็ประหม่าไปด้วยพร้อมกัน



“มาหาใครรึเปล่าครับ”



เอิ้นสะดุ้งโหยงกับเสียงข้างตัว หลังจากที่เขาด้อมๆ มองๆ อยู่หลายที่ก็ไม่เจอโชนสักที เอิ้นหันไปยังต้นเสียง และพบว่าคนที่ถามเขาคือตาว เพื่อนของโชนนั่นเอง



เอิ้นเอ่ยบอกความประสงค์ของตนไป ตาวพยักหน้ารับ บอกให้ตามมา



โชนอยู่ในห้องสมุดของคณะ



เจ้าตัวบ่นอุบไม่เลิก บอกกับเพื่อนเป็นร้อยๆ ครั้งแล้วว่ามีนัด จะให้มานั่งทำรายงานตอนนี้ไม่ได้ แม้ว่างานกลุ่มจะสำคัญ แต่เอิ้นก็สำคัญเช่นกัน รายงานเล่มนี้ ค่อยเขียนพรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย หรือให้เขาเขียนสองบทในคืนนี้ก็ยังได้ เหตุใดถึงต้องมากักตัวกันด้วย



เขาตั้งใจจะลุกออกไปหลังจากเขียนรายงานหน้านี้จบ เอิ้นคงมาถึงนานแล้ว



ป่านนี้ดวงใจของเขาคงรอแย่แล้ว



ดีไม่ดีอาจจะร้องไห้ที่เขาหายไปอีก



โชนนึกเป็นห่วงแฟนตัวเองสารพัด โดยไม่รู้ตัวว่าเอิ้นปรากฏตัวอยู่ข้างหลังเขาเอง



Call 53



“ถ้ายุ่งก็ไม่ต้องนัดก็ได้นี่นา ผมไม่ว่าอะไรหรอก”



“ไม่ได้สิ ผมอยากเจอนี่”



สุดท้าย เอิ้นก็มานั่งข้างๆ โชนท่ามกลางเพื่อนๆ กลุ่มเดิม โดยแนะนำตัวเองว่าเป็น ‘เพื่อนโชน’ ครานี้เขาสามารถเอ่ยแนะนำชื่อตัวเองได้อย่างไร้ข้อกังขา เพื่อนทุกคนรับรู้และแนะนำตัวเองให้เอิ้นรู้จักอีกครั้ง



โชนตั้งใจนัดเขาที่นี่เพราะรู้ว่าต้องทำงานกลุ่ม แต่ไม่คิดว่าเพื่อนๆ ของเขาจะรั้งไว้นานเสียขนาดนี้จนโชนต้องขอโทษเอิ้นเสียยกใหญ่



เขาปล่อยให้โชนทำงานกลุ่มไปอย่างไม่นึกโกรธเคือง กลับขำแกมไม่เห็นด้วยด้วยซ้ำที่นิสิตโชนตั้งใจจะโดดงานกลุ่มเพื่อมาเจอเขา



เอิ้นหยิบหนังสือในห้องสมุดมาอ่าน ส่วนโชนก็ปั่นรายงานหัวฟูกับเพื่อนๆ



ไม่มีเพื่อนคนไหนจำเอิ้นได้ว่าเป็นคนเดียวกับหญิงสาวในร้านเดิมนั้น และเอิ้นนึกขอบคุณที่ไม่มีใครจำเขาได้



ยกเว้นคนหนึ่ง



ตาวจำหน้าเอิ้นได้ทันทีที่เห็นตั้งแต่ครั้งแรก และเมื่อรู้ว่าเอิ้นมาหาโชนก็ยิ่งมั่นใจในความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้ เพียงแต่เจ้าตัวไม่ได้พูดอะไรออกไป



“เอ้อ จะว่าไป นี่ไงเพลงที่ผมจะให้ฟัง” โชนพูดขึ้นเมื่อจู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าเอิ้นไม่ได้ฟังเพลงที่ตนมอบให้ทางวิทยุ



ซาวน์เบาท์ที่บรรจุเทปไว้ถูกหยิบขึ้นมา โชนหยิบหูฟังให้เอิ้น กดเล่นเพลงที่ต้องการ



เย็นวันนั้น เอิ้นก็กลับไปทั้งๆ ที่ไม่ได้ออกไปไหนกัน ทั้งคู่อยู่ด้วยกันในห้องสมุดของมหาลัย ท่ามกลางกลุ่มคนมากมายดูวุ่นวายและไม่เป็นว่นตัว เพียงแต่เอิ้นก็มีความสุขแล้วที่ได้เจอโชน ดีใจแล้วที่โชนไม่ได้หลอกเขา



และขอบคุณที่ความสัมพันธ์ของสองเราเป็นเรื่องจริง



‘Sugar~ Oh, honey honey



You are my candy girl~



And you got me wanting you.’



Sugar Sugar ของ The Archies ถูกเล่นอยู่ในหัวเอิ้นไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง และในคืนนั้นเองโชนก็โทรมาหาเขา



พร้อมกับร้องเพลงเดียวกันกับที่ให้เอิ้นฟังเมื่อเย็น



เพลงเดิมว่าหวานแล้ว ใยจะสู้ได้กับเสียงร้องของโชน ที่ทำให้หัวใจเขาหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งเดือนห้า



เสียงของโชนเข้ามาแทนที่ The Archies ดังทุ้มในใจแทนที่เพลงต้นฉบับ



รอยยิ้มฉาบใบหน้าของเอิ้นตลอดค่ำคืนนั้น



Honey~ Oh, Sugar sugar~



Call 54



“โชนน่าจะให้ช่องทางติดต่อผมเสียหน่อย”



“หืม”



เอิ้นพูดขึ้นในขณะที่พวกเขานั่งทานอาหารมื้อเย็นด้วยกัน วันนี้โชนไม่ต้องปั่นรายงานหรือการบ้านอะไรแล้ว จึงมีเวลามาชวนเอิ้นไปทานข้าวเย็นด้วยกัน ทดแทนส่วนของเมื่อวาน



“พอคิดว่าโชนเป็นคนเดียวที่สามารถติดต่อหาผมได้ มันก็ไม่ยุติธรรมเลย”



“คุณเอิ้น...”



“ผมว่าจะซื้อโทรศัพท์มือถือให้คุณสักเครื่อง”



“อย่าเชียวนะ” โชนร้องลั่น “คุณเอิ้นห้ามซื้อของแพงขนาดนั้นให้ผมเชียว ผมจะเก็บตังซื้อเอง”



“แล้วอย่างนั้น...” เมื่อไหร่จะได้คุยกันเล่า เอิ้นถอนหายใจ คิดหาวิธีใหม่



“ใช้เพจเจอร์ดีไหม”



“ไม่เอา เพจเจอร์ไม่ได้ยินเสียงคุณ” โชนค้าน อีกอย่าง เขาไม่มีเพจเจอร์ด้วย เพราะเสียเงินเก็บไปกับซาวน์เบาท์และอย่างอื่นหมดแล้ว แถมครอบครัวเขาไม่ได้ร่ำรวยอะไร



“ไม่เอาเพจเจอร์ แต่ยอมเขียนจดหมายน่ะหรือ” เอิ้นถามด้วยความฉงน



“ก็จดหมายมันมีลายมือคุณเอิ้นนี่นา”



“แล้วต้องทำยังไงผมถึงจะติดต่อคุณได้กันเล่า...” เอิ้นบ่นอุบพร้อมถอนหายใจ โชนไม่ทันโลกเทคโนโลยีเหมือนเขาเอาเสียเลย ขนาดเขาแก่กว่าแท้ๆ



เอิ้นคิดว่าไม่ยุติธรรมเสียเลยที่ตนไม่สามารถติดต่อโชนก่อนได้ บางวันโชนโทรมาหาเขาตอนดึก บางวันก็ไม่โทรมา เขาเองก็เป็นห่วงแฟนของตัวเองเหมือนกันนะ



“งั้นเอาเบอร์ไอ้ตาวไปได้ไหม”



“หือ”



“เพื่อนผมมันมีมือถือ ไว้ถ้ามีเรื่องเร่งด่วนคุณเอิ้นก็โทรเข้ามือถือมันนะ เดี๋ยวผมบอกมันเอง”



“ไม่เอาหรอก รบกวนแย่เลย” ให้เขาซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้ยังดีกว่าเลย



“ไอ้ตาวไม่ว่าหรอก มันอยู่หอเดียวกับผมด้วย เอาตามนี้แหละ” ว่าแล้วโชนก็หยิบกระดาษมาจดเบอร์โทรศัพท์ของซี้สหายให้อีกฝ่าย



โชนเอาแต่ใจ เอิ้นคิด แต่ก็รับแผ่นกระดาษที่มีเบอร์โทรศัพท์ของตาวไปอยู่ดี



Call 55



คนเป็นแฟนเขาต้องทำตัวกันยังไง



เอิ้นไม่เคยมีแฟน จึงไม่รู้ว่าต้องเป็นอย่างไร เพียงแต่โชนเองก็ไม่ได้ทำตัวแตกต่างจากเดิมเท่าไหร่ เขาปฏิบัติกับเอิ้นเหมือนที่ผ่านมา



สาวน้อยดูดน้ำแดงในแก้ว สวมหมวกใบโตสีสวยหลบแสงอาทิตย์ขณะที่รออีกฝ่ายไปต่อแถวซื้อสายไหมถุงใหญ่ให้เขา แข่งกับความร้อนและผู้คน ไม่นานนักก็ถึงคิวของโชน เขาซื้อขนมสายไหมมาสองถุง ยื่นขนมก้อนฟูสีชมพูให้เอิ้น ส่วนของโชนเป็นสีขาว



เอิ้นแกะถุงขนมก่อนพากันเดินออกไปจากตรงนี้ อย่างน้อยก็หลบเข้าที่ร่มดีกว่า เอิ้นหยิบขนมเข้าปาก ความหวานจากน้ำตาลค่อยทำให้เขามีแรงขึ้นมาหน่อย



โชนพาเขาเข้าร้านเสื้อผ้าและเครื่องประดับของผู้หญิง



“คุณเอิ้นอยากได้อะไรหรือเปล่า”



อันที่จริง เอิ้นเริ่มเบื่อเสื้อผ้าและเครื่องประดับอันเก่าแล้ว จึงพยักหน้ารับ คิดว่าอย่างไรเสียก็คงได้ออกมาเที่ยวกับโชนอีกบ่อยๆ และคงต้องแต่งเป็นผู้หญิงไปอีกสักพัก



ใช้เวลาไม่นานเอิ้นก็เลือกเครื่องประดับเป็นจี้ห้อยคอและกำไลข้อมือเสร็จสรรพพร้อมกับชุดเดรสตัวใหม่



“คุณเอิ้นอยากได้อะไรอีกไหม”



เอิ้นส่ายหน้า เอ่ยถาม “โชนล่ะ”



“ไม่มีเหมือนกัน”



แล้ว...เราจะกลับกันแล้วเหรอ เอิ้นคิดในใจ ถึงแม้จะเย็นแล้วแต่เขายังอยู่กับโชนให้นานกว่านี้ เช่นเดียวกับโชน เขายังไม่อยากจากเอิ้นไปในตอนนี้ พลันนึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นป้ายโฆษณางานวัดใกล้ๆ นี้



“งั้นเราไปงานวัดกันไหม”



“หืม”



“ผมเห็นว่าวันนี้มีงานวัดแถวนี้ด้วยล่ะ”



“เอาสิ” เอิ้นเอ่ยตอบรับด้วยความตื่นเต้น ตนไม่เคยไปเที่ยวงานอะไรแบบนี้เลยสักครั้ง



โชนจึงพาคนสวยไปที่งานตามความต้องการ



Call 56



เอิ้นไม่เคยเห็นซุ้มยิงปืน ปาเป้า โยนห่วง หรือซุ้มขายขนมอะไรพวกนี้ใกล้ขนาดนี้มาก่อน เขาเคยเห็นในรูปถ่าย แต่ไม่เคยได้สัมผัสบรรยากาศจริง และที่สำคัญ เขาไม่เคยเห็นชิงช้าสวรรค์ใกล้ขนาดนี้มาก่อน ไฉไลมองไปรอบตัวด้วยความตื่นเต้น คนเป็นแฟนก็ได้แต่ยกยิ้มให้กับความน่ารักน่าเอ็นดู



“ลองเล่นดูมั้ยครับ” โชนเอ่ยถาม เมื่อเห็นเอิ้นสนใจซุ้มปาโป่ง



“ได้หรอ”



“ได้สิ”



ไม่รอช้า โชนจัดการพูดคุยกับคุณลุงร้านปาเป้าทันที เอิ้นได้รับลูกดอกมาหกอัน กติการคือต้องยิงให้โดนลูกโป่งที่อยู่ในชั้นให้ได้ตามจำนวนที่กำหนดไว้ ถึงจะได้รางวัล



หัวใจเอิ้นสั่นระรัวด้วยความตื่นเต้นที่จะได้เล่นอะไรเช่นนี้เป็นครั้งแรก นิ้วมือสวยจับลูกดอก ขว้างมันออกไป



เอิ้นจบการเล่นปาโป่งด้วยลูกดอกที่ยิงเข้าเป้าอยู่หนึ่งดอก และได้ของรางวัลปลอบใจมา แม้ไม่ใช่ของแพงหรือหรูหรา แต่มีความหมายต่อเอิ้นอย่างถึงที่สุด ดินสอไม้รูปสัตว์แท่งนี้จะเป็นของระลึกว่าครั้งหนึ่งเอิ้นเคยมาที่นี่กับโชน



งานวัดมีทั้งของกินที่เอิ้นไม่เคยได้กิน มีทั้งซุ้มแปลกๆ ให้ลองเข้าไปชม เอิ้นพลันกลายเป็นเด็กตัวเล็กๆ วิ่งพล่านให้โชนตามดูแลเสียอย่างนั้น



“เราขึ้นชิงช้าสวรรค์ได้มั้ย” เอิ้นถาม



“ได้สิครับ”



พวกเขาต่อคิวเข้าแถวรอขึ้นชิงช้าสรรค์ เมื่อกระเช้าว่างมาถึง โชนพาเอิ้นเข้าไปนั่งเข้าใน ก่อนมันจะค่อยๆ ลอยเคลื่อนสู่ผืนฟ้า



เอิ้นจ้องมองพื้นดินที่ค่อยๆ สูงขึ้นอย่างสนุกสนาน ตนไม่เคยได้เล่นอะไรแบบนี้ และมันทำให้เอิ้นตื่นเต้นมากๆ จนกระเช้าเหล็กพาพวกเขามาใกล้จะเกือบถึงจุดสูงสุด เอิ้นหันไปหาโชน



“ขอบคุณที่พามานะ”



“ผมยินดี”



“โชน...ตอนนี้เราเป็นแฟนกันใช่ไหม”



“ใช่สิ คุณเอิ้นเป็นแฟนผมนะ”



“จริงๆ แล้ว ผมไม่ค่อยรู้ว่าการเป็นแฟนกันต้องทำยังไง” เอิ้นเริ่มกล่าวความรู้สึกในใจ



“โชนไม่ได้ทำอะไรแตกต่างจากเดิมเลย ถึงอย่างนั้นผมก็ชอบมันนะ”



“ผมหมายถึง...ก่อนหน้านี้เราเป็นเพื่อนกันใช่ไหม แล้วโชนก็ทำเหมือนเมื่อก่อน คือ...”



“คือไม่ได้ไม่ชอบหรอกนะ แต่ผมไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำตัวยังไงให้เหมือนคนเป็นแฟนกัน”



“แต่จริงๆ แบบนี้ก็ไม่ได้แย่นะ เอ่อ...ช่างมันเถอะ” เอิ้นยอมแพ้กับการพยายามอธิบายความรู้สึกตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง เพราะเขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเท่าไหร่นัก โชนปฏิบัติตัวไม่ต่างจากที่แล้วมา แม้ไม่ใช่เรื่องไม่ดี แต่ลึกๆ ในใจเอิ้นก็อยากรู้ว่าคนเป็นแฟนกันต้องทำตัวอย่างไรเฉยๆ



“คุณเอิ้นรู้ไหม ทำไมผมถึงไม่ได้ทำอะไรให้ต่างจากเดิม”



“ผมไม่รู้...”



“เพราะทุกๆ วันก่อนหน้านั้นผมก็คิดกับคุณเอิ้นมากกว่าเพื่อนอยู่แล้ว”



“เอ๊ะ”



“อยากปฏิบัติกับคุณเอิ้นมากกว่าเพื่อน...จริงๆ ผมก็เคยบอกไปแล้วนี่เนอะ”



“...”



“แต่รู้ไหมก่อนหน้านี้มีสิ่งหนึ่งที่ผมทำกับคุณเอิ้นไม่ได้นะ”



“...”



“เป็นสิ่งที่คนเป็นแฟนกันเท่านั้นถึงจะทำได้”



โชนไม่รอให้เอิ้นเอ่ยปากถามหาคำตอบ เขาเคลื่อนตัวเข้ามาประทับริมฝีปากกับอีกฝ่าย สอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากหวาน มอบจูบที่ลึกซึ้งกว่าเดิมให้คนเป็นแฟน



กระเช้าชิงช้าลอยตัวสู่จุดสูงสุด ไปพร้อมๆ กับหัวใจของเอิ้นที่ล่องลอยแตะปุยเมฆ





___________________________________

หวานกันทีละนิด ///

#call123456

หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 7 |20.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 20-08-2018 17:57:54
โอ๊ยยยยยยย จูบกันแล้วววววววววอ่ะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 7 |20.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 20-08-2018 18:49:02
ตบมด ไต่เต็มชิงช้าแล้วค่าาา
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 7 |20.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 20-08-2018 19:10:03
หวานกันจนมดบุกงานวัดแล้วค่าาา
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 7 |20.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Kx0806 ที่ 20-08-2018 20:42:52
หอมความรัก~~~  :-[
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 7 |20.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 20-08-2018 22:38:03
มาให้กำลังใจ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 7 |20.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Patsz ที่ 20-08-2018 23:51:16
ตอนนี้หวานมาก แต่เวลาหวานๆ มักจะมีดราม่าตามเสมอ
ไทม์ไลน์ในเรื่องนี้ ตรงกับเราตอนขึ้นม.ต้นเลย คิดถึงซาวน์เบาท์ โซนี่ บอกอายุเลย
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 7 |20.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 22-08-2018 22:16:55
 :katai5: :katai5: รอ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 7 |20.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-08-2018 21:14:31
หวานๆ แบบนี้ อย่าชงมาม่าน๊าาาา
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 7 |20.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 25-08-2018 02:38:09
คุณเอิ้นน  :hao5: เรื่องน่ารักมากๆเลยค่ะ ชอบ o13
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 8 |25.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 25-08-2018 16:15:20
โทรครั้งที่ 8_____________________









Call 57



“คุยกับคุณเอิ้นมาเหรอ”



“อืม เอ้อ กูให้เบอร์มึงกับคุณเอิ้นไปนะ”



“หือ”



“เผื่อมีอะไรฉุกเฉินจะได้ให้เขาโทรมา”



“อ่อ ได้”



จบคำของไอ้ตาว โชนเอ่ยขอบคุณก่อนปีนขึ้นเตียง เขาอยู่หอเดียวกับตาว และเป็นรูมเมทกัน สภาพของเพื่อนซี้ที่ออกไปโทรศัพท์กลางค่ำกลางคืนเป็นที่คุ้นตาของตาวอยู่แล้ว



เพียงแต่พอรู้ว่าคุณเอิ้นเป็นผู้ชายและเป็นคนเดียวกับผู้หญิงที่โชนพามาให้รู้จักในฐานะคุณเอิน... ก็อดจะคิดแบบเดิมไม่ได้



ตาวไม่ได้จะว่าอะไรที่เพื่อนชอบผู้ชาย...หรือกะเทย หรือผู้ชายแต่งหญิงอะไรก็ตามแต่ แต่เขาแค่ไม่คิดว่าจู่ๆ โชนจะเลือกทางนี้



หรืออาจจะเพราะคนนี้มากกว่า



เขายักไหล่ ไม่ได้เก็บมาใส่ใจมาก ปีนขึ้นอีกเตียงนอนตามอีกฝ่ายไป



Call 58



“วนิลาหรือสตอเบอร์รี่ครับ”



“สตอ...วนิลาก็ได้”



“คุณเอิ้น...เอาที่อยากได้จริงๆ สิครับ”



“...”



“อ่ะ”



โชนยื่นไอศกรีมรสสตอเบอร์รี่สีหวานให้อีกคน



“เป็นผู้ชายแล้วกินไอศกรีมรสนี้มันคงแปลกๆ” เอิ้นว่า หลังจากรับไอศกรีมมาไว้ในมือ เป็นอีกครั้งที่วันนี้เขาไม่ได้สวมกระโปรงตามคำขอของอีกฝ่าย



“แปลกยังไงครับ ผู้ชายชอบสตอเบอร์รี่ไม่ได้หรือ”



“ไม่ใช่ไม่ได้...แต่ไม่ค่อยมีผู้ชายคนไหนชอบนี่  คนเห็นแล้วมันจะดูประหลาดเอา”



“คุณเอิ้นต้องเลิกตัดสินใจจากสายตาคนภายนอกได้แล้วนะ”



“...”



“อ่ะ ผมกินรสสตอเบอร์รี่เป็นเพื่อน”



วันนี้เอิ้นไม่ได้แต่งตัวเป็นผู้หญิง เนื่องจากโชนขอไว้ ทำให้เขาค่อนข้างเกร็งกับสายตาคนรอบข้าง กลัวว่าจะไปทำอะไรให้ใครต่อใครผิดใจอีก



“คุณเอิ้น...” โชนเรียกชื่อคนข้างตัว เอื้อมมือมาลูบใบหน้าที่คล้ายกังวล



เอิ้นชะงัก เขาเอนหน้าหลบสัมผัสของโชน ที่นี่ที่สาธารณะ เอิ้นไม่อนุญาตให้โชนสัมผัสเขาเกินเลยกว่าคำว่าเพื่อน และการลูบหน้ากันไม่ใช่การกระทำของเพื่อนชาย



“อยู่กับผมไม่ต้องคิดมากเรื่องสายตาคนอื่นได้ไหม” โชนเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าคนน่ารักคิดมากอีกแล้ว



“ไม่ได้หรอก” เอิ้นว่า “โชนไม่เคยเจอเหมือนผมนี่”



ก่อนเดินนำไปสู่อีกทาง



โชนยกยิ้มพร้อมถอนหายใจลำพัง เขาพยายามอยากให้เอิ้นเป็นตัวของตัวเองมากกว่านี้ แสดงถึงสิ่งที่ตัวเองเป็นมากกว่านี้ ไม่ใส่ใจสายตาคนรอบข้างมากกว่านี้ สิ่งที่เอิ้นเป็นไม่ใช่เรื่องผิด โชนไม่อยากให้เอิ้นต้องใส่หน้ากากปกปิดความเป็นตัวเอง



แต่เหมือนว่าโชนจะรีบร้อนเกินไป



Call 59



“คุณเอิ้น ดูเรื่องนี้กันดีไหม”



“Home alone หรือ เอาสิ ผมชอบ”



“งั้นซื้อม้วนนี้นะ”



“ไม่เช่าเอาเหรอ”



“ซื้อเลยก็ได้ ถ้าจะไปร้านเช่าก็ไม่แน่ใจว่ามีคนยืมไปแล้วรึเปล่า”



“ผมมีเวลาตลอดน่า”



โชนอมยิ้ม “ซื้อไว้จะได้เป็นที่ระลึกว่าเป็นหนังเรื่องแรกที่ผมจะได้ดูกับคุณเอิ้นด้วย”



เอิ้นไม่ตอบอะไรหลังจากนั้น หลังจากกินไอศกรีมสีหวานจนหมด พวกเขาก็มาอยู่ในร้านขายวิดีโอและเทปคลาสเส็ท โชนตั้งใจชวนเอิ้นออกมาเดทเหมือนเคย เพียงแต่อยากลองซื้อวิดีโอหนังสักเรื่องไว้ดูกับเอิ้นสองต่อสองบ้าง ดูในโรงมันก็ดี แต่มันก็ยังเป็นที่สาธารณะ คุณเอิ้นของเขาไม่ยอมแน่ๆ หากเขาจะแต๊ะอั๋งแฟนตัวเองสักหน่อย



แม้แต่จับมือคุณเอิ้นยังไม่ให้เลย



แผนการซื้อหนังไปดูของโชนจะเกิดขึ้นด้วยประการฉะนี้ บ้านของเอิ้นมีเครื่องเล่นวิดีโออยู่ในห้องนอนเอิ้น โชนมั่นใจว่าคราวนี้จะได้สวีทกับคุณเอิ้นด้วยกันสองต่อสองแบบไม่ต้องเกรงกลัวสายตาใครเสียที



รวมไปถึง...วันนี้คุณป้าภากับคุณลุงวีไม่อยู่บ้านเสียด้วย



พวกเขานำม้วนหนังไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์



ในจังหวะที่โชนกำลังเคลิบเคลิ้มวาดภาพฝันไปกับการได้ครอบครองเอิ้น



ฝนก็เทลงมา



Call 60



วันนี้ลุงวีไม่ว่างมารับ พวกเขาทั้งคู่รู้ดี โชนมารับเอิ้นถึงบ้านด้วยมอเตอร์ไซค์ของตาวเพื่อนซี้ ตั้งใจจะไปส่งเอิ้นถึงบ้านด้วยมอเตอร์ไซค์คันเดิมแต่ตอนนี้กลับต้องคิดใหม่...



ห่าฝนที่เทลงมาไม่มีท่าว่าจะหยุด



และคงไม่ดีแน่ถ้าจะให้คุณเอิ้นนั่งรถเปียกฝน



“คงต้องรอฝนหยุด” เอิ้นว่า แต่กว่าฝนจะหยุดไม่ต้องรอจนถึงเช้าเลยหรือ



“งั้นคุณเอิ้นรอสักครู่นะ” โชนว่า ส่งถุงวีดิโอให้อีกฝ่าย วิ่งออกร้านฝ่าน้ำฝนไปโดยไม่ทันให้เอิ้นได้ร้องทัก



เอิ้นยืนชะเง้อคอยาวมองหาอีกฝ่ายอย่างกังวล โชนไม่ได้บอกว่าไปไหน แถมจู่ๆ ก็วิ่งฝ่าสายฝนไปทำให้เอิ้นเป็นห่วงมิใช่น้อย



แต่ไม่นานโชนก็กลับมาด้วยสภาพเปียกโชกไปทั้งตัวพร้อมเสื้อกันฝนสองอัน และมอเตอร์ไซค์คู่ใจ เขาเดินลงจากพาหนะ มาหาเอิ้นพร้อมกับยื่นเสื้อกันฝนอย่างดีให้



“โชนเปียกหมดเลย...”



“ผมไม่เป็นไรหรอก นี่ของคุณเอิ้น สวมไว้นะครับ เดี๋ยวผมพาไปส่งที่บ้าน” โชนว่า



“ผมถามคนขายของแล้ว เขาว่าวันนี้ฝนตกทั้งคืน”



เอิ้นพยักหน้ารับ สวมใส่เสื้อกันฝน ปีนขึ้นมอเตอร์ไซค์ ก่อนจะห้อตะบึงฝ่าสายฝนไป



ระหว่างทางกลับเหมือนฝนจะเล่นตลก เมื่อมันสาดโครมเหมือนฟ้ารั่วมากกว่าเก่า



“โชน ฝนตกหนักขนาดนี้ จอดก่อนไหม มันอันตราย”



“อืม แต่แถวนี้ไม่มีที่ให้หลบฝนเลย”

“...”



“แต่จากตรงนี้ไปหอผมประมาณสิบนาที เราไปพักที่หอผมก่อนก็ได้ คุณเอิ้นไหวมั้ยครับ”



“อื้อ ได้” เขาบอกอีกฝ่าย โอบแขนรอบเอวคนขับ ก็หมวกกันน็อคทำให้ไม่เห็นหน้านี่นา ไม่เป็นไรหรอก แถมฝนก็ตกหนักขนาดนี้ คงไม่มีใครมาใส่ใจผู้ชายสองคนที่อยู่บนมอเตอร์ไซค์หรอกมั้ง



โชนขับมอเตอร์ไซค์ฝ่าสายฝนจนมาถึงจุดหมายในที่สุด เขาชวนเอิ้นเข้าห้องพักของตัวเอง



“คุณเอิ้นอาบน้ำนะครับ จะได้ไม่เป็นหวัด เดี๋ยวยืมเสื้อผมก่อนก็ได้”



“อ่า...แล้วโชนล่ะ”



“เดี๋ยวผมค่อยอาบต่อคุณเอิ้น”



“แต่โชนเปียกกว่าผมนะ”



“ผมแข็งแรงน่า ไม่เป็นไรหรอก”



เอิ้นพ่ายแพ้ต่อการเถียงอีกแล้ว เขายอมทำตามเจ้าของห้องอย่างว่าง่าย เอิ้นอาบน้ำด้วยน้ำเย็นเพราะหอพักไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ทำให้เขาทำใจอยู่พักใหญ่กว่าจะราดน้ำเย็นๆ ชโลมให้ทั่วตัว เอิ้นอาบน้ำเสร็จก็หนาวจนตัวสั่น



 โชนให้เขายืมเสื้อตัวใหม่ มันใหญ่กว่าตัวเอิ้นค่อนข้างมาก ทำให้ดูเหมือนลูกชายแอบใส่เสื้อพ่อ ทั้งๆ ที่เขาแกกว่าโชนแท้ๆ แต่ร่างกายกลับตัวกระเปี๊ยกเดียว



เอิ้นออกมาจากห้องน้ำ และเห็นโชนนั่งอยู่ริมเตียง เอิ้นมองไปรอบๆ ห้องพัก



ห้องพักนี้มีเตียงสองเตียง โชนเคยบอกว่าพักอยู่กับเพื่อนที่ชื่อตาว ในตอนแรกที่พวกเขาเข้าห้องมาเอิ้นยังไม่ทันได้สังเกตอะไรมากนัก แต่ครั้งนี้มีสิ่งหนึ่งที่เอิ้นเห็นแน่ชัด



“เพื่อนโชนไม่อยู่เหรอ”



“อือ มันออกไปข้างนอก เดี๋ยวคงกลับ”



“แสดงว่าตอนนี้มีแค่โชนกับผมงั้นเหรอ...?”



Call 61



โชนจับจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาคมกริบ พยายามจ้องเข้าไปในดวงตากลม



เอิ้นไม่ได้หมายความถึงอะไรลึกซึ้ง เขาแค่เอ่ยถามตามความสงสัยอย่างแท้จริง แต่พอเอ่ยถามออกไปกลับดูเหมือนเอิ้นคิดลึกมากกว่านั้นแถมโชนก็จ้องแปลกๆ จนคนถามต้องรีบเอ่ยปฏิเสธเป็นพัลวัน



“ไม่ ไม่ใช่นะ ไม่ใช่อย่างนั้น ผมแค่สงสัยเฉยๆ ไม่ได้หมายความว่า...”



โชนหัวเราะขำ ลุกขึ้นมาลูบหัวคนตัวเล็กกว่า “ผมยังไม่ทันว่าอะไรเลยครับคุณเอิ้น”



คุณเอิ้นของโชนหน้าขึ้นสีเป็นลูกมะเขือเทศ



“แต่ถ้าคุณเอิ้นคิด...ก็รอผมอาบน้ำแป๊บนึงนะ”



“บ้า!”



เอิ้นร้องโวยวาย รีบผลักให้อีกฝ่ายเข้าห้องน้ำไปด้วยใจที่สั่นระรัว



ส่วนคนแกล้งเดินละลิ่วลอยตัวไปอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์



เอิ้นนั่งรอที่ปลายเตียงของโชน จนกระทั่งอีกฝ่ายอาบน้ำเสร็จก็มานั่งเช็ดผมข้างๆ



“ฝนไม่มีทีท่าจะหยุดเลยแฮะ”



“อือ...”



“คุณเอิ้น ถ้ายังไง...คืนนี้พักที่นี่ไหมครับ”



“เอ๊ะ”



“คือ...ถ้าไม่รังเกียจห้องแคบๆ น่ะ”



เอิ้นส่ายหน้ารัว ไม่ได้รังเกียจ และห้องก็ไม่ได้แคบมากมาย ก็แค่...เล็กกว่าที่เอิ้นเคยอยู่นิดเดียวเอง แต่ที่เอิ้นไม่กล้าพูดอะไรออกไปเพราะโชนชวนค้างที่นี่! เขาแทบไม่เคยค้างคืนที่ไหนกับใครนอกจากคนในครอบครัวมาก่อน



“ผมไม่ได้รังเกียจ แต่...ที่นี่มีเพื่อนโชนอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ”



“อืม แต่มันไม่ว่าอะไรหรอก”



“ได้ไง ต้องถามเพื่อนโชนก่อนสิ”



โชนทำหน้าครุ่นคิด แต่ก็ยอมตกลงแต่โดยดีเพราะไม่อยากให้เอิ้นคิดมาก เดิมทีเขากับตาวเช่าห้องอยู่ด้วยกัน แชร์ค่าน้ำค่าไฟกันและบางครั้งตาวก็พาเพื่อนมานอนด้วยบ่อยๆ โชนก็ไม่คิดห้าม ส่วนตาวเองก็ไม่ใช่คนมากความอะไร โชนคิดว่าถ้าขอให้คุณเอิ้นพักที่นี่สักคืนคงไม่มีปัญหา



แต่ดูท่าคงต้องให้เอิ้นเห็นตาวอนุญาตจริงๆ เจ้าตัวถึงจะยอมเชื่อ



“คุณเอิ้น ดูหนังกันมั้ย”



โชนเอ่ยชวน หลังจากที่เสียงสายฝนเริ่มแย่งซีนนานเกินไป ที่ห้องของโชนมีโทรทัศน์ 21 นิ้วอยู่เครื่องนึง มีเครื่องเล่นวิดีโอที่เป็นของตาว วางอยู่ใต้ชั้นวางโทรทัศน์  พอมีเครื่องเล่นวิดีโอจากเพื่อนซี้ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้โชนชอบเช่าหนังมาดูบ่อยๆ



เอิ้นไม่ปฏิเสธคำชวน แล้วม้วนวิดีโอก็ถูกกลืนเข้าเครื่องเล่นไป



ตัวหนังเล่นไปเรื่อยๆ เรื่องราวของเด็กชายตัวน้อยที่ต้องเฝ้าบ้านลำพัง และต่อสู้กับขโมยตัวร้ายถูกนำเสนอออกมาได้อย่างตลกขบขำ



สายฝนยังคงโปรยปราย



พวกเขานั่งเบียดกันอยู่ที่เตียงเดี่ยวเล็กๆ ของโชน



ในช่วงที่ยังไม่ใช่ตอนตื่นเต้นของฉาก โชนใช้จังหวะนี้ทำการเคลื่อนใบหน้าตัวเองเข้าหาคนข้างๆ มากขึ้น มือใหญ่ช้อนคางมนเข้าหาตัว ก่อนกดลงที่ริมฝีปาก



แนบแน่น และเนิ่นนาน ก่อนจะเริ่มรุกล้ำลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจโพรงปากเล็ก ละเลียดไล่ชิมทุกซี่ฟัน ดูดดึงลิ้นร้อนที่สั่นอย่างกล้าๆ กลัวๆ



โชนประคองใบหน้าละมุนให้เข้าองศาเพื่อมอบรสจูบที่ดูดดื่มมากขึ้น



เคลิบเคลิ้มจนลืมว่าตัวหนังเล่นถึงไหนแล้ว



ทันใดนั้นเอง เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นมา



ปัง!



Call 62



ทั้งคู่สะดุ้งตัวโยนผละออกห่างจากกันทันที ทั้งสองรีบมองหน้าผู้มาเยือน ตาวที่เปียกโชกไปทั้งตัวไม่ทันสังเกตว่ามีคนอยู่ร่วมห้องนอกเหนือจากเพื่อนสนิทตัวเองด้วย



“เวรเอ๊ย ฝนตกลงมาห่าใหญ่ กว่ากูจะฝ่าฝนกลับมาได้”



“...”



“เปียกยันกางเกงในเลยแม่ง ข้าวที่ซื้อมาก็คงอดแดก”



“...”



“กูเห็นมอเตอร์ไซค์กูจอดอยู่ใต้หอ ไหนมึงว่าจะขอยืมคืนนึงไง อ...อ้าว คุณเอิ้น สวัสดีครับ”



คนเปียกม่อล่อกม่อแลกบ่นอุบพร้อมกับบิดน้ำฝนออกจากเสื้อตัวนอก ก่อนจะเงยหน้ามาเจอกับคนไม่คุ้นเคยที่นั่งจ้องเขาตาแป๋ว เอิ้นตอบรับคำทักทายและปล่อยให้ที่เหลือเป็นหน้าที่ของโชน



“เออ จู่ๆ ฝนมันก็ตกหนัก กูเลยกลับมาที่นี่ก่อนเพราะใกล้กว่า คิดว่าฝนซาเมื่อไหร่คงพาคุณเอิ้นกลับบ้าน”



“ตกอย่างนี้น่าจะไม่ซาง่ายๆ มั้ง มึงก็ให้คุณเอิ้นนอนที่นี่ไปเลยสิ”



โชนยักคิ้วให้แขกรับเชิญ “กูก็ว่างั้น แต่คุณเอิ้นเขาเกรงใจมึง”



“โอ๊ย คุณเอิ้นไม่ต้องเกรงใจหรอก ผมสิต้องเกรงใจ ห้องรกไปหน่อย”



เอิ้นส่ายหน้า “ไม่ๆ ไม่รกเลย”



“แต่แคบกว่าห้องน้ำบ้านคุณเอิ้นเยอะ” โชนล้อ พร้อมหัวเราะขำจนโดนเอิ้นถองเข้าที่ท้อง



เอิ้นบ่นคนชอบล้อในใจ ถึงแม้จะเป็นเรื่องจริง แต่ก็ไม่น่าพูดมั้ยเล่า เจ้าของห้องอีกคนอุตสาห์ยอมให้เขาพักด้วยทั้งที



“ตามสบายนะคุณเอิ้น” ตาวว่าพร้อมยกยิ้ม ก่อนขอตัวไปอาบน้ำ ปล่อยให้พวกเขาสองคนดูหนังที่ค้างไว้ต่อไป...แต่หลังจากที่โชนจูบไปเสียขนาดนั้น ใครเล่าจะมีอารมณ์ดูต่อ



เมื่อได้มติ โชนก็กดหยุดเล่นหนังก่อนนำม้วนวิดีโอออกมาจากเครื่องเล่น ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่ม ปกติจะเป็นช่วงที่เขาออกไปโทรศัพท์หาเอิ้น  แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้วนี่ ในเมื่อเจ้าตัวมานั่งตากลมแป๋วอยู่ข้างๆ



ทั้งที่เจ้าตัวอยู่ข้างๆ ในเวลาเดิมที่มักพูดคุยกันแท้ๆ



แต่กลับพูดอะไรไม่ออก



Call 63



“ฟังวิทยุกันไหม” เป็นโชนที่เอ่ยชวนขึ้นมา เจ้าของห้องหยิบซาวน์เบาท์มาเปิดเครื่อง เสียงเพลงจากวิทยุสลับกับเสียงดีเจทำให้บรรยากาศไม่เงียบเกินไป



ตาวทำธุระเสร็จแล้ว



เขาออกมาจากห้องน้ำพลันเห็นว่าเพื่อนซี้ของตนนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง โดยมีแขกคนสำคัญนอนซบไหล่เพื่อนตนอยู่



คุณเอิ้นผล็อยหลับไปแล้ว



โชนยกมือทำสัญลักษณ์ให้อีกฝ่ายอย่าส่งเสียงดัง



ตาวยักไหล่ แต่ก็ทำตามคำขอของเพื่อน เขานั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะสักพัก ก่อนที่ทั้งห้องจะถูกดับไฟเมื่อถึงเวลาเข้านอน



ในมวลอากาศเย็นเพราะสายฝนชุ่มฉ่ำ เตียงเดี่ยวที่บรรจุไปด้วยร่างของสองคนกลับอบอุ่น



โชนค่อยๆ ขยับตัวพาคุณเอิ้นนอนลงที่หมอนดีๆ ก่อนจะสอดแขนเข้าไปใต้ท้ายทอย โอบกอดร่างเล็กไว้แบบกาย สูดดมกลิ่นหอม มอบไออุ่นให้กันและกัน โชนมีฝันดีทั้งที่ยังไม่ได้นอน







_____________________________

ตาวมาดีนะ

#call123456
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 8 |25.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Kx0806 ที่ 25-08-2018 17:34:23
หรือจริง ๆ แล้วตาวจะแอบชอบโชน
...
ไม่ใช่หรอก มั้ง
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 8 |25.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 25-08-2018 20:51:39
เนื้อเรื่องแปลกดี เหมือนได้ย้อนกลับไปสมัยยังเด็ก ยังทันม้วนวีดีโออยู่นะ 55
เอาใจช่วยความรักของทั้งคู่ ขอให้ราบรื่น
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 8 |25.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 25-08-2018 21:27:19
ตาวมาดี~ โอเคฮะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 8 |25.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 25-08-2018 21:55:40
มั่นใจในตัวเองนะคุณเอิ้น เป็นเราดีที่สุด  :mew1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 8 |25.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-08-2018 23:42:21
ตาวมาดีจริง ๆ ก็ดีไป
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 8 |25.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 27-08-2018 06:48:51
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 8 |25.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 27-08-2018 07:34:07
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 8 |25.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 27-08-2018 11:53:02
นอนกอดกันในคืนวันฝนตกอากาศเย็นๆ มันก็โรแมนติกออกนะ ถึงในห้องจะมีตาวอีกคนก็เถอะ :hao3:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 9 |27.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 27-08-2018 17:08:45
โทรครั้งที่ 9______________________



Call 64



“วันหลังไม่เอาแล้วนะ” เอิ้นบ่น กรอกเสียงตัวเองใส่โทรศัพท์



“ทำไมล่ะ ตาวก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”



“ไม่ ไม่...” ไม่ได้ว่าไม่ได้แปลว่าโอเคนี่



การที่เขานอนกกกอดกับโชนในเตียงเดี่ยวแคบๆ แบบนี้ เพื่อนที่ไหนเขาทำกัน ตาวต้องมองเขาแปลกๆ แน่ ดีไม่ดีอาจจะคิดรังเกียจโชนก็ได้



หลังจากคืนนั้น เขาตื่นมาด้วยความตกใจที่ตนนอนซุกอยู่ในอ้อมแขนอีกฝ่ายอย่างใกล้ชิด มันคงจะไม่เป็นกังวลมากถ้าหากที่ที่พวกเขาอยู่นั้นมีแค่กันเพียงสองคน แต่เพราะมีตาวอยู่ด้วยทำให้เอิ้นกระวนกระวายอย่างหนัก ตนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาก็เห็นตัวเองถูกกอดแล้ว



ตาวเองก็คงต้องเห็นภาพนี้แล้วแน่ๆ



เอิ้นยังไม่พร้อมให้ใครรับรู้ความสัมพันธ์ของพวกเขา



เขาเก็บความรู้สึกนี้มาตลอดจนกระทั่งโชนพาเอิ้นมาส่งถึงบ้านและกลับไป จนโทรมาหาใหม่ตอนเย็นวันนั้น



“คุณเอิ้น เพื่อนผมไม่ได้ใจแคบขนาดนั้นหรอกนะ”



ไม่เชื่อหรอก เชื่อไม่ได้หรอก



“คุณเอิ้น คนที่เป็นแบบคุณเอิ้นก็ใช่ว่าจะไม่มีอยู่เลยเสียหน่อย ผมก็มีเพื่อนที่เป็นสาวประเภทสองเหมือนกัน ตาวก็ด้วย มันไม่คิดมากเรื่องพวกนี้หรอก”



ไม่ได้หรอก ยังไงก็ไม่ได้



“ถ้าคุณเอิ้นยังเอาแต่สนใจเรื่องสายตาคนอื่นอยู่แบบนี้ คุณเอิ้นก็จะไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าเลยนะ”



“ก็พูดได้สิ โชนไม่เคยเจอแบบผมนี่”



“...”



“...ขอโทษ”



“ขอโทษทำไมครับ”



“ไม่รู้...”



“คุณเอิ้น คุณจะขอโทษทั้งที่ตัวเองไม่ได้ผิดไม่ได้นะครับ”



“อือ...” เขารู้หรอก เพียงแค่เอิ้นรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่พูดไปแบบนั้น เขารู้ว่าโชนเป็นห่วงเขา แต่เพราะโชนไม่เคยเจอแบบเขาเลยพูดได้น่ะสิ



สายตาทุกคู่ที่มองมาที่ตัวเองราวกับจู่ๆ ตนก็เป็นคนผิด



สายตาของใครหลายคนที่เขาไม่รู้จักจับจ้องมาเพื่อเชือดเฉือนกัน ล้มความภูมิใจในความเป็นมนุษย์ของเขาเพียงเพราะเขาไม่ใช่อย่างที่คนปกติเป็น



 “คุณเอิ้นคงยังไม่พร้อมจะพูดอะไรใช่ไหม”



“...”



“งั้นวันนี้ผมวางสายก่อนนะ”



“อ่า...” เอิ้นตั้งท่าจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่มีอะไรสักอย่างออกไป



“ฝันดีล่วงหน้านะครับคุณเอิ้น”



“อืม”



แล้วโทรศัพท์ก็ถูกวาง



Call 65



เอิ้นถอนหายใจใส่หนังสือเป็นรอบที่ร้อยของวัน เขาทำวิทยานิพนธ์ป.โทในยามกลางวัน เพียงแต่วันนี้เอิ้นไม่มีสมาธิเอาเสียเลย ตั้งแต่วันนั้นที่คุยกับโชน เอิ้นก็คิดมากขึ้น มากขึ้น



ใช่ว่าเขาอยากจะสนใจสายตาคนรอบข้างเสียหน่อย



แต่ความหลังมันฝังใจจนยากที่จะลืม



เอิ้นอยากโทรหาโชน ชวนโชนไปเที่ยวด้วยกันที่ไหนสักที่ ติดที่โชนไม่มีโทรศัพท์สำหรับติดต่อ ครั้นจะให้โทรหาตาวก็คงจะดูแปลกๆ



ว่าแล้วว่าควรจะซื้อโทรศัพท์ให้จริงๆ



แต่ไม่นานหลังจากที่เอิ้นคิด โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา



โชนชวนออกไปเที่ยวอย่างที่เอิ้นต้องการ ชายหนุ่มรู้สึกดีใจจนหัวใจพองโต รีบไปถึงที่นัดหมายโดยลืมเปลี่ยนชุด แต่งตัวให้เป็นผู้หญิงเหมือนทุกที



“คุณเอิ้น ทางนี้”



เอิ้นหันไปตามเสียงเรียก สองเท้าวิ่งไปหาต้นเสียง โชนเองก็เดินมาหาเอิ้นเช่นกัน จนพวกเขาพบกันคนละครึ่งทาง



“โทษทีที่ชวนมากะทันหันนะครับ” โชนเอ่ยก่อน



“ไม่เป็นไร ผมว่าง” แล้วก็อยากเจอคุณด้วย ให้ตาย เอิ้นคิดถึงโชนจัง ทั้งๆ ที่เมื่อวานก่อนก็เพิ่งเจอกันไป แถมนอนกอดกันด้วย



“ถ้างั้น ไปเลยไหมครับ”



“อื้ม”



โชนพาเอิ้นเข้าสู่ห้างสรรพสินค้า เขามีเป้าหมายว่าจะซื้อของขวัญวันเกิดให้เพื่อน ติดตรงที่วันเกิดนั้นก็ใกล้มาถึงแล้วและโชนเพิ่งนึกขึ้นได้ ทำให้โชนต้องรีบหาของขวัญ พอคิดเช่นนั้นก็นึกถึงเอิ้น จึงได้เชิญชวนมาช่วยกันเดินเลือกของขวัญ



“โชน...เรื่องเมื่อตอนนั้น” เอิ้นเริ่มเอ่ยถึงประเด็นที่พวกเขาคุยกันค้างไว้ในโทรศัพท์



“ไม่เป็นไรหรอก ผมจะพยายามเข้าใจคุณเอิ้นแล้วกันนะ ไม่ต้องคิดมาก”



“อือ” เอิ้นตอบรับเสียงแผ่ว



เอิ้นเดินตามโชนไปตามแผนกต่างๆ เพราะตนไม่ได้มีของที่อยากได้ โชนเดินผ่านจุดนี้ไปจุดนี้ก็ยังหาของขวัญที่ถูกใจไม่ได้สักที จนกระทั่งโชนเดินผ่านร้านขายเครื่องดนตรี ขายาวถึงได้หยุดชะงัก



“จะซื้อกีตาร์ให้เพื่อนเหรอ”



“ฮ่าๆ ไม่ใช่หรอกคุณเอิ้น ผมไม่มีเงินขนาดนั้น”



“แล้วมองกีตาร์ตัวนี้ทำไมหรือ”



“อยากได้น่ะ”



“อ๋อ...แต่ว่าที่ห้องโชนก็มีกีตาร์อยู่ตัวหนึ่งไม่ใช่เหรอ” เอิ้นเอ่ยถาม เขาจำได้ว่าในห้องขอโชนมีกีตาร์โปร่งตัวหนึ่งวางพิงอยู่ข้างโต๊ะอ่านหนังสือของโชน



“หรือว่าอันนั้นของตาว?”



“เปล่าหรอก ของผมนี่แหละ แต่ที่มองอันนี้เพราะมันเป็นรุ่นเดียวกับที่พ่อผมใช้”



“...” เอิ้นเงียบ เขารู้ว่าพ่อแม่ของโชนเสียไปนานแล้ว และตอนนี้โชนมีคุณลุงคุณป้าช่วยเลี้ยงดู



“พอพ่อเสีย กีตาร์ตัวนั้นก็เสียตาม ผมเลยเก็บตังซื้อกีตาร์อีกตัวที่ราคาถูกกว่า”



“...”



“พอมาเห็นมันอยู่ตรงนี้แล้วก็เลยอยากได้ขึ้นมาน่ะ”



“ให้ผม...”



“หยุดเลยคุณเอิ้น ห้ามซื้อให้ผมนะ” โชนร้องห้ามก่อนที่คนตัวเล็กจะได้พูดอะไรออกไปเสียอีก ฝ่ามือใหญ่วางบนหัวของเอิ้น ออกแรงขยี้เบาๆ “ผมมีกีตาร์ของตัวเองอยู่แล้ว ไม่คิดจะอยากได้เพิ่มหรอก แค่เห็นแล้วคิดถึงเฉยๆ...”



โชนกล่าว ยกมือออกจากหัวเล็กๆ ของเอิ้น  เดินนำไปอีกทาง



บรรยากาศของพวกเขาเงียบเชียบแม้อยู่ท่ามกลางฝูงชน จนเอิ้นต้องเป็นฝ่ายหาเรื่องคุยขึ้นมา เพราะอีกฝ่ายเหมือนจะจมดิ่งอยู่ในความทรงจำของตัวเอง



“โชนเล่นกีตาร์ได้ใช่ไหม”



“หืม อืม เล่นได้ครับ”



“เล่นเพลงอะไรได้บ้าง”



“เอ...ก็ได้หลายเพลงนะ ถ้าเปิดคอร์ดดู”



“งั้น...โชนชอบเล่นเพลงอะไรเหรอ”



“คุณเอิ้นถามทำไมครับเนี่ย” โชนกล่าวพร้อมกลั้วเสียงหัวเราะ เขาไม่เคยเห็นเอิ้นชวนคุยขนาดนี้มาก่อน “แต่ผมชอบเล่นเพลง Hotel California นะ”



“ทำไมล่ะ”



“เล่นยาก ก็เลยฝึกนาน พอฝึกนานก็เลยชอบ” โชนตอบ ก่อนพุ่งเข้าร้านขายนาฬิกา “คุณเอิ้นว่าอันนี้ดีไหม”



โชนสอบถามเอิ้นถึงรูปแบบของนาฬิกาหลายๆ เรือน และหลังจากนั้นเอิ้นก็ไม่ได้ชวนคุยเรื่องดนตรีอีก



Call 66



สุดท้ายโชนก็ได้นาฬิกาข้อมือมาเรือนหนึ่งเป็นของขวัญให้เพื่อนสมใจ แม้เขาว่าการให้นาฬิกาให้กันจะหมายถึงการเลิกรากันเมื่อนาฬิกาหยุดเดิน แต่โชนค่อนข้างหัวสมัยใหม่ ไม่ได้ถือสาอะไร เพราะไม่เช่นนั้นก็คงต้องปวดหัวกับของขวัญมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า



ตอนนี้เองก็เย็นมากแล้ว เขาจึงชวนเอิ้นไปทานอาหารเย็นด้วยกัน แน่นอนว่าเอิ้นไม่ปฏิเสธ และพยายามทำตัวไม่ใกล้ชิดกับโชนจนเกินไป



จบมื้อเย็น พวกเขาออกมาเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าอีกครั้ง



“คุณเอิ้น เราไปดูร้านขายกีตาร์ตรงนั้นอีกครั้งได้ไหม ผมอยากดูราคา เมื่อกี้ลืมดูไปเลย”



“เอาสิ”



จบคำ โชนคว้ามือเอิ้นมาจับไว้ ออกตัวเดินนำทางจูงคนตัวเล็ก ทว่าไม่ได้ไม่กี่ก้าว เอิ้นก็สะบัดมือออกอย่างรวดเร็ว



“พ...เพื่อนผู้ชายเขาไม่จับมือกันนะ” เอิ้นว่า



“แล้วไง ผมไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นแฟนคุณเอิ้นนี่”



“แต่ที่นี่มันกลางห้าง”



“แล้วไม่ได้เหรอครับ”



“ก็เคยบอกไปแล้วไง...”



โชนถอนหายใจ คว้ามือเอิ้นมาจับไว้อีกครั้ง “คุณเอิ้นไม่ต้องไปสนใจสายตาคนอื่นหรอก”



เอิ้นพยายามสะบัดมือทิ้ง ยั้งตัวไม่ให้โชนจับจูงเขาไปไหนได้ จนเกิดเป็นสถานการณ์พิลึก



“ถ้าคุณเอิ้นยังรั้งอยู่แบบนี้ เกรงว่าจะเป็นที่สนใจกว่าเดินจับมือกับผมนะ”



“โชนก็ปล่อยสิ”



เจ้าของชื่อโชนตอบกลับด้วยการกระชับมือแน่นกว่าเดิม “ทำไมถึงสนใจสายตาคนอื่นนักล่ะ”



“โชนชอบเหรอ เวลามีคนมองมาที่เราแปลกๆ”



“ก็ไม่ต้องไปมองสิครับ”



“ไม่มองก็รู้อยู่ดีว่าเขามอง ปล่อยผมได้แล้ว”



“คุณเอิ้นก็อย่าไปสนใจสิ เขาจะมองจะคิดยังไงก็เรื่องของเขา เรารู้กันสองคนไม่ได้หรือ”



“ถ้างั้นเราก็รู้กันแค่สองคนอยู่แล้ว จะจับมือไปทำไม”



“คุณเอิ้นคิดว่าผมขอเป็นแฟนเพื่ออะไรล่ะ เพื่อให้ทำตัวเป็นเพื่อนคุณเอิ้นเหรอ”



“...”



“แค่จับมือเอง”



เอิ้นจ้องเข้าไปในตาของโชนอย่างไม่มั่นใจ จนกระทั่งเขาได้ยินเสียงซุบซิบจากคนรอบข้างดังขึ้นมา



ฝ่ามือเล็กที่ถูกจับไว้แน่นพลันสะบัดออกอย่างแรง เอิ้นถอยหลังไปหนึ่งก้าว เงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้าที่บัดนี้แววตาไม่เหมือนเดิม



โชนจ้องเอิ้นด้วยสายตาว่างเปล่า



เขาหมุนตัวเดินนำ โดยไม่สนว่าเอิ้นจะเดินตามมาหรือไม่



Call 67



สุดท้ายระหว่างพวกเขาก็ไม่มีเสียงพูดคุยอะไรอีกเลยนอกจากโชนบอกให้เอิ้นโทรเรียกลุงวีให้มารับ ส่วนตัวเขาก็ขึ้นรถสองแถวจากไปโดยไม่รอให้ลุงวีมารับเอิ้นก่อนเหมือนทุกที



และในคืนนั้นก็ไม่มีสายใดเรียกเข้ามา



เอิ้นรู้ตัวว่าทำให้โชนโกรธเสียแล้ว...



ไหนว่าจะพยายามเข้าใจกันไง...



เขาอยากโทรไปง้อโชน ติดที่โชนไม่พกโทรศัพท์...แน่นอนว่าเขาไม่โทรไปหาตาวด้วยเรื่องแบบนี้หรอก



เอิ้นครุ่นคิดสักพัก ก่อนตัดสินใจไปหาโชนในวันพรุ่งนี้



เขาจำได้ว่าโชนเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ แต่เพราะคณะนี้ก็ไม่ใช่เล็กๆ ทำให้เอิ้นเดินวนไปวนมาหลายที แล้วเขาจะหาโชนเจอได้อย่างไรกันเล่า คราวนี้ไม่บังเอิญเจอเพื่อนโชนเหมือนที่แล้วมา เอิ้นได้แต่เดินวนอยู่อย่างนั้น



จนกระทั่งได้ยินเสียงดังชุดใหญ่มาจากลานบาสที่เอิ้นเพิ่งเดินจากมาเมื่อครู่ ทำให้ขาสองข้างเดินกลับไปยังจุดเดิมอีกครั้ง



และเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ก็ดังขึ้น



กลุ่มนิสิตคณะวิศวกรรมปีหนึ่งจำนวนสิบกว่าคนต่างพากันมามุงเจ้าของวันเกิด เอิ้นไม่ได้เข้าไปร่วมวง เพียงยืนมองห่างๆ และก็ได้ทันเห็นว่าเจ้าของวันเกิดคือกานต์ เพื่อนผู้หญิงของโชนที่เอิ้นได้รู้จักในร้านเดิม



จบเพลง เพื่อนๆ ต่างพากันบอกสุขสันต์วันเกิดให้เจ้าของวันเกิด และมีเพียงโชนที่นำของขวัญมาให้



“โห ไอ้โชน อะไรวะ ไปแอบซุ่มซื้อของขวัญมาให้ จีบไอ้กานต์มันป่ะเนี่ย”



“เห้ย จะบ้าเหรอ กูกับกานต์เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแล้วหรอก”



“ฮั่นแหน่ เพื่อนกันวันนี้ แฟนกันวันหน้าก็ได้นะเว้ย”



“เลิกล้อเลยไอ้สัด กูมีแฟนแล้ว”



“เออ พวกมึงไม่ต้องล้อเลย กูกับไอ้โชนสนิทกันตั้งแต่มัธยมแล้ว กูไม่เอามันหรอก”



“พูดดีนักนะไอ้กานต์ ระวังจะหวั่นไหวเองน้า”



“ไอ้บ้า”



สารพัดเสียงเอ่ยแซวกานต์กับโชนไม่ได้เข้าหูเอิ้นอีก เพียงแต่ภาพตรงหน้าที่โชนหยอกล้อกับสาวน้อยที่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันทำให้เอิ้นใจกระตุก เขาไม่อาจเรียกความรู้สึกนี้ว่าหึงหวง เพียงแต่มันทำให้เอิ้นระลึกได้ถึงอะไรบางอย่าง



สองขาหมุนตัวกลับ ออกจากกลุ่มเด็กวิศวะและคนที่ตนต้องการมาหามากที่สุด



ในตอนนั้นเอง เอิ้นรู้ตัวแล้ว ว่าเพศสภาพของตนคืออะไร และสิ่งที่โชนคู่ควรคืออะไร



อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เขา...



Call 68



โชนไม่ได้โทรหาเอิ้นมานานนับสัปดาห์แล้ว เขาได้แต่จ้องมองโทรศัพท์ด้วยใจเหม่อลอย ยิ่งโชนไม่โทรมายิ่งตอกย้ำความคิดของเอิ้นให้มันเป็นจริงมากยิ่งขึ้น



ถึงตอนนั้นเอิ้นจะได้ยินโชนบอกกับเพื่อนเต็มสองรูหูห็เถอะว่ามีแฟนแล้ว



แต่ใช่ว่าจะเป็นคู่ชีวิต



ไม่เร็วก็ช้า อย่างไรเสียพวกเขาก็คงต้องจบความสัมพันธ์นี้ลงเข้าสักวัน



เอิ้นควรจะรู้ถึงข้อนี้นานแล้ว แต่กลับไม่เคยนึกถึงมันเลย เพราะที่ผ่านมามีความสุขมากจนเกินไป เขาควรรู้ตัวแท้ๆ ว่าการคบเพศเดียวกันอย่างนี้มันเป็นไปได้ไม่นานหรอก



ในไม่ช้าก็คงต้องเลิกรากันไป



โชนคงต้องแต่งงานมีลูกมีหลานเหมือนคนทั่วไป เรื่องราวในช่วงนี้จะกลายเป็นความทรงจำในที่สุด



ระหว่างความคิด



เอิ้นน้ำตาไหลออกมา



Call 69



โทรศัพท์เงียบสงัด ไม่มีใครโทรเข้ามาตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ เอิ้นตั้งหน้าตั้งตาทำวิทยานิพนธ์ แต่ก็เหลือบมองโทรศัพท์ตัวเองเป็นพักๆ วันไหนที่ต้องออกไปหาข้อมูลที่ห้องสมุด กลับมาก็ต้องถามป้าภาเสมอว่ามีใครโทรรึเปล่า



แน่นอนว่าคำตอบคือไม่



เอิ้นใจเสีย เขาไม่รู้ว่าโชนจะโกรธหนักขนาดนี้ แถมด้วยความคิดที่เอิ้นคิดได้เมื่อครานั้นยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยๆ เจ็บปวดเสมอยามนึกถึง



เขาเขียนจดหมายไปสอดไว้ที่ประจำ หวังว่าโชนจะมาเห็นมันเข้าและโทรมาหาเอิ้นบ้าง เพียงแต่หลังจากที่เขาเขียนจดหมายไปให้โชนก็ปาไปเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์มาแล้ว ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ส่งกลับมา



รวมถึงจดหมายของเอิ้นก็ไม่ถูกใครเก็บไปด้วย



เอิ้นใช้หมอนแทนผ้าเช็ดน้ำตามาหลายคืนแล้ว โชนที่เป็นหัวใจของเอิ้นกำลังจะหายไป ความรักของเอิ้นแม้ไม่ได้ลดลง แต่มันก็ไม่มั่นคงแล้วเช่นกัน



ความรู้สึกเสียใจ น้อยใจเข้าถาโถมเข้ามาใส่พร้อมๆ กับความรู้สึกที่บอกให้ตัวเองทำใจ อย่างไรเสียพวกเขาทั้งสองคนก็ต้องมีวันเลิกรากันอยู่ดี



เอิ้นปาดน้ำตา ยกมือวักน้ำล้างหน้าตัวเอง



ในเมื่อโชนไม่โทรมา และเขาก็ติดต่อหาอีกฝ่ายไม่ได้ ความเครียดถาโถมเข้ามาใส่



เอิ้นต้องการสถานที่พักผ่อนจิตใจ



ลิปสติกสีแดงจึงถูกหยิบมาใช้





_________________________________

#Call123456


หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 9 |27.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 27-08-2018 18:23:58
พระเอกหายไปไหน
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 9 |27.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 27-08-2018 18:42:37
สงสารทั้งคู่ โชนค่อนข้างชัดเจนนะ แต่เจอแบบนั้นเข้าไปก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ส่วนคุณเอิ้นเคยเจ็บมาก่อน เคยเจอสายตาเหยียดจากครอบครัว จากคนรอบข้าง มันก็ยากที่จะเปลี่ยนควสมคิดคุณเอิ้นได้ โชนเองก็เงียบหายไม่รู้เป็นอะไรไปรึเปล่า หันหน้ามาคุยกันดีๆเถอะ (คนอ่านเศร้าแทน) :hao5:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 9 |27.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 28-08-2018 07:52:15
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 9 |27.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Patsz ที่ 28-08-2018 10:57:37
เข้าใจเอิ้นนะ ครอบครัวตัวเองก็รังเกียจ ก็เลยกลัวสายตาคนอื่น กลัวทุกอย่าง หวังว่าเอิ้นจะก้าวผ่านมันไปได้
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 9 |27.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 28-08-2018 11:40:56
ปวดใจไม่หมดแล้วววววว


 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 9 |27.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: yewlyz ที่ 29-08-2018 17:00:09
เราเข้าใจคุณเอิ้นนะ ทามไลน์เรื่องมันดูไม่ใช่ในยุคปัจจุบันด้วย ถ้าเป็นสมัยก่อน ผช เดินจับมือกันมันแปลกจริงๆนั้นแหละ แต่กับโชนที่พร้อมจะจะเปิดตัว ความคิดมันเลยไม่ตรงกัน งื้อออออ  :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 9 |27.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 29-08-2018 17:31:18
สงสารเอิ้นจัง  :hao5: แต่ไปแบบนั้นระวังโชนจะยิ่งโกรธนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 9 |27.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 29-08-2018 18:19:32
รอเอิ้น-โชน ค่ะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 9 |27.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Kx0806 ที่ 29-08-2018 20:47:03
โถ่... ถึงไฉไลจะสวยแค่ไหน แต่คนที่อยากเห็น อยากรู้ความเป็นไปมากที่สุดก็คือคุณเอิ้นอยู่ดี หวังว่าไม่ม่านะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 9 |27.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 29-08-2018 23:13:20
 :mew4: โชนต้องมีเหตุผลดีดีหน่อยนะ หายไปนานแบบนี้
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 9 |27.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 31-08-2018 01:47:55
 :pig4: :pig4: :pig4:

ยุคสมัย ยี่สิบกว่าปีก่อน ยุคเพจเจอร์ โทรศัพท์มือถือทรงกระบอกน้ำ

แต่.....เรียนถึง ป.โท  ฐานะดี  ทำไมถึงต้องแคร์สายตาคนนอก เขาไม่ได้ให้เงินเราใช้สักหน่อย?

หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 10 |31.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 31-08-2018 15:55:39
โทรครั้งที่ 10_____________________



Call 70



“คุณเอิ้น...ปกติไม่สั่งเยอะขนาดนี้นี่ครับ”



“ช่างผมเถอะ ทำตามที่ผมขอก็พอ”



“แต่เกรงว่าวอดก้าจะแรงไปสำหรับคุณเอิ้น...”



“บอกว่าทำตามที่ขอก็พอไง”



“ครับๆ”



เอิ้นนั่งถอนหายใจอยู่หน้าบาร์ร้านเดิม บาร์เทนเดอร์คนนี้เป็นคนรู้จักกับครอบครัวเอิ้น อันที่จริงน่าจะบอกว่าเจ้าของร้านนี้ต่างหากที่รู้จักกับครอบครัวเอิ้น และนั่นทำให้เอิ้นไว้วางใจที่จะมาที่นี่เป็นประจำ เพราะอย่างน้อยคนของที่นี่ก็ไว้ใจได้ ถ้าหากมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับเอิ้น ก็จะได้มีคนดูแลได้ทัน



อย่าลืมว่าเอิ้นเป็นลูกคุณหนู และเขาก็เคยชินกับการมีคนคอยดูแลเสมอ แม้ว่าจะต้องอยู่คนเดียว แต่ก็ยังมีป้าแม่บ้านและคุณลุงรวีคอยปรณิบัติรับใช้อยู่ไม่ห่าง



ในร้านเหล้านี้ก็เช่นกัน



สุดท้าย บาร์เทนเดอร์หนุ่มก็ได้แต่จำใจผสมค็อกเทลให้เอิ้นในร่างหญิงสาว เขาจงใจลดปริมาณแอลกอฮอล์ลงไปมากกว่าครึ่งของสูตรเดิม เพื่อไม่ให้คุณหนูคนสำคัญเมาจนไม่ได้สติ



เอิ้นไม่ชอบเบียร์เพราะมันขม ครั้นจะสั่งเหล้าก็เสียดายเพราะดื่มคนเดียวไม่หมด จึงชอบสั่งค็อกเทลเป็นช็อตๆ ไปเสียมากกว่า แต่ส่วนใหญ่เอิ้นมักจะสั่งค็อกเทลที่ผสมน้ำผลไม้มากกว่าแอลกอฮอล์ เอิ้นไม่ได้ต้องการมาร่ำสุราให้หัวทิ่มหัวบอด เขาเพียงต้องการมาผ่อนคลายนอกสถานที่เท่านั้น



แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป



ไม่มีเสียงจากโชนคอยปลอบประโลมเอิ้น ไม่มีเสียงจากโชนคอยบอกฝันดี มีเพียงแต่ความคิดในแง่ลบคอยกัดกินหัวใจเขา จนในที่สุดเอิ้นก็ต้องการพึ่งแอลกอฮอล์ เพื่อไม่ให้หัวใจตัวเองถูกกัดกินจนมืดบอดไปมากกว่านี้



ถ้าทำให้ตัวเองสิ้นสติได้ ก็จะได้ไม่ต้องคิดมากเรื่องโชนอีก



ริมฝีปากสีแดงยกเครื่องดื่มในแก้วเล็กกรอกเข้าปาก สั่งเพิ่มจนมือชงหนักใจ



หมดไปอีกแก้วและอีกหลายแก้ว เอิ้นคิดว่าตนเองคงเมามากแล้ว



เพราะเขาเห็นโชนนั่งอยู่ข้างๆ



Call 71



เอิ้นส่งยิ้มให้กับคนข้างๆ คนที่เป็นเจ้าของหัวใจทั้งหมดของเอิ้น สักพักก็เปลี่ยนเป็นน้ำตาคลอ เอิ้นซบใบหน้าตัวเองลงที่ฝ่ามือ กลืนก้อนสะอื้นลงไปไม่ให้น้ำตาเจ้ากรรมล้นทะลัก



“คุณเอิ้น เมาแล้ว”



เขาพยักหน้าอยู่ในฝ่ามือตัวเอง ยอมรับกับคำพูดของคนข้างๆ



ขนาดเสียงยังเหมือนโชนเลย เขาคงคิดถึงโชนมากจริงๆ



ตั้งสองอาทิตย์...โชนหายไปไหนมา



“เดี๋ยวผมพาไปส่งที่บ้านนะ” เอิ้นส่ายหน้า ยังไม่ถึงเวลาที่ลุงวีจะออกมารับ



“คุณเอิ้นเมาขนาดนี้แล้วจะคุยกันรู้เรื่องได้ไงเนี่ย” คนข้างตัวบ่นพึมพำ เอิ้นถอนใบหน้าละมุนออกจากฝ่ามือ จับจ้องไปยังที่มาของเสียง เจ้าของใบหน้าได้รูปรับกับจมูกโด่ง เปลือกตาสองชั้นและแววตาคมคาย คิ้วเข้มและริมฝีปากบาง



เอิ้นยกมือขึ้นไปสัมผัสใบหน้าที่คุ้นเคยนั่นอย่างแผ่วเบา



เหมือนโชนมากจริงๆ



“คุณเอิ้น รู้ไหมว่าผมคือใคร?”



“...โชน?” เอิ้นตอบเสียงยาน ก่อนจะเห็นโชนแยกออกเป็นสองร่าง



โชนถอนหายใจใส่คนเมา “ผมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”



เอิ้นแทบกลั้นหายใจ ภาพเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ ที่ตนสมมติขึ้นมาถูกฉายขึ้นมาในหัว



“ไม่...ไม่เอา” ไม่คุยด้วยหรอก จะเลิกกันแล้วใช่มั้ย



หยาดน้ำใสร่วงหล่นออกจากดวงตาสวย



“คุณเอิ้น!”



เอิ้นเอ่ยอะไรต่อไม่ได้ ก้อนสะอื้นมาจุกอยู่ที่ลำคอรวมถึงฤทธิ์น้ำเมาทำให้สมองของเขาแทบไม่ประมวลผล จนยากที่จะเอ่ยออกไปให้เป็นประโยค



เสียงเพลงในร้านดังขึ้นมา ได้เวลาของวงดนตรีสด



“ที่นี่เสียงดัง เดี๋ยวผมพาไปนอกร้านดีกว่านะ” ว่าจบ เขาประคองโฉมงามที่โงนเงนไปมา โอบเอวคอดพาออกจากร้านไป



Call 72



เริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว อากาศข้างนอกยามค่ำคืนเย็นกว่าปกติ โชนถอดเสื้อคลุมของตัวเองให้อีกฝ่ายสวมใส่



โชนโทรเข้าโทรศัพท์มือถือของเอิ้นแล้ว แต่เอิ้นไม่รับ พอโทรเข้าเบอร์บ้านถึงได้รู้ว่าเอิ้นมาอยู่ที่นี่



เขาผิดเองที่งอนหายไปถึงสองอาทิตย์ แม้จะเพราะตนติดสอบปลายภาคด้วยทำให้ไม่มีเวลาโทรไป แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเวลาเลย โชนจงใจหายไป เพราะอยากให้เอิ้นเป็นฝ่ายตามหาตนบ้าง



และกว่าจะรู้ตัวว่าอีกฝ่ายต้องการตนมากแค่ไหนก็ตอนที่โชนไปเจอจดหมายฉบับที่สองของเอิ้น



ฉบับแรกเป็นการกล่าวถึงคำขอโทษที่ผ่านมาของเอิ้น



แต่อีกฉบับหนึ่ง...เป็นจดหมายบอกลา



เอิ้นบอกเลิกเขาในจดหมาย ก่อนที่จะพาตัวเองมาที่ร้านเดิม โชนพลันรู้ตัวว่าเล่นแรงไปแล้ว เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้เอิ้นเสียใจ เพียงแค่อยากให้เอิ้นคิดถึงใจตนบ้างก็เท่านั้น



ที่ผ่านมามีเพียงโชนที่พยายามทำความเข้าใจเอิ้น เข้าใจว่าเอิ้นไม่อยากให้ใครรับรู้ในความสัมพันธ์ ละอายในการคบกับเขาเพราะเอิ้นเป็นผู้ชาย เพียงแต่โชนอยากให้เอิ้นเลิกคิดเช่นนี้ได้แล้ว



สงสัยว่าตนจะรีบร้อนไป เรื่องถึงได้กลายมาเป็นอย่างนี้



เขาเจอเอิ้นนั่งอยู่ที่บาร์ พร้อมกับชุดตัวโปรด และพอเข้าไปหา เอิ้นก็มีสภาพเช่นนี้แล้ว



บาร์เทนเดอร์เคยเห็นโชนมากับเอิ้นอยู่บ่อยๆ จึงบอกเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง โชนจึงขออนุญาตพาคุณหนูออกไปจากสถานเริงรมย์



สองแขนแกร่งประคองเอวเล็กมั่น ยึดจับไม่ให้คนเมาร่วงลงไปกองกับพื้น เขาพาเอิ้นเดินมาถัดจากร้านเดิมไม่กี่ตึก แถวนี้ไม่มีม้านั่ง จึงได้แต่ให้โฉมสะคราญยืนพิงกับผนังตึก ก่อนนำขวดน้ำให้อีกฝ่ายดื่มเพื่อให้สร่างเมา



เอิ้นไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดนอกจากน้ำตาที่มีแต่จะไหลมากขึ้น



“คุณเอิ้น ดื่มน้ำหน่อย” ว่าพร้อมยื่นหลอดดูดที่จมอยู่ในขวดน้ำให้อีกฝ่ายที่ก้มหน้าก้มตา



“ไม่ร้องไห้สิครับ” โชนถอนหายใจ จับไหล่อีกฝ่ายดันให้โน้มตัวมาซบลงกับอกเขา ฝ่ามืออุ่นลูบหัวของเอิ้นเบาๆ อย่างปลอบประโลม



“ผมขอโทษ...” เขาเริ่มเอ่ยขึ้นมา



“ไม่ได้ตั้งใจจะให้คุณเอิ้นเสียใจเลยจริงๆ”



“ที่ผ่านมาผมติดสอบปลายภาค ต้องอ่านหนังสือเยอะแยะ...แต่ก็จงใจไม่โทรหาด้วย”



“ผมอยากให้คุณเอิ้นเป็นฝ่ายมาง้อผมบ้าง”



“อยากให้มาหากันบ้าง...”



โชนเอ่ยสารภาพ อย่างไรเสียเขาก็เป็นแค่นิสิตชั้นปีที่หนึ่ง เพิ่งเปลี่ยนมาใช้นายเป็นคำนำหน้าได้ไม่กี่ปี จะให้เขาโตเป็นผู้ใหญ่เข้าใจทุกปัญหาเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ โชนต้องค่อยๆ เติบโตขึ้น และเขาในตอนนี้เองก็มีความต้องการและความเอาแต่ใจแบบเด็กๆ อยู่มาก



เพียงแต่ไม่คิดว่าความเอาแต่ใจเป็นเด็กของเขาจะทำให้อีกฝ่ายต้องเสียน้ำตาเช่นนี้



“ผมขอโทษนะ อย่าร้องไห้เลยนะครับ”



“จะไม่หายไปแล้ว”



“ทีหลังมีอะไรจะบอกคุณเอิ้นทุกเรื่องเลย นะครับ”



“คุณเอิ้น...ตอบผมหน่อยสิ อย่าร้องไห้”



เอิ้นสะอื้นมากขึ้น พยายามปาดน้ำตาให้พ้นใบหน้า ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา



“ผมไปหามาแล้ว...”



“หา”



“ผมไปหาโชนมาแล้ว ก็เลยรู้แล้ว...ว่าเราไม่ควรคบกันอีก”



“คุณเอิ้น!”



Call 73



“พูดอะไรออกมาน่ะ รู้ตัวไหม”



“รู้สิ”



“จะเลิกกันงั้นเหรอ”



“...ผมกับคุณ...ไม่ควรได้คบกันตั้งนานแล้ว ผมเป็นผู้ชาย เป็นพวกวิปริต...สร้างครอบครัวให้คุณไม่ได้ สร้าง...ความภูมิใจให้คุณไม่ได้ สุดท้าย...คุณก็ควรแต่งงาน...แล้วก็มีลูก...เหมือนคนปกติ”



หลังจากจบประโยคที่เต็มไปด้วยเสียงสะอื้นของเอิ้น โชนก็จับไหล่เล็กไว้มั่น พยายามมองใบหน้าที่ตนรักสุดใจ ทว่าเอิ้นเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตาด้วย



“ทำไมถึงคิดอย่างนั้น”



“มันเป็นเรื่องจริงนี่นา”



“เรื่องจริงของใคร?”



“...ของ...คนทั่วไป”



“แล้วผมบอกเหรอว่าอยากเป็นแบบนั้น”



“...”



“คุณเอิ้น ที่ผมคบกับคุณเพราะไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้น ไม่ได้สนใจว่าคุณเป็นผู้ชาย ผมรักคุณเพราะเป็นคุณ เป็นแค่คนๆ หนึ่งเท่านั้น”



“แต่สักวันก็ต้องเลิกกัน...ใช่มั้ย”



“...ผมไม่รู้อนาคตหรอก แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ตอนนี้แน่ที่จะเลิกกัน”



“...”



“ต่อให้คุณเอิ้นจะบอกเลิกอีกกี่ครั้งผมก็จะไม่เลิกหรอก”



“...”



“...หรือคุณเอิ้นไม่ได้รักผมแล้ว”



“ไม่ใช่นะ!”



“นั่นสินะ” โชนอมยิ้ม ยกมือปาดน้ำตาที่เปรอะเต็มหน้าให้เอิ้น จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง ในเมื่อกี่ครั้งที่โชนมองเอิ้น ก็มีแต่สายตาที่สะท้อนภาพของเขา เต็มไปด้วยความสุข “อย่าเลิกกันเลยนะ”



เอิ้นก้มหน้า กัดปากอีกครั้ง



“คุณเอิ้น...”



“ผม...ไม่รู้”



“ไม่รู้อะไรครับ”



“...ว่าเราจะคบกันได้นานแค่ไหน”



“เรื่องนั้นไม่เห็นสำคัญเลย”



“ไม่สำคัญได้ไง”



“เรื่องปัจจุบันสำคัญกว่านี่ครับ”



“...”



“ถ้าคุณเอิ้นเอาแต่กังวลเรื่องอนาคต คุณเอิ้นก็จะไม่มีความสุขใช่ไหม เราคิดแต่ตอนนี้ดีกว่าว่าจะรักกันให้ได้มากที่สุดวันละเท่าไหร่”



“...”



“ดีไหมครับ”



“อือ”



“ไม่ร้องแล้วนะ”



“...”



“ผมอยู่ตรงนี้”



Call 74



เอิ้นพ่ายแพ้ให้คำพูดของโชนอีกตามเคย เขาปาดน้ำตาที่ยังคงเลอะอยู่บนใบหน้า พลันโชนก็วาดแขนออกมาโอบเอวเขาเข้าไปแนบชิดกับอกแกร่ง



“ผมรักคุณเอิ้นขนาดนี้ ยังจะขอเลิกกันได้ลง”



“...”



“ใจร้ายมากเลยรู้ไหม”



“โชนต่างหากที่ใจร้าย หายไปไม่บอกกัน”



คนใจร้ายไม่ตอบกลับ โชนประกบจูบลงที่ริมฝีปากที่เคลือบสีแดงของลิปสติก บดเบียดริมฝีปากเล็กจนเอิ้นเผยอปาก อีกฝ่ายไม่รอช้า ส่งลิ้นร้อนเข้าไปเล่นกับลิ้นเล็กที่อยู่ในอารามตกใจ โชนไล่ลิ้นตัวเองแทรกไปยังไรฟันซี่เล็ก ตะโบมจูบ บดขยี้ริมฝีปากของเอิ้นจนลิปสติกสีแดงหลุดร่อน ก่อนผละออกมา



เอิ้นสร่างเมาแทบทันที



มือใหญ่เช็ดน้ำลายที่มุมปากของเอิ้น ยกยิ้มให้กับสภาพคนตรงหน้า



“โชน...ปากเลอะ” เอิ้นเอ่ยเสียงแผ่ว เมื่อจ้องหน้าอีกฝ่ายแล้วเห็นสีลิปสติกของตัวเองเลอะติดอยู่บนริมฝีปากของโชน



“คุณเอิ้นก็เลอะ เลอะทั้งหน้าเลย”



โชนเอ่ยกลับพร้อมยิ้มขำ เอิ้นร้องไห้จนเครื่องสำอางหลุดเปรอะใบหน้างาม คนสวยตกใจเมื่อนึกขึ้นได้ ยกมือปิดหน้าพัลวัน ก่อนที่โชนดึงอีกฝ่ายมาอยู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง



“น...น่าเกลียดมั้ย” เอิ้นถาม แม้ไม่เห็นสภาพตัวเอง แต่ก็เดาได้ว่าต้องอัปลักษณ์มากแน่ๆ สีสันที่เขาแต่งแต้มลงบนใบหน้าให้งดงาม บัดนี้คงเลอะเทอะเละเทะด้วยคราบน้ำตาไปหมด ไม่เหลือเค้าความงามแล้วแน่แท้



โชนหัวเราะ



“น่ารัก”



มอบจุมพิตให้คนน่ารักอีกครั้ง



เอิ้นหดคอหนี โชนผละออกมา ควักผ้าเช็ดหน้ามาช่วยเช็ดคราบเครื่องสำอางที่เลอะเทอะด้วยหยาดน้ำตา จนใบหน้าละมุนกลับมาเป็นเหมือนเดิม ใบหน้าเอิ้นเมื่อไร้เครื่องประทินโฉมปกปิดไม่ได้ทำให้ดูน่ารักน้อยลงเลย



เขาก้มหาอีกฝ่าย ใช้ปลายจมูกซุกพวงแก้มนิ่ม



“คุณเอิ้นบอกลุงวีให้มารับกี่โมง” โชนเอ่ยถาม แต่ใบหน้ายังคงซุกไซร้อยู่แถวต้นคอระหง



“เที่ยงคืน...ครับ” เอิ้นเอ่ยตอบ เสียงสั่น บังคับไม่ให้ตัวเองล้มพับไปกับการซุกไซร้น่าหวาดเสียวของโชน แต่ทันทีที่โชนเอ่ยประโยคถัดมา ก็ยิ่งทำให้เอิ้นล้มไปกองกับพื้น



“บอกให้ลุงวีไม่ต้องมารับ”



“...”



“ผมจะพาคุณเอิ้นเข้าโรงแรม”



Call 75



“หา”



“ผมบอกเองดีกว่า ขอยืมมือถือคุณเอิ้นหน่อยสิครับ”



เอิ้นเบิกตาโพลง และกว่าจะรู้ตัวว่าโชนควักโทรศัพท์มือถือของตนไปก็ตอนที่โชนคืนกระเป๋าถือมาให้ คนอะไรมือไวนัก



โชนกดโทรออก



“เดี๋ยวก่อน โชน” เอิ้นยังไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าจะยอมไปโรงแรมด้วย โชนจะพาเขาไปโรงแรม มีหรือที่เอิ้นจะไม่รู้ว่าพาไปทำไม แม้ไม่มากประสบการณ์แต่สถานการณ์แบบนี้ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคืออะไร



เพียงแต่โชนไม่อนุญาตให้เอิ้นเอ่ยคำปฏิเสธ เมื่อคนตัวสูงเอ่ยบอกลุงรวีว่าคืนนี้เอิ้นจะค้างกับเขา ให้ลุงไม่ต้องมารับ ทุกอย่างเสร็จสิ้นเพียงเวลาไม่ถึงนาที ไม่มีจังหวะให้เอิ้นปฏิเสธ



“ผม...ผมไม่ได้บอกว่าจะไปกับคุณสักหน่อย”



โชนหันมาเบะปากใส่เอิ้น



“ไม่ได้เจอคุณเอิ้นตั้งสองอาทิตย์ คุณเอิ้นไม่อยากกอดผมเหรอ”



“ก็...กอดตรงนี้...ไม่ได้เหรอ” เอิ้นว่าเสียงสั่น หมายความถึงการกอดที่เป็นการกอดจริงๆ หาใช่ความหมายลึกซึ้ง



โชนกอดคนตัวเล็กอีกครั้ง ซุกใบหน้าลงกลุ่มผมเส้นยาว ใช้ปลายจมูกไล่เขี่ยเส้นผมไปจนถึงแก้มนิ่ม กระซิบลงข้างหู



“จะให้กอดตรงนี้จริงๆ เหรอครับ”



เอิ้นตัวแข็งเกร็ง



“เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นหรอก”



ใบหน้าร้อนผ่าว



“ไปกับผมดีกว่านะ”



และเผลอไผลตกลงกับคำหวาน



รู้ตัวอีกที เอิ้นก็อยู่ในห้องพักของโรงแรมกับโชนสองต่อสองแล้ว...







______________________________________

เป็นช่วงเวลาที่ต้องปรับตัวเข้าหากัน #call123456
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 10 |31.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 31-08-2018 16:42:12
เคลียร์กันได้ก็โล่งใจ ค่อยๆปรับตัวเข้าหากันเนอะ
ว่าแต่ไปโรงแรมกันทำไมคะ ขอตอนต่อไปด่วนๆค่ะ  :pighaun:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 10 |31.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 31-08-2018 16:52:36
 :pig4: :pig4: :pig4:

ไปทำไรกันที่โรงแรมเหรอ?  อิอิ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 10 |31.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 31-08-2018 19:39:06
โว้ะ!! เอิ้นอย่ายอมลูกกก
หนูเล่นตัวหน่อยยย
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 10 |31.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 31-08-2018 19:55:00
ว๊ายๆ พาคุณเอิ้นเข้าโรงแรมเลยเหรอโชน
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 10 |31.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: aha_aha ที่ 31-08-2018 22:14:33
ไปนั่งฟังเพลงกันหราา   :o8:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 10 |31.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 31-08-2018 22:48:44
สนุกมากค่ั
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 10 |31.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Patsz ที่ 31-08-2018 23:11:40
ไปทำอะไรกันเหรอ ตามไปดูด้วยคน :z1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 10 |31.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 01-09-2018 14:12:14
โล่งอกเคลียร์กันได้แล้ว
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 10 |31.8.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-09-2018 18:06:25
คนคิดมาก ถึงจะเจอเรื่องนิดเดียวก็คิดมาก
แต่สำหรับเอิ้น เรื่องไม่นิดนะคะ
คนอื่นยังไม่เท่าไหร่ แต่ครอบครัวหันหลังให้
ชีวิตเอิ้นน่าสงสารมากเลยนะ ทนอยู่มาได้ขนาดนี้ ดีมากแล้ว

โชนจริงจังเนาะ ดีใจที่มีคนนั้นในชีวิตเอิ้น
และโชนก็พยายามเข้าใจ ถึงแม้จะต้องให้เวลาบ้าง

ถ้าจะดราม่า ก็ให้ดราม่าที่สองคนเค้านะคะ
แค่นี้เอิ้นก็นอยด์มากแล้ว สงสารโชนด้วย
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 05-09-2018 15:21:55
โทรครั้งที่ 11____________________



Call 76



เอิ้นพยายามสำรวจรอบห้องพักของโรงแรม ทางซ้ายมือเป็นห้องน้ำ เตียงใหญ่วางอยู่กลางห้อง ปลายเตียงเป็นโทรทัศน์วางอยู่บนเคาท์เตอร์ยาว และก่อนที่จะได้สำรวจไปมากกว่านี้ เอิ้นก็ถูกบังคับให้หันมาหาโชน



พร้อมกับความเปียกแฉะที่ริมฝีปาก



โชนโถมจูบคนตัวเล็กอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง ดูดดึงริมฝีปากเล็กจนเกิดเสียงดังจ๊วบจ๊าบ เอิ้นได้แต่ส่งเสียงร้องอยู่ในลำคอ พยายามยึดเกาะอีกฝ่ายไม่ให้ตัวเองล้มลงไป โชนคว้าเอวของเอิ้นมาไว้ในอ้อมแขน ค่อยๆ ถอนจูบออก จับจ้องใบหน้าน่ารักที่ขึ้นสีแดง



ดวงตาฉ่ำน้ำและริมฝีปากแดงที่บวมเจ่อทำให้คนน่ารักดูน่าเอ็นดูมากขึ้นหลายเท่าตัว โชนตั้งใจจะค่อยๆ อ่อนโยนกับเอิ้นแล้ว เพียงแต่สภาพของเอิ้นตอนนี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะจับจูบแรงๆ อีกสักที



“อื้อ”



คนถูกจูบร้องอีกครั้ง ครานี้โชนไม่ยืนนิ่ง เขาพาคนตัวเล็กถอยหลังเดินไปเรื่อยๆ จนถึงขอบเตียง เอิ้นสะดุดปลายเตียงจนล้มลงไปนั่งบนฟูกนิ่ม



“โชน...” เอิ้นเอ่ยเสียงสั่น แววตาลุกวาวของโชนทำให้เอิ้นใจเต้นไม่เป็นส่ำ



แววตาที่เหมือนหมาป่าหิวโหย แววตาที่ราวกับมีไฟลุกโชนอยู่ข้างในจนทำให้คนมองอ่อนระทวย แววตาที่ทำให้หัวใจของเอิ้นแทบหลุดออกมาจากอก



“โชน ด...เดี๋ยว!”



เอิ้นร้องห้าม เมื่ออีกฝ่ายตั้งท่าจะจู่โจมเข้ามา เอิ้นใช้มือตัวเองคว้าจับมืออีกฝ่าย ดึงมันให้ไปกอบกุมส่วนกลางลำตัวของเขา



“ผมเป็นผู้ชายนะ!” เอิ้นกล่าวเสียงแข็ง เขารู้ว่าโชนตั้งใจจะทำอะไร พลันหัวใจก็ถูกอดีตฉายภาพเก่าขึ้นมาซ้ำเติมกันอีกครั้ง เขาเป็นผู้ชาย มีอวัยวะทุกรูปแบบเหมือนโชน หุ่นของชายหนุ่มเช่นนี้มีแต่จะทำให้โชนเสียอารมณ์เปล่าๆ



“คุณเอิ้น...”



“...”



“คิดดีแล้วเหรอครับที่ให้ผมจับตรงนั้นน่ะ”



“อ๊ะ!” เอิ้นสะดุ้งตัวโยน ใบหน้าขึ้นสีแดง เขาปล่อยมือโชนทว่าอีกฝ่ายไม่ได้ชักมือกลับ “ไม่ใช่นะ ผมแค่จะหมายถึง...”



“จะหมายความว่าคุณเอิ้นเองก็มีอะไรเหมือนผมใช่ไหมล่ะ”



“ใช่...ผมมีทุกอย่างเหมือนคุณนะ ไม่...ไม่น่ารังเกียจหรือ”



โชนจับมืออีกฝ่ายไปวางไว้ที่ส่วนร้อนกลางลำตัวของตนบ้าง



“คุณเอิ้นคิดว่าไงล่ะ”



เอิ้นเบิกตาโพลง หน้าแดงซ่านจนลามไปถึงลำคอ ส่วนกลางลำตัวของโชนมันร้อนและแข็ง เขารับรู้ได้ไม่ยากว่าเป็นเพราะเหตุใด



“ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณเอิ้นเป็นผู้ชาย มีอะไรเหมือนๆ กัน แต่ผมก็ยังเป็นแบบนี้”



เขาปล่อยมือเอิ้น ขยับตัวเข้าหาคนที่นั่งหุบขาอยู่ปลายเตียง



“คุณเอิ้นคิดว่าผมจะรังเกียจอยู่ไหมล่ะ”



“โชน เดี๋ยว!”



ไม่รอฟังคำขัดขืน คนตัวโตกว่าพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายจนเอิ้นล้มแผ่ไปบนผืนเตียง มือของโชนซนไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเอิ้น มุดเข้ากระโปรงตัวสวย ไล่ขึ้นไปเล่นกับแผ่นหลังเนียน บีบเค้นสะโพกมน จนกระทั่งเลื่อนไปบีบเค้นก้อนเนื้อนุ่มสองก้อนจนเจ้าของร่างกายร้องเสียงสั่น



Call 77



“คุณเอิ้น...” โชนเอ่ยเสียงแหบพร่า “ถุงน่องนี่ผมฉีกได้ไหม เกะกะ...”



“ไม่ได้นะ” เอิ้นร้องเสียงหลง ไม่ได้ห่วงว่าราคาแพงหรืออะไร เพียงแต่ถ้าโชนฉีกถุงน่องของเขาทิ้ง แล้ววันพรุ่งนี้เขาจะใส่อะไรเล่า แม้เนื้อขาเปลือยเปล่าของเขาแม้แทบไม่มีขนขา แต่ก็ไม่ได้เรียบเนียนเหมือนเรียวขาผู้หญิงจริงๆ เสียหน่อย



แคว่ก!



แล้วโชนก็ทำความตั้งใจของเอิ้นพังลง ไม่รอช้า มือใหญ่จัดการดึงถุงน่องที่เป็นตัวขัดขวางภารกิจชิ้นสำคัญลงไปสู่ปลายเท้าของเอิ้น เขาอยากจะร้องไห้ให้ความน่าอายนี้อยู่รอมร่อ



เรียวขาเปลือยเปล่าของเอิ้นประจักษ์ให้เห็น โชนใช้ปลายนิ้วของตัวเองไล่ไปตามเรียวขาสวย จากฝ่าเท้าไปสู่ต้นขา ไปสู่บั้นท้ายกลม ส่วนกลางของเอิ้นเริ่มตื่นตัวจากการสัมผัส เจ้าของร่างกายขาวสั่นระริก โชนไม่มีท่าทีลังเลหรือรังเกียจเขาแม้แต่น้อยจนเอิ้นเขินจัด



เอิ้นพยายามพลิกตัวหันหน้าหนีอีกฝ่าย เพียงแต่โชนไม่อนุญาตให้อีกฝ่ายหลบหนีแม้ทางสายตา



“พี่เอิ้น...ให้ผมนะ”



ไม่ว่าเปล่า คนน้องขยับมือล้วงเข้าไปกอบกุมส่วนร้อนของเอิ้น ขยับนิ้วเล่นไล่มันช้าๆ



“โชน...ไม่เอา อย่าเรียก...แบบนั้น”



“ทำไมล่ะ พี่เอิ้น”



“โชน...”



คนเถียงไม่ได้พ่ายแพ้และจากเสียงร้องห้ามก็กลายเป็นเสียงครวนคราง เสียงหวานร้องดังขึ้นเมื่ออีกฝ่ายก้มลงไปครอบปากกับแก่นกลางของเอิ้นที่สั่นระริก



“อย่า...มันสกปรก”



ไม่ใคร่สนใจคำเรียกร้อง ลิ้นร้อนละเลงส่วนปลายจนต้องบิดเร่าด้วยความกระสันเสียว



เอิ้นตั้งใจอยากขอร้องให้อีกฝ่ายหยุด



คำร้องห้ามไม่เร็วกว่าหยาดน้ำขาวขุ่นที่ทะลักออกมา



Call 78



“พี่เอิ้น...ไม่รอผมเลย”



คนน้องเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ เมื่อเห็นว่าคนใต้ร่างเสร็จสมอารมณ์หมายไปด้วยการสัมผัสเพียงไม่นาน เอิ้นปิดหน้าตัวเอง ซบใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจัดไว้ภายใต้ฝ่ามือ



“ถอดกระโปรงก่อนนะครับ เดี๋ยวมันเลอะ”



บัดนี้ เอิ้นขยับตัวทำอะไรไม่ได้แล้ว ได้แต่นอนตัวอ่อนยวบ ปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจชอบ



คว้าหมอนใบโตมาปิดหน้า



กระโปรงสีสวยรวมถึงกางเกงชั้นในและถุงน่องที่ขาดวิ่นกองอยู่ปลายเตียง โชนขยับขึ้นมาคร่อมร่างคนขี้เขินที่ตอนนี้มีเพียงเสื้อเชิร์ตแขนยาวเท่านั้นที่ปกปิดร่างกายสวยไว้อยู่ เอิ้นมุดหน้าอยู่ในหมอนใบใหญ่ นอนขดตัวเป็นกุ้งราวกับว่ามันจะช่วยทำให้โชนมองเห็นเขาได้ไม่ชัด



“พี่เอิ้นครับ”



“...ห้ามเรียกอย่างนั้นนะ”



“ทำไมล่ะครับ พี่เอิ้น~”



เอิ้นน้ำตาคลอที่อีกฝ่ายไม่ยอมเชื่อฟัง โชนเรียกแบบนี้แล้วจะให้เขาทำยังไงกับหัวใจที่เต้นดังกว่าเดิมนี้ดีล่ะ ลำพังแค่นี้มันก็แทบจะกระดอนออกมาข้างนอกอยู่แล้ว



โชนไล่ฝ่ามือของตัวเองเข้าไปในสาบเสื้อ ทำการปลดตะขอของยกทรงที่เอิ้นสวม คนโดนจับเปลื้องผ้าขดตัวมากกว่าเดิม ด้วยหวังว่าจะทำให้อีกฝ่ายลำบากมากขึ้น



ทว่าโชนกลับดึงเสื้อชั้นในของเอิ้นออกไปได้อย่างรวดเร็ว เร็วจนเอิ้นตกใจจนรีบหันหน้ามาหาอีกฝ่าย



“สีขาวเหรอ เอิ้นน่ารักจัง”



เอิ้นหน้าแดงแล้วแดงอีก เขามองยกทรงที่ตนเองสวมมาห้อยต่องแต่งอยู่ในมือคนใจร้าย



เอิ้นสวมยกทรงเพียงเพราะต้องการให้สรีระตนคล้ายผู้หญิงมากขึ้นเท่านั้น แต่พอโชนถอดมันออกไปโจ้งๆ เช่นนี้นั้น ทำให้เอิ้นหน้าแดงหนักกว่าเดิม



บัดนี้ทั้งตัวเขาเหลือเพียงเสื้อเชิร์ตสีอ่อนตัวเดียวคลุมตัวอยู่ และมันก็ปิดได้ถึงแค่สะโพกมนเท่านั้น



ไม่รอให้เอิ้นได้เอ่ยอะไรออกไป โชนจัดการโถมตัวพุ่งเข้ากอดอีกฝ่าย จู่โจมราวกับสิงโตล่าเหยื่อตัวน้อยๆ



Call 79



“ถ้าไม่อยากจริงๆ ก็บอกนะครับ”



“...”



โชนกอดอีกฝ่ายไว้แนบแน่น ล้วงมือเข้าไปในเสื้อสีอ่อน ลูบไล้แผ่นหลังที่เนียนนุ่มไปทั้งผืน ตัวเอิ้นนุ่มกว่าที่คิดและน่าสัมผัสไปหมดทุกตารางของร่างกาย



ฝ่ามือร้อนไล่จากแผ่นหลังเคลื่อนมายังหน้าท้อง



เอิ้นเกร็งไปทั้งตัว



“ถ้าคุณเอิ้นบอกว่าไม่ผมก็จะหยุดนะ”



ไล่ขึ้นไปเขี่ยยอดปทุมที่แข็งตัวชูชัน



“ไม่!”



เอิ้นร้องห้ามอย่างไม่รอช้า โชนชะงัก ยกยิ้มให้คนหน้าแดงแจ๋ และขยับนิ้วละเลงเล่นกับยอดไตสีสวย



เอิ้นน้ำตาคลอ ร้องไม่เป็นภาษา พยายามบิดตัวหนีคนผิดคำพูด เพียงแต่เขาไม่สามารถต้านทานแรงของอีกฝ่ายได้ เอิ้นได้แต่นอนบิดเร่าใต้ร่างของโชนอยู่อย่างนั้น



“โชน พอ-”



แล้วเสียงหวานก็ขาดหายไปเมื่อโชนครอบปากลงกับยอดอกสีเชอร์รี่ ลิ้นร้อนละเลงเล่นกับยอดอกที่แข็งตัวชูชันจนเอิ้นร้องเสียงหลง สองมือพยายามดันหัวโชนให้ออกไปทว่ากลับกลายเป็นเพียงการขย้ำกลุ่มผมสีเข้มค้ลายระบายอารมณ์เท่านั้น



เอิ้นน้ำตาคลอเต็มเบ้าตา จนหยาดน้ำใสไหลออกมาเป็นทางด้วยความเสียวกระสัน แก่นกายกลางลำตัวแข็งตัวอีกครั้ง สัมผัสที่โชนปรนเปรอให้เอิ้นทำให้เอิ้นตัวลอยจนไม่สามารถบรรยายได้



เอิ้นสะอื้นออกมา



“คุณ...เอิ้น” จนตัวต้นเหตุต้องชะงักในการกระทำ “ร้องไห้ทำไมครับ”



“โชนอ่ะ...”



“โอ๋ๆ ผมขอโทษนะ ไม่ชอบใช่ไหม ขอโทษนะครับ”



“โชนทำอย่างนี้...จะให้ผมทำไง”



“ชู่ว ผมขอโทษ”



“....หัวใจผม...มันจะหลุดออกมาอยู่แล้ว”



“...”



โชนเงียบกับการเอ่ยสารภาพของเอิ้น เขาคิดว่าเอิ้นไม่ชอบใจที่เขาปลุกปล้ำเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะว่าเอิ้นทนไม่ไหวกับความเขิน คนเด็กกว่าคิดว่าบางทีตนอาจจะรีบร้อนเกินไป



“งั้น...ไปอาบน้ำก่อนไหมครับ”



Call 80



เอิ้นยอมรับข้อตกลงเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะปล่อยให้ตนเป็นอิสระ และได้ใช้สายน้ำเย็นๆ ปลอบโยนหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำให้สงบลง



ไม่คิดว่าการอาบน้ำที่โชนว่าจะหมายถึงการอาบน้ำร่วมกันเช่นนี้!



หัวใจเขาเต้นแรงจนไม่มีเวลาได้พักเลยสักนิด



“คุณเอิ้น ขยับมาใกล้ๆ สิครับ ผมจะถูตัวให้”



ร่างของเอิ้นแดงไปหมดทั้งตัว



โชนโอบกอดอีกฝ่ายให้แนบชิดกับแผ่นอกตัวเอง ขยับฝ่ามือที่เต็มไปด้วยสบู่เหลว ชโลมไปทั่วหน้าท้องแบนราบ แกล้งสะกิดตรงนี้ที หยอกตรงนั้นทีจนเอิ้นแทบจะทรุดอยู่แล้ว



ส่วนกลางลำตัวของโชนเองก็แข็งตัวทิ่มกับสะโพกของเอิ้นอยู่อย่างนั้น แล้วจะให้คนขี้อายทนไหวได้อย่างไร



สัมผัสของโชนทำให้แก่นกายของเอิ้นกลับมาชูชันอีกครั้ง และเป็นเขาอีกครั้งที่ช่วยปลดปล่อยมัน เอิ้นแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้นห้องน้ำ



นอกจากถูตัวแล้วยังสระผมให้อีกด้วย เอิ้นทำตัวเป็นตุ๊กตา ยืนพิงอีกฝ่ายนิ่งๆ ปล่อยให้คนตัวโตกว่าทำตามใจ



จนล้างตัวเสร็จสิ้น โชนนำเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมให้อีกฝ่าย ก่อนพาไปยังตังใหญ่อีกครั้ง เอิ้นเบิกตาโพลง หัวใจเต้นแรงขึ้นทุกทีเมื่อคิดถึงวินาทีต่อจากนี้



เพียงแต่โชนกลับบอกให้เอิ้นนอนรอก่อน ตนจะเข้าไปจัดการตัวเองไม่นาน



เอิ้นนอนคว่ำตัวอยู่บนเตียง แล้วเรื่องราวเมื่อครู่ที่เกิดขึ้นไม่ถึงชั่วโมงก็แล่นผ่านหัวอย่างรวดเร็ว



โชนพาเขามาที่นี่สองต่อสอง...



ทั้งที่ก่อนหน้านี้คิดว่าจะต้องเลิกกันเสียแล้ว



ยังไม่พอ โชนกระหน่ำจูบจนแทบทรุด



และยิ่งไปกว่านั้น...



โชนอม...ตรงนั้น ลิ้น...ร้อน มัน...



แถมยังอาบน้ำด้วยกัน



หุ่นของโชนทำให้เอิ้นแทบลมจับ



เขาที่ชมชอบผู้ชายอยู่แล้ว มีหรือที่จะใจไม่สั่นเมื่อแก้ผ้าอยู่ต่อหน้าคนหุ่นดีถึงเพียงนี้



แก่นกายของเอิ้นกลับมาแข็งตัวอีกครั้ง



น่าอายเกินไปแล้ว



Call 81



เรื่องราวน่าอายที่เอิ้นคิดมานั้นเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น เมื่อโชนออกมาจากห้องน้ำ และเห็นคนน่ารักขดตัวเป็นกุ้งอบ เอาหน้าซุกหมอนใบโตอย่างน่าขบขันและเอ็นดู



“พี่เอิ้น”



“ห้ามเรียก” เอิ้นร้องเสียงอู้อี้ผ่านหมอนใบโต



“ครับๆ” โชนยิ้มขำให้คนแก่กว่า พลางลงไปนั่งข้างๆ



เขาเอื้อมมือไปสัมผัสเส้นผมนุ่มของอีกฝ่าย เส้นผมสั้นที่เป็นของเอิ้น หาใช่วิกผมเหมือนก่อนหน้า ทันทีที่เอิ้นรู้ตัวว่าถูกสัมผัส ก็ยิ่งซุกใบหน้าฝังเข้าไปกับหมอนยัดนุ่นมากขึ้น



“คุณเอิ้น...ไม่อยากทำเหรอครับ”



เอิ้นส่ายหน้า โชนไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร ระหว่างไม่อยากกับไม่ใช่



เขาเอนตัวล้มลงนอนข้างๆ



“ถ้าคุณเอิ้นยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไรนะครับ” โชนว่า



“ผมรอได้”



“...”



“เพียงแค่อยากให้คุณเอิ้นเป็นของผมเร็วๆ เท่านั้นเอง”



“...”



“รวมถึงผมเองก็อยากเป็นของคุณเอิ้นด้วย”



ฝ่ามือที่จิกหมอนนุ่มจนเกร็งของเอิ้นเริ่มคลายออกมา เขาถอนใบหน้าออกจากหมอนยักษ์ช้าๆ หันไปหาอีกฝ่ายที่นอนอมยิ้มอยู่ข้างกาย โชนหมายความอย่างที่ว่าจริงๆ แม้ใจเขาอยากจะทำอะไรกับเอิ้นมากเพียงไหน แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ยินยอมเขาก็คงไม่ยินดี



เอิ้นขยับตัวซุกแผ่นอกแกร่ง



“แค่นอนกอดเฉยๆ ก็ได้ครับ” โชนว่า ยิ้มให้อีกฝ่าย



รอยยิ้มที่อ่อนโยนจนอุ่นใจของโชนทำให้เอิ้นมั่นใจว่าถ้าเป็นโชน...ต้องไม่เป็นอะไรแน่



เอิ้นขยับตัว มอบจุมพิตให้อีกฝ่าย



Call 82



ผ้าคลุมอาบน้ำสองผืนถูกเหวี่ยงไปอยู่ปลายเตียงร่วมกับเสื้อผ้าของทั้งสองฝ่าย บัดนี้สองร่างในห้องหับไม่เหลือเสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆ ติดกาย มีเพียงร่างเนื้อนัวเนียแนบเนื้ออยู่ด้วยกันบนเตียงเท่านั้น



“คุณเอิ้น อย่าเกร็ง”



เขากระซิบเสียงพร่าให้คนใต้ร่างที่หลับตาปี๋ผ่อนคลาย เมื่อได้สอดแก่นกายของตัวเองเข้าไปในตัวของเอิ้น



“พี่เอิ้น”



“ฮือ”



เอิ้นร้องคราง หมายจะห้ามไม่ให้อีกฝ่ายเรียกตนเช่นนี้ แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ วัยรุ่นใจร้อนอย่างโชนแกล้งคนพี่โดยการกระซิบที่ใบหูของเขาซ้ำๆ



“พี่เอิ้น...”



เอิ้นจิกเล็บขูดลงที่กลางแผ่นหลังใหญ่ จนโชนยอมหยุดหยอกล้อ เขาหอมแก้มอีกฝ่ายเบาๆ หนึ่งทีก่อนเริ่มขยับท่อนล่างที่ยึดกับอีกฝ่ายไว้ ผสานรวมเป็นหนึ่ง เสียงร้องห้ามกลายเป็นเสียงร้องไม่ได้ศัพท์



โชนเขยื้อนขยับสะโพก กระแทกแก่นกายเข้าและถอนออกอย่างเนิบช้า ค่อยๆ สอดใส่ตัวตนเข้าไปในตัวเอิ้นอย่างอ่อนโยน เพราะเกรงว่าหากรุนแรงแล้วอีกฝ่ายจะเจ็บตัวเอา



แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เห็นด้วย เอิ้นขยับสะโพกตัวเอง ขยักเขยื้อน บิดเร่าไปมา ร้องครางอย่างไม่พอใจ



สัมผัสที่โชนมอบให้มันดี แต่ยังไม่มากพอ เขาต้องการมากกว่านี้



สองมือเล็กเกาะกล้ามแขนใหญ่เอาไว้ จิกเล็บขูดลงเนื้อแน่น พยายามดันสะโพกตัวเองให้แก่นกายของอีกฝ่ายเข้ามาลึกขึ้น



โชนมองคนตัวเล็กที่ยามนี้ดวงตาสวยเอ่อนองไปน้ำหยาดน้ำตา ใบหน้าหวานแดงและร้อนผ่าว ริมฝีปากบวมเจ่อ เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับ เอิ้นหอบหายใจใต้ร่างของโชน พยายามไม่จับจ้องสายตาที่เหมือนจะเผาไหม้ทุกอย่างให้เป็นจุลของโชน เอิ้นเพียงต้องการให้ความต้องการของตนถึงจุดสิ้นสุดเสียที



สะโพกเล็กขยับวนอย่างไม่รู้ความ จนมือใหญ่ต้องจับยึดมันไว้แน่น



กระแทกแก่นกายร้อนเข้าไปจนสุดและถอนออก เร่งจังหวะรักจนคนใต้ร่างหวีดร้องออกมาด้วยความกระสัน หยาดน้ำตาของเอิ้นไหลออกมาเป็นทาง ริมฝีปากแดงพยายามขบเม้มไม่ให้เสียงน่าอายหลุดออกมา แต่กลับไม่ช่วยอะไรเลย



เมื่อโชนขยับตัวถาโถมเข้ามาอย่างแรงจนเอิ้นไม่สามารถควบคุมเสียงร้องของตัวเองได้อีกต่อไป



เสียงหวานหวีดร้อง ปลายนิ้วเท้าจิกลงกับผ้าปูที่นอน นิ้วมือเรียวจิกลงบนแผ่นหลังหนา และสะโพกที่แอ่นขึ้นตอบรับกับจังหวะร้อน หมายจะคลายความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น



ทั้งหมดนี้ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เมื่อสุดท้ายแล้วอารมณ์ของเอิ้นพุ่งไปจนถึงขีดสุด ของเหลวสีขุ่นได้หลั่งออกมา ภายในหัวของเขาว่างเปล่า ราวกับว่าจู่ๆ ก็ได้โบยบินไปสู่ท้องฟ้าสีขาวโพลน







___________________________________

เสร็จเด็กไปแล้วคุณเอิ้นนน
 :hao6: :hao6:
#Call123456

หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Neptunekaet ที่ 05-09-2018 15:54:44
เอิ้นลูกกกกกกก 
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 05-09-2018 15:56:12
คุณเอิ้นนนนนนนนนนนน เขาได้กันแล้วค่าาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 05-09-2018 16:24:59
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:
ไม่ไหว
ขอเลือดด่วน
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Kx0806 ที่ 05-09-2018 16:56:56
 :jul1: เก่งมาเจ้าโชน จากที่เคยวิ่งหนีกันวันนั้น สู่วันนี้ที่รอคอย ฮ่าา
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: aha_aha ที่ 05-09-2018 17:50:25
เด็กเดี๋ยวนี้มันโตไวนะเอิ้น 5555
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 05-09-2018 17:53:40
เฮือกก!!!  :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 05-09-2018 19:28:08
เฮือกกก ขอเลือดด้วยค่ะ >,.<
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 05-09-2018 19:45:44
ความสัมพันธ์ก้าวกระโดดไปไกลเลยยยย
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Patsz ที่ 05-09-2018 22:06:14
คุณเอิ้นโดนเด็กกินซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 05-09-2018 22:12:43
 :pig4: :pig4: :pig4:

งุย ๆ พวกเขาฟิเจอริ่งกันด้วยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 06-09-2018 07:15:41
เด็กมันร้ายคะหัวหน้า  :hao7: :hao7:

ส่งลูกสาวเข้าหอ  :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 06-09-2018 12:42:28
โชนใจเย็นนนน คุณเอิ้นเขินไม่ไหวแล้ววว
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 07-09-2018 05:33:25
สงสารใจเอิ้นเลย ทั้งเขินทั้งอาย
เอิ้นน่ารักนะ มีความเด๋อเยอะมาก

โชนมาแบบอบอุ่น หลอกล่อให้เอิ้นติดกับ

โชนทำแบบนี้ อย่าปล่อยให้พี่นอยด์อีกล่ะ
เอิ้นเทใจให้ขนาดนี้แล้ว เอิ้นก็อย่าคิดมากเลย
ความสุขหาได้จากตอนนี้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 08-09-2018 02:19:32
คุณเอิ้นนนน  :กอด1: :-[ :impress2: :o8:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: CLShunny ที่ 09-09-2018 00:37:36
น้องเอิ้นนนนนนนนนนนนนนนน
โดนนังโชนล่อลวงแล้วววลูกกกกก 55555.แซ้บบบพริกเป้นโลเลยยยจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 11 |5.9.2018| p.3
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 09-09-2018 02:32:54
คุณเอิ้นกินเด็กไปแล้วรึว่าเด็กกินคุณเอิ้นกันแน่ แต่ที่แน่ๆคือเราเขินมากกกกกก
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 12 |10.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 10-09-2018 17:42:29
โทรครั้งที่ 12____________________







Call 83



กว่าพวกเขาจะตื่นก็เกือบจะเช็คเอาท์ไม่ทัน



นี่เป็นครั้งแรกที่เอิ้นแต่งตัวในชุดผู้หญิงโดยที่ไม่ได้แต่งหน้า ทำให้เขาไม่มั่นใจเลยแม้แต่น้อย แต่สุดท้ายโชนก็พาเขามาส่งถึงบ้านโดยที่ไม่มีใครจับได้ว่าเขาเป็นผู้ชาย



เป็นโชคดีที่เขารูปร่างเล็กและหน้าหวานโดยธรรมชาติ



และเป็นโชคดีที่เอิ้นมักจะแต่งตัวมิดชิด ทำให้ไม่เห็นรอยอะไรต่อมิอะไรที่โชนทำไว้จนตัวเขาลายพร้อย ร่องรอยสีกุหลาบกระจายอยู่ทั่วตัวชนิดที่ว่าเอิ้นเห็นแล้วยังตกใจ



ก่อนที่โชนจะกลับไป เสียงทุ้มกระซิบบอกเขาให้เอิ้นหน้าแดงซ่าน



“ครั้งต่อไปจะไม่ปล่อยให้หลับไปก่อนแล้วนะครับ”



คนขี้แกล้งยกยิ้ม บอกให้เอิ้นเข้าบ้าน แล้วจะติดต่อไปหาตอนเย็น



เอิ้นรีบมานอนแผ่ที่เตียงใหญ่ ใบหน้าแดงราวกับลูกตำลึงสุกซุกลงไปในหมอนนุ่ม



เขาเป็นของโชนแล้ว



ยิ่งคิด ก็ยิ่งเขิน...



สุดท้ายเอิ้นก็หลับไปเพราะความเพลียและอ่อนล้าจากกิจกรรมเมื่อคืน กว่าจะตื่นพระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกดินแล้ว ป้าภาขึ้นมาปลุกให้เขากินอาหารเย็น เอิ้นพลันรู้ตัวว่าเขายังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลยด้วยซ้ำ



“คุณเอิ้น...ไหวรึเปล่าคะ”



“ฮะ? ผมไหวครับ”



เอิ้นเปลี่ยนชุด ลงมาที่ห้องอาหาร ทว่าไม่รู้สึกอยากอาหารตรงหน้าเลย หลังจากที่เอิ้นเขี่ยข้าวเป็นชั่วโมงจนในที่สุดก็กินหมด ป้าภาก็ถามขึ้นมา ไม่ว่าเปล่า หญิงวัยกลางคนเอื้อมมือมาแตะที่หลังคอคุณหนูประจำบ้าน



“ตายแล้ว ตัวร้อนจี๋เลยคุณเอิ้น”



“เอ๊ะ?”



“ท่าจะเป็นไข้เสียแล้ว คุณเอิ้นรีบขึ้นไปพักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าหายาให้”



เอิ้นทำตามที่แม่บ้านว่า เขาขึ้นมานอนที่ห้องนอน รู้สึกเบลอๆ หัวหมุนชอบกล และครั่นเนื้อครั่นตัว สงสัยไข้หวัดคงเล่นงานเขาแล้ว



เขาล้มตัวนอนแผ่อีกครั้ง เอิ้นจดจำอะไรไม่ค่อยได้ รู้เพียงว่าป้าภาเอายามาให้ เอิ้นกินยาไม่รู้กี่เม็ดเข้าไป ก่อนทุกอย่างจะดับวูบ



สลบไสลก่อนเสียงโทรศัพท์จะดัง



Call 84



“ตื่นแล้วเหรอครับคุณเอิ้น?”



“อื้อ...?”



“รู้สึกยังไงบ้างครับ ปวดหัวไหม อา...ยังมีไข้อยู่นะครับ”



“โชน?”



“ผมเอง...” เอิ้นพยายามลืมตามองอีกฝ่าย อันที่จริงเอิ้นจำได้ตั้งแต่เสียงแล้ว เพียงแต่อยากเห็นหน้าให้แน่ชัด “ผมโทรหาคุณเอิ้นแล้วป้าภาบอกว่าคุณเอิ้นป่วย ผมเลยขอป้าภามาดูแลคุณเอิ้น”



“เอ๊ะ...”



เอิ้นพลันรู้ตัวว่าอีกฝ่ายนอนบนเตียงเดียวกับเขา เตียงที่เป็นของเขา ที่อยู่ในห้องเขา ในบ้านเขา



“โชนมาได้ไง...”



“มอเตอร์ไซค์ตาวน่ะครับ”



“ไม่เห็นต้องลำบากเลย”



“ไม่ลำบากเลยครับ อีกอย่างคุณเอิ้นป่วยก็เพราะผมนี่...”



เอิ้นหน้าแดง ตอบตะกุกตะกัก “ไม่ใช่สักหน่อย”



“นอนพักอีกหน่อยนะคุณเอิ้น เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้”



โชนอมยิ้มขำให้คนแก่กว่าที่ตอนนี้กลายเป็นเด็กน้อยให้เขาดูแล ส่วนเอิ้นหมดแรงจะห้ามหรือขัดขืนแล้ว เขาได้แต่ปล่อยให้โชนทำตามใจอยาก



เมื่อโชนได้ปลดกระดุมเสื้อของเอิ้นเพื่อเช็ดตัว เขาก็เห็นร่องรอยที่ตัวเองทำไว้เมื่อคืน พลางคิดว่าโชคดีแล้วที่เขามาเฝ้าไข้เอิ้นถึงที่ ไม่อย่างนั้นคุณป้าแม่บ้านคงได้ลมจับที่เขาทำให้คุณหนูของบ้านตัวลายพร้อยเช่นนี้



พอเช็ดตัวเสร็จ เอิ้นก็รู้สึกสบายตัวขึ้นมาหน่อย



“หลับนะครับคนดี”



“แล้วโชนล่ะ...”



“ผมอยู่ตรงนี้แหละครับ”



“ไม่ได้นะ เดี๋ยวติดไข้”



“ไม่ติดหรอก ผมแข็งแรง คุณเอิ้นไม่ต้องห่วงนะครับ”



“...”



“ผมไม่ไปไหนหรอก”



Call 85



“ครับ  เดี๋ยวผมเอาให้คุณเอิ้นกินเอง ขอบคุณป้าภานะครับ”



“งั้นป้าฝากคุณเอิ้นด้วยนะคะ”



“ได้เลยครับ”



เอิ้นสะลึมสะลือตื่นเพราะเสียงคุยกันในห้อง เขาพยายามชันตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียง พร้อมกับเห็นว่าโชนถือถาดอาหารก่อนเดินเข้ามาหาเขา วางถาดอาหารไว้ข้างเตียง ยกมือใหญ่อิงแนบแก้ม



“มีไข้อยู่นิดหน่อยนะครับ”



“...”



“กินข้าวแล้วแล้วกินยานะคุณเอิ้น”



“อือ...”



เอิ้นอ้าปากรับโจ๊กอุ่นๆ จากคนป้อน เขาคิดว่าอาการตัวเองดีขึ้นจากเมื่อคืนมากแล้ว แต่ยังรู้สึกเพลียอีกนิดหน่อยเท่านั้น



“เมื่อคืนโชนนอนที่นี่เหรอ”



“ครับ นอนข้างๆ คุณเอิ้นเลย”



“...ไม่ติดหวัดใช่ไหม”



“ไม่หรอก บอกแล้วไงว่าผมแข็งแรง”



“ดีแล้ว”



“พี่เอิ้นเองก็ต้องออกกำลังกายเยอะๆ จะได้แข็งแรงนะ”



“บอกว่าอย่าเรียกอย่างนั้นไง”



“ทำไมล่ะ พี่เอิ้น”



เพี๊ยะ



เอิ้นโจมตีใส่คนขี้แกล้งด้วยความเขิน โชนเรียกเขาแบบนี้หวนให้นึกถึงเรื่องเมื่อคืนนั้นทุกทีนี่นา เขาอายจะตายอยู่แล้ว



“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้วครับคุณเอิ้น อ้าม”



โชนว่า ตักช้อนป้อนข้าวให้คนขี้เขิน ไว้เขาเก็บคำเรียกนี้ไว้ใช้ตอนนั้นก็ได้



เอิ้นไม่ตอบอะไร ทำเพียงกินโจ๊กจากช้อนที่อีกฝ่ายป้อนให้



นึกขอบใจอาการป่วยของตัวเองที่ทำให้โชนอยู่ดูแลเขาทั้งวัน



Call 86



โชนปิดเทอมแล้ว เป็นปิดเทอมเล็กในเหมันตฤดู อากาศในแถบนี้จะหนาวจัดเมื่อตกกลางคืน แต่จะเย็นสบายเมื่อตอนกลางวัน โชนชวนเอิ้นมาที่หอหลังจากที่เอิ้นหายไข้ไม่กี่วัน



“คุณเอิ้นอยากไปเที่ยวที่ไหนไหม ทะเล? ภูเขา?”



“หืม?”



“ผมปิดเทอมแล้ว มีเวลาว่างเป็นเดือน แต่หน้าหนาวก็ต้องไปเที่ยวภูเขาเนอะ”



“ผมคงต้องทำวิทยานิพนธ์ต่อน่ะ...ไม่แน่ใจว่าจะว่างไหม”



“ว้า...ป.โทนี่เหนื่อยจังนะครับ”



“ขอโทษนะ”



เอิ้นรู้สึกผิดเล็กๆ ที่ผ่านมาที่เขาไปไหนมาไหนกับโชนได้ตลอดเวลาเพราะโชนมักจะว่างช่วงเย็น หรือไม่ก็เสาร์อาทิตย์ ซึ่งตรงกับเวลาว่างของเขา เอิ้นมักใช้ช่วงเวลากลางวันไปกับการทำวิทยานิพนธ์และหาข้อมูล และถึงแม้จะปิดเทอมแล้ว แต่อ.ที่ปรึกษาของเอิ้นยังคงเข้มงวด ขอนัดตรวจความคืบหน้าอยู่ดี



โชนชวนเอิ้นมาที่นี่ไม่ใช่เพราะอะไร เขาต้องกลับบ้านวันพรุ่งนี้ วันนี้จึงมาเก็บของเตรียมตัว แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากอยู่กับเอิ้นให้นานๆ ส่วนเอิ้นก็เช่นกัน ตนไม่ได้คิดอะไรมากที่ต้องมาช่วยโชนเก็บของ ขอแค่ได้อยู่ด้วยกันนานๆ ก็พอแล้ว



คนเด็กกว่าต้องกลับบ้านไปเยี่ยมป้าและลุงเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ แม้ตัวบ้านจะอยู่ในจังหวัดเดียวกัน แต่ก็ถือว่าอยู่ไกลจากตัวเมืองพอสมควร ทำให้โชนมาหาหอเช่าอยู่เพื่อความสะดวกสบาย



“อันนี้เอาไปด้วยไหม”



“ไม่ต้องหรอกครับ ผมไปแป๊บเดียว”



“แล้วอันนี้ล่ะ”



“ผมเอาไปแค่พวกเสื้อผ้านิดหน่อยกับซาวน์เบาท์ก็พอ”



เอิ้นพยักหน้า ไม่ไปยุ่งกับข้าวของของโชนอีก ตนแค่ไม่รู้จะทำอะไรจึงหาเรื่องช่วยเหลือเท่านั้น



เอิ้นนั่งลงที่เตียงของโชน วันนี้ไม่เห็นตาวในห้อง โชนก็ไม่รู้ว่าเพื่อนตนไปไหน คงออกไปเที่ยวเล่น เพราะตาวเคยบอกว่าจะกลับบ้านหลังโชนสองสามวัน



พวกเขาอยู่ด้วยกันในห้องแคบๆ สองต่อสองเช่นนี้ เอิ้นก็อดเขินหน้าแดงไม่ได้



ทำไงได้ เรื่องเมื่อตอนนั้นมัน ‘ฝัง’ ลงไปในใจเอิ้นแล้วนี่นา เรื่องที่เขาผิดผีกับโชน...



เอิ้นจำได้ทุกสัมผัส ทุกเหตุการณ์ ภาพในหัวแล่นอย่างต่อเนื่อง ฉายซ้ำราวกับเป็นวิดีโอม้วนหนังเรื่องหนึ่ง



ก่อนที่จะเตลิด เอิ้นส่ายหัวไปมาไล่ความคิด หันไปหันมาในห้องโชน พยายามหาอะไรทำไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่าน ส่วนโชนเข้าไปจัดการข้าวของในห้องน้ำ ทำให้ไม่เห้นภาพเอิ้นที่ละเมอเพ้อพกอยู่คนเดียว



เอิ้นหันไปเห็นหมอนของโชน เขาตบมันสองสามทีอย่างไม่รู้ความหมาย



พลันภาพน่าอายก็ฉายซ้ำขึ้นมา



คนหน้าแดงรีบเอาหน้าตัวเองซุกกับหมอนของโชนทันที และมันก็ยิ่งแย่ลงเพราะได้สูดกลิ่นของโชนเข้าไปเต็มปอด



เอิ้นลุกขึ้นมานั่ง หมอนใบนิ่มที่เขยื้อนไปเล็กน้อยทำให้เอิ้นเห็นอะไรบางอย่าง...



เป็นขอบหนังสือบางๆ เล่มหนึ่ง



Call 87



แม้จะไม่อยากรบกวนความเป็นส่วนตัวของโชนมากเท่าไหร่ แต่สุดท้ายใจเจ้ากรรมก็สั่งให้เขาหยิบเจ้าสิ่งนั้นมาพิจารณาดู



เอิ้นหยิบมันออกมาพร้อมกับชะงักเมื่อเห็นหน้าปก...



เขาเปิดดูเนื้อในดูทีละหน้า พร้อมกับโชนที่เดินออกมาจากห้องน้ำ



“คุณเอิ้น!”



เอิ้นไม่ได้ตกใจ เพราะได้ยินเสียงโชนแต่แรกอยู่แล้ว คนถูกเรียกทำเพียงเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของหนังสือ ที่ตอนนี้เดินหน้าแดงเข้ามาอย่างลุกลี้ลุกลน



“นั่นมัน...ไม่ใช่นะครับ”



“...หนังสือโป๊นี่ของโชนเหรอ”



“เปล่านะ ของไอ้ตาวมัน”



“แต่มันอยู่ใต้หมอนโชน...”



“ต...ตาวต้องแกล้งผมแน่ๆ”



คนเด็กกว่าว่าอย่างตะกุกตะกัก ไม่แนบเนียนจนเอิ้นยังรู้สึกได้ เขาเบะปาก มองรูปภาพในหนังสือที่ปรากฏเป็นหญิงสาวโป๊เปลือยเต็มไปหมด



อย่างไรเสีย โชนก็ยังคงชอบผู้หญิงอยู่ดีใช่ไหม...



โชนหยิบหนังสือลามกในมือเอิ้นออกไป โยนมันไปไว้ที่เตียงของเพื่อนร่วมห้อง



“คุณเอิ้น...ไม่ใช่อย่างนั้นนะ”



แม้เอิ้นจะไม่บอก แต่โชนก็เดาได้ลางๆ หลังจากที่อยู่ด้วยกันมานานทำให้พอรู้จักนิสัยของอีกฝ่าย เอิ้นคงคิดมากอีกแล้ว พวกเขาเพิ่งจะมีอะไรกันไป และมันก็เหมือนจะเป็นไปได้ดี แต่กลับมาเจอกับหนังสือโป๊ที่เต็มไปด้วยร่างเปลือยของหญิงสาว



“ที่ทำกับผมตอนนั้น...มันดีไม่พอเหรอ?”



“ไม่ใช่นะคุณเอิ้น”



“แล้ว...ทำไมถึง...”



“เล่มนี้ผมไม่ได้เปิดมานานแล้ว...จริงๆ นะ”



“...”



“คุณเอิ้น ผมบอกตรงนี้ก็ได้ว่ายังชอบผู้หญิงอยู่ แต่คุณเอิ้นเป็นผู้ชายที่ผมรัก เข้าใจไหมครับ?”



“ไม่เข้าใจ”



Call 88



เอิ้นบอกตามตรง เขาชอบผู้ชายมาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยสนใจเรือนร่างเพศหญิง พอโชนมาชอบเขาเช่นนี้ ตนเลยพลอยคิดว่าโชนเองก็เป็นเหมือนกัน เป็นผู้ชายที่ชอบผู้ชาย...แต่ความรักความชอบไม่ได้ถูกกำหนดด้วยเรื่องแค่นี้อยู่แล้ว



โชนชอบผู้หญิง เขาหลงใหลและมีอารมณ์กับเรือนร่างอรชรของเพศแม่ ทว่าเอิ้นเป็นข้อยกเว้นทั้งหมด เขายังชอบมองผู้หญิงอยู่เหมือนเคย เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องมองใคร เพราะเขามีเอิ้นแล้ว



“ผมไม่ได้ชอบผู้ชายมาก่อน แต่ไหนแต่ไรมาผมก็ชอบผู้หญิง จะมีของอย่างนี้ก็ไม่แปลก เพียงแต่ผมไม่ได้ใช้มันนานแล้วหลังจากที่ได้รู้จักกับคุณเอิ้น”



“...”



“มันไม่ได้หมายความว่าตอนนั้นกับคุณเอิ้นมันไม่ดีหรืออะไรเลย”



“แต่ถ้าโชนเลิกกันแล้วก็จะกลับไปหาผู้หญิงใช่ไหมล่ะ”



“ทำไมต้องคิดว่าเราต้องเลิกกันล่ะ?”



“ไม่...ไม่รู้”



เอิ้นค่อนข้างสับสน โชนยังชอบผู้หญิง แต่ตอนนี้โชนบอกว่าชอบเขา แสดงว่าถ้าไม่มีเขาโชนก็จะกลับไปชอบผู้หญิงเหมือนเคยใช่ไหม แต่แล้วมันยังไง...ถ้าเลิกกันแล้ว โชนจะคบกับใครก็ได้นี่นา



แต่เอิ้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องคิดว่าจะเลิกกัน



อาจเพราะความกลัวที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในส่วนลึกของจิตใจถูกกระตุ้นขึ้นมา



“ผมไม่เลิกหรอก บอกไปแล้วไง คุณเอิ้นอย่าคิดมากนะ ขอโทษที่ทำให้เห็นของพวกนี้ แต่ผมมีแค่คุณเอิ้นจริงๆ นะ”



ไม่ว่าเปล่า คนเด็กกว่าเอื้อมมือไปลูบใบหน้าละมุนอย่างอ่อนโยน



เอิ้นพลันรู้สึกว่าตัวเองคิดงี่เง่า โชนจะมีของแบบนี้ก็ไม่เห็นแปลกเลย ก็แค่วัยรุ่นปกติทั่วไปเท่านั้นเอง นี่เขากำลังหึงโชนกับหนังสือโป๊งั้นหรือ

“ไม่โกรธนะ”



“อือ ไม่โกรธแล้ว”



โชนยิ้มที่อีกฝ่ายยอมว่าง่าย เข้าใจอะไรง่ายๆ โชนไม่เคยคิดนอกใจเอิ้นเลย เพียงแต่บางครั้งมันก็ต้องมีตัวช่วยบ้าง



แต่หลังจากคืนนั้นแล้ว โชนคงไม่ต้องพึ่งของพวกนี้อีก



ในเมื่อคุณเอิ้นของเขาร้อนแรงกว่าผู้หญิงในภาพพวกนี้เป็นไหนๆ



Call 89



หลังจากปรับความเข้าใจกันได้แล้ว โชนก็มอบจุมพิตเบาๆ เป็นการให้รางวัลที่คุณเอิ้นของเขาเริ่มเติบโต เอิ้นคิดมาก โชนรู้ แต่จะให้เลิกนิสัยนี้ทันทีก็คงไม่ได้ โชนเป็นวัยรุ่นใจร้อนและยังเด็ก เอิ้นรู้ เพียงแต่จะให้โชนมีความคิดแบบผู้ใหญ่เลยทันทีก็ไม่ได้



มีแต่ต้องเรียนรู้กันไป



เอิ้นจุมพิตตอบกลับเด็กหนุ่ม กดริมฝีปากตัวเองแนบแน่นไปกับอีกฝ่าย โชนที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียงจึงดึงเอิ้นให้ลงมานั่งบนพื้นในระดับเดียวกัน เพื่อมอบจุมพิตร้อนแรงให้กับเจ้าของหัวใจ



ไม่มีใครสนใจเรื่องราวก่อนหน้า มีแต่สนใจเรื่องราวตรงหน้ามากกว่า



จากจุมพิตอ่อนหวานพลันเปลี่ยนเป็นร้อนแรง โชนตะโบมจูบคนตัวเล็กกว่าอย่างบ้าคลั่ง สลับกับทะนุถนอมจนเอิ้นตามไม่ทัน



ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเพลิดเพลินกับรสจูบของกันและกันอยู่นั้น ก็ได้ลืมไปว่าห้องนี้ไม่ได้เป็นของโชนแค่คนเดียว



ตาวไม่ได้อยากขัดจังหวะของทั้งคู่นักหรอก เพียงแต่เขาเข้ามาในห้องได้สักพักแล้ว ทีแรกก็กะจะออกไปรอข้างนอก แต่คิดว่าเพื่อนตนคงไม่ทำอะไรนาน รวมถึงถ้าเปิดประตูออกไปตอนนี้คงเป็นการขัดจังหวะอีก



ทั้งโชนทั้งเอิ้นมัวเมาอยู่ในจักรวาลของตัวเองจนไม่ได้ยินเสียงเปิดประตู ไม่รับรู้การมาถึงของตาว



แม้กระทั่งตอนนี้ ก็ยังไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของอีกฝ่าย



ตาวไม่รู้จะร้องไห้หรือดีใจที่เห็นเพื่อนหลงรักใครหัวปักหัวปำเช่นนี้ดี



“เอ่อ...”



สุดท้าย ก่อนที่ทั้งคู่จะเลยเถิดไปมากกว่าเดิม ตาวก็ส่งเสียงออกมา...



คู่รักมือใหม่พลันเด้งออกจากกันราวกับมีสายฟ้าฟาดผ่ากลาง หลุดออกจากในภวังค์ทันที



เอิ้นหน้าแดงแปร๊ดเมื่อรู้ว่าตาวอยู่ในห้อง และคงเห็นภาพเมื่อครู่แล้วแน่แท้



สองขารีบยันตัวลุกขึ้น ผลักคนตรงหน้าออก คนแก่กว่าแทบไม่ทักอะไรคนมาใหม่ ได้แต่รีบรุดออกไปข้างนอกห้อง ควักโทรศัพท์มือถือออกมา โทรเรียกคนขับรถให้ออกมารับแทบทันที



“ไอ้ตาว ไอ้เพื่อนเวร”



ส่วนโชนก็ได้แต่นั่งสาปแช่งคนมาเยือนที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลา





________________________________

#Call123456
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 12 |10.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 10-09-2018 18:03:50
โธ่ตาว ขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มมันบาปนะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 12 |10.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 10-09-2018 19:17:09
ตาวผิดอะไร
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 12 |10.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 10-09-2018 22:10:42
โธ่ ห้องนี้ครึ่งหนึ่งก็ของตาวนะตาวผิดอะไรอ่ะ ทำไมต้องด่าด่วย :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 12 |10.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 10-09-2018 22:36:29
ผิดที่ผิดเวลานะตาวตาว  :hao7:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 12 |10.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 11-09-2018 01:40:22
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 12 |10.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: full ที่ 11-09-2018 20:28:17
ไม่น่าเลย ไม่น่ากลับมาเวลานี้เลยตาว555  :pig4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 12 |10.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-09-2018 20:49:11
ตาววววววว ขัดจังหวะเค้า 5555
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 12 |10.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: aha_aha ที่ 12-09-2018 08:03:48
เอ่อ... ต้องหาคู่ให้ตาวเป็นการปลอบใจแล้วหละ 555
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 13 |16.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 16-09-2018 16:46:13
โทรครั้งที่ 13 ___________________



Call 90



“ไม่เป็นไรหรอกคุณเอิ้น ผมบอกแล้วไงว่าตาวไม่ว่าอะไรหรอก”



“ไม่จริงหรอก”



“จริงสิ ผมคุยกับมันแล้ว”



“...ไม่มีใครรับเรื่องนี้ได้หรอก”



“คุณเอิ้น ผมบอกแล้วไงว่าตาวรับได้”



“โชนแค่อยากให้ผมสบายใจใช่ไหมล่ะ”



“ไม่ใช่นะ ผมคุยกับมันแล้วจริงๆ โถ่ คุณเอิ้น”



โชนถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย หลังจากที่กลับมาอยู่ที่บ้าน เด็กหนุ่มต่อสายหาคนรักของตนทันทีเพราะเรื่องราวเมื่อคราวนั้นยังไม่กระจ่าง เอิ้นรีบร้อนออกไปจากห้องก่อนที่พวกเขาจะได้คุยอะไรกัน ทำให้เป็นปัญหาคาราคาซังเช่นนี้



ครั้นพอโชนโทรกลับมาบอกกล่าวเรื่องราว แฟนเจ้ากรรมของเขาดันไม่เชื่อเสียอย่างนั้น



เอิ้นจมอยู่กับความโดดเดี่ยวมากเกินไป ที่ผ่านมาไม่มีใครยอมรับเขาได้แม้แต่คนในครอบครัว ดังนั้นเอิ้นจึงเชื่อมั่นว่าเรื่องที่เขาจูบกับโชนต่อหน้าตาวคงเป็นที่รังเกียจแน่แท้



แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น



เมื่อย้อนกลับไป สองหนุ่มพูดคุยกัน



“มึงเข้ามาขัดจังหวะกูกับคุณเอิ้นทำไม”



“โทษที กูไม่รู้นี่ว่าพวกมึงจู๋จี๋กันอยู่ กะแค่มาเอาของแล้วจะรีบไป”



โชนถอนหายใจ ยักไหล่ อย่างไรเสียนี่ก็ไม่ใช่แค่ห้องเขาคนเดียว การที่เขาพาเอิ้นมาจู๋จี๋แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องสมควรเท่าไหร่ เพียงแต่เด็กอารมณ์ร้อนอย่างเขาหงุดหงิดนิดหน่อยเมื่อถูกขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็ม



“ช่างเถอะ ป่านนี้คุณเอิ้นคงหนีไปแล้วมั้ง” โชนว่า พลางนึกถึงคนน่ารักที่คงเขินม้วนจนแทบกลิ้ง



“แล้วมึงไม่ตามเขาไปล่ะ”



“กูต้องเก็บของ...”



โชนบอก จ้องตาเพื่อนสนิทอย่างแฝงความนัย



“แล้วก็จะคุยอะไรกับกูด้วยใช่ไหม” ตาวก็ตอบรับสายตาของเพื่อนตนได้อย่างดี โชนยกยิ้ม พยักหน้า



เขาไม่เคยบอกตาวว่าคบกับเอิ้นในฐานะคนรักเพราะอีกฝ่ายไม่ต้องการ แต่ตาวเล่นมาเห็นกันจะๆ แบบนี้ คงปิดอะไรไม่ได้แล้ว



รวมถึงโชนอยากจะแน่ใจว่าเพื่อนของตนจะยอมรับได้



“โอเคไหมที่กูเป็นแบบนี้”



“แบบไหน...แบบที่ชอบกะเทย?”



“คุณเอิ้นไม่ใช่กะเทย”



“เออ นั่นแหละๆ กูก็ไม่เห็นว่าคุณเอิ้นเหมือนกะเทยยังไง เหมือนผู้ชายทั่วไปมากกว่า แต่เขาแต่งเป็นผู้หญิงด้วยไม่ใช่เหรอ”



“มึงรู้?”



“อืม กูจำหน้าได้ คุณเอินกับคุณเอิ้นเป็นคนเดียวกันใช่ไหมล่ะ”



“อืม” โชนตอบรับอย่างช่วยไม่ได้ “แต่เขาไม่ได้เป็นกะเทยหรืออะไรหรอก...คุณเอิ้นก็แค่เป็นผู้ชายที่ชอบผู้ชาย”



“แล้วมันต่างจากกะเทยยังไง”



“ตรงที่เขาไม่ได้อยากเป็นผู้หญิง และไม่ว่าเขาจะถูกพวกมึงกำหนดด้วยนิยามอะไร เขาก็เป็นคนเหมือนกัน”



“...”



“คุณเอิ้นบอกมาน่ะ”



“เพราะงี้นี่เอง...มึงถึงชอบเขา” เมื่อจบประโยคของโชน ตาวรับรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนตนตกหลุมรักอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง เพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของเอิ้น



“อืม พอเขาบอกว่าเขาก็เป็นแค่คนๆ หนึ่งกูเลยคิดได้ว่าทำไมกูต้องพยายามสรรหาคำนิยามมาให้เขาด้วย เขาเป็นคนๆ หนึ่ง กูก็คนๆ หนึ่งที่หลงรักคนๆ หนึ่ง งงป่ะ”



“ไม่ว่ะ เข้าใจเลย...” ตาววรรค นิ่งนึกสักพัก ก่อนเอ่ย “อันที่จริงก็พอรู้มาสักพักแล้วเหมือนกันว่ามึงกับคุณเอิ้นน่าจะมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา”



“ดูออกอีกแล้ว มึงนี่มันน่ากลัวจริงๆ เลยว่ะ”



“กูแค่ใส่ใจ”



“แล้วรู้มานานยัง”



“ตั้งแต่เจอคุณเอิ้นครั้งแรกที่ห้องสมุดนั่นแหละ”



“น่ากลัวจริงๆ ด้วย”



ตาวหัวเราะกับคำครรหาจากเพื่อนซี้



“รู้มานานขนาดนี้แสดงว่าโอเคกับคุณเอิ้นใช่ไหม”



“ตอนแรกก็แปลกๆ แต่พอมึงเล่าว่าเขาก็เป็นคนคนนึงก็เลยเออ มันก็จริง”



“กูก็คิดงั้น ถึงได้ชอบเขา”



โชนยกยิ้ม เอ่ยตอบเพื่อน “ขอให้รักกันนานๆ แล้วกัน”



“ขอบใจว่ะ”



โชนยกยิ้มตอบ ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาขอบคุณที่ตาวเข้าใจ ไม่หยามเหยียดหรือรังเกียจกัน ขอเพียงมีคนใกล้ตัวอีกสักคนยอมรับพวกเขาได้ เอิ้นจะได้ไม่เจ็บปวด โชนคิดเช่นนี้



Call 91



แต่พอเอ่ยเล่าเรื่องราวเอิ้นกลับไม่เข้าใจเสียนี่



เขาอธิบายเท่าไหร่เอิ้นก็ไม่ยอมเชื่อ เหมือนคนแก่ดื้อด้าน ยึดมั่นแต่ความคิดตัวเองอย่างเดียวและไม่ยอมรับเปิดรับความคิดใหม่



แม้พวกเขาจะอายุห่างกันไม่เท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าคนละรุ่น สมัยของเอิ้นไม่มีคนรอบตัวที่ไหนหรอกที่ยอมรับเขาได้ แต่สำหรับโชนมันไม่ใช่ เพื่อนๆ ของโชนยอมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกมากขึ้น เข้าใจในเพศสภาพแต่ละบุคคลมากขึ้น สังคมที่โชนอยู่จึงแตกต่างจากเอิ้น



“คุณเอิ้นทำไมดื้อ”



“ผมเปล่าเสียหน่อย...แค่ไม่เชื่อเอง”



“ทำไมไม่เชื่อล่ะครับ”



“ก็มันเป็นไปไม่ได้เลยนี่นา...”



“เป็นไปได้สิ ก็ผมบอกแล้วไงว่าตาวมันโอเค”



“ไม่จริงหรอก”



“...กลับไปเจอหน้าเมื่อไหร่จะตีให้ก้นลายเลยเชียว”



“หืม?”



โชนพึมพำใส่โทรศัพท์ พูดเสียงเบาจนเอิ้นฟังไม่รู้เรื่อง แต่พอเอ่ยถามอีกครั้งโชนก็เปลี่ยนเรื่อง



ครานี้โชนใช้โทรศัพท์ที่บ้านตัวเองโทรหาอีกฝ่าย ไม่ต้องกลัวว่าเหรียญจะหมด แต่ที่กลัวคือป้าจะฟาดเขาเพราะโทรนานจนเปลืองค่าโทรนี่แหละ



โชนจนใจ ยอมเปลี่ยนเรื่องคุย ไว้เขากลับหอเมื่อไหร่ค่อยพาตาวไปหาเอิ้น คุยกันให้รู้เรื่องก็ไม่สาย



และวันนั้นโชนก็โดนคุณป้าบ่นจนหูชาเมื่อเขาโทรศัพท์นานจนถึงสองชั่วโมง



Call 92



ครั้งต่อมาเอิ้นเป็นฝ่ายโทรหาโชนก่อน เขาไม่มีปัญหากับค่าโทร เสียแต่วันนี้คุยกันได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องวาง เพราะโชนต้องไปช่วยคุณป้าจัดข้าวของ เด็กหนุ่มแข็งแรงเช่นโชนมักถูกคุณป้าวานให้ใช้แรงงานอยู่บ่อยครั้ง



วางสายโทรศัพท์



เอิ้นคิดว่าอยากเจอโชนจังเลยนะ



อย่างไรเสียโชนก็กลับบ้านคุณป้าเพียงหนึ่งสัปดาห์ ไม่ได้นานอะไรมากมาย แต่เพราะคนมันคิดถึง ทำให้รู้สึกร้อนใจไปหมด



เอิ้นใช้เวลาว่างไปกับการทำวิทยานิพนธ์ ส่วนโชนก็อ่านการ์ตูน ออกไปเตะบอล และเล่นเกม...



เขานับวันรอวันที่โชนจะกลับมา ทว่าเมื่อใกล้ถึงกำหนดวันกลับ โชนกลับบอกว่าเขาต้องอยู่ต่ออีกอาทิตย์หนึ่ง



“ทำไมล่ะ”



“ป้าผมขอไว้น่ะครับ ยังไงก็ไม่ได้อยู่สวัสดีปีใหม่กับป้าด้วย...ก็เลยต้องอยู่ต่อ”



“อ๋อ” เอิ้นรับคำ หาคำพูดอะไรต่อไม่เจอ



“คุณเอิ้น...คิดถึงนะ”



“อ่ะ...อืม” เอิ้นวรรคไปสักพัก ก่อนกระซิบเสียงแผ่ว “ผมด้วย...”



“รอแป๊บนึงนะ จะรีบกลับไปกอดให้ชื่นใจเลย”



“อืม” เอิ้นรับคำ



จะรอนะ



Call 93



โชนผิดสัญญา



นี่เป็นเรื่องที่ทำให้เอิ้นเสียใจและผิดหวังอย่างถึงที่สุด



โชนบอกจะรีบกลับมา จะกลับมากอดเอิ้น



แต่ตอนนี้โชนกลับมาอยู่หอได้หนึ่งวันเต็มๆ แล้ว



โชนโทรบอกเอิ้นก่อนออกจากบ้าน ทว่าพอถึงหอพักแล้วกลับไม่ได้มีการติดต่อกลับมา



ที่เอิ้นรู้เพราะตนตัดสินใจโทรหาตาว เพื่อนสนิทของโชน แม้ว่าจะทำใจอยู่นานในเรื่องของตาว แต่สุดท้ายเพราะเป็นห่วงโชน เขากลัวว่าโชนจะเป็นอะไรไปจึงรวบรวมความกล้า ตัดสินใจโทรออก



แต่สิ่งที่ตาวตอบกลับมาก็คือโชนนั่งเล่นเกมเครื่องใหม่อยู่ในห้องของพวกเขา



เอิ้นไม่ได้บอกอะไรตาวอีก นอกจากเอ่ยขอบคุณและตัดสาย



จะรับกลับมาหากันงั้นเหรอ โกหกทั้งเพ



ตอลดสองอาทิตย์ที่ผ่านมามีแค่เขาคนเดียวที่เฝ้ารอและคิดถึงโชนคนเดียวงั้นหรือ



ไร้ซึ่งการบอกกล่าว วิทยุที่เคยฟังประจำก็ไม่มีสารใดส่งมาถึง



คนรอก็เป็นห่วงไป ส่วนคนมาถึงกลับทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย



เอิ้นไม่รู้จะทำอย่างไร แม้ในใจอยากจะบุกไปหาโชนถึงหอให้รู้แล้วรู้รอดแต่เขาไม่อยากทำตัวงี่เง่า โชนอาจจะติดธุระอะไรก็ได้ถึงได้ไม่ได้บอกเขา แม้ธุระที่ว่าอาจจะเป็นเกมเพลย์แสนสำคัญก็ตาม



เขาได้แต่ถอนหายใจ จิ้มปุ่มเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ตั้งใจทำวิทยานิพนธ์



Call 94



สิ่งหนึ่งที่โชนไม่รู้ก็คือ ช่วงเวลาที่โชนกลับบ้าน เอิ้นเองก็กลับบ้านใหญ่ของตนเช่นกัน แม้ไม่ได้มีใครเรียกร้องให้เขาไปเยี่ยมหา แต่เอิ้นก็ตั้งใจไปหาด้วยตัวเอง



พ่อแม่ พี่ชาย พี่สาว และหลานๆ ในครอบครัวต่างอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างสุขสันต์ จนเขาเจ็บแปลบที่หัวใจขึ้นมา



คิดแต่ว่าทำไมตนจึงถูกเนรเทศให้ไปอยู่เพียงคนเดียว แค่เพราะมีรสนิยมทางเพศไม่เหมือนคนทั่วไป



เอิ้นนำกระเช้าไปไหว้พ่อกับแม่ ผู้ใหญ่ทั้งสองรับมา เอ่ยขอบคุณเพียงเล็กน้อย ไม่ได้ถามอะไรเอิ้นมากมาย



เอิ้นบอกพ่อของตนว่าใกล้จะเรียนจบโทแล้ว เขาจะได้นำความรู้มาช่วยงานที่บ้าน



คุณพ่อตอบกลับว่าไม่จำเป็น งานธุรกิจที่บ้านมีเพียงพี่ชายและพี่สาวคอยบริหารก็พอ



เอิ้นควรไปเป็นอาจารย์



ทำอาชีพที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับครอบครัวให้มากที่สุด



เดี๋ยวใครเขานินทาเอา ว่าบริษัทใหญ่ทั้งที แต่ดันมีลูกเป็นตุ๊ด



แล้วก็ไม่ต้องมาเยี่ยมบ่อยก็ได้



หลานยังเด็กอยู่ กลัวว่าหลานชายจะกลายเป็นตุ๊ดไป เพราะเห็นเอิ้นเป็นแบบอย่าง



จบลงด้วยการที่เขาออกจากบ้านหลังใหญ่ภายในไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำ



เอิ้นแทบไม่ได้คุยกับพี่ชายของตน



เป็นพี่สาวที่เดินมาส่งเอิ้นถึงรถ



หล่อนเอ่ยบอกน้องชายว่าพ่อแม่ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไร พวกท่านเองก็พูดถึงเอิ้นอยู่บ่อยๆ



เพียงแต่เอิ้นอยู่คนเดียวนั่นแหละดีแล้ว...



จะได้ไม่มีใครลำบากใจไปมากกว่านี้



เอิ้นส่งยิ้มให้คนในครอบครัว มองหลายชีวิตร่วมสายเลือด แต่ดูท่าว่าคงมีแค่เขา ที่เลือดไม่เหมือนคนอื่น เลยเป็นที่รังเกียจเช่นนี้



เรื่องในวันนี้ เอิ้นไม่ได้เล่าให้โชนฟัง



เฝ้ามองปฏิทิน รอคอยแต่อ้อมกอดอุ่นๆ จากคนรักเพียงเท่านั้น



Call 95



“มึงไม่โทรหาคุณเอิ้นเหรอวะ”



“เดี๋ยวค่อยโทร”



“ทำไมวะ”



“จบตานี้ก่อน”



ตาวถอนหายใจ มองเพื่อนรักที่ติดเกมเพลย์สเตชั่นอยู่ไม่ห่าง โชนเล่าด้วยความตื่นเต้นว่าตนได้เครื่องเล่นนี้มาจากลุง ที่รับซื้อมือสองมาจากเจ้าของเก่าที่กำลังจะย้ายที่อยู่ ทันทีที่เห็น โชนขอริบไว้เป็นของตัวเอง ไม่ให้คุณลุงเขานำไปขายต่อให้ใคร



จนได้มาเล่นเกมอย่างสนุกสนานเช่นนี้



“เมื่อวานมึงก็พูดแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้ออกไปโทรหาคุณเอิ้นนี่”



“เมื่อวานมันดึกแล้ว”



“นี่ยังเย็นๆ อยู่ ทำไมไม่ไปโทรล่ะวะ”



“มึงจะทำไมล่ะวะ มันเรื่องของกูมั้ย”



“แน่ใจนะ ว่าจะติดเกมแบบนี้ต่อไป”



“เออ น่า เดี๋ยวกูโทร”



จนเวลาเคลื่อนคล้อยไปพลบค่ำ โชนก็ยังคงนั่งเล่นเกมอย่างหมกมุ่นอยู่อย่างนั้น



ตาวเอ่ยเตือนเพื่อนอีกครั้ง



“โชน คุณเอิ้น”



“รู้แล้ว มึงนี่จะอะไรนักหนา”



ตาวมองเพื่อนตัวเองที่ตกปากรับคำ แต่ก็ยังคงกดเริ่มเกมใหม่อยู่เรื่อยๆ เขาไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของสองคนนี้นักหรอก ถ้าไม่ติดว่าน้ำเสียงของเอิ้นแผ่วเบาลงเมื่อรับรู้ว่าโชนกลับมาแล้ว



ยิ่งรู้ว่าทั้งคู่กำลังคบหากันก็ยิ่งเป็นห่วงอีกฝ่าย



เอิ้นอุตสาห์ยอมโทรหาเขาทั้งที่มีเบอร์ตาวมาตั้งนาน เพียงเพื่อสอบถามว่ารับรู้ความเป็นไปของโชนบ้างไหม โชนไม่ได้โทรหาเขาเมื่อถึงที่หมาย เอิ้นกลัวว่าโชนจะมีปัญหาอะไรรึเปล่า



แต่ก็ไม่ โชนแค่ไม่ได้โทรกลับ



ปล่อยให้เอิ้นเป็นห่วงอย่างกระวนกระวายอยู่คนเดียว



ตาวจึงตัดสินใจบอกคนติดเกมอีกครั้ง



“กูว่ามึงโทรหาคุณเอิ้นเถอะ”



“ทำไมวะ วันนี้มึงพูดเรื่องคุณเอิ้นบ่อยนะ กูบอกว่าเดี๋ยวกูไปโทร”



“โทรหาเลย ตอนนี้”



“อะไรวะ บอกว่าเดี๋ยว”



“คุณเอิ้นโทรมาหากู”



“หา...อะไรนะ”



“เขาเป็นห่วงมึง นึกว่ามึงเป็นอะไร”



“...”



“มึงกลับมาแล้วแต่ไม่ได้โทรบอกเขา เขาเลยกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมึงรึเปล่า”



“...”



“กูบอกว่ามึงอยู่ห้องกับกู”



“ไอ้สัด ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้”



“เรื่องของมึงสองคน กูไม่อยากเสือกนี่หว่า แต่กูไม่อยากให้คุณเอิ้นเสียใจเพราะมึงติดเกม”



ไม่ทันแล้วแน่ๆ ป่านนี้คุณเอิ้นของเขาต้องน้อยใจร้อยพันแปดไปแล้ว งอนตุ๊บป่องจนกลายเป็นลูกโป่งพองลมไปแล้วแน่ๆ



เขาติดนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง แก้ไม่หาย พอติดพันอะไรสักอย่างแล้วอีกอย่างที่ต้องทำก็มักจะพลันโยนไปเสียดื้อๆ และตอนนี้นิสัยเด็กๆ ของโชนกำลังทำให้คนรักของเขาเสียใจ



โชนกดหยุดเกม ลุกขึ้นเตรียมตัวออกไปหยอดตู้โทรศัพท์



Call 96



“คุณเอิ้น...ผมขอโทษนะ ที่ไม่ได้รีบบอก”



“อืม”



 “คุณเอิ้น...” โชนร้องเสียงอ่อนเมื่ออีกฝ่ายเสียงแข็งมากกว่าทุกที



“ถ้าไม่อยากเจอผมก็ไม่เป็นไร ผมไม่ได้โกรธที่คุณไม่มาหา เห็นเงียบหายไปผมเลยเป็นห่วง”



“...”



“ถึงหอปลอดภัยใช่มั้ย ออกมาหยอดตู้โทรศัพท์ข้างนอกอยู่ใช่รึเปล่า ตอนนี้มืดแล้ว อากาศก็เย็นลงแล้วด้วย รีบกลับห้องเถอะ”



“...”



“ฝันดีนะ”



เอิ้นวางหูโทรศัพท์ ไม่ได้มีหยาดน้ำตาไหลออกมา หยดน้ำใสแค่กลิ้งอยู่ในดวงตาคู่สวยก่อนจะถูกเอิ้นกะพริบตาไล่มันออกไป



ไร้ซึ่งน้ำเสียงของความโมโห หรือน้อยใจ เสียงที่เอิ้นคุยกับโชนเป็นเพียงน้ำเสียงราบเรียบ และนั่นให้โชนรู้สึกไม่สบายใจเลย



โชนวิ่งกลับหอ ไม่ใช่เพราะทำตามคำสั่งของเอิ้น



แต่เพื่อยืมกุญแจมอเตอร์ไซค์ของตาว ตะบึงไปบ้านเอิ้นต่างหาก



Call 97



โชนกดกริ่งบ้านของเอิ้น ในยามนี้ทุกคนเริ่มพาตัวเองเข้านอนแล้ว จะมีก็แต่เอิ้นที่นั่งทำวิทยานิพนธ์ซึ่งยังไม่หลับ



เขาเดินออกมาหน้าบ้าน และเจอกับเจ้าของความคิดถึงตลอดสองอาทิตย์



“คุณเอิ้น...เปิดประตูให้หน่อยนะ”



เอิ้นทำตามคำบอกอย่างว่าง่าย ปล่อยให้โชนจูงจักรยานยนต์เข้ามาจอดไว้ในโรงรถ ไม่ได้เอ่ยถามหรือทักทายอะไร



“คุณเอิ้น ผมขอโทษ”



“ขอโทษทำไมครับ”



“...ที่ไม่โทรหา ปล่อยให้คุณเอิ้นเป็นห่วง”



“อืม ผมไม่ได้โกรธ”



“คุณเอิ้น...อย่าทำเสียงแบบนี้” โชนร้องเสียงแผ่ว เสียงของเอิ้นราวกับพูดคุยกับคนแปลกหน้า ไม่สนิทใจเหมือนก่อน ไม่สดใสเหมือนเคย



เอิ้นหลุบตาลงต่ำ เขาไม่ได้ตั้งใจ แค่พยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่มันคงไม่เป็นผล



เอิ้นไม่อยากให้โชนคิดว่าเขางี่เง่ากะอีแค่เรื่องแค่นี้



“กอดนะ”



คนเด็กกว่าไม่ยอมให้เอิ้นทำหน้าเศร้าไปมากกว่านี้ วงแขนโอบล้อมรอบเจ้าของบ้าน มอบความอบอุ่นให้ในเวลากลางคืนที่อากาศหนาวเย็น



“ดีกันนะ”



โชนว่า ยกมือชูนิ้วก้อยให้อีกฝ่าย



เอิ้นมองสองแขนที่กอดตัวเขาไว้ มองนิ้วก้อยที่อีกฝ่ายชูขึ้นมา



เลื่อนลอย



ก่อนจะถอนหายใจ เขาไม่อยากงี่เง่าจึงยอมยกนิ้วก้อยตัวเองไปเกี่ยวกับอีกฝ่าย



เอิ้นได้แต่คิดในใจ



อย่าทำแบบนี้



อย่าทำให้เขาคิดว่าจะไม่มีใคร...







_________________________________

#Call123456

เข้าใจกันบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง

โกรธกันบ้าง ดีกันบ้าง


หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 13 |16.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Kx0806 ที่ 16-09-2018 17:12:28
อยากจะตีโชนซะให้เข็ด ปล่อยให้คุณเอิ้นเป็นห่วงแบบนี้ได้ยังไงกัน หวังว่าครั้งนี้โชนน่าจะได้บทเรียนแล้วไม่ทำอีกนะ สงสารคุณเอิ้น เรื่องที่บ้านอีก  :o12:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 13 |16.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: CLShunny ที่ 16-09-2018 17:13:52
เราเขเาใจเอิ้นเลย เหมือนมีของสำคัญและคนสำคัญอยู่คนเดียว เวลาที่มันหายไปก็ต้องกะวนกะวายบ้าง  มันจุกๆๆไม่ได้โกรธแต่จุกๆๆอ่ะ เข้าใจจจเลยยยยย สงสารรรเนาะด กำแพงสูงมากๆๆๆๆ สู้ๆๆน้าาาาเอิ้นนน
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 13 |16.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 16-09-2018 17:15:13
โกรธโชนนะ ทำแบบนี่เหมือนเอิ้นไม่ได้สำคัญเลย ไม่ให้ความสำคัญกันเลยหรอ  :hao4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 13 |16.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 16-09-2018 18:08:26
จะว่าไงดีเรื่องติดเกมก็พอเข้าใจ แต่เรื่องครอบครัวคุณเอิ้นนี่แบบสงสารคุณเอิ้นเลยอ่ะไม่มีใครเข้าใจคุณเอิ้นเลยซักคนแถมทำยังกับคุณเอิ้นไม่ใช่คนในครอบครัวเป็นคนแปลกหน้าไปซะแล้วแบบนี้ แล้วท่าเกิดหลานชายโตมาแล้วเป็นเกย์จะมาโทษคุณเอิ้นอีกไหม โทษทั้ง ๆ ที่ไม่เคยได้ใกล้ชิดน่ะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 13 |16.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 16-09-2018 19:08:07
 :pig4: :pig4: :pig4:

เอิ้นกับโชน  อายุก็ไม่น่าจะต่างกันมาก   น่าจะราว ๆ 5-7 ปีเท่านั้นแหละ

ทำไมถึงมีความคิดราวกับคนละยุคเลย
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 13 |16.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 17-09-2018 02:43:45
โชนได้เอิ้นแล้วทิ้งข้วางความรู้สึกกันแบบนี้เหรอ :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 13 |16.9.2018| p.4
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 17-09-2018 15:54:22
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 14 |21.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 21-09-2018 16:21:04
โทรครั้งที่ 14_______________



Call 98



เอิ้นพยายามไม่คิดมากเรื่องที่แล้วมา เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ควรเก็บมาคิดมากหรือน้อยใจให้วุ่นวาย สลัดความรู้สึกหม่นหมองออกไป จดจ่อกับปัจจุบันให้มากที่สุดเหมือนที่โชนเคยบอก



เอิ้นชวนให้โชนค้างคืนที่นี่ เพราะดึกมากแล้ว ส่วนโชนเองก็ไม่ปฏิเสธ อันที่จริงเขาก็ตั้งใจจะมาค้างกับเอิ้นอยู่แล้ว



โชนอาบน้ำเสร็จสรรพ เขามองตัวเองในเสื้อผ้าของเอิ้นที่ดูจะผิดไซส์เล็กน้อย



คนตัวสูงเดินใช้ผ้าขนหนูขยี้ผมมาหาเอิ้น ก่อนนั่งลงข้างๆ



“คุณเอิ้น...ยังโกรธอยู่ใช่ไหม”



“ผมบอกแล้วไงว่าไม่ได้โกรธ”



“แต่ว่า...” โชนอยากจะบอกว่าเอิ้นดูเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง เพียงแต่คนแก่กว่าหันมาส่งยิ้มให้



“ไม่ได้โกรธครับ” รอยยิ้มของเอิ้นทำให้โชนหัวใจเต้นแรงจนหาเสียงตัวเองไม่เจอ



ต่อจากรอยยิ้ม ก็ตามด้วยอ้อมกอดอุ่นจากอีกฝ่าย เอิ้นพุ่งกอดโชนโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ตั้งตัว เขาตกใจเล็กน้อย แต่ก็เอื้อมมือกอดคนตัวเล็ก ตอบรับไออุ่น กดให้เอิ้นจมลงไปกับหน้าอก



“คิดถึง” เอิ้นเอ่ย... “คิดถึงจังเลย”



“ผมด้วย”



“จริงหรือ...? ไม่ใช่ว่าติดเกมจนลืมผมไปแล้วหรอกหรือ”



“เปล่านะครับ” คนติดเกมเอ่ยเถียง แต่เพราะโชนติดเกมจริง ทำให้มาหาเอิ้นช้า เขาจึงไม่อาจหาข้อแก้ตัวอะไรให้ตัวเองมากมายอีกนอกจากคำปฏิเสธที่ฟังไม่ขึ้น



โชนรู้ตัวว่าทำให้เอิ้นเสียใจอีกแล้ว เขาควรละเอียดอ่อนกับความรู้สึกของเอิ้นให้มากกว่านี้ แต่ตอนนี้เรื่องที่ทำผิดไปแล้วล้วนย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้



“...ขอโทษนะครับ” จึงได้แต่เอ่ยคำขอโทษที่ใครๆ ก็พูดกันได้



เอิ้นยิ้ม ไม่ได้สนใจคำแก้ตัวหรือคำขอโทษใด เขากอดโชนแน่นขึ้นไปอีก



ที่ต้องการ...มีแค่นี้เอง



ขอแค่อ้อมกอดและไออุ่นจากคนๆ นี้ ให้เขารู้สึกว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว



ขอแค่นี้เอง



Call 99



เวลาผ่านไปจนดึกกว่าเดิม ทั้งคู่พากันเข้านอน ครานี้เตียงนอนของเอิ้นไม่ได้เล็กแคบเหมือนเตียงที่หอโชนแล้ว แต่สองร่างก็ยังคงนอนเบียดกันไม่ห่าง



เอิ้นลอบดมกลิ่นกายของโชน แสนคิดถึง แสนคะนึงหา



ซุกซบใบหน้าตัวเองแนบกับอกแกร่ง ลอบฟังเสียงหัวใจของอีกฝ่าย แอบใช้เสียงจังหวะการเต้นของหัวใจแทนบทเพลงขับกล่อมให้นอนฝันดี



ทว่ายังไม่ทันจะได้หลับตา โชนก็เอ่ยออกมาทำลายความเงียบ



“คุณเอิ้น”



“หืม”



“ยังโกรธอยู่ใช่ไหม”



“บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ได้โกรธ”



“...ผมไม่อยากให้คุณเอิ้นปิดบังผมนะ” โชนคอยสังเกตเห็นเอิ้นอยู่ตลอด และการที่เอิ้นดูเงียบซึมเช่นนี้ เขาหวาดกลัวว่าอีกฝ่ายจะนึกเคืองกันอยู่



คงจะดีกว่าถ้ายอมพูดให้เข้าใจกัน



“ผมไม่ได้โกรธ” เอิ้นว่า “แต่ก็เสียใจนิดหน่อยที่โชนไม่มาหา”



“ผม...ติดเกม ผมผิดเอง ขอโทษนะครับ”



“อืม ไม่เป็นไรหรอก”



“ผมปล่อยให้คุณเอิ้นอยู่คนเดียวอีกแล้ว...”



“ไม่เป็นไรหรอก”



“คุณเอิ้นอยากตีผมไหม ลงโทษผมยังไงก็ได้ คุณเอิ้นจะได้สบายใจ”



“ไม่ทำหรอก...”



โชนสำนึกผิดอย่างจริงจัง เขาเคยใจร้อนเป็นเด็กๆ จนทำให้เกิดเรื่องมาครั้งนึงแล้ว พอครั้งนี้ก็ทำเรื่องไม่เป็นเรื่องให้เอิ้นเสียใจอีก เขามันไม่ละเอียดอ่อนเลยจริงๆ



ถึงอย่างนั้น เอิ้นก็ไม่ได้ว่าอะไร นอกจากเอ่ยคำว่าไม่ได้โกรธ กับไม่เป็นไร



แต่โชนรู้ว่ามันไม่จริง น้ำเสียงของเอิ้นเบาหวิวจนสัมผัสได้ว่าคนน่ารักมีเรื่องไม่สบายใจ



“คุณเอิ้น...มีอะไรอยากบอกผมอีกไหม”



“...” เอิ้นลังเล ไม่กล้าบอกความจริงในใจ กลัวอีกฝ่ายรำคาญ



“บอกมาเถอะนะ เราจะได้เข้าใจกันมากขึ้น”



“ผม...” เอิ้นตัดสินใจเอ่ย “ผมคิดว่ามีแค่ตัวเองที่คิดถึงโชน...”



“ผมก็คิดถึงคุณเอิ้นนะ”



“แต่โชนไม่มาหา...ปล่อยผมรออยู่คนเดียว ผมเลยคิดว่ามีแค่ผมที่รอให้เราเจอกัน”



“ไม่จริงนะ” โชนว่า



เอิ้นมุ่นคิ้วกับคำเอ่ยปฏิเสธของคนข้างกาย เขาขยับตัว จับไหล่โชนไว้แน่น พลิกตัวขึ้นมาคร่อมโชนไว้ใต้ร่าง



เอ่ยประโยคที่ค้างคาอยู่ในใจออกมา



“ถ้างั้นทำไมไม่รีบมาหา”



ไม่ว่าเปล่า เขาขยับใบหน้าเข้าหาอีกฝ่าย บรรจงจุมพิตแสนหวาน เอ่ยแทนความคิดถึงที่ท่วมล้น



Call 100



“คุณ...เอิ้น...”



เอิ้นไม่ปล่อยให้โชนส่งเสียงอะไรออกมา เมื่อเขาเริ่มชิมริมฝีปากของอีกฝ่าย ทำตามที่โชนเคยพร่ำสอนยามจูบกัน ค่อยๆ ใช้ลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัด ชอนไชไปในโพรงปาก ไล่ชิมน้ำหวานละมุนลิ้น



โชนค่อยๆ สัมผัสใบหน้าหวาน ยึดมือจับแน่นไม่ให้เอิ้นหันหน้าหนี ก่อนรุกจูบกลับ



คนเริ่มจูบพลันอ่อนแรง ทิ้งน้ำหนักตัวลงใส่คนใต้ร่าง หลับตาปี๋ หอบหายใจแรง เมื่อตามจังหวะของอีกฝ่ายไม่ทัน



โชนพลิกตัวขึ้นคร่อม จับคนตัวเล็กฝังลงกับเตียงนุ่ม



ระดมจูบอีกครั้ง ไล่ลามไปทั่วใบหน้า มุดลงซอกคอขาว



“โชน...พอก่อน”



“...ครับ?” เจ้าของชื่อรับคำ เงยหน้าออกจากต้นคอ



“พอแล้ว” เอิ้นว่า ดันไหล่แกร่งให้ออกห่าง



“คุณเอิ้น...” โชนร้องเสียงหงอยที่ถูกสั่งให้หยุด ก็ตอนนี้อารมณ์กำลังระอุได้ที่ขนาดนี้



“นอนกัน”



“ไม่ทำต่อเหรอ...”



“...” เอิ้นดันให้โชนมานอนข้างๆ แทนคำตอบ คนเด็กกว่าพยายามจ้องอีกฝ่ายฝ่าความมืด



“คุณเอิ้น...พี่เอิ้น...”



“ไม่ต้องเรียกเลย”



“พี่เอิ้นครับ...”



“นอนครับ”



โชนส่งเสียงร้องหงุงหงิงเมื่อโดนขัดใจ เอิ้นเริ่มรุกใส่เขาก่อนแท้ๆ แต่กลับหยุดกลางคันแบบนี้ เขาแทบขาดใจแล้ว



คนแก่กว่าลอบยกยิ้ม เมื่อเห็นอาการอีกฝ่าย เขาตวัดแขนไปกอดโชนไว้ ขยับตัวแนบชิด



“ถือว่าเป็นการลงโทษนะ”



กระซิบบอกคำลงโทษแสนหวาน



“ถ้าโชนมาหาผมไวกว่านี้ ก็คงให้ทำแล้วล่ะ”



Call 101



คืนนั้น โชนนอนพลิกตัวไปมาอย่างบ้าคลั่ง นอนมองเจ้าของบ้านหลับปุ๋ยอย่างนึกอยากจะย้อนเวลากลับไป



นี่คงเป็นวิธีลงโทษของเอิ้น ซึ่งมันได้ผลเอามากๆ  ตอนนี้โชนเข้าใจแล้วว่าความรู้สึกอยากกอดมากแค่ไหนก็ทำไม่ได้มันเป็นยังไง บทลงโทษครั้งนี้ เขาหลาบจำแล้ว



กว่าโชนจะสงบจนหลับได้ก็ใช้เวลาไปกว่าชั่วโมง



เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามา บอกเวลาเช้า โชนลืมตาตื่นก่อนอีกฝ่าย เขาลอบสังเกตคนหลับปุ๋ยพลันสังเกตเห็นว่าเอิ้นมีรอยคล้ำใต้ตาดำอย่างที่ผิกปกติไปเห็นได้ชัด ปกติเอิ้นทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่เคยปรากฏร่องรอยของความเหนื่อยล้าเช่นนี้



โชนเอื้อมมือไปลูบใบหน้าของเอิ้นอย่างเบามือ ไล่นิ้วไปยังเปลือกผิวตาของอีกฝ่าย



เขาผิดเองที่ติดเกม ผิดเองที่ให้สัญญาไว้แล้วแท้ๆ แต่กลับเมินเฉย ผิดเองที่ปล่อยให้เอิ้นเฝ้ารออยู่คนเดียว



ยิ่งคิดก็ยิ่งตระหนักได้ว่าเอิ้นต้องรออยู่คนเดียวนานแค่ไหน และเฝ้ารอวันที่เราจะได้เจอกันอย่างใจจดใจจ่อแค่ไหน



เขาไม่อยากทำลายความคาดหวังของเอิ้นอีกแล้ว



เขาควรจะเป็นแฟนที่ดี ไม่ใช่เป็นคนที่เอิ้นต้องมานั่งกังวลเช่นนี้



เขาควรจะเป็นคนที่เอิ้นอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่ใช่กังวลใจ



เขาควรโตขึ้นได้แล้ว



เวลาเจ็ดโมงกว่า เอิ้นขยับตัว ซุกหนีอากาศเย็นเข้าไปในผ้าห่ม ขยับตัวแนบแน่นกับไออุ่นจากอีกฝ่าย



“อือ...หนาว” เจ้าของห้องบ่นอุบจนโชนนึกเอ็นดูคนแก่กว่า อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปสัมผัสเส้นผมเส้นเล็ก ลูบมันเบาๆ



“โชน...?”



“ครับ คุณเอิ้นหนาวหรือ เดี๋ยวผมลุกไปปิดแอร์ให้นะ”



แม้ว่าอากาศข้างนอกจะเย็นสบายก็ตาม แต่เอิ้นติดนอนในห้องปรับอากาศจึงเปิดแอร์ไว้ทั้งคืน



ทันทีที่โชนขยับตัวตั้งท่าจะลุก คนหนาวก็ขยับมือวาดโอบรอบคนตัวโตไว้ไม่ให้ไปไหน



“ไม่ต้องไป อยู่อย่างนี้” เจ้าของห้องเอ่ยสั่ง และโชนจะว่าอะไรได้ นอกจากนอนกอดคนตัวหอม มอบไออุ่นในยามเช้าให้เอิ้นต่อไป



แปดโมงครึ่ง เอิ้นตื่นเต็มตา กะพริบตาปริบๆ มองโชนที่นอนมองเอิ้นอยู่ก่อนแล้ว



พลันใบหน้าขาวก็ขึ้นสี



ทั้งเขินเรื่องเมื่อคืนที่เขารุกจูบโชน ทั้งอายที่ตอนนี้เขาเป็นฝ่ายกอดรั้งโชนไว้แนบแน่น



การไม่ได้เจอกันแค่พักเดียวทำให้เอิ้นควบคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนี้เชียวหรือ



คนขี้เขินรีบขยับตัวออกห่าง



“อรุณสวัสดิ์ครับคุณเอิ้น”



“อะ...อือ อรุณสวัสดิ์”



โชนไม่ได้สังเกตว่าเอิ้นกำลังเขินม้วน เขาขยับตัวยืดเส้นยืดสาย พลางเอ่ยชวนให้อีกฝ่ายไปทานข้าวด้วยกัน



เอิ้นตอบรับ พยายามไม่คิดถึงเรื่องเมื่อคืน



โชนเองก็ไม่ได้เอ่ยถึงมันอีก



เอิ้นคิดว่าวันนี้จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทว่าก่อนโชนจะกลับหอ เขาเอ่ยประโยคที่ชวนให้เอิ้นหน้าแดงแปร๊ดอีกครั้ง



“ไว้คราวหน้ามาต่อกันนะครับ”



Call 102



หลังจากคราวนั้น โชนก็ตัดสินใจทำการหอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่กับเอิ้นตลอดช่วงปิดเทอมเล็กนี้ เพราะอย่างไรเสียโชนก็ไม่ได้มีธุระต้องไปไหน จะให้ไปๆ มาๆ หาเอิ้นทุกวันก็คงจะเหนื่อย สุดท้ายเลยจบลงตรงที่โชนมาขลุกอยู่ในบ้านเอิ้น



ส่วนเอิ้นก็ได้อยู่กับแฟนสมใจ



โชนหอบเกมมาที่บ้านเอิ้น แต่จะเล่นช่วงระหว่างที่เอิ้นต้องทำวิทยานิพนธ์ เพราะเอิ้นต้องใช้สมาธิ ส่วนเขาไม่มีอะไรทำ ไปกวนเอิ้นก็ไม่ได้ เอิ้นจึงอนุญาตให้โชนติดเกมได้ในช่วงเวลานี้



แม้จะมีหลายครั้งที่เอิ้นทำงานเสร็จแล้ว แต่ต้องมานั่งดูโชนนั่งเล่นเกมต่ออีกสองสามตาก็ตาม



แต่เพียงแค่เอิ้นนั่งลงข้างๆ โชนก็แทบจะหยุดเกมเพื่อมาดูแลคนรักของตัวเองอยู่แล้ว



ส่วนเอิ้นเองบางครั้งก็เกรงใจที่ต้องให้โชนมานั่งรอตนทำงาน จึงเอ่ยชวนโชนไปเที่ยวนอกบ้านอยู่บ่อยครั้ง ท้ายสุดโชนก็เอ่ยออกมาว่าไม่ได้ต้องการไปไหนเป็นพิเศษ ขอแค่อยู่ข้างๆ เอิ้น และเอิ้นไม่เป็นกังวลก็พอ



นั่นทำให้ปิดเทอมเล็กของโชนมีแต่เอิ้นและเกมเพลย์



“เบื่อมั้ย...”



“หืม ไม่ครับ”



เอิ้นเอ่ยถามโชนตอนกลางวันของวันหนึ่ง พวกเขานอนกลิ้งอยู่บนเตียงด้วยกัน เอิ้นนอนอ่านหนังสือ ส่วนโชนนอนฟังเพลงพลิกตัวไปมา



“ปกติปิดเทอมโชนทำอะไรหรือ”



“อืม...ถ้าอยู่บ้านป้าก็มักจะช่วยป้าน่ะครับ แต่ถ้าว่างๆ ก็เช่าการ์ตูนมาอ่าน ฝึกดีดกีตาร์”



“ไม่ออกไปไหนเหรอ”



“ผมไม่ค่อยมีตังค์ ไม่อยากสิ้นเปลืองด้วย อยู่บ้านก็ไม่ได้แย่ แต่บางทีก็ออกไปเตะบอลกับเด็กแถวบ้าน”



“จริงสิ โชนชอบออกกำลังกายนี่นะ”



“อืม ครับ แต่ไม่เป็นไรหรอก อยู่กับคุณเอิ้นนี่แหละดีที่สุด”



“ถ้าอย่างนั้น...ช่วงเย็นๆ ออกไปวิ่งก็ได้นะ ที่หมู่บ้านมีสวนสาธารณะเล็กๆ ให้ออกกำลังกายอยู่”



“คุณเอิ้นมาวิ่งด้วยกันมั้ย”



“ไม่เอา ผมบอกแล้วว่าผมไม่ถนัดด้านนี้”



“ผมวิ่งคนเดียวก็เหงาแย่สิ”



โชนทำให้เอิ้นชะงัก เขาพยายามหาคำเถียงต่อ ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ชอบออกกำลังกายจริงๆ



“ไปแป๊บเดียว ไม่เหงาหรอก”



“แต่ถ้าไปสองคนจะดีกว่า”



“งั้นวิ่งหน้าบ้านผมเถอะ” เอิ้นว่า ก้มอ่านหนังสือ ตัดบทไม่ให้โชนหาทางลากเอิ้นออกไปวิ่งได้อีก



ส่วนคนโดนตัดบทก็ขยับตัวมาหาเอิ้น โดยเอิ้นไม่ทันรู้ตัวว่าอีกฝ่ายเคลื่อนตัวมาใกล้ และทิ้งน้ำหนักใส่หลังเอิ้นอย่างไม่ปรานี



“โชน!”



เจ้าของชื่อโชนนอนหนุนหลังเอิ้นอย่างไม่ขออนุญาต เอิ้นที่นอนคว่ำตัวอ่านหนังสืออยู่ก็ไม่สามารถพลิกตัวกลับได้ จึงได้แต่ร้องเรียกชื่ออีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น



มือใหญ่เอื้อมไปตะปบเอวสอบ ลากไปถึงก้อนเนื้อนิ่ม บีบเค้นอย่างสนุกมือจนเอิ้นร้องลั่น



“จริงๆ เราออกกำลังกายในห้องกันสองคนก็ได้นี่เนอะ”



เอิ้นหน้าขึ้นสี ทำไมมันมาเรื่องนี้ได้กันล่ะเนี่ย



Call 103



ใกล้วันปีใหม่มากขึ้นทุกที โชนขลุกตัวอยู่กับเอิ้นตลอดเวลา เขาตัดสินใจออกไปวิ่งรอบๆ หมู่บ้านช่วงเย็นบ้าง สำหรับโชนแล้ว การได้ออกกำลังกายทำให้เขามีความสุข



เสียแต่ถ้าเอิ้นยอมออกกำลังกายด้วยกันกับเขาคงจะมีความสุขมากกว่านี้



เขาหมายถึงออกกำลังกายใต้ร่มผ้า



ที่ผ่านมาทั้งคู่นอนเตียงเดียวกัน แต่ไม่มีอะไรเกินเลยเพราะเอิ้นเอาแต่เขินม้วน โชนจับนิดจับหน่อยเอิ้นก็รู้สึกแล้ว เพียงแต่คนขี้เขินก็เอาแต่ม้วนตัวหนีทุกที โชนก็ไม่อยากบังคับ เห็นคนเขินเขาก็ใจพองโต ลอบยิ้มอย่างมีความสุขไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เลยต้องหาทางให้เหงื่อออกด้วยวิธีอื่นแทน



แม้ว่าจะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่โชนทำสำเร็จไปครึ่งทาง ช่วยกันปลดปล่อยออกมา



ทว่ามันก็จบแค่นั้น เมื่อเอิ้นเขินม้วนจนตัวบิด และไม่ยอมให้โชนแตะต้องตนมากจนเกินไป



เพราะถ้าเตลิดแล้วคงห้ามใจไม่ได้เหมือนที่แล้วมาอีก



เอิ้นไม่อยากเขินตายคาบ้าน อีกอย่าง...ถ้าทำอะไรลึกซึ้งกว่านี้ ป้าภาจะต้องรู้แน่แท้



โชนจึงได้แต่นอนกอดแฟนตัวเองตามคำขอ ทว่าในหัวพลางคิดถึงวิธีลากเอิ้นไปโรงแรม



ช่วงนี้เป็นหน้าหนาว แต่โชนยังคงออกวิ่งได้อย่างไม่สะทกสะท้านอากาศเย็น ผิดกับเอิ้นที่เอาแต่นอนแฉะแบะ ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนา



พอได้อย่ด้วยกันหลายวันทำให้ทั้งคู้รู้นิสัยใจคอกันมากขึ้น นิสัยหลายๆ อย่างของพวกเขาต่างกัน เพราะฉะนั้นจึงมีแต่ต้องพยายามปรับความเข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้น



เอิ้นลดความคิดมากและความขี้น้อยใจลง ส่วนโชนก็ลดความใจร้อนและใช้เหตุผล ละเอียดละอ่อนกับความรู้สึกให้มากขึ้น



ความรักไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ขอเพียงเข้าใจกันก็มากพอ



ช่วงกลางวันพวกเขามักจะนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น โชนเล่นเกมเพลย์ตามปกติ ส่วนเอิ้นนั่งดูอยู่ข้างๆ พอเอิ้นเริ่มห่อตัวหนีจากอากาศหนาว โชนก็สังเกตเห็นพอดี



“คุณเอิ้น หนาวหรือ”



“อือ ปีนี้อากาศหนาวเนอะ”



โชนไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาไม่ได้รู้สึกหนาวขนาดนั้น แค่เย็นๆ ผิวเฉยๆ เขาสงสัยว่าคุณเอิ้นคงขี้หนาวพอสมควร หรือไม่ก็เขาหนังหนากว่าชาวบ้าน



คนเด็กกว่าทำหน้าที่แฟนไม่รอช้า มือใหญ่หยิบเอาผ้าคลุมที่พาดบนโซฟามาคลุมตัวเอิ้นไว้ พร้อมกับมอบอ้อมกอดของตัวเองให้อีกฝ่าย



“แบบนี้อุ่นขึ้นมั้ย”



“...”



เอิ้นพยักหน้า เขาเขินจนหาเสียงตัวเองไม่เจอ



ใช่ว่าโชนจะไม่เคยทำแบบนี้ แต่พอเอิ้นโดนโชนถูกตัวเข้านิดหน่อยก็พลันเขินมันซะทุกที



ถึงอย่างนั้น เอิ้นก็ไม่ได้นิ่งเฉยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขาขยับเขาไปซุกอกแกร่ง ใช้ปลายจมูกถูไถออดอ้อนหาไออุ่น ถึงจะแอบเคอะเขินอยู่บ้าง แต่มุดอยู่ในอ้อมกอดแบบนี้ โชนคงไม่เห็น



โดยที่เอิ้นไม่รู้ว่าแม้จะสามารถซ่อนใบหน้าตนได้ แต่ใบหูแดงๆ นั่นไม่สามารถเล็ดรอดจากสายตาโชนไปได้




___________________________________



อีกสองตอนจะจบแล้วน้า



#Call123456



 
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 14 |21.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 21-09-2018 17:09:18
จะจบแล้ว ใจหายเลย
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 14 |21.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Kx0806 ที่ 21-09-2018 17:32:47
 ไม่อยากให้จบเลยยย รักคุณเอิ้นคนขี้เขินกันโชนคนใจร้อนมากๆ รักกลิ่นอายของเรื่องนี้ ฮืออ เขียนแนวนี้อีกนะคะ :o12:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 14 |21.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 21-09-2018 18:21:39
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 14 |21.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 21-09-2018 19:29:41
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ้าววววว  ใกล้จบแล้วเหรอเนี่ย 

แต่ก็นะเสริฟมาม่าชามเล็กไปแล้วนิ

คงไม่มีมาม่าให้ทานแล้วเนอะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 14 |21.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 21-09-2018 20:24:34
จะรีบไปไหนๆจะจบแล้ว o9 o9
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 14 |21.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 21-09-2018 22:10:03
เข้าใจกันแล้ว รักกันก็ต้องปรับตัวหากันเนาะ รัก :mew1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 14 |21.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 21-09-2018 22:17:19
ตัวละครมีพัฒนาการดีจริง ๆ

ชอบค่ะ ... และนึกภาพออกเลย
เพราะเราเองก็เคยกดโทรผิด จนได้คุยและรู้จักใครคนหนึ่ง
... ในซอยรามคำแหง 22 มาแล้วเช่นกัน
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 15 |24.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 24-09-2018 15:58:26
โทรครั้งที่ 15_________________






Call 104



“มึงเป็นกะเทยเหรอวะ”



“ตอนที่เข้ามาคุยกับกูตอนนั้นแม่งเล็งกูอยู่ป่ะวะ ขนลุกโว้ย”



“เอิ้นเป็นบัณเฑาะว์”



 “ไอ้ตุ๊ด ไปห่างๆ โว้ย”



“ที่นี่ไม่ต้องการตุ๊ดโว้ย”



“พวกมึง ไล่บัณเฑาะว์กัน”



เสียงของเพื่อนร่วมห้องนับสิบดังออกมาประสานเป็นคำด่าทอต่อว่า ทุกประโยคหนีไม่พ้นเรื่องเพศสภาพของเอิ้น ทุกคนต่างเข้ามาพูดเสียดสี ทำสีหน้ารังเกียจใส่ ใบหน้าของเพื่อนร่วมห้องลอยไปมา



บ้างหัวเราะเยาะเย้ย บ้างทำเพียงเหลือบมองด้วยหางตา ร้ายแรงหน่อยเขาก็โดนลอบทำร้ายให้เป็นแผลเล็กๆ บางคนแม้ไม่ได้ร่วมแกล้ง แต่ก็ไม่เข้าใกล้ ราวกับเขาเป็นเชื้อโรคน่ารังเกียจ



เอิ้นหันไปทางไหนก็เจอแต่คนพวกนี้



ยิ่งหนี ยิ่งโดนทำร้าย



เขาก้มหน้าเดินหนีสายตาเพื่อนร่วมห้อง พลันเห็นใบหน้าของรุ่นพี่หนุ่มที่ตนเคยแอบชอบ



รุ่นพี่ยกยิ้มเยาะ ทำสีหน้ารังเกียจ ตะโกนบอกลั่นโรงอาหาร



“เอิ้นเป็นกะเทย!”



เฮือก!



“คุณเอิ้น? ฝันร้ายเหรอครับ”



เอิ้นเบิกตาโพลง หายใจหอบถี่ น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เขาจ้องมองห้องนอนของตัวเอง มองไปรอบๆ ตัวจนพึงพอใจถึงบอกกับตัวเองได้ว่าฝันไป



“คุณเอิ้น ไม่เป็นไรนะ”



เสียงคนข้างตัวดังขึ้นอีกครั้ง เอิ้นหันไปหาต้นเสียง พลันปรากฏใบหน้าของโชนที่ส่งสายตาเป็นห่วงมาให้



เขาคบกับโชนแล้ว เขาเป็นแฟนกับโชน ช่วงชีวิตที่ผ่านมาช่างมีความสุขเหลือเกิน แม้จะมีทะเลาะกันบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง แต่สุดท้ายโชนก็อยู่ตรงนี้



มือใหญ่ลูบใบหน้าแสนรัก เมื่อเห็นเอิ้นจ้องมาที่ตนด้วยใบหน้าขาวซีด



“ผมอยู่ที่นี่แล้ว ไม่เป็นไรนะ”



โชนเอ่ย ดันใบหน้าของเอิ้นเข้ามาซบที่อกอตัวเอง กอดปลอบคนฝันร้าย



“ขวัญเอ๋ย ขวัญมา”



เอิ้นฝันร้าย แถมเขาปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น เอิ้นร้องไห้สะอึกสะอื้น สีหน้าเจ็บปวดทรมานจนเขาทนแทบไม่ไหว อยากกระโจนเข้าไปยังความฝันเพื่อปกป้องคนตัวเล็ก



แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่นี้ แค่เพียงกอดปลอบ



ด้วยหวังว่าอ้อมกอดของเขาจะช่วยบรรเทาทุกข์ของเอิ้นได้ไม่มากก็น้อย



เอิ้นซุกซบอยู่ในอ้อมกอดของโชนนิ่ง เขาอยากเอาเปรียบอีกฝ่ายด้วยการอยู่ในอ้อมกอดนี้ให้นานแสนนาน ให้สองมือของโชนคอยลูบหลังปลอบประโลมเขาเช่นนี้ตลอดไป



น้ำตาจากอดีตที่นำมาสู่ความฝันได้เหือดแห้งแล้ว



เหลือเพียงไออุ่นของคนข้างๆ คอยปกป้องเขาจากอากาศหนาว



Call 105



“คุณเอิ้นหันมาหน่อย”



แชะ



“คุณเอิ้น ยิ้มหน่อยครับ”



แชะ



วันสิ้นปีมาถึงแล้ว โชนกลายร่างเป็นลิงทโมนเมื่อเห็นว่าเอิ้นมีกล้องถ่ายรูปให้เขาได้เล่น เด็กหนุ่มมือซนถ่ายทุกอย่างรอบตัวอย่างบ้าคลั่ง



“โชน พอแล้ว เปลืองฟิล์ม”



แชะ



“โชน”



เอิ้นร้องอีก โชนก็ถ่ายอีก และดูเหมือนว่าโชนจะถ่ายรูปเอิ้นเยอะเป็นพิเศษ



อันที่จริงเอิ้นไม่ได้มีปัญหาเรื่องเปลืองฟิล์ม แต่เขาเขินเกินกว่าจะยิ้มให้กล้อง และตากล้องก็ขยันมาถ่ายรูปเขาเสียเหลือเกิน เอิ้นไม่คุ้นชินกับการมีคนถ่ายรูปตัวเอง เลยได้แต่บ่นใส่เพราะห้ามไปโชนก็ไม่ฟัง



“คุณเอิ้น เราออกไปหน้าบ้านกัน แล้วให้ป้าภาถ่ายรูปให้ดีกว่า”



“เดี๋ยวสิ”



“เร็วๆ เดี๋ยวแสงหมดก่อนนะ”



เอิ้นปฏิเสธไม่ได้เมื่อโชนจับจูงเขาไปหน้าบ้านแล้ว พร้อมกับป้าภาที่ทำความสะอาดอยู่ลานจอดรถพอดี



แม้จะเอ่ยห้ามสักแค่ไหนโชนก็ทำตามประสงค์ของตัวเองได้สำเร็จอยู่ดี



ถ้าฟิล์มม้วนนี้ถูกล้างออกมา พวกเขาก็จะมีรูปคู่ด้วยกันเป็นครั้งแรก



เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน แสงสุดท้ายของปีหมดไป พวกเขากอดเกี่ยวกระหวัดกันอยู่บนเตียงใหญ่



ความอดทนของโชนสิ้นสุดลงหลังจากที่ถ่ายรูปคู่เสร็จ และป้าภาได้ลากลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย



ป้าภาขออนุญาตลากลับบ้านในช่วงปีใหม่สองสามวัน เช่นเดียวกับลุงวีที่ลากลับไปได้อาทิตย์นึงแล้ว เหตุเพราะทั้งคู่เบาใจว่าคุณหนูของเขาจะไมได้อยู่ตัวคนเดียวข้ามปีแน่แท้



และเพราะเอิ้นน่ารักจนเกินห้ามใจ



หลายต่อหลายครั้งที่โชนหักห้ามใจไม่ให้ตัวเองทำอะไรเกินเลยเพราะเกรงใจผู้ใหญ่ในบ้าน รวมถึงเอิ้นเอาแต่ดิ้นหนี



ครานี้เขาใช้เวลาที่เอิ้นไม่ทันตั้งตัว จัดการรวบหัวรวบหางแฟนคนน่ารักของเขาจนไปไหนไม่รอด



พลุส่งสัญญาณบอกถึงการเข้าปีใหม่เป็นแสงสว่างวาบสีสวยตามด้วยเสียงดังปัง



แต่มีหรือที่เสียงพลุจะน่าฟังไปกว่าเสียงร้องหวานๆ ของเอิ้น



ร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งคู่ถูกอาบด้วยแสงสีอ่อนๆ จากพลุข้างนอก ทว่าไม่มีใครลุกออกไปดูพลุในคืนข้ามปี



ประสานบรรเลงบทเพลงรัก สองร่างรวมเป็นหนึ่ง



Call 106



โชนทำให้เอิ้นลืมอดีตที่ผ่านมาจนแทบหมดสิ้น เมื่อเขาอยู่ภายใต้ร่างนี้ สมองของเอิ้นคิดเรื่องอะไรไม่ออกทั้งนั้นนอกจากความรู้สึกสุขสม สุขจนนึกว่าเป็นความฝัน สุขจนเหนือจริง



โชนทำให้เอิ้นรู้ว่าขอแค่มีคนที่เข้าใจเขา และรักเขาที่เป็นแบบนี้ก็เพียงพอแล้ว



สายตาคนนอกไม่สำคัญเท่าอ้อมกอดของโชน



ยามเช้าของปีใหม่อากาศเย็นสบาย เอิ้นมุดอยู่ในอ้อมแขนของคนรักอย่างออดอ้อน



คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่รู้ตัวที่เขาทำตัวเป็นเด็กเช่นนี้



ทว่าผิดคาดเมื่อโชนเอ่ยออกมาจนเอิ้นสะดุ้งตัวโยน



“สวัสดีปีใหม่ครับคุณเอิ้น”



“อ่า...อืม สวัสดีปีใหม่” เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากเอ่ยตอบกลับไปด้วยความเขินอาย



“ปีนี้ก็อยู่ด้วยกันนะครับ”



“อะ อืม...อยู่ด้วยกันนานๆ นะ” เอิ้นเอ่ยเสียงเบาจนแทบเป็นการกระซิบด้วยความเขินอาย



โชนรวบตัวเอิ้นเข้ามากอดแนบแน่นขึ้น พวกเขาไม่ได้สวมเสื้อผ้า ทำให้ร่างเนื้อเบียดเสียดสีกันอยู่ใต้ผ้าห่ม จนเอิ้นดิ้นยุกยิก



“คุณเอิ้นอย่าดิ้นสิ หรือว่าอยากต้อนรับปีใหม่อีกรอบ?”



เขาตีคนเด็กกว่าดังเพี๊ยะ



ช้อนมองตาอีกคนคล้ายต้องการจะดุ เสียแต่สายตาของโชนที่มองกลับมาทำให้เอิ้นหน้าร้อนเป็นไฟ คนแก่กว่ายอมแพ้ มุดหน้าเข้ากับอกของโชน พยายามไม่ให้อีกฝ่ายมองเห็นใบหน้าที่ขึ้นสี



โชนร้องโอดโอยภายในใจ ร้องขออย่างไร้เสียงว่าถ้าคุณเอิ้นไม่อยากทำ ก็อย่าทำตัวน่ารักให้มันมากนักสิ



Call 107



วันปีใหม่เต็มไปด้วยความสุขลอยฟุ้ง โชนทำหน้าที่ดูแลเอิ้นแทนป้าภาได้ไม่ขาดตกบกพร่องทั้งเรื่องอาหารและทำความสะอาดบ้าน รวมถึงดูแลเอิ้นในหลายๆ อย่าง



เป็นวันแรกของปีที่เอิ้นมีความสุขที่สุด



แต่กว่าพวกเขาจะลุกจากเตียงก็เกือบเที่ยง พอไม่มีผู้ใหญ่ในบ้าน เด็กๆ ก็เอาแต่นอนเอกขเนก เกเรไม่ยอมทานข้าวเช้า จนถึงเวลาหิวถึงได้ลุกมาหาอะไรกินกัน แน่นอนว่าโชนเป็นคนนำวัตถุดิบในบ้านมาปรุงรสให้เอิ้น



ปีใหม่แล้ว เหลือวันหยุดปิดเทอมอีกไม่กี่วัน



พวกเขาเลยทำตัวติดกันให้นานที่สุด เพื่อทดแทนวันที่จะไม่ได้เจอกัน



แม้ไม่ได้มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เพียงแต่การได้อยู่เคียงข้างกัน ก็ถือว่าเป็นความสุขของทั้งคู่แล้ว พวกเขาต่างหวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดี และเป็นปีที่ได้อยู่เคียงข้างอีกคนไปเรื่อยๆ



เมื่อวันเปิดเทอมมาถึง ทั้งเอิ้นทั้งโชนต่างเรียนหนัก ไม่ได้มาเจอหน้ากันเท่าที่ควร



แต่ยังคงมีเสียงจากโทรศัพท์ดังมาอยู่เสมอ



“คุณเอิ้น ทำวิจัยอยู่ใช่ไหมครับ”



“อือ โชนเลิกซ้อมเชียร์แล้วหรือ”



“ใช่ครับ วันนี้เลิกเร็วหน่อยเลยได้โทรมา จะได้คุยกันนานๆ”



“เหนื่อยไหม”



“นิดหน่อย ทั้งเรียนทั้งกิจกรรม เยอะไปหมดเลย เทอมสองนี่เป็นเทอมที่กิจกรรมหนักหน่วงมากเลยครับ”



“อย่างนั้นหรือ เหนื่อยหน่อยนะ”



“คุณเอิ้นก็เหนื่อยเหมือนกันใช่ไหมครับ”



“นิดหน่อย อยากเร่งให้จบในปีนี้เลยต้องขยัน”



“ไว้จะไปหานะครับ”



“ไว้ค่อยนัดกันก็ได้”



โชนมีกิจกรรมของมหาลัยที่ต้องทำ ส่วนเอิ้นก็เร่งทำวิจัย ทั้งคู่จึงไม่ค่อยได้พบกัน การพูดคุยทางโทรศัพท์ช่วยให้หายคิดถึงก็จริง แต่อย่างไรเสีย การได้เจอตัวก็คงจะดีเสียกว่า



อยากบอกเล่าเรื่องราวให้อีกฝ่ายได้รับรู้ต่อหน้า



แต่ตอนนี้คงมีแต่ต้องทำตามหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด



Call 108



จบกิจกรรมแล้ว โชนถึงเวลาสอบอีกครั้ง ส่วนเอิ้นก็เร่งทำวิทยานิพนธ์จนถึงโค้งสุดท้ายแล้ว



ระหว่างนี้พวกเขาได้พบกัน แม้จะไม่มากเท่าที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่าช่วยคลายความคิดถึงได้บ้าง



หลังจากที่โชนสอบเสร็จ เขาก็ชวนเอิ้นมาที่ร้านเดิม เพื่อปลดปล่อยความเครียดสะสมมาทั้งเทอม แน่นอนว่าเอิ้นไม่ปฏิเสธ และมาถึงร้านตรงเวลาที่นัดไว้



เป็นไม่กี่ครั้งที่เขามาที่นี่โดยไม่ได้แต่งหญิง



แม้จะรู้สึกแปลกๆ แต่เอิ้นก็พยายามปรับตัวให้คุ้นชิน



เขานั่งลงข้างโชน วงเหล้าห้อมล้อมไปด้วยเพื่อนๆ ของโชน และปาร์ตี้ของเด็กมหาลัยหลังสอบเสร็จก็เริ่มขึ้น



วันนี้คนในร้านเยอะเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะใครหลายคนล้วนอยากมาปลดปล่อยความเครียดเหมือนอย่างพวกเขา เอิ้นหัวเราะและร่ำสุราไปพร้อมๆ กับโชน เสียงเพลงบรรเลงอย่างสนุกสนาน พวกเขาร่วมวงร้องเพลงด้วยกัน จนเวลาล่วงเลยผ่าน



ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ทั้งเสียงเพลงและบทสนทนาล้วนสนุกสนาน ผ่อนคลายความเครียดของทุกอย่างได้อย่างที่ตั้งหวังไว้



พอใกล้ถึงเวลาร้านปิดแล้ว พวกเขาเริ่มสลายกลุ่ม แยกย้ายกันออกจากร้าน



เอิ้นยังคงอยู่กับโชน เพราะนอกจากการมาดื่มสุราแล้ว...พวกเขายังนัดหมายอย่างอื่นกันด้วย



นัดหมายที่ว่าคือการที่เอิ้นจะไม่กลับบ้าน แต่เป็นการนอนพักด้วยกันที่โรงแรม...



เอิ้นรู้สึกเคอะเขินทุกครั้งเมื่อนึกถึงการร่วมรักกับโชน และคืนนี้ก็คงเป็นอีกคืนที่พวกเขาจะได้รักกัน เอิ้นเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว ทั้งชุดใหม่และน้ำหอมแสงแพงกลิ่นโปรด อาบน้ำขัดเนื้อขัดตัวเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านมา



ทว่าจะกี่ครั้งเอิ้นก็ไม่เคยเตรียมใจได้เลย



หัวใจดวงน้อยของเขาสั่นระรัวทุกครั้งที่คิดว่าจะได้อยู่ในอ้อมกอดของโชน



เอิ้นรอโชนเข้าห้องน้ำอยู่ที่หน้าร้าน ในหัวเริ่มจินตนาการไปไกลจนต้องหยุดสะบัดหัวไล่ความคิด พลางมองซ้ายขวาหาโชน รู้สึกว่าโชนจะเข้าห้องน้ำนานไปแล้ว หรือว่าเป็นเพราะคนเข้าห้องน้ำเยอะกันแน่



เอิ้นตัดสินใจกลับเข้าร้านเพื่อตามหาโชน



พลันเห็นร่างของคนรักของเขายืนอยู่กับหญิงสาวที่เขาไม่รู้จัก



หญิงงามกอดแขนโชนแน่น ส่วนโชนพยายามปฏิเสธหญิงสาวอย่างสุภาพ เอิ้นเดินเข้าไปหา มากขึ้น มากขึ้น จนได้ยินเสียงพูดคุยของทั้งสอง



“ก็เห็นอยู่นี่คะว่ามากับเพื่อน”



“แต่ผมมีแฟนแล้วจริงๆ”



“แล้วมาที่แบบนี้แฟนไม่ว่าเหรอคะ”



“ไม่ว่าหรอก ปล่อยผมได้แล้วครับคุณ”



“ไม่ปล่อยหรอก แฟนไม่อยู่แบบนี้ก็ให้ฉันเป็นเพื่อนคุณก็ได้นี่คะ”



“ไม่ได้หรอกครับ”



“แน่ใจหรือ แค่คืนนี้ก็ได้”



โชนส่ายหน้า ถอนหายใจให้แม่สาวน้อยช่างตื๊อ เขาปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีกแต่เธอก็ยังไม่ไปไหน เจ้าหล่อนใช้โอกาสที่โชนอยู่คนเดียวเข้ามาหาพร้อมกับบอกว่าแอบมองโชนมาตั้งแต่เข้าร้านแล้ว ดูท่าแม่สาวกลางคืนคนนี้คงถูกใจเขาเข้า และดึงดันเกาะแขนจะไปกับเขาให้ได้



โชนคิดว่าป่านนี้เอิ้นคงรอแย่แล้ว



ทว่าเอิ้นกลับมายืนอยู่ตรงหน้า...



Call 109



“คุณเอิ้น...คือว่า...”



โชนเริ่มตื่นตระหนก เขาในสภาพนี้คงดูล่อแหลมมากเป็นแน่ เอิ้นอาจจะกำลังเข้าใจเขาผิดอยู่ก็ได้



แต่เอิ้นทำเพียงส่งยิ้มหวาน



“ไปกันได้แล้วโชน”



“ครับ” โชนตอบรับ หันไปปลดมือหญิงสาว “ผมต้องไปแล้ว”



“บอกเพื่อนคุณไปสิว่าคืนนี้คุณจะไปกับฉัน” สาวเจ้าไม่ยอมแพ้ ขยับตัวเบียดเสียดโชนมากขึ้น



“ไม่ได้หรอก”



ทว่าคนเอ่ยปฏิเสธเจ้าหล่อนคือเอิ้น “เขานัดกับผมแล้ว”



“ระหว่างเพื่อนคุณกับฉัน คุณคงไม่เลือกเพื่อนคุณหรอกนะ” สาวเจ้าเอ่ยแย้ง



โชนยกยิ้มหวานให้สาวสวย ออกแรงปลดพันธนาการที่หล่อนสร้างไว้ เมื่อหลุดพ้นจากการเกาะกุมแล้ว โชนเดินไปข้างเอิ้น ยกมือโอบคอเอิ้นไว้ เอ่ยคำลาที่แฝงด้วยความหนักแน่น



“ขอโทษด้วยนะครับ ผมเลือกเขา”



สองร่างเดินจากไป



“ขอโทษนะครับคุณเอิ้น ผมสลัดเธอยังไงก็ไม่หลุดเลย”



“...ถ้าผมไม่เข้าไป ก็จะยืนคุยกันอยู่อย่างนั้นใช่มั้ย”



“โถ่ คุณเอิ้น ผมก็ต้องสลัดออกมาอยู่แล้ว แค่ต้องใช้เวลานิดหน่อย”



เอิ้นถอนลมหายใจพรู่ด



นึกหงุดหงิดที่เขาไม่สามารถแสดงความเป็นเจ้าของโชนได้ ถึงได้แต่บอกคนอื่นว่าเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น



เอิ้นเจ็บใจนัก เขามั่นใจว่าตนตอนแต่งหญิงต้องสวยกว่าเจ้าหล่อนคนนั้นแน่ๆ ถ้าเขาอยู่ในร่างของหญิงสาวคงควงแขนโชนอวดเย้ยหล่อนไปแล้ว



โชนเห็นเอิ้นมุ่นคิ้วจึงรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังหงุดหงิด เขาเอื้อมมือไปลูบใบหน้าแสนรัก



“คุณเอิ้น ผมมีแค่คุณนะ”



“ผมรู้...” เอิ้นเอ่ยอุบอิบ “ผมแค่หงุดหงิดที่ทำตัวเป็นเจ้าของโชนไม่ได้”



“อ้าว...คุณเอิ้นอยากแสดงความเป็นเจ้าของผมเหรอ”



“อือ แต่ผมเป็นผู้ชาย คงไม่ดี”



“ถ้าคุณเอิ้นบอกแต่แรก ผมจูบคุณเอิ้นโชว์ไปแล้ว”



“หา อะไรนะ!”



“ผมคิดว่าคุณเอิ้นคงไม่อยากเปิดเผยความสัมพันธ์ แต่ผมพร้อมจะบอกคนอื่นเสมอนะว่าคุณเอิ้นเป็นของผม”



“...ผม” เอิ้นเงยหน้ามองโชน แววตาสั่นไหว “ไม่มีความกล้ามากพอ...และมัน...ไม่ดีเลย”



“ไม่เป็นไรหรอกครับ ค่อยๆ ปรับกันไปเนอะ”



“อืม” เอิ้นเอ่ยเสียงเบา ซบหน้าลงที่ไหล่โชนขณะเดิน



ท่ามกลางหมู่ดาวแพรวพราว ตึกสูงเล็กตั้งขนาบทางเดิน ลมกลางคืนพัดแผ่วเบา บาทวิถีไร้ผู้คน มีเพียงสองร่างเดินอิงแอบกัน



เอิ้นนึกเจ็บใจเรื่องเมื่อครู่ ได้แต่บอกตัวเองว่าอย่างไรเสียตอนนี้โชนก็เป็นคนของเขา และจะเป็นไปอีกนาน



เอิ้นตั้งความหวัง เอ่ยออกมาน้ำเสียงแผ่วเบา ทว่าชัดเจน



“สักวันคงมีวันที่พวกเราเปิดเผยความสัมพันธ์นี้ได้แบบไม่อายใคร”





_________________________________

ตอนหน้าจบแล้วน้า

#Call123456





หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 15 |24.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 24-09-2018 17:49:58
ค่อยๆ ปรับกันไปนะ
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 15 |24.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 24-09-2018 18:48:53
มันต้องมีแหล่ะน่าวันที่เปิดเผยความสัมพันธ์ได้แบบไม่ต้องอายใคร หรือกลัวใครจะไม่ยอมรับ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 15 |24.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 24-09-2018 18:49:20
คุณเอิ้นน่ารักมากเลย
เอ็นดูความอยากแสดงตัวเป็นเจ้าของ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 15 |24.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 25-09-2018 01:48:02
ตอนนี้น่ารักทั้งโชนและคุณเอิ้นเลย  :hao5:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 15 |24.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 25-09-2018 07:40:39
คุณเอิ้นมีแสดงความเป็นเจ้าของน่ารัก  :a1: :a1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 15 |24.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 25-09-2018 09:49:45
คุณเอิ้นนนนนน น่ารักกกกมากกกกกก ถ้าคุณเอิ้นกล้ามากว่านี้คงจะแซ่บบบบโชนหลงคุณเอิ้นมากมายแน่
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 15 |24.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: aha_aha ที่ 26-09-2018 06:24:59
เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำทั้งคู่อยู่กันไปนานๆ คงชินกันไปเอง  555
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 15 |24.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 28-09-2018 09:54:47
 :pig4: :pig4: :pig4:

จะจบแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5 |END|
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 30-09-2018 16:08:47
โทรครั้งสุดท้าย



Call 110



เวลาล่วงเลยผ่านไปไม่นาน โชนก็เรียนจบปีแรกของมหาลัยแล้ว



ส่วนเอิ้นก็เรียนจบป.โทแล้วด้วยความอุสาหะ งานรับปริญญาของเอิ้นมีในช่วงปลายปี ผ่านวันเปิดเทอมของโชนไปไม่กี่อาทิตย์



เอิ้นไม่ได้คิดมากเรื่องรับปริญญาเพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าโชนคงติดเรียน เขาจึงไม่ได้อยู่ถ่ายรูปตามซุ้มต่างๆ แต่กลับเดินออกจากหอประชุมใหญ่ไปยังที่จอดรถแทบทันทีที่เลิกงาน เพราะนัดหมายกับลุงรวีไว้



เขาคงขึ้นรถกลับบ้านไปคนเดียวแล้ว ถ้าไม่ได้ยินเสียงเรียกดังมาเสียก่อน



“คุณเอิ้น ทางนี้!”



เสียงที่เขาจำได้อย่างดีไม่ใช่ใครนอกจากโชน



มหาบัณฑิตหมุนตัวกลับไป แล้วก็ต้องแปลกใจ



“ผมพาเพื่อนๆ มาแสดงความยินดีครับ”



คนเจ้าแผนการว่าพร้อมฉีกยิ้มร่า ข้างหลังโชนมีตาวและเพื่อนๆ ของโชนที่เอิ้นรู้จักอีก



เวลาที่ผ่านมามีหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย แต่เหตุการณ์ที่เอิ้นไม่มีทางลืมคือเพื่อนๆ ของโชนทุกคนรับรู้ว่าตนเป็นคนรักของโชน และไม่มีใครมีทีท่ารังเกียจใส่เอิ้นอย่างที่นึกคิด



กลับกัน เด็กกลุ่มนี้เป็นมิตรกับเอิ้นมากยิ่งกว่าเดิม



สำหรับเอิ้นแล้ว เขาไม่ได้ต้องการให้ใครมารับรู้รสนิยมของตัวเอง เพราะไม่อยากเจอสายตารังเกียจของใครอีกแล้ว ทว่าเพื่อนของโชนไม่มีใครคิดว่าเอิ้นวิปริตหรือน่ารังเกียจเหมือนที่เขานึกกลัว



ตอนนั้นเองที่เอิ้นได้รู้ว่า แท้จริงแล้วตัวเองต้องการเพียงแค่ความรักจากคนใกล้ตัวเพียงเท่านั้น



สายตาคนนอก ความรู้สึกของคนอื่น ทั้งหมดนั้นไม่จำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจทั้งหมด



เขาไม่ขอให้ใครเข้าใจมากมาย



ในเมื่อคนที่เขารักเข้าใจกัน ก็มากพอยิ่งกว่าสิ่งใด



ดอกไม้ช่อใหญ่ถูกส่งมาในมือของเอิ้น



“ยินดีด้วยนะครับ” สิ้นเสียงโชน เสียงคนอื่นก็ตามมา แสดงความยินดีให้กับความสำเร็จของเอิ้น



มหาบัณฑิตฉีกยิ้มกว้าง พุ่งสู่อ้อมกอดคนรัก ใบหน้าเปื้อนน้ำตาและรอยยิ้มแห่งความสุข



เขาดีใจจริงๆ ที่มีคนรักเขามากขนาดนี้



และดีใจจริงๆ ที่มีโชนอยู่ข้างกายกันจนถึงวันนี้



“ขอบคุณนะ”



Call 111



ในที่สุดวันที่โชนถูกทำโทษก็มาถึง



โชนมีโทรศัพท์มือถือแล้ว...



หลังจากที่ไม่ติดต่อหาเอิ้นหลายต่อหลายที และทำให้เอิ้นเป็นห่วงอยู่หลายครั้ง จนในที่สุด คนแก่กว่าก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ยัดโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ให้โชนอย่างไม่ให้คนรักปฏิเสธ



“โถ่ คุณเอิ้น~ ผมบอกแล้วว่าไม่เอา”



“ครั้งนี้ผมไม่ยอมแล้ว” เอิ้นว่าเสียงแข็ง เขาทนติดต่อโชนไม่ได้มาหลายครั้งแล้ว



สมัยนี้ผู้คนก็เริ่มใช้โทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น เทคโนโลยียุคนี้กำลังก้าวกระโดด ทำให้ราคาเครื่องไม่ได้แพงเหมือนเมื่อก่อน



แต่สำหรับโชนแล้วก็ถือว่าแพงอยู่ดี คนน้องโอดครวญแต่ไม่เป็นผล เมื่อเอิ้นไม่ยอมอ่อนข้อให้เหมือนที่แล้วมา



โชนเรียนหนักมากขึ้นและไม่มีเวลาว่างออกไปหยอดตู้โทรศัพท์เหมือนทุกที ไอ้คนรอก็เป็นห่วง จนกระทั่งครั้งหนึ่งโชนป่วยหนัก ไม่สามารถไปเรียนได้ ต้องนอนซมอยู่บนเตียงหลายวัน ตาวก็ไปออกค่ายไม่ได้อยู่ร่วมห้องดูแลเพื่อนซี้



กว่าเอิ้นจะรู้ก็ตอนที่ตาวโทรมาบอกหลังจากที่โชนใกล้จะหายดี



คนแก่กว่าทั้งโกรธทั้งเป็นห่วง ถ้าเกิดโชนเป็นอะไรขึ้นมาเขาต้องเสียใจมากแน่ๆ



เขาไม่อยากจู้จี้จุกจิกเรื่องพวกนี้แต่เขาก็ไม่อยากเป็นฝ่ายรอสายเรียกเข้าจากโชนฝ่ายเดียวอีกแล้ว จึงทำใจแข็ง ยัดโทรศัพท์มือถือให้อีกฝ่ายโดยไม่ฟังคำปฏิเสธ



คราวนี้เอิ้นสามารถติดต่อโชนได้โดยตรงเสียที



“ไว้ผมจะหาเงินค่ามือถือมาคืนคุณเอิ้นนะครับ”



เอิ้นยิ้มรับ ไม่ตอบอะไรกลับไป เขาไม่ได้ต้องการของตอบแทนใดๆ ในเมื่อการได้คุยกับโชน ได้อยู่เคียงข้างโชน รับรู้ว่าคนข้างกายสบายดีก็สำคัญที่สุดกว่าสิ่งอื่นใด



หลังจากนั้นการติดต่อกับโชนก็ไม่เคยขาดหายอีก โชนไม่ต้องออกไปหยอดตู้โทรศัพท์เหมือนเคย เขาสามารถนอนคุยเล่นกับเอิ้นอยู่ในห้องให้ตาวรำคาญใจได้อย่างสบายอารมณ์



ส่วนเอิ้นก็ไม่ต้องเป็นกังวลรอสายเรียกเข้าจากโชนแล้ว



ในเมื่อเขาสามารถโทรหาโชนได้โดยตรง



กดหมายเลขปลายทางอย่างชำนาญ พร้อมกับกดโทรออก รออีกฝ่ายรับสาย เพียงไม่นานเขาก็จะได้ยินเสียงจากความคิดถึง



“สวัสดีครับ คุณเอิ้น”



“สวัสดี โชน...”



Call 112



เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่างสะดวกสบาย ทว่าการได้คุยกันทุกวันกลับทำให้ความอดทนในการรอคอยน้อยลงกว่าเดิม จากที่เอิ้นสามารถรอโชนทุกๆ สามถึงสี่ทุ่มได้ กลับเป็นไม่ได้ พอโชนไม่โทรมาก็กระวนกระวายใจ ต้องเป็นฝ่ายโทรหาตลอด



โชนเองก็ไม่ได้ว่างรับสายตลอดเพราะกิจกรรมที่มากขึ้น และการเรียนที่หนักขึ้น



ถึงอย่างนั้นเอิ้นก็ไม่ได้เง้างอนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขาพยายามเข้าใจโชนมากขึ้น รวมถึงตั้งใจทำหน้าที่อาจารย์ของตัวเองให้ดี



ที่สำคัญที่สุดก็คือ โชนไม่เคยทำให้เอิ้นรู้สึกต้องน้อยใจอีก



โชนแสดงออกเสมอว่าตนมีแค่เอิ้น



ส่งผ่านสายตาและการกระทำ



แม้ไม่อาจแสดงออกได้ทุกสถานที่ แต่โชนก็ดูแลเอิ้นเป็นอย่างดีและพอเหมาะพอควร ไม่ทำให้เอิ้นอึดอัดใจหรือเป็นกังวลอะไรอีก เอิ้นเองก็ไม่ปฏิเสธการกระทำของโชนอีกแล้ว



ทั้งคู่ค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากัน แม้จะยังไม่ทุกเรื่อง แต่ว่าทั้งสองเชื่อว่ารอยแยกที่มีอยู่นั้นสักวันมันจะแนบสนิท



มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาตกลงกันไว้ก็คือ ทุกๆ วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ถ้าไม่มีใครติดธุระ จะต้องมาเจอกัน รวมถึงนอนค้างคืนด้วยกัน



ในทีแรกมันไม่ใช่ข้อตกลง แต่เป็นโชนที่มาหาเอิ้นที่บ้านทุกอาทิตย์ มากอดความคิดถึงให้หายคิดถึง



แต่บางอาทิตย์โชนก็ไม่ว่าง และนั่นทำให้เอิ้นเป็นฝ่ายไปหาโชนที่หอบ้าง



โชนอยู่หอกับตาว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ทำอะไรเกินเลยไปมากกว่ากอดและจับมือกัน



แต่แค่นั้นก็มากพอสำหรับหนึ่งอาทิตย์ที่ไม่ได้เจอกัน



โทรศัพท์ที่มีเพียงเสียงหรือจะสู้ตัวเป็นๆ ที่เห็นและสัมผัสได้



Call 113



คำว่าเกย์ถูกใช้อย่างแพร่หลาย



คำนิยามใหม่สำหรับกลุ่มคนที่มีรสนิยมรักร่วมเพศ และคงเป็นคำนิยามให้กับเอิ้น



แต่นั่นสำคัญอะไร เขาเลิกใส่ใจกับคำนิยามที่ใช้เรียกรสนิยมตัวเองมานานแล้ว



ร่างเล็กมุดเข้าหาอ้อมกอดอุ่นของโชนมากขึ้น กะพริบตาไล่ความคิดที่ทำให้ตัวเองเป็นกังวล ซบศีรษะลงกับซอกคอและไหปลาร้าโชนอย่างพอดี กลับเข้าสู่นิทราแสนสุขอีกครั้ง



เอิ้นตื่นขึ้นมาอีกทียามสาย โชนเองก็ตื่นแล้วเช่นกัน แต่คนเด็กกว่าไม่ยอมลุกไปไหน นอนกอดเจ้าของดวงใจอยู่บนเตียง รอจนกว่าเอิ้นจะตื่น



 “อรุณสวัสดิ์ครับ”



“อือ”



เอิ้นครางรับ ขยับตัวกอดคนรักแน่นกว่าเดิม งอแงไม่อยากตื่น



“กินข้าวเช้ากันได้แล้วนะ”



“รู้แล้ว” ว่า แต่ยังคงนอนนิ่ง



โชนถอนหายใจ นึกคิดว่านับวันเอิ้นยิ่งปลุกยาก แม้ไม่อยากรบกวนการพักผ่อนของเอิ้น เพราะเมื่อคืนโชนรบกวนเอิ้นมาทั้งคืนแล้ว แต่ข้าวเช้าเป็นมื้อสำคัญ ถ้าเอิ้นพลาดมื้อนี้ไปคงปวดท้องเป็นแน่



คนเด็กกว่าจึงได้แต่หาทางแงะให้คนขี้เซายอมลุกจากเตียง



สุดท้ายร่างเล็กก็ผุดลุกขึ้นด้วยเนื้อตัวเปลือยเปล่า เอิ้นก้มหน้าซ่อนใบหน้าร้อนๆ ตวัดผ้าคลุมมาห่อตัว เดินก้มงุดๆ หนีเข้าห้องน้ำไป



มีหลายอย่างเปลี่ยนแปลง แต่ก็มีหลายอย่างที่ยังคงเดิม



หลักๆ คือเอิ้นยังคงขี้อายเหมือนเดิม ส่วนความน่ารัก โชนรับประกันว่าเพิ่มมากกว่าเดิม



Call 114



เครื่องเล่น mp3 เริ่มเป็นที่นิยมแพร่หลาย เทคโนโลยีสมัยนี้พยายามพัฒนาตอบสนองให้ผู้ใช้สะดวกสบายมากที่สุด แต่โชนยังคงใช้เซาว์เบาท์ที่ตกรุ่นเครื่องเดิม เทปคลาสเซ็ทของเด็กหนุ่มมีเต็มกล่อง แม้จะยุ่งยากไม่เหมือนเครื่อง mp3 ที่สามารถบรรจุไฟล์เพลงได้มากกว่า แต่เขาก็ยังชื่นชอบการฟังเพลงจากเทปอยู่ดี



รวมถึงเขาชื่นชอบฟังเพลงเก่าสมัยยังเป็นเด็กมาแต่ไหนแต่ไร



โชนค้นเทปของตัวเองและพบกับเพลงเพลงหนึ่ง



เด็กหนุ่มไม่รอช้าที่จะเอาให้คนรักของตนฟัง เมื่อทั้งคู่ได้พบกันในคืนวันเสาร์



เนื้อเพลงและความหมายของเพลงผ่านการคัดกรองจากเด็กหนุ่มมาอย่างดี โชนเชื่อมั่นอย่างเต็มหัวใจ ว่าเพลงนี้เขาต้องมอบให้เอิ้นได้ฟังให้ได้



โชนยื่นหูฟังให้เอิ้นใช้ร่วมกัน



พออีกฝ่ายได้ฟังก็หน้าแดงแปร๊ด เมื่อได้ฟังเพลงนี้ร่วมกับเจ้าของเสียงเต้นของหัวใจ



ดนตรีดำเนินไปอย่างไพเราะ น้ำเสียงของคนร้องหวานหยดย้อย แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย


ทอดพาดวงใจ เราไปยังนภาฟ้าที่แสนไกล ที่ไม่มีใครเคยก้าวลํ้าข้ามผ่านพ้นไป



เก็บดวงดาวที่ลอยเกลื่อนฟ้า จับมาเรียงร้อยเป็นมาลัยคล้องใจ





เพลงรักแสนหวานแทรกซึมไปทุกโสตประสาท เอิ้นนั่งก้มหน้าหนีความเขินอายที่ปะทุขึ้นมา ใบหน้าร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรงจนแทบกระดอนออกมาจากอกอีกครั้ง เมื่อโชนชวนเอิ้นมานั่งฟังเพลงที่ระเบียงบ้านของเอิ้น ไม่ต่างจากเนื้อเพลงที่ดังอยู่ตอนนี้





เพียงแค่ใจเรารักกัน บดบังความสําคัญอื่นใด

เพียงแค่ใจเราสองใจ เข้าใจในรักจริง


ชวนชมดวงดาวที่ลอยเกลื่อนฟ้า นั่งทอดกายภายใต้นภาที่ส่องสว่างไปด้วยแสงจันทร์



เอิ้นรู้จักเพลงนี้ดี และรับรู้ว่าท่อนฮุคของมันมีความหมายลึกซึ้งมากเพียงไหน เพราะเช่นนั้นเขาถึงได้ก้มหน้าก้มตาหลบหน้าโชนด้วยความเขินอาย



ความยาวของเพลงไม่นานนักก็จบลง



โชนทาบฝ่ามือลงมาที่มือของเอิ้น ความอบอุ่นแพร่กระจายไปถึงหัวใจดวงน้อยที่เต้นระรัว



“คุณเอิ้น...”



เจ้าของชื่อเอิ้นพยายามสบตากับโชน และก็หลบตาในไม่กี่วินาทีต่อมา



“พี่เอิ้น~”



“บ...บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียก”



โชนหัวเราะขำกับความขี้อายของคนรัก เชยใบหน้ามนเข้าหาตัว



มอบจุมพิตที่หวานไม่แพ้บทเพลง



สื่อความหมายผ่านการกระทำ มอบแทนคำมั่นสัญญา



ไร้ซึ่งคำเอื้อนเอ่ย ทว่าลึกซึ้งกว่าคำบอกรักใด



แค่เพียงหัวใจสองดวง เข้าใจกันและกัน



และเรามีเพียง งานวิวาห์เดียวดายภายใต้แสงจันทร์

สุขสกาวดวงดาวแพรวพราวนับหมื่นร้อยพัน

ร่วมกันเป็นพยานแห่งรัก ที่ไม่มีพิธีใดจะสําคัญ

เหนือใจ

-End-

 _______________________________

#Call123456




 ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ ตั้งแต่ในทวิตจนถึงตอนนี้เลย

เป็นเรื่องที่เริ่มมาจากการทวิตเล่นๆ แล้วจู่ๆ ก็ต่อยอดงอกออกมาจนได้เป็นสิบตอนได้ไงก็ไม่รู้555

คิดว่าจังหวะเรื่องนี้ไปค่อนข้างเร็ว เพราะติดจังหวะที่ใช้ในทวิตมาด้วย

ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกขัดๆ ต้องขออภัยด้วยนะคะ



ไม่คิดว่าจะพาคุณเอิ้นกับเจ้าโชนมาถึงตรงนี้ได้

หลักๆ แล้วแค่อยากเขียนเรื่องราวสมัยก่อนดูบ้าง

อันที่จริงแล้วเรื่องนี้อยู่ในยุคต้นๆ 20s นะคะ55555

(ที่จริงก็ตั้งใจให้เป็นยุค 90s แต่เราเกิดไม่ทัน ถ้าใช้ช่วงยุคนั้นจะมีความทรงจำแต่ตอนที่เป็นเด็กมากๆ

เลยกลัวว่าจะมีข้อมูลไม่มากพอ ;-;)



อย่างไรก็ตาม ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันนะคะ

รัก

 
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 30-09-2018 17:07:50
ดีใจกับคุณเอิ้นที่พบรักแท้จริงๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: kikilululu ที่ 30-09-2018 17:30:26
อ่านถึงตอนที่เอิ้นกลับไปหาคนที่บ้านแล้วร้องไห้เลย ทุกเรื่องของคุณ raccool จะต้องมีซีนที่แปล๊บหัวใจ
ยิ่งอ่านก็ยิ่งไม่อยากให้เอิ้นเจออะไรแบบนี้แล้ว ยังไงคนก็คือคนจริงๆอ่ะ
เราได้มาอยู่ในสังคมที่ส่วนใหญ่เค้ามองว่าเรื่องแบบนี้มันผิด เราเจ็บใจมากเลยนะทำไมอ่ะ
เค้ามีความรักไม่ได้หรอ ทำไมต้องไปตัดสินว่าเค้าผิด ทุกครั้งที่เราอ่านเจอแนวประมานนี้เราอินหนักมากทุกที
ขนาดเราเองไม่ได้เจอกับตัวเองแค่คิดว่าต้องมีใครสักคนเจ็บปวดเพราะโดนทำร้ายจากสังคนแบบนี้เราก็เสียใจแทนแล้วอ่ะ
ถึงตอนล่าสุดเราดีใจกับเอิ้นมสกๆที่เอิ้นยิ้มอย่างมีความสุข เอิ้นได้พยายามก้าวไปข้างหน้าแล้วทั้งๆที่ก็กลัวอ่ะ
และในส่วนของโชน ด้วยความเด็กน้อยเราเข้าใจนางนะแต่เราทีมเอิ้น55555 ตอนติดเกมนี่อยากไปบิดหูลากมาขอโทษเอิ้น
สองคนนี้เหมือนมีชีวิตจริงในช่วงหนึ่งๆเลย เนี้ยถ้าคุณนักเขียนจะพาดราม่าไปเรื่องบ้านโชนด้วยนะเราร้องไห้ตายแน่เลย
เราชอบความมีชีวิตชีวาของตัวหนังสือของคุณ raccool มากอ่ะ อ่านแล้วเหมือนเรากำลังดูหนังทุกที //กอดคุณเอิ้นแก้หนาว
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 30-09-2018 20:04:24
 :pig4: :pig4: :pig4:

แทงคิ้ว
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: full ที่ 30-09-2018 20:15:20
เป็นเรื่องที่รู้สึกดีต่อใจมากยิ่งอ่านก็ยิ่งดี อบอุ่นไปทั้งใจได้เห็นความรักของพวกเขาทั้งสองมันดีมาก ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆนี้ค่ะ ตามมาตั้งแต่ทวิตเตอร์เลยยย  :pig4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 30-09-2018 20:22:47
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Kx0806 ที่ 30-09-2018 20:40:41
จบแล้วก็ใจหาย เหมือนตามลุ้นมาตั้งแต่ต้นจนเค้าสมหวังกัน อยากเห็นชีวิตของทั้งคู่ในยุคปัจจุบันจัง ต้องน่ารักมากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: TheBig ที่ 30-09-2018 21:10:00
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆแบบนี้นะคะ  :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 30-09-2018 21:17:41
จบแล้ว  :hao5:

ชอบทั้งสองคนมาเลยมีการเติมโตทางอารมณ์มากมาย  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-09-2018 22:18:45
สองคนนี้คือส่วนผสมที่ลงตัวมากๆ เลยยยยย
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 30-09-2018 22:22:13
 :กอด1: จบแล้วว ใจหายจุง จะติดตามเรื่องต่อๆไปเรื่อยๆนะคะ :hao5:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: kosmos ที่ 30-09-2018 23:47:46
ชอบค่ะ อ่านแล้วอุ่นๆที่ใจ ได้ย้อนกลับไปเมื่อตอนเป็นเด็กน้อยเลย

 อ่านไปลุ้นไป โชนจะทำพี่เอิ้นเสียใจไหม อะไรแบบนั้น

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Stmmltww ที่ 01-10-2018 13:24:38
ขอบคุณมากค่า ตามมานานเลยทีเดียวกับเรื่องนี้ ชอบพัฒนาการของตัวละครทั้งสองคนมากๆ รวมถึงเวลาที่ผ่านไปในสังคมจนเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างด้วย คิดถึงตอนเด็กๆเลยค่ะ5555
ขอบคุณมากนะคะ :impress2:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Spoypopoy ที่ 02-10-2018 01:56:13
รักเหมือนกัน ขอบคุณมากๆที่ให้เรากลับไปคิดถึงวัยเด็กอีกครั้ง ชอบที่มันให้ความรู้สึกคิดถึงในเรื่องเก่าๆที่เราผ่านมากทั้งเรื่องที่ทำให้มีความสุขมากๆจนถึงเรื่องที่ทำให้เราร้องไห้ออกมา ไรท์ทำให้เราคิดถึงเรื่องแบบนั้นได้หมดเลย ขอบคุณจริงๆนะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 04-10-2018 22:27:15
สนุก ละมุน ชอบ โอ้ย ดีต่อใจ ตอนแรกเห็นชื่อดราม่าเปล่าวะ เปิดมาเฮ้ยคือดจีย์ ชอบมากค้าา
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 05-10-2018 00:37:23
ชอบมากๆเลยค่ะ ดีมากจริงๆ ประทับใจเอิ้นและโชนมาก ฮืออออออ อยากอ่านในพาร์ทที่ทั้งคู่เป็นผู้ใหญ่แล้ว แบบ 40 ไรงี้ งือออออ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 07-10-2018 02:49:38
แอบสงสัย เบอร์คุณเอิ้นในยุคนั้นราคาเท่าไหร่? ท่าจะแพงอยู่นะ 555

กรอบสังคมสมัยก่อนแคบจริงๆ ใครคิดต่างทำต่างไม่ได้เลย อยู่ยากมาก

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: ppseiei ที่ 07-10-2018 16:54:06
ชอบมากเลยค่ะ คุณเอิ้นน่ารัก  :-[
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 07-10-2018 17:50:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 10-10-2018 14:04:00
คลาสสิก
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 10-10-2018 17:57:16
สนุกมาก  :impress2:

เป็นพล็อตเรื่องที่อบอุ่นดีต่อใจมาก  :-[

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 10-10-2018 18:20:13
ดีต่อใจมาก ๆ ทั้งคู่ปรับเข้าหากันได้อย่างพอเหมาะพอควรเลย
เอิ้นโดนมาหนักจริง ๆ มันช้ำตรงที่ครอบครัวด้วยแหละ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 10-10-2018 21:19:51
สนุกมากเลยค่ะ รักคุณเอิ้น คิดถึงชีวิตสมัยก่อนพออ่านเรื่องนี้ จะใช้ตู้โทรศัพท์ทีคนต่อแถวยาวเหยียด คุยนานก็ไม่ได้  :hao7:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งสุดท้าย |30.9.2018| p.5 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: gemgems ที่ 10-10-2018 23:31:01
อบอุ่นหัวใจจริงๆค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 10-10-2018 23:52:32
Telephone #Call123456







โทรครั้งพิเศษ 1



ในช่วงเรียน เอิ้นไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะความทรงจำช่วงมัธยมทำร้ายเขาจนเกินไป เอิ้นปิดกั้นตัวเอง ไม่ยอมผูกมิตรใหม่ๆ กลายเป็นคนเก็บตัว และสุดท้ายก็ถูกเพื่อนๆ หมางเมิน ทำราวกับเอิ้นไม่มีตัวตนอยู่ในรุ่น



แต่ไม่ใช่กับทุกคน



ตะวันเป็นคนที่เอิ้นเปิดใจให้ แม้ไม่ได้มากมาย แต่ก็มากพอที่จะเข้าใจเอิ้น เขาเป็นคนที่เอิ้นพึ่งพาในเรื่องของการเรียน นอกเหนือจากนั้น เอิ้นไม่ค่อยพูดคุยด้วยเท่าไหร่ ซึ่งตะวันก็ไม่ได้เซ้าซี้ ถึงอย่างนั้นทั้งสองคนก็ยังแลกที่อยู่และเบอร์โทรติดต่อกันเมื่อเรียนจบปริญญาตรี



ตะวันไปเรียนต่อโทที่อังกฤษ ส่วนเอิ้นเลือกเรียนต่อที่ไทย



พวกเขาแทบไม่ได้ติดต่อกัน และเอิ้นคงจะลืมไปแล้ว ถ้าหากตะวันไม่ได้ส่งโปสการ์ดมา พร้อมกับข้อความบอกว่าเขากำลังจะกลับมาไทย



แม้ตอนเรียนจะไม่ได้สนิทสนมกันมากขนาดนั้น แต่พอรู้ว่าเพื่อนเก่ากำลังจะกลับมาจากที่แสนไกล เอิ้นก็อดตื่นเต้นไม่ได้



เขาติดต่อทางเบอร์โทรที่ตะวันแนบมาให้ เพราะเกรงว่าตอนที่โปสการ์ดถึงมือเอิ้นแล้ว ตะวันก็คงถึงไทยพอดี



ไม่มีประโยชน์ที่จะส่งโปสการ์ดหรือจดหมายกลับไปยังประเทศอังกฤษ



เอิ้นต่อสายสักพัก ก็มีคนรับสาย ตามคาด ตะวันมาถึงไทยแล้ว



พวกเขานัดแนะตกลงว่าจะพบกัน ฉลองในโอกาสที่ไม่เจอกันเสียนาน



เมื่อนัดแนะกันเสร็จสรรพ จากนั้นเอิ้นก็ติดต่อบอกกับโชนว่าจะไปพบเพื่อน



“เพื่อนคุณเอิ้น?”



“อื้อ สมัยมหาลัยน่ะ ไม่ได้สนิทกันมาก แต่ก็คุยด้วยเยอะที่สุดแล้ว”



“อ้อ ให้ผมไปส่งไหม”



“ไม่เป็นไร โชนน่าจะติดเรียน ผมให้ลุงวีไปส่งก็ได้”



“ถ้างั้นให้ผมไปรับนะครับ”



“อื้ม”



โชนเรียนปีสี่แล้ว ปีสุดท้ายของมหาลัยล้วนหนักหน่วงทั้งเนื้อหาการสอบ ทั้งโปรเจคจบ เอิ้นไม่อยากรบกวนโชน เพราะอย่างไรเสีย พวกเขาก็ได้พบกันทุกอาทิตย์อยู่แล้ว แถมยังได้โทรคุยกันทุกวันอีกต่างหาก สมัยนี้การติดต่อหากันง่ายขึ้นแล้ว เกิดเป็นความสะดวกสบายให้ทั้งคู่และผู้คนอื่น



เวลาผันผ่าน เด็กหนุ่มเรียนรู้ที่จะค่อยๆ เติบโตเป็นชายหนุ่ม โชนใจเย็นมากขึ้น พยายามใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ใส่ใจบริบทรอบข้างมากกว่าเดิม



เขาคงใจเย็นสุขุมได้ต่อไป ถ้าหากไม่เห็นว่าเอิ้นและเพื่อนคนนั้นกำลังหัวร่อต่อกระซิกกันในร้านอาหารหรู



โชนมารับเอิ้นถึงที่เมื่อถึงเวลานัด ทว่าโทรไปแล้วเอิ้นไม่รับสาย เขาคิดว่าเอิ้นคงปิดเสียงและยังติดธุระอยู่ ทีแรกชายหนุ่มตั้งใจจะรออยู่ในรถ แต่พอเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ความใจเย็นของโชนก็พังทลายลง เขาทั้งเป็นห่วงเอิ้นรวมถึงหงุดหงิดที่อีกฝ่ายไม่ตรงเวลา เดินลงจากรถ ออกตามหาเอิ้นในภัตตาคารหรู



จนมาเห็นภาพนี้



ที่ผ่านมาเอิ้นไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับใครนอกจากป้าภาและลุงรวี โชนจึงไม่เคยเห็นเอิ้นคุยกับคนแปลกหน้าที่เขาไม่รู้จัก ภาพต่อหน้าโชนในยามนี้ นับว่าทำให้ใจเขาปะทุเดือดดาล จิตใจที่เคยเยือกเย็นสงบมาได้หลายปีป่นปี้ไม่เป็นท่า



เอิ้นไม่เคยยิ้มให้ใคร โชนเห็นเอิ้นยิ้มให้กับเขาคนเดียวมาตลอด



เอิ้นแทบไม่คุยกับใครนานๆ โชนเห็นเอิ้นคุยกับเขาเพียงคนดียวมาตลอด



คนขี้หึงที่ไม่เคยหึงมาก่อน คราวนี้โมโหหึงจนเลือดขึ้นหน้า



ถึงอย่างนั้น โชนก็ไม่ได้ไร้มารยาทถึงขั้นอาละวาด แม้ในใจเขาจะจินตนาการภาพตนเองคว่ำโต๊ะอาหารใส่เพื่อนของเอิ้นไปแล้วก็ตาม เขาเพียงเดินเข้าไปหาเอิ้น เอ่ยเสียงเย็น



“คุณเอิ้น ได้เวลากลับบ้านแล้วครับ”



“โชน? มาตอนไหนเนี่ย”



เอิ้นส่งยิ้มให้คนรัก ทว่าอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะสบตา หน้าตาบึ้งตึงของโชนทำให้เอิ้นหุบยิ้ม แววตาของโชนไม้ได้มองมาที่เขา แต่มองไปยังคนที่เอิ้นอ้างว่าเป็นเพื่อน



“มีอะไรหรือโชน อ้อ นี่เพื่อนผม ชื่อตะวัน”



ตะวันเป็นชายหนุ่มตัวสูง ตัดผมสั้น สวมแว่นตา ท่าทางดูดีมีภูมิฐาน ผิวพรรณขาวสะอาดหมดจด แบบที่ดูก็รู้ว่าได้รับการดูแลอบรมอย่างดี แตกต่างจากโชนที่ผิวคล้ำกรำแดด แถมท่าทางดาดๆ ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมาย โชนเห็นแบบนี้ก็อดเปรียบเทียบไม่ได้ คิดว่าอีกฝ่ายเหมาะสมกับเอิ้นในหลายๆ อย่างมากกว่าตนจนน่าหงุดหงิด



โชนเอ่ยสวัสดีอย่างขอไปทีและพยักหน้าให้ตะวันส่งๆ หันมาบอกเอิ้น “กลับกันได้แล้วครับ”



“เอ๊ะ แต่ผมยัง...” เอิ้นลังเล เขากับตะวันยังคุยกันไม่จบเลย แต่เพราะใบหน้าถมึงทึงของโชนทำให้เอิ้นเลือกที่จะเงียบ เหลือบมองตะวันด้วยสายตาขอโทษ ตะวันส่งยิ้มกลับมา คล้ายจะบอกว่าไม่เป็นไร



“ถ้างั้นคิดเงินเลยไหมครับ เดี๋ยวมื้อนี้ผมเลี้ยงเอง”



“เอ๊ะ ไม่เป็นไรหรอกตะวัน แชร์กันเถอะ”



“ไม่เป็นไรๆ เอิ้นรีบกลับเถอะ ไว้คราวหน้าค่อยนัดใหม่”



“อ่า งั้นคราวหน้าให้ผมเลี้ยงตะวันนะ”



“ได้ครับ”



เอิ้นส่งยิ้มให้ตะวัน เอ่ยขอโทษและขอตัวจากไปหาโชนที่เดินนำไปก่อนแล้ว เอิ้นพยายามวิ่งตามคนรักที่หน้าตาบูดบึ้ง โดยที่เอิ้นก็ไม่เข้าใจว่าโชนโกรธเขาเรื่องอะไร



“โชน เป็นอะไรรึเปล่า” ทันทีที่มาถึงตัว เอิ้นก็เอ่ยถาม



โชนไม่ตอบ เดินพาเอิ้นไปยังที่จอดรถ เอิ้นยอมเข้ารถแต่โดยดี



รถนี้เป็นรถของเอิ้นที่ไม่ได้ใช้ จึงเอามาให้โชนยืม แน่นอนว่าทีแรกโชนปฏิเสธแทบตาย แต่สุดท้ายเอิ้นก็อ้างเหตุผลว่าให้ใช้เผื่อขับมารับเขาไปเที่ยวสักวัน ลุงวีในตอนนี้อายุเยอะมากแล้ว เอิ้นไม่อยากรบกวนให้ออกมารับเอิ้นตอนติดธุระยามดึกๆ ดื่นๆ อีก โชนได้ยินดังนั้นถึงได้ยอมเอารถหรูมาใช้



โชนขับรถเป็นตั้งแต่ยังไม่เข้ามหาลัย เพราะเขาต้องช่วยลุงกับป้าทำงานที่ร้านขายของ เป็นเหตุให้บางครั้งเด็กหนุ่มต้องขับรถไปส่งของบ่อยๆ โดยที่คนฝึกให้โชนขับรถเป็นก็คือคุณลุงของเขาเอง



เมื่อประตูรถปิดลง คนชำนาญการขับรถก็ตะบึงออกไปด้วยความเร็วจนเอิ้นร้องท้วงเสียงดัง



“โชน ขับเร็วเกินไปแล้ว!”



“...”



“เป็นอะไรไป บอกผมได้มั้ย โกรธอะไรหรือ”



เอิ้นลดเสียงของตัวเอง พยายามเอ่ยถามอีกฝ่ายอย่างใจเย็น กลัวว่าอารมณ์ร้อนของโชนในตอนนี้จะทำให้เกิดอุบัติเหตุเข้า



“ไม่เห็นรู้เลยว่าคุณเอิ้นมีเพื่อนที่สนิทกันขนาดนี้” ในที่สุด โชนก็ยอมเปิดปาก



“...ตะวันเป็นคนเดียวในมหาลัยที่ผมสนิทด้วย จริงๆ ก็ไม่ได้สนิทกันมากมายขนาดนั้น แต่เพราะไม่ได้เจอกันนาน เลยมีเรื่องให้คุยเยอะเฉยๆ”



“ดูท่าจะเยอะมากเสียจนลืมเวลานัดนะครับ”



“เรื่องนั้น...ผมขอโทษ”



โชนไม่ตอบ ตั้งหน้าขับรถต่อไป แต่ลดความเร็วลงสู่ความเร็วปกติ



ในรถกลับมาเงียบอีกครั้ง ท่ามกลางความเงียบที่ดังสงัด เอิ้นเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน



“โชน...หึงเหรอ?”



คนหึงไม่ตอบอะไร แต่ใบหน้าสีเข้มของโชนขึ้นสี ออกมาเป็นภาพประหลาดจนเอิ้นอดหัวเราะออกมาไม่ได้



“คุณเอิ้น ผมโกรธอยู่นะ”



“ฮะๆๆ ไม่คิดว่าโชนจะหึงนะ”



“ที่ผ่านมาคุณเอิ้นคุยกับใครที่ไหนเล่า แถมกับคนนี้ดูคุยกันสนุกสนานออกหน้าขนาดนี้ คุยเพลินจนลืมผมเลยนะ”



โชนร้องแย้ง ในขณะที่ติดไฟแดง เขาหันหน้ามาเอ่ยข้อแก้ตัวให้ตัวเอง



“ก็บอกแล้วว่าไม่ได้เจอกันนานเฉยๆ”



“แต่ผมไม่ชอบนี่”



“โถ่ โชน~ ตะวันเป็นเพื่อนเพียงไม่กี่คนของผมนะ”



“เนี่ย เรียกกันตะวัน ไอ้หมอนั่นก็เรียกคุณเอิ้นว่าเอิ้น ทีผมขอเรียกคุณเอิ้นว่าพี่ยังไม่ได้เลย”



เอิ้นหัวเราะร่า ขำกว่าเดิมเมื่อรู้เหตุผลเด็กๆ ของโชน



“คุณเอิ้น ผมจริงจังนะ”



“ถ้างั้นโชนเรียกผมว่าเอิ้น ดีไหม”



“ทำไมไม่ให้เรียกพี่ล่ะครับ”



“...” จะให้ตอบยังไงดี โชนดื้อรั้นและมักจะเรียกเอิ้นว่าพี่เอิ้นเฉพาะตอนที่พวกเขาร่วมรักกัน กี่ครั้งกี่ทีที่โชนเรียกเขาว่าพี่เอิ้น เอิ้นก็จะนึกถึงช่วงเวลาน่าอายนั่นทุกที



“เรียกเอิ้นนั่นแหละ ไม่ดีหรือ” เอิ้นไม่กล้าบอกเหตุผล แม้โชนจะสงสัย แต่ก็ไม่วอแว ยอมทำตามที่เอิ้นบอกอยู่ดี



“ครับ เอิ้นก็เอิ้น”



“ครับ โชน”



“คราวหน้าถ้านัดตะวันอะไรนั่นอีก ให้ผมไปด้วยนะ”



“เอ๋”



“ผมไม่ยอมให้เอิ้นอยู่กับหมอนั่นแค่สองต่อสองหรอก สายตาของตะวันนั่นไม่ใช่สายตาที่ดีเลย ผมรู้”



“โชนคิดมากแล้ว”



โชนถอนหายใจ เอิ้นต่างหากที่ไม่รู้อะไรเอาเสียเลย สายตาที่ตะวันมองเอิ้น ไม่ได้คิดบริสุทธิ์แน่ๆ ก็คุณเอิ้นน่ารักขนาดนี้ เขาไม่อยากให้เอิ้นต้องโดนไอ้หมอนี่มองด้วยสายตาที่มากกว่าเพื่อนมองกัน



เอิ้นน่ะ เขามองได้แค่คนเดียวก็พอ



วันนัดหมายของเอิ้นกับตะวันครั้งต่อมามาใกล้กว่าที่คิด โชนติดเรียนภาคบ่ายทำให้ไม่สามารถไปพร้อมกับเอิ้นได้ ชายหนุ่มเพียงส่งเอิ้นที่จุดนัดหมายที่เป็นร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนขับไปเรียน



ตะวันมาถึงก่อนแล้ว ทั้งคู่นั่งคุยกันรออาหารมาถึง



“ผมว่าจะไปเรียนต่อเอกที่ออสเตรเลีย เอิ้นสนใจไหม”



“อืม...ป.เอกเหรอ”



“ใช่ครับ ตอนต่อป.โท ผมชวนเอิ้นไปอังกฤษด้วยกัน เอิ้นก็ไม่ไปนี่นา



“ฮะๆ ผมชอบอยู่ที่ไทยมากกว่านะ” เอิ้นยิ้ม บอกความจริง เขาไม่ได้อยากไปต่างประเทศ แม้ว่าถ้าเขาเอ่ยปากจะไป ครอบครัวเขาก็มีกำลังมากพอที่จะส่งเอิ้นเรียน ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม



“แล้วป.เอกก็ไม่สนเหรอ ไปอยู่ต่างประเทศสนุกนะ ได้เปิดประสบการณ์ เห็นอะไรใหม่ๆ เยอะแยะไปหมด”



“อืม...” เอิ้นครุ่นคิด เขาเคยไปต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยอยู่นาน เอิ้นไม่ชอบอากาศหนาว เพราะฉะนั้นเอิ้นจึงไม่ได้อยากไปอยู่แถบประเทศที่หนาวเกินไป



แต่ถ้าให้เลือกไปประเทศที่อากาศไม่หนาว เอิ้นในตอนนี้ก็ยังไม่มีความคิดจะไปอยู่ดี



เขานึกถึงหน้าโชน เจ้าหมาน้อยตัวโตจะต้องทำหน้าหงอยแน่ๆ ถ้าเขาจะไป



รวมถึงเขาเองก็คงเหงาสุดๆ ถ้าหากไม่ได้เจอโชน



“ผมว่าผมอยู่ไทยนี่แหละครับ” เอิ้นตอบตะวันด้วยรอยยิ้ม



ตะวันเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่อาหารจะมาเสิร์ฟ พวกเขานั่งทานอาหารด้วยกันไปสักพัก ตะวันก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อนอีกครั้ง



“ว่าแต่ ผมถามเอิ้นได้ไหม”



“เรื่องอะไรหรือ”



“เรื่อง...เด็กมหาลัยคนนั้น”



“อ้อ โชนทำไมหรือ”



ตะวันมีสีหน้าครุ่นคิด เกรงว่าคำถามของตนจะทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ ถึงอย่างนั้นก็ต้องการคำตอบอยู่ดี



“เอิ้นคบกันเขาเหรอ...ผมหมายถึง คบแบบคนรัก”



เอิ้นยิ้ม นิ่งเงียบ พยักหน้ารับช้าๆ



“จริงหรือ แต่พวกคุณเป็นผู้ชายทั้งคู่นะ”



“เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับผมหรอกครับ ผม...ชอบผู้ชายน่ะ”



“เอิ้นเป็น...ตุ๊ดเหรอ?”



“เปล่าหรอก...ทีแรกผมก็ไม่คิดจะนิยามตัวเองว่าอะไรเหมือนกัน แต่ถ้าสมัยนี้ล่ะก็ผมคงถูกเรียกว่าเกย์ล่ะมั้ง”



“ผมก็ว่า แต่ไหนแต่ไรมาเอิ้นก็ไม่ได้มีท่าทีเหมือนสาวประเภทสองที่ผมเคยเจอเลย”



“แล้วถ้าผมเป็นตุ๊ด ตะวันจะว่าไงหรือ”



“...ผมก็...ไม่ได้รังเกียจหรอกนะ แค่คง...”



“รู้สึกแปลกๆ เหรอ”



“อืม คงจะเป็นอย่างนั้น”



“ถ้างั้นตอนนี้รู้สึกแปลกๆ ไหม”



“...”



“ถ้าอึดอัดก็บอกได้นะ ผมไม่ว่าอะไรหรอก”



“เปล่า ไม่ใช่เลย กลับกันเลย”



“หืม”



ตะวันมีท่าทีอึกอัก ไม่รู้ว่าความคิดในหัวของตนควรถูกส่งออกมาเป็นคำพูดดีไหม



“ผมว่าเอิ้นน่ารัก”



แต่สุดท้ายเขาก็เอ่ยออกมาด้วยใบหน้าขึ้นสีแดงจางๆ ชายหนุ่มดันแว่นตาตัวเองอย่างประหม่า คล้ายไม่แน่ใจว่าตนสมควรพูดออกไปไหม




ตะวันคิดว่าตนไม่ได้สนใจเพศเดียวกันรวมถึงไม่เคยสนใจเอิ้นมาก่อน แต่พอครั้งนี้ได้กลับมาคุยกันแล้วจิตใจของชายหนุ่มกลับหวั่นไหว เก็บเอาหน้าเอิ้นไปฝันถึงตั้งแต่คืนแรกที่ได้เจอ จากที่คิดว่าคงรู้สึกแปลกๆ กลับแปรเป็นความรู้สึกตัวเองต่างหากที่แปลก



“ตะวันหมายถึงอะไรเหรอ”



“ผมหมายถึง...ผมคิดว่าเอิ้นน่ารักขึ้น จริงๆ ผมคิดว่าเอิ้นหน้าหวานมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่ครั้งนี้พอได้เจอ ความรู้สึกผมเปลี่ยนไป”



“เปลี่ยนไป อย่างไรหรือ...”



“ผมว่าผมอยากทำความรู้จักเอิ้นมากกว่านี้น่ะ ผมชอ...”



“เอิ้นครับ”



ก่อนที่คำสารภาพจะถูกบอกออกมา ตะวันถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเรียกเอิ้นจากคนที่เพิ่งพูดถึงไปเมื่อครู่นี้



“อ้าว โชน...เลิกเรียนแล้วหรือ”



“อ่า ครับ อาจารย์ปล่อยก่อนเวลาน่ะ”



โชนโกหก เขาโดดเรียนมาต่างหาก เพราะตนไม่ไว้ใจตะวัน ดังนั้นหลังจากที่ส่งเอิ้นที่ร้านอาหารแล้ว ตนก็ขับอ้อมรอบหนึ่ง ก่อนนำรถมาจอด และแอบเฝ้ามองเอิ้นอยู่ไกลๆ



จนเห็นท่าทีไม่น่าไว้ใจ จึงรีบเดินออกมาจากที่ซ่อน ขัดจังหวะคนที่อ้างตัวว่าเป็นเพื่อน



โชนส่งสายตามองตะวัน แววตาแข็งกร้าวคล้ายจะบอกอีกฝ่ายว่าตนเป็นเจ้าของเอิ้น ดังนั้นอย่าได้มายุ่งกับคนของเขา



ตะวันยกยิ้ม รู้ว่าตนไม่มีสิทธิ์ในตัวเอิ้นแล้ว



ก่อนหน้านี้ ก็แค่อยากจะลองบอกความรู้สึกในใจดู เผื่อว่าจะมีโอกาสที่เอิ้นจะเปลี่ยนใจหันมามองเขา เขาที่ดูเหมาะสมกับเอิ้นมากกว่าโชน



แต่จากสายตาของเอิ้นที่มองโชนนั้น ก็ทำให้ตะวันเข้าใจทุกอย่างแล้ว



“ขอโทษที่ขัดจังหวะนะครับ คุยต่อได้เลยไม่ต้องสนใจผม”



โชนยกยิ้มให้อีกฝ่าย พร้อมกับนั่งลงข้างเอิ้นอย่างถือวิสาสะ



ดูสิ ไอ้เด็กนี่ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย และคงจะไม่ได้มีฐานะอะไรมากมายแน่ เขาเหมาะกับเอิ้นมากกว่าเป็นไหนๆ ตะวันมองหน้าโชนพร้อมนึกคิด



แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อทั้งใจของเอิ้นไม่ได้มีการเปรียบเทียบถึงลักษณะภายนอก



ไม่ได้สนใจว่าใครจะดีกว่าใคร



สำหรับเอิ้นแล้ว โชนเป็นคนที่ไม่ว่าใครก็แทนที่ไม่ได้



ตะวันเองก็รับรู้แล้ว จึงไมได้ต่อบทสนทนาแสนสำคัญที่ขาดหายไป เขาเริ่มบทสนทนาใหม่ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องหัวใจอีก อย่างน้อยเขาก็ยังได้เป็นเพื่อนของเอิ้นเท่านั้นก็พอ



พวกเขาคุยกันไประหว่างทานอาหาร โดยมีโชนคอยแทรกบทสทนาอยู่บ่อยๆ



หลังจากแยกย้ายกันกลับบ้าน



เอิ้นก็โดนโชนฟัดจนพรุน ข้อหาน่ารักพร่ำเพรื่อ



ร่างสูงกว่าจัดการเอิ้นโยนลงเตียงนุ่ม



โดยไม่เปิดโอกาสให้เอิ้นแก้ตัวใดๆ…







___________________________________



นิดๆ หน่อยๆ พอให้หายคิดถึงงง

#Call123456




หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 11-10-2018 00:46:58
น้องโชน คนขี้หึง :hao3:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวลูกไก่ ที่ 11-10-2018 03:04:41
โถ่ โชน หมดกัน อุตส่าห์ใจเย็นมาได้ตั้งหลายปี 555555
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: rcbpdr ที่ 11-10-2018 11:03:29
หึงหรืออยากกินอยู่แล้ว ห้ะ โชนนน555555555
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 11-10-2018 11:24:20
หัวร้อนหรอหนูโชน  :m12: :m1: :m13:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 11-10-2018 12:14:35
สนุกมากเลยยยยย

อ่านแล้วก็นึก..

คนเขียนกับเรา น่าจะรุ่นเดียวกัน

5555555
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 12-10-2018 12:04:01
เราอยากให้เป็ด แต่เราบวกเป็ดไม่ได้ ขอโทษนะ สนุกมากเลย นังโชนนนนน เอิ้นกินเด็กเป็นอมตะ 555 ขอบคุณมากค่ะสำหรับนิยายดีดี :z2: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 12-10-2018 13:12:31
ชอบมากค่ะ เรื่องน่ารัก ไม่ดราม่า แค่เอิ้นมีปมแต่โชนก็ทำให้ดีขึ้นได้
ยุคนั้นเรื่องชายรักชายยังเป็นเรื่องแปลกประหลาดอยู่มาก
เป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่เข้าใจ เห็นเป็นสิ่งผิดปกติ
จะรักกันแบบเปิดเผยต้องใช้ความกล้าอย่างมาก
โชนนับว่าโชคดีที่เพื่อนๆรับได้
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 12-10-2018 15:33:32
 :pig4: :pig4: :pig4:

ดีนะที่แว่บเข้ามาบอร์ดนิยายจบแล้ว  เลยได้พบว่ามี ตอนสเปฯ ด้วย

งุย ๆ  เอิ้นถูกจัดการโทษฐานน่ารักพร่ำเพรื่อ  อิอิ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 12-10-2018 16:32:43
คุณเอิ้น ยังไม่ยอมเปิดตัวจนถึงตอนจบใจแข็งมาก
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: akashita ที่ 12-10-2018 17:49:21
โชนเอ้ยยย ก็พี่เอิ้นเค้าน่ารักขนาดนี้เลยอยากเก็บไว้มองคนเดียวสินะ 5555
ขอมอบเพลงนี้ให้โชนเลย~ โอ๊ย โอ๊ย อิอิ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-10-2018 18:20:27
ชอบเหตุผลเอิ้นจริงๆ ที่ไม่ให้เรียกพี่ 5555
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 12-10-2018 23:38:47
น่ารักดีแม้ว่ามันจะหน่วงๆไปหน่อย แต่โชนหนักแน่นมั่นคงดี เอิ้นโชคดีแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: kazuribum ที่ 13-10-2018 06:13:05
อยากมีเอิ้นเป็รอบตัวเอง เป็นโชนก็จะไม่ทน ฟัดเช้า กลางวัน เย็นเลย
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: ขอบฟ้าสีจาง ที่ 13-10-2018 09:04:22
รักคุณเอิ้นกับโชน อ่านแล้วมันอุ่นในหัวใจจังเลย ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆให้อ่านอีกแล้วนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 14-10-2018 12:20:07
เข้ามาอ่านโดยบังเอิญ แต่ประทับใจมาก ไรท์ถ่ายทอดความรักของเพศเดียวกันในสมัยก่อนที่ยังไม่เปิดรับความแตกต่างได้เรียล อ่านไปเอาใจช่วยทั้งพี่เอิ้นและโชนเลย ต่างคนต่างความคิด มุมมอง ประสบการณ์ความรักที่เคยเจอมา สารภาพเลยกลัวดราม่ามาก แต่โชนเป็นผช.ที่หนักแน่นมากๆ ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตพี่เอิ้น ขนาดครอบครัวยังถอยห่างและปล่อยให้อยู่คนเดียว ทำเหมือนไม่ใช่คน ไม่ใช่ลูกตัวเอง เศร้าไปกับพี่เอิ้นมากอะ ขณะเดียวกันโชนนี่ก็พระเอกมากกกกกก แต่เสียที่ติดเกมจนลืมไปหาคนพี่ อันนี้คือแบบ แก๊!  แกดีมาตลอดทั้งเรื่อง แค่แกมาตกม้าตายเพราะเกมเนี่ยนะ!!!!.... ตาวนี่มาน้อยๆแต่ก็ตกแม่ยกได้นะ จะมีเรื่องแยกของตัวละครไหมคะ55555555 ตาวเอย คุณตะวันเอยยย ได้อยู่!!!  ขอบคุณนิยายดีๆ เนื้อเรื่องแตกต่างแต่อบอุ่นเรื่องนี้ค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 14-10-2018 19:53:09
เป็นนิยายที่ทำให้คิดถึงบรรยากาศสมัยเด็กๆเลย สมัยที่ยังใช้ตู้โทรศัพท์โทรหากันอยู่ พอได้อ่านแล้วทำให้คิดถึงมากๆ
ชอบทุกๆอย่างในเรื่องนี้ บรรยายได้ดี ทำให้เห็นถึงความเป็นคนที่รักร่วมเพศในสมัยก่อนที่ยังไม่ได้เปิดกว้างเท่าปัจจุบัน
คุณเอิ้นต้องผ่านอะไรมามากมายจนอยากดึงเข้ามากอดแน่นๆ โชคดีที่มีโชนมาทำให้โลกของเอิ้นไม่อ้างว้างอีกต่อไป
ค่อยๆเรียนรู้และทำความเข้าใจกันและกัน
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: yin ที่ 15-10-2018 10:49:22
น่ารักอ่ะ อ่านแล้วละมุนมาก เราเคยอยู่ในยุคที่มีวีดีโอ เทป และคำที่เราผู้ชายที่ชอบชายว่าตุ๊ดอย่างเดียว คิดว่าไม่โอเหมือนกัน เรื่องนี้ทำให้ยิ้มได้มากจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 15-10-2018 14:23:32
แต่งได้น่ารักมากเลยค่ะ  :katai2-1:
อ่านแล้วคิดถึงสมัยนั้นมากเลย  :mew1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 17-10-2018 07:27:25
+เป็ดให้กับความรักของเอิ้น  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 17-10-2018 07:46:32
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่า ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Josett ที่ 17-10-2018 15:59:30
แงงงงงง จำได้ว่าช่วงป.6ชอบเอาเบอร์ตู้โทรไปหารุ่นพี่ที่ชอบละบอกโทรผิดประจำโคตรแก่แดด
แต่มันน่ารักจริงๆนะ โคตรชอบเรื่องนี้เลยยย น่ารักกกกกกก
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 19-10-2018 22:41:42
สุดท้ายก็ลงตัว ลงเอยด้วยดี

โชคดีที่โชนเข้ามา ตอนที่โชนโทรหาอีกครั้ง คือโชคชะตาจริงๆ
ถึงจะเด็กกว่า แต่ความคิดไม่เด็กนะ โชนทำได้ดีเลยล่ะค่ะ
เพื่ออยู่เคียงข้าง รักและดูแลคนที่รัก และหัวใจที่บอบช้ำ

สงสารเอิ้นนะ ถูกคนอื่นรังแก ทำร้าย ก็ยังเจ็บไม่เท่าคนในครอบครัว
อยู่ได้คนเดียวมาจนถึงตอนเจอโชน และทำตัวดี คือดีมากแล้ว

เรื่องยอมรับได้ ไม่ว่าสมัยไหนก็ยังมี ไม่หายไป มันเจือจางอยู่ตลอดเวลา

ขอบคุณมากนะคะสำหรับเรื่องราวดีๆ ลุ้นตลอด
กลัวโชนทิ้งเอิ้นมาก กลัวเอิ้นเสียใจอีก
แต่สุดท้าย โชนเอิ้นคือคนที่เข้มแข็ง เข้าใจและเรียนรู้กัน


หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: cookie8009 ที่ 19-10-2018 23:17:58
ทั้งเรื่อง ทัศนคติของสังคม ทั้งเรื่องเพลงอัสนี วสันต์  หรือการใช้โทรศัพท์

น่าสงสัยว่า แต่งตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือ background เป็นปีอะไร
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 21-10-2018 01:07:58
งืออออ โชนขี้หึงขนาดนี้ คุณเอิ้นก็ยังทำตัวน่ารักไม่เลิก โชนเลยหึงไม่หยุดเลยเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: แมว ที่ 21-10-2018 19:30:32
ชอบโทนเรื่องมากๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 05-11-2018 00:52:52
 :haun4: แหมมมมมข้ออ้างในการฟัดก็ว่ามาเถอะขนาดนี้แล้ววว หึงหื่นนี้ 555555
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 05-11-2018 14:35:04
นิยายดีมากค่าาา ชอบๆ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: numildkub ที่ 07-11-2018 03:44:52
อ่านแล้วคิดถึงสมัยเด็กๆที่ชอบโทรไปแกล้งคนนู้นคนนี้
หรือเวลาที่รอแม่มารับแล้วติดต่อแม่ไม่ได้เพราไม่มีโทรศัพท์
ซึมซับบรรยากาศมาก ชอบความพัฒนาของตัวละคร
ไม่เวิ้นเวอเกินไป เนื้อหาพอดีมาก ชอบนิสัยของพระเอกมาก
ขอบคุรนักเขียนมากนะคะที่รังสรรค์ตัวละครที่เีๆแบบนี้ออกมา ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 1 |2.8.2018|
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 13-11-2018 05:15:06
อ่านแล้วคิดถึงตัวเองตอนเด็ก โทรไปขอเพลงให้ตัวเอง 555

คุณเอิ้นดูเหงาๆ นะ มันดูหน่วงๆ ไงไม่รู้ แต่ว่านะผญคนนั้น

ใช่คุณเอิ้นหรือเปล่านะ แล้วถ้าใช่ทำำมคุณเอิ้นต้องแต่งหญิง
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งที่ 7 |20.8.2018| p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 13-11-2018 06:17:04
ตลกป้าภา :laugh:  คุณเอิ้นน่ารักมากๆ เลย อยากบีบ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 13-11-2018 07:21:49
ดีต่อใจมากค่ะ โชนดีเว่อร์ อบอุ่น อ่านเรื่องนี้ละนึกได้อีกเรื่อง

คือก่อนโทรต้องห้ามลืมกด1234นะ จะได้ถูกๆ 555

ขอบคุณนะคะ สนุกมากๆ เลย ไม่ถือว่าม่าเท่าไหร่ ดีต่อใจมาก
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: wetter ที่ 05-12-2018 21:40:55
น่ารักมากกก ชอบบรรยากาศของเรื่องนี้ :L2:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Carina ที่ 31-01-2019 22:00:05
เรื่องละมุนมากค่ะ คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ เลย ขอบคุณมากนะคะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Honeyhoney ที่ 04-07-2019 04:29:06
สนุกมากกกก ไม่อยากให้จบเลยค่า
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Peachme ที่ 04-07-2019 08:54:04
น่ารักเป็นที่สุดเลยค่ะ ฮื่อออ อบอุ่นใจมากๆเลย
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 05-07-2019 14:30:57
น่ารักกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: palm-metto ที่ 05-07-2019 19:22:15
ดีมากกกกก สนุกมาก อบอุ่น
ได้เข้าใจถึงบริบทของตัวละคร หรือคนสมัยก่อนที่เค้าเป็นเกย์ และไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้เลย ..
มีความน่ารักกรุบกริบ ดราม่านิดหน่อย พอให้เข้าใจถึงชีวิต
สรุปคือ ดีมากกกก ภาษาสวย อ่านได้ไหลลื่น
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: mhaparn ที่ 05-07-2019 20:18:30
ฮือออออ น่ารักมาก สงสารคุณเอิ้นแต่ตอนนี้คุณเอิ้นมีโชนแล้ว อ่านแล้วเหมือนตัวเองได้ย้อนกลับไปในยุคนั้นเลย โทรไปขอเพลงกับดีเจบ้าง แอบเขียนจดหมายไปฝากบ้าง ต้องเดินไปหยอดตู้โทรหาคนที่เราชอบ  :mew3:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— โทรครั้งพิเศษ 1 |10.10.2018| p.6 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: WaG ที่ 05-07-2019 23:36:24
ความสัมพันธ์ของพี่เอิ้นกับโชนละมุนมากจริงๆ แม้ว่าคนนึงจะคิดมาก อีกคนจะใจร้อนไปหน่อย แต่สุดท้ายทั้งสองก็ค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากันจนได้ ชอบการดำเนินเรื่องของนีกเขียนมากเลยค่ะ ค่อยเป็นค่อยไป ให้เราค่อยๆ รักตัวละคร สำหรับสมัยนั้นคงไม่ง่ายเลยที่จะเปิดเผยตัวตน แต่ก็ขอบคุณเพื่อนๆ โชนมากที่เข้าใจความรักของพี่เอิ้นกับโชนน้า เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนนะคะ :3123:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Raccool ที่ 07-07-2019 14:52:33
สวัสดีค่ะ
ตอนนี้คุณเอิ้นกับเจ้าโชนมีรูปเล่มออกมาให้ได้จับต้องกันแล้วน้า
ราคาหนังสือ 240 บาท และได้ตีพิมพ์กับสนพ.ดีปค่ะ
ใครสนใจสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายหนังสือทั่วไปหรือติดต่อได้ทางเว็ปสนพ.ค่า

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้นะคะ


Raccool

(ตัวอย่างรูปเล่ม)

(https://www.img.in.th/images/a3828a07ba2383764a66a8b3a7e08817.jpg)


หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: BuzZenitH ที่ 08-07-2019 08:30:25
อ่านรวดเดียวจบ โคตรน่ารักกกก  :-[ จั๊กจี้หัวใจมากกกก
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: MinQK ที่ 10-07-2019 08:23:23
ชอบอ่านแนวนี้มากค่า ย้อนยุคเก่าๆ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: MinQK ที่ 10-07-2019 14:08:43
แง้ ดีใจที่เห็นโชนหึงบ้าง  เอ หรือหาเรื่องหึงเพื่อแกล้งพี่เอิ้นน้า
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 10-07-2019 23:04:43
น่ารักกกกกกก...ก เหมือนจะดราม่าแต่ยังดีที่แฝงความน่ารักเอาไว้ ขอบคุณสำหรับนิยายจ้า :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Monnee ที่ 13-07-2019 19:53:02
 :katai2-1: :katai2-1:
เรื่องร่วน่ารักมากเลยย.. เป็นการฝึกยอมรับและใส่ใจกันและกันมากกว่าสายตาคนอื่นมาตัดสินใจ.. แต่ที่ชอบสุดก็คือ... การโทรศัพท์​ตู้หยอดเหรียญเนี่นแหละ... มันเป็นสิ่งน่าประทับใจของคนรุ่นนั้นมาก.. ไหนจะตู้เสีย.กระบอกโทรศัพท์​โคตรเหม็น.. กับไอคนก่อนหน้ามันกำเหรียญมา.. ต้องเดินวนๆกดดันกัน5555.. หมดกันกะการเผยอายุวัย :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPoe ที่ 21-07-2019 01:46:41
น่ารักมากกกก
ตอนคุณเอิ้นเขิน เราก็เขินตาม
พอตอนหน่วงๆ ก็อยากจะร้องไห้ สงสารคุณเอิ้นน :hao5:
ขอบคุณมากนะคะ เรื่องน่ารักมากๆเลย อ่านรวดเดียวจบ
อ่านแล้วรู้สึกใจฟูมาก นึกถึงบรรยากาศสมัยเด็กๆ เลยค่ะ :-[
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: dekfad ที่ 01-08-2019 06:41:55
อ่านจบแล้วสนุกมากค่ะ อบอุ่นมาก นึกออกเลยว่าสมัยนั้นคุณเอิ้นต้องเครียดมากแน่ๆ ดีใจที่มีโชนเข้ามา คุณเอิ้นจะไม่เหงาอีกต่อไปแล้วววว
เป็นกำลังใจให้ในการเขียนงานต่อๆไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: tutatoomtam ที่ 03-08-2019 09:32:50
โชนนนน เจ้าบ้าาาาา เขินจะตายอยู่แล้วววว
เอิ้นก็น่ารักกกก น่ารักแบบอยากพับเก็บใว้ที่บ้าน แงงงงงงงง :sad4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: toomild ที่ 04-08-2019 22:59:00
อ่านรวดเดียวจบนี่เกือบตายเลยค่ะ ร้องไห้หนักมาก มุมที่คุณเอิ้นเจอนี่น่าสงสารมากจริงๆค่ะ ทั้งถูกเพื่อนบุลลี่ ถูกสังคมรังเกียจ หนักสุดเห็นจะเป็นเรื่องครอบครัว ดีใจที่คุณเอิ้นมีคุณโชน ผ่านอะไรกันมาเยอะมาก อยากให้มีความสุขกันแบบนี้ไปตลอดเลย ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ :hao5:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: YLibraryRoom ที่ 13-08-2019 14:28:59
นังโชนนนนนนนนน ร้อนแรงอะไรขนาดน้านนนนน :pighaun:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: PanGii ที่ 13-08-2019 21:06:03
งื้ออออออออ น่ารักตั้งแต่เริ่มจนจบเลย รักพี่เอิ้น~
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Gimlongdeep ที่ 03-10-2019 22:17:28
มันน่ารักมากๆเลยค่ะคุณขาาาาาาาาาาาา

แง้ อ่านไปแบบอารมณ์ส่งเพลงให้ฟังหาที่อยุ่บ้านเขา เบอร์งี้ งื้อออออออ  เอิ้นน่ารักกอายม้วนต้วนนน
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: oohsg94 ที่ 31-12-2019 10:21:50
น่ารักมากๆเลย แงง หอมกลิ่นความร๊ากกกกก :กอด1:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: nyxca ที่ 19-03-2020 17:51:51
โอ้ยย เรื่องนี้คือดี ความดีงามที่ชั้นตามหาาาา งื้อ><

เราสงสารเอิ้นมาก ทำไมเอิ้นต้องถูกกีดกันจากครอบครัว ความน้อยเนื้อต่ำใจนี่จะไปเอาคืนได้ที่ไหนและใครจะทดแทน โอ้ย เสียใจอะ แต่ยังดีที่เอิ้นมีโชน น้องโชนคือดี ถึงแม้น้องจะมีมุมติดเกมส์บ้าง แต่มันเรื่องปรกติมากๆ

อยากให้น้องเอิ้นมีความสุขตลอดไปเลย หอมหัว ขอบคุณคนเขียน สนุกและดีย์จริงๆ คอนเฟิมต้องอ่านให้ได้นะทุกคน
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: piakunaa ที่ 26-03-2020 17:39:59
น่ารักกกกกกกกกกก​ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 09:03:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: kimhamwong ที่ 16-04-2020 21:32:02
 สงสารเอิ้นอ่ะ   ขอบคุณโชนที่โทรหาพี่เอิ้นในตอนนั้น
หัวข้อ: Re: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
เริ่มหัวข้อโดย: Fahbeamx ที่ 21-06-2020 09:54:40
กลิ่นความสมัยก่อนมากๆ ภาษาสวยมากค่ะ ชอบมากๆเลยตอนอ่านแรกๆคือสงสารเอิ้นมากเมื่อก่อนเรื่องแบบนี้ก็รับได้ยากอะเนอะแต่ก็ผ่านมันมาได้แล้ว หึ่ย น้ำตาไหลไปหลายทีเหมือนกัน ชอบมากๆเลยค่ะ