Sᴇxʏ ɴᴀᴜɢʜᴛʏ ɴᴇʀᴅʏ CH.16 GO THROUGH TOGETHER(14|11|18) p.11
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sᴇxʏ ɴᴀᴜɢʜᴛʏ ɴᴇʀᴅʏ CH.16 GO THROUGH TOGETHER(14|11|18) p.11  (อ่าน 111544 ครั้ง)

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
 :ped144:
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม







งานเขียนที่ผ่านมา
01 - Friend's brother, brother's friend  เมื่อเพื่อนสงสัยว่าพี่ชาย... [End]
02 - เรื่องสั้น เหนือฝัน [End]
03 - รักเร่  Dalhia [End]
04 - เรื่องสั้น หลบรัก [End]
05 - คำประกาศของความรู้สึกใหม่ Adore you [End]
06 - Special Happiness ฝากรักไว้ข้างบ้าน [End]
08 - When the wind blow back [End]
09 - โอบตะวัน [End]
10 - candy [End]
11 - At first sight [End]
12 - สู่กลางใจ | a tu co ra zon [End]
13 - หลังม่าน | behind the scene [End] ***Ft. Afterday
14 - กลพยัคฆ์ [End]


west's talk:

☼ กลับมาอีกแล้วค่ะ แฮร่ ขอเปิดด้วยทอล์คก่อนเลย
รอบนี้ลงครบจบแน่ หลังจากห่างหายไปจากวงการนานมาก ยอมรับว่าสำนวนเราอาจจะเปลี่ยนเพราะระหว่างที่หายไปเขียนแนวอื่นด้วย สำหรับเรื่องนี้ก็พยายามเอาที่เรียนจากงานเขียนอื่นๆ มาเขียนให้เนื้อหาเปิดกว้างมากขึ้น ระหว่างที่หยุดพักไปได้ทบทวนอะไรเยอะจริงๆ และคิดว่าอยากส่งต่อผ่านภาษานิยายที่โตมาด้วยกัน ฝากเนื้อฝากตัวอีกครั้งน้า ขอโทษสำหรับที่ผ่านมาที่เคยทำตัวไม่น่ารัก ลงนิยายไม่ครบนะคะ แง
ครั้งนี้พูดได้เลยว่าพร้อมขึ้นเป็นเท่าตัวจากรอบก่อน ถ้ามีอะไรที่ไม่สมบูรณ์แนะนำเข้ามาได้เลยนะ
รออ่านคอมเมนต์ของทุกคนอยู่
คิดถึงแหละ

❤( ^^)人(^^ )❤゙


อ้างถึง
solve for "i" 9x-7i >3(3x-7-u)
       9x-7i >9x-21u
   9x-9x-7i > 9x-9x-21u
          -7i  > -21u
            7i < 21u
         7i/7 < 21u/7
=             i <3 u


c o n t e n t

ch.01 hello stranger
ch.02 LOVES IS INNOCENT
ch.03 LOVE THEN EVOL 
ch.04 Run baby run
ch.05 SOMETHING 
CH.ุ6 Impostor Syndrome
CH.7 NEW LESSON(13/09/18)
CH.8 Can you feel(23/09/18)
CH.9 Missing you is a trouble(26/09/18)
CH.10 Found and lost
CH.11 Let it be
CH.12 Big brother
CH.13 Geek is sexy
CH.14 Fear eats the soul

CH.15 EMBARRASS YOUR FEELING (07|11|18)
CH.16 GO THROUGH TOGETHER ----END
*゚‘゚*      #SexyNaugthyNerdy       *゚‘゚*

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-11-2018 23:03:53 โดย -west- »

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy
«ตอบ #1 เมื่อ02-08-2018 01:31:19 »

chapter 01
hello stranger


     “ก้อง...”

     คนเราไม่อาจรักกันด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก ดังนั้น ไม่น่าแปลกใจที่ไอแซค  นิวตัน จะถือพรหมจรรย์จนวันสุดท้ายของชีวิต
     
“ระหว่างนี้จะไปช่วยที่ร้านผมไหมล่ะ”

     ขณะที่ไอน์สไตน์ กล่าวทิ้งไว้ในจดหมายเมื่อคราวที่ทฤษฎีสัมพัทธภาพยังไม่เป็นที่เข้าใจนัก

 
     “เป็นร้านเล็กๆ นำร่องลดการใช้ทรัพยากร ขายอุปกรณ์พกพาที่ใช้ลดขยะ กับมีส่วนที่เปิดเป็นร้านกาแฟ”
 
     ว่ามีพลังที่มีอานุภาพมหาศาลอย่างหนึ่งซึ่งวิทยาศาสตร์ยังไม่มีคำอธิบายอย่างเป็นทางการ


     “ร้านอยู่ไม่ห่างจากบีทีเอส เดินทางสะดวก หรือจะพักที่นั่นก็ได้ คุณจะได้ลดค่าใช้จ่ายเพราะค่าจ้างไม่เยอะเท่าไหร่”

     เป็นพลังที่รวมและควบคุมพลังอื่น ๆ ทั้งปวงเอาไว้ อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ใด ๆ ที่ปฏิบัติการอยู่ในเอกภพ


     “ไว้เรียนจบแล้วค่อยเปลี่ยนงานก็ได้ ตรงนั้นมีทำเวิร์คช็อปเรื่อยๆ น่าจะเหมาะกับโปรเจ็กต์ที่คุณเสนอ ผมเองก็ออกต่างจังหวัดบ่อย อยู่เสียที่นั่นจะได้เจอกันสะดวกขึ้น”

     พลังนั้นเรียกว่า ความรัก


     “ลองเอากลับไปคิดก่อนแล้วกัน ยังไงค่อยมาบอกผมอีกที”

     บ้าน่ะ ใครจะเอาเรื่องพวกนี้มาจีบสาวกัน




     ทันทีที่ผมรู้แน่ว่าเรียนจบระดับปริญญาตรี แผนชีวิตจากนั้นก็ถูกวางต่อราวกับได้แจ็คพอตสองตาติดในเกมบันไดงู ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์พิภพ ที่ปรึกษาและหัวหน้าภาควิชาชีววิทยายื่นทุนให้ผมโดยปราศจากเงื่อนไข พร้อมกันกับบริษัทเอกชนเงินเดือนสูงลิ่วเสนอตำแหน่งงานให้เป็นผู้ช่วยวิจัย เริ่มงานก่อนรับปริญญา ซึ่งทั้งสองทางอาจเปลี่ยนสายอาชีพในอนาคตไปโดยสิ้นเชิง
    
     ผมเป็นนักเรียนทุนตั้งแต่จำความได้ พื้นฐานเป็นคนขี้เกียจ แต่โชคดีดี แม่หวังว่าจะสอบเข้าแพทย์ตามสมัยนิยม ผมเป็นคนคะแนนสูงสุดในระดับชั้นเสมอไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่แต่โรงเรียนยื่นโควต้าคณะวิทยาศาสตร์ให้ก่อน ในผมรับทันที พังความหวังของพ่อแม่โดยไม่รอปรึกษาใคร


     สองปีถัดมา แม่ตรวจเจอมะเร็งระยะสาม พ่อแบ่งเงินเป็นสองส่วนคือเพื่อการศึกษาและรักษาแม่

     หนึ่งปีจากนั้น แม่เสียชีวิตจากการทำคีโมครั้งสุดท้าย

     ผมกับพ่ออยู่กันตามอัตภาพ หมายถึงไม่ได้ร่ำรวยแต่ไม่ขัดสน เรามีเงินเหลือกับครอบครัวเล็กๆ พื้นเพพ่อเป็นคนจีนพลัดถิ่น อากงเป็นนักซ่อมนาฬิกา ประดิษฐ์เครื่องมือบอกเวลาร้านดังในเยาวราช แต่งงานกับสาวจีนที่นั่งสำเภามาไทยด้วยกัน มีลูกเกือบสิบคน ผมนับไม่ถ้วน พ่อแต่งงานกับสาวไทยที่เจอในย่านปากคลองตลาดเร็วกว่าใคร ทุกอย่างเรียบง่าย พ่อผมไม่ใช่ลูกคนโปรด หลังแต่งงานก็แยกตัวออกมาจากที่บ้าน อาศัยความรู้งานช่างจากอากงทำงานเลี้ยงชีพตัวเอง

     หลังอากงตาย พ่อได้สมบัติมาจำนวนหนึ่ง ส่วนญาติๆ ต่างห่างหายไปทีละน้อย หนึ่งปีรวมกันหนึ่งครั้งตามประเพณี ครอบครัวคนจีนน่าเบื่อ สำหรับผมและพ่อน่าจะรู้สึกเบื่อเท่าๆ กันเมื่อต้องพูดโอ้อวดฐานะการงาน ลูกชายคนโตได้ร้านนาฬิกาไป แม้ปัจจุบันร้านนั้นกลายเป็นร้านของชำ เขาขายเมื่อลูกชายได้งานบริษัทเงินเดือนสูง คนอื่นๆ ไม่มีใครอยากทำงานของอากงแล้ว กว่าจะรู้ตัวว่าไม่สามารถรักษาร้านไว้ได้อีกพ่อก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่าปลงอนิจจัง ปลงมากไปหน่อยเพราะหลังจากผมรับปริญญา เขาก็ละทางโลกด้วยการออกบวชโดยไม่มีกำหนดสึก

     พ่อพูดทิ้งท้ายไว้ว่าเรียนให้สูงเท่าที่มีโอกาส เขาไม่ได้กดดันในทางเลือกหลังเรียนจบ แค่ทิ้งท้ายให้ผมคิด ผมไม่ใช่คนขยัน ไม่ได้มาจากครอบครัวร่ำรวย เข้าใจตลอดมาว่าที่ได้ทุนเรียนดีเพราะสมบัติที่อากงไม่ได้ตั้งใจทิ้งไว้แต่ยังเหลือร่องรอยอยู่ DNA ของคนฉลาดและเทพเจ้าโชคดีที่ผมสมมติตั้งขึ้นเอง ดังนั้นก่อนสมองจะไม่ได้ใช้งานจนรอยหยักหายไป ผมก็ตัดสินใจบอกอาจารย์พิภพว่าต้องการเรียนต่อมากกว่าเริ่มวัยทำงาน

     อาจารย์พิภพเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของผมตั้งแต่ปีหนึ่ง เจอกันครั้งแรกวันสัมภาษณ์ทุน เป็นอาจารย์วัยกลางคนที่ใจดี และเมตตาผมเป็นพิเศษจนเพื่อนในรุ่นกระแนะกระแหนบ่อยครั้งว่าผมเป็นคนโปรด

     ความสำคัญของผมที่ถูกเรียกได้ว่าคนโปรด เกิดขึ้นในช่วงที่แม่ค่ารักษาแม่แพงขึ้น ผมของานจากอาจารย์แลกกับรายได้เล็กๆ น้อยๆ เพื่อซื้อของไร้สาระสำหรับตัวเอง แม้ว่าสันดานจะเกียจคร้าน แต่ความรับผิดชอบยังมี หรืออาจเป็นเพราะอาจารย์มองเห็นความสามารถพิเศษของผมที่ว่าขี้เกียจแต่หัวดี ทุกครั้งที่สั่งงานมักได้งานเร็วกว่ากำหนด เขามอบหมายงานให้ทำบ่อยๆ จนสนิทกันมากขึ้นตามลำดับ ความเป็นคนโปรดนั้นชัดเจนขึ้นเมื่อในงานบวชพ่อที่จัดเงียบๆ เล็กๆ เท่าพิธีกรรมทางศาสนาที่เงียบที่สุดจะมีได้ อาจารย์เดินทางไปร่วมเฉลิมฉลองด้วยการถวายปัจจัย และรับปากว่าจะช่วยดูแลผมในฐานะลูกหลานคนหนึ่ง ขอให้พ่อบวชอย่างไม่ต้องติดกังวลซึ่งผมรู้ว่าพ่อไม่กังวล เพราะถ้ากังวลก็คงไม่ทิ้งผมไว้กับโลกที่ไม่มีใครเหลืออยู่ลำพัง

     ผมรู้ว่าอาจารย์พิภพมีครอบครัวนักวิชาการ ภรรยาทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์ในกระทรวง เขาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเต็มขั้น มีลูกชายหนึ่งคนที่ไม่พูดถึงนัก ผมได้พบหน้าเด็กนั่นครั้งแรกในวันที่ย้ายของออกจากหอมาอยู่ร้านกาแฟ จากการสำรวจก่อนหน้านี้พบว่าร้านที่อาจารย์พูดถึงเป็นอาคารพาณิชย์สองชั้น ชั้นบนมีห้องสำหรับสต๊อกสินค้า ห้องทำงาน และห้องน้ำ ผมสามารถใช้ครัวที่คาเฟต์ได้ ส่วนที่นอนผมพอจะหาได้จากเปลี่ยนพื้นที่จัดเก็บของในห้องทำงานสำหรับวางถุงนอน ตะกร้าผ้า และใช้ราวแขวนผ้ากับตู้หนังสือกั้นเป็นห้องส่วนตัวของตัวเอง

     สองปีกับชีวิตแบบนี้ก็ไม่เลวร้ายเท่าไหร่ เอาจริง ถ้าพอตั้งหลักได้ผมอาจจะหาหอพักถูกๆ อยู่ไปก่อน แผนระยะปีมันยาวเกินไป ถึงแม้จะเป็นที่สะดวกสบายสำหรับการทำวิจัย ป.โทโคตรๆ และประหยัดโคตรๆ ก็ตาม


    “พี่จะอยู่แบบนี้จริงดิ”

     เด็กคนนั้น คนเดียวที่สามารถไขกุญแจประตูเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวได้คือลูกชายของอาจารย์ เขาตัวผอม ผิวขาว ใส่แว่นหนาเตอะ หัวยุ่ง และสวมเสื้อผ้าที่เดาได้ว่าพ่อแม่ซื้อให้เพราะแม่งเชยระเบิด ชะโงกคอจากประตูด้านนอก ก่อนขยับให้ผมเห็นทั้งตัวว่ารูปร่างผอมแค่ไหน เขาอายุน้อยกว่าผม หรือไม่ก็คงเป็นคนอายุเท่ากันที่ขาดสารอาหารตั้งแต่ยังเด็ก แต่ไม่มีทางจะอายุมากกว่าแน่ๆ


     “ผมเป็นลูก อ่า..อาจารย์พิภพ”

     “อืม...ขออาศัยด้วยสักปีสองปีนะ”

     “พ่อบอกพี่ไม่เรื่องมาก”

     อาจารย์แอบเม้าเรื่องของผมกับที่บ้าน แน่นอน การที่รับนักศึกษาคนหนึ่งมากินนอนในพื้นที่ของตัวเองควรปรึกษาครอบครัวให้เรียบร้อย แม้ว่าผมเป็นผู้ชายและความสัมพันธ์ของผมกับเขาก็เป็นเพียงผู้ใหญ่ใจดีกับเด็กที่บังเอิญทำงานถูกใจเท่านั้น

     “แต่ไม่คิดว่าจะง่ายๆ ได้ขนาดนี้”

     เด็กคนนั้นมองเลยไปด้านหลัง พื้นที่ส่วนตัวของผมมีขนาดเท่าผู้ชายส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซ็นติเมตรนอนพลิกตัวได้สองตลบครึ่ง จริงๆ พื้นที่เล็กไม่มีปัญหา ยกเว้นแต่ลมไม่เข้า อาจจะร้อนจนนอนไม่หลับ แต่ถ้าเปิดพัดลมก็น่าจะช่วยได้

     “ไม่อยากรบกวนมาก”

     “กวนขนาดนี้ไม่ต้องเหลือความเกรงใจแล้วครับ” เด็กหนุ่มว่าหน้าซื่อ ใช้นิ้วชี้ดันแว่นตัวเองขึ้นชิดจมูก “ผมว่าไปนอนห้องใต้บันไดยังกว้างกว่า เป็นส่วนตัวกว่าด้วย ห้องนั้นไว้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดไม่กี่ชิ้น ย้ายไปไว้ในห้องน้ำก็ได้ แต่พี่ต้องทำความสะอาดหน่อย เดินสายไฟไว้ด้วย ปลั๊กไม่เยอะ อาจจะต้องพ่วงต่อกับปลั๊กสามตา”

     นั่นเป็นที่แรกที่ผมเล็งไว้ แต่ไม่แน่ใจว่าในห้องมีอะไรสำคัญหรือเปล่า อาจารย์เองก็ให้แค่กุญแจร้านแล้วจัดการตัวเอง ช่วงนี้อาจารย์พิภพมีสัมมนาที่ภูเก็ต เขาว่าเรื่องทางร้านจะให้ลูกชายมาแนะนำ แต่ไม่ได้บอกว่าจะเข้ามาเมื่อไหร่

     “ผมมานอนที่นี่บ่อยนะ ที่จริงพอร้านปิดพี่จะนอนตรงไหนก็ได้ ชั้นล่างทั้งชั้นเป็นของพี่ แต่ห้ามพาผู้หญิงมานอนด้วย”

     “ไม่เอามาหรอกน่า”

     “ผมพูดเผื่อ ผมเข้าใจวัยเรามันวัยกลัดมัน”

     ผมแทบนึกภาพไอ้แว่นนี่กลัดมันไม่ออก เขาเหมือนเด็กเนิร์ดในหนังฝรั่งที่ถ้าเสริมด้วยเหล็กดัดฟันแบบที่ครอบหัวแม่งโคตรใช่เลย


     หรือไม่ก็เหมือนอีกคนที่ดังๆ ในประเทศไทย

     “เอ็งมีญาติเรียนรัฐศาสตร์ที่ชอบมีเรื่องกับนายกปะวะ”

     “หือ? ไม่นี่”

     “เหรอ หน้าคล้ายๆ คนดัง”

     “เนติวิทย์เหรอ”

     กูอุตส่าห์พูดอ้อม โดนเด็กเวรนี่ดักมุกจนเบรคไม่ทัน

     “ทักกันเยอะนะ โดยเฉพาะชื่อจริงผมชื่อเนติธร อายุก็ไล่ๆ กันด้วย” คนพูดทำหน้าเซ็งก่อนเล่าต่อ “ที่มหา’ลัยเพื่อนเรียกว่าเนเน่ แต่จริงๆ ผมชื่อธูป ผมอยากให้พี่เรียกผมว่าธูปมากกว่า การเรียกว่าเนเน่เป็นบูลลี่ แต่ผมไม่แคร์หรอก พวกนั้นมีความพยายามแต่ยังอ่อนหัด”

     “แข็งแกร่งสัส”

     “ไม่ขนาดนั้น พี่มีชื่อที่สั้นกว่าก้องกิดากรไหม”

     “มังกร”

     นั่นนับเป็นชื่อที่สั้นแล้ว ผมนึกโกรธแม่ทุกครั้งที่เจอข้อสอบสั่งให้เขียนชื่อทุกหน้ากระดาษ ลำพังชื่อผมก็ยาวจะตายห่า ไม่นับรวมนามสกุลที่แปลงจากภาษาจีนมาอีกสี่ห้าคำก็แทบใช้เวลามากกว่าข้อสอบหนึ่งข้อกว่าจะเขียนจนเสร็จ

     “ที่จริงพ่อพูดถึงพี่ว่าก้อง แต่ผมไปเห็นในใบประวัติ ชื่อพี่เท่ดี เลยคิดว่าคนตั้งน่าจะตั้งชื่อเล่นเฟี้ยวฟ้าวกว่าก้อง ก้องกิดราก้อน”

     “เออ แต่ตายไปแล้ว”

     เด็กหนุ่มยักไหล่ ไม่แสดงความเสียใจ เพียงดันแว่นที่เลื่อนลงมาเพราะน้ำหนักเลนส์ขึ้นชิดจมูกเป็นระยะ

     “ผมช่วยย้ายของไหม แต่พี่ทำความสะอาดห้องเองนะ ผมไม่ชอบฝุ่น แล้วก็มีสติ๊กเกอร์เรืองแสงที่ผมแอบเอาไปติดไว้ตอนเด็กๆ มันอาจอันตรายถ้าพี่เข้าย้ายเข้าไป แต่เป็นส่วนตัวแล้วก็กว้างกว่านอนในซอกแน่ๆ” เขาเสนอเงื่อนไข ดูเป็นเด็กประหลาดๆ แต่ก็ไม่แปลกใจที่เป็นลูกชายของอาจารย์พิภพและภรรยา ผมเชื่อว่าเมื่อการรวมตัวของไข่ที่มีดีเอ็นเอฉลาด และสเปิร์มที่ปราดเปรื่อง เด็กที่ออกมาถ้าไม่เป็นจีเนียสก็คงเป็นบ้า ไอ้เด็กนี่เป็นคนที่ก้ำกึ่งระหว่างสองเส้นนั้น และแน่นอน ผมอยู่ในขอบเขตของคนจีเนียสที่อาจารย์พิภพมองเห็นเพชรในตมแบบเต็มๆ

     “ปกติที่นี่จะมีพี่อีกคนเป็นบาริสต้า เขาแค่ชงกาแฟกับทำบัญชีในส่วนของคาเฟต์ ไม่รู้ว่าเจอหรือยัง เขาไม่ทำงานมากกว่านั้น ชื่อพี่นันต์”

     “ยังไม่เจอ”

     “อื้อ เขาจะเข้าประมาณเก้าโมงครึ่ง ร้านเปิดสิบโมงถึงสามทุ่ม บางคืนพี่เขาก็ไปทำงานผับต่อ เป็นนักร้อง”

     “ลูกศิษย์อาจารย์อีกคนเหรอ”

     “เปล่า เป็นพนักงานที่นี่แหละ แต่คนเดียวดูไม่ไหวไง ไหนจะบัญชี สต๊อก ประสานงาน ช่วงหลังๆ ผมไม่ได้ช่วยที่ร้านเยอะ ติดเรียนอะ”

     ผมพยักหน้า เจ้าเด็กตัวเล็กกว่าเดินนำลงมาด้านล่าง

     “เน่” เจ้าตัวหันมาทำหน้าหงิก ไม่ชอบชื่อที่เรียก “โอเค...ธูป เรากำลังจะไปไหนกัน”

     “ห้องใต้บันไดไง”

     ธูปโชว์กุญแจดอกเล็ก แวววาวสีเงิน สะท้อนกับแดดเช้าที่ลอดผ่านหน้าต่าง ร้านนี้รีโนเวทจากอาคารธรรมดาๆ ตบแต่งด้วยเครื่องเรือนถักสาน วัสดุที่ใช้ในร้านส่วนมากเป็นไม้ หรือของรีไซเคิลตามคอนเซ็ปต์รักษ์โลกของอาจารย์ ไม่มีแอร์ แต่วัสดุกับต้นไม้ที่ปลูกในร้านช่วยให้รู้สึกเย็นตา ผมชอบการตบแต่งของร้านนี้ มีกลิ่นของดินและไม้แม้จะอยู่ท่ามกลางตึกสูงใหญ่ของมหานคร

     “พี่อาจจะต้องระวังหน่อยตอนเข้าไปในห้อง เพดานมันเตี้ยลงเรื่อยๆ”

     ประตูไม้เปิดออก อากาศห้องใต้บันไดไม่อับอย่างที่คิด อาจเพราะมีพัดลมระบายอากาศติดไว้และทำงานตลอดเวลา ธูปเปิดไฟในห้อง เป็นไฟสีเหลืองนวล  อุปกรณ์ทำความสะอาดถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ อย่างที่เจ้าของร้านว่า ใช้เวลาเก็บกวาดรวมทั้งขนย้ายไม่เกินสองชั่วโมงน่าจะเสร็จ เพดานห้องเป็นพื้นเอียงลาดลงผมสามารถเดินผ่านประตูขนาดสองเมตรครึ่งเข้าไปได้ แต่จากนั้นค่อยๆ ต่ำลงตามความลึก ไม่เตี้ยจนติดพื้น เป็นห้องนอนรูปสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดกว้างกว่าตู้นอนบนรถไฟเกือบสองเท่า

     “นี่แอบติดจริงอะ นึกว่าอยู่ในกาแล็กซี่” ผมเลิกคิ้ว เมื่อหันไปปิดไฟแล้วเห็นแสงสีเขียวสะท้อนออกจากผนัง เป็นดาวดวงเล็กๆ กระจายตัวรอบห้อง ธูปเปิดไฟ เกาจมูก

     “ตอนเด็กๆ เป็นห้องโปรดของผม ก่อนย้ายบ้าน เข้ามาเล่นในนี้บ่อยๆ”

     “แปลว่าที่นี่เป็นบ้านเก่าของอาจารย์เหรอ”

     “ใช่ เป็นบ้านของคุณย่าอีกที ข้างบนนั่นเป็นห้องทำงานกับห้องนอน พ่อไปสร้างบ้านใหม่แถวรามอินทรา พอบ้านที่โน่นเสร็จก็เห็นว่าที่ตึกนี้ว่างอยากลองทำอะไรเล่นๆ เลยเปิดคาเฟต์”

     “ย้ายไปไกลเหมือนกันนะ”

     “ตรงนั้นมีพื้นที่มากกว่า ขึ้นทางด่วนแป๊บเดียวก็ถึงในเมืองแล้ว ผมติดรถพ่อเข้ามาเรียนตอนเช้า ส่วนเย็นๆ นั่งรถเมล์กลับบ้าน” เขาว่า ผมเคยไปที่นั่น นานๆ ที “นั่งรถสาธารณะโคตรนานเลย แต่ก็ดี จะได้อ่านหนังสือด้วย พอถึงบ้านก็เหนื่อย หลับปุ๋ย”

     “ทำไมไม่ค้างที่นี่ล่ะ รถไฟฟ้าก็ผ่าน”

     “ก็อยากค้างอยู่นะ ที่จริงก็ค้างบ่อยเลยแหละ แต่พี่นันต์ชอบไล่กลับบ้าน”

      ผมได้ยินชื่อนันต์เป็นครั้งที่สอง บาริสต้าที่ไม่รู้ที่มาคนนั้น

     “พี่นันต์เป็นคนถือกุญแจอีกคน เขาจะไม่สบายใจถ้าผมอยู่คนเดียว ถ้าให้ผมค้างที่ร้านหลังเสร็จงานจากผับพี่นันต์ต้องแวะเข้ามาดูความเรียบร้อยอีกที เขาขี้กังวล”

     “เพราะพ่อนายให้กุญแจเขาไว้ไงล่ะ”

     “ใช่ แต่พ่อก็ให้กุญแจทุกคนที่ทำงานที่นี่ล่ะ” โอเค ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมคนชื่อนันต์ถึงเป็นกังวลนัก “พี่นันต์หวงร้านนี้อย่างกับเป็นบ้านตัวเอง ผมแนะนำว่าอย่าทำร้านรกหรือทำข้าวของเสียหายนะ พ่อไม่ว่าหรอก แต่พี่นันต์เอาตาย”

     “ผู้หญิงเหรอ”

     “ผู้ชาย อายุยี่สิบแปด แม่เจอเขาในงานแต่ง พี่นันต์ไปร้องเพลง เขาเป็นนักร้อง ผมบอกแล้วนี่”

     “นักร้องอาชีพเหรอ”

     “เปล่า” ธูปปฏิเสธ เขาเดินออกจากห้อง และกลับมาอีกครั้งพร้อมมาสก์ปิดปากสองชิ้น ยื่นให้ผมหนึ่งชิ้น แล้วเกี่ยวเข้ากับหูตัวเองอีกหนึ่งชิ้น “บาริสต้า เขาทำได้หลายอย่าง เงินดีที่สุดคือนักร้องตามผับ แต่พี่นันต์ไม่ชอบ เขาไม่ชอบกินเหล้า”

     “เออ คนดีเหมือนฉันเลย” ธูปเหลือบตามอง เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “มองอะไร ไม่กินเหล้าจริงๆ”

     “ผมไม่ชอบที่มันขม แล้วก็ทำลายสมอง”

     “ฉันไม่ชอบที่มันแพง” เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ราคาถูกที่สุดที่เคยกินก็ยาดอง แต่ไม่เห็นสรรพคุณตามอวดอ้าง “เก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า”

     “พี่นันต์ก็ว่าอย่างนั้น เขาลำบาก ตอนแม่เล่าให้ฟังนะ เหมือนนั่งดูรายการวงเวียนชีวิต แม่เลยเมตตาพี่นันต์มาก เหมือนที่พ่อชอบพี่ล่ะมั้ง”

     “พูดเหมือนเป็นเด็กที่พ่อแม่ไม่รักเลยวุ้ย”

     “ไม่ใช่ เพราะเขารักต่างหากถึงต้องหาคนอื่นมาอยู่ด้วย แบ่งเบาความรักออกไป หารเป็นหกส่วน ผมได้สองในสาม ส่วนพี่กับพี่นันต์ได้ไปคนละหนึ่งส่วนหก”

     ผมหัวเราะ ธูปเป็นเด็กที่มีสมการอยู่ในหัวตลอดเวลา คำนวณทุกอย่างเสร็จสรรพทั้งกับในเรื่องที่ไม่จำเป็น

     “ปกติผมทำงานช้ากว่าคนอื่นประมาณครึ่งหนึ่ง ถ้าหนึ่งชั่วโมงพี่ทำงานเสร็จหนึ่งชิ้น ผมต้องใช้เวลาชั่วโมงครึ่ง เพราะงั้นถ้าผมช่วยพี่ทำงาน...”

     “พอละ ไม่ต้องตั้งสมมติฐาน ทำเลย”

     “ผมไม่ได้ตั้งสมมติฐาน แค่คำนวณเวลานิดหน่อย เผื่อพี่จะคิดว่าผมจะทำให้พี่เก็บห้องเสร็จช้าลง”

     “งั้นไปช่วยขนของข้างบนลงมาก่อนดีกว่า ฉันเก็บในห้องนี้เอง เอาไปไว้ในห้องน้ำได้ใช่ไหม พี่นันต์ของนายจะบ่นหรือเปล่า”

     “ได้ แต่ของที่ยังต้องวางนอกห้องต้องวางเป็นระเบียบหน่อย อย่างน้อยก็ก่อนเก้าโมงครึ่ง”

     ผมมองนาฬิกา ยังมีเวลา โชคดีที่เมื่อคืนนั่งตรวจข้อสอบเด็กปีหนึ่งให้อาจารย์จนสว่างเลยมาเร็ว

     “วันนี้ไม่มีเวิร์กช็อป พี่จัดการของนอกร้านให้เรียบร้อยแล้วค่อยกลับมาเก็บของในห้องก็ได้ ให้พี่นันต์จัดการคนเดียวไหว”

     เขาพูดถึงในงานส่วนที่ผมต้องรับผิดชอบ คือจัดการดูแลเวิร์คช็อปที่จะสอนในร้าน รวมไปถึงหาอีเวนท์โปรโมตร้านและรณรงค์เรื่องการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้คุ้มค่า

     โปรเจ็กต์สำหรับปริญญาโทของผมก็เกี่ยวกับเรื่องการกำจัดขยะ เป็นไปในทิศทางของวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมมากกว่าชีววิทยาแต่นำมาเชื่อมโยงกันได้ถูกใจอาจารย์ เป็นโปรเจ็กต์ที่ทำต่อยอดจากช่วงปริญญาตรี ยืนยันความสำเร็จจากเงินรางวัลประกวดในระดับมหาวิทยาลัย และได้รางวัลอีกสองสามรายการเมื่ออาจารย์นำไปเสนอในต่างประเทศ ซึ่งผมไม่ได้สนใจจำนวนถ้วยประกาศมากกว่าจำนวนเงินที่ได้รับ

     “อีกอย่าง พอพี่นันต์มาผมจะต้องออกไปเรียน มีเรียนตอนสิบโมง”

     “ชุดนี้อะนะ”

     “ไม่ใช่ดิ นี่ผมใส่มาช่วยพี่ดูห้อง” เขาว่า ค่อยโล่งอกหน่อยว่าธูปจะไม่สวมเสื้อผ้าโกโรโกโสแบบนี้ไปมหา’ลัยจริงๆ

     “แล้วรู้ได้ไงว่าฉันเข้ามาวันนี้”

     “พี่รู้จักวิทยาการที่เรียกว่ากล้องวงจรปิดไหม” ไอ้แว่นกวนตีน เดี๋ยวตบแว่นหัก “ผมตื่นมาฉี่ แล้วเดินผ่านร้าน เห็นพี่เก็บของอยู่ชั้นบนเลยให้เพื่อนไปรับมาส่ง ไม่จำเป็นไม่ต้องบอกพ่อล่ะ”

     “อ้อ ใช่ อาจารย์ไปสัมมนา เพื่อนมีรถเหรอ”

     “มีครับ แต่พ่อกับพี่นันต์ไม่ค่อยชอบให้ไปรับนอกเมือง ถ้าจากร้านไปมหา’ลัยก็พอได้ ระยะทางสั้น แล้วก็รถติดอีกต่างหาก”

     “ทำไมไม่ขึ้นบีทีเอสวะ”

     “มอเตอร์ไซค์ไวกว่าบีทีเอสนี่หน่า”

     เข้าใจเลยว่าทำไมอาจารย์ไม่ชอบให้เพื่อนไปรับ ธูปตัวบางจนเหมือนจะปลิวไปกับลมได้ไม่รู้ว่าถ้าเพื่อนทำตกไว้ข้างถนนจะทันรู้ตัวหรือเปล่า

     “แต่เพื่อนผมเซียนยิ่งกว่าวินมอ’ไซค์แถวนี้อีก”

     ผมพยักหน้าให้ความภูมิใจของเด็กหนุ่ม ยุติบทสนทนาและการแสดงความคิดเห็นด้วยการหันหน้าเข้ากำแพง กำแพงที่บางส่วนเป็นอิฐ บางส่วนเป็นไม้ ประดับด้วยสติ๊กเกอร์รูปดาวเรืองแสงซึ่งเมื่อสว่างไสวก็ไม่เห็นร่องรอย

     ห้องนี้เต็มไปด้วยฝุ่น มีหยากไย่ขึ้นตามหัวมุม ที่สะอาดหน่อยเห็นจะเป็นมุมเก็บไม้กวาดเพราะขยับเข้าออกเยอะกว่าใคร ผมรื้อถังใส่น้ำสำหรับซักล้าง กะละมัง ไม้ถูพื้น ไม้ปัดหยากไย่ ไม้ปัดขนไก่ ราวตากผ้าเล็กๆ และผ้าขี้ริ้วออกมาด้านนอก เสียงฝีเท้าดังเมื่อธูปแยกตัวไปเก็บของจากชั้นสองตาม จากห้องใต้บันไดได้ยินเสียงเอียดอาดของไม้ที่รับแรงกดชัดเจน ผมกำจัดหยากไย่เป็นอย่างแรก จากนั้นก็กวาดพื้น จัดการกับฝุ่นผงกองเบ้อเริ่มขณะที่ธูปวิ่งขึ้นลงสองชั้นไปมา

     “พี่มีแฟนปะ”

     ธูปถาม เขาหยิบเครื่องใช้ส่วนตัวของผมมาหมด นั่งเหมือนเป็นซากหมากฝรั่งถูกเคี้ยวข้างกะละมัง สภาพย่อยยับราวกับถูกสั่งวิดพื้นสามสิบที

     “เคยมี”

     เสียงน้ำหยดจากผ้าขี้ริ้วเปียกลงน้ำดังจ๊อก ละอองน้ำกระเซ็นถูกตัวเด็กหนุ่ม ธูปขยับตัวหนีทั้งที่เหงื่อท่วม ท่าทางสกปรกไม่ต่างกัน

     “ตอนนี้ไม่มีเหรอ”

     “ไม่ว่าง”

     “ไม่ว่างมีแฟนได้ด้วยเหรอ”

     ธูปดันแว่นขึ้นชิดตา ปาดเหงื่อที่ไหลจากไรผมด้วยหลังมือ ไม่มีฝุ่นกวนใจแล้ว เขาถอดผ้าปิดปากได้สบาย แต่ผมยังต้องจัดการถูห้องอีกรอบให้เรียบร้อยก่อนเอาอุปกรณ์ทั้งหมดไปเก็บไว้หลังร้าน

     “ก็เรียน เลิกเรียนก็ทำงานให้พ่อนาย จะเอาเวลาที่ไหนไปดูแลคนอื่น ทำไม มีหรือไงเราน่ะ”

     ธูปส่ายหัวจนเหงื่อสะบัด เป็นภาพของเด็กที่ไม่น่าเชื่อว่าอายุต่างกันไม่กี่ปี

     “ไม่เล่าอะ เรื่องส่วนตัว”

     ด่ากูเสือกทั้งที่เสือกเรื่องของกูก่อนอีก

     “ซิงด้วยปะเนี่ย”

     “บ้าเหรอพี่” เขาทำตาประหลับประเหลือก เหมือนกลัวพ่อมาได้ยิน แต่ก็กระซิบถามเสียงเบา “พี่เคยแล้วเหรอ”

     “ก็ธรรมชาติปะวะ ตอนมัธยมไม่มีใครพาไปขึ้นครูบ้างหรือไง”

     “ไม่มีอะ ผมอยู่สาธิตของมหา’ลัยที่พ่อสอน เลิกเรียนก็กลับพร้อมกัน เพิ่งไปไหนมาไหนเองตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่เคยกลับบ้านดึกเลย ถ้าต้องทำกิจกรรมดึก หรืออ่านหนังสือจะค้างที่นี่ แต่ว่าพี่นันต์ก็คุมแจ”

     ธูปไม่ได้บอกด้วยรูปประโยคแต่สัมผัสได้ถึงความอยากรู้อยากเห็น ผมทำความสะอาดของในห้องเสร็จแล้ว นั่งยองข้างๆ เพื่อกระซิบเสียงเบา

     “ไว้พาไป ตอบแทนที่ช่วยเก็บของวันนี้”

     แก้มของเด็กหนุ่มแดงปลั่งจากเลือดที่สูบฉีดเต็มที่ ในทีแรกที่แดงเพราะเหนื่อย กลับเป็นแดงเพราะเขินอาย ธูปไม่ตอบ เม้มปาก มองไปทางอื่น ที่ผ่านมาคงเป็นเด็กดีที่อยู่ในกรอบจนเคยชิน เมื่อพูดถึงเรื่องอันขัดศีลธรรมแล้วก็มีปฏิกิริยารุนแรงจนสังเกตได้

     “จริงๆ นะ พี่พูดแล้วนะ แต่ว่า...อย่าให้พี่นันต์รู้นะ”

     “นินทาอะไรกู” เสียงนั้นทำเอาเด็กหนุ่มสะดุ้งโหยง เป็นเสียงที่ดังหลังจากประตูร้านถูกเปิดออกไม่ถึงนาที ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ไหล่กว้าง ผมยาวประบ่าก็เข้ามา เขาสวมหมวกกันน็อกสำหรับปั่นจักรยาน เมื่อมองออกไปด้านนอกก็เห็นจักรยานหน้าใหม่จอดล็อกล้อใกล้กระถางต้นไม้สีแดงอิฐ

     “หวัดดีครับ”

     “อืม เด็กที่จะมาช่วยดูไอ้ธูปใช่ไหม”

     “ผมมาดูโซนสินค้า”

     ที่เป็นของไอเดีย รับมาขาย หมายถึงงานอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการประยุกต์วิทยาศาสตร์ของอาจารย์ด้วย

     “ก็ด้วยแหละ ก้องใช่ไหม”

     “มังกร” ธูปแทรกบทสนทนา แต่ผมไม่มายด์ เรียกอะไรก็ได้ ก้องกิดราก้อนแบบที่เจ้าตัวว่าก็ได้

     “ครับ พี่นันต์ใช่ไหมครับ ไอ้เปี๊ยกนี่เล่าให้ผมฟังเรื่องพี่เยอะเลย”

     “อย่าไปฟังมันมาก เด็กเพ้อเจ้อ” พี่นันต์ยิ้มมุมปาก ผลักหัวธูปจนเซไปอีกข้าง “แล้วเราน่ะ ยังไม่อาบน้ำอีก มีเรียนไม่ใช่หรือไง”

     “เนี่ย เป็นแบบเนี้ย” ธูปกระซิบ ผมหัวเราะ เข้าใจความจุกจิกเกินเบอร์ของลูกจ้างร้าน กับความเอื่อยเฉื่อยเกินพอดีของเด็กหนุ่ม พี่นันต์เหลือบมองด้วยหางตา ธูปก็ลุกเดินขึ้นห้องน้ำชึ้นสองโดยไม่อิดออด

     “ดุๆ มันหน่อยก็ดี เข้ามาทำงานของอาจารย์ก็จริง แต่พี่เลี้ยงเด็กนี่ก็เป็นงานที่เลี่ยงไม่ได้ วันนี้เก็บของให้เรียบร้อยก่อนแล้วกัน ยังไม่ต้องช่วยที่ร้าน”

     ลูกจ้างรุ่นพี่ว่า เขารวบผมด้วยหนังยางสีดำ เผยให้เห็นสันกรามและรูปคางที่สวยราวถูกปั้นแต่งมาชัดเจน พี่นันต์ไม่ใช่คนหล่อพิมพ์นิยม แต่โดยรวมมีสเน่ห์เป็นอัตลักษณ์ ผมไม่แปลกใจที่ธูปจะบอกว่าเขาได้เงินจากการเป็นนักร้องเยอะกว่าบาริสต้า

     “งั้นเดี๋ยวผมเคลียร์ตรงนี้ออกก่อนนะพี่ แล้วขอไปจัดของในห้องต่อ ข้างบนก็รื้อห้องทำงานของอาจารย์ไว้”

     เขาสะบัดมือไล่ เริ่มเตรียมเปิดร้านด้วยการเปิดตู้เย็นเช็กสต๊อกของที่มี ในห้องใต้บันไดได้ยินเสียงน้ำไหลจากด้านบนที่เยื้องกันกับห้องน้ำ หมุนบานเกล็ดพัดลมดูดอากาศออกกว้างขึ้น แสงจากด้านนอกลอดเข้ามาเป็นรูปวงกลม กะพริบตามการทำงานของใบพัด เหงื่อท่วมร่างผมไม่แพ้เจ้าเด็กนั่น กระนั้น วันแรกสำหรับโชคชั้นที่หนึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ อยู่ดี


'
'

see you next Wednesday
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2018 01:37:24 โดย -west- »

ออฟไลน์ Tak

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #2 เมื่อ02-08-2018 02:00:50 »

 :katai2-1: :katai2-1:รออ่านค่ะ

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #3 เมื่อ02-08-2018 03:20:57 »

ดูจากชื่อแล้ว พี่นันต์เป็นนายเอกใช่ไหม น้องเน่เวอร์ชั่นก๊อปไม่น่าจะใช่ แต่น้องดูน่ารักดี  :katai2-1:

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #4 เมื่อ02-08-2018 06:07:02 »

เริ่มต้นได้น่าติดตามมาก ช่วงนี้กำลังสนใจเรื่องการลดขยะ กำกัดขยะอยู่พอดี รอติดตามนะคะ และยินดีต้อนรับการกลับมาอีกครั้งคะ :mew1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #5 เมื่อ02-08-2018 08:34:21 »

ชอบแล้ววววววววววว    :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ blanchard

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 376
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-3
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #6 เมื่อ02-08-2018 09:09:09 »


อยากอ่านต่ออออออ    :impress3:

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #7 เมื่อ02-08-2018 10:02:08 »

เวลคัมแบ๊คจ้าาาาาาา
เปิดเรื่องมาก็น่าสนใจเลย
ติดตามค่าาาาา

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #8 เมื่อ02-08-2018 17:32:26 »

เดาจากชื่อเรื่อง sexy หมายถึงกานต์ naughty หมายถึงธูป nerdy หมายถึงก้อง ถูกมั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #9 เมื่อ02-08-2018 18:55:31 »

เนื้อเรื่องน่าสนใจอีกแล้ว ติดตามค่า อยากให้ถึงวันพุธหน้าแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
« ตอบ #9 เมื่อ: 02-08-2018 18:55:31 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #10 เมื่อ02-08-2018 20:31:19 »

ใครจะเป็นพระเอก นายเอกละนี่ มีให้ลุ้นสามคนเลย

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #11 เมื่อ02-08-2018 23:04:37 »

วี้ดว้ายยยยยยยยยย

ดีใจที่คุณเวสต์กลับมา ปาหัวใจใส่รัว ๆ ๆ

เปิดเรื่องได้น่าสนใจเช่นเคย รออ่านความป่วนของแก๊งสามช่านี้เบลย ฮ่า ๆ ๆ ๆ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #12 เมื่อ02-08-2018 23:24:36 »

 :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #13 เมื่อ03-08-2018 10:42:58 »

คิดถึงผลงานของคุณเวสต์มาก มีคุณภาพเหมือนเดิม

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #14 เมื่อ03-08-2018 18:11:30 »

ดีใจที่กลับมาครับ
รอตามงานใหม่อย่างจดจ่อครับ

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #15 เมื่อ03-08-2018 19:28:37 »

ชอบจัง ตัวละครเนิบๆ เนียนๆ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #16 เมื่อ03-08-2018 20:01:59 »

ติดตามจ้า

ออฟไลน์ Ta_ii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #17 เมื่อ03-08-2018 20:40:09 »

เย้ๆเรื่องใหม่ ติดตามแล้วจ้า

จากชื่อเรื่องและตัวละครที่ปรากฎในตอนแรกนี้ เราเดาว่าเป็น 3P....มั้ง ฮ่าๆ
sexy = พี่นันต์
naughty = มังกร
nerdy = ธูป

ถึงจะไม่ค่อยอ่านแนว 3P แต่ก็รอติดตามต่อน้าาชอบผลงานคุณเวสเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย  :mew1:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #18 เมื่อ04-08-2018 23:51:27 »

อุ้ย เปิดมาก็น่าสนใจแล้ว

ขออนุญาตปูเสื่อนั่งรอวันพุธนะคะ

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #19 เมื่อ05-08-2018 00:21:26 »

 :3123: :fire: :impress3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
« ตอบ #19 เมื่อ: 05-08-2018 00:21:26 »





ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #20 เมื่อ05-08-2018 00:49:44 »

มาเจิ้มเรื่องใหม่ ของคุณwest o13

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #21 เมื่อ05-08-2018 08:29:11 »

กรี๊ดดดดด เรื่องใหม่  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ดีใจ๋ :กอด1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #22 เมื่อ05-08-2018 09:03:17 »

แปะ  :pig4:

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #23 เมื่อ05-08-2018 09:25:06 »

น่าสนใจจจ รอติดตามค่า
 :hao7:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #24 เมื่อ06-08-2018 00:05:13 »

รอติดตามค่า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #25 เมื่อ06-08-2018 06:43:46 »

ไรท์ ช่วยลงวันที่เวลาลงครั้งใหม่ จะได้รู้ว่ามาลงใหม่แล้ว  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #26 เมื่อ06-08-2018 09:55:20 »

กี๊ดดดดดดดดดดดด คิดถึงงงงงงงง
ลุ้นว่ามาแนวไหน เดาไม่ถูก จะเอาฮาหรือดราม่า เปิดมาสามตัว

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #27 เมื่อ06-08-2018 10:09:04 »

ติดตามค่า

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
◡̈ sexy naughty nerdy ch.02 LOVES IS INNOCENT (8/9/18)
«ตอบ #28 เมื่อ09-08-2018 08:07:20 »

chapter 02
LOVES IS INNOCENT

LOVES IS INNOCENT 


             ผมใช้เวลาไม่นานสำหรับการเรียนรู้เรื่องปัญหาของธูปที่พี่นันต์เป็นกังวล ซึ่งก็คือเพื่อนคนสนิทของไอ้แว่น ต้องย้ำคำว่าเพื่อนคนสนิทเพื่อเพิ่มความน่าประหลาด ทั้งคู่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจนน่าแปลกใจ มาร์คเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เกิดและโตที่อเมริกา เข้าเรียนระดับมัธยมศึกษาที่ไทยหลังจากพ่อแต่งงานใหม่ นั่นเป็นที่มาที่ชีวิตได้โคจรมาเจอธูป พี่นันต์เล่าให้ฟังว่าตอนที่มาร์คย้ายมาเรียนในไทย ธูปเป็นคนเดียวที่พูดอังกฤษปร๋อ ครูประจำชั้นเลยจับให้นั่งชิดกัน กลายเป็นคู่หูดูโอ้ตามกันมาจนถึงมหาวิทยาลัย
              “อันอัน Good morning”
             ระหว่างเช็กสต๊อก สำเนียงเสียงอังกฤษอเมริกันก็ดังขึ้นพร้อมการปรากฏตัวของเจ้าตัว พี่นันต์รูปร่างผอม สูง แต่เมื่อเทียบกับมาร์คแล้วเหมือนนักกีฬาบาสยุโรปกับนักกีฬาว่ายน้ำจีน แม้มาร์คจะงอตัวลง ใช้ศอกค้ำเคาน์เตอร์แล้วก็ยังดูสูงใหญ่จนข่มบาริสต้าหุ่นเพรียวมิดสนิท

              “วันนี้ธูปไม่มีเรียน”

              “Yep! I knew but Kiss tung you ngai, kiss kiss”

             เห็นแล้วอยากสำรอก ผมเลือกฝ่าย love wins นะครับ แต่มุกเล่นคำนี่ขอซื้อเลย ไม่นับรวมกับ ตาวาววับ สีอมฟ้าของมัน ทุกครั้งที่เจอพี่นันต์ มาร์คจะจ้องเป็นเวลานานเหมือนหมาป่าจ้องตะครุบเหยื่อ ส่วนเหยื่อที่ว่าก็นิ่งเฉย แต่เด็ดขาดว่องไวราวชีตา อาจเพราะเป็นนักร้องตามคลับเลยรู้ทันไอ้เด็กแก่แดดนี่ มาร์คไม่ค่อยพูดกับผม มันแค่เซย์ไฮ บางครั้งก็ไม่ชายตามอง จุดประสงค์ของมันชัดเจน คือมาที่ร้านเพื่อพี่นันต์ มันตั้งชื่อใหม่ให้พี่นันต์ว่าอันอัน น่ารักผิดธรรมชาติผู้ชายที่ต้นแขนเต็มไปด้วยรอยสักหนึ่งข้างเต็ม

              “ถ้าไม่ได้มารับธูปก็สั่งกาแฟ ไม่ได้มีโต๊ะให้นั่งฟรี”

             จริงอย่างพี่นันต์ว่า โดยเฉพาะเที่ยงลูกค้าจะเยอะเป็นพิเศษ ไม่เว้นวันทำงาน ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ ราคาที่นี่กาแฟไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพของวัตถุดิบ ภรรยาของอาจารย์พิภพรับตรงจากชาวบ้านที่น่าน เป็นเมล็ดกาแฟเกอิชาที่ขึ้นชื่อในนักดื่มกาแฟ ถิ่นเดิมของกาแฟพันธุ์นี้คือปานามา ปลูกขึ้นดีในสภาพอากาศเย็น แต่มีฝนในปริมาณที่เพียงพอ

              พี่นันต์รับหน้าที่ตั้งแต่รับเมล็ดกาแฟจากไปรษณีย์ คั่วบด จนถึงชงเสิร์ฟ เขาเป็นคนจัดการร้านทุกอย่างตั้งแต่คิดเมนูจนถึงคิดโปรโมชั่น แล้วนำเสนออาจารย์อีกที ร้านนี้ไม่ต่างจากการทำร้านเป็นของตัวเองโดยมีนายทุนและคอนเน็กชั่นพร้อมสรรพ แก้วกระดาษราคาถูกได้มาจากการตั้งชมรมสร้างอาชีพกับศิษย์เก่าในชุมชน อาจารย์ตระเวนไปให้ความรู้ในถิ่นที่มีวัตถุดิบ สอนทำแก้วกระดาษ หลอดกระดาษ หลังจากนั้นก็รับซื้อ ร้านนี้เลยกอปรด้วยทุกอย่างที่อาจารย์พิภพและภรรยาประดิษฐ์ รวมไปถึงบาริสต้าที่บริการด้วยใจแบบไม่ต้องกังวลว่าจะถึงกำไรขาดทุน

             อดคิดไม่ได้ว่าร้านนี้มันโคตรเป็นโลกจำลองของยูโทเปีย แต่ยูโทเปียไม่มีจริง เพราะอย่างน้อยชีวิตแสนสุขของพี่นันต์ก็มีไอ้ฝรั่งขี้นกก้อร่อก้อติกน่ารำคาญ แถมมีลูกติดอย่างไอ้ธูปคอยเป็นภาระอีกคน

              “Can I have hot Anan no sugar, a bit sweet by himself, serve on my crunch eiei”

             อย่าว่าแต่พี่นันต์จะทำหน้าเหม็นเบื่อเลย ผมเองก็เบือนหน้าหนีไอ้เด็กนี่ไม่ทัน กูอยากโง่แปลไม่ออกทันที มาร์คขยิบตาสร้างดาเมจรุนแรง แต่พี่นันต์หันหลังไปชงโกโก้ร้อนให้มันโดยไม่ถามซ้ำ ไม่นานลูกชายเจ้าของร้านก็เข้ามาในบรรยากาศปุดๆ ธูปสวมเสื้อยืดผ้าย้วย ใส่สบาย กางเกงยีนที่ตกรุ่นจนแฟชั่นจะวนทับประวัติศาสตร์กลับมารอบใหม่ รองเท้าผ้าใบเป็นสิ่งเดียวที่ราคาแพงยับ ย่นจมูกให้แว่นขยับขึ้นชิดตาตามสไตล์

              “Hi, Tube what’re you doing here?” มาร์คถามเล่นเอาผมเหวอ ไอ้ธูปทำหน้าเหมือนเพิ่งตื่น กระชับเป้ชิดหลัง ชูนิ้วกลางเหี่ยวๆ ให้เพื่อนสนิท

              “ร้านกู กูต้องถามมึงมากกว่าว่ามาทำเหี้ยอะไรทุกวัน”

             ถือสิทธิ์ของพ่อในการเป็นเจ้าของ ก่อนตอบด้วยการเลือกโต๊ะที่ไม่ฮอตฮิต ไม่ห่างจากผมแล้วยกกระเป๋าเป้ขึ้นกาง หนังสือเรียนถูกขย้อนออกมาจากกระเป๋าผ้า ผมมองอีกคนที่เรียนคณะเดียวกันเพื่อเปรียบเทียบ แม่งมาตัวเปล่าทุกวัน

              “อ่านหนังสือเหรอธูป” พี่นันต์ถาม ธูปเข้ามาบ่อยไม่แพ้มาร์ค ทักผมบ้างแต่ไม่ได้คุยเป็นกิจจะลักษณะ ไอ้ธูปมันกวนตีน ผมอดทนเรียกแทนตัวเองและมันด้วยสรรพนามทีสุภาพได้ไม่นานก็เริ่มใช้ศัพย์ตามสันดาน ไม่ได้มีเรื่องให้สนิทสนมกับมัน ได้แต่มองเงียบๆ เหมือนทุกที หัวยุ่ง แต่งตัวเชย อุ้มเท็กซ์ที่ไม่ใช่หนังสือเรียนมาเกินความสามารถที่จะอ่านจบในวันเดียว ขออเมริกาโน่ไม่หวานกินคู่กับวาฟเฟิลจากพี่นันต์ ใช้จานแก้วลายสไปเดอร์แมนของตัวเอง ไม่มีอะไรเปลี่ยน

              “What are you doing?”

              “ยุ่ง” ธูปไล่เพื่อน แต่มาร์คยังคงไปหามัน หลังเปิดร้านครึ่งชั่วโมงเริ่มมีลูกค้าเข้า ส่วนมากแวะไปสั่งกาแฟก่อนเดินมาดูของกระจุกกระจิกในโซนของใช้ บางวันก็มีทัวร์นักเรียนนักศึกษาเข้ามาทัศนศึกษา ในส่วนของการจัดกิจกรรมนั้นผมลงบุ๊คให้ร้านไว้สัปดาห์ละครั้ง ขอบคุณปลาวาฬที่สละชีพด้วยการกินพลาสติกเป็นตันที่เป็นข่าวดังตัวนั้น มันทำให้หน่วยงานสนใจผลิตภัณฑ์ลดขยะมากขึ้นผิดหูผิดตา

             หนึ่งในลูกค้าประจำไม่แพ้มาร์คเป็นผู้หญิง พี่นันต์เรียกว่าคุณกานดา ครั้งแรกที่คุณกานดามาที่ร้าน มาในฐานะของคอลัมนิสต์ที่เขียนบทความส่งนิตยสารวัยรุ่น แต่หลังๆ เป็นลูกค้ประจำ ลองเกือบครบทุกเมนูที่พี่นันต์ทำ ราคาไม่ใช่เรื่องใหญ่ เธอหาร้านกาแฟที่เงียบๆ ไว้ทำงานทั้งวันตามสไตล์ฟรีแลนซ์ 2018

             คุณกานดาอายุมากกว่าพี่นันต์ ผมเดาจากการแต่งตัวที่เป็นเป็นผู้ใหญ่กว่าพี่นันต์ ผมสีดำสนิท เรียบตรง สวมแว่นกรอบสีเดียวกับผม แต่ไม่แน่อีก ไอ้พี่นันต์ทำงานร้านเหล้า ลักษณะการแต่งตัวจะทันสมัยจัด มันเจอเด็กรุ่นๆ ทุกวัน ผมหมายถึงเด็กรุ่นใหม่คนละจำพวกกับลูกชายเจ้าของร้าน รายนั้นเสียความเป็นวัยรุ่น ชิงทำตัวแก่ก่อนแก่ไปหลายสิบปี

              “Hey Tube, your girl comes” มาร์คพยายามกระซิบกระซาบแต่ไม่เบาพอกันผมออกจากบทสนทนา เรียกความ
สนใจให้ต้องกลับไปมองไอ้เด็กประหลาดสองคนนั้นอีกครั้ง

             ธูปขยับตัวเล็กน้อย คราวนี้มันใช้นิ้วดันแว่นขึ้นชิดกรอบหน้า แก้มขึ้นสีระเรื่อ เช่นกันกับหูและปลายจมูก ยกศอกกระทุ้งคนพูดที่เบียดตัวลงมานั่งบนเก้าอี้ตัวเดียวกัน

              “กูจะเลิกพูดกับมึงเป็นภาษาอังกฤษ บอกไปแล้วไง”

              “Common, you don’t wanna do this”

              “มึงพูดไทยไม่ชัดสักที เดือดร้อนตอนทำรายงานเป็นภาษาไทยตลอด”

             เข้าใจได้ แล้วทำไมไอ้มาร์คมันไม่เรียนอินเตอร์ไปวะ

              “อีกอย่าง เลิกแซวได้แล้ว กูไม่ได้คิดกับพี่กานดาแบบนั้น”

              “Lor” มาร์คทำเสียงกวนประสาท ผมว่ามันอยู่ไทยนานพอจะทำรายงานเป็นภาษาไทยได้แต่หลอกใช้ไอ้แว่นมากกว่า “กานดามาทีไรก็เห็นเอาแต่แอบมอง”

              “เสือก” ธูปขมุบขมิบปาก มาร์คขยับตูดออกมานั่งเก้าอี้อีกตัว เท้าแขนกับโต๊ะ ทิ้งสายตามองหญิงสาวกับบาริสต้าหนุ่มคุยกันหน้าบาร์เซ็งๆ

              “มาทีไรก็เอาแต่คุยกัน เจอกันทุกวันทำอย่างกับไม่เจอกันเป็นสิบปี”

             ผมเหลือบมองไปทางเคาน์เตอร์สลับกับมาร์ค สีหน้าของธูปดีขึ้นเมื่อเพื่อนไม่แซวต่อ แต่เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกจ้องก็ปรายหางตามองผมเชิงตำหนิ

              “ถ้ายูยังไม่ทำอะไร ไอว่ากานดางาบอันอันไปแน่”

              “พี่นันต์ไม่ชอบพี่กานหรอก”

              “รู้ได้ไง ยูยังชอบเลย”

              “เรียกชื่นชม” ธูปพูดไม่เต็มปาก พยายามเปิดหนังสืออ่านซ่อนอาการของตัวเอง มาร์คทนนั่งได้ไม่นานก็ไปเสนอหน้าที่เคาน์เตอร์อีกครั้ง คุณกานดาเลือกโต๊ะที่ห่างจากบาร์ไม่มาก ในระยะที่เมื่อเงยหน้าแล้วจะสามารถประสานตากับบาริสต้าได้โดยไม่จงใจนัก

            บาริสต้าคนเดิมกลับไปสนใจกาแฟเมื่อเก้าอี้ทรงสูงถูกรบกวนโดยลูกครึ่งตัวโต ส่วนคนที่แสร้งก้มหน้าสนใจหนังสือเมื่อครู่ก็แสดงอาการออกมาด้วยการมองลูกค้าสาวอีกฝั่งของร้านตาละห้อย

              “คุณกานดาอายุเท่าไหร่วะ” ผมถาม ว่างมากพอมานั่งกับลูกชายเจ้าของร้าน ธูปเอาคางเกยหนังสือ ตายังคงมองไปที่เดิม หญิงสาวหยิบโน้ตบุ๊กขนาดพกพาขึ้นวางก่อนจัดการกับปลั๊กไฟให้เรียบร้อย
              “น่าจะสามสิบมั้งครับ”

              “มึงเพิ่งยี่สิบ”

              “ยี่สิบก็ถือว่าบรรลุนิติภาวะ”

              “ห่างกันสิบปีเลยนะ”

              “อีกสองปีผมเรียนจบ ตอนนั้นพี่กานดายังอายุไม่เท่าตอนแม่แต่งงานกับพ่อเลย”

              “ไหนว่าไม่ได้คิดแบบนั้น แค่ชื่นชมเฉยๆ” ว่าพลางผิวปากหวือ ไอ้ธูปรู้ว่าตัวเองตกหลุมพรางก็หันขวับ ทำหน้าตึง

              “พี่แม่งไม่มีมารยาท แอบฟังคนอื่นคุย”

              “อะไร” ผมไหวไหล่ ไม่มีมารยาทจริงตามเด็กว่าแต่ไม่ยอมรับเสียอย่างก็ไม่นับว่าผิด “มันลอยมาเข้าหู ให้ทำไง”

              “แกล้งหูหนวกก็ไม่มีใครว่านะ”

              “ก็ได้ยินไปแล้ว ไม่คิดว่าพูดละจะมีคนเดือดร้อนไง”

             ความจริงแล้วผมไม่ได้นับเรื่องที่อายุของธูปกับคุณกานดาห่างกันเป็นสิบปีเป็นประเด็น ผมไม่ได้สนใจอะไรเลยเกี่ยวกับความรัก อาจเพราะผ่านประสบการณ์มามากกว่าคนรุ่นเดียวกัน หรือไม่ก็สูญเสียแม่ พ่อออกบวช เพื่อนฝูงแยกย้ายกันไปทำงาน ผมกลายเป็นคนไม่ยึดติดกับอะไรเป็นพิเศษ เพราะที่จริงแล้วผมไม่มีอะไรเลย ผมเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์ที่สังคมบัญญัติ พยายามไม่ตัดสินคนอื่น ไม่เอาตัวเองไปแทนที่ แต่ในเคสของธูปยกเป็นพิเศษ คือมันไม่เหมือนคนทั่วไป บางทีก็เงียบ บางทีก็เมินเฉย ทำมาดราวเป็นผู้ใหญ่เคร่งขรึม เอาการเอางาน แต่พอพูดเข้าเรื่องส่วนตัวก็ไม่ต่างจากเด็กผู้ชายอื่นๆ มีความอยากรู้อยากเห็น และรับมือไม่ถูกเมื่อตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่ขาดความมั่นใจ

              “ก็แกล้งเป็นใบ้ได้ปะ”

              “เอ้า คนปากหูปกติจะต้องทำให้ตัวเองพิการทำไม ไม่ได้จะออกไปขอทานบนสะพานลอยเสียหน่อย” ผมหัวเราะ อดขำไม่ได้ที่เห็นท่าทางราวเด็กสาวมีรักแรกแล้วเพื่อนจับได้ ธูปนั่งก้นไม่ติดเก้าอี้ ขยับไปมา “มึงจะอายอะไร ชอบก็จีบดิ”

              “นี่ผมโกรธพี่อยู่นะเว้ย”

              “ไม่ต้องมาโกรธกลบเกลื่อนเลย” ผมรู้ทัน “เขินก็บอกว่าเขิน”

             คราวนี้ธูปสงบลง ผ่อนหายใจเข้าออก ใบหน้าเริ่มกลับมาเป็นปกติ ปากที่เม้มเข้าหากันคลายออก สีของมันแดงกว่าเดิมเล็กน้อยก่อนค่อยๆ จางไปเมื่อเลือดลมดำเนินปกติ

              “มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนี่ครับ” เด็กหนุ่มว่า ยอมรับด้วยความจำนน

              “มีอะไรยากวะ” ผมถาม ไม่เคยรู้สึกว่าการจีบสาวเป็นเรื่องยาก มีแค่อยากจีบหรือไม่อยากจีบ ส่วนจีบติดหรือไม่ติดไม่ใช่เรื่องที่ต้องรับผิดชอบ เป็นแค่เรื่องของรสนิยมที่เข้ากันได้หรือไม่เท่านั้น “ถ้าชอบจริงๆ ก็ลุยดิ มีอะไรต้องเสีย”             

              “ก็แล้วถ้าพี่กานดาไม่มาที่ร้านอีกทำไง”

              “หรือจะรอให้มาพร้อมผัว”

              “ไอ้พี่มังกร”

             ผมไหวไหล่ ยังคงไม่เข้าใจความปอดแหกของมัน “ป๊อดขนาดนี้ยังไม่เคยมีแฟนสักคนเลยเหรอ แค่ขำๆ ก็ได้อ่ะ”

             ธูปหลบตา ตากลมที่ดูบวมกว่าของจริงเพราะเลนส์หนาของแว่นพยายามซ่อนบางอย่างที่มองปราดแรกก็เดาออกโดยทันที ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนเคยมีแฟน และถ้าคนอย่างมันไม่เคยมีแฟนก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ

              “เออๆ ลองดู ครั้งแรกมันก็จะสั่นๆ แบบนี้แหละ”

              “แค่จีบสาว พี่แม่งพูดเหมือนกำลังสอนให้ผมมีเซ็กซ์”

              “หัวไวเหมือนกันนี่ แต่ถ้าจีบสาวเป็นแค่ ‘แค่’ของมึง จะกลัวทำไม ไม่แข่งยิ่งแพ้ไม่เคยได้ยินเหรอ เพลงพี่เบิร์ดอ่ะ”

              “แล้วถ้าแข่งก็ยังแพ้อ่ะ ถ้าพี่กานดาไม่ชอบผมอ่ะ”

              “ก็จะได้รู้ไงว่าไม่ชอบ”

              “โห กำลังใจดีสัด”

              “อ่ะๆ เดี๋ยวเป็นติวเตอร์ให้ ถือเป็นค่าข้าว” ผมยักคิ้ว อมยิ้มที่มุมปาก บางวันแม่มันว่างทำกับข้าว ธูปจะรับหน้าที่เอา
ข้าวกล่องที่แม่ทำเผื่อมาส่งผมกับพี่นันต์บ่อยๆ เพิ่งรู้ว่าบ้านมันเป็นเว็ตเจตทาเรียนเมื่อมื้อที่สามเป็นผัดผักจืดๆ เหมือนสองมื้อแรก
             ธูปย่นจมูก ดูเหมือนติดท่าทางนี้เพราะต้องคอยดันแว่นให้กลับเข้าที่เมื่อน้ำหนักเลนส์ดึงตกลงมาจากสันจมูก

              “ใส่ไอ้นั่นมาตั้งแต่อายุเท่าไหร่”

              “แว่นเหรอ” ผมพยักหน้า “จำไม่ได้”

             คราวนี้ธูปขยับขาแว่น ผมเส้นใหญ่หนาถูกซ่อนหลังเลนส์เพราะความยาวเกินพอดี ผมเกือบช่วยปัดออกเพราะรำคาญ
แต่เจ้าตัวจัดการเสียก่อน
              “สั้นเท่าไหร่”

              “เจ็ดร้อยห้าสิบ ที่จริงมันหยุดสั้นมานานแล้วนะ ประมาณมอ.หก” ธูปตอบ หลังจากพยายามจัดการกับเส้นผมที่กระโดกกระเดกขัดกับแว่นอยู่นานก็ยอมถอดออกมา มีรอยบุ๋มของแป้นวางแว่นระหว่างหัวตากับสันจมูก ตาไม่ได้ปูดบวมเหมือนปลาทองเสียทีเดียว แต่ใต้ตาลึกโหลลงไปกว่าที่คิดเยอะ

              “ไม่สนใจทำเลสิคเหรอ”

              “ก็มีบ้าง” ผมหยิบแว่นมันออกมาจากมือ ส่องดูความหนาแล้วขนลุกเป็นบ้า “บางทีใส่แว่นก็น่ารำคาญ แต่ก็ใส่มานานอะ ถ้าไม่มีแว่นคงรู้สึกแปลกๆ”
              “แว่นมันเสริมบุคลิกนะ” ผมว่า พลิกดูทรงไปมา “แต่ถ้ากรอบเห่ยขนาดนี้จะกลายเป็นเสียบุคลิกแทนว่ะ แก่ฉิบหาย”

              “โห ผมจะไม่คิดอะไรเลยถ้าคนพูดเป็นพี่นันต์” ธูปหันมาแขวะ มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าหยามเหยียด
 
            “อะไร”

              “พี่แต่งตัวดีตายล่ะ”

              “แต่งให้หล่อก็แต่งได้”

              “จะบอกว่าไม่อยากแต่ง? กลัวหล่อเกิน?”

              “ไม่มีเงินแต่ง จบมั้ย”

              “จบครับ”

             ไอ้เด็กเวร มันหัวเราะตาหยี จัดการกับหน้าม้าของตัวเองด้วยการใช้หนังยางสีดำที่ข้อมือมัดจุก เหมือนลูกหมาเป็นบ้า

              “พี่ว่าถ้าผมอยากจีบพี่กานดาติดต้องเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองก่อนเหรอ”

              “เปล่า ไม่เชิง แต่มึงดูดีกว่าตอนนี้ได้ไง”

              “เออ ผมรู้เรื่องนี้ Love at first sight” คุยกับเด็กเนิร์ดมันก็จะอารมณ์ประมาณนี้ “มนุษย์จะเลือกคู่จากการประเมินผ่านสายตา เป็นสาเหตุให้เรามองคนหล่อหรือสวยคล้ายๆ กัน อย่างแองเจลิน่า โจลี่ ที่ได้โหวตว่าสวยที่สุดในโลก ทั้งที่ความสวยควรจะเป็นเรื่องปัจเจก” ไอ้แว่นเริ่มพล่าม พอพูดถึงเรื่องความรู้มันไปได้ยืดยาวเกินกว่าวิชาที่เรียนในห้อง

              “สัดส่วนที่สมมาตร พับประกบกันได้ดีหมายถึงพันธุกรรมที่ดี”  เล่าให้เด็กชีวะอย่างผมก็ไม่แปลก แต่เซ่อไปเล่าให้พี่นันต์ฟังอาจจะโดนบดไปกับเมล็ดกาแฟ

              “ใช่ๆ ประกบกันบนล่าง”

              “ปากมึงเท่าหน้าผากหรือไงไอ้แว่น” แยกเขี้ยว ตะปบหน้าผากมันไปที แว่นหลุดลงมาที่ปลายจมูกอีกแล้ว ธูปยังคงยิ้มเผล่โชว์เขี้ยวเล็กๆ ที่เดิมซ่อนไว้มิดชิดก่อนผลุบหายไปเมื่อองศาของรอยยิ้มลดลง

              “พี่เหยียดเพราะผมใส่แว่นเหรอ” ได้ทีบุคลิกกวนๆ กลับมาอีก ธูปผ่อนคลายลงจากหัวข้อสนทนาที่ตึงเครียดในทีแรก “พี่จะบูลลี่เพราะผมใส่แว่นไม่ได้นะ สมัยใหม่เขาไม่ล้อกันเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกกันแล้ว ไม่เคยเล่น Don’t judge challenged เหรอ”
              “กูไม่เหยียดมึงเพราะแว่นหรอก แต่จะเหยียดเพราะมึงกวนตีนนี่ล่ะ เหยียดด้วยตีนสักทีดีไหม หืม?”

              “ใจเย้นนน!”

             ตึง!

             ธูปหัวเราะเมื่อถูกผมคว้าต้นคอกดลงโต๊ะ เสียงกระแทกเบาๆ ทำให้บาริสต้าหันมองดุ ผมคลายแรงลง ได้ทีเหยื่อรีบยืดตัว คลี่เอาหัวไหล่ที่งองุ้มในทีแรกออก ดูมันมีความสุขเมื่อได้พูดความรู้ที่มีหรือพยายามประยุกต์ใช้ แต่ใช้ได้จริงหรือเปล่านั่นอีกเรื่อง เห็นมานักต่อนัก บรรดาคนเก่ง มีความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด
 
            “พี่กานดาหน้าตาได้สัดส่วน รูปร่างก็พอเหมาะสำหรับผม ไม่ค่อยมีผู้ชายที่ชอบผู้หญิงตัวใหญ่กว่าเหมือนที่ไม่ค่อยมีผู้หญิงชอบผู้ชายตัวเล็กกว่า ผมว่าแค่นี้ก็พอแล้ว เรื่องแว่นไม่ใช่ปัญหาหรอก”
 
           ผมยกมือขึ้นปัดจมูก ที่พูดมาทั้งหมดฟังดูจั๊กจี้หู เหมือนกำลังถูกบังคับให้เรียนวิชาสัญชาตญาณและการเอาตัวรอดของมนุษย์ในยุคหิน ไม่ใช่บทสนทนาของเด็กหนุ่มวัยกลัดมันกับหญิงสาวอายุมากกว่าที่เจ้าตัวหลงใหล
 
           พอนึกถึงคำว่ากลัดมันคู่กับไอ้ธูปก็ขนลุกชูชันขึ้นอีกรอบ
 
           ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณกานดากับธูปก็ค่อนข้างเหมาะสมกันด้วยบุคลิกภายนอก ผู้หญิงหน้าตาน่ารัก กับผู้ชายท่าทางน่าเอ็นดู รูปหน้าของธูปได้มาตรฐานเหมือนที่มันพูดถึงอีกฝ่าย คือสัดส่วนของตา คิ้ว จมูกปากเป็นไปตามอัตราส่วนทองคำหรือโกลเด้นเรโช ส่วนสูงของธูปพอเหมาะกับคุณกานดา ในเรื่องของอายุที่มากกว่าไม่เป็นอุปสรรคสำหรับธูป ผมเดาว่าเพราะการเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอมแบบลูกคนเดียว กระทั่งผันตัวเป็นลูกคนเล็กเมื่อพ่อมันรับพี่นันต์มาอยู่ด้วยเมื่อไม่กี่ปีก่อนส่งผลให้มันชอบคนอายุมากกว่า
 
           ธูปดึงแว่นสายตากลับไป สวมโดยไม่ใช้ความระมัดระวัง โชคดีที่มันไม่เล่นมุกขาแว่นจิ้มตาดาดๆ แบบที่ชีวิตหนึ่งมนุษย์แว่นคิดว่าเป็นมุกสุดเจ๋ง เพราะมันโคตรฝืดเฝื่อนผิดสไตล์วัยรุ่นยุค 4.0 กวนตีนอย่างไอ้ธูปไม่สอบตกเรื่องการใช้มุกตลกในการสอดแทรกบทสนทนา แต่ไม่ใช่กับเพื่อนฝรั่งของมัน
 
            “จะเอาเรื่องส่วนสูงไปจีบเขาอย่างเดียวเหรอ ตามมาตรฐานชายไทยทั่วไปใครก็สูงกว่าคุณกานดา ถ้าไม่ใช่คนแคระ ไ
ม่ใช่ข้อได้เปรียบของมึงเลย”
 
            “เดี๋ยวสิ ผมบอกว่าผมมีดีอย่างอื่นด้วยไง แต่แค่ยังไม่พร้อมเฉยๆ”
 
            “อ่าฮะ แล้วเมื่อไหร่จะพร้อม”
 
           ดวงตากลมไหวระริก สั่นไหวในการตัดสินใจของตัวเอง “ไม่รู้ดิ”
 
            “มันไม่มีคำว่าพร้อมหรอกจนกว่ามึงจะลงมือ” ผมเท้าคาง ทอดสายตามองหญิงสาวที่กำลังตกเป็นประเด็น เป็นเรื่องธ
รรมดาของความรักเมื่อจะก้าวข้ามไปอีกขั้น เผลอถอนหายใจเมื่อนึกว่าไอ้ธูปกลัวการนับไปถึงเลขสิบทั้งที่ยังไม่เริ่มนับหนึ่งเสียด้วยซ้ำ
 
            “ก็ผม...” เจ้าของเสียงขยับปลายนิ้วเคาะบนหนังสือเล่มหนา ไม่ทำให้เกิดความน่ารำคาญแต่เป็นสัญญะบอกว่าไม่มีความมั่นใจมากพอ “...ไม่รู้สิ ผมไม่เคยลงมือทำอะไรแล้วไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง”
 
            “ล้มเหลวบ้างก็เป็นรสชาติชีวิต”
 
            “เดี๋ยวนะ พี่แช่งตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยเหรอ ไหนว่าจะเป็นติวเตอร์”
 
            “อ้าว ก็บอกเองว่าไม่ต้อง” ผมแหย่ แต่คนอีโก้สูงหัวรั้นอย่างมันคงไม่ยอมให้ใครสอนจีบสาวง่ายๆ แน่  เสียเชิงชายหมด “สรุปให้ช่วยไหม หรือรู้ว่าควรจีบยังไง”

              “ผมก็กำลังศึกษาอยู่ ก่อนเริ่มรบอุปกรณ์ต้องพร้อมมือ พี่เร่งแบบนี้แล้วผมไม่มั่นใจเลย รู้สึกเหมือนยังไม่ถึงเวลา แต่ก็นะ...ปีนี้ก็ยี่สิบแล้ว”

             ธูปพูดราวกับว่าการมีแฟนอายุยี่สิบเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นกับทุกคน ซึ่งไม่น่าแปลกใจถ้าจะคิดแบบนั้น ทุกวันนี้คนเจอกันง่าย คบกันง่าย ท่ามกลางเพื่อนฝูงที่มีคนรักสลับสับเปลี่ยนไปมาหลายคู่ธูปคงอยากถูกนับรวมเป็นหนึ่งเดียวกับคนอื่น โชคดีที่มัน
สนใจเรื่องผู้หญิงมากกว่าเหล้ายา อย่างน้อยผมก็สามารถสนับสนุนมันได้เต็มปากแบบที่พ่อมันจะไม่ด่าไล่ตามหลัง

              “อีกอย่าง ผมเลิกมีพี่เลี้ยงตั้งแต่อายุเจ็ดขวบแล้ว เพราะงั้นผมลุยเองดีกว่า เอาเลย เริ่มเลย!”

             ผมพยักหน้า ยอมรับการตัดสินใจของเด็กหนุ่ม มันมีท่าทางมั่นอกมั่นใจครู่เดียวก็กลับไปหงอยต่อ ยังคิดไม่ตก

             พูดถึงคุณกานดานับเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย ไม่ใช่สเป๊ก ผมเบื่อผู้หญิงที่อยู่ในโอวาท ง่ายต่อการคบซ้อน ไม่รู้จักระแวดระวัง ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบความท้าทาย ถ้าเป็นเมื่อก่อนผู้หญิงใสๆ เป็นเหมือนของหวาน แต่เมื่อเรียนรู้มากพอ จุดหนึ่งก็เบื่อกับการเข้าไปทำความรู้จักคนใหม่ๆ การคุยกับผู้หญิงแปลกหน้า มีปัญหาทะเลาะซ้ำซากและนั่งมองผู้หญิงที่ตัวเองทุ่มเทให้ได้มาร้องห่มร้องไห้ด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก ผมหมดความภาคภูมิใจในเรื่องงี่เง่าประเภทที่ว่าเกิดเป็นชายต้องผ่านผู้หญิงมานักต่อนัก อาจเป็นผู้ชายที่เดินทางถึงจุดปล่อยวางไวกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน

             บางคนว่าชีวิตหลังเรียนจบคือชีวิตที่เพิ่งเกิด ช่วงเวลาที่โชติช่วงชัชวาลที่สุดของชายโฉดคือเมื่อมีทรัพย์สิน มีหน้าตาทางสังคม เป็นช่วงเวลาทองคำที่จะเกิดขึ้นเมื่ออายุสามสิบกลางๆ แต่ผมพอแล้ว ถ้าอายุเท่านั้นอาจออกบวชตามพ่อ ใครจะรู้ รู้แค่ตอนนี้ผมยังอยากกินมื้อเย็นครบสามมื้อและยังไม่อยากให้การใช้มือสำเร็จความใคร่กลายเป็นบาป

             แน่นอน ผมยังเป็นผู้ชายวัยกลัดมันอย่างที่ธูปเคยบอก

              “พี่มังกร ผมถามอย่างดิ”

             ธูปพูดขึ้น มันมองหน้าผม ยังไม่อ่านหนังสือจริงจังทั้งที่เปิดทิ้งไว้นานแล้ว โน้มตัวเอาแก้มใสๆ แนบต้นแขนที่วางอยู่บนโต๊ะ แก้มบวมย้วยขึ้นมาเหมือนขนมมาร์ชเมลโล่ ดูนุ่มจนน่าเอานิ้วจิ้มหรือกัดแรงๆ สักที

              “พี่ชอบผู้หญิงแบบไหน”

             เสียงของธูปเป็นแบบของผู้ชาย ทุ้มต่ำ แหบพร่า โครงกระดูกก็เป็นแบบผู้ชายทั่วไป มีแต่แก้มที่ชวนให้นึกถึงก้นเด็ก ผมหันความสนใจกลับมาที่บทสนทนา โคลงหัวไปมา

              “ไม่ชอบพวกหัวช้าหรือขี้อายอย่างล่ะ”

              “นั่นมันสเป๊กสาวพิมพ์นิยมเลยนะ อยากได้เมียดุเหรอ”

              “ไม่ใช่ดุสิวะ” บางคนก็แยกยากระหว่างดุกับงี่เง่า ผมถอนหายใจ จะอธิบายให้เด็กไม่รู้ประสาฟังรู้เรื่องได้ยังไง บางเรื่องมันต้องบ่มเพาะผ่านประสบการณ์ทั้งนั้น “ชอบคนที่ไม่เป็นภาระให้คนอื่น”

              “ใจร้ายอะ ชีวิตคู่มันคือเกื้อกูลกัน การที่คนนึงยินดีเป็นภาระและรับภาระดูแลอีกคนไม่ใช่เหรอ”

              “ใครสอนมึงมา ไปตบปากมันเลย” ให้เดาว่าคงเป็นเพื่อนผู้หญิงที่อยากได้เจ้าชายมาเป็นผัว ธูปไหวไหล่ ไม่ยอมบอก “คบกันแล้วพากันดิ่งลงเหวไม่ต้องคบ เชื่อกู”

              “นี่พูดถึงชีวิตคู่นะครับไม่ใช่ธุรกิจ”
               “ชีวิตคู่นี่ล่ะตัวดี ถ้าชีวิตมึงดีแล้วก็คบกับคนที่ทำให้มึงดี หรือถ้าชีวิตมึงห่วยแตกก็ไม่ต้องไปทำตัวเป็นลูกเป็ดเดินตามแม่ มันน่ารำคาญ”

               “พูดแบบนี้เคยมีแฟนปะเนี่ย”

              ไอ้เด็กน้อย ความรักที่มึงฝันใฝ่นั่นมันอยู่ในการ์ตูนหรือนิยายหลังข่าวเท่านั้น ผมไม่อยากลบภาพดิสนีย์แสนหวานหรือขยำดอกลาเวนเดอร์ที่ลอยลิ่วบนหัวมันทิ้ง ได้แต่ปล่อยให้ธูปทำหน้าไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นทัศนคติเรื่องความรักของผมเข้าจังๆ

               “เอาเป็นว่า มึงไม่อยากนับหรอกว่ากูมีแฟนมาแล้วกี่คน”

              ความล้มเหลวในความสัมพันธ์ที่ผมชินชาและมองเป็นเพียงสิ่งที่ผ่านเข้ามาเพื่อผ่านพ้นไป

               “ไปยืมมือพี่นันต์หรือไอ้มาร์คมายับยังไม่พอ”

              ได้ทีก็ข่มอีกตลบให้เด็กแว่นกลอกตาเป็นวงกลมพร้อมทำหน้าละเหี่ยใจ


ทบค.
ขอคำแนะนำให้ทำให้หยุดง่วงทีค่ะ ง่วงไม่ไหวแบ้ลบบงงง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-08-2018 08:10:36 โดย -west- »

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
Re: ◡̈ sexy naughty nerdy ch.01
«ตอบ #29 เมื่อ09-08-2018 09:24:26 »

เอาไงธูปปป จะจีบหรือไม่จีบ
ทฤษฎีเพียบเดี๋ยวก็รู้ว่าใช้ได้มั้ย5555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด