——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ——Telephone #call123456—————— แจ้งข่าวรวมเล่ม |7.7.2019| p.7 (END)  (อ่าน 49903 ครั้ง)

ออฟไลน์ kosmos

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ตาวมาดี~ โอเคฮะ

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
มั่นใจในตัวเองนะคุณเอิ้น เป็นเราดีที่สุด  :mew1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ตาวมาดีจริง ๆ ก็ดีไป

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
นอนกอดกันในคืนวันฝนตกอากาศเย็นๆ มันก็โรแมนติกออกนะ ถึงในห้องจะมีตาวอีกคนก็เถอะ :hao3:

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
โทรครั้งที่ 9______________________



Call 64



“วันหลังไม่เอาแล้วนะ” เอิ้นบ่น กรอกเสียงตัวเองใส่โทรศัพท์



“ทำไมล่ะ ตาวก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”



“ไม่ ไม่...” ไม่ได้ว่าไม่ได้แปลว่าโอเคนี่



การที่เขานอนกกกอดกับโชนในเตียงเดี่ยวแคบๆ แบบนี้ เพื่อนที่ไหนเขาทำกัน ตาวต้องมองเขาแปลกๆ แน่ ดีไม่ดีอาจจะคิดรังเกียจโชนก็ได้



หลังจากคืนนั้น เขาตื่นมาด้วยความตกใจที่ตนนอนซุกอยู่ในอ้อมแขนอีกฝ่ายอย่างใกล้ชิด มันคงจะไม่เป็นกังวลมากถ้าหากที่ที่พวกเขาอยู่นั้นมีแค่กันเพียงสองคน แต่เพราะมีตาวอยู่ด้วยทำให้เอิ้นกระวนกระวายอย่างหนัก ตนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาก็เห็นตัวเองถูกกอดแล้ว



ตาวเองก็คงต้องเห็นภาพนี้แล้วแน่ๆ



เอิ้นยังไม่พร้อมให้ใครรับรู้ความสัมพันธ์ของพวกเขา



เขาเก็บความรู้สึกนี้มาตลอดจนกระทั่งโชนพาเอิ้นมาส่งถึงบ้านและกลับไป จนโทรมาหาใหม่ตอนเย็นวันนั้น



“คุณเอิ้น เพื่อนผมไม่ได้ใจแคบขนาดนั้นหรอกนะ”



ไม่เชื่อหรอก เชื่อไม่ได้หรอก



“คุณเอิ้น คนที่เป็นแบบคุณเอิ้นก็ใช่ว่าจะไม่มีอยู่เลยเสียหน่อย ผมก็มีเพื่อนที่เป็นสาวประเภทสองเหมือนกัน ตาวก็ด้วย มันไม่คิดมากเรื่องพวกนี้หรอก”



ไม่ได้หรอก ยังไงก็ไม่ได้



“ถ้าคุณเอิ้นยังเอาแต่สนใจเรื่องสายตาคนอื่นอยู่แบบนี้ คุณเอิ้นก็จะไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าเลยนะ”



“ก็พูดได้สิ โชนไม่เคยเจอแบบผมนี่”



“...”



“...ขอโทษ”



“ขอโทษทำไมครับ”



“ไม่รู้...”



“คุณเอิ้น คุณจะขอโทษทั้งที่ตัวเองไม่ได้ผิดไม่ได้นะครับ”



“อือ...” เขารู้หรอก เพียงแค่เอิ้นรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่พูดไปแบบนั้น เขารู้ว่าโชนเป็นห่วงเขา แต่เพราะโชนไม่เคยเจอแบบเขาเลยพูดได้น่ะสิ



สายตาทุกคู่ที่มองมาที่ตัวเองราวกับจู่ๆ ตนก็เป็นคนผิด



สายตาของใครหลายคนที่เขาไม่รู้จักจับจ้องมาเพื่อเชือดเฉือนกัน ล้มความภูมิใจในความเป็นมนุษย์ของเขาเพียงเพราะเขาไม่ใช่อย่างที่คนปกติเป็น



 “คุณเอิ้นคงยังไม่พร้อมจะพูดอะไรใช่ไหม”



“...”



“งั้นวันนี้ผมวางสายก่อนนะ”



“อ่า...” เอิ้นตั้งท่าจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่มีอะไรสักอย่างออกไป



“ฝันดีล่วงหน้านะครับคุณเอิ้น”



“อืม”



แล้วโทรศัพท์ก็ถูกวาง



Call 65



เอิ้นถอนหายใจใส่หนังสือเป็นรอบที่ร้อยของวัน เขาทำวิทยานิพนธ์ป.โทในยามกลางวัน เพียงแต่วันนี้เอิ้นไม่มีสมาธิเอาเสียเลย ตั้งแต่วันนั้นที่คุยกับโชน เอิ้นก็คิดมากขึ้น มากขึ้น



ใช่ว่าเขาอยากจะสนใจสายตาคนรอบข้างเสียหน่อย



แต่ความหลังมันฝังใจจนยากที่จะลืม



เอิ้นอยากโทรหาโชน ชวนโชนไปเที่ยวด้วยกันที่ไหนสักที่ ติดที่โชนไม่มีโทรศัพท์สำหรับติดต่อ ครั้นจะให้โทรหาตาวก็คงจะดูแปลกๆ



ว่าแล้วว่าควรจะซื้อโทรศัพท์ให้จริงๆ



แต่ไม่นานหลังจากที่เอิ้นคิด โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา



โชนชวนออกไปเที่ยวอย่างที่เอิ้นต้องการ ชายหนุ่มรู้สึกดีใจจนหัวใจพองโต รีบไปถึงที่นัดหมายโดยลืมเปลี่ยนชุด แต่งตัวให้เป็นผู้หญิงเหมือนทุกที



“คุณเอิ้น ทางนี้”



เอิ้นหันไปตามเสียงเรียก สองเท้าวิ่งไปหาต้นเสียง โชนเองก็เดินมาหาเอิ้นเช่นกัน จนพวกเขาพบกันคนละครึ่งทาง



“โทษทีที่ชวนมากะทันหันนะครับ” โชนเอ่ยก่อน



“ไม่เป็นไร ผมว่าง” แล้วก็อยากเจอคุณด้วย ให้ตาย เอิ้นคิดถึงโชนจัง ทั้งๆ ที่เมื่อวานก่อนก็เพิ่งเจอกันไป แถมนอนกอดกันด้วย



“ถ้างั้น ไปเลยไหมครับ”



“อื้ม”



โชนพาเอิ้นเข้าสู่ห้างสรรพสินค้า เขามีเป้าหมายว่าจะซื้อของขวัญวันเกิดให้เพื่อน ติดตรงที่วันเกิดนั้นก็ใกล้มาถึงแล้วและโชนเพิ่งนึกขึ้นได้ ทำให้โชนต้องรีบหาของขวัญ พอคิดเช่นนั้นก็นึกถึงเอิ้น จึงได้เชิญชวนมาช่วยกันเดินเลือกของขวัญ



“โชน...เรื่องเมื่อตอนนั้น” เอิ้นเริ่มเอ่ยถึงประเด็นที่พวกเขาคุยกันค้างไว้ในโทรศัพท์



“ไม่เป็นไรหรอก ผมจะพยายามเข้าใจคุณเอิ้นแล้วกันนะ ไม่ต้องคิดมาก”



“อือ” เอิ้นตอบรับเสียงแผ่ว



เอิ้นเดินตามโชนไปตามแผนกต่างๆ เพราะตนไม่ได้มีของที่อยากได้ โชนเดินผ่านจุดนี้ไปจุดนี้ก็ยังหาของขวัญที่ถูกใจไม่ได้สักที จนกระทั่งโชนเดินผ่านร้านขายเครื่องดนตรี ขายาวถึงได้หยุดชะงัก



“จะซื้อกีตาร์ให้เพื่อนเหรอ”



“ฮ่าๆ ไม่ใช่หรอกคุณเอิ้น ผมไม่มีเงินขนาดนั้น”



“แล้วมองกีตาร์ตัวนี้ทำไมหรือ”



“อยากได้น่ะ”



“อ๋อ...แต่ว่าที่ห้องโชนก็มีกีตาร์อยู่ตัวหนึ่งไม่ใช่เหรอ” เอิ้นเอ่ยถาม เขาจำได้ว่าในห้องขอโชนมีกีตาร์โปร่งตัวหนึ่งวางพิงอยู่ข้างโต๊ะอ่านหนังสือของโชน



“หรือว่าอันนั้นของตาว?”



“เปล่าหรอก ของผมนี่แหละ แต่ที่มองอันนี้เพราะมันเป็นรุ่นเดียวกับที่พ่อผมใช้”



“...” เอิ้นเงียบ เขารู้ว่าพ่อแม่ของโชนเสียไปนานแล้ว และตอนนี้โชนมีคุณลุงคุณป้าช่วยเลี้ยงดู



“พอพ่อเสีย กีตาร์ตัวนั้นก็เสียตาม ผมเลยเก็บตังซื้อกีตาร์อีกตัวที่ราคาถูกกว่า”



“...”



“พอมาเห็นมันอยู่ตรงนี้แล้วก็เลยอยากได้ขึ้นมาน่ะ”



“ให้ผม...”



“หยุดเลยคุณเอิ้น ห้ามซื้อให้ผมนะ” โชนร้องห้ามก่อนที่คนตัวเล็กจะได้พูดอะไรออกไปเสียอีก ฝ่ามือใหญ่วางบนหัวของเอิ้น ออกแรงขยี้เบาๆ “ผมมีกีตาร์ของตัวเองอยู่แล้ว ไม่คิดจะอยากได้เพิ่มหรอก แค่เห็นแล้วคิดถึงเฉยๆ...”



โชนกล่าว ยกมือออกจากหัวเล็กๆ ของเอิ้น  เดินนำไปอีกทาง



บรรยากาศของพวกเขาเงียบเชียบแม้อยู่ท่ามกลางฝูงชน จนเอิ้นต้องเป็นฝ่ายหาเรื่องคุยขึ้นมา เพราะอีกฝ่ายเหมือนจะจมดิ่งอยู่ในความทรงจำของตัวเอง



“โชนเล่นกีตาร์ได้ใช่ไหม”



“หืม อืม เล่นได้ครับ”



“เล่นเพลงอะไรได้บ้าง”



“เอ...ก็ได้หลายเพลงนะ ถ้าเปิดคอร์ดดู”



“งั้น...โชนชอบเล่นเพลงอะไรเหรอ”



“คุณเอิ้นถามทำไมครับเนี่ย” โชนกล่าวพร้อมกลั้วเสียงหัวเราะ เขาไม่เคยเห็นเอิ้นชวนคุยขนาดนี้มาก่อน “แต่ผมชอบเล่นเพลง Hotel California นะ”



“ทำไมล่ะ”



“เล่นยาก ก็เลยฝึกนาน พอฝึกนานก็เลยชอบ” โชนตอบ ก่อนพุ่งเข้าร้านขายนาฬิกา “คุณเอิ้นว่าอันนี้ดีไหม”



โชนสอบถามเอิ้นถึงรูปแบบของนาฬิกาหลายๆ เรือน และหลังจากนั้นเอิ้นก็ไม่ได้ชวนคุยเรื่องดนตรีอีก



Call 66



สุดท้ายโชนก็ได้นาฬิกาข้อมือมาเรือนหนึ่งเป็นของขวัญให้เพื่อนสมใจ แม้เขาว่าการให้นาฬิกาให้กันจะหมายถึงการเลิกรากันเมื่อนาฬิกาหยุดเดิน แต่โชนค่อนข้างหัวสมัยใหม่ ไม่ได้ถือสาอะไร เพราะไม่เช่นนั้นก็คงต้องปวดหัวกับของขวัญมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า



ตอนนี้เองก็เย็นมากแล้ว เขาจึงชวนเอิ้นไปทานอาหารเย็นด้วยกัน แน่นอนว่าเอิ้นไม่ปฏิเสธ และพยายามทำตัวไม่ใกล้ชิดกับโชนจนเกินไป



จบมื้อเย็น พวกเขาออกมาเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าอีกครั้ง



“คุณเอิ้น เราไปดูร้านขายกีตาร์ตรงนั้นอีกครั้งได้ไหม ผมอยากดูราคา เมื่อกี้ลืมดูไปเลย”



“เอาสิ”



จบคำ โชนคว้ามือเอิ้นมาจับไว้ ออกตัวเดินนำทางจูงคนตัวเล็ก ทว่าไม่ได้ไม่กี่ก้าว เอิ้นก็สะบัดมือออกอย่างรวดเร็ว



“พ...เพื่อนผู้ชายเขาไม่จับมือกันนะ” เอิ้นว่า



“แล้วไง ผมไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นแฟนคุณเอิ้นนี่”



“แต่ที่นี่มันกลางห้าง”



“แล้วไม่ได้เหรอครับ”



“ก็เคยบอกไปแล้วไง...”



โชนถอนหายใจ คว้ามือเอิ้นมาจับไว้อีกครั้ง “คุณเอิ้นไม่ต้องไปสนใจสายตาคนอื่นหรอก”



เอิ้นพยายามสะบัดมือทิ้ง ยั้งตัวไม่ให้โชนจับจูงเขาไปไหนได้ จนเกิดเป็นสถานการณ์พิลึก



“ถ้าคุณเอิ้นยังรั้งอยู่แบบนี้ เกรงว่าจะเป็นที่สนใจกว่าเดินจับมือกับผมนะ”



“โชนก็ปล่อยสิ”



เจ้าของชื่อโชนตอบกลับด้วยการกระชับมือแน่นกว่าเดิม “ทำไมถึงสนใจสายตาคนอื่นนักล่ะ”



“โชนชอบเหรอ เวลามีคนมองมาที่เราแปลกๆ”



“ก็ไม่ต้องไปมองสิครับ”



“ไม่มองก็รู้อยู่ดีว่าเขามอง ปล่อยผมได้แล้ว”



“คุณเอิ้นก็อย่าไปสนใจสิ เขาจะมองจะคิดยังไงก็เรื่องของเขา เรารู้กันสองคนไม่ได้หรือ”



“ถ้างั้นเราก็รู้กันแค่สองคนอยู่แล้ว จะจับมือไปทำไม”



“คุณเอิ้นคิดว่าผมขอเป็นแฟนเพื่ออะไรล่ะ เพื่อให้ทำตัวเป็นเพื่อนคุณเอิ้นเหรอ”



“...”



“แค่จับมือเอง”



เอิ้นจ้องเข้าไปในตาของโชนอย่างไม่มั่นใจ จนกระทั่งเขาได้ยินเสียงซุบซิบจากคนรอบข้างดังขึ้นมา



ฝ่ามือเล็กที่ถูกจับไว้แน่นพลันสะบัดออกอย่างแรง เอิ้นถอยหลังไปหนึ่งก้าว เงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้าที่บัดนี้แววตาไม่เหมือนเดิม



โชนจ้องเอิ้นด้วยสายตาว่างเปล่า



เขาหมุนตัวเดินนำ โดยไม่สนว่าเอิ้นจะเดินตามมาหรือไม่



Call 67



สุดท้ายระหว่างพวกเขาก็ไม่มีเสียงพูดคุยอะไรอีกเลยนอกจากโชนบอกให้เอิ้นโทรเรียกลุงวีให้มารับ ส่วนตัวเขาก็ขึ้นรถสองแถวจากไปโดยไม่รอให้ลุงวีมารับเอิ้นก่อนเหมือนทุกที



และในคืนนั้นก็ไม่มีสายใดเรียกเข้ามา



เอิ้นรู้ตัวว่าทำให้โชนโกรธเสียแล้ว...



ไหนว่าจะพยายามเข้าใจกันไง...



เขาอยากโทรไปง้อโชน ติดที่โชนไม่พกโทรศัพท์...แน่นอนว่าเขาไม่โทรไปหาตาวด้วยเรื่องแบบนี้หรอก



เอิ้นครุ่นคิดสักพัก ก่อนตัดสินใจไปหาโชนในวันพรุ่งนี้



เขาจำได้ว่าโชนเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ แต่เพราะคณะนี้ก็ไม่ใช่เล็กๆ ทำให้เอิ้นเดินวนไปวนมาหลายที แล้วเขาจะหาโชนเจอได้อย่างไรกันเล่า คราวนี้ไม่บังเอิญเจอเพื่อนโชนเหมือนที่แล้วมา เอิ้นได้แต่เดินวนอยู่อย่างนั้น



จนกระทั่งได้ยินเสียงดังชุดใหญ่มาจากลานบาสที่เอิ้นเพิ่งเดินจากมาเมื่อครู่ ทำให้ขาสองข้างเดินกลับไปยังจุดเดิมอีกครั้ง



และเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ก็ดังขึ้น



กลุ่มนิสิตคณะวิศวกรรมปีหนึ่งจำนวนสิบกว่าคนต่างพากันมามุงเจ้าของวันเกิด เอิ้นไม่ได้เข้าไปร่วมวง เพียงยืนมองห่างๆ และก็ได้ทันเห็นว่าเจ้าของวันเกิดคือกานต์ เพื่อนผู้หญิงของโชนที่เอิ้นได้รู้จักในร้านเดิม



จบเพลง เพื่อนๆ ต่างพากันบอกสุขสันต์วันเกิดให้เจ้าของวันเกิด และมีเพียงโชนที่นำของขวัญมาให้



“โห ไอ้โชน อะไรวะ ไปแอบซุ่มซื้อของขวัญมาให้ จีบไอ้กานต์มันป่ะเนี่ย”



“เห้ย จะบ้าเหรอ กูกับกานต์เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแล้วหรอก”



“ฮั่นแหน่ เพื่อนกันวันนี้ แฟนกันวันหน้าก็ได้นะเว้ย”



“เลิกล้อเลยไอ้สัด กูมีแฟนแล้ว”



“เออ พวกมึงไม่ต้องล้อเลย กูกับไอ้โชนสนิทกันตั้งแต่มัธยมแล้ว กูไม่เอามันหรอก”



“พูดดีนักนะไอ้กานต์ ระวังจะหวั่นไหวเองน้า”



“ไอ้บ้า”



สารพัดเสียงเอ่ยแซวกานต์กับโชนไม่ได้เข้าหูเอิ้นอีก เพียงแต่ภาพตรงหน้าที่โชนหยอกล้อกับสาวน้อยที่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันทำให้เอิ้นใจกระตุก เขาไม่อาจเรียกความรู้สึกนี้ว่าหึงหวง เพียงแต่มันทำให้เอิ้นระลึกได้ถึงอะไรบางอย่าง



สองขาหมุนตัวกลับ ออกจากกลุ่มเด็กวิศวะและคนที่ตนต้องการมาหามากที่สุด



ในตอนนั้นเอง เอิ้นรู้ตัวแล้ว ว่าเพศสภาพของตนคืออะไร และสิ่งที่โชนคู่ควรคืออะไร



อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เขา...



Call 68



โชนไม่ได้โทรหาเอิ้นมานานนับสัปดาห์แล้ว เขาได้แต่จ้องมองโทรศัพท์ด้วยใจเหม่อลอย ยิ่งโชนไม่โทรมายิ่งตอกย้ำความคิดของเอิ้นให้มันเป็นจริงมากยิ่งขึ้น



ถึงตอนนั้นเอิ้นจะได้ยินโชนบอกกับเพื่อนเต็มสองรูหูห็เถอะว่ามีแฟนแล้ว



แต่ใช่ว่าจะเป็นคู่ชีวิต



ไม่เร็วก็ช้า อย่างไรเสียพวกเขาก็คงต้องจบความสัมพันธ์นี้ลงเข้าสักวัน



เอิ้นควรจะรู้ถึงข้อนี้นานแล้ว แต่กลับไม่เคยนึกถึงมันเลย เพราะที่ผ่านมามีความสุขมากจนเกินไป เขาควรรู้ตัวแท้ๆ ว่าการคบเพศเดียวกันอย่างนี้มันเป็นไปได้ไม่นานหรอก



ในไม่ช้าก็คงต้องเลิกรากันไป



โชนคงต้องแต่งงานมีลูกมีหลานเหมือนคนทั่วไป เรื่องราวในช่วงนี้จะกลายเป็นความทรงจำในที่สุด



ระหว่างความคิด



เอิ้นน้ำตาไหลออกมา



Call 69



โทรศัพท์เงียบสงัด ไม่มีใครโทรเข้ามาตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ เอิ้นตั้งหน้าตั้งตาทำวิทยานิพนธ์ แต่ก็เหลือบมองโทรศัพท์ตัวเองเป็นพักๆ วันไหนที่ต้องออกไปหาข้อมูลที่ห้องสมุด กลับมาก็ต้องถามป้าภาเสมอว่ามีใครโทรรึเปล่า



แน่นอนว่าคำตอบคือไม่



เอิ้นใจเสีย เขาไม่รู้ว่าโชนจะโกรธหนักขนาดนี้ แถมด้วยความคิดที่เอิ้นคิดได้เมื่อครานั้นยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยๆ เจ็บปวดเสมอยามนึกถึง



เขาเขียนจดหมายไปสอดไว้ที่ประจำ หวังว่าโชนจะมาเห็นมันเข้าและโทรมาหาเอิ้นบ้าง เพียงแต่หลังจากที่เขาเขียนจดหมายไปให้โชนก็ปาไปเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์มาแล้ว ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ส่งกลับมา



รวมถึงจดหมายของเอิ้นก็ไม่ถูกใครเก็บไปด้วย



เอิ้นใช้หมอนแทนผ้าเช็ดน้ำตามาหลายคืนแล้ว โชนที่เป็นหัวใจของเอิ้นกำลังจะหายไป ความรักของเอิ้นแม้ไม่ได้ลดลง แต่มันก็ไม่มั่นคงแล้วเช่นกัน



ความรู้สึกเสียใจ น้อยใจเข้าถาโถมเข้ามาใส่พร้อมๆ กับความรู้สึกที่บอกให้ตัวเองทำใจ อย่างไรเสียพวกเขาทั้งสองคนก็ต้องมีวันเลิกรากันอยู่ดี



เอิ้นปาดน้ำตา ยกมือวักน้ำล้างหน้าตัวเอง



ในเมื่อโชนไม่โทรมา และเขาก็ติดต่อหาอีกฝ่ายไม่ได้ ความเครียดถาโถมเข้ามาใส่



เอิ้นต้องการสถานที่พักผ่อนจิตใจ



ลิปสติกสีแดงจึงถูกหยิบมาใช้





_________________________________

#Call123456



ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
พระเอกหายไปไหน

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
สงสารทั้งคู่ โชนค่อนข้างชัดเจนนะ แต่เจอแบบนั้นเข้าไปก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ส่วนคุณเอิ้นเคยเจ็บมาก่อน เคยเจอสายตาเหยียดจากครอบครัว จากคนรอบข้าง มันก็ยากที่จะเปลี่ยนควสมคิดคุณเอิ้นได้ โชนเองก็เงียบหายไม่รู้เป็นอะไรไปรึเปล่า หันหน้ามาคุยกันดีๆเถอะ (คนอ่านเศร้าแทน) :hao5:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เข้าใจเอิ้นนะ ครอบครัวตัวเองก็รังเกียจ ก็เลยกลัวสายตาคนอื่น กลัวทุกอย่าง หวังว่าเอิ้นจะก้าวผ่านมันไปได้

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ปวดใจไม่หมดแล้วววววว


 :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ yewlyz

  • MindSet The Others
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เราเข้าใจคุณเอิ้นนะ ทามไลน์เรื่องมันดูไม่ใช่ในยุคปัจจุบันด้วย ถ้าเป็นสมัยก่อน ผช เดินจับมือกันมันแปลกจริงๆนั้นแหละ แต่กับโชนที่พร้อมจะจะเปิดตัว ความคิดมันเลยไม่ตรงกัน งื้อออออ  :z3: :z3:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
สงสารเอิ้นจัง  :hao5: แต่ไปแบบนั้นระวังโชนจะยิ่งโกรธนะจ๊ะ

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
รอเอิ้น-โชน ค่ะ

ออฟไลน์ Kx0806

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โถ่... ถึงไฉไลจะสวยแค่ไหน แต่คนที่อยากเห็น อยากรู้ความเป็นไปมากที่สุดก็คือคุณเอิ้นอยู่ดี หวังว่าไม่ม่านะ  :mew2:

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
 :mew4: โชนต้องมีเหตุผลดีดีหน่อยนะ หายไปนานแบบนี้

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ยุคสมัย ยี่สิบกว่าปีก่อน ยุคเพจเจอร์ โทรศัพท์มือถือทรงกระบอกน้ำ

แต่.....เรียนถึง ป.โท  ฐานะดี  ทำไมถึงต้องแคร์สายตาคนนอก เขาไม่ได้ให้เงินเราใช้สักหน่อย?


ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
โทรครั้งที่ 10_____________________



Call 70



“คุณเอิ้น...ปกติไม่สั่งเยอะขนาดนี้นี่ครับ”



“ช่างผมเถอะ ทำตามที่ผมขอก็พอ”



“แต่เกรงว่าวอดก้าจะแรงไปสำหรับคุณเอิ้น...”



“บอกว่าทำตามที่ขอก็พอไง”



“ครับๆ”



เอิ้นนั่งถอนหายใจอยู่หน้าบาร์ร้านเดิม บาร์เทนเดอร์คนนี้เป็นคนรู้จักกับครอบครัวเอิ้น อันที่จริงน่าจะบอกว่าเจ้าของร้านนี้ต่างหากที่รู้จักกับครอบครัวเอิ้น และนั่นทำให้เอิ้นไว้วางใจที่จะมาที่นี่เป็นประจำ เพราะอย่างน้อยคนของที่นี่ก็ไว้ใจได้ ถ้าหากมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับเอิ้น ก็จะได้มีคนดูแลได้ทัน



อย่าลืมว่าเอิ้นเป็นลูกคุณหนู และเขาก็เคยชินกับการมีคนคอยดูแลเสมอ แม้ว่าจะต้องอยู่คนเดียว แต่ก็ยังมีป้าแม่บ้านและคุณลุงรวีคอยปรณิบัติรับใช้อยู่ไม่ห่าง



ในร้านเหล้านี้ก็เช่นกัน



สุดท้าย บาร์เทนเดอร์หนุ่มก็ได้แต่จำใจผสมค็อกเทลให้เอิ้นในร่างหญิงสาว เขาจงใจลดปริมาณแอลกอฮอล์ลงไปมากกว่าครึ่งของสูตรเดิม เพื่อไม่ให้คุณหนูคนสำคัญเมาจนไม่ได้สติ



เอิ้นไม่ชอบเบียร์เพราะมันขม ครั้นจะสั่งเหล้าก็เสียดายเพราะดื่มคนเดียวไม่หมด จึงชอบสั่งค็อกเทลเป็นช็อตๆ ไปเสียมากกว่า แต่ส่วนใหญ่เอิ้นมักจะสั่งค็อกเทลที่ผสมน้ำผลไม้มากกว่าแอลกอฮอล์ เอิ้นไม่ได้ต้องการมาร่ำสุราให้หัวทิ่มหัวบอด เขาเพียงต้องการมาผ่อนคลายนอกสถานที่เท่านั้น



แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป



ไม่มีเสียงจากโชนคอยปลอบประโลมเอิ้น ไม่มีเสียงจากโชนคอยบอกฝันดี มีเพียงแต่ความคิดในแง่ลบคอยกัดกินหัวใจเขา จนในที่สุดเอิ้นก็ต้องการพึ่งแอลกอฮอล์ เพื่อไม่ให้หัวใจตัวเองถูกกัดกินจนมืดบอดไปมากกว่านี้



ถ้าทำให้ตัวเองสิ้นสติได้ ก็จะได้ไม่ต้องคิดมากเรื่องโชนอีก



ริมฝีปากสีแดงยกเครื่องดื่มในแก้วเล็กกรอกเข้าปาก สั่งเพิ่มจนมือชงหนักใจ



หมดไปอีกแก้วและอีกหลายแก้ว เอิ้นคิดว่าตนเองคงเมามากแล้ว



เพราะเขาเห็นโชนนั่งอยู่ข้างๆ



Call 71



เอิ้นส่งยิ้มให้กับคนข้างๆ คนที่เป็นเจ้าของหัวใจทั้งหมดของเอิ้น สักพักก็เปลี่ยนเป็นน้ำตาคลอ เอิ้นซบใบหน้าตัวเองลงที่ฝ่ามือ กลืนก้อนสะอื้นลงไปไม่ให้น้ำตาเจ้ากรรมล้นทะลัก



“คุณเอิ้น เมาแล้ว”



เขาพยักหน้าอยู่ในฝ่ามือตัวเอง ยอมรับกับคำพูดของคนข้างๆ



ขนาดเสียงยังเหมือนโชนเลย เขาคงคิดถึงโชนมากจริงๆ



ตั้งสองอาทิตย์...โชนหายไปไหนมา



“เดี๋ยวผมพาไปส่งที่บ้านนะ” เอิ้นส่ายหน้า ยังไม่ถึงเวลาที่ลุงวีจะออกมารับ



“คุณเอิ้นเมาขนาดนี้แล้วจะคุยกันรู้เรื่องได้ไงเนี่ย” คนข้างตัวบ่นพึมพำ เอิ้นถอนใบหน้าละมุนออกจากฝ่ามือ จับจ้องไปยังที่มาของเสียง เจ้าของใบหน้าได้รูปรับกับจมูกโด่ง เปลือกตาสองชั้นและแววตาคมคาย คิ้วเข้มและริมฝีปากบาง



เอิ้นยกมือขึ้นไปสัมผัสใบหน้าที่คุ้นเคยนั่นอย่างแผ่วเบา



เหมือนโชนมากจริงๆ



“คุณเอิ้น รู้ไหมว่าผมคือใคร?”



“...โชน?” เอิ้นตอบเสียงยาน ก่อนจะเห็นโชนแยกออกเป็นสองร่าง



โชนถอนหายใจใส่คนเมา “ผมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”



เอิ้นแทบกลั้นหายใจ ภาพเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ ที่ตนสมมติขึ้นมาถูกฉายขึ้นมาในหัว



“ไม่...ไม่เอา” ไม่คุยด้วยหรอก จะเลิกกันแล้วใช่มั้ย



หยาดน้ำใสร่วงหล่นออกจากดวงตาสวย



“คุณเอิ้น!”



เอิ้นเอ่ยอะไรต่อไม่ได้ ก้อนสะอื้นมาจุกอยู่ที่ลำคอรวมถึงฤทธิ์น้ำเมาทำให้สมองของเขาแทบไม่ประมวลผล จนยากที่จะเอ่ยออกไปให้เป็นประโยค



เสียงเพลงในร้านดังขึ้นมา ได้เวลาของวงดนตรีสด



“ที่นี่เสียงดัง เดี๋ยวผมพาไปนอกร้านดีกว่านะ” ว่าจบ เขาประคองโฉมงามที่โงนเงนไปมา โอบเอวคอดพาออกจากร้านไป



Call 72



เริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว อากาศข้างนอกยามค่ำคืนเย็นกว่าปกติ โชนถอดเสื้อคลุมของตัวเองให้อีกฝ่ายสวมใส่



โชนโทรเข้าโทรศัพท์มือถือของเอิ้นแล้ว แต่เอิ้นไม่รับ พอโทรเข้าเบอร์บ้านถึงได้รู้ว่าเอิ้นมาอยู่ที่นี่



เขาผิดเองที่งอนหายไปถึงสองอาทิตย์ แม้จะเพราะตนติดสอบปลายภาคด้วยทำให้ไม่มีเวลาโทรไป แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเวลาเลย โชนจงใจหายไป เพราะอยากให้เอิ้นเป็นฝ่ายตามหาตนบ้าง



และกว่าจะรู้ตัวว่าอีกฝ่ายต้องการตนมากแค่ไหนก็ตอนที่โชนไปเจอจดหมายฉบับที่สองของเอิ้น



ฉบับแรกเป็นการกล่าวถึงคำขอโทษที่ผ่านมาของเอิ้น



แต่อีกฉบับหนึ่ง...เป็นจดหมายบอกลา



เอิ้นบอกเลิกเขาในจดหมาย ก่อนที่จะพาตัวเองมาที่ร้านเดิม โชนพลันรู้ตัวว่าเล่นแรงไปแล้ว เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้เอิ้นเสียใจ เพียงแค่อยากให้เอิ้นคิดถึงใจตนบ้างก็เท่านั้น



ที่ผ่านมามีเพียงโชนที่พยายามทำความเข้าใจเอิ้น เข้าใจว่าเอิ้นไม่อยากให้ใครรับรู้ในความสัมพันธ์ ละอายในการคบกับเขาเพราะเอิ้นเป็นผู้ชาย เพียงแต่โชนอยากให้เอิ้นเลิกคิดเช่นนี้ได้แล้ว



สงสัยว่าตนจะรีบร้อนไป เรื่องถึงได้กลายมาเป็นอย่างนี้



เขาเจอเอิ้นนั่งอยู่ที่บาร์ พร้อมกับชุดตัวโปรด และพอเข้าไปหา เอิ้นก็มีสภาพเช่นนี้แล้ว



บาร์เทนเดอร์เคยเห็นโชนมากับเอิ้นอยู่บ่อยๆ จึงบอกเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง โชนจึงขออนุญาตพาคุณหนูออกไปจากสถานเริงรมย์



สองแขนแกร่งประคองเอวเล็กมั่น ยึดจับไม่ให้คนเมาร่วงลงไปกองกับพื้น เขาพาเอิ้นเดินมาถัดจากร้านเดิมไม่กี่ตึก แถวนี้ไม่มีม้านั่ง จึงได้แต่ให้โฉมสะคราญยืนพิงกับผนังตึก ก่อนนำขวดน้ำให้อีกฝ่ายดื่มเพื่อให้สร่างเมา



เอิ้นไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดนอกจากน้ำตาที่มีแต่จะไหลมากขึ้น



“คุณเอิ้น ดื่มน้ำหน่อย” ว่าพร้อมยื่นหลอดดูดที่จมอยู่ในขวดน้ำให้อีกฝ่ายที่ก้มหน้าก้มตา



“ไม่ร้องไห้สิครับ” โชนถอนหายใจ จับไหล่อีกฝ่ายดันให้โน้มตัวมาซบลงกับอกเขา ฝ่ามืออุ่นลูบหัวของเอิ้นเบาๆ อย่างปลอบประโลม



“ผมขอโทษ...” เขาเริ่มเอ่ยขึ้นมา



“ไม่ได้ตั้งใจจะให้คุณเอิ้นเสียใจเลยจริงๆ”



“ที่ผ่านมาผมติดสอบปลายภาค ต้องอ่านหนังสือเยอะแยะ...แต่ก็จงใจไม่โทรหาด้วย”



“ผมอยากให้คุณเอิ้นเป็นฝ่ายมาง้อผมบ้าง”



“อยากให้มาหากันบ้าง...”



โชนเอ่ยสารภาพ อย่างไรเสียเขาก็เป็นแค่นิสิตชั้นปีที่หนึ่ง เพิ่งเปลี่ยนมาใช้นายเป็นคำนำหน้าได้ไม่กี่ปี จะให้เขาโตเป็นผู้ใหญ่เข้าใจทุกปัญหาเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ โชนต้องค่อยๆ เติบโตขึ้น และเขาในตอนนี้เองก็มีความต้องการและความเอาแต่ใจแบบเด็กๆ อยู่มาก



เพียงแต่ไม่คิดว่าความเอาแต่ใจเป็นเด็กของเขาจะทำให้อีกฝ่ายต้องเสียน้ำตาเช่นนี้



“ผมขอโทษนะ อย่าร้องไห้เลยนะครับ”



“จะไม่หายไปแล้ว”



“ทีหลังมีอะไรจะบอกคุณเอิ้นทุกเรื่องเลย นะครับ”



“คุณเอิ้น...ตอบผมหน่อยสิ อย่าร้องไห้”



เอิ้นสะอื้นมากขึ้น พยายามปาดน้ำตาให้พ้นใบหน้า ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา



“ผมไปหามาแล้ว...”



“หา”



“ผมไปหาโชนมาแล้ว ก็เลยรู้แล้ว...ว่าเราไม่ควรคบกันอีก”



“คุณเอิ้น!”



Call 73



“พูดอะไรออกมาน่ะ รู้ตัวไหม”



“รู้สิ”



“จะเลิกกันงั้นเหรอ”



“...ผมกับคุณ...ไม่ควรได้คบกันตั้งนานแล้ว ผมเป็นผู้ชาย เป็นพวกวิปริต...สร้างครอบครัวให้คุณไม่ได้ สร้าง...ความภูมิใจให้คุณไม่ได้ สุดท้าย...คุณก็ควรแต่งงาน...แล้วก็มีลูก...เหมือนคนปกติ”



หลังจากจบประโยคที่เต็มไปด้วยเสียงสะอื้นของเอิ้น โชนก็จับไหล่เล็กไว้มั่น พยายามมองใบหน้าที่ตนรักสุดใจ ทว่าเอิ้นเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตาด้วย



“ทำไมถึงคิดอย่างนั้น”



“มันเป็นเรื่องจริงนี่นา”



“เรื่องจริงของใคร?”



“...ของ...คนทั่วไป”



“แล้วผมบอกเหรอว่าอยากเป็นแบบนั้น”



“...”



“คุณเอิ้น ที่ผมคบกับคุณเพราะไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้น ไม่ได้สนใจว่าคุณเป็นผู้ชาย ผมรักคุณเพราะเป็นคุณ เป็นแค่คนๆ หนึ่งเท่านั้น”



“แต่สักวันก็ต้องเลิกกัน...ใช่มั้ย”



“...ผมไม่รู้อนาคตหรอก แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ตอนนี้แน่ที่จะเลิกกัน”



“...”



“ต่อให้คุณเอิ้นจะบอกเลิกอีกกี่ครั้งผมก็จะไม่เลิกหรอก”



“...”



“...หรือคุณเอิ้นไม่ได้รักผมแล้ว”



“ไม่ใช่นะ!”



“นั่นสินะ” โชนอมยิ้ม ยกมือปาดน้ำตาที่เปรอะเต็มหน้าให้เอิ้น จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง ในเมื่อกี่ครั้งที่โชนมองเอิ้น ก็มีแต่สายตาที่สะท้อนภาพของเขา เต็มไปด้วยความสุข “อย่าเลิกกันเลยนะ”



เอิ้นก้มหน้า กัดปากอีกครั้ง



“คุณเอิ้น...”



“ผม...ไม่รู้”



“ไม่รู้อะไรครับ”



“...ว่าเราจะคบกันได้นานแค่ไหน”



“เรื่องนั้นไม่เห็นสำคัญเลย”



“ไม่สำคัญได้ไง”



“เรื่องปัจจุบันสำคัญกว่านี่ครับ”



“...”



“ถ้าคุณเอิ้นเอาแต่กังวลเรื่องอนาคต คุณเอิ้นก็จะไม่มีความสุขใช่ไหม เราคิดแต่ตอนนี้ดีกว่าว่าจะรักกันให้ได้มากที่สุดวันละเท่าไหร่”



“...”



“ดีไหมครับ”



“อือ”



“ไม่ร้องแล้วนะ”



“...”



“ผมอยู่ตรงนี้”



Call 74



เอิ้นพ่ายแพ้ให้คำพูดของโชนอีกตามเคย เขาปาดน้ำตาที่ยังคงเลอะอยู่บนใบหน้า พลันโชนก็วาดแขนออกมาโอบเอวเขาเข้าไปแนบชิดกับอกแกร่ง



“ผมรักคุณเอิ้นขนาดนี้ ยังจะขอเลิกกันได้ลง”



“...”



“ใจร้ายมากเลยรู้ไหม”



“โชนต่างหากที่ใจร้าย หายไปไม่บอกกัน”



คนใจร้ายไม่ตอบกลับ โชนประกบจูบลงที่ริมฝีปากที่เคลือบสีแดงของลิปสติก บดเบียดริมฝีปากเล็กจนเอิ้นเผยอปาก อีกฝ่ายไม่รอช้า ส่งลิ้นร้อนเข้าไปเล่นกับลิ้นเล็กที่อยู่ในอารามตกใจ โชนไล่ลิ้นตัวเองแทรกไปยังไรฟันซี่เล็ก ตะโบมจูบ บดขยี้ริมฝีปากของเอิ้นจนลิปสติกสีแดงหลุดร่อน ก่อนผละออกมา



เอิ้นสร่างเมาแทบทันที



มือใหญ่เช็ดน้ำลายที่มุมปากของเอิ้น ยกยิ้มให้กับสภาพคนตรงหน้า



“โชน...ปากเลอะ” เอิ้นเอ่ยเสียงแผ่ว เมื่อจ้องหน้าอีกฝ่ายแล้วเห็นสีลิปสติกของตัวเองเลอะติดอยู่บนริมฝีปากของโชน



“คุณเอิ้นก็เลอะ เลอะทั้งหน้าเลย”



โชนเอ่ยกลับพร้อมยิ้มขำ เอิ้นร้องไห้จนเครื่องสำอางหลุดเปรอะใบหน้างาม คนสวยตกใจเมื่อนึกขึ้นได้ ยกมือปิดหน้าพัลวัน ก่อนที่โชนดึงอีกฝ่ายมาอยู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง



“น...น่าเกลียดมั้ย” เอิ้นถาม แม้ไม่เห็นสภาพตัวเอง แต่ก็เดาได้ว่าต้องอัปลักษณ์มากแน่ๆ สีสันที่เขาแต่งแต้มลงบนใบหน้าให้งดงาม บัดนี้คงเลอะเทอะเละเทะด้วยคราบน้ำตาไปหมด ไม่เหลือเค้าความงามแล้วแน่แท้



โชนหัวเราะ



“น่ารัก”



มอบจุมพิตให้คนน่ารักอีกครั้ง



เอิ้นหดคอหนี โชนผละออกมา ควักผ้าเช็ดหน้ามาช่วยเช็ดคราบเครื่องสำอางที่เลอะเทอะด้วยหยาดน้ำตา จนใบหน้าละมุนกลับมาเป็นเหมือนเดิม ใบหน้าเอิ้นเมื่อไร้เครื่องประทินโฉมปกปิดไม่ได้ทำให้ดูน่ารักน้อยลงเลย



เขาก้มหาอีกฝ่าย ใช้ปลายจมูกซุกพวงแก้มนิ่ม



“คุณเอิ้นบอกลุงวีให้มารับกี่โมง” โชนเอ่ยถาม แต่ใบหน้ายังคงซุกไซร้อยู่แถวต้นคอระหง



“เที่ยงคืน...ครับ” เอิ้นเอ่ยตอบ เสียงสั่น บังคับไม่ให้ตัวเองล้มพับไปกับการซุกไซร้น่าหวาดเสียวของโชน แต่ทันทีที่โชนเอ่ยประโยคถัดมา ก็ยิ่งทำให้เอิ้นล้มไปกองกับพื้น



“บอกให้ลุงวีไม่ต้องมารับ”



“...”



“ผมจะพาคุณเอิ้นเข้าโรงแรม”



Call 75



“หา”



“ผมบอกเองดีกว่า ขอยืมมือถือคุณเอิ้นหน่อยสิครับ”



เอิ้นเบิกตาโพลง และกว่าจะรู้ตัวว่าโชนควักโทรศัพท์มือถือของตนไปก็ตอนที่โชนคืนกระเป๋าถือมาให้ คนอะไรมือไวนัก



โชนกดโทรออก



“เดี๋ยวก่อน โชน” เอิ้นยังไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าจะยอมไปโรงแรมด้วย โชนจะพาเขาไปโรงแรม มีหรือที่เอิ้นจะไม่รู้ว่าพาไปทำไม แม้ไม่มากประสบการณ์แต่สถานการณ์แบบนี้ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคืออะไร



เพียงแต่โชนไม่อนุญาตให้เอิ้นเอ่ยคำปฏิเสธ เมื่อคนตัวสูงเอ่ยบอกลุงรวีว่าคืนนี้เอิ้นจะค้างกับเขา ให้ลุงไม่ต้องมารับ ทุกอย่างเสร็จสิ้นเพียงเวลาไม่ถึงนาที ไม่มีจังหวะให้เอิ้นปฏิเสธ



“ผม...ผมไม่ได้บอกว่าจะไปกับคุณสักหน่อย”



โชนหันมาเบะปากใส่เอิ้น



“ไม่ได้เจอคุณเอิ้นตั้งสองอาทิตย์ คุณเอิ้นไม่อยากกอดผมเหรอ”



“ก็...กอดตรงนี้...ไม่ได้เหรอ” เอิ้นว่าเสียงสั่น หมายความถึงการกอดที่เป็นการกอดจริงๆ หาใช่ความหมายลึกซึ้ง



โชนกอดคนตัวเล็กอีกครั้ง ซุกใบหน้าลงกลุ่มผมเส้นยาว ใช้ปลายจมูกไล่เขี่ยเส้นผมไปจนถึงแก้มนิ่ม กระซิบลงข้างหู



“จะให้กอดตรงนี้จริงๆ เหรอครับ”



เอิ้นตัวแข็งเกร็ง



“เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นหรอก”



ใบหน้าร้อนผ่าว



“ไปกับผมดีกว่านะ”



และเผลอไผลตกลงกับคำหวาน



รู้ตัวอีกที เอิ้นก็อยู่ในห้องพักของโรงแรมกับโชนสองต่อสองแล้ว...







______________________________________

เป็นช่วงเวลาที่ต้องปรับตัวเข้าหากัน #call123456

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เคลียร์กันได้ก็โล่งใจ ค่อยๆปรับตัวเข้าหากันเนอะ
ว่าแต่ไปโรงแรมกันทำไมคะ ขอตอนต่อไปด่วนๆค่ะ  :pighaun:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ไปทำไรกันที่โรงแรมเหรอ?  อิอิ

ออฟไลน์ kosmos

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
โว้ะ!! เอิ้นอย่ายอมลูกกก
หนูเล่นตัวหน่อยยย

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ว๊ายๆ พาคุณเอิ้นเข้าโรงแรมเลยเหรอโชน

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ไปนั่งฟังเพลงกันหราา   :o8:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
สนุกมากค่ั

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ไปทำอะไรกันเหรอ ตามไปดูด้วยคน :z1:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โล่งอกเคลียร์กันได้แล้ว

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
คนคิดมาก ถึงจะเจอเรื่องนิดเดียวก็คิดมาก
แต่สำหรับเอิ้น เรื่องไม่นิดนะคะ
คนอื่นยังไม่เท่าไหร่ แต่ครอบครัวหันหลังให้
ชีวิตเอิ้นน่าสงสารมากเลยนะ ทนอยู่มาได้ขนาดนี้ ดีมากแล้ว

โชนจริงจังเนาะ ดีใจที่มีคนนั้นในชีวิตเอิ้น
และโชนก็พยายามเข้าใจ ถึงแม้จะต้องให้เวลาบ้าง

ถ้าจะดราม่า ก็ให้ดราม่าที่สองคนเค้านะคะ
แค่นี้เอิ้นก็นอยด์มากแล้ว สงสารโชนด้วย

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
โทรครั้งที่ 11____________________



Call 76



เอิ้นพยายามสำรวจรอบห้องพักของโรงแรม ทางซ้ายมือเป็นห้องน้ำ เตียงใหญ่วางอยู่กลางห้อง ปลายเตียงเป็นโทรทัศน์วางอยู่บนเคาท์เตอร์ยาว และก่อนที่จะได้สำรวจไปมากกว่านี้ เอิ้นก็ถูกบังคับให้หันมาหาโชน



พร้อมกับความเปียกแฉะที่ริมฝีปาก



โชนโถมจูบคนตัวเล็กอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง ดูดดึงริมฝีปากเล็กจนเกิดเสียงดังจ๊วบจ๊าบ เอิ้นได้แต่ส่งเสียงร้องอยู่ในลำคอ พยายามยึดเกาะอีกฝ่ายไม่ให้ตัวเองล้มลงไป โชนคว้าเอวของเอิ้นมาไว้ในอ้อมแขน ค่อยๆ ถอนจูบออก จับจ้องใบหน้าน่ารักที่ขึ้นสีแดง



ดวงตาฉ่ำน้ำและริมฝีปากแดงที่บวมเจ่อทำให้คนน่ารักดูน่าเอ็นดูมากขึ้นหลายเท่าตัว โชนตั้งใจจะค่อยๆ อ่อนโยนกับเอิ้นแล้ว เพียงแต่สภาพของเอิ้นตอนนี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะจับจูบแรงๆ อีกสักที



“อื้อ”



คนถูกจูบร้องอีกครั้ง ครานี้โชนไม่ยืนนิ่ง เขาพาคนตัวเล็กถอยหลังเดินไปเรื่อยๆ จนถึงขอบเตียง เอิ้นสะดุดปลายเตียงจนล้มลงไปนั่งบนฟูกนิ่ม



“โชน...” เอิ้นเอ่ยเสียงสั่น แววตาลุกวาวของโชนทำให้เอิ้นใจเต้นไม่เป็นส่ำ



แววตาที่เหมือนหมาป่าหิวโหย แววตาที่ราวกับมีไฟลุกโชนอยู่ข้างในจนทำให้คนมองอ่อนระทวย แววตาที่ทำให้หัวใจของเอิ้นแทบหลุดออกมาจากอก



“โชน ด...เดี๋ยว!”



เอิ้นร้องห้าม เมื่ออีกฝ่ายตั้งท่าจะจู่โจมเข้ามา เอิ้นใช้มือตัวเองคว้าจับมืออีกฝ่าย ดึงมันให้ไปกอบกุมส่วนกลางลำตัวของเขา



“ผมเป็นผู้ชายนะ!” เอิ้นกล่าวเสียงแข็ง เขารู้ว่าโชนตั้งใจจะทำอะไร พลันหัวใจก็ถูกอดีตฉายภาพเก่าขึ้นมาซ้ำเติมกันอีกครั้ง เขาเป็นผู้ชาย มีอวัยวะทุกรูปแบบเหมือนโชน หุ่นของชายหนุ่มเช่นนี้มีแต่จะทำให้โชนเสียอารมณ์เปล่าๆ



“คุณเอิ้น...”



“...”



“คิดดีแล้วเหรอครับที่ให้ผมจับตรงนั้นน่ะ”



“อ๊ะ!” เอิ้นสะดุ้งตัวโยน ใบหน้าขึ้นสีแดง เขาปล่อยมือโชนทว่าอีกฝ่ายไม่ได้ชักมือกลับ “ไม่ใช่นะ ผมแค่จะหมายถึง...”



“จะหมายความว่าคุณเอิ้นเองก็มีอะไรเหมือนผมใช่ไหมล่ะ”



“ใช่...ผมมีทุกอย่างเหมือนคุณนะ ไม่...ไม่น่ารังเกียจหรือ”



โชนจับมืออีกฝ่ายไปวางไว้ที่ส่วนร้อนกลางลำตัวของตนบ้าง



“คุณเอิ้นคิดว่าไงล่ะ”



เอิ้นเบิกตาโพลง หน้าแดงซ่านจนลามไปถึงลำคอ ส่วนกลางลำตัวของโชนมันร้อนและแข็ง เขารับรู้ได้ไม่ยากว่าเป็นเพราะเหตุใด



“ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณเอิ้นเป็นผู้ชาย มีอะไรเหมือนๆ กัน แต่ผมก็ยังเป็นแบบนี้”



เขาปล่อยมือเอิ้น ขยับตัวเข้าหาคนที่นั่งหุบขาอยู่ปลายเตียง



“คุณเอิ้นคิดว่าผมจะรังเกียจอยู่ไหมล่ะ”



“โชน เดี๋ยว!”



ไม่รอฟังคำขัดขืน คนตัวโตกว่าพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายจนเอิ้นล้มแผ่ไปบนผืนเตียง มือของโชนซนไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเอิ้น มุดเข้ากระโปรงตัวสวย ไล่ขึ้นไปเล่นกับแผ่นหลังเนียน บีบเค้นสะโพกมน จนกระทั่งเลื่อนไปบีบเค้นก้อนเนื้อนุ่มสองก้อนจนเจ้าของร่างกายร้องเสียงสั่น



Call 77



“คุณเอิ้น...” โชนเอ่ยเสียงแหบพร่า “ถุงน่องนี่ผมฉีกได้ไหม เกะกะ...”



“ไม่ได้นะ” เอิ้นร้องเสียงหลง ไม่ได้ห่วงว่าราคาแพงหรืออะไร เพียงแต่ถ้าโชนฉีกถุงน่องของเขาทิ้ง แล้ววันพรุ่งนี้เขาจะใส่อะไรเล่า แม้เนื้อขาเปลือยเปล่าของเขาแม้แทบไม่มีขนขา แต่ก็ไม่ได้เรียบเนียนเหมือนเรียวขาผู้หญิงจริงๆ เสียหน่อย



แคว่ก!



แล้วโชนก็ทำความตั้งใจของเอิ้นพังลง ไม่รอช้า มือใหญ่จัดการดึงถุงน่องที่เป็นตัวขัดขวางภารกิจชิ้นสำคัญลงไปสู่ปลายเท้าของเอิ้น เขาอยากจะร้องไห้ให้ความน่าอายนี้อยู่รอมร่อ



เรียวขาเปลือยเปล่าของเอิ้นประจักษ์ให้เห็น โชนใช้ปลายนิ้วของตัวเองไล่ไปตามเรียวขาสวย จากฝ่าเท้าไปสู่ต้นขา ไปสู่บั้นท้ายกลม ส่วนกลางของเอิ้นเริ่มตื่นตัวจากการสัมผัส เจ้าของร่างกายขาวสั่นระริก โชนไม่มีท่าทีลังเลหรือรังเกียจเขาแม้แต่น้อยจนเอิ้นเขินจัด



เอิ้นพยายามพลิกตัวหันหน้าหนีอีกฝ่าย เพียงแต่โชนไม่อนุญาตให้อีกฝ่ายหลบหนีแม้ทางสายตา



“พี่เอิ้น...ให้ผมนะ”



ไม่ว่าเปล่า คนน้องขยับมือล้วงเข้าไปกอบกุมส่วนร้อนของเอิ้น ขยับนิ้วเล่นไล่มันช้าๆ



“โชน...ไม่เอา อย่าเรียก...แบบนั้น”



“ทำไมล่ะ พี่เอิ้น”



“โชน...”



คนเถียงไม่ได้พ่ายแพ้และจากเสียงร้องห้ามก็กลายเป็นเสียงครวนคราง เสียงหวานร้องดังขึ้นเมื่ออีกฝ่ายก้มลงไปครอบปากกับแก่นกลางของเอิ้นที่สั่นระริก



“อย่า...มันสกปรก”



ไม่ใคร่สนใจคำเรียกร้อง ลิ้นร้อนละเลงส่วนปลายจนต้องบิดเร่าด้วยความกระสันเสียว



เอิ้นตั้งใจอยากขอร้องให้อีกฝ่ายหยุด



คำร้องห้ามไม่เร็วกว่าหยาดน้ำขาวขุ่นที่ทะลักออกมา



Call 78



“พี่เอิ้น...ไม่รอผมเลย”



คนน้องเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ เมื่อเห็นว่าคนใต้ร่างเสร็จสมอารมณ์หมายไปด้วยการสัมผัสเพียงไม่นาน เอิ้นปิดหน้าตัวเอง ซบใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจัดไว้ภายใต้ฝ่ามือ



“ถอดกระโปรงก่อนนะครับ เดี๋ยวมันเลอะ”



บัดนี้ เอิ้นขยับตัวทำอะไรไม่ได้แล้ว ได้แต่นอนตัวอ่อนยวบ ปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจชอบ



คว้าหมอนใบโตมาปิดหน้า



กระโปรงสีสวยรวมถึงกางเกงชั้นในและถุงน่องที่ขาดวิ่นกองอยู่ปลายเตียง โชนขยับขึ้นมาคร่อมร่างคนขี้เขินที่ตอนนี้มีเพียงเสื้อเชิร์ตแขนยาวเท่านั้นที่ปกปิดร่างกายสวยไว้อยู่ เอิ้นมุดหน้าอยู่ในหมอนใบใหญ่ นอนขดตัวเป็นกุ้งราวกับว่ามันจะช่วยทำให้โชนมองเห็นเขาได้ไม่ชัด



“พี่เอิ้นครับ”



“...ห้ามเรียกอย่างนั้นนะ”



“ทำไมล่ะครับ พี่เอิ้น~”



เอิ้นน้ำตาคลอที่อีกฝ่ายไม่ยอมเชื่อฟัง โชนเรียกแบบนี้แล้วจะให้เขาทำยังไงกับหัวใจที่เต้นดังกว่าเดิมนี้ดีล่ะ ลำพังแค่นี้มันก็แทบจะกระดอนออกมาข้างนอกอยู่แล้ว



โชนไล่ฝ่ามือของตัวเองเข้าไปในสาบเสื้อ ทำการปลดตะขอของยกทรงที่เอิ้นสวม คนโดนจับเปลื้องผ้าขดตัวมากกว่าเดิม ด้วยหวังว่าจะทำให้อีกฝ่ายลำบากมากขึ้น



ทว่าโชนกลับดึงเสื้อชั้นในของเอิ้นออกไปได้อย่างรวดเร็ว เร็วจนเอิ้นตกใจจนรีบหันหน้ามาหาอีกฝ่าย



“สีขาวเหรอ เอิ้นน่ารักจัง”



เอิ้นหน้าแดงแล้วแดงอีก เขามองยกทรงที่ตนเองสวมมาห้อยต่องแต่งอยู่ในมือคนใจร้าย



เอิ้นสวมยกทรงเพียงเพราะต้องการให้สรีระตนคล้ายผู้หญิงมากขึ้นเท่านั้น แต่พอโชนถอดมันออกไปโจ้งๆ เช่นนี้นั้น ทำให้เอิ้นหน้าแดงหนักกว่าเดิม



บัดนี้ทั้งตัวเขาเหลือเพียงเสื้อเชิร์ตสีอ่อนตัวเดียวคลุมตัวอยู่ และมันก็ปิดได้ถึงแค่สะโพกมนเท่านั้น



ไม่รอให้เอิ้นได้เอ่ยอะไรออกไป โชนจัดการโถมตัวพุ่งเข้ากอดอีกฝ่าย จู่โจมราวกับสิงโตล่าเหยื่อตัวน้อยๆ



Call 79



“ถ้าไม่อยากจริงๆ ก็บอกนะครับ”



“...”



โชนกอดอีกฝ่ายไว้แนบแน่น ล้วงมือเข้าไปในเสื้อสีอ่อน ลูบไล้แผ่นหลังที่เนียนนุ่มไปทั้งผืน ตัวเอิ้นนุ่มกว่าที่คิดและน่าสัมผัสไปหมดทุกตารางของร่างกาย



ฝ่ามือร้อนไล่จากแผ่นหลังเคลื่อนมายังหน้าท้อง



เอิ้นเกร็งไปทั้งตัว



“ถ้าคุณเอิ้นบอกว่าไม่ผมก็จะหยุดนะ”



ไล่ขึ้นไปเขี่ยยอดปทุมที่แข็งตัวชูชัน



“ไม่!”



เอิ้นร้องห้ามอย่างไม่รอช้า โชนชะงัก ยกยิ้มให้คนหน้าแดงแจ๋ และขยับนิ้วละเลงเล่นกับยอดไตสีสวย



เอิ้นน้ำตาคลอ ร้องไม่เป็นภาษา พยายามบิดตัวหนีคนผิดคำพูด เพียงแต่เขาไม่สามารถต้านทานแรงของอีกฝ่ายได้ เอิ้นได้แต่นอนบิดเร่าใต้ร่างของโชนอยู่อย่างนั้น



“โชน พอ-”



แล้วเสียงหวานก็ขาดหายไปเมื่อโชนครอบปากลงกับยอดอกสีเชอร์รี่ ลิ้นร้อนละเลงเล่นกับยอดอกที่แข็งตัวชูชันจนเอิ้นร้องเสียงหลง สองมือพยายามดันหัวโชนให้ออกไปทว่ากลับกลายเป็นเพียงการขย้ำกลุ่มผมสีเข้มค้ลายระบายอารมณ์เท่านั้น



เอิ้นน้ำตาคลอเต็มเบ้าตา จนหยาดน้ำใสไหลออกมาเป็นทางด้วยความเสียวกระสัน แก่นกายกลางลำตัวแข็งตัวอีกครั้ง สัมผัสที่โชนปรนเปรอให้เอิ้นทำให้เอิ้นตัวลอยจนไม่สามารถบรรยายได้



เอิ้นสะอื้นออกมา



“คุณ...เอิ้น” จนตัวต้นเหตุต้องชะงักในการกระทำ “ร้องไห้ทำไมครับ”



“โชนอ่ะ...”



“โอ๋ๆ ผมขอโทษนะ ไม่ชอบใช่ไหม ขอโทษนะครับ”



“โชนทำอย่างนี้...จะให้ผมทำไง”



“ชู่ว ผมขอโทษ”



“....หัวใจผม...มันจะหลุดออกมาอยู่แล้ว”



“...”



โชนเงียบกับการเอ่ยสารภาพของเอิ้น เขาคิดว่าเอิ้นไม่ชอบใจที่เขาปลุกปล้ำเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะว่าเอิ้นทนไม่ไหวกับความเขิน คนเด็กกว่าคิดว่าบางทีตนอาจจะรีบร้อนเกินไป



“งั้น...ไปอาบน้ำก่อนไหมครับ”



Call 80



เอิ้นยอมรับข้อตกลงเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะปล่อยให้ตนเป็นอิสระ และได้ใช้สายน้ำเย็นๆ ปลอบโยนหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำให้สงบลง



ไม่คิดว่าการอาบน้ำที่โชนว่าจะหมายถึงการอาบน้ำร่วมกันเช่นนี้!



หัวใจเขาเต้นแรงจนไม่มีเวลาได้พักเลยสักนิด



“คุณเอิ้น ขยับมาใกล้ๆ สิครับ ผมจะถูตัวให้”



ร่างของเอิ้นแดงไปหมดทั้งตัว



โชนโอบกอดอีกฝ่ายให้แนบชิดกับแผ่นอกตัวเอง ขยับฝ่ามือที่เต็มไปด้วยสบู่เหลว ชโลมไปทั่วหน้าท้องแบนราบ แกล้งสะกิดตรงนี้ที หยอกตรงนั้นทีจนเอิ้นแทบจะทรุดอยู่แล้ว



ส่วนกลางลำตัวของโชนเองก็แข็งตัวทิ่มกับสะโพกของเอิ้นอยู่อย่างนั้น แล้วจะให้คนขี้อายทนไหวได้อย่างไร



สัมผัสของโชนทำให้แก่นกายของเอิ้นกลับมาชูชันอีกครั้ง และเป็นเขาอีกครั้งที่ช่วยปลดปล่อยมัน เอิ้นแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้นห้องน้ำ



นอกจากถูตัวแล้วยังสระผมให้อีกด้วย เอิ้นทำตัวเป็นตุ๊กตา ยืนพิงอีกฝ่ายนิ่งๆ ปล่อยให้คนตัวโตกว่าทำตามใจ



จนล้างตัวเสร็จสิ้น โชนนำเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมให้อีกฝ่าย ก่อนพาไปยังตังใหญ่อีกครั้ง เอิ้นเบิกตาโพลง หัวใจเต้นแรงขึ้นทุกทีเมื่อคิดถึงวินาทีต่อจากนี้



เพียงแต่โชนกลับบอกให้เอิ้นนอนรอก่อน ตนจะเข้าไปจัดการตัวเองไม่นาน



เอิ้นนอนคว่ำตัวอยู่บนเตียง แล้วเรื่องราวเมื่อครู่ที่เกิดขึ้นไม่ถึงชั่วโมงก็แล่นผ่านหัวอย่างรวดเร็ว



โชนพาเขามาที่นี่สองต่อสอง...



ทั้งที่ก่อนหน้านี้คิดว่าจะต้องเลิกกันเสียแล้ว



ยังไม่พอ โชนกระหน่ำจูบจนแทบทรุด



และยิ่งไปกว่านั้น...



โชนอม...ตรงนั้น ลิ้น...ร้อน มัน...



แถมยังอาบน้ำด้วยกัน



หุ่นของโชนทำให้เอิ้นแทบลมจับ



เขาที่ชมชอบผู้ชายอยู่แล้ว มีหรือที่จะใจไม่สั่นเมื่อแก้ผ้าอยู่ต่อหน้าคนหุ่นดีถึงเพียงนี้



แก่นกายของเอิ้นกลับมาแข็งตัวอีกครั้ง



น่าอายเกินไปแล้ว



Call 81



เรื่องราวน่าอายที่เอิ้นคิดมานั้นเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น เมื่อโชนออกมาจากห้องน้ำ และเห็นคนน่ารักขดตัวเป็นกุ้งอบ เอาหน้าซุกหมอนใบโตอย่างน่าขบขันและเอ็นดู



“พี่เอิ้น”



“ห้ามเรียก” เอิ้นร้องเสียงอู้อี้ผ่านหมอนใบโต



“ครับๆ” โชนยิ้มขำให้คนแก่กว่า พลางลงไปนั่งข้างๆ



เขาเอื้อมมือไปสัมผัสเส้นผมนุ่มของอีกฝ่าย เส้นผมสั้นที่เป็นของเอิ้น หาใช่วิกผมเหมือนก่อนหน้า ทันทีที่เอิ้นรู้ตัวว่าถูกสัมผัส ก็ยิ่งซุกใบหน้าฝังเข้าไปกับหมอนยัดนุ่นมากขึ้น



“คุณเอิ้น...ไม่อยากทำเหรอครับ”



เอิ้นส่ายหน้า โชนไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร ระหว่างไม่อยากกับไม่ใช่



เขาเอนตัวล้มลงนอนข้างๆ



“ถ้าคุณเอิ้นยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไรนะครับ” โชนว่า



“ผมรอได้”



“...”



“เพียงแค่อยากให้คุณเอิ้นเป็นของผมเร็วๆ เท่านั้นเอง”



“...”



“รวมถึงผมเองก็อยากเป็นของคุณเอิ้นด้วย”



ฝ่ามือที่จิกหมอนนุ่มจนเกร็งของเอิ้นเริ่มคลายออกมา เขาถอนใบหน้าออกจากหมอนยักษ์ช้าๆ หันไปหาอีกฝ่ายที่นอนอมยิ้มอยู่ข้างกาย โชนหมายความอย่างที่ว่าจริงๆ แม้ใจเขาอยากจะทำอะไรกับเอิ้นมากเพียงไหน แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ยินยอมเขาก็คงไม่ยินดี



เอิ้นขยับตัวซุกแผ่นอกแกร่ง



“แค่นอนกอดเฉยๆ ก็ได้ครับ” โชนว่า ยิ้มให้อีกฝ่าย



รอยยิ้มที่อ่อนโยนจนอุ่นใจของโชนทำให้เอิ้นมั่นใจว่าถ้าเป็นโชน...ต้องไม่เป็นอะไรแน่



เอิ้นขยับตัว มอบจุมพิตให้อีกฝ่าย



Call 82



ผ้าคลุมอาบน้ำสองผืนถูกเหวี่ยงไปอยู่ปลายเตียงร่วมกับเสื้อผ้าของทั้งสองฝ่าย บัดนี้สองร่างในห้องหับไม่เหลือเสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆ ติดกาย มีเพียงร่างเนื้อนัวเนียแนบเนื้ออยู่ด้วยกันบนเตียงเท่านั้น



“คุณเอิ้น อย่าเกร็ง”



เขากระซิบเสียงพร่าให้คนใต้ร่างที่หลับตาปี๋ผ่อนคลาย เมื่อได้สอดแก่นกายของตัวเองเข้าไปในตัวของเอิ้น



“พี่เอิ้น”



“ฮือ”



เอิ้นร้องคราง หมายจะห้ามไม่ให้อีกฝ่ายเรียกตนเช่นนี้ แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ วัยรุ่นใจร้อนอย่างโชนแกล้งคนพี่โดยการกระซิบที่ใบหูของเขาซ้ำๆ



“พี่เอิ้น...”



เอิ้นจิกเล็บขูดลงที่กลางแผ่นหลังใหญ่ จนโชนยอมหยุดหยอกล้อ เขาหอมแก้มอีกฝ่ายเบาๆ หนึ่งทีก่อนเริ่มขยับท่อนล่างที่ยึดกับอีกฝ่ายไว้ ผสานรวมเป็นหนึ่ง เสียงร้องห้ามกลายเป็นเสียงร้องไม่ได้ศัพท์



โชนเขยื้อนขยับสะโพก กระแทกแก่นกายเข้าและถอนออกอย่างเนิบช้า ค่อยๆ สอดใส่ตัวตนเข้าไปในตัวเอิ้นอย่างอ่อนโยน เพราะเกรงว่าหากรุนแรงแล้วอีกฝ่ายจะเจ็บตัวเอา



แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เห็นด้วย เอิ้นขยับสะโพกตัวเอง ขยักเขยื้อน บิดเร่าไปมา ร้องครางอย่างไม่พอใจ



สัมผัสที่โชนมอบให้มันดี แต่ยังไม่มากพอ เขาต้องการมากกว่านี้



สองมือเล็กเกาะกล้ามแขนใหญ่เอาไว้ จิกเล็บขูดลงเนื้อแน่น พยายามดันสะโพกตัวเองให้แก่นกายของอีกฝ่ายเข้ามาลึกขึ้น



โชนมองคนตัวเล็กที่ยามนี้ดวงตาสวยเอ่อนองไปน้ำหยาดน้ำตา ใบหน้าหวานแดงและร้อนผ่าว ริมฝีปากบวมเจ่อ เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับ เอิ้นหอบหายใจใต้ร่างของโชน พยายามไม่จับจ้องสายตาที่เหมือนจะเผาไหม้ทุกอย่างให้เป็นจุลของโชน เอิ้นเพียงต้องการให้ความต้องการของตนถึงจุดสิ้นสุดเสียที



สะโพกเล็กขยับวนอย่างไม่รู้ความ จนมือใหญ่ต้องจับยึดมันไว้แน่น



กระแทกแก่นกายร้อนเข้าไปจนสุดและถอนออก เร่งจังหวะรักจนคนใต้ร่างหวีดร้องออกมาด้วยความกระสัน หยาดน้ำตาของเอิ้นไหลออกมาเป็นทาง ริมฝีปากแดงพยายามขบเม้มไม่ให้เสียงน่าอายหลุดออกมา แต่กลับไม่ช่วยอะไรเลย



เมื่อโชนขยับตัวถาโถมเข้ามาอย่างแรงจนเอิ้นไม่สามารถควบคุมเสียงร้องของตัวเองได้อีกต่อไป



เสียงหวานหวีดร้อง ปลายนิ้วเท้าจิกลงกับผ้าปูที่นอน นิ้วมือเรียวจิกลงบนแผ่นหลังหนา และสะโพกที่แอ่นขึ้นตอบรับกับจังหวะร้อน หมายจะคลายความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น



ทั้งหมดนี้ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เมื่อสุดท้ายแล้วอารมณ์ของเอิ้นพุ่งไปจนถึงขีดสุด ของเหลวสีขุ่นได้หลั่งออกมา ภายในหัวของเขาว่างเปล่า ราวกับว่าจู่ๆ ก็ได้โบยบินไปสู่ท้องฟ้าสีขาวโพลน







___________________________________

เสร็จเด็กไปแล้วคุณเอิ้นนน
 :hao6: :hao6:
#Call123456


ออฟไลน์ Neptunekaet

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เอิ้นลูกกกกกกก 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด